ISSUE 320 8 - 14 SEPTEMBER 2014
Live Love Write
ISSUE 320, 8 - 14 SEPTEMBER 2014
I Know the Answer! The Answers Issue คือความน่าทึ่งของนิตยสาร TIME ฉบับประจ�าวันที่ 8-15 กันยายน 2014 ที่สู้อุตส่าห์หาข้อมูลมาน�าเสนอคนอ่านแบบถูกใจคนชอบ อ่านข้อมูลและเกร็ดความรูเ้ ป็นอย่างยิง่ ถ้านิตยสารฉบับนีเ้ ป็นก๋วยเตีย๋ ว ก็คงเป็นอีกหนึง่ ชามทีท่ า� ได้ครบรส และหนักเครือ่ งชนิดทีว่ า่ ใส่กนั ไม่ยงั้ กินให้บา้ กันไปข้าง ยิง่ เห็นทางกองบรรณาธิการรวบรวมข้อมูลน่ารู้เบือ้ งหลังการท�างานหนักครัง้ นีม้ าให้ดคู ร่าวๆ แล้วก็อดนับถือในความทุ่มเทไม่ได้ อาทิเช่น ใช้เวลาประชุมทีมงาน รวมๆ แล้วทั้งหมด 106.5 ชั่วโมง เขียนโค้ดส�าหรับท�าเวอร์ชันใน Time.com ทั้งหมดไปราวๆ 5,000 บรรทัด ฟุตโน้ตที่ยาวที่สุดในฉบับมีจ�านวนค�าทั้งสิ้นกว่า 546 ค�า ระหว่างการท�างานฉบับนี้กินเวลายาวนานจนทีมงานคนหนึ่งคลอดลูกชายมาหนึ่งคน ชื่อเด็กชายฟินน์ ฯลฯ อย่างทีบ่ อกว่านิตยสาร TIME ฉบับนีว้ า่ ด้วยเรือ่ งค�าตอบ ซึง่ เหตุผลหลักทีท่ มี งานเขาท�าเล่มนีข้ นึ้ มาก็เกิดจากการสังเกตเห็นว่า ปัจจุบนั นีโ้ ลกเราท่วมทับ ไปด้วยข้อมูล แต่ขณะเดียวกันหนทางในการหาข้อมูลของคนในยุคนีก้ ง็ า่ ยดายเพียงแค่ปลายนิว้ คลิก เพราะเรามีสมาร์ตโฟนเป็นเหมือนประตูบานใหญ่ทเี่ ปิดออก สู่โลกกว้าง แทบจะเรียกว่ากว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ จนถึงขั้นที่มีคนบอกว่าแทบไม่มีข้อมูลอะไรที่เราหาเองไม่ได้แล้ว เว้นแต่เราจะขี้เกียจหาข้อมูล เพราะไม่ว่าจะหาอะไรมันก็มีค�าตอบไปเสียหมด ตั้งแต่การเรียงตัวของดวงดาว ไปจนถึงระบบสืบพันธุ์ของมด ผู้เขียนเองก็เชื่อด้วยซ�้าว่าถ้าเอาสมาร์ตโฟน โยนให้คนสองคนแล้วถามค�าถามอะไรสักอย่างขึน้ มา ทัง้ คูจ่ ะหาค�าตอบให้เราได้ในเวลาไม่ถงึ 1 นาที แต่ขอ้ มูลนัน้ จะถูกต้องหรือไม่ น�ามาจากแหล่งข้อมูลทีน่ า่ เชือ่ ถือ แค่ไหน และน�าค�าตอบนัน้ มาต่อยอดเป็นชุดความรูใ้ หม่ๆ ได้หรือไม่ ตรงนีต้ า่ งหากทีจ่ ะเป็นจุดเปลีย่ นและจุดทีต่ ดั สินว่าใครมีความสามารถกว่ากัน ไม่ใช่แค่ดวู า่ ใคร หาข้อมูลเร็วทีส่ ดุ แต่กอ็ ย่างทีเ่ ขาบอกว่าข้อมูลไม่ใช่ความรู้ มันต้องมีการแปรสภาพของข้อมูลมาเป็นความรูท้ เี่ ราเอาไปใช้ประโยชน์ได้ดว้ ย พูดกันตรงๆ ชุดข้อมูล ก็ไม่ตา่ งอะไรจากวัตถุดบิ ทีบ่ า้ งก็ใช้ได้เลย บ้างก็ตอ้ งน�ามาปรุงเป็นอาหารให้สกุ ก่อนกิน และบ้างก็รอให้เราน�าไปสร้างมูลค่าเพิม่ ได้อกี เราอาจจะหาผักบุง้ ได้งา่ ยดาย ตามชายคลอง และสามารถกินผักบุ้งดิบได้โดยไม่เป็นอันตรายก็จริง แต่เราคงไม่กินผักบุ้งดิบกันทุกมื้อ และถ้าเราไม่นา� ผักบุ้งนั้นมาผัดเป็นผัดผักบุ้งไฟแดง เราก็ยังไม่อาจต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่เรามีได้ สุดท้ายแล้วคนที่มีข้อมูลและพ่นแต่ข้อมูลจึงยังไม่ใช่คนฉลาด พอๆ กับคนที่ไม่มีข้อมูลชุดเดียวกัน ก็ยังไม่ใช่คนโง่ เพราะข้อมูลไม่ใช่ค�าตอบเบ็ดเสร็จของทุกเรื่อง ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อมันมาในเวลาที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกกาลเทศะ และตอบไม่ตรงค�าถาม ก็ยิ่งจะเป็นส่วนเกินของเรื่องนั้นไปเปล่าๆ วันแล้ววันเล่าทีเ่ ราลอยคออย่างเคว้งคว้างอยูใ่ นจักรวาลแห่งข้อมูล มีคา� ตอบมากมายรอให้เราค้นเจอ แต่กลับไม่เจอค�าตอบในแบบทีเ่ ราค้นหา ไม่รวู้ า่ ใช้ชวี ติ ทุกวันนีไ้ ปเพือ่ อะไร จุดหมายปลายทางทีเ่ ราก�าลังมุง่ หน้าไปใช่สงิ่ ทีเ่ ราต้องการจริงหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็นา่ คิดว่า ในโลกทีม่ สี ารพัดค�าตอบเช่นทุกวันนี้ ท�าไมเราถึง ยังรูส้ กึ ไม่มนั่ ใจในการใช้ชวี ติ ท�าไมยังรูส้ กึ กลวงเปล่าอยูภ่ ายใน ท�าไมยังรูส้ กึ ไม่พอใจกับค�าตอบมากมายทีไ่ ด้ ท�าไมเราถึงยังเป็นผูไ้ ม่รู้ ทัง้ ๆ ทีเ่ ราก็รอู้ ะไรต่อมิอะไร มากมาย หรือจริงๆ แล้วเราท�าเป็นแค่การวงกลมรอบค�าตอบทีถ่ กู ต้อง แต่ไม่สามารถอธิบายได้วา่ ค�าตอบทีว่ า่ ถูกต้องนัน้ มีความหมายอะไรกับเราบ้าง บางทีกอ็ ดเหนือ่ ย แทนผู้คนทุกวันนี้ไม่ได้ที่ค้นเจอแต่ค�าตอบที่ไม่มีความหมาย แล้วหลงลืมหรือมองข้ามสิ่งที่ดูไม่มีความหมายที่อาจกลายเป็นค�าตอบของชีวิตเราในที่สุด ชีวติ ทีม่ ที กุ ค�าตอบอาจไม่ใช่คา� ตอบของชีวติ เพราะสุดท้ายเราอาจต้องการแค่คา� ตอบเดียวทีม่ ไี ว้สา� หรับตัวเราเองเท่านัน้ แต่เป็นค�าตอบทีม่ คี วามหมายมากมาย ไม่รจู้ บ เหมือนทีค่ นบางคนเลือกแล้วทีจ่ ะมีวถิ ชี วี ติ ในแบบทีเ่ ขาต้องการโดยไม่ตอ้ งสนใจว่าคนอืน่ จะคิดอย่างไร และตอบตัวเองได้แค่วา่ พอใจแบบนี้ ไม่ใช่แบบอืน่ ถึงจุดหนึ่ง... ค�าตอบที่หายากที่สุดก็คือค�าตอบที่ทา� ให้เราอิ่มเต็มและพอใจ จนท�าให้เราหยุดหาค�าตอบไปอย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าเราจะ มีค�าถามใหม่ให้กับชีวิตให้ต้องค้นหาค�าตอบใหม่ๆ ต่อไป เพราะขึ้นชื่อว่าใช้ชีวิต คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เราจะได้ค�าตอบโดยไม่ตั้งค�าถามและไม่ค้นหาอะไรเลย คนที่พึงพอใจในจุดที่ตัวเองเป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนผ่านการตั้งค�าถามกับตัวเองมาอย่างเข้มข้น และค้นหาค�าตอบแบบกัดไม่ปล่อยมาแล้วทั้งสิ้น ค�าตอบของชีวิตก็อยู่ในการใช้ชีวิต ที่มักหาไม่ได้จากจักรวาลแห่งข้อมูลใดๆ
ISSUE 320 8 - 14 SEPTEMBER 2014
Live Love Write ปีที่ 7 ฉบับที่ 320 วันที่ 8 - 14 กันยายน 2557
วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter : @khaopan, www.facebook.com/adaybulletin
10 26
06
06 GOODNEWS
10 INTERVIEW
18 A MUST
22 SHOPPING
28 HEALTH AND HEART
32 ALL ABOUT BIZ
35 THE WORDS
38 THE GUEST
ติ ด ต า ม ข ่ า ว ส า ร ดี ๆ รอบโลกประจ�าสัปดาห์ ได้ในห้องข่าวแห่งนี้
รวมสาระความรู ้ ที่ จ ะ ท�าให้คุณแข็งแรงทั้งกาย และใจ
38
18 เราเป็ น คนหนึ่ ง ที่ ติ ด ต า ม นิ ต ย ส า ร a day BULLETIN มาโดย ตลอด แต่ก็ไม่ถึงกับ เป็นขาประจ�า เพราะ บางครัง้ เราไม่สามารถ ไปตามหยิ บ a day BULLETIN ได้ ทั น
นัน่ เป็นเพราะทีท่ �างานของเราเป็นอาคารส�านักงาน ที่มีเพื่อนร่วมอาคารจากหลายบริษัท ดังนั้น พอถึง วันที่ √a day BULLETIN มาวางแจก ถ้าใครเจอ a day BULLETIN ก่อนก็จะหยิบกันไปก่อน ถ้าเราไปถึงช้า ก็จะหยิบไม่ทนั เพราะหมดไปเสียก่อน พูดถึงเนือ้ หา ภายในของ a day BULLETIN เราถือว่าท�าออกมา ได้ ดี ชอบบทสั ม ภาษณ์ ที่ น� า คนน่ า สนใจมาลง แต่อยากให้ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นกว่านี้
ขุ ด หั ว ใ จ ข อ ง อุ ทิ ศ เ ห ม ะ มู ล นั ก เ ขี ย น เจ้าของรางวัลซีไรต์ พ.ศ. 2552 ผู้ซึ่งเขียนหนังสือ ด้ ว ยเรื่ อ งราวที่ พ บผ่ า น มาอย่างคุ้มค่า
คุ ย เ รื่ อ ง ธุ ร กิ จ กั บ ณลั น รั ต น์ นั น ท์ น นส์ Project Director ของ แบรนด์ Gizman ทีค่ ดั สรร สินค้าต่างๆ ด้วยหัวใจ
สารพั ด สิ่ ง ที่ เ ราคั ด สรร มาฝากแบบ A Must พลาดแล้วจะหาว่าไม่เตือน
ทุกถ้อยค�ามีความหมาย และคุณค่าเสมอ ค้นหาได้ ในหน้านี้
เพราะตัวหนังสือตอนนีต้ อ้ งเพ่งสายตาอ่านอย่างมาก ท�าให้รู้สึกอ่อนล้าเวลาอ่าน และอ่านไปได้เพียง ไม่นานก็ต้องหยุดอ่านเพื่อพักสายตา - กนกอร พัฒนาสิทธเสรี
มาเลือกดินสอ ปากกา หนั ง สื อ และข้ า วของ กระจุกกระจิกที่บ่งบอก ตั ว ตนของคุ ณ แค่ นี้ หน้าฝนอันซึมเซาก็สดใส ขึ้นอีกเป็นกอง
26 THE SPACE
แง้ ม ดู อ อฟฟิ ศ บริ ษั ท ซูเปอร์จวิ๋ จ�ากัด ที่ ‘พีซ่ ปุ ’ - วิ วั ฒ น์ วงศ์ ภั ท รฐิ ติ ตัง้ ใจสร้างสรรค์ให้อบอุน่ เหมือนบ้านหลังที่สอง
ความสุ ข ของการ ‘ให้ ’ ของ Hajime Birnbaum หนึ่ ง ในผู ้ ริ เ ริ่ ม แบรนด์ รองเท้า Toms รองเท้าที่ อยากหมุนโลกไปในทาง ที่ดีขึ้น
ส่ ง ความคิด เห็น ค�าติ-ชม หรือ ข้ อ เสนอแนะที่มีต ่ อ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วจิ ยั 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 หรือทางอีเมล adaybulletinmagazine@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริงและที่อยู่มากับจดหมาย เพือ่ ความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการ ขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร
พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ในช่วงเดือนนี้ จะได้รบั หนังสือดีๆ จากส�านักพิมพ์ ส่งไปให้ถงึ บ้าน
ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นิติพัฒน์ สุขสวย บรรณาธิการอ�านวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา บรรณาธิการบทความ ประพัฒน์ สกุณา กองบรรณาธิการ เอกพล บรรลือ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ อาทิตยา อาศิรวาท ไอรดา รื่นภิรมย์ใจ ปริญญา ก้อนรัมย์ พิมพ์อร นทกุล บรรณาธิการภาพ นิติพัฒน์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร ภาสกร ธวัชธาตรี วงศกร ยี่ด วง บรรณาธิ ก ารศิ ล ปกรรม วีร ะยุท ธ คงเทศน์ ศิ ล ปกรรม กิต ติ ศรีวิเ ชีย ร เอกพันธ์ ครุม นต์ ต รี พิ สู จ น์ อัก ษร หัส ยา ตั้ง พิทยาเวทย์ ศัก ดิ์สิทธิ์ ไม้ล�า ดวน สราญรัตน์ ไว้เ กีย รติ ฝ่ายผลิต วิทยา ภู่ทอง ทศพล บุญคง ที่ปรึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิริจรรยากุล ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 09-2964-1635, วราพร วิทยารุ่งเรืองศรี 08-9169-9509 ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโฆษณา วาณี กนกวิลาศ 09-5592-9419, พงศ์ธิดา อังศุวัฒนากุล 09-4415-6241, อังศุนิตยุ์ จรุงชัยฤทธิกุล 08-1303-5242 ฝ่ายโฆษณาอาวุโส ธนาภรณ์ ศรีจุฬางกูล 08-9662-7073, รวงรัชต์ ด้านเทาลา 08-1412-9478, ธัญชนก คงเทพ 08-4025-1015, อัมพิกา มณีวัฒน์ 08-5164-4896 เลขานุการฝ่ายโฆษณา อัจจิมา กาญจนสมทรัพย์ ผู้จัดการ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้ผลิต บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2716-6900 อีเมล adaybulletinmagazine@gmail.com เว็บไซต์ www.daypoets.com ฝ่ายสมาชิก นริศรา ธาระพุฒ โทร. 0-2716-6900 ต่อ 412
THE DATABASE ที่มา : www.overseas.doe.go.th
10 อันดับประเทศที่มีแรงงานไทยไปท�างานมากที่สุด
ไต้หวัน
ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้
สวีเดน
คุ ณ คิ ด อย่ า งไรกั บ ธุ ร กิ จ รั บ จ้ า งท� า การบ้าน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อิสราเอล
THE POLL
ฟินแลนด์
ที่มา : กรุงเทพโพลล์
มาตรการต่างๆ ที่ประชาชนชื่นชอบจากการท�างานของ คสช. ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อันดับ 1
การปราบปราม ยาเสพติดและ อาวุธสงคราม
92.4%
อันดับ 2
การปราบปราม การค้ามนุษย์
อันดับ 3
อันดับ 4
การจ่ายเงินคืน โครงการ รับจ�าน�าข้าว ให้ชาวนา
การจัดระเบียบ แรงงาน ต่างด้าว
85.2%
84.7%
88.6%
อันดับ 5
การจัดระเบียบ รถตู้ มอเตอร์ ไซค์ รับจ้าง
84.2%
สิงคโปร์
มาเลเซีย
แอฟริกาใต้
มี ก ารศึ ก ษาระบุ ว ่ า การท� า ฟาร์ ม แมลงประหยั ด พื้ น ที่ และใช้น�้าน้อยกว่าฟาร์มสัตว์ ถึง 25 เท่า โดยพบว่าเนื้อวัว 1 ปอนด์ ใช้น�้า 2,000 แกลลอน และอาหารสัตว์ 25 ถุง แต่แป้ง จากจิง้ หรีด 1 ปอนด์ ใช้นา�้ เพียง 1 แกลลอน และอาหารสั ต ว์ 2 ถุ ง ดั ง นั้ น ถ้ า คนบนโลก เปลี่ยนจากอาหารที่ผลิตจาก เนื้อวัวมาทานอาหารที่แปรรูป จากแมลง โลกจะประหยั ด ทรัพยากรมหาศาล ที่มา : www.cu-tcdc.com
แอชตั น คุ ต เชอร์ นั ก แสดง อเมริกันวัย 36 ปี คือนักแสดง ที่ ส ร้ า งรายได้ จ ากงานแสดง ซี รี ส ์ แ ละงานโฆษณาผ่ า นทาง โทรทั ศ น์ ม ากที่ สุ ด ในสหรั ฐ อเมริกา โดยในรอบปีนเี้ ขาท�าเงิน ได้มากถึง 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 832 ล้านบาท เลยทีเดียว
120,000,000
มี ส ถิ ติ ใ นเดื อ นกรกฎาคม 2557 ระบุ ว ่ า ยอดจ� า หน่ า ยโทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ทั่ ว โลกอยู ่ ที่ 120 ล้านเครือ่ ง โดยประเทศทีม่ ยี อดซือ้ โทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลก ได้แก่ อินเดีย จ�านวน 28 ล้านเครื่อง รองลงมาคือ จีน และไทย อยู่ที่ 19 ล้านเครื่อง และ 7 ล้านเครื่อง ตามล�าดับ ที่มา : www.marketeer.co.th
ที่มา : www.forbes.com
115,077 115,077 กิโลเมตร คือระยะทางรวมของถนนในประเทศไทย ในจ�านวนนี้มีทางที่ไม่ได้ปูลาด หรือทางลูกรัง ประมาณ 4,958 กิโลเมตร คิดเป็น 4.3% ของถนนทั้งประเทศ ที่มา : www.whereisthailand.info
20,000,000,000
มีการส�ารวจพบว่า แต่ละวันคนบนโลกกดชักโครกรวมกันมากกว่า 20,000 ล้านครั้ง สูญเสียน�้าไปกว่า 80,000 ล้านลิตร ซึ่งเพียงพอที่จะเติมสระว่ายน�้า มาตรฐานโอลิมปิกจนเต็มมากถึง 32,000 สระ แต่ในอีกมุมหนึ่งกลับพบว่า ยังมีคนบนโลกอีกถึง 2,500 ล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงห้องน�้าสะอาด ที่มา : www.theguardian.com
“เรารู ้ สึ ก เป็ น ห่ ว ง อนาคตของเด็ ก สมั ย นี้ และอนาคตของประเทศ มาก” กฤตยา สังข์เอี่ยม 26 ปี, พนักงานบริษัท “เป็นการหารายได้ จากความขีเ้ กียจของเด็ก ท� า ให้ เ ด็ ก คิ ด ว่ า เงิ น แก้ ปัญหาได้ทุกอย่าง” ปรางณิศา พัฒนรัฐ 24 ปี, พนักงานบริษัท “คนเรามองหาช่องว่าง ทางการตลาดอยู่ตลอด พอมีอุปสงค์ก็มีอุปทาน อยู ่ ที่ ว ่ า จะใช้ ป ระโยชน์ จากมันอย่างไร” สถาพร ภารัชสิทธิ์ 23 ปี, พนักงานบริษัท “คิดว่าไม่เหมาะสม แต่ นี่ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งใหม่ ใ น สั ง คม เพราะเราก็ เ คย เห็นมาก่อน ถ้าจะแก้กค็ ง ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็ก” ธนวัฒน์ ทรงประกอบ 23 ปี, พนักงานบริษัท “เป็นธุรกิจที่ฆ่าเด็ก ทางอ้ อ ม สบายตอนนี้ แต่จะล�าบากวันหน้า” มนิสรา นันทะยานา 23 ปี, นักโบราณคดี “ช่วยในสิ่งที่ไม่ควร ช่ ว ย ต่ อ ไปในอนาคต ป ริ ญ ญ า ก็ ค ง ซื้ อ ไ ด ้ เหมือนกัน” สุพิเศษ ศศิวิมล 22 ปี, กองบรรณาธิการ
6
ต้องขอชืน่ ชมในความพยายามของ Zhang Licheng ชาวเมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน กับผลงานชุดเกราะไอรอนแมน แบบท�าเองมูลค่า 3,000 หยวน (ประมาณ 15,000 บาท) ที่เขาใช้เวลา 6 เดือน ในการศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและค่อยๆ ผลิตมันขึ้นมา ซึ่งสาเหตุที่ชายคนนี้ตั้งอกตั้งใจท�าชุดเกราะไอรอนแมนจนส�าเร็จก็เพื่อเอาใจลูกชายตัวน้อยวัย 3 ขวบของเขา นั่นเอง - Reuters / Stringer
ตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองสดใสจ�านวนกว่า 52,000 ตัว ปรากฏตัวอย่างสุดลูกหูลูกตาอยู่ในแม่น�้าดานูบ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ไม่ใช่เพราะศิลปินคนไหนต้องการสร้างสีสันให้กับเมืองนี้ แต่เป็นกิจกรรม The Great Rubber Ducky Race 2014 ที่เชิญชวนให้ผู้ใจบุญทั้งหลายบริจาคเงินให้กับ UNICEF ซึ่งความสนุกของกิจกรรมนี้ก็คือ ยิ่งมีคนบริจาคเงิน มากเท่าไหร่ จ�านวนตุ๊กตาเป็ดก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น - Reuters / Laszlo Balogh
LIFESTYLE
PEOPLE
สาวร่างใหญ่
พี่ชายสุดเจ๋ง พาน้องฝาแฝดผู้พิการทางสมองชนะไตรกีฬาได้ส�าเร็จ
ใช้พลังแห่งความรัก ลดน้ำาหนักจนสำาเร็จ ความรั ก ไม่ ไ ด้ ท� า ให้ ค นตาบอด เสมอไป เพราะ เฮเซล ดายสัน วัย 27 ปี ใช้ความรักเป็นก�าลังใจให้ตัวเองจนลด น�า้ หนักได้สา� เร็จ โดยย้อนกลับไปราว 6 ปี ก่อน เฮเซลมีน�้าหนักตัวมากถึง 143.3 กิโลกรัม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะท�าให้เธอป่วย เป็นโรค PCOS หรือความผิดปกติในรังไข่ อย่างสูง ยังไม่รวมถึงเรื่องความรักที่ไร้ วี่ แ วว ้ เ ฮเซลตั ด สิ น ใจที่ จ ะลดน�้า หนั ก อย่ า งจริ ง จั ง ด้ ว ยการเข้ า ร่ ว มกั บ กลุ ่ ม Slimming World และลดน�้าหนักลงได้ เกือบ 80 กิโลกรัม ในวันเกิดปีที่ 26 ซึง่ เธอ ได้บอกถึงความภูมใิ จนีว้ า่ “นีเ่ ป็นครัง้ แรก ในชีวติ ฉันทีผ่ ชู้ ายคิดว่าฉันดูดพี อทีจ่ ะอยู่ ในอ้อมแขนของพวกเขา”
ANIMAL
พีเดอร์ มอนดรัป เป็นผูป้ ว่ ยโรค Cerebral Palsy หรื อ ผู ้ พิ ก ารทางสมองแต่ ก� า เนิ ด เป็นคนพิการคนแรกที่สามารถพิชิตเส้นชัย ในการแข่ ง ขั น ไตรกี ฬ า KMD Ironman Copenhagen 2014 ที่ประเทศเดนมาร์ก ได้ ส�าเร็จ จากความช่วยเหลือของพีช่ ายฝาแฝด ของเขา สทีน มอนดรัป โดยสทีนได้พาพีเดอร์ เข้าร่วมการแข่งขัน และคอยช่วยเหลือเขา ในระหว่างการวิง่ ว่ายน�้า และปัน่ จักรยาน ผ่านเส้นทางสุดโหดหินจนเข้าเส้นชัยได้ ในที่สุด โดยทั้งคู่ทา� เวลารวมไป 15 ชั่วโมง 32 นาที 48 วินาที แถมก่อนหน้านี้พวกเขาได้เคยพิชิตการแข่งขันฮาล์ฟไตรกีฬาส�าเร็จมาแล้วด้วย เรียกว่าความแตกต่างทางด้านร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความมุ่งมั่นของพี่น้องคู่นี้จริงๆ
PUBLIC HEALTH
วัคซีนอีโบลาเห็นผล 100%
จากการทดลองในสัตว์เบื้องต้น
พิตบูลใจกล้า
ช่วยชีวิต เด็ก 8 ขวบจากฝูงผึ้ง
ส�านักข่าวท้องถิ่น KPTV รายงานว่า เจสซี โคล ชาเวอร์ เด็กหนุม่ ชาวอเมริกนั วัย 8 ขวบ เกือบจะเป็น ผู้โชคร้าย หลังจากที่เขาและกลุ่มเพื่อนได้พากัน ไปเล่นใกล้กับล�าธารแห่งหนึ่งในเมืองออริกอน และ ระหว่างทีก่ า� ลังสนุกสนานกันอยูน่ นั้ เด็กคนหนึง่ ในกลุม่ ได้พลาดไปเหยียบรังผึ้ง ท�าให้ฝูงแมลงที่มีเหล็กใน และพิษร้ายแตกฮือกันออกมา ซึง่ เด็กคนอืน่ ๆ วิง่ หนี ไปในทันที ยกเว้นเพียงแต่เจสซีที่หนีไม่ทันและถูก ฝูงผึ้งรุมต่อยไปไม่ต�่ากว่า 24 ครั้ง โชคยังดีที่มีสุนัข พิตบูลใจกล้าทีช่ อื่ ว่าเฮเดสเข้ามาช่วยเหลือเขาเอาไว้ ได้ทนั ด้วยการลากเจสซีขนึ้ มาจากพืน้ หญ้า และให้เขา ขี่หลังพร้อมวิ่งไปส่งแม่ของเด็กได้ส�าเร็จ
หลั ง จากมี ก ารทดลองวั ค ซี น เชื้ อ ไวรั ส อี โ บลาชื่ อ ZMapp ในลิง 18 ตัว ผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เนือ่ งจากสัตว์ทดลองทุกตัวหายขาดจากเชือ้ ไวรัสอีโบลา อย่างไรก็ตามยังไม่มกี ารรับรองว่าวัคซีนดังกล่าวจะให้ผล แบบเดียวกันในมนุษย์ โดยก่อนหน้านี้มีชาวอเมริกัน 2 คน หายจากไวรัสนี้หลังได้รับวัคซีนดังกล่าว ในขณะที่อีกสองคนเสียชีวิตทั้งๆ ที่ได้รับวัคซีนแล้ว เช่นกัน องค์กรอนามัยโลกรายงานว่า การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกคร่าชีวิต คนไปแล้ว 1,552 คน จาก 3,069 คนที่ติดเชื้อ วัคซีน ZMapp จึงถือเป็นความหวังครั้งยิ่งใหญ่ของ คนทั่วโลก
SOCIETY ชายนิรนามบริจาคเงินให้ร้านค้าที่เสียหาย จากเหตุการณ์เฟอร์กูสัน
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ต�ารวจยิงวัยรุ่นผิวสีเสียชีวิต ก่อให้เกิดการประท้วงจนกลายเป็นการจลาจลปล้นสะดมร้านค้า ในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานชายสูงอายุคนหนึ่งตัดสินใจไปเยี่ยมเยียนร้านค้า ทีไ่ ด้รบั ความเสียหายในเมืองเพือ่ มอบซองจดหมายทีบ่ รรจุเงินจ�านวน 100 เหรียญสหรัฐฯ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เจ้าของ ร้านค้าหลายร้านทีไ่ ด้รบั ความช่วยเหลือจากเขาให้สมั ภาษณ์วา่ ชายสูงอายุคนนีถ้ อื ไม้เท้าเดินมาเคาะประตูรา้ น และมอบเงินให้ พร้อมพูดว่า “ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น” จนวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร แต่ทุกคนต่างรู้สึกตื้นตันในน�้าใจของเขา ผู้ได้รับความช่วยเหลือคนหนึ่งกล่าวว่า “ฉันแค่อยากขอบคุณเขา เขาท�าให้ฉันมีก�าลังใจและความหวังมากขึ้น”
ก่อนทีจ่ ะมีการท�าประชามติเพือ่ แยกประเทศระหว่างสกอตแลนด์กบั สหราชอาณาจักรในวันที่ 18 กันยายนทีจ่ ะถึงนี้ เราขอเชิญคุณ มาชื่นชมกับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของสกอตแลนด์ ณ กรุงเอดินบะระ ระหว่างลุ้นผลโพลจากหลายส�านักที่ชวนใจหายใจคว�า่ เพราะผลส�ารวจที่ออกมาก็ไม่ทิ้งห่างกันสักเท่าไหร่ - Reuters / Paul Hackett
Jose Antonio Garcia Mena ผู้เข้าแข่งขันจากสเปน กับ Norte Lovera ม้าคู่ใจ ก�าลังแสดงศิลปะการบังคับม้าระหว่างการแข่งขัน Individual Dressage Grand Prix รายการเวิลด์ อีเควสเทรียน เกมส์ ที่ d’Ornano สเตเดียม เมืองก็อง ประเทศฝรัง่ เศส - Reuters / Regis Duvignau
SPORT เลสเตอร์ ซิตี้ คว้า ‘แดนนี ซิมป์สัน’ เสริมทัพ ลงลุยพรีเมียร์ลีก
ก�าลังอยู่ในช่วงวางหมากเดินเกมอย่างขะมักเขม้นส�าหรับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดตัว แดนนี ซิมป์สัน จากทีมควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส ให้เข้ามารับต�าแหน่งแบ็กขวาของทีมเรียบร้อยแล้ว โดยมีรายงานว่า ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ยอมทุม่ เงินถึง 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 110 ล้านบาท) เพือ่ ขอให้นกั เตะหนุม่ วัย 27 ปีคนนีม้ าร่วมทีม พร้อมกับเซ็นสัญญาเป็นเวลา 3 ปี ถือเป็นนักเตะ รายที่ 5 ทีถ่ กู ดึงตัวให้เข้ามาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ โดยผูเ้ ล่นอีก 4 คนก่อนหน้า ก็คอื โฮเซ อุลลัว จากทีมไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน, แจ็ก บาร์มบี้ จากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, มาร์ก อัลไบรตัน จากทีมแอสตัน วิลลา และ เอสเตบัน กัมบิอสั โซ จากทีมอินเตอร์ มิลาน
รางวัลออสการ์เกียรติยศ 2014 ในทุกๆ ต้นปีเชือ่ ว่า แ ฟ น ห นั ง ฮ อ ล ลี วู ด หลายคนคงลุน้ ผลรางวัล ออสการ์กันอย่างใจจด ใจจ่ อ แต่ น อกเหนื อ ไปจากการมอบรางวัลส�าหรับผลงานที่ยอดเยี่ยมแล้ว ออสการ์ ยั ง มี ร างวั ล พิ เ ศษที่ เ รี ย กว่ า The Governor Awards หรือออสการ์เกียรติยศ ทีม่ อบให้กบั ความส�าเร็จ ตลอดทั้งชีวิตของบุคคลในแวดวงภาพยนตร์อีกด้วย • ปีนี้ถือเป็นปีที่ 6 ที่มีการมอบรางวัลออสการ์เกียรติยศ ส�าหรับบุคคลผู้ใช้เวลาของพวกเขาเกือบทั้งชีวิตเพื่อ สร้างต�านานให้แก่แวดวงภาพยนตร์ โดยในปีนี้รางวัล อันทรงเกียรติได้มอบให้แก่บุคคล 4 ท่าน ที่มีผลงาน อันโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน • เริ่มด้วย แฮร์รี เบลาฟอนเต นักร้อง และนักแสดง ระดับต�านานวัย 87 ปี ชาวอเมริกันที่เคยสร้างชื่อเสียง
INNOVATION
นักศึกษามะกัน คิดค้นยาทาเล็บ ป้องกันการมอมยา ที ม นั ก ศึ ก ษาของ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตท สหรัฐอเมริกา ได้ทา� การวิจยั และคิดค้น ย า ท า เ ล็ บ สู ต ร ใ ห ม ่ ส�าหรับหญิงสาวเพื่อป้องกันตัวจากการถูกมอมยา ในงานปาร์ตหี้ รือเวลาทีไ่ ปเทีย่ วตามคลับ ซึง่ อาจจะ น�าไปสู่การถูกคุกคามทางเพศในเวลาต่อไป โดย ยาทาเล็บนี้จะเปลี่ยนสีทันทีหากเอานิ้วจุ่มลงไปใน เครือ่ งดืม่ ทีม่ สี ารทีใ่ ช้มอมเมาผสมอยู่ โดยนักศึกษา เจ้าของโปรเจ็กต์นี้ได้กล่าวว่า “ผู้หญิงจะได้ระมัดระวังตัวมากขึน้ เมือ่ พบว่าเล็บของตัวเองได้เปลีย่ นสีไป” และพวกเขาหวังว่ายาทาเล็บทีค่ ดิ ค้นขึน้ มานีจ้ ะได้รบั การสนับสนุนจากบริษทั เครือ่ งส�าอางต่างๆ จนสามารถ ผลิตออกขายในเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต
จากผลงานอย่าง Carmen Jones และ Odds Against Tomorrow นอกจากนี้เขายังท� างานช่วยเหลือสังคม มาอย่างยาวนานโดยเฉพาะในด้านมนุษยธรรม และ การศึกษา • ส่วนผู้ก�ากับแอนิเมชันระดับต�านานอย่าง ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ก็ได้รับรางวัลนี้เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับรางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ เ รื่ อ ง Spirited Away มาแล้ ว ส่ ว น ผลงานเรื่อ งล่ า สุดอย่ า ง The Wind Rises ที่อ อกฉาย ในปีนี้ก็อาจจะเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายในการท�างาน ของเขาด้วย • รางวัลอันทรงเกียรตินยี้ งั จะมอบให้กบั มารีน โอ ฮารา นักแสดงหญิงชาวไอริชวัย 94 ปี รวมไปถึง ฌอง-โคลด คาร์ริแยร์ นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศส วัย 82 ปี ด้วย โดยพิธมี อบรางวัลจะจัดขึน้ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
“หัวใจการปฏิรูป คื อ การทำ า ให้ เ กิ ด การจัดสรรทรัพยากร อ ย ่ า ง เ ท ่ า เ ที ย ม และเป็นธรรม จะทำา อย่ า งไรที่ เ รื่ อ งของ กรรมสิทธิจ์ ะกลับมา สู่ประชาชนมากขึ้น”
รสนา โตสิตระกูล อดีต สว. กทม. 31 สิงหาคม 2557
GREEN PLEASE
แคลิฟอร์เนีย เริ่มแผนการแบนถุงพลาสติก
สภานิติบัญญัติรัฐแคลิฟอร์เนียออกร่างกฎหมาย ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกในร้านค้า และก�าลังยื่นเรื่อง ต่ อ รั ฐ บาลเพื่ อ ร่ า งเป็ น กฎหมายบั ง คั บ ใช้ ต ่ อ ไป โดยเนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับนี้ระบุถึงการห้ามใช้ ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในร้านค้าและร้านขายยา ขนาดใหญ่ในปี 2015 และในร้านสะดวกซื้อทั่วไปในปี 2016 นอกจากนีร้ า่ งกฎหมายดังกล่าวยังอนุญาตให้รา้ นค้า เก็บเงิน 10 เซ็นต์ ส�าหรับค่าถุงกระดาษหรือถุงที่สามารถน�ากลับมาใช้ใหม่ได้ ทั้งนี้ Californians Against Waste กลุ่มซึ่งสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ ได้ประเมินว่า รัฐแคลิฟอร์เนียมีการใช้ถุงพลาสติกมากกว่า 10 ล้านใบต่อปี แม้จะยังถูกต่อต้านโดยกลุ่มผู้ผลิตถุงและพรรคริพับลิกัน แต่คนหลายกลุ่มเชื่อว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวน่าจะเป็นตัวอย่างทีด่ ขี องการรักษาสิง่ แวดล้อมให้กบั ประเทศอืน่ ๆ ต่อไปในอนาคต
8 กั น ยายน 2479 - ถนนสุขุมวิทเปิดใช้ เป็นครัง้ แรก โดยถนนดังกล่าวมีระยะทางเริม่ ตัง้ แต่เขตคลองเตย ผ่านจังหวัดชลบุรี จังหวัด ระยอง จังหวัดจันทบุรี และไปสิน้ สุดทีจ่ งั หวัด ตราด ซึง่ แต่เดิมมีชอื่ ว่า ‘ถนนกรุงเทพฯ-ตราด’ ก่ อ นจะมาเปลี่ ย นเป็ น ชื่ อ ‘ถนนสุ ขุ ม วิ ท ’ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2493 9 กั น ยายน 2519 - เหมาเจ๋อตง อดีต ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เสียชีวติ ซึง่ ถือได้วา่ เขาเป็นผูน้ า� คนส�าคัญใน ประวัติศาสตร์ของประเทศจีน 10 กันยายน 2340 - แมรี โวลล์สโตนคราฟต์ นักคิดและนักต่อสู้แนวสตรีนิยม เสียชีวิต ในขณะที่เธอก�าลังคลอดบุตร 11 กันยายน 2504 - องค์กร WWF หรือ World Widelife Fund ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมือง เมิรก์ ซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ องค์กร WWF ถือได้วา่ เป็นองค์กรอนุรกั ษ์ธรรมชาติและสัตว์ปา่ ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในโลก โดยปัจจุบนั มีสา� นักงานใหญ่ อยู่ที่เมืองกรองด์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 12 กั น ยายน 2489 - วันเกิดของ โสภณ สุ ภ าพงษ์ นั ก ธุ ร กิ จ และนั ก พั ฒ นาชุ ม ชน เจ้าของรางวัลแมกไซไซ โดยเขาได้รับรางวัล แมกไซไซ สาขางานบริการสาธารณะ ในปี 2541 ภายหลังจากทีเ่ ขาพยายามต่อสูเ้ พือ่ ให้บริษทั บางจากกลายเป็นบริษัทน�้ามันของคนไทย อย่างแท้จริง โดยปัจจุบนั โสภณยังเป็นบุคคล ที่ท�างานรณรงค์เพื่อสังคมอยู่อย่างต่อเนื่อง 13 กันยายน 2459 - วันเกิดของ โรอัลด์ ดาห์ล นัก เขีย นชื่อ ดัง ชาวอัง กฤษ โดยงานเขีย น ของเขาเป็นทีย่ อมรับจากนักอ่านทัว่ โลก และ ถูกดัดแปลงไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเรือ่ ง นับว่าโรอัลด์เป็นนักเขียนทีป่ ระสบความส�าเร็จ มากที่สุดคนหนึ่งของโลก 14 กั น ยายน 2503 - วันก่อตั้ง OPEC หรือ องค์การของประเทศผูส้ ง่ น�า้ มันเป็นสินค้าออก ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสมาชิกเริ่มแรกมีเพียง 5 ประเทศเท่านั้น คือ อิหร่าน, อิรัก, คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย และเวเนซุเอลา
GoEuro.com จัดอันดับไทยอยู่ที่ 4 ของประเทศที่มีค่าเดินทางถูกที่สุดในโลก
Did You Know?
เว็บไซต์ให้บริการวางแผนการท่องเทีย่ วในยุโรปอย่าง GoEuro.com ได้จดั อันดับประเทศทีม่ คี า่ ใช้จา่ ยในการใช้ระบบขนส่งมวลชน ของทั้ง 51 ประเทศทั่วโลก ทั้งการเดินทางด้วยรถไฟ เครื่องบิน และรถโดยสารประจ�าทาง พบว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็น ประเทศทีม่ คี า่ ใช้จา่ ยในการเดินทางแพงทีส่ ดุ ส่วนทีถ่ กู ทีส่ ดุ คือแอฟริกาใต้ แอลเบเนีย และมาเลเซีย ตามล�าดับ ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกที่สุด
สัมภาษณ์ : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม ถ่ายภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี
คนส่วนใหญ่มกั พูดกันว่า นักเขียนมีอาชีพ ปั้นค�าจากอากาศ หรือกระทั่งปั้นน�้าเป็นตัว เพราะนั ก เขี ย นสามารถสร้ า งเรื่ อ งราวจาก ความว่างเปล่าบนหน้ากระดาษให้กลายเป็น เรื่ อ งราวน่ า อ่ า นชวนติ ด ตามได้ ต่ อ เมื่ อ เรา มาพูดคุยกับ อุทิศ เหมะมูล นักเขียนเจ้าของ ผลงานวรรณกรรมสร้ า งสรรค์ ย อดเยี่ ย ม แห่งอาเซียน (หรือรางวัลซีไรต์) ในปี พ.ศ. 2552 จากเรื่อง ลับแลแก่งคอย เราจึงรู้สึกว่านิยาม ที่ เ หมาะสมที่ สุ ด ส� า หรั บ การอธิ บ ายอาชี พ นั ก เขี ย น โดยเฉพาะนั ก เขี ย นอย่ า งอุ ทิ ศ คื อ อาชีพที่ต้องขุด ต้องคว้านเนื้อในที่ลึกที่สุดใน หัวใจและชีวิต เพื่อน�ามาถ่ายทอด เล่าเรื่องราว ต่างๆ ให้คนอื่นอ่าน แต่ตัวเองไม่อาจท�าตัวเป็น คนอืน่ ได้ในชีวติ ตัวเอง ตรงกันข้าม ตัวเองนัน่ แหละ ที่ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับเรื่องราวเก่าก่อน ที่ ซ ่ อ นอยู ่ ที่ บ างเรื่ อ งก็ เ จ็ บ ปวด บางเรื่ อ ง ก็สวยงาม เหมือนส�านวนของอุทิศที่เขาบอก กับเราว่า “เราต้องกลับไปพูดคุย เผชิญหน้า และเยียวยาตัวเอง” จึงไม่ตอ้ งถามเลยว่าเขาต้อง หวนกลับไปเผชิญหน้ากับอดีตและปมของตัวเอง กี่ครั้งกี่คราวกว่าจะเขียนนวนิยายขนาดยาว และหนักเข้มทีก่ ลัน่ ออกมาจากอดีตอันเจ็บปวด ระหว่างเขากับครอบครัวอย่าง ลับแลแก่งคอย, ลักษณ์อาลัย และ จุติ (ทีก่ า� ลังจะตีพมิ พ์ออกมา ในเวลาอันใกล้นี้) นานปีแล้วที่ a day BULLETIN ไม่ค่อย ได้ พู ด คุ ย กั บ คนในแวดวงวรรณกรรม ทั้ ง ที่ วรรณกรรมก็เป็นอีกบทบันทึกหนึง่ ของช่วงเวลา ที่เราใช้ชีวิตอยู่ สังคมเป็นแบบไหน วรรณกรรม ก็คล้ายจะถอดแบบออกมาเช่นนัน้ เราเลยอยาก พูดคุยกับนักเขียนสักคนทีส่ ามารถสะท้อนแง่คดิ ในการมองสังคมได้อย่างน่าฟัง รวมทั้งพูดถึง แวดวงวรรณกรรมได้น่าสนุก คนแบบไหนที่จะ เล่าเรื่องวรรณกรรมได้สนุกพอที่จะท�าให้เรา ติดตาม ค�าตอบคือ ก็ตอ้ งเป็นคนที่ ‘อุทศิ ’ ตัวตน และจิตวิญญาณให้กบั วรรณกรรมแล้วเท่านัน้ แหละ แต่แม้ความคิดจะเข้มข้น และผ่านเรื่องราว ขื่ น ขมมามากมาย แต่ กั บ การแต่ ง กายแล้ ว อุทิศเลือกที่จะสนุกและเปรี้ยวไว้ก่อนเสมอ ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นนักเขียนทีค่ รบรสคนหนึง่ ก็ ไม่น่าจะผิด
สไตลิสต์ : HOTCAKE เสื้อผ้า : Sandro
ก่อนติดต่อมาถ่ายปก คุณบอกว่าให้เตรียมเสื้อผ้า แบบไหนก็ได้ แต่ขอเปรี้ยวๆ อยากทราบว่าคุณ ให้ความส�าคัญกับสไตล์การแต่งตัวขนาดไหน ผมสนุกกับการแต่งตัวนะ แต่ตัวเองไม่ค่อยมี เซนส์ในเรื่องของแฟชั่นเท่าไหร่ ที่เห็นผมแต่งตัว ไปไหนมาไหนทุกวันนี้ก็ได้ภรรยานี่แหละเป็นคน เลือกเสื้อผ้าให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า รองเท้า แว่น กางเกง นี่เขาซื้อให้หมด หรือถ้าไปเดินช้อปปิ้ง ด้วยกันแล้วเห็นเสื้อผ้าตัวไหนน่าสนใจ เขาก็จะ บอกให้ผมใส่ให้ดูหน่อย ถ้าถูกใจ ผมก็มีหน้าที่ จ่ายเงิน เหมือนเป็นหุ่นลองเสื้อให้เขาน่ะ แต่ผม ก็สนุกและชอบหน้าที่นี้ด้วย การแต่งตัวของคุณดูเปลี่ยนไปเยอะนะ ใช่ๆ แต่การเปลีย่ นแปลงเหล่านีม้ นั ก็เป็นการบันทึกยุคสมัย ถ้าเรากลับไปดูตัวเองในยุคเก่าๆ ก็จะเห็นว่าเรามีลักษณะของการตามแฟชั่นใน แต่ละช่วงอยูแ่ ล้ว ตอนเรียนอยูป่ ี 1 ปี 2 ทีศ่ ลิ ปากร ผมก็ไว้ผมยาวเลยนะ ย้อมผมเป็นสีทอง ใส่แว่น สีฟ้า สีเขียว เพราะตอนนัน้ ก�าลังบ้า โรเบิร์ต สมิธ วง Cure เรียกว่าตืน่ เช้าต้องเอาหวีสางหัวให้มนั ฟูๆ แล้วก็ใส่แว่นฟ้า พอไปเรียนเขาก็จะแซวว่าไอ้แว่นฟ้า มาแล้ว แต่ความที่ผมเรียนคณะจิตรกรรมฯ มันก็ จะเต็มไปด้วยคนที่มีบุคลิกแบบที่พยายามจะ พรีเซนต์ตวั เองผ่านรูปลักษณ์ภายนอก ซึง่ มีหลาย สไตล์มาก เพราะแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน มีทงั้ แต่งชุดหนัง ชุดยีนส์ กางเกงขาเดฟ แต่พดู ถึง แฟชัน่ นี่ เราสังเกตว่ายุค 80’s เป็นยุคทีจ่ ะถูกแซว มากทีส่ ดุ นะ ผมตัง้ เป็นกระบัง สูทต้องมีฟองน�า้ รอง กางเกงหลวมๆ จริงๆ ยุคปัจจุบนั มันก็มรี ปู แบบของ แฟชัน่ ยุค 80’s ทีก่ ลับมา แต่มนั แค่แปลงนิดหน่อย วงการแฟชัน่ ก็แบบนี้ มันไม่ได้มอี ะไรใหม่ แล้วเมือ่ มองย้อนกลับไป บางทีมันก็เชยนั่นแหละ แต่ใน ความเชยมันก็มเี สน่หน์ ะ ผมมักจะมองกลับไปใน ยุค 80’s ด้วยความรู้สึกรักใคร่ จั๊กจี้ อบอุ่น ได้ยิน เพลงแบบ Electric Dreams แล้วก็จะอูย... คิดได้ไง (หัวเราะ) ถามว่าชอบฟังไหม ก็ชอบนะ ไม่ได้รู้สึก รังเกียจ คล้ายๆ กับว่ามันช่วยปลุกความรูส้ กึ เดียงสา สมัยที่เรายังวัยรุ่น งานเขียนก็เป็นการบันทึกยุคสมัยแบบหนึง่ โดยเฉพาะ วิ ธีคิ ด ของตั ว เราในยุ ค หนึ่ ง ถ้ า อย่ า งนั้ น มั น ก็ ไม่แปลกใช่ไหมถ้าจะมีความเชยอยู่บ้าง ไม่แปลกเลย แล้วไม่ตอ้ งกลัวเชยหรอก เพราะ ยังไงมันก็เชย คือตัวผมเองก็มีประสบการณ์กลัว เชยมาตลอดนั่ น แหละ ยกตั ว อย่ า งตอนที่ ผ ม เริม่ ต้นงานเขียนในยุคก่อน อารมณ์แบบหนังของ หว่องกาไว มันระบาดมาก ไหนจะผู้ก�ากับแบบ ไฉหมิงเหลียง หรือนักเขียนอย่างมูราคามิ ทุกอย่าง มันจึงเป็นประเด็นเรือ่ งความเหงา เศร้า โดดเดีย่ ว แปลกแยกต่อสังคม สิ่งเหล่านี้มันใหม่ในยุคนั้น แล้วมันก็พดู กับความเป็นหนุม่ เป็นสาวของคนเรา พูดกับภาวะช่วงวัยนั้น เพราะว่าเป็นธรรมดาที่ หนุม่ สาวจะแสดงภาวะของตัวเองออกมา จะให้พดู เรื่องเพื่อชีวิต สะท้อนสังคม หรือเรื่องในชนบท มันก็เก่าไปแล้ว ยิ่งถ้าหากเราหยิบจับมาเขียนได้ ไม่ดมี นั ก็ดเู ชยอีก เราก็เลยคิดว่าจะท�ายังไงให้งาน หรือสิ่งที่มันไม่ผูกติดอยู่กับเวลา ไม่ระบุยุคสมัย ผมว่าทุกคนทีเ่ พิง่ จะเริม่ เขียนงานก็นา่ จะมีอารมณ์ คล้ายๆ กันนี้ คือคิดว่าท�ายังไงงานเขียนของตัวเอง ถึงจะดูไม่เชย แต่ผมบอกเลยว่ามันหลีกเลี่ยง ไม่ได้หรอก แต่ขณะเดียวกันก็อย่าไปเครียดหรือ ไปกะเกณฑ์อะไรมันมาก เพราะว่าพอมาถึงจุดหนึง่ สิ่งที่ส�าคัญที่สุดก็คือ เขียนในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกับ มัน ค�าว่ารูส้ กึ ในทีน่ คี้ อื ทุกอย่างเลยนะ มันก็ไม่ผดิ อะไรหรอกถ้าหากงานของคุณมันจะดูมคี วามเป็น ปัจเจก สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจสังคม ผมว่าก็ท�าไปเถอะ ท�าในสิ่งนั้นให้มันผ่านพ้น เพราะมันก็เป็นช่วงเวลาแต่ละยุคแต่ละสมัยทีม่ นั จะต้องเป็นไป นีผ่ มพูดในฐานะทีผ่ มโตเป็นผูใ้ หญ่ แล้ว ดังนั้น เมื่อมองย้อนกลับไปดูงานของตัวเอง
“คนรุ่นเก่าก็ด่า คนรุ่นหลังเสมอ แหละ ผมไม่อยาก ให้ตวั เองเป็นผู้ใหญ่ ที่ด่าเด็กยุคใหม่ ผมรู้สึกแบบนั้น ผมเชือ่ ว่าคนรุน่ ใหม่ มีสติปญ ั ญา มีพลัง มีโลกของเขาเอง ที่จะต้องเผชิญ อยู่แล้วข้างหน้า เราแค่มีหน้าที่ ค่อยๆ ทอดสะพาน ค่อยๆ สร้างฐาน และความคิด หรือสิ่งที่เป็น ยุคสมัยของเรา เป็นฐานให้เขา เหยียดยืน”
สมัยก่อน ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้หรือเปล่า แต่เรา มองตัวเองเรารูว้ า่ มันมีความพยายามดิน้ รนหลีกหนี จากสิง่ นัน้ สิง่ นี้ เช่น ไม่อยากให้เชย ดังนัน้ เมือ่ เรา กลับมาอ่านงานเก่าๆ ในอดีต เราก็ได้รู้ว่าจังหวะ ก้าวเดินในอดีตของเรามันเป็นแบบไหน งานที่ ออกมาในช่วงหนึ่งมันก็อาจจะคล้ายๆ กับของ คนอืน่ ๆ ด้วย เพราะมันเป็นเรือ่ งของภาวะร่วมสมัย งานยุคหนึง่ ทีผ่ า่ นมาเลยมีแต่เรือ่ งเหงา แปลกแยก อย่างทีบ่ อก เพราะตอนนัน้ เราคิดว่ามันไม่เชย แต่ พอมาถึงยุคนีม้ นั ก็เฝือแล้วน่ะ ถ้าใครยังเขียนแบบนี้ มันก็ท�าให้เรารู้สึกว่า โอ้โฮ นี่มันยังเหลือซาก อีกหรือ ยังเหลือน�า้ หวานให้ดดู ได้อกี หรือ นีผ่ มพูด ตามสิ่งที่เห็นนะ ไม่ใช่ว่าเด็กรุ่นใหม่มาอ่านแล้ว จะคิดว่า อ้าว แล้วคุณคิดว่าความเหงามันเป็น เรือ่ งในยุคของคุณคนเดียวหรือไง จริงๆ ความเหงา มันก็เป็นความเหงาที่เหมือนกับยุคสมัยศตวรรษ ที่ 17 นัน่ แหละ เพียงแต่เงือ่ นไขหรือภาวะทีท่ า� ให้เกิด ความเหงามันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเท่านั้นเอง ไม่ ว ่ า จะเป็ น สภาพสั ง คม ระบบการปกครอง อุดมการณ์ของบ้านเมือง หรือวัฒนธรรม มันก็หม่ คลุมและสะท้อนอยู่ในตัวของนักเขียนแต่ละชาติ อยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดงานเขียนมันจะเป็นตัวบอก หรือระเหิดสิ่งนั้นออกมา คือเราจะไปเขียนงาน แบบมูราคามิไม่ได้ทุกคน เพราะความโดดเดี่ยว แบบนั้นมันต้องเข้มแบบนั้น มันถึงผลักให้เกิด เรือ่ งแบบมูราคามิ หรือดูอย่างมูราคามิอกี คนก็ได้ เช่ น เรี ย ว มู ร าคามิ ก็ เ ขี ย นเรื่ อ งความเหงา ความเดียวดายของมนุษย์เหมือนกัน แต่มันมี ลักษณะที่มีความรุนแรงมากกว่า มีฉากที่มีการฆาตกรรมมากกว่า คือวันที่มันเปลี่ยวมากๆ หรือ เหงามากๆ บางทีมันถูกผลักให้ไปสู่การกระท�า ที่ มั น เป็ น ไปสุ ด ขั้ ว ได้ ไ ง คื อ การน� า เสนอของ นั กเขียนแต่ละคนมันก็ต่างรูปต่างแบบกันไป แล้วสิ่งที่คุณสนใจในอายุตอนนี้คือเรื่องแบบไหน หรือคิดว่าบรรยากาศแบบไหนที่กระทบใจ ผมว่าบรรยากาศแบบนี้แหละ บ้านเมืองเรา ทีเ่ ป็นแบบนีแ้ หละ ผมว่าบรรยากาศบ้านเมืองทีม่ นั สุดขัว้ แบบนี้ ลักษณะทีม่ นั เป็นทัง้ เสียดสี ถากถาง ตัวเองด้วย มันเกิดจากรัฐประหาร แล้วก็มกี ารคืน ความสุข เขาเรียกว่ามันเป็นวาทกรรมหลายๆ อัน ที่ซ้อนกันแล้วมันเป็นสองด้านในเรื่องเดียวกัน ตลอด เราก�าลังเผชิญหน้ากับสังคมแบบนี้ สังคม ทีแ่ คมเปญเป็นชือ่ สวยๆ อันหนึง่ แต่เนือ้ หาข้างใน มีทมี่ ายังไงมันก็ตอ้ งเกิดค�าถาม เพราะมันน่าสงสัย ผมว่ายุคนี้เป็นยุคที่ซับซ้อนมาก นักเขียนก็ต้อง ท�างานมาก วิเคราะห์มากขึ้นกับภาพของสังคม ทั้งหมด แล้วต้องมองให้เห็นมิติหรือระดับชั้น ของมันด้วยว่ามันถูกซ้อนถูกสานขึ้นมายังไงบ้าง อุดมการณ์อะไรทีม่ นั รับใช้เรือ่ งท�านองนี้ จึงกลาย เป็นว่าจากจุดเดียวนีแ่ หละทีม่ นั กระเทือนอุดมคติ หรือสิง่ ทีม่ นุษย์คนหนึง่ รับรู้ได้เลย ไม่ใช่แค่การใช้ ชีวิตประจ�าวันอีกแล้ว แต่ผมว่าการที่เรากระท�า สิ่งหนึ่งๆ มันมีแรงกระตุ้นจากทั้งคติความเชื่อ จากวัฒนธรรมทีเ่ ลีย้ งดูมา สังคมทีเ่ ป็นอยูป่ จั จุบนั มันกลายเป็นว่า หนึ่งการกระท�า มันมีอย่างอื่น ทีเ่ ป็นนัยซ่อนอยูต่ ลอด ฉะนัน้ เราเลยเห็นว่าสังคม ปัจจุบนั นี้ งานวิชาการหนักๆ มันถึงตอบโจทย์กบั สังคม หรือพูดกับคนรุ่นใหม่ๆ ได้มากขึ้น เพราะ มันสามารถถอดรื้อสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ ท�าให้คน เห็นภาพได้วา่ การกระท�าแบบนีไ้ ม่ได้เป็นการกระท�า ทีไ่ ม่มที มี่ าทีไ่ ปนะ แต่มชี ดุ อุดมการณ์ทผี่ ลักให้เกิด การกระท�าเหล่านีข้ นึ้ มา เพราะเขาถูกปลูกฝังหรือ ถูกเลี้ยงดูมายังไง เอาแค่ปรากฏการณ์ทางสังคม มันก็เป็นเวทีที่ท�าให้เกิดการแสดงความเห็นได้ เต็มไปหมดเลย อย่างเหตุการณ์ข่มขืนก็มีคน เริม่ พูดเรื่องต้องมีโทษประหารนะ ต้องมีการแก้ กฎหมายแบบนั้นแบบนี้ เกิดการแสดงความเห็น ที่ชุกชุมขึ้น สิ่งที่สะท้อนในมิติที่ลึกลงไปก็คือว่า ตั ว ชุ ด ความเห็ น เหล่ า นั้ น มั น มาจากหลั ก ฐาน
ความคิด ความเชือ่ ถูกอบรมบ่มเพาะ ถูกสอนมา มันไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ เขาไม่ได้พูดสิ่งนี้ขึ้นมา เพื่ อ ที่ จ ะตอบโจทย์ ค ดี ข ่ ม ขื น ที่ เ กิ ด ขึ้ น เท่ า นั้ น แต่มนั สะท้อนไปถึงรากแห่งค�าตอบของความเห็น ที่คนเหล่านั้นพูดออกมาด้วย วั น นี้ เ พิ่ ง อ่ า นงานและเห็ น ค� า พู ด หนึ่ ง ที่ บ อกว่ า นักเขียนควรจะเป็นคนที่เข้าใจ ไม่ใช่คนที่ไปตัดสิน คนอื่น คุณเห็นด้วยกับค�าพูดนี้ไหม หัวใจต้องเป็นแบบนั้น คือนักเขียนมักจะถูก คาดหวังให้เป็นคนที่ใจกว้าง คือหมายความว่า พื้ น ที่ ใ นใจต้ อ งกว้ า งพอที่ จ ะมองเห็ น สิ่ ง ต่ า งๆ ในสังคม และความรูส้ กึ นึกคิดหรือความในใจของ แต่ละคน แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มิติทางความคิด การพินิจพิจารณามันต้องถือความรับผิดชอบ ไว้มากพอสมควรในการเขียนถ้อยค�า หรือการแสดงทั ศ นะอะไรออกไป เพราะมั น ต้ อ งผ่ า น การคัดกรอง แต่เป็นคนละเรือ่ งกับการทีน่ กั เขียนต้องมีจดุ ยืนใช่ไหม มันก็มซี อ้ นกันอยูท่ งั้ นัน้ นะ คือหมายความว่า โอเค ผมรู้ว่าสิ่งนี้ผมท�าได้ สิ่งนี้ผมท�าไม่ได้ นั่นก็ ถือว่าเป็นจุดยืนของผมใช่ไหม แต่ว่าพื้นที่กว้างๆ ที่เราจะต้องให้ความเผื่อแผ่ หรือให้ความเข้าใจ กับสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ หรือความเป็นไปทีเ่ กิดขึน้ มันก็เป็น สิง่ ทีม่ ากกว่าหน้าที่ คือมันควรจะเป็นสามัญส�านึก เลยด้วยซ�้า ถ้าอย่างนัน้ ก็พดู ถึง สามานย์ สามัญ ทีเ่ ข้ารอบซีไรต์ ปีนี้ อยากทราบถึงประเด็นเรือ่ งความสามานย์ สามัญ ทีพ่ บเจอในหนังสือ คุณรูส้ กึ อย่างไรกับเรือ่ งทีน่ า� เสนอ มันเป็นเรื่องชีวิตประจ�าวันน่ะ ผมก็เก็บเล็ก ผสมน้อย ผมว่าเรามีรูโหว่ รูพรุนแบบนี้ในสังคม เยอะแยะไปหมดในหลายๆ ที่ หลายๆ จุด เช่น เวลา ทีเ่ ราพูดว่าทุนสามานย์ มันจะถูกใช้เป็นวาทกรรม เพือ่ เป็นตัวแทนของคนคนหนึง่ อย่างเดียวไม่ได้ไง ถ้าจะพูดว่าทุนสามานย์มันต้องเป็นคนนั้นคนนี้ เท่านัน้ นายทุนคนนัน้ คนนีเ้ ท่านัน้ มันก็ถกู วาทกรรม ครอบไปแล้วว่าทุนสามานย์เท่ากับสิ่งนี้ เท่ากับ พรรคการเมือง เท่ากับสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ในภาคการเมือง ผมคิดว่าความสามานย์มนั เป็นเรือ่ งในชีวติ ประจ�าวัน มาก แล้วสิ่งที่มันสะเทือนมากๆ ก็คือมันไม่ได้ สะเทือนในจุดทีเ่ ป็นภาคการเมือง แต่มนั แทรกซึม อยู่ในทุกที่ ทุกชีวิตประจ�าวัน แล้วผมคิดว่าเราไป โฟกัสส่วนทีถ่ กู ท�าให้หนั หน้าไปมอง แล้วก็พยายาม ที่จะหาความหมาย หรือจ�ากัดความกับมันมาก เกินไป อย่างเรือ่ งแคมเปญปราบคอร์รปั ชัน ผมว่า มันก็ไปผูกติดกับเรือ่ งการเมืองมากจนเกินไป คือ ต้องไล่จี้ลงมาจากการเมืองก่อนถึงจะเข้ามาถึง ชีวิตประจ�าวันของคนทั่วไป การเมืองต้องเป็น ภาคผูน้ า� ก่อน หรืออะไรก็วา่ ไป ผมว่าจริงๆ มันต้อง ไล่จจี้ ากชีวติ ประจ�าวันขึน้ ไป เพราะว่าเรือ่ งโกงมันอยู่ ในจุดเล็กจุดน้อย แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจ�าวัน เข้าไปอยูใ่ นคติเล็กๆ เข้าไปอยูใ่ นสิง่ ทีเ่ ราพอรับได้ กับการถูกเอาเปรียบด้วยเงินบาทสองบาท การไม่ตงั้ ค�าถามกับธนาคารทีเ่ ก็บค่าธรรมเนียม มันมีตงั้ เยอะ ตั้งแยะ หรือ SMS ที่ถูกปล่อยเข้ามาในโทรศัพท์ ที่บอกว่าได้รับสิทธิพิเศษรับข่าวฟรี เรื่องแบบนี้ มันมาหาเราง่าย แต่เวลาที่เราต้องการจะยกเลิก จากมั น กลั บ เป็ น กระบวนการที่ ต ้ อ งท�า อะไร ซับซ้อนมากกว่าตอนที่มันส่งมาอีกน่ะ ถ้าเรา ไม่สังเกตดีๆ พอบิลโทรศัพท์มาในแต่ละเดือน มันก็จะบวกเรื่องจุกจิกพวกนี้เข้าไป และถ้าเรา ไม่แจ้ง ไม่มปี ฏิกริ ยิ าอะไรตอบโต้ เขาก็จะเอาเงิน เล็ก ๆ น้ อ ยๆ เหล่ า นี้จ ากเรา ผมว่ า เป็ น เรื่อ ง ชีวติ ประจ�าวันทีค่ นทัว่ ไปอยู่จนชิน แล้วเราเริม่ รับ กับความไม่ถกู ต้องทีม่ นั ค่อยๆ ถ่างออกๆ จนกระทัง่ คนเราเลื อ กจะอยู ่ เ ฉยๆ ไม่ ย อมพู ด เพราะมัน เล็กน้อยเกินไป ไม่ได้ใหญ่โต แต่ความเล็กน้อย เหล่านี้มันยิ่งท�าให้ความเฉยชา หรือความมึนชา กลายเป็นเรื่องนิ่งดูดายหรือชามากขึ้น ทุกวันนี้ ผมก็ยงั ไม่เข้าใจว่าท�าไมเรายอมรับค�าว่าเริ่มต้นที่
500++ บาท อยู่ตามบิลบอร์ด หรือตามโครงการ ต่างๆ มันเริ่มแผ่ลามมาที่สังคมทุกอย่าง แล้วมันผิดปกติอย่างไร ก็บอกตรงๆ สิครับว่าราคาเท่าไหร่ ท�าไมเดีย๋ วนี้ ต้องมีเริ่มต้นที่ 1.38 ล้าน แล้วก็มีดอกจันต่อท้าย กลายเป็นสังคมดอกจัน และสังคมราคาเริ่มต้น ที.่ .. ก็บอกสิวา่ ราคาเท่าไหร่ ตรงไปตรงมา ผมรูส้ กึ ว่า ผมมีปัญหา และรับไม่ได้ แล้วมันหนักขึ้น เพราะ ว่ า ผมไปเดิ น ตลาดแล้ ว แม่ ค ้ า ก็ ใ ช้ ค� า นี้ ด ้ ว ยไง คือมันถูกส่งทอดกันมาเรื่อยๆ โอเค เราอาจจะ เริ่มเห็นจากโครงการบ้านจัดสรร คอนโดฯ ที่ดิน ขึ้นป้าย แล้วก็เริ่มมีเป็นโปรโมชันร้านอาหาร แล้วก็กลายเป็นทุกอย่างรอบตัว แล้วรู้สึกว่าค�านี้ เริ่มเป็นที่รับได้ เริ่มแพร่เข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้ ร้านขายผลไม้ในตลาดก็มปี กั ป้ายว่า มะม่วง 1 ลูก ราคาเริม่ ต้นที.่ .. คิดว่ามันเป็นปกติเหรอ ผมว่ามัน เป็นสังคมที่เล่นกับค�าสวย ค�างาม ค�าคุณธรรม ค� า ความดี ที่ มั น หลอกล่ อ เราที ล ะนิ ด ที ล ะน้ อ ย ท�าให้เรางง เพราะมันไม่ตรงไปตรงมา แล้วเรา เริ่ ม รั บ ได้ กั บ ความไม่ ต รงไปตรงมามากขึ้ น ๆ แล้วพอเราเห็นว่าทุกคนท�าได้ เราก็รับเอาความไม่ตรงไปตรงมาเหล่านี้ แล้วเราก็เริม่ ใช้แบบนีด้ ว้ ย เหมือนกัน ย้อนกลับไปในเรื่องความสามานย์ในชีวิตประจ�าวัน ทีเ่ ราเห็น คุณตัง้ ค�าถามว่าท�าไมเราถึงเฉยชากับสิง่ ที่ เกิดขึ้นในสังคม แต่ปรากฏการณ์ในสังคมตอนนี้ก็ มีกลุ่มคนที่เกิดจะไม่เฉยชากับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ประจ�าวัน เช่น มีการประจานกันในเฟซบุ๊กว่าคนนี้ มายืนกอดเสาในรถไฟฟ้า หรือเรื่องของมนุษย์ป้า ต่ า งๆ ซึ่ ง ถ้ า เอาเรื่ อ งของการเฉยชามาจั บ การประจานใช่ค�าตอบของการไม่เฉยชาไหม ไม่ คือในท้ายที่สุดมันก็ไม่ควรจะต้องเป็น แบบนั้นนะ ล่าสุดมันก็มีเฟซบุ๊ก หรือค�าแนะน�า ต่างๆ ทีอ่ อกมาเตือนคนทีป่ ระจานนะ ผมว่าจริงๆ แล้วเป็นเพราะว่าเราติดอยู่ในสังคมโซเชียลมีเดีย มากจนใช้พื้นที่ของเฟซบุ๊กเป็นห้องใจอีกอันหนึ่ง ของเรา เป็นบ้านอีกอันหนึง่ ของเรา หรือเป็นพืน้ ที่ เปิดเผยในการแสดงทัศนะ เพราะโลกโซเชียล มันเชือ่ มถึงกันหมด เหมือนเป็นจักรวาลของโซเชียล มีเดีย ขณะที่ตัวตนจริงๆ ของคนเราถูกตัดขาด ออกไป ซึ่งพูดกันจริงๆ มันก็แก้ปัญหาง่ายมาก เลยนะ ส�าหรับกรณีของใครก็ตามทีจ่ ะเอาหลังพิงเสา บนรถไฟฟ้า คือแทนที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้ว ประจาน คุณแค่สะกิดเขาแล้วบอกว่า ขอโทษครับ ขอจับเสาหน่อย เท่านีม้ นั ก็จบแล้ว ปฏิสมั พันธ์ใน ชีวติ จริงมันก็เกิดขึน้ แล้ว บางทีปญ ั หามันแก้งา่ ยๆ แค่นั้นเอง เราก็เป็นคนหนึง่ ทีเ่ ชือ่ แบบทีค่ ณ ุ บอกว่า จริงๆ แล้ว ทางแก้มันง่ายมากเลย คุณก็แค่บอกเขา ผมว่ามันเท่านั้นเอง บอกเขาง่ายๆ ดีๆ โดยที่ ไม่ต้องไปเหวี่ยงเขานะ บางทีก็เข้าใจว่าร�าคาญ เพราะบางคนก็ไม่รู้มาจากไหน โผล่ทะเล่อทะล่า มาเลย เขายืนเข้าแถวกันอยู่ดีๆ อยู่ๆ ก็ผ่าเข้ามา แต่เราก็จะรูส้ กึ ว่าเราเลือกทีจ่ ะไม่พดู เราเลือกทีจ่ ะ เห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ร�าคาญ แล้วเราก็ ไปหาทางออกหรือทางระบายอารมณ์ของเราทีม่ ตี อ่ ผู้คนผ่านทางโลกโซเชียลมีเดียแทน คือในตอน เริม่ แรกมันก็ดเู ฮฮาหรือฮือฮากันอยู่ เป็นการเฝ้าระวัง อะไรต่ า งๆ แต่ พ อมาตอนหลัง มัน ก็ก ลายเป็ น การประจานขึ้ น มา คื อ สั ง คมในเฟซบุ ๊ ก หรื อ โซเชียลมีเดียมัน ไวมากไงครับ เวลามัน ไวกว่ า อดีตมากเลย คือหนึ่งวันของเฟซบุ๊กนี่จริงๆ เกือบ จะเท่า 1 ปีของเมือ่ 10 ปีทแี่ ล้ว คือระยะเวลาชีวติ มันไวขึ้น มันลัดวงจรขึ้น กลายเป็นว่าพอมันไว มันก็ทา� ให้ความตระหนักคิด ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ท�า ความอดทนมันน้อยลงไปด้วย พูดถึงเรื่องงานบ้าง วันนี้ที่คุณมาท�าหน้าที่ บก. นิตยสาร ไรท์เตอร์ ยุคนี้ คิดว่าสิง่ ทีส่ นใจหรืออยาก จะน�าเสนอประเด็นต่างๆ จะเป็นแบบไหน
“เวลาเราเขียนหนังสือสักเรื่อง มันไม่ใช่การขุดอดีตออกมาขายกิน อย่างเดียวนะ แต่เท่ากับคุณต้องเผชิญกับเรื่องเดิมอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คุณเขียนภาพนั้น ภาวะแบบนั้นก็ต้องดึงมันออกมาใช้” ก็เป็นประเด็นทางวรรณกรรมโดยส่วนใหญ่ แต่เรามองวรรณกรรมว่าไม่ใช่แค่กลุม่ คนทีท่ า� งาน ในแวดวงวรรณกรรมอย่างเดียว ส�าหรับเรา มันไม่ควร จะเป็นหนังสือที่ท�ากันขึ้นมาเพื่อคนวรรณกรรม แล้วก็รบั รูอ้ ยูใ่ นสังคมวรรณกรรม แต่วา่ เราควรจะ เปิดใจรับคนสังคมอื่นที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนใน แวดวงวรรณกรรมด้วย ซึง่ มันก็จะออกมาในรูปแบบ ของปรากฏการณ์ ที่ ส ามารถจะสร้ า งให้ เ กิ ด วรรณกรรมขึน้ หรือท�าให้ความคิดของนักเขียนของ ยุคสมัยของวรรณกรรมช่วงนีม้ นั มีการเปลีย่ นแปลง หรือเกิดปฏิกริ ยิ าอะไรขึน้ เราก็เลยมองว่าหนังสือ วรรณกรรมมันไม่ได้เป็นผลส�าเร็จของตัวนักเขียน หรือสังคมวรรณกรรมอย่างเดียว แต่มันสามารถ ทีจ่ ะส่งต่อมาสูแ่ วดวงวรรณกรรมได้ดว้ ย หมายถึง มันมีการเชื่อมกับพื้นที่อื่นๆ มากขึ้น แล้วตอนที่คุยกันกับ บก. คนก่อน ท�าไมถึงรับปาก มาเป็น บก. ถูกใจค�าชวนแบบไหน คือผมเขียนนิยายเสร็จแล้ว แล้วก็มคี วามตัง้ ใจ ว่าจะพักสัก 2 ปี ถ้านับเป็นทศวรรษอายุ 30-40 ตอนนี้อายุ 39 แล้ว อย่างน้อยๆ ผมก็สร้างนิยาย ไตรภาคได้ 3 เรื่อง ลับแลแก่งคอย ลักษณ์อาลัย แล้วก็ จุติ ซึ่งผมถือว่าผมจบช่วงชีวิต 30-40 ปี ได้อย่างสวยงามแล้ว ผมมีนยิ ายเล่มเบ้อเริม่ ซึง่ ใช้ พลังงานในช่วงวัยตอนนีอ้ ย่างเต็มทีแ่ ละคุม้ ค่ามาก ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากพอที่ผมจะพัก 2 ปี แล้ว ถือว่าเป็นการก้าวเปลีย่ นใหม่ดว้ ย มันก็จะกลายเป็น ช่วงพักของผมจากการเขียน ขณะที่ บก. คนเก่า คือ พี่ต้อ (บินหลา สันกาลาคีรี) กับพี่หนึ่ง (วรพจน์ พันธุ์พงศ์) เขาก็อยากกลับไปเขียนหนังสือบ้าง เลยเป็นเหมือนช่วงที่เขาอยากหาคนมาท�าแทน ช่วงที่ท�า ไรท์เตอร์ คือเป็นช่วงพักจากงานเขียน แล้วสายตาของการเป็นนักเขียนกับสายตาของการเป็น บก. ต่อการมองประเด็นต่างๆ มันต่างกันไหม ก็ไม่ตา่ งกันมาก จริงๆ ตัวหนังสือมันก็สะท้อน ทัศนคติของบรรณาธิการอยู่แล้ว ผมว่าถึงจะ หลบเลี่ยงยังไงมันก็หลบไม่ได้อยู่ดี มันก็สะท้อน สิ่งนั้นออกมา แต่ดูจากหลายๆ เล่มที่คุณเข้ามาท�า มันก็จะมีมิติ ทางศิลปะต่างๆ เติมเข้าไปให้มนั ดูเปรีย้ วขึน้ ซึง่ ก็อาจจะ ท�าให้เข้าถึงคนกลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น คาดหวังว่า กลุม่ คนใหม่ๆ เขาจะมาผลักดันโลกของวรรณกรรม อย่างไร หรือวรรณกรรมจะไปผลักดันคนกลุ่มนี้ อย่างไร มันเป็นทัศนคติของผมที่เชื่อในคนรุ่นใหม่นะ ผมเชื่อในเด็กรุ่นใหม่หรือคนที่เกิดมาหลังจากผม เสมอ ไม่วา่ จะถูกปรามาสโดยผูใ้ หญ่ยงั ไงก็ตามว่า เด็กเดี๋ยวนี้สมาธิสั้น งอมืองอเท้า ขอตังค์พ่อแม่ ซือ้ ของแบรนด์เนม กลายเป็นคุณหนูกนั หมด จริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่ดา้ นหนึง่ ทีเ่ รามอง ทุกยุคก็เป็นกัน มาแบบนี้ทั้งนั้น เราก็โดนด่าที่ข้อนี้เหมือนกัน คนรุน่ เก่าก็ดา่ คนรุน่ หลังเสมอแหละ ผมไม่อยากให้ ตัวเองเป็นผูใ้ หญ่ทดี่ า่ เด็กยุคใหม่ ผมรูส้ กึ แบบนัน้ ผมเชือ่ ว่าคนรุน่ ใหม่มสี ติปญ ั ญา มีพลัง มีโลกของ เขาเองที่จะต้องเผชิญอยู่แล้วข้างหน้า เราแค่มี หน้าที่ค่อยๆ ทอดสะพาน ค่อยๆ สร้างฐานและ ความคิดหรือสิง่ ทีเ่ ป็นยุคสมัยของเราเป็นฐานให้เขา เหยียดยืนขึ้นไปสู่โลกของเขาได้มั่นคงขึ้นหรือให้ ได้แข็งแรงขึน้ ขอให้เราท�าในส่วนของเราให้แข็งแรง
มัน่ คงพอทีจ่ ะส่งเขาได้ ก็เลยไม่คดิ ว่าจะต้องไปด่า เด็กรุน่ ใหม่วา่ มันจะไม่ได้เรือ่ ง เหลาะแหละ ผมก็เชือ่ ของผมแบบนี้ ผมก็เป็นคนชอบสนุกกับเด็กรุน่ ใหม่ๆ นะ หมายความว่าคงเป็นวิธแี บบหนึง่ ทีค่ ณ ุ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ วงเล็บไว้ว่า ‘หนุ่ม’ ผมคิดว่าการมี กิจกรรมที่ท�าให้เราได้ยุ่งกับเด็กรุ่นใหม่ๆ ก็ท�าให้ ผมเป็นหนุ่มอยู่ตลอดเวลา การฟังเสียงของเด็ก ยุคปัจจุบนั ว่ามันคุยอะไรกันในเฟซบุก๊ มันก็เหมือน การไปดูดเอาน�้าหวานจากความเป็นวัยเยาว์ คือไม่ใช่เรื่องน่าร�าคาญ? มันก็มีแหละ แต่เราเห็นบางมุมที่ผมว่ามันก็ เป็นเรื่องของยุคสมัยของเขานะ ช่วงนี้ที่บอกว่า 2 ปี ได้พัก คือพักการเขียนแล้ว การอ่านพักไปด้วยไหม ไม่ ยิง่ ต้องท�ามากขึน้ มากขึน้ กว่าเขียน เพราะ ต้องอ่านงานต้นฉบับของทุกคนมากขึ้น นักเขียน รุ่นใหม่ๆ ก็ส่งงานต้นฉบับมาให้ผมอ่าน ให้ผม วิจารณ์ ผมต้องไปพูดตามมหาวิทยาลัยต่างๆ หรืองานเสวนา บางทีก็ต้องเตรียม paper ไปพูด คือถามว่าเลิกเขียน 2 ปี นีค่ อื หมายความว่าเขียน เรือ่ งยาวๆ แบบนิยาย แต่ยงั เขียนบทความวิจารณ์ เรื่องสั้น สรุปว่าก็ยังยุ่งกับการเขียนและการอ่าน เพิ่มมากขึ้น ผมพบว่าชีวิตที่เป็นบรรณาธิการ ปรากฏว่าทัง้ อ่านหนักกว่า แล้วงานในชีวติ ก็หนัก กว่า คืออยู่บ้านผมสบายมากเลย ผมเขียนเสร็จ ช่วงเช้าผมก็สบายแล้ว กิจกรรมที่เหลือก็ไม่ต้อง ท�าอะไรเลย นอนอ่านหนังสือ ถึงเวลาก็ออกก�าลังกาย นั่ ง ดู ค อมทั้ ง วั น ชี วิ ต เป็ น แบบนั้ น ไปได้ อย่างไรตั้งหลายปี แต่พอออกมาท�างานข้างนอก กิจกรรมมันก็มากขึน้ ไม่สบายเหมือนตอนทีเ่ ขียน หนังสือ แต่มนั ก็เป็นอีกจุดอีกมุมมองหนึง่ ทีเ่ ราจะ ต้องมีกิจกรรมปฏิสัมพันธ์กับโลกวรรณกรรม ช่วงทีค่ ณ ุ คิดว่าบ่มเพาะตัวเองมากทีส่ ดุ เป็นช่วงไหน ที่คุณคิดว่ามีเรื่องจะเล่าเยอะที่สุด มีพลังเยอะที่สุด ส่วนใหญ่กเ็ ป็นอดีตช่วงเด็กๆ นะ มันก็ค่อยๆ คลายมา เรียกว่าใช้ตน้ ทุนของตัวเองไปเกือบหมดแล้ว แต่จริงๆ ก็ไม่หมดสักทีเดียวหรอก จริงๆ เรือ่ งทีจ่ ะ เขียนต่อไปก็มีอยู่ในหัวแล้ว เพียงแต่รอเฉยๆ รอ เก็บเล็กผสมน้อย แต่ว่าโครงสร้างรวมมีหมดแล้ว แล้วช่วงที่ยากล�าบากที่สุดในชีวิตช่วงนั้นคืออะไร ในความหมายของผมคือคงไม่ใช่บม่ เพาะนะ แต่เป็นลักษณะการสร้างรอยแผลเป็นเอาไว้ซงึ่ มัน จะไม่มีวันหายไป มันกลายเป็นหลุมด�าหรือรูโหว่ ขนาดมหึมาที่เมื่อเขียนหนังสือปุ๊บ เรื่องนี้มันต้อง ออกมาอีกแล้ว ซึง่ มันก็จะเป็นช่วงวัยเยาว์ตอนเด็กๆ อีกนั่นแหละ (ยิ้ม) แผลเป็นและหลุมด�านี้มันช่วยสร้างงานไตรภาค ออกมาได้เลยหรือ ใช่ จริงๆ ประเด็นทีผ่ มสร้างถ้าดูรวมๆ มันก็จะ เป็นเรือ่ งพ่ออย่างเดียว รูส้ กึ ว่าจะมีปญ ั หาเรือ่ งพ่อ ในวัยเยาว์มาตัง้ แต่เด็ก จนเขาเสียชีวติ หรือแม้แต่ ทุกวันนีก้ ย็ งั สร้างรอยแผลไว้ ก็ยงั ฝันถึงเขา มันเป็น รอยแผลทีส่ า� คัญทีส่ ดุ คือมีผล มีพลังทีส่ ดุ ผมมีพลัง ก็เพราะเขานะ เขาพาผมไปอีกด้าน ผมไม่ได้มี ประสบการณ์ ท่ี ห วานซึ้ ง กั บ ครอบครั ว มากนั ก โดยเฉพาะกับพ่อ พูดไปก็หาว่าผมพูดไม่ดกี บั บุพการี เพราะเขามักจะใช้ความรุนแรงกับผม ทัง้ ทางร่างกาย แล้วก็ทางจิตใจ พูดให้เจ็บช�า้ น�้าใจ มึงมันไม่มีวัน
ได้ดีหรอกในอาชีพแบบนี้ มึงอยากเรียนศิลปะ กูไม่หาให้มึงเรียนหรอก มึงก็ไปหาเงินเอง อะไร แบบนี้ แล้วผมก็จา� ได้เลยนะ แม้มันจะเป็นค�าพูด เล่น แต่มันก็เจ็บมันก็จ�านะ โดยเฉพาะตอนที่เขา พูดเล่นในช่วงทีเ่ รารูส้ กึ ว่าเราจริงจังกับชีวติ ตอนนี้ เช่น ตอนทีผ่ มจะเรียนศิลปะ เขาจะให้ผมไปเรียน ช่างยนต์ แล้วเขาปูทางไว้แล้วอย่างดี ท�าไมถึงมา อกตัญญูเขา ไม่ยอมท�าตามแนวทางเขา มึงเป็น ลูกใคร จริงๆ มึงเรียนศิลปะเพราะอยากเรียนหรือ อยากออกไปจากบ้าน มึงมันไม่ใช่ลกู กูนะ กูเก็บมึง มาเลีย้ งนะ คือเขาอาจจะพูดเล่น แต่ในภาวะทีม่ นั เป็นหัวเลีย้ วหัวต่อความรูส้ กึ ของเรา แล้วเราเลือก เผชิญหน้ากับพ่อแล้วบอกว่า ไม่เอานะ ผมสอบติด ศิลปะแล้วด้วย จะไปเรียนศิลปะ พอเขาพูดอะไร เล่นๆ แบบนี้มันก็ฝังใจเหมือนกัน เรียกว่าเป็นค�าพูดที่ผลักออกมาจากบ้านเลย ถีบเลยแหละ เพราะเวลาทีพ่ อ่ หวดผมนีไ่ ม่ยงั้ เลยนะ นี่คือหมายถึงทางค�าพูดอย่างเดียวนะ ส่วนทางร่างกายก็ไม่ยงั้ เหมือนกัน เขาเตะได้กเ็ ตะ เลย รอยแผลเป็นบนหน้าผากแบบนีเ้ ขาเอาก้อนหิน เขวีย้ งมาเลยนะ เลือดอาบนองเลย เพราะเขาเป็น คนที่เก็บอารมณ์ไม่ได้ คือถ้ามันหลุดออกมานี่ หลุดเลย ทุกคนต้องตามตัวตน ตามจักรวาลของเขา นัง่ กินข้าวด้วยกันผมแค่แหย่นอ้ งเล่น ถ้าน้องอยาก ให้ผมโดนท�าโทษก็แค่รอ้ งแงขึน้ มา แค่นเี้ ขาก็ไม่ทน เขาถีบผมตกนั่งร้านไปเลย จุดเดือดต�่ามาก พูดง่ายๆ ว่าต้องเผชิญความรุนแรงในครอบครัว มาโดยตลอด เขาบอกว่ามันเป็นวิธีสอนของเขา มันเป็นวิธี แบบทหาร เขาบอกว่าเขาไปเรียนมา ถ้าอย่างนัน้ เมือ่ ผ่านจุดนีม้ าแล้ว จะผ่านแบบหมดจด หรือไม่หมดจดก็ตาม มีคา� แนะน�าอย่างไรส�าหรับคน ที่มีบาดแผลในวัยเด็ก ก็เลยรูส้ กึ ว่ามันเป็นปมอันนีห้ รือเปล่าทีท่ �าให้ ผมกลัวการเป็นผูใ้ หญ่ตรงทีผ่ มไม่อยากเป็นผูใ้ หญ่ ทีค่ อยปรามาสเด็กรุน่ ใหม่อยูต่ ลอดเวลา ไม่อยาก เป็นผูใ้ หญ่ทที่ า� ตัวน่าร�าคาญคอยแต่พดู ถึงยุคสมัย อันรุ่งโรจน์ของตัวเอง ผมว่ามันเป็นบทสะท้อน จากปมนีด้ ว้ ยหรือเปล่าทีท่ า� ให้ผมอยากจะเป็นหนุม่ ไปตลอดเวลา อยากมีกิจกรรมวัยรุ่น อยากเป็น ความหวัง อยากเป็นทุกอย่างทีไ่ ม่ใช่คนทีผ่ า่ นน�า้ ร้อน มาก่อนแล้วก็คอยข่มคนอืน่ อยูเ่ รือ่ ย ซึง่ น่าร�าคาญ คือทุกวันนี้ผมร�าคาญผู้ใหญ่แบบนั้น ผมก็ไม่ควร จะเป็นผู้ใหญ่แบบนั้น ผมก็เลยต้องรู้สึกว่าต้อง ระมัดระวังตัวเอง แล้วก็ไม่อยากจะเป็นคนแบบนัน้ เอง ค�าถามคือ แล้วจะแนะน�าอะไรกับเด็กที่มีบาดแผล ความรุนแรงหรือแผลเป็นฝังลึกมาก ก็ต้องหาวิธีเยียวยา แล้วผมเชื่อว่าศิลปะ มันส�าคัญมากนะ เพราะศิลปะนี่แหละที่จะท�าให้ ก้อนปัญหามหึมาในใจทัง้ หมดนีม้ นั มีทที่ างไปของมัน ให้มนั ไปสูท่ างทีด่ ี สมมติวา่ อย่างคนทีไ่ ม่ได้ไปทาง ศิลปะ บางทีมนั ไม่มที างระบายออก มันก็จะกลาย เป็นอีกอย่างหนึ่ง คือติดยา ลักขโมย กลายเป็น คนทีใ่ ช้ความรุนแรงแบบทีเ่ คยได้รบั มา ได้มาเท่าไหร่ ก็ท�าแบบนั้น ในขณะที่ศิลปะมันท�าให้เกิดการยัง้ คิดมากขึ้น เกิดการเผชิญหน้ากับอดีตมากขึ้น ถามว่ามันเจ็บปวดไหม มันเจ็บปวดนะ เวลาเรา เขียนหนังสือสักเรือ่ ง มันไม่ใช่การขุดอดีตออกมา
ขายกินอย่างเดียวนะ แต่เท่ากับคุณต้องเผชิญกับ เรื่ อ งเดิ ม อี ก ครั้ ง ครั้ ง แล้ ว ครั้ ง เล่ า ที่ คุ ณ เขี ย น ภาพนัน้ ภาวะแบบนัน้ ก็ตอ้ งดึงมันออกมาใช้ แล้ว ในขณะเดียวกันมันไม่ใช่แค่ระบายออกไป แต่เมือ่ ภาวะแบบนั้นมันกลับมาอีกครั้งในหน้ากระดาษ คุณก็ตอ้ งคุยกับมันด้วย หรือพูดอีกอย่างว่า คุยกับ บาดแผลในวัยเด็ก เพราะฉะนัน้ เวลาทีม่ นี กั เขียน ที่บอกว่าเขียนเพื่อเยียวยาตัวเองมันคือสิ่งนี้เลย นะครับ มันเป็นกระบวนการทางจิตวิทยาในการจัดการปัญหาต่างๆ แล้วส่วนใหญ่จติ แพทย์เขาจะ แนะน�า ให้ เ ขีย นบัน ทึก เพราะนี่มัน คือ สิ่ง ที่จ ะ กล่อมเกลาและเยียวยาตัวเองได้ แล้วมันไม่ใช่ วิธกี ารหนีปญ ั หา มันคือการเผชิญหน้ากับปัญหา เจอปัญหานัน้ อีกครัง้ ท�าความเข้าใจสิง่ นัน้ อีกครัง้ ใบหน้าเดิมนัน้ มันค่อยๆ ปรากฏขึน้ ผ่านการเขียน ขึ้นใหม่ วาดขึ้นใหม่ ส�าหรับผม ผมมีศลิ ปะน�าทางไปแบบนัน้ แล้ว ผมก็ขอบคุณมากทีไ่ ด้ศลิ ปะ จริงๆ ก็ขอบคุณมาก ที่มีพ่อแบบนั้น (หัวเราะ) ที่ท�าให้ผมมีเรื่องเยอะ ผมถึงบอกบทเริม่ ต้นของ ลักษณ์อาลัย ว่า ของขวัญ ที่ดีที่สุดคือการที่พ่อตายจากไปในตอนที่ลูกชาย อยูใ่ นวัยหนุม่ แน่น มันสร้างบาดแผลเอาไว้จนมันจะ จารึกอยู่ในตัวลูกชายตลอดไป คือพ่อผมก็อยู่ท�า แบบนั้นกับผมได้ไม่นาน พอผมอยู่ศิลปากรตอน ปี 3 เขาก็เสีย เสียด้วยอุบตั เิ หตุทางรถยนต์ เขาก็ ไปไม่ดี แล้วพอไปไม่ดีมันก็ยิ่งกระแทกเข้ามาอีก เรารู้สึกว่าถ้าเราผ่านช่วงนี้ไปด้วยกันได้คงดีมาก หมายถึงในช่วงที่ผมก�าลังจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ กลายเป็นผู้ใหญ่ จริงๆ เขาก็มีสัญญาณที่เริ่ม เปลีย่ นแปลงแล้ว พอเขาเห็นผมโต เขาไม่ได้ทา� ร้าย หรือลงโทษผมแบบนัน้ แล้ว เขาเริม่ คุยกับผมในฐานะ ของคนทีม่ วี ฒ ุ ภิ าวะด้วยกันมากขึน้ ผมรูส้ กึ แบบนัน้ เพราะตอนทีเ่ ขาไล่ผมออกจากบ้านว่ามึงไปหาเรียน ศิลปะเอง ผมก็ไปนะ ผมก็ไปเรียนจริงๆ แล้วช่วง ปี 1 ปี 2 ผมก็ไ ม่ ค ่ อ ยได้ ก ลับ บ้ า น แต่ พ อปี 3 ผมกลับไป เขาคุยกับผมแล้วมีวุฒิภาวะมากขึ้น ผมรูส้ กึ ว่าตัวเขาเล็กลง แก่ลง ผมรูส้ กึ ว่าอีกนิดเดียว ผมจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว อยู่เฉยๆ ความตายก็มา พรากเขาไป มันไม่มีวันเต็มอีกแล้วส�าหรับผม ในเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับพ่อก็เลยแหว่ง ไปเลย ทุกวันนี้เขาก็ยังมาหาผมในฝันนะ เรามาสัมภาษณ์ในช่วงที่ โรบิน วิลเลียมส์ เพิง่ เสียชีวติ ไป ก็เลยอยากถามเรื่องภาวะซึมเศร้ากับคนเป็น นักเขียนหรือคนที่เป็นศิลปิน คุณคิดเรื่องนี้อย่างไร ผมคงไม่บอกหรอกว่าตัวผมซึมเศร้า แต่ถามว่า ช่วงทีท่ า� งานเข้มข้นมาก ติดพันมาก เคยเผชิญหน้า กับภาวะแบบนีไ้ หม ผมเคยอยูต่ ลอด ช่วงทีเ่ ขียนงาน จะหมกมุ่นมากๆ เพราะมันเป็นช่วงที่เปราะบาง มากๆ ด้วย มันเป็นภาวะที่สูงต�่าตลอดเวลา เช่น ค�าที่คุณเขียนได้ดีมากๆ หรือรู้สึกว่ามันเข้มมาก คุณก็ต้องไปล้วงมันมาจากตัวเองในจุดที่ลึกที่สุด แล้วคุณก็ต้องมีการท�างานต่อเนื่อง ตรงนี้แหละ ส�าคัญ บางทีคณ ุ ต้องหยุดพักหายใจบ้าง เพราะว่า คุณจมเข้าไปในมันด้วย คุณรู้สึกอินกับมันด้วย จึงต้องมีการหยุดการพัก แต่การหยุดเขียนหนังสือ มันไม่ใช่การหยุดแค่ปิดหน้าจอคอม แต่ระบบ การคิดมันยังคิดอยู่ตลอด ระหว่างกินข้าวมันคิด มันเผาผลาญตลอด ผมเรียกว่ามันเป็นอาการ
เผาผลาญเลยนะ แล้วยิง่ ต้องคิดว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นมาเขียนฉากส�าคัญ ทีท่ งิ้ ไว้ในตอนเช้า มันจะไปอย่างไร ต่อ คุณแทบไม่ได้ยืนอยู่บนโลกนี้ เลยนะ แฟนทักก็ไม่รเู้ รือ่ งเลย บางที มันลอยไปแล้วมันตกในภาวะนั้น เป็นพักๆ แล้วเราก็จะกลับมาเวลาที่ ใครๆ มาทัก เฮ้ย! เป็นอะไร แล้วสิง่ ที่ เห็นชัดทีส่ ดุ คือเวลานอน นอนไม่หลับ เลย เราจะได้ยินเสียงอื้ออึงมาก เต็มไปด้วยตัวอักษร เพราะเสียงมัน คุยกัน คือนั่นไม่ใช่เสียงของเราเอง แต่ เ ป็ น เสี ย งตั ว ละครที่ เ ราสร้ า ง แล้วมันคงคุยกันว่าจะไปอย่างไรต่อ พรุ่งนี้เราจะเริ่มเขียนอะไร จะเริ่ม ด้วยภาษาอะไร ค�าพูดของบทที่ยัง ไม่ได้เขียนอีก 2-3 บท มันก็โผล่มา ไอ้นกี่ จ็ ะคุยจากคราวทีแ่ ล้วว่าช่วยแก้ มันหน่อย ตรงนี้ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ แบบ มันก็จะตีกันแบบนี้ แล้วเรา ก็จะนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา ผมว่ า มั น เป็ น ภาวะที่ เ กิ ด ขึ้ น จาก ประสบการณ์ส่วนตัวของผม มัน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทุกครั้ง ที่เขียนนิยาย ถามว่ามันประสาท มันบัน่ ทอนไหม มันก็ใช่ แต่มนั ก็เป็น ส่วนที่เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน ด้วย มันจึงท�าให้สติแตกได้ ทุกวันนี้ ก็ยังเป็น ยิ่งเขียนถึงช่วงที่คาดหวัง ยิ่งรู้สึกว่าเป็นความเป็นความตาย ของเรื่ อ งราวอั น นี้ ต้ อ งจั บ ให้ ไ ด้ จับให้มั่น ปล่อยหลุดไม่ได้ ก็จะยิ่ง มีความคาดหวัง มีความกังวลเพิ่ม ขึ้นไปด้วย มันเลยมีส่วนท�าให้เรา หมกมุ ่ น แต่ จ ะซึ ม เศร้ า เลยไหม ก็ไม่แน่ใจ พอโตขึน้ แล้วจัดการกับมันได้ดขี นึ้ ไหม ไม่รู้สิ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ในหัว อยู่เลย แต่ผมเริ่มมองมันแป็นเรื่อง ปกติมาก เพราะว่ามันมาในภาวะ ที่ ท� า งานเขี ย น มั น มี ลิ้ น เปิ ด ลิ้ น ปิ ด ของมั น อยู ่ มันไม่ได้รั่วอยู่ตลอด งานที่ท�าอยู่เราไม่ได้จะท�า เอาเป็นเอาตายกับมัน ส�าหรับผมตอนนี้ ภาวะนัน้ ยังเกิดเฉพาะตอนที่เขียนนิยายอยู่ งานเขียนของคุณเข้าชิงรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศอย่างซีไรต์อยู่ 3 ครัง้ ได้รางวัลมาแล้วด้วย คราวนี้ ก็ เ ข้ า รอบสุ ด ท้ า ยอี ก ในสาขาเรื่ อ งสั้ น รู้สึกอย่างไรกับมันบ้าง ปีนี้คาดหวังอีกไหม ก็สบายๆ ปีนี้ไม่คาดหวังเลย ผมสนุกๆ กับ เพื่อนพี่ๆ น้องๆ ในแวดวงวรรณกรรม คือซีไรต์ มันเป็นเวทีเดียวที่ดูเหมือนจะมีอิทธิพลในแง่ของ การตลาด แล้วปีนเี้ ป็นปีแรกทีผ่ มมาท�าส�านักพิมพ์ เอง ผมก็คงจะไม่สามารถไปประชาสัมพันธ์โดยตรง ได้มากมาย มันต้องใช้สื่อบางสื่อที่จะออกไป สือ่ สารกับคนอ่านคนอืน่ ๆ ด้วย แล้วผมหวังแค่วา่ ขอให้ตดิ Shortlist เพราะมันก็นา่ จะมีเวลาอยูต่ อ่ ไป ได้อีกนานหน่อย เพราะอย่างที่รู้คือวรรณกรรม มันไม่คอ่ ยได้รบั การประชาสัมพันธ์มากนักอยูแ่ ล้ว จริงๆ มันหมดอายุตั้งแต่ออกมาจากแท่นพิมพ์ แล้ว คือขายเฉพาะในงานสัปดาห์หนังสือ มันจะ มีอายุแบบนัน้ พ้นจากนัน้ มันก็ไม่วางในร้านหนังสือ ที่ไหนแล้ว ไม่ก็ไปหลบซ่อนมุมอยู่ในร้าน คือ วรรณกรรมมันก็มพี นื้ ทีน่ อ้ ยมาก การประกวดรางวัล ซี ไ รต์ ก็ เ ป็ น พื้ น ที่ อั น หนึ่ ง ที่ ยั ง คงเรี ย กชื่ อ ให้ ค น หันมามองได้ แล้วถ้างานมันอยู่ใน Shortlist อย่างน้อยที่สุดคือมันก็มีสื่อเข้ามาจับจ้องแล้วก็ เอาไปท�าสกู๊ปโน้นนี่ ก็ถือว่าได้ใช้ประโยชน์จาก การประกวดรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ ผมไม่ได้มี ความคาดหวังจะได้รางวัลอีกแล้ว เพราะผมได้แล้ว
แต่ตอนที่ได้ตอนนั้นก็คาดหวัง เวทีซีไรต์ก็เลย กลายเป็นเวทีที่คนในแวดวงวรรณกรรม คือพี่ๆ น้องๆ มาประชันฝีมือกัน เราอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แล้ ว ก็ ม านั่ ง อ่ า น เพราะว่ า มั น เป็ น วิ ธีที่ ค นใน แวดวงวรรณกรรมได้มามีตติง้ กัน ผมมองแบบนัน้ เอง เป็นงานรื่นเริง อิจฉางานเขียนใครบ้างไหมในช่วงนี้ ไม่ แต่ไม่คิดว่าอิจฉาเข้าไว้มันเป็นไฟในตัวเราหรือ ต้องไม่ใช่ด้วยการอิจฉา แต่ต้องด้วยการเห็น ข้อดีของคนอืน่ แล้วรูส้ กึ ว่าเราอยากท�าได้แบบนัน้ บ้าง เช่น อยากมีพลังความคิด มีความละเอียดอ่อน มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ มีความแกร่ง มีความคมคาย ขนาดนี้บ้าง เวลาเราอ่านหนังสือเราจะเห็นข้อดี หรือพลังส่วนทีม่ นั ถูกถ่ายมาให้เราในงานวรรณกรรม เรารูส้ กึ ว่าคนคนนีท้ า� ได้แบบนีด้ ว้ ยเหรอ ผมว่ามัน เป็นพลังทางบวกนะ มันไม่ใช่พลังอิจฉา รู้สึกว่า เราอยากจะสร้างงานให้มันดีเท่านี้หรือไม่ก็ดีขึ้น แล้วมีบ้างไหม คนที่ท�าให้คุณเกิดพลังทางบวก มีเยอะแยะ สมมติอ่านงาน กล่องสังกะสี ของ กึนเทอร์ กราสส์ ซึ่งผมจะไปอิจฉาเขาได้ อย่างไร เขาได้รางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม มันมีบทหนึ่งที่อ่านแล้ว โอ้โฮ นี่มันดนตรีโอเปรา ดีๆ เลยนะ คือคนเราสามารถเขียนหนังสือเป็นพืด ให้มีส�าเนียงดนตรีที่มันมีทั้งโหมโรง dramatic ได้ยงั ไง เราได้ยนิ เลยว่าเสียงดนตรีมนั รัวมา ได้ยนิ เสียงดนตรีคล้ายๆ ริชาร์ด วากเนอร์ ในบทนี้ แล้วจะท�ายังไงให้งานเขียนของเราเป็นแบบนั้น บ้าง มันก็จะเริ่มคิดเริ่มสังเคราะห์แล้ว ผมว่ามัน
เป็นเรือ่ งของการส่งแรงมาหากัน แล้ววรรณกรรม มันก็ต้องท�าแบบนี้คือส่งทอดให้กัน ถามเรื่องวรรณกรรม คุณจะนิยามวรรณกรรม ที่อ่านแล้วลึกซึ้งกับตื้นเขินอย่างไรบ้าง ถ้าอ่านแล้วมันไม่ค้นพบอะไร ไม่ได้ให้อะไร ใหม่ๆ ไม่ได้ดึงความสนใจใคร่รู้ของเรา นั่นก็ ยังไม่เรียกว่าตื้นเขินมากส�าหรับผมนะ ตื้นเขิน ในระดับที่มากกว่านั้นคือ อ่านแล้วมันยิ่งสะท้อน ตั ว คนเขี ย นเองว่ า คุ ณ ไม่ มี อ ะไรเลย หรื อ เห็ น กระบวนการของคุณว่าคุณไม่ได้ลึกซึ้งถึงสิ่งนั้น สิง่ นีท้ คี่ ณ ุ เขียนอยูเ่ ลย คุณแค่ไปหาข้อมูลมาจาก อิ น เทอร์ เ น็ ต แล้ ว ก็ เ อามาประกอบเป็ น สิ่ ง นี้ คุ ณ แค่ เ ป็ น ประสบการณ์ ชั้ น สองของคนอื่ น สมมติเราอ่านงานแล้วจับได้ แบบนีแ้ หละเรียกว่า ตื้นเขิน เพราะมันไม่ได้ถ่ายทอดออกมาว่าคุณ มีประสบการณ์หรือความรู้สึกนี้จริงๆ ในเรื่องราว ของคุณเลย แล้ววรรณกรรมที่ลึกซึ้งคืออะไร ก็ อ าจจะไม่ ถึ ง กั บ ต้ อ งค้ น พบอะไรใหม่ ๆ อาจจะไม่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ บางทีมันเป็นแค่ โมเมนต์แบบนี้ที่บางทีเราลืมไป พอเราได้อ่าน เราก็จะรู้สึกว่า เออ เขาสร้างออกมาได้ด้วยนะ ตอนนี้ 24 ชั่วโมงของคุณ เป็นอย่างไร ตื่นเช้ามาตี 5 กินกาแฟ แล้วก็เขียนคอลัมน์ บ้าง ต้องดูตน้ ฉบับของคนอืน่ 10 โมง ก็ไปออฟฟิศ แล้วก็อยู่ถึง 4 โมงเย็น ใช้เวลาเดินทางกลับบ้าน รวมๆ แล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เจียดเวลามา ออกก�าลังกาย วิ่งบนลู่ 45 นาที พยายามจะท�า ให้ได้ทุกวัน จริงๆ ประมาณ 4 วันต่อสัปดาห์
เฉลี่ยแล้วก็ประมาณ 4 กิโลเมตร ต่อวัน ผมเพิ่งจะเริ่มวิ่งประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะว่าเริ่มกังวล เรือ่ งร่างกายมากขึน้ ตอนแรกทีเ่ ริม่ วิ่งนี่ขี้เกียจทุกวันเลย ทุกวันนี้ก็ยัง เป็นอยู่ ผมว่าการวิ่งมันเป็นเรื่อง ของการต่อสูก้ บั ตัวเอง เหมือนการเขียนนิยายนี่แหละ การเข็นตัวเอง เดินลงจากบ้านไปอยูใ่ นลูว่ งิ่ มันยาก นะ บางคนก็บอกว่าท�าไมไม่วิ่งใน สวนหรือสภาพจริงละ โธ่ ทุกวันนี้ ยังแทบฉุดตัวเองลงไปวิ่งข้างล่าง แทบไม่ไหวแล้วนะ มึงจะให้กูไปวิ่ง ที่ ส วน กู ก็ ล ้ ม เลิ ก นอนอยู ่ ที่ ห ้ อ ง นั่นแหละ ทุกวันนี้เราก็สู้ว่าจะไป หรือไม่ไป ขนาดลงไปในลู่วิ่งแล้ว ยังคิดเลย มันสู้กันตลอดนะ แต่ถ้า มัน ผ่ า นไปช่ ว งหนึ่ง คือ สัก เดือ น หรือสองเดือน มันจะเริ่มติดแล้ว พอมันเป็นชีวติ ประจ�าวันเราก็คดิ ว่า เราต้องไป แต่ถ้าถามว่าเราต้องสู้ อยูไ่ หม ยังต้องคุยกับตัวเองอยูไ่ หม เราก็ ยั ง ต้ อ งคุ ย เหมื อ นเดิ ม นะว่ า จะไปไม่ไป จะวิ่งไม่วิ่ง คุณก็เลยเชื่อในเรื่องวินัย ใช่ ทั้งเรื่องเขียนและการออกก�าลัง แล้ ว ต้ อ งมี วิ นั ย ในความรั ก ความสัมพันธ์ไหม แฟนผมเป็นคนมีวินัย ผมก็คง ได้มาจากเขาแหละ แล้วเราก็คบกัน ยาวเลยนะ ผมเจอเขาตัง้ แต่อายุ 25 นี่ก็ 13 ปีแล้ว ยากไหมกว่าจะมาถึงตรงนี้ 4-5 ปีแรก ก็เลิกกันแทบทุกวัน ถู ก ไล่ อ อกจากบ้ า นทุ ก วั น เลย ด่ากันว่าอยู่ไม่ได้หรอก ไปเหอะ (หัวเราะ) สุดท้ายมันก็ได้ ช่วงหลัง ก็สบายแล้ว แต่ก็ยังดูแลใจกันอยู่ เหมือนเดิม ไม่ได้ขาดตกบกพร่อง วันเกิดหรือวันส�าคัญ แม้จะแต่งงานกันแล้วก็ยัง เหมื อ นเดิ ม ก็ ยั ง ให้ ด อกไม้ อ ยู ่ มั น ก็ ต ้ อ งมี เซอร์ไพรส์อยู่ตลอดนั่นแหละผมว่า มันก็ต้อง เลี้ ย งสิ่ ง นี้ ไ ปด้ ว ย ไม่ ใ ช่ ว ่ า อยู ่ ด ้ ว ยกั น ก็ ชื ด ชา ฉันไม่ต้องสวย ไม่ต้องหล่อแล้ว แน่นอนว่าอาจมี การแก้ผ้าเดินกันในบ้าน ใส่ชุดชั้นในอย่างเดียว เดินในบ้าน แต่มันก็ต้องมีความหวือหวาบ้าง ชมว่าสวยก็ยังต้องชมอยู่นะ ความสัมพันธ์ทเี่ ป็นอยูม่ นั มีสว่ นในการผลักดันให้เป็น ตัวคุณเองในทุกวันนี้อย่างไร ก็ มี ม าก ผมนั บ ถื อ เขาที่ เ ขาเป็ น ทั้ ง เพื่ อ น เป็นทั้งภรรยา เป็นทั้งคนที่ผมฟังเสียง เพราะเขา เป็ น คนอ่ า นนิย ายต้ น ฉบับ ของผมเป็ น คนแรก ทุ ก เรื่ อ ง และถ้ า เขาบอกไม่ ผ ่ า นผมก็ ต ้ อ งแก้ เขาเป็น บก. คนแรก เขามีเซนส์ของวรรณกรรม ซึ่งนั่นท�าให้ผมนับถือเขา ความสัมพันธ์ที่ดีมันมีผลต่อชีวิตนักเขียนไหม มีมาก เพราะเราต้องคุยกันรูเ้ รือ่ งไง ผมคุยกับ แฟนยิง่ กว่าคนทัว่ ไปอีกนะ คือคุยเรือ่ งวรรณกรรม เรื่องเพลง เรื่องหนัง เขาเองก็รู้สึกว่าถ้าผมไปไกล แล้วเขาไม่รู้เรื่อง เขาก็รู้สึกว่าเขาต้องท� างาน หนักขึ้น คือไปดูหนังเรื่องที่ผมพูด เพราะเขาเอง ก็ อ ่ า นวรรณกรรม แต่ จ ะอ่ า นภาษาอั ง กฤษ มากกว่า เพราะเขาจบปริญญาโทวรรณคดีองั กฤษ ด้วย ดังนัน้ ผมก็จะซือ้ หนังสือให้เขาบ่อยๆ ซึง่ เป็น หนังสือวรรณกรรม แล้วเขาก็ชอบ
GADGET
Razer Nabu
APPLICATION
เครื่องตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายทั่วไป ฟังก์ชันส่วนใหญ่ก็คือ การนับจ�านวนก้าวเดิน ปริมาณแคลอรีที่ร่างกายเผาผลาญ หรือช่วยจับตาดูพฤติกรรมการนอนของคุณเพื่อน�าไปใช้เป็นข้อมูล ในการประเมินสมรรถภาพร่างกาย แต่สา� หรับ Razer Nabu นอกจากจะท�าได้อย่างที่ว่ามาแล้ว ยังเป็น นาฬิกาอัจฉริยะทีม่ หี น้าจอขนาด 128x32 พิกเซล ส�าหรับแสดงผลและข้อความเข้าต่างๆ เมือ่ คุณเชือ่ มต่อ กับสมาร์ตโฟน โดยรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ 4.3 สามารถใช้งานได้ถึง 7 วัน ต่อการชาร์จแบตเตอรี 1 ครั้ง และกันน�า้ ตามมาตรฐาน IP54 และยังมีรุ่น Timi Run Everyday ซึ่งเป็นรุ่น ลิมเิ ต็ดอิดชิ นั ส�าหรับคนทีช่ นื่ ชอบเกม Timi Run Everyday ด้วย โดยจะมีรางวัลพิเศษภายในเกมแถมให้กบั คนที่ซื้อ Razer Nabu รุ่นพิเศษนี้ เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.razerzone.com/nabu
MUSIC
MOVIE
Clean Bandit - New Eyes
วงอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์หน้าใหม่แต่ฝมี อื จัดจ้านไม่แพ้ศลิ ปินรุน่ เก๋า พวกเขาประกอบไปด้วย 1 สาว และ 3 หนุ่ม ที่น�าเครื่องสายของดนตรีคลาสสิกมาผสมผสานให้เข้ากันกับดนตรี อิเล็กทรอนิกส์อย่างลงตัว ตั้งแต่ซิงเกิ้ลฮิตของอัลบั้มอย่าง Rather Be ที่กระโดดขึ้นอันดับ 1 บน ชาร์ตเพลงอังกฤษ และครองต�าแหน่งยาวนานถึง 4 สัปดาห์ หรือเพลงอย่าง Mozart’s House และ Extraordinary ก็โดดเด่นไม่แพ้กนั เพราะจุดขายอยูท่ คี่ วามสดใสของดนตรีแนวฟิวชันระหว่าง deep house กับ classical ที่ฟังครั้งแรกก็ต้องตกหลุมรักทันที อย่ารอช้า รีบไปท�าความรู้จักกับ พวกเขาได้ใน YouTube และ iTunes Store
Standing Up
“ผมไม่ แ น่ ใ จว่ า เด็ ก สองคนในเรือ่ งท้ายทีส่ ดุ แล้ว จะได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ การออกไปเผชิ ญ โลก เพียงล�าพังกันแค่สองคน หรือเปล่า แต่ความดีงามของ หนังเรือ่ งนีค้ อื การแคสติง้ น้องๆ ทัง้ 2 คนทีม่ าแสดงน�า คือ ทัง้ น่ารัก น่ากอด มีเสน่ห์ และทีแ่ น่ๆ คือคนทีก่ า้ วข้าม ผ่ า นเรื่ อ งใดๆ กลั บ เป็ น Radha Mitchel ซึ่งรับบท เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แสดง ได้ดจี นน่ากราบ เราอยากให้ คนไทยได้รจ้ ู กั นักแสดงหญิง คนนี้ รับรองว่าจะต้องอุทาน ออกมาเบาๆ ว่า ขุ่นแม่! แน่นอน และหนังเรื่องนี้ก็ พูดถึงปัญหาทีเ่ ด็กแข็งแรง กว่าจะข่มเหงเด็กทีอ่ อ่ นแอ กว่า ซึง่ จริงๆ แล้วปัญหานี้ เริ่มต้นจากผู้ใหญ่ล้วนๆ ถ้าจะแก้นสิ ยั เด็กต้องไปแก้ ที่นิสัยของพ่อแม่กันก่อน เลย ถึงแม้เด็กบางคนจะ น่าแกล้งจริงๆ (หัวเราะ) ผมว่านี่คือสารส�าคัญของ หนังที่ดัดแปลงจากนิยาย เยาวชนเรื่องนี้ต้องการส่ง ไปยังผูใ้ หญ่อย่างพวกเรา” เลือกให้โดย : ‘ดี เ จปาล์ ม ’ ฐิ ต วิ น น์ ค� า เจริ ญ ดี เ จ รายการวิทยุคลื่น met107
MAGAZINE
GQ Thailand ฉบับปฐมฤกษ์
ในทีส่ ดุ นิตยสารผูช้ ายชัน้ น�าจากสหรัฐอเมริกา GQ ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวฉบับแรกเป็นทีเ่ รียบร้อย กับเนือ้ หาทีร่ บั รองว่าถูกใจชายไทย แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ให้แรงบันดาลใจ เทรนด์ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์อย่างครบถ้วนในหลายๆ แง่มุมในคอนเซ็ปต์ Look Sharp + Live Smart ซึ่งในฉบับแรกนี้ก็น�าเสนอความเป็นสุภาพบุรุษจากหลากหลายวงการของบุคคลทั้ง 8 คน กับบทบาท การท�างานและการด�ารงชีวิตที่กลายเป็นไอดอลหรือขวัญใจของมวลชน ไม่ว่าจะเป็น เคน ธีรเดช, โจอี้ บอย, ฮิวโก้ จุลจักร, ต่อ ธนภพ ฯลฯ กับบทสัมภาษณ์ที่จะเจาะลึกในความคิดของพวกเขา นอกจากนี้ ยังมีบทความไทม์ไลน์ของการก่อตั้งนิตยสาร GQ ไปพร้อมๆ กับเหตุการณ์สา� คัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกเพื่อให้คุณได้รู้จักนิตยสารระดับโลกฉบับนี้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย
Snap Fashion
ใครๆ ก็รู้ว่าแฟชั่นในโลก ปัจจุบันของเราเปลี่ยนแปลง ไปรวดเร็วเพียงใด ตามภาษา ของโลกยุคใหม่ที่แทบทุกสิ่ง จะมีความเร็วเป็นส่วนประกอบ สาวๆ หลายคนคงจะเคย หงุ ด หงิ ด หรื อ อารมณ์ เ สี ย เวลาที่เห็นเสื้อผ้าชุดที่ถูกตา ต้องใจ แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อ หรื อ ดู ข ้ อ มู ล เสื้ อ ผ้ า ชุ ด นั้ น ได้ทไี่ หน กว่าจะหาเจอก็ไม่แน่ ว่ า อาจจะตกเทรนด์ ไ ปไกล ซึ่ง Snap Fashion เป็นแอพฯ ที่จะช่วยให้สาวๆ ได้อัพเดต ทุกความเคลือ่ นไหวของแฟชัน่ ได้ อ ย่ า งไม่ ต กเทรนด์ โดย เพียงแค่ใช้แอพฯ นี้ถ่ายภาพ เสื้อผ้าชุดที่ต้องการ จากนั้น หน้ า เว็ บ เพจที่ มี ข ้ อ มู ล และ ภาพของเสื้ อ ผ้ า ที่ มี สี แ ละ ลวดลายเหมือนกันจะปรากฏ ขึ้นมาต่อหน้า ท�าให้ไม่ต้อง เสียเวลาไปเปิดหาตามหน้า นิ ต ยสารหรื อ เว็ บ ไซต์ โ ดยที่ ไม่รู้ว่าจะเจอหรือไม่ ช่วยให้ สาวๆ ได้ตามเทรนด์แฟชั่น อย่างสนุกสนาน และสะดวก สบายมากขึ้ น ใครที่ ส นใจ แอพฯ ดี ๆ แบบนี้ ส ามารถ ดาวน์โหลดมาใช้กนั ได้แล้วใน สมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ทุกรุ่น
COFFEE SHOP
Ask Me... Why Cafe
แม้ชอื่ ร้านจะชวนให้ถาม แต่จริงๆ แล้วแทบไม่ตอ้ งถามตัวเองเลยว่าท�าไมถึงต้องมาทีน่ ี่ โดยเฉพาะคอกาแฟตัวจริงทัง้ หลาย เพราะร้านนีเ้ ปิดโอกาสให้คนรักกาแฟเข้ามาพูดคุยกับบาริสตาเกีย่ วกับกาแฟ มีมมุ เล็กๆ น่ารักให้ถ่ายรูปอวดเพื่อนมากมาย คลอเคล้าไปกับเพลงในยุค 70’s ฟังสบาย นอกจากกาแฟรสเข้มแล้ว ทีน่ ยี่ งั มีเครือ่ งดืม่ ไฮไลต์อย่าง Adam & Eve แอปเปิล้ ไซรัป ผสมคาราเมลซอส รวมไปถึง Wild Berries Float ที่น�าผลไม้ตระกูลเบอรีหลากหลายชนิดมาปั่นรวมกับไอศกรีมวานิลลา ทีร่ บั รองว่าอร่อยจนต้องขอเบิล้ อย่าลืมสัง่ อาหารเมนูพเิ ศษอย่างวาฟเฟิลไก่ทอด หรือสปาเกตตีคาโบนารามาทานคูก่ นั ไปด้วย ไปอร่อยกันได้ที่ชั้น 2 I’m Park สามย่าน ซอยจุฬาลงกรณ์ 22
RESORT
Eden Garden Resort
ถ้าใครทีค่ ดิ ถึงบรรยากาศน่ารักๆ ของสวนผึง้ ในจังหวัดราชบุรกี นั อยู่ Eden Garden Resort แห่งนีก้ ถ็ อื เป็นแลนด์มาร์กน่าสนใจทีน่ า่ ลองมาพักผ่อน กันดูสกั คืน กับคอนเซ็ปต์สดุ โรแมนติกทีใ่ ช้ในการตกแต่งสถานทีว่ า่ เป็นดินแดนทีร่ ายล้อมด้วยวิวของขุนเขา สายลมโบกเบา สายน�า้ ไหลเย็น เล่นประกาย กับแสงแดด ทีน่ จี่ ะเป็นจุดเริม่ ต้นของความรัก และความรูส้ กึ ดีๆ ดังนัน้ ชือ่ ของห้องพักแต่ละห้องจึงตัง้ ขึน้ มาอย่างมีความหมาย เช่น ห้อง Chaldean ซึง่ เป็น ชือ่ ของเทพธิดาแห่งความรัก หรือบ้าน Raphael ทีร่ องรับแขกได้ถงึ 4 คน โดยตัง้ ชือ่ ตามเทพผูร้ กั ษาสวนอีเดน และสิง่ ส�าคัญทีส่ ดุ คือ ทุกเช้าคุณจะได้กลิน่ ของไอดินหอมๆ กับอากาศสดชืน่ หลังฝนตกจากบริเวณรอบๆ รีสอร์ตแห่งนีด้ ว้ ย รายละเอียดเพิม่ เติมพร้อมราคาทีพ่ กั ดูได้ที่ www.edengardenresort.com
รวม 100 บทสัมภาษณ์คัดสรร เข้มข้น ที่เคยตีพิมพ์ ในนิตยสารแจกฟรีรายสัปดาห์ a day BULLETIN มาตลอดระยะเวลา 5 ปี เนือ้ หาแบ่งเป็น 4 เล่ม ครอบคลุม ทุกประเด็นจากปากคำาของบุคคลหลากหลายวงการ ที่เคยขึ้นปกและสร้างความฮือฮาจากบทสัมภาษณ์หลัก ประจำ า เล่ ม ของ a day BULLETIN ที่ ต รงไปตรงมา ทัง้ คำาถามและคำาตอบ พร้อมต่อยอดการตัง้ คำาถามให้กบั สังคมในมุมมองที่แตกต่าง หลากหลาย พร้อมให้คุณ เลื อ กอ่ า นแบบเต็ ม อิ่ ม แล้ ว วั น นี้ In Talk, We Trust เพราะเราเชื่อในการพูดคุยอย่างมีเหตุผล
THE INFLUENCER
BOOK
ประวัติศาสตร์ ไทยร่วมสมัย
“ในความคิดของเรา มันเป็นประวัตศิ าสตร์ไทยทีแ่ ตกต่างจากประวัตศิ าสตร์ทคี่ นไทยเขียนและเรียนรูก้ นั มา โดยหนังสือเล่มนี้ จะพาเราไปท�าความเข้าใจแต่แรกเริม่ ว่าความเป็นไทยมีทมี่ าจากไหน ไล่เรียงตัง้ แต่ไทยยังไม่เป็นรัฐชาติ มีเพียงเมืองเล็กๆ รวมกันเป็น อาณาจักร ซึง่ ท�าให้เราเข้าใจมากขึน้ ว่าความเป็นชาติทรี่ อ้ ยรัดเราให้เป็นอันหนึง่ อันเดียวกันมันเกิดจากมิตทิ หี่ ลากหลาย ทัง้ มิตทิ าง สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และศาสนา ซึง่ ในความคิดของเรามันลดทอนความโรแมนติกของความเป็นชาติลงไปเยอะ ถ้าพูดอย่าง เป็นกลาง หนังสือเล่มนีน้ า่ จะเป็นประวัตศิ าสตร์อกี เวอร์ชนั หนึง่ ทีต่ า่ งออกไปจากทีเ่ ราเคยเรียนกันมา ซึง่ เราอาจจะเชือ่ หรือไม่เชือ่ ก็ได้ แต่อย่างน้อยทีส่ ดุ มันท�าให้เราได้อา่ นอะไรทีม่ นั หลากหลายมากขึน้ การเชือ่ หรือไม่เชือ่ สิง่ ใดมันขึน้ อยูท่ ตี่ วั เราเองแล้ว” เลือกให้โดย : จักรพันธุ์ ขวัญมงคล นักวิจารณ์เพลงและภาพยนตร์
COLLECTION
ถ้าใครติดใจความนุม่ สบายในแบบของ Crocs คุณคงไม่อยากพลาดรองเท้าคอลเล็กชันใหม่ลา่ สุดนี้ ทีน่ า� คุณสมบัติ โดดเด่นของ Crocs รุ่นเดิมๆ ทั้งความนุ่ม น�า้ หนักเบา และสวมใส่สบาย มาผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง ColorLite ท�าให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นรองเท้าทีใ่ ห้ความรูส้ กึ ราวกับก�าลังสวมใส่รองเท้าหนังชัน้ ดี โดยรองเท้าแต่ละคู่ ผลิตขึน้ จากวัสดุชนิ้ เดียว เพือ่ ให้พอดีกบั รูปเท้า และสวมใส่สบายทีส่ ดุ ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะการพับกระดาษ แบบโอริงามิของญี่ปุ่น มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้ง Women’s Wrap ColorLite Loafer และรุ่น Wrap ColorLite Ballet Flat ส�าหรับผู้หญิงที่อยากเรียบหรู แต่ก็ไม่อยากโยนความสนุกในชีวิตทิ้งไป ส่วนของผู้ชายก็มี Men’s Wrap ColorLite Loafer ที่มาพร้อมกับความทนทาน และสไตล์ที่โดดเด่น แวะไปลองสวมได้ที่ร้าน Crocs ทุกสาขา
GIVE
รี ไซเคิลมือถือช่วยสิ่งแวดล้อม
โทรศัพท์มอื ถือและอุปกรณ์ตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นแบตเตอรี่ สายชาร์จ หรือหูฟงั เมือ่ เสียแล้วไม่ควรเอาไปทิง้ รวมกับขยะอี่นๆ เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นล้วนมีส่วนประกอบของสารอันตรายซึ่งหากก�าจัดทิ้งไม่ถูกวิธีอาจส่ง อันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โครงการจุฬาฯ รักษ์โลกจึงเปิดรับบริจาคทั้งโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ สายชาร์จ และหูฟงั ทีไ่ ม่ได้ใช้แล้วหรือเสียแล้ว เพือ่ น�าไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี และยังน�าเงินทีไ่ ด้ไปฟืน้ ฟูปา่ ชายเลน ต่อไป โดยสามารถตรวจสอบบริเวณที่ตั้งกล่องรับบริจาคได้ที่ www.facebook.com/ChulaLovestheEarth หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2218-3959
THE MASTER
EXHIBITION
อินสนธิ์ วงศ์สาม : จิ ต วิ ญ ญาณ อิสระ
Crocs - ColorLite
บทสัมภาษณ์บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ ขับไล่ความว้าวุ่น เกื้อหนุนความฝัน
นิ ท รรศการ ‘อิ น สนธิ์ วงค์สาม : จิตวิญญาณอิสระ’ ของ อินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปิน อาวุโสวัย 80 ปี จากจังหวัด ล�าพูน ที่ได้น�าประสบการณ์ การท�างานกว่า 50 ปี มาถ่ายทอด ผ่านงานศิลปะ และพิสูจน์ให้ ผู ้ ช มได้ เ ห็ น ถึ ง ความศรั ท ธา และการมุง่ มัน่ กับการเป็นศิลปิน ของเขา โดยเขาได้ ผู ก โยง วัฒนธรรมพืน้ ถิน่ ทางภาคเหนือ เข้ า กั บ ศิ ล ปะแบบนามธรรม ได้อย่างกลมกลืน นิทรรศการนี้ จะเป็นการรวบรวมผลงานที่ ได้รบั การคัดเลือกหลากหลาย รูปแบบ ทัง้ งานประติมากรรม, ภาพพิ ม พ์ แ กะไม้ และงาน จิ ต รกรรม ตั้ ง แต่ อ ดี ต จนถึ ง ปัจจุบนั กว่าหนึง่ ร้อยชิน้ ของเขา ซึง่ ได้ทงิ้ ร่องรอยมากมายไว้บน หน้าประวัติศาสตร์ของวงการ ศิล ปะไทย ส�า หรับ ผู ้ ที่ส นใจ ไปเดิ น ชมกั น ได้ ตั้ ง แต่ วั น ที่ 12 กันยายน-23 พฤศจิกายน 2557 ที่ห้องนิทรรศการหลัก ชั้ น 9 หอศิ ล ปวั ฒ นธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร
บทสัมภาษณ์นักธุรกิจนักบริหารองค์กร ที่มีวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ ไม่เหมือนใคร
THE OBSERVER
บทสัมภาษณ์บุคคลที่เฝ้าสังเกตปรากฏการณ์ หลากหลายในสังคมอุดมปัญหาเพื่อค้นหา ปัญญาและคำาตอบร่วมกัน
THE THINKER
บทสัมภาษณ์นักคิดที่มีบทบาท ต่อสังคมในทุกแง่มุม
ดินสอกด จาก Pentel
เสื้อกันฝน พร้อมกระเป๋า จาก W.P.C
กระเป๋าอเนกประสงค์ จาก Rubberly
กระเป๋าสะพายหลัง จาก Herschel
EVERYDAY ESSENTIALS
หูฟัง จาก Skullcandy
เคสโทรศัพท์ จาก Lucien
ไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งหนึ่งที่ท�าให้ชีวิตคนเราแตกต่าง บางคนมาพร้อมกับความเรียบหรู บางคนมาพร้อมกับความเรียบง่าย ของใช้จ�าเป็นในชีวิตประจ�าวันเป็นตัวบ่งบอกไลฟ์สไตล์ อย่างหนึ่งที่เราสามารถเลือกสรรเลือกซื้อได้ตามใจ และหากลองเปิดกระเป๋าของคุณ และเพื่อนข้างๆ อาจพบว่าของที่อยู่ในนั้นไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักชิ้นก็เป็นได้ ชุดดินสอ จาก Renaissance
หนังสือ Bicycle Shopping Guide จาก ส�านักพิมพ์ทรูไลฟ์
หนังสือ Bookstore Style จาก ส�านักพิมพ์สุขภาพใจ
แท่นตัดเทป จาก Scotch
หนังสือ แก้วจอมแก่น และ แก้วจอมซน จาก ส�านักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
ปากกา จาก LAMY
WHERE สินค้าทุกชิ้นมีจ�าหน่าย ที่ BeTrend สาขา สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม และ เดอะมอลล์
เครื่องคิดเลข จาก Casio
แท่นตัดเทป จาก Scotch
THE SPACE
THE SUPER HAPPY PLACE เรื่อง : ปริญญา ก้อนรัมย์ ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
ในวงจรชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ‘ออฟฟิศ’ น่าจะเป็นสถานทีแ่ ห่งทีส่ องรองจากบ้านทีห่ ลายคน ใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุด บางคนอาจจะถึงวันละ 8 ชั่วโมง 9 ชั่วโมง หรือไม่ก็ยืดยาวกว่านั้นหาก การงานที่รับผิดชอบยังไม่เสร็จ เรียกว่าชีวิตเกือบ ครึ่งหนึ่งในแต่ละวันของเราหมดไปกับการท�างาน และก็คงจะดีไม่น้อยหากบรรยากาศของออฟฟิศ จะสร้างให้กลายเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเรา เหมือนอย่างที่ วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ หรือที่ทุกคน รู้จักดีในชื่อ ‘พี่ซุป’ เจ้าของบริษัท ซูเปอร์จิ๋ว จ�ากัด ผู้ผลิตรายการทีวีชื่อดังอย่าง ซูเปอร์จิ๋ว พยายาม สร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นเหมือนบ้าน “เดิมทีออฟฟิศของเราก็เริ่มต้นจากคนเล็กๆ ประมาณ 7-8 คนเท่านัน้ และพืน้ ทีท่ มี่ กี ไ็ ม่ได้ใหญ่โต มากมายนัก แต่พอท�างานมากขึน้ จากมีรายการทีวี รายการเดียวก็กลายเป็นหลายรายการ ขยายไปท�า อีเวนต์มาร์เก็ตติง้ ไปท�าหนังสือ ท�าให้เราจ�าเป็นต้อง
เพิม่ พืน้ ทีไ่ ปเรือ่ ยๆ ซึง่ ในความคิดของเรา เราอยากท�า ให้น้องๆ ที่เข้ามาอยู่ในออฟฟิศรู้สึกอบอุ่น มีพลัง ในการท�างาน ให้ออฟฟิศกลายเป็นส่วนหนึง่ ของชีวติ พวกเขา เพราะชีวิตของคนเราแทบจะอยู่ที่ท�างาน มากกว่าทีอ่ นื่ เราก็เลยอยากให้ทที่ า� งานเป็นเหมือน บ้านที่เขาอยากเป็นเจ้าของ” ด้ ว ยแนวคิ ด ที่ นึ ก ถึ ง พื้ น ฐานความรู ้ สึ ก ของ คนในบริษทั ท�าให้รายละเอียดต่างๆ เกิดตามขึน้ มา ทัง้ การจัดแบ่งออฟฟิศอย่างเป็นสัดส่วนให้เหมาะสม กับฟังก์ชันการท�างานของแต่ละแผนก ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายอีเวนต์ ครีเอทีฟ สิ่งพิมพ์ และฝ่ายทีวี หรือแม้ กระทั่ ง การแทรกผลงานศิ ล ปะไว้ ต ามที่ ต ่ า งๆ เพือ่ คอยสร้างแรงบันดาลใจและความรืน่ รมย์ให้กบั ผู้ที่อยู่ในพื้นที่นี้ “เราบาลานซ์ฟังก์ชนั กับดีไซน์ให้มนั อยู่ด้วยกัน ได้โดยการคิดมันไปพร้อมๆ กัน เราอยากให้ออฟฟิศ ดูดี อยากให้บ้านเป็นเหมือนแบบนี้ เราตั้งใจมาก
ที่จะคอยดูมันทีละส่วนๆ น้องคนนี้ท�างานแบบนี้ ก็ควรนั่งตรงนี้ คนนี้ท�างานอีกแบบควรนั่งตรงนี้ ทีเ่ หลือก็คอื การใส่ความสวยงามลงไปให้มนั รืน่ รมย์” กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ภาพงานศิลปะ ฟิ ก เกอร์ ตัว การ์ ตูน และความบันเทิงอย่ า งเกม และเครื่องออกก�าลังกายวางกระจายไว้ทั่วบริเวณ เราจึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้วา่ สาเหตุหรือความตัง้ ใจ ที่แฝงไว้ลึกๆ คืออะไร “เราคิดว่าศิลปะมันคือความรื่นรมย์ของชีวิต ยิง่ พวกเราเป็นคนทีท่ า� งานสร้างสรรค์ การท�าให้ตวั เอง มีความสุขกับชีวติ ได้คอื สิง่ ทีจ่ า� เป็น เพราะความสุข ในชีวิตมันเป็นต้นทุนที่ท�าให้เราสามารถต่อสู้กับ อุปสรรคได้” การพัฒนาแต่เพียงบรรยากาศหรือวัตถุสิ่งของ ที่อยู่ภายนอกคงจะไม่เพียงพอ หากอยากท�าให้ สถานทีแ่ ห่งหนึง่ เป็นเหมือนบ้านขึน้ มาจริงๆ เชือ่ เลยว่า หลายคนก็คงมีหลายวิธกี าร ซึง่ เคล็ดลับของวิวฒ ั น์ ที่ท�าให้ที่แห่งนี้กลายเป็นบ้านหลังน้อยๆ ที่คอย เติมเต็มช่วงเวลาท�างานอย่างมีความสุข คือ... “บริษัทนี้อยู่กันเป็นครอบครัว ทุกคนเรียกกัน ว่าพี่หรือน้องหมด เราเริ่มจากความรู้สึกนี้ก่อน แน่นอน มันมีความเป็นเจ้านายแต่มนั ก็มคี วามรูส้ กึ นี้ด้วย ในฐานะที่เป็นคนดูแลองค์กร เราพยายาม จะท�าให้คนที่อยู่กับเรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มันเป็นความรับผิดชอบทีม่ องไม่เห็น ในทางปฏิบตั ิ เราก็ มี เ งิ น เดื อ น มี ส วั ส ดิ ก ารให้ แต่ สิ่ ง ที่ เ ป็ น ความรั บ ผิ ด ชอบที่ อ ยู ่ ใ นใจเราคื อ อยากท� า ให้ พวกเขามีก ารเติบ โตในทุก ๆ ด้ า น ซึ่งทั้ง หมดนี้ เราไม่สามารถสร้างได้ด้วยตัวคนเดียว ทุกคนต้อง ช่วยกันท�า ความปรารถนาของเราคืออยากให้ที่นี่ เป็นเหมือนบ้าน ถ้าเขารู้สึกอย่างนั้นได้แสดงว่า มันประสบความส�าเร็จแล้ว”
INSPIRED BY SPACE
มุมยอดนิยมของบริษัท - ห้องกิจกรรมส่วนกลาง ทัง้ การกินอาหาร และเล่นเกมมักจะเกิดขึ้นที่นี่ นิตยสารเล่มล่าสุดที่ซื้อ - นิตยสาร Crank เป็นนิตยสารจักรยาน ที่ ดี ม าก แต่ เ สี ย ดายที่ เ ขาเลิ ก ท� า แล้ ว เราเจอเขาช้าไป กิจกรรมสุดโปรดในช่วงเวลานี้ - การปั ่ น จั ก รยาน ล่ า สุ ด เพิ่ ง ไปถอย จักรยานคันใหม่มา เป็นรถจดประกอบ รุ่น Street 1 งานศิลปะตกแต่งออฟฟิศทีช่ อบมาก ที่สุด - รูปวาดโดราเอมอน เราเป็นคนวาดเอง
W E NO AVAI LABL
LIVE YOUR LIFE AND FORGET YOUR AGE
•
•
PEOPLE IN THE NEWS
เรื่องเล่าระหว่างทางชีวิต ในวงการบันเทิงของ มาริโอ้ เมาเร่อ
REFLECTION
Young At Heart
คุยกับรุน ่ ใหญ่หวั ใจเด็ก แท่ง ศักดิส์ ท ิ ธิ,์ ยอร์ช ฤกษ์ชยั , ต้า พาราด็อกซ์, อ้อม สุนสิ า, เร แม็คโดแนลด์ ฯลฯ • THE INTERVIEW ระเบิดหัวใจคุยกับผู้กำากับตำานาน แอ็คชั่นไทย ฉลอง ภักดีวิจิตร • SIDEWAYS นั่งรถไฟไปซีแอตเทิล • FEATURE เรื่องเล่าหลังไมค์สุดสนุก ของเหล่าดีเจเอไทม์
ISSUE 194 AUGUST 2014
www.twitter.com/hamburger_mag
www.facebook.com/hamburgermag
instagram.com/hamburgermagazine
HEALTH HEALTH TIPS
Q : ขาดวิตามินดีเสี่ยงเป็น อัลไซเมอร์ ได้จริงหรือไม่ A : จริง เนื่องจากมีการศึกษา
ตีพิมพ์ลงในวารสาร Neurology ระบุว่า การขาดวิตามินดีส่งผล ให้ผนู้ นั้ มีโอกาสเป็นโรคสมองเสือ่ ม มากขึ้น 53% เมื่อเทียบกับคนที่ ได้ รั บ วิ ต ามิ น ดี อ ย่ า งเพี ย งพอ โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง กั บ โรค อัลไซเมอร์ ซึง่ เป็นโรคสมองเสือ่ ม ชนิ ด ที่ พ บมากที่ สุ ด การขาด วิตามินดีส่งผลให้ผู้นั้นมีโอกาส เป็นโรคอัลไซเมอร์ถึง 70% ทั้งนี้ แหล่งของวิตามินดีนนั้ มีมากมาย อาทิ แสงแดดจากดวงอาทิตย์ น�า้ มันปลา ไข่ และทีส่ า� คัญ ผูว้ จิ ยั ระบุว่าการออกก�าลังกายอย่าง เพี ย งพอเป็ น อี ก หนึ่ ง วิ ธีที่ ช ่ ว ย ป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ ที่มา : www.prevention.com
25%
4 SECRETS EUROPEAN WOMEN STAY SLIM
หุน่ เพรียวบางแบบสาวยุโรปคือรูปร่างในฝันของหญิงสาวทัว่ โลก จนน�าไปสู่ การค้นหาเคล็ดลับที่ซ่อนอยู่ในไลฟ์สไตล์ของสาวๆ ในทวีปนี้ว่าท�าไมทาน อาหารเท่าไหร่กย็ งั ไม่อว้ น ซึง่ เคล็ดลับทีว่ า่ เราได้รวบรวมมาให้คณ ุ ได้ทดลอง ท�าตามแล้วดังต่อไปนี้
• ไวน์ เป็นเครื่องดื่มที่จัดรวมอยู่ในมื้ออาหารของ ชาวยุโรปเสมอ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีค�าพูดที่ว่า ‘Drink more wine, eat less food’ หรือดืม่ ไวน์ให้มาก ทานอาหารให้น้อย จึงไม่แปลกที่พวกเธอทั้งหลาย จะได้รบั แคลอรีไม่มากนัก เมือ่ เทียบกับการดินเนอร์ แบบจัดหนักของชาวเอเชียหรืออเมริกา • น�า้ อุน่ ผสมมะนาว สาวๆ เมืองน�้าหอมเชือ่ กันว่า การดื่มน�้าอุ่นผสมมะนาวในช่วงเช้าหลังตื่นนอน จะช่วยท�าความสะอาดอวัยวะต่างๆ ในระบบการย่อยอาหารได้ ซึ่งนี่เป็นวิธีหนึ่งที่ท�าให้ล�าไส้ท�างาน ได้อย่างเต็มที่ สามารถรักษาระดับน�า้ หนักให้อยู่ใน เกณฑ์ดีต่อสุขภาพเสมอ • น�้าผลไม้ตระกูลเบอรี เทรนด์สุขภาพที่มาแรง ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงนีค้ อื การดืม่ น�า้ จาก ผลไม้ตระกูลเบอรีที่เรียกว่า ‘powerberry juice’ คือ การผสมผลไม้นานาชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่องสุขภาพจาก ทัว่ ยุโรปมาคัน้ รวมกัน เช่น น�า้ องุน่ แดง เลมอน และ สตรอเบอรีพเู รจากอิตาลี น�า้ แอปเปิล้ และแครอตด�า จากสวิ ต เซอร์ แ ลนด์ น�้า บิ ล เบอรี จ ากบั ล แกเรี ย เป็นต้น ออกมาเป็นน�้าผลไม้คั้นสดที่เต็มไปด้วย คุณประโยชน์จากธรรมชาติ ช่วยดีท็อกซ์ พร้อม เสริมสร้างภูมิต้านทานได้อย่างดี • นม ถึงจะพ้นวัยเด็กไปแล้ว แต่สาวๆ ชาวยุโรป โดยเฉพาะสาวดัตช์ ยังคงดืม่ นมเป็นประจ�าอยูเ่ สมอ เพราะพวกเธอคิดว่ามันสามารถท�าให้รสู้ กึ อิม่ อยูท่ อ้ ง เป็นตัวช่วยในการคงน�า้ หนักให้อยูใ่ นเกณฑ์ทตี่ อ้ งการ ได้อย่างดี ทีส่ า� คัญยังเป็นแหล่งของโปรตีน แคลเซียม และวิตามินดีอีกด้วย ที่มา : http://healthyliving.msn.com
มีการศึกษาพบว่า การทานพริกช่วยเพิม่ อัตราการเต้นของหัวใจและกระบวนการ เผาผลาญในร่างกายได้ โดยทุกครัง้ ทีค่ ณ ุ เติมพริกเข้าไปในมือ้ อาหาร สมุนไพร ชนิดนี้สามารถเร่งกระบวนการเผาผลาญถึง 25% ภายใน 3 ชัว่ โมง
HEALTH NEWS
นักวิจัยเผย บริโภคกาเฟอีนช่วยลดความเสี่ยง เป็นโรคหูอื้อได้ มีการศึกษาจาก Brigham and Women’s Hospital เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ปัจจุบนั โรคหูออื้ เกิดขึน้ กับชาวอเมริกนั มากกว่า 50 ล้านราย ซึง่ มีอาการคลืน่ เสียงแทรกอยูใ่ นหู อยูเ่ ป็นระยะๆ โดยในการศึกษาครัง้ นีไ้ ด้พยายามหาความเชือ่ มโยงระหว่างการบริโภคกาเฟอีน กับความถี่ในการเกิดโรคของผู้ป่วยหญิงจ�านวน 65,000 คนที่มารักษาในโรงพยาบาล และ พบว่าอาการหูออื้ มีโอกาสเกิดน้อยกว่าในผูห้ ญิงทีม่ พี ฤติกรรมดืม่ เครือ่ งดืม่ กาเฟอีนเป็นประจ�า กล่าวคือ ความเสี่ยงต่อโรคหูอื้อจะลดลง 15% ในหมู่ผู้บริโภคกาเฟอีน 450-599 มิลลิกรัม (เทียบเท่ากาแฟ 6-8 ถ้วย) ต่อวัน เมื่อเทียบกับผู้บริโภคกาเฟอีน 150 มิลลิกรัม (เทียบเท่า กาแฟครึ่งถ้วย) ต่อวัน ทางด้าน ดอกเตอร์ Gary Curhan ผู้ทา� การวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่า “เรายัง ไม่สามารถบอกได้ว่าการบริโภคกาเฟอีนจะสามารถป้องกันโรคหูอื้อ เพียงแต่บ่งบอกถึง ความสัมพันธ์ของปริมาณกาเฟอีนที่บริโภคเข้าไปและความเสี่ยงต่อโรคในอนาคต” ที่มา : www.reuters.com
HEART HEART TIPS
6 WAYS TO BOOST YOUR CONFIDENCE AT WORK
• พูดถึงแต่ใจความส� าคัญ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณ
ในชีวติ การท�างานคงหลีกเลีย่ งไม่ได้ทจี่ ะต้องมีการประชุมเพือ่ ระดมความคิดกัน แต่หลายคนกลับหวาดกลัวการน�าเสนอความคิด ทั้งๆ ที่ตนเองมีไอเดียที่ดีเยี่ยม จะท�าอย่างไรให้หวั ใจของคุณเต็มเปีย่ มไปด้วยพลังและความมัน่ ใจ กล้าทีจ่ ะพูดและ สือ่ สารความคิดออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะน�าเสนอ 6 วิธี ทีจ่ ะช่วยเพิม่ ความเชื่อมั่นในการพูดในที่ท�างานให้มากขึ้น
ต้ อ งการแบ่ ง ปั น สิ่ ง ที่ คุ ณ คิ ด ให้ พ ยายามนึ ก ถึ ง ‘ใจความส�าคัญ’ ทีต่ อ้ งการจะสือ่ สารเป็นอันดับแรก นี่คือเคล็ดลับเล็กๆ ที่จะช่วยให้คุณสื่อสารความคิด ของคุณได้ชัดเจนและตรงประเด็น และเชิญชวน ให้คนอื่นตั้งใจฟังคุณมากขึ้น • ใช้ภาษากายช่วยในการสือ่ สาร การสบสายตากับ คนทีค่ ณ ุ ก�าลังคุยด้วย เป็นการท�าให้คสู่ นทนาสนใจ ในสิ่งที่คุณพูด นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงว่าคุณ มีความมั่นใจในสิ่งที่คิดและก�าลังจะพูดออกไป • ควบคุ ม สถานการณ์ ต ่ า งๆ ให้ ไ ด้ คุ ณ ต้ อ ง แสดงออกถึงความเป็นผูน้ า� ในการควบคุมสถานการณ์ ต่างๆ และท�าให้ทกุ คนในทีป่ ระชุมมัน่ ใจว่าการน�าเสนอ งานในครัง้ นีอ้ ยูภ่ ายใต้การควบคุมของคุณเป็นอย่างดี • ถามเมื่อไม่รู้ และพร้อมรับฟังอยู่เสมอ การสอบถามเมื่อคุณไม่รู้คือสิ่งที่ส�าคัญ อย่ากลัวที่จะถาม การแสดงท่าทีแสร้งว่าคุณเข้าใจจะท�าให้คณ ุ ไม่เข้าใจ จริงๆ และอาจท�าให้คุณท�างานผิดพลาดได้ • ยอมรับความผิดพลาด ทุกๆ คนย่อมท�าผิดพลาดได้ แม้กระทั่งในตอนที่ก�าลังน�าเสนองาน แน่นอนว่า เวลาคับขันเช่นนี้คงไม่มีใครอยากเสียหน้า แต่ควร ยอมรับความผิดของตนเองไปตรงๆ และน�าบทเรียน ดังกล่าวไปปรับปรุงให้ดีขึ้น • เผชิญหน้ากับความยาก อย่าหนีปญ ั หาด้วยการพูดจาอ้อมค้อม เราควรยกประเด็นยากๆ มาคุยเป็น อันดับแรก เพราะการเผชิญหน้ากับหัวข้อทีย่ ากทีส่ ดุ จะท�าให้ทุกคนพร้อมจะสนับสนุนคุณ ที่มา : www.huffiffiingtonpost.com
LEARN TO SAVE THE WORLD
‘ภาวะโลกร้อ น’ คงเป็นค� า ที่ หลายๆ คนคุ้นหู แต่จะมีสักกี่คนที่ เข้าใจและใช้ชีวิตได้สอดคล้องกับ การลดทอนการเกิดภาวะดังกล่าว จริงๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตสือ่ เพือ่ สร้างความเปลีย่ นแปลง ให้ทกุ คนเข้าใจสถานการณ์โลกร้อน สู่ชีวิตที่ดีกว่าและสุขกว่าใน ‘สังคม คาร์บอนต�า่ ’ โดยการเข้าร่วมเวิรก์ ช็อป ‘Happy Society Driven by Animation Infographic’ ฟังการบรรยายการสร้างสรรค์ Animation Infographic โดยวิทยากรคุณภาพระดับประเทศ ในวันที่ 27 กันยายน 2557 และส่ง ผลงานการผลิ ต สื่ อ แอนิ เ มชั น ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 270,000 บาท และทุนการผลิตทีมละ 10,000 บาท ผู ้ ที่ ส น ใ จ ดู ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ะ ดาวน์ โ หลดใบสมั ค รได้ ที่ www. sarakadee.com
“สิ่งที่หนักที่สุดคือใจที่ไม่ปล่อยวาง” พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
ถ้าใครหลงรักหนังไตรภาคอย่าง Before Trilogy (Before Sunrise, Before Sunset และ Before Midnight) ของผู้ก�ากับ ริชาร์ด ลิงก์เลเทอร์ แล้วละก็ ในปีนี้เชื่อเลยว่าคงจะตั้งตารอ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Boyhood ที่เขาทุ่มเทและใช้เวลาถ่ายท�ายาวนานถึง 12 ปี แต่ก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์ เราจะพาคุณไปรู้จักชีวิตของผู้ก�ากับคนนี้ให้มากขึ้นอีกนิด Name : Richard Linklater Nationality : American Born : 30 July 1960 Age : 54 “Most of us are losers most of the time, if you think about it.”
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Richard_Linklater http://www.imdb.com/name/nm0000500/bio?ref_=nm_ov_bio_sm
• ริชาร์ด ลิงก์เลเทอร์ เกิดและเติบโตที่เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส หลังจบมัธยมปลาย ริชาร์ดได้เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยแซมฮูสตันสเตท แต่เหมือนกับว่าโลกแห่ง การเรียนรู้ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ อาจจะไม่เพียงพอ เขาจึง ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและไปท�างานอยู่ที่แท่นขุดเจาะน�้ามันกลางทะเลที่อ่าวเม็กซิโกอยู่พักหนึ่ง • หลังจากที่กลับมาจากการท�างานที่แ ท่ นขุดเจาะน�้ามัน ริชาร์ดก็เริ่มพัฒนาความรักในภาพยนตร์ด้วยการตระเวนดู ละครเวทีทั่วเมืองฮูสตัน และบอกกับตัวเองว่าอยากจะเป็น คนท�าหนัง • ริชาร์ดเริ่มต้นผจญภัยในโลกของแผ่นฟิล์มด้วยการเก็บเงิน ซื้อกล้องถ่ายหนังแบบ 8 มม. เครื่องฉายหนัง และอุปกรณ์ ตัดต่อหนังด้วยตัวเอง ก่อนที่เขาจะย้ายไปยังเมืองออสติน ที่นั่นเขาได้เข้าเรียนการท�าภาพยนตร์ที่ Austin Community College และจบในปี ค.ศ. 1984
• ริชาร์ดเริ่มฝึกฝีมือและสร้างผลงานของตนเองด้วยการท�า หนังสัน้ ก่อนทีจ่ ะมีผลงานก�ากับภาพยนตร์เรือ่ งแรก It’s Impossible to Learn to Plow by Reading Books ในปี ค.ศ. 1988 และ เพียงอีก 3 ปีถดั มา ภาพยนตร์เรือ่ ง Slacker (1991) ทีเ่ ขาก�ากับ ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากเทศกาลซันแดนซ์ในปีนั้น • ในปี ค.ศ. 1995 ริชาร์ดได้รบั รางวัล Silver Bear for Best Director จากผลงานเรือ่ ง Before Sunrise ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ทีเ่ บอร์ลนิ และเป็นจุดเริม่ ต้นของหนังรักไตรภาคทีส่ ร้างชือ่ เสียง ให้เขาเป็นอย่างมาก • ปี ค.ศ. 2002 ริชาร์ดได้ซุ่มตัวเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง Boyhood และเขาใช้เวลากว่า 12 ปี เพือ่ ถ่ายท�าภาพยนตร์เรือ่ งนี้ โดยเขาใช้นักแสดงชุดเดิมในการถ่ายท�าตลอดระยะเวลา จนออกมาเป็นภาพยนตร์ความยาว 3 ชั่วโมง และก�าลังจะ เข้าฉายในบ้านเรา ส่วนเขาจะถ่ายทอดเรือ่ งราวได้นา่ ประทับใจ เพียงใดต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนตร์
ALL ABOUT BIZ BIZ IDEA
BIZ LIFE
LIFESTYLE IS EVERYWHERE ณลันรัตน์ นันท์นนส์
Project Director ของแบรนด์ Gizman ร้ำนค้ำสินค้ำไลฟ์สไตล์ทรี่ วบรวม สินค้ำชื่อดังไว้ในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ควำมต้องกำรที่หลำกหลำย ของคนรุน่ ใหม่ โดยมีสำขำแรกอยูท่ แี่ มงป่อง อเวนิว ซอยลำดพร้ำว 92 และได้ขยำยสำขำไปทีม่ ำบุญครอง และเซ็นทรัล พระรำม 3 ล่ำสุดก�ำลัง จะเปิดตัวสำขำใหม่ทสี่ ยำมพำรำกอน • การท�าธุรกิจต้องไม่อยูน่ งิ่ ทุกธุรกิจมันมีโอกาสไปต่ออยูเ่ สมอ ถึงแม้เราจะถนัด ผลิตสินค้าด้านความบันเทิง แต่กไ็ ม่จา� เป็นว่าเราต้องหยุดแค่ขายหนัง ขายเพลง เดิมทีรา้ นแมงป่องก็เคยเอาเครือ่ งเล่นแผ่นเสียงมาขาย เราเห็นโอกาสว่าตลาด มีโอกาสโตได้ ก็เลยลองสร้างเป็นแบรนด์ใหม่ขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ • เนือ่ งจากแบรนด์ของเราเป็นการขายไลฟ์สไตล์รปู แบบหนึง่ เราจึงอยากท�าให้ ค�าว่าไลฟ์สไตล์ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ให้ลูกค้าได้แรงบันดาลใจจากการดูหนัง แล้วน�ามาใช้ในชีวิต แต่ให้เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตประจ�าวันของลูกค้าจริงๆ ซึ่งแนวคิดนี้ก็ท�าให้ความบันเทิงกับไลฟ์สไตล์ผสมผสานเป็นเรื่องเดียวกันได้ • ธุรกิจเชิงไลฟ์สไตล์สามารถเติบโตได้อย่างไม่มีข้อจ�ากัด มีการเปลี่ยนแปลง ในทุกยุคทุกสมัย นัน่ คือสาเหตุทเี่ ราไม่ได้เอาของมาวางขายแล้วบอกว่า นีค่ อื ล�าโพง นีค่ อื ทีช่ าร์จแบตฯ หรือนีค่ อื หูฟงั แต่เราแบ่งตามไลฟ์สไตล์ของผูค้ น เช่น สินค้านี้ ส�าหรับคนชอบเล่นเกม ส�าหรับคนชอบฟังเพลง ส�าหรับคนชอบออกก�าลังกาย แล้วถ้าวันหนึ่งยุคสมัยเปลี่ยนไป เราก็สามารถปรับทิศทางตามได้โดยง่าย • การสร้างแบรนด์ขึ้นมาเราเริ่มจากพิจารณาจุดแข็งและสินทรัพย์ที่มีอยู่ หลังจากนั้นเราต้องดูว่าถ้าเราจะท� าแบรนด์อย่างนี้แล้วตัวเองพร้อมไหม คนของเราพร้อมไหม โอกาสไปได้ไหม และจะท�าอย่างไรให้ธุรกิจนี้แตกต่าง จากคนอื่นในตลาด • เวลาเราเลือกผลิตภัณฑ์มาขาย เราจะลองใช้ก่อนเพื่อให้รู้ว่าสินค้าตัวไหนดี สินค้าตัวไหนไม่ดี สินค้าแต่ละตัวต้องมีจดุ ขาย มีสงิ่ ทีท่ �าให้คนร้องว้าว ไม่อย่างนัน้ ก็จะเป็นแค่สินค้าทั่วไปที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด • อุปกรณ์ไลฟ์สไตล์เป็นส่วนหนึง่ ในชีวติ ของทุกคนอยูแ่ ล้ว ขึน้ อยูก่ บั ว่าเรามีความรู้ เกีย่ วกับสินค้านัน้ มากน้อยแค่ไหน เรามีทงั้ ทีมงานเดิมทีม่ คี วามเชีย่ วชาญด้าน การจัดซือ้ การขาย และทีมงานทีเ่ รารับเข้ามาใหม่ทมี่ คี วามสามารถด้านการตลาด ในธุรกิจแนวนี้ เราจึงน�าคนเก่าและคนใหม่มารวมกัน เพือ่ สร้างเป็นองค์กรใหม่ ที่แข็งแรงได้ • เราเลือกคนเข้ามาท�างานจากประสบการณ์และมีทศั นคติทดี่ ี อย่างเรือ่ งทัศนคติ เราจะพูดคุยกับเขาก่อนเพือ่ ดูวา่ ความคิดเขาเป็นไปในทิศทางไหน และการทีจ่ ะ รับคนเข้ามาในทีมเราต้องดูไลฟ์สไตล์เขาด้วยว่าวันหยุดชอบท�าอะไร และเวลา โกรธเขารับมือกับความรู้สึกนี้อย่างไร • ความยากส�าหรับเราคือช่วงเวลาท�างานที่จ�ากัด ตอนเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมา ใหม่ๆ เราต้องก�าหนดตารางเวลาให้ดี เพราะบางครั้งอาจจะเจอกับเหตุการณ์
ไม่คาดฝัน อย่างการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุม ไม่ได้ หรือปัจจัยภายในก็เช่น มีงานด่วนที่ต้องท�าให้เสร็จพรุ่งนี้ 8 โมงเช้า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ทุกคนในทีมต้องช่วยกันแก้ไข • เป้าหมายของเราคือ อยากให้ทกุ คนทีเ่ ดินเข้ามาในร้านเรามีความสุข เราเข้าใจ ว่าลูกค้าเข้ามา 10 คน อาจจะไม่มีใครซื้อของของเราเลยก็ได้ แต่ที่สา� คัญคือ ลูกค้าต้องมีความรูส้ กึ ดีๆ กลับไป เพือ่ ทีใ่ นอนาคตพวกเขาจะได้กลับมาหาเราอีก • เราไม่รสู้ กึ กดดันทีม่ แี บรนด์ใหญ่ซงึ่ เป็นแบรนด์แม่ทปี่ ระสบความส�าเร็จอยูแ่ ล้ว แต่เรามองว่านี่คือความโชคดี เพราะเรามีทั้งเวที ก�าลังใจ และทีมงานที่พร้อม จะเดินไปด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้จะหามาได้อย่างง่ายๆ • ค�าพูดที่เราจ�าได้ขึ้นใจอยู่ในช่วงที่สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ระบาด ท่านประธาน บอกกับเราว่า ต้องโฟกัสให้ดีว่าใครคือลูกค้าของเรา และเราจะท�าการตลาด เพื่อสื่อสารกับพวกเขาอย่างไร โดยเฉพาะใจความส�าคัญว่า ‘เธอต้องไม่ลืมว่า ลูกค้าสามารถไปซื้อสินค้าจากเจ้าอื่นได้ทุกเมื่อ แต่เขายังเลือกที่จะอยู่กับเรา จงรักษาพวกเขาไว้ให้ดี’ • เมือ่ เสร็จจากงานแต่ละโปรเจ็กต์ เราจะคุยกันกับทีมงานถึงความพึงพอใจใน ผลลัพธ์ทไี่ ด้ และมีอะไรทีเ่ ราจะแก้ไขได้ไหม หรือบางครัง้ จะเป็นช่วงในการวางแผน ซึ่งสามารถคิดไอเดียอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อลงมือท�าจริงๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยน ให้เหมาะสมกับเวลาและงบประมาณที่มี • การคิดต่างคือหัวใจส�าคัญของการท�างาน เราต้องเชื่อในสิ่งที่คิดแล้วพูดมัน ออกมา เราจะบอกทีมงานเสมอว่า ถ้าคุณมีเรื่องที่ไม่เห็นด้วยต้องเอาออกมา คุยกัน อย่าปล่อยเลยตามเลย ต้องรู้จักพบกันคนละครึ่งทาง • ทุกคนล้วนแต่เป็นผูบ้ ริโภคทัง้ นัน้ ไม่เว้นแม้แต่ตวั เราเอง ดังนัน้ คติของเราคือ ‘Try it before you own’ นัน่ คือก่อนทีใ่ ครจะซือ้ สินค้าจากเราไป เขาจะต้องรู้จกั สินค้าชิ้นนั้นเสียก่อน เราจึงท�าให้ของทุกชิ้นในร้านมีตัวอย่างให้ทดลองใช้งาน เพราะถ้าซื้อไปแล้วเขาใช้ไม่ได้หรือใช้ไม่เป็น ของที่ได้ไปก็ไม่มีประโยชน์ • หลักการท�างานง่ายๆ ที่คุณแม่สอนไว้คือ ต้องพูดความจริงด้วยความรัก ซึ่ง เป็ นแนวคิดที่ใ ช้ ไ ด้ กับ ทุก เรื่อ ง ไม่ ว ่ า จะเป็ นเรื่อ งงานหรือ เรื่อ งส่ ว นตัว หลายครั้งที่เรากลัวว่าความจริงจะท�าร้ายอีกฝ่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่ว่า เราพูดอะไร แต่อยู่ที่ว่าจะพูดอย่างไรมากกว่า เราพูดความจริงได้ แต่ต้องพูด ด้วยความรักเสมอ
Packnada เคยมี ค นบอกว่ า สิ่ ง ที่ ไ ม่ ส นุ ก ที่ สุ ด ส�าหรับการเดินทางก็คือ การจัดกระเป๋า เพราะนอกจากจะต้องคิดค�านวณว่าต้อง พกอะไรไปบ้างส�าหรับการเดินทางแล้ว การไปต่อแถวเพือ่ เช็กอินและโหลดกระเป๋า ก็เป็นเรือ่ งยุง่ ยากและเสียเวลาจนกลายเป็น ภาระของการเดินทาง บริษัทจากประเทศ สิงคโปร์ Packnada จึงผุดไอเดียและสร้าง บริการทีจ่ ะท�าให้คณ ุ ไม่จา� เป็นต้องจัดกระเป๋า อีกต่อไป บริการนี้เหมาะส�าหรับคนที่ต้อง เดินทางไปเมืองใดเมืองหนึ่งบ่อยๆ ไม่ว่า จะเป็ น การเดิ น ทางเพื่ อ ท่ อ งเที่ ย วหรื อ การเดินทางเพือ่ ท�าธุรกิจ แทนทีค่ ณ ุ จะต้อง เก็บกระเป๋าและเสือ้ ผ้าทุกๆ ครัง้ ทีค่ ณ ุ จะต้อง ขึ้นเครื่องบิน หากเมื่อคุณสมัครบริการนี้ ผ่านแอพพลิเคชัน คุณก็สามารถทิง้ เสือ้ ผ้า หรือ ข้าวของเครื่องใช้ประมาณ 20 ชิ้น ไว้ทโี่ รงแรมทีค่ ณ ุ พักได้เลย หลังจากนัน้ จะ มีทมี งานจาก Packnada เข้าไปเก็บข้าวของ เหล่านัน้ ของคุณไปซักรีดและเก็บไว้จนกว่า คุณจะลงทะเบียนการนัดหมายและกรอก รายละเอียดเรือ่ งโรงแรมหรือบ้านพักทีค่ ณ ุ จะไปพักในเมืองนั้นๆ อีกครั้ง ทางทีมงาน จะจัดส่งเสื้อผ้าและเครื่องใช้ต่างๆ ไปที่ โรงแรมที่คุณจองไว้ในทริปต่อไป บริการนี้ ยังจ�ากัดอยู่แค่ในประเทศสิงคโปร์ ด้วย สนนราคา 99 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพียงแค่นี้ คุ ณ ก็ ส ามารถพกแค่ พ าสปอร์ ต แล้ ว ก็ ออกเดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลถึง สัม ภาระอีก ต่อ ไป เราหวัง ว่ าจะได้เ ห็น บริการนีข้ ยายไปอีกหลายๆ ประเทศ เข้าไป ดูรายละเอียดได้ที่ www.packnada.com
BIZ QUOTE BIZ BOOK
ร้อยใจให้งาน
ผู้เขียน : ประสาร มฤคพิทักษ์ ส�ำนักพิมพ์ : บี ไบรท์ รำคำ : 170 บาท
คนที่ เ ลื อ กเดิ น บนเส้ น ทางสายธุ ร กิ จ ย่ อ มรู ้ ว ่ า การจะประสบความส�าเร็จในเส้นทางนี้ได้นั้นไม่ใช่ เรื่ อ งง่ า ย มั น ถู ก สงวนให้ กั บ คนที่ เ ตรี ย มการและ วางแผนการท�างานตั้งแต่ต้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ความมุง่ มัน่ การทุม่ เทพลังกายพลังใจ และการเอาใจใส่ ในการท�างาน ก็ล้วนเป็นปัจจัยส�าคัญที่จะส่งเสริม ให้คุณประสบความส�าเร็จ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะบริหาร เวลาในชีวติ ส่วนตัวให้มคี วามสมดุลเพือ่ จะได้กา้ วไปสู่ ความส�าเร็จทัง้ ในหน้าทีก่ ารงานและมีความสุขในชีวติ ด้วย หนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนคู่มือที่ช่วยให้คุณ มองปัญหาต่างๆ ให้เป็นเพียงบันไดขัน้ หนึง่ ทีต่ ้องก้าว ขึ้ น ไปเท่ า นั้ น เรื่ อ งราวในหนั ง สื อ เล่ ม นี้ เ ขี ย นจาก ประสบการณ์ตรงของคนที่ก้าวเข้าไปอยู่ในวงการ
ธุรกิจมาหลายปี บทแรกๆ ของหนังสือเป็นการให้ มุ ม มองเพื่ อ ให้ คุ ณ ท� า ความรู ้ จั ก ตั ว เองมากขึ้ น หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่เนื้อหาที่เกี่ยวกับการท�าธุรกิจ ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับลูกน้อง วิธีการท�างาน หรือวิธกี ารคิดเพือ่ รับมือกับคนทีต่ อ้ งการเอาเปรียบเรา ในวงการธุรกิจ และสุดท้ายเป็นเรื่องของการจัดการ และบริหารเวลางานกับเวลาชีวติ ให้เดินไปพร้อมๆ กัน ได้ อ ย่ า งดี เพื่ อ ที่ จ ะได้ มี ค วามสุ ข ในทุ ก ๆ วั น ของ การท�างาน หนังสือเล่มนี้จะเหมือนเป็นเข็มทิศที่จะ ชี้แนะให้ชีวิตการท� างานด�าเนินไปในทางที่ถูกต้อง เพื่ อ ที่ จ ะได้ ท� า งานและมี ค วามสุ ข ไปด้ ว ยในเวลา เดียวกัน
“I’VE HAD A LOT OF SUCCESS; I’VE HAD FAILURES, SO I LEARN FROM THE FAILURE.” Gordon Ramsay A Scottish celebrity chef
THE WORDS
“Some changes look negative on the surface but you will soon realize that space is being created in your life for something new to emerge.” ความเปลี่ยนแปลงอาจดูไม่สวยงามนักเมื่อมองเพียงผิวเผิน แต่ในไม่ช้าคุณจะตระหนักได้ว่า พื้นที่ว่างเปล่าในชีวิตคุณถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สิ่งใหม่ๆ ได้ก่อกำาเนิดขึ้น -Eckhart Tolle
“Whenever you can’t balance what you see with what you believe you have conflict.”
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่สามารถสร้าง สมดุลในสิ่งที่คุณเห็นกับสิ่งที่คุณเชื่อ นั่นแหละคือความขัดแย้งที่คุณต้องเจอ
-Shannon L. Alder
“If you do not tell the truth about yourself you cannot tell it about other people.” ถ้าคุณไม่อาจบอกความจริงเกี่ยวกับ ตัวเองได้ คุณก็ไม่สามารถบอก ความจริงเกี่ยวกับคนอื่นได้เช่นกัน
“When you laugh, laugh like hell. And when you get angry, get good and angry. Try to be alive. You will be dead soon enough.” เมื่อต้องหัวเราะ จงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อต้องโกรธ ก็โกรธให้เต็มที่ ขอเพียงพยายามที่จะมีชีวิตชีวาเข้าไว้ เพราะในไม่ช้าไม่นานคุณก็ต้องตายแล้ว
-Virginia Woolf
“Keep true. Never be ashamed of doing right. Decide what you think is right and stick to it.” อยู่กับความจริงเข้าไว้ อย่าอายที่จะทำา ในสิ่งที่ถูกต้อง และจงตัดสินใจว่าอะไร คือสิ่งที่ถูกต้อง แล้วทุ่มเทอยู่กับสิ่งนั้น -George Eliot
“I don’t trust people who don’t love themselves and tell me, ‘I love you.’... There is an African saying which is: Be careful when a naked person offers you a shirt.” ฉันไม่เชื่อใจคนที่ ไม่รักตัวเองและบอกว่ารักฉันหรอก มีภาษิตหนึ่งของชาวแอฟริกันกล่าวว่า จงระวัง คนร่างกายเปลือยเปล่าที่มายื่นเสื้อผ้าให้กับท่าน -Maya Angelou
-William Saroyan
“The primary cause of disorder in ourselves is the seeking of reality promised by another.”
“Sometimes it takes a good fall to really know where you stand.”
-Jiddu Krishnamurti
-Hayley Williams
สาเหตุหลักของความไม่สบายใจ ที่เกิดขึ้นกับเรา อยู่ที่การค้นหาความจริง ที่เป็นค�าสัญญาจากคนอื่น
บางครั้งเราก็จ�าเป็นต้องล้ม ให้เป็น เพื่อจะได้รู้ว่า เราก�าลังยืนอยู่ที่จุดไหนกันแน่
กองทัพศิลปินกว่า 30 ชีวิต ร่วมฉลองยิ่งใหญ่ 9 ปี คลับฟรายเดย์
กรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ไม่ท�าให้แฟนๆ ผิดหวัง จัด ‘Green Concert #17 Love Scenes Love Songs Club Friday 9th Anniversary’ ที่รวมศิลปินและนักแสดงกว่า 30 ชีวิต กับคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ Dramatic Concert โดยรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้โครงการช่วยหนูด้วย มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ในวันเสาร์ที่ 27 และวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน จ�าหน่ายบัตรที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา บัตรราคา 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 และ 1,200 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมที ่ www.thaiticketmajor.com และ www.greenwave.fm
ซีพีเปิดงาน I Love Egg
บริษทั เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จ�ากัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสดในรูปแบบแพ็กแบรนด์ซพี ี ร่วมกับมูลนิธหิ วั ใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดโครงการ ‘CP I Love Egg ด้วยรักและไข่ไก่’ รณรงค์ให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องการบริโภคไข่ไก่ และกระตุ้นให้คนไทยบริโภคไข่ไก่ พร้อมดูแลและใส่ใจสุขภาพผ่านการออกก�าลังกายที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพและหัวใจที่แข็งแรง และยังเชิญชวนสิงห์นักปั่นมาร่วมปั่นปันรัก น�าไข่มอบให้แก่ มูลนิธิฯ เพื่อส่งต่อความรักและห่วงใย ที่ Victory Point เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูม ิ
เคนชิน ซามูไรเอ็กซ์! ก�าลังจะกลับมาพบ กับคุณ
เตรี ย มพบกั บ การกลั บ มาครั้ ง ใหม่ ข อง ภาพยนตร์สุดมันที่สร้างมาจากการ์ตูนยอดฮิต ซามู ไ รพเนจร ซึ่ง หลัง จากประสบความส�า เร็จ แบบถล่มทลายของภาพยนตร์ในภาคแรกทีก่ วาด รายได้ไปทั่วโลกกว่า 6 พันล้านเยน ซามูไรหนุ่ม ฮิมูระ เคนชิน เตรียมพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้า กับการต่อสู้ครัง้ ส�าคัญอีกครัง้ พร้อมด้วยดาบคู่ใจ ของเขาที่ขอสาบานว่าจะไม่ยอมให้เปื้อนเลือด ของใครอีก ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ที่โรงภาพยนตร์ ใกล้บ้านคุณ
มอบความสุข ความโชคดี 2 ชัน้ กับขนมไหว้พระจันทร์เอส แอนด์ พี
เอส แอนด์ พี ขอส่งมอบความสุขและความโชคดีกบั เทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์เอส แอนด์ พี ทีเ่ ต็มเปีย่ มด้วยวัตถุดบิ ชัน้ เยีย่ ม ผสมผสาน ความประณีตจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ บรรจุในกล่องลวดลายมงคลสวยงาม สะท้ อ นความแตกต่ า งและโดดเด่ น พร้ อ มโชค 2 ชั้น โชคชั้น ที่ 1 เมื่อ ซื้อ ขนมไหว้พระจันทร์ที่ร้านเอส แอนด์ พี ทุก 1 ชิ้น เท่ากับ 1 สิทธิ์ในการลุ้นรับ โทรศัพท์มอื ถือ Samsung Galaxy S5 และซิมเบอร์เสริมชีวติ โดย คุณแมน การิน และโชคชั้นที่ 2 ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ 4 กล่อง (16 ชิ้น) รับฟรีอีก 1 กล่อง (4 ชิ้น) หมดเขต 10 กันยายนนี้ ที่ร้านเอส แอนด์ พี
ยอดมนุษย์พันธุ์อึด คว้าชัยการแข่งขันโตโยต้าหัวหินไตรกีฬานานาชาติ 2014 ครั้งที่ 6
บริษัท สปอร์ตไบซิเคิล จ�ากัด ได้จัดการแข่งขัน ‘โตโยต้าหัวหินไตรกีฬานานาชาติ 2014 ครั้งที่ 6’ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่สวนน�้าแบล็กเมาน์เทน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยในงานนี้ผู้เข้าแข่งขันหลายท่านสามารถพิชิตเส้นชัยไปด้วยความอึดที่พกพากันมาอย่างเต็มกระเป๋า พร้อมแบ่งปันมิตรภาพระหว่างผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งท�าให้บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
โออิชิท้า 4 ผู้กล้าออนไลน์ ตะลุยปราสาททาเคชิ การันตีโหดจริง! มันจริง! ฮาจริง!
สุธ ี ธรรมสิทธิบ์ รู ณ์ ผูอ้ า� นวยการฝ่ายการตลาด สายงานธุรกิจเครือ่ งดืม่ และ ธารินทร์ รินธนาเลิศ ผูจ้ ดั การฝ่ายการตลาดสายงานธุรกิจเครือ่ งดืม่ บริษทั โออิชิ กรุป๊ จ�ากัด (มหาชน) เปิดปราสาททาเคชิให้ 4 ผูก้ ล้าออนไลน์ เสือร้องไห้, เทยเทีย่ วไทย, เฟ็ดเฟ่บอยแบนด์ และแม่บา้ นมีหนวด ตะลุยฝ่าด่านของเกมโหดมันฮา และถ้าคุณอยากไปถล่มปราสาททาเคชิดว้ ยตัวเองก็สง่ รหัสใต้ฝาโออิชมิ าที ่ *494* ตามด้วยรหัสใต้ฝาหรือในกล่องโออิชริ สชาติใดก็ได้ แล้วกด # และโทร.ออก หรือส่งรหัสผ่านฟรีท ี่ www.oishidrink.com/takeshi เพือ่ ลุน้ เป็นผูก้ ล้าโออิชไิ ปสัมผัสประสบการณ์ทสี่ ดุ แห่งความโหดมันฮา และพิชติ เงินรางวัลสูงสุด 35 ล้านบาท
Disaya เปิดคอลเล็กชัน Luxatlas
โอสถสภาเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานอาวุโส บริษัท โอสถสภา จ�ากัด สมชัย ไชยศุภรากุล รองประธานอาวุโส ธุรกิจร่วมทุน และ ธรรมศักดิ์ จิตติมาพร กรรมการผู้จัดการ พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าร่วมงาน ‘Open Heart Open Talk’ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจของการร่วมกิจกรรมแบ่งฝันปันสุขทีพ่ นักงานจิตอาสาของโอสถสภา ได้ ช ่ ว ยกั น ท� า กิ จ กรรมสาธารณประโยชน์ ใ ห้ แ ก่ ชุ ม ชนและโรงเรี ย นใน 3 จังหวัด ได้แก่ สระบุร ี ฉะเชิงเทรา และลพบุรี ณ บริษัท โอสถสภา จ�ากัด ส�านักงานใหญ่
Disaya เปิดคอลเล็กชันภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxatlas ในงานแฟชัน่ โชว์ประจ�าฤดูกาล Autumn/ Winter 2014 โดย ‘ออม’ - ดิษยา สรไกรกิติกูล ผู ้ อ� า นวยการฝ่ า ยสร้ า งสรรค์ แ บรนด์ Disaya ได้น�าเสนอจินตนาการที่เล่าถึงไทม์ไลน์ของอดีต ถึงอนาคตผสมผสานกันผ่านทางแผนที่โบราณ และหญิงสาวจากยุค 1920 ยุคที่อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีเครือ่ งจักรไอน�า้ ก�าลังเฟือ่ งฟูถงึ ขีดสุด โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากเหล่าเซเลบริตี้ ระดับแถวหน้ามาร่วมงานอย่างคับคั่ง
THE THEGUEST GUEST
38
DOING WELL BY DOING GOOD
จุดเริ่มต้นของ Toms เริ่มมาจาก... ความคิดของ Blake Mycoskie นักลงทุนชาวอเมริกัน ในปี 2006 ระหว่างช่วงเวลาทีอ่ ยูใ่ นอาร์เจนตินา เขาค้นพบรองเท้า Alpargatas ซึง่ เขาชอบมาก อีกสิง่ ทีเ่ ขาสังเกตได้คอื เด็กหลายคนไม่มรี องเท้าใส่ นัน่ เลยเป็นจุดเริม่ ต้น เขาตัดสินใจน�ารองเท้า Alpargatas กลับไปอเมริกาเพือ่ ขายให้เพือ่ นของเขา และตัง้ ใจว่าทุกๆ คูท่ ขี่ ายได้ เขาจะกลับมา ทีอ่ าร์เจนตินาอีกครัง้ เพือ่ เอารองเท้ามาให้เด็กๆ จุดเริม่ ต้นมันแค่ไอเดียเล็กๆ ทีเ่ ขาให้ชอื่ ว่า ‘Shoes for tomorrow’ แต่คา� ว่า tomorrow มันยาวไปทีจ่ ะใช้เป็นชือ่ แบรนด์ เลยตัดให้เหลือแค่ Toms ผมว่ามันต้องใช้ทงั้ passion และ experience ในการด�าเนินธุรกิจ แต่... ส่วนตัวผมเชือ่ ว่า passion ส�าคัญกว่าประสบการณ์ อย่างผมเริ่มงานที่นี่จากการเป็นนักศึกษาฝึกงาน ประสบการณ์เท่ากับศูนย์ ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ผมจะอยูท่ บี่ า้ นของ Blake ผมมีหน้าทีบ่ รรจุ สินค้าลงกล่อง ท�าหน้าทีล่ กู ค้าสัมพันธ์ หรือแม้แต่วางแผนการขายและการตลาด ส�าหรับผม มันไม่สา� คัญว่าหน้าทีใ่ นวันนัน้ จะเป็นอะไร ผมมาท�างานโดยทีร่ วู้ า่ งานของผมมันสร้างความแตกต่างให้กับโลกในทางที่ดีขึ้น และยิ่งผมท�างานหนักมากเท่าไหร่ ผู้คนที่ผมจะช่วยก็ยิ่ง มากขึ้นไปด้วย แนวคิดแบบ 1 เพือ่ 1 ตอนนีเ้ ริม่ ขยายออกไปแล้ว... จะเห็นได้วา่ นีไ่ ม่ใช่บริษทั ขายรองเท้า เลย นี่เป็นบริษัท ‘1 เพื่อ 1’ เราใช้โมเดลนี้เพื่อช่วยคนที่ต้องการมัน นอกจากรองเท้าแล้ว เราก็ยงั มีผลิตภัณฑ์แว่นกันแดดเพือ่ ช่วยคนทีม่ คี วามบกพร่องทางการมองเห็น และเราเพิง่ เริม่ ผลิตภัณฑ์กาแฟเพื่อบริจาคน�้าสะอาดให้ผู้คนในประเทศที่ขาดแคลน ในฐานะที่ท�าธุรกิจ ทุกครัง้ ทีเ่ ราคิดค้นผลิตภัณฑ์ขนึ้ มาใหม่ เราจะคิดถึงความต้องการก่อนเป็นอันดับแรก เราจะ ตัง้ ค�าถามว่า ‘มีปญ ั หาอะไรทีโ่ ลกประสบอยูบ่ า้ ง เราจะช่วยให้มนั ดีขนึ้ อย่างไร และเราจะท�า อย่างไรให้ทกุ คนมีสว่ นร่วม’ จากนัน้ เราถึงจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพือ่ ตอบสนองความต้องการนัน้ ข้อดีของการท�างานกับคนรุน่ ใหม่อย่างผมคือ เราไม่เคยท้อกับค�าว่า ‘ไม่’... หากถูกปฏิเสธ เมื่อไหร่ เราจะยกเหตุผลต่างๆ นานาขึ้นมาและตอกกลับไปว่า ‘เราไม่สนใจ เราจะท�าให้มัน เกิดขึ้น’ ความคิดแบบนี้เป็นที่ต้องการในการท�างานมาก ถ้าเรามัวแต่ใส่ใจกับค�าว่า ‘ไม่’ สุดท้ายก็คงไม่ได้เริ่มท�าอะไรเลยเพราะคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกคนรูว้ า่ Toms ‘ให้’ แต่ไม่มใี ครรูว้ า่ เราให้อย่างไร... เราเคยท�ากระบวนการนีด้ ว้ ยตัวเอง และได้เรียนรูว้ า่ เราไม่ใช่ผเู้ ชีย่ วชาญในด้านนีเ้ ลย จนตอนนีเ้ ราท�างานร่วมกับ NGO partners ซึ่งเป็นหน่วยงานไม่แสวงหาก�าไรที่มีอยู่ทั่วโลก เขาเข้าใจความต้องการของผู้คนดีกว่าเรา เรามี Giving Team ของเราทีท่ า� งานโดยตรงกับหน่วยงานนัน้ ตอนทีเ่ ราน�าของไปให้ เราไม่ได้เอา ของที่ขายไม่ได้ไปให้ แต่ NGO partners จะบอกเราว่าเขาต้องการรองเท้ากี่คู่ และต้องการ ให้เด็กอายุเท่าไหร่บ้าง Toms จะผลิตรองเท้าจ�านวนและขนาดตามความต้องการนั้น แม้เราจะเป็นองค์กรแสวงหาก�าไร แต่ผมเชือ่ ว่าเราท�าเงินจากการท�าดีได้ ถ้า... ใจของคุณ อยู่กับการท�าดีแล้ว ทุกอย่างที่ดีจะตามมาเอง ผมเชื่อว่าคนสนับสนุน Toms เพราะพวกเขา ก็รู้สึกเหมือนกัน ทุกครั้งที่ผมเจอคนใส่รองเท้า Toms ตามท้องถนน แม้ผมจะไม่รู้จักเขาเลย ก็ตาม แต่ผมรูบ้ างอย่างเกีย่ วกับเขา ผมรูว้ า่ เขาเป็นห่วงโลกใบนี้ สิง่ นัน้ ท�าให้เรามีอะไรเชือ่ มกัน ทั้งทางความคิดและจิตใจ มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่มีพลังมาก ความส�าเร็จของผมคือการทีเ่ รือ่ งของ Toms สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนอืน่ ๆ เพราะ... เราไม่ใช่คา� ตอบของทุกอย่าง เราไม่สามารถแก้ปญ ั หาทัง้ หมดเองได้ แต่เราเป็นส่วนหนึง่ ของ การเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น และทุกคนก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ ถ้า Toms เป็นแรงผลักดันให้ คนท�าดีขนึ้ อีกนิดหน่อย ตราบใดทีเ่ รายังคงยึดถือคตินี้ โลกของวันนีต้ อ้ งดีกว่าโลกในเมือ่ วาน แน่นอน เคล็ดลับคือต้องเข้าใจเหตุผลที่จะท�าอะไรสักอย่าง ถ้าค�าตอบคือสิ่งที่ดี ก็จงท�ามัน ต่อไป เริ่มจากอะไรที่ใกล้ตัวก่อน ลองสังเกตในละแวกบ้านของคุณว่ามีอะไรที่คุณจะท�าให้ ดีขึ้นได้ไหม แล้วเริ่มจากตรงนั้น ในปัจจุบนั โซเชียลมีเดียท�าให้เราเห็นปัญหาได้งา่ ยขึน้ และ... ท�าให้หนุม่ สาวสมัยนีเ้ ห็นโลก ได้ทั้งใบ อย่างผมเคยอยู่ในลอสแองเจลิส มีชีวติ ที่สะดวกสบาย มีแสงแดด ได้ไปเที่ยวชายหาด ในขณะเดียวกันผมก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่คนทั้งโลกที่จะโชคดีเหมือนผม ความยากจนยังมีอยู่ ผมว่าเป็นหน้าทีข่ องเจเนอเรชันเราทีจ่ ะท�าอะไรสักอย่าง และนัน่ คือเหตุผลที่ Toms เติบโตได้อย่าง รวดเร็ว คนเราต้องซื้อรองเท้าอยู่แล้ว ความคิดที่เราสามารถมอบสิ่งดีๆ ได้ จากการท�าสิ่งที่เรา ต้องท�าอยู่แล้วเป็นความคิดที่มีพลังมาก โอกาสที่ดีที่สุดที่เรามีคือการได้แบ่งปันอุดมการณ์ร่วมกับคนอื่นๆ... เราเริ่มมาจาก การเป็นบริษัทอเมริกันใน Venice Beach เมื่อ 8 ปีก่อน และเติบโตในอเมริกา อังกฤษ เกาหลีใต้ และญีป่ นุ่ ตอนนีเ้ ราอยากขยายไปในประเทศอืน่ ๆ อย่างประเทศไทย ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย นัน่ คืองานของผมและเป็นสิง่ ทีก่ ระตุน้ ให้ผมอยากมาท�างานในทุกๆ วัน ผมอยากแบ่งปันเรือ่ งราว ของแบรนด์ที่จะสร้างความแตกต่างกับทุกคน
เรื่อง : เอกพล บรรลือ, พิมพ์อร นทกุล ภาพ : Toms Thailand
ถ้าพูดถึงแบรนด์ที่สร้างความแตกต่างมากที่สุดในยุคนี้ คงหนีไม่พ้น แบรนด์รองเท้าเชือ้ สายอเมริกนั ชือ่ ว่า Toms จากไอเดียเล็กๆ ทีต่ อ้ งการ เปลีย่ นโลกของชายคนหนึง่ สูก่ ารเปลีย่ นแปลงครัง้ ใหญ่ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อ ผูค้ นนับล้าน จากบทสนทนาสั้นๆ กับ Hajime Birnbaum ผู้อ�านวยการ ฝ่ายขายและการตลาดภูมภิ าคเอเชีย-แปซิฟกิ ของ Toms ท�าให้เราเข้าใจถึง แนวคิดแบบ ‘1 เพื่อ 1’ ของบริษัทที่ไม่ได้มีแค่ต�าแหน่ง CEO และ CFO อย่างบริษทั ทัว่ ไป หากแต่มตี า� แหน่ง CGO ทีย่ อ่ มาจาก Chief Giving Officer เพื่อสนับสนุนความตั้งใจของพวกเขาที่จะหมุนโลกไปในทิศทางที่ดีขึ้น
HIS WAY • Hajime Birnbaum หนึง่ ในผูร้ เิ ริม่ แบรนด์รองเท้า Toms ปัจจุบนั รับต�าแหน่งผูอ้ า� นวยการฝ่ายขายและการตลาด ภูมภิ าคเอเชีย-แปซิฟกิ เขาให้คา� จ�ากัดความว่าหน้าทีห่ ลักของเขาคือการสือ่ สารเรือ่ งราวของ Toms ให้คนในแต่ละ ประเทศเข้าใจ และแอบหวังลึกๆ ว่าเรือ่ งราวเหล่านัน้ จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายคนไม่มากก็นอ้ ย • Toms มียอดบริจาครองเท้าให้เด็กๆ 10,000 คู่ ในปีแรกที่ก่อตั้งบริษัทขึ้น จนวันนี้ในปี 2014 บริษัท มอบรองเท้าให้เด็กทั่วโลกไปแล้วกว่า 15 ล้านคู่ • Toms ก�าลังขยายธุรกิจเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเพิ่งเปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทย ที่ห้างสรรพสินค้า Central Embassy เมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์กาแฟ ในปี 2015 ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Toms ประเทศไทยได้ที่ www.facebook.com/TOMSThailand