TODAY EXPRESS PRESENTS
ISSUE 411 I 6 - 12 JUNE 2016
ปีที่ 8 ฉบับที่ 411 วันที่ 6 - 12 มิถนุ ายน 2559
EDITOR’S NOTE The News Never Stops
หลายคนเรียกสภาพการรับข้อมูลข่าวสารทุกวันนี้ว่า information overload แปลว่าเราถูกถมทับด้วยข้อมูลและข่าวสารมากจนล้นเกิน แล้วก็ลงเอยด้วย การรู ้ ใ นเรื่ อ งที่ ไ ม่ จ� า เป็ น ต้ อ งรู ้ ปวดหั ว ในเรื่ อ งที่ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งของตั ว เอง แสดงความเห็นผิดๆ ถูกๆ ในเรื่องที่รู้ไม่ลึกและรู้ไม่จริง ส่วนเรื่องที่จ�าเป็นต้องรู้ และหาค�าตอบให้ถึงที่สุด เรากลับปล่อยผ่าน และปล่อยให้เป็นเรื่องของ คนอื่นจัดการกันไป เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา กลายเป็นว่าเราไม่พร้อมจะ ปวดหัวกับเรื่องที่มีสาระส�าคัญ แต่เราพร้อมมากในการเข้าไปมีส่วนร่วม ในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตเรา เคยคิดเล่นๆ ว่า บางทีพวกเราก็รบั ข่าวสารด้วยความกลัวมากไปหรือเปล่า? เช่น กลัวจะตกข่าว กลัวจะรู้ไม่เท่าคนอื่น ราวกับว่าในยุค information age นี้ การตกข่าวส�าคัญๆ และรวมไปถึงการไม่สามารถแสดงความเห็นในเรื่อง (ทีเ่ ราคิดว่า) ‘ส�าคัญ’ ได้ทนั ท่วงทีผา่ นโซเชียลมีเดียสารพัดช่องทาง เป็นความพ่ายแพ้แห่งยุคสมัย แต่ในขณะทีเ่ รารูว้ า่ ความล่าช้าในการกระโดดคว้าข่าวสารไม่ทนั เป็นความพ่ายแพ้ เรากลับไม่รวู้ า่ แล้วผลแห่งชัยชนะของการตามข่าวได้ทันท่วงทีนั้นคืออะไรกันแน่? ความสะใจที่เราไม่ตกขบวนรถ แห่งข่าวสาร? การได้แสดงความเห็นที่อัดแน่นไปด้วยเหตุผล? (แต่ก็มีช่องโหว่มากมายที่บอกว่า เราไม่ได้รู้เรื่องนั้นมากพอ) ที่พูดเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ แต่สิ่งที่อยากชวนให้คิดก็คือ เราแยกแยะข่าวกันเป็นไหมว่า ข่าวแบบไหนที่เราควรสนใจและ ให้ค่า รวมทั้งอุทิศเวลาไปกับข่าวนั้นจนแทบจะไม่เป็นอันท�าอะไร การลงทุนความสนใจไปกับข่าว ประเภทนั้นๆ มีอะไรงอกเงยขึ้นมาให้เราเก็บเกี่ยวเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ว่าแล้วก็ลองมานั่งลิสต์ดู ก็ได้ว่า หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เราวิ่งวุ่นเป็นบ้าไปกับข่าวสารเรื่องอะไรบ้าง แล้ววันนี้ วินาทีนี้ สิ่งที่เราเคยบ้า หรือหมกมุ่นกันเป็นนานสองนาน มันหายไปไหนหมดแล้ว - ดารากับพรมแดงทีเ่ มืองคานส์ ประเด็นนีว้ นุ่ วายจนเกินพอดีไปมาก เสียงวิพากษ์วจิ ารณ์การแต่งตัว ของดารา อือ้ อึงจนกลบประเด็นความส�าคัญของเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกไปหมด แทนทีเ่ ราจะได้รู้ แง่มมุ อืน่ ๆ เกีย่ วกับเทศกาลภาพยนตร์ ก็กลายเป็นเราไม่ได้รอู้ ะไรเพิม่ เติมเลย เคยรูแ้ ค่ไหน ก็แค่นนั้ - ปลูกป่า หลายคนส่งเสียงในประเด็นนีม้ ากมาย เพราะตกอกตกใจกับสภาพป่าไม้ในประเทศชาติ เรา ทีด่ เู ผินๆ เหมือนทะเลทราย แล้วก็เลยมีกลุม่ คนทีล่ กุ ขึน้ มาแสดงความตั้งใจที่จะปลูกป่าขึ้นใหม่
จากนั้นก็อย่างที่เห็น เมื่อพายุแห่งการวิจารณ์ผ่านพ้นไป เราจะเห็นว่าสิ่งที่ เหลืออยู่คือ จ�านวนคนที่ลงไปแก้ปัญหาจริงๆ มีอยู่แค่หยิบมือ เมื่อเทียบกับ ยอดกดไลค์ กดแชร์ จ�านวนนับพันนับหมืน่ (นี่ถ้าเปลี่ยนยอดไลค์เป็นมือแห่ง การร่วมแรงร่วมใจกันจริงๆ ก็น่าคิดว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในบ้านเรา ในหลายๆ เรื่องได้มากขนาดไหน) - Cyber Bullying หรือการล้อเลียนหน้าตาของนักร้องท่านหนึง่ กับใครสักคน ในโลกออนไลน์ เรือ่ งนีถ้ า้ เอาให้ชดั มันก็คอื การไม่เคารพกันและกัน หาความสนุก ไปวันๆ กับการล้อเลียนคนอืน่ แม้เจ้าตัวทีถ่ กู ล้อเลียนจะออกอาการไม่สนุกด้วย ก็ไม่ได้ท�าให้คนล้อลดเสียงลง มิหน� าซ�้ายังไปเรียกร้องให้คนอื่นอดทนต่อ การล้อเลียนเพียงเพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะอีกต่างหาก แต่ทั้งหมดนี้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้ววงจรอันเป็นอนิจจังไม่เที่ยงแท้นี้ก็จะวนกลับมาอีก ข่าวสารวิ่งผ่านเราไปทุกวันอย่างรวดเร็ว เมื่อมันผ่านไปแล้ว สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ก็คือตัวเรา ที่ยังคงมองหาขบวนรถแห่งข่าวสารใหม่ๆ ให้กระโดดขึ้น เหมือนเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ชีวิต มีให้ยึดถือ ซึ่งส�าหรับคนกลุ่มหนึ่ง การตกขบวนรถแห่งข่าวจึงท�าให้บาดเจ็บได้ไม่แพ้การพลัดหล่น จากยานพาหนะในชีวิตจริง แม้การตกข่าวอาจไม่ถึงกับตาย แต่มันก็ท�าให้พวกเขาเจ็บหนักเพราะ อายมากเหลือเกิน ถ้าจะมีใครสักคนถามว่า ไปอยูท่ ไี่ หนมา น�า้ ไฟเข้าไม่ถงึ บ้านเหรอ ท�าไมถึงไม่รเู้ รือ่ ง? แต่เอาจริงๆ เรารู้เรือ่ งเพราะข่าวมันส่งเสียงด้วยตัวของมันเอง หรือคนคอมเมนต์มากมายส่งเสียง ของตัวเองจนกลบประเด็นข่าวที่ควรจะเป็นกันแน่ จู่ๆ เลยนึกถึงค�าพูดของ Alain de Botton ที่ว่า “People only get really interesting when they start to rattle the bars of their cages.” “ผูค้ นท�าให้คนอืน่ สนใจได้กเ็ มือ่ พวกเขาเริม่ สัน่ ลูกกรงเหล็กในกรงของพวกเขาเอง” หรือบางที... เราก็ไม่ได้กระโดดขึ้นขบวนรถแห่งข่าวที่ไหนเลย เพราะเราถูกกักขังไว้ในกรง - ในนามของ ความทันโลก และมีผู้คุมจ�านวนมากคอยหาข่าวมาให้เรากินเพื่อยังชีพไปโดยมิรู้วันคืนที่จะได้รับ การปลดปล่อยให้เป็นอิสระ วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter : @khaopan
CONTENTS GOODNEWS adB TALK
ติดตามข่าวสารดีๆ รอบโลก ประจ�าสัปดาห์ได้ในห้องข่าวแห่งนี้
INTERVIEW
เมล็ดกล้าความคิดแห่งการอนุรักษ์ป่า ของ ‘โต้’ - สุหฤท สยามวาลา หนึ่งในผู้ริเริ่มโครงการ ‘ปลูกเลย’
A MUST
สารพัดสิ่งที่เราคัดสรรมาฝากแบบ A Must พลาดแล้วจะหาว่าไม่เตือน
THE SPACE
ทอดอารมณ์ไปกับบรรยากาศ ที่กระตุ้นแรงบันดาลใจที่ Adapter Digital Agency
ล้อมวงมาฟังเบื้องหลังและสิ่งต่างๆ มากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
ALL ABOUT BIZ
งานและชีวิตที่มีความหมายของ วินฐ อุดมผลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูนไลท์ คอนซัลติ้ง จ�ากัด
HEALTH AND HEART
รวมสาระความรู้ที่จะท�าให้คุณแข็งแรง ทั้งกายและใจ
THE GUEST
นั่งคุยกับ พงศธร โกยสมบูรณ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Time Out Bangkok เกี่ยวกับ ความน่ารักของกรุงเทพฯ
LETTER ในสายตาของเรา และเชื่อว่าคนอ่านอีกหลายคน ความเป็น a day BULLETIN และ a day BULLETIN LIFE อยู่ที่รูปประกอบในแต่ละคอลัมน์สวยงาม การจัดวางหน้ากระดาษที่เห็นแล้วชูใจ เนื้อหาอ่านเพลิน หลายๆ คอลัมน์เปิดตาเปิดโลกเราให้กว้างขึ้น และท�าออกมาได้ดีจนเราอยากยัดเยียดให้ทีมงานออกนิตยสารเพิ่มอีกหลายๆ หัว หลายๆ สไตล์ ส�าหรับเรา ในฐานะคนที่ดูแลแบรนด์สินค้าอยู่ เรามอง a day BULLETIN และ a day BULLETIN LIFE ว่าเป็นบ้านที่น่าอยู่ - Pat Traiananwuttikul ส่งความคิดเห็น ค�าติ-ชม หรือข้อเสนอแนะที่มีต่อ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 หรือทางอีเมล adaybulletinmagazine@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริง และที่อยู่มากับจดหมาย เพื่อความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ในช่วงเดือนนี้จะได้รับหนังสือดีๆ จากส�านักพิมพ์ ส่งไปให้ถึงบ้าน ทีป่ รึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผูพ้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย บรรณาธิการอ�านวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สงิ ห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอีย่ ม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา บรรณาธิการบทความ ประพัฒน์ สกุณา เอกพล บรรลือ ห้วหน้ากองบรรณาธิการ วรรณวนัช ท้วมสมบูรณ์ กองบรรณาธิการ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ปริญญา ก้อนรัมย์ พิมพ์อร นทกุล นภษร ศรีวิลาศ บรรณาธิการภาพ นิติพัฒน์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร ภาสกร ธวัชธาตรี วงศกร ยี่ดวง มณีนุช บุญเรือง บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม เอกพันธ์ ครุมนต์ตรี ทัตชญา มิ่งขวัญ พิสูจน์อักษร หัสยา ตั้งพิทยาเวทย์ ศักดิ์สิทธิ์ ไม้ล�าดวน ธมนวรรณ กัวหา ฝ่ายผลิต วิทยา ภู่ทอง ทศพล บุญคง ที่ปรึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิริจรรยากุล ผู้อ�านวยการฝ่ายโฆษณา นุจนารถ สินธนาภัทร ผูจ้ ดั การฝ่ายโฆษณา ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 09-2964-1635, มนัสนันท์ รุง่ รัตนสิทธิกลุ 08-4491-9241 ผูช้ ว่ ยผูจ้ ดั การฝ่ายโฆษณา วาณี กนกวิลาศ 09-5592-9419, มาสสุภา เอีย่ มมงคลศิลป์ 08-5056-0083, ณัฐวีณ์ ประมุขปฐมศักดิ์ 08-3922-9929 ฝ่ายโฆษณาอาวุโส ธนาภรณ์ ศรีจฬุ างกูล 08-1639-1929, สุธาวัลย์ สุวรรณสิงห์ 08-1304-7070, ดวงใจ ดวงจังหวัด 08-6802-9996 เลขานุการฝ่ายโฆษณา อัจจิมา กาญจนสมทรัพย์ ผู้จัดการ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้ผลิต บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2716-6900 อีเมล adaybulletinmagazine@gmail.com เว็บไซต์ www.daypoets.com, www.godaypoets.com
DATABASE
MORE REASONS TO HUG TREES
118
ต้นไม้ขนาดโตเต็มวัย 1 ต้น สามารถ ผลิตออกซิเจนได้ถงึ 118 ปอนด์ ใน 1 ปี โดยปริมาณออกซิเจนดังกล่าว เพียงพอให้ผู้ใหญ่จ�านวน 2 คน ใช้ได้ตลอดทัง้ ปี
การรักษาดูแลป่าไม้เป็นประเด็นใหญ่ที่เราคงไม่อาจ มองข้ามอีกต่อไป เพราะปริมาณของป่าที่ลดน้อยลง อย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ท�าให้หากเราเพิกเฉยใน การดูแลป่าในวันนี้ ไม่แน่อกี ไม่กปี่ ขี า้ งหน้า เราอาจไม่มี ต้นไม้สักต้นให้ดูแลอีกเลยก็เป็นได้ ดังนั้น เราจะพา คุณไปดูเหตุผลดีๆ ทีจ่ ะท�าให้คณ ุ รูส้ กึ รักต้นไม้มากขึน้ ผ่านข้อมูลที่น่าสนใจเหล่านี้กัน
RANKING
ทีม่ า : www.10mosttoday.com
500,000,000
22.7
สถิ ติ พื้ น ที่ ป ่ า ไม้ ข องประเทศไทยจากการส� า รวจของ กรมป่าไม้ (หน่วย : ตารางกิโลเมตร)
10 อันดับประเทศที่มีพื้นที่ป่า มากที่สุดในโลก (หน่วย : ตารางกิโลเมตร)
1. รัสเซีย............................................ 7,762,602 2. บราซิล........................................... 4,776,980 3. แคนาดา....................................... 3,104,340 4. สหรัฐอเมริกา......................... 3,030,890 5. จีน...................................................... 1,821,000 6. ออสเตรเลีย.............................. 1,470,832 7. คองโก............................................ 1,219,326 8. อาร์เจนตินา............................. 945,336 9. อินโดนีเซีย................................. 884,950 10. อินเดีย....................................... 778,424
ต้ น ไม้ ข นาดโตเต็ ม วั ย 1 ต้ น สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 22.7 กิโลกรัมใน 1 ปี โดย หากนับช่วงเวลาเฉลี่ยตลอดชีวิต ของต้ น ไม้ ต ้ น หนึ่ ง พบว่ า ต้ น ไม้ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ที่รถยนต์ปล่อยออกมาในขณะวิ่ง เป็นระยะทางรวม 41,500 กิโลเมตร
250,000 ต้ น ไม้ ข นาดโตเต็ ม วั ย 100 ต้น สามารถกักเก็บ น�้ า ฝนได้ ถึ ง 250,000 แกลลอนต่อปี โดยราก ของต้นไม้จะช่วยลดการกัดเซาะหน้าดิน ป้องกัน การทับถมของตะกอนและ สารพิษในบริเวณลุ่มน�้า และช่วยลดปัญหา อุทกภัยได้เป็นอย่างดี
หากเราใช้ external drive ทีม่ หี น่วยความจ�า 1 TB จะสามารถบรรจุ ข้อมูลจากแผ่นกระดาษ ได้ ถึ ง 500 ล้ า นแผ่ น เที ย บเท่ า กั บ การน� า ต้ น ไม้ 50,000 ต้ น มาผลิตเป็นกระดาษ
ปี พ.ศ. 2557
102,285,400.00
ปี พ.ศ. 2556
102,119,537.50
ปี พ.ศ. 2551
107,241,031.25
ปี พ.ศ. 2549
99,157,868.75
ปี พ.ศ. 2548
100,625,812.50
ปี พ.ศ. 2547
104,744,360.00
ปี พ.ศ. 2543
106,319,239.47
ทีม่ า : http://forestinfo.forest.go.th
18 ปี พ.ศ. 2504 เป็นปีแรกที่ประเทศไทยมีการส�ารวจพื้นที่ป่า โดยใช้ภาพดาวเทียม โดยไทยมีพนื้ ทีป่ า่ ไม้ถงึ 53.33% ของพืน้ ที่ ในประเทศ ในขณะที่ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยเหลือพื้นที่ ป่าอยู่เพียง 31.62% เท่านั้น ที่มา : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, http://news.thaipbs.or.th, http:// forestry.about.com, www.mortonarb.org, www.graphs.net, www. mashable.com, http://environment.about.com
18 ล้ า นเอเคอร์ คื อ จ�านวนพื้นที่ป่าไม้ทั่วโลก ที่ ล ดลงในแต่ ล ะปี โดย ปัญหาหลักเกิดจากการตัดไม้ซุง 72% และการน�า ไปผลิตเป็นกระดาษ 22% ซึ่งทุกๆ ชั่วโมงจะมีป่าไม้ ถึ ง 4,500 เอเคอร์ ที่ ถูกโค่นลง
50% ข้อมูลจากส�านักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ระบุวา่ เมือ่ เปรียบเทียบการเกิดไฟป่าในประเทศไทย ช่ ว งระหว่ า งปี ง บประมาณ 2558 ประเทศไทยเกิ ด ไฟป่ า ทั้ ง หมด 4,880 ครั้ง เสียหาย 58,966.71 ไร่ ส่วนปีงบประมาณ 2559 ประเทศไทย เกิดไฟป่าขึ้น 6,479 ครั้ง เสียหาย 106,208.36 ไร่ หรือมีความเสียหาย เพิ่มขึ้นเกือบ 50%
DID YOU KNOW? เชื่อหรือไม่! รูปโปรไฟล์บอกนิสัยได้
รูปโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียบอกบุคลิกภาพของคุณได้มากกว่าที่คิด จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า รูปประจ� าตัวของคุณบ่งบอกถึงบุคลิกภาพและวิถีชีวิตของเจ้าของได้ จากการศึกษาด้วยรูปไปรไฟล์บนทวิตเตอร์ของผู้ใช้กว่า 10,000 ราย นักวิจัยพบว่าสามารถวิเคราะห์บุคลิกภาพเจ้าของแอ็กเคานต์ออกมาได้ค่อนข้างใกล้เคียง ที่มา : www.independent.co.uk
LIFESTYLE
ANIMAL ‘Shelter Me’ ซีรีส์ออนไลน์ที่จะท�าให้คุณเข้าใจว่า การอุปการะสัตว์เลี้ยงนั้นดีอย่างไร Steven Latham ผูส้ ร้างภาพยนตร์ชอื่ ดัง ได้สร้างสรรค์ซรี สี อ์ อนไลน์ทปี่ ล่อยให้ดฟู รีบนเว็บไซต์ ShelterMe.tv โดยในแต่ละตอนจะมีดารานักแสดงผู้รักสัตว์ อาทิเช่น Jon Hamm, Jane Lynch, Allison Janney, Katherine Heigl และ Edie Falco ด�าเนินรายการ “วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มจ�านวน การอุปการะสัตว์เลี้ยงคือ การเล่าเรื่องราวสุดพิเศษของพวกมัน” สตีเวนยังบอกต่ออีกว่า “เราให้คนดูซีรีส์เรื่องนี้ฟรี เพราะอยากเข้าถึงคนหลายๆ กลุ่ม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ พวกเขาแวะไปที่สถานสงเคราะห์สัตว์ในชุมชนและดูว่าจะมีอะไรที่พอจะช่วยได้หรือไม่”
ไทยคม 8 ดาวเทียม สัญชาติไทย ขึ้นสู่อวกาศ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด จาก SpaceX เป็นข่าวทีส่ ร้างความตืน่ เต้นให้กบั ชาวโลกมาสักพักแล้ว ส�าหรับบริษัท SpaceX ของเศรษฐีหวั กะทิอย่าง แอรอน มัสก์ ทีพ่ ฒ ั นาเทคโนโลยีจรวดทีส่ ามารถ บิ น กลั บ มาจอดยั ง ฐานปล่ อ ยจรวด ได้ ท� า ให้ ส ามารถน� า จรวดขนส่ ง ดาวเทียมเหล่านี้กลับมาใช้งานได้อีก และคราวนี้ ด าวเที ย มไทยคม 8 ดาวเทียมเพื่อการสื่อสารของไทยก็ได้ ใช้บริการจรวดฟอลคอน 9 ทีย่ งิ ออกจาก ฐานปล่อยจรวดที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และร่อนลง จอดที่แท่นลงจอดกลางทะเลได้อย่าง ปลอดภัย ใครสนใจลองเข้าไปชมคลิป การส่งดาวเทียมไทยคม 8 ได้ที่ www. youtube.com/watch?v=zBYC4f79iXc
rpets.com
บริกรสาว ผุดไอเดีย เสิร์ฟ วิธีช่วยชุมชน แก้ปัญหาขยะ ล้นเมือง
INNOVATION ที่มา : www.beartai.com
Melissa Tashjian บริกรสาวร้านพิชซ่า วัย 35 ปีจากรัฐวิสคอนซิน ได้ใช้เวลาว่าง หลั ง เลิ ก งานท� า สิ่ ง ที่ ไ ม่ มี ใ ครในชุ ม ชน นึกถึง โดยเธอได้ลุกขึ้นมาช่วยแก้ปัญหา ขยะล้ น เมื อ งให้ กั บ ร้ า นอาหาร บาร์ ร้านขายของ หรือแม้แต่โรงเรียนในชุมชน โดยเมลิสซาหารถขนขยะ 2 คันมาไว้ใน ครอบครอง ก่ อ นจะใช้ พ าหนะทั้งสอง ตระเวนเก็บเศษอาหารทีย่ อ่ ยสลายได้จาก สถานทีต่ า่ งๆ กว่า 55 แห่ง และน�าไปให้กบั Blue Ribbon Organics เพื่อเปลี่ยนขยะ เหล่านั้นเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยเธอเรียก โปรเจ็กต์ของตัวเองว่า Compost Crusader ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจมาจากการคุยกับ แฟนหนุม่ ของตัวเองถึงชีวติ คนขับรถขนขยะ ว่าเป็นอย่างไร ซึง่ แฟนของเธอก็แนะน�าว่า ให้เธอลองท�าเองเลยดีไหม จนกลายเป็น จุดเริ่มต้นให้เธอลงมือท�าสิ่งนี้ “เราต้องการท�าให้ผู้คน รับรู้ว่าการน�าเศษอาหารมาท�าปุ๋ยหมัก เป็นทางเลือกหนึ่ง” เมลิสซากล่าว
ที่มา : www.hufffiifingtonpost.com
หากใครได้ไปเยือนนิวยอร์กในช่วง ซัมเมอร์นี้ อย่าลืมมองหารถตู้สีขาว หรือจะตามกลิน่ ของแซนด์วชิ กริลล์ชสี ราดด้วยเมเปิลไซรัปสูตรพิเศษของ ฟู้ดทรัก Snowday เพราะนอกจาก จะได้ลิ้มลองแซนด์วิชร้อนๆ แล้ว คุ ณ ยั ง จะได้ เ ป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในการสนับสนุนอาชีพของอดีตผู้ต้องขัง อีกหลายคนด้วย Jordyn Lexton อดีตครูสอนภาษาอังกฤษในเรือนจ�า และเจ้าของไอเดียฟู้ดทรักนี้บอกว่า “ผมสังเกตเห็นเด็กหลายคนทีพ่ น้ โทษ ไปแล้วก็กลับเข้ามาใหม่ ผมได้เห็น ระบบที่ไม่เอื้อกับคนเหล่านั้น และ กิจกรรมที่นักเรียนของผมชื่นชอบ ที่ สุ ด คื อ ชั้ น เรี ย นท� า อาหารที่ มี การท�างานร่วมกัน” จากข้อสังเกต ในวันนั้นกลายมาเป็นกิจการเพื่อ สั ง คมในวั น นี้ และส� า หรั บ ใคร ที่ ส นใจ สามารถติ ด ตามความเคลื่ อ นไหวของฟู ้ ด ทรั ก นี้ ไ ด้ ที่ @Snowdaytruck บนทวิตเตอร์ ที่มา : www.hufffiifingtonpost.com
.goodnewsfo
SOCIETY ธุรกิจฟู้ดทรัก มอบความหวังใหม่ ให้กับอดีตผู้ต้องขัง
GOOD NEWS
ส�าหรับเด็ก แค่ได้เล่นสนุกก็หัวเราะยิ้มแย้มได้ทั้งวัน ถ้ายิ่งมี ของเล่นแปลกๆ อย่างฟองโฟมในงาน Love Foam Run ที่ ไต้หวัน เด็กน้อยก็ยิ้มแก้มปริอย่างที่เห็นนี่แหละ - Reuters / Tyrone Siu
ที่มา : www
เด็กนักเรียนในเมืองอีอ้ ู มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ออกมายืน อวดผลงานคัดตัวอักษรจีนอย่างภาคภูมิใจ โดยทางโรงเรียน ต้องการรณรงค์ให้เยาวชนสนใจและเคารพการคัดอักษรจีน แบบโบราณกันมากขึ้น - Reuters / Stringer
QUOTE OF THE WEEK “การที่ คสช. มองอะไรเหมือนคนตาบอด ฟังแต่เสียงคนใกล้ชิดอ�านาจ ไม่ฟังเสียงคน แล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อน มันไม่ใช่จะท�าให้ประเทศชาติถอยหลังเพียงอย่างเดียว แต่จะสร้างความขัดแย้งในอนาคตที่ไม่สามารถปรองดองได้อีกเลย” ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ, คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 29 พฤษภาคม 2559 ที่มา : www.posttoday.com
ทีม่ า : www.thairath.co.th
ห้างสรรพสินค้าว่านต้ามอลล์ทเี่ มืองหนานฉาง มณฑลเจียงซี เพิง่ เปิดตัว อย่างเป็นทางการไปเมือ่ ปลายเดือนพฤษภาคมทีผ่ า่ นมา ด้วยการตกแต่ง ในสไตล์เครื่องเคลือบที่ดูสวยงามแปลกตา - Reuters / Stringer
ไม่รวู้ า่ หน้าต่างบานนีม้ อี ะไรดี เจ้าม้าสองตัวถึงได้มาเบียดกันชะโงกหน้าออกมาจนมีสภาพแบบนี้ ใครอยากไปตามหาเจ้าสองตัวนี้ ต้องไปแถวหมู่บ้าน Pontoiraklia ประเทศกรีซเลยนะ - Reuters / Marko Djurica
SPORT
‘โปรเม’ ผงาด คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ 3 รายการ
ยังคงเดินหน้าท�าลายสถิติวงการกอล์ฟไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ส�าหรับ ‘โปรเม’ - เอรียา จุฑานุกาล ก้านเหล็กสาวชาวไทย ทีล่ า่ สุดเพิง่ ผงาดคว้าแชมป์รายการวอลวิค แชมเปียนชิป 2016 ชิงเงินรางวัลรวม กว่า 45.5 ล้านบาท มาหมาดๆ และเป็นแชมป์แอลพีจเี อทัวร์รายการที่ 3 ติดต่อกัน ซึง่ ไม่เคยมีนกั กอล์ฟ หญิงไทยคนไหนเคยท�าได้มาก่อน โดยไฮไลต์ของการแข่งวันสุดท้ายยังคงเป็นโปรเมที่รักษาฟอร์ม การเล่นทีร่ อ้ นแรงไว้ได้ เก็บ 5 เบอร์ดใี นหลุมที่ 6,13,14,16 และ 17 โดยทีไ่ ม่เสียโบกีเ้ ลย ท�าคะแนนรวม ได้ 15 อันเดอร์พาร์ 273 ทิง้ ห่างโปรกอล์ฟเจ้าถิน่ ทีไ่ ด้อนั ดับสองอย่าง คริสตินา คิม ไปถึง 5 สโตรก
adB
TRIVIA
มาตรการ ส�าหรับคนติดแชต
การเดินไปแชตไปดูจะกลายเป็น ปัญหาสากลของเมืองใหญ่ในตอนนี้ และแต่ละเมืองก็มีวิธีแก้ปัญหาต่างๆ กั น ไปในช่ ว งสองสามปี ที่ ผ ่ า นมา แต่ ส ่ ว นมากเป็ น ไปในท� า นองว่ า ถ้าท�าให้คนเลิกเท็กซ์ไม่ได้ ก็หาตัวช่วย ให้แชตกันอย่างปลอดภัยเสียเลย • ล่าสุดในเยอรมนี หลังจากเกิด เหตุการณ์เด็กสาววัย 15 ปี ถูกรถไฟชน เสียชีวติ ทีเ่ มือง Augsburg เนือ่ งจากเธอ เดิ น ข้ า มถนนขณะก้ ม หน้ า อยู ่ กั บ สมาร์ ต โฟน ทางเทศบาลเมื อ งจึ ง ตัดสินใจเพิม่ มาตรการปกป้องพลเมือง ผู้รักการแชตด้วยการติดสัญญาณไฟ กะพริ บ สี แ ดงบนพื้ น ถนนซึ่ ง จะส่ ง สัญญาณเตือนว่ารถไฟมาให้ผู้ข้าม มองเห็นได้แม้ก�าลังส่งข้อความ • ส่วนทีม่ หาวิทยาลัยยูทาห์แวลลีย์ ณ เมืองโอเรม รัฐยูทาห์ ซึ่งมีจา� นวน
นักศึกษากว่า 30,000 คน Student Life and Wellness Center ใช้วธิ แี ก้ปญ ั หาโดย แบ่งบันไดและทางเดินออกเป็นสาม เลน ได้แก่ walk, run และ text เพือ่ ให้ นักศึกษาสามารถเลือกใช้เส้นทางให้ เหมาะกับความเร็วและกิจกรรมได้ • นอกจากนั้น Bryan Brunsell นักออกแบบจากเพนซิลเวเนีย เคยมี ความพยายามที่จะแก้ปัญหานี้ด้วย การออกแบบโทรศัพท์ทมี่ กี ล้องส�าหรับ มองทาง โดยจะแสดงภาพเส้นทาง ที่ก�าลังเดินควบคู่ไปกับคู่กับหน้าจอ ของโปรแกรมแชต เพื่ อ ให้ นั ก แชต ทัง้ หลายเห็นเส้นทางทีต่ วั เองก�าลังเดิน อยูพ่ ร้อมกับโต้ตอบบทสนทนาได้อย่าง ต่อเนือ่ ง แน่นอนว่ามีหลายฝ่ายออกมา โจมตี ไ อเดี ย นี้ และยั ง ไม่ มี มื อ ถื อ เจ้าไหนรับไปพัฒนาต่อแต่อย่างใด
HUMAN RIGHTS
รัฐบาลฝรั่งเศสผลักดันแนวคิด ‘ไม่รับส่งอีเมลเรื่องงานในวันหยุด’ พฤติกรรมของคนท�างานในปัจจุบันที่เห็นได้ชัดคือ การจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา แม้ตัวของพวกเขาจะไม่ได้ อยู่ที่ท�างานและช่วงเวลานั้นจะเลยเวลาเลิกงานไปแล้ว พวกเขาก็ยังท�างานผ่านเทคโนโลยียุคดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหรือ อีเมล เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลฝรั่งเศสได้มีการยื่นเรื่องเสนอวิธีการแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าว โดยสนับสนุนให้บริษัทที่มีพนักงาน ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ออกนโยบายควบคุมการท�างานที่มากเกินไป และก�าหนดช่วงเวลาที่พนักงานไม่จ�าเป็นต้องส่งอีเมลเรื่องงาน อย่างชัดเจน แต่การรับส่งอีเมลนอกเวลางานเป็นแค่ปัญหาทางการสื่อสารเท่านั้น ปัญหาที่แท้จริงคือวัฒนธรรมการชอบแข่งขัน และหวังจะเป็นที่หนึ่งเสมอ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสก�าลังด�าเนินการยื่นตัวบทกฎหมายดังกล่าวต่อสภาล่าง โดยหวังว่าจะช่วยลด ความตึงเครียดของประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
วิศวกรเจ๋ง ค้นพบวิธี รีไซเคิลก้นบุหรี่เป็นก้อนอิฐ แม้จะฟังดูเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ แต่คุณ เชื่อไหมว่าทุกๆ ปีมีก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงบนโลก มากกว่า 6 พันล้านชิ้น หรือคิดเป็นน�้าหนัก รวมกว่า 1,200 ล้านตัน นั่นท�าให้ใครๆ ก็คง นึกออกว่าก้นกรองบุหรีน่ นั้ เป็นสิง่ ทีส่ ง่ ผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน อีกทั้งยังยากต่อ การจัดการอีกด้วย แต่ Abbas Mohajerani วิศวกรจากมหาวิทยาลัย RMIT และทีมงาน ได้คิดค้นวิธีการรีไซเคิลก้นบุหรี่ให้กลายเป็น ก้อนอิฐ และน�าไปใช้ประโยชน์ในการก่อสร้าง โดยก้อนอิฐทีส่ ร้างจากก้นบุหรีเ่ หล่านีย้ งั ช่วย ประหยัดพลังงานความร้อนในการสร้างได้ถงึ 58% โดย Abbas กล่าวว่า “ผมเคยฝัน มาหลายปี เ กี่ ย วกั บ การหาเครื่ อ งมื อ หรื อ ทางออกในการแก้ปญ ั หามลพิษจากก้นบุหรี”่ ซึ่งในที่สุดเข้าก็ท�าความฝันตัวเองได้ส�าเร็จ ผ่ า นไอเดี ย ในการจั ด การมลพิ ษ จากขยะ อย่างสร้างสรรค์ครั้งนี้ B ที่มา : www.treehugger.com ทีม่ า : www.hufffiinfi gtonpost.com
INTERVIEW
สไตลิสต์ : Hotcake ขอบคุณเสื้อผ้าจาก Lakwilai และ All Saints
สัมภาษณ์ : เอกพล บรรลือ, พิมพ์อร นทกุล ถ่ายภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
IT’S NOW OR NEVER
ขณะไล่สายตาย้อนอ่านบทสัมภาษณ์ ‘โต้’ - สุหฤท สยามวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี. เอช. เอ. สยามวาลา จ�ากัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม ‘ปลูกเลย’ เพื่อเรียบเรียงออกมาให้อ่านง่ายที่สุด มีค�าถามหนึ่ง ที่สะดุดใจเราเข้าอย่างจัง แม้ว่าในตอนที่เอ่ยปากถาม ออกไป เราจะไม่ได้คดิ อะไรมากไปกว่าแค่อยากได้คา� ตอบ ทีด่ ที สี่ ดุ ซึง่ ค�าถามนัน้ คือ “ก่อนหน้านีค้ ณ ุ มีความรูเ้ รือ่ ง ป่าขนาดไหน?” นอกจากเราจะได้ค�าตอบจากสุหฤทเพื่อเติมเต็ม บทสัมภาษณ์ตามที่ต้องการแล้ว ค�าถามนี้ยังชวนให้เรา กลับมาครุ่นคิดในมุมมองของตัวเราเองเหมือนกันว่า แล้วเราล่ะมีความรู้เรื่องป่าสักแค่ไหน? ซึ่งเชื่อว่าถ้าน�า ค�าถามนี้ไปถามคนเมืองที่คุ้นเคยกับวิถีชีวิตท่ามกลาง ตึกสูงมากกว่าหมู่ไม้ ค�าตอบที่ได้อาจไม่ต่างกันนัก เพราะ ‘ป่า’ ในความหมายของเราก็อาจจะไม่ใช่อะไร ทีม่ ากไปกว่าพืน้ ทีส่ เี ขียวทีก่ ระจุกตัวกันขนาดใหญ่ทมี่ อบ ความสบายตาเมื่อยามจ้องมอง หรือให้อากาศบริสุทธิ์ ให้เราได้สดู เข้าไปอย่างเต็มปอด ท�าหน้าทีโ่ อบอุม้ กักเก็บน�า้ และเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าสรรพสัตว์ แต่ถ้าถามลงลึก ไปถึงขัน้ ทีว่ า่ ต้นไม้ตน้ นีพ ้ นั ธุอ์ ะไร เติบโตได้อย่างไร ป่าไม้ มีกี่ประเภท ระบบนิเวศคืออะไร หลายคนอาจตอบได้ ก็ตอ่ เมือ่ ใช้เวลาเป็นวันๆ เพือ่ ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต แล้วเอาเข้าจริงเราก็คงไม่มแี รงกระตุน้ ให้อยากค้นข้อมูล เหล่านัน้ เพราะอยูด่ ๆี คงไม่มใี ครเขาถามค�าถามแบบนีก้ นั ในชีวิตจริง ไม่ต่างกันกับสุหฤทที่เคยมีความรู้เกี่ยวกับป่าแค่ น้อยนิด แต่วนั หนึง่ เมือ่ ได้เห็นภาพภูเขาหัวโล้นทีจ่ งั หวัดน่าน ความเชื่อมโยงระหว่างตัวเขากับพื้นที่แห่งนั้นก็เกิดขึ้น และน�ามาสูก่ ารรวมตัวกันระหว่างเขากับ ‘โจอี้ บอย’ - อภิสทิ ธิ์ โอภาสเอีย่ มลิขติ , ธนญชัย ศรศรีวชิ ยั , จุลพร นันทพานิช, สันติ โอภาสปกรณ์กจิ และ ดนุพล สยามวาลา จนกลายเป็น กลุม่ ‘ปลูกเลย’ ทีม่ คี วามมุง่ หวังจะพลิกฟืน้ ภูเขาหัวโล้น ที่น่านให้กลับมาเป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ระยะทางเกือบ 700 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ถึงน่าน อาจเป็นระยะทางที่ห่างไกลเกินกว่าจะรับรู้ว่ามีอะไร เกิดขึ้นที่นั่นบ้าง แต่ก็ ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ที่น่านจะไม่ย้อนกลับมาส่งผลกระทบที่ตัวคุณ ในเมื่อ โลกทัง้ โลกต่างเชือ่ มโยงกัน ซึง่ ถ้าคุณยังนึกภาพไม่ออก ว่าแล้วตัวคุณจะเชื่อมโยงอะไรกับภูเขาหัวโล้นที่น่าน บทสัมภาษณ์นี้น่าจะตอบค�าถามนั้นได้เป็นอย่างดี
อยากให้เล่าถึงกลุ่ม ‘ปลูกเลย’ ในแง่ที่ว่าคุณไปมีส่วนเกี่ยวข้องได้ อย่างไร และจุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร เริม่ มาจากสเตตัสของ วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ ซึง่ ตอนนัน้ เขาแชร์ ภาพมุมสูงของภูเขาน่าน และเป็นครัง้ แรกทีผ่ มได้เห็น พอเห็นแบบนัน้ ก็เริม่ แชร์ เริม่ รูส้ กึ กับมัน และพยายามค้นหาข้อมูลว่าจริงๆ แล้วเป็น ยังไง ปรากฏว่าป่ามันหายไปเยอะมาก แล้วก็คดิ ว่าคงมีกรณีแบบนี้ ไม่รอู้ กี กีแ่ สนไร่ แล้วเราจะไม่ทา� อะไรบ้างเหรอวะ ตอนนัน้ ก็คดิ ในใจ ปรากฏว่าก็เริม่ เกิดกระแสขึน้ มา แล้วก็ต้องขอบคุณท่านผู้วา่ ฯ น่าน ทีท่ า่ นออกมาว่าพวกเกรียนคียบ์ อร์ด แล้วก็บอกว่ามีพนื้ ทีอ่ ยู่ 5 แสนไร่ ลองมาปลูกสิ ผมก็ฉุกคิดตอนนั้นว่า เออว่ะ แค่พิมพ์อย่างเดียว แล้วต้นไม้มันจะเกิดได้ไหม หลังจากนั้น โจ้ (‘โจอี้ บอย’ - อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต) ก็บอกก่อนว่าเขาจะไปช่วย ผมก็เลย เอาวะ ถ้า อย่างนัน้ ก็จะลงเงินด้วย 5 แสนบาท เพราะคิดว่าจะต้องมีคา่ ใช้จา่ ย เรือ่ งกล้าไม้ หรือค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ ทีเ่ ราจะสามารถช่วยได้ ซึง่ ความมุง่ หวัง ที่ดีที่สุดก็คือการน�าเงินส่วนตัวออกมาช่วย เพราะรู้สึกว่าถ้าไม่ท�า อะไรเลยลูกหลานของเราจะเหลืออะไร พอโจ้เห็นก็เลยร่วมลงขันด้วย หลังจากนั้นเรื่องก็เริ่มพัฒนามาเรื่อยๆ มีการจับกลุ่มพูดคุยกับ หลายๆ คน รวมถึงเข้าไปพบท่านผูว้ า่ ฯ ด้วย เพราะล�าพังคนสองคน คงท�าอะไรมากไม่ได้ ก็เลยลองดูวา่ จะชวนใครได้บา้ ง คุณต่อ (ธนญชัย ศรศรีวิชัย) ก็เริ่มเข้ามา อาจารย์จุล (จุลพร นันทพานิช) ก็เริ่มเข้ามา พีส่ นั ติ (สันติ โอภาสปกรณ์กจิ ) ทีเ่ ป็นนักเจรจา นักประสานงาน ก็เริม่ เข้ามา กลุม่ ก็เริม่ เป็นรูปเป็นร่างขึน้ ผมก็ชวนแดน (ดนุพล สยามวาลา) น้องชายผม มาช่วยอีกคนหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นกลุ่มอะไรหรอก ก็แค่รวมตัวคนท�างาน พอท�าไปเรือ่ ยๆ ก็ถงึ จุดทีเ่ ราคิดว่าควรจะนัด กันไปที่น่าน เพื่อไปดูของจริงว่าเป็นยังไง แล้วเราจะท�าอะไรได้บ้าง คือตอนที่คุยๆ กัน รวมตัวกัน ยังไม่เคยมีใครไปน่านเลยใช่ไหม ไม่มนี ะ เราก็พดู คุยกันในกรุงเทพฯ แต่กค็ ยุ กันว่าก่อนจะท�าอะไร ก็ควรจะต้องไปรู้สึกกับมันก่อน เพราะแค่หาข้อมูลจากตัวอักษร อย่างเดียวคงไม่เวิรก์ ก็เลยนัดรวมตัวกัน พอไปถึงผมคิดในใจว่า ‘เฮ้ย มันอะไรกันวะ’ เมือ่ เทียบกับความรูส้ กึ ตอนแชร์ภาพครัง้ แรกกับตอนที่ ไปเห็นด้วยตา ความรูส้ กึ มันคูณร้อยคูณพันเท่าเลย ถ้าไม่ทา� อะไรก็คง หมดแน่ๆ แล้วจะอยูก่ นั ยังไง แล้วทีเ่ ราไปก็แค่อา� เภอเล็กๆ อ�าเภอเดียว เรายังเห็นเป็นภูเขาหัวโล้นสุดลูกหูลกู ตาขนาดนัน้ จนขีเ้ กียจถ่ายรูป เขาหัวโล้นแล้ว เพราะมันเหมือนกันไปหมด พอกลับมาก็เลยคิดว่า ไม่ไหวแล้ว จึงนัดคุยกันและตั้งกลุ่มขึ้นเพื่อจะได้บริหารจัดการให้ เป็นเรือ่ งเป็นราวมากขึน้ แล้วเมือ่ กระแสเริม่ มีแล้วเราจะปล่อยให้ดบั ไปเฉยๆ ก็ไม่ดี เราจะต้องท�าให้กระแสนีอ้ ยูต่ อ่ ไปเพือ่ ให้ราชการและ ทุกคนได้เห็น ไม่อยากจะเป็นอีกหนึ่งเคสที่ด่ากันจนขรมในเฟซบุ๊ก แล้วก็เงียบไป เพราะเราเป็นอย่างนีม้ าไม่รกู้ เี่ คสแล้ว เหมือนไม่มใี คร สนใจอะไรเลย แค่ดา่ แล้วก็จบกันไป แต่เคสนีจ้ ะต้องไม่เป็นอย่างนัน้ เราจะต้องท�าให้เป็นเรือ่ งเป็นราว และท�าให้กระแสนีอ้ ยูต่ อ่ เนือ่ ง แล้ว ค�าว่ากระแสก็ขอเถอะ มันไม่ใช่เรือ่ งลบอะไรนะ เพราะเป็นเรือ่ งทีจ่ ะ ท�าให้ทุกคนได้ตระหนักมากขึ้น จากนั้นเพจ ‘ปลูกเลย’ ก็เกิดขึ้น หลังจากนัน้ เราก็เอาความรูม้ าแชร์ให้ทกุ คนได้เห็น ก็เริม่ มีกระแสทีพ่ ดู กันว่า ไม่ต้องปลูกหรอก อยู่เฉยๆ เดี๋ยวป่ามันก็ขึ้น ก็พยายามท�า ความเข้าใจกับคนเหล่านั้นว่าจริงๆ แล้วพื้นที่ที่ทิ้งไว้เฉยๆ แล้วป่า มันจะโตขึน้ เอง ไม่ได้มแี บบเดียวทัง้ ประเทศ มันมีทงั้ ประเภททีโ่ คตรพัง ถึงรากถึงโคน มีประเภทที่ทิ้งไว้เฉยๆ ป่าก็ขึ้น หรือประเภทที่ต้อง เข้าไปแทรกแซงหน่อย และประเภททีต่ อ้ งปลูกใหม่ 100% ออกแบบ ทุกอย่างใหม่หมด อย่าไปเหมารวมว่าทิง้ ทุกอย่างแล้วอยู่เฉยๆ ก็ได้ ระบบนิเวศมันเสียไปแล้ว สัตว์ไม่มาอยู่อาศัยแล้ว ทุกอย่างที่เรา ก�าลังจะท�าก็เกิดขึ้นหลังจากการอ่านหนังสือ ได้ฟังผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับป่ามาแล้ว อยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องป่าของคุณมีขนาดไหน ปลูกห่าอะไรก็ตาย (หัวเราะ) ไม่รเู้ รือ่ ง แต่รวู้ า่ ทีบ่ า้ นต้องมีตน้ ไม้ใหญ่ มีน�้า มีบ่อปลาเล็กๆ แค่นั้น แล้วเวลาไปเดินป่า หรือขี่มอเตอร์ไซค์ เข้าป่าก็มีความสุข แต่อย่ามาถามนะว่าต้นไม้ต้นนี้ชื่ออะไร ขึ้นได้ ยังไง หรือจะต้องสัมพันธ์กับต้นอื่นๆ ยังไง ระบบนิเวศเป็นยังไงไม่รู้ รู้แค่ว่าเวลาเห็นพื้นที่สีเขียวแล้วมีความสุข แล้วจากวันนั้นจนถึงวันนี้คิดว่ารู้มากขึ้นหรือยัง ไอ้คนทีไ่ ม่เคยรู้ ยิง่ รูก้ ย็ งิ่ รูส้ กึ ว่าไม่รู้ ไม่มที างไปเทียบกับผูเ้ ชีย่ วชาญ ได้หรอกครับ แล้วเพจของผมก็ให้ความรู้แบบผิวเผิน ก็ไม่ได้รู้สึกว่า ก�าลังให้ความรูแ้ ล้วคาดหวังว่าทุกคนจะต้องเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญดูตน้ ไม้ เป็นทุกคน ไม่ต้องหรอก แค่รู้ว่าป่าแบบไหน มีกี่พันธุ์ หรือพันธุ์นี้ เขาเรียกว่าอะไรบ้างก็พอ เพราะคนเรามีหลากประเภท คนรักต้นไม้ ก็ดีนะ ก็ช่วยกันแชร์แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่รู้จักว่าต้นไม้ ต้นนี้ชื่ออะไรเขาจะไม่ได้รักต้นไม้ คนเราบ้าไม่เหมือนกัน
“เวลาทีป่ า่ ไม่อยูแ่ ล้ว ไม่ ได้หมายความแค่ปา่ ไม่อยูน่ ะ แต่หมายความว่าระบบอันเน่าเฟะมันชนะ อย่าไปมองเรื่องต้นไม้เลย อยากจะบอกทุกคนว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องต้นไม้ แต่เป็นเรื่องเบื้องหลัง ต้นไม้ ท�ายังไงให้มันอยู่ ถ้าท�าได้ก็ถาวรถึงลูกหลานเลย เพราะฉะนั้น ป่าเป็นเรื่องเล็ก เป็นแค่สัญลักษณ์ของการบอกว่าเราไม่ยอมแล้ว” แล้วการทีค่ ณ ุ จะปลูกป่าจริงๆ เป็นเรือ่ งผิดไหมทีห่ ลายคนตัง้ ค�าถาม ทั้งเรื่องระบบนิเวศ เรื่องความเป็นไปได้ ฯลฯ มันก็ไม่ผิดนะ เพราะพื้นที่บางที่ไม่ไปยุ่งกับมันก็ได้ ถ้ามันเพิ่ง จะเริ่มเสื่อมโทรม ไม่มีสารเคมีเข้าไปท�าลายดิน ไม่ได้ซึมลึกไปถึง ข้างใน แบบนัน้ ไม่เป็นไร ก็ปล่อยมันไป แต่ทเี่ ราไปเห็น บางทีเราอาจจะ ต้องช่วยกระตุน้ มันนิดหนึง่ แล้วพืน้ ทีท่ เี่ ราจะไปปลูกป่า อาจารย์เขา ก็ออกแบบพันธุต์ น้ ไม้เป็นเซตไว้ ไม่ใช่เอาต้นกล้าเด่ๆ ไปปักไว้แล้วจบ ถือเป็นการออกแบบระบบนิเวศที่เรียกว่า contour และหวังว่าใน วันข้างหน้าพื้นที่เหล่านี้จะกลายเป็นต้นแบบได้ อันนั้นคือสิ่งที่เรา อยากท�ามากกว่าการไปปักต้นกล้าแล้วก็กลับ แบบนั้นไม่มีทางท�า และไม่ชอบด้วย แล้วเราก็รถู้ งึ ขนาดว่าปลูกไป 100% มันจะไม่สา� เร็จ ทั้ง 100% หรอก เพราะ 90% มันจะตาย ทุกคนโปรดทราบว่าเรา จะได้แค่ 10% เพราะฉะนัน้ โยนลงไป 1 แสน จะได้ 1 หมืน่ แต่อย่ามอง 9 หมื่นที่เสีย ให้มอง 1 หมื่นที่ได้ แล้วก็มีวิธีหลากหลายมากที่เรา จะท�าได้ ไม่มีขั้นตอน 1 2 3 4 5 เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเถียงกันครับ มาช่วยกัน ใครมีความรู้อยากจะทดลองก็ได้หมดเลย ของผมมันแค่ 500 ไร่ แล้วประเทศไทยมีเป็นล้านๆ ไร่ ทีไ่ หนก็ได้ ขอให้ทกุ คนลงมือท�า แล้วถ้าคุณถนัดจะเอาต้นกล้าไปปลูก ถ่ายรูปลงโซเชียลฯ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยงั ได้ปลูก ถ้ามีคนดูแลต่อก็โอเค แต่อย่าไปท�าแล้วทิง้ ไว้ คือท�าอะไรก็ได้แล้วตอนนี้ มันถึงขั้นวิกฤตขนาดนั้นแล้ว ช่วงนี้ไม่ใช่ ช่วงเวลาที่จะมานั่งเถียงกันว่าพันธุ์ไม้ต้องถูกต้อง หยุดก่อน เพราะ มันโล้นจะเป็นดินอยูแ่ ล้ว ยังจะเอาอะไรอีก แต่ถา้ เราสักแต่จะท�ามัน ก็จะมีพชื เชิงเดีย่ วหรือพืชทีไ่ ม่ได้กกั เก็บน�้า ปัญหาก็อาจจะไม่ได้ถกู แก้ไขอย่างที่ควรจะเป็น เราก็จะสบายใจที่ได้เห็นพื้นที่สีเขียวแค่นั้น ทีนี้ในเมื่อเราจะท�าแล้ว ท�าไมไม่ท�าให้มันดีไปเลย จากทีเ่ ห็นผลตอบรับ คุณคิดว่าการตัง้ ค�าถามต่างๆ มันสะท้อนให้เห็น อะไรบ้าง ก็ไม่ได้สะท้อนอะไรนะ เพราะความคิดเห็นต่างๆ เราจดและเก็บ ไว้หมด ไม่ต้องไปหยิ่งผยองบ้าบออะไรหรอก เราไม่รู้ก็จดเก็บๆ ไว้ แล้วค่อยไปถามผู้เชี่ยวชาญว่าเรื่องนี้เป็นยังไง ไม่ต้องโต้เถียงกัน ไม่ต้องด่ากันทั้งสิ้น เก็บข้อมูล ฟังให้ครบทุกฝั่ง เพราะถ้าไม่ฟัง เราจะไม่ได้เรียนรูอ้ ะไรใหม่ๆ ถ้าสักแต่หหู นวกหูตงึ กับคอมเมนต์ของคน เราก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไร แต่บางครั้งก็จ�าเป็นต้องตาบอดหูหนวก เพราะไม่อย่างนั้นก็จะบั่นทอนความรู้สึกเปล่าๆ แล้วเรื่องอะไรบ้างที่ควรจะตาบอดหรือหูหนวก ก็ไม่มอี ะไรหรอก ประเภททีบ่ อกว่า คงมาท�าเอาหน้า เกาะกระแส หรือท�าๆ ไปอย่างนั้นแหละ ปลูกเสร็จก็ถ่ายรูป แล้วต้นไม้ก็ตาย แต่ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไปนัง่ อินกับเรือ่ งพวกนัน้ มากก็ไม่ตอ้ งท�าอะไรสักอย่าง พอฟังแล้วดูจะเป็นโครงการที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แล้วระหว่างนี้คุณ จะต้องเสียอะไรไปบ้างไหม ผมรูส้ กึ ว่าได้อย่างเดียวเลยนะ ไม่ได้มคี วามรูส้ กึ ว่าเสียอะไรเลย โอเค ต้องสละเวลาทีจ่ ะให้กบั ลูก เสาร์-อาทิตย์ตอ้ งไปน่าน แล้วทีจ่ ะ ขายมอเตอร์ไซค์จริงๆ ก็ไม่ใช่ไม่มเี งิน แต่เงินเก็บก็เป็นเงินของลูกไปแล้ว สูตรของผมคือ ถ้าหาเงินได้ 1,000 บาท ผมจะบ�าเรอตัวเอง 200 บาท อีก 800 บาท เก็บไว้ให้ลกู เสร็จแล้วก็เอา 200 บาท มาปรนเปรอชีวติ แล้วพอมองไปก็เห็นมอเตอร์ไซค์อยู่ 2 คัน ถ้าจะไปเอาเงินของลูก มาปลูกป่า ในขณะทีเ่ ราก็มที กุ อย่างครบก็คงไม่แฟร์มงั้ ถ้าจะท�าก็ตอ้ ง เริ่มที่ส่วนของเราก่อน นั่นก็คือที่มาของการขายรถเพื่อที่จะไปท�า เรือ่ งนี้ ส่วนเสียเวลาก็ไม่รสู้ กึ ว่าเสียมากมาย เพียงแต่หว่ งบริษทั บ้าง เพราะการท�างานก็ต้องอุทิศให้กับงาน เวลามีงานทางสังคมเข้ามา ก็ต้องพยายามบริหารจัดการให้ได้ในแบบที่ไม่มีใครเบียดเบียนใคร จนต้องเสียอะไรไป อย่างงานทีอ่ อฟฟิศก็ตอ้ งด�าเนินต่อไปได้ เลขาฯ ก็ไปแบ่งเวลาเอาแล้วกันว่าจะต้องท�ายังไงให้ผมสามารถท�าได้ทั้ง สองอย่าง ตอนนี้ก็มีหน้าที่ฟังเลขาฯ อย่างเดียว แต่ก็ต้องพยายาม จัดสมดุลไม่ให้สูญเสียอะไร ไม่ต้องบ้าป่าน่านจนกระทั่งบริษัทเจ๊ง หรือท�าแต่งานบริษทั จนป่าน่านกลายเป็นเรือ่ งเล่นๆ ก็ตอ้ งจัดสมดุลไป ตอนนีก้ ระบวนการการท�างานถึงขัน้ ไหนแล้ว แล้วคุณเข้าไปมีสว่ นร่วม อย่างไร เราแบ่งงานเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนที่ผม ต่อ ธนญชัย และ โจอี้
บอย ท�าก็คอื ในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ วิธกี ารประชาสัมพันธ์ตา่ งๆ วิธีการท�างาน แล้วเราก็มีสายประสานงาน คือคุณสันติกับดนุพล ซึ่งจะคอยประสานงานกับราชการ อบต. คนนั้นคนนี้ เพราะอยู่ดีๆ เราจะเดินเด่ๆ เข้าไปอย่างเดียวไม่ได้ แล้วก็มีอาจารย์จุลพรที่เป็น ฝ่ายวิชาการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอาจารย์จุลพรคนเดียว วันนี้ก็มีลูกศิษย์อีก 20 กว่าคน มาช่วยกันท�างานอยู่ ก�าลังเตรียม แปลงปลูก ออกแบบ เตรียมต้นกล้า มีอาจารย์ที่เขารู้จักกันเก่งๆ มาช่วยกัน แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า 6 คนนี้จะท�าทุกอย่าง เพราะ ไม่มที างเป็นไปได้ มันก็ตอ้ งอาศัยทุกๆ คน เพียงแต่เราก็เป็นแกนน�า ในการช่วยกระตุ้น ช่วยออกไอเดีย คิดว่าจะท�ายังไงให้คนตื่นตัว นอกจากนั้นก็ต้องให้ความรู้เขาด้วย การจุดกระแสถือเป็นความยากไหม จริงๆ การจุดกระแสไม่มีอะไรนะ แต่คอนเทนต์จริงๆ คืออะไร กันแน่ เรื่องกระแสนี่สบายมาก แต่เราก�าลังจะท�าอะไร คอนเทนต์ คืออะไร พื้นที่ที่เราจะไปปลูกได้มาหรือยัง ชาวบ้านว่ายังไง ต้องคิด ยังไงต่อ แล้วจะให้เขาอยูก่ บั มันได้นานๆ ยังไง เขาอยากให้พนื้ ทีก่ บั เรา หรือเปล่า แล้วนั่นมันที่ดินของเขาหรือเปล่า หรือเราจะท�างานร่วม กับเขายังไง เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของคนไม่กี่คน แต่เป็นเรื่องของ โครงสร้างของระบบที่เกิดขึ้น ตอนนี้ที่ก�าลังเป็นห่วงกันอยู่หน่อยๆ ก็คอื วิธกี ารทีจ่ ะคุยกับคนในพืน้ ที่ สร้างความเข้าใจ สร้างความมัน่ ใจ แล้วการไปเอาที่ดินมาปลูกป่ามันคือการไปเอาพื้นที่ท�ากินของเขา ถ้าเอามาแล้วเขาจะหิวไหม แล้วเราจะรักษายังไง มันมากกว่าการเอา เมล็ดพันธุไ์ ปปลูกเยอะ ทีอ่ ยากจะบอกตรงนีค้ อื การปลูกป่ามันไม่ใช่แค่ ปลูกป่า เพราะเป็นเรือ่ งปลายเหตุ แต่เราจะเลือกพืน้ ทีท่ ไี่ หน ทีแ่ บบไหน ทีม่ นั ก�าลังพิสจู น์ระบบทีก่ า� ลังพังพินาศอยู่ เราจะต้องจัดการกับมัน ยังไง แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาพูดให้เป็นเรื่องใหญ่โต เราก็แค่ตอ้ งท�าไปเรือ่ ยๆ แต่ทสี่ ดุ แล้วกว่าทีเ่ ราจะได้พนื้ ทีม่ าก็ไม่งา่ ย แล้วได้มาจะรักษายังไง มีหลายคนที่เขาท�างานแทบตายแล้วเขาก็ เอาผลก�าไรบริษัทมาให้เรา บอกว่า พี่โต้เอาไปเลย ผมเชื่อมั่นพี่ ทีนี้ ก็เครียดหนักเข้าไปใหญ่ เพราะมันเป็นผลก�าไรของเขา เงินของเขา จะใช้ยังไงให้คุ้มค่า แล้วสุดท้ายมันจะล้มเหลวไหม เวลาที่ประกาศ กองทุนไปแล้ว มีคนเอาทรัพย์สนิ ส่วนตัวเขามาช่วยแล้ว แล้วยังไงล่ะ เงินของคนอืน่ ทัง้ นัน้ นะครับ แล้วพอไปปลูกก็ไม่ได้จบแค่นนั้ เราพูดกัน ถึงระยะเวลา 3-10 ปี แต่จดุ ทีต่ อ้ งระวังคือ 3 ปีแรก หลังจากนัน้ ถ้าไม่มี ใครช่วยกัน ก็ชว่ ยกันร้องไห้แล้วกัน เพราะไม่รจู้ ะท�าอะไรไปมากกว่านี้ แล้ว ถ้าท�าไปแล้วไม่มรี าชการเห็น คนไม่สนใจ ก็อาจจะต้องลองหา วิธอี นื่ แต่เราบ๊ายบายไม่ได้หรอก เพราะถ้าเรายอมก็คอื หมด ก็ตอ้ งหา วิธีใหม่จนกว่าจะเจอวิธีที่ถูกต้อง แต่เมื่อไหร่จะส�าเร็จไม่รู้ ความเสี่ยงมีอะไรบ้าง คงเป็นความเสีย่ งเรือ่ งเอาเงินเขามาแล้ว แต่ทไี่ ปปลูกเสือกไม่โต คือปลูกขึน้ แน่ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะอาจารย์เก่งมาก แต่มนั อยู่ ไม่ทนไง อันนั้นคือความเสี่ยงที่เยอะที่สุดแล้ว เวลาที่ป่าไม่อยู่แล้ว ไม่ได้หมายความแค่ปา่ ไม่อยูน่ ะ แต่หมายความว่าระบบอันเน่าเฟะ มันชนะ อย่าไปมองเรื่องต้นไม้เลย อยากจะบอกทุกคนว่ามันไม่ใช่ แค่เรือ่ งต้นไม้ แต่เป็นเรือ่ งเบือ้ งหลังต้นไม้ ท�ายังไงให้มนั อยู่ ถ้าท�าได้ ก็ถาวรถึงลูกหลานเลย เพราะฉะนั้น ป่าเป็นเรื่องเล็ก เป็นแค่ สัญลักษณ์ของการบอกว่าเราไม่ยอมแล้ว แต่ถา้ ไม่มรี ฐั บาลหรือใคร มองเห็นเลย หรือมาช่วยกันท�า ผมก็ว่าประเทศนี้ก็น่าเศร้าแล้ว เหมือนกัน ระบบก็แย่ แล้วยังไม่มใี ครช่วยกันดูแลอีก ประชาชนต้อง มานั่งท�ากันเอง แต่ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เรายังท�าได้ แต่ถ้าพื้นที่นี้มัน ล้ม ก็อย่าไปมองที่ต้นไม้ ให้มองไปที่อะไรที่ลึกกว่านั้น แสดงว่าเราไม่ได้ก�าลังจะสู้กับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวใช่ไหม (ส่ายหน้า) มันเน่าเฟะ มันเละเทะไปหมด มันถึงได้เป็นภูเขาหัวโล้น เป็นล้านๆ ไร่แบบนี้ แล้วนีค่ อื ทีน่ า่ นทีเ่ ดียวนะจ๊ะ แล้วมีทอี่ นื่ ๆ อีกล่ะเฮ้ย ทีบ่ อกว่าเน่าเฟะ คุณพอจะอธิบายเพิม่ เติมได้ไหมว่าก�าลังพูดถึงเรือ่ ง อะไรกันแน่ หลายอย่างผมพูดไม่ได้ ผมพูดได้แค่ผลลัพธ์ ลองไปนั่งมองดิน ทีม่ นั แห้งแบบนัน้ ดูสิ นีเ่ หรอประเทศทีเ่ ขาก�าลังจะเจริญเติบโตรักษา ของให้ลกู หลานเขาน่ะ แล้วก็ไม่ตอ้ งไปโทษชาวไร่นะ เพราะรูไ้ หมว่า
บางทีท่ เี่ ขาไปปลูกไร่กนั สูงกว่าตึกใบหยกอีก ผมขึน้ ไปลิน้ จะห้อยตาย นั่นคือสันเขาที่สูงกว่าตึกใบหยกนะ มันเป็นงานที่กระจอกเหรอ แล้วถามว่าเขารวยไหม เห็นชาวไร่สักคนมีเบนซ์ขี่ไหมล่ะ เศร้าไหม แล้วเขาท�าเพื่อใครวะ ก็ต้องช่วยกันคิดต่อว่าที่ชาวไร่เขาอาเจียน ตอนฉีดยาฆ่าหญ้า ท�าไมถึงเป็นแบบนั้นวะ แล้วท�าไมเขาต้องกู้เงิน ทั้งหมดเพื่อมาปลูกข้าวโพด ต้องถามเรื่องพวกนี้ มันเป็นประเด็นที่ พวกเราต้องเริ่มตั้งค�าถาม ก็มีคนด่าเหมือนกันว่าถ้าเรายังไม่หยุด บริโภคผลิตผลพวกนี้ก็จะเป็นไปแบบนั้น ก็เข้าใจ แต่จะไม่มีวิธีการ บริหารจัดการทีถ่ กู ต้องเลยเหรอ ถ้าทุกคนมีอสิ ระ ทุกคนจะท�าอะไร ก็ได้ มันก็คงไม่ถูก แต่ก็คงจะต้องค่อยๆ เปลี่ยนไป จนกระทั่งเรา เคารพในการอยู่ร่วมกัน ในการรักษาประเทศนี้ไว้ และรักษาป่าไว้ แล้วจากการเข้าไปคลุกคลีกับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ในการประสานงานหรือพูดคุยกัน คุณมองเห็นมุมมองอะไรที่คิดว่าน่าจะ เป็นปัญหา และควรมีการปรับเปลีย่ น เขาก็ไม่ใช่ไม่เห็นนะ แต่บางครัง้ อ�านาจ ขอบเขตความรับผิดชอบ หรือกฎระเบียบทางด้านราชการก็ไม่เอื้อให้เขาท�างาน แล้วพวกเรา จะไปเปลีย่ นกฎหมาย เปลีย่ นกฎระเบียบอะไรไม่ได้สกั อย่าง เราต้อง ท� า ภายใต้ สิ่ ง ที่ เ ราพอท� า ได้ เพราะภาคเอกชนมั น ยื ด หยุ ่ น กว่ า ราชการมันมีระบบ มีขั้นตอน มีต�าแหน่ง มันซับซ้อนซ่อนเงื่อน ฉิบหายเลย เราไม่รู้ว่าตรงนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใคร ตรงนั้น เป็นส่วนของใครกันแน่ จะขอเอาต้นไม้ไปปลูกแล้วให้ชาวบ้าน มาดูแลต่อ ก็ต้องให้ผลประโยชน์เขา เพราะตอนนี้มันโล้นอยู่
ปรากฏว่าเขาบอกว่าไม่ได้ เพราะกฎระเบียบราชการบอกว่า พืน้ ทีน่ ี้ ห้ามเพาะปลูก อ้าว ป่ามันโล้นจะแย่อยูแ่ ล้ว ยังจะมานัง่ คิดกฎอะไร พวกนี้อยู่อีก แต่ถ้าท�าผิดกฎก็โดนแน่ๆ พอเรื่องมันผสมปนเปกัน แบบนี้ บางทีเราก็โกรธว่ะ ถ้าวันหนึง่ สิง่ ทีค่ ณ ุ ลงแรงลงใจ และเสียเวลาไปตัง้ เยอะ แต่ปรากฏว่า สุดท้ายทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก คุณจะรู้สึกอย่างไร ก็คงต้องกลับมาคุยกันใหม่ว่า ยังจะท�าต่อกันอีกไหมล่ะ ซึ่งผม มีความรูส้ กึ ว่า ถ้าท�าทุกหนทางแล้วจริงๆ สุดท้ายก็คงต้องยอมรับมัน ก็ต้องปรับตัวกันไป แต่อย่าเพิ่งไปพูดแบบนั้นเลย สู้ให้ถึงที่สุดก่อน ดีไหม ลองคิดดู อีกหน่อยมีลกู มีเต้า แล้วเขาไปน่าน มันจะเหลืออะไร ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรจริงๆ นะ ทั้งภูเขา สันเขา แล้วลองคิดดูว่า เวลาฝนตก น�้ามันไหลลงไปที่ไหน ซึ่งในอนาคตภูเขาเหล่านี้จะตาย ในทีส่ ดุ เพราะไม่มแี ร่ธาตุเหลืออยู่ ถูกชะล้างหมด ทีม่ นั มีน�้าป่าไหล หลาก ถามว่าน�า้ ไปไหน มันก็เข้าบ้านคุณนั่นแหละ แล้วรู้ไหมว่า 45% ของน�้าในเจ้าพระยามาจากน่านนะจ๊ะ ถ้าเราไม่แก้ไขตอนนี้ เดี๋ยวในอนาคตก็รู้ เรื่องจริงมันเป็นอย่างนั้น ซึ่งถ้าทุกคนไม่เป็นไร เราก็ไม่เป็นไร (หัวเราะ) อยากจะบอกว่า เรื่องพวกนี้มันมาถึงตัวเรา ทั้งนั้นแหละ ตอนไปดูผมก็ถามเลยว่า น�้าที่ไหลมาจากสันเขาที่สูง กว่าตึกใบหยกนี่มันจะไปอยู่ไหน แล้วมันไม่ใช่ตึกใบหยกเล็กๆ นะ มันคืออภิมหาของโคตรตึกใบหยก คือยิง่ ใหญ่มากๆ ถ้าถามว่าท�าไม ต้องเป็นที่จังหวัดน่าน เพราะที่น่าน ทุกอ�าเภอมีการท�าไร่ข้าวโพด อย่างเชียงใหม่เขาก็ยังมีปลูกอย่างอื่น ยังพอมีความเขียวอยู่บ้าง
แต่น่านนี่สิ ถ้าท�าส�าเร็จ ที่อื่นนี่สบายมาก มีหลายเรือ่ งในสังคมทีท่ า� ให้เรารูส้ กึ โกรธ แต่จริงๆ แล้วความโกรธ อย่างเดียวเพียงพอหรือเปล่า หรือเราจะเปลี่ยนความโกรธให้เป็น การกระท�าอะไรสักอย่างได้อย่างไร ก็เหมือนกับทีเ่ ราด่าคนเวลาเขาลัดคิว แต่กย็ งั เห็นแม่อมุ้ ลูกลัดคิว แต่เชือ่ ไหมว่าของพวกนีห้ รือทีเ่ รียกว่าค่านิยมทางสังคมมันจะค่อยๆ เปลี่ยน เราเรียกร้องคนที่อายุประมาณเรา คนที่ผ่านยุค 80s หรือ 90s เราผ่านยุคปฏิวตั วิ ฒ ั นธรรมมา เราผ่านแนวเพลง เราผ่านสังคม ทีก่ า� ลังเปลีย่ นแปลง คุณเคยปาร์ตมี้ า คุณเคยสุดเหวีย่ งมา คุณควรจะ เป็นแกนน�าในการสร้างค่านิยมทีถ่ กู ต้อง คุณก�าลังเริม่ มีลกู คุณต้อง สอนว่า ของพวกนีม้ นั เสกให้ดไี ม่ได้ในชัว่ ข้ามคืน มันต้องค่อยเป็นค่อยไป เป็นช่วงอายุที่ยังมีแรงที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ได้รู้สึกแก่ถึงขนาดว่า เดีย๋ วก็ตาย ทีย่ งั พอมีแรงในการผลักดันอยู่ ก็เพราะลูกคุณนัน่ แหละ ผมก็คิดอย่างนี้นะว่าถ้าลูกไปน่าน ต่อไปมันจะเหลืออะไรให้เขา ความตกใจมันอยู่ในระดับนั้น ตกลงว่าคุณอยากได้สังคมแบบไหน ถ้าวันนีค้ นทีอ่ ยูใ่ นวัยประสบความส�าเร็จไม่ได้กา� ลังอยากจะท�าอะไรเลย รับฟังไว้เลยนะว่าลูกคุณเป็นคนที่ต้องรับผลนั้นไป นั่นแปลว่ามัน ต้องเริ่มที่ตัวคุณ คุณต้องเริ่มสอนเขาก่อน ต้องคิดเสียว่า ไม่เป็นไร ใครจะท�าก็ท�า แต่ลูกคุณต้องไม่ท�า ที่ส�าคัญคือ ห้ามยอม เช่น ใคร แซงคิวต้องบอกให้เขาไปต่อคิว ท�าแบบนีไ้ ปเรือ่ ยๆ เดีย๋ วค่านิยมมัน ก็เปลี่ยน มีเหตุการณ์หนึ่ง ผมตกใจมากๆ เลย ตอนนั้นรถติดอยู่บน ทางด่วนแล้วมีรถพยาบาลมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนคงหัวเราะเยาะ
ไปแล้วว่า อย่าโลกสวย บ้าหรือเปล่า รถติดอยู่ จะให้กไู ปไหน จะไป หลบรถพยาบาลได้ยังไง แต่ลองไปดูตอนนี้สิ ต่างคนต่างเบียดกัน เพื่อให้รถพยาบาลไป เห็นไหมว่า ถ้าไม่เริ่มก็ไม่มีอะไรเกิด พอมี คันหนึ่งหลีก สองคันหลีก ทุกคันก็หลีกหมด มันเป็นสัญญาณ บอกว่า ถ้าคุณเริ่มเปลี่ยน ทุกอย่างก็จะเริ่มเปลี่ยนไปหมด เรื่องที่คุณยกตัวอย่างมาก็ถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เรายังพอจะ เปลี่ยนได้ แต่อย่างเรื่องป่าที่น้อยคนจะรู้ถึงผลกระทบที่มีต่อตัวเอง พอไม่รู้ก็เลยไม่ได้สนใจ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคุณคิดว่าจะสร้าง ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร หนึง่ คือ ไม่รู้ สองคือ มันไกล ไม่เคยเห็น จะเห็นก็แต่รปู ในคอมฯ ซึง่ แล้วมันจะเป็นอะไรนักหนาวะ แล้วถามว่ามีใครอยากให้คณ ุ รูไ้ หม ก็มแี ค่กระแสข่าวเป็นช่วงๆ แล้วก็หมดไป ผมแนะน�าว่า ลองไปดูเลย ถ้ามีโอกาส แล้วคุณจะตกใจ ส�าหรับกลุ่ม ‘ปลูกเลย’ คุณคาดหวังว่าจะให้ใครก็ได้มาร่วมปลูกป่า หรือเปล่า ก็ไม่เชิงนะ เพราะถ้าจะแห่กันไปพร้อมกันก็คงไม่ได้ ต้องมี กระบวนการจัดการต่างๆ เวลาไปปลูกจริงๆ ต้องมีการแบ่งกลุ่ม A ถึง Z กลุ่ม A เข้าแปลงนี้ กลุ่ม B เข้าแปลงนี้ เราต้องการคนกี่คน เพราะก่อนอื่นต้องบอกว่ามันเป็นพื้นที่สันเขา อย่าคิดว่าแค่ไปปัก ต้นกล้าก็จบนะ ดังนั้น จึงไม่ใช่ทุกคนที่ไปปลูกได้ มันเหนื่อยมาก ต้องมีคนไปรอเตรียมงานก่อน 5 วัน นอนกับดินกินกับทรายอยู่ตรง สันเขานัน่ แหละ ท�าธง แบ่งโซน เราเลยไม่สามารถให้ทกุ คนไปปลูก
ได้ เพราะถ้าท�าแบบนัน้ คุณภาพก็จะออกมาไม่ดี จะท�าทัง้ ทีตอ้ งท�า ให้มคี ณ ุ ภาพ ไม่ใช่สกั แต่จะปั้นดิน ถ้าอยากท�าจริงๆ คุณต้องอยาก และก็ต้องรู้สึกกับมันด้วย มันไม่ใช่แค่เอาเมล็ดอะไรก็ได้ไปโรย โรยยังไงให้ถกู ต้อง เราสอนหมด มีเวิรก์ ช็อปก่อน แล้วก็บอกจ�านวน คนที่อยากจะให้ไป มีคู่มือให้คุณเตรียมพร้อม แล้วมันจะถึงกึ๋น จะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ท�า ไม่ใช่ใครก็ได้ใช่ไหม ผมคิดว่าอย่าเป็นใครก็ได้เลย เพราะว่ามันล�าบากครับ พื้นที่ ที่ไปมา ผมเดินผมยังหอบแฮกเลย มันไม่ง่ายนะ ต้องเดินทั้งวัน ไม่มีที่บังแดด ถามว่าเวลาหิวน�้าท�ายังไง ก็ต้องบอกก่อนว่าเราก็ ไม่ได้ถงึ ขนาดจ้างบริษทั ออร์แกไนเซอร์ หรือจ้างพริตตีม้ ายืนเสิรฟ์ น�้า ถือร่มนะ มีน�้าที่บริษัทน�้าเขาเอามาให้ แต่ก็ต้องช่วยกันแบกขึ้นไป ถ้าหมดแล้วไม่มีใครไปช่วยนะ สรุปก็คือ มันไม่ได้เป็นเหมือนอย่าง ที่ ทุ ก คนคิ ด เลยครั บ เพราะฉะนั้ น เราจะบอกเรื่ อ งจ� า นวนคน แล้วขอหน่วยอึด หน่วยที่จะสามารถอยู่ด้วยกันตรงนั้นได้จริงๆ มีความเข้าใจผิดอะไรไหมทีถ่ า้ สังคมรูแ้ ล้วจะท�าให้ทกุ อย่างเดินต่อไปได้ ป่าหายนีไ่ ม่ใช่เรือ่ งของต้นไม้ ปลูกป่าก็ไม่ใช่เรือ่ งของต้นไม้ มอง ให้ลกึ กว่านัน้ ว่าท�าไมป่าถึงหาย ศึกษาข้อกฎหมาย ดูความรับผิดชอบ เพราะเราก�าลังสู้กับระบบ จะสู้กับระบบได้ก็ต้องมีข้อเรียกร้อง จากประชาชนจ�านวนมาก ต้นไม้คือสัญลักษณ์ อย่ามองที่ต้นไม้ อย่างเดียว แต่ให้มองว่าท�าไมมันเป็นอย่างนี้ แล้วถ้าไปปลูกแล้ว ยังหายอีก ก็ตอ้ งตัง้ ค�าถามว่า ท�าไม มันมีเรือ่ งทีล่ กึ มากกว่านัน้ เยอะ เรื่องที่หลายคนยังมีความสุขกับตัวเลขยอดขายเป็นหมื่นๆ ล้าน ของข้าวโพดอยู่ โดยที่อาจจะลืมไปว่า วันหนึ่งในอนาคตมันจะ ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง ท�าไมเราพูดเรื่องนี้แบบตรงๆ หรือโทษใครไปเลยไม่ได้ เพราะเราไม่รวู้ า่ ความเข้าใจเราถูกไหม เวลาคุณจะโทษใครมันต้อง มีข้อกฎหมาย ต้องมีหลักฐานยืนยันชัดเจน ไม่อย่างนั้นเราก็คงด่า ใครก็ได้ ผมไม่เอาด้วยนะ ถ้าคุณไม่รู้ คุณไม่เห็นจริงๆ แม้จะเป็นสิง่ ที่ ได้ยนิ มาซ�า้ แล้วซ�า้ อีก คุณก็ยงั ไม่รหู้ รอกว่ามันถูกต้องจริงๆ หรือเปล่า แต่นนั่ ก็ไม่ใช่เหตุผลทีเ่ ราจะโจมตีใคร เพราะทุกอย่างมันเปลีย่ นแปลงได้ บริษัทเปลี่ยนแปลงได้ หน่วยงานเปลี่ยนแปลงได้ พื้นที่ในนั้น เปลี่ยนแปลงได้ ประชาชนเปลี่ยนแปลงได้ ชุมชนเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้ น วั น นี้ ไ ม่ มี อ ะไรตายตั ว เราต้ อ งหวั ง ว่ า ทุ ก อย่ า ง เปลีย่ นแปลงได้ ถ้าทุกคนมาบอกว่า ‘เฮ้ย มันไม่มที างเปลีย่ นได้หรอก’ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นหรือเปล่า มันเปลี่ยนได้ครับ ถ้าเราคิดว่ามัน เปลี่ยนได้ เพียงแต่เราต้องช่วยกันท�า ชีวิตมันง่ายดีถ้าเราบอกว่า ทุกอย่างมันเปลี่ยนไม่ได้ ก็คงสบายดี เปลี่ยนไม่ได้ก็อยู่ไปอย่างนี้ สังเกตว่าตลอดเวลาที่พูดคุยกัน คุณจะไม่โทษใครหรือดราม่ากับ เรื่องที่เกิดขึ้นเลย เป็นความตั้งใจของกลุ่มหรือเปล่า ขีเ้ กียจทะเลาะ เราไม่ได้สร้างกลุม่ ขึน้ มาเพือ่ ทะเลาะ แต่เราทะเลาะ กับพื้นดินมากกว่า ถ้าปลูกไปแล้วไม่รอดนี่ซวยเลยนะ และผมก็ อยากรู้ว่าที่เราท�าขนาดนี้จะมีใครเห็นคุณค่ามันหรือเปล่า 500 ไร่ ทีเ่ ราอยากให้เป็นต้นแบบ จะมีใครมองเห็นไหม คือนีไ่ ม่เกีย่ วกับกลุม่ แล้วนะ ทุกคนต้องสังเกตได้เองว่า นีไ่ ม่ใช่ตน้ ไม้ มันคือระบบทัง้ หมด ของประเทศ ถ้าต้นไม้พวกนีต้ าย มันก็คอื สัญลักษณ์ทบี่ อกว่า ขนาด พวกเราสูม้ าขนาดนีย้ งั ตายเลย มันไม่ใช่เรือ่ งต้นไม้แล้ว มันคืออะไร ที่เหนือไปกว่านั้น ซึ่งสุดท้ายคนไทยจะยอมรับได้หรือเปล่า ถ้าคนอ่านแล้วอินมากจนอยากมีสว่ นร่วม เขาควรจะเริม่ จากตรงไหน หนึ่ง เริ่มจากการแสวงหาความรู้ อินเทอร์เน็ตมีเยอะแยะ เข้าไปดูยูทูบก็ได้ มีสารคดีเต็มไปหมด ลองหาสถิติต่างๆ มาดู การมีความรูส้ า� คัญทีส่ ดุ อย่าเขียน อย่าด่าโดยไม่รู้ เพราะไม่อย่างนัน้ ทุกคนก็จะได้แค่ความสนุก จริงๆ แล้วมันไม่สนุกนะ เรื่องบางเรื่อง มันสนุกจริง อย่างเวลาดาราทะเลาะกัน เฮ้ย โอเค (หัวเราะ) แต่ดาราเขาคงไม่โอเคด้วย ซึ่งเรื่องแบบนี้เราไม่ต้องมานั่งศึกษา แต่เรื่องน่าน เรื่องป่า เรื่องเศรษฐกิจต่างๆ น้องๆ ที่อ่าน ต้องจ�าไว้ เลยว่า ข้อมูลมันอยู่ที่นิ้วเลย หาสิ ดูมัน อ่านมัน เข้าใจมัน ผมเพิ่ง มาถึงบางอ้อ แล้วก็ตกใจกับข้อมูลที่เข้ามาทางเฟซบุ๊ก กับความสลับซับซ้อนทีเ่ กิดขึน้ เคยหาข้อมูลไหมว่าป่าแบบไหนทิง้ ไว้แล้วเกิด เองได้ ไม่ใช่พูดแค่ว่าป่าเกิดเองได้ พอมีความรู้แล้วก็หวังว่าจะมี คนคนหนึ่งอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเหมือนกับเรา ส่วนน้องๆ ที่มีความรู้ตรงนี้แล้วเห็นด้วยกับผม ขอให้โตขึ้นไปท�างานอยู่ใน ราชการ และหวังว่าอนาคตจะมีคนลุกขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเดี๋ยวผม ตาย คนที่อยู่ต่อก็คือน้องๆ ซึ่งพอถึงตอนนั้นก็เป็นเรื่องของพวกมึง B แล้วล่ะ (หัวเราะ)
THE QUOTES “ชีวิตเบาขึ้น คือชีวิตที่มีหลักในการด�าเนินชีวิต และสลัดในสิง่ ที่ไร้สาระออกไป เมือ่ ท�างานมาก ๆ ซื้อรถสปอร์ตก็ต้องมีคนดูแล ฝนตกรถก็เปียก รถก็ ไม่ได้ใหญ่ขึ้น แต่ถ้าปลูกต้นไม้ ฝนตกต้นไม้ จะเติบโตขึ้น แค่นี้คิดไม่ได้เหรอ ถามว่ามีหรือไม่ ที่รถเฟอรารีออกมาเป็นลูกๆ เอากันชนมาท�า เป็นแยม เอาไฟ (รถ) มาท�าน�้าหมัก ท�าไม่ ได้ แก่นสารและสาระส�าคัญไม่มีเท่า ต้นไม้”
ธนญชัย ศรศรีวิชัย
ผู้ก�ากับภาพยนตร์โฆษณา
ที่ ม า : ส� ำ นั ก ข่ ำ วอิ ศ รำ, 3 กุมภำพันธ์ 2558
“ธรรมชาติสอนทัง้ หมด เป็นแม่บทของการมีชวี ติ ก่อนทีเ่ ผ่าพันธุม์ นุษย์จะเกิด ต้นไม้มนั เกิดมาก่อน แล้ว เผ่าพันธุม์ นุษย์เราวิวฒ ั น์มาท่ามกลางต้นไม้ พอวิวัฒน์มามากๆ ก็ดันไปตัดเขาทิ้ง ทุกวันนี้ ก็ เ ลยผั น ผวนกั น ไปหมด ความผั น ผวน หลายอย่างเกิดจากการทีค่ ณ ุ ไปก�าจัดธรรมชาติ รอบตั ว เองทิ้ ง เหมื อ นกั บ เนื้ อ สมั น ที่ มี ป ่ า ทุ ่ ง ละเมาะดี ๆ ก็ ไปกั ด ทิ้ ง หมด ก็ เ ลยโดน นายพรานล่าได้งา่ ยๆ ก็เลยสูญพันธุ์ ผมรูส้ กึ ว่า สาระส� า คั ญ ของการมี ชี วิ ต ที่ ดี มั น ก� า ลั ง ถู ก มองข้ามไปเรื่อยๆ ทีละนิด เรื่องง่ายๆ เรากลับไป ท�าให้มันยากขึ้นไปหมด และในความยากนั้น มันก็มัดคอตัวเองตาย เกิดวิกฤตอย่างน�้าท่วม ก็ช่วยตัวเองไม่ได้”
จุลพร นันทพานิช
สถาปนิ ก และอาจารย์ ที่ มี แนวคิดการออกแบบและใช้ ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ ที่มา : คิด Creative Thailand, 1 ธันวำคม 2556
“ผมเข้าใจดีว่ามันต้องใช้องค์ความรู้มากมาย ในกระบวนการเพือ่ ให้ตน้ ไม้เติบโตเป็นป่ารวมทัง้ การดูแลต่อๆ มา ไม่ใช่แค่ซื้อต้นกล้าแห่กันมา ปลูก ปักลงไปเสร็จแล้วก็แล้วกัน แต่นคี่ งเป็นเพียง จุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่าที่พวกผมพอจะท�าได้เพื่อ ป่าไม้ของเรา เพื่อเมืองไทยของเรา และตอบแทน แผ่นดินในฐานะครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ที่ ไ ด้ เ ข้ า มาพึ่ ง ร้ อ นพึ่ ง หนาวใต้ ร ่ ม พระบรม โพธิสมภารบนแผ่นดินของในหลวงร่วมกับทุกคน”
‘โจอี้ บอย’ - อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ศิลปิน
ที่มา : เฟซบุ๊ก Apisit Joeyboy Opasaimlikit, 22 เมษำยน 2559
ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ‘ปลูกเลย’ ได้ที่ www.facebook.com/plookloei
“Don’t miss these things this week!”
A MUST MAGAZINE
GADGET Canon EOS 80D ถ้ า คุ ณ เป็ น คนที่ ต ้ อ งการ ความคมชัดของรูปถ่ายชนิดที่ว่า จะไม่ยอมให้เกิดภาพทีพ่ ร่าเบลอเลย แม้แต่นอ้ ย เราคิดว่าคุณควรลองมา สัมผัสกับ Canon EOS 80D กล้อง DSLR ตัวใหม่ของแคนอนกันดูก่อน เพราะกล้องตัวนี้ได้ใส่ระบบออโต้โฟกัส 45 จุด แบบ Cross-Type ที่ถึง แม้เราจะถ่ายรูปโดยใช้รรู บั แสงที่ F8 ก็ยังสามารถจับโฟกัสรูปได้อย่าง แม่นย�า ระบบกลไกของตัวกระจก และเสียงชัตเตอร์กถ็ กู ออกแบบให้มี เสียงที่เบาขึ้น เพื่อใช้ถ่ายภาพกีฬา หรือในสถานทีท่ ตี่ อ้ งการความเงียบ ได้ดขี นึ้ ตัวเซ็นเซอร์ให้ความละเอียด ของภาพที่ 24 ล้านพิกเซล สามารถ ถ่ายวิดโี อทีค่ วามละเอียด Full HD 60p และตัวจอมองภาพก็ปรับหมุนได้ หลายทิศทางเพือ่ ช่วยให้เราได้มมุ มอง ภาพแบบใหม่ๆ เปิดตัวราคาเริม่ ต้น ที่ 43,190 บาท รายละเอียดเพิม่ เติม www.canon.co.th
Vogue British June 2016 Vogue’s 100 Years คือตัวหนังสือสีทองที่ประทับอยู่บนหน้าปกสวยๆ ซึ่งได้ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ มาขึ้นปกในวาระส�าคัญของนิตยสารแฟชั่นที่เป็นต�านานเล่มนี้ หลังจาก Vogue ฉบับแรกได้ถือก�าเนิด ขึ้นที่ประเทศแม่อย่างสหรัฐอเมริกา Vogue British ก็ตามมาในปี 1916 และปีนี้ก็คือปีที่ 100 ของ Vogue British นั่นเอง นอกจากจะได้เซเลบริตี้คนส�าคัญอย่างเจ้าหญิงเคตมาขึ้นปกแล้ว เนื้อหาด้านใน ก็พิถีพิถันอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเซตพิเศษ ฟีเจอร์ชวนย้อนอดีต ทั้งทีมงาน นางแบบ ช่างภาพ ที่กลับมาท�าผลงานพิเศษเฉพาะให้กับฉบับนี้โดยเฉพาะ แม้กระทั่งหน้าโฆษณาที่สวยงามละลานตา ไปหมด บอกได้เลยว่าฉบับนี้พิเศษมากๆ เพราะร้อยปีมีหนจริงๆ
MOVIE If Cats Disappeared From the World “ก่อนดูหนังเรื่องนี้เราคิดว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับแมว เป็นหลัก แต่เอาเข้าจริงหนังพูดถึงประเด็นเรื่องความสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องของการมองข้าม ความสัมพันธ์ และปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นอยู่ของมันไป เรื่ อ ยๆ จนกระทั่ ง วั น สุ ด ท้ า ยสิ่ ง เล็ ก ๆ ที่ เ ราไม่ ส นใจ กลั บ สร้ า งผลกระทบต่ อ ชี วิ ต ของเราอย่ า งใหญ่ ห ลวง โดยเฉพาะเรือ่ งของครอบครัวทีม่ กี ารพูดถึงเรือ่ งของแม่ลกู การใช้แมวเป็นตัวเล่าเรื่อง ท�าให้การเล่าเรื่องของหนัง เรื่องนี้สามารถสื่อสารความเป็นนามธรรมให้ออกมาเป็น รูปธรรมได้ดีจริงๆ” เลือกให้โดย : ‘เอ๋’ - มณีรัตน์ ค�าอ้วน นักแสดง
EXHIBITION Rewind To The Next
ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่าว่าละอองฝนท�าให้คนโรแมนติกมากขึ้น และอาจจะท�าให้คุณเองรู้สึก อยากใช้เวลาชิลๆ ละเลียดชมงานศิลปะขึน้ มาบ้าง เราแนะน�าเลยว่าห้ามพลาดไปชมนิทรรศการ Rewind To The Next ของ Practical Design Studio ทีน่ า� ประสบการณ์ทา� งานในวงการออกแบบกว่า 12 ปี มาถ่ายทอด ผ่านชิ้นงานสองมิติกว่า 20 ชิ้น ซึ่งผ่านการคิดและออกแบบมาจากสมาชิกของ Practical Design Studio ทุกคน และผสมผสานเข้ากับวิดีโอเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทีมงานยังร่วมมือกับ Take Home Design แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย ในการปรับบางส่วนของแกลเลอรีให้เป็นสตูดิโอท�างานจ�าลองเพื่อ เพิ่มบรรยากาศในการรับชมผลงานอีกด้วย ชมนิทรรศการได้ที่ The Jam Factory Gallery ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 กรกฎาคม 2559
CONCERT 1979 Live : Bouncy June ในช่ ว งเดื อ นมิ ถุ น ายนถึ ง สิงหาคมในปีนี้ นับว่าเป็นช่วงเวลา แห่ ง ความสุ ข ของคอดนตรี เนื่ อ งจากจะมี ว งดนตรี ทั้ ง ไทย และเทศมาเล่ น คอนเสิ ร ์ ต ใน กรุงเทพฯ มากมาย 1979 Live : Bouncy June ก็ เ ป็ น อี ก หนึ่ ง คอนเสิรต์ ทีแ่ ฟนเพลงพลาดไม่ได้ เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปิน หน้าใหม่ 3 วง อย่าง TELEx TELEXs กับแนวเพลงซินธ์พ็อพ สุดล�้า, Vivid Dream กับอารมณ์ ฝันๆ และ The Proper Clan กับ ความไม่สมบูรณ์แบบทีเ่ ปีย่ มไปด้วย เสน่ห์ คอนเสิรต์ นีจ้ งึ เป็นโอกาสดี ที่ให้คุณมากระโดดโลดเต้นและ ดืม่ ด�า่ ไปกับบรรยากาศ 3 รูปแบบ จากวงดนตรี 3 สไตล์ โดยจะจัดขึน้ ในวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายนนี้ ที่ 1979 Vinyl & Unknown Pleasure ซอยทองหล่ อ 7 จ� า ห น ่ า ย บั ต ร ที่ ห น ้ า ง า น ในราคา 150 บาท
17
PLACE Siam Discovery Hybrid Retail หลังจากปิดปรับปรุงไปเกือบปี สยามดิสคัฟเวอรี ก็กลับมาในโฉมใหม่ Hybrid Retail แทนที่จะจัดโชว์สินค้าตามแบรนด์อย่างที่เราคุ้นเคย ก็กลายเป็น Lifestyle Lab ห้องทดลอง ไลฟ์สไตล์ที่สามารถจับชิ้นโปรดของแต่ละแบรนด์มามิกซ์แอนด์แมตช์ได้ทันทีเพื่อให้ลูกค้า ได้ประสบการณ์แปลกใหม่ในการช้อปปิ้ง ตามความตั้งใจของ โอกิ ซาโตะ นักออกแบบ จาก Nendo ประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งใจออกแบบให้สยามดิสคัฟเวอรีกลายเป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments สนามประลองความคิดสร้างสรรค์ที่ทุกคนสามารถมาร่วมสนุกได้
COSMETIC Tom Ford - Cream Cheek Color “บลัชออนที่เหมาะกับสีผิวจะช่วยขับให้ใบหน้าโดยรวมดูสุขภาพดีขึ้นมาทันที ยิ่งคืนไหนรู้ตัวว่า นอนน้อย เช้าวันรุ่งขึ้นแก้มต้องมา เลือดฝาดต้องมี ไม่งั้นจะชีดเซียวเกินไป ส่วนตัวเป็นคนผิวเหลือง และเข้ม แถมยังอินกับความบ่มแดด เลยคิดว่าครีมบลัช Cream Cheek Color ของ Tom Ford นี่แหละ เวิร์กสุด ใช้นิ้วแตะๆ เกลี่ยๆ เนียนแบบไม่ทิ้งคราบ ตัดสินใจซื้อไว้ทั้งสองสี Pink Sand กับ Pieno Sole เอาจริงๆ แค่เห็นแพ็กเกจจิ้งสีขาวตัดทองก็กรี๊ดแล้ว” เลือกให้โดย : ปัถยณัฏฐ์ โพธิชาพันธุ์ Deputy Digital Editor, ELLE Thailand
BOOK แอนิมอล ฟาร์ม สงครามกบฏของสรรพสัตว์ การพ่วงด้วยต�าแหน่งหนึง่ ในร้อยของวรรณกรรมดีเลิศแห่งศตวรรษที่ 20 และหน้าปกหน้าตาน่ารัก พร้อมด้วยชื่อเรื่องที่น่าเอ็นดูกว่าหน้าปก ท�าให้หนังสือเล่มนี้สามารถดึงสายตาของนักอ่านหลายคน ได้โดยที่ไม่ต้องรู้เรื่องย่อเลยด้วยซ�้า แอนิมอล ฟาร์ม คือผลงานล�าดับที่ 8 ของ จอร์จ ออร์เวล นักเขียนชาวอังกฤษ ผู้เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการวรรณกรรมจากหนังสือชื่อ 1984 มาแล้ว ภาพรวมของหนังสือเล่มนีก้ ย็ งั คงวกวนอยูก่ บั เรือ่ งการเมืองเช่นเคย แต่เป็นการเมืองเผด็จการในรูปแบบ ที่เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น โดยการให้สรรพสัตว์เป็นตัวแทนของประชาชน ใช้ฟาร์มเป็นสัญลักษณ์ ของประเทศ และย่อยเนื้อหาที่ยากเกินกว่าทุกคนจะเข้าใจให้เข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับนิทานก่อนนอน (ส�านักพิมพ์ไต้ฝุ่น / ราคา 135 บาท)
GIVE บริจาคช่วยน้องๆ ที่ประสบเพลิงไหม้
COLLECTION Matter Jumpsuit Collection เรารู้ว่าสาวๆ หลายคนติดใจในชุดจัมพ์สูท ที่จะใส่แบบทางการก็เก๋ ใส่แบบล�าลองก็สบายตัว เราจึงขอแนะน�าจัมพ์สทู คอลเล็กชันล่าสุดจาก Matter แบรนด์นอ้ งใหม่ทปี่ ระสบความส�าเร็จในการน�าเอา ไลฟ์สไตล์มาจับใส่ในเสื้อผ้าเพื่อตอบสนองสาวๆ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ของทางแบรนด์ โดยคอลเล็กชันนี้จะมีจัมพ์สูททั้งหมด 3 สไตล์ ในลายผ้าที่แตกต่างกัน 5 แบบ ที่เป็นผ้าย้อมแบบพิเศษที่หาได้ยาก เข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่ www.matterprints.com หรือ www.facebook.com/matterprints รับรองว่ายังมีสินค้าเก๋ๆ น่าสนใจให้คุณได้หยิบจับกันอีกมากมาย
จากเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียน โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาในช่วง ปลายเดือนที่ผ่านมา ท�าให้เวลานี้ มีเด็กๆ จ�านวนมากที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยผูท้ สี่ นใจ อยากช่ ว ยเหลื อ สามารถบริ จ าค สิง่ ของและเสือ้ ผ้าส�าหรับเด็กมาได้ที่ โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา เลขที่ 9 หมู ่ 11 ต.เวี ย ง อ.เวี ย งป่ า เป้ า จ.เชียงราย 57170 หรือบริจาคเงิน ช่วยเหลือผ่านชื่อบัญชี ‘ช่วยเหลือ น้ อ งผู ้ ป ระสบภั ย โรงเรี ย นพิ ทั ก ษ์ เกียรติ อ.เวียงป่าเป้า’ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาเวี ย งป่ า เป้ า เลขที่ บั ญ ชี B 020072480782
THE SPACE เรื่อง : ปริญญา ก้อนรัมย์ ภาพ : วงศกร ยี่ดวง
THE DYNAMICS OF CREATIVITY ทุกทีที่มีโอกาสได้ ไปเยือนออฟฟิศที่มีการออกแบบเจ๋งๆ เราก็รู้สึกอยากทอดเวลา ในการสัมภาษณ์ เพื่อพูดคุยถึงที่มาที่ไปและไอเดียที่ซุกซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ของพื้นที่ ให้มากขึ้น เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ได้เข้ามานั่งคุยกับ อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ Managing Director ของ Adapter Digital Agency ในบรรยากาศของออฟฟิศ ที่กระตุ้นแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยู่ได้อย่างดีเยี่ยมแบบนี้ “จริ ง ๆ ส่ ว นใหญ่ ค นที่ ท� ำ งำนที่ นี่ จ ะเป็ น คน เจเนอเรชันวำยและซี เรำเลยอยำกได้ออฟฟิศที่ เหมือนเวลำเขำไปแฮงก์เอำต์ นัง่ คุยงำนกันไม่เครียด มีหลำยๆ มุมให้ได้นั่งกัน ก็เลยออกแบบเป็นแนว อินดัสเทรียลลอฟต์ แล้วเบรกด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ดูอบอุ่นมำกขึ้น ภำพรวมจะเหมือนร้ำนกำแฟ โล่ ง ๆ กว้ ำ งๆ หรื อ สเตเดี ย มตรงกลำงออฟฟิ ศ จริงๆ ก็ให้ควำมรู้สึกเหมือนโคเวิร์กกิ้งสเปชเลย” อรรถวุฒิเล่ำถึงควำมท้ำทำยในกำรออกแบบ ว่ำนอกจำกควำมสวยงำมที่เป็นสิ่งที่ต้องกำร หัวใจ ส� ำ คั ญ ที่ ข ำดไม่ ไ ด้ คื อ กำรออกแบบให้ อ อฟฟิ ศ เหมำะกับกำรท�ำงำนของระบบเอเจนซีด้วย “เรำเริ่มจำกฟังก์ชันของกำรท�ำงำน แผนกไหน ต้องร่วมงำนกันบ่อยๆ ก็ออกแบบที่นั่งให้อยู่ร่วมกัน หรือส่วนที่เรำคิดว่ำมันเป็นประโยชน์มำกๆ อย่ำง สเตเดียม ซึง่ พืน้ ทีต่ รงนัน้ ท�ำเป็นห้องประชุมใหม่กไ็ ด้ แต่เรำเลือกท�ำออกมำเป็นสเตเดียม ซึ่งก็เวิร์กจริงๆ เพรำะเป็นที่ที่เรำสำมำรถเชิญวิทยำกรมำพูดคุยให้ พนักงำนฟังได้ทุกเดือน อีกอย่ำงคือกำรเจอปัญหำ ห้องประชุมไม่พอ เรำมีทีมงำน 80 คน ต้องมำนั่ง คุยงำนกันเป็นกรุ๊ปย่อยๆ เยอะมำก ซึง่ เรำออกแบบ ให้ ที่ นี่ มี ที่ นั่ ง คุ ย ได้ ก ว่ ำ 10 มุ ม เพรำะถ้ ำ ไปรอ ห้องประชุมนี่คงไม่ได้ประชุมกันพอดี (หัวเรำะ)” อี ก จุ ด เด่ น ของออฟฟิ ศ แห่ ง นี้ คื อ กำรที่ พื้ น ที่ ส่วนใหญ่ได้รบั กำรออกแบบให้มคี วำมโล่งโปร่ง ไม่มี พำร์ทิชันกั้นระหว่ำงโต๊ะของพนักงำน ซึ่งอรรถวุฒิ ให้ เ หตุ ผ ลว่ ำ กำรออกแบบออฟฟิ ศ เช่ น นี้ ท� ำ ให้ ทุ ก คนในออฟฟิ ศ พู ด คุ ย กั น ง่ ำ ยกว่ ำ ดู ส บำยตำ ไม่อึดอัด และไม่ได้ดูเป็นออฟฟิศแข็งๆ เกินไป “เรำคิดว่ำดีเอ็นเอของ Adapter Digital Agency คือกำรไม่หยุดพัฒนำ เมือ่ เข้ำมำในออฟฟิศ นอกจำก
โทนสีทดี่ อู บอุน่ ก็ยงั ให้ควำมรูส้ กึ ทีม่ คี วำมเคลือ่ นไหว อยูด่ ว้ ย มีสแี ดงเป็นหลัก และถ้ำสังเกตให้ดี ทีน่ จี่ ะมี ไฟอยู่เกือบทุกจุด เหมือนเป็นตัวกระตุ้นควำมรู้สึก ซึ่งผมคิดตลอดว่ำบรรยำกำศของออฟฟิศส�ำคัญ ต่อกำรท�ำงำน กำรได้อยู่ออฟฟิศที่สบำยใจนั่นคือ ส่วนส�ำคัญในชีวติ กำรท�ำงำนมำกๆ และถ้ำน้องๆ เขำ ได้อยู่ออฟฟิศแล้วเป็นตัวเองนั่นคือสิ่งที่ดี เพรำะ B แสดงว่ำเขำมีควำมสุขกับออฟฟิศของเรำ”
INSPIRED BY SPACE
มุมโปรดของพนักงานในออฟฟิศ - เป็นมุมเคำน์เตอร์บำร์ดำ้ นหน้ำ เพรำะ
จะชอบไปแฮงก์เอำต์กนั หลังเลิกงำน
ช่วงเวลาทีอ่ อฟฟิศมีชวี ามากทีส่ ดุ - ผมชอบทีส่ ดุ คือตอนเย็น ทีท่ กุ คนงำน
เริม่ เบำแล้ว ก็จะเริม่ มำชิลกัน
Speaker คนล่าสุดทีก่ า� ลังจะเชิญมาพูด ให้แรงบันดาลใจ - พีส่ รุ ชัย illusion จะมำพูดเรือ่ งกำรสร้ำง
แรงจูงใจในกำรท�ำงำน
WHAT เปิดเบื้องหลังเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ที่มีมากกว่าแค่การเดินพรมแดงเท่านั้น
สัมภาษณ์ : วรรณวนัช ท้วมสมบูรณ์, ปริญญา ก้อนรัมย์
WHERE
WHO
นั่งคุยท่ามกลางบรรยากาศยามค�่าคืน ที่ Freitag Pop Up Store and Cafe
4 บุคคลที่เดินทางไปสัมผัสประสบการณ์สุด หายากที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งล่าสุด
BTALK MONTHLY COLUMN
BEYOND CANNES’S RED CARPET
ถ่ายภาพ : วงศกร ยี่ดวง
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์นั้นมีมานานเนิ่น แต่ค�าว่า ‘ไปคานส์’ นั้น เป็นไปได้ว่าเพิ่งจะ ป๊อปปูลาร์ ในบ้านเราเมื่อดาราสาวชาวไทยได้รับเชิญให้แต่งตัวสวยไปร่วมเดินเฉิดฉายบน พรมแดง และท่ามกลางกระแสชื่นชม วิจารณ์เสื้อผ้าหน้าผม ไปจนถึงการท�าหน้าที่ ‘ตัวแทน ประเทศไทยไปเมืองคานส์’ ของสาวสวย เราแทบไม่เห็นข่าวในด้านอื่นๆ เกี่ยวกับเทศกาล ภาพยนตร์ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ งานหนึง่ ของโลก มากไปกว่าในสือ่ เฉพาะด้านเกีย่ วกับวงการภาพยนตร์ เท่าไหร่นัก น�ามาซึ่งความสงสัยว่า คนไทยที่ไปเมืองคานส์มีใครอีกบ้าง ท�าไมถึงได้ ไป และไปท�า อะไร เราจึงเสาะหาคนไทยที่ได้ ไปเมืองคานส์อีกสี่คน มีทั้งที่เพิ่งได้ ไปเป็นครั้งแรก และไปมาแล้ว กว่าสิบครั้ง มาร่วมพูดคุยถึงเทศกาลระดับโลก และแน่นอน พรมแดงผืนส�าคัญนั้นด้วย
adB: ค�ำถำมแรกคือ ใครที่สำมำรถไปคำนส์ ได้บ้ำง และไปท�ำไม
ก้อง : คนทัว่ ไปดูหนังทีค่ านส์ไม่ได้ เพราะเป็นเทศกาลปิด คานส์เป็นงานฉายหนังทีบ่ วก เทรดแฟร์ เป็น industry event ไม่ใช่ public event เดินไปหาซือ้ ตัว๋ ไม่ได้ เพราะฉะนัน้ คนทีอ่ ยู่ ในงานทุกคนก็จะต้องเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการหนัง ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่เทศกาล ในโลกที่เป็นแบบนี้ เพราะเขาถือว่าเป็นงานใหญ่ มีเพาเวอร์ ใครๆ ก็ง้อ คานส์เป็นเหมือน โอลิมปิกของวงการภาพยนตร์ เป็นงานที่จะบอกว่าภาพยนตร์คืออะไรในโลก ถ้าภาพยนตร์ คือศิลปะ เต๋อกับนุชชีก่ ค็ อื ศิลปิน ภาพยนตร์คอื การค้า ถึงได้มเี ซลส์และดิสทริบวิ เตอร์เข้ามา เกี่ยวข้อง ต่อราคากันเหมือนซื้อเหล็กซื้อเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้น หนังก็เป็นทั้งศิลปะ การค้า หรือ อย่างที่ดาราไปเดินพรมแดง หนังก็คือแฟชั่นนั่นเอง แต่ส�าหรับสื่อ เราต้องเป็นทั้งสองอย่าง เพราะเราน�าเสนอทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และธุรกิจ ดังนั้น คานส์จึงเป็นที่รวมทุกองค์ประกอบ และความหมายของหนัง แต่ส่วนใหญ่ที่สุดในความรู้สึกของผมก็คือส่วนที่ประกวดหนัง และตลาดภาพยนตร์ อนุชา : ไปคานส์นไี่ ม่ได้ไปเดินพรมแดง แต่ไปซูเปอร์มาร์เก็ตนะ (หัวเราะ) ปีนเี้ พิง่ ไปปีแรก ในฐานะฟิล์มเมเกอร์ เอาหนังที่ยังเป็นโปรเจ็กต์ที่ยังไม่ได้สร้างไปหานายทุน ไปเจอ sale agent, investor, producer, programmer ไปสร้างคอนเน็กชัน คนที่สนใจก็จะนัดเข้ามา ถ้าไป เจอตัวแทนจ�าหน่าย เราก็จะคุยว่าสนใจโปรเจ็กต์นี้ไหม ถ้าเจอผู้อ�านวยการสร้าง ก็จะคุยว่า อยากร่วมทุนไหม จะลงเงิน หรือจะช่วยในทางอื่น ถ้าเป็นนายทุน ก็คุยว่าเขาสนใจจะลงทุน ในโปรเจ็กต์นไี้ หม เขาจะได้ผลตอบแทนอย่างไร อีกคนทีต่ อ้ งเจอคือ Film Fund เพราะการท�า หนังอิสระบางทีก็ไม่ได้พึ่งพานายทุนที่ต้องตอบแทนกันด้วยเรื่องก�าไร-ขาดทุนอย่างเดียว แต่ต้องการนายทุนที่เป็นลักษณะให้เปล่าด้วย เช่น World Cinema Fund เราก็ต้องพรีเซนต์ ว่าท�าไมเราถึงท�าโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา เขาก็จะเช็กว่างานเรามี คุณภาพไหม มีใครเข้ามาร่วมด้วยบ้าง ท�าไมต้องขอเงิน ท�าไม หาเงินไม่ได้ มีคนบอกตั้งแต่ก่อนไปว่า นุชชี่ ไปครั้งนี้เธอจะ ไม่ได้อะไรหรอก แต่เธอก็ไปให้เขาเห็นหน้า ให้เขารู้ว่าเธอ ไม่ได้เป็นคนร้าย คนโกง ที่จะมาเชิดเงินเขาหนี เพื่อต่อไป เราจะได้มโี อกาสท�างานกับเขาได้ ซึง่ กลับมาเราก็ตอ้ งท�างานต่อ ท�าหนังเสร็จแล้วก็ส่งให้เขาดู สัณห์ชัย โชติรสเศรณี นวพล : ผมกับพีน่ ชุ ชีไ่ ปกับกระทรวงวัฒนธรรมในโครงการ ไปเทศกาลหนั งเมืองคานส์มาแล้ว : Thai Film Pitching ซึง่ ผมกลับมาแล้วคนชอบถามว่าเป็นไงบ้าง 3 ครั้ง ได้หรือเปล่า (หัวเราะ) เหมือนเราไปประกวดชิงทุน แต่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้น เหมือนไปเจอกันไว้ก่อนมากกว่า เพราะในโลก อาชีพ : รองผู้อ�านวยการ หอภาพยนตร์ ของหนังอิสระมันมีคนเกีย่ วข้องเยอะมาก ต่อให้เคยเจอกันแล้ว (องค์ การมหาชน) หัวหอกในการบูรณะฟิลม์ บางทียงั ลืมเลย อย่างผมไปเจอโปรแกรมเมอร์ทเี่ ขาดูแลเรือ่ งทุน ภาพยนตร์ ไทยเก่าแก่อายุกว่า 60 ปี อย่าง พอเขาฟังโปรเจ็กต์แล้วสนใจ เขาก็จะให้เราส่งเรื่องขอทุนไป สั น ติ - วี ณ า ซึ่ ง เรื่ อ งราวความประทั บ ใจ ตามขั้นตอนปกติแหละ แต่อย่างน้อยส่งแล้วอีเมลไปบอกเขา ในการตามหาท�าให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับ หน่อย เขาอาจจะหาเจอง่ายขึ้น เพราะอย่างบางคนเขาก็เคย การเลือกไปฉายใน Cannes Classic ปีนี้ ดูหนังที่ท�า แต่ไม่เคยเจอเรา พอได้เจอก็อาจจะรู้สึกเป็น เพื่อนกันขึ้นนิดหนึ่ง สัณห์ชยั : ผมไปในฐานะตัวแทนหอภาพยนตร์ เนือ่ งจาก
ปีนเี้ ราบูรณะภาพยนตร์เรือ่ ง สันติ-วีณา และได้รบั คัดเลือกให้เข้าฉาย ในสาย Cannes Classic สันติ-วีณา เป็นภาพยนตร์ที่ฉายตั้งแต่ปี 2497 แล้วก็มีการพูดถึงอยู่เสมอว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล ต่างประเทศในสมัยนั้น แล้วก็มีข่าวว่าฟิล์มต้นฉบับเสียหายตอนที่ส่ง ฟิล์มไปเก็บที่อังกฤษ หนังก็เลยสูญหายไป แต่เวลาเราได้ข่าวว่าหนัง ไปฉายที่จีนหรือรัสเซีย เราก็จะฝากนักวิชาการต่างชาติที่รู้จักกัน ช่วยหาให้เสมอ แล้วไปเจอฟิล์มเสียงก่อนที่ BFI สถาบันภาพยนตร์ อังกฤษ และมีฟิล์มภาพที่รัสเซีย แต่สุดท้ายเราก็พบว่าฟิล์มภาพ ต้นฉบับถูกเก็บอยูท่ หี่ อภาพยนตร์องั กฤษนัน่ แหละ เพียงแต่ดว้ ยระบบ การจัดเก็บแยกตามชนิดของฟิล์มท�าให้ซีเรียลนัมเบอร์ของฟิล์มภาพ ตกหล่นไปจากระบบ
adB : เท่ำที่เคยเจอมำ คนไทยมีควำมเข้ำใจผิดเกี่ยวกับ เทศกำลภำพยนตร์เมืองคำนส์อย่ำงไรบ้ำง
นวพล : ส�าหรับผม ค�าว่าคานส์เพิ่งมาบูมเมื่อสองสามปีนี้กับ ชมพู่นี่แหละครับ (หัวเราะ) คนรู้จักออสการ์ ขณะที่คานส์นี่แค่คุ้นๆ แต่พอรู้จักก็รับรู้ในเชิงแฟชั่นมากกว่า ว่าที่นี่มีพรมแดง คนมาเดินจากทั่วโลก ผมว่าหลายคนอาจจะ ตกใจด้วยซ�า้ ทีไ่ ด้รวู้ า่ คานส์มตี ลาดซือ้ ขายหนังทีใ่ หญ่ขนาดนัน้ เพราะเท่าทีเ่ จอคนทีร่ จู้ กั คานส์มากขึน้ มาอีกหน่อย ก็มกั จะรูส้ กึ ว่าเป็นเทศกาลศิลปะเพียวๆ เหมือนลืมไปแป๊บหนึง่ ว่าหนังใช้เงินท�า (หัวเราะ) มีนักธุรกิจเต็มไปหมด เวลาเรานั่งอยู่ในคาเฟ่ คนที่อยู่รอบๆ ตัวต้องท�าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับหนัง ไม่ซื้อขายก็มาจัดจ�าหน่าย มันมีเรื่องธุรกิจเต็มไปหมด ในมิติอื่นๆ ผมว่าคนยังเข้าใจน้อยมาก ไม่รู้ว่า สี่สายที่แบ่งกันมันคือยังไง Un Certain Regard คืออะไร Directors’ Fortnight กับ International Critic Week ใช่อันเดียวกันหรือเปล่า มันเลยเกิดปัญหาว่า Short Films Corner หรือส่วนที่คนจ่ายเงินเข้าไป ดูได้นี่ศักดิ์ศรีมันเท่ากันไหม มันมีความงงๆ เอาจริงๆ ขนาดเราตามเองเรายังต้องตั้งสติว่าสายนี้ ต่างกับสายนี้ยังไง แต่ถ้าได้ไปจะเห็นภาพ ก้อง : คนที่ออฟฟิศเราบางทีก็ไม่เข้าใจนะ หรือแม้แต่เพื่อนก็จะบอกว่า ดีจัง ทีหลังเบื่อแล้ว ให้เราไปบ้าง เฮ้ย เขาคิดว่ามันง่ายใช่ไหม เขาคิดว่าใครไปก็ได้ คิดว่าไปนีม่ นั สบายเหรอ ดูหนังเรือ่ งแรก 8 โมงครึ่ง รอบสื่อ ตื่นเช้ากว่าอยู่บ้านอีก ต้องตื่น 7 โมงครึ่งหรือก่อน กินข้าวแต่งตัวเดินออกมา เรื่องสุดท้ายบางที 4 ทุ่ม เที่ยงคืน แล้วกลับโรงแรมไปเขียนอีก กว่าจะได้นอนบางทีตีหนึ่งตีสอง โอเค มันก็สนุก แต่มันก็เหนื่อยมาก เช้าถึงดึกเป็นเวลาสิบเอ็ดวันมันเหนื่อยมากนะ อีกเรื่องคือ คนที่พูดว่า
29
ที่ไหนมาก่อน คนก็จะนั่งรถมา จอดเทียบแล้วเดินพรมแดงขึ้นไป คนสุดท้ายที่จะเดินบน พรมแดงนี้คือดาราและผู้ก�ากับของหนังเรื่องนั้น แล้วที่คานส์ก็จะมีประธานจัดงานสองคน ยืนอยู่ที่หัวบันไดด้านบน แล้วคนเหล่านี้ก็จะค่อยๆ เดินขึ้นไป เหมือนขึ้นวิหารน่ะ แล้ว สองคนนัน้ ก็จะเหมือนโป๊ปทีร่ อรับ จูบมือแล้วก็เดินเข้าไป ซึง่ ทุกคนยืนรอปรบมือให้กอ่ นฉาย ผมรูส้ กึ ว่ามันศักดิส์ ทิ ธิ์ เหมือนพิธกี รรมทางศาสนาบางอย่าง ฉะนัน้ เชือ่ ว่าส�าหรับคนท�าหนัง ทีต่ อ่ สูฟ้ นั ฝ่ามามากมายคงขนลุก และรูส้ กึ ว่าเขาให้เกียรติเรามาก เพราะฉะนัน้ ต่อให้ทา� หนัง เกี่ ย วกั บ คนยากจนในสลั ม ประเทศโลกที่ ส าม มาคานส์ ก็ ต ้ อ งแต่ ง ทั ก ซิ โ ด (หั ว เราะ) แต่ดาราที่ไม่เกี่ยวข้องกับหนังและคนอื่นๆ ที่เดินก่อนก็มาเพื่อสร้างสีสัน หรืออาจจะเป็น สปอนเซอร์ของงานที่พาดารามาร่วมเดินด้วย
adB : มูลค่ำของพรมแดงคืออะไร มีมำกแค่ ไหน
ก้อง ฤทธิ์ดี
ไปเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว : 14 ครั้ง อาชีพ : LIFE Editor ของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post นั ก วิ จ ารณ์ ภ าพยนตร์ ชาวไทยขาประจ�าที่ ไปเข้าร่วมเทศกาลหนัง เมืองคานส์อย่างต่อเนือ่ งแทบทุกปี
อนุชา : สื่อมวลชนมันเยอะไง ทุกคนก็อยากมาอยู่ใน วันที่หนังจะฉายรอบปฐมทัศน์ ที่ไหนที่มีสื่อจับจ้องก็จะมี คุณค่าขึ้นมาทันที เพราะเดินสามสิบวินาที ภาพไปทั่วโลก ดังนั้น จึงถือโอกาสนี้ขายของ ขายแบรนด์ ไปให้ครบ ก้อง : เมื่อก่อนไม่ได้เดินกันบ้าระห�่าขนาดนี้ แต่คานส์ มันเป็นผลผลิตของความส�าเร็จของมันเอง มันก็ใหญ่ขึ้น เรื่อยๆ จนดูเทอะทะ แล้วก็มีการตลาดมาเกี่ยวข้องมากขึ้น อย่างเราอยู่เมืองไทยก็รู้ว่าชมพู่ไป แต่ถ้าเป็นเมืองจีนเขาก็ จะรู้ว่ากงลี่ไป มีดาราตุรกี อินเดีย และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เราก็ไม่เห็นข่าว เพราะไม่เกี่ยวกับเรา สปอนเซอร์ก็จะได้ beneffiifit ตรงนี้ไปขยายต่อ เช่น ประชาสัมพันธ์หรืออื่นๆ สปอนเซอร์ก็ได้ดาราที่มาเป็นสีสันบนพรมแดง นวพล : เห็นด้วยกับที่พี่ก้องบอกว่า ปัจจุบันนี้งานเริ่ม หรูหรามากๆ ถ้าแบรนด์สกั แบรนด์หรือนางแบบสักคนไปผูก กับตรงนั้นได้ มันอัพเลเวลได้ทันที
หนังได้ไปคานส์ (เน้น) ได้-ไป-คานส์ แปลว่าเขาเชิญไป ซึ่งแปลว่าหนัง มีประมาณห้าหกสิบเรื่องต่อปี เรียกรวมว่า Offfiificial Selection สายใหญ่ ที่สุดคือ Competition ที่บอกว่าเป็น elite ของวงการท�าหนัง ที่เหลือ จัดเป็นสายรองหมด ก็จะมีชอื่ เรียกแปลกๆ เยอะแยะ เช่น Un Certain Regard หรือ Special Screenings หรือ Out of Competition แต่ใน March du Film หรือตลาดซื้อขาย จริงๆ แล้วมีหนังอีกหลายพันเรื่อง เพราะใครจะเข้ามาขายก็ได้ แต่คุณไม่สามารถพูดได้ว่า หนังเราไปคานส์ เพราะคุณไม่ได้รับเชิญ แต่จ่ายสตางค์ซื้อพื้นที่ตั้งบูธ อนุชา : หลักๆ เลยก็คือเข้าใจว่า ไปคานส์คือต้องเอาหนังไปประกวด แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมี ส่วนอื่นๆ ด้วย และการที่โฟกัสของงานไปตกที่พรมแดงอาจเพราะแฟชั่นเป็นเรื่องที่แมสกว่า บางคน อาจจะไม่ได้สนใจหนัง แต่สนใจความงาม ว่ามันเริด มันสวย
ก้อง : ไปท�าอย่างอื่น (ทุกคนหัวเราะ) อนุชา : จริงๆ มันสนุกนะ เพราะดาราจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเรา อยากเจอใครก็ดตู าราง แล้วไปรอ แต่ถา้ ได้ดหู นังรอบกาลา เราก็จะได้เดินพรมแดงตามหลังตัวแทนสปอนเซอร์เข้าไป นวพล : ผมอยู่พรมแดงครับ ผมชอบ (หัวเราะ) ผมคิดแบบบ้านๆ ว่า กูคงไม่ได้เจอ สปีลเบิร์กหรอกชาตินี้ ดังนั้น นี่ก็จะเป็นหนทางที่ท�าให้ได้เจอสักครั้ง ก็ไปยืนดู แต่ก็จะได้อยู่ โซนไกลๆ ส่วนใหญ่เวลาเห็นคนมุงแล้วก็จะตามไปดูว่าใครมา แล้วแต่ละรอบก็จะมีบันได วางทิ้งไว้ พอดารามาทุกคนก็จะวิ่งกลับมาที่บันไดเพื่อปีนไปถ่ายรูป แล้วถ้าหนังดังๆ หน่อย ก็จะอัดกันจนถ้าหลุดเข้าไปในดงบันไดแล้วเดินออกยากมาก
ก้อง : อย่างที่บอกว่า คานส์คือ การเอาทุกองค์ประกอบของหนังมารวมกัน ความหรูหราฟูฟ่ า่ ก็เป็นส่วนหนึง่ ซึง่ คานส์ มีมาแล้วหกสิบกว่าปี มันก็มีพรมแดง มาตลอด คานส์ถูกมองว่าเป็นสถานที่ ทีใ่ ห้เกียรติคนท�าหนังสูงสุด ดังนัน้ ถ้าเขา เชิญมาแล้วก็แปลว่าเขาให้เกียรติคุณ คนก็จะเต็มที่ ซึ่งการแต่งตัวฟอร์มอล สวม evening dress ก็เป็นธรรมเนียม การให้เกียรติแบบยุโรปโบราณที่ออกจะ เชยอยู ่ เ หมื อ นกั น แต่ ถ ้ า เรามองดู ดี ๆ การฉายหนังในรอบพรมแดงจะหมายถึง หนังที่ประกวดเท่านั้น ดังนั้น ทั้งเทศกาล ก็จะมีรอบพรมแดงประมาณยีส่ บิ กว่าเรือ่ ง ฉายโรงใหญ่นั่ง ได้ ป ระมาณสองพันคน ถือว่าเป็นรอบเวิลด์พรีเมียร์ เพราะหนังที่ จะมาประกวดที่คานส์ต้องไม่เคยฉาย
สัณห์ชยั : การทีม่ ชี อื่ เราอยูใ่ นแค็ตตาล็อกเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ มันส�าคัญมาก เลยครับ เพราะในเทศกาลหนังทั่วโลกเนี่ย ถ้าจะฉายหนังเก่า ก็ต้องมาดูรายชื่อ Cannes Classic และเขาจะเห็นชื่อเรา ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อในคานส์เป็นพระเจ้าที่จะ ได้รับการดูแลดีที่สุด พอหนังเราได้คัดเลือกเข้าไปฉายใน Cannes Classic เขาขอเลยว่า ถ้าจะท�า Press Kit ต้องท�าอย่างต�่า 2,000 ชุด ภาษาอังกฤษ 1,000 ชุด ภาษาฝรั่งเศส 1,000 ชุด น้อยกว่านีไ้ ม่เอา เพราะว่าเขาต้องเอาไปใส่ไว้ให้สอื่ เขาแคร์สอื่ มาก เราไปก็รแู้ หละ ว่าสายหนังคลาสสิกไม่ใช่ส่วนหลักในเทศกาล แต่เราก็ท�าให้ดีที่สุด ก็ท�าและส่งไป ซึ่งสื่อ ทุกคนอย่างน้อยเขาก็เห็น Press Kit ของเรา แต่วันนั้นที่ไปสังเกตก็เห็นคนโยนทิ้งเหมือนกัน ซึ่งเวลาเห็นคนทิ้งก็จะคิดในใจว่านั่นแปดบาทนะ (หัวเราะ) นวพล : เพราะการจะเอาหนังไปฉายทีค่ านส์ทหี นึง่ ไม่ใช่เรือ่ งง่าย ไม่ใช่วา่ ส่งไปแล้วก็จบ เรารู้สึกว่าถ้าจะเอาจริงต้องกระโดดลงไปเล่น ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจท�าหนัง ส่งไปแล้วมันจะได้ มันต้องแพลนกันเลยว่าหนังจะเสร็จเดือนไหน ส่งเดือนไหน จะแก้หรือเปล่าถ้าเขาคอมเมนต์ กลับมา หนังศิลปะยุคนีม้ นั เยอะเหลือเกิน เขาไม่อาจเอาหนังทัง้ หมด 1,000 เรือ่ งมาฉาย เขาก็ เอาแค่ 50 เรือ่ ง มีหนังถูกคัดออก 950 เรือ่ ง ทีนกี้ อ็ ยูท่ วี่ า่ ใครจะทะลุเข้าไปได้ หรือว่าเอเยนต์ไหน จะใช้พละก�าลังให้หนังตัวเองเข้าสู่เขต Competition ให้ได้ เพราะว่าถ้าหนังเข้า Competition ในคานส์เมือ่ ไหร่ การขายมันจะง่ายมาก ชอบหรือเปล่าไม่รู้ แต่วา่ ไปคานส์มาอาจจะหามาดู แล้วการเลือกมันมาจากคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง ก็อาจจะไม่ถูกใจคนทุกคนขนาดนั้นหรอก
adB : แล้วก่อนที่จะมีสปอนเซอร์เข้ำมำสนับสนุนให้ดำรำไปร่วมงำน จริงๆ แล้วพรมแดง มีควำมหมำยอย่ำงไร
‘เต๋อ’ - นวพล ธ�ารงรัตนฤทธิ์ ไปเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว : 1 ครั้ง
อาชีพ : ผู้ก�ากับภาพยนตร์ขวัญใจเด็กแนว เดินทางไปในโครงการ Thai Pitching ที่เปิด โอกาสให้ผกู้ า� กับชาวไทยไปพรีเซนต์ตวั เองใน เวทีภาพยนตร์โลก ซึง่ การไปเยือนคานส์ครัง้ นี้ เป็นเหมือนการทัศนศึกษาแบบย่อมๆ ของเขา
adB : ระหว่ำงทีเ่ ขำเดินพรมแดงกัน พวกคุณอยูท่ ี่ ไหน
adB : คิดว่ำเทศกำลภำพยนตร์เมืองคำนส์ สร้ำงผลกระทบต่อวงกำรภำพยนตร์ ไทย แค่ ไหน
ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันควรกระโดดลงไปหรือเปล่า ผูก้ า� กับบางคน ได้ปาล์มทองค�าแล้วหายไปไหนไม่รู้ก็มี มันไม่มีหลักประกัน ขนาดนั้นว่าถ้าเราคว้าสิ่งนี้มาได้แล้วเราจะอยู่ตลอดไป ทุกปี มันก็จะมีคนใหม่ๆ ขึ้นมา ผมว่ามันเป็นที่ชั่วคราวมากๆ ก้อง : คือคานส์มนั เป็นเหมือนมาตรฐาน เราจะได้รตู้ วั เอง ว่าเราอยูท่ ไี่ หนในโลก หรือว่าเราจะเล่นแค่ไหน อย่างทีเ่ ต๋อบอก ว่าไม่อยากจะเล่นขนาดนั้นก็เป็นไปได้ เราจะท� าหนังฉาย แบบหนัง พจน์ อานนท์ เรื่อง หลวงพี่แจ๊สฯ ก็มีเยอะแยะใน เมืองไทย จริงๆ มันก็สมบูรณ์แบบแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคานส์ หลวงพี่แจ๊สฯ กับ พจน์ อานนท์ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ คานส์เลย แล้วก็ไม่จ�าเป็นต้องเกี่ยวด้วย ก็ดีกับเขาและดี กับคานส์ด้วย มันดีกับทุกคนอยู่แล้ว มันอยู่ที่เราต้องการ มีบทบาทแค่ไหนในโลก และในประเทศของเราเอง
‘นุชชี่’ - อนุชา บุญยวรรธนะ ไปเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว : 1 ครั้ง
อาชีพ : ผู้ก�ากับภาพยนตร์เรื่อง อนธการ เดินทางไปร่วมเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ในโครงการ Thai Pitching เช่นเดียวกับ เต๋อ นวพล แต่ความทรงจ�าคานส์ครั้งแรก ของเธอต่างจากคนอืน่ ๆ อย่างสิน้ เชิง
adB : ในฐำนะคนท�ำหนังเอง คำนส์เป็นจุดสูงสุดของคนท�ำหนังไหม
อนุชา : มันก็เป็นเครื่องมือหนึ่งในการจัดจ�าหน่าย เรามองเป็นการตลาดมากเลย เพราะ เวลาที่ไปพรีเซนต์ โปรดิวเซอร์เป็นคนเล่าเรื่อง ส่วนเราเป็น Financial Plan (หัวเราะกันทั้งวง)
adB : พูดได้ ไหมว่ำคำนส์ ไม่ ได้มคี วำมเกีย่ วข้องกับคนท�ำหนังอย่ำงคุณนุชชีเ่ ท่ำไหร่
แต่วา่ สิง่ ทีม่ นั ส่งผลกระทบจริงๆ ในการทีพ่ เี่ จ้ยได้รางวัลทีค่ านส์ คือตอนนี้ถ้าเป็นฝั่ง Art Film เขาก็เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่เขาเป็นใครในเมืองไทยมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อนุชา : ล�าพังเทศกาลหนังเมืองคานส์ เราว่ามันดึงดูด เฉพาะกับนักดูหนังของไทย เราก็จะได้คนดูทเี่ ป็นนักดูหนังจริงๆ แต่มันไม่ได้ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนท�างาน การที่เราจะ เข้าถึงคนดูที่เยอะๆ หน่อยก็ต้องใช้เนื้อเรื่อง ฉากโป๊ ดารา
adB : ถ้ ำ จะเป็ น คนที่ ติ ด ตำมเทศกำลภำพยนตร์ เมืองคำนส์แบบมีคุณภำพ ต้องรู้อะไรบ้ำง
นวพล : ที่จริงก็แค่ท�าความรู้จักสายประกวดสามสี่สาย นีแ่ หละครับ แต่ถา้ เป็นคนดูหนังจริงๆ ตัวเทศกาลมันก็เป็นแค่ แพลตฟอร์มนะครับ เอาจริงๆ ถ้าคุณสนใจหนัง คุณก็ต้อง ดูหนังมากกว่าดูเทศกาล ดูว่าท�าไมหนังเรื่องนี้ถึงได้เข้าสาย คลาสสิกมากกว่าที่จะรู้ว่าสายคลาสสิกคืออะไร รู้ว่าท�าไม สันติ-วีณา ถึงได้ไป ที่เหลือมันเป็น เรื่องข้างนอกหมดเลย ต่อให้เรารู้ว่าหนังปาล์มทองค�าปีนี้คืออะไร แต่เราไม่ได้สนใจดูมันเลย ผมว่ามันก็เท่านัน้ หนังในโลกนีม้ นั มีเยอะมาก แล้วเทศกาลมันก็แค่ชว่ ยเลือกขึน้ มาให้เราจ�านวน หนึ่ง แต่ที่สุดแล้ว ต่อให้เขาไม่เลือกมา ผมก็ว่าหนังมันก็มีคุณค่าของมัน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรอคานส์กไ็ ด้ หนังรางวัล Palme d’Or (รางวัลปาล์มทองค�า) บางเรือ่ งผมก็ว่าไม่เห็นสนุก เลย ส�าหรับผม เขาก็แค่ช่วยเลือกน่ะครับ แต่เราจะชอบสิ่งนั้นหรือเปล่าก็แล้วแต่เรา
อนุชา : มันเกี่ยวสิ มันก็เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่เราก็คิดว่ามันส�าคัญ เป็นการการันตี หลายอย่าง ได้ออกสื่อ หนังก็ขายในตลาดได้ การที่หนังได้ไปคานส์ มันการันตีอย่างหนึ่งว่า หนังเรื่องต่อไปเราจะหาเงินมาท�าได้ง่ายขึ้น ยิ่งเข้าชิงสายใหญ่เงินก็ยิ่งมากขึ้น ทีมงานของเรา adB : คำดหวังว่ำปีหน้ำอยำกจะเห็นคนพูดถึงคำนส์ ในแง่มุมไหนบ้ำง ก็จะสุขสบายขึ้น สมมติอย่างหนังเรื่องหนึ่งเราเคยได้ฉายแค่ 7 วัน ถ้าไปเทศกาลหนังเบอร์ลิน ก้อง : เอาง่ายๆ เลย คืออยากให้เห็นหนังไทยไปประกวด และมีการพูดถึง เราอาจได้ฉายเพิ่มเป็น 10 วัน ถ้าไปคานส์อาจได้ฉาย 20 วัน เงินก็มากขึ้น เรามองเป็นธุรกิจ นวพล : ผมว่าถ้ามันเป็นแบบออสการ์ คือออสการ์คงไม่มีหนังไทยหรอก แต่เวลาที่มี มองว่าเทศกาลหนังพวกนี้ก็เป็นแพลตฟอร์มที่จะพาหนังเรากระจายไปสู่คนดูในประเทศต่างๆ การประกาศรางวัล คนไทยก็จะมารอดูกนั คือผมรูส้ กึ ว่าเราอาจจะได้ยนิ หนังชือ่ นัน้ มากขึน้ จาก เพราะว่าหนังพวกนี้ฉายแค่ที่เมืองไทยอาจไม่พอทุนสร้าง เราก็ต้องเอาไปฉายที่ต่างประเทศ ที่ไม่เคยได้ยิน สักวันอาจจะหามาดูก็ได้ คือเราอยากจะให้คนสนใจคานส์เหมือนสนใจ ด้วย แต่ก็แบบพี่ก้องว่า ผู้ก�ากับที่ท�าหนังแนวตลาดในเมืองไทย เขาไม่จ�าเป็นต้องเกี่ยวอะไร ออสการ์ มันจะน�าไปสู่การสนใจบางอย่าง แบบบางเรื่องเข้าชิงแต่อาจไม่เข้าไทย อย่างเรื่อง กับคานส์ก็ได้ เพราะตัวเลขเขาก็ขึ้นอยู่กับว่าท�าแล้วคนดูเยอะไหม อย่างเต๋อหรือว่าเราเอง Brooklyn เราอาจหามาดูหน่อย สุดท้ายอยากให้คนสนใจที่หนังมากกว่า เพียงแต่ว่าตอนนี้ จะท�าออกมาในแบบอินดี้หน่อย ซึ่งคานส์เองก็มีความส�าคัญ อาจจะเกิดความสนใจจากชมพู่ แต่มันก็รู้จักมากขึ้นนิดหนึ่งเว้ย (หัวเราะ) นวพล : ผมว่าสุดท้ายถึงท�าคนละแบบกัน แต่เราก็อยากท�าหนังไปเรื่อยๆ มากกว่า สัณห์ชัย : อย่างการที่มี สันติ-วีณา ไปฉาย มันไม่ได้แค่เป็นการท�าให้คนรู้จักหนังนะ ผมว่ามันเป็นคนละทางกัน ผมอาจจะโชคดีห น่ อยที่ท�า แล้ ว ฉายในบ้ า นเราแล้ ว ยังโอเค เราคาดหวังไปกว่านัน้ เราคาดหวังให้คนเห็นคุณค่าของการอนุรกั ษ์ภาพยนตร์ การทีห่ นังเรือ่ งหนึง่ ในขณะที่ถ้าผมส่งหนังไปคานส์ผมอาจจะไม่มีวันได้เลยด้วยซ�้า เราจะไปกะว่าอย่างนั้นเดี๋ยว ได้ไปฉายที่คานส์ อะไรที่ท�าให้หนังเรื่องนั้นไปฉายได้ อะไรที่ท�าให้เกิดปรากฏการณ์นั้น เรื่องหน้าเราฉายคานส์ละกัน ก็ท�าอย่างนั้นไม่ได้ไง เพราะหนังที่เราท�ามันก็เป็นประเภทนี้ การสร้างอุตสาหกรรมให้ศิลปินเดินไปได้ถึงขนาดนั้น เขาท�ากันอย่างไร อาจารย์ประวิทย์ อย่างที่พี่นุชชี่เล่า ก็เพื่อที่เราจะได้ท�าหนังต่อไปเรื่อยๆ เพียงแต่ว่าของผมท�าแค่ที่ประเทศไทย แต่งอักษร บอกว่านี่มันเป็นเหมือนบอลโลก คุณได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกแล้ว คุณจะได้ ก็อาจจะพอ แต่หนังของพี่นุชชี่อาจจะต้องไปฉาย 5 ที่รวมกัน แต่อย่างน้อยหนังที่เขาท�า ต�าแหน่งหรือเปล่าไม่รู้ แต่ท�ายังไงให้เรามีทีมฟุตบอลไปบอลโลกได้บ่อยๆ การอนุรักษ์หนัง มันก็จะเป็นหนังที่เขาท�า มันไม่ต้องไปเป็นแบบอื่น ก็เหมือนกัน การที่เราผลักดันมันมาได้ถึงขนาดนี้ เราอยากให้คนมองไปไกลกว่าหนัง สัณห์ชยั : ส�าหรับเราคิดว่าเทศกาลครัง้ นีม้ นั ท�าให้คนสนใจหนัง สันติ-วีณา มากขึน้ นะครับ ก้อง : สิง่ ทีเ่ ราคุยกันอยูก่ ด็ ี เราหวังอยากจะให้ความรู้ แต่อยากจะบอกว่ากลัวความเอ็กซ์ตรีม โอเค เรื่องราวในการค้นหามันก็มากกว่า 60 ปี คนก็ตื่นเต้นกับมันแล้วแหละ แต่การที่มันได้ ของคานส์ มันจะท�าให้คนหมกมุ่นกับคานส์ จนกลายเป็นว่าทุกคนอยากไปคานส์ นักวิจารณ์ ปะหน้าด้วยค�าว่า ‘Cannes Classic’ มันเพิ่มความมีคุณค่าของมันขึ้นไปอีก แล้วเราก็รู้สึกจริงๆ ก็อยากไป คนท�าหนังเด็กๆ เพิง่ จบปีสกี่ อ็ ยากไปคานส์ มันกลายเป็นสมบัตอิ ะไรสักอย่างทีเ่ รืองรอง ว่าต่างชาติชื่นชม มันเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาแน่นอน เขายังไม่ได้ดูหนังด้วยซ�้า เห็นแค่เทรเลอร์ และทุกคนอยากจะได้มนั โดยทีบ่ างทีถงึ มันจะส�าคัญ แต่กไ็ ม่ได้สา� คัญทีส่ ดุ มันมีงานอืน่ ในโลก ความคาดหวังมันเกิดขึ้นไปแล้วไง แล้วจริงๆ คานส์ก็ไม่มีผลกระทบใน มีหนังที่อื่นในโลก คือไม่อยากให้รู้สึกว่าถ้าไม่ได้คานส์แล้วชีวิตบัดซบ เมืองไทยเท่าไหร่ดว้ ย แปลว่าหนังทีไ่ ด้คานส์ไม่ได้การันตีวา่ ทีไ่ ทยจะได้เงิน ซึ่งมันไม่จริง ถ้าท�าหนังแค่เพื่อจะไปคานส์แค่นี้ก็ผิดแล้ว ทีผ่ า่ นมา พีเ่ จ้ย (อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล), พีว่ ศิ ษิ ฏ์ (วิศษิ ฏ์ ศาสนเทีย่ ง) นวพล : พอเราท�าหนังอิสระแล้วเราอยากท�าสิง่ ทีอ่ ยากท�า มากกว่า ขอขอบคุณสถานที่ : B หรือพีต่ อ้ ม (เป็นเอก รัตนเรือง) เราว่าทุกคนก็โปรโมตแหละว่าหนังคานส์ ที่จะเปลี่ยนมันเพื่อสิ่งอื่น Freitag Pop Up Store and Cafe สยามสแควร์ซอย 11 โทร. 0-2658-3855
ALL ABOUT BIZ เรื่อง : วรรณวนัช ท้วมสมบูรณ์ ภาพ : วงศกร ยี่ดวง
BIZ LIFE
วินฐ อุดมผลกุล เขาชอบเรียกตัวเองว่า Moonlighter หรือว่า The Connector มากกว่ากรรมการผู้จัดการ บริษัท มูนไลท์ คอนซัลติ้ง จ�ากัด ซึ่งบ่งบอกถึงบุคลิกร่าเริงกระตือรือร้น ทั้งของตัวเขาเองและบริษัทที่มีสโลแกนว่า Connecting with Your Best ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งที่ดีที่สุดได้เสมอ • ช่วงแรกมูนไลท์เปิดมาเพือ่ เป็นหน่วยงานเพือ่ ช่วยบริษทั อสังหาริมทรัพย์ และเปิดสัมมนาที่ญี่ปุ่นส�าหรับคนที่ อยากมาลงทุนซือ้ อสังหาริมทรัพย์ทนี่ ี่ แต่ตอนนีข้ ยายมา ท�าโฆษณา จัดอีเวนต์ด้วย เราเป็นบริษัท Networking Management ตัง้ อยูบ่ นแนวคิดง่ายๆ ว่า จะใช้คอนเน็กชัน ที่มีให้เป็นประโยชน์ โดยตัวบริษัทนั้นท�าอย่างไรก็ได้ ให้คล่องตัวทีส่ ดุ เบาทีส่ ดุ แล้วเลือกใช้ใช้คอนเน็กชันทีม่ ี ให้เป็นประโยชน์และเหมาะกับงาน • ตัวอย่างแผนธุรกิจของเราคือ ถ้าจะขายคอนโดฯ เราก็ ไม่จ�าเป็นต้องสร้างคอนโดฯ เอง เพราะในตลาดมีให้ เลือกตั้งแต่ราคาล้านต้นๆ ไปจนถึงหลายสิบล้าน เราก็ ให้คนอื่นสร้าง แล้วเราไปขายให้ ซึ่งการท�างานแบบนี้ เราสามารถขายได้หลายแบรนด์พร้อมกันด้วย • การเป็นออร์แกไนเซอร์ก็เช่นกัน แต่ละบริษัทก็จะมี ความช�านาญต่างๆ กันไป เรามีพาร์ตเนอร์กับบริษัท ที่ ท� า ด้ า นแสงสี เ สี ย ง บริ ษั ท ที่ ช� า นาญด้ า นการจั ด คอนเสิร์ต ดังนั้น เราก็สามารถจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ ได้โดยไม่จ�าเป็นต้องมีพนักงานหลายสิบหรือหลาย ร้อยคน • เราต้องมีสายตาทีด่ สี า� หรับเลือกคนมาเจอกัน และต้อง มีโชคดีมากๆ ทีจ่ ะท�าให้เขายอมท�างานให้เรา หรือบางครัง้ ต้องมาท�าอันเดอร์เราด้วยซ�า้ ทัง้ ๆ ทีเ่ ขาเป็นบริษทั ทีใ่ หญ่ มาก อย่างล่าสุด Cyril Magic Up Close & Personal โชว์มายากลระดับโลกนีก่ เ็ ป็นความโชคดีทศี่ ลิ ปินระดับโลก เลือกให้ผมเป็นคนจัด และมีสปอนเซอร์รายใหญ่ๆ ให้ความสนใจและสนับสนุน • เรามีความถนัดด้านการท�าโร้ดโชว์เกี่ยวกับการขาย เครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ต่างจังหวัดด้วย ซึ่งใช้เวลาจีบ ลูกค้ารายนีอ้ ยูเ่ ป็นปี เพราะทุกคนบอกว่าบุคลิกอย่างผม ท�าไม่ได้หรอก แต่ไปมาทุกจังหวัดแล้ว • ผมชอบทีจ่ ะได้เจอคนแต่งตัวธรรมดา แต่ซอื้ เครือ่ งจักร ราคาสี่ล้านบาทด้วยเงินสด และรู้สึกดีใจที่เขาแฮปปี้ เวลามางานเรา แล้วได้กินของอร่อยประจ� าจังหวัด อย่ า งซาลาเปาเจ้ า ดัง หมู ย ่ า งร้ า นอร่ อ ยที่ป กติเ ขา อาจจะไม่มีเวลาออกไปซื้อเอง แต่เราเลือกมาและ เตรียมไว้ให้ • พนักงานผมตอนนี้มีสองแบบ คือพนักงานประจ�า และแอดมินที่ดูแลงานหลังบ้าน กับพนักงานประจ�า ที่ไม่มีเงินเดือน แต่รับเป็นคอมมิชชัน และสามารถ ท�างานอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยได้ ดังนั้น พนักงานกลุ่มหลัง ก็มักจะเป็นกลุ่มที่มีความกระตือรือร้นสูง ท�าให้เรา ท�างานง่าย หาลูกค้าเข้าบริษัทได้ ท�างานด้วยกันแล้ว
CONNECTING WITH YOUR BEST
มีความสุขก็พอ • สิ่ ง ที่ ผ มได้ เ รี ย นรู ้ จ าก คุ ณ บุ ญ ชั ย เบญจรงคกุ ล ตอนทีท่ า� งานในองค์กรใหญ่อย่างดีแทค คือการท�าให้คน ไว้วางใจเป็นเรื่องส�าคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ การเจรจา และการตกลงต่างๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้น • ตอนท�างานที่ดีแทคผมจะฟิตมาก ตื่นหกโมงเช้า ถึงออฟฟิศไม่เคยเกินแปดโมง กลับเป็นคนสุดท้าย และไม่เคยขาดงานเลย ส่วนหนึ่งเพื่อพิสูจน์ว่าเราท�าได้ ไม่อยากให้คนอื่นเขามาดูแคลน • อีกคนที่สอนผมได้อย่างมากคือ ‘พี่โก้’ - ชานนท์ เรื อ งกฤตยา ซึ่ ง หลายคนจะมองเขาเป็ น หนุ ่ ม โสด เนื้อหอม หรือมองว่าบ้านเขารวยอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้ว เขาเป็นนักธุรกิจที่เก่ง ท�าทุกอย่างเองทั้งหมด • สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่โก้และมีประโยชน์มากคือเคย ถามเขาว่าท�างานขนาดนี้ไม่เครียดเหรอ เขาตอบว่า พอเลิกงานเขาสามารถวางทุกอย่างได้หมด เพราะเขา นั่งสมาธิอย่างจริงจัง ท�าให้ผมไม่แปลกใจว่าท�าไมเขา ถึงประสบความส�าเร็จ • ตอนนี้กลายเป็นคนชอบท�าบุญ เพราะรู้สึกว่าอยู่ใน โลกนี้เราท�าบาปเยอะแล้ว เอาง่ายๆ ศีลห้าก็ขาดอยู่ บ่อยๆ ก็เลยชอบเข้าวัดนั่งสมาธิ • ผมชอบสายวัดป่า รู้สึกว่าไม่ต้องมีเงินก็ท�าบุญได้ ถึงตอนนี้ไปนั่งสมาธิทุกปี แบบที่ไม่ได้พูดเลยเจ็ดวัน ปีละสองครัง้ ต่อเนือ่ งกันมามาแปดปีแล้ว • ทุกครัง้ หลังจากจบการนั่งสมาธิก็จะรู้สึกว่า สมองจะ มี super energy บางอย่าง สมองเหมือนมีดที่เพิ่งไป ลับมาใหม่ๆ คิดอะไรลื่นไหลหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่เล่นกีฬา • การพูดท�าให้สมองเราเสียพลังงาน หลังจากไม่ได้พูด เจ็ดวัน ท�าให้เรารูส้ กึ ว่าได้ชาร์จแบตจริงๆ จึงรูส้ กึ ว่าเป็น ช่วงที่ต้องวางแผนงาน • โชคดีทเี่ วลาไปนัง่ สมาธิแทบทุกปีจะตรงกับช่วงวันเกิด จึงเหมือนได้ปาร์ตสี้ มาธิทกุ ปี ซึง่ ผมว่าการมีผปู้ ฏิบตั ธิ รรม อวยพรวันเกิด กับคนเมาอวยพรวันเกิดมันก็ท�าให้เรา รู้สึกกับชีวิตต่างกันนะ
BIZ SOURCE
www.techmeme.com Gary Vaynerchuk ซีอีโอของ VaynerMedia เคยให้สัมภาษณ์กับ สือ่ ว่าด้วยการใช้เวลาตอนเช้าให้มปี ระสิทธิภาพ แกรีเ่ ล่าว่าเขาตืน่ นอน ตอน 6 โมงเช้าทุกวัน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องน�้า ที่ซึ่งเขาสามารถค้นหาข่าวสารต่างๆ ที่ก�าลังเกิดในขณะนั้น แต่ สิ่งที่เราสนใจคือแหล่งข้อมูลหนึ่งที่เขาไม่เคยพลาด นั่นคือเว็บไซต์ www.techmeme.com ทีร่ วบรวมข้อมูลข่าวสารและการเปลีย่ นแปลง ทุกอย่างบนโลกดิจิตอล เพื่อให้เข้าใจถึงวัฒนธรรมทางธุรกิจ ในปัจจุบัน เว็บไซต์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 โดย Gabe Rivera เขา หวังว่าจะให้ Tech Meme เป็นแหล่งกระจายข่าวที่ทันเหตุการณ์
อย่าง Google News แต่จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ อาทิ บทความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่, gadget หรือแม้แต่การเลิกผลิตสินค้าไอทีบางรุ่นซึ่งอาจมีผลกระทบต่อ การด�าเนินงานของบริษทั โดยทีเ่ ขาไม่จา� เป็นต้องเสียเวลาเข้าเว็บไซต์ B หลายๆ แห่ง ซึ่งช่วยประหยัดเวลายามเช้าได้เป็นอย่างดี
HEALTH TIPS
HEALTH TIPS FOR EVERY AGE
?
สุขภาพในแต่ละช่วงอายุต่างต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน แต่หากเป็นไปได้ เราก็ควรน�าการออกก�าลังกาย และการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจ�าวันของทุกช่วงวัยเพื่อลดปัญหาจากสุขภาพที่อาจต้องพบเจอในอนาคต
• 20s
คือช่วงที่เราควรจะเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเอง โดยการออกก�าลังกายและทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ หลายคนทีเ่ คยสูบบุหรีส่ มัยวัยรุน่ ควรตัดสินใจเลิกมัน ในช่วงอายุนี้ เพราะหัวใจเป็นกล้ามเนื้อที่ส�าคัญ และกล้ามเนื้อที่ส�าคัญต้องการการบริหาร
• 30s
ภาวะความดั น เลื อ ดสู ง คอเลสเตอรอลสู ง และโรคประจ�าตัวหลายโรคมักพบบ่อยในคนวัยนี้ จึ ง เป็ น โอกาสที่ ดี ใ นการเปลี่ ย นแปลงไลฟ์ ส ไตล์ ของตัวเองให้เหมาะกับปัญหาสุขภาพทีก่ า� ลังเผชิญ
HEALTH QUESTION
• 40s
Q : มีอะไรบ้างทีช่ ว่ ยให้รา่ งกาย ตื่นได้เหมือนกาเฟอีน
คนวั ย นี้ มั ก จะยุ ่ ง กั บ การท� า งานจนลื ม ดู แ ล สุขภาพร่างกายของตัวเอง การบริโภคอาหารที่มี ประโยชน์และการออกก�าลังอย่างสม�่าเสมอจึงเป็น สองเรื่องที่ควรให้ความสนใจในช่วงวัยดังกล่าว เพราะมันจะเป็นปัจจัยในการช่วยลดความเสีย่ งของ โรคร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
A : หากให้ เ ลื อ กสั ก หนึ่ ง อย่ า งที่ ท� า ให้ ร่างกายตืน่ ตัวพร้อมรับวันใหม่ ไม่วา่ ใครก็คง คิดถึงกาแฟอย่างเเน่นอน แต่จริงๆ แล้วยังมี อะไรอีกหลายอย่างที่สามารถช่วยกระตุ้น ร่างกายของเราได้ดีไม่แพ้กาแฟ ตัวอย่าง เช่น รากโสม ที่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดได้เช่นเดียวกับกาแฟ หรือแม้แต่การดืม่ น�า้ เย็นตอนเช้า ความเย็น จะท� า ให้ ก ารเผาผลาญของร่า งกายดีขึ้น เพราะความเย็นจะไปกระตุน้ ระบบเผาผลาญ เพื่ อ ท� า ให้ น�้ า เย็ น ที่ ดื่ ม เข้ า ไปอุ ่ น นั่ น เอง ส่ ว นวิ ธีสุ ด ท้ า ยที่ แ นะน� า และท� า ได้ ง ่ า ยๆ ก็คือการกินผลไม้อย่างแอปเปิ้ลสด ซึ่งการเคี้ยวจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ท�างานและให้ ความสดชื่ น ได้ ไ ม่ ต ่ า งจากการดื่ ม กาแฟ เลยทีเดียว ที่มา : www.fitoday.com
• 50s
พอมาถึ ง ช่ ว งอายุ นี้ เราต้ อ งนึ ก ไว้ เ สมอว่ า สุขภาพต้องมาก่อนเป็นอันดับแรกและต้องรูถ้ งึ ลิมติ ของร่างกายตัวเอง ดังนั้น เวลาจะท�าอะไร เราต้อง มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา
• 60s
เมือ่ อายุเข้าเลขหก เราจะเริม่ พบอาการทีเ่ กีย่ วกับ โรคหัวใจอย่างอาการหอบ หรือแม้กระทั่งอาการ ของโรคอืน่ ๆ โดยต้องจ�าไว้เสมอว่า ไม่วา่ จะพบอาการ อะไรก็ตามแต่ อย่าปล่อยไว้ให้หายเอง ต้องรีบไป พบแพทย์ทันที
82%
ที่มา : www.bluetifulworld.com
กว่า 82% ของคนอเมริกันที่ชื่นชอบ แฮมเบอร์เกอร์ คิดว่าแซนด์วิชเป็นอาหารที่ดีต่อ สุขภาพ แต่ผลวิจัยชี้เเล้วว่าส่วนประกอบอย่าง เนื้อแดงที่ใส่ในแซนด์วิชนั้นเป็นสารก่อมะเร็ง
HEALTH NEWS การปล่อยให้เด็กร้องไห้จนหลับไปเองช่วยให้เด็กนอนง่ายขึ้น
พ่อแม่มือใหม่หลายๆ คนอาจตื่นตกใจเวลาที่ลูกของตัวเองร้องไห้จ้าเวลากลางคืน จนต้องหาสารพัดวิธี ที่จะกล่อมลูกให้นอนหลับ แต่ว่างานวิชาการชิ้นล่าสุดที่เก็บข้อมูลจาก 43 ครอบครัว ได้บ่งบอกว่า การปล่อยให้ลูกนอนร้องไห้จนหลับไปเองนั้น นอกจากจะไม่สร้างผลกระทบทางจิตให้กับเด็กในระยะยาว ยังท�าให้การนอนหลับดีขึ้นอีกด้วย โดยเด็กที่ร่วมการวิจัยที่มีอายุระหว่าง 6-16 เดือน ที่ถูกปล่อยให้ร้องไห้ จนหลับไปเองมักไม่ค่อยสะดุ้งตื่นกลางดึก และหลับได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 15 นาที โดยนักวิจัยยังได้ติดตาม วัดระดับความเครียดจากฮอร์โมนคอลติซอลในน�้าลายเด็ก และพบว่าลดลงอีกด้วย ที่มา : www.voathai.com
HEART TIPS
5 TWEETS THAT PROVE DEPRESSION IS WORST โรคซึมเศร้าเป็นอาการป่วยที่หากใครไม่เคยเป็นก็คงจะไม่รู้ว่ามันเลวร้ายแค่ไหน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทวิตเตอร์ ได้มีแฮชแท็ก #MyDepressionLooksLike ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่รู้สึกซึมเศร้าและไม่รู้จะพูดกับใคร มาระบายความอึดอัดของตัวเองผ่านช่องทางนี้ ซึ่งเราจะพาไปดูความในใจของพวกเขาที่จะท�าให้คุณเข้าใจคนเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น
@TheBloggess
“#MyDepressionLooksLike คือความเหนือ่ ยล้า ที่ท�าให้ฉันมองว่าเตียงนอนเป็นเหมือนที่บรรเทา ทุกข์ และเป็นเหมือนคุกในเวลาเดียวกัน”
@Caitlin_Writes
“#MyDepressionLooksLike คือการยิ้ม การท�า คุกกี้ การร้องไห้ในห้องน�้า การวิ่ง การหัวเราะเสียง ดังๆ การกรีดร้องครวญครางกับหมอน หรือแม้แต่ การท�าดีต่อคนอื่นๆ แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ตัวฉันเลย”
@thvgshxt__
@localblactivist
“#MyDepressionLooksLike คือความต้องการ ให้ใครสักคนหันมาสนใจฉัน และเอ่ยถามว่า ‘มีอะไร ผิดปกติหรือเปล่า’ แต่ฉันก็ไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะ พูดคุยเกี่ยวกับมัน”
@sophiiblu
“#MyDepressionLooksLike คือความสิ้นหวัง ที่พยายามจะเก็บความลับของตัวเองจากคนอื่น และฉันก็สงสัยความเป็นตัวเองตลอดเวลาเหมือนกัน” ที่มา : www.huffiffiingtonpost.com
“#MyDepressionLooksLike คือการหวังให้ทกุ ๆ คน ทิง้ ฉันไว้คนเดียว และในเวลาเดียวกันฉันก็อยากให้ ใครสักคนเห็นว่าฉันก�าลังทุกข์ทรมานอยู่”
THE STORY OF LIFE เพลง ไกลออกไป ของวง Day Tripper ดังวนเวียนอยู่อย่างนั้น เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดเพลงหนึ่ง และยิ่งเศร้าเข้าไปอีกเมื่อได้รู้ว่า ‘อู’ - วาสิต มุกดาวิจิตร ได้จากไปแล้ว เนื้อร้องและท�านอง ยังคงเวียนวนไปเรื่อยๆ ไม่มีแผ่วลง และเมื่อถึงท่อนที่บอกว่า “เฝ้าคิดถึงวันที่จะได้เจอ เธออยู่หนใด บนโลกที่มันกว้างใหญ่ บางแห่งที่เหมือนไกลออกไป” ก็ท�าให้เราคิดถึงเขามากขึ้น • ‘อู’ - วาสิต มุกดาวิจติ ร คือนักดนตรีคนแรกๆ ทีน่ า� ความเป็นบริตพ็อพ ในยุคอัลเทอร์เนทีฟเข้ามาปรับใช้กบั วงการเพลงไทย จนคอเพลงอินดี้ จากยุค 90s รู้จักเขาดีในชื่อที่มีชื่อวงต่อท้ายอย่าง อู วง Crub, อู Blue’s Bar, Ooh & The Ballyhoo หรือชื่อที่น่าจะคุ้นหูกันมากที่สุด อย่าง อู Day Tripper • วาสิตเติบโตมาในครอบครัวฐานะดี เขาใช้ชวี ติ วัยรุน่ เหมือนเด็กผูช้ าย ทัว่ ไป เป็นทัง้ นักกีฬา นักดนตรี และนักกิจกรรม จนอายุประมาณ 1819 ปี ครอบครัวของเขาประสบภาวะหนีส้ นิ เป็นเหตุให้ตอ้ งขายทรัพย์สนิ ทีม่ อี ยู่ ซึง่ เป็นช่วงเวลาเดียวกับทีม่ คี นเสนองานให้ไปเป็นกองบรรณาธิการ นิตยสารแฟชัน่ แห่งหนึง่ จากหน้าทีก่ ารงานในตอนนัน้ ท�าให้เขามีโอกาส ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับศิลปินนักร้องหลายคน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ ให้เขาอยากท�างานด้านนีบ้ า้ ง พอดีกบั ทีน่ กั ร้องน�าของวง Crub ลาออก นัน่ จึงเป็นจุดเริม่ ต้นของเส้นทางในวงการดนตรีของเขา • หลังจากวง Crub เขาได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวง Day Tripper ร่วมกับ ‘ทวน’ - ทวนทอง นิยมชาติ (กีตาร์) และ ‘จี’ - จีระศักดิ์ ภักดีโต (เบส) และกลายเป็นทีร่ จู้ กั ของแฟนเพลงด้วยเพลง หูฮ่ ู้ ก่อนจะมีผลงาน อืน่ ๆ ตามมา รวมถึงอัลบัม้ เดีย่ วครัง้ แรกของเขาในชือ่ Ooh & The Ballyhoo
adsaivt ijit V Mook Nationality : Thai Born : 27 January 1969 Died : 29 May 2016 Age : 47
และวงดนตรีที่ดึงซาวนด์มาจากยุค 70s-80s อย่าง Blue’s Bar • ชีวติ ของเขาเหมือนกับการนัง่ อยูบ่ นโรลเลอร์โคสเตอร์ ขึน้ ลง ขึน้ ลง อยู่อย่างนั้น วันที่การงานรุ่งเรือง สุขภาพก็ไม่อ�านวย ในขณะที่เมื่อ สุขภาพก�าลังจะดีขนึ้ การงานก็กลับแย่ลง ครัง้ หนึง่ เขาเคยต้องไปเป็น ยามรักษาความปลอดภัยกะกลางคืน เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิต ประจ�าวัน • “จริงๆ ชีวติ คนเรามันไม่มคี วามแน่นอนครับ ทุกเรือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นอะไร ก็ตาม” วาสิตบอกไว้ในตอนต้นรายการ เจาะใจ เมือ่ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ก่อนจะเล่าถึงชีวิตในช่วงต้นปีเดียวกันว่า ในที่สุดก็มีงานประจ�า ท�าสักที ทัง้ ยังได้พบกับแฟนคนปัจจุบนั ทีเ่ ข้ากันได้ดที กุ อย่าง แต่ชวี ติ เขา มักจะเป็นอย่างนี้ พอเรื่องอื่นๆ ดี เขาก็พบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง ระยะที่ 3 ซึ่งคุกคามไปทั่วร่างกายตั้งแต่ปอด กระดูก ต่อมน�้าเหลือง และกรวยไต • ตลอดเวลาหนึง่ ปีกว่า เขาได้ตอ่ สูก้ บั โรคร้ายอย่างกล้าหาญ พร้อมด้วย ก�าลังใจจากครอบครัว เพือ่ นนักดนตรี และแฟนเพลงจากทุกสมัย จนเมือ่ วันที่ 29 พฤษภาคมทีผ่ า่ นมา เขาได้จากไปอย่างสงบ เหลือไว้เพียงบทเพลง มากมายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของทั้งชีวิตเขาและชีวิตเรา B
YOU SHOULD TRY Readrink #5 ส�าหรับนักอ่านทั้งหลายคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้อ่านหนังสือที่ชอบ ดื่มเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ พร้อมพูดคุยกับคนคอเดียวกันอีกแล้ว ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ The Reading Room จะจัดงาน Readrink ครั้งที่ 5 ให้ทุกคนมาร่วมอ่าน ร่วมดื่ม กับหนังสือเรื่อง เด็กชายในชุดนอน ลายทาง โดย จอห์น บอยน์ พร้อมจิบรูตเบียร์เย็นๆ ไปพลาง งานจะจัดขึ้นตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/thereadingroombkk หรือ www.facebook.com/readery
Corolla Altis Esport Presents Together Festival 2016 ขาแดนซ์ไทยได้แดนซ์ฟลอร์เดือดกันอีกครั้งกับเทศกาล ดนตรีแดนซ์ Corolla Altis Esport Presents Together Festival 2016 ซึ่งในปีนี้เต็มเพียบไปด้วยดีเจระดับแนวหน้าของโลก มากมาย จนท� า ให้ มี ข าแดนซ์ แ ละคอเพลงอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก มารวมตัวกันมากกว่า 15,000 ชีวิต รวมทั้งเหล่าเซเลบ ดารา นักร้อง คนดังมาร่วมสนุกกันมากมาย เตรียมตัวพบกับความสนุก กับงานครั้งต่อไปโดยรีท็อกซ์ เซสชั่น ได้ในวันที่ 11 มิถุนายน กับงาน Road to Ultra น�าทัพดีเจโดย Avicii, Martin Garrix, Jaul และ Sunnery James + Ryan Marciano ติดตามรายละเอียด ที่ http://thailand.roadtoultra.com
GS Battery Tough Present Tough Warrior ท้าคนพันธุ์อึด ชิงเงินรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท
M-150 ครองใจผู้บริโภค คว้าอันดับ 1 แบรนด์ยอดนิยม
ร่วมเป็นหนึ่งในผู้กล้า พร้อมพิชิต 13 ด่านสุดเอ็กซ์ตรีม ที่ท้าทายที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 10-26 มิถุนายนนี้ ในกิจกรรม Tough Warrior ที่จะมีผู้แข็งแกร่งที่สุดเพียง คนเดียวเท่านั้นที่จะคว้าเงินรางวัล 1,000,000 บาท จาก GS Battery Tough ไปครอง สมัครได้แล้ววันนี้ ผ่านช่องทาง ออนไลน์ รายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊ก Sportsmallfans หรือโทร. 06-3456-7542
บริษทั โอสถสภา จ�ากัด โดย สุธดิ า เสียมหาญ ผูอ้ า� นวยการ สื่อสารองค์กร เข้ารับมอบรางวัลในงาน The No.1 Brand Thailand 2016 ซึง่ เครือ่ งดืม่ M-150 ได้รบั รางวัลแบรนด์ยอดนิยม อันดับ 1 ประเภทเครื่องดื่มให้พลังงาน จากผลงานวิจัยของ นิตยสาร Marketeer ร่วมกับ บจก. วิดีโอรีเสิร์ช อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ท�าการส�ารวจกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 100 หมวดสินค้า โดยเก็บข้อมูลจากผูบ้ ริโภค 4,000 ตัวอย่าง ทั่วประเทศ โดย M-150 ได้รับการโหวตเป็นแบรนด์ยอดนิยม ครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
สยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด พาราไดซ์ ครั้งที่ 10 สยามพารากอนขอเชิญร่วมชมความงดงามของกล้วยไม้ หลากสกุลกว่า 700,000 ดอก ในงานสยามพารากอน แบงค็อก รอยัล ออร์คิด พาราไดซ์ ครั้งที่ 10 ภายใต้คอนเซ็ปต์ 70 ปี ใต้ร่มพระบารมี น้อมภักดี จอมราชัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้ า อยู ่ หัว เนื่อ งในโอกาสมหามงคล เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี โดยภายในงานพบกับ ความงดงามอลังการของกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุท์ นี่ า� มา จัดแสดงอย่างยิง่ ใหญ่เพือ่ ให้ผเู้ ข้าชมงานได้สมั ผัสความงดงาม ตระการตาของสีสันจากกล้วยไม้นานาพันธุ์ ระหว่างวันที่ 7-12 มิถุนายน 2559 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ตะลุยกิน in Seoul พ็อกเก็ตบุ๊กจาก ‘โฟม’ - คีตา วงศ์กิตติพัฒน์ นักร้องและนักแต่งเพลงหญิงมาก ความสามารถ ในครัง้ นีเ้ ธอได้ออกหนังสือชือ่ ตะลุยกิน in Seoul โดยเธอได้เดินทางไปรวบรวม ร้านอาหารทัว่ กรุงโซลกว่า 60 ร้าน และ 100 เมนูนา่ ลองส่งตรงมาให้คณ ุ เพือ่ น�าเสนอว่า นอกจากกิมจิแล้ว ยังมีอาหารอีกหลากหลายของเกาหลีทที่ งั้ อร่อย น่าลิม้ ลอง รวมไปถึง ขนม ของหวานต่างๆ เอาใจคนรักการท่องเทีย่ วกับการกินเป็นอย่างยิง่ หนังสือเล่มนีย้ งั ได้ รวบรวมร้านอาหารในกรุงโซลเอาไว้มากมาย ไม่วา่ จะร้านสุดฮิต สุดชิค และร้านคาเฟ่อาร์ตๆ แนวๆ ทัง้ ยังเหมาะส�าหรับคนทีช่ อบถ่ายรูปอีกด้วย วางจ�าหน่ายแล้วตามร้านหนังสือชัน้ น�า B รายละเอียดเพิม่ เติม www.facebook.com/AtittaPublication
THE WORDS ANOTHER FLAW IN THE HUMAN CHARACTER IS THAT
EVERYBODY WANTS TO BUILD AND NOBODY ข้อเสียในตัวมนุษย์อีกอย่างหนึ่งก็คือการที่ทุกคนต้องการแต่จะสร้าง แต่ไม่มีใครอยากท�าหน้าที่บ�ารุงรักษา
• KURT VONNEGUT
CATS ARE INTENDED
A SINGLE TREE IN THE MIDDLE OF NOWHERE
TO TEACH US THAT NOT
EVERYTHING IN NATURE HAS A แมวนั้นตั้งใจจะสอนพวกเราว่า ไม่ใช่ทุกอย่างในธรรมชาติจะมีเหตุมีผลหรอก
ต้นไม้โดดเดี่ยวที่ขึ้นอยู่กลางพื้นที่ห่างไกล หมายความถึงการยืนหยัดต้านทานและชัยชนะ
• MEHMET MURAT ILDAN
WITH A SMILE. ความสงบสุขเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม
• GARRISON KEILLOR
• MOTHER TERESA
OF อะบุ๊กภูมิใจนำ�เสนอ 2 เรื่องร�วชีวิตของบุคคลระดับตำ�น�นของประเทศไทย ที่ได้นักเขียนร�งวัลศรีบูรพ� วันชัย ตันติวิทย�พิทักษ์ ม�จับป�กก�ถ่�ยทอด หล�กหล�ยแง่มุมที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส ให้ผู้อ่�นได้สำ�รวจลึกไปถึงคว�มคิด ตัวตน และผู้คนแวดล้อม ของ 2 ช�ยผู้สร้�งคุณคว�มดีมห�ศ�ลแก่สังคม
THE LAST HERO
ชีวิตและความตายของลูกผู้ชายชื่อ สืบ นาคะเสถียร
250.-
ในสมัยที่ สืบ นาคะเสถียร มีชีวิตอยู่ เขาทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อแก้ปัญหาการล่าสัตว์ ทำาลายป่า แต่สุดท้ายระบบราชการ และความไม่ใส่ใจของผู้มีอำานาจในสังคมกลายเป็นอุปสรรคสำาคัญ จนเขาตัดสินใจเอาชีวิตเข้าแลกกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น
A MAN CALLED PUEY 100 ปีชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กูชายชาญชาติเชื้อ ชาตรี 275.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ไม่เคยมีตำาแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่ชีวิตของท่านกลายเป็นตำานานที่ผู้คนกล่าวขานกัน ตั้งแต่เมื่อท่านมีชีวิตอยู่จนกระทั่งเสียชีวิตไปแล้ว ในฐานะคนดี คนเก่ง และคนกล้าที่นับวันจะหาได้ยากมากในสังคม หนังสือเล่มนี้มีเรื่องราวที่สื่อสะท้อนความเป็นป๋วยได้ครบถ้วน รวมทั้งฉายภาพสถานะของความเป็นลูก เป็นพ่อ เป็นลูกศิษย์ เป็นอาจารย์ เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำา และเป็นตำานานอย่างชัดเจน
บนผืนป่าห้วยขาแข้ง หลายปีที่ผ่านมามีคนสงสัยกันว่าสาเหตุใด ที่ทำาให้สืบฆ่าตัวตาย และกลายเป็นวีรบุรุษในใจผู้คนจำานวนมาก จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งหากจะเข้าใจเรื่องนี้ ต้องรู้ก่อนว่า เขาเป็นคนนิสัยแบบใด และหนังสือเล่มนี้อาจจะ พอให้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้บ้าง
พบกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือชั้นน�าทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ godaypoets.com ในราคาลด 10% และลดพิเศษ 15% ส�าหรับ #abooker
World Street Photography by Alpha บริษัท โซนี่ ไทย จ�ากัด จับมือกับ ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพแนวสตรีทชั้นแนวหน้าของ ประเทศที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เจ้าของรางวัลภาพถ่ายแนวสตรีทระดับโลกอีกหลายรางวัล จัดแสดงผลงานในนิทรรศการภาพถ่ายแนวสตรีท World Street Photography by Alpha โดยทวีพงษ์ ยังได้เชื้อเชิญเพื่อนๆ ช่างภาพแนวสตรีทฝีมือเยี่ยมจากชาติต่างๆ อีก 5 ท่าน มาร่วมจัดแสดง ผลงานด้วย ภายในงานจะได้พบกับผลงานภาพถ่ายแนวสตรีทกว่า 30 ภาพ ส�าหรับผลงานภาพถ่าย ทีจ่ ดั แสดงในนิทรรศการครัง้ นี้ ช่างภาพทุกท่านได้ถา่ ยด้วยกล้องโซนีใ่ นตระกูล A7 Series หลากหลายรุน่ รวมทั้ง Cyber-shot RX100 IV ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ชั้น 2 สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 8 มิถุนายนนี้ เข้าชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ไม ว าจะวันทํางาน วันออกเที่ยว วันหยุดพักผ อน หร�อวันไหนๆ หากคุณอยากได หนังสือสักเล มไว อ าน ให เพลิดเพลินใจ เลือกสรรได จากเอฟเวอร�เดย TOKYO CHARACTER CAFE
woei woei / 345.คาแรกเตอร เลิฟเวอร อย าง เหวย เหวย จะพาคุณตามรอยเหล าคาแรกเตอร ในดวงใจไปถึงโตเกียว เที่ยวครบทุกคาเฟ สุดคร�เอตที่เต็มไปด วยเร�่องราว เบื้องหลัง อย างเช น Moomin House Cafe, One Piece Restaurant Baritie, Chibi Maruko Chan Cafe และอีกมากมายที่จะทําให ทร�ปของ คุณไม ซ้ําใคร!
SLEEP TIGHT WAKE BRIGHT นอนสดชื่น ตื่นสดใส polkadot lover / 375.ชวนคุณเก็บกระเป าลัดเลาะเข าประตูหลังโรงแรมและโฮสเทลมากไอเดีย เร�ยนรู ทุกแนวคิดการออกแบบอย างใส ใจ ตั้งแต วัสดุที่เลือกใช จนถึง อาหารเช าที่ปรุงสดใหม ซึ่งเชื่อว าจะทําให ผู มาเยือน ‘นอนสดชื่น ตื่นสดใส’ อย างแท จร�ง พบกันไดแลววันนี้ที่รานหนังสือชั้นนําทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อโดยตรงที่ godaypoets.com ในราคาลด 10% และลดพิเศษ 15% สําหรับ #abooker
THE GUEST เรื่อง : พิมพ์อร นทกุล ภาพ : วงศกร ยี่ดวง
MADE IN BANGKOK
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ในวันที่แสนจะธรรมดาวันหนึ่ง ขณะเดินเลียบถนนเส้นหนึ่งในกรุงลอนดอน เราสะดุดตากับนิตยสารสีแดงสดที่แจกอยู่บริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน ไม่น่าเชื่อว่า หลายปีผ่านมา เราจะได้รับนิตยสารหัวเดียวกัน เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ได้มีชื่อเมืองลอนดอนห้อยท้ายแล้ว แต่เป็นชื่อกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยบ้านเรานั่นเอง และในวันนี้เรายังมีโอกาสได้นั่งคุย กับ ‘ท็อป’ - พงศธร โกยสมบูรณ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Time Out Bangkok เกี่ยวกับความน่ารักของกรุงเทพฯ ณ คาเฟ่ใจกลางเมืองที่บ่งบอกความเป็นเมืองนี้ได้ดีทีเดียว
เอาจริงๆ นะ เราเคยคิดว่ารูจ้ กั ... กรุงเทพฯ ดีแล้ว แต่ทา้ ยทีส่ ดุ เราอาจจะไม่รจู้ กั มันเลย ก็ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าสิ่งที่เรารู้จักคือสิ่งที่อยู่ในเจเนอเรชันของเรา สิ่งที่เรา สนใจ แต่ต้องอย่าลืมว่าคนเปลีย่ นไปทุกวัน ขนาดเราท�างานมา 7 ปี จนค่อนข้างมัน่ ใจ ว่ารูจ้ กั มันดีแล้ว ยังมีบางอย่างทีเ่ ราไม่รเู้ กีย่ วกับมันเลย เพราะในทุกๆ วันจะมีเด็กใหม่ๆ เข้ามา แล้วเขาพูดอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่เราไม่คุ้น แต่น่าสนใจ เราไม่เชื่อเรื่องการพยายามท�าตัวเหมือนกับว่า... เราอยู่ในอีกเจเนอเรชันหนึ่ง เราลองรูจ้ กั มันได้ แต่ให้เราไปชอบเหมือนเด็กหรือคนทีโ่ ตกว่าคงไม่ได้ นัน่ จึงเป็นสาเหตุ ว่าท�าไมเราไม่สามารถท�างานคนเดียวได้ เราต้องท�างานเป็นทีม เราไม่ใช่อับดุล เราไม่รู้ทุกเรื่องหรอก (หัวเราะ) วิธกี ารทีง่ า่ ยทีส่ ดุ คือ… การคบเพื่อนหลายๆ แบบ เนื้อหาในนิตยสารของเราหาไม่ได้ จากอินเทอร์เน็ต ถ้าเรานั่งท�าหนังสือโดยหาเนื้อหาจากอินเทอร์เน็ต มันก็ไม่ใช่แล้ว เราเลยชอบการคบเพื่อนหลายๆ แบบ ถ้าเราล้อมรอบด้วยคนแค่กลุ่มเดียว โลกเรา จะแคบไปเลย การรู้จักเพื่อนหลายๆ แบบท�าให้รู้ว่า ในสังคมมีคนหลายรูปแบบ มีคนที่คิดไม่เหมือนกับเรา นิตยสารที่เราท�าออกมาจึงเป็นเรื่องกลางๆ เป็นสื่อที่ไม่ว่า คุณจะอยู่ตรงไหนของสังคมก็สามารถสนุกกับมันได้ ถ้าให้เปรียบเทียบ Time Out Bangkok ก็คงคล้ายกับ... Time Out New York คือมีเนื้อหากลางๆ ไม่ได้เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งจนเกินไป แต่กลางๆ ในที่นี้ก็ยังมี ความเปรี้ยว ความสนุก สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง กลุ่มเป้าหมาย ของเราคือ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนพื้นเมืองหรือนักท่องเที่ยว โดยต้องเป็นคนที่ยอมใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ต่างๆ ในยุคที่ใครๆ ก็บอกว่าสิ่งพิมพ์ก�าลังจะตาย ส�าหรับเราแล้ว... สิ่งพิมพ์ก็ยังมี ความส�าคัญในการสร้างแบรนด์ เรารู้สึกว่า decision maker ในการใช้สตางค์ โตมา ในยุคที่ยังมีสิ่งพิมพ์อยู่ เขายังเข้าถึงสิ่งพิมพ์กันอยู่ ถ้าเป็นรุ่นหลังจากนี้คงจะเป็น ดิ จิ ต อลมากขึ้ น แล้ ว แหละ แต่ ก็ มี บ างอย่ า งที่ ดิ จิ ต อลท� า ไม่ ไ ด้ ไ ม่ ว ่ า จะเป็ น ภาพ เลย์เอาต์ หลายๆ อย่างที่ดูบนหน้ากระดาษยังไงก็สวยกว่า ส�าหรับเรา หน้าทีข่ องบรรณาธิการสมัยนีไ้ ม่ใช่แค่... เขียนหนังสือและท�าเนือ้ หาดีๆ เท่านัน้ เพราะต้องอย่าลืมว่าเนือ้ หาทีด่ แี ต่ไม่มคี นอ่านก็กลายเป็นของเสีย บรรณาธิการ ต้องสร้างสมดุลระหว่าง commercial ใน editorial ให้ได้ ซึ่งนี่ก็เป็นการรับต�าแหน่ง บรรณาธิการครัง้ แรกของเรา เพิง่ รูว้ า่ การปรับงานของคนอืน่ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นเรื่องที่ยากมาก และการจัดการคนก็ยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยิบย่อยกระจุกกระจิก
HIS WAY • ท็อป’ - พงศธร โกยสมบูรณ์ เข้าสูว่ งการหนังสือด้วยการฝึกงาน ที่นิตยสาร BK Magazine ก่อนจะ เข้ า ท� า งานเป็ น พนั ก งานประจ� า หลั ง จากนั้ น เขาก็ ย ้ า ยไปท� า งาน ที ่ The Magazine ของ Bangkok Post ก่อนจะรับต�าแหน่งเป็นบรรณาธิการ บริหารของ Time Out Bangkok • นิตยสาร Time Out Bangkok เป็น นิตยสารแจกฟรี ทุกๆ 2 สัปดาห์ ติ ด ตามความเคลื่ อ นไหวได้ ที่ www.timeout.com/bangkok
คนนั้นลา คนนี้ป่วย ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ เป็นความท้าทายหมดเลย ตอนแรก ไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นบรรณาธิการตอนอายุเท่านี้ แต่พอมีโอกาสเข้ามา เราก็รับมันไว้ เพราะนี่ เ ป็ น อาชี พ ที่ เ ราอยากท�า ที่ สุ ด ที่ ส� า คั ญ ในขณะที่ สื่ อ หลายแห่ ง ปิ ด ตั ว ลง เรายังได้ท�างานที่รัก ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องบ่นอีกแล้ว คนท�าสือ่ ต้องจ�าไว้เสมอว่า... เรามีหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม เรามีอิทธิพลต่อคนอื่น ไม่ว่าจะกลุ่มเล็กหรือใหญ่ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ ลองคิดดูว่า ขนาดเราโพสต์ เฟซบุ๊กแล้วบอกว่าร้านอาหารร้านนี้อร่อย เพื่อนยังตามไปกินเลย แล้วการเป็นสื่อ จะมีอา� นาจขนาดไหน ดังนั้น สื่อต้องคิดดีๆ ว่าอยากจะสื่ออะไรออกไปให้คนอื่นๆ บ้าง เสน่หข์ องกรุงเทพฯ อยูท่ .ี่ .. ความเละเทะ (ยิม้ ) มันคือความหลากหลาย มันไม่มอี ะไร เป๊ะเลย หน้าช็อป Louis Vuitton ตรงเกษรพลาซ่า ยังมีแผงลอยเต็มไปหมดเลย ผมว่าความหลากหลายของคนและสิง่ ต่างๆ ในเมืองนีค้ อื เสน่ห ์ เป็นสิง่ ทีท่ า� ให้กรุงเทพฯ เป็นกรุงเทพฯ ในวันนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจสัมภาษณ์คนหลายๆ อาชีพ เพราะกรุงเทพฯ ไม่สามารถมีคนกลุ่มเดียวได้ ไม่สามารถมีคนเหมือนกันได้ แต่ควรจะ เป็นคนหลายๆ แบบที่มีใจรักในเมืองหลวงแห่งนี้ ร่วมมือกัน ท�ายังไงให้เมืองมันดี เพื่อส่งแรงบันดาลใจนั้นสู่รุ่นต่อไป และรุ่นต่อไปก็จะได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ ก็จะเป็นอย่างนี้ เป็นพลวัตไปเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ยังท�าให้กรุงเทพฯ มีชีวิตชีวาอยู่ คอลัมน์ทชี่ อบทีส่ ดุ ทัง้ ในฐานะคนท�าและคนอ่านคือ... feature เราไม่ค่อยเห็นสิ่งนี้ ในนิตยสารแจกฟรี โดย feature ในที่นี้ไม่ใช่การสัมภาษณ์ แต่เป็นบทความที่ผ่าน การค้นคว้าหาข้อมูลแบบทีเ่ ราจะเห็นบ่อยๆ ในนิตยสารเล่มหนาๆ ซึง่ หลังๆ คนไม่ค่อย ได้ซื้อ เราพยายามดึงสิ่งนั้นมาอยู่ในนิตยสารแจกฟรี เราเชื่อว่ามนุษย์เราสามารถ เปรี้ ย วและฉลาดไปด้ ว ยในเวลาเดี ย วกั น ได้ คนที่ สู บ บุ ห รี่ กิ น เหล้ า ก็ ส ามารถพู ด เรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจได้ เราจึงพยายามสอดแทรกสิ่งนี้เข้าไปใน Time Out Bangkok ข้อเสียอย่างหนึง่ ของคนกรุงเทพฯ คือ... ไม่ยอมรับความชอบของคนอืน่ เราเคยเห็น คนใส่ชุดคิตตี้สีชมพูทั้งตัวเดินบนถนนแล้วหัวเราะเขาหรือเปล่า เคยใช่ไหม ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ควร นั่นคือความชอบของเขา เขามีความสุข เราจะมีสิทธิอะไรไปตัดสินเขา เนื้อหาใน Time Out เลยเป็นกลางอย่างที่บอกไปแล้ว และจะไม่ตัดสินรสนิยมของใคร เลย มันอาจจะท�าให้สนุกน้อยลง เพราะเราไม่กัดใคร แต่เราก็ไม่เห็นความจ�าเป็น B ที่จะต้องกัดใครเพื่อให้ตัวเองดูเจ๋ง คนเราเจ๋งได้เพราะตัวเอง