1
2
3
4
5
คณะที่ปร�กษา
Editor s Talk
ผศ.ดร.ณรงค พุทธิช�ว�น ผศ.ดร.ประโยชน คุปตกาญจนากุล ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ศุภพร ลองดุร�ยางค ปญญา แสงสุร�ยัน สุณิสา วงศเจร�ญ
Issue 52 December 2014 - January 2015
สวัสดีครับคุณผูอาน นิตยสาร ฉบับพิเศษเดือนธันวาคม 2557 ส่งท้ายปีเก่าได้ควบกับเดือน มกราคม 2558 ต้อนรับปีใหม่ เพือ่ ปรับแผนการออกหนังสือใหม่¢องáµ่ÅÐàด×อ¹ «Öèงµ่อä» คุณผู้อ่านที่เป็นแฟนของ สามารถเข้าไปอ่านนิตยสารแอทสุราษฎร์ได้ทาง เว็บไซต์ atsurat.com ทั้งสองระบบคือ android ของ google play และ ios ของ iphone อย่างทัว่ ถึง เพราะสังคมชาวโลกคือสังคมออนไลน์ ข่าวสารต่างๆ จะรวดเร็วทันใจ เพราะฉะนัน้ ชาวสุราษฎร์ฯ ต้องรีบปรับตัวล่วงหน้านะครับ ฉบับส่งท้ายปีได้มีโอกาสพิเศษสัมภาษณ์ รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ท่าน สวมหมวกผู้บริหารถึงสามใบ คือ หัวเรือใหญ่ มอ.วิทยาเขตสุราษฎร์ฯ ผอ.สถานวิจัย ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยียางพาราและผูร้ เิ ริม่ ก่อตัง้ ผูร้ บั ใบอนุญาตโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี สำาหรับฉบับนี้ ทีมงาน ได้สมั ภาษณ์อาจารย์เจริญ นาคะสรรค์ เรือ่ งแรก ยางพารา ทำาไมราคายางถึงตกต่าำ และจะแก้ไขวิกฤติเรือ่ งยางพาราซึง่ ผูกติดกับเรือ่ งปากท้อง ของคนปักษ์ใต้อย่างไร ขณะนีภ้ าคใต้ของเราเศรษฐกิจตกต่าำ ย่าำ แย่ทกุ ครัวเรือน รัฐบาล ต้องรีบหาทางแก้ไขโดยด่วนอย่าปล่อยให้เนิ่นช้าเหตุการณ์จะบานปลาย เหมือนอย่าง รัสเซีย เรื่องที่สอง การเป็นหัวเรือบริหาร มอ.วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี คุณผู้อ่านไม่ควร พลาดสำาหรับคอลัมน์ exclusive ฉบับตอบโจทย์ปัญหายางพาราของบ้านเราครับ นอกจากนั้น คอลัมน์ my beloved tapee คุณกานต์ ลิ่มสถาพร ได้กล่าวถึงท่าน พุทธทาสที่แสดงธรรม ณ ลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา ช่วงส่งท้ายปี 2522 ได้อย่างจับใจ และทิ้งท้ายด้วยคำาบาลีสั้นๆ “µ¶ÒµÒ” ໚¹àª‹¹¹Ñé¹àͧ ขอสวัสดีปีใหม่ 2558 ทุกท่านครับ ดร.หิรัญ ชคทานนท บรรณาธิการบร�หาร บทความและรูปภาพทั้งหมด (ยกเว้นโ¦ษณา-ข่าว) ในนิตยสาร @Surat สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย หากจะ นำาไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการเท่านั้น สำาหรับสารคดี บทความ ข้อความ-ภาพโ¦ษณา ความคิดเห็นและข้อเขียนต่างæ ในนิตยสาร @Surat เป็นความคิดเห็นส่วนตัวและเป็นความรับผิดชอบของ ผู้เขียนผู้ประกอบการที่ลงโ¦ษณาเท่านั้น คณะผู้จัดทำานิตยสารไม่จำาเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีใดæ ทั้งสิ้น (เลขทะเบียนการจดแจ้งการพิมพ์ที่ สศก. ñô/ñò/òõõó)
บรรณาธิการอํานวยการ
พ.อ.(พ�เศษ) ธัญญลักษณ แกวนอย
บรรณาธิการบร�หาร ดร.หิรัญ ชคทานนท
ผูชวยบรรณาธิการบร�หาร จํานงค ศร�วุน
ฝายการตลาด
ปร�ชา ชคทานนท
กองบรรณาธิการ
ษราวุธ พัฒนศิร� สุจ�ตรา กอกิจไพศาล ว�ร�ยะ กลิ�นเสาวคนธ
กราฟฟ�ค ดีไซน วัชระ กัญญาหาร อดิเทพ มีวัฒนะ
พ�สูจนอักษร
พ�ชญธิดา ศร�ธิ
ชางภาพ
ษราวุธ พัฒนศิร�
นักเข�ยนประจํา
ธีรภาพ โลหิตกุล อภินันท บัวหภักดี กานต ลิ�มสถาพร ดร.ภาสกร ธรรมโชติ
ที่ปร�กษาฝายกฎหมาย สิทธิราช ศร�แกว
ติดต่อสำานักพิมพ์ได้ที่ ห้างหุ้นส่วนจำากัด โกก๊ก มีเดีย 49/4 ถ.ดอนนก ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โ¦ษณา : ดร.หิรัญ ชคทานนท์ โทร. 081-777-6366, 077-288-607 E-mail : atsuratmag@gmail.com Website : www.atsuratmag.com
7
8
9
contents
Page
10
Volume 5 Issue 52 December 2014 - January 2015
Exclusive
22
มองอนาคตการศึกษา เสริมความแกร่งด้วยงานวิจัยยางพารา ผ่านมุมมองของ
รองศาสตราจารย ดร.เจริญ นาคะสรรค
àÃÒÊÒÁÒöà»ÅÕè¹âÁàÅ¡ØÅÂÒ§ãˌ໚¹Çѵ¶Ø·¹ä¿µÑé§áµ‹ÃдѺµèíÒ¨¹¡ÃзÑ觨شä¿äÁ‹µÔ´ ËÃ×Íà»ÅÕè¹ÂÒ§ãˌ໚¹ÇÑʴعíÒä¿¿‡Òä´Œ «Öè§ÇÑʴشѧ¡Å‹ÒǹÕéÊÒÁÒö¹íÒä»ãªŒ»ÃÐ⪹ ä´Œ ËÅÒ¡ËÅÒÂÍصÊÒË¡ÃÃÁ «Ö觨Ð໚¹á¹Ç·Ò§ãËÁ‹·ÕèàÃÒ¡íÒÅѧàʹ͡ѺÃÑ°ºÒÅ
36 Destination : Health Noir â´Â ¹¾.ÇÕÃÐÇѲ¹ ¾Ñ¹¸ ¤Ãر 20
Buddhadasa on my Mind ความจร�ง
40
Beauty Talk บอกลา…ปญหาเซลลูไลท
22
Exclusive มองอนาคตการศึกษา เสร�มความแกรงดวยงานว�จัยยางพารา ผานมุมมองของ รองศาสตราจารย ดร.เจร�ญ นาคะสรรค
42
Hotel of the Month ผอนคลายกับบรรยากาศบูติคร�มหาด Anantara Bophut Resort & Spa Koh Samui
32
Good Health & Wellness
44
Eat & Drink หลงเสนหอาหารไทยในบาน @นิภา เฮาส
34
ASEAN Art Corridor ตะนาคา : เคล็ดลับพมาผิวเนียน
46
My Beloved Tapee พุทธทาสกับโลกและจักรวาล ตอนที่ 2
P34
10
เร�่องของนํา้ลาย
ASEAN Art Corridor
ตะนาคา : เคล็ดลับพมาผิวเนียน
P42
Hotel of the Month
ผอนคลายกับบรรยากาศบูติคริมหาด Anantara Bophut Resort & Spa Koh Samui
P44
Eat & Drink
หลงเสนหอาหารไทยในบาน @นิภา เฮาส
11
contents
Page
12
Volume 5 Issue 52 December 2014 - January 2015
52 Health Care
วิง่ เพือ่ สุขภาพ วิง่ สร้างกุศล วิง่ สร้างโรงพยาบาล ¡ÒÃÍÍ¡¡íÒÅѧ¡ÒÂ໚¹àÃ×èͧÊíÒ¤ÑÞ ´Ñ§¹Ñé¹à¾×èÍÊ‹§àÊÃÔÁãËŒ»ÃЪҪ¹ä´ŒÁÕ¤ÇÒÁµÃÐ˹ѡ㹡ÒÃÍÍ¡¡íÒÅѧ¡Ò âç¾ÂÒºÒŨ֧䴌¨Ñ´§Ò¹ÇÔè§ÁÒÃҸ͹¢Öé¹ã¹àªŒÒÇѹ·Õè 14 ¸Ñ¹ÇÒ¤Á ¾.È.2557 «Öè§ÁÕ»ÃЪҪ¹¨íҹǹÁҡ䴌ࢌÒËÇÁ¡Ô¨¡ÃÃÁ¡ÒÃᢋ§¢Ñ¹ã¹¤ÃÑ駹ÕéÕ
48
Letter from England ฉบับที่ 28 หองเร�ยนคุณภาพระดับโลก
60
The Wisdom
50 52
Smart Life
62
@Talk
64
@Coffee
56
Favorite Food
68
Save the Birds
P60
12
Health Care
ว�่งเพ��อสุขภาพ ว�่งสรางกุศล ว�่งสรางโรงพยาบาล “อีสานครกใหญ” เติมเต็มความสุขดวยความแซบถึงใจ
The Wisdom
ภูมิปญญาไทย... ไมแพชาติใดในโลก ตอนที่ 2
P62
@Talk
ภูมิปญญาไทย… ไมแพชาติใดในโลก ตอนที่ 2 เศรษฐกิจปแพะ ปแหงปจจัยเสี่ยงที่หลากหลาย Mozart Coffee โมสารท คอฟฟ�� กาแฟผสมดนตรี
นกจาบคาเครานํา้เง�น
เศรษฐกิจปแพะ ปแหงปจจัยเสี่ยงที่หลากหลาย
P64
@Coffee
Mozart Coffee โมสารท คอฟฟ กาแฟผสมดนตรี
13
Society
Text : กองบรรณาธิการ@Surat
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีและชุมชนพุมเรียง จัดกิจกรรมตักบาตรย้อนรอยท่านพุทธทาส
กิจกรรมตักบาตรย้อนรอยท่านพุทธทาส เป็นกิจกรรมทีม่ หาวิทยาลัยราชภัฏ สุราษฎร์ธานีจดั ขึน้ เพือ่ ให้เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และชุมชนพุมเรียง อันเป็นชุมชนบ้านเกิดของท่านอาจารย์พทุ ธทาส เนือ่ งจากมหาวิทยาลัยฯ มองเห็น คุณค่าและศักยภาพของชุมชน ในการทีจ่ ะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรม โดยกิจกรรมตักบาตรย้อนรอยท่านพุทธทาสนี้ จัดขึ้นทุกสัปดาห์ที่หนึ่งของเดือน เริ่มตักบาตรเวลา 07.00 น. โดยพระภิกษุจากสวนโมกขพลารามจะเริ่มเดินจาก วัดสมุหนิมติ ผ่านตลาดพุมเรียง สิน้ สุดและฉันภัตตาหารเช้าทีว่ ดั ตระพังจิก หรือสวน โมกขพลารามแห่งแรก โดยได้รบั ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเทศบาลตำ�บลพุมเรียง และชาวชุมชนพุมเรียง
14
15
Society
Text : กองบรรณาธิการ@Surat
ประมวลภาพงานวิ่งการกุศลเพื่อโรงพยาบาล
หารายได้สบทบทุนครุภณ ั ฑ์ทางการแพทย์และสร้างห้องพิเศษ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคมนี้ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จัดการ แข่งขันมาราธอน ครัง้ ที่ 1 โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต รองผูว้ า่ ราชการจังหวัด สุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธเี ปิดการแข่งขัน มีนายแพทย์อดิเกียรติ เอีย่ มวรนิรนั ดร์ ผูอ้ �ำ นวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นักกีฬา VIP ของ จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนักวิง่ ร่วมในการแข่งขันครัง้ นีม้ ากกว่า 3 พันคน โดยปล่อยตัว ณ จุดสตาร์ท โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เงินรายได้จาก การจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้มากกว่า 4 ล้านบาท
16
17
Society
Text : กองบรรณาธิการ@Surat
การแข่งขันกีฬาสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี “สุราษฎร์ธานีสามัคคี”
นายแพทย์จริ ชาติ เรืองวัชรินทร์ รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สุราษฎร์ธานี เป็นประธานพิธเี ปิดการแข่งขันกีฬาสาธารณสุขสุราษฎร์ธานีสามัคคี ซึ่งแบ่งเป็นโซน คือ โซนเหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตกและกลาง ประจำ� ปี 2557 เพื่อคัดเลือกตัวนักกีฬาไปแข่งขันระดับเขตบริการสุขภาพที่ 11 ซึ่งมี 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนและสู่ระดับประเทศต่อไป โดยโซนกลางได้รับเหรียญ มากทีส่ ดุ จัดการแข่งขันเมือ่ วันที่ 20 ธันวาคม 2557 ทีส่ นามกีฬากลางจังหวัด สุราษฎร์ธานี
18
19
Buddhadasa on my mind
Text / Photo : ธีรภาพ โลหิตกุล
ความจริง
อย่าสะท้านกับความทุกข์ อย่าสุขจนประมาท เติมสิ่งที่เต็ม...อย่าให้ขาด ธรรมชาติคือความจริง พุทธทาสภิกขุ*
20
พุทธทาสภิกขุ อริยสงฆ์ผสู้ ร้าง “สวนโมกขพลาราม” เป็นแหล่งศึกษาและปฏิบัติแก่นแท้แห่งพุทธธรรม ท่านเป็นชาวอำ�เภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รบั การยกย่องจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ ให้เป็น “บุคคลสำ�คัญผู้มีผลงานดีเด่นระดับโลก” ในปี พ.ศ. 2549
21
Exclusive
Text : ฟิล์ม-อีซิก Photo : ษราวุธ พัฒน์ศิริ
รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์
รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ผู้อำานวยการสถานวิจัยความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยียางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
22
หล�ยเดือนที่ผ่�นม�ของปี 57 ข่�วใหญ่พ�ดหัวหนังสือพิมพ์ “ย�ง 3 กิโล 100 ตกต่ำ�ที่สุดในรอบ 40 ปี” ย่อม เป็นข่�วทีม่ ผ ี ลกระทบกับเกษตรกรช�วสวนย�งไปทัว่ ประเทศ เพร�ะย�งพ�ร�คือ หนึง่ ในพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย โดยเ©พ�ะช�วภ�คใต้เกือบทัง้ ร้อย ทำ�อ�ชีพสวนย�ง เมือ่ ร�ค�ย�งตกต่�ำ ย่อมทำ�ให้เศรษฐกิจ ค่�ครองชีพ ¸ุรกิจก�รค้�ข�ย ของช�วบ้�นติดขัดกันเป็นลูกโซ่ ดังนั้นหล�ยæ รัฐบ�ลต่�งห�ม�ตรก�รม�ช่วยเหลือ และอีกแง่มุมหนึ่ง ในภ�คก�รศึกษ� ก็ไม่นิ่งเ©ย โดยเ©พ�ะมห�วิทย�ลัยระดับ TOP 5 ของประเทศ มห�วิทย�ลัยสงขล�นครินทร์ วิทย�เขตสุร�ษ®ร์¸�นี โดย เ©พ�ะง�นของ สถ�นวิจยั คว�มเป็นเลิศด้�นเทคโนโลยีย�งพ�ร� มห�วิทย�ลัยสงขล�นครินทร์ ทีอ่ ยูภ่ �ยใต้ก�รบริห�รง�น ¢Í§ รศ.ดร.เจริญ น�คะสรรค์ และสถ�บันวิจยั และพั²น�นวัตกรรมย�งพ�ร� มห�วิทย�ลัยสงขล�นครินทร์ ทีอ่ �จ�รย์ ร่วมเป็นค³ะกรรมก�รบริห�รÏ
มองอนาคตการศึกษา เสริมความแกร่งด้วยงานวิจัยยางพารา
ผ่านมุมมองของ
รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ ประวัติก�รศึกษ�และผลง�นดีเด่น
ผมสำาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเคมี จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ หลัง จากนั้นเข้าทำางานในบริษัทเอกชนได้ปีเศษๆ จึงตัดสินใจเข้าไปเรียน ต่อระดับปริญญาโท ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์โพลิเมอร์ที่ วิทยาลัย ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่กำาลัง ศึกษาอยูก่ ไ็ ด้ทาำ งานไปพร้อมกัน และได้รบั ทุนพัฒนาอาจารย์ (UDC) ของ ม.อ.ปัตตานี หลังจากจบการศึกษาก็มีโอกาสไปทำางานที่ ม.อ. วิทยาเขตปัตตานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เป็นอาจารย์ประจำาอยู่ 2 ปี และได้รับทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไปเรียนต่อด้านวิศวกรรม โพลิเมอร์ทมี่ หาวิทยาลัยแบล็ดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ใช้เวลาศึกษา กว่า 4 ปี และในปี พ.ศ. 2540 ก็สำาเร็จการศึกษาระดับปริญญา เอก และเริ่มทำางานเป็นอาจารย์และนักวิจัย จนได้เลื่อนขึ้นไปตาม ลำาดับ พอทำางานได้สกั ระยะหนึง่ ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้อนุมตั ใิ ห้จดั ตัง้ สถานวิจยั ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยียางพารา ก็ได้เริม่ งานเป็น ผูบ้ ริหารในฐานะผูอ้ าำ นวยการสถานวิจยั ความเป็นเลิศฯตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2550 ได้รับการสรรหาให้เป็น คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ.ปัตตานี ขณะเดียวกัน ก็ทำางานวิจัยและบริหารสถานวิจัยความเป็นเลิศฯ ควบคู่กันไปด้วย สาเหตุทต่ี อ้ งการทำางานด้านยางพารา เพราะต้องการหาความรูด้ า้ น ยางพารา เพื่อจะนำาไปพัฒนาความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยียางพาราให้กบั ประเทศ และในปี พ.ศ. 2553 ทางมหาวิทยาลัยฯ โดยท่านอธิการบดีคนปัจจุบนั คือ รองศาสตราจารย์ ดร. ชูศกั ดิ์ ลิม่ สกุล ได้มอบหมายให้ผมไปดำารงตำาแหน่งรองอธิการบดีที่ ม.อ.วิทยาเขต สุราษฎร์ฯ เพือ่ พัฒนาวิทยาเขตฯ ซึง่ เป็นพืน้ ทีภ่ าคใต้ตอนบน ขณะนี้ ก็ทาำ งานทีน่ มี้ าประมาณเกือบ 3 ปีแล้ว ก็ทาำ หน้าทีเ่ ป็นรองอธิการบดีฯ ไปพร้อมกับทำางานด้านการวิจัยด้านยางพาราเช่นเดิม
ผมได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและ คณิตศาสตร์ของสภาวิจยั แห่งชาติ และรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มูลนิธิโทเร ประเทศไทย เมื่อปีพ.ศ.2553 ในขณะที่ผมดำารงตำาแหน่ง คณบดีฯ รางวัลทีไ่ ด้เป็นเป็นผลงานวิจยั ในเชิงประจักษ์ในภาพรวมด้าน ยางพารา คือ เริ่มจากน้ำายางออกมาจากต้นยาง แล้วทำาอย่างไรจะ เปลีย่ นแปลงให้เพิม่ มูลค่าของยาง เพือ่ ขยายขอบเขตการใช้งานในรูปแบบ ต่างๆ โดยเฉพาะจากฐานความรู้ปริญญาตรีด้านเคมี ทำาให้ผมเข้าใจ ธรรมชาติของโมเลกุลยางพาราเป็นอย่างดี จึงสามารถดัดแปลงโมเลกุล ได้หลายรูปแบบ เช่น เราสามารถเปลี่ยนโมเลกุลยางให้เป็นวัตถุทนไฟ ตั้งแต่ระดับต่ำาจนกระทั่งจุดไฟไม่ติด หรือเปลี่ยนยางให้เป็นวัสดุนำา ไฟฟ้าได้ ซึ่งวัสดุดังกล่าวนี้สามารถนำาไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อุตสาหกรรม ซึง่ จะเป็นแนวทางใหม่ทเี่ รากำาลังเสนอกับรัฐบาล เพือ่ เพิม่ ขอบเขตการใช้งานยางพารา ซึ่งงานวิจัยในลักษณะนี้เป็นภาพรวมที่ เรียกว่า Global Research Trend หรือทิศทางงานวิจัยของโลกที่จะ เกิดประโยชน์กบั คนทัง้ โลก ไม่เพียงแต่คนไทย เราจึงไม่ได้มองทีพ่ นื้ ทีใ่ น จังหวัดสุราษฎร์ฯ หรือภาคใต้เท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาเพื่อมนุษยชาติ เนื่องจากยางมีคุณประโยชน์มากมาย นอกเหนือจากที่เห็นโดยทั่วไป เช่น การทำายางล้อรถยนต์ ล้อรถบรรทุก ล้อเครื่องบิน รองเท้ายาง หรือยางฟองน้ำา เป็นต้น
ผลของก�รทำ�ง�นวิจัยมีก�รนำ�ไปต่อยอดอย่�งไร?
ผมคิดว่าสถานการณ์ของบ้านเรา “ตีกลองคนละที” หมายความว่า นักวิจยั ก็ทาำ การวิจยั และพัฒนาไป ส่วนภาครัฐก็ทาำ ไปในทิศทางทีต่ อบสนอง ต่อความต้องการของรัฐบาลในแต่ละยุค ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นความ สำาคัญของงานวิจัย หรือเข้าใจการวิจัยไม่ครบวงจร ไม่มีความต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงไปตามรัฐบาล ซึ่งโดยทั่วไปงานวิจัย หากทำาในระยะสั้นๆ
23
แล้วให้เกิดประโยชน์ ในการนำาไปประยุกต์นำาไปใช้เลย เป็นสิ่งที่ เป็นไปได้ยาก ต้องมีการวิจยั พืน้ ฐานเพือ่ สร้างองค์ความรูท้ เี่ พียงพอ เช่น การทีป่ ระเทศสหรัฐอเมริกาสามารถส่งยานอวกาศ อพอลโล 11 ขึน้ ไปสำารวจดวงจันทร์ได้ นักวิจยั ต้องเริม่ จากการศึกษาวิชาฟิสกิ ส์ คณิตศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์และงานวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ทีเ่ กีย่ วข้องอย่างจริงจัง “ก�รวิ¨ยั ย�ง¾�ร�” ก็ในทำานองเดียวกัน กว่าที่การจะนำาองค์ความรู้มาทำาผลิตภัณฑ์ได้ต้องอาศัยความรู้ พื้นฐานมากมาย และต้องมีการวางแผนเป็นระยะๆ ในวันนี้ทีม วิจัยของ ม.อ. ได้เดินทางมาครบเกือบทุกระยะ หมายความว่า เรามีผลวิจัยในหลายเรื่องที่น่าจะสามารถส่งเสริมและประยุกต์ ให้เกิดประโยชน์กบั ภาคอุตสาหกรรมและประชาชนในภาพรวมได้ โดยสามารถส่งเสริมให้มกี ารผลิตในระดับ วิสาหกิจชุมชนสหกรณ์ ชาวสวนยาง หรือใน SMEs ในการพัฒนาคุณภาพยางให้กับ เกษตรกร โดยเฉพาะด้านการอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ผมและทีมงานวิจัยได้มีโอกาสลงไปช่วยเหลือมาโดยตลอด โดย เฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ลงไปดูแลโรงงาน ผลิตยางแผ่นรมควัน โรงงานผลิตน้ำายางข้นเพื่อที่จะส่งเสริมให้ คำาปรึกษาให้มกี ารผลิตยางทีม่ คี ณ ุ ภาพทีด่ แี ละเหมาะทีจ่ ะใช้ตอ่ ใน อุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไป ในส่วนงานวิจัยที่เกิดขึ้นจากทีมวิจัยที่ ผมมีส่วนร่วม ผมคิดว่าต้องมีการนำางานวิจัยไปต่อยอด ขยายผล ให้เกิดผลิตภัณฑ์ยางที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงๆ
ร�งวัลทีอ่ �จ�รย์ได้รบั จ�กง�นวิจยั มีคว�มภูมใิ จ และ รู้สึกอย่�งไร
ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รบั รางวัลในระดับนี้ ผมเป็นนักวิจยั โนเนมอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยในขณะนั้น ที่มีความเสี่ยงต่อชีวิต จริงๆ ก็ประหลาดใจว่าเขาให้เราได้อย่างไร ในเมื่อมีคนเก่งใน ประเทศนีจ้ าำ นวนมาก แต่เมือ่ ปรากฏว่าเราได้การพิจารณาให้ได้รบั รางวัลก็รสู้ กึ ดี และเป็นการตอกย้าำ ว่า สิง่ ทีเ่ ราทำามาตลอดระยะเวลา หลายปีเป็นสิ่งที่ดีเกิดประโยชน์กับประเทศ สร้างความมั่นใจ ว่าในการพัฒนาองค์ความรู้ทั้งในส่วนที่จะนำากลับมาสอนให้กับ ลูกศิษย์ และก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ยางชนิดใหม่เพือ่ เพิม่ มูลค่า ให้กับประเทศไทย อย่างไรก็ตามบางคนไม่เข้าใจ และมีหลายคน ทีพ่ ดู ให้เราเสียกำาลังใจมาบ้างในระยะทีด่ าำ เนินงานในช่วงทีผ่ า่ นมา แต่ผมก็มคี วามตัง้ ใจ มุง่ มัน่ และต่อสูม้ าตลอด พอได้รางวัลดังกล่าว ก็ เป็นข้อพิสจู น์อย่างหนึง่ ว่าสิง่ ทีเ่ ราได้ทาำ มานัน้ เป็นสิง่ ทีถ่ กู และเป็น สิง่ ทีด่ ี และการเป็นลูกศิษย์ของสงขลานครินทร์มาตัง้ แต่ตน้ ก็ได้รบั เอาพระปณิธานของสมเด็จพระราชบิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในเรือ่ งของการสร้างประโยชน์ ให้กบั ผูอ้ นื่ ทีว่ า่ “ขอให้ถอื ประโยชน์สว่ นตน เป็นทีส่ อง ประโยชน์ ของเพือ่ นมนุษย์ เป็นกิจทีห่ นึง่ ลาภ ทรัพย์และเกียรติยศ จะตกแก่ ตัวท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์” áÅÐ วรรคสุดท้ายของพระปณิธานที่ว่า การทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ ให้บริสุทธิ์ จะได้มาซึ่งลาภ ทรัพย์และสรรเสริญ นั้นเป็นจริงแล้ว
24
เป็นเวลากว่า 20 ปี ทีผ่ มตัง้ ใจทำางานอุทศิ เวลา ด้วยความอุตสาหะและมี ธรรมะแห่งอาชีพ ก็ได้มาซึง่ ลาภทรัพย์ และสรรเสริญจริงๆ เกิดประโยชน์ แก่คนไทย สุดท้ายก็มีคนเห็น และได้รับรางวัลดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นอย่าง แน่นอน คือ “คว�มสุข” การทีผ่ มได้รบั รางวัลนักวิจยั ดีเด่นแห่งชาติ ต้องภูมใิ จครับ และผม เป็นคนที่ 3 ของนักวิจัย ม.อ. ทีไ่ ด้รบั รางวัลนี้ ในขณะนี้ทงั้ มหาวิทยาลัยฯ มีผู้ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ มาแล้วทั้งหมด 5 คน และผมเป็น คนเดียวที่เป็นนักวิจัยจากวิทยาเขตอื่นที่ได้รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ
“
“
มีบ�งคนปร�ม�สว่�นักวิจัยมห�วิทย�ลัยÏ เอ�ง�นวิจัยขึ้นหิ้ง ผมก็ยังคิดท�งบวกนะครับ ว่�วันไหนที่มีปัญห�ก็ส�ม�รถหยิบง�นวิจัยจ�กหิ้งนี้ม�ใช้ได้
ส�เหตุทที่ �ำ ให้ร�ค�ย�งพ�ร�ตกต่�ำ เป็นเพร�ะอะไร ? และมีแนวท�งแก้ไข อย่�งไร?
เพราะขณะนี้ปริมาณยางมีมากกว่าความต้องการ เนื่องจากการใช้งานส่วนใหญ่ คือ ใช้ทำายางล้อ โดยเฉพาะล้อรถขนาดใหญ่ ล้อเครื่องบิน และล้อรถยนต์ ส่วนมีการ ใช้งานในรูปแบบอื่นๆ มีในปริมาณที่ไม่สูงนัก ในขณะเดียวกันเพื่อนบ้านประเทศใกล้ เคียงกับเรา เช่น ประเทศลาว ประเทศเขมร ก็มศี กั ยภาพและเพิม่ พืน้ ทีใ่ นการปลูกยาง รวมทั้งภาคใต้ของประเทศจีน ประเทศเวียดนาม และประเทศอินเดียก็มีการเพิ่ม ปริมาณการผลิตยางเช่นกัน ซึ่งยางดิบของไทยส่วนใหญ่ส่งออกไปขายที่ประเทศจีน และเมือ่ ไหร่ทปี่ ระเทศจีนลดปริมาณการนำาเข้า หรือสภาวะทางเศรษฐกิจไม่ดี เราก็จะมี ปัญหา ก็เป็นเรือ่ งของอุปทาน อุปสงค์ นอกจากนีร้ ฐั บาลในอดีตมีนโยบายในการขยาย พืน้ ทีก่ ารปลูกยางในภาคเหนือและอีสาน โดยทีไ่ ม่มแี ผนรองรับด้านการผลิตยาง การผลิต ผลิตภัณฑ์ยางในประเทศและการขยายขอบเขตการใช้งานยาง ก็สร้างปัญหาในด้านยาง ล้นตลาด ซึง่ วิธกี ารแก้ปญ ั หาในขณะนี้ ทีน่ า่ จะเป็นทางออกทีด่ ี คือ การเปลีย่ นยางให้ไป ใช้ประโยชน์ดา้ นอืน่ ๆ หรือขยายขอบเขตการใช้งานยางไปทำาผลิตภัณฑ์อนื่ ๆ โดยเฉพาะ การทดแทนการใช้งานยางสังเคราะห์ โดยทีผ่ า่ นมาไม่วา่ จะเป็นประเทศญีป่ นุ่ ประเทศ
ทางยุโรปหรืออเมริกา พยายามที่จะนำายางสังเคราะห์ มาแทนยางธรรมชาติ เพราะเขาเป็นเจ้าตลาดของยาง สังเคราะห์อยู่แล้ว ดังนั้นยางธรรมชาติที่ใช้งานใน ประเทศเหล่านี้อยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นชิ้นงานที่ไม่ สามารถนำามาทำายางสังเคราะห์มาใช้แทนได้ ปัจจุบนั ปริมาณการใช้ยางในประเทศเราต่าำ มากกล่าวคือมีเพียง ประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหากเรามุ่งแต่ส่งออก ยางดิบเป็นส่วนใหญ่ ทำาให้มูลค่าของยางเราไม่สูง แนวทางแก้ไขที่สำาคัญ คือการทำาผลิตภัณฑ์ยางแล้ว เพิ่ ม ปริ ม าณการใช้ ใ นประเทศ ซึ่ ง ถ้ า สามารถเพิ่ ม ปริมาณการใช้ในประเทศได้ถงึ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เราก็ สามารถเพิม่ ราคายางพารากิโลละ 40 บาท ให้มแี นวโน้ม เพิม่ ขึน้ ไปได้เรือ่ ยๆ จนถึงกิโลละ 80 บาทแบบสบายๆ เพียงแค่เริม่ เพิม่ ปริมาณการใช้ ราคายางก็ขยับขึน้ ตาม ทันที การใช้ในประเทศในปริมาณสูงๆ เช่น นำายางมา ใช้ทำาเป็นถนน แต่ในสภาวะปัจจุบันพบว่าต้นทุนยังไม่ สามารถแข่งขันกับการใช้ยางมะตอยได้คงจะต้องวิจัย และพัฒนากันต่อเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ทั้งราคา ต้นทุนและคุณภาพของถนน ทีมผูบ้ ริหารมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์และทีมงานวิจยั ด้านยางพาราได้เสนอ ข้อเสนอโครงการต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันในการสร้าง สนามฟุตซอล และสนามเด็กเล่น โดยใช้ยางพารา ทดแทนการใช้ยางสังเคราะห์ โดยทีส่ นามฟุตซอล 1 สนาม ต้องใช้ยางพาราประมาณ 5 ตัน และทีมนักวิจัยของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้สร้างสนามต้นแบบไว้ แล้วที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เช่น ที่อำาเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งพบว่าสนามนี้สามารถใช้งานได้จริง เรา จึงมีโครงการที่จะส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนที่มีความ เข้มแข็ง เป็นผูผ้ ลิต โดยให้รฐั บาลปล่อยเงินกูด้ อกเบีย้ ต่าำ เพื่อนำามาลงทุนซื้อเครื่องจักร และวัตถุดิบในการผลิต แผ่นยางสำาหรับทำาสนามฟุตซอล และขอการสนับสนุน ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาต่างๆ ให้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
25
ของวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว ตัวอย่างเช่น โรงเรียน มี 10,000 โรง หนึง่ สนามฟุตซอลใช้ยางประมาณ 5 ตัน คิดง่ายๆ เราใช้ยางไปแล้ว 50,000 ตัน ถ้ามียางในสต็อคจำานวน 200,000 ตัน ใช้ไม่นาน ก็หมด นอกจากนีย้ งั สามารถนำาไปสร้างพืน้ สนาม เด็กเล่น ซึง่ ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับสนามฟุตซอล หรือพืน้ ในโรงพยาบาล ทีเ่ วลาผูป้ ว่ ยล้มก็ไม่เกิดการ บาดเจ็บ หากเป็นยางในรูปแบบน้าำ ยางก็สามารถ นำาไปคอมพาวด์ดว้ ยสารเคมี และนำาไปพ่นสเปรย์ ทำาสระเก็บกักน้าำ ใช้ในทางเกษตรและอุตสาหกรรม ซึง่ เราถ่ายทอดเทคโนโลยีไว้ในหลายทีท่ ง้ั ในภาคใต้ เช่น ทีอ่ งค์การสวนยาง จ.นครศรีธรรมราช และ ในภาคตะวันออกที่ จ.ชลบุรี โดยหลักการคือใช้ ผ้ามาปู นำาน้ำายางที่คอมพาวด์สารเคมีเรียบร้อย พ่นสเปรย์ลงไป แล้วทำาให้เกิดการสุกของพืน้ ยาง ก็จะแข็งแรง สามารถเก็บกักน้าำ ได้ นอกจากนีย้ งั นำามาผลิตยางฟองน้าำ ทำาหมอน ทำาทีน่ อนยางพารา ปัจจุบนั มีราคาแพงเพราะเป็นมูลค่าทางเทคโนโลยี แต่ถ้าชาวบ้านทำาได้เองราคาก็น่าจะถูกลง และ เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ยางที่ผลิตได้เอง ซึ่งทีมนัก วิจยั มีโรงงานต้นแบบสำาหรับการผลิตยางฟองน้าำ ที่ ม.อ. วิทยาเขตปัตตานีและสุราษฎร์ฯ ทีพ่ ร้อมทีจ่ ะ ถ่ายทอดเทคโนโลยีสกู่ ารต่อยอดของภาคเกษตรกร และภาคเอกชนได้
ภ�พรวมของอุตส�หกรรมย�งพ�ร� ปัจจุบนั เป็นอย่�งไร?
อุตสาหกรรมยางในบ้านเราน่าจะแบ่งได้ 3 ประเภทคือ อุตส�หกรรมข้�มช�ติ เป็นการนำาเทคโนโลยี การผลิตของตนเองเข้ามาและใช้วตั ถุดบิ ยางพารา ในบ้าน เช่น บริษัทผลิตยางล้อขนาดใหญ่ เช่น บริษัทกูดเยียร์, บริจสโตน มิชชิลิน และบริษัท
ผลิตยางขนาดใหญ่อน่ื ๆ ทีเ่ ข้ามาทำาธุรกิจในประเทศไทย
เพราะอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ รวมทั้งแรงงานที่มี ราคาถูก อุตส�หกรรมระดับกล�ง เป็นอุตสาหกรรม ทีย่ งั ต้องการความรูจ้ ากการวิจยั และพัฒนาอยูม่ าก เช่น บริษัทผลิตชิ้นส่วนยางอะไหล่ ที่จริงบริษัท เหล่านี้งานวิจัยมีความจำาเป็นมากในการพัฒนา คุณภาพผลิตภัณฑ์มากและในปัจจุบนั ก็มกี ารวิจยั และพัฒนากันบ้างบางส่วน แต่สว่ นหนึง่ เขาสนใจ ซือ้ เทคโนโลยีเข้ามามากกว่าการวิจยั และพัฒนา ด้วยตนเอง จึงทำาให้งานวิจยั ของคนไทยไม่ได้รบั ความสนใจมากนัก
26
บริÉทั ระดับ SMEs ส่วนใหญ่ผลิตผลิตภัณฑ์ยางโดยการอาศัยประสบการณ์และลองผิด ลองถูกมักจะมีการเก็บสูตรต่างๆ เป็นความลับ บริษทั เหล่านีต้ อ้ งการทัง้ ความรู้ ทักษะการผลิต และการบริหาร รวมทัง้ การวิจยั และพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์ ดังนัน้ ถ้างานวิจยั จะเข้าไปมี ส่วนช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมยาง ก็นา่ จะเข้าไปอุตสาหกรรมในระดับกลาง และ SMEs โดยเข้าไปช่วยแก้ปญ ั หาการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ๆ ได้ ส่วนบริษทั ข้ามชาติ ขนาดใหญ่เขามีสำานักงานวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่จึงไม่ได้สนใจงานวิจัย ของเรา ผมคิดว่าหน้าทีข่ องมหาวิทยาลัยคือ ต้องสร้างงานวิจยั และการสร้างฐานความรูเ้ อาไว้ เมือ่ ไหร่ทมี่ คี นต้องการก็สามารถหยิบเอาไปใช้ได้ มีบางคนปรามาสว่านักวิจยั มหาวิทยาลัยฯ เอางานวิจัยขึ้นหิ้ง ผมก็ยังคิดทางบวกนะครับ ว่าวันไหนที่มีปัญหาก็สามารถหยิบงาน วิจัยจากหิ้งนี้มาใช้ได้ แต่ถ้าไม่มีงานวิจัยบนหิ้ง ก็ไม่รู้ว่าจะหยิบเอาความรู้จากที่ไหนมาใช้ และหน้าทีข่ องรัฐบาลก็ตอ้ งสร้างฐานงานวิจยั ทัง้ งานวิจยั เชิงพืน้ ฐานและเชิงประยุกต์ไว้ และ ส่วนทีส่ าำ คัญของมหาวิทยาลัย คือ การนำาผลงานวิจยั สูช่ นั้ เรียน นำาไปสอนนักศึกษา เพือ่ ให้ เขาได้เรียนรูจ้ ากองค์ความรูใ้ หม่ทเี่ กิดขึน้ จากการวิจยั และผมมัน่ ใจว่างานวิจยั ของประเทศ เราหลายๆ เรื่องมีคุณภาพดีกว่างานวิจัยของฝรั่ง ทาง ม.อ.เองก็ได้มีการส่งเสริมสนับสนุน ผลงานวิจัยสู่ชั้นเรียนให้มากขึ้น แต่ก็คงค่อยเป็นค่อยไป
มองภ�พรวมของย�งพ�ร�ทีเ่ ป็นพืชท�งเศรษฐกิจไว้อย่�งไร?
ย�ง เป็น“¾×ชเศรÉ°สังคม” เพราะเป็นพืชที่เกี่ยวกับสังคมและ วิถีชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะคนภาคใต้ เพราะเมื่อไหร่ที่ยางราคาตกต่ำา ทำาให้ความเป็นอยูข่ องพีน่ อ้ งเกษตรกรมีความยากลำาบาก แม้แต่งานทอดกฐิน ก็ยังไม่มีคนทำาบุญเลยหรือทำาบุญน้อยลง แม่ค้าในตลาดนัดก็ขายของกัน ไม่ได้ กลายเป็นเรือ่ งทีก่ ระทบกับสังคมและความเป็นอยู่ วันนีร้ ฐั บาลต้อง ส่งเสริมให้ลดการพึง่ พาการส่งออกให้นอ้ ยลง และผมมัน่ ใจว่าการที่ ม.อ. กำาลังพยายามวิจยั และพัฒนาการเพิม่ มูลค่าและการขยายขอบเขตการใช้ งานยางพาราเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เราต้องการ คือ การส่งเสริมจาก ภาครัฐอย่างเป็นระบบที่ต่อเนื่องและสม่ำาเสมอ ถ้าในอดีตเรามีนโนบาย จากภาครัฐที่ชัดเจนยางพาราจะไม่มีปัญหามากอย่างทุกวันนี้ ส่วนเรื่องการประกันราคายางก็ควรเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น เท่านั้น เพราะถ้าเรามีระบบการบริหารจัดการที่ดี การพัฒนามูลค่า การ ขยายขอบเขตและเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ เราคงไม่ต้องประกัน ราคาเนื่องจากกลไกตลาดจะทำาให้ราคายางเข้าสู่ความสมเหตุสมผลเอง และเป็นที่ยอมรับของเกษตรกรผู้ทำาสวนยาง ส่วนเรื่องของการจำากัด โซนนิง่ ผมเห็นด้วย เพราะยางพาราสามารถปลูกแล้วให้ผลดีเฉพาะบาง พื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสภาพความชื้น อย่างภาคอีสานจะได้ผลดีใน ส่วนทีใ่ กล้กบั ลุม่ น้าำ เท่านัน้ ส่วนหลายจังหวัดทีน่ าำ ยางไปปลูกบนภูเขานัน้ น่าจะไม่ได้น้ำายางที่ดี ดังนั้น ต้องปลูกในสภาพพื้นที่ที่มีความชื้นเพียงพอ ในภาคใต้บางพืน้ ที่ ก็ไม่สามารถปลูกยางได้ดี ทีจ่ ริงแล้วควรมีการรวบรวบ ข้อมูลเป็นรายจังหวัด วันไหนที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ยางในประเทศให้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ผมมัน่ ใจว่าชาวสวนยางทุกคนจะมีความสุข เนือ่ งจากราคา
ยางจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามราคายางก็จะมีขึ้นมีลง สลับกันไปเป็นไซเคิล ตามสภาวะของเศรษฐกิจโลก ซึ่งตอนนี้อยู่ใน ช่วงขาลง เพราะสภาวะเศรษฐกิจโลกและการลดลงของราคาน้าำ มัน นอกจากนั้นหลายประเทศมีการผลิตยางในปริมาณสูงอยู่ ราคายาง ก็คงยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้น้อย
สถ�บันวิจัยและนวัตกรรมย�งพ�ร�ทำ�ง�นอย่�งไร?
สถาบันวิจัยและนวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ มีผู้อำานวยการเป็นผู้ดูแล ซึ่งผู้อำานวยการคนปัจจุบัน คือ รศ.อาซีซนั แกสมาน นักวิจยั ด้านยางพาราจาก ม.อ.วิทยาเขตปัตตานี ซึง่ เป็นนักวิจยั ร่วมทีมของผม โดยผมเป็นคณะกรรมการบริหารของ สถาบันแห่งนี้ โดยสถาบันฯ มีหน้าที่วางแผนดูแลงานวิจัยและ พัฒนายางทั้งระบบของมหาวิทยาลัยที่เชื่อมโยงกับงานวิจัยของ ประเทศ ในปีงบประมาณนีไ้ ด้งบประมาณมาประมาณ 80 ล้านบาท ในการวิจยั และพัฒนาด้านยางพารา เป็นการทำางานวิจยั กับเครือข่าย ในภาคใต้และจะมีการขยายเครือข่ายไปภาคอืน่ ๆ ของประเทศต่อไป ซึ่งสถาบันนี้ได้เริ่มงานมาได้ 2 ปีกว่าๆ โดยการใช้เครือข่ายของ มหาวิทยาลัยฯ และใช้ฐานของวิทยาเขตที่มีความเข้มแข็งการวิจัย ด้านยางพารา เช่น วิทยาเขตปัตตานี วิทยาเขตหาดใหญ่ และ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี นอกจาก เน้นการวิจยั ด้านยางพาราแล้วยังได้มงุ่ เน้นเรือ่ งการวิจยั และพัฒนา ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำาชายฝั›งด้วย เช่น การเพาะเลี้ยงกุ้ง ปลา และสาหร่ายทะเล เนือ่ งจากเรามีพนื้ ทีร่ มิ ชายฝัง› ทะเลทีอ่ าำ เภอไชยา
27
ดำาเนินธุรกิจทีม่ ผี ลกำาไรในการดำาเนินการ มีหลายสหกรณ์ ที่มีผลการดำาเนินการได้กำาไรปีละกว่า 10 ล้านถึงแม้ว่า ราคายางถูก เขาก็ยังทำากำาไรได้ ตอนนีท้ างสถาบันฯ ยังได้เข้าไปช่วยให้คาำ ปรึกษาอยู่ เป็นระยะๆ ซึง่ เป็นโครงการของมหาวิทยาลัยและผ่านมา ทางอุตสาหกรรมภาค สมัยผมทำางานอยู่ที่ ม.อ.ปัตตานี ก็ได้รว่ มทำาโครงการกับอุตสาหกรรมภาค 11 โดยเป็นทีม ที่ปรึกษาเข้าไปดูแล ทั้งเรื่องเทคโนโลยีการผลิต และทำา อย่างไรให้ยางรมควันมีคณ ุ ภาพ ทำาให้เกรดยางดีขนึ้ แต่พอ เข้าตลาดจริงๆ เขารับซือ้ เป็นราคายางชัน้ 3-4 หมดเลย แต่ศกั ยภาพของเกษตรกรเขาทำายางชัน้ 1-2 ได้ แต่เนือ่ ง จากเป็นกลไกด้านการตลาด ก็เป็นปัญหาของประเทศ เหมือนกัน ในเมื่อเกษตรกรสามารถผลิตยางที่มีคุณภาพ เป็นชัน้ 1-2 แต่หาตลาดขายไม่ได้ จึงต้องขายในราคายาง ชัน้ 3 หรือ 4 ทีจ่ ริงราคาอาจจะต่างกันประมาณ 1-3 บาท และสิ่งที่ทำาให้แต่ละสหกรณ์เหล่านี้ประสบความสำาเร็จ คือ ความเข้มแข็งในองค์กร ถ้าคนมีความสามัคคี และ ความสุจริตในการดำาเนินงานร่วมกัน เป็นสิ่งที่สำาคัญ ทีส่ ดุ นอกจากนีก้ ารช่วยเหลือเพือ่ สร้างสรรค์ให้องค์กรให้ เข้มแข็งก็ทำาให้เกิดประโยชน์ต่อการดำาเนินกิจการของ สหกรณ์และชาวสวนยางโดยตรง
กว่า 2,700 ไร่ มีอาจารย์และนักวิจัยที่สำาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจำานวน 12 ท่าน ที่มุ่งมั่นในการทำาวิจัยและพัฒนาในสาขาวิชานี้ และกำาลังจะเปิดวิทยาลัย นานาชาติด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำา ในปี พ.ศ.2559 มีหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำา ซึ่งเป็นหลักสูตร นานาชาติ นอกจากนี้เรามีเครือข่ายความร่วมมือวิจัยกับนักวิจัยในประเทศอินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย และหลายประเทศในทวีปยุโรป ถือเป็นเรือธงในด้านการวิจัยของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีหนึ่งเรือธงที่จะชู TRY TO BE THE BEST
ท�งสถ�บันÏ ได้เข้�ม�ช่วยเหลือช�วชุมชนสวนย�งสุร�ษ®ร์¸�นี อย่�งไร?
จริงๆ ในลักษณะองค์กรทางสถาบันฯไม่ได้เข้าไปทีส่ วนยางโดยตรง แต่จะเป็น การวิจัยและพัฒนาด้านยางพาราแล้วถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น SMEs หรือสหกรณ์ชุมชน งานส่วนหนึ่งที่นักวิจัยได้ลงไปให้ความช่วยเหลือด้าน วิชาการแก่โรงงานผลิตยางแผ่นรมควันที่รัฐบาลในอดีตได้จัดสรรงบประมาณสร้าง ไว้ทั่วภาคใต้ โรงงานเหล่านี้ส่วนหนึ่งไม่ค่อยประสบความสำาเร็จในการดำาเนินธุรกิจ แต่มีโรงงานเพียงบางแห่ง เช่น ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สตูล นราธิวาส และสงขลา ทีป่ ระกอบธุรกิจได้กาำ ไรมาตลอด ทีจ่ ริงส่วนหนึง่ ก็เป็นโรงงานทีม่ ที มี นักวิจยั จาก ม.อ. เข้าไปมีสว่ นร่วมในการดูแล ให้คาำ ปรึกษา และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ในกระบวนการ ผลิตทัง้ ในเรือ่ งเทคโนโลยีและเรือ่ งการตลาด โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้เขาสามารถ
28
ในฐ�นะทีอ่ �จ�รย์เป็นรองอ¸ิก�รบดีมห�วิทย�ลัย สงขล�นครินทร์ วิทย�เขตสุร�ษ®ร์¸�นีมีแนว นโยบ�ยหรือเน้นง�นด้�นใดเป็นสำ�คัญ ? สิ่งที่ผมได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัยฯ คือ การพั ฒ นาตามจุ ด มุ่ ง หมายหลั ก ของการมี วิ ท ยาเขต สุราษฎร์ฯ คือ การพัฒนาพืน้ ทีภ่ าคใต้ตอนบน ไม่วา่ จะเป็น เรื่องการเรียนการสอน งานวิจัยต้องตอบโจทย์ต่อการ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนสุราษฎร์ฯและพื้นที่ใกล้ เคียงได้ ดังนั้นการมีหลักสูตรทุกหลักสูตร จะต้องเป็น หลักสูตรที่คนสุราษฎร์ฯและคนในพื้นที่ ได้ประโยชน์ เช่น หลักสูตรเทคโนโลยียาง, หลักสูตรการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำา ก็เป็นความจำาเป็นของคนสุราษฎร์ฯ และต้อง ทำาตามยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ และยุทธศาสตร์ ของวิทยาเขต ต้องมีการสอดรับกับมหาวิทยาลัยฯ รวมทัง้ การมีหลักสูตรและการวิจยั ด้านการท่องเทีย่ ว ด้านภาษา ต่างประเทศ เนือ่ งจากความจำาเป็นในการเข้าสูป่ ระชาคม อาเซียน ผมคิดว่าเราต้องเริ่มจากระดับปริญญาตรีเพื่อ สร้างบัณทิตที่มีความเข้มแข็ง เพื่อรองรับตลาดแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานในพืน้ ที่ เช่น ในอุตสาหกรรมยาง การ เพาะเลีย้ งสัตว์นา้ำ อุตสาหกรรมท่องเทีย่ ว ได้มแี รงงานทีม่ ี ทักษะ (Skilled Workers ) เราได้มคี วามพยายามในการ พัฒนาศักยภาพด้านนี้ และในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศทีไ่ ม่มศี กั ยภาพในการสร้างนวัตกรรม หรือสร้าง
ก�รที่ผมได้รับร�งวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งช�ติต้องภูมิใจครับ...และผมเป็นคนที่ 3 ของนักวิจัย ม.อ. ที่ได้รับร�งวัลนี้ ในข³ะนี้ทั้งมห�วิทย�ลัยÏ มีผู้ได้รับร�งวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งช�ติ ม�แล้วทั้งหมด 5 คน และผมเป็นคนเดียวที่เป็นนักวิจัยจ�กวิทย�เขตอื่น ที่ได้ร�งวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งช�ติ ต้องการให้เราดำาเนินการมากขึน้ ไปเรือ่ ยๆ แต่ศกั ยภาพของวิทยาเขต ก็ทำาได้ประมาณนี้ งบประมาณแต่ละปีเราก็ได้ไม่มาก
ก�รที ่ ม.อ.เป็นมห�วิทย�ลัยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ มีปัจจัยม�จ�กอะไร?
ผลงานวิจยั ด้วยตัวเอง จะล้าหลังมากขึน้ เรือ่ ยๆ ดังนัน้ ทุกหลักสูตรของวิทยาเขตต้องตอบโจทย์วา่ คนในพืน้ ทีไ่ ด้ อะไรหรืออย่างไร การทำาหลักสูตรทีส่ าำ คัญในแต่ละครัง้ เราจะเชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน, อบต., อบจ., หอการค้า, สภาอุตสาหกรรม ส่วนราชการ ทีเ่ กีย่ วข้องในจังหวัดมาให้ความคิดเห็น เพือ่ ทีจ่ ะได้ปรับ ให้สอดรับกับความต้องการ ซึ่งตั้งแต่ที่ผมมารับตำาแหน่งนี้ ก็ทราบว่าคนใน จังหวัดสุราษฎร์ฯ ก็เห็นชอบและชื่นชมกับสิ่งที่เราได้ ดำาเนินการมาและเห็นผลในระดับหนึ่ง แต่ก็มีความ
เนื่องจากเรามีประวัติศาสตร์มายาวนาน เพราะว่า ม.อ. มีอายุ มากกว่า 45 ปี และมอ.เป็นมหาวิทยาลัยฯ หัวเมืองภาคใต้ ตามนโยบาย และยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในอดีต ผมคิดว่า ม.อ. ได้รบั การยอมรับมา จากด้านประสิทธิภาพของบุคลากรและคุณภาพของการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในยุคแรกๆ ซึง่ การบริหารใน ม.อ. มีขอ้ ขัดแย้งค่อนข้างน้อย ส่วนตัวผมเองก็ตอ้ งดูแลการบริหารงานของทีมผูบ้ ริหารวิทยาเขต โดยต้องสอดคล้องกับนโยบายการบริหารของท่านอธิการบดีฯ และ มหาวิทยาลัยฯ มีขอ้ สังเกตหนึง่ คือ ม.อ. มีผบู้ ริหารส่วนใหญ่เป็นนักวิจยั จึงมีความเข้าใจบริบทด้านการวิจัยและการสร้างองค์ความรู้ใหม่ของ อุดมศึกษาได้เป็นอย่างดี ในการเป็นอาจารย์หากไม่มศี กั ยภาพในการวิจยั สุดท้ายก็จะไม่ประสบความสำาเร็จกับการมีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอาจารย์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะมีจุดแข็งทาง ด้านสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ และ วิทยาศาสตร์สุขภาพ ค่อนข้างมาก โดยมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจากการมีตาำ แหน่งศาสตราจารย์ และผลงานวิจยั ทัง้ ในระดับชาติ และนานาชาติเพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ นอกจากนี้ เพือ่ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ร่วมกันทุกปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จะมีการประชุมร่วมกัน โดยการจะนำาข้อดีๆของทัง้ สองมหาวิทยาลัยมา แลกเปลีย่ นเรียนรูซ้ งึ่ กันและกัน เพือ่ นำาไปสูก่ ารพัฒนาความก้าวหน้า ทั้งด้านการเรียนการสอน วิจัย และการบริหารวิชาการของทั้งสอง มหาวิทยาลัย เคล็ดลับของ ม.อ. อีกอย่างหนึ่ง คือ การมีกองทุนวิจัย เมือ่ เรามีรายได้เข้ามารวมกันแล้วหัก 10 เปอร์เซ็นต์ เพือ่ นำาไปใช้ในกิจกรรมงานวิจยั โดยเฉพาะของวิทยาเขตสุราษฎร์ฯ มีกองทุนวิจัยประมาณ 40 ล้านบาท และใน แต่ละปีกม็ รี ายได้สะสมเข้ามาประมาณ 10 ล้าน เพือ่ ใช้ในการส่งเสริมพัฒนางานวิจยั ถ้าบุคลากรของเราไม่สามารถหาเงินทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกได้ เราก็มีเงิน งบประมาณก้อนนี้สำาหรับการสนับสนุน ดังนั้นอันดับ (Ranking) เบอร์ 5 ได้มาจาก การมีผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องของ ม.อ.
มอ.วิทย�เขตสุร�ษ®ร์¸�นี มีกคี่ ³ะ ? และมีหลักสูตรทีเ่ ด่นæ ในค³ะนัน้ æ อย่�งไร ? มอ.วิทยาเขตสุราษฎร์ มี 2 คณะวิชา ประกอบด้วยคณะวิทยาศาสตร์และ
29
เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และคณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ และหนึ่งวิทยาลัยชุมชน - คณะวิทย�ศ�สตร์และเทคโนโลยีอุตส�หกรรม มีหลักสูตร ระดับปริญญาตรีทง้ั หมด 9 หลักสูตร ประกอบด้วย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเกษตร, สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร, สาขาวิชาเทคโนโลยี การจัดการอุตสาหกรรม, สาขาวิชาเทคโนโลยียางพารา, สาขาวิชาเคมี เพือ่ อุตสาหกรรม, สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ, วิทยาศาสตร์บณ ั ฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการสิง่ แวดล้อม, วิทยาศาสตร์บณ ั ฑิต สาขา วิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการจัดการงานวิศวกรรม ระดับวิทย�ศ�สตร์มห�บัณ±ิต มี 3 หลักสูตร ประกอบด้วย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร, สาขาวิชาเทคโนโลยี การเพาะเลีย้ งสัตว์นา้ำ หลักสูตรนานาชาติและสาขาวิชาเทคโนโลยียาง ระดับวิทย�ศ�สตร์ดุÉณีบัณ±ิต มี 2 หลักสูตร ประกอบด้วย สาขาวิชาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำา หลักสูตรนานาชาติและ สาขาวิชาเทคโนโลยียาง ซึง่ คณะวิทย์ฯ มีจดุ เด่นอยูท่ มี่ บี คุ ลากร 105 คน มีปริญญาเอกกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ - คณะศิลปศ�สตร์และวิทย�ก�ร¨ัดก�ร มีหลักสูตรปริญญาตรี ทั้งหมด 5 หลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาธุรกิจ, หลักสูตรเศรษฐศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชา เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ, หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศ, หลักสูตรศิลปศาสตร์บณ ั ฑิต สาขาวิชาภาษา
30 30
การสือ่ สารและธุรกิจ, หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์บณ ั ฑิต สาขาวิชาการ จัดการรัฐกิจและวิสาหกิจและหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการ จัดการธุรกิจการท่องเที่ยว - ระดับมห�บัณ±ิต มีบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA
นักศึกษ�ที่สำ�เร็จก�รศึกษ�ออกไปตอบโจทย์ผู้ประกอบก�ร อย่�งไร?
ถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยฯ อืน่ ๆ ผมมัน่ ใจว่า บัณฑิต ของ ม.อ. วิทยาเขต สุราษฎร์ฯ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่โดยภาพรวม เราก็ยังไม่พึงพอใจกับ คุณภาพบัณฑิตในภาพรวมของประเทศ กล่าวคือวันนี้เราผลิตบัณฑิตยัง ไม่ได้ตอบโจทย์ผู้จ้างงานหรือผู้ประกอบการมากเท่าความต้องการ คือ ไม่ สามารถทำางานได้ทนั ที เราเองก็พยายามปรับปรุงในจุดนีอ้ ยู่ ซึง่ มีสว่ นประกอบ ทีส่ าำ คัญในหลายด้านทีต่ อ้ งปรับปรุงและพัฒนา เราจึงต้องค่อยๆ ปรับกันไป ในแต่ละปีมีนักศึกษาจบออกไปจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ฯ จำานวนบัณฑิตทีว่ า่ งงานมีจาำ นวนไม่มาก แต่มบี างส่วน ทีท่ าำ งานไม่ตรงกับสาขาทีเ่ รียน ถ้ามองในแง่การลงทุนเราก็ไม่คอ่ ยประสบ ความสำาเร็จมาก เช่น เราสร้างคนในด้านเทคโนโลยียางแล้วไปทำางานเป็น พนักงานธนาคาร เป็นต้น ทำาให้เราสูญเสียอะไรบางอย่างไป เพราะแต่ละ หลักสูตรมีการลงทุนต่างกัน ตอนรับปริญญาเรามีการสำารวจสภาวะการ มีงานทำาของบัณฑิต พบว่าบัณฑิตของเราได้งานกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้ เงินเดือนโดยเฉลี่ยน่าจะประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน
31
Good Health & Wellness Text : ทพ.สุทธิพันธุ์ จำ�นงค์ทอง ทันตแพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิโลเฟเชียล โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี / Oral Max & Dental Clinic ในชีวิตประจำ�วัน เรารู้จักน้ำ�ลายกันเป็นอย่างดี แต่เราอาจไม่รู้สึกถึงความสำ�คัญของมัน และแม้กระทั่งอาจรังเกียจ น้ำ�ลายด้วยซ้ำ�ไป วันนี้เราจะมาทำ�ความรู้จักน้ำ�ลายให้ดีกันมากขึ้น
เรื่องของน้ำ�ลาย
น้ำ�ลายเป็นสิ่งที่ขับออกมาจากต่อมน้ำ�ลายในช่องปาก ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ต่อมน้ำ�ลายขนาดใหญ่หรือ ต่อมน้ำ�ลายหลัก (Major salivary gland) และต่อม น้ำ�ลายขนาดเล็ก หรือต่อมน้ำ�ลายรอง (Minor salivary gland) น้ำ�ลายเองที่หลั่ง ออกมาจากต่อมน้ำ�ลายโดยตรงจะไม่มีเชื้อใดๆ แต่ในช่องปากของเรามีเชื้อจุลินทรีย์ ชนิดต่างๆ จำ�นวนมากมายอยูก่ อ่ นเลยไปอาศัยอยูก่ บั น้�ำ ลาย ทำ�ให้น�้ำ ลายทีค่ ลุกเคล้า อยู่ในปากมีเชื้ออยู่ด้วย ส่วนประกอบของน้�ำ ลาย 98% เป็นน้�ำ อีก 2% ทีเ่ หลือประกอบด้วย อิเล็กโทรไล (Electrolytes) แร่ธาตุต่างๆ, มูกเมือก (Mucus) ที่เป็นโปรตีน, สารต้านแบคทีเรีย และเอนไซม์ตา่ งๆ ทีช่ ว่ ยย่อยอาหาร ปกติรา่ งกายเรานัน้ จะผลิตน้�ำ ลายและหลัง่ ออก มาวันละประมาณ 0.75 -1.5 ลิตร โดยส่วยมากจะออกมาในเวลากลางวันและน้อย ลงในช่วงเวลากลางคืน
หน้าที่ของน้ำ�ลาย
- น้ำ�ลายช่วยในการย่อยอาหาร เอนไซม์ในน้ำ�ลายจะทำ�ให้โมเลกุลของแป้งสลาย กลายเป็นน้ำ�ตาล ย่อยไขมันโมเลกุลใหญ่ให้เล็กลง แตกตัว - ป้องกันฟันผุ โดยไปชะล้างเชือ้ แบคทีเรียทีเ่ ข้าไปย่อยเศษอาหารเกิดเป็นกรด ทำ�ลาย ผิวฟัน ให้ลดน้อยลง - ช่วยในการปรับสภาวะกรด-ด่างในช่องปาก ซึ่งมาจากส่วนประกอบโปรตีน และ/ หรือฟอสเฟต เพือ่ ลดความรุนแรงของกรดทีเ่ กิดจากเชือ้ จุลนิ ทรียใ์ นปากทีเ่ ป็นสาเหตุ ของโรคฟันผุ - เป็นสารหล่อลืน่ ภายในช่องปากไม่ใช้แห้ง หรือตอนกินอาหารก็ท�ำ ให้กลืนได้สะดวกขึน้ - ทำ�หน้าทีใ่ ห้การกินอาหารมีรสชาติมากขึน้ โดยน้�ำ ลายจะดักจับกลิน่ ในอาหาร ทำ�ให้ มีกลิ่นอาหารอบอวลภายในช่องปาก โดยได้รับความช่วยเหลือจากแบคทีเรียไม่ใช้ อากาศในช่องปาก
32
- น้ำ�ลายยังทำ�หน้าที่ในการขับยา หรือสารประกอบบาง ชนิดออกจากร่างกายได้เช่นเดียวกับการขับออกทางปัสสาวะ โดยสามารถตรวจพบฮอร์โมน หรือยาบางชนิดในน้ำ�ลาย จนอาจใช้การตรวจน้ำ�ลายเป็นตัวบ่งชี้ถึงการสะสมหรือ การคัง่ ของสารเหล่านีใ้ นร่างกาย แทนการตรวจเลือดหรือ ปัสสาวะ ทัง้ นีเ้ พราะการเก็บน้�ำ ลายสะดวก รวดเร็ว และ ปลอดภัยกว่า
ASEAN Art Corridor Text / Photo : ธีรภาพ โลหิตกุล
ตะนาคา : เคล็ดลับพม่าผิวเนียน
34
“ตะนาคา” เป็นแป้งสมุนไพรประทินผิวที่จำ�แนกสาวมอญ กับพม่า ให้แตกต่างจากคนทัง้ โลกอย่างแท้จริง นางออง ซาน ซู จี วีรสตรีประชาธิปไตยของพม่า เคยเขียนถึง “ตะนาคา” ใน บทความของเธอตอนหนึ่งว่า “...ผู้หญิงพม่ามีชื่อเสียงว่าผิวหน้าเนียน เพราะพวกเธอใช้ ตะนาคา [Thanakha] แป้งทีไ่ ด้มาจากการนำ�เปลือกของต้นตะนาคา มาบดให้ละเอียด ใช้ปอ้ งกันผิวจากแสงแดด และมีคณ ุ สมบัตเิ ป็นยา ผงตะนาคามีสีเหลืองออกแดงๆ เวลาใช้พอกหน้าทำ�ให้ดูเหมือน ถูกละเลงไปด้วยโคลน แต่ที่จริงเป็นเครื่องประทินผิวสำ�คัญที่สุด ในการรักษาความงามของผู้หญิงพม่า แม้เครื่องสำ�อางทันสมัยจะ แพร่เข้ามา ตะนาคาก็ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ...” นอกจากเป็นยาสมุนไพรแก้สิวแก้ฝ้า เป็นแป้งเย็นแก้ผดผื่น คันในหน้าร้อน ผงตะนาคาชงกับน้ำ�เปล่า ดื่มชุ่มคอชื่นใจดี และ หากเป็นแผลมีดบาดไม่ลึกนัก ผงตะนาคายังช่วยสมานแผลได้อีก ด้วย ตะนาคาเป็นไม้เนื้อแข็งที่พบในเขตแล้ง (Dry Zone) ตอน กลางของพม่า แถบเมืองพุกาม มัณฑะเลย์ ชเวโบ ส่วนที่ส่งกลิ่น หอมและใช้เป็นสมุนไพรประทินผิวคือส่วนเปลือก วิธีใช้อย่างง่าย ที่สุด คือเอาท่อนตะนาคามาฝนกับแผ่นหิน แล้วผสมน้ำ�เล็กน้อย จึงนำ�มาทาหน้าและตามเนื้อตัว เช่นที่วงแขนหรือส่วนอับ ในตลาดพม่าทุกแห่งหน มีท่อนตะนะคาและแผ่นหินฝนวาง ขายในราคาแสนถูก ส่วนสาวสมัยใหม่นิยมใช้แบบที่แปรรูปเป็น ก้อนสบู่ เป็นแป้งตลับ เป็นครีม หรือเป็นน้ำ�หอมล่าสุด มีแป้งฝุ่น ตะนาคาในกระปุกสวยหรู ผลิตในเมืองไทยให้สาวไทยผิวเนียน เหมือนสาวพม่าได้แล้ว
35
Destination
Text : นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
Health Noir คำ�ว่� Noir ต�มร�กศัพท์ แปลว่� “ดำ�” คำ�นีถ้ กู นำ�ม�ใช้ตอ่ ท้�ยคำ�อืน่ อีกหล�ยคำ� เช่น Film Noir, Asia Noir เพื่อนำ�เสนอเรื่องร�วด้�นมืด (ตั³ห� กิเลส ก�รเอ�รัดเอ�เปรียบ หรือเรื่องเศร้�) ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นæ แม้กระทั่งชื่อเสื้อผ้� ร้�นอ�ห�ร ก็ยังถูกดัดแปลงนำ�คำ�นี้ไปใช้.... ...วัลลภ เด็กหนุ่มชาวจังหวัดนครปฐมเกิด อาการปวดท้องตอนเทีย่ งคืน ญาติพาไปโรงพยาบาล ประจำาจังหวัดเพื่อเข้ารับการรักษา แพทย์บอกว่า เป็นไส้ตงิ่ อักเสบรอการผ่าตัด ต้องนอนรอจนเกือบ รุง่ สาง ปรากฏว่าทีโ่ รงพยาบาลมีอบุ ตั เิ หตุเทกระจาด มา แพทย์พยาบาลมีภาระต้องนำาผูป้ ว่ ยฉุกเฉินเข้า ห้องผ่าตัด เขาจึงถูกส่งต่อมาโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าโรงพยาบาล 3-4 แห่ง ที่ญาติพาเขา นัง่ แท็กซีต่ ระเวนไปล้วนแล้วแต่เตียงเต็มหมด ญาติ จึงต้องโทรหา 1330 เพือ่ ขอความช่วยเหลือ ท้ายทีส่ ดุ เขาจึงได้ไปรับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสระบุรีใน ตอนบ่ายของวันถัดมา และไส้ติ่งแตกไปเรียบร้อย แล้ว...ต้องอยู่โรงพยาบาลถึง 10 กว่าวัน เพราะมี อา¡าÃáทá«้อ¹ เราเคยมีผปู้ ว่ ยแบบนี้ เสียชีวติ ทีโ่ รงพยาบาล ขนาดใหญ่แห่งหนึง่ ในภาคอิสานถึง 3 รายในปี 2555 ทำาให้ตอ่ มาต้องมีการสังคายนาระบบการดูแลผูป้ ว่ ย ไส้ติ่งอักเสบกันใหม่ในโรงพยาบาลแห่งนั้น...การ เสียชีวิตเพราะไส้ติ่งอักเสบเป็นเรื่องที่ญาติและ วงการแพทย์เองยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ ดูแลแก้ไขเยี่ยวยาได้ง่าย ...แตงอ่อน ลูกสาวชาวบ้านจาก อ.ขุนยวม จ.แม่ฮองสอน เกิดก่อนกำาหนดด้วยน้าำ หนักตัวเพียง 1,600 กรัมเท่านัน้ (เด็กแรกเกิดทัว่ ไปน้าำ หนักตัว มาตรฐานต้องไม่นอ้ ยกว่า 2,500 กรัม) ทัง้ โรงพยาบาล ประจำาอำาเภอ และโรงพยาบาลประจำาจังหวัดไม่มตี อู้ บ ว่างทีจ่ ะรับเธอไว้ในการดูแลเพือ่ ทำา Phototherapy เธอจึงถูกส่งต่อมาทีโ่ รงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ได้รบั คำาตอบเดียวกันว่าเตียงเต็มหมด เจ้าหน้าที่ ของโรงพยาบาลเห็นใจก็เลยช่วยประสานโรงพยาบาล ลำาปางให้ แต่กป็ ระสบปัญหาเตียงเต็มเช่นเดียวกัน สุดท้ายเธอและพ่อแม่ได้ไปนอนรักษาตัวทีโ่ รงพยาบาล พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ซึง่ อยูห่ า่ งบ้านเกิดถึง 400 กิโลเมตร.. ....คุณสร้อยทอง วัย 66 ปี อยากไปซือ้ ของ ที่ตลาดสะพานควายลูกชายจึงพาขึ้นรถไป ขณะที่
36
ซือ้ ของใกล้แล้วเสร็จ เธอเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมหมดสติ มีอาการเกร็งและล้ม ลงบนฟุตปาธ ลูกชายจึงพาเข้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึง่ ในย่านนัน้ แต่ปรากฏ ว่าโรงพยาบาลปฏิเสธการดูแลเบือ้ งต้นด้วยเหตุผลทีค่ อ่ นข้างคลุมเครือ บอกให้พา ไปโรงพยาบาลราชวิถีซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอีกครึ่งชั่วโมง ทำาให้คุณสร้อยทอง อาการทรุดหนักลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ลูกชายยื่นฟ้องศาลโรงพยาบาล เอกชนแห่งนั้น.... ....เมือ่ ไม่นานมานี้ มีเรือ่ งอือ้ ฉาวในวงการสาธารณสุขประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีน เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคหลอดเหลืออุดตันที่ขาทำาให้มี อาการขาเน่า และเจ็บปวดทรมานนอนไม่ได้ ไปรับการบริการจากคลินิกและ โรงพยาบาลรัฐบาลในกรุงปักกิง่ แล้วถูกเรียกร้องเงินค่ารักษาล่วงหน้า 1.4 ล้านบาท เพือ่ ไม่ให้ถกู ตัดขา ผูป้ ว่ ยรายนีต้ อ้ งบากหน้ากลับบ้านในมณฑลหูเป่ยซึง่ อยูไ่ กลมาก และทนกับความเจ็บปวดทรมานไม่ได้ ในที่สุดตัดสินใจใช้เลื่อยตัดโลหะและมีด ผลไม้ตัดขาข้างนั้นด้วยตนเอง...เรื่องราวของเขาโด่งดังมากทั่วประเทศจีน และ
ในท่�มกล�งยุคสมัยแห่งก�รรุกของทุน โลภะจริตและผลตอบแทนสูงสุด กล�ยเป็นบรรทัดแรกของปรัชญ�ระบบ¸ุรกิจ บริก�รสุขภ�พกล�ยเป็นก�รค้� ก�รแพทย์และเทคโนโลยีกล�ยเป็นมีไว้เพื่อแสวงห�กำ�ไร มนุษย¸รรมกล�ยเป็นน้ำ�แล้งที่เหือดห�ย เรื่องเศร้�æ ดิบæ (Health noir) แบบนี้จะมีให้ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังไปอีกน�นเท่�ไร
ทำาให้รัฐบาลจีนต้องมีมาตรการ (แก้เกี้ยว) ตามมาอีกหลายเรื่อง ต่อปัญหาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศ.... ตัวอย่างทั้งสี่รายข้างต้นนี้ ทั้งเหตุการณ์ในต่างประเทศและ ในเมืองไทยเรา เป็นรูปธรรมความจริงทีช่ าวบ้านร้านถิน่ ต้องประสบ อยู่ทุกวี่วัน ประเทศไทยถึงแม้จะโชคดีที่มีโครงการหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้า (โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคทีช่ าวบ้านเรียกกัน) ซึ่งช่วยลดการล้มละลายของครอบครัวจากภาระความเจ็บป่วย ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการ และทำาให้มีกลไกใหม่ๆ ในการ ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพไม่ให้สูงเกินไป แต่ความที่ตลาด สุขภาพเป็นตลาดทีไ่ ม่สมบูรณ์ในเชิงอุปสงค์และอุปทาน (Imperfect Nature of Health Service Market) มีกลไกการแทรกแซงและ ผลประโยชน์ทบั ซ้อน (Manipulation and Conflict of Interest) อยู่ในระบบ ซึ่งมักจะส่งผลลัพธ์ทำาให้ผู้บริโภค หรือชาวบ้านต้อง
กลายเป็นผูเ้ ดือดร้อนทัง้ โดยเจตนาและไม่เจตนา เหมือนตัวอย่าง 4 รายดังกล่าว ซึ่งรูปธรรมแบบนี้ยังมีอยู่ตลอดเวลา.... ในท่ามกลางยุคสมัยแห่งการรุกของทุน โลภะจริตและผล ตอบแทนสูงสุดกลายเป็นบรรทัดแรกของปรัชญาระบบธุรกิจ บริการ สุขภาพกลายเป็นการค้า (Trade) การแพทย์และเทคโนโลยีกลาย เป็นมีไว้เพือ่ แสวงหากำาไร มนุษยธรรมกลายเป็นน้าำ แล้งทีเ่ หือดหาย ข้าราชการทีส่ มคบกับนักการเมืองและนักธุรกิจสร้างความฉ้อฉล ผูค้ นดูดายไม่รสู้ ึกรูส้ ากับความทุกข์ของคนอื่น เรือ่ งเศร้าๆ ดิบๆ (Health noir) แบบนีจ้ ะมีให้ได้เห็น ได้ยนิ ได้ฟงั ไปอีกนานเท่าไร คำาตอบคงอยูท่ เี่ ราทุกคนทีจ่ ะไม่นงิ่ ดูดาย ช่วยกันสร้างสังคมใหม่ ที่มีหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ให้เกิดขึ้น....
37
38
39
Beauty Talk พ.ญ. จันทรรัตน์ ไพศาลโรจน์ แพทย์ผู้บริหารจันทรัตน์คลินิก สาขาสุราษฎร์ธานี สาขารามคำาแหง และสุรีย์พรคลินิก Short Course โรงพยาบาลรามาธิบดี Certified Trainer of Botox, Allergan, USA
Certified Trainer of Restylane, Sweden Certified Course Advance in Hyaluronic Acid Filler Esthelis, Switzerland Certified of Thread Rejuvenation Training, Korea
บอกลา...ปัญหาเซลลูไลท์ เซลลูไลท์คืออะไร?
เซลลูไลท์เกิดจากเซลล์กอ้ นไขมันขนาดใหญ่ อยู่ใต้ผิวหนังที่อัดกันอยู่อย่างหนาแน่น ทำาให้ ผิวหนังมีลกั ษณะเป็นตะปุม่ ตะป›า™ เหมือนเปลือกส้ม และยังเกิดจากการไหลเวียนของเลือดลดลง อีก ทั้งยังเกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลอีกด้วย เหตุผล ที่ไขมันส่วนนี้ดูเป็นก้อนบุ๋มๆตรงบริเวณผิวหนัง เพราะไขมันใต้ผิวหนังบางครั้งเกิดมีจำานวนมาก จนกลายเป็นก้อนไขมัน ซึง่ ในแต่ละก้อนของไขมัน จะมีลักษณะเป็นเปลือกเหนียวๆ หุ้มอยู่ ทำาให้ ภายนอกหรือตรงบริเวณผิวหนังเห็นเป็นลอนๆ หรื อ รอยบุ๋ ม ของก้ อ นไขมั นได้ ซึ่ งในส่ ว นมาก บริเวณทีม่ กี ารสะสมของเซลลูไลท์จะอยูท่ บี่ ริเวณ ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง รอบเอว และสะโพก โดยส�เหตุหลักæ ที่ทำ�ให้เกิดเซลลูไลท์ คือ ร่างกายของคนเรานั้นเกิดการเผาผลาญที่ผิด ปกติ ทำาให้ไม่สามารถเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนัง ออกจากร่างกายได้หมด โดยเฉพาะอาหารที่อุดม ไปด้วย Toxin จะยิ่งทำาให้เกิดผิวเปลือกส้มหรือ เซลลูไลท์ได้งา่ ย เช่น อาหารจำาพวกไขมัน ของทอด สุรา น้ำาตาล หากรับประทานอาหารเหล่านี้มาก
เกินไป จะทำาให้รา่ งกายไม่สามารถกำาจัดออกหมด และเกิดการสะสมกลายเป็นเซลลูไลท์ อีกสิง่ หนึง่ ทีท่ าำ ให้เกิดผิวเปลือกส้มนัน่ ก็คอื การออกกำาลังกาย ที่ไม่สม่ำาเสมอ หรือการขาดการออกกำาลังกาย และทีส่ าำ คัญเซลลูไลท์ยงั เกิดจากพันธุกรรมอีกด้วย เราสามารถตรวจหาเซลลูไลท์ได้ดว้ ยตนเอง ง่ายๆ โดยการบีบตรงบริเวณทีส่ งสัยว่าจะเป็น เช่น บริเวณต้นแขนให้ลองหงายท้องแขนแล้วใช้มอื อีก ข้างบิดแขน ถ้าพบว่าผิวหนังบริเวณนัน้ มีลกั ษณะ ขรุขระเป็นก้อนๆคล้ายผิวส้ม นั่นคือเซลลูไลท์ ซึง่ จะนูนขึน้ มา ไขมันนีจ้ ะพบได้ทงั้ ในคนผอมและ คนอ้วน โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
แนวท�งก�รรักษ�เซลลูไลท์
1. ก�รควบคุมอ�ห�ร : ในส่วนนี้จะช่วย ป้องกันการสะสมของไขมันทีก่ าำ ลังจะเพิม่ ขึน้ เลือก รับประทานอาหารที่ต้านเซลลูไลท์ เช่น ผักและ ผลไม้ เนือ่ งจากผักและผลไม้จะมีวติ ามินอีและซีมาก เมือ่ ทานเข้าไปจะช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ อีกทัง้ จะ ช่วยให้ผวิ หนังกระชับขึน้ อีกด้วย และควรรับประทาน
อาหารกลุม่ ทีม่ กี รดไขมัน ถัว่ น้าำ มันปลา เมล็ดพืช เพราะสิง่ เหล่านีจ้ ะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขนึ้ และที่สำาคัญควรจะหลีกเลี่ยงกลุ่มอาหารจำาพวก คาร์โบไฮเดรต ไขมันสูง ของทีม่ รี สชาติหวานหรือ เค็มจัด ไขมันสัตว์ กาแฟ แอลกอฮอล์ เพราะ สิ่งเหล่านี้ยากที่จะขจัดออกจากร่างกาย และจะ กลายเป็นเซลลูไลท์ในที่สุด 2. ก�รออกกำ�ลังก�ย : โครงสร้างของเนื้อ เยื่อเซลลูไลท์ จะสามารถซ่อมแซมด้วยวิธีง่ายๆ ได้ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายเฉพาะส่วน หลัก การในการเคลือ่ นไหวร่างกายสามารถทำาได้ตงั้ แต่ ยังเป็นวัยรุ่น เพราะเซลลูไลท์จะสามารถเกิดขึ้น เมื่อใดก็ได้ โดยที่จะมาแสดงผลอย่างชัดเจนเมื่อ ตอนอายุขึ้นเลข 3 และจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นถ้า หากไม่ได้ดูแลตนเอง ทั้งนี้การเคลื่อนไหวกล้าม เนือ้ สามารถทำาได้ดว้ ยการออกกำาลังกาย โดยเน้น เรื่องการกระตุ้นกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกาย เผาผลาญเซลลูไลท์ ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่จับตัว กันเป็นก้อนไขมันที่อยู่ตามร่างกายสลายหายไป นอกจากนีก้ ารออกกำาลังกายยังทำาให้กล้ามเนือ้ โตขึน้ ซึง่ กล้ามเนือ้ ทีโ่ ตขึน้ มักมีขนาดสม่าำ เสมอ จึงทำาให้ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย 3. ก�รใช้เทคโนโลยีท�งก�รแ¾ทย์ : ใน ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ถูกพัฒนาเพิ่ม มากขึน้ จึงเกิดเครือ่ งมือทันสมัยมากมายทีช่ ว่ ยใน การกำาจัดเซลลูไลท์ โดยหลักการส่วนใหญ่เน้นทำา ให้เซลลูไลท์หายไป พร้อมกับผิวที่เรียบเนียนขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมดังกล่าวที่ได้รับการยอมรับคือ Vela Shape 2 เป็นการทำางานร่วมกันของ 4 เทคโนโลยีอย่างผสมผสานได้แก่ พลังงานความ ร้อนจากแสง Infrared (IR), คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency – RF), ร่วมกับระบบลูกกลิง้ (Roller), และระบบสูญญากาศ (Vacuum) จึง เพิม่ กระบวนการเผาผลาญไขมันใต้ผวิ ทำาให้เซลล์ ไขมันลดขนาดลง ผิวกระชับ เรียบเนียนขึ้น ทำา ให้เซลลูไลท์แตกตัว กระจายออกและถูกขับออก ไปตามระบบน้ำาเหลืองได้ดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียน โลหิตใต้ผิวหนังบริเวณที่รักษา ซึ่งจะทำาให้ขนาด ของเส้นรอบวงลดลง ผิวกระชับ เรียบเนียน รูปร่าง ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
40
41
Hotel of the Month
Text : กองบรรณาธิการ / Photo : 5 ดาว
ผ่อนคลายกับบรรยากาศบูติคริมหาด Anantara Bophut Resort & Spa Koh Samui
ความสุขของนักเดินทาง นอกจากจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ระหว่างการเดินทางแล้ว ยังได้รื่นรมย์กับธรรมชาติที่สวยงาม ที่สุดของเกาะสมุย ที่พักผ่อนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการนำ�มาเติมเต็มความสุขให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยเฉพาะกับรีสอร์ทสไตล์บูติค ริมหาดทรายสวยของ บ่อผุด รับรอง ใครที่ได้มาเยือนแล้ว เป็นต้องกลับมาเยือนอีกครั้งแล้ว ครั้งเล่าอย่างแน่นอน อนันตรา บ่อผุด รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความสงบ เงียบและเป็นส่วนตัว ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมง บริเวณหาดบ่อผุดทางตอนเหนือของ เกาะสมุย ซึง่ เป็นจุดเดินทางต่อไปยังเกาะพะงัน และอยูห่ า่ งจากตัวเมืองและสนามบิน นานาชาติเกาะสมุยเพียง 10 นาที ทั้งนี้ อนันตรา บ่อผุด รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี จึงมัน่ ใจได้วา่ ทีน่ คี่ อื จุดหมายของการเดินทางของหลายๆคน ทัง้ นีร้ สี อร์ทสวยได้รบั การ ออกแบบตกแต่งรีสอร์ทในรูปแบบร่วมสมัยจาก มร.บิลล์ เบนส์ลีย์ นักออกแบบผู้มีชื่อ เสียงระดับโลก เน้นการออกแบบอย่างเรียบง่าย สร้างความโปร่งโล่งสบาย อากาศดี มีลมพัดผ่านหมุนเวียนได้สะดวก จึงทำ�ให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ส่วนการ ตกแต่งภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมแบบไทยตอนใต้ เน้นโทนสีสด ไล่ตั้งแต่แดง ส้ม ม่วง โดยมีการนำ�ผ้าบาติก และของประดับตกแต่งที่หาได้จากทาง ภาคใต้ เข้ามาผสมผสานในจุดต่างๆ ของรีสอร์ท เป็นการสร้างเสน่ห์ให้รีสอร์ทแห่งนี้ มีสีสันที่ไม่เหมือนใคร ส่วนห้องพัก อนันตรา บ่อผุดฯ ประกอบด้วยห้องพักหลากหลายรูปแบบให้เลือกตอบ โจทย์ได้ตรงใจผูเ้ ข้าพักอาศัย รวมทัง้ หมด 106 ห้อง อาทิ ห้องพักแบบพรีเมียร์ การ์เด้นท์ววิ
42
แต่งเติมเสน่ห์ความเป็นไทย
ผ่อนคลายกับสระน้ำ�สวย (Premier Garden View) ขนาด 32 ตารางเมตร ไปจนถึง อนันตรา บีชฟร้อท์ พูล สวีท (Anantara Beachfront Pool Suite) ขนาด 80 ตารางเมตร ทีม่ าพร้อมกับสระว่ายน้�ำ ส่วนตัวขนาดใหญ่ถงึ 3 x 8 เมตร ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก พร้ อ มหน้ า ต่ า งขนาดใหญ่ ที่ ส ามารถเปิ ด รั บ แสงแดดจากธรรมชาติ ช่วยสร้างความรู้สึก โล่งสบาย ซึง่ ห้องพักแต่ละห้องตัง้ อยูใ่ นอาคารทรง ต่�ำ โอบล้อมสวนเล็กๆ สระบัว และสระว่ายน้�ำ ซึ่งช่วยให้ห้องพักส่วนใหญ่สามารถมองเห็น วิวทะเลได้อย่างชัดเจนสำ�หรับผู้มาเยือนจะ ได้พักผ่อนอย่างมีความสุขแล้ว ยังสามารถ เพลิดเพลินกับสิ่งอำ�นวยความสะดวกต่างๆ อาทิ สระว่ายน้�ำ รูปทรงอิสระขนาดใหญ่ ความ ยาวกว่า 30 เมตร หันหน้าออกสู่วิวทะเลที่มี ความสวยงามจนทำ�ให้รู้สึกเหมือนสระน้ำ�กับ เส้ น ขอบฟ้ า ท้ อ งทะเลเชื่ อ มต่ อ กั น และศู น ย์ สุขภาพ สำ�หรับให้คณ ุ หนูได้ออกกำ�ลังกาย รวม ถึง สนามเทนนิส ห้องบอลรูม และห้องประชุม ซึง่ สามารถรองรับแขกได้ถงึ 200 ท่าน เหมาะ สำ�หรับการจัดการประชุม งานเลี้ยงสังสรรค์ และงานแต่งงานขนาดย่อมๆ นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังมี กิจกรรมให้ เลือกอีกมากมาย อาทิ เรียนทำ�อาหารไทย หรือผสมค็อกเทล โดยทีมเชฟมืออาชีพ กิจกรรม การแกะสลักผักผลไม้ กิจกรรมการเล่นเรือ และเล่นกีฬาทางน้ำ�อื่นๆ อีกมากมาย และยังมีอาหารรสเลิศให้เลือกอิ่มอร่อย มากมายจากห้องอาหาร “ฟูลมูน” ได้นำ�เสนอ
บาร์บีคิว ในแบบ ชาร์ กริว ฟิวชั่น (char grill fusion cuisine) โดยการตกแต่งในรูปแบบ ร่วมสมัย พร้อมวิวสระว่ายน้ำ�ช่วยให้นั่งสบาย และเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกในการชม พระจันทร์ยามค่ำ�คืน
ทัง้ นี้ ฟูลมูนยังได้รบั การจัดอันดับเป็นหนึง่ ใน ร้านอาหารทีน่ �ำ เสนออาหารและไวน์ทด่ี ที ส่ี ดุ แห่งหนึง่ โดยนิตยสาร “ไวน์ สเปคเตเตอร์” นิตยสารไวน์ ชั้นนำ�ของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ห้องพักสุดหรู
โรแมนติกริมหาดบ่อผุด
อนันตรา บ่อผุด รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมและสำ�รองห้องพักได้ท่ี โทร. 077-428-300 หรือ 0-2477-0760 หรือ อีเมล : bophutsamui@anantara.com หรือเยีย่ มชมเว็บไซต์ : www.anantara.com หรือติดตามข่าวสารผ่านทาง www.facebook.com/anantara และ Twitter : Anantara_Hotels ขอบคุณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ อนันตรา บ่อผุด รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย เอือ้ เฟือ้ ภาพประกอบ
43
Eat & Drink Text / Photo : ช้อนกลาง
หลงเสน่ห์อาหารไทยในบ้าน @นิภา เฮ้าส์
เมือ่ พูดถึง “อาหารไทย” เรียกได้วา่ เป็นอาหารยอดนิยมของชาวต่างชาติ ถึงขัน้ ติดอันดับหนึง่ กันเลยทีเดียว ส่วนคนไทยไม่ ต้องพูดถึง ขนาดไปต่างประเทศยังต้องพกพาอาหารไทยไปด้วย เพราะนอกจากรสชาติท่ถี ูกปากจากฝีมือแม่ครัวคนเก่งแล้ว เมือ่ ได้นง่ั รับประทานอยูใ่ นบรรยากาศของร้านอาหารทีเ่ ปรียบเสมือนบ้าน ยิง่ ทำ�ให้รสู้ กึ อบอุน่ และทานอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย จนลืมอิม่ กันไปเลย
ขนมปังสังขยา
44
นิภา เฮ้าส์ เป็นห้องอาหารทีต่ ง้ั อยูใ่ นอ้อม แขนของ นิภา การ์เด้น อีกหนึง่ โรงแรมระดับ ตำ�นานบนถนนเลีย่ งเมือง ทีโ่ ดดเด่นเรือ่ งห้องจัด งานเลีย้ งสังสรรค์ทห่ี รูหราและมีขนาดใหญ่ทส่ี ดุ ของจังหวัดสุราษฎร์ฯ โดยทีห่ อ้ งอาหารนิภา เฮ้าส์ ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าของโรงแรมฯ เปิดให้ บริการอาหารไทย อาหารท้องถิน่ และอีกหลากหลาย ชนิดกว่า 100 เมนู ดูแลบริหารงานโดยคนหนุม่ รุ่นใหม่ ที่ยึดมั่นในการบริการด้วยคอนเซ็ปท์ “บริการดี ราคาคุม้ ค่า” คุณชาญชัย นรังศิยา อย่างไรก็ตาม เมือ่ ผมมีโอกาสได้พดู คุยกับ ผู้บริหารของร้านอาหารแล้ว ผมรู้สึกอบอุ่นใจ ราวกับเป็นคนคุน้ เคย ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ทีร่ ายล้อมพรรณไม้สเี ขียวสดชืน่ สบายตา ส่วน
บรรยากาศภายในร้านออกแบบสไตล์คอนเทม โพรารีท่ ผ่ี สานความเป็นไทยไว้อย่างลงตัว เป็น อาคารสมัยใหม่ จำ�นวน 2 ชัน้ ทีเ่ น้นโทนสี อบอุ่นและแต่งเติมสีสันด้วยโคมไฟรูปทรง โมเดิร์น และคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้ เก้าอีห้ วาย ทำ�ให้เข้ากับบรรยากาศของบ้านพัก อาศัยได้ดี นอกจากนีย้ งั มีโซนทีน่ ง่ั สบายๆ ริม ระเบี ย ง ให้ ไ ด้ น่ัง กิ น ลมชมวิ วไปพร้ อ มกั น ทัง้ หมดสามารถรองรับได้กว่า 140 ทีน่ ง่ั รวมทัง้ ห้องวีไอพีบนชัน้ 2 จำ�นวน 2 ห้องสามารถ จัดอาหารแบบโต๊ะจีนได้ถงึ 10 โต๊ะ โดยคอนเซ็ปท์ท้ังหมดของห้องอาหาร แห่งนี้ สร้างสรรค์มาจากประสบการณ์ความรัก ในการทำ�อาหารและการบริการที่เป็นกันเอง
ขาหมูหมั่นโถ
ไก่ทอดตะไคร้
ต้มยำ�หมูสับน้ำ�ข้น
ของมารดาผูเ้ ป็นเจ้าของนัน่ เอง แม่ครัวคนดังทีห่ าตัวจับยาก รับประกัน ได้วา่ ทุกคำ� “อร่อย” เพราะการใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่วา่ จะเป็นเมนู อาหารทีร่ งั สรรค์สตู รเด็ดด้วยตัวเอง จนมีชอ่ื เสียงโด่งดังระดับจังหวัด อาทิ “ขาหมูหมัน่ โถ” ด้วยการคัดสรรวัตถุดบิ ทีด่ มี คี ณ ุ ภาพ โดยเฉพาะ ขาหมู ต้องเลือกเฉพาะขาหน้าเท่านัน้ ผ่านขบวนการตุน๋ หลายชัว่ โมง จนได้เนือ้ หมูทน่ี มุ่ แทบละลายในปาก ส่วนน้�ำ ซุปรสชาติเข้มข้นหอม กลิน่ เครือ่ งเทศเตะจมูก เสิรฟ์ กับน้�ำ จิม้ รสเด็ด พร้อมกับหมัน่ โถร้อนๆ เนือ้ นุม่ ๆ รับประทานเข้ากันเป็นอย่างดี และทีส่ �ำ คัญเป็นเมนูส�ำ หรับ อาหารโต๊ะจีนทีจ่ ะขาดเสียไม่ได้ ตามมาด้วย “ไก่ทอดตะไคร้” เอาใจ คนรักสุขภาพ ชื่นชอบอาหารประเภทสมุนไพร โดดเด่นด้วยตะไคร้ ทุบทอดกรอบอย่าบอกใคร ได้ลม้ิ ลองแล้วเป็นต้องติดใจ ส่วนไก่หมัก เครือ่ งเทศเข้าเนือ้ ชิน้ เดียวก็ไม่พอ ขณะทีซ่ กิ เนเจอร์เมนู ทีไ่ ม่คอ่ ยได้ เห็นทีไ่ หนมาก่อน “ต้มยำ�หมูสบั น้�ำ ข้น” คัดสรรเนือ้ หมูอย่างดีสบั ปัน้ เป็นก้อนในน้�ำ ซุปต้มยำ�น้�ำ เข้มข้น หากมาแล้วไม่ได้ลม้ิ ลอง ก็เรียกได้ ว่ามาไม่ถงึ นิภา เฮ้าส์ เช่นกันคือ อาหารปักษ์ใต้ยอดนิยม “คัว่ กลิง้ ” ก็รสชาติดี ไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน นอกจากนีย้ งั มีอกี หลายเมนูเด็ด ไม่วา่ จะเป็นอาหารไทยประเภท นึง่ ผัด แกง ทอด โดยเฉพาะเมนูดงั อาทิ ปลาทับทิมชมสวนสมุนไพร, ปลากะพงราดพริก, เป็ดอบยอดผัก, แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว หรือข้าวต้มปลากะพง ไร้กลิน่ คาว ปิดท้ายล้างปากด้วยเมนูอาหารหวาน ยอดนิยม “ขนมปังสังขยา” หวานหอมกลมกล่อม หรือใครทีช่ อบขนมปัง โฮมเมต ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน และ “กล้วยหอมทอด” ทีค่ ดั สรรกล้วยหอม สุกกำ�ลังดีไซด์ใหญ่เป็นพิเศษ มาชุบแป้งทอดจนได้สีเหลืองทองราด ด้วยวนิลาซอสเข้มข้นโดนใจ การันตีได้เลยว่า อร่อยทุกอย่าง...
คั่วกลิ้ง
กล้วยหอมทอด
คุณชาญชัย นรังศิยา
นิภา เฮ้าส์ โรงแรมนิภาการ์เด้น
83/25 หมู่ 3 ถนนเลีย่ งเมือง ต.มะขามเตีย้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำ�รองที่นั่งโทร. 077-405-790, 086-571-9992 อีเมล์ : gapth888@hotmail.com หรือเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.nipagarden.net
45
My Beloved Tapee
Text / Photo : กานต์ ลิ่มสถาพร
¾Ø·¸·ÒʡѺâÅ¡áÅШѡÃÇÒÅ
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เจริญรุดหน้ามากเท่าไร ประตูที่ถูกปิดไว้ใน อดีตก็จะถูกเปิดออกมากเท่านั้น เราเรียนรูถ้ งึ คนโบราณมากเท่าไร ความรูก้ แ็ จ่มชัดมากขึน้ สังคม ในสมัยโบราณนัน้ มีสงิ่ หนึง่ ทีเ่ หมือนกัน นัน่ คือเรือ่ งของศาสนา การรูจ้ กั สังเกตสถานที่ซึ่งปรากฏดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว จนเกิด แนวคิดเรือ่ งโลกว่ามนุษย์เป็นศูนย์กลาง เห็นต้นไม้ออกดอกออกผล สัตว์ ในป่า ปลาในน้ำา และสิ่งต่างๆ รอบตัว ทำาให้เชื่อได้ว่าทุกสิ่งสร้างขึ้นมา เพื่อมนุษย์ แต่กระนั้น มนุษย์ก็ยังมีความกลัว ความกลัวแสดงบทบาทอย่างเด่นชัดในการเจริญเติบโตของศาสนา ต่างๆ ของมนุษย์เป็นความกลัวจากอำานาจธรรมชาติทไ่ี ม่สามารถทำานายได้ แผ่นดินไหว น้ำาท่วม พายุ ความแห้งแล้ง ฯลฯ เป็นความกลัว เจ็บ ป่วย ตายและความทุกข์ทรมานที่เผชิญอยู่ตลอดชีวิต แต่สิ่งที่เด่นชัดใน
46
µÍ¹·Õè 2
พัฒนาการของศาสนา ก็คือ ความเชื่อว่าชีวิตมีจุดมุ่งหมาย เพราะมนุษย์ไม่สามารถยืนยันได้โดยอายตนะ ไม่สามารถ พิสูจน์ได้ด้วยเหตุผล จึงทำาได้แต่เพียงสันนิษฐานด้วยความ เชื่อเท่านั้น แต่อย่างน้อย การมีชีวิตอยู่ตามความเชื่อ มัน ทำาให้มนุษย์ทุกหนแห่งได้สร้างกฎแห่งความประพฤติ (และ ห่อหุ้มมันด้วยพิธีกรรมและศาสนพิธีต่างๆ) จากความเชื่อที่ว่า ชีวิตมีจุดมุ่งหมาย จึงทำาให้เกิด สถาบันศาสนาขึ้น มันเป็นเองซึ่งหมายถึง “เกี่ยวเนื่องกัน” พุทธศาสนาในยุคเริ่มแรก มองเรื่องโครงสร้างจักรวาลโดย ใช้หลักเบญจขันธ์ สรรพสิ่งในจักรวาลเป็นไปตามไตรลักษณ์ เป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตา จักรวาลหนึ่ง อาจหมายถึง แผ่นดิน และโลกธาตุ พระพุทธเจ้าเป็นตัวแทนแก่นธรรม พระองค์ไม่ใช่ผกู้ อ่ ตัง้ พุทธศาสนา พุทธศาสนาเป็นเพียงผลพลอยได้ ท่านเป็น จุดเริม่ ต้นของศาสนาทีแ่ ตกต่างไปจากศาสนาอืน่ ในโลก และ เป็นความเปลีย่ นแปลงทีพ่ ลิกแผ่นดินให้ยงิ่ ใหญ่ในความสำานึก รู้ของมนุษยชาติ นำามนุษย์เข้าสู่ยุคแห่งการเติบโต แม้ว่า มนุษย์ทุกคนจะไม่บรรลุสิ่งนั้น แต่พระพุทธเจ้าได้แผ้วถาง หนทาง ได้เปิดประตูที่ไร้ประตู ต้องใช้เวลานานกว่ามนุษย์ จะเข้าใจคำาสอนอันลึกล้ำานั้น พระพุทธเจ้าไม่สนใจหรอกว่าเราจะเข้าใจไหม ท่านสนใจ แต่เพียงว่าความจริงคืออะไร เราไม่อาจนำาความจริงมาสูร่ ะดับ ของมนุษย์ได้ แต่มนุษย์นั้นจะต้องนำาตนขึ้นสู่ระดับของ ความจริง พระพุทธเจ้าเริม่ วิถที างจิตวิญญาณโดยไม่ตอ้ งเคีย่ วกรำา ทรมานตัวเอง ไม่เป็นลัทธิทตี่ อ้ งผ่านการคิด วิถที างจิตวิญญาณ แบบพื้นๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปนั้นมักต้องเคี่ยวกรำา ขึ้นอยู่กับ การสะกดกลั้นเป็นทุกข์กิริยา แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงผู้คน อีกทั้งยังบดขยี้เราอีกต่างหาก นอกจากจะไม่ได้ปลดปล่อย ผูค้ นแล้วยังกักขังเราเป็นทาส พระพุทธเจ้าไม่มแี บบอย่างใน อุดมคติ ท่านไม่ให้อดุ มคติใดๆ เพราะอุดมคติทงั้ ปวงเป็นเรือ่ ง ของความคิด ไม่มีอุดมคติใดเป็นสะพานเชื่อมไปให้พ้นจาก ความคิดได้ คุณต้องวางอุดมคติลง ถึงจะละวางความคิดได้ ไม่มแี บบอย่างอันใดทีพ่ ระพุทธเจ้าคงไว้ ทีท่ า่ นทิง้ ไว้กม็ ีเพียง ความว่างอันบริสทุ ธิ์ ความว่างอันบริสทุ ธ์นี้ เรียกว่า นิ¾¾�น ไม่ใช่หนทาง แต่เป็นความว่าง
เมือ่ คุณละวางสิง่ ทีส่ ง่ั สม ไม่ใฝ่หาอะไรอีกนัน่ แหละ ความว่ า งจะผุ ด ขึ้ น ท่านพุทธทาสนั้นเป็นทาสแก่น ธรรมของพระพุทธเจ้า ท่านมองเรื่องอนัตตาว่าเป็น หัวใจของพุทธศาสนา เป็นลักษณะเฉพาะที่แตกต่าง ไปจากศาสนาอื่นๆ ปัญหาเรื่องอนัตตาเป็นปัญหาที่ ละเอียดประณีต เป็นจุดกลาง หรือแกนกลางของ พุทธศาสนา ท่านพุทธทาสบอกว่า ถ้าเราเรียนรูค้ วามจริงเรือ่ ง อนัตตา เราจะรูค้ วามจริงอย่างกว้างขวางและทัว่ จบไป หมด ไม่วา่ จะเป็นฝ่ายสิง่ ทีม่ รี ปู หรือไม่มรี ปู ทีเ่ ป็นวิสยั โลก และจะทำาให้เรารู้สึกว่าไม่มีอะไรแปลก ไม่มีอะไร น่ายึดถือหรือหลงใหลอีกต่อไป แต่มนุษย์กค็ อื มนุษย์ ทีใ่ ช้ความศักดิส์ ทิ ธิใ์ นสากล โลกเพือ่ ความเห็นแก่ตน อ้อนวอนสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิด์ ว้ ยการ ปฏิ บั ติ บู ช าตามแบบฉบั บ ของสิ่ ง ที่ เ รี ย กกั น ว่ า ความ ศักดิ์สิทธ์ ไม่ว่าเอาพระพุทธรูปมาแขวนคอให้ช่วย คุ้มครองตัวเอง ในสายตาของท่านพุทธทาส มองว่ามนุษย์ได้ เปลี่ยนแปลงสภาพของโลก เปลี่ยนผิวพื้นของโลก ทำาลายทรัพยากรของโลกมาแล้วอย่างไร ทีเ่ หลืออยูเ่ ป็น ซากนีก้ ม็ ากพอทีจ่ ะได้มองเห็นว่า ได้มาจากความเห็น á¡่µ¹ óñ ธันวาคม òõòò ท่านพุทธทาสแสดงธรรม ณ ลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม เป็นการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ณ เวลานั้น “อยากจะให้ท่านทั้งหลายมี สิง่ ทีเ่ รียกว่าหัวใจของพระพุทธศาสนาอยูก่ บั เนือ้ กับตัว เหมือนคนทีเ่ ขาชอบแขวนพระเครือ่ งราง หลายๆ คน ชอบเอามาแขวนไว้ทคี่ อ มาขอกับอาตมาอยูบ่ อ่ ยๆ แต่วา่ พระเครือ่ งรางชนิดนัน้ ไม่มใี ห้ จะให้พระเครือ่ งรางอย่าง ที่เรามี เราจึงให้กันได้เฉพาะผู้ที่รู้จัก”
สิ่งที่ท่านพุทธทาสให้สาธุชนในวันนั้น คือคำาบาลีสั้นๆ “µ¶ÒµÒ” á»Å äทยว่า “໚¹àª‹¹¹Ñé¹àͧ” ถ้าทุกคนแขวน “เช่นนัน้ เอง” ไว้ทคี่ อ ก็เหมือนกับได้แขวนพระเครือ่ ง ศักดิ์สิทธ์ยิ่งกว่าชนิดไหนหมด คุ้มครองป้องกันได้หมด และทำาให้ก้าวหน้า สูงยิ่งๆ ขึ้นไป ตถาตา ก็คอื ความเป็นอย่างนี้ ไม่เป็นอย่างอืน่ ไปจากความเป็นอย่างนี้ เป็นกฎตายตัวของธรรมดา หรือ อิทัปปัจจยตา เป็นเช่นนั้นเอง คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ด้วยไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
จากนั้น ท่านพุทธทาสก็ตบท้ายไว้ว่า “คนโง่จะไม่รู้จักความเป็นเช่น นั้นเอง ผู้มีปัญญาตามหลักของพระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงจะรู้จักความ เป็นเช่นนั้นเอง”
47
Letter from England
Text / Photo : ณัฐวุฒิ อดุลยานุโกศล (นักเรียนทุนโอลิมปิกวิชาการ สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ) (นักเรียนทุนสมทบเพื่อการศึกษา มูลนิธิบุญชัย - อรวรรณ พงษ์เภตรา)
ฉบับที่ 28
ห้องเรียนคุณภาพระดับโลก
ในที่สุดผมก็กลับเข้ามาสู่ห้องเรียนอีกครั้ง สู่โลกแห่งการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ด้วยวิธีการการสอน หลักสูตร บุคลากร และทรัพยากรทางการศึกษาต่างๆ อีกมากมาย ทำ�ให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพสูง มาสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ และได้รับการยอมรับในระดับโลก ฉบับนี้ผมได้มีโอกาสเล่าถึงรูปแบบการเรียนการสอนในระดับ ปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่ไม่เหมือนที่อื่นใด ปรัชญาการเรียนของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ คือ การตอบสนอง ความอยากรูอ้ ยากเห็นทางปัญญา (intellectual curiosity) โดยส่งเสริม ให้ผเู้ รียนมีความสามารถ และทักษะในกระบวนการคิด การลงมือปฏิบตั จิ ริง ซึง่ เป็นการเตรียมความพร้อมสูโ่ ลกทางวิชาการ และการนำ�ไปประยุกต์ใช้ ในศาสตร์อื่นๆ หลักสูตรการเรียนทีน่ จี่ ะค่อนข้างเฉพาะเจาะจง เพือ่ เป็นการพัฒนา ให้นักเรียนเป็นผู้เชี่ยวชาญในแขนงที่ตนสนใจ และด้วยเวลาที่จำ�กัดจึง ไม่มีช่องว่างให้นักเรียนได้ศึกษาศาสตร์อื่นมากนัก อย่างเช่น ผมเป็น นักเรียนในสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Sciences) ก็จะต้อง ลงเรียนในวิชาของสาขาวิทยาศาสตร์เท่านัน้ ไม่สามารถลงเรียนวิชาอืน่ ที่น่าสนใจในสาขาอื่นๆ ได้ แต่มหาวิทยาลัยเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่นักเรียนได้ รับไม่วา่ จากการเรียนวิชาใดก็ตามคือ ทักษะทีส่ ามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ได้ (transferable skills) เช่น ทักษะการคิด การวิเคราะห์ และการศึกษา หาความรู้ด้วยตนเอง เป็นต้น
48
ภาคการศึกษาทีม่ หาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แบ่งออกเป็น 3 ภาค แต่ละ ภาคมีระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยทีภ่ าคสุดท้ายจะมีการเรียนการสอนเพียงแค่ 4 สัปดาห์แรกเท่านัน้ หลังจากนัน้ จึงเป็นการสอบวัดผล ซึง่ สอบเพียงครัง้ เดียวต่อปีการศึกษา สังเกตได้วา่ ปีการศึกษาหนึง่ ทีม่ หาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นั้นสั้นมาก ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองเพิ่มเติม และได้มีโอกาสออกไปฝึกหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกๆ วันในตอนเช้า ผมจะมีชั้นเรียนแบบบรรยาย หรือที่เรียกว่า เลคเชอร์ (Lecture) ซึ่งสอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและทำ�วิจัยในสาขา นัน้ ๆ โดยเฉพาะ เนือ้ หาในห้องเรียนจะแนะให้นกั เรียนเห็นภาพรวมของ บทเรียนต่างๆ ซึง่ เป็นพืน้ ฐานไปสูก่ ารค้นคว้าเพิม่ เติมนอกห้องเรียน คาบ เรียนแต่ละครั้ง ใช้เวลาเพียงแค่ 50 นาที แต่ก็อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่ ต้องทำ�ความเข้าใจ ผมเรียนเลคเชอร์เพียงแค่ 3 คาบต่อวิชาต่อสัปดาห์ ดังนัน้ ในปีแรก นักเรียนในคณะวิทยาศาสตร์ต้องเลือกเรียน 4 วิชา เพราะฉะนั้นชั่วโมง
เรียนเลคเชอร์ทงั้ หมดของผมจึงแค่ 10 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ และลดลง เหลือเพียงแค่ 7 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นในปีที่ 2 เพราะเหลือวิชาเรียน จำ�นวน 3 วิชา จุดที่น่าสนใจอีกอย่างของการเรียนเลคเชอร์ที่นี่ คือ การไม่ บังคับให้นักเรียนต้องเข้าเรียน ไม่มีการเช็คชื่อใดๆทั้งสิ้น ทำ�ให้ นักเรียนได้ฝึกการรับผิดชอบด้วยตนเอง และมีโอกาสตัดสินใจว่าจะ ใช้เวลาทีม่ อี ยูอ่ ย่างไร เนือ่ งจากอาจารย์ทสี่ อนในแต่ละวิชาจะเปลีย่ น ไปเรื่อยๆ ตามบทเรียน บางครั้งบางคราวจำ�นวนนักเรียนในห้องก็ ลดลงไปมาก นัน่ ก็พอจะอนุมานได้วา่ นักเรียนเหล่านัน้ เลือกทีจ่ ะนำ� เวลาไปทำ�กิจกรรมอย่างอื่น ที่อาจจะเกิดประโยชน์มากกว่าก็เป็นได้ สิง่ สำ�คัญของการเรียนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คือ การได้ลงมือ ทำ�การทดลองจริง ซึง่ ช่วยพัฒนาทักษะในการทำ�งานวิจยั ตัง้ แต่การ ออกแบบการทดลอง การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ จนไปถึงการ วิเคราะห์ผล ด้วยความพร้อมทางด้านทุนทรัพย์ของมหาวิทยาลัย ทำ�ให้ นักเรียนได้มีโอกาสใช้เครื่องมือและสารเคมีที่มีราคาสูงในการเรียน การทดลองเหล่านี้เป็นการนำ�เอาเนื้อหาในห้องเรียนมาต่อยอดหรือ บางครัง้ ก็ทดลองเพือ่ พิสจู น์วา่ เนือ้ หาทีเ่ รียนไปนัน้ ถูกต้อง เมือ่ เปรียบ เทียบกับการเรียนปฏิบตั กิ ารในมหาวิทยาลัยของไทย ก็นา่ เสียดายว่า นักเรียนของเรายังขาดโอกาสที่จะได้พัฒนาทักษะตรงส่วนนี้ไปบ้าง เพราะความไม่พร้อมทางด้านอุปกรณ์ นอกเหนือจากการเรียนในชัน้ เรียนใหญ่ๆ แล้ว มหาวิทยาลัยให้ ความสำ�คัญอย่างมากกับการเรียนกลุม่ ย่อยหรือทีเ่ รียกว่า ซุพเพอร์วชิ น่ั (supervision) ในการเรียนแต่ละครั้งจะมีนักเรียนเพียง 2 – 3 คน ต่ออาจารย์ 1 ท่าน การเรียนกลุ่มย่อยเช่นนี้ เปิดโอกาสให้นักเรียน
ได้มโี อกาสซักถามข้อสงสัย หรือหยิบยกประเด็นทีน่ า่ สนใจมาพูดคุยกับอาจารย์ และที่สำ�คัญ คือ การได้รับคำ�แนะนำ�ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเป็นราย บุคคล ทุกๆ สัปดาห์ นักเรียนจะต้องทำ�การบ้านไปส่งในแต่ละวิชา ส่วนมากจะ เป็นการเขียนเรียงความ (essay) เพือ่ ตอบคำ�ถามหรืออธิบายหัวข้อทีเ่ กีย่ วข้อง กับบทเรียน ความยาวประมาณ 1,000 คำ� หรือ 2 - 3 หน้ากระดาษเป็น อย่างน้อย โดยจะต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลมาประกอบ พร้อมทั้งทำ�ความ เข้าใจ และเรียบเรียงให้สนับสนุนแนวความคิดของตน ซึง่ ข้อสอบปลายปีการ ศึกษาจะเป็นการเขียนเรียงความเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการสอนอีกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งล้วนแล้วแต่พัฒนา ทักษะต่างๆ ให้นักเรียนได้นำ�ไปประยุกต์ใช้ได้ในอนาคต แต่ในขณะนี้ผมต้อง ขอตัวไปเขียนเรียงความที่คั่งค้างอยู่ต่อแล้ว สวัสดีครับ
49
Smart Life Text : เค บ้านส้อง
50
“น้องหมอก” โสรญ� ผนนวกชลแ่างไฟก้วฟ้า ชั้นปวช.2
ชื่อเล่น น้องหมอก เรียนอยู่แ บางกุ้ง) วิทยาลัยเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี (เทคโนกประทับใจมากทีส่ ดุ เกาะสมุย เป็นสถานทีท่ อ่ งเทย่ี วทห่ี มอ สวยบรรยากาศดี ว เพราะมีชายทะเล หาดทรายสะอาด วิี่ยวที่มีชื่อเสียงของ อากาศสดช่ืน และเป็นสถานที่ท่องเทโอกาสหมอกก็จะไป จังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วย และถ้ามี ที่นั่นอีก....
Life สนใจเป็นน�งแบบในคอลัมน์ Smart om ail.c gm g@ tma e-mail : atsura โทร. 077-288-607
51
Health Care
Text / Photo : สุจิตรา ก่อกิจไพศาล โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
วิ่งสร้างสุขภาพ วิ่งสร้างกุศล วิ่งสร้างโรงพยาบาล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทีค่ นเราจะมีสขุ ภาพดีได้นน้ั มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการด้วยกัน เช่น คนที่มี อารมณ์ดี อยูใ่ นทีท่ ม่ี อี ากาศบริสทุ ธิ์ รับประทานอาหารทีม่ ี ประโยชน์ และการออกกำาลังกายอย่างต่อเนือ่ งสม่าำ เสมอ มีความสำาคัญยิ่งต่อสุขภาพ ในแต่ละปีมีผ้ปู ่วยรายใหม่ เพิม่ ขึน้ เป็นจำานวนมากทีป่ ว่ ยด้วยโรคทีส่ ามารถป้องกันได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ ไขมัน ในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง ส่งผลให้ประเทศ ต้องสูญเสียงบประมาณอย่างมากมายมหาศาลในด้านการ รักษาพยาบาลประชาชน ทัง้ ยังส่งผลถึงปัญหาเศรษฐกิจ ในครอบครัว และความทุกข์ทรมานของตัวผูป้ ว่ ยเองด้วย ทีโ่ รงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในแต่ละวันมีผปู้ ว่ ยเข้าไปรับ การรักษาพยาบาลในแผนกผูป้ ว่ ยนอกประมาณ 2,000 คน ผูป้ ว่ ยทีต่ อ้ งนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 800 คน แต่โรงพยาบาลไม่เคยได้รับการขยายเพื่อการก่อสร้าง อาคารเพื่อรองรับจำานวนผู้ป่วยดังกล่าวมาประมาณ 22 ปีแล้ว ทัง้ นีอ้ าคารเดิมในแผนกผูป้ ว่ ยนอกสามารถ รองรับผู้ป่วยประมาณ 500 คนวัน ผู้ป่วยในที่ต้อง
52
53
การออกกำ�ลังกายเป็นเรือ่ งสำ�คัญ ดังนัน้ เพือ่ ส่งเสริมให้ประชาชนได้มคี วามตระหนัก ในการออกกำ�ลังกาย โรงพยาบาลจึงได้จัดงานวิ่งมาราธอนขึ้นในเช้าวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2557 ซึ่งมีประชาชนจำ�นวนมากได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน ในครั้งนี้
นอนพักรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 600 คน/วัน จำ�เป็นอย่างยิ่ง ต้องสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนได้มีความรู้ ตัดสินใจปรับเปลี่ยน พฤติกรรมเพือ่ ป้องกันการเกิดโรค เพือ่ จะช่วยลดอัตราป่วยในโรงพยาบาล อันจะส่งผลให้ลดความแออัดในการรับบริการในโรงพยาบาล ซึ่งเห็น ว่าการออกกำ�ลังกายเป็นเรื่องสำ�คัญ ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ได้มีความตระหนักในการออกกำ�ลังกาย โรงพยาบาลจึงได้จัดงานวิ่ง มาราธอนขึน้ ในเช้าวันที่ 14 ธันวาคม 2557 ซึง่ มีประชาชนจำ�นวนมาก ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในครัง้ นี้ ทัง้ ประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนักวิ่งจากต่างจังหวัด ทั้งนี้รายได้จากค่าสมัครและเงินบริจาคที่ โรงพยาบาลได้รับ จะนำ�ไปจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ การแพทย์ทจ่ี �ำ เป็นสำ�หรับอาคารใหม่ทโ่ี รงพยาบาลได้รบั งบประมาณจาก รัฐบาลในการก่อสร้าง จำ�นวน 2 หลัง คือ อาคาร 7 ชัน้ และ 8 ชัน้
54
ซึง่ คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2559 และ พ.ศ.2560 ดังนัน้ การจัดงานวิง่ มาราธอนของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีในครัง้ นี้ เรียก ได้วา่ วิง่ สร้างสุขภาพ วิง่ สร้างกุศล วิง่ สร้างโรงพยาบาล เพราะคนวิง่ ได้สร้างสุขภาพของตนเอง คือ การมีสขุ ภาพดี วิง่ สร้างกุศล โดย ค่าสมัครได้สมทบทุนในการจัดซือ้ อุปกรณ์การแพทย์ และวิง่ สร้าง โรงพยาบาล คือ ได้สมทบทุนในการสร้างโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีรว่ มกัน เพราะโรงพยาบาลเป็นของทุกคน ทุกคนมีสิทธิ์ในการใช้บริการ และทุกคนมีสทิ ธิในการสร้างโรงพยาบาลร่วมกัน และหลังจากงาน วิง่ มาราธอน ท่านผูม้ จี ติ ศรัทธาสามารถติดต่อบริจาคได้ทโ่ี รงพยาบาล สุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีขอขอบคุณทุกท่านทีไ่ ด้รว่ มวิง่ ร่วมสร้างกุศลและร่วมสร้างโรงพยาบาลในครัง้ นี้ และครัง้ ต่อๆ ไป
55
Favorite Food
Text / Photo : วิริยะ กลิ่นเสาวคนธ์
เมือ่ พูดถึงอาหารจากภาคอีสานต้องยอมรับกันโดยทัว่ ไปว่าปัจจุบนั กลายเป็นอาหารทีแ่ พร่หลายอยูท่ วั่ ทุกภาคของประเทศไทย เนือ่ งจากรสชาติ ที่แตกต่างเฉพาะตัวและเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าอาหารครบถ้วน จะเห็นได้ว่าตลอดเส้นทางต่างๆ จะมีร้านอาหารประเภทอาหารอีสานเปิด ให้บริการอยู่จำ�นวนมากตั้งเรียงรายเป็นระยะอยู่ทั่วไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาหารอีสานแต่ละร้านจะมีรสชาติที่ใกล้เคียงกันแต่องค์ประกอบด้าน ความสะอาด ความปลอดภัยต่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ทำ�ให้ผู้แสวงหาอาหารประเภทนี้ให้ความสำ�คัญควบคู่ไปด้วยเช่นกัน แอทสุราษฎร์ในฉบับนี้ขอแนะนำ� ร้านอาหารอีสานสำ�หรับผู้ที่ผ่านไปทางอำ�เภอพุนพินบนถนนสายจากท่าข้ามไปทางหนองขรีเพื่อออกสู่ถนนสายเอเชีย
“อีสานครกใหญ่”
เติมเต็มความสุขด้วยความแซ่บถึงใจ
ลาบเป็ด
“อีสานครกใหญ่” เป็นร้านอาหารอีสานทีม่ ี พืน้ ทีไ่ ร่เศษๆ ติดถนนใหญ่มพี น้ื ทีจ่ อดรถกว้างขวาง บรรยากาศยังโอบล้อมด้วยธรรมชาติท�ำ ให้มชี อ่ งว่าง ได้พักสายตาในขณะรับประทานอาหารไปด้วย ร้านอาหารแห่งนีม้ คี ณ ุ ปาริชาติ วิเชียร ซึง่ พืน้ เพ เดิมจากจังหวัดกำ�แพงเพชรมาเปิดกิจการอาหาร อีสานรสแซ่บ ซึ่งตั้งอยู่ท่ี ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยเหตุทเี่ ป็นคนชอบรับประทาน และชอบปรุงอาหารอีสานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ประกอบกับเป็นคนที่เรียนจบมาทางคหกรรม ทำ�ให้มีความรู้ทั้งทางด้านวิชาการและวิชาชีพ โดยตรง คุณปาริชาติ วิเชียร เล่าให้ฟงั ว่าก่อนมา เปิดร้านทีน่ ไ่ี ด้ท�ำ งานด้านโรงแรมและการท่องเทีย่ ว มาก่อนเคยทำ�งานที่ จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ตก่อน ย้ายมาอยูใ่ นจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการทีเ่ ป็น คนชอบสังเกตและชอบการทำ�อาหารทำ�ให้มที กั ษะ
56
ตำ�ปูม้า คิดเมนูอาหารใหม่ๆ ขึน้ มาให้ตรงกับความชอบของ ลู ก ค้ า ส่ ว นใหญ่ ทำ�ให้ อ าหารที่ใ ห้ บ ริ ก ารได้ รับ ความชืน่ ชอบจากลูกค้ามาโดยตลอด ร้านอาหาร “อีสานครกใหญ่” เปิดบริการมาตัง้ แต่ปี พ.ศ.2542 เคยเข้าแข่งขันตำ�ส้มตำ�ชนะเลิศรางวัลที่ 1 ซึ่ง จัดโดยห้างสรรพสินค้าโลตัสมาแล้ว เมือ่ ปี พ.ศ. 2543 ผูเ้ ขียนดูรายการอาหารจากเมนูของร้านราวๆ 50 รายการ แยกเป็นเมนูต�ำ ทอดและย่าง ต้มแซ่บ ลาบก้อย ยำ� แกงเผ็ด แกงอ่อม อาหารจานเดียว เรียกได้วา่ เลือกได้ตามความหิว ทัง้ ในแบบอีสาน ดัง้ เดิมและอีสานประยุกต์ทจี่ ะให้ความอิม่ อร่อย แก่ทกุ ๆ คนทีเ่ ข้ามารับประทานอาหารจากร้านนี้ ร้านนี้รองรับลูกค้าได้รอบละประมาณ 200 คน ทำ�ให้สามารถรองรับกลุม่ นักท่องเทีย่ วทีม่ าเป็นกลุม่ หรือรองรับงานเลีย้ งในกลุม่ เพือ่ นๆ ในโอกาสพิเศษ
คอหมูย่าง
คุณปาริชาติ วิเชียร เจ้าของและผู้ดูแลกิจการ
57
ซึ่งมีท้ังแบบซุ้ม และแบบอาคารรวมให้เลือก มีลานจอดรถอย่างเพียงพอติดถนนใหญ่ ร้านนีม้ บี รรยากาศร้านทีอ่ อกแบบดูเรียบง่าย โล่งรับลมทำ�ให้มคี วามรูส้ กึ โล่งสบายๆ กลับมาที่ อาหารแนะนำ�ในนีส้ กั ๗ รายการเริม่ จาก ลาบเป็ด ด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้อย่างดีทำ�ให้ลาบเป็ด จานนีม้ รี สชาติทกี่ ลมกล่อมเผ็ดเล็กน้อยหรือมาก ด้วยพริกคั่วตามด้วยรสกลมกล่อมจากเครื่อง ปรุงและกลิน่ สระแหน่ รองจานด้วยผักกาดหอม สีเขียวสดใสชวนให้จานนีด้ นู า่ รับประทานยิง่ ขึน้ สำ�หรับผู้ที่ชอบอาหารประเภทตำ� ขอแนะนำ� ตำ�ปูมา้ แน่นอนว่าเป็นเมนูทด่ี แู ล้วชวนน้�ำ ลายไหล เป็นที่สุด รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งจานที่ถูกปาก ถูกใจผู้รักส้มตำ�เป็นอย่างยิ่ง จานนี้มีรสเปรี้ยว จากน้�ำ มะนาวแท้ๆ โขลกตำ�เบาๆ คลุกเคล้าด้วย เครือ่ งปรุงทีแ่ ม่ครัวประจำ�ครกกำ�หนดสูตรและ ปริมาณส่วนผสมทีเ่ หมาะเจาะให้รสชาติกลมกล่อม ถัดมาเป็นเมนูปลา อาทิ เมีย่ งปลาเผา อาหาร ชุดนีม้ ปี ลาห่อเกลือแล้วย่างบนเตาถ่านร้อนๆ มี น้�ำ เมีย่ งและเส้นขนมจีนเป็นเครือ่ งเคียง คงเป็น ทีถ่ กู ใจสำ�หรับผูช้ น่ื ชอบเนือ้ ปลาหอมๆ เป็นแน่แท้ สำ�หรับคนทีช่ อบประเภทต้มขอแนะนำ� ต้มแซ่บ ซีโ่ ครง เป็นหม้อไฟตุ๋นซี่โครงหมูกระดูกอ่อนมา ในน้�ำ ซุป หอมกลิน่ รัญจวนใจไม่นอ้ ยเลย รสชาติก็ ละเมียดละมัยเคีย้ วกรุบๆ ตามมาด้วย ส้มตำ�ทอด เป็นเมนูทช่ี วนให้คดิ ถึงมันฝรัง่ ทอด แต่เมนูนเ้ี ป็น มะละกอหัน่ ฝอยชุบแป้งทอดกินกับน้�ำ ส้มตำ�คลุก เคล้าอร่อยลิน้ จรุงใจ แนะนำ� แหนมซีโ่ ครงทอด เจ้าของร้านบอกว่าแหนมทำ�เองสูตรของร้าน ความหฤหันต์นี้ สร้างความอร่อยด้วยรสหอมจาก เครื่องหมักแล้วทอดสุกพอดีๆ ขอตบท้ายด้วย คอหมูย่าง เนื้อหมูที่หมัก และย่างหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีค�ำ ชวนกินจัดมาบนจานประดับด้วยผักแกล้ม ดูแล้วชวนหลงใหล เนือ้ หมูนมุ่ เคีย้ วอร่อยเป็นทีส่ ดุ ได้สัมผัสความอร่อยอย่างลงตัว
“อีสานครกใหญ่”
ต้มแซ่บซี่โครง
แหนมซี่โครงทอด
เมี่ยงปลาเผา
ส้มตำ�ทอด
ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดบริการ 11.30 น. - 21.00 น. ทุกวัน ปิดวันอาทิตย์ สอบถามโทร. 081-415-2768 ผ่านทางนั้นอย่าลืมแวะนะครับ 58
59
The Wisdom Text / Photo : รัตนา วงศ์ชูพันธ์ ผ่านวันหยุดสำ�คัญของคนไทย (วันพ่อ) และวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นการพักผ่อนยาว ชาวสุราษฎร์ธานีหลายคน และนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวดินแดนหอยใหญ่คงได้พาพ่อไปเที่ยว ไปกินหอยนางรมสดๆ กันมาแล้ว อาหารจานเด็ดที่นักชิมคุ้นเคยกับความสดหวานอร่อยของ เนือ้ หอยทีม่ ขี นาดใหญ่พเิ ศษทีน่ ี่ บางคนทีย่ งั ไม่มโี อกาสพากันไปฉลองวันพ่อ ก็ยงั มีอกี เทศกาลหนึง่ ทีเ่ ป็นวันหยุดยาวๆ สำ�หรับการฉลองปีใหม่ พุทธศักราช 2558...ปีแห่งการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ก็อยากจะเชิญชวนทุกท่านแวะมาลองรับประทานเนื้อหอยสดๆ จากแหล่งเพาะเลี้ยง หอยนางรมในทะเลตามธรรมชาติของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแหล่งอาหารทะเลอีกแห่งหนึ่งที่สำ�คัญของประเทศ
ภูมิปัญญาไทย...ไม่แพ้ชาติใดในโลก ตอนที่ 2 การเลือกหอยนางรมมีขอ้ สังเกต ตรงเนื้อหอยที่มีสีขาวนวล อวบ อ้วน สะอาด ขนาดใหญ่ ไม่มขี อบดำ� และไม่มกี ลิน่ คาว รวมถึงมีรสหวาน อร่อยแบบสดๆ ที่เกิดจากการมี น้ำ�ตาลอิสระในตัวหอย และการ รับประทานหอยนางรมสดๆ ให้ได้ รสชาติที่อร่อยต้องมีผักเคียง หอยนางรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมชี อื่ เรียกเป็นทางการว่า “หอยนางรมตะโกรมกาม ขาว” หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Crassostrea belcheri ซึง่ ได้รบั ความนิยมมากกว่าหอย นางรมตะโกรมกามดำ� (C.iredalei) ด้วยเหตุ ที่ว่าหอยตะโกรมกามดำ�มีขนาดเล็กกว่า และ เนื้อข้นไม่ค่อยน่ากิน นอกจากนี้หอยนางรม ชนิดนี้เป็นคนละชนิดกับหอยนางรมที่เลี้ยง ในภาคตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรี และ สมุทรสาคร รวมถึงจังหวัดระนอง ซึง่ เป็นหอย นางรมพันธุเ์ ล็ก หรือมีชอื่ ทัว่ ไปว่า หอยนางรม ปากจีบ หอยเจาะ หรือหอยอีรม (Saccrostrea froskali) หอยนางรมมีสารอาหารประเภท โปรตีนสูง และท่านทราบหรือไม่วา่ หอยนางรม จังหวัดสุราษฎร์ธานีมลี กั ษณะโดดเด่น ทีท่ �ำ ให้ แตกต่างจากหอยนางรมจากแหล่งอื่น ผู้เขียน ขอแนะนำ�ให้ทา่ นสังเกตเนือ้ หอยทีม่ สี ขี าวนวล อวบอ้วน สะอาด ขนาดใหญ่ ไม่มขี อบดำ� และ ไม่มกี ลิน่ คาว รวมถึงมีรสหวานอร่อยแบบสดๆ
60
ที่เกิดจากการมีน้ำ�ตาลอิสระในตัวหอย การ รับประทานหอยนางรมให้ได้รสชาติที่อร่อย ต้องมีผักเคียงอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ คือ ยอด กระถินบ้านที่มียอดเรียวแหลม ผักพื้นบ้านที่ ปลูกง่ายและสามารถเก็บยอดกินได้ตลอดปี ด้วยความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ยอด กระถินบ้านสดๆ ทีม่ ที งั้ คุณค่าทางอาหารและ สรรพคุณทางยา เมื่อกินกับหอยนางรมสดจะ ทำ�ให้เนื้อหอยมีรสหวานยิ่งขึ้น มาถึงตรงนี้ ท่านคงมองเห็นความแตกต่าง ของหอยนางรมของจังหวัดสุราษฎร์ธานีกับ หอยนางรมจากแหล่งอืน่ ๆ ซึง่ ทำ�ให้ทา่ นสามารถ เลือกรับประทานหอยนางรมที่อร่อยสุดๆ ได้ ไม่ยากและไม่ต้องมโน ของสดจริงๆ มีให้ท่าน ลิ้มลองได้ด้วยตนเองได้ทุกวัน ที่ปากน้ำ�ตาปี อำ�เภอเมืองและปากน้�ำ กะแดะ อำ�เภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีร้านอาหารทะเลที่มี เมนูเด็ดจากหอยนางรมอยู่เป็นจำ�นวนมาก
61
Talk Text / Photo : ดร. ภาสกร ธรรมโชติ (นักเรียนทุนฟุลไบร์ท 2549) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
เศรษฐกิจปีแพะ
ปีแห่งปัจจัยเสี่ยงที่หลากหลาย
เศรษฐกิจไทยในปีทกี่ �ำ ลังจะผ่านไปถือได้วา่ เป็น สำ�หรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีแพะ ในส่วนของปัจจัยภายใน รูปประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง รวมทั้งการ ปีที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยไม่เป็นไปตาม ประเทศหากการปฏิ แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ�ทำ�ได้เร็ว ตรงเป้าและมีประสิทธิภาพก็ เป้าและอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ� สืบเนื่องจากปัญหา จะส่งผลด้านบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า อย่างไรก็ตามหากมองปัจจัย ภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองรุมเร้า ภายนอกประเทศซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ปีแพะถือว่าเป็นปีที่ ปัจจัยเสี่ยงที่หลากหลายจากการดำ�เนินนโยบายเศรษฐกิจที่หลากหลาย นอกจากนี้การส่งออกสินค้าของไทยไปขายยังต่าง จะมี ของมหาอำ�นาจเศรษฐกิจโลกซึง่ จะส่งทัง้ ผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจบ้านเรา ประเทศก็ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งส่งผลกระทบค่อนข้าง หนักต่อเศรษฐกิจบ้านเราที่พึ่งพาการส่งออกเป็น สหรัฐอเมริกา : ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกที่สำ�คัญของไทยและเป็นมหาอำ�นาจ แหล่งรายได้หลัก
ทางเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นอะไรที่เกิดกับเศรษฐกิจสหรัฐก็จะมีผลกระทบ และกำ�หนดชะตาชีวิตเศรษฐกิจไทยไม่มากก็น้อย ในปีนี้หลังจากที่ทาง ธนาคารกลางสหรัฐประกาศหยุดการดำ�เนินนโยบาย Quantitative Easing (QE) ถือเป็นสัญญาณสำ�คัญที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัว แนวโน้มเศรษฐกิจ ในปีหน้าจะเห็นการค่อยๆฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ สหรัฐปรับตัวสูงขึ้น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแต่เพียงประเทศเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโลก
จีน : มุ่งสู่การเจริญเติบโตแบบยั่งยืน อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะไม่หวือหวาเหมือนในอดีต รัฐบาลจีนกำ�ลังหันมาให้ความสำ�คัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแบบ
62
ยัง่ ยืน (ไม่เน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว) โดยหันมาจัดระเบียบ กฎหมายภายในประเทศเพือ่ ให้เอือ้ ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ จะมุง่ ไปสูก่ ารเติบโตแบบยัง่ ยืน เนือ่ งจากจีนไม่ตอ้ งการตกอยูใ่ นภาวะทีเ่ ศรษฐกิจ ต้องพึง่ พิงการส่งออกและการลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว (export and investmentled growth) แต่ตอ้ งการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพือ่ ไม่ให้ตกอยูใ่ นกับดักรายได้ ปานกลาง (middle income trap) โดยมุง่ เน้น services and consumer ledgrowth การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยภาคบริการและผู้บริโภคเป็นหลัก
ยุโรป : ยังไม่ฟื้นตัว ว่ายวนในวังวนของปัญหาเดิมๆ การรวมกลุม่ ของอียปู ระกอบกับการรับสมาชิกเพิม่ ของอียกู อ่ ให้เกิดปัญหา ต่างๆ ตามมาในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา การตัดสินใจเชิงนโยบายจึงมีความซับซ้อน และยากลำ�บากเนื่องจากต้องพิจารณาผลกระทบของอียูในภาพรวม ปัญหาการ ว่างงานและปัญหาหนี้สาธารณะยังเป็นปัญหาเรื้อรังที่สำ�คัญที่ต้องดำ�เนินการ แก้ไข ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ทำ�ให้ในภาพรวมของอียูไม่เอื้อต่อการลงทุน
รัสเซีย : อาจสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจโลก
สาเหตุทตี่ อ้ งหันมาสนใจรัสเซียเพราะเป็นประเทศทีม่ เี ศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีความเชือ่ มโยงกับโลกทัง้ ด้านการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงทีผ่ า่ นมารัสเซีย ประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย เงินทุนไหลออก ซึง่ ส่วนหนึง่ เป็นผลในการดำ�เนิน นโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาดของปูตินในกรณีของยูเครน ซึ่งหากการดำ�เนิน นโยบายต่อยูเครนยังไม่ได้รบั การแก้ไขให้เป็นทีย่ อมรับของชาวโลกจะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจของรัสเซียอีกครัง้ และหลีกเลีย่ งไม่ได้ทจี่ ะลุกลามไปยังเศรษฐกิจของ ยุโรปและอาจกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ในที่สุด โดยสรุปแล้วเศรษฐกิจไทยปีแพะจึงเป็นปีที่มีปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ หลากหลายทั้งภายนอกและภายในประเทศ ที่มาของข้อมูล The Year of Sustainable Development by Jeffrey D. Sachs-Project Syndicate How China is rebalancing its economy (Forum:Blog The World Economic Forum) A Year of Divergence by Mohamed A. El-Erian-Project Syndicate
63
Coffee
Text / Photo : สุวัฒน์ จุฑาพฤทธิ์
Mozart Coffee โมสาร์ท คอฟฟี่ กาแฟผสมดนตรี Promotion 1. ดื่มเครื่องดื่มครบ 10 แก้ว (ทุกเมนู) แถมฟรี 1 แก้ว 2. สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้ว พร้อมแสดงบัตรประจำ�ตัวประชาชนในวันเกิด รับฟรีเค้ก 1 ชิ้น
Strawberry Yogurt Cake
Coffee-Choc
เค้กโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่สูตรวิปครีมแบบ พิเศษที่ผสานโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่เข้าเนื้อ ครีมอย่างลงตัว กลิ่นหอมละมุนทำ�ให้เค้ก ถ้วยนี้ ติดใจลูกค้ามานักต่อนักแล้ว
นิยามลงตัวจากสูตรเฉพาะ เป็นเมนูทตี่ อบ สนองต่อผู้รักสุขภาพ ราดด้วยซอสกาแฟ ผสมช๊อคโกแลตเข้มข้น นิยามใหม่ส�ำ หรับ คนรักเบเกอรี่แต่ก็อยากรักษาหุ่นที่ดี
(เค้กไร้แป้ง)
Banoffee
ร้านกาแฟทีเ่ ปิดพร้อมโรงเรียนดนตรี ตอบโจทย์ไลฟ์ สไตล์สงั คมเมืองสุราษฎร์ธานี ระหว่างรอบุตรหลานเรียน ดนตรี ผู้ปกครองได้ลิ้มรสละมุนของกาแฟและเบเกอรี่ ทีป่ รุงรสอย่างพิถพี ถิ นั สนองรับความต้องการของลูกค้า ได้เป็นอย่างดี บรรยากาศน่ารักของมุมกาแฟยามบ่าย ผสานความลงตัวของศาสตร์และศิลป์ดา้ นการออกแบบ อาคารให้มีม่านน้�ำ ผ่านกระจก เหมาะสำ�หรับคอกาแฟ ที่รักเสียงดนตรีพร้อมนั่งเอนหลังผ่อนคลายไปกับความ สดชืน่ ผ่านสายน้�ำ ปลีกตัวจากบรรยากาศภายนอกได้เป็น อย่างดี
(บาน๊อฟฟี่)
นอกจากความลงตัวจากการผสมผสานให้ กล้วยหอมและกาแฟเข้ากันแล้ว คาราเมล ช่ำ�หอมกับครีมสดนุ่มๆ ยังสามารถเชื่อม รสชาติของเมนูนี้ได้อย่างไม่เหมือนใคร
Amigo Coffee
6/49 ถนนราษฎร์บำ�รุง ตำ�บลตลาด อำ�เภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 8400 โทร. 077-281711, 085-573-2213
วันเวลาเปิดบริการ
10.00 น. – 21.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน
64
(อามิโก้ คอฟฟี่)
กาแฟผสมชาเขียวสูตรเฉพาะทีค่ ดิ ค้นขึน้ เป็น พิเศษ รสชาติหอมละมุน แสดงเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนใคร
65
Horoscope
ทำานายดวงชะตาราศี ระหว่างเดือนธันวาคม 2557 - มกราคม 2558 ราศีเมษ
Aries
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 14 เมษายน - 14 พÄษภาคม ด้านความรัก จะได้พบรักจากการเดินทาง ยิง่ ไปไกลเท่าไหร่ยง่ิ มี โอกาสพบรักสูง ส่วนคนมีแฟนแล้วมีปญ ั หาเรือ่ งเวลา ต้องแบ่งเวลา ให้ดี ช่วงปลายรักหวานชืน่ มีโอกาสได้ของขวัญจากคนรัก ด้านการเงิน ช่วงนีจ้ ะมีรายจ่ายซึง่ ไม่สามารถตัดออกไปได้อยูอ่ กี เป็นช่วงทีห่ าเงินมาเพือ่ ใช้จา่ ยอย่างแท้จริง ไม่เหลือเก็บ แต่มลี าภ ผลประโยชน์ไม่ขาดมือ ทำาให้ไม่เดือดร้อนมีใช้จา่ ยตลอดปี
ราศีพÄษภ
Taurus
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 15 พÄษภาคม - 14 มิถุนายน ด้านความรัก ช่วงนีร้ สู้ กึ เหมือนให้ใจไปเต็มร้อย แต่ได้รบั กลับมา น้อยกว่าทีใ่ ห้ เกิดน้อยใจเสียใจพยายามคิดบวก ส่วนคนโสดมีเกณฑ์ อกหักรักคุดสูง หากกำาลังแอบรักแอบชอบใครอยูต่ อ้ งเผือ่ ใจไว้บา้ ง ด้านการเงิน ช่วงนีอ้ าจมีได้หรือเสียทรัพย์สนิ เงินทองจากหนีเ้ ก่า รายรับหรือรายจ่ายทีล่ ว่ งเลยมานานแล้วจะถูกหุน้ ส่วนหรือฝ่ายตรง ข้ามรือ้ ฟืน้ ขึน้ มาว่ากันใหม่หรือถูกทวงถาม
ราศีเมถุน
Gemini
ราศีสิงห์
Leo สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 17 สิงหาคม - 16 กันยายน
ด้านความรัก ช่วงนีค้ นทีม่ คี นรักอยูแ่ ล้วต้องระวังมีปากเสียงถึงขัน้ แตกหัก มีมอื ทีส่ ามหรือเรือ่ งซุบซิบนินทาจะเป็นเหตุ ส่วนคนโสดช่วง กลางได้เจอคนถูกใจโดยบังเอิญ ด้านการเงิน ช่วงนีอ้ ยูใ่ นจุดทีน่ า่ เป็นห่วง มีโอกาสเสียเงินกับค่าปรับ ค่าธรรมเนียมจิปาถะ และดวงสุขภาพ-อุบตั เิ หตุ อาการเครียดและ โรคเก่าประจำาตัวจะเป็นปัญหาสำาคัญ
ราศีกันย์
Virgo
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 17 กันยายน - 17 ตุลาคม
ด้านความรัก อยูใ่ นช่วงทีเ่ ป็นนาทีทอง โดยเฉพาะคนโสดจะมีลนุ้ ได้รบั ข่าวดีเข้ามา หรือใครทีม่ คี มู่ คี รอบครัวอยูแ่ ล้ว ดวงดาวส่งผลดี ในเรือ่ งการขยับขยายครอบครัว เกิดความมัน่ คงและความสุขมากขึน้ ด้านการเงิน ช่วงนีม้ เี กณฑ์รายได้พเิ ศษเข้ามาเพิม่ เติม ในขณะที่ เกณฑ์รายจ่ายจะลดน้อยลงด้วย และดวงสุขภาพ-อุบัติเหตุอยู่ใน เกณฑ์ทด่ี ี มีสขุ ภาพแข็งแรง
ราศีตุลย์
Libra
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 15 มิถุนายน - 16 กรกฎาคม
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 18 ตุลาคม - 16 พÄศจิกายน
ด้านความรัก ช่วงนีเ้ หนือ่ ยใจกับความคิดเห็นทีไ่ ม่ตรงกันและเป็น อีกช่วงทีม่ เี วลาให้กนั น้อย จึงต้องพยายามให้เวลากันให้มากขึน้ รักจะ ได้ลงตัว ส่วนคนโสดช่วงกลางได้เจอคนถูกใจแน่นอน า ด้านการเงิน ช่วงนีแ้ ม้ชว่ งต้นถึงกลางจะอึดอัดในการใช้จา่ ยหรือ คนทีม่ าหยิบยืมบ้าง แต่พอช่วงปลายเวลาของคุณก็มาถึง มีทง้ั โชค และโอกาสในการลงทุน ขยับขยายหยิบจับอะไรเป็นเงินทองผลกำาไร
ด้านความรัก ช่วงนีอ้ ยูใ่ นจุดทีว่ นุ่ วาย ไม่แนะนำาให้คนโสดคิดเริม่ ต้น ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ๆ ส่วนคนที่มีค่มู ีครอบครัวแล้ว ต้องระวัง ปัญหาจุกจิกกวนใจหรือจับผิดกันในเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ ด้านการเงิน ช่วงนีม้ ดี วงโชคลาภอยูบ่ า้ ง แต่ระวังเป็นทุกขลาภ และ ดวงสุขภาพ-อุบตั เิ หตุ ดวงดาวยังคงแรง ให้ระวังการขับรถ เดินทาง และอันตรายจากระบบไฟฟ้าในบ้าน
ราศีกรกฎ
Cancer สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 17 กรกฎาคม - 16 สิงหาคม
ด้านความรัก กำาลังเสน่หแ์ รง มีคนมารุมล้อมอยากรูจ้ กั อยากใกล้ชดิ คนโสดได้เจอคนถูกใจนิสยั ดี ส่วนคนมีแฟนแล้วอบอุน่ คนรักทำาความ เข้าใจได้มากขึน้ เป็นทีป่ รึกษาและกำาลังใจทีด่ ี ด้านการเงิน ช่วงนีก้ ารบริหารจัดการได้ดี หมุนเวียนคล่อง คนที่ เคยช่วยเหลือจะกลับมาตอบแทน ช่วงกลางอาจได้ของฝาก ของฟรี ประหยัดเงินในกระเป‰าไปได้บา้ ง
66
ราศีพิจิก
Scorpio
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 17 พÄศจิกายน - 15 ธันวาคม ด้านความรัก จังหวะดวงค่อนข้างแรง จึงไม่แนะนำาให้คนโสดเริม่ ต้น ใดๆ ส่วนคนทีม่ คี มู่ แี ฟนแล้ว ต้องประคับประคองความสัมพันธ์ให้ดี เพราะจะมีหลายเรือ่ งเข้ามากระทบจิตใจ ด้านการเงิน ช่วงนีร้ ะวังคนใกล้ตวั หยิบยืมเงินทอง โอกาสจะได้คนื น้อยมาก และดวงสุขภาพ-อุบตั เิ หตุมโี อกาสเกิดความเครียดกับหลาย อย่างรอบตัว คงต้องดูแลทัง้ สุขภาพกายและสุขภาพใจควบคูก่ นั ไป
ราศีธนู
Sagittarius
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 16 ธันวาคม - 14 มกราคม
ด้านความรัก คนโสดมีโอกาสได้พบกับความรักครัง้ ใหม่ระหว่างการ เดินทาง ส่วนคนทีม่ คี มู่ คี รอบครัวแล้ว ความสัมพันธ์จะดีขน้ึ สำาหรับใคร ทีย่ งั ไม่ได้หมัน้ หมายแต่งงาน ช่วงนีจ้ ะมีโอกาสได้รบั ข่าวดี ด้านการเงิน ช่วงนีจ้ ะมีโชคลาภและมีรายได้ทด่ี ี แต่รายจ่ายจะหมด เปลืองกับการเดินทาง ดวงสุขภาพ-อุบตั เิ หตุยงั มีสขุ ภาพทีแ่ ข็งแรงดี ไร้อบุ ตั เิ หตุเภทภัย
ราศีมังกร
Capricorn
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 15 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์ ด้านความรัก ระยะกำาลังเนือ้ หอม เป็นทีส่ นใจ เป็นทีห่ มายปองของ ทุกเพศทุกวัย คนโสดถ้ารักชอบใครก็เดินหน้าได้เลย ส่วนคนมีแฟน แล้วต้องเพลาๆ การหว่านเสน่หล์ งบ้าง เดียë วเผลอใจ ด้านการเงิน ช่วงนีย้ งั อยูใ่ นจุดทีด่ ี เครดิตดี มีโอกาสในรายได้พเิ ศษ เข้ามามากขึน้ และดวงสุขภาพ-อุบตั เิ หตุมเี กณฑ์โรคเก่าๆ โรคประจำาตัว จะกลับมากำาเริบส่งท้ายปีอกี ครัง้
ราศีกุมภ์
Aquarius
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม
ด้านความรัก ช่วงนีค้ นโสดจะมีตวั ช่วยทีด่ ใี ห้เกิดความสมหวัง ส่วน คนทีม่ คี มู่ แี ฟนอยูแ่ ล้วเกณฑ์ความสัมพันธ์ดี จังหวะดวงมีเปลีย่ นแปลง ทีด่ ขี น้ึ ด้านการเงิน ช่วงนีม้ จี งั หวะทีม่ ง่ั คัง่ ร่าำ รวยมากขึน้ มีโอกาสในรายได้ พิเศษหลายทาง แต่ระวังรายจ่ายทีเ่ กินความจำาเป็นไว้บา้ ง และมีเกณฑ์ เดินทางบ่อยมากขึน้ สิง่ ไม่คาดคิดจะเกิดขึน้ ได้
ราศีมีน
Pisces
สำาหรับผู้ที่เกิดช่วงวันที่ 15 มีนาคม - 13 เมษายน
ด้านความรัก ช่วงนีจ้ งั หวะดวงส่งผลดี ใครทีใ่ ห้คนรักมาแบ่งเบา หน้าทีก่ ารงานจะเกิดเป็นความมัน่ คงตามมา แต่สาำ หรับคนโสด ยังไม่ แนะนำาให้มกี ารเริม่ ต้นใดๆ ระวังการตัดสินใจทีผ่ ดิ พลาด ด้านการเงิน ช่วงนีด้ วงกำาลังมีโชค แต่ตอ้ งระวังทุกขลาภ และดวง สุขภาพ-อุบตั เิ หตุ มีเกณฑ์เจ็บป่วยในแบบแปลกๆ ภาษาดวงเรียกว่า โรคเวรโรคกรรมแต่สดุ ท้ายจะหายไปเอง
67
Save the Birds Text / Photo : โชคชัย ศรีล้ำ� หัวหน้าแผนกก่อสร้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุราษฎร์ธานี
นกจาบคาเคราน้ � ำ เงิ น Blue-bearded Bee-eater ข้อมูลเพิม่ เติม :
นักดูนกและนักเทีย่ วทีช่ อบเข้าป่าเป็นอาจิน ต่างรูก้ นั ดีวา่ แหล่งท่องเทีย่ วบาง แห่งมีชว่ งเวลา “ปิดการท่องเทีย่ ว” ซึง่ เป็นช่วงเวลาไม่กเี่ ดือนในหนึง่ ปีทธี่ รรมชาติมโี อกาสได้ฟนื้ ตัวบ้าง จากการรบกวนของมนุษย์ ผืนป่ากลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริงอีกครั้งชั่วคราว เป็นช่วงสั้นๆ ที่สรรพสัตว์ เจ้าของบ้านไม่ตอ้ งกลัวทีจ่ ะข้ามถนนแล้วถูกรถชน ไม่ตอ้ งเครียดกับการต้องมาคอยระวังตัวจากมนุษย์ หากไม่ใช่การปิดเพื่อปรับปรุงใหม่ไฉไลกว่าเดิมสำ�หรับบางสถานที่ที่เน้นนโยบายอำ�นวยความสะดวก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก หนึ่งในสาเหตุหลักที่ต้องมีการปิดการท่องเที่ยวก็คือ การเที่ยวป่า ช่วงนี้เต็มไปด้วยอันตราย ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำ�ป่าไหลหลาก ดินถล่ม ฯลฯ
ก่ อ นที่ ป่ า ยอดฮิ ต ของคนภาคกลางอย่ า งอุ ท ยานแห่ ง ชาติ แ ก่ ง กระจานจะปิ ด ลงในสิ้ น เดื อ นกรกฎาคมนี้ สมาคมอนุ รั ก ษ์ น กและ ธรรมชาติแห่งประเทศไทย (BCST) ได้จัดกิจกรรมสำ�รวจนกแก่ง กระจานตรงกับสุดสัปดาห์นี้พอดิบพอดี ป่าแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของป่า ตะวันตกตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี ซึง่ เป็นพืน้ ทีท่ บั ซ้อนของชนิดพันธุ์ ทั้งจากทางภาคเหนือและภาคใต้ เช่น นกจาบคาเคราน้ำ�เงิน (Bluebearded Bee-eater) และนกจาบคาเคราแดง (Red-bearded Beeeater) ชนิดแรกพบได้ตามป่าทั่วประเทศ แต่ถูกแทนที่โดยชนิดหลังใน ภาคใต้ จะว่าแทนที่กันก็อาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะนอกจากตาม ป่าดิบระดับต่ำ�ที่เป็นแหล่งอาศัยหลักของทั้งสองชนิดแล้ว นกจาบคา เคราน้ำ�เงินยังสามารถพบได้ในป่าที่หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นป่า เบญจพรรณ ป่าเสื่อมโทรม ชายป่า ป่าพรุ ตั้งแต่ที่ราบไปจนถึงระดับ ความสูง 2,200 เมตร นกจาบคาเคราน้�ำ เงินมีขนาดใหญ่กว่านกจาบคา ทัว่ ไปถึง 2 เท่า ลักษณะเด่นคือ ตัวเต็มวัยมีขนยาวสีฟา้ ทีค่ อและหน้าผาก สีสันของลำ�ตัวเป็นสีเขียวอมฟ้าหม่นๆ แต่มีท้องสีเหลืองและมีลายขีด สีเขียวกระจายอยู่ทั่วไป อาหารหลักของมันคือผึง้ สมกับชือ่ bee-eater นกจาบคาชนิดนีม้ กั โฉบจับเหยือ่ กินกลางอากาศตามแบบฉบับนกจาบคา แต่บางครัง้ ก็หากิน แมลงที่อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ หรือจับแมลงที่บินผ่านระหว่างในขณะที่มัน เกาะนิง่ อยูบ่ นกิง่ ไม้ ขนาดทีใ่ หญ่โตทำ�ให้มนั สามารถจับเหยือ่ ขนาดใหญ่ เช่น กิ้งก่า หรือจิ้งเหลนกินเป็นอาหารได้ด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ต้อง เลี้ยงลูกซึ่งต้องการอาหารประเภทโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโต
68
69
71
72