เทียนซือ ภาค 2 เล่ม 2 : โลงมงคล

Page 1


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 : โลงมงคล 天师执位第二季 : 棺财

ฝานลั่ว 樊落 เขียน พันลี้ แปล Copyright © 2009 by 樊落 (Fanluo) Thai Language Edition © 2018 by Bakerybook Publishing สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-7477-43-5 พิมพ์ครั้งที่ 1 มิถุนายน 2561 ราคา 270 บาท บรรณาธิการเล่ม : OhM ภาพปก : Leila ศิลปกรรม : Pancat รูปเล่ม : BOOKCREATION จัดพิมพ์และจัดจำ�หน่ายโดย ห้างหุ้นส่วนสามัญ เบเกอรี่บุ๊ค 77/12 ซอยประชาอุทิศ 75 แยก 10 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 ฝ่ายขาย : 086-534-0240 ฝ่ายบรรณาธิการ : 082-796-6696 http://www.bakerypublishing.com bakerybook@hotmail.com http://www.facebook.com/Bakerypublishing ขอขอบคุณฟอนท์สวยๆ จาก www.f0nt.com


ตอน โลงมงคล

บนถนนเส้นยาวมืดมิดประดุจไร้จุดสิ้นสุด หญิงสาวคนหนึ่งเดิน โซซัดโซเซไปข้างหน้า สายตามองเหม่อเลื่อนลอย เลือดสีแดงคล�้ำรินไหลลง มาตามหว่างขาของเธอช้าๆ หยาดหยดลงบนพื้นดินเป็นระยะ ทว่าเพียง ชั่วพริบตา ร่องรอยเหล่านั้นก็พลันเลือนหาย เบื้องหน้ามีแสงสว่างอุ่นอวล นุ่มนวลราวกับเส้นทางที่น�ำไปสู่ สรวงสรรค์ ทว่าใครคนหนึง่ กลับเอ่ยถ้อยค�ำฉุดรัง้ เธอไว้ดว้ ยนำ�้ เสียงห้าวทุม้ แสน อบอุ่น “เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่” ร่างนั้นยืนหันหลังให้แสงสว่าง เธอจึงไม่อาจมองเห็นใบหน้าของ อีกฝ่ายได้ชัดเจนนัก ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังฝืนตอบกลับไปด้วยน�้ำเสียง แผ่วล้า “ฉันเองก็อยากกลับไป” นัน่ เป็นความจริงและเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าเพียงหนึง่ เดียว 1


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ของเธอในห้วงเวลานี้ “เธออยากกลับไปจริงเหรอ?” น�้ำเสียงทุ้มต�่ำเอ่ยถามแผ่วเบาราว กระซิบ คิ้วได้รูปเลิกสูง รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ผุดขึ้นบนริมฝีปาก “งั้น...ให้ฉันส่ง เธอกลับไป เพื่อเริ่มต้นทุกอย่างใหม่อีกครั้งดีไหม? แต่ว่าคนสวย เธอจะยอม ท�ำสัญญากับฉันหรือเปล่า?” ค�ำพูดเรียบง่ายนั้นแฝงเจตนาล่อลวงชัดแจ้ง ทว่าหญิงสาวกลับไม่ อาจปฏิเสธได้ ไม่สิ! เธอไม่คิดจะปฏิเสธเลยต่างหาก เธอเต็มใจ แม้ว่าสัญญาที่ อีกฝ่ายเอ่ยออกมานั้นจะเป็นสัญญาของซาตานก็ตาม “คุณต้องการอะไรจากฉัน วิญญาณ?” “ไม่ถงึ ขนาดนัน้ หรอก เพราะส�ำหรับฉันแล้ว เรือ่ งนีม้ นั ก็งา่ ย ราวกับ พลิกฝ่ามือนั่นละ” มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ เขายื่นมือออกมา คล้ายก�ำลังชวนเธอเต้นร�ำอย่างสุภาพ แม้จะเป็นท่าทางเปีย่ มเสน่หท์ ชี่ วนให้ ลุม่ หลงอย่างน่าประหลาด แต่หญิงสาวกลับรูส้ กึ ว่า หากวางมือของตนเองลง ไปบนมือนั้นเมื่อไร เธอก็จะก้าวไปสู่จุดที่ไม่อาจหวนกลับมาได้อีก แม้จะรู้เช่นนั้น แต่หญิงสาวก็ตัดสินใจตอบรับโดยไม่ลังเล เธอยื่น มือออกไป กุมมือชายหนุม่ เอาไว้แน่น สติพลันหายวับไปในชัว่ เสีย้ ววินาที เธอ ไม่ต้องการสิ่งไหนและไม่คิดถึงสิ่งใด มีเพียงสิ่งเดียวที่จดจ�ำจารึกในใจ...ขอ ให้ฉันได้กลับไป! “ตกลง ฉันยอมท�ำสัญญากับคุณ” หญิงสาวตอบรับเสียงหนักแน่น สิน้ ค�ำพูดนัน้ แสงสีเงินก็สว่างวาบขึน้ ในมือทีจ่ บั กันอยู่ แสงนัน้ ขับไล่ ความมืดมิดทั้งหมดให้มลายหายไป ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ 2


ตอน โลงมงคล น้อยๆ “สัญญามีผล นับแต่บัดนี้” หลังแสงสว่างดับวูบลง ผิวขาวซีดของหญิงสาวก็คอ่ ยๆ เปลีย่ นกลับ ไปเป็ น สี ร ะเรื่ อ อี ก ครั้ ง ไม่ มี โ ลหิ ต ริ น ไหลลงมาตามหว่ า งขาของเธออี ก หญิงสาวกวาดตามองไปรอบตัว เธอรู้สึกได้ว่าความมืดมิดหนาวเย็นที่ โอบล้อมอยู่เมื่อครู่ก�ำลังจางหาย พร้อมกับร่างที่เริ่มเลือนรางของชายหนุ่ม “อย่ายึดติดในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นของเธอ มิเช่นนั้น เธอจะไม่มีโอกาส ได้เกิดใหม่อีกเป็นครั้งที่สอง” ชายหนุม่ ไม่ได้อธิบายให้กระจ่างว่า แท้จริง หญิงสาวสูญเสียโอกาส ในการเกิดใหม่นับแต่วินาทีที่ได้ท�ำสัญญากับเขาแล้ว แต่เธอจะได้ชีวิต นิรันดร์เป็นสิ่งตอบแทน ขอแค่...อย่าละโมบจนเกินไปเท่านั้น!

3


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2

1

เนี่ยสิงเฟิงก�ำลังอารมณ์ไม่ดี หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนก็คือ เขาก�ำลัง รู้สึกแย่เอามากๆ เขาติดต่อจางเสวียนไม่ได้! ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือการไปหาเจ้าตัวที่บ้าน นั่นเพราะเมื่อ เขาไปหาก็พบว่าอะพาร์ตเมนต์แห่งนั้นกลายเป็นอาคารร้าง มีรถตักดินและ อุปกรณ์ส�ำหรับรื้อถอนจอดประจ�ำการ ชนิดที่เห็นปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าก�ำลังจะมี การรื้อถอนอาคารในเร็ววัน เมื่อเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ซ่ึงรับผิดชอบโครงการจึงได้รู้ว่า อาคารหลังนี้ก�ำลังจะถูกรื้อ และบรรดาผู้เช่าได้ขนข้าวของย้ายออกไปหมด แล้ว เขาจึงเพิ่งนึกออกว่าจางเสวียนเคยพูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ ตอนนัน้ เขาไม่ได้ใส่ใจนัก ก็ใครจะไปนึกล่ะว่าในเวลาแค่ไม่กวี่ นั อาคารจะถูก รือ้ ขึน้ มาจริงๆ และจางเสวียนจะย้ายทีอ่ ยูไ่ ด้อย่างว่องไวโดยไม่บอกกล่าวกัน บ้างเลย 4


ตอน โลงมงคล เหตุการณ์นี้ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงร้อนใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารีบ ต่อสายไปทีส่ �ำนักงานนักสืบจัว่ เทียน ตูเ้ วยเวยเข้าใจว่าเขาเป็นลูกค้าจึงบอก ด้วยน�้ำเสียงเป็นมิตรว่า จางเสวียนไม่ได้เข้าออฟฟิศมาหลายวันแล้ว และ ตอนนีย้ งั ติดต่อไม่ได้ชวั่ คราว ถ้าหากเขามีคดีเร่งด่วนสามารถใช้บริการนักสืบ คนอื่นในส�ำนักงานแทนได้ แต่เนี่ยสิงเฟิงปฏิเสธและตัดสินใจฝากเบอร์โทร ของตนไว้เพื่อให้จางเสวียนติดต่อกลับ ความรูส้ กึ ตืน่ เต้นทีจ่ ะได้พบหน้ากันอีกครัง้ พลันเลือนหาย กลายเป็น ความห่วงกังวลเข้ามาแทนที่ เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ไม่รีบติดต่ออีกฝ่ายในทันที ที่ได้สติ นั่นเพราะเขามั่นใจว่าจางเสวียนจะยังรออยู่ที่เดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่าน ไปนานแค่ไหนก็ตาม หัวใจกลับไปว่างโหวงเหมือนตอนก่อนทีจ่ ะได้รจู้ กั กับจางเสวียน บน เบาะที่นั่งข้างคนขับมีขนมห่อสวยที่เขาตั้งใจซื้อมาเป็นของขวัญวันพบหน้า กันอีกครัง้ วางอยู่ แต่ในเวลานีแ้ ค่เหลือบไปเห็น ก็พลันรูส้ กึ ว่าห่อขนมนัน้ ช่าง เสียดแทงใจเหลือเกิน เนี่ยสิงเฟิงขับรถไปตามถนนอย่างช้าๆ วันนี้เขาลงทุน ลางานหนึง่ วันเพือ่ มาหาหมอนัน่ โดยเฉพาะ ตอนแรกยังนึกกังวลว่าเวลาเพียง วันเดียวอาจไม่พอที่เขาจะใช้ร่วมกับอีกฝ่าย แต่มาตอนนี้...เขาเริ่มรู้สึก ปวดศีรษะ เมื่อคิดว่าจะผ่านช่วงเวลาว่างเปล่าที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายและ ยาวนานนี้ไปได้อย่างไร เนือ่ งจากการจราจรในตัวเมืองค่อนข้างหนาแน่น เนีย่ สิงเฟิงจึงเลีย้ ว รถไปยังถนนเส้นเลียบเมืองซึ่งไม่เคยขับผ่านมาก่อน ในช่วงที่รถติดไฟแดง เขาก็สอดส่ายสายตามองหาคนที่อยู่ในความคิดค�ำนึงไปเรื่อยๆ บนทางเดินเท้า ผู้คนมากมายยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถประจ�ำทาง ท่ามกลางฝูงชนเหล่านั้น เขามองเห็นใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้า 5


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ผ่อนคลาย... จางเสวียน! หัวใจของเนีย่ สิงเฟิงเต้นโลดขึน้ ทันที แต่ยงั ไม่ทนั ทีจ่ ะลงมือท�ำอะไร รถประจ�ำทางก็วิ่งเข้าจอดเทียบป้าย บดบังรัศมีการมองเห็นของเขาไปจน หมดสิ้น แม้จะไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือไม่ แต่ในนาทีทไี่ ม่มีอะไรต้อง เสีย เนีย่ สิงเฟิงก็ตดั สินใจเลีย้ วรถเข้าไปยังช่องจอดรถริมทาง แล้วกระโดดวิง่ ฝ่าผู้คนตรงไปยังป้ายรถนั้นอย่างเร่งรีบ รถประจ�ำทางค่อยๆ เคลื่อนตัวออก ผู้คนที่เมื่อครู่ยังยืนออกัน หนาแน่นหายไปกับรถ บริเวณป้ายรถประจ�ำทางเหลือเพียงความว่างเปล่า... ร่างของใครคนหนึ่งยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าหล่อเหลาที่แสน คุ้นเคย ไม่ผิดแน่! ใช่จริงๆ “จางเสวียน!” เนี่ยสิงเฟิงรีบตะโกนเรียกพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปหา คนที่ก�ำลังนั่ง กัดกินแฮมเบอร์เกอร์อยูถ่ งึ กับชะงัก ใบหน้าดวงนัน้ หันมามองตามทิศทางของ เสียงเรียก ก่อนจะผุดลุกยืนขึ้นทันที “โชคดีจริงๆ ที่คุณไม่ได้ขึ้นรถคันเมื่อกี้ไป!” เนี่ยสิงเฟิงพูดด้วยน�้ำเสียงเจือหอบเล็กน้อย หัวใจของเขาก�ำลังเต้น ถี่รัว ไม่ใช่เพราะการวิ่งมาเต็มก�ำลัง แต่เป็นเพราะความยินดีที่ได้เจอคนซึ่ง เฝ้าตามหาโดยไม่คาดฝัน เขาสบสายตากับดวงตาสีฟ้าเรียบเฉยของอีกฝ่าย ที่ก�ำลังจ้องมองมา “...รถมันแน่น ไม่มีที่นั่ง” ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าจางเสวียนจะเอ่ยค�ำพูดประโยคนี้ ออกมา คล้ายกับว่ายังไม่หายตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา 6


ตอน โลงมงคล “บางครั้งรถแน่นก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันนะ” เนี่ยสิงเฟิงพูดด้วยน�้ำเสียงกลั้วหัวเราะ นาทีนี้เขารู้สึกขอบคุณที่รถ ประจ�ำทางคันนั้นแน่น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงต้องคลาดกันอย่าง ไม่ต้องสงสัย ไม่ส!ิ ถึงจะอยูใ่ นเมืองทีเ่ ต็มไปผูค้ นมากมายแค่ไหน ถึงจะต้องคลาด แคล้วกันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เนี่ยสิงเฟิงก็มั่นใจว่า พวกเขาจะต้องได้พบกัน อีกแน่ นี่ใช่ไหมที่เรียกว่า ดวงชะตาต้องกัน ท�ำให้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้ พบเจอ และโชคชะตาก็มักน�ำพาให้พวกเขามาพบเจอกันอย่างไม่คาดฝัน อยู่เสมอ “...ท่านประธาน...คุณ...ตามหาผมอยู่เหรอ?” จางเสวียนมองดูท่าทางกระตือรือร้นของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วย ความแปลกใจแล้วเอ่ยถาม เพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงได้ดูตื่นเต้น ดีใจขนาดนี้ “ก็ใช่น่ะสิ เมื่อกี้ผมเพิ่งไปหาคุณที่บ้าน ถึงได้รู้เรื่องที่อะพาร์ตเมนต์ คุณถูกรือ้ ผมไม่รจู้ ะตามหาคุณได้ทไี่ หนก็เลยโทรไปส�ำนักงานนักสืบ เขาบอก ว่าคุณไม่ไปท�ำงาน ท�ำไมคุณถึงหายเงียบไป ไม่โทรหาผม?” พอได้ ยิ น ค�ำถามนั้ น นั ย น์ ต าสี ฟ ้ า ใสที่ นิ่ ง สงบก็ ลุ ก วาบขึ้ น ด้ ว ย เพลิงโทสะจนดูคล้ายกับลูกไฟสีฟา้ ทีล่ กุ โชน ตามมาด้วยเสียงย้อนถามดังลัน่ “ไม่โทรหาคุณ? ผมโทรหาคุณจนโทรศัพท์แทบระเบิดต่างหาก! มิหน�ำซ�้ำตอนไปหาคุณที่บริษัท โอเค คุณจะท�ำเป็นไม่รู้จักผมก็ไม่เป็นไร แต่นี่ไม่ใช่แค่นั้น! คุณยังเรียกต�ำรวจมาจับผมด้วย แบบนี้หมายความว่า ยังไง? คุณคิดจะเล่นตลกอะไรกันแน่!” “ผมเปล่า!” เขานี่นะจะท�ำแบบนั้นกับจางเสวียน? ไม่มีวัน! เขาไม่มี 7


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 วันท�ำแบบนั้นเด็ดขาด ทว่าเมือ่ มองไปทีจ่ างเสวียนซึง่ นัง่ อยูเ่ พียงล�ำพังทีป่ า้ ยรถประจ�ำทาง กระเป๋าเดินทางขนาดไม่ใหญ่นกั ซึง่ วางอยูท่ เี่ ท้าของอีกฝ่ายเสริมให้เจ้าตัวยิง่ ดูอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวมากขึ้น และเมื่อจ้องมองไปที่ดวงตาสีฟ้าซึ่งเปี่ยมไป ด้วยความคับข้องใจด้วยแล้ว ก็ยิ่งท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงเผลอคิดไปว่า เขาได้ท�ำ เรื่องเลวร้ายที่สุดกับอีกฝ่ายลงไปจริงๆ “คุณ...ยังไม่ได้กินข้าว?” หลังความรู้สึกดีใจแกมปวดใจของการได้หวนกลับมาพบกันโดย ไม่คาดฝันผ่านพ้น เนี่ยสิงเฟิงจึงเพิ่งสังเกตเห็นแฮมเบอร์เกอร์ในมืออีกฝ่าย ทั้งที่ตอนนี้เลยเวลาอาหารเช้ามามากแล้ว และยังอีกนานพอควรกว่าจะถึง เวลาอาหารกลางวัน แสดงให้เห็นว่าหมอนีค่ งรวบเอามือ้ เช้าและมือ้ กลางวัน มาไว้ด้วยกันแน่ “อืม” จางเสวียนตอบรับด้วยน�้ำเสียงปกติ พยายามระงับความ ฉุนเฉียวเพื่อตั้งสติกับสถานการณ์ตรงหน้า ความเกรี้ยวโกรธไม่มีผลดีอะไร กับท้องไส้ของเขาในตอนนี้ จู่ๆ ตัวการที่ท�ำให้หงุดหงิดมาหลายวันก็โผล่มา แบบนี้ ควรจะฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหายทางความรู้สึกให้มากที่สุด ต่างหาก คิดได้แบบนัน้ จึงถามออกไปด้วยเสียงราบเรียบ “จะเลีย้ งข้าวผมหรือ เปล่าล่ะ?” “คุณอยากกินอะไร?” ความรูส้ กึ ของเนีย่ สิงเฟิงในตอนนีค้ อื ต่อให้จางเสวียนบอกว่าอยาก กินโต๊ะจีนราคาแพงสักโต๊ะ เขาก็พร้อมจะพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล เมื่อหัวข้อสนทนาแปรเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอาหาร ความโกรธเกรี้ยว ของจางเสวียนก็ดเู หมือนจะหายวับไปได้ในทันที ชายหนุม่ หันไปหยิบกระเป๋า 8


ตอน โลงมงคล เอกสารและกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ข้างตัวแล้วตอบด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง “อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เบอร์เกอร์ ผมกินมันมาสองวันแล้ว เอียนสุดๆ ไปเลย” “แล้วอันนี้...” เนี่ยสิงเฟิงมองแฮมเบอร์เกอร์ที่มีรอยกัดเว้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ในมืออีกฝ่าย จางเสวียนยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วยัดแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นใส่มือเขา แทบจะทันที “ยกให้คุณ!” ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางเสวียนก็พบว่าตัวเองก�ำลังนั่งกินข้าวอยู่ใน ห้องอาหารส่วนตัวของโรงแรมหรู พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง สองสามวันมานี้ให้เนี่ยสิงเฟิงฟัง... เขาต้องย้ายออกจากอะพาร์ตเมนต์เนือ่ งจากจะมีการรือ้ ถอนอาคาร ความจริงเรื่องนี้ทางเจ้าของได้แจ้งให้ผู้เช่ารับรู้ล่วงหน้ามานานแล้ว เป็น ตัวเขาเองทีน่ งิ่ นอนใจจนไฟลนก้นจึงค่อยคิดหาหนทาง ซึง่ แน่นอนว่านัน่ ท�ำให้ เขาไม่อาจหาที่พักเหมาะใจได้ในทันที จางเสวียนจึงไปเช่าเกสต์เฮ้าส์ราคา ถูกนอนก่อนหนึ่งคืน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่าค่าห้องแพงเกินไป เมื่อคืนจึง ไปขอค้างที่ห้องของสี่เยวี่ย แต่เพื่อนร่วมห้องของสี่เยวี่ยจะกลับมาวันนี้ เขา ไม่มีทางเลือก จ�ำต้องเซซังออกมาหาห้องเช่าแต่เช้าตรู่ โดยคิดเอาไว้ว่าถ้า หากหาห้องถูกใจไม่ได้จริงๆ ก็จะไปขออาศัยอยู่กับเถ้าแก่ก่อนเป็นการ ชั่วคราว ‘ฝันไปเถอะ!’ เนี่ยสิงเฟิงค้านอยู่ในใจทันทีที่ได้ยินความคิดนั้น เขาไม่ยอมให้ 9


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 หมอนีว่ งิ่ ไปกินอยูห่ ลับนอนกับเจ้าของส�ำนักงานนักสืบหน้าหล่อทีช่ อื่ จัว่ เทียน คนนั้นแน่ จางเสวียนเองก็ไม่ใช่คนกินจุอะไร เขามั่นใจว่าสามารถเลี้ยงดู อีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน “คุณไม่ได้บอกให้คนทีบ่ า้ นกับทีท่ �ำงานตัดสายผมแน่นะ? ไม่ได้เห็น ผมเป็นพวกสิบแปดมงกุฎจริงๆ ใช่ไหม?” แม้ทกุ อย่างจะคลีค่ ลายและเนีย่ สิงเฟิงเองก็ยนื ยันหนักแน่นว่าไม่ได้ พูดแบบนั้น แต่พอนึกว่าตัวเองเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฏ จางเสวียนก็ยังอดขัดเคืองใจไม่ได้ “คุณไม่เชื่อค�ำพูดผม?” เนี่ยสิงเฟิงย้อนถามด้วยน�้ำเสียงที่ไม่ค่อย สบอารมณ์นัก เขารู้สึกแย่ที่ตัวเองไม่ได้รับความเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก จางเสวียน คิดแล้วก็อดโมโหเจ้าน้องชายจอมบื้อไม่ได้ แค่ตัดสายเพื่อนเขา ทิ้งก็แย่พอแล้ว นี่เนี่ยรุ่ยถิงยังจงใจปิดบังไม่ให้เขารู้ว่าจางเสวียนโทรมาอีก อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด! เนี่ยสิงเฟิงจึงตัดสินใจในทันทีว่าจะยกงานของบริษัท ในช่วงหลายเดือนต่อจากนี้ให้น้องชายสุดที่รักเป็นคนดูแลทั้งหมด หมอนั่น จะได้ลิ้มรสชาติหวานอมขมกลืนของการถูกตามทวงงานดูบ้าง พอเห็นหน้าตาไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่าย จางเสวียนก็ตหี น้าระรืน่ ยิม้ ประจบ “ต้องเชื่อสิครับ” เขาไม่ได้พูดเพื่อเอาใจ แต่นี่เป็นความรู้สึกจากใจจริงๆ คนคนนี้คือ แมวกวักทีเ่ ขาสูอ้ ตุ ส่าห์ถนอมกล่อมเกลีย้ งเลีย้ งดูมาตัง้ ครึง่ ค่อนเดือน เขาย่อม มีความเชือ่ ใจอีกฝ่ายอยูบ่ า้ ง มิเช่นนัน้ เขาคงเลิกสนใจเนีย่ สิงเฟิงไปตัง้ แต่วนั ที่ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยไล่ออกมาจากบริษัทสกุลเนี่ยแล้ว จางเสวียนเงยหน้าขึ้น เห็นเนี่ยสิงเฟิงก�ำลังกินแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งตัว 10


ตอน โลงมงคล เขากัดไปแล้วหนึง่ ค�ำด้วยสีหน้าปกติ ภาพนัน้ ท�ำให้รสู้ กึ ขึน้ มาทันทีวา่ แมวกวัก ที่อยู่ตรงหน้า...น่ารักชะมัด! เขาตกใจความคิดที่พุ่งปราดเข้ามาในหัวตัวเองจนถึงกับส�ำลักน�้ำ ไอค่อกแค่กออกมาทันที “คุณไม่เป็นไรนะ?” “มะ...ไม่เป็นไรครับ” จางเสวียนยิม้ ให้อย่างไม่คดิ ติดใจอะไรอีก จะให้เขาโกรธนานกว่านี้ ได้อย่างไร ในเมือ่ แมวกวักทีเ่ ขาเลีย้ งดูมาคนนี้ ไม่ใช่แค่กวักเงินทองโชคลาภ มาให้ แต่ยังท�ำให้เขาได้กินของอร่อยในทันทีที่เจอหน้ากันอีกด้วย “แล้วอี้ล่ะ?” เนี่ยสิงเฟิงถาม “ฮ่าๆ ผมให้มันไปช่วยหาห้องเช่าให้น่ะ” จางเสวียนหัวเราะร่าขณะนั่งจิบเครื่องดื่มต่ออย่างสบายใจหลังกิน ข้าวจนอิ่มหน�ำ เนี่ยสิงเฟิงต้องกลั้นหัวเราะเต็มที่ เมื่อนึกว่าหมอนี่ช่างใช้งาน ภูตพิทักษ์ได้ในทุกเรื่อง ไม่เว้นกระทั่งเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ จนอี้ดูเหมือนจะ กลายเป็นภูตสารพัดประโยชน์ไปเสียแล้ว พอพู ด ถึ ง ห้ อ งเช่ า จางเสวี ย นก็ เ หมื อ นจะนึ ก ขึ้ น ได้ เขาหั น ไป ค้ น กระเป๋ า เอกสารให้วุ่น แล้วหยิบหนัง สือ พิมพ์ที่ซื้อจากแผงข้างป้า ย รถประจ�ำทางออกมากางดูเพื่อหาประกาศเกี่ยวกับห้องเช่า ทีร่ าคาถูกก็ท�ำเลไม่คอ่ ยดีนกั ส่วนทีอ่ ยูใ่ นท�ำเลดีกค็ า่ เช่าแพงเกินไป ยิ่งถ้าหากเป็นจุดที่มีรถประจ�ำทางวิ่งผ่าน ราคาจะยิ่งดีดตัวขึ้นเป็นสองเท่า มิหน�ำซำ�้ ยังต้องวางเงินมัดจ�ำล่วงหน้าอีกหลายเดือน เฮ้อ! การจะหาลาภลอย สักชิ้นไม่ง่ายเลยจริงๆ เห็นอีกฝ่ายดูหนังสือพิมพ์ไปพลาง บ่นงึมง�ำกับตัวเองไปพลาง 11


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 เนี่ยสิงเฟิงจึงอดถามขึ้นไม่ได้ “คุณท�ำงานมาตั้งนาน ไม่มีเงินเก็บบ้างเลยเหรอ?” “มีครับ แต่ผมฝากประจ�ำเอาไว้ ถ้าถอนออกมาตอนนี้ก็อดได้ ดอกเบี้ยกันพอดี” “เพราะเหตุผลนีค้ ณ ุ ก็เลยยอมกินแต่แฮมเบอร์เกอร์ทกุ มือ้ !” เนีย่ สิงเฟิง ขมวดคิ้ว “ไม่รู้หรือไงว่าของพวกนี้กินมากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพ!” “ทุกมื้อที่ไหนกันล่ะครับ ตอนนี้ผมกินข้าวแค่วันละสองมื้อ” พูดจบ ก็เหมือนนึกขึ้นได้ จางเสวียนจ้องหน้าเนี่ยสิงเฟิงอย่างคาดคั้น “จริงด้วย เกือบลืม คุณยังติดหนี้ผมอยู่นี่นา รีบคืนเงินมาเลย ไม่งั้นผมจะคิดค่าปรับที่ คุณจ่ายหนี้ช้า!” มุมปากของเนี่ยสิงเฟิงกระตุกขึ้นเล็กน้อยโดยที่จางเสวียนไม่ทัน สังเกตเห็น เพราะพอพูดจบ เขาก็กม้ หน้าก้มตาหาห้องเช่าราคาถูกต่อไปอย่าง มุ่งมั่น ปากก็บ่นพึมพ�ำไปด้วย “ท�ำไมถึงไม่มีพวกห้องผีสิงให้เช่าบ้างนะ หรือจะให้ค้างคาวน้อย แกล้งท�ำเป็นผีหลอกดี จะได้เช่าห้องได้ราคาถูกหน่อย” “จางเสวียน...อันทีจ่ ริงผมมีบา้ นว่างอยูห่ ลังหนึง่ ไม่รวู้ า่ คุณจะสนใจ หรือเปล่า?” เนี่ยสิงเฟิงพูดขึ้นด้วยน�้ำเสียงเรียบเรื่อย ครั้งนี้เขาจะถือว่าท�ำเพื่อ ช่วยไม่ให้เจ้าค้างคาวน้อยตกอับถึงขั้นต้องถูกใช้ให้ไปแปลงร่างเป็นผีหลอก หลอนผู้คนก็แล้วกัน ประโยคนั้นท�ำให้จางเสวียนเงยหน้าขึ้นทันที นัยน์ตาสีฟ้าใสเปล่ง ประกายวิบวับ แสดงให้เห็นว่าสนใจโดยไม่ต้องเอ่ยออกมาเป็นค�ำพูด 12


ตอน โลงมงคล “แพงหรือเปล่าครับ? ถ้าคุณคิดค่าเช่าแพง ผมคงจ่ายไม่ไหว” “ไม่หรอก รับรองว่าอยู่ในงบของคุณนั่นละ” ‘บ้านว่าง’ ที่เนี่ยสิงเฟิงบอกนั้น แท้จริงเป็นคฤหาสน์ที่เขาซื้อทิ้งไว้ ตัวอาคารมีทงั้ หมดสามชัน้ บวกกับห้องใต้ดนิ อีกหนึง่ ชัน้ ด้านหน้ามีสวนขนาด ใหญ่ ปกคลุมด้วยต้นไม้ร่มรื่น ตามมุมก�ำแพงมีซุ้มเถาองุ่นที่ปลูกไว้ดูเล่น อีกเล็กน้อย โดยรวมแล้วบรรยากาศดูเงียบสงบและน่าสบายอย่างมาก “โอ้โห! นี่เหรอครับบ้านหลังเล็กๆ ที่คุณว่า?” จางเสวียนเดินตามเนี่ยสิงเฟิงเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งตกแต่งอย่าง สวยงาม ปากก็ซักนั่นถามนี่ไม่หยุด ที่แท้ค�ำว่า ‘บ้าน’ ของคนรวยก็ไม่เหมือนกับคนจนจริงๆ แค่ย่างเท้า เข้ามาเห็นความหรูหราของห้องโถง จางเสวียนก็รู้ได้ทันทีว่า เนี่ยสิงเฟิง ล�ำบากแค่ไหนตอนที่ต้องทนอุดอู้อยู่ในห้องเช่าเล็กเท่ารูหนูของเขา ประโยค ‘ผมชอบบ้านนี้’ ซึ่งปรากฏอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่าง ชัดเจน ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงนึกดีใจว่าตนเองตัดสินใจไม่ผิด ในตอนแรกเขาคิด จะให้จางเสวียนไปอยู่ด้วยกันที่คอนโด แต่พอคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่าการท�ำ แบบนั้นคงจะบ่งบอกเจตนาโจ่งแจ้งมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเลือกที่จะ ให้อีกฝ่ายมาอยู่ที่นี่ไปก่อนเป็นการชั่วคราว “ชั้นสองมีสี่ห้องนอน คุณเลือกห้องที่ตัวเองชอบได้ตามใจ ส่วนชั้น สามเป็นห้องหนังสือ ชั้นใต้ดินเป็นห้องฟิตเนสกับห้องดูหนัง” เนี่ยสิงเฟิง อธิบายขณะพาจางเสวียนเดินดูแต่ละชั้นอย่างคร่าวๆ ก่อนจะย้อนกลับมาที่ ห้องรับแขกอีกครั้ง “บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้นานแล้ว ปกติไม่ค่อยได้ใช้ ถ้าคุณ 13


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ตกลงก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย ถือซะว่าคุณมาช่วยดูแลบ้านให้ ผมไม่เก็บ ค่าเช่า” “ได้ยังไงล่ะครับ! ถ้าให้ผมมาอยู่เปล่าๆ ก็เหมือนผมมาให้คุณเลี้ยง ดูน่ะสิ” จางเสวียนปฏิเสธทันควัน แต่เขาก็ถูกใจบ้านหลังนี้มากจริงๆ จึง ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนยื่นข้อเสนอ “เอาอย่างนี้แล้วกัน ค่าเช่าแปดร้อย เหรียญ ส่วนเงินทีค่ ณ ุ ค้างผมไว้คราวก่อนถือเป็นค่ามัดจ�ำ แบบนีค้ ณ ุ ว่าดีไหม ครับ?” ถ้าหากรู้ว่าแมวกวักจะกลับมาหา เขาจะไม่รีบหุนหันฉีกสัญญาทิ้ง แบบนั้นแน่ แต่ไม่เป็นไร ถึงจะไม่มีหลักฐานให้ทวงเงิน แค่ย้ายยอดหนี้มา โปะเป็นค่ามัดจ�ำแบบนี้ก็ถือว่าไม่เสียหาย “แปดร้อยเหรียญ!” เนี่ยสิงเฟิงหายใจสะดุดไปครู่หนึ่งก่อนจะทวน ค�ำพูดนั้น ‘เจ้าหมอนี่! กล้าพูดจริงนะ คฤหาสน์หรูพร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง แบบนี้ แปดร้อยงัน้ เหรอ...ก็คงได้ แต่ตอ้ งเป็นแปดร้อยดอลล่าร์สหรัฐต่างหาก ล่ะครับ ท่านจางเทียนซือ!’ “ท�ำไม ถูกไปเหรอครับ?” จางเสวียนรีบถามเมือ่ เห็นท่าทีของอีกฝ่าย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกได้ว่าผู้ร่วมท�ำสัญญาดูเหมือนจะไม่เห็นดีเห็นงาม ตามข้อเสนอ เขาคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่งจึงกัดฟันเอ่ย “ห้องที่ผมเช่าอยู่ก่อน หน้านี้น่ะแค่หกร้อยเหรียญเองนะ แต่ถ้าหากคุณไม่พอใจ...ก็ได้ ผมจะเพิ่ม ให้อกี สองร้อยเป็นหนึง่ พันเหรียญ แบบนีโ้ อเคหรือเปล่า? นี่ ท่านประธาน ผม พูดจริงๆ นะ ถึงบ้านหลังนี้ของคุณจะดูดีมาก แต่มันก็ไม่ได้อยู่ในเมือง หารถ ไปไหนมาไหนก็ยาก เมื่อกี้ผมดูแล้ว แถวนี้ไม่มีป้ายรถประจ�ำทางเลย แถม ยังไกลจากตลาด หาซือ้ ข้าวของก็ล�ำบาก อีกอย่างบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ต้อง 14


ตอน โลงมงคล ใช้แรงปัดกวาดเยอะ...” จางเสวียนชีน้ วิ้ ติโน่นติงนีด่ ว้ ยท่าทางจริงจัง แต่ละประโยคสามารถ ท�ำให้เส้นเลือดบนใบหน้าของเนีย่ สิงเฟิงปูดโปนขึน้ มาทุกขณะ ชายหนุม่ รูส้ กึ คล้ายตัวเองก�ำลังอยู่ในการต่อรองราคาของพวกแม่บ้านที่มาจับจ่ายซื้อผัก ซื้อปลาในตลาดสด แต่เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับในวันหน้า...ก็ได้ “ได้! หนึ่งพันเหรียญ ตกลงตามนี้” เนี่ยสิงเฟิงซึ่งใกล้จะหมดความ อดทนรีบเอ่ยขัดจังหวะการพูดพล่ามของอีกฝ่าย “หมายความว่าคุณตกลงแล้วใช่ไหมครับ?” จางเสวียนยิ้มร่าจน ตาหยี สีหน้าที่เคร่งเครียดอยู่เมื่อครู่แช่มชื่นขึ้นทันตาเมื่อรู้ว่าตนเองชนะ การต่อรอง “งัน้ ผมจะร่างสัญญาให้คณ ุ เซ็นเลย คุณนัง่ เล่นตามสบายไปก่อน นะครับ ใช้เวลาไม่นานหรอก” นอกจากจะใช้ถ้อยค�ำราวกับตัวเองเป็นเจ้าบ้านแล้ว จางเสวียนคง เกรงว่าเขาจะเปลี่ยนใจขึ้นมา จึงรีบหยิบคอมพิวเตอร์ออกมาจากกระเป๋า เอกสารเพื่อเริ่มร่างสัญญาทันที ท่าทางกระตือรือร้นจนเกินเหตุนั้นท�ำให้ เนี่ยสิงเฟิงอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้ “ผมจะไปชงชามาให้นะ” ถึงจะมาที่นี่ไม่บ่อย แต่วันนี้ก่อนมาเขาได้สั่งให้คนดูแลจัดเตรียม อาหารและเครื่องดื่มเอาไว้แล้ว ดังนั้นภายในบ้านจึงมีอาหารการกินพร้อม พอเห็นเขาท�ำท่าจะลุกขึ้นไปชงชา เจ้าบ้านคนใหม่ก็รีบร้องห้าม “ไม่ได้นะครับท่านประธาน! คุณเป็นแขก จะไปชงชาเองได้ยังไง งานพวกนี้ให้ค้างคาวน้อยท�ำดีกว่า ผมเรียกมันกลับมาแล้วละ” จางเสวียนร่ายอาคมไว้ที่ตัวอี้เพื่อให้ติดต่อกันได้สะดวก โชคดีที่ คาถาอาคมของเขายังพอจะรู้กาลเทศะอยู่บ้าง ท�ำให้ครั้งนี้เมื่อร่ายคาถา อี้ก็ 15


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 รับรู้และปรากฏตัวขึ้นที่คฤหาสน์ได้อย่างรวดเร็วฉับไว มันยังคงเอาหัวโหม่ง หน้าต่างเพื่อเข้ามาในห้องเหมือนเคย แต่เพราะได้รับการสั่งสอนวิชาจาก จางเสวียนไปบ้างแล้ว จึงไม่ท�ำกระจกแตกเหมือนเมื่อก่อนอีก “ที่นี่คือที่ใด ดูโอ่อ่ายิ่งนัก ลูกพี่ ท่านมีเงินเช่าคฤหาสน์หรูหรา เช่นนี้ได้เชียวหรือ?” อี้บินวนส�ำรวจรอบห้องนั่งเล่นแล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ทีน่ เี่ ป็นบ้านของท่านประธาน ฉันเช่าเขาอยูเ่ ดือนละหนึง่ พันเหรียญ” ค้างคาวน้อยผงกศีรษะเล็กๆ รับรู้และหลังจากฟังจางเสวียนเล่า เหตุการณ์ที่ได้พบกับเนี่ยสิงเฟิงจบ อี้ก็เอ่ยปากขึ้นทันที “บังเอิญพบพานกันเช่นนี้ นับว่าพวกท่านมีวาสนาต่อกันโดยแท้” ประโยคนี้ตรงใจจางเสวียนพอดิบพอดี ใช่แล้ว! พวกเขามีวาสนา ต่อกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแล้วว่า นับจากนี้ไปเขาจะต้องประกบติด แมวกวักทรัพย์แซ่เนี่ยไว้ชนิดไม่ให้คลาดสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว อี้จัดการเตรียมน�ำ้ ชากับขนม เพื่อเป็นมือ้ น�้ำชายามบ่ายอย่างง่ายๆ และสัญญาสองฉบับก็ถูกร่างเรียบร้อยทันที่พวกเขากินขนมเสร็จ เนี่ยสิงเฟิงกวาดตาอ่านเอกสารที่จางเสวียนยื่นให้เซ็นด้วยท่าทาง กระตือรือร้นอย่างคร่าวๆ เห็นได้ชัดว่าแม้จะใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆ แต่ จางเสวียนก็สามารถร่างสัญญาได้อย่างรัดกุมรอบคอบดีมาก ดูเหมือน ประสิทธิภาพในการท�ำงานเกีย่ วกับเรือ่ งเงินๆ ทองๆ ของหมอนีจ่ ะดีเป็นพิเศษ หลังเซ็นเอกสารเรียบร้อย เนี่ยสิงเฟิงจึงอธิบายรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม “ผมจ้างบริษัทท�ำความสะอาดไว้แล้ว เขาจะส่งคนมาท�ำความ สะอาดวันเว้นวัน คุณแค่ช่วยดูแลให้หน่อยก็พอ ถ้าขี้เกียจท�ำอาหาร ที่ข้าง โทรศัพท์มเี มนูอาหารของโรงแรมในละแวกนีท้ กุ แห่ง คุณจะโทรสัง่ ก็ได้ ค่าใช้ 16


ตอน โลงมงคล จ่ายจะหักจากบัญชีผม ช่วงนีง้ านผมค่อนข้างยุง่ คงไม่มเี วลาไปซือ้ รถคันใหม่ ให้ แต่ในโรงรถมีรถอยู่สองคัน กุญแจอยู่ในลิ้นชัก คุณเอาไปใช้ได้เลย” “ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าคุณให้ผมยืมรถใช้แล้ว ก็ไม่ต้องซื้อรถใหม่ให้ ผมหรอก” เฮอะ! นีแ่ มวกวักคิดว่าเขาจะอยากได้รถเวสป้าใหม่มากกว่ารถยนต์ หรูงนั้ เหรอ? มีรถให้ใช้สบายๆ แบบนี้ มีหรือทีค่ นฉลาดอย่างเขาจะกลับไปใช้ เจ้ามอเตอร์ไซค์คันกะจิ๋วหลิวนั่นอีก เนี่ยสิงเฟิงมองดูจางเสวียนเก็บใบสัญญาลงกระเป๋าด้วยสีหน้า เบิกบาน แล้วจึงตัดสินใจเอ่ยถามด้วยน�้ำเสียงลังเลเล็กน้อย “ที่ส�ำนักงานนักสืบเขาจ่ายค่าแรงคุณโอเคไหม?” “ก็ดีนะครับ ท�ำไมเหรอ?” “ตอนนี้ผมก�ำลังมองหาผู้ช่วย คุณ...สนใจมาท�ำงานกับผมไหม? เรื่องเงินเดือนไม่ต้องเป็นห่วง” ทัง้ ทีร่ อู้ ยูเ่ ต็มอกว่าหมอนีไ่ ม่มที างเป็นผูช้ ว่ ยทีด่ ไี ด้แน่ แต่เพราะอยาก ให้อกี ฝ่ายมาอยูข่ า้ งกาย ยิง่ ใกล้เท่าไรยิง่ ดี เนีย่ สิงเฟิงจึงยืน่ ข้อเสนอแบบใจป�ำ้ ด้วยความมั่นใจว่าไม่มีทางได้รับค�ำปฎิเสธอย่างแน่นอน แต่ทา่ ทางของจางเสวียนกลับท�ำให้เขาประหลาดใจ เพราะชายหนุม่ ขมวดคิว้ เข้าหากัน ใบหน้าแจ่มใสแปรเปลีย่ นเป็นสีหน้าล�ำบากใจขึน้ มาทันที ที่ได้ยินข้อเสนอ “เป็นผู้ช่วยคุณ...ก็ต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน น่าเบื่อแย่น่ะสิครับ” เนี่ยสิงเฟิงรู้สึกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เหตุผลแท้จริงที่ท�ำให้จางเสวียน ปฏิ เ สธ ความจริ ง น่ า จะเป็ น เพราะหมอนี่ ยั ง อาลั ย อาวรณ์ เ พื่ อ นพ้ อ งที่ ส�ำนักงานนักสืบต่างหาก เรื่องความงกเงินของจางเสวียนนั้นเป็นสิ่งที่เขา 17


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 กระจ่างแจ้งแก่ใจดี แต่ก็มีบางครั้งที่อีกฝ่ายท�ำให้อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ อยู่บ้าง ซึ่งเขาก็ชอบที่จางเสวียนเป็นแบบนี้ “คุณไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันหรอก แค่ไปรายงานตัวบ้างก็พอ ส่วนเรื่องเงินเดือนผมจะจ่ายให้เอง เอาเป็นว่าถ้าอยากจะไปท�ำงานกับผม เมื่อไรก็บอกมาได้เลย ผมจะเก็บต�ำแหน่งนี้ไว้รอคุณ” ตอนเนี่ยสิงเฟิงจะกลับ จางเสวียนเดินมาส่งที่หน้าประตู และถาม โพล่งขึ้นมาเหมือนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่ “ท่านประธาน ท�ำไมคุณถึงดีกับผมขนาดนี้ล่ะครับ?” นัยน์ตาสีฟ้าน�้ำทะเลกระจ่างใส สะท้อนรับกับแสงแดดอบอุ่นยาม บ่ายเป็นประกายงดงามจนหัวใจของเนี่ยสิงเฟิงกระตุกวูบ พูดไม่ออกไป ครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าควรตอบค�ำถามนี้อย่างไรจึงจะฟังดูดีที่สุด เพราะที่จริง แล้วแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ค�ำตอบที่ชัดเจนนัก รู้เพียงอยากท�ำดีกับ คนคนนี้ให้มากที่สุดเท่านั้น ท่ามกลางความอึดอัดใจ จู่ๆ จางเสวียนก็เอื้อมมือมาตบไหล่เขา เบาๆ แล้วหัวเราะด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์คล้ายชอบใจที่ได้แกล้งคน “เฮ้อ! คุณนี่น้า พูดโกหกสักค�ำครึ่งค�ำก็ท�ำไม่ได้ เอาเถอะ รอให้คุณ หาค�ำตอบได้เมื่อไรค่อยมาบอกผมด้วยก็แล้วกัน” หลังเนี่ยสิงเฟิงจากไป จางเสวียนก็ปิดประตูบ้านแล้วเดินกลับไปที่ ห้องนั่งเล่น อี้ก�ำลังนั่งตัวสั่นตัวคลอนอยู่บนเก้าอี้นวดด้วยท่าทางแสนสบาย พอเห็นเขาเดินเข้ามา มันก็พูดด้วยน�้ำเสียงเกียจคร้านปนสั่นระรัว “คะ...ค�ำตอบ...ระ...เรื่องนี้งะ...ง่ายมาก ขะ...ข้าจะบอกทะ...ท่าน เองก็ได้ ทะ...ที่ท่านประธานทะ...ท�ำแบบนี้ก็เพราะคะ...คิดจะเลี้ยงดูลูกพี่ 18


ตอน โลงมงคล ยะ...อย่างไรเล่า” “เลี้ยงดูอะไร!” จางเสวียนหิ้วปีกข้างหนึ่งของอี้ขึ้น แล้วจับเหวี่ยงไป ด้านข้าง จากนั้นจึงเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้นวดแทน “ฉันจ่ายค่าเช่านะ!” “ถ้าหากคิดว่าเศษเงินของท่านจะเช่าบ้านแบบนีไ้ ด้ทงั้ หลัง ก็ตามใจ” อี้ท�ำเสียงอิดหนาระอาใจอย่างคร้านจะโต้แย้ง จากนั้นจึงตีปีกพั่บๆ ไปยังกระป๋องเบียร์ทหี่ มายตาไว้ ทิง้ ให้จางเสวียนนัง่ คิดฟุง้ ซ่านอยูเ่ พียงล�ำพัง อันทีจ่ ริง การถูกแมวกวักน�ำตัวมาเลีย้ งดูแบบนีก้ ไ็ ม่เลวนัก ถ้าจะคิด อีกแง่หนึ่งก็คือ ก่อนหน้านี้ตัวเขาก็เคยเลี้ยงดูปูเสื่อแมวกวักมาแล้วตั้ง ครึ่งค่อนเดือน ดังนั้น นี่อาจถือได้ว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณมิใช่หรือ? จางเสวียนคิดเข้าข้างตัวเองแล้วอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อหวนคิดถึง สีหน้ากระอักกระอ่วน พูดไม่ออกบอกไม่ถกู ของเนีย่ สิงเฟิง สีหน้าใสซือ่ น่ารัก ของแมวกวักที่หน้าประตูเมื่อครู่นั้น ช่างแตกต่างจากท่าทางเย็นชาที่อีกฝ่าย ชอบท�ำเวลาถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสารธุรกิจการเงินลิบลับ เอาเป็นว่า คราวหน้าเขาจะลองถามดูดีกว่า ว่าอีกฝ่ายคิดจะให้เงิน เดือนเขาเท่าไร ถึงจะไม่ใช่งานที่ถนัดและไม่น่าจะท�ำได้ดี แต่การได้มี ต�ำแหน่งและชื่อบริษัทโก้หรูพิมพ์ไว้บนนามบัตรก็น่าจะไม่เลวเหมือนกัน แต่จางเสวียนก็ไม่มีโอกาสได้ถามอย่างที่ตั้งใจ เพราะในอีกไม่กี่วัน ต่อมา เขาได้รับมอบหมายให้สืบคดีหนึ่ง ท�ำให้ต้องวิ่งรอกอยู่ข้างนอกทั้งวัน มีเวลาคุยโทรศัพท์กับเนี่ยสิงเฟิงแค่ไม่กี่ครั้ง กว่าจะปิดคดีได้ก็ตรงกับช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์พอดี จางเสวียนจึงบอกกับจั่วเทียนผู้เป็นเจ้านายไว้แต่ เนิ่นๆ ว่า วันหยุดนี้อย่าได้มากวนใจ เพราะเขาอยากใช้เวลาอยู่กับแมวกวัก “ลูกพี่ ดูเหมือนท่านจะสนิทสนมกับท่านประธานมากเลยนะ” 19


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 อี้ที่คงจะนั่งเล่นจนรู้สึกเบื่อ จึงกระพือปีกบินมาหาเรื่องจ้ออยู่ที่ ข้างตัวลูกพี่ใหญ่ “ก็พอสมควร” จางเสวียนงึมง�ำตอบขณะจ้องหน้าจอมือถือด้วย สีหน้าลังเลใจ ว่าควรจะแค่ส่งข้อความหรือจะโทรไปหาอีกฝ่ายเลยดี “ลูกพี้...” อี้เรียกเสียงสูงเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายไม่ได้สนใจฟังค�ำพูด ของมันอย่างจริงจัง “ข้าว่าท่านน่าจะอยูใ่ ห้หา่ งจากท่านประธานสักหน่อย บน ตัวเขามีพลังกังอยูม่ าก ไม่เหมือนผูท้ ฝี่ กึ วิชาเต๋าอย่างพวกเรา อีกทัง้ ตามหลัก การแล้ว ธรรมะและอธรรมย่อมไม่อาจอยู่ร่วม นี่เป็นกฎที่รู้กันดีมิใช่หรือ?” “อืม...” จางเสวียนผงกศีรษะรับ ดวงตาหงส์ช้อนขึ้นมองอี้ด้วย สายตาคล้ายจะยิ้ม...แต่ก็ไม่ใช่ “ค้างคาวน้อย นายกินข้าวเขา อยู่บ้านเขา แถมยังกอดกระป๋องเบียร์ของเขาอยู่กับอกตลอดเวลาแบบนี้ ยังมีหน้ากล้า ว่าเขาอีกงั้นเหรอ?” ค้างคาวน้อยยัดมือเล็กจิ๋วเข้าปากตัวเอง เหมือนส�ำนึกได้ว่าตนเพิ่ง ท�ำความผิดมหันต์ มันกอดกระป๋องเบียร์แน่นขึ้น ขณะส่ายหน้าไปมาแรงๆ แต่จางเสวียนไม่สนใจท่าทางพูดไม่ออกบอกไม่ถูกของมันเลย สักนิด เพราะตอนนี้ในใจเขาก�ำลังหวนคิดทบทวนถึงสีหน้าท่าทางของ เนี่ยสิงเฟิง สุดท้ายก็อดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ “ธรรมะและอธรรมไม่อาจอยู่ร่วมงั้นเหรอ? ท่านประธานดูเหมือน พวกอธรรมตรงไหนกัน?” ปีกของอีก้ ระตุก ก่อนทีร่ า่ งเล็กจ้อยของมันจะร่วงผล็อยลงไปกองอยู่ ที่พื้น ท่าทางแบบนั้นของอีกฝ่าย ท�ำให้จางเสวียนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เขา ตะคอกใส่ภูตพิทักษ์ของตัวเองทันที “หรือว่า...นายว่าฉัน! ฉันเป็นเทียนซือผูส้ บื ทอดวิชาของส�ำนักอย่าง 20


ตอน โลงมงคล เป็นทางการ จะเป็นพวกอธรรมไปได้ยังไง?!” ถูกตวาดเสียงดังลั่น อี้ที่ไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรดีจึงเริ่มเอาหัวโขก กระจก มันนึกอยากเป็นลมหมดสติเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะให้มันพูดความจริง ที่อยู่ในใจออกไปได้อย่างไรว่า เทียนซือผู้สืบทอดวิชาของส�ำนักอย่างเป็น ทางการย่อมไม่มีทางเป็นพวกสายอธรรมไปได้ แต่ผู้ที่เป็นสายอธรรมขนาน แท้และดั้งเดิมก็คือ ตัวตนแท้จริงที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของจางเสวียน ต่างหาก ซึง่ เรือ่ งนีไ้ ม่ตอ้ งมีใครบอก อีก้ ส็ ามารถรับรูไ้ ด้เองจากสัญชาตญาณ ของสัตว์ในตัวมัน เสี ย งโทรศั พ ท์ บ ้ า นดั ง ขึ้ น ราวกั บ เป็ น ระฆั ง หมดยกที่ ช ่ ว ยชี วิ ต ภูตพิทกั ษ์นอ้ ยให้รอดพ้นจากสภาวะน�ำ้ ท่วมปาก ซึง่ ผูท้ โี่ ทรมานัน้ จะเป็นใคร ไปไม่ได้ นอกจากท่านประธานของบริษัทธุรกิจทางการเงินสกุลเนี่ย! “พรุ่งนี้ผมจะไปตีกอล์ฟ คุณสนใจไปด้วยกันไหม?” ทัง้ ทีเ่ ขาก�ำลังจะโทรไปหา แต่จๆู่ เนีย่ สิงเฟิงกลับเป็นฝ่ายโทรมาเสีย เอง หรือว่า...พวกเขาจะใจตรงกัน? ดังนั้นแม้จางเสวียนจะไม่เคยนึกสนใจ กีฬากอล์ฟมาก่อน แต่การได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดร่วมกับแมวกวักย่อมเป็น เรื่องน่าสนใจที่สุด “อยากไปสิครับ แต่..ผมไม่มีอุปกรณ์” “ผมมี คุณใช้ของผมได้” หลังจากนัดหมายเวลาสถานทีก่ นั เรียบร้อย ทัง้ คูก่ ค็ ยุ เล่นเรือ่ ยเปือ่ ย กันอีกพักหนึ่งก่อนจะวางสาย อี้ที่เงี่ยหูฟังมาโดยตลอดฟื้นคืนจากความรู้สึก กระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที มันกระพือปีกบินร่อนลงมาตรงหน้าจางเสวียน อย่างสวยงาม และบอกด้วยน�้ำเสียงกระตือรือร้น “ลูกพี่ ท่านจะไปตีกอล์ฟเหรอ? ขอข้าไปด้วยสิ...น้า ให้ข้าไปด้วย 21


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 น้า...นะ...ข้าอยากไปด้วย” “นายตีกอล์ฟเป็นหรือไง? นายกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แล้วงัน้ เหรอ?” จางเสวียนย้อนถามด้วยน�้ำเสียงเย้ยหยัน แล้วตบท้ายด้วยประโยคบาดหู ค้างคาวน้อย “นายอยู่เฝ้าบ้านนี่ละ ดีแล้ว” “แต่ว่าลูกพี่ ท่านก็ดูไม่เหมือนคนตีกอล์ฟเป็นนะ” กว่าอีจ้ ะรูต้ วั ว่ามันได้เอือ้ นเอ่ยถ้อยค�ำทีเ่ ป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง ก็ ตอนที่ถูกจางเสวียนจับเหวี่ยงออกไปนอกหน้าต่างในวินาทีถัดมา!

22


ตอน โลงมงคล

2

จางเสวียนไม่เคยเล่นกอล์ฟ แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเรียนรู้ โดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เรียนฟรี มีครูดี แถมคุณครูยังหล่อเหลาเอาการแบบนี้ นี่จึงนับว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ เนีย่ สิงเฟิงขับรถมารับจางเสวียนทีบ่ า้ นแต่เช้า โดยมีอตี้ ดิ สอยห้อยตาม มาด้วยอีกหนึ่งชีวิต “มันบอกจะมาด้วยให้ได้” จางเสวียนบอกด้วยน�้ำเสียงอ่อนใจ “แต่ ไม่ต้องห่วงนะครับ มันมีวิชาพรางตัว รับรองว่าไม่มีใครเห็นมันหรอก” “ผมกลัวคนจะเห็นกระป๋องเบียร์ที่มันกอดไว้มากกว่า” เนี่ยสิงเฟิง พูดกลั้วหัวเราะ “บ้านใหม่เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้ไหม?” “ดีครับ” จางเสวียนตอบพร้อมยิ้มกว้างขวางอย่างชอบใจสุดๆ งานบ้านไม่ตอ้ งท�ำเอง ข้าวของเครือ่ งใช้กม็ ใี ห้พร้อมสรรพ อยากกิน ของแพงๆ เวลาไหนก็โทรไปสัง่ ได้ตลอดเวลาแบบนี้ จะไม่ดไี ด้อย่างไร ข้อเดียว ทีอ่ าจจะไม่ชอบใจอยูบ่ า้ งก็คอื เขาไม่สามารถขับรถของเนีย่ สิงเฟิงไปท�ำงาน 23


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ได้ เพราะการขับเฟอร์รารี่ไปท�ำงานนั้นสะดุดตาเกินไปส�ำหรับการสืบคดี ดังนั้นเขาจึงท�ำได้เพียงชื่นชมด้วยตา แล้วปล่อยมันจอดนิ่งอยู่ในโรงรถ ส่วน ตัวเองก็ตอ้ งกลับไปใช้เจ้าเวสป้าคันเก่าทีม่ อี าการร่อแร่เต็มประดาเหมือนเดิม เมื่อมาถึงโกลด์สโตนกอล์ฟคลับ เนี่ยสิงเฟิงก็หยิบอุปกรณ์ตีกอล์ฟ ส�ำหรับสองคนออกมา เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช่าล็อกเกอร์ให้จางเสวียน ส่วนตัวเขาเองเป็นสมาชิกวีไอพีของที่นี่ จึงมีตู้ล็อกเกอร์ส่วนตัวอยู่แล้ว จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ซื้อชาสองกระป๋องและเบียร์ เย็นๆ อีกหนึง่ กระป๋องมาฝากอี้ ค้างคาวน้อยกระพือปีกเข้าไปรับกระป๋องเบียร์ อย่างร่าเริง ราวกับลืมเรื่องที่เคยพูดเมื่อวันก่อนไปจนหมดสิ้น จางเสวียนอดไม่ได้ทจี่ ะถลึงตาใส่เจ้าค้างคาวใจโลเล แล้วเค้นเสียง ถาม “นี่น่ะเหรอหลักการของนาย? ไหนบอกว่าธรรมะและอธรรมไม่อาจ อยู่ร่วมไงล่ะ!” “หืม ลูกพี่ ท่านจ�ำผิดแล้ว หลักการของข้าก็คือ...รู้จักปรับตัวให้เข้า กับสถานการณ์ต่างหาก” อี้บอกอย่างหน้าไม่อาย แล้วกระพือปีกบินจากไป ไม่เหลือให้เห็นแม้แต่เงา หลังดื่มน�้ำเสร็จ จางเสวียนก็เดินไปหาตู้ล็อกเกอร์ตามหมายเลขที่ ติดไว้บนลูกกุญแจ เขาเปิดตูเ้ พือ่ เก็บของทีย่ งั ไม่จ�ำเป็นต้องใช้ ในตอนทีก่ �ำลัง จะเก็บรองเท้าก็เห็นว่ามีบางสิ่งวางอยู่ตรงซอกตู้ จึงหยิบออกมาดู มันคือ ผ้าพันคอสีแดงผืนยาวแบบทีห่ ญิงสาวนิยมน�ำมาใช้เป็นเครือ่ งประดับตกแต่ง บนผืนผ้ายังกรุ่นกลิ่นน�้ำหอมจางๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว รู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจ เต้นถี่รัวขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาคลี่ผ้าพันคอผืนบางออก สีแดงสดใสนั้นฉูดฉาดบาดตาราวกับ 24


ตอน โลงมงคล สีของ...เลือด ลางสังหรณ์แปลกประหลาดแล่นเข้าจับขั้วหัวใจอย่างไร้เหตุผล ทันใดนั้นกลิ่นน�้ำหอมบนผืนผ้าก็ดูเหมือนจะแปรเปลี่ยนไป กลายเป็นกลิ่น บางอย่างที่เขาไม่ชอบ “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” เนี่ยสิงเฟิงเดินเข้ามาถาม เมื่อเห็น จางเสวียนยืนมองผ้าพันคอผืนหนึ่งด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่เก็บนี่ได้จากในล็อกเกอร์” เนี่ยสิงเฟิงรับผ้าผืนนั้นไปดู สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผิดปกติที่เกิดขึ้น อย่างกะทันหัน ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าเพราะเหตุใดจางเสวียนจึงมีสีหน้า แบบนัน้ แต่เขาก็ท�ำท่าเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึน้ แล้วพูดด้วยนำ�้ เสียงราบเรียบ ตามปกติ “คงเป็นของคนที่ใช้ตู้ก่อนหน้านี้ลืมไว้ ผมจะเอาไปให้ที่เคาน์เตอร์” ทั้งพนักงานและสมาชิกวีไอพีของกอล์ฟคลับแห่งนี้ต่างมีล็อกเกอร์ ส่วนตัว ผูใ้ ช้บริการขาจรทีต่ อ้ งมาเช่าตูเ้ ป็นครัง้ คราวแบบจางเสวียนมีไม่มาก นัก ตู้ล็อกเกอร์ในส่วนนี้จึงไม่ค่อยมีคนใช้ บางทีนี่อาจเป็นของที่ถูกลืมทิ้งไว้ โดยที่พนักงานยังไม่ทันได้ตรวจสอบก็เป็นได้ หลังส่งของให้ที่เคาน์เตอร์เรียบร้อย ทั้งคู่ก็พากันไปที่สนามซ้อม เนื่องจากมือใหม่อย่างจางเสวียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเล่นในสนาม จริง จึงท�ำได้แค่ฝกึ หวดลูกอยูท่ สี่ นามซ้อม โดยมีเนีย่ สิงเฟิงคอยสอนอยูข่ า้ งๆ ซึ่ ง ชายหนุ ่ ม เองก็ รู ้ สึ ก ว่ า การสอนนั ก กอล์ ฟ มื อ ใหม่ อ ย่ า งจางเสวี ย นนั้ น เพลิดเพลินกว่าการเข้าไปเล่นกอล์ฟในสนามจริงเป็นไหนๆ “คุณเพิ่งเคยเล่นกอล์ฟครั้งแรก?” แค่ดวู ธิ จี บั ไม้ เขาก็รไู้ ด้ทนั ทีวา่ อีกฝ่ายไม่เคยมีประสบการณ์การเล่น 25


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 กอล์ฟมาก่อน แต่เพราะความเป็นสุภาพบุรุษเนี่ยสิงเฟิงจึงถามให้แน่ใจ “โบว์ลิ่งครับ ที่ผมเล่นบ่อยๆ” จางเสวียนบอกขณะหมุนไม้กอล์ฟดู อย่างสนใจ “...อืม จะว่าไป นี่มันก็คล้ายๆ เล่นโบว์ลิ่งน่ะละ” ท่านประธานเนี่ยเหนื่อยใจเกินกว่าจะอธิบายจึงเอ่ยสนับสนุนเสีย ให้รู้แล้วรู้รอด จากนั้นจึงเรียกจางเสวียนให้ขึ้นไปยืนบนพื้นส�ำหรับฝึกตี ส่วนตัวเองเข้าไปยืนประกบอยู่ด้านข้าง “เอาละ ทีนี้ยืนแยกปลายเท้าซ้ายออกเล็กน้อย ถ่ายน�้ำหนักลงไปที่ เท้าซ้าย ยืดตัวไปข้างหน้านิดหนึ่ง นั่นละ ตามองที่ลูก อย่าเกร็ง ผ่อนคลาย เข้าไว้...” เนี่ยสิงเฟิงอธิบายเทคนิคการตีพร้อมกับเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เพื่อ ช่วยจัดท่าทางที่ถูกต้องให้ ส่วนสูงของพวกเขาใกล้เคียงกัน ทั้งยังยืนอยู่ใกล้ กันมาก ท�ำให้บางจังหวะใบหน้าและล�ำตัวต้องแนบชิดอย่างยากจะหลีกเลีย่ ง การถูกเนือ้ ต้องตัวกันอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ ก่อให้เกิดความรูส้ กึ บางอย่าง เนี่ยสิงเฟิงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน�้ำหอม CK จากร่างอีกฝ่าย ไม่ใช่แค่กลิ่น นำ�้ หอม แต่มนั ยังเจือกลิน่ มีเสน่หเ์ ฉพาะตัวของจางเสวียน ซึง่ นัน่ ท�ำให้เขาไม่ อาจตัดใจเคลื่อนตัวออกห่างจากร่างที่แนบชิดอยู่ได้ ความรูส้ กึ คุน้ เคยแล่นปราดเข้ามา ราวกับว่าพวกเขาเคยใกล้ชดิ กัน แบบนีม้ าก่อน ทว่าตัง้ แต่เมือ่ ไรนัน้ เนีย่ สิงเฟิงก็นกึ ไม่ออก รูเ้ พียงว่าในตอนนี้ เขาปรารถนาทีจ่ ะได้อยูก่ บั จางเสวียนไปตลอดกาล ไม่วา่ จะต้องแลกด้วยการ สูญเสียสิ่งใดไปก็ตาม “ท่านประธาน?” เสียงเรียกนั้นท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงได้สติ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอยืนชิด 26


ตอน โลงมงคล อีกฝ่ายมากเกินไป ระหว่างที่ก�ำลังท�ำอะไรไม่ถูกและตั้งใจว่าจะกระเถิบตัว ถอยห่างออกมานั้น จางเสวียนก็ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มหยอกเย้า “ท่าทางคุณเชี่ยวชาญน่าดูนะครับ” “เรื่องอะไร?” “พาสาวๆ มากินเต้าหู1้ แบบนี้บ่อยเหรอครับ?” “หัดตีไปเลย ไม่ต้องพูดมาก!” เนี่ยสิงเฟิงท�ำหน้าดุใส่ แล้วหันหลัง เดินไปยังพื้นหญ้าบล็อกถัดไป จางเสวียนเม้มปากกลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นว่าในตอนนี้หูแมวของใคร บางคนกลายเป็นสีแดงก�่ำไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากเป็นคนอืน่ มาสอนเล่นกอล์ฟแบบถึงเนือ้ ถึงตัวขนาดนี้ เขาคง หวดอีกฝ่ายกระเด็นลงหลุมไปตัง้ แต่แรก แต่เมือ่ คนคนนัน้ เป็นแมวกวักทีเ่ ขา สุดแสนจะรักใคร่เอ็นดู จางเสวียนกลับไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด ซ�้ำยังรู้สึก สงบและสนิทใจอย่างมากอีกด้วย หรือจะถูกต้องอย่างที่ใครๆ พูดกัน...คนเรายิ่งมีเงิน ก็ยิ่งมีเสน่ห์ เนีย่ สิงเฟิงตีลกู อยูท่ บี่ ล็อกข้างๆ ด้วยเจตนาจะเล่นเป็นเพือ่ นมากกว่า จะคิดซ้อมอย่างจริงจัง จางเสวียนตั้งอกตั้งใจฝึกซ้อมได้พักใหญ่ จนเมื่อ สามารถตีลูกลงหลุมกับเขาได้บ้าง จึงหันมาโบกไม้กอล์ฟถาม “ท่ า นประธาน คุณชวนผมมาตีกอล์ฟ งั้นผมจะชวนคุณไปกิน ข้าวเย็นเป็นการตอบแทน ดีไหมครับ?” “ผมไปชิมฝีมือคุณที่บ้านดีกว่า” “แต่ผมท�ำเป็นแค่บะหมี่” 1

กินเต้าหู้ ส�ำนวนจีน หมายถึง ลวนลามหรือแต๊ะอัง๋ มีทมี่ าจากในสมัยโบราณ ภรรยาพ่อค้าขาย เต้าหูค้ นหนึง่ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณงดงามมาก ท�ำให้ลกู ค้าชายทีม่ าซือ้ เต้าหูแ้ อบแต๊ะอัง๋ นาง อยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นที่มาของส�ำนวนนี้

27


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “ก็ไม่เลวนะ” แสงแดดแรงกล้าขึ้นทุกขณะ พวกเขาฝึกตีลูกกันมาพักใหญ่แล้ว เนี่ยสิงเฟิงจึงสั่งน�้ำสองกระป๋อง จากนั้นก็ชวนจางเสวียนให้เข้ามานั่งพัก อีท้ หี่ ายตัวไปจนถึงตอนนีก้ ย็ งั ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น เนีย่ สิงเฟิงจึงอดแปลกใจ ไม่ได้ “อี้ไปไหน?” “สงสัยจะไปเมาหลับอยู่แถวไหนละมั้งครับ” ภูตพิทักษ์ท�ำตัวส�ำมะเลเทเมาขนาดนี้ แต่จางเสวียนกลับไม่ถือสา เขาจิบเครื่องดื่มแล้วเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี “บ่ายนี้เราจะไปไหนกันต่อดีครับ?” “ไม่รู้สิ ผมยังไม่ได้คิดเลย” “เล่นนำ�้ ทะเล? แช่นำ�้ พุรอ้ น? หรือว่าฟิตเนส? อืม ไปดูหนังดีกว่า จริง สิ หรือจะกลับไปดูโฮมเธียเตอร์ที่บ้านดี?” จางเสวียนร่ายรายการยาวเหยียด ออกมาอย่างคล่องแคล่ว ‘หมอนี่มีชีวิตชีวาดีจริงๆ’ เนี่ยสิงเฟิงคิดอย่างเอ็นดูอยู่ในใจ เพราะส�ำหรับเขาแล้ว กิจกรรม ต่างๆ ไม่ส�ำคัญเลยสักนิด แค่ได้อยู่กับจางเสวียนก็ถือเป็นความพอใจที่สุด แล้ว ความบันเทิงอื่นๆ เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเท่านั้น ขณะที่พวกเขาก�ำลังนั่งพักและพูดคุยกันอย่างสบายอารมณ์ จู่ๆ เสียงใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมาขัดจังหวะ “สิงเฟิงที่รัก ที่แท้นายเองก็มาเล่นกอล์ฟที่นี่เหมือนกัน” สีหน้าของเนี่ยสิงเฟิงแข็งค้างไปทันทีที่ได้ยินเสียงทักทายนั้น เขา ค่อยๆ หันกลับไป ร่างสูงสง่าของชายหนุม่ ซึง่ สวมเสือ้ โปโลสีขาวก�ำลังเดินยิม้ 28


ตอน โลงมงคล ตรงรี่เข้ามาหา พร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอีกคน พวกเขาคืออ๋าวเจี้ยนและคุณหมอประจ�ำตัวนั่นเอง ไม่นึกเลยว่าจะ มาพบกันที่นี่ “ดีใจที่เจอนายที่นี่นะ” อ๋าวเจี้ยนท�ำท่าจะเข้ามากอดทักทาย แต่เนี่ยสิงเฟิงตั้งการ์ดกันเอา ไว้อย่างแข็งแรง ชายหนุ่มส่งยิ้มเล็กน้อยให้โดยที่ดวงตาไม่ได้ยิ้มตาม แล้ว เอ่ยทักตามมารยาทด้วยน�้ำเสียงห่างเหิน “บังเอิญจังเลยนะครับ มิสเตอร์บอร์เจีย” “อ๋าวเจี้ยน” คู่สนทนาแก้ให้ด้วยรอยยิ้ม “สิงเฟิงที่รัก ท�ำไมนายถึง จ�ำชือ่ ภาษาจีนของฉันไม่ได้สกั ที?” หนุม่ ลูกครึง่ ปรารภแล้วท�ำท่าจะกางแขน เข้ามากอดเนี่ยสิงเฟิงอีกครั้ง แต่กลับถูกใครคนหนึ่งแทรกตัวเข้ามาขวาง ตรงกลางเสียก่อน “คุณอ๋าวเจีย้ นใช่ไหมครับ?” จางเสวียนเอ่ยขึน้ พร้อมกับส่งยิม้ น้อยๆ ให้ “ก่อนจะให้คนอื่นจ�ำชื่อจีนของคุณได้ ผมว่าคุณน่าจะต้องท�ำความเข้าใจ เรื่องการเรียกชื่อก่อน ในภาษาจีน เวลาเรียกชื่อใครเราจะเรียกเฉพาะชื่อ เท่านั้น ไม่ต้องมีค�ำบรรยายเช่น ที่รัก ต่อท้าย และต้องมีค�ำว่า ‘คุณ’ น�ำหน้า ชื่ออีกฝ่ายเสมอ แบบนี้จะฟังดูมีมารยาทกว่านะครับ” “งัน้ เหรอ? ขอบคุณทีแ่ นะน�ำนะ” อ๋าวเจีย้ นเลิกคิว้ มุมปากกดลึกเป็น รอยยิ้มขณะหันไปหาเนี่ยสิงเฟิง “นายมีเพื่อนน่าสนใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร? แนะน�ำให้ฉันรู้จักหน่อยได้ไหม?” “ผมจางเสวียนครับ” จางเสวียนชิงแนะน�ำตัวเองอย่างว่องไวชนิดทีเ่ นีย่ สิงเฟิงห้ามไม่ทนั ชายหนุ่มที่มากับอ๋าวเจี้ยนจึงก้าวออกมาแนะน�ำตัวในแบบเดียวกัน 29


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “ผมลั่วหยาง เป็นหมอประจ�ำตัวคุณอ๋าวเจี้ยน ตอนนี้ผมท�ำงานอยู่ ที่โรงพยาบาลเสิ้งอัน ต่อไปต้องขอค�ำแนะน�ำด้วยนะครับ” น�้ำเสียงทุ้มนุ่มของลั่วหยางท�ำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจ แม้เขาจะไม่ได้ มีร่างกายสูงใหญ่ อีกทั้งยังยืนอยู่ด้านหลังอ๋าวเจี้ยนเสมอ แต่กลับไม่มีใคร มองข้ามคุณหมอผูน้ ไี้ ปได้ อาจเพราะเขามีบรรยากาศทีแ่ ตกต่างจากนายจ้าง อย่างสิ้นเชิง ทั้งรอยยิ้มอบอุ่นลุ่มลึก ดวงตาสีม่วงอ่อนที่เป็นประกายงดงาม ล้วนแต่ชวนให้อยากค้นหา และท�ำความรู้จัก เนี่ยสิงเฟิงลอบกวาดตามอง ลั่วหยางแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า การที่คุณหมอผู้นี้สามารถติดตามอ๋าวเจี้ยนได้ โดยไม่ถูกรัศมีของอีกฝ่ายบดบังนั้น แสดงว่าคนคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่าง แน่นอน “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” จางเสวียนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจในตัวลั่วหยาง ด้วยการ เป็นฝ่ายยืน่ มือออกไปจับมือกับอีกฝ่ายก่อน แล้วจึงค่อยไปจับมือกับอ๋าวเจีย้ น มือของจางเสวียนมีข้อนิ้วแข็งแรงชัดเจนแบบผู้ชาย ตอนที่ทั้งสองจับมือกัน แม้อ๋าวเจี้ยนจะจงใจส่งกระแสข่มขวัญออกมา แต่จางเสวียนกลับยิ้มตอบ อย่างไม่สะทกสะท้าน ซ�ำ้ ยังบีบมือหนุม่ ลูกครึง่ ไว้แน่น ขณะบอกด้วยรอยยิม้ “ต่อไปต้องขอค�ำแนะน�ำด้วยนะครับ” “ได้สิ” อ๋าวเจี้ยนหัวเราะ ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรูปโค้งน้อยๆ สายตาที่ มองจางเสวียนบ่งบอกถึงความสนใจที่มากขึ้น ราวกับก�ำลังพยายามอ่าน ความหมายในดวงตาสีฟ้าคู่นั้น แต่เนีย่ สิงเฟิงกลับไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พดู คุยกันอีก ชายหนุม่ โยนกระป๋องเครื่องดื่มที่ว่างเปล่าบนโต๊ะลงในถังขยะ แล้วดึงตัวจางเสวียน แยกไปอีกทาง 30


ตอน โลงมงคล “เราไปฝึกตีลูกกันต่อเถอะ” “ลั่วหยาง ที่นี่บรรยากาศไม่เลว เรามาลองซ้อมกันหน่อยดีไหม?” อ๋าวเจี้ยนเอ่ยถามขณะกวาดตามองไปรอบๆ “เป็นความคิดทีด่ คี รับ” ดวงตาสีมว่ งของลัว่ หยางเปล่งประกาย เขา หยิบอุปกรณ์ขึ้นมาและเดินผ่านหน้าอ๋าวเจี้ยนไปพร้อมกับกระซิบเสียงแผ่ว ด้วยใบหน้ายิ้มละไม “ขอโทษด้วยนะครับที่เมื่อกี้ผมตัดหน้าคุณ” “ฉันมองไม่เห็นความส�ำนึกผิดของนายเลยนะ” อ๋าวเจี้ยนตอบกลับ ด้วยนำ�้ เสียงกลัว้ หัวเราะ “เอาเถอะ นีเ่ ห็นว่าเป็นนายหรอกนะ จะยอมให้กไ็ ด้” อ๋าวเจี้ยนเลือกซ้อมกอล์ฟในบล็อกถัดไป ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงไม่อาจ ปลีกตัวหนีได้ดังที่ตั้งใจ เขาซ้อมตีลูกอย่างไม่มีสมาธินัก เนื่องจากเห็นว่า ลั่วหยางก�ำลังสอนจางเสวียนหวดลูกด้วยท่าทางสนิทสนม บุคลิกสุภาพ นุ่มนวลชวนให้รู้สึกอบอุ่นของคุณหมอลั่ว คงท�ำให้ใครต่อใครเป็นฝ่ายเดิน เข้าหากันแบบไม่ขาดสาย แม้กระทัง่ จางเสวียน ดูทา่ ว่าหมอนัน่ คงหลงเสน่ห์ ของลั่วหยางเข้าอย่างจัง ถึงขนาดเป็นฝ่ายชวนคุณหมอผู้นั้นคุยจ้ออยู่ตลอด เวลา จนดูเหมือนจะลืมเรื่องฝึกตีลูกไปเสียสนิท เจ้านักสืบจอมกะล่อนนี่นะ! “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?” เสียงของอ๋าวเจี้ยนที่แทรกเข้ามา ท�ำให้ เนี่ยสิงเฟิงต้องหยุดความคิดของตัวเองลง “เรื่องงานก็พอไปได้ครับ” “ไม่ใช่ ฉันหมายถึงสุขภาพนายน่ะ” อ๋าวเจีย้ นเดินมาหยุดอยูข่ า้ งตัว และมองจ้องเขาในระยะประชิด “สีหน้าดูดีแล้วก็จริง แต่นายดูเหม่อๆ นะ มี เรื่องที่ต้องคิดอยู่หรือเปล่า?” ดวงตาสีเงินวาววับทอแสงอบอุ่น แต่ก็มีประกายคมปลาบซ่อนเร้น อยู่ แม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่ได้สนิทสนมกับอ๋าวเจี้ยนมากนัก แต่ก็รู้สึกได้ว่า 31


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 พบกันครั้งนี้รัศมีความน่าเกรงขามของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นมาก แม้เจ้าตัวจะ พยายามกดมันไว้ภายใต้รอยยิม้ ทรงเสน่หท์ แี่ สนอบอุน่ แต่มนั ก็ยงั คงฉายแวว ออกมาอยู่หลายส่วน ดูเหมือนว่าประสบการณ์เฉียดตายที่ผ่านมาจะส่งผล กระทบต่อหนุ่มลูกครึ่งคนนี้อย่างมาก “ไม่มีนี่ครับ” เนี่ยสิงเฟิงตอบด้วยน�้ำเสียงราบเรียบ ขณะมองสบ สายตาอ๋าวเจีย้ นทีจ่ อ้ งมองคล้ายก�ำลังประเมินเขาอยู่ “อืม อันทีจ่ ริงก็มปี ญ ั หา บ้างนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเป็นเรื่องยุ่งยากอะไร” อ๋าวเจี้ยนยักไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ “ถ้ามีอะไรไม่สบายใจมาหาฉันได้ตลอดนะ ขอเพียงเป็นเรื่องที่ช่วย ได้ ฉันย่อมไม่ปฏิเสธนายแน่” แม้เนีย่ สิงเฟิงจะไม่สามารถปกปิดความกังวลใจของตนจากสายตา อีกฝ่ายได้ แต่คนฉลาดอย่างอ๋าวเจี้ยนก็รู้ดีว่าจังหวะไหนควรรุก จังหวะไหน ควรหยุด จึงไม่ซักไซ้ต่อและหยุดค�ำถามไว้เพียงแค่นั้น “ท่านประธาน คุณลัว่ ก�ำลังจะเข้าไปเล่นในสนามแล้วนะครับ” เสียง โหวกเหวกของจางเสวียนดังขึ้นมาอย่างได้จังหวะ พอหันไปตามเสียงก็เห็น หมอนั่นก�ำลังชูไม้กอล์ฟโบกไปมา พร้อมกับเดินแกมวิ่งเข้ามาหา “พวกเราก็ เข้าไปเล่นในสนามด้วยดีไหมครับ? ท่าทางน่าสนุกกว่าซ้อมตีลกู อยูต่ รงนีเ้ ยอะ เลย” เนี่ยสิงเฟิงหันไปมองลั่วหยาง เห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้คล้ายจะ ขออภัย “ผมหลุดปากบอกไปน่ะครับว่าก�ำลังจะเข้าไปเล่นในสนาม” ด้วยนิสยั อยากรูอ้ ยากเห็นราวกับแมลงสาบของจางเสวียน แค่ได้ยนิ ประโยคนัน้ รับรองว่าต้องอยากตามเข้าไปจนตัวสัน่ ทัง้ ทีร่ อู้ ย่างนัน้ เนีย่ สิงเฟิง 32


ตอน โลงมงคล ก็ยังหันไปเอ่ยถ้อยค�ำดับฝันเจ้าคนที่ก�ำลังมีสีหน้าระรื่นอย่างหน้าตาเฉย “ทางคลับไม่อนุญาตให้มือใหม่ลงไปเล่นในสนาม” “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะพูดให้เอง ฉันพอมีคนรู้จักอยู่บ้าง” อ๋าวเจี้ยน บอกยิ้มๆ ประโยคนี้ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงแน่ใจได้ในทันทีว่าคุณหมอลั่วคนนี้คง ไม่ใช่แค่หมอประจ�ำตัว เพราะคนอย่างอ๋าวเจี้ยนย่อมไม่มีทางลดตัวลงมา ออกหน้าให้คนที่เป็นแค่หมอประจ�ำตัวของตน หรือที่ลั่วหยางบอกเรื่องนี้กับ จางเสวียนก็เพราะอ๋าวเจี้ยนสั่ง... แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใด นี่ย่อม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนคู่นี้มีเจตนาจะพาพวกเขาเข้าไปร่วมก๊วน ในสนาม ซ�้ำยังท�ำงานประสานกันอย่างแนบเนียนดุจอาภรณ์ฟ้าไร้ตะเข็บ อีกด้วย เพราะได้อ๋าวเจี้ยนออกหน้า มือใหม่แกะกล่องอย่างจางเสวียนจึง สามารถเดินผึ่งผายเข้าไปในสนามกอล์ฟ ตอนที่ก�ำลังจะเริ่มเล่น นักกอล์ฟ มือใหม่ยังหันมาบอกกับเนี่ยสิงเฟิงด้วยสีหน้ามุ่งมั่น “เราต้องเอาชนะนายตาขาวนั่นให้ได้นะครับ!” “ตาขาว?” เนี่ยสิงเฟิงงงขึ้นมาทันที “ก็อ๋าวเจี้ยนไงครับ เขาเป็นใครกัน มาถึงก็จับนั่นจับนี่คุณอยู่ได้ คุณเองก็เหมือนกัน ไม่รู้จักหวงเนื้อหวงตัวซะบ้างเลย!” จางเสวียนบ่นด้วยน�้ำเสียงไม่ชอบใจที่อ๋าวเจี้ยนกล้ามาวอแวกับ แมวกวักสุดรักต่อหน้าต่อตาเขาซึ่งเป็นเจ้าของ มุมปากของเนีย่ สิงเฟิงกระตุกเล็กน้อยเมือ่ ได้ยนิ ค�ำอธิบายนี้ ดวงตา สีเงินซึง่ เป็นเอกลักษณ์ทตี่ ระกูลบอร์เจียภาคภูมใิ จมากทีส่ ดุ กลับถูกจางเสวียน น�ำมาเรียกอย่างเย้ยหยันว่าตาขาว แม้วา่ มันจะดูคล้ายๆ อย่างนัน้ ...แต่หมอนี่ 33


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าดวงตาของใคร! “ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง” เนี่ยสิงเฟิงปรามแล้วเดินออกไปเล่นกอล์ฟด้วยท่าทางปกติ โดยไม่ ได้พูดถึงเรื่องของอ๋าวเจี้ยนอีก ถ้าจะให้พูดกันตามความจริงแล้ว หากจางเสวียนคิดจะเล่นกอล์ฟ ให้ชนะอ๋าวเจีย้ น คงต้องกลับไปฝึกฝนอีกนาน แต่เพราะอ๋าวเจีย้ นไม่มเี จตนา ที่จะแข่งขันจริงจัง ท�ำให้คะแนนของพวกเขาทั้งสี่ทิ้งห่างกันไม่มากนัก แค่นี้ ก็ถือว่าชายหนุ่มตาสีเงินผู้นั้นไว้หน้าพวกเขาสามคนมากแล้ว “แพ้ชนะไม่ใช่เรือ่ งส�ำคัญ การได้ขบั รถกอล์ฟชมทิวทัศน์ตา่ งหากเป็น ความสุขทีแ่ ท้จริง” อ๋าวเจีย้ นพูดขณะใช้ไม้กอล์ฟเคาะไปทีล่ กู เบาๆ แล้วมอง มันเคลื่อนตัวลงหลุมอย่างเชื่องช้า “อุตส่าห์ได้มาตีกอล์ฟในสถานที่สวยงาม แบบนี้ แต่หลายคนกลับมัวแต่สนใจเรือ่ งตีลกู ให้ลงหลุม ผลแพ้ชนะ จนไม่ได้ มองสิ่งงดงามรอบตัวเลย” ค�ำพูดทีร่ าวกับหลักปรัชญาของอ๋าวเจีย้ นประโยคนี้ ท�ำให้เนีย่ สิงเฟิง อดรู้สึกชื่นชมในมุมมองของอีกฝ่ายขึ้นมาไม่ได้ เขาคิดว่านี่คือสิ่งที่ท�ำให้ อ๋าวเจี้ยนแตกต่างจากสมาชิกตระกูลบอร์เจียคนอื่นๆ และยังเป็นลักษณะ เฉพาะที่ท�ำให้หลายคนเลื่อมใสศรัทธาในตัวชายหนุ่มผู้นี้ “จะงดงามแค่ไหนผมไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าครั้งนี้คุณได้จ่ายเงินค่าปรับ กันยับเยินแน่” จางเสวียนบ่นงึมง�ำด้วยท่าทางปวดใจอยู่ข้างๆ การตีลูกในสนามจริงกับสนามซ้อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น นับตัง้ แต่เริม่ ออกตี จางเสวียนก็ใช้ไม้หวั เหล็กฟาดใส่ตน้ หญ้าจนกระเจิดกระเจิง ไปหลายครั้ง แม้เขาจะไม่รู้เรื่องการเล่นกอล์ฟ แต่ก็พอจะรู้ว่าพื้นหญ้าทุก ตารางนิว้ ของสนามเป็นเงินเป็นทอง ดังนัน้ ในฐานะทีอ่ อกหน้าขอให้เขาลงมา 34


ตอน โลงมงคล ร่วมเล่นในสนามจริงด้วย ครัง้ นีอ้ า๋ วเจีย้ นคงได้จา่ ยเงินค่าซ่อมแซมสนามหญ้า ไม่น้อยแน่ “ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึกไป” เนี่ยสิงเฟิงปลอบ จางเสวียนยังคงกัดฟันฮึดเฮือกสุดท้าย เหวี่ยงไม้หวดลูกอย่างแรง จนพื้นสนามเป็นหลุมลึก นั่นท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงอดคิดไม่ได้ว่า หรือหมอนี่จะ จงใจท�ำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกันแน่ คิดแล้วก็อดข�ำไม่ได้ เนี่ยสิงเฟิงถึงกับ ต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ ก่อนจะหวดลูกของตัวเองออกไปบ้าง “พอแล้ว! ผมยอมแพ้ พวกคุณเล่นกันเถอะ” เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้นอีกครั้ง จางเสวียนที่รู้สึกอับอายเกินกว่า จะเล่นต่อจึงขอวางมือ ถึงตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าที่อ๋าวเจี้ยนพูดออกมา เมือ่ ครูน่ นั้ ไม่ผดิ การได้ชมทิวทัศน์อนั งดงามน่าจะดีกว่าการตัง้ หน้าตัง้ ตาหวด ลูกกลมๆ ลงหลุมเป็นไหนๆ ในสนามนี้มีทั้งหลุมทราย สระน�้ำ และเนินหญ้า เขียวขจี อีกทัง้ ยังมีผคู้ นให้มองอีกตัง้ เยอะ เรียกได้วา่ เป็นทัศนียภาพทีค่ วรค่า แก่การนั่งชมให้เพลิดเพลิน ยิ่งถ้าหากได้นั่งจิบน�้ำชาอยู่ใต้ร่มกันแดดกับ แมวกวักด้วยแล้วละก็ รับรองว่าต้องรื่นรมย์อย่างยากจะหาใดเปรียบแน่ จางเสวียนเก็บลูกมาวางไว้ที่ข้างหลุม ใช้ไม้พัตต์เบาๆ ลูกกอล์ฟก็ กลิ้งลงหลุมไปอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาจึงเก็บมันขึ้นมาตั้ง แล้วฝึกตีใหม่ อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มร่วมก๊วนอีกสามคนด้วยสีหน้าที่ บ่งบอกว่าเขาชนะแล้ว พอได้เห็นสีหน้าแบบนัน้ ลัว่ หยางก็ปล่อยเสียงหัวเราะดังลัน่ ออกมา ทันที “เล่นวางปากหลุมแล้วตีลงแบบนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอครับ?” “นั่นคือทางลัดของคนที่อยากสัมผัสความรู้สึกของผู้ชนะยังไงล่ะ” 35


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 อ๋าวเจี้ยนบอกยิ้มๆ ตอนแรกความสนใจของเขาพุ่งไปที่เนี่ยสิงเฟิงเพียงคนเดียว แต่ใน ตอนนี้อ๋าวเจี้ยนเริ่มรู้สึกว่าจางเสวียนเองก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะถึงแม้จะมี นิสัยต่างกัน แต่เมื่อคนคู่นี้อยู่ด้วยกันแล้ว กลับให้ความรู้สึกลงตัวอย่างน่า ประหลาด และนั่นดูเหมือนว่าจะท�ำให้การเดินทางข้ามน�้ำข้ามทะเลมาใน ครั้งนี้ของเขา คุ้มค่าน่าสนใจขึ้นอีกมาก ทัง้ สามยังคงตีกอล์ฟกันต่อ ส่วนจางเสวียนแยกไปฝึกวงสวิงอยูเ่ พียง ล�ำพัง เขาค่อยๆ เคลือ่ นตัวห่างออกจากกลุม่ อย่างช้าๆ จนถึงเนินดินแห่งหนึง่ จางเสวียนออกแรงตีลูกเต็มเหนี่ยว ลูกกอล์ฟลอยโด่ง กลิ้งลงเนิน และไหล ร่วงหล่นหายลงไปในสระน�้ำ จางเสวียนวิง่ ตามไปยืนมองอยูท่ รี่ มิ สระ แม้จะรูส้ กึ ผิดทีแ่ หกกฎด้วย การตีลูกลงสระ และไม่ได้หวังว่ามันจะลอยขึ้นมาจากน�้ำได้เอง แต่บางครั้ง ชีวติ คนเราก็มกั จะเจอเรือ่ งไม่คาดฝันเสมอ เหมือนอย่างตอนนีท้ เี่ ขามองเห็น อะไรขาวๆ ลอยตั ว ขึ้ น มาบนผิ ว น�้ ำ ซึ่ ง ก�ำลั ง สะท้ อ นกั บ แสงแดดจนส่ อ ง ประกายระยิบระยับ มิหน�ำซ�้ำสิ่งนั้นก�ำลังเคลื่อนตัวตรงมาที่เขาอย่างช้าๆ แสงแดดทีเ่ ข้าตาท�ำให้เข้าใจไปว่าสิง่ นัน้ อาจเป็นลูกกอล์ฟ จางเสวียน จึงรีบใช้ไม้กอล์ฟเขีย่ เพือ่ ให้วตั ถุชนิ้ นัน้ เคลือ่ นเข้าฝัง่ ได้เร็วขึน้ ทว่าสิง่ ทีเ่ คลือ่ น เข้ามาใกล้กลับไม่ใช่ลูกกอล์ฟ แต่เป็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก แล้วใน ที่สุดวัตถุชิ้นนั้นก็ได้อวดโฉมให้เห็นเต็มตา มันคือโครงกระดูกมนุษย์ซึ่งในสภาพสมบูรณ์! สีขาวโพลนนั้นดู โดดเด่นท่ามกลางแสงตะวัน จางเสวียนเผลอกลั้นหายใจขณะจ้องมองดูโครงกระดูกที่ก�ำลัง 36


ตอน โลงมงคล เคลือ่ นเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ เมือ่ เรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้ เขาก็สง่ เสียง ตะโกนดังลั่น “ท่านประธาน! มานี่เร็ว! ท่านประธานคร้าบ!” เนีย่ สิงเฟิงวิง่ มาทันทีทไี่ ด้ยนิ เสียงร้องโวยวาย ภาพทีม่ องเห็นแต่ไกล คือจางเสวียนซึง่ นัง่ ตัวแข็งทือ่ โดยมีโครงกระดูกลอยล่องในลักษณะนอนหงาย อวดโฉมอย่างเต็มที่อยู่ในสระน�้ำเบื้องหน้า “เกิดอะไรขึน้ ?” เนีย่ สิงเฟิงถาม เขาเริม่ สังหรณ์ใจว่าจะต้องเกิดเรือ่ ง ไม่คาดฝันขึ้นอีกแน่ “ผมไม่รู้ ผมมาเก็บลูกกอล์ฟ แล้วเจ้านี่ก็ลอยขึ้นมา” สีหน้าของ จางเสวียนบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยจริงๆ “ท่านประธาน ครับ ถ้าผมบอกว่ามันเป็นโมเดลโครงกระดูกของพวกนักศึกษาแพทย์ คุณจะ เชื่อไหม?” “ผมก็...อยากจะเชื่อแบบนั้นอยู่หรอกนะ” เนีย่ สิงเฟิงปลอบใจอีกฝ่าย ทัง้ ทีใ่ นความเป็นจริงแล้ว ใครจะบ้าเอา โมเดลโครงกระดูกมนุษย์มาทิ้งไว้ในสระน�้ำของสนามกอล์ฟกันล่ะ? อ๋าวเจีย้ นกับลัว่ หยางรีบวิง่ ตามมา คิว้ ของอ๋าวเจีย้ นขมวดเข้าหากัน น�้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันทีที่เห็นโครงกระดูก “ชีวิตมนุษย์นี่มีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้นได้ทุกที่เลยนะ” ท่าทางเช่นนั้นผิดกับลั่วหยางที่มีสีหน้าเรียบเฉย ทว่านัยน์ตาสีม่วง วาววับซึง่ จ้องมองไปทีโ่ ครงกระดูกนัน้ กลับฉายแววคล้ายไม่แน่ใจขึน้ มาแวบ หนึ่ง แต่เจ้าตัวก็สามารถปรับให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว “อาจเป็นของปลอมที่ใครท�ำตกน�้ำไว้ก็ได้นะครับ?” 37


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 จางเสวียนพยายามหาค�ำตอบเพือ่ ปลอบใจตัวเอง แม้วา่ มันจะไม่มี ความเป็นไปได้อยู่เลยก็ตาม! แสงตะวันสาดส่องผิวนำ�้ วิบวับ ประกายแสงสีทองเรืองรองฉายส่อง อยู่ที่มือข้างหนึ่งของโครงกระดูก จางเสวียนที่เห็นเข้าพอดีรู้สึกสงสัยจนต้อง ชะโงกตัวเข้าไปมอง จากนัน้ จึงตัดสินใจยืน่ ไม้กอล์ฟออกไปเขีย่ วัตถุนนั้ ขึน้ มา อย่างรวดเร็ว ชนิดที่เนี่ยสิงเฟิงเองถึงอยากจะห้าม...ก็ห้ามไม่ทัน วัตถุชิ้นนั้นมีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชุบทองทั้งชิ้น มี ความยาวราวสี่เซนติเมตร แขวนคล้องอยู่กับโซ่ทองเส้นเล็กๆ ดูโดยรวมแล้ว ถ้าไม่ใช่จี้ห้อยคอ ก็น่าจะเป็นที่ห้อยโทรศัพท์ จางเสวียนลองจับมันแกว่งไป มา ด้านในไม่มเี สียง จะว่าไปแล้วรูปร่างของมันดูคล้ายกล่องเก็บตราประทับ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป แต่ด้วยลักษณะที่ยาวและแคบกว่า จึงดูไม่เหมือนกล่อง เก็บตราประทับเสียทีเดียว แต่กลับชวนให้นึกถึง...โลงศพ! จางเสวียนหยิบของชิ้นนั้นขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวา จึงเห็นว่าที่ ด้านล่างมีเพชรเทียมประดับอยู่ แต่ยงั ไม่ทนั จะได้เพ่งดูให้ชดั เจนมากไปกว่า นี้ ก็ถูกเนี่ยสิงเฟิงบอกเสียงเข้มให้วางมันลง เห็นท่าทางอิดออดของอีกฝ่ายแล้วเนี่ยสิงเฟิงอดนึกระอาใจไม่ได้ เขาไม่เคยเจอใครที่อยากรู้อยากเห็นมากเท่าหมอนี่มาก่อนเลยจริงๆ กระทั่ง ข้าวของคนตายยังกล้าเข้าไปหยิบจับเล่น มิหน�ำซ�้ำนี่เป็นศพปริศนา ดังนั้น ของทุกชิ้นจึงเป็นหลักฐานที่ใช้ในการไขคดีฆาตกรรม การไปแตะต้องโดย พลการอาจเป็นการท�ำลายหลักฐานได้ ท�ำงานอยู่ในส�ำนักงานนักสืบแท้ๆ เรื่องแค่นี้ก็นึกไม่ถึงบ้างเลยหรือไง ช่างขยันสร้างเรื่องเสียจริง! “ผมว่าเรารีบแจ้งต�ำรวจกันเถอะครับ” ลัว่ หยางทีย่ นื นิง่ มานานเสนอ ความเห็นด้วยน�้ำเสียงเรียบสนิท 38


ตอน โลงมงคล อ๋าวเจี้ยนติดต่อเจ้าหน้าที่ของกอล์ฟคลับหลังจากแจ้งความเสร็จ ระหว่างที่ทุกคนก�ำลังรอต�ำรวจอยู่ที่สระน�้ำ จางเสวียนซึ่งไม่มีอะไรท�ำก็ ตั้งอกตั้งใจพินิจพิจารณาจี้รูปโลงศพนั้นอย่างละเอียด พลางบ่นงึมง�ำกับ ตัวเอง “เจ้านี่มันคืออะไรกันแน่?” “ว่ากันว่าจีร้ ปู โลงศพเป็นของน�ำโชค บางคนก็เลยพกไว้เพือ่ เป็นยันต์ คุ้มครอง” เนี่ยสิงเฟิงอธิบาย อ๋าวเจีย้ นได้ยนิ แบบนัน้ ก็กล่าวขึน้ ด้วยนำ�้ เสียงกลัว้ หัวเราะทีป่ ราศจาก การเยาะหยัน “แต่ส่วนใหญ่แล้ว โลงศพมักจะหมายถึงลางไม่ดีซะมากกว่านะ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อจางเสวียนหยิบดูจึงรู้ว่าเป็นจั่วเทียน ทันที ที่กดรับ อีกฝ่ายก็เปิดประเด็นทันที “พี่ชาย! อย่าเพิ่งพูดอะไรนะ ฉันรู้ว่านี่เป็นวันหยุดและนายไม่ชอบ ให้ใครมากวนใจ แต่ครัง้ นีฉ้ นั มีเรือ่ งด่วนจริงๆ นายช่วยรีบมาเดีย๋ วนีเ้ ลย นีเ่ ป็น คดีใหญ่ ถ้าปิดคดีนี้ได้ รับรองว่าสิ้นเดือนมีซองแดงซองใหญ่ให้แน่” “เถ้าแก่! นั่นไม่ใช่ค�ำตอบของทุกอย่างนะ แล้วไหนล่ะโบนัสผม?” “น่า น่า ขอร้องละ นี่มันเรื่องด่วนสุดๆ จริงๆ เอาอย่างนี้ ถ้าเสร็จคดี นี้แล้วฉันอนุญาตให้นายหยุดยาวเลยก็ได้!” “แต่ผมอยากหยุดตอนนี้! อีกอย่าง ที่ออฟฟิศก็ไม่ได้มีผมคนเดียว สักหน่อย” จัว่ เทียนไม่ใช่ดวงอาทิตย์ และเขาก็ไม่ใช่ดาวเคราะห์ทจี่ ะต้องโคจร รอบตัวอีกฝ่ายตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ส�ำคัญที่สุดคือเวลานี้เขามีคดีที่น่าสนใจ อยู่ตรงหน้า เทียบกันแล้วเขาย่อมเลือกที่จะท�ำคดีนี้มากกว่าคดีของเจ้านาย 39


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 อย่างแน่นอน “ที่ออฟฟิศมีหลายคนก็จริง แต่คนที่มีจิตสัมผัสอย่างนายมีอยู่แค่ คนเดียวไม่ใช่หรือไง? ป้ายที่แปะอยู่หน้าส�ำนักงานนายก็เป็นคนบอกให้ฉัน เอาขึ้นไปแปะ เพราะฉะนั้นห้ามบอกว่าเป็นแค่ค�ำคุยโม้ล่ะ!” “แต่ว่า...” “เอาตามนี้ละ รีบมาเลย ยิ่งเร็วยิ่งดี” พออีกฝ่ายวางสายไป เนี่ยสิงเฟิงก็รีบถาม “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” “ที่ออฟฟิศมีเรื่องด่วนน่ะครับ เถ้าแก่บอกให้ผมรีบไป” ตอนที่ จ างเสวี ย นบอกว่ า ตั ว เองมี ค วามสามารถปราบผี ไ ด้ นั้ น เนีย่ สิงเฟิงยังนึกว่าเป็นแค่เรือ่ งคุยโม้โอ้อวด เพราะเท่าทีด่ เู ทียนซือมือใหม่คน นีก้ ม็ วี ชิ าติดตัวอยูไ่ ม่เท่าไร แต่ถา้ จัว่ เทียนถึงกับโทรมาตาม แสดงว่าต้องเป็น เรือ่ งส�ำคัญ ดังนัน้ แม้อยากจะปฏิเสธมากแค่ไหน จางเสวียนก็คงต้องไปอยูด่ ี “ท่านประธาน ผมต้องไปก่อน คุณอยูด่ แู ลทางนีค้ นเดียวได้หรือเปล่า ครับ?” ว่าไงนะ? คนพบศพคนแรกจะไป แล้วปล่อยเขาไว้เป็นคนให้ปากค�ำ กับต�ำรวจน่ะนะ! แม้จะคิดแบบนั้น ทว่าเนี่ยสิงเฟิงก็ได้แต่ฝืนยิ้ม เพราะรู้ถึงความ จ�ำเป็นของอีกฝ่ายจนไม่อาจปฏิเสธ “ได้สิ ถ้ามีอะไรผมจะรีบติดต่อคุณ” เขาส่งกุญแจรถให้ แต่จางเสวียนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมไปแท็กซี่ก็ได้ครับ” ถึงค่าแท็กซีจ่ ะแพงมหาโหด แต่เขาสามารถกลับไปเบิกค่ารถคืนจาก 40


ตอน โลงมงคล เถ้าแก่ได้อยู่แล้ว “คุณรีบไม่ใช่เหรอ ขับรถไปเร็วกว่านะ” ลั่วหยางเดินเข้ามาตัดบทการสนทนาของทั้งคู่ “ผมเองก็มธี รุ ะทีโ่ รงพยาบาลเหมือนกัน ถ้ายังไงให้ผมไปส่งคุณจาง ดีไหมครับ?” “จะไม่เป็นการรบกวนคุณลั่วหรือครับ” แม้จะเป็นค�ำพูดแสนสุภาพ เปี่ยมด้วยมารยาท และความเกรงอก เกรงใจ แต่สหี น้าของจางเสวียนในตอนนีร้ ะรืน่ มาก! ต่างจากวาจาท่าทางโดย สิ้นเชิง “ไม่เป็นไรครับ ผมต้องไปทางนัน้ อยูแ่ ล้ว” ลัว่ หยางตอบด้วยรอยยิม้ อบอุ่น หลังจากตกลงกันเรียบร้อย จางเสวียนก็ดงึ ตัวเนีย่ สิงเฟิงเข้าไปก�ำชับ เสียงเข้ม “กลับถึงบ้านแล้วโทรหาผมด้วย ที่ส�ำคัญ ระวังนายตาขาวนั่นไว้ให้ ดีนะครับ” “คุณเองก็ระวังตัวด้วย” เนีย่ สิงเฟิงกลัน้ ยิม้ ขณะก�ำชับอีกฝ่ายเช่นกัน เว่ยเจิง้ อีพ้ ร้อมเจ้าหน้าทีต่ �ำรวจอีกหลายนายเดินทางมาถึงทีเ่ กิดเหตุ หลังจางเสวียนแยกตัวกลับไปไม่นาน สีหน้าของนายต�ำรวจเลือดเดือดเปลีย่ น เป็นอึมครึมทันทีที่เห็นเนี่ยสิงเฟิง เขายกมือขึ้นตบหน้าผากพลางบ่นพึมพ�ำ “ท่านประธาน อย่าบอกนะครับว่าคุณเป็นคนพบโครงกระดูก!” เขาเพิง่ จะได้ท�ำงานอย่างสงบมาแค่สองสามเดือน ก็ตอ้ งกลับมาเจอ เรือ่ งแปลกๆ อีกแล้วหรือนี่ ดูเหมือนท่านประธานจะช่างขยันหาเรือ่ งยุง่ ใส่ตวั 41


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ได้สมำ�่ เสมอจริงๆ เพิง่ จะฟืน้ จากสลบขึน้ มาได้ไม่เท่าไรก็กอ่ เรือ่ งขึน้ มาอีกแล้ว ใจคอจะไม่หยุดพักหายใจหายคอกันบ้างเลยหรือ? “ความจริงแล้วคนทีเ่ จอศพคนแรกคือเพือ่ นผม จางเสวียน แต่ตอนนี้ เขามีธุระด่วนเลยขอตัวกลับก่อน” “ฮ้า! จะ...จาง...จางอะไรนะครับ?!” ชื่อต้องห้ามนี้แม้แต่นายต�ำรวจเลือดเดือดอย่างเว่ยเจิ้งอี้ก็ยังพูด ออกมาได้อย่างตะกุกตะกัก “จางเสวียน” อ๋าวเจี้ยนที่ยืนอยู่ด้านข้างช่วยส�ำทับให้อีกครั้งเพื่อ ความชัดเจน เนีย่ สิงเฟิงเกรงว่าเว่ยเจิง้ อีจ้ ะซักถามเรือ่ งจางเสวียนต่อ จึงรีบอธิบาย เพื่อตัดบท “พวกเราเจอศพนีไ่ ล่ๆ กันตอนมาเก็บลูกกอล์ฟ เรือ่ งก็มเี ท่านีล้ ะครับ” “ไม่เท่านี้หรอกครับ ลองว่าเป็นคดีที่พวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง ผมรับ ประกันได้เลยว่า ไม่ ‘เท่านี้’ อย่างแน่นอน!” เว่ยเจิ้งอี้ยืนยันหนักแน่นตาม ประสบการณ์ เมือ่ ศพถูกน�ำขึน้ มาบนฝัง่ จึงท�ำให้เห็นว่า เนือ้ ทัง้ ร่างเปือ่ ยยุย่ จนเหลือ แต่โครงกระดูกจริงๆ โดยเฉพาะส่วนศีรษะทีไ่ ม่มเี ศษผมเหลืออยูเ่ ลย ถึงอย่าง นั้นสีของโครงกระดูกกลับไม่เป็นสีน�้ำตาลเข้ม ราวกับว่าเพิ่งแช่อยู่ในน�้ำได้ ไม่นาน สีจึงยังดูขาวกระจ่างอย่างน่าพิศวง ดูไปดูมาก็คล้ายหุ่นจ�ำลอง ร่างกายมนุษย์ในโรงเรียนแพทย์อย่างที่จางเสวียนว่าไว้จริงๆ เว่ยเจิ้งอี้หยิบจี้รูปโลงศพใส่ไว้ในถุงเก็บหลักฐาน พร้อมกับหันมา ถามเนี่ยสิงเฟิง “คุณเจอจี้นี่อยู่กับศพหรือครับ?” 42


ตอน โลงมงคล “มันอยู่ในมือของศพ จางเสวียนก็เลยหยิบมาดู แต่ก็แค่แป๊บเดียว เพราะผมรีบบอกให้เขาวาง” เนี่ยสิงเฟิงรีบอธิบาย เพราะเกรงว่าความอยากรู้อยากเห็นของ จางเสวียนจะท�ำให้การสืบค้นจากหลักฐานของเว่ยเจิง้ อีย้ งุ่ ยากมากขึน้ แต่ดู เหมือนเขาจะกังวลมากไป เพราะพอเขาพูดจบนายต�ำรวจผู้นั้นก็ยิ้มแปลกๆ ให้ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ศพนี่แช่น�้ำมานานจนเปื่อยขนาดนี้ ไม่มีทาง เหลือรอยนิ้วมืออยู่แล้ว แต่จี้นี่ดูไปแล้วก็สวยแปลกตาดีเหมือนกันนะครับ” ขณะทีเ่ ว่ยเจิง้ อีพ้ ลิกถุงใส่หลักฐานไปมา จูๆ่ ฝาของจีร้ ปู โลงศพทีอ่ ยู่ ในถุงก็เปิดอ้าออก แล้วค้างอยู่อย่างนั้นโดยไม่ยอมปิดกลับเข้าไป ท�ำให้เห็น ว่าภายในมีพื้นที่น้อยมาก แค่พอให้สอดชิ้นกระดาษหรือของเล็กๆ สักชิ้น เข้าไปได้ แต่ตอนนี้ภายในจี้นั้นว่างเปล่า มีเพียงตัวอักษรสีน�้ำมันเขียนเป็น รูปตัว “R” เล็กๆ ไว้ “ท่านประธาน คุณน่าจะสนใจนะครับ” เว่ยเจิ้งอี้บอกแล้วส่งของใน มือให้เนี่ยสิงเฟิง ไม่! เขาไม่สนใจเรื่องประหลาดพวกนี้แม้แต่นิดเดียว! แต่เมือ่ ของถูกยืน่ มาตรงหน้า เนีย่ สิงเฟิงก็จ�ำต้องรับมามองผ่านๆ ซึง่ เขาก็ไม่เห็นอะไรนอกจากตัวอักษรสีทองรูปตัว “R” เพียงอย่างเดียว “เป็นจี้ที่แปลกจริงๆ จี้รูปโลงศพ…หมายความว่ายังไงกันนะ?” เว่ยเจิ้งอี้พูดคล้ายร�ำพึงกับตัวเอง แต่เนี่ยสิงเฟิงก็ยังอุตส่าห์ได้ยินเข้าจนได้ หมอนีเ่ ป็นนายต�ำรวจสืบสวนสอบสวนระดับสูงจริงหรือเปล่า? ท�ำไม ถึงมาถามเรื่องนี้กับเขากันล่ะ? เนี่ยสิงเฟิงส่งหลักฐานชิ้นนั้นกลับไป 43


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “ผมเองก็ ไ ม่ รู ้ เ หมื อ นกั น แล้ ว ก็ ไ ม่ ส นใจด้ ว ย คงมี แ ต่ ค นอย่ า ง จางเสวียนเท่านั้นที่จะสนใจของประหลาดพวกนี้” ประโยคนัน้ ท�ำให้เว่ยเจิง้ อีส้ ะดุง้ เฮือก แล้วก้าวเท้าถอยหลังกรูดทันที เขารีบหลบหามุมสงบแล้วต่อสายหาเนี่ยรุ่ยถิง “ไหนคุณบอกว่าช่วงนี้ท่านประธานอาการดีขึ้นมากแล้วไง? ท�ำไม พอเขาฟื้นขึ้นมา อาการถึงได้ดูหนักกว่าเดิมกันล่ะ?” “อาการหนัก? ยังไง?” คุณชายรองสกุลเนีย่ ทีก่ �ำลังจมอยูใ่ นกองภูเขา งานย้อนถามด้วยความงงงัน “ก็เขาเพ้อถึงเรือ่ งทีเ่ ป็นไปไม่ได้ แบบนีไ้ ม่เรียกว่าอาการหนักอีกเหรอ? หรือว่าเขาจะจ�ำเรือ่ งราวในอดีตได้แล้ว ถึงได้เรียกชือ่ ท่านอาจารย์ตอ่ หน้าผม ไม่หยุดตอนที่เจอคดีฆาตกรรม!” “ฮ้า! นี่พี่ใหญ่ไปเจอเรื่องแปลกๆ เข้าอีกแล้วเหรอ แล้วคุณบอกว่า ไงนะ? เขาพูดถึงจางเสวียนด้วยงั้นเหรอ?” เนีย่ รุย่ ถิงโวยวายถามกลับอย่างไม่อยากเชือ่ ขณะพยายามทบทวน ความทรงจ�ำ ‘พี่ใหญ่บอกว่าวันนี้จะไปตีกอล์ฟไม่ใช่เหรอ? แล้วท�ำไมถึงไปเจอ เรื่องพิลึกพิลั่นเข้าได้ล่ะ?’ แค่คิด เนี่ยรุ่ยถิงก็เริ่มปวดหัวตุบๆ ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หรือเขาควรจะหากุญแจมือมาล่ามพี่ชายตัวดีเก็บไว้ที่บ้าน จะได้ไม่ไปเที่ยว หาเรื่องหาราวที่ไหนอีก! ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงตอนได้รับสายจากคนที่บอกว่าตนเองชื่อ จางเสวียน ตอนนั้นเขานึกสงสัยว่าคนที่โทรมาอาจจะรู้เรื่องของพี่ใหญ่กับ จางเสวียน จึงตัง้ ใจจะเข้ามาสวมรอยเพือ่ หาทางใกล้ชดิ กับเนีย่ สิงเฟิง เขาจึง 44


ตอน โลงมงคล กีดกันทุกวิถีทาง แต่ตอนนี้... “ก็ใช่นะ่ สิครับ แล้วคุณรูม้ ยั้ ท่านประธานน่ะ ค�ำก็จางเสวียน สองค�ำ ก็จางเสวียน เท่านี้ยังไม่พอ เขายังพูดจาแปลกๆ ผมก็อธิบายไม่ถูกหรอกนะ แต่ผมรู้สึกได้ อีกเรื่องคือตอนนี้พวกเขาไปพบศพเข้าศพหนึ่งน่ะสิ” จะว่าไปการเจอศพก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่น่าแปลกคือสถานที่ จะไม่ แปลกได้อย่างไร ในเมื่อที่นี่เป็นกอล์ฟคลับสุดหรูซึ่งมีกล้องวงจรปิดคอย จับภาพอยู่แทบทุกจุด แล้วใครจะบ้าเลือดเลือกใช้ที่นี่เป็นที่ก่อเหตุ แค่คิด นายต�ำรวจเลือดเดือดก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที “เอาละ” เว่ยเจิ้งอี้ถอนใจยาว “สรุปคือคุณไม่ต้องห่วง ตอนนี้ผมจะ ช่วยจับตาดูท่านประธานให้เอง แต่ผมว่าทางที่ดีคุณควรจะพาเขาไปพบ จิตแพทย์...” ขณะที่เว่ยเจิ้งอี้ก�ำลังคุยกับเนี่ยรุ่ยถิงอย่างเอาจริงเอาจัง จู่ๆ เสียง หนึ่งก็ดังขึ้นทางด้านหลัง “คุณคุยกับใครน่ะ?” พอหันกลับมาเห็นว่าเป็นเนี่ยสิงเฟิง เว่ยเจิ้งอี้ก็กดตัดสายทันทีโดย ไม่บอกลา จากนั้นจึงยิ้มแหยๆ “คุยกับ...เอ่อเพือ่ น...เพือ่ นร่วมงานครับ ใช่! เพือ่ นร่วมงานครับท่าน ประธาน ผมให้เขาช่วยท�ำบันทึกนิดหน่อย จริงสิ รบกวนคุณช่วยมาทางนี้ หน่อยครับ” สายตาคมกริบของเนี่ยสิงเฟิงจ้องมองเว่ยเจิ้งอี้อย่างจับผิด เขารู้ว่า อีกฝ่ายพูดเท็จ เพราะเมือ่ ครูน่ ำ�้ เสียงของนายต�ำรวจผูน้ ไี้ ม่เหมือนคุยกับเพือ่ น ร่วมงานเลยสักนิด แถมยังเหมือนจะเอ่ยถึงเขาด้วย แต่เนีย่ สิงเฟิงก็ไม่ได้ซกั ไซ้ ต่อ ยอมก้าวเดินตามไปแต่โดยดี 45


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 อ๋าวเจี้ยนยืนมองการท�ำงานของเจ้าหน้าที่ต�ำรวจอยู่ด้านข้างอย่าง เงียบๆ ราวกับเป็นแค่คนมุงดูเหตุการณ์คนหนึ่ง “ดูเหมือนคุณจะไม่รู้สึกอะไรเลยนะ” เนี่ยสิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ย ประโยคนี้ออกมา แม้ใครต่อใครจะเห็นว่าเขาเป็นคนเย็นชา แต่ในเวลาทีต่ อ้ งเกีย่ วข้อง กับความตาย เนีย่ สิงเฟิงมักจะรูส้ กึ ไม่สบายใจ บางครัง้ ก็นกึ สงสารผูต้ ายและ ญาติพี่น้อง บางครั้งก็รู้สึกปลงต่อเรื่องความเป็นความตาย ซึ่งเมื่อเทียบกับ อ๋าวเจี้ยนแล้ว ฝ่ายนั้นดูนิ่งสงบกว่าเขามาก ในฐานะสมาชิกตระกูลบอร์เจีย ที่สองมือชุ่มเลือดแล้ว การเห็นศพแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกกระมัง “ในที่สุดนายก็รู้จักสังเกตสีหน้าฉันสักที” อ๋าวเจี้ยนพูดกลั้วหัวเราะ “ชีวติ คนเรา อะไรก็เกิดขึน้ ได้ไม่ใช่หรือ? เพราะแบบนีช้ วี ติ ถึงได้มสี สี นั อย่างไร ล่ะ” ‘ผิดแล้ว!’ เนีย่ สิงเฟิงนึกแย้งอยูใ่ นใจ ส�ำหรับเขา ชีวติ เริม่ มีสสี นั มาก ขึ้นหลังจากได้พบกับจางเสวียนต่างหาก บนถนนทีม่ งุ่ สูส่ �ำนักงานนักสืบ ลัว่ หยางขับรถค่อนข้างเร็วเพราะรูด้ ี ว่าจางเสวียนก�ำลังรีบ และเพราะไม่ใช่คนช่างพูด ภายในรถจึงมีแต่ความ เงียบมาตลอดทาง “คุณรู้จักนายตาขาวนั่นมานานแล้วหรือครับ?” จางเสวียนเริม่ เปิดประเด็นเพราะทนความเงียบต่อไปไม่ไหว ซึง่ ก็ได้ ผล เพราะลั่วหยางหันมามองด้วยสายตาไม่เข้าใจ เขาจึงต้องรีบอธิบาย “ผมหมายถึงอ๋าวเจี้ยนน่ะ” “กรุณาให้เกียรติดยุกบอร์เจียด้วย” 46


ตอน โลงมงคล ลั่วหยางหันกลับไปมองถนนแล้วเอ่ยด้วยน�้ำเสียงเย็นเยียบ แสดง ให้เห็นว่าไม่ค่อยพอใจกับค�ำเรียกนั้นของจางเสวียนนัก “ขอโทษครับ” จางเสวียนไม่คดิ จะท�ำให้บรรยากาศเสียขณะทีต่ วั เองก�ำลังอาศัยรถ สปอร์ตของคนอื่น จึงรีบกล่าวค�ำขอโทษทันที ซึ่งนั่นท�ำให้ลั่วหยางรู้สึก แปลกใจเล็กน้อย แต่สีหน้าตึงเครียดก็ดูผ่อนคลายลงมาก “เขาเป็นดยุกหรือครับ?” “ใช่ ดยุกสปาดา บอร์เจีย สืบเชือ้ สายมาจากดยุกวาเลนติโน ซึง่ เป็น หนึ่งในดยุกที่เหลืออยู่ไม่มากนักในอิตาลี ผมเป็นหมอประจ�ำตัวเขา เรารู้จัก กันมานานแล้ว” จางเสวียนไม่รวู้ า่ แม้ดยุกแห่งวาเลนติโนจะเป็นผูม้ ชี อ่ื เสียงเสือ่ มเสีย อยู่บ้าง แต่ตระกูลบอร์เจียก็มีอิทธิพลไม่น้อยในประวัติศาสตร์ยุโรปช่วงสมัย ศตวรรษที่สิบสี่ถึงสิบห้า อีกทั้งดยุกแห่งวาเลนติโนยังได้รับการยกย่องจาก คนรุน่ หลังในเรือ่ งของการปกครองและความเป็นผูน้ �ำ เพราะไม่เข้าใจถึงเรือ่ ง การสืบเชือ้ สายจึงไม่เข้าใจว่าการเป็นลูกหลานของตระกูลทีม่ คี วามส�ำคัญถึง เพียงนี้ เป็นสิ่งที่อ๋าวเจี้ยนภาคภูมิใจมากแค่ไหน จางเสวียนจึงได้แต่ท�ำตา ปริบๆ เมื่อฟังค�ำบอกเล่าของลั่วหยาง “ความหมายของคุณคือ อ๋าวเจี้ยนมีอิทธิพลมากเลยหรือครับ?” ลั่วหยางฟังแล้วหมดแรงจะอธิบายต่อ จึงเพียงแค่ผงกศีรษะรับ “มากเชียวละ” ‘มิน่าล่ะ แมวกวักถึงต้องยอมลงให้เจ้าตาขาวนั่น’ จางเสวียนพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเองแล้วถามต่อ “ดูเหมือนคุณจะ...นับถือเขามาก?” 47


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “ให้เกียรติ” ลั่วหยางบอกด้วยรอยยิ้ม ซึ่งท�ำให้เสี้ยวหน้าที่เย็นชาดู นุ่มนวลลงอย่างมาก “ผมให้เกียรติเพื่อนของผม” “ผิดกับผมเลยแฮะ” จางเสวียนบอกยิม้ ๆ “ผมให้เกียรติศตั รูเท่านัน้ ” “หืม?” ลั่วหยางหันมามองอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก จางเสวียนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะอธิบายเสียงเจื้อยแจ้ว “กับเพื่อนผมให้ความสนิทสนม แต่กับศัตรูผมให้เกียรติ เพราะมี ค�ำพูดประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า อย่าดูถูกศัตรู ไม่งั้นเราอาจตายแบบน่าอนาถ ได้นะครับ” “ความคิดของคุณฟังดูแปลก แต่กน็ า่ สนใจดี น่าเสียดายทีผ่ มไม่เคย มีศัตรู” ลั่วหยางไม่ได้อธิบายต่อว่า นั่นก็เพราะไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับเขา เนื่องจากเบื้องหลังของเขามีคนซึ่งมีอ�ำนาจขนาดที่สามารถพลิกฟ้าคว�่ำดิน ได้ค�้ำจุนอยู่ นัน่ ท�ำให้จางเสวียนเข้าใจความหมายค�ำพูดของลัว่ หยางไปอีกทาง “ผมรู้ครับ อย่างคุณหมอลั่วน่ะ ใครๆ ก็อยากเป็นเพื่อนด้วยทั้งนั้น” ลั่วหยางหัวเราะเมื่อคู่สนทนาเข้าใจความหมายในค�ำพูดของเขา ผิดเพี้ยนไป ทว่าในใจกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด จางเสวียน ท�ำให้เขารับรู้ได้ถึงความจริงใจ นั่นท�ำให้เขาคิดว่าอ๋าวเจี้ยนเองก็คงจะสนใจ คนคนนีไ้ ม่นอ้ ยเช่นกัน ไม่เช่นนัน้ คงไม่อนุญาตให้เขาขับรถมาส่งอีกฝ่ายอย่าง ง่ายดายแบบนี้ “เวลายิม้ คุณดูดมี ากนะครับ” จางเสวียนเอ่ยชมอย่างจริงใจ “ผมไม่ ค่อยเห็นคนตาสีม่วง แต่แบบนี้ดูเหมาะกับคุณมากจริงๆ” ลัว่ หยางชะงักไปครูห่ นึง่ เขาไม่ชอบพูดและไม่เคยชอบให้ใครพูดถึง 48


ตอน โลงมงคล สีตาของตน เพราะมันเป็นเสมือนบาดแผลซึ่งเขาชิงชังมากที่สุด สีหน้าของ ลั่วหยางจึงตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ทว่าเรือนผมยาวสลวยช่วยซ่อนความรู้สึก นั้นไว้จากคู่สนทนาได้ “สีตาคุณเองก็แปลกเหมือนกัน” แน่นอนว่าดวงตาสีฟ้าไม่โดดเด่นเหมือนดวงตาสีม่วง และไม่ได้ดู สูงส่งเหมือนดวงตาสีเงิน แต่ดวงตาสีฟา้ คูน่ กี้ เ็ ปล่งประกายสดใสลึกล�ำ้ อย่าง มีเอกลักษณ์ ท�ำให้ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของได้ คล้ายผืนน�้ำ ทะเลสีคราม ที่บางครั้งมองดูแล้วก็ให้ความรู้สึกสุขสงบ แต่บางครั้งก็ท�ำให้ หัวใจเต้นโครมครามได้เหมือนกัน นั่นท�ำให้ลั่วหยางนึกสงสัยว่าที่แท้แล้วจางเสวียนเป็นคนอย่างไร? หรือคนคนนี้จะเป็นพวกสองบุคลิก? “ความจริงแล้วผมชอบตาสีด�ำแบบท่านประธานมากกว่า มันดู เหมือนคนปกติทั่วไปดี” “คุณไม่ชอบสีตาของตัวเอง?” ลั่วหยางถามอย่างแปลกใจ “ใครว่ า ล่ ะ ครั บ ? สมั ย นี้ ค นที่ มี สี ต าแปลกๆ มาตั้ ง แต่ เ กิ ด แบบ พวกเราน่ะ คนชอบกันมากเลยนะครับ เพราะฉะนั้นเราจะชอบมันหรือไม่ ไม่ส�ำคัญเท่ากับคนอื่นชอบเราหรอกครับ” โดยเฉพาะถ้าคนทีช่ อบคือแมวกวัก จางเสวียนนึกอย่างกระหยิม่ ยิม้ ย่อง แต่แล้วเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดเรียบๆ “แต่ยกเว้นสีเงินนะ” ลั่วหยางรู้ได้ทันทีว่า อ๋าวเจี้ยนคงไม่สามารถท�ำให้จางเสวียนรู้สึกดี กับตนเองได้ง่ายๆ แน่ “คุณก�ำลังจะบอกว่าคนที่เกิดมามีตาสีด�ำอย่างคนทั่วไปเป็นคน 49


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 โชคดีที่สุดงั้นเหรอ?” “คุณหมอนี่ฉลาดจริงๆ เลย” จางเสวียนชี้บอกทางแล้วยิ้มใส่ตา อีกฝ่าย “ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอเป็นเพื่อนกับคุณ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วนะ ครับ ชีวติ จะปกติหรือไม่ ไม่เกีย่ วกับสีตาเลยสักนิด ถ้าอยูก่ บั ท่านประธาน ถึง จะมีตาสีด�ำ ชีวิตก็ไม่มีทางเหมือนคนธรรมดาได้ แต่ถึงจะไม่ธรรมดา ผมว่า มันก็มีความสุข แล้วก็สนุกดีนะ” ลั่วหยางนิ่งงัน เขาไม่เคยได้ยินใครบอกว่าตัวเองมีความสุขได้เต็ม ปากเต็มค�ำแบบนีม้ าก่อน วินาทีนนั้ เขามีความรูส้ กึ ว่า จางเสวียนเป็นคนทีน่ า่ คบหาเป็นสหายจริงๆ นั่นละ รถสปอร์ตชะลอความเร็วและหยุดลงเมือ่ ถึงด้านหน้าของส�ำนักงาน นักสืบ จางเสวียนกล่าวขอบคุณแล้วก้าวลงจากรถ ทันทีที่อีกฝ่ายลับสายตา ไป ลั่วหยางก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสาย “ผมส่งจางเสวียนที่บริษัทเรียบร้อยแล้วนะครับ” เสียงของอ๋าวเจี้ยนที่ปลายสายย้อนถามกลับมา “ฟังจากเสียงแล้วคงคุยกันสนุกละสิ” ไม่มอี ะไรปิดบังคนคนนีไ้ ด้จริงๆ แค่นำ�้ เสียงธรรมดาของเขา อีกฝ่าย ก็สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ได้ นั่นคงเพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน จน บางครั้งอ๋าวเจี้ยนก็ดูเหมือนจะรู้จักตัวเขาดียิ่งกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก ลั่วหยางอดนึกถึงค�ำว่า ‘ตาขาว’ ที่จางเสวียนใช้เรียกดวงตาสีเงิน ของอ๋าวเจี้ยนขึ้นมาไม่ได้ เขานึกอยากรู้ว่าถ้าหากเจ้าตัวได้ยิน จะมีปฏิกิริยา อย่างไรกันนะ? แต่เขาก็ต้องรีบเก็บความคิดร้ายกาจนี้ลงไป แล้วตอบด้วยน�้ำเสียง เรียบๆ 50


ตอน โลงมงคล “จางเสวียนเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เขาท�ำให้ผมได้เห็น สัจธรรมบางอย่าง” “มีสัจธรรมอะไรที่ฉันยังไม่เคยบอกนายด้วยงั้นเหรอ?” น�้ำเสียงของคนที่อยู่ปลายสายฟังคล้ายไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ลั่วหยางเลิกคิ้ว เขาพอจะจินตนาการหน้าตาของอ๋าวเจี้ยนใน เวลานี้ออก สีหน้าเฉยชาของลั่วหยางจึงนุ่มนวลลง เขาไม่ได้ตอบค�ำถามนั้น แต่ย้อนถามกลับไปด้วยรอยยิ้ม “คุณจะบอกว่าตัวเองรอบรู้ทุกอย่างละสิ?” “แล้วท�ำไมฉันจะพูดแบบนั้นไม่ได้?” อ๋าวเจี้ยนย้อน “จางเสวียนเป็นคนซับซ้อนมากกว่าที่คุณคิด” ลั่วหยางสรุปง่ายๆ บรรยากาศกดดันทีอ่ า๋ วเจีย้ นสร้างผ่านทางสายโทรศัพท์ดเู หมือนจะคลายตัว ลงจนรูส้ กึ ได้ เขาจึงพูดต่อด้วยรอยยิม้ “เขาไม่เหมือนทีผ่ มเคยได้ยนิ ดูไม่คอ่ ย มีพษิ สงอะไร หรือไม่ อาจเป็นเพราะตอนนีเ้ รายังไม่ได้ไปเหยียบหางเขาก็ได้” “ถ้างั้น...” อ๋าวเจี้ยนนิ่งคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยน�้ำเสียงสงบนิ่ง “ฉัน ชักอยากจะรู้แล้วสิว่า ถ้าถูกเหยียบหาง เขาจะมีพิษสงสักแค่ไหน!”

51


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2

3

เมื่อเดินเข้าไปในออฟฟิศ จางเสวียนก็เห็นหญิงสาวสวยจัดคนหนึ่ง นั่งไขว่ห้างอยู่ที่หน้าโต๊ะท�ำงานของจั่วเทียน ใบหน้าของเธอค่อนข้างเหลี่ยม สวมเสื้อผ้าแบบผู้หญิงท�ำงาน แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องเป็นหญิงแกร่งที่ท�ำงาน เก่งคนหนึ่ง “ขออนุญาตแนะน�ำนะครับ จางเสวียน คุณผู้หญิงท่านนี้คือคุณ ลั่วเหยียน และนี่คือนักสืบสัมผัสที่หก เขาเป็นคนดังในส�ำนักงานของเราเลย ละครับ นักสืบจางเสวียน” จั่วเทียนลุกขึ้นยืนเพื่อแนะน�ำพวกเขาให้รู้จักกัน ดูจากท่าทางเป็น งานเป็นการของเจ้านายแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่าฐานะของลั่วเหยียนคนนี้จะ ต้องไม่ธรรมดาแน่ จางเสวียนจึงก้าวเข้าไปหาและยืน่ มือให้หญิงสาวอย่างสุภาพ แต่เธอ กลับนัง่ นิง่ ไม่ยอมขยับ ใช้เพียงสายตากวาดมองเขาตัง้ แต่ศรี ษะจรดปลายเท้า จากนั้นก็หันไปถามจั่วเทียนด้วยสีหน้าสงสัย 52


ตอน โลงมงคล “เขายังดูหนุ่มมากนะ จะท�ำงานได้แน่เหรอ?” “เชื่อมือผมเถอะครับ” “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อมือคุณ แต่ขนาดนักสืบซีเหมินคนดังคนนั้นยัง ล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วจะให้ฉนั เชือ่ มือเด็กหนุม่ ท่าทางเหลาะแหละแบบคุณ ได้ยังไง” ลั่วเหยียนพูดความรู้สึกออกมาตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อม นักสืบซีเหมิน? ใครกันนะ? คนแซ่นที้ เี่ ขารูจ้ กั ก็มแี ค่ ซีเหมินชิง่ เท่านัน้ จางเสวียนแอบพึมพ�ำอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มแจ่มใส “คุณผู้หญิงครับ ตรงหว่างคิ้วคุณมีไอมืดปกคลุม ช่วงนี้คงมีเรื่องไม่ ค่อยดีหรือมีปัญหาเรื่องญาติพี่น้องใช่ไหมครับ?” ลั่วเหยียนเลิกคิ้วมองจางเสวียน แล้วพูดขึ้นด้วยน�้ำเสียงราบเรียบ “นี่ คุณผูช้ าย อย่ามาพูดจาหลอกล่อกันเลยดีกว่า ถ้าหากว่าฉันไม่มี ปัญหาก็คงไม่มาที่นี่หรอก” อีกฝ่ายไม่หลงกล จางเสวียนจึงได้แต่ลูบจมูกไปมา เฮ้อ! ท�ำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงไม่น่ารักเอาซะเลย คิดแล้วก็อยากกลับ ไปหาแมวกวักที่สุดแสนจะน่ารักของเขาจริงๆ เห็ น บรรยากาศเริ่ ม ตึ ง เครี ย ด จั่ ว เที ย นจึ ง รี บ ยื่ น มื อ เข้ า มาช่ ว ย ไกล่เกลี่ย ด้วยการบอกให้จางเสวียนนั่งลง และส่งข้อมูลซึ่งลั่วเหยียนน�ำมา ให้ดู “เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวของคุณลั่วหายตัวไปได้สองสัปดาห์แล้ว เธอ ก็เลยอยากให้เราช่วยตามหาและพาน้องสาวของเธอกลับมาโดยเร็วที่สุด” ครอบครั ว สกุ ล ลั่ ว อยู ่ ใ นวงการการเมื อ งสื บ ต่ อ กั น มาหลายรุ ่ น ลั่วเหยียนและสามีซึ่งเป็นนักการเมืองก็เช่นกัน เธอมีน้องสาวชื่อว่าลั่วฉี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ของมหาวิทยาลัยเจียหวาย และได้หายตัวไปเมื่อสอง 53


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 สัปดาห์ก่อน ทางต�ำรวจยังสืบหาไม่เจอ ลั่วเหยียนจึงไปขอให้นักสืบมือดี อย่างซีเหมินเสวี่ยช่วยสืบหา แต่ก็ไม่พบเบาะแส มิหน�ำซ�้ำเมื่อสองวันก่อน ซีเหมินเสวี่ยยังเกิดอาการหน้ามืดขึ้นมากะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ คน ครอบครัวซีเหมินจึงติดต่อขอยกเลิกงานนี้ ต่อมาจึงมีคนแนะน�ำให้เธอมาที่ ส�ำนักงานนักสืบของจั่วเทียน “ที่แท้เราก็เป็นตัวส�ำรอง” จางเสวียนบ่นพึมพ�ำ จัว่ เทียนท�ำเป็นหูทวนลม เพราะไม่อยากจะอธิบายยืดยาวว่า ถ้าหาก ไม่มีคนช่วยแนะน�ำแล้วละก็ ลูกค้าอย่างครอบครัวสกุลลั่วไม่มีทางเลือกใช้ บริการส�ำนักงานนักสืบเล็กๆ ของพวกเขาแน่นอน ตอนนีส้ งิ่ ทีเ่ ขาเป็นห่วงมาก ที่สุดคือ จางเสวียนจะดูแลลูกค้ารายนี้ได้หรือไม่! โชคดีที่จางเสวียนไม่ได้ต่อความยาว เขาหยิบแฟ้มไปอ่านแบบ รวดเดียวจบ เริ่มต้นจากการดูภาพถ่ายของลั่วฉีซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตา สะสวย ยิ้มหวานชวนมอง แต่กลับเลือกเรียนด้านรัฐศาสตร์ สาเหตุคงเป็น เพราะทางบ้านแนะน�ำ ถึงอย่างนั้นผลการเรียนของเธอก็อยู่ในระดับดี ยิ่งมี ครอบครัวมีชื่อเสียงแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งท�ำให้ลั่วฉีค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักและ โด่งดังในมหาวิทยาลัยพอตัวทีเดียว “คุณลั่วครับ ช่วยเล่าเรื่องก่อนที่น้องสาวคุณจะหายตัวไปให้ผมฟัง หน่อยได้ไหมครับ?” อาจเพราะเวลานีล้ วั่ เหยียนไม่รจู้ ะหาใครมาช่วยได้แล้วจริงๆ เธอจึง ยอมตอบค�ำถามของจางเสวียนอย่างไม่อิดออด “ก่อนเธอจะหายตัวไป ทุกอย่างก็ปกติดี ลัว่ ฉีไปเรียนหนังสือและไป ท�ำกิจกรรมชมรม เธอไม่ได้บอกอะไรเป็นพิเศษ แต่หลังออกจากบ้านไป วันนั้น เธอก็หายตัวไป แล้วเธอ...ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย” 54


ตอน โลงมงคล ดูออกได้ทนั ทีวา่ ทัง้ คูเ่ ป็นพีน่ อ้ งทีร่ กั กันมาก เพราะเมือ่ พูดถึงน้องสาว สีหน้าของลั่วเหยียนก็แสดงความห่วงใยและเศร้าโศกออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะพูดต่อด้วยน�้ำเสียงขัดเคืองใจ “ฉันรีบโทรไปแจ้งความ แต่พวกต�ำรวจกลับท�ำอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่บอกว่ายังหาไม่เจอ” “ขอโทษนะครับ ผมขออนุญาตถามตรงๆ วันที่เธอหายตัวไป มีเรื่อง อะไรเกิดขึ้นบ้างไหม เช่น พวกคุณทะเลาะกันหรือเปล่า?” ลัว่ เหยียนจ้องมองจางเสวียนอย่างจริงจัง สีหน้าของเธอเคร่งเครียด ขึ้น หญิงสาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ “เราทะเลาะกันนิดหน่อย ค่ะ พ่ออยากให้ลั่วฉีไปดูตัวกับลูกชายของเพื่อนที่ท่านหมายตาไว้ แต่ลั่วฉี บอกว่าเธอมีแฟนแล้ว และบอกว่าพวกเราบังคับเธอมากเกินไป คุณพ่อโกรธ มาก เลยตบหน้าเธอไปฉาดหนึ่ง จากนั้นเธอก็ออกจากบ้านไป และไม่กลับ มาอีกเลย” “แฟนของเธอเป็นใครครับ? เรื่องนี้นักสืบซีเหมินที่คุณบอกว่าเป็น คนดังได้ข้อมูลมาแล้วหรือยัง?” “เพื่อนของลั่วฉีไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยค่ะ เธอปิดเรื่องแฟนเอาไว้เงียบ มาก อย่าว่าแต่พวกเราเลย แม้แต่เพือ่ นสนิททีส่ ดุ ของเธอก็ยงั ไม่รู้ แต่นอ้ งสาว ฉันเป็นเด็กดีมาก เธอจะไปร่วมกิจกรรมของชมรมหรืองานปาร์ตี้บ้างก็ นิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าเธอไปมีแฟนตอนไหน” ลั่วเหยียนเล่าจบ ก็กุมขมับด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ในแฟ้มมีรปู ถ่ายเพือ่ นร่วมสถาบันเดียวกันกับลัว่ ฉี ภาพถ่ายสถานที่ ต่างๆ และข้อมูลเกีย่ วกับการหายตัวไปของเธอ ซึง่ ซีเหมินเสวีย่ เป็นคนหามา ตอนทีค่ นของสกุลซีเหมินบอกยกเลิกงานนัน้ พวกเขามอบข้อมูลทัง้ หมดนีใ้ ห้ 55


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ลั่วเหยียน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาจางเสวียนได้มากทีเดียว รูปใบหนึง่ หลุดร่วงลงมาระหว่างทีจ่ างเสวียนก�ำลังอ่านแฟ้ม ตอนแรก เขาจะเก็บมันกลับเข้าแฟ้ม แต่ทันใดนั้นมือก็สั่น กลิ่นอายความชั่วร้ายที่ ส่งผ่านมาท�ำให้เขาต้องดึงมันออกมาดูอีกครั้ง ภาพนั้นเป็นภาพถ่ายระยะไกลของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งถ่ายในเวลา กลางคืนที่ท้องฟ้ามืดด�ำขมุกขมัว ส่งให้บรรยากาศของตัวบ้านดูรกร้างและ วังเวงเพิม่ ขึน้ อย่างมาก ประตูบา้ นทาสีแดงชาดและตอกตะปูทองแดงไว้โดย รอบตามแบบบ้านโบราณทัว่ ไป ทว่าพอเห็นแล้วจางเสวียนกลับรูส้ กึ เย็นวาบ ขึ้นในอก บานประตูสแี ดงสดทีต่ งั้ อยูท่ า่ มกลางความมืดนัน้ ดูไม่ตา่ งอะไรกับ โลงศพ! เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นประหลาดที่แผ่ออกมาจากภาพถ่ายซึ่งเป็น เพียงแผ่นกระดาษบางๆ จางเสวียนสะบัดศีรษะไปมาและเพ่งมองอีกครั้ง คราวนี้เขาเริ่มมองเห็นว่าท่ามกลางสีด�ำทะมึนในภาพนั้น แท้จริงแล้วมี ประกายแสงสีขาวคล้ายแสงดาวซึ่งมีรูปร่างคล้ายคนปะปนอยู่ นัน่ จะต้องเป็นดวงวิญญาณทีว่ นเวียนอยูใ่ นบ้านหลังนีแ้ น่! จางเสวียน รับรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเห็นของจริงว่า บ้านหลังนี้จะต้องสร้างแบบหน้ากว้าง หลังแคบ ซึง่ ตามหลักฮวงจุย้ แล้วถือว่าเป็นลักษณะของโลงศพ ท�ำให้เงินทอง รั่วไหล ครอบครัวแตกแยก เป็นแบบบ้านที่มีดวงชะตารุนแรงมาก ผู้ที่กล้า สร้างบ้านซึง่ มีดวงแรงขนาดนีไ้ ด้จะต้องเป็นผูศ้ กึ ษาวิชาเต๋า หรือไม่กต็ อ้ งเป็น คนที่มีดวงชะตาแรงขนาดที่ผีและเทวดาไม่กล้ายุ่งด้วยเท่านั้น เขาพยายามระงับความรู้สึกวุ่นวายใจของตัวเอง เมื่อสัมผัสได้ว่า สถานการณ์ในตอนนี้ของลั่วฉีคงไม่ดีนัก ไม่แน่ว่า... 56


ตอน โลงมงคล “นายรูอ้ ะไรแล้วใช่ไหม?” จัว่ เทียนมองไม่ออกว่ารูปถ่ายใบนีม้ คี วาม ผิดปกติที่ตรงไหน แต่เขารู้สึกร้อนใจเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆ ของจางเสวียน จนต้องเอ่ยถามแทรกขึ้นมา ค�ำถามนั้นท�ำให้ความสับสนร้อนรนภายในใจของจางเสวียนกลับ คืนสู่ความสงบนิ่งได้อีกครั้ง เขาส่ายหน้าและหันไปบอกกับลั่วเหยียน “วางใจได้ครับ ผมจะรีบหาค�ำตอบให้เร็วทีส่ ดุ ถ้าหากมีเบาะแสอะไร เพิ่มเติม กรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ” ลั่วเหยียนกลับไปแล้ว จางเสวียนจึงรีบพลิกไปดูราคาค่าจ้างที่หน้า สุดท้ายทันที ดวงตาสีฟ้าใสพลันสว่างวาบขึ้น เขาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใด จั่วเทียนถึงบอกให้รีบกลับมารับงานนี้ เป็นเพราะค่าจ้างสูงขนาดนี้นี่เอง เห็น แล้วก็อดถามขึ้นไม่ได้ “เถ้าแก่ คุณไปคว้างานนี้มาได้ยังไง?” จั่วเทียนเบนสายตาไปทางอื่นอย่างมีพิรุธ “มีคนแนะน�ำมา” “ท�ำไมถึงมีคนแนะน�ำคดีใหญ่ๆ มาให้คณ ุ อยูเ่ รือ่ ย” จัว่ เทียนไม่ตอบ จางเสวียนก็ไม่ซักต่อ แต่กลับเปิดยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะบอกเสียงเรียบ “ผมรับท�ำ คดีนี้ แต่มีข้อแม้คือ ต้องมีซองแดงให้ผมสองซองตอนสิ้นเดือนด้วย” “ให้ตายเถอะ นี่นายคิดจะเชือดเจ้านายตัวเองหรือไง!” “พูดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ? คุณก็เห็นอยู่ว่าคดีนี้ไม่ง่ายเลยสักนิด ต้องได้ซองแดงสองซองนั่นละถึงค่อยคุ้มค่าเหนื่อย!” ถ้าเป็นเรื่องผลประโยชน์แล้วละก็ เป็นตายอย่างไรจางเสวียนก็ไม่ ยอมถอย จั่วเทียนจึงจ�ำต้องผงกศีรษะรับเป็นเชิงตกลง แล้วย้อนถาม “นาย จะให้สี่เยวี่ยมาช่วยไหม?” เขารู้ดีว่าฝีมือการสืบคดีของตระกูลซีเหมินนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด 57


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 กระทั่งฝ่ายนั้นยังเอาไม่อยู่แบบนี้ จั่วเทียนจึงอดเป็นห่วงจางเสวียนไม่ได้ “ไม่ต้องหรอกครับ แค่ผมคนเดียวก็พอแล้ว” ถ้าหากเป็นคดีการหายตัวไปธรรมดา การมีผู้ช่วยสักคนย่อมเป็น เรื่องดี แต่ตอนนี้จางเสวียนรู้แล้วว่าเบื้องหลังการหายตัวไปของลั่วฉีคงไม่ ธรรมดาแน่ ดังนัน้ ถึงมีคนมาช่วยก็เปล่าประโยชน์ ดีไม่ดอี าจกลายเป็นภาระ ให้เขาต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกต่างหาก จางเสวียนลงลิฟต์ไปยังชั้นล่างเพื่อเริ่มต้นท�ำงาน ลั่วฉีหายตัวไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนโดยไม่มีโทรศัพท์จากโจรเรียก ค่าไถ่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้ถูกลักพาตัว เพราะเด็กดีแบบนี้ ต่อให้หนีออกจากบ้าน ก็ไม่มีทางโดดเรียนไปโดยไม่บอกกล่าวใครไว้แน่ หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น? จางเสวียนลองใช้นิ้วค�ำนวณวันเดือนปีเกิดของลั่วฉี พบว่าไม่ได้ตก อยู่ในเรือนมรณะ แต่กลับไม่สามารถค�ำนวณสถานที่อยู่ของเธอในเวลานี้ได้ เหมือนจู่ๆ เธอก็ระเหยหายไป มิน่าล่ะพวกต�ำรวจถึงหาตัวไม่เจอ เมือ่ ลงมาถึงชัน้ ล่าง มือถือก็ดงั ขึน้ ในจังหวะเดียวกับทีเ่ ขาก�ำลังก้าว เท้าออกจากลิฟต์ คนทีโ่ ทรมาคือเนีย่ สิงเฟิงซึง่ ตอนนีใ้ ห้ปากค�ำกับต�ำรวจเสร็จ เรียบร้อยแล้วและก�ำลังจะกลับบ้าน แต่พออีกฝ่ายถามถึงเรื่องของเขาบ้าง จางเสวียนก็ส่งเสียงทอดถอนใจไปตามสาย “ท่านประธานครับ ผมคงต้องขอยกเลิกนัดตอนบ่ายของเราแล้วละ เถ้าแก่ให้ผมท�ำคดีใหญ่คดีหนึ่ง คิดว่าผมคงต้องวิ่งวุ่นไปอีกสักสองสามวัน” นัดของเรา? ค�ำสั้นๆ แต่ความหมายชวนให้คิดไปไกลนี้ท�ำให้เนี่ยสิงเฟิงหลุดยิ้ม 58


ตอน โลงมงคล น้อยๆ ออกมา “งานต้องมาก่อนอยู่แล้ว ว่าแต่ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” “ชั้ น ล่ า งของบริ ษั ท ครั บ ผมว่ า จะไปที่ ม หาวิ ท ยาลั ย เจี ย หวาย สักหน่อย” จากข้ อ มู ล บอกว่ า เพื่ อ นสนิ ท ของลั่ ว ฉี คื อ เพื่ อ นร่ ว มชั้ น ที่ ชื่ อ ว่ า จวีจิงจิง ดังนั้นจางเสวียนจึงคิดจะไปดักพบหญิงสาวผู้นั้น ดูสิว่าพอจะ สอบถามอะไรได้หรือไม่ “งั้นผมจะไปรับคุณเอง คอยเดี๋ยวนะ” ทั้งที่ตั้งใจจะบอกว่าไม่ต้องยุ่งยาก แต่โทรศัพท์กลับถูกวางสายไป แล้ว ไม่นาน รถสปอร์ตคันหนึง่ ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบทีร่ มิ ทางหน้าส�ำนักงาน นักสืบ จางเสวียนก้าวขึ้นไปนั่งบนรถด้วยสีหน้าเบิกบาน นั่นเพราะท่าน ประธานกลุม่ ธุรกิจทางการเงินสกุลเนีย่ ถึงกับยอมมาเป็นสารถีให้เอง แต่เขา ก็ยังมีมารยาทพอที่จะเอ่ยด้วยน�้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ “ขอโทษด้วยนะครับ นานๆ คุณจะได้หยุดแท้ๆ แต่ผมกลับรบกวน ให้คุณพาไปโน่นมานี่เสียได้” เนี่ยสิงเฟิงปรายตามองแวบหนึ่ง เมื่อไม่เห็นวี่แววความรู้สึกผิดบน ใบหน้าอีกฝ่ายตามถ้อยค�ำที่เจื้อยแจ้วนั่นเลยสักนิด ชายหนุ่มจึงส่ายศีรษะ เล็กน้อย “ไม่ผ่าน คราวหน้าคุณต้องเสแสร้งให้แนบเนียนกว่านี้” “อะไรกันครับ ตาข้างไหนของคุณที่บอกว่าผมเสแสร้ง?” “ทั้งสองข้างนั่นละ” ก็ได้ เขายอมรับว่าไม่อาจหลอกแมวกวักทีห่ ลักแหลมอย่างร้ายกาจ 59


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ได้จริงๆ จางเสวียนจึงไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เปลี่ยนเป็นถามอีกฝ่ายแทน “เป็ น ยั ง ไงบ้ า งครั บ ? ตกลงโครงกระดู ก นั่ น เป็ น การฆ่ า ตั ว ตาย ฆาตกรรม หรือมีใครท�ำตกไว้จริงๆ?” “ตอนนี้รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง อายุน่าจะอยู่ในราวยี่สิบถึงสามสิบปี ดู เหมือนเธอจะก�ำลังตั้งท้อง ส่วนเรื่องอื่นต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด อีกที” อันทีจ่ ริงปัญหาไม่ได้อยูท่ ผี่ ตู้ ายฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม แต่การ มีศพอยู่ในกอล์ฟคลับนานขนาดนี้โดยไม่มีคนพบเห็น นี่สิที่เป็นปัญหาใหญ่ ผูจ้ ดั การคลับยืนยันว่าไม่มพี นักงานคนไหนหายตัวไป จึงท�ำให้แม้แต่นายต�ำรวจ ที่ชื่นชอบเรื่องลี้ลับอย่างเว่ยเจิ้งอี้ถึงกับต้องกุมขมับ พอรถแล่นไปได้ถึงกลางทาง จู่ๆ จางเสวียนก็นึกถึงอี้ขึ้นมาได้ “จริงด้วย ค้างคาวน้อยล่ะ? มันหายไปไหน?” “ผมไม่เห็นเหมือนกัน นึกว่าอยู่กับคุณเสียอีก” “เปล่านะครับ สงสัยคงแอบหนีไปเมาหลับอู้งานอยู่แน่!” พูดจบจางเสวียนก็รีบโทรหาอี้ทันที ต้องยอมรับว่าแมวกวักทรัพย์ นามเนีย่ สิงเฟิงนัน้ มีประสิทธิภาพสุดยอดจริงๆ นับตัง้ แต่ได้รจู้ กั กัน งานนักสืบ ของเขาก็รุ่งเรือง แถมยังได้คฤหาสน์ทั้งหลังมาเป็นที่อยู่อาศัยอีกต่างหาก จางเสวียนดีใจมากจึงซือ้ มือถือให้อเี้ พือ่ จะได้ตดิ ต่อกันสะดวก ไม่ตอ้ งใช้ยนั ต์ โลหิตให้เปลืองแรง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนโทรศัพท์มือถือจะไร้ความหมาย เพราะโทรไปก็มี แต่เสียงเรียก ไม่มีใครรับ เมื่อไม่มีทางเลือกจางเสวียนจึงจ�ำต้องส�ำรวมจิต และท่องคาถา แต่ผลก็ไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าอี้เมา เสียงเรียกของเจ้านายอย่างเขาก็มีค่าไม่ต่างอะไรกับเสียงสายลมที่ 60


ตอน โลงมงคล พัดผ่าน พอเห็นจางเสวียนกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด เนี่ยสิงเฟิงก็อด ไม่ได้ที่จะพูดออกมายิ้มๆ “แค่ได้มภี ตู พิทกั ษ์สารพัดประโยชน์ไว้ใช้งานก็นบั ว่าไม่เลวแล้ว อย่า ไปคาดหวังอะไรกับมันมากเลย” ทั้งสองคนแวะกินมื้อเที่ยงง่ายๆ จากนั้นจึงตรงไปที่มหาวิทยาลัย เจียหวาย โชคไม่ดีนักเพราะเมื่อพวกเขาติดต่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยสอบถามให้ ก็ได้ค�ำตอบจากเพื่อนร่วมชั้นของจวีจิงจิงว่า วันนี้หญิงสาวออกไปธุระ ข้างนอก และเนื่องจากเป็นวันหยุด คืนนี้จึงอาจไม่กลับมาที่หอ จางเสวียนจึงฝากข้อความขอนัดพบจวีจิงจิงเอาไว้กับเพื่อนร่วมชั้น ของเธอ ในตอนทีเ่ ขากับเนีย่ สิงเฟิงเดินออกมาจากห้องของโอเปอเรเตอร์ ใคร คนหนึ่งก็ตามมาทักจากด้านหลัง “ขอโทษครับ พวกคุณมาหาจวีจิงจิงหรือครับ?” ผู้พูดเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผมค่อนข้างยาวและมัดรวบไว้ที่ ด้านหลังอย่างง่ายๆ เขาสวมเสือ้ วอร์ม ท่าทางเหมือนเพิง่ กลับมาจากการเล่น ฟุตบอล “คุณคือ...” จางเสวียนเริ่มทบทวนรายชื่อเพื่อนทั้งหมดของลั่วฉีอย่างรวดเร็ว ดู เหมือนหนุม่ นักกีฬาหน้าหล่อคนนีจ้ ะชือ่ ซวีโหยวเหนียน สนิทสนมกับลัว่ ฉีพอ สมควร ได้ยินว่าเป็นคนเจ้าชู้และมีแฟนสาวหลายคน เป็นจริงตามคาด เพราะอีกฝ่ายแนะน�ำตัวเองด้วยน�้ำเสียงสบายๆ “ผมชือ่ ซวีโหยวเหนียนครับ เมือ่ กีผ้ มไปรับจดหมายทีห่ อ้ งโอเปอเรเตอร์ 61


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ได้ยินว่าพวกคุณมาถามหาจวีจิงจิง ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องของลั่วฉีหรือ เปล่าครับ?” จางเสวียนกับเนีย่ สิงเฟิงมองดูตากันแวบหนึง่ ท�ำให้ซวีโหยวเหนียน เข้าใจไปว่าตนเองคงแสดงออกมากเกินไปจึงพูดเป็นเชิงขออภัย “หลังจากที่ลั่วฉีหายออกจากบ้านไปก็มีคนของส�ำนักงานนักสืบมา ซักถามจวีจิงจิงเรื่องนี้ ผมเลยนึกว่าพวกคุณเป็นพวกเดียวกัน” “พวกเราเป็นทีมเดียวกันครับ” จางเสวียนยอมรับง่ายๆ “พอดีนกั สืบ คนก่อนติดธุระนิดหน่อย มาไม่ได้ชั่วคราว พวกเราเลยมาแทน ไม่ทราบคุณ พอจะรู้เรื่องอะไรบ้างไหมครับ? ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย” “ทีร่ ผู้ มก็เล่าไปหมดแล้ว ความจริงก็ไม่มอี ะไรมาก ผมคิดว่าลัว่ ฉีคง มีปญ ั หากับทีบ่ า้ น เลยออกไปอยูข่ า้ งนอกชัว่ คราว คุณไม่รหู้ รอกว่าทีบ่ า้ นเธอ หัวโบราณมากแค่ไหน ลั่วฉีน่ะก็ได้แต่ทนมาตลอด” เรื่องนี้ดูจากตัวลั่วเหยียนก็พอจะเดาได้แล้ว จางเสวียนจึงถามต่อ “คุณรู้จักแฟนของลั่วฉีไหม?” “ไม่รู้จักครับ ผมเพิ่งรู้ว่าลั่วฉีมีแฟนตอนที่เธอหายตัวไปนี่ละ ถึง พวกเราจะค่อนข้างสนิทกัน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะคุยเรื่องส่วนตัวกันได้” “แล้วภาพนี้ คุณเคยเห็นไหม?” จางเสวียนหยิบภาพถ่ายของบ้านปริศนาหลังนั้นออกมาจากแฟ้ม ข้อมูล ส่งให้อีกฝ่ายดู ซวีโหยวเหนียนรับไปดูแวบหนึ่งแล้วสั่นศีรษะอย่าง รวดเร็ว “ไม่เคยเห็นครับ มันเกี่ยวกับเรื่องที่ลั่วฉีหายตัวไปด้วยเหรอครับ?” “ไม่หรอกครับ ผมแค่ถามดูเท่านั้น” “รุ่นพี่!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามายื่นนาฬิกาเรือนทองกับแฟ้ม 62


ตอน โลงมงคล พลาสติกใสให้ซวีโหยวเหนียน “เล่นบอลเสร็จก็ทิ้งทุกอย่างเลยนะครับ” “ขอบใจ” ซวีโหยวเหนียนรับของมาจากอีกฝ่าย จางเสวียนเหลือบมองจึงเห็น ว่าสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นแฟ้มพลาสติกใสนัน้ ดูคล้ายต�ำราพยากรณ์ คิว้ ของเขายกขึน้ ทันที เมื่อพบว่าหนุ่มนักศึกษาคนนี้อาจเป็นคนในสายวิชาชีพเดียวกัน บทสนทนาถูกขัด จางเสวียนจึงถือโอกาสบอกลาซวีโหยวเหนียน เด็กหนุ่มคอยจนคนแปลกหน้าทั้งสองเดินจากไปไกลแล้ว จึงรีบหยิบมือถือ ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนและกระซิบเสียงเบา “คนของส�ำนักงานนักสืบมาหาข้อมูลอีกแล้ว ฉันควรท�ำยังไง?” ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นจึงมีเสียงหัวเราะหึๆ “ซีเหมินเสวี่ยโดนสั่งสอนไปขนาดนั้น พวกมันยังไม่เข็ดอีกเหรอ? นายมาหาฉันหน่อย ฉันจะให้ยันต์ไว้หลายๆ แผ่น ถ้าหากพวกมันมาอีก จะ ได้ใช้เหมือนครั้งก่อน” ทันทีทอี่ อกจากมหาวิทยาลัย จางเสวียนก็รบี หยิบแฟ้มข้อมูลมาเปิด ดู จนเนี่ยสิงเฟิงต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย “คุณดูอะไร?” “นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ แต่ใส่เสือ้ ผ้าแบรนด์เนม แถมคาด นาฬิกาเรือนทอง ผมก็เลยสงสัยว่าครอบครัวของซวีโหยวเหนียนเป็นใคร น่ะสิครับ” ในข้อมูลบอกว่าครอบครัวของซวีโหยวเหนียนค่อนข้างมีฐานะ แต่ ก็ไม่ถงึ ขัน้ หรูหราฟูฟ่ า่ ทว่าข้อมูลเพียงแค่นยี้ งั ไม่อาจน�ำมาตัดสินได้ นักศึกษา สมัยนีใ้ ช้เงินเป็นเบีย้ กันทัง้ นัน้ ไม่แน่วา่ ซวีโหยวเหนียนอาจจะท�ำงานพิเศษที่ 63


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 ให้รายได้ดี แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ เขาโกหกเรื่องที่บอกว่าไม่เคยเห็น ภาพถ่าย ตามธรรมชาติของคนเรานั้น ยิ่งต้องการปิดบังบางอย่าง ก็ยิ่งแสดง ท่าทางน่าสงสัยออกมามากเป็นพิเศษ เช่นในครั้งนี้ ปกติแล้วการดูภาพถ่าย จะต้องใช้เวลาพินิจพิเคราะห์และนึกทบทวนอยู่สักครู่ใหญ่ จึงจะตอบได้ว่า เคยเห็นสิ่งที่อยู่ในภาพนั้นมาก่อนหรือไม่ แต่เมื่อครู่ซวีโหยวเหนียนเห็นภาพ เพียงแวบเดียวก็ตอบปฏิเสธออกมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเนี่ยสิงเฟิงฉายแววประหลาดทันทีหลังจากที่จางเสวียน อธิบายสมมุติฐานและการวิเคราะห์ของตนจบ “มีอะไรเหรอครับ?” “เปล่า” เนี่ยสิงเฟิงหัวเราะ ‘คิดไม่ถึงว่าหมอนี่จะมีช่วงเวลาที่เอาจริงเอาจังอย่างมีหลักการ แบบนี้ด้วย ไม่เสียทีที่ท�ำงานอยู่ส�ำนักงานนักสืบ’ แน่นอนว่าจางเสวียนไม่เชือ่ ค�ำปฏิเสธนัน้ เขาจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตา จับพิรุธเต็มที่ “ท�ำไมผมถึงรู้สึกเหมือนคุณก�ำลังพูดอยู่ในใจว่า ‘ยังดีที่หมอนี่ไม่โง่ เท่าไร’ นะ?” “เลิกระแวงผมเสียทีเถอะน่า ตกลงมัย้ ?” เนีย่ สิงเฟิงทีถ่ กู ล่วงรูค้ วาม คิดพึมพ�ำออกมาพร้อมรอยยิม้ เฝือ่ น “ตาข้างไหนของคุณทีเ่ ห็นว่าผมคิดแบบ นั้น?” “ทั้งสองข้างนั่นละ!” เนีย่ สิงเฟิงเพิง่ รูว้ า่ ทีแ่ ท้ความเจ้าคิดเจ้าแค้นของจางเสวียนก็มมี าก พอๆ กับความรักเงินของเขานั่นเอง 64


ตอน โลงมงคล เนือ่ งจากการมาทีม่ หาวิทยาลัยครัง้ นีย้ งั ไม่ได้ขอ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชน์ เพิ่ม จางเสวียนจึงตัดสินใจกลับบ้านและหยิบเอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาค้นหาข้อมูล ในอินเทอร์เน็ต เรื่องแรกที่เขาตั้งใจสืบค้นคือข้อมูลเกี่ยวกับฮวงจุ้ยของบ้าน ปริศนาในภาพถ่าย เพราะบ้านแบบนี้มีไม่มากนัก ไม่น่าจะหาข้อมูลยาก เนีย่ สิงเฟิงเดินไปชงนำ�้ ชามาสองถ้วย ถึงอย่างไรนีก่ เ็ ป็นบ้านของเขา ดังนั้นเขาจึงคุ้นกับทุกอย่างที่นี่ดี จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งข้างจางเสวียน แล้ว เริ่มพลิกอ่านข้อมูลที่อีกฝ่ายน�ำกลับมาด้วย ภายในห้องนั่งเล่นเงียบสนิท จู่ๆ จางเสวียนที่ก�ำลังก้มหน้าก้มตาก็ เงยหน้าขึ้นถาม “คุณว่าบ้านโลงศพหลังนั้นจะเกี่ยวข้องกับจี้รูปโลงศพที่เราเจอบน ตัวโครงกระดูกวันนี้หรือเปล่าครับ?” “คุณอยากจะบอกอะไร?” “มันเป็นแค่ความคิดเพ้อเจ้อน่ะครับ” จางเสวียนว่า “โครงกระดูกนัน่ คงไม่ใช่ลั่วฉี ใช่ไหมครับ?” เป็นความคิดเพ้อเจ้อจริงๆ คนที่เพิ่งหายตัวไปแค่สองสัปดาห์จะ กลายสภาพเป็นโครงกระดูกขาวโพลนไปได้อย่างไร เนี่ยสิงเฟิงจึงยิ้มนิดๆ ขณะให้ความเห็น “ผมนับถือการวิเคราะห์แบบกล้าหาญชาญชัยของคุณจริงๆ” พูดจบเขาก็เบนสายตากลับไปที่แฟ้มข้อมูลอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ รอยยิ้มของเนี่ยสิงเฟิงมีอันต้องแข็งค้าง เมื่อเขาเห็นบันทึกการสืบสวนของ ซีเหมินเสวี่ย... วันที่ลั่วฉีหายตัวไปนั้น เธอได้ไปที่โกลด์สโตนกอล์ฟคลับ สถานที่ เดียวกับที่พวกเขาไปในวันนี้นั่นเอง 65


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “คุณไม่คดิ ว่ามันบังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ?” จางเสวียนชะโงกหน้า เข้ามาอ่านข้อมูลที่แสนจะประจวบเหมาะนี้ นัยน์ตาสีฟ้าเปล่งประกายขึ้น ทันที “แต่ถ้าหากลั่วฉีหายตัวไปที่นั่น ทั้งต�ำรวจทั้งซีเหมินเสวี่ยก็น่าจะรู้และ สืบหาร่องรอยได้ตั้งแต่แรกแล้วสิ” “เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องลองตรวจสอบดูก่อน” เนีย่ สิงเฟิงลงมือท�ำทันทีทพี่ ดู จบ อย่างแรกคือเขาโทรไปหาเว่ยเจิง้ อี้ ที่กรมต�ำรวจ แต่อีกฝ่ายยังกลับไปไม่ถึง พอเจ้าหน้าที่ต�ำรวจชั้นผู้น้อยที่รับ สายรูว้ า่ ผูท้ อี่ ยูใ่ นสายคือเนีย่ สิงเฟิง ก็รบี ให้เบอร์มอื ถือของเว่ยเจิง้ อีม้ าโดยไม่ ซักถาม ได้ยินแบบนั้นแล้วจางเสวียนถึงกับบ่นอุบด้วยความอิจฉา “ท่านประธานนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แค่รู้ว่าเป็นคุณ เจ้าหน้าที่นั่นก็ รีบให้เบอร์มาเลย” ทีจ่ ริงเรือ่ งนีไ้ ม่เกีย่ วกับต�ำแหน่งประธานบริษทั ของเขาสักนิด แต่นา่ จะเป็นเรือ่ งความสนิทสนม ซึง่ เนีย่ สิงเฟิงเองก็ไม่เข้าใจ เพราะดูจากวิธพี ดู จา ที่บรรดานายต�ำรวจทั้งหลายใช้พูดกับเขาแล้ว เหมือนคนเหล่านั้นจะคุ้นเคย กันกับเขาเป็นอย่างดี เนี่ยสิงเฟิงต่อสายหาเว่ยเจิ้งอี้เพื่อบอกเรื่องของลั่วฉี โดยบอกกับ อีกฝ่ายว่าเขากับลั่วฉีเป็นเพื่อนกัน และก่อนที่จะหายตัวไป เธอได้เข้าไปที่ กอล์ฟคลับ เขาจึงอยากรบกวนให้ช่วยตรวจดูกล้องวงจรปิดของที่นั่น เพื่อดู ว่ามีภาพของลัว่ ฉีอยูห่ รือไม่ ซึง่ แน่นอนว่าเว่ยเจิง้ อีต้ อบตกลงด้วยความเต็มใจ หลังวางสาย จู่ๆ เนี่ยสิงเฟิงก็ฉุกคิดถึงผ้าพันคอสีแดงที่พวกเขาพบ ในล็อกเกอร์ขึ้นมา พร้อมกันนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง “ไม่รวู้ า่ ผ้าพันคอสีแดงผืนนัน้ มีอะไรเกีย่ วข้องกับลัว่ ฉีหรือเปล่านะ?” จางเสวียนพูดออกมาราวกับอ่านใจเขาออก 66


ตอน โลงมงคล “น่าจะไม่ เพราะผ้าพันคอนั่นอยู่ในล็อกเกอร์ธรรมดา แต่ล็อกเกอร์ ของลั่วฉีน่าจะเป็นของสมาชิกมากกว่า” เนี่ยสิงเฟิงพูดช้าๆ อย่างใคร่ครวญ แต่ไม่รู้เพราะอะไร เขาถึงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในสมมุติฐานนี้เอาเสียเลย ครึ่งชั่วโมงต่อมา เว่ยเจิ้งอี้ก็โทรกลับมาบอกว่าได้ตรวจภาพจาก กล้องวงจรปิดเรียบร้อยแล้ว พบว่าลั่วฉีออกจากกอล์ฟคลับแห่งนั้นไปตอน หกโมงครึ่ง จุดที่กล้องจับภาพได้ค่อนข้างมืดมากท�ำให้เห็นภาพของเธอ ไม่ค่อยชัด แต่พนักงานที่คลับคนหนึ่งจ�ำเธอได้ดี เว่ยเจิง้ อีไ้ ม่ใช่เจ้าหน้าทีซ่ งึ่ รับผิดชอบคดีการสืบหาตัวลัว่ ฉี ดังนัน้ เขา จึงไม่คอ่ ยรูข้ อ้ มูลมากนัก พอถูกเนีย่ สิงเฟิงซักถามรายละเอียดเพิม่ เติม เขาก็ ย้อนกลับไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดซ�้ำจนแน่ใจว่าลั่วฉีหายตัวไปหลังออก จากกอล์ฟคลับไปแล้ว “ท่านประธาน คุณสงสัยว่าโครงกระดูกนั่นอาจเป็นลั่วฉีเหรอครับ? แต่ในทางนิตเิ วชมันไม่นา่ เป็นไปได้นะ เอาอย่างนีด้ ไี หม ผมจะให้คนเอา DNA ไปตรวจดูก่อน ได้ผลยังไงจะรีบแจ้งให้คุณทราบ” ค�ำพูดที่ราวกับก�ำลังรายงานต่อผู้บังคับบัญชาของเว่ยเจิ้งอี้นั้นท�ำ ให้เนี่ยสิงเฟิงไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะไม่แน่ใจว่าการที่อีกฝ่ายจะน�ำข้อมูล ภายในมาบอกกับเขาซึ่งเป็นคนนอก จะเป็นการผิดวินัยหรือไม่ “ไม่ว่าโครงกระดูกนั่นจะใช่ลั่วฉีหรือไม่ อย่างน้อยพวกเขาก็มี จุดร่วมกันอย่างหนึ่ง นั่นคือโลงศพ บางทีนี่อาจเป็นเบาะแสก็ได้” จางเสวียนงึมง�ำขณะค้นหาข้อมูลไปด้วย ทันใดนัน้ ก็มเี สียงตึงตังดัง มาจากด้านนอก เหมือนมีบางอย่างก�ำลังจะพังบ้านเข้ามา เนี่ยสิงเฟิงกับ จางเสวียนเงยหน้าขึ้นสบตากัน ก่อนจะหันไปหาต้นก�ำเนิดเสียง ภาพที่เห็น คืออี้ก�ำลังเอาหัวโหม่งกระจก แต่สุดท้ายกลับท�ำได้แค่เกาะติดหนึบอยู่บน 67


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 กระจกใส จากนั้นร่างของเจ้าค้างคาวน้อยก็ค่อยๆ รูดลงไปกองอยู่กับพื้น “เจ้าโง่นี่! ลืมคาถาอีกแล้ว” จางเสวียนบ่นอย่างสุดแสนจะเซ็งกับ เจ้าภูตพิทักษ์ขี้เมาสมองทึบที่เขาดันรับมันเข้าสังกัดเพราะความโลภของ ตัวเอง ร่างของอี้ที่กลิ้งอยู่กับพื้นยันตัวขึ้นมานั่งโงนเงน มันสะบัดหัวไปมา เพือ่ ไล่ดวงดาวสีทองทีพ่ ราวพร่างอยูร่ อบหัวออก ก่อนจะค่อยๆ กระพือปีกบิน เข้ามาใหม่ ครั้งนี้มันไม่ลืมใช้คาถา ท�ำให้สามารถเข้ามาในบ้านได้โดย สวัสดิภาพ จากนั้นก็บินวนไปรอบห้องไม่ยอมหยุด “ถ้านายไม่อยากถูกสัง่ งดเหล้าละก็ อยูน่ งิ่ ๆ ห้ามขยับ ห้ามส่งเสียง!” จางเสวียนทีก่ �ำลังท�ำงานอย่างขะมักเขม้นมองร่างค้างคาวน้อยทีบ่ นิ วนไปมา จนตาลาย แล้วออกค�ำสั่งด้วยน�้ำเสียงเฉียบขาด ค�ำพูดนีศ้ กั ดิส์ ทิ ธิพ์ อใช้ เพราะท�ำให้อสี้ ามารถอยูน่ งิ่ ๆ ได้ในทันที มัน ร่อนตัวไปเกาะที่ราวบันได ในอ้อมแขนปราศจากกระป๋องเบียร์ ก้มหน้างับ เล็บเล็กๆ เอาไว้ในปากด้วยอาการตัวสั่น “เป็นอะไรไปหรือเปล่า?” เนี่ยสิงเฟิงถามเมื่อเห็นท่าทางผิดปกติ ของอี้ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกขอรับ เพียงแต่...จู่ๆ ที่สนามกอล์ฟก็มี กลิ่นเหม็นคลุ้งจนข้าทนไม่ไหว ต้องรีบหนีออกมา ที่จริงข้าแค่กะว่าจะไปหา ที่สงบนอนพักสักงีบ แต่พอตื่นขึ้นมา พวกท่านก็หายไปหมดแล้ว ข้าเลยรีบ บินกลับมาที่นี่ อึ๋ย! น่าขยะแขยงชะมัด” พอพูดถึงกลิน่ ทีไ่ ม่นา่ พิสมัยนัน้ อีก้ ร็ สู้ กึ ครัน่ เนือ้ ครัน่ ตัวจนไม่อาจอยู่ นิ่งได้ ต้องกางปีกบินวนไปทั่วห้องอีกครั้ง “กลิ่นเหม็นคลุ้ง?” 68


ตอน โลงมงคล สัญชาตญาณของสัตว์ฉับไวกว่ามนุษย์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค้างคาวที่บ�ำเพ็ญตบะมานานอย่างอี้ จางเสวียนนึกถึงโครงกระดูกที่งมขึ้น จากสระ จึงเอ่ยถาม “เกี่ยวกับธาตุหยินบนร่างศพหรือเปล่า?” “กลิ่นแรงกว่านั้นอีก ลูกพี่ ข้าละเกลียดกลิ่นแบบนั้นที่สุดในชีวิต เลย!” อี้กระพือปีกไปเล่าไป คล้ายยังหวาดกลัวไม่หาย ความชิงชังทีเ่ พิม่ พูนขึน้ จนเป็นความรังเกียจเดียดฉันท์ และข้ามขัน้ ไปเป็นความหวาดกลัว ท�ำให้มันเลือกที่จะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในซอกลึก ของตูล้ อ็ กเกอร์ นีเ่ ป็นสาเหตุทที่ �ำให้มนั ไม่ได้ยนิ เสียงเรียกของจางเสวียน แต่ เรื่องนี้ค้างคาวน้อยไม่กล้าเล่าออกมา “แสดงว่าทีน่ นั่ มีปญ ั หาจริงๆ ท่านประธาน ต่อไปคุณอย่าไปทีน่ นั่ อีก นะครับ พื้นดวงชะตาคุณเป็นหยินอยู่แล้ว พลังกังก็แรง พวกภูตผีวิญญาณ จะแห่แหนกันมาหาได้นะครับ” เนี่ยสิงเฟิงไม่ค่อยใส่ใจค�ำเตือนนี้ของจางเสวียนนัก เพราะเขาไปตี กอล์ฟทีค่ ลับนัน้ เป็นประจ�ำและไม่เคยเกิดเรือ่ งขึน้ เลยสักครัง้ จนกระทัง่ ...เขา ได้รจู้ กั กับจางเสวียนนัน่ ละ เรือ่ งแปลกๆ ถึงได้ประดังเข้ามาชนิดไม่หยุดหย่อน ทว่าเมื่อมองหน้าคนที่ยืนข้างกายแล้ว ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากให้ โอกาสเลือกใหม่ เขาก็ยังเลือกที่จะมีจางเสวียนอยู่ข้างกายแบบนี้แน่นอน! แตกต่างอย่างสิ้นเชิง! เพราะด้านจางเสวียนนั้น ตั้งแต่ได้พบแมวกวักแซ่เนี่ย ไม่เพียง ดวงดาวด้านการเงินจะพุ่ง ยังพ่วงโชคลาภเรื่องการงานมาด้วยอีกต่างหาก อย่างเช่นตอนนี้ที่เขาก�ำลังค้นหาข้อมูลเรื่องจี้รูปโลงศพอยู่ จู่ๆ ก็เจอข้อมูลที่ 69


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 มีคนเข้ามาพูดคุยทิ้งไว้โดยบังเอิญ ข้อความนั้นบอกว่าไปขอจี้รูปโลงศพมา จากอาจารย์ซู่ซื่อ1คนหนึ่งซึ่งอยู่นอกเมือง แม้จะไม่ได้บอกที่อยู่ไว้ชัดเจน แต่ ก็พอจะเดาได้จากค�ำบอกเล่าว่าเป็นที่ไหน จางเสวียนปิดคอมพิวเตอร์และ หันไปบอกเนี่ยสิงเฟิง “ท่านประธาน ผมจะออกไปนอกเมืองหน่อยนะครับ” “ผมไปด้วย” สัญชาตญาณบอกว่าคดีของลัว่ ฉีมเี งือ่ นง�ำมากกว่าทีเ่ ห็น เนีย่ สิงเฟิง จึงไม่วางใจที่จะปล่อยให้จางเสวียนออกไปสืบหาข้อมูลตามล�ำพัง จางเสวียนเหลือบมองดูอกี ฝ่ายแวบหนึง่ แล้วเนีย่ สิงเฟิงทีก่ �ำลังก้าว ไปหยิบกุญแจรถก็พูดออกมาโดยที่ตัวเขาเองยังไม่ทันจะเอ่ยปากสักค�ำ “คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก เราคนกันเอง” “ท่านประธาน ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ” “ตาทั้งสองข้างของคุณพูดแทนหมดแล้ว” จางเสวียนอ้าปากค้างก่อนจะเค้นเสียงพึมพ�ำออกมา “แมวกวัก ที่แท้คุณก็เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกันสินะ” ตอนแรกจางเสวียนคิดจะให้อไี้ ปด้วยกัน เพราะถึงอย่างไรสัญชาตญาณ ของสัตว์ก็ฉับไวกว่ามนุษย์ แต่เจ้าค้างคาวน้อยดันจิตอ่อน ชิงหนีไปนั่งยองๆ หลับตาปี๋อยู่ที่มุมห้อง ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรมันก็ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา “ท�ำไมอีถ้ งึ ได้กลัวขนาดนัน้ ?” เนีย่ สิงเฟิงถามระหว่างทีพ่ วกเขาก�ำลัง เดินทางออกไปนอกเมือง 1

อาจารย์ซู่ซื่อ หมายถึง ผู้ที่สามารถท�ำนายดวงชะตา และหาวิธีหลบเลี่ยงเภทภัยให้กับผู้คน ในยุคโบราณ

70


ตอน โลงมงคล “มีแต่ผีเท่านั้นละครับที่จะรู้” จางเสวียนบ่นพลางนึกเปรียบเทียบอยูใ่ นใจ เจ้าภูตพิทกั ษ์ปอดแหก นั่นสู้แมวกวักของเขาไม่ได้เลยสักนิด ครั้งนี้เขาเลือกไม่ผิดจริงๆ ดังนั้นไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น แค่เกาะติดแมวกวักแซ่เนี่ยไว้ได้ละเป็นดี! กว่าพวกเขาจะหลุดออกมานอกเมืองได้กเ็ ป็นเวลาพลบค�ำ่ รถคันหรู แล่นเลาะเลียบไปตามถนนในละแวกนัน้ เพือ่ ตามหาบ้านในภาพถ่าย กว่าจะ พบเป้าหมายท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว จางเสวียนบอกให้เนี่ยสิงเฟิงจอดรถห่าง จากตัวบ้านออกมาเล็กน้อย เพื่อแอบมองส�ำรวจจากด้านในรถก่อน ท่ามกลางความมืดสลัว บ้านหลังนัน้ ดูเรียบง่ายทว่าโดดเด่น เพราะ มันตัง้ อยูเ่ พียงล�ำพัง ไม่มเี พือ่ นบ้านทัง้ ด้านซ้ายและด้านขวา บรรยากาศโดย รอบจึงดูวงั เวง ส่วนหน้าตาของบ้านก็เหมือนกับในภาพถ่ายไม่ผดิ เพีย้ น เป็น บ้านหลังโตที่มีประตูบานใหญ่สีแดงสด ด้านข้างที่มุมประตูด้านหนึ่งมี ต้นหวายซูซ่ งึ่ แตกหน่อชูชอ่ โค้งตัวลงมา คิว้ ของเนีย่ สิงเฟิงขมวดเข้าหากันทันที เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างลอยผ่านหน้าประตูใหญ่ไปเป็นระยะ สิ่งนั้นท�ำให้เขา รู้สึกตัวเย็นวาบ “นั่นเรียกว่าต�ำแหน่งผีผ่านครับ” จางเสวียนอธิบาย “ต้นหวายซู่มี อ�ำนาจเรียกดวงวิญญาณเร่ร่อนให้มารวมกัน และถ้าหากถูกดึงเข้าไปที่ จุดดับ พวกเขาก็ตอ้ งวนเวียนอยูท่ บี่ า้ นหลังนัน้ ไม่สามารถไปไหนได้อกี มินา่ ล่ะ ไอหยินของทีน่ ถี่ งึ ได้แรงนัก!” พูดจบก็หนั ไปมองอีกฝ่าย “ท่านประธาน ท�ำไม คุณมองผมเหมือนจะเลื่อมใสแบบนี้ล่ะครับ?” “ผมแค่ประหลาดใจ...” “ไม่ตอ้ งประหลาดใจหรอกครับ ผมเคยบอกแล้วนีว่ า่ จะเป็นเทียนซือ ต้องอาศัยพรสวรรค์ด้วย ผมน่ะกินข้าวก้นส�ำนักมาตั้งแต่เกิดเชียวนะ” 71


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 จางเสวียนบอกแล้วก้าวลงจากรถ “ไปครับ เราไปท�ำความรู้จักเจ้าของบ้าน กันหน่อยดีกว่า ผมอยากรู้เหมือนกันว่าเขาคิดยังไง ถึงจงใจสร้างบ้านที่มี ธาตุหยินรุนแรงแบบนี้” คำ�่ คืนมืดมิด สัมผัสได้ถงึ พลังหยินอันแรงกล้า ขณะเดินข้ามถนนไป ยังตัวบ้าน พวกเขามองเห็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู เธอก�ำลัง ตบบานประตูอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนัน่ ทัง้ ทีต่ อนนัง่ อยูใ่ นรถพวกเขามอง ไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว “ฉันต้องการพบอาจารย์! ท�ำไมคนอื่นพบได้แต่ฉันพบไม่ได้!” หญิงสาวคนนั้นตะโกนถามอย่างเกรี้ยวกราด เสียงเรียบๆ ตอบมาจากอีกด้านของประตู “เพราะเธอไม่เหมือน พวกเขา ไปซะ แล้วต่อไปไม่ต้องมาอีก” “ฉันมาตั้งหลายครั้งแล้วนะ ฉันตั้งใจมาที่นี่จริงๆ ได้โปรดเถอะ” “ตั้งใจหรือไม่ ไม่ส�ำคัญ แต่เธอเข้ามาที่นี่ไม่ได้” ค�ำตอบบ่งบอกถึง ความไม่แยแสในความร้อนใจของหญิงสาวอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนเธอจะได้ยนิ เสียงฝีเท้าของพวกเขาทีด่ งั มาจากทางด้านหลัง หญิงสาวที่ตั้งท่าจะโวยวายต่อจึงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบวิ่งหนีไป ราวกับ กลัวว่าจะมีใครเห็นว่าเธอมาที่นี่ จางเสวียนมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวผู้นั้นไปอย่างแปลกใจ “ผมเพิ่งเคยเห็นหมอดูที่เก็บตัวขนาดนี้” “เขาเรียกว่ารักสันโดษ” เมื่อเห็นว่ามีผู้ถูกปฏิเสธ เนี่ยสิงเฟิงก็เริ่มไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะ สามารถเข้าพบเจ้าของบ้านได้งา่ ยๆ ดวงวิญญาณทีว่ นเวียนอยูบ่ ริเวณนัน้ พอ เห็นพวกเขาเดินเข้ามาก็พากันเปิดทางให้ เหลือแค่พวกดื้อด้านไม่กี่ตนที่ยัง 72


ตอน โลงมงคล วนเวียนอยู่ที่เก่า แต่พอจางเสวียนท�ำมือเป็นสัญลักษณ์อาคม พวกมันก็ แตกกระเจิงไปทันที ด้านหลังบานประตูใหญ่เงียบกริบ จางเสวียนลองเคาะใหม่อีกครั้ง ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา “ไม่ว่าพวกคุณจะมีธุระอะไร ให้มาใหม่ อีกครัง้ ตอนเทีย่ งวันพรุง่ นี”้ นำ�้ เสียงเรียบนิง่ นัน้ บ่งบอกว่าเป็นคนเดียวกับชาย คนเมื่อครู่ “มีเรือ่ งส�ำคัญทีเ่ กีย่ วกับชีวติ คน คุณพอจะให้โอกาสพวกเราเข้าพบ สักหน่อยได้หรือเปล่าครับ?” “นี่เป็นกฎ ต้องขอโทษด้วย” “แต่ว่า...” ยังไม่ทันพูดจบ จางเสวียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป เหลือ ไว้เพียงความเงียบสงบ “หยิ่งชะมัด!” ถูกปฏิเสธอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ได้พบหน้าคนทีต่ งั้ ใจมาหา จางเสวียน โมโหจนต้องแค่นเสียงออกมาค�ำหนึ่ง จากนั้นจึงกวาดตามองไปรอบๆ พอ เห็นว่าก�ำแพงบ้านไม่สูงนักก็ท�ำท่าจะปีนก�ำแพงเข้าไป แต่ถูกเนี่ยสิงเฟิง ดึงตัวไว้เสียก่อน “พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้ เรารู้ที่อยู่แล้ว” ยั ง ไม่ ทั น จะได้ ท�ำอะไรก็ ต กม้ า ตาย ขณะที่ นั่ ง รถกลั บ เข้ า เมื อ ง จางเสวียนจึงโทรหาจั่วเทียนเพื่อถามรายละเอียดเรื่องที่ซีเหมินเสวี่ยล้มป่วย ขึน้ มากะทันหัน จัว่ เทียนบอกว่าเขาเองก็ไม่รรู้ ายละเอียดมากนัก รูแ้ ค่วา่ เวลา นี้ซีเหมินเสวี่ยยังอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลเสิ้งอัน จางเสวียนจึง วางสายและหันไปมองเนี่ยสิงเฟิง ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรแต่ขยับพวงมาลัย 73


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 กลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลเสิ้งอันทันที “ท่านประธาน คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมอยากจะไปดูซีเหมินเสวี่ย ท�ำ เหมือน...” “หยุดเลย! ผมไม่ได้อยากเป็นพยาธิในท้องคุณ” “หึๆ ผมแค่จะบอกว่าคุณอ่านใจผมออกต่างหาก” เนี่ยสิงเฟิงจัดเป็นคนคุ้นหน้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ ดังนั้นพอ นางพยาบาลได้ยนิ ว่าเขามาเยีย่ มซีเหมินเสวีย่ ก็บอกหมายเลขห้องพักคนไข้ ให้อย่างไม่อิดออด ซีเหมินเสวี่ยยังคงไม่ได้สติ ที่ข้างเตียงมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเฝ้าอยู่ เขา มีชอื่ ว่าซีเหมินถิง มีศกั ดิเ์ ป็นน้องชาย แต่เดิมพวกเขาก็ท�ำคดีของลัว่ ฉีมาด้วย กัน “ซีเหมินเสวี่ยเป็นผู้ชายหรอกหรือนี่!” จางเสวียนอุทานเมื่อได้เห็น ร่างของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เนี่ยสิงเฟิงหันไปขึงตาใส่ “ซีเหมินเสวี่ยเรียนจบจากโรงเรียนต�ำรวจ เป็นแชมป์วูซู2ชายระดับประเทศสามปีซ้อน คุณคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือ ผู้ชายล่ะ?” “โอ้โห! ท่านประธาน คุณนี่ช่างรอบรู้จริงๆ เลยนะครับ” จางเสวียน มองอีกฝ่ายด้วยแววตาเลื่อมใส ไม่ใช่วา่ เขารอบรู้ แต่เพราะซีเหมินเป็นตระกูลทีม่ ชี อื่ เสียง โดยเฉพาะ ในแวดวงนักสืบแทบไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อนี้ อ้อ! จะยกเว้นอยู่บ้างก็เจ้า นักสืบคนนี้นี่ละ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรซะบ้างเลย 2

วูซู คือศิลปะการต่อสู้ของชาวจีนที่มีมายาวนาน มีความหมายว่า วิทยายุทธ ชาวจีนที่น�ำวิชา นี้ไปเผยแพร่มักเรียกขานตามภาษาพื้นเมืองว่ากังฟู คนทั่วไปจึงรู้จักวิชาวูซูภายใต้ชื่อเรียกว่า กังฟู ต่อมาเมื่อถูกพัฒนามาเป็นกีฬา จึงปรับการเรียกขานให้ถูกต้องว่า กีฬาวูซู (WUSHU)

74


ตอน โลงมงคล “ส�ำหรับพวกเรา เรื่องของพี่ใหญ่เป็นอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงจริงๆ เพราะฝ่ายตรงข้ามแน่กว่า เราเลยพลาด ส่วนเรือ่ งค�ำสาปอะไรนัน่ ผมไม่เชือ่ เลยสักนิด!” พอรู้ว่าจางเสวียนเป็นใคร ซีเหมินถิงก็ระบายความรู้สึกแบบใส่ อารมณ์เต็มที่ “ค�ำสาป?” เนี่ยสิงเฟิงทวนค�ำ ซีเหมินถิงเงียบเสียงทันทีหลังรู้ว่าตนเองพลั้งปากออกไปแล้ว เรื่อง นี้เกี่ยวพันกับชื่อเสียงของตระกูลซีเหมิน เขาจึงไม่ควรพูดมาก เนี่ยสิงเฟิงมองดูซีเหมินเสวี่ยที่นอนสลบอยู่แล้วพูดขึ้นด้วยเสียง เรียบๆ “ผมคิดว่าส�ำหรับการเป็นนักสืบทีย่ อดเยีย่ ม สิง่ ทีค่ วรให้ความส�ำคัญ เป็นอันดับแรกไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรีหรือชื่อเสียง แต่เป็นความสามารถในการ คลี่คลายคดีเพื่อให้ความจริงปรากฎออกมาให้เร็วที่สุดต่างหาก ถ้าหาก ซีเหมินเสวี่ยไม่อยู่ในสภาพนี้ เขาคงบอกเราว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เพื่อไม่ ให้พวกเราท�ำผิดซ�้ำรอย” สมกับเป็นผู้บริหารใหญ่ ใช้ค�ำพูดค�ำจาหว่านล้อมกล่อมคนได้ไม่ เป็นสองรองใครเลยจริงๆ! จางเสวียนมองเนีย่ สิงเฟิงด้วยแววตาชืน่ ชมศรัทธาอย่างสุดหัวใจ ซึง่ เนีย่ สิงเฟิงเองก็รบั รูถ้ งึ ‘สายตาสือ่ ความนัย’ ของอีกฝ่าย ทว่าเมือ่ มีคนนอกอยู่ ด้วยแบบนี้ เขาก็ได้แต่ท�ำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อได้ยินประโยคเป็นเหตุเป็นผลของเนี่ยสิงเฟิง ซีเหมินถิงก็ถึงกับ นิง่ งันไปชัว่ ขณะ แน่นอนว่าเด็กหนุม่ ย่อมไม่มที างคิดไตร่ตรองได้อย่างเจนจัด เท่ากับเนี่ยสิงเฟิงอยู่แล้ว สุดท้ายจึงยอมเปิดปากอย่างง่ายดาย 75


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “เรื่องนี้มันแปลกๆ มาตั้งแต่แรกแล้ว แถมตอนหลังพี่ใหญ่ยังไม่ให้ ผมติดตามไปด้วย เขาบอกว่ามันอันตรายเกินไป ผมคิดอยูแ่ ล้วว่าเขาจะต้อง รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแน่” ซีเหมินถิงเล่าว่าหลังจากที่รับคดีนี้มาก็เกิดอุบัติเหตุแปลกๆ ที่หา สาเหตุไม่ได้ และแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็ร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ส�ำหรับ ครอบครัวของพวกเขาแล้ว เรือ่ งร้ายเหล่านีเ้ ป็นสิง่ ทีต่ อ้ งพบเจอเป็นประจ�ำ จึง ไม่มใี ครใส่ใจมากนัก ทีน่ า่ กลัวคือ เมือ่ หนึง่ สัปดาห์กอ่ น จูๆ่ ซีเหมินเสวีย่ ก็เริม่ อาเจียนออกมาเป็นเลือด บนตัวมีรอยเขียวชำ�้ ผุดขึน้ มาไม่หยุด แล้วในคืนนัน้ เขาก็ตดั สินใจออกจากบ้านไปเพียงล�ำพัง ซีเหมินถิงจะตามไปด้วยแต่ถกู ห้าม ไว้ ตอนนั้นสีหน้าของซีเหมินเสวี่ยแย่มาก เขาบอกน้องชายว่า ‘พวกมันมา แล้ว อย่าปล่อยให้พวกมันท�ำส�ำเร็จ’ จากนั้นก็มีคนพบซีเหมินเสวี่ยที่อาการ เพียบหนักนอนอยูร่ มิ ถนน และตกอยูใ่ นสภาพเจ้าชายนิทราอย่างทีเ่ ห็นอยูใ่ น ตอนนี้ “ถ้าสงสัยว่าเป็นเรือ่ งของค�ำสาป ท�ำไมไม่เชิญนักพรตมาดูอาการ?” “เชิญมาแล้วครับ แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่พวกสิบแปดมงกุฏทั้งนั้น ผมคิดว่าพี่ชายน่าจะถูกพิษ แต่หลายวันก่อนผลการตรวจบอกว่าไม่พบสาร พิษในร่างกายเขา” จางเสวียนก้าวเข้าไปจับชีพจรของซีเหมินเสวี่ย พบว่าร่างกายเย็น ชืด สามวิญญาณเจ็ดจิตแตกซ่าน และขณะนีก้ �ำลังเกิดจิตจร3การกระอักเลือด คือสัญญาณทีด่ วงจิตเริม่ จรออก ท�ำให้ซเี หมินเสวีย่ เริม่ มีสภาพเป็นศพเดินได้ 3

ตามความเชือ่ ของชาวจีนโบราณ มนุษย์คนหนึง่ ต้องมีสามวิญญาณ (ดิน ฟ้า ชีวติ ) และเจ็ดจิต (ดีใจ โกรธ เศร้า กลัว โลภ รัก และร้าย) และเชื่อว่ามนุษย์เราจะตายอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 7 เมื่อดวงจิตสุดท้ายออกจากร่าง ค�ำว่า “จิตจร” หมายถึงการที่จิตก�ำลังเคลื่อนออกจากร่าง ถ้า หากออกไปครบเจ็ดดวงก็หมายถึงต้องตายเท่านั้น

76


ตอน โลงมงคล ในวิชาเต๋ามีวิชาที่เรียกว่าสลายวิญญาณ ซึ่งจะทิ้งร่องรอยลักษณะนี้ไว้ แต่ จางเสวียนยังคิดไม่ออกว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ใช้วิชานี้ เนี่ยสิงเฟิงปลอบใจซีเหมินถิงอยู่หลายประโยคก่อนขอตัวกลับ แต่ พวกเขาเพิ่งจะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยมาได้ไม่กี่ก้าว ซีเหมินถิงก็วิ่งตาม มาเรียกไว้ และยื่นของชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งให้ “หลังจากพีใ่ หญ่หมดสติไป ผมก็คน้ เจอเจ้านีอ่ ยูใ่ นถังขยะในห้องเขา พวกคุณลองดูนะครับว่าพอจะใช้ช่วยเรื่องคดีได้ไหม” ภายใต้แสงไฟสลัวนั้น จี้รูปโลงศพสีแดงเข้มซึ่งคล้องอยู่กับสร้อย สีด�ำแกว่งไกวอยู่บนปลายนิ้วของซีเหมินถิง ส่องประกายวิบวับดูน่าพิศวง จางเสวียนรับมาดูโดยละเอียดแล้วพบว่าลักษณะของมันเหมือนกับ จีซ้ งึ่ พวกเขาพบทีโ่ ครงกระดูกไม่มผี ดิ เพียงแค่จชี้ นิ้ นีท้ �ำจากไม้ เขาเปิดฝามัน ออก ด้านในว่างเปล่า มีเพียงภาพแกะสลักลวดลายแปลกตาคล้ายยันต์ แต่ น่าเสียดายที่ฝีมือยังไม่ถึงขั้น จึงอ่านไม่ออก ถึงกระนั้นความรู้สึกเย็นเยียบก็ แผ่ออกมาจากโลงไม้นั้นจนเขารู้สึกได้ จางเสวียนอยากเก็บสิ่งนี้ไว้ตรวจสอบให้แน่ชัด แต่เนี่ยสิงเฟิงกลับ แย่งเอาไป แล้วหันไปยื่นคืนให้ซีเหมินถิง “หน้าตามันดูเหมือนยันต์ คุณน่าจะเก็บเอาไว้ เผื่อมันจะช่วย คุ้มครองคุณได้” แววตาของซีเหมิงถิงฉายแววไม่เชื่อถือนัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากรับของคืนไปแล้วบอกลาพวกเขา จางเสวียนเอ่ยถามทันทีทอี่ อกจาก โรงพยาบาล “ท�ำไมคุณไม่เอาสร้อยนั่นกลับมาด้วย? ของนั่นต้องมีมนตร์ด�ำแน่ ซีเหมินถิงเก็บไว้อาจเกิดเรื่องก็ได้” 77


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 “งัน้ เหรอ แต่ผมไม่เห็นรูส้ กึ ถึงมนตร์ด�ำอะไรเลยนะ” เนีย่ สิงเฟิงมอง จางเสวียนด้วยความสงสัย “คุณรู้สึกแปลกๆ งั้นเหรอ?” “แค่รู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อย” จางเสวียนไม่เคยคิดต�ำหนิอกี ฝ่ายทีไ่ ม่รสู้ กึ ถึงเรือ่ งนี้ เพราะนอกจาก จะไม่มสี มั ผัสทีห่ กแล้ว บนตัวเนีย่ สิงเฟิงยังมีพลังกังทีเ่ ข้มแข็งมากจึงสามารถ สะกดอ�ำนาจหยินได้ แต่อย่างไรเขาก็เชือ่ เหลือเกินว่าจีโ้ ลงศพนัน่ ไม่นา่ จะใช่ ของดี ไม่เช่นนั้นแล้ว ซีเหมินเสวี่ยคงไม่ทิ้งลงถังขยะไป “หิวจัง” จางเสวียนบ่นระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้าน วันหยุดสุดสัปดาห์แท้ๆ แทนที่จะได้พักผ่อน กลับถูกเรื่องโครง กระดูกในสระนำ�้ กับเรือ่ งการหายตัวไปของลูกสาวนักการเมืองมาท�ำเสียแผน จนต้องวิ่งวุ่นทั้งวัน ไม่มีเวลากระทั่งจะกินข้าวให้อร่อยสักมื้อ ความคิดที่จะท�ำอาหารกินกันเองก่อนหน้านี้ถูกลบล้างไปจนหมด สิน้ จางเสวียนโทรบอกให้อเี้ ตรียมอาหารไว้ หลายวันมานีก้ ว่าเขาจะเลิกงาน และกลับถึงบ้านก็ดกึ มากแล้ว อีจ้ งึ ต้องโทรสัง่ อาหารจากโรงแรมมาเตรียมไว้ ให้ ก็แมวกวักบอกเองนีน่ าว่าค่าอาหารให้หกั จากบัญชีของเขาได้เลย มีบริการ พิเศษสุดหรูที่ไม่ต้องควักกระเป๋าเองแบบนี้ จะอดใจไม่ใช้ได้หรือ? ดังนั้นตอนนี้อี้จึงคุ้นเคยกับการสั่งและรอรับอาหารที่มาส่งแล้ว อีก ทั้งเจ้าค้างคาวน้อยก็เริ่มมีพลังมากพอที่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ในช่วงสั้นๆ ได้เองแล้วด้วย “ท่านประธาน เรือ่ งบะหมีผ่ มต้องขอติดไว้กอ่ นนะครับ คราวหน้าผม จะท�ำให้คณ ุ กินแน่นอน” จางเสวียนหันไปขอโทษคนข้างตัวหลังวางสายจาก อี้ เนี่ยสิงเฟิงไม่ถือสา ซ�้ำยังนึกข�ำตอนที่จางเสวียนคุยสายกับอี้ ช่าง 78


ตอน โลงมงคล เป็นคู่หูหน้าทน แถมวิชาอาคมก็อยู่ในระดับสามวันดีสี่วันไม่ได้เรื่องเหมือน กันจริงๆ พอกลับถึงบ้าน อาหารที่สั่งก็มาส่งเรียบร้อยแล้ว เป็นซูชิจานใหญ่ กับซุปมิโสะ อี้ไม่ลืมสั่งสาเกขวดเล็กให้ตัวเองหนึ่งขวด และตอนนี้มันก็ก�ำลัง เกาะก�ำแพงจิบเหล้าอย่างส�ำราญใจ “นีก่ ด็ กึ มากแล้ว คุณค้างทีน่ เี่ ลยดีกว่า มีหอ้ งนอนตัง้ หลายห้อง เชิญ เลือกได้ตามสบายเลยครับ” จางเสวียนบอกกับเนี่ยสิงเฟิงหลังกินอาหารเสร็จ ซึ่งชายหนุ่มก็ เห็นด้วยกับความคิดนี้ ต้องตะลอนไปโน่นนี่มาทั้งวันเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่น้อย ดังนั้นหลังมื้อค�่ำผ่านพ้น ชายหนุ่มจึงเข้าไปอาบน�้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใน ห้องเดิมที่ตัวเองเคยอยู่ แม้จางเสวียนจะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว แต่ เนื่องจากที่นี่มีหลายห้อง ข้าวของของเขาจึงยังคงจัดเก็บไว้ที่เก่า ไม่ได้ย้าย ไปไหน พร้อมให้ใช้ได้ตลอดเวลา จางเสวี ย นเดิ น เข้ า ไปในห้ อ งนอนแล้ ว เปิ ด ที วี จากนั้ น จึ ง หยิ บ ชุดนอนเพื่อเตรียมตัวไปอาบน�้ำ เขาเห็นว่าไฟในห้องน�้ำเปิดอยู่ แต่เข้าใจว่า เนี่ยสิงเฟิงคงลืมปิดก่อนออกไป ทว่าทันทีที่เปิดประตูเข้าไป กลับเห็นร่าง ของใครคนหนึ่งยืนอยู่ในบริเวณเปลี่ยนเสื้อผ้าหน้าห้องอาบน�้ำ อีกฝ่าย ชะงักงันไปเมื่อเห็นเขาโผล่พรวดพราดเข้ามาอย่างกะทันหัน ในมือของ ร่างนัน้ มีเพียงผ้าขนหนูผนื เล็ก ส่วนร่างกายงดงามสมบูรณ์แบบทีย่ นื โดดเด่น อยู่นั้น...เปลือยเปล่า เป็นภาพทีด่ ทู รงเสน่หจ์ นยากจะถอนสายตา จางเสวียนได้แต่ยนื อึง้ ดวงตาสีฟ้ากวาดมองร่างของชายหนุ่มตรงหน้าอยู่หลายรอบ กล้ามเนื้อ แข็งแรงได้รูป ผิวขาวจัดเป็นมันวาวท่ามกลางไอน�้ำร้อนที่ลอยคลุ้ง ทั้งเซ็กซี่ 79


เทียนซือ คู่ป่วนผจญวิญญาณ ภาค 2 เล่ม 2 แข็งแกร่ง และองอาจจนหัวใจเขาเต้นรัวอยูพ่ กั ใหญ่ ก่อนจะเผลอกลืนน�ำ้ ลาย ลงคอดังเอื๊อก “จางเสวียน!” เนี่ยสิงเฟิงท�ำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายจ้องมองแบบไม่ยอมถอนสายตา เขานึกอยากคว้าผ้าขนหนูมาปกปิดร่างกาย แต่เมือ่ คิดได้วา่ พวกเขาเป็นผูช้ าย เหมือนกัน จึงไม่อยากท�ำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทว่าแม้จะพยายามคิด เช่นนั้น ในใจก็ยังรู้สึกหวั่นไหว เพราะดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสที่อยู่ตรงหน้า เปิดเผยความรู้สึกในใจให้รับรู้ได้อย่างโจ่งแจ้ง ‘เจ้าคนหน้าด้านหน้าทนนี่ ไม่รกู้ ระทัง่ มารยาทพืน้ ฐานเรือ่ งการเคาะ ประตูหรือไงนะ!’ “อะ...เอ่อ...คะ...คือ...ขะ...ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าคุณจะอาบน�้ำ นาน” ในที่สุ ดจางเสวียนที่เหมือนเพิ่ง ได้ส ติก็เอ่ยถ้อยค�ำตะกุกตะกัก ออกมา “ผมชอบแช่จากุชชี่ ที่ชั้นบนก็มีห้องน�้ำ ผมนึกว่าคุณจะไปใช้ที่นั่น” เนีย่ สิงเฟิงพูดพร้อมกับคว้าผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วเดินออกไป โดย มีจางเสวียนมองตามด้วยแววตาอาวรณ์ ทันทีที่ประตูห้องน�้ำถูกปิด ร่างของ จางเสวียนก็เอนพิงเข้ากับผนังห้องน�้ำ ราวกับไม่อาจแบกรับความรู้สึกที่ อัดแน่นอยู่ในอกได้อีก เขารู้สึกคล้ายก�ำลังถูกล่อลวงให้ลุ่มหลงอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อครู่ เขา...อยากเอือ้ มมือไปสัมผัสเรือนกายเปีย่ มเสน่หท์ อี่ ยูต่ รงหน้า อีกทัง้ ยังเกิด ความรู้สึกคุ้นเคยกับร่างเปลือยเปล่านั้นอย่างประหลาด แต่ทั้งที่อยากก้าว เข้าไปหา ทว่าส่วนหนึ่งในใจกลับคล้ายจะหวาดกลัว... 80


ตอน โลงมงคล กลัวอะไร? ตัวเขาเองก็ตอบไม่ได้ รูเ้ พียงว่าความรูส้ กึ ขัดแย้งทีแ่ สนจะสับสนและน่าหวาดหวัน่ นี้ ก�ำลัง คืบคลานเข้ามาใกล้ และเคลือ่ นตัวเข้าเกาะกุมหัวใจของเขามากขึน้ ทุกขณะ

81


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.