ปีที่ 3 ฉบับที่ 21 เดือนมีนาคม 2554
Travel, Health& Heart
BonBaiBua บนใบบัว
ฉบับ
ลำ�ปาง หนา...(ว)...มากก
ฮินดี ที่ได้รู้จัก
Lots of Fun อันดามันเหนือ ภาค 2 ชวนกินดอกไม้ “ชมจันทร์น้ำ�มันหอย” ปลาเผาริมทาง “หลังรามฯ”
พา pooh ไป (ย้ำ� และซ้ำ�) ฟาร์มจิม หนังสือของ เพลงดาบฯ
ทำ�ไม...ชอบ วาดรูป ??? ฯลฯ
บนใบบัว
BonBaiBua.com
ฮิที่ไน ดี ด้รู้จัก
1
ปีที่ 3 ฉบับที่ 21 เดือนมีนาคม 2554
BonBaiBua
BonBaiBua.com
ที่ปรึกษา : รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์, ฤทัย สุภัทรพันธุ์, ดุลย์ จุลกะเศียน, กฤช จุลกะเศียน บรรณาธิการบริหาร : ฤตี จุลกะเศียน บรรณาธิการ : กบบันจี้ ผู้ช่วยบรรณาธิการ : ข้าวใหม่ หัวหน้ากองบรรณาธิการ : วาดวลี กองบรรณาธิการ : i_lllive, แม่จิบ, ม.จิตฏาร์, jii on the road, The Wanderer babyshampoo, ดอกไม้เมรี, Caff n’ Travel, Shabha Shine พิสูจน์อักษร : รุจินันท์ ภาวิไล โฆษณาและประชาสัมพันธ์ : กรด จุลกะเศียน บรรณาธิการฝ่ายศิลป์และไอที : สิริญาดา ศรีปริญญาศิลป์ ออกแบบ ปก, รูปเล่ม, เว็บไซต์ : Sister Print & Media Group เจ้าของ ผู้เผยแพร่ ผู้โฆษณา : บ้านบนใบบัว 204/381 ซ.2/13 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110 โทรศัพท์/แฟกซ์ : 02 571 4099 อีเมล์ : bonbaibua@hotmail.com ติดต่อโฆษณา : คุณกบ 084 123 0534 อีเมล์ : ruteec@hotmail.com ข้อความในหนังสือเล่มนี้เป็นลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์ www.bonbaibua.com แต่เพียงผู้เดียว ห้ามนำ�เผยแพร่หรือตีพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาต บนใบบัว
2
ประกาศ : บนใบบัวบุ๊ค ยินดีแบ่งปันพื้นที่ เพื่อเผยแพร่งานเขียน ต้นฉบับจากนักอ่าน ที่อยากมีส่วนร่วมเผยแพร่เรื่องราวสนุกๆ น่าสนใจ หรือบันทึกการเดินทางที่อยากให้เพื่อนๆ ได้ อ่าน งานเขียนที่นำ�มาเผยแพร่ไม่มีค่าเรื่องตอบแทน แต่มีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้จ้ะ
Content Section be Health
บนใบบัวบุ๊ค นิตยสารสำ�หรับ “สมาชิก” อ่านฟรี!! โหลดได้ อ่านได้ ส่งให้เพื่อนได้ฟรีๆ ที่ Bonbaibua.com
Section
be Travel
5
14
ชวนกินดอกไม้... ชมจันทร์น้ำ�มันหอย
30
เป็นและอยู่ กับ “รูมาตอยด์”
34
by KaowMai
ลำ�ปาง หนา (ว) มากกก by i_lllive
by รติ จุลกะเศียน
ฮินดี ที่ได้รู้จัก (1) by BabyShampoo
24
by ดอกไม้เมรี
ปลาเผาริมทาง “หลังรามฯ”
Lots of Fun อันดามันเหนือ (2)
by กบบันจี้
by Jii on the Road
Section
be Heart Love 100% by ม.จิตฏาร์
พา Pooh ไป (ย้ำ�และซ้ำ�) ฟาร์มจิม by น้าอ๊บ
48
56 โปสการ์ดจากแม่ by ม.จิตฏาร์
หนังสือของ เพลงดาบฯ
54
by Caff n’ Travel
58
ทำ�ไม... ชอบวาดรูป ??? by Shabha Shine
นกขมิ้นสีน้ำ�เงิน by วาดวลี
62
บนใบบัว
46
36 42
สีส้มแสดแดง “ทองกวาว” ความงามในทุ่งแล้ง
3
ส
Editor’s Talk จากใจบนใบบัว
วัสดีเดือนมีนาคม...ฮินดีที่ได้รู้จัก : ) ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองบอกอส่วนหนึ่งชวนกันไปเทียบความขาวของ ทรายบน เกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติสิมิลัน กับ เรือ SeaStar มา รายละเอียดและ ภาพความประทับใจจะนำ�มาเล่าสู่กันฟังใน Bonbaibua Book issue#22 ค่ะ หลังจากดำ�ผุดดำ�โผล่กับความงามของทะเลไทยมาหลายฉบับ Jii on the road จะพาออกไป บันทึกรัก(ษ์)ใต้ทะเลน่านน้ำ�ต่างประเทศ กันบ้างที่ เกาะลายัง-ลายัง (Layang Layang Island) ประเทศมาเลเซีย ติดตามได้ในฉบับเดือนเมษายน เช่นกันค่ะ ย่างเข้าเดือนมีนาคมแล้ว คล้ายๆ ว่า อุณหภูมิจะเริ่มปรับองศาสูงขึ้น แต่ก็วางใจ เสียทีเดียวไม่ได้ เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ โลกวันนี้จึงไม่เหมือนวันนั้น แต่ดูเหมือนกับว่า ไม่ว่าฤดูกาลจะเป็นเช่นไร อากาศหนาว, ลมร้อน หรือ เปียกปอน คอลัมนิสต์ของ Bonbaibua Book แต่ละคน ก็ยังคงไม่เหน็ดเหนื่อยกับการได้ออก ท่องเที่ยวและเดินทาง ต่างคนต่างเสาะแสวงหาและเลือกออกแบบการเดินทางที่เหมาะกับ ตัวเอง : ) ในเดือนสุดท้ายปลายปี 2553 และ มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ทีมงานบนใบบัว ได้ รับเชิญให้ไปร่วมรายการกับ Travel Gang รายการทีวีรูปแบบใหม่ที่นำ�เสนอสาระ บันเทิงด้านการท่องเที่ยวทางช่อง 67 ซึ่งงานนี้ บรรณาธิการพร้อมด้วย คอลัมนิสต์สาว Jii on the Road ก็ได้ร่วมพูดคุยถึงสถานที่น่าเที่ยวที่ได้มีโอกาสเดินทางไป อย่างเช่น จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม, ดอยแม่อุคอ และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน นับว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ BBB ของเรา ได้พูดคุยกับผู้ชมรายการ รวมทั้งผู้อ่าน ของเราทางสื่อโทรทัศน์ ซึ่งอาจจะมีครั้งต่อๆ ไปอีกด้วย โปรดติดตามกันต่อไปนะคะ
บนใบบัว
4
ด้วยมิตรภาพที่ดี บรรณาธิการบริหาร
Be Travel
วันเดียวเที่ยวได้
1 Day Trip Text & Photo : i_lllive
ลำ�ปางหนา..(ว)มากก บนใบบั บนใบบั ว ว
เมืองเหนือ เมื่อหน้าหนาว มีแหล่งท่องเที่ยวเนื้อหอมมากมาย ใครๆ ก็อยากไปเยือน ไปสัมผัสลมหนาว ขุนเขา สายหมอกก็ล้วนแต่งดงาม โรแมนติก น่าชมไปหมด
5 5
บนใบบับนใบบั ว ว
6 6
ใ
ปี ก่ อ น ญ า ติ ข อ ง เ ร า ซึ่ ง ทำ � ธุ ร กิ จ เซรามิ ก อยู่ ที่ เ มื อ งลำ � ปางหนา ได้รำ�พึงแกมประชดให้ฟังว่า น่าน้อยอก น้อยใจที่เมืองลำ�ปางของเฮา เป็นได้แค่ “ทางผ่ า น” ที่ ค นเดิ น ทางจะมาแวะ เติมน้ำ�มัน จิบกาแฟ แวะฉี่ หรือแวะซื้อ ถ้วยกาไก่เป็นของฝากตอนขากลับ รีบมา ประเดี๋ยวเดียวก็ต้องรีบไป เหมือนกลัว เห็บ ไร จะกระโดดเกาะ จึงได้แต่ปลอบโยนว่าอย่าน้อยเนือ้ ต่ำ�ใจ พาลไปริษยา เชียงใหม่ เชียงราย เปิ้นเลย ปีหน้ารับรองว่าเฮาจะตั้งใจมา แอ่วลำ�ปางหนาบ้านสู ให้ “ฮู้คิง” ไปฮื้อ แหลวแล๋ด เพราะเราก็เบือ่ หน่ายมหานคร แห่งการท่องเที่ยว ที่ทุกวันนี้รถติดเสีย เหลือเกินแล้ว ใครที่ เ คยบอกว่ า ลำ � ปางเป็ น เมื อ งผ่ า นที่ ไ ม่ มี อ ะไรน่ า สนใจ ไม่ มี
บนใบบัวบนใบบัว
นฐานะที่ ผู้ เ ขี ย นมี ญ าติ ก ระจายกั น ตั้งถิ่นฐานอยู่ตามหัวเมืองทางเหนือ หลายๆ จังหวัด และบ้านเราก็จำ�เป็น ต้องยกพลขึ้นเหนือกันทุกปีๆ ทั้งปีใหม่ และเชงเม้ง การขึน้ เหนือเมือ่ หน้าไหน จึง ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ซึ่งการเดินทาง ปกติมักเป็นการเที่ยวจุ๊บจิ๊บรายทาง เริม่ จากพุง่ ขึน้ ดอยแถวๆ เชียงราย เดินช้อปปิง้ แม่สาย กินข้าวเชียงใหม่ และ สุดท้าย ทำ�ธุระ เยีย่ มญาติ พักผ่อนจริงๆ จะไปจบที่พะเยา หรือแพร่ กองทัพนักท่องเที่ยวตามหัวเมือง ใหญ่ๆ อย่าง เชียงใหม่ เชียงราย รวม ทั้ง ปาย เมืองน้องใหม่ซึ่งกำ�ลังฮอตสุดๆ ช่วงหน้าหนาวจึงคับคั่ง แออัดเป็นพิเศษ ใส่ไข่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ..........
7 7
อะไร unseen คงต้องกลับไปคิดใหม่โดย เร็ว ไม่เพียงแต่ลำ�ปางจะมี รถม้า เซรามิก ยังมีพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองที่ยิ่งใหญ่อลังการ บ้านเรือนเก่าแก่ซึ่งมีบรรยากาศงดงามตาม แบบชุ ม ชนโบราณและวิ ถี พื้ น ถิ่ นในสั ง คม ภูมิปัญญาเกษตร ที่ทำ�มาค้าขายตามอัตภาพ ให้ได้สัมผัสอยู่ทั่วไป
ก บนใบบัวว บนใบบั
88
ารค้ น ให้ พ บตั ว ตนของเมื อ งลำ � ปาง จะลองเริ่มจากนั่งรถม้าชมเมือง ตาม เส้ น ทางที่ มี ใ ห้ เ ลื อ กทั้ ง รอบเล็ ก รอบใหญ่ พาชมสถานที่ สำ � คั ญ ตามรอยอารยธรรม ยุครุ่งเรืองตั้งแต่ หริภุญไชย ถึงยุคล้านนา โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ วัดปงสนุก ซึ่งได้รับรางวัล Award of Merit จาก UNESCO ตามเส้นทางเมืองเก่านี้ จะผ่าน หออะม็อก (“อะม็อก” เป็นภาษาพม่า แปลว่าปืน เป็น ป้อมปืนแห่งเดียว ที่สภาพสมบูรณ์ที่เหลืออยู่ ในลำ�ปาง และคาดว่าสร้างขึน้ ในสมัยเจ้าหอคำ� ดวงทิพย์) บ้านเสานัก (เสาเยอะ)
บนใบบั บนใบบั ว ว
ในชุ ม ชนท่ า มะโอ (เป็ น ชุ ม ชน ชาวพม่า) กาดกองต้า ซึ่งเป็นถนนสาย ประวั ติ ศ าสตร์ ที่ สำ � คั ญ อี ก หน้ า หนึ่ ง ซึ่ ง มี อ าคารบ้ า นเรื อ นเก่ า แก่ แ ละสวยงาม เมื่อครั้งที่เมืองลำ�ปางได้เริ่มเข้าสู่ยุคแห่ง การค้ า ขายกั บ นานาชาติ และเปิ ด รั บ วั ฒ นธรรมภายนอกเข้ า มาทั้ ง ตะวั น ตก พม่ า -ไทใหญ่ รวมทั้ ง จี น โพ้ น ทะเล ซึง่ เป็นยุคแรกๆ ทีร่ บั ความทันสมัยเข้ามาใน ชุมชน ก่อนจะข้ามสะพานรัษฎา(แม่น้ำ�วัง) ไปจบที่ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ซึ่งมีประวัติอันยาวนาน และเคยเป็นวัดที่ ประดิษฐานพระแก้วมรกตอยู่ถึง 200 ปี
9 9
บนใบบับนใบบั ว ว
10 10
ในตัวเมืองลำ�ปาง ยังมีสถาปัตยกรรม โบราณอันทรงคุณค่ามากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ ธนาคาร วัดศรีชุม (เป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย) สถานีรถไฟนครลำ�ปาง และ กาดเก๊าจาว (ตลาดโบราณริมทางรถไฟ) หรือ จะออกนอกเมืองไปยัง อ.เกาะคา เพื่อนมัสการ องค์พระธาตุ ลำ�ปางหลวง (ประจำ�ปีฉลู) วัดไหล่หนิ (เป็ น หนึ่ งในสถานที่ ถ่ า ยทำ � ภาพยนตร์ เ รื่ อ ง นเรศวรมหาราช) ถ้ า มี เ วลาพั ก แรมในตั ว เมื อ งลำ � ปางซั ก หนึง่ คืน อย่าลืมไปเยีย่ มยลกาดกองต้าซึง่ เปิดเป็น ถนนคนเดิน (กาดกองต้า กาด แปลว่า ตลาด, กอง แปลว่า ถนน, ต้า แปลว่า ท่าน้�ำ ) มาตัง้ แต่ปี 2548 ซึ่งมีประวัติสำ�คัญทางเศรษฐกิจและมีอายุ กว่า 100 ปี เริ่มจากชัยภูมิริมแม่น้ำ�วังต่อมาได้ พัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายและส่งสินค้า รู ป แบบสถาปั ต ยกรรมจึ ง มี ค วามหลากหลาย แต่ภายหลังก็ถูกแย่งซีนและลดความสำ�คัญลง เมื่อทางรถไฟสายเหนือมาถึง ผู้คนจึงนิยมขยับ ขยายถิ่นฐานไปอยู่บริเวณใกล้สถานีรถไฟ เกิด เป็นชุมชนใหม่เรียกว่า “ชุมชนเก๊าจาว” แต่ในปัจจุบนั ชุมชนกาดกองต้า ได้กลับ มาเป็นย่านการค้าทีส่ �ำ คัญอีกครัง้ โดยความร่วม มือร่วมใจของชาวลำ�ปางซึง่ อยากแบ่งปันเสน่หอ์ นั งามโดดเด่นให้เราร่วมชื่นชม ซึ่งรับรองว่าไม่ใช่ “กาดมัว่ ” ประเภทขายแต่โปสการ์ด ปลาหมึกปิง้ ลูกชิ้นทอด ตามแบบถนนคนเดินที่ฮิตกันทั่วไป นอกจากนี้ ยั ง มี “หอศิ ล ป์ ” กาดกองต้ า เป็ น เรื อ นไทยสง่ า งาม มี พื้ น ที่ จั ด แสดงงาน
บนใบบั บนใบบัวว
11
ศิลปะ ดนตรีรว่ มสมัยให้ได้ชมกันทุก สัปดาห์ (เวลาทำ�การ เสาร์-อาทิตย์ 17.00-22.00 น.) ไม่นับของกิ๋นลำ�ๆ เรียงรายตลอดเส้นทาง ................
เ บนใบบัว
12 12
มืองลำ�ปางไม่ได้มีดีแค่หน้าหนาว แต่ ยั ง มี ง านเทศกาลให้ เ ที่ ย วได้ ทุกฤดู เช่น งานช้างไทย งานรำ�ลึก ประวั ติ ศ าสตร์ ส ะพานรั ษ ฎาภิ เ ษก งานฟ้ อ นผี ในเดื อ นมี น าคม งาน ประเพณีปใี๋ หม่เมืองและแห่สลุงหลวง เดือนเมษายน งานประเพณีสรงน้ำ� พระธาตุ เดือนมิถุนายน และงาน
แต่งงานบนหลังช้าง ในเทศกาลแห่ง ความรัก เดือนกุมภาพันธ์ นับว่าลำ�ปาง เป็นเมืองแห่ง การผสมผสานระหว่างความทันสมัย และความเก่ า แก่ ที่ มี เ อกลั ก ษณ์ ไ ด้ อย่างกลมกลืน แอ่วเหนือครั้งหน้า หวังว่าผู้อ่านจะไม่ “ผ่าน” ลำ�ปางไป เฉยๆ กันเน้ออ
หมายเหตุ : ลำ�ปาง ทำ�ไมต้อง “หนา”
บนใบบั บนใบบัว ว
คนเหนือ หรือล้านนา จะมีสำ�เนียงอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งคนเหนือด้วยกันเองจะฟังออกทันทีเมื่อ ได้พูดคุยเสวนากัน สำ�เนียงคำ�เมืองทางภาคเหนือตอนบนๆ จะค่อนไปทางเนิบช้า ส่วนตอนล่างจะติดห้วนเล็กน้อย แตกต่างกัน จนมีคำ�กล่าวว่า “หละปูนบาง ลำ�ปางหนา” หรือ “เจียงใหม่บาง ลำ�ปางหนา” (ส่วนผู้เขียน สารภาพว่า ฟังไม่ออก ฮา..)
13 13
ฮิที่ไน ดี ด้รู้จัก(1) บนใบบัวบนใบบัว
14 14
ตอน สิกขิมที่รัก
Be Travel
เที่ยวนอก(ประเทศ)
Jumper Out
Text & Photo : babyshampoo
บนใบบั บนใบบั ว ว
บ่ า ยวั น อาทิ ต ย์ หลั ง จาก เจ้ า นกยั ก ษ์ ลู่ ล มนำ � พา อายู มิ มาสู่ ส นามบิ น เมื อ งโกลกาตา (Kolkata) ดินแดนภารตะ ความหนาวเย็นที่ไม่คุ้นชินเข้ามา แทนที่อากาศร้อนอบอ้าวจากที่ๆ จากมา ภาพอินเดียเดิมๆ เริม่ ถูก ลบทิ้งไปทีละน้อย .....การผจญภัยครั้งใหม่ที่ แปลกตาก็เริ่มขึ้น
15 15
จ
ากเมือง โกลกาตา อายูมิ จับรถไฟชั้น 3 เพื่อสัมผัสบรรยากาศแบบท้องถิ่นเป็นเวลา 12 ชั่วโมง จากสถานี Sealdah ไปยังสถานี New Jalpaiguri จากนัน้ ก็โดยสารรถจีป๊ ต่อ ไปยังดินแดนสิกขิม เมืองกังต็อก (Gangtok) หนึ่งในจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ สำ�หรับชาวต่างชาติทตี่ อ้ งการเข้าไปท่องเทีย่ ว ในเขตสิกขิม นอกจากวีซ่าเข้าประเทศอินเดียแล้ว ยังจำ�เป็นต้องมี Permit จากสถานทูต รวมถึง ILP (Inner Line Permit) ซึ่งออกโดยทัวร์ ที่เราซื้อด้วย (สามารถหาซื้อทัวร์ที่กังต็อกได้เลย) ส่วนเรื่องรถ ถ้าไปเดี่ยวๆ ก็สามารถแชร์ร่วมทาง ไปกับคนอื่นได้ หรือถ้ามาเป็นคณะก็สามารถเหมา ทั้งคันได้เลย
บนใบบัว
ประมาณ 4 ชั่ วโมงก็ ม าถึ ง กั ง ต็ อ ก เมืองหลวงของรัฐสิกขิม อายูมิ เริ่มออกเดินหา ทีพ่ กั เพียงไม่นานก็มาสะดุดทีเ่ กสต์เฮาส์เล็กๆ แสน อบอุ่นแห่งหนึ่ง บนถนนทิเบต เวลาใกล้พลบค่ำ� แล้ว อายูมิ เก็บข้าวของขึ้นห้อง และชำ�ระร่างกาย ให้สะอาดหลังจากปล่อยให้เนือ้ ตัวมอมแมมมาเกิน 24 ชั่วโมง อายูมิ เดินทอดน่องมายังถนน M.G.Marg (ถนนมหาตมะคานธี) ซึง่ เป็นถนนคนเดินสายหลัก ของเมืองกังต๊อก ร้านรวงทันสมัย ผู้คนเนื้อตัว สะอาด คลาคล่ำ�ไปด้วยนักท่องเที่ยว (ทั้งชาว อินเดียเองและชาวต่างชาติ) ค่ำ�นี้ อายูมิ ฝากท้องไว้ที่ร้านสไตล์ตะวัน ตกกลิ่นอายตะวันออก ก่อนที่หลังจากนี้ไป อาจ 16 จะไม่มอี าหารเช่นนีใ้ ห้ตกถึงท้องอีกแล้ว..อายูมิ คิด
บนใบบัว
17
บนใบบัว
18
บนใบบัวบนใบบัว
สายวั น รุ่ ง ขึ้ น รถจี๊ ป ที่ อายู มิ ซื้ อ ทั ว ร์ ไ ว้ เมื่อวานก็มารับที่หน้าเกสต์เฮาส์ เพื่อจะออกเดินทาง ต่อไปยัง เมืองลาชุง (Lachung) ซึ่งอยู่ห่างจาก เมืองกังต็อกไปราว 120 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเป็น เส้นทางคดเคีย้ วเลาะเลียบริมเขาไปตลอดทาง จึงน่าจะ ใช้เวลาไม่ต่ำ�กว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย ระหว่าง ทางก็มีด่านตรวจใบอนุญาต (ILP) อยู่เป็นระยะๆ โดยทั้งหมดคนขับรถจะอาสาดูแลให้โดยที่ผู้โดยสาร แทบไม่ต้องลงจากรถเลย รถแล่นเรื่อยมาหลายชั่วโมงจนเกินครึ่งทางไป แล้ว แต่แล้ว...เหตุการณ์ไม่คาดฝันลำ�ดับทีห่ นึง่ ก็เกิดขึน้ เมื่อทางข้างหน้าเกิดดินถล่ม ทำ�ให้ไม่สามารถไปต่อ ได้ในวันนี้ รถจี๊ปจากคณะนักท่องเที่ยวหลายสิบคันก็ ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับ อายูมิ ทางการประกาศ ว่าจะเปิดให้ใช้ทางได้อีกทีพรุ่งนี้เช้าเวลา 11 นาฬิกา ขณะนี้ใกล้พลบค่ำ�แล้ว มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือ หนึง่ กลับไปยังเมืองกังต๊อก แล้วค่อยกลับมาใหม่ ในวันพรุ่งนี้ หรือ สอง หาที่พักแถวนี้ โดยไม่ต้องเสีย เวลาตีรถกลับ ดูเวลาแล้ว ถ้าย้อนกลับไปกังต็อกก็จะเสียเวลา มากเกินไป เพราะได้ระหกระเหินมาเกินครึ่งแล้ว คุณ พี่คนขับจึงตัดสินใจพารถจี๊ปและผู้โดยสารหาที่พักใน ละแวกนั้น คุณพี่คนขับแวะจอดที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง เดินเข้าไปถามที่พักในขณะที่ อายูมิ นั่งรอในรถ สักพักคุณพีค่ นขับก็เดินออกมาบอกว่าทุกอย่าง เรียบร้อย ตอนนี้จะพาไปรับประทานมื้อค่ำ�ก่อนแล้ว ค่อยกลับมา อายูมิ ปลื้มใจแต่ก็ยังเป็นกังวลเล็กน้อย ว่าห้องพักจะเป็นอย่างไร คนหลายสิบมารุมมาตุ้มอยู่ที่ร้านอาหาร แล้ว จะมีอะไรเหลือให้ อายูมิ รับประทาน นอกเสียแต่.. บะหมี่กึ่งสำ�เร็จรูป
19 19
ประวัติศาสตร์บะหมี่กึ่งสำ �เร็จรูปต้อง จารึกไว้ตรงนีเ้ ลยว่า บะหมีก่ งึ่ สำ�เร็จรูปทีอ่ นิ เดีย นิม่ และเละมาก แค่ตม้ เพียงครูเ่ ดียวเท่านัน้ เส้น บะหมี่เละเป็นโจ๊กเลยทีเดียว หนำ�ซ้ำ�ยังอืดจน เกือบทนดูไม่ได้ กระนั้นก็เถิด อายูมิ ต้องฝืนทนรับ ประทานต่อไปเพื่อความอยู่รอด แต่ อายูมิ ก็มิได้ท้อแท้ต่อโชคชะตา เพราะเธอถือคติที่ว่า เกิดเป็น อายูมิ ต้องอดทน หลังจากมื้ออาหารค่ำ� คุณพี่คนขับพา ไปส่งยังเกสต์เฮาส์เดิม อายูมิ ถึงกับแปลกใจ เมือ่ ได้เห็นห้องพัก มันดูดเี สียยิง่ กว่าห้องพักใน เมืองอีก สะอาดสะอ้าน ดูสบายตาอย่างบอกไม่ ถูก แถมพนักงานโรงแรมแอบกระซิบมาอีกว่า ตอนเช้าอย่าลืมดูวิวนอกระเบียงนะ อายูมิ ตืน่ เต้นจนอยากจะให้เช้าซะเดีย๋ ว นี้เลย แต่ตอนนี้เธอต้องรีบอาบน้ำ�และเข้านอน ก่อนที่อากาศจะเย็นไปมากกว่านี้
บนใบบัวว บนใบบั
20 20
ภูเขาลูกโต สูงตระหง่านที่ปกคลุม ด้วยหิมะ ตลอดปี กำ�ลังกระทบกับแดดอ่อนๆ ยามเช้า เกิดเป็นประกายวาววับอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกล เป็นภาพที่งามจับใจ สมกับที่เป็นยอดเขา “คันเชงจุงกา”
ตืน่ ขึน้ มาอย่างสดใส อายูมิ แหวกผ้าม่าน ออกดูโลกภายนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นแสง สีทองค่อยๆ สาดเข้ามา อายูมิ เบิกตาโตด้วย ความตะลึงงัน
ภู
บนใบบัว
เขาลูกโตสูงตระหง่านที่ปกคลุมด้วยหิมะ ตลอดปีก�ำ ลังกระทบกับแดดอ่อนๆ ยามเช้า เกิดเป็นประกายวาววับอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เป็น ภาพที่งามจับใจสมกับที่เป็นยอดเขา “คันเชง จุงกา” (Khangchendzonga) ที่สูง อันดับ 3 ของโลกจริงๆ หลังจากเก็บภาพเบื้องหน้าจนเต็มอิ่ม แล้ว คุณพี่คนขับพา อายูมิ ไปจิบชาและ ลิ้มรสอาหารยามเช้าที่ร้านอาหารใกล้ๆ เป็น อาหารเช้าเคล้าเครื่องเทศและโรตีแบบอินเดี้ย อินเดีย รสชาติจัดจ้านของแกงกะหรี่เข้ากันได้ ดีกับชานมอุ่นๆ เป็นอย่างดี ท้องอิ่มแล้วก็ได้ เวลาออกเดินทางกันต่อ ล้อหมุนผ่านจุดที่ดินถล่มเมื่อวาน ทาง เปิดแล้ว รถสามารถสัญจรได้ตามปกติอีกครั้ง ทุกคนโล่งใจไปตามๆ กัน อายูมิ หันไปมอง ทางที่เพิ่งผ่านมา พร้อมกับยิ้มเล็กๆ ให้กับ อุปสรรคระหว่างทางที่เจอะเจอ รถแล่ น เลยจุ ด เกิ ด เหตุ ม าไกลพอ สมควร ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นดี ถ้ารถ ขบวนข้างหน้าไม่จอดกันยาวเหยียดขนาดนี้….. รถจี๊ปคันที่ อายูมิ นั่งก็ต้องจอดลงเพราะไป ต่อไม่ได้ หลังจากสอบถามคนแถวนัน้ จึงทราบ ว่า ข้างหน้ามีหินถล่มกีดขวางทางอยู่ ตอนนี้ ยังผ่านไปไม่ได้ แต่เขากำ�ลังจะระเบิดหิน และ หลังจากนั้นก็ต้องรอเขาย่อยหินเป็นก้อนเล็ก ก่อน น่าจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
อายูมิ อึง้ เล็กน้อยกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ลำ�ดับทีส่ องในครัง้ นี้ แต่ไม่มที างเลือกอืน่ นอกจาก รอ ระหว่างรอ อายูมิ เดินออกไปชมวิวข้าง ทางทีร่ ายล้อมด้วยภูเขาและหน้าผา พลางทักทาย ผู้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน หนังม้วน เดียวกัน แม้หนังเรื่องนี้ตัวละครจะพูดคนละ ภาษา และไม่ต้องการคำ�บรรยาย เจ้ า หน้ า ที่ กั น คนที่ ไ ม่ เ กี่ ย วข้ อ งให้ ถ อย ห่างให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ อินเดียมุงที่คล้ายๆ กับพี่ไทยมุงมีมากเหลือเกิน ซึง่ แม้จะถูกกันออกมาแล้ว อินเดียมุงก็ยงั กระจาย ตัวไปอยู่ตามที่สูงเพื่อชมภารกิจระเบิดหินนี้ ...ไม่นาน เสียงระเบิดก็ดังขึ้น สนั่นหวั่น ไหวและก้องกังวานไปทัง้ หุบเขา อายูมิ ขนลุกพรึบ่ ให้กบั ความน่าเกรงขามของเสียงสะท้อนทีต่ ามมา อีกไม่กี่วินาทีต่อมา หลังจากระเบิดภูเขา ทุกอย่างก็เป็นไป ตามคำ�บอก คือต้องรอกระบวนการย่อยหิน และ กำ�จัดให้พน้ ทาง ช่วงเวลานีจ้ ะมีอะไรดีไปเสียกว่า การอ และ รอ 2 ชั่วโมงเศษผ่านไป อายูมิ ผลาญเสบียง ที่เตรียมมาหมดไปพอสมควร และแล้วคุณพี่ คนขับก็หนั มายิม้ หน้าระรืน่ เป็นสัญญาณบ่งบอก ว่า ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้ว ฟ้าใสๆ ด้านบนเริ่มเห็นความพยายาม ของพวกเราแล้วสินะ อายูมิ คิดในขณะที่เหม่อ มองฟ้าไกล รถค่อยๆ แล่นไปตามจังหวะของมัน ภูเขายังคงปกคลุม แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือ บ้านเรือน ระหว่างทาง มีความเป็นหมูบ่ า้ นมากขึน้ จุดหมาย เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
21
บนใบบัว
ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า อายูมิ ก็มาถึงที่พักในเมือง ลาชุง อากาศเย็นยะเยือก เริ่มส่งสัญญาณทักทาย อายูมิ เก็บมือทั้งสองไว้ ในกระเป๋าเสื้อโค้ช แหงนมองท้องฟ้าด้านหน้าที่ พักพลางเอ่ยคำ�ขอบคุณอยู่ในใจ หลังจากนั้น อายูมิ ก็เดินเข้าไปสำ�รวจ ที่พัก นำ�สัมภาระวางลงที่ห้องพัก และเดินออก ไปที่ระเบียง แสงสุดท้ายของวันมองภูเขาเพื่อน ยากอย่างตาละห้อย หิมะบนภูเขาลิบๆ ได้แต่ กระซิบบอกคุณภูเขาและคุณแสงสุดท้ายว่า ไม่ เป็นไรน่า พรุ่งนี้เช้าเราก็พบกันใหม่ แล้วความ ทรมานกับความเหงาก็จะสิ้นสุดลงในเวลานั้น การจากลาย่ อ มเป็ น ภาพที่ ไ ม่ ส วยงาม ของทุกคน แต่ใยมนุษย์จึงชื่นชมความงามยาม พระอาทิตย์ตกดิน ถ้าแท้จริงแล้วมันคือความ เศร้ายามที่ต้องร้างลา อายูมิ เดินออกจากระเบียงด้วยท่าทีสขุ มุ แล้วก็พบคุณพีค่ นขับเดินเข้ามาพอดี เขานัดแนะ กับ อายูมิ พรุ่งนี้ 6 โมงเช้า รถจะมารับที่นี่ เวลาอาหารเย็นมาถึงแล้ว แต่อาหารยัง มาไม่ถึง อายูมิ เดินลงบันไดนอกตึกเพื่อไปยัง ห้องครัวของที่นี่ เห็นพ่อครัวหนุ่ม 2 คน กำ�ลัง ง่วนกับการทำ�อาหาร อายูมิ ได้แต่ยืนดูให้กำ�ลัง ใจอยู่ห่างๆ ไม่นาน สตู แกงกะหรี่ ซุปใส และ สลัดก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ตามมาด้วยข้าวสวยร้อนๆ หอมฉุย อายูมิ ลงมือรับประทานอย่างไม่รีรอ อาหารรสชาติดีบ้าง แปลกบ้าง เป็นธรรมดาของ การมาต่างบ้านต่างเมือง หลังจากมื้ออาหาร อายูมิ เดินจากห้อง อาหารขึน้ บันไดไปโผล่นอกตึก อากาศหนาวด้าน 22 นอกใกล้จะถึงจุดเยือกแข็งแล้ว อายูมิ กอดตัว เองให้อบอุ่นทั้งร่างกายและหัวใจ
คืนที่มืดมิดปราศจากแสงไฟ ความหนาว เย็นเข้าปกคลุมถ้วนทั่ว แต่ยังมีดาวเต็มฟ้าระยิบ ระยับคอยส่งให้ อายูมิ นอนหลับฝันดีในคืนนี้
6
โมงเช้ า ตามเวลา คุ ณ พี่ ค นขั บ มารออายู มิ อยู่หน้าที่พัก นมัสเต อายูมิ เอ่ยทักทายด้วย ท่าทีงัวเงียแต่สั่นด้วยความหนาว ก่อนจะตรงปรี่ ไปขึ้นรถ เพราะไม่อยากทนหนาวอยู่ข้างนอกนาน รถจี๊ปกำ�ลังมุ่งตรงไปยังหุบเขา ยุมถัง (Yumthang Valley) ทิวทัศน์ 2 ข้างทางเปลี่ยนความงัวเงียของ อายูมิ ให้กลายเป็นความตืน่ เต้นและรอยยิม้ ภูเขา หิมะที่เห็นอยู่ลิบๆ เมื่อวานและหลายวันก่อน เริ่ม โผล่ให้เห็นใหญ่และชัดขึ้นเรื่อยๆ อายูมิลืมความ หนาวชั่วขณะ เธอเปิดกระจกรถยื่นหน้าไปถ่ายรูป อย่างมีความสุข รถจอดพักครู่หนึ่งเมื่อมาถึงประตูสู่ยุมถัง เพือ่ ให้นกั ท่องเทีย่ วได้จบิ กับกาแฟร้อนๆ เติมพลัง ความสุขให้พร้อม ก่อนทีจ่ ะไปยังปลายสุดของเส้น ทางนี้ นั่นคือ Zero Point ซึ่งถือเป็นสุดทาง ที่รถจะสามารถไปต่อได้ บนความสูงกว่า 4,800 เมตร เหนือระดับน้ำ�ทะเล
(โปรดติดตามตอนต่อไปของ ฮินดีที่ได้ รูจ้ กั ใน BonBaiBua Book issue#22) หมายเหตุ : ชมภาพการเดินทางอันน่าประทับใจ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/ album.php?aid=600759&id=508520573&fb 23 id=10150372001125574 บนใบบัว
สำ�หรับคนที่ชื่นชอบดอกไม้ แนะนำ�ให้มา ช่วงเดือนเมษายน เพราะจะเป็นช่วงทีก่ หุ ลาบพันปี บานสะพรั่งไปทั้งหุบเขา แต่ส�ำ หรับคนทีต่ อ้ งการสัมผัสความหนาว เย็นและมองเห็นทิวทัศน์ โดยเฉพาะยอดเขา คันเชงจุงกาได้เต็มตา แนะนำ�ให้มาช่วงเดือน ปลายธันวาคม เนือ่ งจากเป็นช่วงทีท่ อ้ งฟ้าเปิดเป็น สีฟ้าเข้ม ไม่มีเมฆมากวนใจ อายูมิ ใส่เครือ่ งกันหนาวทุกอย่างทีเ่ ตรียม มา เปิดประตูลงจากรถทันทีที่รถจอด นี่สินะ สุ ด ยอดความสวยงามที่ เ ดิ น ทางดั้ น ด้ น มาเจอ อายู มิ วิ่ ง ออกไปทั ก ทายคุ ณ ภู เ ขา คุ ณ หิ ม ะ คุ ณ ลำ � ธารน้ำ � แข็ ง คุ ณ ท้ อ งฟ้ า สี เ ข้ ม และทุ ก ธรรมชาติในที่นั้น แม้จะหนาวจนหน้าชาด้วย อุณหภูมิ -5 องศา แต่ความสุขสามารถเอาชนะ ความหนาวไปได้ชั่วขณะ ทุกคนที่ได้ไปสัมผัสก็ คงคิดเช่นเดียวกันกับ อายูมิ กลุ่ ม นั ก ศึ ก ษาอิ น เดี ย ร้ อ งรำ � ทำ � เพลง ท่ามกลางหิมะกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ไถลตัว ไปกับลำ�ธารน้ำ�แข็ง บ้างก็เอาตัวแปะวิวนำ�ภาพ สวยๆ ไปอวดเพื่อนฝูงที่ไม่ได้มาด้วย
แม้ท้องฟ้าจะเปิด แสงแดดจะแรง แต่ ความหนาวยังอยู่ เกือบ 2 ชั่วโมงผ่านไป อายูมิ รู้สึกถึงได้ว่าร่างกายเริ่มหมดแรงต้านทานความ หนาว มือเท้าเย็นจนชา รวมถึงใบหน้าด้วย อายูมิ เข้าไปนั่งพักในรถ แต่ละคนก็เริม่ ทยอยกันกลับขึน้ รถ เพราะ ด้วยความสูงขนาดนี้ สภาพอากาศเบาบางมาก ย่อมส่งผลต่อร่างกาย ซึ่งจะทำ�ให้เหนื่อยง่ายกว่า ปกติด้วย ได้เวลาอำ�ลา Zero Point แล้ว หลังจาก นี้เราจะนั่งรถกันยาวๆ 9 ชั่วโมง เพื่อกลับไปนับ ถอยหลังฉลองปีใหม่กันที่เมืองกังต็อก จากเทีย่ ง แวะทานมือ้ กลางวัน แล้วเดินทาง ต่อมาถึงกังต็อกราว 3 ทุ่ม สำ�หรับคืนนี้ อายูมิ ยังคงใช้บริการทีพ่ กั เล็กๆ แต่แสนอบอุน่ แห่งเดิม บนถนนทิเบต บรรยากาศคืนส่งท้ายปีที่กังต็อกเป็นไป อย่างเรียบง่าย มีงานเฉลิมฉลองบ้างประปราย มีการประดับไฟ มีการร้องรำ�ทำ�เพลง มีกองไฟ มีดอกไม้ไฟดังเป็นระยะๆ และก่อนปีใหม่จะ มาถึง เสียงนับถอยหลังก็ดังไปทั่วทั้งเมือง Ten..Nine..Eight..Seven..Six..Five.. Four..Three..Two..One HAPPY NEW YEAR!!!!
Be Travel
บันทึกรัก(ษ์)ใต้ทะเล
UNDERWATER LOG
BOOK
Text & Photo : Jii on the road
“ฉลามวาฬ” มองจากระยะไกล
บนใบบั บนใบบัว ว
24 24
Lots of fun อันดามันเหนือ (2)
ตื่
บนใบบัว
นเช้าขึ้นมาในวันนี้ ก็ตื่นเต้นกันแต่เช้า เพราะเห็นเพื่อนนักดำ�น้ำ�กระโจนลงน้ำ�ไป ตามดูฉลามวาฬซึ่งขึ้นมาอรุณสวัสดิ์กันตั้งแต่ เริ่มสว่าง ทำ�ให้ทุกคนคึกคักกันเป็นพิเศษ รีบ แต่งตัวเตรียมอุปกรณ์กันเป็นการด่วน ก่อนที่ ฉลามวาฬจะจากไปที่อื่นเสียก่อน แต่พอกระโดดลงน้ำ�ไปเดี๋ยวเดียว ก็ แทบจะขอขึ้นเพราะกระแสน้ำ�แรงสุดๆ เราไต่ ลงไปตามเชื อ กทุ่ น เรื อ จนถึ ง กองหิ น ด้ า นล่ า ง แต่พอปล่อยมือก็โดนกระแสน้ำ�พัดจนตัวปลิว ต้องกระเสือกกระสนพยายามสะบัดเท้าตีฟิน (ตีนกบ) สุดแรงเพื่อต้านกระแสน้ำ�ไปแอบอยู่ ในซอกหิน... พอเงยหน้ า ขึ้ นไปเห็ น นุ ใ ช้ ต ะขอเกี่ ย ว ก้อนหินเพือ่ ยึดเชือกไว้เพือ่ พยุงตัว มองดูเหมือน เล่นกายกรรมใต้น�้ำ ยังไงยังงัน้ ทันใดนัน้ เราก็ได้ ยินสัญญาณเคาะแท้งค์ เรามองตามเสียงนั้น ก็ได้เห็นฉลามวาฬว่ายทักทายเพื่อนๆ ที่ลงตาม มาอยู่ด้านบน แอบนึ ก เสี ย ดายในใจว่ า เรารี บ ลงไป นิดนึง มิฉะนั้นคงได้เห็นเขาใกล้กว่านี้ ไอ้ครั้น จะว่ายย้อนขึ้นไปก็ไม่ไหว เพราะแค่พยุงตัว ต้านกระแสน้ำ�ยังลำ�บากเลย... หลังจากฉลามวาฬว่ายจากไป เราก็ปัก หลักดูนนู่ ดูนอี่ ยูต่ รงซอกหินนัน้ เพราะหวังลึกๆ ว่าเขาจะว่ายวนกลับมาอีก เรารออยู่จนอากาศ เกือบหมดจึงต้องขึ้นไปพักน้ำ �ทำ� safety stop ก่อนขึ้นสู่ผิวน้ำ�
เรือยางดิงกี้...พาหนะพาเราขึ้นเกาะสุรินทร์
25
กั้งตั๊กแตน
บนใบบั บนใบบัวว
26 26
พวกเราขอทางเรือให้ลงดำ�น้�ำ ทีห่ มายเดิมอีก เพราะ กระแสน้ำ�น่าจะเบาลง และคิดว่าทั้งแมนต้าและฉลามวาฬ น่าจะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น แล้วพวกเราก็ไม่ผิดหวังเมื่อ ลงไปได้ไม่นานเราก็เห็นแมนต้าตัวเขือ่ งว่ายมาอย่างสง่างาม ยังไม่ทันหายตื่นเต้นก็มีแมนต้าอีก 2 ตัวว่ายไล่ตามกันมา เรียกว่าเป็นไดฟ์ที่ประทับใจสุดๆ เพราะแค่เห็นแมนต้าตัวเดียวก็ดใี จกันไม่รเู้ รือ่ งแล้ว นี่มา 3 ตัว เรียกว่าสวรรค์บันดาลจริงๆ จากความประทับใจจากสองไดฟ์เช้า เราขอปักหลัก กันที่เดิมอีกไดฟ์หนึ่งในตอนบ่าย โดยก่อนลง “น้องป๋วย” หนึ่งในเพื่อนร่วมทริปบอกว่า ไดฟ์นี้ขอทั้งฉลามวาฬและ แมนต้านะครับ ถ้ามาจริงๆ ผมจะร้องเพลงให้เพื่อนๆ ฟัง ในคืนนี้ แล้วความมหัศจรรย์ก็มีจริงเมื่อทั้งฉลามวาฬและ แมนต้าเรย์กป็ รากฏกายขึน้ มาพร้อมกัน เจ้าแมนต้าว่ายวน ไปมากันหลายตัวมาก เป็นเหมือนมหกรรมเลยเชียว เราขอ ยกไดฟ์นี้เป็นการดำ�น้ำ�ที่ดีที่สุดในเมืองไทยของเราทีเดียว
ปลาหมึก Octopus
ยามเย็นบนเกาะสุรินทร์
ยามเย็นบนเกาะสุรินทร์
แล้วน้องป๋วยก็ต้องร้องเพลงให้พวกเราฟัง เจ็ดโมงเช้า เพราะถ้าสายกว่านี้น้ำ�จะแรงและจะ หนาแน่นไปด้วยนักดำ�น้ำ� เพราะที่ริเชลิวเป็นอีก ตามสัญญา หมายดำ�น้ำ�ที่ท็อปฮิตเนื่องจากเป็นแหล่งดูปลาใหญ่ ลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการสู้กระแสน้ำ�และ แต่ไดฟ์นี้เรากลับไม่ได้เห็นปลาใหญ่มากนัก การว่ายตามฉลามวาฬกับแมนต้าเรย์กันมาทั้ง มีเพียงฝูงปลาสากฝูงหนึ่ง ปะการังอ่อนที่นี่สวยมาก วัน ทางเรือได้พาพวกเราไปเทีย่ วบนบกทีเ่ กาะสุรนิ ทร์ และมีสัตว์เล็กๆ แปลกๆ อย่าง “ปูปะการัง” และ “หอยเบี้ยลายเสือ” ให้ได้ชม น่าเสียดายที่เราไปถึงที่นั่นเกือบค่ำ�แล้ว เราลงเรือยางดิงกี้เข้าไปที่ตัวเกาะ หาดทราย ถึงแม้จะลงกันไปแต่เช้าตรู่ ใต้น้ำ�ก็เต็มไป ที่นี่สวย และน้ำ�ใสสมคำ�ล่ำ�ลือ พวกเราเดินเล่นบน ด้วยนักดำ�น้ำ�จากเรือลำ�อื่นแล้ว เราดำ�น้ำ�ที่นี่เพียง หาดทรายกันจนพระอาทิตย์ตกดิน และพระจันทร์ ไดฟ์เดียวก็ย้อนกลับมาดำ�ที่เกาะบอนอีกครั้ง โดย ลงทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ โผล่ขึ้นมาแทนที่ ช่างเป็นภาพงดงามเหลือเกิน เรื อ ออกเดิ น ทางจากเกาะตาชั ย ตอนเช้ า มืด เราตื่นขึ้นมาก็ถึงที่หมายดำ�น้ำ�กองหินริเชลิว วันนีน้ �้ำ ไม่คอ่ ยใส แต่กม็ แี มนต้ามาให้เห็นถึง 27 พอดี ทางเรือแจ้งว่า เราต้องลงดำ�น้ำ�ที่นี่กันตั้งแต่ 2 ตัว
ห
บนใบบั บนใบบัวว
ทากเปลือย (Nudibranch) ชนิดต่างๆ
ทากเปลือย (Nudibranch) ชนิดต่างๆ
บนใบบั บนใบบั ว ว
28 28
ปลาผีเสื้อคอขาว
เรามาปิ ด ท้ า ยการดำ � น้ำ � ของทริ ป นี้ ด้วยหมายดำ�น้�ำ ใหม่แกะกล่องที่ “แพจมบุญ สูง” ที่นี่น้ำ�ขุ่นเอาเรื่องแต่เป็นหมายดำ�น้ำ�ที่ ดำ�สนุกเพราะมีปลาชุกชุม และมีทากเปลือย (Nudibranch) กับปลาไหล Moray เยอะมากๆ แต่ต้องคอยระวัง Stone Fish หรือ “ปลากะรังหัวโขน” ที่อำ�พรางตัวเกาะ อยู่ตามตัวเรือเยอะแยะไปหมด หากไม่ระวัง เผลอไปจับเข้าเป็นต้องเจ็บปวดจากพิษของ มัน ที่นี่เป็นอีกหมายดำ�น้ำ�นึงที่อยากจะ แนะนำ�ให้กับเพื่อนนักดำ�น้�ำ ที่ไม่เคยมาได้มา พิสูจน์ เราปิดท้ายการดำ�น้ำ�ของทริปนี้ด้วย ความประทั บใจ และเป็ น ทริ ป ดำ � น้ำ �ใน ประเทศที่ดีที่สุดสำ�หรับเรา
ปลา Stonefish, แพจมบุญสูง
ปะการังอ่อน
ปลานกแก้วกางมุ้ง
บนใบบับนใบบั ว ว
กระเบนราหู Manta Ray
ปลาไหลมอเร่ย์ตาขาว, แพจมบุญสูง
29 29
มาสันกำ�แพง
อย่าลืมเชิญแวะชิม
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นนุ่มลิ้น-ไส้ตุ๋น-เอ็นตุ๋นซี่โครงหมูตุ๋น-ข้าวซอยไก่-เนื้อรสเข้มข้น ข้าวขาหมูพะโล้ตุ๋นยาจีน
บนใบบัว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเบิ้ม | ป่าไผ่ สันกำ�แพง เชีียงใหม่ | ทางไปน้ำ�พุร้อนสันกำ�แพง Tel. 085-030-9225
30
น ิ ก น ว ช
Be Health
ข้าว(ใหม่)ห่อใบบัว
Mai’s Kitchen
. . ้ . ม ไ ก อ ด
Text & Photo : KaowMai
ชมจันทรน์
ำ�้มันหอย
บนใบบั บนใบบัวว
31
หัวเรือ่ งฟังดูใจร้ายไปไหมคะ? อุตส่าห์ยา้ ยคอลัมน์จาก ต้นไม้มาเข้าครัวแล้วก็มิวายจะไปยุ่งกับดอกไม้อีกนะคะเนี่ย ฉบับนี้ ข้าวใหม่ชวนคุณผู้อ่านไปเด็ดดอกไม้มาชิมกันค่ะ พอจะจำ� “ดอกชมจันทร์” กันได้ไหมคะ ดอกชมจันทร์ หรือ ดอกบานดึก นั่นแหละค่ะ คราวก่อน เรารู้จักชื่อเสียงเรียงนามกับวิธีปลูกกันแล้ว มา คราวนี้ ข้าวใหม่จะชวนชิม “ชมจันทร์น้ำ�มันหอย” ค่ะ
ส่วนประกอบ
บนใบบัว
32
1. ดอกชมจันทร์ 1 แพ็ก 2. กระเทียม 1-2 กลีบ 3. น้ำ�มันถั่วเหลืองประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำ�มันหอย 1-2 ช้อนโต๊ะตามชอบ 5. น้ำ�ตาลนิดหน่อย (กรณีน้ำ�มันหอยบางยี่ห้อ อาจจะมีรสเค็มนำ�) 6. ซีอิ๊วขาวเหยาะนิดหน่อยพอหอม (และเผื่อกรณีน้ำ�มันหอยบางยี่ห้อ อาจจะมีรสหวานนำ�) 7. พริกไทย ใช้โรยหน้า
วิธีทำ�
1. ล้างดอกชมจันทร์ให้สะอาด คัดดอกที่ช้ำ�มากๆ ทิ้ง เด็ดขั้วดอกออกด้วยนะคะ แล้วใส่ตะกร้าให้ สะเด็ดน้ำ� 2. ตั้งกระทะบนไฟ รอกระทะร้อนใส่น้ำ�มันถั่วเหลือง เล็กน้อยพอเจียวกระเทียม 3. เจียวกระเทียมให้เหลือง 4. ใส่ดอกชมจันทร์ลงไปผัดในกระทะ 5. ใส่น้ำ�มันหอย 1-2 ช้อนโต๊ะ แล้วปรุงด้วยน้ำ�ตาล หรือซีอวิ๊ ขาวตามชอบค่ะ (มือใหม่คอ่ ยๆ เหยาะไปชิม ไปก็ได้นะคะ) 6. ผัดคลุกเคล้าดอกชมจันทร์จนสุก 7. เทใส่จาน เหยาะพริกไทยเล็กน้อย เมนูเก๋ๆ ชือ่ แสนน่ารัก แบบง่ายๆ จากดอกไม้ ก็เสร็จลงอย่างง่ายดาย สำ�หรับคนที่อาจจะเบื่อผัดผัก ที่มีอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด หรืออาจจะเป็นเมนูพเิ ศษ สำ�หรับวันพิเศษและ คนพิเศษ ในมื้อพิเศษใต้แสงจันทร์ อันนี้ก็น่ากินไม่ เบาเลยค่ะ
ถ้าหากต้องการสีสันและความเผ็ด ให้ตบพริกขี้หนูสีแดง 3-5 เม็ดลงไปได้ค่ะ
บนใบบั บนใบบั วว
หมายเหตุ :
33 33
Be Health
(สุขภาพ) ซ่อมได้
Renovate Life
Text & Photo : รติ จุลกะเศียน
เป็นและอยู่ กับ “รูมาตอยด์” โ
บนใบบัว
34
รครู ม าตอยด์ เ ป็ น โรคข้ อ อั ก เสบเรื้ อ รั ง ชนิ ด หนึ่ ง ที่ มี ลั ก ษณะเด่ น คื อ เยื่อบุข้อจะมีการเจริญงอกงามและมีการหนาตัว จากนั้นจะลุกลามทำ�ลาย กระดูกและข้อในที่สุด โรคนี้มิได้เป็นแต่เฉพาะข้อเท่านั้น ยังอาจมีอาการทาง ระบบอื่นๆ เช่น ตา ประสาท กล้ามเนื้อ เป็นต้น
โรครูมาตอยด์สามารถเป็นได้กบั ทุกกลุม่ อายุตงั้ แต่เด็กจนถึงวัยชรา แต่สว่ นใหญ่จะพบใน ผู้ป่วยวัยกลางคน และพบในเพศหญิงมากกว่า เพศชาย สาเหตุทแี่ ท้จริงยังไม่เป็นทีท่ ราบแน่นอน แต่จากการศึกษาพบว่ามีสว่ นเกีย่ วกับการติดเชือ้ บางอย่าง และพันธุกรรม ถึงแม้โรครูมาตอยด์เป็นโรคข้ออักเสบ เรื้ อ รั ง ที่ พ บได้ บ่ อ ยที่ สุ ด แต่ จ ะมี ก ลุ่ ม โรค ข้ออักเสบเรื้อรังอื่นๆ อีกมาก ที่เลียนแบบโรค รูมาตอยด์ได้ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจจาก แพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เนื่องจากการ รักษาจะแตกต่างกันออกไป (ที่มาข้อมูล : สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย http://www.thairheumatology.org/people01. php?id=81)
บนใบบั บนใบบั ว ว
“ “
การรั ก ษาโดยการใช้ ย ากิ น มาโดยตลอด ทำ � ให้ อ าการ ปวดข้อเริ่มลดน้อยลง แต่โรค รูมาตอยด์ไม่หายขาด
จ
ากการเป็ น ผู้ ป่ ว ยและอยู่ กั บ โรคข้ อ รูมาตอยด์มามากกว่า 3 ปี นับจากปีแรก ที่ เ ริ่ ม สั ง เกตตั ว เองพบว่ า มี อ าการปวดใน ข้องอในกระดูกเกือบทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ นิ้ ว มื อ ลุ ก นั่ ง ยื น เดิ น ในระยะแรก ลำ�บากและเจ็บกระดูกแทบทุกข้อ แต่เมื่อเข้า รั บ การตรวจและรั ก ษาที่ แ ผนกอายุ ร กรรม โรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์ได้แนะนำ�วิธอี อก กำ�ลังกายง่ายๆ ที่สามารถนอนทำ�บนเตียงได้ ควบคูไ่ ปกับการกินยา โดยปรับเปลีย่ นไปตาม อาการในแต่ละช่วง ระยะเวลาที่ ผ่ า นมายั ง คงมี อ าการ ปวดตามข้อ ใช้ประสบการณ์วิเคราะห์เป็น เพราะสาเหตุพื้นฐานเดิมๆ คือ ความเครียด, สภาพอากาศ, การไม่ดูแลตัวเองเรื่องอาหาร, การใช้ ชี วิ ต ประจำ � วั น ที่ ไ ม่ เ หมาะสมกั บโรค เรื้อรังที่เป็นอยู่ เช่น พักผ่อนน้อย (เกินไป), อริ ย าบทและนิ สั ยในการใช้ ค อมพิ ว เตอร์ , ละเลยการออกกำ�ลังกายที่ไม่ลงน้ำ�หนักมาก อย่างเช่น การว่ายน้ำ� ซึ่งควรทำ�เป็นประจำ� การรั ก ษาโดยการใช้ ย ากิ น มาโดย ตลอด ทำ�ให้อาการปวดข้อเริ่มลดน้อยลง แต่ โรครูมาตอยด์ไม่หายขาด ยังต้องไปพบแพทย์ เจาะเลือด เพื่อตรวจสอบอาการและปรับยา ทุกๆ 2-3 เดือน ฉะนัน้ อาศัยแค่ก�ำ ลังใจดี...แต่ไม่เพียง พอ ถ้าละเลยการดูแลตัวเอง
35 35
Be Health
ต้นไม้ใบหญ้า
Tree of Life
Text & Photo :ดอกไม้เมรี
สีส้มแสดแดง “ทองกวาว”
ความงามในทุ่งแล้ง
ทองกวาวคราวดอกแดง เชิงจ่าแจงแคงเหียงหัน บนใบบัวว บนใบบั
36 36
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
สี
แสดแดงของ ดอกทองกวาว ถูกนำ�มาเป็น ตัวแทนของการแบ่งสีคณะในโรงเรียนมัธยม ทีฉ่ นั เรียนตอนอยูม่ ธั ยมศึกษาตอนต้น ฉันนักเรียน ม.1 ผู้ ไ ม่ รู้ อิ โ หน่ อิ เ หน่ ถู ก สุ่ ม เลื อ กให้ อ ยู่ ค ณะ ทองกวาว ทำ�ไมนะ...ในบรรดาทัง้ หมด 4 สี 4 คณะ คือ สีฟา้ (คณะแวววิเชียร) สีชมพู (คณะชมพูพนั ธุท์ พิ ย์) สีเหลือง (คณะทานตะวัน) ล้วนเป็นสีที่แสนจะอ่อน หวาน แต่ฉนั ถูกกำ�หนดให้อยูส่ สี ม้ (คณะทองกวาว) อันเป็นสีที่ฉูดฉาดที่สุด ฉันผู้ชอบอะไรเรียบง่าย จะต้องใส่เสื้อกีฬา สีส้มแจ๊ดตลอด 3 ปี ของการเรียน ม.ต้น และใน รุ่นฉันนี่โรงเรียนเปลี่ยนมาใช้ผ้ามันตัดเสื้อยิ่งเพิ่ม ความส้มแจ๊ดประกายทองแสบทรวงเข้าไปอีก “ไม่ชอบเลย” นี่คือความรู้สึกที่มีต่อคำ�ว่า “ทองกวาว”
บนใบบัว
พอสิ้ น ฤดู ห นาว ทองกวาวต้ นใหญ่ ข้ า ง โรงอาหารก็ออกดอกให้ฉนั ประจักษ์ถงึ ความงามของ เธอ แม้สีจะแสดส้มสว่าง แต่ก็ไม่ถึงกับจัดจ้านจน น่าเกลียด ฉันเริ่มรู้สึกชอบเธอขึ้นมาบ้างแล้ว (แต่ก็ ยังทำ�ใจไม่ได้กับสีเสื้อ) และเธอก็ยังแอบติดอยู่ ในใจฉันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครั้งใดที่เดินทางไป ภาคเหนือหรือภาคอีสานช่วงฤดูแล้ง ฉันจะเห็นดอก สีส้มแดงของเธอมาทักทายอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะ ช่วงเส้นทางจังหวัดสุโขทัยจะขึน้ อยูเ่ ต็มตลอด 2 ข้าง ทาง เมื่อฉันได้อ่านงานเขียนของ คุณธีรภาพ โลหิ ต กุ ล เรื่ อ ง “หอมกลิ่ น ฝั น ทิ พ ยเดช คนดี ศรีสัชนาลัย” มีภาพต้นทองกวาวออกดอกสีส้ม
บานสะพรัง่ อยูห่ น้าเจดียว์ ัดช้างล้อม เมืองโบราณ ศรีสัชนาลัย ช่างงามประทับใจฉันเหลือกัน ฉัน กำ�หนดไว้ในใจว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ฉันจะต้องไปชมภาพนี้ ในสถานที่จริงให้ได้
37
และเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฉันก็ทำ�ได้สำ�เร็จ ดังใจหวังช่วงกลางเดือนมีนาคม ดอกทองกวาว เบ่งบานอวดโฉมแต่งแต้ม เปลี่ยนเมืองโบราณ ศรี สั ช นาลั ย ที่ เ ก่ า ร้ า งและเปลี่ ย วเหงาให้ มี บรรยากาศที่สดใสงดงามยิ่งขึ้น ในสายตาคนรัก ดอกไม้อย่างฉัน......มีความสุขจัง
ซ
ากปรักหักพังของเมืองโบราณศรีสัชนาลัย และเมืองสุโขทัย ยังทิ้งร่องรอยของความ ละเอียดอ่อนงดงามบ่งบอกถึงจิตใจอันอ่อนโยน ของผู้ ส ร้ า งลงบนงานปู น ปั้ น ฉั น นึ ก วาดภาพ ในใจถึงเมืองโบราณในอดีตเมื่อ 700 กว่าปีที่ แล้ว จะงามวิจิตรเพียงใดนะ บ้านเมืองคงสงบ สุขร่มเย็น ดังคำ�ในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำ�แหง มหาราช จารึกหลักที่ 1 “เมืองสุโขไทนีด้ ี ในน้�ำ มีปลา ในนามีขา้ ว เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ ลูทา่ ง เพือ่ นจูงวัวไปค้า ขีม่ า้ ไปขาย ใครจักใคร่คา้ ช้างค้า ใครจักใคร่คา้ ม้า ค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส”
บนใบบัว
38
ถ้าต้องการจะชมดอกทองกวาวให้จุใจยิ่ง ไปอีก ในหนังสือ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของ ททท. ชักชวนให้ไปชม “ถนนดอกไม้ ทองกวาว บานตระการตา” ในเดือนกุมภาพันธ์ เส้นทาง จากอำ�เภอดอกคำ�ใต้ไปอำ�เภอจุน จังหวัดพะเยา รวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร การชืน่ ชมดอกทองกวาว สำ�หรับคนขีแ้ พ้ ต้องระวังสักหน่อย ระหว่างที่ฉันตื่นเต้นกับการ ถ่ายภาพดอกทองกวาว จับเธอพลิกไปพลิกมา หยิบเธอไปวางตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง (ดอกที่ร่วง
อยู่บนพื้น) ก็รู้สึกระคายตัวขึ้นมาแต่ก็ไม่ถึงกับขึ้น ผื่นแดงบนผิวหนัง สาเหตุเพราะดอกของเธอมีขนละเอียดอ่อน นุม่ อยูเ่ ต็มไปหมด ฉันจึงเข้าใจแล้วว่าทำ�ไมคนถึงไม่ นิยมรับประทานดอกทองกวาวกัน ทั้งๆ ที่รูปร่าง หน้าตาก็ไม่ต่างจากดอกแคสักเท่าไหร่ ในหนังสือก็ บอกว่าเป็นดอกไม้กินได้ บางความสวยอาจจะซ่อนพิษไว้ (สำ�หรับบาง คน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 12-18 เมตร เปลือกต้นเป็นปุ่มปม กิ่งอ่อน มีขนละเอียดสีน้ำ�ตาลหนา การแตกกิ่งก้านไป ในทิศทางที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบ เป็นใบ ประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ใบย่อยที่ปลายรูปไข่กลีบแกมสี่เหลี่ยมขนม เปียกปูน ใบย่อยด้านข้างเป็นรูปไม่เบีย้ ว กว้าง 8-15 เซนติเมตร ยาว 9-17 เซนติเมตร ขอบ ใบเรียบด้านบนเกลีย้ งเกลา ด้านล่างของใบสาก ดอกสีแสดหรือแดงสด บางต้นมีสีเหลือง รูป ทรงแบบดอกถัว่ ขนาดใหญ่ ออกเป็นช่อตามกิง่ ก้านและที่ปลายกิ่ง ยาว 2 - 15 ซม. กลีบ 39 บนใบบัว
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Betea monosperma O. Ktze. วงศ์ : LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE ชื่ อ สามั ญ : ทองกวาว (อังกฤษ: Bastard Teak, Bengal Kino, Flame of the Forest) ชื่อพื้นเมือง : กวาว ก๋าว (ภาคเหนือ), จอมทอง (ภาคใต้), ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ ทองต้น (ภาคกลาง), ดอกจาน(ภาคอิสาน), จ้า (เขมร) ดอกไม้ประจำ�จังหวัด เชียงใหม่, ลำ�พูน, อำ�นาจเจริญ, อุดรธานี
ดอก 5 กลีบ ยาวประมาณ 5-8 ซม. เริ่ม ออกดอกในเดือน ธันวาคม-มีนาคม ผลมีลักษณะเป็นฝักสีน้ำ�ตาลอ่อน แบน โค้ ง งอเล็ ก น้ อ ย ไม่ แ ตก ด้านบนหนาแตกเป็น 2 ซีก มี เมล็ดขนาดเล็กอยู่ภายใน 1 เมล็ด ฝักยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ทองกวาวมี ถิ่ น กำ � เนิ ด ในเอเชี ย ใต้ จากอินเดีย ภูมิภาคอินโดจีนและอินโดนีเซีย ใน ประเทศไทยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มต่ำ� หรือป่าราบ มีมากทางภาคเหนือ ตะวันออกและตะวัน ออกเฉียงเหนือ
บนใบบัว
การปลูกเลีย้ ง : นิยมปลูกลงในแปลงปลูก เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ดินร่วน อัตรา 1:2 ผสมดิน ถ้าปลูกเพื่อประดับ บริเวณบ้านหรืออาคารควรให้มีระยะห่างที่เหมาะสม เพราะทองกวาวเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่พอสมควร การดูแล: ต้องการแสงแดดจัด หรือกลาง แจ้ง ต้องการปริมาณน้ำ�ปานกลาง ควรให้น้ำ� 7-10 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2:3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-5 ครั้ง ไม่ ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อโรคพอ สมควร การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด ผล จะเริ่มแก่ระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม ประโยชน์ ดอก : ต้ ม ดื่ ม เป็ น ยาแก้ ป วด ถอนพิ ษไข้ 40 ขับปัสสาวะ
ฝัก : ต้มเอาน้ำ�เป็นยาขับพยาธิ ยาง : แก้ท้องร่วง เปลือก : ใช้ทำ�เชือกและ กระดาษ มีงานวิจัยพบว่า สารสกั ด จากเปลื อ ก ช่ ว ย เพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น แต่จะลดจำ�นวนอสุจิ เมล็ ด : บดผสมมะนาว ทาบริเวณผื่นคัน ใบ : ต้มกับน้�ำ แก้ปวด ขับพยาธิ ท้องขึน้ ริดสีดวงทวาร ราก : ต้มรักษาโรคประสาท บำ�รุงธาตุ ความเชื่อของไทย : ไม้มงคล คนไทยโบราณเชื่ อ ว่ า บ้ า นใดปลู ก ต้ น ทองกวาวไว้ประจำ�บ้านจะทำ�ให้มีเงินมีทองมาก เพราะทองกวาวเป็นไม้มงคลนาม คือสามารถมีทอง ได้ตามธรรมชาติหรือมีทองมากนั่นเอง นอกจากนี้ ดอกยังมีความสวยเรืองรองดั่งทองธรรมชาติ ตำ � แหน่ ง ที่ ป ลู ก และผู้ ป ลู ก ควรปลู ก ต้ น ทองกวาวไว้ทางทิศใต้จะเป็นมงคลยิ่ง ผู้ปลูกควร ปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชือ่ ว่า การปลูกไม้เพือ่ เอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ผู้ปลูกควรเป็น ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ที่ประกอบคุณ งามความดี ก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก ที่มาข้อมูลและภาพ หนังสือ : ครัวดอกไม้ ผู้เขียน พูนทรัพย์ เจตลีลา หนังสือ : 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย http://th.wikipedia.org http://www.moohin.com/happytrips/happytrips027c020.shtml (รูปภาพ)
Co.,Ltd
Event Seminar , Booth ,, PR , Media, & sound ect.. Event , Seminar , Booth , ,PR , Media light & light sound etc...
Flow work Co.,Ltd (บริษัท โฟลว์เวิร์ค จำ�กัด) 62/41 หมู่ 8 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000 ติดต่อ จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ 086-3123651
บนใบบัว
Event , Seminar , Booth , PR , Media , light & sound etc...
41
Be Health
กิน (ไร) ดี
Goodtaste
Text & Photo : กบบันจี้
เผาปลาริมทาง
“หลังรามฯ” บนใบบั วว บนใบบั
42 42
“หิวๆ”
ลูกเจีย๊ บร้องกุก๊ ๆ เอ๊ย บ่นหิวตัง้ แต่ความ มืดเริ่มมาเยี่ยมเยือน “กินไรดีอ่ะ” ลูกอ๊อดชงชื่อร้านอาหาร เวียดนามทีล่ กู เจีย๊ บกินแล้วติดใจขึน้ มาก่อน วาด เส้นทางการจราจรในใจ ก่อนจะงัดอีกร้านไม้ตาย นำ�เสนอ “พระราม 9 ไหม” “ได้ๆ” ลูกเจี๊ยบหิวจนหน้ามืด ไม่งอแง เพราะรู้ซึ้งถึงความอร่อย กินได้ ของร้านนี้กันดี แต่ระหว่างทางบนถนนพระราม 9 ก่อนที่ จะถึงเป้าหมายแรก ลูกอ๊อดก็นึกเปลี่ยนใจ ชวน ไปกินร้านที่ไม่เคยกินบ้างดีกว่า เผื่อจะได้มีร้าน อาหารตัวเลือกหลากหลายขึ้นมาอีก
ผ่าน ร้านพระราม 9 ไก่ย่าง มาแล้ว แต่ ก่อนที่จะถึงร้านเป้าหมาย(เปลี่ยนใจ)ที่สอง เลี้ยว ซ้ายเข้าถนนตัดใหม่เรียกว่าถนนอะไรก็ไม่ทราบ เชื่อมระหว่างถนนศรีนครินทร์ - พระราม 9 - พัฒนาการ ลูกอ๊อดก็ชวนลูกเจี๊ยบเปลี่ยนใจอีก ครั้ง “กินปลาเผาหลังรามฯ ไหม” “อา...เค้าก็อยากชวน แต่ตัวเองไม่กินปลา นี่” “กินได้ เขามีอย่างอืน่ ด้วยไม่ใช่เหรอ ว่าแต่ มีที่จอดรถไหมล่ะ” “มีๆ เลี้ยวเข้าไปจอดในรามก็ได้ แต่... แหง่ะ..เลยทางเข้ามาแล้ว งั้นไปจอดใน กกท. ก็ได้” ลูกเจี๊ยบรีบบอก กลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ... อีกครั้ง 55++
บนใบบัว
43
หลั ง ฝ่ า ความจอแจในเวลาย่ำ � ค่ำ � ของ ซอยรามคำ�แหง 24 จนได้ที่จอดรถใน กกท. แล้ว ลูกเจีย๊ บ แม้จะเป็นศิษย์นอ้ งลูกพ่อขุน แต่ในฐานะ เจ้าถิน่ ด้านเมีย่ งปลาเผากว่านำ�ลูกอ๊อดฝ่าด่านร้าน ปลาเผาบริเวณหลังรามฯ หลายโต๊ะ ไปหาร้าน ประจำ� เป้าหมายของเธอ “ปลาเผาอร่อยสุดต้องร้านนี”้ สายแข็งเมีย่ ง ปลาเผาเคยบอกให้ได้ยินเสมอๆ ลูกเจีย๊ บมักจะนัดเพือ่ นปาร์ตเี้ มีย่ งปลาเผา คนละตัว นัยว่าเป็นการให้รางวัลกับตัวเองเกือบ ทุกเดือนที่ “หลังรามฯ” เวลานั้นนึกภาพไม่ค่อย ออกว่า หลังรามฯ ตอนเย็นๆ ค่�ำ ๆ ทีว่ า่ บรรยากาศ เป็นอย่างไร “ขนาดกลางก็พอเนอะ” ลูกเจี๊ยบขอความ เห็นลูกอ๊อด เมื่อพนักงานเสื้อส้มลากเก้าอี้มานั่ง หัวโต๊ะ รอจดรายการอาหาร (เป็นทีน่ า่ เอ็นดูยงิ่ นัก) เพราะความที่ไป (กิน) กันแค่ 2 คน เราจึงสั่ง ปลาขนาดกลาง 1 ตัว พร้อมกับหอยแครงลวก (สุก) 1 จาน ตามด้วย ตำ�มะม่วง (ไม่พริก) 1 ที่ พนักงานผละไป ลูกอ๊อดมองตามหลังเสื้อสีส้มที่
บนใบบัว
44
พนักงานใส่ จึงถึงบางอ้อว่า ร้านนี้ตั้งชื่อร้านได้ตรง ไปตรงมาดี “หลังรามฯ” ลูกเจี๊ยบเปรยขึ้นมาว่า “ปกติตอนที่มากินอ่ะ เค้ากินแต่ปลาก็อิ่มแล้ว” อา...งานเข้าล่ะสิ 2 คนจะกินที่สั่งมากันหมด ไหมนั่น หอยแครงลวก สุกระดับปานกลาง ไม่เลือด ซ่ก ถูกส่งมาเป็นทัพหน้าพร้อมด้วยน้�ำ จิม้ สักพักตาม มาด้วย ตำ�มะม่วง หลังลูกเจีย๊ บจิม้ ตำ�มะม่วงประเดิม เป็นคำ�แรก “อ้ากกก มันเผ็ดนินา ตัวเองกินไม่ได้แน่เลย” ลูกเจี๊ยบชิมไปบ่นไป (ความจริงแค่คำ�เดียวเล็กๆ) แล้วก็จัดแจงหยิบตำ�มะม่วงจานนั้นไปให้ร้านพิสูจน์ สิ่งที่เราสั่ง ระหว่างรอตำ�มะม่วง เมี่ยงปลาเผาตัวเท่า ชามแปลตัวหนึ่งก็ถูกยกมา “300 ได้ไหมคะ 280 อีกนาน” ได้ยินแว่วๆ ว่าประมาณนี้ ดูจากโต๊ะซึง่ เหมือนลูกค้ากำ�ลังเล่นเก้าอี้ ดนตรีแล้ว ลูกอ๊อดจึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย... ไม่งั้น ไม่รตู้ อ้ งรอชาติไหนจะได้กนิ เมีย่ งปลาทับทิมเผาจาน นั้น มาพร้อมกับผัก 1 กระจาด น้ำ�จิ้มรสเด็ดคนละ
ถ้วย แถมมีน้ำ�จิ้มเด็กให้อีก 1 ถ้วย...แฮ่ม ถูกใจ เสียจริง สักพัก ตำ�มะม่วง..ไม่พริก ก็ถูกยกมา พร้อมกับพนักงานคนที่รับออร์เดอร์เรา “ขอโทษนะคะ เมื่อกี๊เขาลืม ไม่ได้ล้างครก ค่ะ” เธอบอก ช่างเอาใจใส่ลูกค้าดีจริงๆ เลย กินไปอิ่มไป ปลาหมดไปแค่ครึ่งตัว แต่ หอยแครงกับตำ�มะม่วงเรียบ (แม้มะม่วงจะเปรีย้ ว จีด๊ สำ�หรับคนทีอ่ าจไม่ชอบรสเปรีย้ ว แต่กท็ �ำ ให้ต�ำ มะม่วงจานนั้นมีครบ 3 รส ไม่นับรสอร่อย 55+) นับว่าไม่เลวร้ายกว่าที่คิด (ว่าจะเหลือ) ลูกเจี๊ยบจัดแจงเลาะก้างปลาออก จัดแต่ง จานให้ดูดี พร้อมเรียกเก็บเงินและบอกพนักงาน “ห่อปลากลับให้ด้วยค่ะ” ลูกอ๊อดส่งกระจาดผัก ให้แต่พนักงานร้านไม่ยักสนใจ แต่เมื่อเขานำ�ถุง ใส่ปลากลับมาให้ จึงถึงบางอ้อว่า เขานำ�ปลา (ที่ เหลือ) ใส่กล่องโฟม พร้อมผักและน้ำ�จิ้มชุดใหม่ ให้...แจ๋วจริง
ร
ะหว่ า งเดิ น กลั บ ไปรถ เราแวะเก็ บ ภาพ บรรยากาศร้าน ถึงเตาเผาปลาและย่างไก่ อีก หนึง่ เมนูทที่ างร้านพร้อมนำ�เสนอ ไก่ยา่ งน้�ำ กะทิสด ซึง่ ส่งควันโขมง ดูเร้าใจเป็นอย่างยิง่ พนักงานหนุม่ ใหญ่ตวั กำ�ยำ� หน้าดำ�เป็นมันเยิม้ เพราะการทำ�งาน หน้าเตาไฟหันมาเห็นเรากำ�ลังถ่ายภาพกันอยู่ เขา ยิ้มให้กล้อง ยกนิ้วโป้งชูขึ้น “อร่อยมากๆ ครับ” เป็นคำ�อธิบายแทนใจลูกอ๊อด...ไม่ตอ้ งมีค�ำ บรรยายเพิ่ม
บนใบบัว
45
Be Heart
ภาพ (ถ่าย) เล่าเรื่อง
Pic & Post
Text & Photo: ม.จิตฏาร์
% 0 0 1 e
Lov
บนใบบัว
46
..ในบางคราทีร่ สู้ กึ เหมือน เส้นบางๆ ของความสัมพันธ์ ที่ เราถือไว้คนละด้านนัน้ คล้ายจะขาด จากกันเสียให้ได้ เพี ย งเพราะแรงลมจากการ กระพือปีกของผีเสื้อพเนจรที่บินผ่าน มา ไม่ น่ า เชื่ อ ว่ า เพี ย งไม้ บ รรทั ด ธรรมดา ทีย่ นื่ จากมือของอีกคนทีจ่ บั ปลาย สายของความสัมพันธ์ไว้อกี ด้านจะทำ�ให้ฉนั มีรอยยิ้มได้ อมยิ้ ม ในใจแต่ ยั ง คงตี ห น้ า ขรึ ม .. เมื่อถามว่า “ให้เค้าทำ�ไม” อีกคนก้มหน้างุดๆ ราวกำ�ลังง่วน กับอะไรสักอย่าง แล้วเหล่มองก่อนตอบว่า “มันมีลูกเจี๊ยบ” ฉันพยายามมองดูบ้าง ก็ได้พบกับ สิง่ มีชวี ติ สีเหลืองตัวเล็กมากและปากแหลม ที่แอบอยู่ตรงมุมหนึ่งของไม้บรรทัด
และยิ้มมากกว่า.. ...เมื่อ มองเห็ น บนซองพลาสติ ก ของ ไม้บรรทัดขนาดหนึง่ คืบนัน้ ก็มตี วั การ์ตนู ทีฉ่ นั คุน้ ตามาสักพักใหญ่ของชีวติ แล้วยืนยิม้ แฉ่งปาก กว้าง และข้างๆ กบตัวนัน้ ก็มสี ญ ั ลักษณ์ค�ำ พูด ว่า.. LOVE 100% เพราะคุณค่าของบางสิง่ อาจไม่ได้อยูท่ วี่ า่ มันคืออะไร หากแต่อยู่ที่ มันถูกให้โดยใคร และ สำ�คัญเพียงไหน.. ต่อผู้รับ : )
รักโค้ก ต้องมาบ้านโค้ก
baancokethailand.com
ºŒÒ¹â¤Œ¡
เลขที่ 46 ซอย 2 หมู่ 2 สามชุก สุพรรณบุรี 72130 โทรศัพท์ 035-544-277
SUN MOON STAR HAADYAO KOHPHANGAN, THAILAND
บนใบบัว
CONTACT MR.TOUAN TEL : 66-077-349139, 66-086-2790166
47
Be Heart
โลกของภู
World of Pooh.
Text & Photo : น้าอ๊บ
พา Pooh. ไป (ย้ำ�และซ้ำ�)
บนใบบัว บนใบบัว
48 48
ฟาร์มจิม
“วันเสาร์นี้ไปไหนหรือเปล่า”
บนใบบั บนใบบัวว
แม่จิบส่งเสียงมาตามสาย “มีนัดกินข้าวปีใหม่กับที่บ้านจ้ะ” “แล้ววันอาทิตย์ล่ะ” เสียงปลายสายมีแววคาดหมาย “นัดกินข้าวกับแก๊งขมิ้นอ่ะเจ๊” แล้วก็นึกรอลุ้นว่าแม่จิบมีเรื่องอันใด สักพักก็ได้คำ�ตอบ “เจ๊อยากไปฟาร์มจิมอีก ฟักทองอร่อยมากกกกเลย เจ๊ซื้อมาน้อยไป” “อ้าว ไม่ว่างเลยอ่ะจ้ะ สัปดาห์นี้งานเขาหมดแล้วนี่” “เจ๊โทรไปถามเขาแล้ว เขายังเปิดต่อให้เข้าชมเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ค่านั่งรถรางถูกกว่าเดิมด้วยนะ เพราะเขาย้ายตลาดมาไว้ข้างหน้า เผื่อคนมาซื้อของอย่างเดียว” แน่ะ..แม่จิบทำ�การบ้านมาดี ข้อมูลแน่นปึ้ก แสดงว่าอยากไป (ซื้อฟักทอง) จริงๆ “เสียดายเจ๊โทรมาชวนช้าไปอ่ะ ไม่งั้นก็ไปวันนี้ก็ได้ งั้นเจ๊ไปเสาร์หน้าได้ไหม” “ได้ๆๆๆ” แม่จิบส่งเสียงดีใจมาตามสาย ....... จากเสาร์หน้าที่ว่า กว่าจะได้ฤกษ์งามยามดี ก็ปาเข้าไปเสาร์สุดท้ายของเดือน ที่น้าอ๊บตีรถ กระบะไตตั้นจากบางบัวทองไปรอรับน้องภูกับแม่จิบที่บ้าน ก่อนเวลานัดหมาย 10 นาที เพื่อทริป ย้ำ�และซ้ำ�ตามหาฟักทอง ; ) โปรแกรมนำ�เที่ยวสำ�หรับน้องภูไม่มีอะไรมาก.... แม่จิบเคยบอกบ่อยๆ “ขอให้มีที่กิน ที่วิ่งเล่นกว้างๆ ที่นั่งพัก (วาดรูป)” ส่วนเรื่องการเดินทางไม่ต้องห่วงอีกเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่น้องภูจะตีตั๋วนอนเหมือนทุก ครั้งที่น้าอ๊บนัดแม่จิบกับน้องภูแต่เช้า (มืด) ตีห้าบ้าง, หกโมงเช้าบ้าง ไม่ก็ตีห้าครึ่ง แม่จบิ จะปลุกน้องภูซงึ่ ลุกขึน้ มาอย่างว่าง่ายกว่าเด็กปกติหลายคนเสียอีก โทรศัพท์สอบถาม พิกัดกันแล้ว ได้เวลาแม่-ลูกก็จะจูงมือกันลงมายืนคอย พอส่งน้องภูขึ้นนั่งบนรถปุ๊ป “น้องภูหลับต่อได้นะครับ” สิ้นเสียงแม่จิบ “น้องภูหลับได้” สักพักน้องภูกจ็ ะคอพับคออ่อนไปตลอดทาง..ยกเว้นตอนกินกับเข้าห้องน้ำ�
49
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ถึงปัจจุบันบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม อำ�เภอ ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้เข้าเยี่ยมชมได้ปีละ ครั้ง ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม ไม่ตอ้ งถามว่าน้องภูเคยไปมากีค่ รัง้ เพราะแม้แต่แม่จบิ กับน้าอ๊บก็ยงั ไม่เคยมีโอกาส ไปเยี่ยมชมสักครั้ง แต่จากการเริ่มต้นครั้งแรกกับเพื่อนๆ น้องๆ Caff n’ Travel กลายเป็นว่าน้าอ๊บได้กลับไปฟาร์มจิมอีกถึง 2 ครั้งในคราวเดียวกัน ....และ 2 ครั้งที่ว่าก็เป็นการไป (กลับ) กับแม่จิบและน้องภู
บนใบบัว
50
ครั้งแรกที่เราไปด้วยกันอยู่ในช่วงเปิดให้เข้าชมตามปกติ ผู้คนจึงอุ่นหนาฝาคั่ง เราเดินทางไปถึง ประมาณ 10.00 น. หลังน้องภูเบิ้ลก๋วยเตี๋ยวไป 2 ชาม ก็ได้เวลาผจญภัยด้วยการนั่งรถรางตามจุดท่อง เที่ยวซึ่งฟาร์มจิมจัดไว้ด้วยกัน 4 จุด เราไปลงกันที่ทุ่งทานตะวันและลานฟักทอง แต่แม่จิบมากระซิบว่า “น้องภูอยากนั่งรถรางอีก” เธอจึงต้องพาน้องภูนงั่ รถรางเล่นก่อน ตัง้ แต่ตอนนัน้ เราจึงพลัดพรากจากกัน แต่กค็ อยโทรศัพท์ หานัดพบเจอกันเป็นระยะๆ ตามจุดท่องเที่ยว เหมือนไปด้วยกันแต่แยกกันทำ�กิจกรรม เรามานัดพบกันอีกครั้งในจุดสุดท้ายที่สวนดอกไม้และตลาดจิม ทอมป์สัน ในเวลาเกือบห้าโมง เย็นแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกกันช้อป พืช ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะฟักทอง (สลับกับการผลัดกันนั่งเป็น เพื่อนน้องภู ซึ่งนั่งกินนมเย็นอย่างสบายอารมณ์ไปพร้อมกับการวาดรูป) ...ซึ่งเป็นที่มาของความอร่อย ทำ�ให้เราต้องกลับไปย้ำ�และซ้ำ�อีกนั่นเอง การกลับไปครั้งที่ 2 ของน้องภู เป็นการเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ไปถึงสายกว่าครั้ง แรกมาก เพราะเรามีภารกิจแวะช่วงเช้าหลายจุด แต่เวลาเดินทางกลับนั้นเหมือนกัน ....พระอาทิตย์ตกดินอีกแล้ว 55++ หลังจากถูกเบรกด้วยการใช้กว๋ ยเตีย๋ วทีฟ่ าร์มจิมล่อหลอกน้องภู จากการเบิล้ สปาเก็ตตีร้ า้ นสเต็ก ที่แม่จิบหมายมั่นจะแวะ..ชวนแวะมาหลายหนในมื้อเช้า ก่อนถึงจุดหมายปลายทางเล็กน้อย เมื่อเลี้ยว ซ้ายข้ามคลองชลประทานเล็กๆ น้องภูก็พูดขึ้นมาว่า “ฟาร์มจิม” ความจำ�เป็นเลิศมากๆ
บนใบบั บนใบบั ว ว
51 51
บนใบบัว
52
เข้าไปถึงบริเวณฟาร์มจิมแล้ว น้าอ๊บแทบสะดุดขาตัวเอง ทางฟาร์มปรับผังการจัดแสดงงานใหม่ โดยด้านหน้าซึ่งเป็นจุดขึ้นรถราง และเดิมมีร้าน อาหารขาย กลายเป็นจุดที่ย้ายตลาดพืช ผัก ผลไม้มาขายแทน ...งานเข้าล่ะสิ จะหาก๋วยเตี๋ยวให้น้องภูได้ที่ไหน แต่ชีวิต (แม่จิบและน้าอ๊บ) ยังมีหวัง เมื่อสอบถามได้ความว่า ลานอาหารอีสานจุดเดิมมี ก๋วยเตี๋ยวขาย...เย้ ดีใจด้วยน้องภู หลังนั่งรถราง 1 รอบเต็ม เรานั่งรถรางกลับไปลงจุดเดิมครั้งที่แล้ว แต่ครั้งนี้ปลอดโปร่ง โล่งผู้คน จนแม่จิบดีใจจนออกนอกหน้า น้องภูเองก็ดูจะลั้นลาไปด้วย แม้จะเป็นช่วงบ่ายแล้ว แต่ อากาศก็ไม่ร้อนจนเกินไป เราเดินเล่น ถ่ายรูปกันได้สบายๆ แถมแม่จบิ แก้ตวั ทีช่ วนไปกินของแพงมือ้ เช้า ด้วยการแลกคูปองมาเลีย้ งอาหารอีสานสารพัด ชนิด ไม่นับรวมก๋วยเตี๋ยวน้องภู เช่น ส้มตำ� ไก่ทอด ลาบ น้ำ�ตก ข้าวเหนียว หมี่โคราช..ลาภปาก จริงๆ เลย เผลอแป๊ปเดียว ได้ยนิ เสียงประกาศรถรางเทีย่ วสุดท้าย...แต่ยงั เดินย้อนกลับไปไม่ถงึ จุดขาย ฟักทองเลย “เจ๊..ไปซื้อ (ฟักทอง) ไม่ทัน ไม่มีย้ำ�และซ้ำ�แล้วนะ” ฉันแกล้งขู่แม่จิบทิ้งท้าย ก่อนพวกเราจะเดินไปจับจ่ายตลาดต้นไม้ ผัก และผลไม้ หยิบ โดยไม่ต้องคิดและเลือกมาก (เพราะเหลือให้เลือกไม่เยอะแล้ว) แถมราคาไม่แพงเลย . ....เป็นอันจบทริปพา Pooh. ไป (ย้ำ�และซ้ำ�) ฟาร์มจิม
บนใบบัว
53
Be Heart
บี คาเฟ่
B Cafe’
หนังสือของ วัน
บนใบบั บนใบบั วว
54 54
Text : Caff n’ Travel Photo : ม.จิตฏาร์
เพลงดาบฯ
สบายๆ ของวันหยุดนักขัตฤกษ์ กับ เครื่องดื่มร้อนๆ 1 แก้ว ในมุมหนึ่งของ สวนบนใบบัว เกิดเป็น B Cafe/’ เล็กๆ ขึ้นมา .....ไปเที่ยวยุโรปด้วยรถไฟมาจ้ะ ด้วยการบินลัดฟ้าไป 3 ประเทศในทวีป ยุโรป แล้วกลับประเทศไทย ทวีปเอเชีย มันเป็นไปได้อย่างไร???...หลายคนคงนึก สงสัย เป็นไปได้สิ เพราะไปกับหนังสือ ยุโรป ของเพลงดาบฯ โดยสำ�นักพิมพ์วงกลม ราคา 190 บาท ก็ได้นั่งรถไฟ ไปเดินเล่นที่ ฝรั่งเศส เนเธอแลนด์ เยอรมนี เรียบโร้ย : ) ไปยุโรปทริปนี้ เหมือนได้ไปตามรอยศิลปิน และคนคุ้นเคยไปกับ เพลงดาบฯ อย่างไรอย่าง นั้น ด้วยว่าเส้นทางวงกลม “ไปตามราง” นั้น เริ่มต้นที่ แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ก่อนจะ มุ่งหน้าไป ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เลาะผ่าน
ประเทศเบลเยี่ ย ม เข้ า เมื อ งอั ม สเตอร์ ดั ม ประเทศเนเธอแลนด์ แล้วกลับเข้ากรุงเบอร์ลิน ก่อนจะวกกลับมาจับเครื่องบินกลับเมืองไทยที่ แฟรงก์เฟิร์ตอีกครั้ง ระหว่างทางเราจึงได้พบกับ เจ้าชาย น้อย, โมนาลิซา ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ นอกจาก นั้นยังได้เห็นภาพสุดท้ายในชีวิตของ โคลด โมเนต์ ก่อนจะตามไปชมสวนสวยของเขา และ ที่พักสุดท้ายในชีวิตของ วินเซนต์ แวนโกะห์ ศิลปินโด่งดัง แต่อาภัพ (เกือบที่สุด) หนังสือของ เพลงดาบแม่น�้ำ ร้อยสาย อ่านง่าย เข้าใจไม่ยาก ใช้ภาษาไม่หวือหวา แต่ โดนใจ เที่ยวตรงประเด็น ; ) แค่นเี้ อง การไปเทีย่ วยุโรปด้วยสายตาจึง ใช้เวลาเดินทางไปแค่ (กระ) พริบตาเดียว
บนใบบั บนใบบั วว
หมายเหตุ : สำ�หรับ Bonbaibua Book คำ�ว่า B Cafe’ เป็นชุมชนที่ไม่จำ �กัดรูป แบบตามความหมายที่ ค นส่ ว นใหญ่ เข้าใจ แต่ขอสงวนสิทธิต์ คี วามหมายถึง หนังสือ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือ สถานที่ไหนๆ ก็ได้ในความเป็นจริง .....และตามหัวใจ
55 55
Be Heart
(โปส)การ์ดเขียนคำ�
Post & Pic
Text & Photy : ม.จิตฏาร์
โปสการด์ จาก “แ ม”่ นึกถึงความรู้สึกอันมากมายที่กลั่นกรองออก มาเป็นตัวหนังสือเหล่านั้น เหมือนที่กลั่นความรัก เป็นน้ำ�นม ให้ฉันได้อุ่นอิ่มเมื่อเยาว์วัย
หากภาพถ่าย บนโปสการ์ดสามารถบอกถึงที่มาของผู้ส่งได้ น่าแปลกไหม.. ที่โปสการ์ดบางใบซึ่งไม่มีแม้ภาพถ่ายของ แสตมป์กลับทำ�ให้เราวาดภาพความรู้สึกของ ผู้ส่งได้เป็นอย่างดีเสียยิ่งกว่า มากมายนัก
บนใบบัวว บนใบบั
56 56
ลายมือที่เคยคุ้นสวยงาม เขียนอย่างเป็น ระเบียบ ฉันนึกถึงภาพผู้หญิงที่ฉันเรียกว่า “แม่” ขณะที่นั่งเขียนไปรษณียบัตรฉบับนี้
ฉันจำ�ความรู้สึกขณะที่ได้รับโปสการ์ดใบนี้ไม่ ได้แล้วว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง แต่ในเวลานี้..ที่ผ่านมาร่วม 10 ปี จนกระดาษไปรษณียบัตรแบบเก่า เริ่มเป็นสีเหลืองตรงริมขอบ ฉันกลับรู้สึกเหมือนมีลมหอบความคิดถึง หอบใหญ่ พัดตัวหนังสือเหล่านั้นให้หมุนวน อยู่ในใจฉันอีกครั้ง และในตัวหนังสือที่เรียงร้อยเป็นถ้อยคิดถึง เหล่านั้น ฉันมองเห็นภาพของนกน้อยช่างฝันที่บินออก จากรังมาเนิ่นนาน โดยที่มีแม่นกยังคงรอคอยการกลับมา.. อยู่เสมอ
ShabhaShine
บนใบบัว
ShabhaShine.com
57
Be Heart
ห้องศิลปะ
Drawing Room
Text & Photo : Shabha Shine
ทำ�ไม...ชอบวาดรูป???
บนใบบั บนใบบั ว ว
58 58
ทำ�ไม...ชอบวาดรูป??? เพลิน ที่วาด
“อยากผ่อนคลายความเครียด วาดรูปไม่มีถูกไม่มีผิด สนุก และ มีความสุข” “สมัยเด็กชอบวิชาวาดรูป เพราะคุณครูใจดี มีคนมาชื่นชมรูป ปลื้มมาก เลยอยากวาดอีก เพราะ มีความสุข”
“ถูกพระเจ้าสาปมาให้ชอบจับพู่กันมากกว่าปากกา แต่ชีวิตจริง จับปากกามากกว่าพู่กัน เมื่อจับพู่กันแล้วจึง มีความสุข” “ชอบคนแต่งตัวเซอร์ๆ ถือเฟรม พู่กัน สี จานสี ดูเท่ดี เหมือนเค้ามีโลกส่วนตัวที่ มีความสุข” “อยากลองดูว่า เราจะวาดรูปได้ไหม สนุก และพบกับ ความสุข”
เมื่อได้วาดแล้วรู้สึก
“เป็นคนใจร้อนอยากฝึกให้ใจร่มๆ เย็นๆ พอใจเย็นแล้ว มี ความสุข” คงมีเหตุผล และแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันไปมากมาย.... แต่สิ่งที่ทุกคนได้รับเหมือนกัน คือ ความสุข จากการวาดรูป ทำ�ไมต้องวาดต้องวาดดอกไม้ ???? คำ�ถามสุดฮิตที่ถูกถามบ่อยๆ บนใบบั บนใบบั ว ว
59 59
ดอกไม้เป็นเสมือนของขวัญจากธรรมชาติ... ความงามของดอกไม้ ใบไม้ สีสนั ของทะเล ท้องฟ้า ทำ�ให้เราหลงใหล ประทับใจ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ อยากบันทึกเก็บไว้ แม้ในปัจจุบัน จะมีกล้องถ่ายรูปที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถบันทึกภาพได้ละเอียดเพียงใด ก็บันทึกได้เพียงแค่ ข้อมูลเพื่อให้เป็นต้นแบบในการเพ้นท์เท่านั้น สิง่ ทีก่ ล้องถ่ายรูปไม่สามารถบันทึกได้คอื อารมณ์และ ความรู้สึก ของเรา ณ ขณะนั้น
บนใบบัว
60
เมือ่ ความประทับใจในความงดงามภายนอก ที่มีอยู่บนโลกนี้ ที่รับรู้ได้ด้วยการมองเห็น ได้ยิน สัมผัส ผสานกับความรูส้ กึ หลงใหล และจินตนาการ ในขณะนั้น
ผ ล ง า น ที่ ถ่ า ย ท อ ด อ อ ก ม า นั้ น ย่ อ ม มี ค วามพิ เ ศษมากกว่ า การลอกเลี ย นแบบจาก ต้นแบบ และแน่นอนผลงานนั้นย่อมถูกเรียกว่า มาสเตอร์พีช การวาดรูป ทำ�ให้เราผ่อนคลาย ได้ใกล้ ชิดธรรมชาติมากขึ้น มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มีความละเอียด อ่อนโยนขึ้น มีความสุขเมือ่ ภาพวาดนัน้ สำ�เร็จด้วยมือเรา และสุขมากขึ้นเมื่อมีคนมาชื่นชม
บนใบบัว
การได้ทำ�ในสิ่งที่เรารัก ถือเป็นโชค.... เป็นคำ�กล่าวทีค่ ลาสสิก และได้พสิ จู น์วา่ เป็น ความจริงเสมอ เริ่มค้นหาจากสิ่งรอบๆ ตัวเรา ลองทำ�ใน สิ่งที่ยังไม่เคยทำ� หยุดพักในสิ่งที่เราเก่ง ลองทำ� ในสิ่งที่เราชอบและอยากทำ� ลดคำ�ว่า “ทำ�ไม่ได้” ออกไปจากชีวติ ลอง เรียนรูท้ จี่ ะทำ�สิง่ ต่างๆ ให้ส�ำ เร็จด้วยมือของเราเอง อาจเริ่มจากสิ่งที่เราชอบก่อน เช่น วาดรูป ร้อง เพลง เต้นรำ� คุณจะพบกับความสนุก และความสุขจะ ตามมา ......... ลองเลยค่ะ เพราะความสนุกเป็นสิ่งดี ขอให้สนุกกับสิ่งที่ทำ� เเละมีความสุขในสิ่ง ที่เลือกค่ะ
61
บนใบบั ว ว บนใบบั
62 62
Be Heart
ซ่อนไว้บนใบบัว
Poetry
นิ่ง
Text & Painting : วาดวลี
นกขมิ้น สีนำ�้เงิน
และนอน ก่อนนะ -ละเถิดทุกข์ ยังมีสุขรายรอบ ปลอบจอมขวัญ รู้ว่าไกล แสนไกล ในคืนวัน รู้ทางเส้นนั้น มิง่ายเลย ได้ทดสอบ ได้ปลอบใจ ได้ใฝ่คว้า พบโอกาส แสวงหาไม่ละเฉย อาจเหงาบ้าง คว้าง เคว้ง สิ่งคุ้นเคย แต่ไปเลย ใช่ไปแล้ว จะลาลับ
63
บนใบบัว
อีกไม่นาน ฝั่งฝัน คงใกล้แล้ว เรือที่แจว แม้ช้า ยังมาได้ อีกไม่นาน จะรับขวัญ คนฝันไกล เห็นนั่นไหม ดอกไม้บานรับ กับนกขมิ้นสีน้ำ�เงิน
บนใบบัว
อีกไม่นาน นกจากรัง ยังจะหวน ใจบางดวงยังทบทวนชวนให้กลับ เถิด-อักษร ซ่อนหวั่นไหว ใจยับยับ จะนอนนับ น้ำ�ตาบ้าง ช่างประไร
63
บนใบบัว
64