ปีที่ 2
ฉบับที่ 18
เดือน มิถุนายน 2553
BonBaiBua บนใบบัว
ฉบับ รักเธอนะ...ประเทศไทย
ISSUE 18
1
BonBaiBua.com
Bonbaibua Book E-magazine
Contents สารบัญ บนใบบัว บุ๊ค BonBaiBua Book ที่ปรึกษา : ฤทัย สุภัทรพันธุ์ ดุลย์ จุลกะเศียน บรรณาธิการบริหาร : รติ จุลกะเศียน บรรณาธิการ : เจ้าชายกบ กองบรรณาธิการ : ข้าวใหม่, กบบันจี้, i_lllive, แม่จิบ, ม.จิตฏาร์, วาดวลี, Jii on the road, The Wonderer, babyshamPoo ฝ่ายการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์ : กบบันจี้ ฝ่ายบัญชีและการเงิน : จินตา จุลกะ ออกแบบ ปก, รูปเล่ม, เวบไซต์ : Sister Print & Media Group เจ้าของ ผู้เผยแพร่ ผู้โฆษณา : บ้านบนใบบัว 204/381 ซ.2/13 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110 โทรศัพท์/แฟกซ์ : 02 571 4099 อีเมล์ : bonbaibua@hotmail.com ติดต่อโฆษณา : คุณกบ 084 123 0534 อีเมล์ : ruteec@hotmail.com ข้อความในหนังสือเล่มนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ เว็บไซต์ www.bonbaibua.com แต่เพียงผู2้เดียว ห้ามนำ�เผยแพร่หรือตีพิมพ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากใจบนใบบัว 3 Jumper In เที่ยวใน(ประเทศ) 4 ชม(ทะเล)หมอก หยอกผี(เสื้อ) ที่ “แก่งกระจาน” Pic & Post การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง 15 เราอยู่ห่างกันอย่างนี้ดีพอแล้ว Goodtaste กิน (ดูด)ดื่ม 16 ขนมไทย “ลูกเจี๊ยบ” หวานไม่เลี่ยน Pic&Post การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง 22 เธอจะไปดูแลใครเขาได้ Not Long Story เรื่องไม่ยาว 23 นับ 1 ...ให้เกินสอง Jumper Out เที่ยวนอก(ประเทศ) 26 เก็บตก “ปราก” เมืองมรดกโลก Notebooks เรื่องเล่าและบันทึก 38 ปฏิบัติการ “ป้า(เลี้ยง)” 1 Day Trip เที่ยววันเดียว 42 Day-time Happiness Tree of life ต้นไม้ใบหญ้า(อ่อน) 50 อรุณสวัสดิ์ “บานเช้า” World of Pooh โลกของ Pooh. 56 ค่ายเขาใหญ่ (1) HomeWork ซ่อมได้ 60 หินขัดแตกลายงา&เปลี่ยนใบพัดลม Underwater Log Book 62 ขยับจากพัทยามาที่ “แสมสาร” My Kitchen ตีท้ายครัว 70 น้ำ�ใบย่านาง Entertain ย้อนดูตัว 73 หนทางกลับคืนสู่ความรัก Way Back Into Love Books นั่งอ่านหนังสือ 79 “เด็กชาย” 2 คน Poem เขียนกลอนเล่นบนใบบัว 81 รอคอย
จากใจบนใบบัว สวัสดีเดือนมิถุนายน สวัสดีประเทศไทย..ที่รัก หนังสือบนใบบัว BonBaiBua Book (ออนไลน์) issue 18 กลับ มาทักทายกันอีกครั้ง หลังสถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายไปได้ในระดับหนึ่ง ไม่ นับร่องรอยความสูญเสียของทรัพย์สิน สิ่งสำ�คัญที่ต้องดูแลและเยียวยากันต่อไป คื อ สภาพจิ ตใจอั น บอบช้ำ � ของคนไทยที่ รั ก และเทิ ด ทู น สถาบั น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แม้อาจจะเคยหงุดหงิดกับอุปนิสัยที่คล้ายถูกปลูกฝัง ให้คิดว่า “ทำ�ได้ตามใจ คือไทยแท้” ของตัวเองและเพื่อนร่วมชาติบ้าง แต่ก็ “รักเธอนะ...ประเทศไทย” ยังหลงรักกับผู้คน รอยยิ้ม มิตรไมตรี และน้ำ�ใจ ที่ได้รับและรู้สึกได้บนเส้น ทางทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดของประเทศไทย บางที่เคยผ่าน บางที่เคยแวะ บางทีเ่ คยปักหลัก และบางทีเ่ คยไปเยือนโดยไม่ตงั้ ใจ สิง่ เหล่านีช้ ว่ ยย้�ำ เตือนตัวเองว่า ไม่มีแผ่นดินไหนบนโลกใบนี้ ที่จะก้าวย่ำ�ไปทุกสถานที่ได้อย่างเป็นสุขกาย สบายใจ เพราะนี่คือ...บ้านของพ่อและแม่ บ้านของเรา “รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย” ด้วยมิตรภาพที่ดี บอกอ กอบอ และทีมงานบนใบบัว
3
Jumper In
เที่ยวใน(ประเทศ) เรื่อง/ภาพ : กบบันจี้
ชม(ทะเล)หมอก หยอกผี(เสื้อ) ที่ “แก่งกระจาน”
“
แก่งกระจาน” กับเสียงเล่าลือถึง “ทะเลหมอก” ที่ว่ามีให้ชมได้เกือบ ทั้งปี ชื่อและกิตติศัพท์ที่ฉันได้ยินมานานเป็นสิบๆ ปี แต่เคยเฉียด ไปนอนบนรีสอร์ทริมแม่น�้ำ เพชรบุรี และเทีย่ วได้ใกล้ทสี่ ดุ แค่ทที่ �ำ การอุทยาน แห่งชาติแก่งกระจานและบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ�แก่งกระจาน
4 4
ปลายฤดูร้อนก่อนฤดูฝนไม่เท่าไหร่ น้องในกลุ่มกาแฟแปะสถานะ ไว้บน FACEBOOK ทำ�นองว่า “อยากไปนอนบนพะเนินทุ่ง” ซึ่งดู เหมือนจะเป็นการจุดประเด็นให้กลุ่มกาแฟและเพื่อนคนอื่นๆ ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อความ หยอกล้อกันไปมา จากกลุม่ กาแฟทีส่ ว่ นหนึง่ ชอบเทีย่ วเหมือนๆ กัน และเคยมีบญ ั ชีตดิ ค้างทีบ่ อกปากเปล่าเป็นนัดกันมาข้ามปี จากคราวทีไ่ ปดูผเี สือ้ ทีอ่ ทุ ยานแห่ง ชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ครัง้ นัน้ เราได้รบั การบอกเล่าจากเจ้าหน้าทีว่ า่ เราไปตอนปลายฤดูการผสมพันธุ์ของผีเสื้อแล้ว ทำ�ให้พบเห็นได้จำ�นวน น้อย ถ้าให้ดีควรไปดูผีเสื้อที่แก่งกระจานประมาณเดือนเมษายน ซึ่งว่า กันว่าจะชุกชุมมาก (กว่า) จากเป้าหมายการไปอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพือ่ ชมทะเลหมอก บนพะเนินทุ่งของน้อง จึงบวกการอยากไปดูผีเสื้อของพี่ๆ จนกลายเป็น “CL สัญจรที่แก่งกระจาน” ในที่สุด
55
เพราะความที่จินตนาการถึง “แก่ง กระจาน” ไม่ได้ไกลเกินไปกว่าสะพานแขวน ใกล้ๆ ที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฉันจึงจำ�เป็นต้องสอบถามและหาข้อมูลจาก หลายๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็น น้องร่วมคณะซึ่ง เคยเดินทางขึ้นไปชมทะเลหมอกบนพะเนิน ทุง่ มาแล้วเมือ่ หลายปีกอ่ น บ้านน้าโก๊ะ เพือ่ น สนิทชิดชอบของ บก.ตุ๊ ชาวเมืองเพชร แหล่ง ข่าวอีกคนของฉัน ก็เป็นทีใ่ ห้สอบถามข้อมูล ได้ดี เพราะมีเป้าหมายจะแวะกินอาหาร 1-2 มื้อด้วย รวมถึงเห็นท่าไม่ดี ในกรณีฉุกเฉิน เราอาจจะใช้ “บ้านน้าโก๊ะ” เป็นทีพ่ กั ก็เป็นไป ได้ นอกจากข้อมูลที่พูดคุย สอบถามกัน ได้ตวั เป็นๆ เรายังเข้าไปค้นหาข้อมูลจากหน้า เว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ รวมถึงโทรศัพท์ สอบถามกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เพื่อใช้ ประกอบการเลือกจุดที่พักที่เหมาะที่สุดและ ทำ�แผนเดินทางที่ทำ�ขึ้นเพื่อเป็นตุ๊กตาให้ผู้ ร่วมทางได้เห็นภาพคร่าวๆ 6
พาหนะเป็นอีกเรื่องที่ฉันรู้สึกลำ�บาก ใจสำ�หรับการขึ้นพะเนินทุ่ง เพราะความที่ จินตนาการเส้นทางไม่ออกและได้ฟังข้อมูล จากหลายคน จึงประเมินความสามารถของ รถไม่ถกู ไปด้วย บางคนก็บอกว่า ควรใช้รถ กระบะ เกียร์ธรรมดา บางคนว่า ต้องขับ เคลือ่ นสีล่ อ้ เท่านัน้ บางคนก็วา่ รถเก๋งก็เคย ขึ้นไปถึงพะเนินทุ่งมาแล้ว เมื่อดูภาพและ อ่านจากหลายๆ เว็บไซต์ก็รู้สึกว่า ไม่แน่ใจ ว่าจะใช้มาตรฐานไหนวัดกันดี ว่าพาหนะ แบบไหนจึงเหมาะสมที่สุด เพราะบางเรื่อง ฉันว่าการตัดสินใจ “วัด” และ “ดู” อะไร เป็นสิทธิส่วนบุคคลด้วย แต่นับว่าโชคดี หลังสรุปจำ�นวนคน ได้ ทั้ ง หมด 17 คน จากเดิ ม ที่ คิ ด ว่ า จะ เป็นรถ 5 คัน จนอาจต้องมีการจอดและ รวมรถกัน ในกรณีเหตุสุดวิสัย คันใดคัน หนึ่งไม่สามารถขับขึ้นได้ กลายเป็นเหลือ รถ 4 คัน ประกอบไปด้วยคันแรกเป็นรถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เกียร์อัตโนมัติ ขับ เคลื่อน 4 ล้อ ที่มีผู้โดยสาร 1 ครอบครัว 5 คน พร้อมสัมภาระส่วนครอบครัวและ ส่วนรวมก็เต็มคันแล้ว คั น ที่ ส องเป็ น รถโตโยต้ า ไฮลั ก ซ์ วี โก้ เกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มีผู้ โดยสาร 5 คน เป็นคณะน้องเจ้าของความ คิดอยากไปนอนบนพะเนินทุ่ง
ตามมาด้วยคันที่ 3 เป็นรถมิตซูบิชิ ไตตั้น เกียร์ ธรรมดา ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีผู้โดยสาร 4 คน ส่วนฉันซึ่งครั้งแรกตั้งใจว่า จะขอนัดติดรถคันใด สักคัน ได้เปลี่ยนใจหลังสรุปกันได้ว่า คณะเราจะกาง เต้นท์กันบนพะเนินทุ่ง คิดถึงสัมภาระที่ต้องงอกขึ้นมา แล้ว จึงตัดสินใจเอารถไปเอง โดยใช้รถโตโยต้า อินโนว่า เกียร์อตั โนมัติ คันเก่ง ทีอ่ าจไม่แกร่งแล้วตามสภาพการใช้ งานจริงๆ ทีใ่ ช้วงิ่ ทางไกลบ่อยเกินอายุของรถ (จนตอนนี้ เฉียดจะเหยียบสองแสนกิโลเมตรเข้าไปแล้ว ในช่วงเวลา ที่เทียบกับรถบ้านคันอื่นๆ ของครอบครัวเรา จะมีตาม หลังไปติดๆ ก็คงจะเป็นน้องแจ๊ซของฉันอีกคัน ที่เลข ไมล์แซงหน้ารถบ้านคันอื่นๆ ตั้งแต่เริ่มต้นซื้อมาทีเดียว) 7
มีผู้โดยสาร 3 คน และอุปกรณ์ฉุกเฉินติด รถสำ�รองเผื่อไว้อีก 2 ชุด รถทั้ง 4 คัน ในวันที่สภาพอากาศดี ฝนไม่ตก สามารถพาพวกเราทั้ง 17 คนขึ้น ไปถึงพะเนินทุ่งได้เป็นที่เรียบร้อยดีทั้งขาไป และกลับ จากจุดนัดพบแรกทีป่ มั๊ บางจาก ช่วงนา เกลือนั่นเอง โดยก่อนถึงวันนัดหมาย แทบ ทุ ก คนกระตื อ รื อ ร้ น และมี ส่ ว นร่ ว มในการ วางแผน จัดเตรียมเสบียงและอุปกรณ์ส�ำ หรับ การแคมป์ ปิ้ ง ของเรากั น อย่ า งสนุ ก สนาน ฉันถึงกับแอบอมยิ้ม ในความสมัครสมาน สามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันของน้องๆ
เ
ราลงขันเป็นทุนสำ�หรับค่าใช้จ่าย จาก ทีแรกซึ่งคิดไว้ว่าคนละ 1,000 บาท แต่ดูจากจำ�นวนที่มากคนแล้ว จึงเก็บกันแค่ คนละ 500 บาท เบ็ดเสร็จรวมอาหาร 6 มื้อ ไม่นับรวมมื้อย่อยๆ คิดค่าเสียหายเป็นที่กาง เต้นท์และค่าอาหาร ตกคนละ 600 บาทถ้วน ซึง่ ถ้าคิดรวมค่าน้�ำ มันรถ 4 คัน ไป-กลับด้วย แล้ว น่าจะเป็น 1,000 บาทตามที่คาดการณ์ ไว้ สำ�หรับทริป 2 วัน 1 คืน .............. สำ�หรับคนซึ่งไม่ค่อยได้เที่ยวแบบสม บุกสมบั่นมานานอย่างฉัน เนื่องด้วยปัญหา สุขภาพเป็นหลัก รวมถึงความเป็นคนไม่คอ่ ย 8
พิสมัยป่า, น้ำ�ตก และภูเขา มากไปกว่า “ทะเล” และยิง่ เป็นการพักค้างแรมแบบกางเต้นท์ ทำ�ให้ ฉันรูส้ กึ ว่า ต้องทำ�การบ้านและตเรียมตัวให้มาก กว่าทริปไปเที่ยวตามปกติ สัมภาระในการเดิน ทางส่วนตัวและส่วนรวมจึงมากขึ้นเป็นธรรมดา นอกจากอุปกรณ์พนื้ ฐานคือเต้นท์คณะละ 1-2 หลัง (ซึง่ คนทีไ่ ม่มสี ามารถไปเช่าทีอ่ ทุ ยานฯ ได้ แต่ในเมือ่ มีแล้วก็สมควรจะนำ�ออกมาปัดฝุน่ ใช้งานสักครั้ง) ยังมีถุงนอนคนละ 1 ใบ ส่วน อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ที่นอน หมอน ไม่ต้อง ถึงกับมีมงุ้ แล้วแต่ใครจะพกไปเป็นการส่วนตัว มีไฟฉายพกติดตัวไปด้วยอย่างน้อยเต้นท์ละ 1 กระบอก สำ�หรับการลุกไปเข้าห้องน้ำ�ยามวิกาล เพราะบนลานกางเต้นท์พะเนินทุ่งมีไฟฟ้าปั่นให้ ใช้ถงึ 22.00 น. เวลาหลังจากนัน้ ควรจะรีบนอน เพือ่ ตืน่ ให้ทนั ไปชมทะเลหมอกยามเช้า และการ ไม่เข้านอนของบางคณะ แม้เพียงเสียงกระซิบ พูดคุยธรรมดา ก็กลับกลายเป็นเสียงอึกทึกไป ได้
นอกจากนี้ ผู้ อ าวุ โ สที่ สุ ดในคณะยั ง เตรี ย ม “เทียนพรรษา” มาอีกหอบ รวมถึงแผ่นพลาสติก รองหน้าเต้นท์ถึง 2 ผืนใหญ่ๆ ช่วยให้คณะเรา มีที่นั่งได้อย่างเพียงพอ น้องคนหนึ่งอาสาติด “ลูกชิ้น” เจ้าอร่อย ขึ้นไปปิ้งกันด้วย น้องอีกคนหิ้วไส้กรอกอย่างดี แถมอร่อยมาสมทบ เพื่อให้เข้าบรรยากาศ เรา จึงติดเตาถ่านกันขึ้นไปด้วย แต่ฉันพลาดตรง ที่เตรียมถ่านอย่างดี (ติดง่ายดับยาก) เกินไป แม้จะพกไฟเช็กเป็นประจำ�ในเป้อยู่แล้ว แต่ไม่ ได้เตรียมเชื้อไฟไปด้วย ทำ�ให้ลำ�บากในการติด เตา กว่าถ่านจะติดเลยต้องใช้เวลานานมาก
จ
า ก ท ริ ป นี้ ฉั น ไ ด้ พ บ เ ส น่ ห์ ที่ ลื ม เลื อ นไปนานของบรรยากาศ แคมป์ ปิ้ ง กั บ การเตรี ย มอาหารกิ น เองง่ า ยๆ นอกจากปิ้งลูกชิ้น, ไส้กรอก, ทำ�บะหมี่และ ต้มกาแฟสำ�เร็จรูปแล้ว เด็กๆ ยังใช้ย่างขนม มาสเมลโลกินกันอย่างสนุกสนาน พลอยทำ�ให้ ผู้ใหญ่อย่างฉัน ซึ่งเคยเห็นชาวต่างชาติทำ�แต่ ไม่เคยได้ชิม พลอยนึกสนุกไปด้วย จึงได้ขอ ลองชิมบ้าง อร่อย แปลกลิ้นดีจริงๆ ถ้าฉันจำ�ไม่ผิด น่าจะเป็นผู้อาวุโสพูด ถึง “มันเผา” ขึ้นมา ทำ�ให้ฉันนึกฉุนตัวเองไป ได้ ว่าไม่น่าลืมเลย นึกภาพมันเผาห่อด้วยกระ ดาษอลูมเิ นียม ซุกในเตาถ่าน บิกนิ ร้อนๆ ทีละ น้อยขณะควันขึ้นฉุยแล้ว ยิ่งรู้สึกเสียดายเป็น 9
ยิ่งนัก เตือนตัวเองไว้สำ�หรับแผนย้ำ�และ ซ้ำ�การท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งในครั้งต่อ ไป...ต้องไม่ลืม เมื่อนึกถึงเรื่องของกินแล้วฉันแอบ อมยิ้ ม กั บ ตั ว เองอี ก ครั้ ง ครอบครั ว ผู้ อาวุโสเตรียม “ไข่ต้ม” มา 20 ใบ ด้วยไม่ คิดว่าจะมีใครสนใจ แต่กลายเป็นว่า ทุก คนเรียกร้องจะกิน ฉันคิดว่า ไม่ใช่เหตุผล อะไรอย่างอืน่ มากมาย นอกจากความรูส้ กึ สนุกทีไ่ ด้กนิ อะไรร่วมกัน รวมไปถึง “ลอด ช่อง” เจ้าอร่อยที่น้องชายในคณะนำ�เสนอ เขาซื้อมา 2 ถุงประมาณ 2 กิโลกรัม แม้ จะเพิง่ กินอาหารคาวกันเสร็จ แต่ลอดช่อง ที่ว่าแป๊ปเดียวก็ถูกจัดการเรียบ นัยว่า “กลัวจะเสีย” ฮา ............. 10
จากแผนตุ๊กตาคร่าวๆ เราร่วมกันคิด ร่วมกันลงความเห็น จนการเดินทางเป็นไป ได้อย่างราบลื่น ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายการ เดินทางหลัก หลังจากแวะที่ทำ�การอุทยาน
แห่งชาติกระจาน ลงทะเบียนจำ�นวนคนและ พาหนะทีใ่ ช้ เริม่ ต้นหยอกผีเสือ้ กันตัง้ แต่เริม่ เข้า เส้นทางมุ่งหน้าไปสู่บ้านกร่าง ประมาณตั้งแต่ กิโลเมตร ที่ 10 เราพบผีเสือ้ บินว่อนตลอดสอง ข้างทาง มองไกลๆ ทีแรกคิดว่าใบไม้ปลิว เรา ได้แวะพักในหลายๆ จุด จะพบผีเสื้อบริเวณ
แอ่งน้�ำ พุม่ ไม้และตามกองมูลสัตว์ จากข้อมูล เว็บไซต์อทุ ยานแห่งชาติแก่งกระจานบอกไว้วา่ จะพบผีเสือ้ สายพันธุต์ า่ งๆ เช่น หนอนจำ�ปีจดุ แยก, สะพายฟ้า, กะลาสีธรรมดา, สีตาลจุด ตาห้า, ช่างร่อน, เหลืองหนามธรรมดา, ตาล 11
หนามใหญ่ และอาจพบหางติ่งสะพายเขียว ซึ่งเป็นผีเสื้อหายากชนิดหนึ่ง โดยช่วงเวลา ที่เหมาะสมในการดูผีเสื้อ คือ ตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น.
จ
ากบ้ า นกร่ า ง เราพั ก กิ น อาหารกลางวั น ระหว่างรอเวลาเปิดด่านช่วงบ่าย 13.0015.00 น. (เนื่องจากเส้นทางบ้านกร่าง-เขา พะเนินทุ่ง เป็นเส้นทางที่ลาดชัน บางช่วง แคบผ่านหน้าผา จึงต้องมีก�ำ หนดเวลาขึน้ -ลง สำ�หรับรถยนต์เพือ่ ความปลอดภัยของนักท่อง เที่ยว หาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของอุทยานฯ เพือ่ วางแผนการเดินทางได้ดยี งิ่ ขึน้ ) นอกจาก นั้นเรายังมีโอกาสได้เจอค่างแว่น ที่ลงมาหา อาหารกินโดยไม่เกรงกลัวคนเลยอีก 1 ฝูง ระหว่างทางจากบ้านกร่าง-พะเนินทุ่ง เรายัง 12
ได้แวะหยอกกับผีเสื้อบริเวณลำ�ธารซึ่งช่วงที่ เราไป น้ำ�ยังไม่มาก รถกระบะสามารถขับ ผ่านได้อย่างไม่ลำ�บาก 3 จุด จากนั้นจึงเดิน ทางถึงเขาพะเนินทุ่ง ช่วยกันเลือกทำ�เลและ กางเต้นท์เป็นวงกลม ก่อนจะทำ�กิจกรรมอืน่ ๆ ต่อไป บริเวณกางเต็นท์พกั แรมทีห่ น่วยพิทกั ษ์ อุทยานแห่งชาติ (พะเนินทุ่ง) บริเวณ กม. 30 นอกจากมีจดุ ชมพระอาทิตย์ตกและขึน้ ได้ แล้ว ยังสามารถชมทะเลหมอกได้ดว้ ย แต่จดุ ชมวิวบน กม.ที่ 36 ก่อนถึงทางลงสูน่ �้ำ ตกทอ ทิพย์ ดูจะได้รับความสนใจมากกว่า เพราะ สามารถชมทะเลหมอกได้เกือบตลอดปี
เช้าวันทีเ่ ราไปนัน้ มองเห็นทะเลหมอก สีขาวปกคลุมทั่วหุบเขา บางจังหวะหมอก ปกคลุมจนแทบมองไม่เห็นฉากหลังที่เมื่อ สักครู่ยังมองเห็นอยู่ บางช่วงเมื่อทะเล หมอกจางไปจะมองเห็นผืนป่าดงดิบเบื้อง ล่างเบียดตัวกันแน่น ท่ามกลางเทือกเขา สลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตา ช่างเป็นภาพที่ ฉันรูส้ กึ ตืน่ ตาตืน่ ใจ และนีเ่ ป็นทะเลหมอก ที่ฉันรู้สึกว่าสวยงามกว่าที่ไหนๆ ที่เคยได้ ตั้งใจไปชม ............... านไปเกือบเดือนแล้ว ฉันนึกย้อน กลับไปพบว่า ช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน เราต่างได้เติมเต็มความฝัน ความ
ผ่
13
ต้องการ ความเป็นไปได้ ของกันและกัน เป็นความสุขที่หาไม่ยากและไม่ไกลเกินไป แต่บางครั้งเรากลับมองไม่เห็น ลืมเลือน หรื อ คิ ด ว่ า จั ง หวั ด เพชรบุ รี เ ป็ น แค่ เ พี ย ง “ทางผ่าน” วันนี้ฉันคิดได้แล้วและเก็บภาพช่วง เวลาของการชมทะเลหมอก หยอกกั บ ผีเสื้อ บน “แก่งกระจาน” ไว้ในความทรง จำ� เพื่อรอโอกาสสักวันที่อาจจะกลับมาย้ำ� และซ้ำ� ....ในไม่นาน 14
หมายเหตุ : ชมภาพและบรรยากาศจากฝีมือของน้องๆ ร่วมคณะได้ตามลิงค์เหล่านี้ http://www.facebook.com/event.php?eid=128640677147419&v=wall&s tory_fbid=128692440475576#!/album.php?aid=23603&id=10000010185220 7&ref=mf http://www.facebook.com/event.php?eid=128640677147419&v=wall&s tory_fbid=128692440475576#!/album.php?aid=8107&id=100000754283234 http://www.facebook.com/event.php?eid=128640677147419&v=wall&sto ry_fbid=128692440475576#!/album.php?aid=438952&id=745680077 http://www.facebook.com/profile.php?id=1219422835#!/album. php?aid=2046004&id=1219422835 http://www.facebook.com/profile.php?id=1219422835#!/album.php?a id=22335&id=100000010082882 http://www.facebook.com/album.php?aid=177306&id=618778187
Pic & Post
การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง เรื่อง /ภาพ : ม.จิตฏาร์
เราอยู่ห่างกันอย่างนี้ดีพอแล้ว
อย่าเลย...ฉันบอกตัวเอง อย่าก้าวไปใกล้เธอเลย อย่าเลย...ฉันบอกกับเธอ อย่าก้าวมาใกล้ฉันเลย เสาไฟฟ้าสองต้นมีระยะห่างของตัวมันเอง อยู่เสมอ-เสมอ เธอหรือฉัน ไม่ใครก็ใคร... อาจยอมลงทุนถอดถอนตัวเอง ทั้งที่ฝังรากลงลึกอยู่กับผืนดินตรงนั้น มาเนิ่นนาน เพียงเพื่อจะได้ใกล้กัน และเธอหรือฉัน ไม่ใครก็ใคร... อาจต้องล้มลง
เพราะเสาไฟฟ้าที่ไม่มีผืนดินยึดไว้ ไม่อาจคงอยู่ได้ เราอาจได้ใกล้กันเพียงชั่ววินาที ก็ต้องล้มลง-แตกหัก ในที่สุด แล้วเราก็คงไม่อาจมองเห็นกันตลอดเวลา เหมือนอย่างตอนนี้ได้อีกต่อไป แต่นั่นไม่สำ�คัญเท่ากับมีใครอีกหลายคน ต้องเดือดร้อนเพราะเราใช่ไหม เขาเหล่านั้นต้องพบกับความมืดมน ที่เคลื่อนตัวเข้ามาแทนที่แสงสว่าง อย่างที่เคยได้รับอยู่เสมอ-เสมอ เขาเหล่านั้นต้องทุกข์ทนอยู่กับ ความมืดมนที่ว่านี้ แล้วเราจะใกล้กันเพื่ออะไรคนดี... เราอยู่ห่างกันอย่างนี้ดีพอแล้ว 15 15
Goodtaste
กิน(ดูด)ดื่ม
เรื่อง / ภาพ by : กบบันจี้
ขนมไทย “ลูกเจี๊ยบ” หวานไม่เลี่ยน
16 16
ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่า เรื่องมันเริ่มต้นที่ ข้าวตูมะพร้าวอ่อน หรือ วุ้นกรอบ กันแน่ แต่ทรี่ แู้ น่ๆ คือ ท่านประธานหนังสือบนใบบัวได้เดินทางตามไปทำ�บุญ กับสามีทวี่ ดั ในจังหวัดเพชรบุรี แล้วท่านเจ้าอาวาสได้เตรียมขนมไทยอันขึน้ ชือ่ ของจังหวัดเพชรบุรีไว้ให้หลายชนิด เธอได้แบ่งส่วนหนึ่งมาให้ที่บ้านเราด้วย
ป
รากฎว่ า ฉั น แอบชิ ม ขนมไทย ชนิดหนึ่งที่พ่อโปรดปรานคือ วุ้น กรอบ รู้สึกชอบเมื่อได้กลิ่นหอมหวาน ทันทีตั้งแต่แกะกล่องพลาสติก ยิ่งได้ชิม แล้วรู้เลยว่า พ่อต้องถูกใจแน่ๆ ด้วยว่า เป็นวุน้ กรอบแต่งกลิน่ และสีดว้ ยน้ำ�หวาน ตัววุ้นกรอบไม่แข็งจนเกินไป อดรนทนไม่ได้ ต้องโทรศัพท์ไป สอบถามท่านประธานว่า เธอซื้อมาจาก ไหน เธอจึงเล่าความเป็นมาให้ฟัง และ ยังย้ำ�ว่า ถ้าฉันได้มีโอกาสเจอร้านนี้ ซื้อ ข้าวตูมะพร้าวอ่อนให้เธอด้วย “ทีแรกจะให้สามีตักบาตร แต่นึก ไงไม่รู้แกะออกมาชิม เป็นไงรู้ไหม อร่อย มากเลย” 2 เหตุ ผ ลหลั ก ที่ ว่ า มานี้ ก็ ม าก เพียงพอแล้ว ที่ทำ�ให้ฉันสอดส่ายสายตา มองหาร้านขนมไทย “ลูกเจี๊ยบ” จังหวัด เพชรบุรี ในระหว่างขากลับทริปย้�ำ และซ้�ำ หัวหินคราวหนึ่ง แต่แม้จะมองเห็นป้าย “ลูกเจีย๊ บ” ระบุระยะทางว่าอีกกีก่ โิ ลเมตร ถึงขนาดจับกิโลเมตรและพยายามช่วยกัน
มองร้านขนมหวานข้างทาง ทีเ่ ต็มไปด้วย “แม่” มากมายหลายร้าน แต่ฉันก็พลาดร้าน “ลูก เจี๊ยบ” ไปจนได้ แต่นั่นไม่ได้ทำ�ให้ฉันนึกถอดใจ ...ชีวติ มันเป็นเช่นนี้ สมหวังบ้าง ผิดหวัง บ้างจะเป็นไรไป
จ
นขากลั บ จากทริ ป กลั บไป-กลั บ มา หัวหินครั้งล่าสุด ฉันตั้งใจมองป้าย “ลูกเจีย๊ บ” เพือ่ ตามหาร้านลูกเจีย๊ บอีกครัง้ และ พบว่า นอกจาก 1-2 ป้ายริมถนนเพชรเกษมที่ เห็นคราวทีแ่ ล้ว ครัง้ นีม้ ปี า้ ยย่อยทีบ่ อกละเอียด ขึ้น ขับตามป้ายนั้นจนลอดสะพานข้ามสี่แยก 17
บ้านลาด มองเห็นป้ายแผนทีอ่ กี ครัง้ ทำ�ให้ ถึงบางอ้อว่า ร้านลูกเจี๊ยบไม่ได้มีหน้าร้าน ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม (ตามที่เข้าใจไป เองแต่แรก) แต่เป็นร้านอยูใ่ นตำ�บลท่าราบ ที่แผนที่บอกทางมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี ฉั น สะกดรอยตามป้ า ยไปเรื่ อ ยๆ 18
อย่างมุ่งมั่น ไม่รีบร้อน ด้วยว่า ไม่อยากจะ พลาดอีก เส้นทางตามป้ายที่ฉันขับตามมาผ่าน พระราชวังบ้านปืน สุดท้ายป้ายชี้เลี้ยวขวาจาก หน้าวัดจันทราวาส พาฉันไปสุดปลายทางทีบ่ า้ น มีบริเวณหลังหนึง่ มีหน้าร้านสำ�หรับจำ�หน่ายอยู่ หน้าบ้าน มุมกาแฟวางเด่นอยู่ข้างๆ มีโต๊ะและ ซุม้ เล็กๆ 3-4 มุม สำ�หรับนัง่ จิบกาแฟ กินขนม
ที่สำ�คัญ ฉันได้ถึงบางอ้ออีกครั้งว่า ที่ นี่นอกจากเป็นหน้าร้านของ “ลูกเจี๊ยบ” แล้ว ยังเป็นที่ตั้งโรงงานทำ�ขนมเสียด้วย
จ
ากความตัง้ ใจเดิมแค่วา่ ต้องการมาซือ้ ข้าวตูมะพร้าวอ่อนและวุ้นกรอบ ฉัน รู้สึกตัวเองตั้งแต่เวลานั้น ว่าได้สมัคร เป็นลูกค้าประจำ�ร้านลูกเจีย๊ บไปเรียบร้อยแล้ว เหตุผลไม่มีอะไรมากมาย บ้านฉันชอบกิน ขนมหวาน แถมเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ที่ พวกเราจะต้องมีของหวานหรือผลไม้ล้างปาก ทุกครั้งที่กินอาหารคาวเสร็จ สมัยเด็กๆ บ้านเก่าของพวกเราทีป่ ากน้�ำ เราจะเป็นลูกค้าประจำ�ของป้าทำ�ขนมหวาน ประเภทปลากริมไข่เต่า (ซึ่งปัจจุบันหากินที่ อร่อยๆ ได้ยากมาก) ครองแครงกะทิ กล้วย บวดชี กล้วยเชื่อม ถั่วแปบ ขนมขี้หนู ฯลฯ ขนมหวานโบราณทัง้ หลายแหล่ (ถ้าแม่ซงึ่ เป็น ลูกศิษย์การเรือน มีเวลาจะเกนลูกๆ มาช่วย กันทำ�ในวันหยุดสุดสัปดาห์) บ้านป้าอยู่ใน ซอยบ้านเรา ทุกวันหลังทำ�ขนมเสร็จ แกจะเข็น รถขนมผ่านหน้าบ้านเราเพือ่ ไปจอดทีป่ ระจำ�ใน ซอย ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าแกเข็นผ่าน เราก็จะเรียกซื้อหน้าบ้านนั่นเอง แต่ถ้าเป็นวัน ธรรมดา กลับจากโรงเรียนฉันมักจะแวะซื้อ ขนมจากแกก่อนเข้าบ้านเกือบทุกวัน 19
20
เสน่ห์ขนมหวานของป้า นอกจากความ อร่อยแล้ว อยู่ที่แกทำ�ใหม่ๆ สดๆ ทุกวัน ผ่านไปกว่า 30 ปี ฉันหาซื้อและกินขนม หวานที่ ทำ �ในครั ว เรื อ นแบบป้ าได้ ย ากเหลื อ เกิน ส่วนใหญ่มักจะเจอขนมหวานที่ทำ�เป็น อุตสาหกรรม จับใส่รถสามล้อที่มีคนถีบคอย ตักขาย รสชาติจะหวานนำ� ส่วนขนมหวานร้าน ริมทางเมืองเพชรฯ ไม่ว่าจะเป็นขนมหม้อแกง ของขึน้ ชือ่ กลับมีหน้าตาและรสชาติคล้ายๆ กัน
ไปทุกเจ้า ไม่ว่าจะแปะชื่อว่าอะไร ที่สำ�คัญ ฉันไม่เคยแน่ใจได้เลยกับวันที่ผลิต บก.ตุ๊ เพื่อนรุ่นน้องชาวเมืองเพชรบุรี ของฉั น เคยพาพวกเราเข้ าไปหาซื้ อ ขนม หวานแบบแม่ค้าทำ�เองขายเองในตลาดเก่า เมืองเพชร เป็นที่ถูกอกถูกใจและเชื่อได้ว่า เราจะได้ของที่ทำ�สดๆ ใหม่ๆ ชนิดวันต่อวัน แน่นอน แต่เสียดายแค่ว่า ช่วงเวลาที่เรามัก จะกลับเข้า กทม. มักจะเป็นเวลาเย็นย่ำ�อยู่ ร่ำ�ไป กว่าจะไปถึงตัวตลาดเมืองเพชร ร้าน ขนมหวานก็แทบจะปิดหรือขายหมดเกลี้ยง ไปแล้ว การได้พบเจอโรงงานขนมไทยลูกเจีย๊ บ จึงนับว่าช่วยเติมเต็มต่อมความอยากและ ความทรงจำ�ของฉันได้ไม่น้อยเลย ขอบคุณนะ “ลูกเจี๊ยบ” ..................
โรงงานขนมไทยลูกเจี๊ยบ www.khanomthailookjeab.com โทรศัพท์ 0-3242-7464, 08-1932-1337 21
Pic & Post
การ์ดเขียนคำ� ภาพเล่าเรื่อง ม.จิตฏาร์ : เรื่อง / ภาพ
เธอจะไปดูแลใครเขาได้ เมื่อเห็นต้นไม้ของใครอื่น เธอมักติให้ฉันฟัง ใครคนนั้นควรดูแลต้นนั้นอย่างนั้น ใครคนนี้ควรดูแลต้นนี้อย่างนี้ ต้นไม้แบบนั้นชอบแดดแรง ต้นไม้แบบนี้ชอบแดดเบา เธอมักจะรู้ดีไปหมดในเรื่องต้นไม้ ที่อยู่ในความดูแลของคนอื่นเขา
เธอชี้ชวนฉันให้ดูร้านขายต้นไม้ ดวงตาเธอเป็นประกายเมื่อมองเห็น ต้นเล็กๆ นั้นออกดอกสะพรั่ง จ่ายเงินเป็นค่าความเป็นเจ้าของเพียง เล็กน้อย เพื่อนำ�มันกลับมาที่บ้าน แต่แล้วก็เหมือนที่ฉันเคยเห็น ภาพนั้นเหมือนวิดีโอเทปที่ฉายซ้ำ� จะเปลี่ยนก็แต่วันเวลาบนม้วนวิดีโอนั้น และตัวแสดง 22
เธอ...จะไปดูแลต้นไม้ของใครเขาได้ ในเมื่อต้นไม้ของเธอเพียงต้นเดียว ที่มีอยู่ตรงนี้ เธอยังปล่อยให้มันเหี่ยวเฉา วิดีโอเทปฉายซ้ำ�ไปมา จะเปลี่ยนก็แต่วันเวลา และตัวแสดง เธอชี้ชวนฉันดูร้านขายต้นไม้ ดวงตาเธอเป็นประกายอีกครั้ง!
Not Long Story เรื่องไม่ยาว เรื่อง/ภาพ : by เจ้าชายกบ
นับ 1...ให้เกินสอง ชีวิตของฉันผูกพันกับตัวเลขมาตั้งแต่เกิด...ก็ว่าได้ ฉันเกิดวันที่ 1 พฤษภาคม เรียกว่าเป็นคนเดียวในครอบครัว ที่มีวันเกิด ตรงกับวันที่นับว่ามีความหมายเกี่ยวพันกับคนอื่นๆ ในประเทศ จึงเป็นการยาก ที่คนที่นับเป็นเพื่อนกันกับฉันจะลืมว่า ฉันเกิดวันไหน เพราะมันถูกเรียกว่า วันกรรมกร แม้จะได้ชื่ออย่างเป็นทางการอย่างไทยๆ ว่า วันแรงงานแห่งชาติ ยังนับว่าโชคดีทพี่ อ่ ไม่คดิ ตัง้ ชือ่ เล่นให้ ฉันว่า หนึ่ง เพราะฉันรู้สึกว่ามันง่ายไป แต่ ชื่อเล่นว่า หนึ่ง ก็คงดีกว่า น้องเมย์(เดย์) เป็นแน่ ฉันรูส้ กึ ชอบเลข 1 เป็นพิเศษมากกว่า ตัวเลขลำ�ดับไหนๆ แต่ในชีวิตจริง ฉันไม่เคยหวังว่า จะ ต้องเป็นลำ�ดับ 1 ไม่ว่ากับเรื่องใดๆ เพราะ ฉันไม่ชอบการแข่งขัน...ไม่ชอบเลยจริงๆ ฉันเป็นคนที่ชอบตัวเลข แต่ก็เกลียด ตัวเลขไปด้วยพร้อมๆ กัน เพราะฉันไม่เคย นึกปลื้มวิชาคณิตศาสตร์มาแต่ไหนแต่ไร เรื่องที่มากกว่าบวก ลบ คูณ หาร ฉันไม่เคยสนใจ ............
อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกพิเศษต่อ ตัวเลข 1 เป็นประถม ฉันจึงค่อนข้างใส่ใจใน เรือ่ งราวเกีย่ วกับตัวเลขง่ายๆ ในชีวติ ประจำ� วันของผู้คน เรือ่ งหนึง่ ทีท่ ำ�ให้ฉนั แปลกใจ เกีย่ วกับ ตัวเลขตามความเชื่อและนิยมของผู้คน คือ ทะเบียนรถ ก่อนที่จะมีการเปิดประมูลทะเบียนรถ อย่างเป็นทางการ ฉันเคยได้ยินได้ฟังมาว่า ต้องวิง่ เต้นเพือ่ จองทะเบียนรถ มีการซือ้ ขาย ทะเบียนรถ ด้วยมูลค่าทีอ่ าจจะมากกว่าราคา รถเสียด้วยซ้ำ� หลายปีก่อน ฉันได้รู้จักชายหนุ่มคน หนึ่ง เขามาติดพันเพื่อนสาวของฉันพร้อม 23
ด้วยรถยุโรปคันโก้ รุน่ ล่าสุดในสมัยนัน้ จังหวะหนึ่งที่มีโอกาสอาศัยรถเขานั่งไป ในที่นั่งตอนหลัง เขาได้คุยถึงทะเบียน รถของเขาขึ้นมากับเพื่อนสาว “รู้ไหม ทะเบียนนี่พี่สั่งมานะ ให้ ลูกน้องไปจัดการ” สัง่ มา...นัน่ แปลว่า เขาต้องเสียเงิน เพื่อป้ายเลขทะเบียนรถคันนี้ ฉั น มองตั ว เลขทะเบี ย นรถเขา อย่างงงๆ เลขทะเบียน 6890 มันมีความ พิเศษตรงไหน จำ�ก็ยาก แถมไม่ใช่เลข เรียง เลขตอง เลขคู่ อาจจะมี เลข 8 เลข 9 แต่ดูแล้วไม่มีความพิเศษตรง ไหนเลย “พี่ บ อกลู ก น้ อ งไปว่ า เอาเลข กลมๆ ไม่มีเหลี่ยม” เลขกลมๆ ที่ลูกน้องเขาคิดได้จึง ออกมาเป็นฉะนี้แล :) จะว่าไปแล้ว ทะเบียนรถของฉัน ก็เป็นเลขสั่งมา!!! ระหว่างการเลือกและดำ�เนินการ ซื้อรถคันล่าสุดของฉัน โดยมีแม่และพี่ สาวเป็นหัวเรือใหญ่ในการดำ�เนินการหา ศูนย์ ต่อรอง จนออกรถมาได้เรียบร้อย 24
“เจ๊ขอนะ เรื่องทะเบียนนี่ เจ๊จองให้ไป แล้ว” พีส่ าวฉันเปรยขึน้ ในวันหนึง่ มันทำ�ให้ฉนั นึกแปลกใจ เธอจองเลขทะเบียนอะไรให้ฉัน “จะได้เป็นเลขเดียวกันเหมือนรถที่บ้านเจ๊” ทะเบียนรถคันหนึง่ ของบ้านเธอคือ 2221 ส่วนทะเบียนรถที่ฉันได้คือ 1222 “พี.่ ...ทะเบียนรถพีไ่ ม่ธรรมดานะเนีย่ ซือ้ มาหรือเปล่า” น้องคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น “หือ ทำ�ไมอ่ะ มันก็เลขตองธรรมดา พี่ เขาจองให้” “ก็ มั น เลขเดี ย วกั บ เบอร์ โ ทรองค์ ก าร โทรศัพท์เลยนิ” เออ 1222...เพิ่งสังเกตเหมือนกันแหะ แต่ทะเบียนที่ฉันอยากได้จริงๆ คือ เลข 1112 “อ้าว ทำ�ไมล่ะ นี่ก็ตองหลังนะ” พี่สาว ฉันสงสัย
“ก็เลข 1 วันเกิดกบใช่ไหม แต่ 1112 บวกกันแล้วมันได้ 5 เป็นเดือนเกิดด้วย ไง” การบวกเลขรวมได้อย่างนั้นมันมี เหตุมาจากครัง้ หนึง่ ทีท่ �ำ ให้ฉนั นึกแล้วขำ�ๆ เป็นจุดเกิดประเด็นให้ฉันชอบมองเลข ทะเบียนรถคันอื่นๆ บนท้องถนนตั้งแต่ เวลานั้น คือเมื่อตอนที่พ่อตัดสินใจซื้อรถ ใหม่คันสุดท้ายในชีวิต ฉันกับพี่สาวไปช่วยพ่อดูและเลือก เจรจาต่อรองกับพนักงานขายรถที่มีวาทะ ศิลป์ดีคนหนึ่ง จนได้รถคันสุดท้ายของ พ่อ แต่เพราะพ่อเพิ่งย้ายทะเบียนบ้านมา อยู่นนทบุรี แต่อยากได้ทะเบียนรถให้อยู่ ใน กทม. เขาจึงอาสาจัดการทำ�เรือ่ งขอจด ทะเบียนรถให้อยู่ในเขต กทม.ให้ วันที่ได้ทะเบียนรถ ถ้าจำ�ไม่ผิดเรา ไปรับป้ายทะเบียนรถด้วยกัน และพี่สาว ฉันเอ่ยปากแซวเขาออกมา “นึกว่าจะได้เลขตองเสียอีก แล้วไม่ เห็นมีเลข 9 เลย” “9 นะครับ บวกแล้วเป็นเลข 9 เหมือนกันเลยหน้าหลัง”
ทะเบียนรถคันสุดท้ายของพ่อ คือ 6381....พนักงานหนุม่ คนนีช้ า่ งเข้าใจคิด ไปได้จริงๆ ตั้ ง แต่ วั น นั้ น มั น ทำ �ให้ ฉั น คิ ด ต่อยอดไปอีกว่า หลังจากบวกกันได้ 99 แล้ว เอา 9 และ 9 มาบวกกันอีกครั้ง ได้ 18 เมื่อบวก 1 กับ 8 กันต่อไป ในที่สุดรถของพ่อมีป้ายทะเบียน รถเป็นเลข 9 จริงๆ ด้วย 55++
25
26 26
Jumper Out
เที่ยวนอก(ประเทศ) เรื่อง/ภาพ by : กบบันจี้
” ก า ร ป “ ก ต เกบ็
ก ล โ ก ด ร ม
ง อ ื เม
เพราะความมี ชื่ อ เสี ย งของ “ปราก” เมืองเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อว่า สวยงามและโรแมนติกที่สุดแห่ง หนึ่งบนโลก “ปราก” จึงติดอันดับ เมืองหนึ่งในดวงใจของใครหลาย ต่อหลายคน แม้บางคนอาจจะไม่ ได้เคยมีความรู้เลยว่า “ปราก” ตั้ง อยู่ส่วนใดบนโลกใบนี้ แต่ก็ตั้งเป้า หมายทีอ่ ยากจะเดินทางไปเสียแล้ว ......อย่างฉันคนหนึ่งล่ะ!!!
27 27
ก
ารได้สมั ผัส “ปราก” ด้วยการเดิน เท้ากับคณะทัวร์ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ� นับเป็นเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมงดี อาจจะ ไม่ได้ทำ�ให้ฉันสัมผัสและรู้จักปรากได้ดี มากเท่านักท่องเทีย่ วทีม่ เี วลามากพอคน อื่นๆ แต่ฉันถือว่า เวลานั้นคือสิ่งดีที่สุด แล้ว ทีไ่ ด้มาสัมผัสสิง่ ทีเ่ ป็นแค่ภาพเลือน รางมานาน และเพราะคิดว่า “ปราก” ได้ถกู นำ� เสนอสูส่ ายตาชาวโลกหลายต่อหลายมุม จนหลายคนอาจจะชินตากับบางภาพกัน แล้ว โดยเฉพาะภาพมุมสูงของสะพาน ชาร์ลอันลือเลื่อง ฉันจึงขอพาไปเดินด้วยกัน เป็นการ เก็บตก “ปราก” เมืองมรดกโลก ในมุม ที่ฉันคิดเอง เออเองว่า คนที่ไม่เคยไป อาจจะไม่เคยเห็น และคนที่เคยไปอาจ ไม่เคยผ่านตา ไปด้วยกันเลย ......... ากข้อมูลที่ได้รับรู้มาว่า ปราสาท แห่งกรุงปราก แค่ตวั๋ เข้าชม 1 ใบ ยังมีอายุถึง 3 วัน เพราะปราสาทแห่งนี้ นอกจากจะใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเชค แล้ว ยังถูกบันทึกว่ามีอาณาบริเวณกว้าง
จ
28 28
ขวางที่สุดในโลกอีกตำ�แหน่งหนึ่งด้วย ไกด์ท้องถิ่นแนะนำ�ว่า เราควรจะ
เข้าห้องน้ำ�กันให้เรียบร้อย ฉันจึงได้ มีโอกาสเห็นความเอาใจใส่ต่อเพื่อน ร่วมโลกผู้พิการ...อีกครั้ง (ภาพ 1) (ภาพ 2) จากประตูทางเข้า เรา ต้องผ่านจุดที่มีทหารยืนยามอยู่ ซึ่ง
2929
จะมีการเปลี่ยนเวรยามทุกๆ ชั่วโมง แต่รอบที่มีคนจ้องดูมากที่สุดเห็นจะ เป็นตอนเที่ยง เพราะเป็นรอบเดียว ของวันที่มีพิธีการเปลี่ยนเวรชนิดเต็ม รูปแบบ มันทำ�ให้นึกถึงการไปเฝ้าชม พิ ธี ก ารเปลี่ ย นเวรยามที่ พ ระราชวั ง
30
บั๊กกิ้งแฮมอย่างไรอย่างนั้น แต่ ก็ ต้ อ งผิ ด หวั ง ...เหมื อ น กันเลย จากลานกว้ า งด้ า นใน เราเลี้ ย วซ้ า ยไปชม วิ ห าร เซนต์วติ สุ (ภาพ 3) สีเทาอม ดำ�ผสมน้ำ�ตาล ยอดแหลม สูงชนิดแหงนคอตั้งบ่าดูน่าเกรงขาม ใช้ เวลาก่อสร้างนับหลายร้อยปีและถูกต่อ เติมมาหลายยุคสมัย ถึงปัจจุบันในวัน ที่ฉันเดินทางไปก็ยังมีการซ่อมแซมทั้ง ภายนอกและภายใน(ไม่เลิกรา) จึงไม่น่า สงสัยเลยทีว่ หิ ารแห่งนีจ้ ะผสมผสานด้วย สถาปัตยกรรมหลายสไตล์ มุมจากหน้าต่างห้องน้�ำ มุมนี้ เป็นอีก มุมที่ฉันชื่นชอบ (ภาพ 4) ก่อนทีไ่ กด์จะพาเราลัดเลาะไปสูด่ า้ น หลังซึง่ มีอาคารเตีย้ ๆ ไม่เกิน 2 ชัน้ หลาก
สีเรียงเป็นทิวแถวเป็นที่ชื่นชอบของฉัน มาก (ภาพ 5) อาคารเหล่านี้ในสมัยก่อนใช้เป็น ที่พักของข้าราชบริพาร ปัจจุบันได้ถูก ดั ด แปลงทำ � เป็ น ร้ า นค้ า ขนาดเล็ ก บ้ า ง ใหญ่บ้าง บางห้องมีพื้นที่ให้ลูกค้าเดิน เบียดกันไม่ถงึ 10 คน เรียกว่าต้องสลับ แตะเท้ากันเดินเข้าไปชม มุมนี้นับเป็นมุมโปรดมุมหนึ่งของ ฉั น ด้ ว นสี สั น ชนิ ด ลู ก กวาดยั ง อาย ความกิ๊บเก๋ตามประตูหน้าต่าง เสียดาย 31 31
เวลาที่มีให้น้อยเกินไปจริงๆ หลังจากไกด์พาเดินอ้อมก่อนจะ ไปสู่จุดต่อไป ฉันพบเจอรูปปั้นเด็ก หนุ่มคนนี้ (ภาพ 6 มุมซ้าย)
และรู้สึกว่า เขาคงเป็นที่เตะตาใคร ต่ อ หลายคน เห็ นได้ จ ากอวั ย วะส่ ว น สำ�คัญของร่างกายเขา ที่ถูกจาบจ้วงเอา ชนิดมันแผล่บทีเดียว 55++ ก่อนจะออกจากปราสาทปราก เรา ได้วนกลับมาพักเหนื่อยและหาที่นั่งรอ กัน ฉันสังเกตเห็นลูกกรงกั้นผนังด้าน หนึ่งของวิหารเซนต์วิตุส (ภาพ 7) จึง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ มองเห็นสิ่งปลูกสร้าง ข้างใต้ที่เดาเอาจากแปลนว่า น่าจะเป็น โครงสร้างเดิมทีเ่ ก็บส่วนหนึง่ ของฐานราก 3232
ไว้ให้เห็น ขณะเดียวกันก็มองเห็นรางน้ำ�ที่ ทำ�เหล็กดัดตกแต่งเป็นรูปใบไม้ ผนังด้าน หนึ่งเหมือนฉาบปูนหรือซ่อมแซมไม่เสร็จ แต่หลังเพ่งพินิจแล้ว ฉันเดาว่าเป็นความ ตั้งใจที่จะทิ้งลวดลายของการก่อปูนไว้ให้ เห็นมากกว่า จากทางออกของประตูหนึ่งสู่ด้านนอก ตัวปราสาท เราใช้ทางเดินไปตามขั้นบันได ที่ไกด์บอกว่าประมาณ 100 ขั้น ขนานไป กับปราสาทด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นอาคาร บ้ า นเรื อ น ประดั บไปด้ ว ยจิ ต รกรรมฝา ผนัง (บอนๆ) คล้ายๆ บ้านเมืองเราเลย มีลวดลายของไม้เลื้อยริมหน้าต่างที่ฉันชื่น ชอบ (ภาพ 8)
เรามุง่ หน้าไปร้านอาหารกลางวัน ฉัน เห็นป้ายรายการอาหารของร้านหนึง่ (ภาพ 6 ล่างซ้าย) แล้วเหมาเอาว่า รายการ อาหารส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กันทุกร้านคือ 1 คอร์สมี 3 รายการ และมุมอาคารหนึ่ง
ฉันเจอรูปปั้นของ เซอร์วินสตัน เชอร์ ชิลล์ นายกรัฐมนตรีคนแรกของสหราช อาณาจักร ไม่แน่ใจว่า ท่านมาหลบมุม ทำ�ไมตรงนี้ และระหว่างการเดิน ไม่วา่ จะ ที่ไหนบนโลกใบนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันให้ความ 33 33
สนใจคือ พืน้ ถนน แต่ให้ตายเหอะโรบิน ฉันชอบความกิ๊บเก๋ที่แฝงประโยชน์ของ ชาวต่างชาติเสียจริง กับแผ่นโลหะบอก ทางไว้บนถนนเป็นระยะๆ (ภาพ 6 ล่าง ขวา) 34 34
เสร็ จ จากอาหารมื้ อ อร่ อ ยติ ด ตา ติดใจแล้ว เราเดินต่อไปตามถนนในกรุง ปรากโดยมีเป้าหมายอยู่ที่สะพานชาร์ล อันลือเลื่อง จากปลายสะพานด้านหนึ่ง ไกด์ นั ด เวลาพบกั น ที่ ป ลายสะพานอี ก
เคารพนับถือของชาวเชค 30 องค์ รวมถึง รูปปัน้ พระคริสต์ของชาวยิว (ภาพ 10-11) 1 ในจำ�นวนนัน้ มีรปู ปัน้ นักบุญจอห์น เนโปมุก ผูซ้ งึ่ ถูกยกย่องว่าในความซือ่ สัตย์ และรักษาความลับ จากคูม่ อื การเดินทางที่ ฉันได้รับแจก ระบุไว้ว่า “เชื่อกันว่า หาก ใครได้สัมผัสแล้วจะมีโชคทั้งการงานและ ความรัก หรือหากท่านสัมผัสทั้งสองรูป ท่านจะได้กลับมาที่ปรากอีกครั้งในไม่ช้า”
ด้าน เพื่อปล่อยให้เราลั้นลากับทิวทัศน์ และแหวกว่ายกับประดาผูค้ น, แผงลอย, ศิลปิน และนักแสดงเปิดหมวก 2 ข้าง ทาง ปลายสะพานจุดนี้เอง เราเสาะหา ห้องน้ำ�และพบชายหนุ่มในชุดอัศวิน จึง ปรี่เข้าไปหาข้อมูล ปรากฎว่า เขาไม่ใช่ ยามที่ ไ หนแต่ เ ป็ น เจ้ า หน้ า ที่ ข องศู น ย์ บริการท่องเที่ยวตรงเชิงสะพานนั่นเอง (ภาพ 9) จากข้อมูลบอกไว้ว่า สะพานชาร์ล เป็นสะพานปูนเก่าแก่แห่งแรกของเมือง โดยสร้างขึ้นจากปูนและไข่ไก่กว่าล้าน ฟองในสมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ตลอดแนว สะพาน 2 ข้างประดับด้วยรูปปัน้ นักบุญที่
ข้อความที่ว่าเร้าใจฉันเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความมุง่ มาดปรารถนาและคิดว่าอย่าง น้อยก็ทำ �ให้มีความหวังว่าจะได้กลับมา ปราก หลังตีความเอาเองจนพบและ (ต่อ แถว) สัมผัสรูปปั้นนักบุญจอห์น เนโปมุก รูปแรกแล้ว ฉันจึงสอดส่ายสายตามองหา รูปปั้นนักบุญจอห์นรูปที่สอง และพบว่า รูปปั้นรูปนี้มีขนาดเล็กมาก (แอบเดาเอา เองอีกแล้วว่า จุดนีเ้ ป็นจุดทีท่ า่ นนักบุญถูก จับถ่วงน้ำ�กระมัง เพราะอยู่เกือบกึ่งกลาง สะพาน) แต่อนิจจา หลังจากนั้น ฉันมานั่ง ตรองดู “ทั้งสองรูป” หรือจะหมายถึง นัก บุญจอห์นและพระคริสต์กนั แน่ แล้วฉันจะ ได้กลับไปปรากในอีกไม่ช้าไหมเนี่ย 55++ 35 35
จากปลายสะพานชาร์ล ในคู่มือ การเดินทางบอกว่า เราจะผ่านจัตุรัส เวนเทสลาสสแควร์, ตลาดกลางแจ้ง แล้วปล่อยเดินอิสระสู่จุดนัดพบที่ย่าน จุตรัสสตาโรเมสเค่ ไฮไลต์หนึ่งของที่นี่ คือ การชมนาฬิกาดาราศาสตร์ นาฬิกา 36 36
อัจฉริยะที่นอกจากบอกชั่วโมง นาที วินาทีแล้ว ยังบอกข้างขึ้น ข้างแรม ลัคนาราศีต่างๆ ก่อนเวลาทุกๆ ชั่วโมง ทีน่ าฬิกาตีบอกเวลาจะมีคนมายืนออรอ ชมอย่างกับมีมหรสพกันเลย
เยื้ อ งนาฬิ ก าดาราศาตร์ ใกล้ ๆ โบสถ์ทนี นอกจากร้านค้ารายรอบบริเวณ ที่มีทั้งแบรนด์เนมและสินค้าที่มีชื่อเสียง อย่างเช่น เครื่องแก้วเจียระไน สไตล์โบ ฮีเมียน ซึ่งแม้จะแปะป้ายลดราคา 50% แล้วฉันก็ทำ�ได้เคียงเมียงมอง ยังมีการ ออกร้านขายสินค้าหลากหลายเนื่องใน เทศกาลอีสเตอร์ มองเห็นเจ้าของร้านหนึง่ กำ�ลังตัง้ อกตัง้ ใจเพ้นท์ไข่อยู่ ส่วนอีกร้าน ฉันไม่แน่ใจว่าสินค้าทำ�จากอะไร มอง เห็นแต่เขามีการสาธิตวิธีทำ�และตั้งกล่อง รับบริจาคไว้ แปะป้ายว่า FOR BEER อ่านแล้วอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น ยังโชคดีที่ได้เห็นการแสดงพื้นเมืองแบบ แว่บๆ ด้วย (ภาพ 12) หลั ง อาหารเย็ น ในร้ า นบนย่ า น จัตุรัสสตาโรเมสเค่นั่นเอง ฝนซึ่งเริ่มตก
มาตั้งแต่เช้าที่เราเริ่มต้นออกเดิน เริ่มซา เม็ดลง หลังฉันได้ถอื โอกาสวนไปเวียนมา อยูแ่ ถวๆ นัน้ จนได้ดนู าฬิกาอัจฉริยะตีบ อกเวลาถึง 3 รอบเพลินไปเลย ฟ้าหลังฝน ตอนทุม่ ตรงทีป่ รากยังสว่างไสว (ภาพ 13) ฉั น ยั ง คงเก็ บ ตกภาพระหว่ า งทาง ช่วงหนึ่งมองเห็นป้าย Thai Massage (ภาพ 14) แล้วนึกดีใจแทนเพื่อนคนไทย ด้วยกัน ที่มาปักหลักหากินกันถึงที่นี่ เกือบ 2 ทุ่ม ฟ้ายังไม่สิ้นแสง แต่ คณะคนไทยหลายคนแทบหมดแรง เรา ต้องเดินกลับไปสู่จุดนัดพบกับรถ เพื่อ เดินทางกลับสู่ที่พักนอกเมืองกันเสียที สวัสดีและลาก่อน “ปราก” จนกว่าจะพบกันใหม่ 37 37
Notebooks
เรื่องเล่าและบันทึก by : รติ จุลกะเศียน
ปฏิบัติการ “ป้า “เลี้ยง” อีเมล์จาก “ป้าป๊อก” : ฤดูกาลปิดเทอม วนมาถึงอีกครั้ง ป้ากบเสร็จศึกจากทริปดูแล ด.ญ.ณิชา ที่ หัวหิน คราวนีเ้ ป็นคิวของ ป้าป๊อก ซึง่ เริม่ มีเวลาว่างมากพอทีจ่ ะรับอาสาดูแล ด.ญ.ณิ ชา ให้พ่อจ๋าแม่จ๋า ผ่านไปประมาณ 2 วัน คนในครอบครัวได้รับเมล์จากป้าป๊อก หัวข้อว่า “ณิ ชา...มาแล้ว” มีเนื้อความดังต่อไปนี้ นึกถึงณิชาแล้วขำ� เมื่อวานนี้พี่ป็อกไปดูแลแทนพ่อจ๋าและแม่จ๋า วันแรก ณิชาตื่นนอนประมาณ 8.45 น. อาบน้ำ�เสร็จ ลงมาจะทานอาหารเช้า งับขนมปังสอดไส้แฮมคำ�แรก บังเอิญป้าป๊อกนึกออกจึงถามน้องณิชาว่า แปรงฟันหรือยัง ได้รับคำ�ตอบ จากณิิชาพลังช้างสารว่า “ยังไม่ได้แปรงฟัน ณิชาลืม แปรงค่ะ...ณิชาชอบขีล้ มื เป็นคนขีล้ มื ค่ะ” สงสัยจึงถามว่า รูไ้ ด้ยงั ไงว่าเป็น คนขี้ลืม ณิชาตอบทันควันว่า “หนูชอบลืม สักพักก็นึกออกเอง” หลังจากทานข้าวสักพัก ก็มาชวนเล่นระบายสีในกระดาษรูปดอกไม้ วางไว้ในกล่องสีแดง มีขวดสีน้ำ�อะคริกหลายขวด ณิชาชวนป้าป๊อกเล่น ระบายสีหลายรอบ ป้าป๊อกไม่แน่ใจว่าเล่นได้ จึงถามณิชาซ้ำ�ๆ หลายครั้ง 38 38
แต่ณิชายืนยันและรับประกันว่าแม่อนุญาตและเตรียมถาดระบายสีนี้ไว้ให้น้อง ณิชาระบาย ลงท้ายว่า “รับประกัน” พอตกเย็นป้าป๊อกรายงานผลการดูแลเด็กในสังกัด ก็ทราบจากพ่อ แม่ ณิชาว่าชุดสีระบายนี้มิใช่ของแม่ตู่เตรียมไว้ แต่เป็นของป้ากบจ๊ะ ณิชา หลอกป้าป๊อกสำ�เร็จเป็นผลงานแรก ไว้จะเล่าวันต่อไปนะจ๊ะ ป้าป๊อกเองล่ะหลาน .......... ป้ากบอ่านเมล์เสร็จก็ข�ำ กลิง้ เพราะได้รบั รายงานเป็นคำ�สารภาพจ๋อยๆ จาก ปาก ด.ญ.ณิชามาแล้ว อ่านเมล์ป้าป๊อกแล้วยิ่งเห็นภาพ
อีเมล์จาก “แม่จ๋า” :
ถัดจากวันนั้น ได้รับเมล์จาก Fw ณิชา...มาแล้ว จากแม่จา๋ ของ ด.ญ.ณิชา อีกฉบับ
ถึงป้าป๊อกของณิชา หลังจาก Clear งานกับน้องๆ ในแผนก (รวมถึงเมาท์แตกเรื่องณิชา ซึ่งน้องๆ ที่แผนกก็อยาก Update กันทุกวัน ยังคุยกันเลยว่าอยู่กับป้าป๊อก ได้เหรอและยังไปเที่ยวอีกเยอะแยะ 555++) พอเมาท์เสร็จถึงตาเรา Clear Mail พอเปิด Mail สายตา Focus ไปที่ชื่อผู้ส่ง Mail คนหนึ่งซึ่งไม่คุ้น ตา “POK pak” ในหัวมีภาพป้าป๊อกผุดมาในหัวทันที เนื่องจากชื่อ Mail “ณิชา...มาแล้ว” (ชื่อลูกตรูนี่หน่า) ในใจคิดว่าน่าจะเป็นรูปภาพซึ่งไปทำ�กิจกรรมมา มากมาย ซึ่งป้ากบมักจะ Update ด้วยชื่อ Mail นี้ประจำ� แต่...... 39
เมือ่ เห็นบรรทัดแรกก็เกิดความประทับใจขึน้ มาทันที เพราะเหมือนกับตู่ ทีช่ อบ เขียนถึงลูกเก็บไว้ในอารมณ์นี้เป็นประจำ� ^_^ ยิ่งอ่านเสร็จก็ยิ่ง ขำ� เพราะจะเห็นภาพหน้าป้าป๊อกลอยอยู่ตลอดเวลา โดย เฉพาะคำ�พูดบรรทัดแรกบอกถึงความเป็นป้าป๊อก ม้าก มาก...คริ คริ ตู่ พูดออกเสียงมาอย่างดังว่า “น่ารักจัง” ทำ�ให้น้องๆ ในแผนกต่างก็มาดู Mail และ Confirm กันจิงๆ ว่า “ป้าป๊อก น่ารักมาก และคงไม่ต้องสงสัยละว่าณิชาอยู่กะป้าป๊อกได้หรือเปล่า” ^_^? แล้ววันนี้จะเอา Mail ไปอ่านให้ณิชาฟังก่อนนอน และจะเก็บ Mail ไว้ให้ ณิชาดูตอนโตด้วยว่าณิชา “บ้าพลัง” จริงๆ และยังมีมุมขำ�ๆ ที่ป้าป๊อกอดคิดถึง ไม่ได้ถึงขนาดที่ต้องลุกมาส่ง Mail Share มุมขำ�ๆ ให้คนในครอบครัวเราได้ฟัง ฮาาาาาาาาา คุณแม่ คุณพ่อ น้องณิชาขอบคุณป้าป๊อกมากๆ นะค่ะ หวังว่าป้าป๊อก ลุงปู และพี่ๆ (โดยเฉพาะพี่ก้อง) จะไม่โดนณิชาบ้าพลังดูด พลังไปหมดซะก่อน หลังจากที่ดูดพลังป้ากบหมดไปแล้วหนึ่งคน สู้ๆ นะคะป้าป๊อก ^ -^V 55++
40 40
บอกแล้วว่าอย่ามา : ป้ า กบโผล่ เ ข้ า ไปที่ บ้ า นป้ า ป๊ อ ก โดยมิ ไ ด้ นั ด หมาย อั น เป็ น ช่ ว งเวลา เร็วกว่าที่ ด.ญ.ณิชา น่าจะได้รับการ ทบทวนมาจากพ่อจ๋าแม่จ๋าแล้วว่าป้ากบ จะมาแตะมือ มาถึงก็เจอ ด.ญ.ณิชา บ้าพลังเข้า ให้ทนั ที ทัง้ กระโดดพุง่ ใส่ ตีลงั กาเอาหัว ลง ขาชี้ฟ้า เล่นซ่อนแอบ กระซิบความ ลับ ทำ�เอาป้ากบเตรียมจะโวยวาย “ก็บอกแล้วว่าอย่า (เพิ่ง) มา” ด.ญ.ณิชาพูดหน้าตาเฉยมักมาก 4141
1 Day Trip เที่ยววันเดียว เรื่อง / ภาพ by babyshamPoo
Day-time Happiness
42
เ
วลาหนึ่ ง วั น ของแต่ ล ะคน ถู ก สร้างสรรค์เติมแต่งไปด้วยเรื่องราว มากมาย หากจะให้นิยามความสุขในหนึ่งวัน ฉันคิดว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขของฉันคง คล้ายกับดอกทานตะวัน ...... อรุณเบิกฟ้า พี่หมีและน้องลิงยืนแน่นิ่ง อยู่ริมสระว่ายน้ำ�ของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัว เมืองภูเก็ต พีห่ มีกวาดสายตาไปทัว่ ด้วยความ งุนงง “พังงา เยาวราช ถลาง กระบี่ ชุมพร บางกอก สตูล...” เสียงน้องลิงดังขึ้น “นี่เราอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย” พี่หมีพึมพำ� เบาๆ พลางดูแผนที่ในมือ และเงยหน้ามอง น้องลิง ทันใดนัน้ พนักงานทำ�ความสะอาดสระ ว่ายน้�ำ ก็โพล่งขึน้ มา “นีแ่ หละครับ ชือ่ ถนนใน เมืองภูเก็ต”
พี่
หมีอาสาเป็นสารถีบิดรถเครื่องคัน งาม พาน้องลิงซ้อนท้ายท่องเมือง ภูเก็ต ค่อยๆ ลัดเลียบไปตามถนน ดีบุก และถนนถลางสุดคลาสสิคที่เคียงคู่ไป ด้วยตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส อันเป็นส่วน ผสมที่ลงตัวทีเดียวระหว่างตะวันออกและ ตะวันตก พี่วิกกี้ ไกด์ท้องถิ่นจำ�เป็นเล่าให้ ฟังภายหลังว่า “ในยุ ค สมั ย แห่ ง จั ก รวรรดิ นิ ย มของ ตะวันตก ชาวโปรตุเกสได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน
และทำ � การค้ า บริ เ วณเมื อ งท่ า มะละกา และได้นำ�เอาศิลปวัฒนธรรม ตลอดจน วิทยาการตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ รวมถึง ได้สร้างบ้าน และสถาปัตยกรรมตามรูป แบบของตน ซึ่งช่างชาวจีนได้นำ�ผังการ ก่อสร้างไปดำ�เนินการต่อ แต่ลักษณะของ สถาปัตยกรรมได้เพี้ยนไปจากเดิม คือมี การตกแต่งลวดลายบางส่วนตามคติความ เชื่อของจีน ทำ�ให้เกิดการผสมผสานกัน ระหว่างสถาปัตยกรรมโปรตุเกสและจีน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึน้ ท่ามกลางสังคม ของกลุ่มชน 3 เชื้อชาติ อันได้แก่โปรตุเกส จีน และมาเลย์ ในดินแดนแหลมมลายู ต่อมาเมื่อชาวดัตช์และอังกฤษเข้ามา มีอิทธิพลในดินแดนแถบนี้ ก็ได้ปรับปรุง รูปแบบของอาคารโดยดัดแปลงและเพิ่ม เติมลวดลายต่างๆ และมีชื่อเรียกลักษณะ การก่อสร้างอาคารเหล่านีว้ า่ สถาปัตยกรรม
43
44
แบบ “ชิโน-โปรตุกสี ” คำ�ว่า “ชิโน” หมาย สายตาของนักท่องเทีย่ วจำ�นวนไม่นอ้ ยจนอดไม่ ถึง จีน ส่วนคำ�ว่า “โปรตุกีส” ก็หมายถึง ได้ทจี่ ะแวะเวียนเข้ามาเก็บภาพความสวยงามนี้ โปรตุเกส นั่นเอง” ไว้ น้องลิงเหลือบไปเห็นตึกแถวสีสัน สดใสทอดตัวในตรอกเล็กๆ ที่เชื่อมถนน ดีบุกและถนนถลางไว้ด้วยกัน จึงบอกให้ พี่หมีหยุดรถเพื่อขอเก็บภาพความประทับ ใจสักครู่ เมื่อลงจากรถสายตาพี่หมีก็ไป สะดุดกับป้ายชื่อซอยจึงชี้ให้น้องลิงดู ทั้ง สองจึงถึงบางอ้อว่า “อ๋อออออ ทีน่ คี่ อื ซอย รมณีย์ นี่เอง” ซอยรมณีย์ เป็นซอยเล็กๆ อยู่ใน ย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ตึกรามบ้านช่องมี สีสันสดใสในสไตล์ชิโน-โปรตุกีส จึงได้ ชื่อว่าเป็นซอยที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ที่สุดในภูเก็ตเลยทีเดียว ภายในซอยมีทั้ง คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของทีร่ ะลึก และ ที่พักอาศัยที่คงรูปแบบเดิมไว้ ด้วยความ คลาสสิคนี้ทำ�ให้ซอยรมณีย์เป็นที่ดึงดูด
แดดกำ�ลังดี ฟ้ากำ�ลังสวย แม้จะร้อน นิดหน่อยแต่พี่หมีและน้องลิงก็ไม่ได้หวั่นไหว ไปตามอากาศ ทั้งสองเริ่มเปิดหนังสือนำ�เที่ยว พลิก พลิก พลิก จนสายตาไปหยุดที่คอลัมน์ แนะนำ�อาหารและของอร่อยขึ้นชื่อของเมือง ภูเก็ต •หมี่ภูเก็ต : มีทั้งหมี่ผัดฮกเกี้ยน, บะหมี่ แห้งและบะหมี่น้ำ�-หมี่เช้ก (ใช้น้ำ�ซุปที่ทำ�จาก กุง้ ), บะหมีห่ นุ้ บะกูด้ เต๋-หมีห่ นุ้ ป้าฉ่าง (หมีผ่ ดั เสริฟพร้อมน้ำ�ต้มกระดูกหมู) •ขนมจีนภูเก็ต : คนภูเก็ตส่วนใหญ่นยิ ม ทานเป็นอาหารเช้า ทานกับน้ำ�แกงชนิดต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือผักเหนาะหลากหลายชนิด ทัง้ ผักสด และผักดอง นอกจากนี้ ยังนิยมทาน กับไข่ต้ม ห่อหมก และทอดมันปลาด้วย 45
•โอต้าว : มีลกั ษณะคล้ายหอยทอด แต่ ไม่ใส่ถั่วงอกและมีเนื้อแป้งนุ่ม •โลบะ : คื อ หั ว หมู แ ละเครื่ อ งใน หมูต้มพะโล้ แล้วนำ�ไปทอดอีกที ทานกับ ต่าวกั้ว(เต้าหู้ทอด) •โอ้เอ๋ว : เป็นขนมหวานทำ�มาจากกล้วย น้ำ�ว้า ขยำ�กับเมล็ดโอ้เอ๋ว (เมล็ดสีขาวนำ�มา จากเมืองจีน) ใส่น้ำ�เชื่อม และน้ำ�แข็งไส กิน แก้ร้อน และลดการกระหายน้ำ� •บี้ถ่ายบาก : หรือลอดช่องสิงคโปร์ เป็นของหวาน มีเส้นสีขาวและแดง ทานกับ น้ำ�เชื่อมใสใส่น้ำ�แข็ง •ก้องถึง : หรือขนมตุ้บตั้บ ซึ่งในภูเก็ต ยังมีแบบที่ห่อใบไผ่แบบโบราณจำ�หน่าย ของขึ้นชื่อน่ารับประทานมากมายขนาด นี้ ทำ�เอาพี่หมีกับน้องลิงเลือกไม่ถูกเลยที เดียว ทัง้ สองจึงต้องตัดสินใจด้วยการท่องจ้�ำ จี้ มะเขือเปาะแปะฯ เป็นการตัดสินแทน
46
ลงตัวกันที่หมี่หุ้นป้าฉ่าง ซึ่งร้านเก่า ขึ้นชื่อต้องยกให้ร้านของอี๊เป๋ง ที่ขายใน ซอยสุ่นอุทิศ (บนถนนเยาวราช) มานาน กว่า 30 ปีแล้ว รสชาติอร่อยละมุนลิ้นของ หมี่หุ้น ลงตัวพอดิบพอดีกับน้ำ�ซุปหวาน กลมกล่อมแบบไร้ผงชูรส จนพี่หมีติดใจ อดไม่ได้ที่ต้องสั่งชามที่สอง ออกจากซอยสุ่นอุทิศ พี่หมีกับน้อง ลิงขอหยุดบริหารกระเพาะอาหารชั่วคราว เพื่ อ มารั บ อาหารสมองบ้ า งที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ภูเก็ตไทยหัว ตั้งอยู่ที่ถนนกระบี่ย่านเมือง เก่าภูเก็ต สถานที่แห่งนี้เดิมเป็นโรงเรียน สอนภาษาจีนแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง ชาวจีนฮกเกี้ยนบรรพบุรุษชาวจีนรุ่นแรกที่ อพยพมาอยู่ที่ภูเก็ตได้ร่วมกันตั้งขึ้น เป็น อาคารแบบชิโน-โปรตุกีส สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2477 บนหน้าจั่วอาคารเรียนมี รูปปูนปั้นเป็นรูปค้างคาวแดง ซึ่งสื่อความ หมายถึง การรู้หนังสือคือโชคอันยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงการตระหนักถึงการให้การ
47 47
ศึกษาแก่ลูกหลานชาวภูเก็ต ไม่เฉพาะการ เล่าเรียน เพื่อให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่หัวใจสำ�คัญของการศึกษาอยู่ที่การปลูก ฝังคุณธรรม จริยธรรม และปรัชญาในการ ดำ�เนินชีวิต พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในอาคารจัดแสดงสิ่งของ หนังสือ ภาพถ่ายและเรื่องราวต่าง ๆ ของโรงเรียน ภูเก็ตไทยหัว และจัดเป็นห้องนิทรรศการ ภาพแสดงความเป็ น มาของชาวจี น ที่ ย้ า ย ถิน่ ฐานมาอยูท่ ภี่ เู ก็ต บุคคลสำ�คัญของภูเก็ต ชุ ด แต่ ง กายประจำ � ถิ่ น อาหารพื้ น เมื อ ง เทศกาลงานประเพณี อาคารแบบชิโนโปร ตุกีส และภาพถ่ายเก่าแก่ที่แสดงความเป็น มาด้านเศรษฐกิจของภูเก็ตตั้งแต่ยุคเหมือง แร่ แดดเริม่ คล้อย หนังตาเริม่ หย่อน น้อง ลิงต้องการคาเฟอีนเข้าร่างกายเล็กน้อย เมือ่ พี่หมีบิดมอเตอร์ไซค์พาน้องลิงไปไม่ไกลก็ มาถึง “ร้านหนัง (สือ) ๒๕๒๑” ร้านหนัง(สือ)๒๕๒๑ เป็นร้านหนังสือ ขนาดกำ�ลังดี บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง มีชา กาแฟ และเครื่องดื่มหลากหลายไว้ บริการ ไม่เพียงแต่จะมีหนังสือที่คัดสรรมา แล้วเท่านั้น ยังมีโปสการ์ดและของที่ระลึก อื่นๆ ให้เลือกซื้อตามความพอใจ และที่ 48
สำ�คัญหนังดีๆ จากทุกมุมโลก ก็สามารถ หยิบยืมได้ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้บนชั้น สองยังมีพนื้ ทีส่ �ำ หรับฉายหนังไกลกระแส ไว้ส�ำ หรับลูกค้าอีกด้วย ไม่หมดเพียงเท่า นี้ ร้านหนัง(สือ)๒๕๒๑ ยังเป็นเสมือน แหล่งพบปะสังสรรค์ และจัดกิจกรรม อื่นๆ อีกด้วย ครบครันขนาดนี้ พี่หมีและน้อง ลิงคงไม่เพียงแวะมาจิบกาแฟแล้วก็ไป เท่านัน้ พีห่ มีเดินไปเลือกโปสการ์ดดีไซน์ เก๋ เขียนข้อความส่งให้คนรู้ใจ และดื่ม ชาผลไม้ให้ชุ่มฉ่ำ�ใจ ส่วนน้องลิงหยิบ หนังสือเล่มโปรดของปราบดา หยุ่น มา อ่านไปพลาง จิบกาแฟหอมกรุ่นไปพลาง
ร้านหนัง(สือ)๒๕๒๑ ดูดเวลา เผลอ แป๊บเดียวพระอาทิตย์ตวั ดีกส็ ง่ สัญญาณมา ว่า จะลับขอบฟ้าไปแล้ว หลังจากทั้งวัน นี้ได้อิ่มท้อง อิ่มสมอง อิ่มใจไปแล้ว ที่
พลาดไม่ได้คอื ต้องไปอิม่ บรรยากาศยาม พระอาทิตย์อัสดงที่แหลมพรหมเทพ จึง จะครบสูตร พี่หมีพาน้องลิงบึ่งรถไปเกือบ 30 กม. เพื่อไปยังแหลมพรหมเทพ ที่ว่ากัน ว่า เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินทีส่ วย ที่สุดในประเทศไทย อยู่ห่างจากหาดรา ไวย์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลม ที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ภาพของ แหลมที่ยื่นไปในทะเลสีครามใส ตะวัน สีส้มดวงกลมโต เกาะบริวารน้อยใหญ่ที่ อยู่รายล้อม และทิวปาล์มต้องลมไหวๆ ชวนให้เคลิบเคลิม้ จนลืมความร้อนทีแ่ สง อาทิตย์ส่องกระทบใบหน้าอยู่อย่างจังไป เลย ฉั น ยิ้ ม รั บ แสงแดดและ ท้องฟ้าใส เหมือน กับทีด่ อกทานตะวัน ส่งยิ้มหวานๆ ให้ แสงอาทิตย์เ… มือ่ แสง สี ท องของวั น นี้ ล า ลับขอบฟ้าไป หนึง่ วันของฉันก็ผา่ นไปพร้อมความ สุข และเมื่อแสงสีทองของวันนี้ขยับลับ สายตาไป ดอกทานตะวันจะหันไปยิ้มให้ ใครเล่า
หมี่หุ้นป้าฉ่าง ซอยสุ่นอุทิศ ถนนเยาวราช อำ�เภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ถนนกระบี่ อำ�เภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โทร.0-7621-1224 (ปิดวันจันทร์ และวันหยุดราชการ) ร้านหนัง(สือ)๒๕๒๑ 61 ถนนถลาง อำ�เภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โทร.0-7625-8254 เว็บไซต์ www.room2521.com
49
Tree of life
ต้นไม้ใบหญ้า(อ่อน) เรื่อง/ภาพ by : ข้าวใหม่
อรุณสวัสดิ์... “บานเช้า”
50
ต้นไม้บา้ นๆ ทีไ่ ด้ยนิ ชือ่ เสียงเรียงนามมาตัง้ แต่เด็ก แต่กลับไม่คอ่ ย สนิทสนมและมีปฏิสัมพันธ์กันสักเท่าไหร่ แล้วทำ�ไมฉบับนี้จะต้องบาน เช้าน่ะเหรอคะ... ก็เราส่ง (ต้นฉบับ) แม่บานดึกเขาล่วงหน้าไปแล้ว อัน นี้ก็เกรงว่าแม่บ้านเช้าจะน้อยใจเข้า แล้วทำ�ไมต้องชื่อบานเช้า อันนี้คงเดากันได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ก็ ว่าตามชื่อนั่นแหละค่ะ บานในตอนเช้ารับแสงแดด ว่ากันเรื่องบานเช้าค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอสารภาพว่า ไม่เคยปลูก บานเช้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
บ
านเช้าเป็นพืชล้มลุกค่ะ นิยมปลูก ประดับกึ่งคลุมดิน เอ๊ะ ยังไง?? ก็ คือว่า บางคนปลูกบานเช้าไว้ดู ดอก หรือ ปลูกเป็นแนวแถวเพือ่ ประดับสวน ประดับ รอบบ้าน แต่บางครั้งเราก็เห็นเจ้าบานเช้า ไปบานอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่อย่างงดงาม ทดแทนพืน้ ทีว่ า่ งเปล่า ก็มเี จ้าบานเช้าคอย คลุมดิน ให้ความชุม่ ชืน่ และความสวยงาม ค่ะ จากที่ได้ค้นคว้ามา บานเช้า มี 2 ชนิดค่ะ เราๆ อาจจะคุ้นเคยกับบานเช้า กลีบดอกสีขาวนวล บ้างก็เรียก บานเช้า
51
(เฉยๆ ไม่มีสร้อยห้อยตาม) บ้างก็ เรียก บานเช้าสีขาว บ้างก็เรียก บานเช้า สีนวล ลักษณะของบานเช้าชนิดนี้ คือมี กลีบ 5 กลีบ สีขาวนวลริมขอบกลีบ เป็นริ้วหยาบๆ ตรงกลางดอกบริเวณ
5252
เกสรมีสีม่วงเข้มอมน้ำ�ตาล ถัดมาเป็นสี เหลืองอีกชั้นเล็กๆ ทำ�ให้ดูเหมือนเป็นการ ไล่โทนสีเหลือง คล้ายดอกแพนซีหน้าแมว ต่อมาคือบานเช้าสีเหลือง หรือเรียก อีกชื่อว่า “เหลืองราชา” ค่ะ เจ้าดอกนี้ที่ ว่า จะไม่มสี เี ข้มจากกลางดอก มีแต่การไล่
5353
54
บานเช้าสีนวล :
โทนของสีเหลืองเข้มไปรวมกับเหลือง สดของกลีบดอก มองโดยรวมแล้วทั้ง กลีบจะมีสีเหลืองสด ออกดอกตัดกับ ใบเขียวเข้มแล้ว รับรองค่ะ งดงามไม่ แพ้ใครเหมือนกัน โดยรวมแล้ว บานเช้าเป็นพืชที่ ออกดอกตลอดปีคะ่ วิธกี ารขยายพันธุ์ ก็ไม่ยากสามารถทำ�ได้ทั้งเพาะเมล็ด และตอนกิ่ง (จะให้ง่ายกว่านั้นคือหา ซื้อเมล็ดค่ะ) บานเช้า ชอบดินร่วนซุย อุดม สมบูรณ์ ต้องการน้ำ�ปานกลางแม้จะ ทนร่มได้บ้างแต่ก็จะให้ดอกน้อยลง จึงควรปลูกทางทิศตะวันออกเพื่อให้ ได้แสงเต็มทีใ่ นช่วงเช้า จะได้เห็นดอก งามๆ กันไงคะ
ชื่อวิทยาศาสตร์:Turnera subulata G.E. Smith. ชื่อวงศ์: TURNERACEAE ชื่อสามัญ: Sage Rose บานเช้าสีเหลือง : ชือ่ วิทยาศาสตร์:Turnera ulmifolia L. ชื่อวงศ์: Turneraceae ชื่อสามัญ: Sage rose, West indian holly ชื่อพื้นเมือง: เหลืองราชา, บานเช้าต้น เครดิตภาพ http://www.bloggang.com/ mainblog.php?id=nulaw08&month=15-07-2009&group=7 &gblog=74 55
World of Pooh
โลกของ Pooh. เรื่อง by : แม่จิบ / ภาพ by : พ่อเล็ก
ค่ายเขาใหญ่ (1) 56
ช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี มูลนิธสิ ถาบันแสงสว่างจัด “ค่าย ใหญ่” และ “ครูตุ้ย” ก็ไม่ลืมเชิญชวนลูกๆ ศิษย์เก่า ซึ่งปัจจุบัน เรียนอยู่ที่โรงเรียนเกษมพิทยาไปแจมด้วย น้องภูเองผูกขาดกับค่ายใหญ่ของแสงสว่างมานานปีไม่เคยเบือ่ ซึง่ ชาว ค่ายคือเด็กพิเศษล้วนๆ และอาจมีเด็กปรกติลกู ๆ หลานๆ คุณครูแสงสว่าง มาแซม และช่วยให้คกึ คักขึน้ อีกกลุม่ โดยร่วมฐานกิจกรรมกับลูกพิเศษทุกๆ รายการ เมื่อแม่รู้กำ�หนดการ และได้ใบสมัครจาก “ครูณี” 2 สิ่งที่ต้องทำ�ก่อน คือ กากบาท วันที่นั้นไว้ในปฏิทินพ่อ และจองโรงแรมที่ใกล้ค่ายที่สุด (ที่ แม่ตกลงกับคุณครูขอพาน้องภูแว่บจากค่าย กลับมานอนกับพ่อแม่) ปีนี้แม่จอง “เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท” ใกล้ด่านเขาใหญ่ ห่างจากค่ายไม่เกิน 20 กิโลเมตร สถานที่ จั ด ค่ า ยก็ ส ลั บ หมุ น เวี ย นไป เรื่อยๆ สุดแต่ประธานและสตาฟท์ในปีนั้น จะเห็นควร โดยมากก็จะเวียนวนอยูป่ ระมาณ นี้ ชลพฤกษ์รีสอร์ท (นครนายก), บ้านฉาง (ระยอง), บ้านพักคริสเตียน (หัวหิน) ซึ่ง ทุกๆ ที่ดังกล่าว มีสถานที่พร้อมสำ�หรับฐาน กิจกรรมแสนเฮฮาสลับวิบาก ปี นี้ “ครู วี ” ประธานค่ า ย เปลี่ ย น บรรยากาศจากชายทะเลไปขึ้นที่สูงดูบ้าง จึง มุมสวยๆ ที่ปาลิโอ มาลงตัวไปสูดโอโซนที่ “ค่ายสุทธสิริโสภา” 57 เขาใหญ่
มุมนี้ก็สวยอีก
พลาดน้ำ�แดงที่วัดสรพงศ์ แต่มาได้ สโนว์ไอซ์ ทดแทนที่นี่
ลาบาดอร์ ตัวนี้ไม่เห่า แต่เฝ้าบันไดอยู่ที่ปาลิโอ
แม่ได้รับโปรแกรมและแผนที่ค่ายสุทธสิริโสภาเรียบร้อย ก็นัดแนะกับ “ครู ตุ่ม” (น้องภูอยู่กลุ่มสีเขียวของครูตุ่ม) ขอไม่ไปขึ้นรถที่แสงสว่าง แต่แม่กับพ่อ จะพาน้องภูไปรายงานตัว และร่วมกิจกรรมแรก เยี่ยมชมอุทยานมูลนิธิสมเด็จ พุฒาจารย์ โต พรหมรังสี (วัดสรพงศ์) และทานอาหารกลางวันที่นี่ตามโปรแกรม เลย (เมนูคือก๋วยเตี๋ยวราดหน้า และน้ำ�แข็งไส) ซึ่งครูตุ่มได้ให้เสื้อ หมวก พร้อม ป้ายชื่อและผ้าพันคอสีเขียวของน้องภูไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อให้ใส่วันเปิดค่าย พ่อ-แม่-น้องภู ออกเดินทางแต่เช้า น้องภูจึงได้แวะทานมื้อเช้าที่ร้าน A&W อย่างมีความสุขในปั๊ม ปตท. (ปั๊มเจทเดิม) และพวกเราก็ไปถึง “วัดสรพงศ์” ตาม เวลาเป๊ะ ซึ่งระหว่างทาง แม่ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับครูตุ่มอีก เพราะเรานัดแนะ กันไว้ล่วงหน้าชัดเจน และพ่อก็รู้เส้นทางไปจุดนัดพบดีอยู่แล้ว แม่ดีใจที่พาน้องภูมาถึงก่อนเวลา เพราะยังมองไม่เห็นขบวนรถของแสง สว่าง โทรศัพท์หาครูตุ่มจึงรู้ว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม เนื่องจากภายใน อุทยานฯ ส่วนทีจ่ ะพาเด็กๆ มาเยีย่ มชมถูกปิดซ่อม ทางวัดสรพงศ์เพิง่ แจ้งให้ครูตยุ้
58
(แสงสว่าง) รับทราบหลังจากออกเดินทางได้สักพัก จึงต้อง ยกเลิกกิจกรรมที่นี่ น้องภูอดชมวัดไม่มีปัญหา แต่งดรายการน้ำ�แข็งไส นี่สิ.. คาราวานรถบัสของแสงสว่างจึงมุง่ ตรงไปทีค่ า่ ยสุทธสิริ โสภา ไม่ตอ้ งเลยเถิดมาถึงวัดสรพงศ์เหมือนน้องภู ทีม่ าไกล เกินจำ�เป็นเกือบ 50 กิโลเมตร แล้วต้องวกกลับไปทีเ่ ขาใหญ่ ใหม่ น้องภูทัศนศึกษาก่อนเข้าค่าย ครูตุ่มสารภาพว่าเผลอหลับบนรถจึงไม่ทราบตอนที่ ยกเลิกรายการ มารู้อีกทีก็ถึงค่ายแล้ว ครูตมุ่ บอกว่าอาหารกลางวันคือก๋วยเตีย๋ ว ซึง่ โชคดีมาก ที่แม่ครัวรีบไปเหมาร้านก๋วยเตี๋ยวมาทำ�ให้กินถึงในค่ายได้ นี่ไงปาลิโอ ทันท่วงที เพราะมื้อนี้ไม่ได้สั่งให้เตรียมไว้ (เป้าหมายเดิม มื้อเที่ยงที่วัดสรพงศ์) หลังจากนัน้ ก็ท�ำ พิธเี ปิดค่ายก่อนเวลา เพราะมาถึงเร็วกว่าโปรแกรมเดิม ตอน นัน้ ปล่อยให้เด็กๆ พักผ่อนตามอัธยาศัยเรือ่ ยไปจนถึง 4 โมงเย็น ก็จะเป็นกิจกรรม เล่นน้ำ�(สระ) ทานข้าว 6 โมง และ 1 ทุ่มเป็นพิธีบายศรี (เหมือนทุกปี) พ่อบอกไม่เป็นไร ไหนๆ ก็ไม่ทันพิธีเปิด เพราะเราอยู่เลยค่ายตั้ง 50-60 กิโล ถ้างั้นค่อยส่งน้องภูตอนเย็น (บายศรีสู่ขวัญ) เลยแล้วกัน ว่าแล้วพ่อก็จัดโปรแกรมให้ใหม่ เริ่มจากเล็งมื้อเที่ยงที่หรูกว่าก๋วยเตี๋ยวที่ค่าย คือเย็นเตาโฟทีร่ า้ นแถวหัวถนนธนะรัชต์ (อร่อยไม่แพ้ทหี่ น้าองค์พระปฐมเจดียเ์ สีย ด้วย) จากนัน้ ก็ไปเช็คอินทีโ่ รงแรมกรีนเนอรี่ ให้เรียบร้อย รอแดดร่ม พาน้องภูกบั แม่ไปทัศนศึกษาที่ “ปาลีโอ” และทานข้าวเย็นที่ “ครัวเขาใหญ่” แล้วค่อยไปร่วม พิธีบายศรี แม่เห็นด้วยทุกประการ ...ชัด ปฏิบัติ จบ!!... 59
HomeWork by : ณ ณิชา
ซ่อมได้
หินขัดแตกลายงา ม ล ด ั พ บ ใ น ย ่ ี ล ป เ & ถาม : พื้นบ้านเป็น 1
หินขัด แตกร้าว เป็นลายงา จะแก้ไข อย่างไรได้บ้าง?
ตอบ : การแก้ไขทำ�ได้ด้วย การใช้ซีเมนต์ขาวครับ แต่ต้อง บอกก่อนว่า วิธีนี้เป็นการแก้ไข สภาพคงไม่ ส วยงามสมบู ร ณ์ แบบนัก ซึ่งวิธีการทำ�มีดังนี้ ให้ ทำ�การเซาะร่องที่แตกร้าวด้วย วั ส ดุ ที่ มี ค วามแหลมและแข็ ง เช่น ปลายตะปูตอกคอนกรีต 60
แล้ ว ทำ � ความสะอาดให้ ป ราศจาก ฝุ่นผงและเศษวัสดุ ใช้ซีเมนต์ขาว ทีม่ ขี ายตามท้องตลาด อุดร่องให้ทวั่ อาจใช้ฟองน้ำ�ช่วยในการลูบ จาก นั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง
2
ถาม : ใบพัดลมแตกจึงได้ไปซื้อใบใหม่มาเปลี่ยน แต่ไม่สามารถใส่แทนของเดิมได้เป็นเพราะอะไร?
ตอบ : ใบพัดลมที่ซื้อมา ทางร้านอาจลืมบอกไปว่าใช้ได้เฉพาะรุ่น เฉพาะ ยี่ห้อก็เป็นได้ครับ กรณีนี้เดาว่าที่ใส่ไม่ได้ เป็นเพราะแกนเหล็กที่ตัวพัดลม ยาวเกินกว่าช่องกากบาทที่ใบพัด การแก้ไขทำ�ได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้เหล็กแหลมลนไฟให้ร้อนหรือใช้ มีด บากลงไปที่ช่องกากบาทด้านหลังใบพัด โดยเลือกเอาว่าจะบากแนวไหน ระหว่างแนวตัง้ กับแนวนอน เพียงเท่านีก้ ส็ ามารถใส่ใบพัดลมใหม่ได้แล้วครับ 61
Underwater Log Book บันทึกรัก(ษ์)ใต้ทะเล เรื่อง / ภาพ : Jii on the road
ขยับจากพัทยา มาที่ “แสมสาร”
62
เลยพัทยามาไม่ไกล แสมสารเป็นอีกแหล่งดำ�น้ำ�ใกล้กรุงเทพฯที่มี อะไรดีๆ ให้ดู โดยเฉพาะที่เรือจม “สุธาทิพย์” หรือ Hardeep Shipwreck ส่วนหมายดำ�น้�ำ อืน่ ๆ ในแถบนีก้ จ็ ะเป็นเกาะจวง เกาะจาน เกาะโรงโขน
และโรงหนัง ส่วนที่ลึกที่สุดของเรือจมสุธาทิพย์อยู่ในระดับความลึกประมาณ 30 เมตร และอาจมีกระแสน้ำ�ได้ ที่นี่บางครั้งก็น้ำ�นิ่งและใสมาก ในทางกลับกัน บางครั้งน้ำ�ขุ่นชนิดที่มองหาบัดดี้ไม่เจอก็เคย ในขณะที่มีกระแสน้ำ�ที่นี่ก็เป็น แหล่งที่นักดำ�น้ำ�ใหม่ๆ ควรต้องระวังเป็นพิเศษและไม่ดำ�ลงลึกจนเกินไป เรือหลวงสุธาทิพย์ เป็นเรือ เหล็กที่มีความยาว 68.11 เมตร ถูกสร้างขึ้นในฮ่องกง โดยบริษัท สัญชาติเดนมาร์กในประเทศไทย เป็นเจ้าของ เดิมเรือลำ�นี้เป็นเรือ สินค้าแต่ต่อมาถูกเรียกเข้ามาช่วย ราชการในกองทัพไทยสมัยสงคราม เอเซียบูรพา แต่ถูกฝูงบิน B24 โจมตีด้วยระเบิดจนไฟไหม้และจม ลงในปี 2488 โชคดีที่ลูกเรือรอด ชีวิตทั้งหมดเพราะกระโดดหนีลง น้ำ�ไปก่อน มิเช่นนั้นนักดำ�น้ำ�คง หวาดๆ ที่จะไปดำ�ที่นี่
เรือจมอยูใ่ นสภาพตะแคงข้าง ในวัน ที่น้ำ�ใสจะสวยมาก มีปะการังอ่อน
และทากเปลือย (Nudibranch) สีสัน สวยงามให้เห็นมากมาย โดยเฉพาะทาก หนามชมพู 63
การดำ�เรือจมสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก คือ ปลากะรังหัวโขน หรือ Stone Fish เพราะมันจะพรางดัวกลมกลืน กับสนิมเรือ บางทีจับโดนตัวมันเข้าก็ จะเป็นอันตราย เพราะที่ผิวหนังของ ปลาชนิดนี้จะมีปุ่มพิษถึงแม้เราจะใส่ ถุงมือก็ตาม ปลากระเบน Blue Spot Stingray ก็เป็นเจ้าถิ่นที่นี่เช่นกัน แหล่งดำ�น้ำ�ที่น้ำ�ใสๆ ยิ่งถ้ามีประ การังอ่อนที่สภาพดีและสัตว์น้ำ�หลาก หลายจะเป็นเหมือนสวรรค์ของนักดำ� น้ำ�ที่รักการถ่ายภาพ การถ่ายภาพใต้ น้ำ � นั ก ดำ � น้ำ � ต้ อ งควบคุ ม จั ง หวะการ หายใจหรื อ การปรั บ การลอยตั วใน น้ำ�ให้ดีมิฉะนั้นอาจจะกลายเป็นการ ทำ�ลายธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะ ตัวและอุปกรณ์ของเราจะไปทำ�ให้เกิด ความเสียหายกับปะการังได้...นอกจาก นัน้ ยังมีผลต่อคุณภาพความคมชัดของ ภาพ โดยมากเมื่อดำ �น้ำ�ที่เรือจมสุธา ทิพย์แล้วก็จะไปดำ�ต่อกันที่เกาะจาน เกาะจวง ซึง่ จะเป็นการดำ�น้�ำ ดูตามแนว 64
ปะการังรอบๆ เกาะ น้ำ�จะตื้น แต่ไม่ ค่อยใส ล่าสุดที่ไปดำ�ที่เกาะจานก็เจอ ลูกปลาดุกทะเลคอกใหญ่อยู่ในโพรง หินกลางพื้นทราย ปลาที่นี่ก็เป็นปลา ตามแนวหินทั่วไป อย่างปลาปักเป้า ปลานกแก้วเล็กๆ...ในไดฟ์เดียวกันนั้น เราได้โบกมือลากล้อง Canon Ixus 860is พร้อมกับ housing ไปอย่าง ถาวรเนื่องจากหลุดมือหายไปตอนที่ กำ�ลังสู้กับกระแสน้ำ�โดยไม่ทันระวัง ก็
เลยจบทริปแสมสารครัง้ ทีผ่ า่ นมาด้วย อาการเซ็ ง สุ ด ๆ เพราะมี อ ะไรที่ น่ า บันทึกภาพมากมาย หนำ�ซ้ำ�ตอนที่ดำ� ที่เรือสุธาทิพย์ในช่วงเช้าวันนั้นน้ำ�ใส ปะการังสวยมาก เมื่อกลับมาจากแสมสารเราก็ได้ ถอยกล้อง Canon G10 พร้อม กับ housing มารักษาแผลใจเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว 65
66
67 67
อุปกรณ์ถ่ายภาพใต้น้ำ�
นอกจากตั ว กล้ อ งแล้ ว การ ถ่ายภาพใต้น้ำ�ต้องมีอุปกรณ์กันน้ำ� ที่สามารถรองรับสภาพความดันใน ระดับน้ำ�ที่ลึกได้นั่นคือ “เฮ้าส์ซิ่ง” (housing) สำ�หรับตากล้องใต้
68
น้ำ�มือสมัครเล่นกล้องดิจิตอลแบบคอม แพคท์พร้อมกับเฮ้าส์ซิ่ง ก็เพียงพอที่จะ เก็บภาพประทับใจใต้น้ำ�มาอวดเพื่อนๆ ได้แล้ว กล้องที่ใช้ควรจะมี mode ที่ ปรั บ white balance แบบ custom หรือ underwater ได้จะดี มาก เพราะถ้าไม่สามารถปรับ white balance ให้เหมาะกับสภาพใต้น้ำ�ได้
ภาพที่ ไ ด้ จ ะออกสี ฟ้ า ดู ไ ม่ เ ป็ น ธรรมชาติ ส่ ว นกล้ อ งดิ จิ ต อลคอม แพคท์ รุ่ นใหม่ ๆ ที่ มี ร ะบบกั น น้ำ�ในตัวนั้น ไม่สามารถนำ�มา ถ่ายภาพใต้น้ำ�ที่ลึกๆ ได้ เท่าที่ เห็นเต็มที่ก็สามารถกันน้ำ�ได้ถึง ระดับความลึกที่ประมาณ 3-10 เมตร แล้วแต่รุ่น แต่เฮ้าส์ซิ่งที่ มาตรฐานจะกันน้�ำ ได้จนถึงระดับ ความลึก 40 เมตร ในระดับความลึก ที่ต่างกันความดันน้ำ�ก็จะต่างกัน หาก ไม่ศกึ ษาขีดความสามารถของอุปกรณ์ ให้ดีจะทำ�ให้เกิดความเสียหายได้ สำ � หรั บ ตากล้ อ งขั้ น เทพที่ ต้ อ ง เก่งทั้งดำ�น้ำ�และถ่ายภาพ กล้องแบบ DSLR น่ า จะสนองความต้ อ งการ ได้ ดี ก ว่ า เพราะจะทำ �ให้ ไ ด้ ภ าพที่ มี คุณภาพคับแก้วกว่าและสามารถใส่ อุ ป กรณ์ เ สริ ม ได้ ม ากกว่ า ไม่ ว่ า จะ เป็นสารพัดเลนส์และระบบไฟแฟลช ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ทั้งราคากล้อง DSLR และเฮ้าส์ซิ่งรวมถึงอุปกรณ์ ต่างๆ ก็ทำ�ให้หลายๆ คนคิดหนักที
เดียว ดังนั้นจึงมีแต่ตากล้องมืออาชีพที่ จะเลือกใช้อุปกรณ์ระดับนี้ ราคาของเฮ้าส์ซิ่งสำ�หรับกล้องคอม แพคท์ทั่วๆ ไปก็อยู่ประมาณ 5,5008,000 บาท ซึ่งเฮ้าส์ซิ่งจะออกแบบมา เฉพาะสำ�หรับกล้องแต่ละรุ่นใช้กับกล้อง รุ่ น อื่ น ๆ ไม่ ไ ด้ แต่ ถ้ า ต้ อ งการแบบที่ คุณภาพดีกว่า เสริมอุปกรณ์ได้มากกว่า เช่นใส่เลนส์เสริมได้ราคาก็เพิ่มขึ้นไปอีก แหล่งที่จะหาซื้ออุปกรณ์ก็มีที่พันธ์ทิพย์ พลาซ่าและมาบุญครอง ลองเดินสำ�รวจ รุ่นและราคาให้ทั่วๆ ก่อนค่อยตัดสินใจ ซื้อ...ไว้จะมาแนะนำ�เทคนิคการถ่ายภาพ ใต้น้ำ�ในฉบับต่อๆ ไป 69
My Kitchen
ตีท้ายครัว เรื่อง Nam @ ร้านกระดานดำ�/ ภาพ koblover
น้ำ�ใบย่านาง
70 70
ถ้าตามฤดูกาลปกติ เดือนมิถุนายนควรจะเกือบเข้าฤดูฝนแล้ว ขอ ปิดท้ายเมนูน้ำ�ดื่มเพื่อสุขภาพและดับร้อน โดย Nam @ ร้านกระดาน ดำ� ตลาดเซฟวัน เมืองย่าโม ด้วย “น้ำ�ใบย่านาง”
ส่วนผสม 1. 2. 3. 4. 5.
ใบย่านาง น้ำ�เสาวรส น้ำ�ผึ้ง เกลือป่น น้ำ�แข็งบด (ใส่ก็ได้)
วิธีทำ�
นำ�ใบย่านางที่ตัดเป็นใบๆ แล้วมาล้างให้สะอาดหลายๆ น้ำ� ถ้าเป็นไปได้ควรลวกด้วยน้�ำ ร้อนทีอ่ ณ ุ หภูมไิ ม่รอ้ นจัดเกินไปเพราะ จะทำ�ให้คุณค่าเสียไป ปั่นหรือคั้น กรองเอาแต่น้ำ� เติมเกลือป่น น้ำ�ผึ้ง น้ำ�เสาวรส เพิ่มรสเปรี้ยว ตามชอบ รับประทานเลยหรือ บรรจุใส่ขวดเก็บไว้ในก็ได้ ข้อควรระวัง : ใบย่านางเป็นไม้เลื้อยที่ขึ้นได้ทั่วไป โปรด ระวังขนที่ใบอาจทำ�ให้เกิดอาการคันได้ 71
ประโยชน์ของ “ใบย่านาง” 1. เคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำ�ไส้ 2. ปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหาร 3. มี แคลเซียม และ วิตามินซี ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีวิ ตามินอื่นๆ ร่วมขบวนด้วย เช่น เอ บี 1 บี 2 และเบต้าแคโรที น ยั ง เป็ น การเพิ่ ม คลอโรฟิ ล คุ้ ม ครองเซลล์ ฟื้นฟูเซลล์ ช่วยขับสารพิษและอาการป่วยได้อีกด้วย
72
Entertain
เรื่อง : โซเนีย
ย้อนดูตัว
หนทางกลับคืนสู่ความรัก Way Back Into Love
เคยกลัวคนแปลกหน้าบ้างไหม? บางคนอาจกระซิบตอบในใจว่า “เคยสิ” ถ้าคนแปลกหน้าที่ว่านั้น ดูช่างมี บุคลิกไม่น่าไว้ใจซะเหลือเกิน แต่เชื่อไหมล่ะ ว่ามีบางคน(กระซิบตอบ) อีกทีว่า โธ่ เราต่างล้วนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันทั้งนั้นแหละ ว่าไหม ถ้าให้เวลากันซักหน่อย หนึ่ง กาลเวลาอาจทำ�ให้คนแปลกหน้าบางคน กลายมาเป็นเพื่อนสนิท และเป็นได้ มากกว่านั้น กระทั่งเป็นคู่รักเสียด้วยซ้ำ� คอลัมน์เอ็นเทอร์เทน ว่าด้วยเสียง เพลงและดนตรี ฉ บั บ นี้ ไ ม่ ไ ด้ ตั้ งใจพู ด ถึงคนแปลกหน้าหรอกค่ะ แต่ที่จำ�เป็น ต้องพูด เพราะว่ากำ�ลังนึกเรื่องราวของ ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งเข้าโรงมานานโข แล้ว แต่ดนตรีประกอบหนังเรื่องนี้ ให้ ผ่านไปกี่ปีก็ยังตราตรึงเหลือเกิน หนังที่ว่าก็คือภาพยนตร์เรื่อง Music and Lyrics ที่รู้จักกันดี เพราะเป็น หนังโรแมนติกทีน่ กั แสดงชือ่ ดังอย่าง ฮิวจ์ แกรนด์ และ ดรู แบรี่มอร์ แสดงคู่กัน ใช่ค่ะ ก่อนทั้งคู่จะรู้จักกัน ต่างเป็น คนแปลกหน้า ไม่ใช่คนที่แค่เดินสวนทาง กัน แล้วหายจากกันไปเสียด้วยสิ แต่ เป็ น คนที่ เ จอกั นในภาวะที่ ทั้ ง พระเอก และนางเอกของเรา “ไม่อยากเจอใคร” สักเท่าไหร่ พระเอกของเราคนนี้ เคย
มี ชี วิ ต ที่ รุ่ งโรจน์ เป็นถึงราชาเพลง ป๊อบที่เคยโด่งดัง ในยุค ’80 แล้ว วั น หนึ่ ง ก็ ต กอั บ ไม่มใี ครจ้าง ไม่มี โอกาสจะหวนคืน สู่ ว งการได้ อ ย่ า ง องอาจเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่เชือ่ ไหม...การเจอคนแปลกหน้า ของเขาครั้งนี้แหละ ไม่ได้คืนสู่วงการ บันเทิงก็ช่าง แต่เขาได้กลับคืนสู่โลกอีก ใบ โลกที่มีสีสัน มีชีวิตชีวา โลกแห่ง ความสัมพันธ์ที่งดงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือโลกของความรัก 7373
Way Back Into Love I’ve been living with a shadow overhead I’ve been sleeping with a cloud above my bed I’ve been lonely for so long Trapped in the past I just can’t seem to move on I’ve been hiding all my hopes and dreams away Just in case I ever need them again someday I’ve been setting aside time To clear a little space in the corners of my mind All I want to do is find a way back into love I can’t make it through without a way back into love Oh oh oh I’ve been watching but the stars refuse to shine I’ve been searching but i just don’t see the signs I know that it’s out there There’s got to be something for my soul somewhere 74 74
I’ve been looking for someone to shed some light Not somebody just to get me through the night I could use some direction And I’m open to your suggestions All I want to do is find a way back into love I can’t make it through without a way back into love And if I open my heart again I guess I’m hoping you’ll be there for me in the end .… There are moments when I don’t know if it’s real Or if anybody feels the way I feel I need inspiration Not just another negotiation All I want to do is find a way back into love I can’t make it through without a way back into love And if I open my heart to you I’m hoping you’ll show me what to do And if you help me to start again You know that I’ll be there for you in the end
หนทางสู่ความรัก เสมอมา...ฉันมีดำ�รงชีวาใต้เงามืด หลับใหลใต้ก้อนเมฆทึมทึบที่เหยียดยาว เหนือเตียงนอน ฉันเหงา...มานานแสนนาน กอดเก็บอดีตไว้...ไม่เห็นหนทางข้างหน้า ฉันเก็บซ่อนไว้ทั้งหมด...ความฝัน... และความหวัง เผื่อสักวัน ก็อาจจะต้องใช้มันบ้าง ฉันหลบซ่อนซึ่งกาลเวลา อยู่กับพื้นที่ว่าง เล็กๆ ในมุมหนึ่งของหัวใจ ทั้งหมดนั้นที่ฉันต้องการทำ�... คือหาทางกลับสู่รัก หนทางกลับสู่ความรัก ไม่มีอะไรเป็นไปได้จริงหรอก... หากฉันยังไม่รู้จักหนทาง หนทางกลับคืนสู่ความรัก ดาวดาวที่ฉันเฝ้ามอง... บางครั้งก็ไม่ยอมทอแสง พยายามค้นหา...จนอ่อนแรง แต่ก็ไม่พบสัญญาณใดๆ ฉันรู้ว่ามันมีอยู่...แค่ไม่รู้ ว่าอยู่ที่แห่งไหน คงต้องมี...สักแห่ง ที่พักใจสำ�หรับฉัน
ตามหา...ใครสักคนทีเ่ ป็นดัง่ แสงส่องสว่าง ไม่ใช่แค่พาข้ามแค่คืนนี้เท่านั้น อยากพบหนทาง...อยากพบเส้นทางนั้น ที่จะพาฉัน กลับคืนสู่ความรัก...อีกที ถ้าฉันเปิดใจอีกหน... หวังว่าเธอคือคนนั้น ที่จะอยู่กับฉันในวันสุดท้าย แม้บางครั้ง จะไม่ค่อยแน่ใจ ใครบ้างจะรู้สึกเช่นนี้ ฉันต้องการ...ต้องการแรงบันดาลใจดีๆ ไม่ใช่แค่วาจาสามัญ แต่คือฝัน ที่จะไปสู่หนทางกลับยังความรัก ฉันคงทำ�ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รู้จักหนทางคืนสู่ความรัก ถ้าฉันเปิดใจให้เธอ หวังว่าจะบอกได้ว่าควรทำ�อย่างไร หากจะช่วยให้ฉันได้เริ่มใหม่อีกครั้ง เธอ...คนที่จะอยู่กับฉันในวันสุดท้ายนั้น
ฟังเพลงและชมวิดีโอได้ที่ http://www.youtube.com/ watch?v=2vS49_v4ZlU 7575
นอนดูหนังแผ่น LUCKY YOU (เปลี่ยนเกม เปลี่ยนชีวิต) เรื่องราวของนักพนันหนุ่ม มืออาชีพ ผู้ใช้และมีชีวิตอยู่ใน บ่อนคาสิโน ในเมืองลาสเวกัส ซึง่ บังเอิญเจอสาวแปลกหน้าแล้วเขา รู้สึกปิ๊ง จากชีวิตที่ไม่เคยคิดจะ ผูกพันกับผู้หญิงคนไหน เขาได้ รู้สึกถึงชีวิตที่ได้เริ่มเปลี่ยนแปลก ไป ระหว่างการดำ�รงชีวิตเยี่ยงนัก พนันกับความรักที่ได้เริ่มก่อเกิด ขึ้น ในขณะเดี ย วกั น เขาต้ อ ง พยายามหาเงิน 10,000 ดอลล่าร์ เพื่ อ สมั ค รเข้ า ชิ ง การแข่ ง ขั นไพ่ โป๊กเกอร์โลก เขาต้องทำ�ทุกวิถีทาง แม้กระทั่งขโมยยืมเงินผู้หญิงที่เขารัก ทั้งเกมพนันและความรัก ได้ให้บทเรียนแก่ชายหนุ่ม ในการที่จะให้ อภัยและเรียนรู้ที่จะให้รัก ทั้งได้ช่วยเยียวยาและผสานบาดแผลระหว่างเขา กับพ่อ
76
ROUNDERS (เซียนแท้ ต้องไม่แพ้ใจ)
เรื่องราวของทนายหนุ่มฝึกหัด ผู้พิสมัยเกมไพ่โป๊กเกอร์ แต่สุดท้าย ต้องพลาดท่าเจ้ามือบ่อนโป๊กเกอร์ชาวรัสเซีย สูญเงินที่สะสมไว้เพื่อการ ศึกษาคืนเดียว 30,000 ดอลล่าร์ ทำ�ให้เขาให้สัญญากับตัวเองและแฟน สาวว่า จะเลิกเล่นโป๊กเกอร์ แต่แล้วชะตาต้องพลิกผัน เมื่อเขาได้พบเพื่อนซี้ ผู้ซึ่งเพิ่งโทษออก มา และได้หว่านล้อม ชักจูง ชี้นำ�จนทำ�ให้เขาต้องกลับไปสู่วังวนของเกม ไพ่โป๊กเกอร์อีกครั้ง จนต้องสูญเสียแฟนสาวและอนาคตในการเป็นทนาย ไป สุดท้าย ด้วยภาวะจำ�ยอม บีบให้เขาต้องกลับไปวัดดวงกับคูป่ รับเก่า อีกครั้ง 77
21 (เกมเดิมพันอัจฉริยะ)
ชายหนุม่ นักศึกษามีอนาคต คนขยันและฉลาด พยายามหา ทุ น เพื่ อ เป็ น ค่ า เล่ า เรี ย น ความ ฉลาดด้านตัวเลขและสถิติของเขา ที่แสดงในชั้นเรียน เตะตาสะกิด ใจอาจารย์ผู่้สอนเข้า เขาจึงถูก เชิญชวนให้เข้ากลุ่มเล่นไพ่แบล็ค แจ็ค โดยการไป “นับไพ่” ทุกวัน หยุดที่บ่อนในลาสเวกัส ชายหนุ่ ม พยายามปฏิ เ สธ แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าเพราะเสน่ห์ของ เพือ่ นสาวทีอ่ าจารย์สง่ มาชวนหรือ เพราะความอยากพิ สู จ น์ ตั ว เอง
ทำ�ให้เขาใจอ่อนยอมเข้ากลุ่ม 21 ด้วย โดยเขาแสดงเจตนารมย์เพื่อหาเงิน เก็บเป็นทุนศึกษาต่อ อบายมุขมักไม่เข้าใครออกใคร ชายหนุ่มเกิดติดใจในสัมผัสทั้ง 5 ของ ชีวติ ในลาสเวกัส เมือ่ เขาและเพือ่ นโกยเงินจากบ่อนได้อย่างมหาศาล แต่เหนือ ฟ้ายังมีฟา้ ...ในบ่อนย่อมมีผคู้ มุ บ่อน ผูม้ งุ่ หมายรักษาผลประโยชน์ของบ่อนให้ มากที่สุด
78
Books
นั่งอ่านหนังสือ by : Koblover
“เด็กชาย” 2 คน “เด็กชายจากดาวอื่น” เปิดเรื่องมา ได้นา่ สนใจและชวนติดตาม เรือ่ งราวของ เด็กชายวัย 6 ขวบ กับเรื่องราวชีวิตกับ ผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวของเขาใน สถานเลี้ยงเด็กกำ�พร้า ที่มี “แม่” เป็น หลักยึดเหนี่ยวในการยึดมั่นทำ�ความดี เพื่อคนอื่น เป็นหนังสือที่อ่านได้และอ่าน สนุก จนแทบไม่อยากให้จบลง...ได้อย่าง รวดเร็วภายใน 1 วัน “เด็ ก ชายจากดาวอื่ น ” จั ด เป็ น หนังสือดีที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่าน หนึง่ ในร้อยเล่ม และเป็นหนังสืออ่านนอก เวลา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย วิชาภาษาไทยภาคบังคับ ตามประกาศ ของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2541 อ่านเรื่องราวของเด็กชายกำ�พร้าชาวไทย วัย 6 ขวบแล้ว นึกไปถึงเด็ก ชายเกเรชาวจีน วัย 7 ขวบที่เพิ่งอ่านจบไป
79
เด็กชายจากดาวอื่น วาวแพร : เขียน พิมพ์ครั้ง ที่ 6 มกราคม 2546, สำ�นัก พิมพ์ผีเสื้อ ราคาปก 97 บาท เด็กชายเลขที่ 34 ENZO : เรื่องและภาพ, อนุ รั ก ษ์ กิ จ ไพบู ล ทวี : แปล พิ ม พ์ ค รั้ ง แรก มี น าคม 2553, สำ � นั ก พิ ม พ์ อ ะบุ๊ ก จำ�นวน 232 หน้า, ราคาปก 320 บาท
“เด็กชายเลขที่ 34” เป็นเรื่องราวของเด็กชายชาวจีนวัย 7 ขวบ ผู้ถูก ครอบครัว คนรอบข้างและสังคมตีกรอบ ให้ทำ� ให้คิด เพื่อให้เขาเติบโตขึ้น ในรูปแบบที่เขาควรจะเป็น ขณะที่ด้วยวัยและวุฒิภาวะ ทำ�ให้เขาดูเหมือนจะ พยายามเป็นขบถต่อทุกสิ่ง “เด็กชายเลขที่ 34” หนังสือภาพยอดเยี่ยมและศิลปกรรมยอดเยี่ยม รางวัล The Golden Tripod Awards for Publications ของสำ�นักงาน Governmeat Information Office (GIO) แห่งชาติไต้หวัน แม้จะเป็น หนังสือประกอบภาพวาด แต่ไม่ใช่หนังสือที่เด็กๆ จะอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที แน่ๆ อ่านแล้วทำ�ให้นึกไปถึงหนังสือ “เจ้าชายน้อย” แม้ “เด็กชายเลขที่ 34” ดูจะไม่ซับซ้อนเท่า เพราะถ้าลองอ่านเนื้อหาในบทส่งท้ายอย่างตั้งใจ คำ�ตอบ ทั้งหมดคงจะอยู่ตรงนั้นเอง ประโยคที่ชอบและโดนใจ คิดว่า นี่คือคำ�ตอบของ “เด็กชายเลขที่ 34” น่าจะเป็นประโยคนี้ ชีวิต....ย่อมหาทางออกให้ตนเองได้เสมอ 80
Poem
เขียนกลอนเล่นบนใบบัว
วาดวลี
รอคอย เมฆหมอกพัดหลงมาจากฤดูฝน กำ�ลังไหลเวียนอยู่ในอากาศ รอคอยการแสดงตนอย่างเต็มที่ ในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้า จะจริงไหม ฤดูกาลผ่านมาและผ่านไป ใกล้จะมาถึง และอยู่ในช่วงที่ เรารอคอย สี่เดือนที่ถูกแบ่งโดยการสมมุติ แต่เรานับจากการสังเกต เรามีชื่อเรียกฤดูกาลต่างกัน และต่างฝัน..เราก็รอคอยการ เปลี่ยนแปลงเงียบๆ จากสิ่งที่เราทำ�และไม่ได้ทำ�
เมฆหมอกพัดหลงมาจากฤดูฝน กำ�ลังไหวเวียนอยู่ในอากาศ ความเศร้าระบัดระบายไปทั่ว ใต้สะพานลอย ใต้แสงไฟ ใต้ ท้องฟ้าสีส้ม ณ เมืองแห่งการสมมุติและ ภาพเสมือนจริงของล่มสลาย ฉันรอคอย ให้ฤดูกาลหนึ่งในใจ ผ่านไปโดยเร็ววัน..
81
BonBaiBua.com พบกันทุกเดือน
สนใจลงโฆษณา ราคากันเอ๊ง กันเอง ติดต่อ คุณกบ 084 123 0534 อีเมล์ : ruteec@hotmail.com 82