คู่มือการเรียนรู้ทรัพยากรชีวภาพทางทะเล ตำบลพลา อำบ้านฉาง จังหวัดระยอง

Page 1

คู่มือการเรียนรู้

ทรัพยากรชีวภาพ ทางทะเล ตำ�บลพลา

อำ�เภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

Bก


หนังสือในชุดโครงการ U2T พลา จัดท�ำโดย ดร. สุเมตต์ ปุจฉาการ หัวหน้าโครงการและผู้ประสานงานโครงการ U2T นางสาวรติมา ครุวรรณเจริญ ผู้ร่วมโครงการ นางจันทร์จรัส วัฒนะโชติ ผู้ร่วมโครงการ นางสาวกฤดาอร จุนวิเชียร พัสดุและการเงิน นายสุรพล ฉลาดคิด วิทยากรและเลขานุการ รายชื่อผู้รับจ้างงาน นางสาวพัชระ จันทร์สมุด นางสาวศรุตา เกตุจิ๋ว นางสาวสนธยา ชื่นศรี นางสาวพิมพ์ใจ บุญค้อม นางสาวจินตนา เกตุจิ๋ว นางสาวนงลักษณ์ อ่อนถาวร นางสาวชมทิศา ทับทิมหิน นางสาวนิรชา วนาภรณ์ นางสาวบุษกร คล่องใจ นางสาวพิศมัย บุญค้อม นายรัฐบุรุษ จันทร์วิโรจน์ นายลินสัญต์ ชัยบุตร นางสาวนีรา สุขิโต นางสาวปนิดา คุ้มเดช นายวสันต์ ปัญญาเหลือ นายภัทรกร การะภักดี นางสาวเมธินี แก่นมะสังข์ นางสาวกมลวรรณ ศิริวิโรจน์ นางสาวนันท์กมล สาครรัตน์ นายทอฝัน สายรัตน์ นายณิชกานต์ เชื้อจ�ำรูญ นายศิวกร สัตตารัมย์ นางสาวฐานิกา ค�ำนึงกิจ นางสาวกมลชนก บุญสุข

C ข


ค�ำน� ำ หนังสือเล่มนี้จัดท�ำขึ้นในโครงการหมาวิทยาลัยสู่ต�ำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T ภายใต้การ ดูแลของ ดร.สุเมตต์ ปุจฉาการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลชีวภาพทางทะเลในต�ำบลพลาให้ได้ มากที่สุด เพื่อการน�ำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต ทัง้ นีข้ อ้ มูลได้รวบรวมมาจากการลงพืน้ ทีส่ ำ� รวจ ด�ำน�ำ้ และสอบถามจากชาวบ้านในกลุม่ ประมง ผูจ้ ดั ท�ำ หวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่น�ำไปใช้ให้เกิดผลตามความคาดหวัง คณะผู้จัดท�ำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดท�ำหนังสือเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและ ต้องการความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่พบในต�ำบลพลาได้เป็นอย่างดี

คณะผู้จัดท�ำ กุมภาพันธ์2565

Dค ข


สารบัญ หน้า

คำ�นำ� ป่าชายเลน หาดโคลน ทรัพยากรทางชีวภาพของสัตว์ในตำ�บลพลา ทรัพยากรทางชีวภาพของพืชในตำ�บลนาเกลือ ดัชนี บรรณานุกรม

ค 1 3 4 84 93 95

E ง


ป่าชายเลน ป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่ประกอบด้วยพืชและสัตว์นานาชนิดดำ�รงชีวิตร่วมกันในสภาพ แวดล้อมที่เป็นดินเลนน้ำ�กร่อยหรือมีน้ำ�ทะเลท่วมถึงสม่ำ�เสมอป่าชายเลนประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด หลายตระกูลและเป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบส่วนใหญ่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สกุลโกงกาง(Rhizophorasp.)เป็น ไม้สำ�คัญดินในป่าชายเลนมีความอุดมสมบูรณ์สูงจากธาตุอาหารที่มาจากการกันเซาะตามชายฝั่ง และ แหล่งน้ำ�ลำ�ธารสารอินทรีย์จากซากพืชซากสัตว์ในบริเวณป่าชายเลนเองโดยเฉพาะใบไม้ที่ร่วงหล่นทับถม กันเป็นจำ�นวนมากแพลงค์ตอนพืชและสาหร่ายน้ำ�บริเวณนี้มีความเค็มค่อนข้างต่ำ�ระดับความเค็มของน้ำ� เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามระดับน้ำ�ที่ขึ้นลงและปริมาณน้ำ�จืดไหลมาจากแม่น้ำ�ลำ�คลอง

1


2 2


หาดโคลน หาดโคลนเป็นบริเวณที่มีขนาดดินตะกอนเล็กมากเนื่องจากคลื่นไม่รุนแรงทำ�ให้ดินตะกอน ขนาดเล็กมากๆ ตกตะกอนเป็นโคลนทับถมกันลักษณะของหาดที่มีความชันน้อยทำ�ให้น้ำ�ในดินไหลไปสู่ บริเวณอื่นได้ยากและถูกกักเก็บไว้ภายในดินบริเวณนี้มีสารอินทรีย์สูงและมีแบคทีเรียอาศัยอยู่มากทำ�ให้ ปริมาณออกซิเจนในดินลดลงทำ�ให้ดินบริเวณนี้มีออกซิเจนน้อยออกซิเจนอีกทั้งการที่หาดโคลนมีปริมาณ สารอินทรีย์สูงทำ�ให้มีสิ่งมีชีวิตมาอาศัยค่อนข้างมากทั้งแบบชั่วคราวและถาวรเนื่องจากเป็นแหล่งอาหาร โดยสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ต้องปรับตัวโดยการฝังตัวลงไปในโคลนหรือสร้างท่อและอยู่ในท่อนั้นและปรับตัว ทางสรีระวิทยาต่อสภาพการขาดออกซิเจน

3


ทรั พ ยากรทางชี ว ภาพของ ส ั ต ว ์ ในตำ � บลพลา

4 4


5 5


6


ขนนกทะเล Lytocarpus sp. ขนนกทะเล เป็นสัตว์จ�ำพวกซีเลนเตอเรท (Phylum Coelenterata) ชนิดหนึ่งจัดอยู่ในพวกไฮโดรซัว ทีม่ ลี กั ษณะคล้ายพืชมีอยูห่ ลายชนิดแต่ละตัวมีรปู ร่างเป็นโพลิป (Polyp) ขนาดเล็กอาศัยอยูร่ วมกันเป็นโค โลนี มักพบอยู่ตามแนวปะการังเกาะกับหลักที่ปักอยู่ริมชายฝั่ง เสาสะพานท่าเรือตลอดจนเศษวัสดุที่ลอย ในทะเลบางชนิดมีลกั ษณะคล้ายขนนก และบางชนิดคล้ายเฟิรน์ เมือ่ ผิวหนังของเราสัมผัสกับโคโลนีของขน นกทะเลโพลิปจะปล่อยนีมาโทซิส (nematocyst) ที่มีน�้ำพิษเข้าสู่ผิวหนังท�ำให้เกิดอาการปวดแสบปวด ร้อน ขนนกทะเลเป็นไฮโดรซัวทีอ่ าศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนีประกอบด้วยโพลิปขนาดเล็กเรียงตัวกันอยูบ่ น กิ่งก้านที่แตกแขนงคล้ายพืชจ�ำพวกเฟิร์นขนนกทะเลมีพิษท�ำให้เกิดบาดแผลเป็นผื่นไหม้หรือคันบริเวณ ผิวหนังที่สัมผัส

7


8


ปลาสลิดหิน chrysiptera sp. ล�ำตัวสีน�้ำเงิน ครีบหางสีเหลือง สีทั้งสองจะตัดกันน้อยลงเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น แต่เมื่อถูกจับอาจเปลี่ยนสีเป็น สีนำ�้ เงินอมม่วง อยูร่ วมกันเป็นฝูงพบได้ตามน่านน�ำ้ ไทยมีขนาดประมาณ 4 เซนติเมตร กินแพลงก์ตอนและ สัตว์หน้าดินขนาดเล็ก น�ำมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม

9


10


ปะการังกาแล็คซ่ี่ Galaxea sp. คอรอลลัมอาจเจริญแผ่คลุมพืน้ ซากปะการังเป็นเนินหรือเจริญเป็นวงแหวนขนาดเล็ก คอรอลไลท์ยนื่ ขึน้ มา สูงคล้ายตอและมีสนั จัดเรียงตัวในแนวรัศมีเป็นแผ่นสูงต�ำ่ สลับกัน ขนาดความกว้างของคอรอลไลท์ประมาณ 5 มิลลิเมตร และยกสูงจากฐานประมาณ 7 มิลลิเมตร ขณะยังมีชีวิตมักมีสีเขียว เป็นส่วนใหญ่และอาจพบ สีนำ�้ ตาลหรือเหลืองบ้าง ปะการังกาแล็กซีทพี่ บในแถบอินโดแปซิฟกิ มีเพียงชนิดเดียวเจริญอยูใ่ นเขตน�ำ้ ขึน้ น�้ำลง และลึกลงไปถึง 25 เมตร นอกจากนี้ยังชอบบานหนวดออกในเวลากลางวันด้วย

11


12


ปะการังโขด Porites lobata รูปร่างเป็นก้อนขนาดใหญ่และบ่อยครั้งที่มีขนาดใหญ่เหมือนก้อนหินที่โผล่ขึ้นมาบนแนวปะการังนับเป็น ปะการังชนิดทีพ่ บทัว่ ไปและจ�ำนวนมากทีส่ ดุ ชนิดหนึง่ ในบริเวณหมูเ่ กาะทะเลใต้ทงั้ นีส้ ว่ นหนึง่ น่าจะมาจาก ความสามารถในการก�ำจัดตะกอนของปะการังโขดคือปะการังโขดจะสร้างเมือกมาปกคลุมตัวเองเพื่อดัก ตะกอนแล้วจึงขับแผ่นเมือกพร้อมตะกอนออกไปนอกจากนัน้ ปะการังโขดยังเป็นปะการังทีม่ คี วามทนทาน ต่อภัยธรรมชาติต่างๆทั้งแรงกระแทกจากคลื่นลมมรสุม หรือแม้แต่ปรากฏการณ์การฟอกขาว

13


14


ปะการังแจกัน Turbinaria peltata เป็นปะการังบริเวณแนวสัน เป็นเขตรอยต่อระหว่างแนวราบส่วนบนและแนวลาดชัน

15


16


ปะการังเขากวาง Acropora sp. โคโลนีแตกแขนงเป็นกิ่งยาวตั้งขึ้นเหมือนเขากวางแบบArborescent หรือกิ่งโปร่งกิ่งเป็นรูปทรงกระบอก ความยาวกิ่งไม่เกิน 20 ซม. คอรอลไลท์รอบกิ่งมีลักษณะเป็นท่อ มีขนาดใกล้เคียงกันถิ่นที่อยู่อาศัย อยู่ทั้ง บริเวณแนวปะการังระดับน้ำตื้นที่ไม่ได้รับคลื่นลมรุนแรงไปจนถึงระดับน้ำลึก

17


18


ปะการังช่องหินอ่อน Gardineroseris planulata กลุ่มปะการังช่องเหลี่ยม (ชาวเล เรียก “ปะการังหินสมอง”) ลักษณะของตัวปะการังจะเป็นก้อนๆเหมือน กับสมองคน ปะการังสมองนั้นมีหลายพันธุ์มีทั้งแบบล่องเล็ก และล่องใหญ่ตามขนาดของล่องลอยยักของ ปะการัง มักพบเป็นก้อนขนาดใหญ่จะพบได้มากในจุดด�ำน้ำจุดแรกตรงอ่าวกรวด

19


20


Thanissorn Hoikaew

ดอกไม้ทะเล Heteractis magnifica เป็นสัตว์เล็กๆมีรูปร่างทรงกระบอก ด้านล่างเป็นฐานยึดติดกับก้อนหินมีหนวดอยู่ด้านบน หนวดนี้จะมี เข็มพิษส�ำหรับจับปลาเล็กๆ กินเป็นอาหารดอกไม้ทะเลมีสีสวยงามมากตั้งแต่สีม่วง ชมพู เขียว น้ำเงิน แม้ ดอกไม้ทะเลมีหนวดทีม่ เี ข็มพิษ แต่จะมีปลาชนิดหนึง่ ทีอ่ าศัยอยูใ่ นดงดอกไม้ทะเลคือ ปลาการ์ตนู ซึง่ จะคอย กินเศษอาหารต่างๆ ที่เหลือจากดอกไม้ทะเล

21


22


ปูม้าหิน charybdis sp. ลักษณะของปูหินมีขาเดินเรียวเล็ก 3 คู่ ขากรรเชียง 1 คู่ ก้ามหนีบมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ปลายเป็นเขี้ยว แหลมคม มีหนามลักษณะเหมือนหนามเตยบนก้ามหนีบ กระดองมีสเี ขียวอมแดงเรือ่ ๆ และมีลายสีมว่ งอมด�ำ พาดไปทางความกว้างของกระดองจ�ำนวน 3-4 เส้นด้วยกัน ขาเดินและกรรเชียงก็มเี ส้นดังกล่าวทัว่ ไป ปลาย ก้ามเห็นสีมว่ งอย่างชัดเจน ปูหนิ พบทัว่ ไปตามบริเวณสถานทีร่ กเรือ้ ตามชายฝัง่ ทะเล เช่นโพรงหิน ซากโป๊ะ ตามพื้นท้องทะเลที่เป็นทราย ทรายปนโคลน พบมากแถบเกาะสีชัง ชลบุรี ระยอง

23


24


เพรียงหัวหอมกลุ่มท่อใหญ่สีขาว Aplidium sp. เพรียงหัวหอมจัดเป็นสัตว์ในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังทั้งที่ในความเป็นจริงอยู่ใน Phylum Chordata ด้วยเหตุทวี่ า่ เพรียงหัวหอมเมือ่ โตเต็มวัยไม่มโี ครงสร้างของกระดูกสันหลังเหลืออยูด่ ว้ ยลักษณะพิเศษหลาย อย่างจึงมีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับเพรียงหัวหอม เช่นเพรียงหัวหอมเป็นต้นก�ำเนิดของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ในเวลาต่อมาหรือเพรียงหัวหอมเป็นสัตว์เชื่อมต่อกันระหว่างสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูกสัน หลังอาจบอกได้วา่ เป็นบรรพบุรษุ ของมนุษย์นนั้ เอง นอกจากนัน้ เพรียงหัวหอมยังมีอวัยวะต่างๆ เช่นหัวใจ ระบบประสาท กระเพาะอาหาร ล�ำไส้ ขนคล้ายขนจมูกในคน หรือแม้แต่อวัยวะสืบพันธุ์ แต่เพรียงหัวหอม เป็นสัตว์ 2 เพศ ผสมพันธุ์ภายในตัวเองบางชนิดสืบพันธุ์ได้หลากหลาย เช่น แบ่งตัว หรือแตกหน่อ ท�ำให้ เพรียงหัวหอมมีความสามารถในการด�ำรงเผ่าพันธุ์ได้ดี

25


26


ฟองน้ำ�เคลือบบางสีแดง Monanchora uhgaiculate ้ อบบางสีแดงเป็นฟองนำเคลื ้ อบบางไปตามวัตถุใต้นำ้ มีความหนาประมาณ 1-5 มิลลิเมตร ผิวล�ำ ฟองนำเคลื ตัวฟองน้ำเรียบ ท่อน้ำออกมีขนาดใหญ่ เห็นชัดเจน และปากท่อยกตัวสูงขึ้น ล�ำตัวมีสีแดงปนขาว ฟองน้ำ ้ ดนี้พบ ชนิดนี้มีสีสันสดใสเป็นจุสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแนวปะการังบริเวณนี้ ถิ่นอาศัยฟองนำชนิ อาศัยอยูบ่ นก้อนหินซากปะการังทีเ่ ป็นก้อนหินเปลือกหอยฝาคูท่ ยี่ งั มีชวี ติ ในแนวปะการัง ตัง้ แต่เขตปะการัง พื้นราบจบถึงนอกแนวปะการัง และเป็นบริเวณที่มีแสงสว่างจัด แต่มีการตกตะกอนค่อนข้างเล็กน้อย

27


https://sites.google.com/site/fxngnanithalethiy

28


ฟองน้ำ�เคลือบบางสีส้มหนาม Thrinucophora incrastans ฟองน้ำเคลือบบางสีส้มเป็นฟองน้ำที่เคลือบบางติดตามวัตถุใต้น้ำ หนาประมาณ 1 มิลิเมตร มีสีส้มหม่น ท่อน้ำออกมีรูปร่างกลมขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลิเมตรและการกระจายตัวอยู่มั่วไป ้ ตามล�ำตัวฟองนำ้ เมือ่ กดลงบนตัวฟองนำจะแข็ งและไม่ยบุ ตัวลงเนือ่ งจากการเรียงตัวและประสานกันของ ้ ้ หนามฟองนำหนาแน่น หนามฟองนำพบเฉพาะหนามฟองน้ำขนาดเล็ก (Microscleres) รูปเเท่งปลาย แหลมทั้งสองด้าน แท่งสามแฉกและสี่แฉก ฟองน้ำชนิดนี้มีการเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายในตัวฟองน้ำ และคาด ว่าเป็นฟองน้ำชนิดใหม่ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อไว้

29


30 30 https://sites.google.com/site/fxngnanithalethiy/4-laksna-kar-darng-chiwit?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1


ฟองน้ำ�สีดำ�เมือกม่วง Iotrochota birotulata พบอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการตกตะกอนสูงและที่อับแสงในเขตปะการังลาดชันของแนวปะการัง

31


32


ปูเสฉวนขาส้ม Clibanarius infraspinatus มีล�ำตัวขนาดใหญ่ กระดองมีความยาวมากกว่าความกว้าง ก้ามสองข้างมีขนาดเท่ากัน มีขนหยาบ กระจัดกระจายอยู่บนก้ามและขาเดิน พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล

33


3434


หอยตาวัว Turbo cornutus ทรวดทรงกลมป้อมคล้ายหอยโข่งแต่มีเปลือกหนาและหนักกว่า ช่องปากจะมีลักษณะเกือบเป็นวงกลมฝา ปิดตรงช่องปากมีสีสันรูปร่างคล้ายนัยน์ตาวัว เนื่องจากเปลือกหอยชนิดนี้มีชั้นมุกหนามากเมื่อขัดออกจะ เป็นสัณฐานของชั้นมุกภายในมีประกายสีเรืองรองกระจ่างใสงดงามราวกับเนรมิตขึ้นมาด้วยฝีมือจิตรกร

35


3636


หอยมือหมี Beguina sp. เป็นหอยขนาดใหญ่เปลือกหนา สีม่วงเข้มเทาอมด�ำหรือน้ำตาลเข้ม พบอาศัยในแนวปะการัง และบริเวณ ใกล้เคียงรวมถึงตามชายฝั่งของเกาะที่มีหน้าผาตั้งแต่ชายฝั่งไปจนถึงระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร หอย มือหมีเชื่อมเปลือกให้ติดไว้กับหิน เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้หลุดลอยไปตามน้ำด้วยแรงกระแทกของคลื่น

37


3838


ไฮโดรซัว Lytocarpus sp. เป็นชัน้ หนึง่ ในไฟลัมไนดาเรียเป็นคลาสทีป่ ระกอบด้วยสัตว์ประมาณ 3,000 ชนิด ส่วนใหญ่อยูใ่ นทะเล ระยะ เมดูซาของไฮโดรซัวจะมีขนาดเล็กมาก และจะมีเยือ่ บางๆ เรียกเยือ่ วีลมั (Velum) ติดอยูต่ ามขอบ ซึง่ เยือ่ นี้ จะไม่พบในระยะเมดูซาของไซโฟซัว แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ไฮโดรซัวที่อยู่เป็นตัวเดี่ยว ได้แก่ ไฮดรา Sarsia Liriope โกนีโอนีมัส และไฮโดรซัวที่อยู่เป็นโคโลนี ได้แก่ โอบีเลีย กะพรุนไฟ (Physalia)

39


4040


ปูเป้ใหญ่ Dorippe frascone กระดองค่อนข้างแบนและมีความยาวมากกว่าความกว้างก้ามสองข้างมีขนาดไม่เท่ากันขาเดินสองคู่แรก ้ แบนและยาวสองคูห่ ลังเล็กและยกขึน้ ด้านบนกระดองและขาเดินมีสมี ว่ งปกคลุมด้วยขนสีนำตาลพบอาศั ย อยู่ตามพื้นทะเล

41


42


ปลากระรอกลายแดง Sargocehtron rubrum ้ ทัว่ ไปคือมีดวงตากลมโต ล�ำตัวค่อนข้างป้อม มีแถบสีนำตาลแดงสลั บสีเงินบริเวณข้างล�ำตัว โดยมีทมี่ าของ ชื่อภาษาไทยได้มาจากการที่มีความตื่นตัวรวดเร็ว และมีลวดลายคล้ายกระรอก

43


4444


https://fishesofaustralia.net.au/home/species/569

ปลากะพงเหลืองขมิ้น Lutjanus vitta โตเต็มที่มีขนาดมากกว่า 12 เซนติเมตร สถิติอยู่ที่ 35 เซนติเมตร มีอายุ 11 ปี ล�ำตัวสีขาวเงิน มีแถบสี เหลืองพาดผ่านล�ำตัวตั้งแต่ตาไปถึงฐานครีบหางครีบมีสีเหลืองไล่เฉดสีไปจนเป็นสีขาว กินปลา และสัตว์ น้ำตัวเล็กๆเป็นอาหาร

45


46


ปลากะรังเสือครีบยาว Epinephelus qnoyanus ล�ำตัวค่อนข้างป้อมสั้น ปากกว้าง ตาโตอยู่เยื้องไปทางด้านบน ครีบหลังเริ่มก่อนหลังแก้มเล็กน้อย ครีมหู ค่อนข้างใหญ่ ขอบกลมมนแบบพัดครีบทวารมีหนามแข็งครีมหางเป็นรูปพัดขนาดความยาวล�ำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร

47


4848


ปลาโฉมงาม Alectis indica ขนาดประมาณ 150 เซนติเมตร หัวมีลกั ษณะเป็นมุมและกว้าง ตากับปากห่างกันมากผิวเรียบ ถิน่ ทีพ่ บอิน โดแปซิฟกิ กินปลาขนาดเล็กและสัตว์ทมี่ เี ปลือกหุม้ เป็นอาหาร จะอาศัยอยูบ่ ริเวณแถบปะการังและโขดหิน

49


https://kidadl.com/animal-facts/indian-mackerel-facts

5050


ปลาลัง Rastrelliger kanagurta เป็นปลาผิวน้ำที่ชอบรวมกลุ่ม มีรูปร่างคล้ายคลึงกับปลาทูมาก แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย

51


https://en.wikipedia.org/wiki/Pentapodus_setosus

5252


ปลานกกะลิง Pentapodns setosns จุดเด่นที่พบได้อย่างชัดเจนของปลาชนิดนี้คือครีบหางเว้าลึก ปลายแบนทางด้านบนจะเป็นสีดำ�มีจุดดำ�ที่ โคนครีบหาง กินพืชไม้น้ำ�สัตว์น้ำ�ขนาดเล็กและซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร

53


54


ปลิงหนวดกิ่งไม้เขียว Colochirus quadrangularis เป็นสัตว์ไม่มกี ระดูกสันหลังในกลุม่ สัตว์ทมี่ ผี วิ ล�ำตัวเป็นหนาม เช่นเดียวกับ ดาวทะเล ดาวขนนก ดาวเปราะ และเม่นทะเล ส่วนใหญ่มีรูปร่างเป็นทรงกระบอกยาว ผิวล�ำตัวมีทั้งหนา บาง แล้วแต่ชนิด

55


ปลิงหิน Stichopus naso เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ล�ำตัวอ่อนนิ่มค่อนข้างขรุขระ สีพื้นตัวเป็นสีเทาบริเวณท้องเป็นสีขาว ความยาวล�ำตัวประมาน 30-40 เซนติเมตร อาศัยฝังตัวอยู่ในพื้นที่ทรายปนเลนตามแนวหญ้า

56


ปลิงเทาลายดำ� Holothuria (metriatyla) lessons เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในไฟลัม Echinodermata กลุ่มปลิงทะเล พบได้ตลอดทั้งปี ในบริเวณน�้ำตื้น บางครั้งพบว่ามีทรายปกคลุมล�ำตัว โดยอาจเว้นช่องเป็นวงกลมขนาดเล็กบนล�ำตัวไว้ บางครั้งพบการใช้ หนวดกวาดตะกอนที่ผิวหน้าดินกินเป็นอาหาร และขับถ่ายออกมาเป็นก้อนที่ต่อเนื่องกันเป็นปล้องๆ บาง ครัง้ พบใช้ลำ� ตัวเกีย่ วบริเวณส่วนโคนของสาหร่ายใบมะกรูด หรือคืบคลานหากินบนหญ้าใบมะกรูด ปลิงด�ำ มีความส�ำคัญในระบบนิเวศในฐานะเป็นผูก้ ำ� จัดสารอินทรียต์ า่ ง ๆ ในระบบนิเวศจึงเปรียบเสมือนเทศบาล ที่คอยท�ำความสะอาดพื้นท้องทะเลนั่นเอง

57


58


ปูก้ามยาว Rhinolambrus sp. กระดองมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมเช่นกัน ผิวขรุขระ ก้ามมีหนามยาวแหลม ปลายก้ามของตัวผู้มีจุดสี ขาเดินเรียวเล็กอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นทรายหยาบ หรือทรายปนซากปะการัง

59


60


ปูใบ้ก้ามดำ� Myomenippe havdwickii เป็นปูทะเลชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กเกือบเท่าปูแสม (ปูเค็ม) แต่ก้ามมีขนาดใหญ่ เนื้อแน่นคล้ายปูทะเล ปูใบ้ จะอาศัยอยู่ตามโขดหิน

61


62


ปูใบ้ปม Halimede ochtodes กระดองเป็นรูปห้าเหลี่ยม ผิวกระดองเรียบ ขอบกระดองด้านหน้าระหว่างตาแบ่งเป็น 2 พูชัดเจนและยื่น เลยเบ้าตาออกไปก้ามสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกันและมีปมขนาดใหญ่เรียงกันเป็นแนวขาเดินค่อนสั้น พบ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล

63


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=712279

64


ปูฟองน้ำ� Dromidiopsis indica กระดองค่อนข้างกลม ด้านบนโค้งนูน ตามล�ำตัวมีขนสีน้ำตาล ปกคลุมอยู่ทั่วไปก้ามสองข้างมีขนาดใกล้ เคียงกัน ปลายก้ามสีชมพู พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล

65


http://www.oknation.net/blog/paper-life/2009/11/04/entry-1

66


ปูม้า Portunus pelagicus ลักษณะทัว่ ไปแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนตัว ส่วนอก และส่วนท้อง ส่วนหัวและอกจะอยูต่ ดิ กันมีกระดอง หัวอยู่ตอนบนทางด้านข้างทั้งสองข้างกระดองเป็นรอยหยักคล้ายฟันเลื่อย

67


ปูม้าแดง ปูม้ากล้ามปุ่ม Charybdis (Charybdis) natator กระดองเป็นรูปพัด ขอบข้างกระดองมีหนามข้างละ 6 อัน บนกระดองมีสันเรียงตัวตามขวาง

68


ปูม้าลาย หรือปูกางเขน Charypdis feratus กระดองเป็นรูปพัด ขอบข้างของกระดองมีหนามข้างละ 6 อัน ล�ำตัวมีสีน้ำตาลแดง

69


https://pantip.com/topic/37218023

70


ปูม้าสามจุด Portunus sanguinolentus เป็นปูทะเล อาศัยอยู่ตามพื้นทราย หรือดินปนทรายในเขตน้ำตื้น จนถึงความลึกหลายสิบเมตร

71


http://www.oknation.net/blog/exit/2007/11/21/entry-1

72


ปูฤาษี Calappa clypeata กระดองมีรูปครึ่งวงกลมนัยน์ตาอยู่บนก้านสั้นๆ และอยู่ใกล้กันมากขอบกระดองหลังด้านล่างหยักเป็น หนามแข็ง หลังกระดองเรียบเป็นมันก้ามมีขนาดใหญ่และแข็งแรงมีปลายแหลมคม และมีหนามอยู่บนสัน ก้ามหนึ่งแถว

73


74


ปูเสฉวนยักษ์ Dardanus megistos ล�ำตัวมีสแี ดงแต้มด้วยจุดขาวขอบสีชอ็ กโกแลตกระจายทัว่ ไป ก้านตาสีแดง บริเวณโคนหนวดคูท่ สี่ องสีขาว ยาวมากและมีขนแข็งกระจายอยูท่ วั่ ล�ำตัวทีเ่ ห็นได้จากภายนอก ก้ามสองข้างมีขนาดไม่เท่ากันปล้องสุดท้าย ของขาเดินสองคู่แรกเรียวยาว ขนาดความยาวกระดองประมาน 8 เซนติเมตร

75


ปูหนุมาน Ashtoret lunaris อยู่ตามชาดหาดพื้นท้องทรายมากกว่าอย่างอื่น ชอบอาศัยอยู่ในระดับที่น้ำทะเลขึ้นลงตามหาดทราย พบมากที่เกาะไผ่ เกาะคราม เกาะเสม็ด

76


หอยกระต่าย Phalium glaucum ใกล้เคียงกับหอยโข่ง แต่เล็กกว่ามีลายทีเ่ ปลือกหอยนาจ�ำพวกนีว้ างไข่ในดินตามคันนา ในพืน้ ทีน่ าฤดูหนาว จะจ�ำศีล เช่นเดียวกับหอยโข่ง หอยกระต่ายเป็นหอยดั้งเดิมที่มีในระบบนิเวศน์ของท้องถิ่น

77


78


หอยขวาน หอยหัวค้อน Malleus albus เปลือกแคบยาวและแบนทีบ่ ริเวณขัว้ เปลือก มีปกี ยืน่ ออกไปทัง้ ทางข้างหน้าและด้านซ้ายท�ำให้เปลือกมีรปู ร่างคล้ายขวาน เปลือกมีสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลเข้มด้านในมีมุกบาง อาศัยตามพื้นทะเล

79


https://www.clubloongchat.com/single-post/2015/04/02

80


หอยจอบ หอยซองพลู Pinna bicolor เป็นหอยทีม่ คี วามส�ำคัญต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลมาก ยิง่ มีหอยจอบหนาแน่นบริเวณนัน้ ก็จะมีแพลงก์ตอน อาศัยอยู่เยอะถือเป็นแหล่งอาศัยอยู่เยอะถือเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน

81


82


หอยหวาน Babylonia areolata มีเปลือกที่ค่อนข้างหนา รูปไข่ ผิวเรียบ สีขาว มีลวดลายมีสีน�้ำตาลเข้ม มีหนวด 1 คู่ ตา 1 คู่ มีท่อ มีเท้า ขนาดใหญ่ใช้ส�ำหรับเคลื่อนที่ อาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นทราย หรือทรายปนโคลน

83


ทรั พ ยากรทางชี ว ภาพของ ในตำ � บลพลา

8484

พื ช


8585


โกงกางใบใหญ่ Rhizophora mucronata ไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากเสริมออกมาเหนือโคนต้น รากค�้ำยันแตกแขนงระเกะระกะ เรือนยอดรูปกรวยคว�่ำ แคบๆ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะหลุดร่วงไปเหลือกลุ่มใบที่ปลายกิ่ง ใบรูปรีถึงรีกว้าง มีตงิ่ แหลมเล็ก แข็ง สีดำ� ทีป่ ลายใบ แผ่นใบหนา มีจดุ เล็กๆ สีดำ� กระจัดกระจายทัว่ ไปทางด้านล่าง ช่อดอก ออกตามง่ามใบที่ใบติดอยู่หรือร่วงไป ดอกตูมรูปไข่ มีใบประดับรองรับที่ฐานดอก กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบ ดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย ผลคล้ายรูปไข่ปลายคอดสีน�้ำตาลอมเขียว ล�ำต้นใต้ใบเลี้ยงรูปทรงกระบอก เรียว ค่อนข้างตรง ปลายเรียวแหลมยาว ผิวเป็นมัน สีเขียว มีตุ่มขรุขระทั่วไป

86


สาหร่ายสายใบ Anadyomene sp. สาหร่ายสายใบ หรือจีฉ่าย จัดอยู่ในกลุ่มสาหร่ายสีแดง (Rhodophyta) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Porphyra sp. มีลักษณะเป็น แผ่นแบนบางเป็นเมือกลื่น บริเวณขอบมีรอยจีบย่น ส่วนโคนมีลักษณะคล้ายรากขนาด เล็กใช้ส�ำหรับยึดเกาะกับหิน หรือพื้นผิวอาศัย สายใบจัดเป็นสาหร่ายทะเลที่มีราคาสูง สามารถน�ำมาปรุง อาหารได้หลายชนิด

87


แสมทะเล Avicennia marina ไมขนาดเล็กสูงประมาณ 5-8 เมตร มีลักษณะเปนพุมสวนใหญมีสองล�ำตน หรือมากกวาไมมีพูพอน เรือน ยอดโปรง มีรากหายใจรูปคลายดินสอ ยาว 10-20 เซนติเมตร เหนือผิวดิน เปลือกเรียบเปนมันสีขาวอม เทาหรือขาวอมชมพูตน ทีอ่ ายุมากเปลือกจะหลุดออกเปน เกล็ดบางๆคลา ยแผน กระดาษ และผิวของเปลือก ใหมจะมีสีเขียว

88


หญ้าลูกลม Spinifex littoreus ต้นหญ้าชนิดหนึง่ ชอบขึน้ อยูต่ ามชายทะเลมีดอกกลมกลิง้ ไปตามลม หญ้าลูก-ลมเป็นชือ่ ของหญ้าชนิดหนึง่ ในวงศ์ Gramineae. มีล�ำต้นแข็ง ใบม้วนแหลมคม มันชอบขึ้นอยู่ริมทะเลฝั่งอ่าวไทย มีลักษณะกลม ชอบ กลิง้ ไปตามลม สมัยเด็กๆน่าจะมีอกี หลายคนทีช่ อบน�ำลูก-ลม มาแข่งขันกันตามประสาเด็กบ้านๆในชนบท โดยวางลูก-ลมไว้บนพื้นทรายเรียบๆ ที่อยู่เหนือลมแล้วให้ลมพัดพาไปให้ถึงที่หมาย ของใครถึงก่อนก็จะ เป็นผู้ชนะ หรือบางครัวเรือนจะน�ำลูก-ลมมาวางดักเพื่อขวางทางเดินของหนูภายในบ้านเรือนบางท้องถิ่น จะเรียกหญ้าลูก-ลมว่า หญ้าลอยลม น่าจะเป็นพืชท้องถิ่น ที่เราควรจะอนุรักษ์ไว้ร่วมกับพืชหลายๆชนิด เช่น ต้นคนทีย่าน(คนทีสอทะเล) , ผักบุ้งเล , ต้นลูกรังค่าย , ต้นลูกเรียนทราย(เนียนหนู เรียนเล)ต้นเจาะ ท่อ และต้นกรูดจาม ฯลฯ

89


90


สาหร่ายเขากวาง Gracilaria firma สาหร่ายเขากวาง โดยทัว่ ไปพบในบริเวณ ทัลลัสมีลกั ษณะอวบน�ำ้ เจริญเป็นพุม่ ตัง้ ตรง สูงประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร การแตกแขนงไม่เป็นระเบียบ แขนงรูป ทรงกระบอก ช่วงแขนงยาว ไม่ปอ่ งกลาง โคนแขนงคอด ปลายแขนงมนมีการแตกแขนงจากส่วนรากที่ 4 ยึดเกาะกับหินกรวดเล็กๆ หรือก้อนหินในระดับเขตน�ำ้ ขึน้ ลง เมือ่ น�ำ้ ลงต�ำ่ สุด มักพบเจริญอยูใ่ นบริเวณแอ่งน�ำ้ ขังริมชายฝัง่ อาจจมอยูใ่ ต้โคลนปนทรายเป็นสาหร่าย วุน้ ชนิดทีม่ ลี กั ษณะเฉพาะของ fibrillar stratum ทีค่ อ่ นข้างหนาเรียงเป็น ชัน้ ๆ ทัง้ ในชิน้ ส่วนทัลลัสทีย่ งั อายุ น้อยหรือที่เจริญเต็มที่แล้ว ลักษณะดังกล่าวอาจเป็นเพราะมี cellulose microfibril และ agar เป็นองค์ ประกอบในบริเวณนี้ ซึง่ ลักษณะดังกล่าว อาจน�ำมาประยุกต์ใช้เป็นดัชนีชวี้ ดั สมบัตขิ องวัตถุดบิ สาหร่ายวุน้ ได้

91


สาหร่ายขนนก Caulerpa sertularioides ถิ่นที่อยู่ : ชายฝั่ง สถานที่พบ : พื้นทรายปนเศษเปลือกหอย หรือเศษปะการังหัก ที่อยู่ : แสมสาร พลา อ่าวไทย สาหร่ายขนนกเป็นสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียว มีลำ� ต้นใต้ดนิ (stolon) ทอดขนานใต้พนื้ ทรายปนเศษปะการัง แตกแขนงส่วนใบ (frond) ตัง้ ตรงชูขนึ้ เหนือพืน้ มีลกั ษณะคล้ายขนนกแต่ละแขนงย่อย (ramuli) มีลกั ษณะ เป็นแท่งทรงกระบอกเรียวยาวโค้งขึน้ เล็กน้อย ส่วนปลายมนหรือมีตง่ิ แหลมเล็กๆ พบเจริญบริเวณพืน้ ทราย ปนเศษเปลือกหอยหรือเศษซากปะการัง

92


ดัชนี ขนนกทะล.....................................................................................................................................6 ปลาสลิดหินเปลี่ยนสี.....................................................................................................................8 ปะการังกาแล็คซี่.........................................................................................................................10 ปะการังโขด................................................................................................................................12 ปะการังจาน ปะการังแจกัน........................................................................................................14 ปะการังช่องเหลี่ยม.....................................................................................................................18 ปะการังดอกไม้ทะเล...................................................................................................................20 ปูหิน............................................................................................................................................22 เพรียงหัวหอมกลุ่มสีขาว.............................................................................................................24 ฟองน�้ำเคลือบบางสีแดง..............................................................................................................26 ฟองน�้ำเคลือบบางสีส้ม...............................................................................................................28 ฟองน�้ำหนังสีด�ำ..........................................................................................................................30 หอยเจดีย์....................................................................................................................................32 หอยสังข์ทะนาน..........................................................................................................................34 หอยมือหมี..................................................................................................................................36 ไฮโดรซัว.....................................................................................................................................38 ปูเป้ใหญ่......................................................................................................................................40 ปลากระรอกลายแดง..................................................................................................................42 ปลากระพงเหลืองขมิ้น................................................................................................................44 ปลากระรังเสือครีบยาว...............................................................................................................46 ปลาโฉมงาม................................................................................................................................48 ปลาลัง........................................................................................................................................50 ปลาสายรุ้ง..................................................................................................................................52 ปลิงหนาม...................................................................................................................................54 ปลิงหิน........................................................................................................................................56

93 93


ปูก้ามยาว....................................................................................................................................58 ปูใบ้.............................................................................................................................................60 ปูใบ้ปม........................................................................................................................................62 ปูฟองน�้ำ......................................................................................................................................64 ปูม้า.............................................................................................................................................66 ปูหิน............................................................................................................................................68 ปูม้าลายหรือปูกางเขน................................................................................................................69 ปูม้าสามจุด.................................................................................................................................71 ปูฤาษี..........................................................................................................................................73 ปูเสฉวนยักษ์...............................................................................................................................74 ปูหนุมาน.....................................................................................................................................76 หอยกระต่าย...............................................................................................................................77 หอยขวาน หอยหัวค้อน...............................................................................................................78 หอยจอบ หอยซองพลุ.................................................................................................................80 หอยหวาน...................................................................................................................................78 โกงกางใบใหญ่.............................................................................................................................86 สาหร่ายใบ...................................................................................................................................87 แสม.............................................................................................................................................88 หญ้าลูกกลม................................................................................................................................89 สาหร่ายเขากวาง.........................................................................................................................91 สาหร่ายนก..................................................................................................................................92

9494


บรรณานุกรม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ชีววิทยาและระบบนิเวศในทะเล, https://www.dmcr.go.th/infoAll/197 วิกิพีเดีย: สารานุกรมฟรี (2547 22 กรกฎาคม). FL: Wikimedia Foundation, Inc. สืบค้นเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จากhttps://www.wikipedia.org

9595


96


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.