Check in surat Magazine Issue 44 November 2016

Page 1

เช็คอินสุราษฎรแมกกาซีน ฉบับที่ 44 พฤศจิกายน 2559



สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์

น้อมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้จัดท�ำ Check In Surat Magazine คณะผู้บริหารและพนักงาน บจก. อุดมลาภการพิมพ์


Editor Talk

สิ้นแสงสุรีย์แล้ว ฟ้ากว้างร้างแสงจันทร์ เจ็บใดถึงเพียงนี้ หลับตื่นต้องฝืนนอน มองไปในเบื้องหน้า มืดหม่นทุกโมงยาม ฟ้าเอ๋ยฟ้าเบื้องหน้า จงถนอมพระทรงชัย เทวินทร์ทั่วฟ้ากว้าง จงเคียงภูวดล ข้าฯหวงห่วงบพิตร ฟากฟ้าสุราลัย กราบเบื้องยุคลบาท สู่ฟากทิฆัมพร

Contributor นายแพทย์ ทฏะวัฎร์ พิลึกภควัต คอลัมน์ : Psychology for life นายแพทย์ชำ� นาญการ กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

กระหม่อมแก้วมาดับขันธ์ เหมือนชีวันจักราญรอน ปานฤดีจักถ่ายถอน อุระร้อนเหลือห้ามปราม ใครจักพาฟ้าสยาม แสนครั่นคร้ามเหลือห้ามใจ ขอฟ้าอย่าพาหวั่นไหว อย่าร้างไกลให้กังวล เทวีนางทั่วสถล แทนผองชนชื่อคนไทย ธ สถิต ณ สรวงไหน ฤาแห่งใดใจอาวรณ์ อภิวาทด้วยกาพย์กลอน ถึงบิดรของผองไทย

รดาณัฐ ใจชื่น (ครูนาง) คอลัมน์ : Easy Exercise โยคะสุราษฎร์ by ครูนาง ชมัยพร แต่งเกลี้ยง คอลัมน์ : New Journey เชฟระดับ 5 ดาวและนักเขียนอิสระ

ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ (ผู้ประพันธ์ สมปราชญ์ วุฒิจันทร์)

บรรณาธิการอำ�นวยการ checkinmag@gmail.com

สุวิมล เวชวิโรจน์ คอลัมน์ : Art of Culture อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี สุกัญญา จุฑากนิษฐ์ (หมอเขียว) คอลัมน์ : Horoscope หมอดูไพ่ยิปซีชื่อดังแห่ง อ.นาสาร

Staff

เจ้าของ : นายเถลิงธนะ นิสสัยสรการ ่ ออกแบบและพิมพ์ที : บจก.อุ ดมลาภการพิมพ์ 36 ถ.การุณราษฎร์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 โทร. 077-283-821-2 บรรณาธิการอ�ำนวยการ : เถลิงธนะ นิสสัยสรการ บรรณาธิการบริหาร : สุทธาทิพย์ อร่ามศักดิ์ รองบรรณาธิการบริหาร : วโรจน์ สกุลโต กองบรรณาธิการ : วณิพร อ�ำนวยอัครศิริ ช่ างภาพ : สุริเยนทร์ อินเนื่อง กราฟิ กดีไซน์ : สิริกานต์ อุ ดมทศพรกุล ผู จ้ ดั การฝ่ ายโฆษณา : อริญชยา รุง่ เกียรติรตั น์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโฆษณา : โชติกา พรหมรักษ์ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : www.facebook.com/check.in.surat อ่าน Check In ออนไลน์ : www.issuu.com/checkinsurat

สนใจลงโฆษณาสิน ค้า หรือบริการ

โทร. 093-156-6645, 085-192-5429


Content พระราชประวัติ - “ภูมิพล” มหาราชาผู ้อยู ่กับดิน - ๗๐ ปี แห่งรักแท้ ของพ่อและแม่แห่งแผ่นดินสยาม

Heritage+Travel ๑๕ การเสด็จ ที่ชาวสุราษฎร์ธานีไม่เคยลืมเลือน

๑๔

My Style “บ้านของพ่อ” ในถิ่นใต้

๒๐

Special Story สุราษฎร์ธานี ๑๒ โครงการพระราชด�ำริของพ่อ

๒๔

House Keep พลังงานทดแทน พลังงานที่ไม่เคยหมด พลังแห่งสายพระเนตร

๒๖

Eco-Finance บริหารการเงินด้วย “เศรษฐกิจพอเพียง”

๒๘

Innovation ๑๑ สิทธิบัตร นวัตกรรมเพื่อคนไทยของพ่อหลวง

๓๐

Nutrition for Shape โภชนาการดีเพราะมี...พ่อ

๓๒

I’m Cook ไข่พระอาทิตย์...อิ่มอร่อยด้วยเมนูพระราชทาน

๓๔

Health พระราชด�ำริด้านสุขภาพ พระเมตตาอันยิ่งใหญ่สู่สุขภาพไทยดี ถ้วนหน้า

๓๕

๑๔ ๓๔

๓๖


Content

New Journey สิ้นแล้ว สิ้นสูญ อาดูร ทั่วโลกา สายเลือดไทยทั่วผืนฟ้า อ่อนล้าหมดแรง

๓๘

Let’s Talk

๒ เรื่องราวจากใจลูก ผู น้ อ้ มใจเป็นข้ารองพระบาท

๔๐

Art of Culture ชาวราชภัฏสุราษฎร์ฯ ลงพู ่กันวาดรู ปเพื่อพ่อหลวง

๔๔

Psychology for life เปลี่ยนความโทมนัสให้เป็น...พลัง

๔๖

Easy Excercise ในหลวงกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และการสานต่อความดีไม่มีท่สี ิ้นสุด

๔๘

Taste&Out Day&Night Restaurant ใครไม่ไปจัดว่าพลาด!!!

๕๐

Horoscope ดวงประจ�ำเดือนพฤศจิกายน

๕๒

Event หลายภาคส่วนร่วมใจท�ำกิจกรรมเพื่อพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙

๕๔

News of New

๕๖

๔๖ ๔๔ ๓๘

๔๐


“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”


“ภูมมหาราชาผู ิพล” ้อยู่กับดิน


๐๙

พระราชประวัติ Text : วันวนัทธ์ วรภู

๑ “แม่อยากให้เธออยู่กับดิน” เมื่อ ๘๙ ปีที่แล้ว (วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๐) ณ โรงพยาบาล เมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าชายน้อยจากสยามพระองค์หนึ่งทรงถือก�ำเนิดขึ้นที่นั่น เนื่องจากพระบรม ราชชนกและพระบรมราชชนนีกำ� ลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ ณ ที่แห่งนั้น เจ้าชายน้อยผูน้ นั้ ได้รบั พระนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยูห่ วั (รัชกาลที่ ๗) ว่า “ภูมพิ ลอดุลยเดช” ทรงออกพระนามเรียกพระองค์ เป็นการล�ำลองว่า “เล็ก” โดยทรงมีพระเชษฐภคินี ๑ พระองค์ และสมเด็จ พระบรมเชษฐาธิราช ๑ พระองค์ ครั้งหนึ่งพระบรมราชชนนีทรงมีรับสั่งกับเจ้าชายน้อยว่า... “อันที่จริงเธอก็ชื่อภูมิพลที่แปลว่าก�ำลังของแผ่นดิน แม่อยากให้เธออยู่กับดิน” ต่อมาเมื่อเจ้าชายน้อยกลายเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ทรงมีพระราชปรารภถึงสิ่งที่สมเด็จพระบรมราชชนนีเคยรับสั่งว่า... “เมื่อฟังค�ำพูดนี้แล้วก็กลับมาคิด ซึ่งแม่ก็คงจะสอนเราและมีจุดมุ่งหมายว่า อยากให้เราติดดินและอยากให้ทำ� งานให้แก่ประชาชน” นั่นคือพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช “มหาราชาผู้อยู่กับดิน” ตลอดระยะเวลาของการครองราชสมบัติอันยาวนานกว่า ๗๐ ปี พระองค์ ทรงงานอย่างติดดิน คุกพระชานุลงกับดิน ประทับลงบนดิน สองพระบาท ติดดิน เป็นจอมปราชญ์ดา้ นดิน ทัง้ ยังทรงเป็นก�ำลังของแผ่นดินและหลอมรวม ดวงใจของคนไทยทุกคนบนผืนแผ่นดินนีเ้ ข้าด้วยกัน

๒ “ในหลวง อย่าทิ้งประชาชนนะ!” วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๙ พระบาทสมเด็จปรเมนทรมหาอานันท มหิดล รัชกาลที่ ๘ เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันโดยต้องพระแสงปืน รัฐบาลไทย ได้กราบบังคมทูลอัญเชิญพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช


ซึง่ ขณะนัน้ มีพระชนมพรรษา ๑๘ พรรษา เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัตสิ บื ต่อจาก พระบรมเชษฐาธิราช เป็นพระมหากษัตริย์ไทยล�ำดับที่ ๙ แห่งพระบรมราช จักรีวงศ์ ทรงเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และรัฐบาลได้แต่งตั้งผู้ส�ำเร็จราชการบริหารราชการแผ่นดินแทนพระองค์ เนื่องจากยังทรงพระเยาว์และต้องทรงศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงโปรดวิชาวิทยาศาสตร์ แต่เพื่อ เตรียมพร้อมที่จะรับพระราชภาระในฐานะองค์ประมุขของชาติ จึงทรงเปลี่ยน มาศึกษาวิชาการปกครอง ณ มหาวิทยาลัยเดิมแทน การตัดสินพระทัยของ พระองค์ทำ� ให้คนไทยตระหนักว่า แผ่นดินไทยได้พระเจ้าอยูห่ วั พระองค์ ใหม่ ทีม่ ี พระราชปณิธานอันแน่วแน่ทจี่ ะอุทศิ พระวรกายและพระราชหฤทัยเพือ่ ประโยชน์ สุขของประชาชน วันที่ ๑๙ สิงหาคม ปีเดียวกัน ขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับ รถพระที่นั่งเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังสนามบินดอนเมืองเพือ่ ทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงได้ยนิ เสียงราษฎรคนหนึง่ ตะโกนลัน่ ว่า... “ในหลวง อย่าทิ้งประชาชนนะ!” ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นใน พระราชหฤทัยว่า...“ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชน อย่างไรได้” เป็นทีอ่ ศั จรรย์วา่ อีกราว ๒๐ ปีตอ่ มา ขณะทรงเยีย่ มราษฎรในต่างจังหวัด ทรงพบชายผูน้ อี้ กี ครัง้ เขาเคยเป็นพลทหารแต่ออกไปท�ำนาอยูต่ า่ งจังหวัด เขา กราบบังคมทูลว่าทีร่ อ้ งตะโกนออกไปเช่นนัน้ เพราะรูส้ กึ ว้าเหว่และใจหายทีเ่ ห็น พระเจ้าแผ่นดินเสด็จจากเมืองไทย กลัวจะไม่เสด็จกลับมาอีก อีกทั้งเห็น พระพักตร์ของพระองค์เศร้ามาก จึงร้องออกไปเหมือนคนบ้า พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงตอบว่า... “นั่นแหละ ท�ำให้เรานึกถึงหน้าที่ จึงต้องกลับมา”

๓ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เมือ่ ส�ำเร็จการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เสด็จนิวตั กลับประเทศไทย ในปี พ.ศ.๒๔๙๓ และจัดพระราชพิธพี ระบรมราชาภิเษกเมือ่ วันที่ ๕ พฤษภาคม ในวันนั้นทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า... “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และนับแต่วนั ทีท่ รงมีพระปฐมบรมราชโองการจนถึงวันเสด็จสูส่ รวงสวรรค์ ไม่มีแม้สักวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะไม่ทรงท�ำเพื่อประชาชนของ พระองค์ ทรงอุทิศพระวรกาย ประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทรงบ�ำเพ็ญพระองค์อยู่ในทศพิธราชธรรม (ธรรม ๑๐ ประการของพระราชา) โดยเคร่งครัด มิย่อหย่อน หาใช่กองทัพ ศาสตราอาวุธ กฎหมายมาตราใด หรือคณะบุคคลใดทีพ่ ทิ กั ษ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยให้มนั่ คงแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ หากเป็นเพราะ ทศพิธราชธรรมขององค์ราชาโดยแท้

๔ “ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” ภายหลังจากที่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหัตถเลขาไปถึงพระสหายในต่างประเทศ ความตอนหนึ่งว่า...


“เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนอยู่ในยุโรป ข้าพเจ้าไม่เคยตระหนักว่าประเทศของ ข้าพเจ้าคืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าแค่ไหน ไม่ทราบตราบจนกระทั่ง ข้าพเจ้าได้เรียนรูท้ จี่ ะรักประชาชนของข้าพเจ้า เมือ่ ได้มกี ารติดต่อกับเขาเหล่านัน้ ซึ่งท�ำให้ข้าพเจ้าส�ำนึกในความรักอันมีค่ายิ่ง ข้าพเจ้าไม่เป็นโรคคิดถึงบ้านที่ จริงจังอะไรนัก แต่ขา้ พเจ้าได้เรียนรู้โดยการท�ำงานทีน่ วี่ า่ ทีข่ องข้าพเจ้าในโลก นี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” “ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง” ...พระราชด�ำรัส ๓ วรรคท้ายนี้ได้ประทับตราตรึงลงไปในดวงใจทวยราษฎร์ ตราบถึงทุกวัน นี่คือ พระราชด�ำรัสของกษัตริย์ที่รักและห่วงใยประชาชนมากที่สุดในโลก

๕ นิยามใหม่ของค�ำว่า “พระราชา” พระราชาในการนิยามของคนทั้งโลก คือ ผู้ปกครองแผ่นดินที่สวมมงกุฎ เสวยสุขอยู่ในพระราชวัง แวดล้อมด้วยข้าราชบริพาร และพรั่งพร้อมไปด้วย ทรัพย์สนิ เงินทองเพชรนิลจินดา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงใช้ทั้งชีวิตของพระองค์เพื่อบอกกับคนทั้งโลกว่า นิยามที่แท้จริงของค�ำว่า “พระราชา” คืออะไร พระราชา คือ ผู้ที่สร้างโครงการต่างๆ เพื่อความอยู่ดีกินดีของราษฎรถึง ๔,๕๙๖ โครงการ หากเทียบกับช่วงรัชกาล ๗๐ ปี กับอีก ๑๒๖ วันของพระองค์ อาจกล่าวโดยเฉลี่ยได้ว่า พระราชาพระองค์นี้ทรงคิดค้นโครงการพระราชด�ำริ เพื่อราษฎรของตนทุกๆ ๕-๖ วัน พระราชา คือ ผู้ที่สมัครใจจะประทับตามเขตภูมิภาคมากกว่าเมืองหลวง และสมัครใจจะท่องไปในถิ่นทุรกันดารมากกว่าประทับอยู่ในปราสาทราชวัง พระราชา คือ ผู้ที่ยินดีสละร่มแล้วเดินออกไปเปียกกับประชาชน พระราชา คือ ผูท้ ไี่ ม่สวมเครือ่ งประดับมีคา่ ใดๆ อย่าว่าแต่มงกุฎเลย แม้แต่ นาฬิกาติดพระกรก็ราคาเพียงหลักร้อยหลักพันเท่านั้น พระราชา คือ ผู้ที่ไม่โปรดการยืนค�้ำหัวราษฎร หากทรงคุกพระชานุต่อ หน้าพสกนิกรของพระองค์เสมอ ครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ลุยล�ำธาร ข้ามสะพานไม้แผ่นเดียว เพื่อบ�ำบัดทุกข์บ�ำรุงสุขแก่ราษฎรผู้อยู่ใน ราชินีนาถ ทรงมีพระราชด�ำรัสว่า ถิน่ ทุรกันดาร (ทีแ่ ม้แต่พวกเราเองหลายๆ คนก็ยงั ไม่ปรารถนาจะไปในสถานที่ เช่นนั้น) “พระเจ้าอยู่หัวไม่ยอมให้ไปยืนค�้ำหัวพูดกับราษฎร ถ้ายิ่งเป็นเวลานาน ท่าน ดังที่สองผู้สื่อข่าวของส�ำนักข่าวเอพี เดนนิส ดี.เกรย์ และทอดด์ พิทแมน ต้องการให้นั่งลงพูดกับเขา ข้าพเจ้าก็คลานรับประชาชนตลอดเลย เป็นกิโลฯ เคยกล่าวไว้ ในข้อเขียนของพวกเขาเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ว่า... เลย ท่านมาดูหัวเข่าข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้สิ ด�ำปี๋เลย” พระราชา คือ ผู้ที่เหยียบย่างไปปัดเป่าทุกข์ร้อนล�ำเค็ญทั่วทุกแห่งหนบน “แม้ทุกผู้คนภายในประเทศไทยจะยึดถือพระองค์ประหนึ่งสมมติเทพ แต่ ผืนแผ่นดิน กระทั่งไม่มีพื้นที่ตารางนิ้วใดของประเทศที่พระองค์ไม่ได้เสด็จไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดดินอย่างยิ่ง ทรงม้วนแขนฉลองพระองค์ และไม่มคี วามทุกข์ยากเดือดร้อนใดๆ ของพสกนิกรทีร่ อดพ้นพระเนตรพระกรรณ ย�ำ่ พระบาทไปยังหมู่บ้านแร้นแค้น เรือกสวนไร่นาห่างไกลทั้งหลายเพื่อทรงได้ รับรูถ้ งึ สภาวะทีแ่ ท้จริงของประเทศของพระองค์ และทรงช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ไปได้ พระราชา คือ ผู้ที่ตรากตร�ำทรงงาน จนพระเสโทหลั่งไหลเปียกชุ่มฉลอง ที่ทรงรับทราบทุกประการ ตั้งแต่การขาดแคลนน�ำ้ ขาดอาหาร เรื่อยไปจนถึง พระองค์ และพระเสโทไหลหยดจากปลายพระนาสิก (แม้แต่พวกเราเองหลายๆ การทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันในครอบครัว” นี่ต่างหากเล่า คือ นิยามของค�ำว่า “พระราชา” ที่แท้จริง... คือ มหาราชา คนก็ยังไม่เคยท�ำงานหนักขนาดนั้น) พระราชา คือ ผูท้ เี่ สด็จพระราชด�ำเนินด้วยพระบาทไปในทางรกร้าง ป่ารกชัฏ ผู้อยู่กับดิน


๗๐ ปีแห่งรักแท้ ๑ รักแรกพบ

ของพ่อและแม่แห่งแผ่นดินสยาม

“ส�ำหรับข้าพเจ้าเป็นการเกลียดแรกพบมากกว่ารักแรกพบ เนือ่ งเพราะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่จริง แล้วเสด็จมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมายตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงท�ำให้ข้าพเจ้าต้อง ซ้อมถอนสายบัวอยู่จนแล้วจนเล่า” สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ พระราชทานสัมภาษณ์ถงึ รักแรกพบของพระองค์ทา่ นกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั แก่สถานีวทิ ยุ โทรทัศน์บีบีซีแห่งประเทศอังกฤษเอาไว้อย่างนั้น และในภายหลังเมื่อตรัส ถึงเรือ่ งนีท้ งั้ สองพระองค์จะทรงพระสรวล โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงล้อสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถว่า “เดินตุปดั ตุเป๋ หน้างอ คอยถอนสายตัว” ทั้งสองพระองค์พบกันครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ขณะนั้นพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาอยู่ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์ แลนด์ ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งจากเมืองโลซานน์มายังกรุงปารีสเพื่อทอด พระเนตรโรงงานท�ำรถยนต์และการแสดงดนตรีของคณะดนตรีคณะหนึ่ง ในครัง้ นัน้ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิตยิ ากร เอกอัครราชทูตไทยประจ�ำกรุง ปารีสและครอบครัว รวมทั้งธิดา (หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์) จึงมีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จ ในการเสด็จเยือนครัง้ นั้น สมเด็จพระราชชนนีได้ทรงรับสั่งกับพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เป็นการพิเศษว่า ให้ไปทอดพระเนตรธิดาของหม่อมเจ้า นักขัตรมงคลด้วยว่าสวยน่ารักไหม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง โทรศัพท์ตอบค�ำถามสมเด็จพระราชชนนีว่า “เห็นแล้ว น่ารักมาก” เมือ่ ถึงตอนคณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ ณ สถานทูต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงถ่ายภาพหมูค่ ณะบุคคล หม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ อิ์ ยูเ่ ป็นคนสุดท้ายของแถว เห็นหน้าไม่ชดั จึงทรงรับสัง่ ว่า “ยูฮ้ ู คนข้างหลังโผล่หน้ามาหน่อยสิ” จากนัน้ ทรงตัดภาพเฉพาะใบหน้าของหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เก็บไว้ ในพระกระเป๋า

๒ รักแท้พิสูจน์ยามยาก

วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงประสบ อุบัติเหตุทางรถยนต์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อรู้สึกพระองค์ สิ่งแรก ทีท่ รงท�ำคือหยิบรูปของหม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ ทิ์ ที่ รงตัดเก็บไว้ออกจากกระเป๋า ส่งถวายสมเด็จพระราชชนนีพร้อมรับสั่งว่า “แม่ เรียกสิริมาที” โดยเหตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับบาดเจ็บที่พระเนตร และพระเศียร จึงโปรดให้ผู้มาเข้าเฝ้าฯ จับพระหัตถ์แล้วบอกนาม เมื่อ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์จับพระหัตถ์พร้อมทูลว่า “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เพคะ” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงจับมืออยู่เนิ่นนาน สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถทรงรับสัง่ เล่าถึงเหตุการณ์ ในตอนนั้นว่า.. “ข้าพเจ้าไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าพระองค์ทรงมีรูปของข้าพเจ้าอยู่ แล้ว พระองค์ตรัสให้นำ� ตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า ตอนนั้น ข้าพเจ้าคิดถึงแต่เรื่องที่จะอยู่กับคนที่ข้าพเจ้ารักเท่านั้น ไม่ได้นึกไปไกลถึง หน้าที่และภารกิจของพระราชินีเลย” หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงขออนุญาตหม่อมเจ้า นักขัตรมงคลให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์มาเฝ้าถวายการดูแลพระอาการเป็น กรณีพเิ ศษ โดยให้อยูใ่ นความดูแลของสมเด็จพระราชชนนี ก็ยงิ่ ท�ำให้ความ สัมพันธ์ทมี่ มี าแต่ดงั้ เดิมของทัง้ สองพระองค์กระชับแน่นยิง่ ขึน้ จนกลายเป็น ความรัก


๓ ร่วมครองแผ่นดินโดยธรรม วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้จดั การพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ ิ์ ณ วังสระปทุม พร้อมมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ทั้งสองพระองค์ทรงครองคู่เคียงข้างกันในทุกช่วงยาม ทั้งทุกข์และสุข น�ำพาความสุขมาสู่ใจชาวไทยถ้วนหน้า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินนี าถ ทรงตระหนักถึงภารกิจอันหนักหนาในการแบ่งเบาพระราชภารกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และทรงร่วมครองแผ่นดินโดยธรรมตลอด รัชสมัย

๔ “นั่นไง รอยยิ้มของฉัน”

แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทย มากแค่ไหน แต่ความรักความห่วงใยที่ทรงมีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผู้เป็นรักแรกพบและเป็นรอยยิ้มของพระองค์ก็ไม่เคย น้อยลงไปตามกาลเวลา ครัง้ หนึง่ หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภกั ดี กราบทูลสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถว่า “เรื่องราวของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทไม่ใช่เพียงหนึ่งในล้าน แต่เป็น หนึง่ ในพันล้าน ใครกันจะโชคดีทที่ รงพบรักกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และพระองค์ท่านก็รักพระองค์มาก ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ก็ไม่เคยที่จะ เปลี่ยนแปลง”

ในห้วงยามแห่งความโศกาของชาวไทยทุกคน เรือ่ งราวความรักอันแสน ในปี ๒๕๐๓ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเยือน สุดประทับใจนีย้ อ่ มเป็นดุจน�้ำทิพย์ชโลมใจไทยทัง้ ชาติ นอกจากจะได้สมั ผัส สหรัฐอเมริกา นักข่าวต่างประเทศกราบบังคมทูลถามว่า “ท�ำไมพระองค์จงึ ถึงความรักที่ในหลวงทรงมีต่อพสกนิกรแล้ว ยังได้สัมผัสถึงความรักอัน ทรงเคร่งขรึมนัก ไม่ทรงยิ้มเลย” พระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปทางสมเด็จ มั่นคงที่ผู้ชายคนหนึ่งมีให้กับหญิงผู้เป็นที่รัก และความรักที่พ่อและแม่ของ แผ่นดินมีต่อพสกนิกรชาวไทยอันเปรียบเสมือนลูกๆ ของท่านอีกด้วย พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทรงมีพระด�ำรัสว่า และความรักนี้จะยังสวยงามในความทรงจ�ำของไทยทั้งผองเสมอ... ชั่วนิจนิรันดร์ “She is my smile.” ...นั่นไง รอยยิ้มของฉัน


๑๔

Heritage & Travel Text : วณิพร

๑๕

การเสด็จ

ที่ชาวสุราษฎร์ธานี ไม่เคยลืมเลือน


พ่อทุ่มเทพระวรกายเพื่อน�ำการพัฒนากระจายสู่ทุกพื้นที่การเป็นอยู่ ของราษฎร จนเรียกได้วา่ ไม่มพี นื้ ที่ ใดในแผ่นดินไทยทีพ่ อ่ ไม่เคยย่างกรายไป ไม่ว่าการสัญจรจะล�ำบากแค่ ไหน เขาสูงชันเพียงใด กันดารสักเท่าไร ก็ ไม่เคยท�ำให้พ่อละการด�ำเนิน เพียงเพราะต้องการเข้าถึงความเป็นอยู่ ของพสกนิกรของท่านก็เท่านั้นเอง พสกนิกรชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีของ พ่อหลวงในการเสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานีถึง ๑๕ ครั้งด้วยกัน นับ ตั้งแต่การเสด็จพระราชด�ำเนินครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๐๒

(๑) เสด็จฯ เยือนเมืองคนดีครั้งแรก

๒๖ มีนาคม ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนรถไฟ พระที่นั่งมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒๗ มีนาคม ๒๕๐๒ นายฉลอง รมิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด สุราษฎร์ธานีในขณะนัน้ ได้กราบบังคมทูลน�ำข้าราชการและราษฎรเข้าเฝ้าฯ ทัง้ สองพระองค์ ณ หน้ามุขศาลากลางจังหวัด พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชทรงมีพระราชด�ำรัสว่า ทรงยินดีมากทีม่ าเยีย่ มราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดในภาคใต้ทั้งหมด แล้วทรงขอให้อ�ำนาจ พระบรมธาตุไชยาและพระธาตุศรีสุราษฎร์คุ้มครองชาวสุราษฎร์ธานีให้มี ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้น ในครั้งนี้ทั้งสองพระองค์ยังได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตร ขบวนแห่พระทางน�ำ ้ โดยมีเรือพนมพระจากวัดต่างๆ ล่องเรียงรายเต็มแม่นำ�้ ตาปี แล้วเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังเขาท่าเพชร ทรงสักการะพระธาตุศรีสรุ าษฎร์ ทรงรับไว้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงปลูกต้นพะยอมทีห่ น้าองค์พระธาตุ ก่อนจะเสด็จฯ มายังต�ำบลท่าข้าม อ�ำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อ ประทับรถไฟพระที่นั่งเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร

(๒) ทรงเสด็จฯ น�ำ้ ตกธารเสด็จ และอ�ำเภอเกาะสมุย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๐๒

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระราชด�ำเนินไปยังน�ำ้ ตกธารเสด็จ และอ�ำเภอเกาะสมุย

๒๓ เมษายน ๒๕๐๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สมเด็จ พระศรีนครินทรา บรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประทับเรือพระทีน่ งั่ จันทรมาถึงเกาะพะงัน ก่อนจะประทับเรือหางยาวไปยัง น�้ำตกธารเสด็จ ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ภปร ลงบนแผ่นหินเดียวกัน กับที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจารึกไว้แต่อดีต จากนั้นเสด็จฯ ไปยังหมู่เกาะอ่างทองและประทับแรมที่นั่น ๒๔ เมษายน ๒๕๐๕ เวลาประมาณ ๐๙.๓๐ น. เรือพระที่นั่งจันทร ได้ทอดสมอบริเวณอ่าวหน้าทอน อ�ำเภอเกาะสมุย ซึ่งมีประชาชนมารอรับ เสด็จจ�ำนวนมากทั้งบนฝั่งและในน�ำ้ พร้อมเปล่งเสียงถวายพระพร


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนรถไฟพระที่นั่งกลับจากเยี่ยมเยียนพสกนิกรทางใต้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรชาวอ�ำเภอเกาะสมุย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระราชประสงค์ประทับ รถยนต์ ในท้องที่ ซึ่งได้ประทับรถจี๊ปหลังคาผ้าใบของนายการุณ เรืองศรี โดยมีรอ้ ยตรีสมคิด ไกรสินธุ์ หัวหน้าสถานีอนามัยอ�ำเภอเกาะสมุยเป็นผูข้ บั พระองค์ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ภปร ลงบนกระดาษเพื่อน�ำไป แกะสลักบนหินผาบริเวณน�ำ้ ตกหน้าเมือง แล้วเสด็จไปทรงนมัสการพระบรม สารีริกธาตุ ณ ส�ำนักสงฆ์ศิลางู การเสด็จพระราชด�ำเนินครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพล อดุลยเดชทรงเกรงว่าในอนาคตเกาะสมุยจะขาดแคลนน�ำ ้ ขอให้ทกุ คนช่วยกัน รักษาป่า อย่าตัดไม้ทำ� ลายป่าอันเป็นแหล่งต้นน�ำ้ ส�ำคัญ

(๓) การเสด็จฯ ครั้งที่ ๓ กับสะพานข้ามทางรถไฟ

วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ พระราชด�ำเนินโดยขบวนรถไฟพระทีน่ งั่ กลับจากเยีย่ มเยียนพสกนิกรทางภาคใต้ เมือ่ ขบวนรถไฟพระทีน่ งั่ เทียบชาน ชาลา ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ ขึ้นยังสะพานข้ามทางรถไฟ พร้อมโบก พระหัตถ์ทักทายประชาชนจ�ำนวนมากที่มารอรับเสด็จฯ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชา ณ วัดพระบรมธาตุไชยา

(๔) เสด็จฯ ประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชา ณ วัดพระบรมธาตุไชยา

๒๓ พฤษภาคม ๒๕๑๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ เสด็จพระราชด�ำเนินมายังวัดพระบรมธาตุ ไชยาราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก เพื่อประกอบพระราชพิธีวัน วิสาขบูชา ภายหลังพระราชพิธีทั้งสองพระองค์ได้ทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกร ทีม่ ารอรับเสด็จฯ ภายใต้ปะร�ำทีท่ ำ� ขึน้ ด้วยโครงไม้ไผ่หลังคามุงทางมะพร้าว

(๕) พระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรประจ�ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จ พระราชด�ำเนินมายังอ�ำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีเพื่อพระราชทานพระพุทธนว ราชบพิตรให้ประจ�ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี แทนพระแสงราชศาสตราที่ พระมหากษัตริยอ์ งค์กอ่ นๆ ได้พระราชทานให้เมืองต่างๆ ในอดีต จากนัน้ ทัง้ สองพระองค์ได้เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังอ�ำเภอพระแสง โดยมี พระราชกระแสรับสัง่ กับนายชินพัชร ทิพยรัตน์ นายอ�ำเภอพระแสงว่า “การที่ นายอ�ำเภอวางโครงการให้ราษฎรท�ำถนนหนทางในท้องที่โดยการพัฒนา


ก็ดีอยู่ แต่อย่าไปเกณฑ์เขาให้เขาท�ำด้วยความสมัครใจ การท�ำด้วยแรงคน (๗) เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรในเขตทุรกันดาร ณ เมืองคีรีรัฐนิคม อีกนานกว่าจะได้ ใช้ถนน เช่นที่ บางสวรรค์ เมื่อฉันกลับไปกรุงเทพจะดู ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เครื่องทุ่นแรงให้” พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จฯ ยังเมืองคีรีรัฐนิคมซึ่งเป็นถิ่น ทุรกันดารในขณะนั้น โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง โดยทางอ�ำเภอคีรีรัฐได้ (๖) เปิดทางแสงทองส่องเมืองพระแสง สร้างพลับพลาพระทีน่ งั่ เพือ่ รับเสด็จบริเวณสถานีรถไฟ หลังจากเยีย่ มเยียน ช่วงเวลาไม่ถงึ ๓ เดือนภายหลังการเสด็จฯ เมืองพระแสงเมือ่ คราวทีแ่ ล้ว พสกนิกรแล้วทัง้ สองพระองค์ได้ประทับเฮลิคอปเตอร์ไปยังต�ำบลบ้านไกรษร พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุรกันดารในการสัญจร วันที่ ๔ ตุลาคม อ�ำเภอคีรีรัฐนิคม แล้วเสด็จฯ กลับมายังสนามบินดอนนก อ�ำเภอเมือง ๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จ สุราษฎร์ธานี ซึ่งพลับพลาพระที่นั่งแห่งนี้ได้มีการร่วมแรงร่วมใจบูรณะ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ จึงได้เสด็จฯ มายังอ�ำเภอพระแสงอีกครัง้ เพือ่ พระราชทาน อีกครั้งเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคมที่ผ่านมา รถถากถาง (บูลโดเซอร์) หรือรถแทรกเตอร์ดีซี ส�ำหรับใช้ ในการพัฒนา เส้นทางสัญจร ซึ่งแต่เดิมเมืองพระแสงมีความทุรกันดารต้องสัญจรทางน�ำ้ (๘) เสด็จพระราชด�ำเนินยกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ เท่านัน้ แม้กระทัง่ การน�ำรถถากถางพระราชทานก็ตอ้ งใช้เฮลิคอปเตอร์นำ� มา ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๓ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จฯ ยังอ�ำเภอดอนสักเพื่อทรงยก ช่อฟ้าพระอุโบสถวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ แล้วทรงนมัสการหลวงพ่อจ้อย เจ้าอาวาสวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ก่อนเสด็จฯ เยีย่ มเยียนราษฎรอย่างใกล้ชดิ ในปะร�ำวัด การนีส้ มเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์ จ�ำนวน ๕๐๐ บาท ให้นางเอี่ยน เรืองแสวง ราษฎรยากจนผู้มีบุตร ๑๕ คน เพื่อบวชลูกชายในปีนั้น

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎร ในเขตทุรกันดาร ณ เมืองคีรีรัฐนิคม

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จมายังอ�ำเภอพระแสง เพื่อพระราชทานรถถากถาง (บลูโดเซอร์) หรือรถแทรกเตอร์ดีซี ส�ำหรับใช้พัฒนาเส้นทางสัญจร

รถถากถางพระราชทาน (ปัจจุบัน)

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ เสด็จพระราชด�ำเนินยกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์


(๙) เสด็จฯ เกาะสมุยคราที่ ๒

๒๙ เมษายน ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จฯ โดยเรือพระที่นั่งจันทร มายัง ต�ำบลบ่อผุด อ�ำเภอเกาะสมุย เพื่อพระราชทานยารักษาโรคและของ พระราชทานแก่ประชาชน พระองค์ได้ตรัสถามนายผล บุญสุข ซึ่งนั่งอยู่ ใกล้ๆ ว่าท�ำงานอะไร นายผลไม่กล้าทูลว่าเป็นครูเพราะเกรงว่าพระองค์ จะตรัสถามอะไรอีก จึงตอบเพียงว่าเป็นชาวสวนมะพร้าว พระองค์สนพระทัย จึงให้สาธิตการใช้ลงิ เก็บมะพร้าวให้ดู และทรงพอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิง่ จึงให้ชายผู้หนึ่งที่ถือกล้วยน�ำ้ หว้าอยู่ใกล้ๆ ให้เอากล้วยให้ลิงกิน พระองค์ ทรงตรัสว่า “ให้ไปทั้งหวีเลย”

(๑๐) ทรงเสด็จฯ สู่พระแสง

๓๐ เมษายน ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังวัดสมัยสุวรรณ ต�ำบลสองแพรก อ�ำเภอพระแสง (ปัจจุบนั ขึน้ อยูก่ บั อ�ำเภอชัยบุร)ี จากนัน้ ได้เสด็จฯ เยีย่ มเยียนราษฎรหมูบ่ า้ น โตรม ต�ำบลสองแพรก อ�ำเภอพระแสง (ชัยบุรี)

(๑๑) คราที่ ๔ ที่ชาวพระแสงได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

๒๗ กันยายน ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ เสด็จฯ ยังต�ำบลไทรขึง อ�ำเภอพระแสง นับเป็นครั้งที่ ๔ ที่พระองค์เสด็จเยือนอ�ำเภอพระแสง เนื่องด้วยความสน พระทัยในการพัฒนาอ�ำเภอพระแสงอย่างต่อเนือ่ ง ในครัง้ นีพ้ ระองค์ได้เสด็จฯ เยีย่ มเยียนราษฎรและพระราชทานสิง่ ของแก่ราษฎรทีม่ ารอรับเสด็จ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ โดยเรือพระที่นั่งจันทร มายังต�ำบลบ่อผุด อ�ำเกาะสมุย เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๑๕

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ เยีย่ มเยียนราษฎรทีอ่ ำ� เภอพระแสง เมือ่ วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๑๖

ชาวพระแสงได้ชนื่ ชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ อย่างใกล้ชดิ เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๖


(๑๒) เสด็จฯ เสริมสร้างขวัญก�ำลังใจแก่ชาวเวียงสระ

๒๗ สิงหาคม ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังอ�ำเภอเวียงสระ ซึง่ ขณะนัน้ เป็นแหล่งพ�ำนักแห่งหนึง่ ของกลุ่มคอมมิวนิสต์ พระองค์ได้เสด็จฯ พระราชทานธงประจ�ำรุ่นให้แก่ ลูกเสือชาวบ้านเพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจให้แก่ราษฎร

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังอ�ำเภอเวียงสระ เพื่อเสริมสร้างขวัญและก�ำลังใจแก่ราษฎร เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๑๖

(๑๓) การเสด็จเพราะทรงห่วงใย

๑๑ กันยายน ๒๕๑๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จฯ ยังโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยที่นายแพทย์พนัส อุทโยภาส ผู้อ�ำนวยการโรงพยาบาลในขณะนั้น ไม่ทราบล่วงหน้า เนื่องด้วยความห่วงใยของพระองค์ท่านที่ทราบเรื่องการ ได้รับบาดเจ็บของทหาร ต�ำรวจและลูกเสือชาวบ้านที่ได้ปะทะกับกลุ่ม คอมมิวนิสต์ จึงมีพระราชประสงค์เยี่ยมผู้บาดเจ็บ ในขณะนั้นจังหวัด สุราษฎร์ธานีถือว่าเป็นเขตพื้นที่อันตรายจากภัยกลุ่มคอมมิวนิสต์

(๑๔) ประปาแรกของดอนสัก

ในอดีตอ�ำเภอดอนสักมีการคมนาคมที่ไม่สะดวก หลวงพ่อจ้อยจึงได้ กราบทูลถึงปัญหา ๔ ประการของอ�ำเภอดอนสัก อันได้แก่ เรือ่ งน�ำ ้ ไฟ ถนน และการลอกปากคลอง เมือ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ได้ทรงทราบปัญหาจากพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตแล้ว จึงรับสั่งแก้ไขปัญหา ส�ำคัญก่อน คือ แหล่งน�ำ้ บริโภค จึงรับสั่งให้จัดสร้างประปาผิวพื้นกระทัง่ เสร็จในปลายปี ๒๕๑๘ ท�ำให้ชาวดอนสักมีนำ�้ สะอาดบริโภคจวบจนปัจจุบนั ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จมายังวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์อีกครั้ง พร้อมทั้ง พระราชทานธงประจ�ำกองลูกเสือชาวบ้าน และทอดพระเนตรการแสดงจาก ลูกเสือชาวบ้าน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ เสด็จฯ ยังโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เยีย่ มผูบ้ าดเจ็บจากการปะทะกับกลุม่ คอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๑๘

(๑๕) พระราชทานแสงสว่างแห่งรัชกาลแด่ภาคใต้

“รัชชประภา” อันมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งรัชกาล” เป็นชือ่ เขือ่ น อเนกประสงค์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งก่อสร้างเสร็จในเดือนกันยายน ๒๕๓๐ และวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ เสด็จฯ เปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน�้ำที่อำ� เภอบ้านตาขุน เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐ เปิดเขื่อนรัชชประภาและโรงไฟฟ้าพลังน�้ำที่อ�ำเภอบ้านตาขุน จังหวัด ชาวสุราษฎร์ธานีล้วนส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน สุราษฎร์ธานี

โดยเสมอมา ซึง่ หากใครต้องการทีจ่ ะสัมผัสพืน้ ทีต่ ามรอยเสด็จฯ ของท่าน จุดเล็กๆ ในแผนที่อันกว้างใหญ่ที่พ่อไม่เคยละเลยที่จะใส่ ใจ ไม่ว่าจะ ขอแจ้งข่าวดีว่า ททท.ส�ำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีโครงการที่จะเปิด ล�ำบากหรืออันตรายสักเพียงใดก็ไม่ได้ทำ� ให้พอ่ ละความอุตสาหะลงแม้แต่นอ้ ย โลกการท่องเที่ยวน�ำคุณสู่เส้นทางที่พระองค์ท่านได้ทรงเสด็จฯ ในเร็วๆ นี้


๒๐

My Style

Text / Photo : warote.s

“บ้านของพ่อ” ในถิ่นใต้


ตลอด ๗๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ “พ่อหลวง” ของพสกนิกรไทย ทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์ เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตรชีวติ ความเป็นอยูข่ องพสกนิกร ของพระองค์ ในท้องถิ่นทุรกันดารต่างๆ ทั่วประเทศตลอด เวลา เพือ่ ปฏิบตั พิ ระราชภารกิจมากมายอันก่อให้เกิดประโยชน์ ในทุกๆ ด้าน ท�ำให้ต้องพ�ำนักประทับแรมยังสถานที่ต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค เพื่อทรงได้รับทราบถึงทุกข์สุข และสภาพ ความเป็นอยู่ของราษฎรมาโดยตลอด

ท�ำไร่ ท�ำเป็นตัวอย่างด้านการเกษตร และรวบรวมพันธุพ์ ชื เศรษฐกิจในพืน้ ที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงมาปลูกไว้ที่นี่ ลักษณะทีป่ ระทับหลังนี้ เป็นเรือนแถวสองชัน้ สีนำ�้ ตาล ตกแต่งเรียบง่าย เจ้าของบ้านชื่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บ้านหลังนี้ คือ บ้านของพ่อ ห้องทีป่ ระทับพระองค์ทา่ นอยูด่ า้ นขวา ส่วนด้านซ้าย เป็นห้องทีป่ ระทับของสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯิ์ พระบรมราชินนี าถ กลางบ้าน เป็นห้องโถง ไว้ทอดพระเนตรแปลงนาและไร่ ใต้ถนุ บ้านมีรถโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ก ๙๙๙๙ เชียงใหม่ จอดอยู่ เป็นคันที่พระองค์เคยใช้ทรงงานที่ จังหวัดเชียงใหม่ น�ำมารักษาไว้ที่นี่ตั้งแต่บ้านสร้างเสร็จ โครงการพระราชด�ำริยงั เป็นโครงการส่วนพระองค์ ไม่ได้มอบให้หน่วยงาน My Style ฉบับนี้ขอน้อมร�ำลึกพระมหากรุณาธิคุณ น�ำทุกท่านไปชม ราชการใด ทีน่ จี่ งึ เป็นเขตพระราชฐาน ทีพ่ สกนิกรชาวไทย สามารถเข้าชมและ “บ้านของพ่อ” ในภูมิภาคภาคใต้ พร้อมเกร็ดประวัติน่ารู้ ไปดูกันว่า “บ้าน สัมผัสบ้านของพ่อ อันเป็นต้นแบบความเรียบง่าย พอเพียง ปัจจุบนั โครงการ ของพ่อ” แต่ละหลัง มีความสวยงาม ดูเรียบง่าย จนหลายคนคิดไม่ถึงว่านี่ ชั่งหัวมันถือว่าเป็นโครงการที่มีความส�ำคัญต่อเกษตรกรอย่างยิ่งในการ คือ ที่ประทับของพ่อหลวง พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เลือกทีจ่ ะศึกษา และเป็นอีกหนึง่ แหล่งเรียนรูท้ างการเกษตรทีย่ งั่ ยืน รวมถึง เรื่องราวพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรไทย ทุกคนอีกด้วย

วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านไร่ของในหลวง จังหวัดเพชรบุรี

บ้านหลังนีม้ ใิ ช่ทปี่ ระทับแบบถาวร แต่เป็นทีป่ ระทับและทรงงานทีเ่ กิดจาก โครงการในพระราชด�ำริ “โครงการชัง่ หัวมัน” ซึง่ พระองค์ใช้พระราชทรัพย์สว่ น พระองค์ ซือ้ ทีด่ นิ ทัง้ หมด ๒๕๐ ไร่ ตัง้ เป็นโครงการตามพระราชด�ำริ ถือโฉนด และมีชื่อในทะเบียนบ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๕ บ้านหนองคอกไก่ ต�ำบล เขากระปุก อ�ำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยทรงขึ้นทะเบียนเป็นเกษตร

“วังไกลกังวล” สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยูห่ วั โปรดเกล้าฯ พระราชทรัพย์สว่ นพระองค์จากพระคลังข้างที่ ให้สร้างขึน้ เมือ่ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๙ เพือ่ พระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี โดย หม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร ผูอ้ ำ� นวยการศิลปากรสถานในขณะนัน้ เป็นสถาปนิกผูอ้ อกแบบและควบคุมการก่อสร้าง เป็นพระราชฐานในส�ำนักงาน ทรัพย์สนิ ส่วนพระองค์ ส�ำนักพระราชวัง พระองค์จะเสด็จฯ แปรพระราชฐาน มาประทับทีว่ งั ไกลกังวลแห่งนีใ้ นช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ของทุกปี เพื่อจะทรง ติดตามงานในโครงการส่วนพระองค์ต่างๆ ในพื้นที่แถบนี้


เรือนรับรองที่ประทับ แหลมหางนาค จังหวัดกระบี่

สร้างขึน้ เพือ่ เป็นทีป่ ระทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และพระบรม วงศานุวงศ์ รวมทั้งใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะ ในยามประทับอยู่ที่ จังหวัดกระบี่ อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือไทย ตั้งอยู่เชิงเขาหางนาค บ้านคลองม่วง ต�ำบลหนองทะเล อ�ำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ตัวเรือนรับรองเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๔ ชั้น สอดแทรกอยู่ใน แกมไม้ทึบ ขนานกับแนวระดับต�่ำสูงของแหลมหางนาค หันหน้าไปทางทิศ ตะวันตกสูท่ ศั นียภาพอันมีเสน่หข์ องท้องฟ้ายามพระอาทิตย์อสั ดง และทะเล อันดามัน อันประกอบด้วยหมูเ่ กาะน้อยใหญ่ทถี่ กู จัดวางโดยธรรมชาติอย่าง ลงตัว รูปลักษณะของเรือนรับรองทีป่ ระทับ ตัง้ ตระหง่านอยูใ่ นป่าเขียวชอุม่ เห็นได้อย่างชัดเจนทางทะเล

พื้นที่ภายในวังไกลกังวลประกอบด้วยพระต�ำหนักและอาคารประกอบ หลายอาคาร เช่น พระต�ำหนักเปีย่ มสุข พระต�ำหนักตึกแบบสเปนสูงสองชัน้ พร้อมทัง้ หอสูง เป็นทีป่ ระทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยูห่ วั และ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี และยังเคยเป็นทีป่ ระทับพักผ่อนพระอิรยิ าบถ และฮันนีมูนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นเวลา ๓ วันพร้อมด้วยคณะ ผู้ตามเสด็จโดยรถไฟด้วย นอกจากนี้ ยังมีพระต�ำหนักน้อย พระต�ำหนัก ปลุกเกษม พระต�ำหนักเอิบเปรม เอมปรีย์ ศาลาเริง และ ศาลาราชประชา สมาคม ส�ำหรับให้ขา้ ราชการเฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาทได้โดยไม่ตอ้ งเสด็จฯ กลับกรุงเทพมหานคร เช่น พิธีพระราชทานกระบี่ของนักเรียนนายร้อย เป็นต้น ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกนามว่า “ศาลา ราชประชาสมาคม” ซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์และประชาชนเกื้อกูล ระหว่างกัน เพื่อใช้ ในการเสด็จออกมหาสมาคมในการพระราชพิธีเฉลิม พระชนมพรรษาในต่างจังหวัดและในวังแห่งนี้ เป็นครัง้ แรกในรัชกาลที่ ๙ นอกจาก นี้ยังใช้ประกอบพิธีและพระราชพิธีส�ำคัญต่างๆ ได้หลายครั้ง


พระต�ำหนักเขาน้อย จังหวัดสงขลา

พระต�ำหนักเขาน้อยตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาน้อยทางทิศใต้ ถนนสะเดา สร้างเมื่อปีพ.ศ.๒๔๕๔ พระต�ำหนักแห่งนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ เมื่อครั้ง ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอุปราชมณฑลปักษ์ ใต้ อีกทัง้ สถานทีแ่ ห่งนีเ้ คยเป็นทีล่ ภี้ ยั ทางการเมืองภายหลังการเปลีย่ นแปลงการปกครองของพระบรมวงศานุวงศ์ หลายพระองค์ อาทิ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้า ภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อีกทั้งยังเคยเป็น ทีป่ ระทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชกับสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินมา ประกอบพระราชกรณียกิจที่ภาคใต้ ในปี พ.ศ.๒๕๐๒ ต�ำหนักเขาน้อยมีตวั อาคารเป็นแบบยุโรป สูง ๓ ชัน้ ชัน้ ล่างประตูทางเข้า เป็นประตูโค้ง (Arch) มีลวดลายปูนปัน้ ประดับเหนือวงโค้งประกอบด้วย ๖ ห้อง คือ ห้องโถง ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องกระจก ห้องครัว ห้องเก็บของ ชั้นที่ ๒ ประกอบด้วย ๙ ห้อง คือ ห้องนอน ๒ ห้อง ห้องแต่งตัว ๒ ห้อง ห้องคนใช้ ห้องสมุด ห้องเลขาส่วนตัว และห้องน�้ำ ๒ ห้อง ชัน้ ที่ ๓ ประกอบ ด้วย ห้องนอน ๓ ห้อง ทางทิศตะวันตกมีหอคอย ซึ่งท�ำหลังคาโค้ง ภายใน ตัวต�ำหนักตกแต่งด้วยเครือ่ งเรือนไม้แบบอังกฤษ ปัจจุบนั ได้ปรับปรุงบูรณะ ให้เป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

พระต�ำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส

พระต�ำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ตัง้ อยูบ่ ริเวณเขาตันหยง ต�ำบลกะลุวอเหนือ ตามทางหลวงสายนราธิวาส-ตากใบ ห่างจากตัวเมืองนราธิวาส ประมาณ ๘ กิโลเมตร เป็นที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้ง พระบรมวงศานุวงศ์ ในช่วงเดือนสิงหาคมและตุลาคมของทุกปี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๖ บน เนื้อที่ทั้งหมด ๓๐๐ ไร่ ด้านหน้าของเขาตันหยง ที่ตั้งพระต�ำหนักอยู่บน เนินเขาริมทะเลฝั่งอ่าวไทย เป็นอาคารคอนกรีตก่ออิฐถือปูน ลักษณะเป็น ทรงปั้นหยาสมัยใหม่ มีการประดับตัวเรือนด้วยไม้ฉลุเป็นลวดลายประดับ ยอดจัว่ ช่องลม และเชิงชาย เป็นเรือนไม้ยกพืน้ ใต้ถนุ สูง ซึง่ เป็นลักษณะร่วม ทางสถาปัตยกรรมพืน้ ฐานของภูมภิ าคศูนย์สตู ร อีกทัง้ ยังมีลกั ษณะรูปทรง หลังคาที่โดดเด่นเป็นพิเศษ อันเป็นสถาปัตยกรรม ที่ได้รับอิทธิพลจาก สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมของชาวตะวันตก นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ ของภาคใต้ โดยที่พระองค์ทรงมีพระราชด�ำริ ให้สถาปนิกออกแบบให้มี รูปทรงประสานกลมกลืน กับอาคารบ้านเรือนแบบท้องถิ่นที่มีอยู่แต่ดั้งเดิม พระต�ำหนักแห่งนี้ มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ ที่ชายฝั่งภายใน พระต�ำหนักนั้นเป็นที่ฝังศพชาวมุสลิม ซึ่งพระองค์ไม่ทรงรังเกียจ และทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตเอาไว้ ให้ราษฎร มุสลิมเข้าออกเขตพระราชฐาน เพื่อประกอบศาสนกิจอุทิศส่วนกุศลให้ ผู้วายชนม์ตามความต้องการได้ทุกเมื่อด้วย


๒๔

Special Report Text : สุทธาทิพย์

๑๒

สุราษฎร์ธานีกับ

โครงการพระราชดำ�ริของพ่อ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทย ท�ำให้พวกเราชาวไทยได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ต่างๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจน ห่างไกล และทุรกันดาร ซึ่งพระองค์จะทรงใช้เวลา ประทับอยู่ตามเขตภูมิภาคมากกว่าในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพราะพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะหาข้อมูลที่แท้จริงจากผู้ที่อยู่ ในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสังเกตการณ์ และส�ำรวจสภาพทางภูมิศาสตร์ ไปพร้อมๆ กัน เพื่อ จะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้สำ� หรับการพระราชทานแนวทางเพื่อการด�ำเนินงานโครงการตามพระราชด�ำริต่อไป โครงการตามพระราชด�ำริจะเป็นโครงการทีพ่ ระองค์ทรงวางแผนพัฒนา และทรงเสนอแนะให้รัฐบาลร่วมด�ำเนินการตามแนวพระราชด�ำริ ปัจจุบัน โครงการตามแนวพระราชด�ำรินี้ เรียกว่า “โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ” มีลกั ษณะเป็นโครงการพัฒนาในด้านต่างๆ ทัง้ เพือ่ การศึกษา ค้นคว้าทดลองและงานวิจัย โดยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำรินี้ มีทั้งที่เป็นโครงการระยะสั้น และโครงการระยะยาว ด้วยพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อพสกนิกรชาว สุราษฎร์ธานี พวกเราชาวสุราษฎร์ธานีจึงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจาก การพัฒนาแหล่งน�ำ ้ และการคมนาคม ดัง ๑๒ โครงการพระราชด�ำริ ๑. โครงการพระราชด�ำริฝายคลองสะพานนาค ได้พระราชทานให้ ก่อสร้างฝายทดน�้ำพร้อมระบบส่งน�้ำเพื่อแก้ ไขปัญหาขาดแคลนน�้ำเพื่อ อุปโภค-บริโภค และเกษตรกรรม ของราษฎรหมูท่ ี่ ๕ และหมูท่ ี่ ๖ ต.คลองศก อ.พนม

๒. โครงการพระราชด�ำริอ่างเก็บน�ำ้ บางทรายนวล ได้พระราชทาน

ด�ำริ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๒๗ ว่าควรพิจารณาสร้างอ่างเก็บน�้ำบาง ทรายนวล ซึ่งเป็นล�ำน�้ำสาขาคลองชะอุ่นโดยเร่งด่วน เพื่อเก็บน�้ำไว้อุปโภค -บริโภค และเพือ่ การเกษตรของราษฎรในเขตพืน้ ทีต่ �ำบลคลองชะอุน่ อ�ำเภอ พนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๓. โครงการฝายคลองวายพร้อมระบบท่อส่งน�้ำ อันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ ให้กอ่ สร้างแหล่งน�ำ ้ เพือ่ ช่วยเหลือราษฎร หมูท่ ี่ ๗ บ้านคลองวาย ต.ตะกุกเหนือ กิ่ง อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน�้ำ ในการอุปโภค-บริโภค และท�ำการเกษตรในฤดูแล้ง ๔. โครงการท�ำนบดินบ้านอินทรีย์ทอง ให้ก่อสร้างฝายกักเก็บน�้ำ ขนาดเล็ก พร้อมท่อระบบส่งน�ำ ้ เพื่อช่วยเหลือราษฎร หมู่ที่ ๖, ๗ และ ๙ ต�ำบลคลองพา อ.ท่าชนะ ซึ่งขาดแคลนน�้ำส�ำหรับอุปโภค-บริโภค และ ท�ำการเกษตร


๕. โครงการท�ำนบดินห้วยตะพาบน�ำ้ ให้กอ่ สร้างประปาภูเขา บริเวณ

หมู่ที่ ๗ ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งประสบปัญหา ขาดแคลนน�ำ้ ส�ำหรับอุปโภค-บริโภค และท�ำการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้ง ๖. โครงการฝายบ้านปลายน�้ำตกพร้อมระบบส่งน�ำ้ ให้ก่อสร้างฝาย ทดน�้ำบริเวณห้วยปากหมาก พร้อมระบบส่งน�้ำเพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ ๑๗ บ้านท่าใหม่ ต�ำบลประสงค์ อ�ำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่ง ประสบปัญหาขาดแคลนน�ำ ้ ส�ำหรับอุปโภค-บริโภค และท�ำการเกษตรกรรม ในช่วงฤดูแล้ง ๗. โครงการก่อสร้างทางและสะพานคอนกรีตอัดแรง ให้ก่อสร้าง สะพานเชือ่ มระหว่าง บ.แหลมลืน่ -เกาะแรต อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เพือ่ บรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรเนื่องจากการคมนาคมที่ไม่สะดวก ๘. โครงการขยายสะพานรถไฟข้ามคลองฉวาง กม. ๖๗๒ + ๘๗๔ เนื่องจากกรมชลประทานขยายคลองฉวางให้กว้างขึ้นเพื่อป้องกันน�้ำท่วม ส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องขยายสะพานรถไฟให้กว้างขึ้นด้วย ๙. โครงการท�ำนบดินคลองบางพ่อตาพร้อมระบบส่งน�ำ้ ให้กอ่ สร้าง โครงการประปาภูเขา คลองบางพ่อตา เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ ๖ ต�ำบล คลองศก อ.พนม ซึง่ ประสบความเดือดร้อน ขาดแคลนน�ำ ้ ส�ำหรับอุปโภคบริโภค และท�ำการเกษตรในฤดูแล้ง

๑๐. โครงการระบบประปาภูเขาห้วยปลาย ให้กอ่ สร้างโครงการระบบ ประปาภูเขาห้วยปลาย เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ ๑๓, ๑๕, ๑๖ และ ๑๘ ต�ำบลประสงค์ อ�ำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประสบความเดือด ร้อนขาดแคลนน�ำ ้ ส�ำหรับอุปโภค-บริโภค และท�ำการเกษตรในฤดูแล้ง ๑๑. โครงการพัฒนาหนองแท่นแก้ว ให้ปรับปรุงแหล่งน�ำ้ สาธารณะ ขนาดใหญ่บริเวณหนองแท่นแก้ว เพือ่ ช่วยเหลือราษฎรต�ำบลถ�ำ้ สิงขร ต�ำบล บางเดือน และต�ำบลใกล้เคียง อ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งประสบความเดือดร้อน ขาดแคลนน�ำ้ ส�ำหรับอุปโภค-บริโภค และท�ำการเกษตร ๑๒. โครงการขุดลอกแหล่งน�้ำธรรมชาติหนองปราบ ให้ขุดลอก แหล่งน�ำ้ ธรรมชาติหนองปราบ เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ ๖ และหมู่ที่ ๗ ต�ำบลอิปัน อ.พระแสง ซึ่งประสบความเดือดร้อนขาดแคลนน�้ำ ส�ำหรับ อุปโภค-บริโภค และ ท�ำการเกษตรในฤดูแล้ง


๒๖

House Keep Text : วณิพร

พลั ง งานทดแทน พลังงานที่ ไม่เคยหมด พลังแห่งสายพระเนตร “เศรษฐกิจพอเพียง” แนวพระราชด�ำริซงึ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อ เป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข บนพื้นฐานความมี เหตุผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีเป้าหมายให้สังคมไทย พึ่งพาตนเองได้ การด�ำเนินชีวิตในปัจจุบันนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งจ�ำเป็น ในการด�ำเนินชีวิต แต่หากแทบจะเป็นสิ่งเดียวที่เราละเลยที่จะพอเพียง ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของพระองค์ที่ทรงคาดการณ์ถึงปัญหา พลังงานที่ต้องน�ำเข้ามากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีพระราชด�ำริว่าพลังงานอยู่รอบ ตัวเรา อันเป็นที่มาของพลังงานทดแทน

พลังงานจากดิน

โครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการฝังกลบขยะ อาศัยหลักการฝังกลบ ขยะจนท�ำให้เกิดก๊าซมีเทน แล้วใช้ทอ่ ฝังเข้าไปในกองขยะเพือ่ ดึงก๊าซมีเทน มาผ่านกระบวนการท�ำก๊าซให้สะอาดก่อนน�ำไปใช้ จากนัน้ แยกขยะส่วนทีย่ งั สามารถใช้เป็นเชือ้ เพลิงได้ ให้นำ� ไปเผาเพือ่ น�ำพลังงานความร้อนไปใช้ประโยชน์ และเถ้าถ่านสามารถน�ำไปผสมกับวัสดุอื่นเพื่ออัดเป็นแท่งใช้ส�ำหรับการ ก่อสร้างได้ โดยแบ่งพืน้ ทีส่ ำ� หรับการสับเปลีย่ นฝังกลบหมุนเวียนไป

พลังงานจากน�ำ้

กังหันน�ำ้ ผลิตไฟฟ้าตามแนวพระราชด�ำริ เกิดขึน้ ทีค่ ลองลัดโพธิโ์ ดย เป็นโครงการปรับปรุงขุดลอกคลองลัดโพธิเ์ พือ่ แก้ไขปัญหาน�ำ้ ท่วม ท�ำให้ คลองขยายกว้างขึน้ พร้อมทัง้ มีการสร้างประตูระบายน�ำ ้ พระองค์ทรงมี พระราชกระแสรับสั่งว่า “โครงการคลองลัดโพธิจ์ ะท�ำประโยชน์ได้อย่าง มหัศจรรย์ มีพลังงานน�้ำที่ระบายผ่านคลองท�ำอย่างอื่นด้วยได้หรือไม่” ผูด้ แู ลโครงการจึงจัดท�ำและติดตัง้ กังหันผลิตไฟฟ้าทีป่ ระตูระบายน�ำ ้ โดยใช้ หลักพลังงานจลน์ของกระแสน�ำ้ เปลีย่ นเป็นพลังงานไฟฟ้า นอกจากนีย้ งั มี การต่อยอดไปถึงโครงการประตูระบายน�ำ้ บรมธาตุ จ.ชัยนาท และเตรียม แผนขยายไปยังประตูระบายน�ำ้ อีกกว่า ๓๖๑ แห่งทัว่ ประเทศ และยังทรงมี พระราชด�ำริให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรมชลประทาน พิจารณาน�ำน�ำ้ ทีร่ ะบายจากเขือ่ นมาใช้ประโยชน์ ในการผลิตไฟฟ้าอีกด้วย ซึง่ เขือ่ นรัชชประภาก็เป็นหนึง่ ในแหล่งก�ำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานน�ำ้ ตามพระราชด�ำริ


พลังงานจากลม

“โครงการชัง่ หัวมัน” หนึง่ ในโครงการทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชทรงโปรดเกล้าฯ ให้จดั ตัง้ ขึน้ เพือ่ พัฒนาให้เป็นศูนย์รวม พืชเศรษฐกิจหลายชนิดและเพือ่ เป็นแนวทางในการท�ำเกษตรแบบเศรษฐกิจ พอเพียงตามแนวพระราชด�ำริ ในพืน้ ที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระราชด�ำรัสให้นำ� พลังงานลมมาใช้ ให้เกิดประโยชน์ เนือ่ งด้วย บริเวณทีต่ งั้ นัน้ มีสภาพภูมศิ าสตร์ทเี่ หมาะสม จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ ให้ตดิ ตัง้ กังหันลมจ�ำนวน ๑๐ ตัว เพือ่ เป็นตัวอย่างทางด้าน พลังงาน “โครงการสระเก็บน�ำ้ พระราม ๙” อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทีเ่ กิดขึน้ เพือ่ แก้ปัญหาอุทกภัยจากธรรมชาติ ยังเป็นอีกหนึ่งแห่งที่นำ� พลังงานทดแทน มาใช้ ให้เกิดประโยชน์ โดยใช้ระบบร่วมระหว่างพลังงานลมและพลังงานแสง อาทิตย์ ในการสร้างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนือ่ งจากช่วงกลางวันที่ อาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์ ช่วงเย็นและกลางคืนอาศัยพลังงานลม

พลังงานจากไฟ

โครงการบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการปูพนื้ ฐานการอนุรกั ษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และสาธิตการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ สาธิตการประจุกระแสไฟฟ้าตรงลงในแบตเตอรีแ่ ละสาธิตเทคโนโลยีการป้อน กระแสไฟฟ้าเข้าสูร่ ะบบจ�ำหน่ายของการไฟฟ้า ตลอดจนการน�ำความร้อน จากแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ ในการผลิตน�ำ้ ร้อน

ด้วยพระปรีชาและพระอัจฉริยภาพ กอปรกับสายพระเนตรอันยาวไกล ของพระองค์ที่ทรงน�ำพลังงานใกล้ตัวที่ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องหาน�ำมาใช้ ให้เกิด ประโยชน์อย่างไม่สญ ู เปล่า ทัง้ พลังงานทีเ่ กิดจากดิน น�ำ้ ลม และไฟ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงตระหนักถึงเชื้อเพลิงในอนาคตอย่างน�้ำมัน จึงมีการพัฒนา พลังงานชีวภาพ พัฒนาไบโอดีเซลขึ้น หรือแม้แต่ผลพลอยได้จากโรงโคนมใน สวนจิตรลดา พระองค์ยงั ทรงน�ำมูลโคมาผลิตแก๊สชีวภาพ หรือไบโอแก๊สส�ำหรับ ใช้ ในโรงงานแห่งสวนจิตรลดาและยังเป็นต้นแบบพลังงานทดแทนในครัวเรือน อีกด้วย


๒๘

Eco-Finance Text : warote.s

บริหารการเงินด้วย

“เศรษฐกิจพอเพียง”

เราจะเป็นอย่างไร ประเทศจะไปในทิศทางไหน ท่ามกลางความผันแปรทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ ใครก็ ต้องห่วง แต่ผลกระทบทั้งหลายจะไม่ส�ำคัญเลย หากเราและประเทศมีภูมิคุ้มกันตัวที่ดีด้วยความพอเพียงอย่าง ยั่งยืนตามรอยพ่อหลวงของไทย

“เศรษฐกิจพอเพียง... จะท�ำความเจริญให้แก่ประเทศได้ แต่ตอ้ งมีความเพียร แล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจร้อน ต้องไม่พูดมาก ต้องไม่ทะเลาะกัน ถ้าท�ำ โดยเข้าใจกัน เชื่อว่าทุกคนจะมีความพอใจได้...” พระราชดํารัสเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ณ วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑ เชื่อเหลือเกินว่า คนไทยแทบทุกคนต้องรู้จัก “เศรษฐกิจพอเพียง” เพราะเป็นพระราชด�ำรัสทีจ่ ะช่วยชีแ้ นวทางการด�ำรงชีวติ ทีพ่ ระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชได้มพี ระราชด�ำรัสแก่ชาวไทยนับตัง้ แต่ ปี พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่างแจ่มชัดในวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๐ เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นได้เกิด “วิกฤตต้มย�ำกุ้ง” หรือวิกฤตทางการเงินในภูมิภาค เอเชีย ทีห่ ลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะท�ำให้เกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจทัว่ โลก เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เน้นความพอดี หรืออาจเรียกว่า ปรัชญาเศรษฐกิจแบบมัชฌิมา คือ ยึดทางสายกลาง ถ้าทุกคนตระหนักถึง ความส�ำคัญของแนวคิดดังกล่าว และน้อมรับน�ำไปปฏิบตั ติ ามได้ สังคมไทย ก็จะมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพเพียงพอที่จะพึ่งพาตนเองและสามารถยกระดับคุณภาพความ เป็นอยูไ่ ด้ โดยการด�ำเนินชีวติ ในแบบเรียบง่ายท่ามกลางกระแสโลกาภิวตั น์ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย ๒ ส่วนส�ำคัญ คือ การพึ่งพาตนเอง เป็นการยึดหลักตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน รู้จักน�ำเอา ทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ ให้เกิดประโยชน์ รู้จักผลิตพืชให้เพียงพอกับ

ความต้องการในการบริโภคของครัวเรือนก่อน หลังจากนั้นจึงผลิตเพื่อ การค้า และการพึ่งพากันเอง จะให้ความส�ำคัญกับการรวมกลุ่มกันของ ชาวบ้าน เพื่อด�ำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การเกษตรแบบ ผสมผสาน การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแปรรูปอาหาร เป็นต้น

หัวใจส�ำคัญ ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข

“เศรษฐกิจพอเพียง” มีองค์ประกอบส�ำคัญ เรียกว่า สามห่วงสองเงือ่ นไข ประกอบด้วย ๑. ความพอประมาณ (Moderation) ความพอดีไม่น้อยเกินไปและ ไม่ม ากเกินไป โดยไม่เบียดบัง ตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและ การบริโภคทีอ่ ยูใ่ นระดับพอประมาณ คือ ไม่มากเกินไป หรือไม่นอ้ ยเกินไป จนเกินก�ำลังของการผลิต และการบริโภค เป็นต้น ๒. ความมีเหตุมีผล (Reasonableness) การตัดสินใจเกี่ยวกับ พฤติกรรมต่างๆ ที่มีความพอประมาณในมิติต่างๆ จะต้องมีสติรอบรู้ คิดถึงระยะยาว ต้องมีเป้าหมาย และวิธีการที่เหมาะสม มีความรู้ ในการ ด�ำเนินการ มีการพิจารณาจากเหตุ ปัจจัยและข้อมูลทีเ่ กีย่ วข้อง และค�ำนึงถึง ผลทีค่ าดว่าจะเกิดขึน้ ของการกระท�ำนัน้ อย่างรอบคอบ ทัง้ ผลทางด้านบวก และผลทางด้านลบและเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์อย่างถูกต้อง ตามหลักวิชาการ ๓. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี (Self-immunity) การเตรียมตัวให้ พร้อมรับการเปลีย่ นแปลงต่างๆ ทีจ่ ะเกิดขึน้ โดยประเมินความเป็นไปได้ ของการเกิดขึน้ ของปัจจัยเสีย่ ง และประเมินผลกระทบของการเกิดปัจจัย เสีย่ งเหล่านัน้ พร้อมเตรียมการรับมือกับการเปลีย่ นแปลงหรือความเสีย่ ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น


ส่วนเงื่อนไขของการตัดสินใจและด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ใน ระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง การมีความรู้ทางวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ประเด็นทีก่ ำ� ลังตัดสินใจอย่างรอบด้านและรอบคอบทีจ่ ะน�ำมาพิจารณาให้ เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ และ เงือ่ นไขคุณธรรม อันเป็นพืน้ ฐานส�ำคัญในการตัดสินใจ ประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรมที่ส�ำคัญ ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความ ั ญาในการด�ำเนินชีวติ ไม่โลภ และไม่ตระหนี่ อดทน มีความเพียร ใช้สติปญ

เศรษฐกิจพอเพียงกับการปรับใช้

หลักเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เพียงแค่สอนให้เราสร้างความพอดีในการ ใช้ชีวิต หรือสอนให้เราไปท�ำเกษตรปลูกพืชผักเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัว หากแต่ สามารถน�ำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงนีไ้ ปปรับใช้ได้หลากหลาย แนวทาง “การวางแผนทางการเงิน” ในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนัน้ ควร เริ่มต้นด้วยการก�ำหนดเป้าหมายทางการเงินที่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน ได้แก่ เป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ส่วนการบรรลุตาม เป้าหมายที่ก�ำหนดได้ ต้องมีการวางแผนทางการเงินที่เป็นระบบ ดังนี้ ๑) การรู้ตน หมายถึง การรู้ถึงสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และ การรู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง ซึ่งเครื่องมือส�ำคัญเพื่อให้เกิด การรู้ตนเอง คือ การท�ำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้สามารถเป็นข้อมูล ส�ำคัญในการวางแนวทางการจัดการทางการเงิน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อจะท�ำให้มีเงินออมเพิ่มมากขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ๒) การจัดการเงิน หมายถึง การแบ่งสรรเงินได้ ในแต่ละช่วงเวลา เป็นเงินออม และจับจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักส�ำคัญ คือ ความพอเพียงในการตัดสินใจ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว มีเหตุมีผล ไม่เป็น ผู้บริโภคนิยม และสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเองที่ดี ๓) การลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง หมายถึง การลงทุนเพื่อก่อให้เกิด ผลตอบแทนเพื่อท�ำให้เงินออมที่มีอยู่งอกเงย การลงทุนที่มีประสิทธิผล เพือ่ ให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึน้ จ�ำเป็นทีจ่ ะต้องมีความรูค้ วามเข้าใจ เกี่ยวกับทางเลือกการลงทุน และต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงของทางเลือก เหล่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลักของการยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอ เพียงในการเป็นหลักคิดส�ำคัญในการด�ำเนินชีวิต กล่าวคือ การลงทุนไม่ เพียงเฉพาะลงทุนด้วยเงินเท่านั้น แต่ต้องลงทุนด้วยความรู้ เพื่อให้เรา สามารถใช้ความรู้ ในการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้

๔) การบริหารหนีอ้ ย่างพอเพียง ความเป็นหนีไ้ ม่ใช่ความไม่พอเพียง แต่หากจะต้องเป็นหนี้ ต้องค�ำนึงถึงความสามารถในการช�ำระคืน ซึ่ง แน่นอนว่าจะอยูบ่ นฐานของความพอดี พอประมาณ และมีเหตุมผี ลในการ ก่อหนี้ ๕) การบริหารความเสีย่ ง ความเสีย่ งเป็นสิง่ ทีห่ ลีกเลีย่ งไม่ได้ ความ เข้าใจกระบวนการในการบริหารความเสีย่ งจึงเป็นสิง่ ส�ำคัญ และการสร้าง ภูมคิ มุ้ กันเป็นหนึง่ องค์ประกอบทีจ่ ะละเลยไม่ได้เลยในการทีจ่ ะมีชวี ติ อย่าง พอเพียง การบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผน เริ่มต้นจากการ ตระหนักรู้และสามารถระบุความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ และท�ำการ ประเมินระดับความเสี่ยง จากนั้นจึงพิจารณาถึงแนวทางในการบริหาร จัดการความเสี่ยงนั้นให้หมดไป หรือให้ความเสี่ยงลดลง หากเราน้อมน�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ได้เป็น ย่อม

ท�ำให้การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มีความรอบคอบ อยู่บนฐานของความ มีเหตุมีผล พอประมาณ และสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อลดความเสี่ยงในการ ด�ำเนินชีวิตแต่ละรูปแบบได้ เพียงเท่านี้ ความสุข ความสมดุลของชีวิต และความเข้มแข็งของสังคมอย่างยัง่ ยืนก็จะปรากฏ ตามทีพ่ อ่ หลวงของเรา ทรงเพียรท�ำเพื่อลูกๆ ทุกคนมาตลอด ๗๐ ปี ข้อมูลอ้างอิงจาก เศรษฐกิจพอเพียง.net และ เฟสบุ๊ก บริหารการเงินเพื่อความพอเพียง


๓๐

Innovation Text : warote.s

๑๑ สิทธิบัตร

นวัตกรรมเพื่อคนไทยของพ่อหลวง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ทีม่ พี ระอัจฉริยภาพหลากหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการประดิษฐ์ จนได้รบั การยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ ไทย” และ “พระบิดา แห่งการประดิษฐ์ โลก”

เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน�้ำหมุนซ�ำ้ แบบทุ่นลอย (กังหันชัยพัฒนา) สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๓๑๒๗

โครงการแกล้งดิน

สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๒๖๓๗

เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน�ำ้ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๐๓๐๔

การดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝน (ฝนหลวง) สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๓๘๙๘

๓. ระบบปรับปรุงคุณภาพน�้ำด้วยรางพืชร่วมกับเครื่องกลเติมอากาศ พระองค์ได้พระราชทาน พระราชด�ำริเพื่อแก้ไขปัญหาน�้ำที่มีสีเขียวที่ เกิดจากสาหร่ายชั้นต�่ำ โดยให้จัดท�ำระบบปรับปรุงคุณภาพน�ำ้ ด้วยรางพืช ปรับปรุงคุณภาพน�้ำร่วมกับเครื่องกลเติมอากาศโดยพืชน�้ำที่ใช้ ได้แก่ พุทธรักษา พังพวยน�ำ ้ กก หญ้าพองลม และเตย ท�ำหน้าทีด่ ดู ซับสารอาหาร ทีป่ ะปนมากับน�ำ ้ ความต้องแร่ธาตุสารอาหารด้วยการเจริญเติบโตของพืช เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๑๖๒ เมื่อท�ำการสังเคราะห์แสงแล้ว พืชจะแย่งอาหารจากสาหร่ายชั้นต�ำ ่ ความ เพือ่ เป็นการร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ เราได้รวบรวมผลงานแนวคิด หนาแน่นของต้นพืชจะมีผลต่อการกรองของเสียที่ปนมากับน�้ำ จุลินทรีย์ และสิง่ ประดิษฐ์ของพระองค์ทไี่ ด้รบั การจดสิทธิบตั รแล้วทัง้ สิน้ ๑๑ ชิน้ ดังนี้ ในน�้ำจะเกาะรากพืชและหน่อของพืช จะสามารถยุ่ยสลายของเสีย ส่งผล ให้น�้ำค่อยๆ ใสขึ้น สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๐๙๑ ๑. เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน�้ำหมุนซ�้ำแบบทุ่นลอย (กังหันน�ำ้ ชัยพัฒนา) เครื่องกลเติมอากาศ ที่ใช้ ในการเติมออกซิเจนลงในน�้ำที่ระดับผิวน�้ำ ช่วยลดความสกปรกของน�ำ้ ได้สงู แต่ตน้ ทุนการผลิตต�ำ ่ สามารถบ�ำบัดน�ำ้ เสีย ๔. การดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดฝน (ฝนหลวง) เป็นอีกหนึ่งผลงานของพระองค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก และ โดยใช้หลักการวิดน�ำ้ ขึน้ ไปสาดกระจายในอากาศให้เป็นฝอย ท�ำให้ปริมาณ ออกซิเจนในอากาศผสมกับน�้ำได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จุลินทรีย์เข้าไป แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านการประดิษฐ์คดิ ค้นของพระองค์เป็นอย่างมาก โครงการนี้ เ ริ่ ม ต้ น ขึ้ น เพื่ อ แก้ ป ั ญ หาภั ย แล้ ง ของประเทศ โดยเฉพาะ ย่อยสลายสิ่งสกปรกในน�้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ กังหันน�้ำชัยพัฒนานี้นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ภาคอีสาน ซึ่งพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าท้องฟ้านั้นมีเมฆมาก แต่ ๙ ของโลกทีไ่ ด้รบั สิทธิบตั ร และเป็นครัง้ แรกทีไ่ ด้มกี ารรับจดทะเบียนและ ฝนไม่ตก จึงเห็นว่าน่าจะท�ำฝนเทียมขึ้นมาได้ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๓๘๙๘ ออกสิทธิบัตรให้แก่พระบรมราชวงศ์ด้วย จึงนับได้ว่าเป็น “สิทธิบัตรใน พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ พระองค์แรกในประวัตศิ าสตร์ชาติไทย ๕. กระบวนการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยวเพื่อให้เหมาะแก่การเพาะปลูก และเป็นครั้งแรกของโลก” (โครงการแกล้งดิน) สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๓๑๒๗ อีกหนึง่ โครงการในพระราชด�ำริทสี่ ร้างประโยชน์ตอ่ เกษตรกรมหาศาล เป็นการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยวที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้ ให้เป็นดิน ๒. เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน�้ำ เครือ่ งกลเติมอากาศทีใ่ ช้ ในการเติมออกซิเจนลงในน�้ำทีร่ ะดับลึกลงไป ที่มีสภาพเหมาะสมส�ำหรับปลูกพืชชนิดต่างๆ โดยวิธีการแก้ไขปัญหาดิน ใต้ผวิ น�ำ้ จนถึงด้านล่าง เครือ่ งกลเติมอากาศแบบนี้ จะดึงน�ำ้ เสียทีอ่ ยูก่ น้ บ่อ เปรี้ยวจัดตามแนวพระราชด�ำริคือการควบคุมระดับน�้ำใต้ดิน เพื่อป้องกัน ขึ้นมาผสมกับอากาศและเกิดคลื่นน�้ำ ท�ำให้น�้ำไหลหมุนเวียน น�้ำเสียจะ การเกิดกรดก�ำมะถันทีเ่ ป็นสาเหตุของดินเปรีย้ ว ผ่านการควบคุมน�ำ้ ใต้ดนิ ผสมกับออกซิเจนในอากาศซึ่งท�ำให้น�้ำกลับมามีคุณภาพ อีกทั้งสามารถ ให้อยู่เหนือชั้นดินเลนที่มีสารไพไรท์อยู่ เพื่อไม่ให้สารไพไรท์ท�ำปฏิกิริยา กับออกซิเจนหรือถูกออกซิไดซ์กลายเป็นกรดก�ำมะถันนั่นเอง น�ำไปดัดแปลงใช้ประโยชน์เป็นปั๊มดูดตะกอนเลนได้อีกด้วย สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๒๖๓๗ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๐๓๐๔


โครงสร้างเครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ “อุทกพลวัต” สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๑๖๓

๙. โครงสร้างเครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ และชุดส�ำเร็จเครื่องก�ำเนิด ไฟฟ้าพลังงานจลน์ “อุทกพลวัต” พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชือ่ สิง่ ประดิษฐ์เครือ่ ง ก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์และชุดส�ำเร็จเครือ่ งก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์วา่ “อุทกพลวัต” หมายถึง กังหันผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน�้ำไหล โดยสิง่ ประดิษฐ์ นี้น�ำไปติดตั้งที่บริเวณคลองลัดโพธิ์ตามพระราชด�ำริ ให้มีหน้าที่บริหาร จัดการมวลน�้ำให้ออกสู่ทะเลอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อ พืน้ ทีอ่ ยูอ่ าศัยของราษฎร และพืน้ ทีเ่ ขตเศรษฐกิจใหญ่ของประเทศ ส่งผลให้ เมือ่ น�ำ้ ท่วมใหญ่ในปี ๒๕๕๔ ท�ำให้นำ�้ ไม่ทว่ มในบริเวณนัน้ ทัง้ ทีเ่ กือบทุกปี ก่อนหน้านี้น�้ำท่วมตลอดมา สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๑๖๓

๑๐. อุปกรณ์ควบคุมการผลักดันของเหลว เครือ่ งยนต์ทขี่ บั ดันน�ำ้ เพือ่ ใช้ ในการขับเคลือ่ นเรือ ถูกน�ำมาใช้เพือ่ ช่วย การใช้นำ�้ มันปาล์มกลัน่ บริสทุ ธิเ์ ป็นน�ำ้ มันเชือ้ เพลิงส�ำหรับเครือ่ งยนต์ดเี ซล การใช้นำ�้ มันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน�้ำมันหล่อลื่นส�ำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ (น�ำ้ มันไบโอดีเซล) สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๐๗๖๔ ทดแทนน�ำ้ มันหล่อลื่นที่ได้จากน�ำ้ มันปิโตรเลียม อนุสิทธิบัตรเลขที่ ๘๔๑ บรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์น�้ำท่วม โดยการผลักดันระบายน�้ำใน ๖. การใช้น�้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน�้ำมันเชื้อเพลิงส�ำหรับเครื่องยนต์ แม่นำ�้ และคลองต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ไหลออกสู่ทะเล ดีเซล (น�ำ้ มันไบโอดีเซล) อย่ า งรวดเร็ ว ยิ่ ง ขึ้ น ช่ ว ยแก้ ป ั ญ หาน�้ ำ ท่ ว มให้ กั บ ประเทศได้ อ ย่ า งมี ท่านได้ทรงวิจัยค้นคว้าหาพลังงานทดแทนเพื่อเป็นทางเลือกในยาม ประสิทธิภาพ คับขัน โดยใช้วัสดุเกษตรกรรมภายในประเทศ จนได้ผลิตผลออกมา คือ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๖๑๐๐ น�้ำมันปาล์มดีเซล เป็นน�ำ้ มันดีเซลผสมกับน�ำ้ มันปาล์มบริสุทธิ์ในสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ ๑๐ โดยปริมาตร จะได้คณ ุ ภาพเดียวกับน�ำ้ มันดีเซลหมุนเร็ว ๑๑. ภาชนะรองรับของเสียที่ขับออกจากร่างกาย ตามข้อก�ำหนดของกรมธุรกิจพลังงานทุกประการ รถยนต์เครือ่ งยนต์ดเี ซล เป็นอีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่พระองค์ทรงท�ำเพื่อประชาชนของท่าน โดย สามารถเติมน�ำ้ มันดีเซลปาล์ม (บริสทุ ธิ)์ ผสมกับน�ำ้ มันทีเ่ หลือในถังได้เลย พระองค์ทรงออกแบบผลิตภัณฑ์นี้ในขณะทรงพระประชวร เป็นภาชนะที่ ไม่ตอ้ งรอให้นำ�้ มันหมดถัง และผู้ใช้รถไม่ตอ้ งปรับแต่งเครือ่ งยนต์แต่อย่างใด ทรงออกแบบไว้เฉพาะส�ำหรับรองรับปัสสาวะของผูป้ ว่ ย และราคาประหยัด เพราะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเครื่องยนต์ ทั้งยังช่วยเพิ่มการหล่อลื่น กว่าอุปกรณ์น�ำเข้าจากต่างประเทศ ช่ ว ยป้ อ งกั น การสึ ก หรอของปั ๊ ม หั ว ฉี ด และลดมลพิ ษ ในไอเสี ย ของ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๔๘๕๙ เครื่องยนต์อีกด้วย สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๐๗๖๔ ทุกสิง่ ทุกอย่างทีพ่ ระองค์ทา่ นทรงเพียรพยายาม คิดค้น ลงมือท�ำ และ

น�ำไปปฏิบัติ ก็เพื่อประเทศไทย หากจะเปรียบกับชื่อเสียงเกียรติยศใดๆ

๗. การใช้น�้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน�้ำมันหล่อลื่นส�ำหรับเครื่องยนต์ แล้ว สิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือรางวัลทั้งหลายทั้งปวงไม่มีอะไรเทียบได้ก็คือ สองจังหวะ ทดแทนน�้ำมันหล่อลื่นที่ ได้จากน�้ำมันปิโตรเลียม “น�้ำพระทัย” และ “พระเมตตา” ที่ทรงท�ำทุกอย่างเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน อนุสิทธิบัตรฉบับนี้ เป็นการใช้นำ�้ มันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์ทดแทนน�ำ้ มัน มาตลอด ๗๐ ปี หล่อลื่นที่ได้จากน�้ำมันปิโตรเลียม ส�ำหรับเครื่องยนต์สองจังหวะ เช่น เครื่องรถมอเตอร์ไซค์ เครื่องสูบน�ำ ้ เป็นต้น อนุสิทธิบัตรเลขที่ ๘๔๑ ๘. เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ เป็นการใช้ประโยชน์จากน�้ำที่สืบเนื่องมาจากพระราชด�ำริให้มีการ บริหารจัดการน�้ำจากประตูระบายน�้ำคลองลัดโพธิ์ ซึ่งท�ำขึ้นเพื่อเพิ่ม ประสิ ท ธิ ภ าพการระบายน�้ ำ ของแม่ น�้ ำ เจ้ า พระยา โดยพระราชทาน พระราชด�ำริให้คณะท�ำงานฯ ด�ำเนินงานศึกษาวิเคราะห์ศกั ยภาพของคลอง ลั ด โพธิ์ จนประสบความส� ำ เร็ จ ในการประดิ ษ ฐ์ เ ครื่ อ งก� ำ เนิ ด ไฟฟ้ า พลังงานจลน์ ทั้งแบบหมุนตามแนวแกนตั้ง (Axial Flow) และแบบหมุน ขวางการไหล (Cross Flow) สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๑๖๒

ระบบปรับปรุงคุณภาพน�ำ้ ด้วยรางพืชร่วมกับเครื่องกลเติมอากาศ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๐๙๑

ภาชนะรองรับของเสียที่ขับออกจากร่างกาย สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๑๔๘๕๙

ระบบปรับปรุงคุณภาพน�ำ้ ด้วยรางพืชร่วมกับเครื่องกลเติมอากาศ สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ ๒๙๐๙๑


๓๒

Nutrition for Shape Text : วณิพร

พ่อ

โภชนาการดีเพราะมี... ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ได้พระราชทานความห่วงใยใส่ใจต่อเหล่าพสกนิกร ทั่วทุกพืน้ ที่ ทุกชนชัน้ อย่างเท่าเทียมกัน ทรงใส่ใจทุกรายละเอียดของ ไพร่ฟา้ ราษฎร ไม่เว้นแม้แต่เรือ่ งโภชนาการของประชาชนของพระองค์ นมโคแท้ ในโครงการในพระราชด�ำริ

ย้อนกลับไปกว่า ๕๐ ปีก่อน นมโคยังไม่มีให้ดื่มอย่างแพร่หลาย พระองค์ทรงตระหนักว่า “นม” มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อ ร่างกายจึงได้โปรดเกล้าฯ จัดตัง้ “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค” ขึน้ ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๕ ถือ เป็นกิจการโคนมแห่งแรกของประเทศ จากนัน้ จึงเกิด “นมไทย-เดนมาร์ค” นมกล่องยู.เอช.ที. ยีห่ อ้ แรกของไทย ต่อมามี “นมยู.เอช.ที. สวนจิตรลดา” โรงนมยู.เอช.ที.สวนจิตรลดาได้ก่อตั้งอย่างจริงจังเมื่อปี ๒๕๔๖ เพื่อ เป็นการแก้ปญ ั หาน�้ำนมโคล้นตลาด “นมหนองโพ” เป็นหนึง่ ยีห่ อ้ ทีพ่ ระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงงานผลิตนมผงขึ้นที่ ต.หนองโพ จ.ราชบุรี เพือ่ แก้ปญ ั หาน�ำ้ นมโคล้นตลาดของชาวราชบุรแี ละนครปฐม ยังมี “นมสดชั่งหัวมัน” น�้ำนมโคเต็มมันเนยสเตอริไลส์บรรจุขวด จากฟาร์ม โคนมในโครงการชั่งหัวมัน จ.เพชรบุรี นอกจากนี้ยังมี “นมอัดเม็ดสวน จิตรลดา” ที่ผลิตจากโรงนมสวนดุสิตอีกด้วย ๕ ยีห่ อ้ นม ในโครงการพระราชด�ำรินที้ ที่ ำ� ให้ประชาชนชาวไทยได้ดมื่ นมโคแท้คณ ุ ภาพอย่างทัว่ ถึง ซึง่ พระองค์เองได้รบั พระราชสมัญญา “พระบิดา แห่งการโคนมไทย”


เกลือไอโอดีน เกลือพระราชทานจากความห่วงใย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงห่วงใยภาวะ โภชนาการและสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะการขาดสารอาหารไอโอดีน ทีส่ ง่ ผลให้เป็นโรคคอพอก โรคเอ๋อ จึงมีโครงการน�ำร่องเกลือเสริมไอโอดีน จากพระองค์ ประชาชนทีอ่ .สะเมิง จ.เชียงใหม่ ไม่รจู้ กั ไม่กล้าใช้เกลือเสริม ไอโอดีน เกรงเป็นอันตราย พระองค์จงึ แจกเกลือเสริมไอโอดีนด้วยพระหัตถ์ ชาวบ้านจึงได้บริโภคเกลือนีจ้ นปัจจุบนั ไม่มผี ปู้ ว่ ยโรคคอพอกทีส่ ะเมิงแล้ว พระองค์ยังทรงเสด็จฯ สะเมิงอีกหลายครั้งเพื่อติดตามแก้ ไขปัญหา ความเป็นอยู่ของชาวบ้านจนพระองค์ได้รับเชื้อไมโครพลาสม่าจากการ เสด็จเยือนสะเมิง อันเป็นสาเหตุให้พระหทัยเต้นผิดปกติเรื้อรัง พระองค์ เคยมีพระราชกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ฉันขึ้น-ลงสะเมิงอยู่หลายปี จน ได้รบั เชือ้ ไมโครพลาสม่า ซึง่ ในทีส่ ดุ ท�ำให้ฉนั เป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ จน เกือบต้องเสียชีวิต” ถ้อยค�ำรับสัง่ อันเรียบง่ายราวกับว่าเป็นเรือ่ งเล็กน้อย ธรรมดา วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๐ สภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรค ขาดสารไอโอดีน ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองสดุดีเกียรติแด่พระองค์ และคณะรัฐมนตรีจงึ ได้มมี ติให้วนั ที่ ๒๕ มิถนุ ายนของทุกปี เป็นวันไอโอดีน แห่งชาติ

ปลานิล จากพระราชวังสวนจิตรลดา

ปี ๒๕๐๘ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮโิ ตะ ทรงจัดส่งปลานิลจ�ำนวน ๕๐ ตัว ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช โดยพระองค์ทรงพระราชทานชื่อใหม่ว่าปลานิล และพักเลี้ยงขยายไว้ ใน สวนจิตรลดา และทรงพระราชทานลูกพันธุ์ปลานิลแก่เกษตรกรและ พสกนิกรเมือ่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๐๙ เนือ่ งจากปลานิลเป็นปลาทีท่ นต่อการ เปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เลี้ยงง่าย โตเร็ว อุดมไปด้วยโปรตีน ท�ำให้ประชาชนชาวไทยได้บริโภคโปรตีนอย่างเหมาะสม

เจลลี่โภชนาและวุ้นชุ่มปาก น�ำ้ พระทัยจากพ่อหลวง

พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ดว้ ยความใส่พระราชหฤทัย จึงพระราชทานทุนวิจัยส�ำหรับโครงการนวัตกรรมอาหารส�ำหรับผู้ป่วย มะเร็งช่องปาก ได้สร้างสรรค์เจลลี่โภชนาการที่เป็นอาหารในรูปแบบของ เจลคล้ายวุ้น แต่มีความนุ่มละเอียดกว่าเพื่อผู้ป่วยสามารถเคี้ยวและกลืน ได้ง่ายโดยไม่ติดคอหรือส�ำลัก เจลลี่โภชนา ๑ กล่อง มีปริมาตร ๒๕๐ มิลลิลิตร ให้พลังงาน ๒๓๐-๒๖๐ กิโลแคลอรี มีรสชาติให้เลือกถึง ๙ รสชาติ เช่น มะม่วง ลิ้นจี่ ชานม ต้มย�ำกุ้ง แกงเขียวหวาน ข้าวหอมมะลิ ข้าวมันไก่ พระองค์ทรงพระราชทานข้อคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำ� หรับ ผู้ป่วยว่า “จ�ำไว้นะ เวลาท�ำอาหารให้คนป่วย เรื่องรสชาติเป็นสิ่งส�ำคัญ มาก เพราะเขาป่วยด้านร่างกายแล้ว จิตใจต้องดี ถ้าเราท�ำอาหารที่ไม่อร่อย ไปให้ จิตใจเขาจะแย่ มันเป็นการซ�้ำเติมผู้ป่วย” นอกจากนีย้ งั มีการวิจยั และพัฒนาน�้ำลายเทียมชนิดเจลทีช่ ว่ ยบรรเทา อาการปากแห้ง และส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วย ภายใต้ชื่อ “วุ้นชุ่มปาก” เพื่อ ชดเชยการน�ำเข้าน�ำ้ ลายเทียมจากต่างประเทศทีม่ รี าคาแพงและมีสารกันบูด อันเป็นอันตรายแก่ร่างกายของผู้ป่วย วุ้นชุ่มปากนี้เหมาะส�ำหรับผู้ป่วยที่ ต้องเข้ารับการฉายรังสีบริเวณศีรษะ ล�ำคอ ผูท้ เี่ ป็นโรคเกีย่ วกับต่อมน�ำ้ ลาย เบาหวาน โรคภูมิต้านทานต่อต้านตัวเอง โรคไขข้ออักเสบ และผู้ป่วยที่ ได้รับผลข้างเคียงจากยา เป็นต้น นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณที่พ่อหลวงทรงมี

ต่อพสกนิกรชาวไทยที่จะติดตราตรึงอยู่ ในความทรงจ�ำของชาวไทย ตราบนานเท่านาน


๓๔

I’m Cook Text : สุทธาทิพย์

ไข่พระอาทิตย์...

อิ่มอร่อยด้วยเมนูพระราชทาน

ผู้เขียนรู้จักเมนูไข่พระอาทิตย์มาประมาณ ๑๐ ปี ตอนนั้นเริ่มท�ำงาน ใหม่ๆ ด้วยเวลาจ�ำกัดและชีวิตที่ยุ่งเหยิงตามประสาเด็กจบใหม่ เพิ่งเริ่ม ท�ำงาน จึงไม่คอ่ ยจะได้จดั ระเบียบเวลาสักเท่าไหร่ จ�ำได้วา่ ได้อา่ นเจอเมนู พระราชทานเมนูนี้ ด้วยความที่ชอบกินไข่อยู่เป็นทุน จึงลองท�ำตาม และ ไม่พลาดที่จะท�ำเมนูนี้ขึ้นโต๊ะอยู่สม�่ำเสมอ “ไข่พระอาทิตย์” เป็นสูตรที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้กรมการค้า ต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ น�ำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือ “สูตรอาหาร ต้นต�ำรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติ” โดยหนังสือเล่มนีไ้ ด้เผยแพร่ ไปทั่วโลก เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิของไทยให้เป็นที่รู้จักของทุก ประเทศ ส่วนทีม่ าและวิธที ำ� ของสูตรอาหารพระราชทาน “ไข่พระอาทิตย์” กรมการค้าต่างประเทศได้อญ ั เชิญลายพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาบันทึกไว้ ในหนังสือ ความว่า “เมือ่ ข้าพเจ้ายังเด็ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เคยทรงประกอบอาหารพระราชทานเรียกว่า ไข่พระอาทิตย์” ส่วนทีม่ าของชือ่ ไข่พระอาทิตย์นนั้ สมเด็จพระเทพรัตนฯ พระราชทาน ค�ำอธิบายว่า “มีผถู้ ามว่าท�ำไมเรียกว่าไข่พระอาทิตย์” ข้าพเจ้าทูลถาม ทรง เล่าว่า เมือ่ ส่องกล้องแล้ว พืน้ ผิวดวงอาทิตย์มลี ายเหมือนเมล็ดข้าว ภาษา ฝรั่งเศสเรียกว่า “Grain de riz”

ส่วนผสม

- ไข่ไก่ ๑ ฟอง - น�ำ้ ปลา

วิธีท�ำ

- ข้าวสวย ๑ ทัพพี - น�ำ้ มันพืช

๑. ไข่ฟองหนึ่ง ตีให้ ไข่ขาวและไข่แดงเข้ากันเหมือนเวลาจะตีไข่ ท�ำไข่เจียว (ไม่ตีมากเหมือนท�ำเค้ก) ใส่ข้าวสุกประมาณทัพพีหนึ่ง ๒. เครื่องปรุงรสใส่ซอสแม็กกี้ (ที่เมืองนอกสมัยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระเยาว์ หาน�ำ้ ปลาได้ยาก แต่สมัยนี้เราชอบใส่น�้ำปลา มากกว่า) ๓. ตัง้ กระทะใส่นำ�้ มันเล็กน้อยไม่ใส่มากเหมือนท�ำไข่เจียว เทไข่ผสม ข้าวลงไป จนสุก ตรงขอบกรอบๆ ตรงกลางแฉะๆ สักนิดก็ได้ ใส่จาน


๓๕

Health

Text : สุทธาทิพย์

พระราชด�ำริด้านสุขภาพ

พระเมตตาอันยิ่งใหญ่สู่สุขภาพไทยดีถ้วนหน้า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นห่วงราษฎรที่ยากไร้ หรือราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ที่อาจเข้าถึงการ แพทย์และสาธารณสุขได้ยาก จึงได้มีโครงการพระราชด�ำริ ในด้านการแพทย์และสาธารณสุขเกิดขึ้นมามากมาย เรา จึงอยากพาคุณไปรูจ้ กั โครงการพระราชด�ำริทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขทัง้ หมด ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ทรงริเริ่มเพื่อช่วยเหลือประชาชนของพระองค์กันค่ะ ๑. โครงการแพทย์หลวงเคลื่อนที่พระราชทาน โครงการพระราชด�ำริโครงการนีเ้ กิดขึน้ ใน พ.ศ.๒๕๑๐ เมือ่ ครัง้ เสด็จ พระราชด�ำเนินแปรพระราชฐาน ประทับแรม ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนยารักษาโรค ไปยังท้องถิ่นทุรกันดารใน จังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มี หน่วยแพทย์ของทางราชการเข้าไปถึง เพือ่ ให้การตรวจรักษาราษฎร โดย ไม่คิดมูลค่าใดๆ

๒. โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน โครงการพระราชด�ำริทางด้านการแพทย์โครงการแรก ซึ่งถือก�ำเนิด เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๒ อันเนื่องมาจากที่เสด็จฯ ไป เยี่ยมเยียนที่โครงการชาวเขา และทรงพบว่าราษฎรที่มารอรับเสด็จฯ เจ็บป่วยกันมาก อีกทัง้ ยังมีความยากล�ำบากในการเดินทางไปรักษา ดังนัน้


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ จึงทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ คณะแพทย์ที่ตามเสด็จฯ ท�ำการตรวจรักษาประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วย โดยไม่ตอ้ งเสียค่ารักษาใดๆ พร้อมทัง้ จัดอบรมหมอหมูบ่ า้ นนัน้ ๆ เพือ่ ช่วย ให้ราษฎรมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคภัยต่างๆ และรู้จักวิธีรักษา พยาบาลแผนปัจจุบันอย่างถูกต้อง รวมทั้งยังมีการอบรมให้ราษฎรรู้จัก การติดต่อกับหน่วยงานราชการในกรณีทอี่ าการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วย นั้นๆ มีความรุนแรงเกินขีดจ�ำกัด

๓. หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทานก่อก�ำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เมือ่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชทรงทราบ ว่าทันตแพทย์มีอยู่น้อยและจะมีอยู่ตามโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดเท่านั้น หรือบางจังหวัดก็ไม่มีทันตแพทย์อยู่เลย ดังนั้นพระองค์จึงพระราชทาน ทรัพย์สว่ นพระองค์จดั ซือ้ รถยนต์ พร้อมอุปกรณ์และเครือ่ งมือท�ำฟัน และ มีหัวหน้าทีมทันตแพทย์คอยจัดส่งทันตแพทย์อาสาสมัครออกช่วยเหลือ บ�ำบัดโรคเกี่ยวกับฟัน ตลอดจนสอนการรักษาอนามัยของปากและฟัน แก่เด็ก นักเรียน และประชาชนที่อยู่ในท้องที่ทุรกันดารโดยไม่คิดมูลค่า โดยได้รับความร่วมมือจากทันตแพทย์โรงพยาบาลต่างๆ ในการออก ปฏิบัติการภาคสนาม

๔. โครงการแพทย์พิเศษตามพระราชประสงค์ โดยโครงการแพทย์พิเศษตามพระราชประสงค์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๑๗ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของราษฎรที่นิคมสร้างตนเอง พัฒนาภาคใต้ อ�ำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งในขณะนั้นมีสถานีอนามัย เพียงแห่งเดียว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงสาธารณสุข จัดแพทย์หมุนเวียนเข้าไปบริการตรวจรักษา พร้อมด้วยแพทย์และเจ้า หน้าที่จากโรงพยาบาลนราธิวาส และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ออกไป ปฏิบัติการสัปดาห์ละ ๒ ครั้งเป็นประจ�ำ

๕. โครงการศั ล ยแพทย์ อ าสาราชวิ ท ยาลั ย ศั ล ยแพทย์ แห่งประเทศไทย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ หลังจากที่เปิดโครงการแพทย์พิเศษตาม พระราชประสงค์ ใน พ.ศ.๒๕๑๗ แพทย์ทอี่ าสาสมัครซึง่ เป็นแพทย์อาวุโส และมีประสบการณ์มาก เล็งเห็นความส�ำคัญและความจ�ำเป็นที่จะต้องมี ศัลยแพทย์อาสาไปช่วยปฏิบตั งิ าน ณ โรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดสกลนคร ในช่วงทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ แปรพระราชฐาน ประทับที่พระต�ำหนักภูพานราชนิเวศน์ จึงได้มีการศึกษาหาข้อมูล และ โดยในภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ทรงรับวิทยาลัย ความต้องการของโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ในด้านศัลยกรรม และ ศัลยแพทย์ ไว้ ในพระบรมราชูปถัมภ์และเปลี่ยนชื่อเป็นราชวิทยาลัย รวบรวมจัดท�ำท�ำเนียบศัลยแพทย์อาสา แล้วก่อตัง้ วิทยาลัยศัลยแพทย์ขนึ้ ศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย


๖. โครงการแพทย์ หู คอ จมูก และโรคภูมิแพ้พระราชทาน โครงการพระราชด�ำริโครงการนีจ้ ดั ตัง้ ขึน้ เมือ่ พ.ศ.๒๕๒๒ โดยเริม่ มาจากทรงเห็นว่ามีราษฎรจ�ำนวนมากทีป่ ว่ ยด้วยโรคหู คอ จมูก และโรค ภูมแิ พ้ ซึง่ จ�ำเป็นต้องได้รบั การรักษาจากแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญเฉพาะด้าน จึง โปรดเกล้าฯ ให้จัดหน่วยแพทย์อาสาสมัครในโรคดังกล่าว ผลัดกันออก ไปปฏิบตั หิ น้าทีป่ ระจ�ำโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดทีเ่ สด็จฯ แปรพระราชฐาน โดยอาศัยแพทย์หู คอ จมูก อาสาสมัครจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลประจ�ำจังหวัด นครราชสีมา และโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดนครพนม ผลัดเปลี่ยนกันมา ปฏิบัติราชการชุดละ ๒ สัปดาห์ โดยเริ่มที่จังหวัดนราธิวาสก่อน ต่อมาก็ ขยายการปฏิบัติงานไปยังจังหวัดสกลนคร และที่โรงพยาบาลค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่

๗. โครงการอบรมหมอหมู่บ้านในพระราชประสงค์

ทรงเล็งเห็นว่าปัญหาด้านการแพทย์และสาธารณสุขเกิดจากการที่ ราษฎรไม่ได้รับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง อีกทั้งยังไม่มีสถานพยาบาล อยูใ่ กล้ หรือบ้างก็เกิดจากการอุปโภค-บริโภคทีไ่ ม่ถกู สุขลักษณะ ด้วยเหตุนี้ จึงมีพระราชด�ำริจดั ตัง้ โครงการอบรมหมอหมูบ่ า้ นในพระราชประสงค์ โดย คัดเลือกคนในหมูบ่ า้ นต่างๆ มาเข้ารับการฝึกอบรมด้านการรักษาพยาบาล เบือ้ งต้น การรักษาโรคอย่างง่าย เพือ่ ให้หมอหมูบ่ า้ นเหล่านีส้ ามารถช่วย เหลือประชากรในหมู่บ้านได้อย่างถูกวิธี

๘. โครงการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยคลอด ฉุกเฉิน โครงการพระราชด�ำริ ส�ำหรับต�ำรวจจราจร ได้พระราชทานแนวทางปฏิบัติให้แก่ต�ำรวจเพื่อเป็นแนวคิดไปใช้ ใน การช่ ว ยเหลื อ พี่ น ้ อ งประชาชน และพระราชทานทุ น จากทรั พ ย์ สิ น ส่วนพระองค์ ในการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ รถจักรยานยนต์พร้อม อุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวก และพัฒนาบุคลากรเพื่อด�ำเนินการแก้ ไข ปัญหาจราจรอันจะบรรเทาความเดือดร้อนของพสกนิกรได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพ ได้ผลดียิ่งขึ้น โดยโครงการนี้เริ่ม ด�ำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๖ เรื่อยมา แต่นอกจากปัญหาทีเ่ กิดจากสภาพการจราจรแล้ว ยังพบความเดือดร้อน ของประชาชนซึ่งต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เช่น การน�ำผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ หญิงใกล้คลอดส่งโรงพยาบาล รวมถึงการคลอดฉุกเฉิน ดังนั้น เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจจราจรต้องได้รบั การฝึกอบรมให้เกิดทักษะ ความรู้ ความช�ำนาญ เกีย่ วกับการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นและการท�ำคลอดฉุกเฉิน เพือ่ น�ำไปช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ส�ำหรับการฝึกอบรม จะฝึกปฏิบัติ การช่วยเหลือฉุกเฉินเบือ้ งต้น การช่วยชีวติ พืน้ ฐาน การฝึกและทดสอบปฏิบตั ิ การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค การช่วยเหลือ การคลอดในสถานการณ์ต่างๆ และการดูแลทารกแรกคลอดก่อนน� ำส่ง โรงพยาบาล


๓๘

New journey Text : ชมัยพร แต่งเกลี้ยง

สิ้นแล้ว สิ้นสูญ

อาดูร ทั่วโลกา สายเลือดไทยทั่วผืนฟ้า อ่อนล้าหมดแรง ในเวลาแห่งความเศร้าโศกเสียใจของสายเลือดไทยทุกคน จากการจากไป ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมิ ใช่จะเป็น เพียงแค่คนในประเทศไทยเท่าน้​้น แต่กล่าวได้ว่าทั่วทุกมุมของโลกใบนี้ ต่างก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน คนไทยในต่างแดนต่างก็รวมตัวกันในทุกมุมเมืองเพือ่ ถวายความอาลัย ในการจากไปครั้งนี้ อย่างเช่นที่ Union Square Park มีคนไทยที่อาศัยอยู่ นั่นรวมตัวกันเป็นจ�ำนวนมาก ใช่ฉันเองก็คนหนึ่งที่รักพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ไม่ใช่เพราะฉันยืน เคารพธงชาติรอ้ งเพลงชาติ ไม่ใช่เพราะครัง้ หนึง่ ฉันเคยได้รบั สมุดพระราชทาน และก็ไม่ใช่รักตามที่ใครๆ รักตามๆ กันมา แต่รักเพราะรักจริงๆ และครั้ง หนึง่ ทีฉ่ นั ได้รอ้ งเพลงสรรเสริญพระบารมีในผืนแผ่นดินทีไ่ ม่ใช่ประเทศไทย เป็นการรวมตัวกันของคนไทยเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ในวันคล้ายวันพระราช สมภพของพระองค์ท่าน ฉันแกะสลักดอกกุหลาบจากแครอทหลายดอก เพียงพอ เพื่อจัดลงไปในแจกันทีฉ่ นั บรรจงแกะสลักลายจากฟักทอง ตัง้ ไว้ ประดับตรงทางเข้างาน ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านัน้ ทีเ่ ดินทางมาในครัง้ นี ้ ตา่ งชาติ หลากภาษาก็เดินทางมาร่วมกิจกรรมของเราด้วย ใช่ พระองค์มเิ พียงแต่


จะรูจ้ กั เฉพาะคนไทย วันนัน้ เองทีท่ ำ� ให้ฉนั ยิง่ กว่ามัน่ ใจว่าทุกคนบนโลกใบนี้ รักพระองค์ ฉันโชคดีมากมายนักที่เกิดในรัชกาลนี้ ฉันโชคดีที่ได้รักพระองค์โดย มิได้เป็นการสั่งให้รัก หรือบอกต่อให้รักและภักดี เพราะที่ฉันเห็น มันยัง ไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งที่ พระองค์ทรงท�ำ ฉันภูมใิ จมากทีไ่ ด้บอกใครต่อใครว่าฉัน คือ คนไทย คนไทยในต่างแดน ก็เช่นกันที่รัก สามัคคีกัน ไม่ทิ้งกันและไม่เคยลืมบุญคุณของแผ่นดินเกิด ไม่เคยลืมว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ดูแลและปกป้องผืนแผ่นดินนี้มา อย่างดีขนาดไหน และเชื่อเถอะว่าไม่มีใครที่ไม่พกรูปของพระองค์ติดตัว ตลอดระยะเวลาที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนความห่วงใยของพระองค์ ส่งต่อมาถึงคนไทยในต่างแดนอย่างเช่นตอนทีส่ มเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ เสด็จ มาที่เมืองแวนคูเวอร์ ท่านได้บอกกับคนไทยในแวนคูเวอร์ถึงความห่วงใย ของ พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชทีย่ งั คงทรงห่วงคนไทย ในต่างแดน ป้าคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในเมืองแอริโซน่า ป้าใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนั้นมานาน กว่า ๔๐ปี แต่สิ่งหนึ่งที่ป้าไม่เคยลืม คือ พระองค์ท่าน ในบ้านของป้ามีรูป ของพระองค์ท่านอยู่กลางบ้านเป็นฉากใหญ่สวยงาม ป้าบอกว่า นี่คือพระ ของบ้าน วันนีฉ้ นั โทรกลับไปหาป้าเสียงแรกคือเสียงสะอืน้ และบ่นบอกอยาก กลับมาเมืองไทยแล้ว อยากกลับมาเหลือเกินแต่ดว้ ยอายุทมี่ ากคืออุปสรรค์ ของความฝันของป้า น�ำ้ เสียงป้าหยุดลงแล้วตามด้วยเสียงสะอืน้ อีกนานโข น�ำ้ ตายังไม่หยุดไหล แก้มทั้งสองยังเปียกชื้น สิ่งที่เราต้องท�ำกันต่อคือเดิน ตามรอยทางของพระองค์ นีเ่ ป็นเพียงเสีย้ วหนึง่ จริงๆ เป็นเพียงเสีย้ วหนึง่ ของพลังรักทีล่ กู มอบให้ พ่อของแผ่นดินไทย

ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาที่สุดมิ ได้


๔๐

Let’s Talk Text : วณิพร

2

เรื่องราว จากใจลูก

ผู้น้อมใจเป็น ข้ารองพระบาท


ชั่วชีวิตของใครหลายๆ คน ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แต่ก็สามารถรับรู้ ได้ถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่ พระองค์ทรงพระราชทานให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า แล้วถ้าเป็นบุคคลผู้ ได้เคยเข้ารับเสด็จเล่าจะรู้สึกซาบซึ้งและ ส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสักเพียงใด จากเด็กหญิงธรรมดา สู่ข้าของแผ่นดิน วันที่ 30 กันยายน 2530 แม้จะผ่านไปเกือบ 30 ปีแล้ว แต่ภาพ ความประทับใจ ความรู้สึกและความทรงจ�ำของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ยัง ไม่เคยลืมเลือน แต่กลับยิ่งชัดเจนมากขึ้นๆ ทุกวัน เพราะภาพวันนั้นคือ สิง่ เตือนใจให้ขา้ ราชการอย่างตนได้เป็นข้าราชการโดยแท้จริง และวันนัน้ นัน่ เอง คือ วันทีเ่ ข็มทิศชีวติ เริม่ ท�ำงาน ชีท้ ศิ ทางความเป็นไปอย่างภาคภูมใิ ห้แก่เธอ “พันจ่าอากาศเอกหญิงนันทพร ศรีวังแก้ว” ลูกหลานชาวกองบิน 7 ต่างได้มีโอกาสรอรับการเสด็จของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการเสด็จเยือนจังหวัด สุราษฎร์ธานีเป็นครั้งที่ 15 เพื่อทรงเปิดเขื่อนรัชชประภา โดยเครื่องบิน พระทีน่ งั่ ของกองทัพอากาศ นับเป็นครัง้ สุดท้ายทีล่ กู หลานชาวสุราษฎร์ธานี ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด หนึ่งในการรอ รับเสด็จนั้นก็มีเด็กหญิงผู้มีคุณพ่อรับราชการเป็นทหารอากาศในกอง บังคับการ กองบิน 7 ได้ร่วมรับเสด็จด้วย ครั้นพระองค์ท่านเสด็จกลับ จากเขือ่ นรัชชประภาเสด็จมาทางกลุม่ เด็กๆ ทีน่ งั่ รอรับเสด็จและตรัสถามว่า “ดึกแล้ว ไม่งว่ งนอนกันหรือ” ด้วยความใส่พระราชหฤทัย แม้จะเป็นเพียง ข้อความสั้นๆ แต่เสียงนั้นยิ่งใหญ่และยังคงก้องอยู่ในดวงใจน้อยๆ ของ เด็กหญิงคนนี้ตราบจนวันนี้ แม้ไม่เคยวาดฝันว่าตนเองจะต้องเข้ามารับราชการ แต่การได้รบั เสด็จ ในวันนัน้ กลับท�ำให้ชวี ติ ราชการในวันนีส้ มบูรณ์ถงึ ขัน้ สุด “มารูต้ วั ตนตัวเอง ว่าเราชอบทางด้านนี้ ที่เราได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนเพราะมันเป็น หน้าที่ด้วย ท�ำให้ย้อนมองว่าในหลวงท่านเสด็จในที่ที่ล�ำบากกว่าเรา ท่านยังเสด็จไปได้ ยิง่ เป็นแรงบันดาลใจและปลูกจิตส�ำนึกให้ทหาร อย่าง พี่ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ว่าเราจะต้องท�ำให้ดี เราจะต้องท�ำให้ได้ เพราะพ่อหลวงท่านเหนือ่ ยมาเท่าไหร่แล้ว เราท�ำแค่นเี้ องท�ำไมเราจะท�ำไม่ได้ และยิง่ ตัง้ มัน่ อีกหลังจากทีฝ่ กึ เสร็จแล้วได้ไปสาบานตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล เราเป็นส่วนหนึง่ ของรัฐนะ เป็นทหารของกษัตริยน์ ะ เป็นทหารของพระราชา เราต้องท�ำให้ดี อะไรช่วยเหลือประชาชนและสังคมได้กต็ อ้ งท�ำ หลังจากนัน้ การท�ำงานของพี่ที่ได้ออกไปพบปะผู้คน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็เป็น การท�ำงานที่มีความสุขทุกครั้ง ท�ำให้เรานึกถึงพระองค์ที่เราได้เป็น เศษเสี้ยวหนึ่งที่จะช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ได้” ค�ำกล่าวจากข้าของ แผ่นดินผู้นี้ ณ วันนี้ที่พ่อหลวงไม่อยู่กับเราแล้วความรู้สึกของหนึ่งในผู้เคยได้ รับเสด็จนั้นรู้สึกว่า “เมื่อก่อนที่เราได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี เรายัง

ไม่คอ่ ยรูส้ กึ ลึกซึง้ สักเท่าไหร่ แต่ตอนนีท้ กุ ครัง้ ทีเ่ ราร้องหรือทุกครัง้ ทีไ่ ด้ยนิ เพลงนีท้ ำ� ให้รสู้ กึ ตืน้ ตันเหมือนจะร้อง เราเริม่ เข้าใจบทเพลงนีม้ ากขึน้ รูส้ กึ ว่าพระองค์ทา่ นยิง่ ใหญ่มากส�ำหรับประชาชนทัว่ ประเทศ เราบอกได้เลยนะ ว่าครั้งหนึ่งที่เกิดมาภูมิใจได้เลยว่าไม่มีกษัตริย์องค์ไหนในโลกเทียบเท่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ จะเห็นได้เลยว่าท�ำไมต่างชาติถงึ ได้ยกย่องพระองค์ ท่านได้มากขนาดนี้ เราก็ได้ย้อนกลับมาคิดว่า เราต้องท�ำตัวให้ดี ไม่ท�ำให้ คนอื่นเดือดร้อน และได้เล่าต่อสู่ลูกหลานว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ให้อะไร กับเราไว้บ้าง” “สิ่งที่เราจะสานต่อปณิธานจากพระองค์ท่านได้ คือ เราต้องท�ำหน้าที่ ของเราให้ดีที่สุด ในกิจการพลเรือนที่รับผิดชอบคือการออกไปช่วยเหลือ ประชาชนไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติใดๆ ก็ตาม และในส่วนที่นอกเหนือจาก หน้าที่การงาน เราก็ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้เท่าที่จำ� เป็น ไม่สร้างความ เดือดร้อน และได้ถ่ายทอดให้หลาน รู้จักการเป็นอยู่แบบพอเพียง รู้จัก การท�ำบัญชีครัวเรือนที่เราก็ท�ำอยู่ ค่อยๆ ให้หลานได้ซึมซับได้ไปเรื่อยๆ โดยอัตโนมัต”ิ และนีค่ อื แนวทางทีพ่ นั จ่าอากาศเอกหญิงนันทพร ศรีวงั แก้ว ได้รับจากพระองค์ท่าน ขอบคุณ พันจ่าอากาศเอกหญิงนันทพร ศรีวังแก้ว เจ้าหน้าที่กิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ แผนกกิจการพลเรือน กองบังคับการ กองบิน 7


จากผู้รับ สู่ผู้ ให้ ส่งต่อเรื่องราวไม่มีที่สิ้นสุด

ในวันทีย่ งั เด็ก ยังเล็กนักทีจ่ ะเดินในเส้นทางของตัวเอง สังคมครอบครัว จึงมีอทิ ธิพลในการหล่อหลอมความเป็นตัวตนของเด็กน้อยทีก่ ำ� ลังเติบโต ในวัยเด็กคงท�ำได้เพียงแค่ทำ� ตามทีแ่ ม่บอก ท�ำอย่างทีพ่ อ่ สอน และเดินตาม พ่อแม่ที่เป็นต้นแบบ “คุณทศพล งานไพโรจน์” ในวันนั้นก็เป็นเพียง เด็กน้อยคนหนึ่งที่ตามพ่อซึ่งเป็นนักสื่อสารมวลชนเข้ารอรับเสด็จ และ ท่องกลอนเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตามที่ค�ำแม่บอก 11 กันยายน 2518 ครั้งแรกที่คุณทศพลมีโอกาสได้เข้ารับเสด็จ ทัง้ สองพระองค์เมือ่ ครัง้ ทีพ่ ระองค์เสด็จฯ เพือ่ เยีย่ มต�ำรวจตระเวนชายแดน และลูกเสือชาวบ้านทีไ่ ด้รบั บาดเจ็บจากการปะทะกับกลุม่ คอมมิวนิสต์ ซึง่ ครั้งนั้นมีอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น แต่สามารถท่องจ�ำบทกลอนซึ่งสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงนิพนธ์ถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในวาระวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2515 ครั้นเมื่อทั้ง 2 พระองค์เสด็จถึง ด.ช.ทศพล ก็ได้ กระโดดไปกราบเบือ้ งพระบาท อันถือว่าเป็นมงคลในชีวติ อย่างสูง แต่ดว้ ย ความตื่นเต้นและยังเป็นเด็กมากจึงลืมที่จะท่องบทกลอนที่เตรียมมา ล่วงไปไม่ถงึ 1 ปี ทัง้ สองพระองค์ได้เสด็จฯ มายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกครั้ง โดยวันที่ 17 พฤษภาคม 2519 เสด็จฯ ยังวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ�ำเภอดอนสัก เป็นโอกาสดีอกี ครัง้ ที่ ด.ช.ทศพล จะได้รอรับเสด็จอีกครัง้ และครั้งนี้เมื่อทั้งพระองค์ 2 พระองค์เสด็จฯ ถึงก็ไม่พลาดที่จะกระโดด ข้ามเชือกทีก่ นั้ ไว้เพือ่ ไปกราบเบือ้ งพระบาททัง้ สองพระองค์อกี ครัง้ พร้อม กับไม่ลมื ทีจ่ ะท่องบทกลอนทีเ่ ตรียมไว้ตงั้ แต่ปที แี่ ล้วถวายพระองค์ “ยังจ�ำได้ ตอนนั้น 7 ขวบ ในหลวงท่านเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรมาอย่างช้าๆ ผมเองก็


กระโดดข้ามที่กั้นเชือกออกมา ก็มีองครักษ์จะจับ แต่ในหลวงท่านก็โบก พระหัตถ์ แล้วตรัสว่า “ไม่ต้องๆ” แล้วผมก็ลงไปกราบพระบาทท่านและ พระราชินี ก่อนจะลุกขึ้นยืนท่องบทกลอน อาจจะเพราะผมตัวเล็ก พระราชินีจึงทรงโน้มพระองค์ลงมากอดแล้วฟังบทกลอน ในหลวงท่าน ก็ทรงรับฟังอยูจ่ บจน และทรงมีรบั สัง่ ว่า “กลอนนีย้ าวนะ เก่งจัง พูดก็ชดั ” คุณทศพลได้ถ่ายทอดความทรงจ�ำที่เป็นมากกว่าความประทับใจ � พอโตมาเราถึงได้รู้สึก “ตอนนั้นเรายังเด็ก ก็ทำ� ตามที่แม่บอกให้ทำ ว่าดีใจและภูมใิ จทีม่ โี อกาสได้ ใกล้ชดิ ได้กราบพระบาทพระองค์ทา่ น ท�ำให้ ทุกวันนี้ผมได้ทำ� เรื่องเกี่ยวกับในหลวง สืบค้นเรื่องในหลวงเสด็จฯ เยือน จังหวัดสุราษฎร์ธานีกี่ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งเป็นเรื่องของการทรงงานทั้งสิ้น เป็นทัง้ เรือ่ งความประทับใจและเป็นเรือ่ งทีเ่ ราจะต้องท�ำอะไรให้เกิดขึน้ กับ บ้านเมืองตามที่พระองค์ท่านได้สอนไว้” “ส่วนแรงบันดาลใจจากพระองค์ทา่ น คือ การทรงงานทีพ่ ระองค์ทา่ น เป็นที่สุดของประเทศ แต่พระองค์ท่านยังปฏิบัติอย่างคนธรรมดา ตอนที่ ผมเป็นนายกเทศมนตรีผมก็ไม่ได้ยึดว่าเรามีต� ำแหน่งแล้วต้องได้รับ ความพิเศษ เราเป็นเศษเสี้ยวของพระองค์ท่านเราจะมามองคนว่าคนละ ระดับชัน้ ได้อย่างไร พระเจ้าแผ่นดินท่านยังไม่เคยท�ำแบบนัน้ พระองค์ทา่ น เหนือ่ ยกว่าเรา ท�ำงานมากกว่าเราอีก ท�ำให้ผมไม่ทอ้ เวลาทีเ่ จอปัญหาหรือ คนที่ไม่เข้าใจ พระองค์ได้เป็นแรงบันดาลใจในเรื่องความอดทนอีกด้วย” บางคนไม่ได้คิดเรื่องอย่างนี้ ในหลวงบอกว่าในหลวงท�ำราชการและคนที่ เป็นข้าราชการก็เป็นข้าของพระเจ้าแผ่นดิน การท�ำสัญลักษณ์เป็นเพียง “ในหลวงท�ำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่ผมเป็นภาพของ องค์ประกอบ แต่การปฏิบตั จิ ริงตามค�ำสอนนีค่ อื เรือ่ งจริง” นีค่ อื ความรูส้ กึ นักการเมืองซึง่ สังคมไม่รสู้ กึ ไว้วางใจเราอยูแ่ ล้ว เราก็ตอ้ งเข้าใจก่อนว่าเรา และการยึดหลักตามพระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร ท�ำงานเพือ่ อะไรก่อน พระองค์ทา่ นทรงมีความอดทนอดกลัน้ มาก เราเป็น มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่คุณทศพล งานไพโรจน์ ได้มีตลอดมา เพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ เมื่อเจอปัญหากระทบกระทั่งซึ่งไม่ควรเอามาคิดให้ เป็นการท้อถอยในการท�ำงาน เวลาเหนื่อยๆ ก็ดูรูปในหลวงขณะทรงงาน แล้วมีหยดพระเสโททีป่ ลายพระนาสิกท่าน ซึง่ เป็นรูปทีส่ วยงามมาก ท�ำให้ คิดว่ากษัตริย์จะอยู่ตรงไหนก็ได้ แต่พระองค์ยังทรงงาน” “เวลาผมไปไหน หรือท�ำอะไรในองค์กรต่างๆ ผมจะพูดอยู่ 2 เรื่อง จากการน้อมน�ำพระราชด�ำรัสของพระองค์ท่าน คือ การให้สังคมก้าวหน้า และยุตธิ รรมได้ จะใช้หลักนิตศิ าสตร์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ ประกอบด้วย และอีกอย่างคือ ถ้าเราเอาชนะกัน เราก็มีแต่ความพ่ายแพ้ การแพ้จะได้ประโยชน์อะไรจากการชนะบนซากปรักหักพัง ซึง่ ก็คอื ในหลวง สอนเรื่องความสามัคคี จนผมพูดหลายๆ ครั้งว่าเหตุการณ์บ้านเมืองที่มี การแบ่งฝ่ายกันแล้วอ้างพระเจ้าแผ่นดิน ผมว่ามันไม่ใช่และผมไม่ชอบที่ ใครจะเอาในหลวงมาเป็นข้ออ้างทางการเมือง ถ้าเรารักในหลวงจริงต้อง ท�ำให้สังคมสงบสุข” “ผมเชื่อว่าในหลวงท่านยังอยู่ ในเรื่องของจิตวิญญาณ ค�ำสอนของ ขอบคุณ คุณทศพล งานไพโรจน์ ในหลวง การทรงงานทีเ่ ป็นตัวอย่างของในหลวง ผมอยากให้เป็นตัวอย่าง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม, คณะกรรมการการศึกษาจังหวัด ของข้าราชการ ข้าของแผ่นดินทั้งหมด คนที่รับราชการต้องคิดเรื่องนี้ให้ สุราษฎร์ธานี, คณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี, มากคิดให้มากขึ้น เพราะประชาชนคิดเรื่องอย่างนี้มาก แต่ข้าราชการ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี


๔๔

Art of Culture

Text : สุวิมล เวชวิโรจน์ Photo : http://www.matichon.co.th/news/346584 ข้อมูล : วันวนัทธ์ วรภู

ชาวราชภัฏสุราษฎร์ฯ ลงพู่กันวาดรูปเพื่อ

พ่อหลวง

หลายคนคงได้ฟังเพลงรูปที่มีทุกบ้าน ของ GMM จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กันไปแล้ว หรือแม้แต่หันไปดูรอบบ้านก็จดจ�ำได้เป็นอย่างดีและ พบเห็นรูปในหลวงหรือพ่อหลวงจนชินตา จากพระราชกรณียกิจที่คลายความทุกข์ร้อน โดยไม่ค�ำนึงถึงความยากล�ำบาก ชนชาติ ฐานะร�ำ่ รวยหรือว่ายากจนไม่ว่าระยะทางจะใกล้หรือไกล จึงไม่ ใช่เรื่องแปลกที่ทุกบ้านจะมีรูปของพระองค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เป็นบ้านอีกหลังที่เป็นแหล่งรวมคนของพระราชา ที่มีทั้งนักศึกษา อาจารย์ ศิลปิน และชาวเมืองคนดีร่วมใจกันวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวงติดไว้ที่ก�ำแพงหน้ามหาวิทยาลัย


น้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดี เริม่ วาดภาพตัง้ แต่วนั ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ ใช้เวลากว่า ๗ วัน ส�ำหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ที่ วาดจะเป็นภาพพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และภาพทีแ่ สดงความเป็น อัครศิลปินของพระองค์ทา่ นซึง่ ล้วนแล้วแต่สร้างประโยชน์ตอ่ พสกนิกรชาวไทย โดยใช้เทคนิคสีน�้ำพลาสติกบนแผ่นไม้กระดานอัด เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ภาพดังกล่าวจะมีขนาดความยาว ๗๐ เมตร สูง ๒.๔๐ เมตร ตามการ ครองราชย์ครบ ๗๐ พรรษา ซึง่ เป็นการรวมพลังของเหล่าบรรดาอาจารย์ นักศึกษาจากสาขาวิชาจิตรกรรม คณะมนุษยศาสตร์ และพสกนิกร ชาวสุราษฎร์ธานี เพือ่ น้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้พระราชทานนาม “ราชภัฏ” หมายความว่า “เป็นคนของพระราชา” ให้เป็นชื่อประจ�ำสถาบันทั้งยัง พระราชทานพระราชลัญจกรเป็นตราประจ�ำมหาวิทยาลัย ชาวราชภัฏจึงต้องถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ ใกล้ชิด เบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และ สุดจิตสุดใจ นั่นก็ด้วยเพราะว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของ พวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงาน เพือ่ บ้านเมืองและแผ่นดิน อย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุด ทรงงานเพื่อพสกนิกรของพระองค์ ตราสัญลักษณ์ประจ�ำมหาวิทยาลัย ราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจ�ำว่าพวกเราชาวราชภัฏ คือ “คน ของพระราชา ข้าของแผ่นดิน” ผศ.สมทรง นุ่มนวล คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ประชาชนกว่า ๕๐๐ คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณก�ำแพงดังกล่าว เพื่อท�ำกิจกรรมวาดภาพ พ่อประกอบบรรเลงเพลง โดยนายชัยวัฒน์ วรรณานนท์ จิตรกรเจ้าของ รางวัลพระราชทานพระสิทธิธาดาทองค�ำเป็นผูว้ าดและเพลงบรรเลงประกอบ คือ เพลง “พระราชาของแผ่นดิน” โดยนักศึกษาสาขาดนตรีสากล คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. นอกจากนี้ ยังมีการอ่านอาศิรวาท โดยดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ อาจารย์สาขาภาษาไทยธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปวารณาตนว่าจะแต่งกลอนถวายในหลวง จ�ำนวน ๙๙ บท ในเวลา ๙๙ วัน ก่อนทีท่ กุ คนจะร่วมกันจุดเทียนและร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมีร่วมกัน ผศ.ธี ร ศั ก ดิ์ ทองนุ ้ ย พราหมณ์ อาจารย์ ส าขาจิ ต รกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (มรส.) กล่าวว่า นักศึกษาสาขา จิตรกรรมรวมตัวกันมาคุยกับอาจารย์ ในสาขาถึงแนวคิดการวาดภาพ พระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวง โดยแบ่งพระอัจฉริยภาพ เป็น ๔ ด้าน คือ พระอัจฉริยภาพ การเกษตร การปกครอง และชีวิตส่วนพระองค์ เพื่อ แสดงความอาลัยและจงรักภักดีต่อองค์พ่อหลวง นางสาวพิมพ์ผกา อินทร์คง นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ สาขาจิตรกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (มรส.) หนึง่ ในผูว้ าดพระบรมสาทิสลักษณ์ กล่าวว่า ตนและเพือ่ นบางคนวาดรูปไปร้องไห้ไปด้วยความอาลัยและส�ำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดซึ้ง เดิมทีมีก�ำหนดจะวาดให้เสร็จภายใน ๓ วัน แต่เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ท�ำให้การวาด ต้องหยุดชะงักลง พวกตนทุ่มเทและตั้งใจจริงมาก หยุดวาดหลังเที่ยงคืน

ทุกคืน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเหนื่อยหรือถอดใจ เพราะรู้ว่าพระองค์ทรงงาน หนักกว่านี้มากนัก นายประยงค์ พูลสมบัติ อายุ ๖๔ ปี ชาวบ้านในต�ำบลขุนทะเล อ�ำเภอ เมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านอีกหลายคนได้ เดินทางมาชมก�ำแพงพระบรมสาทิสลักษณ์และถ่ายภาพเป็นทีร่ ะลึก พร้อม ร่วมพิธถี วายความอาลัย เมือ่ เห็นภาพต่างๆ ตนถึงกับน�ำ้ ตาไหลอย่างกลัน้ เอาไว้ไม่อยู่ ขอชืน่ ชมนักศึกษาและมหาวิทยาลัย รวมทัง้ ขอเชิญทุกคนมา ร่วมชมก�ำแพงดังกล่าว

และท้ายทีส่ ดุ นีก้ ารสือ่ ถึงความจงรักภักดีผา่ นภาพวาดของบรรดา

ชาวราชภัฏ เป็นอีกหนึง่ ภาพสะท้อนส�ำนึกในใจอยูเ่ สมอว่าเรามีหน้าทีอ่ ทุ ศิ ตน ท�ำงานทุกอย่างเพือ่ เป็นบทพิสจู น์ความจงรักภักดีและเทิดทูนใต้ฝา่ ละออง ธุลพี ระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุกพระองค์อย่างหาทีส่ ดุ มิ ได้ และ ตราบกระทั่งชีวิตจะหาไม่


๔๖

Psychology for life Text : นพ.ทฏะวัฏร์ พิลึกภควัต จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

เปลี่ยนความโทมนัสให้เป็น...

พลัง


ความเศร้าจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นทีร่ กั เป็นความทุกข์ทรมานทีส่ ดุ อย่างหนึง่ ของมนุษย์ แต่จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายแง่มุมที่เราต้องท�ำความเข้าใจ คือ

ปฏิกริ ยิ าทางอารมณ์ทเี่ กิดขึน้ หลังการสูญเสีย ไม่วา่ จะเป็นความเศร้าโศก ความโกรธ ปฏิเสธว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น ต่อรองขอปาฏิหาริย์ เป็นภาวะปกติ ที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน ที่เราจ�ำเป็นต้องให้เวลากับความรู้สึกดังกล่าว ให้เป็นไปตามธรรมชาติ และยอมรับได้ว่าเรารู้สึกอย่างไรโดยไม่ต้องไป ปฏิเสธมัน เมือ่ เวลาผ่านไป เราจะสามารถยอมรับกับการสูญเสียนัน้ ได้อย่าง แท้จริง การที่เรารู้สึกเศร้าทุกข์ทรมาน เพราะเรามักมุ่งเน้นกับ “การสูญเสีย ชีวิต” ว่าเราจะ “สูญเสียการเชื่อมโยง” กับบุคคลที่เรารัก แต่ถ้าเราลองคิด ดีๆ บุคคลที่เรารักเสียชีวิตก็จริง แต่ไม่ได้สูญเสียการเชื่อมโยง เพราะสิ่งนี้ คือ ความรู้สึกในใจที่มันไม่ได้สูญหายตามกาลเวลา ไม่มีใครบังคับให้เรา เลิกคิดถึง ระลึกถึงได้ แค่เราเปลีย่ นช่องทางการติดต่อใหม่ จากการมองเห็น ด้วยตา ได้ยินที่หู เป็นการใช้ ใจสัมผัสแทน การเปลี่ยนมุมมองตัวเอง จากการมองจากตัวเรา เป็นมุมมองจากคน ที่จากไปว่า เขาน่าจะคิดหรือรู้สึกอย่างไร น่าจะท�ำให้เราได้รู้สึกอะไรใหม่ว่า แท้จริงแล้วคนที่จากไป คงอยากเห็นคนที่เขารักอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง มีความสุขกับชีวิตหลังจากนั้น ดังนั้นการด�ำรงชีวิตต่อด้วยสติ มีพลังในการขับเคลื่อนชีวิต กลับไปใช้

ชีวิตได้ตามเดิม การหมั่นสร้างคุณงามความดี น่าจะเป็นการตอบแทนที่มี คุณค่ากับคนที่จากไปได้ดีที่สุด

เพราะพ่อ...อยากเห็นลูกทุกคน มีความสุข

ขอบคุณภาพ : https://www.facebook.com/BBCThai/photos/ http://www.posttoday.com/world/news/๔๖๐๔๒๘


๔๘

Easy Exercise Text : ครูนาง (โยคะสุราษฎร์)

ในหลวง

กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และการสานต่อความดี ไม่มีที่สิ้นสุด

ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของประชาชนชาวไทย ทั้งประเทศ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของพสกนิกรชาวไทยเสด็จสวรรคต ถือเป็นการ สู ญ เสี ย ครั้ ง ยิ่ ง ใหญ่ ข องประชาชนชาวไทย ตลอดการครองราชย์กว่า ๗๐ ปี พระองค์ ทรงเสี ย สละทรงงานตลอด รวมทั้ ง เสด็ จ พระราชด�ำเนินไปยังทั่วทุกถิ่น ไม่เว้นแม้แต่ที่ ทุ ร กั น ดาร เพื่ อ จะช่ ว ยเหลื อ ประชาชนที่ เดือดร้อน พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ ประชาชนมีคณ ุ ภาพชีวติ และความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ พระองค์ทรงมีพระราชด�ำริโครงการพัฒนา ต่างๆ มากมาย เพือ่ ประชาชนขาวไทย ส�ำหรับ โครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ ทีจ่ งั หวัด สุราษฎร์ธานีนนั้ มีหลายโครงการ เช่น โครงการ พระราชด� ำริฝายคลองสะพานนาค ต� ำบล คลองศก อ�ำเภอพนม เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ การเกษตรกรรม ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ และ การอุปโภค-บริโภค ของราษฎรบริเวณใกล้เคียง จ�ำนวน ๘๗ ครัวเรือน, โครงการศูนย์ศลิ ปาชีพ บ้านเชี่ยวหลาน ที่ตั้งโครงการ ต�ำบลเขาพัง อ�ำเภอบ้านตาขุน เพือ่ เป็นการส่งเสริมฝึกอาชีพ การทอผ้ า ให้ กั บ ราษฎรในพื้ น ที่ โ ครงการ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง ที่ตั้งโครงการ ต�ำบลตะกุกเหนือ อ�ำเภอวิภาวดี เพื่อเป็นการ ส่งเสริมการฝึกอาชีพการทอผ้าให้กับราษฎร ในพื้นที่ เป็นต้น


ส�ำหรับการเสด็จพระราชด�ำเนินมาเยี่ยม พสกนิกร ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น พระองค์ได้ เสด็จพระราชด�ำเนินมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลายครัง้ ดังเช่นครัง้ เมือ่ วันที ่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๑๑ ได้เสด็จพระราชด�ำเนินมายังอ�ำเภอ พระแสง และได้ รั บ ฟั ง ปั ญ หาต่ า งๆ และ ทอดพระเนตรเห็นความทุรกันดารล�ำบากต่อ การเดินทางของชาวบ้านอ�ำเภอพระแสง หลัง จากนั้นผ่านไป ๓ เดือน ในวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๑๑ พระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ ได้เสด็จพระราชด�ำเนินมายัง อ� ำ เภอพระแสงอี ก ครั้ ง พร้ อ มทั้ ง ทรงให้ เฮลิคอปเตอร์ ๒ ใบพัดขนล�ำเลียงชิ้นส่วนรถ แทรกเตอร์ถึง ๔ เที่ยว เพื่อน�ำมาประกอบและ ใช้เป็นเครือ่ งมือก่อสร้างถนน เนือ่ งจากในสมัยนัน้ อ�ำเภอพระแสงไม่มถี นนทีจ่ ะสามารถเดินทางเข้าถึง และน�ำรถแทรกเตอร์เข้าไปได้ การคมนาคม ต้องอาศัยทางน�ำ้ เท่านัน้ แต่หลังจากนัน้ เป็นต้นมา เมือ่ มีถนนเข้าถึงได้ อ�ำเภอพระแสงจึงมีการพัฒนา และกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจด้านการเกษตรอีก เมืองหนึ่งของสุราษฎร์ธานี และครั้งเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพ รั ตนราชสุ ดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จ พระราชด�ำเนิน เปิดเขื่อนเชี่ยวหลาน อ�ำเภอ บ้ า นตาขุ น และพระราชทานนามให้ ใ หม่ ว ่ า “ เขือ่ นรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่าง แห่งรัชกาล” ในโอกาสนี้ ครูนางอยากจะขอเชิญเพือ่ นๆ สานต่อการท�ำความดีของพระองค์ทา่ น เพือ่ เป็น จิตอาสา และเพื่อการให้ ไม่มีที่สิ้นสุด โดยท�ำ กิจการในสิง่ ทีเ่ ราสามารถท�ำได้ โดยไม่เดือดร้อน ส�ำหรับครูนางแล้วครูนางเป็นจิตอาสาสอนโยคะ ฟรีตามวัด โรงเรียน หมู่บ้าน และหน่วยงาน ราชการ และตั้งใจว่าจะแบ่งเวลาจากการสอน โยคะที่โรงเรียน ไปสอนโยคะตามสถานที่ต่างๆ ตลอดไปเท่ า ที่ ยั ง มี แ รงและลมหายใจเพื่ อ ส่งเสริมสุขภาพให้ผู้ที่สนใจ มีสุขภาพที่ดี

กิจกรรมดังกล่าวนี้ครูนางได้ท�ำมาอย่าง ต่อเนื่องหลายปีมาแล้ว และจะท�ำต่อๆ ไปตาม โอกาสอันควร แล้วเจอกันนะคะ...ร่วมท�ำดี ถวายพ่อหลวง


๕๐

Taste&Out Text : วณิพร Photo : Phulimphotography

Day&Night (Restaurant) ใครไม่ ไปจัดว่าพลาด!!!

ไม่ ได้เป็นเพียงกระแสของร้านเปิดใหม่ทมี่ าวูบเดียวแล้วหายไป เพราะร้านอาหาร ร้านใหม่ ในนาม Day&Night Restaurant ได้การันตีด้วยการบอกต่อของ ลูกค้าแบบปากต่อปากทำ�ให้กระแสยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง จนหลายๆ คน ยกให้ที่นี่เป็น No.๑ Day&Night Restaurant ร้านอาหารสไตล์อินดัสเทรียลที่เติมกลิ่นไอ ความคลาสสิคแบบอังกฤษให้คณ ุ ได้เพิม่ อรรถรสในมือ้ อาหารได้อย่างไม่ซำ�้ ใคร กับโครงสร้างร้านดิบๆ ผนังอิฐโชว์ ผนังไม้โชว์ลาย หรือแม้แต่การโชว์ลายไม้ แบบบนปูน ทีน่ กี่ ท็ ำ� ได้อย่างมีสไตล์ แม้รา้ นจะรองรับลูกค้ามากมายหลายโต๊ะ แต่กลับให้ความรูส้ กึ อบอุน่ มากกว่าอึดอัด เพราะความโปร่งของผนังบางด้าน ทีท่ ำ� ด้วยกระจกใส ยังมีโซน Out Door ส�ำหรับลูกค้าทีต่ อ้ งการรับลมธรรมชาติ อีกด้วย แม้รปู แบบร้านจะแลดูดบิ ตามสไตล์อนิ ดัสเทรียล แต่กม็ กี ารสอดแทรก ความหรูหราแบบเมืองผูด้ โี บราณได้ ให้เสพกัน ทีน่ ใี่ ส่ใจในทุกรายละเอียดของ การตกแต่ง นอกจากคุณจะได้อร่อยกับอาหารเลิศรสแล้วยังได้อิ่มเอมกับ รายละเอียดการดีไซน์ของร้านอีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ตัวร้านที่ดูดีมีดีไซน์ แต่ในทุกเมนูของร้านนี้ได้ ใส่ดีไซน์ ลงไปพร้อมกับความอร่อยถูกปาก ทัง้ เมนู ขาหมูเยอรมัน ทีก่ รอบนอกนุม่ ใน ไร้น�้ำมันตามแบบต้นต�ำรับ, พล่าไก่กรอบ เมนูอร่อยแบบเฉพาะของที่นี่ บอก ได้คำ� เดียวว่าต้องลอง, พิซซ่าสะเต๊ะ หนึ่งในอาหารฟิวชั่นที่ทำ� ได้ดีทั้งหน้าตา และรสชาติ ความเข้ากันของเนือ้ แป้งและรสชาติเครือ่ งเทศทีเ่ ข้ากันอย่างพอเหมาะ


พอดีทำ� ให้เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่แนะน�ำ ตามมาด้วย เฟตตูชินี่คาโบนาร่าไข่ ออนเซ็น ที่เอาใจคนรักคาโบนาร่าแบบจัดเต็ม ที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหาร ยุโรป ตลอดจนอาหารฟิวชั่น และไม่ได้มีเพียงของคาวเท่านั้นที่เลื่องชื่อ ลือนาม เพราะของหวานทีน่ กี่ ไ็ ม่นอ้ ยหน้า รอเสิรฟ์ แบบจัดเต็มทัง้ ทีรามิส,ุ พานาค็อตต้า, โทสต์ และอีกหลากหลายเมนูส�ำหรับคนที่ต้องการเติม ความหวานให้ชีวิต ไม่ได้เด็ดแค่อาหารคาวหวาน เครื่องดื่มที่นี่ก็หลากหลายไม่แพ้กัน ทั้งกาแฟสด, ค็อกเทล, ม็อคเทล, เบียร์แบรนด์ดังน�ำเข้ากว่า ๕๐ ชนิด ไวน์รสเลิศที่กลมกล่อมได้ที่รอให้คุณมาละเลียดความสุนทรีย์นี้ บรรยากาศและการตกแต่งของร้าน เมนูอาหารหน้าตาน่ากินที่มีให้ เลือกอร่อยนับร้อยเมนู การบริการทีด่ แู ลเอาใจใส่อย่างเป็นกันเอง อาจท�ำให้ คุณมโนราคาไปไกลว่าคงสูงลิบลิว่ ขอบอกว่าหยุดความคิดไว้ตรงนัน้ ก่อน เพราะราคาอาหารทีน่ ไี่ ม่แพงอย่างทีค่ ดิ เครือ่ งดืม่ ทีน่ เี่ ริม่ ต้นเพียง ๖๐ บาท ส่วนอาหารราคาเริ่มต้นเพียง ๘๐ บาทเท่านั้น ได้ทั้งเสพอาหารรสเลิศ เสพบรรยากาศดีๆ ดนตรีเพราะๆ โดยเฉพาะดนตรีสดในช่วง ๒ ทุ่มครึ่ง ที่อยู่เป็นเพื่อนคุณยาวไปจนเกือบจะเที่ยงคืน เท่านี้ก็คุ้มเกินกว่าคุ้มแล้ว ถ้าใครมาลิม้ ความอร่อยกับอาหารหน้าตาดีฝมี อื เชฟระดับพรีเมียม ในบรรยากาศทีม่ สี ไตล์แบบนีแ้ ล้วเกิดติดใจอยากจะบอกต่อ อยากจะส่งต่อ ความรูส้ กึ ดีๆ แบบเดียวกัน ทีน่ กี่ ร็ บั จัดงานเลีย้ งงานสังสรรค์ ให้คณ ุ ได้กบั พื้นที่ความสุขที่รองรับการแบ่งปันได้ถึง ๒๐๐ ท่าน

เช้าๆ อยากจะมาจิบกาแฟสด, สายๆ มีนัดคุยงาน, เที่ยงๆ จัดหนัก สักมื้อ, บ่ายๆ อยากรีแลกซ์, เย็นๆ อยากรวมกลุ่มมีทติ้ง, ค�่ำๆ อยาก รวมกันปาร์ตี้ มูดไหน อารมณ์ ไหน เวลาไหน กับใคร ก็มาที่นี่ ได้ เพราะ ที่นี่คือ Day&Night Restaurant

Day&Night Restaurant

ตั้งอยู่ที่ : ตั้งอยู่ ๘๓/๒๕ ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๐๐๐ (ด้านหน้าโรงแรมนิภาการ์เด้น) เปิดทุกวันตั้งแต่ ๐๗.๐๐-๒๔.๐๐ น. โทรศัพท์ : ๐๘-๑๙๖๘ ๕๕๓๒ Facebook : www.facebook.com/DayandNightRestaurant


๕๒

Horoscope

ประจำ�เดือนพฤศจิกายน

By... Green Tarot ÃÒÈÕÁѧ¡Ã

(๑๕ Á¡ÃÒ¤Á – ๑๔ ¡ØÁÀҾѹ¸ì)

การงาน ต้องต่อสู้กับการแข่งขันอันดุเดือด จะพบกับปัญหาต่างๆ นานาเข้ามาให้ แก้ไข ผลที่ได้นั้นก็คุ้มค่าความเหนื่อยยาก มีการเลื่อนขั้นเลื่อนต�ำแหน่งหรือมีการเปลี่ยน งานใหม่กระทันหัน การเงิน ควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ถึงจะมีเงินเข้ามาอย่างสม�่ำเสมอ ก็ไม่ควรฟุม่ เฟือย สุขภาพ ระวังโรคเครียดส่งผลให้รา่ งกายอ่อนแอ ควรหมัน่ ตรวจรักษา สุขภาพให้มากหน่อย ในช่วงนี้อาจจะต้องเข้ารับการรักษากระทันหัน ความรัก คนโสด ระวังเกิดรักสามเส้า คนที่เข้ามาพัวพันอาจจะมีเจ้าของอยู่แล้ว คนมีครอบครัวเกิดการ ทะเลาะกัน ควรปรับความเข้าใจกันดีกว่าจะหาว่าใครถูกหรือใครผิด

ÃÒÈÕ¡ÁÀ Ø ì

(๑๕ ¡ØÁÀҾѹ¸ì – ๑๔ ÁÕ¹Ò¤Á)

การงาน ควรมีความรอบคอบและต้องตรวจสอบหาข้อบกพร่องในงานของตนเอง ให้ดี เพื่อลดปัญหาข้อผิดพลาด ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มลงทุนอะไรใหม่ๆ การเงิน จะมีเงินเข้ามาก้อนโตแบบหลายก้อนติดต่อกัน พ้นช่วงการเงินล้มเหลวไปได้อย่างราบรื่น จะมีโชคในการเสี่ยงดวง สุขภาพ ร่างกายแข็งแรงไม่มีอันตรายใดๆ เข้ามาในช่วงนี้ แต่ ก็ไม่ควรประมาท ท�ำการใดควรมีสติเสมอ ความรัก คนโสดจะมีคู่ที่เป็นอริค�ำพูดเข้ามา พูดจากวนประสาท อคติแรกเจอ คนมีครอบครัวมีความสุขดี ถึงจะทะเลาะกันบ้าง ตามประสาลิ้นกับฟัน

ÃÒÈÕÁÕ¹

(๑๕ ÁÕ¹Ò¤Á – ๑๔ àÁÉÒ¹)

การงาน ประสบความส�ำเร็จในทุกอย่าง จะได้รบั ข่าวดีทรี่ อคอย เปลีย่ นงาน สถานที่ ผลทีไ่ ด้จากการเปลีย่ นแปลงจะน�ำความสุขความก้าวหน้า ก�ำไรงอกเงย การเงิน มีโชคลาภ เข้ามาหลายทาง ชีวติ ปรับไปในทางทีด่ ขี นึ้ ของหายมีโอกาสได้คนื ลงทุนท�ำอะไรก็กำ� ไร มีเงินใช้ ไม่ขาดมือเลยทีเดียวในเดือนนี้ สุขภาพ ระวังปวดหัว ปวดตา หรือผ่าฟันคุด เจ็บปวดแบบ เล็กๆ น้อยๆ ตลอดเวลา ไม่ควรประมาท ความรัก คนโสดยังไม่มีใครเข้ามาท�ำให้ใจ หวัน่ ไหว ควรหันมาดูแลตัวเองให้มคี วามสุข คนมีครอบครัวจะมีเรือ่ งทีน่ า่ ยินดีในทุกๆ ด้าน มีความสุขสมบูรณ์

ราศีเมษ

(๑๕ เมษายน – ๑๔ พฤษภาคม)

การงาน ระวังโดนหักหลังหรืออาจจะมีคนใส่ร้าย ท�ำให้การท�ำงานมีปัญหา ควรแก้ไข ปัญหาอย่างมีสติ รอช่วงเวลาเอาคืนในกลางเดือน คุณจะกลับมามีบทบาททีโ่ ดดเด่นมากกว่าเดิม ไม่ควรลงทุนท�ำอะไรในช่วงนี้ การเงิน ในเดือนนีจ้ บั แพะชนแกะพอสมควร การเงินเฟ้อฝืดเคือง ควรประหยัดเอาไว้จะเป็นการดี สุขภาพ ระวังอุบตั เิ หตุบาดเจ็บเลือดตกยางออกอยูเ่ ป็นประจ�ำ เกิดการผ่าตัดเล็กหรือศัลยกรรมจะได้ผลดี ความรัก คนโสดอยู่ในภาวะเลือกไม่ถูก จึง ไม่ตอ้ งรีบร้อนตัดสินใจ มีแต่คนเข้ามาท�ำคะแนนเอาใจ คนมีครอบครัวมีโอกาสได้เดินทางท่องเทีย่ ว กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น


ราศีพฤษภ

ÃÒÈաѹÂìì

(๑๕ ¾ÄÉÀÒ¤Á – ๑๔ ÁԶعÒ¹)

(๑๕ ¡Ñ¹ÂÒ¹ – ๑๔ µØÅÒ¤Á)

การงาน มีโอกาสได้เดินทางตลอดเวลาชีพจรลงเท้าน�ำข่าวดี รายได้ดี ผลงานดี เป็นช่วงน�้ำขึ้นให้รีบตัก ชัยชนะที่ได้จากการฝ่าฟัน การเงิน มีเงินเข้ามาก้อนโตควรเก็บ รักษาและควรน�ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมากที่สุด ไม่ควรเสี่ยงไปลงทุนกับอะไรที่ ไม่แน่นอน สุขภาพ ระวังมีปัญหาหลอดลมหรือโรคหัวใจก�ำเริบ ไม่ควรละเลยสุขภาพ โดยเด็ดขาด ความรัก คนโสดเจอแต่รักที่ยังไม่ได้ดั่งใจ ไอ้ที่รักเขา เขาไม่รัก แต่กับคน ที่ไม่รัก กลับมาชอบ เลือกมากระวังได้แร่ คนมีครอบครัว ทะเลาะกันเป็นกิจวัตรแต่ก็ยัง รักกันดี ชีวิตมีสีสัน

การงาน เริ่มต้นประสบความส�ำเร็จจากเล็กไปหาใหญ่ กิจการมั่นคง ขยับขยาย ธุรกิจให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงดี การเงิน มีเหตุให้มีรายจ่ายเข้ามาหลายทิศทาง พอเข้ามา ถึงช่วงกลางเดือนการเงินถึงจะสะพัดดีเป็นอย่างยิ่ง สุขภาพ มีอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ มี เรื่องให้ฟกช�้ำด�ำเขียวได้เกือบตลอดเวลา อย่าใจร้อนท�ำอะไรก็ควรระมัดระวังตัวเอาไว้ ตลอด ความรัก คนโสดต้องพักฟื้นเรื่องความรัก อย่าเร่งรีบไว้ใจรับใครเข้ามาในช่วงนี้ คนมีครอบครัวเคยทะเลาะกันจะกลับมาคืนดี ควรหันหน้าปรับความเข้าใจกัน

ราศีเมถุน

(๑๕ ÁԶعÒ¹ – ๑๔ ¡Ã¡®Ò¤Á)

การงาน ประสบความส�ำเร็จอย่างราบรืน่ การงาน การเรียน มีความก้าวหน้าได้รบั ค�ำชมจากคนรอบข้างถ้วนหน้า การเงิน อยูใ่ นภาวะสมดุลทางด้านรายรับและรายจ่าย ไม่มี อะไรที่ต้องกังวล ในช่วงนี้เหมาะสมแก่การลงทุนกิจการใหม่ๆ สุขภาพ มีปัญหากับ ไขข้อ กระดูก ส้นเท้าบาดเจ็บ ระวังอุบตั เิ หตุ มีแต่เรือ่ งทีต่ อ้ งบาดเจ็บตลอดเวลา ความรัก คนโสด จะมีขา่ วดีได้เจอเนือ้ คู่ มีการแต่งงานแบบสายฟ้าแล่บ คนมีครอบครัวจะมีสมาชิกเพิม่ ข่าวดี การตั้งครรภ์

ราศีกรกฎ

(๑๕ ¡Ã¡®Ò¤Á – ๑๔ ÊÔ§ËÒ¤Á)

การงาน ระวังการมีปากเสียงทะเลาะกับผูใ้ หญ่ ไม่ควรใช้อารมณ์ในการสือ่ สารในการ ท�ำงานโดยเด็ดขาดจะท�ำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น การเงิน ควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ไม่ควรค�้ำประกันใดๆ ให้กับผู้อื่น ถูกหลอก ถูกโกงได้ ไม่ควรใจดีจนเกินไป สุขภาพ ระวัง โรคหวัดภูมิแพ้กำ� เริบ และอาจจะเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวรถชน ไม่ควรประมาท ควรหาเวลา ไปท�ำบุญบ้างจะเป็นการดี ความรัก คนโสดเจอคูท่ ถี่ กู ตาต้องใจเอือ้ อาทรซึง่ กันและกัน เริม่ ต้น ชีวิตที่สมบูรณ์ คนมีครอบครัวมีข่าวดีจะได้บ้านใหม่ และความรักที่สดชื่น

ÃÒÈÕÊÔ§Ëì

(๑๕ ÊÔ§ËÒ¤Á – ๑๔ ¡Ñ¹ÂÒ¹)

การงาน เป็นช่วงทีต่ อ้ งขอความช่วยเหลือจากคนหลายฝ่าย จึงควรท�ำการใดๆ จะต้อง มีการวางแผนที่ดี รัดกุม ลดการเสียเวลาให้มากที่สุด เป็นการแก้ปัญหาที่สามารถใช้ได้ใน ระยะยาว การเงิน เป็นช่วงของการเก็บหอมรอมริบจึงไม่ควรใจร้อนในการเบิกจ่ายเงิน ควร ท�ำบัญชีให้ดี ปลายๆ เดือนการเงินถึงจะสะพัดดียิ่งขึ้น สุขภาพ ระวังปวดเอว หลัง เสี่ยงกับ โรคหมอนรองกระดูกทับเส้น จึงควรปรึกษาแพทย์ทนั ทีทมี่ อี าการผิดปกติ อาจจะต้องรับการ ผ่าตัดแต่ผลออกมาจะดีเกินคาด ความรัก คนโสดระวังรักคนมีเจ้าของเจอผู้ชายเจ้าชู้ เจ้าส�ำราญ คนมีครอบครัวระวังมือที่สามเข้ามาสร้างความวุ่นวาย มีเรื่องต้องเคลียร์กัน ตลอดทั้งเดือน

ÃÒÈÕµØÅÂì

(๑๕ µØÅÒ¤Á – ๑๔ ¾ÄȨԡÒ¹)

การงาน จะต้องท�ำงานกับคนทีเ่ คยผิดใจกัน จึงเกิดความล�ำบากในการสือ่ สาร ดังนัน้ จึ ง ไม่ ค วรมี ป ั ญ หาแต่ ค วรหาสาเหตุ เ พื่ อ แก้ ไ ขความสั ม พั น ธ์ ใ ห้ ดี ขึ้ น เพื่ อ งานที่ มี ประสิทธิภาพ การเงิน หัวหมุนในการหมุนเงินอยู่บ้างจึงไม่ควรใช้จ่ายฟุ่มเฟือยท�ำการใด จ�ำเป็นต้องมีการวางแผนการใช้เงินให้รอบคอบ สุขภาพ มีแต่เรือ่ งหกล้ม ฟกช�ำ้ ด�ำเขียว เกิดเหตุเจ็บเล็กเจ็บน้อยบ่อยครั้ง ไม่ควรใจลอย ท�ำไรต้องมีสติเสมอ ความรัก คนโสด อาจจะเจอกับรักที่มีอุปสรรค รักยังไม่ราบรื่นควรพักไว้ก่อน คนมีครอบครัว ระวัง เกิดรักสามเส้า นอกใจกัน

ÃÒÈÕ¾Ô¨Ô¡

(๑๕ ¾ÄȨԡÒ¹ – ๑๔ ¸Ñ¹ÇÒ¤Á)

การงาน จะมีแต่เรื่องให้คิดตัดสินใจ พบเจอกับความวุ่นวาย จ�ำต้องคิดแก้ไขทีละ ปัญหา ช้าหน่อยแต่จะมีประสิทธิภาพที่ดี ไม่ควรใจร้อนโดยเด็ดขาด ระวังการมีปากเสียง ในที่ท�ำงาน การเงิน จากร้ายกลับกลายเป็นดี ผลของการเก็บหอมรอบริบการเงินเป็น ช่วงที่จะได้มีการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นของขวัญให้กับตัวเอง สุขภาพ ระวัง อุบัติเหตุจากการเดินทางไกล ขับรถควรระมัดระวัง หรืออาจจะมีการผ่าตัดกระทันหัน ควรท�ำบุญสะเดาะเคราะห์อย่าประมาท ความรัก คนโสดจะพบรักกับเพือ่ นเก่ารูใ้ จกันมานาน แนวโน้มจะมีข่าวดีแบบสายฟ้าแล่บ คนมีครอบครัวจะมีการเดินทางท่องเที่ยวมีความสุข กับครอบครัว

ราศีธนู

(๑๕ ธันวาคม – ๑๔ มกราคม)

การงาน จะเจอกับเรื่องที่ท้าทายความสามารถเข้ามาท�ำให้งานไม่น่าเบื่อ ผลของ การกระท�ำดีกว่าทีค่ าดเอาไว้เยอะพอสมควร สรุปมีแต่เรือ่ งดีๆ และได้รบั ผลประโยชน์คมุ้ ค่า กับการลงทุนลงแรงไป การเงิน จะมีโชคดีได้กำ� ไรก้อนโต โชคลาภก้อนใหญ่ ได้เสพสุขจาก เงินที่ตัวเองหามาอย่างคุ้มค่า จะมีเงินเหลือเก็บในปัจจุบัน สุขภาพ ระวังโรคความดัน เบาหวาน เลือดลมท�ำงานผิดปกติ ไม่ควรตามใจปาก และควรหมั่นออกก�ำลังกายดูแล สุขภาพอย่างต่อเนือ่ ง ความรัก คนโสดจะพบรักจากงานรืน่ เริง มีผใู้ หญ่ชกั น�ำมาให้เจอกัน จะเจอเนื้อคู่สมหวังในความรัก คนมีครอบครัว แก้ไขปัญหาปรับความเข้าใจกันครอบครัว อบอุ่นและกลับมารักกันมากขึ้น


๕๔

Event

หลายภาคส่วนร่วมใจท�ำกิจกรรมเพื่อพ่อหลวง รัชกาลที่

การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เมือ่ วันที่ ๑๓ ต.ค. ๒๕๕๙ น�ำความวิปโยคอย่างใหญ่หลวงมาสูป่ วงชนชาวไทย ทุกพื้นที่อยู่ในบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก น�้ำตาจากพสกนิกรของพระองค์ไหลริน เป็นความสูญเสียพ่อหลวงผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ อย่างมิอาจหาใครเทียบได้ พสกนิกรชาวสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน กลุ่มประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้รวมพลังร่วมกันแสดงความอาลัยและ ความจงรักภักดีต่อพ่อหลวง ผ่านกิจกรรมต่างๆ เรื่อยมา เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเราชาวสุราษฎร์ธานีต่างร่วมใจกัน แสดงพลังเพื่อพ่อหลวงของคนไทยและพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

งานประเพณีชกั พระ ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว ประจ�ำปีนี้ เปลีย่ นแปลงรูปแบบ เพื่อแสดงอาลัยต่อพ่อหลวง คงไว้เพียงประเพณีชักพระ และทอดผ้าป่าในวัน ออกพรรษา โดยในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี นายธีระกิจ หวังมุทิตากุล นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี และชาวสุราษฎร์ธานี กว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน พร้อมใจแต่งกายด้วยชุดไว้ทกุ ข์ด�ำ-ขาว ร่วมลากเรือพนมพระ จากวัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ�ำนวน ๑๒๘ ล�ำ และเรือต้นเทียนพรรษา จาก จ.อุบลราชธานี ๑ ล�ำ ที่มีการประดับตกแต่งด้วยผ้าขาวและด�ำ ระยะทางกว่า ๒ กิโลเมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง ขอขอบคุณภาพ : ไทยรัฐ

พลันประกาศจากส�ำนักพระราชวัง ในหลวง เสด็จสวรรคต ยังความเศร้าเสียใจ ให้กับคนสุราษฎร์ฯ เป็นอย่างมาก โดยในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ หลายหน่วยงาน ได้รว่ มใจจัดพิธถี วายสักการะพระบรมศพเป็นจ�ำนวนมาก โดย นายอวยชัย อินทร์นาค ผูว้ า่ ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.วิชยั ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.๔๕ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.๘ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม เหล่าข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และชาวสุราษฎร์ธานี พร้อมใจแต่งกายไว้ทกุ ข์ และเข้าแถวรอ สรงน�ำ้ พระบรมศพทีห่ อ้ งโถงชัน้ ๑ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางด้าน ผศ.ดร. ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้น�ำคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนักศึกษากว่า ๑,๐๐๐ คน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอาลัยส่งดวงพระวิญญาณพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสู่สวรรคาลัย ท่ามกลางสายฝน ณ ลานหน้าหอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พสกนิกรชาวสุราษฎร์ธานี กว่า ๒๐,๐๐๐ คน นำ�โดยนายศุภวัชร ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และแปรอักษรเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย พร้อมทั้งแสดง สัญลักษณ์ “รักพ่อ” และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมยืนสงบนิ่ง ๓ นาที และในเวลา ๑๐.๐๐ น. ได้มีพิธีบ�ำ เพ็ญกุศลปัณรสมวาร (ครบ ๑๕ วัน) เพื่อแสดงความไว้อาลัยรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์เสด็จเยือนราษฎร ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึง ๑๕ ครั้ง


คณะครู อาจารย์ และนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จ�ำนวนกว่า ๓ พันคน พร้อมใจกันรวมตัวเพื่อร่วมแปรอักษรเลข ๙ อยู่ในรูปหัวใจ มีค�ำว่า KING และ อักษรย่อ SRTC เพื่อแสดงความอาลัยและแสดงออกถึงความจงรักภักดีและ ร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช คณะผู้บริหาร คณะครู บุคลากร นักเรียน โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ได้จัดพิธี น้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณร่วมถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ถวายความอาลัยองค์พ่อหลวง พระผู้ทรงสถิตในดวงใจไทย นิจนิรันดร์ เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๙

เมือ่ วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ นักศึกษา อาจารย์ และ บุคลากร มรส. ได้รว่ มแรง ร่วมใจบรรจงวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลย เดช รัชกาลที่ ๙ ที่ก�ำแพงด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับพระ ราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี บนพื้นผิวก�ำแพงยาว ๗๐ เมตร สูง ๒.๔๐ เมตร โดยประชาชนทีผ่ า่ นไปมาให้ความสนใจ และสนับสนุนทุนครัง้ นี้ จ�ำนวนมาก เพื่อให้ ได้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบ ส�ำหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ที่วาด เป็นภาพพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และภาพทีแ่ สดงความเป็นอัครศิลปินของ พระองค์ท่าน

ขอขอบคุณภาพ : พลังข่าว นสพ.พลังราษฎร์ นิวส์อัพเดท

คณะผูบ้ ริหารและพนักงานเซ็นทรัลพัฒนา (ส�ำนักงานใหญ่) ผูบ้ ริหารศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวลั ผูป้ ระกอบการภายในศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ และประชาชนทั่วไป ยืนร่วมไว้อาลัยเป็นเวลา ๙ นาที พร้อมลงนาม แสดงความอาลัยบนสมุดลงนามเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ โซนอีเดน ๒ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเปิดจุดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามแสดงความอาลัย ณ บริเวณ ชั้น ๑ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี กิจกรรมต่างๆ เพื่อแสดงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ยังคงมีอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความรักที่พสกนิกร ชาวไทยมีต่อพระองค์ พ่อผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิ ได้ของปวงชน ชาวไทย “คนไทย ในรัชกาลที่ ๙”


AIS Fibre

สัมผัสประสบการณ์ ใหม่ กับ เอไอเอสไฟเบอร์ เน็ตบ้านความเร็วสูงผ่าน ไฟเบอร์ออพติก 100% ที่มีอัตราการแชร์ต�่ำ ไม่ติดขัดแม้ขณะที่มีผู้ ใช้งาน หนาแน่น ทีพ่ ร้อมให้คณ ุ สัมผัสความเร็วในการท่องอินเทอร์เน็ตในระดับ 20/7 Mbps ในราคาเพียง 590 บาท/เดือนหรือเลือกใช้ความเร็วสูงสุด 1,000/200 Mbps ครอบคลุมพืน้ ทีใ่ ห้บริการในจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว พิเศษ ฟรีคา่ ติดตัง้ มูลค่า 4,000 บาท ค่าเปิดใช้บริการ AIS Playbox มูลค่า 2,500 บาท สนใจติดตั้งและสอบถามโทร. 096 154 4223 หรือที่โทร 1185 หรือทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/AisFibreSuratthani

Promise ที่นอนและหมอนยางพารา

สินค้าคุณภาพจากน�้ำยางธรรมชาติ 100% (Eco-Product) ในรูปของที่นอน ท็อปเปอร์ และหมอนภายใต้แบรนด์ Promise ช่วยให้คุณนอนหลับดีขึ้น ไม่ปวดหลัง หรือปวดตามร่างกาย เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ทมี่ คี วามยืดหยุน่ เป็น ธรรมชาติ โอบอุม้ และพยุงส่วนหลังได้อย่างเหมาะสม เป็นผลิตภัณฑ์คณ ุ ภาพ มาตรฐานจาก LGA Quality Tested และ Eco-Institut ประเทศเยอรมัน ปลอดภัยจากสารเคมี ไร้แบคทีเรีย และไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิด โรคภูมิแพ้ สนใจสินค้าและสอบถาม โทร. 081 755 9019 ID Line & Wechat : sanyaapex เว็บไซต์ www.promiselatex.com








๖๓

Beauty Talk นพ.ไวกูณฐ์ วงศ์ไกรวิชญ์, พ.บ. (รามาธิบดี)

แพทย์ผู้บริหารเอเวอร์กรีนคลินิก ประกาศนียบัตรเวชศาสตร์ความงามและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ ประกาศนียบัตรการบำ�บัดด้วยแสงและเลเซอร์ ประกาศนียบัตรเทคนิคร้อยไหมยกกระชับ-ปรับรูปหน้าขั้นสูงจากประเทศเกาหลี ประกาศนียบัตรการฉีดสารเติมเต็มขั้นสูงจากสวิตเซอร์แลนด์

-

ใส่ใจของใช้ ใกล้ตวั ... หยุดตัวการสิว ทราบหรือไม่ว่าของใช้ ใกล้ตัวที่เราใช้กันอยู่ทุกวันอาจเป็นต้นเหตุของ สิวและผดทีข่ นึ้ โดยไม่ทราบสาเหตุ และการใส่ใจอนามัยของใช้ ในชีวติ ประจ�ำวันจึงเป็นอีกหนึง่ สิง่ ส�ำคัญเพือ่ ดูแลผิวพรรณให้สวยไร้ปญ ั หาสิว

โทรศัพท์มือถือ จากการศึกษาพบว่า โทรศัพท์มือถือเป็นแหล่ง

สะสมเชื้อโรคแบคทีเรีย ต่า งๆ จ�ำนวนมาก อีก ทั้งคราบเหงื่อและ

ของแต่งหน้าและเครื่องส�ำอาง เป็นปัจจัยการเกิดสิวที่พบได้บ่อย เครือ่ งส�ำอางทีส่ ะสมตามหน้าจอ จึงควรใส่ใจความสะอาดมากขึน้ หมัน่

ทั้งสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ รวมถึงสิวที่เกิดจากการแพ้ ควรหันมา ใส่ใจตั้งแต่การดูแลความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้าอย่างแปรงปัด แก้ม ฟองน�ำ้ หรือพัฟ ที่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก น�้ำมัน และเชื้อ โรค หมั่นล้างหรือเปลี่ยนใหม่ เลือกขนแปรงที่อ่อนนุ่มเพื่อป้องกันการ ระคายเคือง ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าหรือท�ำผมก็ควรปราศจากสารเคมี รุนแรงที่เป็นอันตราย เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาดผิวหน้า และแชมพูสระผมก็ควรมีความอ่อนโยนแม้ผวิ แพ้งา่ ย รวมถึงครีมบ�ำรุง ก็ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน

เช็ดท�ำความสะอาด เปลี่ยนฟิล์มหน้าจอใหม่ แนวทางรับมือเมื่อเริ่มเป็นสิว อันดับแรกควรไล่หาสาเหตุให้พบว่า เกิดจากอะไร มีการสัมผัสของใช้ที่ไม่ค่อยได้ดูแลท�ำความสะอาด เปลี่ยนเครื่องส�ำอาง ยาสระผม ครีมนวด หรือของใช้อะไรหรือไม่ จาก นั้นจึงหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นและพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการตั้งแต่เนิ่นๆ เพือ่ มิให้รนุ แรงขึน้ แนวทางการรักษาสิวมีตงั้ แต่การใช้ยาลดการอุดตัน ของสิว ยาแต้มลดการอักเสบ ยารักษาสิวผดสิวเทียม การรักษาด้วย เลเซอร์ LUMI-LUXX เพื่อฆ่าเชื้อสิว หรือเลเซอร์เฉพาะทางอย่าง หมอนและเครื่องนอน เพราะ ViiVA-LITE ที่ใช้รักษาสิว-รอยด�ำ-รอยแดง ก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีและ ต้องแนบชิดกับเราทุกคืน ย่อมเป็น รวดเร็ว และยังช่วยให้ผวิ ขาวเนียนใสขึน้ พร้อมลดการอุดตันของสิวได้ แหล่งสะสมของคราบเหงื่อ น�้ำมัน อีกทางหนึ่ง บนศี ร ษะ สารเคมี บ นเส้ น ผม ไรฝุ่น ทางที่ดีควรหมั่นถอดปลอก การดูแลปัญหาสิวอย่างถูกวิธจี ะช่วยลดความรุนแรงของสิวและรอยสิว เครือ่ งนอนไปซักอย่างน้อยสัปดาห์ ได้มาก ดังนัน้ หากพบว่ามีสวิ ขึน้ เยอะผิดปกติหรือมีขอ้ สงสัยเกีย่ วกับการดูแล ละครั้ง น�ำหมอนและผ้านวมออก ผิวพรรณที่ถูกต้องควรปรึกษาแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่ทันสมัย ปลอดภัย ผึ่งแดดบ้าง ได้มาตรฐานเพื่อตรวจรักษาและรับค�ำแนะน�ำในการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง





๖๗

Idol Clinic นพ.ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง

(อาจารย์นายแพทย์ ด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง) - แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น Thailand (๒๕๔๓-๒๕๕๐) - ศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ Thailand (๒๕๕๓-๒๕๕๕) - ศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง โรงพยาบาลราชวิถี-โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ Thailand (๒๕๕๕-๒๕๕๘) - ASAN Medical Center, South Korea (๒๐๑๔), - Hyundai mitak cosmetic center, South Korea(๒๐๑๔) - The Class cosmetic center , South Korea(๒๐๑๕), - Theraderm Clinic, South korea(๒๐๑๕)

“ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis)”

โรคใกล้ตัวที่คุณอาจไม่เคยรู้!

หลังแก้ไขเย็บซ่อมกล้ามเนื้อตา ร่วมกับการท�ำตา ๒ ชั้น

คือภาวะที่กล้ามเนื้อที่ ใช้ ในการเปิดเปลือกตาท�ำงานอ่อนแรงกว่าปกติ ท�ำให้ คนไข้มลี กั ษณะเหมือนง่วงนอน ตาคล้ายจะปิด อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง ก็ได้ (คนละเรือ่ งกับ หนังตาตกนะครับ อันนัน้ แค่ตกแต่งหนังตาก็หาย แต่กล้ามเนือ้ ด้านในปกติ) สาเหตุที่พบได้แก่

๑.เป็นตั้งแต่ก�ำเนิด (Congenital Ptosis) ๒.เป็นในภายหลัง ซึง่ สาเหตุยอ่ ยมีอกี เยอะมาก ทัง้ จากอุบตั เิ หตุ จากการผ่าตัด ไปโดนกล้ามเนือ้ จากยาบางชนิด จากโรคบางอย่าง เช่น Myasthenia Gravis หรือ ภาวะกล้ามเนื้อเสื่อมตามอายุ (Involutional Ptosis) โดยปกติขอบตาบนของคนเราปกตินนั้ จะอยูบ่ ริเวณขอบบนตาด�ำหรือปิดลงมา เล็กน้อย ๑-๒ มิลลิเมตร ดังนั้นถ้าท่านไหนที่มีหนังตาบนปิดขอบตาด�ำมากกว่านี้ ก็จัดเป็นกลุ่มหนังตาตกจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออ่อนล้าทั้งหมด อาการที่สังเกตได้ง่ายคือลักษณะที่ขอบตาบนตกลงมาปิดตาด�ำมากกว่าปกติ เห็นตาด�ำได้ไม่มาก อาจเป็นในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ เวลาลืมตาต้องใช้ การเลิกคิ้วช่วยเพื่อให้ตามองเห็นได้ชัดขึ้น จนมีรอยย่นเหนือคิ้วก่อนวัยอันควร

อาการมากหรือน้อยขึน้ อยูก่ บั ระดับของการอ่อนแรงของกล้ามเนือ้ เป็นหลัก รายที่ เป็นมากจะสังเกตได้คอ่ นข้างชัดเจนตัง้ แต่วยั เด็ก รายทีเ่ ป็นน้อยหรือเป็นข้างเดียว มักจะไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เนือ่ งจากมักเข้าใจว่าเกิดจากตาชัน้ เดียวเลยลืมตาได้ไม่มาก มักจะทราบก็ตอ่ เมือ่ ไปผ่าตัดหรือเย็บให้เป็นตาสองชั้น เพราะสิ่งที่ได้มักจะไม่เหมือนกับคนตาปกติที่ ท�ำตาสองชั้นโดยทั่วไป มักจะได้ตาสองชั้นแบบปรือๆ คล้ายคนง่วงนอนมาแทน หรือไม่กไ็ ด้ตาสองชัน้ ไม่เท่ากันสองข้าง ซึง่ ปัญหาเหล่านีม้ กั เกิดจากความบกพร่อง ในการตรวจวินิจฉัยก่อนการผ่าตัด ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยก่อนผ่าตัดเป็นสิ่งส�ำคัญ จึงควรเลือกแพทย์เฉพาะทาง ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ก็จะท�ำให้การวินิจฉัยออกมาแม่นย�ำ และส่งผลให้ผลลัพธ์เป็นทีน่ า่ พึงพอใจ เนือ่ งจากการศัลยกรรมตาเป็นงานทีล่ ะเอียดอ่อน แพทย์ผรู้ กั ษาจะต้องมีความรู้ เรือ่ งอนาโตมีต่ าอย่างแม่นย�ำ ด้วยการผ่านการเรียน เฉพาะทางมาอย่างน้อย ๕ ปี การแก้ไขภาวะกล้ามเนือ้ ตาอ่อนแรง ที่ เป็นตั้งแต่เกิด หรือกล้ามเนื้ออ่อนล้าในวัย สู ง อายุ จะต้ อ งเย็ บ ซ่ อ มกล้ า มเนื้ อ ตา (Levator Plication, Advancement) อย่างไรก็ตามการแก้ ไขคนไข้ ในรายที่ มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ให้มี ชัน้ ตาเท่ากัน “เป๊ะ” ทัง้ สองข้าง ท�ำได้คอ่ นข้าง ยาก โดยเฉพาะกรณีที่เป็นด้านเดียวหรือ อ่อนแรงไม่เท่ากัน แต่โดยรวมตาก็จะดูสดใส ขึน้ (ดีขนึ้ กว่าไม่ผา่ ตัดแน่นอนครับ) ดังนั้นสิ่งส�ำคัญก่อนท�ำการรักษา หรือ ท�ำการศัลยกรรมตา ๒ ชั้น ควรจะได้รับ ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่เป็นมาแต่กำ� เนิด การตรวจวินจิ ฉัยโดยละเอียด และควรรูว้ า่ ตัวเองเป็น (Ptosis) จากสาเหตุใด บางที ถ้ามีสาเหตุอื่นเช่น เป็น Myasthenia Gravis แต่การรักษาโรคนี้ ภาวะกล้ามเนื้อ ตาตก ก็จะดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ในรายที่ ไม่แน่ใจว่าตนเองมีภาวะกล้ามเนือ้ ตาอ่อนแรง (Ptosis) หรือไม่ สามารถ เดินเข้าไปปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจรักษาและวางแผน การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในรายทีว่ างแผนท�ำศัลยกรรม ตา ๒ ชั้น เพื่อให้ ได้รับผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจสูงสุด





www.boncafe.co.th

เติมความสดชื่นที่ OASIS CAFE

โดดเด่น ดี จนต้องบอกต่อ กับ โอเอซิส คาเฟ่ แหล่งเติมพลังระหว่างวันของคนเมือง เพิม่ ความสดชืน่ ทัง้ กายและใจ ให้คณ ุ ได้รแี ล็กซ์อย่างเต็มที่ ตัวร้านตกแต่งในสไตล์ทเี่ รียบง่าย กับสีเอิร์ธโทน เข้ากันอย่างดีกับสีเขียวธรรมชาติจากแมกไม้ ช่วยเพิ่มโอโซนความสดชื่น พร้อมสโลว์ไลฟ์ไปกับอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพหลากหลายเมนู ความมุง่ มัน่ ตัง้ ใจในการคัดสรรวัตถุดบิ ของทีน่ ี่ ทำ�ให้แต่ละเมนูถกู อกถูกใจลูกค้าใหม่ได้ อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกระแสแบบปากต่อปากทีต่ อ้ งแวะมาลิม้ ลอง โดยเฉพาะรสชาติและ ความหอมของเมล็ดกาแฟคุณภาพระดับพรีเมียมจากบอนกาแฟ รวมถึงการเลือกใช้นำ�้ ผลไม้ เข้มข้นทั้ง Strawberry, Raspberry, Mango Lyons Fruit Infusion และ Torani Syrup ต่างๆ จนได้เป็นเครื่องดื่มหอมๆ รสชาติอร่อยให้ลิ้มลอง ทั้งเมนูร้อน เมนูเย็น เฟรบเป้ และสมูทตี้ ไว้ช่วยดับกระหายหรือเติมพลังให้พร้อมก่อนออกเดินทางกันต่อ นอกจากจะเป็นคาเฟ่บริการอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ที่รา้ นยังออกแบบให้เป็น Co-work Station ไว้บริการให้กับคนมองหาที่นั่งทำ�งานข้างนอกหรือหนุ่มสาวที่ไม่ชอบนั่ง ทำ�งานในออฟฟิศ ร้านสวย ระบบพร้อม บรรยากาศชิลล์ เครื่องดื่มอร่อย นี่แหละสวรรค์ โอเอซิสของนักเดินทางเลยทีเดียว

สอบถามข้อมูล ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่

บอนกาแฟ สาขาสุราษฎร์ธานี โทร. (๐๗๗) ๒๐๐ ๗๔๙, ๐๘๙ ๒๐๑ ๗๓๗๔

๑๑๑ หมู่ ๓ ทางหลวงหมายเลข ๔๑๗ ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๐๐๐ แฟกซ์ ๐๗๗ ๒๐๐ ๗๕๐ อีเมล์ : suratthani@boncafe.co.th















Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.