Say hi japan 18-2 Okayama by Checktour Magazine 50

Page 1

SAY HI JAPAN : ISSUE 18-2 JANUARY 2015

Okayama University

ถ้าคุณไม่ได้จดจ้องอยูแ่ ค่การชอปปิง ้ ท่ามกลางบรรยากาศของบ้าน เมืองทีท ่ น ั สมัยและละลานตาไปด้วยตึกสูงระฟ้า หรือมุง ่ แต่จะชมนวัตกรรม สุดอลังการในความก้าวล�า้ ทางเทคโนโลยีแล้ว อีกมุมหนึง ่ เท่าทีจ ่ ะสัมผัสได้ ชัดเจนถึงความเป็นญี่ปุ่นโดยเนื้อแท้ก็คือความสวยงามของธรรมชาติ ความงดงามในอารยธรรมและประเพณี เ ก่ า แก่ ที่ ค นญี่ ปุ ่ น ไม่ เ คยทิ้ ง ให้ สูญหายไปตามกาลเวลา การบูรณะสิง ่ ก่อสร้างล�า้ ค่าอย่างปราสาทราชวัง หรือกระทัง ่ สวนสาธารณะเก่าแก่เพือ ่ ให้คงอยูถ ่ ง ึ ปัจจุบน ั ทัง ้ หมดนีอ ้ าจเป็น วิถีแห่งขนบที่หาชมพร้อมกันได้ยากในประเทศเดียว…แต่เกิดขึ้นได้ที่ญี่ปุ่น

104 |

การเทีย ่ วญีป ่ น ุ่ จะท�าให้เราตอบโจทย์ทง ั้ หมดได้อย่างลง ตัดดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะผสมผสานเข้ากัน ไม่มีอะไร มากกว่าหรือน้อยกว่า แต่เป็นส่วนประกอบที่เหมาะเจาะซึ่งมี ผลอย่างมากให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าเที่ยว และเกิดความ หลากหลายต่างกันไปในแต่ละจังหวัดแต่ละเมือง อาหารถิ่น ต่างกันไป เทศกาลประจ�าปีก็ไม่เหมือนกัน สภาพธรรมชาติ ยิง ่ ไม่ซา�้ จะหาความลงตัวในแง่การท่องเทีย ่ วเช่นนีไ้ ด้จากทีใ่ ด ถ้าไม่ใช่ญี่ปุ่น


Okayama

ท่อง

เที่ยวไปกับ Momotaro

ระยะหลังเมื่อกระแสการท่องเที่ยวญี่ปุ่นร้อนแรงติดต่อกันมาพักใหญ่ ค�าถามที่ตามมาก็คือ ยังมีมุมใดเมืองไหนอีกบ้างที่คนไทยยังเข้าไม่ถึง หรือยังรู้จักน้อย เพื่อคนที่เที่ยวโตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮอกไกโด ฯลฯ มาแล้วจะได้มีตัวเลือกเพิ่ม ครั้งนี้เราขอหยิบเอาอีกเมืองที่น่าสนใจซึ่งครั้ง หนึ่งเราเคยน�าเสนอไปบ้างแล้ว แต่จะต้องขอซ�้ากันอีกสักครั้ง เพราะกระแสความต้องการของ คนไทยนักท่องญี่ปุ่นเรียกร้องกันมาตลอด นั่นคือโอกายาม่า ส�าหรับคนไทย ชื่อจังหวัด “โอกายาม่า” (Okayama) อาจไม่คุ้นเคยคุ้นหูเท่ากับเมื่อเอ่ยถึง ชื่อ “โมโมทาโร่” (Momotaro) หนุ่มน้อยผู้น�าพาผองเพื่อนสิงสาราสัตว์ไปสู้กับยักษ์อย่างที่ผู้ใหญ่ อย่างเรายังต้องอาย แต่เอาเถอะ ถ้าคุณผู้อ่านไม่รู้จักและไม่คุ้นทั้งโอกายาม่าและโมโมทาโร่เราจะ มาเริ่มเท้าความกันใหม่ มาท�าความรู้จักกันดูเสียหน่อยว่าจังหวัดที่มีชื่อว่าโอกายาม่านี้มีของดี อะไรบ้าง จังหวัดโอกายาม่าตั้งอยู่ในภูมิภาค ชุโกกุ (Chugoku) ซึ่งเชื่อมต่อกับ เกาะฮอนชู (Honshu) และเกาะชิโกกุ (Shikoku) ถือเป็นจังหวัดหนึง่ ของญีป่ นุ่ ทีม่ สี ถานทีท่ อ่ งเทีย่ วครบทุกรูปแบบ ตัง้ แต่ของเก่าจนถึงของใหม่ มีธรรมชาติ ที่สวยงาม สวนสาธารณะขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงของโอกายาม่าสวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศเลยเชียว นับรวมไปถึงต้นไม้ใบหญ้า แม่น�้า ภูเขาและผลไม้ตามฤดูกาลอีกเยอะแยะที่ช่วยกันสนับสนุนให้ทุกเมืองของ จังหวัดนี้มีเอกลักษณ์ที่สุดยอดส�าหรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก อีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ถนนหนทางและผังเมืองทั่วโอกายาม่าได้รับการพัฒนาอย่างดี ระบบ คมนาคม เส้นทางการเดินทางด้วยรถไฟและรถยนต์เพียบพร้อม จนแม้กระทัง่ หากคุณผูอ้ า่ นเดินทางไปเทีย่ วโอซาก้า โกเบหรือฮิโรชิมา่ ก็ยงั สามารถชักชวน กันขึ้นชินคังเซนมาเที่ยวโอกายาม่ากันแบบเช้าเย็นกลับได้สบายๆ ใช้เวลา เดินทางไม่เกิน 50 นาที แต่ถ้ามาจากโตเกียวที่ต้องใช้เวลาเดินทางเที่ยวละ 4 ชัว่ โมงกับอีก 20 นาที แนะน�าให้นอนค้างในโอกายาม่าสักคืนแล้วค่อยเทีย่ ว แต่ทถ่ี อื เป็นของแถมสุดพิเศษให้กบั คุณผูอ้ า่ นครัง้ นีก้ ค็ อื นอกจากเราจะ ก็แจ๋วไปเลย ไม่ต้องรีบร้อน คุ้มกว่ากันเห็นๆ แถมในโอกายาม่ายังมีโรงแรม น�าเที่ยวโอกายาม่าแล้ว หลังจากเดินทางถึงสนามบินคันไซแล้ว เราจะชวน ดีๆ เยอะแยะไปหมด แวะไปเทีย่ วเมืองโกเบกันสักวัน และไปท�าความรูจ้ กั กับมาสคอตตัวล่าสุดของ เพราะเป็นดินแดนแห่งต�านานโมโมทาโร่ ท�าให้ไม่วา่ เราจะเดินเทีย่ วไป โกเบ นัน่ คือหมีนอ้ ย “KoBear” ทีเ่ พิง่ เปิดตัวมาไม่นาน จากสนามบินคันไซเพียง ในที่ใดของโอกายาม่าเป็นต้องเห็นสัญลักษณ์ของโมโมทาโร่อยู่ทั่วไปจนเรา ชั่วโมงเดียวเราก็ไปยืนอยู่ที่ “Harberland” ท่าเรือชื่อดังของโกเบเพื่อหาร้าน รูส้ กึ ได้วา่ ชาวโอกายาม่าเขารักใคร่เอ็นดูเจ้าหนุม่ คนนีม้ ากทีเดียว เห็นได้จาก อร่อยจัดเนือ้ โกเบลงท้องเป็นเสบียงกันสักมือ้ แล้วเดินชมวิวหอคอยโกเบสีแดง อนุสาวรีย์หน้าสถานีรถไฟ JR ที่เป็นศูนย์กลางของจังหวัดไปจนถึงฝาท่อ สดตัดกับความมืดของท้องฟ้าซึ่งสวยงามน่าชมมาก อิ่มเอมกันอยู่พักใหญ่ก็ ระบายน�้าทั่วเมืองมีรูปโมโมทาโร่แฝงอยู่แทบจะทุกมุม น่ารักและชวนให้ พาร่างตัวเองเข้าสู่ “APA Hotel” โรงแรมดีๆ อีกแห่งในโกเบเพื่อพักผ่อนและ เฝ้ารอให้ถึงเช้าของอีกวันเร็วๆ เพราะมีโปรแกรมที่น่าสนใจรออยู่ นักท่องเที่ยวต่างชาติวิ่งถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกันอยู่ตลอด

| 105


View Point @Rokkosan

View Point @Rokkosan

Rokkosan Country House

Rokkosan Million Dollar View

Rokkosan Music Box Museum

โปรแกรมแรกในโกเบที่เราภูมิใจน�าเสนอก็คือ การขึ้ น สู ่ ภู เ ขาร็ อ คโค เรานั่ ง รถยนต์ อ อกจาก โรงแรมประมาณ 40 นาทีก็ถึงภูเขาที่ชาวญี่ปุ่น เรียกกันว่า “ร็อคโคซัง” (Rokkosan) ซึ่งมีชื่อเสียง โด่งดังในการเป็นจุดชมวิวทีอ ่ ลังการทีส ่ ด ุ เพราะจะ ท�าให้เราได้เห็นวิวทั่วทั้งโกเบแบบเต็มตา โดยเฉพาะ ถ้าเป็นช่วงเวลาหลัง 5 โมงเย็นจนถึงช่วงค�่า วิว สวยๆ จากมุมนี้ได้รับขนานนามว่าเป็น “Million Dollar View” ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว นักท่องเที่ยว ที่ต้องการนั่งรถไฟแล้วต่อด้วยรถบัสหรือ เคเบิ้ล คาร์เพื่อมาถึงจุดนี้ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่การนัง ่ รถบัสจะสามารถเลือกได้วา่ จะใช้เส้นทาง ไหนที่จะมีโอกาสแวะสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ตามใจ ชอบ

106 |

แต่ก็ใช่ว่าเราจะแค่มาชมวิว เพราะเป้าหมายของเราบนภูเขาร็อคโคคือการเข้าไปเที่ยวชมภายใน “Rokkosan Country House” สกีรีสอร์ทบนยอดเขาที่ในช่วงฤดูร้อนต้นไม้ใบหญ้าก็จะเบ่งบานเร่งสีสัน ของตัวเองออกมาแข่งกัน มีพื้นที่ให้เข้ามาปิกนิกและค้างแรมกันได้ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ยิ่งสวยด้วยทิวไม้ สีแดงเหลืองสลับกัน แต่ทดี่ งึ ดูดนักท่องเทีย่ วได้มากทีส่ ดุ เห็นจะเป็นฤดูหนาวทีท่ วั่ ทัง้ ลานกว้างของเชิงเขา จะเป็นลานสกีขนาดใหญ่ ซึ่งแม้จะยังไม่หนาวเต็มฤดูหรือหิมะยังไม่เทลงมาจากฟ้า แต่ที่นี่จะมีการผลิต หิมะเทียมวันละ 100 ตันไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวล่วงหน้า เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมจนถึง 22 มีนาคมของทุกปีเดินทางมาเที่ยวสกีรีสอร์ทที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน จะมาช้ามาเร็วจะมีหิมะ รอนักท่องเที่ยวอยู่แล้วเสมอ ส่วนฤดูอื่นๆ ก็จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีอยู่แล้ว อีกสถานที่ที่เราแวะเข้าไปสังเกตการณ์มาด้วยก็คือ “Rokkosan Music Box Museum” พิพิธภัณฑ์ กล่องดนตรีที่เปิดมานานถึง 20 ปีแล้ว ปัจจุบันมีการจัดแสดงกล่องดนตรีน่ารักหลายรูปแบบ และยังมี แบบสินค้าที่ระลึกส�าหรับจ�าหน่าย บนชั้น 2 ของอาคารพิพิธภัณฑ์มีการแสดงดนตรีจากกล่องดนตรี โบราณหลายชิ้น รวมทั้งยังมีมุมแสดงความสามารถของนักท่องเที่ยวโดยการทดลองท�ากล่องดนตรีของ ตัวเองที่จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก เริ่มต้นโดยเราเลือกเสียงเพลงที่ต้องการแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะจัดอุปกรณ์ มาให้เราพร้อมเครื่องมือ จากนั้นเราก็แค่บรรจงประดิดประดอยตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะน�าก็เป็นอัน เสร็จเรียบร้อย แต่บอกก่อนว่าไม่งา่ ยอย่างทีค่ ดิ เลย สนนราคาส�าหรับผูใ้ หญ่ 1,920 เยน และเด็ก 1,610 เยน หากต้องการตกแต่งกล่องดนตรีของเราด้วยตุ๊กตาชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็จะมีราคาแจ้งไว้ให้ทราบอย่างชัดเจน ใช้เวลาครึ่งวันเช้าหมดไปกับการแวะชิมบรรยากาศและอากาศดีๆ บน Rokkosan และกินอาหาร เที่ยงกันที่ “Rokko Garden Terrace” ช่วงบ่ายเราเข้าไปชม เมืองโกเบ โดยเฉพาะในย่าน ที่อยู่อาศัย เดิมของชาวตะวันตก ที่เคยเข้ามาตั้งรกรากค้าขายอยู่ในโกเบเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ 3 มิติที่มีชื่อว่า “Ijinkan Kobe Trick Art Museum” พร้อมทั้งเดินเล่นในย่านเมืองและแวะชิมไอศกรีมร้าน ดังที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นร้านไอศกรีมที่อร่อยที่สุดในภูมิภาคคันไซ ลองขึ้นชื่อขนาดนี้เราจะไม่ลองชิมได้ อย่างไร


Ijinkan Kobe Trick Art Museum

Welcome to

Okayama

แล้วก็ได้เวลาเดินหน้าสูเ่ ป้าหมายส�าคัญของเราส�าหรับทริปนี้ นัน ่ ก็คอ ื โอกายาม่า ค�า่ คืนแรกในบ้านเกิดของพ่อหนูโมโมทาโร่เราได้เข้าพักในโรงแรมทีค ่ อ ่ น

ข้างสะดวกสบายและดีมากทีเดียว อยากแนะน�าไว้สักนิดส�าหรับคุณผู้อ่านท่านใดที่สนใจนอนค้างในโอกายาม่าสักคืนสองคืน โรงแรมที่ว่านี้ก็คือ “ANA Hotel Okayama” ที่สะดวกสบายทั้งห้องพักและห้องอาหาร ทั้งการบริการจากเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็ดีไม่แพ้กัน

ส� า หรั บ การท่ อ งเที่ ย วในโอกายาม่ า สิ่ ง ที่ ท� า ให้ นักท่องเที่ยวอย่างเราสะดวกมากขึ้นก็คือบนสถานีรถไฟ โอกายาม่ามีให้บริการขนส่งกระเป๋าเดินทางของเราออกไป ยังสถานีอื่นๆ โดยที่เราไม่ต้องหอบหิ้วไปเองให้ล�าบาก สามารถแวะไปเทีย่ วกันแบบสบายๆ ได้ และหากเป็นการส่ง กระเป๋าภายในโอกายาม่าและเมืองคุราชิกิบริเวณใกล้เคียง ก็จะใช้เวลาภายใน 1 วันเท่านั้น และยิ่งสะดวกไปกว่านั้นก็ คือกลุ่มโรงแรมในโอกายาม่าและคุราชิกิที่เข้าร่วมข้อตกลง กับสถานีรถไฟกระเป๋าเดินทางของเราก็จะถูกส่งตรงไปยัง โรงแรมที่หมายของเราเลยทันที เที่ยวกันทั้งวันพอกลับเข้า โรงแรมก็จะเจอกระเป๋าของตัวเองมารออยู่ล่วงหน้าแล้ว บริการนี้เปิดตั้งแต่ 8.00-20.00 น. เห็นไหมล่ะว่าเที่ยวโอกา ยาม่าไม่ธรรมดาเลย มากับบริษัททัวร์ก็สบาย มาเที่ยวเองก็ หายห่วง ก่อนเข้าสูโ่ ปรแกรมแรกในโอกายาม่าเราสลับฉากด้วย การแวะไปที่ “มหาวิทยาลัยโอกายาม่า” เพราะการเดินทาง มาถึ ง ที่ นี่ ใ นช่ ว งฤดู ใ บไม้ เ ปลี่ ย นสี ความสวยงามของ ทัศนียภาพในบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยแห่งนีไ้ ม่เป็นสอง รองใคร ตลอดริมถนนและทางเดินต้นไม้ใบไม้พร้อมใจกัน เปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มจนหมด

Korakuen Garden

Okayama University

Okayama Castle

เดินชมกินบรรยากาศกันอยู่พักใหญ่เราก็ขึ้นรถรางไปยัง “ปราสาทโอกายาม่า” (Okayama Castle) ปราสาทชื่อดังของเมืองที่บ้าง ก็เรียกกันว่า “ปราสาทอีกา” สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1597 เคยถูกเผาไปรอบหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนปี 1945 ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วย รูปทรงเดิมและคงอยู่มาจนถึงวันนี้ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เก็บของเก่าที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ชั้นบนสุดของปราสาทเป็นจุด ชมวิว ส่วนในชั้นอื่นๆ ก็จะจัดแสดงรูปแบบของศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่างๆ กันไป มีมุมเรียนรู้การท�าเครื่องปั้นดินเผาที่นักท่องเที่ยว สามารถลงมือท�าได้จริง มีมุมทดลองสวมกิโมโนทั้งชายและหญิง หรือจะชมพิธีชงชาก็มี แต่ช่วงที่เราเดินทางไปถึงเป็นจังหวะเดียวกับ การจัดแกลอรี่แสดงงานศิลปะที่มีศิลปินชาวไทยร่วมแสดงผลงานด้วย ฉะนั้นการเข้าชมปราสาทโอกายาม่าหากโชคดีหน่อยก็จะได้ของ แถมเป็นการได้ชมงานเหล่านี้อีกมุมหนึ่งด้านนอกปราสาทจะมีสวนสาธารณะเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับถึงวันนี้ก็ 300 กว่าปีแล้ว ชื่อว่า “Korakuen Garden” ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เดิมสวนแห่งนี้เป็นสมบัติของโชกุนเจ้าของปราสาทโอกายาม่า นั่นคือ “ท่านอิเคดะ ทสึนามาสะ” (Ikeda Tsunamasa) มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 133,000 ตารางเมตร ความสวยงามของสวนแห่งนี้จะ แปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งช่วงซากุระบาน ใบไม้เปลี่ยนสีและหิมะตก ด้านหลังมีแม่น�้าอาซาฮีไหลผ่านใต้สะพานเหล็กขนาดใหญ่

| 107


มาโอกายาม่าครั้งนี้เราได้ไปที่ “ศาลเจ้า คิบท ิ สึ” (Kibitsu Shrine) ศาลเจ้าทีม ่ ช ี อ ื่ เสียง ของเมืองและเป็นศูนย์รวมความเชื่อศรัทธา ของชาวเมื อ งนี้ ไ ว้ เ ต็ ม เปี ่ ย ม เริ่ ม แรกเรา ค่อนข้างตืน ่ เต้นเมือ ่ ได้เห็นอาคารไม้หลังใหญ่ ของวัดที่สวยงามมากและก็มีอยู่หลายหลัง เล็กใหญ่คละกันไป การมาทีน ่ ใี่ นช่วงมีเทศกาล งานพิ ธี ป ระจ� า ปี เ ราจะพบเจอคนเยอะมากที่ ต่างก็มาไหว้พระขอพร ศาลเจ้าแห่งนี้มีหลาย บริเวณให้สก ั การะ ทัง ้ วิหารหลังใหญ่เป็นหลัก ของศาลเจ้า วิหารหลังเล็กทางด้านหลังศาล เจ้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรให้มีความมั่นใจ และสร้างเชื่อมั่นในตัวเอง ได้ข่าวว่านักร้อง ชื่อดังของญี่ปุ่นก็เคยมาขอพรที่นี่จนโด่งดัง กันมาแล้ว

ห่างออกมาจากศาลเจ้าคิบทิ สึจะมี “ศาลเจ้า กิบิซึฮิโกะ” (Kibitsuhiko) ซึ่งก็ได้รับความนับถือ ศรัทธาจากชาวเมืองไม่น้อยไปกว่ากัน ด้านหน้า ทางเข้ามีรปู ปัน้ โมโมทาโร่ยนื อยูพ่ ร้อมสุนขั ลิงและ นก ศาลเจ้ากิบิซึตฮิโกะสร้างขึ้นในปี 1697 เป็น ศาลเจ้าที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ภายในกว้างขวาง แต่กด็ สู งบร่มรืน่ มีวหิ ารไม้เก่าแก่อยูห่ ลายหลัง แต่ ทีเ่ รารูส้ กึ โดดเด่นทีส่ ดุ ส�าหรับศาลเจ้ากิบซิ ฮึ โิ กะคือ เสาโทริอสิ แี ดงส้มตัง้ เรียงเป็นแถวเดียวกันลึกเข้าไป ในตัวศาลเจ้าคล้ายกับที่เราเคยเห็นที่เกียวโต ที่นี่ อาจจะดูเล็กกว่าแต่ก็ดูสวยก�าลังดี

108 |

Kibitsu Shrine

แต่จดุ ทีถ่ อื เป็นไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนีก้ ค็ อื แนวทางเดินที่สร้างคล้ายสะพานไม้ยาวประมาณ 400 เมตร ตีระแนงไม้ตลอดทางเหมือนเป็นช่อง หน้ า ต่ า งและทอดยาวลงตามแนวลาดเชิ ง เขา พาเราเดินไปสู่วิหารอีกหลังหนึ่งที่ใช้ส�าหรับท�าพิธี เสี่ยงทายโชคชะตาด้วยเมล็ดข้าวซึ่งเราไม่เคยเห็น ที่ไหนมาก่อน โดยมีผู้น�าพิธีเป็นชาย 1 ท่าน และ หญิงอีก 2 ท่าน กรรมวิธีที่เราได้รับทราบก็คือจะ ท�าพิธีโดยการกล่าวถึงชื่อและค�าอธิษฐานของผู้ที่ ต้องการเสี่ยงทายแล้วน�าข้าวสารลงหุงด้วยวิธี โบราณ หากเกิดเสียงก้องดังกังวานจากในภาชนะ ทีม่ ขี า้ วบรรจุอยูส่ ะท้อนออกมาชัดเจนท�านายว่าจะ เห็นผลตามค�าขอ จะเกิดลางดีในชีวติ จากนัน้ ผูท้ า� พิธีจะน�าเมล็ดข้าวสารนั้นมาให้ผู้เสี่ยงทายได้กิน เพื่อเป็นสิริมงคล

Kibitsuhiko


Inujima

Inujima Seisensho Art Museum, Inujima Art House Project

ก่อนจะเดินทางมาโอกายาม่าเราสืบข้อมูลมาว่าเมืองนี้มีเกาะแห่งศิลปะที่เปิดให้เข้าชมได้มาตั้งแต่ปี 2008 และได้รับความนิยมจาก ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติท่ีชื่นชอบงานศิลปะแวะเวียนกันมาเที่ยวชมมากมาย และยิ่งจะมากขึ้นในช่วงที่มีการจัดงานเกี่ยวกับการจัด แสดงงานศิลปะซึ่งจะมีขึ้น 3 ปีครั้ง แต่ต้องนั่งเรือออกจากท่าเรือโฮเดน (Hoden Port) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ออกไประยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เราเลยตั้งใจว่าจะต้องไปชมให้ได้ และก็ได้ดังใจกับการพบกันครั้งแรกระหว่างเราและ “เกาะอินุจิมะ” (Inujima Seisensho Art Museum, Inujima Art House Project) อดีตแหล่งที่ตั้งของโรงงานถลุงแร่ทองแดง และยังเป็นแหล่งหิน แกรนิตที่ถูกน�าไปใช้เป็นวัสดุหลักในการสร้างปราสาทโอกายาม่าด้วย

บริเวณท่าเรือฝั่งเกาะอินุจิมะมีอาคารหลัง ใหญ่ทรงเหลี่ยมตั้งอยู่ เป็นทั้งแหล่งให้ข้อมูลและ คาเฟ่ต์ เกาะแห่งนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่มีประมาณ 40 คน มีรา้ นกาแฟ ไม่มโี รงแรมแต่กเ็ ปิดให้ผทู้ ชี่ อบ บรรยากาศริมทะเลแบบนีม้ ากางเต็นท์นอนได้ ส่วน บ้านและอาคารต่างๆ ที่สร้างขึ้นที่นี่ส่วนใหญ่จะ สร้างด้วยไม้ที่ผ่านการเผาแล้ว เพื่อให้ต้านทาน ลมทะเลที่มีความเค็มปะปนมาได้ และแม้วา่ ปัจจุบนั โรงงานถลุงแร่ทดี่ า� เนินงาน ตัง้ แต่เมือ่ เกือบร้อยปีกอ่ นจะยกเลิกการผลิตไปแล้ว แต่ สิ่ ง ที่ เ รายั ง เห็ น ถู ก ทิ้ ง เป็ น หลั ก ฐานทาง ประวัติศาสตร์ ก็คือปล่องควัน โดยเฉพาะก�าแพง โลหะริมทะเล ซึ่งเหล่านี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และยังส่งเสริมให้เป็นเกาะ แห่งการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์ หลายหลังจึงไม่มกี ารเปิดเครือ่ งปรับอากาศ จะเน้น การคงอยูใ่ นสภาพแวดล้อมจริง อากาศจะร้อนหรือ เย็นจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนของ ห้องน�า้ เมือ่ มีนา�้ เสียเกิดขึน้ ก็จะถูกบ�าบัดก่อนปล่อย ลงสู่ทะเลด้วย

มีการจัดให้อดีตโรงงานผลิตทองแดงหลังหนึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และมีการจัดแสดง ผลงานของ “Yukinori Yanagi” เอาไว้ด้วย ซึ่งงานแสดงของเขา ได้รับแรงบรรดาลใจมาจาก “Yukio Mishima” นักเขียนชือ่ ดังของญีป่ นุ่ ด้วยการท�าเป็นทางเดินทีใ่ ช้กระจกเงา เป็นตัวช่วย ในการสะท้อนแสงสว่าง ส่องทางเดินให้เราเข้าไปสัมผัสกับความเงียบและความมืด เมื่อเปิด ออกไป ก็จะพบกับอีกผลงาน ที่น�าเอาเครื่องใช้ภายในบ้านของมิชิมะ ยูกิโอะ มารังสรรค์ ผลงานศิลปะบนพื้นหินที่เจิ่งนองไปด้วยน�้า เหนือศรีษะ มีกรอบหน้าต่าง บานประตู ถูกแขวนลอยอยู่กลางอากาศ จุดนี้จะแสดงงานแบบถาวรไม่เปลี่ยนไม่ย้ายไปจากนี้ ต่างจาก พืน้ ทีอ่ นื่ ๆ ทีจ่ ะจัดไว้สา� หรับจัดแสดงงานศิลปะนัน้ มีอยูห่ ลายจุด มีทงั้ ในหอศิลป์ และโดมย่อยๆ ที่จะจัดแสดงไว้เป็นรอบเดือนและรอบปีก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่ตามแต่ศิลปินจะรังสรรค์ งานของตัวเองออกมา จริงๆ แล้วในทุกการแสดงงานศิลปะบนเกาะแห่งนี้มีความหมาย แฝงอยู่ทั้งสิ้น เพียงแค่ผู้ชมจะเข้าใจและเข้าถึงมากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง

Inujima Seirensho Art Museum Photo : Daici Ano

Inujima “Art House Project” A-Art House Haruka Kojin : reflectwo, 2013 Photo: Takkashi Homma

| 109


Kurashiki

Koba

Variety of

Kurashiki

Kikko do

เราตั้งใจขยับออกนอกโอกายาม่าสักนิดไปเที่ยวเมือง “คุราชิกิ” (Kurashiki) กันสักพัก นั่งรถไฟแค่ 17 นาทีจากสถานี Okayama ไปถึง สถานี Kurashiki จากนั้นก็เข้าสู่ย่านเมืองเก่าคุราชิกิซึ่งน่าเที่ยวมาก เราเคยเที่ยวย่านเมืองเก่าของญี่ปุ่นอยู่หลายเมือง แต่ส�าหรับที่คุราชิกิดู จะต่างไปจากที่อื่น เพราะมีความหลากหลายค่อนข้างมาก และเรารู้สึกว่าพื้นที่ของเมืองเก่ากว้างขวาง มีซอยย่อยเยอะแยะ ร้านค้าเต็มไปหมด มองเห็นอาคารเก่าแก่หลังหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารที่สวยที่สุดของที่นี่ชื่อว่า “Namakokarea” ซึ่งในสมัยเอโดะเคยถูกใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า ก่อนถูกขนส่งทางเรือไปยังโอซาก้า เพราะในยุคนั้นพื้นที่แถบนี้อยู่ติดทะเล ได้รับการถมเป็นแผ่นดินก็ในยุคถัดมา เช่นเดียวกับแม่น�้าสายหลักที่ ไหลผ่านใจกลางเมืองเก่าก็เคยกว้างกว่าที่เราเห็นในปัจจุบันถึง 2 เท่า

ที่น่าสนใจส�าหรับนักกินอย่างพวกเราเมื่อ เดินเล่นอยูใ่ นย่านเมืองเก่านีก้ ค็ อื บรรดาร้านอาหาร และร้านขนม เราแวะกินพาสต้าเป็นอาหารเทีย่ งกัน ที่ร้าน “Achimachi” จากนั้นก็ไปกินของหวานกัน ต่ อ ที่ ร ้ า น “Kikko do” ที่ มี ข นมขึ้ น ชื่ อ อย่ า ง “Murasuzume” แป้งนุ่มห่อไส้ถั่วแดงหวานๆ อร่อยเลอค่ามาก และถ้าลูกค้าสนใจอยากลองท�า ขนมด้วยตัวเองทางร้านจะมีมมุ ฝึกหัดให้ในโควต้า คนละ 3 ชิ้นราคา 500 เยน ท�าเสร็จหยิบขนมฝีมือ ตัวเองใส่ถงุ กลับมากินได้เลย สนุกและอร่อยไปด้วย พร้อมกัน

Momoko Cafe

110 |

จากนัน้ ก็เข้าไปชอปปิง้ กันในร้าน “Momoko Cafe” ร้านกาแฟทีป่ รับแต่งร้านจากอาคารหลังเก่า ในอดี ต มาเป็ น รู ป แบบที่ ดูส ากลขึ้ น แต่ ก็ ยั ง ดู คลาสสิคด้วยเครือ่ งไม้ทงั้ ตัวอาคารและเฟอร์นเิ จอร์ มีร้าน “โคบะ” (Koba) ที่น่าสนใจด้วยกาแฟหอม เข้มเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง หรือจะเป็นร้านตัด เสือ้ สูทเก๋ๆ ทีแ่ ถบจะไม่ซา�้ ทีใ่ ดในโลกและมีอยูร่ า้ น เดียวในญี่ปุ่นอย่าง “In Blue Denim Suit” เพราะ เลือกน�าผ้ายีนส์มาตัดสูทส�าหรับสุภาพบุรุษได้ เท่มาก ดูทันสมัยและอินเทรนด์กว่าสูททั่วไปที่มัก ถูกมองว่าดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป

In Blue Denim Suit

มีร้านเหล้าสาเกอยู่ค่อนข้างมาก มองเห็น ร้านไก่ย่างชื่อดังของคุราชิกิที่อร่อยและราคาถูก ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและ ตะวันตก มีร้าน “Baiston” จ�าหน่ายกระเป๋าผ้า ชื่อดังที่มีแบบให้เลือกมากมาย คือจากเดิมคุราชิกิ ในอดีตเป็นเมืองแห่งการผลิตผ้า ด้วยความที่เป็น พืน้ ทีต่ ดิ ทะเล ท�านาปลูกข้าวปลูกพืชอืน่ ไม่ได้กเ็ ลย หันไปปลูกฝ้าย แล้วก็เป็นที่มาของการผลิตผ้า ส่งขายยังเมืองอื่นๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ของ คุราชิกิมาถึงปัจจุบัน

Baiston


เราเจอร้านเทปกาวส�าหรับแปะติดทุกวัสดุที่ หากในบ้านเราก็อาจจะเป็นเทปกาวใสธรรมดา แต่ ส�าหรับของญีป่ นุ่ แล้ว นีค่ อื วัสดุทส่ี ามารถใช้ตกแต่ง วัสดุตา่ งๆ ได้นา่ รักมาก เพราะเทปกาวแต่ละขนาด จะออกแบบให้มลี วดลายหลากหลาย ทัง้ ลายการ์ตนู และลายญีป่ นุ่ แท้ๆ นอกนัน้ ก็จะมีสนิ ค้าแฮนด์เมด อี ก มาก มี ก าร์ ด อวยพรสวยๆ จ� า หน่ า ยด้ ว ย ทางร้านยังเปิดกว้างให้ผทู้ ซี่ อื้ การ์ดจากร้านสามารถ น�ามาตกแต่งให้สวยงามน่ารักด้วยเทปกาวหลาย ลวดลายแบบไม่คดิ ค่าบริการเพิม่

Kurashiki Guest House U-rin-an

Mr. Atsuyoshi Nakamura

ที่เราอดใจไม่ได้จนต้องขอเข้าไปชมใกล้ๆ และใช้เวลาอยู่นานก็คือร้านขนม “พุดดิ้งแห่ง ความสุข” พุดดิง้ อร่อยหอมเนือ้ เนียนทีว่ าดผิวหน้า ด้วยน�้าตาลเป็นรูปตาจมูกปากที่ก�าลังยิ้มแย้ม อย่างสดใส ด้วยคอนเซปต์ของร้านคืออยากให้ ลูกค้าได้รบั ความสุขเมือ่ ได้กนิ พุดดิง้ แห่งความสุขนี้ บอกก่อนว่าร้านนี้จะท�าพุดดิ้งออกมาแค่วันละ 80 ถ้วยเท่านั้น หมดแล้วหมดเลยต้องรอกินวันถัดไป และถ้าเป็นวันหยุดอาจจะต้องเจอคู่แข่งเยอะ หน่อยเพราะความอร่อยเป็นเหตุ ยิง่ วันอาทิตย์ดว้ ย แล้ว ทันทีที่เปิดร้านและเวลาผ่านไปแค่ 2 ชั่วโมง พุดดิ้งถ้วยสุดท้ายก็ไม่รอคนมาสายอีกต่อไป และเมื่อได้เข้ามานั่งกินพุดดิ้งถึงได้รู้ว่าร้าน นีจ้ ริงๆ แล้วเป็นเกสต์เฮาส์ดว้ ย มีชอื่ ว่า “Kurashiki Guest House U-rin-an” ดูแลโดย “คุณอสึโยชิ นากามูระ” (Atsuyoshi Nakamura) นีค่ อื บ้านหลัง เก่าอายุกว่า 100 ปีที่ถูกน�ามาปรับให้เป็นเกสต์เฮา ส์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ตอนกลางวันจะท�าเป็นร้าน อาหาร ส่วนกลางคืนก็จะเป็นทีพ่ กั มีลกู ค้าทุกเพศ ทุ ก วั ย แวะเวี ย นเข้ า มาพั ก ค้ า งอยู ่ ต ลอดทั้ ง ปี ชาวต่างชาติก็มีอยู่ไม่น้อยที่ต้องการมาสัมผัส ความเป็นท้องถิน่ ซึง่ หาไม่ได้งา่ ยนักในโรงแรมอืน่ ๆ ทั่วญี่ปุ่น ใน 1 คืนเกสต์เฮาส์แห่งนี้จะรับลูกค้าได้ เต็มที่ 17 คน ใครสนใจสไตล์นี้เราขอเชิญที่นี่เลย

Special Thanks

Travel Innovation Japan Inc.

Kurashiki Outlet Park

และปิดท้ายกันแบบจริงๆ จังๆ ด้วยการชอปปิ้งจนกระเป๋าฉีกที่ “Kurashiki Outlet Park” เอาท์เลตขนาดใหญ่ในคุราชิกทิ มี่ ากมายด้วยร้านค้าถึง 122 ร้าน มีแถบจะทุกแบรนด์ยอดนิยม ทัง้ แบรนด์ ญี่ปุ่นและแบรนด์ระดับโลก ราคาไม่แพงและมีจ�านวนสินค้าให้เลือกมากมายสมความเป็นเอาท์เลต และ ที่นี่ยังเป็นเอาท์เลตที่ได้รับการยอมรับว่ายิ่งใหญ่กว่าเอาท์เลตในชิโกกุและชูโกกิรวมกันเสียอีก นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาถึง Kurashiki Outlet Park สามารถแสดงหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อขอรับคูปองส่วนลดส�าหรับซื้อสินค้าได้ทันที และก็ใช่จะมีแต่ร้านค้า เท่านั้น แต่เอาท์เลตแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สร้างให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมากมายไปด้วยต้นไม้ มุมนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ และก็ยังเดินทางมาได้ง่าย และส�าหรับคุณๆ ที่ยังไม่เต็มอิ่มกับการชอปปิ้ง ด้านหน้าเอาท์เลตยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ให้กระหน�่าช้อปปิ้งละลายทรัพย์ได้อีกด้วย

E-mail: CUSTOMER@TI-J.CO.JP

www.ti-j.co.jp

Okayama

www.okayama-japan.jp/en

| 111


“อัพเดททัวร์

ได้ทุกวัน

หาทัวร์เที่ยว by Checktour Magazine

ที่”




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.