แถนเมืองฟ้า - ทดลองอ่าน

Page 1


แถนเมืองฟ้า 1


แถนเมืองฟ้า พราวพุธ : เขียน ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๗๗๓๕-๔๘-๑ พิมพ์ครั้งที่ ๑ : สำนักพิมพ์กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ หมวดนวนิยาย ลำดับที่ ๕๔

จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ในเครือ บริษัท กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำกัด เลขที่ ๒๙/๑๐๖ วิสต้า อเวนิว วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ โทรศัพท์ : ๐๘๕-๖๖๕-๕๔๒๒ โทรสาร : ๐-๒๑๕๓-๐๕๐๐ อีเมล : groove_publishing@hotmail.com เว็บไซต์ : www.groovebooks.com, http://www.facebook.com/groovepublishing บรรณาธิการที่ปรึกษา : นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ : อรรถรัตน์ จันทรวรินทร์ ประสานงานการผลิต : สุลวัณ จันทรวรินทร์ พิสูจน์อักษร : กฤษดา ศิริกิจพาณิชย์กูล และ เนตรนภา ณ ถลาง ออกแบบปก : พินิจ สังสกฤษ ประสานงานการออกแบบปก : จารุนันทน์ ศรีรัตนตรัย รูปเล่ม : Aim Graphic ดำเนินการผลิตโดย เอมกราฟฟิกเฮ้าส์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๖๒๖-๙๑๒๓ โทรสาร ๐-๒๘๘๓-๖๑๒๑ พิมพ์ที่ บริษัท เอ.พี. กราฟิคดีไซน์และการพิมพ์ จำกัด ๑/๘ หมู่ที่ ๔ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐ โทรศัพท์ ๐-๒๔๙๗-๖๘๔๐-๓ โทรสาร ๐-๒๔๙๗-๖๘๔๔ จัดจำหน่ายโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ๑๐๘ หมู่ที่ ๒ ถ.บางกรวย - จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐ โทรศัพท์ ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙ โทรสาร ๐-๒๔๔๙-๙๒๒๒, ๐-๒๔๔๙-๙๕๐๐-๖ Homepage : http://www.naiin.com

ราคา ๒๐๐ บาท

2 พราวพุธ


แถนเมืองฟ้า 3


คำนำสำนักพิมพ์ ‘แถนเมืองฟ้า’ เป็นนวนิยายเรื่องแรกของ ‘พราวพุธ’ ตอนที่เธอส่งต้นฉบับนวนิยายเรื่องนี้มาให้เรา พร้อมกับจดหมาย แนะนำตัวเอง ทีมงานพิจารณาต้นฉบับของสำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ถึงกับต้องถามย้ำกับเธอว่า นี่คือนวนิยายเรื่องแรกที่เขียนจริงๆ หรือ เพราะด้ ว ยสำนวน ลี ล า และฝี ไ ม้ ล ายมื อ ของเธอนั้ น ไม่ ธ รรมดาเลย ทีเดียว แถนเมืองฟ้า เป็นนวนิยายแนวโรแมนติก แฟนตาซี มีเรื่องราว ลึกลับผสมผสานกับความน่ารักกุ๊กกิ๊กของตัวละครเอกทั้งสอง ชวนให้ อ่านและติดตามต่อไปจนจบเรื่องโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ‘พราวพุธ’ ยัง สอดแทรกวิถีชีวิต วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยทรงดำ อยู่ในนวนิยายเรื่องนี้อย่างแนบเนียน นับเป็นเสน่ห์หนึ่งของแถนเมืองฟ้า อันหาได้ไม่บ่อยนักในนวนิยายเรื่องอื่นๆ ขอฝากผลงานเรื่องแรกของ ‘พราวพุธ’ ด้วยนะครับ หากคุ ณ ชอบอ่ า นนวนิ ย ายแนวลึ ก ลั บ ชอบอ่ า นนวนิ ย ายแนว แฟนตาซีทมี่ คี วามร่วมสมัย ชอบอ่านนวนิยายโรแมนติก ทุกองค์ประกอบ ที่ได้กล่าวมานั้น มีรวมอยู่ในนวนิยายเรื่องนี้แล้วอย่างลงตัวเป็นอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่า คุณผู้อ่านจะมีความสุขที่ได้อ่านแถนเมืองฟ้าเช่นเดียว กับเรา ด้วยรักจากใจ นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ บรรณาธิการที่ปรึกษา สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง ในเครือ บริษัท กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำกัด

4 พราวพุธ


คำนำนักเขียน เรื่ อ งแถนเมื อ งฟ้ า นี้ ได้ แ รงบั น ดาลใจมาจากประเพณี แ ละ วัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวดิฉันค่ะ ผู้เขียนเป็นชาวไทดำ ไม่ใช่ตัวดำนะคะ แต่เป็นเพราะเครื่องแต่งกายประจำชนเผ่าของเราล้วนแล้วแต่เป็นสีดำ ต่างหาก บางคนก็เรียกชนเผ่าของผู้เขียนว่าชาวไทซงดำหรือไทยทรงดำ เพราะชอบสวมชุดสีดำนั่นเองค่ะ ตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ของผู้เขียนชอบ เล่านิทานให้ฟังค่ะ หนึ่งในนั้นคือเรื่องเมืองแถน เมืองที่พญาแถนสร้าง ขึ้นมาให้อยู่ในผลน้ำเต้า ที่นั่นเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองแถน กินอยู่กันอย่างสุขสบายไม่อดอยาก แต่อยู่มาวันหนึ่งชาวเมืองแถนเกิด เบื่อและอยากจะออกจากผลน้ำเต้าขึ้นมา จึงไปขอกับพญาแถนให้เจาะ ผลน้ำเต้าจนชาวเมืองแถนหลั่งไหลออกมาดั่งสายน้ำ ทุกคนได้ออกมา สมใจ แต่สุดท้ายก็มาโอดครวญกันว่า ไม่น่าออกมาเล้ย เพราะออกมา แล้วลำบากลำบนกว่าตอนอยู่ในผลน้ำเต้าหลายเท่า และนั่นเป็นที่มา ของความต้องการสุดท้ายของชาวไทดำ คือการได้กลับไปที่เมืองแถน บ้านเก่าของพวกเขาอีกครั้ง ขอบคุณ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ถ่ายทอดเรื่องเล่าต่างๆ เหล่านี้ มาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน และที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือคุณหมอพงศกร และคุณกรู๊ฟที่ให้โอกาสดิฉันนำเสนอผลงาน ตลอดจนให้คำแนะนำดีๆ จนต้นฉบับเรื่องแถนเมืองฟ้าสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะมีความสุขและสัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่นของคนในครอบครัวที่อบอวลอยู่ในนวนิยายเรื่องนี้ค่ะ

พราวพุธ แถนเมืองฟ้า 5


6 พราวพุธ


ผลงานข้า ใครอย่าแตะ

กึก...กึก...กึก...กึก...เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังมาจาก ฝีเท้าของคนที่กำลังโกรธจัด หญิงสาวเจ้าของรองเท้าคู่นั้นเพิ่มความเร็ว ของฝีก้าวให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าจะยังช้าไปเมื่อเทียบกับอารมณ์ ของเธอที่กำลังเดือดพล่านอยู่ตอนนี้ แพรไหม สาวสวยร่างเล็กผู้มีบุคลิกปราดเปรียวสมกับอาชีพนัก ออกแบบเสือ้ ผ้า เธอกำกระดาษทีถ่ กู ขยำจนยูย่ เี่ อาไว้ในมือแน่น เดินออก จากห้องผู้จัดการฝ่ายออกแบบเสื้อผ้าด้วยสีหน้าที่โกรธจัด ริมฝีปากที่ถูก ทาด้วยลิปสติกสีแดงด้านนั้นเม้มแน่น คิ้วโก่งขมวดมุ่น ดวงตาวาวโรจน์ จนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพล้ ง ! แพรไหมมาหยุ ด อยู่ ต รงหน้ า โต๊ ะ ทำงานของวรรณภา กระดาษที่ขยำและกำแน่นมาจากห้องผู้จัดการฝ่ายถูกปาใส่หน้าของ คู่กรณี แล้วปัดแก้วกาแฟของวรรณภาจนตกแตกกระจายทั่วพื้น เพื่อน พนักงานคนอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน เห็นอย่างนั้นก็พากันเดิน ออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้ดีไซเนอร์สาวสองคนเปิดศึกกันได้อย่าง เต็มที่ “นี่มันอะไรกันแพร” วรรณภาลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับแพรไหม แถนเมืองฟ้า 7


จ้องหน้าอีกฝ่ายกลับไปด้วยดวงตาที่เกรี้ยวกราดไม่แพ้กัน “อะไรกันอย่างนั้นเหรอ ฉันต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายถามเธอ ว่ามันอะไรกัน ทำไมอยู่ๆ เสื้อผ้าที่เธอออกแบบถึงได้เหมือนกับที่ฉัน ออกแบบราวกับก๊อบปี้แล้วก็วางแบบนี้” แพรไหมพูดพลางหยิบผลงาน ของตัวเองที่เธอขยำและปาใส่หน้าวรรณภามาคลี่ออกบนโต๊ะแล้วตบ โต๊ะแรงๆ เพื่อระบายความโกรธ สายตาคมจ้องเขม็งไปยังอีกฝ่ายอย่าง เอาเรื่อง “ฉันจะไปรูเ้ หรอ...บางที เธอกับฉันอาจจะใจตรงกันก็ได้” วรรณภา พูดพลางกอดอกแล้วเบือนหน้าหนี “ใจตรงกันเหรอ ตอบง่ายไปนะวรรณ” แพรไหมขบกรามแน่น พยายามควบคุมสติอารมณ์ไม่ให้โกรธไปมากกว่านี้ การที่เธอโดนลอก เลียนผลงานนั้นว่าน่าโมโหแล้ว หากท่าทางไม่แยแส กับลูกไม้แก้ตัว หน้าด้านๆ ของวรรณภานั้นทำให้เธอโกรธหนักขึ้นกว่าเดิม “ฉันออกจะทุ่มเท ทำงานเลิกดึกๆ ดื่นๆ ทุกคนก็เห็น” “แต่ที่เธอเลิกดึกๆ ดื่นๆ ก็เพราะเธอจ้องที่จะแอบดูงานของฉัน ตอนที่ ฉั น เผลอต่ างหากล่ะ ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ วันที่ฉันรีบกลับบ้าน จนลืมล็อกลิ้นชักโต๊ะของตัวเอง เธอนี่มัน...” แพรไหมตบโต๊ะดัง ‘ปัง’ อย่างเหลืออด มีถ้อยคำมากมายที่อยากจะสบถด่าวรรณภาให้สาแก่ใจ แต่ ด้ ว ยสติ ที่ ยั ง พอจะควบคุ ม เอาไว้ ไ ด้ แพรไหมจึ ง ทำได้ เ พี ย งชี้ ห น้ า และเตือนเธอด้วยประโยคสั้นๆ “อย่าทำแบบนี้อีก แล้วจะหาว่าไม่เตือน” พูดจบ แพรไหมก็ทำท่า จะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง “ช่วยไม่ได้ ก็อยากสะเพร่าเอง” วรรณภาพูดเบาๆ พอให้ได้ยิน กันเพียงสองคน เธอทำสีหน้ายิ้มเยาะเพราะต้องการจะยั่วอารมณ์โมโห ของอีกฝ่าย 8 พราวพุธ


ซึ่งก็ได้ผล เพราะตอนนี้แพรไหมถึงกับหยุดชะงัก แล้วหันกลับมา เผชิญหน้ากับวรรณภาอีกครั้ง “เธออยากรู้ไหมวรรณภา ว่าเวลาที่เราคิดผลงานดีๆ ออกมาแล้ว ผลงานชิ้นนั้นมันไม่อยู่กับเราแล้วจะรู้สึกยังไง” พูดจบ แพรไหมก็หยิบ แผ่นกระดาษที่วรรณภาวาดแบบเสื้อผ้าจนเสร็จสมบูรณ์แล้วมาฉีกทิ้ง ต่อหน้าต่อตา แควก! “กรี๊ด...” วรรณภากรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น พร้อมทั้งรีบรวบแผ่น งานชิ้นอื่นๆ ของตัวเองมากอดไว้แน่น เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายฉวยไปฉีกทำลาย ได้อีก แพรไหมยืนมองท่าทางเต้นผางๆ ของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ “กรี๊ดทำไม ตอนที่เธอขโมยงานของฉันไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับ ที่ฉันทำลายงานของเธอหรอก ทีนี้รู้หรือยังว่าฉันรู้สึกยังไง ถ้ายังไม่รู้ ฉัน จะได้ฉีกงานของเธอทิ้งอีก” แพรไหมไม่พูดเปล่า เธอทำท่าจะแย่งผลงาน ในมือของวรรณภามาฉีกอีกรอบ เสียงกรี๊ดของวรรณภาจึงดังขึ้นเรื่อยๆ “หยุดนะแพร!” เสียงเข้มดังมาจากด้านหลังของแพรไหม เสียง นั้นที่เคยทุ้ม นุ่ม และใจดี แต่วันนี้กลับฟังดูแข็งกร้าวผิดปกติ เสียงที่ทำ ให้แพรไหมใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “คุณพัฒน์” แพรไหมถึงกับมือไม้อ่อนเมื่อได้เห็นพิพัฒน์ ผู้จัดการ ฝ่ายออกแบบ ผูม้ ตี ำแหน่งเป็นทัง้ หัวหน้างาน และเจ้าของบริษทั ออกแบบ และผลิตเสื้อผ้ายี่ห้อดังที่เธอทำงานอยู่ตอนนี้ เดินเข้ามาหา “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคุณถึงได้กล้าทะเลาะกันในที่ทำงานแบบ นี้” พิพัฒน์พูดด้วยอารมณ์โกรธจัด “วรรณเปล่านะคะคุณพัฒน์ ยัยแพรต่างหากที่มาหาเรื่องก่อน มาต่อว่าวรรณเสียๆ หายๆ แถมยังฉีกผลงานของวรรณทิ้งอีกต่างหาก ไม่เชื่อถามพนักงานคนอื่นๆ ดูก็ได้ คุณพัฒน์ต้องให้ความเป็นธรรมกับ แถนเมืองฟ้า 9


วรรณนะคะ” อยู่ๆ น้ำตาของวรรณภาก็ไหลพราก มิหนำซ้ำ เธอปรี่เข้าไป หาพิพัฒน์ทันทีพลางเกาะแขนซบไหล่ และพูดจาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แม้พิพัฒน์จะมีอายุย่างเข้า ๓๕ ปีแล้ว แต่ก็ยังดูดีและที่สำคัญ ยังโสด ไม่แปลกเลยที่สาวๆ ในบริษัทจะแอบปลื้มเขาเป็นพิเศษรวมถึง วรรณภาด้วย “เอ่ อ คุ ณ วรรณ ปล่ อ ยผมก่ อ น เรื่ อ งนี้ ผ มจะสอบสวนเอง ผิ ด ว่าไปตามผิด คุณไม่ต้องกังวลหรอกครับ” พิพัฒน์พูดพลางแกะมือและ ถอยห่างออกจากวรรณภา สายตาที่ดูโกรธเกรี้ยวเมื่อสักครู่เหลือบมอง แพรไหมอย่างเกรงใจ “แพร คุณตามผมไปที่ห้องเดี๋ยวนี้ ส่วนพนักงานคนอื่นๆ ทำงาน กั น ตามปกติ แล้ ว อย่ า ให้ ผ มได้ ยิ น ใครเอาเรื่ อ งนี้ ไ ปพู ด เสี ย ๆ หายๆ ผมจะลงโทษให้ ถึ ง ที่ สุ ด โทษฐานไม่ รั ก ษาภาพลั ก ษณ์ ข ององค์ ก ร” พูดจบพิพัฒน์ก็หันหลังเดินจากไป แพรไหมได้ แ ต่ ก้ ม หน้ า ก้ ม ตาเดิ น ตามชายหนุ่ ม ไปติ ด ๆ เสี ย ง หัวเราะคิกคักอย่างสะใจลอยตามหลังแพรไหมไป ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เป็นเสียงหัวเราะของใคร “คราวนี้ แ กโดนเฉดหั ว ออกไปจากบริ ษั ท แน่ นั ง แพรไหมเอ๋ ย ” วรรณภาพูดพลางเปิดลิ้นชักโต๊ะเพื่อหยิบตลับแป้งออกมาเติมที่ใบหน้า การที่เธอบีบน้ำตาร้องไห้เมื่อสักครู่นี้ทำให้เครื่องสำอางโดนลบจนหมด สวย แม้จะยังรู้สึกทั้งเจ็บใจทั้งเสียดาย ที่ผลงานของตัวเองถูกแพรไหม ฉีกทำลาย แต่เมื่อเทียบกับการที่อีกฝ่ายถูกไล่ออกนั้น ก็ถือว่าคุ้มเสียยิ่ง กว่าคุ้ม เพราะหากไม่มีแพรไหมแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าแผนกที่ยังว่างอยู่ จะเป็นของใครไปเสียไม่ได้ นอกจากของเธอคนเดียว แพรไหมตามพิพฒ ั น์มาทีห่ อ้ งทำงานส่วนตัวของเขา พิพฒ ั น์ 10 พราวพุธ


นั่งพิงพนักเก้าอี้ทำงานของตัวเองด้วยท่าทางนิ่งเครียด ทำให้แพรไหมไม่ คิดที่จะแก้ตัวในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปสักคำ “แพรยอมรับค่ะ ว่าแพรไปหาเรื่องนังนั่นก่อนจริง แล้วก็ฉีกผลงาน ของเขาจนไม่เหลือชิ้นดี คุณพัฒน์จะไล่แพรออกก็เชิญเลยค่ะ” หญิงสาว ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของพิพัฒน์พลางกอดอกเชิดหน้า เธอรู้ดีว่ากฎเหล็กของบริษัทนี้ก็คือ ผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทจะถูกไล่ออก ทุกกรณี “ใจเย็นๆ สิแพร คุณก็รู้ว่าเคสนี้ผมลำบากใจ คุณเป็นดีไซเนอร์ มือหนึ่งของบริษัท แล้วอีกอย่าง คุณก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณ ผมไม่มีทาง ไล่คุณออกแน่” พิพัฒน์พูดไปกุมขมับตัวเองไป “คุณก็รู้นี่คะว่าแพรเป็นดีไซเนอร์มือหนึ่ง แล้วคุณก็รู้ด้วยว่า งาน ของแพรถูกก๊อบปี้แต่คุณก็ไม่ทำอะไรสักอย่าง งานแต่ละชิ้นแพรคิดจน สมองจะแตก ส่วนยัยนั่นมาคาบไปแด...เอ่อ...ไปรับประทานหน้าด้านๆ เป็นใครก็ทนไม่ได้หรอกค่ะ” แพรไหมระบายอารมณ์ใส่พิพัฒน์เป็นชุด “ผมเซ็ น อนุ มั ติ ง านของวรรณภาแล้ ว จึ ง มารู้ ที ห ลั ง ว่ า งานของ พวกคุณนั้นเหมือนลอกกันมา ถึงอย่างไรบริษัทเราก็มีกฎและมาตรการ ลงโทษสำหรั บ คนที่ ล อกเลี ย นแบบอยู่ แ ล้ ว นะแพร แต่ ต้ อ งให้ เ วลา ตรวจสอบหน่อย ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ คุณจะไปทำกับเขาแบบนั้น มันไม่ได้” พิพัฒน์อธิบายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “ช่วยไม่ได้ อยากดื้อตาใสดีนัก เตือนดีๆ แล้วก็ไม่ฟัง” แพรไหม ยังคงมีสีหน้าประชดประชันโดยที่ไม่ยอมรับผิดต่อไป “ผมก็เลยต้องมานั่งลำบากใจอยู่นี่ไง” “ลำบากใจที่จะต้องไล่แพรออก หรือลำบากใจต่อความแอ๊บแบ๊ว ของยัยวรรณภากันแน่คะ” “มันคนละเรื่องกันนะแพร” พิพัฒน์พูดกับแพรไหมด้วยน้ำเสียง แถนเมืองฟ้า 11


ที่เข้มขึ้น ท่าทางขึงขังบวกกับอายุที่มากกว่าทำให้แพรไหมที่ทำท่าจะ อ้าปากเถียงถึงกับหยุดชะงัก “ค่ะ ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามที่คุณพัฒน์สบายใจก็แล้วกันค่ะ แพร ยังไงก็ได้” แพรไหมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ผมจะไม่ ไ ล่ คุ ณ ออก แต่ ผ มจะพั ก งานคุ ณ หนึ่ ง เดื อ น ให้ คุ ณ ไปสงบสติอารมณ์สักพัก ที่ผ่านมาคุณอาจจะจริงจังกับงานมากเกินไป จนกลายเป็นความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว คุณจึงระบายออกมาในทาง ที่ผิด” “ฟังดูเหมือนแพรเป็นโรคประสาทยังไงก็ไม่รู้นะคะ” แพรไหมพูด พลางหัวเราะ แต่ช่างเป็นเสียงหัวเราะที่ขมขื่นเหลือเกิน “ผมก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่ผมต้องดูแลพนักงานเป็นร้อยๆ คน ถ้าผมไม่ลงโทษคุณ ก็จะกลายเป็นว่าผมเลือกปฏิบตั จิ นเสียการปกครอง” พิพัฒน์อธิบายอย่างใจเย็น “ค่ะ แพรเข้าใจ แพรถึงได้ช่วยคุณปิดเรื่องที่เราคบกันเอาไว้แบบนี้ ไงคะ” แพรไหมพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์น้อยใจ “ไม่เอาน่ะแพร รอให้ทุกอย่างพร้อมแล้วผมจะบอกให้ทุกคนรู้เอง ว่าเราเป็นอะไรกัน” แล้วคำพูดประโยคนี้ก็ถูกนำมาใช้อีกครั้งที่แพรไหม แสดงความน้อยอกน้อยใจให้เห็น หน้าที่การงานอีกทั้งฐานะที่แตกต่าง กันเหลือเกินของแพรไหมกับพิพัฒน์ ทำให้ทั้งคู่มิอาจคบหากันอย่าง เปิดเผยได้ ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวจึงต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อที่จะ ถีบตัวเองให้มีตำแหน่งที่สูงขึ้น ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์ในวันนี้กลับถีบให้ ตัวเองจมดิ่งลงเหวแทน “โอเคค่ะ ถือเสียว่าแพรพักร้อนยาวก็แล้วกัน ไม่แน่นะคะ กลับมา แพรอาจจะมี ผ ลงานมาสเตอร์ พี ซ มาอวดคุ ณ ก็ ไ ด้ ” แพรไหมกลั บ มา ยิ้มได้อีกครั้ง การเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วทำให้เธอกับพิพัฒน์แทบจะ 12 พราวพุธ


ไม่ทะเลาะกันเลยตลอดหลายปีที่คบกันมา “ขอบคุณมากครับแพรที่เข้าใจผม แล้วนี่แพรจะไปเที่ยวที่ไหน ไปต่างประเทศไหม เดี๋ยวผมออกค่าตั๋วเครื่องบินให้” พิพัฒน์พูดพลาง ดึงฝ่ามือเรียวบางมากุมไว้อย่างอ่อนโยน “ไม่ดีกว่าค่ะ แพรเกรงใจ ทำผิดกฎบริษัทแล้วยังจะได้ไปเที่ยว อีก อย่างนี้มีหวังพนักงานได้ทะเลาะกันแลกตั๋วเครื่องบินทุกวันแน่ๆ” แพรไหมพูดไปหัวเราะไป “ถ้าอย่างนั้น แพรจะไปไหนครับ เผื่อว่างๆ ผมจะไปหา ไม่ได้เจอ ตั้งเดือนนึง คงคิดถึงแย่” แม้จะรู้ว่าพิพัฒน์ไม่มีทางว่าง แต่แพรไหมก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ “แพรจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ แต่คุณพัฒน์อย่าไปหาแพร ที่ นั่ น จะดี ก ว่ า เพราะถ้ า แพรพาผู้ ช ายไปที่ บ้ า นเมื่ อ ไหร่ จะถู ก จั บ ให้ แต่งงานด้วยทันที” แพรไหมแกล้งพูดด้วยสีหน้าจริงจังทำเอาพิพัฒน์ ถึงกับทำท่ากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ “แพรล้อเล่นค่ะ บ้านที่ต่างจังหวัดของแพรค่อนข้างทุรกันดาร อาหารการกินก็มีแต่ของพื้นบ้าน คุณพัฒน์ไปที่นั่นจะลำบากเปล่าๆ” แพรไหมอธิบาย “ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” พิพัฒน์พูดก่อนจะจุมพิต มือบอบบางนั้นทิ้งท้าย “เช่ น กั น ค่ ะ คุ ณ พั ฒ น์ ” หญิ ง สาวดึ ง มื อ กลั บ ด้ ว ยท่ า ที เ ขิ น อาย ความรู้สึกโกรธหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงความสุขที่เอ่อล้นจนเต็ม หัวใจของหญิงสาวแทน แพรไหมเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้ง เธอเก็บ ข้ า วของลงกล่ อ งใบเล็ ก ๆ ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ แ ล้ ว เป็ น อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ส ำหรั บ แถนเมืองฟ้า 13


ออกแบบเสื้ อ ผ้ า วรรณภาเห็ น แบบนั้ น แล้ ว ก็ อ ดที่ จ ะเข้ า ไปเยาะเย้ ย ถากถางไม่ได้ “โถ...โถ...โถ...เห็นกันอยู่หลัดๆ แท้ๆ ไม่น่าเลยแพร” วรรณภา แกล้งทำเสียงร้องไห้กระซิกๆ “ฉันยังไม่ตาย และที่สำคัญ ฉันไม่ได้โดนไล่ออก เพราะฉะนั้น เลิกทำหน้าดีใจเกินเหตุได้แล้ววรรณภา” แพรไหมหันไปพูดกับวรรณภา ด้วยกิริยาและสีหน้านิ่งขรึม “ว่าไงนะ ไม่ไล่ออกอย่างนั้นเหรอ แต่กฎของบริษัทระบุเอาไว้ ชัดเจนนะว่าผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทจะถูกไล่ออกสถานเดียวไม่ใช่เหรอ” วรรณภาพูดพลางชี้ไปทางกฎระเบียบของบริษัทที่ถูกติดไว้ข้างผนังห้อง “ใช่จ้ะ กฎระเบียบของบริษัทว่าเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ แต่บังเอิญ ฉันสร้างคุณงามความดีให้กับบริษัทเอาไว้มาก เลยลดโทษลงเกินครึ่ง เหลือแค่พักงานหนึ่งเดือนน่ะจ้ะ ว่าแต่...เธอเองก็ควรที่จะสร้างคุณงาม ความดีเอาไว้บ้างก็ดีนะ ไม่ใช่วันๆ เอาแต่หาเรื่องให้คนอื่นโดนไล่ออกอยู่ อย่างนี้ ฉันไม่อยู่ให้ลอกเลียนแบบงานตั้งเดือนนึง เธอเองก็พยายามคิด และออกแบบผลงานดีๆ ให้กับบริษัทบ้างล่ะ มิฉะนั้น อาจจะเป็นเธอ ที่โดนไล่ออกเสียเอง” พูดจบแพรไหมก็เก็บของชิ้นสุดท้ายเสร็จพอดี หญิ ง สาวเดิ น จากไปพร้ อ มกั บ ทำสี ห น้ า เยาะเย้ ย อย่ า งผู้ ช นะ ยั่ ว ให้ วรรณภาได้แต่เต้นเร่าๆ อยู่ตรงนั้น แต่เมื่อวรรณภาเริ่มรู้สึกว่าถูกสายตา ของเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ จับจ้องมาก็ต้องรีบเก็บอาการแล้วกลับมา เป็นผู้หญิงใสซื่อตามเดิม “แหม...น่าเห็นใจแพรไหมนะคะ วรรณไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ เลย ไม่ต้องการเลยจริงๆ” วรรณภาแสร้งทำหน้ารู้สึกผิด ทำให้เพื่อน ร่วมงานคนอื่นๆ ต่างพากันส่ายหน้าให้ เพราะมันยากเหลือเกินที่จะคิด ว่าวรรณภาจะคิดอย่างที่พูดจริงๆ 14 พราวพุธ



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.