อลวนกลรัก 1
อลวนกลรัก น้ำน่าน : เขียน ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๗๗๓๕-๖๒-๗ พิมพ์ครั้งที่ ๑ : สำนักพิมพ์กรู๊ฟ ฟีล กู๊ด มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ.๒๕๕๘ หมวดนวนิยาย ลำดับที่ ๖
จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ ฟีล กู๊ด ในเครือ บริษัท กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำกัด เลขที่ ๒๙/๑๐๖ วิสต้า อเวนิว วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ๑๐๒๒๐ โทรศัพท์ : ๐๘๕-๖๖๕-๕๔๒๒ โทรสาร : ๐-๒๑๕๓-๐๕๐๐ อีเมล : groove_publishing@hotmail.com เว็บไซต์ : www.groovebooks.com, http://www.facebook.com/groovepublishing บรรณาธิการที่ปรึกษา : พจมาน พงษ์ไพบูลย์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ : อรรถรัตน์ จันทรวรินทร์ ประสานงานการผลิต : สุลวัณ จันทรวรินทร์ พิสูจน์อักษร : กฤษดา ศิริกิจพาณิชย์กูล และ เนตรนภา ณ ถลาง ออกแบบปก : พินิจ สังสกฤษ ประสานงานการออกแบบปก : จารุนันทน์ ศรีรัตนตรัย รูปเล่ม : Aim Graphic House ดำเนินการผลิตโดย เอมกราฟฟิกเฮ้าส์ โทรศัพท์ ๐๘๑-๖๒๖-๙๑๒๓ โทรสาร ๐-๒๘๘๓-๖๑๒๑ พิมพ์ที่ บริษัท เอ.พี. กราฟิคดีไซน์และการพิมพ์ จำกัด ๑/๘ หมู่ที่ ๔ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐ โทรศัพท์ ๐-๒๔๙๗-๖๘๔๐-๓ โทรสาร ๐-๒๔๙๗-๖๘๔๔ จัดจำหน่ายโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ๑๐๘ หมู่ที่ ๒ ถ.บางกรวย - จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐ โทรศัพท์ ๐-๒๔๒๓-๙๙๙๙ โทรสาร ๐-๒๔๔๙-๙๒๒๒, ๐-๒๔๔๙-๙๕๐๐-๖ Homepage : http://www.naiin.com
ราคา ๓๒๐ บาท
2 น้ำน่าน
อลวนกลรัก 3
คำนำสำนักพิมพ์ หากคุ ณ จะรั ก ใครสั ก คน คุ ณ จะพยายามหาเหตุ ผ ลหรื อ ไม่ ว่ า เพราะอะไร ทำไม หรือเหตุใด เชื่อเถิดว่า ไม่มีคำตอบตายตัวหรือสูตรสำเร็จของความรักซึ่ง เป็นเรื่องของหัวใจ ไม่เกี่ยวกับสิ่งใดเลย แม้กระทั่งความรักที่อาจมีใคร บางคนหรือหลายคนมองว่าไม่น่าเกิดขึ้น ไม่น่าเป็นไปได้ก็เคยเกิดขึ้นมา แล้ว ดั ง นั้ น เมื่ อ “เทิ ด ธั น วา” แอบหลงรั ก หญิ ง สาวคนหนึ่ ง นามว่ า “พิมพ์นรา” โดยที่เธอไม่รู้ตัวและใครก็ไม่อาจรู้เช่นกัน เพราะไม่น่าเชื่อว่า จะเกิดเรื่องความรักที่ดูอลวนขนาดนี้ได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “น้ำน่าน” นักเขียนอารมณ์ดีที่มองโลกเชิงบวก จะพาผู้อ่านไปพบ กับบรรยากาศที่แสนจะวุ่นวายแกมสับสนของ “อลวนกลรัก” ที่เกิดขึ้น ระหว่างสองหนุ่มและสองสาว ที่เราต้องคอยติดตามว่าจะลงเอยกัน อย่างไร มาเอาใจช่วยพวกเขากันดีกว่า ขอให้รักนี้มีลุ้นนะคะ พจมาน พงษ์ไพบูลย์ บรรณาธิการที่ปรึกษา สำนักพิมพ์ กรู๊ฟ ฟีล กู๊ด ในเครือบริษัท กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง จำกัด
4 น้ำน่าน
คำนำนักเขียน ‘รัก’ คือความรู้สึกดีๆ ที่สร้างสรรค์ทุกความสัมพันธ์บนโลกใบนี้ ให้อบอวลไปด้วยความทรงจำ เป็นเหมือนลมเย็นที่โชยผ่านหัวใจให้มี ความหวัง ในบางคราว ‘รัก’ ยังสอนเรารู้จักการเสียสละ เลือกที่จะเป็น ผู้ให้ และเหนือสิ่งอื่นใด ‘รัก’ ยังทำให้เรา รู้ซึ้งถึงความรู้สึกแท้จริงที่ดังก้อง อยู่ในหัวใจตัวเอง เช่นเดียวกับความรักของ ‘พิมพ์นรากับเทิดธันวา’ ทีแ่ ม้จะแตกต่าง กั น เหลื อ เกิ น ทั้ ง ฐานะ ระยะทาง หรื อ แม้ ก ระทั่ ง ความห่ า งของอายุ ทว่าสุดท้าย ทั้งคู่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อสองหัวใจเชื่อมั่นในรัก ‘ความต่าง’ ก็ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป ปราการแห่ ง รั ก ไม่ มี จ ริ ง นี่ คื อ ‘หั ว ใจ’ ของนวนิ ย ายเรื่ อ ง ‘อลวนกลรัก’ ขอบคุณ ทุก ‘ความรัก’ ที่หมุนวนอยู่รอบตัวข้าพเจ้า พ่อกับแม่ ผู้ปลูกฝังการอ่านจนติดเป็นนิสัย ครูอ้อย - เสริมสิริ ที่ส่งเสริมให้รักและ เห็นเสน่ห์ของงานเขียน พี่โอ๋ - ธนาคม พี่ปู - เอื้อมพร พี่เก๋ - วาสนา ผู้ตัดสายสะดือในวงการสื่อให้ข้าพเจ้าอย่างเป็นทางการ พี่วิน - หัสวีร์ ที่ เ ชื่ อ เสมอว่ า วั น นี้ ข องข้ า พเจ้ า จะมาถึ ง คุ ณ หมอพงศกรและพี่ ก รู๊ ฟ สำหรับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต สุดท้าย...ขอบคุณผู้อ่านที่ให้ ‘โอกาส’ น้ำน่านครับ น้ำน่าน เฮือนกึ๊ดเติงหา มกราคม ๒๕๕๙ อลวนกลรัก 5
6 น้ำน่าน
๑
พิมพ์นราถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เลยเวลามาเกื อ บชั่ ว โมงแล้ ว ยั ง ไม่ มี วี่ แ ววการปรากฏตั ว ของ ปาร์ ค ซี จุ น ศิ ล ปิ น เค-ป๊ อ บชื่ อ ดั ง จากแดนกิ ม จิ แ ต่ อ ย่ า งใด นี่ ข นาด ประชาสัมพันธ์ของต้นสังกัดในประเทศไทยแจ้งข่าว พร้อมยืนยันอย่าง หนักแน่นแล้วว่า เครื่องบินที่นักร้องหนุ่มโดยสารมาจะแตะรันเวย์ตอน ตีสามพอดี เอาเข้าจริงๆ กลับไม่มีแม้แต่เงาของปาร์คซีจุน ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง อุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งครึ่ง กว่าจะเรียกแท็กซี่จาก บ้านแถวบางบัวทอง นั่งมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เสียค่ารถมากโข มาถึงแล้ว แทนที่จะได้ทำข่าวแล้วรีบกลับไปนอนให้สมกับที่เป็นวันหยุด เครื่องก็ดันมาดีเลย์ ถึงเวลานี้ พิมพ์นราทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว จะกลับก็กลัวเสียเทีย่ ว เหลียวซ้ายแลขวาเห็นมีแต่เด็กวัยรุน่ หน้าตาสดใส วัยไม่น่าจะเกินยี่สิบ แฟนคลับหรือ ‘ติ่ง’ ของปาร์คซีจุนมารอต้อนรับให้ กำลังใจนักร้องหนุ่มกันเพียบ คนแน่นขนัดยิ่งกว่างานธงฟ้าราคาประหยัดที่รัฐบาลจัดเสียอีก อลวนกลรัก 7
อารมณ์เซ็งที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้หญิงสาวเห็นแล้วนึกค่อนขอดในใจ ชิ...เด็กน้อยหอยสังข์พวกนี้ เห่อกันเข้าไปนะศิลปินต่างชาติ ก่อนหน้านั้น ก็ เจ-ป๊อบ ตอนนี้ เค-ป๊อบ ไม่แคล้วอีกหน่อยเยาวชนไทยจะต้องเห่อ เวียด-ป๊อบ ขะแมร์-ป๊อบ เป็นแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะงาน พิมพ์นราไม่มีวันมาปรากฏตัวที่นี่ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าส่งสัญญาณ หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยแล้ว รีบควานหา พอยกขึ้นเห็นชื่อคนที่โทร.มาเท่านั้น คิ้วเรียวสวยก็ขมวด ชนกันทันที พิมพ์นราตอบน้ำเสียงห้วนไปในโทรศัพท์ “อยู่ไหนแล้ว” “อยู่บนแท็กซี่จ้า อีกห้านาทีถึง” “เออ ให้มันจริงเถอะ ถ้าฉันจับได้ว่าแกยังอยู่ที่บ้านนะ เป็นเรื่อง แน่” พิมพ์นราทั้งดักคอและคาดโทษเมฆ ช่างภาพหนุ่มคู่หูที่สนิทสนม ทำงานด้วยกันมาหลายปี นายคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องลื่นเถลไถลตลอด กับ พิมพ์นราที่เป็นทั้งเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน เมฆไม่เคยตรงเวลา อ้างโน่น อ้างนี่อยู่เรื่อย วีรกรรมความเถลไถลแบบแนบเนียนของเมฆเป็นที่เลื่องลือใน ออฟฟิศ ครั้งหนึ่งในวันประชุมประจำเดือนของนิตยสาร ซึ่งมีวาระสำคัญ ให้ทั้งกองบรรณาธิการ ช่างภาพ และฝ่ายศิลปกรรมเสนอไอเดีย และ ตัดสินใจร่วมกันอยู่หลายเรื่อง ถึงเวลาทุกคนมากันครบในห้องประชุม ขาดแต่เมฆคนเดียว ทีมงานทุกคนนั่งรอเมฆ โดยเฉพาะศศิธร บรรณาธิการบริหารสาว ใหญ่ใจดีที่ถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว ไม่ครบองค์ประชุมยังไม่เท่าไหร่ แต่ ขาดเมฆซึ่งเป็นหัวหน้าช่างภาพไปเสียคน ทั้งกองฯ วุ่นวายไปหมด พิมพ์นราทนไม่ไหวต้องโทรศัพท์ตามตัว 8 น้ำน่าน
‘เมฆ อยู่ไหนแล้ว ทุกคนรอแกคนเดียวเลยนะ’ ‘อยู่ข้างล่าง’ เพื่อนตัวดีของเธอตอบแค่นั้น ‘รีบขึน้ มาเลย แกนีก่ เ็ หลือเกินนะ ให้ผใู้ หญ่รอ น่าเกลียด’ พิมพ์นรา ทำท่าจะร่ายยาว ก็พอดีกับที่ตัวต้นเหตุเบรกไว้เสียก่อน ‘เออๆ ไปแล้ว’ พอวางหูปุ๊บ หญิงสาวก็รีบแจ้งต่อที่ประชุมทันใด ‘อยู่ข้างล่างค่ะ เดี๋ยวคงขึ้นมา’ แต่ที่ไหนได้ กว่าจะรู้ว่า ‘ข้างล่าง’ ของเมฆ ไม่ใช่ข้างล่างออฟฟิศ อย่างทีท่ กุ คนเข้าใจ แต่เป็น ‘ชัน้ ล่าง’ ของบ้านซึง่ อยูไ่ กลถึงนางเลิง้ กว่าจะ ขับรถย้อนฝ่าดงรถติดมาถึงที่ทำงานแถวตลิ่งชันก็กินเวลาไปค่อนชั่วโมง นี่แหละ วีรกรรมของนายเมฆจอมลื่นไหล จะว่าไปแล้ว อันที่จริงงานนี้เมฆต่างหากที่ต้องมาเก็บภาพ พิมพ์นราไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ เพราะรู้อยู่ว่าถึงอย่างไรนักร้องระดับ ‘ปาร์คซีจุน’ ก็ไม่ให้สัมภาษณ์อยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังมีน้ำใจ มาเป็นเพื่อน และก็มาถึงก่อนเวลาตั้งนานอีกด้วย “ยังไม่ได้นอนละสิ” พิมพ์นรารู้ทัน “แหมแกก็...นานๆ ทีนา่ ” เมฆทำเสียงอ่อนมาตามสาย เขายังไม่ได้ นอนจริงๆ อย่างที่เพื่อนว่า พิมพ์นรานัดเวลาตอนตีสองครึ่ง จะนอนก็ กลัวตื่นไม่ทัน ชายหนุ่มเลยหาข้ออ้างแต่งตัวออกจากบ้านมาเที่ยวผับรอ ตั้งแต่สามทุ่ม “เชื่อฉันสิ อีกห้านาทีถึง” เมฆย้ำหนักแน่น “ห้านาทีบ้าอะไร” พิมพ์นราเสียงเขียว “อีกสี่นาทีโว้ย” คราวนี้เมฆหัวเราะร่วน ทั้งขำทั้งหมั่นไส้ในความเอาการเอางาน ของเพื่อนสาว ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เธอก็จริงจังได้ทุกเรื่อง อลวนกลรัก 9
“เอาแต่เร่งฉัน แล้วน้องฝึกงานสุดหล่อของแกล่ะพิมพ์ มันโผล่หน้าไป ให้เห็นหรือยัง” พิมพ์นราอึ้งไปสามวินาที ก่อนตอบอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ “ไม่รู้ ฉันไม่ได้สนใจ” “เฮ้ย ทำแบบนี้ได้ไง แกรับปากพี่ศิไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะ...” เมฆ แกล้งแหย่ “ไอ้ เ มฆ แกหุ บ เหงื อ กไปเลย” หญิ ง สาวเสี ย งขุ่ น “ไม่ คุ ย แล้ ว เสียอารมณ์ แค่นี้นะ” วางสายจากช่างภาพคู่หูแล้ว พิมพ์นราก็มานั่งทำหน้ามุ่ยอยู่คน เดียว รู้อยู่ว่า เธอเป็นโรคไม่ถูกชะตากับเด็กฝึกงาน นายเมฆก็แซวอยู่ได้ พีศ่ ิ บ.ก.ก็เหมือนกัน ยิง่ คิดยิง่ เคือง บอกไปแล้วว่าเธอไม่อยากสอนงานใคร ไม่อยากให้น้องฝึกงานคนไหนมาเดินตามต้อยๆ เหมือนลูกเป็ดตามแม่ แต่ บ.ก.ก็ยังไม่วายขอร้องให้เธอรับเป็นพี่เลี้ยง ‘เด็กฝึกงาน’ คนนี้ ‘นะพิมพ์นะ ถือว่าพี่ขอก็แล้วกัน เด็กคนนี้ประวัติน่าสนใจ จริงๆ’ ศศิธรเปิดประเด็นในบ่ายวันหนึ่ง พลางเลื่อนประวัติพร้อมแฟ้ม สะสมงานของเด็กฝึกงานคนล่าสุดทีว่ างหราอวดสายตาอยูบ่ นโต๊ะมาตรง หน้าเธอ แววตาเปี่ยมความหวัง ‘ไม่ได้ยุ่งยากมากมายอะไรเลยพิมพ์ แค่รับเป็นพี่เลี้ยงให้น้องคนนี้ ก็เท่านั้นเอง’ พิมพ์นราเหลือบตามองนิดเดียว ไม่แม้แต่จะคิดหยิบเอกสารบน โต๊ะขึ้นมาดูด้วยซ้ำ ‘พี่ศิคะ เราพูดเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้ว’ เธอบอก บ.ก.สาวใหญ่ อย่างชัดถ้อยชัดคำ ‘พี่ก็รู้ว่าพิมพ์ชอบฉายเดี่ยว และงานส่วนใหญ่ของ 10 น้ำน่าน
พิมพ์ก็เป็นงานร้อน สัมภาษณ์ด่วนบ้างละ งานตามใบสั่งบ้างละ ไหนจะ ออกต่างจังหวัดอีก เดือนๆ นึงไปไม่รู้กี่ครั้ง พิมพ์ต้องการความสะดวก’ พิมพ์นราเป็นคนจริงจัง และตรงไปตรงมาในทุกๆ เรื่อง เธอไม่ อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กฝึกงาน เพราะรู้สึกว่าทำงานคนเดียวคล่องตัวกว่า หลายคนในกอง บ.ก.ไม่เข้าใจ คิดว่าหวงวิชา แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่น นั้นเลย ‘ก็ เ พราะพี่ รู้ ไ งว่ า พิ ม พ์ ง านเยอะ พี่ เ ลยหาน้ อ งมาช่ ว ย’ ศศิ ธ ร พยายามตะล่อม ในฐานะบรรณาธิการบริหาร ทำงานด้วยกันมานานจน รู้มือ กับพิมพ์นราแล้ว ทางเดียวที่เธอจะยอมก็คือ เหตุผลเท่านั้น ‘อย่าง งานจำพวกถอดเทป ถ่ายเอกสาร หาข้อมูล หรือเขียนข่าวอีเวนต์ง่ายๆ อะไรพวกนี้ พิมพ์ไม่ต้องทำเองก็ได้ ให้เด็กทำ พิมพ์จะได้เอาเวลาไป ทุ่มกับคอลัมน์ใหญ่ๆ ที่พิมพ์ชอบ และอยากทำไง พี่ว่าดีออก’ ‘พิมพ์ทำได้ค่ะพี่ศิ’ หญิงสาวยังยืนกราน ‘ข้อนั้นพี่รู้ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าพิมพ์มีคนมาช่วย’ บ.ก.สาวใหญ่ พยายามกล่อมอย่างใจเย็น ด้วยชั่วโมงบินที่มากกว่า ศศิธรย่อมมีลูกล่อ ลูกชนทีด่ กี ว่าเช่นกัน ‘อีกอย่าง เด็กคนนีเ้ ขาก็เจาะจงมาในใบสมัครเลยนะ ว่า จะขอฝึกงานทีก่ องของเรา ในตำแหน่งกองบรรณาธิการอีกด้วย ในเมือ่ เขามีทศั นคติในแง่บวกกับหนังสือของเรามากขนาดนี้ เราก็นา่ จะให้สงิ่ ดีๆ กับเขา พี่เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นใครแล้ว ก็มีแต่พิมพ์นี่แหละที่น่าจะ ช่วยพี่ได้ เพราะพิมพ์เก่ง เป็นมือขวาของพี่ พิมพ์ต้องให้คำแนะนำเด็ก คนนี้ได้ดีแน่ๆ’ ‘เด็กฝากใครอีกล่ะคะ’ พิมพ์นราไม่หลงกลง่ายๆ ‘เปล่า ไม่มี้’ บ.ก.สาวเสียงสูงขึ้นมาทันที ไม่ยอมสบตา ท่าทาง มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ก่อนใช้ไม้ตายเพื่อปิดการขายโดยไว ‘โอเคๆ ถ้า พิมพ์ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ให้เกศหรือไม่ก็ให้ดาทำก็ได้ สองคนนั่น อลวนกลรัก 11
คงเต็มใจ เพราะถือว่าช่วยกอง’ ศศิธรหมายถึง เกศเกล้า สาวน้อยจบใหม่สมาชิกคนล่าสุดของทีม ที่ยังไม่ผ่านการฝึกงาน และนิลดา กองบรรณาธิการรุ่นพี่ของพิมพ์นรา ที่ตอนนี้กำลังท้องได้เดือนกว่าๆ และมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก ‘เกศเพิ่งมา คงยังสอนงานใครไม่ได้ ให้อยู่กับดาน่าจะดี เพราะ ว่าที่คุณแม่เป็นคนใจเย็น เอ็นดูเด็ก น้องฝึกงานอาจไม่ได้เขียนอะไรนัก เพราะดาทำคอลัมน์ชอปปิงซะส่วนใหญ่ แต่กน็ นั่ แหละ คงพอกล้อมแกล้ม ไปได้’ บ.ก.สาวพยายามพูดเพื่อจงใจให้พิมพ์นรารู้สึกผิด ‘จะว่าไปก็ดเี หมือนกันนะ ดากำลังตัง้ ท้องอ่อนๆ ด้วย มาบ้างไม่มา บ้าง ทำอะไรไม่ค่อยสะดวก เกิดเป็นลมเป็นแล้งแท้งลูกขึ้นมาจะแย่ ได้น้องฝึกงานไปช่วย จะได้ดูแลดาไปด้วย ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งฝึกงานไปด้วย ถือว่าได้กำไรสองต่อ’ ‘โอเคค่ะพี่ พิมพ์รบั ก็ได้’ พิมพ์นราคิดภาพตามแล้วอดสงสารนิลดา ไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องยอมจำนน ถึงอย่างนั้นหญิงสาวยังไม่วายต่อรอง ‘แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ถ้าให้พิมพ์ดูแลเด็กฝึกงานคนนี้แล้ว อย่ามาหาว่า พิมพ์โหดเด็ดขาด เพราะพิมพ์จะสอนงานเขาด้วยวิธีของพิมพ์’ ‘ได้เลยจ้ะ จะวิธีไหนก็แล้วแต่พิมพ์เลย พี่เชื่อมือ’ ศศิธรเสียงสดใส ขึ้นมาทันที รีบดันแฟ้มประวัติของเด็กฝึกงานตัวต้นเหตุเข้าใกล้พิมพ์นรา อี ก รอบ ‘นายธั น วาคงดี ใ จ ที่ ไ ด้ นั ก สั ม ภาษณ์ มื อ ฉมั ง อย่ า งพิ ม พ์ เ ป็ น พี่เลี้ยง’ ‘ชื่อธันวาเหรอคะ’ พิมพ์นราหันมาสนใจใบสมัครที่วางอยู่ตรงหน้า ยังไม่ทันได้อ่านข้อมูลใดๆ แค่เห็นรูปเด็กหนุ่มหน้าตาดีในชุดนักศึกษา เต็มยศ หญิงสาวขมวดคิ้ว รู้สึกคุ้นหน้านายคนนี้เหลือเกิน เหมือนจะเคย เห็นที่ไหน แต่นึกไม่ออก 12 น้ำน่าน
‘เปล่าจ้ะ ชื่อ เทิดธันวา’ ‘ชื่อคนจริงๆ เหรอคะพี่ ชื่อแบบนี้พิมพ์นึกว่ามีแค่ในละครเสียอีก’ พิมพ์นราก้มหน้าลงอ่านประวัติส่วนตัวคร่าวๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตา ศศิธรอีกครั้ง ท่าทางจริงจัง ‘พิมพ์รู้สึกว่าพี่ศิให้ความสำคัญกับนายเทิดธันวานี่ซะเหลือเกิน บอกพิมพ์มาตามตรงดีกว่าค่ะ นายคนนี้ เด็กฝากใคร’ พิมพ์นราได้ยินเสียงกรี๊ด จึงได้สติทันควัน ในที่สุดการรอคอยของเธอก็สิ้นสุดลงเสียที เสียง กรี๊ดดังสนั่นแทบสนามบินแตกขนาดนี้ ปาร์คซีจุนคงมาถึงแล้วแน่นอน หญิงสาวคิดแต่เพียงว่านาทีนี้งานต้องมาก่อน จึงรีบพุ่งตรงฝ่ามวลชนไป ที่ประตูผู้โดยสารขาเข้าทันที เมฆมาไม่ทันแน่แล้ว ไม่แคล้วงานนี้คงได้ถ่ายรูปแทนอีกตามเคย ว่าแล้วก็ฉวยกล้องถ่ายรูปออกมาจากกระเป๋าเป้ซึ่งหญิงสาวมักพกติดตัว ไว้กันเหนียวอยู่ตลอด ออกมาคล้องคอ เข้าไปหามุมที่เหมาะใจ เล็งจุด โฟกัส ภาพที่หญิงสาวมองเห็นผ่านกล้องถ่ายรูป คือชายหนุ่มรูปร่าง สูงโปร่ง วัยไม่น่าจะเกินยี่สิบห้า สวมแว่นดำขนาดใหญ่ปิดบังสายตา และใบหน้า ชนิดที่เรียกว่าแทบจะหนึ่งส่วนสามของใบหน้าก็ว่าได้ ไม่ แค่นั้น หนุ่มจมูกโด่งปากแดงคนนี้ ยังแต่งตัว ‘เท่และเก๋’ ตามสไตล์เซเล็บ แดนกิมจิที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้อีกต่างหาก หมวกไหมพรมสีเทาคลุมผม เสียมิด เสื้อแขนยาวหนังสีดำรูดซิปซะปิดคอ สะพายกระเป๋าใบเล็ก เดิน ตัวปลิวออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า แน่แล้ว ปาร์คซีจุน! แล้วพิมพ์นราก็กดชัตเตอร์รวั ไม่ยงั้ และยิง่ ได้ใจเมือ่ คนทีเ่ ธอเข้าใจ อลวนกลรัก 13
ว่าเป็นปาร์คซีจุนยิ้มให้ ก่อนจะทำหน้าตกใจ เมื่อเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นเมื่อ ครู่เงียบลงทันใด กลายเป็นเสียงบ่นเซ็งแซ่อย่างเสียอารมณ์ของเหล่า บรรดาแฟนคลับวัยใสของปาร์คซีจุน “อีบ้า แกตื่นเช้า หรือเมาแอร์ยะ กรี๊ดไม่ดูตาม้าตาเรือ นั่นไม่ใช่ พี่ปาร์คซีจุนนะ แหกตาดูดีๆ สิ” แฟนคลับคนหนึ่งบ่นกับเพื่อนติ่งที่มา ด้วยกัน หน้าตาหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อหนุ่มปริศนาซึ่งดูท่าจะตกใจ และงุนงงกับเสียงกรี๊ดไม่แพ้กัน เดินเข้ามาใกล้รัศมี “ก็ใครมันจะไปรู้ เห็นนายคนนี้แต่งตัวเหมือนนักร้องเกาหลีเป๊ะ ตามวิถีศิลปินกิมจิทุกกระเบียดนิ้ว ฉันก็นึกว่าใช่ เลยกรี๊ดไว้ก่อน” คน ต้ น เสี ย งกรี๊ ด แก้ ตั ว เสี ย งอ่ อ ย พลางถามกลั บ แฟนคลั บ ตั ว จริ ง เบาๆ “ตกลงไม่ใช่ ใช่ไหม” “ก็ไม่ใช่น่ะสิ” เสียงเพื่อนสาวกระแทกกระทั้น “แกนี่มั่วจริงๆ” “แต่จะว่าไปเขาก็ดูดีนะ” เพื่อนสาวว่า หัวเราะแก้เก้อ ตามองตาม หนุ่มปริศนาที่เดินฝ่าฝูงชนออกไป “ถึงจะดูดียังไงก็ไม่ใช่พี่ปาร์คซีจุนของฉัน” สาวอีกคนค้อน สะบัด หน้าเดินออกไปทันที พิมพ์นราปล่อยกล้องให้ตกคล้องคอ เงยหน้าขึ้นมองเพดาน เป่า ปากอย่างคนที่พยายามระงับอารมณ์อย่างเต็มที่ ก่อนจะเดินหน้าตึง กลับไปสงบสติอารมณ์ที่เก้าอี้ผู้โดยสาร ยังไม่ทันได้นั่ง ใครคนหนึ่งก็ เดินเข้ามาทัก “หวัดดีครับเจ๊” พิ ม พ์ น ราทำหน้างง จำได้ว่า นายคนนี้คือหนุ่มปริศนาที่เหล่า บรรดาแฟนคลับของปาร์คซีจุนเข้าใจผิดและเผลอกรี๊ดให้ เธอเองยัง เผลอกดชัตเตอร์ไปหลายรูป ก่อนจะทำหน้าเหวี่ยงใส่อย่างเสียอารมณ์ เมื่อหนุ่มตรงหน้าถอดแว่นตา เผยให้เห็นใบหน้าชัดๆ 14 น้ำน่าน
“ดีใจจังครับ ที่เจ๊จำผมได้” เทิดธันวาส่งยิ้มแจ่มใสให้ “เงียบไปเลยนะ” พิมพ์นราเสียงเขียว มองหนุ่มรุ่นน้องหน้าคว่ำ “และก็จำเอาไว้ด้วย ฉันเป็นคนไทยแท้ ไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่มีเชื้อจีนปะปน อยู่ในกรรมพันธุ์ เพราะฉะนั้น อย่ามาเรียกฉันว่า เจ๊” “แหม เจอปุ๊บดุปั๊บเลยนะครับ ผมก็แค่ทักเล่นๆ” “มองหน้ า ฉั น ” หญิ ง สาวจ้ อ งหน้ า ผู้ ม าใหม่ เ ขม็ ง “เห็ น ใช่ ไ หม ฉันไม่ได้อยู่ในอารมณ์เล่น” เทิดธันวายิ้มเผล่ โค้งคำนับอย่างล้อเลียน “ขอโทษคร้าบ ผมผิด ไปแล้ว” พิมพ์นราทำหน้างอ หย่อนตัวลงนัง่ ยกมือกอดอกอย่างเสียอารมณ์ ไม่ยนิ ดียนิ ร้ายกับคำขอโทษใดๆ ของหนุม่ รุน่ น้องทีเ่ พิง่ รูจ้ กั กันไม่ถงึ อาทิตย์ เทิดธันวาเลยนัง่ ลงบ้าง ไม่สนใจกับท่าทีของหญิงสาวแต่อย่างใด ชายหนุม่ เปิดกระเป๋าที่เพิ่งวางลงบนตัก แล้วหยิบถุงกระดาษใบเล็กยื่นให้ “ผมมีของมาฝากพี่พิมพ์ด้วยนะ” “ไม่เอาย่ะ ไม่อยากได้” “โห พี่พิมพ์ใจร้ายอะ ไม่รักษาน้ำใจกันเลย” เทิดธันวาทำหน้างอ แกล้งบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง แต่เสียงดังทีเดียว “น้องนุ่งให้ของ ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เหลือบตามองนิดนึงก็ไม่ได้ เรารึอุตส่าห์หอบมา ตั้งไกล กว่าจะซื้อมาได้ก็อายแทบแย่” “จะไกลจะใกล้ อายหรือไม่อาย มันเรื่องของนาย ไม่เกี่ยวกับฉัน” พิมพ์นราหน้าเชิด เซ็งที่เผลอถ่ายรูปเทิดธันวาที่คิดว่าเป็นปาร์คซีจุน “แต่ผมตั้งใจซื้อให้พี่พิมพ์จริงๆ นะ” เทิดธันวากล่าวอย่างชั่งใจ พลางยื่นถุงกระดาษให้อีกรอบ “ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากได้ ไม่ต้องมาติดสินบนฉัน” พิมพ์นรา บอกจุดยืน “ฉันสัญญากับพี่ศิไว้แล้วว่า สามเดือนต่อจากนี้จะเป็นพี่เลี้ยง อลวนกลรัก 15
นาย ยังไงก็ต้องทำตามที่พูดอยู่แล้ว นายไม่ต้องเอาอะไรมาให้ฉัน เพราะ มันคือหน้าที่” “พี่ พิ ม พ์ คิ ด มากอี ก ละ ติ ด สิ น บงสิ น บนอะไร ผมแค่ อ ยากให้ ก็เท่านั้น” “ไม่เอา ชัดไหม” พิมพ์นราย้ำ เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนไปวูบหนึ่ง ก่อนรีบปรับสีหน้าให้กลับมาสดใส โดยไว พลางถามยิ้ ม ๆ “ก็ ไ ด้ ๆ ตอนนี้ พี่ พิ ม พ์ ยั ง ไม่ อ ยากได้ ใ ช่ ไ หม ไม่เป็นไร ผมเก็บไว้ก่อนก็ได้ ว่าแต่วันนี้ทำไมพี่ฉายเดี่ยวล่ะครับ พี่เมฆ ไม่มาด้วยเหรอ” “มา แต่ยังมาไม่ถึง” “งั้นให้ผมอยู่ช่วยนะ” เทิดธันวากระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ไม่ตอ้ ง” พิมพ์นราสวนกลับทันควัน เห็นหน้าเศร้าๆ ของเทิดธันวา แล้ ว เริ่ ม รู้ สึ ก ตั ว ว่ า ชั ก จะว่ า แรงไปหน่ อ ย เลยเปลี่ ย นเสี ย ง หาเหตุ ผ ล มาอธิบาย “วันนี้วันอาทิตย์ วันหยุดของนาย ไม่จำเป็นต้องช่วยก็ได้ อีกอย่าง นายเพิ่งลงจากเครื่องมาหยกๆ คงเหนื่อยแย่ น่าจะรีบกลับไป พักผ่อนเอาแรงนะ” “ไม่เป็นไรครับผมไหว ไม่เหนื่อยเลยสักนิด เพราะอยู่บนเครื่องก็ หลับตลอด” เทิดธันวาเสียงหนักแน่น ดวงตาสุกใสเป็นประกายขึ้นมา อีกรอบ “ว่าแต่พี่พิมพ์รู้ได้ยังไงครับ ว่าผมไปเกาหลี” “รู้ บ้ า อะไร” พิ ม พ์ น รามี พิ รุ ธ แล้ ว รี บ ทำเสี ย งดั ง กลบเกลื่ อ น “สำคัญตัวเองผิดไปนะนายเทิดธันวา ฉันไม่ได้มีเวลาสนใจเรื่องของนาย ขนาดนั้นหรอก พอดีมาทำข่าวนักร้องเกาหลี ก็เลยคิดว่านายก็น่าจะมา จากเกาหลีเหมือนกัน ก็เท่านั้น” “เหรอครับ” เด็กหนุ่มทำหน้าเศร้า แต่นัยน์ตายิ้ม “แย่จัง นึกว่า พี่พิมพ์ใส่ใจผมเสียอีก” 16 น้ำน่าน
พิมพ์นราถอนหายใจอีกหนึ่งครั้ง นั่งนิ่งอย่างยอมแพ้ ไม่อยาก ต่อปากต่อคำกับเด็กฝึกงานตัวแสบคนนี้แล้ว มีอย่างที่ไหน เพิ่งรู้จักกัน แค่อาทิตย์เดียว ทำทีตีสนิทยังกับพี่น้องคลานตามกันมา เหลียวซ้ายแลขวา คาดหวังอย่างเต็มที่ว่าจะเจอเมฆ อย่างน้อย การมีใครอีกคนมาร่วมวงสนทนาน่าจะทำให้ความอึดอัดในใจของเธอ คลายเบาลงไปบ้าง แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้าง งานนี้หญิงสาวถูก ช่างภาพคู่หูหลอกอีกแล้ว “พี่เมฆไม่มาหรอกครับ ติดธุระ” เทิดธันวาขยายความให้ “นายรู้ได้ยังไง” พิมพ์นราเสียงแข็งขึ้นมาทันที “ก็พี่เมฆบอกผมไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า งานนี้มาไม่ได้ ติดธุระสำคัญ เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายอะไรสักอย่าง ให้ผมรีบกลับมาช่วย พี่พิมพ์” เทิดธันวารายงานเสียงใส ก่อนรวบรัดเข้าประเด็นด้วยใบหน้า ระรื่น “ตกลงให้ผมอยู่ช่วยนะครับ” “ตามใจนายสิ” พิมพ์นราทำเหมือนไม่ยินดียินร้าย แต่ในใจนึกถึง แต่หน้าเมฆ คาดโทษไว้เสร็จสรรพ ไอ้เพื่อนตัวแสบ รอให้ถึงพรุ่งนี้เถอะ ฉันจะบีบคอนายด้วยมือของฉันเอง เสียงกรี๊ดดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ น่าจะชัวร์ว่าปาร์คซีจุนคงมาถึงแล้ว พิมพ์นรารีบลุก กระชับกล้องถ่ายรูป ในมือ พร้อมลุย หญิงสาวตั้งใจจะผละออกไป แต่แล้วก็หันมาบอกเทิดธันวา “ทำตัวเป็นผู้ตามที่ดีละกัน”
อลวนกลรัก 17
๒
เช้าวันจันทร์ พิมพ์นรามาทำงานแต่เช้า แต่ก็ยังช้ากว่าเทิดธันวาที่นั่งยิ้มเผล่ รออยู่ก่อนแล้วที่โต๊ะทำงานของเธอ หนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลา ในชุด นักศึกษาเสื้อสีขาวสะอาด ส่งยิ้มแล้วรายงานทันทีที่เห็นหน้าพี่เลี้ยงสาว “มี ช่ า งภาพหนุ่มผมยาว สุดเซอร์ ฝากดอกไม้มาให้ด้วยครับ” เทิดธันวาบอกที่ทำงานของเจ้าของดอกไม้ชัดถ้อยชัดคำ พลางพยักพเยิด ไปที่โต๊ะทำงานของพิมพ์นรา “รองเท้านารีสีชมพูซะด้วย” “เขาเอามาให้เองหรือเปล่า” พิมพ์นราถามกลับ “เขา ใคร” เทิดธันวาทำทีไม่รู้เรื่อง “จะใครซะอีก ก็นายสัจจะบ้าบอนัน่ แหละ บอกไปไม่รตู้ งั้ กีค่ รัง้ แล้ว ว่าไม่ชอบดอกไม้ เอามาให้อยู่ได้ แล้วนี่ดูซิ คิดได้ยังไงเอาดอกไม้หายาก มาให้ อยู่หนังสือสารคดีซะเปล่า” พิมพ์นรากระแทกเสียง สัจจะ เป็นช่างภาพนิตยสารเนชันแนลเรียลเนเจอร์ นิตยสารแนว สารคดีในเครือเดียวกับที่หญิงสาวทำงานอยู่ หนุ่มเซอร์รายนี้ แสดงออก ชัดเจนว่าชอบพิมพ์นรา ตั้งแต่วันแรกที่เมฆแนะนำให้รู้จักกันเมื่อสามปี ก่อน จนบัดนี้แม้พิมพ์นราจะปฏิเสธเป็นพันครั้งแล้วว่า ความพยายาม 18 น้ำน่าน
ของเขาไม่มีวันสำเร็จ เพราะหญิงสาวให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าสัจจะจะไม่ยอมรับรู้ ยังหลับหูหลับตาเดินหน้าจีบ อย่ า งต่ อ เนื่ อ งและยาวนานติ ด ต่ อ กั น มาเป็ น เวลาถึ ง สามปี คอยส่ ง ดอกไม้บ้าง ขนมบ้าง มาให้ที่โต๊ะทุกวัน จนหญิงสาวอึดอัด “พี่ พิ ม พ์ พู ด แบบนี้ พี่ สั จ จะเสี ย ใจแย่ อุ ต ส่ า ห์ ตั้ ง ใจเอามาให้ ” เทิดธันวาแซว “เสียใจก็ช่างเขาสิ ก็บอกไปแล้วว่าไม่อยากได้ ไม่ชอบ” “ไม่ชอบคนหรือไม่ชอบดอกไม้ครับ” “ทั้งคนทั้งดอกไม้นั่นแหละ” พิมพ์นราหันขวับ “แล้วเดี๋ยวจะรวม นายเข้าไปด้วย” “ขอโทษครับ” เทิดธันวาลุกขึ้นโค้งคำนับ ก่อนกุลีกุจอหยิบของบางอย่างออกมา จากเป้สีดำของเขา “มาๆ พี่ กินน้ำเต้าหู้กันก่อนดีกว่า ยังร้อนๆ อยู่เลย เจ้านี้อร่อยครับ ไม่จืดไม่หวานจนเกินไป ผมอุดหนุนประจำ” “ฉัน ไม่ กิน” พิมพ์นราย้ำจุดยืน ช้าๆ ชัดๆ “พี่พิมพ์อะ ผมตั้งใจซื้อมาให้ ไม่รักษาน้ำใจกันเลย” เทิดธันวาเสียงอ่อย มือที่กำลังแกะยางรัดถุงชะงักไปชั่วครู่ ก่อน จะรีบปรับสีหน้าโดยไว หันไปยิ้มให้กับพิมพ์นรา แล้วรินน้ำเต้าหู้ใส่แก้ว มีหูใบเขื่องที่แอบหยิบมาซ่อนไว้หลังจอคอมพิวเตอร์ “วันนี้พี่พิมพ์ไม่กิน ก็ไม่เป็นไร ผมเหมาสองถุงเลยก็ได้ แต่วันต่อไปพี่ต้องกินนะ” พิมพ์นราไม่พูดอะไร ยืนมองหนุ่มหน้าใสยกแก้วน้ำเต้าหู้ขึ้นดื่ม อักๆ สองแก้วรวด เห็นน้ำเต้าหูส้ ขี าวขุน่ เลอะติดรอบริมฝีปากเลยขึน้ ไปถึง ไรหนวดเขียวครึ้มของเทิดธันวาแล้วขำ แอบยิ้มคนเดียว “ขำอะไรพี่” เทิดธันวายังไม่รู้ตัว “ก็ขำนายน่ะสิ” ว่าพลางทำท่าจะดึงกระดาษทิชชูที่อยู่ข้างจอ อลวนกลรัก 19
คอมพิวเตอร์ส่งให้ “ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการเอง” เทิดธันวาปฏิเสธ ก่อนเลียริมฝีปาก ตัวเอง “เสียดาย” “นายนี่จริงๆ เลย” คราวนี้พิมพ์นรายิ้มเต็มใบหน้า ก่อนกลับมา ทำหน้าเคร่งเหมือนเดิม “เอาละ เทิดธันวาหมดเวลาสดใสแล้ว สองชัว่ โมง ต่อจากนี้ หน้าที่ของนายคือการศึกษาข้อมูลย้อนหลังนิตยสารของเรา” พิมพ์นราเดินนำไปที่ห้องประชุมของกองบรรณาธิการติดกับห้อง ศศิธร ซึ่งใช้เป็นห้องสมุดขนาดเล็ก และเก็บนิตยสารฉบับเก่าๆ ไว้อ้างอิง ด้วย “เห็นหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะนั่นไหม ฉันเตรียมไว้ให้แล้วตั้งแต่วัน ศุกร์ อ่านเฉพาะคอลัมน์ที่มีโพสต์อิตแปะไว้ก็พอนะ” “โห...เยอะอะ” “ถ้าอยากเป็นเด็กฝึกงานที่มีคุณภาพ อย่างแรก นายต้องรู้จัก ตัวตนที่แท้จริงของนิตยสารเราก่อน ไหนๆ ก็เลือกมาฝึกงานที่นี่แล้ว เจาะจงมาเองเลยไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นก้มหน้าก้มตาอ่านไป ไม่ต้อง โวยวาย” พิมพ์นราสอนงาน หน้าตาจริงจัง “ครับ อ่านก็อ่าน อ่านเพื่อให้รู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร” หนุ่มน้อยประชด “ใช่” พิมพ์นรายิ้ม ยักไหล่เก๋ไก๋ “ฉลาดเหมือนกันนี่เรา” สองชั่วโมงผ่านไป เทิดธันวาก็เดินหน้ามึนออกมาจากห้อง ประชุม เด็กหนุ่มแวะบิดขี้เกียจที่หน้าห้องชั่วครู่ แล้วเดินผ่านโต๊ะของ ชะเอม เลขาฯ กองบรรณาธิการ ตรงไปหาพิมพ์นราที่กำลังนั่งจ้องหน้าจอ คอมพิวเตอร์ตาแทบไม่กะพริบอยู่ตรงโต๊ะทำงาน “สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว เราจะไปกันหรือยังครับ” “ไปไหน” พิมพ์นราถาม ยังไม่เงยหน้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ 20 น้ำน่าน
“ก็ไปงานข่าวไงครับ” เทิดธันวาชี้ไปที่บอร์ดใกล้ประตูทางเข้า ซึ่ง แสดงตารางงานของกอง บ.ก.แต่ละคนว่า แต่ละวันใครมีควิ ไปงานทีไ่ หน บ้าง “งานแถลงข่าวคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ในรอบหลายปี ของนักร้องสาว ชื่อดังระดับตำนานของเมืองไทย บ่ายโมงตรงวันนี้ ที่พารากอน” “ใครบอกว่าฉันจะให้นายไปด้วย” “อ้าว พี่พิมพ์ตลกละ” เทิดธันวาทำหน้าเหลอหลา แล้วตั้งหน้าทวง สิทธิ์ของตัวเองเต็มที่ “เรื่องนี้สำคัญมาก ห้ามเนียน ห้ามลืมเด็ดขาดว่า ผมเป็นน้องฝึกงานสุดที่รักของพี่ เพราะฉะนั้น เวลาพี่ไปงานข่าวที่ไหน จะใกล้หรือไกล ต้องให้ผมไปด้วย” “หนังสือที่ให้อ่าน อ่านจบแล้วเหรอ” พิมพ์นราเงยหน้า “จบหมดแล้ว” เด็กหนุ่มตอบทันที “ตอบคำถามให้ได้ก่อน ถ้าได้ฉันถึงจะให้นายไป” พิมพ์นรายัง เล่นแง่ เทิดธันวาพยักหน้า แต่ยังไม่วายย้ำ “สัญญาแล้วนะ ถ้าตอบได้ พี่ต้องให้ผมไป” “เออน่า” พิมพ์นราทำท่ารำคาญ “ตอบให้ได้ก่อนเถอะน่า รับรอง ฉันไม่เบี้ยวนายแน่” “ผมพร้อมละพี่ จัดมา” พิ ม พ์ น รานึ ก กระหยิ่ ม ใจ หญิ ง สาวยอมรั บ ยั ง ไม่ ชิ น กั บ การมี เด็กฝึกงานเดินตามต้อยๆ หากมีสิ่งใดที่จะทำให้ได้ไปไหนมาไหนแบบ ฉายเดีย่ วบ้าง เธอจะทำ แม้วา่ มันจะไม่คอ่ ยเข้าท่าเท่าไรนักก็ตาม หนทาง ที่เธอจะเป็นอิสระชั่วคราว ได้ออกไปงานข่าวโดยไม่ต้องมีใครคอยตาม อยู่ข้างหน้ารำไรแล้ว เอาเรื่องพันธกิจของนิตยสารนี่แหละ ไม่เกี่ยวกับที่ให้อ่านไปเมื่อ สองชัว่ โมงก่อน แต่เกีย่ วข้องกับนิตยสารโดยตรง ‘คำถามเด็ด’ นี้ หญิงสาว อลวนกลรัก 21
มั่นใจเหลือเกินว่าเทิดธันวาไม่มีทางตอบได้ เพราะนายตัวแสบเพิ่งมาฝึก งานได้แค่หกวัน พิมพ์นรากำลังจะถาม ก็พอดีกับที่ใครคนหนึ่งแทรกขึ้นเสียก่อน “ให้ธันวาไปด้วยเถอะแก จะได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง สงสารมัน อุตส่าห์ ข้ามเขาข้ามดอยมาจากเชียงใหม่ มาฝึกงานไกลถึงกรุงเทพ แทนที่จะ ได้ไปไหนบ้าง นี่อะไร วันๆ อุดอู้อยู่แต่ในออฟฟิศ” “เงี ย บไปเลยเมฆ แกไม่ ต้ อ งพู ด อะไรทั้ ง นั้ น ” พิ ม พ์ น ราลุ ก ขึ้ น เท้าสะเอว มองเมฆตาเขียว อย่างเอาเรื่องทีเดียวแหละ “ไม่ต้องมาว่า กระทบฉัน เรื่องที่แกเบี้ยวงานเมื่อวาน ฉันยังไม่ได้สะสางเลยนะ” “เรื่องอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง” เมฆตีหน้าซื่อ พิมพ์นราอ้าปากจะต่อความ พลันสายตาที่สำรวจสัมภาระของ ช่างภาพหนุ่มคู่หูอย่างรวดเร็ว ก็เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง จึงถามกลับ อย่างจับผิด “แล้วนี่แกจะไปไหน แบกอะไรไปด้วยเยอะแยะ รับจ๊อบนอก อีกละสิ” “บ้า จ๊อบทีไ่ หน ไม่ม”ี เมฆปฏิเสธเป็นพัลวัน บอกเพือ่ นสาวตัวแสบ เสียงดังฟังชัด “แกเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานคงไม่รู้อะไร พี่ศิสายตรง มาบอกฉันเมื่อเช้าว่า งานแถลงข่าวบ่ายนี้ต้องไปให้ได้ เพราะมีคนสำคัญ ในวงการบันเทิงไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นเพียบ สรุปนะ ฉันจะไปกับแกด้วย” “ไปถ่ายรูปงานแถลงข่าวเนี่ยนะ ไปทำไม เปลืองงบบริษัทเปล่าๆ” พิมพ์นราแขวะไปอย่างนั้นเอง เพราะรู้อยู่ว่า ศศิธร บ.ก.สาวคงสั่งงาน เมฆทางโทรศัพท์แล้วว่า ให้ถ่ายรูปคนดังคนไหนมาสต๊อกไว้เผื่อใช้ใน คอลัมน์แซวเซเล็บ “รูปแค่นี้ ฉันถ่ายเองก็ได้ ถ่ายแทนแกออกบ่อยไป ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย” “เฮ้ย เบาๆ หน่อยสิพิมพ์ เดี๋ยวพี่ศิก็ได้ยินหรอก” เมฆเหลียวซ้าย แลขวา ยั ง ไม่ รู้ ว่ าวันนี้ศศิธรออกไปงานสัมภาษณ์ข้างนอกตั้งแต่เช้า 22 น้ำน่าน
จะกลับเข้าออฟฟิศก็บ่ายโน่น เมฆเห็นเพื่อนสาวกลั้นยิ้มก็รู้ว่าถูกแกล้ง เลยเอาคืนอีกรอบ “ฉันรู้ว่าแกไม่อยากให้ฉันไป แต่ขอโทษจริงๆ ถ้าฉัน ไม่ไป แล้วใครจะดูแลธันวาล่ะ” งานแถลงข่าวแล้วเสร็จตอนบ่ายสองโมง แขกเหรื่อกำลัง ทยอยกันกลับ เว้นแต่นักแสดงมีชื่อหลายคนที่มาร่วมงาน ซึ่งดูจะปลีกตัว ยาก เพราะมีกองทัพนักข่าวมากมายหลายสำนัก ทั้งจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ และวิทยุ มารอสัมภาษณ์ พิมพ์นราที่นั่งติดกับเทิดธันวายังไม่ลุกจากเก้าอี้ ตั้งใจให้คนน้อย ลงก่อนค่อยปลีกตัวออกไป ครั้นทางสะดวกหญิงสาวจึงสะกิดหนุ่มรุ่น น้องให้ลุก ทันทีที่เธอก้าวเท้าออกมา เมฆซึ่งรอจังหวะอยู่ก่อนแล้ว ก็รีบ เดินตรงเข้ามาหา “ฉันไม่กลับเข้าออฟฟิศแล้วนะ ฝากบอกพี่ศิด้วย” พิมพ์นราทำหน้างอ ความที่สนิทกันอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงต่อว่า เพื่อนตรงๆ อย่างไม่เกรงใจ “แกนี่นิสัยเสียไม่หายเลยนะเมฆ มีงานบ่าย ทีไร ชิ่งตลอด” “ไม่ ไ ด้ ชิ่ ง ” เมฆแก้ ตั ว ไปอย่ า งนั้ น อั น ที่ จ ริ ง ไม่ ไ ด้ รู้ สึ ก รู้ ส มใดๆ “ก็งานฉันเสร็จแล้วนี่นา ไม่เหมือนแก” “ไม่คิดบ้างเหรอว่า บางทีฝ่ายศิลป์อาจต้องการรูปในสต๊อกก็ได้” “แกลืมไปแล้วหรือไง แทนก็อยู่” เมฆหมายถึง ณัฐพงษ์ ช่างภาพ อีกคนของนิตยสารซึ่งวันนี้รอประจำการอยู่แล้วที่ออฟฟิศ “เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ไม่ต้องถึงมือหัวหน้าช่างภาพอย่างฉันหรอก แทนมันฉลาดจะตาย จัดการได้อยู่แล้ว” พิมพ์นรายังไม่ยอมแพ้ “ก็ไหนบอกว่าจะมาดูแลนายธันวา แล้วนี่ อะไร ทิ้งกันซะดื้อๆ” อลวนกลรัก 23
“ฉันรู้ว่าธันวามันดูแลตัวเองได้” เมฆหันไปทางเทิดธันวา “จริง ไหม” “ครับพี่ พรุ่งนี้เจอกัน” เด็กหนุ่มยิ้มให้ เมฆยิ้มตอบ ยักไหล่ให้ แล้วผละออกไปทันที ปล่อยให้พิมพ์นรา ยืนหน้าบึ้ง มองตามอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนั้น เทิดธันวาเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ “พี่พิมพ์ครับ เราไปหาอะไรกิน กันก่อนไหม ไม่นานหรอก” “ไม่ ฉันจะกลับออฟฟิศ” “กินก่อนค่อยกลับก็ได้” “ไม่เอา เสียเวลา” พิมพ์นราปฏิเสธท่าเดียว “ผมหิว” เด็กหนุ่มเสียงอ่อย ยื่นใบหน้าหล่อใสเข้าไปใกล้ “น้ำ เต้าหู้เมื่อเช้าย่อยหมดแล้ว” พิมพ์นรายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เลยรู้ว่าบ่ายสองโมงกว่าแล้ว เธอ เองก็มัวแต่ทำงานจนลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเหมือนกัน หันไปมองหน้าเทิดธันวาเห็นกะพริบตาปริบๆ เอามือลูบท้องไปมาอย่าง ออดอ้อน ก็ชักสงสารแกมหมั่นไส้ “ก็ได้ๆ” ในที่สุดหญิงสาวก็ยอม แต่ก็ยังไม่วายสั่ง “แต่ฉันขอเลือก ร้านเองนะ” เด็กหนุม่ ยิม้ กว้าง จนเห็นฟันขาวเรียงสวย “ได้เลยครับ ขอให้ได้กนิ เถอะ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว” พิมพ์นราเลือกร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่บนชั้นหนึ่งของห้าง สรรพสินค้านั่นเอง หญิงสาวเลือกสั่งเมนูซูชิรวม เมนูโปรดที่กินประจำ ก่อนเปิดทางให้เทิดธันวาสั่งบ้าง พร้อมบอกย้ำเสียงดังฟังชัด “อยากกินอะไรสั่งเลยนะ แต่ถ้าเกินห้าร้อยบาทจ่ายเอง” 24 น้ำน่าน
“สุดยอดไปเลยพี่” เทิดธันวาแซว หัวเราะร่วน “จะเลี้ยงทั้งที ยัง อุตส่าห์มีเงื่อนไข” “อ๊ะ ไม่ได้สิ ขืนจัดให้นายเต็มที่ ฉันไม่มีเงินจ่ายขึ้นมา ทำไง” “ผมไม่ล้มทับพี่หรอกน่า ไม่ใช่ปอบสักหน่อย จะได้กินจุขนาดนั้น” เด็กหนุ่มว่า หันไปสั่งอาหารกับพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรอรับออร์เดอร์อยู่ เลือกที่ตัวเองชอบสองรายการ แล้วหันมาทำหน้าทะเล้นใส่พี่เลี้ยงสาว “สบายใจได้ มื้อนี้ไม่น่าจะเกินสี่ร้อยเก้าเก้า” พิมพ์นราทำหน้ายักษ์ใส่ ลำพังสำหรับเธอแล้วเรือ่ งเงินไม่ใช่ปญ ั หา หมั่นไส้เทิดธันวามากกว่า เลยหาเหตุตั้งเงื่อนไขไปอย่างนั้นเอง ระหว่าง รอพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ พิมพ์นราก็ดื่มชารสต้นตำรับในแก้วไป พลาง เทิดธันวากวาดสายตาอยากรู้อยากเห็นไปทางโน้นทีทางนี้ที แล้ว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว “จะว่าไปแล้ว เป็นนักข่าวนี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ” “ดียังไง” พิมพ์นราอยากรู้ความคิดของเด็กฝึกงานคนนี้เหมือนกัน “ดีหลายอย่าง” เทิดธันวายกแก้วชาขึ้นดื่มบ้าง “อย่างแรกเลย ได้ของฟรี” เด็กหนุ่มกล่าว พลางชำเลืองตาไปที่ถุงกระดาษใส่ซีดีหลายสิบ แผ่นที่พิมพ์นราวางไว้ชนิดผนังด้านในของโต๊ะอาหาร ‘ของแจก’ เหล่านี้ คือซีดีเพลงอัลบัมใหม่ที่ทางค่ายเพลงต้องการจะโปรโมต ซึ่งปกติค่าย เพลงจะให้พนักงานส่งของไปส่งให้สื่อต่างๆ ถึงที่ออฟฟิศ แต่วันนี้ จีน่า - ประชาสัมพันธ์สาวของค่ายเพลง ซึ่งพิมพ์นรารู้จัก เป็นอย่างดี เพราะทุกครัง้ เวลาจะติดต่อขอสัมภาษณ์นกั ร้องคนไหน ก็ตอ้ ง ติดต่อผ่าน ‘ฝ่ายพีอาร์’ เป็นด่านแรก ถือโอกาสที่สื่อมวลชนหลายสำนัก มางานแถลงข่าวคอนเสิร์ตครั้งนี้ แจกซีดีโปรโมตอัลบัมใหม่ของศิลปิน ในสังกัดไปพร้อมกัน อลวนกลรัก 25
“ซี ดี ฟ รี ตั๋ ว เครื่ อ งบิ น ฟรี ดู ห นั ง ฟรี ที่ พั ก ฟรี หนั ง สื อ ฟรี สิ น ค้ า ตัวอย่างฟรี” เทิดธันวาร่ายต่ออย่างคนช่างสังเกต “แล้วก็ยังได้อภิสิทธิ์ ในหลายๆ เรื่องที่คนธรรมดาไม่ได้แน่ๆ เป็นต้นว่า ได้ไปในที่ที่คนทั่วไป เขาไม่มีโอกาสไป อย่างในคุก ในวัง ไปต่างประเทศอะไรงี้” “อาชีพนักข่าว หรือคนทำนิตยสารเป็นอาชีพที่โชคดี” หนุ่มหน้าใส สรุ ป “เพราะอาชี พ นี้ ทำให้ ไ ด้ คุ ย กั บ คนที่ เ ราคั ด มาแล้ ว ว่ า คั้ น มาแต่ หัวกะทิ มีความหลากหลายทั้งด้านอาชีพ ประสบการณ์ชีวิต ไปจนถึง วิธีคิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ ในวงการต่างๆ อย่างแวดวง ธุรกิจ วงการบันเทิง วงการแพทย์ นักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ ปราชญ์ ชาวบ้าน ศิลปิน วงการศาสนา หรือแม้กระทั่งคนธรรมดาที่น่าสนใจ” พิมพ์นราฟังแล้วยิ้มที่มุมปาก ชื่นชมในความกล้าคิด กล้าแสดง ความคิดเห็นของเด็กหนุ่มในใจเงียบๆ แม้จะเห็นด้วยในบางประเด็น แต่ก็มีบางเรื่องที่เธอเห็นต่าง อย่างน้อยก็เรื่องของฟรีที่เทิดธันวาว่า “ฉัน เห็นด้วยในเรื่องความโชคดีของอาชีพนักข่าวนะ” พิมพ์นราพูดบ้าง น้ำเสียงดูเป็นมิตรมากขึ้นกว่าทุกครั้ง แต่ก็ยัง ไว้ท่าตามประสาพี่เลี้ยงที่แก่ประสบการณ์ “แต่เรื่องอภิสิทธิ์กับเรื่อง ของฟรีเห็นจะต้องขอค้าน อภิสิทธิ์ที่นายว่า ถ้าคนเป็นนักข่าวได้รับบ่อยๆ จนชิน นานวันเข้าอาจยึดติด กลายเป็นคนมีอีโก้จัด ทำให้เหลิง และคิด ว่าตัวเองอยู่สูงส่งกว่าคนอื่น เพราะมีอำนาจอยู่ในมือ จะเขียนด่าใคร หรือทำอะไรใครก็ได้ที่เห็นต่าง” พิมพ์นราเป็นกองบรรณาธิการนิตยสาร ทำงานด้านสื่อมานาน รู้และเข้าใจความหมายของคำว่า อภิสิทธิ์ เป็นอย่างดี พอๆ กับรู้ว่า เหรี ย ญมี ส องด้ า น ในเวลางานอาจมี บ้ า งในบางครั้ ง ที่ จ ำเป็ น ต้ อ งใช้ อภิสิทธิ์เพื่อให้ได้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่นอกเวลางานแล้ว หญิงสาวไม่เคยนำอภิสิทธิ์ของความเป็น 26 น้ำน่าน
นักข่าวติดตัวไปไหนด้วย ไม่เหมือนนักข่าวไร้จรรยาบรรณบางสำนัก ที่ถือว่ามีอำนาจอยู่ปลายปากกา ใช้อภิสิทธิ์ ‘โชว์เหนือ’ เขียนด่า เขียนว่า ใครต่อใครอย่างหน้าไม่อาย “เรื่องของฟรีก็เหมือนกัน” พิมพ์นราร่ายยาว มองไปพูดไป ยังไม่ ตักอาหารรับประทาน เพราะชักจะติดลม ต่างจากเทิดธันวาที่เวลานี้ใช้ แต่หูฟังอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย ราวกับจะบอกให้ หญิงสาวรู้ว่าหิวจริงๆ “โลกนี้ไม่มีของฟรีหรอก อย่างซีดีในถุงนี่ก็เหมือนกัน เขาให้มาก็ เพราะหวังว่า เราจะเอาไปโปรโมตให้ทั้งนั้นแหละ รวมไปถึงตั๋วเครื่องบิน สินค้าตัวอย่าง หนัง ที่พัก หนังสือ และอะไรต่อมิอะไรทั้งหลายที่นายว่า ลองนายรับของเขามาแล้วไม่เขียนให้สิ รับรองไม่เกินสามครั้ง ของฟรี เหล่านี้หายจ้อย” “ผมเห็นพี่คุยกับพี่พีอาร์ที่ชื่อจีน่า ดูสนิทสนมเชียว” เทิดธันวา ตั้งข้อสังเกต “ก็ในระดับหนึง่ ” พิมพ์นราว่า แล้วแนะนำหนุม่ รุน่ น้องอย่างไม่หวง วิชา “เราทำงานนิตยสาร จำเป็นต้องรู้จักคนเยอะ การรู้จักมักคุ้นกับ พีอาร์ จะทำให้เราเข้าถึง และขอคิวแหล่งข่าวได้ง่ายขึ้น แต่ก็นั่นแหละ จีนา่ ไม่ได้อะไรกับฉันหรอก เธอทำไปตามหน้าที่ ทีต่ งั้ ใจสนิทด้วย ก็เพราะ รู้ว่าฉันทำงานนิตยสารบันเทิงต่างหาก จีน่าเป็นพีอาร์ค่ายเพลง เธอคบ กับฉันก็หวังคอนเน็กชั่นนั่นแหละ” “ลองคิดเล่นๆ นะ ถ้าฉันทำหนังสือ พระเครื่อง ตายแล้วไปไหน เปิดโลกลี้ลับ หรือ ฟาร์มสุนัขแสนสุข อะไรทำนองนั้น นายคิดว่าจีน่าจะ เข้ามาสนิทกับฉันไหม” พิมพ์นราพูดเองเออเองเสร็จสรรพ “อย่าว่าแต่ จีน่าเลย ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากสนิทชนิดตามติดกับฉัน อย่างที่นายเห็น ในวันนี้แน่ๆ” อลวนกลรัก 27
เทิดธันวาพยักหน้า “ใช่พี่ ผมเห็นด้วย” “เห็นด้วย” พิมพ์นราทวนคำ ถามกลับ “เรื่องไหน” “ทุกเรือ่ งเลย” เด็กหนุม่ ว่า ยกจานพุงปลาแซลมอนย่างเกลือซึง่ วาง อยูต่ รงหน้าทีจ่ ดั การเสร็จเรียบร้อยแล้วออกไป ก่อนเลือ่ นชุดเบนโตะขนาด กลางที่วางเด่นอยู่บนโต๊ะเข้าใกล้ตัวอีกนิด จากนั้นจึงลงมือจัดการต่อ พิมพ์นรามองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็ ติดคอตายหรอก” “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับพี่ ผมจะค่อยๆ เคี้ยว” เด็กหนุ่มส่งยิ้ม ทะเล้นข้ามโต๊ะไปให้ “ใครห่วงนาย” พิมพ์นราคอแข็งขึ้นมาทันที “กินได้แล้วครับพี่” เทิดธันวาทำหูทวนลมเสีย พยายามมองข้าม คิว้ ขมวดมุน่ และแววตาเคืองขุน่ อย่างไม่พอใจของพีเ่ ลีย้ งสาวไปพร้อมกัน “จะกลับเข้าออฟฟิศไม่ใช่เหรอ เอาแต่พูดอยู่นั่น เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก” “นายธันวา นี่แกหลอกด่าฉันเหรอ” “บ้า ผมชม”
28 น้ำน่าน