1
ชู้รัก
“อะ...อะ...อ๊ะ อ๊ะ...อ่าห์...ซี้ดดดดดดดดดดดด อ่าห์...” เสียงผมกับเอกผลักกันร้องครางสนั่นหวั่นไหวลั่นห้อง เตียงสั่นไหว ไปตามแรงกระแทกถี่ๆ ที่ดันเข้ามาในกายเบื้องล่างของผม เราทั้งคู่นอน เปลือยกายกอดกันพร้อมกับก�ำลังเร่งจังหวะแห่งความเสียวปนสุข...ให้แรง และเร็วขึ้นอีก “อ๊ะ...อ๊ะ...อะ...อะ...อะ อ่าห์....เฮ้อ!” แล้วเสียงของเราทัง้ คูก่ เ็ งียบลง เมือ่ เราได้ปลดปล่อยออกพร้อมๆ กัน กลายเป็นเสียงเหนื่อยหอบเข้ามาแทนที่ “เอกรักปุนที่สุดเลยนะ” เอกกระซิบที่ข้างหูผมเสียงกระเส่า หลังเรา ทั้งคู่ผ่านความสุขสมมาด้วยกัน เอกกอดผมแนบแน่นพร้อมกับเริ่มบรรจงจูบผมอีกครั้ง จูบลงต�่ำมา เรื่อยๆ หน้าอก หน้าท้อง ไซร้ลงมาถึงช่วงล่าง “อย่าเอก พอแล้วนะ ปุนเหนื่อยแล้ว” ผมร้องบอกเสียงสั่นเมื่อเอก ท�ำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ
4
“ขออีกรอบนะปุน เอกยังอยากรักปุนอีกนะ นะครับ” เอกอ้อนเสียง หวาน ก่อนที่ผมจะได้มีโอกาสตอบอะไรเอกก็ดันขาผมชันขึ้น และเริ่ม ‘สอด ดัน’ ของเอกเข้ามาอย่างช้าๆ อีกครั้ง “อืม อะ อาห์....” ผมร้องครางด้วยความเสียว “ปุนน่ารักจังครับ” เอกพูดพร้อมกับก้มลงจูบปากผมอีกรอบพร้อมกับ เริ่มขยับตัวและ ‘ซอย’ ช้าๆ เน้นๆ ก่อนจะเริ่มเร่งให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ “กรี๊ดดดดดดดดดดด พี่เอก” เสียงหญิงสาวกรีดร้องเสียงดังสั่นห้อง ปลุกโสตประสาทของผมขึ้นมา เราทั้งคู่หยุดภารกิจ ‘กาม’ ทันที เมื่อหันไป เห็นหญิงสาวคนหนึ่งมองมาที่เราทั้งคู่อย่างตื่นตระหนกและกรีดร้องเสียงดัง ไม่หยุด “กรี๊ดดดดดดดดดดด ไม่ ไม่ ไม่จริง กรี๊ดดด” เสียงเธอร้องอย่างบ้า คลั่งไม่ยอมหยุด “นิด นิด น้องนิด” ผู้ชายหน้าตาเหี้ยมเกรียม ผมเผ้ารุงรังที่มาด้วยกัน เข้าไปพยุงร่างของหญิงสาวคนนั้นก่อนที่จะล้มลงกับพี้น “นิด” เอกร้องขึน้ เบาๆ พร้อมกับลุกลีล้ กุ ลนลุกจากเตียงและคว้าเสือ้ ผ้า ที่อยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวมใส่อย่างลวกๆ ผมเองรู้สึกตกใจจนท�ำอะไรไม่ถูก ได้แต่หอบผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วรีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้ตาม ปลายเตียงแล้วหยิบขึ้นมาสวมอย่างรีบเร่งไม่ต่างจากเอก ผู้ชายสองสามคนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องที่เปิดประตูค้างไว้แต่ แรกโดยพวกผมไม่รู้ตัวเลย “พวกมึงเฝ้าไอ้สองตัวนี้ไว้ก่อน อย่าให้มันหนีไปได้ ส่วนมึงไอ้ชิน มึง ไปสตาร์ทรถรอเลย กูจะพาน้องนิดไปโรงพยาบาล” ชายหน้าตาเหี้ยมเกรียม ผิวด�ำคล�้ำคนนั้นสั่งผู้ชายทุกคนที่ยืนรุมหญิงสาวคนนั้นไว้ ก่อนจะรีบอุ้มเธอ แล้วรีบเดินเร็วๆ ออกจากห้องผมกับเอกไป ชายสองคนที่เหลือดูน่ากลัวไม่แพ้คนที่สั่งพวกมัน คนหนึ่งผิวคล�้ำ หน้าตาดุ ส่วนอีกคนยังดูเด็กอยู่ ผิวขาวดูเหมือนเป็นรุน่ น้องคนแรก ท�ำหน้าที่ เฝ้าพวกผมไว้ ผมทั้งกลัวและงงไปหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “พวกแกเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง ออกไปนะ” ผมร้องถามและออกไป ไล่ แต่พวกมันไม่มีใครสนใจฟัง มันทั้งคู่มองผมกับเอกหน้านิ่ง
5
“เอกจะท�ำยังไง มันเป็นใครกัน” ผมหันไปกระซิบถามเอก “ลูกน้องพี่ชายคุณนิด” เอกกระซิบตอบ “ใครกัน คุณนิด” ผมถามด้วยความสงสัย เอกพูดเหมือนกับรู้จักหญิง สาวคนนั้นและคนพวกนี้เป็นอย่างดี “เดี๋ยวไว้เอกค่อยเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้เราต้องอยู่เฉยๆ ก่อน ท�ำตาม พวกมันไปก่อน ไม่งั้นพวกมันเอาเราตายแน่ๆ” เอกตอบผมเบาๆ มีแววตื่น กลัวอย่างมาก ผมท�ำอะไรไม่ถกู จึงได้แต่ยนื เฉยๆ ผมเห็นพวกมันทัง้ สองคนยืนซุบซิบ อะไรอยู่สักพักก็หันมาพูดกับพวกเรา “พวกมึงอยู่เฉยๆ นะ อย่าคิดหนีไม่งั้นพวกมึงศพไม่สวยแน่” คนผิว คล�้ำหนึ่งในพวกมันก็ชักปืนออกมาจากเอว ยกขึ้นเล็งมาทางพวกเรา “ยะ...อย่าท�ำอะไรพวกเรานะ ใจเย็นๆ เราจะท�ำตามที่บอกทุกอย่าง เลย” เอกรีบยกมือห้ามพวกมันเสียงสั่น “เออ พูดง่ายๆ อย่างนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย นึกว่าจะต้องคุยกับศพ แทนซะแล้ว ฮะฮะ” พวกมันหัวเราะแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะกระจก มัน เก็บปืนแต่ตายังมองมาที่พวกเราเขม็ง ผมกับเอกได้แต่นั่งลงที่ปลายเตียงแล้วก็เงียบเสียงอยู่นิ่งๆ ไว้ตามที่ มันบอก ตอนนี้ไม่รู้จะท�ำอย่างไรจริงๆ มันมีกันสองคนแถมยังมีปืนอีก ดูท่า แล้วพวกเราไม่มีทางสู้พวกมันได้แน่ๆ เวลาผ่านไปนานหลายชัว่ โมงทีผ่ มกับเอกต้องทนนัง่ เงียบๆ อยูต่ อ่ หน้า คนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จัก “ฮัลโหล ครับ” เสียงคนที่ยกปืนมาขู่พวกผมพูดขึ้นเมื่อกดรับโทรศัพท์ มือถือ “ครับ ครับ ได้ครับ เดี๋ยวผมจะพาพวกมันไปรอนาย ครับ ครับ” มัน พูดสั้นๆ อีกสองสามค�ำก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม “ไอ้ชิด มึงไปจัดการเอารถมารอเลย นายสั่งให้ไปแล้ว” ไอ้คนที่ดูแก่ กว่าและมีปืนสั่งเด็กวัยรุ่นที่มาด้วยกัน เด็กนั่นก็รีบเดินออกจากห้องไป
6
“ส่วนพวกมึงมานี่ เดินตามกูมาเงียบๆ อย่าตุกติก ไม่งั้นกูยิงไอ้นี่ไส้ แตกแน่ๆ” ไอ้คนมีปนื มันใช้ปนี จีท้ ด่ี า้ นหลังผมแล้วดันหลังผมให้เริม่ เดินออก จากห้อง เอกเดินตามมาไม่ห่างโดยที่ไม่พูดไม่ตอบโต้อะไรเลย เหมือนเอก จะกลัวพวกมันมาก มันสั่งให้ผมกับเอกเดินน�ำหน้าและมันเดินเอาปืนจี้เอวผมอยู่ที่ด้าน หลัง ผมเลยต้องท�ำตามมันด้วยการเดินลงลิฟท์ไปยังลานจอดรถชั้นล่าง เมื่อเดินมาถึงรถยนต์สีด�ำคันหนึ่ง เด็กหนุ่มวัยรุ่นรออยู่ก่อนแล้ว ชาย ผิวคล�้ำเอาด้ามปืนกระแทกต้นคอเอกให้นั่งลงที่เบาะด้านคนขับ ส่วนผมให้ นั่งด้านหน้าคู่กับเอก ส่วนพวกมันนั่งข้างหลัง พวกมันสั่งให้เอกขับรถไปตาม ถนนมุ่งลงใต้ ผมไม่รู้ว่ามันจะพาไปที่ไหน รู้แต่ว่าตอนนี้เวลาใกล้มืดลงทุกที ทั้งกลัว ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ตั้งแต่บ่ายยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย หลังจากขับรถมาได้เกือบสองชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพักพวกมันก็สั่งให้ แวะปั๊มน�้ำมันเพื่อหยุดพักรถ เติมน�้ำมัน และหาซื้อของกินในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะเดินทางต่อ หลังจากเอกขับรถไปได้สกั พัก เด็กหนุม่ หนึง่ ในพวกมันก็สงั่ ให้เอกหยุด รถ บอกว่าปวดฉี่ คงเพราะมันกินเบียร์เข้าไปมาก เราหยุดรถข้างทางที่เต็ม ไปด้วยดงหญ้าสูงท่วมหัว ตอนนี้ดึกมากแล้ว รอบข้างมืดสนิท แสงไฟจาก เสาไฟฟ้าก็ส่องแสงสลัวๆ รถราที่แล่นสวนไปมาก็มีน้อยคัน “เฮ้ย ไอ้ชิดท�ำไมมึงฉี่นานจังวะ” ชายหน้าดุที่นั่งรถในรถเปิดกระจก ลงและชะโงกหน้าตะโกนถามเด็กหนุ่มที่เข้าไปฉี่ด้านหลังต้นไม้หลังดงหญ้า เข้าไป “รอเดี๋ยวพี่ ปวดขี้ด้วยว่ะ” มันร้องตอบมาพร้อมกับนั่งลงจนหญ้าที่สูง ท่วมหัวบังมันมิด “เรื่องมากจริงๆ ไอ้เหี้ยเอ๊ย เร็วๆ เข้าล่ะ” มันร้องด่าและเร่งเด็กหนุ่ม คนนั้น ผมหันไปมองเอก เราหันมาสบตากันพอดีเหมือนกับจะถามกันและ กันวา ‘จะเอายังไงดี’ “นี่นาย ขอไปฉี่หน่อยได้ไหม ปวดเหมือนกัน” เอกหันไปพูดกับคนคุม ที่นั่งอยู่ด้านหลัง
7
“ไม่ได้ มึงจะมาฉี่อะไรตอนนี้” มันไม่ยอม “ปวดจริงๆ นะพี่ ถ้าพีไ่ ม่เชือ่ พีจ่ ะไปคุมผมก็ได้” เอกพยายามพูดเกลีย้ กล่อมมันจนมันยอมเดินตามเอกลงมาจากรถ มันเอาปืนจี้เอวเอกอยู่ขณะที่ เดินรุนหลังเอกให้เดินน�ำหน้าลงข้างทางไปอีกคน ผมค่อยๆ ก้มตัวลงและมุดตัวหันไปด้านหลัง เอื้อมมือลงไปยังที่วาง เท้าด้านหลังเบาะผม หยิบค้อนทีอ่ ยูใ่ นกล่องเครือ่ งมือด้านหลังออกมา โชคดี ที่เมื่อสองสามวันก่อนเราซื้ออุปกรณ์ช่างมาเตรียมจะซ่อมโต๊ะอาหารในห้อง ครัวและวางไว้ตรงพื้นที่วางเท้าด้านหลังเบาะที่นั่งผม พวกมันคงไม่ทันได้ สังเกตเห็น ผมค่อยๆ เปิดประตูออกมาและเดินย่องๆ ให้เบาเสียงที่สุดมายืนอยู่ ด้านหลังไอ้คนที่เอาปืนจี้เอวเอกอยู่ “เสร็จรึยังวะ” มันเร่งเอก “ดะ...เดี่ยวก่อนสิ มายืนคุมแบบนี้มันฉี่ไม่ออกนะ” เอกพยายามถ่วง เวลา “ลีลานักนะมึง เฮ้ย ไอ้ชิดแล้วมึงเมื่อไรจะขี้เสร็จวะ” มันตะโกนถาม เข้าไปในพงหญ้าถัดออกไป “ใกล้เสร็จแล้วพี่ รอเดี๋ยว” เสียงมันร้องตะโกนกลับมา ผมพยายามรวมรวมสติ แ ละความกล้ า ทั้ ง หมดที่ มี ย กค้ อ นขนาด กระชับมือขึ้น พลั่ก ผมฟาดเข้าที่สุดแรงที่ด้านหลังศีรษะมัน “โอ๊ย อะไรวะ” มันหันมามือกุมศีรษะไว้ มันคงเจ็บมาก ผมกับเอกรีบวิง่ ไปทีร่ ถราวกับนัดหมายไว้เป็นอย่างดี เอกไปถึงรถก่อน และนั่งในที่คนขับแล้ว แต่ขณะที่ผมก�ำลังจะเปิดประตูไอ้คนหน้าดุมันก็คว้า แขนผมไว้ได้ ผมหันไป มันมองมาหน้าตาเหี้ยมมาก “มึงอยากตายเหรอ” มันเอามือนึงกุมศีรษะที่มองเห็นลางๆ ว่ามีน�้ำ เหนียวๆ ไหลออกมา มือหนึ่งมันเอาปืนชี้มาทางผม “ปุนขึ้นรถเร็ว” เอกเรียกผมเสียงลั่น
8
“โอ๊ย” มันเอามือล็อคคอผมไว้จนแทบหายใจไม่ออก ขณะทีผ่ มพยายาม ยื้อยุดฉุดกระชากต่อสู้กับมันสุดฤทธิ์เพื่อพยายามจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งบน รถให้ได้ “พี่วี พี่ๆ เกิดไรขึ้น” เสียงไอ้เด็กหนุ่มคนนั้นมันร้องขึ้นและโผล่หัวมา จากพงหญ้าพร้อมกับรีบวิ่งออกมา “เอกไปก่อนเลย เร็วๆ สิ รีบไปเลย” ผมร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ ตอนนี้ก�ำลังย�่ำแย่ ผมสู้แรงไอ้คนที่พยายามล็อคคอผมอยู่ไม่ได้ ผมพยายาม เตะต่อยมันพัลวันแต่มนั ก็ปดั ป้องได้ ยิง่ ถ้าไอ้เด็กนัน่ มาถึง พวกเราทัง้ สองคน คงไม่รอดแน่ๆ “ปุน ต้องไปด้วยกันสิ” เอกร้องตะโกนออกมา “เอก ไปก่อนเลย ไม่งั้นจะตายกันหมด รีบไปสิ เร็วๆ” ผมร้องเร่งให้ เอกรีบสตาร์ทรถขับออกไป ตอนนีผ้ มรูส้ กึ จุกขึน้ มาเฉยๆ จุกเหมือนโดนต่อย เข้าที่ท้องน้อยอย่างแรง “เอก รีบไปเร็วๆ” ผมร้องบอกเอกขณะที่ทรุดตัวนั่งกองลงกับพื้น “ปุน ปุน ไม่นะ ปุน” ผมได้ยินเสียงเอกร้องตะโกนเรียกชื่อผม พร้อม กับเสียงล้อรถครูดกับพื้นอย่างแรง หลังจากนั้นสติผมก็ดับวูบไป! ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกน�้ำเย็นเฉียบสาดเข้ามาที่หน้าผมอย่างแรง ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ตัว แต่ตามันเหมือนจะพร่ามัวไปหมด ผม นอนกองอยู่กับพื้นห้องสี่เหลี่ยมโล่งๆ โดยมีผู้ชายสามสี่คนยืนล้อมผมอยู่ นอกจากไฟกลางห้องทีส่ อ่ งสว่างมายังผมแล้วผมมองไม่เห็นอะไรอีก ผมรูส้ กึ เจ็บไปหมดทั้งตัวและจุกที่ท้องเป็นอย่างมาก “ฟืน้ แล้วเหรอไอ้สารเลว” เสียงเข้มเหีย้ มดังขึน้ ข้างๆ หูผม ผมพยายาม เพ่งมองก็พบว่าชายรูปร่างสูงใหญ่ผิวคล�้ำจนเกือบเรียกได้ว่าด�ำ ผมเผ้ายาว รุงรังประบ่าก�ำลังมองมาที่ผมอย่างโกรธเกรี้ยว ผมจ�ำได้ว่ามันคือคนที่อุ้ม หญิงสาวที่มันร้องเรียกว่า ‘น้องนิด’ ออกไปจากห้องเพื่อไปส่งโรงพยาบาล มันคงคือ ‘พี่ชายคุณนิด’ ที่เอกบอกไว้ “กะ...แกเป็นใคร” ผมร้องถามออกไปด้วยความกลัว พวกมันทุกคน ก�ำลังยืนรุมจ้องหน้าผมอยู่
9
“เป็นใครมึงไม่ต้องรู้หรอก รู้ไว้แต่ว่ามึงต้องได้รับโทษในสิ่งที่มึงท�ำไว้ อย่างสาสม มึงลุกขึ้นมานี่เลย” มันคนนั้นพูดแล้วกระชากคอเสื้อผมแล้วดึง ผมขึ้นมาจากพื้น “มึงกล้ามากนะ กล้าท�ำลูกน้องกูหัวแตก มึงยังรู้จักกูน้อยเกินไป” มัน เปลี่ยนจากก�ำคอเสื้อผมมาจิกหัวผมแทน มันดึงจนผมเจ็บหนังหัวไปหมด มันดึงผมให้หนั มาเห็นลูกน้องคนทีผ่ มเอาค้อนฟาดหัวมันเต็มๆ ตอนนีห้ วั มัน พันไว้ด้วยผ้าก๊อซสีขาวจนรอบ มันมองมาทางผมหน้านิ่ง “แล้วพวกแกเป็นใครล่ะ อยู่ๆ มาจับตัวพวกเราไว้ก่อนท�ำไมล่ะ เรา ไปท�ำอะไรให้” ผมพยายามเถียงพวกมัน พวกมันมาท�ำร้ายผมกับเอกก่อน โดยที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย “ฮึ ไม่ได้ท�ำอะไรงั้นเหรอ ไอ้เลว พวกมึงท�ำน้องกูช็อกจนต้องเข้าโรง พยาบาล เป็นตายยังไม่รู้เลย ยังมาเสือกพูดว่าไม่รู้เรื่องอีกเหรอ” มันหันมา ตะคอกผมแล้วเลื่อนมือมาบีบคอผม “โอ๊ย เจ็บนะ” ผมพยายามปัดป้องดึงมือมันออก แต่มือมันเหมือนคีบ เหล็กที่แข็งแรง มันบีบคอผมจนแทบจะหายใจไม่ออก “แค่ก แค่ก” ผมพยายามจะหายใจเอาชีวิตรอด เจ็บ ทรมานเหลือเกิน หายใจไม่ออกเลย “นาย นาย ใจเย็นๆ ก่อนครับ เดี๋ยวมันตายกันพอดี” ไอ้คนที่ไปโรง พยาบาลกับนายมันร้องห้ามพร้อมกับพยายามดึงมือ ‘นาย’ ของมันออกจาก คอผม “ตายสิดี คนอย่างพวกมัน เลวไม่มีชิ้นดี ไอ้สารเลวเอกนั่นอีกคน อย่า ให้กูตามล่ามึงเจอนะ กูฆ่ามันแน่” มันยังบีบคอผมอยู่แต่คลายลงจากแรงดึง ของลูกน้องมัน แต่ผมก็ยงั หายใจไม่ออกอยูด่ ี รูส้ กึ เหมือนคนก�ำลังจะใกล้ตาย เต็มที “แค่ก แค่ก ผะ...ผมไปท�ำอะไรให้ ถึงมาท�ำอย่างนี้” ผมพยายามแค่น เสียงพูดออกมาอย่างยากล�ำบาก “ท�ำอะไรงั้นเหรอ ยังจะต้องให้กูประจานความเลวของมึงให้ฟังอีก เหรอ ฮึ มึงนี่มันหน้าด้านกว่าที่กูคิดไว้เยอะเลยนะ” มันตะคอกผมเสียงดัง
10
“มึงกล้ามาก กล้าที่มาเป็นชู้กับไอ้ผัวสารเลวของน้องสาวกู! ถ้าน้อง สาวกูเป็นอะไรไป พวกมึงจะได้รู้จักว่านรกจริงๆ มันเป็นยังไง” มันพูดพร้อม กับคลายมือที่บีบคอผมออก ผมรู้สึกงงและสับสนกับสิ่งที่มันพูดมาก ชู้กับผัวน้องสาวมันงั้นเหรอ...หมายถึงเอกกับหญิงสาวคนนั้นเหรอ สองคนนั้นเป็นอะไรกันแน่ แล้วผมล่ะ ผมกับเอกไม่ได้เป็นชู้กันนะ เราสองคนรักกัน คบกันมาตั้ง นานแล้ว...มาพูดอย่างนี้มันหมายความว่าอะไรกันแน่! แต่ก่อนที่ผมจะได้มีโอกาสคิดอะไรได้มากไปกว่านี้ผมรู้สึกได้ถึงแรง ถีบที่กระแทกเข้ามาอย่างจังที่ล�ำตัวผม พร้อมกับหมัดที่เหวี่ยงซ้ายขวามา ปะทะใบหน้าผมอย่างจังหลายต่อหลายที ผมทั้งเจ็บทั้งปวดไปหมด รู้สึก เหมือนมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปากผม รสเลือดคาวๆ คละคลุ้งอยู่ใน ปากจนผมอยากจะอาเจียนออกมา “นายครับ นาย นาย นายพอก่อนเถอะครับ เดี๋ยวมันตายกันพอดี” ผมได้ยินเสียงร้องเรียกดังลั่นและเห็น ผู้ชายพวกนั้นก�ำลังดึงตัวนายของมัน ออกจากตัวผม ขณะที่ผมเองกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ตัวมันชาไปหมด รู้สึกแต่ว่าบ้าน มันหมุนวนไปวนมาจนผมเวียนหัว แล้วผมก็ไม่รู้สึกตัว ไม่เห็นและไม่ได้ยิน อะไรอีกเลย!
11
2 หนี
ผมรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เป็นเวลาสายมากแล้ว แสงแดดจ้าส่องเข้ามาแยงตาผม ผมเจ็บปวดไปหมดทั้งตัว ปากแตก ปวดตา ใบหน้าผมคงจะบวมช�้ำมาก เพราะเมื่อคืนผมโดนมันซ้อมจนน่วม ไปหมด ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนผมสลบไป ผมนอนอยูต่ รงมุมห้องทีม่ เี พียงเสือ่ ผืนเล็กๆ กับหมอนสกปรกให้หนุน นอน กลางห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่ปูผ้าสีครีมแลดูสะอาดสะอ้าน แต่ผม กลับต้องมานอนบนพื้นแข็งๆ แอบอยู่มุมห้อง “ตื่นแล้วเหรอคุณ” เสียงเรียกขึ้นเบาๆ ที่ข้างหูผม ผมเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างเล็กดูผอมบาง อายุราวสิบสี่สิบห้ายืนมองผมด้วยความ แปลกใจ “อืม โอ๊ย” ผมร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อขยับตัวเพียงเล็กน้อย มัน เจ็บปวดเหมือนกระดูกทุกส่วนของผมมันแตกร้าวไปหมด ผมพยายามจะ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น
12
“ยายให้เอาข้าวมาให้” เด็กหนุ่มตัวเล็กนั่นวางจานข้าวที่ราดกับข้าว แห้งๆ ลงกับพื้นข้างๆ ตัวผมพร้อมกับกระติกใส่น�้ำ “อืม ขอบใจนะ” ผมเอ่ยตอบเสียงเบา ผมไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่ อย่างน้อยก็คงไม่ได้เข้ามาท�ำร้ายผมเหมือนพวกเมื่อคืน “หน้าคุณช�้ำมากเลยอะ ตาปิดเลย แถมปากยังแตกอีก คงจะเจ็บมาก ล่ะสิ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับมองมาด้วยแววตาอ่อนโยน คงสงสารผม! “อืม” ผมไม่รู้จะตอบอะไรได้มากไปกว่านี้ รู้สึกเจ็บไปหมด เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ ไม่รู้ว่าท�ำไมคนพวกนี้ถึงได้ท�ำกับผมอย่างนี้ “กินข้าวซะก่อนสิ ท่าทางจะยังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาเอ่ยขึ้น “ยังไม่หิวเลย” ผมตอบเบาๆ พยายามยันกายลุกขึ้นยืนเพื่อมองไป รอบๆ ตัว ผมอยู่ในห้องนอนขนาดเล็กภายในบ้านไม้หลังหนึ่ง ผมค่อยๆ เดินไปดูที่หน้าต่างก็พบว่าตัวบ้านเป็นไม้ชั้นเดียวที่ยกพื้นสูงเหนือศีรษะ รอบตัวผมเหมือนอยู่ในป่า มีแต่ต้นไม้ใหญ่เขียวขจี ปกคลุมบริเวณนี้จนดูรก ทึบไปหมด “ที่นี่ที่ไหนเหรอ” ผมเอ่ยถาม “ก็บ้านพักนาย” “แล้วอยู่ที่ไหนล่ะ จังหวัดไหน” ผมพยายามถามข้อมูลเส้นทาง “ก็....” “ไอ้เก่ง มึงมาท�ำอะไรที่นี่” เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังลั่นเข้ามาจนผม กับเด็กนั่นสะดุ้งด้วยความตกใจ “นาย...ผมเอาข้าวมาให้คุณคนนี้” เด็กที่ชื่อ ‘เก่ง’ รีบตอบ “ใครใช้ให้เข้ามา เสือกยุ่งไม่เข้าเรื่อง” มันเดินหน้าตาทมึงทึงเข้ามา ผมเพิ่งเห็นมันชัดๆ คราวนี้เอง ใบหน้ามันคมเข้ม ดวงตาดูดุดัน ผมยาวประ บ่า มันรูปร่างสูงใหญ่ ผิวด�ำคล�้ำจากแดด ใส่กางเกงยีนสีน�้ำเงินเข้มตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นล�ำตัวหนาบึกบึน เหงื่อไหลย้อยเต็มตัว “ยายให้เอามาให้ครับ กลัวคุณคนนี้จะหิวตาย” เก่งตอบหน้าตาซื่อ “หึ รู้ข่าวกันไวจริงๆ คนอย่างมันคงไม่ตายง่ายๆ หรอก” มันหันมา แสยะยิ้มให้ผม
13
“นี่แกเป็นใคร แล้วจับตัวฉันมาท�ำไม” ผมถาม “ยังจะต้องให้กบู อกมึงอีกเหรอ กูวา่ กูสาธยายให้มงึ ฟังเมือ่ คืนแล้วนะ” มันพูดเสียงดังอย่างเริ่มโมโห “มึงจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่ากูจะจับตัวผัวมึงได้ แล้วถ้าน้องกูเป็นอะไรไปพวกมึงจะได้ตายพร้อมๆ กัน” มันหันมากระชาก คอเสื้อผมแล้วบิดจนรัดคอผมแน่น ผมพยายามเอามือดึงมือมันออก แต่ไม่ ได้ผล “ปล่อยนะ...ปะ...ปล่อย” ผมร้องติดขัดเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก มันคลาย มือแล้วก็ผลักผมอย่างแรงจนกระเด็นล้มลงกับพื้น “อะ...โอ๊ย เจ็บนะ” ผมร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อหลังผมกระแทกเข้ากับ ผนังห้องอย่างแรง เจ็บไปหมด มันจะท�ำร้ายผมไปถึงไหน “นาย” เด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเดินขึ้นบันไดแล้วเข้าในห้อง ผมจ�ำได้ว่า มันคือหนึ่งในคนที่จับตัวผมมา มันชื่อชิด “มาแล้วเหรอ ช้านักนะมึง” มันหันไปต่อว่าไอ้ชิด “ขอโทษครับนาย” ไอ้ชิดก้มหน้าก้มตาเหมือนกลัวความผิด ดูใครๆ ก็กลัวมันไปหมด แต่มันก็น่ากลัวจริงๆ “กูจะเข้ากรุงเทพสองอาทิตย์ มึงเฝ้าไอ้นไี่ ว้ให้ดี อย่าให้เกิดเรือ่ งอีกล่ะ ไม่งั้นคราวนี้มึงโดนตีนกูแน่” มันหันไปสั่งไอ้ชิด “ครับนาย” ไอ้ชิดรีบรับค�ำอย่างแข็งขัน นี่มันอะไรกัน มันจะขังผมไว้ที่นี่เหรอ “แก แกจะท�ำอะไร จะขังฉันไว้ที่นี่ไม่ได้นะ ฉันไม่ใช่นักโทษนะ” ผม ร้องโวยวาย “ได้ไม่ได้เดี๋ยวมึงก็รู้เอง อ้อ แล้วอย่าคิดหนีนะ ไม่งั้นมึงโดนดีแน่ แต่กู ก็อยากรู้เหมือนกันว่าสภาพอย่างมึงตอนนี้จะมีปัญญาหนีได้รึเปล่า ฮะฮะ” มันหัวเราะสะใจ ใช่สิ มันซ้อมผมจนน่วมเหมือนกระสอบทราย อย่าว่าแต่จะ หนีเลย ตอนนี้แม้แต่แรงจะยืนยังแทบจะไม่มี “มึงจ�ำไว้นะ กลับมาคราวนี้กูจะมาตัดสินชะตามึง ถ้าน้องกูรอดมึง รอด ถ้าน้องกูเป็นอะไรไปมึงตาย!” มันพูดกับผมเค้นเสียงรอดไรฟัน หน้าตา
14
บึ้งตึงส่งแววตาอาฆาตมาดร้ายผมอย่างเต็มที่ ก่อนที่มันจะหันหลังแล้วเดิน ออกจากห้องไป ผมนอนซมด้วยความเจ็บปวดทรมานอยู่เกือบอาทิตย์ เก่งเอายา ชุด ท�ำแผลมาให้ และเอาข้าวมาให้ผมกินครบทุกมื้อ ผมตั้งใจรักษาตัวเพื่อจะได้ มีแรงและหายไวๆ ผมพยายามหาลู่ทางหนีไปจากที่นี่ แต่ผมไม่มีโอกาสเลย ไอ้ชิดล็อกประตูห้องจากด้านนอกและอยู่เฝ้าผมที่ใต้ถุนบ้านข้างล่างทั้งวัน ยังดีที่มันยังเปิดหน้าต่างไว้ให้ ท�ำให้ผมพอมีอากาศหายใจได้บ้าง ส่วนตอน กลางคืนมันก็มืดเกินกว่าที่ผมจะคล�ำทางออกไปได้เพราะที่นี่เหมือนอยู่ใน ป่า ทั้งรก ทั้งทึบ มีแต่ต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่รอบตัว “ไอ้ชิด ไอ้ชิดอยู่รึเปล่าวะ” ผมได้ยินเสียงตะโกนร้องเรียกไอ้ชิดดังมา จากข้างล่าง ผมเลยรีบไปยืนแอบมองอยู่ริมข้างหน้าต่างก็เห็นว่ามีเด็กหนุ่ม คนหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซค์มายืนเรียกไอ้ชิดที่นอนอยู่บนเตียงไม้ข้างล่าง “อ้าว มึงมาท�ำไมวะ” ไอ้ชิดร้องถามขึ้น “จะมาชวนมึงไปในเมือง ไปเปล่า” “กูไปไม่ได้ว่ะ” “ท�ำไมวะ ไปด้วยกันดิวะ พวกสาวๆ มากันเพียบเลยนะโว้ย มึงไม่ อยากเจอเหรอ” “อืม เออๆ ไปก็ได้” ไอ้ชิดยืนคิดอยู่พักใหญ่แล้วก็ตัดสินใจไปกันเด็ก หนุ่มคนที่มาชวน มันหันมาดูทางชั้นบนที่ผมอยู่นิดหนึ่งเหมือนยังเกรงกลัว ค�ำสั่งนายมัน แต่แล้วมันก็ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนมันออกไป ผม พยายามมองตามเส้นทางที่มันขี่ออกไป นี่เป็นโอกาสดีของผมแล้ว ผมรีบไปเอาเชือกที่ผมแอบเอาไว้ใต้เตียง ออกมา ผมเจอมันหลังจากพยายามรื้อค้นหาของในห้องที่พอจะมีประโยชน์ ส�ำหรับการหนี เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ช่วงที่ผมนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้องเมื่อ หลายวันก่อน ผมผูกเชือกกับขอบหน้าต่างแล้วรีบปีนโรยตัวลงไปชั้นล่าง อย่างยากล�ำบาก แม้ว่ามันจะไม่สูงมากนักแต่ผมไม่ถนัดในการปีนป่ายเอา เสียเลย
15
ผมรีบหาที่แอบเมื่อลงมาถึงพื้นดินชั้นล่าง มองไปไม่เห็นใคร นี่คงยัง ไม่ได้เวลาที่เก่งจะเอาอาหารมาให้ผม คงพอมีเวลา ผมรีบเดินไปตามทางที่ รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นวิ่งออกไป มันเป็นทางลงเนินเขาเตี้ยๆ สองข้างทางมี แต่ต้นไม้ใหญ่เหมือนๆ กันไปหมด ท�ำให้ผมเดินซ่อนตัวไปอย่างเงียบๆ ได้ ผมเดินผ่านบ้านไม้หลังเล็กๆ สองสามหลังที่อยู่ห่างกันออกไป ผมเดินไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจึงได้เห็นถนนเล็กๆ บนทางเรียบ มันน่าจะพอมีทางไปถึงถนนใหญ่ได้บ้าง ผมเดินไปตามสอง ข้างทาง เหมือนมันจะเป็นบ้านพักหรือรีสอร์ตเพราะผมเห็นบ้านไม้หลาย สิบหลังปลูกเรียงกันเป็นกลุ่มๆ บางช่วงมีบ้านที่ก�ำลังสร้างอยู่เป็นสิบๆ หลัง อยู่ใกล้ๆ กัน ผมเดินจนเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งกลัว อีกเป็นชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่า ผมจะเห็นรถราสักคันวิ่งผ่านมาเลย รถ! ผมได้ยนิ เสียงรถยนต์วงิ่ เข้ามาตามถนน ผมรีบออกมาจากริมทาง เพื่อมายืนกลางถนน นานๆ จะมีรถผ่านมาสักคัน ผมต้องหยุดรถให้ได้เพื่อ ขออาศัยไปด้วยหรือแค่ถามทางออกก็ยังดี รถกระบะสีด�ำคันหนึ่งก�ำลังแล่นเข้ามาใกล้ มันแล่นสวนทางเข้ามา อย่างเร็ว ผมรีบโบกไม้โบกมือเพื่อเรียกให้มันหยุด “จอดด้วยครับ! จอดด้วย!” ผมพยายามร้องเรียกเสียงดัง ขณะทีโ่ บกมือ เรียกให้รถหยุดอยู่ตรงหน้า ในทีร่ ถกระบะสีดำ� ติดฟิลม์ ทึบก็จอดหยุดลงตรงหน้าผม ผมดีใจรีบเดิน เข้าไปใกล้ๆ ประตูฝั่งคนขับรถก�ำลังจะเปิดออกมา เมื่อผมเห็นคนที่เปิดประตูได้ อย่างถนัด ผมก็ต้องตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น มัน! เป็นมันนั่นเองที่เปิดประตูออกมา มันมองผมด้วยสีหน้าโกรธ เกรี้ยวสุดขีด ผมรู้สึกตัวว่าภัยร้ายแรงก�ำลังมาเยือนผมอีกครั้งหนึ่งแล้ว!
16
3
กักขัง
ขณะที่ผมก�ำลังยืนตะลึงอยู่มันก็กระชากแขนผมเข้าหาตัว มันอย่างแรง “มึงมาได้ยังไงห้ะ หนีมาได้ยัง มึงนี่มันกล้ามากนะ สร้างปัญหาให้กู ตลอดเวลา เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวมึงโดนดีแน่!” มันตะคอกผมเสียงดังและบีบแขน ผมไว้แน่นจนเจ็บไปหมด แล้วมันก็ลากผมขึ้นรถมันทันที ผมพยายามดิ้นและขืนตัวให้หลุดจากการฉุดกระชากลากแขนของ มัน แต่มันลากผมอย่างแรงและตัวมันใหญ่กว่าผมมาก ผมสู้แรงมันไม่ได้ มัน ดันตัวผมจนเข้าไปในรถ คุ้ยหาเชือกในรถมามัดมือทั้งสองข้างของผมไว้ด้วย กัน ก่อนจะขับรถออกไปอย่างเร็ว จนมาถึงบ้านพักของมัน “มึงลงมาเลย เร็วๆ กูบอกให้เร็วๆ ไงเล่า” มันลากผมลงจากรถแล้วก็ กระชากให้เดินตามมันขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอนชั้นบน “ปล่อยนะ ปล่อยสิ” ผมดิ้นและร้องเสียงดังแต่มันไม่ฟัง มันลากผม จนถึงมุมห้องด้านในที่มีเสื่อและหมอนที่ผมใช้นอนประจ�ำ
17
“โอ๊ย เจ็บนะ” ผมร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อมันผลักผมล้มลงบนพื้น อย่างแรง “มึงนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ สร้างปัญหาให้กูตลอด มึงจะมาโทษกูไม่ ได้นะ เพราะมึงมันหาเรื่องใส่ตัวเอง” มันหันมาพูดแล้วยิ้มเหี้ยมเกรียมให้ผม มันถอดเสื้อออก เผยให้เห็นล�ำตัวช่วงบน ผิวสีเข้มชุ่มโชกด้วยเหงื่อ แล้วมันก็ หยิบบุหรีแ่ ละไฟแช็กออกจากกระเป๋าเสือ้ มันจุดบุหรีส่ บู และพ่นควันลอยฟุง้ ใกล้หน้าผมจนผมแทบจะส�ำลักควัน “จะ...จะท�ำอะไร” ผมเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อเห็นสีหน้าของมัน มันไม่ตอบ แต่เข้าไปรื้อค้นในตู้ใส่ของขนาดใหญ่ของมันที่อยู่ปลายเตียง ผมเคยค้นดูครั้ง หนึ่ง มันเต็มไปด้วยกล่องเครื่องมือและอุปกรณ์ช่างต่างๆ มากมาย มันหยิบ ของบางอย่างออกมาจากลังเหล็กใบหนึ่ง แก๊ง...แก๊ง เสียงของโลหะหนักและหนากระแทกกับพื้น มันหยิบของ นั้นเดินเข้ามาใกล้ผม จนผมเห็นสิ่งที่อยู่ในมือมันได้ชัดถนัดตา โซ่...โซ่เส้นยาว หนักและหนา! มันเอาโซ่ผูกเข้ากับขาเตียงด้านหัวนอนก่อนมันจะเดินลากโซ่มาตรง ที่ผมนั่งอยู่ “แก...แกจะท�ำบ้าอะไร” ผมร้องเสียงสั่น เมื่อเห็นมันเดินย่างสามขุม เข้ามาหาผม ปากมันก็คาบบุหรี่อยู่และยกขึ้นสูบพ่นควันเป็นระยะๆ มันนิ่งเงียบไม่ตอบ นกระชากขาผมดึงออก มันจับข้อเท้าข้างซ้ายผม ไว้ พยายามจะเอาปลายโซ่ที่ต่อลากจากขาเตียงมาพันขาผม! “อย่านะ แกจะท�ำอย่างนี้ไม่ได้นะ ไอ้บ้า ปล่อยนะโว้ย ไอ้เลว ไอ้คน ป่าเถือ่ น” ผมพยายามดึงเท้าขึน้ แต่มนั ก็ใช้แรงมหาศาลของมันกดเท้าผมแนบ ลงกับพืน้ และพันโซ่เส้นยาวและหนาเข้ากับข้อเท้าผมจนส�ำเร็จ มันเอากุญแจ ล็อกโซ่เข้าด้วยกัน มันล่ามโซ่ผมไว้กับขาเตียงนอนไม้ที่ทั้งหนักและหนา! ที่ไม่มีทางจะ ขยับเขยื้อนออกได้ง่ายๆ ไอ้เลวนี่มันท�ำอย่างกับผมเป็นนักโทษของมัน!
18
“ฮะฮะฮะ” มันหัวเราะด้วยความสะใจ มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่มัน เป็นเวรกรรมอะไรของผมที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เนี่ย “แก...แก...ไอ้เลว ท�ำอย่างนี้ได้ยังไง ฉันไปท�ำอะไรให้” “กูอุตส่าห์ให้มึงอยู่สบายๆ แต่มึงไม่ชอบ กลับรนหาที่เอง มึงจะมา โทษกูไม่ได้นะ คราวนี้ก็อย่าหวังเลยว่ามึงจะหนีไปไหนได้อีก แต่กูก็ขอชื่นชม ในความพยายามของมึงนะ ถึงแม้มนั จะเป็นความพยายามโง่ๆ ก็ตามที ขยัน เดินออกไปได้ตั้งหลายกิโล ท่าทางจะเหนื่อยน่าดู ฮะฮะ จะบอกอะไรให้นะ แถวนี้น่ะมันถิ่นของกูทั้งนั้น มึงไม่มีทางหนีออกไปได้ง่ายๆ หรอกถ้ากูไม่ อนุญาต!” มันพูดกับผมเสียงเข้มดุดันแล้วก็หัวเราะเยาะเย้ยผม “แก...แกท�ำอย่างนี้ท�ำไม ฉันไปท�ำอะไรให้ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย” ผมร้องคร�ำ่ ครวญ พยายามดึงเท้าออกจากโซ่แต่กไ็ ร้ประโยชน์ ทัง้ โซ่ทงั้ กุญแจ ล็อกข้อเท้าผมไว้แน่น “ไม่รู้เรื่องเหรอ ก็ที่มึงกับไอ้เอกคบชู้กันลับหลังน้องสาวกูล่ะ ยังจะ เรียกว่าไม่รู้เรื่องอีกเหรอห้ะ” มันตะโกนใส่ผมเสียงดัง “แกพูดเรือ่ งอะไร ฉันไม่รเู้ รือ่ ง ฉันกับเอกไม่ได้เป็นชูก้ นั นะ ฉันกับเอก เป็น...เอ่อ...เราเป็นแฟนกัน คบกันมาตั้งนานแล้ว” ผมพยายามอธิบาย คิดว่า มันน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่า “เป็นแฟนกันงั้นเหรอ มึงนี่มันหน้าด้านมากนะ กล้าพูดมาได้ว่าเป็น แฟนกัน แล้วน้องสาวกูล่ะเป็นอะไร” ผมหันมาตะคอกใส่ผมอีก ผมงงไปหมด ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าน้องสาวมันเป็นใครหรือเป็นอะไร กับเอก ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นมาก่อนด้วยซ�้ำ หญิงสาว วัยรุ่น หน้าตาสะสวย ผิวขาว รูปร่างบอบบาง คนที่ร้องกรี๊ดและเป็นลมไป ต่อหน้าต่อตาผมวันนั้น “ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ” ผมรู้สึกสับสันไปหมด “ไม่รู้งั้นเหรอ งั้นกูจะบอกมึงเอาบุญอีกรอบ คิดซะว่ามึงคงโดนซ้อม จนสมองเสื่อมไปชั่วขณะ” มันเอามือมันบีบปากผมไว้อย่างแรงจนผมเจ็บไป หมด “โอ๊ย เจ็บนะ ปล่อยนะ” ผมร้องเสียงอู้อี้อย่างยากล�ำบาก
19
“ไอ้เอกมันเป็นผัวสารเลวของน้องสาวกูไงล่ะ ทีนจี้ ำ� ได้รยึ งั ฮะ” มันเพิม่ แรงบีบปากจนผมแทบจะหายใจไม่ออก “แค่ก...แค่ก” ผมไอส�ำลักเมื่อมันปล่อยมือออกและผลักหน้าผมให้หัน ไปอีกทางอย่างแรง “น้องสาวกูแต่งงานเป็นเมียไอ้เอกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วมึง ล่ะเป็นอะไร เป็นตัวอะไรกันล่ะห้ะ” มันแค่นเสียงถามผม “ไม่จริง ผมไม่เชื่อ” ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เป็นไปไม่ได้! ผมคบกับเอกมาตั้งแต่ปีสาม จนเราทั้งคู่เรียนจบและท�ำ งานพร้อมๆ กัน คบกันมาเกือบสามปีแล้ว ตอนเรียนเราอยู่หอพักด้วยกัน จนมาถึงตอนท�ำงานเอกต้องไปท�ำงานต่างจังหวัดและบอกผมว่าจะท�ำงาน เก็บเงินเพื่อซื้อบ้านให้เราได้อยู่ด้วยกัน ระยะหลังมานี้เราก็เลยไม่ค่อยได้เจอ กันแต่ผมก็เชื่อใจเอกมาตลอด จนเมื่อไม่นานมานี้เอกบอกว่าเจ้านายขึ้นเงิน เดือนให้ เลยเอาเงินมาผ่อนคอนโดให้เราได้อยูด่ ว้ ยกัน แม้ผมจะสงสัยว่าท�ำไม เอกถึงมีเงินมากขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร “ไม่จริงงั้นเหรอ น้องสาวกูจัดแต่งงานใหญ่โต ญาติผู้ใหญ่รับรู้กันทุก ฝ่าย กูคงไม่ต้องถึงกับเอาทะเบียนสมรสของน้องสาวกูให้มึงดูหรอกนะ” “นานรึยัง ตั้งแต่เมื่อไร แต่งกันตั้งแต่เมื่อไร” ผมถามตะกุกตะกัก รู้สึก เหมือนสมองผมมันเบลอไปหมด “6 เดือน!” มันตอบหน้าบึ้ง 6 เดือนงัน้ เหรอ มันตัง้ ครึง่ ปี! ท�ำไมผมไม่รเู้ รือ่ งอะไรเลย ผมนึกทบทวน เรือ่ งราวต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในช่วงเวลานัน้ เราแยกกันท�ำงานคนละทีม่ าได้เกือบ ปีแล้ว ช่วงแรกๆ เอกมาหาผมทุกอาทิตย์ แต่หลังๆ อ้างว่างานยุ่งนานๆ มา หาที บางครัง้ หายไปหลายเดือนกว่าจะกลับมาหาผมอีก ผมรูส้ กึ น้อยใจบ่อยๆ แต่เอกก็พูดอ้อนจนผมใจอ่อนทุกครั้ง และก็ท�ำให้ผมรู้สึกว่าเรายังรักกัน หวานชื่นเหมือนเดิมทุกครั้ง เอกมีเงินมาผ่อนคอนโดหรูหราให้ผมอยู่ แต่ไม่ค่อยได้มาหา มีเงินซื้อ รถใหม่ แต่งตัวดีขึ้น ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ตั้งแต่เราเรียนจบและ แยกกันไปท�ำงาน สิ่งที่ผมเคยสงสัยแต่ไม่เคยนึกติดใจที่จะสืบหาความจริง
20
เพราะความไว้ใจ เชือ่ ใจมาโดยตลอด แต่กไ็ ม่มเี หตุผลทีไ่ อ้คนหน้าเหีย้ มคนนี้ มันจะโกหกผม แล้ววันที่หญิงสาวคนนั้นเห็นผมกับเอกนอนอยู่บนเตียงด้วย กัน เธอร้องเรียกชือ่ เอกเสียงดัง ตกใจสุดขีดจนช็อกไป เอกเองเห็นเข้าก็ตกใจ และเรียกชื่อหญิงสาวคนนั้นเหมือนรู้จักกันเป็นอย่างดี! ทุกอย่างมันเป็นเหตุ เป็นผลกันไปหมด นีเ่ อกหลอกผมจริงๆ เหรอนี!่ ผมคบกับเอกมาตัง้ สามปี แล้วท�ำไมเอก ต้องโกหกหลอกลวงผม เอกไปแต่งงานกับผูห้ ญิงคนอืน่ ได้อย่างไร ท�ำอย่างนี้ ได้อย่างไร เอกปิดบังผมมาตลอด นี่ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นผมคงโดนหลอกและ เป็นคนโง่ไปตลอดกาลใช่ไหม ผมรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกิน นี่ผมเป็นอะไรกันแน่ ท�ำไมเอกถึงท�ำกับ ผมอย่างนี้ ค�ำว่า ‘รัก’ ที่เอกเคยพร�่ำบอกมาตลอดสามปี เป็นแค่ลมปาก เป็น แค่ค�ำโกหกหลอกลวงใช่ไหม ผมไม่เคยคิดเลยว่าเอกจะทรยศผมได้ “ฮือ ฮือ ฮือ” ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย น�้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “ร้องไห้ท�ำไม มึงจะมาไม้ไหนอีก” มันพูดกับผม แต่ผมไม่สนใจ ผม รู้สึกเหมือนหัวใจผมมันหลุดลอยออกไปไกล ออกไปจากร่างโดยไม่รู้ตัวแล้ว “ผมไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยรู้มาก่อนเลย” ผมพึมพ�ำบอกมันเบาๆ น�้ำตา ก็ยังไหลทะลักออกมาไม่หยุด “กูไม่เชื่อ” มันตวาดเสียงดังลั่น “ฮือ ฮือ ผมไม่รวู้ า่ เอกมีคนอืน่ จริงๆ” ผมเงยหน้าและพยายามอธิบาย ให้มันฟัง “กูบอกว่ากูไม่เชือ่ ไง พวกมึงนัน่ แหละรวมหัวกันหลอกเอาเงินน้องสาว กู ไอ้เอกมันก็แมงดาดีๆ นี่แหละ กูคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันคิดไม่ซื่อ กูไม่ น่ายอมให้นอ้ งสาวกูแต่งงานกับมันเลย ไม่งนั้ น้องนิดก็ไม่ตอ้ งมาเป็นอย่างนี”้ มันพูดเสียงดังด้วยความโมโหจัด “คุณนิด คุณนิดเป็นอะไร” ผมถามขึ้น อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าเธอเป็น อะไรมากรึเปล่า “ยังไม่ตาย มึงไม่ต้องมาเสแสร้งถาม กูไม่ยอมให้น้องกูเป็นอะไรไป ง่ายๆ หรอก”
21
“ผมไม่รู้ ผมขอโทษ แต่ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยจริงๆ” ผมรู้สึกเสียใจ อยู่เหมือนกันที่เห็น ผู้หญิงคนนั้นป่วยหนักเพราะผมกับเอก แม้ผมจะไม่ได้ ตั้งใจเลยก็ตาม “ขอโทษเหรอ ขอโทษแล้วน้องกูจะออกจากไอซียูได้ไหม ห้ะ” มัน กระชากแขนผมแรงๆ ขึ้นอีกครั้งแล้วก็บีบแน่นจนเจ็บ ผมปาดน�้ำตาแล้ว พยายามรวบรวมสติอีกครั้ง “โอ๊ย เจ็บนะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยจริงๆ ปล่อยผมไปเถอะนะ แล้วผมจะไม่เอาเรื่องกะ...คุณ” ผมพยายามพูดกับมันดีๆ เผื่อมันจะฟังผม บ้าง “ปล่อยเหรอ ปล่อยให้โง่เหรอ มึงคิดว่ากูโง่มากเหรอ ถึงจะมารวมหัว กันหลอกกูได้ แล้วกูก็ไม่กลัวพวกมึงด้วย อย่างมึงไม่มีปัญญาท�ำอะไรกูได้ หรอก ฮะฮะ” มันหัวเราะสะใจ “ตะ...แต่...คุณท�ำอย่างนี้ไม่ได้นะ คุณไม่มีสิทธิ์มาขัง มาล่ามโซ่ผมไว้ แบบนี้” “ท�ำไมกูจะไม่มสี ทิ ธิ์ กูเป็นพีช่ ายของคนทีพ่ วกมึงสองคนหลอกท�ำร้าย เพราะฉะนั้นกูมีสิทธิ์จะท�ำอะไรกับพวกมึงก็ได้” มันไม่ฟังสิ่งที่ผมพูดเลย “แล้วตอนนี้กูก็ก�ำลังตามล่าตัวไอ้เอกอยู่ ถ้าเจอมันเมื่อไร มันโดน หนักแน่ แต่ตอนนี้มึงจะต้องรับโทษจากกูแทนมันไปก่อน รับรองว่ากูจะแก้ แค้นพวกมึงอย่างสาสมแน่ๆ” มันพูดแล้วยิ้มสะใจ ดวงตาลุกวาวด้วยความ เกลียดชัง ผมมองมันแล้วรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ความรู้สึกเสียใจในเรื่องเอกยัง ไม่เท่ากับความรู้สึกกลัวที่แล่นเข้ามาในใจตอนนี้ กลัวที่ไม่รู้ว่ามันท�ำอะไร กับผมอีกนับต่อจากนี้!
22
4
เกือบไป
ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยสภาพอิดโรย ปวดเมื่อยตาม ตัว แขนมีรอยบีบจนเขียวช�้ำ เมื่อผมขยับขาก็สะดุ้งเพราะติดโซ่ที่ล่ามข้อเท้าผมไว้ โซ่ยาวพอให้ผม เดินภายในห้องได้ แต่ออกไปไหนไม่ได้ นี่ผมคงกลายสภาพเป็นนักโทษไป แล้วจริงๆ! ผมมองไปรอบห้องนอนก็ไม่เห็นใครสักคน เตียงนอนใหญ่กลางห้อง ก็เรียบร้อยดี เมือ่ คืนมันไม่ได้นอนทีน่ ี่ ประตูหอ้ งเปิดทิง้ ไว้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมคงดีใจทีจ่ ะได้มโี อกาสหนีออกไปได้งา่ ยๆ แต่ตอนนีต้ อ่ ให้เปิดประตูหน้าต่าง สักกี่บาน ผมก็คงไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้อีก ผมได้ยินเสียงกุกกักข้างล่าง และเสียงฝีเท้าเดินขึน้ บันไดมาเบาๆ คงเป็นเก่งเอาข้าวมาให้ผมเหมือนทุกวัน “อ้าว คุณตืน่ แล้วเหรอ” เก่งจริงๆ ด้วย ผมโล่งใจ อย่างน้อยได้เจอเก่ง ก็ยังดีกว่าเจอมันหรือพวกของมันคนอื่นๆ “อืม” ผมยิ้มรับ
23
“สภาพคุณดูไม่ได้เลย คุณไม่น่าหนีไปเลย ไม่น่าท�ำให้นายโกรธ” เก่ง บ่นเบาๆ ขณะมองหน้าผม “อืม” ผมไม่รู้จะตอบอะไร เก่งคงไม่รู้หรอกว่าท�ำไมผมต้องหนีไป จะ ให้ผมทนอยู่กับคนอย่างมันได้ยังไง “กินข้าวซะก่อนสิ ต่อไปผมคงไม่ค่อยได้เอาข้าวมาให้คุณแล้วนะ” เก่ง พูดขึ้น “อ้าว ท�ำไมล่ะ” ผมถาม “ก็โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว แต่ยายผมจะเอามาให้คุณเอง” เก่งตอบ “อ๋อ แล้วเก่งอยู่ชั้นอะไรแล้วล่ะ” ผมชวนคุย รู้สึกว่าเด็กคนนี้คงไม่มี พิษมีภัยอะไร “มอสามแล้วครับ แต่คุณไม่ต้องกลัวนะ ยายผมใจดี” เก่งพูด คงไม่มี ใครท�ำให้ผมกลัวได้เท่ามันอีกแล้วในตอนนี้ “บ้านเก่งอยู่แถวนี้เหรอ” “ครับ ผมอยู่กับยายที่บ้านไม้หลังเล็กๆ ถัดจากนี่ไปหน่อย แล้วก็มีลุง ด�ำอีกคนอยู่ใกล้ๆ กันเป็นคนดูแลสวนที่รีสอร์ตนี้” เก่งตอบ “รีสอร์ตเหรอ แถวนี้เป็นรีสอร์ตเหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้ นี่ หมายความว่าบ้านพักที่ผมเห็นเป็นกลุ่มๆ ตอนหนีออกไปเป็นรีสอร์ตจริงๆ ด้วย ที่แถวนี้เป็นของมันทั้งหมดจริงๆ เหรอเนี่ย “ใช่ครับ เป็นรีสอร์ตของนายอยู่ด้านหน้า แต่ส่วนที่พวกเราอยู่จะอยู่ ด้านหลังติดกับป่าใกล้เขา ก็เลยเงียบกว่า ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน” ใช่สิ มิน่า มันถึงจับผมมาไว้ที่นี่ ห่างไกลผู้คนอย่างนี้นี่เอง “แล้ว...ที่นี่ไกลจากถนนใหญ่มากไหม ถ้าจะออกไปจะไปได้ยังไง” ผม ถาม “ผะ...ผม บอกคุณไม่ได้แล้วครับ นายสั่งไว้ ไม่งั้นคุณจะหนีไปอีก ถ้า นายรู้ว่าผมบอกคุณ นายเอาผมตาย” เก่งท�ำหน้าตื่นบอกให้รู้ว่ากลัวมันแค่ ไหน “ดีมากไอ้เก่งทีร่ จู้ กั เชือ่ ฟังทีก่ พู ดู ” เสียงดังเข้มของมันดังขึน้ ทีห่ น้าประตู มันมาแล้ว! เราทั้งคู่สะดุ้งตกใจ
24
“นะ...นาย” เก่งเสียงตะกุกตะกัก คงจะกลัวมันจริงๆ “มึงไปได้แล้วไป รู้สึกจะพูดมากไปแล้วนะ” มันออกปากไล่เก่ง “งั้นผมไปก่อนนะครับ” เก่งพูดกับผมเบาๆ แล้วรีบเดินก้มหน้าก้มตา ออกจากห้องไปอย่างเร็ว มันเดินเข้ามาใกล้ผม หน้าตานิ่งเฉย มันถอดเสื้อเชิ้ตพาดไว้กับบ่า ใส่ แต่กางเกงยีนสีซีดดูสกปรกอยู่ตัวเดียว มือก็คีบบุหรี่สูบอย่างสบายใจ “กินเข้าไปสิข้าว มีให้กินก็กินซะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กิน” มันมอง จานข้าวบนพื้นแล้วมองหน้าผม “ยังไม่หิว” ผมตอบ ใครจะไปอยากกินต่อหน้ามัน ไม่อยากจะอยู่ร่วม ห้องกับมันด้วยซ�้ำ “หึ ท�ำเป็นอวดเก่ง ไม่ดูสภาพตัวเอง” มันหันมาท�ำหน้าบึ้งใส่ผม “..........” ผมนิ่งเงียบไม่ตอบมัน “นี่มึงไม่ได้อาบน�้ำมากี่วันแล้ววะเนี่ย เหม็นสาบฉิบหาย” มันเดินมา ใกล้ผมแล้วนั่งยองๆ ลงข้างผมที่นั่งพิงพนังมุมห้องอยู่ มันยื่นหน้าเข้ามาดม แล้วท�ำจมูกฟุดฟิด “กูถามว่ากี่วันแล้ว หูแตกรึไงวะ” มันเริ่มตะคอกผมเสียงดัง “อาทิตย์กว่า” ผมรีบตอบ คิดในใจ จะให้ผมไปอาบน�้ำตอนไหนได้ วันๆ มันเอาแต่ขังผมไว้ในห้อง นี่ก็ล่ามโซ่ผมไว้ท�ำให้ผมไปไหนไม่ได้ “เน่าฉิบหาย” มันท�ำท่าขยะแขยง แล้วมันก็ล้วงอะไรบางอย่างใน กระเป๋ากางเกงยีนออกมา อ้อ กุญแจดอกเล็กๆ มันใช้กุญแจดอกนั้นไขแม่กุญแจที่ล่ามโซ่ล็อกไว้ กับข้อเท้าผมออก ดึงขาผมออกจากโซ่ ผมรีบดึงขาขึ้นกอดเข่าไว้ “มึงลุกขึ้นเลย ไปอาบน�้ำ กูไม่อยากเอาหนูเน่ามาไว้ในห้องกู” มันพูด พร้อมกับดึงเสื้อผม ผมรีบลุกขึ้นตามที่มันสั่ง มันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าไม้ขนาด ใหญ่แล้วหยิบผ้าขาวม้าขึ้นมาผืนหนึ่ง “เอ้า เอาไปเปลี่ยน” มันเขวี้ยงผ้าขาวม้าใส่ตัวผม “แล้วเสื้อผ้าล่ะ” ผมถามขณะก้มลงหยิบผ้าขาวม้าที่ร่วงลงบนพื้น
25
“เดี๋ยวค่อยมาเปลี่ยนข้างบน” มันพูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป “รีบเดินตามมาสิวะ” มันหันมาพูดกับผมเสียงดังท�ำให้ผมต้องรีบเดิน ตามมันไปอย่างทุลักทุเล มันเดินน�ำผมลงบันไดแล้วเดินอ้อมทางหลังบ้านที่ คงจะเป็นชายป่าอย่างที่เก่งพูด มันเดินมาได้สักพักนึงก็หยุด “ถึงแล้ว” มันหันมาพูดกับผม เมือ่ มาถึงล�ำธารเล็กๆ ทีม่ ที า่ น�ำ้ ยืน่ ออก ไปให้เดินลงไปด้านล่างได้ “เดินมาข้างหน้านี่สิวะ ยืนเซ่ออยู่ได้” มันพูดกับผมเสียงดัง มันจะ เสียงดังกับผมไปถึงไหนกัน พูดกันดีๆ ไม่ได้รึไง “จะให้อาบที่นี่เหรอ” ผมถามเมื่อเดินมาอยู่ตรงหน้ามัน มองไปใน ล�ำธาร น�ำ้ ก็ใสสะอาดดี แต่มนั โล่งแจ้งกลางวันแสกๆ ผมไม่เคยอาบน�ำ้ แบบนี้ มาก่อน “ก็ใช่สิวะ มึงมีปัญหาอะไร” “เปล่า” “เปล่าก็เร็วๆ เข้า กูไม่ได้มีเวลามานั่งเฝ้ามึงทั้งวันนะ” ผมค่อยๆ ใช้ผ้าขาวม้าพันล�ำตัวช่วงล่างไว้ แล้วค่อยๆ ถอดกางเกง ออกช้าๆ ผมหันไปมองมันก็เห็นว่ามันมองมาทางผมตาเขม็ง ผมรูส้ กึ แปลกๆ กับสายตาที่มันมองมา พอถอดกางเกงพาดไว้กับโขดหินได้ ผมก็ค่อยๆ เดิน เก้ๆ กังๆ ไปตามริมล�ำธาร ดินเหนียวเปียกลืน่ ผมไม่รจู้ ะอาบตรงไหนยังไงดี ขันก็ไม่มี สบู่อะไรก็ไม่มีสักอย่าง ไม่กล้าถามมัน มันคงโมโหถ้าผมเรื่องมาก มันเดินเข้ามาใกล้ผม ผมรีบขยับตัวหนีด้วยความกลัว มันคงไม่คิดจะ ฆ่าผมแล้วปล่อยให้ลอยตามน�้ำไปหรอกนะ “มึงท�ำไรอยู่วะ ท�ำไมไม่ลงไปสักทีเล่า” มันถามผมและมองมาด้วย ความร�ำคาญเต็มที “คะ...คือ...” ผมอ�้ำอึ้งไม่รู้จะลงไปอย่างไร “ช้าจริง เดี๋ยวกูช่วยสงเคราะห์ให้มึงแล้วกัน” ตูม มันถีบเข้าที่ด้านหลังผมอย่างแรงจนผมกระเด็นล่วงตกลงในล�ำธาร อย่างเร็วจนน�้ำแตกกระจาย
26
“ช่วยด้วย!” ผมร้องตะโกนลัน่ สองมือก็พยายามควานหาทีเ่ กาะ ศีรษะ โผล่ข้ึนมาเหนือน�้ำได้แค่ครั้งเดียวก็จมลงใต้น�้ำทันที รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ ออก น�้ำเข้าจมูกและปากเต็มไปหมด “อ้าว! เฮ้ย! ไอ้เหี้ยเอ๊ย ว่ายน�้ำไม่เป็นก็ไม่เสือกบอก” ผมได้ยินมันร้อง ลั่น แล้วก็ได้ยินเสียงน�้ำแตกกระจายดังตูมอยู่ใกล้ๆ ผม สักพักผมก็รู้สึกว่ามี มือหนาแข็งแรงมาโอบใต้แขนผมไว้ แล้วพยายามลากขึ้นเหนือน�้ำ จากนั้น ผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย! ผมขยับตัวเมื่อได้สติอีกครั้ง รู้สึกเหมือนนอนอยู่บนที่นอนนุ่มสบาย เมื่อผมลืมตาขึ้นก็พบว่าผมนอนอยู่บนเตียงนอนใหญ่กลางห้อง นี่ผมนอน อยู่บนเตียงของมันเหรอนี่! ผมรีบขยับตัวลุกขึ้นแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า ทั้งตัวผมมีเพียงผ้าข้าวม้าผืนเดียวพันกายช่วงล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองปลายเตียงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นมันก�ำลังยืนมอง มาที่ผมตาเขม็ง! “ฟื้นได้ซะทีนะ นึกว่าจะต้องฝังศพมึงไว้แถวนี้ซะแล้ว” มันพูดพร้อม กับยิ้มเหี้ยมเหมือนเคย ผมพยายามมองหาผ้าห่มมาคลุมตัวผมไว้ แต่ก็ไม่มีผ้าอะไรสักผืนบน เตียงนี้เลย ผมได้แต่นั่งพิงหัวเตียงและหดขาทั้งสองข้างขึ้น อยากจะลุกขึ้น แต่รู้สึกเหมือนยังเวียนหัวอยู่ ไม่มีแรง “มึงนี่มันขาวฉิบหายเลยว่ะ” มันพูดขึ้นพร้อมกับมองมาที่ช่วงอกด้าน บนทีเ่ ปลือยเปล่าของผม ผมรูส้ กึ กลัวขึน้ มากะทันทัน พยายามเอามือกอดอก ปิดบังร่างกายไว้ “แถมผิวก็ยังเนียน นุ่มอย่างกะผู้หญิงเลย” มันเดินเข้ามาใกล้ผม มัน เอื้อมมือมาแล้วเอาหลังมือหยาบกร้านของมันไล้ผิวที่ต้นแขนผมเบาๆ ผม รีบปัดมือมันออกแล้วขยับตัวหนี “หึห”ึ มันหัวเราะชอบใจในล�ำคอ สายตาก็ยงั มองมาทีผ่ มตาไม่กะพริบ “ออกไปนะ” ผมพยายามไล่มันแต่มันกลับยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง “ฮะฮะ กูไม่แปลกใจแล้วว่ะว่าท�ำไมผูช้ ายมันถึงเอากับผูช้ ายด้วยกันได้ คงเป็นเพราะมาเจอผู้ชายที่เหมือนผู้หญิงอย่างมึงสินะ อย่างมึงนี่เรียกว่า
27
28
อะไรวะ ตุ๊ดหรือกะเทยวะ แม่ง! ผิวขาวเนียนกว่าผู้หญิงที่กูเคยนอนด้วยซะ อีก” มันพูดพร้อมกับมองผมด้วยสายตาโลมเลียไปทั้งตัว ผมเกลียดสายตา ของมัน “ไอ้สารเลว” ผมด่ามันพร้อมกับมองมันด้วยความโกรธถึงขีดสุด นอก จากมันจะมองผมอย่างไม่ให้เกียรติแล้วมันยังพูดจาดูถูกผมอีก “ฮะฮะ มึงนี่มันปากดีจริงๆ นะ ขนาดรู้ตัวว่าไม่มีปัญญาสู้กูได้ ยัง อวดเก่งอีก” ผมไม่ตอบโต้อะไรมัน ได้แต่ขยับตัวออกห่างมัน ผมรูส้ กึ ว่ามันต้องเป็น โรคจิตแน่ๆ “กูบอกตรงๆ ว่ากูชักชอบมึงซะแล้วสิ มึงกล้าตีหัวไอ้วีแตก กล้าหนีกู แถมยังกล้าด่ากูอีก มึงมันใจกล้าดีจริงๆ หึหึ เล่นกับมึงนี่น่าสนุกดีว่ะ” มัน พูดแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย มันค่อยๆ ขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วค่อยๆ ขยับตัว ตามขึ้นมา ผมขยับตัวหนีมันด้วยความกลัว แต่มันคว้ามือผมไว้ได้ แล้วมันก็ ผลักผมล้มลงบนเตียง ขณะที่ตัวมันขยับขึ้นมาทับตัวผมไว้ แขนทั้งสองข้าง ของมันคร่อมตัวผมอยู่! “กูวา่ กูทำ� อะไรเล่นกับมึงสนุกๆ ดีกว่า” มันพูดพร้อมกับค่อยๆ ล้วงมือ สอดเข้าไปใต้ผา้ ข้าวม้าและลูบไล้ชว่ งสะโพกผมเบาๆ ผมขนลุกวาบ พยายาม ปัดมือมันออกแล้วขยับตัวหนีมันด้วยความกลัว ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังๆ ที่หน้าห้องท�ำให้ทั้งมันและผม ตกใจ มันหยุดชะงักและหันไปทางประตูที่ปิดอยู่ “ใครวะ” มันร้องถามขึ้นดังๆ “นายครับ พีว่ ใี ห้มาชวนไปบ้านใหญ่ครับ” เสียงผูช้ ายคนหนึง่ ร้องเรียก ผมคุ้นๆ เสียงมันแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ “ไอ้เหี้ยเอ๊ย มาชวนอะไรตอนนี้วะ” มันพึมพ�ำบ่นเบาๆ “เออ เดี๋ยวกูตามไป” มันร้องตะโกนตอบออกไป มันมองหน้าผมแวบ หนึ่งแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าจากในตู้โยนลงบนเตียงให้ผม แล้วมันก็หยิบโซ่ที่พื้นขึ้นมาชูไว้ “เอ้า รีบใส่กางเกงเข้าสิวะ เดี๋ยวจะได้ล่ามโซ่” มันหันมาสั่งผมเหมือน เป็นเรื่องปกติธรรมดา ผมรีบหยิบกางเกงขึ้นมาใส่อย่างเก้ๆ กังๆ พยายาม
ระวังสายตาของมันที่มองมา พอผมใส่กางเกงเสร็จมันก็ล่ามโซ่ที่ข้อเท้าผม แล้วล็อกกุญแจไว้เหมือนเดิม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแล้วปิดประตู ผม ได้ยนิ เสียงกุกกักทีห่ น้าประตู มันคงล็อกกุญแจทีห่ น้าประตูขงั ผมไว้อกี ชัน้ หนึง่ ! ผมมองไปยังประตูแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ถ้ามันกลับเข้ามาอีกที ผมคงไม่โชคดีอย่างครั้งนี้อีกเป็นแน่!
29
5
คืนแรก
ผมรู้สึกตัวตื่นท่ามกลางความมืดเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรขยุก ขยิกเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ที่นอนของผม เมื่อผมเพ่งมองใกล้ๆ ก็ พบว่าเป็นมัน! มันก�ำลังล้มตัวลงนอนบนเสื่อข้างๆ ผม กลิ่นเหล้าคละคลุ้งผสมกับ กลิ่นบุหรี่ฉุนกึก ทั้งกลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อของมันอีกพาลให้ผมหายใจติดขัด มัน พยายามขึ้นมาทับตัวผมแล้วก็กดล�ำตัวของผมให้หลังแนบลงกับผืนเสื่อ “จะ...จะท�ำอะไรน่ะ” ผมร้องถามมันเสียงสั่นเมื่อมันก้มหน้าลงมาใกล้ ผมจนได้กลิ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ของมัน “ก็ท�ำต่อที่ค้างไว้เมื่อเช้าไง” เสียงมันตอบอ้อแอ้เหมือนมันจะเมามาก “ปล่อยนะ...ปล่อย...แกไอ้บ้า ไอ้เลว ปล่อยนะ” ผมร้องลั่นพร้อมกับ ดิน้ สุดแรง พยายามใช้เท้าถีบมัน แต่เท้าข้างซ้ายทีถ่ กู มันล่ามโซ่ไว้แทบจะไม่มี แรงยกขึน้ เพราะโซ่ทงั้ หนักและหนา จึงได้แต่ใช้เท้าอีกข้างถีบเข้าทีเ่ ป้ากางเกง มันอย่างแรง!
30
“โอ๊ย มึง” เสียงมันร้องลัน่ ใบหน้าบูดเบีย้ ว เมือ่ ผมถีบโดนกล่องดวงใจ ของมัน มันหยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มซุกไซ้ที่ซอกคอผม “ปล่อยนะ อย่านะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! อุ๊บ” ผมพยายามร้องขอความ ช่วยเหลือ แต่มันเอามือหนาของมันปิดปากผมไว้ “ร้องเข้าไปสิ ร้องเข้าไปเลย ร้องยังไงก็ไม่มีใครได้ยินมึงหรอก แต่ถึง ได้ยินมันก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยมึงหรอก หึหึ” มันมองผมแล้วยิ้มสะใจ “อืม อือ” ผมพยายามร้องแต่มันกดมือปิดปากผมไว้แน่น ผมได้แต่ดิ้น ถีบมันไปทั่ว “นอนนิ่งๆ สิวะ ดิ้นอยู่ได้ กูบอกให้นอนเฉยๆ ไม่ได้ยินรึไงวะ อยาก จะลองดีนกั ใช่ไหม” มันพยายามใช้ลำ� ตัวด้านล่างกดทับขาผมไว้ไม่ให้ดนิ้ ขณะ ที่มืออีกข้างหนึงก็จับแขนของผมที่พยายามทุบตีมันไว้ “่โอ๊ย ไอ้เหี้ยเอ๊ย” มันร้องลั่นขึ้นอีกครั้งเมื่อผมกัดเข้าที่ฝ่ามือของมัน อย่างแรง เพี้ยะ พอมันสะบัดมือหลุดออกจากปากผมได้มันก็ตวัดฝ่ามือตบเข้า ที่ใบหน้าของผมอย่างแรง เจ็บจนหน้าชา! มันจับหน้าผมให้หันมาเผชิญหน้ากับมัน ท่ามกลางความมืดที่มีเพียง แสงจันทร์ส่องสลัวเข้ามา ผมเห็นแววตาของมันที่มองมาอย่างโกรธเกรี้ยว มับบีบแก้มผมจนเจ็บไปหมด ก่อนที่มันจะค่อยๆ ประกบปากมันเข้ากับริม ฝีปากผม ผมตกใจมาก รีบเม้มปากให้ปิดสนิทไว้ แต่มันก็พยายามบดจูบ ปากของมันเข้ากับริมฝีปากของผมอยู่พักใหญ่ มันก็ชะงักนิดหนึ่ง หยุดมอง หน้าผมนิ่งๆ ผมหายใจหอบถี่จนหน้าอกกระเพื่อมแรง มันก้มลงมาจูบผมอย่างหนักหน่วงอีกครัง้ กลิน่ เหล้าบุหรีผ่ สมกันคละ คลุ้งไปหมดจนผมแทบจะอยากกลั้นใจเสียให้ได้ “อืม อือ” ผมร้องอู้อี้เมื่อเริ่มจะหายใจไม่ออก มันคลายจูบสักพัก แล้ว เริ่มเปลี่ยนมาเลาะเล็มดูดเม้มตามขอบริมฝีปากผมแทน มันจูบเล็มอยู่หลาย ครั้ง ผมได้ทีพยายามอ้าปากกว้างและกัดลงไปที่ปากมันสุดแรง! “โอ๊ย มึง” เสียงมันร้องลั่นก่อนจะจับที่ปากตัวเองพร้อมกับลูบเบาๆ พลั่ก มันต่อยลงไปที่ท้องน้อยผมแรงๆ ทีหนึ่ง
31
“อะ...โอ๊ย” ผมร้องเบาๆ เพราะทัง้ เจ็บและจุกจนไม่มแี รงแม้แต่จะเปล่ง เสียงร้อง เอามือกุมท้องตัวงอ เจ็บจนน�้ำตาไหล “ไอ้เหี้ยเอ๊ย ฤทธิ์เยอะนักนะมึง คราวนี้คงหมดฤทธิ์ซะทีนะ” มันพูด พร้อมกับค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปที่ปลายเท้าผมแทน มันขยุกขยิกอยู่ที่ข้อเท้า ผมพักใหญ่ก่อนจะดึงโซ่ที่ล่ามผมไว้ออก มันคงไขกุญแจข้อเท้าให้ผม มันอุ้ม ผมขึ้นมาจากเสื่อ! ขณะที่ผมได้แต่นอนเกร็งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนมัน เพราะจุก ทีท่ อ้ งน้อยจนแทบจะไม่มเี รีย่ วแรงขยับตัว มันเดินโซเซมาจนถึงเตียงนอนใหญ่ ของมันก่อนจะโยนผมลงบนเตียงหนานุ่ม “อ๊ะ” ผมร้องแทบไม่ออกเมื่อหลังกระแทกเตียงนุ่มเข้าอย่างจัง ยิ่งท�ำ ให้ผมปวดท้องน้อยหนักเข้าไปอีก มันก้าวขึ้นเตียงมาอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ ถอดกางเกงยีนออก มันไม่ ได้ใส่เสือ้ ตอนนีท้ ง้ั ร่างของมันเปลือยเปล่า ผิวด�ำคล�ำ้ ของมันสะท้อนแสงจันทร์ เป็นมันเงาวาว ผมเบือนหน้าหนี ได้แต่นอนหน้าแนบซบกับหมอนหนานุ่ม ใบโต มันเริ่มกระชากเสื้อผ้าของผมจนหลุดออกจากกาย เปลือยล่อนจ้อนไม่ ต่างจากมัน มันถาโถมร่างกายใหญ่โตหนักอึ้งลงมาทับผมไว้จนผมแทบจะ กระดิกตัวไม่ได้ มันค่อยๆ ก้มหน้าลงโลมเลียบนหน้าอกและหน้าท้องของผม ผมสะดุง้ ด้วยความเจ็บและเสียวซ่านผสมปนเปกันไปหมด มือไม้มันลูบไล้อย่างหนัก หน่วงไปตามล�ำตัวผม ทั้งซอกขา เอว และสะโพกของผมถูกมันสัมผัสอย่าง หยาบกระด้าง รุนแรง สองมือมันเริ่มบดบี้ บีบขย�ำไปตามเนินเนื้อด้านหลัง ก่อนที่มันจะก้มลงมาบดจูบปากผมอย่างหิวกระหายอีกครั้ง “ยะ...อย่า...อย่าท�ำผม” ผมร้องบอกมันเสียงสั่นเมื่อมันเริ่มรุนรานเข้า มาที่ช่วงล่างผม มันจับขาผมแยกออกแล้วดันขึ้น มันค่อยๆ ใช้นิ้วสอดคล�ำ ช่องทางของผมก่อนจะดันของมันเข้ามาจนสุดอย่างแรง! “อ๊ะ...โอ๊ย...เจ็บ” ผมร้องเบาๆ เจ็บจุกจนหมดแรง หมดก�ำลังจะตอบโต้ ผมใช้มอื ทุบไหล่มนั สุดแรง แต่ดว้ ยเรีย่ วแรงของผมทีแ่ ทบจะไม่เหลือในตอนนี้ คงกลายเป็นเพียงแค่การสะกิดเบาๆ ส�ำหรับมัน เพราะเหมือนมันจะไม่รับรู้ เลย
32
มันตั้งหน้าตั้งตาสอดใส่กระแทกกระทั้นอย่างแรงเข้ามาในร่างกายที่ อ่อนเปลี้ยของผม “อย่า...อย่าท�ำผม ขอร้อง อย่าท�ำผมเลย” ผมพยายามร้องอ้อนวอน มัน แต่เสียงที่เปล่งออกมามันเบาซะจนผมเองก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ผมได้แต่นอนนิ่ง น�้ำตาไหลพราก ปล่อยให้มันท�ำจนพอใจ “อะ...อะ...อืม...อ่าห์ อาห์...ซี้ดดดดดดดดดดดดดด อ๊ะ อ๊ะ...อ่าห์” มัน ร้องครางดังลั่นเมื่อมันปลดปล่อยความใคร่ความกระหายในร่างกายผมแล้ว มันล้มตัวลงนอนทับตัวผมเมื่อมันเสร็จสิ้นการกระท�ำย�่ำยีผมแล้ว ผม ทั้งหนักทั้งจุกเมื่อมันนอนกอดก่ายทับอยู่บนตัว มันนอนนิ่งเงียบ ลมหายใจ ถี่ๆ สม�่ำเสมอเป็นสัญญาณบอกว่ามันคงหลับสนิทแล้ว ไม่แปลกที่มันหลับ อย่างรวดเร็วเพราะมันคงเมามาก ส่วนผมได้แต่นอนนิง่ เงียบ น�ำ้ ตาไหลพราก ออกมาอย่างระงับไว้ไม่อยู่ ผมนอนลืมตาโพล่งอยูใ่ นความมืดอยูอ่ กี นานเท่าไร ไม่รู้จนกว่าจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและความเจ็บปวด! “มึง มึง” ผมได้ยินเสียงเรียกดังๆ อยู่ข้างหูท�ำให้ผมต้องฝืนลืมตาตื่น ขึ้นด้วยความอ่อนล้า หันไปมองหน้ามัน ก็เห็นว่ามันมองผมอยู่ มันขยับตัว ออกห่างจากผม “มึงลงไปนอนข้างล่างเลย ที่มึงอยู่โน่น” มันหันหน้าไปทางมุมห้องที่มี เพียงเสื่อเก่าๆ กับหมอนสกปรกที่ผมใช้นอนประจ�ำ ผมมองหน้ามันด้วยความงุนงง เมื่อคืนมันยังนอนกอดผมแน่นอยู่เลย ผมมองรอบตัว ด้านนอกหน้าต่างมีแสงสว่างส่องมาร�ำไร ยังไม่สว่างดี คง เพิ่งเช้ามืด “ลงไปเร็วๆ สิ พูดไม่รู้เรื่องรึไงวะ” มันตะคอกผมเสียงดัง ผมจึงได้แต่ ขยับกายทีเ่ จ็บเหมือนจะแตกเป็นเสีย่ งๆ ออกจากทีน่ อน ผมก้มลงหยิบเสือ้ ผ้า ทีต่ กอยูบ่ นพืน้ ใต้เตียงขึน้ มาปกปิดของสงวนผมไว้ ก่อนจะค่อยๆ เดินเซอย่าง ไร้เรี่ยวแรงลงไปนอนที่เสื่อมุมห้องตามเดิม ผมนอนหันหลังให้มัน หันหน้า เข้าฝาผนัง กอดเข่าทั้งสองข้างของตัวเองไว้แน่น รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย และจิตใจ
33
มันย�่ำยีผมอย่างป่าเถื่อน พอมันเสร็จสมแล้วก็ท�ำท่าเหมือนรังเกียจ ขยะแขยงผม แล้วก็เฉดหัวไล่ส่งอย่างกับหมูกับหมา! ผมรู้สึกเหมือนตัวเอง เป็นเพีงงแค่สิ่งของไร้ค่า ผมได้แต่นอนน�้ำตาไหลพราก เจ็บปวดจนนอนเนื้อ ตัวสั่นเทา ผมรู้สึกเหมือนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว!
34