Chocolate_sample

Page 1


บทที่ 1 แรกพบ...และสบตา

บน

ถนนนอกเมืองทีม่ งุ่ หน้าสูจ่ งั หวัดสุพรรณบุรี ต่างพลุกพล่าน ไปด้วยพาหนะทุกชนิดที่สามารถวิ่งสวนกันไปมาได้ ความ วุ่นวายของการจราจร ไม่ต่างจากถนนในเมืองเลยสักนิด ที่ไหนมีรถที่นั่น ย่อมวุ่นวายและหาความสุขสงบไม่ได้ท�ำเอานักธุรกิจหนุ่มหัวสมัยใหม่อย่าง ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ หัวเรือใหญ่ของ ‘อินทราทิพย์ วิลล่า’ เจ้าของธุรกิจ อ สังหาริมทัพย์บ้านและคอนโดมูลค่าหลายพันล้านหัวเสียไม่น้อย ใบหน้า คมหล่อบูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ เส้นอารมณ์อันดีเยี่ยมของชายหนุ่มเริ่ม เปราะบางและก�ำลังจะขาดในไม่ช้า BMW Z4 สีน�้ำเงินราคาหลายล้านที่เขาก�ำลังขับอยู่นี้ ช่างท�ำงานไม่ เหมาะสมกับราคาและคุณภาพเครือ่ งยนต์เลยสักนิด เพราะมันคลานเป็นเต่า มาได้ 20 นาทีแล้ว ที่เขาซื้อรถคันนี้มาเพราะชอบเครื่องยนต์และความเร็ว ของมันหรอกนะ แต่ท�ำไมมันถึงวิ่งได้ไม่เต็มที่อย่างที่ใจมันต้องการสักนิด นึกไปนึกมาต้องโทษไอ้เพื่อนตัวดีอย่าง กรุง วรยศ ที่นึกคึกบ้าอะไรก็ไม่รู้ อยากดืม่ วันนี้ วันอืน่ ก็ไม่ดมื่ แล้วบาร์ ผับ ในกรุงเทพฯ ก็มเี ยอะแยะ แต่ไอ้กรุง มันไม่เลือก มันดันเลือกผับแถวๆ สุพรรณบ้านเกิดมันแทน 4


ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ ผู้น�ำ ‘อินทราทิพย์วิลล่า’ เจ้าของชายา ‘อินทรี เงิน’ บ้านและคอนโดของคนกรุงเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ อยูภ่ ายใต้โครงการของ อินทราทิพย์กรุ๊ป โดยมีชายหนุ่มนั่งเก้าอี้บริหารมาตั้งแต่อายุ 23 ปี ฝ่าวิกฤต ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนนับไม่ถ้วน และประสพความส�ำเร็จอย่างมหาศาลใน ที่สุด ด้วยวัยเพียง 29 ปี แต่ความสามารถมีมากกว่าที่ใครๆ หลายๆ คนคิด หัวสมองอันชาญฉลาด คิดอย่างรอบคอบ การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และ เชือ่ มันในตัวเองท�ำให้ธรุ กิจแขนงต่างๆ ทีอ่ ยูใ่ นก�ำมือของชายหนุม่ ผูน้ ปี้ ระสพ ความส�ำเร็จสร้างความมั่งคงให้เป็นเม็ดเงินมหาศาล และด้วยหน้าตาอันดีเยีย่ มจนผูช้ ายด้วยกันยังอิจฉาเลยท�ำให้อนิ ทรีเงิน ผู้มากรักคนนี้มีหญิงน้อยหญิงใหญ่เข้ามาติดพันอย่างไม่ขาดสาย ศิขรินทร์ใช้ ชีวติ อย่างคุม้ ค่า กลางวันสวมบทผูบ้ ริหารมาดเนีย้ บและเป็นเจ้านายผูน้ า่ เกรง ขามของลูกน้อง แต่เมือ่ ตกเย็น อินทรีผโู้ ฉบเฉีย่ วก็แปลงร่างเป็นหนุม่ มาดเย็น เจ้าเสน่ห์ เพียงแค่เขาชายตามองเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายก็พร้อมจะโบยบิน เข้ามาถวายตัวให้เขาถึงที่ หากแต่เขายังไม่พร้อมที่จะมีใคร หัวใจตอนนี้ปิด สนิทมาเนิ่นนานแล้ว ไม่มีเหตุจูงในให้ปิด ไม่เคยมีใครมาสร้างบาดแผลในใจ ให้กับเขา เพราะเขาไม่คิดที่จะมีแฟนมาเนิ่นนานแล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายที่เข้า มาในชีวติ ของเขามักจะมองเขาทีห่ น้าตาและเงินทอง ไม่มใี ครรักด้วยหัวใจจริง เลยสักคน และนั่นก็ท�ำให้ทัศนะคติด้านความรักของชายหนุ่มติดลบไปทันที เคยมีบางครั้งที่คุณหญิง คุณนายหลายคนส่งลูกหลานตัวเองมาถวาย ให้เขาถึงที่ แม้กระทั่งผู้ชายด้วยกันยังมี ซึ่งนั่นก็ท�ำให้เขาเข้าใจโลกยุคโลกา ภิวัตน์ขึ้นไปอีกเท่าตัว คนเหล่านั้นคิดว่าเขาเป็นตัวอะไร แค่คล�ำไม่เจอหางก็ สามารถมีเซ็กซ์ได้อย่างนั้นเหรอ แต่อินทรีเงินอย่างเขาก็มักจะมีวิธีจัดการใน แบบของเขา ไม่ให้ในสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการ หากเขาต้องการขึ้นเตียงกับ ใคร เขาจะเป็นคนไปหิ้วขึ้นเตียงเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาหิ้วอย่างนี้ เพราะ ฉะนัน้ พวกไหนทีเ่ สนอหน้ามาหิว้ เขาขึน้ เตียง ก็จะโดนเล่นงานผ่านธุรกิจทาง บ้านทันที ส�ำหรับเรือ่ งมีเซ็กซ์กบั ผูช้ ายนัน้ เขายังไม่ได้ลองกับใครหน้าไหนทัง้ นัน้ เพราะรับไม่ได้จริงๆ คิดเหมือนกันว่ามันน่าลอง เพราะเพือ่ นสนิทหลายๆ คน ก็แปรเปลีย่ นรสนิยมเข้าป่ากันหมดแล้ว ไว้เจอคนทีถ่ กู สเปคเมือ่ ไรค่อยว่ากัน อีกที ศิขรินทร์สุดหล่อ ไม่ถอยอยู่แล้ว 5


คู่ครองในอนาคตของชายหนุ่มจะต้องผ่านการสแกนอย่างดีและ ละเอียดยิบโดยคุณหญิงวิจติ รตราผูเ้ ป็นมารดาเท่านัน้ ลูกท่านหลานเธอทีไ่ หน นางจะสรรหามาให้ลูกชายได้ยลโฉมให้หมด โทรศัพท์มือถือเครื่องแพงที่ดังอยู่หน้าคอนโซลรถ ใจจริงอยากจะจับ มันโยนออกไปนอกรถด้วยซ�้ำ โทษฐานมันดังผิดเวล�่ำเวลา แต่ก็ท�ำอย่างใจ นึกคิดไม่ได้ เพราะถ้าหากเขาท�ำอย่างนั้นเครื่องนี้ก็จะเป็นเครื่องที่แปด แม่ ของเขาต้องบ่นอีกแน่ๆ ที่ลูกชายคนเดียวเปลี่ยนโทรศัพท์แปดเครื่องภายใน เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน และในที่สุดมันก็ถูกหยิบขึ้นมาและกดรับอย่างกระแทก กระทัน้ ไม่สนจะดูหน้าจอเจ้าโทรศัพท์เครือ่ งแพงเลยสักนิดว่า ‘ผูใ้ ด’ โทรเข้ามา “ใคร!!” น�้ำเสียงทุ้มนุ่มอันมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ส่วนตัวของศิขรินทร์ กรอกเข้าไปกระทบกับปลายสายที่ตกใจอยู่ไม่น้อยว่าตัวเองท�ำอะไรผิดหรือ เปล่า ท�ำไม ‘พี่ศิ’ ที่อ่อนโยนและสุภาพส�ำหรับผู้หญิงทุกคนถึงรับโทรศัพท์ได้ เสียงแข็งขนาดนี้ “เอ่อ...พี่ศิคะ นี่ลูกโป่งเองนะคะ” ปลายสายพูดตอบกลับมา น�้ำเสียง ของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความกังวลและความเกรงใจ หากอยู่เจอกันซึ่งๆหน้า แล้วได้รับฟังน�้ำเสียงอย่างนี้หล่อนคงท�ำอะไรไม่ถูก “ขอโทษนะ ลูกโป่งไหน?” ใช่!!! ลูกโป่งไหน จ�ำได้ว่าเขาไม่มีน้องชื่อ โป่ง เอ๊ย ลูกโป่ง แล้วท�ำไมหล่อนถึงมาพูดจาตีสนิทเขาอย่างนี้ เอ๊ะ หรือว่าคู่ ควงคนเมื่อคืน แต่เมื่อคืนชื่ออยู่แถวๆ ผลไม้นี่หว่า ส้มอะไรสักอย่างนี่แหละ เมื่อวันก่อนก็ไม่น่าใช่ เพราะคู่ควงเขาเมื่อวันก่อนนั้นลูกครึ่งจ๋า ไม่น่าจะชื่อ แอ๊บแบ๊วขนาดนี้ แล้วตกลง ใครวะ!! ไอ้ศิ งง “พิ่ศิอะ จ�ำลูกโป่งไม่ได้เหรอคะ ที่เจอกันเมื่อ 3 วันก่อนไง ในผับ xxxไงคะ จ�ำได้หรือยังเอ่ย” น�้ำเสียงออดอ้อนอย่างที่สาวๆ มักจะใช้กับเขา บ่อยๆ ท�ำให้อารมณ์อันพุ่งเดือดเข้า 100 องศาลดฮวบลงอย่างไม่น่าเชื่อ แปลกเนอะคนเรา เจออะไรสวยๆ งามๆ เข้าหน่อยหันเหหัวเรือทันที หึหึ “เอ่อ.......จ�ำได้ครับ” รับค�ำไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้ศิขรินทร์ยังนึกไม่ออก ว่าเมื่อ 3 วันที่แล้วเขาได้ให้เบอร์กับใครไป แต่ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อสาวเจ้า 6


ทอดสะพานมาให้ถึงที่อย่างนี้ จะปฏิเสธให้สาวน้อยเขาเสียอารมณ์ท�ำไม รับ ไมตรีไว้ก็สิ้นเรื่อง หากหน้าตาไม่ตรงสเปคก็ค่อยปล่อยทิ้งแล้วกัน “จ�ำได้สักทีนะคะ แล้ววันนี้พี่ศิจะไปที่ผับxxxอีกไหมคะ ลูกโป่งอยาก ดืม่ กับพีศ่ ”ิ ปากก�ำลังจะตอบรับไปแต่กเ็ พิง่ นึกได้วา่ วันนีเ้ ขามีนดั กับ กรุง วรยศ เพื่อนซี้ที่สุพรรณเสียแล้ว ถ้าหากวันนี้เขาว่าง จะไปนั่งเกี้ยวน้องลูกโป่งและ พากันขึ้นสวรรค์เสียให้รู้แล้วรู้รอด “ขอโทษนะคะลูกโป่ง วันนี้พี่ศิไม่ว่างจริงๆ เอาไว้วันหลังได้หรือเปล่า เอ่ย” น�้ำเสียงทุ้มและอ่อนโยนบวกออดอ้อนนิดๆ ของศิขรินทร์ท�ำให้อารมณ์ อันบูดบึง้ ของลูกโป่งดีขนึ้ มาทันที ยังไงเธอก็ไม่ได้ถกู ปฏิเสธไปเสียหมด ศิขรินทร์ ปลอบโยนเธอด้วยการนัดไปดริ๊งก์วันหลัง ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว จะมีสัก กี่คนกันที่ได้มาอยู่ในอ้อมกอดของอินทรีผู้ทรงเสน่ห์อย่างนี้ บทสนทนาของคนทั้งสองด�ำเนินต่อไปเรื่อยๆ ศิขรินทร์ชักจะถูกใจ แม่ลูกโป่งสวรรค์เสียแล้วสิ นี่ขนาดแค่ได้ยินเสียงเท่านั้นนะ ถ้าหากได้เห็น ทรวดทรงองค์เอวของสาวเจ้าอีกรอบมิสุขก็กว่านี้หรือ ไอ้ศิไม่อยากจะคิด ผูห้ ญิงก็มกั จะเป็นอย่างนีเ้ สมอ ไม่จำ� เป็นทีเ่ ขาต้องวิง่ เข้าไปหา ไม่จำ� เป็นเลย สักนิด เขาเพียงแค่อยู่นิ่งๆ พวกเธอก็วิ่งเข้ามาหาเขาเอง หึ! ใครทีไ่ หนจะไม่สนล่ะ นักธุรกิจหนุม่ ไฟแรงของ ‘อินทราทิพย์ กรุป๊ ’ อายุเพียง 29 ปี แต่กส็ ามารถท�ำให้บริษทั เติบโตขึน้ กว่ายุคทีค่ นเป็นพ่อบริหาร ไหนจะรูปร่างหน้าตาอย่างหนุ่มไทย สีผิวเข้มอย่างสีน�้ำผึ้ง ใบหน้าคมเข้ม คิ้ว หนาเรียงตัวกันอย่างเหมาะเจาะ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูป ทุก อย่างประกอบกันอย่างลงตัว เคยมีนิตยาสารหลายเล่มติดต่อให้ผู้บริหารไฟ แรงของอินทราทิพย์กรุป๊ ไปถ่ายแบบ แต่อนิ ทรีเงินทีส่ ยายปีกบินสูงกลับปฏิเสธ ค�ำชวนเหล่านั้นอย่างไม่ไยดี เพราะชีวิตการท�ำงานของชายหนุ่มตอนนี้ทุ่ม ให้กับงานบริหารเต็มตัว และไม่เคยคิดที่จะก้าวเท้าเข้าสู่วงการมายาแม้แต่ นิดเดียว ปังงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “เฮ้ยๆ เวรแล้วไหมล่ะ ไปจิ้มตูดใครแล้วไง” 7


สติกลับเข้าร่างทันที ศิขรินทร์ขับรถด้วยอารมณ์ใจลอยจนมันไปเสย ท้ายรถมอเตอร์ไซค์แต่งคันใหญ่ทขี่ บั อยูเ่ บือ้ งหน้า ดีนะทีร่ ถมันค่อยๆ ขยับไป เรื่อยๆ เพราะติดไฟแดงอยู่ มอเตอร์ไซค์คันข้างหน้าจึงไม่ล้มหัวฟาดพื้นเข้า ร่างสูงกดตัดสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ผู้ชายสวมหมวกกันน็อกแต่งชุดช่างฟิตเดินมาเคาะกระจกรถเขา นั่น แหละสติ 100 % ถึงได้เข้าร่าง ศิขรินทร์รีบปลดเข็มคลัดนิรภัย หยิบแว่น กันแดดมาใส่แล้วเปิดประตูออกไปทันที ขืนช้าไปกว่านี้กระจกเขาแตกแน่ๆ ดูก็รู้ว่าอารมณ์ของคู่กรณีตอนนี้ก�ำลังเดือดได้ที่แล้วจริงๆ “ขับรถยังไงของมึงวะ ไม่มีตาหรือไง หรือว่ามัวแต่ชักว่าวอยู่ถึงได้ สะเหล่อขับชนรถมอไซค์กู” โอโห้ เต็มๆ ศัพท์พ่อขุนกระจายเกลื่อนเต็มพื้น นี่ถ้าเขาไม่ผิดจะกระโดดฟาดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่นี่ท�ำไม่ได้เพราะเขา ผิดเต็มประตู ต่อยมันไม่ได้ เดี๋ยวถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม “ขอโทษครับ คือผมไม่ระวัง ต้องขอโทษจริงๆ” ตอนนี้ทั้งถนนวุ่นวายมากเพราะรถตนกับรถมอไซค์ไม่ขยับไปไหน ต�ำรวจจราจรจึงเดินเข้ามาถามแล้วให้ไปจอดแอบอยูท่ ฟี่ ตุ บาทข้างๆ ตอนแรก ไอ้หมวกกันน็อกมันไม่ยอม มันจะให้พูดกันตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งตนก็เริ่ม หงุดหงิดขึ้นมานิดๆ แดดก็ร้อน ไหนจะต้องมาฟังไอ้หมวกกันน็อกมันพูด สาดเสียเทเสียใส่อีก จนได้คุณจราจรแสนดีเดินมาไกล่เกลี่ยให้แล้วโบกรถ เปิดทางให้รถตนกับไอ้หมวกกันน็อกไปแอบอยู่ข้างๆ คู่กรณีของศิขรินทร์อยู่ในชุดช่างฟิตที่แต่งไปท�ำงานในอู่ คราบน�้ำมัน เครื่องเลอะเต็มชุดไปหมด อีกทั้งหมวกกันน็อกใบใหญ่ที่ไม่ยอมถอดออก มาสู้แสงท�ำเอาศิขรินทร์มองอย่างหมั่นไส้ ส่วนสูงของคู่กรณีก็ประมาณหัว ไหล่เขา จะเรียกว่าเตี้ยก็ว่าได้ แต่ทางทางทะมัดทะแมงนั่นมันขัดกับส่วนสูง เสียจริงๆ “นี่คุณ ช่วยถอดหมวกกันน็อกออกก่อนได้ไหม คุณไม่ร้อนหรือไง” ศิขรินทร์เดินเข้าไปหาคู่กรณีแล้วเปิดปากคุยอย่างเป็นมิตร ตอนนี้พวกเขา สองคนก�ำลังรอคุณจราจรให้เข้ามาเคลียร์ เพราะยังไงไอ้หมวกกันน็อกมัน เหมือนจะไม่ยอม จะให้ขึ้น สน. อย่างอย่างเดียว 8


“เสือก!! กูไม่รอ้ น” ท�ำเอาอารมณ์อนั เย็นเหยียบของศิขรินทร์เริม่ เดือด ขึ้นมาทีละนิดๆ ไอ้เราก็อุตส่าห์เข้าไปบอกด้วยความหวังดี กลัวว่าจะร้อน แต่โดนตอกกลับมาเจ็บแสบซะงั้น มันน่าตบกะโหลกจริงๆ “ผมบอกคุณดีๆ นะครับ หรือว่ากลัว หึ...กลัวนีเ่ อง” น�ำ้ เสียงพูดเหมือน เยาะๆ ท�ำเอาคนที่ใส่ชุดช่างฟิตเปื้อนน�้ำมันเครื่องอารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาทันที “ใครกลัวมึงวะ!!!” ร่างสูงของศิขรินทร์ไหวไหล่อย่างไม่รู้เรื่อง เขายืน ประจันหน้ากับไอ้หมวกกันน็อก ตาต่อตาฟันต่อฟัน อยากรู้เหมือนกันว่า หน้ามันจะดีอย่างปากหรือเปล่า ไอ้หมวกกันน็อกของศิขรินทร์คอ่ ยๆ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆ และ ในที่สุดใบหน้าที่แท้จริงของคู่กรณีเขาก็ค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็น...

9


บทที่ 2 ...ก็แค่นั้น...

กู

ไม่นา่ ตืน่ สายเลยจริงๆ!!!!!!!!!

ปรกติก็ตื่นสายอยู่แล้ว แต่วันนี้ดันลืมไปว่าต้องไปท�ำธุระแถวๆ ชาน เมืองให้เพือ่ นสนิทอย่างหลักเขต เรือ่ งมันจะไม่ลงเอยอย่างนีถ้ า้ ไอ้เวรหลักเขต มันไม่ท�ำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ธุระของไอ้เวรเขตคือบ้านป้าของมันทีต่ งั้ อยูเ่ ขตชานเมืองของกรุงเทพฯ หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด!!! แล้ว......แล้วท�ำไมไม่โทรไปบอกให้ช่างไฟไปดู โทร มาบอกกูท�ำไม กูเป็นช่างซ่อมรถโว้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!! หม้อไฟระเบิดเสือก โทรให้ช่างซ่อมรถไปดู กูคงซ่อมได้ แต่ขัดมันไม่ได้เพราะมันเอาเรื่องไอ้ติยะ ขึ้นมาอ้าง จนสุดท้ายแทนที่คนอย่างกู เจ้าของอู่จะได้ไปท�ำงาน เฮฮากับลูก น้อง กลับต้องบึ่งรถออกนอกเมืองไปแต่งหม้อไฟ เจริญมากที่รัก สัดเขต!!! ทุกอย่างควรจะจบเมื่อซ่อมเสร็จ เพราะต่อวงจรง่ายๆ ภัสดาท�ำเป็น อยู่แล้ว แต่.........ไอ้เวรเขตอีกแล้ว ไอ้สัดเขตมันท�ำอีกแล้ว มันดันแหกปาก พล่อยๆ ของมันให้ป้ามันรู้ว่าภัสดาคนนี้เป็นคุมอู่ระดับเซียน รวยมหาศาล 10


คุณป้าหม้อไฟระเบิดเลยเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน ดีใจว่าจะได้กลับบ้าน คุณป้าหม้อไฟระเบิดเลยไหว้วานให้ซ่อมอีเก๋งแก่ให้อีกซักครั้งก่อนที่จะลา จากกัน ด้วยจรรยาบรรณของนักซ่อมมือทองเจ้าของเหรียญโอลิมปิกก็เลย ต้องก้มหน้ารับค�ำแล้วท�ำต่อไป ซ่อมไปซ่อมมาจากหนึ่งคันก็เป็นสองคัน ดีที่ ใส่ชดุ ช่างฟิตออกมาจากบ้านไม่งนั้ จบไม่สวยงามแน่ๆ เอาเป็นว่าใช้เวลาหนึง่ วันให้ศูนย์เปล่าไปฟรีเพราะไอ้เหี้ยเขต (อีกแล้ว) รถจั ก รยานยนต์แต่ง คันใหญ่ก�ำลัง ท�ำหน้าที่ของมันสมกับราคาที่ เจ้าของมันอุตส่าห์ทุ่มเงินซื้อมาด้วยราคาครึ่งล้าน ด้วยการขับเคลื่อนด้วย ความเร็วสูงสุด เจ้าของเรือนกายสูงโปร่งอย่างก�ำลังมุ่งมั่นและตั้งสมาธิให้ แน่วแน่ที่สุด เพราะถ้าหากพลาดอะไรไปซักนิดเดียวนั่นก็หมายถึงกับชีวิตที่ จะต้องจบลง ใครหลายๆ คนอาจจะมองว่าบ้า ท�ำไมถึงเอาเงินมาทุ่มกับไอ้ เศษเหล็กหุ้มเนื้อ อยากจะตะโกนกลับไปเหลือเกินว่า กูเอาเงินมึงไปซื้อด้วย เหรอ เงินกู กูเป็นคนซื้อ กูยังไม่เดือดร้อน แล้วพวกมึงเป็นใคร วุ่นวายอะไร กับชีวิตกู มีปัญญาซื้อได้อย่างกูหรือเปล่า!!!!!!!!! ภัสดา พิชัยภักดี หนุ่มไทยเชื้อสายจีน อายุ 25 ปี เจ้าของเรือนกาย สูงโปร่งอย่างคนออกก�ำลังกายเป็นประจ�ำ แต่ถา้ หากไปยืนเทียบกับมาตรฐาน ชายไทย ภัสดา พิชัยภักดีผู้นี้ก็บางไปในทันตา นั่นเป็นเพราะเจ้าตัวได้รับเชื้อ สายจีนจากป๊ามาอย่างเต็มๆ หากผู้ใดเดินผ่านผู้ชายคนนี้แล้วไม่เหลียวหลัง ระบบสัง่ การสมองคงต้องพิการไปแล้วแน่ๆ นัน่ ก็เป็นเพราะภัสดามีดวงหน้า ทีห่ วานหมดจด จนบางครัง้ เจ้าตัวจะร�ำ่ ๆ ไปศัลยกรรมให้แมนกว่านีท้ เี่ กาหลี หลายรอบ ดีที่ทางครอบครัวและเพื่อนเขย่าขวัญ เอ๊ย ปลอบขวัญให้คลาย ความกังวล ความคิดทีจ่ ะศัลยกรรมจึงหายไป เหลือแต่ความเคยชิน บางครัง้ ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าท�ำไมถึงเอาโครโมโซมแม่มาเยอะขนาดนี้ เป็นเจ๊ก แทนที่จะตาตี๋ แต่ก็กลับเรียวสวยจนเกือบโต ปากท�ำไมถึงบาง แทนที่มันจะ หนาและแมน จมูกโด่งเป็นสันสวยก็จริง แต่ทำ� ไมมันมีอยูก่ ระจุม๋ กระจิม๋ นิดๆ หน่อยๆ เหมือนผู้หญิง แล้วท�ำไมแก้มถึงแดงเปล่งปลั่งตลอดเวลา คิดไปคิด มาไม่น่าเกิดมาขี้เหร่เลยจริงๆ เพราะอย่างนี้ไงล่ะไอ้หลักกิโล เอ๊ย หลักเขต มันถึงชอบเอามาล้อแล้วก็เป็นปมด้อยมาถึงปัจจุบัน 11


ภัสดาคืออดีตนักศึกษาคณะวิศวกรรมยานยนต์ เกียรตินยิ มอันดับหนึง่ เจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถมือหนึ่งของคนเมืองกรุง ‘Body Car’ นี่คือความ ส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่ ที่เจ้าตัวสร้างมันขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง หยาดเหงื่อแรง กายของตัวเองโดยไม่พึ่งอ�ำนาจเงินของป๊ากับม้า อู่ซ่อมรถแห่งนี้เป็นเหมือน สักขีพยานแห่งความพยายามไม่ว่าจะเหลียวมองกี่ครั้งก็พาให้ปลาบปลื้มใจ ได้ไม่น้อย ศูนย์รวมอะไหล่ของรถแข่ง รถขับ รถท�ำงาน รวมรวมอยู่ข้างใน ภัสดาไม่สนว่ารถคันนั้นจะราคาค่างวดเท่าไร ไม่มีระบบรับเงินใต้โต๊ะเพื่อ ลัดคิวหากต้องการใช้บริการก่อน ทุกคนทีเ่ ข้ามามีสทิ ธิเท่าเทียมกัน แม้กระทัง่ สองแถวก็ได้รับการบริการเท่ากับ BMW อู่ซ่อมรถของภัสดานั้นตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของคนกรุง เพราะฉะนั้นจะ ไม่แปลกใจเลยว่าที่ดินผืนที่อู่ซ่อมรถเปิดกิจการอยู่นี้จะมีราคาแพงมหาศาล แค่ไหน หลายๆ บริษัทติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อที่ดิน ผืนเปล่าที่ตั้งอยู่ข้างอู่ หากแต่ภัสดาก็ปฏิเสธกลับไปทุกราย เพราะที่ดินผืนดั่งกล่าวนี้หากประเมิน ราคาจริงๆ แล้ว ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้จริงๆ เพราะฉะนัน้ เบื้องหน้าของอู่ Body Car ภัสดา พิชัยภักดี คือนักธุรกิจและนายหน้าค้า ทีด่ นิ แต่หากมองไปยังเบือ้ งหลังแล้วชายหนุม่ ก็เป็นเพียงช่างฟิตธรรมดา เป็น ลูกพี่ของเด็กอู่คนอื่นๆ งานในอู ่ ซ ่ อ มรถนั้ น ก็ เ หมื อ นกั บ การได้ อ ่ า นหนั ง สื อ ไปแต่ ล ะวั น ๆ เพราภัสดาเปรียบรถทุกคันเป็นหนังสือ ที่ไม่ว่าจะเปิดซ่อมเมื่อไรเครื่องยนต์ ข้างในก็ไม่เหมือนกัน ชีวิตและจิตวิญญาณจึงทุ่มไปกับรถเสียส่วนใหญ่ ชาย หนุ่มยังเปิดสนามแข่งรถไว้ที่จังหวัดชลบุรีเพียงเพื่อให้คนที่รักและบูชารถไป ใช้บริการ ซึ่งกว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคจากป๊าและม้ามาเปิดสนามแข่งได้ก็เล่น เอาล�ำบาก “แดดร้อนฉิบหาย! แม่งมองหาพ่อมึงเหรอสัด” รู้ว่าตัวเองขี้เหร่แต่ไม่ ต้องมองย�้ำขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวพ่อก็กระโดดต่อยปากแม่งเลย คนยิ่งรีบๆ อยู่ เหลือบไปมองรถสปอร์ตคันหลังที่มันจอดอยู่ เหอะ!!! สวยได้อีก รุ่นนี้ ยังไม่ทันได้ไปถอยออกมานั่งดูเล่นเพราะป๊ากับม้าเอาเงินไปนับเล่นในบ่อน ที่ฮ่องกงก่อนก็เลยชวดไป ความจริงจะซื้อแบบนี้มาซัก 10 คันก็ได้ แต่ไม่ดี กว่า เสียดายเงิน กว่าจะแต่งรถซ่อมรถได้แต่ละคัน ล�ำบากยากแค้นขนาดไหน ทุกวันนี้ก็กัดก้อนเกลือกินบนคฤหาสน์อยู่แล้ว 12


ปังงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! “กูว่าแล้ว........ท�ำไมขนตูดถึงกระตุก!!!!!” ท�ำไมวันนี้มันมีแต่เรื่องวะ เพราะไอ้เวรหลักเขตคนเดียว มันคนเดียว จริงๆ ทีต่ อ้ งมาท�ำให้ชวี ติ ภัสดาคนขีเ้ หร่ตอ้ งพบเจอกับวิบาคกรรมชีวติ อย่างนี้ ไอ้ BMW กูไม่น่าชมมึงเลย พ่อจะเรียกค่าเสียหายเป็นสิบล้านเลยคอยดู ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ นีต่ อ้ งให้กเู อาค้อนปอนด์มาเคาะกระจกมึงเลยไหม ชักช้าลีลาฉิบหาย ผมว่าเจ้าของรถมันก�ำลังชักว่าวเอาน�้ำเงี่ยนตัวเองมาเขียนกระจกแน่ๆ ลีลา ฉิบหาย ขี้ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ขับรถยังไงของมึงวะ ไม่มีตาหรือไง หรือว่ามัวแต่ชักว่าวอยู่ ถึงได้ สะเหล่อขับชนรถมอไซค์ก”ู เมือ่ เจ้าของรถยนต์คนั หรูเปิดประตูลงมา ชายหนุม่ ก็เปิดปากสาดวาจาใส่ทันทีโดยไม่สนว่าตอนนี้มันจะอยู่กลางถนนและรถก็ ติดเป็นขบวนขนาดไหน ต�ำรวจจราจรเขาก็ดีแสนดี จ่าเฉยท�ำหน้าที่ได้ดี เป่าปี่โบกรถ แล้วเดิน เข้ามาไกล่เกลี่ยให้ ไม่ต้องท�ำผมก็จัดการได้ เหอะ!! เห็นหน้าคู่กรณีครั้งแรก ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเองดูด้อย ค่า ต�่ำเตี้ยเรี่ยดินก็วันนี้นี่เอง พระพุทธเจ้าช่างไม่ยุติธรรม ก่อนที่ท่านจะปริ นิพาน ท�ำไมท่านไม่ประธานศีลที่ไม่ว่าผู้ใดได้ถือแล้วจะ ‘สูง’ !! ท�ำไมคู่กรณีถึงสูง.......... ท�ำไมมันหล่อ.......... ท�ำไมมันดูดี 360 องศา.......... ท�ำไมมันแมนฉิบหาย.......... แล้วท�ำไม ภัสดา พิชัยภักดี ถึงไม่มีทุกข้อที่กล่าวมา!!!!!!! อย่าผ่านไป แถวบ้านจะมึง พ่อจะปาระเบิดควันใส่แล้วขโมยดีดหู หุหุ กูคิดได้แค่นี้จริงๆ แต่เดี๋ยวนะ กูมาชมผู้ชายด้วยกันท�ำไม!! บ้าแล้ว “นี่คุณ ช่วยถอดหมวกกันน็อกออกก่อนได้ไหม คุณไม่ร้อนหรือไง” 13


“เสือก!! กูไม่ร้อน” กูร้อนแล้วไปร้อนบนหัวมึงไหม ไอ้เงี่ยน เรียกแม่งอย่างนี้แล้วกัน มี ใครที่ไหนจะชมศัตรูของตัวเองถูกไหม ดีแค่ไหนที่ไม่ด่ามันไอ้หล่อ! ไอ้ดูดี!! ไอ้โครโมโซมเด่น!! มึงมันเทพ!! กูมันขี้เหร่!! “ผมบอกคุณดีๆ นะครับ หรือว่ากลัว หึ...กลัวนีเ่ อง” มึงเป็นกระหังเหรอ กูถึงได้กลัว กูไม่ถอดหมวกกันน็อกออกมันหมายถึงกูกลัวมึงอย่างนั้นเหรอ นี่มึงเอาขี้ตาคิดหรือไง แม่งอากาศข้างนอกร้อนกว่าข้างในอีก “ใครกลัวมึงว่ะ!!!” ค�ำว่ากลัวสะกดไงว่ะ ความจริงก็ตกวิชาภาษาไทย เลยสะกดไม่เป็น เซ้าซี้อยู่ได้แม่ง ถอดก็ได้ว่ะ นี่กูเห็นว่ามึงหล่อนะ เฮ้ย!!!!!! ไม่ใช่ๆ กูเห็นแก่ศักดิ์สิทธ์แท่งทองต่างหาก ดาราคนนี้กูชอบ “..................................” อึ้งท�ำไม กูรู้ว่ากูขี้เหร่ มึงไม่ต้องมองกูแล้วเอาไป นินทาในใจอย่างนั้นก็ได้ พูดต่อหน้ากูก็ได้ ก็จะเอาโทรศัพท์บันทึกเสียงแล้ว เอาไปเปิดฟังที่บ้าน “มองหน้าหา ตาตุ่มเหรอวะ” ภัสดาเอ่ยปากถามคนตัวสูงด้านหน้าที่ยืนจ้องหน้าตัวเองแล้วเหมือน จะนิ่งและอึ้งไปในทันที คู่กรณีของภัสดาดูเหมือนว่าจะวิญญาณหลุดออกไป แล้ว เพียงแค่ศขิ รินทร์ได้มองเห็นดวงหน้าของภัสดา ความรูส้ กึ นึกคิดก็หลุด ออกจากตัวทันที ท�ำไมนะ ท�ำไมคนๆ นีถ้ งึ มาดวงตาทีเ่ รียวสวยจนน่าลูบเล่น อย่างนี้ ริมฝีปากบาง บวกกับจมูกนิดๆ แก้มแดงปลั่ง ทุกอย่างรวมกันแล้ว มัน......... ‘น่ารัก’ !!!!!! “เอ่อ......ขอโทษครับ พอดีมองเพลินไปหน่อย”

14


บทที่ 3 เพ้อ...!!!

“กูก็นกึ ว่ามึงขับรถประสานงากับสามล้อปัน่ ซะแล้ว นานเป็นชาติ” ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าร้านซึ่งเป็นที่หมายของการนัดพบเจอกันครั้งนี้ เพื่อนสนิทก็เอ่ยปากทักทันที ถ้าหากอารมณ์ดีกว่านี้ศิขรินทร์จะยิ้มแย้มและ โต้ตอบด้วยวาจาที่ดุเด็ดไม่แพ้กัน แต่มันไมใช่ตอนนี้ที่อารมณ์ยังไม่คงที่อัน เนื่องมาจากอุบัติเหตุแห่งรักที่เกิดขึ้นในสองชั่วโมงที่แล้ว “เป็นอะไรหน้าบูดวะ หญิงไม่ให้ฟันหรือไง” มันยิ่งกว่าหญิงไม่ให้ฟัน อีกต่างหาก เพราะสิ่งที่ได้พบเจอมาเมื่อมันยังกรุ่นๆ อยู่ในใจไม่หาย “เกิดอุบัติเหตุก่อนที่จะมาถึงที่นี่น่ะ แต่ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครตาย กูยังหล่อแข่งกับมึงได้สบายๆ” ศิขรินทร์นั่งลงตรงข้ามกับกรุง วรยศ แล้ว โบกมือเรียกบริกรสั่งอาหารทันที “ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว แล้วมึงอารมณ์เสียท�ำไม รถพังเหรอ” กรุง วรยศ เอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างเป็นห่วง ด้วยความที่รู้ว่า ศิขรินทร์เพื่อนสนิท สุดหล่อของเขาคนนี้ค่อนข้างที่จะรักและบูชารถยนต์ของตัวเองเป็นพิเศษ 15


เป็นไปได้ว่าเพื่อนรักของเขาอาจจะอารมณ์เสียเพราะรถได้รับรอยขูดขีดก็ เป็นได้ “เปล่า...รถกูไม่ได้พัง” “แล้วมึงจะอารมณ์เสียท�ำอาภาพรท�ำไมวะไอ้บ้า ยิ้มหน่อยๆ สาวๆ เขากลัวมึงหมดแล้ว” สาวๆ ก็ช่างหล่อนเถอะ หล่อนอยากมองก็ให้มองไป เพราะศิขรินทร์ คนนีไ้ ม่เคยหวงห้ามอยูแ่ ล้ว อยากจะบอกเพือ่ นรักอย่างกรุง วรยศ เหลือเกิน ว่าที่หงิดหงุดงุ่นง่านอยู่นี่ไมใช่เพราะรถพัง แต่เป็นเพราะ...... เพราะลืมขอเบอร์โทรศัพท์ของคนสวยปากหวาน (?) แค่คดิ กลับไปอีก ตลบก็พาลอารมณ์เสียไม่เลิก อะไรหลายๆ อย่างท�ำให้ผชู้ ายคนนัน้ ดูนา่ ค้นหา และมีเสน่ห์ รูปร่างเพรียวบางดูโดดเด่นแม้จะอยูใ่ นชุดช่างฟิตก็ตามที ใบหน้า หวานทีท่ ำ� เอาคนฟันหญิงอย่างเขาใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากบางพ่น วาจาเชือดเฉือนตลอดเวลา แต่ก็แปลกเพราะศิขรินทร์กลับมองว่าทุกอย่างที่ ฝ่ายตรงข้างแสดงออกมานั้นมันช่าง ‘น่ารัก’ ไปหมดทุกอย่าง ตลอดชั่วโมงเศษๆ กว่าที่ปัญหาเรื่องรถๆ จะหมด แต่ศิขรินทร์กลับ ไม่อยากให้ปัญหามันยุติ อยากจะนั่งจ้องหน้าของช่างฟิตหน้าหวานอย่างนี้ ต่อไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มยิ้มให้ฝ่ายตรงหน้าอย่างเป็นมิตร แต่สิ่งที่ตอบมาก็คือ ค�ำพูดค�ำจาทีส่ รรเสริญในทางเข้าป่าทีด่ า่ เขาทุกๆ 20 วินาที แต่ศขิ รินทร์ คนนี้ ก็ยิ้มรับด้วยใบหน้าที่ชื่นมื่น แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าท�ำไมตัวเองถึงเป็นขนาดนี้ นี่เพียงแค่ได้ พบหน้ากันครัง้ แรกเท่านัน้ คนสวยร่างบางตรงหน้ายังท�ำให้เขาเพ้อได้ขนาดนี้ แล้วถ้าหากได้ครอบครองคนๆ นี้ขึ้นมาจริงๆ ล่ะ ความสุขคงจะล้นออกมา จากอกไม่น้อย “มึงสั่งอะไรหรือยัง?” ศิขรินทร์เอ่ยถามเพื่อนสนิทที่น่ังมองเขาอย่าง จับผิด กรุง วรยศ คือเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว และด้วย อะไรหลายๆ อย่างทีช่ อบเหมือนๆ กันเลยท�ำให้คยุ กันถูกคอจนในทีส่ ดุ ก็เป็น เพื่อนร่วมสาบาน และความสัมพันธ์ก็ยืนยาวมาจนถึงวันนี้ เพื่อนสนิทของ 16


เขามีผิวสีแทนสวย รูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อแน่นเพราะออกก�ำลังกลางแจ้ง และเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมบ่อยๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าท�ำไมแค่มันนั่งอยู่ก่อน หน้านี้คนเดียวถึงมีสาวน้อย สาวใหญ่พากันเดินสวนสนามกันไปมาแถวๆ โต๊ะเขา เรื่องความรวยก็ไม่เป็นสองรองเขา เพราะ กรุง วรยศ นั้นเป็นเจ้าของ บ่อน�้ำมันในตะวันออกกลาง ท�ำรายได้ให้กับบริษัทของมันไปเป็นพันล้าน สมบัติที่ปู่ทวดมันสร้างไว้จนตกมาถึงมือมัน ไหนจะทรัพย์สินทางพ่อและแม่ ของมันทีเ่ ปิดบริษทั น�ำเข้าเฟอร์นเิ จอร์รายใหญ่ของประเทศ เรียกได้วา่ ท�ำงาน ตัวเป็นเกลียว ตัวมันสั่งการอยู่ที่เมืองไทยให้ลูกน้องที่ไว้ใจได้ไปประจ�ำอยู่ที่ บ่อน�ำ้ มันแล้วค่อยบินไปตรวจเดือนละครัง้ สองครัง้ แต่เพือ่ นสนิทของศิขรินทร์ คนนี้ชอบท�ำตัวจน แต่งตัวธรรมดาอย่างผู้ชายไทยทั่วไป แต่รัศมีความหล่อ ของมันก็พุ่งออกมาจากเนื้อผ้ากระแทกตาเพศตรงข้ามและเพศเดียวกันได้ ไม่ยากเลย “กูก็รอมึงอยู่นี่แหละ มาถึงก็สั่งเอาๆ ไปอดอยากมาจากไหนวะ คุณ แพรเลี้ยงมึงไม่ดีหรือไง” กรุงเอ่ยแซวเรื่องคู่ควงคนล่าสุดของศิขรินทร์อย่าง สนุกสนาน รู้ดีว่าเพื่อนไม่ถือสาเรื่องนี้อยู่แล้ว แพร พรรณราย คือคู่ควงคนล่าสุดของศิขรินทร์ ทั้งสองพบกันโดย บังเอิญในงานเดินแบบการกุศลที่คุณหญิงแม่ของเขาจัดขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ ภายนอกของหญิงสาวนั้นโดดเด่นและเตะตาเขาตั้งแต่ได้แรกพบ แพรเป็น ผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองสูง เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นรูปถ่ายหญิง สาวตามหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารของคนไฮโซ แต่ส�ำหรับความคิดของ ศิขรินทร์แล้ว แพร พรรรณราย ก็แค่ดอกไม้ริมทางที่เพียงแค่เขามองสบตา อีกฝ่ายก็ยอมศิโรราบให้เขาแล้วได้เฉยชมเพียงครั้งสองครั้งความสวยงามก็ หมดไป “ก็ดี แต่กูเริ่มเบื่อแล้ว วุ่นวายฉิบหาย” “คนห่าอะไร ใช้ผู้หญิงเปลืองอย่างกับทิชชู่” “ก็คนมันหล่อท�ำไงได้วะ ว่าแต่กู อย่าคิดว่าไม่รวู้ า่ ก�ำลังไปขายซาลาเปา ขนมจีบให้ใครอยู่” 17


ศิขรินทร์เอ่ยปากอย่างรูท้ นั ท�ำไมจะไม่รวู้ า่ กรุง วรยศ ชอบผูช้ าย และ ท�ำไมจะไม่รวู้ า่ คนทีเ่ พือ่ นสนิทตามจีบอยูน่ นั้ ชือ่ เสียงไม่ธรรมดาในวงการไฮโซ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเจอได้อย่างไร กรุงเทพฯ ก็ออกจะกว้าง แล้วคนที่มันตามจีบ ธรรมดาเสียที่ไหน สงสัยงานนี้ไม่หมูอย่างที่มันคิด “ข่าวเร็วนี่หว่า ใครบอกมึงวะ” “กูรู้ด้วยตัวเอง สั่งของมึนเมาเถอะ กูพร้อมแล้ว” เพราะทั้งโต๊ะมีเพียง ถ้วยกาแฟของกรุงและแก้วน�้ำเปล่าของเขา อาหารที่สั่งไปเมื่อสักครู่ยังไม่มา ถึง ตอนนี้ตาลายอยากเมาเต็มที่แล้ว “เอาเลยๆ อย่าให้หนักนะมึง เดี๋ยวขับรถกลับบ้านไม่ได้” “กลับไม่ได้ก็นอนแม่งสุพรรณนี่แหละ” และเมื่อเครื่องมึนเมาและอาหารมาวางเรียงกันอยู่บนโต๊ะเรียบร้อย แล้ว ศิขรินทร์และกรุงก็ลงมือจัดการทันที ทั้งสองคนสนทนากันในหัวข้อ เรื่อง ‘ท�ำอย่างไรจะพิชิตใจคนในฝัน’ หากมองมาจากด้านนอกอาจจะคิดว่า ทั้งสองคุยกันเรื่องธุรกิจหรือเรื่องการเมืองหรือเปล่า ท�ำไมหน้าตาถึงได้เคร่ง รียดขนาดนั้น หากแต่ความจริงแล้วทั้งสองก�ำลังให้ค�ำปรึกษาซึ่งกันและกัน ในเรื่องความรักอยู่ต่างหากล่ะ “มึงยังเล่าเรือ่ งอุบตั เิ หตุไม่จบเลยศิ เอาให้จบอย่าวกไปวนมา” น�ำ้ เสียง ของกรุงเต็มไปด้วยความจับผิด ท�ำไมจะไม่รวู้ า่ ไอ้ศคิ นหล่อคนเก่งนัน้ มันก�ำลัง คิดอะไรอยูใ่ นใจ และสิง่ ทีม่ นั คาใจเพือ่ นสนิทเขาอยูน่ นั้ ต้องเกีย่ วกับอุบตั เิ หตุ เมื่อตอนเย็นแน่ๆ “เออๆ กูก็แค่ขับรถไปชนรถมอไซค์แข่งคันหรูของมนุษย์หน้าหวาน คนหนึ่งเท่านั้นแหละ” ศิขรินท์พูดเสร็จก็กระดกแก้วเบียร์ใส่ปากตามไปติดๆ เพราะคิดถึงใครบางคนขึ้นมาอีกครั้ง “หือ...มนุษย์หน้าหวาน ผู้หญิงหรือวะ??” “เปล่า...ผู้ชายว่ะ” ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาเสียด้วย เพราะคนที่ศิขรินทร์ ก�ำลังคิดถึงอยู่นั้นเป็นช่างฟิต แต่รูปร่างหน้าตามันช่างไม่แมทกับหน้าที่การ งานเอาเสียเลย “ผู้ชาย!!! อย่าบอกนะว่า มึงจะเข้าป่าตามกูไปอีกคน” ไหนไอ้เพื่อนศิ มันบอกว่าไม่จนใจจริงๆ มันจะไม่เอาผู้ชาย และถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ตรงสเปค 18


มันจริงๆ มันก็ไม่เอาเหมือนกัน กรุงรู้ดีว่าศิขรินทร์ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่เพื่อน สนิทเขามีความคิดทีอ่ ยากลองแต่กไ็ ม่ลองสักที เพราะไม่มใี ครทีต่ รงตามสเปค ที่มันวางไว้ “กูไม่แน่ใจ กูแค่ถูกใจหน้าเขาเท่านั้นเอง” “อืมๆ อยู่ในช่วงสับสน ว่าแต่หวานมากเลยหรือวะ” กรุงถามเพื่อน สนิทด้วยความอยากรูข้ นึ้ มาทันที ถ้าไอ้ศมิ นั เอ่ยปากว่าหวานขึน้ มาทัง้ ที คนๆ นั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะนานๆ ทีที่ ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ ผู้นี้จะ ชายตามองผู้ชายด้วยกัน “กูก็จ�ำไม่ค่อยได้ว่ะ เขาก็แค่ตาเรียวๆ จมูกนิด ปากหน่อย แก้มแดงๆ สูงประมาณไหล่กู ตอนพูดจะมีรอยบุ๋มข้างแก้มนิดหน่อย คิ้วเข้มๆ อืม นอก นั้นก็จ�ำไม่ได้แล้ว” ศิขรินทร์หลับตาและนึกถึงใบหน้าของช่างฟิตคนสวยแล้ว เล่าให้เพื่อนฟัง “หึหึ นี่ขนาดมึงจ�ำไม่ได้นะเนี่ย” แต่ไม่ว่าคนๆ นั้นจะสวยหรือหวาน แค่ไหนก็ไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับเขา เพราะ ‘นายในดวงใจ’ ของ กรุง วรยศ คนนี้ก็มีเพียง คีตา วรรณรักษ์ เท่านั้น “ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่ะว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่ไม่แน่นะมึง พอนานๆ ไปกูอาจจะลืมเขาไปก็ได้” ใครจะไปรู้อนาคตข้างหน้า ความจริงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา อาจจะเป็นหน้าหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตก็ได้ เขากับช่างฟิตหน้าหวานสุด เถื่อนคนนั้นอาจจะบังเอิญผ่านมาพบเจอกันเฉยๆ ก็เป็นได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกการกระในช่วงเวลาชัว่ โมงเศษๆ นัน้ อาจจะประทับใจเขาก็จริง แต่ถา้ หาก ไม่ได้เกิดมาเป็นของกันและกันแล้ว ฝืนธรรมชาติไปก็เปล่าประโยชน์ รอดูวนั ข้างหน้าดีกว่าว่าสุดท้ายแล้วศิขรินทร์คนนี้จะได้ช่างฟิตคนสวยมาท�ำเมีย หรือไม่ “ช่างมันเหอะว่ะ ผ่านมาแล้วผ่านไป ไปเจอกันอีกทีก็ค่อยว่ากันใหม่ ชนแก้ว!!!!!!” “มึงพูดถูก ไปเจอกันอีกทีก็ค่อยว่ากันใหม่ ชนโว้ยยยยยยย!!!!!!!!!!” 19


หึหึ ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง สัญญาว่าศิขรินทร์คนนี้จะไม่ปล่อยคนสวย ลอยนวลแน่นอน เพราะนั่นคือการพบกันครั้งที่สอง และอะไรก็ตามที่มา บรรจบกันในครั้งที่สองนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญและเรื่องธรรมดาอีกต่อไปถ้า ไม่ใช่ ‘เนื้อคู่’ ของกันและกัน

20


บทที่ 4 อูไ่ ทย หัวใจ เกินล้าน

ย่านธุรกิจของคนเมืองกรุง เวลาพลบค�่ำเช่นนี้คลาคล�่ำไป ด้วยรถยนต์และพาหนะชนิดอื่นๆ ที่สามารถขับเคลื่อนไป ข้างหน้าได้ การจราจรติดขัดทุกวันจนคนเมืองกรุงเริ่มชาชินและหันเอาช่วง เวลาเช่นนีม้ าท�ำมาหากิน รถจักรยานยนต์แต่งคันหรูกำ� ลังขับมุง่ หน้าสูอ่ าณาจักร ของคนรักรถ อู่ซ่อมรถอันดับหนึ่งของกรุงเทพฯ ความทันสมัยในด้านของ เครื่องมือที่น�ำเข้าจากต่างประเทศ การบริการที่ได้รับการพูดถึงอย่างไม่ขาด ปากจากลูกค้าทั้งขาจรและขาประจ�ำ ช่างแต่ละคนมีฝีมือและช�ำนาญใน เครื่องยนต์ ไม่มีการเรียกราคาค่าซ่อมเกินจริง ทุกอย่างท�ำให้ลูกค้าด้วยใจ และบริการด้วยความรักในอาชีพของตัวเอง เมือ่ ถึงทีห่ มายแล้วภัสดาก็ชะลอรถทีป่ อ้ มยามหน้าอู่ กล่าวทักทายกับ ลุงยามที่ท�ำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงตรง ไม่มีคดโกง เพราะแกก�ำลังนั่งดู เดี่ยว 8 แล้วหัวเราะงองายอยู่ข้างในป้อม หากเป็นเจ้านายคนอื่นหรือเจ้าของอู่ที่เข้ม และโหด ป่านนี้คงตะโกนด่าลุงยามตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว แต่ส�ำหรับภัสดา พิชัยภักดี นั้น พนักงานทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกว่าใคร สูงใครต�่ำว่ากัน 21


“ลุงครับ ผมแวะซื้อผัดไทยเจ้าเก่ามาให้” ภัสดาเอื้อมมือส่งถุงผัดไทย ให้กับลุงยาม “ขอบคุณครับคุณพีท ว่าแต่วันนี้ไปไหนมาทั้งวันครับ ท�ำไมถึงเข้าอู่ เอาป่านนี้” “ท�ำธุระนิดหน่อยครับ นี่ก็ค�่ำแล้ว ลุงกลับบ้านได้แล้วนะครับ เดี๋ยว มันจะดึก” เพราะภัสดารูจ้ กั ครอบครัวของลุงยามเป็นอย่างดีวา่ ฐานะนัน้ ค่อนข้าง ล�ำบาก ความจริงภัสดาจะให้เงินทุนสนับสนุนครอบครัวของลุงยามเฉยๆ แต่ ท่านก็ไม่รับเพราะบอกว่ามันมากเกินไป สุดท้ายลุงเลยบอกว่าจะมาท�ำงาน ให้เพือ่ ตอบแทนเรือ่ งเงินซึง่ ภัสดาก็ตามใจ ชายหนุม่ เป็นโรคอย่างหนึง่ คือเห็น คนแก่แล้วอดที่จะเข้าไปช่วยไม่ได้ ภั ส ดาขั บ รถเข้ า ไปจอดหลั ง จากนั้ น ก็ เ ดิ น เข้ า ไปตรวจเช็ ก งานใน ส�ำนักงานนิดหน่อยแล้วเดินลงไปยังสถานที่ส่องสุมของพวกบ้าเครื่องยนต์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความผูกผันระหว่างลูกพี่กับลูกน้อง ชายหนุ่มปรายตามองลูกน้องของตนแต่ละคนที่ตอนนี้ก�ำลังสุมหัวอยู่ ตรงลานพักเครือ่ งโดยทีไ่ ม่มใี ครได้รเู้ ลยว่านายใหญ่ของพวกมันก�ำลังเดินย่าง สามขุมเข้ามาหาอย่างช้าๆ “ไอ้ดล มึงอย่าเขี่ยไพ่หนีสิวะ” เสียงนี้คือเสียงไอ้แป๊ะยิ้ม อาร์ตตัวพ่อ ประจ�ำอู่ เจ้าของกิจกรรมสันทนาการที่มันสรรหามาให้เพื่อนได้คลายเครียด และล่าสุดที่พวกลูกน้องเถื่อนๆ ของภัสดาก�ำลังเล่นอยู่คือการเอาไพ่ที่มีรูป ของยอดมนุษย์มาเขี่ยๆ เพื่อให้มันทับกัน “ไม่หนีมึงก็ชนะกูสิ กูไม่โง่เว้ย” ส่วนนี่คือเสียงของไอ้ดล มนุษย์ผู้ชาย ทีซ่ อื่ บือ้ ทีส่ ดุ ในโลกเท่าทีภ่ สั ดาเคยพบเคยเจอมา มันเล่าเรือ่ งตอนทีเ่ ทีย่ วเมือ่ เดือนที่แล้วให้ฟังว่ามีผู้หญิงมาถอดเสื้ออ่อยมัน แต่มันเสือกคิดว่าหญิงสาว คนนั้นถอดเสื้อเอามาเพื่อรองขาโต๊ะ!!!! แต่ส�ำหรับเรื่องงานนั้นเป็นนายช่าง ซ่อมเครื่องอันดับ 3 เลยทีเดียว ส่วนอันดับสองนั้นก็ของไอ้แป๊ะมันยังไงล่ะ ถึงมันจะบ้า ปัญญาอ่อน ไร้สาระไปวันๆ แต่มันก็จริงจังกับงานและรักลูกพี่ที่ชื่อภัสดายิ่งกว่าชีพ ใคร มาว่าลูกพี่มันไม่ได้ เพราะภัสดาส�ำหรับแป๊ะนั้นคือเทพกลับชาติมาเกิด 22


ช่างฟิตคนอื่นๆ เริ่มรับรู้ถึงกระแสอ�ำมหิตที่พุ่งมาจากทิศใดทิศหนึ่ง จึงได้พากันหันหลังกลับมามอง และทุกคนยกเว้นไอ้ลูกหมาสามตัวก็พบว่า ‘เฮียตัวพ่อ’ ก�ำลังยืนเท้าเอวมองอยู่ ไร้ซึ่งเสียงการเคลื่อนไหว ทุกคนค่อยๆ หันหน้ากลับไปแล้วขยับตัวทีละนิดๆ เพื่อเปิดทางให้เฮียได้เข้ามาชมการ แข่งขันเขี่ยไพ่ระดับประเทศ “แป๊ะๆ มึงว่าที่เฮียไม่เข้าอู่วันนี้เพราะไปหลีสาวหรือเปล่า” ดลเปิด ประเด็นเรื่องหลีหญิงของภัสดาขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มช่างไม่ได้รู้อะไรเลยว่า ยมทูตก�ำลังยืนจ้องมาจากด้านบน ช่างฟิตคนอืน่ ๆ ยืนมองภาพนัน้ ด้วยความ สยดสยอง และเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของตัวเอง แต่ละคนจึงค่อยๆ สลายตัวไปท�ำงานในส่วนของตัวเองอย่างหวั่นๆ ในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นใน ไม่กี่นาทีข้างหน้า “กูวา่ ไม่วะ่ เฮียเขตน่ะบอกว่าหน้าอย่างเฮียพีทเราน่ะหลีใครไม่ได้หรอก ต้องเป็นฝ่ายถูกหลีเท่านั้น” หึหึ ภัสดาหัวเราะไร้เสียงอย่างเคียดแค้น รูว้ า่ ไอ้แป๊ะกับไอ้ดลมันสนิท กับหลักเขตเพราะไอ้เวรเขตมันชอบแวะมาหาเขาทีอ่ บู่ อ่ ยๆ แต่ไม่คดิ ว่าไอ้เพือ่ น หน้าปลวกจะเอาเรื่องหลีหญิงมาเล่าให้ไอ้สองตัวร้อยฟัง “เออว่ะ เฮียเราหน้าปิ๊งกว่าผู้หญิงอีก เมื่อวานเมียไอ้ตั้มยืนข้างๆ เฮีย กูยังแยกไม่ออกเลยว่าคนไหนผู้หญิงคนไหนผู้ชาย มองไปมองมาเมียไอ้ตั้ม เสือกสวยแบบกะเทยซะงั้น สู้เฮียพีทของเราก็ไม่ได้” นี่กูต้องดีใจใช่ไหมที่สวยกว่าผู้หญิง มึงโดนแน่ไอ้แป๊ะ!!!!!!!!! “เออๆ กูก็ยังคิดเลยว่าอิเมย์มันไปเทียบกับเฮียท�ำไม มองไปมองมา มองหน้าเมียเป็นหน้ากะเทยซะงั้น” ตั้มออกความคิดเห็นอีกคน เมื่อวานเขา ให้แฟนมารอที่อู่เพราะเลิกงานกะดึก และเฮียก็ลงมาตรวจงานที่อู่ซ่อมด้าน ล่าง ก็เลยเจอกันกับแฟนเขา และเมื่อทั้งสองยืนเทียบกันท�ำไมตั้มเห็นว่า แฟนสาวของตัวเองบึกบึนกว่าเฮียพีทละ “พวกมึงรู้สึกอะไรไหม” แป๊ะถามขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ยังก้มหน้าเขี่ยไพ่ ต่อไป เช่นเดียวกับตั้มและดลที่ยังอยู่ในท่าเดิมเพราะลุ้นกับเกมการแข่งขันนี้ เป็นอย่างมาก 23


“รู้สึกอะไรวะ?” นายช่างดล ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ภัสดาส่ายหัวไปมากับความปากเปราะของลูกน้องคนสนิททั้งสาม พวกมันเป็นเหมือนแม่แรงสามตัวที่ขับเคลื่อนให้อู่มีชื่อเสียงและโด่งดังอย่าง ฉุดไม่อยู่ ใครหลายๆ คนมักจะถามถึงลูกน้องของภัสดา และคนเหล่านั้นก็ มักจะเดาว่าลูกน้องช่างฟิตที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของภัสดานั้นต้องเป็นคนเข้ม เก่ง ไม่วอกแวกในหน้าที่ มีวินัย ฉลาด หลักแหลม ซึ่งภัสดาก็คิดต่อไปในใจ ว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นคิดมานั้นผิดหมด!!!!!!!!! ไอ้พวกลูกหมาทั้งหลายมันท�ำตัว เสมือนอยู่เขาดิน เห่า หอน ร้องเพลงไปวันๆ แต่งานมันก็ไม่ทิ้ง แต่จะทิ้งก็ เฉพาะตอนที่มีสาวๆ เดินเข้าอู่เท่านั้น ปังงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ภัสดายกร้องเท้าขึ้นไปวางกลางบนโต๊ะที่ไอ้พวกลูกหมาสามตัวก�ำลัง เล่นไพ่อยู่ “เฮ้ย!!!!!!!!!!!!! ร้องเท้าใครวะ” ไอ้ลูกหมาดล “เหมือนของเฮียเลยว่ะ” ไอ้ลูกหมาแป๊ะ “เออว่ะ คู่เดียวกันเลย หนังของแพงแต่มีปากกาเมจิกวาดรูปกระต่าย ขยิบตา..................!!!!!!!!!!!!!!!” ไอ้ลูกหมาตั้ม และเมื่อทั้งสามเงยหน้ารองเท้าหนังมันปราบคู่แพงก็พบกับมัจจุราช หน้าหวานที่ตอนนี้ก�ำลังแผ่รังสีออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพลิงอารมณ์โหม กระหน�ำ่ นีไ่ ม่ใช่การโมโหร้าย แต่นคี่ อื อารมณ์โมโหเพราะหมัน่ ไส้ในความว่าง งานของพวกมัน เงินเดือนที่ภัสดาให้ลูกน้องในแต่ละต�ำแหน่งก็ไม่ใช่ธรรมดา อย่างไอ้สามตัวร้อยทีม่ นั นัง่ นินทาเขาอยูน่ กี่ ไ็ ด้ไปคนละเกือบครึง่ แสน แต่กค็ มุ้ เพราะพวกมันท�ำงานได้สมกับเงินได้รับไป ลองไม่คุ้มสิ หึหึ!! “สนุกไหม?” น�ำ้ เสียงเรียบเรือ่ ยและแฝงความน่ากลัวได้หลุดออกจาก ริมฝีปากบางสวยของภัสดา ก็บอกแล้วแค่หมั่นไส้ไม่ได้มีอะไรมาก “สนุกครับ เอ๊ย!!!! ไม่ใช่สนุกครับเฮีย...โอ๊ยๆ ปวดท้อง” แป๊ะหาทาง เอาตัวรอดได้อย่างแนบเนียน แต่ก็โดนภัสดาดึงคอเสื้อเอาไว้เสียก่อน “ไม่ต้องลุกไปไหนเพราะกูจะสรรเสริญพวกมึงต่อ” ถ้าไม่เข้ม ไม่โหด ไม่แม่นในเรือ่ งต่างๆ ก็จะเอาไอ้พวกเถือ่ นพวกนีไ้ ม่อยู่ เพราะฉะนัน้ ก่อนทีจ่ ะ 24


เปิดกิจการอูซ่ อ่ มรถ ภัสดาได้ไปเรียนศิลปะป้องกันตัวแขนงต่างๆ แล้วก็รวม ไปถึงศึกยิงปืนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เอาไว้เผื่อไอ้พวกลูกหมามันมี เรื่องกับอู่อื่น “เฮียจ๋า!!!!!! เค้าผิดไปแล้ว” ดลท�ำหน้าตาอ้อนวอนลูกพี่ประจ�ำอู่อย่าง ภัสดาได้น่าถีบและกระทืบเป็นอย่างมาก ภัสดาที่มองอยู่นานอดไม่ไหว แจก ฝ่ามือกระแทกศีรษะไปคนละทีสองที ตัวสูงบางแต่ใช่ว่าแรงไม่มี “เวลาท�ำงานแต่พวกมึงมาเล่นไพ่ปญ ั ญาอ่อน!!! สมควรทีก่ จู ะขอบคุณ มึงใช่ไหม ไอ้แป๊ะ ไอ้ดล ไอ้ตั้ม!!!” “ก็มันเสร็จแล้วนี่เฮีย อีกอย่างวันนี้ไม่มีคนคอยด่ามาตั้งแต่เช้า ก็เลย ไม่มีสมาธิท�ำงาน” แป๊ะค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองผู้มีพระคุณระดับเทพ ถ้า ไม่มภี สั ดาฉุดดึงขึน้ มาจากนรกทีเ่ รียกว่าสลัม ถ้าไม่มภี สั ดาป่านนีไ้ อ้แป๊ะคนนี้ คงเป็นเพียงไอ้ขี้ยา ไร้สาระไปวันๆ และนี่เองที่ท�ำให้แป๊ะเทิดทูนบูชาภัสดา ยิ่งกว่าผู้มีพระคุณที่ไม่ได้สนใจไยดีเท่าเฮียพีทเลยสักนิด “เสร็จแล้วพวกมึงท�ำไมไม่ไปสอนงานให้รุ่นน้องวะ สอนน่ะสอน!!!!!!” ไอ้พวกลูกหมามันคงบ้าไปแล้ว พอเขาด่าเขาบ่นทุกวันมันก็บอกว่าหนวกหู เบื่อ เซ็ง ง้องแง้งว่าเฮียท�ำไมขี้บ่นเป็นคนแก่อย่างนี้ แต่พอเขาหายไปแค่วันนี้ ก็บ่นเขากลับคืนซะงั้น บอกว่าไม่ได้ยินเสียงเฮียแล้วท�ำงานไม่ได้ ไม่มีสมาธิ ตกลงพวกมึงจะเอาไงวะ!! “สอนเสร็จแล้วเฮีย มันตอนเย็นแล้วเฮีย พวกผมท�ำงานเสร็จจนขีอ้ อก มาเป็นก้อนแล้ว” ไอ้ตั้มพูดไปก็เอามือปาดเหงื่อไป ส�ำหรับไอ้ลูกหมาตัวนี้ วันๆ ไม่ทำ� อะไรนอกจากท�ำตัวเป็นลูกกระจ๊อกไอ้แป๊ะแล้วยังหาราวีโซนอืน่ ๆ ไปทัว่ ทีส่ ำ� หรับพนักงานในโซนอืน่ ต่างโหวตให้ไอ้ตม้ั เป็นขวัญใจขาร็อคประจ�ำ อู่ซะงั้น ลูกน้องผมหล่อทุกคน!!! “กูบอกให้พวกมึงเถียงตอนไหน เอามือขึ้นมา!!” ไอ้ลูกหมาตามตัวมองหน้ากันสลับไปมาอย่างงงๆ เพราะสงสัยและ ไม่เข้าใจว่าเฮียพีทจะสั่งให้ท�ำอะไรกันแน่ “ลุกขึ้นแล้วเอามือยื่นมาข้างหน้า........ไอ้ถังมานี่ดิ๊” เมื่อภัสดาสั่งเสร็จก็ ตะโกนเรียกช่างฟิตที่ชื่อถังให้เข้ามาหาตนเอง 25


“เฮียพีทจะให้พวกผมท�ำอะไรครับ คนหล่อแล้วก็อร่อยยอมแล้วครับ” ไอ้ดลพูดเสียงเศร้าแต่ปากกับตามันยิ้มซะเบิกฟ้า เห็นแล้วหมั่นไส้ฉิบหาย ภัสดาหันไปกระซิบสั่งงานกับถังอย่างรวดเร็ว ถังเมื่อรับค�ำเสร็จก็วิ่ง หายเข้าไปยังส�ำนักงานด้านบน ลูกน้องคนอื่นๆ เริ่มวางมือแล้วเดินเข้ามา ล้อมนักโทษสามคนอย่างสนใจ ภัสดาไม่ว่าอะไร เพราะนี่มันก็เลยเวลาเลิก งานมานานแล้ว แต่ทไี่ อ้ลกู หมายังไม่กลับบ้านกันนัน้ เพราะอยากอยูร่ อภัสดา นั่นเอง “เอามือที่ยกคว�่ำลงบนตัว ย่อเข่าลง!!!!!! กูบอกให้ย่อเข่าลง” “เฮียคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ เค้ายอมแล้ว.....” “ท�ำหน้าลิง!!! ถ้าพวกมึงไม่ท�ำก็อยู่อย่างนี้ต่อไป จะท�ำไม่ท�ำ!!!” ภัสดา สัง่ หน้าดุและตะโกนเสียงเข้มจนลูกน้องคนอืน่ ๆ พากันตกใจ และเริม่ ไม่แน่ใจ ว่านี่คือการเอาจริงๆ หรือว่าเล่นๆ กันแน่ “พวกมึงช่วยกันร้องเพลงช้าง................” “ครับ!!!!!!!!!!!!!” ช่างฟิตคนอื่นๆ รับค�ำอย่างขันแข็งและหัวเราะให้กับ วิธีลงโทษของเฮียพีท ไม่รุนแรง ไม่มีเลือดตก ยางออก ไม่มีความเสียหาย ก็ แค่อายเท่านั้น “ส่วนพวกมึงสามตัวเต้นท่าลิง ใครเต้นไม่สวยกูจะให้เต้นแม่งทั้งคืน ปฏิบัติ!!!!!!!!” และทุกคนก็หายสงสัยทันทีว่าที่ไอ้ถังมันวิ่งหายไปนั้นมันท�ำไม ที่แท้ มันหายไปเอากล้องวิดีโอมามาถ่ายความอัปยศอดสูของอาร์ตตัวพ่อประจ�ำ อู่ทั้งสามคนนั่นเอง “ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวๆ เรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวง เรียกว่างา มีหูมีตา หางยาวววววววววว” ภัสดามองไปก็หัวเราะไป ก็แค่ไอ้ลูกหมาสามตัวเต้นท่าลิงแล้วร้อง เจี๊ยกๆ ทั้งที่เพลงมันเป็นเพลงช้าง แต่พอมันจะเลิกท�ำภัสดาก็ส่งสายตาเข้ม ปรามเอาไว้ อาจจะเป็นบทลงโทษที่น่ารักแต่ส�ำหรับไอ้ตั้ม ไอ้แป๊ะ ไอ้ดลที่ เต้นท่าลิงเป็นชั่วโมงคงเข็ดไปจนวันตาย!!!! 26


ร่างสูงโปร่งที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงขนาดคิงส์ไซส์กระสับกระส่าย ไปมาเพราะสิ่งที่มันเป็นตะกอนแขวนลอยอยู่ในใจ ไม่ว่าจะท�ำอย่างไรก็ไม่ หายไปสักที จนร�ำคาญตัวเองอยากทึ้งหัวสักพันที กินเหล้า ด่าลูกน้อง ซ้อม พวกมัน ก็ไม่หายไปสักที ไอ้อาการคิดถึงใครบางคน “โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ไปคิดถึงหน้ามันท�ำไม หน้าก็เหี้ย นิสัยก็เหี้ย ขึ้นรถกระป๋อง ขี้เหร่กว่ากูอีก!!!!!” ถ้าคนที่สูง 180 ผิวสีแทนเรียบสวย ดวงตาสีน�้ำตาเรืองรองแวววาม ตลอดเวลา จมูกเป็นคมสัน น�้ำเสียงทุ้มกังวาน คิ้มเข้ม เรียกว่าขี้เหร่ แล้วใคร มันจะหล่อ แล้วคุณล่ะคิดว่าใคร ใครที่ท�ำให้ภัสดา พิชัยภักดีเป็นอย่างนี้???????

27


บทที่ 5 คุณหญิงวิตรตรา...!!!!

“คุณศิอยูห่ รือเปล่า บอกเขาให้หน่อยว่าฉันมาหา” ร่างสูงปราดเปรียวของสาวสวยไฮโซ แพร พรรณราย ก้มหน้าส่งสายตา จิกและกดดันเลขาหน้าห้องท�ำงานของศิขรินทร์ การมาแต่ละครั้งของหญิง สาวสร้างความล�ำบากใจให้พนักงานของ ‘อินทราทิพย์วิลล่า’ ตั้งแต่ยามเฝ้า ประตูจนถึงเลขาหน้าห้อง หญิงสาวไม่สนว่าคนไหนหัวหงอกหัวด�ำ สาวไฮโซ สนเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือผู้ชายที่ท�ำงานอยู่ข้างใน ฉายาอินทรีเงินที่ไม่ว่า จะเมื่อใดก็อดที่จะปลื้มใจไม่ได้ว่าตัวเองได้ควงหนุ่มหล่อดูดีมีชาติตระกูล อย่าง ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ “คุณศิก�ำลังมีแขกอยู่ค่ะ เข้าไม่ได้” เลขาวัยกลางคนบอกสาวไฮโซ ทุก คนในที่นี้ต่างรู้ดีกันว่ายามใดที่ แพร พรรณราย แปลงร่างเป็นอสูรกายวีน แตก มันน่ากลัวและไม่น่าประทับใจแค่ไหน ความสวยและรูปร่างหน้าตาไม่ ได้ท�ำให้นิสัยใจคอของสาวไฮโซดีขึ้นเลยสักนิด “ฉันไม่สน บอกเขาไปซิว่า แพร พรรณราย มาหาเขา เขาเห็นฉัน ส�ำคัญเสมอ” 28


เลขาสาวใหญ่อยากที่จะต่อปากต่อค�ำเหลือเกิน ถ้าหากเจ้านายหนุ่ม ของเธอเห็นสายไฮโซผู้นี้ส�ำคัญกว่างานคงไม่มาสั่งให้เธอเลื่อนนัดของสาว สังคมอย่าง แพร พรรณราย บ่อยๆ จากที่สังเกตมาหลายต่อหลายครั้งท�ำให้ เธอได้ข้อสรุปที่ว่า ศิขรินทร์ไม่ชอบให้ แพร พรรณราย มายุ่มย่ามที่ท�ำงาน ไม่วา่ จะกรณีใดทัง้ สิน้ เว้นก็แต่ศขิ รินทร์จะเป็นคนนัดไปเอง จะมีกแ็ ค่คณ ุ หญิง ไฮโซคนนีท้ ที่ ำ� ตัวไม่เชือ่ ฟัง ตามมาเกาะแกะทีท่ ำ� งานจนพนักงานและผูบ้ ริหาร คนอื่นๆ เอือมจนกลาpเป็นระอา “ไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณศิห้ามให้คนนอกเข้าไป” “นี่!! ฉันไม่ใช่คนนอก ฉันเป็นแฟนของศิ เข้าใจไหม!!” “ไม่เข้าใจค่ะ ค�ำสั่งคือค�ำสั่ง ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรนั่นก็หมาย ถึงว่าคุณศิจะกล่าวขึ้นใหม่อีกครั้ง” สาวใหญ่เอ่ยไปตามความเป็นจริง เพราะ ฉะนั้นมันจะไม่มีปัญหาอย่างในละครหลังข่าวแน่นอนที่นางร้ายตบเลขาคว�่ำ แล้วเดินเข้าห้องไปอย่างเฉิดหน้าชูตา ศิขรินทร์บอกเธอว่าหากอดทนไม่ไหว การใช้ก�ำลังจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เจ้านายเธอไม่ว่า อีกทั้งยังสนับสนุนเสีย ออกนอกหน้า แล้วอย่างนี้ใครที่ไหนจะเชื่อว่าแม่สาวหัวสูงอย่าง แพร พรรณ ราย จะเป็นคนรักของศิขรินทร์ “แต่บอสของดิฉนั ยังไม่มแี ฟนค่ะ คุณไม่เคยอ่านนิตยสาร CEO ระดับ แถวหน้าของประเทศเหรอคะคุณแพร” นิตยสารเพียงเล่มเดียวที่ได้รับสิทธิ์ เข้าไปสัมภาษณ์ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงระดับประเทศถึงห้องท�ำงาน ทุกอย่างที่เลขาสาวใหญ่พูดนั้นเป็นความจริง ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ ผูน้ ำ� อินทราทิพย์วลิ ล่าไม่เคยมีแฟนและไม่มคี นรัก อินทรีเงินตอบด้วยน�ำ้ เสียง ที่เรียบเฉยว่าตนยังโสดและตอนนี้ก็มุ่งมั่นกับงานบริหารเสียมากกว่า เพราะ ยังสนุกและยังไม่อยากแต่งงานหรือมีชีวิตคู่อย่างที่ผู้ชายหลายคนปรารถนา อินทรีเงินมากรักผู้นี้บินโฉบเฉี่ยวเหนือฟ้าควงผู้หญิงสวยและดูดีมี ระดับแต่ไม่นิยมนางเอก เพราะผู้หญิงที่มาจากวงการบันเทิงนั้นงี่เง่าไร้สาระ นอกจากจะควงเพื่อให้ตัวเองดังแล้วยังมาขูดรีดเงินทองเสียมากกว่าเพราะ ฉะนั้นศิขรินท์จึงนิยมพวกสาวไฮโซสังคมชั้นสูงเสียมากกว่า เพราะสาวๆ เหล่านี้มักจะค�ำนึงเห็นหน้าตาของตัวเองส�ำคัญกว่าการไล่จับผู้ชาย ไว้เชิงซึ่ง 29


กันและกัน หากมีเป็นส่วนน้อยที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เพราะส่วนมากก็เป็นสาว สังคมไส้แห้งและหิวเงินนั่นเอง “เขาก็แค่อยากปกป้องฉันเท่านั้นแหละ ไม่อยากให้คนรักของตัวเอง ต้องเสียหาย คนอย่างเธอจะไปรูอ้ ะไร” รูไ้ ม่รู้ ก็ดกี ว่าคนบางคนทีท่ ำ� ตัวเสแสร้ง ไปวันๆ เบื้องหน้าท�ำดีเพื่อสังคม ออกงานการกุศล บริจาคเงินเพื่อเอาหน้า ท�ำทุกอย่างเพื่อให้หน้าตาของตัวเองและตระกูลอันสูงส่งออกมาดีที่สุด ทั้งที่ ความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังนั้นเน่าเฟะขนาดไหน “คุณนี่หลอกตัวเองเก่งจริงๆ เลยนะคะ ฉันนับถือคุณจัง” “นี่หล่อน!! มันจะมากไปแล้วนะ รู้จักที่ต�่ำที่สูงหน่อย ฉันจะฟ้องให้ศิ ไล่แกออก” “เอาเลยค่ะ แต่หลังจากทีแ่ ขกคุณศิกลับก่อนนะคะ เพราะแขกของบอส คนนี้พิเศษกว่าคนอื่นๆ ค่ะ” ถ้าศิขริทน์กล้าไล่เธอออก รับรองได้เลยว่าท่านประธาน มารดาของ ศิขริทน์จะต้องไม่ยอมแน่ๆ เพราะต�ำแหน่งเลขาของศิขริทน์นั้นต้องผ่าน มาตรฐานที่คัดแล้วคัดอีกจากคุณหญิงวิจิตรตรา อินทราทิพย์ ที่เล็งเห็นว่า ถ้าหากเอาเลขาสาวไฟแรงสูงมาท�ำงาน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคงไม่เป็นอัน ท�ำงานแน่ๆ “กรีด๊ ดดด!!!!!!!! ใครทีอ่ ยูใ่ นนัน้ ชูใ้ ช่ไหม พวกแย่งของคนอืน่ ให้ฉนั เข้าไป เดี๋ยวนี้นะ” แพร พรรณรายกรีดร้องออกมาอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ ส่งผล ให้พนักงานที่เดิน ผ่านไปผ่านมามองมาอย่างสมเพชและสงสารอยู่ในตัว ใครๆ ก็รวู้ า่ บอสใหญ่ของอินทราทิพย์วลิ ล่าไม่จริงจังกับผูห้ ญิงทีด่ แี ต่งตัวโฉบไป โฉบมา วันๆ ไม่ท�ำมาหากินอะไรนอกจากคอยตามเกาะแกะผู้ชายเท่านั้น ขืนใครเอาไปเป็นแม่ของลูกคงพิลึกดีไม่น้อย “หึหึ ไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณแพรยังเข้าไม่ได้” เลขาใหญ่หัวเราะข้างในใจ อย่างมีความสุข ดีเหมือนกันที่แพร พรรณรายมาที่นี่บ่อยๆ บรรยากาศของ การท�ำงานได้ครึกครื้นมากกว่าที่เป็นอยู่กว่าหลายเท่า “เอะอะโวยวายอะไรกันเสียงดังห้ะช่อฟ้า!” น�ำ้ เสียงเรียบเข้มดังออกมาจากประตูหอ้ งท�ำงานของศิขริทน์ และเมือ่ แพรพรรณรายกับช่อฟ้าหันไปจึงได้พบกับผู้หญิงวัยกลางคนแต่งชุดผ้าไหม 30


ราคาแพงดูมีสง่าราศีและน่าเคารพเกรงขาม เครื่องประดับและทรงก็ท�ำให้ผู้ ที่พบเห็นนั้นได้รู้ว่าสตรีสูงวัยท่านนี้เป็นคุณหญิงแน่นอน “ท่านคะคือ...เอ่อ...คุณแพรจะเข้าไปพบคุณศิให้ได้คะ่ ช่อห้ามเท่าไรเธอ ก็ไม่ฟัง” ท�ำไมเลขาจะเสแสร้งเพื่อแก้แค้นไม่ได้ หึหึ คิดผิดแล้วแม่แพร ที่มา เล่นกับคนอย่างช่อฟ้า “อย่างนั้นเหรอ..........เธอไปท�ำงานเถอะช่อ เดี๋ยวฉันพูดเอง” เมื่อได้รับ ค�ำสั่ง ช่อฟ้าก็ส่งยิ้มหวานหยดให้กับแพร พรรณราย หนึ่งทีแล้วหมุนตัวไป ยังโต๊ะท�ำงานทันที ทิ้งให้สาวไฮโซเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายตามล�ำพัง “เอ่อ........คุณแม่คะ คือแพรจะมาหาศิน่ะค่ะ” เมื่อคู่อริหายลับไปแล้ว แพร พรรณรายก็เริ่มวิชาหน้าด้านเข้าหาแม่ผัวทันที เธอไม่สนว่าอีกฝ่ายจะ ชอบหรือไม่ชอบในตัวเอง เธอสนอย่างเดียว หน้าด้านเท่านั้นที่ครองโลก “เธอว่าอะไรนะ? พูดใหม่อกี ทีซ”ิ คุณหญิงวิจติ รตราทวนถามสาวไฮโซ อีกครั้งอย่างไม่เชื่อในหูของตัวเอง “คือหนูแค่บอกว่าหนูมาหาศิค่ะคุณแม่ ศิอยู่ข้างในใช่ไหมคะ” “ฉันมีลูกชายคนเดียว กรุณาเรียกใหม่” “เอ่อ........ค่ะ คุณป้า” แพร พรรณรายถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินผู้สูงวัย และสูงศักดิพ์ ดู ทักเรือ่ งการเรียกขานสรรพนาม หล่อนรูด้ วี า่ คุณหญิงวิจติ รตรา ผู้นี้ไม่ชอบผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกนอก และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น! “ศิทำ� งานอยู่ เธอจะเข้าไปรบกวนเขาท�ำไม แล้วงานการไม่มที ำ� หรือไง ถึงเทียวไปเทียวมาที่บริษัทลูกฉันได้ทุกวี่ทุกวัน” นางไม่สนว่าสิ่งที่นางพูดนั้น จะท�ำให้อีกฝ่ายเสียใจ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดควรที่จะได้คู่ควรกับลูกชายของนาง แพร พรรณราย เป็นผู้หญิงที่มีแต่ตัว สมบัติพัสถานที่โป้ปดให้คนในสังคมว่า มีเป็นพันๆ ล้านนัน้ ความจริงแล้วเหลือเพียงบ้านและหนีส้ นิ ก้อนหนึง่ ทีบ่ ดิ า ของเจ้าตัวท�ำทิ้งไว้ก่อนเสียชีวิต นางรู้มานานแล้วว่าศิขรินทร์ ลูกชายผู้มาก รักของนางควงสาวไฮโซคนนี้ และนางก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรแต่อย่างใด ได้ เพียงกล่าวเตือนเล็กๆ น้อยๆ เท่านัน้ นางรูด้ วี า่ ลูกชายของนางคงไม่เอากรวด มาเชิดหน้าชูตาในฐานะเมียแต่งแน่นอน “มีค่ะ แต่วันนี้แพรว่าง...........ก็เลยจะมาชวนศิไปทานข้าวกลางวันด้วย กันค่ะ” 31


“เธอคงจะหยุดทุกวันเลยนะ คนของฉันถึงรายงานว่าเห็นเธอมานัง่ เฝ้า ลูกชายฉันท�ำงานทุกวัน” ตอนนี้ในใจของ แพร พรรณราย เดือดปุดๆ อย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ หล่อนโมโหทุกคนทีท่ ำ� ให้ตอ้ งมาโดนดูถกู อย่างนี้ โมโหศิขรินทร์ทมี่ แี ม่ปากจัด และกัดเจ็บอย่างนี้ โมโหช่อฟ้า เลขาหน้าโง่ที่จุ้นจ้านได้ทุกเรื่อง และโมโห มารดาของศิขรินทร์ที่เอ่ยวาจาดูถูกและเหยียดหยามไม่ส้ินสุด อยากจะร้อง กรี๊ดแล้วตบทุกคนให้คว�่ำ แต่ในฐานะที่เธอก็เป็นคนมีชื่อในสังคมเหมือนกัน จึงท�ำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ “ฝากบอกศิด้วยนะคะว่าแพรจะแวะมาหาใหม่ ขอตัวกลับก่อนค่ะ สวัสดีค่ะ!!!!” แพร พรรณรายกระแทกเสียงครั้งสุดท้าย ยกมือไหว้อย่างจ�ำใจ แล้วหันหลัง เดินสะบัดก้นออกไปจากบริเวณหน้าห้องท�ำงานของศิขรินทร์ อย่างรวดเร็ว คุณหญิงวิจิตรตราได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจใน ความก้าวร้าวไม่เคารพผู้ใหญ่ของแพร พรรณราย หากเป็นลูกชายนางจะจับ ปรับพฤติกรรมการพูดการจาเสียใหม่ เอาให้ครบและเต็มสูตรกุลสตรีไทยที่ วางวาดไว้เสียเลย แต่ก็อย่างที่สุภาษิตว่าไว้ ดูนางให้ดูแม่ มารดาของแพร พรรณรายนั้นวันๆ ก็เอาแต่บ้าเครื่องแต่งตัวโดยไม่สนว่าแท้จริงแล้วเงินทอง และทรัพย์สินของสามีก�ำลังจะหมดเพราะตัวเองและลูกสาว “ท�ำงานได้ดมี ากช่อ ต่อไปนีถ้ า้ ผูห้ ญิงคนนีม้ าหาลูกชายฉันให้กนั ไว้แค่ หน้าห้องอย่าให้เข้าไปในห้องท�ำงานเป็นอันขาดเข้าใจไหม?” “เข้าใจค่ะท่าน” “ฉันขอตัวก่อนแล้วกันนะ แวะมาดูเจ้าศิท�ำงานนิดหน่อยน่ะ” พูดเสร็จคุณหญิงวิจิตรตราก็เดินเฉิดฉายออกไปทันที เมียแต่งของ ศิขรินทร์นั้นต้องดูดีมีครบไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ การงาน หน้าตา สังคม ทรัพย์สิน และไม่ว่าช่อฟ้าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครที่มี เทียมทัดเท่ากับศิขรินทร์ได้สักคน แล้วอย่างนี้บอสของเธอได้เมียไหมชาตินี้!

32


บทที่ 6 ...หวนคืน...

ร่าง

สูงหนา ไหล่ตรง นั่งก้มหน้าเซ็นเอกสารอย่างตั้งใจสมาธิ ทั้งหมดทั้งมวลทุ่มไปยังเอกสารที่สอดอยู่ในแฟ้มด้านหน้า ของตัวเอง คิ้วเรียวหนาดกด�ำขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเนื่องด้วยเสียงเอะอะ โวยวายที่ดังแว่วมาจากหน้าห้อง ใบหน้าคมหล่อเงยขึ้นมาสบตากับมารดาที่ นั่งอยู่โซฟาด้านข้างอย่างสงสัย “เสียงอะไรครับคุณแม่?” มือเรียวสวยวางปากกาด้ามแพงเอ่ยถาม มารดาด้วยความสงสัยทันที “เดีย๋ วแม่ออกไปดูเอง ศินงั่ ท�ำงานไปเถอะ แม่คงกลับบ้านเลยนะ ตัง้ ใจ ท�ำงานนะลูก” คุณหญิงวิจิตรตราผู้เข้มงวด ตรงเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว เมื่ออยู่ กับครอบครัวแล้วนางจะเป็นคนอ่อนโยนและใจดีขึ้นมาทันที จะมีใครรู้ว่าแท้ จริงแล้วที่นางท�ำไปอย่างนั้นเพื่อที่จะฉากหน้าให้ตัวเองดูแข็งแกร่งและน่า เกรงขาม อีกทั้งยังต้องการให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างศิขรินทร์เอาเป็น เยี่ยงอย่างนั่นเอง ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขาออกมายืนเคียงข้างมารดา ล�ำแขนแข็งแรง สอดเข้ากอดเอวมารดาอย่างออดอ้อน ริมฝีปากหนาประทับจูบลงบนแก้ม 33


เนียนของมารดาอย่างรักใคร่และเคารพ สองแม่ลูกผลัดกันหอมแก้มซึ่งกัน และกันเสร็จคุณหญิงวิจิตรตาก็คว้ากระเป๋าสานขึ้นมาสะพายแล้วเดินออก จากห้องไป และไม่ช้าไม่นานเสียงอันดังอึกทึกครึมโครมก็เงียบและหายไป ในที่สุด เมือ่ พ้นร่างของมารดาแล้วศิขรินทร์กเ็ ดินมานัง่ พักผ่อนทีโ่ ซฟาด้านข้าง ทันที ชายหนุ่มค่อยๆ เอนตัวลงนอนที่โซฟาอย่างช้าๆ ด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้ศิขรินทร์เข้าบริษัทตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพราะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ “วันนีม้ งึ ว่างไหม?” ศิขริทน์กรอกเสียงลงไปตามสาย เมือ่ อีกฝ่ายกดรับ “เสียใจ ไม่ว่างว่ะ วันนี้คีย์มีงาน กูว่าจะอยู่ช่วยเขาสักหน่อย” “ช่วยท�ำให้ดีหรือท�ำให้พังวะ” ได้ยิน กรุง วรยศ พูดถึงคนที่ก�ำลังตาม จีบทีไรก็อดหัวเราะเยาะไม่ได้ จะมีสกั กีค่ นทีก่ ล้าปฏิเสธคนหล่อ คนรวย คนที่ พร้อมไปด้วยทุกอย่างเช่นมัน นับว่าผู้ชายคนนั้นตาถึงไม่เบา ดูจากรูปการณ์ แล้วกรุงมันคงจริงจังน่าดู เพราะมันท�ำอย่างนีม้ าได้ประมาณจะเกือบเดือนแล้ว “ท�ำให้ดีสิวะ เพราะงานมันจัดที่โรงแรมกู มึงจะมาก็มา ถ้ามาแล้ว กวนตีนกูก็ไม่ต้องมา” “ครับๆ กูไปแน่นอนว่ะ มึงไม่ต้องห่วงกูนะครับ” “กวนตีนว่ะไอ้คุณศิ” “มึงก็กวนตีนกูไม่น้อยเลยนะไอ้เหี้ยคุณกรุง” นับว่าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เพื่อนสนิทสองคนเหย้าแหย่กัน กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ กว่าจะยืนอยู่บนจุดสูงที่สุด กว่าความส�ำเร็จจะมาอยู่ ในมือ ศิขรินทร์ อินทราทิพย์ และ กรุง วรยศ ต่างผ่านร้อนผ่านหนาวมา อย่างนับไม่ถ้วน เรื่องคอขาดบาดตาเสี่ยงร่วมกันมาแล้ว สนิทยิ่งกว่าพี่น้อง ร่วมสายเลือด มองตาก็สื่อไปถึงความรู้สึกข้างใน เพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของ ศิขรินทร์ อินทรีเงินผู้มากรักคนนี้คือ กรุง วรยศ คนเดียวเท่านั้น! เมื่อสมองรับรู้ถึงข้อมูลต่างๆ ในงานเดินแบบแฟชั่นโชว์ว่าที่แฟนของ กรุง วรยศเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงก็ลกุ ขึน้ บิดซ้ายไปมาซ้ายขวาอย่างขับไล่ความ เมือ่ ยขบออกไป ไปงานอะไรประเภทนีก้ ด็ เี หมือนกัน เผือ่ ได้อะไรแจ่มๆ กลับ 34


ไปนอนกอดในโรงแรมสักคืนสองคืน เมือ่ ความคิดทุกอย่างลงตัวแล้วศิขรินทร์ ก็หมุนตัวเดินเข้าห้องแต่งตัวด้านในสุดของห้องท�ำงานทันที ร่างสูงที่เดินเข้างานแฟชั่นโชว์อย่างสง่าผ่าเผย ศิขรินทร์อยู่ในชุดสูท สากลสีด�ำเรียบกริบตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าคมส่งยิ้มให้กับนักข่าวและสาว สังคมอย่างเป็นมิตร ไม่จ�ำเป็นที่คนหล่ออย่างเขาจะต้องมาหวงรอยยิ้ม จะ หวงไว้ท�ำไม สู้ส่งยิ้มแจกให้สาวๆ ไม่ดีกว่าหรือ “มึงเดินเข้ามานี่กูก็นึกว่าดาราฮอลลี่วู้ดมาเอง แสงเจิดจ้าซะ” “หึหึ มึงก็ไม่ตา่ งจากกูเท่าไร” ศิขรินทร์มองไปทีก่ รุง วรยศ อย่างชืน่ ชม รูปร่างสูงใหญ่ของกรุงอยูใ่ นชุดทักซิโด้สดี ำ� มองไปมองมาเพิง่ รูว้ า่ เพือ่ นตัวเอง ก็หล่อไม่แพ้ใครเหมือนกัน “ไปๆ เข้างาน เดี๋ยวสาวๆ แถวนี้จะเป็นลมกันพอดี” สองเพื่อนซี้เดิน เข้างานด้วยกันต่างเรียกสายตาชื่นชมปนหลงใหลและชวนเคลิบเคลิ้มจาก สาวๆ ในงานได้เป็นอย่างดี ในสังคมไฮโซรู้ดีว่า กรุง วรยศ นั้นเป็น ผู้ชายที่รักผู้ชาย แต่คะแนน เรทติ้งก็ไม่เคยตก เพราะสาวๆ เหล่านั้นมักจะคิดว่าพวกเธอจะท�ำให้กรุง วรยศ เปลี่ยนรสนิยมกลับมาชอบเพศตรงข้ามให้ได้ ส่วนศิขรินทร์นั้นขึ้นชื่อ ว่าหนุม่ โสดเนือ้ หอมก็วา่ ได้ ไม่วา่ จะเดินจะผ่านไปทางไหนก็มกั จะได้รบั สายตา เชิญชวนของสาวๆ อย่างไม่ขาดสายเช่นกัน กิตติศพั ท์เรือ่ งคุณหญิงวิจติ รตรา หวงลูกชายกว้างไกลจนบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ขยาดและไม่ค่อยกล้า แต่ก็ เป็นส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะเข้าหาศิขรินทร์ลับหลังมารดาของ ชายหนุ่มเสมอ “คนไหนเมียมึง” “ไอ้เหีย้ เมียทีไ่ หนว่ะ แค่แฟนยังไม่รวู้ า่ จะได้เป็นหรือเปล่า” กรุง วรยศ ท�ำสัญญาณให้ศิขรินทร์หุบปาก เพราะขืนพูดดังแล้วไปเข้าหูทูนหัวเขาแล้ว ละก็เรื่องมันจะจบไม่สวย แล้วคนที่ซวยก็คือไอ้กรุงคนนี้! “เออ ว่าที่แฟนก็ได้วะ แล้วตกลงมันคนไหน” 35


กรุง วรยศ ผายมือไปยังโซนด้านหลังเวที ปลายฝ่ามือโฟกัสไปที่ร่าง บางของผูช้ ายในชุดเสือ้ ผ้าทีค่ นนอกมองคงดูไม่ออกว่ามันเป็นเสือ้ หรือผ้าขีร้ วิ้ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงเป็นดีไซเนอร์เจ้าของงานในครั้งนี้ รูปหน้าผ่าน เพราะมัน แนวได้ใจไอ้กรุง รูปร่างก็ผ่านเพราะบางและส่วนสูงก�ำลังได้ที่ เอาเป็นว่า ส�ำหรับว่าที่แฟนของไอ้กรุง คนนี้ผ่าน!!! “ก็ดี........ใช้ได้” มองหน้าว่าที่แฟนของ กรุง วรยศ แล้วชวนให้คิดถึงใครบางคน คนที่ ท�ำให้จังหวะการเต้นของหัวใจมันเปลี่ยนไป จริงอยู่ที่ผู้ชายคนนี้หน้าหวาน แต่ก็หวานแบบน่ารักๆ ไม่ใช่สวยหวานอย่างที่ไอ้หมวกกันน็อกคนนั้น อีกทั้ง รูปร่างของไอ้หมวกกันน็อกก็สูงโปร่งบาง ว่าแต่.......จะเอาไปเปรียบกันท�ำไม เออ มึงบ้าไปแล้ว ศิขรินทร์! “ก็กูบอกมึงแล้วว่าคีย์ของกูน่ารักที่สุดในสามโลก” “หึหึ ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันมึงยังหลงเขาขนาดนี้ แล้วถ้าเขาไม่รับ รักมึงล่ะ มึงไม่ตายไปเหรอวะ” “กูกว็ า่ อย่างนัน้ แหละ แต่กอ่ นตายช่วยฝากบอกเขาให้หน่อยแล้วกัน ว่า กรุง วรยศคนนี้รัก คีตา วรรณรักษ์ คนเดียว” “ไอ้บ้าเอ๊ย มึงจะทุ่มอะไรนักหนาวะ ก็แค่คนๆ เดียว ไม่ได้คนนี้ก็หา ใหม่ ไม่เห็นจะยาก” “มึงไม่มีความรักมึงไม่เข้าใจหรอกไอ้ศิ สักวันมึงจะรู้เองว่าการที่ไม่ได้ ครอบครองคนที่เรารักมันจะเป็นอย่างไร” “ก็แค่เจ็บ ไม่ถึงกับตาย ถูกไหม” “ใช่!!!! มึงไม่ตายเข้าโลง แต่มึงจะตายทั้งเป็น” อาจจะถูกของไอ้กรุงมันก็ได้ที่เขายังไม่มีความรักยังไม่มีใครที่ท�ำให้ ความรู้สึกรักหรืออยากปกป้อง เพราะฉะนั้นจึงยังไม่เข้าใจปรัชญาของนักรัก ผู้ทุ่มเทอย่างไอ้กรุง ‘เนื้อคู่กูยังไม่เกิด.......หรือเปล่า!!’ สองหนุ่มนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนงานใกล้เริ่มและไฟในงานค่อยๆ ดับ ลงจนเหลือแต่บนเวทีศิขรินทร์และกรุงก็หันมาสนใจบรรดานางแบบที่เดินใส่ 36


ชุดโชว์ผ้ากันทันที ส�ำหรับศิขรินทร์แล้ว งานประเภทนี้มาไม่บ่อยนัก เพราะ นอกจากจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แล้วยังเสียผลประโยชน์อีกต่างหาก นอกจากจะไม่มีนักธุรกิจแนวหน้ามาร่วมแล้ว ยังมีปาปารัซซี่เดินเกลื่อนงาน เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นท�ำอะไรก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ อินทรีหนุ่มจึงไม่ พิสมัยงานเหล่านี้เท่าไร การเดินแบบบนเวทีมีไปเรื่อยๆ เสื้อผ้าแต่ละสีแต่ละแบบสร้างความ ประทับใจให้กบั ผูช้ มเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชุดฟินาเล่ทเี่ ด็ดและแนวสมกับ บุคลิกของดีไซเนอร์จริงๆ ในขณะเพ่งสายตาไปยังบนเวที หางตาก็เหลือบไปเห็นบุคคลที่อยู่ใน ห้วงของความทรงจ�ำ คนที่ไม่ว่าจะให้ดูกี่ครั้งก็จ�ำได้แม่นว่าเป็นใคร รูปร่าง หน้าตา ทุกอย่างที่อยู่ในสายตาของศิขรินทร์คนนี้คือ....... “ไอ้หมวกกันน็อกหน้าหวาน!!!!!!!!!!!!”

37


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.