i-ASiA Magazine

Page 1




editor’s talk

ปัจจุบันผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ โดยเลือกบริโภค ผักมากขึ้น บ้างเพื่อศาสนา ถือศีล ปฎิบัติธรรม เพื่อสุขภาพ หรือเพียงเพื่อ หลีกเลี่ยงเคมีสารพิษที่ติดมากับเนื้อสัตว์ (Red Meat) i-ASiA ฉบับที่ 8 กิน (เจ) ผักเพื่อสุขภาพ (Vegetarian) เล่มนี้สัมภาษณ์ชาวอังกฤษ คุณ Joanne Furlong หรือเรียกสั้นๆ ว่าคุณโจ (Jo) เธอกินมังสวิรัติ หรือเป็น Vegetarian ซึ่ง เซด กู๊ดบาย ฟอร์ กู๊ด ฟอร์ เรด มีท (Said goodbye for good for red meat) มากว่า

20 ปี ด้วยเหตุผลอะไร ต้องพลิกไปอ่านกันที่คอลัมน์ iReport ค่ะ คุณผู้อ่านจะเห็นว่าฉบับนี้ดิฉันพูดไทยบ้าง อังกฤษบ้าง ไม่ต้องแปลก ใจนะคะ เพราะ i-ASiA ฉบั บ นี้ น ำเสนอบทความสองภาษาในคอลั ม น์ iReport เพื่อเอาใจคุณผู้อ่าน และมาเข้มข้นกันด้วย iHighlight พูดคุยกับ

2 คนดัง ม.ล. ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ (หมึกแดง) กับการมาเยือนลอนดอน เพื่ อ คิ ด ค้ น สู ต รอาหารไทยจานใหม่ ที่ ร สชาติ ต้ อ งบอกว่ า ไม่ ธ รรมดา

ซึ่งเหมาะสำหรับ Semi-Vegetarian ให้กับร้านอาหาร “เบญจา” Benja ย่าน Canaby Street ส่วนอีกหนึ่งคนดัง คือ คุณแคทรียา กสิโสภา หรือ

คุณแคท คนไทยคนแรกที่ย่างกรายเข้าไปอยู่ในบ้าน Big Brother 9 โดย

i-ASiA เป็ น นิ ต ยสารไทยหั ว นอกฉบั บ แรกในยู เ ค ที่ มี โ อกาสได้ พู ด คุ ย ถึ ง

เบื้ อ งลึ ก และมุ ม มองของเธอ กั บ รายการ Reality Show สุ ด ฮิ ต ของ

ชาวอังกฤษ หลังออกจากบ้าน BB มาสดๆ ร้อนๆ สำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องย่อยยาก iBeauty ฉบับนี้แนะนำวิธีทำ และการดื่มน้ำผลไม้เพื่อเป็นรักษาสุขภาพ ต่อกันด้วย iPlace 2 Eat วันนี้ พาไปหาเมนูเจ กินผักปลอดสารพิษภายใต้โครงการหลวงที่ร้านหรู Blue Elephant ย่าน West London หากยังไม่อิ่มกลับบ้านมาทำ “ข้าวโพด หวาน ราวิโอลิ” (Sweet Corn Ravioli) ทานได้อีก ด้วยสูตรปลอดเนื้อสัตว์ ของเชฟ Penny เจ้าเก่า รับรองว่าทำง่าย อร่อย และไม่อ้วน ภายในเวลาไม่ เกินครึ่งชั่วโมง เรื่องดีๆ อัดแน่นอยู่ใน i-ASiA ฉบับนี้ กิน (เจ) ผักเพื่อสุขภาพ ถ้า พร้อมติดตามแล้วพลิกไปอ่านกันเลยค่ะ อิ่มเพื่อสุขภาพ ทานผักกันเถอะค่ะ กุลภัทร แซ่เต็ง



ISSUE 08 OCTOBER 2008 CONTENTS Photo : Nunthicha Wongamornchai Location : Bangkok

COVER STORY

42 iCOVER STORY ถือศีล กินเจ ให้ได้บุญ Vegetarian 44 iPLACE 2 EAT Blue Elephant London Royal Thai cuisine อิ่มเพื่อสุขภาพ 46 iARTIST อาหารมังสวิรัติ 48 iLOVE COOKING The ethical savory

LIFESTYLE

36

26 iINSIDE OUT การคุ้มครองเงินฝากของประเทศไทย 30 iSPORT แมนเชสเตอร์ (ซิตี้) อาบูดาบี ยูไนเต็ด 31 iBEAUTY ชอบทาน...แต่กลัวย่อยยาก มีวิธีแก้ค่ะ 32 iTECH IT I Touch. “เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้คุ้มค่า” 33 iHOROSCOPE ดวงชะตา ราศี 50 iCOLUMN บทความ “โอ้...ฮาวาย (จบ)” โดย ชาติ กอบจิตติ, 53 iCOLUMN เรื่องสั้น “ตำนานสุดท้ายไอ้มดแดง (3)” โดย ชาติวุฒิ บุณยรักษ์ 55 iCOLUMN นิยาย “นิวยอร์ค นครแห่งอนาคต 1 ” โดย อนุสรณ์ ติปยานนท์ 57 iCOLUMN อิงประวัติศาสตร์ “สิ้นอั้งยี่ในรัชกาลที่ 5” โดย กฤษดา เมืองไชย


26

NEWS

10 iSPEAK OUT LOUD! ประชาสัมพันธ์ 22 iTALKS What people are talking around town 24 iNEWS ประเด็นข่าวร้อน ระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม 2551

18 44

PEOPLE

46 42

48

20

12 iSOCIETY งาน CHIC Thailand ครั้งที่ 3 ณ ร้านอาหาร Thai Square สาขา Covent Garden 14 iSOCIETY งานแสดงศิลปะ โบราณวัตถุของไทย ที่ Victoria & Albert Museum, South Kensington 16 iSOCIETY งานเปิดตัวร้านอาหาร The Thai สาขาที่ 9 ย่าน Clapham Junction ของร้านอาหารในเครือ Fat Boy 17 iSOCIETY งานทำบุญร้านครบรอบปีที่ 4 ร้าน 101 Thai Kitchen 18 iHIGHLIGHT สัมภาษณ์ “หมึกแดง” ม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ 20 iHIGHLIGHT สัมภาษณ์ Cookies Love แคทรียา กสิโสภา 32 iREPORT สัมภาษณ์ Joanne Furlong กินผัก สุขภาพดี


สมัครสมาชิก 1ปี รับฟรี i-ASiA Bag 1 ใบ สำหรับ 250 ท่านแรก เท่านั้น! สมัครสมาชิก ครึ่งปี (6 ฉบับ) 20GBP สมัครสมาชิก 1ปี (12 ฉบับ) 35GBP ชื่อ / สกุล ..................................................................................... ที่อยู่ ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... เบอร์ติดต่อ ..................................................................................... อีเมล์ ..................................................................................... ตั๋วแลกเงิน เช็คธนาคาร สั่งจ่าย I-ASIA Ltd. ส่งไปยัง 1 Jutland Rd. London E13 1JH คำแนะนำ ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ +44 (0) 79 8418 1464 หรือ อีเมล์ info@i-asiamag.com

i-asia team

FOUNDER Capt. Tanapat Bunyarak กัปตันธนภัทร บุณยรักษ์ EXECUTIVE CONSULTANT Jack J T Wong แจ็ค เจ ที หว่อง EDITOR Kulaphat Saeteng กุลภัทร แซ่เต็ง EXECUTIVE WRITER Chart Kobjitti, Chartvut Bunyarak, Anusorn Tipayanon, Krisada Muangchai, Jaran Youngyune, Panlop Samsi, Ake Akkee, ชาติ กอบจิตติ, ชาติวุฒิ บุณยรักษ์, อนุสรณ์ ติปยานนท์, กฤษดา เมืองไชย, จรัญ ยั่งยืน, พัลลภ สามสี, เอก อัคคี CONTRIBUTOR Marisa Intrawong, Ronagorn Sornlerts, Penny Jirayuwattana, Nuchanart Chansorn, Anugana Kittisoonthorn, Adisorn Tunwattanasayree, Chatchai Kaorobrat, Droungrat Surakul, Ratchada Limpothong, Ratree Khunkongmee มาริษา อินทวงค์, รณกร สอนเลิส, เพ็ญณี จิรายุวัฒนา, นุชนารถ จันทรศร, อังคณา กิตติสุนทร, อดิศร ตันวัฒนเสรี, ชัชชัย เคารพรัตน์, ดวงรัตน์ สุระกูล, รัชดา ลิมโพธิ์ทอง, ราตรี ขุนคงมี PHOTOGRAPHER Kanitt Amaralikhit, Nunthicha Wongamornchai, Sarawuth Mingkhwan คณิต อัมราลิขิต, นันทิชา วงศ์อมรชัย, สราวุธ มิ่งขวัญ ASSISTANT PHOTOGRAPHER Damrongsak Kongmee ดำรงศักดิ์ กองมี GRAPHIC DESIGNER Artichart Auppalakul, Pawitbhorn Chaiyasajja, Areejitra Modetad อติชาติ อุปละกูล, ภวิษย์พร ไชยสัจ, อารีจิตร โหมดตาด EXECUTIVE ACCOUNT Parintorn Bunyarak ปรินทร บุณยรักษ์ MEDIA Worawut Suranarakun วรวุฒิ สุระนรากุล ADVERTISING SALE MARKETING Chuyot Amaralikhit ชูยศ อัมราลิขิต INTERNATIONAL CONTRIBUTOR James Roosevelt LAW CONSULTANT Pitthaya Pichayasujja, Brinda Bunyarak พิทยา พิชญสัจจา, บรินดา บุณยรักษ์ ADMINISTRATIVE ASSISTANT Chalailat Suppracha ชลัยรัตน์ ทรัพย์ประชา OWNER I-ASIA Ltd. LONDON UK Reg. No. 06456425 เจ้าของ บริษัทไอเอเซีย จำกัด ลอนดอน ยูเค จดทะเบียนเลขที่ 06456425 THAILAND OFFICE 184/142 Forum Tower, 24th Flr, Ratchadapisek Rd. Bangkok 10310 184/142 ตึกฟอรัม ชั้น 24 ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ 10310 MOBILE +66 (0) 89 799 6777, +66 (0) 85 999 0136 ENGLAND OFFICE 1 Jutland Rd. London E13 1JH, UK MOBILE +44 (0) 7984 181464, +44 (0) 7947 215335 Web : www.i-asiamag.com Email : info@i-asiamag.com



iอ่SPEAK OUT LOUD! านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com กด i-ASiA Blog หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com Date

19/10/2008

Description

ทำบุญทอดกฐินสามัคคี วัดพุทธาราม ลอนดอน

ณ Blake Hall Sports Club, Blake Hall Rd. Wanstead London E11 3QX เวลา 10.00 - 14.30 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 020 8530 2111 หรือ http://www.watbuddharam.org.uk

23/10/2008

ร่วมทำบุญ ทำสมาธิแด่องค์พระปิยะมหาราช ถวายภัตตาหารพระสงฆ์ ณ ร้านอาหารไทยโลตัส

26/10/2008

ทำบุญทอดกฐินสามัคคี วัดพุทธวิหารออกซ์ฟอร์ด

2/11/2008

ทำบุญทอดกฐินพระราชทาน วัดอมราวดี

9/11/2008

งานกฐินพระราชทาน ลอยกระทง และประกวดนางนพมาศ

9/11/2008

Thai Freshers Party 2008

Lotus Restaurant 201 High Street, Epping, Essex CM16 4BL Telephone ข้อมูลเพิ่มเติม 019 9257 9523

ณ Mortimer Hall, Oxford Rd. Old Marston Oxford OX3 0PH เวลา 9.30 - 14.30 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 018 6579 1591 หรือ http://www.oxfordbuddhavihara.org.uk

ณ Amarvati Buddhist Monastery, Hemel Hempstead, Hertfordshire HP1 3BZ เวลา 10.30 - 14.30 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Te. 01442 865 519 หรือ http://www.amaravati.org

ณ วัดพุทธปทีป วิมเบอร์ดัน เวลา 9.00 - 17.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 020 8946 1357 หรือ http://www.buddhapadipa.org

Silly Fools Live @ Scala, London ข้อมูลเพิ่มเติม 078 7677 6010 หรือ http://www.agenda-plus.com

14-16/11/08 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ขอความร่วมมือประชาชนชาวไทยในสหราชอาณาจักร และไอซ์แลนด์

16/11/2008

งานแข่งขัน “แบดมินตัน สมัครเล่น” ครั้งที่ 14

23/11/2008

งานลอยกระทง ประจำปี 2551 ณ วัดศรีรัตนาราม แมนเชสเตอร์

10

ร่วมไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน ในช่วงพระราชพิธีพระราชเพลิงศพ สมเด็จพระพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงราธิวาส- ราชนครินท์

ณ Kensington Leisure Centre (Ladbroke Grove), Walmer Rd. London W11 4PQ เวลา 11.30 - 20.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 077 3821 4985, 079 4056 5874 หรือ thaisportsgroup@hotmail.com

ณ Woodford Community Centre, Chester Rd. Woodford, Stockport SK7 1PS เวลา 10.00 - 17.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 016 1998 4427 หรือ www.watsriuk.net



iSOCIETY

Photo : Kulaphat Saeteng ดูอัลบั้มรูปได้ที่ www.i-asiamag.com กด Event Photo

H.E. Mr. Kitti Wasinondh / Tanes Petsuwan

Western Union / West East Travel

CHIC THAILAND 2008

งาน CHIC Thailand ครั้งที่ 3 จัดขึ้นเมื่อ วันพุธที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา โดย Tourism Authority of Thailand ณ ร้านอาหาร Thai Square สาขา Covent Garden ภายใต้คอน เซป Love CHIC, Travel Thailand เพื่ อ ส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้าใจถึงความทันสมัย ในด้าน LifeStyle, Fashion, Fusion Cuisine, Dynamic Bars และ Spa ของประเทศไทย ภายในงานมีการมอบรางวัลแก่ชาวต่างชาติกับ ผลงานการประกวดภาพถ่าย ส่วนไฮไลท์ใน งานคือการเดินแฟชั่นโชว์ นอกจากนี้แล้วยังมี การมอบตั๋ ว เครื่ อ งบิ น ไปกลั บ ลอนดอนกรุ ง เทพ โดย Thai Airways เพื่ อ เป็ น การ ส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย

12

Valvara McKee, TG

Mr. Tanes Petsuwan, TAT

Amy, West East Travel / Pete, Monsoon Valley

M.L. Bhudhisarn Varavarn, TG



iSOCIETY

Text / Photo : Kulaphat Saeteng ชมภาพ / ข่าวสารออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com กด Event Photo และ i-ASiA Blog

John Clarke

Pete/Chutiton, Monsoon Valley

H.E. Kitti Wasinondh

K.Tana and Wife

The Arts of Thailand Private View

ฯพณฯ นายกิตติ วะสีนนท์ เอกอัครราชทูต ไทย ประจำกรุงลอนดอน กล่าวเปิดตัวงาน แสดงศิลปะ โบราณวัตถุของไทย ณ Victoria & Albert Museum เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งนับจากนี้ชาวไทย และ ชาวต่างชาติสามารถเข้าชมศิลปะ โบราณวัตถุ ของไทยได้ที่ Victoria & Albert Museum, South Kensington

14

K.Boonchai / K.Chorchat

K.Nok / K.Nikkie

K. Rasarint



iSOCIETY

Text / Photo : Kulaphat Saeteng ชมภาพ / ข่าวสารออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com กด Event Photo และ i-ASiA Blog

The Thai

Grand Opening Night

K.Adrian, ลูกสาว และ คุณนก

K.Benjamin

16

คุณผึ้ง / คุณพอล

ค่ำคืนของวันอังคารที่ 30 กันยายน กับการ แจ้งเกิดร้านอาหาร The Thai สาขาที่ 9 ย่าน Clapham Junction ของร้านอาหารในเครือ Fat Boy บรรยากาศในงานเลี้ ย งรั บ รอง อบอวลไปด้วยความยินดี รอยยิ้ม และเสียง หั ว เราะจากแขกที่ ม าเยื อ นทั้ ง ชาวไทย และ ชาวต่างชาติ ทำให้ค่ำคืนนี้ เป็นคืนแห่งความ สุข สำหรับคุณนก (ธั ญ ญารั ต น์ สั น ติ ชาติ ศั ก ดิ์ ) คุ ณ Adrian Mills และ ลูกสาวคนสวย


iSOCIETY Text / Photo : Kulaphat Saeteng ชมภาพ / ข่าวสารออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com กด Event Photo และ i-ASiA Blog

101 Thai Kitchen

ร้านอาหาร 101 Thai Kitchen ร้านอาหารรส เด็ ด ขวั ญ ใจคนไทย ย่ า น Hammersmith, London จัดงานบุญ ทำบุญร้านครบรอบปีที่ 4 เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีพี่น้อง เพื่อนสนิท มิตรสหาย เดินทางมาร่วมแสดง ความยินดีกับผู้ประกอบการร้านอาหาร 101 Thai Kitchen กันเป็นจำนวนมาก ทีมงาน นิตยสาร i-ASiA ขอให้ร้านอาหาร 101 Thai Kitchen อยู่คู่ชาวไทยในลอนดอนตราบนาน เท่านาน

ผู้ประกอบการร้าน 101

คุณหนู คุณเหลียง

คุณเต้ย คุณเอ

คุณป้อม คุณโจ้

คุณเช และลูกสาว

คุณสุทธิ์

คุณน้อง น้องเบลเบล คุณบี และคุณต๊ะ

อาหารรสเด็ด

101 Corner


iสัHIGHLIGHT มภาษณ์ : ชูยศ อัมราลิขิต

มุ ม มองและปั ญ หาหลั ก สำหรั บ การดำเนิ น งาน ร้านอาหารไทยในต่างแดน “ร้านอาหารส่วนใหญ่ ปรุงอาหารเพื่อเอาใจ ชาวต่างชาติ จนบางครั้งสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติอาหาร และความเป็นไทยแท้ไปโดยสิ้น ม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ หรือ ที่คนไทย เชิ ง รวมถึ ง การนำเสนอหน้ า ตาอาหารที่ ผิ ด เพี้ ย น รู้จักกันดีในนามปากกา “หมึกแดง” บุตรชายของ แทนที่จะเป็น ฟิวชั่น ฟู๊ด (Fusion Food) กลับกลาย ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงอาหาร เป็น คอนฟิวชั่น ฟู๊ด (Confusion Food) ทำให้ชาว ไทย นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญในการประกอบ ต่างชาติที่นิยมชมชอบอาหารไทยสับสนเมื่อได้ทาน อาหารไทยแล้ว ยังมีพื้นฐานความรู้เรื่องอาหารด้าน อาหารจานเดียวกันที่เมืองไทย เพราะว่าหน้าตาและ ตะวันตกเป็นอย่างดี รสชาติต่างกันโดยสิ้นเชิง” “หมึกแดง” ปัจจุบันเป็นเจ้าของภัตตาคาร ม.ล.ศิริเฉลิม พูดถึงการปรุงอาหารให้ฟังว่า กรรมการผู้ จั ด การ ผู้ ด ำเนิ น รายการ “หมึ ก แดง “อาหารไทย จริงๆ แล้วซิมเพิล (Simple) เวิร์ลด์” ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ เป็นที่ปรึกษา แต่จำเป็นต้องรู้ถึงรากแท้ว่าอาหารไทยนั้นมีโพรไฟล์ วิทยการด้านอาหาร นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ (Profile) อย่างไร ควรรู้ว่าเครื่องปรุงที่ใช้ในอาหาร และคอลัมนิตส์ แต่ขณะนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งบทบาทคือ ไทยแท้ ความเค็ม ต้องได้จากน้ำปลา ความหวานได้ เป็ น Executive Chef ให้ กั บ ร้ า นอาหารไทย จากน้ำตาลปี๊บ ความเปรี้ยวต้องมาจาก “มะ” ทุก “เบญจา” (Benja) ย่ า นรี เ จ้ น ท์ สตรี ท (Regent ชนิ ด เช่ น มะนาว มะขามเปี ย ก มะยม มะกอก Street) มะม่วงเปรี้ยว เป็นต้น เช่นการปรุงน้ำยำ จำเป็นต้อง มี 3 รสชาติที่เท่ากันหมดคือ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน การมาเยือนลอนดอนในครั้งนี้ หากใช้เครื่องปรุงอย่างอื่น รสชาติอาจจะผิดเพี้ยน “มาเพื่อ รีครีเอทเมนู และเป็น Executive และขาดกลิ่นหอมของเครื่องปรุง” Chef ให้กับร้านอาหาร “Benja” เนื่องจากมีคอน ม.ล.ศิริเฉลิม แนะนำอาหารไทยแท้ สูตรโบราณ เน็คชั่นกับ “หม่อมต้น” (ม.ล.ปิยภัสร์ ภิรมย์ภักดี) ซึ่ง “แกงนอกหม้อ” ให้ลองไปทำกันดู รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก และ “พี่เหลิม” (คุณเฉลิม อยู่ “ใส่เนื้อไก่ลงในน้ำเดือด เมื่อไก่สุก ตักออก วิ ท ยา) ที่ ส นิ ท กั น มาก ซึ่ ง จริ ง ๆ แล้ ว อาหารที่ พักไว้ให้เย็น ส่วนน้ำต้มไก่น้ำไปกรองและนำกุ้งไป “Benja” ค่อนข้างไฮ สแตนดาร์ด (High Standard) ลวกให้สุก ต่อจากนั้น นำหอม กระเทียม หัวปลี อยู่ แ ล้ ว แต่ ต้ อ งการพั ฒ นารสชาติ ข องอาหารให้ มี (หรือใช้ลีก Leek แทน) ไปเผาทั้งเปลือกจนสุก แกะ ความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น เปลือกส่วนที่ไหม้ออก คั่วปลาแห้งให้หอม แกะเนื้อ การเปลี่ยนแปลง ปลาเป็นชิ้นๆ และนำกระเทียมดองหั่นเป็นแว่นบางๆ “ลดจำนวนรายการอาหารลง ซึ่งต้องการให้ จากนั้นนำเครื่องทุกอย่างใส่ลงในชาม และนำน้ำแกง อาหารแต่ละจานที่นำเสนอมีความโดดเด่น และเป็น มาต้มให้เดือดอีกครั้ง แล้วเทน้ำแกงลงในชาม ปรุง เอกลักษณ์ โดยใช้เครื่องปรุง และวัตถุดิบตามฤดูกาล ด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และพริก โรยหน้าด้วยมะม่วง (Seasonal) เพื่อให้ลูกค้าที่มา “Benja” ได้บริโภค ดิ บ ซอย”เท่ า นี้ ก็ ไ ด้ “แกงนอกหม้ อ ” สู ต รโบราณ อาหารที่สด ใหม่ มีคุณภาพ และได้รับประโยชน์ที่ รสชาติไทยแท้ ทานกันแล้ว ครบถ้ ว น โดยจะเน้ น เรื่ อ งรสชาติ อ าหารที่ เ ป็ น ไทย ข้อคิดทิ้งท้าย แท้ๆ “ร้านอาหารไทยในต่างแดน กลุ่มลูกค้าหลัก เมนูเพิ่มเติม สตาร์เตอร์ : กุ้งหุ่มผ้า จะหมักด้วยเครื่องปรุงสูตรไทยแท้ๆ ราดด้วยน้ำยำมะม่วงสุก โรยหน้าด้วย เป็ น ชาวต่ า งชาติ ร้ า นอาหารไทยทุ ก ร้ า น เป็ น ทู ต แอปเปิ้ลเขียวหั่นฝอย เพื่อให้ได้ความกลมกล่อมของรสเปรี้ยว ตัดกับรสหวานของน้ำยำมะม่วงสุกเวลาเคี้ยว วั ฒ นธรรมให้ กั บ ชาวต่ า งชาติ ดั ง นั้ น อยากให้ ร้ า น เมนคอร์ส : ต้มข่าปลากะพง (Snapper) นำเนื้อปลาที่หมักมาอย่างดีมา pan-fried ราดด้วยซอส อาหารไทยทุกร้านช่วยกันส่งเสริม และสนับสนุน ใน น้ำต้มข่าซึ่งมีส่วนผสมของเห็ดสามชนิด โรยหน้าด้วยตะไคร้ซอยทอดกรอบ เรื่องของการใช้วัตถุดิบ และเครื่องปรุงที่ใช้ (อาจจะ ของหวาน : ส้มลอยแก้ว และขนมกล้วยไทยสูตรพิเศษ ขนมกล้วย โรยหน้าด้วยมะพร้าว ขูดฝอย ประยุกต์ก็ได้) ให้คงซึ่งรสชาติอาหารไทยแท้ๆ ให้ ผสมงาดำคั่วปนน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟพร้อมครีมซอสวนิลาผ็อด (Vanilla Pods) และช็อกโกแลตฟรัจซอส ชาวโลกตระหนักว่า อาหารไทยแท้ เป็นอาหารที่มี (Chocolate Fudge Sauce)” รสชาติที่ดีที่สุดในโลก” เรียบเรียง / ภาพ : กุลภัทร แซ่เต็ง

“หมึกแดง” ม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์

18



iสัHIGHLIGHT มภาษณ์ / เขียน :: นิธิกานต์ จิตเจริญ เรียบเรียง / ภาพ :: กุลภัทร แซ่เต็ง

Cookies Love แคทรียา กสิโสภา

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของคุ๊กกี้อบใหม่ตั้งอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แค่น่ากิน เพราะรสชาติไม่เป็นรองใคร อย่าเข้าใจผิดว่าเราจะพามาร้านขายขนม เพราะวันนี้เรามาบ้านแขกคนพิเศษที่ Kent ถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ขอเฉลย วันนี้เรามาเยี่ยมคุณแคท - แคทรียา กสิโสภา หนึ่งในผู้แข่งขัน บิ๊กบราเธอร์ ซีรี 9 ที่เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ เหตุผลคือต้องการพาผู้อ่านมารู้จักตัวตนของเธอ และเบื้องหลังของรายการ เรลลิตี้ โชว์ ของอังกฤษผ่านมุมมองของเธอนั่นเอง จากบ้าน สู่เมืองผู้ดี คุณแคทมาอังกฤษตั้งแต่อายุ 23 ด้วยความ เหตุผลเดียวกับทุกๆ คน คือมาเรียนภาษา และอยาก ต่อปริญญาโท แต่ใครจะรู้ว่าวั น นึ ง เธอจะไปอยู่ บ น หน้าจอโทรทัศน์ของอังกฤษ ที่มีคนดูหลายล้านคน “พ่อ แม่ ต้องการให้แคทมาเรียนต่อ โดย อาศัยอยู่กับอาที่มีกิจการร้านอาหารในลอนดอน ตอน อยู่ เ มื อ งไทยแคททำงานตั้ ง แต่ เ รี ย นปี ส อง ที่ ค ณะ นิเทศศาสตร์ ม. กรุงเทพฯ เป็นนักแสดงตัวประกอบ เป็ น พิ ธี ก รตามงานแสดงสิ น ค้ า และงานโปรโมชั่ น ต่างๆ คือเน้นเก่งพูดแต่ไม่ต้องสวย ส่วนตัวแคทชอบ วงการบันเทิงอยู่แล้ว แต่พ่อ แม่ ไม่อยากให้เราทำ เพราะรู้ว่ารายได้และมีงานไม่แน่นอน” หลังเรียนจบ เธอถูกส่งมาเรียนต่อทันที “แคทก็เหมือนเด็กไทยทุกคน มีความคิดว่า ไม่ภาษาอังกฤษไม่เก่ง และไม่กล้าพูด แถมแกรมม่าก็ ไม่รู้เรื่อง สอบไอเอลได้คะแนนไม่เยอะเลยไม่ได้เรียน ต่ อ ปริ ญ ญาโทซะที ที่ ส ำคั ญ อึ ด อั ด มาก เพราะเรา แสดงความรู้สึกเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ปรกติเป็นคน พูดเก่งและติดตลก แต่พอมาอยู่ที่นี่แคทไม่รู้ว่าตลก ฝรั่งเค้าเป็นยังไง แต่ใจยังรัก และอยากทำงานด้าน บังเทิงมาตลอด จึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนภาษาอยู่หลายปี จนรู้สึกมั่นใจขึ้น” 20

เส้นทางฝัน ความพยายามอยู่ ที่ ไ หน ความสำเร็ จ ต้ อ ง ตามมาแน่ น อน เพราะเมื่ อ ปี ที่ แ ล้ ว คุ ณ แคทได้ ก้ า ว เข้าไปหาโอกาส ด้วยการสมัครเข้าแข่งขันเกมโชว์ ช่ ว งกลางวั น ของบี บี ซี รายการ “Dirty Rotten Cheater” มีไบรอัน คอนเนอรี่ (Brian Conley) เป็น พิธีกร “ไบรอัน เค้าชมว่าเราตลกดี น่าจะมีรายการ เป็นของตัวเองนะ ทีมงานบางคนเป็นทีมงานเดียวกับ ที่ทำรายการ บิ๊ก บราเธอร์ เลยชวนให้แคทไปลอง ออดิ ชั่ น เท่ า นั้ น ล่ ะ ค่ ะ แพ็ ค กระเป๋ า เลย เพราะ รายการนี้มีคนหลายเชื้อชาติ แต่ยังไม่เคยมีคนไทย แคทอยากโชว์ความเป็นไทยให้คนที่นี่ได้รู้จัก เลยใช้ โอกาสนี้เข้าไป” โอกาสถู ก หยิ บ ยื่ น แต่ อุ ป สรรคและคำพู ด จากผู้สมัครคนอื่นๆ ทำให้เธอฮึดสู้ และอดทนเพื่อให้ เป็นหนึ่งผู้แข่งขันเข้าไปอยู่ในบ้าน บิ๊ก บราเธอร์ให้ได้

“วั น ไปออดิ ชั่ น ต้ อ งทำหลายอย่ า งมาก กรอบใบสมัครหนาประมาณ 50 หน้าค่ะ เพราะเค้า ต้องการเค้นเอาความจริงจากเรา มีสัมภาษณ์และเล่น เกมร่วมกับผู้สมัครคนอื่นๆ มีอยู่หนึ่งเกมให้ค้นหาว่า หนึ่งในผู้สมัครใครเป็นลูกโสเภณี มีคนนึงชี้มาที่เรา และให้ เ หตุ ผ ลว่ า เราเป็ น คนไทยมาจากเมื อ งไทย เท่านั้นล่ะค่ะ อารมณ์ขึ้นทันที แคทตอบไปว่าเราไม่ใช่ และไม่ใช่คนไทยทุกคนจะเป็นแบบนั้น ประเทศไทย ไม่ได้มีแต่สถานที่อย่างนั้น ยังมีวัดวาอาราม ปราสาท พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกมากมาย ให้เลือก อยู่ที่ว่าตัวเองเลือกที่จะไปในสถานที่แบบ ไหนต่างหาก ด้วยเหตุผลนี้แคทเลยไปคุยกับทีมงาน และโปรดิวเซอร์ว่าเมืองไทยแท้จริงเป็นอย่างไร ถ้าเรา มีโอกาสเข้าไปในบ้าน เราจะพรีเซ็นต์ความเป็นไทย ทำอาหารไทย และนวดแผนไทยในรายการ” มองโลกในแง่ดี ด้วยพื้นฐานนิสัยเป็นคนมองโลกในแง่ดี และ มาจากครอบครัวที่อบอุ่น แต่รายการร้องอาศัยการโต้ เถียง จนบางครั้งดูแรงในสายตาคนดู รวมถึงความ แตกต่างด้านวัฒนธรรม เธอจึงกล้าๆ กลัวๆ ว่าจะอยู่ ในรายการได้นานสักแค่ไหน “อาทิ ต ย์ แ รกๆ แคทไม่ มี อ ะไรจะคุ ย กั บ เพื่อนๆ เพราะเรามาจากแบล็คกราวที่แตกต่าง แต่ เพราะเราเป็นคนไทย มีนิสัยเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เวลาจะ ชงกาแฟสักแก้ว แคทจะทำเผื่อเพื่อนๆ จะรู้สึกแปลก หากเรานั่งดื่มอยู่คนเดียว นี่แหละความเป็นไทย อยู่ ในบ้ า นทุ ก คนมี ช่ ว งเวลาสุ ข เศร้ า คละเคล้ า กั น ไป เวลาใครเศร้าเราก็เข้าไปปลอบ และดูแล แคทยิ้มสู้ ไม่ใช่แค่ในรายการ แต่หลังกล้องความเป็นเพื่อนของ เราก็ยังคงอยู่ และไปมาหาสู่กันเสมอ” ตัวตนที่แท้จริง ผู้ชมรายการจะเห็นว่าคุณแคทมีเพื่อนเยอะ เพราะความมีน้ำใจไมตรี ที่ทุกคนยอมรับ แต่เธอก็ เห็นความน่ารักของเพื่อนๆ ในบ้านที่เราไม่อาจเห็นได้ จากล้องทีวี “คนแรกต้องพูดถึงเรโชว (Rachel) เป็นน้อง สาวที่น่ารัก พูดเก่ง และมองโลกในแง่ดีมาก เราสนิท กันที่สุด ดีใจมากที่เค้าชนะ ส่วนดาเนียล (Darnell) เค้าเป็นคนที่นึกถึงตัวเองในแง่ลบ ซึ่งจริงๆ แล้วเค้า เป็นคนมีพรสวรรค์และมีเสียงที่ไพเราะมาก แถมแต่ง เพลง Cookie Love ให้ เวลาที่แคทเศร้า ดาเนียล จะร้องเพลงนี้ให้เสมอ อีกคนคือเร็กซ์ (Rex) จริงๆ


เป็ น คนใจดี เค้ า รวยมากแต่ ก็ ติ ด ดิ น มากด้ ว ย ทำความสะอาดครัว ดูแลบ้าน แต่รายการไม่ตัดต่อ มาออกอากาศ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเค้าเห็นแก่ ตัว เพราะเค้าจะไม่ค่อยพูด แต่จะแสดงความรุ้สึก ด้วยการเข้ามากอด ส่วนโม (Mohamed) เป็นคนน่า รัก ออกรับแทนเพื่อน และเป็นคนที่เพื่อนทำอะไรก็ ทำด้วย และไมค์กี้ (Mikey) เป็นคนตรงมากๆ ไม่พูด ลับหลัง ซึ่งตรงนี้นิสัยเหมือนแคท แต่ไม่ได้แปลว่าเรา จะต้องพูดขวานผ่าซาก หรือพูดทุกเรื่องและทุกครั้ง อะไรที่ถนอมน้ำใจกันได้ก็ถนอมน้ำใจกัน ยกเว้นจะ เหนือบากกว่าแรงจริงๆ “บางทีพวกเราทะเลาะกัน แต่หลังจากคุยกัน ทุกคนก็รักกันเหมือนเดิม ก็อยู่ในบ้าน 24/7 เจอหน้า กันตลอดจะให้เข้าใจกันทุกอย่างคงจะเป็นไปไม่ได้ ใครจะคิดว่าแคทเฟค คงห้ามไม่ได้ แต่คิดว่าคนไทย เข้าใจ เพราะนิสัยคนไทยจะคิดว่าทะเลาะกันไปทำไม ช่างมันเถอะ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เราไม่เอาด้วย พูดตามตรง ทำให้คนถูกใจทำยาก ถ้ามีความสุขเกิน ก็ดูโอเวอร์ เศร้า หรือร้องไห้ตลอดเวลาก็ดูเฟค บาง ครั้งเราอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นภาษาอังกฤษไม่ ได้ ไม่มีใครเข้าใจ เราก็รู้สึกอึดอัด” CCTV 24/7 โดนจับตาด้วยกล้อง CCTV ตลอดเวลา มัน ทรมานมากขนาดไหน ลองฟังประสบการณ์จริงกัน เลยดีกว่า “สองอาทิ ต ย์ แ รกไม่ ก ล้ า เข้ า ห้ อ งน้ ำ เลยค่ ะ จนต้องเรียกหมอ เพราะท้องผูกถ่ายเป็นเลือด เพราะ ห้องน้ำไม่มีล็อค จะทำธุระส่วนตัวก็มีกล้องจับ ขนาด ฝรั่งยังอาย แล้วเรายิ่งเป็นคนไทยด้วย สุดท้ายเลย เลื อ กที่ จ ะใส่ ก ระโปรง เพราะใช้ ค ลุ ม ได้ เ วลานั่ ง ชักโครก “แคทไม่รู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่หน้ากล้องตลอด เวลา เพราะเราไม่มีอะไรที่ต้องปกปิด เป็นตัวของตัว เองตลอด แต่ถ้าถามว่าทำไมบางวันเรามีความสุข, เศร้า หรือร้องไห้ทั้งวัน จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น แต่ เป็นการตัดต่อที่ขึ้นอยู่กับโปรดิวเซอร์ว่าจะฉายอะไร ให้คนดู รายการไม่ได้โกหก เพียงแต่เลือกที่จะออก รายการ “กฎบังคับคือห้ามคุยเรื่องสีผิว หรือศาสนา หรื อ เรื่ อ งความเชื่ อ ส่ ว นตั ว มี อ ยู่ ค รั้ ง นึ ง เจนนิ เ ฟอร์ (Jennifer) พูดถึงนายหลวงของเราในทำนองไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนหนึ่งคนจะเป็นเข้าชีวิตคนได้ แคททนฟัง ไม่ได้วิ่งออกไปเลย โดยที่ไม่ได้อธิบาย เพราะเป็นคน

ไม่ เ คยเถี ย งกั บ ใคร ทำอะไรไม่ ถู ก แต่ สุ ด ท้ า ยก็ พยายามอธิบายให้เค้าฟังหลังจากอารมณ์เย็นลงว่า การหมิ่นเบื้องสูงทำไม่ได้ และนายหลวงของเราทรง งานหนักมาก ดูแลทุกข์สุขของคนไทย ทุกวันนี้ท่าน ยังทรงงานอยู่ ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงรักนายหลวง มาก แคทไม่ได้อาฆาตแค้นอะไรเค้า เพราะมุมมอง ของคนที่นี่กับสถาบันกษัตริษ์ของประเทศเค้าต่างจาก เรา แคทไม่รู้จะคิดร้ายไปทำไม ทำให้ไม่มีความสุข แถมทำให้คนรอบข้างรู้สึกแย่ไปอีกด้วย” นานาทัศนะ ถึงแม้รายการ บิ๊ก บราเธอร์ ของเมืองไทย จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็มีคนจำนวน

ไม่น้อยในเมืองไทยรู้จักและพูดถึงคนแคทในหลายแง่ มุม ซึ่งมีทั้งชื่นชม และไม่ชอบ “แคทไม่เคยดู บิ๊ก บราเธอร์ของเมืองไทย แต่อาจเป็นเพราะรายการนี้แรง คนไทยเลยรับไม่ได้ ขนาดรายการตีสิบ ยังโทรมาถามเลยว่าที่บ้านรับได้เห รอ... ตอนแรกที่บ้านรับไม่ได้เหมือนกัน แต่เพราะเค้า เปิดใจ แคทอยู่ที่นี่มาเจ็ดปี ไม่เคยลืมความเป็นไทย ไปมาลาไหว้ และเชื่อว่าความเป็นคนดีไม่ได้วัดกันที่ ภายนอก หรื อ การแต่ ง กายเท่ า นั้ น ความมี น้ ำ ใจ การให้ และการกระทำต่างหากที่สำคัญ ยอมรับว่าที่ นี่ มี ค วามเป็ น ตะวั น ตก หากเรามานั่ ง พั บ เพี ย บ เรียบร้อยในรายการตลอดเวลาคงไม่ได้ ต้องปรับตัว ให้เข้ากับวัฒนธรรมของที่นี่ด้วย เรามีศาสนาพุทธ ให้เชื่อในกฎแห่งกรรม ดังนั้นตอนอยู่ในรายการ แคท ไม่ เ คยนิ น ทาว่ า ร้ า ยใคร หรื อ พู ด จาด่ า ทอใคร พยายามที่ จ ะเผยแพร่ วั ฒ นธรรมไทย อาหารไทย นวดแผนไทยให้เพื่อนๆ ในบ้าน รวมถึงสถานที่ท่อง เที่ยวต่างๆ ในบ้านเรา ถามว่าเราไทยจ๋ามั๊ย ก็ไม่ใช่ แต่เป็นไทยประยุกต์ ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจได้ ง่ายขึ้น แคท ว่าไม่มีใครเพอร์เฟค แต่แคทก็ยังเป็น แคท ซึ่งมีความเป็นไทยอยู่ในตัวแน่นอน” มุมเปลี่ยน ชีวิตของคุณแคทเปลี่ยนไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อยากรู้ค่ะว่าอะไรที่ทำให้คุณแคทภูมิใจที่สุด “การได้รับเชิญให้ไปโชว์ตัวที่โรงเรียนของที่นี่ ซึ่ ง ทางผู้ ใ หญ่ ที่ โ รงเรี ย นเค้ า ก็ บ อกตรงๆ ว่ า ไม่ ไ ด้ ดู รายการ บิ๊ก บราเธอร์ แต่ที่เชิญแคทไปเพราะเห็นว่า เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เล่นยา แต่เราก็สนุก และมี ความสุขได้ ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กๆ ทำให้ เรารู้สึกภูมิใจ เพราะเราคือแบบอย่างที่ดีของเยาวชน ที่นี่ แคทจะมีแฟนคลับเป็นเด็กๆ เยอะ แวะเวียนมา เยี่ยมเรา เอาคุ๊กกี้มาให้ เขียนการ์ดมรให้ แค่นี้ก็สุขใจ และรู้สึกดีมากแล้วค่ะ” เรื่องนี้ทีมงานขอยืนยันว่าเป็นแบบที่คุณแคท พูดเป๊ะ เพราะไม่นานหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ เด็กๆ แถวบ้านก็ทยอยแวะมาหาคุณแคท มาขอให้คุณแคท เขียนการ์ดให้เพื่อนที่สอบเข้าได้ เห็นแล้วน่ารักค่ะ อาจเพราะความเป็นกันเองกับเด็กๆ และน้ำเสียงที่ ไพเราะ อ่ อ นหวานน่ า ฟั ง ถึ ง ได้ เ ป็ น นางฟ้ า ใจดี ที่ เด็กๆ รักขนาดนี้...

21


iTALKS

เรื่อง : หมามุ่ย ดูภาพ / อ่านข้อมูลออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com คลิก Event Photo และ i-ASiA Blog

แม่ ชี ท ศพรเดิ น ทางกลั บ เมื อ งไทย เมื่ อ ต้ น เดื อ นกั น ยายนที่ ผ่ า นมา คราวนี้ ใ ครพลาดไม่ ไ ด้ ไ ปกราบ คารวะท่าน ไม่ต้องเสียใจ ท่านมี โ ค ร ง ก า ร จ ะ เ ดิ น ท า ง ก ลั บ ม า ลอนดอนอี ก ครั้ ง ส่ ว นจะเป็ น เมื่ อ ไหร่นั้น คงไม่นานเกินรอ ไว้ “หมา มุ่ย” รู้วันและเวลาเมื่อไหร่ จะแจ้ง ให้ทราบนะจ๊ะ คุ ณ หมู จากร้ า น Siam Orchid นอกจากทำอาหารจานโปรด

“แพนงเนื้อ” ให้พี่ป้อม และพี่โต๊ะ ทานก่ อ นเริ่ ม แสดงคอนเสิ ร์ ต ที่ Wembley Arena แล้ว “หมามุ่ย” ยั ง แอบเห็ น คุ ณ หมู เ อาเสื้ อ สกรี น อัสนี-วสันต์ให้นักดนตรีทุกคนเซ็นต์ อีกด้วย อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่า “คน หั ว ใจสิ ง ห์ ” ตั ว จริ ง ของจริ ง ด้ ว ย น๊าา

“หมามุ่ย” เจอคุณโอ๊ค ควงน้องสาว คนสวยทั้งสองคนไปแว๊บๆ ที่ร้าน คาราโอเกะย่าน Cromwell Road คืนวันเสาร์ที่ 20 กันยายน งานนี้ เค้าไปทำอะไรกันน๊า...ทั้ง 3 คนเลย ใครรู้ช่วยบอกด้วยจ้า...

อีกหนึ่งงานเพื่อประเทศไทย “CHIC by Thailand” ครั้ ง ที่ 3 จั ด โดย ททท.นำทีมโดยคุณธเนศว์ร เพชร สุวรรณ ณ ร้านอาหารไทยสแควร์ สาขา Covent Garden เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา งานนี้เค้าเป็น ธี ม Shocking Pink อยากรู้ ว่ า

จะ Pinky ขนาดไหน เปิดไปดูรูป กันเลยที่หน้า 12 และทาง ททท.

จะเปิ ด ตั ว CHIC Taxi ภายใน

สิ้ น ปี นี้ เ พื่ อ ส่ ง เสริ ม และชั ก ชวนให้ ชาวต่ า งชาติ ไ ปเที่ ย วเมื อ งไทย “หมามุ่ ย ” ชวนคุ ณ ผู้ อ่ า นรอดู

รถแท็กซี่ ว่าจะ CHIC ขนาดไหน นะคะ

“หมามุ่ย” มีโอกาสได้กระทบไหล่ คนดัง คุณแคท คนไทยคนแรกใน รายการ Big Brother 9, Reality Show ของอังกฤษ ขอบอกว่าในจอ เป็ น ยั ง ไง ตั ว จริ ง เสี ย งจริ ง ก็ เ ป็ น อย่างนั้น หากอยากรู้เรื่องราวเธอ พลิ ก ไปอ่ า นคอลั ม น์ iHighlight หน้า 20 Happy Birthday to you... ล่วงหน้านะคะคุณแคท (Big Brother 9) ถ้ า “หมามุ่ ย ” มี โ อกาสไปทานเค้ ก วั น เกิ ด คุ ณ แคท ในวั น ที่ 18 พฤศจิกายน “หมามุ่ย” รับรองว่าจะเก็บภาพมาฝากคุณผู้อ่านจ้า...แต่ถ้า

ใครไม่ได้ไป แล้วอยากอวยพรออนไลน์ผ่าน i-ASiA ก็เชิญได้เลยน๊ะคะที่ www.i-asiamag.com คลิก i-ASiA Blog แล้วลิงค์ไปหาเว็บคุณแคท โดยตรงเลยจ้า...

คุณผู้อ่านสามารถเข้าเยี่ยมชม i-ASiA Magazine Online ได้ที่ www.i-asiamag.com คลิก Event Photo เพื่อ ชมภาพบรรยากาศงานต่างๆ ของสังคมไทยในลอนดอน หรือ คลิก i-ASiA Blog เพื่ออ่านข้อมูลต่างๆ และ สามารถฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com นะคะ

22

ขอแสดงความยิ น ดี กั บ บั ณ ฑิ ต ใหม่ คุณปรีย์ดารา สัมพสาระ หรือน้อง ปอ จากรั้ว Chelsea College of Art and Design สาขา CeramicTextile ด้วยนะจ๊ะ “หมามุ่ย” แว่บ ไปดูงานโชว์ผลงานของน้องปอมา ขอบอกว่าไม่ธรรมดา

ถึ ง งาน ”คอนเสิ ร์ ต คนหั ว ใจสิ ง ห์ ” จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ภาพความทรง จำและความประทับใจนั้น ยังคงอยู่ คู่ ใ จชาวไทยในอั ง กฤษ งานหน้ า เบี ย ร์ สิ ง ห์ จ ะมี อ ะไรมาเซอร์ ไ พรส์ พวกเราอีกน๊ะ “หมามุ่ย” อยากรู้จัง “หมามุ่ ย ” ขออนุ โ มทนาบุ ญ กั บ พระบวชใหม่ “ปริญญา งามขำ” (ตู๋) ณ วัดพุทธปทีป วิมเบอร์ดัน อุ ป สมบทเมื่ อ วั น อาทิ ต ย์ ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาด้วยนะคะ หมามุ่ ย ” ขอร่ ว มไว้ อ าลั ย กั บ ครอบครัว”ปาลีวงศ์” กับการจาก ไปของคุณสุชาติ ปาลีวงศ์ ด้วย อายุ 70 ปี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม โดยงานพิธีศพจะจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคมนี้


ภาพ :: www.th.wikipedia.org

“หมามุ่ ย ” ขอแสดงความยิ น ดี กั บ ร้าน 101 Thai Kitchen ที่เพิ่งจะจัด งานบุญ ทำบุญร้านครบรอบปีที่ 4 ไปเมื่ อ วั น ที่ 4 ตุ ล าคมที่ ผ่ า นมา งานนี้เพื่อนสนิท มิตรสหาย มากัน เพี ย บ ไม่ ต้ อ งบอกก็ รู้ ทั น ที เ ลยว่ า ร้ า น 101 Thai Kitchen เนี่ ย

ดังขนาดไหน

เดือนตุลาคม เป็นเดือนออกพรรษา ไม่ว่าวัดไหนๆ ในยูเค ต่างก็มีงาน กฐินกันทั้งนั้น เริ่มต้นกันตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมเป็นต้นไปเลย “หมามุ่ย” ขออนุ โ มทนาสาธุ ด้ ว ยนะค่ ะ ส่ ว น เดื อ นพฤศจิ ก ายน คงไม่ พ้ น งาน ประเพณีลอยกระทง คงต้องเตรียม ลุ้นนางนพมาศกันซะแล้ว

ถ้าใครเจอ ม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ (หมึกแดง) ในลอนดอน อย่าแปลก ใจ เพราะว่าตอนนี้คุณหมึกแดงมา เป็ น Executive Chef กั บ สู ต ร

อาหารใหม่ๆ ให้ร้านอาหาร Benja ย่าน Canaby Street, Oxford, London “หมามุ่ ย ” ไปลองชิ ม

มาแล้ ว ... ใครไม่ ไ ปลอง ขอบอก ว่า...ต้องเสียใจ

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม คุณกร หรือ กรนิจ โนนจุ้ย ประธานนักเรียนไทย มหาลัยออกซ์ฟอร์ด ได้จัดงานวัน เกิด ที่ร้าน Thai Orchid, Oxford ท่ า มกลางเพื่ อ นสนิ ท มิ ต รสหาย เพียบ “หมามุ่ย” เดาไม่ออกว่าอายุ ครบกี่ปี

สำหรับการเดินทางของอาจารย์หนู กันภัย ทางคณะผู้จัดการ ฝากข่าว “หมามุ่ย” มาแจ้งให้พี่ๆ น้องๆ ทราบว่า การเดินทางของอาจารย์หนูได้มีการเลื่อนกำหนด เนื่องจากท่านติดภารกิจด่วน ขอให้ พี่ๆ น้องๆ หายกังวล เพราะว่าท่านมาแน่ๆ ส่วนกำหนดวันที่แน่นอน จะแจ้งให้ทราบทั่วกันอีกครั้งจ้า...

ร้านอาหาร The Thai ในเครือ Fat Boy สาขาที่ 9 ย่ า น Clapham Junction แจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อย แล้ ว เมื่ อ ต้ น เดื อ นตุ ล าคมที่ ผ่ า นมา “หมามุ่ ย ” ขอแสดงความยิ น ดี กั บ คุ ณ นิ ก กี้ และคุ ณ Adrian Mills ด้วยนะคะ... สาขาที่ 10 เปิดเมื่อไร อย่าลืมกระซิบ “หมามุ่ย” ด้วยน๊า

“หมามุ่ ย ” ขอแสดงความยิ น ดี กั บ Prof. Michael Gilles รองคณบดี สถาบั น เวชศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย

ลิ เ วอร์ พู ล ผู้ เ ชี่ ย วชาญด้ า นเวชศาสตร์ เ ขตร้ อ น ที่ มี ผ ลงานเป็ น ที่ ยอมรั บ ไปทั่ ว โลก ที่ ไ ด้ รั บ มอบ

เครื่ อ งราชอิ ส ริ ย าภรณ์ ณ สถาน เอกอัครราชทูตไทย กรุงลอนดอน เมื่ อ วั น ที่ 25 กั น ยายนที่ ผ่ า นมา

ด้วยค่ะ

“หมามุ่ย” ได้ยินว่าคุณตุ้ม จากร้าน อาหารบานบุ รี กำลั ง จะมี โ ปรเจค ใหม่ ใ ห้ ส าวซิ่ ง หนุ่ ม ไว้ มั น ส์ ชาว ลอนดอนได้เซอร์ไพรกันเร็วๆ โดย งานนี้ ไ ด้ คุ ณ ธาม GM แห่ ง ร้ า น Blue Elephant มาช่ ว ยเป็ น ฝ่ า ย ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานจะออกมา เป็นยังไงต้องรอลุ้นแล้วกันแล้ว...

คุณรสรินทร์ แฮริส แอบกระซิบว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เธออยู่ อังกฤษครบรอบปีที่ 25 “หมามุ่ย” นั่ ง คิ ด ว่ า วั น เวลาช่ า งผ่ า นไปไว เหมือนโกหก เผลอแป๊บๆ i-ASiA magazine จะอายุครบ 1 ขวบแล้ว อิอิ... เวล คัม สาวฮอต สุดเซ็กซี่ ของ เมืองไทย “ปู ไปรยา” ทูยูเค ที่ บินตรงจากเมืองไทยเพื่อมาศึกษา ต่ อ ที่ อ อกซ์ ฟ อร์ ด ตอนนี้ เ ป็ น

เฟรชชี่ น้ อ งใหม่ อยู่ ที่ Oxford Brookes University เป็ น ที่ เรียบร้อยแล้วจ้า... หนุ่มๆ คนไหน อยากกระทบไหล่สาวฮอต ต้อง เรียนให้หนัก เผื่อจะได้เดินเคียงคู่ นู๋ปูไปห้องสมุดนะจ๊ะ

23


iเรืNEWS ่อง :: วาซาบิจัง

ภาพ ::www.moe.go.th

งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ พระพี่นางฯ

i-ASiA ฉบับนี้ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2551 หมายกำหนดการ วันที่ 14 พ.ย. งานพระราชกุศลออกพระเมรุ วันที่ 15 พ.ย. การเชิญพระโกศออกพระเมรุมาศ และพระราชทานเพลิงพระศพฯ วันที่ 16 พ.ย. การเก็บพระอัฐิ วันที่ 17 พ.ย. การบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ วันที่ 18 พ.ย. การเลี้ยงพระ และการเชิญพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน วันที่ 19 พ.ย. การบรรจุพระสรีรางคาร ซึ่งจะมีการเตรียมงานด้านประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธี ด้วยการถ่ายทอดสดพระราชพิธี งานพิธี ทั้งทาง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย การจัดตั้งศูนย์สื่อมวลชน (MPC) ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ถ่ายทอดโทรทัศน์ (IBC) ณ ห้องออกสลากรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่ง รัฐบาล สำหรับคุณผู้อ่านที่ไม่มีโอกาสได้เดินทางไปร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ พระพี่นางฯ ในครั้ง นี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอนขอเชิญพี่น้องชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ ร่วมไว้ทุกข์ทั่วกันเป็นระยะเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2551 โดยใคร่ขอความร่วมมือสถานบริการ ต่างๆ งด หรือ ลดการแสดงเพื่อความบันเทิง และสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ ลดธง ครึ่งเสา

ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ต้องขอแสดงความยินดีกับ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ได้รับสนองพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย หลังจากท่านอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ได้ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีการจัดรายการ “ชิมไปบ่นไป” ส่งผลให้ความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สิ้นสุดลง รวมถึงรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย ซึ่งการโหวตของ สส. ทั้งจากพรรคพลังประชาชน และ พรรคร่วมรัฐบาล ต่างก็โหวตเทคะแนนให้กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยคะแนนเสียงสูงถึง 298 เสียง ชนะคู่แข่ง อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปอย่างลอยนวล ด้วยคะแนนเสียงเพียง 163 เสียง

ภาพพจน์คนวงการบันเทิง

24

อีกหนึ่งข่าวที่ร้อนพอๆ กับข่าวการเมือง และดูเหมือนว่าคนมีชื่อเสียง โดยเฉพาะดาราจะต้องมีอันมาเสียชื่อ เสียง หรือถูกทำลายภาพพจน์ด้วยเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้น และเทคโนโลยีที่พยายามสรรค์สร้างให้มีความก้าวหน้า ยิ่ง ให้ทันกับความเป็นโลกาภิวัฒน์ หนึ่งในดาราผู้เคราะห์ร้ายคนล่าสุดคือ หนุ่ม “อ้น สราวุฒิ มาตรทอง” พระเอก ดังช่อง 3 ซึ่งภาพพจน์ภายนอกของหนุ่มอ้นนั้น สาวๆ โดยเฉพาะแฟนคลับ และบุคคลภายนอกเห็นแล้ว ถือว่าเป็น หนุ่มคนหนึ่งที่มีความอบอุ่น พูดจาไพเราะ และให้เกียรติผู้อื่นเสมอ แต่แล้วก็ไม่พ้นต้องมาเสียที เมื่อมีคลิปสุดสยิว ที่ กำลังจี๋จ๋ากับสาวนิรนามอย่างถึงพริกถึงขิงหลุดร่อนทั่วโลกของอินเทอร์เน็ต จนเป็นที่โจษขานกันหนาหู และในที่สุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่อาคารมาลีนนท์ พระเอกหนุ่ม “อ้น สราวุฒิ” ได้เปิดแถลงข่าวยอมรับว่าภาพทั้งหมด เป็นตนเองจริง ซึ่งทำไปเพราะความสนุกคึกคะนองชั่ววูบ โดยเหตุที่เรื่องฉาวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากทำโทรศัพท์มือ ถือหล่นหายระหว่างเดินทาง ผู้หญิงคือความนึกสนุกในอดีต ซึ่งภาพคลิปดังกล่าวส่งผลกระทบกับปัจจุบันของเขา ด้วย ปัจจุบัน “อ้น” ได้มีแฟนใหม่แล้ว ซึ่งเป็นถึงลูกสาวอดีตท่านทูตอิตาลี แต่ก็ต้องยกย่องในความกล้าหาญของ “อ้น” ที่ออกมายอมรับ และขอโทษต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป พร้อมก้มลงกราบสื่อมวลชนเพื่อขออภัย



iเรืINSIDE OUT ่อง :: บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์* boonchar@mof.go.th ภาพ :: www.sxu.hc

การคุ้มครองเงินฝาก ของประเทศไทย มีผู้อ่านบางท่านขอให้ผมช่วยเขียนเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากของ ประเทศไทยหลังจากที่ “พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551” เพิ่งมีผลใช้บังคับไปเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา จริงๆ แล้วทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนทราบถึงระบบการคุ้มครองเงินฝากภายใต้กฎหมายดังกล่าวมาเป็น ระยะๆ ตั้งแต่ก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะออกมาบังคับใช้ ทำให้ประชาชน โดยทั่วไปได้รับทราบไปบ้างแล้ว กระนั้นก็ดีเข้าใจว่าชาวไทยที่อาศัยอยู่ใน ต่างประเทศบางส่วนอาจจะยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับผลของกฎหมายดังกล่าว จึงน่าจะนำเรื่องดังกล่าวมาเสนอในที่นี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชาวไทยที่อาศัย อยู่ในสหราชอาณาจักรในการพิจารณาดำเนินการกับเงินฝากที่ฝากไว้ใน ประเทศไทย

เหตุผลของการออก พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียนโดยไม่จำเป็นต้องสะท้อนความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด แต่อย่างใด * อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน

26

ท่านผู้อ่านหลายท่านคงยังพอจดจำถึงเหตุการณ์วิกฤติการเงินที่เกิด ในประเทศไทย หรือที่ฝรั่งรู้จักกันในนาม “วิกฤติต้มยำกุ้ง” เมื่อรัฐบาล ประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ในครั้งนั้นนอกจาก ประกาศลอยตัวค่าเงินบาทแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลประกาศคือการประกัน เงินฝากของประชาชนในสถาบันการเงินต่างๆ แบบเต็มจำนวน (blanket guarantee) ในวันที่ 5 สิงหาคม 2540 เหตุผลของการประกาศประกันเงิน ฝากเต็มจำนวนก็เพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชนจะได้ไม่แห่กันไป ถอนเงินจากธนาคาร (เช่นที่เกิดขึ้นกับธนาคาร Northern Rock ของ อังกฤษเมื่อปีที่แล้ว) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการได้สั่งปิดบริษัทเงินทุนและ ธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่มีฐานะอ่อนแอไปแล้ว และมีแนวโน้มว่าผลของ วิกฤติเศรษฐกิจกำลังจะขยายวงไปยังธนาคารแห่งอื่นๆ อีก การประกาศ ประกันเงินฝากแบบเต็มวงเงินจึงเป็นมาตรการในการช่วยรักษาเสถียรภาพ ของระบบการเงิ น ไว้ ใ นสภาวะวิ ก ฤติ เ นื่ อ งจากหากขาดความเชื่ อ ถื อ จาก ประชาชนเสียแล้วระบบธนาคารก็ไม่สามารถอยู่ได้


อย่างไรก็ดี การประกาศประกันเงินฝากเต็มจำนวนในครั้งนั้นได้ส่ง ผลให้ภาครัฐมีภาระต้องเข้าไปแทรกแซงธนาคารสัญชาติไทยเกือบทุกแห่งที่ มีอยู่ในขณะนั้นเพราะต่างก็มีฐานะไม่สู้ดีนักเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา หลั ง ประเทศไทยต้ อ งไปขอกู้ ยื ม เงิ น จากกองทุ น การเงิ น ระหว่ า งประเทศ (IMF) เนื่องจากเงินตราต่างประเทศที่เป็นทุนสำรองของประเทศไทยเหลือ น้อยมากหลังประเทศไทยขาดทุนจากการรักษาค่าเงินบาทไว้ในช่วงก่อนหน้า นั้น เงื่อนไขเงินกู้ดังกล่าวทำให้การดำเนินนโยบายการเงินการคลังมีความ เข้มงวดมากกว่าปกติเพื่อเยียวยาปัญหาเชิงโครงสร้างที่เรื้อรังจนนำมาซึ่ง วิกฤติค่าเงินและวิกฤติสถาบันการเงิน ความเข้มงวดดังกล่าวแม้จะเป็นสิ่ง จำเป็นในแง่ภาพรวมของประเทศแต่ก็ส่งผลให้บรรดาธุรกิจต่างๆ ประสบ ปัญหาไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ได้เช่นยามปกติ ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง รวมถึงการขาดแหล่งเงินกู้ทำให้ธุรกิจหลายๆ แห่งไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต้อง ทยอยปิดตัวเองลง สภาวะดังกล่าวก็ส่งผลต่อธนาคารพาณิชย์ดัวยเมื่อผู้กู้ไม่ สามารถผ่อนชำระเงินกู้ได้ก็กลายเป็นหนี้เสียค้างอยู่ในธนาคารวนเป็นงูกิน หาง การทำหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพให้กับระบบการเงินในครั้งนั้น ทำให้รัฐบาลไทยต้องแบกรับภาระหนี้สูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท จึงทำให้ รั ฐ บาลมี ข้ อ จำกั ด ในเรื่ อ งการใช้ ง บประมาณที่ จ ะนำไปกระตุ้ น และฟื้ น ฟู เศรษฐกิจอยู่หลายปีทีเดียวและจนถึงปัจจุบันภาระหนี้ที่เกิดจากการฟื้นฟู ภาคการเงินในครั้งนั้นก็ยังมีอยู่ บทเรียนดังกล่าวทำให้รัฐบาลพยายามผ่องถ่ายความรับผิดชอบใน การแก้ปัญหาสถาบันการเงินล้มละลายไปให้กับภาคการเงินด้วยกันเองดูแล รั บ ผิ ด ชอบให้ ม ากที่ สุ ด โดยรั ฐ บาลจะเข้ า มาช่ ว ยเหลื อ ก็ เ พี ย งเพื่ อ รั ก ษา เสถียรภาพของระบบไว้เท่านั้น แนวคิดในการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เพื่อมาทำหน้าที่แทนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจึง เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายประเทศดำเนินการไปแล้ว เหตุผลหลักๆ ของการ ปรับปรุงระบบค้ำประกันเงินฝากในครั้งนี้นอกจากเพื่อเป็นการลดภาระงบ ประมาณภาครัฐแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่า จะเป็นสถาบันการเงินและผู้ฝากเงินมีวินัยมากขึ้น กล่าวคือ ผู้ประกอบการ จะต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบไม่เฉพาะต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้นแต่ต้องรับผิดชอบต่อเงินฝากของ ประชาชนด้วย และแม้ว่าธนาคารเหล่านี้จะมีธนาคารแห่งประเทศไทยดูแล และตรวจสอบอยู่ก็ตาม แต่ผู้ฝากเงินก็มีความรับผิดชอบต่อเงินฝากของตัว เองด้วยการติดตามดูฐานะและการดำเนินธุรกิจของธนาคารที่ต้วเองนำเงิน ไปฝากไว้เป็นระยะๆ ซึ่งจะทำให้มีความระมัดระวังในการฝากเงินมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่ดูว่าธนาคารใดให้อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก็ฝากธนาคารนั้นแล้ว ไม่สนใจติดตามการดำเนินงานของธนาคารโดยผลักให้เป็นภาระของภาครัฐ เช่นในอดีตไม่ได้อีกต่อไป

เหตุผลหนึ่งคือเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินและผู้ฝากเงิน มีวินัยมากขึ้น กล่าวคือ ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินธุรกิจด้วยความ ระมัดระวัง มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบไม่เฉพาะต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ต้องรับผิดชอบต่อเงินฝากของประชาชนด้วย และแม้ว่าธนาคารเหล่านี้จะมีธนาคาร แห่งประเทศไทยดูแลและตรวจสอบอยู่ก็ตาม แต่ผู้ฝากเงินก็มีความรับผิดชอบต่อเงินฝากของ ตัวเองด้วยการติดตามดูฐานะและการดำเนินธุรกิจ ของธนาคารที่ตัวเอง นำเงินไปฝากไว้ เป็นระยะๆ สาระสำคัญของ พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

พระราชบั ญ ญั ติ ส ถาบั น คุ้ ม ครองเงิ น ฝาก พ.ศ. 2551 ผ่ า นการ พิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2550 และลง ประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษาเมื่ อ วั น ที่ 13 กุ ม ภาพั น ธ์ 2551 ดั ง นั้ น กฎหมายดังกล่าวจึงเริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยสาระ สำคัญของกฎหมายอาจแบ่งออกได้เป็น 2 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ 1) หมวดที่ว่าด้วยการจัดตั้ง “สถาบันคุ้มครองเงินฝาก” เพื่อเป็น องค์ ก รหลั ก ในกระบวนการคุ้ ม ครองเงิ น ฝาก รวมถึ ง การดำเนิ น การกั บ สถาบันการเงินที่มีปัญหาจนถูกทางการควบคุมกิจการ รวมตลอดไปจนถึง การชำระบัญชีสถาบันการเงินดังกล่าว และ 2) หมวดที่ว่าด้วยการคุ้มครองเงินฝาก โดยกฎหมายกำหนดให้ สถาบันการเงินต้องส่งเงินสมทบ (premium) เข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก เพื่อเป็นเงินสำหรับใช้ชดเชยเงินฝากคืนให้กับประชาชนในอนาคตหากมี สถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่งล้มลง

27


• ในการคุ้มครองเงินฝากจะคุ้มครองต่อรายผู้ฝากต่อสถาบัน

• เงินฝากที่จะได้รับการคุ้มครองหมายถึงเงินฝากพร้อมดอกเบี้ย

โดยประเภทของเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองประกอบด้วยเงิน ฝากกระแสรายวัน (บัญชีเช็ค) เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝาก ประจำ บัตรเงินฝาก และใบรับฝากเงิน ทั้งนี้ต้องเป็นเงินฝาก สกุลเงินบาทเท่านั้นและต้องเป็นเงินฝากในประเทศไทย (ชาว ต่างชาติที่มีเงินฝากในประเทศไทยก็ได้รับการคุ้มครองด้วย) แต่ ไ ม่ ร วมถึ ง เงิ น ฝากในบั ญ ชี เ งิ น บาทของผู้ มี ถิ่ น ที่ อ ยู่ น อก ประเทศ (non-resident baht account) ตามกฎหมายว่า ด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (เนื่องจากเป็นเงินฝาก เพื่อวัตถุประสงค์เชิงธุรกิจเฉพาะ)

• สถาบันการเงินที่อยู่ในข่ายได้รับการคุ้มครองเงินฝากตาม

กฎหมายนี้ ป ระกอบด้ ว ยธนาคารพาณิ ช ย์ แ ละสาขาของ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์

• วงเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายนี้จะแยกออก

เป็นช่วงๆ เพื่อให้เวลากับประชาชนในการปรับตัวกับระบบ ใหม่ ดังนี้ ปีที่ 1 (11 ส.ค. 51 - 10 ส.ค. 52) จะคุ้มครองเงินฝาก ทั้งจำนวน ปีที่ 2 (11 ส.ค. 52 - 10 ส.ค. 53) จะคุ้มครองเงินฝาก สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท ปีที่ 3 (11 ส.ค. 53 - 10 ส.ค. 54) จะคุ้มครองเงินฝาก สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท ปีที่ 4 (11 ส.ค. 54 – 10 ส.ค. 55) จะคุ้มครองเงิน ฝากสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท และ ปีที่ 5 (ตั้งแต่ 11 ส.ค. 55 เป็นต้นไป) จะคุ้มครองเงิน ฝากสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

28

การเงิน หมายความว่า หากนาย ก มีเงินฝากในธนาคาร A รวม 3 บัญชีเป็นจำนวน 1,500,000 บาท ถ้าเงินฝากดังกล่าว อยู่ในปีที่ 4 ก็ได้รับคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าอยู่ในปีที่ 5 เป็นต้น ไป ก็จะได้รับงินคืน (รวมทุกบัญชี) ไม่เกิน 1 ล้านบาท เท่ า นั้ น ส่ ว นที่ เ หลื อ ต้ อ งรอเฉลี่ ย คื น จากการชำระบั ญ ชี ธนาคาร A ต่อไป แต่ถ้านาย ก มีเงินฝากในธนาคาร A รวม 3 บัญชีเป็นจำนวน 1,000,000 บาท และมีเงินฝากใน ธนาคาร B อีก 2 บัญชีรวม 500,000 บาท ถ้าเงินฝากดัง กล่าวอยู่ในปีที่ 5 ก็จะได้รับเงินฝากคืนรวม 1,500,000 บาท (ได้รับคืนจากธนาคาร A จำนวน 1,000,000 บาท และจาก ธนาคาร B จำนวน 500,000 บาท)

• การจ่ายเงินแก่ผู้ฝากเงินจะเกิดขึ้นเมื่อสถาบันการเงินที่อยู่ ภายใต้กฎหมายนี้ประสบปัญหาจนถูกทางการสั่งเพิกถอนใบ อนุญาต โดยผู้ฝากเงินมีหน้าที่ต้องยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน ภายใน 90 วันนับแต่วันที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากประกาศให้ ผู้ฝากเงินมายื่นคำขอรับเงิน และเมื่อยื่นคำขอรับเงินไปแล้ว สถาบันคุ้มครองเงินฝากจะต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้ฝากเงินภายใน ไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้ หากผู้ฝากเงินรายใดมีหนี้สินอยู่กับ สถาบันการเงินนั้นๆ ก็จะต้องมีการหักหนี้ที่ค้างชำระอยู่ออก ก่อน

- เหตุผลของการกำหนดเพดานคุ้มครองเงินฝากสูงสุดไว้ไม่เกิน 1 ล้านบาทในปีสุดท้ายก็เนื่องจากเป็นวงเงินที่ครอบคลุมผู้ ฝากเงิ น รายย่ อ ยที่ เ ป็ น ผู้ ฝ ากเงิ น ส่ ว นใหญ่ ข องประเทศโดย ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่าผู้ฝากเงินรายย่อยที่ มีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาทมีจำนวนถึงร้อยละ 98.5 ของ จำนวนผู้ฝากทั้งสิ้น จึงมีความสมเหตุสมผลในการให้ความ คุ้ ม ครองผู้ ฝ ากเงิ น รายย่ อ ยที่ เ ป็ น คนส่ ว นใหญ่ ข องประเทศ ขณะที่ ผู้ ฝ ากรายใหญ่ ย่ อ มมี ค วามสามารถในการบริ ห าร จัดการดูแลเงินฝากของตนได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว


ทางเลือกของประชาชนในการออมเงิน รายชื่อสถาบันการเงิน ที่อยู่ในข่ายได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายนี้

ปัจจุบันมีสถาบันการเงินรวมทั้งสิ้น 42 แห่งที่อยู่ในข่ายได้รับการ คุ้มครองตามกฎหมายนี้ แยกประเภทของสถาบันการเงินได้เป็น 3 ประเภท คือ ธนาคารพาณิชย์และสาขาของธนาคารต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจใน ประเทศไทย 34 แห่ง บริษัทเงินทุน 5 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง ดังนี้ ธนาคารพาณิชย์ (รวมสาขาธนาคารต่างประเทศ) ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กสิกรไทย ธ.ทหารไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.นครหลวงไทย ธ.ไทยธนาคาร ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ธ.ยูโอบี ธ.ธนชาติ ธ.สินเอเซีย ธ.เกียรตินาคิน ธ.ทิสโก้ ธ.ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ธ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย ธ.เอไอจีเพื่อรายย่อย ธ.เมกะ สากลพาณิชย์ ธ.ซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. ธ.คาลิยง ธ.ดอยซ์แบงก์ ธ.ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ ธ.แห่งอเมริกาฯ ธ.บีเอ็นพี พารีบาส์ ธ.เอบีเอ็น แอมโร เอ็น.วี. ธ.โซซิเยเต้ เจเนราล ธ.เจพีมอร์แกน เชส ธ.อาร์ เอช บี ธ.แห่งโตเกียว-มิตซูบิชิฯ ธ.มิซูโฮ คอร์ปอเรต ธ.ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้งฯ ธ.โอเวอร์ซี-ไชนีสแบงกิ้งฯ ธ.แห่ประเทศจีน ธ.อินเดียนโอเวอร์ซีส์ บริษัทเงินทุน บง.กรุงเทพธนาทร บง.ฟินันซ่า บง.อเมริกัน เอ็กซืเพรส บง.สินอุตสาหกรรม บง.แอ็ดวานซ์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บค.ลินน์ ฟิลลิปส์ มอร์ทเก็จ บค.เอเซีย บค.สหวิริยา ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

ภายใต้ระบบค้ำประกันเงินฝากแบบคุ้มครองต่อรายผู้ฝากต่อสถาบัน การเงิน ทางเลือกของผู้ที่มีเงินฝากจำนวนมากก็คงหนีไม่พ้นการกระจายเงิน ฝากไปยังสถาบันการเงินแต่ละแห่งแห่งละไม่เกิน 1 ล้านบาทนับจากวันที่ 11 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป นอกจากนี้ การฝากเงินกับสถาบันการเงิน เฉพาะกิจไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร และธนาคารอาคารสงเคราะห์ แม้ปัจจุบันจะยังไม่ได้อยู่ภายใต้ กฎหมายนี้แต่เนื่องจากเป็นสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งและ กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออมเพื่อความ ปลอดภัย การซื้อพันธบัตรรัฐบาลก็นับว่าเป็นแนวทางในการออมระยะยาวที่ น่าสนใจแม้ว่าอาจจะไม่คล่องตัวเหมือนการฝากเงินไว้กับธนาคารก็ตามแต่ก็ ถือว่ามีความปลอดภัยสูงสุด สำหรับการลงทุนซื้อหน่วยลงทุน (unit trust) ของกองทุนประเภทต่างๆ ไม่อยู่ในความคุ้มครองของกฎหมายนี้ ผู้ซื้อหน่วย ลงทุนต้องรับความเสี่ยงจากการที่จะไม่ได้รับเงินคืนเอง (default risk) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่กำลังเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในในขณะนี้คือการ ลงทุนในหน่วยลงทุนที่เรียกว่า Money Market Funds ที่ในอดีตนักลงทุน เชื่อว่าแทบไม่มีความเสี่ยงเลยเพราะลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นจน ถือว่าแทบจะคล่องตัวเช่นเดียวกับการถือเงินสดแต่ได้ผลตอบแทน แต่จาก “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” ขณะนี้ทำท่าว่ากองทุนประเภทนี้กำลังประสบปัญหา เนื่องจากตราสารที่กองทุนเหล่านี้ไปซื้อไว้กำลังมีปัญหาเพราะสถาบันการเงิน ผู้ออกตราสารกำลังประสบปัญหาทางการเงินเลยพลอยทำให้ตัวกองทุนมี ปัญหาไปด้วย ประชาชนที่เคยแห่ไปลงทุนซื้อหน่วยลงทุนกำลังขายหน่วย ลงทุนคืนเพื่อกลับมาถือเงินสดเพื่อความปลอดภัย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้ประชาชนได้ติดตามสอดส่องดูแล ฐานะของสถาบันการเงินที่นำเงินไปฝากไว้ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง คงจะต้องเร่งให้ความรู้ขั้นพื้นฐานกับประชาชนเพื่อใช้ในการติดตามดูแล ฐานะของธนาคาร และที่สำคัญคือการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับฐานะความ มั่นคงของสถาบันการเงินแต่ละแห่งให้แก่สาธารณะชนได้รับทราบจะต้องเป็น ข้อมูลที่มีความเป็นปัจจุบันและมีสาระสำคัญที่มากเพียงพอที่ประชาชนจะนำ ไปพิจารณาได้เอง ฉบับหน้าจะเขียนถึงระบบค้ำประกันเงิน ฝากของอังกฤษบ้างว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไรหลัง เกิดกรณีการล้มละลายของธนาคาร Northern Rock

บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์

29


iเรืSPORT ่อง :: ชัชชัย เคารพรัตน์

ภาพ :: www.mcfc.co.uk

Manchester City Abu Dhabi United แมนเชสเตอร์ (ซิตี้) อาบูดาบี ยูไนเต็ด

ยังคงเป็นที่ฮือฮากันหนาหูสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เมื่อเร็วๆ นี้ หลังการตกลงซื้อขาย ของสโมสรจากเจ้าของเดิม อดีตท่านนายก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร การเข้ามาเทคโอเวอร์ของ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (Abu Dhabi United Group) ภายใต้แกนนำ ของ ดร. ซุไลมาน อัล-ฟาห์อิม (Dr. Sulaiman AIFahim) ทำให้แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ ติดอันดับร่ำรวยที่สุดบนพื้นพิภพไปในชั่วเวลาเพียงข้าม คื น แมนฯ ซิ ตี้ กลายเป็ น ที ม ที่ ก้ า วขึ้ น มามี สิ ท ธิ์ ลุ้ น แชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขันอย่างเต็มตัว หลังจาก

30

ได้การสนับสนุนด้านการเงินชนิดไม่มีอั้น และกลุ่มบริษัทเงินลงทุนจากสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ ได้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานอันไร้ขีดจำกัด โดย การทุ่มเงินจำนวน 32 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2 พันล้านบาท) เพียงเพื่อดึง โรบินโญ่ สตาร์บราซิล (Robinho, Brazil) มาร่วมทัพ ตัด หน้ า เสี่ ย หมี อาคาเดี ย วิ ช อั บ ราโมวิ ช (Arkadievich Abramovich) เศรษฐีเก่าไปอย่างหน้าตาเฉย เรียกได้ว่า เป็นการเสียหน้าอย่างแรง และเกือบจะบาดหน้าแมนเชสเต อร์ ยู ไ นเต็ ด โดยการคว้ า ตั ว ดิ มิ ท าร์ เบอร์ บ าตอฟ (Dimitar Berbatov) ดาวยิงของบัลแกเรีย มาครองได้ คาดว่าเศรษฐีจากตะวันออกกลางจะไม่หยุดเสริม ทัพแมนฯ ซิตี้ อยู่แค่นี้ เพราะมีข่าวออกมาว่าทางสโมสรยัง อยากได้ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน (Gianluigi Buffon) นายด่าน ยูเวนตุส (Juventus), คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ปีกแมนฯ ยูไนเต็ด, เชส ฟาเบรกาส (Cese Fabregas) กอง กลางอาร์เซนอล, กาก้า (Kaka) แนวรุก เอซี มิลาน, ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) แนวรุกบาร์เซโลนา, เฟร็นันโด ตอร์เรส (Fernando Torres) กองหน้าลิเวอร์พูล มาเสริมทัพอีกในช่วงปีใหม่นี้ ด้วยอำนาจการเงินที่มีมากมายมหาศาล ทำให้มาร์ก ฮิวจ์ส (Mark Hughes) กลายเป็นคนที่กุนซือหลายทีมต้องอิจฉา สร้างแต่ผลงานในสนาม โดยไม่ต้องห่วงสถานะทางการเงินของสโมสร โดย ดร. ซุไลมาน อัลฟาห์อิม (Dr. Sulaiman AI-Fahim) ได้กล่าวว่าจะไม่ก้าวก่ายการทำงานของ ฮิวจ์ส และจะคอยสนับสนุนด้านการเงินเพียงอย่างเดียว ทางด้านฮิวจ์สเองก็ หวังอย่างนั้น เพราะว่าตอนนี้ เรือใบสีฟ้าลำนี้ใหญ่เกินไปสำหรับฮิวจ์สแล้ว แมนเชสเตอร์ (ซิตี้) อาบูดาบี ยูไนเต็ด (Manchester City Abu Dhabi United) จะสร้างความฮือฮาอะไรอีก... มาร์ก ฮิวจ์ส จะดำรง ตำแหน่งกุนซือต่อไปอีกหรือเปล่า... เรือใบสีฟ้าที่บรรทุกเงินมหาศาลจะไปได้ อีกไกลแค่ไหน... คงต้องตั้งหน้าตั้งตารอดูปีใหม่นี้ ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้ง ใหญ่จะเป็นอย่างไร


iเรืBEAUTY ่อง :: ดวงรัตน์ สุระกูล ภาพ :: www.sxu.hc

การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหาร น้อย ทำให้ระบบขับถ่ายต้องทำงานหนัก กรดใน กระเพาะอาหารรับไม่ไหว เมื่อระบบย่อยอาหาร ต้องทำงานหนักกว่าปรกติ จึงทำให้เกิดอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้องได้ในบางครั้ง ชี วิ ต ที่ เ ร่ ง รี บ ในปั จ จุ บั น ทำให้ ห ลายๆ ท่ า นละเลยความสำคั ญ ของการบริ โ ภคเส้ น ใย อาหาร iBeauty ฉบับนี้ขอแนะนำเมนูเครื่องดื่ม เพื่ อ สุ ข ภาพ ช่ ว ยให้ คุ ณ ย่ อ ยง่ า ย และขั บ ถ่ า ย คล่อง โดยการนำผลไม้ 2 ชนิด มะละกอ และ สับปะรด ที่มีคุณสมบัติในการย่อยอาหารมาฝาก กัน แต่ก่อนจะเริ่มลงมือ มาดูคุณสมบัติของผลไม้ ทั้งสองชนิดกันก่อนดีกว่าค่ะ

สับปะรด

คุณสัมบัติ : มีเอ็นไซม์ ช่วยย่อยอาหาร จากธรรมชาติ นอกจากจะช่วยจะช่วยย่อยแล้วยัง มีแนวโน้มในการบรรเทาโรคร้าย อาทิเช่น ช่วยให้ แผลผ่าตัดทุเลาเร็วขึ้น ลดอาการอักเสบ บวม แผล หรืออาการเจ็บจากการเล่นกีฬา ริดสีดวง ทวาร อาการเกี่ยวกับเส้นเลือดดำ โรกกระดูก และข้ออักเสบ รูมาตอยด์ เก๊าท์ และอาการปวด ประจำเดือน ข้ อ ควรระวั ง : ไม่ ค วรรั บ ประทาน สับปะรดที่อ่อนจนเกินไป เพราะมียาง เป็นพิษ สามารถกัด และระคายเคืองต่อคอหอย หากรับ ประทานเข้าไป จะทำให้มีอาการท้องเสียอย่าง รุ น แรง การรั บ ประทานสั บ ปะรดมากๆ และ ติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุให้เกิดก้อนนิ่ว ในทางเดินอาหารได้

ชอบทาน...แต่กลัวย่อยยาก มีวิธีแก้ค่ะ

มะละกอ

คุณสมบัติ : ในเนื้อมะละกอมีสารเอ็นไซม์ ในการช่วยย่อยโปรตีนที่ชื่อว่า “ปาเปอีน” ไม่เพียง เท่านี้ น้ำมะละกอยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารเป็นอย่างดี ช่วยให้การทำงานของลำไส้ ทำความ สะอาดไต ช่วยให้เลือดแข็งตัวเร็ว และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ อย่างดีด้วย ข้อสังเกต : การเลือกซื้อมะละกอเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ควรเลือกมะละกอที่สุกกำลังดี เนื้อไม่แข็ง หรือเละจนเกินไป มีเนื้อสีแดง และเนียน รสหวาน ถ้าเป็นพันธุ์แขกดำได้ยิ่งดี เพราะเครื่อง ดื่มที่ได้จะออกมามีสีแดงสวย ก่อนทำน้ำมะละกอ ต้องล้างผิวให้สะอาด ผ่าครึ่ง ใช้ช้อนตักเมล็ดออก จากนั้นฝานเอาเปลือกออก หั่นเป็นชิ้น จึงนำไปปั่นทำเป็นน้ำมะละกอสด

น้ำมะละกอ ผสมน้ำสับปะรด

ส่วนผสม 1. น้ำมะละกอ 1/2 ถ้วย 2. น้ำสับปะรด 1/2 ถ้วย 3. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา 4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา วิธีทำ ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน รินใส่แก้ว แช่จนเย็นจัด แต่งด้วยสับปะรด หั่นเป็นชิ้น มะนาว หั่นแว่น และยอดสะระแหน่ เพียงเท่านี้ก็พร้อมดื่มได้แล้วค่ะ คราวนี้คงไม่ต้องกลัว เรื่องย่อยยากแล้วนะคะ

31


iTECH

เรื่อง :: โต๊ะคอม ภาพ :: www.sxc.hu, www.apple.com

IT I Touch.

“เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้คุ้มค่า” การเลือกชื้อคอมพิวเตอร์ ก่อนอื่นต้องคำนึงวัตถุประสงค์การใช้งาน เป็นหลัก เนื่องจากลักษณะงานต่างๆ จะมีส่วนสำคัญในการพิจารณาเลือก ชื้ออุปการณ์ให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการควบคุมงบ ประมาณในการซื้ อ ได้ อี ก ทางหนึ่ ง ด้ ว ย หากการใช้ ง านต้ อ งพกพาเครื่ อ ง คอมพิวเตอร์ไปในที่ต่างๆ ก็ควรเลือกซื้อแบบ Laptop แต่หากลักษณะการ ใช้งานไม่ต้องเคลื่อนย้าย ก็ควรซื้อแบบตั้งโต๊ะ ซึ่งจะได้ประสิทธิภาพสูงกว่า หลักการพิจารณาเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประกอบหรือ เครื่องมี Brand ให้พิจารณาองค์ประกอบต่างๆของเครื่อง เพื่อให้ตรงกับ การใช้งานของเรามากที่สุด ดังต่อไปนี้ • CPU : เป็ น สมองของคอมพิ ว เตอร์ ขุ ม พลั ง หลั ก บ่ ง บอกถึ ง สมรรถนะและความเร็วในการใช้งาน มีให้เลือก 2 ค่ายคือ Intel และ AMD ให้เลือกระดับความเร็วของซีพียูสูง ยิ่งสูงยิ่งทำงานได้ เร็ว

32

• RAM : หน่วยความจำ ยิ่งมีความจุมากยิ่งดีช่วย ให้เครื่องทำงาน ได้รวดเร็วขึ้น ปัจจุบันควรเริ่มต้นที่ 512MB ซึ่งสามารถอัพเกรด ได้ภายหลังถึง 2GB (2048MB) Ram ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งสามารถ

ที่จะนำงานขนาดใหญ่ขึ้นมาประมวลผลได้พร้อมๆ กันหลายงาน ไม่ต้องเสียเวลาคอยสลับงานไปมา ทำงานที่เครื่องกำลังประมวล ผลเสร็จเร็วขึ้น • Monitor : จอภาพ ปัจจุบันมีสองแบบให้เลือก จอที่มีลักษณะมัน เงา จะช่วยให้ภาพที่ได้มีสีสดใสชัดเจนสวยงาม จอที่มีลักษณะ

ผิ ว ด้ า นด้ า นจะช่ ว ยถนอมสายตาหากใช้ ง านต่ อ เนื่ อ งเป็ น ระยะ

เวลานาน • Graphic Card : การ์ดแสดงผลด้านกราฟฟิคเป็นหลัก สำหรับ งานที่ต้องเน้นภาพ Graphic มากๆ เช่น Graphic Design หรือ เน้นเล่น Game ที่มีภาพสวยๆ ควรเลือกการ์ดแยกต่างหาก เลือกที่มีประสิทธิภาพสูงและมี Ram เป็นของตนเอง ไม่ใช้ Ram แบบ Share memory จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วใน การทำงานดีขึ้น แต่หากใช้งานทั่วไปก็ใช้ ใช้การ์ดที่ติดมากับ main board ก็ได้ • Hard disk : อุปกรณ์เก็บข้อมูล ปัจจุบันสามารถเลือกความจุได้ หลายขนาดตามความต้องการใช้งาน ยิ่งความจุมากจะสามารถ เก็บข้อมูลได้มาก ปัจจุบันขั้นต่ำควรเลือกความจุ ขนาด 100 Giga byte ขึ้นไป • อุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ : เช่น กล้อง, DVDRom, IR, IEEE1394, Wireless, Bluetooth ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละบุคคล หากต้องการเชื่อมต่อ Internet ผ่านเครือข่ายมือถือ ควรเลือกซื้อ เครื่องมี่มีอุปกรณ์ Bluetooth หรือต้องการเชื่อมต่อ Network โดยไม่ ต้ อ งเดิ น สายให้ ยุ่ ง ยากทำได้ โ ดยการเลื อ กซื้ อ เครื่ อ งที่ มี อุปกรณ์ Wireless • Operating System : มีให้เลือกหลากหลายตามความถนัด หลัก มี 2 กลุ่ ม คื อ Windows และ Linux แต่ ปั จ จุ บั น นิ ย มใช้ Windows มากกว่า เนื่องจากใช้ง่ายกว่า Linux แต่สำหรับผู้ที่ ต้องการใช้ Windows Vista ควรเลือก Ram อย่างน้อย 1 Giga byte ขึ้นไป เนื่องจากค่อนข้างใช้ทรัพยากรมากกว่า Windows XP

โต๊ะคอม thocom.hi5.com thocom-peo.blogspot.com


iHOROSCOPE

ดวงชะตาระหว่างวันที่ ๑ - ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๑ ราศีเมษ (๑๓ เมษายน – ๑๔ พฤษภาคม)

การงานเริ่มพุ่งเข้าสู่จุดเด่น การเงินก็จะกลับฟื้นตัวสะดวกราบรื่นดีขึ้นอย่าง รวดเร็วแม้จะมีผู้คิดร้ายต่อท่านอยู่บ้าง แต่เมื่อท่านดวงดีขึ้นจะทำอะไรท่าน ไม่ได้ ถ้าใครให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นมักถึงตัว ธุรกิจการค้าเฉพาะตัวเองจะดี ขึ้น เรื่องการทำงานก็จะได้ฟลุกๆ เข้ามามาก บางทีงานก็เข้ามาเองอย่างตั้ง ตัวไม่ทันการเจรจาธุรกิจระยะนี้คล่องตัว การเจรจาในเรื่องยากๆ ก็จะตกลง กันง่ายขึ้น กับเพื่อนฝูงหรือญาติมิตรที่ประสบเคราะห์กรรมท่านก็จะเข้าช่วย เหลือได้ง่ายขึ้น ท่านที่พลาดหวังจากการเสี่ยงต่างๆ ที่ไปเกี่ยวกับการพนัน หุ้น หรือหวยจะสมหวังตามอัตภาพในไม่ช้า รวมถึงการสร้างงานใหม่ที่ไม่ ห่างไกลงานเก่ามากนัก ผู้ใหญ่ก็พึ่งพากันได้สำเร็จด้วยดี แม้มีคดีความจะ ราบรื่นและจะชนะได้ง่าย ได้เพชรทองหรือโชคดีจากความรัก หนุ่มสาวที่อยู่ ในความรักจะได้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ หรือถ้าแต่งงานจะมีผู้รับฉลองใหญ่ จะมี เสน่ห์ในการติดต่อกับคนทั่วไป

ซ้ำร้ายบางคนยังเป็นศัตรูกับท่านอย่างเปิดเผยอีกด้วย เงินทองกว่าจะผ่าน มื อ ต้ อ งใช้ เ วลานานมาก ความหวั ง ในเรื่ อ งโอกาสจะได้ เ ลื่ อ นยศ เลื่ อ น ตำแหน่งยังห่างไกลความจริง เว้นแต่ผู้ที่ดวงเดิมดาวพฤหัสเสียอยู่ก่อน อาจ ได้ตำแหน่งหรือได้ผลประโยชน์ อย่างพลิกความคาดหมายก็ได้ ท่ามกลางที่ พรรคพวกเพื่อนฝูงพากันประหลาดใจไปตามๆ กัน เรื่องสติปัญญาและการ ศึกษาไม่ค่อยแจ่มใส การค้นคว้าวิจัยอาจมีข้อผิดพลาดอย่างที่ท่านนึกไม่ถึง เรื่ อ งเสี่ ย งโชคพอมี โ อกาส ควรใช้ เ วลาใคร่ ค รวญปรึ ก ษาผู้ รู้ ห รื อ ผู้ มี ประสบการณ์ให้มากหน่อย ถึงอย่างไรญาติพี่น้องก็ยอมรับฟังทาน

ราศีกรกฎ (๑๖ กรกฎาคม – ๑๖ สิงหาคม)

การเงินดีขึ้นแต่ส่วนมากมักจะต้องเหนื่อยเสียก่อนที่จะได้ ท่านยังมีอิสระใน ความคิด แต่ควรระวังการถูกหลอกให้ซื้อของเทียมหรือของที่ไม่ได้มาตรฐาน ในราคาที่สูงพอสมควร สินค้าที่เกี่ยวกับเกษตรหรือทรัพย์ในเดินจะขายได้ ราคา ดวงชะตาที่ถูกกับดาวเสาร์ในดวงเดิมต่อไปนี้จะได้ซื้อของดีในราคาถูก ราศีพฤษภ (๑๕ พฤษภาคม – ๑๔ มิถุนายน) ท่านที่มีฐานะดีอาจมีผู้นำที่ดินของท่านเก็บไว้จะมีกำหรดีเอามาจำนองหรือ ขายฝาก ญาติพี่น้องมีความมั่นคงและมักจะรวมกลุ่มกันบ่อยขึ้นโดยมีท่าน เป็นช่วงเวลาที่ดวงชะตาจะตกต่ำลงไปกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะดวงชะตาที่พื้น เป็นตัวกลางสำคัญ การศึกษายังมีอุปสรรคไม่ค่อยได้เหมือนใจนัก หากมี ดวงเดิมถูกกับดาวพฤหัส อารมณ์ของท่านไม่แจ่มใสนัก ความสำเร็จต่างๆ การสอบไม่ว่าจะเป็นสอบในเรื่องอะไรท่านมักทำคะแนนไม่ค่อยดี คู่ครองจะ ไม่ราบรื่นเหมือนแต่ก่อน ท่านจะอ่อนเพลียง่าย ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจหรือผัด ให้ลาภ หรือมีโอกาสได้โชคลาภจากการเสี่ยง ท่านไม่ค่อยมีความสุขในที่อยู่ วันประกันพรุ่ง มักจะผิดนัดหรือทอดเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรให้เกิด อาศัย ระยะนี้ท่านจะเด่นในหมู่ญาติพี่น้อง งานมากและอาจได้รับมอบหมาย ประโยชน์ เว้นแต่ธุรกิจเท่านั้นที่ยังพอทำได้แต่ก็ไม่ถึงค่อยดีนัก การเงินเดือด งานเพิ่มขึ้น แต่ท่านก็ทำได้ด้วยความอดทน ท่านไม่ค่อยสุขุมเท่าไรนัก อาจ ร้อนอยู่บ้าง ในช่วงปลายเดือนระวังความขัดแย้งกับคู่ครองหุ้นส่วน หรือเพศ ผิดพลาดโดยไม่คาดคิดโดยเพื่อนฝูงเข้าใจท่านดี จะมีบ้างก็เฉพาะผู้ใหญ่ที่ ตรงข้ามที่มีความผูกพันต่อกันอย่างแนบแน่น ช่วงนี้ให้ระวังตัวให้ดีท่านจะมี ระยะนี้ไม่ค่อยเห็นท่านดีนัก โอกาสขัดแย้งกันง่าย เลือดลมไม่ค่อยดี ปลายเดือนเป็นช่วงที่ดวงตกรุนแรง ในเกือบทุกเรื่อง การเงินอาจมีเข้ามาบ้างและถ้าเป็นเงินที่ติดต่อกับชาวต่าง ชาติก็จะยิ่งมีโอกาสได้ยาก เรื่องรักจะแจ่มใสหลังจากวันที่ 17 ไปแล้ว ราศีสิงห์ (๑๗ สิงหาคม – ๑๖ กันยายน) โอกาสมีโชคจากการเสี่ยงยังพอมีอยู่ ในยามดวงตกแบบนี้เรื่องผลประโยชน์ ต่างๆ ก็ ไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนัก ดวงชะตาท่านเริ่มดีขึ้นในทุกด้าน เว้นแต่เรื่องการเสี่ยงโชคเท่านั้นที่ไม่ควร เสี่ยง เรื่องนี้รวมไปถึงการเล่นหุ้นเล่นหวยด้วย เหตุการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นจน เห็นได้ชัดในช่วงเดือนนี้ อุปสรรคต่างๆ บรรเทาเบาบางลง ท่านจะมีความ ราศีมิถุน (๑๕ มิถุนายน – ๑๕ กรกฎาคม) รู้สึกอบอุ่นใจในชีวิตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน มองเห็นอนาคตสดใสอยู่ข้างหน้า ซึ่งหมายความตามนั้นจริงๆ เพราะในไม่ช้าท่านจะได้ลาภที่ไม่เกี่ยวกับการ ในรอบเดือนนี้ ท่านจะกว้างขวางในวงสังคมมากขึ้น แม้ว่าการเงินไม่ค่อยดี เสี่ยงทั้งสิ้น ลาภนั้นเองอาจจะทำให้ท่านตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ถ้าไม่เอะอะไป นักก็ตาม จะมีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง โกรธและฉุนเฉียวง่ายกว่าที่เคย จะทำ ส่วนดวงชะตาที่ถูกกับดาวพฤหัส ท่านจะมีชื่อเสียงเด่นมาก สังคมยอมรับใน อะไรอย่างเร่งรีบและรักษาระเบียบวิธีอย่างเคร่งครัด ผู้ใหญ่ยังไม่ช่วยเหลือ ผลงานหรือตำแหน่งที่ท่านจะได้รับใหม่เพิ่มขึ้น ลาภเล็กจะนำลาภใหญ่มาให้

33


อย่าดูถูกโชคชะตาของท่านเองกับคนรักหรือคู่ครองอาจไม่เข้าใจกันชั่วคราว แต่ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างยังเชื่อในความคิด และความสามารถของท่าน อยู่ ได้สิ่งของแปลกประหลาดเข้าบ้านอาจจะเป็นศิลปะที่ประดิษฐ์ด้วยมือ หรือแม้แต่ของที่มีคุณค่าล้ำสมัย อาจได้สิ่งของเครื่องใช้ที่ท่านยังใช้ไม่เป็น และอยู่ในความก้าวหน้าทันสมัยมากๆ

ราศีพิจิก (๑๖ พฤศจิกายน – ๑๕ ธันวาคม)

เป็นช่วงเวลาที่งานก็ดี เงินก็ดี ท่านจะรู้สึกเบิกบานในหรือมีอาการเหมือนนก น้อยเหลิงลมไม่ยอมบินกลับรัง จิตใจกว้างขวางเป็นพิเศษ ท่านจะกล้าได้ กล้าเสีย อาจจะยอมให้สิ่งของที่ท่านเก็บไว้นานๆ แก่ผู้ที่ไม่ควรค่าแก่สิ่งของ นั้ น ท่ า นที่ ด วงเดิ ม ถู ก ชะตากั บ ดาวเสาร์ มี โ อกาสจะได้ เ ลื่ อ นชั้ น เลื่ อ น ตำแหน่ง จะได้ดีเพราะความมานะพยายามของตัวท่านเอง ผู้ใหญ่เห็นความ ราศีกันย์ (๑๗ กันยายน – ๑๖ ตุลาคม) น่ารักของท่านด้วย ยิ่งจะมีโอกาสได้ดิบได้ดีง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาว อังคารเจ้าเรือนราศีเกิดไปอยู่ในเรือนวินาศตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ท่านมัก เป็นช่วงเวลาที่เงินดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่พื้นดวงเดิมไม่ถูกกับดาว คิดผิดพลาดง่าย จะทำอะไรควรมีคู่คิดหรือที่ปรึกษา ความขยันหมั่นเพียร เสาร์มาก่อน ท่านจะมีโชคในเรื่องตำแหน่งหน้าที่อย่างไม่เคยคาดหมายมา อาจจะลดลงไปบ้าง ระวังเรื่องเลือดลมและการไม่กล้าไม่เด็ดขาดเอาไว้ด้วย ก่อน กลางเดือนไปแล้วเรื่องฐานะการเงินของท่านจะดีขึ้นอย่างมาก อย่างไร ดาวพุธเดินหน้าอยู่ในเรือนลาภะตลอดทั้งเดือน ธุรกิจติดต่อรวมทั้งการ ก็ตาม ดาวพุธเริ่มโคจรเดินหน้าอีกครั้งหนึ่ง มีโอกาสติดต่อธุรกิจการค้าได้ ประสานประโยชน์ของท่านจะทำได้ดีที่สุดในรอบปี จะมีรายได้เข้ามามากขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ควรปล่อยให้โอกาสดีๆ ผ่านไปเปล่าๆ การเร่งรัดจัดการในเรื่อง ซึ่งตรงกันข้ามกับความรัก คนรักจะสนใจท่านน้อยลง มีโอกาสจากกัน หรือ สำคัญๆ เสียในรยะนี้ หลังจากวันที่ 29 ไปแล้วการเงินจะดีขึ้นไปอีกระดับ ท่านกับคนรักมักจะไม่ค่อยได้พบกัน หนึ่ง อาจเรียกว่าธุรกิจเริ่มเห็นผลเป็นเงินเป็นทองขึ้นมา ในระหว่างนี้บุตร ธิดายังห่างเหินกันเหมือนเดิม แม้แต่จะอยู่ใกล้กันก็ไม่มีความสัมพันธ์กันดี นัก ท่านอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้ามีคู่รักแล้วท่านจะซื่อสัตย์ต่อความรักดี มาก ผู้ที่ไม่รักใครจะมีความหวังลึกๆ ในหัวใจ เรื่องสุขภาพท่านจะแข็งแรงดี ราศีธนู (๑๖ ธันวาคม – ๑๔ มกราคม) มาก เลือดลมดี แม้เจ็บป่วยไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนก็จะหาย ชนะคดีความ หรือชนะศัตรูคู่แข่ง อาจจะมีลาภลอยหรือได้สิ่งของตรงตามความประสงค์ที่ ดวงชะตาของท่านจะดีขึ้นมากโดยเฉพาะเรื่องหลักทรัพย์และผลกำไร ความ ท่านปรารถนามานานแล้ว หวังในเรื่องการงานและการเงินแจ่มใสขึ้นอย่างมาก โอกาสด้านธุรกิจจะทำ ผลกำไรได้มาก จะมีโชคตลอดทั้งเดือน ควรเร่งรัดการเจรจาในเรื่องการเงิน หรือทวงหนี้เสียในระหว่างนี้ ผู้มีความรู้ในด้านวิชาการชั้นสูงจะให้ความช่วย ราศีตุล (๑๗ ตุลาคม – ๑๕ พฤศจิกายน) เหลือ หรือผลักดันให้ท่านมีความสำคัญมากขึ้นในวงการของท่านตาม อัตภาพ ผู้ใหญ่จะจริงใจในทุกเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องที่ดีมีศีลธรรมก็จะยิ่งให้การ งานเริ่มเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้งหนึ่ง กลางเดือนไปแล้วยิ่งจะได้ผลเต็มเม็ดเต็ม ช่วยเหลือแน่นอนยิ่งขึ้น ท่านจะสง่างามอีกครั้งในสายตาของผู้บังคับบัญชา หน่วยดีขึ้น ท่านจะขยันขันแข็งมีความมานะพยายามไม่มีคำว่าท้อถอย หลัง ตลอดจนเพื่อนร่วมงาน การเล่าเรียน การสอบ ตลอดจนเรื่องที่ต้องใช้ความ จากวันที่ 16 ดาวพุธโคจรขึ้นทับลัคนา การเจรจาธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าเรื่องใหญ่ รู้ ความทรงจำ และการตัดสินปัญหาเฉพาะหน้าจะราบรื่น ท่านสามารถช่วย หรือเรื่องเล็กจะสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง สายธารแห่งโชคดีหลั่งไหลมาสู่ตำแหน่ง ตนเองได้เพราะแก้ปัญหาไปตามสติปัญญาและด้วยความจริงใจ หลังจากวัน ของท่านอย่างน่าชื่นชม เป็นลาภบริสุทธิ์ที่ปราศจากเลศนัยและข้อผูกพัน ที่ 17 ไปแล้ว เรื่องความรัก ท่านจะไม่ได้รับความเอาอกเอาใจเหมือนอย่าง ใดๆ ทั้งสิ้น เปรียบเสมือนท่านทำงานเสร็จแล้วได้ค่าตอบแทน อาจได้รับเป็น เคยเท่านั้น ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า เรื่องปัญหาความรู้หรือวงสังคมที่กว้างขวางออกไปบ้าง ผู้มีบุญน้อยจะได้พบ กับผู้มีบุญมาก ส่วนโชคดีทางด้านความรักมีทั้งสามัญและพิเศษ สุดแท้อยู่ที่ ผลกรรมของตัวท่านเอง คนรักจะมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ท่านจะประสบ ราศีมังกร (๑๕ มกราคม – ๑๒ กุมภาพันธ์) ความสำเร็จในกิจการหลายอย่างทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การศึกษาเล่า เรียน การสอบ และการขวนขวายที่จะปรับฐานะความเป็นอยู่ให้สูงขึ้นใน งานค่อนข้างมีเข้ามามากขึ้น ความขัดแย้งในงานถ้ามีจะค่อยลดลงไป สิ่งที่ ทุกๆ ด้าน ผู้มีความรู้น้อยจะได้ดีเพราะการจัดเจนในกิจการนั้นๆ เคยเป็นอุปสรรคหรือผู้คนที่เคยแสดงความเป็นศัตรูจะหมดกำลังลงชั่วคราว เป็นช่วงเวลาดีที่ท่านจะทำความก้าวหน้าและทำความเจริญแก่ชีวิต โดยไม่ พะวงถึงความยุ่งยากใดๆ เรื่องการเงินก็ยังไม่ดีขึ้นมากนัก คนรักจะมีน้ำใจ เผื่อแผ่ท่านได้มาก มีโอกาสได้ของฝากของขวัญจากคนรัก ถึงอย่างไรก็ไม่ ร้อนเงิน แต่อาจจะต้องหมุนเงินหนักมือขึ้น จะไปไหนทำอะไรหรือรับการ บริการไรก็มีเจ้ามือจัดการให้ ทำงานด้วยความสนุก บางครั้งก็มักมีอารมณ์

34


ในเรื่องงาน เช่น คนในวงงานขัดแย้งกันเอง ส่งผลกระทบมาถึงท่านพอ สมควร ถ้ามีการย้ายหน้าที่ใหม่ในระยะนี้ท่านจะได้ไปในที่ที่ไม่สมใจนัก ถ้า เข้ า คิ ว รอเรี ย กเข้ า ทำงาน หรื อ หวั ง จะเปลี่ ย นตำแหน่ ง อยู่ ท่ า นก็ จ ะไม่ ไ ด้ ตำแหน่งที่น่าพอใจ ถ้าไม่หุนหันพลันแล่นจะได้ลาภและพบกับคนที่ถูกใจ

ราศีกุมภ์ (๑๓ กุมภาพันธ์ – ๑๔ มีนาคม)

ธุรกิจยังคงสลบซบเซา เนื่องจากดาวพุธโคจรเดินหน้าในเรือนมรณะต่อเนื่อง มาจากเดือนที่แล้ว จึงยังไม่มีอะไรก้าวหน้าเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เพียงแต่ ความก้าวหน้าในเรื่องการติดต่อประชาสัมพันธ์จะอ่อนตัวลงไปบ้าง เรื่องใน บ้านจะร้อนเข้าหากัน คนที่สูงอายุกว่าอาจจะต้องยอมอ่อนข้อให้แก่ผู้น้อย แม้แต่คนรับใช้ท่านต้องนึกถึงใจเขาใจเราให้ดี ปัจจุบันนี้คนที่จะยอมมา ทำงานรับใช้ในบ้านจริงๆ จะหาไม่ได้ง่ายแล้ว หากไม่เสียหายอะไรที่เป็น เรื่องใหญ่นัก ก็ควรมองให้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสียบ้าง การเสี่ยงโชคยัง เป็นเรื่องใหญ่นัก ที่ท่านไม่ควรหวัง ให้คิดว่ามีโอกาสเสียหายตั้งแต่เริ่มเล่น แล้ว มีเกณฑ์จะได้ทรัพย์สิน มรดกหรือของเก่าที่มีมูลค่าสูงเป็นของขวัญใน ระยะนี้ ถ้าไม่ได้เงินทองก็ต้องเป็นของขวัญหลายชิ้น ความกระตือรือร้นจะ ลดน้อยลง ท่านจะไม่อดทนและเกียจคร้านด้วย ความประพฤติแบบเช้าชาม เย็นชามก็จะมีมากขึ้น ความเครียดก็ไม่ยอมลดลง เพียงแต่อารมณ์สุนทรีย์ จะมีเพิ่มขึ้นบ้างเท่านั้น

ราศีมีน (๑๕ มีนาคม – ๑๔ เมษายน)

ดาวอังคารยังโคจรอยู่ในเรือนมรณะ จะมีรายจ่ายมากเกินความจำเป็น อาจ จะพยายามอุดรอยรั่วเท่าไรก็ยังยาก ความสุขความสงบในครอบครัวก็จะมี ค่ อ นข้ า งน้ อ ยอยู่ ด้ ว ย อาจต้ อ งห่ า งบ้ า นหรื อ เดิ น ทางไปท่ อ งเที่ ย วเปลี่ ย น บรรยากาศสักระยะหนึ่งจะเป็นการแก้เคล็ดหรือทำให้รู้สึกดีขึ้น จะมีรายจ่าย ฉุกเฉินแทรกเข้ามา กับญาติพี่น้อง ก็จะห่างเหินกันไป เกณฑ์ชะตาถ้าเดิน ทางจะมีโชค ถ้าไม่ไปไหนเลยก็ลองเปลี่ยนที่อยู่ หรือย้ายเตียงนอนดูสักครั้ง อาจทำให้ ท่ า นหลั บ สบายและฝั น ดี ม ากขึ้ น ดาวพุ ธ โคจรเข้ า เรื อ นมรณะ ระหว่างวันที่ 2-29 ระวังคู่ครองจะมีความจำเป็นต้องเดินทางไกลหรือจาก กันไปชั่วคราว การเสี่ยงโชคยังมีโอกาสให้น่าลงทุน ท่านจะเข้าไปเกี่ยวข้อง กับเรื่องไสยศาสตร์ หรือเรื่องจิตและวิญญาณมากขึ้น ข้าวของเงินทองที่หาย ไปแล้วจะได้คืนยาก ผู้ใหญ่ยังให้การสนับสนุนท่านดีอยู่ อาจมีการขึ้นบ้าน ใหม่ หรือได้เปลี่ยนรถยนต์ให้ทันสมัย ซื้อบ้านหรือซื้อที่ดินเอาไว้เพราะใน ระยะนี้ท่านจะรักษาเงินสดไว้ในมือได้ยาก


iInterview REPORT : Chuyot Amralikhit, Text : Kulaphat Saeteng Photo : Kulaphat / Damrongsak

กินผัก สุขภาพดี คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจำนวนมาก ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม หันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น บางคนทานเนื้อสัตว์น้อยลง บริโภคผักมากขึ้น บางคนไม่บริโภคเนื้อสัตว์อีกเลย ต่างคน ต่างเหตุผล ต่างทัศนคติ และมุมมอง i-ASiA ได้มีโอกาสพบปะ พูดคุยกับ”Joanne Furlong” หรือ “Jo” ชาวอังกฤษแท้ กับตลอดระยะเวลากว่า 19 ปี ที่ เซ กู๊ด บาย การบริโภคเนื้อสัตว์ ฟอร์ กู๊ด Jo ดำเนินชีวิตของเธออย่างไร และอะไรคือเหตุผลของการเป็น Vegetarian เรามาดูกัน...

36


A little bit about you. My name is Joanne Furlong, am 32 years old and I come from Somerset, southwest England. I moved to London with my mother and brother when I was 7 to join my grandparents who were already living in London. I have also lived in Spain and Australia. I am currently working for the “Pattaya Orphanage Trust” which is a charity which raises money for the most need children in Thailand. How did you become a “Vegetarian”? I became a vegetarian when I was 13 years old. I remember being at school and doing a project on cruelty to animals and being very upset by the way that some animals can be treated. From meal to meal I decided I didn’t want to eat the meat that was given to me. This has continued for 19 years! There must be the advantages and the disadvantages for being a vegetarian. The advantages of being vegetarian for me are I tend to eat lots more fruit and vegetables which contain vitamins A and E and other essential vitamins which are good for skin. I also tend to spend less at supermarket as I don’t buy meat which seems to be more expensive. I also don’t need to worry when the stories appear in the news about animals being fed hormones or worry about catching things like mad cow disease. Finally, being a vegetarian pushes you to be more creative and experimental with ingredients when cooking. The disadvantages are that you don’t have the opportunity to share food with friends and family in a social way. Also it is difficult to cook a meat dish without being able to try it. I also at times feel that I am creating more work for the host when I attend dinner parties.

What do you eat on daily basis? I eat all dairy products just no meat or fish. Generally, I eat a lot of pasta, rice and potato dishes. In a typical day I will have fruit and yogurt for breakfast, a sandwich or jacket potato for lunch and for dinner pasta and vegetables. I snack on nuts and grains and try to incorporate beans and lentils into my diet. When you are not well, your body needs protein, what do you eat? Luckily (touch wood) I don’t seem to suffer too much with my health but if I do, I also like to have soup just the vegetarian flavours! Is it difficult to order food when you go out? Restaurants in the UK are becoming much better in providing options for vegetarians although the choices are much more limited. Recently I went to a vegetarian restaurant and it took me a long time to decide what to eat as I’m not used to having all that choice!

37


เธอบริโภคผัก และผลไม้มากขึ้น ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน และเกลือแร่ที่ครบถ้วน นอกจากจะทำให้ระบบขับถ่าย ทำงานดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้ ผิวพรรณดีขึ้นอีกด้วย และค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร ของเธอลดน้อยลง

38


I was once on a first date in an Italian restaurant with a gentleman who suggested we share a starter as it was his favourite. It was a pizza bread dish with lot of spinach. Unfortunately, the spinach was hiding the proschetto ham. I only realised once I had bitten into it. He didn’t make the best first impression! Do people find it is strange for being a vegetarian? Some people who are real meat lovers find it hard to understand how someone could live without eating meat but generally in the UK, it has become a normal way of life for many people. When I am on holiday, depending on which country I am in, sometimes the waiter finds it is a very strange thing! In the future, will you change your mind? I don’t think I will ever change my mind in the future as I think psychologically it would be very difficult to start eating meat again. I don’t mind cooking meat or fish so when if I get married and have children, being a vegetarian will not be a problem for me. Something to share with i-ASiA readers I would say to anyone that is considering becoming a vegetarian that they should ensure their diet still contains Iron, Zinc, Calcium, B12 and protein as it is important to increase your intake of these nutrients in the absence of meat and fish. Make sure you eat a mixture of pulses (such as lentils and beans), nuts and sees, eggs, soya and soya products such as tofu, micro protein which is sold as “QuornTM”, wheat proteins, such as cereals, bread, rice, maize and dairy products.

39


กินผัก สุขภาพดี

คุณโจแอน เฟอร์ลอง หรือคุณโจ ปัจจุบันเธอทำงานในมูลนิธิเด็กกำพร้าพัทยา (Pattaya Orphanage Trust) ซึ่งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล โดยหาเงินเพื่อเด็กที่ต้องการ ความช่วยเหลือในประเทศไทย โจเล่าให้เราฟังว่า ขณะนี้เธออายุ 32 ปี พื้นเพเดิมอยู่ซอมเมอร์เซ็ท (Somerset) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ครอบครัวเธอย้ายเข้ามาอยู่ในลอนดอนอย่าง ถาวร เมื่อตอนเธออายุ 7 ปี ชีวิตบางช่วงของเธอได้เดินทาง ท่องเที่ยว และอาศัยอยู่ใน สเปน และออสเตรเลีย จุดหักเหของชีวิตที่ทำให้เธอหันมากินเจ หรือเป็น Vegetarian เริ่มต้นเมื่อตอน เธออายุได้เพียง 13 ปี ขณะที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม เธอได้ทำโปรเจคเรื่องความโหดร้าย และ การทรมานสัตว์ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกหดหู่ ช็อค และสะเทือนใจกับข้อมูลที่ค้นพบในการ กระทำของมนุษย์ เธอรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม และรู้สึกสงสารสัตว์เหล่านั้น ทำให้เธอ

ปฎิญาณตนว่าจะไม่ขอกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดอีกต่อไป จากวันนั้นถึงเวลานี้ผ่านไป 19 ปีแล้ว

ตลอดระยะเวลา 19 ปี กับการกินเจ หรือเป็น Vegetarian การดำเนินชีวิตของ เธอเปลี่ยนไป ข้อดี คือเธอบริโภคผัก และผลไม้มากขึ้นซึ่งทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน และเกลือ แร่ที่ครบถ้วน นอกจากจะทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้ผิวพรรณดีขึ้น อีกด้วย และค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารของเธอลดน้อยลง เพราะไม่ต้องซื้อเนื้อสัตว์ อีกทั้ง ยังหมดห่วงเรื่องข่าวการแพร่ระบาดของวัวบ้า หรือการใช้สารเคมีในการเร่งการเจริญ เติบโตของสัตว์ การเป็น Vegetarian ทำให้เธอมีความคิดสร้างสรรค์ในการดัดแปลงเมนู ต่างๆ และทดลองทำอาหารแปลกๆ โดยไม่ใช้เนื้อสัตว์ ส่วน ข้อเสีย คือเธอไม่มีโอกาสในการแชร์อาหาร ร่วมโต๊ะกับครอบครัว หรือ เพื่อนๆ ได้ หรือแม้กระทั่งเวลาไปงานสังสรรค์ เธอรู้สึกว่าเธอเพิ่มภาระให้กับเจ้าภาพที่จะ ต้องทำอาหารพิเศษให้เธอ

40

สำหรั บ อาหารในชี วิ ต ประจำวั น โจไม่ ท านเนื้ อ สั ต ว์

รวมถึงปลาและซีฟู๊ดต่างๆ แต่เธอจะทานพวกนม เนย (Dairy Products) อาหารหลักของเธอคือ พาสต้า ข้าว มันฝรั่ง โดย ปรกติ อ าหารเช้ า จะเป็ น ผลไม้ และโยเกิ ร์ ต กลางวั น เป็ น แซนด์วิช หรือไม่ก็แจ็กเก็ต โปเตโต้ (Jacket Potato) ส่วนมื้อ เย็นจะเป็นพวก พาสต้า และผัก ของทานเล่นจะเป็น ถั่ว ธัญญพืช หลากชนิดรวมถึง เล็นทิวส์ (Lentils) เวลาเธอไม่ สบายเธอจะดื่มซุปผัก เพื่อช่วยให้หายไข้ การทานอาหารนอกบ้านนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัจจุบัน ร้านอาหารส่วนมากในประเทศอังกฤษมีเมนู Vegetarian ให้ บริการมากมาย สำหรับคนที่ชอบทานเนื้อสัตว์อาจจะรู้สึกว่าเธอแปลก และไม่ เ ข้ า ใจ Vegetarian แต่ สำหรั บ คนในประเทศอั ง กฤษแล้ ว ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ โจบอกกับเรา ว่ า ในอนาคตเธอคงไม่ เ ปลี่ ย นใจ

หันกลับไปกินเนื้อสัตว์อีก เพราะเธอ รู้สึกว่าร่างกายเธอกระอั่กกระอ่วน เมื่ อ มี เ นื้ อ สั ต ว์ เ ข้ า สู่ ร่ า งกาย เธอ

ไม่รังเกียจในการปรุงอาหารจำพวก เนื้อสัตว์ หากเธอมีครอบครัว เธอก็ สามารถปรุงอาหารให้ครอบครัวได้ โจทิ้งท้ายว่า หาใครกำลัง คิดจะหันมาเป็น Vegetarian ควร รั บ ประทานอาหารในแต่ ล ะวั น ให้ ครบหมวดหมู่ ซึ่ ง ประกอบด้ ว ย

แร่ธาตุ สังกะสี แคลเซียม วิตามินบี 12 และโปรตีนอย่าง

พอเพียง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในโภชนาการ การกินเจ หรือเป็น Vegetarian มีวัตถุประสงค์หลัก คื อ งดเว้ น การบริ โ ภคเนื้ อ สั ต ว์ ไม่ ฆ่ า สั ต ว์ ตั ด ชี วิ ต และถ้ า สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เจริญภาวนา ปฎิบัติธรรม และมี เมตตากรุณา ก็จะยิ่งเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ซึ่งก่อให้ เกิดสันติสุขต่อทุกชีวิตบนโลกนี้ ว่าแล้วมาลองกินเจกันบ้าง ดีมั๊ย...


RECIPE

For the layers 1 large aubergine I large courgette 1 red pepper 250g spinach For the sauce 1 onion A dash of olive oil 1 can of chickpeas 1 can of chopped tomatoes 1 large pinch of ground cinnamon 1 pinch of dried thyme 1 pinch of allspice 1 pinch of nutmeg For the topping 40g finely grated strong cheddar cheese 4 tbsp low fat live yogurt 1/3 tsp ground cinnamon

INSTRUCTION

1/ Preheat the oven to 240 Celsius. Slice the aubergines into 1cm thick rings; cut the courgette in half, then into 5mm slices lengthways; cut the pepper into eight pieces, then in a pan char-grill them all. Steam the spinach and squeeze out the excess water. 2/ For the sauce, chop the onion and add it to a hot pan with the olive oil. When it starts to brown, add the drained lentils, tomatoes, cinnamon, thyme, allspice and nutmeg and simmer for 5 minutes. 3/ Mix the cheese, yogurt and cinnamon together 4/ Place the four largest slices of aubergine onto a lightly oiled baking tray and top with a spoonful of lentils. Layer alternately with red pepper, aubergine, lentils, courgette and spinach ending with aubergine. 5/ Spoon a tablespoon of yogurt mix on the top of each stack and bake in the oven for 15 minutes.

MOUSSAKA

41


iเรืCOVER STORY ่อง :: ประดับพร

ภาพ :: Nunthicha Wongamornchai, www.sxu.hc

ถือศีล กินเจ ให้ได้บุญ Vegetarian

42

จิตมุ่งมั่น วันทางจันทรคติ ตามปฎิทินจีนถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปีเป็นเทศกาลถือศีลกินเจ ตลอดระยะเวลา 9 วัน ผู้มีจิตศรัทธา มุ่งมั่น ตั้งใจนุ่งขาว ห่มขาว ถือศีล 5 และงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ นม เนย น้ำมันจากสัตว์ ไข่ พืชผัก กลิ่นฉุน ซึ่งอาจทำลายพลังธาตุทั้งห้าในร่างกาย (ผักชี กระเทียม ต้นหอม หัวหอม กุ้ยช่าย และใบยาสูบ) อาหารรสจัด แอลกอฮอล์ ฯลฯ สำหรับผู้ เคร่งครัดปฎิบัติ จะรับประทานอาหารเจที่ปรุงจากผู้ที่กินเจด้วยกันเท่านั้น รวมทั้งภาชนะที่ใช้ปรุง และใส่อาหาร ต้องแยกล้างให้สะอาดสำหรับอาหาร เจโดยเฉพาะ สืบทอด รุ่นสู่รุ่น การถือศีล ตามธรรมเนียมปฎิบัติสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น... เป็นการ แสดงถึงศรัทธาอันแรงกล้า เพื่อมุ่งหวังสร้างบุญกุศลให้แก่ชีวิต แม้ปัจจุบันคนให้ความนิยมรับประทานอาหารเจกันมากขึ้น เพื่อ รักษาสุขภาพ ความสะดวกในการซื้อหา รสชาติอาหารที่ปรุงแต่งมีรสอร่อย ไม่เหมือนอาหารเจในอดีต ฯลฯ แต่เหตุผลหลักประการสำคัญ คือการสร้าง สมจิตใจที่ดีงาม สร้างบุญ สร้างกุศล โดยละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ และ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบากาย สบายใจ เมื่อมีสุขภาพดี จิตใจดี ร่างกายจึงพร้อมสำหรับการปฎิบัติภาวนา สร้างบารมี สามารถเข้าถึงความสงบ และเกิดสมาธิขั้นต้นได้โดยง่าย หลักธรรมแห่งพุทธศาสนา สอนให้มนุษย์รู้จักละวางออกจากสิ่งสม มติทั้งหลาย โดยให้มุ่งฝึกปฎิบัติวิปัสสนา ภาวนาเข้าหาภายในจิตใจของ ตนเองเป็นที่ตั้ง เมื่อเกิดสติปัญญา จึงนำมาใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม พอดีบนทางสายกลาง (มัชฌิมาปฎิปทา)


สัจวาจา ตามวิถีพุทธะ “ผู้ตั้งใจรักษาศีล 5 งดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ละเว้น การฆ่าสัตว์ เบียดเบียนชีวิต เมื่อตั้งปฎิบัติตามสัจวาจาที่ให้ไว้ได้สำเร็จลุล่วง เมื่อนั้นบุญกุศลจะบังเกิดขึ้นโดยฉับพลันที่จิตของคนผู้ปฎิบัติ” เจตนาดี ย่อม ส่งผลในทางที่ดี การกระทำดี และคำพูดดีตามไปด้วยจึงทำให้ครบถ้วน สมบูรณ์ วิถีแห่งบุญ การถือศีล กินเจวิถีพุทธะ เป็นกุศโลบายที่เอื้อประโยชน์ และส่ง เสริมในการปฎิบัติธรรม กล่าวคือ สอนให้เรามีสติในการละวาง และมีขันติ ธรรมในเบื้องต้น การไม่ยึดติดในรสชาติของอาหาร และเนื้อสัตว์ ละเว้นการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต รวมถึงการถือศีล 5 ถือเป็นการอดทน ข่มใจไม่ให้เผลอไผลส่งผลให้ ใจบริสุทธิ์ นอกจากนี้การละเว้นเครื่องแต่งกายสีสัน โดยการนุ่งขาวห่มขาว แทนนั้น... เป็นการสื่อถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ ที่ตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม ทำให้ มองเห็นนามธรรมเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทุกครั้งที่แลเห็นสีขาวของเนื้อผ้า เป็นการย้ำเตือนสติว่าเรากำลังดำเนินอยู่บนวิถีแห่งบุญ ถือศีล กินเจ ให้ได้บุญ ผู้มีจิตศรัทธา จะได้เจริญสติ ตรวจสอบใจของตนเองให้ละวางต่อ ความอยาก (ตัณหา) ความไม่อยาก (วิภวตัณหา) และอารมณ์กิเลสทั้ง หลาย เฝ้าดู และระวังจิตใจไม่ให้ยึดติดในรสชาติ การปรุงแต่งของอาหาร แม้ปัจจุบันอาหารเจได้ถูกปรุงแต่งทั้งรูป รส กลิ่น สี และเลียนแบบให้ เหมือนอาหารคาวเมนูต่างๆ เช่น ข้าวหมูแดงเจ ข้าวมันไก่เจ กระเพาะปลา เจ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ ฯลฯ ทำให้ยังคงติดอยู่กับรสชาติเดิมๆ แต่เมื่อ เรารักษาศีล และกินเจ อย่างมีสติ ถือเป็นการคัดกรองกิเลส อารมณ์ไม่ให้ ลักลอบเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่จิตใจ “การยึดมั่น ถือมั่นต่อตัวเรา ไม่ย่อหย่อน หรือเคร่งครัดกับข้อปฎิบัติ ต่อการกินเจ จนเคร่งเครียดเกินความพอดี จนกระทั่งเบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น” จึงจะสมกับเจตนารมณ์ แห่งการถือศีล กินเจให้ได้บุญอย่าง แท้จริง

43


iPLACE 2 EAT เรื่อง :: นิธิกานต์ จิตเจริญ ภาพ :: กุลภัทร แซ่เต็ง สะพานไม้โค้งตัวเหนือลำธาร มีน้ำใสแจ๋ว มองเห็นปลาคาร์ฟตัวอ้วนแวกว่ายไปมา เสียง น้ำตกไหลกระทบโขดหิน นี่ฝันว่าได้กลับไปเมือง ไทยรึเปล่านี่ อ้าว! ไม่ใช่นี่นา คงต้องหยุดความ คิ ด เพ้ อ ฝั น ก่ อ นที่ จ ะเลยเถิ ด เพราะเรายั ง อยู่ ใจกลางกรุงลอนดอน ที่ Blue Elephant ร้าน อาหารไทยสุ ด คลาสสิ ค ที่ มี ชื่ อ เสี ย งโด่ ง ดั ง ที่ สุ ด แห่งหนึ่งในโลก

อิ่ม เพื่อสุขภาพ

Blue Elephant London Royal Thai cuisine

ร้านอาหาร : ตั้งอยู่ที่ : 4-6 Fulham Broadway, London SW6 1AA, UK ติดต่อ : Tel. +44 20 7385 6595 Fax. +44 20 7386 7665 ออนไลน์ : www.blueelephant.com/london บริการ : ทุกวัน กลางวัน 12.00 - 14.30 น. เย็น จ. - พฤ. 19.00 - 23.30 น. ศ. 18.30 - 23.30 น. ส. 18.00 - 23.30 น. อา. 18.30 - 23.30 น. รถไฟ : Fulham Broadway รถบัส : 14, 414 และ 295

44

เชื่อว่าคนไทยในลอนดอนคงรู้จักชื่อเสียง ของร้านบลูฯ เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะร้านนี้ตั้ง มานานกว่ายี่สิบปี และมีสาขามากถึง 18 สาขา ทั่ ว โล เพี ย งก้ า วแรกที่ เ หยี ย บเข้ า มาในร้ า น ก็ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศไทยๆ ทั้งเสียงเพลงไทย เดิม และการตกแต่งร้านที่วิจิตรงดงาม การสลัก เสลาของไม้ตามส่วนต่างๆ ต้นไม้และดอกไม้ของ ไทย เรือลำน้อยบรรทุกพืชผักผลไม้ของไทยไว้ เต็ ม ลำทำให้ บ รรยากาศภายในร้ า นสวยงาม ร่มรื่นเหมือนนั่งอยู่ในสวนที่เมืองไทย ทั้งชาวไทย และชาวต่ า งชาติ ที่ ไ ด้ แ วะมาชิ ม อาหารที่ Blue Elephant ต่ า งพู ด เป็ น เสี ย งเดี ย วกั น ว่ า น่ า มหัศจรรย์และสวยงามเหมือนจำลองความเป็น ไทยมาไว้ที่เมืองผู้ดีเลยทีเดียว แต่ที่เราแวะมาร้านบลูฯ ในครั้งนี้ไม่ได้จะ มาเล่าถึงแค่เรื่องบรรยากาศเท่านั้น เพราะอาหาร แต่ละจานของร้านนี้ขึ้นชื่อ ว่าด้วยการตกแต่งที่ งดงามปราณีต น่ากิน ภาชนะใส่อาหาร แก้วน้ำ กาน้ำชาและถ้วยชาของร้านทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว เพราะของแท้ต้องมีสัญลักษณ์รูปช้าง สีน้ำเงิน ที่ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยต่างชื่นชม และซื้อกลับบ้านเป็นของที่ระลึก ส่วนเรื่องรสชาติ


และส่วนผสมในอาหารแต่ละชนิดนั้นก็เป็นไทยแท้ ต้ น ตำรั บ สู ต รดั่ ง เดิ ม และหากพู ด ถึ ง อาหาร มังสวิรัติ เท่าที่เคยพบ เราเห็นว่าร้านนี้แหละมี เมนูมังสวิรัติที่หลากหลายและเยอะที่สุด พี่ธาม General Manager ของร้านบอกเราว่าทางร้าน ใส่ ใ จกั บ ความต้ อ งการของผู้ บ ริ โ ภค เพราะ ประเทศนี้มีหลากหลายเชื้อชาติและศาสนา และ บางกลุ่มก็นิยมทานอาหารมังสวิรัติ ซึ่งทางร้านใช้ เครื่ อ งปรุ ง ทุ ก อย่ า งที่ คั ด สรรมาอย่ า งดี แ ละ ระมัดระวังไม่ให้กรรมวิธีการปรุงอาหารมังสวิรัติ กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ปะปนกัน จุดเด่นของ บลูฯ คือใช้ผักที่ส่งมาจากโครงการหลวงของไทย ซึ่งเป็นผักปลอดสารพิษ คุณภาพเยี่ยม ที่นำเข้า มาทุกสัปดาห์ จึงมั่นใจได้ว่าสดใหม่ พี่ธามเล่าว่า ทางโครงการหลวงเชิญคุณนูลอ เจ้าของร้านไปดู ที่โครงการว่ามีพืชผักชนิดใดสามารถนำมาทำเป็น เมนุใหม่ได้บ้าง คุณนูลอจึงเริ่มทำเมนูใหม่ๆ ออก มาที่สาขาเมืองไทยเป็นแห่งแรก และขยายมาที่ ลอนดอน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าเองก็

ชื่นชอบ จน ณ ตอนนี้ทางร้านก็ยังคงใช้ผักจาก โครงการหลวงอยู่ เมื่อมาถึงร้านบลูฯ แล้วจะไม่ลองชิมเสีย หน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงที่ พี่ธามสั่งอาหาร มังสวิรัติจานเด็ดมาให้ลองทานหลายเมนูเลย เริ่ม จาก Starter รวม ที่ เรี ยกว่า Pearl of The “Blue Elephant” ซึ่งประกอบด้วย ยำมะเขือยาว หอมกลิ่ น เผาไฟแบบเตาถ่ า นสู ต รดั่ ง เดิ ม แท้ ๆ สะเต๊ะผักที่มีทั้งมะเขือม่วง เห็ดหอม กระเจี๊ยบ

และพริกหยวกที่หมักไว้ก่อนย่าง รสชาติอร่อยแม้ ไม่ต้องทานกับน้ำจิ้ม เกี๊ยวนึ่งที่เหนียวนุ่ม และไส้ ข้างในก็รสชาติกลมกล่อม และที่เราติดใจที่สุดก็ คื อ ข้ า วตั ง ที่ ทั้ ง หอมและกรอบ ทานกั บ ซอสถั่ ว อร่อยและหากินได้ยากในลอนดอน และที่ขาด ไม่ได้ปอเปี๊ยะผัก ที่มีกลิ่นคึ่นช่ายอ่อนๆ ทานแล้ว ติดใจจริงๆ ส่วนอาหารจานหลักเราได้ลิ้มลอง กระเจี๊ ย บผั ด เผ็ ด ผั ก ที่ ฟั ง แล้ ว ชื่ อ แสนโบราณ แต่อร่อยอย่าบอกใคร ทั้งกรอบ ทั้งสด รสชาติ เผ็ดจัดจ้านกำลังดี สำหรับช่วงกลางวันช่วงเวลา เร่ ง ด่ ว นที่ นี่ มี เ ว็ ต เมนู ที่ ร าคาไม่ แ พง ที่ ใ ห้ ม าทั้ ง ปอเปี๊ยะผักชิ้นโต เขียวหวานผักรสชาติเข้มข้น ทานคู่ กั บ ผั ด ผั ก รวมมิ ต รที่ ร สชาติ ช วนให้ นึ ก ถึ ง ฝีมือคุณแม่และข้าวสวยร้อนๆ ตบท้ายด้วยวุ้น กะทิ และผลไม้ไทยๆ อย่างละมุด อื่มแปล้เลย ค่ะมื้อนี้ นอกจากนี้ บ ลู ยั ง มี เ ซ็ ต เมนู ที่ ห ลาหลาย ราคาไม่ แ พง และบุ ฟ เฟ่ ต์ มื้ อ กลางวั น ทุ ก วั น อาทิตย์ที่ราคา 25 ปอนด์ ต่อท่าน ที่คุณจะได้ สัมผัสบรรยากาศแบบไทยแท้ รวมถึงอาหารคาว และหวานครบเครื่องที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ บลู อีเลฟเฟ่นแห่งเดียวจริงๆ ดูรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ www.blueelephant.com/london/ ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้าง มื้อนี้ I-Asia พามา อิ่มแบบได้สุขภาพใช่มั้ยล่ะคะ

45


iARTIST

อาหารมังสวิรัติ Photo : Nunthicha Wongamornchai

คอลัมน์นี้รองรับผลงานศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์แขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบทกวี การ์ตูน ภาพวาด ภาพถ่ายและอื่นๆ ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์จะได้รับ กระเป๋า i-ASiA สุดเก๋ Trend ใหม่ 1 ใบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ +44 (0) 7984 181 464 หรืออีเมล์ info@i-asiamag.com

46


47


iTextLOVE COOKING / Photo : Penny

The ethical savory Nobody wants animals to suffer, but it’s easy to forget that when we eat them, that’s what we’re supporting. The easiest action a person can take to reduce animal suffering is to simply stop eating them.

48

Penny Jirayuwattana


There are so many good reasons for being vegetarian (health, animals, the environment) that a better question might be, “Why NOT be vegetarian?” When you can easily... • significantly improve your health, • dramatically reduce your environmental footprint, • and greatly lessen the suffering of animals Of course, the decision about whether to become a vegetarian is a matter of personal choice. But we think that if more people really knew how bad meat is (for them, the planet, and the animals), more people would make the choice to go meatless. By late summer young, tender sweetcorn starts to appear in the shops and markets. At their best, the husks should be green and fresh and the tassel at the end should be fine and silky to indicate that the corn has not long been picked. Sweetcorn provides useful amounts of vitamins A, B3 (supports metabolism, the nervous and digestive systems) and C. It also contains folic acid and fiber. Instead of just grilling on the cobs, I have a twisted idea for you to try out.

Sweet corn ravioli

To make a corn stock, in a pot, put the cobs in and add water just to cover them, bring it to a boil and let it simmer for 20 minutes. In another pot, melt butter, add in shallot. Let saute until shallot is translucent. Add lemongrass, corn, salt and pepper and keep cooking until the corn has released some of its sugar (see caramel color on). Add corn stock and keep it simmering for 10 minutes. Puree the just corn in the blender; add the cooking liquid, if needed. The consistency should be thick and can stand up by itself if piped on the wrapper, adjust the seasoning. Set aside to cool. When cool, put it in a piping bag or zip log bag and cut a corner off. Place wonton wrappers down (three at a time works) and pipe the corn mix in the center of each, place 1 1/2 t filling. Brush exposed wrapper with egg yolk, carefully fold the bottom part up and fold the top part down to close it, press 2 sides to make sure the ravioli is tightly sealed, no air bubbles. Set aside on floured baking sheet and continue to assemble. When finished, boil water and gently add raviolis a few at a time, cooking for 2 minutes or until they float. Carefully remove and drain. Put the in big the bowl. Add olive oil, cherry tomatoes and basil. Toss them together and put on the plate.

Serve: 4 1/2 block unsalted butter 6 ears fresh sweet corn, shucked and removed from the cob 1 shallot, diced 1 stalk lemongrass, finely chopped 1/2 Thai bird chilli, roughly chopped Salt and pepper, to taste 10 each Fresh whole micro basil, or the normal, tear in small pieces Freshly cracked pepper 5 tablespoons unsalted butter 1 package wonton wrappers 2 egg yolks, beaten 12 cherry tomatoes, quartered

49


iเรืCOLUMN : บทความ ่อง :: ชาติ กอบจิตติ ภาพ :: www.sxc.hu

โอ้...ฮาวาย (จบ) เมื่อคืนไม่รู้กลับถึงบ้านตีอะไร (หมายถึงเวลา) รู้ แต่ว่ากลุ่มของเราร่ำลาเจ้าบ้านเป็นกลุ่มสุดท้าย เช้านี้จึงตื่นกันสาย ตื่นมาไม่รู้เจ้าของบ้านไปไหน กันหมด เหลือแต่ คุณหมู ซึ่งต้องคอยดูแลผมนั่ง คอยกินข้าวเช้าอยู่คนเดียว หมู ว่าตอนบ่ายๆ จะ มี เ ลี้ ย งน้ ำ ชาที่ บ้ า น จิ ล ล์ (เพื่ อ นสาวของเขา) จิลล์ ให้ชวนผมไปด้วย ผมบอกกับ หมู ว่าตั้งแต่ เกิดมาไม่เคยกินน้ำชาเลย มันจะอร่อยตรงไหน หมู ว่ า เขาเชิ ญ มาแล้ ว ก็ ไ ปเป็ น เพื่ อ นกั น หน่ อ ย เพราะทาง จิลล์ ก็เชิญเพื่อนมาด้วย นัยว่าจะเป็น นัดแนะนำตัว ผมถามว่าแล้วมีเบียร์ให้กินไหมวะ หมู ว่า กูไม่รู้ ผมนึกถึงภาพตัวเองนั่งจิบชากิน ขนมเหมือนพวกผู้ดีอังกฤษ โอ้ จอร์ช ให้เราไป ปล้ำกับหมียังดีกว่า แต่ก็เพื่อนน่ะนะ ไม่ไปก็ไม่ ได้ บ้าน จิลล์ อยู่ในป่าต้นไม้ครึ้มรอบบ้าน ทั้งไม้ใหญ่ไม้ดอก เป็นบ้านที่มีบริเวณกว้างและ บริเวณบ้านขนาดนี้คงบอกถึงฐานะได้โดยเฉพาะ คนบนเกาะนี้ ตั ว บ้ า นเป็ น บ้ า นตึ ก หลั ง ใหญ่ ชั้ น เดียวเล่นระดับ ภายในบ้านสะอาดตาตกแต่เรียบ โล่ง มีตู้หนังสืออยู่ที่ห้องรับแขกและห้องทำงาน ผมเดินดูหนังสือในตู้จึงรู้ว่าเธอก็เป็นนักอ่านตัวยง และสนใจศาสนาพุทธ ในห้องทำงาน (เธอพาชม) ด้านหนึ่งเป็นกระจกใสบานใหญ่มองออกไปเห็น แต่ต้นไม้ร่มครึ้ม บรรยากาศน่านั่งทำงาน ของ บนโต๊ะทำงานบ่งบอกถึงความเป็นคนมีระเบียบ จัดวางเรียบร้อย ผมนึกถึงโต๊ะทำงานของ คุณหมู และของผม นึกเลยไปถึงนิสัยของเพื่อนด้วย แล้ว ก็แอบยิ้มอยู่ในใจ

50

เวลาที่ผมไปบ้านคนที่ไม่รู้จักกันนั้น ผม จะมีข้อสังเกตของผมอยู่สามข้อ คือ หนึ่ง ที่บ้าน นั้นมีหนังสือไหม สอง ปลูกต้นไม้หรือเปล่า สาม มี สั ต ว์ เ ลี้ ย งหรื อ ไม่ ถ้ า มี ค รบทั้ ง สามอย่ า ง ผม (คิ ด เอาเอง) ว่ า เจ้ า ของบ้ า นน่ า จะเป็ น คนที่ น่ า คบหาสมคมด้วย คือ เป็นคนชอบหาความรู้ใส่ตัว อารมณ์เย็น และมีเมตตา ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่ง ในสามอย่าง หรือสองอย่างนี้ ก็ยังน่าคบน่าคุยได้ อยู่ แต่ถ้าบ้านหลังนั้นไม่มีทั้งสามอย่างนี้อยู่ใน บ้านเลย ถึงจะมีเหล้ามีเบียร์เต็มตู้เย็น ผมก็ยัง แหยงอยู่ดี นี่เป็นเพียงแต่ข้อสังเกตส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่คำตัดสิน เพราะทั้งหมดทั้งปวงต้องคบกัน ไปนานๆ จึงจะรู้นิสัยที่แท้จริงของกันและกัน แต่ ครั้งแรกที่เห็นนั้น ผมจะใช้หลักนี้เป็นข้อสังเกต และที่บ้าน จิลล์ นั้นมีครบ ระหว่างที่เธอ พาเดินชมบ้าน มีแมวเดินตามอยู่ตลอด และดู เหมื อ นเธอจะมี ม ากว่ า ที่ ผ มคิ ด นั่ น คื อ ความ สะอาดสะอ้านภายในบ้าน มันทำให้ผมเกร็งอยู่ ตลอดเวลา เกรงว่าจะไปหยิบจับอะไรของเขาตก แตกหรือทำน้ำหกเลอะเทอะ ให้เขาดูถูกได้ ลำ พังผมน่ะไม่เป็นไรหรอก เพราะพรุ่งนี้ก็จะกลับ แล้ว ชาตินี้อาจจะไม่ได้เจอกันอีก แต่เพื่อนผมสิ จะพลอยซวยเอา (ที่ มี เ พื่ อ นซุ่ ม ซ่ า มอย่ า งผม) ระหว่างนั่งจิบชา ผมจึงนั่งเงียบ นานๆ จึงจะกล้า หยิบขนม (เพื่อน จิลล์ ทำมา) ขึ้นเคี้ยวเบาๆ การพูดคุยบนโต๊ะน้ำชาในตอนบ่ายนี้ มี เพื่อนของ จิลล์ สองคน และแม่ของเพื่อนหนึ่ง คน ทั้ ง หมดแต่ ง ตั ว พิ ถี พิ ถั น ดู เ ป็ น พิ ธี รี ต อง บรรยากาศในโต๊ ะ นั้ น เงี ย บๆ พิ ก ล นั่ ง คุ ย กั น


เสียงเบา นานๆ จึงมีเสียงหัวเราะเบาๆ เกิดขึ้น

สักครั้ง จิบน้ำชาเสร็จแล้ว จิลล์ จึงพาแขกเดิน ชมรอบบ้าน ดูดอกไม้ต้นไม้ แล้วพาไปบ้านหลัง เล็ ก ๆ หลั ง บ้ า น ซึ่ ง ผมขอเรี ย กว่ า โบสถ์ ส่ ว นตั ว บานประตูทางเข้านั้นเป็นไม้แผ่นใหญ่แกะเป็นรูป เทวดายื น ยามอยู่ ทั้ ง สองข้ า ง เธอว่ า สั่ ง มาจาก เมื อ งไทยทางภาคเหนื อ ภายในห้ อ งนั้ น มี พ ระ

พุทธรูปตั้งอยู่เป็นประธาน มีเบาะรองนั่งวางอยู่ หกเจ็ ด ใบหน้ า พระพุ ท ธรู ป เธอว่ า จะมี เ พื่ อ นๆ

มานั่งวิปัสสนากรรมฐานกัน เป็นกิจกรรมอย่าง หนึ่งของกลุ่มเพื่อนๆ ผมนึกถึง คุณหมู ของผม นึ ก ภาพไม่ อ อกเลยว่ า เพื่ อ นผมจะทำอย่ า งไร

ในตอนนั้น ออกจากโบสถ์ส่วนตัวแล้วเธอพาเดิน ไปดูเรือนเพาะชำกล้าไม้ เป็นเรือนใหญ่คลุมพลา สติคมิดชิด เข้าใจว่าคงกันพวกแมลงและควบคุม อุณหภูมิด้วย จิลล์ ทำงานกับพวกป่าไม้บนเกาะ แห่ ง นี้ เป็ น คนของรั ฐ แต่ ก็ มี ง านเสริ ม คื อ

เพาะพันธุ์กล้าไม้ขายรัฐบาลด้วย เธอมิสิทธิ์พิเศษ

ผมเดินตามไป ถึงกอไผ่แกจึงชี้ขนาดของลำไผ่ให้ ดูว่าอันไหนน่าจะใช้ได้อันไหนใช้ไม่ได้ เป็นขั้น ตอนหนึ่งในการอุ่นสาเกของอาจารย์ ซึ่งดูออกจะ คัดสรรอยู่พอสมควร ได้ลำไผ่ที่หมายแล้วแกก็ฟัน ฉั บ ที เ ดี ย วขาด แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง คามคมของมี ด และความแข็ ง แรงของอาจารย์ (เช้ า วั น เสาร์ อาทิ ต ย์ ตี เ ทนนิ ส ทุ ก วั น ) ผมมี ห น้ า ที่ แ บกไม้ ไ ผ่

ในการสั่ ง พั น ธุ์ ไ ม้ จ ากทั่ ว โลกเข้ า มายั ง เกาะได้ เดินตามหลังอย่างเดียว ไม่กล้าฟัน ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ยืนต้น เธอว่าเคยสั่งเมล็ดต้น ที่ พั ก ที่ นี่ ไ ม่ มี ไ ฟฟ้ า จึ ง จุ ด เที ย นและ สั ก จากเมื อ งไทยเข้ า มา แต่ เ พาะได้ ไ ม่ ค่ อ ยดี ตะเกียง ตกมืดยุงชุมพอใช้ได้ แต่เรือนพักนั้น

อาจเป็ น เพราะเมล็ ด ไม่ ส มบู ร ณ์ จึ ง ตายเสี ย มี ต าข่ า ยไนล่ อ นล้ อ มรอบมิ ด ชิ ด แมลงและยุ ง

เป็ น ส่ ว นใหญ่ หมู อำผมว่ า ให้ ผ มเลิ ก เขี ย น จึงเข้าไม่ได้ และคืนนี้อีกเช่นเคย ผมกับเพื่อน

หนังสือเถอะ แล้วมาทำธุรกิจกับ จิลล์ ปีๆ หนึ่ง ของ Miho (ลูกสาวอาจารย์) ต้องออกไปสูบบุหรี่ ได้ เ ยอะกว่ า เขี ย นหนั ง สื อ หลายเท่ า แล้ ว เราก็ ข้างนอก สูบไปยุงก็ตอมไป แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร หัวเราะกัน เพราะรู้ว่าอำกัน เพราะพวกเราอยากกันเอง จะไปบ่นให้ใครฟัง เดินดูบริเวณบ้านสักพักใหญ่ๆ จึงร่ำลา ปาร์ตี้คืนนี้มีทั้งไวน์, เบียร์ และสาเก บาร์บีคิว

เจ้าของบ้านแล้วก็กลับบ้านมานอนเอาแรง คืนนี้ มี ป ลา, ไก่ , เนื้ อ เลื อ กกิ น กั น อิ่ ม หนำ ผมกั บ จะมีการเลี้ยงส่งกันเป็นการภายใน (ครอบครัว) อาจารย์เลือกกินสาเกยืนพื้น จึงคุยกันถูกคอ แก ที่ในไร่กาแฟของอาจารย์ เป็นปาร์ตี้บาร์บีคิว อำผมหลายเรื่ อ ง จริ ง ๆ แล้ ว จึ ง ได้ รู้ ว่ า แกเป็ น

คนคุยสนุก ทั้งๆที่ภายนอกนั้นดูเป็นคนเคร่งขรึม ตกเย็นเราจึงยกโขยงกันเข้าไร่ มีอาจารย์ แกเล่าถึงชีวิตตอนเป็นวัยรุ่นของแกให้ฟัง มีเรื่องจี้ Hiroki, ภรรยาอาจารย์ ลู ก สาวอาจารย์ และ เยอะเหมือนกัน ทุกคนอิ่มและสนุกกันถ้วนหน้า เพื่ อ นชายของลู ก สาวอี ก สองคน และ คุ ณ หมู ต่ า งอวยพรการเดิ น ทางในวั น พรุ่ ง นี้ ใ ห้ ผ ม ของเรากั บ จิ ล ล์ ทางลงไร่ ก าแฟอยู่ ใ นหุ บ เขา สวมกอดกันเหมือนอยากให้จดจำคืนนี้ไว้ สำหรับ เป็นทางหิน กระโดกกระเดกลงตลอดทาง ผมนั่ง ผมเป็นคืนที่สวยงามในมิตรภาพเล็กๆของเราอัน รถมากับอาจารย์ (รถจี๊ปรุ่นเก่า) จึงไม่ต้องเดิน อบอุ่น ปาร์ตี้เลิกราวสี่ทุ่มแล้วพวกเราก็ออกจาก ส่ ว นที่ ม ารถธรรมดาต้ อ งลงเดิ น แต่ พ วกที่ เ ดิ น ไร่ ก าแฟกั น ส่ ว นอาจารย์ น อนค้ า งอยู่ ใ นไร่

กลับถึงก่อน เพราะเส้นทางเดินลัดกว่า มาถึงที่ คนเดียว แกอาจต้องการความสงบ หรือขับรถ

พักในไร่ อาจารย์ก็ฉวยมีดอันใหญ่ แล้วบอกให้ ไม่ไหวไม่แน่ใจ

51


กลับถึงบ้านผมนั่งดื่มกับ หมู ต่อที่ห้อง ของเขา เราคุยกันหลายเรื่อง เพราะจากนี้ไปไม่รู้ เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก การเขียนจดหมาย หรือ โทรศัพท์คุยกันนั้น เทียบไม่ได้เลยกับการที่เรานั่ง ดื่มเหล้ากันต่อหน้า ได้หัวเราะได้ชนแก้วกัน มัน สดกว่ากันเยอะ มีหลายเรื่องที่ผมคงเอามาเล่าให้ ท่านผู้อ่านฟังไม่ได้ แต่คิดว่าเรื่องนี้ถ้าผมเอามา เล่า คุณหมู แกคงไม่ว่าอะไร คือเรื่อง จิลล์ หมู ว่ า ดู ๆ แล้ ว มั น ห่ า งกั น เยอะ ทั้ ง ฐานะและนิสัยส่วนตัว เขาว่า แต่ก็จะลองดู ถ้า ไม่ไหวจริงๆค่อยว่ากัน ผมบอกกับ หมู ว่า จิลล์ นั้นเธอคงรู้อยู่กับใจเธอดี ว่าเธอคิดอย่างไรกับ เรื่ อ งนี้ ปล่ อ ยให้ เ ป็ น เรื่ อ งของเธอเถอะ แต่ ที่ สำคั ญ ก็ คื อ มึ ง ต้ อ ง “ทำงาน” ลองคิ ด ดู ว่ า คน อย่างเรานี่ ถ้าไม่มีงานแล้วมันจะเหลืออะไร มันก็ เหลือแต่คนแก่ขี้เมาสองคน พูดจาลามกไปวันๆ เท่านั้นเอง ใครเขาจะมาสนใจ เขาไม่ทุเรศตาก็ บุญถมไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ที่เรายังพอมีที่อยู่ที่เดิน ได้ พูดกับใครมีคนฟังบ้าง ก็เพราะ “งาน” ที่เรา ทำเท่ า นั้ น เอง แต่ นั่ น ไม่ ไ ด้ ห มายความว่ า เรา ทำงานเพื่อจิลล์ เราทำงานเพื่องาน ก็เท่านั้นเอง ถึงไม่มีจิลล์ก็ต้องทำ พูดคุยกันว่า ถ้าโชคดีวัน ข้างหน้า หมู อาจจะได้มาแสดงภาพให้คนไทยได้ ดูที่บ้านเกิดบ้าง ขอให้ทำงานไปอย่าหยุด ผมกับ หมูนั้นเป็นเพื่อนกัน แต่ หมู อ่อนกว่าผมหลายปี นานๆ ครั้งถ้าเขาครึ้มขึ้นมา เขาจะเรียกผมว่า “พี่ชาย” คืนนี้เขาบอกผมว่า “ได้ พี่ชาย” และ ผมลาจากห้องน้องชาย (บ้านหลังเล็ก) กลับห้อง ผมที่บ้านหลังใหญ่ในราวตีสองกว่า...

52

ตอนเช้าตื่นขึ้นมาจึงปวดหัวเพราะเมื่อคืน “กินยา”ไปหลายขนาน อาจารย์ HiRoki กลับจาก ไร่ ก าแฟแล้ ว ก็ ล งทำงานในสตู ดิ โ อของแกต่ อ

ตามปกติ แต่วันนี้ผิดปกติอย่างหนึ่ง แกชวนผม ลงไปดู แ กทำงานด้ ว ย ภายในสตู ดิ โ อนั้ น

แกขึ้นงานเอาไว้หลายชิ้น ทั้งงานเพ้นท์ งานพิมพ์ งานประติ ม ากรรม แกว่ า ถ้ า ตั น อั น นี้ ก็ ย้ า ยไป

ทำอันอื่น เป็นการเปลี่ยนวิธี และทำให้ไม่เบื่อ

ดู ง านไต่ ถ ามหาความรู้ จ ากอาจารย์ จึ ง ได้ รู้ ว่ า ศิ ล ปิ น จริ ง ๆ นั้ น เขามี วิ ธี ก ารทำงานกั น อย่ า งไร ก่อนขึ้นจากห้องทำงานของแก อาจารย์หยิบงาน มาให้ผมชิ้นหนึ่ง เป็นภาพพิมพ์ เป็นภาพพิมพ์

ที่ล้องานเพ้นท์ของ ปิกัสโซ่ (งานยุคแรกๆ ) ผม จำชื่อชิ้นงานไม่ได้ แต่ภาพนี้เห็นผ่านตากันพอ สมควร รูปผู้หญิงกับผู้ชายผอมเซียวทั้งคู่ ผู้ชาย ในมื อ ถื อ แก้ ว เหล้ า กอดคอผู้ ห ญิ ง บนโต๊ ะ มี

ขวดเหล้ า และจานเปล่ า ๆ วางอยู่ ทั้ ง คู่ สี ห น้ า

อมโศก ทุกอย่างเหมือนกับภาพนี้หมด เพียงแต่ เป็นภาพพิมพ์ และในมือแทนที่จะเป็นแก้วเหล้า กลับเป็น “บุหรี่” ในจานที่ว่างเปล่าเบื้องหน้านั้น เต็ ม ไปด้ ว ยก้ น บุ ห รี่ อาจารย์ ยื่ น ให้ ผ ม บอกว่ า

เป็นที่ระลึก แกว่าเพื่อนแกที่มาที่นี่ (เฉพาะคนที่ สูบบุหรี่) แกจะให้ภาพนี้ทุกคน ผมหัวเราะชอบใจ แกบอกว่าเดี๋ยวจะแพ็คม้วนใส่กล่องแข็งมาให้ ให้ ผมไปเตรียมตัวเก็บของเดินทางได้ จะได้มีเวลา ตอนสายๆ จิ ล ล์ มารั บ หมู เพื่ อ ไป

ช่ ว ยกั น เก็ บ เม็ ด “คั ว ” (ไม้ เ นื้ อ แข็ ง ชาวฮาวาย

ใช้ทำเรือ และทำกีตาร์) หมู จึงไม่ได้ไปส่งผม เราร่ำลากอดกันสั่งเสียกันด้วยถ้อยคำง่ายๆ ว่า

“แล้ ว เจอกั น ” เราทั้ ง คู่ ต่ า งเข้ า ใจในคำนี้ แต่

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อาจารย์ HiRoki และ Setsuko มาส่ง ระหว่างที่ Setsuko และ โส่ย เข้าไปซื้ออาหาร และเบียร์ (สำหรับผมกับอาจารย์) เพื่อไปนั่งกิน มื้อเที่ยงกันที่ริมทะเล อาจารย์พาผมเดินเข้าไปใน ธนาคารเพื่ อ ไปดู ชิ้ น งานของแกที่ ท างธนาคาร

ซื้ อ ไป เป็ น งานแอบสแทร็ ค ท์ เ ห็ น ถึ ง ทะเลและ ธรรมชาติของฮาวาย ชิ้นงานยาวสักยี่สิบเมตร

สูงไม่น่าจะต่ำกว่าเจ็ดเมตร ยาวเกือบเต็มผนัง ธนาคาร เห็นงานแล้วก็ทึ่งในพลังของแก แต่ที่

น่าทึ่งกว่า แต่ไม่กล้าถามอาจารย์ คือ อยากรู้ว่า แกขายไปเท่าไหร่ (ฮา) เรามานั่งกินอาหารญี่ปุ่น (กล่อง) แกล้ม กั บ เบี ย ร์ ริ ม ทะเล เป็ น สนามบิ น เก่ า ของเกาะนี้

เขาเลิกใช้แล้ว จึงทำเป็นสวนสาธารณะให้คนได้ เข้ามาพักผ่อน เรื่องพูดคุยกันส่วนใหญ่เป็นเรื่อง ของ คุณหมู ผมชื่นชมในความมีน้ำใจของคน

ทั้ ง สอง และดี ใ จที่ เ พื่ อ นผมได้ ม าอยู่ ที่ นี่ กั บ ครอบครัวนี้ Setsuko นั้นถึงกับออกปากว่า เธอ รู้สึกเหมือน หมู นั้นเป็นลูกคนหนึ่งของเธอ ใกล้เวลาเดินทาง อาจารย์และภรรยาจึง ขับรถมาส่งที่สนามบิน มาถึงสนามบิน หมู ยืน ยิ้มเผล่คอยอยู่แล้ว เช็คอินเรียบร้อย คุยกันสักพัก ใหญ่ๆ ก็จำต้องแยกย้ายจากกัน “แล้วเจอกัน” ระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องเพื่อบินกลับ L.A. ผมย้อนนึกดูเทียบกับก่อนที่จะมาเห็น มันไม่ได้ เหมือนอย่างที่เคยคิดไว้เลย อุตส่าห์เตรียมแว่น มาก็ ไ ม่ ไ ด้ ดู มิ ห นำซ้ ำ ยั ง ซวยได้ รั บ แจกท่ อ น “กล้วย” ตอนเช้าอีก โอ้...ฮาวาย โถ...ทำกันได้

ชาติ กอบจิตติ


iเรืCOLUMN : เรื่องสั้น ่อง :: ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

ภาพประกอบ :: อารีจิตร

“ผมชื่อประชวน...เรียกผม ‘ชวน’ ก็ได้” ผมกล่าวพลางยื่นมือออกไปเขย่ากับเขา “คุณ...เอ่อ...คุณชวน คุณรู้จักชื่อของผม ได้ยังไง” เขายังคงงงไม่หาย แทนคำตอบผมชี้มือ ไปยังทิศที่ตู้ปลาตั้งอยู่ เขามองตามพลางเดินไป หยุดยืนอยู่หน้าตู้ปลา จ้องมองสิ่งที่อยู่ในนั้น “ชื่อจริงของคุณคือ ยามาฮ่า ฮอนด้าซีวิค ฮิคารุ แต่เมื่อแปลงร่างแล้วคุณก็จะกลายเป็นไอ้ มดแดง V-7 หรื อ ยอดมนุ ษ ย์ ไ ฟฟ้ า คาเมน

ไรเดอร์สตรองเกอร์” เขาหันมามองผมอย่างไม่ เชื่อสายตา “ไม่ เ พี ย งเท่ า นั้ น ผมยั ง รู้ อี ก ด้ ว ยว่ า คุ ณ เป็ น ไอ้ ม ดแดงเพี ย งตั ว เดี ย วที่ มี ผู้ ช่ ว ยสาวแสน สวย...เธอชื่อแท็คเกิล” กล่าวถึงตรงนี้ พลันสีหน้า ของเขาสลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนผมชักไม่แน่ใจ ว่าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า เขายืนนิ่งอยู่นานก่อน จะนั่งลงที่โซฟาฟากตรงข้ามกับผมแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ น่ า เชื่ อ เลยว่ า จะยั ง มี ค นจำผมได้ ขนาดในญี่ ปุ่ น เองยั ง แทบไม่ มี ใ ครรู้ จั ก พวก เรา...เขาลืมเรากันไปหมดแล้ว เด็กๆ วัยรุ่นก็หัน ไปเห่อแต่พวกบอยแบนด์หัวทองกับไอ้เด็กชินจัง อะไรนั่น แต่นี่บนผืนแผ่นดินไทย คุณเองก็เป็นคน ไทยแท้ๆ กลับยังจำผมได้ ไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจ หรือเสียใจดี...ฮะ ฮะ ฮะ...” เขาเอนหลังลงกับ โซฟา ทอดสายตาเหม่อมองไปบนเพดานอย่างไร้ ความหมาย ผมสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในเสียง หัวเราะอันขันขื่นนั้น และเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิด ปรกติบางอย่าง “ยังไงก็ตาม ผมขอขอบคุณมากที่กรุณา ช่วยผมไว้ แม้ว่าผมจะไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น เลย” เขายื่นมือมาเขย่ากับผมอีกครั้ง ผมสัมผัส ได้ว่ามือขวาของเขามีอาการสั่นผิดปรกติ “คุ ณ หมายความว่ า ยั ง ไงครั บ ที่ ว่ า ไม่ อยากให้มันเป็นอย่างนั้น” ผมถามเพราะไม่เข้าใจ จริงๆ เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบ “ก็แล้วคุณคิดว่าผมขึ้นไปทำอะไรอยู่บน นั้นล่ะ” ผมนิ่งคิด เขานิ่งเงียบ คล้ายมีกำแพง โปร่งใสก่อตัวขึ้นคั่นกลางระหว่างเราสองคน แต่

ตำนานสุดท้ายไอ้มดแดง

3 เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนส่องทะลุผ้า ม่านลายลูกไม้ลงทาบเปลือกตาพอให้รู้สึกตัวตื่น ผมพบตัวเองนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา สิ่งแรกที่ ทำคือผงกหัวขึ้นมองเตียงนอน...มันว่างเปล่า...ผม พยายามตั้งสติคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่ เกิดขึ้นเมื่อคืน หรือว่ามันเป็นเพียงความฝัน? ผม อาจจะเมามากเกินไป แต่ยังไม่ทันจะได้ข้อสรุป ใดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลัง

“สวัสดี” ผมหันไปดูจึงเห็นว่าเป็นชายคน เดียวกับที่นอนอยู่บนเตียงเมื่อคืนนี้ ผมไม่ได้ฝัน ไป... “คุณคงเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้และ พาผมมาที่นี่ ถ้าเดาไม่ผิด ที่นี่คงเป็นบ้านของคุณ สินะ” เขากล่าวพลางเหลียวมองไปรอบๆ ห้อง มั น ฟั ง เหมื อ นประโยคบอกเล่ า มากกว่ า จะเป็ น คำถาม ผมมึนงงเกินกว่าจะพูดอะไรได้ดีไปกว่า คำว่า “ครับ” “ผมชื่อ...” “ฮิ ค ารุ ” ผมแทรกขึ้ น ก่ อ นที่ เ ขาจะเอ่ ย ออกมา สีหน้าเขาดูประหลาดใจไม่น้อย

53


ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน กลายเป็นคนติดเหล้ากัน ไปหมดแล้วหรือนี่? “แล้ ว ซู เ ปอร์ วั น ล่ ะ ” ผมหมายถึ ง ไอ้ มดแดง V-9 ตัวที่ดังที่สุดเมื่อยี่สิบปีก่อน คนที่มี ถุงมือวิเศษเปลี่ยนได้หลายคู่ ตอนเด็กๆ ผมชอบ เถียงกับเพื่อนว่าแบบไหนเจ๋งที่สุด “นั่นล่ะตัวขี้เมาเลย เพิ่งเป็นตับแข็งตาย ไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง” คำตอบของเขาทำผมถึงกับ อึ้ง ไอ้มดแดงเป็นตับแข็งตาย นี่มันอะไรกันวะ? อยากหลอกตัวเองเหลือเกินว่าหูคงจะมีอะไรผิด ปรกติไป แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่ผมได้ยินมันก็ เป็ น อย่ า งนั้ น เขายั ง คงก้ ม หน้ า ก้ ม ตาดื่ ม ต่ อ ไป ตอบคำถามผมด้วยแววตาเหม่อลอยไร้ความรู้สึก เหมือนไม่ใส่ใจอีกต่อไปแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต่อ แล้วก็เป็นเขาที่เอ่ยขึ้นก่อนเพื่อทำลายความเงียบ ให้โลกจะแตกตรงหน้าก็ตามที อันน่าอึดอัดนี้ “คุ ณ คงไม่ ไ ด้ ห มายความว่ า คู ก้ า กั บ อา “คุ ณ ชวน...ผมไม่ อ ยากจะรบกวนคุ ณ กิโตะด้วยหรอกนะ” ผมถามถึงไอ้มดแดงขวัญใจ เลย...ว่าแต่ในห้องนี้พอจะมี...เอ่อ...มีเหล้าบ้าง เจ้าน้องชายคนเล็ก ไหม...คือว่าผม...เป็นแอลกอฮอลิซึ่ม” ท่าทางเขา “สองคนนั่ น เพิ่ ง เริ่ ม แต่ ก็ ค งอี ก ไม่ น าน อึดอัดไม่น้อยที่ต้องพูดมันออกมา ผมเดินไปเปิด หรอก...แอลกอฮอลิซึ่มเหมือนๆ กัน” เขายังคง ตู้เย็นหยิบขวดเหล้าส่งให้ มันเป็นว็อดก้าเกรดต่ำ ตอบเหมือนเห็นเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ผมจะบ้า แต่ก็คงจะพอแก้ขัดได้ ผมไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ ตาย นี่ถ้าน้องชายผมรู้เข้ามันจะคิดยังไงนะ เพราะเริ่ ม สงสั ย ตั้ ง แต่ ต อนที่ เ ห็ น มื อ ของเขาสั่ น “คุณฮิคารุ ผมมีเรื่องมากมายอยากจะ แล้ว ถามคุณ แต่ก่อนอื่นคุณจะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะ “อันนี้คงพอใช้ได้” ขอถามอะไรโง่ๆ สักอย่าง” “ขอบคุณมาก” เขายื่นมืออันสั่นเทามารับ “ว่ามาเถอะคุณชวน คงไม่มีอะไรในโลก ขวดเหล้าไปจากผม เปิดฝาออกอย่างรวดเร็วแล้ว บูดๆ เบี้ยวๆ ใบนี้จะเซอร์ไพรส์ผมได้อีกแล้วล่ะ” ยกขึ้นกรอกปากอึกใหญ่ “คือผมยังสงสัยอยู่ว่า เมื่อคืนผมเห็นกับ “หมายความว่ า คุ ณ ติ ด เหล้ า อย่ า งนั้ น ตาว่าคุณพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดด หรือ” ผมยังไม่วายถามออกไป ลงมาจากที่สูงขนาดนั้น แต่คุณกลับไม่เป็นอะไร “ใช่ ” เขาตอบก่ อ นกระดกเหล้ า อี ก อึ ก เลยแม้แต่น้อย แล้วทำไมกะอีแค่เหล้าธรรมดาๆ หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่ ถึ ง ทำให้ ซุ ป เปอร์ วั น ซึ่ ง เป็ น ยอดมนุ ษ ย์ เป็ น ไอ้ เป็นอย่างนี้...พวกเราคนอื่นๆ ก็เป็น” มดแดงเหมือนกับคุณ...เอ่อ...เป็นตับแข็งตายได้” “คุณหมายถึงไอ้มดแดงตัวอื่นๆ น่ะหรือ” “นึกว่าอะไรเสียอีก คือมันเป็นอย่างนี้คุณ “ใช่...ทั้งคาเมนไรเดอร์ X... อเมซอน... สกาย ชวน ผมน่ ะ นึ ก สั ง หรณ์ ใ จอยู่ แ ล้ ว ก่ อ นที่ จ ะ ไรเดอร์ก็ด้วย” เขาหมายถึงไอ้มดแดง V-5, V-6 กระโดดลงมาว่ามันอาจจะไม่สำเร็จ เหมือนกับ และ V-8 นี่สิที่ทำให้ผมแปลกใจ! ฮีโร่ในวัยเด็ก ครั้งก่อนๆ ที่ผมเคยพยายามมาแล้ว เพราะว่า ของผมที่คอยผดุงคุณธรรม ปกป้องความยุติธรรม เวลาที่พวกเรา...ผมหมายถึงไอ้มดแดงน่ะ เวลาที่

54

พวกเราตกอยู่ในอันตราย เราจะกลายร่างโดย อัตโนมัติ ที่ผมยังมีชีวิตรอดมาได้จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็ เป็นเพราะชุดเกราะนั่นแหละ... “แต่ว่าชุดเกราะจะสามารถปกป้องเราได้ ก็แต่อันตรายที่มาจากภายนอกเท่านั้น ไม่รวมถึง สิ่งที่ทำร้ายเราจากข้างในอย่างเหล้าหรอก พวก เราอาจจะแข็งแรง อาจจะมีพละกำลังมหาศาล มีท่าไม้ตายไว้ปราบพวกผู้ร้าย แต่คุณต้องอย่าลืม ว่ า เวลาที่ ไ ม่ ไ ด้ แ ปลงร่ า ง พวกเราก็ เ ป็ น คน ธรรมดาๆ เหมือนอย่างพวกคุณ เราต้องกินเมื่อ หิว เราต้องขับถ่าย ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียง พอ ต้องดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เราหัวเราะเมื่อดู หนังตลก เราร้องไห้ เราซึมเศร้าเหงาเพราะรัก เรามีความสุขและความทุกข์เหมือนกับพวกคุณ เช่นกัน...อ้อ! อีกอย่างที่ซุปเปอร์วันเป็นตับแข็ง ตายน่ะ เพราะเขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นเอง เขาเลือกที่จะทำร้ายตัวเองด้วยการดื่มเหล้าขาว” “คุณหมายถึงเหล้าขาวของประเทศผมน่ะ เหรอ” “40 ดีกรี แบบที่แกล้มกับมะขามเปียก จิ้มเกลือ...นั่นแหละใช่เลย” “ก๊ า ก ก๊ า ก ก๊ า ก...ฮ่ า ฮ่ า ฮ่ า ...เฮอะ เฮอะ เฮอะ” ผมระเบิ ด เสี ย งหั ว เราะราวคน เสียจริต ถ้าคุณได้มาฟังเรื่องราวเหล่านี้เหมือนที่ ผมได้ยินล่ะก็ เชื่อเถอะว่าคุณจะมีอาการไม่ต่าง กับผมเท่าไหร่หรอก ก็ใครจะไปเชื่อล่ะว่ามันเป็น ความจริง ถ้าไม่ได้มาเจอกับตัว ผมต้องขอเหล้า จากเขามากระดกเองสองสามอึกถึงได้รู้สึกดีขึ้น บ้าง เรายังคงคุยกันต่ออีกยาว... (อ่านต่อฉบับหน้า)

ชาติวุฒิ บุณยรักษ์


iเรืCOLUMN : เรื่องสั้น ่อง :: อนุสรณ์ ติปยานนท์ ภาพประกอบ :: อารีจิตร

นิวยอร์ค

นครแห่งอนาคต 1

แรกเริ่ ม นั้ น มี เ สี ย งแห่ ง ลมอั น กรรโชกชั ด ครั้ น แล้ ว ก็ มี เ สี ย งแห่ ง หมู่ น ก นางนวลที่ออกหากิน ตามติดด้วยเสียงของผู้คนที่ออกจากเคหา เสียงแห่ง ยวดยานอันสัญจรแออัด เสียงแห่งการเริ่มต้นชีวิตในวันหนื่ง เป็นเสียงเหล่านั้นเสมอที่เกิดขึ้นในยามเช้าแห่งมหานครนี้-นิวยอร์ค และเป็นผมเสมอที่นอนฟังเสียงเหล่านั้น ตลอดเวลา 5 วันที่ผ่านมา ผมจะผละตัวออกจากที่นอนเมื่อแสงแรก แห่งวันมาถึง เหยียบเท้าสองข้างลงบนบันไดหนีไฟเพื่อขึ้นสู่ดาดฟ้า ทอดสาย ตาไปยังสุดขอบแห่งเกาะแมนฮัตตัน เฝ้ามอง Ground Zero ดินแดนปรัก หักพังแหล่งสุดท้ายอาบตัวอยู่ใต้แสงแดดที่ทะลุหมู่เมฆลงมา และเมื่อทุกสิ่ง เบื้องหน้าสว่างโพลงในสายตา ผมจะกลับลงมาสู่ที่พัก ชำระร่างกาย เปลี่ยน เสื้อผ้าชุดใหม่ และออกตระเวณหาสถานที่สักแห่งเพื่อทำการหลับไหล ผมไม่อาจหลับตาลงได้ในยามค่ำคืน และไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ใน เวลากลางวัน แจ๊ซบาร์ แถบกรีนนิช วิลเลจ ม้านั่งยาวในริเวอร์ไซด์พารค์ พื้นที่ใต้ปะติมากรรมอารต์ เดโค กลางลานร้อคกี้เฟลเลอร์ บันไดทางเดิน ข้างตลาดปลาในเซาท์สตรีต ซีพอรต์ ล้วนถูกผมใช้เป็นที่พักพิง แม้เป้า หมายการมาสู่นิวยอร์คของผมคือการไปถึง Ground Zero แต่ผมกลับพร่า ผลาญเวลาดังปลาหลงฝูง ถึงเวลานี้แล้ว ผมไม่รู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ในนิวยอร์ คอย่างไร ทว่าการหันหลังกลับ นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ Ground Zero เป็นสถานที่ที่ผมจะต้องไปให้ถึงในวันหนึ่ง… แต่วันไหนเล่า? เมื่อผมรู้สึกตัวขึ้นนั้น รอบกายมีเสียงฮึมฮัมของเครื่องจักรกลดัง ระงมไปทั่ว ดวงไฟกลมกลางเพดานสว่างจ้าจนแสบตา ท่อนแขนข้างขวาถูก ผูกติดอยู่กับสายน้ำเกลือข้างเตียง ผมชันกายขึ้นและกวาดสายตาไปรอบๆ “โรงพยาบาล นิวยอร์ค เมโธดิสท์ นายแพทย์ ปาร์ค หัวหน้า แพทย์ประจำบ้าน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

55


ผู้ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อผ้าสีขาวยื่นแก้วน้ำให้กับผม ก่อนจะยิ้มอย่าง เป็นมิตร“คุณสลบไปเนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เราฉีดกลูโคสและ วิตามินให้เรียบร้อยแล้ว ใครบางคนที่กลัวคุณจะเป็นอันตราย โทรบอก 911 พวกเขานำคุณมาที่นี่” ชายคนนั้นถอนหูฟังออกจากหน้าอกของผม แล้วลงมือปลดสายน้ำ เกลือที่สงบนิ่งแล้ว “ใช้ยาเสพติดบ้างหรือเปล่า?” ผมส่ายศีรษะแทนการเอ่ยปาก แม้จะ ได้น้ำแล้วแต่ในลำคอก็แสนแห้งผาก “ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ไม่สำคัญหรอก ผมเป็นหมอไม่ใช่ตำรวจ คุณ ต้องไปลงชื่อและรับของใช้ส่วนตัวคืนที่แผนกเวชระเบียน พอเดินไหวไหม?” แทนการรอคำตอบ ชายคนนั้น-นายแพทย์ ปาร์ค เดินนำหน้าไปรอ ผมที่นอกห้อง การเดินไปข้างๆ ทำให้ผมได้มีโอกาสสังเกตุเขาอย่างใกล้ชิด เขาเป็นชาวเอเชีย อเมริกัน ด้วยผมสีเทาเงินและสำเนียงภาษาอังกฤษอันดี เยี่ยมเท่านั้นที่ทำให้ผมไขว้เขว บรรยากาศทั่วไปในโรงพยาบาลแห่งนี้สะอาด สะอ้านและเป็นระเบียบ นอกจากผู้ป่วยแล้วเจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนอยู่ในชุด ปฎิบัติงาน สิ่งเดียวที่คล้ายคลึงกับโรงพยาบาลแห่งอื่นคือหมอทุกคนไม่เคย คิดจะหยุดอยู่กับที่เพื่อพูดคุย ผมลงชื่อตนเองในกระดาษแผ่นหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นตรวจตราสิ่งของ ในกระเป๋ า สะพาย หนั ง สื อ เดิ น ทาง กระเป๋ า เงิ น แผนที่ ฯลฯ..ทุ ก สิ่ ง

ดูเรียบร้อยดี “มาทางนี้ดีกว่า ผู้ป่วยจากประเทศไทย ผมจะพาคุณไปยังลานจอด รถรับจ้าง” นายแพทย์ ปาร์คเริ่มต้นเดินอีกครั้ง ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเป็นไปไม่ ได้ที่จะห้ามพวกหมอไม่ให้เดินไปสนทนาไป “ที่นั่น อากาศยังร้อนอยู่ไหม

ในฤดูร้อน เมืองไทย” “อากาศยังร้อนอยู่ในฤดูร้อน มันไม่เคยหนาวในฤดูร้อน”ผมตอบ เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “จริงสินะ ผม เพียงแต่คิดว่า 30 ปีผ่านไปมันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง” “คุณเคยไปเมืองไทย?” “ครั้งเดียว ตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด ผมสังกัดอยู่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ของพีช คอร์ปในเวียตนาม มีโอกาสได้ฮอลิเดย์ที่กรุงเทพฯ-กลางฤดูร้อน” ผมไม่รู้ว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ใหญ่โตเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าเรายังไม่ พบทางออกเสียที “แล้วคุณล่ะ มาเที่ยวหรือ?” เขาถาม ในขณะที่มืออีกข้างถูกใช้โบก ทักทายเพื่อนร่วมงาน “ไม่ ผมเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่ง” “คนไทย?” ผมส่ายศีรษะแทนคำตอบอีกครั้ง ทางออกอยู่ที่ไหนนะ

56

“คนเกาหลี-อเมริกัน เธอเป็นคนเกาหลีอเมริกัน” “เชื้อชาติเดียวกับผม ”เขายิ้ม” เจอกัน หรือยัง” “เธอจากโลกนี้ไปแล้ว”ผมตอบเขาเบาๆ ในที่สุดเขาก็หยุดเดิน และผมเริ่มรู้สึกวิงเวียนและ อ่อนล้า “ผมเสียใจด้วย คุณคงเพิ่งทราบสินะ” ผมส่ายหน้าอีกครั้ง “11 กันยายน 2001 เธอเป็นทนายความบริษัท MC… ตึกแฝดหลัง

ที่ 2” “ทนายความบริษัท MC…?” คราวนี้เขา หยุดเดินจริงๆ ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมอย่าง พินิจพิเคราะห์ ”อายุราว 27 ปีในตอนนั้น ศิษย์ เก่ า มหาวิ ท ยาลั ย โคลั ม เบี ย ประจำสาขาที่ ลอนดอน?” ผมพยักหน้าตอบเขาอย่างช้าๆ ราวกับว่า ผู้ป่วยทั้งหมดในโรงพยาบาลแย่งอากาศไปจาก ผม ร่างกายของผมอ่อนแรงและเหนื่อยล้าอย่าง บอกไม่ถูก “กรุณารอตรงนี้สักครู่เดียว”เขาเดินย้อน กลับไปที่แผนกเวชระเบียนอย่างรีบร้อน ผมเอน หลั ง พิ ง ฝาผนั ง ในขณะที่ ส ายตามองตามเขาไป นายแพทย์ ปาร์ ค ยกหู โ ทรศั พ ท์ แ ล้ ว ทำการ สนทนาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินกลับมาหาผมพร้อม กับเศษกระดาษแผ่นหนึ่ง “คุณจะช่วยไปตามที่อยู่นี่ได้ไหม มีใคร บางคนต้องการจะพบกับคุณ” อ่านต่อฉบับหน้า

อนุสรณ์ ติปยานนท์


iเรืCOLUMN : อิงประวัติศาสตร์ ่อง :: กฤษดา เมืองไชย

พวกแก๊ ง ค์ อั้ ง ยี่ แ ม้ จ ะถู ก ปราบปราม อย่ า งเฉี ย บขาดในสมั ย รั ช กาลที่ 3 แห่ ง กรุ ง รั ต นโกสิ น ทร์ ไ ปแล้ ว ก็ ต าม แต่ ก็ ห าได้ ท ำให้ “อั้งยี่” หมดสิ้นไปไม่ เพียงแต่ก่อความเดือดร้อน ให้ประชาชนน้อยลงไปบ้างเท่านั้น พวกอั้งยี่เริ่มกำเริบเสิบสานขึ้นมาอีก ใน สมั ย พระบาทสมเด็ จ พระจอมเกล้ า เจ้ า อยู่ หั ว รั ช กาลที่ 4 สาเหตุ ส ำคั ญ น่ า จะมาจากเรื่ อ ง เศรษฐกิจทางด้านการค้าขายของไทยก้าวหน้าขึ้น มามาก มีการทำสนธิสัญญาทางการค้ากับต่าง ประเทศ นอกจากนั้ น ก็ มี ก ารตั้ ง โรงสี ข้ า ว โรง เลื่อย และมีการขนส่งทางด้านทะเล ซึ่งกิจการ เหล่านี้จำเป็นต้องใช้แรงงานเป็นกรรมกรจำนวน มาก จึงทำให้มีการแสวงหาผลประโยชน์กันด้วย การตั้งตัวเป็นคนกลาง รับเอาชาวจีนเข้ามาเป็น กรรมกร ซึ่งผู้หากินด้วยการเป็นคนกลางนี้ ใน สมัยนั้นเรียกกันว่า “เถ้าแก่” เถ้าแก่แต่ละคนก็พยายามชักชวนชาวจีน ที่เพิ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ มาเป็นพวกพ้อง ของตน จึงมีการแข่งขันแย่งชิงตัวคนจีนที่เข้ามา ใหม่ กั น ขึ้ น เพื่ อ ผลประโยชน์ นี้ เ อง จึ ง มี ก าร รวบรวมสมัครพรรคพวกตั้งตัวเป็น “อั้งยี่” เพื่อ ปกปักรักษาคนของตัวเอง และข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม นอกเหนือจากเศรษฐกิจของไทยในสมัย นั้นจะก้าวหน้าไปมากแล้ว ทางการยังได้ตั้งกฎ เกณฑ์เกี่ยวกับการเสียภาษีอากรขึ้นใหม่ ซึ่งมีอยู่ หลายประเภทด้วยกันจึงทำให้ “อั้งยี่” มีความ สำคัญขึ้นมาอีกบทบาทหนึ่ง

สิ้นอั้งยี่ในรัชกาลที่ 5 นั่นก็คือการเข้าไปสนับสนุนในการประมูลผูกขาดภาษีอากรในท้องที่ของตน กีดกันไม่ให้ก๊ก อื่นๆ ที่อยู่นอกถิ่นเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ดังนั้นแม้ “อั้งยี่” จะเพิ่มขึ้นมาหลายก๊ก หลายเหล่า แต่ ก็เป็นเพียงก๊กเล็กๆ ที่ไม่มีสมาชิกมากนัก เมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นทางการก็รับมือได้ง่าย ไม่หนัก หนาวุ่นวายแก้ปัญหายากเหมือนในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว กระนั้นก็ตามในปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว “สมาคมลับ” หรือ “อั้งยี่” ก็ได้ก่อเหตุขึ้นมาอีก ทางภาคใต้ก่อความวุ่นวายปะทะกันระหว่างอั้งยี่สองก๊กคือก๊ก “งี่หิน” กับ ก๊ก “ปูนเถ้าก๋ง” ซึ่งแต่ละฝ่ายมีกำลังคนนับพัน การที่ทั้งสองก๊กนี้ ระเบิดศึกเข้าใส่กัน สาเหตุมาจาก การแย่งชิงสายน้ำร้างแร่ที่เมืองภูเก็ต ทางการของเมืองภูเก็ตไม่อาจรับมือไหว จึงได้ขอกำลังมาทาง กรุงเทพฯ ไปช่วยในการปราบปราม นั่นแหละเหตุร้ายทั้งหลายจึงได้สงบลง

57


ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 เป็นยุคที่เศรษฐกิจก้าวหน้า และเฟื่องฟูมาก การคมนาคมก็สะดวกกว่าเมื่อ ก่อน คนจีนจากแผ่นดินใหญ่ได้อพยพหลั่งไหลเข้ามาในเมืองไทยเป็นจำนวน มาก เป็ น ผลให้ ท างการไทยต้ อ งเพิ่ ม ภาระ และเผชิ ญ กั บ ปั ญ หาต่ า งๆ มากมาย โดยเฉพาะคนจีนที่เข้ามาแล้วกระจัดกระจายออกไปตามมณฑล ต่างๆ ของประเทศไทยทั่วทุกภาค คนจีนในยุคนั้นมีความสำคัญมีบทบาท ทางด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง รวมไปถึงการ ศึกษา โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจนั้น นอกจากชาวจีนจะเข้ามาคุมทาง ด้ า นการค้ า แล้ ว ชาวจี น ยั ง แย่ ง อาชี พ คนไทยแทบทุ ก ชนิ ด นั บ ตั้ ง แต่ กุ ลี

สร้างทางรถไฟ ขุดลอกคลองของทางการ เป็นกรรมกรในโรงสี โรงเลื่อย ช่างตัดผม คนลากรถ แม้กระทั่งคนขนอุจจาระ และอีกหลายอย่าง คนจีนที่ ได้อพยพเข้ามาเมืองไทยนั้น พร้อมที่จะต่อสู้ทุกทาง ธุระกิจที่สำคัญในยุคนั้น ก็คือการเข้าประมูลเป็นเจ้าภาษีอากรผูกขาดภาษีฝิ่น และการพนันต่างๆ

ซึ่ ง อาชี พ หลายอย่ า งที่ แ ย่ ง กั น ทำมาหากิ น ดั ง นั้ น เพื่ อ รั ก ษาผลประโยชน์

ของตนเอง จึงตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่าขึ้นมาอีกหลายก๊ก สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายเกี่ยวกับอั้งยี่ว่า จีน จำพวกที่หากินในการรับประมูลทำภาษีอากรก็ดี จีนจำพวกเถ้าเก๋คุมกุลี

รับทำการงานก็ดี มักแย่งผลประโยชน์กัน เช่นแย่งกันประมูลภาษีอากร และ แย่งงานกันให้คนของตนทำเป็นต้น ต่างคิดเอาเปรียบกันด้วยอุบายต่างๆ การตั้งตั๊วเหีย เป็นอุบายสำคัญอย่างหนึ่งของจีนจำพวกเหล่านี้ เป็นต้นว่า

ถ้ า ผู้ เ ป็ น หั ว หน้ า ตั้ ว เหี ย เข้ า ว่ า ประมู ล ภาษี อ ากร ผู้ อื่ น ก็ มิ ใ คร่ ก ล้ า มาแย่ ง

ด้วยเกรงตั๋วเหียซึ่งเป็นพรรคพวกในท้องที่จะรังแก ถ้าผู้ซึ่งไม่ได้เป็นตั๋วเหีย เข้ามาประมูล ก็จะต้องไปว่ากล่าวขอร้อง หรือยอมแบ่งผลประโยชน์ให้

ตั๋วเหีย อย่าได้มาเกะกะกีดขวาง และนี่คือผลประโยชน์จากการที่หัวหน้าจีนอั้งยี่เข้ารับการผูกขาด ภาษี อ ากรโดยปราศจากคู่ แ ข่ ง สามารถตั้ ง ประมู ล ต่ อ รั ฐ บาลในราคาต่ ำ ทำให้รัฐบาลไทยขาดรายได้ ที่ควรจะได้ไปเป็นจำนวนมาก เหล่านี้เองล้วนเป็นสาเหตุให้สมาคมลับหรือ “อั้งยี่” ระบาดขึ้นอย่าง แพร่หลายรวมทั้งตามหัวเมืองต่างๆ ที่มีอั้งยี่ก๊กของจีน ไทย แขก แม้กระทั่ง ฝรั่งเป็นหัวหน้า มีการเลียนแบบกัน เพื่อหวังผลประโยชน์ จนก่อความ

เดือดร้อน หวาดกลัวแก่พลเมืองไปทั่ว สำหรับเมืองบางกองหรือกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2432 พวกจีนใหม่

ที่เข้ามาในยุคนี้ ส่วนมากเป็นจีนแต้จิ๋ว กับจีนฮกเกี้ยน จึงต่างก็กีดกันรังกัน จนถึงขั้นก่อการวิวาทในที่ชุมนุมชนเสมอ ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดมีอั้งยี่ก๊กใหญ่ ขึ้นสองก๊กคือก๊ก “ตั้งกงสี” ของจีนแต้จิ๋ว กับก๊ก “ซิวสี่กือ” ของพวกจีน ฮกเกี้ยน การวิวาทกันของสองก๊กนี้จึงเกิดขึ้นบ่อย ๆและที่สุดถึงขั้นยกพวก เข้าประหัตประหารกัน

58

ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2432 อั้งยี่ทั้งสองก๊ก

ดังกล่าวมีการเตรียมตัวที่จะเข้าปะทะกันครั้งใหญ่ ทำให้ราษฎรต่างตกใจ หวาดกลัวศึก 2 ก๊กนี้ไปตามๆกัน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงบรรยายถึงความเดือด ร้อนในครั้งนั้นเอาไว้ว่า “เมื่อกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ.2432 พวกอั้งยี่รวมผู้คนเตรียมการ

ที่จะตีกันเป็นขนานใหญ่ กระทรวงนครบาลเรียกพวกตัวหัวหน้าอั้งยี่ไปสั่ง ห้ามปราม แต่พวกอั้งยี่มีพวกหัวโจกหนุนหลังอยู่ก็ไม่ฟังนายห้าม พอถึงวันที่ 19 มิ ถุ น ายน พวกอั้ ง ยี่ ก็ ล งมื อ เที่ ย วรื้ อ สั ง กะสี ห ลั ง คา และเก็ บ ขนโต๊ ะ

หี บ บั ต รตามโรงร้ า นบ้ า นเรื อ นพวกราษฎรที่ ริ ม ถนนเจริ ญ กรุ ง ทั้ ง สองข้ า ง

เอาท้องถนนตรงหลังโรงสีของห้างวินเซอร์ ซึ่งเรียกกันว่าโรงสีปล่องเหลี่ยม เป็นสนามรบ พวกเจ้าของโรงสีที่เป็นฝรั่งและจีนห้ามพวกอั้งยี่ที่เป็นกรรมกร ของตนก็ไม่ฟัง ห้ามก็ไม่หยุด กองตระเวณเห็นจีนมากเหลือกำลังที่จะจับกุม ก็ต้องถอยออกไปรักษาอยู่เพียงภายนอกแนววิวาท ทั้งที่เจริญกรุง ตั้งแต่ ตลาดบางรักลงไป ก็ตกแก่อั้งยี่ทั้งสองพวก เริ่มขว้างปาตีรันกันแต่เวลาบ่าย พอค่ำลงก็เอาปืนออกมายิงกันตลอดคืน ถึงวันพฤหัสสบดีที่ 20 มิถุนายน โรงสีและตลาดยี่สาน การค้าขายก็ต้องหยุดหมด และมีกิติศัพท์ว่าพวกอั้งยี่ จะเผาโรงสีที่พวกศัตรูอาศัย เจ้าของโรงสีก็พากันตกใจ ที่เป็นโรงสีฝรั่งก็ไล่ พวกจีนออกหมดแล้วปิดประตูบริเวณนั้นเสีย จากการปะทะกันครั้งใหญ่นื้ทางการต้องใช้ทหารบก ทหารเรือ รวม ทั้งกองตระเวณร่วมกัน ยกพลเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยนำกำลังเข้า ล้อมพวกอั้งยี่ที่กำลังต่อสู้กันทั้งทางเหนือและทางใต้ พอพวกอั้งยี่รู้ว่ามีทหารมาปราบต่างก็เสียขวัญ ยิ่งเมื่อเห็นหัวหน้าที่ ร่วมกันต่อสู้ถูกยิงตายกันไปบ้างแล้ว ก็พากันทิ้งอาวุธหลบหนี บางพวกก็ ยอมเข้ามอบตัวแต่โดยดี มีจำนวนกว่า 800 คน เหตุการณ์จึงสงบลงได้ ถึ ง กระนั้ น ในปี ต่ อ มาพวกอั้ ง ยี่ ก็ ก่ อ การกำเริ บ ขึ้ น มาอี ก หลายแห่ ง อย่างเช่นที่เมืองปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ.2436 เกิดขึ้นที่ตลาดพลู ธนบุรี ในปี พ.ศ.4238 ที่จันทบุรี ในปี พ.ศ.2438 ถึงพ.ศ. 2440 และยังมีระบาดตามหัวเมืองต่างๆ อีกหลาย แห่ง แม้ก่อนหน้านี้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์(ยศในขณะนั้น) ผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์ จ ะทู ล ความเห็ น ว่ า ควรดำเนิ น นโยบายการปกครองชาวจี น

เจริญรอยตามพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นโยบายดังกล่าวคือ การทำนุบำรุงชาวจีนทั้งปวง ให้รู้สึกว่าได้รับ การอุปถัมภ์บำรุงจากรัฐบาลอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ผล ต่อมาจึงได้ใช้นโยบาย ควบคุมอั้งยี่โดยวิธีเลี้ยงอั้งยี่ คือจะไม่มีการเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดย ปล่ อ ยให้ อั้ ง ยี่ ตั้ ง เป็ น ก๊ ก ต่ อ ไป แต่ จ ะนำเอาจี น หั ว หน้ า อั้ ง ยี่ ม ากระทำพิ ธี

ถือสัตย์ปฏิญาณ ต่อหน้าหลวงพ่อโตวัดกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่


เสนาบดีของกระทรวงนับตั้งแต่กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์จนถึงกรมหมื่น นเรศวรวรฤทธิ์ ก็ยังคงควบคุมอั้งยี่โดยใช้นโยบาย “เลี้ยงอั้งยี่” อยู่ อย่างเดิม แต่ไม่ค่อยได้ผลเหมือนเมื่อสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ยังมีชีวิตอยู่ บางครั้ ง กลั บ ก่ อ เหตุ วิ ว าทกั น อี ก ทั้ ง ปล้ น ทรั พ ย์ ชิ ง ของให้ ท างการต้ อ ง

เดือดร้อนอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ก็มิได้เลื่อมใส

วิธีดังกล่าวนี้มาตั้งแต่แรกเท่าใดนัก ทรงเคยแสดงความคิดเห็นทางคัดค้าน ไว้ตอนหนึ่งว่า พวกจี น ได้ ป ระโยชน์ ไ ม่ เ สมอกั น ต่ า งๆ ถ้ า ใครประจบประแจง สมเด็จเจ้าพระยา ก็มีชื่อมีทรัพย์ด้วย ได้โอกาสทำภาษีอากร ถ้าเป็นอั้งยี่

ถ้าทำผิดไม่ใคร่ต้องเป็นโทษ ใบบุญเที่ยวได้ปกแผ่ ให้เกิดความไม่เสมอกัน เช่นนี้ พวกอั้งยี่แค้นเคืองก็เกิดขึ้น สมเด็จเจ้าพระยารู้ตัวก็กลัวอั้งยี่มาก

จึงไปเกลี้ยกล่อมหัวหน้ามาเป็นขุนนางเรียกว่า กงซุกจีน เอาอย่างหนังสือจีน ให้หัวหน้าจีนเหล่านี้ราวกับเสือได้ปีกฤทธิ์เดชจัดขึ้น(รศ.116) โดยได้ทรง

พระกรุณาโปรดเกล้าให้ตรวจตราไว้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ร.ศ.116 ให้ประกาศ ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา วันที่ 10 ตุลาคม ร.ศ.116 จึงมีผลทำให้

เกิ ด การเดื อ ดร้ อ นที่ เ กิ ด จากบทบาทของชาวจี น ในการรวมกลุ่ ม เข้ า เป็ น สมาคมลับ หรืออั้งยี่ดูทุเลาลง พระราชบัญญัติฉบับนี้มีรายละเอียดพอสรุป ความได้ดังนี้ 1. ยกเลิกข้อบังคับทั้งปวงที่ว่าด้วยเรื่องการอนุญาตให้ตั้งก๊กตั้งเหล่า ซึ่งมีมาแต่ก่อน 2. ให้สมาคมหรือบริษัทต่าง ๆที่ตั้งขึ้นก่อนหน้าหรือหลังการออก ชาวจี น เคารพนั บ ถื อ ด้ ว ยการสั ญ ญาว่ า จะไม่ คิ ด ประทุ ษ ร้ า ยต่ อ พระบาท พระราชบัญญัตินี้ มาขอจดทะเบียนต่อทางการไทย โดยต้องแสดงข้อบังคับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคอยระวังพวกอั้งยี่ของตนมิให้ก่อเหตุร้าย ส่วน ของสมาคม บัญชีรายชื่อสมาชิกตลอดจนสถานที่ตั้งของสมาคม เพื่อการ ตามหัวเมืองที่มีพวกอั้งยี่ ก็ให้มีการเลือกผู้ที่ชาวจีนนับถือ และเคารพเชื่อฟัง ตรวจสอบของทางการด้วย 3. ผู้ขอตั้งสมาคมต้องวางเงินประกันจำนวนหนึ่งไว้แก่ทางการเพื่อ ตั้งขึ้นเป็น “หัวหน้าต้นแซ่”สำหรับเป็นตัวแทนนำเรื่องราวร้องทุกข์ หาก พวกตนได้รับความเดือดร้อน เพื่อเสนอต่อทางการ อีกทั้งให้ควบคุมว่ากล่าว ประกันว่าจะไม่ทำผิดกฏหมาย 4. พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับความผิด ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นหน้าที่เหมือนกรรมกรจีน ทำให้บางคน ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็นขุนนางหลวง ของสมาคมซึ่งจัดตั้งขึ้น ว่ามีลักษณะประการใดอย่างชัดเจน จากการออกพระราชบัญญัติฉบับนี้เอง ความเดือดร้อนต่างๆ ที่เกิด ก็มี ส่วนในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใกล้เคียง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริย วงศ์ได้เอาพวกอั้งยี่ชั้นหัวหน้าหลายคนเข้ามาเป็นคนของท่านเพื่อใช้สอย ให้ จากชาวจีนรวมกลุ่มเป็นสมาคมลับหรืออั้งยี่เริ่มอ่อนแรงและสิ้นฤทธิ์ไปใน ที่สุดโดยไม่ต้องใช้กำลังปราบปรามเหมือนแต่ก่อน. คอยตรวจตราควบคุมมิให้บรรดาอั้งยี่ก่อการกำเริบ นโยบายการควบคุ ม อั้ ง ยี่ โ ดยการเลี้ ย งอั้ ง ยี่ ดั ง กล่ า วนั บ ว่ า ได้ ผ ล อยู่ตลอดชั่วอายุขัย ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์ แม้ในขณะที่ได้ ออกจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแล้วก็ตาม อำนาจการควบคุมอั้งยี่ ก็อยู่กับท่าน ครั้ น เมื่ อ สมเด็ จ เจ้ า พระยามหาศรี สุ ริ ย วงศ์ ถึ ง แก่ พิ ร าลั ย เมื่ อ กฤษดา เมืองไชย พ.ศ.2425 การควบคุมอั้งยี่จึงตกมาเป็นหน้าที่ของกระทรวงนครบาล ซึ่ง

59


TRAVELNext Issue ภาพ : นันทิชา วงศอมรชัย

November 2008

60 56


Please Note : i-ASiA cannot accept responsibility for any advertisements in the magazine. If you are in any doubt, it is suggest that reference are taken up.

iCLASSIFIED MOT & CAR SERVICE 99-100 Ravenscourt Place, Hammersmith London W6 0UN

Contact: Doddy Tel: 020 8741 0528

IT Outsourcing, Software Development Personal Recruitment & IT Consulting

ออกแบบตกแต่งภายใน ก่อสร้างบ้าน ราคากันเอง

KP Pacific Co., Ltd. Regent Srinakrin Tower A. 7th Floor, 700 / 132 Soi Prajit Srinakarin Rd. Suanluang, Bangkok 10250, Thailand t: +66 (0) 2 720 4217-9, f : +66 (0) 2 720 4325 w : www.kppacific.com

PEO Consultant Co., Ltd. 55 / 76 Bann Klang Muang Rama9, Ladpao (Soi4) Bangkok 10310

t:f: +66 (0) 2538 3539, +66 (0) 2538 3177 w: www.peo.co.th, e: marketing@peo.co.th

รับทำวีซ่า

นักเรียนจากไทย และอังกฤษ พร้อมรับรองงาน Business English พร้อมทำงานในโรงแรม ลอนดอนและนอกลอนดอน Health Social Care พร้อมทำงาน ในโรงพยาบาลลอนดอน, ไม่จำเป็นว่ามีประสบการณ์ ติดต่อ 079 3579 4006 หรือ 078 9455 1582 www.add-wise.com

Freelance Photographer

รับถ่ายภาพทั่วไป งานแต่งงาน รับปริญญา ถ่ายภาพครอบครัว งานฉลอง งานสินค้า ร้านอาหาร ด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เชิญชมผลงานได้ที่ http://armybangkok.multiply.com งานสำคัญ วันสำคัญของท่าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมครับ Mob. 079 1205 6293 :: อั๋น

Your Journey Starts With Us, We Will Fly You Anywhere ตั๋วราคาพิเศษ Bangkok, Hong Kong, Manila และ แพ็กเก็ตทัวร์เที่ยว USA และ Europe โทร 020 7727 7446 หรือ 020 7727 7319 โมบาย 077 42487044 078 4036 9804

A8 Queensway Market London W2 3RA Tube Station : Queensway & Bayswater

Call 079 8418 1464

Classified Ads

เยี่ยมชม i-ASiA Magazine Online ได้ที่ www.i-asiamag.com กด “Event Photo” อัลบั้มภาพงาน Events และ Functions ต่างๆ ของสัมคมไทยในลอนดอน อัพเดททุกวัน กด “i-ASiA Blog” เพื่ออ่านข่าวสารข้อมูลต่างๆ ในสังคมไทย สดใหม่ทุกวัน ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com หรือติดต่อ 079 8418 1464 61


iDIRECTORY LISTING

Thai Useful Directory

The Royal Thai Embassy London 29-30 Queen’s Gate LondonSW7 5JB Tel. 0207 589 2944 Fax. 0207 823 7492 www.thaiembassyuk.org.uk Thai Commercial Affair 11 Herdford St. London S1Y 7DX Tel. 0207 493 5749 Fax. 0207 493 7416 Tourism Authority of Thailand 1st Floor, 17-19 Cockspur Street London SW1Y 5BL Tel. 0207 925 2511 Fax. 0207 925 2512 Thai Airways International 41 Albemarle Street London W1S 4BF Tel. 0207 409 7953 Royal Thai Consulate Birmingham Tel. 0121 643 9481 Fax. 0121 449 3334 Hull Tel. 0148 258 1668 Fax. 0148 258 0588 Liverpool Tel. 0151 255 0504 Fax. 0151 255 1070 Glasgow Tel. 0141 353 5090 Fax. 0141 332 2928 Cardiff, Wales Tel. 0292 046 5777 Fax. 0292 046 5777 Gibraltar Tel. 003 504 6315 Thai Temple The Buddhapadipa Temple London วัดพุทธปทีป ลอนดอน 14 Calonne Road, Wimbledon Parkside, London, SW19 5HJ Tel. 0208 946 1357 www.buddhapadipa.org Oxford Buddha Vihara วัดพุทธวิหารออกซ์ฟอร์ด 33 Cherwell Drive, Marston, Oxford OX3 0NB Tel. 0186 579 1591 www.oxfordbuddhavihara.org.uk Cittaviveka Chethurst Buddhist Monastery วัดป่าจิตตวิเวก Chethurst (W.Sussex), Peterfield, Hampshire, Gu31 5EU Tel. 0173 081 4986 www.cittaviveka.org The Buddhavihara Temple Kings Bromley วัดพุทธวิหาร คิงส์บรอมลี่ Eastfields House, Alrewas Road, Bromley, Staffordshire, DE13 7HR Tel. 0154 347 2315 www.watthaiuk.com The Forset Hermitage วัดป่าสันติธรรม Lower Fulbrook, Warwickshire, CV35 8AS Tel. 0192 662 4564 www.foresthermitage.org.uk Wat Sanghathan วัดสังฆทาน 107 Handsworth Wood Road, Birmingham B20 2PH Tel. 0121 551 5729 www.sanghathan-uk.com Amaravati Buddhist Monastery วัดอมราวดี St.Margarets Lane, Hemel Hempstead, Hertfordshire, HP1 3BZ www.amaravati.org Wat Buddharama London วัดพุทธาราม ลอนดอน 77 Blake Hall Road, Wanstead, London E11 3QX Tel. 0208 530 2111 www.watbuddharam.org.uk The Dhammapadipa Temple วัดธรรมปทีป (สาขาวัดพุทธปทีป) 199 Slateford Road, Slateford, Edinburgh, Scotland, EH14 1LA Tel. 0131 443 1010 www.dpadipa.org Wat Phradhammakaya London วัดพระธรรมกาย ลอนดอน 2 Brushfield Way, Knaphil , Woking, GU21 2TG Tel. 0148 347 5757 Wat Sriratanaram Manchester วัดศรีรัตนาราม แมนเชสเตอร์ 18 Paulden Avenue, Baguley, Manchester, M23 1PD Tel. 0161 998 4550 www.watsriuk.net Aruna Ratanagiri Buddhist Monastery วัดอรุณรัตนคีรี 2 Harnham Hall Cottages, Harnham, Belsay, Northumberland, NE20 0HF www.ratanagiri.org.uk 101 Thai Kitchen 352 King Street Hammersmith London W6 0RX Tel. 0208 746 6888 Addie Thai Cafe 121 Earl’s Court Road London SW5 9RL Tel. 0207 259 2620 At Thai 30, Greyhound Rd London W6 8NX Tel. 0207 385 9264 Bangkok Thai Cafe 17-18 New College Parade London NW3 5JD Tel. 0207 722 9605 Benja 17 Beak St. London W1F 9RW Tel. 0207 287 0555 Blue Elephant 3-6 Fulham Broadway London SW6 1AA Tel. 0207 385 6595 Busaba Eat-Thai 106 -110 Wardour Street London W1V 4AS Tel. 0207 255 8686 Bussara 99 Chiswick High Road London W4 2ED Tel. 0208 995 5774 Butlers Thai Cafe 14 ST Marys Rd,Ealing GreenLondon W5 5ES Tel. 0208 579 8803

Thai Restaurant

62

Celadon 239 Elgin Avenue, Maida Vale London W9 1NJ Tel. 0207 328 8883 Chiang Mai Thai Restaurant 48 Firth St. London W1D 4SF Tel. 0207 437 7444 Crazy Bear 26-28 Wehitfield Street London W1P 5RD Tel. 0207 621 0289 Eat-Thai.Net 22 St.Christopher Place London W1U 1NP Tel. 0207 486 0777 East Thai Thai Restaurant 176 Drury Lane, Covent Gardent, London WC2B 5QF Tel. 0207 405 5551 Esarn Kheaw 314 Uxbridge Road. Shepherds Bush London W12 7LJ Tel. 0208 743 8930 Fat Boy’s III 431-433 Richmond Road,East Twickenham Middlesex TW1 2EF Tel. 0208 232 8028 Isarn 119, Upper St London N1 1QP Tel. 0207 424 5153 Jasmine Thai Restaurant 16 Goldhawk Road,Shepherds Bush London W12 8HP Tel. 0208 743 7886 Krungthep Restaurant 227-229 Old Brompton Road, Earl’s Court London SW5 0EA Tel. 0207 259 2314 Kwan Thai Restaurant Unit 1, Hays Geleria. London Bridge London SE1 2HD Tel. 0207 403 7373 Mae Ping Thai Restaurant 162, The Broadway London SW19 1RX Tel. 0208 545 0021 Mai Thai 75 The Broadway, Wimbledon London SW19 1QE Tel. 0208 542 8834 Mango Tree 46 Grosvenor Place, Belgravia London SW1X 7EQ Tel. 0207 823 1888 Manorom Thai Restaurant 16 Maiden Lane Covent Garden London WC2E 7NA Tel. 0207 240 4139 Muang Thai Restaurant 71 Chalk Farm Road London NW1 8AN Tel. 0207 916 0653 Nahling Thai Restaurant 106 High Road,East Finchley London N2 9EB Tel. 0208 883 8688 Nahm The Halkin, 5 Halkin Street London SW1X 7DJ Tel. 0207 333 1234 Noodles Magic 139 A. King St. Hammersmith London W6 9JG Tel. 0208 748 9482 Pad Thai 15 High Street , West Malling Kent ME19 6QH Tel. 01732 870000 Patara (Soho) 15 Greek St. London W1D 4DP Tel. 0207 434 1071 Pepper Tree 19 Southside, Clapham Common London SW4 7AB Tel. 020 7622 1758 Pu’s Brasserie 10 Gate Street, Holborn London WC2A 3HP Tel. 0207 404 2132 Reun Thai 100 Fulham Palace Road London W6 9PL Tel. 0208 748 4881 Rumwong 16-18 London Road, Guildford Surrey GU1 2AF Tel. 01483 536092 Saran Rom The Boulevard, Imperial Wharf, Townmead Road London SW6 2UB Tel. 0207 751 3111 Sugar Hut 374 North End Road London SW6 1LY Tel. 0207 386 8950 Tamnag Thai Restaurant 50 - 54 Westow Hil , Crystal Palace London SE19 1RX Tel. 0208 761 5959 Thai Orchid 7 Bennett’s Hil Birmingham B2 5ST Tel. 01212 121000 Thai Rice 303 Portobello Road London W10 5TD Tel. 0208 968 2001 Thai Silk Unit No.13 O2 Arena, Peninsula Square London SE10 0DX Tel. 0207 735 9338 Thai Smile 674 Christchurch Rd Bournemouth BH7 6BT Tel. 01202 720088 Thai Square (Trafalgar Square) 21-24 Cockspur Street, Norway House London SW1Y 5BL Tel. 0207 839 4000

Thai Taste 130 Cromwell Road London SW7 2HE Tel. 0207 373 1647 Thai Terrace Castle car park, Sydenham Rd, Guildford Surrey GU1 3RT Tel. 01483 503350 Thai Thai Cafe 183 Acton Lane, Chiswick London W4 5 DAw Tel. 0208 994 1093 Yum Yum 187 Stoke Newington High Street London N16 0LH Tel. 0207 254 6751

Chinese Restaurant

Four Seasons 84 Queensway, Bayswater London W2 3RL Tel. 0207 229 4320 Gold Mine 102 Queensway, Bayswater London W2 3RR Tel. 0207 792 8331 Kam Tong 59-63 Queensway, Bayswater London W2 4QH Tel. 0207 229 6065 Magic Wok 100 Queensway, Bayswater London W2 3RR Tel. 0207 792 9767 Mandarin Kitchen 14-16 Queensway, Bayswater London W2 3RX Tel. 0207 727 9012 Royal China 13 Queensway, Bayswater London W2 4QJ Tel. 0207 221 2535

Oriental Supermarket

Chuanglee 271 Merton Road London SW18 5JS Tel. 0208 870 5292 Muay Supermarket 8A Hogarth Road, Earl’s Court London SW5 0PT Tel. 0207 341 3599 New Loon Moon 9 Gerrard Street, Chinatown London W1D 5PL Tel. 0207 734 3887 Oriental4you 7 Herbert Place Iseworth, Middlesex TW7 4BU Tel. 0208 568 2750 Paya Thai Market 101-103 Kew Road, Richmond Surrey TW9 2PN Tel. 0208 332 2959 Sky Market 5/6 Guildford Crescent, Churchil Way, Cardiff Wales CF10 2HJ Tel. 029 2090 6550 Sri Thai Supermarket 56 Sheperd Bush Road London W6 7PH Tel. 0207 602 0621 Talard Thai Limited 22 Airfield Road, Christchurch Bournemouth BH23 3TG Tel.0800 096 6129 Talad Thai Supermarket 326 Upper Richmond Road London SW15 6TL Tel. 0208 789 8084 Taste of Siam Supermarket 47 Camden High Street London NW1 7JH Tel. 0207 383 5002 Tawana Supermarket 18-20 Cheapstow Road London W2 5BD Tel. 0207 221 6316 Thai & Oriental Market 306 Upper Richmond Rd. East Sheen, London SW14 1JG Tel. 0208 876 2324 ThaiSmile 283-287 King Street London W6 9NH Tel. 0208 846 9960 The Globe Trading Unit 3 Lock Lane Warwick CV34 5AG Tel. 01926 419990


63


64


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.