i-ASiA Magazine

Page 1



IF YOU CAN FIND FLIGHTS CHEAPER ANYWHERE ELSE, WE’LL NOT JUST MATCH THE PRICE, WE’LL SIMPLY BEAT IT!

TO BANGKOK from

TO BANGKOK from

TO BANGKOK from

£209 £250 £280 plus taxes

Departure dates: selected dates from 01 Feb - 04 Jun 09 Book before the 28th Feb 2009

plus taxes

Departure dates: 16 Feb - 2 Apr 09 20 Apr - 15 Jun 09 Book before the 2nd Mar 2009

plus taxes

Departure dates: 23 Feb - 10 Jul 09 Book before the 5th Apr 2009


editor’s talk

กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นเดือนแห่งความพิเศษของทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ค่อน ข้างจะพิเศษกว่าปีอื่นๆ ว่าด้วยเป็นเดือนแห่งความรัก เดือนแห่งวันเกิดของ อีกหลายคน วันแห่งประวัติศาสตร์บนประเทศอังกฤษมีหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 20 ปี และที่สำคัญที่สุดคือเป็นเดือนที่นิตยสาร i-ASiA อยู่คู่ชาวไทยในยูเคมาเป็นเวลา ครบ 1 ปีเต็ม เพื่อฉลองวันครบรอบปีที่ 1 i-ASiA ฉบับที่ 12 ขอมอบของขวัญชิ้นสำคัญ

ให้คุณผู้อ่านโดยการนำเสนอความเป็นไทยในต่างแดน Thai Cooking School แด่พี่น้องชาวไทย ที่รักการทำอาหารและชาวต่างชาติผู้มีหัวใจไทย

เริ่มต้นกันที่บทสัมภาษณ์ครูปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน Thai Cooking School แห่งแรก ในลอนดอน ค้นหาประวัติชีวิต ความเป็นมา และอะไรคือแรงบันดาลใจให้ครูปิ๋วเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารนั้น

อ่านได้ที่ iReport ต่อกันด้วยบทสัมภาษณ์ชาวอังกฤษหัวใจไทย Jeanne Fox ผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งอาหารไทยโดย ใช้เวลาร่ำเรียนการทำอาหารไทยกว่าแรมปีที่โรงเรียน Thai Cooking School ในคอลัมน์ iLearn Thai Cooking และ iCover Story บุกสัมภาษณ์สด 5 นักเรียนชาวต่างชาติในห้องเรียนทำอาหาร เท่านั้นยังไม่พอ ดูภาพอาหารไทย น่าทานส่งตรงจากกรุงเทพฯ ได้ที่คอลัมน์ iArtist ... มีของคาวแล้ว ถ้าขาดของหวานไปคงไม่ใช่ไทยแท้ iLove Cooking ฉบับนี้เชฟเพ็ญณีเจ้าเก่าชวนทำขนมบัวลอยเผือก ทำง่าย ทานง่าย และยังเป็นของหวานแบบไทยๆ มอบ ให้คนพิเศษในวันพิเศษได้อีกด้วย i-ASiA ฉบับอายุครบปีที่ 1 อัดแน่นด้วยความเป็นไทย... คนไทยไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดในโลก พี่น้องชาวไทยก็ยังคงความเป็นไทย เพราะเรามีสายเลือดไทย... เพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รัก และเผยแพร่วัฒนธรรมไทย “ครัวไทย สู่ครัวโลก” ให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ ในเสน่ห์แห่งสยามเมืองยิ้ม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว โดยการเชิญชวนเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวเมืองไทยกันเถอะค่ะ กุลภัทร แซ่เต็ง



ISSUE 12 FEBRUARY 2009 CONTENTS Photo : Nunthicha Wongamornchai Location : Bangkok, Thailand

C O V E R S T O R Y

38 iLEARN THAI COOKING 40 iCOVER STORY 43 iARTIST 44 iLOVE COOKING 46 iPLACE 2 EAT

ชาวอังกฤษ กับเสน่ห์อาหารไทย Jeanne Fox Thai food in the heart of English people Jeanne Fox The Charm of Thai Food เสน่ห์ปลายจวัก การปรุงอาหารไทย Thai Food everywhere Let’s cook ขนมบัวลอย KIKU อาหารญี่ปุ่นร้านนี้ต้องไปลอง KIKU “The Japanese Restaurant you must try”

22 iINSIDE OUT 26 iTECH 28 iBEAUTY 29 iHOROSCOPE 49 iCOLUMN 51 iCOLUMN 54 iCOLUMN 57 iCOLUMN

เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจอังกฤษ แน่ใจหรือ นี่คือ Thumb Drive 15 นาที ขจัดขอบตาคล้ำ ดวงชะตา ราศี บทความ “รายงานการประชุม” (1) โดย ชาติ กอบจิตติ เรื่องสั้น “ภาพถ่ายใบเก่า” โดย ชาติวุฒิ บุณยรักษ์ นิยาย “เคหวัตถุ” ตู้/เย็น/เร่า/ร้อน (2) โดย อนุสรณ์ ติปยานนท์ อิงประวัติศาสตร์ “เงี้ยวปล้นเมือง” โดย กฤษดา เมืองไชย

L I F E S T Y L E

32 28


N E W S

10 iSPEAK OUT LOUD! ประชาสัมพันธ์ 20 iTALKS What people are talking around town

22 46

38

44

40

P E O P L E

26

12 iSOCIETY 13 iSOCIETY 13 iSOCIETY 14 iSOCIETY 15 iSOCIETY 16 iSOCIETY 17 iSOCIETY 18 iSOCIETY 32 iREPORT

43

Thai Manuscripts at British Library Home of Irish National Hunt Racing Destinations - Thailand T.S.Q. Club Thai Square, Trafalgar Square Valentines Day R & B - Joe Lewis Thomas at T.S.Q. Club KOBKUN Thai Therapy Monsoon Valley at Wine+ Grand Opening -Sala Thai Restaurant, Kent Thai Cooking School - ครัวไทยสู่ครัวโลก ครูปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ Thai Cooking School - Thai Kitchen to the World Suphalux ‘Sue’ Montgomery


สมัครสมาชิก 1ปี รับฟรี i-ASiA Bag 1 ใบ สำหรับ 250 ท่านแรก เท่านั้น! สมัครสมาชิก ครึ่งปี (6 ฉบับ) 20GBP สมัครสมาชิก 1ปี (12 ฉบับ) 35GBP ชื่อ / สกุล ..................................................................................... ที่อยู่ ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... เบอร์ติดต่อ ..................................................................................... อีเมล์ ..................................................................................... ตั๋วแลกเงิน เช็คธนาคาร สั่งจ่าย I-ASIA Ltd. ส่งไปยัง 1 Jutland Rd. London E13 1JH คำแนะนำ ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... ..................................................................................... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ +44 (0) 79 8418 1464 หรือ อีเมล์ info@i-asiamag.com

i-asia team

PRESIDENT Capt. Sa-ad Sobsartrasorn กัปตันสอาด ศบศาตราศร FOUNDER Capt. Tanapat Bunyarak กัปตันธนภัทร บุณยรักษ์ EDITOR Kulaphat Saeteng กุลภัทร แซ่เต็ง EXECUTIVE WRITER Chart Kobjitti, Chartvut Bunyarak, Anusorn Tipayanon, Krisada Muangchai, Jaran Youngyune, Panlop Samsi, Ake Akkee, ชาติ กอบจิตติ, ชาติวุฒิ บุณยรักษ์, อนุสรณ์ ติปยานนท์, กฤษดา เมืองไชย, จรัญ ยั่งยืน, พัลลภ สามสี, เอก อัคคี CONTRIBUTOR Marisa Intrawong, Ronagorn Sornlerts, Penny Jirayuwattana, Nuchanart Chansorn, Anugana Kittisoonthorn, Adisorn Tunwattanasayree, Chatchai Kaorobrat, Droungrat Surakul, Ratchada Limpothong, Ratree Khunkongmee มาริษา อินทวงค์, รณกร สอนเลิส, เพ็ญณี จิรายุวัฒนา, นุชนารถ จันทรศร, อังคณา กิตติสุนทร, อดิศร ตันวัฒนเสรี, ชัชชัย เคารพรัตน์, ดวงรัตน์ สุระกูล, รัชดา ลิมโพธิ์ทอง, ราตรี ขุนคงมี PHOTOGRAPHER Kanitt Amaralikhit, Nunthicha Wongamornchai, Sarawuth Mingkhwan คณิต อัมราลิขิต, นันทิชา วงศ์อมรชัย, สราวุธ มิ่งขวัญ GRAPHIC DESIGNER Artichart Auppalakul, Pawitbhorn Chaiyasajja, Areejitra Modetad อติชาติ อุปละกูล, ภวิษย์พร ไชยสัจ, อารีจิตร โหมดตาด EXECUTIVE ACCOUNT Parintorn Bunyarak ปรินทร บุณยรักษ์ MEDIA Worawut Suranarakun วรวุฒิ สุระนรากุล ADVERTISING SALE MARKETING Chuyot Amaralikhit ชูยศ อัมราลิขิต INTERNATIONAL CONTRIBUTOR James Roosevelt LAW CONSULTANT Pitthaya Pichayasujja, Brinda Bunyarak พิทยา พิชญสัจจา, บรินดา บุณยรักษ์ ADMINISTRATIVE ASSISTANT Chalailat Suppracha ชลัยรัตน์ ทรัพย์ประชา OWNER I-ASIA Ltd. LONDON UK Reg. No. 06456425 เจ้าของ บริษัทไอเอเซีย จำกัด ลอนดอน ยูเค จดทะเบียนเลขที่ 06456425 THAILAND OFFICE 180 Ladpraw 124 Bangkok 10310 Thailand 180 ลาดพร้าว 124 กรุงเทพฯ 10310 Tel: +66 2 934 1058 - 9 Fax : +66 2 539 6974 Mobile : +66 (0) 84 216 3666, +66 (0) 81 487 7711 ENGLAND OFFICE 1 Jutland Rd. London E13 1JH, UK MOBILE +44 (0) 7984 181464, +44 (0) 7947 215335 Web : www.i-asiamag.com Email : info@i-asiamag.com



iSPEAK OUT LOUD!

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ได้ที่ www.i-asiamag.com กด i-ASiA Blog หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

1 MARCH 2009

Thai : UK Football League 2009 _ David Beckham Academy Tel. 078 4183 9144 หรือ www.thaiukfc.co.uk

3 MARCH 2009

พระสงฆ์บิณฑบาต Kim’s Thai Food Store, Manchester Tel. 0161 998 4427 Mob. 077 9106 9210 หรือ www.watsriuk.net

7 MARCH 2009

“Sammagi Game 2009 @ University of Kent, Canterbury” www.samaggi.org

MARCH 2009

Thai : UK Football League 2009 _ David Beckham Academy Tel. 078 4183 9144 หรือ www.thaiukfc.co.uk

8

9 MARCH 2009

12

Curry Festival @ Mango Tree (9-22 March) Tel. 02078231888 or www.mangotree.org.uk

MARCH 2009

Abhisit Vejjajiva @ London 12-14 Mar

13 MARCH 2009

14

MARCH 2009

Film Festival ภาพยนตร์ไทยเรื่อง Wonderful Town กำกับโดยคุณ Aditya Assarat ฉายที่ ICA www.sodapicture.com หรือจองตั๋ว kevin@sodapicture.com

“Abhisit Vejjajiva @ St.John College, Oxford University” Tel.07925809922

ลุ้นตั๋ว VIP 2 ใบ ชมคอนเสิร์ต Groove Riders Live in UK

i-ASiA แจกตั๋ว VIP 2 ใบ 1 รางวัล เพียงแค่ตอบคำถามว่า “ศิลปินวง Groove Riders ได้รับสมยานามว่าเป็น God Father ของดนตรีแนว...” A. Pop Rock B. Disco C. R & B ส่งคำตอบ พร้อมชื่อของคุณโดย SMS มาที่เบอร์ 075 9893 9890 กติกาง่ายๆ ของการชิงรางวัลคือ เลข 2 ตัวสุดท้ายของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่ง SMS ต้อง Match เลขท้ายสองตัวของบัตร VIP ใบใดใบหนึ่ง หมดเขตส่งข้อความวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2009 ประกาศผลรางวัล ชื่อผู้โชคดีวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2009



iSOCIETY

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

Thai Manuscripts at British Library Photo : Kulaphat - Chatchom

Sir Colin Lucas - ฯพณฯ เอกอัครราชทูต นายกิตติ วะสีนนท์

ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์ - ฯพณฯ เอกอัครราชทูต นายกิตติ วะสีนนท์

TAT และ TG

เย็ น วั น ที่ 28 มกราคมที่ ผ่ า นมา ฯพณฯ เอกอัครราชทูต นายกิตติ วะสีนนท์ และ Sir Colin Lucus กล่าวเปิดตัวพระไตรปิฎกไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความเป็นมาของ ชาวพุ ท ธและสื่ อ ความหมายผ่ า นภาพวาด

ประกอบกั บ อั ก ขระตั ว อั ก ษร ณ British Library, King Cross, London สามารถเยี่ ย มชมพระไตรปิ ฎ กได้ ที่ British Library วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 9.30 น. 18.00 น. วันเสาร์ เวลา 9.30 น. - 17.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. - 17.00 น. หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bl.uk

คุณติ๊ดตี่, คุณมิ้งค์, คุณเจี๊ยบ

ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

คุณพงษ์เทพ, คุณนุชนาถ

12

ตู้ใชว์พระไตรปิฎก

ชาวต่างชาติให้ความสนใจ


อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

iSOCIETY

Home of Irish National Hunt Racing คุณ George และคุณวรรณ Smullen มอบรางวัล

สถานที่แข่งม้าเมือง Punchestown

บรรยกาศงานแข่ ง ม้ า ประจำปี 2009 ณ เมื อ ง Punchestown ประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) งานปีนี้ได้รับ การสนับสนุนจากคุณ George และคุณวรรณ Smullen ชาวไทยที่ อ าศั ย อยู่ ใ นประเทศไอร์ แ ลนด์ แ ละได้ ท ำ

คุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยครั้งเหตุการณ์ Tsunami เมื่ อ ปี 2004 นอกจากนี้ แ ล้ ว ยั ง ได้ รั บ มอบเหรี ย ญบุ ค คล

ดีเด่นพระราชทาน ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำ กรุงลอนดอน ในปี 2008 งานแข่ ง ขั น ม้ า ในครั้ ง นี้ ถื อ เป็ น โอกาสเชื่ อ มสั ม พั น ธไมตรี ระหว่างชาวไทยและชาวไอร์ริช โดยการเผยแพร่วัฒนธรรม ไทย เปิดครัวไทยสู่ชาวต่างชาติ และเชิญชวนให้นักท่อง เที่ยวเดินทางไปประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำสหราชอาณาจักรและ ไอร์แลนด์

Destinations - Thailand Photo : Kulaphat Saeteng

งาน Destinations, The Holiday & Travel Show 2009 โดย THE TIMES ณ Earls Court ระหว่าง วั น ที่ 5-8 กุ ม ภาพั น ธ์ เพื่ อ เปิ ด โอกาสให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ สั ม ผั ส พบปะ พู ด คุ ย สอบถาม และ เลื อ กสถานที่ ส ำหรั บ การเดิ น ทางไปพั ก ผ่ อ นจากเจ้ า ของ ประเทศทั่วโลกที่มารวมตัวกันอยู่ภายใต้หลังคาเดียว อาทิ เช่น Asia & Pacific, Africa & India, Latin America, North America, Europe & UK, Caribbean, Middle East และ Adventure Travel งานนี้ ตั ว แทนของประเทศไทย ททท. ลอนดอน, Thai Airways, Royal Orchid Plus และ WestEast Travel ได้ จัดทำบูธนิทรรศการ เพื่อเป็นตัวแทนของชาวไทยเชิญชวน ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกเดินทางไปยังประเทศไทย

ททท. ลอนดอน

TG, Royal Orchid Plus, WestEast Travel

ททท. ลอนดอน, ช้างเบียร์

13


iSOCIETY

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

T.S.Q. Club Thai Square, Trafalgar Square Photo : Kulaphat - Chatchom

Mr. Haim Danous

Mr. Haim Danous MD. ของ Thai Square Group เปิดโฉมใหม่ T.S.Q. Club เพียบพร้อมด้วย แสง สี เสียง เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรง โดยทำการเปิดตัว T.S.Q. Club - Thai Night ไปเมื่อ อาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไฮไลท์ในงานนอกจากจะมีการเต้นโชว์จากนักเต้นระดับ มืออาชีพของเมืองไทยแล้วยังมีการแจกของรางวัลให้กับผลโหวตของผู้ที่แต่งตัวอินเทรนด์ที่สุดในงาน อีกด้วย

คุณบ็อบ และ PR สาว

คุณผึ้ง, คุณไนกี้, คุณกุ้ง

PR สาวสวย

น้องเบิ้ม และเพื่อนๆ

นักเต้นมืออาชีพ

น้องแบงค์ และแกงค์

Thai SQ - Angel

14

นักเต้นมือไม่อาชีพก็เต้นได้

น้องปิ๊ค และเพื่อนๆ

สองสาวเพื่อนเกลอ


อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

iSOCIETY

Joe Lewis Thomas

Valentines Day R & B - Joe Lewis Thomas at T.S.Q. Club Photo : Kulaphat - Chatchom

14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก Thai Square Group เชิญนักร้องแนว เพลง R&B ชื่อดัง “Joe Lewis Thomas” เพื่อมาร้องเพลงเปิดงาน Valentines Night ปี 2009 ณ T.S.Q. Club ท่ามกลางแฟนเพลงทั้ง

ชาวไทยและชาวต่างประเทศ

15


iSOCIETY

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

คุณ Mike, คุณ John

พนักงานในเครือ Kobkun

คุณนิสา และสามี

KOBKUN Thai Therapy Photo : Kulaphat Saeteng

คุณ Mike และคุณส้ม

คุณ Mike คุณส้ม และลูกๆ

16

ร้ า น Grand Kobkun ในเครื อ KobKun

ย่ า น Queen’s Way ฉลองเปิ ด ตั ว ร้ า นใหม่ สาขาที่ 5 เมื่อค่ำวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางร้ า นบริ ก ารนวดแบบครบวงจร อาทิ เ ช่ น

นวดแผนไทย นวดน้ำมันหอมระเหย นวดเท้า

นวดศรี ษ ะ นวดไหล่ และ Four hands massage ทางร้ า นมี ส่ ว นลดพิ เ ศษสำหรั บ พี่ น้ อ งชาวไทย

ที่ต้องการใช้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้

ที่ 020 7221 5924 หรือ www.kobkun.co.uk

คุณกุ้ง, คุณบิว

คุณตุ้ม


อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

iSOCIETY

Monsoon Valley at Wine+

คุณ Arron เล่าประวัติ MV

คุณ Pete แนะนำ MV

คุณ Kelly

คุณชุ คุณเอิน

คุณ Rakesh

คุณเอิน โชว์ตัวอย่าง MV

คุณ Pete ทดลองไวน์

เทศกาลแห่งการชิมไวน์ “Wine+” ระหว่างวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ ณ Olympia London โดย Highlight ของงานคื อ การรวบรวมไวน์ ทั่ ว ทั้ ง ประเทศมาอยู่ภายใต้หลังคาเดียว เพื่อให้คน ที่รักและชื่นชอบในรสชาติของไวน์ได้ทดลองชิม และสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยว กับไวน์ได้โดยตรงจากผู้ขาย นอกจากนี้แล้วยัง สามารถสั่ ง ซื้ อ ไวน์ ไ ด้ ใ นจำนวนมากเพื่ อ ใช้ ใ น โรงแรม ร้านอาหาร ผับ บาร์ และสถานบริการ ต่างๆ งานนี้ Monsoon Valley ไวน์ไทย ไม่พลาดที่ จะไปโชว์ผลงาน การโชว์ตัวในครั้งนี้ทั้งชาวไทย แ ล ะ ช า ว ต่ า ง ช า ติ ต่ า ง ใ ห้ ค ว า ม ส น ใ จ กั บ Monsoon Valley ไวน์ไทย เพื่ออาหารไทยเป็น จำนวนมาก


iSOCIETY

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์ ชมรูปภาพออนไลน์ ได้ที่ www.i-asiamag.com กด iBlog, iPhoto หรือฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com

Grand Opening - Sala Thai Restaurant, Kent Photo : Kulaphat - Chatchom

ร้ า นอาหารศาลาไทย Sala Thai Restaurant ย่าน North Kent ควบคุม การบริหารโดยคุณแคท - แคทลียา และ คุณ John เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แล้วเมื่อค่ำวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ใน ค่ำคืนของวันเปิดตัวร้านมีการแสดงต่างๆ เพื่อความบันเทิงต่ อเพื่อนสนิทมิตรสหายที่ เดิ น ทางมาแสดงความยิ น ดี กั น อย่ า ง มากมาย

John, Alan

บรรยากาศในงาน

คุณแคท - แคทลียา Elvis มาเอง

สาวฮอตในงาน

คุณแคทบริการเอง

มือเบสสาว



iTALK

เรื่อง :: หมามุ่ย

เมื่อปลายเดือนมกราแหล่งข่าวแจ้งมาว่าโรงแรมหรูย่าน Mayfair มีนักข่าวปาปารัชชี มากมายยืนรอคนดังอย่าง Paris Hilton สำหรับรายการใหม่ของเธอ British Best Friend แต่ที่เด็ดสุดคงเป็นรถ Taxi ที่ใช้โปรโมทรายการ ซึ่งดูละม้ายคล้ายคลึงรถ CHIC Amazing Thailand ของไทยเรามากๆ ไม่เชื่อลองเปรียบเทียบกันดูนะจ๊ะ... เหมือนกัน อย่างนี้แสดงว่า ททท. ของเราล้ำสมัย

เปิ ด ตั ว อย่ า งเป็ น ทางการแล้ ว สำหรั บ T.S.Q. Club “Thai Night” เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 8 กุมภาพันธ์ งานนี้ขอบอกว่าไม่ธรรม ดาจริงๆ ทั้งแสง สี เสียง และสาวนักเต้น ทำเอาหนุ่มซิ่ง สาวเปรี้ยว ถึงกับตาโตอ้า ปากค้างอยู่นาน ไม่เชื่อลองเปิดไปดูหน้า 14 - 15 หรือออนไลน์อัลบัมรูปที่ www.

i-asiamag.com กด iPhoto ซิ จ๊ ะ ... นอกจากนี้แล้วแหล่งข่าวยังแจ้งมาว่าทาง Thai Square Group ได้ทำบุญเลี้ยงพระ สำหรับ T.S.Q. Club แบบไทยๆ ไปเมื่อ เช้าวันอาทิตย์ที่ 22 ที่ผ่านมาจ้า...

เซอร์ไพรส์... “คุณเอ - เอ็ดดี้” ที่ว่ากันว่า กลับเมืองไทย For Good! ไปเมื่อปีที่แล้ว อยู่ ๆ ก็ ม าปรากฎตั ว แบบไม่ บ อกไม่ กล่ า ว...ถึ ง จะมาเงี ย บๆ แต่ ก็ ห นี ไ ม่ พ้ น แหล่งข่าวของ i-ASiA หรอกน๊ะจ๊ะ... ว่าแต่ ว่าคุณเอมาลอนดอนคราวนี้คงไม่อยู่นาน และต้องรีบกลับ เพราะว่าอดคิดถึง “น้อง มีนา” ลูกสาวในอนาคตที่กำลังจะมาส่ง เสียงร้องออดอ้อน พ่อเอ และแม่นกใน เดือนมีนาคมนี้ไม่ได้แน่ๆ

20

Happy Birthday ย้อนหลังคุณธเนศวร์ เพชรสุ ว รรณ ท่ า นผอ. ททท. ประจำ

ยู เ ค ไอร์ แ ลนด์ และแอฟริ ก าใต้ เมื่ อ

ต้ น เดื อ นกุ ม ภาพั น ธ์ ที่ ผ่ า นมา... งานนี้ แว่วๆ ว่าคุณธเนศวร์ซาบซึ้งถึงกับตาแดง เพราะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทำเซอร์ไพรส์ ทั้งอาหาร สถานที่ วีดีโอสไลด์ และโชว์ เต้นระบำ... ขอให้ท่านผอ. เป็นที่รักของ

พวกเราชาวลอนดอนไปอีกนานๆ นะจ๊ะ

คอนเฟิ ร์ ม จ้ า ... คอนเฟิ ร์ ม ... ศิ ล ปิ น Groove Riders ที่ ทุ ก ๆ คนคลั่ ง ไคล้

จะบิ น ลั ด ฟ้ า มาให้ พี่ น้ อ งชาวไทยได้ ก รี๊ ด และด๊านซ์กันกระจายที่ Scala Club ใน วั น ที่ 22 มี น าคมนี้ สนใจติ ด ต่ อ ซื้ อ เมื่อวันที่ 14 กุมภาที่ผ่านมา นักร้อง R&B บั ต รได้ ที่ เ บอร์ 079 2052 1313 ชื่อดังอย่าง Joe Thomas ประเดิม T.S.Q. หรื อ ข้ อ สอบถามข้ อ มู ล ผ่ า นอี เ มล์ ไ ด้ ที่ Club - Thai Square Club ที่ปรับปรุง grooveriders_london@hotmail.com ใหม่ ทันสมัย และหรูกว่าเดิม... มาร้อง นะจ๊ะ... แต่ถ้าอยากลุ้นตั๋ว VIP ฟรี 2 ใบ เพลงในวันแห่งความรัก...ใครยังไม่เคยไป ต้องเล่นเกมส์กับ i-ASiA ... เล่นยังไงเปิด ต้องลอง เพราะทั้งสถานที่และบรรยากาศ นั้นเหมาะมากสำหรับทุกโอกาส ไปดูหน้า 10 เลยจ้า...

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังคุณเรย์ เลขาสาว สวยของท่านผอ. ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ... ได้ยินว่าเกิดวันแห่งความรักซะด้วย... ว่า กั น ว่ า คนเกิ ด วั น นี้ ถ้ า เป็ น ผู้ ช ายจะเจ้ า ชู้ ส่วนผู้หญิงจะเป็นคนเนื้อหอม มีเสน่ห์ อยู่ ใกล้ใครก็รักใครก็หลง และคุณเรย์ก็เป็น อย่างนั้นจริง “หมามุ่ย” คอนเฟิร์ม

ฯพณฯ นายก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดิน ทางมา ณ ประเทศอังกฤษ และในวันที่ 14 มี น าคมท่ า นนายกจะเดิ น ทางไป เยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และ St. John College ซึ่งเป็นคอลเลจที่ท่าน เป็นศิษย์เก่าครั้งเมื่อเรียนที่ประเทศอังกฤษ ด้วยจ้า...

ข่าวแว่วมาว่าคุณเล็ก - วัฒนา กำลังมี เรื่องไม่สบายอกไม่สบายใจหลายอย่าง... “หมามุ่ย” ขอเอาใจช่วยให้ปัญหาทุกอย่าง คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะจ๊ะ...เพราะว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ อย่างที่ได้ยินกัน บ่อยว่า “ท้องฟ้าจะสดใสหลังฝนตกเสมอ” จ้า...

เดือนนี้คนเกิดกันเยอะ ถ้าพลาดหนุ่มคนนี้ ไปคงต้ อ งมี ค นแซว “หมามุ่ ย ” ว่ า ไม่ ซอกแซก... หนุ่มที่ว่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ คุ ณ William น้ อ งชายสุ ด หล่ อ ของคุ ณ ขอแสดงความยินดีกับคุณส้ม และคุณไมค์ Kevin แห่ง WestEast นี่เองจ้า... ว่าแล้ว ที่เพิ่งเปิดตัวร้าน Grand Kobkun สาขาที่ ขอให้คุณ William มีความสุขมากๆ นะ 5 ย่ า น Bayswater เมื่ อ วั น ที่ 9 จ๊ะ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา... ขอให้กิจการรุ่งเรือง มี แ ขกมาใช้ บ ริ ก ารเยอะๆ และร่ ำ รวยๆ ไทยไนท์ปีนี้ของ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังจัด นะจ๊ะ... อีกหนึ่งข่าวสำหรับน้องนัทลูกชาย ในเวลาไล่เลี่ยกัน วันที่ 21 กุมภาที่เคม คนโตสุดหล่อของพ่อไมค์ แม่ส้ม กำลังจะ บริดจ์ วันที่ 22 ที่ออกซ์ฟอร์ด ...แว่วมาว่า มีอายุครบ 16 ปีเต็มในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ตั๋วขายหมดเกลี้ยงภายในพริบตา...งานนี้ แล้ว... “หมามุ่ย” ขออวยพรให้น้องนัทมี เค้ามีอะไรมาเซอร์ไพรส์ เดี๋ยว “หมามุ่ย” จัดมาให้ค๊า... สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะจ๊ะ


ขอแสดงความยิ น ดี กั บ ว่ า ที่ คุ ณ พ่ อ และ

คุ ณ แม่ ค นใหม่ คุ ณ เที ย ส - แก้ ว แห่ ง ไทยสแควร์... ขอให้คุณลูกที่กำลังจะออก มาดูโลกภายในอีก 6 เดือนข้างหน้านั้น น่ารักน่าชังเหมือนคุณพ่อคุณแม่นะจ๊ะ

พระครูปลัดสุทัศน์ วัดพุทธปทีป เปิดสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น รุ่นที่ 1 ไปเรียบร้อย แล้ ว นั ก เรี ย นที่ เ รี ย นล้ ว นแล้ ว แต่ เ ป็ น

รุ่นเดอะ...กันทั้งนั้น ใครพลาดเรียนรุ่นนี้ ต้องรอรุ่นใหม่นะจ๊ะ รับรองว่าไม่นานเกิน รอแน่นอนจ้า

ธนาคารแห่ ง ประเทศไทย (แบงค์ ช าติ ) ใครสนใจพาเพื่อนชาวต่างชาติไปชมของ เปิ ด รั บ สมั ค รสอบคั ด เลื อ กทุ น การศึ ก ษา ไทยโบราณหาดู ย าก ให้ ไ ปที่ British สำหรั บ บุ ค คลภายนอกเพื่ อ ศึ ก ษาต่ อ Library เพราะตอนนี้มีพระไตรปิฎกของ ที่ ส หรั ฐ อเมริ ก า และสหราชอาณาจั ก ร ไทยสมัยศตวรรษที่ 18 จัดแสดงให้ชมกัน ดู ร ายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ www. อยู่จ้า... i-asiamag.com นะจ๊ะ

ใครยั ง ไม่ ไ ด้ ไ ปลองชิ ม ต้ อ งไปชิ ม ให้ ไ ด้ เมนูเด็ดบ่ายวันอาทิตย์ร้าน “ละครไทย” มีทั้งก๋วยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น สุกี้น้ำ แห้ง ข้าวมันไก่ ขนมไทย ฯลฯ แว่วมาว่าอร่อย จริง สงสัยต้องขยายเวลาบริการไปจนถึง ดึกเพื่อเอาใจนักชิมซะแล้ว

แฟนบอลอย่ า ลื ม ไปช่ ว ยกั น เชียร์ฟุตบอล ไทย และนักเตะไทยที่สนาม The David Beckham Academy ในการแข่ ง ขั น ฟุตบอล Thai : UK Football League 2009 กันเยอะๆนะจ๊ะ

ร้ า นอาหาร Mango Tree จั ด เทศกาล “แกง” (Curry Festival) ขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 22 มีนาคม มีแกงต่างๆ มากมายไม่ ว่าจะเป็นแกงส้มมะละกอ แกงเลียง ฯลฯ ให้ลิ้มลองจ้า

คุณครูตุ้ย แห่งศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม โชคไม่ดีเสียกระเป๋า ของมีค่าและแขนหัก จากการวิ่งตามนักวิ่งราวฉกกระเป๋า ย่าน ไฮด์ ป าร์ ค คอนเนอร์ ครู ตุ้ ย ฝากเตื อ น

ให้ ทุ ก คนระมั ด ระวั ง เพราะคนไทยโดน

กันมาหลายคนแล้ว... “หมามุ่ย” ขอให้ครู ตุ้ยหายไวๆ นะคะ

คุ ณ มาร์ ค หนุ่ ม ไฮเปอร์ ทำงานตั ว เป็ น เกลียว หัวเป็นน็อต แล้วอย่างนี้จะมีเวลา ให้กับหวานใจบ้างมั๊ยน๊า... เห็นทีไรทำแต่ งาน...งาน...งาน...

คุ ณ ไนกี้ ที่ ว่ า ไปบวช...กลั บ มาแล้ ว จ้ า ... คอนเฟิร์มความอิ่มบุญได้จากหน้าตาและ สามั ค คี เ กมส์ 2009 ปี นี้ จั ด ขึ้ น ที่ ช่ ว งนี้ โ ฮมออฟฟิ ต เข้ ม งวดมาก ใน รอยยิ้ ม ที่ แ ช่ ม ชื่ น พร้ อ มกั บ ผมทรงใหม่

มหาวิทยาลัยแคนเทอเบอรี่ เค้นท์ ในวันที่ ระยะเวลาที่ ผ่ า นมากฎหมายต่ า งๆ สั้นแต่กิ๊บเก๋นะจ๊ะ 7 มี น าคมนี้ อย่ า ลื ม ไปร่ ว มด้ ว ยช่ ว ยกั น เปลี่ ย นแปลง บ่ อ ย “หมามุ่ ย ” ขอให้

เชียร์นักกีฬาที่ลงแข่งขันนะจ๊ะ...สู้...สู้... พี่ ๆ น้ อ งๆ นั ก เรี ย นทุ ก คนตั้ ง ใจ และ เอาใจใส่การเรียนให้มากๆ อย่ามัวทำงาน กันจนเพลินล่ะ

ในยามที่เศรษฐกิจกำลังซบเซา ททท. เตรียมลุยเต็มที่โดยให้พี่น้องชาวไทยทุกคน

ที่ อ ยู่ ใ นสหราชอาณาจั ก รเชิ ญ ชวนให้ ช าวต่ า งชาติ เ ดิ น ทางไปเที่ ย วประเทศไทย

โดยการ Launch แคมเปญ “Friend of Thailand - Once in a Life Time”

ขึ้นในเดือนเมษายน... แต่ที่ไม่ธรรมดาคือถ้าเชิญชวนชาวต่างชาติไปเที่ยวเมืองไทย

ได้ถึง 10 คน ทางททท. มีของสมนาคุณให้เป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ ลอนดอน...อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ 0207 925 2511 ได้เลยจ้า

ขอปิ ด ท้ า ยเดื อ นแห่ ง ความรั ก กั น ด้ ว ย

คู่บ่าวสาว น้องอานนท์ - น้องครีม ที่ทำ พิธีแต่งงานเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา... “หมามุ่ย” ขอให้ทั้งคู่ถือไม้เท้า ยอดทองกระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมืองนะจ๊ะ...

21


iINSIDE OUT

จะว่าไปแล้วปี 2008 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นปีที่เศรษฐกิจของอังกฤษ เพิ่งเริ่มซึมซับพิษของภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) เป็นครั้งแรกหลัง จากที่เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1991 ที่เศรษฐกิจหดตัว (contraction) ถึงร้อยละ 1.4 แล้วเหตุใดเศรษฐกิจปี 2008 ถึงเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยทั้งทั้งที่ ก่อนหน้านี้เพียงปีเดียว (2007) เศรษฐกิจเพิ่งขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึงร้อย ละ 3.0 และอัตราการว่างงาน (unemployment rate) ก็ลดลงจนต่ำสุด เป็นประวัติการณ์เหลือเพียงร้อยละ 5.2 แต่พอเข้าปี 2008 เศรษฐกิจกลับ เริ่มสะดุดและทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปีทำให้เศรษฐกิจทั้ง ปีขยายตัวเพียงร้อยละ 0.7 เท่านั้น และที่บอกว่าเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มซึมซับพิษ ของเศรษฐกิจถดถอยนั้นก็หมายความว่าเศรษฐกิจที่ย่ำแย่กว่านี้กำลังรอใน

ปี นี้ แ ละอาจต่ อ เนื่ อ งไปถึ ง ปี ห น้ า เมื่ อ ต้ น เดื อ นมกราคมกองทุ น การเงิ น ระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจของอังกฤษ ในปีนี้ (2009) ว่าจะขยายตัวติดลบถึงร้อยละ 2.8 แต่เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า IMF เพิ่งประมาณว่าเศรษฐกิจน่าจะติดลบแค่เพียงร้อยละ 1.3 ซึ่งหากเป็นไป ตามที่ IMF ประมาณการว่าเศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวลงร้อยละ 2.8 จริง ก็จะ ถือว่าเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงรุนแรงที่สุดนับจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งจากสถิตินับจากปี 1949 เป็นต้นมา อังกฤษเคยประสบ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (recession) รวม 3 ครั้ง คือ 1) ช่วงปี 1974-1975 ครั้งนั้นเศรษฐกิจติดลบร้อยละ 1.3 2) ช่วงปี 1980-1981 ที่เศรษฐกิจติดลบ ลึกสุดร้อยละ 2.1 และ 3) ล่าสุดคือช่วงปี 1991-1992 ที่เศรษฐกิจติดลบ

ร้อยละ 1.4 (ดูภาพประกอบ) นอกจากนี้ นาย Mervyn King ผู้ว่าการ ธนาคารกลางอั ง กฤษได้ อ อกมาสำทั บ ให้ ชั ด เจนไปเลยว่ า ธนาคารกลาง อังกฤษเองก็เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะถดถอยลงลึกกว่าที่เคยประมาณการไว้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว จึงทำให้น่าสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ ผ่านพ้นปีใหม่มาได้ไม่นานข่าวแง่ลบทางด้านเศรษฐกิจก็ยังคงทยอยออกมา ของประเทศนี้ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจตกต่ำ การประกาศ เลิกจ้างงานของบรรดาธุรกิจต่างๆ การออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือคนที่ มูลเหตุของเศรษฐกิจตกต่ำในรอบนี้ : Subprime Mortgage Crisis ตกงานเกินกว่า 6 เดือนให้สามารถมีงานทำโดยจ่ายให้นายจ้างที่จ้างคน คงพอจำกันได้ว่าในช่วงฤดูร้อนของปี 2007 เกิดข่าวใหญ่ไปทั่วโลกถึงวิกฤต อสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่เรียกกันว่า Subprime Mortgage Crisis ซึ่ง กลุ่มนี้เข้าทำงานในอัตราหัวละ 2,500 ปอนด์ มาตรการกระตุ้นสินเชื่อแก่ เป็นเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความปั่นป่วนของระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาการขอสินเชื่อ การออมาตรการค้ำประกัน โลกในขณะนี้ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปก็พอจะสรุปถึงสาเหตุของเศรษฐกิจ สินเชื่อ (credit guarantee) ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs การที่ Bank of ตกต่ำทั่วโลกในครั้งนี้ได้ ดังนี้ England ลดอั ต ราดอกเบี้ ย ต่ ำ สุ ด ในรอบ 315 ปี ค่ า เงิ น ปอนด์ ต กต่ ำ ความขัดแย้งกรณีที่ผู้บริหารธนาคารได้รับเงินโบนัสสูงทั้งทั้งที่ใช้เงินภาษี นโยบายดอกเบี้ยต่ำหลังเหตุการณ์ World Trade Centre นำมาสู่ เข้าไปโอบอุ้มกิจการ รวมถึงตัวเลขผู้ว่างงานล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมพุ่งขึ้น วิกฤต Subprime ถึง 1.97 ล้านคนสูงที่สุดนับจากปี 1997 เป็นต้น จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่า ในช่วงต้นปี 2001 ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (Federal Reserve) ได้เริ่ม นโยบายลดอัตราดอกเบี้ยลงเนื่องจากมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะ กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษ ถดถอยโดยตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงแรงถึงร้อยละ 0.50 จากเดิมร้อยละ 6.50 เหลือร้อยละ 6.0 และทยอยลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 9 ครั้งจนเหลือ เพียงร้อยละ 2.0 ก่อนที่จะเกิดเหตุวินาศกรรมโดยผู้ก่อการร้ายใช้เครื่องบิน บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียนโดยไม่จำเป็นต้องสะท้อนความเห็นของหน่วยงานที่ผู้ โดยสารบินเข้าชนตึก World Trade Centre หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ 9/11 เขียนสังกัดแต่อย่างใด ในเดือนพฤศจิกายนปี 2001 ส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวอยู่ * อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน แล้ ว เข้ า สู่ ภ าวะตกต่ ำ โดยสมบู ร ณ์ นั บ จากไตรมาสที่ 3 และ 4 ทำให้ เรื่อง :: บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์* boonchar@mof.go.th ภาพ :: อารีจิตร

เกิดอะไรขึ้น กับเศรษฐกิจอังกฤษ

22


เศรษฐกิจในปีนั้นเติบโตเพียงร้อยละ 0.8 เทียบกับที่ขยายตัวถึงร้อยละ 3.7 ในปี 2000 และเพื่อเป็นการประคับประคองสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจมิให้ บอบช้ำเกินไปจากผลกระทบวงกว้างที่จะติดตามมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว Federal Reserve จึงได้ทยอยลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงไปอีกจนกระทั่งลง มาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 1.0 ในกลางปี 2003 และยืน อัตราดอกเบี้ยต่ำมาจนถึงกลางปี 2004 ซึ่งก็ได้ผลในการช่วยให้เศรษฐกิจ ของสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นโดยลำดับโดยขยายตัวร้อยละ 1.6 2.5 และ 3.6 ในปี 2002 2003 และ 2004 ตามลำดับ แต่เมื่อมีทีท่าว่าเศรษฐกิจเริ่มจะโตเร็ว เกินไป Federal Reserve ก็เริ่มกลับนโยบายหลังจากที่ดำเนินนโยบายอัตรา ดอกเบี้ยต่ำมาเป็นเวลานาน โดยนับจากกลางปี 2004 เป็นต้นมา Federal Reserve ก็เริ่มทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในอัตราครั้งละร้อยละ 0.25 รวม ทั้งสิ้นถึง 15 ครั้งจนทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขึ้นมาสู่ระดับร้อยละ 5.25 ในช่วงกลางปี 2006 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการชะลอเศรษฐกิจมิ ให้เติบโตเร็วเกินไปจนก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ (inflation) (เงินเฟ้อทำให้ รายได้ที่แท้จริง (real income) ของประชาชนลดลงจากการที่ราคาข้าวของ แพงขึ้นขณะที่รายได้เท่าเดิม) ซึ่งในช่วงดังกล่าวอัตราเงินเฟ้อเริ่มไต่ระดับ จากร้อยละ 1.6 ในปี 2002 มาสูงสุดที่ร้อยละ 4.3 ในกลางปี 2006 ผลของ นโยบายที่ได้คือเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มชะลอลงจริง แต่ขณะเดียวกันกลับ ส่ ง ผลข้ า งเคี ย งที่ ไ ม่ พึ ง ประสงค์ ด้ ว ย นั่ น คื อ ทำให้ ภ าวะฟองสบู่ ใ นภาค อสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตัวขึ้นในยุคดอกเบี้ยถูกแตกลง (bubble burst) ใน เวลาต่อมา โดยในช่วงปลายปี 2006 ถึงปี 2007 เริ่มปรากฎว่าความสามารถ ในการผ่อนชำระของลูกหนี้แย่ลง (rising defaults) ส่วนหนึ่งก็เพราะภาระ ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายดึงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นของ Fed แต่อีก ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวจึงส่งผลต่อการจ้างงานและ รายได้ โดยเฉพาะการผิดนัดชำระหนี้ในกลุ่มลูกหนี้ที่ซื้อบ้านราคาสูงเกิน ฐานะ และกลุ่มที่ไม่มีความแน่นอนเรื่องรายได้แต่อยากกู้เงินซื้อบ้าน ลูกค้า เหล่านี้โดยรวมแล้วถือว่าเป็นลูกหนี้ที่มีคุณภาพต่ำ หรือที่เรียกว่า subprime mortgages ที่ในอดีตได้รับอนุมัติสินเชื่ออย่างง่ายๆ เพียงเพราะผู้ให้กู้เห็น ว่ า ราคาที่ อ ยู่ อ าศั ย ขณะนั้ น อยู่ ใ นช่ ว งขาขึ้ น จึ ง ไม่ มี ปั ญ หาหากลู ก หนี้ ไ ม่ สามารถผ่อนชำระคืนได้ เพราะอย่างไรเสียราคาบ้านก็ยังจะเพียงพอชำระ หนี้ได้

วิกฤต Subprime คุกคามตลาดการเงิน

ผลของฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์แตกไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้ แต่กลับลาม เข้าสู่ตลาดการเงิน (financial markets) อันเนื่องมาจากความสลับซับซ้อน มากกว่าที่เกิดจากนวัตกรรมทางการเงิน (financial innovation) ที่เรียกว่า “กระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นตราสารทางการเงิน” (Securitisation) ซึ่ง เป็นกระบวนการที่สถาบันการเงินนำกลุ่มของสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ ในบัญชี (portfolio of mortgages) โอนขายให้กับบริษัทลูกที่จัดตั้งขึ้น (special purposed vehicles) เพื่อนำไปออกเป็นตราสารทางการเงิน เช่น หุ้นกู้หรือพันธบัตร เป็นต้น โดยใช้ mortgages เหล่านั้นหนุนหลังหรือเป็น ประกั น ให้ กั บ ตราสารดั ง กล่ า ว จึ ง เรี ย กตราสารเหล่ า นี้ โ ดยรวมว่ า Mortgage-backed securities (MBS) โดยนักลงทุนที่ลงทุนซื้อ MBS ไว้ก็

แต่เมื่อสถานการณ์กลับตาลปัตรในช่วงฤดูร้อน ของปี 2007 ธนาคารที่ลงทุนหรือมีบริษัทลูก ลงทุ น ใน MBS ก็ มี ปั ญ หาขาดทุ น จนหลาย ธนาคารเริ่มไม่มั่นใจซึ่งกันและกันว่ามีใครจะ ขาดทุนมากน้อยเพียงใดจากวิกฤต MBS จึง หลีกเลี่ยงที่จะปล่อยกู้ซึ่งกันและกันที่เราเรียก ว่า interbank market นี่จึงเป็นจุดเริ่มที่นำมา สู่วิกฤตทั้งปวงที่กำลังเกิดในขณะนี้ ก็ในเมื่อ ธนาคารด้วยกันเองยังไม่ยอมให้กู้ระหว่างกัน แล้ ว ภาคธุ ร กิ จ อื่ น รวมถึ ง ภาคครั ว เรื อ นจะมี โอกาสได้กู้ยืมหรือ?

จะได้รับผลตอบแทนที่นำมาจากกระแสเงินผ่อนชำระหนี้เงินกู้ของลูกหนี้ (mortgage payments) ขณะเดียวกัน หากนักลงทุนมีความต้องการใช้เงิน ก็สามารถนำ MBS ที่ถืออยู่มาขายในตลาดรองซื้อขาย MBS ได้ ซึ่งก่อนเกิด วิกฤตกระบวนการที่กล่าวดำเนินไปด้วยความราบรื่นไม่มีปัญหา เหตุนี้จึง ทำให้การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นฟอง สบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ในท้ายที่สุด เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระตามสัญญาเงินกู้ได้ก็ส่งผลกระทบต่อ ผลตอบแทนของ MBS สุดท้ายมูลค่าของ MBS ก็ลดลงซึ่งหมายถึงผู้ที่ลงทุน ไว้ก็จะขาดทุนจากการลงทุน เมื่อสถานการณ์ subprime เลวร้ายลงเรื่อยๆ จนหนักเข้าก็เริ่มไม่มีคนกล้าเข้าไปซื้อแม้ราคาตราสารจะลดลงมากเท่าใด ก็ตาม ผลที่ตามมาก็คือตลาดซื้อขายตราสาร MBS ปิดสนิทในทางปฏิบัติ เนื่องจากไม่มีการซื้อขายเพราะผู้ลงทุนซื้อก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวขาดทุน ขณะที่ผู้ที่อยากจะขายก็ไม่สามารถขายได้เพราะหาผู้ซื้อไม่ได้ หรือถ้าขายได้ ก็ ไ ม่ ท ราบว่ า จะขายได้ ใ นราคาต่ ำ เท่ า ใดเพราะไม่ มี ก ารซื้ อ ขาย (no valuation)

สถาบันการเงินเริ่มมีปัญหาขาดทุนจากวิกฤต Subprime

วิกฤตในตลาดซื้อขาย MBS ก็เริ่มลามเข้าสู่ระบบธนาคารซึ่งเป็นหัวใจของ ระบบเศรษฐกิ จ ปั จ จุ บั น กล่ า วคื อ หลายธนาคารหากไม่ ไ ด้ ไ ปลงทุ น ใน ตราสาร MBS ไว้เองก็มีบริษัทลูกที่ตั้งขึ้นไปลงทุนไว้เนื่องจากในอดีตตราสาร MBS ให้ผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงก็ดูจะน้อยเพราะราคาที่อยู่อาศัยของ สหรัฐฯ ในช่วงก่อนวิกฤตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เมื่อสถานการณ์กลับตาลปัตร ในช่วงฤดูร้อนของปี 2007 ธนาคารที่ลงทุนหรือมีบริษัทลูกลงทุนใน MBS ก็ มี ปั ญ หาขาดทุ น จนหลายธนาคารเริ่ ม ไม่ มั่ น ใจซึ่ ง กั น และกั น ว่ า มี ใ ครจะ ขาดทุนมากน้อยเพียงใดจากวิกฤต MBS จึงหลีกเลี่ยงที่จะปล่อยกู้ซึ่งกันและ กันที่เราเรียกว่า interbank market นี่จึงเป็นจุดเริ่มที่นำมาสู่วิกฤตทั้งปวงที่

23


กำลังเกิดในขณะนี้ ก็ในเมื่อธนาคารด้วย กันเองยังไม่ยอมให้กู้ระหว่างกัน แล้วภาค ธุรกิจอื่นรวมถึงภาคครัวเรือนจะมีโอกาสได้ กู้ยืมหรือ? สภาพวิกฤติของระบบการเงินและ สินเชื่อส่งผลให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ประสบผลขาดทุนจนต้องดิ้นรนหาทางเพิ่ม ทุนไม่ว่าจะเป็น 1) กรณี Bear Stearns ซึ่งบริษัทวาณิชธนกิจชั้นนำที่ ประสบปัญหา ขาดทุนจากการลงทุน MBS จนท้ายสุดถูกซื้อกิจการเข้าไปรวมกับธนาคาร JPMorgan Chase ในเดือนพฤษภาคม 2008 2) กรณีของ Wachovia Corporation ที่ถูกควบกิจการเข้ากับ ธนาคาร Wells Fargo ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ 1 ใน 4 ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2008 3) กรณีของ Citigroup ที่ขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อ subprime mortgages และการลงทุนในตราสาร CDOs จนต้องเข้ารับความช่วยเหลือ จากทางการสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือเพิ่มทุนและการค้ำประกันเงินกู้ให้ใน เดือนพฤศจิกายน 2008 4) กรณีของ Merrill Lynch ยักษ์ใหญ่วาณิชธนกิจอีกแห่งหนึ่งที่ ประสบผลขาดทุนจากการลงทุนในตราสารที่เกี่ยวเนื่องกับ Subprime ท้าย สุดต้องเข้าไปควบรวมกิจการกับ Bank of America ในเดือนธันวาคม 2008 และ 5) ที่สั่นสะเทือนระบบการเงินของสหรัฐฯ มากที่สุด เห็นจะเป็นกรณี ของและที่หนักหนาที่สุดเห็นจะเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบต่อ The Federal National Mortgage Association (Fannie Mae) และ Federal Home Loan Mortgage Corporation (Freddie Mac) ซึ่งเป็น 2 สถาบันสินเชื่อ เพื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากทั้ง 2 มียอดเงินให้สินเชื่อ และค้ำประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยถึง 5.2 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. หรือ เท่ากับประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดสินเชื่อขนาด 12 ล้านล้านดอลลาร์

24

สรอ. ของสหรัฐฯ เมื่อมีข่าวในเดือนกรกฎาคม 2008 ว่าสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งกำลังประสบปัญหาด้านฐานะการเงินเนื่องจากขาดทุนมหาศาลจากสิน เชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งที่ปล่อยเองและให้การค้ำประกันกับสถาบันการเงินอื่น ความที่ทั้ง 2 สถาบันการเงินเป็นสถาบันการเงินที่มีรัฐบาลให้การสนับสนุน (government-sponsored enterprises: GSE) และเป็นเสมือนเสาหลักด้าน สินเชื่อของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลไม่อาจเสี่ยงต่อการ ล้มละลายของทั้ง 2 สถาบันการเงิน ดังนั้น Federal Reserve จึงได้อัดฉีด สภาพคล่องชนิดให้กู้ไม่จำกัดแก่สถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งตามความต้องการ และเพื่อป้องกันปัญหาการล่มสลายของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะตามมาหาก สถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งล้มละลายลง รัฐบาลจึงได้โอนกิจการทั้งหมดเข้า เป็นของรัฐ (conservatorship) ในเดือนกันยายน 2008 ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ที่สุดที่จะคงการดำเนินกิจการของสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งต่อไป ขณะที่สถาบันการเงินชื่อดังบางแห่งที่โชคร้ายไม่สามารถหาผู้เข้ามา ช่ ว ยพยุ ง ฐานะได้ ก็ ต้ อ งล้ ม ละลายไป เช่ น กรณี ข องวาณิ ช ธนกิ จ ชื่ อ ดั ง Lehman Brothers ที่ มี ปั ญ หาขาดทุ น มหาศาลจากการที่ ต้ อ งถื อ ครอง ตราสารประเภท MBS ไว้เป็นจำนวนมากในฐานะที่เป็นผู้รับประกันการ จำหน่าย (underwriter) ตราสาร MBS ให้กับลูกค้า ท้ายสุดไม่สามารถหาผู้ ร่วมทุนได้จนต้องยื่นขอล้มละลาย (filed bankruptcy protection) เมื่อวัน ที่ 15 กันยายน 2008 ถือเป็นการปิดตำนาน 1 ใน 4 ยักษ์ใหญ่วาณิชธนกิจ ของสหรัฐฯ แห่งตลาด Wall Street และยังเป็นชนวนเหตุให้กับวิกฤตการ เงินโลกทรุดตัวลงอีกในเวลาต่อมา สำหรับวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ที่เหลืออีก 2 แห่ง คือ Goldman Sachs และ Morgan Stanley แม้จะรอดพ้นจาก วิกฤตได้อย่างทุรักทุเลแต่ก็จำเป็นต้องแปลงสภาพตัวเองด้วยการยื่นของใบ อนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (banking license) เพื่อให้สามารถ รับเงินฝากจากประชาชนได้เพื่อความอยู่รอดเนื่องจากภายใต้สภาพวิกฤต การเงินปัจจุบันลำพังการประกอบธุรกิจวาณิชธนกิจอย่างเดียวคงไม่สามารถ อยู่รอดได้ ทางออกคือปรับตัวเองไปสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ คราวหน้าลองมาดูว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เขาดำเนินการอย่างไรในการ แก้ไขปัญหาระบบการเงินที่กำลังซวดเซ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของประธานาธิบดี Barack Obama ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ว่าเป็นอย่างไร อ่ า น ต่ อ ฉ บั บ ห น้ า

บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์



iTECH

เรื่อง :: โต๊ะคอม thocom.hi5.com

แน่ใจหรือ นี่คือ Thumb Drive

คุยเรื่องการซื้อ การดูแล Thumb Drive กันไปแล้ว ฉบับนี้เรามาดูวิวัฒนาการของ Thumb Drive ที่ไม่ใช่เพียงแค่แท่งสี่เหลี่ยมอีกต่อไป ผมรวบรวม Thumb Drive หน้าตาแปลกและไม่ธรรมดาที่เคยเห็นมาฝาก สนนราคาอยู่ที่ 300 บาท หรือ £5 สำหรับขนาดความจุ 1GB ที่สามารถหาซื้อได้ในเมืองไทย หมวดแรก - อาหาร ดูแล้วน่าทานไม่หยอก เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร หมวดที่สอง - กุ๊กกิ๊ก น่ารัก สำหรับวัยทีน หมวดที่สาม - แนวสปอร์ต คล่องตัว ทั้งสายรัด สายห้อยคอ พกพาง่าย หมวดที่สี่ - หรูหรา ประดับประดาด้วยแก้วคริสตัล เป็นทั้ง Thumb Drive พกพาไว้ใช้งาน และเครื่องประดับ 2 in 1 โต๊ะคอม thocom.hi5.com thocom-peo.blogspot.com และหมวดเบ็ดเตล็ด

26



iBeauty

เรื่อง :: ดวงรัตน์ สุระกูล ภาพ :: www.sxc.hu

15 นาที

ขจัดขอบตาคล้ำ

ขอบตาคล้ำ... ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสาวใหญ่ หนุ่มใหญ่ จนบางครั้ง ต้องใช้เครื่องสำอางอำพราง iBeauty ฉบับนี้มีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความคล้ำ ของรอบตาเบื้องต้นด้วยเกลือมาฝาก รับประกันความความง่าย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดและดูดี สิ่งของและอุปกรณ์ที่ต้องใช้มี 3 อย่าง 1. เกลือ 1 ช้อนชา 2. น้ำร้อน ครึ่งถ้วย 3. สำลีชนิดแผ่น หรือ ผ้าเนื้อนุ่มแผ่นเล็ก เริ่มด้วยการผสมเกลือกับน้ำร้อน ในอัตราส่วนที่เตรียมไว้ แล้วใช้ผ้า เนื้อนุ่ม หรือสำลีชุบน้ำเกลือให้เปียกทั่วแผ่น บีบน้ำออกเล็กน้อย (ระวังอย่า ให้ชุ่ม หรือเปียกจนเกินไป) จากนั้นนำมาปิดตาไว้ประมาณ 10 - 15 นาที เท่านี้รอยช้ำรอบๆ ดวงตาก็จะลดความเข้มลงอย่างเห็นได้ชัด เพียงเท่านี้ก็ กลับมาสวย หล่อได้เหมือนเดิม อย่างที่ใจปรารศนาแล้ว สำหรับท่านผู้อ่านที่ทำแล้วไม่ได้ผล สิ่งที่อยากฝากไว้คือ ควรหา สาเหตุที่แท้จริงของรอยคล้ำรอบดวงตา เพราะจะช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่าง ตรงจุด หากรอยคล้ำนั้นเกิดจากสภาวะร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ควร ทานวิตามินซีเสริม หรือผลไม้รสเปรี้ยว เพราะเป็นแหล่งรวมวิตามินซี ออก กำลังกายสม่ำเสมอเพื่อคลายเครียด เพราะนอกจากจะทำให้รอยคล้ำรอบ ดวงตาลดลงแล้วยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ สำหรับคุณผู้อ่านคอลัมน์ iBeauty ที่มีเคล็ด (ไม่) ลับต่างๆ ในเรื่อง การรักษาสุขภาพ อยากจะแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มความสวยให้พี่ๆ น้องๆ ได้อ่านกันโดยส่งเคล็ด (ไม่) ลับ มาได้ที่ info@i-asiamag.com พร้อมชื่อ และที่อยู่มาด้วยนะคะ ไม่แน่ iBeauty ฉบับหน้าอาจจะเป็นคอลัมน์ของคุณ ก็ได้ค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

28


ดวงชะตาระหว่างวันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2552

ราศีเมษ ( 13 เมษายน – 14 พฤษภาคม )

ในรอบสัปดาห์นี้ งานจะเข้ามากมากขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ท่านจะ พยายามเต็มความสามารถ ผู้ใหญ่จะได้ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ควร เลือกงานเฉพาะที่ท่านถนัดจริงๆ หรือเลือกงานที่ทำแล้วได้ผลทีนตาเห็นจะดี กว่า งานด้านธุรกิจระยะนิ้จะคล่องตัวดีขึ้นมาก การประสานประโยชน์หรือ ธุรกิจติดต่อจะทำได้ง่ายกว่าที่คิด อาจได้สิ่งของมีค่าหายาก โดยเฉพาะจะ ได้เครื่องรางของขลัง หรือพระบูชาที่เป็นของเก่าของโบราณที่เป็นของที่คน อื่นอยากจะได้ ดาวศุกร์โคจรอยู่ในเรือนวินาศตลอดทั้งเดือน ญาติพี่น้องหรือ คนรักจะห่างเหิน ท่านที่รู้สึกระแวงแคลงใจกับคนรักและความรักไปต่างๆ นานา จะต้องอดทนและหนักแน่นให้มากขึ้น

ราศีพฤษภ ( 15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน )

ในรอบสัปดาห์นี้ งานทางด้านวิชาการยังก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ อาจมีการ เกาะกลุ่มกับนักวิชาการมากขึ้น ท่าจะมีลาภผลเพิ่มเติมเข้ามาในช่วงเดือนนี้ ธุรกิจจะทำผลประโยชน์ดีขึ้น หากจะมีการเจรจาซื้อขายทรัพย์สินหรือเร่งรัด หนี้สิน ก็ให้เร่งรีบดำเนินการเสียในช่วงนี้ งานที่เกี่ยวกับการสื่อสารหรือการ เดินนายหน้าจะก้าวรุดหน้าไปมาก และจะเห็นประโยชน์มากขึ้นในช่วงปลาย เดือน อุปสรรคในงานจะเกิดขึ้นจากบุคลิก และท่าทีของตัวท่านเอง มีเกณฑ์ จะได้ต่อเติมบ้านหรือที่อยู่อาศัย อาจเปลี่ยนแปลงที่อยู่ใหม่ ที่มีความสุข สบายมากกว่าเดิม มีโชคลาภผ่านทางเพศตรงข้าม แม้แต่ศัตรูก็ยังจะให้ลาภ หรือกลับกลายเป็นผลประโยชน์แก่ท่านเอง

ราศีมิถุน ( 15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม )

ผลงานและการศึกษาเล่าเรียนจะตกต่ำ การค้นคว้าหรืองานวิจัยไม่ค่อยได้ ผลดี นั ก จะเปรี ย บเที ย บฝี มื อ ในการแก้ ปั ญ หากั บ เพื่ อ นพ้ อ งรุ่ น ราวคราว เดียวกันไม่ได้ ระยะนี้ท่านจะเปรียบเทียบความเจริญก้าวหน้าได้ยาก ความ ละเอียดรอบคอบไม่ค่อยมี ขาดความระมัดระวังในเรื่องผลเสียหายที่อาจจะ เกิดขึ้น งานที่ทำมาแล้วอาจได้ผลกำไร หรือเงินค่าตอบแทนจะช่วยให้ท่านมี กินมีใช้ได้ดีในช่วงนี้ โชคลาภจะมีผ่านทางคู่ครองหรือเพศตรงข้ามอยู่ด้วย


กับคนรักหรือคู่ครองจะมีเรื่องกระทบใจกันอย่างคาดไม่ถึง ความรักกับงาน ยังก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน เรื่องเสี่ยงโชคยังคาดหวังความเจริญก้าวหน้าได้ ยาก

ราศีตุล ( 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน )

งานเริ่มมีความก้าวหน้ามุ่งเป้าด้านปริมาณงานจะเพิ่มมากขึ้น ความรับผิด ชอบและความร่วมมือในงานก็จะดีขึ้น ตัวท่านเองก็มีกำลังใจ สุขภาพก็จะ อำนวยและเป็นทางสนับสนุนให้มีผลงานมากขึ้นด้วย ตัวท่านเองก็จะเริ่ม หาความสุขได้มากขึ้น สำหรับเรื่องความสงบในครอบครัวอาจจะมีเหตุผล ราศีกรกฎ ( 16 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม ) กระทบกระเทือนกันบ่อยๆ การพูดจาหารือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยังไม่ การเงินมีช่องทางรั่วไหลค่อนข้างมาก อาจมีหลายรายการที่จะต้องหามาจ่าย ค่ อ ยเป็ น ผลดี นั ก เกี ย รติ ย ศยั ง พอหาได้ บ้ า ง บุ ต รธิ ด าจะห่ า งเหิ น กั น ไป มีเกณฑ์จะสูญเสียเงินไปโดยไม่เต็มใจนัก บางทีก็มีรายการของใช้ชำรุดเสีย ชั่วคราว อุปสรรคหรือความขัดแย้งจะลดลงไป ระวังจะเสียคนกันเอง ระยะ หายต้องซ่อม เพื่อนฝูงและการสมาคมก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่าย นี้การเดินทางไกลจะมีโชค เพิ่มขึ้น ระวังการเสียเงินจากการเดินทางหรือถูกเพื่อนที่เพิ่งคบกันใหม่ๆ หลอกหรือต้มตุ๋นได้ง่าย การลงทุนในระหว่างนี้จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว ราศีพิจิก ( 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม ) ธุรกิจติดต่อจะให้ผลดี ผู้ใหญ่จะให้ความเมตตาดีอยู่ หากจะต้องขอร้องเพื่อ ผลประโยชน์ต่างๆ หรือจะเร่งรัดหนี้สินก็ควรทำ หลังจากวันที่ 14 เรื่อง เกี่ ย วกั บ งานคงทำไปได้ เ รื่ อ ยๆ จะหวั ง ผลตอบแทนมากนั ก ก็ ค งไม่ ไ ด้ เหตุการณ์โดยทั่วๆ ไปจะดูเชื่องช้าลงไปหมด ถึงกระนั้นยังมีเกณฑ์ที่ห้าม ความรักความใคร่จะต้องสุขุมรอบคอบให้มากขึ้น เดินทางอยู่บ้าง มิตรภาพใหม่จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ ด้านสุขภาพจะดีขึ้นมาก มิตรภาพใหม่ๆ จะมีเข้ามา อาจเดินทางไปในที่ต่างๆ เปลี่ยนบรรยากาศ ราศีสิงห์ ( 17 สิงหาคม – 16 กันยายน ) ของการพักผ่อนทำให้จิตใจของท่านสดชื่นดีขึ้น เนื่องจากระยะนี้ปัญหาใน ท่ า นจะรู้ สึ ก วิ ต กกั ง วลกั บ เรื่ อ งราวต่ า งๆ ที่ เ กิ ด ขึ้ น จากเหตุ ก ารณ์ แ ละสิ่ ง เรื่องครอบครัวและบุตรหลานอาจมีปัญหาที่ทำให้ท่านรู้สึกว่าไม่มีความสุขไม่ แวดล้อม ดวงชะตาจะตกทรุดลงไปกว่าเดือนก่อน จะคาดหวังในเรื่องการ มากก็น้อย ลาภผลและการเงินจะมีเข้ามาไม่ขาด โดยเฉพาะท่านที่มีอาชีพ ติดต่อขอความช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ผู้ใหญ่ยังมีความคิดที่เป็นปรปักษ์กับ ด้านเกษตรกรรมหรือที่เกี่ยวกับทรัพย์ในดินทุกชนิด อสังหาริมทรัพย์จะมี ท่ า นอย่ า งเต็ ม ที่ เพี ย งแต่ ยั ง ไม่ แ สดงออกให้ เ ห็ น ได้ ชั ด เจนเท่ า นั้ น ระวั ง ข่าวดีหรือมีโอกาสขายง่ายขึ้น ท่าทางของตัวท่านระยะนี้ อาจมีเรื่องกับญาติพี่น้อง หรือคนกันเองจะเข้าใจ ผิดได้ง่าย สงสัยไต่ถามอะไรจากใครก็ไม่ได้เรื่อง รวมความแล้วอย่าทำอะไร ราศีธนู ( 16 ธันวาคม – 14 มกราคม ) ให้คนอื่นระแวงแคลงใจในตัวท่านเป็นดีที่สุด บางคนงานอาจสะดุด หรือ งานจะเริ่มมีเข้ามามากขึ้นตามวันเวลา จะใช้ชีวิตด้วยความขยันขันแข็ง หยุดไปอย่างน่าเสียดาย เช่นเกี่ยวกับความรักระยะนี้ไม่ดีเลย จริงจังดีขึ้น ธุรกิจติดต่อและการหมุนเงินจะคล่องตัวดีขึ้นไปอีกในช่วงปลาย เดือน การเงินหรือผลประโยชน์แม้จะไม่ราบรื่นแต่ก็มีความหวังได้มากขึ้น ราศีกันย์ (1 7 กันยายน – 16 ตุลาคม ) ไม่ว่าจะติดต่อกับใคร ถ้าท่านต้องการผลประโยชน์ควรสุภาพอ่อนน้อม ยังคงต้องรักษามาตรฐานการทำงานเอาไว้ ในความรู้สึกทั่วๆ ไป เหมือนไม่ ผู้ใหญ่จะคิดเมตตาสงสารท่านดีขึ้น ท่านจะพบช่องทางทำมาหากินหลาย อยากได้ใคร่ดีอะไร เนื้องานส่วนมากยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ธุรกิจการค้าก็ อย่าง เหมาะสมที่จะเปลี่ยนงานหรือริเริ่มงานใหม่ที่อาศัยความร่วมมือร่วมใจ ยังคงท้าทายท่านอยู่อย่างเร่าร้อน ควรระวังคำพูด เนื่องจากจะมีผู้คนคอย จากญาติและบริวาร การเดินทางไกลจะมีความหมายต่อการเปลี่ยนแปลงวิถี จ้องจะหาเรื่องจับผิดท่านอยู่ รวมทั้งยังไม่ควรคาดหวังในเรื่องธุรกิจติดต่อ ชีวิตของท่านด้วย รักราบรื่นกว่าปกตินิดๆ หรือการประสานประโยชน์ให้มากนัก เรื่องการต่อรองควรเชื่อไว้ก่อนว่าท่าน อาจจะเสียเปรียบ การเงินมักจะผูกพันหรือขึ้นอยู่กับคู่สัญญาหรือเพศตรง ข้าม ส่วนคนที่พื้นดวงเดิมถูกกับดาวราหูท่านอาจจะมีโชคได้ง่าย เรื่องเงินยัง ต้องประคับประคองในเรื่องรายจ่าย อย่าหวั่นไหวต่อสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ท่าน เสียอารมณ์

30


ราศีมังกร ( 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ )

ผู้ใหญ่จะสนับสนุนท่านดีขึ้นตามลำดับ ความสุขุมรอบคอบก็จะมีมากขึ้น ด้วย ไหวพริบปฏิภาณยังไม่ค่อยดี อาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องเอกสาร สัญญาข้อตกลงต่างๆ จะต้องรัดกุม เครดิตก็ยังไม่ค่อยดีขึ้นเหมือนดังใจ ธุรกิจติดต่ออาจจะต้องรอไว้ก่อน อาจจะเรียกว่าดวงชะตาส่วนใหญ่ยังคงตก อยู่ การเจรจาจะเริ่มเป็นผลดีและน่าเชื่อถือได้ โอกาสร้อนใจเพราะงานก็อาจ จะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันอยู่ด้วยเช่นกัน อาจจะต้องปกปิดความลับไว้บาง เรื่อง มีเกณฑ์จะได้ลาภจากนักบวชนักบุญหรือได้ผลประโยชน์จากชาวต่าง ชาติ ระยะนี้ท่านอาจจะห่างการสมาคมอยู่สักหน่อย มีเกณฑ์ได้หลักทรัพย์ หรือมรดกอยู่ส่วนหนึ่งด้วย

ราศีกุมภ์ ( 13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม )

การงานคงจะทำกำไรหรือมีลาภผลให้พอสมควร ธุรกิจติดต่อจะเป็นงาน หลักในช่วงนี้ มีเกณฑ์จะซื้อง่ายขายคล่อง ทำผลกำไรได้ดี จะมีโชคฟลุกๆ ผ่านเข้ามาทางหุ้นส่วนหรือคู่สัญญาอยู่ด้วย เพศตรงข้ามหรือคู่ครองให้ความ ร่วมมือหรือช่วยเหลือการงานเป็นอย่างดี ตัวท่านเองอาจจะเหนื่อยและวิตก กังวลมากขึ้นเท่านั้น อาจมีเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศหรือทางใจเกิดขึ้นไม่ คาดฝัน เช่นคนที่ไม่เคยดีกันมาก่อนก็จะดีขึ้น หรือไม่เคยร้ายมาก่อนก็อาจ จะทำเรื่องให้ตื่นเต้นตกใจเกิดขึ้นก็ได้ ท่านอาจจะมีความแคลงใจกับคู่ครอง หรือเพศตรงข้ามพอๆ กับเรื่องโชคลาภ บางทีอาจจะต้องห่างเหินกับนักบวช นักบุญไปบ้าง อาจะได้ตำแหน่งหน้าที่ที่ทำให้ท่านต้องเหน็ดเหนื่อยหรือยุ่ง ยากมากขึ้น

ราศีมีน ( 15 มีนาคม – 14 เมษายน )

ดวงชะตาจะขยับดีขึ้นจากที่ตกต่ำมาในแบบสุดๆ ธุรกิจการค้าจะค่อยๆ ดี ขึ้น เป็นช่วงเวลาที่พอจะก้าวหน้า เรื่องการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ก็มีโอกาส ดีอยู่ไม่น้อย การเงินจะเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ได้หามายาก แต่ถึงอย่างไรท่านก็ ใช้จ่ายไม่สุรุ่ยสุร่าย เกณฑ์ด้านสุขภาพไม่ค่อยดี มีเกณฑ์เจ็บป่วยหรือเจ็บ เนื้อเจ็บตัวอยู่ด้วย หากท่านไม่ถูกรบกวนด้วยโรคทางกายก็อาจเป็นเรื่องทาง จิต ของที่หายในระยะนี้จะกลับคืนได้ยาก การเงินที่เข้ามักจะร้อนๆ มี เกณฑ์ที่จะต้องใช้จ่ายรออยู่ด้วย ลาภผลที่ได้ก็อาจจะถูกบั่นทอนลงไป บางที ก็ได้ไม่คุ้มเหนื่อย


iREPORT

บทความ :: นิธิกานต์ จิตเจริญ เรียบเรียง / ภาพ :: กุลภัทร แซ่เต็ง

Thai Cooking School - ครัวไทยสู่ครัวโลก ครูปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ หากเดิ น ไปไชน่ า ทาวน์ แ ละสั ง เกตเห็ น ผู้ ห ญิ ง ไทยร่ า งเล็ ก กำลั ง พากลุ่ ม นั ก เรี ย นชาวต่ า งชาติ เ ดิ น เข้ า ออกร้ า นโน้ น แวะร้ า นนี้ ชี้ ช วนให้ เ ลื อ กดู

ผั ก ต่ า งๆ เพื่ อ นำมาประกอบอาหารไทย ไม่ ต้ อ งแปลกใจเพราะเธอคื อ

“ครูปิ๋ว” เจ้าของโรงเรียนสอนทำอาหารไทย(Thai Cooking School) และ อาจารย์ พิ เ ศษสอนทำอาหารไทยให้ กั บ มหาวิ ท ยาลั ย Thames Valley University ย่าน Ealing ครูปิ๋ว บอกว่า “การพานักเรียนให้มาเห็นของจริง ได้ สั ม ผั ส และจั บ ต้ อ ง เป็ น การเปิ ด โลกของอาหารไทยอี ก รู ป แบบหนึ่ ง

นอกเหนือจากการเรียนการสอนในห้องเรียน” วันนี้ i-ASiA เดินทางมาย่าน Northfield เพื่อมาพบผู้หญิงเก่งและ สู้ชีวิต คุณปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ เมื่อเจอเธอทีมงานสามารถสัมผัส ถึงความเข้มแข็ง และจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูได้จากแววตาของเธอ... กว่าจะมีวันนี้เธอต้องผ่านอุปสรรค และมรสุมอะไรมาบ้างลองมาค้นหากันดู กว่าจะมาถึงอังกฤษ “พี่เกิดที่เมืองไทยในครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน มีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ตัวพี่เป็นคนที่ 4 ฐานะทางบ้านถือว่าปานกลางเพราะคุณพ่อเป็น

ช่างซ่อมนาฬกาสวิสต์คนแรกๆ ของเมืองไทย เพราะตอนนั้นไม่ค่อยมีใคร ทำ พี่เป็นลูกสาวจึงต้องช่วยทางบ้านทำมาหากินตั้งแต่อายุยังน้อย ระหว่าง

32

ที่เรียนศึกษาผู้ใหญ่และพาณิชย์ ช่วงเย็นพี่ทำงานพาร์ทไทม์เป็นฝ่ายสำรวจ ข้อมูลทางการตลาดให้กับบริษัทโฆษณา Thai Hakuhodo งานที่ทำต้องใช้ ภาษาอังกฤษ ถึงความรู้จะไม่แน่นแต่มีใจรัก ประกอบกับตอนนั้นน้องชาย ได้มาเรียนต่อที่อังกฤษ พี่เลยมีความคิดว่าอยากจะไปเรียนต่อเพื่อเวลา กลับมาเมืองไทยจะได้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีงานดีๆ ทำ พี่จึงตัดสินใจมาอังกฤษด้วยทุนตัวเอง พอหักลบค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว เหลือ เงินติดกระเป๋าไม่ถึงยี่สิบปอนด์” ตั้งตัวในต่างแดน จากเงินในกระเป๋าที่น้อยนิด อะไรทำให้พี่ปิ๋วกลายมาเป็นเจ้าของ โรงเรียน ก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง เธอผ่านอะไรมาบ้าง “ต้องขอบคุณ น้องชายพี่ที่ดูแล ตอนนั้นพี่คิดว่าอย่างไรเสียคงไม่อดตายเพราะมีน้องอยู่ที่นี่ ปีแรกที่มาพี่เรียนภาษาเหมือนกับนักเรียนทุกคน ระหว่างที่เรียนพี่เจอกับสามี ซึ่งเป็นคนอังกฤษ คบหาดูใจกันสักพักก็แต่งงาน หลังจากแต่งงานพี่ทำงาน เป็ น เทเลเซลล์ ใ ห้ กั บ บริ ษั ท ยายี่ ห้ อ งหนึ่ ง ของอั ง กฤษ ทำไปได้ สั ก พั ก ต้ อ ง ลาออกเพราะใกล้คลอดลูกสาว หลังจากที่น้องเบธ (Beth) ออกมาดูโลก ได้ไม่นานพี่กับสามีคิดทำอาหารฝรั่งตอนเช้าถึงกลางวันขายในคาเฟ่แถว North Kensington ตอนนั้นพี่เลี้ยงลูกและทำร้านอาหารไปพร้อมๆ กัน


ถือว่าลำบากมากเพราะลูกยังเล็ก พี่ต้องหอบหิ้วเค้ามาที่ร้านตั้งแต่ตีห้าทุกวัน ทำได้สักพักจึงตัดสินใจเปิดร้านย่าน Ealing ผลตอบรับดีมากเพราะอาหาร อร่อย และบริการดี แต่มีปัญหาค่อนข้างเยอะเพราะขายดีมาก จนกระทั่ง ทำไม่ไหว เหนื่อยเกินกว่าที่จะรับได้ แต่พี่ก็ยังโชคดีที่มีน้องชายอยู่ที่นี่ถึง สองคนซึ่งคอยช่วยเสิร์ฟที่ร้านอาหาร” Thai Cooking School เพื่อเติมฝัน จากคาเฟ่ขายอาหารฝรั่ง อะไรคือจุดพลิกผันที่ทำให้พี่ปิ๋วตัดสินใจ เปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร “พี่ทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่อังกฤษ พี่มีความคิดว่าอยากให้ชาวต่างชาติที่หลงใหลอาหารไทย สามารถมาเรียนรู้การทำอาหารได้จากผู้ที่มีใจรักในการทำอาหาร และผู้ที่มี ประสบการณ์จริง จึงเริ่มมองหาตึกที่จะนำมาทำเป็นโรงเรียนสอนทำอาหาร

มองหาอยู่นานกว่าจะได้ตึกนี้ ก่อนที่โรงเรียน Thai Cooking School จะ เปิ ด สอนต้ อ งผ่ า นขั้ น ตอนมากมายเพราะกฎหมายที่ นี่ เ ข้ ม งวดมาก โดย เฉพาะความปลอดภั ย ของนั ก เรี ย น และผู้ ส อนต้ อ งมี ค วามรู้ เ รื่ อ ง Food Hygiene ระดับสูง และ NVQ Level 3 ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่เพราะ พี่มีความฝันจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ความฝันนั้นเป็นจริง วั น ที่ โ รงเรี ย นเปิ ด พี่ ดี ใ จมากที่ คุ ณ ดำรง พุ ฒ ตาล ช่ ว งนั้ น ดำรง ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดโรงเรียน คุณดำรง เองชื่ น ชมและสนั บ สนุ น ความคิ ด เรื่ อ งโรงเรี ย นสอนทำอาหารไทย เพื่ อ เป็นการยกระดับของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในใจพี่รู้สึกภาคภูมิใจ ว่าจากผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงสามารถมีส่วนช่วยในการสร้างชื่อเสียงให้กับ ประเทศไทยได้ นอกจากนี้ แ ล้ ว พี่ ยั ง แอบดี ใ จที่ ค นเซ็ น ต์ อ นุ มั ติ ใ ห้ พี่ เ ปิ ด

โรงเรียน เค้ามาเป็นลูกศิษย์พี่ด้วย (อมยิ้ม) พอโรงเรียนเปิดสอนมีลูกศิษย์ เยอะมาก จองคิวเรียนกันแน่น พี่สอนคนเดียวแทบจะไม่ได้พักเลย เหนื่อย แต่ก็มีความสุขเพราะเวลาสอนพี่จะมีมุขขำๆ ตลอด ทำให้ลูกศิษย์สนุกกับ การเรียนและไม่เบื่อ นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ใช่แค่แม่บ้าน แต่มีพ่อบ้านที่มีความ สนใจมาเรียนอีกด้วย ซึ่งนักเรียนผู้ชายจะมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ จริงจัง และ ทำอาหารอย่างเต็มที่ ส่วนนักเรียนผู้หญิงที่มาเรียนจะคุยกันสนุกสนาน เฮฮา พี่ว่าแปลกดีที่ Thai Cooking School เป็นทั้งโรงเรียน และเป็นทั้งสมาคม แม่บ้าน” โรงเรียนสอนทำอาหารไทยแห่งแรก มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่สอนทำอาหารไทยให้กับชาวต่างชาติ แต่ โรงเรียน Thai Cooking School เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยที่ได้รับ ความนิยมเรียกได้ว่าอันดับต้นๆ “พี่กล้าพูดว่าโรงเรียน Thai Cooking School เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเปิด ทำการสอนมานานกว่าห้าปี ทำให้เราเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ จริงๆ แล้ว ที่ อื่ น ก็ มี ก ารเรี ย นการสอนเหมื อ นกั น แต่ ป รกติ นั ก เรี ย นส่ ว นมากจะไม่ ไ ด้ ลงมือทำเอง เรียกได้ว่าเราเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยเป็นแห่งแรกใน ละแวกนี้” อุ ป สรรคหลั ง การเปิ ด โรงเรี ย นคื อ บุ ค คลากรผู้ ส อน เพราะพี่ ส อน คนเดียว พี่เคยลองให้คนอื่นมาเป็นผู้ช่วยสอนแต่บางครั้งเค้าไม่สามารถตอบ ปัญหานักเรียนได้ถูกต้องหรือตรงจุด อาจจะเป็นเพราะว่าประสบการณ์

ของเค้ายังมีมากไม่พอก็เป็นได้ เลยทำให้บุคลากรผู้สอนไม่พอต่อจำนวน นักเรียน นักเรียนบางคนแพ้เครื่องปรุงที่ใช้ในการปรุงอาหารไทยบางอย่าง แต่อยากกินอาหารไทย พี่จะแนะนำ เครื่องปรุงที่ใช้ทดแทนกันได้ เคล็ดลับ คื อ ต้ อ งสอนให้ เ ค้ า ทำอาหารที่ เ ค้ า ทานได้ หรื อ ใช้ อ ะไรแทนได้ เ พื่ อ เพิ่ ม

ทางเลือก เพราะเค้าจะทานได้อย่างไม่เป็นอันตราย เท่านี้ก็ทำให้ลูกศิษย์ ประทับใจ และมีความสุข...เมื่อก่อนพี่เคยมีปัญหาว่าอยากทำอาหารไทยแต่ หาซอสปรุงรสไม่ได้ เวลาถามคนอื่นเค้าจะไม่ค่อยยอมบอกหรือสอนเรา จากนั้นพี่ก็ลองผิดลองถูกเอง พอพี่ได้มาสอนนักเรียนพี่เลยสอนลูกศิษย์

อย่างเต็มที่ บอกทุกอย่างไม่ปิดบัง เพราะเราเข้าใจและผ่านประสบการณ์

ที่ไม่รู้มาก่อน หลักสูตรการสอน สูตรอาหารที่ Thai Cooking School พี่เป็นคน ค้นคว้า และคิดค้นขึ้นมาเอง และผ่านการทำมานับครั้งไม่ถ้วนจึงทำให้ส่วน ผสมของอาหาร และรสชาติได้มาตรฐาน ดังนั้นนักเรียนทุกคนที่มาเรียนที่นี่ สามารถทำรสชาติของอาหารได้เหมือนเดิมทุกครั้ง ไม่ว่าจะในห้องเรียนหรือ ที่บ้าน”

33


ครัวไทยสู่ครัวโลก Thai Cooking School ไม่ได้สอนเฉพาะคนอังกฤษ หรือคนไทย เท่านั้นแต่มีลูกศิษย์จากต่างแดนมากมายที่ดั้นด้นมาเรียนกับครูปิ๋ว ไม่ว่าจะ เป็นนักเรียนชาวสวีเดน นอร์เวย์ และฝรั่งเศส เป็นต้น ซึ่งมีนักเรียนหลายคน ได้กลับไปเปิดร้านอาหารไทยที่ประเทศบ้านเกิดตัวเอง “ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง โทรมาคุยกับพี่ว่าให้พี่ช่วยหาแม่ครัวไปทำอาหารไทยที่สกี รีสอร์ท ของเค้า หลั ง จากที่ ไ ด้ ฟั ง ปั ญ หาของเค้ า คื อ รี ส อร์ ที่ ว่ า อยู่ บ นเขา ทั้ ง หนาวทั้ ง เหงา คนไทยที่ไปส่วนมากจะอยู่ได้ไม่นาน พี่แนะนำว่าให้มาเรียนเอง...ตอนแรก เค้าไม่กล้า กลัวทำไม่ได้ และเสียเงินฟรี แต่พี่รับปากเค้าว่า ถ้ามาเรียนแล้ว ยังทำอาหารไทยไม่ได้ พี่ยินดีคืนเงิน เค้าเลยตัดสินใจแพ็คกระเป๋ามาเรียน ทำอาหารกับพี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งตอนนี้เค้าทำอาหารไทยขายเองได้ แล้ว นอกจากนี้แล้วยังมีลูกศิษย์ชาวต่างชาติอีกหลายคนที่เปิดร้านอาหาร ไทยทั้ ง ในอั ง กฤษและต่ า งประเทศ... พี่ รู้ สึ ก ดี ใ จ และภาคภู มิ ใ จกั บ ความพยายามของลูกศิษย์ชาวต่างชาติทุกคน จะให้เล่าเรื่องราวนี้อีกกี่ครั้ง ก็ไม่มีวันเบื่อ (อมยิ้ม)” จิตวิญญาณความเป็นครู ไม่ ว่ า นั ก เรี ย นจะเฮี้ ย ว ดื้ อ หรื อ ไม่ เ อาไหน ครู ปิ๋ ว รั บ มื อ ได้ ห มด เพราะอะไร “พี่สอนทำอาหารหนึ่งอย่างในหนึ่งชั่วโมง นักเรียนสามารถ เลื อ กได้ ว่ า อยากจะเรี ย นทำอะไร เพราะพี่ เ น้ น ให้ นั ก เรี ย นรู้ สึ ก เหมื อ น

พี่ภูมิใจว่าอย่างน้อยพี่ก็เป็นคนไทยที่มีส่วน ช่วยเผยแพร่ความเป็นไทย และความเป็น ครูเสริมสร้างให้คนรู้จักทำอาหารอร่อยๆ ทานด้วยฝีมือตัวเอง 34

ทำอาหารทานเองที่บ้าน ต่อคลาสเรียนพี่รับสอนเพียงแค่สี่ถึงห้าคน หรือ กลุ่มเล็กๆ นักเรียนทุกคนจะได้ทำอาหารและได้ใกล้ชิดกับผู้สอนเต็มที่ เรียก ได้ว่ากลับบ้านไปก็สามารถทำอาหารทานนั้นทานได้เลย สำหรับนักเรียนที่จับกลุ่มกันสี่คนสามารถสมัครได้เลย ทางโรงเรียน จะจัดตารางเวลา และเมนูที่ทางกลุ่มอยากเรียนให้ แต่สำหรับผู้ที่จะเรียนไป เปิดร้านอาหารสามารถเข้าคอร์สหนึ่งเดือน หรือสามเดือน เรียนสัปดาห์ละ ห้าวันเต็มๆ ที่ต้องเรียนหนักเพราะว่าต้องอธิบายถึงเครื่องปรุง และส่วนผสม ในการทำอาหารไทยต่ า งๆ เพื่ อ ไม่ ใ ห้ เ กิ ด ปั ญ หาเมื่ อ ไปเปิ ด ร้ า นอาหาร นอกจากนี้แล้วต้องสอนเทคนิคการเลือกใช้วัตถุดิบต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือก เมื่อเกิดปัญหาวัตถุดิบไม่ครบ อาจารย์บางคนตำหนินักเรียนว่าทำอาหารไม่อร่อย แต่พี่จะไม่ว่า ลู ก ศิ ษ ย์ พี่ จ ะชมและให้ ก ำลั ง ใจเค้ า ว่ า อาหารที่ เ ค้ า ทำนั้ น มี อ ะไรดี บ้ า ง เช่น ตกแต่งสวย หรือหั่นผักเก่ง แล้วค่อยเสริมว่าต้องปรับปรุงหรือเพิ่มเติม อะไรจะทำให้รสชาติอาหารนั้นดีขึ้น จะทำให้ลูกศิษย์มีกำลังใจที่จะเรียน และทำอาหารต่อไป และอีกอย่างที่พี่บอกลูกศิษย์ทุกคนเสมอคือ “ไม่มีอะไร ที่ เ ธอทำไม่ ไ ด้ ถ้ า เธอทำตามที่ ส อน มั่ น ใจได้ เ ลยว่ า เธอทำได้ แ น่ น อน” นี่ล่ะคือวิธีการสอนของพี่ มีอยู่ครั้งหนึ่งนักเรียนผู้หญิงมาเรียนทำอาหารกับพี่ ซึ่งพี่ก็ไม่รู้ว่า เค้าทำอะไร หรือเป็นใครมาจากไหน พี่ก็สอนตามปรกติ มาตอนหลังถึงได้รู้ ว่าเค้ามาจากแม็กกาซีน Time Out หลังจากจบคอร์ส เค้าเอาเรื่องโรงเรียน Thai Cooking School ไปเขียนและ ชมว่าเป็นโรงเรียน และร้านค้าถึงจะ ไม่โมเดิร์นหรือสวยงาม แต่สถานที่ ของเราสะอาด ใช้ วั ต ถุ ดิ บ เครื่ อ ง ปรุ ง สิ น ค้ า การเรี ย นการสอนที่ มี ประสิทธิภาพ และมีคุณภาพ” อาหารไทยอิ่มท้องอิ่มคุณภาพ “เชื่อไหมว่าการที่พี่สอนชาว ต่างชาติให้ทำอาหารไทยทางรัฐบาล ของที่ นี่ เ ค้ า สนั บ สนุ น อย่ า งเต็ ม ที่ เพราะการสอนให้ ค นทำอาหาร เป็ น การเสริ ม สร้ า งอาชี พ ให้ ค นได้ ด้ ว ย และถื อ ว่ า ทำให้ ค นมี ง านทำ มากขึ้ น สามารถไปเป็ น เชฟหรื อ ผู้ช่วยในครัว หรือครีเอทเมนูอาหาร ไทยได้ . ..อี ก หนึ่ ง อย่ า งที่ พี่ อ ยากทำ คือขยายโรงเรียน แต่พี่ทำคนเดียว


Thai Cooking School - Thai Kitchen to the World Suphalux ‘Sue’ Montgomery Translated :: Beth

คงไม่ไหว ถ้าหากได้บุคลากรที่มีใจรักในการทำอาหาร มีจิตวิญญาณแห่ง ความเป็นครู มาช่วยงาน จะทำให้ความฝันที่จะขยายโรงเรียนเพื่อสอน อาหารไทย ให้ครัวไทยก้าวสู่ระดับแนวหน้าของโลกนั้นเป็นจริง นอกจาก จะทำให้ ค นรู้ จั ก อาหารไทยเพิ่ ม มากขึ้ น แล้ ว ยั ง มี ส่ ว นช่ ว ยประเทศไทยใน ด้ า นของการส่ ง ออก และยั ง ช่ ว ยให้ เ กษตรกรไทยมี ร ายได้ เ พิ่ ม มากขึ้ น เงินทองไม่รั่วไหล เพราะอาหารไทยเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อิ่มท้อง สด สะอาด คุ ณ ค่ า ทางอาหารสู ง และอุ ด มไปด้ ว ยสมุ น ไพร...ทุ ก วั น นี้ พี่ ม ี

นักเรียนและลูกศิษย์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พี่ภูมิใจว่าอย่างน้อยพี่ก็เป็น คนไทยที่มีส่วนช่วยเผยแพร่ความเป็นไทย และความเป็นครูเสริมสร้างให้ คนรู้จักทำอาหารอร่อยๆ ทานด้วยฝีมือตัวเอง” สุดท้ายพี่ปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ คุณครูคนเก่งของเราฝาก i-ASiA บอกว่า หากประสบการณ์ของการเปิดโรงเรียน การเรียน การสอน ของพี่ปิ๋วนั้นเป็นประโยชน์ หรือถ้าใครสนใจอยากเรียนหรือเปิดโรงเรียนสอน ทำอาหารไทย ถ้าพี่ปิ๋วพอช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำอะไรได้ พี่ปิ๋วเค้ายินดี และเต็ ม ใจเป็ น ที่ ป รึ ก ษาให้ ด้วยนะคะ เห็นมั๊ยว่าน้ำใจคนไทยไปที่ไหนก็

ชุ่มช่ำ ชื่นใจค่ะ Thai Cooking School 93 Northfield Avenue, London W13 9QR Tel. 020 8810 0500 Web: www.thaicookingschool.co.uk

If you are walking around China Town in London and you happen to see a petite Thai lady showing a group of students around the shops and pointing out various Thai vegetables and ingredients, don’t be surprised to learn that her name is Suphalux ‘Sue’ Montgomery and she is the owner of the Thai Cooking School in Ealing. She is a lecturer of Thai Cuisine at the Ealing campus of Thames Valley University and is also a pioneer, raising awareness of Thai food in England, a feat recognised and awarded by the King of Thailand. Sue believes that by educating students of Thai ingredients, in Oriental supermarkets as well as in class, they will gain a valuable learning experience. Today the i-Asia team have the opportunity to visit the Thai Cooking School in Northfield Avenue, to meet Sue, the enthusiastic and hard-working owner. And when we meet her, we instantly sense her passionate and infectious teaching spirit. We see the joy of teaching in her eyes but despite this cheery outlook, before today Sue has had many obstacles to overcome. Growing up in Thailand “I was born to a Chinese father and Thai mother as the fourth of ten children. We were of a working class background with my father designing and creating watch-faces. This was a specialist job at the time and so to help my family financially, I undertook a part-time job for a marketing company, Thai Hakuhodo, while studying at adult education centres and a commercial college. My job required me to speak English and although I wasn’t 100% percent fluent, I was definitely 100% enthusiastic. At this time my brother was studying in the UK. I hoped to join him in England in order to improve my English and return home with more marketable skills. By the time I arrived in the Britain, I had only £20.00 in my pocket.” Settling down in London i-Asia : With the little money in your pocket, how have you managed to get to where you are today and what problems have you faced along the way? Sue : I have to thank my brother who looked after me ensuring that I never went without when I arrived in England. I came here looking to study, the same as any other student but while I studying I met my

35


husband. After a few months of dating we got married and I began working in telesales for a pharmaceutical company. I had to leave soon after as I found out I was pregnant. After my daughter, Beth, was born I decided to open up an English café as I came across a great place in North Kensington. That period of time was a real struggle because my daughter was young and I would have to leave home at 5am to open up. As this was a relatively small business, I decided to grow it by relocating to Ealing. We had been in Kensington for more than five years by this point and it was now time to move on. At the new premises, I managed an English café by day Thai restaurant by night. We received much good press and customer feed back and the place was always fully booked. Despite the help and support from my husband, daughter and two brothers, after many years and long hours, we were all so exhausted and needed a long break. We sold up and took some time off. A cooking school fulfilling her dream and your tummy i-Asia : With years of experience in the catering industry, selling Thai and English food, what made you take the leap and start to teach Thai food? Sue : I have always been cooking since I was a child and now with over 20 years of catering experience in the UK, I wanted to teach this knowledge to others. I have a real passion for Thai food and started looking for premises which would be suitable. I spent a long time researching and getting all the necessary certificates, qualifications and recipes: including food hygiene and NVQ Level Three, as it is quite strict in England in comparison to Thailand. I did everything possible to ensure that this dream came true. The perfect location was a small shop in Northfield Avenue, Ealing. For the school opening, I was honoured that Senator Dumrong Puttan host the ceremony. He has been a continual source of support and encouragement. I am thrilled that together we promote Thai Cuisine in the UK and Thailand. I have always been proud of the unique and fresh variety of Thai ingredients and dishes, so I was keen share Thai culture and food with others. To this day, I am still pleased that the council officer signed the forms to allow us to open. In fact she has been a good student at my school! Since we have opened, we have had a great response from press and the public but as I am the only teacher I have been a bit overwhelmed but extremely happy. I like to keep the lessons lighthearted and informative as this always keeps me going on long days. Saying that, the househusbands generally take the classes seriously, they are very keen to learn. The female students and I like to have friendly catch-ups and we like to joke with each other that the school is a social meeting place for housewives!

36

The first Thai Cooking School in the area i-Asia : There are quite a few Thais who teach Thai food, but we think that your school is at the top of the list. Sue : Thank you. I think that the Thai Cooking School differs from other cookery teachers and lessons around at the moment because our intention was always to open the business as a school teaching Thai food. We now have more than five years of teaching experience and are known for this in the area. There are other schools or teachers but they tend to demonstrate rather than give hands-on experience. The difficulty for our school is that I am the only teacher. I have tried to train other teachers, but they could not answer all of the students’ questions. This may be because they did not have the necessary experience. I needed to ensure that the quality of teaching in my school is not compromised. I tend to teach in groups of four students and avoid large groups. This allows a good level of one-to-one support and encouragement. It is particularly useful when students have specific dietary needs.


As some students are allergic to certain Thai ingredients, I always hope to find a way around this so they can still enjoy Thai food. I will advise them on alternatives and substitutions. Our aim is to teach them to cook food that they can eat. This may sound obvious but I have listened to students’ complain that elsewhere they can not always find the advise or techniques they need to master the dish. This was the main problem that I, myself, experienced in the past. I used to find it difficult to cook certain dishes but if I asked others for help, they would never teach me or they would withhold key ingredients. I then began to experiment for myself. It took many trials and errors so now, I firmly believe that a teacher should give 100% and never leave anything out that will benefit the student. The recipes that we use at the school have been modified so many times to make a standardised taste, which is easy to learn. We want students to go home and cook the dish the same way as they have learnt in class and master the techniques in their kitchen. Thai Kitchen to the World “The Thai cooking school doesn’t only teach people from the UK. We have students from all over the world including the US, Norway and Slovenia. There are many students who come here to learn and gain enough experience to open a restaurant in their home country. One day I got a call from a French gentleman who needed a cook for his Ski resort. After speaking to him, I realised that Thai chefs would find it difficult to stay in such a cold climate and that he himself should learn to cook. He was hesitant at first so I told him that after a month he wasn’t able to cook, I would give him his money back. Now he passes on his knowledge of Thai food to local French chefs employed to work at his resort. I am very proud of my students’ determination and I can tell these stories these kinds of stories without ever getting bored.” The spirit of being a teacher i-Asia : Do find anyone difficult to teach and how do you handle them? Sue : I only teach one dish per hour and as students can learn the dishes they wish to cook, I find that I don’t experience many people who are difficult to teach. We

emphasise home-style cooking so we can work to a pace that suits the individuals and as we teach in a small group, everybody is involved at every step. I also encourage anyone to speak up if they struggle or are unsure of anything. Some teachers commented negatively but I would never tell an adult off! I prefer to highlight the positives and then afterwards, I would suggest ways to improve the taste, texture or presentation. Encouragement and support is the best way to help them cook Thai food. My teaching belief is that you can always do it. If students wish to open a restaurant we can arrange a full time course over one or three months. This is an intensive course, designed to explain Thai ingredients in detail, as we wouldn’t want them to have difficulties at a later date if they cannot find the same ingredients in their local area. Recently a lady signed up for a class. I didn’t know who she was and taught as I would normally but I later discovered that she was from Time Out magazine. She wrote a wonderful review that has brought many additional students to the school. Thai food fulfils my passion, fill your tummy and is also full of nutrition. Learning to cook can also help give people skills in the kitchen and through the confidence they gain by mastering something useful and practical. I would ideally like to expand the school but I need someone who can help me; someone with passion to make the school first class. I would like to increase awareness of Thai food and to help farmers and small traders in Thailand by using and creating custom for their ingredients and sauces. I am proud of their produce, of Thai culture and assisting anyone who wishes to cook delicious meals for themselves with their own skills. Finally, Sue, the wise teacher tells iAsia: “I am pleased to advise and consult anyone who wants to learn, open up a school, restaurant or to find out more about Thai food and culture.”

37


iLEARN THAI COOKING

บทความ :: ชูยศ อัมราลิขิต

บ่ายวันอาทิตย์ ขณะที่ครูปิ๋ว - ศุภลักษณ์ มอนโกเมอรี่ กำลังขมักเขม้นสอน กลุ่มนักเรียนชาวต่างชาติทำอาหารไทย ทีมงาน i-ASiA ได้มีโอกาสพบคุณ Jeanne Fox หนึ่งในลูกศิษย์อีกหลายๆ คน ของครูปิ๋วที่แวะมาเยี่ยมเยียน Thai Cooking School Jeanne เล่าว่าเธอเป็นชาวอังกฤษ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอ มีโอกาสท่องเที่ยวไปหลายต่อหลายประเทศทั่วโลก แต่ประเทศที่เธอชื่นชอบ ประทับใจ และหลงไหลมากที่สุดคือประเทศฝรั่งเศส หลังจากเธอและสามี รีไทร์แล้ว จึงตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่เมือง Carlus ในฝรั่งเศส ก่อนที่จะย้ายไปฝรั่งเศส Jeanne ไม่เคยมีโอกาสทดลองอาหารไทย เลยแม้ แ ต่ ค รั้ ง เดี ย ว จนกระทั่ ง ปี ค.ศ. 2000 ช่ ว งที่ เ ดิ น ทางไปเที่ ย ว ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เธออ่านนักสือท่องเที่ยวพบว่าเมืองไทยเป็นอีก ประเทศหนึ่งในเอเชียที่สวยงาม และมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากประเทศอื่น ในภูมิภาคนั้น โดยเฉพาะอาหารไทยเป็นอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และ มีเสน่ห์ในเรื่องรสชาติ เธอจึงตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือเพียงหนึ่งอาทิตย์แวะไป เที่ยวเมืองไทย ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนชอบค้นหาสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา เจ็ดวัน Jeanne เสาะแสวงหาสถานที่ที่ปรกตินักท่องเที่ยวไม่ไปเที่ยวกับ คนพื้นเมือง ศึกษาวัฒนธรรม และเลือกทาน “ข้าวแกง เป็นอาหารที่โปรด ที่สุด และทานทุกมื้อตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองไทย เพราะเป็นอาหารที่มี ประโยชน์ โดยเน้นผักตามฤดูกาล” เมื่อกลับมาอังกฤษ Jeanne จึงเริ่มทานอาหารไทยตามร้านอาหาร ไทย และพยายามจะทำอาหารไทยทานเอง จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ ขับรถอยู่บนถนน Northfield Avenue ได้เหลือบไปเห็นโรงเรียน Thai Cooking School เธอดีใจมากและไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโรงเรียนสอนทำ อาหารไทยอยู่ในลอนดอน ที่สำคัญโรงเรียนยังอยู่ใกล้กับที่พักของเธอ ด้วย ความนิยมชมชอบ และใฝ่ฝันอยากทำอาหารไทยเธอจึงจอดรถ และเดิน เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียด และตัดสินใจสมัครเรียนทันที ตลอดระยะหนึ่งปีที่ Jeanne คร่ำหวอดอยู่กับการเรียนทำอาหาร ไทยที่โรงเรียน Thai Cooking School เรียกได้ว่าเธอสามารถทำอาหารไทย ได้แทบจะทุกชนิด... ต่อมาไม่นาน Jeanne และครอบครัวตัดสินใจย้ายไป ตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสทำให้ เธอรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่มีโอกาส เรียนทำอาหารไทยกับครูปิ๋วอีก ถ้าเธอยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เธอก็อยากที่ จะมาเรียนเพิ่มไปเรื่อยๆ อีก แต่ด้วยความคุ้นเคยกับครูปิ๋วที่เป็นครู และ เปรียบเสมือนเพื่อน จึงทำให้เธอแวะเวียนมาเยี่ยมครูปิ๋ว และโรงเรียน Thai Cooking School ทุกครั้งเมื่อเดินทางมาอังกฤษ เมือง Carlus ที่ Jeanne อยู่นั้นห่างไกลจากปารีสมาก ทำให้เธอ ไม่ ส ามารถหาซื้ อ ของไทยได้ ทุ ก ครั้ ง ที่ เ ดิ น ทางมาอั ง กฤษเธอจะหาซื้ อ ของไทยและหอบหิ้วกลับไปด้วยทุกครั้ง

ชาวอังกฤษ กับเสน่ห์อาหารไทย Jeanne Fox 38


เมื่อมีโอกาสทำอาหาร Jeanne จะปรุง อาหารไทยมื้อพิเศษตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง ฉลอง งานวันเกิด และงานอื่นๆ รวมทั้งแนะนำ อาหารไทยให้ ญ าติ พี่ น้ อ ง เพื่ อ นฝู ง ทดลองชิ ม อาหารไทย ทำให้ทุกคนที่ได้ลิ้มลองอาหารไทย ต่ า งพากั น หลงใหลในเสน่ ห์ ข องอาหารไทยไป ตามๆ กัน อาหารไทยที่ Jeanne ทำได้ดีและอร่อย ที่สุดคือ ส้มตำ และแพนง ส่วนอาหารจานที่เธอ โปรดที่ สุ ด คื อ ต้ ม ยำ ทอดมั น และแกงเขี ย ว หวาน ทุกวันนี้บ้านพักที่ฝรั่งเศสของเธอมีเรือน กระจกควบคุมอุณหภูมิ เพื่อปลูกพืชผักสวนครัว ไทย เช่น ต้นตะไคร้ ต้นมะกรูด และผักอื่นๆ อาหารฝรั่ ง เศสที่ ท ำทานจะนำมาประยุ ก ต์ โ ดย ผสมผสานรสชาติของไทยและตะวันตกเข้าด้วย กัน เวลาทำซุปมันฝรั่ง - ลีก Jeanne จะเพิ่ม รสชาติความเป็นต้มยำของไทยด้วย ตะไคร้ทุบ ใบมะกรูดหั่นฝอย และน้ำมะนาวสด แม้กระทั่ง การชงน้ำชา Jeanne จะใช้ตะไคร้ทำน้ำชาตะ ไคร้ ดื่ ม และแบ่ ง ให้ เ พื่ อ นบ้ า นของเธอดื่ ม เพื่ อ สุขภาพอีกด้วย เห็นมั๊ยละคะว่า โรงเรียนสอนทำอาหาร ไทยของครู ปิ๋ ว - ศุ ภ ลั ก ษณ์ มอนโกเมอรี่ นอกจากจะสอนทำอาหารไทยแล้ว ยังมีส่วนช่วย เผยแพร่ วั ฒ นธรรมไทยสู่ โ ลก และส่ ง เสริ ม โครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” อีกด้วย

Thai food in the heart of English people Jeanne Fox Translated :: Beth

On a peaceful Sunday afternoon, while teacher Sue is in the midst of cooking Thai food, I-Asia has the chance to meet Jeanne Fox, one of Sue’s regular students at the Thai Cooking School. Jeanne, born and raised in England, told us that in the past she travelled to many parts of the world but the country she was most impressed with is France. She and her husband decided to move and settle in Carlus, France, a few years ago, once they had both retired. Before moving to France, Jeanne had never tried Thai food before. In 2000, she travelled to New Zealand and Australia where she read a local guide book which described Thailand to have beautiful scenery and culture, more so than anywhere else in Asia. Especially as Thai food has a unique and certain charm in the taste. Jeanne decided to take a week out of her holiday to spend in Thailand. Her love for exploration and to try new things ensured that in Bangkok, she hunted for non-tourist hotspots. She ate a lot of street food and discovered an authentic taste that was to become her favourite cuisine. Jeanne favoured the seasonal vegetables and their benefits to her health. On her return to England, Jeanne began to eat Thai food in restaurants and experimenting with traditional dishes at home. One day as she was driving home, she noticed the Thai Cooking School and was pleased that there was a local place to learn. She stopped the car and went in to enquire, signing up straight away. A year later, she could cook every Thai dish on the menu in your local restaurant. Leaving the British shores for France, Jeanne now feels regret that she cannot continue to learn to cook Thai food at the Cooking School and if she was still in London she says: “I would be able to tick some more dishes of my list of recipes to learn”. Jeanne still returns regularly to visit family and friends and every time she does, she pops in to visit Sue, as they have become close friends. Additionally, Carlus is a long distance from Paris and so every time Jeanne is in Ealing she stocks up on Thai ingredients. These add to her stock pile of produce lovingly grown in her temperature controlled greenhouse in France. Jeanne cultivates Thai herbs and vegetables including: keffir limes and lemongrass. Even when she cooks French or English food, Jeanne incorporates Thai hints including adding keffir lime leaves, lemongrass and lime juice to leek and potato soup or making lemon grass tea, which she will give to her neighbours to promote a healthy diet. Jeanne enjoys cooking Thai food for every special occasion and celebration, particularly when introducing Thai food to family and friends. The dishes she cooks well are Som Tum (papaya salad) and Panang (a thick red curry). Her favourite meal consists of Tom Yum (hot and sour soup), Tord Mun Pla (fishcakes) and Gang Keowarn (green curry). As seen here, as well as teaching Thai cooking in the London, the Thai Cooking School helps to promote Thai culture and support the Thai Kitchen project.

39


iCOVER STORY

The Charm of Thai Food Translated :: Beth

In the past Thai women have been brought up to believe that their place is in the home and their role is to cook and clean for the family. In recent times they have greater respect and equal rights in society, an initiative led by Western views and encouraged in Thai culture. Nowadays, Thai men have a greater responsibility for cooking in the home and a more dominant role looking after their children. Thai food is well known in the world with many distinguishing characteristics to set it apart from other cuisines. The look, taste and texture, set Thai food apart from the rest, with beautiful fruit and vegetable carvings or herbs and spices to awaken your dullest taste buds. This awakens people interests in, not only Thai food, but history and culture, home-style cookery or catering in the business world; this is the reason the Thai Cooking School in Northfield Ave, Ealing, was established in 2003, to fulfil the needs and demands of Thai aficionados. The Thai Cooking School encourages home cooking in the UK and helps to support Thai Government projects, such as the Thai Kitchen, and to raise awareness of Thailand and its culture. The Thai Cooking School has a wide variety of dishes to teach, for example, Pad Thai (stirfried rice noodles), Green Curry, fishcakes and spring rolls. The

40

methods of teaching are unique because of the high flexibility of times and of dishes taught, a real convenience for students. Students learn skills practical for daily cookery in one – three hour sessions for intermediates or intensive classes for advanced students. Aside from teaching authentic Thai dishes, students gain knowledge of traditional ingredients and are required to get involved at every step in order to get to the heart of each dish. After a lesson, students use their knowledge to cook for family and friends. Wherever Thai food is served in the world, the dishes may look different in presentation but the charm of the dish will always come from the heart of every chef who gives everything to make a delicious Thai meal. Thai Cooking School 93 Northfield Avenue, West Ealing, London W13 9QR Tel. 020 8810 0500 Web: www.thaicookingschool.co.uk


เสน่ห์ปลายจวัก

การปรุงอาหารไทย

บทความ :: ชูยศ อัมราลิขิต ภาพ :: กุลภัทร แซ่เต็ง

สมัยก่อนหญิงไทยทุกคนได้รับการอบรมสั่งสอนและปลูกฝังให้อยู่กับเหย้าเฝ้า กับเรือนเพื่อหุงหาอาหารให้ครอบครัว แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปเมื่อ ผู้หญิงมีบทบาททางสังคมมากขึ้น และมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไม่มากไม่น้อย ไปกว่าผู้ชาย จะเห็นได้ชัดในวัฒนธรรมตะวันตก ผู้หญิงมีสิทธิเสรีภาพเทียบ เท่ากับผู้ชาย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหลายโอกาส ผู้ชายหรือสามีจะลงมือปรุง อาหารเอง ในปัจจุบันผู้ชายหันมาให้ความสนใจในด้านการปรุงอาหารเพิ่ม มากขึ้น อาหารไทยถื อ ได้ ว่ า เป็ น อาหารที่ รู้ จั ก กั น อย่ า งแพร่ ห ลาย ว่ า ด้ ว ย เอกลั ก ษณ์ เ ฉพาะตั ว ไม่ ว่ า จะเป็ น เรื่ อ งของรสชาติ วั ต ถุ ดิ บ เครื่ อ งปรุ ง

การตกแต่งประดิษฐ์ประดอย และการแกะสลัก สิ่งที่ทำให้อาหารไทยต่าง จากอาหารชาติ อื่ น คื อ เสน่ห์ของอาหารไทย ทำให้ชาวต่างชาติจำนวน มากมายต่างหลงใหล ต้องการเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาและการปรุง อาหารไทย บ้ า งก็ เ พื่ อ รั บ ประทานเองในครั ว เรื อ น หรื อ แม้ ก ระทั่ ง

เพื่ อ ประกอบการธุ ร กิ จ การร้ า นอาหารไทยในต่ า งแดน ด้ ว ยเหตุ นี้ เ อง

Thai Cooking School ย่าน Northfield จึงถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 2003 เพื่ อ ตอบรั บ ความต้ อ งการของชาวต่ า งชาติ นอกจากการเรี ย นการสอน

การปรุ ง อาหารไทยแบบดั้ ง เดิ ม แล้ ว ยั ง เป็ น การเผยแพร่ วั ฒ นธรรมไทยสู่

ชาวต่างชาติ รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนโครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ใน ด้านของเศรษฐกิจไทยของภาครัฐอีกด้วย

Thai Cooking School มีหลักสูตรอาหารมากมายให้เลือกเรียน อาทิเช่น ผัดไทย ทอดมันปลา ต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง ผัดผักรวมมิตร แกงคั่ว สับปะรด แพนงไก่ ลาบไก่ ยำเนื้อ เนื้อน้ำตก ผัดผักเต้าหู้ และข้าวเหนียว มะม่วง เป็นต้น หลักสูตรการเรียนการสอนที่ Thai Cooking School มีความ

โดดเด่น เพราะนักเรียนสามารถเลือกเวลา ตารางเรียน และหลักสูตรอาหาร ได้เอง โดยทางโรงเรียนจะคำนึงถึงความสะดวกของผู้มาเรียนเป็นหลัก

จึงทำให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่ต้องการ และสามารถนำไปใช้ในชีวิต ประจำวั น ได้ จ ริ ง จำนวนชั่ ว โมงเวลาเรี ย นแบ่ ง ออกเป็ น หนึ่ ง ชั่ ว โมงถึ ง

สามชั่วโมงในหนึ่งวัน สำหรับขั้นพื้นฐาน ส่วนหลักสูตรระดับกลางไปจนถึง ระดับสูง แบ่งออกเป็น แปดชั่วโมงสำหรับหนึ่งเดือน และสิบสองชั่วโมง สำหรับสามเดือน นอกจากการสอนปรุงอาหารไทยแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมี

การสอนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกรณีเครื่องปรุง หรือวัตถุดิบไม่ครบถ้วน โดยนั ก เรี ย นทุ ก คนในชั้ น เรี ย นจะมี ส่ ว นร่ ว มในการทำอาหารทุ ก ขั้ น ตอน

ในห้องเรียน และมุ่งเน้นการเรียนการสอนถึงความเข้าใจหัวใจของอาหาร

ทุกจาน หลังจากปรุงอาหารเสร็จแล้วนักเรียนสามารถนำอาหารกลับบ้าน เพื่อทานในครอบครัวและฝากเพื่อนฝูงได้อีกด้วย ไม่ว่าอาหารไทยจะเสิร์ฟอยู่แห่งหนตำบลใดในโลก แม้ว่าหน้าตา อาหารจะแตกต่างกันไป แต่สิ่งเดียวที่ครองใจชาวไทยและชาวต่างชาติคือ “เสน่ห์ปลายจวัก แห่งอาหารไทย” สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ Thai Cooking School 93 Northfield Avenue, West Ealing, London W13 9QR Tel. 020 8810 0500 Web: www.thaicookingschool.co.uk

41


iCOVER STORY สัมภาษณ์ - Little Bird ภาพ - Sacha

1. ALAN KEANE - FELTHAM

Q - Have you ever taken a Thai Cooking lesson before? A - No, this is my first lesson but I did try cooking Tom Kha Kai before by following the cooking book but it was not as good as Sue’s recipe. Her recipe is much better, she is very helpful and the class was very enjoyable. ถาม - คุณ Alan เคยเรียนทำอาหารไทยจากที่ไหนมาก่อนบ้างหรือเปล่า? ตอบ - ไม่เคยเลยครับ...นี่เป็นครั้งแรก... ผมเคยทดลองทำต้มข่าไก่จาก หนั ง สื อ สอนทำอาหาร แต่ ว่ า รสชาติ อ อกมาไม่ ดี เ ท่ า สู ต รทำอาหารของ

คุณครูปิ๋วเลยครับ ครูปิ๋วสอนเข้าใจง่าย และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แถมมี

มุขตลกเวลาสอน ผมสนุกมากครับ

2. KISHY AMATYA - FELTHAM

Q - Have you ever been to Thailand and tried Thai food before? A - I did go to Thailand because my father lives and works in Kanchanaburi. I like Thai food and I love Tom Kha Kai. I have been to Thai restaurants many times. Thai food is different from other cuisines. ถาม - คุณ KISHY เคยไปเมืองไทย หรือทดลองชิมอาหารไทยมาก่อน

หรือเปล่า ตอบ - ดิ ฉั น เดิ น ทางไปเมื อ งไทยเพราะว่ า คุ ณ พ่ อ ของทำงานและอาศั ย

อยู่ที่กาญจนบุรี ส่วนตัวแล้วชอบอาหารไทยมากโดยเฉพาะ “ต้มข่าไก่”

เป็ น อาหารจานโปรดค่ ะ ดิ ฉั น ทดลองชิ ม อาหารไทยจากร้ า นอาหารไทย

ต่างๆ คิดว่าอาหารไทยนั้นมีเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ รูปลักษณ์ และการปรุงแต่ง ทำให้อาหารไทยนั้นมีความโดดเด่นและแตกต่างอาหาร ชาติอื่นค่ะ

3. NICU HEYWOOD - CLAPHAM

Q - How did you find out about the “Thai Cooking School” ? A - I searched on the internet using Google. I typed “Thai Cooking School” and www.thaicookingschool.co.uk was the first one on the list. I read about the school and what the courses offered. I thought it looked very interesting. ถาม - คุณ NICU หาโรงเรียน Thai Cooking School เจอได้อย่างไร ตอบ - ผม Search หาโรงเรี ย นทาง Google ครั บ โดยพิ ม พ์ ค ำว่ า Thai Cooking School และ www.thai cooking school ปรากฎอยู่ที่บรรทัดแรก เลยครั บ ผมอ่ า นความเป็ น มาเกี่ ย วกั บ โรงเรี ย น และตารางเรี ย นต่ า งๆ ที่ ท าง โรงเรียนนำเสนอนั้นน่าสนใจมากครับ MIKE TOURS

A - Absolutely, I think cooking Thai food is not too difficult and the recipe Sue gave us is very easy to follow. ถาม - คุณ Katie คิดว่าจะ ทำอาหารไทยทานเองที่บ้าน ได้ ห รื อ เปล่ า หลั ง จากเรี ย น ทำอาหารในห้องเรียน ตอบ - แน่นอนอยู่แล้วค่ะ... พอมาเรียนที่นี่แล้วทำให้รู้ว่า อาหารไทยนั้ น ไม่ ไ ด้ ท ำยาก อย่างที่คิด โดยเฉพาะสูตรทำ อาหารที่ครูปิ๋วให้มานั้นเข้าใจ ง่ายมากค่ะ

4. KATIE TRUSS - CHISWICK

Q - Do you think you can cook Thai food at home after taking this class?

ALAN KEANE - KISHY AMATYA

5. MIKE TOURS - FINCHLEY

NICU HEYWOOD - KATIE TRUSS

42

Q - What made you decided to come and learn Thai Cooking? A - I love eating Thai food. My most favourite dish is Thai Beef salad (Yum Neur). I want to know how to cook Thai food, so I can do it at home. ถาม - อะไรทำให้คุณ Mike ตัดสินใจมาที่นี่เพื่อเรียนทำอาหารไทย ตอบ - ผมชอบทานอาหารไทย และอาหารจานโปรดของผมคือ “ยำเนื้อ” ผมอยากรู้ว่ายำเนื้อทำยังไงจึงตัดสินใจมาเรียนเพื่อที่จะทำทานเองที่บ้าน

ได้บ่อยๆ ครับ


iARTIST

Thai Food everywhere ภาพ :: คณิต อัมราลิขิต

คอลัมน์นี้รองรับผลงานศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์แขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบทกวี การ์ตูน ภาพวาด ภาพถ่ายและอื่นๆ ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์จะได้รับกระเป๋า i-ASiA สุดเก๋ Trend ใหม่ 1 ใบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ +44 (0) 7984 181 464 หรืออีเมล์ info@i-asiamag.com

43


iLOVE COOKING

44

Text / Photo :: Penny

Let’s cook


Starting from the young age, I love reading. The first book that inspired me to cook, apparently, was not a cook book. On the other way round, it was Thai text book from Thai language class when was at grade 4. For Thai students, all of us knew the stories of Mana and Manee. Most of their stories were about things in general, going to schools, living in the country side and learning manners. Among those, there was one lesson that Choojai, one of their friends, made sweet taro dumplings in coconut milk, as we called in Thai “Bua Loy”, from the scratch with her grandma. I just really love that story, and reread it during the school lunch break. That late afternoon, I was home from school for the day alone with my nanny and decided I wanted to make that sweet taro dumplings.

I would love to start making dessert on my own by using that text book as a guide? There was no recipe in there, just the way they made! So...some flour, taro, coconutmilk, sugar and two hours later, I had pebbles that came in different sizes. Although it smelled reasonably appetizing, it was totally unedible.

Even the unpleasant outcome, I was keen on making it for the second time. This time I got some help from a professional, my mom.

Taro Balls in Coconut Milk Ingredients:

½ c Sticky rice flour 1 tablespoon Cornstarch ½ cup Taro, cooked and well mashed 4 tablespoons Caster sugar 2 cups Water 2 can (400ml) coconut milk 4 tablespoon Palm sugar Salt 100 g Coconut meat

1. In a mixing bowl, mix together sticky rice flour, cornstarch, 1 tablespoon sugar and a pinch of salt. 2. Add the taro puree to the mixed flour, start kneading them together by add water little by little. 3. When a smooth consistency reached, then start forming the dough into small balls, about ¼- ½ diameter 4. To make the coconut milk, in a sauce pan, medium heat, put coconut milk, the rest of caster sugar, palm sugar, salt and coconut meat. Keep stirring all the time until all sugar melt. Turn off the heat. 5. In a pot, boil the water. Put taro balls in. Use a slotted spoon to take out when the balls float and put them in cold water. 6. Put the cooked balls into coconut milk. Put it on medium heat, stir the balls. Take off the heat when it is hot and serve. Optional : taro can be substituted with pumpkin puree.

Penny Jirayuwattana

45


iPLACE 2 EAT

บทความ :: ชูยศ อัมราลิขิต, ภาพ :: กุลภัทร แซ่เต็ง

K I K U

อาหารญี่ปุ่นร้านนี้ต้องไปลอง อาหารญี่ปุ่นถือเป็นอาหารเอเชียที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายโดย เฉพาะในกลุ่มคนที่รักสุขภาพ และอาหารญี่ปุ่นกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ อย่างมากจากชาวอังกฤษ เพราะเป็นอาหารที่ทานง่าย ร้านอาหารญี่ปุ่นในลอนดอนนั้นมีมากมายให้เลือกทาน แต่ว่าร้าน ไหนที่เสิร์ฟอาหารต้นตำหรับญี่ปุ่น คุณภาพสูง และรสชาติดีนั้นคงต้องลอง สังเกตว่าร้านนั้นมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นไปใช้บริการมากน้อยแค่ไหน เพราะชาว ญี่ปุ่นเองจะต้องรู้และเลือกร้านอาหารที่ดีที่สุด KIKU คือดอก Chrysanthemum ดอกไม้ชนิดนี้ชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็น ดอกไม้สำหรับจักรพรรดิเพราะมีความอ่อนช้อยและงดงาม ร้าน KIKU ก่อตั้ง ขึ้นเมื่อปี 1978 ที่ตลาด Shepherd และได้ย้ายมาอยู่ที่ถนน Half Moon, Mayfair เมื่ อ 11 ปี ที่ แ ล้ ว บรรยากาศในร้ า นตกแต่ ง แบบมิ น นิ มั ล ลิ ซ (Minimalist Interior) เน้นสเปซโล่งโปร่งสบาย แต่คงเอกลักษณ์ความเป็น ญี่ปุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ ภายในร้านแบ่งออกเป็นสามส่วน คือซูชิบาร์ ห้องฟังก์ชั่นสำหรับธุรกิจหรือไพรเวทปาร์ตี้ และห้องอาหารส่วนกลาง เจ้าของร้านคือ Mr. Hisashi Taoka ชาวญี่ปุ่นจากเมือง Kinosaki ผู้ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องของปลาทุกชนิดโดยเฉพาะปลาทูน่า จาก ประสบการณ์ธุรกิจการประมงในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสู่ตลาดญี่ปุ่น และยั ง เคยมี แ ผงขายปลาที่ ต ลาดปลา Billingsgate Market อี ก ด้ ว ย นอกจากนี้แล้วความสามารถในการชิมของ Mr. Taoka ยังเป็นเลิศเพราะ ครอบครัวที่ญี่ปุ่นทำธุรกิจการโรงแรมจึงมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารที่ดีที่สุดตั้ง แต่เยาว์วัย นอกจากนี้แล้ว ทุกๆ วัน Mr. Taoka จะตื่นแต่เช้าไปตลาดปลา เพื่อเลือกซื้อปลาทุกชนิดเอง ดังนั้นอาหารทุกจานที่ KIKU จึงการันตีเรื่อง ความเป็นหนึ่งในเรื่องของคุณภาพ และความสด ร้าน KIKU บริหารโดย Mrs. Mariko Taoka ผู้เป็นภรรยา พนักงาน บริการที่ KIKU นอกจากชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังมีชาวต่างชาติที่เข้าใจภาษาและ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้ลูกค้าที่มาทานอาหารที่นี่ได้รับการ ต้อนรับเป็นอย่างดีตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ภายใต้คติพจน์ที่ว่า “ลูกค้า จะต้องได้รับการบริการเหมือนกับที่เราต้องการได้รับบริการจากคนอื่น” เมนูของทางร้านมีให้เลือกมากมายทั้งข้าวปั้นซูชิหน้าต่างๆ ปลาดิบ ซาชิมิ อาหารจานร้อน / เย็น ซุป สลัด เต้าหู้ญี่ปุ่น ก๋วยเตี๋ยวโซบะ อูด้ง สุกี้ยากี้ ชาบูชาบู อาหารย่าง และทอด

46

Mrs. Mariko Taoka


Clear Soup in Dobin Pot Gindara Saikyo yaki

NIGIRI และ SUSHI ROLL

Yasai Takiawase

เมนูแนะนำ

Nasu Dengaru

จานที่พลาดไม่ได้เมื่อมาร้านอาหารญี่ปุ่นคือ NIGIRI และ ROLLED SUSHI ข้าวปั้นซูชิที่แนะนำคือ SAKE (Salmon) MAGURO (Tuna) HOTATE (Scallop) HAMACHI (Yellow Tail) TORO (Tuna Belly) Ebitempura & Avocado Roll ข้าวปั้นหอมนุ่มบาง เนื้อปลาหอมหวานธรรมชาติ นุ่มจน แทบจะละลายในปาก เพิ่มรสชาติด้วยซีอิ้วขาวญี่ปุ่น และวาซาบิ Clear Soup in Dobin Pot ซุปน้ำใสเสิร์ฟในกา Dobin น้ำซุปใส และหวานจากเนื้อปลา ไก่ กุ้ง เห็ด ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น และผัก ปราศจาก ผงชูรส รินใส่ถ้วยเล็ก บีบมะนาว ดื่มแล้วได้ความหอมของทะเลและซีฟู๊ด Gindara Saikyo yaki (Grilled Silver / Black Cod Marinated in Sake & Miso Paste) ปลาค็อทดำหายาก หมักด้วยเหล้าสาเกแท้และ เต้าเจี้ยว นำมาย่างด้วยไฟอ่อน จนหอม เนื้ อ ปลานุ่ ม ไม่ ยุ่ ย และยั ง คงความ หวานเพราะไม่ สุ ก มาก เวลาทานได้ รสชาติความสดของปลาและเครื่องปรุง อ่อนๆ Yasai Takiawase (Assorted Vegetable Casserole) ซุปผักหลาก

GreenTea Ice cream

Japanese Cake

ชนิด รากบัว แครอท หัวผักกาด มันฝรั่ง ถั่วฝักยาว มะเขือม่วง ฟักทอง และผิวเปลือกส้ม น้ำซุปใส หวานหอมด้วยรสชาติของผัก ผักตุ๋นไม่เปื่อยแต่ นุ่มเพราะใช้ไฟอ่อนและยังคงรสชาติของผักไว้ครบถ้วน Nasu Dengaru (Deep Fried Aubergine Topped with Sweet Miso Paste) มะเขือม่วงทอด ราดซอสเต้าเจี้ยวหวานบดละเอียด มะเขือนุ่ม ไม่อมน้ำมัน ซอสเต้าเจี้ยวรสหวาน หอม เหนียวเหมือนคาราเมล โรยหน้า ด้วยเม็ดงาขาวบด ส่วนของหวานมีให้เลือกหลายมากมาย แต่ขอแนะนำสองอย่างที่ดู เหมือนธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา ไอศกรีมชาเขียว เข้มข้นหวานหอม ทานแล้วชื่นใจ และ เค้กญี่ปุ่นไส้ถั่วแดงบด แป้งข้างนอกขาวนวลไม่หนา มากแต่เหนียวนุ่ม ไส้ถั่วแดงบดหวานน้อยทานง่าย ที ม งานมั่ น ใจว่ า หากท่ า นผู้ อ่ า นได้ ลิ้ ม ลองอาหารญี่ ปุ่ น ที่ KIKU, Mayfair จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คุณภาพนั้นคุ้มค่าเกินราคาจริงๆ” ร้านอาหาร KIKU ตั้งอยู่ที่ 17 Half Moon Street, Mayfair, London w1J 7BE โทร 020 7499 4208 สถานีรถไฟใต้ดินใกล้สุด Green Park เว็บไซต์ www.kikurestaurant.co.uk

47


K I K U “The Japanese Restaurant you must try” English Translated : Chuyot, Photo : Kulaphat Japanese Cuisine is one of the most popular Asian cuisines especially for the people who like healthy food. Nowadays, Japanese food is the trendy food among English people. There are many Japanese restaurants in London. But not all of them run by Japanese people. If you want to know which one serves the authentic Japanese food, you can judge by observing the regular customers. Over the last 10 times I went into KIKU Restaurant, there are Japanese customers eating in that restaurant, this must mean the customers are enjoying the authentic Japanese food. “KIKU” means in English “the Chrysanthemum flowers” and they are the flowers for the Emperor because of its beauty. KIKU Restaurant was established in 1978 at the Shepherd Market and has been serving top-quality authentic Japanese cuisine ever since, due to the popularity of the food then they moved to Half Moon Street in Mayfair 11 years ago to cater for the growing customer needs. Another thing that makes KIKU Restaurant special is its minimalist interior. Its contemporary design is well-considered, simple and functional and is based on Japanese traditional interiors, with a dignified stone floor perfectly balanced by natural wooden wall panels and furnishings such as the sushi counter and partitions which make individual dining spaces. KIKU Restaurant also has a function room suitable for business meetings and small parties. The owner is Mr. Hisashi Taoka from Kinosaki who has in dept knowledge about fish, especially for Tuna. He has an experience in the Fishing business, exporting fish from the Mediterranean Sea to Japan and he used to own a fish stall at Billingsgate Market. His family also runs a popular Inn in Japan, so he has a chance to know about the latest and tastiest food all the times. Moreover, he is very good at tasting food. Every morning, he wakes up very early and goes to the market to select the best quality of fish on offer to him. The chef personally selects the ingredients, disregarding anything less than the best in order to create the delicious

48

dishes, therefore, every dish which on offer that day can be guaranteed of a high quality and freshness. KIKU Restaurant is run by his wife, Mrs. Mariko Taoka. All the staffs are Japanese or non-Japanese who understand Japanese language and culture very well. They share the motto “treat guests with a warm hospitality”. At KIKU Restaurant, there are many wonderful dishes to select from e.g. Sushi, Sashimi, Hot/Cold plate, Soup, Salad, Soba/ Udon Noodles, Sukiyaki etc. They also have a good variety of fine sakes and wines. Recommended dishes The dishes that you cannot miss out on are, Nigiri and Rolled Sushi. There are many toppings e.g. Sake (Salmon) Maguro (Tuna) Hotate(Scallop) Hamachi (Yellow Tail) Toro (Tuna Belly) Ebitempura & Avocado Roll etc. served with Japanese soy sauce and wasabi if in season. Clear Soup in Dobin Pot (Broth soup boiled with fresh meat and vegetables) Gindara Saikyo yaki (Grilled Silver / Black Cod Marinated in Sake & Miso Paste) Yasai Takiawase (Assorted Vegetable Casserole) Nasu Dengaru (Deep Fried Aubergine Topped with Sweet Miso Paste) There are variety desserts on the menu, but you should try Green Tea Ice cream which is very rich and tasty and also the Japanese Cake which is a small cake stuffed with sweet red bean paste. If i-ASiA readers come to eat at KIKU Restaurant, all of you will agree that KIKU Restaurant is one of just a few in London which serves such high quality Japanese cuisine and the quality of the food is more than you have paid for.

KIKU Restaurant

Address : 17 Half Moon Street, Mayfair, London w1J 7BE Tel.0207 499 4208 Nearest Tube Station : Green Park Website : www.kikurestaurant.co.uk


iCOLUMN

รายงานการประชุม (๑) ส่งต้นฉบับ(ยุงช่วยชาติ)ให้‘สีสัน’ด้วยความโล่งอก แล้วผมก็ไปประชุม เป็นการประชุมลูกบ้านโดย ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เรียกประชุม ตอนที่ผมไปถึงบ้าน ผู้ใหญ่ยังไม่มีใครมา เพราะยังไม่ถึงเวลา(หกโมง เย็น) จึงถือโอกาสนั่งคุยกับผู้ใหญ่ ไต่ถามสาร ทุกข์สุกดิบกัน เห็นผู้ใหญ่บ้านทำงานทุกอย่างตั้ง แต่กวาดพื้น จัดเก้าอี้ ประกาศหอกระจ่ายข่าว เรียกลูกบ้านให้มาประชุมเป็นระยะๆ เห็นแล้วก็ เหนื่ อ ยแทน ถามว่ า เขาให้ เ งิ น เดื อ นเท่ า ไหร่ ผู้ใหญ่ตอบว่าสี่พัน เมื่อถึงเวลาประชุม ลูกบ้านต่างทยอยกัน มา เข้ า ใจกั น ได้ ถึ ง เรื่ อ งตรงต่ อ เวลาของคนใน หมู่ บ้ า น เพราะกว่ า จะเลิ ก จากงานไร่ ก็ เ ย็ น ย่ ำ ไหนจะต้องหุงหาอาหารให้ลูกเต้า กว่าจะอาบน้ำ อาบท่ามาประชุม เวลาอาจจะล่วงเลยไปบ้าง แต่ ก็ไม่มีใครถือสา ขี่มอเตอร์ไซค์มาบ้าง เดินมาบ้าง ผู้ เ ฒ่ า เดิ น ตี น เปล่ า ก็ ยั ง มี ใ ห้ เ ห็ น มาถึ ง ก็ พู ด จา หยอกล้อกันเป็นที่สนุกครื้นเครง ไม่มีใครตำหนิ ใครในเรื่องไม่ตรงเวลา จนเวลาล่วงไปชั่วโมงกว่า ผู้ใหญ่บ้านจึงเริ่มเปิดการประชุม แต่ก่อนที่ผู้ใหญ่ จะเปิดการประชุม ก็ประกาศย้ำออกหอกระจาย ข่าวถึงสามครั้งว่า ถ้าใครไม่มาในวันนี้ถือว่ารับรู้ แล้วและถือว่าสละสิทธิ์ ผมขออนุญาตยังไม่บอก ท่านผู้อ่านนะครับว่าเขาสละสิทธิ์กันเรื่องอะไร เปิดประชุมแล้วผู้ใหญ่จึงแจ้งที่ประชุมว่า ทางจังหวัดเขาแจ้งมาให้บอกกับลูกบ้านว่า เรื่อง แรกคื อ ให้ เ ฝ้ า ระวั ง เรื่ อ งไข้ ห วั ด นก เพราะดู ว่ า กำลั ง จะกลั บ มาอี ก ถ้ า พบเห็ น ไก่ ต ายโดยผิ ด สังเกตให้แจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ อย่าแอบต้มกินเอง คนเดียว จะเป็นบาป ครึกครื้นเฮฮากันไป ส่วน ใหญ่ข้อควรระวังนั้นก็เหมือนกับข่าวในโทรทัศน์ ซึ่งทราบกันดีอยู่ แต่เรื่องปฏิบัตินั้นเป็นอีกเรื่อง

หนึ่ง เท่าที่สังเกตดูลูกบ้านไม่ได้ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ นัก เรื่ อ งที่ ส องคื อ เรื่ อ งแก๊ ง จั บ เด็ ก ทาง จังหวัดเตือนมาว่า ขณะนี้มีแก๊งจับเด็กออกมาอา ละวาดอีกแล้ว มีหลายหมู่บ้านเด็กๆถูกอุ้มหายไป จะมี ร ถตู้ ม าตระเวนจั บ เด็ ก ขึ้ น รถ ให้ เ ตื อ นลู ก หลานว่าอย่าไปไหนคนเดียว เลิกเรียนให้เดินกลับ บ้านกันเป็นกลุ่ม เป็นหูเป็นตาช่วยกันระแวดระวัง พบรถตู้ ม าวนเวี ย นก็ ช่ ว ยกั น จั บ ตามอง จำเลข ทะเบียนรถ ผมว่าเอาเข้าจริงๆแล้ว คนที่ทำการ อย่างนี้เขาคงไม่ใช้ทะเบียนรถจริง หรือถ้าเป็น ทะเบียนจริงก็คงเป็นรถที่ขโมยมา เขาคงไม่ใช้รถ ของเขามาเที่ยวตระเวนจับเด็กหรอก เรื่องจับเด็ก นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในพื้นที่ที่ผมอยู่นี้ หลายปีก่อนมี การขโมยเด็กมาครั้งหนึ่ง ฮือฮากันอยู่พักแล้วก็ เงียบหายไป เด็กที่ถูกจับไปป่านนี้ยังตามตัวไม่ เจอ จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครรู้ นี่ก็กลับ มาเวียนอีกรอบแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่ก่อเหตุนี้จิตใจเขา ทำด้วยอะไร พรากลูกพรากแม่ออกจากอก เอา เด็กไปทุบตีทรมานให้ทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ สภาพจิตใจของเด็กจะเป็นอย่างไร คงไม่ต้องเดา แต่พวกเขาก็ยังทำกัน ทำคล้ายกับว่าจับหมาข้าง

บทความ : เรื่อง :: ชาติ กอบจิตติ ภาพ :: อารีจิตร

ถนนตัวหนึ่งไปขาย(ท่าแร่)เท่านั้นเอง ถ้าเรามอง ลงไปโดยไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมาก ก็จะเห็นได้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำกันนี้มีเหตุผลเดียวคือ “เงิน” บ้านเราทุกวันนี้ผู้คนดูเหมือนจะเอาเงิน เป็นตัวตั้งกันมากขึ้น ยอมทำกันทุกอย่าง ไม่ว่า สิ่งนั้นจะผิดกฎหมาย,ผิดศีลธรรม,ผิดจรรยา ฯลฯ หรือผิดมนุษย์มนาก็ตาม แต่ก็ยังทำเพื่อให้ได้เงิน มา เรื่ อ งจั บ เด็ ก นี่ เ ป็ น ตั ว อย่ า งได้ ดี เพราะมั น ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายเพียงอย่างเดียว เรื่องที่สามเป็นเรื่องไฟฟ้า พื้นที่หมู่บ้านที่ ผมอยู่นี้เป็นพื้นที่รอยต่อสามจังหวัด เรื่องตลกก็ คือ หมู่บ้านในแถบอื่นเขามีไฟฟ้าใช้กันหมดแล้ว แต่ ห มู่ บ้ า นตรงเขตแดนรอยต่ อ ของจั ง หวั ด ไม่ มี ไฟฟ้ า ถนนที่ เ ชื่ อ มต่ อ จั ง หวั ด เป็ น ถนนเส้ น เดียวกัน มีเสาไฟฟ้าเชื่อมมาตลอดถนน แต่เมื่อ สุดเขตพื้นที่ของจังหวัดเสาไฟฟ้าก็พลอยสิ้นสุดไป ด้ ว ย บริ เ วณหมู่ บ้ า นตรงนั้ น จึ ง ไม่ มี ไ ฟฟ้ า ด้ ว ย ประการฉะนี้ เพราะไม่มีสายไฟฟ้าผ่าน ทั้งๆที่ ตรงรอยต่อของจังหวัดห่างจากกันไม่เกินห้าเสา ไฟฟ้า ถ้าเขาลงทุนเชื่อมต่อเสาไฟฟ้ากันเสียตั้งแต่ แรกชาวบ้ า นที่ อ ยู่ บ ริ เ วณนั้ น ก็ จ ะมี ไ ฟฟ้ า ใช้ เหมือนๆกับคนอื่น ทำเสียทีเดียวในครั้งแรกน่าจะ

49


ประหยัดต้นทุนมากว่าการที่จะต้องมาเริ่มทำใหม่ แต่เขาก็ไม่ทำ เขาทำเหมือนกับว่าแต่ละจังหวัด นั้นไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน คือเขตใครเขตมัน ประเทศใครประเทศมั น มองโลกในแง่ ดี ก็ เ ป็ น เรื่องตลกอีกเรื่องหนึ่ง หัวข้อไฟฟ้านี้ท่านเลขาฯอบต.เป็นผู้ชี้แจง เพราะเป็นเรื่องรับผิดชอบโดยตรงของทางอบต. ท่านเลขาฯ ยืนยันกับชาวบ้านว่า กลางปีนี้ไฟฟ้า มาแน่นอน เพราะทำงบฯเบิกจ่ายไปแล้วเพียงแต่ รองบประมาณตกมาเท่านั้นเอง ขอให้อดใจรอ หน่อย ลูกบ้านว่า รอมาเป็นสิบปีแล้วยังรอได้ อีก แค่ไม่กี่เดือนคงไม่เป็นไร ท่านเลขาฯแสดงหนังสือ ธรรมนูญตำบลให้ดู พร้อมทั้งอธิบายว่าแผนที่จะ ทำในปีนี้กำหนดอยู่ในหนังสือนี่แล้ว เปลี่ยนแปลง ไม่ ไ ด้ ถื อ เป็ น กฎหมายที่ ต้ อ งปฏิ บั ติ ต ามของ อบต.ตำบล และเรื่องไฟฟ้าก็อยู่ในนี้ด้วย ขอให้ นอนใจ ท่านว่าปีนี้มีเรื่องต้องทำเพียงสองเรื่อง เท่ า นั้ น เอง เรื่ อ งแรกคื อ ก่ อ สร้ า งที่ ท ำการ

50

อบต.ใหม่ เรื่ อ งที่ ส องคื อ เรื่ อ งไฟฟ้ า ซึ่ ง ใช้ ง บ ประมาณสี่ แ สนบาท ส่ ว นงบก่ อ สร้ า งที่ ท ำการ อบต.ใหม่ใช้งบสองล้านแปด ท่านเลขาฯว่า งบ ประมาณปีหนึ่งจะตกมาสามครั้ง พูดให้ชัดก็คือ สามงวด ตกมางวดแรกจะทำไฟฟ้าก่อน เพราะ ถ้ า ทำที่ ท ำการอบต.ก่ อ นงบฯจะไม่ พ อ การ ก่อสร้างอาจต้องหยุดชะงัก จะทำให้ไม่เสร็จงาน ทั้งสองอย่าง ทั้งไฟฟ้าและที่ทำการอบต. จึงขอ ยืนยันแน่นอนว่า งบฯงวดแรกตกมาจะนำเงินไป ให้การไฟฟ้าแล้วจะเริ่มดำเนินการทันที จะได้ แล้วเสร็จเรื่องไฟฟ้าก่อน ชาวบ้านได้รับคำยืนยัน ที่หนักแน่นต่างก็พอใจ ไม่มีใครซักถามอะไร ผมต้องไปที่ที่ทำการอบต.ทุกปี เพราะไป เสียภาษีที่ดิน เมื่อปีที่แล้วก็ไปมา เท่าที่สังเกต ดู(ตามความเห็น)ผมยังมองไม่เห็นความจำเป็น อันใดเลยที่จะต้องสร้างที่ทำการใหม่ เพราะตัว อาคารก็ ยั ง ใช้ ไ ด้ ดี มี ที่ ท างกว้ า งขวางไม่ แ ออั ด อะไร แอร์ยังเย็นฉ่ำ ทั้งคนที่มาติดต่อกับอบต.ก็ ไม่ได้มากมายจนแน่นล้นออกมา ไปทีไรเห็นอยู่ไม่ กี่คน จึงไม่รู้ว่าเขาจะสร้างที่ทำการใหม่ด้วยงบ สองล้านแปดแสนบาทไปทำไม ไม่ใช่ไม่อยากให้ สร้าง เพียงแต่ยังไม่เห็นความจำเป็นจะต้องรีบ ด่วนขนาดนั้น ตอนไปเสียภาษีที่ดินผมเคยถาม เจ้าหน้าที่เขาว่า แต่ละปีนี่จัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ได้เท่าไหร่ เขาว่าประมาณ ปีละแสนกว่าบาท พอ มาฟังเรื่องจะสร้างอาคารใหม่ จึงทำให้ต้องคิด สมมุติว่าเรื่องที่พูดถึงนี่เป็นเรื่องของการ ทำการค้าแบบบริษัทเอกชน คงไม่มีบริษัทไหน หรอกครับที่กล้าทำเช่นนี้ได้ รายได้เข้าบริษัทปีละ แสนกว่าบาท แต่ก่อสร้างอาคารสองล้านกว่า จะ ต้องใช้เวลากี่ปีจึงจะคุ้มค่าก่อสร้าง อย่างน้อยก็ ยี่สิบปีขึ้นไป นี่ยังไม่นับรวมค่าเงินเดือนพนักงาน ค่ า น้ ำ ค่ า ไฟ ค่ า เบี้ ย เลี้ ย ง ค่ า น้ ำ มั น ฯลฯ ถ้ า เปรียบว่าอบต.เป็นบริษัทบริษัทหนึ่ง ทำกันอย่างนี้ ก็เจ๊งตั้งแต่เริ่มต้นแล้วครับ ไม่รู้ว่าคนร่างแผนนั้น เขาคิดอะไรกัน ในเงินจำนวนสองล้านแปดนี้น่า จำนำมาทำประโยชน์ให้กับตำบลได้มากกว่ามาส ร้างอาคารให้คนทำงานเพียงไม่กี่คน อย่างน้อยก็

น่าจะนำเงินมาช่วยส่งเสริมบำรุงให้ชาวบ้านได้ เพิ่มพูนรายได้ให้มากขึ้น เมื่อชาวบ้านมีรายได้ มากขึ้นเขาก็เสียภาษีให้อบต.มากขึ้น อบต.ก็มีเงิน มากขึ้น ถึงวันนั้นถ้ามีเงิน หรือมีความจำเป็นก็ว่า กันเรื่องอาคาร(ตึก)กันอีกที แต่นี่เปล่า เขากลับ มาเน้นเรื่องความใหญ่โตของตัวอาคารเป็นเรื่อง แรก และเชื่อว่า วิธีคิดของพวกเขา(อบต.) คงไม่ แตกต่างกันนัก เพราะดูจากที่ทำการอบต.แต่ละ แห่งนั้นใหญ่โตจนจะเท่าที่ว่าการอำเภออยู่แล้ว ถ้าท่านผู้อ่านไม่เชื่อผม ผ่านไปทางต่างจังหวัด ลองสังเกตที่ทำการอบต.แต่ละแห่งดู องค์การบริหารส่วนตำบลนี้มีหน้าที่กำกับ ดูแลบริหารท้องถิ่นตามชื่อของเขา นโยบายการ บริหารนั้นขึ้นอยู่กับเขา ถ้าเปรียบว่าตำบลตำบล หนึ่งคือเมืองๆหนึ่ง เขาก็มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของ ชาวเมือง แต่นี่ดูคล้ายกับว่า พอได้รับมอบหมาย ให้ดูแลเมือง สิ่งแรกที่สำคัญที่จะต้องทำก่อนคือ สร้างพระราชวังให้กับตัวเอง ไพร่ฟ้าจะเดือดร้อน อยู่กินกันอย่างไรว่ากันทีหลัง ขอให้ผู้ปรกครองได้ อยู่สุขสบายไว้ก่อนเป็นใช้ได้ ถ้าคิดแบบนี้บริหาร และปกครองกั น แบบนี้ มั น ก็ ค งไม่ ต่ า งจาก โครงสร้างการปกครองแบบเก่าที่ผ่านมาเท่าไหร่ หรอกครับ ฉบับนี้เนื้อที่สัมปทานหมดพอดีครับ ฉบับ หน้ า เราคงว่ า เรื่ อ งการก่ อ สร้ า งอาคารกั น อี ก สั ก หน่อย แล้วจะพยายามรายงานการประชุมต่อให้ จบ ถ้าท่านผู้อ่านไม่ตามอ่าน ถือว่าสละสิทธิ์นะ ครับ

อ่ า น ต่ อ ฉ บั บ ห น้ า

ชาติ กอบจิตติ


iCOLUMN

เรื่องสั้น : เรื่อง :: ชาติวุฒิ บุณยรักษ์ ภาพประกอบ :: อารีจิตร

ภาพถ่ายใบเก่า ยังจำได้...ว่ากว่าที่ผมจะกดนิ้วลั่นชัตเตอร์บันทึกภาพนี้เอาไว้ในเฟรม กิน เวลานานอยู่หลายนาที นั่นเป็นเพราะพวกเขามัวเสียเวลากับการเก๊กท่าทาง ขำๆ ตามแต่จินตนาการส่วนบุคคลในสมองซีกขวาของใครจะเสกสรรปั้น แต่ง ไหนจะต้องคอยหลบหลีกยวดยานที่สวนทางผ่านไปมานานๆ ครั้ง และ ยังไม่นับเวลาที่เสียไปกับการหัวเราะกันเองนั่นอีก มันเป็นภาพถ่ายใบเก่าที่พลัดหล่นลงมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง ตอนที่ ผมจัดชั้นวางหนังสือใหม่ให้เข้าที่เข้าทางเมื่อเย็นวานนี้... ชายหนุ่มผมทองร่างสูงโปร่ง ที่ทำท่าเลียนแบบหมีโคอาล่าเกาะก่าย ต้ น ยู ค าลิ ป ตั ส อยู่ ท างด้ า นซ้ายมือของภาพนั่นคือไมค์ ลูกครึ่งอเมริกันออสเตรเลี่ยน เพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันกับผม อาจเพราะมันเป็นสัตว์ ประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศเขาก็เป็นได้ บ่อยครั้งเราจึงเห็นไมค์ทำท่า ทางคล้ายๆ กันอย่างนี้ในภาพถ่ายหลายใบ ที่ต่างออกไปในรูปนี้คือสิ่งที่เขา กำลังเกาะอยู่นั้นหาใช่ต้นไม้ไม่ หากแต่เป็นเสาคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ไม่มี โอกาสได้ใช้งานเสาหนึ่ง... ส่วนชายผิวขาวซีด รูปร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อทางด้านขวามือของภาพ ผู้ซ่อนดวงตาตี่ๆ แบบจริงใจไว้ภายใต้แว่นหนาเตอะคือคิม หนุ่มเลือดโสม

ทั้งตัวและหัวใจ เฮ้าส์เมทคนหนึ่งของผมที่อยู่ร่วมหลังคาบ้านเดียวกันมา ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย ในภาพเขายืนตัวตรงขาชิด กันสนิท อกผายไหล่ผึ่งเยี่ยงทหารเวลาเข้าแถวรวมพลสวนสนาม สิ่งผิด สังเกตเพียงประการเดียวคือมือขวาที่กำลังทำท่าตะเบ๊ะขึงขังของเขานั้น แบ ฝ่ามือแหงนเอียงออกมาด้านหน้า เผยให้เห็นถึงซอกรักแร้และดงหญ้าใต้นั้น อย่างเกินงาม...กับบั้นท้ายที่ยื่นโด่งอย่างจงใจนั่นก็ด้วย มันเป็นวิธีล้อเลียน แกมประชดประชันถึงอะไรบางอย่างในแบบของเขา... ตัวเลขดิจิตอลขนาดเล็ก สีเหลืองอมส้มบริเวณมุมขวาล่าง บอกให้รู้ ว่าภาพนี้ถูกบันทึกเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ค.ศ.2000...มันเป็นการ ตะลุ ย เที่ ย วแบบแบ็ ค แพคที่ ย าวนานเกื อ บสองเดื อ นในสามประเทศ คื อ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกเราทั้งสาม คน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพวกเรามัวแต่คร่ำเคร่งอยู่กับการทำโปรเจ็กต์ และการเรียนในปีสุดท้ายอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เพื่อให้ทันขอจบภายในสี่ปี ตามที่วางแผนไว้ เมื่อเสร็จสิ้นจากภารกิจทางการศึกษาสมดังใจหมาย เรา จึงออกตระเวนเที่ยวกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา นัยว่าเป็นการฉลองที่สำเร็จการ ศึกษาและเลี้ยงอำลาที่จะต้องแยกย้ายจากกันด้วย...

51


พลิกไปด้านหลังภาพ ปรากฏข้อความสั้นๆ สามสี่บรรทัด เขียนด้วย หมึกสีดำที่เริ่มจะจาง เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษแบบตัวเขียนลายมือค่อน ข้างหวัด อ่านได้ใจความว่า In the memory of Thailand’s Stonehenge.* Mike, Kim and Ton at Structure of Hopewell railway. Thank you very much for a funny trip in Thailand. Don’t forget! You must go to vote for the Election! Take a good care my friend. Michael Norton ผ่านมาสี่ปีกว่าแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนว่าซัมเมอร์ปีสุดท้ายใน ชีวิตการเรียน เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานนี้เอง...ป่านนี้พวกเขาจะเป็นยังไงกัน บ้างนะ...หลังจากทริปสุดท้ายนั้นแล้ว เราก็แทบจะไม่ได้เจอะเจอกันอีกเลย ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปดำเนินชีวิตในวิถีของตัวเอง คิมกลับเกาหลีใต้บ้านเกิด หลังเสร็จสิ้นพิธีประสาทปริญญาได้ไม่นาน ล่าสุดเมื่อสามเดือน ก่อน เขาส่งข่าวมาทาง อี-เมล์ว่าเพิ่งย้ายเข้าไปรับงานใหม่ในกระทรวงไอซีที และกำลังจะ เข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่พ่อแม่ของเขาหมั้นหมายไว้ให้ ผมไม่รู้

ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจไปกับเขาดี...ไม่น่าเชื่อว่าขณะที่โลกกำลังหมุนไป อย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีแขนงต่างๆ พัฒนาไปจนเราแทบจะก้าวไม่ทัน แต่ในอีกมุมหนึ่งวัฒนธรรมการคลุมถุงชนยังคงมีอยู่... สำหรั บ ไมค์ เขายั ง คงสนุ ก สนานอยู่ กั บ ชี วิ ต โสด เรามี โ อกาสได้ โต้ตอบอี-เมล์กันบ้างนานๆ ครั้ง ตามแต่ที่โอกาสและเวลาในชีวิตจะเอื้อ อำนวยให้ บางครั้งการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ก็ ทำให้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะพาตัวเอง มาอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านอีก ครั้ง หลังจากต้องนั่งจ้องมันมาตลอดทั้งวันจากที่ทำงาน ความเครียดบน ท้องถนนก็มีส่วนทำให้ผมไม่นึกอยากจะทำอะไรอื่นอีก นอกเหนือไปจากอาบ น้ำ กินข้าว แล้วปลดปล่อยตัวเองไปกับเรื่องราวในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า บางทีการฝังตัวเองอยู่กับละครน้ำเน่าหลังข่าว อาจเป็นการปรับสมดุลทาง จิตอย่างหนึ่งของผมก็เป็นได้... Thailand’s Stonehenge…ผมเผลออมยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปากให้กับ ตัวเอง เมื่อพยายามนึกถึงที่มาของคำๆ นี้อีกครั้ง... ไม่บ่อยนักที่คนอย่างผมจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องการเมือง โดย เฉพาะในเชิงเสียดสีด้วยแล้วยิ่งน้อยครั้งนัก คงเป็นเพราะว่าผมกลัวตัวเองจะ หลุดอะไรโง่ๆ ออกไปจากปาก ทั้งที่ไม่รู้จริงก็เป็นได้ การแสดงความคิดเห็น

Stonehenge = หินวางเรียงกันเป็นวงกลมในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นวัตถุเหลือมาแต่โบราณ

52


ในเรื่ อ งการเมื อ งทั้ ง ในระดั บ ประเทศและระดั บ โลก ของนั ก ศึ ก ษาคณะ รัฐศาสตร์อย่างพวกเรา ถือเป็นปรกติวิสัยที่ควรจะเป็น หลายหนที่ผมต้องทำ หน้าที่เป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท อันเกิดจากการแสดงความคิด เห็นทางการเมืองที่ต่างกันระหว่างไมค์และคิม แต่ตัวผมเองแทบจะไม่เคยมี ส่วนร่วม น่าแปลก...ผมท่องตำราเรียนวิชานี้อยู่หลายปีดีดักกว่าจะจบ แต่ กลับไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผูกพันกับมันสักเท่าไหร่เลย สำหรับผมแล้วการเมือง เป็นเรื่องที่ไกลตัว... สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะผมไม่ได้รู้สึกสนอกสนใจกับมัน อย่างจริงจังก็เป็นได้ ผมเพียงแค่เรียนไปตามหน้าที่ ในสาขาวิชาที่คุณพ่อ เป็นคนตัดสินใจเลือกให้ ก็แน่ล่ะ...ในเมื่อท่านเองก็รับราชการอยู่ในกระทรวง มหาดไทยมาตั้งแต่ผมจำความได้ แต่ถึงกระนั้นท้ายที่สุดผมก็เป็นคนตัดสิน ใจเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองอยู่ดี ดูจากงานกราฟฟิกดีไซเนอร์ที่ทำอยู่ทุก วันนี้...ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวข้องกับรัฐศาสตร์หรือการเมืองตรงไหนเลย...

สี่ปี...สำหรับผมมันนานเกินไปแล้ว...นานเกินกว่าคนที่ขี้หลงขี้ลืม อย่างผมจะจดจำได้ว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้ผมตอบไมค์ไปว่า “This is Thailand’s Stonehenge” เมื่อครั้งที่เขาเอ่ยถามถึงสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านข้าง ของเขา นั่นเป็นตอนที่ผมกำลังขับรถผ่านเส้นทาง Local Road มุ่งหน้าสู่ สนามบินดอนเมือง แต่มันจะแปลกสักแค่ไหนกันเชียว ในเมื่อพี่น้องผองเพื่อนที่เกิดมา ร่วมชาติเดียวกันกับผม ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนความจำสั้นกันทั้งนั้น...จนถึง วันนี้จะมีเหลือสักกี่คนที่ยังพอจะจดจำได้ว่า ผลงานอัปยศอดสูอันเกิดจาก การล้างผลาญภาษีอากรของคนทั้งประเทศ ที่ปรากฏอยู่เป็นฉากหลังใน ภาพถ่ายใบนี้ คือโครงสร้างของทางรถไฟลอยฟ้า โครงการโฮปเวลล์ที่ไม่เคย แล้วเสร็จ ไม่เคยมีใครมีโอกาสได้ใช้บริการ มันไม่เคยได้ทำหน้าที่แก้ไขแบ่ง

เบาปัญหาจราจรแออัดในเมืองหลวงอย่างที่ควรจะเป็น จากโฮปเวลล์กลาย เป็นโฮปเลสส์... ผมไม่สนใจจะใคร่รู้นักหรอกว่า ตื้นลึกหนาบางที่ทำให้โครงการนี้ ต้องหยุดชะงักไปคืออะไร แต่ในฐานะของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่เสีย ภาษีให้กับรัฐครบทุกบาททุกสตางค์ตามที่กฎหมายกำหนด สามัญสำนึกมัน บอกผมว่า เรื่องทั้งหมดนี้ช่าง “ไร้สาระ” สิ้นดี...รากฐานขนาดใหญ่นับสิบคน โอบไม่มิด เป็นหลักฐานอุบาทว์ทางประวัติศาสตร์การเมือง ที่ชี้ให้เห็นถึง ความล้มเหลวของระบอบการเมืองไทยแบบพวกมากลากไป ประชาธิปไตย ถูกนำมาใช้โดยเจตนาที่จงใจตีความให้ผิดเพี้ยน การฝังรากลึกของระบบ อุปถัมภ์ค้ำจุน การฉ้อราษฎร์บังหลวงที่สืบทอดต่อกันมานับร้อยๆ ปี...กินกัน เข้าไปได้แม้กระทั่งอิฐหินปูนทราย... ยังไม่นับ...บทเรียนประวัติศาสตร์ราคาแพง อย่างเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16 หรือ 6 ตุลาฯ 19 กระทั่งพฤษภาทมิฬ...นอกจากญาติๆ ของ เหล่าวีรชนที่เสียสละชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จะมีคนไทยสักกี่คนกัน ที่สนใจจะจดจำเอาไว้เป็นบทเรียน เท่าที่สมองและสองตารับรู้อยู่ทุกวันนี้ ผมก็เห็นคนผิดยังคงลอยนวลอยู่เต็มไปหมด ยังคงกินอยู่อย่างสุขสบาย มีหน้ามีตาในสังคม แถมว่างๆ ยังเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง ออก มาบิดเบือนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยอีก... “...แล้วยูจะไปโทษใครได้ล่ะไอ้ต้น...ในเมื่อยูเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ ทำให้มันเป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ...ในเมื่อการเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ที่จะต้องให้ความสนใจและมีส่วนร่วม...แต่นี่กระทั่งยูเองซึ่งเป็นนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ ยูร่ำเรียนมาทางนี้แท้ๆ แต่กับแค่การออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งยู ยังไม่ทำ...แล้วประเทศชาติของยูยังจะไปหวังอะไรกับใครได้อีก...จากชาวนา อย่างนั้นหรือ?” คิมบริภาษใส่ผมเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลียืดยาว และยังไม่วายทิ้งท้ายคำถามไว้อย่างประชดประเทียดในแบบโสกราตีส ผมรู้ ดีว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกชนชั้นแรงงานไทย นอกจากพูดเพื่อเหน็บแนม ผมเท่านั้น อ่ า น ต่ อ ฉ บั บ ห น้ า

ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

53


iCOLUMN : นิยาย

เรื่อง :: อนุสรณ์ ติปยานนท์ ภาพประกอบ :: อารีจิตร

เ ค ห วั ต ถุ

ตู/้ เย็น/เร่า/ร้อน 2

ผมตื่น ขึ้น แต่เ ช้า ตรู่ พร้อ มกั บความรู้สึ กงงงวยในช่ว งแรกเมื่อ เห็ นตั วเอง

นอนขดอยู่บนพื้นครัว มีไอเย็นลอยอยู่รอบๆ ผมลุกขึ้นปิดตู้เย็น ก่อนจะรู้ตัว ว่ามีคราบชื้นเป็นดอกดวงอยู่ที่หน้าขาและร่องกางเกง เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ ผมไม่มีฝันรัญจวนส่วนตัว โดยเฉพาะในช่วงสองปีหลังจากที่ผมมีภรรยา

แม้โดยความจริงแล้วผมจะยังไม่ได้แต่งงานก็ตามที แต่ในสังคมปัจจุบันนี้มี คู่ รั ก จำนวนมาก ที่ ใ ช้ ชื่ อ สามี ภ รรยาโดยอาจไม่ เ คยร่ ว มเตี ย งกั น ด้ ว ยซ้ ำ

ดั ง นั้ น ไม่ ว่ า จะเรี ย กสามี ภ รรยา คู่ รั ก หรื อ สิ่ ง ใดก็ ต าม มั น ก็ เ ป็ น ความ

ฟั่นเฟือนหรือการไม่เข้ารูปเข้ารอยทางสังคมเท่านั้น ซึ่งผมไม่เคยคิดแยแส ผมซักรอยคราบน่าอายเหล่านั้นจนหมดจด เอาผ้าขึ้นตากท่ามกลางแสงแดด อ่อน แล้วมุ่งหน้าสู่ที่ทำงาน มีความกังวลมากมายในวันนั้น ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือแทบจะทุก 15-20 นาที มันเป็นวันที่ภรรยาของผมจะเดินทางกลับบ้าน ด้วยอาชีพ

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประจำสายการบินสัญชาติญี่ปุ่นสายหนึ่ง ทำให้ ในแต่ละเดือนเราต้องแยกห่างกันประมาณ 7-10 วัน แล้วแต่ตารางการบิน ของเธอ ในช่วงแรกสิ่งเหล่านี้ต้องการการปรับตัวอยู่บ้าง แต่หลังปีที่ 2

ของการอยู่ร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ก็ใช้คำว่า “ความเคยชินได้” ภรรยาของผมมี ชื่ อ ว่ า “ศศิ ก านต์ ” แต่ บ นฟ้ า นั้ น เธอมี ชื่ อ ว่ า

“ซาชิ โ กะ” เธอเคยบอกผมอย่ า งนั้ น ปรากฏการณ์ เ หล่ า นี้ คื อ อิ ท ธิ พ ลของ

โลกไร้พรมแดน ไม่ว่าคุณจะเกิดชนชาติใด เชื้อชาติใด ดูคุณจะสามารถ

แปรสัญชาติตามความพอใจได้อย่างไม่มีขอบเขต หญิงสาวนาม “มะลิ” อาจจะกลายเป็น “ริกะ” ในเกาะญี่ปุ่น หรือ “ริก้า” ในประเทศลาติน

อเมริ ก า แต่ ห ากใครเป็ น คนหั ว โบราณ คุ ณ ก็ เ พี ย งยึ ด มั่ น กั บ โวหารของ เช็กสเปียร์ที่ว่า “ไม่ว่ากุหลาบนั้นจะมีชื่ออะไรก็ตาม มันก็ยังเป็นกุหลาบ

อยู่นั่นเอง” ภรรยาของผมยืนรออยู่แล้ว เมื่อรถของผมไปถึงสนามบินเธอเอา

ข้าวของทั้งหลายใส่ท้ายรถโดยไม่ยอมเอ่ยปากพูดจา เมื่อขึ้นนั่งได้ที่เธอก็ หลับตาลง เหมือนไม่ต้องการต่อปากต่อคำใดอีก ผมเปิดประตูบ้านให้เธอ เมื่อรถจอดสนิท เธอเดินเข้าไปในบ้าน ถอดรองเท้าออก แล้วล้มตัวนอน

บนโซฟาเหมือนเคย มันอาจฟังดูตลก แต่ก็เป็นเรื่องจริง ผมมีความรู้สึก เหมือนกับว่าเธอเป็นดังหุ่นยนต์ที่เติมแบตเตอรี่อย่างเต็มเปี่ยมเมื่อออกจาก บ้ า น และใช้ พ ลั ง งานจนหมดสิ้ น เมื่ อ กลั บ สู่ เ คหาอี ก ครั้ ง ผมเปิ ด ตู้ เ ย็ น

54


พร้อมรินน้ำใส่แก้วให้เธอ ก่อนจะเก็บขวดน้ำไว้ที่เดิม วินาทีนั้นเองที่ผม นึ ก ถึ ง วิ ก ฤตการณ์ เ สี ย งประหลาดที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ผมจะอธิบายมัน อย่างไรดีกับภรรยาในเรื่องนี้ ผมถือแก้วน้ำกลับไปให้เธอพร้อมความกังวลใจ ภรรยาผมลุกขึ้นนั่ง เธอยื่นกล่องรองเท้าใบใหม่ของจิมมี่ ชู จากกองสัมภาระ ให้ผมดู “ฉันซื้อมันมาได้ในราคาครึ่งหนึ่งเชียวนะ” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะ เหลียวมองไปยังกองรองเท้าที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นรองเท้าตรงบันไดทางขึ้น ชั้นบน ทำไมผู้หญิงถึงหลงไหลในรองเท้านักนะ ชั้นบนสุดเป็นรองเท้าของ

มาโนโล บลาห์นิก เกิน 10 คู่ ชั้นถัดมาเป็นรองเท้าประทับตรา เคท สเปด อีกนับ 10 คู่ และจิมมี่ ชู อีกไม่น้อย รวมถึงรองเท้าธรรมดาอีกนานาแบบ

ที่วางกลบเกลื่อนแบะบดบังรองเท้าทำงาน 2 คู่ และรองเท้าวิ่ง 1 คู่ ของผม จนมิด จริงสิ...สิ่งของหรือวัตถุอาจมีอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์แตกต่างกัน ไปตามเพศ วัย และสภาวะยกตัวอย่างเช่น ตู้เย็นใบใหม่ของผม ในที่สุด

ผมก็ตัดสินใจเอ่ยความจริง ผมดึงมือของเธอให้ตามผมเข้าไปในครัว “มีบางสิ่งที่ผมอยากให้คุณดู” ผมเปิด ตู้เย็นออกอย่างกว้างที่สุด แต่ทุกสิ่งเงียบสงบ ผมเปิ ด ประตู อ อกให้ ก ว้ า งขึ้ น อี ก และขึ้ น อี ก แต่ก็เหมือนเดิม ทุกสิ่งนิ่งสงบ “คุณซื้อตู้เย็นใบใหม่” ภรรยาเอ่ยถาม ผมพยักหน้ารับอย่างช้าๆ “สวยดี กว้ า งดี ด้ ว ย ชั้ น บนสุ ด นี้

ชั้นจอง...สำหรับเครื่องสำอางและวิตามินของ ฉั น ” เธอยิ้ ม ให้ ผ มน้ อ ยๆ ก่ อ นจะผลุ น ผลั น

กลับมาพร้อมกับกองเครื่องสำอาง และทันที

ที่มือของเธอสัมผัสกับชั้นตะแกรงบนสุด เสียง ลึกลับสุดสวาทนั้นก็ดังออกมา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะแปลกประหลาดเพียงใด แต่เมื่อเราเริ่มเคยชินกับมัน เสียงที่หลั่งไหล ออกมานั้นแทนที่จะทำความหวาดกลัวให้ผม เหมือนกาลก่อน มันกลับปลุกเร้าความทรงจำ ของผมที่มีต่อโลกกามารมณ์ในอดีต มันปลุก

เร้ า ให้ ผ มนึ ก ถึ ง หนั ง สื อ ปกขาวเล่ ม แรกที่ ผ ม ซ่ อ นไว้ ใ ต้ ห มอน มั น ปลุ ก เร้ า ให้ ผ มนึ ก ถึ ง

หนังบลูฟิล์มเรื่องแรกจากฮอลแลนด์ที่ผมกับ เพื่อนลงขันกันซื้อในวัยเยาว์ ความรู้สึกเริ่มแรก ที่ได้แลเห็นซอกกลีบเร้นลับของเพศตรงข้าม อวั ย วะอั น น่ า ตื่ น ตะลึ ง ริ ม ฝี ป ากหนาหนั ก

ของนางเอกผู้นั้น ผมเหลือบมองภรรยาของผม ดูเธอจะไม่ตกต้องอยู่ในมนต์ดำอำพรางนี้เลย เธอยังคงเรียงเครื่องประทินโฉมของเธออย่าง เพลิ ด เพลิ น เสี ย งของคนคู่ นั้ น ดั ง ขึ้ น เรื่ อ ยๆ

ทุ ก นาที คราวนี้ มั น ปลุ ก เร้ า ให้ ผ มนึ ก ถึ ง

หนั ง พิ ง ก์ ฟิ ล์ ม ที่ ท นชมอย่ า งเดี ย วดายใน

เลิ ฟ โฮเต็ ล กลางกรุ ง โตเกี ย ว หญิ ง สาวใน

ชุ ด หนั ง กลั บ ถู ก กระแทกกระทั้ น บนหลั ง อาน มอเตอร์ไซค์ เสียงจากตู้เย็นนั้นดูเหมือนจะเจาะเข้าสู่เส้นเลือดและความทรงจำ ของผม มั น ไหลผุ ด ผาด โอบกระจั ด กระจายอยู่ ใ นตั ว ผมเริ่ ม หมดสิ้ น

การควบคุ ม ตั ว เองที ล ะน้ อ ย และรู้ สึ ก ได้ ถึ ง สั ญ ญาณเปลี่ ย นแปลงจาก

อวัยวะด้านล่าง และเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง มือทั้งคู่ของผมก็โอบรัดอยู่ที่รอบเอว ของศศิกานต์หรือซาชิโกะแล้ว ผมค่อยๆเบียดตัวเข้าหาเธอจากด้านหลัง โค้ ง บั้ น ท้ า ยของเธอลงตั ว อยู่ ที่ ห ว่ า งขาของผม ผมใช้ มื อ ข้ า งหนึ่ ง ลู บ ไล้

ท้องน้อยของเธอเบาๆ ก่อนจะลดมันต่ำลง และต่ำลง มืออีกข้างเฝ้านั้นปลด ผ้ า พั น คอประจำเครื่ อ งแบบของเธอ ตามติ ด ด้ ว ยกระดุ ม เสื้ อ ที ล ะเม็ ด

กลิ่ น น้ ำ หอมประจำตั ว เธอระเหยออกมาแทบจะทั น ใด ปลายนิ้ ว ของผม

เริ่มต้นสัมผัสยกทรงลายลูกไม้ของเธออย่างนุ่มนวล ไม่นานนักผมก็รู้สึกได้

ถึงการเปลี่ยนแปลงของตุ่มไตเบื้องใต้นั้นมันแข็งตัวดังกับเม็ดบัวสด เราทั้งคู่ ล้มตัวลงนอนบนพื้นครัว ผมพลิกร่างของเธอที่แทบจะเปลือยเปล่าแล้วขึ้น ด้านบน เธอชันตัวขึ้นมองหน้าผม “ฉันว่าเราควรปิดประตูตู้เย็นก่อน คุณว่าไหม” “อย่า อย่าปิด มันร้อนไม่น้อยในนี้” “ก็ได้ แต่ขอให้ฉันอยู่ด้านล่าง คุณก็รู้ดีว่าฉันใช้ขามากเพียงใดบนฟ้า นั่น”

55


- “ ว่า...” “ไม่มีผู้ชายคนไหนจะทำรักได้ติดกันถึง 3 ครั้ง ในชั่วโมงกว่า ถ้า เขามีผู้หญิงอีกคนแอบซ่อนอยู่” เธอพลิกตัวขึ้นจูบผม “ใช่ไหม” ผมยิ้มตอบเธอ ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นเพื่อปิดตู้เย็น ไม่ว่าอย่างไรการจะ อธิบายถึงสิ่งที่ซ่อนแฝงอยู่เบื้องหลังบทรักของผมก็ไม่มีทางสมเหตุสมผล

ได้เลย “แต่ฉันก็ยังหลงเหลือความสงสัยบางอย่างอยู่...ว่าในขณะเดียวกัน คุณไปเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้จากใคร...” นั่นคือประโยคสุดท้ายของเธอใน

คืนนั้น ผมลุกขึ้นจากเตียงแต่เช้ามืด ทุกสิ่งทุกอย่างยังอยู่ในแสงสลัว มันแลดูเช้า เกินไปสำหรับการนัดหมายกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่ชานเมือง ผมจึงเริ่มต้น เขียนโน๊ตลงบนกระดาษกาวแผ่นเล็ก เป็นธรรมเนียมที่ผมจะต้องทำอาหาร เย็นให้ภรรยาทานในวันแรกหลังการกลับบ้านของเธอ ในขณะที่เธอจะทำ ผมยอมตามคำขอของเธออย่ า งไม่ มี เ งื่ อ นไข

อาหารเย็นให้ผมทานในวันสุดท้ายก่อนการเดินทางจากบ้าน ผมเขียนรายชื่อ สิ่งเดียวที่ผมกังวลในขณะนั้นคือ ชาย-หญิงคู่นั้นในตู้เย็น อาหารเท่าที่จะนึกได้ลงบนกระดาษแผ่นนั้น พร้อมกับข้อความว่า ผมจะเป็น ของผมจะก้าวล้ำหน้าไปไกลจนผมตามติดไม่ทัน ผมพลิกขาข้างหนึ่งขึ้น ผู้ รั บ ผิ ด ชอบซื้ อ วั ต ถุ ดิ บ ทั้ ง หลายเองในบ่ า ยวั น นี้ ขอให้ เ ธอนอนพั ก ผ่ อ น

แล้วปล่อยให้ร่างและหลังของเธอสัมผัสกับพื้น เป็นการดีเช่นกันเมื่อร่างกาย ให้เต็มที่ ผมติดโน๊ตแผ่นนั้นลงบนตู้เย็น แล้วสัมผัสตัวตู้เบาๆ ด้วยความรู้สึก ของผมโลดโผนอยู่กลางอากาศ หูของผมสามารถรับรู้สรรพสำเนียงที่เกิดขึ้น ผูกพัน... รอบๆได้อย่างชัดแจ้ง พวกเขาคู่นั้นดูเหมือนจะไม่เคยใช้เวลาไปอย่างว่าง ทว่าเมื่อผมเริ่มจับจ่ายวัตถุดิบ หลังเสร็จสิ้นภาระงานในวันนั้น ผม

เปล่าเลย เขาหักโหมหนักหน่วงราวกับจะเยาะเย้ยผม ถึงตอนนี้แล้วผมมี ก็ตัดสินใจเปลี่ยนรายการอาหาร เพื่อสร้างความประหลาดใจให้ภรรยา ผม ความรู้สึกจริงจังกับเสียงที่ว่านั้นมากขึ้นทุกที จนเหมือนกับว่าหากผมยื่นมือ แบกถุ ง สั ม ภาระจำนวนมากเข้ า ไปในครั ว แล้ ว พบว่ า ตั ว เองกลั บ เป็ น

เข้าไปภายในตู้เย็น ผมคงได้มีโอกาศสัมผัสกับแขนขาของใครคนใดคนหนึ่ง ผู้ ที่ ต้ อ งประหลาดใจแทน ตู้ เ ย็ น ใบใหม่ ข องผมถู ก แทนที่ ด้ ว ยตู้ เ ย็ น อี ก ใบ

ศศิกานต์โน้มลำคอของผมจนฝีปากเราทั้งคู่ประกบกันแน่น อวัยวะส่วนที่ ที่ใหญ่กว่าเดิม สีสันจัดจ้านกว่าเดิม และดูจะมีความจุมากกว่าเดิม ภรรยา แข็งแกร่งชั่วคราวของผมเริ่มต้นเดินทางเข้าไปในตัวของเธอ ไม่นานนัก ของผมเดินลงมาสมทบจากบันไดข้างบน เธอตบตู้เย็นใบใหม่เบาๆ ประมาณ 5-6 นาที และการขยับกายไม่กี่ครั้ง ผมก็หลั่งไหลของเหลวในตัว “ฉันเห็นว่าคุณชอบเปิดตู้เย็นทิ้งไว้เพื่อรับไอของมัน ถ้าเช่นนั้นมันน่า ออกมาอย่างเด็กแรกรัก... จะดีกว่าถ้าเราเพิ่มขนาดของมัน “ เธอยิ้มอย่างมีเลศนัยกับผม ในคืนนั้นเราร่วมรักกันถึง 3 ครั้ง ในชั่วเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ใน “ส่วนตู้เย็นใบเก่าของคุณอยู่ดีมีสุขกับคุณพ่อของฉันแล้ว ไม่ต้อง ครั้งสุดท้ายดูเหมือนภรรยาของผมจะหลงลืมความเมื่อยล้าที่ขาทั้งสองข้าง ห่วง” เธอพลิกตัวขึ้นด้านบน และหมุนตัวไปรอบๆแกนกลางร่างกายของผม และ “คุณเอาตู้เย็นใบนั้นไปมอบให้คุณพ่อของคุณ !” ผมร้องเสียงก้อง เมื่ อ ร่ า งของเธอหั น หน้ า ไปทางปลายเท้ า ของผม ผมก็ ตั ด สิ น ใจรวบแขน ครัว ทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแล้วผูกมันให้ติดกันด้วยยกทรงลายลูกไม้ของเธอ ก่อน “ใช่” จะชันกายขึ้นโอบร่างของเธออย่างนุ่มนวล ผมขยับกายท่อนล่างอย่างช้าๆ แทนการสร้างคำสนทนาที่ยืดยาวออกไป ผมพุ่งออกนอกบ้าน ติด อยู่ชั่วครู่ และเมื่อเสียงรัญจวนจากตู้เย็นใบใหม่กระโชกดังขึ้นเป็นลำดับ ผม เครื่องโดยไม่สนปริมาณน้ำมัน รถยนต์ของผมมุ่งตรงไปบนท้องถนนอย่าง

ก็สุดจะทานทน ของเหลวในตัวของผมระเบิดเข้าสู่ร้างของเธออย่างลึกซึ้ง ไม่คิดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิด และดื่มด่ำ... อะไรขึ้นก็ตาม ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม ผมต้ อ งนำเจ้ า ตู้ เ ย็ น ใบนั้ น กลั บ มาให้ ไ ด้ ไม่ มี

เราทั้งคู่นอนหงายเคียงข้างกันอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มวาจา ความปลอดภั ย ใดเลยสำหรั บ มั น และสำหรั บ

“คุณรู้ไหม” ชายชราวัย 70 ปี... “อืม” ผู้เป็นโรคหัวใจรุนแรงคนนั้น... “บางครั้ ง บางครั้ ง นะ ที่ ฉั น ถามตั ว เองขณะอยู่ บ นท้ อ งฟ้ า นั่ น ว่ า

คุ ณ จะมี ผู้ ห ญิ ง คนอื่ น บ้ า งไหมเวลาฉั น ไม่ อ ยู่ ข้ า งกาย.. แต่ ต อนนี้ ฉั น ได้

คำตอบแล้ว” อนุสรณ์ ติปยานนท์

56


อิงประวัติศาสตร์

: iCOLUMN เรื่อง :: กฤษดา เมืองไชย

เงี้ยวปล้นเมือง “เงี้ยว” คือพวกไทยใหญ่ที่มีถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย สมัยที่พวก ฝรั่งตาน้ำข้าวออกล่าเมืองขึ้นนั้น “เงี้ยว”ได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ชีวิตที่ขาดความอิสระ ประกอบกับถูกกดขี่ข่มเหงเยี่ยงทาสเป็นสาเหตุให้ พวกเงี้ยวจำนวนมาก ได้อพยพเข้ามาอยู่ในมณฑลพายัพของไทย และเมื่อเป็นที่ ประจักษ์ว่า ไม่มีการขัดขวางใดๆจากเจ้าของบ้าน และยังได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ พวกเงี้ยวเหล่านี้ก็เกิดความเหิมเกริม ถึงกับก่อความเดือดร้อนให้ทางการบ่อยครั้ง จากประวัติของเมืองฝาง ที่มีเงี้ยวอพยพเข้ามาอยู่มากที่สุด ได้บันทึกเกี่ยว กับการก่อเหตุร้ายที่สำคัญ ๆ ถึงสามครั้งด้วยกัน เงี้ยวได้ก่อเหตุวุ่นวายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๗ ในรัชสมัยของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือที่เรียกกันว่า “กบฏพญาผาน” เงี้ยวได้รวมตัวกัน โดยมีกำลังพลถึง ๕๐๐ คน มีพญาผานอดีตกำนัน ตำบลม่อนเป็นหัวหน้า โดยยกเข้าตีเมืองฝางขณะที่เจ้าหลวง หรือเจ้าผู้ครองนคร ไปตรวจราชการที่เมืองปัน มีแต่เจ้าคำแตง บุตรคนที่ ๒ อยู่รักษาเมือง เจ้าคำแตงตกอยู่ในสภาพประหวั่นพรั่นพรึง คิดไม่ออกบอกไม่ได้ว่าจะ แก้ไขอย่างไรดี แต่ได้รับคำแนะนำจากพญาอินต๊ะ ให้ใช้อุบายทำเป็นยอมจำนน

ไปก่ อ นแล้ ว ค่ อ ยคิ ด แก้ ไ ขเอาเมื อ งคื น ในภายหลั ง ซึ่ ง เจ้ า คำแตงก็ ย อมทำตาม

แล้ ว ก็ ส ำเร็ จ ตามคำแนะนำของพญาอิ น ต๊ ะ คื อ เมื่ อ กองทั พ ของเจ้ า หลวง

กลับมา ก็สามารถเข้าตีกบฏพญาผานแตกกระเจิง พวกเงี้ยวกำเริบเสิบสานก่อความยุ่งยากครั้งที่ ๒ หรือที่เรียกกันว่า กบฏ พญาไซ เกิ ด ขึ้ น ในปี พ.ศ.๒๔๓๙ พวกกบฎ มี ก ำลั ง พลประมาณ ๖๐๐ คน

โดยมีพญาไซ กำนันตำบลแม่ลาวเป็นหัวหน้า สาเหตุของการกบฏครั้งนี้มาจากยุนสิ่ง น้องชายของพญาไซไปขโมยช้าง ของเจ้ า ฟ้ า เมื อ งสาตร์ เมื่ อ เจ้ า ฟ้ า เมื อ งสาตร์ ข อร้ อ งให้ เ จ้ า ฟ้ า เมื อ งฝางตามตั ว

ยุนสิ่งมาเพื่อขอช้างคืน เจ้าหน้าที่เมืองฝางออกสืบและจับตัวยุนสิ่งได้ที่แม่อาย

พามายังโรงพักเมืองฝาง พร้อมกันนั้นก็คืนช้างให้เจ้าเมืองสาตร์ไป

เมื่ อ พญาไซรู้ เ รื่ อ งจึ ง มี เ กิ ด ความโกรธแค้ น มาก นำเงี้ ย วลู ก บ้ า นเข้ า

เมืองฝางเพื่อจะบุกเข้าชิงตัวน้องชายที่โรงพัก แต่พอมาถึงโรงพักก็รู้ว่ายุนสิ่ง ได้ถูก นำตัวเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ไปแล้ว ทำให้พญาไซโกรธแค้นเพิ่มขึ้นอีก จึงบุกเข้า

ปล้ น บ้ า นเจ้ า หลวงเมื อ งฝาง กองกำลั ง ของเจ้ า หลวงที่ มี อ ยู่ ไ ด้ เ ข้ า ทำการต่ อ สู้

อย่ า งเต็ ม กำลั ง ทั้ ง สองฝ่ า ยห้ ำ หั่ น กั น ตลอดคื น จนกระทั่ ง จวนจะรุ่ ง สว่ า งอยู่

รอมร่อ กบฏเงี้ยวจึงแตกพ่ายอย่างไม่เป็นขบวน พวกที่หนีไม่ทันถูกตามจับได้

ก็ถูกนำไปตัดหัวที่ทุ่งนา ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมือง แล้วจึงฝังศพ

ไว้แถวๆนั้น ต่อมาชาวบ้านได้ไปบุกเบิกเพื่อทำนาข้าว ก็พบกระดูกและกระโหลกคน มากมาย สถานที่แห่งนั้นจึงถูกเรียกว่า “ทุ่งหัวคน” ครั้งที่ 3 ที่เงี้ยวปล้นเมืองแบบบ้าเลือดเหี้ยมโหด รุนแรงกว่าสองครั้ง

ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๔๑ เรียกกันว่า ส่างชิ่น(ส่างจิ้น) ส่างชิ่นได้ชื่อว่า เป็นคนเก่งกาจทางด้านไสยศาสตร์ มีการกล่าวขานกันว่าเป็นคนอยู่ยงคงกะพัน

มีผู้คนยอมรับนับถือมากมาย ชื่อเสียงระบือลือลั่นไปไกล พวกเงี้ยวที่เข้ามาทำมา หากินในเมืองไทยต่างก็ยกให้ส่างชิ่นเป็นใหญ่หรือเป็นหนึ่งในพวก เงี้ยวด้วยกัน จากการที่เป็นผู้เก่งกาจทางด้านคาถาอาคมและมีผู้คนให้ความเคารพ นับถือทำให้ส่างชิ่นฝันเฟื่องไปไกล โดยคิดจะตั้งตัวเป็นใหญ่ จึงได้ส้องสุมผู้คนและ อาวุธที่บ้านสันปูเลย ตำบลม่องปิน ถึงกับสร้างพะเนียดคล้องช้าง เป็นการเตรียม พร้อมสำหรับงานใหญ่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ข่าวการเคลื่อนไหวของพวกเงี้ยวได้ล่วงรู้เข้าหูเจ้าพระยา มหิธวงษา เจ้าหลวงเมืองฝาง จึงได้ส่งทหารที่เคยได้รับการฝึกฝนอาวุธตามยุทธวิธี แบบใหม่ มีร้อยตำรวจโทชมเป็นผู้บังคับบัญชา ยกกำลังขึ้นไปปราบพวกกบฏ

ในที่ สุ ด ก็ จั บ ส่ า งชิ่ น และระดั บ หั ว หน้ า ได้ ห มด ส่ ง เข้ า ไปพิ จ ารณาพิ พ ากษาโทษ

ที่เชียงใหม่ เรื่องเงี้ยวปล้นเมือง หรือก่อการจลาจลมิได้ยุติลงเพียงแค่นั้น แต่ได้เกิด ขึ้นอีก และมีความรุนแรงกว่าทุกครั้ง ชาวบ้านตกอยู่ในสภาพอกสั่นขวัญหาย

หนีตายกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย

57


เหตุร้ายที่กล่าวถึงนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๔๕ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ ๒๕ กรกฏาคม มีพวกเงี้ยว พม่าและตองซู่ ได้รวมกำลังกันประมาณ ๔๐๐ คนโดยมี

มะกะหม่อง สล่าโป่อาย จองแซ่ เป็นหัวหน้า ยกพวกบุกเข้าปล้นเมืองแพร่ เงี้ยวกับพวกพ้องมีดาบและปืนแก๊ปเป็นอาวุธ ได้บุกจู่โจมสถานีตำรวจเป็น แห่งแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทันรู้ตัวจึงแตกกระเจิดกระเจิงด้วยความตกใจ นางคำ ภรรยาของนายร้อยตำรวจตรีตาด อยู่บนบ้านพักด้านหลัง เมื่อเห็นเงี้ยวบุกโรงพัก จึงคว้าปืนยิงพวกเงี้ยว เลยถูกพวกเงี้ยวบุกขึ้นไปบนบ้าน ใช้ดาบไล่ฟันและแทง

นางคำและเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นลูกเลี้ยงอย่างโหดเหี้ยม จนเสียชีวิตทั้งสองคน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบนโรงพักหนีกระเจิง พวกเงี้ยวก็ยึดอาวุธปืนและ บรรดาของมีค่าบนโรงพักไปทั้งหมด ทำให้พวกเงี้ยวมีความฮึกเหิมเพิ่มขึ้น จึง เคลื่อนกำลังเข้ายึดที่ทำการโทรเลข ทำลายเครื่องสื่อสารและเอกสารต่างๆ ได้รับ ความเสียหายหมดสิ้น พนักงานไปรษณีย์ที่ชื่อถมยา และจีนบ๋าหนีเอาตัวรอดไปได้ แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของพวกวเงี้ยว โดยโดนลูกหลงถึงตายกลายเป็นพ่อค้าหมูชื่อ

จีนติ๊ด ต่อจากนั้นก็บุกตะลุยเข้าปล้นบ้านพักของพระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงประจำ เมืองแพร่ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับที่ทำการไปรษณีย์ โดยยิงปืนข่มขวัญเสียงดังสนั่น หวั่นไหว แต่ก็ได้รับการยิงโต้ ต อบจากพระยาไชยบู ร ณ์ ทั น ที ทั น ควั นเหมื อ นกั น พร้อมกันนั้นก็ตระหนักดีว่าคงจะทานกำลังพวกเงี้ยวไม่ไหวแน่ๆ จึงพาคุณหญิง เยื้อนผู้เป็นภรรยากับบุตรชายเผ่นออกทางด้านหลัง มุ่งหน้าตรงไปยังคุ้มหลวง ทว่า เจ้ า หลวงพิ ริ ย เทพวงศ์ เจ้ า ผู้ ค รองนครแพร่ ไ ด้ ท อดทิ้ ง คุ้ ม หลบภั ย เงี้ ย วไปแล้ ว พระยาไชยบูรณ์จึงหลบออกไปนอกเมือง มุ่งหน้าจะไปเกณฑ์ผู้คนมาสู้กับพวกเงี้ยว เมื่อกวาดทรัพย์สินภายในบ้านข้าหลวงจนเกลี้ยงแล้ว พวกเงี้ยวก็มุ่งหน้า ไปยังศาลากลางจังหวัด เอาเงินคลังจังหวัดไปได้ ๓,๙๐๐ บาท ในขณะเดียวกัน

ก็ทำลายข้าวของต่างๆอย่างสะใจ ต่อจากนั้นก็ตรงไปยังศาลจังหวัด ยิงปืนกราด เข้าไปในศาล และบ้านพักผู้พิพากษา เก็บข้าวของมีค่าและทำลายเอกสารสำคัญๆ ส่วนนายเฟื้องผู่พิพากษานั้นสามารถหลบหนีไปได้

58

พวกเงี้ยวได้บุกปล้นสถานที่สำคัญๆ หลายแห่งแต่ก็ยังไม่สะใจ พากันไป ยังบ้านของพธำมะรงค์เรือนจำ หลวงศรีพินัยหัวหน้าผู้คุมใหญ่หนีไปได้ เงี้ยว

จึงปล่อยนักโทษออกจากเรือนจำ นักโทษเหล่านั้นก็ได้สมทบกับพวกเงี้ยว ช่วยกัน ปล้นเมืองแพร่ ราวกับเป็นเรื่องที่บันเทิงเริงรมย์เสียนัก วันรุ่งขึ้น ๒๖ กรกฎาคม หลวงวิมลผู้ช่วยข้าหลวง ซึ่งหลบหนีออกจาก บ้านพักไปขออาศัยหลบซ่อนตัวอยู่กับพญาติกำนันบ้านป่าแดง แต่โชคร้ายกลาย เป็นหนีเสือไปปะจรเข้ เพราะญาติได้จับหลวงวิมลไปส่งให้โจรเงี้ยว ซึ่งขณะนั้น

พวกโจรเงี้ยวยึดเมืองแพร่ไว้ได้เรียบร้อยแล้ว หลวงวิมลได้ถูกนำตัวไปประหารทางประตูวัดศรีชุม ภายในเมืองแพร่ หลวงศรีพินัย พธำมะรงค์เรือนจำหนีไปไม่รอด ถูกนำไปประหารที่ประตูมาร

นายร้อยตำรวจตรีตาดและจ่านายสิบอ่วมถูกประหารที่ถนนหน้าเมือง แล้วยังมี

คนไทยที่ถูกเงี้ยวฆ่าตายอย่างทารุณอีก ๒๙ คน ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด็ก สำหรับพระยาไชยบูรณ์ข้าหลวงเมืองแพร่ที่เงี้ยวถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ที่สุดและหนีไปได้ เงี้ยวได้ตั้งค่าหัว ๓๐๐ บาทกับม้าอีก ๒ ตัว สำหรับผู้ที่จับตัว

มาได้ พระยาไชยบูรณ์ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่ากับนายแม้น พนักงานอัยการ ส่วนคุณหญิงเยื้อนได้พลัดพรากกันไปตอนเหตุการณ์ชุลมุน เมื่อหวังจะได้กำลังจากเจ้าหลงพิริยเทพวงศ์มาช่วย แต่เจ้าหลวงกลับหนี ไปเสียก่อน พระยาไชยบูรณ์จึงให้นายแม้นไปเกณฑ์ราษฏรที่บ้านกาศมาช่วยกัน ต่อสู้กับเงี้ยว ซึ่งก็ได้มาประมาณ ๘๐ คนทั้งยังไปดึงเอาพระกันทคีรี นายแขวง

ที่หนีไปกลับมาร่วม แต่พระพิไชยราชาเจ้านายเมืองแพร่ค้านว่าจะพาคนไปตาย

เสี ย เปล่ า ๆ เพราะเงี้ ย วมี ก ำลั ง มากกว่ า และกำลั ง ฮึ ก เหิ ม คิ ด จะฆ่ า เฉพาะ ข้าราชการที่มาจากส่วนกลางเท่านั้น แต่จะไม่ทำคนพื้นเมือง พวกที่นายแม้น เกณฑ์มาเลยเกิดเปลี่ยนใจต่างพากันแยกย้ายหลบหนีไป ทางด้านพระยาไชยบูรณ์ เมื่อให้นายแม้นไปเกณฑ์คนที่บ้านกาศแล้วจึงได้ ตามไป แต่ไปเจอกับกำนันและผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ลูกบ้านช่วยกันจังส่งไปให้เงี้ยว ขณะที่พวกเงี้ยวคุมตัวพระยาไชยบูรณ์เจ้าเมืองแพร่ไปนั้น พอมาถึงบ้านร่องแวง ห่างศาลากลางจังหวัดเพียง ๒ กิโลเมตร โจรเงี้ยวก็ฆ่าข้าหลวงอย่างโหดร้ายทารุณ โดยใช้ดาบฟันถึง ๓ ครั้ง ส่วนคุณหญิงเยื้อนผู้เป็นภรรยา เมื่อพลัดพรากจาก พระยาไชยบูรณ์หลบหนีไปกับนางแจ๋วคนใช้ ตั้งใจว่าจะหนีไปเมืองพิชัย แต่ก็ถูก เงี้ยวจับได้ หัวหน้ากบฏมอบให้เงี้ยวแก่คนหนึ่งดูแลคุมตัวไว้ก่อน กะจะฆ่าใน

วันรุ่งขึ้น เงี้ยวแก่ผู้นั้นเป็นคนใจบุญ หาข้าวน้ำมาให้คุณหญิงกิน เมื่อคุณหญิง อ้อนวอนเงี้ยวชราจึงแกล้งไล่คุณหญิงให้ไปอยู่บนยุ้งข้าว พอตกค่ำคุณหญิงเยื้อน และคนใช้จึงหลบหนีไปเมืองพิชัย ทางด้านเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ ซึ่งได้หลบหนีออกจากคุ้มหลวงไปพร้อม กับพระยาเทียมยศ นายหนานขัด และราษฎรติดตามอีกราว ๑๐ คนหลบอาศัย

อยู่ในบริษัทบอมเบย์เบอร์ม่า พวกเงี้ยวก็ยังติดตามไปจนพบ ขณะเดียวกันก็จับกุม เจ้านายเมืองแพร่มาได้อีกหลายคน คือพระยาราชวงศ์ พระยาบุรี พระยาราชบุตร พระวังชาย พระพิไชยราชา พระคำลือ พระไชยสงคราม พระเมืองไชย และ

นายน้อยสวน เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นชาวเมืองแพร่ มีความสำคัญต่อบ้านเมือง พวกเงี้ยวจึงงดเว้นการฆ่า และขอให้เจ้าหลวงเป็นผู้นำของบรรดาผู้ที่ถูกควบคุมตัว มาทำสั ญ ญาดื่ ม น้ ำ พิ พั ฒ น์ สั ต ยาว่ า จะร่ ว มมื อ กั น ต่ อ ไป เจ้ า หลวงและเจ้ า นาย

เมืองแพร่ทุกคนไม่มีทางหลีกเลี่ยงจึงจำต้องยอมทำตามที่พวกเงี้ยวต้องการ หาก ขัดขืนก็คงมีอันตรายเป็นแน่


การเข้าปล้นเมืองของพวกเงี้ยวถูกรายงานถึงกรุงเทพฯ ทางโทรเลขซึ่ง

เปิดใช้แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดเกล้าให้พระยา

ศรีสุริยราชวรานุวัตร(ทองสุข ดิษยบุตร)ข้าหลวงเมืองพิชัย เป็นแม่ทัพยกมาปราบ เงี้ยว โดยมีพระศาลคีรี (ทัพ) เป็นแม่กองคุมเสบียงและช่วยบัญชาการรบด้วย กองทัพเมืองพิชัยเดินทางไปตั้งอยู่ ณ ตำบลโป่งอ้อ ขณะเดียวกันก็โปรดเกล้าฯ

ให้นายพลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี(เจิม แสงชูโต) เป็นแม่ทัพใหญ่ตามขึ้นมา สมทบ พวกเงี้ยวรู้ว่ากองทัพจากเมืองหลวงยกขึ้นมาปราบปราม จึงวางแผนต่อสู้ ด้วยการแบ่งกำลังออกเป็น ๓ หน่วยรบ หน่วยที่ ๑ มีกำลังคนประมาณ ๑๐๐ คนมีหม่องกณะลูกเขยพะกาหม่อง เป็นนายกองควบคุม ยกกำลังไปสกัดอยู่ที่เขาพลึง พวกนี้มีลงเครื่องหมายรูป

ดอกจันทร์สีชาต เป็นสัญลักษณ์ เมื่อเกิดปะทะกันกองทัพเมืองพิชัยของพระยา

สุริราชวรานุวัตร ในวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๔๔๕ เงี้ยวถูกตีแตกพ่ายเสียชีวิต ๒๒ คน บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนฝ่ายรัฐบาลไทยเสียชีวิต ๑ คน บาดเจ็บ ๑ คน และคนเดินหนังสือสื่อสารถูกเงี้ยวยิงตายไปอีก ๑ คน หน่วยที่ ๒ เงี้ยวยกกำลังไปตั้งที่บ่อแก้ว พวกนี้มีธงเครื่องหมายนกยูง

เป็นสัญลักษณ์ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการปะทะกับฝ่ายรัฐบาล หน่วยที่ ๓ มีกำลังคนประมาณ ๒๐๐ คนเศษมีพะกาหม่องเป็นหัวหน้า

คุมมาเอง และยังมีสล่าโป่จาย โป่คำใส โป่คำชื่น เป็นผู้ช่วย ใช้ธงสัญลักษณ์

รูปม้า ยกทัพไปเมืองลำปางหวังจะยึดไว้เป็นที่มั่น แต่เมื่อเดินทัพไปทางเวียงต้า ปางป๊วย และแม่เมาะ พอถึง บ้ า นกิ่ ว ไร่ ก็ ป ะทะกั บ ตำรวจภู ธ รจั ง หวั ด ลำปาง

ในบังคับบัญชาของ ร้อยตำรวจเอก เจนเซ่น ชาวเดนมาร์คที่เข้ามารับราชการ

เป็นตำรวจไทย พวกเงี้ยวเดินเป็นขบวนมาตามถนน จึงถูกตำรวจที่ตั้งรังปืนซุ่ม

อยู่ยิงตายเกลื่อน แต่เงี้ยวอีกกลุ่มหนึ่งลัดเลาะมาตามริมแม่น้ำวัง สามารถบุก

เข้าถึงรังปืนของตำรวจได้ ทำให้ตำรวจต้อหนีกันกระเจิง ร้อยตำรวจเอกเจนเซ่น คุมกำลังจากถนนมาช่วยด้านแม่น้ำเงี้ยวจึงต้องเป็นฝ่ายแตกหนี แต่ก็ถูกดักยิงและ จับเป็นได้จำนวนมาก จากชาวบ้านที่มาช่วย เพราะเจ้าเมืองลำปางตั้งสินบนค่าหัว เงี้ยวไว้ถึง ๓๐๐ รูปี จึงมีเงี้ยวถูกตัดหัวมาเสียบประจานไว้ที่หน้าหอหลวงสลอน ใน จำนวนนี้มีหัวของ พะกาหม่อง หัวหน้าโจรเงี้ยวรวมอยู่ด้วย ขณะที่ต่อสู้กันริมแม่น้ำวังนั้น เงี้ยวหลายคนต้องดับดิ้นลงเพราะกระสุน ปืนที่ยิงมาจากฝั่งตรงข้าม ว่ากันว่าเป็นฝีมือของนายหลุยส์ เลียวโนเวนส์ ลูกชาย ของแหม่มแอนนาเจ้าของเรื่อง แอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งนายหลุยส์ได้รับ พระมหากรุณาฯได้รับสัมปทานป่าไม้ในภาคเหนือ และมีบ้านพักอยู่ริมแม่น้ำวัง

ฝั่งตรงข้าม ในการปราบกบฏครั้งนี้ ผู้กองเจนเซ่น นายตำรวจชาวเดนมาร์คก็ต้อง สังเวยชีวิตให้กับความสงบสุขของผืนแผ่นดินไทยไปด้วย พวกเงี้ยวที่แตกพ่ายไปจากลำปางได้กลับไปที่เมืองแพร่ แต่ยังไม่ทันถึง

ก็ปะทะกับกองทัพของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เงี้ยวจึงหนีเตลิดไปทางเมืองลอง และเชียงคำกองทัพไทยไล่ตามจนเงี้ยวหนีออกไปนอกเขต ที่จับได้ก็เป็นจำนวน มาก เงี้ยวกบฏได้สงบราบคาบแล้ว เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี แม่ทัพใหญ่จึง ให้ตั้งศาลพิเศษขึ้นชำระความ สอบสวนหาผู้ร่วมมือกับเงี้ยวทั้งหมด ซึ่งต่างก็ ซั ด ทอดกั น วุ่ น วาย เจ้ า หลวงพิ ริ ย เทพวงศ์ เจ้ า ผู้ ค รองนครแพร่ ถู ก ตั้ ง ข้ อ หา

๓ ประการคือ เกิดเหตุร้ายแรงไม่รายงานด่วน ..ทำสัตย์สาบานร่วมกับเงี้ยว... เกณฑ์คนช่วยเงี้ยวที่เทพสึ่ง แม้เจ้าหลวงจะทำไปด้วยความจำใจ แต่ก็ยากที่จะ แก้ตัวพ้นข้อหาได้ แม้เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีมีความเมตตาเห็นใจจึงแอบบอกให้ คุณหญิงบอกเจ้าหลวงให้หนีไปเสีย เจ้าหลวงจึงหนีไปยังเมืองหลวงพระบาง และ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนสิ้นอายุขัย ส่วนเจ้าบัวไหล ชายาของเจ้าหลวง ไม่ได้หลบไปด้วย แต่ได้พาบุตรชาย คนเดียวชื่อเจ้าอินแปง ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในเยาว์วัย ลงมาถวายตัวเป็นข้าของสมเด็จ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ซึ่งกรมหลวง ดำรงฯก็รับไว้เป็นบุตรบุญธรรม ส่วนเจ้าบัวไหลก็อยู่ในวังกับลูกจนเจ้าอินแปงโต เป็นหนุ่ม จึงอนุญาตให้กลับไปอยู่บ้านที่เมืองแพร่ได้ เจ้าอินแปงผู้นี้ก็คือบิดาของนายโชติ แพร่พันธุ์ นักประพันธ์โด่งดังเจ้าของ นามปากกา “ยาขอบ” และเป็นบิดาของนายมานะ แพร่พันธุ์ นักหนังสือพิมพ์ อาวุโสผู้หนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ เดือน กั น ยายน พ.ศ.๒๔๔๕ เจ้ า พระยา สุ ร ศั ก ดิ์ ม นตรี ไ ด้ สั่ ง ปลดเจ้ า หลวงพิ ริ ย เทพวงศ์ พ้ น จากตำแหน่ ง เจ้ า ผู้ ค รอง นครแพร่ หลั ง จากนั้ น ก็ มี พ ระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสุริย ราชวรานุวัตร ข้าหลวงเมืองพิชัยขึ้นไป เป็นข้าหลวงเมืองแพร่ ส่วนพระยาไชยบูรณ์นั้นรัฐบาล เห็นว่ามีความดีความชอบ มีความกล้า หาญในการปฏิ บั ติ ห น้ า ที แ ละมี ค วาม จงรักภักดีต่อแผ่นดิน จึงพระราชทาน เลื่ อ นบรรดาศั ก ดิ์ ขึ้ น เป็ น พระยาราช ฤทธานนท์ พ หลภั ก ดี และได้ ส ร้ า ง อนุ ส าวรี ย์ ไ ว้ ณ. บริ เ วณที่ ถู ก ฆ่ า ตาย ส่ ว นคุ ณ หญิ ง เยื้ อ นผู้ เ ป็ น ภรรยาได้ รั บ พระราชทานเงินยังชีพเดือนละ ๓๐๐ บาทไปตลอดชีวิต เงี้ยวระดับหัวหน้าที่ถูกจับได้ ๘ คนถูกศาลพิเศษตัดสินให้ประหารชีวิต ด้วยวิธียิงเป้า ซึ่งเริ่มใช้ใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ส่วนพวกที่มีความผอดรองลงมา และพวกคนพื้นเมืองที่ร่วมผสมโรงรวม ๖๐ คนถูกส่งไปคุมขังที่กรุงเทพฯ นอกจาก นี้ยังมีการกวดขันพวกเงี้ยวและคนพื้นเมืองอย่างเข้มงวดขึ้น มีคำสั่งให้เก็บปืนจาก ชาวบ้านทั้งหมด ซึ่งเฉพาะในเมืองแพร่ก็ยึดได้ถึงพันกว่ากระบอก ในขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยก็ได้โอ กาศเข้าจัดระบบการปกครองเสียใหม่ ทั้งทางด้าน ศาล การเก็ บ ภาษี อ ากรและตำรวจ เป็ น การแผ่ อำนาจของกรุงเทพฯมากขึ้น อำนาจของเจ้าผู้ครอง นครจึงหมดไปในบัดนั้น. กฤษดา เมืองไชย

59



Please Note : i-ASiA cannot accept responsibility for any advertisements in the magazine. If you are in any doubt, it is suggest that reference are taken up.

iCLASSIFIED

Freelance Photographer

รับถ่ายภาพทั่วไป งานแต่งงาน รับปริญญา ถ่ายภาพครอบครัว งานฉลอง งานสินค้า ร้านอาหาร ด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เชิญชมผลงานได้ที่ http://armybangkok.multiply.com งานสำคัญ วันสำคัญของท่าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมครับ Mob. 079 1205 6293 :: อั๋น

บริการรับ - ส่งสนามบิน พาเที่ยว ช็อปปิ้งเอ้าท์เล็ท ย้ายบ้าน รับส่งทั่วไป ราคาคนไทย โทร 075 1552 7139

ห้​้อง Double ให้เช่า โซน 2 ติดสเตชั่น Archway £160 อินเตอร์เน็ท + บิลทุกอย่าง

Mob .079 5046 3072

รับซ่อมคอมพิวเตอร์ ล้างเครื่อง ติดตั้งระบบ กำจัดไวรัส ราคากันเอง

โทร 075 1552 7139

เยี่ยมชม i-ASiA Magazine Online ได้ที่ www.i-asiamag.com กด “Event Photo” อัลบั้มภาพงาน Events และ Functions ต่างๆ ของสัมคมไทยในลอนดอน อัพเดททุกวัน กด “i-ASiA Blog” เพื่ออ่านข่าวสารข้อมูลต่างๆ ในสังคมไทย สดใหม่ทุกวัน ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ info@i-asiamag.com หรือติดต่อ 079 8418 1464 61


Thai Useful Directory The Royal Thai Embassy London

iDIRECTORY LISTING

Butlers Thai Cafe

14 ST Marys Rd,Ealing GreenLondon W5 5ES Tel. 0208 579 8803 Celadon 29-30 Queen’s Gate LondonSW7 5JB Tel. 0207 589 2944 Fax. 0207 823 7492 239 Elgin Avenue, Maida Vale London W9 1NJ Tel. 0207 328 8883 Chaopraya Eat-Thai www.thaiembassyuk.org.uk 22 St.Christopher Place London W1U 1NP Tel. 0207 486 0777 Thai Commercial Affair 11 Herdford St. London S1Y 7DX Chiang Mai Thai Restaurant Tel. 0207 493 5749 Fax. 0207 493 7416 48 Firth St. London W1D 4SF Tel. 0207 437 7444 Tourism Authority of Thailand Crazy Bear 1st Floor, 17-19 Cockspur Street London SW1Y 5BL 26-28 Wehitfield Street London W1P 5RD Tel. 0207 621 0289 Tel. 0207 925 2511 Fax. 0207 925 2512 East Thai Thai Restaurant Thai Airways International 176 Drury Lane, Covent Gardent, London WC2B 5QF 41 Albemarle Street London W1S 4BF Tel. 0207 405 5551 Tel. 0207 409 7953 Esarn Kheaw WestEast Travel 314 Uxbridge Road. Shepherds Bush London W12 7LJ 295 King Street Hammersmith London W6 9NH Tel. 0208 743 8930 Tel. 0844 815 8899 Fax. 0870 063 312 Fat Boy’s III www.westeasttravel.com 431-433 Richmond Road,East Twickenham Middlesex TW1 2EF Tel. 0208 232 8028 Isarn Royal Thai Consulate 119, Upper St London N1 1QP Tel. 0207 424 5153 Tel. 0121 643 9481 Fax. 0121 449 3334 Jasmine Thai Restaurant Birmingham Hull Tel. 0148 258 1668 Fax. 0148 258 0588 16 Goldhawk Road,Shepherds Bush London W12 8HP Liverpool Tel. 0151 255 0504 Fax. 0151 255 1070 Tel. 0208 743 7886 Glasgow Tel. 0141 353 5090 Fax. 0141 332 2928 Krungthep Restaurant Cardiff, Wales Tel. 0292 046 5777 Fax. 0292 046 5777 227-229 Old Brompton Road, Earl’s Court London SW5 0EA Gibraltar Tel. 003 504 6315 Tel. 0207 259 2314 Kwan Thai Restaurant Thai Temple Unit 1, Hays Geleria. London Bridge London SE1 2HD The Buddhapadipa Temple London วัดพุทธปทีป ลอนดอน Tel. 0207 403 7373 14 Calonne Road, Wimbledon Parkside, London, SW19 5HJ Mae Ping Thai Restaurant Tel. 0208 946 1357 www.buddhapadipa.org 162, The Broadway London SW19 1RX Tel. 0208 545 0021 Oxford Buddha Vihara วัดพุทธวิหารออกซ์ฟอร์ด Mai Thai 33 Cherwell Drive, Marston, Oxford OX3 0NB 75 The Broadway, Wimbledon London SW19 1QE Tel. 0186 579 1591 www.oxfordbuddhavihara.org.uk Tel. 0208 542 8834 Cittaviveka Chethurst Buddhist Monastery วัดป่าจิตตวิเวก Mango Tree Chethurst (W.Sussex), Peterfield, Hampshire, Gu31 5EU 46 Grosvenor Place, Belgravia London SW1X 7EQ Tel. 0173 081 4986 www.cittaviveka.org Tel. 0207 823 1888 The Buddhavihara Temple Kings Bromley วัดพุทธวิหาร คิงส์บรอมลี่ Manorom Thai Restaurant Eastfields House, Alrewas Road, Bromley, Staffordshire, DE13 7HR 16 Maiden Lane Covent Garden London WC2E 7NA Tel. 0154 347 2315 www.watthaiuk.com Tel. 0207 240 4139 The Forset Hermitage วัดป่าสันติธรรม Muang Thai Restaurant Lower Fulbrook, Warwickshire, CV35 8AS 71 Chalk Farm Road London NW1 8AN Tel. 0192 662 4564 www.foresthermitage.org.uk Tel. 0207 916 0653 Wat Sanghathan วัดสังฆทาน Nahling Thai Restaurant 107 Handsworth Wood Road, Birmingham B20 2PH 106 High Road,East Finchley London N2 9EB Tel. 0208 883 8688 Tel. 0121 551 5729 www.sanghathan-uk.com Nahm Amaravati Buddhist Monastery วัดอมราวดี The Halkin, 5 Halkin Street London SW1X 7DJ Tel. 0207 333 1234 St.Margarets Lane, Hemel Hempstead, Hertfordshire, HP1 3BZ Noodles Magic www.amaravati.org 139 A. King St. Hammersmith London W6 9JG Tel. 0208 748 9482 Wat Buddharama London วัดพุทธาราม ลอนดอน Pad Thai 77 Blake Hall Road, Wanstead, London E11 3QX 15 High Street , West Malling Kent ME19 6QH Tel. 01732 870000 Tel. 0208 530 2111 www.watbuddharam.org.uk Patara (Soho) The Dhammapadipa Temple วัดธรรมปทีป (สาขาวัดพุทธปทีป) 15 Greek St. London W1D 4DP Tel. 0207 434 1071 199 Slateford Road, Slateford, Edinburgh, Scotland, EH14 1LA Pepper Tree Tel. 0131 443 1010 www.dpadipa.org 19 Southside, Clapham Common London SW4 7AB Wat Phradhammakaya London วัดพระธรรมกาย ลอนดอน Tel. 020 7622 1758 2 Brushfield Way, Knaphil , Woking, GU21 2TG Pu’s Brasserie Tel. 0148 347 5757 10 Gate Street, Holborn London WC2A 3HP Tel. 0207 404 2132 Wat Sriratanaram Manchester วัดศรีรัตนาราม แมนเชสเตอร์ Reun Thai 18 Paulden Avenue, Baguley, Manchester, M23 1PD 100 Fulham Palace Road London W6 9PL Tel. 0208 748 4881 Tel. 0161 998 4550 www.watsriuk.net Rumwong Aruna Ratanagiri Buddhist Monastery วัดอรุณรัตนคีรี 16-18 London Road, Guildford Surrey GU1 2AF Tel. 01483 536092 2 Harnham Hall Cottages, Harnham, Belsay, Northumberland, NE20 0HF Saran Rom www.ratanagiri.org.uk The Boulevard, Imperial Wharf, Townmead Road London SW6 2UB Tel. 0207 751 3111 Sugar Hut 374 North End Road London SW6 1LY Tel. 0207 386 8950 101 Thai Kitchen Tamnag Thai Restaurant 352 King Street Hammersmith London W6 0RX Tel. 0208 746 6888 50 - 54 Westow Hil , Crystal Palace London SE19 1RX Addie Thai Cafe Tel. 0208 761 5959 121 Earl’s Court Road London SW5 9RL Tel. 0207 259 2620 Sukhothai Thai Restaurant At Thai 6 Windmil Street, Gravesend, Kent DA12 1AD Tel. 01474 328113 30, Greyhound Rd London W6 8NX Tel. 0207 385 9264 Thai Orchid Bangkok Thai Cafe 7 Bennett’s Hil Birmingham B2 5ST Tel. 01212 121000 17-18 New College Parade London NW3 5JD Tel. 0207 722 9605 Thai Rice Benja 303 Portobello Road London W10 5TD Tel. 0208 968 2001 17 Beak St. London W1F 9RW Tel. 0207 287 0555 Thai Silk Blue Elephant Unit No.13 O2 Arena, Peninsula Square London SE10 0DX 3-6 Fulham Broadway London SW6 1AA Tel. 0207 385 6595 Tel. 0207 735 9338 Busaba Eat-Thai Thai Smile 106 -110 Wardour Street London W1V 4AS Tel. 0207 255 8686 674 Christchurch Rd Bournemouth BH7 6BT Tel. 01202 720088 Bussara Thai Square (Trafalgar Square) 99 Chiswick High Road London W4 2ED Tel. 0208 995 5774 21-24 Cockspur Street, Norway House London SW1Y 5BL Tel. 0207 839 4000

Thai Restaurant

62

Thai Taste 130 Cromwell Road London SW7 2HE Thai Terrace

Tel. 0207 373 1647 Castle car park, Sydenham Rd, Guildford Surrey GU1 3RT Tel. 01483 503350 Thai Thai Cafe 183 Acton Lane, Chiswick London W4 5 DAw Tel. 0208 994 1093 Yum Yum 187 Stoke Newington High Street London N16 0LH Tel. 0207 254 6751

Chinese Restaurant Four Seasons

84 Queensway, Bayswater London W2 3RL Gold Mine 102 Queensway, Bayswater London W2 3RR Kam Tong 59-63 Queensway, Bayswater London W2 4QH Magic Wok 100 Queensway, Bayswater London W2 3RR Mandarin Kitchen 14-16 Queensway, Bayswater London W2 3RX Royal China 13 Queensway, Bayswater London W2 4QJ

Tel. 0207 229 4320 Tel. 0207 792 8331 Tel. 0207 229 6065 Tel. 0207 792 9767 Tel. 0207 727 9012 Tel. 0207 221 2535

Ori ental Supermarket Chuanglee

271 Merton Road London SW18 5JS Tel. 0208 870 5292 Muay Supermarket 8A Hogarth Road, Earl’s Court London SW5 0PT Tel. 0207 341 3599 New Loon Moon 9 Gerrard Street, Chinatown London W1D 5PL Tel. 0207 734 3887 Oriental4you 7 Herbert Place Iseworth, Middlesex TW7 4BU Tel. 0208 568 2750 Paya Thai Market 101-103 Kew Road, Richmond Surrey TW9 2PN Tel. 0208 332 2959 Sky Market 5/6 Guildford Crescent, Churchil Way, Cardiff Wales CF10 2HJ Tel. 029 2090 6550 Sri Thai Supermarket 56 Sheperd Bush Road London W6 7PH Tel. 0207 602 0621 Talard Thai Limited 22 Airfield Road, Christchurch Bournemouth BH23 3TG Tel.0800 096 6129 Talad Thai Supermarket 326 Upper Richmond Road London SW15 6TL Tel. 0208 789 8084 Taste of Siam Supermarket 47 Camden High Street London NW1 7JH Tel. 0207 383 5002 Tawana Supermarket 18-20 Cheapstow Road London W2 5BD Tel. 0207 221 6316 Thai & Oriental Market 306 Upper Richmond Rd. East Sheen, London SW14 1JG Tel. 0208 876 2324 ThaiSmile 283-287 King Street London W6 9NH Tel. 0208 846 9960 The Globe Trading Unit 3 Lock Lane Warwick CV34 5AG Tel. 01926 419990




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.