กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
โดย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด ผู้เขียน ISBN จานวน พิมพ์ครั้งที่ 1 จานวนพิมพ์ ราคา จัดพิมพ์โดย
: สุวรินทร์ ปัทมวรคุณ และจตุรพิธ เกราะแก้ว : 978-974-625-673-5 : 29 หน้า : กรกฎาคม 2557 : 140 เล่ม : : สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เลขที่ 39 หมู่ 1 ถนนรังสิต-นครนายก ตาบลคลองหก อาเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12110 โทรศัพท์ : 0 2549 4683 โทรสาร : 0 2577 5038 website : http://www.ird.rmutt.ac.th E-mail : ird@rmutt.ac.th พิมพ์ที่ : บริษัท ยูโอเพ่น จากัด โทรศัพท์/โทรสาร : 0 2617 6834
เนื้อหาใด ๆ ในหนังสือเล่มนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว สถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นเพียงผู้จัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนเท่านั้น
คานา เอกสารเผยแพร่ความรู้ เรื่อง กว่าจะอ่านออกเขียนได้ในโลกของคนตาบอด ผู้เขียนและทีมวิจัยได้ทางานวิจัยอย่างต่อเนื่องเรื่อง เครื่องช่วยเรียนรู้อักษร เบรลล์หลายภาษา ในเบื้องต้นมุ่งเน้นนาไปใช้ในชั้นเรียนเด็กเล็กที่เริ่มต้นเรียน อักษรเบรลล์ภาษาไทย ซึ่งการจัดสร้างชิ้นงานได้ศึกษาและทดลองเป็นไปตาม ความต้องการของครูผู้ สอนที่โรงเรี ยนสอนคนตาบอดกรุงเทพ และในขณะ เขียนเอกสารนี้สิ่งประดิษฐ์นี้ก็มีการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากผู้เขียน และทีม วิจัย ตระหนั กว่าการใช้อุป กรณ์ อิเล็ กทรอนิกส์ และคอมพิ วเตอร์ม า พัฒ นา จ าเป็ น ต้องปรับ ไปตามเทคโนโลยีของศาสตร์นี้ด้วย ทั้งการเพิ่มการ เรียนอักษรเบรลล์ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และอื่น ๆ การสร้างเทคนิคให้มีการ ทบทวนได้หลังจากกดออกเสียงไปแล้ว รวมทั้งการพัฒ นารูปแบบของกล่อง และปุ่มกดให้เหมาะสมต่อการใช้งานของเด็กเล็ก เนื่องจากคนตาบอดเรียนรู้สิ่ง ต่าง ๆ และการสื่อสารกับบุคคลอื่นผ่านการอ่านและเขียนด้วยอักษรเบรลล์ ใน เอกสารนี้จึงได้กล่าวถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ผู้เขียนและทีมงานวิจัยได้ประดิษฐ์ขึ้นด้วย ผู้ เขี ย นและที ม วิจั ย หวังว่าเอกสารนี้ จ ะเป็ น ประโยชน์ ต่ อ ผู้ อ่ าน และหากมี ข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนและทีมวิจัยขอน้อมรับไว้ และจะปรับปรุงตามที่ มีผู้ใดให้ข้อคิดเห็นต่อไป
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กรกฎาคม 2557
สารบัญ เมื่อลูกรักถึงวัยเข้าอนุบาล หัดอ่านเขียน ก ไก่ ข ไข่ อักษรเบรลล์คืออะไร เมื่อเริ่มเรียนอักษรเบรลล์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การสร้างเครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ภาษาไทย อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น และภาษาอื่น ๆ การอ่านเขียนอักษรเบรลล์ภาษาไทย บรรณานุกรม ประวัติผู้เขียน
หน้า 1 2 6 15 17 25 28
สารบัญภาพ ภาพที่ 1 อักษรเบรลล์ 2 ลักษณะจุดอักษรเบรลล์ 1 เซลล์ 3 สเลท 2 แบบ อันแรกขนาดใหญ่และอีกอันมีขนาดเล็ก 4 สไตลัส 5 รูปการวางสเลทและเอาสไตล์มาสร้างจุดนูนอักษรเบรลล์ 6 (a) อักษรเบรลล์พยัญชนะไทย (b) อักษรเบรลล์สระและวรรณยุกต์ไทย (c) อักษรเบรลล์ภาษาอังกฤษ (d) อักษรเบรลล์ตัวเลขอารบิค 7 แท่งไม้ไว้ให้ผู้เรียนสัมผัสจดจาอักษรเบรลล์ 8 รูปหนังสือเป็นเล่มที่พิมพ์เป็นอักษรเบรลล์ไทย 9 รูปอักษรเบรลล์ไทย แนะนาการใช้แชมพูบนขวดแชมพู 10 รูปอักษรเบรลล์ไทยที่ปรากฏในการบอกชั้นในลิฟต์ 11 การสร้างอักษรเบรลล์ภาษาไทย คาว่า ก้าน 12 การสร้างอักษรเบรลล์ภาษาไทย คาว่า เศรษฐี 13 การสร้างอักษรเบรลล์ภาษาอังกฤษ คาว่า cat 14 คาว่า Shengdiao (เชงเตี้ยว) 15 (a), (b) และ (c) ที่มีการบอกความหมายของคาว่า ta (m) 16 เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ที่จัดทาขึ้น
หน้า 3 3 4 5 5 9 9 10 10 13 16 16 16 17 18 19 21 23 23
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
1
เมื่อลูกรักถึงวัยเข้าอนุบาล หัดอ่านเขียน ก ไก่ ข ไข่ สำหรับผู้ที่มีสำยตำปกติหรือเรียกว่ำคนตำดี เมื่อลูกอยู่ในวัยเด็กเล็กและ ย่ำงเข้ำสู่วัยที่เริ่มเรียนรู้กำรอ่ำนเขียนพ่อแม่อำจส่งลูกไปเข้ำเรียนชั้นอนุบำล หรือพ่อแม่ก็สอนลูกอ่ำนเขียนเองที่บ้ำนก่อนส่งไปโรงเรียน และมีกำรสอนโดย ไปซื้อหนังสืออ่ำน ก ไก่ ข ไข่ มำสอนให้ลู กอ่ำน ซื้อดินสอมำจับมือลูกเขียน ก ไก่ ข ไข่ ซื้อหนั งสื อหรือสมุดระบำยสี มำสอนลู กระบำยสี ภ ำพต่ำง ๆ ซื้อ หนังสือนิทำนมำเปิดให้ลูกดู และเล่ำให้ลูกฟัง เรื่องแบบนี้คนเป็นพ่อแม่ปฏิบัติ หรือก็เห็นกันอยู่ทั่วไป ในสังคมไทยกำรปฏิบั ติแบบนี้ทำให้เรำกล่ำวได้อย่ำง ชัดเจนว่ำพ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก แล้วสำหรับเด็กตำบอด เด็ก ๆ เหล่ำนั้น เขำเริ่มกำรเขียนอ่ำน ก ไก่ ข ไข่ กันอย่ำงไร เขำรู้อักษรภำษำไทยหรือภำษำ อื่น ๆ ได้อย่ำงไร แล้วเขำจะเอำอะไรมำเขียนเพื่อสื่อสำรกับคนตำดีหรือกับคน ตำบอดกันเองได้อย่ำงไร หรือเขำจะอ่ำนหนังสือของคนตำดีได้อย่ำงไร แล้วคน ตำดีจะสื่อสำรกับคนตำบอดด้วยวิธีใด
2
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
อักษรเบรลล์คืออะไร อักษรเบรลล์คือ ตัวหนังสือสำหรับคนตำบอด โดยใช้กำรรวมกลุ่มของ จุด นู น ที่อยู่ บ นกระดำษให้ ค นตำบอดสั มผั ส ด้ วยปลำยนิ้ วมื อ ผู้ คิ ดประดิษ ฐ์ อักษรเบรลล์คนแรกคือคนตำบอดชื่อ หลุยส์เบรลล์ ชำวฝรั่ งเศส คิดประดิษฐ์ ในปี พ.ศ. 2367 หลุ ยส์ เบรลล์ ตำบอดเนื่ องจำกอุบัติเหตุ เมื่ออำยุ 3 ขวบ เบรลล์ได้ควำมคิดมำประดิษฐ์อักษรของคนตำบอดจำกวิธีกำรส่งข่ำวสำรทำง ทหำรของกัปตันชำร์ล ปำบีเอร์ นำยทหำรของกองทัพบกฝรั่งเศส ซึ่งระบบของ ทหำรเป็นกำรที่ใช้รหัสจุด ขีด นูน บนกระดำษแข็ง เบรลล์จึงนำวิธีกำรมำใช้ กับกำรสร้ำงอักษรเบรลล์ภำษำอังกฤษ ประกอบด้วยอักษรภำษำอังกฤษทั้ง 26 ตัว รวมทั้งสร้ำงเครื่องหมำยวรรคตอน สัญลักษณ์คณิตศำสตร์ และโน้ตดนตรี เริ่ ม แรกครู ต ำดี ที่ นั่ น ส่ ว นใหญ่ ไม่ เห็ น ด้ ว ย แต่ 2 ปี ห ลั งจำกเบรลล์ เสี ย ชีวิ ต ระบบที่ เขำประดิ ษ ฐ์ ไ ด้รั บ กำรยอมรั บ และเป็ น ระบบที่ ใช้ ในกำรอ่ำนเขี ย น หนังสือสำหรับคนตำบอดทุกภำษำจนถึงปัจจุบัน และเมื่อกล่ำวถึงอักษรเบรลล์ ภำษำไทย ผู้ที่มีคุณู ป กำรต่อคนตำบอดในประเทศไทย และเป็นผู้ นำเข้ำมำ เผยแพร่ ในประเทศไทยคื อ มิ ส เยเนวีฟ คอลฟิ ล ด์ สตรีต ำบอดชำวอเมริกั น มิสคอลฟิลด์เป็นผู้ตั้งโรงเรียนสอนคนตำบอดกรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับ คนตำบอดแห่งแรกของไทย โรงเรียนได้ตั้งมำยำวนำนกว่ำ 75 ปี
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
3
ลักษณะของอักษรเบรลล์เป็นจุดดังภำพที่ 1 คือเป็นจุดนูนเล็ก ๆ
ภาพที่ 1 อักษรเบรลล์ (ที่มา : http://www.bloggang.com/data/a/atfirstclick/picture/1272611978.jpg)
และใน 1 ช่อง หรือเรียก 1 เซลล์ จุดนูนมี 6 จุด และเรียกจุด ดังภำพที่ 2
ภาพที่ 2 ลักษณะจุดอักษรเบรลล์ 1 เซลล์ (ที่มา : http://lib02.kku.ac.th/dsskku/images/stories/dss/braille 6 point.png)
4
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ส่ ว นกำรท ำให้ เกิ ด จุ ด เบรลล์ บ นกระดำษ ดั ง ภำพที่ 1 นั้ น ใช้ ส เลท (Slate) กับ สไตลัส (Stylus) คู่กัน สเลทเป็ น แผ่นรองที่จะให้ มีกำรกดจุดบน กระดำษ คือใช้สไตลัสที่มีปลำยเข็มกดลงไปเกิดเป็นรอยจุดนูนไปอีกด้ำนหนึ่ง ขึ้นมำ สเลทที่เป็นแผ่นรองนี้หรือเรียกว่ำ กระดำน ดังภำพที่ 3 ซึ่งอำจทำจำก แผ่นโลหะหรือพลำสติกสี่เหลี่ยมผืนผ้ำ 2 แผ่นประกบกัน แผ่นล่ำงมีหลุมเล็ก ๆ เรียงแถวกันตำมแนวยำวของแผ่นกระดำนเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 6 หลุม จำนวน 4 แถว มีช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ขนำดควำมกว้ำงเท่ำกับและตรงกับกลุ่มหลุมของ กระดำนแผ่นล่ำง ขอบภำยในของสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นั้นมีรอยหยักสำหรับเป็นแนว ให้ผู้ใช้เขียนจุดอักษรเบรลล์ได้ตรงกับหลุมของกระดำนแผ่นล่ำง กระดำนแผ่น ล่ำงมีปุ่มแหลมเล็ก ๆ สำหรับล็อคกระดำษให้แน่น โดยกระดำนแผ่นบนจะมีช่อง ตรงกันพอดี เพื่อให้คนตำบอดเอำสไตลั สมำกดลงในช่องเพื่ อสร้ำงจุดนูน เมื่อ พลิกกระดำษกลับมำอีกด้ำนหนึ่ง สเลทแผ่นเล็กกว้ำง 2 นิ้ว ยำวประมำณ 8 นิ้ว ครึ่ง ส่วนแผ่นใหญ่เท่ำกระดำษ A4
ภาพที่ 3 สเลท 2 แบบ อันแรกขนำดใหญ่และอีกอันมีขนำดเล็ก
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
5
สไตลัส (Stylus) หรือเรียกว่ำ ดินสอ ดังภำพที่ 4
ภาพที่ 4 สไตลัส
สไตลั สประกอบด้วย 3 ส่ วน ส่ วนแรก คือ ส่ วนหั ว มีลั กษณะเป็นไม้ หรือพลำสติกกลม ๆ พื้ น ผิ วข้ำงบนค่อนข้ำงแบน เพื่อรองรับ โคนนิ้ว ชี้เวลำ เขีย น ส่ วนที่ส อง คือ ส่ว นตัว ออกแบบมำให้ มีส่ วนโค้ง ส่ว นเว้ำ ส ำหรับให้ ปลำยนิ้วชี้ นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วกลำงช่วยกันประคองเวลำเขียน และส่วนที่ สำม คือ ส่วนปลำยเข็ม ปลำยของสไตลัสจะเป็นโลหะที่มีควำมแข็งแรงมำก ถูกออกแบบมำให้สำมำรถแทงทะลุกระดำษให้ตกลงไปในหลุมเล็ก ๆ บนสเลท ที่มีควำมพอดีกับขนำดของรอยหยัก และขนำดของหลุม
ภาพที่ 5 รูปกำรวำงสเลทและเอำสไตล์มำสร้ำงจุดนูนอักษรเบรลล์ (ที่มา : http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2009/10/ F8396514/F8396514-10.jpg)
6
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
เมื่อเริ่มเรียนอักษรเบรลล์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คนตำบอดที่เข้ำโรงเรียนที่เป็นเด็กเล็ก พ่อแม่บำงคนอำจเตรียมควำม พร้อมบ้ำงก่อนเข้ำเรีย นชั้น อนุ บำล หรือหำกเป็นผู้ ใหญ่ ที่ตำบอดเมื่อโตแล้ ว หรือเรียกว่ำคนตำบอดใหม่ (Newly Blind) โดยที่ควำมหมำยของคนตำบอด ในแง่ทำงกำรแพทย์และกำรเล่ำเรียนเป็นดังนี้ (ศูนย์กำรศึกษำพิเศษประจำจังหวัดสระแก้ว , 2557: ออนไลน์) ในทำง กำรแพทย์ คนที่บกพร่องทำงกำรมองเห็น หรือที่เรียกว่ำ คนตำบอด หมำยถึงผู้ ที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสง เห็นเลือนลำง และมีควำมบกพร่องทำงสำยตำทั้ง สองข้ำง โดยมีควำมสำมำรถในกำรมองเห็นได้ไม่ถึง 1/10 ของคนปกติ (10% ในกำรมองเห็ น เมื่อเทียบกับคนสำยตำปกติ) หลังจำกที่ได้รั บกำรรักษำและ แก้ไขทำงกำรแพทย์ หรือมีลำนสำยตำ (ระยะกว้ำงของกำรมองเห็น) กว้ำงไม่ เกิน 30 องศำ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ตำบอดสนิ ท หมำยถึ ง คนที่ ไม่ ส ำมำรถมองเห็ น ได้ เลย หรือ อำจ มองเห็นได้บ้ำงไม่มำกนัก ไม่สำมำรถใช้สำยตำ หรือไม่มีกำรใช้สำยตำให้เป็น ประโยชน์ในกำรเรียนกำรสอน หรือทำกิจกรรมได้ ต้องใช้ประสำทสัมผัสอื่น แทนในกำรเรียนรู้ และหำกมีกำรทดสอบสำยตำประเภทนี้ อำจพบว่ำสำยตำ ข้ำงดีส ำมำรถมองเห็ น ได้ในระยะ 200/20 (อัตรำวัดระดับกำรมองเห็ น คน ปกติเห็ น วัตถุชัดเจนระยะ 200 ฟุ ต คนตำบอดจะสำมำรถมองเห็ น วัตถุชิ้ น เดียวกันในระยะ 20 ฟุต) หรือน้อยกว่ำนั้น และมีลำนสำยตำโดยเฉลี่ยอย่ำง สูงสุดจะแคบกว่ำ 5 องศำ
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
7
2. ตำบอดไม่สนิท หรือบอดเพียงบำงส่วน สำยตำเลือนลำง หมำยถึง มี ควำมบกพร่องทำงสำยตำ สำมำรถมองเห็นบ้ำง แต่ไม่เท่ำคนปกติ เมื่อทดสอบ สำยตำประเภทนี้ จะมีสำยตำข้ำงดี สำมำรถมองเห็นได้ในระยะ 20/60 หรือ น้อยกว่ำนั้น และมีลำนสำยตำโดยเฉลี่ยอย่ำงสูงสุด จะกว้ำงไม่เกิน 30 องศำ บุ ค คลที่ มีค วำมบกพร่อ งทำงกำรเห็ น (กระทรวงศึก ษำธิก ำร, 2554: ออนไลน์) หมำยถึง บุคคลที่สูญเสียกำรเห็นจนไม่สำมำรถรับกำรศึกษำได้โดย กำรเห็นหรือใช้สำยตำได้ตำมปกติ แต่สำมำรถศึกษำเล่ำเรียนได้โดยวิธีกำรต่ำง ไปจำกคนที่มองเห็นปกติ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. คนตำบอด หมำยถึง บุคคลที่สูญเสียกำรเห็นมำกจนไม่สำมำรถอ่ำน หนังสือธรรมดำได้ ต้องสอนให้อ่ำนและเขียนอักษรเบรลล์ หรือใช้วิธีกำรฟัง แถบบันทึกเสียง หรือเครื่องบันทึกเสียงต่ำง ๆ และมีควำมสำมำรถในกำรเห็น ของตำข้ำงที่ดี หลั งจำกได้ รับ กำรแก้ ไขแล้ วอยู่ระหว่ำง 20/200 ฟุ ต มี ล ำน สำยตำแคบกว่ำ 30 องศำ 2. คนตำบอดบำงส่วน หรือคนที่มีกำรเห็นเลือนลำง หมำยถึง บุคคลที่ สูญเสียกำรเห็นแต่ยังสำมำรถอ่ำนอักษรตัวพิมพ์ที่มีขนำดใหญ่ได้ โดยต้องใช้ แว่นขยำยหรืออุปกรณ์พิเศษบำงอย่ำงที่ทำให้ควำมชัดเจนของกำรเห็นใน ข้ำง ที่ดี เมื่อแก้ไขแล้วอยู่ในระดับ 20/60 ฟุต ถึง 20/200 ฟุต มีลำนสำยตำแคบ กว่ำ 30 องศำ คนตำบอดบำงส่วน (Partially Sighted หรือ Partially Blind) หมำยถึง บุคคลที่ไม่ใช่คนตำบอดสนิท สำมำรถมองเห็นบ้ำง แต่มองเห็นไม่มำกนัก มี ส ำยตำเพี ย ง 20/70 ฟุ ต หรื อ น้ อ ยกว่ ำ ในดวงตำข้ ำ งที่ ดี ก ว่ ำ วั ด สำยตำ หลังจำกที่แก้ไขแล้ว (หลังจำกสวมแว่นตำ หรือแว่นขยำยแล้ว) นั่นคือ บุคคลผู้ นั้นสำมำรถมองเห็นวัตถุ หรือสิ่งของได้ในระยะไม่เกิน 70 ฟุต
8
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ส่ ว นองค์ ก ำรอนำมั ย โลกได้ ให้ ค ำนิ ย ำมเกี่ ย วกั บ คนที่ มี ค วำมพิ ก ำร ทำงกำรมองเห็นไว้ดังนี้ 1. คนสำยตำปกติ (Normal Vision) คือ คนระดับกำรมองเห็ นได้ชัด ระหว่ำง 6/6 ถึง 6/18 ในสำยตำข้ำงที่ได้รับกำรแก้ไขแล้ว 2. คนที่มองเห็นเลือนลำง (Low Vision) คือ คนที่มีระดับกำรมองเห็น ได้ชัดตั้งแต่ 3/60 ขึ้นไป แต่น้อยกว่ำ 6/18 หรือลำนสำยตำน้อยกว่ำ 20 องศำ ข้ำงที่ได้รับกำรแก้ไขแล้ว 3. คนตำบอด (Blind) คือ คนที่มีระดับกำรมองเห็นได้น้อยกว่ำ 3/60 หรือลำนสำยตำแคบกว่ำ 10 องศำ ในสำยตำข้ำงที่ได้รับกำรแก้ไขแล้ว จะเห็ น ว่ำกำรให้ คำจั ดควำมหรือคำนิ ย ำมของคนที่ มีควำมพิ กำรทำง สำยตำ หรือกำรมองเห็น ทั้งตำมพระรำชบั ญญัติฟื้นฟูสมรรถภำพคนพิกำร พ.ศ. 2534 หรือคำนิยำมที่นักกำรศึกษำทั่วไป หรือองค์กำรอนำมัยโลกให้ไว้ก็ดี แสดงว่ำคนพิกำรเหล่ำนั้นยังสำมำรถมีควำมหลงเหลือของกำรมองเห็นอยู่ เขำ เหล่ ำ นั้ น บำงคนยั ง สำมำรถมองเห็ น ได้ บ้ ำ ง เพี ย งแต่ ไ ม่ ดี เท่ ำ กั บ คนปกติ แม้กระทั่งคนที่ถูกเรีย กว่ำ คนตำบอด เขำมิได้มองไม่เห็ นโดยสิ้ นเชิง แต่จะ มองเห็นแสงได้บ้ำงเล็กน้อย ซึ่งต้องแยกแยะให้เห็นชัดเจนตำมแบบสำกล เมื่อคนตำบอดจะเริ่มเรียนอักษรเบรลล์คือ กำรอ่ำนและเขียน ครูต้อง สอนให้อ่ำนให้ได้ก่อนกำรเขียน จะอ่ำนอักษรเบรลล์ในภำษำไทย ก็ต้องจำว่ำ พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ในภำษำไทย อักษรเบรลล์ที่ใช้มำแทน ก ไก่ ข ไข่ และอื่น ๆ อะ อำ อิ อี ไม้เอก (-่), ไม้ โท (-้), ไม้ ต รี (-) และ ไม้ จัต วำ (-)นั้ น ประกอบด้วยจุดใดบ้ำงใน 6 จุดของ 1 เซลล์ เช่น ก ไก่ คือ จุด 1, 2, 4 และ 5 ส่วน ข ไข่ คือ จุด 1 และ 2 ดังภำพที่ 6 (a)
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ภาพที่ 6(a) อักษรเบรลล์พยัญชนะไทย
ภาพที่ 6(b) อักษรเบรลล์สระและวรรณยุกต์ไทย
9
10
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ภาพที่ 6(c) อักษรเบรลล์ภำษำอังกฤษ
ภาพที่ 6(d) อักษรเบรลล์ตัวเลขอำรบิค แสดงว่ำอักษรเบรลล์ไทยคือ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ แต่ละตัว ประกอบด้วยจุดใดบ้ำง ในภำษำไทยนั้นบำงตัวใช้เพียง 1 เซลล์ แต่บำงตัวใช้ 2 หรือ 3 เซลล์ มำแทน จึงจะได้ครบ รวม 87 ตัว แต่ในภำษำอังกฤษใช้เพียง 1 เซลล์ ก็เพียงพอที่จะแทนพยัญชนะ และวรรณยุกต์ 26 ตัว ส่วนตัวเลขจะมี กำรบอกว่ำจุดต่อไปนี้เป็นกำรแทนตัวเลข โดยมีเครื่องหมำยเป็นเบรลล์มำบอก เรียกเครื่องหมำยนำเลข ดังนั้นเลขทุกตัวจึงต้องใช้ 2 เซลล์ จำก ภำพที่ 6(a) พยัญชนะในภำษำไทย เมื่อแปลงเป็นอักษรเบรลล์มีตั้งแต่ใช้ 6 จุด ใน 1 เซลล์
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
11
แรกเท่ำนั้น หรือใช้ 2 เซลล์ และมำกที่สุดใช้ 3 เซลล์ สระมีทั้งกำรใช้ 1 เซลล์ หรือ 2 เซลล์ หรือใช้ 3 เซลล์ ในฤำ และฦำ ส่วนขีดกลำง ( - ) กับขีดล่ำง ( _ ) ก็ใช้ 3 เซลล์ มำประกอบกัน ดังนั้น จึงได้ว่ำคนตำบอดที่ไม่เคยเห็นพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ไทย จะเขียนภำษำไทยไม่ได้ คนตำบอดจึงต้องจดจำอัก ษร เบรลล์ด้วยกำรจำจุดต่ำง ๆ ใน 3 เซลล์ เหล่ำนี้ให้ได้ โดยกำรใช้กำรอ่ำนก่อน แล้ว จึงไปเขียนด้วยสเลทกับสไตลัส โดยที่ภำษำไทยมีเสียงที่ผู้อ่ำนออกเสียง ตรงกับรูปของพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ ก่อนที่ผู้เขียนและทีมงำนวิจัยเริ่มทำงำนวิจัยเรื่อง “เครื่องช่วยเรียนรู้ อักษรเบรลล์ภำษำไทย” ได้ไปสังเกตและสัมภำษณ์ครูผู้สอนและนักเรียนคนตำ บอด ที่โรงเรียนสอนคนตำบอดกรุงเทพ และโรงเรียนธรรมิกวิทยำเพื่อคนตำ บอด จั งหวัดเพชรบุ รี พบว่ำเด็ก เล็ ก ที่ ตำบอด ทั้ งตำบอดสนิ ท และตำบอด เลือนลำง ที่เริ่มเข้ำมำเรียน บำงคนพ่อแม่ได้เตรียมตัวมำบ้ำง แต่มักเป็นเรื่อง กำรใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อผู้เขียนและทีมวิจัยได้มีกำรสังเกตพบว่ำ สำหรับคน ตำบอดหำกไม่มีควำมพิกำรซ้ำซ้อนด้ำนสติปัญญำหรือด้ำนอื่น ๆ แทรกด้วย จะสำมำรถเรียนรู้ได้เท่ำกับ หรือใกล้เคียงกับคนทั่วไป เพียงแต่ต้องกำรควำม ช่วยเหลือพิเศษในด้ำนวัสดุอุปกรณ์ และบริกำรอื่นเสริมบ้ำง โดยครูผู้สอนในชั้นเรียนอนุบำล 2 และ ป.1 ครูผู้สอนมีวิธีกำร เช่น ต้องมีกำรอธิบ ำยและพูดซ้ำหลำย ๆ ครั้ง เนื่ องจำกยังเป็นเด็กเล็ ก ส่ วนชั้น เรียนที่โตขึ้นมำพบว่ำ กำรเรียนกำรสอนในห้องเรียนครูผู้สอนได้อธิบำยสื่อที่ เป็นรูปภำพหรือข้อควำมต่ำง ๆ อย่ำงละเอียดชัดเจนมำกที่สุด เพื่อให้โอกำส นักเรียนได้จินตนำกำรตำม และได้ถำมนักเรียนเป็นระยะว่ำเรียนทันหรือไม่ ต้องกำรให้อธิบำยส่วนใดเพิ่มเติม ส่วนเอกสำรสำหรับนักเรียนสำยตำเลือนลำง
12
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
เป็ น ตั ว อั ก ษรที่ ข ยำยใหญ่ ในกำรเรี ย นบำงวิ ช ำมี ก ำรใช้ เครื่ อ งช่ ว ยในกำร มองเห็ น เช่ น เครื่ อ งขยำยตั ว อั ก ษรผ่ ำ นจอโทรทั ศ น์ ห รื อ จอคอมพิ ว เตอร์ (คอมพิวเตอร์ที่นักเรียนสำยตำเลือนรำงใช้จะมีโปรแกรมขยำยจอภำพ ซึ่งจะ ทำให้ตัวอักษรบนหน้ำจอมีขนำดใหญ่ขึ้นตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้ ) กำรเขียน กระดำนหรือแสดงรูปภำพในกำรเรียนกำรสอนนักเรียนสำยตำเลือนลำงนั้น ครูผู้สอนใช้สีที่ตัดกัน เช่น หำกกระดำนเป็นสีขำว ปำกกำที่ใช้ควรเป็นสีดำหรือ น้ำเงิน หำกเป็นรูปภำพควรแสดงให้เห็นเส้นตัดต่ำง ๆ อย่ำงชัดเจน ส่วนในกำร สอบครูผู้สอนสำมำรถเลือกใช้วิธีกำรสอบได้หลำยวิธี เช่น ฟังหรืออ่ำนคำถำม จำกคอมพิ ว เตอร์ โดยใช้ โปรแกรมช่ ว ยอ่ ำ นเทปเสี ย งอั ก ษรเบรลล์ หรือ ให้ อำสำสมัครช่วยอ่ำนข้อสอบ กำรตอบคำถำมจำกข้อสอบสำมำรถใช้วิธีกำรตอบ โดยพิมพ์คำตอบบนหน้ำจอคอมพิวเตอร์ เขียนตอบเป็นอักษรเบรลล์อัดเสียง ลงเทปเสียงหรือตอบปำกเปล่ำ แล้วให้อำสำสมัครเขียนคำตอบตำมคำพูดนั้น จำกกำรสังเกตกำรสอนในโรงเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบำล 2 จนถึงมัธยมศึกษำปีที่ 6 จึงสรุปได้ว่ำ ส่วนใหญ่พ่อแม่ยังไม่ได้สอนกำรอ่ำนเขียนมำเลย ดังนั้นจึงเป็น หน้ำที่ของครูผู้สอนชั้นอนุบำล 2 (โรงเรียนทั้งสองนี้เริ่มรับเด็กเล็กที่ชั้นอนุบำล 2 จนถึงมัธยมศึกษำปีที่ 6 และไม่มีชั้นอนุบำล 1) โรงเรียนทั้งสองเป็นโรงเรียน ประจ ำ แต่ มีเด็ ก เล็ กบำงคนพ่อ แม่ยั งคงมำรับ ส่ งลู ก ดังนั้ นกำรสอนให้ อ่ำน อักษรเบรลล์จึงเป็นหน้ำที่ของครูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งครูได้สอนให้อ่ำนก่อนเขียน จึงต้องให้เด็กจดจำว่ำอักษรเบรลล์ที่แทน ก ไก่ ข ไข่ และอื่น ๆ ประกอบด้วย จุดต่ำง ๆ ใน 6 จุด คืออะไรบ้ำง และภำษำไทยบำงตัวต้องจำว่ำ มีกี่เซลล์ด้วย อุปกรณ์ที่ให้เด็กใช้มือสัมผัสจดจำได้แก่ แผ่นผ้ำที่มีขนำดใหญ่พอควร และมีปุ่ม จุดบนผ้ำที่ใช้แทนอักษรเบรลล์ หรือเป็นแท่งไม้ที่มีปุ่มปมเช่นกัน ดังภำพที่ 7
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
13
ภาพที่ 7 แท่งไม้ไว้ให้ผู้เรียนสัมผัสจดจำอักษรเบรลล์ (ที่มา : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/54/ DSC_4050-MR-Braille.jpg/200px-DSC_4050-MR-Braille.jpg)
ในกำรเรียนอักษรเบรลล์ภำษำไทยที่โรงเรียนทั้งสองนี้ ครูต้องสอนให้ นักเรียนจำจุดต่ำง ๆ ให้ได้ก่อนว่ำแต่ละอักขระของภำษำไทยมีจุดอะไรบ้ำง แล้วจึงสอนให้เขียนด้วยสเลทกับสไตลัสบนกระดำษ เมื่อเด็กจดจำอักขระทั้งหมดคือ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ ได้ แล้ว จึงสอนให้ประสมออกมำเป็นคำ และจดจำตัวเลขและเครื่องหมำยวรรค ตอนต่ำง ๆ ในกำรสอนเป็นกำรสอนตัวต่อตัว แต่ละห้องมีเด็กตำบอดไม่เกิน 12 คน เพื่อให้ทุกคนจดจำได้ ครูจึงต้องเอำใจใส่เป็นอันมำก เปรียบได้กับเด็ก สำยตำปกติที่พ่ อแม่ห รื อครู ต้องจับ มือวำงท่ำทำงกำรเขียนให้ เด็กจับดิน สอ เพื่อให้จำตั้งแต่ ก ไก่ ข ไข่ และสอนให้จดจำแต่ละตัวทุก ๆ ตัว แต่เด็กสำยตำ ปกติเขำมองในกระดำนได้เมื่อครูบอกให้เขียน ดังนั้นคนตำดีจดจำภำษำไทยได้ จำกกำรเขียน ส่วนคนตำบอดจดจำได้จำกกำรสัมผัส หรือกำรอ่ำนปุ่มจุดใน 6 จุด ของ 1 เซลล์ (บำงพยัญชนะใช้ 2 หรือ 3 เซลล์) ซึ่งกำรเรียนบำงคนที่ตั้งใจ
14
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
สนใจก็ ส ำมำรถเรี ย นได้ เป็ น ปกติ แต่ มี บ ำงคนที่ เรี ย นได้ อ ย่ ำ งเชื่ อ งช้ ำ ซึ่ ง ครูผู้สอนจึงได้ขอให้ทีมวิจัยประดิษฐ์เครื่องที่เมื่อเด็กตำบอดสัมผัสหรือกดลงไป ยังปุ่ มต่ำง ๆ ที่แทนอักษรเบรลล์ ภ ำษำไทยแล้วมีเสียงบอก เนื่องจำกคนตำ บอดเป็นผู้ที่มีประสำทสัมผัสด้ำนฟังเป็นเยี่ยมกว่ำคนตำดีเป็นอันมำก และทีม วิจัยพบว่ำอุปกรณ์สอนกำรอ่ำนเขียนที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พัฒ นำจำกอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่สร้ำงขึ้นให้คนตำบอดที่ต้องรู้อักษร เบรลล์ในภำษำไทย อังกฤษ หรือภำษำของแต่ละชำตินั้นแล้ว ซึ่งหมำยควำมว่ำ ผู้ ที่ จ ะใช้ อุ ป กรณ์ เหล่ ำ นั้ น เป็ น ผู้ ที่ อ่ ำนและเขี ย นอั ก ษรเบรลล์ ได้ แ ล้ ว เช่ น หนังสือหรือเอกสำรที่เป็นอักษรเบรลล์สื่อภำพนูน หนังสือเสียงระบบ DAISY โปรแกรมเปล่งเสียงสังเครำะห์ (ตำทิพย์และ Jaws for Windows) เครื่องจด บันทึกอักษรเบรลล์ เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์ (Braille Display) สำหรับสื่อ และเทคโนโลยีอำนวยควำมสะดวก สำหรับนักศึกษำที่มีควำมบกพร่องทำงกำร มองเห็น (สำยตำเลือนลำง) มีดังต่อไปนี้ หนังสือหรือเอกสำรขยำยใหญ่ แว่น ขยำย โปรแกรมขยำยตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ (Zoom tect) เครื่องอ่ำน ตัวอักษรขยำยใหญ่ (CCTV) แต่อุปกรณ์ที่สนับสนุนกำรสอนเด็กเล็กหรือคนตำ บอดใหม่ให้เริ่มเรียนอักษรเบรลล์ยังไม่ปรำกฏเลย
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
15
การสร้างเครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ภาษาไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และภาษาอื่น ๆ หลุยส์ เบรลล์ สร้ำงอักษรเบรลล์ โดยเน้นกำรใช้กำรสัมผัสรหัสจุด ที่มี ใช้อยู่ในทำงกำรทหำรที่เรียกว่ำ กำรเขียนในควำมมืด (Night Writing) ของ นำยพลชำร์ล ปำบีเอร์ เพื่อตอบสนองและปฏิบัติตำมคำสั่งของนโปเลียน ที่ให้ ทหำรสื่อสำรโต้ตอบกัน โดยกำรเคลื่อนไหวในตอนกลำงคืนอย่ำงเงียบสงบ โดย ระบบของ ปำบีเอร์ มี 12 จุด ใน 1 เซลล์ ที่ใช้แทนเสียงแตกต่ำงกัน 36 เสียง เบรลล์ ได้ปรับระบบให้มีเพียง 6 จุด ใน 1 เซลล์ โดยมีเหตุผลว่ำถ้ำเป็นกำร แทนเสียง รหัสจะไม่สำมำรถออกมำเป็นคำที่มีควำมหมำยได้ เพรำะคำที่มีคำ หมำยต้องมีพ ยัญ ชนะ และสระ รวมทั้งตัวสะกดด้วย และเนื่องจำกนิ้วของ คนเรำไม่สำมำรถสัมผัสจุด 12 จุด โดยไม่มีกำรขยับตัวเนื่องจำกจุด 12 จุด มี จำนวนมำกเกินไปกับกำรสัมผัสครั้งหนึ่งของคนเรำ อักษรเบรลล์ไทยใช้สื่อสำรกันระหว่ำงคนตำบอดในประเทศไทย โดย กำรเขียนด้วยสเลทกับสไตลัส หรือใช้สำหรับแปลงเอกสำรไม่ว่ำจะเป็นหนังสือ ของคนตำดี ออกมำเป็ น หนั ง สื อ ที่ เป็ น อั ก ษรเบรลล์ ด้ ว ยกำรใช้ ก ำรพิ ม พ์ นอกจำกนี้ส่วนใดหรือสิ่งใดของเครื่องใช้และอุปกรณ์ของคนตำดีที่ต้องกำรให้ คนตำบอดอ่ำนเข้ำใจ ก็ต้องใช้อักษรเบรลล์ในกำรสื่อสำร ดังภำพที่ 8-10
16
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ภาพที่ 8 รูปหนังสือเป็นเล่มที่พิมพ์เป็น อักษรเบรลล์ไทย (ที่มา : http://thai.frf.or.th/wp-content/ uploads/2013/07/DSC_2761.jpg)
ภาพที่ 9 รูปอักษรเบรลล์ไทย แนะนำกำรใช้ แชมพูบนขวดแชมพู (ที่มา : http://www.thaifc.net/wpcontent/uploads/2012/02/brel.jpg)
ภาพที่ 10 รูปอักษรเบรลล์ไทยทีป่ รำกฏใน กำรบอกชั้นในลิฟต์ (ที่มา : http://2g.pantip.com/cafe/ blueplanet/ topic/E12512422/E12512422-36.jpg)
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
17
การอ่านเขียนอักษรเบรลล์ภาษาไทย เมื่ อผู้ เขีย นและที ม วิจั ย สร้ ำงกล่ องเรี ย นรู้อัก ษรเบรลล์ ไทยให้ มี เสี ย ง ออกมำตรงตำมจุดต่ำง ๆ ในเซลล์ทั้ง 3 ของภำษำไทย จึงมีควำมสะดวกกว่ำใน บำงภำษำของคนตำดีที่รูป ของอักษรต้องมีตัวบอกเสียง (Phoneticism) อีก ครั้งหนึ่ งก่อน คนอ่ำนอักษรหรืออักขระนั้ น ๆ ต้องออกเสี ยงตำมรู ป เสี ยงที่ กำกับกับอักษร ดังเช่น ในภำษำจีน แต่ในภำษำไทยเนื่องจำก ก ไก่ ที่คนตำ ปกติเห็นก็มีเสียงอ่ำนเป็น กอ ออกมำ ตำมรูปของอักษร ก หรือเช่น ย ยักษ์ ก็ มีเสี ย งอ่ำนเป็ น เสี ย ง ยอ ตำมรู ป และเมื่ อ น ำมำประสมให้ เกิ ดเป็ น ค ำ เช่ น พยัญชนะ ก ประสมสระ ออ และตัวสะกดคือพยัญชนะ ด อ่ำนว่ำ กอด เมื่อผู้เขียนและทีมงำนวิจัยเข้ำใจถึงหลักกำรอ่ำนเขียนของอักษรเบรลล์ ภำษำไทยที่ว่ำ อักษรเบรลล์มีกำรประสมคำเหมือนกับกำรประสมคำตำมหลัก วิ ช ำภำษำไทย เช่ น ต้ อ งกำรสร้ ำ งอั ก ษรเบรลล์ ภ ำษำไทยค ำว่ ำ ก้ ำ น ซึ่ ง ประกอบด้วยพยัญชนะ สระ ตัวสะกด และวรรณยุกต์ ในที่นี้ ใช้ 3 เซลล์ในแต่ ละอักษร เพรำะอักษรเบรลล์ภ ำษำไทยมีเซลล์ที่มำประกอบกันมำกที่สุ ด 3 เซลล์ ดังนี้
แทน ก
แทน สระอำ
แทน น
แทน ไม้โท
ภาพที่ 11 กำรสร้ำงอักษรเบรลล์ภำษำไทย คำว่ำ ก้ำน
18
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
และคำว่ำเศรษฐี จะประกอบด้วยอักษรเบรลล์ดังนี้
เ
ศ
ร
ษ
ฐ
ภาพที่ 12 กำรสร้ำงอักษรเบรลล์ภำษำไทย คำว่ำ เศรษฐี
จำกกำรทำควำมเข้ำใจในเรื่องกำรแปลงอักษรภำษำไทยปกติ ไปเป็น อักษรเบรลล์ ที่ประกอบด้วยพยัญ ชนะ สระ วรรณยุกต์ และมีตัวสะกดแล้ ว จึงได้ออกแบบหน้ำของกล่องเครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ภำษำไทย ที่นำมำ ให้เด็กตำบอดฝึกจดจำและเรียน โดยกำรกดจุดใน 3 เซลล์แต่ละครั้ง เพื่อให้ ออกเสี ย งเป็ น พยั ญ ชนะ จ ำนวน 44 ตั ว สระ จ ำนวน 38 ตั ว วรรณยุ ก ต์ จำนวน 4 ตัว และพัฒ นำให้มีตัวสะกดประสมออกมำเป็นคำ ภำยในกล่องมี กลไกลอิเล็กทรอนิกส์ และโปรแกรมออกเสียงตำมที่เด็กตำบอด หรือผู้ใช้กดลง บนจุดต่ำง ๆ โดยใช้เทคนิคกำรแปลงอักษรหรือข้อควำมมำเป็นเสียง (Text to Speech) และใช้ระบบปฏิบัติกำรแอนดรอยด์มำทำกำรประมวลผลโปรแกรม เมื่อผู้พิกำรทำงสำยตำจดจำอักษรเบรลล์ทั้งพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ได้แล้ว ในกำรเขียนอักษรเบรลล์ภำษำไทย เขียนเหมือนสมัยพ่อขุนรำมคำแหง คือ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์เรียงอยู่ในบรรทัดเดียวกัน และมีหลักเกณฑ์ ที่ครูผู้สอนอธิบำยให้นักเรียนตำบอดเข้ำใจโดยกำรอธิบำย นอกจำกนี้ในภำษำอังกฤษยังมีอักษรตัวใหญ่ (Capital) และอักษรตัว เล็กที่มีกำรใช้จุด 6 มำกำกับบอกก่อนตัวอักษรเบรลล์อังกฤษว่ำต่อไปนี้เป็นตัว
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
19
ใหญ่ และยั งมีเครื่องหมำยวรรคตอนต่ำง ๆ เช่น Full stop และอื่น ๆ ซึ่งผู้ พิกำรทำงสำยตำต้องจดจำ และยังมีตัวย่อ เช่น คำว่ำ people ใช้ตัว p แทน และอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่ำนี้ครูผู้สอนก็จะสอนในชั้นเรียน โดยกำรบอกอธิบำยแล้ว ให้ฝึกอ่ำนเขียน จำกประสบกำรณ์กำรอ่ำนและเขียนซ้ำ เด็กตำบอดก็จะจดจำได้ ในกำรจัดทำส่วนอักษรเบรลล์ภำษำอังกฤษของเครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ก็ เช่นเดียวกับภำษำไทย โดยที่ภำษำอังกฤษที่อ่ำนได้โดยคนสำยตำปกติ มีรูป พยัญชนะ และสระ ที่ตรงกับกำรออกเสียง เช่น ตัวพยัญชนะ c ออกเสียงว่ำ ซี ตัวสระ a ออกเสียงว่ำ เอ และตัวสะกด t ออกเสียงว่ำ ที และนำมำจัดทำเป็น อักษรเบรลล์และประสมคำเป็น cat นั่นเอง
c
a
t
ภาพที่ 13 กำรสร้ำงอักษรเบรลล์ภำษอังกฤษ คำว่ำ cat
ในที่นี้ แม้ว่ำอักษรเบรลล์ภำษำอังกฤษใช้เพียง 1 เซลล์ แต่หน้ำกล่อง เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ที่ผู้เขียนและทีมงำนวิจัยจัดทำขึ้นนั้น ในกล่อง เดียวสำมำรถเรียนได้หลำยภำษำตำมแต่โปรแกรมที่ใส่ในกล่อง ซึ่งครูผู้สอนจึง ต้ อ งใช้ วิ ธี อ ธิ บ ำยแก่ เด็ ก ตำบอดผู้ เรี ย นว่ ำ เมื่ อ กดปุ่ ม เปลี่ ย นภำษำแล้ ว ภำษำอังกฤษให้ ใช้กำรกดเพื่ อออกเสีย งพยัญ ชนะ สระ และตัวสะกด เพียง เซลล์เดียว และจะได้เสียงอ่ำนของคำนั้น ๆ ออกมำด้วย ส่วนอักษรเบรลล์ภำษำจีน (พินอินหรือฮั่นยฺหวี่พินอิน แปลว่ำสะกด เสี ย งภำษำจีน ) คือระบบในกำรถอดเสี ยงภำษำจีน มำตรฐำน ด้ว ยตัว อักษร
20
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
โรมันควำมหมำยของพินอิน คือ "กำรรวมเสียงเข้ำด้วยกัน" ในปี พ.ศ. 2522 องค์กำรมำตรฐำนนำนำชำติ (ISO) ก็ได้รับเอำพินอินเป็นระบบมำตรฐำน (ISO 7098) ในกำรถ่ำยทอดเสียงภำษำจีนปัจจุบันด้วยอักษรโรมัน สิ่งสำคัญที่ต้อง ระลึกไว้ก็คือ พินอิน นั้น เป็นกำรทับศัพท์ด้วยอักษรโรมัน (Romanization) มิใช่กำรถอดเสียงแบบภำษำอังกฤษ (Anglicization) นั่นคือ กำรกำหนดให้ใช้ ตัวอักษรตัวหนึ่ง สำหรับแทนเสียงหนึ่ง ๆ ในภำษำจีนไว้อย่ำงตำยตัว เช่น b และ d ในระบบ พินอิน เป็น เสียง "ป" และ "ต" ตำมลำดับ ซึ่งแตกต่ำงจำก ระบบกำรออกเสี ย งส่ ว นใหญ่ ไม่ ว่ำอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือภำษำอื่น ในยุโรป ขณะที่อักษร j หรือ q นั้น มีเสียงไม่ตรงกับในภำษำอังกฤษเลย กล่ำวสั้น ๆ ก็คือ พินอินมุ่งที่จะใช้อักษรโรมัน เพื่อแทนเสียงใดเสียงหนึ่งโดยเฉพำะ เพื่อ ควำมสะดวกในกำรเขียน มิได้ยืมเสียงจำกระบบของอักษรโรมันมำใช้ กำรใช้ ระบบนี้ นอกจำกท ำให้ ช ำวต่ ำ งชำติ เขี ย นอ่ ำ นภำษำจี น ได้ ส ะดวกแล้ ว ยังสำมำรถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกอย่ำงยิ่งด้วย กำรถอดเสียงภำษำจีน (ที่เขียนด้วยอักษรโรมันในระบบพินอิน) ด้วย อักษรไทย มีข้อสังเกตว่ำ บำงหน่วยเสียงในภำษำจีนไม่มีหน่วยเสียงที่ตรงกัน ในภำษำไทย จึงต้องอนุโลมใช้อักษรที่ใกล้เคียง ในที่นี้จึงมีอักษรไทยบำงตัว ที่ ต้ อ งใช้ แ ทนหน่ ว ยเสี ย งในภำษำจี น มำกกว่ ำหนึ่ งหน่ ว ยเสี ย ง ทั้ งนี้ เพื่ อ เป็ น "เกณฑ์อย่ำงคร่ำว ๆ" สำหรับกำรเขียนคำทับศัพท์ภำษำจีน เนื้อหำของพินอิน ประกอบด้วยต้นพยำงค์ (เสียงพยัญชนะต้น) ท้ำยพยำงค์ (เสียงสระและเสียง พยัญชนะสะกด) กำรถอดเสียงวรรณยุกต์ และกำรใส่วรรณยุกต์ เนื่ อ งจำกภ ำษ ำจี น เขี ย นด้ ว ยอั ก ษรเป็ น จ ำนวนหมื่ น อั ก ขระ (Characters) ซึ่งไม่สำมำรถแสดงด้วยกำรรวมของจุด 6 จุด ในอัก ษรเบรลล์
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
21
ซึ่งอักษรเบรลล์จีนบันทึกเสียงของภำษำ โดยมีกำรคำนึงถึงเรื่องที่ต้องให้ทรำบ ควำมแตกต่ำงของคำที่เสียงเหมือนกัน และให้ผู้อ่ำนทรำบถึงควำมหมำยของ ภำษำ (Semantic Information) ที่อยู่ในอักษรเบรลล์ที่เขียน เนื่ อ งจำกภำษำจี น ไม่ มี อั ก ขระและในสั ญ ลั ก ษณ์ เบรลล์ 63 ตั ว ที่ แตกต่ำงกันนี้ใช้แสดงเสียงของภำษำจีนแต่ละพยำงค์ (Syllable) ของภำษำจีน ที่สอดคล้องกับอักขระหนึ่งตัวจึงใช้เขียนด้วยเซลล์จำนวน 3 เซลล์ เซลล์แรก เป็นพยัญชนะต้น (Consonant) และตัวสะกดตัวสุดท้ำย (Final Vowel) และ ตำมด้วยเสียง (Tone) โดยมีกำรคล้ำยกับกำรเขียนพินอินเสียงสำมัญไม่ต้องทำ เครื่องหมำยในเบรลล์ จำกเซลล์ทั้งหมดที่เป็นไปได้ 63 เซลล์ ทำให้สร้ำงเป็น รหัสเบรลล์ 6 จุดขึ้น โดยใช้ 52 ตัว สำหรับพยัญชนะต้นและตัวสะกด (Initials and Finals) และ 4 ตั ว ส ำหรั บ วรรณยุ ก ต์ (Tone Mark) และอี ก 6 ตั ว สำหรับให้จุดมำทำกำรรวมกัน เพื่อแสดงเครื่องหมำยวรรคตอน (Punctuation) และตัวเลข (Numbers) แต่วรรณยุกต์มักละเว้นเพื่อประหยัดช่องว่ำง และกำร ลดจำนวนของเซลล์จำเป็นต้องเขียนหนึ่งพยำงค์จำกที่เป็นสำมหรือสองพยำงค์ ต่อไปเป็ นตัวอย่ำงเบรลล์จีนที่ใช้คำแทน “เชงเตี้ยว” (Shengdiao) ช่องว่ำง (Spaces) ใช้ร ะหว่ำงค ำเพื่ อกำรแยกขอบเขตแต่ ไม่ ใช่ระหว่ำงขอบเขตของ พยำงค์ จึงไม่มีช่องว่ำงระหว่ำง Sheng และ diao เนื่องจำกต้องใช้สองเสียงจึง กลำยเป็น 1 คำ ดังภำพที่ 14
sh eng 1st tone
d
iao
4th tone
ภาพที่ 14 คำว่ำ Shengdiao (เชงเตี้ยว)
22
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ในอักษรเบรลล์จีนได้ใช้หลำย ๆ วิธี ในกำรลดช่องว่ำงเพื่อทำให้เกิดเป็นตัวอ่ำน (Text) ขึ้ น มำ กำรลดช่ อ งว่ ำ งมี ค วำมส ำคั ญ เพื่ อ เพิ่ ม ควำมเร็ ว ในกำรอ่ ำ น เนื่องจำกควำมเร็วในกำรอ่ำนเบรลล์พยำยำมให้มีควำมคงที่โดยวัดเป็นเซลล์ต่อ นำที (Cell/Minute) ดังนั้นกำรลดจำนวนเซลล์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในกำรเขียนตัว อ่ำน (Text) 1 ตัว และเป็ น กำรลดเวลำในกำรอ่ำนด้ว ย เนื่องจำกกำรอ่ำน เบรลล์จะช้ำกว่ำกำรอ่ำนพิมพ์อักษรปกติ ดังนั้นควำมเร็วแม้เล็กน้อยจึงมีค่ำ และทำให้เกิดควำมจำเป็นในกำรเรียนด้วย ทำให้ผู้ที่สำยตำพิกำรสำมำรถเรียน ได้ทัน กับคนสำยตำปกติ ซึ่งมีกำรลดวรรณยุกต์ มีกำรใช้ตัวย่อ ตัวอย่ำงเช่น ตัวสะกดถูกเอำออกจำกคำที่เป็นสองพยำงค์ ( A Two-syllable Word) และ ตัว ย่ อ จะใช้ พ ยั ญ ชนะต้ น ของแต่ ล ะพยำงค์ วลี ที่ ห มำยถึ ง “ไม่ โดยเด็ ด ขำด (Absolute Not)” ห รื อ “bingbu บิ งบู้ ” ( 并不 ) ย่ อ เป็ น bb ซึ่ ง ลด จำนวนสัญลักษณ์อักษรเบรลล์ที่เป็นโรมัน จำก 6 ตัว เหลือเพียง 2 ตัว กำรเขียนอักษรเบรลล์ภำษำจีน จำกภำษำจีนที่ใช้กำรถอดเสียงที่เป็น ระบบพินอิน (กำรทับศัพท์ด้วยอักษรโรมันหรือภำษำอังกฤษ) หรือเป็นระบบ ภำษำจีนมำตรฐำนในจีนแผ่นดินใหญ่ เรียง จู อิน (ZHUYIN : BOPOMOFO) ยังมีเรื่องรำยละเอียดปลีกย่อยในกำรแปลงมำเป็นอักษรเบรลล์จีน เช่น เรื่อง อักษรคนละตัวแต่ออกเสียงเหมือนกัน (Homophones) เช่น คำว่ำ he, she และ it ในภำษำอังกฤษ มำเป็นภำษำจีน อ่ำนว่ำ ta (m) เหมือนกัน แต่เขียน ต่ำงกัน ในอักษรเบรลล์จีนจึงมีกำรกำหนดเซลล์ขึ้นมำให้บอกควำมแตกต่ำง ของทั้ง 3 คำ เพื่อไม่ให้เกิดควำมสับสนว่ำหมำยถึงตัวใด ดังภำพที่ 15
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
t
a
t
a 1st tone (comma)
t
a
23
ภาพที่ 15 (a), (b) และ (c) ที่มีกำรบอกควำมหมำยของคำว่ำ ta (m)
ดั งนั้ น ในกำรจั ด ท ำกล่ อ งเครื่ อ งช่ ว ยเรี ย นรู้ อั ก ษรเบรลล์ ส่ ว นของ ภำษำจี น ครู ผู้ ส อนจึ ง ต้ อ งใช้ วิ ธี อ ธิ บ ำยแก่ เด็ ก ตำบอดเช่ น กั น และกล่ อ ง เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์นี้เนื่องจำกมุ่งหวังเป็นอุปกรณ์ที่จะส่งเสริมกำร จดจำแก่เด็กตำบอดที่เริ่มต้นเรียนอักษรเบรลล์
ภาพที่ 16 เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ที่จัดทำขึ้น
24
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์ที่จัดทำขึ้นสำมำรถเรียนรู้ได้หลำยภำษำ ตำมที่ผู้สร้ำงได้ใส่โปรแกรมภำษำเหล่ำนั้นไว้ เป็นกล่องที่ใส่หรือฝังชุดอุปกรณ์ ที่ป ระกอบด้ว ยส่ ว นของสวิตช์ ทำหน้ ำที่ในกำรรับรหั สในกำรกด โดยเชื่อม ต่อไปยังส่วนของกำรประมวลผลให้มีกำรตัดสินใจออกเสียง ซึ่งเป็นแอพพลิเคชัน ที่ติด ตั้งบนระบบปฏิ บั ติก ำรแอนดรอยด์ โดยผู้ ใช้งำนสำมำรถเรียนรู้อั กษร เบรลล์ ผ่ ำ นกำรกดบนส่ ว นของสวิ ต ช์ ที่ อ ยู่ บ นกล่ อ ง โดยส่ ว นของกล่ อ ง ประกอบไปด้วย(1) ชุดปุ่ มหรือแผ่ นแป้น กดจำนวนหนึ่ง มีลั กษณะเป็นแผ่ น ขนำดต่ำง ๆ ที่ใส่หรือฝังอยู่ในกล่อง ทำหน้ำที่รับรหัสให้ส่วนของประมวลผลที่ อยู่ในแอพพลิเคชันเกิดกำรโต้ตอบกันได้ (2) ส่วนแอพพลิเคชันที่พัฒ นำขึ้ นมี หลักกำรคือ รับข้อมูลเป็นรหัสใด ๆ จำกแป้นปุ่มกด จำกนั้นบันทึกข้อมูลที่รับ จำกแป้ น ปุ่ มกดน ำไปเทีย บกับ ข้อมูลในโปรแกรม เพื่อที่จะเข้ำกระบวนกำร เปล่งเสียง โดยใช้แอพพลิเคชัน SVOX (3) สวิตช์เปิด-ปิด บอกควำมพร้อมของ เครื่อง โดยมีสัญ ญำณไปบอกบุคคลสำยตำปกติว่ำพร้อมแล้ว และเสี ยงที่ดัง ออกมำเพื่อเป็นสัญญำณให้ผู้พิกำรทำงสำยตำรับรู้ว่ำใช้งำนได้แล้ว (4) ส่วนต่อ กับแหล่งจ่ำยพลังงำนผ่ำน Adaptor ที่ต้องจ่ำยกำลังไฟขนำด 4-5 โวลต์ ไป เลี้ยงอุป กรณ์ (5) แป้น อ่ำนอักษรเบรลล์ โดยใช้โซลินอยด์ในกำรยืดหรือหด สำหรับใช้ทบทวน สะกดอักษรเบรลล์ โดยใช้บิท 0 และ 1 ในกำรควบคุมสร้ำง เครื่องช่วยเรียนรู้อักษรเบรลล์หลำยภำษำ โดยมีกระบวนกำรพัฒนำที่มีควำม เป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระบบฝังตัว
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
25
บรรณานุกรม เจนีวีฟ คอลฟิลด์. (2556). เข้ำถึงได้จำก : http://www.fma.or.th/casa/ blind_sampran/page28.html. (วันที่สืบค้น : 5 กุมภำพันธ์ 2557) พินอิน, เข้ำถึงได้จำก : http://en.wikipedia.org/wiki/Mainland_Chinese _Braille2555.(วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) วั น ท นี ย์ พั นธชำติ . สถานภาพคนพิ การในประเทศไทย. เข้ ำ ถึ ง จำก : http://www.skb.ac.th/~skb/computor/nectec/0002-4.html. 2556. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) วิริยะ ทรัพย์สำคร. (2543). ออพตาคอน เครื่องอ่านหนังสือของคนตาบอด เครื่องแรกในเมืองไทย. รณรงค์ร่ ว มลดอัตราการเกิดตาบอดในเด็ กไทย. (2556). เข้ำถึงได้จำก : http://www.newsplus.co.th/15075. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) รูปแบบอักษรเบรลล์. (2557). เข้ำถึงได้จำก : www.slrior.th. (วันที่สืบค้น : 14 กุมภำพันธ์ 2557) สถิติ. (2557). เข้ำถึงได้จำก : http://rakduangta.org/3586365736293617 64136213626360636363605363636123641365736113656 3623361836503619358836053634.html.2557. (วันที่สืบค้น : 5 กุมภำพันธ์ 2557) สาเหตุการสูญเสียดวงตา. (2556). เข้ำถึงได้จำก : http://rakduangta.org/ 36263634364836273605364035853634361936263641359736 4836263637361836043623359136053634.html. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557)
26
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
วิ ชิ ต ำ เกศะรั ก ษ์ , ศิ ริ พ ร วงศ์ รุ จิ ไพโรจน์ , สุ ภ ำพร ชิ น ชั ย และสร้ อ ยสุ ด ำ วิทยำกร. (2551). ผลการกระตุ้นการแยกแยะผิวสัมผัสระหว่าง 2 จุด (Two – point discrimination) ในเด็กตาบอดเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการเขียนและการอ่านอักษรเบรลล์. ปริญญำนิพนธ์. คณะเทคนิคกำร แทพย์. เชียงใหม่ : มหำวิทยำลัยเชียงใหม่ หลุยส์ เบรลล์. (2554). เข้ำถึงได้จำก : http://paintratima.blogspot.com /2011/07/blog-post_29.html. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) ศู น ย์ ก ำรเรี ย นรู้ ก ำรอยู่ ร่ ว มกั น กั บ คนตำบอด . (2557). เข้ ำ ถึ ง ได้ จ ำก : https://docs.google.com/presentation/d/1NXVZYvHhT51-1A 4Vb0zNDsF5QovgRWbkBnw7kTd6ohw/embed#slide=id.i 0. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://www.bloggang.com/data/a/atfirstclick/picture/1272611978.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://lib02.kku.ac.th/dsskku/images/stories/dss/braille 6point.png. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2009/10/F8396514/ F8396514-10.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/54 /DSC_4050-MR-Braille.jpg/200px-DSC_4050-MR-Braille.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://thai.frf.or.th/wp-content/uploads/2013/07/DSC_2761.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557)
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
27
http://www.thaifc.net/wp-content/uploads/2012/02/brel.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557) http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12512422/E1251242236.jpg. (วันที่สืบค้น : 2 กุมภำพันธ์ 2557)
28
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
ประวัติผู้เขียน ชื่อ-นามสกุล ดร. สุวรินทร์ ปัทมวรคุณ ตาแหน่งปัจจุบัน รองศำสตรำจำรย์ ที่ทางาน สำขำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คณะวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี 39 หมู่ 1 ถนนรังสิต-นครนำยก ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี 12110 ประวัติการศึกษา D.Tech.Sci (Information Management) สถำบันบัณฑิตพัฒนบริหำรศำสตร์ พบ.ม. (สถิติประยุกต์) สถำบันบัณฑิตพัฒนบริหำรศำสตร์ วท.บ. (คณิตศำสตร์) มหำวิทยำลัยสงขลำนครินทร์ สาขาวิชาการที่มีความชานาญพิเศษ Simulation and Modelling Artificial Intelligence
กว่าจะอ่านเขียนได้ในโลกของคนตาบอด
29
ประวัติผู้เขียน ชื่อ-นามสกุล นำยจตุรพิธ เกรำะแก้ว ตาแหน่งปัจจุบัน อำจำรย์ ที่ทางาน สำขำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คณะวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญบุรี 39 หมู่ 1 ถนนรังสิต-นครนำยก ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธำนี 12110 ประวัติการศึกษา วศ.บ. (คอมพิวเตอร์) สถำบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้ำเจ้ำคุณทหำรลำดกระบัง วศ.ม. (คอมพิวเตอร์) สถำบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้ำเจ้ำคุณทหำรลำดกระบัง สาขาวิชาการที่มีความชานาญพิเศษ Database System
คณะกรรมการวิชาการพิจารณาเอกสารเผยแพร่ความรู้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รองศาสตราจารย์ ดร. อัญชลี สงวนพงษ์ นายประชุม คาพุฒ รองศาสตราจารย์ ดร. คารณ สิระธนกุล นางบรรเลง สระมูล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อัญชลี สวาสดิ์ธรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สมจิตร ถนอมวงศ์วัฒนะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อ้อยทิพย์ ผู้พัฒน์ ดร. เฉลียว หมัดอิ๊ว รองศาสตราจารย์วสันต์ กันอา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วันชัย ประเสริฐศรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภา ทองคง รองศาสตราจารย์ ดร. อุษาพร เสวกวิ รองศาสตราจารย์ ดร. สุวรินทร์ ปัทมวรคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฐวรรณ คุปพิทยานันท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จตุพร เผ่าพงษ์ไทย รองศาสตราจารย์มานพ ตันตระบัณฑิตย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จักรี ศรีนนท์ฉัตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วารุณี อริยวิริยะนันท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. บุญเรือง สมประจบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นิศากร สิงหเสนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ นายเกษียร ธรานนท์
ผู้อานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา รองผู้อานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม คณะเทคโนโลยีการเกษตร คณะเทคโนโลยีการเกษตร คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะศิปกรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
คณะผู้จัดทา ที่ปรึกษา รองศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ
อธิการบดี
คณะทางาน ฝ่ายอานวยการ รองศาสตราจารย์ ดร. อัญชลี สงวนพงษ์ นายประชุม คาพุฒ
ผู้อานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา รองผู้อานวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา
ฝ่ายเนื้อหา รองศาสตราจารย์ ดร. สุวรินทร์ ปัทมวรคุณ นายจตุรพิธ เกราะแก้ว
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ฝ่ายศิลป์ และจัดพิมพ์ นางสุทธิศรี ม่วงสวย นางสาวศศิวรรณ อินทรวงศ์ นางสาวนิธิมา อินทรสอาด นางสาวพรทรัพย์ ถนัดไร่ จัดพิมพ์โดย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เลขที 39 หมู่ 1 ถนนรังสิต-นครนายก ตาบลคลองหก อาเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12110 โทรศัพท์ : 0 2549 4683 โทรสาร : 0 2577 5038 website : http://www.ird.rmutt.ac.th E-mail : ird@rmutt.ac.th พิมพ์ที : บริษัท ยูโอเพ่น จากัด โทรศัพท์/โทรสาร : 0 2617 6834