ข่าวสภาทนายความ ฉบับเดือนตุลาคม 2558

Page 1

ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

นายกสภาทนายความ

แจงแผนผังการทวงถามหนีต้ ามกฎหมาย ภายหลังที่พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. ่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ 2558 มีผลบังคับใช้ ฝ่ายลูกหนี้เฮรับ ส่วนฝ่ายเจ้าหนี้ เมื ผู้ประกอบธุรกิจการทวงถามหนี้ต้องทำ�อย่างไร ? ผู้ประกอบธุรกิจการทวงถามหนี้ต้องจัดกระบวนงานกัน ้ประกอบธุรกิจการทวงถามหนี้ที่ไม่ใช่ทนายความต้องมาขึ้นทะเบียน โดยกฎเกณฑ์ก็เป็นไป ใหม่ให้อยูใ่ นกรอบของกฎหมาย เพือ่ จะได้ไม่ตอ้ งรับโทษ ตามข้อกำ�“ผูหนดของกระทรวงมหาดไทยที จ่ ะประกาศในกฎกระทรวง ซึง่ ปัจจุบนั ยังไม่สามารถรับจดทะเบียน ตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภา ผู้ประกอบธุรกิจการทวงหนี้ได้ เพราะต้องรอกฎกระทรวง โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 กระทรวง ทนายความ ได้เคยให้ความเห็นไว้ในประเด็นต่างๆ ที่ มหาดไทย ได้นำ�เสนอร่างกฎกระทรวงต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการให้ความ เกี่ ย วข้ อ งกั บ กฎหมายฉบั บ นี้ และเช่ น กั นในข่ า วสภา เห็นของสภาทนายความภายในวันที่ 11 ตุลาคม 2558 จากนัน้ ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจึงเข้าสูก่ ารพิจารณา ฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจากนี้ไปอีกประมาณ ทนายความฉบับนี้ ขอหยิบยกข้อควรรูต้ า่ งๆ ทีจ่ �ำ เป็นของ ของคณะรั 1 เดือน เมื่อมีกฎกระทรวงที่ชัดเจนก็จะสามารถเปิดให้มีการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจการทวงถาม กฎหมายฉบับนี้ รวมทั้งแผนผังภาพรวมของพระราช หนี้ได้ ส่วนทนายความมีบทยกเว้นในส่วนที่การทวงถามหนี้ตามปกติในการประกอบวิชาชีพ” บัญญัติการทวงถามหนี้ฉบับนี้เพื่อความชัดเจนมากขึ้น ประกอบคำ�สัมภาษณ์ของนายกสภาทนายความ ดังนี้

ที่มาของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ ?

“กฎหมายฉบับนี้มีที่มาจากสาเหตุสำ�คัญคือการทวงถามหนี้ที่ เป็นมาในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นการทวงถามที่มีลักษณะไม่ชอบด้วย กฎหมายและมีลักษณะที่ไม่ชอบด้วยข้อควรปฏิบัติในการถามหนี้ตาม ปกติ มีพฤติกรรมข่มขู่ทำ�ร้ายร่างกาย และมีพฤติกรรมประจานลูกหนี้ ทำ�ให้เกิดความอับอาย ซึง่ เป็นการเอารัดเอาเปรียบเกินไป ภาครัฐจึงเห็น ว่าวิธีการทวงถามหนี้อย่างนี้เป็นวิธีการที่สังคมรับไม่ได้จึงผลักดันให้มี การออกกฎหมายบังคับให้การทวงถามหนีต้ อ้ งอยูใ่ นกรอบของกฎหมาย กรอบของจริยธรรมในที่สุด”

สภาทนายความมีบทบาทอย่างไรกับการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ ?

“โดยปกติแล้วหน้าที่ที่สำ�คัญที่สุดของสภาทนายความคือการให้ความช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย การช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายอยู่ในวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสภาทนายความ และ เป็นส่วนหนึง่ ของการอุทศิ ตนเพือ่ ช่วยเหลือคนยากจนและไม่ได้รบั ความเป็นธรรมอย่างในกรณีนแี้ น่นอน ถ้าหากเป็นการทวงถามหนี้ผิดกฎหมายข่มขู่ทำ�ร้ายร่างกายหรือทวงถามหนี้ไม่ถูกจริยธรรม ก็สามารถ ที่จะมาร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้ โดยเฉพาะประชาชนที่คิดว่าตัวเอง ไม่ได้รบั ความเป็นธรรมในการทวงถามหนี้ และมีฐานะยากจน ซึง่ เราก็มสี �ำ นักงานสภาทนายความทุกศาล จังหวัดทั่วประเทศ 115 ศาลจังหวัดรองรับการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายได้อย่างทั่วถึง โดยไม่มี ค่าใช้จ่าย” อ่านต่อหน้า 3


2

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ขอเชิญร่วมทำ�บุญถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำ�ปี 2558 ณ วัดไพรสณฑ์ศักดาราม พระอารามหลวง อำ�เภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2558

ร่วมบุญบูรณะพระอุโบสถวัดไพรสณฑ์ศกั ดาราม ซึง่ ปัจจุบนั หลังคาพระอุโบสถชำ�รุดทรุดโทรมมาก วัดไพรสณฑ์ศกั ดาราม เดิมมีนามว่า “วัดป่า” สร้าง ขึน้ เป้นวัดนับตัง้ แต่ประมาณ พ.ศ. 2382 สถานทีส่ ร้างวัดเป็นไร่ ฝ้ายตาสี โดยมีพระสุริยวงศาชนสงครารามภักดีวิริยกรมพาหะ (คง) เจ้าเมืองหล่มสัก คนแรกเป็นผูส้ ร้างขึน้ เป็นวัดคูเ่ มือง เพือ่ ใช้เป็นที่ถือน้ำ�พิพัฒน์สัตยาสมัยที่ยังเป็นจังหวัดหล่มสัก ต่อมาวัดป่าได้เปลี่ยนนามเป็น “วัดอรัญญวาสี” บางแห่งเขียนเป็น “วัดอรัญญวาศรี” ในสมัยของเจ้าอาวาสรูปที่ 2 พระครูหลักคำ�ภู่ ครั้นถึงสมัยของเจ้าอาวาสรูปที่ 16 ได้เปลี่ยนเป็น “วัดป่าหล่มสัก” ประมาณ พ.ศ.2484 ต่อมาถึง พ.ศ. 2495 จึงได้เปลี่ยนนามอีกครั้ง หนึ่งเป็นครั้ง สุดท้ายมีนามว่า “วัดไพรสณฑ์ศักดาราม” พ.ศ.2495 และใช้มาจนตราบเท่าทุกวันนี้ วัดไพรสณฑ์ศักดาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2504 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ได้ผูกพัทธสีมาวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2508 มีพระภิกษุอยู่จำ�พรรษาปีละประมาณ 40 รูป สามเณรกว่า 100 รูป เนื่องจากเป็นสำ�นักเรียนปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลีที่เจริญรุ่งเรืองมากวัดหนึ่ง ประกอบกับเป็นวัดที่มีเกียรติและความสำ�คัญคู่เมืองหล่มสักมาแต่เดิม จึงได้รับการ สถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ นับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2522 ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการลงวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2522 มี พระปริยัติพัช ราภรณ์ เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

สามารถร่วมบุญโดย : โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำ�กัด (มหาชน) สาขาสะพานผ่านฟ้า ชื่อบัญชี สภาทนายความ (กฐินพระราชทาน)

บัญชีเลขที่ 169-0-64814-0 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-1430 ต่อ 134, 117

“หากเราท่านยังดำ�รงตนอยู่ด้วยความไม่พอใจในตัวตนของเราท่านเอง และคนอื่นใครเขาจะพึงพอใจในตัวตนของเราท่านได้อย่างไร” หากเป็นดังที่เห็น “ให้แก้ไขตัวตนของเราท่านก่อนเพื่อก่อเกิดความพึงพอใจในตัวตนของตน แล้วจึงเสนอตนเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจจากบุคคลอื่นจากใครเขา” ในภาระและหน้าที่ของกรรมการบริหารโดยการนำ�ของ ทค.เดชอุดม ไกรฤทธิ์ ได้เดินทางมาสู่ช่วงสุดท้ายและผลงานอย่างที่เห็นในข่าวสภาทนายความที่อยู่ ในมือของท่าน เป็นบทสรุปเพื่อการทวงหนี้ตามพระราชบัญญัติการทวงหนี้ ปี 2558 อันเป็นมุมมองเชิงวิชาการและวิธีบังคับใช้กฎหมายทวงหนี้อันเป็นงานวิชาการที่ นายกเดชอุดม ไกรฤทธิ์ มอบแด่เพื่อนทนายความและประชาชนได้เข้าใจในวิธีปฏิบัติเพื่อบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวที่มีโทษทั้งทางอาญาและทางปกครองกองบรรณาธิการ ข่าวสภาทนายความ เชื่อว่าต้องเป็นประโยชน์ยิ่งต่อเพื่อพี่น้องทนายความและประชาชน และในอีกภารกิจหนึ่งคือการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายที่มี ทค.สุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และ ทค.สุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ เป็นสองแรงบวกอันเป็นพลังขับเคลื่อนในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความทุกข์ร้อนจากผลกระทบทางกฎหมายไม่ว่าท่านจะเป็น โจทก์หรือจำ�เลยสภาทนายความก็พร้อมมาให้ความช่วยเหลือทุกผู้คน ในสิ่งที่มองเห็นเป็นรูปธรรมอีกส่วนหนึ่งคือการก่อสร้างบ้านใหม่ก็เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ ท่านนายกเดชอุดม ไกรฤทธิ์ รับด้วยความมั่นใจยิ่ง “20 กุมภาพันธ์ 2559” เราท่านได้ร่วมงานวันทนายความ’ 2559 ที่บ้านใหม่ของเราพร้อมด้วยการเลือกตั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร เราก็จะจัดการเลือกตั้งที่บ้านใหม่ที่สง่างามนั้น ดังเดียวกัน ในกลไกของการเลือกตั้งกรรมการบริหารก็ได้เริ่มแล้ว ในข่าวสภาทนายความฉบับนี้ได้แนะนำ�ประธานคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งพร้อมมุมมองในการบริหารการเลือกตั้งด้วยความยุติธรรมและ โปร่งใสให้สมกับเป็นการเลือกตั้งของทนายความที่เป็นวิชาชีพในการใช้กฎหมายและเป็นวิชาชีพที่มากด้วยศักดิ์และศรียิ่งนั้น ในบริบทที่เป็นอยู่สภาทนายความที่ต้องพัฒนางานวิชาการและการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายและการสร้างเสริมสวัสดิการแก่เพื่อนพี่น้องทนายความการเจ็บป่วยและตายเกิดมีขึ้นตลอดมา ทค.วิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ต้องทำ�งานหนักขึ้นทั้งงานศพ ช่วยผู้ป่วย และมอบทุนการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่ปรากฏให้เราท่านได้เห็นว่าเราท่านมีจิตและใจช่วยเหลือกันและ สภาทนายความยังมีงานบุญใหญ่ให้เราท่านได้ร่วมสร้าง คือ งานถวายผ้ากฐินพระราชทาน ดังปรากฏตามภาพข่าว กองบรรณาธิการฯ จึงขอเชิญชวนร่วมงานบุญกุศลดังกล่าวโดยพร้อมเพียงกัน ในวิธีธรรมของการเป็นอยู่ของบุคคลอาจมีวิธีคิดและการกระทำ�ที่ต่างกัน แต่จะด้วยบริบทและกลไกใดก็ตามข่าวสภาทนายความที่อยู่ในมือของท่านนี้ก็ยังเป็นสื่อกลางที่จะเชื่อมต่อความเป็นจริงทั้ง ภาคสังคมของมวลมิตรทนายความและประชาชน กองบรรณาธิการข่าวสภาทนายความยังหวังต่อการติชมจากท่านผู้อ่านเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาภายใต้กรอบที่ว่า “เข้าใจตนเองก่อน ทำ�ความเข้าใจผู้อื่น สร้างความพอใจในตนเองก่อน ก่อนหวังให้ใครเขามาพอใจในตัวเรา”

นิวัติ แก้วล้วน บรรณาธิการบริหาร


ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

การทวงถามหนี้ที่ผ่านมามีกฎหมายใดรองรับหรือไม่ ?

“มีกฎหมายบังคับใช้อยู่แล้วแต่ยังไม่มีความชัดเจน ไม่มีความชัดเจนในที่นี้ หมายความว่าผูบ้ งั คับใช้กฎหมายอาจจะเกรงกลัวว่า การไปตัง้ ข้อกล่าวหาทีร่ นุ แรงไปอาจ โดนฟ้องกลับได้ เช่น มีกลุ่มบุคคลประมาณ 7 – 8 คน ร่วมกันรับจ้างทวงหนี้เราเรียกว่า ทวงหนี้มหาโหดซ้อมบ้าง ข่มขู่บ้าง ทำ�ร้ายเขาบ้าง ซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้เท่ากับเป็นการ กระทำ�ที่เข้าข่ายช่องโจร แต่ก็ไม่ได้ตั้งข้อหาหนักเวลาจับกุม ทำ�ให้ผู้กระทำ�ความผิดไม่ เกิดความเข็ดหลาบ เมือ่ การบังคับใช้กฎหมายทีม่ อี ยูน่ อี้ อ่ นแอ จึงต้องมีกฎหมายใหม่เพือ่ เป็นทางเลือกในการหาวิธีการป้องปรามการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมนี้ให้อยู่ภายใต้ กรอบของกฎหมาย”

สาระสำ�คัญของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ที่ ประชาชนควรรู้ ?

“กฎหมายฉบับนี้ สำ�คัญอยูท่ กี่ ารให้ผปู้ ระกอบธุรกิจการทวงถามหนีต้ อ้ งปฏิบตั ิ ภายใต้กรอบของข้อกฎหมาย ซึง่ รวมถึงเจ้าหนีแ้ ละผูร้ บั มอบอำ�นาจด้วย เพราะฉะนัน้ ใคร ก็ตามที่อยู่ในธุรกิจนี้ไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้าหนี้เอง เช่น สถาบันการเงิน รวมทั้งนายทุนให้ กู้เงินนอกระบบด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่รับมอบอำ�นาจ คนที่รับจ้างทวงหนี้ที่ไม่เป็น ธรรม ใช้ก�ำ ลังข่มขู่ ทำ�ร้ายร่างกาย จะกระทำ�ไม่ได้แล้ว เพราะผิดกฎหมายฉบับนี้ ผมเรียก ว่าเป็นกฎหมายทีใ่ ช้กำ�ราบคนทีใ่ ช้สทิ ธิของตัวเองจนเกินขอบเขตทีก่ ฎหมายอนุญาต อัน นีเ้ ป็นหลักการแรกว่าผูท้ เี่ ป็นเจ้าหนีท้ งั้ หลายก็ตอ้ งพิจารณาตนเองก่อนว่าอยูใ่ นฐานะ “ผู้ ประกอบการธุรกิจการทวงถามหนี”้ ตามคำ�นิยามในกฎหมายหรือไม่ รวมถึงผูใ้ ห้สนิ เชือ่ ต่างๆ ด้วย ประการต่อไปก็คือการทวงถามหนี้จะทำ�อย่างไร คนที่เป็นเจ้าหนี้ ผู้ประกอบ การธุรกิจทวงหนี้ ผู้รับจ้างผู้รับมอบอำ�นาจต้องเข้าใจกฎหมาย เข้าใจว่าการทวงถามหนี้ กฎหมายกำ�หนดไว้ว่าอย่างไร เช่น กฎหมายกำ�หนดว่าสถานที่ติดต่อให้ติดต่อเฉพาะ สถานที่ที่ลูกหนี้แจ้งไว้เท่านั้นๆ หมายความว่า ถ้าเขาแจ้งที่อยู่ใดไว้ในเอกสารการกู้ยืม ก็ต้องส่งเอกสารไปตามที่อยู่นั้นเท่านั้น หากส่งไปที่อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้จะเข้าข่าย เป็นการกระทำ�อันเป็นการประจานลูกหนี้อีก อย่างนี้เป็นต้น หรือเวลาในการติดต่อ ทวงถามหนี้กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน เห็นไหมครับเวลาเราใช้สิทธิมากเกินไปกฎหมาย ก็ต้องออกมาบังคับว่าวันจันทร์ถึงวันศุกร์นะ แปดโมงเช้าถึงสองทุ่มเท่านั้น ถ้าเป็น วันหยุดราชการ ซึ่งรวมถึงวันหยุดตามนักขัตฤกษ์ให้ทวงถามหนี้ได้ตั้งแต่ 08.00 น. ถึง 18.00 น. แล้วยังกำ�หนดจำ�นวนครั้งที่โทรศัพท์ด้วย สำ�หรับผู้รับมอบอำ�นาจต้องแสดง ตนต้องมีการยืนยันว่าเป็นผูร้ บั มอบอำ�นาจของเจ้าหนีจ้ ริง ๆ นอกจากนีย้ งั มีอกี หลายเรือ่ ง

3

เกี่ยวกับข้อห้ามในการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ขาดคุณธรรมอย่างเช่น ห้ามใช้วาจาที่ เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้ ห้ามเปิดเผยความเป็นหนี้ให้กับคนอื่น เป็นต้น”

ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายอย่างไร ? “กรณีแรก ถ้าไม่จดทะเบียนคือไม่ไปจดทะเบียนธุรกิจการทวงถามหนีต้ ามพระ ราชบัญญัตินี้ มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ แล้ว ก็รวมถึงกรณีที่เปิดเผยความเป็นหนี้ให้แก่บุคคลอื่น ใช้วาจาดูหมิน่ จูงใจให้ลูกหนี้ช�ำ ระหนี้ โดยการออกเช็คก็มีโทษเท่ากัน หรือกรณีที่ 2 ที่เกี่ยวกับวิชาชีพทนายความ คือกรณีที่ ทำ�ให้เชือ่ ว่าเป็นการกระทำ�ของทนายความ ทำ�ให้เข้าใจผิดว่าจะถูกดำ�เนินคดี ถูกข่มขูว่ า่ จะ ถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สิน หรือเงินเดือนมีโทษจำ�คุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ กรณีที่ 3 คือข่มขู่ใช้ความรุนแรง หรือใช้ข้อความเครื่องหมาย สัญลักษณ์เครือ่ งแบบทีท่ ำ�ให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำ�ของศาล มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ ไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำ�ทั้งปรับ”

การทวงถามหนี้ที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพทนายความ ทำ�ได้มากน้อยแค่ไหน ?

“ทนายความเป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระสามารถทำ�การทวงถามหนี้ได้ เช่น มี บริษัทหนึ่งว่าจ้าง ให้ทนายความทวงถามหนี้กับบริษัทโฆษณารายหนึ่ง กรณีอย่างนี้ ทนายความก็สามารถส่งหนังสือทวงถามได้ โดยการออกหนังสือทวงถามตามปกติกไ็ ด้ แต่ ต้องใช้ภาษาและวาจาที่สุภาพภายใต้กรอบของกฎหมาย สำ�หรับในส่วนของทนายความ หากกระทำ�ผิดสภาทนายความมีบทลงโทษเกี่ยวกับความผิดมรรยาททนายความเช่นกัน เป็นการลงโทษทางวินยั ซึง่ ทนายความออกจดหมายทวงถามหนีจ้ ะต้องไม่โอ้อวดต้องไม่มี การใช้วาจาก้าวร้าว ซึ่งบัญญัติไว้ในข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความมาก่อนที่จะมี กฎหมายฉบับนี้ ฉะนั้นไม่ต้องกังวล”

กฎหมายฉบับนี้มีผลดีต่อสังคมส่วนรวมอย่างไร ? “ผมคิดว่ากฎหมายฉบับนี้ให้ผลในทางที่ดี เป็นการสร้างวินัยทางการเงินของ ประเทศได้ และลดความหวาดกลัวของลูกหนีไ้ ด้ไม่มากก็นอ้ ย ส่วนปัญหาหนีน้ อกระบบจะ ลดลงหรือไม่นนั้ ผมมองว่าขึน้ อยูก่ บั ว่ารัฐบาลได้เปิดโอกาสให้มสี ถาบันการเงินมาช่วยคน ยากคนจนมากน้อยแค่ไหน และการกูย้ มื เงินทุกอย่างในระบบต้องพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ ในการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องควบคุมตั้งแต่ต้นไม่ให้เกิดปัญหาแล้วมาแก้ที่ปลายเหตุ”


4

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

สถาบันวิจยั และพัฒนากฎหมาย จัดสัมมนาวิชาการเรือ่ งการเข้าถึงระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและไม่ผิดกฎหมาย

ในปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสารสนเทศและการสื่อสารไร้พรมแดน โดยเฉพาะ สังคมออนไลน์ผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในวงกว้างและง่ายขึ้นต่อการใช้ชีวิต ประจำ�วันของสังคมมนุษย์ นอกจากนีเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบนั กลายเป็นตัวแปรสำ�คัญ ในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ นำ�มาซึ่งการพัฒนาในด้านต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า ระบบ “เทคโนโลยีสารสนเทศ” เป็นวิธกี ารปฏิบตั ทิ มี่ กี ารจัดลำ�ดับอย่างมีรปู แบบและขัน้ ตอน เพื่อที่จะทำ�ให้เกิดประสิทธิภาพ ในเรื่องของความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง ซึ่งเป็น เทคโนโลยีที่มีการนำ�คอมพิวเตอร์ การสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีมาบูรณาการการ ทำ�งานร่วมกัน เพือ่ ให้เกิดการแลกเปลีย่ นสารสนเทศ โดยนำ�ข้อมูลป้อนเข้าสูร่ ะบบคอมพิวเตอร์ แล้วทำ�การประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการและนำ�ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องการเรียนรู้ แหล่ง ข้อมูลทัว่ โลก สถานภาพบุคคล วัฒนธรรมทางสังคม และอีกมากมาย มีผลต่อการขับเคลือ่ นการ พัฒนาของประเทศทุกระบบ ทำ�ให้คนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มาก รวดเร็ว มีความได้ เปรียบ แต่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปัจจุบันยิ่ง มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้นเท่าไร ผู้ใช้ก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ เพื่อความ ปลอดภัยและทีส่ �ำ คัญต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอืน่ ซึง่ เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550, พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2558 เป็นต้น ดังนั้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายให้กับผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ให้มีความรู้และเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สภาทนายความร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนา กฎหมายสภาทนายความ โดยนายสุมติ ร มาศรังสรรค์ อุปนายกฝ่ายวิชาการ จึงจัดการสัมมนา ทางวิชาการ เรือ่ ง “การเข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารอย่างไร สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมาย” โดยการสัมมนาจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2558 ทีห่ อ้ งกิง่ ทอง โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ โดยนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เป็นประธานเปิดการสัมมนา และบรรยายพิเศษเรื่อง “ความตระหนักในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสือ่ สารอย่างถูกต้อง และเป็นประโยชน์ตอ่ วิชาชีพทนายความ” ซึง่ นายกสภาทนายความได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งของการบรรยายว่า “ยุคสมัยแห่งสังคมออนไลน์อย่างปัจจุบันหลายคนคงรู้จักคำ�ว่า “netizen” ซึ่งก็คือ พลเมืองเน็ต มาจากคำ�ว่า “net” (เครือข่าย) และ “citizen” (พลเมือง) สองคำ�ควบประกอบกัน คำ�นีถ้ กู บัญญัตคิ รัง้ แรกโดย Michael Hauben เมือ่ เข้าสูเ่ ครือข่ายโซเชียลก็เท่ากับยอมรับเข้าเป็น พลเมืองเน็ต เช่น Facebook, Line, Instargarm เป็นต้น ล้วนแล้วแต่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วน ตัวของผู้ใช้ทั้งสิ้น จึงต้องระวังเมื่อโลกก้าวไกลด้วยเทคโนโลยีมากขึ้นในขณะเดียวกันก็สามารถ ทำ�ให้เกิดผลทีร่ า้ ยกาจตามมาได้ เช่น การเข้าถึงข้อมูลโดยผิดกฎหมายซึง่ เข้าข่ายการกระทำ�ความ ผิดทางคอมพิวเตอร์ซงึ่ คนทีเ่ ข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทมี่ าตรการป้องกันโดย เฉพาะนั้น มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งนี่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สถาบัน องค์กร หรือบริษัทก็ตาม เพราะฉะนั้นการบริหารข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ อีกลักษณะการกระทำ�ที่มักเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามแต่เข้าข่ายการกระทำ�ความผิดทาง คอมพิวเตอร์ ก็คือ การรับไว้ซึ่งข้อมูลของผู้อื่นหรือข้อมูลไม่ได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ มี โทษจำ�คุกไม่เกิน 3 ปี การลบทำ�ลายข้อมูลพยานเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ก็เช่นกัน ตาม กฎหมายมีข้อห้ามมิให้ลบข้อมูลพยานเอกสารการทำ�ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลา 5 ปี หากฝ่าฝืนกระทำ�ด้วยประการใดๆ โดยมิชอบด้วยระบบทำ�งานคอมพิวเตอร์ของผูอ้ นื่ ชำ�ระ หรือ ชะลอ ขัดขวางโดยผู้อื่น ทำ�ให้ไม่สามารถทำ�งานตามปกติได้ หรือซอฟแวร์ที่สร้างขึ้นทำ�ให้เกิด อุปสรรคในการขับเคลื่อนข้อมูลต่างๆ ก็จำ�คุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และอีก มากมายการกระทำ�ที่เข้าข่ายความผิดทางคอมพิวเตอร์ซึ่งปัจจุบันเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะ เป็นการละเมิดสิทธิเด็ก เยาวชน ที่เป็นสื่อลามกอนาจารแสดงให้รู้หรือเห็นการกระทำ�ทางเพศ ของเด็กหรือกับเด็กซึ่งมีอายุไม่ต่ำ�กว่า 18 ปี หรือรูปแบบเอกสาร รูปภาพโฆษณา เครื่องหมาย ภาพถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือรูปแบบอื่นใดลักษณะทางเดียวกัน และลักษณะให้ลงถึงวัตถุต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ หรือในอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่สามารถ แสดงผลให้เข้าใจความหมายได้ ฉะนั้นใครส่งมาก็อย่าเก็บไว้ เพราะผู้ใดครอบครองสื่ออนาจาร เด็ก มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 7 ปี อันนี้เป็นโทษที่แก้ตามประมวลกฎหมายอาญา”

“ฉะนัน้ สิง่ ต่างๆ ทีเ่ ราใช้ในสังคมออนไลน์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บางอย่าง มีไว้กเ็ ป็นความผิด บางอย่างมีไว้ไม่ผดิ แต่สง่ ต่อเป็นความผิด ทัง้ หลายทัง้ ปวงนีผ้ ใู้ ช้จงึ ต้องมีความ รูค้ วามเข้าใจกฎหมายทีถ่ กู ต้อง และใช้อย่างระมัดระวัง ยิง่ อยูใ่ นวิชาชีพนักกฎหมายก็ตอ้ งแนะนำ� และให้คำ�ปรึกษาที่ถูกต้องในเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลเน็ทเวิร์ค ซึ่งเป็นเรื่องสำ�คัญ ที่ต้องช่วยกันเพื่อให้สังคมไทยเราปลอดจากการกระทำ�ความผิดที่เกิดขึ้นในระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ” นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้คาดว่าการปฏิสัมพันธ์ของทนายความกับการใช้ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งปฏิสัมพันธ์ทางสารบัญญัติ เช่น การทำ�นิติกรรมสัญญาผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การปฏิสัมพันธ์ทางสบัญญัติ ใน กระบวนการและวิธปี ฏิบตั ติ ามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความทัง้ แพ่งและอาญา ผ่านธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การยื่นคำ�คู่ความ การนำ�เสนอต้นฉบับเอกสารแก่ศาล การจัดเก็บคำ�คู่ ความ รายงานกระบวนพิจารณา พยานหลักฐานที่เป็นเอกสาร/วัตถุพยาน คำ�สั่ง/คำ�พิพากษา ที่เป็น Electronic Data การนำ�พยานเข้าเบิกความ/นำ�ส่งพยานเอกสาร/พยานวัตถุระหว่าง กระบวนพิจารณา การพิจารณาคดีโดยเปิดเผย เป็นต้น จะเห็นได้วา่ การส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารแก่ผปู้ ระกอบ วิชาชีพทนายความปัจจุบนั มีความจำ�เป็นอย่างยิง่ และสิง่ ทีท่ นายความต้องคำ�นึงถึงในการเข้าถึง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และผู้เป็นทนายความ สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ เช่น E-mail Address ที่มีความปลอดภัยสูง, แหล่งจัดเก็บข้อมูล ทางอิเล็กทรอนิกส์ (Cloud Storage) ที่มีระบบการรักษาข้อมูลที่ได้มาตรฐาน, โปรแกรมการ บริหารจัดการเอกสารภายในสำ�นักงานทนายความที่ได้มาตรฐาน เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำ�คัญที่ จำ�เป็น คาดว่าในอนาคตประเทศไทยอาจจะมีองค์กรหรือหน่วยงานทีท่ �ำ หน้าทีร่ บั รองเอกสาร ทางอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เพื่อจัดส่งแก่ศาล และหน่วยงานราชการอื่นๆ มีองค์กรที่รับข้อมูล ส่งต่อ หรือรับจดทะเบียนทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัตกิ ารอำ�นวยความสะดวกในการ พิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 หรือพระราชบัญญัติโนตารีพับบลิค หรือ กฎหมายอื่นๆ ที่จะเข้ามารองรับการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ แน่นอน ผูป้ ระกอบวิชาชีพทนายความจึงต้องเตรียมความพร้อมเพือ่ ให้สามารถใช้ประโยชน์จาก สังคมยุคเทคโนโลยีสารสนเทศนี้อย่างเข้าถึง เข้าใจ ปลอดภัย ไม่ผิดกฎหมาย และเกิด ประสิทธิภาพสูงสุดต่อการประกอบวิชาชีพ.


ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

5

เปิดตัวผู้อำ�นวยการเลือกตัง้

นายกและกรรมการสภาทนายความ ปี 2559-2562 เมือ่ วันที่ 8 กันยายน 2558 นายบำ�รุง ตันจิตติวฒ ั น์ ประธาน กรรมการมรรยาททนายความ ได้ประกาศแต่งตัง้ คณะกรรมการอำ�นวย การเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ เพื่อดำ�เนินการ เลื อ กตั้ ง นายกและกรรมการสภาทนายความแทนคณะกรรมการ สภาทนายความชุดปัจจุบนั ทีจ่ ะครบกำ�หนดวาระการดำ�รงตำ�แหน่งใน วันที่ 27 เมษายน 2559 นี้ โดยอาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา 19 แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ท นายความ พ.ศ.2528 และข้ อ บั ง คั บ สภา ทนายความว่าด้วยการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ พ.ศ.2529 ดังรายนามต่อไปนี้

นายอุทิศ สวยรูป ผู้อำ�นวยการเลือกตั้งฯ

1. นายอุทิศ สวยรูป ผู้อำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 2. นางสาวรำ�ไพ ชำ�นาญเพชร กรรมการอำ�นวยการ เลือกตั้งฯ, 3. นายชลิต วีระฉันท์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 4. นายเชาวลิต สวัสดิรักษา กรรมการ อำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 5. นายนันทกร ไกรฤกษ์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้ง, 6. นายจงรักษ์ เหล็งหนูดำ� กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 7. นายวิพัฒน์ พัฒนสิน กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 8. นายชัยธัช คงเฉลิมนนท์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 9. นายโฆษิต ศรีรัตน์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 10. นายชวน รัตนขจิตวงศ์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 11. นายกฤษณชัย รัตนะวิศ กรรมการ อำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 12. นายวิษณุ อุเบกขานนท์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 13. นางสาวนิพิฐภัส โรจนบุรานนท์ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 14. นายพงศชาญ วิสัยจร กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 15. นายณรงค์ศักดิ์ ประกอบบุญ กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 16. นายนิพันธ์ สุขใจ กรรมการ อำ�นวยการเลือกตั้งฯ, 17. นายไชยวุฒิ รุจจนเวท กรรมการอำ�นวยการเลือกตั้งฯ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 ได้มีการประชุม คณะกรรมการอำ � นวยการเลื อ กตั้ ง ครั้ ง แรก เพื่ อ พิ จ ารณากรอบงบประมาณการจั ด การเลื อ กตั้ ง ฯ รวมถึ ง การแต่ ง ตั้ ง คณะอนุ ก รรมการชุ ด ต่ า งๆ ที่ เกี่ ย วข้ อ ง และการเปิ ด ศู น ย์ อำ � นวยการเลื อ กตั้ ง อย่างเป็นทางการ อนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้ง นายกสภาทนายความ 1 ตำ�แหน่ง และกรรมการ บริหารสภาทนายความ จำ�นวน 22 คน รวมเป็น 23 คน มีวาระการดำ�รงตำ�แหน่งคราวละ 3 ปี และ ในขณะนี้สภาทนายความมีสมาชิก จำ�นวนกว่า 7 หมื่นคนด้วยกัน จึงอยากให้สมาชิกสภาทนายความแสดง พลังออกมาใช้สทิ ธิใ์ นการเลือกตัง้ กันอย่างเต็มทีเ่ พือ่ กำ�หนดทิศทางวิชาชีพเ และการผดุงความยุตธิ รรมช่วย เหลือสังคมตามบทบัญญัตขิ องรัฐธรรมนูญ ซึง่ หากมีรายละเอียดความคืบหน้าการเลือกตัง้ ฯ เพิม่ เติมอย่างไร ทางกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสภาทนายความจะรายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป.

ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย : เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 ที่สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ : นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย รับเรือ่ งร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจาก กลุม่ ราษฎร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทีไ่ ด้รบั ความเดือดร้อนเนือ่ งจากถูกกลุม่ บุคคลอ้างตัวเป็นผูแ้ ทนสหกรณ์ เคหสถานชลบุรี กับ สหกรณ์กลุ่มออมทรัพย์เพื่อบ้านเมืองชลบุรี มีการโฆษณาชวนเชื่อในโครงการ พัฒนาที่อยู่อาศัยสำ�หรับคนมีรายได้น้อย โดยมีชาวบ้านหลงเชื่อเป็นสมาชิกและได้รับความเสียหาย กว่า 258 ราย เบื้องต้นสภาทนายความได้สอบถามข้อเท็จจริงและรับเรื่องไว้พิจารณาเพื่อดำ�เนินการ ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป.

ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย : เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 ที่ห้องประชุมประธานดวงรัตน์ สภาทนายความ กรุงเทพฯ : นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายฯ พร้อม ด้วย นายไสว จิตเพียร ประธานกรรมการสำ�นักงานคดีปกครองฯ, ผศ.ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา อุปนายกฝ่ายบริหารฯ และ นายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่าย กิจการพิเศษฯ ร่วมรับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากชาวบ้านตำ�บล คลองด่าน ในการยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อร้องขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ เกี่ยวกับกรณีการก่อสร้างโครงการจัดการน้ำ�เสียคลองด่าน เตรียมความพร้อม Class Action ในคดีสิ่งแวดล้อม : เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2558 : นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติ การสภาทนายความ/ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เป็นประธานเปิด โครงการเสวนาเชิงปฏิบัติการ ปัญหาอุปสรรค และแนวทางในการเตรียมความ พร้อมเกี่ยวกับการดำ�เนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ในคดีสิ่งแวดล้อม ณ เรือนน้ำ�เย็นรีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม.


6

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

บทความพิเศษ

โดย สถาบันวิจัยและพัฒนากฎหมาย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

การจับกุมผูก้ ระทำ�ผิดทีช่ อบด้วยหลักนิตธิ รรม กับการจลาจล กรณีการจับกุมผูก้ ระทำ�ผิดกฎหมายอาญาของเจ้าพนักงานทีเ่ ป็นเหตุให้เกิดความ ขัดแย้งอย่างรุนแรง จนถึงกับกลายเป็นการใช้กำ�ลังและอุปกรณ์หลายอย่างทำ�ร้ายชีวิต ร่างกายและทรัพย์สนิ เป็นข่าวกระจายไปทัว่ โลก ทำ�ให้ภาพพจน์การท่องเทีย่ วของประเทศ ตกต่ำ�ลงไปอีกนั้น สาเหตุใหญ่ๆ ที่พอจะสรุปให้พี่น้องประชาชนทราบถึงข้อกฎหมาย กับการบังคับใช้ที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร มีดังนี้

1. เมื่ อ มี ก ารจั บ กุ ม ผู้ ก ระทำ � ผิ ด เจ้ า พนั ก งานต้ อ งแจ้ ง ให้ ผู้ ถู ก จั บ กุ ม ทราบถึ ง ข้ อ กล่ า วหา และให้ แ สดงหมายจับต่อผู้ถูกจับกุมด้วยในกรณี ไ ม่ ใช่ ค วามผิ ด ซึ่ ง หน้ า กั บ ให้ เจ้าพนักงานแจ้งด้วยว่าผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้และถ้อยคำ�ของผู้ถูกจับ อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ รวมทั้งให้แจ้งด้วยว่าผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบ และปรึกษาทนายความ หรือแจ้งให้ญาติทราบถึงการถูกจับกุมได้ 2. กรณีเป็นความผิดซึ่งหน้า ต้องเป็นความผิดที่ปรากฏการกระทำ�ผิดอย่างชัดเจน ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงสามารถจะจับกุมได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ ตามข้อ 1. ซึ่งเงื่อนไขข้อนี้เป็นข้อยกเว้นต้องตีความโดยเคร่งครัด 3. ตามกฎหมายยาเสพติดของประเทศไทยอนุญาตให้มีการล่อซื้อได้ (ซึ่ง หลายประเทศถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย) ความชอบในเรือ่ งนีท้ �ำ ให้เกิดความหมิน่ เหม่ ว่าเมื่อไร ณ เวลาใด จะถือว่าเป็นการกระทำ�ผิดซึ่งหน้า โดยเฉพาะกรณีคนที่เป็น เป้าหมายถูกหลอกล่อซื้อเข้ามาอยู่ในเขตจับตามองของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่เกิดไหวตัวทันไม่ว่า ด้วยเหตุใด เช่นรู้สึกผิดปกติ เปลี่ยนใจ เดิน วิ่ง หรือขับรถออกไปจากจุดนัดหมาย ซึ่งข้อมูลที่ได้ มาของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็มาจากสายสืบ ตรงนี้จะเป็นประเด็นสำ�คัญว่า “กระทำ�ผิดซึ่งหน้า” หรือยัง เพราะของที่มีไว้คือยาเสพติดที่ถือว่าเป็นความผิดนั้นก็ยังไม่ปรากฏต่อหน้า เพียงแต่ เจ้าหน้าที่เชื่อจากสายสืบว่า “น่าจะมี” อยู่ ดังนั้นเมื่อผู้ถูกล่อซื้อเปลี่ยนใจ และเกิดการไล่ล่าขึ้น ประเด็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจด่วน สรุปได้เลย คือจะถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าคงไม่ใช่ เขาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยว่าได้กระทำ�ผิด เจ้าหน้าทีค่ วรจะปิดล้อมและประกาศให้เขายอมให้ตรวจค้นก่อน หากเขาไม่ยอม ก็เป็นการฝ่าฝืน คำ�สั่งของเจ้าหน้าที่ และเมื่อมีพฤติกรรมหลบหนีก็สามารถติดตามจับกุมได้ การติดตามจับกุมต้องทำ�ไม่เกินกว่าเหตุ เช่นผูห้ ลบหนีมอี าวุธ มียานพาหนะ มีจำ�นวน คนร่วมอยู่ด้วยหลายคน ในทุกกรณีต้องทำ�อย่างโปร่งใส อย่างกรณีที่เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เริ่ ม ต้ น เมื่ อ ดู จ ากโทรทั ศ น์ วงจรปิดจะเห็นมีข้อเท็จจริงว่าผู้ต้อ งสงสั ย มากั น สองคนขั บ ขี่ ร ถ จักรยานยนต์ซอ้ นกันมา ซึง่ สายสืบคงรายงานให้กบั ผูป้ ฏิบตั หิ น้าทีจ่ บั กุมให้ทราบแล้ว แต่วธิ กี าร จับกุมผูต้ อ้ งสงสัยว่ากระทำ�ความผิดและหลบหนีในช่วงแรกทีเ่ จ้าหน้าทีใ่ ช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ ของผู้ต้องสงสัยนั้นก็เห็นได้ว่า “อาจเกิดอันตรายแก่กายและชีวิต” ของทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อ เป้าหมายพลาดเจ้าหน้าที่ก็ขับรถกลับติดตามพร้อมกำ�ลังสมทบมีรถยนต์เจ้าหน้าที่วิ่งตามรถผู้ ต้องสงสัย ในขณะเดียวกันด้านตรงข้ามก็มีรถเจ้าหน้าที่ที่โอบมาเพื่อสะกัดกั้นการหลบหนีของ สองผู้ต้องสงสัยที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีด้านทางฝั่งตรงข้ามและจุดสำ�คัญอยู่ที่จุดที่มีตามข่าว ว่าเป็นอุบัติเหตุนั้น ตรงนี้ควรจะดูข้อเท็จจริงโดยถ้าเป็นไปได้ให้ดูจากภาพ Slow Motion ก่อน ถึงจุดปะทะระหว่างรถยนต์ของตำ�รวจกับมอเตอร์ไซค์ทผี่ หู้ ลบหนีขบั ขีอ่ ยูช่ นกัน เพราะตามภาพ สัญชาตญาณของคนหลบหนีขบั ขีร่ ถมอเตอร์ไซค์ไปทางขวาของถนนแล้ว ในขณะเดียวกันรถยนต์ ตำ�รวจที่สวนทางขับมาทางตรงกันข้ามได้หักรถเบนไปทางขวาของภาพเพื่อสะกัดกั้นการ หลบหนี เป็นเหตุให้เกิดการชนกัน ซึง่ กรณีเช่นนีไ้ ม่ใช่เป็นกรณีทตี่ �ำ รวจตัง้ ด่านสกัดและรถคนร้าย ชนรถตำ�รวจที่จอดอยู่ แต่การขับรถเปลี่ยนทิศโดยเห็นแล้วว่าต้องมีการชนกันแน่นอน การ

กระทำ�ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ที่พิเคราะห์ตามภาพข่าวอาจเป็นไปได้ว่า “เกินกว่าเหตุ” ซึ่งเป็น อุทาหรณ์ทสี่ �ำ คัญของเจ้าหน้าทีใ่ นการปฏิบตั หิ น้าทีเ่ พราะผูต้ อ้ งสงสัยทีห่ ลบหนีและเสียชีวติ จาก การชนดังกล่าวในทีเ่ กิดเหตุ 1 คน และไปเสียชีวติ ทีโ่ รงพยาบาลอีก 1 คน จนกลายเป็นเหตุใหญ่ โต้เถียงกับการใช้อ�ำ นาจของเจ้าหน้าที่ในสายตาของชาวบ้านที่เห็นภาพอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ไม่ อาจรับได้กับการกระทำ�ดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดการจราจลย่อยๆ อยู่ร่วมหนึ่งคืนเต็ม ๆ

4. สาเหตุอีกประการหนึ่งที่เป็นสาเหตุผลักดันให้มีการจับกุมคดียาเสพติดประเภท ล่อซื้อได้ตามกฎหมายไทยนี้ก็เพราะว่ายาเสพติดมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง มาตรการภาครัฐ นอกจากจะให้เงินไปล่อซื้อแล้ว ยังมีการให้สินบนการนำ�จับด้วย จึงทำ�ให้เจ้าหน้าที่ อาจจะขยันสร้างผลงานมากขึ้นเพราะเงินเพิ่มพิเศษนี้ ประกอบกับการได้รับความดี ความชอบในการเลื่อนตำ�แหน่งและหน้าที่สูงขึ้นอีก กระบวนการคิดและวิธีการที่ใช้ ในการสืบสวนสอบสวนที่ชอบด้วยหลักนิติธรรมจึงหดหายไปมากในการดำ�เนินการ ของเจ้าหน้าที่ การรวบรัดสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทำ�ความผิด ลักษณะของความผิด และการสืบสวนจับกุม ก็จะใช้แบบลัดขั้นตอนและไม่ชอบเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงควรที่จะมีการ พิจารณายกเลิกหรืองดใช้การให้เงินรางวัลผูจ้ บั กุมในคดียาเสพติดทีล่ อ่ ซือ้ อยูใ่ ห้ใช้ความสามารถ สืบเสาะหาข้อเท็จจริงในรูปแบบปกติของการสืบสวนทั่วไปก็จะลดความเสี่ยงในการผิดพลาด ดังที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ได้ 5. ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำ�ของกลุ่มบุคคลที่ทำ�ร้ายพนักงานเจ้าหน้าที่ ตำ�รวจขณะกำ�ลังปฏิบัติหน้าที่ ทำ�ลายทรัพย์สินของทางราชการและของประชาชน ทำ�ให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง จนเกิดเป็นจลาจลย่อยขึ้นนั้น เป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจที่จะต้องดำ�เนินการสืบสวนและจับกุมผู้ที่ร่วมกระทำ�ความผิดในทุก กระทงความผิด เพื่อนำ�ตัวมาลงโทษ ซึ่งการกระทำ�ความผิดดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกรณี เด็กหรือเยาวชนที่เสียชีวิตในกรณีข้างต้นและควรจะต้องดำ�เนินการโดยเร่งด่วนเพื่อมิให้เป็น เยี่ยงอย่าง 6. หน่วยงานที่หน้าที่รับผิดชอบในการเยียวยาผู้เสียหายที่เกิดจากการกระทำ� อันตรายทีอ่ ยูใ่ นส่วนของพนักงานเจ้าหน้าทีต่ อ่ ประชาชนทีอ่ ยูใ่ กล้เคียง รวมถึงผลของการทำ�ลาย ทรัพย์สินของรัฐ มีหน้าที่จะให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายแก่ผู้ที่ประสบภยันตรายจากเหตุ ดังกล่าวนั้นโดยเร็ว 7. อนึ่ง หากผู้ต้องสงสัยยังเป็นเด็กหรือเยาวชน การปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา ทีเ่ ป็นเด็กหรือเยาวชนในทางอาญาตามมาตรฐานทางกฎหมายในปัจจุบนั ย่อมต้องใช้มาตรการ ทีผ่ อ่ นคลายมาก ๆ ตามความในมาตรา 22 ของพระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองเด็ก พ.ศ. 2546 เขียนไว้ชดั เจนว่า “การปฏิบตั ติ อ่ เด็กไม่วา่ กรณีใดให้คำ�นึงถึงประโยชน์สงู สุดของเด็ก เป็นสำ�คัญและไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เปนธรรม” และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก “ข้อ 3. 1. ในการกระทำ�ทั้งปวงที่เกี่ยวกับเด็ก ไม่ว่าจะกระทำ�โดยสถาบันสังคมสงเคราะห์ ของรัฐหรือเอกชน ศาลยุตธิ รรม หน่วยงานฝ่ายบริหาร หรือองค์กรนิตบิ ญ ั ญัติ ผลประโยชน์สงู สุด ของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องคำ�นึงถึงเป็นลำ�ดับแรก ฯลฯ และ ข้อ 37. รัฐภาคีประกันว่า ก) จะไม่มเี ด็กคนใดได้รบั การทรมาน หรือถูกปฏิบตั ิ หรือลงโทษทีโ่ หดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือต่ำ�ช้า จะไม่มีการลงโทษประหารชีวิต หรือจำ�คุกตลอดชีวิตที่ ไม่มีโอกาสจะได้รับการปล่อยตัว สำ�หรับความผิดที่กระทำ�โดยบุคคลที่มีอายุต่ำ�กว่า สิบแปดปี ข) จะไม่มีเด็กคนใดถูกลิดรอนเสรีภาพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดย พลการ การจับกุม กักขัง หรือจำ�คุกเด็ก จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และจะใช้เป็น มาตรการสุดท้ายเท่านั้นและมีระยะเวลาที่สั้นที่สุดอย่างเหมาะสม ค) เด็กทุกคนทีถ่ กู ลิดรอนเสรีภาพจะได้รบั การปฎิบตั ดิ ว้ ยมนุษยธรรมและด้วยความ เคารพในศักดิ์ศรีแต่กำ�เนิดของมนุษย์ และในลักษณะที่คำ�นึงถึงความต้องการของบุคคลในวัย นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพจะต้องถูกแยกต่างหากจากผู้ใหญ่ เว้นแต่ จะพิจารณาเห็นว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเด็กที่จะไม่แยกเช่นนั้น และเด็กจะมีสิทธิที่จะคงการ ติดต่อกับครอบครัวทางหนังสือ โต้ตอบและการเยี่ยมเยียน เว้นแต่ในสภาพการณ์พิเศษ ง) เด็กทุกคนที่ถูกลิดรอนเสรีภาพมีสิทธิที่จะขอความช่วยเหลือทางกฎหมายหรือ ทางอื่นที่เหมาะสมโดยพลัน ตลอดจนสิทธิที่จะค้านความชอบด้วยกฎหมายของการลิดรอน เสรีภาพของเขาต่อศาล หรือหน่วยงานที่มีอ�ำ นาจอื่นที่เป็นอิสระและเป็นกลาง และที่จะได้รับ คำ�วินิจฉัยโดยพลันต่อการดำ�เนินการเช่นว่า”


ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย : เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 เวลา 15.00 น. ที่สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ : นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการฯ พร้อมด้วย นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และ นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภา ทนายความ ร่วมรับเรือ่ งขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากตัวแทนผูผ้ อู้ ยูอ่ าศัยในโครงการบ้าน ฉางคลิฟวิว คอนโดมิเนียม จังหวัดระยอง ที่ประสบปัญหาจากการบริหารงานอาคารชุด จึงมา ยื่นขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ เพื่อให้สภาทนายความช่วยเหลือฯ ให้ สามารถจัดประชุมสามัญประจำ�ปีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นภายในนิติบุคคลอาคารชุด.

ขอบคุณสภาทนายความ : เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 ที่ห้องประชุม 1 สภาทนายความ กรุงเทพฯ : ผศ.ว่าที่ ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา อุปนายกฝ่ายบริหารฯ พร้อมด้วย นายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษฯ เป็นผูแ้ ทนนายกสภาทนายความ รับมอบกระเช้าดอกไม้แสดง ความขอบคุณจากนายชาญชัย พฤกษ์พาดี และคณะ ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจาก โครงการหมูบ่ า้ นจัดสรรเกิดการทรุดตัว ซึง่ สภาทนายความได้ให้ความช่วยเหลือทางคดีจน ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณีในการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้กลับสู่สภาพเดิม.

ประชุ ม อนุ ก รรมการฯ สมาคมนักข่าว : เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณา เรื่องราวร้องทุกข์ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน กรุงเทพมหานครฯ.

ร่วมไว้อาลัย : เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายก สภาทนายความ พร้อมด้วยคณะกรรมการสภาทนายความ ร่วมเป็นเจ้าภาพสวด พระอภิธรรมศพ นางพัชรียา ร้อยกรอง มารดาของ นายชำ�มะนาด จัตตุวัฒนา ภรรยา นายสมนึก จัตตุวัฒนา รองประธานกรรมการสภาทนายความภาค 1 โดย มี นายนคร อารยะวงศ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดปทุมธานี, นายสฤษดิ์ เจียมกมล ประธานสภาทนายความจังหวัดธัญบุรี และเพื่อนทนายความร่วมงาน ณ วัดบางขันธ์ อำ�เภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

7

ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย : เมื่ อ วั น ที่ 19 สิ ง หาคม 2558 ที่ ศ าลจั ง หวั ด ประจวบคีรีขันธ์ : นายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการทนายความอาสาประจำ�ส่วน ราชการ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ และร่วมแลกเปลี่ยนความ คิ ด เห็ น เกี่ ย วกั บ ปั ญ หาอุ ป สรรค ข้ อ ขั ด ข้ อ ง รวมทั้ ง รั บ ฟั ง ข้ อ เสนอแนะในการปฏิบัติงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมายในโครงการทนายความอาสาประจำ�ส่วนราชการโดยมี ทนายความอาสาฯ เข้าร่วมประชุม ทัง้ นีค้ ณะทำ�งานฯ ได้รวบรวม ข้อมูลต่างๆ เพื่อนำ�มาประกอบการวางแผนการบริหารงาน โครงการทนายความอาสาฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดใน การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนต่อไป.

ร่วมไว้อาลัย : เมือ่ วันที่ 14 ตุลาคม 2558 นายอาสา เม่นแย้ม กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 5 เป็ น ผู้ แ ทนนายเดชอุ ด ม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ วางพวงหรี ด เคารพศพ นายวรนันทพล เสริฐสนิท ทนายความจังหวัดเชียงราย และมอบเงินช่วยเหลือฯ แก่ญาติ ณ วัดแม่ลาว อำ�เภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

ร่วมไว้อาลัย : เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 นายสุชาติ ชมกุล กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 1 เป็นผู้แทนนายกสภาทนายความ ร่วมเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรมศพ นางเอี้ยอานี้ แซ่เอี้ย มารดาของ นายสมปอง นิรมิตมหาปัญญา ทนายความจังหวัดอ่างทอง โดยมีทนายความจังหวัดอ่างทอง, พนักงานสภา ทนายความ พร้อมด้วยญาติมิตร ร่วมงาน ณ วัดโล่ห์สุทธาวาส จังหวัดอ่างทอง


8

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

คุยอุปกันายกฝ่ บ ายสวัสดิการ

กองบรรณาธิการ

สำ�นักงานสวัสดิการและสิทธิประโยชน์สภาทนายความ แจ้งผล การดำ�เนินงานการฌาปนกิจสงเคราะห์ทนายความ (ณ วันที่ 30 กันยายน 2558)

นายวิเชียร ชุบไธสง

อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ฯ

1.ทค.ศัลย์ เจริญกิจ สมาชิกเลขที่ 6452/2556 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 145,592.80 บาท 2.นางละม่อม แจ่มเจริญ สมาชิกเลขที่ 1122/2554 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 145,515.20 บาท 3.นายสัมฤทธิ์ ธราดลนิธิศักดิ์ สมาชิกเลขที่ 9640/2557 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 146,791.20 บาท 4.ทค.กิ่ง กสิภาร์ สมาชิกเลขที่ 8419/2557 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 147,184.80 บาท 5.นางเปรมจิตต์ ผ่องยิ่ง สมาชิกเลขที่ 8619/2557 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 142,824.00 บาท 6.นางเถี้ยน ฟองมณี สมาชิกเลขที่ 545/2554 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 140,298.40 บาท 7.นายปรีชา มะโรหบุตร สมาชิกเลขที่ 8333/2557 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 141,279.20 บาท 8.นายวรพันธ์ สันธนากร สมาชิกเลขที่ 3838/2555 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 142,562.40 9.นางณิชา พงษ์เจริญ สมาชิกเลขที่ 10033/2558 อนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เป็นเงิน 138,331.20 บาท

แบดมินตันกระชับมิตร : นายบรรณกร เปี่ยมธนทรัพย์ ประธานชมรมแบดมินตันสภา ทนายความ นำ�ทีมทนายความร่วมการแข่งขันแบดมินตันนัดกระชับ มิตร กับทีมทนายความมาเลเซีย เพื่อสร้างสัมพันธ์ภาพที่ดี และ แลกเปลี่ยนทัศนคติทั้งในด้านกฎหมายและการกีฬา เมื่อเร็วๆ นี้

หากเพื่ อ นสมาชิ ก ทนายความท่ า นใดสนใจ โครงการต่ า งๆ ของสำ � นั ก งาน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ฯ หรือมีขอ ้ สงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถาม รายละเอียดได้ที่ คุณปาริชาต ภู่ศรี, คุณสลิตา รัตนวรรณ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-1430 ต่อ 128, 083-040-8662 E-mail : sawatdegan.law@gmail.com ได้ทุกวันและเวลาทำ�การ.

ร่วมไว้อาลัย : เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2558 : นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภา ทนายความ พร้อมด้วย นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายทะเบียนสภา ทนายความ ร่วมรดน้ำ�ศพและสวดพระอภิธรรมศพ นางสาวอนงค์ลักษณ์ โรจนบุรานนท์ ทนายความ/พนักงานสภาทนายความ และวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ทค.เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วย กรรมการ บริหารสภาทนายความ ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ พร้อมทั้ง มอบเงินช่วยเหลือการฌาปนกิจสงเคราะห์แก่ญาติจ�ำ นวน 140,000 บาท เศษ โดยมีกรรมการฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ฯ, กรรมการสำ�นักงาน คดี ป กครองสภาทนายความ, เพื่ อ นทนายความ และพนั ก งานสภา ทนายความ ร่วมไว้อาลัย ณ วัดทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ.

ประชุมเตรียมการจัดการแข่งขัน Lawyer’s Cup ภาค 6 : เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2558 : สภาทนายความภาค 6 โดย นายผาติ หอกิตติกุล กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 6 ประชุมเตรียมการจัดงานประเพณีทนายความภาค 5-6 และการ จัดการแข่งขันฟุตบอล Lawyer’ Cup โดยทีป่ ระชุมเห็นชอบร่วมกัน ให้กำ�หนดจัดงานสัมมนาประเพณีสภาทนายความภาค 5-6 ใน วันที่ 8-9 มกราคม 2559 และกำ�หนดจัดการแข่งขัน ฟุตบอล Lawyer’s Cup ในวันที่ 23-24 มกราคม 2559 จากนั้ น เมื่ อ เสร็ จ สิ้ น การประชุ ม ได้ ร่ ว มชมการ แข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมสภาทนาย ความภาค 6 กับทีมเทศบาลบ้านสวนจังหวัดสุโขทัย ณ พฤกษารีสอร์ท จังหวัดสุโขทัย.

ร่วมไว้อาลัย : เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ, คณะกรรมการมรรยาททนายความ, ทนายความ และพนักงานสภาทนายความ ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ นางสังเวียน สวยรูป มารดา นายอุทิศ สวยรูป รองประธานกรรมการมรรยาททนายความ/ผู้อำ�นวยการเลือกตั้งนายกและ กรรมการสภาทนายความ ปี 2559-2562 และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 นายกสภาทนายความ เดินทางไปเป็นประธานงานฌาปนกิจศพ โดยมี คณะกรรมการบริหารสภาทนายความ, คณะ กรรมการมรรยาททนายความ และทนายความ ร่วมไว้อาลัย ณ วัดลาดบัวขาว เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานครฯ.


ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

9

คุยกับ นายทะเบียน เรียน เพื่อนทนายความทุกท่าน ตามที่พระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 จึงทำ�ให้การทวงถามหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจ ทวงถามหนี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำ�หนดไว้ในพระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 เช่น ต้องทวงถามหนี้ตามหลักเกณฑ์และ เงือ่ นไขทีก่ ฎหมายกำ�หนด เป็นต้น และหากผูป้ ระกอบธุรกิจทวงถามหนีไ้ ม่ปฏิบตั ติ ามหลักเกณฑ์และเงือ่ นไขหรือทวงถามหนีฝ้ า่ ฝืนพระราชบัญญัติ ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 จะมีบทกำ�หนดโทษทั้งโทษทางอาญาและโทษทางปกครองด้วย ทั้งนี้ พระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 5 กำ�หนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้จะต้องจดทะเบียนการประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กำ�หนดไว้ซึ่งจะออกเป็นกฎกระทรวงและประกาศใช้ต่อไป ส่วนผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ที่เป็นทนายความหรือสำ�นักงานทนายความและประสงค์จะประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ตามพระราช บัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 6 กำ�หนดให้จดทะเบียนประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อคณะกรรมการสภาทนายความซึ่งทำ �หน้าที่เป็น นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายทะเบียนรับจดทะเบียน โดยต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงและประกาศตามมาตรา 5 ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับจดทะเบียนจะออก เป็นข้อบังคับของสภาทนายความ ว่าด้วยการจดทะเบียนสำ�นักงานทนายความซึ่งจะประกาศใช้ต่อไป นายทะเบียนสภาทนายความ “ธุรกิจการทวงถามหนี”้ ตามพระราชบัญญัตทิ วงถามหนี้ พ.ศ.2558 หมายความว่า “การรับจ้างทวงถามหนีไ้ ม่วา่ โดยตรงหรือ โดยอ้อมเป็นปกติธุระ แต่ไม่รวมถึงการทวงถามหนี้ของทนายความซึ่งกระทำ�การแทนลูกความของตน” จึงหมายความว่าการที่ทนายความหรือสำ�นักงานทนายความทวงถามหนี้แทน ลูกความตามปกติเพื่อฟ้องคดีไม่จำ�ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำ�หนดไว้ในพระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 แต่อย่างไรก็ตาม เนือ่ งจากตามพระราชบัญญัตทิ วงถามหนี้ พ.ศ.2558 มีบทกำ�หนดโทษทัง้ โทษทางอาญาและโทษทางปกครองไว้ดว้ ย ดิฉนั จึงขอเรียนให้เพือ่ นทนายความทุกท่าน ทราบ เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการทวงถามหนี้อย่างละเอียดเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการทวงถามหนี้ที่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ต่อไป.

การประชุมติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้างร่วมกับคณะกรรมการจัดซื้อจ้ดจ้าง ในส่วนงานตกแต่ง ภายใน เพื่อพิจารณาในส่วนขององค์ประกอบอุปกรณ์การตกแต่งสำ�นักงาน รวมทั้งฟังสรุปงานที่อยู่ระหว่างดำ�เนินการ อาทิ งานโครงสร้าง งานตกแต่งภายใน งานภูมิสถาปัตย์ และติดตาม ความคืบหน้าของการก่อสร้างทั้งโครงการ โดยมี นายสุนทร พยัคฆ์ อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือฯ, นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ฯ, ทค.นิวัติแก้วล้วน เลขาธิการ สภาทนายความ, ดร.เกียรติศักดิ์ วรวิทย์รัตนกุล อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศฯ, นายชวน คงเพชร อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษฯ, คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง, คณะกรรมการตรวจ การจ้างงานก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ, ทีมสถาปนิกผู้ออกแบบ, บริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน และทีมผู้ควบคุมงานก่อสร้างฯ เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมประธานดวงรัตน์ สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ. และเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2558 : นาย เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ร่วม ประชุมคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้าง อาคารที่ทำ�การสภาทนายความ โดยมี นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ, นายสุนทร พยั ค ฆ์ อุ ป นายกฝ่ า ยช่ ว ยเหลื อ ประชาชนทาง กฎหมาย และบริษัทผู้ควบคุมงานฯ เพื่อเปิดซอง ประกวดราคาการประมูลจ้างเหมาปรับภูมิทัศน์ อาคารที่ทำ�การสภาทนายความ ณ ห้องประชุม 1 สภาทนายความ ถนน ราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ.

ที่ปรึกษาประจำ�กองบรรณาธิการ :

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์, นายสัก กอแสงเรือง, นายบำ�รุง ตันจิตติวัฒน์, นายเจษฎา อนุจารี, นายสุชาติ ธรรมาพิทักษ์กุล, นายพูนศักดิ์ บุญชู, ดร.สุธรรม วลัยเสถียร, นายสุมิตร มาศรังสรรค์, นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง, นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์, ผศ.ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา, นายชวน คงเพชร, นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์, นายวิเชียร ชุบไธสง, นายชลิต ขวัญแก้ว, นายสุรศักดิ์ รอนใหม่, นายพิเชษฐ คูหาทอง, นายอาสา เม่นแย้ม, นายผาติ หอกิตติกุล, นายวิทยา แก้วไทรหงวน, นายวันรัฐ นาคสุวรรณ, นายโอฬาร กุลวิจิตร

บรรณาธิการ : นายนิวัติ แก้วล้วน กองบรรณาธิการ : นายสุนทร พยัคฆ์, นายสุวทิ ย์

เชยอุบล, ดร.เกียรติศกั ดิ์ วรวิทย์รตั นกุล, นายไสว จิตเพียร, นายศุภกิจ หล่อพัฒนากูร, นายสุชาติ ชมกุล, นายสุรนิ ทร์ ทาซ้าย, นายวิบลู ย์ นาคทับทิม, ว่าทีร่ อ้ ยตรี สมชาย อามีน, นายคราศรี ลอยทอง, นายโอวาท จุลโคตร, นายเจษฎา คงรอด, นายสัมฤทธิ์ เชือ้ สาวถี, นายดนัย พุม่ เล็ก, นางสาวชืน่ ชนก วชิรธาราธาดร, ดร. วิเศษ แสงกาญจนวนิช, นางสาวนงลักษณ์ แตงเจริญ ผู้ช่วยกองบรรณาธิการ : นางสาวนัทธมน จันดี, นายไพศาล แก่ฉมิ

• ผลิตโดย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 0-2629-1430 ต่อ 129, 146 โทรสาร : 0-2282-9908


10

มุมกิจกรรม

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

โครงการอบรมเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ :

ปัตตานี

นายโอฬาร กุลวิจิตร กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 9 ในฐานะประธาน ศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์ 3 จังหวัดภาคใต้ จัดโครงการอบรมเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย เพือ่ คุม้ ครองสิทธิและความเสมอภาคของประชาชนให้เข้าถึงสิทธิขนั้ พืน้ ฐานในกระบวนการ ยุติธรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าอบรมมีทั้งสมาชิกทนายความ ผู้นำ�ชุมชน ผู้นำ�ศาสนา และประชาชนทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำ�นวน 5 ครั้ง ได้แก่ จังหวัด นราธิวาส วันที่ 22 สิงหาคม 2558, จังหวัดปัตตานี วันที่ 19 กันยายน 2558, จังหวัดนาทวี วันที่ 20 กันยายน 2558, จังหวัดยะลา วันที่ 27 กันยายน 2558 และอำ�เภอเบตง จังหวัด ยะลา วันที่ 3 ตุลาคม 2558

เบตง

ยะลา

สัมมนาวิชาการกฎหมายใหม่ : เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2558 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมลายทอง จังหวัด อุบลราชธานี : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนาความ เป็นประธานเปิด การสัมมนาวิชาการในการส่งเสริมศักยภาพวิชาชีพ และการช่วยเหลือประชาชน ทางกฎหมาย หัวข้อ “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2557” (ค้ำ�ประกัน จำ�นอง), พระราชบัญญัตกิ ารทวงถาม หนี้ พ.ศ.2558 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2558 (การดำ�เนินคดีแบบกลุม่ ) โดยเป็นการให้ความ รู้ทางวิชาการจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมให้ความรู้ อาทิ นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์, นายสุมิตร มาศรังสรรค์ อุปนายก ฝ่ายวิชาการ, นายวีรศักดิ์ โชติวานิช กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทาง กฎหมาย และ นายเจษฎา อนุจารี ผู้อำ�นวยการสำ�นักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่ง สภาทนายความ ในโอกาสนี้ นายสุรศักดิ์ รอนใหม่ กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 และ นายวิสทิ ธิ์ ศักดิส์ งิ ห์ ประธานสภาทนายความจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว ต้อนรับกรรมการบริหารสภาทนายความ, สมาชิกทนายความในภาค 3 ซึ่งการ สัมมนาครั้งนี้มี ทค.อรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายทะเบียนสภาทนายความ, ประธาน สภาทนายความจังหวัดต่างๆ ในเขตภาค 3 และทนายความร่วมฟังการสัมมนาฯ กว่า 600 คน.


มุมกิจกรรม

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

11

งานอบรมจริยธรรมมรรยาททนายความและพิธีมอบ ประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมวิชาว่าความ รุ่นที่ 43 : เมือ่ วันที่ 3 ตุลาคม 2558 สำ�นักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ จัดงานอบรม จริยธรรมมรรยาททนายความ และพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรมวิชาว่าความ รุ่นที่ 43 และผู้ผ่านการทดสอบกรณีฝึกหัดงานในสำ�นักงาน 1 ปี ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

เวลา 10.00 น. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “จริยธรรมมรรยาททนายความ” แก่ผู้ผ่านการอบรมวิชาว่าความ รุ่น 43 และผู้ผ่านการทดสอบกรณี ฝึกหัดงานในสำ�นักงาน 1 ปี

เวลา 14.30 น. นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยกรรมการบริหารสภาทนายความ ร่วมต้อนรับ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) อรรถนิติ ดิษฐอำ�นาจ องคมนตรี ที่ให้ เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรมวิชาว่าความ รุ่นที่ 43 และผู้ผ่านการทดสอบกรณีฝึกหัดงานในสำ�นักงาน 1 ปี ใน การนี้นายกสภาทนายความได้นำ� ชมนิทรรศการพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เกี่ยวกับบทบาทในวิชาชีพทนายความ The Lawyer King “เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงเป็นทนายความ” และนิทรรศการประวัติความเป็นมาและความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ

ต้อนรับแขกต่างประเทศ : เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 ในการประชุมคณะกรรมการ บริหารสภาทนายความประจำ�เดือนกันยายน 2558 : ดร.สุธรรม วลัยเสถียร อุปนายกฝ่าย ต่างประเทศ เป็นผูแ้ ทนนายกสภาทนายความซึง่ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ได้ให้การต้อนรับ H.E.Mr.Shiro Sadoshima Ambassador Embassy of Japan, Mr. Yuki NAGATA First Secretary, Political Affairs Embassy of Japan ที่เดินทางเข้าเยี่ยมชมการบริหารงานของ สภาทนายความ โดยมีคณะกรรมการบริหารสภาทนายความร่วมให้การแนะนำ�การบริหารงานของ สภาทนายความ ตอบข้อซักถาม และหารือเกีย่ วกับความสัมพันธ์ทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ณ ห้องประชุมประธานดวงรัตน์ ชั้น 3 สภาทนายความ ถนนราชดำ�เนินกลาง กรุงเทพฯ.

เวลา 15.30 น. สำ � นั ก ฝึ ก อบรมวิ ช าว่ า ความแห่ ง สภาทนายความ จั ด พิ ธี ม อบ ประกาศนี ย บั ต รแก่ ผู้ ผ่ า นการอบรมวิ ช าว่ า ความ รุ่ น 43 และผู้ ผ่ า นการทดสอบกรณี ฝึกหัดงานในสำ�นักงาน 1 ปี โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ (พิเศษ) อรรถนิติ ดิษฐอำ�นาจ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตร โดยมี นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยกรรมการบริหารสภาทนายความ, นายเจษฎา อนุจารี ผู้อำ�นวยการสำ�นักฝึกอบรมวิชาว่าความ และกรรมการสำ�นักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่ง สภาทนายความ ร่วมในพิธี โดยมีผู้เข้ารับมอบประกาศนียบัตรในครั้งนี้กว่า 1,000 คน


12

บ้านของเรา

ข่าวสภาทนายความ ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 เดือนตุลาคม 2558

ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารทีท่ ำ�การสภาทนายความ ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2558 :

ช่วงบ่ายของวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ทีไ่ ซด์งานก่อสร้างอาคารทีท่ �ำ การสภาทนายความ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ : นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เดินทางไปตรวจความคืบหน้างานก่อสร้างอาคาร ที่ทำ�การสภาทนายความ ตั้งแต่บริเวณอาคารชั้น 1 ถึงชั้น 7 (ดาดฟ้า) โดยไม่ได้บอกกล่าวผู้ควบคุมงาน ให้ทราบล่วงหน้า เพื่อตรวจสอบความพร้อมและความก้าวหน้าของงานก่อสร้าง รวมทั้งรายละเอียด ปลีกย่อยต่าง ๆ และประเมินความคืบหน้าของการก่อสร้างอาคารฯ โดยภาพรวม.

ขอขอบคุณผู้ให้ยืม-บริจาคเงินสมทบกองทุนจัดซื้อที่ดินและก่อสร้างที่ทำ�การสภาทนายความ รายนามผู้บริจาคเงินสมทบกองทุนจัดซื้อที่ดินและ ก่อสร้างที่ทำ�การสภาทนายความ ดังนี้ ปี 2550 :

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วย นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการฯ และ นายชวน คงเพชร อุ ป นายกฝ่ า ยกิ จ การพิ เ ศษฯ ร่ ว มรั บ มอบเงิ น จำ � นวน 50,000 บาท จากคณะทนายความจิตอาสา นำ�โดย นายเจษฎา อนุจารี, นายวิทยา แก้วไทรหงวน, นายบุษบา ฉิมพลิกานนท์, นายวัชรา มหิศนันท์ และ นายจักรกฤษณ์ โสมวิภาต เพื่อสบทบ กองทุนการก่อสร้างอาคารที่ทำ�การสภาทนายความ ณ ห้องนายก สภาทนายความ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558.

นายสมหมาย บัวเคล้า 10,000 บาท, นายปรีชา กาญจนบัตร 10,000 บาท, นายสมหมาย โฉมงาม 10,000 บาท, นายเกรียงศักดิ์ ไพบูลย์ 10,000 บาท, นายยรรยง เกษมลาวัลย์ 10,000 บาท, นายวรวุฒิ บุญแก้ว 10,000 บาท, นายธีรเทพ ตริรุจิรวงศ์ 10,000 บาท, นายชัยภัทร วิริยะประเสริฐ 5,000 บาท, นายจรณะ วันแต่ง 5,000 บาท, นายสมชาย พรจรูญพงษ์ 5,000 บาท, นายศักดิ์สิทธิ์ ธรรมฉัตรพร 5,000 บาท, นายยงเกียรติ จันทวงษ์ 5,000 บาท, นายสุชาติ เสียงสืบชาติ 5,000 บาท, นายณรงค์ รุ่งศรี 5,000 บาท, นายวีร ศักดิ์ ติวิรัช 5,000 บาท, นายไชยวุฒิ วรรณุรักษ์ 5,000 บาท, นางสาวศิริพร ชื่นจิตต์ 5,000 บาท, นายเฉลิมชัย วิ สุทธิ 5,000 บาท, นายสิทธิศักดิ์ อุดมชัยรัตน์ 5,000 บาท, นายจำ�นงค์ ธนะ 5,000 บาท, นายสมศักดิ์ ตัณฑ์ศรี สุวรรณ 3,000 บาท, นายเดชาวัต นามปราศัย 3,000 บาท, นายวัฒนพล สิทธิโชคสกุล 2,000 บาท, นางสาวกิตติ มา สิริศุภชัย 2,000 บาท, นายกฤตพงษ์ วีระปัญญาภรณ์ 2,000 บาท, นายราชวัชร โรจน์ทินกร 2,000 บาท ติดตามต่อได้ในฉบับหน้า...

สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ

ËÇÁÊ‹§ÀÒ¾¢‹ÒÇ-º·¤ÇÒÁÁÒŧà¼Âá¾Ã‹ ไดที่ ¡Í§ºÃóҸԡÒÃ˹ѧÊ×;ÔÁ¾ ¢‹ÒÇÊÀÒ·¹Ò¤ÇÒÁ àÅ¢·Õè 7/89 ÍÒ¤Òà 10 ¶.ÃÒª´Óà¹Ô¹¡ÅÒ§ á¢Ç§ºÇùÔàÇÈ à¢µ¾Ãй¤Ã ¡ÃØ§à·¾Ï 10200

â·ÃÈѾ· 0-2629-1430 µ‹Í 129, 146 â·ÃÊÒà 0-2282-9908

Facebook : ÊÀÒ·¹Ò¤ÇÒÁã¹¾ÃкÃÁÃÒªÙ»¶ÑÁÀ

E-mail : lctnews2013@gmail.com

เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 0-2629-1430 ตอ 129, 146 โทรสาร 0-2282-9908

ชำระคาฝากสงเปนรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547

ปณ.ราชดำเนิน


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.