ค�ำนิยมส�ำหรับ แครี่ ฟิลบี้ “เจ๋ง สดใหม่และเปี่ยมด้วยความขบขันอย่างแท้จริง…คุณจะเอาใจช่วย แครี่ตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย” - ลอเรน บาร์นโฮลด์ต ผู้เขียน Two - Way Street “ถ้าคุณก�ำลังมองหาบทวิจารณ์ชวนหัวว่าด้วยโรงเรียน ผู้ปกครอง การ เติบโตและอื่นๆ อีกมากมาย อ่านเล่มนี้เถอะ” - บัฟฟาโล นิวส์ “แครี่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างที่สุด ผู้อ่านจะกระตือรือร้น พลิกหน้ากระดาษเพื่อหาค�ำตอบว่าสาวน้อย ค้นหาวิธีเผยความสุข ที่ซ่อนอยู่อย่างไร” - บุ๊คลิสต์ “ความขบขันแบบวูด้ ดี้ อัลเลน นวนิยายทีต่ อ้ งอ่านอย่างเลีย่ งไม่ได้ และยอด เยี่ยมโดยไม่ต้องอวดอ้างอันใด” - ฟิลาเดลเฟีย วีคลี่-
ล�ำดับที่สามในรายการสิ่งที่ต้องท�ำ: ออกเดท อัจฉริยะเฟ้นหาอัจฉริยะ: สาวโสดผิดขาว อายุ 19 ฉลาดปราดเปรื่อง มองหาหนุ่มโสด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ติดยา ฉลาดเฉลียว อายุระหว่าง 18-25 ปีเพื่อเป็นเพือ่ นพูดคุย เรือ่ งปรัชญาและการใช้ชวี ติ ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่นอกรีต ไม่นยิ มปิตาธิปไตย และไม่มอี าการทางจิต จะมีใครตอบกลับมาบ้างนะ ฉันแทบรอไม่ไหวเลยล่ะ
Carrie Pilby แครี่ พิลบี้ แคเรน ลิสเนอร์ เขียน วารยา ศุภศิริ แปล Copyrights for Carrie Pilby©2003 by Caren Lissner Copyright Arranged with HARLEQUIN BOOKS S.A., Route de Chantemerle 58, 1763 Granges-Paccot, Switzerland Through Arika Interrights Agency, 234/12 Ladprao 12, Ladprao Road, Jatujak, Bangkok 10900, Thailand First published in Thailand 2016 by Legend Books Publishing Co.,Ltd Thai Translation Copyright © 2016 by Varaya Suphasiri
พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ตุลาคม 2559 ราคา 350 บาท หมวด วรรณกรรมแปล ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data เอกเกอร์ส, เดฟ. แครี่ พิลบี้ = Carrie Pilby.-- ขอนแก่น : เลเจ้นด์ บุ๊คส์, 2559 388 หน้า. 1. นวนิยายอังกฤษ. I. วารยา ศุภศิริ, ผู้เแปล. II. ชื่อเรื่อง. 813.54 ISBN 978-616-92052บรรณาธิการบริหาร: เทพพิคฑูนญ์ เลิศฤทธิ์ธนะกุล, วิมล เลิศฤทธิ์ธนะกุล, บุญ หลวงจันทร์
บรรณาธิการและที่ปรึกษากฏหมาย: ศุภฤกษ์ เทิงสูงเนิน บรรณาธิการฝ่ายผลิต: ศิริธาดา กองภา จัดรูปเล่ม: วารยา ศุภศิริ พิสูจน์อักษร: ฤกษ์ ศุภศิริ ออกแบบปก: N.Paksanavin | Atelier EN
จัดพิมพ์โดย บริษัท สำ�นักพิมพ์ เลเจนด์ บุ๊คส์ จำ�กัด ที่อยู:่ 103 หมู่ 3 ตำ�บลนาหว้า อำ�เภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 40150 สถานที่ติดต่อ: 3/29 คอนโด เดอะคิทท์ พลัส ซอยนวนมินทร์ 163 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 โทรศัพท์ 08 - 1051 - 9137, 09 - 0595 - 3027 Email : Legendbooks.publishing@gmail.com Facebook : www.facebook.com/legendbooks publishing พิมพ์ที่ ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด เรือนแก้วการพิมพ์ 947 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช แขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์ 0 - 2411 - 1523 โทรสาร 0 - 2866 - 3248 จัดจำ�หน่ายทั่วประเทศโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊คส์ เซ็นเตอร์ จำ�กัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ตำ�บลมหาสวัสดิ์ อำ�เภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0 - 2423 - 9999 โทรสาร 0 - 2449 - 9560
คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
เชื่อว่าในชีวิตเราต้องมีสักช่วงเวลาหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราช่าง แปลกแยกจากสังคม เหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง เหมือนเราหลุดมาจากดาว เคราะห์ดวงอื่น เวลาที่รู้สึกแบบนั้น เราแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง? บางคนอาจจะเดินออกมาจากนั่น บางคนอาจจะหาจุดพอดี และ พยายามปรับตัว บางคนอาจจะพูดออกไปถึงความอึดอัดคับข้องใจที่มี...แต่ ไม่ใช่ แครี่ พิลบี้ แครี่ เด็กสาวอัจฉริยะ ผู้จบการศึกษาจากฮาร์วาร์ดตั้งแต่อายุสิบ เก้า แต่กลับสอบตกเรื่องความสัมพันธ์ การแก้ปัญหาของแครี่เมื่อเจอภาวะ แปลกแยกก็คือ...กระโดดลงบนเตียงแล้วหลับตานอน...เมื่อเราอยู่เพียง ล�ำพัง ไม่ต้องออกไปเจอผู้คน ก็ไม่ต้องเจอปัญหาอะไรที่จะเกิดตามมา แต่แล้ววันหนึง่ เมือ่ เธอรูส้ กึ เหมือนมีโพรงขนาดใหญ่ในท้อง มีความ รู้สึกโหวงเหวงที่ไม่ทราบสาเหตุ และนักบ�ำบัดบอกว่าเขาจะให้เป้าหมาย ชีวิตกับเธอห้าข้อ เพื่อเธอจะได้เรียนรู้และก�ำจัดโพรงที่อยู่ข้างในนั้นเสีย ปฏิบัติการทดลองใช้ชีวิตของ แครี่ พิลบี้ จึงเริ่มขึ้นนับจากนั้น แต่ไม่มอี ะไรง่ายส�ำหรับแครี่ เด็กสาวผูม้ องโลกในแง่ลบ ไม่หมกมุน่ เรื่องเพศ และเกลียดคนเสแสร้งหลอกลวง ผู้เขียนได้พาเราติดตามชีวิตของแครี่ พิลบี้...ถึงแม้เธอจะเป็นเด็ก 6
แคเรน ลิสเนอร์
ปากดี ขี้ประชด แต่ความจริงใจและใสซื่อของเธอ จะท�ำให้เราตกหลุมรัก เธออย่างง่ายดาย และตามเอาใจช่วยให้เธอเรียนรูก้ ารใช้ชวี ติ ตัง้ แต่หน้าแรก จนถึงหน้าสุดท้าย ส�ำนักพิมพ์หวังว่าผู้อ่านจะตกหลุมรักแครี่เช่นเดียวกับเรา ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิต
ส�ำนักพิมพ์ เลเจ้นด์ บุ๊คส์
แครี่ พิลบี้
7
1
ร้านขายของช�ำมักให้ถุงพลาสติกเวลาฉันไม่อยากได้ ไม่ว่าจะ ซื้อหมากฝรั่งแค่หนึ่งแพ็ค กล้วย หรือมันฝรั่งทอด ข้าวของพวกนั้นจะอยู่ ในถุงเรียบร้อยแล้ว แล้วฉันก็จะรูส้ กึ ละอายใจกับการทีค่ นพวกนีใ้ ช้พลาสติก อย่างสิ้นเปลือง แต่ถุงมันอยู่ตรงนั้นก่อนฉันจะทันสังเกตเห็นพนักงานเอื้อม มือไปหยิบ ดังนั้นฉันเลยเฉยเสีย แต่ในทางกลับกัน ร้านวิดีโอก็เอาแต่ถาม ว่าอยากได้ถุงหรือเปล่า เอาเถอะ ในทางทฤษฎีถึงไม่ใส่ถุง ฉันก็ควรจะ ถือดีวีดีไปได้ เพราะถุงถือเป็นขยะพลาสติกอีกประเภทหนึ่ง แต่ฉันก็ยัง อยากได้ถุงพลาสติกจากร้านวิดีโอ เพราะอะไรน่ะรึ เหตุผลก็เข้าใจได้ไม่ ยากนัก…ฉันเชื่อว่าดีวีดีทุกแผ่นควรถูกห่ออย่างไรล่ะ วันนี้การพรางตัวไม่เป็นผล เดินออกมาจากร้านเช่าวิดีโอได้เพียง ครึ่งช่วงตึกก็เห็นโรนัลด์หัวตั้งจ๋องกรอดที่ท�ำงานอยู่ร้านกาแฟแถวมุมตึก เดินเข้ามาใกล้ “ไง แครี่” เขาทักพร้อมก้มมองดีวีดี “เช่าอะไรมาบ้างล่ะ?” โอ๊ะโอ ฉันต้องสาธยายเรื่องนี้อีกแล้วหรือเนี่ย “บอกไม่ได้ค่ะ และก็มีเหตุผลที่บอกไม่ได้ วันนึงฉันอาจจะอยาก เช่าหนังที่น่าอาย แต่ก็ใช่ว่าต้องเป็นหนังโป๊เปลือยอะไรหรอกนะ อาจจะ เป็นหนังที่จัดว่าหน่อมแน้มเกินไปส�ำหรับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน หรือหนังประเภทเนือ้ หารุนแรง หรืออาจเป็นโฆษณาชวนเชือ่ ของพวกนาซี… ฉันดูเพือ่ ศึกษาหาความรูอ้ ะไรท�ำนองนัน้ …และแน่นอนว่าถึงแม้หนังทีอ่ ยูใ่ น มือฉันจะเป็นประเภทคลาสสิค ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรต้องอาย แต่ถ้าฉันบอก แครี่ พิลบี้
9
คุณคราวนี้ แล้วคราวหน้าดันบอกไม่ได้ คุณก็ต้องปักใจเชื่อว่าฉันปิดบัง ซ่อนเร้นอะไรอยู่แน่ แต่ถ้าฉันไม่เคยบอกว่าเช่าหนังอะไร นั่นก็แค่ท�ำให้ คุณสงสัยว่าฉันก�ำลังปิดบังอะไรบางอย่าง ดังนั้นฉันก็ยังสามารถมีอิสระใน การเช่าหนังโป๊ การ์ตูน หรือโฆษณาชวนเชื่อของพวกเผด็จการ หรือเรื่อง อะไรก็ได้ที่ต้องการ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเปิดเผยว่าเช่าเรื่องอะไร เหมือน กับหนังสือที่ฉันก�ำลังอ่านนั่นแหละ ฉันอยากอ่านนิยายประโลมโลก พอๆ กับอยากอ่านดอสโตเยียฟกี้ ฉันยังอยากอ่านหนังสือที่ไม่เคยมีใครรู้จักอีก ด้วย คนชอบถามกันเกือบตลอดเวลาว่า ‘ก�ำลังอ่านเรื่องอะไรอยู่?’ แล้ว ถ้าตอบไปสักเรื่องที่ไม่ใช่ โมบี้ ดิ๊ก และไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน ฉันก็ ต้องมานั่งอธิบายอีก แล้วถ้าข้อดีของหนังสือเล่มนั้นไม่อาจอธิบายได้หมด ภายในสองวินาที ฉันก็จะติดแหง็กอยู่กับการนั่งเขียนอรรถาธิบายยาวยี่สิบ ห้าหน้า พอถึงตอนที่เขียนเสร็จก็ไม่มีเวลาอ่านเรื่องนี้ให้จบเล่มแล้ว ดังนั้น หนังสือที่ฉันอ่านและหนังที่ฉันเช่าเป็นเรื่องต้องห้ามส�ำหรับการพูดคุยแลก เปลี่ยนความเห็น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอะไรหรอก” โรนัลด์ยืนกะพริบตาอยู่สักพักแล้วเดินจากไป กฎต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาท�ำให้ฉันรู้สึกถึงความสมบูรณ์แบบ แต่คน อื่นๆ กลับมองว่าประหลาด แน่ละ ฉันยังต้องการคนเหล่านั้นเพื่อความอยู่ รอด โลกใบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันเข้าใจทะลุปรุโปร่งเลย และมันเองก็ไม่ได้เข้าอก เข้าใจฉันอย่างถ่องแท้เช่นเดียวกัน คนอื่นๆ ต่างคิดว่าฉันช่างพิลึกพิลั่น ถ้านับว่าเป็นเด็กสาวอายุสิบเก้า (หรือหญิงสาว…ถ้าคุณเป็นพวกทฤษฎีจ๋า น่ะนะ) เพราะฉันไม่เคยแสดงออกว่ามีความเป็นวัยรุ่น หรือแสดงออกแบบ ‘เด็กสาว’ มากเกินความจ�ำเป็น ว่ากันตามจริง บ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกขาดความสนใจในเรื่องเพศ เหมือนเป็นแค่ก้อนสมองผมยาวด�ำขลับ สวมแว่นเดินไปไหนมาไหน และ มีปากที่ใช้การได้ดี ถ้าเราเคยพูดถึงเรื่องเซ็กส์ในแง่ความสนใจเรื่องเพศ ใน แง่การไม่ยอมรับเพศสภาพ...เช่นที่ทุกคนดูเหมือนจะต้องการอยู่ตอนนี้… 10
แคเรน ลิสเนอร์
บอกได้เลยว่าในหัวฉันไม่ค่อยมีเรื่องที่ว่าสักเท่าไหร่ และตอนที่ยังเด็กกว่า นี้ฉันก็ไม่เคยคลั่งไคล้เด็กผู้ชายด้วย ซึ่งท�ำให้ฉันแตกต่างจากคนอื่นๆ แต่ ฉันก็เคยหลงรักอาจารย์สองคนตอนเรียนมหาวิทยาลัย หนึ่งในนั้นเปลี่ยน สถานะไปเป็นอย่างอื่น แต่เรื่องนั้นเอาไว้เล่าทีหลัง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นท�ำให้ ฉันสับสนในตอนที่มันจบลง โลกใบนี้ฝักใฝ่ในเรื่องเพศเสียมาก จนท�ำให้ ใครบางคนทีเ่ ป็นพวกไม่ฝกั ใฝ่ในเรือ่ งนีเ้ ลย เข้าใจว่าการหมกมุน่ ในเรือ่ งเพศ นัน้ รุนแรงและแผ่กระจายไปทัว่ อย่างไร มันเป็นตัวกระตุน้ ส�ำคัญในกิจกรรม ต่างๆ ของมนุษย์ เป็นแก่นของเรื่องตลก เป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลัง งานศิลปะ และหากว่าคุณไม่ได้มแี รงขับในระดับเดียวกัน คุณก็คงอดสงสัย ไม่ได้ว่าควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ หากว่าเซ็กส์เป็นสิ่งที่ท�ำให้โลก หมุน โลกควรจะหยุดหมุนเพราะคนอย่างพวกเราที่ไม่ฝักใฝ่เรื่องเพศหรือ เปล่านะ? ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว เป็นการจบก่อนเกณฑ์ถึง สามปี และตอนนี้ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่ในอพาร์ตเมนต์กลางเมืองซึ่ง พ่อเป็นคนจ่ายค่าเช่า ฉันอาจจะออกนอกบ้านได้บ่อยกว่านี้ กระทั่งหา งานท�ำก็ยังได้ แต่ฉันกลับไม่มีแรงกระตุ้นมากพอ พ่ออยากให้ท�ำงาน แต่ พ่อไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรทั้งนั้น ฉันเตือนความจ�ำไปว่าเป็นความคิดของพ่อนั่น แหละ ที่อยากให้ฉันเรียนข้ามชั้นสามปีตอนมัธยม ส่งฉันขึ้นไปอยู่อันดับ สูงสุดของชั้นในด้านวิชาการ ทั้งที่เตี้ยที่สุดในรุ่นด้วยส่วนสูงเพียงห้าฟุต แถมยังอายุน้อยที่สุดในสังคมที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาววัยยี่สิบสอง พ่อเป็นอีกคนที่บอกกับฉัน ในสิ่งที่ฉันกล่าวถึงไปแล้วว่าเป็นการ โกหกค�ำโต แต่ก็นั่นแหละ เช่นเดียวกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาจารย์คน นั้น เอาไว้เล่าทีหลังละกัน เมื่อถึงอพาร์ตเมนต์ บ๊อบบี้ซึ่งเป็นคนดูแลอาคารถามว่าฉัน สบายดีไหม แล้วก็ใช้โอกาสนี้จ้องบั้นท้าย ฉันไม่ใส่ใจและเดินขึ้นบันได ด้านหน้า บ๊อบบี้มักจะจ้องบั้นท้ายฉันเสมอ เขาแก่เกินกว่าจะชื่อบ๊อบบี้ แครี่ พิลบี้
11
แล้ว มีบางชื่อที่เราควรปลดระวางหลังอายุสิบสอง ยกตัวอย่างเช่น ‘แซลลี่’ ถ้า ‘แซลลี่’ เป็นชื่อคุณ คุณควรเปลี่ยนเสียก่อนจะแตกเนื้อสาว ชาย ฉกรรจ์ไม่ควรจะใช้ชื่อโจอี้ บ๊อบบี้ บิลลี่ เจมี่ หรือ จิมมี่ พวกเขาอาจใช้ชื่อ แฮร์รี่ได้จนถึงอายุสิบขวบ และใช้ได้อีกทีเมื่อเลยห้าสิบไปแล้ว แต่ระหว่าง นั้นไม่ควรอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าเป็นชื่อไมค์ โจ และจิม สามารถใช้ได้ตลอด ชีวิตเลยล่ะ แต่ไม่ควรใช้ชื่อบ๊อบช่วงวัยรุ่น แต่ถ้าเป็นเกย์ล่ะก็ ใช้สจ๊วร์ต สเตฟาน หรือโจนาธานก็ยังได้ ชื่อคริสเตียนไม่ได้รับการยอมรับในหมู่ชาว ยิว เช่นเดียวกับชื่อโมชา* ก็ไม่ได้รับการยอมรับในหมู่คริสต์ศาสนิกชนเช่น กัน เฮอร์เบิร์ต** เป็นชื่อต้องห้ามส�ำหรับทุกคน บัดดี้เหมาะกับหมาบีเกิ้ล แมตต์เอาไว้เรียกก้อนยางลบแบนๆ ฟ็อกซ์ควรคู่กับหมาป่า ส่วนดิแลนด์ ก็ดูแฟชั่นจ๋าเกินไป ฉันผ่านเข้าประตูด้านหน้า จากนั้นเดินต่อไปยังปล่องบันได และ ถึงที่หมายสุดท้ายหน้าประตูอพาร์ตเมนต์ เมื่อเข้ามาในห้องได้ในที่สุด ฉัน รู้สึกได้ถึงแสงสายัณห์อันน่าเกรงขาม ซึ่งท�ำให้ดูเป็นเรื่องยาก หากจะเข้าไป ในอพาร์ตเมนต์ใจกลางเมืองนิวยอร์กเหล่านั้น ที่ดูอย่างกับกระปุกไทลีนอล ขนาดยักษ์ตั้งเรียงราย ฉันไปพบเปตรอฟซึ่งเป็นนักบ�ำบัดสัปดาห์ละครั้ง พ่อกับ เปตรอฟ เติบโตมาด้วยกันในลอนดอน จริงๆ แล้วฉันไม่จำ� เป็นต้องเจอเขา ก็ได้ แต่ฉันก็ยังไปทุกสัปดาห์ เพราะนี่อาจเป็นวิธีใช้เงินของพ่อให้เกิด ประโยชน์ก็ได้ เช้าวันนั้นหลังกลับจากเช่าดีวีดี ฉันออกจากอพาร์ตเมนต์เพื่อไป พบเปตรอฟ ด้านนอกฝนตกปรอยๆ ลมเหนียวเหนอะหนะพัดมาปะทะ แก้ม ใบไม้เพียงไม่กี่ใบที่เหลืออยู่บนต้นลู่ลงตามน�้ำหนักหยดฝนและร่วงลง สู่ความตาย หลุมบ่อบนพื้นถนนด้านหน้าตึกที่ฉันอยู่รองรับใบไม้เหล่านั้น * มาจากภาษาฮิบรู แปลว่า ผู้กอบกู้ ** ชื่อนี้มีหลายนิยาม ในมุมมองของแครี่ ชื่อ Herbert น่าจะหมายถึง คนที่ไม่ยอมรับความคิด เห็นอันแตกต่าง ซึ่งท้าทายการเมือง สังคม หรือบรรทัดฐานเชิงศีลธรรม 12
แคเรน ลิสเนอร์
เอาไว้ ปลดปล่อยเสียงดนตรีแห่งความชุ่มโชกออกมา มีบางอย่างที่ฉันชอบเวลาไปพบเปตรอฟ นั่นก็คือคลินิกของเขา ตั้งอยู่ในบล็อกเล็กๆ แสนประหลาดแห่งหนึ่ง สถานที่ที่เกือบจะท�ำให้คุณ ลืมไปเลยว่าส่วนอื่นๆ ของเมืองนิวยอร์กที่เสื่อมโทรมนั้นเป็นอย่างไร ข้าง ทางขนาบด้ ว ยบ้ า นที่ ส ร้ า งจากหิ น สี น�้ ำ ตาลดู โ อ่ อ ่ า ภู มิ ฐ าน หน้ า ต่ า ง บานเกล็ดของบ้านแต่ละหลังที่ทาสีสันสดใส ขนาบด้วยกระถางดอกไม้ที่ ดูมีชีวิตชีวามากมาย ไม้เลื้อยหย่อนลงเกาะเกี่ยวพันสายไฟและโครงไม้ ระแนง ป้ายต่างๆ บนทางเดินใช้ภาษาที่สุภาพอย่างยิ่ง อาทิ กรุณาดูแล สุนัขของท่าน, ส่งเสียงดังบริเวณนี้ปรับ 500 ดอลลาร์ เป็นถ้อยค�ำที่เรียบ ง่ายและงดงาม แต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเพียงคนท้องถิ่น ซึ่งได้รับมรดก เป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่าที่อยู่ภายใต้การควบคุมค่าเช่า* จากย่ายายผู้มั่งคั่ง ที่สวมเครื่องประดับเต็มตัวและเคยเล่นเทนนิสกับโรเบิร์ต โมเสส** ด้วย ห้องนัง่ รอของเปตรอฟเหมือนห้องนัง่ เล่นทีอ่ บอุน่ สบาย ปูพนื้ พรม สีทองและมีเก้าอีแ้ บบมีทวี่ างเท้า ผนังด้านหนึง่ เต็มไปด้วยนวนิยายคลาสสิค ช่างเป็นของที่เปล่าประโยชน์ หากว่าใครสักคนไม่มีเวลาอ่าน ‘ยูลิสซิส’ ได้ ระหว่างที่นั่งรอพบนักบ�ำบัด เพราะถ้าจะอ่านหนังสือเรื่องนี้ให้จบ ใครคน นั้นต้องมาพบเปตรอฟมากกว่าสามร้อยครั้ง ซึ่งนั่นก็จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขา คลั่งไคล้ที่จะอ่าน ‘ยูลิสซิส’ ให้จบเล่มจริงๆ แต่ห้องรอพบนักบ�ำบัดไม่ใช่ สถานที่อันเหมาะสม หรือแม้แต่เป็นสถานการณ์ที่ควรอ่านหนังสือไม่ว่า เล่มใดก็ตาม หนังสือแต่ละเล่ม มีสถานที่และเวลาของตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่น หนังสือที่เขียนโดยเฮนรี่ มิลเลอร์*** ควรจะอ่านตอนที่ไม่มีคนเห็น หนังสือของคาร์สัน แมคคัลเลอร์ส**** ควรนั่งอ่านริมหน้าต่างในค�่ำคืนของ * การควบคุมค่าเช่าที่พักอาศัยในเขตชุมชน เพื่อมิให้ค่าเช่าสูงเกินไป ท�ำให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่ อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสม ** เป็นนักวางผังเมืองที่มีเชื่อเสียงในแถบมหานครนิวยอร์ก เกิดเมื่อเดือนธันวาคม 1888 และ เสียชีวิตเมื่อเดือนกรกฎาคม 1981 *** นักเขียนอเมริกัน เชื้อสายเยอรมัน นวนิยายของเขาแสดงเรื่องราวทางเพศที่ตรงไปตรงมา ทว่างดงามด้วยภาษาที่แหวกกฎเกณฑ์ขึ้นเป็นครั้งแรก นวนิยายที่สร้างชื่อให้เขาคือ Tropic of Cancer **** นักเขียนหญิงชาวอเมริกันที่สร้างชื่อจากนวนิยายเรื่อง THE HEART IS A LONELY แครี่ พิลบี้
13
ฤดูรอ้ นอันอบอ้าว หนังสือของซิลเวีย แพลธ* ควรเอาไว้อา่ นตอนทีค่ ณ ุ พร้อม จะฆ่าตัวตาย หรือต้องการให้คนอื่นคิดว่าคุณก�ำลังจะท�ำเช่นนั้น บนโต๊ะกลางของเปตรอฟยังมีสิ่งพิมพ์อื่นอีกมากมาย อาทิ แคตตาล็อกของ แอล.แอล.บีน, นิตยสารไซโคโลจี ทูเดย์, แคตตาล็อกของ เอ็ดดี้ โบเออร์, รายงานผู้ถือหุ้นของบริษัทไฟเซอร์ ฉันชื่นชมทักษะของเปตรอฟ ที่รวมไปรษณีย์ขยะเหล่านี้เข้ากับความเป็นมืออาชีพได้ ประตูห้องท�ำงานของเปตรอฟเปิดออก ชายร่างเล็กคนหนึ่งเดิน ออกมาพร้อมหลุบตามองต�่ำในขณะที่รีบเดินผ่านฉันไป เท่าที่ได้เจอคน ที่มาที่นี่ ไม่มีเลยสักคนที่จะสบตาฉัน อย่างกับว่ามันเป็นเรื่องน่าอายที่ถูก จับได้ว่ามีนัดกับนักบ�ำบัด ทั้งๆ ที่ใครบางคนที่จับคุณได้ก็ก�ำลังท�ำสิ่ง เดียวกันอยู่ เปตรอฟยืนตรงประตู “วันนี้เป็นไงบ้างแครี่?” เขาถามพร้อมโบก ไม้ โ บกมื อ ให้ ฉั น เข้ า ข้ า งใน มี ห นั ง สื อ กองพะเนิ น อยู ่ บ นโต๊ ะ และ ประกาศนียบัตรมากมายอยู่บนผนัง เปตรอฟนั่งลงบนเก้าอี้แล้ววางสมุด จดแบบมีเส้นลงบนเข่า ส่วนฉันเอนตัวลงบนเก้าอี้มีพนักพิงตรงข้ามกับเขา “ก็ดีค่ะ” “แล้วสัปดาห์นี้ได้เพื่อนใหม่บ้างมั้ย?” ฉันคิดว่าพ่อเป็นคนใส่เรื่องนี้ลงในสมองเขา ฉันไม่มีเพื่อนมากนัก แต่ก็มีเหตุผลเข้าท่าที่เป็นเช่นนี้ ซึ่งฉันจะอธิบายในไม่ช้านี้แหละ “ฝนตกตลอดเลย” ฉันตอบ “ส่วนใหญ่หนูเลยขลุกอยู่แต่ใน อพาร์ตเมนต์ค่ะ” มือของเปตรอฟขยุกขยิกอยู่บนหน้ากระดาษ เขาจะเขียนอะไรได้ อีกล่ะ? ฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์นะ “งั้นเธอก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกมากนักสินะ แล้วสัปดาห์ที่จะถึง HUNTER (หัวใจคือนักล่าผู้ว้าเหว่) ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1940 และท�ำให้เธอเป็นนักเขียนหญิงอายุ น้อยที่สุดที่ประสบความส�ำเร็จในยุคนั้น * กวี และนักเขียนชาวอเมริกัน โด่งดังจากบทกวีชุดต่างๆ ได้แก่ Ariel, Crossing the Water (1970), Winter Trees (1971) และ The Collected Poems (1981) ซึ่งได้รับ รางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1982 เธอฆ่าตัวตายในวัยสามสิบเอ็ด ด้วยการรมแก๊สตัวเองในห้องครัว 14
แคเรน ลิสเนอร์
นี้ล่ะ? มีแผนจะท�ำอะไรมั้ย?” “วันนี้หนูมีสัมภาษณ์งานค่ะ หลังจากนัดนี้” “เยี่ยมไปเลย! แล้วงานประเภทไหนล่ะ?” “ไม่รู้สิคะ ไปสัมภาษณ์กับใครสักคนที่พ่อรู้จัก หนูมั่นใจว่าคงไม่ น่าสนใจและเสียเวลาเปล่าแน่ๆ” “เป็นไปได้นะว่าถ้าหากเธอเริม่ ตีตนไปก่อนแบบนัน้ เธอก็จะท�ำให้ มันเป็นแบบนั้นไปจริงๆ” “ถ้าคุณก�ำลังพยายามบอกว่า ความคิดสามารถกลายเป็น ‘ความ สมปรารถนาแห่งการท�ำนาย’* มันก็คอื การพูดโดยใช้ศพั ท์เทคนิคของวงการ จิตบ�ำบัด โดยปราศจากความแม่นย�ำหรือความสัมพันธ์ของเหตุการณ์นั่น แหละ” ฉันว่า “ถ้าหนูบอกคุณว่างานนั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ มันก็อาจจะเป็นแบบนั้น หรืออาจจะไม่เป็นก็ได้ จริงๆ ไม่ว่าหนูจะพูดอะไร หรือไม่ ผลลัพธ์มันไม่ได้เกี่ยวกันสักนิดเลย” “ก็อาจเป็นได้ เธอนี่ไม่ใสใจค�ำแนะน�ำเลยนะ” เขาเอนหลังพิง เก้าอี้ “ฉันคิดว่าเธอต่อต้านตัวเองอยูบ่ อ่ ยๆ ดูสวิ า่ มันส่งผลกับเรือ่ งมิตรภาพ ยังไง ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเจอใครสักคน เธอก็จะมาบอกฉันว่าคนนั้น ไม่ฉลาดบ้างล่ะ หรือเสแสร้งบ้างล่ะ บางทีเธอจ�ำกัดขอบเขตนิยามค�ำว่า ฉลาดให้มันแคบลงบ้างก็ได้นะ หรือไม่ก็ขยายความนิยามของค�ำว่าเสแสร้ง สักหน่อย ยังมีพวกที่เป็นเซียนข้างถนนอีกนะ ซึ่งคนพวกนี้ฉลาดจาก ประสบการณ์ในชีวิต ไม่ได้เก่งแค่ในต�ำราน่ะ” “คุณถกเรื่องวิชาการกับพวกเซียนข้างถนนไม่ได้หรอกค่ะ” ฉัน แย้ง “และถึงแม้ว่าหนูจะได้เจอคนอื่นๆ ที่ฉลาดเฉลียว พวกเขาก็อาจจะ เป็นพวกหน้าซื่อใจคดหรือไม่จริงใจก็ได้”
* Self-fulfilling prophecy คือการทีค่ ำ� พยากรณ์เกิดขึน้ จริงเพราะอิทธิพลของตัวค�ำพยากรณ์เอง แนวคิดนีไ้ ม่ใช่เรือ่ งใหม่แต่ฝงั ตัวอยูใ่ นความคิดของมนุษยชาติมานานแล้ว ดังจะเห็นได้ จากวรรณคดีของหลายชนชาติทสี่ ะท้อนแนวคิดนี้ แครี่ พิลบี้
15
มันคือความจริงทีฉ่ นั เข้าเรียนมหาวิทยาลัยพร้อมกับคนเฉลียว ฉลาดมากมายอย่างที่คาดเอาไว้ แต่พวกเขาก็ยังหาเหตุผลให้กับเรื่องโง่ เขลา อันตราย หรือกระทั่งการเสแสร้งที่พวกเขาท�ำกันอยู่ตลอดเวลา ทั้ง เมาหัวราน�้ำ มีเซ็กส์กับคนไม่เลือกหน้า ลองเสพยา ไม่มีใครท�ำเรื่องพวก นั้นตอนเข้าเรียนแรกๆ หรอก แต่ทันทีที่สิ่งล่อตาล่อใจเริ่มท�ำงาน เพื่อน ร่วมชั้นของฉันติดหล่มกับมัน จากนั้นก็เริ่มหาข้ออ้างให้การกระท�ำของตน แม้กระทั่งพวกเคร่งศาสนาซึ่งควบคุมตัวเองได้ดี ก็ยังคิดหาสารพัดเหตุผล เข้าข้างตัวเองทีส่ ดุ แสนจะงีเ่ ง่าได้เลย หากพวกเขาอยากเชือ่ ในสิง่ ใดสิง่ หนึง่ จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรอก และหากว่าไม่อยากเชื่อก็ไม่เสียหายเช่น กัน แต่พวกนั้นไม่ควรโกหกด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เพื่อเปลี่ยนใจตัวเอง ความเสแสร้งหลอกลวงไม่ใช่เรื่องดีเลยเมื่อออกนอกรั้วสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่สังคมเมือง “ฉันอยากให้เธอเล่าอะไรสักอย่างทีเ่ ป็นด้านบวกให้ฟงั เดีย๋ วนีเ้ ลย” เปตรอฟว่า “เรื่องอะไรก็ได้ เล่าที่เธอชอบมาสักอย่าง อย่างเช่น ‘ฉันชอบ พระอาทิตย์ตก’ ‘ฉันชอบหาดไมอามี่’” “หนูชอบตอนที่ผู้คนท�ำตัวเหมือนการ์ดฮอลมาร์ค*” เปตรอฟถอนหายใจ “พยายามมากกว่านี้ซิ” “โอเค” ฉันใช้เวลาคิดไม่นานนัก “หนูชอบสันติและความสงบ” เปตรอฟมองฉัน “ว่าต่อสิ” “หนูคิดว่าคุณไม่เข้าใจเรื่องนี้อ่ะ” เปตรอฟถอนหายใจอีกรอบ “ยกตัวอย่างอื่นซิ” “หนูชอบ…ตอนที่ได้นอนเหยียดตัวบนเตียง ไม่ได้ยินเสียงแตร เสียงพูดคุย เสียงทีวี หรือเสียงอะไรทั้งนั้นยกเว้นเสียงหึ่งของระบบไฟฟ้าใน ผนัง แต่ก็มีบ้างเป็นบางครั้งที่หนูก็ชอบเสียงที่ดังมาจากถนนน่ะ” “ฉันชอบแบบนี้แหละ เอาล่ะ เล่าให้ฟังหน่อยว่าอะไรที่ท�ำให้เธอ รู้สึกแย่ แต่ไม่เอาเรื่องพวกหน้าไหว้หลังหลอกหรือพวกที่ไม่ฉลาดนะ เล่า * การ์ดอวยพรยี่ห้อดังของอเมริกา ซึ่งมีค�ำอวยพรที่หวาน โรแมนติก และให้อารมณ์เกินจริง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะชอบ ดังนั้นคนที่เหมือนการ์ดฮอลมาร์ก คือคนที่พูดเยอะ หรือพูดจาซ�้ำๆ 16
แคเรน ลิสเนอร์
ให้ฟังหน่อยว่าเธอร้องไห้ล่าสุดเมื่อไหร่” ฉันหยุดคิด “หนูไม่ได้ร้องไห้นานแล้ว” “ฉันรู้” ฉันเกลียดเวลาที่เปตรอฟคิดว่าเขารู้สารพัดเรื่องเกี่ยวกับฉัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้บอกอะไรด้วยซ�้ำ “รู้ได้ยังไงคะ?” “เพราะว่าเธอระแวดระวัง เพราะเธอถูกผลักให้เข้าเรียนมหา’ลัย ตั้งแต่อายุสิบห้า ในขณะที่คนอื่นๆ อายุมากกว่าเธอสามถึงเจ็ดปี และใน ตอนอายุสิบห้า เธอยังไม่ได้พัฒนาในเชิงสังคมและไม่ได้ตระหนักถึงเรื่อง เพศสภาพ พฤติกรรมทุกอย่างมันเริ่มขึ้นตอนเรียนมหา’ลัย เด็กๆ พวกนั้น ดื่มเหล้า, เสียพรหมจรรย์ไม่เลือกที่, ทดลองกับคนที่มีประสบการณ์, บาง คนก็ตอบสนองด้วยการพยายามปรับตัว แต่เธอเลือกที่จะออกจากระบบ โดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ตอนนี้ เธอเรียนจบมาเป็นปีแล้ว และ ยังคงไม่มีประสบการณ์ในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในสังคม การ เป็นคนฉลาดไม่ได้หมายความว่าจะมีทักษะในการปฏิสัมพันธ์เชิงสังคมได้ หรอกนะ ไม่มีใครเคยพูดนี่นาว่าการเป็นอัจฉริยะนั้นง่ายดาย” ฉันได้ยินเสียงฝนตกหนักขึ้นด้านนอกอาคาร เปตรอฟลุกขึ้นปิด หน้าต่างแล้วนั่งลงตามเดิม “เธอเคยเอ่ยถึงการโกหกค�ำโตของพ่อสองสามครั้ง ฉันคิดว่าเรา ควรพูดเรื่องนั้นกันสักครั้ง” “ค่ะ…” “แต่ไม่ใช่วันนี้ ฉันมีการบ้านให้เธอ” ฉันมองดูพรมอันเต็มไปด้วยเศษเชือกและเส้นใยมากมาย “ฉันอยากให้เธอเข้าสังคมมากกว่านี้ แค่มากขึ้นอีกหน่อยก็พอ แค่ลองนึกถึงด้านอื่น พิจารณาดูว่าอาจมีสักอย่างที่พอจะอยู่ตรงกึ่งกลาง ระหว่างความแตกต่างได้ ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอท�ำเรื่องอันตรายหรือผิด ท�ำนองคลองธรรมอะไรหรอกนะ แต่ฉันอยากให้เธอลองท�ำเรื่องจ�ำพวกไป งานเลี้ยง เป็นสมาชิกองค์กรหรือสโมสรไหนสักแห่ง หลังจากท�ำเรื่องเหล่า นี้แล้ว ฉันอยากให้เธอเล่าให้ฟังว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ยังไม่ต้องเริ่มตอนนี้ แครี่ พิลบี้
17
ก็ได้ รออีกหน่อยจนกระทั่งคิดว่าพร้อมก็ได้” “ได้ค่ะ ปีหน้าเป็นไงคะ?” เปตรอฟยิ้ม “แบบนั้นก็ไม่เลวนะ คืนส่งท้ายปีเก่าเป็นช่วงเวลาที่ ดีที่เธอจะใช้ร่วมกับเพื่อนๆ เธอสามารถไปงานเลี้ยงส่งท้ายปีได้ด้วย” “บางทีหนูควรอ้วกที่ไทม์สแควร์ก็พอ แล้วหนูก็จะปรับตัวได้” เปตรอฟส่ายหัว “เธอรู้นี่ว่าฉันไม่ได้ก�ำลังแนะน�ำให้เธอท�ำเรื่อง อันตราย แต่แค่ต้องการให้เธอเรียนรู้การเข้าสังคมให้มากขึ้น สิ่งที่เธอต้อง ท�ำคือค่อยๆ หาวิธีใช้เวลาช่วงส่งท้ายปีีกับคนอื่นๆ เราจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก่อน …เป้าหมายห้าข้อ” เปตรอฟฉวยปึกกระดาษโน๊ตสีเ่ หลีย่ มลูกบาศก์ทมี่ ยี หี่ อ้ ยาโซลอฟต์* ปั๊มนูนอยู่บนนั้น บางคนก็นะ เอามันเสียทุกอย่างหากว่าเป็นของฟรี “ข้อแรก” เปตรอฟว่า “ฉันอยากให้เธอเขียนรายการของที่ชอบ สิบอย่าง เสียงต่างๆ จากท้องถนนก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ แต่ฉันต้องการ สักสิบอย่าง ข้อสอง ฉันอยากให้เธอเข้าเป็นสมาชิกองค์กรหรือสโมสรอะไร ก็ได้อย่างน้อยหนึ่งแห่ง วิธีนี้เธออาจจะพบคนที่มีความสนใจตรงกัน หรือ บางทีอาจมีกระทัง่ คนทีเ่ ธอคิดว่าฉลาดก็ได้” เขาก�ำลังเขียนลงไปบนกระดาษ “สาม ออกเดท…” “ได้ค่ะ…” “สี่ ฉันอยากให้เธอบอกใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงว่า เธอแคร์พวกเขาจริงๆ เรื่องนี้ห้ามประชดประชันเป็นอันขาดนะ” “ประชดประชันเหรอ? หนูเนี่ยนะ? เปตรอฟฉีกกระดาษออกมาหนึ่งแผ่นแล้วยื่นให้ฉัน
* เป็นชื่อการค้าของ Sertraline Hydrochloride จัดว่าเป็นยากลุ่มต้านซึมเศร้า ใช้เพื่อรักษา โรคซึมเศร้า และความผิดปกติทางจิตอื่นๆ เช่น ภาวะย�้ำคิดย�้ำท�ำ ภาวะตื่นตกใจมาก และช่วย ลดความเครียดของผู้ป่วยหลังได้รับผ่าตัด หรือความวิตกกังวลอื่นๆ 18
แคเรน ลิสเนอร์
ZOLOFT®
1. เขียนรายการเรื่องที่ชอบสิบอย่าง 2. เป็นสมาชิกองค์กร/ สโมสร 3. ออกเดท 4. บอกใครสักคนว่าเธอห่วงใย 5. ฉลองปีใหม่
“เป้าหมายคือช่วยให้เธอปรับตัวน่ะ ไม่ใช่ว่าสอนให้เธอท�ำเรื่อง ไม่ดี แต่เพื่อช่วยให้เธอเห็นว่าการมีปฏิสัมพันธ์เชิงสังคมนั้นก็มีด้านบวก อยู่” “หนูจะไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้ากับโลกหรอกนะคะ ถ้าโลก เป็นสิ่งที่เข้าใจได้…แต่มันไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิ หนูเห็นซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า บางที โลกต่างหากที่ควรปรับเข้าหาหนู” “ลองดูก่อน” เปตรอฟวิงวอน “ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเธอเจอคน ใหม่ๆ อย่า…” “อะไรคะ?” “อย่าวางท่า” เขาเกาเคราแพะ “อย่ารูส้ กึ ว่าต้องแสดงภูมทิ ุกเรือ่ ง ที่เธอรู้ในเวลาเดียวกัน หรือโต้แย้งทุกอย่างที่ผุดขึ้นมาในหัว” “ถ้าหนูไม่อาจรู้สึกสะดวกใจที่จะพูดสิ่งที่คิดได้ ไม่ใช่ว่าคนนั้นไม่ เหมาะกับหนูหรอกหรือ? และถ้าหากว่าพวกเขาไม่เหมือนหนู ไม่ดีกว่าหรือ คะที่หนูรู้ตัวเร็ว? นอกจากนี้ ถ้าหนูพูดสิ่งที่หนูเชื่อละก็ วิธีนี้ก็จะรู้ได้ใน ทันทีเลยว่าเราเข้ากันได้หรือเปล่า” เปตรอฟกะพริบตาปริบๆ “เป็นเรื่องดีถ้าเราเจอคนที่เข้ากันได้ แต่ เธอไม่จ�ำเป็นต้องปะทะกับพวกเขาด้วยบททดสอบเหล่านั้นทันทีหรอก” ฉันยักไหล่ “หนูจะลองคิดดูค่ะ” เปตรอฟพยักหน้า “พยายามหน่อยนะ” แครี่ พิลบี้
19
พอออกมาด้านนอกตนก็เทลงมา ฉันดึงเสื้อโค้ตขึ้นคลุม
หัว แล้ววิ่งไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน ฉันอยากกลับบ้านแทบตาย อยากเลื่อน ตัวลงใต้ผ้าห่มและงีบหลับ แต่ก็ท�ำแบบนั้นไม่ได้ เพราะมีสัมภาษณ์งาน ต่อ ขณะที่ใกล้จะถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ชายที่สวมเสื้อกันฝนท�ำท่าทาง ฉุนเฉียวใส่ฉัน “ยิ้มหน่อย!” การกระท�ำแบบนี้ท�ำให้ฉันรู้สึกแย่ลงไปอีก ฉันมัวแต่ครุ่นคิดเรื่อง ของตัวเองอยู่ และใครสักคนกลับรู้สึกว่าเขามีสิทธิ์มายุ่มย่ามกับฉันอย่างไร ก็ได้ นี่เขาไม่รู้หรอกหรือ การที่ท�ำให้ฉันรู้สึกว่าท�ำอะไรผิดสักอย่างนั้น เขานั่นแหละที่ท�ำให้ฉันแทบไม่อยากยิ้ม มันคือผลสะท้อนกลับของสิ่งที่เขา ตัง้ ใจให้เป็นโดยแท้ ก็เหมือนกับการตีเด็กทีแ่ หกปากโวยวายเพือ่ ให้เขาหยุด ร้อง และเราก็เคยเห็นกันแล้วว่าเป็นอย่างไร ก็นั่นแหละ ฉันไม่รู้ว่าต้องท�ำอย่างไรกับผู้ชายคนนั้น ฉันไม่เคย เที่ยวไปเรียกร้องให้ใครเปลี่ยนวิธีการแสดงออกทางสีหน้าสักหน่อย ท�ำไม ทุกคนถึงมาบอกว่าฉันต้องท�ำอะไร แต่พวกเขากลับไม่เคยยอมให้ฉันท�ำ แบบเดียวกันกลับคืนไปบ้างแม้สักหนึ่งในสิบก็ตาม?
ร้านกาแฟที่ฉันจะไปพบกับแบรด นิกเคอร์สัน ห่างออกไปสอง
สถานี เขานั่งอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วเมื่อฉันไปถึง แบรดผมสีบลอนด์ตัด ทรงสลีคแบ็ค* และใบหน้าไม่ได้โดดเด่นอะไร เขาหนุ่มกว่าที่ฉันคาดไว้เสีย อีก จนฉันไม่ค่อยมั่นใจนักว่านี่เป็นการนัดหมายคุยเรื่องธุรกิจ หรือการ นัดบอดลับๆ กันแน่ เขายืนขึ้นและส่งยิ้ม “ยินดีที่ได้เจอคุณครับ” “เช่นกันค่ะ” * ทรงผมผู้ชายที่มีการเสยผมไปด้านหลัง หรือปาดเรียบไปด้านใดด้านหนึ่ง เรียกอีกอย่างว่า ทรงเปิดหน้าผาก 20
แคเรน ลิสเนอร์
เราทั้งคู่นั่งลง แบรดนั่งไขว้ขา…ขายาวๆ คู่นั้น…และเอ่ยถามฉัน พอเป็นพิธวี า่ การเดินทางมาทีน่ เี่ ป็นอย่างไร จากนัน้ ก็หนั ไปสนใจคลิปบอร์ด “ผมจะถามสองสามค�ำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณนะครับ” “ได้ค่ะ” “พ่อของคุณบอกว่าคุณพิมพ์งานได้” “ใช่ค่ะ” “แล้วคุณใช้คอมพิวเตอร์แบบไหนครับ? “ตอนเรียนฉันเคยใช้ทั้งยี่ห้อแมค, เดล, เกทเวย์, เอชพี และเครื่อง พีซีที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐานอีกหลายยี่ห้อ ทั้งระบบปฏิบัติการของแมค และวินโดวส์ ฉันคิดว่าทั้งสองระบบควรใช้งานร่วมกันได้ดีกว่านี้ ในเมื่อ ยุโรปยังยอมรับเงินยูโรได้ แล้วท�ำไมเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราถึงไม่ สามารถใช้ระบบปฏิบัติการร่วมกันได้มีประสิทธิภาพกว่านี้ล่ะ?” เขาหรี่ตาลง “คุณบอกว่าอายุเท่าไหร่นะ?” “ฉันอายุสิบเก้าค่ะ” “คุณดูเหมือนจะเคร่งเครียดเกินคนวัยสิบเก้านะ” ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอย่างไร ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่ เหมือนตอน ผู้ชายคนนั้นตะโกนว่า ‘ยิ้มหน่อย’ ราวกับว่าแค่มีตัวตนอยู่ฉันก็ผิดแล้ว แบรดไม่ได้พูดอะไรอีกเลย เพียงแค่จ้องมองฉันและรอ …รอแล้ว รอเล่า เวลาส่งคนมาสัมภาษณ์งาน อย่างน้อยก็ควรแน่ใจว่าคนเหล่านั้นมี ความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของคนที่พวกเขาก�ำลังสัมภาษณ์อยู่นะ “คุณบอกได้นะคะว่างานที่ว่าเกี่ยวกับอะไร” “โอ๊ะ!” เขาอุทาน “อืม อย่างแรกเลย มันเป็นงานประเภทผู้ช่วย เจ้านายในการบริหารจัดการเรื่องจิปาถะ พิมพ์นั่นนี่ เมื่อจ�ำเป็นต้องท�ำ ช่วยงานในส�ำนักงาน และไปๆ มาๆ ก็อาจได้รับผิดชอบสิ่งต่างๆ ที่มีความ ส�ำคัญมากขึ้นไปอีก” เขาหยิบแก้วกาแฟ “ฟังดูเป็นไงบ้าง?” ฉันไม่คิดว่าเขาต้องการค�ำตอบที่สัตย์จริง “เยี่ยมเลยค่ะ” “อาฮะ” เขาจิบกาแฟ “อืม” เขาคิดอยู่สักพัก “เอาล่ะ ท�ำไมไม่ เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณสักหน่อย” แครี่ พิลบี้
21
ในที่สุดก็มีค�ำถามตรงประเด็นเสียที! ฉันตอบไปว่า “ฉันพยายาม หาค�ำตอบว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด แล้วฉันก็จะยึดมั่นอยู่กับมัน ฉันไม่เข้า ร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อคนอื่นๆ หรือตัวฉันเอง ฉัน พยายามไม่ตัดสินผู้คนค่ะ” “ผมไม่ได้ก�ำลังตัดสินคุณนะ” เขาแทรกขึ้นมา ซึ่งไม่ถูกจังหวะเอา เสียเลย “ฉันไม่ได้ว่าคุณท�ำอย่างนั้นนี่คะ” เราทั้งคู่ถึงทางตันอีกแล้ว เขาจึงวกกลับสู่เรื่องสัพเพเหระ “คุณพิมพ์ได้เร็วแค่ไหน?” “ประมาณหกสิบถึงหกสิบห้าค�ำต่อนาทีค่ะ” เขาไม่ได้พูดอะไรอีก “คุณต้องการให้ระบุชัดเจนหรือเปล่าคะ?” เขายักไหล่ “แน่นอนครับ” “หกสิบถึงหกสิบห้าค�ำต่อนาทีค่ะ” ฉันยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าค�ำตอบนี้ไม่ได้ผ่านการรวบรวมความ พยายามอย่างเพียงพอ เพื่อจะพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้เคร่งเครียดเกินไปนัก แบรดดื่มกาแฟจนหมดแก้ว “เอาละ” เขายืนขึ้นพร้อมส่งยิ้ม “ยินดีอย่าง ยิ่งที่ได้พบคุณ เอาไว้เราจะติดต่อไปนะครับ” “เยี่ยมเลยค่ะ” ฉันชื่นชมดุลยพินิจในการปิดบทสนทนาของเขา จริงๆ
ฉันโล่งอกอย่างเหลือเชื่อเมื่อกลับถึงบ้านในที่สุด ขอบคุณ
พระเจ้าที่ฉันออกมาจากที่นั่นได้ ฉันปิดประตูหอ้ งนอน วางกระเป๋าลงบนพืน้ และถอดเสือ้ ผ้าทีเ่ ปียก ชืน้ ออก รอบเอวมีรอยแดงทีเ่ กิดจากขอบยางยืดของกางเกง ฉันถูไปมาเพือ่ ขจัดรอยนั้น จากนั้นก็พาดเสื้อผ้าไว้กับเก้าอี้แล้วเดินไปที่เตียง ฉันสามารถท�ำกิจกรรมที่ชอบที่สุดในโลกได้แล้วตอนนี้ 22
แคเรน ลิสเนอร์
นั่นคือการนอน เตียงคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ทมี่ หี มอนสตาร์ชพี่ มิ พ์ลายใบเขือ่ ง สามใบ ฉันค่อยๆ เลื่อนร่างเปลือยเปล่าลงไปใต้ผ้าห่ม รู้สึกถึงความเย็น ของผ้าปูที่นอน ผ้าฝ้ายผืนนั้นสัมผัสแผ่นหลังฉันด้วยความรักใคร่ ฉันปิด เปลือกตาลง ปล่อยให้กระดูกสันหลังแต่ละข้อได้ผ่อนคลาย ตอนนี้ในหัวโล่งไปหมด ทุกส่วนของร่างกายก�ำลังจมดิ่งและว่าง เปล่า ฉันไม่ต้องคิดเรื่องใด ได้ยินสิ่งใด พูดอะไร รู้สึกอะไร หรือวิตกกังวล เรื่องใด ทุกอย่างอันตรธานไปจนเหลือเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น หลังคาอาจจะถล่มลงมาและโปรยปรายสายฝนคอนกรีตใส่ฉัน รอยแยกบนผนังที่แตกแขนงอาจค่อยๆ คืบเคลื่อนขึ้นไปจนถึงเพดาน แม้ เป็นเช่นนั้น ฉันก็ยังสามารถเอนกายได้ตลอดกาลหากเลือกจะท�ำ ไม่มีใคร หยุดฉันได้อีกแล้ว บนเตียง ไม่มนี กั จิตวิทยา ไม่มคี นสัมภาษณ์งาน ไม่มพี วกเสแสร้ง ฉันไม่ต้องเขียนลิสต์วิธีเข้าสังคม ไม่ต้องยิ้ม ไม่ต้องตัดสินความเชื่อของตัว เอง ไม่ต้องสวมรองเท้าหุ้มส้น ไม่ต้องให้ค�ำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชาติ ไม่ต้อง ใช้ดินสอสองบี ไม่ต้องอ่านไฟน์ปรินท์* ไม่ต้องขายคุกกี้มินท์ห้าสิบกล่อง ไม่ต้องสูงเกินห้าฟุตสี่นิ้วเพื่อจะได้ขี่มอเตอร์ไซค์ จริงอยูว่ า่ การนอนบนเตียงไม่ใช่กจิ กรรมของปัญญาชน และก็จริง อีกนั่นแหละที่ว่ามันไม่เกิดดอกออกผลอันใดทั้งสิ้น แต่ในเมื่อร้อยละเก้าสิบห้าของการท�ำกิจกรรมนอกเตียงอาจก่อ ให้เกิดความเจ็บปวดได้…การเลี่ยงความเจ็บปวดจึงเป็นความรู้สึกสุขที่สุด บนโลกใบนี้อย่างเห็นได้ชัด
ฉันนอนอยู่อย่างนั้นราวหนึ่งชั่วโมง ฟังเสียงฝนส่งข้อความ
อันเต็มไปด้วยความชุ่มโชกตกกระทบหน้าต่าง เมื่อพายุอ่อนก�ำลังลง ฉัน * ส่วนหนึ่งของเอกสารที่มีรายละเอียดข้อจ�ำกัดหรือเงื่อนไขต่างๆ ตีพิมพ์โดยใช้ตัวอักษรขนาด เล็กไม่ค่อยเด่นชัด แครี่ พิลบี้
23
จึงผงกศีรษะขึ้น กลิ่นอ่อนๆ ของเชอร์รี่อวลอยู่ใต้จมูก ฉันไม่รู้ว่ากลิ่นนี้มาจากไหน บางทีอาจจะลอดหน้าต่างเข้ามา กลิ่นนี้ท�ำให้ฉันนึกถึงเชอร์รี่โซดา ซึ่งไม่ ได้ดื่มมาหลายปีแล้ว ฉันนึกถึงเสียงซ่าของเครื่องดื่มชนิดนี้ นึกถึงเวลาที่ ฟองโซดาจมลงในกระเพาะของใครสักคน ฉันนึกภาพแก้วขนาดยักษ์ที่มีของเหลวสีพลัมเข้มกระเพื่อมไปมา ฉันหวนนึกถึงงานเลี้ยงปีใหม่ที่พ่อจัดตอนเด็ก นึกถึงเรื่องที่เด็กอย่างพวก เราได้รับอนุญาตให้ดื่มน�้ำเชอร์รี่โซดาสีเข้ม ในขณะที่พวกผู้ใหญ่ดื่มไฮบอล* ตอนนัน้ มีเด็กชือ่ เท็ดด้วย เขาหย่อนช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม แผ่นข้าวโพด ทอดกรอบ และถัว่ ลิสงลงไปในเชอร์รโี่ ซดาเพือ่ ให้พวกเราทึง่ เขาได้รบั ความ สนใจอย่างมากเนื่องจากความห่ามที่เขากระดกมันลงไป ซึ่งฉันไม่คิดว่าเขา ต้องท�ำอะไรแบบนั้นจริงๆ ฉันคว้าสมุดโน้ตที่วางอยู่บนสเตอริโอและเริ่มเขียนรายการ ‘สิ่งที่ ชอบ’ ที่ ดร.เปตรอฟบอก ในไม่ช้าฉันก็คิดออกสองสามเรื่อง 1. เชอร์รี่โซดา 2. เสียงจากถนน 3. เตียงนอน ฉันเคยมีเตียงที่ดีที่สุดตอนอายุแปดขวบ นั่นคือเตียงที่มีกระโจม สีฟ้าตุ่น ตอนนั้นห้องฉันยอดเยี่ยมที่สุด มีพรมขนปุยยาวสีด�ำ แผ่นตาราง ธาตุขนาดยักษ์ยี่ห้อพาร์ชีซี่ แผนผังตรรกศาสตร์ของเฮเกล** โมเดลระบบ สุริยะ ภาพเขียนแนวแอบสแตรกสองภาพ และเครื่องวัดระยะทางหาเส้น รุ้งและเส้นแวง * วิสกี้หรือเหล้าผสมน�้ำโซดาหรือน�้ำขิงแล้วเสิร์ฟในแก้วทรงสูง ** จอร์จ วิลเฮล์ม เฟรดริค เฮเกล นักปรัชญาชาวเยอรมันในช่วงปลายยุคแห่งภูมิปัญญาเฮเกลเป็นนักปรัชญาคนส�ำคัญของโลกตะวันตก งานเขียนหลายชิ้นของเขามีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อ ปรัชญากลุ่มต่างๆ อาทิ ปรัชญาภาคพื้นทวีป ปรัชญาวิเคราะห์ และลัทธิมาร์กซ์ 24
แคเรน ลิสเนอร์
4.สระว่ายน�้ำในร่มที่มีสีเขียวอมฟ้า 5. ปลาดาว 6. ยุควิคตอเรีย 7. เรนโบว์ สปริงเคิลส์ * 8. ฝนตกระหว่างวัน (เหมาะสำ�หรับการงีบหลับ) ฉันพยายามเค้นสมอง แต่ก็คิดไม่ออก ถ้าสามารถเขียนรายการสิ่งที่เกลียดได้ คงต้องใช้สมุด โน้ตถึงสามเล่ม ต้องสนุกแน่ๆ รายการสิ่งที่ฉันเกลียด ฉันสามารถเริ่มจากคู่รักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนได้เลย คู่รักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนน่าจะอายุยี่สิบปลายๆ หรือไม่ก็สามสิบ ต้นๆ ทั้งคู่รูปร่างสูงโปร่งและดูค่อนข้างภูมิฐาน ฉันเห็นสองคนนี้แถวๆ หน้าต่างห้องครัว บ่อยยิ่งกว่าที่เห็นพวกเขานอกบ้านเสียอีก ทั้งสองคน มักวนเวียนอยู่หน้าเตาอบเสมอ ทั้งหยิกทั้งหยอกกันไปมา และก่อนที่คุณ จะรู้ตัว ก็มีการแสดงฉากรักให้ดูฟรีกันเสียแล้ว และท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็จะย้าย ไปอีกห้อง คุณอาจคิดว่าพวกเขามีความเคารพบรรดาเพื่อนบ้านมากพอที่ จะไม่ให้เราเห็นอารมณ์ปรารถนาอันมิอาจควบคุมได้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ ฉันเกลียดสองคนนั้นหรอกนะ เหตุผลที่ฉันเกลียดพวกเขาก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่พบเจอกันบน ถนน ทั้งคู่ไม่เคยทักทายฉันเลย พวกเขาต้องรู้อยู่แล้วสิว่าฉันเป็นเพื่อน บ้าน ก็ฉันอยู่นี่มาเกือบปีแล้วนี่นา แต่ในทางกลับกัน ฉันเองก็ไม่เคยทักทายพวกเขาเหมือนกัน
ฉันพยายามเค้นสมอง แต่ก็ยังคิดข้อเก้าและสิบไม่ออก จึง
วางสมุดโน๊ตแล้วเอนตัวลงนอนตะแคงบนเตียง มือไขว้ทับกันเหมือนกับ * ลูกกวาดชิ้นเล็กๆ หลากสีที่ใช้ตกแต่งหรือเพิ่มเข้าไปในขนมหวาน โดยทั่วไปมักใช้แต่งหน้า คัพเค้ก คุกกี้ โดนัท ไอศกรีม โยเกิร์ตแช่แข็ง พุดดิ้ง เป็นต้น แครี่ พิลบี้
25
อุ้งเท้าของสุนัขพันธุ์เกรทเดน ฉันนึกถึงเป้าหมายทั้งห้าของเปตรอฟ เป็นสมาชิกองค์กรรึ ออก เดทงั้นรึ เปตรอฟต้องคิดว่าฉันไร้ความสามารถในเรื่องพวกนี้แน่ๆ ไม่ใช่ ว่าฉันท�ำไม่ได้หรอกนะ แต่ฉันเลือกไม่ท�ำต่างหากล่ะ แน่นอนว่าการอยู่ตัวคนเดียวก็อาจรู้สึกเบื่อได้ แต่ท�ำไมฉันถึงต้อง บังคับตัวเองให้ออกไปพบเจอพวกที่ลดมาตรฐานเชิงศีลธรรม จริยธรรม และระดับสติปัญญาของตนให้ต�่ำลง เพื่อจะได้กลมกลืนไปกับคนอื่นๆ ที่มี มาตรฐานเชิงศีลธรรม จริยธรรม และสติปัญญาต�่ำกว่าด้วยล่ะ? นั่นแหละ คือสิ่งที่ฉันต้องเจอหากก้าวขาออกนอกบ้าน ฉันสามารถพิสูจน์กับเปตรอฟได้ว่าเขาคิดผิด ฉันสามารถแสดง ให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้อยูท่ ตี่ วั ฉัน แต่เป็นคนอืน่ ต่างหาก ฉันสามารถท�ำเพื่อ พิสูจน์ว่าเรื่องนี้มันไร้สาระอย่างไร การออกเดทหรือไปสโมสร จะผลักให้ฉันพุ่งเข้าสู่สถานการณ์เชิง สังคมแสนงี่เง่าต่างๆ ซึ่งคนอื่นๆ พบเจออยู่ทุกวัน ฉันมั่นใจว่ามันไม่ได้ยาก ขนาดนั้นหรอก และแม้ว่าเปตรอฟเชื่อว่ามีโอกาส .0001 เปอร์เซ็น ที่ฉัน จะได้พบกับใครสักคนที่เข้าใจฉัน แต่ก็มีแนวโน้มว่า ฉันจะต้องพูดค�ำว่าหนู พยายามแล้วเสียมากกว่า เรื่องนี้คงล�ำบากน่าดู แต่คงไม่ถึงกับยากเย็นขนาดนั้น ฉันจะลอง เป็นสายลับในบ้านของพวกชอบเข้าสังคมเหล่านั้น แล้วฉันก็จะสามารถ พิสูจน์กับตัวเองได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับการพิสูจน์ให้เปตรอฟเห็น ว่าแม้ฉัน จะต้องอยู่เพียงล�ำพัง แต่มันก็ดีกว่าออกไปข้างนอกเป็นไหนๆ
***** เย็นวันนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขี้น อาจจะเป็นข่าวร้ายก็ได้
อาจเป็นพ่อโทรมาบอกว่าฉันไม่ได้งาน หรือเลวร้ายกว่านั้นก็อาจเป็นพ่อ โทรมาบอกว่าฉันได้งานแล้ว แต่ก็อาจเป็นคณะกรรมการแมคอาร์เธอร์* ที่
* MacArthur Fellows Program, MacArthur Fellowship หรือ Genius Grant คือรางวัล 26
แคเรน ลิสเนอร์
โทรมาบอกว่าฉันได้รับทุนรางวัล ‘จีเนียส แกรนท์’ ก็ได้ ฉันดีดตัวและคว้า โทรศัพท์เมื่อเสียงกริ่งครั้งที่สามดังขึ้น พ่อนั่นเอง “พ่อคุยกับแบรดแล้ว ดูเหมือนเขาคิดว่าลูกไม่ได้สนใจงานเท่า ไหร่นัก” “โอ๊ะ หนูจ�ำได้แล้ว ผู้ชายที่จืดชืดและยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนั้น เอง” “พ่อรู้สึกได้ว่าลูกไม่ได้ท�ำตัวดีกับเขานัก” “หนูไม่ได้ขอไปสัมภาษณ์สักหน่อย” “บางครั้งลูกต้องบอกพ่อบ้างว่าจะประคับประคองตัวเองยังไง” “ตอนนี้หนูก็ใช้ซีลลี่ โพสต์เจอร์พีดิค*อยู่ค่ะ” “แครี่” “เมื่อเช้าหนูไปพบ ดร.เปตรอฟมา” เรือ่ งนีด้ เู หมือนจะท�ำให้พอ่ อารมณ์ดขี นึ้ “โอเค แล้วเขาว่าไงบ้าง?” “เขาอยากให้หนูทดลองการเข้าสังคมค่ะ อย่างออกเดท หรือเข้า สโมสรท�ำนองนั้น” “แล้วลูกตอบว่าไง?” “หนูตอบว่าจะพยายามค่ะ” “นั่นละที่พ่ออยากได้ยิน” “พ่อรู้ใช่มั้ยคะว่าติดค้างหนูอยู่” “ท�ำไมรึ?” “พ่อรู้นี่ว่าท�ำไม” เงียบสนิท ที่ก่อตั้งโดย มูลนิธิ จอห์น ดี. และ แคทเธอรีน ที.แมคอาร์เธอร์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี มอบ ให้กบั พลเมืองหรือบุคคลทีอ่ าศัยอยูใ่ นสหรัฐอเมริกา ซึง่ ทีม่ อี ายุระหว่างยีส่ บิ ถึงสามสิบปี ท�ำงาน ในสาขาใดก็ได้ที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดที่แปลกใหม่ ไม่ซ�้ำใคร อุทิศตนให้กับการคิดเชิง สร้างสรรค์ และมีความสามารถในการก�ำหนดทิศทางของตนเองได้อย่างชัดเจน * ชือ่ ยีห่ อ้ ของเตียงทีไ่ ด้รบั การยอมรับว่าออกแบบมาได้เหมาะกับการรองรับสรีระของร่างกาย และใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีเยี่ยม แครี่ พิลบี้
27
พ่อรู้ว่าฉันหมายถึงการโกหกค�ำโต “พ่อรู้” “ดีค่ะ” “แล้วงานทีล่ กู อาจจะสนใจ มันต้องเป็นงานประเภทไหนกันล่ะ?” “งานแบบที่หนูสามารถใช้ไหวพริบของตัวเองได้ค่ะ” ฉันตอบ “งานแบบที่ชั่วโมงการท�ำงานสมเหตุสมผล งานที่หนูสามารถหลับได้ขณะ ที่คนอื่นตื่น และตื่นในขณะที่คนอื่นๆ หลับกัน งานที่ผู้คนไม่ยอมก้มหัว…” “โอเค…” “งานที่หนูไม่ได้เกลียดมัน”
28
แคเรน ลิสเนอร์