แนวโน้ มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในคริ สต์ศตวรรษที่ 21 แนวโน้มที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ ให้มีความ สามารถใกล้เคียงกับมนุษย์ เช่น การเข้าภาษาสื่ อสารของมนุษย์ โครงการประสาทเทียม ระบบจำาลอง ระบบ เสมือนจริ ง โดยพยายามนำาไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นลดข้อผิดพลาดและป้ องกันไม่ให้นาำ ไปใช้ในทางที่ ผิดกฎหมาย ปั จจุบนั เทคโนโลยีสารสนเทศได้บูรณาการเข้าสู่ระบบธุรกิจ ดังนั้นองค์การที่จะอยูร่ อด และมีการ พัฒนาต้องสามารถปรับตัวและจัดการกับเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยหัวข้อนี้ จะกล่าวถึงเทคโนโลยี สารสนเทศที่จะมีผลต่อการดำาเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อให้ผบู ้ ริ หารในฐานะหัวใจสำาคัญของการพัฒนา เทคโนโลยีสารสนเทศ ขององค์การได้ศึกษา แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ วของเทคโนโลยี สารสนเทศอาจทำาให้ เทคโนโลยีที่กล่าวถึงในที่น้ี ลา้ สมัยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ ว ดังนั้นจึงมีความจำาเป็ นที่ ผูบ้ ริ หารต้องสนใจที่จะศึกษาติดตามความเปลี่ยนแปลงอยูต่ ลอดเวลา โดยเทคโนโลยีสารสนเทศที่สาำ คัญใน อนาคตมีดงั ต่อไปนี้ 1. คอมพิวเตอร์ (computer) มาใช้ในการออกแบบหน่วยประเมินผล 2. ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรื อ AI เป็ นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ให้มีความ สามารถที่จะคิด แก้ปัญหาและให้เหตุผลได้เหมือนอย่างการใช้ภูมิปัญญาของมนุษย์จริ ง 3. อินเทอร์เน็ต (internet) เป็ นเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อกันเป็ นจำานวนมากครอบคลุมไปทัว่ โลก มีการใช้งานหลากหลายรู ปแบบอินเทอร์ เน็ตประกอบด้วยเครื อข่ายย่อยเป็ นจำานวนมากจนเป็ นสังคม เครื อข่ายขนาดใหญ่ 4. ระบบเครื อข่าย (networking system) โดยเฉพาะระบบเครื อข่ายเฉพาะพื้นที่ (local area network : LAN) เป็ นระบบสื่ อสารเครื อข่ายที่ใช้ในระยะทางที่กาำ หนด ส่ วนใหญ่ภายในอาคารหรื อในหน่วย งาน LAN จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำางานของคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลให้มีประสิ ทธิ ภาพมากขึ้ น 5. การประชุมทางไกล (teleconference) เป็ นการนำาเทคโนโลยีสาขาต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่ อง ถ่ายโทรทัศน์ และระบบสื่ อสารโทรคมนาคมผสมผสาน เพื่อให้สนับสนุนในการประชุมมีประสิ ทธิ ภาพ โดยผูน้ าำ เข้าร่ วมประชุม ไม่จาำ เป็ นที่จะต้องอยูใ่ นห้องประชุมและพื้นที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาใน การเดินทาง
แนวโน้ มใน ด้ านบวก 1. การพัฒนาเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตที่เชื่อมโยงกันทัว่ โลก ก่อให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำาเนินธุรกิจ เช่น การทำาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การพาณิ ชย์ อิเล็กทรอนิกส์ การผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และบันเทิงต่างๆ เกมออนไลน์ 2. การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็ นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรื อลายมือเขียนได้ การ แสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริ ง เป็ นแบบสามมิติ และการรับรู ้ดว้ ยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ ในที่น้ นั จริ ง 3. การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู ้ เพื่อพัฒนาระบบผูเ้ ชี่ยวชาญและการจัดการความรู ้ 4. การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การเรี ยนการสอนด้วยระบบโทรศึกษา (teleeducation) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชัว่ โมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library) 5. การพัฒนาเครื อข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่ อสารผ่านเครื อข่ายไร้สาย เครื อข่ายดาวเทียม ระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำาให้สามารถค้นหาตำาแหน่งได้อย่างแม่นยำา 6. การบริ หารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครื อข่ายการสื่ อสารเพื่อเพิ ่ม ประสิ ทธิ ภาพการ ดำาเนินการของภาครัฐที่เรี ยกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government) รวมทั้งระบบฐาน ข้อมูลประชาชน หรื อ e-citizen
แนวโน้ มใน ด้ านลบ 1. ความผิดพลาดในการทำางานของระบบ คอมพิวเตอร์ ทั้งส่ วนฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ที่เกิดขึ้นจากการ ออกแบบและพัฒนา ทำาให้เกิดความเสี ยหายต่อระบบและสูญเสี ยค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา 2. การละเมิดลิขสิ ทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทำาสำาเนาและลอกเลียนแบบ 3. การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิด การก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์
ระบบปัญญาประดิษฐ์ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เป็ นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ให้มีความสามารถในการตอบ สนองกับความต้องการของ มนุษย์ได้ ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ มีความเข้าใจภาษามนุษย์ รับรู ้ได้และ ตอบสนองด้วยการแสดงออกทางพฤติกรรมและภาษามนุษย์
ปัญญาประดิษฐ์ ประกอบด้ วยสาขาวิชาต่ างๆ ได้ แก่ 1.ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) 2.โครงข่าย ประสาทเทียม (Artificial Neural Network) 3.ระบบผูเ้ ชี่ยวชาญ (Expert System) 4.ศาสตร์ ดา้ นหุ่นยนต์ (Robotics)
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ภาษาธรรมชาติกบั การประยุกต์ใช้ภาษาไทยบน คอมพิวเตอร์ เป็ นนำาวิทยาการด้านวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีดา้ นการประมวลผลภาษา ธรรมชาติมาพัฒนาโปรแกรมประมวลผลภาษาไทย บนคอมพิวเตอร์เพื่อให้ใช้งานได้อย่าง มีประสิ ทธิ ภาพ ประกอบด้วย การประมวลผลตัวอักษร (Character) คำา (Word)ข้อความ (Text) ภาพ (Image) และความรู ้ดา้ นภาษาศาสตร์ (Linguistics)
โครงข่ ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network) การสร้างคอมพิวเตอร์ที่จาำ ลองเอาวิธีการทำางานของสมองมนุษย์ หรื อทำาให้คอมพิวเตอร์ รู้จกั คิดและ จดจำาในแนวเดียวกับโครงข่ายประสาทของมนุษย์ เพื่อช่วยให้คอมพิวเตอร์ ฟังภาษามนุษย์ได้เข้าใจ อ่านออก และรู ้จาำ ได้ ซึ่งอาจเรี ยกได้วา่ เป็ น สมองกล
เทคโนโลยีการสื่อสาร ทุกที่ ทุกเวลา ยูบิควิตัสเทคโนโลยี (Ubiquitous technology) สังคมยูบิควิตสั (Ubiquitous society) หรื อ ยูบิคอมบ์ (Ubicomp) เป็ นทำาให้เกิดสภาพแวดล้อมของการสื่ อสารใหม่และเป็ นแนวโน้มของสังคมสารสนเทศ ยูบิค วิตสั เป็ นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยูใ่ นทุกแห่ ง หรื อ มีอยูท่ ุกหนทุกแห่ ง มาร์ ค ไวเซอร์ (Mark Weiser) แห่ งศูนย์วิจยั Palo Alto ของบริ ษทั Xerox ประเทศสหรัฐอเมริ กา ได้ให้คาำ นิยาม "ยูบิควิตสั คอมพิว ติง" ไว้วา่ เราสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ทุกหนทุกแห่ ง-สภาพแวดล้อมที่สามารถใช้ คอมพิวเตอร์ เชื่อม ต่อกับเครื อข่าย ไม่วา่ จะอยูใ่ นที่แห่งใด
จุดเด่ นของยูบิควิตัส ได้แก่ 1. 1. การเชื่อมต่อกับเครื อข่ายไม่วา่ ผูใ้ ช้งาน จะเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ 2. การ สร้างสภาพการใช้งานโดยผูใ้ ช้ไม่รู้สึกว่ากำาลังใช้คอมพิวเตอร์ อยู่ 3. การให้บริ การที่สามารถเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ท้ งั สถานที่ อุปกรณ์ ปั จจัยทางกายภาพอื่นๆ
เทคโนโลยีสารสนเทศ กับการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้กบั การศึกษาได้แก่ สื่ อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรื อ CAI (Computer Aided Instruction) เทคโนโลยีการสื่ อสารที่กา้ วหน้าขึ้นทำาให้รูปการเรี ยนที่จาำ กัดด้วยชั้นเรี ยน ขนาดเล็กกลาย เป็ นการเรี ยนด้วยระบบการสื่ อสารทางไกลหรื อโทรศึกษา (tele-education) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา และแก้ปัญหาการขาดแคลนอาจารย์ผสู้ อน ต่อมาเมื่ออินเทอร์ เน็ตได้พฒั นาอย่างรวดเร็ วและได้รับความนิยม มากขึ้นจึงได้ พัฒนาเป็ น การเรี ยนการสอนผ่านเว็บเพจ WBI (Web Based Instruction) หรื อ WBL (Web Based Learning) และได้มีการพัฒนาปรับปรุ งเป็ นสื่ อการเรี ยนการสอนแบบ e-Learning (Electronics Learning) e-Learning คือ การนำาเอาเทคโนโลยีเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตเข้ามาช่วยในการเรี ยนการสอน การถ่ายทอดความ รู ้ การอบรม การ
ทดสอบและประเมินผลผ่านเว็บเพจ Virtual Library หรื อห้องสมุดเสมือน เป็ นรู ปแบบการให้บริ การอีกช่องทางหนึ่งของห้องสมุดใน ปั จจุบนั โดยให้บริ การผ่านเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ผูใ้ ช้บริ การสามารถสื บค้นข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลที่มีอยูใ่ น ห้องสมุดเสมือนได้ ข้อมูลที่ให้บริ การจะอยูใ่ นรู ปของข้อมูลดิจิทลั ทำาให้เปิ ดโอกาสในการเรี ยนรู ้ เป็ นแหล่ง การเรี ยนรู ้ตลอดเวลา สามารถเข้าสู่ขอ้ มูลที่ให้บริ การได้จากทุกแห่ ง บริ การของ Virtual Library ได้แก่ บริ การสื บค้นข้อมูลรายการทรัพยากรสารสนเทศ (Online Public Access Catalog-OPAC) บริ การฐานข้อมูลออนไลน์ บริ การหนังสื ออิเล็กทรอนิกส์ บริ การสื่ ออิเล็กทรอนิกส์ บริ การ แนะนำาสารสนเทศที่น่าสนใจ
นาโนเทคโนโลยี อาณาจักรจิ๋ว นวัตกรรมแห่ งอนาคต นาโทเทคโนโลยี กำาลังเข้ามามีบทบาทอย่างยิง่ กับชีวิตประจำาวันของเราและเป็ นที่กล่าวขานกัน อย่าง มากในขณะนี้ คำาว่า "นาโน (nano)" แปลว่า 1 ในพันล้านส่ วน เช่น นาโนวินาที เท่ากับ 10 ยกกำาลัง9 หรื อ 0.000000001 วินาที 1 นาโนเมตร เท่ากับ 1/1,000,000,000 เมตร หรื อ 0.000000001 เมตร นาโนเทคโนโลยี คือ การทำาให้โครงสร้างพื้นฐานของโมเลกุลขนาดระดับ 1 ถึง 100 นาโนเมตร กลาย เป็ นวัสดุหรื ออุปกรณ์นาโนที่มีประโยชน์ สามารถนำามาใช้สอยได้ ซึ่ งต้องอาศัยคุณสมบัติทางฟิ สิ กส์ เคมี และชีววิทยา ของระบบที่อยูก่ ่ ึงกลางระหว่างอะตอม โมเลกุล กับวัตถุขนาดใหญ่ และสามารถควบคุม คุณสมบัติท้ งั หลายได้ ตัวอย่ างของความก้าวหน้ าด้ านนาโนเทคโนโลยี 1.วัสดุ ฉลาด (Smart materials) 2.ตัวรับรู ้ หรื อเซ็นเซอร์ (Sensors) 3.โครงสร้างชีวภาพขนาดนาโน (Nanoscale Biostructures) 4.คอมพิวเตอร์ แบบควอนตัม 5. คอมพิวเตอร์ ดีเอ็นเอ
แนวโน้ มการใช้ เทคโนโลยีการศึกษาในอนาคต 1. ให้ความสำาคัญกับการเรี ยนการสอนนอกระบบมากขึ้นจะเห็นได้วา่ กฎหมายให้ความสำาคัญแก่การ จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิง่ จะเน้นการศึกษารายบุคคล มวลชน และผูด้ อ้ ยโอกาสทั้งหลาย 2. เน้นเรื่ องการใช้เทคโนโลยีที่ทนั สมัยเลือกใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็ นอีกมิติหนึ่งของการเรี ยนการ สอนโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากสมรรถภาพทางการสอนของคอมพิวเตอร์ ที่เราพบเห็นใน ปั จจุบนั ทำาให้คาดการณ์ได้วา่ ในอนาคตจะมีการนำา คอมพิวเตอร์ มาใช้อย่างแพร่ หลาย 3. เน้นเรื่ องการศึกษาเป็ นรายบุคคล การศึกษาเพื่อมวลชน และการศึกษาเพื่อคนด้อยโอกาส กระทรวง ศึกษาธิ การ สหรัฐอเมริ กา ได้มีงานวิจยั เกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ งานวิจยั เหล่านั้นมุ่งไปที่การพัฒนาวิธีการ เรี ยนการสอนที่จะช่วยให้คนพิการ เอาชนะข้อจำากัดทางด้านร่ างกายและข้อจำากัดที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัส
นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษาทีเ่ กิดขึน้ ใหม่ 1. Ubiquitous Learning คือ การเรี ยนรู้รอบทิศทางโดยอาศัยเครื อข่ายไร้สายในการศึกษาทั้ง Mobile Learning, Tablet, WiFi เป็ นต้น 2. Video streaming คือการให้บริ การ สื่ อมัลติมีเดียประเภท วิดีโอ ผ่านทางอินเตอร์ เน็ต ด้วย เทคโนโลยี streaming ซึ่งคล้ายกับ radiostreaming แต่แตกต่างตรงที่เปลี่ยนจากประเภท เสี ยง เป็ นการเผย แพร่ ประเภท วิดีโอ โดยถ้าจะให้มองเห็นภาพของ วีดิโอ สตรี มมิ่งชัดเจน ขึ้น ให้มองถึงการถ่ายทอดสด หรื อ รายการที่ออกอาการทางโทรทัศน์ ซึ่งวีดิโอ สตรี มมิ่ง จะมีลกั ษณะเดียวกัน แต่เปลี่ยนมาเผยแพร่ ทาง อินเตอร์ เน็ต 3. Hybrid Learning / Blended Learning คือ การเรี ยนการสอนแบบผสมผสานระหว่าง e-Learning และ ชั้นเรี ยนในสัดส่วน online 30-79% 4. HyFlexLearning คือ การเรี ยนการสอนผสมผสานแบบยืดหยุน่ ที่ให้ผเู ้ รี ยนมีทางเลือกด้วยตนเอง ออกแบบการเรี ยนด้วยตนเองทั้ง การเรี ยนการสอน ออนไลน์, เผชิญหน้า, หรื อค้นคว้าด้วยตนเองตามแหล่ง การเรี ยนรู ้ที่เหมาะสมกับเนื้ อหา
รัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) คือ วิธีการบริ หารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่ อข่ายสื่ อสารเพื่อเพิ่มประสิ ทธิ ภาพการ ดำาเนินการของภาครัฐ ปรับปรุ งการให้ บริ การแก่ประชาชน บริ การข้อมูลและสารสนเทศเพื่อส่ งเสริ มการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทำาให้ ประชาชนได้รับการบริ การจากภาครัฐที่ดีข้ ึน มีความใกล้ชิดกับภาครัฐมากขึ้น อีกทั้งทำาให้ประเทศมีความ สามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้ดีข้ ึนด้วย ที่มารัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ของไทย โครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ดำาเนินการโดยดำาเนินงานร่ วมกับ หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อมุ่งให้เห็นผลเป็ นรู ปธรรมในระยะ 2 ปี ดังนี้ 1.การให้ บริการต่ อสาธารณะ โดยจะผลักดันเพื่อให้หน่วยงานของรัฐดำาเนินการ 1.การ ให้บริ การข้อมูลที่ดี มีมาตรฐาน และคุณภาพแก่สาธารณะ อันได้แก่ ประชาชน ภาคธุรกิจ และ ภาค รัฐ 2.การให้ บริ การที่ดีผา่ นสื่ ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็ น 4 ท. คือ ที่เดียว ทันใด ทัว่ ไทย ทุกเวลา 2.การบริหารจัดการของรัฐ 1.การ บริ หารจัดการด้านการเงินระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ 2.การจัดซื้อจัดจ้างผ่านสื่ ออิเล็กทรอนิกส์ที่รวด เร็ ว โปร่ งใส ยุติธรรม 3.การ บริ หารข้อมูลและทรัพยากรภาครัฐ 3.การติดต่ อสื่อสาร และประสานงานระหว่ างหน่ วยงานของรัฐ 1.ภายในและระหว่าง กระทรวง 2.ระหว่างส่ วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรส่ วนท้องถิ่น
ตัวอย่ างของรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ ในประเทศไทย 1. การติดตามแกะรอยคนร้าย ปัจจุบนั มี 3 ระบบงานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ คือ (1) ระบบฐานข้อมูลประวัติอาชญากร หรื อ CDOS (Criminals Database Operating System (2) ระบบตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ หรื อ AFIS (Automated Fingerprint Identification System)
(3) ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบภาพใบหน้าคนร้าย หรื อ PICASSO (police Identikit: Computer Assisted Suspect Sketching Outfit) 2. ระบบสารสนเทศสำาหรับงานประปา บริ การเบ็ดเสร็ จภายในคราวเดียว คือ จดมาตรจำานวนการใช้น้ าำ พิมพ์ ใบแจ้งหนี้ และส่ งให้ลูกค้าได้ทนั ที โดยใช้เวลาทั้งสิ้ นไม่เกิน 10 นาที ผูใ้ ช้บริ การสามารถนำาใบแจ้งหนี้ ไป ชำาระเงินที่สาขาของการประปานครหลวง หรื อที่ทาำ การไปรษณี ย ์ หรื อที่ Counter Service หรื อชำาระผ่าน อินเทอร์ เน็ตด้วยบัตรเครดิต 3. การยืน่ แบบแสดงและชำาระภาษีผา่ นทางอินเทอร์ เน็ต เข้าสู่ระบบได้ที่ www.rd.go.th มีบริ การ 2 แบบ คือ (1) การบริ การแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมโปรแกรมคำานวณภาษีเงินได้ (2) การยืน่ แบบทางอินเทอร์เน็ต 4.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การประมูลแบบออนไลน์ผา่ นอินเทอร์ เน็ต เว็บไวต์ที่ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับการจัดซื้ อจัด จ้างของภาครัฐ คือ www.gprocurement.go.th หรื อเว็บไซต์ของหน่วยงานที่จดั ประมูล 5.ระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริ การสาธารณะผ่านอิน เทอร์ เน็ต บริ การด้านงานทะเบียนราษฎรผ่านทาง อินเทอร์ เน็ตทางเว็บไซต์ www.dopa.go.th และ www.khonthai.com ของสำานักบริ หารการทะเบียน กรม การปกครอง 6.บริ การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอินเทอร์เน็ต กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิ ชย์ เริ ่ มเปิ ดให้บริ การ ค้นหาข้อมูลธุรกิจ และการทำาธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์ เน็ตทางเว็บไซต์ www.thairegistration.com 7.การบริ การต่อทะเบียนรถ และชำาระภาษีรถผ่านอินเทอร์ เน็ต กรมการขนส่ งทางบก มุ่งเน้นที่จะให้บริ การ ประชาชนในรู ปแบบออนไลน์ บริ การได้ทนั ทีทนั ใด ทัว่ ไทย แบบ One-Stop-Service โดยสามารถเข้าไปใช้ บริ การผ่านเว็บไซต์ www.dlt.moct.go.th 8.การ จัดทำาหนังสื อเดินทาง กองหนังสื อเดินทาง กรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ได้เชื่อมโยงข้อมูล บุคคลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง เพื่อใช้ในการตรวจสอบหลักฐานการขอทำาและขอต่ออายุ หนังสื อเดินทาง โดยประชาชนสามารถใช้บตั รประชาชนเพียงใบเดียวเป็ นหลักฐานประกอบการขอทำา หนังสื อเดินทางได้โดยไม่ตอ้ งนำาเอกสารมามากมายเหมือนที่ผา่ นมา
e-Citizen e-Citizen ประกอบด้วย ส่วนสำาคัญ 3 ส่วน ได้แก่ 1. Citizen e-DB ฐานข้อมูลประชาชน 2.Citizen e-ID การพิสูจน์ยนื ยันตัวบุคคล 3.Citizen e-Service การบริ การประชาชน
ประโยชน์ ที่ได้รับจากการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ 1.เพิ่ม ประสิ ทธิภาพในการทำางานของหน่วยงานรัฐ 2.เพิ่มคุณภาพในการบริ การประชาชนให้สะดวกรวดเร็ ว 3.สร้างความโปร่ งใสในการดำาเนินงานและให้บริ การ 4.ลดต้นทุนการดำาเนินงานและการให้บริ การของหน่วยงาน ภาครัฐ 5.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ