กลางฝูงแพะหลังหัก
อุมมีสาลาม อุมาร กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน ๒๕๕๗
กลางฝูงแพะหลังหัก • อุมมีสาลาม อุมาร พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, ตุลาคม ๒๕๕๗ ราคา ๑๕๐ บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม อุมมีสาลาม อุมาร. กลางฝูงแพะหลังหัก. กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๗. ๑๗๖ หน้า.--(วรรณกรรมไทย) ๑. รวมเรื่องสั้นไทย I. ชื่อเรื่อง ๘๙๕.๙๑๓ ISBN 978 - 974 - 02 - 1341 - 3 ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการเล่ม : เตือนใจ นิลรัตน์ • นักศึกษาฝึกงานกองบรรณาธิการ : เกศวลี ครุฑนาค พิสูจน์อักษร : บุญพา มีชนะ • กราฟิกเลย์เอาต์ : อัสรี เสณีวรวงศ์ ออกแบบปก-ศิลปกรรม : สิริพงษ์ กิจวัตร • ประชาสัมพันธ์ : ตรีธนา น้อยสี หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๓๓๕๓ โทรสาร ๐-๒๕๙๑-๙๐๑๒
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ ๑ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๑๒๓๕ โทรสาร ๐-๒๕๘๙-๕๘๑๘ แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองการเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ ๑ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๒๔๐๐-๒๔๐๒ พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด ๒๗/๑ หมู่ ๕ ถนนสุขาประชาสรรค์ ๒ ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๔-๒๑๓๓, ๐-๒๕๘๒-๐๕๙๖ โทรสาร ๐-๒๕๘๒-๐๕๙๗ จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ ๑ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๓๓๕๐-๓๓๕๓ โทรสาร ๐-๒๕๙๑-๙๐๑๒ Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำนิยม : สกุล บุณยทัต ค�ำนิยม : พิเชฐ แสงทอง จากใจผู้เขียน
๔ ๖ ๑๐ ๑๑
ผู้ต้องสงสัย ฝุ่น นิทานของพ่อ กลางฝูงแพะ พี่ชาย ไก่หลุดคอก ย่า ลวง ความตายในเดือนรอมฎอน แพะหลังหัก
๑๗ ๓๑ ๔๗ ๖๑ ๘๑ ๙๗ ๑๒๑ ๑๓๕ ๑๔๗ ๑๕๙
๑๗๓ ๑๗๔
หมายเหตุท้ายเล่ม เกี่ยวกับผู้เขียน
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
อุมมีสาลาม อุมาร นักเขียนสาวรุน่ ใหม่ผไู้ ด้รบั คัดเลือกเป็น “ศิลปินหน้าใหม่” (Young Thai Artist Award) สาขาวรรณกรรม ในปี ๒๕๕๕ ด้วยความคิดเห็นจากคณะกรรมการคัดสรรว่า “มีชั้นเชิงในการน�ำเสนอเรื่องราวและศิลปะในการถ่ายทอดให้ เห็นบรรยากาศของเรื่อง รวมทั้งบรรยายให้เห็นภาพได้อย่าง สุดวิเศษ” หลายเสียงกล่าวชื่นชมว่า “อุมมีฯ มีอนาคตในทางการ เขียน” และเธอก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลงานด้วยการส่งเรื่อง สั้นใหม่ๆ ไปตีพิมพ์ตามสนามเรื่องสั้นอย่างสม�่ำเสมอ เมื่อทางส�ำนักพิมพ์มติชนมีโอกาสคัดสรรจากจ�ำนวน เกือบยี่สิบเรื่องสั้นของนักเขียนสาวคนนี้ เราพบว่าหลายเรื่อง ราวที่เธอน�ำเสนอมีความน่าสนใจยิ่ง เป็นปรากฏการณ์ชีวิต ของตัวละครหลายมิติที่ด�ำเนินไปใน “ดินแดนอาถรรพ์” ท่าม กลางความเชื่อทั้งใหม่และเก่าที่ท้าทายให้ชวนหาค�ำตอบ ท่าม กลางความเจ็บปวดร้าวรานใจอย่างแสนสาหัส ทว่าเปี่ยมด้วย พลังศรัทธาและการยึดมั่นในคุณงามความดี บางเรื่องสั้น ฉายภาพวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับหลัก ศาสนาและความเชื่อต่างๆ ของชาวมุสลิมให้คนทั่วไปเข้าใจ 4 อุมมีสาลาม อุมาร
มากขึ้น หลายๆ ประเพณี พิธีกรรม จะเป็นที่แปลกตาของ นักอ่านทัว่ ไป เพราะนักเขียนทีไ่ ม่ใช่คนมลายูทอ้ งถิน่ ไม่สามารถ เข้าถึงพิธีกรรมและประเพณีเหล่านั้นได้ ‘ผู้หญิง’ เป็นเพศที่มักจะถูกมองว่าอ่อนแอ ไม่มีความคิด เฉียบคม ต้องเชื่อฟังพ่อแม่และผู้เป็นสามีอยู่เสมอ เหตุการณ์ ที่ผู้หญิงถูกคนใกล้ตัวในครอบครัวท�ำร้ายทั้งทางกายและจิตใจ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว อาจสะท้อนให้เห็นถึงชีวิต ในสังคมที่นับวันยิ่งเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาติศาสนาใดก็ เกิดขึ้นบ่อยครั้งนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าโลกและสังคม ทุกวันนี้จะพัฒนาก้าวหน้าไปมากเพียงไร เรื่องราวเหล่านี้ก็ยัง คงถูกพบเห็นจนเป็นเรือ่ งชินตา กระทัง่ หลายคนอาจรูส้ กึ ว่าเป็น เรือ่ งธรรมดา ทว่า...ส�ำหรับ “ผูถ้ กู กระท�ำ” ย่อมรูส้ กึ ตรงกันข้าม เด็กสาวมุสลิมรุ่นใหม่จาก “ปัตตานี” สร้างงานเขียนของ เธอได้สะเทือนอารมณ์ผู้คนอย่างถึงแก่น ไม่แตกต่างจากเรื่อง ราวความเป็นไปในดินแดนบ้านเกิดของเธอ...ทีท่ ซี่ งึ่ “เด็กๆ สาม จังหวัดชายแดนใต้รู้จักความตายรวดเร็วเกินไป” แม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกไร้ข้อสรุป ปัญหาบาง อย่างก็เกินก�ำลังของมนุษย์คนหนึ่งจะแก้ไขได้ แท้แล้วมนุษย์ผู้ต�่ำต้อยภายใต้ผืนฟ้ากว้างใหญ่ ยังคง ไขว่คว้าแสวงหาความสุข ความอยากมี อยากได้ อยากเป็น... ไม่มีที่สิ้นสุด ส�ำนักพิมพ์มติชน กลางฝูงแพะหลังหัก 5
ค�ำนิยม
ความมี...ความเป็นเเห่ง... “อุมมีสาลาม อุมาร” ในเรื่องราวแห่งบทสะท้อนของเรื่องสั้นที่มีชีวิต ครั้งหนึ่ง...ผมได้อ่านต้นฉบับรวมเรื่องสั้นของนักเขียน รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งโดยไม่รู้ว่า ผู้เขียนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ด้วย เนื้อหาเรื่องราวที่คมเข้มเเละหนักเเน่นต่อการสะท้อนภาพเงา ในแผ่นดินภาคใต้ของประเทศที่เปรียบเสมือนพื้นที่เเห่งสมรภูมิ ของความขัดเเย้งที่ยิบย่อยไปด้วยปมเงื่อนของความเป็นปัญหา ไม่ว่าจะด้วยความเเปลกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาที่กัดกร่อน กินใจกันอยู่ในเบื้องลึก การปฏิบัติต่อกันในเชิงอ�ำนาจโดยปราศ จากเป้าหมายเเห่งคุณธรรมภายใต้เงื่อนไขแห่งความอยุติธรรม ทีม่ งุ่ กระท�ำต่อกัน โครงสร้างทีผ่ กุ ร่อนเเห่งอุดมคติทางด้านสังคม และการเมืองทีผ่ สานเข้ากันไม่ได้ จนดูวา่ บริบททีก่ อ่ เกิดเป็นภาพ เเสดงในโลกเเห่งความจริงทัง้ หมดล้วนตกอยูใ่ นห้วงเหวของบาป เคราะห์อันยากจะเยียวยาเเก้ไข เเต่จากบทบันทึกในเรื่องราวที่เเฝงไว้ด้วยโศกนาฏกรรม เเห่งธารส�ำนึกในครัง้ นัน้ ผ่านมิตขิ องเรือ่ งสัน้ ในเเต่ละเรือ่ ง กลับ 6 อุมมีสาลาม อุมาร
มีความหวังฉายเเสงซ้อนทับอยู่กับความมืดมน...มีทางออกที่ ประกอบสร้างขึน้ ด้วยโลกทีเ่ ต็มไปด้วยประกายใจเเห่งความหวัง ทั้งๆ ที่สาระเนื้อหาของเรื่องสั้นเเต่ละเรื่องล้วนเต็มไปด้วยเงื่อน ง�ำเเห่งภาวะที่เจ็บปวดซึ่งซ่อนอยู่... ทัศนคติของผู้เขียนในฐานะของประพันธกร ล้วนเป็นไป ด้วยมุมมองของความเข้าใจที่มุ่งหวังถึงการเเจกเเจงถึงเหตุ เเห่งผลในการคลี่คลายแก่นปมของชนวนปัญหาต่างๆ เหตุน ี้ นัยของเรื่องราวในเเต่ละเรื่องราวจึงมีคุณค่าเเห่งการใช้หัวใจใน การพินจิ พิเคราะห์เเฝงอยู ่ เป็นเเรงปรารถนาทีเ่ ต็มไปด้วยศรัทธา ของการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย...ด้านหนึ่งมันเกี่ยวเนื่อง กับความศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนาเเละวัฒนธรรม ส่วนอีกด้านหนึ่ง มันเกีย่ วเนือ่ งกับองค์รวมของความเป็นปัจเจกทีเ่ ชือ่ มัน่ ในความ รักและการเเก้ไขปัญหาเเห่งความขัดเเย้งด้วยการโอบประคอง ทางมิตรไมตรี ฉากเเสดงเเห่งปรากฏการณ์ใ นเรื่องสั้นโดยรวมชุดนี ้ ด�ำเนินสถานะเเละบทบาททั้งหมด ผ่านตัวละครเเละเหตุการณ์ ที่เต็มไปด้วยภาวะวิกฤตทั้งด้วยสิ่งที่มองเห็นอยู่เต็มตาเบื้อง หน้า รวมกับบางสิ่งที่ซ่อนเงื่อนซ่อนปมอยู่ในความลึกเร้น... การใช้สัญญะในการเขียนผ่านปริศนาที่ค้างคามโนส�ำนึกทาง ประวัติศาสตร์ รวมทั้งมิติเเห่งการเปรียบเปรยในความหมาย เเห่งสัตว์สงั เวยของการบูชายัญ...ผ่านกระบวนการทีท่ งั้ หม่นมัว เเละคลุมเครืออันประกอบสร้างขึ้นทั้งด้วยความจริงเเละความ ลวง เป็นผลท�ำให้เรื่องสั้นชุดดังกล่าวกลายเป็นที่ติดตาเเละติด ใจในความรู้สึกแห่งการรับรู้ของผม กลางฝูงแพะหลังหัก 7
ภาษาทางวรรณศิลป์ที่ผู้เขียนใช้ถักทอสอดผสานเรื่อง ราวในเเต่ละเรื่องที่เต็มไปด้วยโครงเรื่องของการสอดสลับด้วย วิถเี เห่งเรือ่ งราวในหลากหลายเเง่มมุ เเละเกาะเกีย่ วอยูก่ บั ปัจจัย เเห่งอุบัติการณ์ในหลายๆ อุบัติการณ์ เเทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อผมได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจให้ รวมเรื่องสั้นชุดที่ก�ำลังกล่าวถึงนี้ได้รับรางวัล “ศิลปินรุ่นเยาว์” ประเภทวรรณกรรม (Young Thai Artist Award 2012) ข้อ ประจักษ์ในฐานะของผู้เขียนจึงได้ถูกเปิดเผยขึ้นว่า ผู้เขียนคือ ผู้หญิงเเละเป็นมุสลิม นั บ จากนั้ น เราได้ รู ้ จั ก กั น มากขึ้ น ส� ำ หรั บ ผม...มั น คื อ พัฒนาการในการเขียนเรื่องสั้นที่เธอได้เพิ่มพูนองค์ความรู้ด้วย การสืบค้นให้หยั่งรากถึงรายละเอียดเเห่งเบื้องลึกของสถาน การณ์เพื่อจัดวางเป็นองค์ประกอบที่น่าเชื่อถือของเรื่องราวใน เเต่ละเรื่อง...มีวิถีเเห่งภาพเเสดงที่สื่อถึงความเป็นจริงเเห่ง ความรูส้ กึ จริงด้วยภาษาสือ่ สารทีส่ มั ผัสรูเ้ เละเปีย่ มไปด้วยวรรณ ศิลป์ และที่ส�ำคัญเธอมีจังหวะเเละท่วงท�ำนองของการเขียนที ่ สมดุลเเละส่งผลกระทบต่อการเข้าใจรหัสเเห่งความเป็นเรื่อง สั้นของเธอที่เเยบยลขึ้น... มาถึงวันนี้ ในนามของ “อุมมีสาลาม อุมาร” ย่อมถึง เวลาเเล้วที่ผลงานเเห่งประพันธกรรมของเธอจะได้โอกาสเผย เเพร่สู่โลกของวรรณกรรมและสู่ผู้อ่านในวงกว้าง เพื่อยืนยันถึง คุณค่าเเห่งความมีความเป็นในตัวตนที่เเท้ของเธอ ส่วนผสาน ของเรื่องสั้นทั้งเก่าและใหม่ยังคงสื่อสารประเด็นเเห่งบทสะท้อน ทีย่ งั ค้างคาร่วมกัน...ด้วยปมปัญหาดัง้ เดิมทีย่ งั ผูกติดอยูก่ บั ความ 8 อุมมีสาลาม อุมาร
เป็นชีวิต...เเต่มุมมองในมิติทางมนุษยทัศน์ของเธอกลับเเสดง ให้เห็นถึงภาวะรอบด้านที่หลุดพ้นออกมาจากกรอบความคิด ในเชิงอคติ...ทุกองค์ประกอบล้วนด�ำเนินไปบนแสงฉายเเห่ง ศรัทธาที่มีต่อความเป็นศานติ...ศานติ...ที่หวังถึงการใช้ภาษา เเห่งความรักเเละความผูกพันอันเดียวกันในการด�ำรงชีวิตอยู่ นี่คือรวมเรื่องสั้นที่เต็มไปด้วยคุณค่าในการสร้าง สรรค์อนั ใหม่สด...เเปลกต่าง...เเต่กเ็ ต็มไปด้วยความงดงาม เเห่งใจที่สมบูรณ์และมีชีวิตชีวายิ่งนัก --- “ไม่มีใครเลือก โลกเเห่งการมีชีวิตอยู่อันปราศจากข้อขัดเเย้งใดๆ ได้... เเต่เราสามารถที่จะเลือกหลีกหนีความขัดเเย้งนั้นๆ ด้วย การทีจ่ ะไม่นำ� ชีวติ เข้าไปขัดเเย้งกับใครหรือสิง่ ใดได้เสมอ” สกุล บุณยทัต
กลางฝูงแพะหลังหัก 9
ค�ำนิยม
จู่ๆ ก็เหมือนเดินเข้าไปในดินแดนประหลาด ดินแดนแห่ง เรือ่ งเล่าสัจนิยมทีอ่ บอวลไปด้วยความอัศจรรย์ เมือ่ เผชิญหน้ากับ เรื่องสั้นลักษณะนี้ ผู้อ่านจ�ำต้องหยุดทบทวนตนชั่วขณะเพื่อจะ พบว่านอกจากจะรู้ (เพียง) ว่านี่คืองานเขียนประเภทหนึ่งที ่ เรียกว่า "เรื่องสั้น" แล้ว บรรยากาศ เนื้อหา อารมณ์ ความรู้สึก ข้อมูล ตัวละคร พฤติกรรมฯ ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย ประวัติศาสตร์ของความเป็นไทยไม่เคยให้ค�ำอธิบายต่อ เรื่องเล่าที่มองจากมุมมอง "คนชายขอบของคนชายขอบ" ตัวละครหญิงมุสลิมในเรื่องชุดนี้จึงทั้งชมชื่นและหื่นไห้ ทั้งสมใจและสิ้นหวัง ทั้งเปี่ยมพลังและโรยแรง นี่คือสภาวะของความ "รันทดและงดงาม" ที่ท�ำสงคราม กันในสมรภูมิที่เรียกว่าส�ำนึกของ "ผู้หญิงชายขอบ" พิเชฐ แสงทอง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 10 อุมมีสาลาม อุมาร
จากใจผู้เขียน
ข้าพเจ้าเติบโตในดินแดนที่ถูกมองว่า “อาถรรพ์” เพราะมี คนตายทุกวัน ความหวาดกลัวแผ่ซ่านอยู่ทั่วทุกหัวระแหง คน นอกไม่มีใครกล้าเข้าไป ขณะที่พวกเราในพื้นที่อยู่กับความ กลัวจนเคยชิน เมื่อใดที่เกิดเหตุขึ้นใกล้ตัว เมื่อนั้นถึงจะเกิด ความหวั่นผวาขึ้นครั้งหนึ่ง ก่อนจะจางจืดไป แล้วเกิดใหม่ขึ้น อีก เป็นเช่นนี้ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า จนบางครั้งก็นึกไม่ออกว่าความ รู้สึกกลัวที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร ส�ำหรับข้าพเจ้าแล้ว “ปัตตานี” ไม่น่ากลัว มีแต่ความ ขมขื่น ความรันทด ความโศกเศร้า และสิ้นหวังฟุ้งกระจายอยู่ ในบรรยากาศ แต่อีกหลายสายตามองเห็นความงดงามที่อยู่ที่นี่ ความ งดงามที่ว่าอาจจะเป็นรอยยิ้มของหญิงชราผู้โดดเดี่ยว แววตา เหนียมอายของบรรดาเด็กๆ ในชุดนักเรียน สายตาที่หลุบเร้น ของผู้หญิง และภาพเบื้องหลังของผู้ชายผู้หยัดนิ่งกับสิ่งใดสิ่ง หนึ่ง ฯลฯ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ความงามอันบริสุทธิ์ กลางฝูงแพะหลังหัก 11
แต่มันมีหลายสิ่งหลายอย่างถูกมองข้าม บ้างก็ถูกละเลย โดยไม่ตั้งใจ บ้างก็เลือกสรรน�ำเสนอตามกรอบวิถีคิด ข้าพเจ้าเกิดมาเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่สูญหายเหล่านี้ ประสบกับมันเกือบทุกวัน พวกเราถูกกล่อมเกลาด้วยเรื่องเล่า มองโลกผ่านเรื่อง เล่า และสัมพันธ์กับคนอื่นผ่านเรื่องเล่า มันหล่อหลอมให้คน รู้สึกว่านี่คือธรรมชาติของพื้นที่ มันด�ำเนินมาแล้ว และจะต้อง ด�ำเนินต่อไป แม้ในบางแง่มุม มันคือความบริสุทธิ์แสนเศร้าที่ไร้วัน จบสิ้น ข้าพเจ้าจึงปะชุน เชื่อมโยง สิ่งที่มองเห็นและรู้สึกขึ้นมา เป็นเรื่องเล่าส�ำนวนของตนเองบ้าง อย่างน้อยเรื่องเล่าส�ำนวนของข้าพเจ้านี้ก็มีบรรทัดจบ... อุมมีสาลาม อุมาร
12 อุมมีสาลาม อุมาร
กลางฝูงแพะหลังหัก
ผู้ต้องสงสัย
ทุกเช้า ฟารีดามักเห็นเขานั่งอืดอยู่ใต้ต้นสนหัวมุมตึกของ วงเวี ยน ข้ างกายจะมี ใ บจากที่ ตั ด เรี ย บร้ อยแล้ว พร้อมขวด เครื่องดื่มชูก�ำลังวางอยู่เคียงข้างตัวเสมอ ร่างที่อวบหนานั้น มักนั่งเหยียดขายาวราวกับคนขี้เกียจ ล�ำพังเนื้อตัวด�ำและผม เผ้ารกรุงรังนั้นก็เพียงพอแล้วหากใครสักคนจะหยิบยกเขามา หลอกลูกเล็กเด็กแดงให้หวาดกลัวและเชื่อฟังในสิ่งที่พ่อแม่สั่ง เสื้อผ้านั่น เธอไม่เคยเห็นเขาเปลี่ยนเลยสักครั้ง แต่ครั้ง หนึ่งเธอเห็นยางที่เอวกางเกงยืดย้วยจนเขาต้องดึงไว้ขณะเดิน ไปเดินมาบริเวณรอบๆ วงเวียน ผ่านไปไม่กี่วันก็เห็นว่าเขาหา เชือกฟางมาผูกไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องดึงอีกต่อไป แต่มันก็หมิ่น เหม่จวนเจียนจะหลุดอยู่เรื่อย น่าแปลก เขาเป็นคนจรจัดที่ร่างกายอ้วนท้วนที่สุดเท่าที่ ผู้ต้องสงสัย 17
เธอเคยเห็นมา เขาช่างต่างกับชายแก่ที่เที่ยวเร่ขอเงินบาทเดียวทั่วเมือง ปัตตานีคนนั้นเสียจริงๆ ต่างจากชายชราที่อยู่ใกล้มัสยิดปากี สถานริมแม่น�้ำปัตตานี ผู้ถือขวานเดินอาดๆ เข้าตลาดมองซ้าย มองขวาอย่างหวาดระแวงเหมือนก�ำลังปกป้องคุ้มภัยอะไรบาง อย่าง ท่าทางแบบนั้นสร้างความตระหนกตกใจแก่ผู้คนที่สัญจร ไปมาอยู่บ่อยๆ แม้สุดท้ายแล้วเขาจะไม่เคยท�ำอะไรใครเลยก็ ตาม แต่ความน่าหวาดผวาท�ำให้เขาเข้าไปครอบครองพื้นที่ใน ความทรงจ�ำของผู้คนในปัตตานีได้มากกว่าชายเฒ่าผู้นี้ ส�ำหรับชายอ้วน เขาเพียงแต่เป็นตัวละครเล็กๆ ประดับ เมืองปัตตานี จะว่าเป็นสีสันก็ไม่น่าใช่ แต่ฟารีดาก็ไม่เคยเห็น เขาก่อเรื่องราว หรือท�ำท่าทางแปลกประหลาดให้ใครเห็นเลย สักครั้ง ฟารีดาเคยเห็นตอนเขาถอดเสื้อผ้า นั่นเป็นครั้งแรก และครั้งเดียว แต่มันก็เกาะกุมอยู่ในความทรงจ�ำของเธอได้มาก พอ มันท�ำให้เธอซึ่งก�ำลังขับมอเตอร์ไซค์เข้าวงเวียนตกใจจน แทบจะประคองรถไว้ไม่ได้ เมื่อเหลียวไปเห็นรอยแผลเป็นที่ กลางหลังขนาดกว้างและยาวจากต้นคอจนถึงบั้นเอว มันเป็นแผลเป็นที่น่าเกลียดน่ากลัว เนื้อสีแดงที่นูนออก มาเป็นส่วนเกินของผิวนั้นคล้ายเนื้อวัวสดๆ ที่ยังติดเลือดอยู่ แม้จะเป็นแผลทีแ่ ห้งและตกสะเก็ดแล้วแต่ยงั ไม่วายน่าสยดสยอง เธอนึกสงสัยว่ามันคือแผลเป็นของอะไร หากเป็นน�้ำร้อนลวก หรือน�้ำกรด แผลไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น หรือเป็นรอยของมีคม มันเป็นเรื่องที่ฟารีดาหมกมุ่นกับค�ำตอบมาก 18 อุมมีสาลาม อุมาร