เทคนิคการนำเสนอภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์

Page 1

กิ จ ก ร ร ม ส ร า ง นั ก อ อ ก แ บ บ

ผลิตภัณฑอุตสาหกรรม

เทคนิคการนำเสนอภาพ เพื่อการประชาสัมพันธ

ผานสื่อออนไลน


กิ จ ก ร ร ม ส ร า ง นั ก อ อ ก แ บ บ

ผลิตภัณฑอุตสาหกรรม


กิจกรรมสร้างนักออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

INDUSTRIAL DESIGN

เทคนิคการนาเสนอภาพ เพื่อการประชาสัมพันธ์

ผ่านสื่อออนไลน์


เทคนิคการนาเสนอภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์

ผ่านสื่อออนไลน์ ภาพประกอบ เป็น องค์ประกอบหนึ่ ง ของการสื่ อ สาร และประชาสั ม พั น ธ์ เป็ น สิ่ ง ที่ ดึ ง ดู ด ความสนใจผ่ า นสื่ อ สั ง คม ออนไลน์ ทาให้ให้เกิดประสิทธิภาพของการสื่อสาร การพาดหัว และเนื้อหาอาจทาให้เกิดความน่าสนใจได้ส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามีภาพ มาประกอบ ยิ่งช่วยย้าให้คนอ่านได้รู้และคล้อยตาม ประเด็นที่ ต้องการสื่อสารได้ชัดเจนมากขึ้น ในปัจจุบันคือยุคของสื่อดิจิตอล (Digital Media) การ สื่อสารข้อมูลผ่านอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ ไอ แพด หรือเครื่องมือสื่อสารในรูปแบบต่างๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างแพร่หลาย เพราะฉะนั้นการทาการตลาดผ่านสื่อออนไลน์จึง เป็นสิ่งที่จาเป็นที่ต้องมีการวิเคราะห์ และวางแผนองค์ประกอบ ต่างๆ ที่ใช้ในการสื่อสาร เพราะทุกสิ่งที่เราใช้บนจอคอมพิวเตอร์

มือถือ ไอแพด คอมพิวเตอร์โน้ ตบุ๊ก ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของ การมองเห็ น ทั้ ง สิ้ น เพราะฉะนั้ น เมื่ อ มั น เกี่ ย วกั บการมองเห็น สาระสาคัญของการนาเสนอภาพและข้อมูลจึงควรชัดเจน เรา อยากให้ ผู้ บ ริ โ ภคเห็ น อะไร อยากให้ ลู ก ค้า เข้ า ใจอะไรในสิ่งที่ แบรนด์ต้องการสื่อสาร ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจบนโลกออนไลน์แค่การใช้ ข้อความอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ การใช้ภาพเป็นสิ่งสาคัญในการสื่อสาร รองจากการพาดหัว โดยมีข้อความเป็นส่วนเสริม เหมือนหนังสือ ทุกเล่มที่ต้องการหน้าปกสาหรับการดึงดูด โพสต์หรือโฆษณาบน โลกออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน

ภาพจาก http://stepstraining.co


การตลาดผ่านการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยภาพ (Digital Visual Marketing) ที่ จ ะส่ ง ผลธุ รกิ จ ประสบ ผลสาเร็จ Digital Visual Marketing คื อ การสื่ อ สารภาพและ ข้อมูลผ่านสื่อดิจิตอล มุ่งเน้นการสื่อสารที่หวังผลทางการตลาด องค์ประกอบต่างๆที่ปรากฏผ่านการมองเห็น ไม่ได้หมายความว่า สวยอย่างเดียว แต่ต้องสามารถสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ ภาพ จาของสินค้าต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารให้ ข้อมูล (Information) ได้อย่างถูกต้อง และแม่นยา ก่อนลงมือ ปฏิบัติการสื่อสาร การรู้จักและเข้าใจสินค้า และลูกค้า การทา ต ล า ด ผ่ า น ด ด้ ว ย วิ ธี ก า ร สื่ อ ส า ร กั บ ผู้ บ ริ โ ภ คด้ วย ภ าพ ผู้ประกอบการจึงต้องมีสิ่งที่ควรรู้ และทาความเข้าใจในเบื้องต้น ได้แก่ 1. การก าหนดเป้ า หมาย (Goal) ประกอบไปด้ ว ย เป้าหมายทางธุรกิจ (Business Goal) และ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Customer Goal) ในการท าการตลาดผ่า นการสื่อ สารกับผู้บริ โภคด้วย ภาพ (Digital Visual Marketing) สิ่ ง แรกที่ ต้ อ งค านึ ง ถึ ง คื อ เป้ า หมายทางธุ ร กิ จ (Business Goal) เราต้ อ งรู้ ก่ อ นว่ า เรา อยากจะสื่อสารอะไร อยากให้ลูกค้าได้รับรู้อะไรกับ เรื่องที่สองก็ คื อ กลุ่ ม ลู ก ค้ า เป้ า หมาย(Customer Goal) ลู ก ค้ า เข้ า มาใช้ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแอพของเราแล้ว เขาอยากจะได้อะไร เขาอยากจะมาซื้อของ เขาอยากจะมาหาข้อมูล ฯลฯ ลูกค้าต้อง สามารถที่จะเข้าถึงในจุดนั้นได้ 2. การทาความเข้าใจลูกค้า ต้องไม่ยึดถือตัวเองเป็น แกนกลาง คือ ในการทาการตลาดผ่านการสื่อสารกับผู้บริโภค ด้ ว ยภาพ (Digital Visual Marketing) เราต้ อ งเข้ า ใจว่ า ลู ก ค้ า ต้องการอะไร แล้วก็พยายามคิดถึงในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ไม่ใช่สิ่ง ที่เราต้องการ 3. ทาการทดสอบ ปัจจุบันเราเน้นที่จะออกแบบแล้วก็ ใช้งานเลย โดยที่ไม่ได้ทาการทดสอบก่อนว่าสิ่งที่เราออกแบบมา นั้น ดีจริงหรือเปล่า ผู้ใช้งาน(user)ใช้แล้วเกิดปัญหาอย่างไร หรือ ว่าใช้แล้วพอใจกับสิ่งที่เราทาหรือเปล่า สามารถดึงดูด หรือสร้าง การรับรู้ข้อมูลได้มากน้อยขนาดไหน

Visual Content + Online & Social Media เทคนิคการสร้างคอนเทนต์ และการสื่อสารกับผู้บริโภค ด้วยภาพ อย่างมีประสิทธิภาพบนสื่อออนไลน์และสื่อโซเชียล “A picture is worth a thousand words” ภาพหนึ่งภาพมีความหมายนับพัน การสร้างหัวเรื่อง(Content) เป็นปัจจัยสาคัญที่จะทาให้ การสื่ อ สารข้ อ มู ล จากแบรนด์ ป ระสบความส าเร็ จ การใช้ สื่ อ ออนไลน์ หรื อ โซเชี ย ลมี เ ดี ย เช่ น Facebook คอนเทนท์ ต้อง น่าสนใจ และสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้ แต่เนื่องจากหัว เรื่อง (Content) จากสินค้าต่างๆ นั้นมีจานวนมาก แบรนด์ต้อง สร้ า งความโดดเด่ น เพื่ อ ดึง ดูดความสนใจของผู้ บ ริโ ภค ด้วย วิธีการต่างๆ การใช้ Visual content หรือ การสื่อสารกับผู้บริโภค ด้วยภาพ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ใช้เพื่อส่งเสริม กระตุ้นการรับรู้ ข้ อ มู ล บนสื่ อ ออนไลน์ หรื อ โซเชี ย ล มี เ ดี ย ของผู้ บ ริ โ ภคให้ มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยภาพ (Visual Content) คือ การเล่าเรื่องด้วยภาพ หรือ การใช้รูปภาพเป็นหลักในการนาเสนอ เรื่องราว สร้างความน่าสนใจ และ การจดจาของผู้บริโภค ได้ ดีกว่าคอนเทนต์ที่มีแต่ตัวหนังสือล้วนๆ เป็นรูปแบบการสื่อสารที่ เข้าใจง่าย สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้หลายรูปแบบ โดย หลักๆแล้ว Visual Content ที่นิยมจะมี 4 ประเภท คือ ภาพถ่าย (Images) วีดีโอ(Videos) อินโฟกราฟิก (Infographics) ภาพที่ใส่ บทความ และคาคม (Memes) ความส าคัญ ของการสร้ า งการสื่ อ สารข้ อ มู ลด้วยภาพ จากการศึกษาของกลุ่มนักวิจัยทางการตลาด ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า 90 เปอร์ เ ซ็น ต์ ของข้ อ มู ล ที่ ส มองประมวลออกมารวดเร็ วที่ สุ ด คื อ รู ปภาพสมองสามารถประมวลข้ อ มู ล ที่ เ ป็น รู ปภาพได้เ ร็ ว กว่ า ตัวหนังสือ 60,000 เท่า มนุษย์จะเรียนรู้และจดจาได้ดี จากการ อ่าน 10 เปอร์เซ็นต์ จากการได้ยิน 20 เปอร์เซ็นต์และ จากสิ่งที่ เราเห็น 30 เปอร์เซ็นต์ บทความที่มีรูปภาพประกอบด้วย จะมีคนดูมากกว่า ไม่ มีรูปภาพประกอบ 94 เปอร์เซ็นต์และ 87 เปอร์เซ็นต์ของโพสต์ บน Facebook ที่คนอยากทาการแชร์ มีรูปภาพเป็นองค์ประกอบ หลักที่สาคัญ เป็นต้น

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

3


เทคนิคในการสื่อสารกับผู้บริโภคด้วยภาพ (Visual Content) 10 ประการ ได้แก่ 1. ภาพที่ดึงดูดใจ แสดงภาพเบื้องหลังของแบรนด์ ทั้งการถ่ายโฆษณา พรีเซ็นเตอร์ ภาพสินค้าในกิจกรรมอื่นๆ 93 เปอร์เซ็นต์ของ ผู้บริโภคบอกว่า ภาพเหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจ ซื้อสินค้าเช่นกัน 1.1 รูปภาพพร้อมพาดหัวที่โดดเด่น

ภาพที่ โ ดดเด่ น พร้ อ มพาดหั ว ที่ ดึ ง ดู ด ผู้ ช มจะเกิ ด ความสนใจคลิกและอยากที่จะแชร์ต่อให้คนอื่นๆ การใส่พาดหัว ลงในภาพ จะช่วยส่งเสริมความหมายที่ภาพต้องการจะสื่อสาร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง การใช้ภาพประกอบข้อความพาดหัว ซึ่งใช้ กระแสของสังคม(ในเรื่องการเลือกตั้ง ) มาสร้างเป็นหัวเรื่ อ ง (Content) เป็นแนวทางในการกาหนดรูปแบบของการถ่ายภาพ และการเขียนข้อความพาดหัว แบรนด์ : ไอ-จู วัสดุก่อสร้าง สินค้า : วัสดุก่อสร้าง ที่มา : https://www.facebook.com/IJUsupply/

ภาพจาก https://www.facebook.com/IJUsupply/photos/ a.962179900545791 .1073741828.961630883934026/1360570227373421

การใช้ ข้ อ ความพาดหั ว ประกอบภาพ ไม่ ค วรใช้ ตั ว อั ก ษรเพื่ อ การอธิ บ ายรายละเอี ย ดต่ า งๆ มากจนเกิ น ไป เพราะเป็นการเพิ่มระยะเวลาในการอ่านรายละเอียดเหล่านั้น ลดความสนใจของผู้ดู ข้ อ ความพาดหั วควนสั้ น และกระชับ ส่ ง ผลให้ ส ามารถมองเห็ น อ่ า นและท าความเข้ า ใจได้โ ดยใช้ ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น เช่น ข้อกาหนดของ Facebook เรื่องการใช้รูปภาพ ในการโฆษณาบน Facebook มีข้อบังคับในการห้ามใช้ข้อความ ตั ว อั ก ษรบนโฆษณาเกิ น 20% เนื่ อ งจาก Facebook ได้ ใ ห้ ความสาคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้เ ป็นหลัก หากผู้ใช้งาน Facebook ถูกบังคับให้เห็น News Feed ที่เต็มไปด้วยตัวอักษร หรือข้อความบนโฆษณา อาจจส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจ ในการใช้งานได้ โดยโฆษณาที่ ป ระกอบด้ ว ยข้ อ ความจะถู ก แบ่ ง ออกเป็ น 4 ระดั บ สามารถท าการสามารถทดสอบรู ปภาพ โฆษณาได้ ที่ https://www.facebook.com/ads/tools/text_ overlay เพียงแค่ผู้ประกอบการทาการอัพโหลดรูปภาพที่ใช้ใน การโฆษณาขึ้นไปบนเว็บไซต์ และรอการประเมินผลลัพ ธ์ว่า ภาพโฆษณาของคุณอยู่ในระดับใด โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ - ระดับที่ 1 : OK /เหมาะสม รูปภาพจะประกอบด้วย ข้อความตัวอักษรน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ จากอัตราส่วนภาพ ทั้งหมด การเข้าถึงโฆษณาจะอยู่ในระดับปกติ - ระดั บ ที่ 2 : Low / ต่ า รู ป ภาพจะประกอบด้ ว ย ข้ อ ความตั ว อั ก ษร 20-30 เปอร์ เ ซ็ น ต์ จากอั ต ราส่ ว นภาพ ทั้งหมด ส่งผลให้การเข้าถึงของโฆษณาลดลงเล็กน้อย - ระดั บ ที่ 3 : Medium / ปานกลาง รู ป ภาพจะ ประกอบด้ ว ยข้ อ ความตั ว อั ก ษร 30-50 เปอร์ เ ซ็ น ต์ จาก อัตราส่วนภาพทั้งหมด ส่งผลให้การเข้าถึงของโฆษณาลดลง อย่างมาก - ระดั บ ที่ 4 : High / สู ง รู ป ภาพจะประกอบด้วย ข้ อ ความตั ว อั ก ษรที่ ม ากกว่ า 50 เปอร์ เ ซ็ น ต์ ขึ้ น ไป จาก อัตราส่วนภาพทั้งหมด ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงโฆษณาได้

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

4


ตัวอย่างการตรวจสอบปริมาณของข้อความ และระดับการประเมินผลลัพธ์ในการสื่อสาร ภาพจาก https://www.facebook.com/ads/tools/text_overlay 1.2 ภาพใบหน้าบุคคลและดวงตาที่ช่วยดึงดูดความสนใจ

ใบหน้าบุคคลมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าดึงดูด ที่ต่างไปจากภาพรูปแบบอื่นๆ เพราะผู้ชมมีแนวโน้มที่จะจ้องที่ใบหน้าบนภาพ ก่อนเสมอ นิตยสารและหนังสือพิมพ์มักจะใช้ ภาพใบหน้าบุคคลอยู่บนปกเพราะพวกเขารู้ดีว่าใบหน้าบุคคลจะดึงดูดความสนใจของ ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ภาพของใบหน้าสามารถแสดงความรู้สึกที่ส่งผลถึงคุณสมบัติ หรือข้อมูลที่ผู้ประกอบการต้องการให้ผู้บริโภค รับรู้ความรู้สึกผ่านการแสดงออกทางสีหน้า และท่าทางได้

ตัวอย่าง การใช้ภาพใบหน้าของบุคคล ที่มีเอกลักษณ์ และบุคลิกที่สามารถสื่อสารคุณสมบัติของสินค้า รวมไปถึงการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าได้อีกด้วย

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

5


ตัวอย่าง การใช้ภาพใบหน้าของบุคคล ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ใช้ช่วงวัยในเชิงการเปรียบเทียบ จากภาพเพื่อสื่อสารคุณสมบัติของสินค้า เมื่อดื่มน้าแร่จากธรรมชาติ (น้าแร่ evian) ภาพจาก https://www.pinterest.com 1.3 ใช้รูปภาพที่เป็นเอกลักษณ์

สร้ า งสไตล์ ข องธุ ร กิ จ คุ ณ เองให้ ผู้ ช มรั บ รู้ แ ละจดจ า รูปภาพที่ใช้คือส่วนสาคัญที่จะช่วยสร้างการจดจา เมื่อคุณกาหนด รูปแบบภาพที่ใช้ในธุรกิจ จะช่วยให้ประหยัดเวลาในการออกแบบ และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบตัวอักษร โทน สีที่ใช้การสื่อสารอารมณ์ต่างๆ บนภาพ สไตล์(Style) หรือคาร์ แรคเตอร์(Character) เปรียบเสือนเป็นภาพจา เป็นบุคลิกภาพ ของสินค้า ที่ต้องการสื่อสารให้ลูกค้าจดจภาพประกอบที่สามารถ

สื่อสารความรู้สึกให้เกิดการรับรู้ตามบุคลิกภาพที่ถูกกาหนดไว้ เป็นสิ่งสาคัญตัวอย่างคาแรคเตอร์ เช่น การสร้างคาแรคเตอร์ สาหรับการตอบคาถาม เป็นผู้หญิง สนุก ตลก เป็นมิตร คิดบวก ฉลาด และมีไหวพริบ เป็นต้นการสร้างคาแรคเตอร์ขึ้นมาจะทาให้ ภาพลั ก ษณ์ หรื อ การโต้ ต อบกั บ ลู ก ค้ า ไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น ทั้งหมด

ตัวอย่าง การสร้างไสตล์(style) ของภาพจากการก้าหนดสีหลักที่เป็นตัวแทนในการสื่อสารเอกลักษณ์ ของสินค้า และใช้สีโทนนันเป็นตัวก้าหนดแนวทางของการสร้างสรรค์ภาพถ่าย หรือภาพประกอบ เพื่อการให้ข้อมูล หรือโฆษณาสินค้า

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

6


ตัวอย่าง แมคโดแนล ใช้การสื่อสารจากภาพที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการใช้สินค้า กับการเปรียบเทียบความคล้ายคลึงของกิจกรรม หรือประสบการณ์ต่างๆที่ผู้บริโภคสามารถคาดเดาได้ ประกอบกับการเน้นสีแดง ซึ่งเป็นสีจากสัญลักษณ์ของแบรนด์ (ภาพจาก https://www.pinterest.com)

1.3.1 ภาพที่แสดงถึงตัวตนของแบรนด์ โดยการใช้องค์ประกอบอื่นๆ เช่น วัตถุดิบในการผลิต สถานที่ หรือองค์ประกอบ ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสินค้า มาประกอบกับสินค้า เพื่อสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง แบรนด์ที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ การใช้ใบไม้สีเขียวที่ดูอุดมสมบูรณ์จะช่วยให้แสดงถึงตัวตนได้ชัดเจนขึน (ภาพจาก https://www.pinterest.com)

1.3.2 เรียบเรียงองค์ประกอบภายในภาพอย่างเป็นรูปแบบ โดยวางองค์ประกอบที่สมดุล จัดวางวัตถุในภาพอย่างสมดุล มีการ กาหนดจุดเด่นและจุดรอง กระจายตัวออกทางด้านซ้ายและขวาช่วยดึงดูดสายตาของผู้ชม

ตัวอย่าง การจัดวางองค์ประกอบภาพอย่างสมดุลซ้าย-ขวา มีการให้นา้ ้หนักภาพของสินค้าในด้านซ้าย และขวา ควรมีการจัดระยะด้านหน้าและด้านหลังของสินค้า เพื่อให้ภาพเกิดมิติของระยะหน้า และหลัง (ภาพจาก https://www.pinterest.com)

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

7


ตัวอย่าง การจัดวางองค์ประกอบภาพอย่างสมดุลบริเวณกลางภาพ มีการให้น้าหนักภาพ ของสินค้าเน้นบริเวณกลางภาพ จากภาพตัวอย่างภาพที่ 1 ลักษณะมุมมองภาพแบบมองจากด้านบน และภาพตัวอย่างภาพที่ 2 ลักษณะมุมมองภาพแบบมองจากด้านหน้า (ภาพจาก https://www.pinterest.com)

1.3.3 ความสมมาตรขององค์ประกอบ จัดขอบของวัตถุด้วยขอบของกรอบ สามารถสร้างความสมมาตรในภาพได้ดี ดึงดูด มุมมองทางสายตาไปยังบริเวณกลางภาพได้

ตัวอย่าง การจัดวางองค์ประกอบภาพโดยใช้สินค้า หรือองค์ประกอบต่างๆจัดเรียงบริเวณโดยรอบ กรอบภาพทัง 4 ด้าน หรือ 2 ด้านซ้าย-ขวา ด้านบน-ล่าง (ภาพจาก https://www.pinterest.com)

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

8


1.3.4 จัดวางวัดถุซาๆ กันกระจายตัวในระยะห่างที่เท่าๆ กัน เพิ่มความน่าสนใจ และขับเน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ภาพจาก https://www.pinterest.com

1.3.5 ที่ว่างรอบจุดกึ่งกลาง วางวัตถุอยู่กึ่งกลาง ในขณะรอบข้างเว้นที่ว่างให้เหมือนเป็นกรอบ ช่วยขับเน้นวัตถุให้โดดเด่นขึ้น

ภาพจาก https://www.pinterest.com

1.3.6 ความเคลื่อนไหว ทาให้ภาพดูไม่หยุดนิ่ง กระตุ้นจินตนาการณ์ของผู้ชมที่มี ต่อตัวสินค้าในด้านอารมณ์และความรู้สึก องค์ประกอบที่ทาให้ภาพดูเคลื่อนไหวอาจเกิดจากการใช้ตัวสินค้าสร้างสรรค์ ทาให้ภาพเกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

9


ภาพจาก https://www.pinterest.com

2. คานึงถึงสัดส่วนรูปที่มีความเหมาะสม การใช้รูปภาพบนสื่อ Social Media จะต้องคานึงถึง สัดส่วนที่มีความเหมาะสม มีภาพมากมายบน Social Media ที่ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชม ขนาดของภาพไม่ใช่เรื่องสาคัญ เพราะเมื่ อ ภาพถู ก โพสต์ ล งบน Social Media ไม่ ว่ า จะเป็ น Facebook หรือ Instagram จะปรับขนาดรูปภาพที่เหมาะสม โดยอัตโนมัติ จึงไม่จาเป็นต้องกังวลกับขนาดภาพที่ใหญ่ มาก เกินไป สิ่งที่ต้องระวังคือภาพที่เล็กเกินกว่าที่จะขึ้นแสดง การที่ ภาพถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น ความละเอียดจะถูกลดทอนลง อาจ ส่งผลให้เกิดการสื่อสารผิดพลาดจากจุดประสงค์ที่เราต้องการ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสาคัญคือสัดส่วนภาพ จะต้องพอดีกับ ช่องทางที่ใช้ในโพสต์ โดยแต่ละช่องทางจะถูกกาหนดมาเป็น มาตรฐานว่าการใช้ภาพต้องอยู่ในสัดส่วนเท่าไหร่ เป็นแนวตั้ง หรือว่าแนวนอนเป็นการคานึงถึงขนาดของรูปภาพที่เหมาะสม สาหรับการโฆษณา

2.1 การกาหนดสัดส่วนภาพบน Social Media Platform ยอดนิยมอย่าง Facebook, Instragram, Twitter เพื่อให้ คุณเลือกใช้ภาพได้อย่างเหมาะสมกับช่องทาง สาหรับการ ทาการตลาดออนไลน์

การใช้งานบน Facebook โดยปกติแล้ว พฤติกรรม การเล่นของผู้บริโภคจะมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว การใช้ภาพที่ดีมีส่วนสาคัญที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานได้ การวางขนาดของภาพให้พอดีเ ป็นกลยุทธ์สาคัญที่เป็นด่านแรก เพื่อให้คนหยุดอ่านเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อสารออกไป เพราะ การใช้ภาพโฆษณาบน Facebook จะมีการกาหนดขนาดและ สัดส่วนภาพที่แน่นอน หากเราใช้ภาพที่สัดส่วนผิดเพี้ยนไปจาก ที่กาหนด จะส่งผลให้ภาพถูกยืดหรือบีบลงจากที่ควรจะเป็น ทา ให้เกิดการสื่อสารข้อความที่ไม่ชัดเจนหรือคลาดเคลื่อนไปจากที่ ควรจะเป็น และยังส่งผลต่อความน่าเชื่อของธุรกิจได้

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

10


3. การใช้คาคม ข้อคิดเพื่อการสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค การสร้าง Palette หรือกรอบมาสักอัน เพื่อใส่คาคม หรือข้อคิดดีๆ ลงไป เน้นการออกแบบเรียบง่า ย ประกอบกับภาพของสินค้า ทั้งนี้ต้องสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ของคุณด้วย

4. สร้าง Call to Action ที่เด่นชัด สะดุดตา จากการสารวจ 70 เปอร์เซ็นต์ของการทาธุรกิจ มักจะใช้ Call to Action เพื่อเพิ่มแรงดึงดูด และความสนใจ เช่น เว็บไซท์ที่ มีการจาหน่ายสินค้า เมื่อลูกค้าข้ามายังเว็บไซต์คุณ และสนใจสินค้า พวกเขาจะมองหาคาว่า “Buy now” หรือ “Click here” เป็นต้น ในส่วนของการออกแบบ ต้องเลือกใช้สีที่โดดเด่น เช่น การไล่เฉดสีที่ดึงดูดความสนใจให้กับปุ่ม “Buy now” หรือ “Click here” และถ้า มีโปรโมชั่นที่ดี ก็จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกสนใจมากขึ้น

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

11


5. ภาพที่แสดงความเป็นแบรนด์ของคุณ (Branded Images) เลือกใช้ภาพที่ไม่เหมือนใคร แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ รวมถึ ง การใช้ สี และองค์ ป ระกอบต่ า งๆ เพื่ อ สร้ า งลั ก ษณะ เฉพาะตัว การใส่ใจในรายละเอียดของภาพ และภาพลักษณ์ของ แบรนด์ จะแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าคุณให้ความสาคัญมากแค่ไหน จากการศึกษาวิจัย 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคบอกว่าพวกเขาจะ สนใจการสื่อสารจากแบรนด์มากขึ้น เช่น การเลือกใช้ภาพที่มีโล โก้ หรือภาพที่มีสินค้าวางคู่กับชื่อแบรนด์ (Branded Images) สิง่ เหล่ า นี้ แ สดงออกถึ ง ลั ก ษณะเฉพาะของสิ น ค้ า ได้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ

ภาพจาก https://www.pinterest.com

7. การใช้วีดีโอ (Video) ถึงแม้การใช้ภาพประกอบจะเป็นวิธีที่จะทาให้ลูกค้าหัน มาสนใจ และจดจาสินค้าได้ แต่อาจจะยังไม่พียงพอสาหรับสินค้า ที่มีการแข่งขันสูง ต้องมีการกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคด้วย รูปแบบอื่นๆด้วย เช่น การได้ยินเสียงด้วย การใช้วีดีโอในการ บรรยาย ถ่ายทอดสินค้า ด้วยการใช้วีดีโอ เป็นตัวเลือกที่ตอบ โจทย์ที่สุด ในปีที่ผ่านมา 99 เปอร์เซ็นต์ของแบรนด์สินค้าขนาด เล็กในสหรัฐฯ แข่งขันกันผลิตวีดีโอ คอนเทนต์ (Video Content) เพื่อใช้ในการโฆษณากันอย่างมาก เพราะ 64 เปอร์เซ็นต์ของ ผู้บริ โ ภคมี ผลตอบรั บกั บสิ น ค้ า มากขึ้ น เมื่ อ ได้ดูวิดีโ อหั ว เรื่ อ ง (Content) เหล่านั้นสามารถชักนาให้มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าเพิ่ม มากขึ้น ตัวอย่าง การสร้างหัวเรื่อง(Content) ในรูปแบบวีดีโอ บนเฟสบุค(Face book) ของ I-Ju วัสดุก่อสร้าง การใช้ประโยคเพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติของสินค้ากับ 6. การใช้ข้อมูลที่สาคัญประกอบหัวเรื่อง (Content) ความรัก เป็นการสร้างหัวเรื่อง(Content) ที่ทาให้ผู้บริโภคยิ้มได้ การถ่ายทอดข้อมูลจานวนมหาศาลไปยังผู้บริโภคไม่ใช่ เกิ ดความสนใจจนมี ก ารแชร์ วีดีโ อต่ อ ส่ ง ผลดีกั บการโฆษณา เรื่องง่าย โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเลข สถิติต่างๆ ที่ต้องการ สินค้า และแบรนด์ ความแม่นยาสูง สิ่งสาคัญคือ การดีไซน์ และการเลือกใช้สื่อ ที่ ต้องทาให้ผู้บริโภคเข้าใจได้รวดเร็ว อาทิ แผนที่ ชาร์จ กราฟ แบรนด์ : ไอ-จู วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ โดย 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภค จะเข้าใจรูปภาพมากกว่า สินค้า : ตลับเมตร ข้อความ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาสนใจแบรนด์ ควรมีก าร ข้อความโฆษณาประกอบวีดีโอ : ตลับเมตรจะยาวแค่ สร้ า งหั ว เรื่ อ ง(Content) ในสื่ อ ออนไลน์ ด้ ว ยการน าข้ อ มู ล ที่ ไหน ก็ไม่อาจวัดระยะห่างระหว่างใจเราได้ สาคัญๆอย่างตัวเลขสถิติ มาทาเป็นกราฟหรือชาร์ตประกอบเพื่อ การสร้างภาพลักษณ์ : การใช้เจ้าของแบรนด์ เป็นพรี ความเข้าใจที่รวดเร็วและถูกต้องซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะจดจา เซนเตอร์ โดยสื่อสารการจดจาจากบุคลิกภาพ เครื่องแต่งกาย สีภาพได้ดีกว่าข้อความตัวอักษรทั่วไป สัญลักษณ์และน้าเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มา : https://www.facebook.com/IJUsupply/ ภาพจาก https://www.pinterest.com

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

12


ภาพจาก https://www.facebook.com/IJUsupply/ videos/1409043259192784/

8. เคล็ดลับ เกร็ดความรู้ และ How to หัวเรื่อง(Content) ที่จะมาเติมเต็มงานบริการของคุณ คือ เคล็ดลับ เกร็ดความรู้ และ How to ก็อาจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ สร้ า งความน่ า สนใจให้ กั บ การโฆษณาสิ น ค้ า นอกจากการใส่ รายละเอียดสินค้าแบรนด์ของผู้ประกอบการลงในคอนเทนท์ แล้ว วิธีการใช้งาน เคล็ดลับง่ายๆ เกร็ดความรู้ทั่วไปที่เขียนออกมาได้ ก็สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้เช่นกัน

ภาพจาก https://www.facebook.com/potatocornerthailand/photos/ pcb.1886910191348669/1886909424682079

9. คาอธิบายภาพ (Informative screenshots) เพื่อให้หัวเรื่อง (Content) มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ยังแสดงให้ผู้บริโภคเห็นสินค้ามีคุณสมบั ติ หรือข้อดีมากแค่ไหน การใช้ ค าอธิ บ ายภาพ (Informative screenshots) จะช่ ว ยให้ ผู้บริโภครับรู้ข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น อาทิ การแสดงความคิดเห็นจาก ลูกค้าในเชิงบวก หรือรีวิวต่างๆ จากการสารวจพบว่า 88% ของ ผู้ที่ผ่านรีวิว จะมองว่าแบรนด์มีคุณภาพมากพอสาหรับการตกลง ซื้อ

ภาพจาก https://www.facebook.com/LBthailand/photos/ pcb.1554537304615535/1554534117949187/

10. สร้างคาถามที่กระตุ้นความคิด และความสงสัย การถามคาถามกั บลู ก ค้า จะเป็น การเริ่ มต้น สนทนา และสร้างการรับรู้ เน้นคาถามปลายเปิด โดยที่คาตอบนั้นไม่มีผิด หรือถูก เช่ น อะไรคือสิ่งที่คุณชอบที่สุดในหน้าร้อน? การถาม คาถามเหล่ า นี้ จ ะเป็น การเก็ บข้ อ มู ล ส ารวจความคิดเห็ น ของ ผู้ บ ริ โ ภค ซึ่ ง จะช่ ว ยให้ หั ว เรื่ อ ง (Content) ในอนาคตของ ผู้ประกอบการตอบโจทย์และโดนใจผู้บริโภคมากขึ้น 11. การใช้ Infographics ข้อมูลในรูปแบบ Infographics สามารถทาให้หัวเรื่อง (Content) ที่ ต้ อ งการอธิ บ ายข้ อ มู ล ที่ มี ร ายละเอี ย ดมากๆ ให้ กระชับ และเข้าใจได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคมักสนใจ การสื่อสารข้อมูล ประเภทนี้มาก จะไลค์ และแชร์ มากกว่าคอนเท้นต์ประเภทอื่น ถึง 3 เท่า ด้วยการย่อยข้อมูลจานวนมาก ให้ดูง่าย และสร้าง ภาพกราฟิ ก ประกอบเพื่ อ อธิ บ ายข้ อ มู ล เป็ น ภาพ แทนการใช้ ตัวอักษรอธิบายรายละเอียด แต่ต้องเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับ ผู้บริโภค จึงจะได้รับความสนใจ จากการสารวจพบว่า องค์กรใดที่ มี ก ารใช้ Infographic ในการสื่ อ สารข้ อ มู ล จะเติ บ โตมากกว่า องค์กรที่ไม่ได้ใช้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์ หรือสังเกตได้จากจานวนการ แชร์ Infographics เหล่านี้ตาม Social Media ต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ แล้วจะแชร์ต่อกันมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป เป็นต้น

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

13


12. การต่อท้ายหัวเรื่อง หรือรายละเอียดข้อความด้วย แฮชแทค (Hashtag) สร้ า งเนื้ อ หาให้ ต รงกั บ ภาษาผู้ ใ ช้ และใช้ แ ฮชแทค (Hashtag) ให้เป็นประโยชน์ หลาย ๆ ปัญหาของการสื่ อ สาร ข้อมูลในโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook หรือ Instagram ที่ ไม่ประสบผลสาเร็จ นั้น อาจเกิดการที่แบรนด์ไม่ยอมสื่อสารใน รูปแบบที่ ผู้บริโ ภคชอบ หรื อ อาจมี ก ารสื่ อ สารข้ อ มู ล ที่ ไม่ ได้ใช้ กระแส ที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้นให้เป็นประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงวิธีการเพื่อสร้างการสื่อสารข้อมูลในโซ เชี ย ล มี เ ดี ย ขึ้ น มา การใช้ แฮชแทค(Hashtag) นั้ น สามารถ เชื่อมต่อผู้ใ ช้ไ ด้ อย่ า งมากมายที่ ต ามความชอบของแฮชแทค (Hashtag) นั้นเข้ามา ทาให้เจอผู้บริโภคที่กาลั งสนใจในเรื่ อ ง ของแฮชแทค(Hashtag) นั้นและทาให้เกิดการติดตามและสนใจ สินค้าของเราได้มากขึ้น แฮชแทค (Hashtag) เปรียบเสมือนเป็นคาค้นหาหลัก หรือ ที่ เ รีย กกัน ว่า คีย์ เ วิร์ด (Keyword) ใช้ เ พื่ อ ค้น หา กลุ่ มคน กลุ่มเพื่อน ที่อาจจะไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่ต่างมีความสนใจ เหมือนกัน ในเรื่องเดียวกัน ด้านเดียวกัน มีความรู้สึกเหมือนกัน อารมณ์เ ดีย วกัน ตกอยู่ ใ นสถานการณ์ เ ดีย วกั น อยู่ ใ นสถานที่ เดี ย วกั น อยู่ ใ นงานอี เ ว้ น ท์ เ ดี ย วกั น ใช้ ข องยี่ ห้ อ เดี ย วกั น รุ่ น เดียวกัน เคยใช้บริการที่เดียวกันมาก่อน และอื่นๆ อีกมากมาย โดยจะสังเกตได้ว่าที่กล่าวมาทั้งหมดเลย คือจะลงท้ายด้วยคาว่า “…เดียวกัน” ด้วยเหตุนี้เอง การ ใช้ แฮชแท็ก เดียวกัน (ชื่อเหมือนกัน) อาจทาให้เราได้เพื่อนใหม่ ผู้ติดตามใหม่ๆ ที่สนใจเรื่องเดียวกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้

ข้อดีของการใช้แฮชแทค (Hashtag) 1. คนอื่ น ที่ เ ขามี ความสนใจในเรื่ อ งเดีย วกัน จะได้มี โอกาสเข้าถึงเราได้มากขึ้น 2. มีโอกาสที่จานวน ผู้ติดตาม (Follower) เพิ่มมากขึ้น มากกว่า การที่ ไ ม่ ใ ช้ แท็ ก อะไรเลย เพราะล าพั ง เพี ย งแค่ การ โพสหรือทวีตข้อความ ให้กับเฉพาะผู้ติดตาม อาจจะเห็นกันแค่ใน วงจากัด วงแคบ การใช้แฮชแท็กช่วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ กว้างมากยิ่งขึ้น 3. สามารถช่ วย สร้ า งโอกาสท าการตลาด หรือขาย สินค้า ชิ้นนั้นได้ง่ายขึ้น เช่น การขายกระเป๋าแบรนด์เนม อย่าลืม ใส่แฮชแท็กยี่ห้อ หรือ รุ่น มันลงไปด้วย จะมีโอกาสขายได้ง่ายๆ เลยละ แม้คุณจะมีจานวนผู้ตามน้อยก็ตาม 4.การใช้ Hashtag อย่ า งในบริก าร Instagram นั้นจะ ท าให้ มีคนติดตามมากขึ้ น แต่ไม่ ใ ช่ ก ารติดตาม แต่จ ะช่วยให้ จ านวนคนที่กด LIKE รู ป ซึ่ง จะท าให้คนมี ส่ วนร่ วมมากยิ่งขึ้น เช่นกัน เพราะถึงแม้ว่าบางคน เขาอาจจะไม่ได้ ติดตามเรา แต่ เขาเหล่านั้นก็อาจจะ มอนิเตอร์ติดตาม เฉพาะจาก แฮชแท็ก เรื่องที่สนใจก็ได้ ตัวอย่าง : มีชาวต่างชาติที่สนใจการทาอาหารไทย เป็น จานวนมาก ติดตามแท็กชื่อ #thaifood ถึงแม้เขาจะไม่ได้ติดตาม กับเราเป็นการส่วนตัว แต่ติดตามเฉพาะแท็กได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง เกิดเห็นจากแฮชแท็กแล้วตามเข้ามาดูที่โปรไฟล์เรา ก็อาจจะเป็น ผู้ติดตาม เราไปเลยก็ได้เช่นกัน

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

14


เทคนิคต่างๆเหล่านีจะทาให้การสื่อสารด้วยภาพมีความสาคัญอย่างมากกับการสร้างความสนใจ และการจดจา ช่วยให้ กลุ่มเป้าหมายสนใจกับสิ่งที่คุณจะเสนอได้มากกว่า Content ที่มีแต่ตัวหนังสือล้วนๆ อย่างไรก็ตามควรใช้รูปภาพที่คมชัด มีความ ละเอียดสูง และ สามารถบ่งบอกความหมายสิ่งที่คุณจะสื่อสารให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้กลุ่มเป้าหมายนั้นสับสนสิ่งที่คุณตั้งใจจะสื่อให้ลูกค้า และ ที่สาคัญต้องมีความสอดคล้อง และสัมพันธ์กับ บุคลิกภาพ เอกลักษณ์ ภาพลักษณ์ของสินค้า ของเราด้วย

Industrial Design กิ จ ก ร ร ม ส ร้ า ง นั ก อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ อุ ต ส า ห ก ร ร ม

15


NOTE



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.