MEDTU Vol. 05

Page 1

Vol.05.2556

2-3 สกู๊ปพิเศษ 4-5 การประชุมวิชาการประจำ�ปี 2556 6-7 การประชุมวิชาการ AECOM 8-10 เริ่มต้นชะลอวัย 11-13 สมุนไพรใกล้ตัว 14-15 ประมวลภาพกิจกรรม


สกู๊ปพิเศษ

คณะแพทยศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จั ด เลี้ ย งแสดงความยิ น ดี ใ ห้ กั บ ผู ้ ที่ ได้ รั บ พระราชทานปริ ญ ญาดุ ษ ฎี บั ณ ฑิ ต กิตติมศักดิ์ ประจ�ำปีการศึกษา 2555 รวมทั้ง ผู้ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้ด�ำรงต�ำแหน่งศาสตราจารย์, ผู้ได้รับรางวัล ผลงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์, ผู้ได้รับรางวัล ระดับโลก เหรียญทองเกียรติยศ Super Gold และเหรียญทอง Special Prize, ผู้ได้รับรางวัล บุ ค คลต้ น แบบการพั ฒ นาเครื อ ข่ า ยบริ ก าร สุขภาพ โดยมี รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ กล่าวเปิดงานและ กล่าวแสดงความยินดี ณ ห้องสโมสร ชั้น 4 อาคารคุณากร เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎี บัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคณ ุ ดร. นายแพทย์ ท าคาชิ ทาจิ ริ แพทยศาสตร จดหมา

ทย์โด วแพ ม

2

ยข่า


ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาศัลยศาสตร์), นายแพทย์ ธนู ชาติธนานนท์ แพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขา จิตเวชศาสตร์), ศ. นพ.ก้องเกียรติ กูณฑ์กันทรากร ได้รับ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่ง ศาสตราจารย์, รศ. ดร.อรุณพร อิฐรัตน์ ได้รับรางวัลผลงาน สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ เรื่อง Development of Hibicus Sabdariffa Extract in tablet form for diabetic and high blood pressure patients ในงาน 41th International Exhibition of Invention of Geneva ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส, รศ. พญ.อรพรรณ โพชนุกลู ได้รบั รางวัลระดับโลก เหรียญทอง เกียรติยศ Super Gold และเหรียญทอง Special Prize (ได้รบั การโหวตจาก Taiwan Association Invention ประเทศไต้หวัน) จากการน�ำผลงานนวัตกรรม DIY Spacer ผลงาน “อุปกรณ์ ช่วยพ่นยาชนิดท�ำได้ด้วยตนเอง” เข้าร่วมประกวดในงาน Exhibition of Inventions Geneva - Palexpo 2013 ณ นคร เจนีวา สมาพันธรัฐสวิส, ผศ. นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา ได้รับ รางวั ล บุ ค คลต้ น แบบการพั ฒ นาเครื อ ข่ า ยบริ ก ารสุ ข ภาพ “เครือข่ายโรคหลอดเลือดสมอง” ปี 2555 โดยส�ำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการจัดประชุม “จากทศวรรษ แห่งการเรียนรู้สู่ทศวรรษใหม่แห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” ผู้ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ผู ้ ไ ด้ รั บ พระบรมราชโองการโปรดเกล้ า ฯ แต่ ง ตั้ ง ให้ ด� ำ รง ต�ำแหน่งศาสตราจารย์, ผู้ได้รับรางวัลผลงานสร้างสรรค์ สิ่งประดิษฐ์, ผู้ได้รับรางวัลระดับโลก เหรียญทองเกียรติยศ Super Gold และเหรียญทอง Special Prize, ผู้ได้รับรางวัล บุ ค คลต้ น แบบการพั ฒ นาเครื อ ข่ า ยบริ ก ารสุ ข ภาพ กล่ า ว แสดงความรู ้ สึ ก พร้ อ มรั บ ช่ อ ดอกไม้ จ าก รศ. นพ.ปรี ช า วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ตามล�ำดับ

จดหมา ยข่า

ม ทย์โด พ แ ว

3


การประชุมวิชาการ ประจำ�ปี 2556 การประชุมวิชาการ ประจ�ำปี 2556 คณะแพทยศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จั ด ขึ้ น เมื่ อ วั น ที่ 10-12 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี ภายใต้ หัวข้อ “Practical Points for Best Practitioners” โดยมี รศ. นพ.ปรี ช า วาณิ ช ยเศรษฐกุ ล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ เป็นประธานคณะกรรมการด�ำเนินงาน และ ได้รับเกียรติจาก รศ. นพ.จิตตินัดด์ หะวานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายศูนย์สุขศาสตร์ เป็นประธานเปิดงาน การจัดงานประชุม วิชาการคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดขึ้น เป็นประจ�ำทุกปี หัวข้อและเนื้อหาของการประชุมจะเปลี่ยนแปลง ไปตามเหตุการณ์ และวิทยาการใหม่ๆ ทางการแพทย์ สอดคล้อง กับปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย รูปแบบของการประชุมจะ เป็นการบรรยาย การอภิปรายโดยวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญใน สาขาวิ ช าต่ า งๆ ทั้ ง ภายในและภายนอกคณะ มีการน� ำ เสนอ ผลงานวิจยั การประชุมเชิงปฏิบตั กิ าร โดยในปีนคี้ ณะแพทยศาสตร์ มีแนวคิดในการน�ำเสนอความก้าวหน้าทางวิชาการทีโ่ ดดเด่น ของ คณะแพทยศาสตร์ มธ. มีการน�ำเสนอความรู้ทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปควรรู้เพื่อใช้ในการดูแลและให้ค�ำแนะน�ำ แก่ผู้ป่วย ในการจัดงานครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากแพทย์ บุคลากร ทางการแพทย์ นักศึกษาแพทย์ จากทัว่ ประเทศโดยมีผเู้ ข้าร่วมงาน กว่า 300 คน ซึง่ วันแรกมีปาฐกถาพิเศษเรือ่ ง “คณะแพทยศาสตร์ กับการป้องกันวิกฤติสุขภาพ” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประเวศ วะสี และต่อด้วยการน�ำเสนอของดี 7 อย่าง แพทย์ธรรมศาสตร์ (The Seven) 1. หอบหืด...ท�ำไมต้องธรรมศาสตร์ โดย รศ. พญ.อรพรรณ โพชนกุล 2. กะโหลกเทียม...เปลี่ยนชีวิต โดย รศ. นพ.ภัทรวิทย์ รักษ์กุล

3. เลสิก เทคโนโลยีใหม่ แบบไร้ใบมีด โดย อ. นพ.วรนาท ทัตติยกุล 4. ปวดประสาทจากเบาหวานรักษาได้ โดย รศ. นพ.ก้องเกียรติ กูณฑ์กันทรากร 5. ส่องกล้องข้อไหล่ หายไวใช้งานดีที่ธรรมศาสตร์ โดย รศ. นพ.บัญชา ชื่นชูจิตต์ 6. วิจัยสมุนไพร เพื่อพัฒนาไทยยั่งยืน โดย ดร.สีวบูรณ์ สิริรัฐวงศ์ 7. แพทย์แผนไทยกับมะเร็ง โดย รศ. ดร.อรุณพร อิฐรัตน์ และการบรรยายที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น - เรื่อง Disaster management โดย รศ. นพ.ศุภชัย ฐิติอาชากุล ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ - เรือ่ ง The way to be 120 years healthy โดย ผศ. พญ.พรระวี เพียรผดุงรัชต์, นพ.พศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุทร - เรือ่ ง New generation of drug abuse โดย นพ.เกียรติชยั ดาวรัตนชัย

นอกจากการบรรยายแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานประชุมวิชาการคือการน�ำเสนอผลงานวิจัย ส�ำหรับปีนี้มีทั้งหมด 4 ประเภท อันได้แก่ ผลการตัดสินงานวิจัยที่น�ำเสนอแบบ Poster presentation ประเภทนักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาตรี ล�ำดับ

ชื่อผลงาน

ชื่อผู้วิจัย

รางวัลที่

1

Neuronal differentiation potential of mesenchymal stem cells derived from chorion

นายเศรษฐพร จุนหวิทยะ นายธนพัฒน์ บุญรักษา นายโชคชัย ประจงพร

รองอันดับสอง

Neuronal differentiation potential of mesenchymal stem cells derived from placenta cultured in DMEM supplemented with peripheral blood serum

นายชนะธิป รักหวาน นายวรการ ตีระกนก นายธเนศ ธรรมาภิบาล

รองอันดับสอง

Neuronal differentiation from umbilical cord derived mesenchymal stem cells

นายไชยณรงค์ วงศ์วิริยะกุล นางสาวเบญจลักษณ์ เชยทอง นายศิรวิทย์ สถิตสมิทธ์

รองอันดับสอง

2

3 จดหมา

ทย์โด วแพ ม

4

ยข่า


ผลการตัดสินงานวิจัยที่น�ำเสนอแบบ Oral presentation ประเภทอาจารย์ ล�ำดับ

ชื่อผลงาน

ชื่อผู้วิจัย

รางวัลที่

1

Disorganization of cortical actin and adherens junction involved in hypokalemia-induced nephrogenic diabetes insipidus

รศ. พญ.สุขเกษม โฆษิตเศรษฐ

ชนะเลิศ

2

Can a modified robert jones bandage after knee arthroplasty reduce blood loss? A Prospective Randomized Controlled Trial

อ. นพ.สุคณิศ ฉ�่ำชื่น

รองอันดับหนึ่ง

3

Maternal vitamin D status,its associated factors and the course of pregnancy in Thai women

ผศ. พญ.ณัฎฐิณี จรัสเจริญวิทยา

รองอันดับสอง

4

Feasibility of HIV universal voluntary counseling and testing in a general practice clinic of Thammasat university hospital

อ. นพ.ธนา ขอเจริญพร

ชมเชย

5

Access to antiretrovirals among patients cared at Thammasat hospital HIV clinic during the 2011 flood disaster

อ. นพ.ธนา ขอเจริญพร

ชมเชย

ผลการตัดสินงานวิจัยที่น�ำเสนอแบบ Oral presentation ประเภทแพทย์ประจ�ำบ้าน ล�ำดับ

ชื่อผลงาน

ชื่อผู้วิจัย

รางวัลที่

1

To study the relevant factors to outcome in out-of-hospital cardiac arrest patients with cardiopulmonary resuscitation at emergency department Thammasat hospital

พญ.นุชจรี สินสุขพร

ชนะเลิศ

ผลการตัดสินงานวิจัยที่น�ำเสนอแบบ Oral presentation ประเภทบัณฑิตศึกษา ชื่อผลงาน

ชื่อผู้วิจัย

รางวัลที่

1

Brain-heart Axis modulation through vascular oxidative stress during mild hypothermia induces decreased global Ischemia in therapeutic hypothermia after cardiac arrest

นายอานนท์ จันทะนุกูล

ชนะเลิศ

2

Neurovascular coupling assessed by heart rate variability (HRV), cerebral blood flow velocity, circulating nitric oxide and hydrogen peroxide during cerebrovascular reactivity

นายกรรณกร อินทรข�ำ

รองอันดับหนึ่ง

3

Atrial fibrillation complexity and cardiac autonomic function in patients with ischemic stroke: an evidence of the heart-brain interactions

นพ.รัฐพงศ์ สังข์หนุน

รองอันดับสอง

4

ความชุ ก ของผู ้ ป ่ ว ยติ ด เชื้ อ แบคที เ รี ย ในกระแสเลื อ ดที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระหว่างปี พ.ศ. 2551-2554

น.ส. พิมลวรรณ โภคาพันธ์

ชมเชย ม ทย์โด พ แ ว

จดหมา ยข่า

ล�ำดับ

5


การประชุมวิชาการ AECOM เมื่ อ วั น ที่ 9 กั น ยายน 2556 ณ ห้ อ ง Lotus 5-7 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอนด์บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

นายแพทย์ ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการระดับ นานาชาติ เ รื่ อ งความก้ า วหน้ า ทางการแพทย์ ด ้ า นจั ก ษุ วิ ท ยา 1st AECOM “the first ASEAN Economic Community Ophthalmology Meeting” โดยมี รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ เป็นประธานกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย รศ. นพ. ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพ อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ร่วมต้อนรับ

การประชุ ม ครั้ ง นี้ จั ด ขึ้ น โดย สาขาวิ ช า จั ก ษุ วิ ท ยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ มีจักษุแพทย์เข้าร่วมกว่า 200 คน และมีจักษุแพทย์ต่างประเทศเข้าร่วม 9 ประเทศ โดยมีวิทยากรจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง จากต่างประเทศ 5 ท่าน คือ จดหมา

ทย์โด วแพ ม

6

ยข่า

1. Sherman Valero, MD PHILIPPINES 2. Philip J Luthert, MD LONDON 3. Tin Aung, MD SINGAPORE 4. Donald Tan, MD SINGAPORE 5. Tim Robert, MD AUSTRALIA


ส�ำหรับงานประชุมวิชาการ 1st AECOM (the first ASEAN Economic Community Ophthalmology Meeting) จัดขึ้นเพื่อ เผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ ทางด้านจักษุวทิ ยา รวมทัง้ เผยแพร่ความรู้ เทคโนโลยีและงานวิจยั ใหม่ๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างจักษุแพทย์ไทยและจักษุแพทย์ในประเทศอาเซียน เพือ่ เตรียมสูก่ ารเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้ และวิ ท ยากรจั ก ษุ แ พทย์ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญที่ มี ชื่ อ เสี ย งของ ประเทศไทย 6 ท่าน คือ 1. ศ.เกียรติคุณ นพ.สมศักดิ์ โลห์เลขา 2. รศ. นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ 3. พญ.โสฬส วุฒิพันธุ์ 4. ผศ. พญ.วิลาวัณย์ พวงศรีเจริญ 5. รศ. พญ.มัญชิมา มะกรวัฒนะ 6. ผศ. นพ.ณวพล กาญจนารัณย์

จดหมา ยข่า

ม ทย์โด พ แ ว

7


เริ่มต้นชะลอวัย

ผศ.พญ.พรระวี เพียรผดุงรัชต์ หัวหน้าสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นยุคที่การชะลอวัยก�ำลังมาแรง เห็นได้จากการที่คนรุ่นใหม่ นิยมรับประทานวิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ให้ตนเองมีสขุ ภาพดี สดใสตลอดเวลา มีการล้างพิษหรือที่เรียกว่าดีทอกซ์ มีคลินิก เสริมความงาม หรือคลินิกสุขภาพดีผุดเป็นดอกเห็ด มีการเข้าไป ขอค�ำ ปรึกษาจากแพทย์เพื่อป้องกันและต่อต้านความชราใน คนที่มีฐานะดี มีการจัดสรรเวลาดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคร้าย มาเยือน รวมทั้งหนังสือพอคเก็ตบุ๊คเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ต่างๆ อีกมากมายทีอ่ อกวางจ�ำหน่าย และขายดีตดิ อันดับต้นๆ อีก หลายเล่ม บทความนี้จึงขอน�ำหลักง่ายๆ ของการชะลอวัยมา เล่าสู่กันฟัง ก่อนอื่นต้องท�ำความเข้าใจก่อนว่า เวชศาสตร์ชะลอวัย ไม่ใช่การรักษาริ้วรอย ไม่เน้นความงาม แต่เน้นการมีสุขภาพดี เป้าหมายคือให้มีสุขภาพดี ปราศจากโรคภัยตลอดอายุขัย ไม่ต้อง มีชีวิตบั้นปลายที่ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล หรือ กินยาเป็น ก�ำมือแทนอาหาร ต้นเหตุที่ท�ำให้ร่างกายเราเกิดความแก่ ชรา และเป็นที่มา ของโรคต่างๆ ได้แก่ อนุมูลอิสระ, น�้ำตาลที่สะสมในร่างกายจาก การกินแป้งและน�้ำตาลเกินความต้องการ, การอักเสบเรื้อรังของ ร่างกาย, สารพิษ และความเสื่อมจากอายุขัยของเซลล์ หลักการดูแลรักษาเพื่อป้องกันความชรา มีดังนี้ 1. ปรับพฤติกรรมการด�ำรงชีวิต 2. ก�ำจัดสารพิษออกจากร่างกาย 3. ปรับสมดุลภูมิต้านทาน และระดับฮอร์โมน 4. ซ่อมแซม ฟื้นฟู ร่างกายส่วนที่ช�ำรุดเสียหาย ซึ่งหลักการรักษาง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถท�ำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพบแพทย์ หรือท�ำหัตถการในโรงพยาบาล ก็คือการปรับ พฤติกรรมการด�ำรงชีวิต ได้แก่ เรื่องของ อาหารการกิน การพักผ่อน การออกก�ำลัง กาย อารมณ์ อากาศสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การขับถ่าย ...เริ่ ม จากการนอนสี่ ทุ ่ ม ไม่ เ กิ น ห้าทุ่ม นอนวันละประมาณ 7 ไม่เกิน 8 ชั่วโมง เนื่องจากต่อมใต้สมองมีการหลั่ง ฮอร์โมนส�ำคัญในตอนกลางคืน โดยมันจะ หลัง่ ฮอร์โมนเวลา สีท่ มุ่ ถึงตีสอง และหลัง่ เมื่อเราหลับสนิทเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครไม่ นอนหลับในเวลาดังกล่าว คุณก็จะพลาด ฮอร์โมนตัวนี้ ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมร่างกาย และปรับระบบต่างๆ ให้สมดุล นอกจากนี้ จดหมา

ทย์โด วแพ ม

8

ยข่า

การนอนที่ดี คือ การหลับสนิท ไม่ฝัน ซึ่งจะท�ำให้คลื่นสมองจะนิ่ง ความถี่ต�่ำ และมีพลังมากที่สุด ...อย่านอนตื่นสายเกิน 8 โมง เพราะฮอร์โมนส�ำคัญที่ท�ำ หน้าที่เผาผลาญพลังงานให้ร่างกายซึ่งหลั่งจากต่อมหมวกไต จะหลั่งในตอนเช้า เราจึงควรลืมตามารับแสงแรกของวัน เพราะ ร่างกายเราโดยเฉพาะระบบฮอร์โมนต่างๆ ท�ำงานสัมพันธ์กับแสง สว่างจากดวงอาทิตย์ ถ้ารักษาสมดุลย์ของระบบต่างๆ ได้ โอกาส ป่วยเป็นโรคตับไตหัวใจปอด ก็จะน้อยลง ...ที่นอนควรแน่น ไม่ยุบตัว ไม่ยวบ หรือ เป็นรูปตัวจมลงไป เมื่อเราตื่นนอน ที่นอนที่ดีจะต้องแน่น สามารถรองรับน�ำ้ หนักตัว เราในขณะหลับเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายเต็มที่ ถ้าที่นอนนิ่ม เกินไป หรือยุบตัวจะท�ำให้มีอาการปวดหลัง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ได้ ตัวอย่างทีน่ อนทีด่ ี เช่น ทีน่ อนยางพารา นุน่ ยัดแน่น ใยมะพร้าว หรือนอนกระดานปูทนี่ อนปิคนิก ดีตอ่ สุขภาพพอกันหมด ต่างกันที่ ความสบาย และราคา


...การรับประทานอาหาร ไม่ควรงดอาหารเช้า มื้อเช้าเป็น อาหารมือ้ ทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของร่างกายในการใช้พลังงานเพือ่ ด�ำรงชีวติ หากต้องการจะลดจ�ำนวนมื้อ แนะน�ำให้ลดอาหารมื้อเย็น หรือรับ ประทานมื้อเย็นก่อนถึงเวลานอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ให้กระเพาะ และล�ำไส้ได้มีเวลาย่อยและดูดซึมอาหารก่อนที่ร่างกายจะนอน หลับ หากเราเข้านอนแล้ว แต่อาหารในกระเพาะยังย่อยไม่หมด จะท�ำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน โรคอ้วน รวมทั้ง ท�ำให้เกิดการอักเสบในระดับเซลล์ซึ่งเป็นต้นเหตุของความชราได้ ...อาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายมีสามประเภทหลักๆ คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน แต่ร่างกายของเราไม่ได้ต้องการ พลังงานเพียงอย่างเดียว ความสมดุลของแร่ธาตุ วิตามิน และ เกลือแร่ในร่างกาย ก็มีส่วนส�ำคัญต่อการท�ำงานของระบบต่างๆ

ม ทย์โด พ แ ว

จดหมา ยข่า

ของร่างกายเช่นกัน โดยเฉพาะในผูส้ งู อายุรา่ งกายต้องการพลังงาน น้ อ ยลง แต่ ต ้ อ งการวิ ต ามิ น และแร่ ธ าตุ ต ่ า งๆ มากขึ้ น เพื่ อ รั ก ษาสมดุ ล และซ่ อ มแซม อวั ย วะต่ า งๆ ดั ง นั้ น ลั ก ษณะอาหาร ส�ำหรับผูส้ งู อายุ จึงควรบริโภคอาหาร ทีใ่ ห้พลังงานน้อยลง แต่ตอ้ งเพิม่ การ รับประทานผัก ผลไม้ทมี่ วี ติ ามินและ แร่ธาตุต่างๆ มากขึ้น ...การปรุงอาหารประเภทไขมัน และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไม่ควรใช้ อุ ณ หภู มิ สู ง มากในการปรุ ง อาหาร

เนื่องจากจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของสาร อาหาร และก่อให้เกิดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นที่มาของโรคร้าย ต่างๆ ได้ อาหารและส่วนประกอบของอาหารบางชนิดยัง มีสารเคมี หรือสารที่เป็นพิษต่อร่างกายผสมปนเปื้อนมา ท�ำให้มผี ลเสียต่อร่างกายได้ เช่น สารเคมีถนอมอาหารใน อาหารส�ำเร็จรูปต่างๆ สารกันบูด สีผสมอาหาร ยาฆ่าแมลง เราจึงควรเลือกรับประทานอาหารทีส่ ง่ ผลดีตอ่ ร่างกาย และงดเว้น อาหารที่ปนเปื้อนสิ่งที่ก่อให้เกิดโรค หรือท�ำให้เกิดความเสื่อมของ อวัยวะต่างๆ ...ดื่มน�้ำให้เพียงพอ เนื่องจากในร่างกายเรามีน�้ำเป็นส่วน ประกอบถึงร้อยละ 70 กลไกส�ำคัญและปฏิกิริยาชีวเคมีต่างๆ ใน ร่างกายมีน�้ำเป็นส่วนประกอบส�ำคัญ การดื่มน�้ำที่สะอาด และ ปริมาณเพียงพอจึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่ง และควรหลีกเลี่ยงการ ดื่มน�้ำที่มีสิ่งเจือปนที่เป็นโทษต่อร่างกายด้วย เช่น น�้ำอัดลมซึ่งมี ปริมาณน�้ำตาลสูง มีผลท�ำให้เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน นอกจาก นี้ในน�้ำอัดลมยังมีสารเคมีแต่งกลิ่น สีผสมอาหาร ซึ่งเป็นสารก่อ มะเร็ง รวมทั้งมีสารฟอสเฟตที่ส่งผลทางอ้อมให้ร่างกายดูดซึม แคลเซียมได้น้อยลง ท�ำให้เกิดภาวะกระดูกบางได้ ...การท�ำสมาธิ และการสวดมนต์ มีผลท�ำให้คลื่นสมองเรา สงบ ความถี่ต�่ำลง ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ มีส่วนช่วยเรื่อง ความจ�ำ การเรียบเรียงความคิดที่ซับซ้อนได้ และยังมีงานวิจัย

9


เริ่มต้นชะลอวัย

...การงดสูบบุหรี่ บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงส�ำคัญและเกี่ยวข้อง โดยตรงกับโรคมะเร็งปอด ดังนั้นการงดสูบบุหรี่ จึงช่วยลดความ เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับสองใน ขณะนี้ ...สภาพทีอ่ ยูอ่ าศัย สิง่ แวดล้อม ควรอยูอ่ าศัยในทีท่ มี่ อี ากาศ บริสทุ ธิป์ ราศจากมลพิษ จึงควรหลีกเลีย่ งบ้านทีอ่ ยูต่ ดิ ริมถนนใหญ่ ใกล้ที่ทิ้งขยะ โรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรม ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงฯ รวมทั้งการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงเป็นของตัวเอง การมีครอบครัวที่ อบอุ่น ส่งผลต่อสุขภาพจิต และความมั่นคงทางใจ ส่วนการดีทอกซ์ หรือคีเลชั่นเพื่อก�ำจัดสารพิษออกจาก ร่างกาย การปรับสมดุลภูมิต้านทาน การปรับระดับฮอร์โมนใน ร่างกาย และการซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกายส่วนที่ช�ำรุดเสียหายคง ต้องให้เป็นหน้าทีข่ องแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญด้านการชะลอวัย เพือ่ ช่วย ให้กระบวนการชะลอวัยสมบูรณ์ยงิ่ ขึน้ แต่ในเบือ้ งต้นขอให้ทกุ ท่าน เริม่ ด้วยการปรับพฤติกรรมการด�ำรงชีวติ เพือ่ สุขภาพตามแนวทาง ข้างต้นก่อนเพื่อสุขภาพของเราเอง... ตามค�ำกล่าวที่ว่า “สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องท�ำเอง”

จดหมา

ยข่า

ทย์โด วแพ ม

10

สนับสนุนว่าการฝึกสมาธิมีผลท�ำให้ stem cell ในร่างกาย เราท� ำ งานดี ขึ้ น ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีและจะ แก่ช้าลง ...การออกก�ำลังกายทีเ่ หมาะสม ส�ำหรับบุคคลทัว่ ไป ที่ไม่มีโรคประจ�ำตัวที่เป็นข้อห้ามใดๆ แนะน�ำให้ออกก�ำลัง กายแบบแอโรบิค วันละประมาณ 30 นาที 3-5 ครั้งต่อ สัปดาห์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อ มัดใหญ่ๆ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงานของหัวใจ ...การขั บ ถ่ า ยอุ จ จาระที่ ดี ควรขั บ ถ่ า ยทุ ก วั น หากมีปัญหาท้องผูก ให้ฝึกพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็น เวลา กระตุน้ การเคลือ่ นไหวของล�ำไส้โดยการนวดหน้าท้อง ตามเข็มนาฬิกา บริโภคอาหารประเภทผักผลไม้ และธัญพืช ที่มีเส้นใยมาก รวมทั้งการดื่มน�้ำมากๆ ก็ช่วยการขับถ่ายได้ ...หลีกเลี่ยงความเครียด เนื่องจากความเครียดมี ผลเสี ย ต่ อ จิ ต ใจและส่ ง ผลถึ ง ร่ า งกาย โดยเฉพาะ การควบคุมสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายมีผลให้เกิดโรค ต่างๆ ตามมาได้


มนุ ษ ย์ มี ก ารใช้ ย าจากสมุ น ไพร มาเพื่ อ บ� ำ บั ด รั กษากันมานานก่อ นสมั ย พุ ท ธกาลแล้ ว แต่ ยั ง ใช้ อ ยู ่ ใ นรู ป ของยา สมุนไพร (ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 บัญญัติว่า ยาสมุนไพร หมายถึง ยา ที่ได้จาก พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่มิได้ผสม หรือแปรสภาพ) ซึง่ มิได้เปลีย่ นแปลงสภาพ แต่อย่างใด แต่เมื่อมนุษย์มีความเจริญ ทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ก็มีการค้นคว้า วิจัย เพื่อให้ได้มาซึ่งยาที่มีประสิทธิภาพ จึงได้เร่งค้นคว้ายาต่างๆ เพื่อน�ำมาบ�ำบัด รั ก ษาโรคมากมายหลายชนิ ด แต่ แ นว ความคิดของมนุษย์ที่ได้ยาแผนปัจจุบัน และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในขณะนี้ ล้ ว นต่ า ง ก็ได้ลอกเลียนแบบจากการรักษาด้วยยา สมนุไพรของหมอพื้นบ้านแทบทั้งสิ้น หรือ สมุ น ไพรที่ น� ำ มาเป็ น ยาแผนปั จ จุ บั น ใน ขณะนี้ประชาชนก็คุ้นเคยในการน�ำมาใช้ กับตนเองหรือบางอย่างก็ใช้เป็นอาหารอยู่ แล้ว และเราสามารถรักษาโรคง่ายๆ ด้วย สมุนไพรที่ใช้เป็นอาหาร หรือสมุนไพรที่ อยู่ในครัวเรือนสามารถถูกน�ำมาใช้เป็นยา เมื่อยามฉุกเฉิน ในบทความนี้จะขอกล่าว ถึ ง แต่ เ พี ย งการเลื อ กรั บ ประทานอาหาร สมุนไพรก่อนเพือ่ ให้ผอู้ า่ น สามารถน�ำไปใช้

ป้องกันโรคและรักษาโรคได้ ท� ำให้ท่าน ผู ้ อ ่ า นได้ เ ข้ า ใจและน� ำ ไปปฏิ บั ติ เ พื่ อ ลด ค่าใช้จ่ายในการซื้อยาเพื่อรักษาตนเองได้ เพราะอาหารบางชนิดทีเ่ รารับประทานเป็น สมุนไพร คือ นอกจากจะมีประโยชน์เพราะ มีสารอาหารทีจ่ ำ� เป็นต่อร่างกายแล้ว ก็ยงั มี สารส�ำคัญที่สามารถป้องกันและรักษาโรค ได้ จึงขออธิบายถึงการใช้สมุนไพรทีใ่ กล้ตวั ทีเ่ ป็นอาหาร และช่วยบ�ำบัดอาการของโรค แต่ละระบบของร่างกายโดยจะเน้นอาหารที่ เป็นพืชผักบางชนิดที่มีผลการวิจัยในการ บ�ำบัดรักษาโรคได้

1. โรคระบบทางเดินอาหาร 1.1 โรคกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer) หมายถึง อาการปวดแสบปวดเสียด หรือ จุกแน่นตรงบริเวณลิ้นปี่หรือสะดือ เกิด

สมุนไพรใกล้ตัว

เวลาก่ อ นรั บ ประทานอาหาร หรื อ หลั ง รับประทานอาหารใหม่ๆ สาเหตุของโรค กระเพาะ คือ ความเครียด พฤติกรรมการ รั บ ประทานอาหารผิ ด เวลา และการรั บ ประทานอาหารหรือยางที่ระคายเคืองต่อ กระเพาะหรือล�ำไส้ เช่น เหล้า เบียร์ ยา แก้ปวดข้อ ยาแก้ปวดแอสไพริน ยาที่เข้า สเตียรอยด์ อาหารสมุนไพรที่แนะน�ำคือ ขมิ้ น ชั น มี ส ารสี เ หลื อ งส้ ม ชื่ อ เคอร์ คิ ว มิ น ช่ ว ยป้ อ งกั น และรั ก ษาแผล ในกระเพาะได้ เนื่องจากสารเคอร์คิวมิน สามารถลดการอักเสบ และสามารถกระตุน้

ม ทย์โด พ แ ว

จดหมา ยข่า

รองศาสตราจารย์ ดร.อรุณพร อิฐรัตน์ ศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

11


การหลั่งสารเมือก (mucin) ออกมาเคลือบ กระเพาะและยังสามารถลดการหลัง่ กรดใน กระเพาะได้อีกด้วย และน�ำ้ มันหอมระเหย ในขมิ้นจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ กล้ ว ย ถ้ า ต้ อ งการใช้ รั ก ษาโรค กระเพาะต้องใช้กล้วยดิบ เนื่องจากกล้วย ดิบมีสารที่ช่วยฝาดสมาน โดยสารส�ำคัญ จะไปกระตุ้นเซลล์ให้เยื่อบุกระเพาะหลั่ง สารพวก mucin ออกมาเคลือบกระเพาะ เพราะกล้วยดิบจะมีฤทธิ์เช่นเดียวกับการ รับประทานยาลดกรด ป้องกันการเกิดแผล ในกระเพาะหรือเคลือบกระเพาะเท่านัน้ แต่ จะไม่สามารถรักษาแผลในกระเพาะ วิธที �ำ รับประทานใช้กล้วยดิบฝานบางๆ ตากแห้ง 2 วัน อบอุณหภูมิประมาณ 50oC ผสม น�ำ้ ผึง้ ปัน้ ลูกกลอนรับประทาน หรือชงน�ำ้ ดืม่ แต่การรับประทานจะมีอาการท้องอืดร่วม ด้วย ดังนั้นควรรับประทานน�ำ้ ขิงตามด้วย เพื่อลดอาการท้องอืด จุกเสียด

ว่ า นหางจระเข้ ใช้ ส ่ ว นวุ ้ น ว่ า น หางจระเข้น�ำมาท�ำเป็นวุ้นว่านลอยแก้ว รั บ ประทานเพื่ อ รั ก ษาแผลในกระเพาะ อาหาร เนือ่ งจากวุน้ ว่านหางจระเข้จะมีสาร ช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ และจากการวิ จั ย พบว่ า ได้ ผ ลดี ก ว่ า ยา tagamet®

จดหมา

ทย์โด วแพ ม

12

ยข่า

1.2 อาการท้องผูก เป็ น อาการที่ ไ ม่ ถ ่ า ยอุ จ จาระตาม ปกติ หรืออุจจาระแข็ง อาการเหล่านี้เกิด เนือ่ งจากรับประทานอาหารทีม่ เี ส้นใยน้อย หรือรับประทานผักที่มีรสฝาดหรือรสมัน มาก หรือชอบกลั้นอุจจาระ มีความเครียด หรื อ ออกก� ำ ลั ง กายน้ อ ยเกิ น ไปจนท� ำ ให้ ล�ำไส้บีบตัวน้อยลง อาหารที่เหมาะส�ำหรับ คนที่มีอาการท้องผูก คือ น�้ำมะขาม น�้ำ ลูกพรุน ชาชงใบชุมเห็ดเทศ แกงขี้เหล็ก

เม็ดแมงลักแช่น�้ำให้พองตัว หรือเลือกจะ รับประทานพืชผักที่มีรสเปรี้ยว หรือพืชที่มี เส้นใย แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสฝาด เพราะจะท�ำให้เกิดอาการท้องผูก เนือ่ งจาก จะท�ำให้ล�ำไส้บีบตัวน้อยลงเพราะมีสาร กลุ่มแทนนินที่ออกฤทธิ์ฝาดสมาน 1.3 อาการท้องเสีย เป็นอาการทีม่ กี ารถ่ายอุจจาระเหลว มากกว่า 3 ครั้ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการ รับประทานอาหารรสจัด มีเชื้อโรคหรือยา ปฏิชีวนะ อาหารที่แนะน�ำคือ ผลอ่อนของ ฝรั่ง กล้วยดิบ ซึ่งรับประทานในลักษณะ ของแหนมเนือง ซึง่ เป็นอาหารพืน้ เมืองภาค อีสาน ชาจีนที่ชงแก่ๆ หรือชงนาน 10 นาที ดื่ม ควรรับประทานพืชผักที่มีรสฝาดช่วย

1.4 อาการท้องอืดแน่นบริเวณหน้าท้อง อาจมีอาการเกร็งร่วมด้วย เกิดจาก การรับประทานแล้วไม่ย่อย เกิดอาการ เครียดวิตกกังวล ควรรับประทานอาหารที่ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร เพิ่มขึ้น คือ น�้ำสับปะรด หรือรับประทาน สับปะรด ถ้าท้องอืดมีลมควรรับประทาน พืชผักที่มีน�้ำมันหอมระเหย หรือประเภท เครื่องเทศ เช่น น�้ำขิง ข่า หอม หรือแกงที่ มีกระชายเป็นส่วนผสม เช่น แกงป่า แกง เลียง อาหารที่ประกอบด้วยผิวมะนาว เช่น ย�ำไก่สามอย่าง เป็นต้น ถ้าเด็กมีอาการท้อง อืดเฟ้อ ใช้กานพลู 1 ดอก ใส่ในกระติกน�้ำ ร้อนแล้วน�ำไปชงนมให้เด็กดืม่ จะลดอาการ ท้องอืดได้ 1.5 แก้อาเจียน เป็นอาการที่ร่างกายก�ำจัดอาหาร ที่มี อ ยู่ ใ นกระเพาะมากเกิ นไป อาหารที่ แนะน�ำ คือ น�้ำขิง น�้ำลูกยอ เป็นต้น การ ท�ำน�ำขิงใช้เหง้าขิงแก่สดทุบให้แตกต้มน�้ำ

ดืม่ ส่วนลูกยอให้ใช้ลกู ยอขนาดแก่เต็มทีน่ �ำ มาย่างไฟให้หอม บดเป็นผงชงน�ำ้ เดือด เอา น�ำ้ จิบทีละน้อยและบ่อยๆ ครัง้ จะลดอาการ คลื่นไส้อาเจียนได้ 1.6 ขับพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิ ตั ว ตื ด ใช้ เ ม็ ด ฟักทอง (ขนาดทีใ่ ช้ได้ผลประมาณ 80 กรัม ต่อครั้ง จะฆ่าพยาธิได้ทันที) ไปอบหรือคั่ว แกะเอาเปลือกออกรับประทาน 1.7 แก้ปวดฟัน ใช้ผักคราดหัวแหวน แต่เอาเฉพาะ ดอกน�ำมาต�ำผสมเกลืออมหรือกัดเอาไว้ ที่ บ ริ เ วณที่ ป วด ผั ก คราดหั ว แวนใช้ เ ป็ น อาหาร หรือหนึ่งในผักพื้นบ้านภาคใต้ที่ใช้ รับประทานกัน ในดอกผักคราดหัวแหวน มี สารสไปแลนทอล (spilanthol) ที่ออกฤทธิ์ เป็นยาชาเฉพาะที่ได้ดังนั้นจึงช่วยบรรเทา อาการปวดได้ 1.8 เบื่ออาหาร อาหารทีช่ ว่ ยท�ำให้เจริญอาหารได้แก่ อาหารที่มีรสขม ได้แก่ สะเดา อาจจะท�ำ อยู่ในรูปน�้ำปลาหวานสะเดา แกงขี้เหล็ก บอระเพ็ดแช่อิ่ม มะระขี้นกลวกจิ้มน�ำ้ พริก จากข้อสังเกต อาหารที่มีรสขมหลายชนิด มีผลท�ำให้การท�ำงานของตับดีขึ้น และมัก มีสารทีช่ ว่ ยเสริมฤทธิใ์ นเรือ่ งภูมคิ มุ้ กันได้ดี อีกด้วย ถ้าเปรียบเทียบหลักของการแพทย์ แผนไทย อาหารที่มีรสขมจะบ�ำรุงธาตุไฟ ซึง่ หมายถึงการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ดีขึ้น

2. โรคระบบทางเดินหายใจ 2.1 อาหารไอ ระคายคอเนื่องจากมี เสมหะ อาการเหล่านี้เกิดได้เนื่องจากการ ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส หรือเป็นหวัด หรือเกิดจากสูบบุหรี่มากเกินไป หรือรับ ประทานของมันมากเกินไป ดังนัน้ อาหารที่ แนะน�ำรับประทานในช่วงเกิดอาการจะเป็น อาหารทีม่ รี สเปรีย้ ว และท�ำให้ชมุ่ คอ เพราะ อาหารรสเปรี้ ย วจะช่ ว ยช� ำ ระล้ า งเมื อ ก มันหรือท�ำให้ลดความข้นหนืดของเสมหะ ลงได้ ได้แก่ น�้ำมะนาว มะขามป้อม น�้ำ มะขาม นอกจากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแล้ว


3. โรคระบบทางเดินปัสสาวะ 3.1 ปัสสาวะไม่ออก (ขัดเบา) อาการนี้ เ ป็ น อาการปั ส สาวะ กะปริดกะปรอย ออกทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง มีอาการปวดร่วมด้วย อาการแบบนี้เรียก ว่าโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) อาการนีเ้ กิดจากการอัน้ ปัสสาวะ ดืม่ น�ำ้ น้อย วิธีการแก้ไขโดยดื่มน�้ำให้เพียงพออาหาร สมุ น ไพรที่ แ นะน� ำ คื อ น�้ ำ กระเจี๊ ย บแดง น�้ำตะไคร้ น�้ำอ้อยแดง ให้ดื่มน�้ำเหล่านี้ ติดต่อกันจนกว่าอาการจะหาย นอกจากนี้ น�้ ำ กระเจี๊ ย บแดงยั ง สามารถรั ก ษาและ ป้ อ งกั น โรคนิ่ ว โดยเฉพาะนิ่ ว ที่ เ กิ ด จาก ด่าง จะไปท�ำให้หนิ ปูนทีจ่ บั เป็นก้อนละลาย ได้ ดั ง นั้ น จะช่ ว ยป้ อ งกั น และรั ก ษาโรค ปัสสาวะไม่ออกเนื่องจากเกิดนิ่วได้ และ กระเจีย๊ บแดงยังมีสารชือ่ ไฮปิสชินคลอไรด์ (Hibiscin chloride) ที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ 3.2 ยารักษาเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นโรคเกิดจาก การที่ร่างกายหรือเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย

ไม่สามารถน�ำน�้ำตาลกลูโคสในเลือดไป ใช้ให้เป็นประโยชน์ และน�้ำตาลเหล่านี้ จะถูกขับออกจากร่างกายปนออกมาจาก ปัสสาวะ อาหารสมุนไพรที่ช่วยลดน�้ำตาล ในเลือด ได้แก่ หัวกระเทียมสด (ออกฤทธิ์ ลดน�้ำตาลในเลือด ในสัตว์ทดลองที่ท�ำให้ เป็นเบาหวานด้วย alloxan ได้) ในขิง ลูก เดือย ซึ่งมีสารโคอิกซอล (coixol) โคอิซิ โนไลด์ (Coixenolide) และน�้ำมัน ช่วย ลดความดันและช่วยลดน�้ ำตาลในเลือด ได้ นอกจากนี้สารโคอิกซอลมีฤทธิ์คลาย อาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ ยั ง มี ผ ลมะระที่ มี ส ารในกลุ ่ ม สเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ลดน�้ำตาลในเลือด ได้ โดยออกฤทธิ์เพิ่มการใช้น�้ำตาลกลูโคส ในเลือด และเนือ้ เยือ่ ต่างๆ กระตุน้ การหลัง่ insulin จาก β-cell ของตับอ่อนได้ มะระขีน้ ก จะลดน�้ำตาลในเลือดได้ผลดีกว่ามะระอื่น

4. โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด

4.1 โรคความดันโลหิตสูง สมุนไพรหรืออาหารที่สามารถช่วย ลดความดันโลหิต ได้แก่ ผักชีฝรั่ง น�้ำมัน หอมระเหยของใบ ส่วนของเมล็ดจะมีสาร Apiol (parsely camphor) ท�ำให้ความดัน โลหิตลดลง นอกจากนี้ยังควรรับประทาน อาหารที่ล ดไขมั น ในเส้ นเลื อ ด เพื่อ มิ ใ ห้ หลอดเลือดแข็งตัว รูทอ่ ของหลอดเลือดแดง แคบลง เป็นสาเหตุท�ำให้เกิดโรคความดัน โลหิตสูงได้ อาหารที่ควรบริโภคได้แก่ น�้ำมันดอกค�ำฝอย น�้ำมันจากเมล็ด ดอกค�ำฝอยจะมีสารที่เรียกว่า linoleic ซึ่ง เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะออกฤทธิ์เพิ่ม

ม ทย์โด พ แ ว

จดหมา ยข่า

ยังใช้พืชผักรสเผ็ดร้อนได้ เช่น น�้ำขิง ดีปลี ซึ่งการรับประทานอาจจะท�ำเป็นลูกกลอน ดีปลีกไ็ ด้ โดยมีตวั ยาทีผ่ สมคือดีปลี ชะเอม เทศ มะขามเปียก เกลือ ผสมกันเป็นลูก กลอนด้วยน�้ำผึ้ง ถ้ามีอาการร้อนในและ ไอ อาจจะดื่มน�้ำจับเลี้ยงที่ร้อน ในน�้ำจับ เลีย้ งจะมีเมล็ดเพกาทีช่ ว่ ยลดอาการไอ ขับ เสมหะได้ นอกจากนีผ้ ลมะแว้งรับประทาน จิ้มน�้ำพริกจะช่วยลดอาการเจ็บคอท�ำให้ ชุ่มคอ ลดอาการไอ ขับเสมหะได้ดีอีกด้วย

ฤทธิ์ของเอนไซม์ย่อยไขมันในหลอดเลือด แดงใหญ่ หัวใจ ตับและเนื้อเยื่อไขมันใน ร่างกาย นอกจากนี้ยังเพิ่มการขับถ่ายสาร กลุ่ม sterol ลดปริมาณโคเลสเตอรอลใน ร่างกายได้ด้วย นอกจากนี้ยังมี กระเทียม น�้ำมันกระเทียมสามารถลดระดับ triglyceride และไขมันในเส้นเลือดได้ นอกจากนี้ สารในกระเทียมที่เรียกว่า allicin สามารถ ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ หัวหอม ก็ออก ฤทธิ์เช่นเดียวกับกระเทียม คือ ลดระดับ triglyceride ได้และยังพบสาร prostaglandin ในหัวหอมที่ช่วยกระตุ้นการผลิต น�้ำดี ลดไขมันในเลือดได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคไขมันในเลือดสูงควรรับประทาน อาหารประเภท ถั่วเหลือง เสริมเพราะถั่ว เหลืองซึง่ ใช้เป็นแหล่งผลิต lecithin จะช่วย รักษาอาการหลอดเลือดแข็งตัว และยังมี สาร cholin ที่เป็นสารตั้งต้นของการผลิต สื่อประสาท (acetylcoline) ในร่างกายได้ นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการบ�ำรุงเลือด หรือเป็น โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดยังควรรับประทาน พืชผักที่มีสีเขียว เพราะจะมีธาตุเหล็กสูง และยังมีวิตามิน K สูง ป้องกันการแข็งตัว ของเลือดได้อีกด้วย ดังนัน้ ทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดเป็นสิง่ ทีใ่ ห้ ผู้อ่านได้เข้าใจสมุนไพรที่เป็นอาหาร ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้อ่านน�ำไปปฏิบัติในชีวิตประจ�ำวัน เพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงโดย ไม่ต้องพึ่งพายา

13


ประมวลภาพ กิจกรรม รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ และ ผศ. นพ.อภิชาติ คณิตทรัพย์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร พร้อมด้วยคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาแพทย์ ร่วมงาน เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่อง ในวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท�ำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 9 รูป พร้อมพิธีถวายพระพรสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 ที่บริเวณโถงชั้น 1 อาคารคุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 ณ ห้องสโมสรชั้น 4 อาคารคุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดพิธีไหว้ครู ประจ�ำปีการศึกษา 2556 โดยมี รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและกล่าว ให้โอวาท พร้อมด้วยผู้บริหารคณะ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อครู อาจารย์ผู้มีพระคุณในการอบรมสั่งสอนและประสิทธิ์ประสาท วิทยาการความรู้แก่ศิษย์ ตลอดจนเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาส เปิดภาคการศึกษาใหม่ โดยมีนกั ศึกษาเข้าร่วมพิธกี ว่า 200 คนภายใน พิ ธี ป ระกอบด้ ว ยการกล่ า วค� ำ สรรเสริ ญ บู ช าพระคุ ณ ครู ขั บ เสภา เทิดพระคุณครู การร้องประสานเสียงขับร้องเพลงพระคุณที่สาม การเจิมหนังสือเรียน พิธีไหว้ครูโดยนักศึกษาตัวแทนแต่ละคณะ/ วิทยาลัย รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์เป็นประธานมอบรางวัลหน่วยงานคุณภาพ ประจ�ำปีการศึกษา 2555 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการจัดตั้งภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง ได้แก่ สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โครงการ จัดตั้งภาควิชาจักษุวิทยา รางวัลพัฒนา QA ดีเด่น ได้แก่ สถานวิทยาศาสตร์คลินิก เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 ณ ห้องสโมสร ชั้น 4 อาคารคุณากร

จดหมา

ทย์โด วแพ ม

14

ยข่า

รศ. นพ.ปรี ช า วาณิ ช ยเศรษฐกุ ล คณบดี ค ณะ แพทยศาสตร์ น�ำทีมผูบ้ ริหารเข้าร่วมประชุมวิชาการและ น�ำเสนอผลงานวิชาการในงาน Association For Medical Education in Europe (AMEE) 2013 ณ สาธารณรัฐเช็ก ระหว่างวันที่ 23-30 สิงหาคม 2556

สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่จากส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวัด นครราชสีมา ในโอกาสเข้าเยีย่ มชมคลินกิ การแพทย์แผนไทยประยุกต์และ โรงงานผลิตยาสมุนไพร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2556


รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ พญ.นิพัทรา วินะยานุวัติคุน ต้ อ นรั บ นั ก ศึ ก ษาแลกเปลี่ ย นต่ า งชาติ ใ นโอกาสที่ เ ดิ น ทางมาฝึ ก ปฏิบัติด้านการแพทย์ (elective) ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ประกอบด้วยนักศึกษาจาก Dijong School of Medicine ประเทศฝรัง่ เศส 4 คน / Medical University in Wroclaw, Pomeranian Medical University in Szczecin ประเทศโปแลนด์ 2 คน / University of Barcelona ประเทศสเปน 1 คน / Palacky University ประเทศเช็ก 1 คน / University of Szeged ประเทศฮังการี 2 คน วันที่ 5 กรกฎาคม 2556 ณ ห้องประชุมส�ำนักงานคณบดี ชั้น 2 อาคาร คุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดี พร้อมด้วย รศ.ปนัดดา โรจน์พบิ ลู สถิตย์ รองคณบดีฝา่ ย กิจการนักศึกษาและสร้ า งเสริ ม สุขภาพ รศ. พญ.วนิดา เปาอินทร์ รองคณบดีฝ่ายโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มอบเงิน จากการจัดกิจกรรม “หัวใจ ผู้คน ดนตรี” ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยมี รศ. นพ.ศุภชัย ฐิตอิ าชากุล ผูอ้ ำ� นวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ รับมอบ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 จัดโดยนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 ร่วมกับคณะกรรมการนักศึกษา แพทย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รศ. นพ.ปรี ช า วาณิ ช ยเศรษฐกุ ล คณบดี ค ณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้การต้อนรับ ศ.เกียรติคุณ พล.ต.หญิง พญ.วณิช วรรณพฤกษ์ คณบดีส�ำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี ในโอกาสน�ำทีมอาจารย์และเจ้าหน้าที่เข้าศึกษาดูงานที่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556

คุณกัญธลีวัลย์ ช่วยบุญ ผู้จัดการมูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย มอบ ทุนการศึกษาแก่นกั ศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 50,000 บาท เพื่อสนับสนุนการศึกษา โดยมี รศ. นพ.ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ รศ.ปนัดดา โรจน์พิบูลสถิตย์ รองคณบดีฝ่ายการ นักศึกษาและสร้างเสริมสุขภาพ ผศ. พญ.พรระวี เพียรผดุงรัชต์ รอง คณบดีฝ่ายการคลังและวางแผน และนักศึกษาแพทย์ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 ณ ห้องประชุมส�ำนักงานอธิการบดี อาคาร คุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ม ทย์โด พ แ ว

จดหมา ยข่า

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย รศ. นพ. ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล คณบดี และ พันโท นายแพทย์ เอนก ยมจินดา ผู้อ�ำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ ร่วมลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ณ ห้องประชุมแพทย์โดม 1 อาคารคุณากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาการ ศึกษาด้านนิตเิ วชศาสตร์และนิตวิ ทิ ยาศาสตร์ ศึกษาพัฒนางาน วิจยั ร่วมกัน พร้อมการแลกเปลีย่ นสนับสนุนบุคลากร นักศึกษา แพทย์ แพทย์ประจ�ำบ้าน แพทย์ผปู้ ฏิบตั งิ านด้านนิตเิ วชศาสตร์ และนักศึกษาด้านนิติวิทยาศาสตร์

15


เหตุขัดข้องที่น�ำจ่ายผู้รับไม่ได้ 1. จ่าหน้าไม่ชัดเจน 2. ไม่มีเลขที่บ้านตามจ่าหน้า 3. ไม่ยอมรับ 4. ไม่มีผู้รับตามจ่าหน้า 5. ไม่มารับตามก�ำหนด 6. เลิกกิจการ 7. ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ 8. อื่นๆ

กองบรรณาธิการ ที่ปรึกษา / Consultant

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์

บรรณาธิการ / Editor

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ณวพล กาญจนารัณย์

กองบรรณาธิการ / Editorial staffs

จดหมา

ยข่า

ทย์โด วแพ ม

16

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ไวพจน์ จันทร์วิเมลือง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ คณิตทรัพย์ สุนทรี ทับเที่ยง ปัณฑ์ณัฐ ปานพรม ปัทมาพร ส้มไทย จัดท�ำโดย : งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทรศัพท์ 0 2926 9006 โทรสาร 0 2516 3771 E-mail : pr.medtu@gmail.com Website : www.med.tu.ac.th


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.