มีแต่ความเมตตา ในวันที่ผู้ศรัทธาไม่สบาย

Page 1



“ ‫َو� َذا َم ِر ْض ُت فَه َُو ي َ ْش ِف ِني‬ ‫إ‬ เมื่อฉันป่วย อัลลอฮฺช่วยรักษา

” [อัชชุอะรออ์ 26 : 80]


มีแต่ความเมตตา...ในวันที่ผู้ศรัทธาไม่สบาย

‫ | عاشق يف غرفة العمليات‬Tremendous Benefits เขียน: ชัยคฺมุฮัมมัด อัลอะรีฟียฺ แปล: มัรยัม อ. บรรณาธิการ: มุฏมะอินนะฮฺ ตรวจทานวิชาการ: เราะหฺมะฮฺ ที่ปรึกษา: พญ.โซเฟียร์ แวอูเซ็ง พิสูจน์อักษร: อิบติซามและอัยนุน ปกและภาพประกอบ: MAYARTiiZ ศิลปกรรม: Alfa พิมพ์ครั้งที่1: เมษายน 2559 ราคา 170 บาท ISBN 978-616-413-198-9

อัลอะรีฟียฺ, มุฮัมมัด. มีแต่ความเมตตา ในวันที่ผู้ศรัทธาไม่สบาย.-- กรุงเทพฯ : นัตวิดาการพิมพ์, 2559. 182 หน้า. 1. ก�ำลังใจ--แง่ศาสนา--ศาสนาอิสลาม. I. มัรยัม อ., ผู้เแปล. II. มายาร์ทีซ, ผู้วาดภาพประกอบ. III. ชื่อเรื่อง. 297.4 ISBN 978-616-413-198-9

จัดพิมพ์โดย: ธีรวุฒิ วงศ์เสงี่ยม ส�ำนักพิมพ์มิรอาต 12 ซอยแมนไทย ถนนกรุงเกษม แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10110 Email: mirat.books@gmail.com Facebook: www.facebook.com/miratbook

พิมพ์ที่: นัตวิดาการพิมพ์ 457/202-203 ตรอกวัดจันทร์ใน (เจริญกรุง107) ถ.เจริญกรุง บางคอแหลม กรุงเทพฯ 10210 โทร 02-2916530 …………. -ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการน�ำเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่มีเจตนาแสวงหาผลก�ำไร ส�ำหรับผู้ต้องการน�ำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ โปรดติดต่อส�ำนักพิมพ์-


ตราบที่ยังมีศรัทธา ก็ยังมีหวังเสมอ (เสมือนค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์)

ข้าพเจ้าได้ตน้ ฉบับภาษาอังกฤษของหนังสือเล่มนีม้ าจากร้าน หนังสือเล็กๆ ในแผ่นดินหะรอม อ่านจบภายใน 3-4 วันที่ไม่สบายอยู่ ที่นั่น พร้อมกับตั้งใจว่า กลับบ้านเมื่อไหร่ จะต้องหาทางเข็นหนังสือ เล่มนี้ภาคภาษาไทยออกมาให้ได้ อินชาอัลลอฮฺ...นั่นเพราะเกือบตลอด เวลาที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ มันท�ำให้ข้าพเจ้านึกถึง “แม่” “แม่” ล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่น�ำเอาท่านกลับไปพบเจ้าของ ชีวิตภายใน 8 เดือนหลังตรวจพบ เป็น 8 เดือนที่เข้าๆ ออกๆ โรง พยาบาล บางช่วงต้องเข้าไปนอนใกล้หมอนานนับเดือน จ�ำได้วา่ ในช่วง เวลาแบบนั้น แม่เคยถามหาหนังสือศาสนาที่อ่านแล้วพอจะเป็นก�ำลัง ใจให้คนป่วยได้ ยิ่งพูดเกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บโดยตรงได้ยิ่งดี ซึ่ง ปรากฏว่าหายากมากในท้องตลาดบ้านเรา ดังนั้น เมื่อได้พบ ข้าพเจ้า ก็อดนึกถึงท่านไม่ได้ แม้ว่าท่านจะไม่มีโอกาสได้อ่านมันอีกแล้ว แม่จากไป 2 สัปดาห์ก่อนข้าพเจ้าออกเดินทางไปยังดินแดน ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่ปีกลาย ท่านยังมีสุขภาพแข็งแรง และลงชื่อเตรียมตัว เดินทางไปด้วยกัน และแท้จริงก�ำหนดของอัลลอฮฺนั้นสวยงามเสมอ


ที่จริงแล้ว ไม่ใช่แค่เพราะหนังสือเล่มนี้พูดเรื่องการเจ็บไข้ ได้ป่วยของผู้ศรัทธาโดยตรงหรอกที่ทำ� ให้ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นหนังสือ ที่น่าจะมีประโยชน์มากต่อผู้ป่วยและคนใกล้ชิด แต่เรื่องเล่าต่างๆ ที่ เชคมุฮัมมัด อัลอะรีฟียฺ ผู้เขียนได้น�ำมาเล่าไว้นั้น เปี่ยมด้วยพลังแห่ง เรื่องเล่าจากเรื่องจริงที่เต็มไปด้วยข้อคิดและบทเรียนมากมาย แม้แต่ ส�ำหรับคนที่อาจไม่ได้เจ็บป่วยหรือใกล้ชิดคนเจ็บป่วยหนักหนาอะไรใน วันนี้ เป็นเรือ่ งเล่าจากทัง้ อดีตและปัจจุบนั ทีส่ อดแทรกข้อขบคิดส�ำหรับ ชีวติ ผูศ้ รัทธา ทัง้ ยังเสริมด้านวิชาการให้แข็งแกร่งด้วยบททีเ่ กีย่ วกับข้อ ควรปฏิบัติต่างๆ ส�ำหรับผู้ป่วย เรียกได้ว่า เป็นหนังสือที่ใครก็อ่านได้ และแนะน�ำให้อ่านอย่างยิ่งส�ำหรับผู้ป่วย ผู้ที่ต้องดูแลคนป่วย รวมถึง บุคลากรทางการแพทย์ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ อัลลอฮฺได้ช่วยเหลือให้หนังสือฉบับแปลภาษา ไทยเล่มนีส้ ำ� เร็จลงด้วยดี เป็นหนังสืออีกเล่มทีข่ า้ พเจ้ารูส้ กึ อิม่ เอมใจทีไ่ ด้ ท�ำหน้าทีบ่ รรณาธิการ ทัง้ เพราะความคิดทีว่ า่ แม้ไม่ทนั กับก�ำหนดการ จากไปของ “แม่” ข้าพเจ้า แต่กน็ า่ จะยังมีพนี่ อ้ งผูศ้ รัทธาทีเ่ จ็บป่วยหรือ มีคนทีร่ กั เจ็บป่วยอีกจ�ำนวนไม่นอ้ ยทีก่ ำ� ลังมองหาก�ำลังบางอย่างให้แก่ หัวใจผ่านตัวอักษรเช่นเดียวกับทีแ่ ม่ของข้าพเจ้าเคยมองหา และด้วยบท เรียนส�ำคัญที่ข้าพเจ้าได้รับจากเนื้อหาหลายส่วนของหนังสือเล่มนี้ นั่น คือ ส�ำหรับผู้ศรัทธาแล้ว ไม่ว่าชีวิตจะถูกทดสอบด้วยบททดสอบหนัก หนาแค่ไหน เขาก็ยังมีชีวิตที่น่าอิจฉาเสมอ เพราะเขารู้ดีว่าทุกความ เจ็บปวดแม้มันจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่สูญเปล่าเลย และไม่ เคย


หากหนังสือเล่มนี้มีความดีงามประการใด ขอให้ความดีนั้น ประสบแก่ทุกผู้เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้ ทั้งผู้เขียน ผู้แปล ผู้ตรวจ ทาน ผู้จัดศิลปกรรม ผู้ให้ค�ำปรึกษา ฯลฯ ...ขอให้ความดีงามนัน้ ประสบแก่ผหู้ ญิงคนหนึง่ ทีเ่ ป็นแรงบันดาล ใจส�ำคัญส�ำหรับผู้จัดท�ำหนังสือเล่มนี้ แม้เธอจะไม่มีโอกาสได้อ่านมัน ...และขอความดีงามนัน้ จงประสบแก่ทกุ หัวใจเปีย่ มศรัทธาใน เรือนร่างที่ก�ำลังเจ็บป่วย ขอผู้ทรงเป็นผู้ก�ำหนดโรคภัยไข้เจ็บทั้งหมด และเป็นเจ้าของยาบ�ำบัดทัง้ มวลโปรดเพิม่ พูนก�ำลังให้แก่หวั ใจของท่าน เยียวยารักษาอาการของท่าน และย�้ำเตือนให้ท่านแน่ใจอยู่เสมอว่า... ตราบที่ท่านยังมีศรัทธา ท่านก็ยังมีหวังเสมอ มุฏมะอินนะฮฺ ส�ำนักพิมพ์มิรอาต เมษายน 2559 / รอญับ 1437


สารบัญ

ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ สารบัญ ชีวิตที่เหลืออยู่ 8 บทเรียนจากนะบีอัยยูบ 15 เรื่องเล่าบันดาลใจ: อุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ 21 โรคภัยให้สติ 26 ทัวร์โรงพยาบาลจิตเวช 33 อัลฮัมดุลิลลาฮฺที่ฉันได้เป็นมุสลิม! 42 เหตุผลของการเยี่ยมเยียนคนป่วย 52 เรื่องราวของหนูน้อยอะหฺมัด 56 สถานะที่บ่าวไม่อาจเอื้อมเองถึง 60 ฮีโร่ของพวกเรา 63 ถึงป่วยก็ท�ำได้ 73 คอลิด เด็กหนุ่มผู้ไม่ได้ยิน 78 ขอบเขตการรักษาระหว่างหมอผู้ชายกับคนไข้ผู้หญิง 83 ค�ำแนะน�ำส�ำหรับผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ 86 เมื่อคนไข้ใกล้จะไป 96 หมอกับการดะอฺวะฮฺ 99


สิ่งดีๆ ที่คุณหมอท�ำได้ 104 การละหมาดของผู้ป่วย 110 การถือศีลอดของผู้ป่วย 118 ค�ำแนะน�ำส�ำหรับผู้เฝ้าไข้ 124 บททดสอบอันหนักหน่วง 137 มารยาทในการเยี่ยมผู้ป่วย 146 ค�ำแนะน�ำแด่ผู้ป่วยที่ก�ำลังจะได้รับการผ่าตัด 151 มาร�ำลึกถึงอัลลอฮฺกันดีกว่า 155 เรื่องของยาสิร 160 เพื่อนร่วมห้องของอะบูอิมาด 166 ความกังวลคือส่วนหนึ่งของโรคภัย 171 เรื่องใหญ่ 174 รู้จักผู้เขียน


10


ชีวิตที่เหลืออยู่

วันหนึ่งโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ปลายสายโทรมาจาก ประเทศสวีเดน “อัสสะลามุอะลัยกุม นั่นใช่เชคมุฮัมมัดหรือเปล่าครับ?” “วะอะลัยกุมุสสะลาม ใช่ครับ” ผมตอบ จากนั้นเขาก็เล่าให้ผมฟังว่า “เชคครับ! ผมเป็นหมอที่ก�ำลังเรียนต่อเฉพาะทางอยู่ที่ มัลเมอ สวีเดน ห้าปีที่ผ่านมานี้ ผมท�ำงานให้โรงพยาบาลแห่ง หนึ่งของที่นี่” “เชคครับ ที่โรงพยาบาลนี้ เวลาที่มีคนไข้อาการหนักถูก ส่งตัวมารักษา ถ้าโอกาสรอดมีน้อย พวกเขาจะท�ำอาหารให้คนไข้ 11


กินโดยใส่ยาแก้ปวดผสมกับยาที่ท�ำให้ถึงแก่ชีวิตเข้าไปด้วย คนไข้ จะมีชีวิตอยู่ได้สองหรือสามวันเป็นอย่างมากแล้วก็ตาย จากนั้น ญาติก็จะมารับศพไปโดยคิดว่าเขาเสียชีวิตตามธรรมชาติทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้วเขาถูกฆ่าตายครับ” ผมตอบไปว่า “อะอูซุบิลลาฮฺ! เรื่องนี้มัน...” แล้วเขาก็ ขัดจังหวะขึ้นโดยบอกว่า “ขอโทษนะครับเชค ค�ำถามยังไม่จบ ครับ...” “วันนี้ครับเชค ผมอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน แล้วก็มีคนไข้มุสลิม คนหนึ่งมาโรงพยาบาล เขาเป็นคนสวีเดนแต่มีเชื้อสายปากีสถาน เขาป่วยด้วยโรคร้ายชนิดหนึ่ง อาการของเขาแย่มาก เวลาผ่านไป สักพัก พวกเจ้าหน้าทีก่ พ็ าตัวชายคนนีไ้ ปทีแ่ ผนกพิเศษส�ำหรับดูแล ผูป้ ว่ ยอาการขนาดนี้ แล้วพวกเขาก็ให้อาหารผสมยาคร่าชีวติ เขา” “เชคครั บ ผมควรต้ อ งท� ำ อย่ า งไรครั บ ? ผมควรบอก ครอบครัวของผู้ป่วยหรือเปล่า? เพื่อนของผมเล่าให้ฟังว่ามีคน จ�ำนวนมากที่เสียชีวิตด้วยวิธีการนี้...!” เขารู้สึกเสียใจและมีอารมณ์ร่วมกับบรรดาเหยื่อที่เขาพูด ถึงมาก แล้วเขาก็เล่าต่อไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผมเอง ผมหลุดอยูใ่ นภวังค์ความคิดของผม คนพวกนี้ คิดว่าชีวิตของคนที่พวกเขาฆ่านั้นเป็นอะไร? ไวน์หนึ่งแก้ว หรือสิ่ง 12


บันเทิงเริงใจอย่างนั้นหรือ? หากคนๆ หนึ่งจะต้องตัดเรื่องพวกนี้ ออกไปจากชีวิตเพราะโรคภัยไข้เจ็บที่พวกเขาประสบ พวกเขาก็ จะพากันสรุปว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่คนๆ นั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อไป อีกแล้ว! และถ้าเป็นอย่างนั้น ท�ำไมเขาจะต้องมีชีวิตต่อไปอีกล่ะ?!

ใช่ ท�ำไมเขาต้องอยู่ต่อไปล่ะ? – ผมครุ่นคิด

คนที่อยู่เพื่อกินย่อมต่างจากคนที่กินเพื่ออยู่ คนกลุ่มแรก ไม่รู้ว่า การอดทนมีชีวิตอยู่ต่อไปแม้ในสภาพที่พิกลพิการนั้น อัลลอฮฺจะทรงยกสถานะของเขาด้วยกับอุปสรรคที่เขาพบเจอใน ชีวติ ทุกๆ การกล่าวตัสบีห1ฺ เป็นเศาะดะเกาะฮฺ ทุกๆ ตะหฺมดี 2 เป็น เศาะดะเกาะฮฺ ทุกๆ ตะฮฺลีล3 เป็นเศาะดะเกาะฮฺ ทุกความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ แม้จะเป็นเพียงแค่ หนามต�ำ อัลลอฮฺจะทรงลบล้างบาปของเขาด้วยความเจ็บปวด เหล่านั้น หลายคนคือผู้ที่จะได้เข้าสวนสวรรค์ผ่านประตูแห่งความ ป่วยไข้ ผู้ศรัทธานั้นจะประสบกับทุกข์ภัยอยู่เสมอ กระทั่งทุกข์ภัย นัน้ ท�ำให้เขาเดินอยูบ่ นหน้าแผ่นดินโดยไร้สนิ้ บาปในบันทึกการงาน ของเขา4 1

คือการกล่าว “สุบหานัลลอฮฺ” – มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ คือการกล่าว “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” – มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ 3 คือการกล่าว “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ” – ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ 4 จากหะดีษรายงานโดยสะอฺด บินอะบีวักกอศ ในสุนันอัตติรมิซี 4/602 หมายเลข 2398 ท่าน นะบี กล่าวว่า “...การทดสอบจะประสบแก่มนุษย์จนท�ำให้เขาเดินอยู่บนหน้าแผ่นดินโดยไม่มี บาปใดเหลืออยู่อีก” 2

13


อิมามอะหฺมัด กล่าวไว้ว่า “หากไม่ใช่เพราะทุกข์ภัยที่ เราประสบแล้ว เราคงอยู่ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพในสภาพของคน ล้มละลาย” อิ ม ามอั ล บุ ค อรี บั น ทึ ก ไว้ ใ นเศาะฮี หฺ ข องท่ า น หะดี ษ ที่ รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ ว่า ท่านนะบี กล่าวว่า “ส�ำหรับทุกเรื่องร้าย โรคภัย ความกังวล ความเศร้าโศก หรือความเจ็บปวดที่ประสบกับมุสลิมคนหนึ่งนั้น แม้กระทั่งความ เจ็บปวดที่มาจากหนามต�ำ อัลลอฮฺจะทรงขจัดบางส่วนจากบาป ของเขาด้วยสิ่งเหล่านี้” ท่านนะบี กล่าวไว้อีกว่า “เภทภัยจะไม่หยุดมายังผู้ ศรัทธาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ทรัพย์สิน และลูกหลาน ของเขา กระทั่งเขาได้พบกับอัลลอฮฺในสภาพที่บาปทั้งหมดของ เขาถูกลบออกไป” หะดีษนีถ้ กู บันทึกอยูใ่ นสายรายงานทีเ่ ศาะฮีหฺ โดย อัตติรมิซี ในสุนันของท่าน

นอกจากนี้ ท่ า นยั ง บั น ทึ ก ไว้ ว ่ า ญาบิร อิบนุอับดุลลอฮฺ กล่าวว่า “ใน วันแห่งการฟื้นคืนชีพ ผู้คนจะปรารถนา ให้ผิวหนังของพวกเขาถูกตัดด้วยกรรไกร ในโลกนี้ เนือ่ งจากพวกเขาได้เห็นว่าอะไร คือรางวัลตอบแทนของผูท้ ตี่ อ้ งประสบ 14


ทุกข์ภัย (ในโลกดุนยา)” อนัส รายงานว่า ท่านนะบี กล่าวว่า “แท้จริง ความ ยิ่งใหญ่ของรางวัลนั้น ขึ้นอยู่กับความยิ่งใหญ่ของเภทภัยที่ประสบ และเมื่ออัลลอฮฺทรงรักคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด พระองค์จะทรงให้เขา ประสบทุกข์ภยั ใครทีพ่ อใจ เขาก็จะได้ความพอพระทัยจากอัลลอฮฺ และใครที่โกรธเคือง เขาก็จะได้รับความกริ้วโกรธจากอัลลอฮฺ” มุสลิมบันทึกไว้ว่า ท่านนะบี กล่าวว่า “กิจการของผู้ ศรัทธานั้นช่างน่าประหลาดเสียจริง ทุกกิจการของเขาล้วนเป็นสิ่ง ทีด่ ี ซึง่ มันจะไม่เกิดขึน้ กับผูอ้ นื่ ใดนอกจากผูศ้ รัทธาเท่านัน้ หากเขา ประสบกับสิง่ ทีด่ ี เขาก็จะขอบคุณอัลลอฮฺ มันจึงเป็นความดีสำ� หรับ เขา หากเขาประสบกับเภทภัย เขาก็จะอดทน แล้วมันก็จะกลาย เป็นความดีส�ำหรับเขาเช่นกัน” (บันทึกโดยมุสลิม) ก่อนที่ผมจะเขียนต่อ ผมอยากบอกกับผู้ป่วยทุกคน ไม่ว่า อาการของคุณจะหนักหนาสาหัสเพียงใดก็ตามว่า จงพอใจกับสิ่ง ที่อัลลอฮฺทรงเก็บไว้ให้คุณ พึงรู้เถิดว่าหากคุณอดทนและหวังใน รางวัลจากอัลลอฮฺ อาการป่วยไข้จะเป็นสิ่งที่ลบล้างบาปและยก สถานะคุณให้สูงขึ้น ดังนั้น จงแสดงออกให้ทุกคนที่มาเยี่ยมเยียน คุณได้เห็นว่าคุณพอใจและยอมรับในก�ำหนดของอัลลอฮฺเถิดครับ เพือ่ ทีพ่ วกเขาจะได้รวู้ า่ อัลลอฮฺทรงมีปวงบ่าวทีร่ กั พระองค์ ทีพ่ อใจ ในก�ำหนดของพระองค์ และอดทนกับเภทภัยที่พระองค์ทรงส่งมา 15


ให้แก่พวกเขา อัลลอฮฺทรงให้ชาวฟ้าประชันความเป็นเลิศกับปวง บ่าวกลุ่มนี้ และทรงท�ำให้บ่าวกลุ่มนี้เป็นแบบอย่างแก่ชาวดินทั้ง ปวง

แล้วคุณจะไม่อยากเป็นหนึ่งในบ่าวกลุ่มนี้หรือครับ?

16


17


บทเรียนจากนะบีอัยยูบ

นะบีอัยยูบ เคยมีทรัพย์สินเงินทอง เคยมีเกียรติ มี ภรรยาหลายคน และลูกหลานมากมาย ท่านเป็นชายคนหนึ่งที่ อัลลอฮฺทรงยกสถานะและแต่งตั้งให้ท่านเป็นนะบี แต่แล้ววันหนึ่ง ท่านก็สูญเสียบรรดาภรรยา ลูกหลาน และทรัพย์สินของท่านไป หมด เหลือแต่เพียงภรรยาคนหนึ่งของท่านเท่านั้น เวลาผ่านไป บททดสอบก็ทวีความรุนแรงขึ้น ท่านเริ่ม ประสบกับโรคภัยที่ไม่สามารถรักษาได้ กลุ่มชนของท่านต่างกลัว ว่าโรคร้ายนี้จะแพร่ระบาด พวกเขาจึงขับไล่ท่านไป ด้วยเหตุนี้เอง นะบีอยั ยูบจึงต้องอาศัยอยูใ่ นกระโจมกลางป่าร้าง โรคนีท้ ำ� ให้ทา่ นมี แผลพุพองขึน้ ตามเนือ้ ตัว กลายเป็นโรคทีท่ ำ� ให้ผคู้ นพากันทิง้ ท่านไว้ แบบนัน้ และไม่เข้ามาใกล้ทา่ นอีก มีเพียงภรรยาทีเ่ หลืออยูค่ นเดียว 18


ของท่านคอยดูแลรับใช้ เกี่ยวกับโรคภัยที่นะบีอัยยูบประสบนั้น มุญาฮิด นัก อรรถาธิบายอัลกุรอานผูย้ งิ่ ใหญ่เคยถูกถามว่า “นะบีอยั ยูบป่วยด้วย โรคอะไรหรือ? ใช่โรคไข้ทรพิษหรือเปล่า?” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่ มัน ร้ายแรงยิง่ กว่าไข้ทรพิษเสียอีก มีบางอย่างงอกออกมาจากร่างกาย ของท่านเหมือนเต้านมของสตรี แล้วต่อมามันก็แตกและมีนำ�้ หนอง ไหลออกมา” ต้องประสบกับบท เวลาผ่านไปหลายปีที่นะบีอัยยูบ ทดสอบเช่นนี้ แต่กระนั้น ท่านก็ยังคงมั่นคงดั่งขุนเขา ในวันหนึ่งที่เงียบสงบ ภรรยาของท่านร้องไห้ต่อหน้าท่าน ท่านจึงถามขึ้นว่า “เธอร้องไห้ท�ำไมหรือ?” เธอตอบว่า “ฉันคิดถึง ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ของเรา ช่วงเวลาแห่งความสุข ความจ�ำเริญ แล้วฉันก็กลับมาดูสภาพของเราในวันนี้ ฉันจึงร้องไห้ออกมา” ท่าน บอกกับเธอว่า “จ�ำได้หรือเปล่าว่าเราเคยอยูก่ นั อย่างมีความสุขมา กี่ปี?” เธอตอบว่า “เจ็ดสิบปี” ท่านถามต่อไปว่า “แล้วกีป่ ที เี่ ราอยูก่ บั บททดสอบนี?้ ” เธอ ตอบว่า “เจ็ดปีค่ะ” นะบีอัยยูบจึงกล่าว “เช่นนั้นแล้ว จงอดทนเถิด จนกว่าเรา จะใช้เวลาเจ็ดสิบปีไปกับบททดสอบนี้ เหมือนกับทีเ่ ราใช้เวลาเจ็ด 19


สิบปีไปกับความสุขสบาย” ผู้เป็นภรรยาจึงหยุดบ่นหลังจากนั้น เวลาผ่านไปหลายปี แม้จะอยู่ในช่วงที่ป่วยหนักขนาดไหน แต่นะบีอัยยูบก็ยังคงเข้มแข็งเสมอ ใช่ครับ หากคุณเดินผ่านท่าน ในช่วงทีท่ า่ นป่วย ในช่วงทีเ่ นือ้ หนังของท่านเปือ่ ยลงเรือ่ ยๆ คุณจะ พบว่าตัวเองก�ำลังเดินผ่านขุนเขาที่ไม่อาจสั่นไหวด้วยพายุใด นะบี อัยยูบมีลิ้นที่ร�ำลึกถึงอัลลอฮฺ มีหัวใจที่กตัญญู มีร่างกายที่อดทน มี ดวงตาทีร่ ำ�่ ไห้และแน่วแน่ยามวิงวอนขอดุอาอ์ ท่านไม่ยอมอ่อนแอ ให้ชัยฏอนได้กระหยิ่มใจ วันหนึ่ง มีชายสองคนเดินผ่านนะบีอัยยูบ เมื่อทั้งคู่เห็น อาการป่วยของท่าน หนึ่งในนั้นพูดขึน้ มาว่า “ฉันว่าอัลลอฮฺทรงท�ำ ให้อัยยูบป่วยด้วยโรคแบบนี้ เพราะบาปที่พวกเราไม่รู้จักมาก่อน ได้ยินเช่นนั้น ท่านจึงยกมือขึ้นและ เป็นแน่” เมื่อนะบีอัยยูบ วิงวอนต่อพระผู้อภิบาลของท่าน ِ َّ ‫ادى ربَّهُ أَنِّي م‬ ِ ِ َّ ‫َنت أَرحم‬ )) ‫ين‬ َ ُّ‫(( َوأَي‬ َ َ َ َ‫وب إِ ْذ ن‬ َ ‫الراحم‬ ُ َ ْ َ ‫سن َي الض ُُّّر َوأ‬

“และ (จงร�ำลึกถึงเรื่องราวของ) อัยยูบ เมื่อเขาได้ร้องเรียน พระเจ้าของเขาว่า แท้จริงแล้ว ตัวข้าพระองค์นนั้ ความทุกข์ยาก ได้ประสบแก่ขา้ พระองค์ และพระองค์เท่านัน้ เป็นผูท้ รงเมตตายิง่ ในหมู่ผู้เมตตาทั้งหลาย” (อัลอันบิยาอ์ 21 : 83)

20


อัลลอฮฺทรงมองดูนะบีอัยยูบ และ พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะ เป็นดวงตาทัง้ สองของท่านทีก่ ำ� ลังหลัง่ น�้ำตา แม้ว่ามันจะไม่เคยมองสิ่งที่หะ รอม มือทั้งสองที่ท่านใช้วิงวอนก็เป็น มือทีไ่ ม่ได้สมั ผัสสิง่ ผิดบาปและไม่เคย เอื้อมไปยังสิ่งต้องห้าม พระองค์ทรง เห็นทุกอย่าง เช่นเดียวกับลิ้นที่ท่าน ใช้ในการร�ำลึกและหน้าผากที่ท่านใช้ สุญูดต่อพระองค์ ณ เวลานั้นเอง ดุอาอ์ของนะบีอัยยูบท�ำให้ประตูของสวน สวรรค์สั่นสะเทือน อัลลอฮฺจึงตรัสว่า ‫ض ٍّر َوآتـَيـْنَاهُ أ َْهلَهُ َوِمثـْلَ ُهم َّم َع ُه ْم‬ َ ‫استَ َجبـْنَا لَهُ فَ َك‬ ُ ‫ش ْفنَا َما بِ ِه ِمن‬ ْ َ‫(( ف‬ ِ​ِ ِ ِ ِ ِ )) ‫ين‬ َ ‫َر ْح َمةً ِّم ْن عندنَا َوذ ْك َرى لل َْعابد‬

“ดังนัน้ เราได้ตอบรับการร้องเรียนของเขา แล้วเราได้ปลดเปลือ้ ง สิ่งที่เป็นความทุกข์ยากแก่เขา และเราได้ให้ครอบครัวของ เขาแก่เขา และเช่นเดียวกับที่เขาได้เคยมีมาก่อน (เช่น บุตร หลานและพวกพ้อง) เป็นความเมตตาจากเรา และเป็นข้อ ตั ก เตื อ นแก่ บ รรดาผู ้ ที่ เ คารพภั ก ดี ” (อัลอันบิยาอ์ 21 : 84) 21


และอัลลอฮฺทรงกล่าวสรรเสริญท่านว่า )) ‫اب‬ ٌ ‫صابًِرا نِ ْع َم ال َْع ْب ُد إِنَّهُ أ ََّو‬ َ ُ‫(( إِنَّا َو َج ْدنَاه‬

“แท้จริงเราพบว่าเขา (อัยยูบ) เป็นผู้อดทน บ่าวผู้ประเสริฐ แท้จริงเขาหันหน้าเข้าสู่เราเสมอ” (ศอด 38 : 44) จะดีแค่ไหนหากอัลลอฮฺทรงมองมายังคุณตอนที่คุณก�ำลัง เจ็บป่วย และพระองค์ก็พบว่าคุณก�ำลังอดทนด้วยหวังในการ ตอบแทนของพระองค์ แล้วในเวลาต่อมา คุณก็ถูกเลื่อนต�ำแหน่ง ให้สูงขึ้นเป็น ‫ نِ ْع َم الْ َع ْب ُد‬- บ่าวผู้ประเสริฐ?

22


23


เรื่องเล่าบันดาลใจ : อุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ

อุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ คือหนึ่งในตาบิอีน5 ที่มีชื่อเสียง ท่าน เป็นบุตรของเศาะหาบะฮฺทมี่ เี กียรติ คือท่านอัซซุบยั รฺ บินอัลเอาวาม ท่านอุรวะฮฺตอ้ งทนทุกข์กบั เนือ้ ร้ายบริเวณขา ซึง่ นัน่ ท�ำให้เนือ้ ส่วนที่ดีเสียหายไปหลายส่วน คณะแพทย์เข้ามาตรวจอาการและลง ความเห็นว่าจะต้องตัดขาของท่านทิ้ง เพื่อไม่ให้เนื้อร้ายกระจายไปยัง ส่วนอืน่ ๆ ของร่างกาย เมือ่ การผ่าตัดเริม่ ต้นขึน้ ท่านอุรวะฮฺกห็ มดสติไป เมื่อขาถูกตัดออกแล้ว เลือดก็ไหลออกมาอย่างมากมาย คณะ แพทย์จึงต้มน�้ำมันจนเดือด แล้วน�ำบริเวณที่เลือดไหลไม่หยุดไปจุ่มลง ในน�้ำมันเพื่อหยุดเลือด หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าเก่าๆ ผูกที่ขาไว้แล้วรอให้ ท่านฟื้นคืนสติ 5

คนรุ่นต่อจากยุคสมัยของเศาะหาบะฮฺ

24


เมื่อท่านอุรวะฮฺฟื้นขึ้นมา ท่านมองไปยังขาที่ถูกตัดออกซึ่งจม กองเลือดอยู่ จากนั้นท่านก็พูดว่า “แท้จริง อัลลอฮฺทรงรู้ว่าฉันไม่เคย ใช้เจ้าเดินไปสู่การฝ่าฝืน (อัลลอฮฺ) โดยตั้งใจ”! ผูค้ นเริม่ แวะเวียนเข้ามาเยีย่ มเยียนท่าน พวกเขาพากันปลอบ ใจทีท่ า่ นต้องตัดขาทิง้ และบอกให้ทา่ นอดทนกับบททดสอบนี้ เมือ่ ท่าน ไม่ไหวจะฟังค�ำพูดเหล่านีต้ อ่ ไป ท่านมองไปยังท้องฟ้าและกล่าวว่า “โอ้ อัลลอฮฺ! บ่าวเคยมีแขนขาอย่างละสองข้างครบทั้งสี่ แล้วพระองค์ทรง เอาออกไปหนึง่ และเหลือไว้สาม อัลฮัมดุลลิ ลาฮฺ6 ทีพ่ ระองค์ไม่ทรงเอา ไปสามและเหลือไว้หนึ่ง โอ้อัลลอฮฺ แม้ในยามที่พระองค์ทรงทดสอบ พระองค์ก็ยังอาทรเสมอ และยามที่พระองค์ทรงเรียกเก็บอะไรไป พระองค์ก็จะทรงเหลือไว้ให้เสมอ” ช่วงเวลาทีท่ า่ นอุรวะฮฺปว่ ยอยูน่ นั้ ลูกๆ ของท่านทัง้ เจ็ดคนคอย วนเวียนอยู่รอบตัวท่านเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้ผู้เป็นพ่อ ในเวลา ต่อมา ลูกคนหนึ่งเข้าไปท�ำธุระบางอย่างในคอกม้าและเดินผ่านม้าที่ ก�ำลังหงุดหงิด จู่ๆ มันก็ออกอาการเกรี้ยวโกรธและเข้าจู่โจมเด็กชาย ด้วยกีบเท้าของมันจนเขาถึงแก่ชีวิต ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกใจกับ สิ่งที่เกิดขึ้นและช่วยกันหามร่างเด็กหนุ่มออกมา หลังจากที่อาบน�้ำและห่อผ้ากะฝั่นให้ผู้ตายแล้ว ผู้เป็นพ่อใช้ ไม้เท้าพาตัวเองมาละหมาดให้แก่ลกู ชาย เมือ่ ท่านเห็นเขา ท่านก็กล่าว ว่า 6

มวลการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺ

25


“โอ้ อัลลอฮฺ! ฉันเคยมีลกู เจ็ดคน แล้วพระองค์ทรงเก็บไปหนึง่ และเหลือ อีกหกคนไว้ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ที่พระองค์ไม่ทรงเก็บไปหกและเหลือไว้ หนึ่ง โอ้ อัลลอฮฺ แม้ในยามที่พระองค์ทรงทดสอบ พระองค์ก็ยังอาทร เสมอ และยามที่พระองค์ทรงเรียกเก็บอะไรไป พระองค์จะทรงเหลือ ไว้เสมอ”

ความพอใจแบบท่านอุรวะฮฺนนั้ ช่างสวยงามนัก! ขณะทีใ่ ครอีก หลายคนกลับตรงกันข้าม บางคนเมือ่ ตัวเองปวดท้องก็เริม่ เป็นกังวลและ ร้องโวยวาย โดยลืมคิดถึงความปกติสขุ ของศีรษะและขาของพวกเขา?! มีกี่คนกันที่เวลาดวงตาของพวกเขาปวดเจ็บ พวกเขาก็พร้อมจะลืม สุขภาพที่ดีของลิ้นและหูของพวกเขา?! ฉะนัน้ แล้ว จงสรรเสริญอัลลอฮฺทพ่ี ระองค์ทรงทดสอบคุณด้วย โรคภัยไข้เจ็บเพียงโรคเดียว ไม่ได้รวมโรคสิบโรคให้ประสบกับคุณใน คราวเดียว

26


ลองพิจารณาดูคนป่วยรอบตัวคุณ และกล่าวสรรเสริญอัลลอฮฺ ทีพ่ ระองค์ทรงปกป้องคุณจากสิง่ ทีพ่ ระองค์ได้ทดสอบพวกเขาเหล่านัน้ และทรงประทานความโปรดปรานให้แก่คุณมากกว่ามัคลูกอื่นๆ ของ พระองค์อีกมากมาย ไม่ครับ นั่นยังไม่พอ เรายังหวังในตัวคุณมากกว่านี้ เราอยาก ให้คุณเป็นผู้ที่ได้รับทางน�ำ และเป็นผู้ที่น�ำทางแก่คนอื่นด้วย เราหวัง ว่าคุณจะเป็นคนทีอ่ ดทน และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอืน่ ๆ อดทนด้วย เวลาที่คุณไปเยี่ยมคนที่ป่วยหนัก คุณควรพูดอะไรที่เป็นการ ให้ก�ำลังใจแก่พวกเขา เวลาที่คุณไปเยี่ยมคนที่ก�ำลังเศร้าโศกเสียใจ คุณควรพยายามท�ำให้เขามีความสุข หรือเวลาที่คุณพบเห็นใครก�ำลัง พร�ำ่ บ่น คุณควรแนะน�ำตักเตือนเขา ยามทีค่ ณ ุ ล้มป่วยเสียเอง คุณต้อง เป็นต้นแบบแห่งความดีให้คนอืน่ เห็นซึง่ ตัวคุณเองคูค่ วรกับต�ำแหน่งนัน้ ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ

27


28


โรคภัยให้สติ

เพื่อนคนหนึ่งของผมมีชื่อเสียงเรื่องการอ่านรุกยะฮฺให้กับ คนทีป่ ว่ ยเป็นโรคทางจิตใจ บางครัง้ เขาก็รกั ษาคนทีโ่ ดนโรคมืดและ อัลอัยนฺ7 ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่าให้ผมฟังว่า “มีอยู่วันหนึ่ง พ่อค้าใหญ่คนหนึ่งมาหาผมและบ่นให้ฟังถึง อาการเจ็บปวดอย่างมากที่มือข้างซ้ายของเขา ชัดเจนว่าอาการที่ เขาประสบอยู่นั้นเข้าขั้นรุนแรง หน้าตาของเขาซีดเซียว เขานั่งลง ตรงหน้าผมและบอกว่า “เชคครับ! อ่านรุกยะฮฺให้ผมหน่อย” ผม ถามว่า “คุณโดนอะไรมาครับ?” เขาบอกว่า “ผมปวดมือมากๆ ไม่รู้ ว่าเพราะอะไร ผมไปหาหมอทีโ่ รงพยาบาลมาหลายคนแล้ว ผลการ

7

ดวงตาอิจฉาริษยาที่มีพลังท�ำให้ผู้ถูกจ้องมองเจ็บป่วยได้

29


ตรวจทุกอย่างปกติครับ ผมไม่รู้ว่าผมไปโดนอะไรมา บางทีมันอาจ มาจากตาอิจฉา (โรคอัยนฺ)” ผมอ่านรุกยะฮฺและขอดุอาอ์ให้แก่เขา วันต่อมาเขาก็มา หาผมอีก ผมก็อ่านรุกยะฮฺและดุอาอ์ให้เขาเหมือนอย่างเคย เช่น เดียวกันกับวันที่สาม สี่ และห้า วันแล้ววันเล่า แต่อาการของเขา กลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ วันหนึง่ ผมพูดกับเขาตรงๆ ว่า “คุณครับ บางทีอาการทีค่ ณ ุ เป็นอยูอ่ าจมาจากดุอาอ์ของคนทีถ่ กู คุณอธรรมก็ได้นะครับ อาจจะ เป็นเรือ่ งเงิน เรือ่ งเกียรติยศ เรือ่ งร่างกาย ฯลฯ” เมือ่ ได้ยนิ แบบนัน้ หน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาตะโกนใส่ผมว่า “ผมน่ะหรือไปอธรรม ใครเขา?! คุณพูดอะไรน่ะ!? ผมเป็นคนมีเกียรตินะ ผมเป็น....” ผมไม่ตอบโต้อะไรเพราะเขาก�ำลังโกรธอยู่ ผมเอ่ยขอโทษ เขา แล้วเขาก็กลับไป หลังจากนัน้ สิบวัน เขากลับมาหาผมในสภาพ ที่สมบูรณ์แข็งแรง! พร้อมกับขออนุญาตที่จะจูบหน้าผากและมือ ของผม จากนัน้ เขาก็กล่าวว่า “ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ คุณคือสาเหตุ ที่ท�ำให้ผมหาย ถัดจากความโปรดปรานของอัลลอฮฺ” ผมถามว่า “อย่างไรหรือครับ? รุกยะฮฺไม่ได้ท�ำให้อาการของคุณดีขึ้นไม่ใช่ หรือ?” เขาบอกว่า “ตอนที่ผมแยกจากคุณ อาการเจ็บก็ก�ำเริบขึ้น เรือ่ ยๆ ค�ำพูดของคุณก้องอยูใ่ นหูของผม ใช่ บางทีผมอาจไปละเมิด 30


ใครไว้จริงๆ แล้วผมก็จ�ำได้ว่าตอนที่ผมตั้งใจจะสร้างคฤหาสน์ ข้างๆ ทีด่ นิ ของผมมีทดี่ นิ อีกผืนหนึง่ ทีผ่ มอยากซือ้ เพือ่ เอามาเป็นสวนของ บ้าน แต่ที่ดินผืนนี้เป็นของหญิงหม้ายคนหนึ่งและลูกๆ ที่ก�ำพร้า ของเธอ ผมส่งจดหมายไปถึงเธอเพื่อขอซื้อที่ดินผืนดังกล่าวแต่เธอ ปฏิเสธ เธอบอกว่า “ฉันจะเอาเงินไปท�ำอะไรถ้าฉันขายที่ดินผืน นี้? ฉันจะปล่อยมันไว้แบบนี้จนกว่าลูกๆ จะโต เผื่อพวกเขาจะได้ ใช้ท�ำประโยชน์อะไรบ้าง” ผมพยายามโน้มน้าวเธอ ท�ำแม้กระทั่ง เอาเงินเป็นตัวล่อ แต่เธอก็ยืนกรานปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ณ เวลา นั้นที่ดินผืนนั้นมันส�ำคัญต่อผมมาก” “แล้วคุณท�ำอย่างไรครับ?” ผมถามต่อ เขาตอบว่า “ผมก็ยึดที่ดินผืนนั้นด้วยการปลอมแปลงเอกสาร และ ขออนุญาตสร้างบ้านจากเจ้าหน้าทีด่ ว้ ยเอกสารปลอมนัน้ แล้วผมก็ ด�ำเนินการก่อสร้าง”! “แล้วผู้หญิงคนนั้นกับเด็กก�ำพร้าล่ะครับ?” เขาบอกว่า “เมือ่ เรือ่ งนีไ้ ปถึงหูเธอ เธอเคยมายังทีด่ นิ ผืนนีแ้ ละมอง ดูคนงานก�ำลังก่อสร้างในทีด่ นิ ของเธอ เธอก่นด่าพวกเขาและร้องไห้ แต่พวกเขาคิดว่าเธอบ้าเลยไม่ได้สนใจอะไรเธอ” 31


ชายคนนี้เล่าต่อ “และผมก็จ�ำได้ว่าเธอเคยยกมือขึ้นขอ ดุอาอ์ขณะที่ร้องไห้อยู่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็เริ่มเจ็บมือ ตอน กลางคืนผมนอนไม่ได้ ส่วนกลางวันผมก็แทบท�ำอะไรไม่ได้เพราะ อาการเจ็บปวดนี้!”

“แล้วคุณท�ำอย่างไรกับเธอต่อครับ” ผมถามอีก

ชายคนนั้นตอบว่า “ผมไปหาเธอ ขอโทษเธอ และร้องไห้ แล้วผมก็ให้ที่ดินผืนหนึ่งที่ท�ำเลดีกว่าที่ดินของเธอทดแทน เธอ ยอมรับมันไว้ ดุอาอ์ให้ผม และอภัยให้ผม จากนั้นผมก็ลาจาก เธอ และหันเข้าหาอัลลอฮฺเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านดุอาอ์และ อิสติฆฟาร อาการเจ็บของผมเริ่มทุเลาลงจนกระทั่งหายไปในที่สุด อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้เพื่อจะ บอกว่าโรคต่างๆ ที่เราประสบ นั้นเป็นการลงโทษจากอัลลอฮฺ นะครับ เพราะบรรดานะบีและ คนดีมคี ณ ุ ธรรมทัง้ หลายก็ลม้ ป่วย ด้วยกันทัง้ นัน้ อย่างไรก็ดี สิง่ ทีผ่ ม อยากจะบอกก็คือ โรคภัยไข้เจ็บ ต่างๆ นานาของเรานั้น คือสิ่งที่ อัลลอฮฺใช้ก�ำจัดความยโสโอหัง 32


ความคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น และความทะนงตนออกไปจากบ่าว ของพระองค์ หากว่าคนเราอยู่ในสภาพที่มั่งคั่ง สมบูรณ์ แข็งแรง มีลูกหลานมากมายตลอดเวลา พวกเขาก็จะละเมิดขอบเขตต่างๆ พวกเขาจะฝ่าฝืน ทั้งอาจหลงลืมจุดเริ่มต้นและจุดจบของสิ่งต่างๆ แต่อลั ลอฮฺทรงให้มนุษย์ประสบกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ พวก เขาหิวโดยไม่ได้ตงั้ ใจ และล้มป่วยโดยไม่ได้เจตนา เขาไม่มอี ำ� นาจที่ จะท�ำให้สงิ่ ดีใดๆ ประสบกับตนเอง เช่นเดียวกับอ�ำนาจในการท�ำให้ ตัวเองประสบเภทภัยต่างๆ พวกเขาไม่สามารถท�ำให้ตาย ท�ำให้เป็น หรือท�ำให้ฟน้ื คืนชีพได้ บางครัง้ มนุษย์ตอ้ งการทีจ่ ะเข้าใจบางอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้ บางครั้งเขาต้องการที่จะจดจ�ำอะไร บางอย่าง แต่เขาก็กลับลืมสิง่ นัน้ บางครัง้ เขาปรารถนาสิง่ ทีจ่ ะเป็น หายนะต่อตนเอง แต่กลับรังเกียจสิ่งที่จะให้ชีวิตชีวาแก่เขา อันที่จริงแล้ว มนุษย์นั้นไม่เคยปลอดภัยแม้ในชั่วขณะใด เลย ไม่วา่ จะเป็นกลางคืนหรือกลางวันก็ตาม เขาไม่มที างปลอดภัย จากการทีอ่ ลั ลอฮฺจะทรงเอาการมองเห็นหรือการได้ยนิ ของเขา อัน เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงประทานแก่เขา บางที อัลลอฮฺอาจจะเก็บ สติปัญญาของเขาไป หรือถอดถอนความโปรดปรานทุกอย่างของ พระองค์ไปจากเขาก็ได้ ใครกันที่จะตกต�่ำมากไปกว่าบ่าวที่คิดว่า ตัวเองยิ่งใหญ่ ซึ่งหากเขารู้ตัวก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว!

33


อัลลอฮฺทรงให้บ่าวของพระองค์ประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ และความอ่อนแอในรูปแบบต่างๆ เพือ่ ทีบ่ า่ วจะได้หยุดการกระท�ำ ทีผ่ ดิ บาป และหันหน้ากลับเข้าหาอัลลอฮฺ ผูท้ รงยิง่ ใหญ่ ผูท้ รงสูงส่ง นี่คือความลับเบื้องหลังการที่พระองค์ทรงตอบรับดุอาอ์ของคน กลุ่มนี้ คือบรรดาคนป่วย คนที่ถูกอธรรม คนเดินทาง และคนที่ ถือศีลอด ทั้งนี้เนื่องจากความใกล้ชิดกับอัลลอฮฺและหัวใจที่แตก สลายของพวกเขา ในฐานะคนเดินทาง เขาประสบกับความแปลก แยก ในฐานะคนถือศีลอด เขาประสบกับความอ่อนแรง ในฐานะ ผู้ถูกอธรรม เขาประสบกับความอ่อนแอ และในฐานะของคนป่วย เขาประสบกับความเจ็บปวด มหาบริสุทธิ์แด่ผู้ทรงเผยให้เห็นความเมตตาของพระองค์ ผ่านทุกข์ภัยต่างๆ และทรงทดสอบผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วย ความโปรดปรานต่างๆ ของพระองค์

34


35


ทัวร์โรงพยาบาลจิตเวช

ครั้งหนึ่ง ผมเดินทางไปบรรยายในเมืองๆ หนึ่งที่ใครๆ ก็ รู้จักเพราะมีโรงพยาบาลจิตเวชขนาดใหญ่และชื่อดังตั้งอยู่ ผมบรรยายสองรอบในตอนเช้า และภารกิจของผมก็เสร็จ สิน้ ก่อนจะถึงเวลาละหมาดซุฮรฺหนึง่ ชัว่ โมง ในคณะเดินทางของผม มีคุณอับดุลอะซีซ ซึ่งเป็นดาอีย8์ ที่มีชื่อเสียงร่วมอยู่ด้วย ผมหันไป คุยกับเขาตอนทีเ่ รานัง่ อยูบ่ นรถและพูดว่า “อับดุลอะซีซ ผมอยาก ไปสถานที่แห่งหนึ่งถ้าเราพอจะมีเวลาเหลือกัน” เขาตอบว่า “ทีไ่ หนล่ะครับ? เชคอับดุลลอฮฺเพือ่ นของคุณก็ ก�ำลังเดินทางอยู่ ส่วนดร.อะหฺมัดผมโทรหาเขาแล้วแต่ก็ไม่รับสาย คุณอยากไปที่ (ชื่อสถานที่แห่งหนึ่ง) ใช่ไหมครับ? 8

ผู้ท�ำหน้าที่เรียกร้องเชิญชวนสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ

36


“ไม่ใช่ครับ” ผมตอบ “ผมอยากไปโรงพยาบาลจิตเวชต่าง หาก” ได้ยินอย่างนั้น เขาก็ถามให้แน่ใจว่า “โรงพยาบาลของคน ที่มีอาการทางจิตน่ะหรือครับ?”

“ใช่ครับ” ผมยืนยัน

เขาฟังแล้วก็หัวเราะ ก่อนจะพูดขึ้นมาเล่นๆ ว่า “ท�ำไม ล่ะครับ? คุณจะไปตรวจว่าตัวเองปกติหรือเปล่าหรืออย่างไร?” ผมปฏิเสธและบอกว่า “ไปเพื่อประโยชน์ของพวกเราเองครับ ไป เอาบทเรียนจากพวกเขาและร�ำลึกถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ประทานให้แก่เรา” อับดุลอะซีซจึงเงียบลงและคิดถึงสภาพของผู้ป่วยด้วยโรค ทางจิต ผมรับรู้ได้เลยว่าเขาเศร้า อับดุลอะซีซเป็นคนที่อ่อนไหว ทางความรู้สึกมาก เขาพาผมไปยังโรงพยาบาล เราเข้าไปใกล้ตึก ที่ลักษณะคล้ายถ�้ำ มีต้นไม้อยู่รายล้อมทุกมุม และความหดหู่ก็ ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน เราเข้าไปหาคุณหมอท่านหนึ่ง ท่านให้การต้อนรับและพา เราไปเดินดูรอบโรงพยาบาล คุณหมอเริม่ เล่าให้พวกเราฟังถึงคนไข้ ที่เข้ามารักษา ท่านบอกว่า “ข้อมูลที่ได้ฟังมาไม่เหมือนกับสิ่งที่เรา 37


เห็นด้วยตาจริงๆ หรอกครับ” ท่านเดินไปพร้อมกับพวกเราตามทาง เดิน เราได้ยินเสียงคนโหวกเหวกโวยวายตลอดทางนั้น ห้องของคนไข้อยู่เรียงรายตามทางเดิน เราเดินไปที่ห้อง หนึง่ ทางขวามือ ผมมองเข้าไปในนัน้ มีเตียงว่างอยูม่ ากกว่าสิบเตียง แต่มเี ตียงหนึง่ มีผชู้ ายนอนอยู่ มือและเท้าของเขาสัน่ ไม่หยุด ผมหัน ไปหาคุณหมอและถามท่านว่า “เขาเป็นอะไรครับ?” ท่านตอบว่า “เป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งครับ เขาเป็นโรคลมบ้าหมู เขาจะชักทุก ห้าถึงหกชั่วโมง” ผมบอกว่า “ลาเฮาละวะลากูวะตะอิลลาบิลละฮฺ เขาเป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วครับ?” ท่านตอบ “มากกว่าสิบ ปี” ค�ำตอบนั้นท�ำให้ผมต้องกลั้นน�้ำตาเอาไว้แล้วเดินต่อไปเงียบๆ เมือ่ เดินต่อไปสักระยะ เราเดินผ่านอีกห้องหนึง่ ซึง่ ประตูถกู ล็อกไว้ ที่ประตูมีช่องให้คนนอกส่องดูคนข้างใน ผู้ชายที่อยู่ในห้อง นั้นก�ำลังท�ำท่าทางอะไรก็ไม่รู้ ผมพยายามที่จะส่องเข้าไปดูในห้อง ผนังและพื้นห้องเป็นสีน�้ำตาล ผมถามคุณหมอว่า “เขาเป็นอะไร ครับ?” ท่านตอบว่า “เป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งน่ะ” ผมรู้ว่าหมอ พูดหยอกผมเล่น ผมจึงพูดว่า “ผมรู้ครับว่าเขาป่วยด้วยโรคทาง จิต ถ้าเขาปกติก็คงไม่มาอยู่ที่นี่ แต่ว่าเรื่องราวเขาเป็นมาอย่างไร หรือครับ?” ท่านจึงเล่าว่า “ชายคนนี้ เมื่อไหร่ที่เขาเห็นก�ำแพง เขาจะ โกรธหัวฟัดหัวเหวีย่ งแล้วเริ่มตีกำ� แพงด้วยมือ บางครั้งก็ใช้ขา และ 38


บางครั้งก็ใช้หัวของตัวเอง! วันนี้นิ้วของเขาอาจจะหัก วันต่อมาขา ของเขาอาจจะหัก วันต่อมาหัวของเขาอาจจะแตก เราไม่สามารถ ที่จะรักษาเขาได้ เราจึงต้องกักตัวหรือขังเขาไว้ในห้องแบบที่คุณ เห็นนี่แหละครับ ส่วนก�ำแพงและพื้นก็ต้องบุด้วยฟองน�้ำเพื่อที่เขา จะได้ทุบตีตามต้องการ” จากนั้นคุณหมอก็เงียบไปแล้วเดินน�ำทางพวกเราต่อ ส่วน ผมกับคุณอับดุลอะซีซ เพื่อนของผมนั้น เรายังคงยืนนิ่งและพึมพ�ำ ว่า “อัลฮัมดุลลิ ลาฮฺ ทีอ่ ลั ลอฮฺทรงปกป้องเราจากสิง่ ทีพ่ ระองค์ทรง ทดสอบคนอื่นๆ”!

หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไป เราผ่านห้องคนไข้หลายห้อง มี ห้องหนึง่ ไม่มเี ตียงอยูใ่ นนัน้ แต่มคี นอยูใ่ นนัน้ มากกว่า 30 คน แต่ละ คนก็มีอาการ (ทางจิต) ที่แตกต่างกันไป คนหนึ่งก�ำลังอะซาน อีก คนก�ำลังร้องเพลง คนทีส่ ามเดินวนไปรอบๆ ส่วนอีกคนก็กำ� ลังเต้น 39


ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ มีชายสามคนนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยถูกมัดมือมัด เท้าเอาไว้ ส่วนคนอื่นๆ ก็เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวเขา สามคนทีน่ ั่งอยู่ พยายามที่จะขยับตัวเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ท�ำไม่ได้ ผมแปลกใจจึงถามคุณหมอว่า “แล้วคนตรงนั้นล่ะครับ ท�ำไมพวกเขาถึงถูกมัดไว้ไม่ให้อยู่ร่วมกันคนอื่นๆ?” ท่านตอบ ว่า “พวกเขาจะท�ำร้ายทุกอย่างที่เขาเห็นตรงหน้า พวกเขาจะพัง กระจก อะแดปเตอร์ ประตู เราจึงต้องมัดพวกเขาไว้ครับ” ผม พยายามกลั้นน�้ำตาแล้วบอกว่า “พวกเขาอยู่แบบนี้มากี่ปีแล้ว ครับ?” ท่านตอบพลางชี้มือประกอบว่า “คนนี้อยู่แบบนี้มาสิบปี แล้ว ส่วนคนนั้นเจ็ดปี ส่วนอีกคนเพิ่งมาใหม่ อยู่มายังไม่ถึงห้าปี ครับ” ผมออกจากห้องของคนไข้กลุ่มนี้ พลางคิดถึงสภาพของ พวกเขาและขอบคุณอัลลอฮฺที่ปกป้องผมจากสิ่งที่พระองค์ทรงให้ ประสบแก่พวกเขา จากนัน้ ผมถามคุณหมอต่อไปว่า “ทางออกของโรงพยาบาล อยูท่ างไหนครับ?” ท่านบอกว่า “ยังเหลืออีกห้องนะครับ บางทีคณ ุ อาจจะได้บทเรียนใหม่ๆ จากที่นั่น ตามผมมาสิ” ท่านคว้ามือผม แล้วเราก็ไปที่ห้องใหญ่ห้องหนึ่ง ท่านเปิดประตูแล้วเข้าไปในห้อง โดยดึงตัวผมเข้าไปด้วย ในห้องนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนกับสิ่งที่ผมได้ เห็นในห้องก่อนๆ ไม่มีกลุ่มคนไข้ ไม่มีใครเต้น ไม่มีใครนอน ไม่มี 40


อะไรแบบนั้นเลย! ผมแปลกใจกับสิ่งที่เห็นมาก! ผมเห็นชายอายุมากกว่าห้า สิบปี ศีรษะเต็มไปด้วยผมหงอก เขาก�ำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้น เขา มองมาทางพวกเราด้วยดวงตาว่างเปล่าก่อนที่จะทรุดตัวลง และ หันหลังให้ด้วยความกลัว อย่างไรก็ดี สิ่งที่ท�ำให้ผมตกใจจริงๆ ก็คือชายคนนั้นอยู่ใน สภาพเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าหรืออะไรเลยปกปิดสิ่งพึงสงวนของ เขา หน้าผมเปลี่ยนสีแล้วผมก็หันไปหาคุณหมอทันที เมื่อท่านเห็น ว่าผมไม่พอใจอย่างมาก ท่านจึงกล่าวกับผมว่า “ใจเย็นๆ อย่าเพิ่ง โกรธสิครับ ผมจะอธิบายอาการของเขาให้คุณฟัง เมื่อไหร่ที่เราใส่ เสื้อผ้าให้เขา เขาจะใช้ฟันกัดเสื้อผ้า ฉีกมันขาด แล้วพยายามกลืน ลงคอ ในหนึง่ วันเราเคยใส่เสือ้ ผ้าให้เขามากกว่าสิบชุด ซึง่ ทุกครัง้ ก็ จะจบลงแบบทีเ่ ล่าให้ฟงั เราจึงปล่อยเขาไว้แบบนีไ้ ม่วา่ จะหน้าร้อน หรือหน้าหนาว” จากนั้นผมก็ออกจากห้องเพราะไม่สามารถที่จะทนได้อีก ต่อไป ผมบอกกับคุณหมอว่า “ทางออกอยู่ไหนหรือครับ บอกผม หน่อย” ท่านบอกว่า “ยังมีอีกหลายแผนกนะครับที่คุณยังไม่ได้ไป ดู” แต่ผมขัดขึ้นว่า “สิ่งที่เราได้เห็นก็เพียงพอแล้วครับ” คุณหมอ จึงน�ำเราไปยังทางออกโดยมีผมเดินอยูข่ า้ งๆ เราเดินผ่านห้องคนไข้ ห้องแล้วห้องเล่าไปอย่างเงียบๆ 41


แล้วจู่ๆ คุณหมอก็หันมาทางผมเหมือนกับว่าท่านนึกอะไร ออก ท่านบอกว่า “เชคครับ ชายคนแรกเขาเคยเป็นพ่อค้าใหญ่มา ก่อน มีเงินเป็นร้อยๆ ล้าน แต่เขาไม่เต็มบาท ลูกๆ จึงพาเขามา ทิ้งไว้ที่นี่สองปีแล้ว! ส่วนชายคนต่อมาที่เราเจอเคยเป็นวิศวกรใน บริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนคนที่สามก็ท�ำ (แล้วท่านก็บอกอาชีพของเขา) มาก่อน” แล้วคุณหมอก็เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับความตกต�่ำของคนที่ เคยมีเกียรติมาก่อน เช่นเดียวกับคนทีว่ นั นีย้ ากจน ทัง้ ๆ ทีก่ อ่ นหน้า นี้เขาร�่ำรวยมหาศาล ผมเดินอยู่ท่ามกลางห้องผู้ป่วยพลางคิดใคร่ครวญ มหา บริสุทธิ์แด่พระองค์ผู้ทรงประทานปัจจัยยังชีพให้แก่ปวงบ่าวของ พระองค์ พระองค์ทรงให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรง ปฏิเสธทีจ่ ะไม่ให้แก่ผทู้ พี่ ระองค์ทรงประสงค์ พระองค์อาจประทาน ความจ�ำเริญให้แก่คนๆ หนึง่ ด้วยทรัพย์สนิ ชือ่ เสียง เกียรติยศ และ ต�ำแหน่งหน้าทีก่ ารงานดีๆ แต่พระองค์กอ็ าจจะเรียกเก็บสติปญ ั ญา ของเขาคืนไปก็ได้ คุณอาจพบใครบางคนที่ร�่ำรวยที่สุด มีร่างกายก�ำย�ำที่สุด แต่เขากลับต้องถูกกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลจิตเวช พระองค์อาจ ประทานความจ�ำเริญให้แก่คนๆ หนึ่งด้วยตระกูลที่ดี ทรัพย์สิน มากมาย และสติปัญญาล�้ำเลิศ แต่พระองค์ทรงริบสุขภาพที่ดีออก ไปจากเขา คุณจึงได้เห็นเขานัง่ อยูบ่ นเตียงยีส่ บิ สามสิบปี ทรัพย์สนิ หรือวงศ์ตระกูลของเขาจึงไม่ให้ประโยชน์ใดๆ แก่เขาเลย 42


ในหมู่มนุษย์ มีคนที่อัลลอฮฺทรงประทานสุขภาพ พละ ก�ำลัง และสติปัญญาที่สมบูรณ์ให้แก่เขาแต่พระองค์ทรงห้ามเขา จากทรัพย์สิน ดังนั้นคุณจึงได้เห็นเขาแบกหามของตามตลาดหรือ เห็นเขาเป็นคนยากไร้ใช้ชีวิตแบบกัดก้อนเกลือกิน แทบไม่มีอะไร ประทังชีวติ และในหมูม่ นุษย์กม็ คี นทีอ่ ลั ลอฮฺทรงให้บางสิง่ และทรง ห้ามอีกบางสิง่ พระผูอ้ ภิบาลของท่านนัน้ ทรงสร้างสิง่ ทีพ่ ระองค์ทรง ประสงค์ และทรงเลือกตามพระประสงค์ของพระองค์ ดังนัน้ เป็นการสมควรแก่ผปู้ ระสบเภทภัยทุกคนทีจ่ ะร�ำลึก ถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺทเี่ ขาเคยได้รบั ก่อนทีเ่ ขาจะนับทุกข์ ภัยต่างๆ ที่เขาประสบในวันนี้ หากอัลลอฮฺทรงห้ามท่านจากทรัพย์สินเงินทอง พระองค์ ก็ ยั ง ทรงประทานสุ ข ภาพที่ ดี ง ามให้ แ ก่ ท ่ า น และหากอั ล ลอฮฺ ทรงถอดถอนสุขภาพที่ดีไปจากท่าน พระองค์ก็ยังทรงประทาน สติปัญญาให้แก่ท่าน และหากว่าสติปัญญาสูญหายไปจากท่าน แน่นอน พระองค์กย็ งั ทรงประทานอิสลามให้แก่ทา่ น ขอแสดงความ ยินดีดว้ ยครับ และขอให้ทา่ นใช้ชวี ติ ด้วยอิสลาม และตายลงบนดีน นี้

ถึงตรงนี้แล้วก็พูดออกมาดังๆ เถอะครับ– อัลฮัมดุลิลลาฮฺ!

43


ผลงานที่ผ่านมาของส�ำนักพิมพ์

หมด

หมด

ในเงากระจก

ปลุก

หมด

หมด

ให้หัวใจได้พักผ่อน (พิมพ์ครั้งที่ 2)

ณ ที่ว่างเปล่า และบริสุทธิ์

หมด

หมด

หมด

แบบฝึกคัดอาหรับ "อัลละมะบิลเกาะลัม"

อย่าท้อถอย สร้อยเศร้า เลยเจ้าเอย

หยาดน�้ำตา แห่งความย�ำเกรง

หมด

บันทึกเราะมะฎอน 1432 "ละอัลละกุมตัตตะกูน"

หมด ผู้หญิงกับการญิฮาดและ การท�ำงานรับใช้อิสลาม


หมด

หมด

ณ ดินแดนดาวดื่น ชั่วคืนเดียว

ท่องไปในอัลกุรอาน

หมด แก่นแท้ความอดทน

เธอผู้อยู่เคียงข้าง ท่านเราะสูล (1)

เรื่องที่คุณ ไม่รู้ว่าท�ำไม

สารจากเรือนจ�ำ แห่งความหวัง

คู่มือท่องจ�ำอัลกุรอาน

ข้อแนะน�ำ ส�ำหรับดาอีย์

อิบนุตัยมียะฮฺ ที่ข้าพเจ้ารู้จัก


ปฏิสัมพันธ์อย่างไร จับใจมวลชน

เธอผู้อยู่เคียงข้าง ท่านเราะสูล (2)

ด้วยอิสลาม ฉันจึงผลิบาน

อัลฟะวาอิด

หะยาตัน ฏ็อยยิบะฮฺ ชีวิตดีเพราะมีอิสลาม

ละหมาดอย่างไร ให้มีความสุข

ท่านสามารถสั่งซื้อหนังสือของส�ำนักพิมพ์มิรอาตได้ที่ www.facebook.com/miratbook และสามารถอ่านตัวอย่างผลงานได้ที่ ww.issuu.com/miratbooks


“¨ÐÇÔàÈÉ¢¹Ò´ä˹ àÁ×èÍÍÑÅÅÍÎڷç·´Êͺº‹ÒǢͧ¾ÃÐͧ¤ áŌǾÃÐͧ¤ ¡ç·Ã§ÁͧࢌÒä»ã¹ËÑÇ㨢ͧà¢Ò áÅоºÇ‹Òã¹¹Ñé¹ÁÕ¤ÇÒÁ¡µÑÞ ÙÃÙŒ¤Ø³ ¤ÇÒÁ¾Í㨠áÅФÇÒÁËÇѧã¹ÃÒ§ÇÑÅ ³ ·Õè¾ÃÐͧ¤ ÍÂًໂ›ÂÁàµçÁ?!”

[ªÑ¤ÚÁØÎÑÁÁÑ´ ÍÑÅÍÐÃÕ¿‚ÂÚ]

ISBN 978-616-413-198-9

ÃÒ¤Ò 170 ºÒ·


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.