M society - Issue 12 / THE ROYAL PROJECT AGRICULTURAL SECURITY GUARD

Page 1




CONTENTS

develoment Prototype

M Society oct - dec 2013

agricultural ProtectorÊÊ foundation

‘ศูนย์อารักขาพืช’ ผูพ้ ทิ กั ษ์พชื ของโครงการหลวง

14

ครัวห้องใหญ่ของเชฟผูม้ หี วั ใจอาสา

32

KhaoÊY aiÊa ndÊP rovence,Ê SimilarÊS erenitYÊo fÊ twoÊ memorieSÊ

40

theÊK itchenÊ ofÊ aÊ charitableÊ chefÊ

เขาใหญ่ และโพรว็องซ์ หนึ่งความสุข สองความหมาย

allÊ forÊ mYÊ countrY

หน้าที่นี้เพื่อ ‘ชาติ’

24

PaPerÊ toleÊ theÊ handmadeÊ beautYÊ

‘Paper Tole’ มิติความงามของงานท�ามือ

50


Volume 3 • Issue 12

กรรมการผู้จัดการ Managing Director : มร. ฟิลิป ฮอลล์ Philip Hall บรรณาธิการที่ปรึกษา Advisory Editor : พนิดา เค ฮอลล์ Panida K. Hall บรรณาธิการ Editor : ธนวัฒน์ ช่างสาร Thanawat Changsarn กองบรรณาธิการ Editorial Staff : อดุล แวงมล Adul Waengmol เอวาลิน เบลี่ย์ น�้าฟ้า Evelyn Bailey Namfar ดวงทิพย์ ลีนุตพงษ์ Duangtip Leenutapong พฤฒิ อิสราก�าพต Purti Isarakamphot ประสานงานกองบรรณาธิการ Co-ordinator : พรทิพย์ เพ็ญสมบุญ Porntip Pensomboon ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Marketing Manager : พราวรวี โตวิจิตร์สิน Proudrawee Tovijitsin ผู้อ�านวยการฝ่ายศิลป์ Art Director : ปริญญ ปรังพันธ์ Prin Prangpan ศิลปกรรม Graphic Designer : อัษฎาวุธ เสาวภาคสุนทร Ausdawuth Saowapaksoontron ช่างภาพ Photography : ก้องกานต์ สุจิระสิงหะกุล Kongkarn Sujirasinghakul

Published by Punch Media (Thailand) Company Limited 8th Floor, PB Tower Building 1000/25 Sukhumvit 71 Road Klongtonnua, Wattana, Bangkok 10110 Tel. +66 (0) 2713 3970 Fax. +66 (0) 2713 3979

จัดท�าโดย บริษัท พันช์ มีเดีย (ประเทศไทย) จ�ากัด ส�านักงานชั้น 8 อาคารพีบีทาวเวอร์ เลขที่ 1000/25 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0 2713 3970 โทรสาร 0 2713 3979

Magnolia Quality Development Corporation Limited 695 Sukhumvit 50, Prakanong, Klongtoey, Bangkok 10260 Tel. +66 (0) 2742 9141 Fax +66 (0) 2742 8314 “หนังสือฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ากัด” “This Magazine is under the Administration of Magnolia Quality Development Corporation Limited” บริษัท พันช์ มีเดีย (ประเทศไทย) จ�ากัด ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดพิมพ์หรือท�าซ�้านิตยสารฉบับนี้ ข้อเขียน รูปภาพ และบทความทั้งหมดในนิตยสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นและมุมมองของผู้เขียนโดยตรง ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท พันช์ มีเดีย (ประเทศไทย) จ�ากัด และ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ากัด No part of this magazine may be reprinted without prior written permission from Punch Media (Thailand) Company Limited and Magnolia Quality Development Corporation Limited. The opinions and views of the writers are not necessarily the views of the publisher. The Editor reserves the right to accept, reject or amend any submitted artwork, photographs, illustrations and manuscripts.


6

JUST WANT TO SAY HI!

LIFE AND WORK ตลอดปีที่ผ่านมา นิตยสาร M Society ทั้ง 4 ฉบับ ตั้งใจน�าเสนอ สาระเชิงสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านเสมอมา ภายใต้ ปรั ช ญาเนื ้อ หาที ่ว ่ า THINK AND CREATE FOR HUMAN SUSTAINABILITY ในโอกาสที่ได้พบคุยกับผู้อ่าน ทั้งที่เป็นเพื่อนในชีวิตรวมถึงมิตร ตัวหนังสือ เขาเหล่านั้นมักชื่นชมในอาชีพคนท�าหนังสือ ไม่ว่าจะด้วย เหตุผลของการได้เดินทางไปในแต่ละสถานที่ หรือการได้พบปะผู้คน ที่พร้อมจะส่งต่อแรงบันดาลใจ ซึ่งอย่างหลังถือเป็นการเดินทางภายใน ที่น�าทางให้พบเจอขุมทรัพย์แห่งประสบการณ์ บางประโยคจากบางเรื่องเล่าของเหล่าคนต้นฉบับ เป็นเหมือน ต�าราที่กลั่นกรองจากบทเรียนชีวติ มุมมองความคิด วิถกี ารด�าเนินชีวติ ของแต่ละบุคคลที่ให้เกียรติถ่ายทอดไว้ในนิตยสาร เมื่อประมวลถึงผล ที่ได้รับจากงานที่รับผิดชอบ ผมเริ่มเข้าถึงความรู้สึกของสิ่งที่ผู้คนมีต่อ อาชีพนี้บ้างแล้ว นับว่าเป็นความโชคดีที่คนเราจะได้เรียนรู้ชีวิตควบคู่ไปกับการ ท�างาน ซึ่งผมเชื่อว่าทุกอาชีพยึดถือแนวคิดนี้ได้ เห็นได้จากตัวอย่างของ บุคคลต้นแบบหลายต่อหลายคนที่เคยน�าเสนอไปแล้วในฉบับที่แล้วๆ มา รวมถึงทุกเนื้อหาที่รวบรวมไว้แล้วภายในฉบับนี้ ไม่วา่ จะเป็นด็อกเตอร์ ผูส้ ละเวลาเกินครึ่งของชีวติ เพื่องานปกป้องแปลงเกษตรของโครงการหลวง หมอพืชผู้พักความฝันส่วนตัวเพื่อรับผิดชอบภารกิจเพื่อส่วนรวม นักวิศวกรรมเคมีที่เบนเข็มจากการงานระดับโลกเพื่อกลับมาท�างาน แทนคุณประเทศ กระทั่งเชฟหนุ่มแห่งโปรเจกต์เลอ ทัวร์ เดอ อ่างขาง หรืออดีตหัวหน้าฝ่ายศิลป์ที่เอาจริงเอาจังกับการถ่ายทอดเอกลักษณ์ ไทยผ่านงานศิลป์เปเปอร์โทล เรื่องราวทั้งหมดที่คณ ุ จะได้อา่ นจาก M Society ฉบับนี้ จะช่วยปักหมุด ความเชื่อว่าเราต่างหาความสุขได้จากการท�างาน และงานก็เป็นส่วนหนึ่ง ของการเรียนรู้ชีวิต ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตและมีความสุขกับการท�างาน...สวัสดี

For these past 4 years and in every issue of M Society, we have endeavored to bring our readers useful and creative content with the main concept in mind being THINK AND CREATE FOR HUMAN SUSTAINABILITY. When I’ve had the chance to talk with our readers, they tell me they admire the people who work behind the scene on this magazine. Not only do we have the chance to travel to different places and meet inspirational characters, but also we have the chance to finally find a treasure trove of experiences. Some phrases in some of the articles of people we’ve interviewed, we have found intriguing fact of lifes - we call all actually learn from the things these talented talked about, because they’ve been through a lot more than most of us. And it is such an honor for me to get to leanr these lessons from them and I really do respect their careers and life perspectives. Luckily we all get to learn more about life while we’re working and I personally think every occupation is like that. Because I’ve seen very good examples from many role models of whom I’ve presented in prior issues and also on this issue. There is the Ph.D. graduate who sacrificed over half a lifetime to protect Thailand’s Royal Project Agricultural, a Plant Doctor who decided not to follow his dream and chose instead to work for the public, the chemical engineer who used to work for international projects but chose to give back to the home country by working for the government, the bright young chef who volunteered for a Royal Project event while running his own business and the former creative director who took his dream seriously to portray traditional Thai art through Paper Tole. All these things are all in this issue and you will find that we all can find happiness in the work we do; after all, working is the best way to learn about life. Have fun living and working…. Ciao! ธนวัฒน์ ช่างสาร Thanawat Changsarn EDITOR


7 Look for Us at And 500 other places... Bakery

hotel

restaurant

other

Royal Orchid Lounge

international school sPa

hosPital

ติดต่อโฆษณา บริษัท พันช์ มีเดีย (ประเทศไทย) จ�ำกัด ส�ำนักงำนชั้น 8 อำคำรพีบีทำวเวอร์ เลขที่ 1000/25 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนำ กทม. 10110 โทร. 0 2713 3970 โทรสำร 0 2713 3979 Advertising Contact Punch Media (Thailand) Company Limited 8th Floor, PB Tower Building 1000/25 Sukhumvit 71 Road Klongtonnua, Wattana, Bangkok 10110 Tel. +66 (0) 2713 3970 Fax. +66 (0) 2713 3979


8

9

CALENDAR OCT-DEC 2013

FEaTurED PiCks ThE 8th Chiang Mai MaraThOn 2013 cHIANG MAI 22 Dec 13

MElODy OF rivEr 2 MusiC FEsTival MIDA ReSORT KANcHANABURI 30 NOv 13

ดื่มด�่ากับคอนเสิร์ตริมสายน�้า ไอดิน และกลิ่นหมอก จากบทเพลงที่ขบั กล่อมในท่วงท�านองธรรมชาติ การแสดง ดนตรีจาก 12 ศิลปิน ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ มูลนิธิ ช.ช้างชรา จ.กาญจนบุรี นั่นท�าให้ไม่มเี หตุผลใดที่จะ ปฏิเสธการเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศแห่งความสุขนี้ Experience the serenity of a concert closes to the river where the mist lifts and reveals great music will be performed by 12 artists. Also, a donation of ticket sales will be made to Elephant's World Foundation, Kanchanaburi

7Th MusiC FEsTival SUAN MOKKH, BANGKOK 30 NOv 13

นิทรรศการภาพถ่าย บุคคลจากโครงการ New Heart New World 2 พร้อมการเสวนาหัวข้อ ‘ตื่นเพื่อตนเอง ตื่นเพื่อ ผูอ้ ่นื ’ โดยแขกรับเชิญสุดพิเศษจากโครงการ นอกจากนี้ยงั มี กิจกรรมจิบน�้าชากับ ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ -และการแสดง ดนตรีจากโรงเรียนตาบอดลพบุรี และตลาดนัดอาสา The opening of the New Heart New World Project will be held at Suan Mokkh, Bangkok, on 30 November. The exhibition will feature a Portrait Photography Exhibition from New Heart New World 2 as well as the 'Awake for Yourself, Awake for Others' discussion with special guests invited to the project. Other highlights include the chance to join a high tea party with Dr. Woraphat Phuchareon and a concert from the Lopburi School for the Blind Band, plus shopping at the 'Volunteer Market'.

ayuTThaya WOrlD hEriTagE anD rED CrOss Fair AYUTTHAYA 1 – 31 Dec 13

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัตศิ าสตร์ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในบรรยากาศ งานเฉลิมฉลองเมืองมรดกโลก ภายใต้ ชื่องาน ‘ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก’ สัมผัสบรรยากาศวิถชี วี ติ สมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมอาหารคาวหวาน ชมแสง เสียง และ การแสดงอืน่ ๆ ณ บริเวณอุทยานประวัตศิ าสตร์ พระนครศรีอยุธยา

MOviEs EPiC 2013

เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอน จากเส้นทางที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ของเชียงใหม่ กิจกรรมออกก�าลังกาย ที่จะท�าให้สขุ ภาพกายและใจของคุณ แข็งแรงไปพร้อมกัน ทั้งนี้ รายได้จาก การเดิน – วิ่งเฉลิมพระเกียรติชว่ งระยะ ทาง 3 กม. สมทบเข้ากองทุน โรงเรียน เมตตาศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ This marathon race follows an iconic route through Chaing Mai, but for less you can boost your stamina to a new level and improve your heart and your health by walking the shorter 3 kilometer route. Funds raised will go to the Metta Sukka School

Big MOunTain MusiC FEsTival 5th BONANZA KHOA YAI 07 - 08 Dec 2013

เทศกาลดนตรีกลางอ้อมกอดธรรมชาติ... มัน ใหญ่ มาก 5 ชื่อตอน ‘มาเล่นกันเถอะ’ คอนเสิร์ตที่มีสีสันมากกว่าแค่การฟังเพลง อีกครั้งที่คณ ุ จะได้ใช้ชวี ติ กลางแจ้งในค�า่ คืน สุดเหวี่ยงไปกับคนรู้ใจ

นี่คอื ภาพยนตร์ Animation ชั้นยอด ประจ�าปี 2013 ที่คณ ุ ไม่ควรพลาด เพราะ ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเปลี่ยนมุมมองชีวิตที่ ผู้ชมมีต่อสิ่งแวดล้อมไปตลอดกาล The animated movie of 2013 that you should not miss!!! This movie is sure to change your outlook on the environment forever.

This is a music festival within the heart of the forest – in part called “Let’s Play” – which is more than just listening to live bands but experiencing the wilderness with your loved ones

During December, the World Heritage site of Pranakorn Sri Ayutthaya province, under “Yo Yos Ying Fah Ayutthaya World Heritage’ takes centre stage with two exceptional fairs

BOOks

ThE susTainaBlE asian hOusE

เทคนิคการสร้างและตกแต่งบ้านที่กลมกลืน กับสิ่งแวดล้อมและแนวคิดการออกแบบที่เน้น ความยั่งยืน จากสถาปนิกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ Home building techniques to blend in with the environmental statement of South East Asia. The ideas keep the old traditional ideas and pull in the modern twists.

OvErCOaT MusiC FEsTival 2013 KHAO KHO, PHeTcHABUN 07 Dec 13

เทศกาลดนตรีที่จะพิสูจน์ว่า ความรัก ความสุข และดนตรี คือสิ่งที่ชว่ ยสร้างความ อบอุน่ ได้ดที ่สี ดุ Overcoat Music Festival 2013 คอนเสิร์ตที่อบอุ่นด้วย 18 ศิลปิน ที่จะชวนคุณก�าจัดความหนาวด้วยเสียงเพลง ท่ามกลางทะเลหมอก This music festival proves that our love of music and happiness is best shared with a warm overcoat and there is no better place to experience this than at the Overcoat Music Festival 2013 where 18 artists will play a selection of songs to chase the coldness of winter away

sanTOrini Park COnCErT anD Carnival 2013 SANTORINI PARK cHA-AM Full MOOn MEDiTaTiOn nighT SUAN PATHUMwANANURAK 17 Dec 2013

งานปฏิบตั บิ ชู า 'ญาณสังวร' พุทธศักราช 2556 ภาวนาคืนวันเพ็ญ ฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระ สังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อม สวดมนต์นั่งสมาธิ เสาวนาธรรม และชม การแสดงดนตรีสดจากศิลปินในโครงการ Come and experience the “Yannasangworn" Ceremony 2013 – a Full Moon Meditation Night to celebrate the 100th birthday of H.H. Somdet Sangharaja. Group Meditation and a live concert from the project's artists.

21 Dec 2013

เทศกาลดนตรีท่มี สี สี นั ที่สดุ แห่งปีท่จี ะชวนผูช้ มสนุก ไปกับช่วงเวลาสุดแสนโรแมนติก จากโชว์ทักษะดนตรี ของศิลปินมากมาย อาทิ เช่น Room39, เจ เจตริน, Lipta, เบน ชลาทิศ, โต๋ ศักดิ์สทิ ธิ์, คิว วงฟลัวร์, ตู่ ภพธร เป็นต้น ติดตามรายละเอียดได้ที่ facebook.com/ thanksentertainment The most colorful music festival of the year will take you to the most romantic experience of your life. With talented artists such as Room39, J Jetrin, Lipta, Ben Chalatit, Q Flure, Tu Pooptorn and more performing, it is sure to be a fab event. For further information, check out www.facebook.com/thankentertainment

CliP

TrEE COnCErT

Tree Concert คือโปรเจกต์ระดมทุน สนับสนุนโครงการรักษาต้นไม้ โดยการสร้าง เสียงดนตรีจากผลเกาลัดที่ตกกระทบอุปกรณ์ ที่ติดตั้งไว้ตรงโคนต้น Tree Concert which supports ‘save the city’s trees’ in Germany. The concert is performed by chestnut trees with special equipment that allows the trees to take part as falling chestnuts interact with geometricly shaped instruments.


10

11

What’s neW product

Story by Editorial Team

me.we concept car by TOYOTA

moBimex4 taBle by MOBIMEX

Eco- Car ที่ช้นิ ส่วนผลิตจำก Polyphytene ที่สำมำรถรีไซเคิลและถอดประกอบ ได้ทั้งคัน

โต๊ะดีไซน์แบบมินมิ อลที่ดเู รียบง่ำยแต่ซอ่ นควำม แข็งแรงไว้ด้วยวัสดุไม้

Eco-Car with Polyphytene - recyclable material - and the whole car is replacable piece by piece

EcoÊP icks

Shell arm chair angle by Baker เก้ำอีส้ ไตล์คลำสสิกออกแบบ พนักพิงเป็นทรงเปลือกหอย ช่วยโอบรับกับกำรนั่งอย่ำง ลงตัว Classic chair with the shell-like designed to create the perfect sentimental seat

ในอดีตโลกเคยชื่นชมนักออกแบบที่ทำ� งำนเพื่อให้โปรดักท์สำมำรถ ตอบโจทย์ฟงั ก์ช่นั กำรใช้งำนที่คมุ้ ค่ำ แต่ในปัจจุบนั สิ่งที่จะท�ำให้ผคู้ น จดจ�ำชื่อของดีไซเนอร์และผลงำนของพวกเขำไปได้อกี นำน อำจหมำยถึง ไอเดียสร้ำงสรรค์ที่ผสมผสำนไว้ซึ่งแนวคิดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือที่ เรียกว่ำ ‘Sustainable Design’ ซึ่งโปรดักท์ดีไซน์ที่คัดสรรมำรวมไว้ ในฉบับนี้ คือกำรพิสูจน์ว่ำงำนออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมไม่จ�ำเป็น ต้องมีรูปทรงเทอะทะ ดีไซน์ห่วย หรือผลิตขึ้นจำกวัสดุไร้ค่ำ

‘Join’ cutlerY by ding3000

Bolt clair + fondS by La Chance

ชุดช้อนที่กำ� จัดปัญหำกำรจัดเก็บ ได้อย่ำงเก๋ไก๋

เก้ำอีท้ กี่ ำรันตีรำงวัล Wallpaper* Design Award Winner งำนออกแบบที่น�ำเสนอไอเดียด้วยวิธี กำรง่ำยๆ

In the past, products that revealed a grand design and superior functionality were the order of the day, however today, the names of designers and the products they create are more likely to be remembered if their products are environment friendly and offer ‘Sustainable Design’. The products we’ve selected here for you prove that environment friendly products don’t need to be poorly designed or easy to throw away, but gorgeous and fun too!

Brave new world lamp by Moooi

Minimalist dining table that simplicity and brunt combined perfectly together.

No more stowage problems when all of the cutlery ‘joined’

Wallpaper* Design Award Winner guaranteed chair design, that shows iconic simplicity in design. Zarko BuBala by designbboom

โคมไฟจำกเศษไม้ท่ยี ดึ ต่อจนได้ดไี ซน์ เก๋ไก๋ ใช้หลักกำรยึดถ่วงของแท่งเหล็ก ช่วยในกำรปรับระดับ

จักรยำนไม้ไผ่ที่ไม่เพียงใช้วัสดุ จำกธรรมชำติ แต่ยงั ช่วยสร้ำงงำน ให้กับแรงงำนในประเทศก�ำลัง พัฒนำ

The lamp that made of wood scraps with incredible design that use the metal weight as the level-adjuster

Bicycle that made of bamboo and helps create the occupation for the developing country

BenttaBle by Talbott Interior โต๊ะสำรพัดประโยชน์ที่มำพร้อมกำรดีไซด์ ที่ดเี ยี่ยมผนวกกับฟังก์ช่นั ที่ดำ้ นข้ำงสำมำรถ วำงหนังสือได้ Multifunctional table with the bookcase on its side


12

What’s neW product

‘foreSt’ hookS by tomas kral + stéphane halmaivoisard ที่แขวนสำรพัดประโยชน์ จำกวัสดุเหลือใช้ ผ่ำนกำร ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ ฟังก์ช่นั กำรใช้งำนแบบง่ำยๆ Simply design with multifunction hanger that made from the material scraps

puShpin cork by Cooima

dog pod lounge by VURV Design

เก้ำอีจ้ ำกเศษไม้โอ๊คที่น้ำ� หนักเบำแต่ถกู ขึ้นรูปด้วยเทคนิคพิเศษจนมีควำม ทนทำน

เตียงส�ำหรับสุนัขตัวโปรด ที่ใช้ไม้เมเปิล้ ขึ้นรูปด้วยกำร ดัดมือจำกช่ำงช�ำนำญกำร ชำวแคนำดำ

Chair that made of oak wood scraps with the lighter weight and mold with the special techniques

Dog’s pod that made of maple that molded by profession craftsman from Canada

Jufuku BamBoo furniture by Kenyon Yeh งำนฝีมือได้เปลี่ยนให้ไม้ไผ่ กลำยเป็นเฟอร์นเิ จอร์สไตล์ โมเดิร์นมำกคุณค่ำ

คนต้นฉบับ

Craftswork that turned bamboo to the modernist furniture with plenty of value

cover story • executive interview • whizdom


14

15

COVER STORY

Story by Pong Pripwai / Photo by Phromwiharn Bumroongthin

AgriculturAl

ProtectorÊÊF oundAtion The Royal PRojecT agRiculTuRal SecuRiTy guaRd

‘ศูนย์อารักขาพืช’ ผู้พิทักษ์พืชของโครงการหลวง “เราไม่ต้องบังคับเขาแต่เราท�าให้เขาดู ชักชวนพวกชาวเขามาปลูกพืชเมืองหนาวที่ข้างล่างปลูกไม่ได้” พระราชด�ารัสของพระเจ้าอยู่หัวที่ตรัสกับ คณะท�างานในโครงการหลวง ปลายทางของการเอาใจใส่คุณภาพผลผลิตจากโครงการหลวง ไม่ใช่เพียงรู้สึกว่าต้องผลิตเพือ่ ขาย หากแต่ บนเส้นทางการท�างานของคณะท�างานโครงการหลวง ปลายทางที่แท้จริงคือการสร้างคุณค่าและคุณภาพความเป็นอยู่ ของชาวเขาทุกชีวิตให้ดีขนึ้ และดอกผลจากการท�างานหนักยังเบ่งบานถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนอีกหลายล้านคน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ากกล่าวถึงความส�าเร็จของโครงการหลวง คงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเล่าย้อนถึงจุดเริ่มเล็กๆ ณ สวนสองแสน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงพระราชทานเงินสองแสนบาทไว้เป็นทุนเพื่อ จัดซือ้ ทีด่ นิ ส�าหรับทดลองวิจยั ปลูกไม้ผลเมืองหนาว ที่ดอยปุย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยให้คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ด�าเนินการ ต่อมางานได้ขยายไปดอยอ่างขาง ใน ต.ม่อนปิน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานที่กอ่ ตัวขึ้น จากสายพระเนตรอันยาวไกลจากพ่อแห่งแผ่นดิน เพื่อก�าจัดทุกข์ร้อนของประชาชน งานหลวงที่ เปลี่ยนแปลงไร่ฝน่ิ ของชาวเขาบนดอยให้กลายเป็น แปลงเกษตรที่สามารถเพาะปลูกไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก พืชไร่นานาชนิด ซึ่งไม่เพียงเลี้ยงดูครอบครัว ชาวเขาใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ล�าพูน แม่ฮ่องสอน และ พะเยา เท่านั้น หากแต่ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากวิถแี ห่งการปลูกพืช เมืองหนาว ยังส่งผลดีอย่างใหญ่หลวงต่อคุณภาพ

ชีวติ คนไทย กับการได้มวี ตั ถุดบิ ทางเกษตรเชิงคุณภาพ ไว้บริโภคอย่างสมบูรณ์สบื ต่อไป และส่งผลดีต่อ ประเทศไทย โดยลดการน�าเข้าของสินค้าดังกล่าว และยังเพิ่มรายได้ให้ประเทศโดยการส่งออก แต่กว่าจะออกมาเป็นผลิตผลที่มีคุณภาพสูง กระจายสูท่ อ้ งตลาดได้ เบื้องหลังของการได้มาด้วย ความพยายามท�างานยากบนหุบเขาของทีมงาน ศูนย์อารักขาพืช โดยมี รศ.ดร.นุชนาฏ จงเลขา ผู้หญิงร่างเล็กวัยเลยเกษียณให้เกียรติสนทนา อย่างเป็นกันเอง ฟังจากน�้าเสียงของผู้อ�านวยการ ศูนย์ฯ ยังรับรูไ้ ด้วา่ ท่านยังมีความสุขและสนุกกับงาน ที่รบั ผิดชอบ ไม่ตา่ งจากครั้งเริ่มนับหนึ่งที่ศนู ย์แห่งนี้ ในปี พ.ศ.2522 ดร.นุชนาฏคือบุคคลที่ทา� งานให้กบั โครงการหลวง มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่เป็นสาวไฟแรงหลังเรียน จบปริญญาเอก ด้านราวิทยา (Ph.D. in Mycology) จาก University of London at Wye College ไม่นานนัก เธออาสาน�าพาตัวเองเข้ามาอยูใ่ นชนบทไกลปืนเที่ยง

ท�างานหนักเพื่อถวายพระเจ้าแผ่นดิน อาจารย์จงึ เป็น อีกหนึง่ บุคคลคุณภาพที่น่าเคารพนับถือ ซึ่งเปรียบ ได้ด่งั รากอันแข็งแรงที่ทา� ให้ตน้ ไม้ใหญ่ผลิดอกผลได้ ทุกหนแห่งที่โครงการหลวงเดินทางไปถึง “อาจารย์เริ่มเป็นอาสาสมัครที่นี่มาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีกอ่ น ท�างานอาสากับโครงการหลวงมาจน ทุกวันนี้ ตอนที่อาจารย์ของเราเริ่มเข้ามาท�างานที่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีคณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เป็นอาสาสมัคร ท�างานวิจยั ให้กบั โครงการหลวง น�าตัวอย่างพืชที่เป็น โรคมาให้ตรวจวินิจฉัยโรคและขอค�าแนะน�า ต่อมา ได้พบอาจารย์อนงค์ จันทร์ศรีกลุ อดีตผูอ้ �านวยการ กองโรคพืชฯ กรมวิชาการเกษตร ขอให้ช่วยดูแล กล้องจุลทรรศน์ท่ใี นห้องปฏิบตั กิ ารในอาคาร 4 (ที่ศนู ย์ อารักขาพืชอยูป่ จั จุบนั ) ด้วยเกรงว่าจะขึ้นรา เพราะ ไม่มีคนใช้งาน (นักวิชาการอยู่กรุงเทพฯ นานๆ ครั้ง จะขึ้นมาปฏิบตั งิ านนอกพื้นที่) ตัวอาจารย์เองซึ่งเป็น ลูกศิษย์จึงขออนุญาตนับเป็นจุดเริ่มต้นของงานนี้


16

17

COVER STORY

สาเหตุท่ตี อ้ งมีทมี อารักขาพืชท�างานอยูใ่ นมูลนิธิ โครงการหลวงอาจารย์ให้เหตุผลว่า เนื่องด้วย ผลผลิตของโครงการหลวงมีมาตรฐานสูง จึงต้องมี กระบวนการให้ความรู้และคัดสรรสมาชิกหรือ เกษตรกรในโครงการ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องให้ความ ร่วมมือท�าตามกฎของโครงการ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ มีมาตรฐาน ตามแบบสากลไม่วา่ จะเป็นระบบ GAP (Good Agriculture Practice) ซึ่งเป็นมาตรฐาน ระดับสูง, Global GAP มาตรฐานระดับโลก และ Organic (พืชออร์แกนิก) ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ศูนย์อารักขาพืชจึงมีขึ้นเพื่อคอยตรวจสอบ และคอยช่วยเหลือเกษตรกร ให้เข้าใจกระบวนการ ของการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย โดยการวิเคราะห์สารตกค้างในผลิตผล จะใช้การ สุม่ ตรวจพืชผักของเกษตรกรที่สง่ ให้ศนู ย์ประจ�าทุกวัน โดยใช้ชุดตรวจสอบสารก�าจัดแมลง GT ผลิตโดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หากพบสารตกค้างจะถูกน�ามาวิเคราะห์ดว้ ยเครื่อง GC, GC-MS, HPLC และ LC-MS-MS เครื่องมือ ที่สามารถตรวจหาสารตกค้างชนิดต่างๆ ได้แม้จะมี ปริมาณน้อยมากถึงน้อยกว่าหนึ่งในล้านส่วน เพื่อ เป็นการรับประกันว่าพืชผักของโครงการหลวง ปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน “คือไม่ใช่เกษตรกรทุกคนบนดอยจะปลูกผักใน โครงการหลวงนะ ยังมีเกษตรกรจ�านวนมากที่ไม่ได้ เป็นสมาชิกของโครงการหลวง เพราะสมาชิกต้อง ให้ความร่วมมือท�าตามกฎระเบียบ คือถ้าใช้สารเคมี

ศูนย์อารักขาพืชที่ด็อกเตอร์คอยดูแลมีส่วน ส�าคัญอย่างมากในการสร้างความเข้าใจในด้าน การผลิตพืชให้ปลอดภัยต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และ สิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานสนับสนุนฝ่ายผลิตให้ ประสบความส�าเร็จ เรียกได้ว่าเป็นหน่วยงานที่ ท�างานปิดทองหลังพระให้กับโครงการหลวงมา ตลอดหลายสิบปี ภายใต้ปรัชญาการท�างานที่ ต้องการสนับสนุนการผลิตในพื้นที่โครงการหลวง ให้ได้มาตรฐานปลอดภัยส�าหรับผู้ปริโภค โดยใช้ หลักการจัดการศัตรูพชื แบบผสมผสานในทุกระบบ ของการเพาะปลูกที่ดี วิจยั แก้ไขปัญหาศัตรูพชื และ น�าผลการวิจยั ที่ได้ไปใช้ในแปลงปลูกของเกษตรกร และศูนย์นี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เหมาะสม ในเรื่องของการอารักขาพืชส�าหรับ เจ้าหน้าที่ เกษตรกร และนักศึกษาที่ถูกส่งเข้ามา ฝึกงาน “ในศูนย์อารักขาพืชแบ่งการด�าเนินงานเป็น 3 ส่วน คือ งานโรคพืชวิทยา งานกีฏวิทยา และงานวิเคราะห์ สารก�าจัดศัตรูพืชตกค้างในผลผลิต ซึ่งในนั้นก็จะมี งานป้องกันและก�าจัดศัตรูพืช ซึ่งแยกออกไปทั้ง แมลงที่มีประโยชน์และเป็นศัตรูพืช เรื่องโรคพืช

เราก็มีคลินิกที่จะท�างานวิเคราะห์ตรวจสอบและ วินิจฉัยเกี่ยวกับศัตรูพืช คอยดูแลตรวจหาเชื้อ สาเหตุโรคจากพืช จากดิน จากน�า้ เรื่องของงานวิจยั ค้นหาสิ่งทดแทนสารเคมี เช่น เชื้อจุลินทรีย์ที่มี ประโยชน์ใช้ควบคุมโรคและก�าจัดศัตรูพชื ความจริงแล้ว ศูนย์อารักขาพืชเราท�างานบริการด้านวิชาการก็จริง แต่เราก็มีงานด้านวิจัยรวมอยู่ในนั้นด้วย” ดร.นุชนาฏอธิบายให้เห็นขอบเขตของงาน อารักขาพืช แม้กระบวนการท�างานจะค่อนข้าง ละเอียดและลงลึกไปในแต่ละส่วนดูมีงานในความ รับผิดชอบมากมาย หากศูนย์อารักขาพืชก็เป็นเพียง ศูนย์เล็กที่ความรับผิดชอบกระจายไปตามที่ต่างๆ บนภูเขาทั้งหมด 38 ศูนย์ (ศูนย์พฒ ั นาโครงการหลวง) มีหมอพืชประจ�าตามศูนย์ตา่ งๆ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ วิเคราะห์สารตกค้าง ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแล ของศูนย์อารักขาพืช ซึ่งด็อกเตอร์พูดติดตลกว่า ถ้าศูนย์อารักขาพืชล้ม โครงการหลวงทั้งหมดก็อาจ จะล้มตาม สิ่งที่ผู้อ�านวยการศูนย์ฯ พูดถึง ยิ่งกิน ความหมายของความส�าคัญ และหน้าที่รบั ผิดชอบ ที่แบกอยูบ่ นบ่าของอาสาสมัครท่านนี้ และนักวิชาการ อารักขาพืชทุกคน

แต่ละวันเกษตรกรชาวดอยจะลงแรง กับงานบนแปลงพืชผัก กระทัง่ ไร่องุน่ อย่างตั้งใจ เพื่อเฝ้าหวังว่าจะได้ ผลิตผลคุณภาพสู่ผู้บริโภค Each day the farmers will work vigorously on farms and vineyards for the best outcome and quality

ต้องมีการลงบันทึกว่าใช้สารเคมีไปเท่าไร ใช้เพื่อ ป้องกันโรคหรือแมลงชนิดใด แล้วศูนย์อารักขาพืช ก็จะคอยตรวจสอบให้ได้มาตรฐาน อย่างถ้าเป็น มาตรฐานการปลูกแบบออร์แกนิค เกษตรกรก็ต้อง ไม่ใช้สารเคมีในทุกกระบวนการ แปลงปลูกก็ต้อง ไม่ติดกับเกษตรกรที่ใช้สารเคมี ฉะนั้นเราก็ต้อง คัดเลือกเกษตรกรเลยว่า สามารถเข้าร่วมได้ใน รูปแบบไหน เพราะมันมีขอ้ บังคับเยอะมากในแต่ละ มาตรฐาน” ดร.นุชนาฏอธิบายให้ฟงั ต่อว่า ถ้าเกิดเกษตรกร ที่ปลูกพืชของโครงการหลวงมีปัญหาในเรื่องของ ผลผลิตได้รับความเสียหายจากศัตรูพืช ทางศูนย์ อารักขาพืชนอกจากตรวจสอบมาตรฐานและ ท�างานอย่างที่กล่าวมาเบื้องต้นแล้ว จะมีบุคลากร ที่เรียกว่า ‘หมอพืช’ เข้าไปช่วยเหลือคอยดูแลในส่วน ของงานภาคสนาม ซึ่งผูอ้ �านวยการศูนย์อารักขาพืช ยิ้มและบอกคุณสมบัติของคนที่ท่านขอให้หัวหน้า ศูนย์ส่งมาฝึกเป็นหมอพืชว่า ต้องเป็นคนที่มีมนุษย์ สัมพันธ์ดี เป็นคนที่รบั รูไ้ ด้งา่ ย มีความรูพ้ ้นื ฐานทาง โรคพืชและกีฏวิทยา หรืออย่างน้อยด้านการเกษตร ซึ่งการลงพื้นที่ของหมอพืชต้องอาศัยบุคลากรที่ เข้าถึงและเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ของชาวเขา ซึ่งหลากหลายทั้งในแง่ของชนเผ่าและวิถีการ ด�าเนินชีวิต ความคิดที่ต่าง ด้วยคุณสมบัติและ ความรับผิดชอบที่หนักส�าหรับหมอพืชซึ่งปัจจุบัน มีเพียง 44 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับงาน ที่ต้องจัดการใน 38 พื้นที่ของโครงการหลวง


18

19

COVER STORY “หมอพืชมีความจ�าเป็นอย่างมากต่องานของ โครงการ เพราะต้องเป็นผูท้ ่ที า� งานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมและเกษตรกรเพื่อให้ค�าปรึกษา ถ้าหากพบ ปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตถูกท�าลายที่ไม่สามารถแก้ ปัญหาได้ หมอพืชก็จะน�าพืชเข้ามาที่คลินิกพืช ซึ่ง ทีน่ ่เี ราจะท�าการตรวจเชื้อ โดยในคลินกิ จะมีหอ้ งแล็ป ที่เรียกว่าชีวโมเลกุลอยูด่ ว้ ย เรียกได้วา่ เป็นไฮเทคโนโลยี เลยนะ เป็นเทคนิคการตรวจหาเชื้อไวรัสโดยใช้ลายพิมพ์ ดีเอ็นเอเพื่อระบุว่าเป็นเชื้อชนิดใด “ที่เราต้องดูแลคุณภาพกันถึงขนาดนี้ก็เพราะ ผูบ้ ริโภคให้ความไว้วางใจต่อผลิตผลโครงการหลวง ว่าปลอดภัยสูง ก็ไม่อยากท�าให้เขาผิดหวัง ปัจจุบัน มีหน่วยงานที่คอยสุม่ ตรวจสินค้า แต่โครงการหลวง เราทันสมัยถึงขั้นสามารถสอบทวนย้อนกลับที่มา ของผักผลไม้ว่ามาจากที่ไหน จากเกษตรกรรายใด ในกรณีที่ลูกค้าร้องเรียนถึงคุณภาพของผลิตผล ในหีบห่อที่วางจ�าหน่าย อาทิตย์ บุญช่วย หนึ่งในหมอพืชซึ่งท�างานมา เกือบ 10 ปี เล่าเสริมถึงการท�างานให้ฟังว่า ทุกวัน เขาต้องขับรถ 80 กิโลเมตรเพื่อเดินทางมาท�างาน

โดยแรกเริ่มเป้าหมายในชีวติ คืออยากมีฟาร์มของตัวเอง และการได้เข้ามาอยูท่ ่โี ครงการหลวง คือหนทางการ เรียนรู้และกอบโกยประสบการณ์ แต่เมื่อเข้ามา ผูกพันท�างานมากขึ้น และใกล้ชิดกับเกษตรกร ตัวเขาเองกลับพักฝันส่วนตัว และเลือกจะมุง่ ท�างาน ในความรับผิดชอบ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ เกษตรกรสร้างผลผลิตที่ได้คุณภาพ “เราไม่ได้คดิ แค่วา่ ผลิตให้ได้ผลก�าไร แต่เราคิด ไปถึงว่าจะท�าอย่างไรให้เกษตรกรสามารถปลูกพืช ที่มีคุณภาพ และต้องสอดคล้องกับแนวทางการ ผลิตที่เป็นมาตรฐานระดับสากล หมอพืชทุกคนต้อง อัพเดทข้อมูลความรูอ้ ยูต่ ลอด เพื่อเอาความรูม้ าส่งต่อ ให้ถึงมือเกษตรกร ความยากไม่ได้อยู่ที่จะสอนวิธี การปลูกผักให้กับชาวเขา เพราะทุกคนช�านาญใน อาชีพของตัวเอง แต่การจะท�าให้ทุกคนเข้าใจถึง ความส�าคัญของการปลูกพืชที่ดีอันนี้ส�าคัญกว่า นั่นคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจท�า เพื่อท้ายที่สุด พวกเขาจะอยูไ่ ด้อย่างยัง่ ยืน ก็เหมือนความรับผิดชอบ ที่ท�าให้เราโตขึ้น พอเราท�าหน้าที่ส�าเร็จเกษตรกร สามารถปลูกผักดีๆ ให้คนเมืองไว้ทานได้ มันก็ภมู ใิ จนะ”

บรรยากาศร้านโครงการหลวงเชียงใหม่ ปัจจุบันโครงการหลวงมีศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 38 แห่ง ในจ�านวนนี้เป็นสถานีวิจัย 4 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 1.68 ล้านไร่ ซึ่งมีเกษตรกร ชาวเขา 13 เผ่า และคนเมือง รวม 37,561 ครอบครัว จ�านวน 170,000 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงถึง 70,000 บาท ต่อปี ซึ่งมากกว่ารายได้ จากฝิ่นหลายสิบเท่า Today the Royal Project has 38 Development Centers – 4 of them are 1.68M Rai Coveraged research centers. There are 13 local farmers tribes and the 37,561 families of the local. It is 170,000 people with the income rate per household per year are 70,000 THB. โครงการหลวงมีรา้ นค้าทั้งหมด 14 แห่ง กระจายอยูใ่ น เชียงใหม่ 3 แห่ง เชียงราย 1 แห่ง ประจวบคีรขี นั ธ์ 1 แห่ง และกรุงเทพฯ 9 แห่ง The Royal Project have the distribution shops in total of 14 branches – Chaingmai 9 Branches, Chaingrai 1 branch, Prajuabkirikhan 1 branch and in Bangkok 9 branches.

มาถึงจุดนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นโดยมูลนิธโิ ครงการหลวง ไม่ได้สา� เร็จขึ้นเพียงเพราะผูอ้ า� นวยการศูนย์ หมอพืช นักวิจัยคนหนึ่งคนใด หรือกลุ่มเกษตรกรที่แตกต่าง ซึ่งชาติพนั ธุ์ หากแต่เป็นความร่วมมือของทุกคนที่มี หัวใจเดียวกัน ในการร่วมกันปลูกเมล็ดพันธุ์แห่ง ความยั่งยืน จนท�าให้เกิดวิถชี วี ติ ที่ม่นั คงจากรายได้ ในการจ�าหน่ายผลิตผลโครงการหลวงร่วมหนึ่งพัน ล้านบาทต่อปี “สิ่งส�าคัญที่ชาวโครงการหลวงทุกคนตระหนักดี คือเราท�างานถวายในหลวง ไม่ใช่วา่ จะมีแต่อาจารย์

คนเดียวที่เสียสละเพื่องานนี้ โครงการหลวงยังมี บุคลากรอีกมากจากสถาบันต่างๆ มาร่วมกันท�างาน โดยที่อาสาสมัครทุกคนไม่ได้มคี า่ ตอบแทนนะ ทุกคน ท�าเพราะใจอยากท�า ท�าเพราะมีความสุขและเรา อยากน�าความสุขที่ปลูกขึ้นมาส่งต่อไปเป็นเมนูตา่ งๆ ให้คนได้รับประทาน ถึงแม้งานทุกวันนี้จะดูหนัก และมีส่งิ ที่ตอ้ งดูแลรับผิดชอบเยอะ โดยเฉพาะเรือ่ ง ของโรคและศัตรูพืชที่มีเข้ามาใหม่อยู่ตลอดเวลา ท�าให้งานยุ่งยากมากขึ้นแต่พวกเราก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยหยุดพัฒนางานของเรา”

สิ้นเสียงประโยค ดร.นุชนาฏเดินหายเข้าไปใน ห้องแล็ปที่อบอวลด้วยกลิ่นฉุนของพืชผักผลไม้ท่ถี กู หั่นปัน่ ละเอียดซึ่งบรรจุอยูใ่ นหลอดทดลอง แม้ในวัย เลยหลัก 70 ปี ผู้อ�านวยการศูนย์อารักขาพืชคนนี้ ยังคงขับรถเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านและที่ ท�างานด้วยตัวเองทุกๆ วัน เพียงเพื่องานที่ท่านรัก มีความสุขกับการท�างานถวายพระเจ้าอยู่หัว และ ได้ชว่ ยชาวเขาผลิตพืชคุณภาพให้ชาวเราและชาวโลก ได้กินกัน งานที่ปลายทางแห่งความส�าเร็จคือดัชนี ชี้วัดคุณภาพชีวิตของผู้คนเกือบทั้งประเทศ


20

21

COVER STORY “The foundation has 3 divisions, Plant Pathology, Entomology and Pesticide Residues Testing. One division will do research on natural pesticides to replace the chemical ones such as macrobiotic bacteria as pesticide. So, even though people see us working mostly in the academic field, but actually we conduct a lot of very useful research,” she explains. The foundation’s work requires a lot of intensive attention at every level of each division, thus making it a huge and integral part of the Royal Project. In total, there are 38 research centers, called Royal Projects Development Centers, throughout the Royal Project’s farm areas. In each center there is a ‘Plant Doctor’ and a pesticide checker, so if one area failed in its duty it would have a domino effect on the whole system.

her a respected figure and she has now become the heart and soul of the Royal Project.

thereÊ isÊ noÊ needÊ forÊ anyoneÊ toÊ doÊ somethingÊ againstÊ theirÊ will,Ê JustÊ giveÊ themÊ winterÊ cropsÊ thatÊ Ê doÊ notÊ usuallyÊ growÊ inÊ thisÊ area King’s Speech to the Royal Project Officers

everyÊ productÊ producedÊ byÊ theÊ royalÊ ProjectÊ isÊ painstakinglyÊ takenÊ careÊ ofÊ toÊ giveÊ consumersÊ onlyÊ theÊ bestÊÊ qualityÊ products.Ê theÊ intentionÊ ofÊ theÊ projectÊ isÊ notÊ toÊ increaseÊ theÊ salesÊ volumeÊ butÊ toÊ giveÊ thaiÊ peopleÊ aÊ betterÊ qualityÊ ofÊ life.

The forerunner of the Royal Project was Suan Song Saen (200,000 Gardens) and the origin of the name came from the amount of money His Majesty the King gave to start the project in Doi Pui, Chiang Mai. Professors from Kasetsart University were selected as the pioneers for the Royal Project and they soon added Doi Ang Khang in Mon Pin, Amphur Fang, Chiang Mai province to the project, which they’ve since kept expanding. His Majesty the King wants hill tribes stop poppy farming and change to husbandry. However, the income earned from indigenous crops wasn’t enough to care for the households in the provinces of Chiang Mai, Chiang Rai, Lampoon, Mae Hong

Song and Phayao, so winter crops imported from Europe and America were introduced to the region. By allowing hill tribe farmers to grow local summer crops and non-native winter crops was the turning point in the improvement of the hill tribes’ quality of life. Thailand then reduced the amount of imported crops and started to export its winter products to other countries in the region. But the process from the land to the dinner table is a long journey and the mastermind behind the success is the Agricultural Protector Foundation. One of the original members of the first team set up here is Professor Nuchnart Jonglaekha, Ph. D.,

a petite lady who retired some years ago. She is a friendly and out-going person who was all too willing to have an interview with us. We soon came to learn how happy she is with life and how much fun she’s had since the foundation was founded in 1979. For her, things have improved in many areas, but life for her remains the same. Professor Nuchnart has worked for the Royal Foundation since she graduated with a Ph.D. in Mycology from the University of London, Wye College. She volunteered to work in the countryside and she labored really hard for King and country. This dedicated work ethic has made

“I first volunteered 30 years ago and volunteering for the Royal Projects is something I love. When I first started working in the Agricultural Faculty in Chiang Mai University, the professors there volunteered to do research on infected plants for the Royal Foundation. Professor Anong Chansrikul, ex-vice director of the Agriculture Infection Department at the Agriculture Ministry required an assistant to do microscope inspection work at operation room no. 4 (today’s Agricultural Protector Foundation) as no one was really using it at the time. As I was an intern at the time, I asked to use the operation room to help the Royal Projects and that was the starting point of this foundation,” says Professor Nuchnart. Dr. Nuchnart’s Agricultural Protector Foundation plays a leading roll in controlling the standard of the project from the farmers and their products to the consumers and the environment. The foundation has actually worked tirelessly helping the Royal Project reach where its at today. Although very few people actually know what her team has been doing for the past several decades, they kept every product clean and safe. The foundation supports hill tribe farmers with research and tries its best to solve any problem that arises. They use a mix–method for pesticides and try to control the amount used on agricultural products so they are as safe as possible. The foundation also gives hill tribe farmers access to new farming technology so that they may produce quality products.

From the outset, the Royal Project set itself the goal of reaching the international standard for agricultural produce. The foundation’s team of officers acknowledged that the members they picked were in accordance with the Royal Project’s procedures to keep the products at an international standard. This required the products to pass such tests as GAP (Good Agriculture Practice), which is the highest international standard, the Global GAP, the global standard and the Organic Standard, which means all produce contain no chemical residue. A pesticide residue analysis check is randomly performed on products produced at the Royal Project every day with GT pesticide residue results provided by the Department of Medical Science, Ministry of Public Health. If a chemical is found, the product will be tested again with GC, GC-MS, HPLC and LC-MS-MS analysis machine that is able to detect pesticide

residue from a ratio of 1: 1,000,000. This guarantees the safety and standard of the Royal Project’s products as organic products. “Not everyone can join the Royal Project; there are lots of farmers who are not Royal Project members. This is mainly because there are certain rules that members have to follow. Members need to a keep strict record of when they use chemicals on their farm and they must include the amount they used, the reason they used it and also the type of pest they had trouble with. Then the foundation needs to check and control all products to ensure they reach the standard. When it comes to organic produce, farmers cannot use any chemical at any stage from planting to harvesting. Also, their farm must not be located next to a farm that does use chemical of any kind. So the selection procedures are quite serious as we need to figure out what type of farm it is, what products they will grow and other areas before we can finally make a selection,” adds the foundation’s head Explaining the Royal Project member selection procedure further, Dr. Nuchnart said that if a member’s products were damaged, the foundation would check the standard according to the procedures and if necessary call the ‘Plant Doctor’ to help the troubled farmer. The foundation’s director gave a smile as she explained about her Plant Doctor’s qualifications. They need to be charismatic, fast-learners and have a basic knowledge on plant pathology and ethology. The Plant Doctors need to do fieldwork and work closely with locals, so they need to understand the local’s lifestyle and culture. There are currently 44 Plant Doctors available, of which she says is not enough as there are 38 research centers in the Royal Project.


22

COVER STORY

isn’t working with the farmers – the farmers are the real professionals – the difficulty is getting everyone to understand how important farming is. Every officer has the same mission; to sustainably develop the thoughts and the production together with the farmer. When we achieve that, we will all be very proud of ourselves.” In reaching this point, what we see from the Royal Project is not what’s been created by the director, plant doctors, researchers, or farmers, it is the unity of everyone working together as a team with the mission to create sustainable productivity. This ensures steady income for everyone involved in the distribution of goods from the Royal Project, which is now worth one billion baht per year. “The most important thing for us is that we all know we are working for the King. It is not just me who makes a sacrifice by working for the foundation; there are a lot people involved in this foundation. All of us are volunteers and we don’t receive any pay. We just do what we do because we want to do it. We are happy to see people create a new menu to eat. Although we all have a lot on our plate with the pathology and ethology and also new pest invasions, we never complain nor stop developing,” says Professor Nuchnart. “Plant Doctors are very important for the foundation because they are the ones who cooperate with the research officers and the farmer’s support officers. If they find anything wrong with a plant, the plant doctor will take a sample of the plant and send it to the clinic where it is analyzed in the lab. The Biomolecules Lab uses the latest technology to analyze a virus’s DNA pattern to accurately define the type of infection. The reason we need to keep the standard this high is because the trust that consumers have given to the Royal Project products and we won’t let the consumer down. Today we have a division that will randomly check products in the shops. We are modern enough to be able to trace the product back to where it came from and from which farmer if there is ever a customer complaint,” she says reassuringly.

As one of the foundation’s Plant Doctors, Khun Arthit Boonchuay, has over a decade experience in the field. He says he drives over eighty kilometers a day to get to his office. At first, his goal was to have his own farm and work with Royal Project to learn and to gain experience in farming. But after he started working at the foundation, he felt attached to what he was doing when he worked with the locals. So he gave up his dream and set out to become the best at what he’s doing to help farmers produce the highest quality products. “It’s not about the money,” he says, “we just think of ways to improve the products to an international standard. All the Plant Doctors need to update their knowledge and seek out information which they can then pass on to the farmers. The difficulty

As last echo of her voice fades, Professor Nuchnart walks into the lab where the strong scent of blended plants hits our senses. Although she is over 70 years of age, the director of the Agricultural Protector Foundation still drives herself to work every single day. Her mission is to help local farmers produce the best products for us all and at the same time improve the quality of life for the whole country.

Special Thanks To: Royalprojectthailand www.royalprojectthailand.com


24

25

EXECUTIVE INTERVIEW

Story by Sasikarn / Photo by Guru Green

AllÊ ForÊ MyÊ

Country หน้าที่นี้เพื่อ ‘ชาติ’

ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ - Dr. NiTsara KarooNuThaisiri ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ ยอดนักวิทยาศาสตร์หญิงไทย ความส�าเร็จ และชื่อเสียง ในเวทีระดับนานาชาติของ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ ไม่ได้เพียงเพราะต้องการสร้าง เกียรติประวัติให้กับตนเอง แต่ทว่าเพือ่ เป็นการน�าพาชือ่ เสียงประเทศไทย และผลักดัน วงการวิทยาศาสตร์ไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก

มื่อโลกก้าวสูย่ คุ ไซเบอร์อย่างเต็มตัว นักวิทยาศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความส�าคัญต่อการพัฒนา ประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศไทยก็มนี กั วิทยาศาสตร์ เก่งๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และบทสัมภาษณ์นี้ จะท�าให้คุณเข้าใจถึงบทบาทของนักวิทยาศาสตร์ไทย จากประสบการณ์ลา้� ค่าของยอดนักวิทยาศาสตร์หญิงไทย ที่ชื่อ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ หรือ ดร.ต่าย หัวหน้าห้อง ปฏิบตั กิ ารไมโครอะเรย์แบบครบวงจร ศูนย์พนั ธุวศิ วกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เป็น นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับรางวัลการันตี จ�านวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ รางวัล ทุนวิจัยลอรีอัลเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ รางวัล นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ดีเด่นของประเทศไทย อีกทั้งยัง ได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ให้ด�ารงต�าแหน่งประธานร่วมขององค์กรเครือข่าย นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของโลก ซึ่งความทุ่มเททั้งหมด ของเธอล้วนสร้างความภาคภูมิให้กับคนไทยได้อย่าง ไม่อายใคร

ดร.ต่ายเล่าย้อนถึงความหลังก่อนจะมาเป็น นักวิทยาศาสตร์ให้ฟังว่า “เราเป็นเด็กต่างจังหวัด ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ชื่นชอบวิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่เด็ก และค่อนข้างตั้งใจเรียนในห้องเรียนมาก เพราะเข้าใจ หัวอกพ่อแม่ ท่านเป็นครูทั้งสองคน คุณแม่เป็นครูสอน คณิตศาสตร์ คุณพ่อเป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาเด็ก ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเน้นการสอนให้รู้จักคิดอย่างมีเหตุ มีผล ตอนเด็กๆ เรามีพี่สาวเป็นแรงบันดาลใจ คือเขา เรียนเก่งมาก เราก็อยากตั้งใจเรียนและสอบเทียบข้ามชัน้ เข้าแพทย์ตามพี่สาว ก่อนจะมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต ตอนสอบชิงทุนรัฐบาลไทยไปเรียนหนังสือที่ตา่ งประเทศ ซึ่งเราได้ทั้ง 2 ทุน คือ ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ สาย วิศวกรรมเคมี กับทุนกระทรวงต่างประเทศ สาย เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ แต่ตอ้ งเลือกเพียง 1 ทุน ซึ่งโชคดีที่พ่อแม่ให้อิสระในการเลือกกับเรามาก ก็ไป ศึกษาค้นคว้าว่าแต่ละอันต้องเรียนอะไร พอได้รู้ว่า วิศวกรรมเคมี ต้องเรียนอะไรบ้าง จบมาแล้วเป็นนักวิจยั รับใช้ประเทศชาติ เราก็รู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราชอบ เพราะได้เรียนทั้งฟิสิกส์ ชีวะ คณิตศาสตร์”


26

27

EXECUTIVE INTERVIEW

“เทคโนโลยีไมโครอะเรย์ในศูนย์ไบโอเทคของเรา สามารถน�าไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะด้านการเกษตร เช่น การน�าแอนติบอดีอะเรย์ ไปใช้เป็นชุดตรวจก่อโรคในอาหารและในเมล็ดพันธุ์ จะสามารถลดค่าใช้จา่ ย ระยะเวลา แรงงานในการตรวจ และเพิ่มความเชื่อมั่นกับสินค้าส่งออกที่มาจาก ประเทศไทยในตลาดโลกได้อกี ด้วย นอกเหนือจากนี้ เรายังมีตอ่ ยอดงานวิจยั แต่ยงั ไม่เห็นรูปธรรม เพราะ งานวิจยั เป็นงานที่ตอ้ งใช้เวลา เป็นอาชีพที่ทา้ ทาย และ แน่นอนย่อมเจออุปสรรคอยูต่ ลอด แต่เรามักบอกตัวเอง ว่าให้ต้งั สติแล้วก็ยอมรับกับปัญหาว่ามันเกิดขึ้นจริง ไม่สร้างข้ออ้างกับปัญหานั้น หันไปดูตน้ ตอว่าเกิดจาก อะไร เราจะได้หาวิธแี ก้ได้ถกู พอเราก้าวข้ามอุปสรรค ได้แล้ว เราจะรูว้ า่ ชีวติ มีความท้าทาย ปัญหามันช่วย พัฒนาชีวิต พัฒนาศักยภาพของตัวเรามากขึ้นไป” หากวัดความส�าเร็จในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ชื่อของ ดร.นิศราเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ทว่า

ไม่ว่างานวิจัยที่ด็อกเตอร์ต่ายต้องรับผิดชอบจะยากและเหนื่อย แต่ผู้ร่วมงานมักจะเห็นรอยยิ้มจากเธอเสมอ นั่นอาจเพราะงานที่ต้อง ท�าถือเป็น ‘ความสุขของชีวิต’ Even the researches are hard and delicate, the colleagues always see the smile on her face, that’s because work is her ‘life’s happiness’

ทั้งที่อายุเพียง 16 ปี แต่ต้องเดินทางไกลออก จากบ้าน เพื่อไปศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีแรกเธอเจอปัญหาหนักในเรื่องภาษาอังกฤษ และต้องปรับตัวอย่างมาก ด้วยการดึงความสามารถ ด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของตัวเองมา ติวให้กับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติ จนพัฒนาภาษาของ ตัวเองได้ และสอบติดมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งเธอ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอยู่ 4 ปี จนจบการศึกษามา ด้วยคะแนนสูงสุดของคณะวิศวกรรมเคมี ได้รับ ปริญญาเกียรตินยิ มอันดับ 1 และมีช่อื จารึกบนแผ่น ทองค�าของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ รับเกียรตินี้ หลังจากนั้น ด็อกเตอร์ต่ายเดินหน้าศึกษาใน ระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ดต่อทันที โดยได้รับทุนการศึกษาจาก มหาวิทยาลัย จนได้ดีกรีด็อกเตอร์มาครอบครอง ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักวิทยาศาสาตร์อย่าง จริงจังนับแต่นั้นมา ซึ่งผลงานอันโดดเด่นของเธอ เป็นที่จับตามอง และต้องการขององค์กรต่างชาติ จ�านวนมาก แต่เธอตัดสินใจกลับมาประเทศไทย เพื่อใช้ความรู้ความสามารถที่ได้ร�่าเรียนมานับ 10 ปี ท�างานตอบแทนประเทศชาติ

“โชคดีที่เกิดมาในครอบครัวราชการ พ่อแม่ ปลูกฝังตลอดว่า ประเทศชาติส�าคัญ เพราะพ่อจะ บอกเสมอว่าเงินที่เลี้ยงหนูเป็นเงินเดือนของพ่อแม่ ที่ได้มาจากหลวง ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ของหนูพ่อสามารถเอาไปเบิกนะ เพราะฉะนั้น การไม่กลับมา ส�าหรับเราเหมือนเป็นการเนรคุณ แผ่นดิน เรามีโอกาสทุกวันนี้ได้เพราะภาษีราษฎร แต่ก็มีเสียงพรายกระซิบเยอะว่ากลับมาแล้ว ล�าบาก เงินเดือนน้อย ระบบการจัดการก็ยงั ไม่ดเี ท่า ต่างประเทศ แต่การกลับมาเมืองไทย เราอย่าลืมว่า ประเทศไทยก�าลังพัฒนา แล้วที่สา� คัญคือมันเหมือน เป็นหน้าที่ ตอนเรากลับมา ห้องปฏิบตั กิ ารไม่มอี ะไรเลย มีเราคนเดียว ไม่มตี น้ แบบให้ดู คือกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ต้องขอบคุณน้องๆ ที่ร่วมชะตากรรมด้วย ที่มุ่งมั่น ตั้งใจท�างานกันตั้งแต่ห้องไม่มีอะไรเลย จนกระทั่ง ห้องขยายเป็นสองห้อง จากคนเดียวกลายเป็นสิบคน อีกอย่างเวลาที่น้องๆ เข้ามาท�างานกับเรา ทุกคน สู้ยิบตา คือเราดูแลกันแบบพี่น้องไม่ใช่เจ้านายกับ ลูกน้อง” ส�าหรับงานวิจยั ของศูนย์ไบโอเทค ทุกอย่างต้อง ตอบโจทย์ประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยด็อกเตอร์ตา่ ย เล่าให้ฟังว่า “เนื่องจากงบประมานในการท�าวิจัย

ของประเทศไทยยังน้อยมาก เพราะฉะนั้นเราต้อง เลือกงานวิจัยที่ตอบโจทย์ประเทศชาติให้ได้ มากที่สุด นอกจากเงิน คุณภาพของบุคลากร ก็ส�าคัญ หน้าที่ของเราก็คือพยายามดึงศักยภาพ เขาออกมาใช้ให้มากที่สุด คนนี้เขาเก่งอะไรให้ เขาท�าด้านนั้น อย่างในท�านองเดียวกันก็คือถ้า เห็นว่าเขาไม่เก่งอะไรก็พยายามพัฒนาจุดอ่อน ของเขาด้วย ส่วนการท�างานในห้องปฏิบัติการ เราพยายามน� าเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนา ประเทศ คือพอเราเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็น ประเทศเกษตรกรรม เราอยากเป็นครัวของโลก แต่อาหารที่สง่ ออกก็ตอ้ งสะอาด ปลอดเชื้อ ในฐานะ ที่เราเป็นนักวิจัยจึงมีการท�าวิจัยและใช้เทคโนโลยี (ไมโครอะเรย์) ที่ได้รา่� เรียนมาท�าชุดตรวจเชื่อก่อโรค ในอาหาร ซึ่งเป็นผลงานล่าสุด และเป็นอุปกรณ์ ที่ใช้งานง่าย ราคาถูก ได้ผลรวดเร็ว และใช้งาน จริงแล้วในประเทศไทย เป็นการช่วยยกระดับ อุตสาหกรรมอาหารของไทยให้มคี ณ ุ ภาพตอบโจทย์ ประเทศได้อย่างดี นอกจากนั้นห้องวิจัยที่เรารับผิด ชอบก็มีการศึกษาเรื่องอุตสาหกรรมกุ้งกุลาด�าด้วย คือใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาการเลี้ยง กุ้งให้ดีขึ้น”

รางวัลและความส�าเร็จกลับไม่ใช่เรื่องส�าคัญที่สุด ในชีวิตของเธอ “เรารู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้ออกไปยืนสู่เวที ระดับโลกในฐานะคนไทย แต่ไม่ได้ดใี จในเกียรติยศ ของตัวเอง แต่ดใี จที่ทา� ให้ช่อื เสียงประเทศไทยไปถึง จุดนั้น ส่วนสิ่งที่ออกไปสู่สังคมเป็นผลตอบรับจาก สิง่ ทีเ่ ราท�า ซึ่งก็เป็นความภาคภูมใิ จที่เราได้เอง ไม่ตอ้ ง เอารางวัลมาให้ เพราะทุกวันที่เราท�า เรารูต้ วั เองอยูแ่ ล้ว ว่าพยายามท�าให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ” และดูเหมือนจ�านวนงานที่ ดร.นิศราท�ามา ตลอดตั้งแต่วันแรกที่ได้มาท�างานเป็นนักวิจัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการไมโครอะเรย์แบบครบวงจร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. จนถึงวันนี้ไม่ได้ลดปริมาณลงเลย ภายในห้องวิจยั ยังคงเต็มไปด้วยอุปกรณ์ตา่ งๆ ที่ใช้ ในการท�าวิจยั และทีมนักวิจยั หลายชีวติ ที่พร้อมจะ ทุ่มเทให้กับวงการวิทยาศาสตร์ไทยแพ้กัน


28

29

EXECUTIVE INTERVIEW

InsteadÊ ofÊ yearningÊ personalÊ prideÊ andÊ aÊ gloriousÊ careerÊ overseas,Ê Dr.Ê nitsaraÊ Ô taiÕ Ê KaroonuthaisiriÕ sÊ stellarÊ internationalÊ reputationÊ andÊ accomplishmentsÊ wereÊ inÊ factÊ drivenÊ byÊ herÊ desireÊ toÊ setÊ thailandÕs Ês cientistsÊon Êt heÊr oadÊt oÊg lobalÊr ecognition.

With a new generation of cyber-scientists accelerating and advancing in all areas, scientists have become a key component for the development of every country on earth. Thailand has constantly produced top quality scientists, and this interview goes a long way in providing assurances of their role in society based on the indispensable experience of one of the Kingdom’s finest female scientists, Dr.Nitsara Karoonuthaisiri. ก่อนจบบทสนทนาด็อกเตอร์ต่ายทิ้งท้ายถึง ภารกิจในการผลักดันวงการวิทยาศาสตร์ไทยให้ดขี ้นึ เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมและสร้างรากฐานที่แข็งแรง ให้ฟังว่า “ต้องสร้างทัศนคติให้คนไทยเห็นความ ส�าคัญของวิทยาศาสตร์วา่ จ�าเป็นต่อการใช้ชวี ติ ของ มนุษย์ แต่การวิจัยมันต้องใช้เวลา พูดง่ายๆ ว่า เรา ไปเร่งกล้วยไม้ออกดอกไม่ได้ฉันใด เร่งผลงาน วิทยาศาสตร์ให้ผลิตออกมาก็ไม่ได้ฉนั นั้น เมื่อสังคม เข้าใจถึงผลกระทบและผลประโยชน์ของงานด้าน วิทยาศาสตร์ได้เมื่อไหร่ เราเชื่อว่าประเทศจะพัฒนา ได้มากกว่านี้ แต่ถา้ ถามว่าเบื่อไหมที่ตอ้ งออกมาพูด

เรื่องเดิมๆ ไม่เคยเบื่อนะ มันเป็นหน้าที่ คือเราตั้งใจ แล้วว่าอยากผลักดันวงการวิทยาศาสตร์ไทยให้ ทัดเทียมต่างประเทศ ถ้าเราไม่ทา� มันจะไม่เกิด เราเชื่อ ว่าทุกอย่างมันต้องสื่อสารและลงมือท�า” “ตลอดชีวติ เราเชื่อมาเสมอว่าเป็นคนเก่งไม่พอ ต้องเป็นคนดีด้วย พูดได้เลยว่าถ้าพรุ่งนี้เราตายไป เราคงไม่เสียใจ แต่กลับรู้สึกดีที่อย่างน้อยชีวิตนี้ ได้ท�าประโยชน์ให้ประเทศชาติ” ด็อกเตอร์คนเก่งฝากข้อคิดผ่านบางประโยคที่ สะท้อนจากความรูส้ กึ ก่อนกลับไปท�างานที่เธอถนัด นั่นคืองานที่คนไทยทุกคนต่างภาคภูมิใจ

As head of the BIOTECH Microarray Laboratory at Thailand’s National Center for Genetic Engineering and Biotechnology, Dr.Tai is a young scientist who has been awarded countless prizes at both local and international levels, such as the L’OrŽ al Research Fund for Women in Science and Thailand’s Outstanding & Young Technologist Award. She has been selected to present young scientists worldwide as the Co-President of the Global Young Scientists Academy. In this respect, each of her achievements and dedication to her science has truly made Thailand a proud nation.

a small town who was in love with mathematics. Putting myself in my parents’ shoes, I took school pretty seriously. My mom was a math teacher and my dad taught psychology at university. Both had raised me to think rationally. Also, my elder sister always earned good grades and this gave me the motivation to study hard as I aimed to follow in her footsteps and attend a medical school. “The turning point in my life came when I competed and I won, so I had to choose between two governmental scholarships to study abroad. One was in Chemical Engineering and was provided by the Ministry of Science, the other in Economics provided by the Ministry of Foreign Affairs. I was fortunate that my parents allowed me to make my own decision. After spending hours researching both areas of study, Chemical Engineering felt right for me. From the program’s classes which incorporated physics, biology and mathematics to the positive impacts that I thought the country could count on; it felt right.”

age, saw Dr. Tai initially struggle both with the language barrier as well as with cultural differences. She gradually improved her English by tutoring science and mathematics to her fellow classmates and this paved the way for her to successfully enroll at Columbia University where she spent the next four years studying. She graduated with summa cum laude, a rarely used distinction which refers to highest honor for the highest GPA in Chemical Engineering. As a result of her outstanding accomplishment – she was the first Thai person to ever earn the accolade – her name was carved into the university’s golden plate.

Immediately afterwards, Dr. Tai advanced to acquire her Master’s degree and, through the university’s scholarship program, her PhD at Stanford University. Her studies have allowed her to embark on a career path of a true scientist who has dome such outstanding work that she is now in great demand from science labs and international organization from all over the world. Nevertheless, she made a decision to return to Thailand to leverage her skills In recounting her years prior to becoming a respected Moving to the United States for her studies was and knowledge attained through more than 10 years scientist, Dr. Tai says, “I was just a small girl in a life-changing moment, which at just 16 years of of education for the benefit of her homeland.


30

EXECUTIVE INTERVIEW

“I was fortunate to be born into a bureaucratic family who cultivated a sense of patriotism into me. My father always said their salaries, which had been my financial support, were from the government and that he could also claim my tuition fee and hospital expenses. I have become who I am today because of the people’s taxes; therefore deep in my conscious, I thought by not returning to my homeland I would be stabbing Thai people in the back. Against many whispers of a lower salary and a managerial system not quite to the level of the United States, I always kept in mind that we are a developing country. It was and would always be my pride to serve my country. I would like to thank everyone for helping to flourish our faith; from an empty room to a lab full of people, not just one but ten of us. I appreciate their attitude to never turn their backs, and we treat each other as sisters and brothers, not bosses and workers,” she says. With regards to operations within her laboratory, all research must be able to be turned into results that reflected positively for Thailand. Sharing her thoughts, Dr. Tai adds, “Since the funding that we received was only a handful, a thorough selection of research with highest return on investment was imperative. Beside financials support, sufficient human resources were also critical. We are committed to maximizing the potential of our people, fully leveraging their strengths, and at the same time willing to coach, train and develop their opportunities. As far as operations within the lab are concerned, we focused on leveraging technologies that would help realize Thailand’s competitive advantage in agriculture. In order to dominate the industry globally, and immediately recognizing food safety as the priority, we leveraged Microarray technology. This is valuable knowledge attained through years in school to successfully produce devices capable of verifying bacteria and germs within food. These devices were our most recent work; they are easy to operate, affordable and deliver quick results. They are already in use in the country, raising the level of quality of Thailand’s food industry and making the return on investment (ROI) worthwhile. In addition, our team also studied the Giant Tiger Prawn industry, leveraging science to improve their breeding.

instead of excuses, to overcome them. Life is full insights on how we might stabilize and strengthen of challenges and it is these challenges that will the foundation of Thailand’s scientists. “Educating make us develop our skills and boost our potential.” in the belief that science to all living beings is crucial. And similar to the saying goodies in, goodies Although Dr. Nitsara’s reputation and success are out, for science, along with knowledge and dedication, widely recognized at an international level, fame positive results require patience. Hence, scientific has never been first on her life’s priority. research takes time and cannot be rushed. When we truly believe in the benefits of science, I believe “I was always proud standing on the global stage, the country can be developed even more than we but I wasn’t proud of myself. Instead, recognizing are today. I’ve been saying the same thing repeatedly Thailand on a global scale gave me complete self- for a long time but I never get tired of saying it. fulfillment. As for me, seeing the positive impacts It is what I love; I am wholeheartedly passionate of my team, of our work, on the community is my about raising the level of Thailand’s science society prize and everything I have been working hard for to at least match other countries. Unless we start continues to drive me forward to work even harder today, it will not happen. Everything requires “The Microarray technology in our BIOTECH Lab so that I may return more to our homeland.” communication followed by action. can be diversified to support different industries, especially agriculture. Leveraging the Anti-body From a once empty room, glancing around there “All my life, I have believed not only in good skills array to produce devices that verify bacteria and is countless science equipment and relentless but also a good soul. I will not hold any regrets if germs inside seeds and grains results in cost researchers who share the same dedication to make tomorrow is my last day but instead I will feel great reduction both in the number of hours and labor Thailand’s scientists leaders in their field. Since that at least I have done right for my country,” and boosts the confidence of customers and Dr. Nitsara became the Head of the BIOTECH she tells us. consumers in Thailand’s products. We are also Microarray Laboratory at Thailand’s National Center taking further steps in this research but at the for Genetic Engineering and Biotechnology, the Our finest young scientist left us with words of moment we do not have concrete results because future continues to look bright. wisdom that came from deep in her heart; she scientific research is time intensive. We are frequently then returned to her work with passion, the pride faced with obstacles but we try to focus on actions, As we end our interview, Dr. Tai leaves us with some of every Thai person in her soul.


32

33

WHIZDOM ATTITUDE

Story by Editorial Team / Photo by Guru Green

TheÊ KiTchenÊ

OfÊA ÊC hAritAbleÊC hef ครัวห้องใหญ่ของเชฟผู้มีหัวใจอาสา ก้องวุธ ชัยวงศ์ขจร - Chef Kongwuth ChaiwongKaChon หากเปรียบความส�าเร็จของชีวิตเป็นเหมือนอาหารสักเมนู สูตรส�าเร็จในชีวิตของ ก้องวุธ ชัยวงศ์ขจร คงประกอบขึ้นจากวัตถุดิบชั้นดี ทั้งทักษะในหน้าที่เชฟ และใจที่มีจิตอาสาของเขา

ชีวิตในวัย 26 ของเชฟก้อง หรือ ก้องวุธ ชัยวงศ์ขจร ประสบความส�าเร็จใน ระดับที่เจ้าตัวเอ่ยปากว่า “พอใจ” กราฟชีวติ ของก้องวุธ ค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้น และ มันเป็นอย่างนั้นมาแล้วหลายปี สวนทางกับหนุ่มสาวร่วมรุ่น ที่เหมือนบางคน ยังไม่อาจรักษาระดับความสุขของตัวเองให้เสถียรได้สักที ย้อนหลังไปเมื่อสิบปีกอ่ น ขณะที่เด็กวัยรุน่ คนอื่นสนุกกับวันเวลาของวัย ก้องวุธ เริ่มเรียนรู้ที่จะต้องแบกความรับผิดชอบ งานของเขาคือต้องเข้าครัว ท�าความรู้จัก อุปกรณ์และงานทุกอย่างในห้องเล็กๆ ที่ต่อมากลายเป็นโลกใบใหญ่สา� หรับเขา แทนที่จะหมดเปลืองเวลาไปกับห้างสรรพสินค้า หรือสีสันของความเยาว์ จึงไม่น่า แปลกใจที่อกี สิบปีให้หลัง เขาจะประสบความส�าเร็จในฐานะหุน้ ส่วนธุรกิจสองร้าน อาหารดังอย่าง Fire & Dine Bar n’ Restaurant แห่ง Asiatique และร้าน Kaguya ย่านทองหล่อ ซึ่งทั้งสองแห่งเขาพ่วงหน้าที่หลักด้วยการเป็น Exclusive Chef และ Food Director อีกด้วย “ผมโชคดีที่ได้เรียนรู้งานในครัวตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งเด็กมากๆ ตอนนั้นผม พยายามหาว่าตัวเองชอบและถนัดอะไร ซึ่งก็มดี นตรีและอาหารที่ผมอยูด่ ว้ ยแล้วสนุก กับมัน” แน่ล่ะ ดนตรีกับวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องเกินคาด แต่เมื่อถามว่าท�าไมถึงชอบท�า อาหาร เขาตอบทันทีวา่ “ตัวผมเองชอบท�าอะไรแล้วให้คนอื่นแฮปปี้ นั่นคือสิ่งที่ผม ชอบที่สดุ ไม่วา่ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ อย่างหนึ่งที่เราท�าได้กบั อาหารคือมันเซอร์ไพรส์คน ยิ่งสมัยนี้นอกจากจะได้อร่อยจากรสชาติอาหารแล้ว คนชอบถ่ายรูปคู่กับอาหาร รอยยิ้มของเขา การส่งต่อความสุขของเขาให้เพื่อนดูต่อๆ กัน มันท�าให้ผมรู้สึกดี การเห็นอะไรแบบนี้มนั ท�าให้เรามีความสุข” น�้าเสียงของเขาเข้ากันดีกบั รอยยิ้มตรงปาก หลังผ่านประสบการณ์เชฟร่วม 10 ปี และธุรกิจที่ทา� เริ่มเก็บดอกผลก�าไรบ้างแล้ว ทางเดียวที่จะไม่ทา� ให้ไฟแห่งแรงบันดาลใจของตัวเองมอดดับ เชฟก้องจึงเลือกเดินทาง อีกครั้ง เพื่อท้าทายกับโจทย์ชีวิต ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งเดิมพัน “ตอนเรียนที่ Le Cordon Bleu มีโปรเจกต์ที่เรียกว่า Le Tour d’ Angkhang (เลอ ทัวร์ เดอ อ่างขาง) โชคดีที่ผมได้มีส่วนร่วมในโอกาสนั้น ตอนแรกผมไม่รู้ว่า มันคืออะไร รูแ้ ค่วา่ เขายืน่ งานมา เราก็แค่ท�า จนไปปีแรกเข้าใจเลยว่ามันคืออะไร” เชฟก้องย้อนให้ฟังถึงโอกาสทองของชีวิตที่ได้ร่วมงานกับโครงการหลวง ซึ่งสร้าง ความภูมิใจให้ตัวเขาเอง เชฟก้องอธิบายถึงหัวใจส�าคัญของโครงการที่รจู้ กั กันในชื่อ เลอ ทัวร์ เดอ อ่างขาง คือโครงการที่น�าเชฟจาก Le Cordon Bleu ขึ้นดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ เพื่อ ประกอบอาหาร ในค�่าคืนกาล่า ดินเนอร์ ที่มีแขกคนพิเศษซึ่งได้จับจองแพ็กเกจ ล่วงหน้า นอกจากรับประทานอาหารระดับ 5 ดาวแล้ว ตลอดทั้งทริป 3 วัน 2 คืน ทุกคนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสุขระดับเอ็กซ์คลูซีฟ “หน้าที่หลักของผมจะอยูใ่ นส่วนของอาหารคาว ช่วยกันปรุงอาหาร แต่กอ่ นเสิรฟ์ ผมกับเพื่อนอีกคนจะคอยจัดจานให้สวยงามอีกรอบ ทุกคนที่ไปร่วมงานนี้ไม่ได้ ค่าตอบแทน ทุกคนไปด้วยใจ ท�างานตรงเวลา ท�างานหนักเหมือนกัน อย่างผมต้อง ลางานจากที่รา้ น ขึ้นดอยไปท�าอาหาร เป็นแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ซึ่งคาดว่าปีน้ี (ปีท่ี 4) จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะอยากเปิดทางให้รุ่นใหม่ๆ ได้ประสบการณ์บ้าง” หน้าที่ของเชฟในการประกอบอาหาร ไม่วา่ จะในห้องครัวหรูกลางกรุง หรือครัว บนเนินดอยอาจไม่ต่างกัน แต่ส�าหรับเชฟจากเมืองหลวงคนนี้ ทุกเหตุการณ์ ทุกเมนูท่เี กิดขึ้นบนดอยอ่างขาง สิ่งส�าคัญมากกว่าเรื่องของรสชาติ คือความภูมใิ จ

“ผมเป็นพวกชาตินิยมสูงมาก ผมรักในหลวงและอยากให้เรื่อง พวกนี้มนั เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ผมไม่สนใจว่าจะได้เงินหรือต้องเสียรายได้ จากการปิดร้าน ไม่กงั วลว่าต้องนอนตี 3 ตี 4 ต้องเก็บของต้องล้างจาน ตื่นตั้งแต่ยงั ไม่สว่างทั้งที่เพิ่งนอนไปสองชั่วโมง ปกติผมเป็นคนสนใจ และศึกษาเรื่องเกี่ยวกับโครงการหรือพระราชกรณียกิจของในหลวง อยู่แล้ว แต่สา� หรับโครงการหลวง ผมเพิ่งเข้าใจจริงก็ตอนไปสัมผัส ผมได้รวู้ า่ ผลิตผลจากโครงการหลวงมีแต่ของคุณภาพ ปกติเราต้องซื้อ วัตถุดิบจากเมืองนอกซึ่งราคาก็จะค่อนข้างสูง แต่โครงการหลวง สามารถปลูกและเพาะเลี้ยงวัตถุดิบด้านอาหารส�าคัญหลายอย่าง เช่น สมุนไพรพวกไทม์ โรสแมรี่ อย่างกะหล�่าปลีก็ปลูกได้ทั้งแบบ สีสม้ เหลือง ขาว ม่วง และ ชมพู รวมถึงบร็อกโครี่ ผักเมืองหนาวต่างๆ ไม่มใี ครรูว้ า่ โครงการหลวงสามารถเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน (Sturgeon) เป็นปลาที่ทา� ไข่ปลาคาเวียและเป็นปลาน�้าจืดที่มอี ายุยนื ที่สดุ ในโลก มันไม่น่าจะเลี้ยงในเมืองไทยได้ แต่เลี้ยงได้ที่ดอยอินทนนท์ และก็มี พวกไก่เบรส ซึ่งในโลกนี้มเี ลี้ยงแค่สองแห่ง คือที่ฝรั่งเศสและดอยอ่างข่าง เท่านั้น ตามหลักแล้วไก่เบรสเขาจะไม่ให้ไปแพร่พนั ธุท์ ่ปี ระเทศอื่นเลย แต่เบรส คือ ขาสีฟา้ ตัวสีขาว หงอนสีแดง เป็นธงชาติเขา เป็นไก่พนั ธุห์ นึ่ง ของเขาที่เนื้อดี แต่ก็ให้มากับโครงการหลวง โครงการหลวงเลี้ยงได้ ทุกอย่างโครงการหลวงท�าได้หมด โดยฝีมือของคนไทย แต่ไม่มีใคร เคยได้ยิน ซึ่งมันน่าเสียดาย” “ผมคิดว่าได้ชว่ ยสืบทอดเจตนารมณ์หรือการสานต่อจุดประสงค์ ของในหลวง มากน้อยเราช่วยบอกให้คนที่ไปได้รู้ว่าผลผลิต สินค้า หรือช่วยบอกว่าเมืองไทยท�าอะไรได้บา้ ง ในฐานะคนไทยงานของผม คงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะบอกต่อถึงภารกิจที่ย่งิ ใหญ่ของโครงการหลวง เท่านั้นเอง” เชฟก้องเล่าทุกอย่างแบบเก็บรายละเอียด แต่คงไม่ละเอียดเท่า เรื่องราวที่บันทึกไว้ในแววตาคู่นั้นของเขา


34

WHIZDOM ATTITUDE Chef Kong explains the concept behind the Le Tour d’Angkhang project as one that selects chefs from Le Cordon Bleu to go to Angkhang in Chiang Mai to cook at a Gala Dinner evening for special guests who have reserved seats in advance. The first year, his ‘night’ lasted 3 days 2 nights in a very exclusive atmosphere. “My main duty was the main course; although everyone cooked together. But before each course was served, my friend and I helped plate the dishes one at a time. Everyone who participated in the event did not get any financial reward for their effort as everyone who attended did so with the spirit of cooking in their heart. We had to be on time and worked really hard. I needed to leave my day job to cook at the Gala Dinner and I’ve been doing it for 3 years now. Next year will be my last as I’d like a new generation of chefs to have the opportunity to work there.” Chef Kong’s duties at Angkhang or when he’s at his day-to-day restaurants are not too dissimilar. For this metropolitan chef, every situation and menu he helped create for Angkhang remains an object of pride.

“I’m a real patriot at heart. I love the King and I want to see these Royal Projects keep on running forever. I don’t care if I lose some benefit from my day job. I don’t care if I have to go to bed as late as 3-4 am because I need to wash the dishes. If you were to compare success in life to a fine dining menu, then I love to wake up before dawn even if I’ve only the specialty of Chef Kongwuth ‘Kong’ Chaiwongkachon is the slept for a couple of hours,” he continues. combination of the finest ingredients and this chef’s heart of gold. I usually learned about the Royal Projects from my industry, but when I actually attended the project, it was only then that I truly understood the whole deal. I now know all the produce from At just 26 years of age, Chef Kong initially succeeded find something I both liked and was able to do the Royal Projects are really top quality goods. to a level of culinary dexterity that “pleased” him. well. The things I found appealing at the time His life’s graph has continually reached higher were music and cooking,” he says. “I just enjoyed Although many chefs like to import ingredients and higher peaks as he succeeds at each task he seeing other people happy with whatever I cooked from overseas, those available from the Royal sets for himself and it’s been an upwards trajectory for them. This is what makes me the happiest. Projects such as rosemary, thyme, the variety of for years now. His level of success is contrary to Another aspect of cooking that I love is being able cauliflowers and broccoli are just as good if not many other young males of his age who are unable to surprise people, and watching them take pictures better than many Western vegetables. The people to find a level of happiness they are pleased with. of their food. Their smiles and the happiness they behind the Royal Projects have even begun to share with their friends, all those things make me introduce Sturgeon into the rivers of the north Some 20 years ago when most of other teenagers feel really good because I am very happy just to so that they can harvest local caviar. Another were enjoying their carefree lives, Chef Kong was see it all happening,” he adds with a smile on his foreign product being raised at Angkhang are French chickens. They are bred only in France learning to be responsible in his role as a junior face. and Angkhang and they are called French chickens kitchen hand. Learning the ‘ins and outs’ about kitchens and the myriad equipment used in these Now that he’s been a professional chef for because they have blue legs, white bodies and red small rooms became his whole world. Instead of a decade, he tells us he is beginning to see some crests. wasting his time hanging out at department stores benefits out of his investment in time and energy. or living a colorful lifestyle, he chose to focus. However, the one thing that keeps him going and “I want to help continue the vision of our King. That determination has paid off and he is now on his toes is the experience he continues to gain We can’t just tell other people about the capabilities of Thailand and the project’s goals. As a Thai involved with two famous restaurants; Fire & Dine along the way. citizen, it is my duty is to inform people about Bar n’ Restaurant at Asiatique and Kaguya in the Thonglor area. As Executive Chef and Food “When I was at Le Cordon Bleu, there was the the objectives of the Royal Projects,” says the Director at both restaurants, he still refuses to rest project called ‘Le Tour d’Angkhang’ and I was multi-talented chef. on his laurels. lucky enough to participate in it. At first I didn’t really know what it was all about. But after the The story Chef Kong related to us was full of “I was lucky enough to learn about working in first year, I totally got it,” Chef Kong recalls the passionate detail, but we knew the details couldn’t the kitchen when I was 16; even though now time he worked on his first Royal Project, a time compare to what he had seen. We could only see that from the sparkle in his eyes. I think I was very young. At the time, I tried to he remains proud of.

สุนทรียภาพแห่งชีวิต AT THE CENTER • LIVING • ART & CULTURE


36

37

GLOBAL UPDATE

Story by Editorial Team

SuStainableÊ architectureÊf orÊÊ theÊ elementS

G

reen Architecture คือ ศัพท์สำ� คัญที่สะท้อนถึงทิศทำงของ กำรออกแบบสถำปัตยกรรมในปัจจุบัน ที่ผ่ำนมำเรำรับรู้ ควำมส�ำเร็จของสิ่งปลูกสร้ำงโปรเจกต์ระดับโลกหลำกที่หลำยแห่ง ทว่ำกำรเกิดขึ้นของตึกสูงที่มำพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม นับว่ำยังเป็นเรื่องไกลตัว ฉบับนี้ชวนผู้อ่ำนอัพเดทสถำปัตยกรรม สีเขียวที่คำ� นึงถึงหัวใจของกำรอยูอ่ ำศัยแบบยั่งยืน ระหว่ำงมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม

G

reen Architecture is the main concept that now reflects the modern day architectural design direction. In the past few years alone, we’ve learned of many world-class architecture projects that have embraced this idea. Although the skyscraper with built-in green innovations continues to be the building of choice in urban centers, we’ve found some equally interesting architects’ creations that use sustainable products that appeal to both humans and the environment.

SuStainable HomeS for JapaneSe newly wedS บ้านส�าหรับครอบครัวยั่งยืนในแบบฉบับญี่ปุ่น บริษทั สัญชำติญ่ปี นุ่ mA-style architect ออกแบบบ้ำนเพื่อคูส่ ำมีภรรยำข้ำวใหม่ ปลำมัน บ้ำนที่ออกแบบอย่ำงฉลำดเพื่อกำรประหยัดเนื้อที่ ประหยัดทรัพยำกรธรรมชำติ และยังเอื้อต่อกำรเลี้ยงดูลูกหลำนให้เติบโตขึ้นท่ำมกลำงธรรมชำติ mA-style architect, a Japanese design firm has created a prototype house for newly weds who may not be able to afford a new home. The house takes up only a small space and encourages owners to buy only small amounts of supplies. This house will also help young couples raise their children in a better environment.


38

39

GLOBAL UPDATE

pierluigi bonomo Solar powered building from italy Pierluigi Bonomo ตึกพลังงานแสงอาทิตย์จาก ประเทศอิตาลี Pierluigi Bonomo คือตึกที่ถูกสร้ำงขึ้นใหม่หลังจำกเคย ถล่มในปี 2552 จำกเหตุแผ่นดินไหวในอิตำลี โดยกำรน�ำ แนวคิดเกี่ยวกับกำรใช้พลังงำนหลักจำกพลังแสงอำทิตย์ และ วิธกี ำรเลือกวัสดุท่เี อื้อต่อกำรประหยัดพลังงำน เป็นควำมส�ำเร็จ ที่จะกลำยเป็นอนุสรณ์ให้จดจ�ำตลอดไป During a devastating earthquake in 2009, the Pierluigi Bonomo suffered immense damage and needed to be rebuilt. Today, the building uses solar cells to generate electricity and other eco-friendly elements to reduce its carbon footprint. Let’s hope that it will remain a memorable building for many more years to come.

blooming bamboo HouSe flood reSiStance from Vietnam Blooming Bamboo บ้านไม้ไผ่น�้าไม่ท่วมจากเวียดนาม บ้ำนไม้ไผ่สำรพัดประโยชน์จำกเวียดนำมทีส่ ำมำรถปรับเปลี่ยน รูปแบบได้หลำกหลำย เป็นกำรตอบโจทย์ชีวิตให้กับปัญหำอุทกภัย ด้วยกำรน�ำวัสดุท้องถิ่นอย่ำงไม้ไผ่มำสร้ำงบ้ำนที่ทุกคนในชุมชน ได้ประโยชน์ร่วมกัน In many remote parts of Vietnam, the annual floods prompted locals to rethink how to build their homes and at the same time make use of an abundant local resource: bamboo. The came up with a bamboo house that is able to float as the floodwater rise and can be easily dismantled and reassembled.

HigH-riSe gardenS at royal park Hotel Singapore Royal Park Hotel ป่าสุดหรูแห่งสิงคโปร์ สวนแนวตั้งขนำดใหญ่ท่มี ลี กั ษณะของป่ำร้อนชื้น ที่มคี วำมยำวประมำณ 300 เมตร แทรกอยูท่ กุ 3 - 4 ชั้น คิดเป็นพื้นที่รวมกันทั้งหมดถึง 1,500 ตร.ม. ช่วยสร้ำง ทั้งควำมเป็นธรรมชำติให้กับผู้ที่พักอำศัยอยู่ภำยใน และช่ ว ยเพิ ่ม พื ้น ที ่สี เ ขี ย วให้ กั บ ประชำกรบนเกำะ สิงคโปร์ได้สูดอำกำศบริสุทธิ์ The Royal Park Hotel in Singapore has installed the largest vertical rain forest in Asia that climbs 300 meters high. Planted every three to four floors, whole building adds up to 1,500 sq.m. of forest cover. The vertical forest helps guests enjoy cooler temperatures, cleans the air, and aids the environment. Singapore continues to create more green spaces to generate more clean air.

royal academy low-coSt building SHell Royal Academy ตัวครอบตึกแบบ ประหยัด Richart Rogers สร้ำงระบบกำรก่อสร้ำง แบบประหยัด โดยใช้อปุ กรณ์รำคำไม่แพง สีสนั สวยงำม และเป็นครั้งแรกที่สำมำรถประกอบได้ ภำยใน 24 ชั่วโมง นับเป็นโมเดลที่สำมำรถน�ำไป ใช้ได้จริงในชีวิตประจ�ำวัน Richard Rogers has invented a low-cost construction system that uses affordable supplies and can be assembled in 24 hours. This style of building will be useful to people in many parts of the world who need immediate shelter.

SoltecH cHeaper + prettier SolTech ถูกและสวยงาม SolTech เป็นกระเบื้องพลังงำนแสงอำทิตย์ แบบโปร่งใส ที่ไม่เพียงเก่งกำจเรื่องของกำรซึมซับ พลังงำนสูง แต่ยงั ดูดดี ว้ ยหลักกำรออกแบบของโปรดักท์ ดีไซเนอร์จำกสวีเดน SolTect is a Swedish solar power system that has bee built into a transparent roof tile. It asorbs and generates more electricity and looks better than other solar panels. Let’s hope it comes to Thailand in the not too distant future.


40

41

AT THE CENTER

Story by Evelyn / Photo by Satit Patropas

ย่านกลางเมืองโพรว็องซ์ เต็มไปด้วยร้าน อาหารขนาดเล็ก ที่ผู้คนรู้สึกเหมือนได้นั่ง ทานอาหารอยู่ที่บ้านเพื่อน Provence is full with small restaurants, people who eat there will feel like they dine at their friend’s house.

Provence,ÊJe Êt Õ aime Khao Yai and Provence, Similar SerenitY of two memorieS

เขาใหญ่ และโพรว็องซ์ หนึ่งความสุข สองความหมาย แม้จะอยู่ห่างครึ่งค่อนโลก แต่เขาใหญ่และฝรั่งเศสก็เชื่อมโยงถึงกัน ด้วยเสน่ห์ แห่งความสุขที่อบอวลท่ามกลางบรรยากาศแบบโพรว็องซ์

ารขับรถไปเที่ยวเขาใหญ่ครั้งนี้ ท�าให้ฉันรู้สึกคล้ายก�าลังกลับไปเดินเล่น ในทุ่งหญ้าแห่งความทรงจ�า ซึ่งในพล็อตเรื่องมีฉันและพ่อนั่งคู่กันหลัง พวงมาลัยรถ ที่ก�าลังขับเที่ยวชมเสน่ห์ของฝรั่งเศสในบรรยากาศแบบชนบท ที่ชวนประทับใจของเมืองโพรว็องซ์ น่าแปลกที่แม้ฉันจะแวะเวียนมาเขาใหญ่ในระดับบ่อย (ปีละ 3 – 4 ครั้ง) แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของที่นี่ ได้เท่ากับทริปนี้ ภาพความเป็นชุมชนแบบอเมริกนั ของเขาใหญ่จดื จางลงไปมาก กลิ่นอาย แบบดินแดนคาวบอยเลือนหายไปเกือบหมด บ้านหลายหลัง โรงแรมหลายแห่ง ที่พบเห็นระหว่างทางชวนให้นกึ ถึงหมูบ่ า้ น ที่ต้งั อยูแ่ ถบชนบทของยุโรป ไม่ใช่เพียงเพราะหน้าตาหรือสีสนั ของสิ่งปลูกสร้าง

ที่ถกู ออกแบบอย่างตัง้ ใจในสไตล์ฝรั่งเศส แต่ฉนั ว่าบรรยากาศของเขาใหญ่ตา่ งหาก ทีท่ า� ให้ทกุ อย่างกลมกลืนไปด้วยกัน ทั้งอากาศ สภาพแวดล้อม กระทั่งวิถชี วี ติ ผูค้ น เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองจินตนาการถึงไลฟ์สไตล์โพรว็องซ์แบบดั้งเดิม ที่สภาพชุมชนเป็นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ท�าเลที่ตั้งห้อมล้อม ด้วยภูเขา ผูค้ นนิยมอยูร่ วมกันเป็นชุมชนเล็กๆ เรียงราย ลดหลั่นกันไป แต่ละบ้าน จะมุงหลังคากระเบื้องดินเผา ตัวบ้านก่อสร้างด้วยคอนกรีต ฉาบปูนสีสม้ อมแดง ก่อผนังให้ความหนาเป็นพิเศษ เพื่อปกป้องบ้านจากสภาพอากาศที่อาจร้อน หรือหนาวจนเกินไป ซึ่งรูปแบบสถาปัตย์ที่ไม่เรียบหรูนี้ สะท้อนถึงแนวคิดทีว่ า่ Perfect Imperfection ซึ่งหมายถึง ความไม่สมบูรณ์ท่สี มบูรณ์แบบ จะว่าไป ในบาง ต�าหนิยังมีความสวยงามที่สามารถมองให้เป็นเสน่ห์ได้

ส�าหรับทริปเดินทาง 3 ชั่วโมงจากมหานครแห่งความศิวิไลซ์ สู่เมืองใหญ่ทีอ่ ุดมด้วยธรรมชาติอย่างเขาใหญ่ครั้งนี้ ฉันตั้งใจ ตัดตัวเลือกเกีย่ วกับสถานที่ทอ่ งเที่ยวออกไป เหลือไว้กแ็ ต่กจิ กรรม การพักผ่อนแบบสามัญ อย่างการตื่นเช้า เดินเล่นในสวนหย่อม ปัน่ จักรยานรอบรีสอร์ทที่พกั ตีกอล์ฟ นั่งปิกนิกกับหนังสือสักเล่ม ในตอนเย็น และบอกลาค�่าคืนด้วยการมองดาวตรงระเบียง ซึ่งที่วา่ มาอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้สกั แห่ง แต่หากคุณอยากใกล้ชดิ กับความ รู้สึกของการพักผ่อนในสไตล์ชนบทของฝรั่งเศส ‘เขาใหญ่’ คือ ค�าตอบเดียว ก่อนที่แดดจะพรากความสดชื่นของรุง่ เช้าไปเสียหมด ฉันรีบ ลากจักรยานที่พับไว้จากห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ตั้งใจว่า จะปัน่ ออกไปชื่นชมบรรยากาศยามเช้า ไปให้ไกลสุดเท่าที่สองแรงขา จะพอมี ส�าหรับนักปั่นประเภทน่องอ่อนแบบฉัน การเลือกเส้นทาง รอบๆ ทีพ่ ักเห็นจะเหมาะสุด แต่ส�าหรับชาวน่องเหล็กที่มาออก ทริปเขาใหญ่ อาจลองทดสอบก�าลังกายและก�าลังใจตัวเอง ด้วย เส้นทางจากปากทางหน้าด่านอุทยาน ด้าน อ.ปากช่อง มุ่งหน้า

สู่ที่ท�าการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร ที่เข้าขั้นสาหัสหากคุณไม่เตรียมตัวมาดีพอ เวลาแปดนาฬิกาที่เขาใหญ่ทุกอย่างดูไม่เร่งรีบ แค่ความเร็ว ของสองล้อปั่นก็มากพอจะพาเราเดินทางไปไหนต่อไหนได้ หลังช�าระเหงื่อไคลและจัดแจงมื้อเช้าเรียบร้อย ฉันใช้เวลาที่เหลือ ก่อนเที่ยงในสปา ผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการนวดกดเส้น เตรียม พร้อมส�าหรับการออกรอบตีกอล์ฟตอนบ่าย ความรู้สึกแรกในทันทีที่สัมผัสกรีนของสนามกอล์ฟของ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรีคลับ นอกจากหัวใจที่สูบฉีด เพราะท้าทายด้วยหลุมทั้ง 18 ซึ่งได้รบั การเปรียบเทียบว่าเหมือน ความพยศของม้าแต่ละสายพันธุ์ที่รอให้นักกอล์ฟทั้งหลายมา ปราบพยศ ทุกรายละเอียดของสนามแห่งนี้นักกอล์ฟสามารถ รับรู้ได้ถึงความลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแฟร์เวย์ กรีน อุปสรรคน�้า และ ทรายถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว สมเหตุสมผล รวมถึงธรรมชาติที่ แวดล้อมที่น่ไี ว้ ท�าให้สนามกอล์ฟแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่สา� หรับทุกคน ในครอบครัว ได้มีโอกาสสัมผัสโอโซน ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ จาก ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ท่ตี ้งั เด่นเป็นฉากหลัง


42

43

AT THE CENTER

อากาศบริสทุ ธิ์ในตอนเช้าของการพักผ่อน ต่างจังหวัด ถือเป็นรางวัลชีวิตที่ทุกคน สามารถเข้าถึงได้เหมือนๆ กัน Morning fresh air in up countries’ vacation is available for everyone to enjoy.

ชีวิตกลางแจ้งช่วงปลายฝนต้น หนาวช่างอบอุน่ และท�าให้ฉนั ห่างจาก ครีมกันแดด หรือเครื่องส�าอางค์ได้สกั พัก อาจจะคล�้าไปบ้าง แต่การอยู่กับ ธรรมชาติ ซึ่งหมายถึงการปลดเปลื้อง ตัวตนเราจากสิ่งปรุงแต่งต่างๆ คือ ความสุขแบบง่ายๆ ที่ใครก็เข้าถึงได้ และฉันว่าฉันพบเจอได้แล้วในทริปนี้

ก่อนมื้อค�่า ยังพอมีเวลาเหลือ ส�าหรับหนังสือที่อ่านค้างไว้ตั้งแต่ หลายเดือนก่อน ตั้งใจว่าฉันจะเปิด อ่านบทสุดท้ายให้จบไปพร้อมกับ บรรยากาศพระอาทิตย์ลับแนวเขา เพื่อเติมรสชาติชีวิตให้เข้ากับคอน เซ็ปต์การพักผ่อนสไตล์ฝรั่งเศส ฉันไม่ ลื ม เตรี ย มชุ ด ปิ ก นิ ก อย่ า งเสื ่อ กั บ

ตะกร้าขนมปังบาแก็ตและไวน์ สองสิ่ง ที่ขาดไม่ได้หากนึกถึงวิถีชีวิตแบบ โพรว็องซ์ และน่าจะช่วยให้ค�า่ คืนนี้ หลับฝันดีได้อีกคืน

แสงทไวไลท์ยามพระอาทิตย์ใกล้ ลับขอบฟ้า เปลี่ยนให้บรรยากาศ เขาใหญ่โรแมนติกราวกับฉากละคร โอเปร่า The sunset on the horizon changed Khaoyai to romantic opera scene

ฉันขับรถออกจากเขาใหญ่ช่วงสายหลังฝากท้องมื้อกลางวันที่ร้านอาหาร The Great Hornbill Grill ร้านอาหารที่มีฉากหลังเป็นบรรยากาศไร่องุ่นของ PB Valley จากโต๊ะตรงเฉลียงแบบเปิดที่เห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาดงพญาเย็น ยามแดดเรื่อๆ ท�าให้มื้อนี้มีความหมายมากกว่าเดิม กระจกหน้าต่างรถค่อยๆ รูดลงเพื่อเปิดให้ลมปะทะหน้า ฉันค่อยๆ ผ่อนคันเร่ง ลดความเร็วรถ เพื่อรักษาหมวกทรงปานามาใบโปรดไม่ให้ปลิวหาย ก่อนหมุน พวงมาลัยเข้าสู่ถนนสายหลักที่จะพาฉันกลับบ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดไป บางคน อาจรู้สึกว่าเขาใหญ่น่าเบื่อเกินกว่าจะปักธงชีวิตและใช้เวลาเที่ยว แบบ 3 วัน 2 คืน แต่ส�าหรับฉัน การเลือกเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากผ่าน หนึ่งคืนอย่างทีใ่ ครต่อใครท�า อาจไม่ใช่คา� ตอบทีจ่ ะอธิบายถึงเสน่หท์ ่แี ท้จริงของ เขาใหญ่ เพราะความสุขของการมาเยือนที่นี่ อาจวัดกันด้วยความถี่ของการ มาเยือน มากกว่าจะนับกันที่เรื่องความนานของเวลา และอีกไม่ช้าคงจะหวน กลับมา ‘เขาใหญ่’ ดินแดนโพรว็องซ์ของฉันอีกครั้ง


44

45

AT THE CENTER

เมี่ยงใบองุ่น

สั ม ผั ส รสชาติ ข องเมี ่ย งที ่คั ด สรร เฉพาะใบองุ่นอ่อน (ใบที่ 4 - 5 นับจาก ยอดอ่อน) และเป็นองุ่นที่ไม่ได้รับยาหรือ สารเคมีใดๆ ส่วนไส้เมี่ยงนั้นมีรสชาติ หวานมันและเค็ม มาจากส่วนผสมของ หอมแดงเจียว กากหมูเจียว ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้งป่น ซึ่งผัดเข้าด้วยกันจนเหนียว รับประทานคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ ท�าให้ จานนี้เป็นอาหารแนะน�าประจ�าร้าน

Grape-leaf Wraps

Recommended – Tasty wraps made from fresh leaves (the fourth and fifth from the bud) of organic grapes and the sweetand-salty topping of shallots, crackling, roasted peanuts and crushed dried-shrimps.

ช็อกโกเลตลาวาเค้ก

ซิกเนเจอร์ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของร้าน เค้กช็อกโกเเลต ที่เสิร์ฟแบบอุ่นจัด ข้างในเหลวเป็นเหมือนลาวาที่ออกมาจาก ตัวเค้ก

ChoColate lava Cake

A signature recipe that combines warm chocolate flowing like lava from a perfect cake!

Located on the opposite sides of the world, yet here in Khao Yai it feels like France…a little piece of Provence at home… This particular road trip to Khao Yai transported me back to an old, pleasant memory of me and my father sat behind the steering wheel as our mechanical steed cruised through the charming countryside of Provence; all along, we absorbed the rural sensations only this part of France can offer.

ไก่แอฟริกัน

เมนูไก่ย่างที่มีต้นต�ารับจากฝรั่งเศส คัดสรรเฉพาะไก่ที่มี มันน้อย หมักกับเครื่องเทศกลิ่นหอม เสิรฟ์ พร้อมเครื่องเคียงอย่าง กล้วยทอด ข้าวหุงร้อนๆ พร้อมเนยสด เสิร์ฟคู่กับน�้าจิ้มจากพริก แอฟริกันที่เผ็ดจัดจ้าน และเลม่อนที่ช่วยแก้เลี่ยน

afriCan ChiCken

Originating in France, enjoy the amazing aroma and taste of marinaded, low-fat chicken and spices, served with fried bananas, fresh rice with butter and a special sauce made from spicy African chili-peppers and lemons.

Here I see the original Provence’s lifestyle; the communities and their fusion with nature, splitting into several small groups that are completely surrounded by mountains with each house covered by hardened-clay roofs and built with reddish-orange concrete that’s extra thick for protection against the extreme of hot and cold weather. These architectural styles are neither articulated nor modernly designed and detailed, but sometimes freshness can be spotted within flaws – The Perfect Imperfection – if you will.

Strangely, many of the other trips that I’d taken to Khao Yai over the years had never touched me with the same sense of dŽ jà vu as this visit did. The rolling hills no longer resemble cowboy country or accents of America, those scenes have been slowly diluted, gradually disappearing to make way After a leisurely three hour drive from Bangkok, for a new European make-over. I arrived on the outskirts of Khao Yai and immediately a tremendous feeling of nature swept over me. I’ve Hotels, houses and resorts along many of the decided to stay away from any sightseeing on this smaller country lanes are reminiscent of rural trip, instead focusing on keeping quiet and relaxing villages across many parts of southern Europe. with everyday activities. I plan to start my days Nonetheless, beyond their shapes and forms that early in the morning appreciating a garden full of reflect a French-style, I believe Khao Yai and its flowers, riding a bike around the resort, followed ambience has the magic that somehow blends them by a round of golf. Later, in the afternoon, together: the air, the environment and even the I envisage a picnic on the grass, relaxing with everyday lives of the locals. an enjoyable book all the way to early evening.

Once the sun has kissed me goodbye, I will say good-night to the night stars from my balcony. I could perhaps achieve all this anywhere and at anytime. However, I’m looking to experience the French provincial life and so, for me, Khao Yai is the only place. Before the sun heats the morning too much, I hurriedly haul my fold-away bicycle from the trunk and glide and glance my way through the glorious early hours. Peddling as quickly as my two legs allow, I am carefree as I whiz along. For me, as a beginner, I have chosen an easy route that takes me through some lovely countryside with rustic views. However, for those expert cyclists who want to challenge their durability and discipline, why not try the 17-kilometer route that begins at the national park’s check point, Pak Chong, and finishes at the Khao Yai National Park. I’m wellinformed that his route can be very difficult particularly for those not physically and willingly prepared.


46

AT THE CENTER

At Khao Yai, I take an 8-o’clock rise, there’s no rush; nevertheless, the spin of the two wheels is just enough to take you places. After a shower and then a light breakfast, I spend the rest of the morning enjoying a massage at the spa, getting my mind ready for a round of golf in the afternoon. My immediate impression upon the arrival at Rancho Charnvee Resort and Country Club’s magnificent golf course is one of awe. My heart rate and blood pressure rise as I survey the course, all 18 holes, which are like skittish stallions waiting for golfers to get to work. Every inch of the course looks perfect with the fairways and greens, water and sand traps precisely placed in a serene natural environment. This is a course that’s just right for everyone in the family. Take a stroll around the course and absorb the fresh air and ozone from the Khao Yai National Park, which makes a magnificent backdrop.

arranged for a picnic set; a clear reflection of Provence. It’s comprised of a mat, a basket of baguettes, and a bottle of wine, making my evening memorable and my nightly-sleep simply sound. The next morning, I depart Khao Yai and head for lunch at the Great Hornbill Grill, a restaurant with a background full of the beautiful vineyards of PB Valley. The view from the restaurant’s open porch, with soft sunlight lighting up the Dong Phaya Yen mountain range, makes this meal especially appreciated. Inviting fresh air and a cool breeze into the car, I lower the window and drive slowly along the back roads trying to stop my favorite Panama hat from flying out of the car. After a short distance, I turn the steering wheel and head onto the main road which will take me home.

Out under a warm afternoon sun towards the end of the rainy season, I feel the coolness of winter in the air and I stay away from smearing myself with sunscreens and cosmetics. Away from my usual materialistic world, I have been slightly tanned and nurtured by nature. I have found my simple happiness.

For some people, a three-day, two-night visit to Khao Yai might be filled with boredom; however, for me, it is the destination of serenity. I return to Bangkok after one night just like many others might, but the length of stay does not matter. Only the frequency of a visit can describe its true worth, and soon I will certainly return to “Khao Yai,” my memory of Provence.

The final hours of daylight prior to supper are pricelessly-suited for reading a book; I’m engrossed in a novel I’ve been reading for months and, as I finish the final chapter the sun slowly begins to disappear like it’s falling behind a cliff. Adding flavors to the taste of the French lifestyle, I’ve

Special Thanks To: The Great Hornbill Grill Restaurant Tel. +66 (0) 3622 6415-16 Rancho Charnvee Resort & Country Club www.ranchocharnvee.com


48

49

RELAXTION ZONE

Story by Editorial Team / Photo by Kiriya Spa

WayÊt oÊRela x,Ê WayÊo fÊ thai เปิดประตูสู่ความผ่อนคลาย

From a warm, sincere welcome to world-class service, the way Thainess is globally reflected forms a synergy of politeness and gentleness from which a new science of spa called “Kiriya” is born.

W

e can now realize true relaxation, unlike at many other spas, with the freshly revamped science of spa based on a blend of naturopathy and the Thai way.

ความอ่อนน้อมและกิรยิ าที่สภุ าพ คือท่วงท่าแห่งความเป็นไทย ซึ่งเป็นที่รจู้ กั และยอมรับ ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนและยืนยันถึงเสน่หแ์ ห่งวิถไี ทย จากการต้อนรับและบริการที่ ‘กิรยิ า’ ศาสตร์ใหม่ของสปากับนิยามที่ว่า ‘นาฏลีลาบนเรือนกาย’

ค้

นหาค�าตอบของการพักผ่อนที่จะท�าให้รู้สึก กิริยาสปาได้รังสรรค์โปรแกรมที่จะท�าให้คุณ ผ่อนคลาย จากสปารูปแบบใหม่ที่ผสมผสาน รู้สึกผ่อนคลาย อาทิ Hot Seashell Massage หรือ ศาสตร์การนวดจากธรรมชาติบ�าบัด วิถีแห่งความ การนวดประคบด้วยเปลือกหอยร้อน เพื่อช่วยขจัด เป็นไทยไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน การปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ รวมถึงการขัดผิวด้วย

ตัวงาด�าและมะพร้าว ช่วยในการป้องกันรังสียูวี ตามด้วยเทคนิคการนวดพิเศษที่ดัดแปลงมาจาก ท่าน�้าไหล และที่โดดเด่นที่สดุ คือการใช้นาฏลีลา ศิลปะการร่ายร�าทั้ง 4 ภาคของไทย อย่างการร�า มโนราห์ ฟ้อนเทียน การละเล่นราวกระทบไม้ มา ประยุกต์ใช้รังสรรค์เป็นท่านวดอันคงเอกลักษณ์ ผสานกับการนวดกดจุดที่ให้ประโยชน์ในแง่ของ การบ�าบัด นอกจากการได้ผอ่ นคลายเรือนกายด้วยศาสตร์ การนวดแล้ว กิริยาสปาอบอวลด้วยบรรยากาศ แห่งความสงบสุข และสถาปัตยกรรมที่ตกแต่ง ในสไตล์ไทยประยุกต์ รวมถึงการประดับแสงและเงา ที่ขับกล่อมความรู้สึกอบอุ่น ผสมผสานด้วยเสน่ห์ ของงานบริการอย่างไทย พาคุณย้อนกลับไปอยู่ใน บรรยากาศของกรุงเทพฯ ในวันวาน

At Kiriya Spa, you are encouraged to relax and release tension with several programs such as the Hot Seashell Massage, a massage that utilizes the hot press of shells to remove muscle aches and pains, a body scrub with black sesame and coconut to protect against UV, and specialized techniques evolved from the water-flowing movement and the art of traditional Thai dance from all four regions of the country. Dance movements include Manora Fon Tien (Thai candle dance) and Lao Kratop Mai, forming unique massaging moves, aided by acupressure or finger pressure points. Besides allowing guests to relax their body and mind through the science of massage, Kiriya Spa is harmonized with a serene ambience and Thaistyle design architecture that includes emotional lighting to induce a warm feeling. Blended with charming services in the traditional Thai style, you are sure to return to the old Bangkok you once knew. Kiriya Spa at The LIT Bangkok Hotel Tel. +66 (0) 2612 3456 www.litbangkok.com


50

Story by

51

ART & CULTURE / Photo by Guru Green

PaPerÊ

Tole

TheÊ handmadeÊB eauTy

มิติความงามของงานท�ามือ งานศิลปะภาพ 3 มิติ แบรนด์ ‘ช่อฟ้า’ ได้กลายเป็นงานอาร์ต ร่วมสมัยที่ประกาศเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้นานาชาติ รู้จักมากขึ้น

(ซ้าย - ขวา) คุณจิโรจ คงศุภมานนท์ คุณณัฏฐ์คเนศ เตชธรรมสิริกุล พาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ช่วยกันปลุกปั้น แบรนด์ช่อฟ้าจนเป็นที่ยอมรับใน กลุ่มผู้ชื่นชอบงานเปเปอร์โทล์ (Left - Right) Jirot Kongsupamanon and Natganesh Techadhamsirikul co-owned Chor Fah together they made the brand widely accepted

P

aper Tole อาจเป็นชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเท่าไรนักกับสายงานศิลปะ หากแต่ คุณณัฏฐ์คเนศ เตชธรรมสิริกุล หรือที่รู้จักในนาม ‘ไก่ช่อฟ้า’ ชายผู้ปลุกปั้น แบรนด์ชอ่ ฟ้า ได้นยิ ามให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า Paper Tole เป็นชื่อเรียกเฉพาะของงาน ศิลปะที่โชว์อยู่ ซึ่งความโดดเด่นของชิ้นงานประเภทนี้คือการสร้างให้ผู้ชมได้เห็น มิตขิ องภาพและแสงเงาบนชิ้นงาน ซึ่งในเมืองไทยคนท�างานในลักษณะนี้หาได้ยาก เพราะต้องใช้ท้งั ความคิดและความละเอียดลออ พิถพี ถิ นั อย่างมาก ซึ่งอาจดูคล้าย กับการเเกะสลักผลไม้แต่วัสดุที่ลงมีดนั้นเป็นกระดาษ แน่ล่ะมันไม่ง่ายเลย... ถึงจุดนี้กเ็ ริ่มสงสัยว่าอะไรที่น�าพาให้อดีตหนุม่ กราฟิกดีไซเนอร์เบนเข็มชีวติ มา ท�างานแฮนด์เมดเชิงศิลป์ได้เป็นเวลานานกว่า 13 ปี ถ้าไม่รกั ไม่หลงก็คงต้องบอกว่า ชายคนนี้ไม่ถนัดกับงานง่ายๆ

“เมื่อก่อนผมท�างานอยูฝ่ า่ ยศิลป์ของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง จนได้ ท�างาน Paper Tole ให้กับชาวต่างชาติ โจทย์มีอยู่แค่ว่าจะท�า อย่างไรให้ภาพวาดมีมิติ เริ่มลองผิดลองถูกจากงานที่ไม่เคยท�า มาก่อน กระทั่งท�าออกมาส�าเร็จเป็นแบบให้ลูกค้าดู ซึ่งตอนนั้น ผมรู้เลยว่าชอบงานนี้เข้าแล้ว” เมื่อสนุกกับสิ่งที่อยูต่ รงหน้า เขาจึงเลือกจะมุง่ มั่นและเอาจริง เอาจังกับมัน โดยก�าเนิดคอนเซ็ปต์จากแนวคิดที่ตอ้ งการน�าเสนอ ความเป็นไทยที่ผสมผสานกับความเป็นสากลจนเกิดเป็นชิ้นงาน ที่มีเอกลักษณ์หลายหมื่นชิ้น ภายใต้ตราสินค้าช่อฟ้า “พอได้ตวั แบรนด์มามันก็จะคลุมคอนเซ็ปต์ ด้วยรูปแบบของ งานวาด โทนสี และก็รูปแบบของตัวงานที่มีมิติ ฉะนั้นผลงาน ที่ออกมาของเราจะไม่ไทยจ๋า ขณะเดียวกันความเป็นไทยต้อง สมบูรณ์อยู่ ครั้งแรกเราสร้างผลงานเราไม่ได้นึกถึงการตลาด นึกแค่ความอยากจะท�า เมื่อเกิดจากความยากท�าในรูปๆ เดียว มันเลยดูเยอะ จนกลายเป็นภาพขนาดใหญ่ และราคาค่อนข้างสูง แต่ขณะนั้นเราไม่สามารถท�าราคาสูงได้ เพราะยังไม่มีในตลาด บ้านเรา ลูกค้ายังไม่รู้จัก เอาไปฝากขายบางเจ้าไม่รู้จักไม่รับ ผลงานเลยด้วยซ�้า” เจ้าของงาน Paper Tole พูดถึงการเริ่มต้นว่า แม้ในแง่ของ ธุรกิจมันอาจไม่ได้ท�ารายได้มากมายในช่วงแรก แต่ตัวเขาเอง ก็พยายามปรับปรุงงานให้โดดเด่นขึ้น หาเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาใช้ ในชิ้นงานเสมอ หลายเดือนทีเดียวงานของเขาจึงเริ่มเป็นที่รู้จัก และเมื่อจ�านวนยอดสั่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น ก�าลังใจของคุณไก่ ก็ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงเพราะตัวเลขรายได้ในบัญชีที่อยู่ใน สถานะสร้างก�าไร หากแต่ดอกผลของความส�าเร็จสะท้อนถึง คุณค่าในชิ้นงานที่เขาเชื่อมั่นเสมอมา


52

53

ART & CULTURE

“ผมอยากท�างานที่ตัวเองมีความสุขกับมัน อยากหันหลังให้งานประจ�าแบบนั่งออฟฟิศ แต่งานนี้ มันไม่ง่ายกว่าจะเสร็จสักชิ้น ถ้ามองเงินเป็นหลัก มันคงไม่ตอบโจทย์ แต่ถา้ เรามองงานนี้ดว้ ยความรูส้ กึ ตัวนี้มันตอบโจทย์ได้ เพราะฉะนั้นเริ่มจากสิ่งที่เรา อยากท�า เราชอบ และคิดว่าเราจะรักษางานตรงนี้ ไว้ได้นานๆ ได้อย่างไร ตรงนั้นจึงเป็นแรงบันดาลใจ ในเรื่องของการตลาด เรื่องของการออกแบบตัวงาน ออกมาให้เหมาะสม เริ่มหาวิธีการท�างานที่เป็น หลักการมากขึ้น” สิ่งที่น่าสนใจในงานของแบรนด์ช่อฟ้าไม่ใช่แค่ ความสวยงามน่าสนใจ หากแต่ตอ้ งมองลึกไปถึงวิธี การท�างานซึ่งค่อนข้างใช้เวลาและความละเอียด ทั้งที่สามารถเลือกใช้เครื่องมือท�าให้รวดเร็วกว่าเดิม เอื้อให้ขายงานได้มาก แต่ต้นความคิดกลับปฏิเสธ เพราะถือว่านั้นไม่ใช่การท�างานศิลปะที่ต้งั ใจไว้ เขาจึง เลือกใช้เทคนิคที่มองตามความเป็นจริง และสามารถ ก�าหนดมิติระยะได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้งานทุกชิ้น ไม่ใช่งานก็อปปี้ “เราต้องเข้าใจภาพ และท�ามันให้สอดคล้องกัน พอได้ทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ก็เป็นเรื่องของการ ขึ้นรูป เราต้องตีโจทย์ภาพให้แตก เมื่อเราคิดงานมา ตั้งแต่ตน้ เราก็จะมองเห็น แล้วเราก็ตอ้ งมานั่งปรึกษา กันกับทีมงานที่ตอนนี้มีกัน 10 กว่าชีวิต โดยอาศัย

ไอเดียของเขาส่วนหนึ่ง ตรงไหนต้องท�าอย่างไร เพิ่มลด ใส่เทคนิคลงไปตรงไหน ถ้าลงตัวทั้งหมด หลังจากนั้น ก็จะเป็นงานจริง พอท�าเป็นชิ้นมันก็จะมีเอกลักษณ์ ในตัวงานชิ้นนั้นๆ เพราะภาพเหมือนกันคนท�า คนละคน งานออกมาจะมีส่วนหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน อารมณ์ของงานจะต่างกัน นี่คอื เรื่องของรายละเอียด มันเป็นเสน่ห์ของงานตรงนี้ นี่เป็นขั้นตอนที่เล่า แบบคร่าวๆ เพราะความจริงแล้วยังต้องค�านึงถึง เรื่องของมิติ แสง เงา ความโค้งมนของการตัด กระดาษ รวมถึงเรื่องราวที่จะสะท้อนผ่านภาพ แต่ละภาพ พูดได้ว่างานทุกชิ้นเราคิดตั้งแต่ต้นจน กระทั่งว่างานไปอยู่กับลูกค้าแล้วจะเป็นอย่างไร” ถึงแม้มขี ้นั ตอนที่ยากหลายจุด และค่อนข้างจะ น่าเบื่อ แต่งานแบบนี้เป็นสิ่งที่คนท�างานศิลปะอย่างเขา กลับสนุกที่ได้ท�าให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของชิ้นงาน ซึ่งตัวเขาเองมักจะบอกกับลูกทีมเสมอว่า “เราไม่ได้ ท�างานโรงงาน แต่เราเป็นอาร์ทติส วัสดุของเราคือ กระดาษ ที่เหลือคือความคิดสร้างสรรค์ในการที่เรา จะใช้กระดาษออกมาให้เป็นมิตแิ ละมีคณ ุ ค่า” ดังนัน้ นอกจากคุณค่าของตัวงานแล้ว เรื่องคุณภาพที่ ลูกค้าจะได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งที่คนท�างานศิลปะ อย่างเขาค�านึงถึงเสมอ นัน้ ท�าให้ 13 ปี ของการเดินทางแม้จะไม่ได้เติบโต แบบก้าวกระโดด แต่ทว่าก็เป็นการเติบโตที่สง่างาม

This particular 3D artwork from “Chor-Fah” is a contemporary style of art that reveals to a global audience a part of Thailand’s national heritage.

P

aper Tole might not be a household name at this moment in time, but for Khun Natganesh Techadhamsirikul or ‘Kai Chor-Fah’, the challenge is one he is happy to take on. The unique style of Paper Tole is created by layering pieces of paper together so that they show depth and dimension of a picture as well as lighting and shadows on each piece. Artists who practice this style of art are quite hard to find in Thailand because it requires a lot of patience, attention to detail and a clear thought process. In a way, it is similar to fruit carving but instead of using fruit, paper is used instead. So, as you can see it’s not that easy. We wondered why a young graphic designer would decide to change his career path and become an artist who has created such fine art for the past 13 years. If it is not his passion, it must be because he likes to undertake challenges. “I used to work in the art department of a printing company. And I had an opportunity to create Paper Tole for a foreigner. The task was to create 3D drawings on paper. I tried every possible way I could think of because I’d never done such work before. Once I’d succeeded and showed the work to the client, I just knew that I had finally found the thing I really loved to do,” Khun Natganesh explained.

himself the task of portraying Thai culture to the world but with an international angle as the concept. To date, he has created more than ten thousand individual pieces under Chor-Fah, his own brand name. “To create the brand’s concept, I had to design a drawing style, color tones and the dimensions of each piece so that they could go together as collections and not look too Thai. The first time I launched the collection, I didn’t really think about the target market; I just did what I thought was difficult. I thought that if it looked really hard to re-create such a piece, a piece that had a lot going on in it and the size was big, then the price would be higher. But I could not sell anything from my collection as they were priced too high. Perhaps it was because this type of art was very new for Thailand and there wasn’t a market for this kind of artwork. The clients were not really aware of my kind of artwork. In fact, some galleries wouldn’t even sell them for me,” he recalled the difficulties he encountered when he first started.

The mind behind Paper Tole’s told us that even though the brand didn’t earn much money business at first, he continued to develop his ideas and work on new techniques in every collection. It took months before he became recognized; then more orders Now that he had finally found something he really started to arrive. This gave him renewed confidence enjoyed, he decided to take it seriously. He set in his style of artwork. It was not down to increasing

sales volume alone that gave him belief, he was sure that people were starting to accept and admire his work. “I just wanted to do something I enjoyed doing; plus I could also turn my back on routine office work. To have enough money was not the main reason of doing this for me. I did it out of love and I want to continue doing it for as long as possible. I need to find ways to make it work and that is my inspiration for the marketing strategy,” he said. The most impressive thing about Chor-Fah is not only the beauty of each piece of art; it is the dedication that goes into creating each individual piece. Although with advanced technology, Khun Natganesh chooses to make each piece by hand and refuses to use any technology. It is his intention to create works of art that are realistic and working by hand he is able to control the dimensions of his work so that every piece is different.

Special Thanks To: www.papertoleshop.com


54

55

R&D

Story by Saritorn Amornjaruchit / R&D Department, DT Group of Companies

Photo: upload.wikimedia.org

บ้

Photo: wallpaperswiki.com

SmartÊC itieSÊf or

SuStainableÊÊDe velopment ต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน จากการวิเคราะห์แนวโน้มของโลก (Global Mega Trends) พบว่าการเจริญเติบโตของประชากรโลก (World Population Growth) การขยายตัว ของเขตชุมชนเมือง (Urbanization Expansion) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) นั้นเป็นปัจจัยส�าคัญที่ส่งผล ต่อภาวะการขาดแคลนทรัพยากรอาหารและน�้า พื้นที่ธรรมชาติและพื้นที่เกษตรกรรมถูกรุกราน การคุกคามจากภัยพิบตั ธิ รรมชาติมคี วามถี่และ รุนแรงมากขึ้น กระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นส�าหรับผู้ที่มองเห็นถึงอนาคตจะต้องมีการวางกลยุทธ์รองรับ และ ตัดสินใจเลือกทิศทางการพัฒนา ‘บ้านหลังเล็ก’ ที่ไม่เพียงพึ่งพาอาศัย แต่ยงั เยียวยา ‘บ้านหลังใหญ่’ ได้ ก่อให้เกิดดุลยภาพระหว่าง สภาพแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

านหลังเล็ก ในที่น้มี ไิ ด้หมายความเพียงแค่บา้ นเท่านั้น แต่หมายรวมถึงแหล่งพ�านักอาศัยและแหล่งอาชีพ ที่เราสามารถด�าเนินชีวิตอยู่ได้ จากบ้าน สู่หมู่บ้าน สู่เมือง สู่ประเทศ ไปจนถึงโลกที่เป็นบ้านหลังใหญ่สุดของพวกเรา ปัจจุบนั มีหลายเมืองใหญ่ท่มี กี ารวางแผนพัฒนาเมืองอย่าง ชาญฉลาด และได้เริ่มด�าเนินการพัฒนาเข้าสู่การเป็นเมือง Smart City แล้ว ซึ่งมีแนวคิดในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเพิ่มคุณภาพชีวติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีองค์ประกอบ ส�าคัญคือ ระบบผลิตพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พภิ พ ระบบโครงข่าย คมนาคมขนส่งประสิทธิภาพสูงและสถานีประจุเชื้อเพลิง พลังงานสะอาด ระบบโครงข่ายสาธารณูปโภคอัจฉริยะที่ เชื่อมโยงเข้ากับระบบเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและ เทคโนโลยีสารสนเทศ อาคารและบ้านอัจฉริยะ และระบบ ควบคุมจัดการพลังงาน ความปลอดภัย รวมถึงระบบการ บ�าบัดและก�าจัดของเสีย ตัวอย่างเมืองที่เริ่มมีการวางแผน พัฒนาเป็น Smart City ได้แก่ ซานฟรานซิสโก, อัมสเตอร์ดมั , โตเกียว, ซินเจียง, ซีแอตเทิล, โคเปนเฮเกน, สตอกโฮล์ม, เวียนนา, นิวยอร์ก และ ซานดิเอโก เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในอีก 2 ปีขา้ งหน้า (พ.ศ. 2558) ประเทศ ในเอเชียหลายประเทศมีเป้าหมายเปิดตัว Smart City อย่างเป็น ทางการ ยกตัวอย่างประเทศที่โดดเด่น ได้แก่ ญี่ปนุ่ เกาหลีใต้ และ จีน เป็นต้น ประเทศญี่ปนุ่ ส่ง 4 เมืองต้นแบบ คือ City of Yokohama, Toyota City, Keihanna และ City of Kitakyushu เป็นเมือง น�าร่องในการพัฒนาโครงการ Smart Cities อย่างเต็ม รูปแบบ โดยเกิดจากความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติและพลังงานสะอาด ผู้ผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตและ พัฒนาการก่อสร้างอาคารและบ้านส�าเร็จรูป ผู้ผลิตและ พัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าและสื่อสาร และผูใ้ ห้บริการระบบเครือข่าย เทคโนโลยีสารสนเทศ มีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและ การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มเี หตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นแรงขับเคลื่อนส�าคัญที่ท�าให้โครงการนี้เดินหน้าอย่าง รวดเร็ว

Photo: henrybutcher.com.my

By analyzing Global Mega Trends, it is possible to see that the World’s Population Growth, Urbanization Expansion, and Climate Change are essential factors affecting food and water shortages. The fact that natural watersheds and agricultural areas are being invaded is leading to more and more natural disasters that are becoming more aggressive, thus inevitably affecting human life. Therefore, those who foresee a devastating future must prepare a strategy to cope with an ever-changing world. One way is to develop “a small house” to house people and help heal the “bigger house”, our world. It should build a balance between the environment, society, and economy to foster sustainable living.

A

small house, in this case, is not just a ‘house’ but a place to live and work. It is where we can live, and is a small beginning before expanding to villages, cities, nations, and eventually the world, which is our biggest home. At present, many cities are well developed and have begun to evolve into Smart Cities, which create a concept of sustainable development, improved quality of life, and are environmentally friendly. The modern city consists of many important components such as renewable energy production systems like solar energy, wind energy, and geothermal energy. They also contain advanced transportation networks, charging stations for clean fuel energy and intelligent infrastructure systems that connect with telecommunication technology and information technology. Others components are a city’s buildings and smart houses, energy management systems, public safety systems and waste treatment and disposal systems. Examples of cities which are close to becoming Smart Cities are San Francisco, Seattle, and New York in North America, Santiago in South America, plus Amsterdam, Copenhagen, Stockholm and Vienna in Europe, and Tokyo and Xinjiang in Asia. Furthermore, in the next two years, a number of Asian countries plan to officially debut their Smart Cities especially Japan, South Korea and China. Japan has assigned the cities of Yokohama, Toyota, Keihanna and Kitakyushu to act as the country’s pilot cities to participate in the fully-fledged Smart City project. The initiative requires joint cooperation from state and private bureaus that cover all pubic and private sectors. Participating sectors are, for example, natural gas and clean energy producers, automobile manufacturers, property and prefabricated house developers, electric and communicative equipment makers and information technology system providers. The Smart City project aims to create a better quality of life and sustainable development. The great earthquake and subsequent tsunami and nuclear power plant meltdown which hammered Japan in March, 2011, has further strengthen the county’s resolve to build smart cities and the project has since been accelerated.


56

57

R&D Photo: upload.wikimedia.org

tianjin eCo-City master Plan

Photo: kepcorp.com Photo: topwalls.net

Smart City เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของการพัฒนา เมืองเท่านั้น แต่ละประเทศจะต้องพิจารณาเลือกรูปแบบที่ สอดรับตามแนวทางของแต่ละเมือง สอดคล้องกับปัจจัย ธรรมชาติ และวิถีการด�าเนินชีวิต พร้อมด้วยความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อก�าหนดแผนและสร้าง แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เหมาะสม โดยยึดถือ แนวคิดของการพึ่งพาตนเอง การแบ่งปัน และการมีส่วน ร่วม สิ่งส�าคัญคือเมื่อได้แนวทางแล้วนั้น ทุกฝ่ายต้องมุง่ มั่น เดินหน้าพัฒนา และลงมือท�าอย่างจริงจัง เพื่อผลส�าเร็จใน ก้าวย่างที่ส�าคัญร่วมกัน Nevertheless, a Smart City is just one of many choices for city planners and each country must consider which model will conform to a town’s layout taking into account natural factors and the habitants’ lifestyle. State and private sector should be encouraged to establish plans and create an appropriate sustainable development approach abided by the concept of self-dependence, sharing and participation. More importantly, especially once it’s decided which path to take, all sectors must strive begin working on the mutual benefits of success. After all, our home requires our attention.

Photo: rjkoehler.com

songdo international Business distriCt master Plan City of yokohama master Plan ในขณะทีเ่ กาหลีใต้เสนอเมือง Songdo IBD (International Business District) ที่มคี วามยั่งยืนทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์กลาง ธุรกิจการค้า การลงทุน และการเดินทางแห่งใหม่ของโลก ด้วยต�าแหน่งที่ต้งั ใกล้กับสนามบินอินชอน จุดเด่นส�าคัญคือการสร้างอาคารและสถานที่ ซึ่งเป็น Land Mark แห่งใหม่ และการรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยสามารถเชื่อมต่อกันได้ทกุ จุดทุกสถานที่ในชุมชนเมืองด้วยเครือข่าย เดียวกันผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และการ จราจร เป็นต้นแบบของ Connected Community เพื่อการใช้ชีวิตอย่าง ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ล�้าสมัย และมีคุณภาพ The Songdo IBD (International Business District) of South Korea is a mega city with sustainable energy and environmentally friendly policies. It is also a hub for trade and investment, and as of late, it has become a new travel destination thanks in part for its proximity to Incheon International Airport. There is little doubt that Songdo IBD will become the country’s choice as a Smart City. The most striking component of the city is its building structure and areas widely regarded as new landmarks. Songdo IBD will be able to integrate any future technology by connecting all dots of its society through the internet, whether it is electricity, water supply, telecommunication or traffic control. It is a model of Connected Community for the modern and perfect lifestyle.

Photo: bhmpics.com

ตัวอย่างสุดท้ายคือ Tianjin Eco-City ในประเทศจีน เป็นโครงการ พัฒนาเมืองนิเวศน์แห่งอนาคตที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง ประเทศสิงคโปร์และจีน มีการสร้างโมเดลของการพัฒนาที่สามารถน�าไป ประยุกต์ใช้ได้กับชุมชนทุกขนาด โดยแต่ละชุมชนย่อยจะมีระบบ สาธารณูปโภค สิ่งอ�านวยความสะดวกที่จ�าเป็น และพื้นที่สีเขียวซึ่ง สามารถเข้าถึงได้ง่ายภายในระยะเดินเท้าและจักรยาน การเดินทาง ระหว่างชุมชนถูกเชื่อมโยงด้วยระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าแบบรางเบา (Light Rail System) และด้วยข้อจ�ากัดของสภาพพื้นที่จึงต้องมีการใช้ เทคโนโลยีบ�าบัดและหมุนเวียนทรัพยากรน�้าประสิทธิภาพสูง ร่วมกับการ ผลิตน�้าประปาด้วยน�้าฝนและน�้าทะเล มีการวางเป้าหมายว่าจะพัฒนา ครบทุกภาคส่วนภายในปี พ.ศ. 2558 และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2563 Our last model city is China’s Tianjin Eco-City, a futuristic eco-city development project between Singapore and China. The project creates development models that can be applied to societies of all sizes. Each sub-category community will have an infrastructure system, necessary facilities and green spaces accessible by on foot and by bicycle, while communities further apart will be connected by a Light Rail System. Due to limited space, there is a need to use highly advanced wastewater and water recycling systems along with fresh water supply production from rain and sea water. The authorities expect to fully develop all essential aspects of the city by 2015. The city will be officially completed in 2020. Photo: bardcityblog.files.wordpress.com


58

59

LIVING

Story by Editorial Team

SimpLy Living ALong with the environment บ้านที่เรียบง่ายไปกับสิ่งแวดล้อม Maison D: จาก Lode Architecture Maison D (เมซง เด) หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า d house เป็นหนึ่งใน ดีไซน์ของทีม Lode Architecture คือบ้านลักษณะมินิมอลที่ผสมผสานด้วย วัสดุท้องถิ่นอย่างไม้โอ๊คและไม้จากต้นเมเปิ้ลให้ดูอบอุ่น ขั้นด้วยกระจกใส บานโต ที่สลับสับหว่างกันกับตัวไม้อย่างแนบเนียน เชโคม วองกง และ อาโนลด์ ลาก็อสท์ ผู้ซึ่งออกแบบให้ความส�าคัญกับพื้นที่โล่งว่างในแบบพาโนราม่า เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากที่สดุ และภายในบ้านจึงโปร่งโล่งท�าให้เรา สามารถได้ยินเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งได้ชัดเจน ส่วนประตูหน้าต่างบานกว้าง ก็ช่วยให้ประหยัดไฟได้ไม่น้อย แต่ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้น การน�าไม้ต่างชนิด มาใช้เป็นผนังและพื้นบ้านท�าให้เกิดการรักษาอุณหภูมิให้คงที่โดยแทบ ไม่จ�าเป็นจะต้องใช้ฮีตเตอร์เพื่อปรับอากาศให้สิ้นเปลือง นั่นถือเป็นเสน่ห์ที่ เติมเต็มเอกลักษณ์ให้กบั เมืองแถบชายฝัง่ ของฝรั่งเศสอย่างบริตานที่ผมู้ าเยือน ต้องหลงใหล

FrenchÊL iFestyLe,Ê

theÊIns pIratIonÊF uel ปลุกเร้าแรงบันดาลใจด้วยไลฟ์สไตล์ฝรั่งเศส

W

hen you think of the French lifestyle, you might be reminded of people sitting besides the beach in Nice with a picnic basket beside them, sipping a cup of coffee with the Eiffel Tower as the backdrop, or perhaps just walking around and enjoying the scent of lavender in Provence. But actually there is more to the French lifestyle than just baguettes and wine or shopping at luxury brand boutiques on the Champs-ƒ lysŽ es, because the real charm and beauty of the French lifestyle is ‘to fulfill life’s happiness for one’s self in the Mediterranean way.’ The Mediterranean way means that every individual seeks their daily happiness and nothing more. The French have a saying “Joie de Vivre”, which literally translates as ‘to enjoy the beauty of life’ and that is the main idea for our Living column in this issue. We would like you to get into the real French lifestyle through your surroundings, some outdoor activities, and art intake.

ากพูดถึงไลฟ์สไตล์แบบฝรั่งเศส สิ่งที่จินตนาการถึงอาจเป็นภาพผู้คนนั่งปิกนิกริมชายหาดแถวนีส นั่งจิบกาแฟเคียงคู่ บรรยากาศหอไอเฟิล ชื่นชมกลิ่นของความสุขจากสวนลาเวนเดอร์ในโพรว็องซ์ ทั้งที่ความจริงแล้ว ไลฟ์สไตล์แบบฝรั่งเศส มีมากกว่าภาพจ�าเรื่องขนมปังบาแก็ต ไวน์ หรือการเดินจับจ่ายสินค้าแบรนด์เนมบนถนนช็องเซลีเซ่ เพราะเสน่ห์อันแท้จริงของ การใช้ชีวิตในแบบเฟรนซ์สไตล์ คือการเติมเต็มความสุขให้กับตัวเองในแบบฉบับชาวเมดิเตอร์เรเนียน ที่ต้องการเพียงเพื่อจะ ‘เติมเต็มความสุข’ ให้กับชีวิตประจ�าวัน อย่างที่คนฝรั่งเศสมักพูดกันว่า “Joie de Vivre” (โช เดอ วีฟ) ที่แปลว่า จงน้อมรับความ สวยงามของชีวิต และนั่นคือสาระส�าคัญของเนื้อหาใน Living ฉบับนี้ ที่จะเชิญชวนผู้อ่านไปสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบฝรั่งเศส ที่สะท้อนผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัย สีสันความสุขของการใช้ชีวิตกลางแจ้ง รวมถึงการเสพงานศิลปะที่กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของผู้คนฝรั่งเศสอย่างเลี่ยงไม่ได้

Maison D is the French expression for “D House” – it’s a house design with minimalism aspiration. The house uses local materials such as oak and maple, which creates a warm feeling. In between each wooden section there is usually a large glass window frame that seamlessly blends with the wooden surface. Jerome Vençon and Arnold Lacoste – the designers – have been obsessed with panoramic spaces in their design because the space will be used to its full potential. This is why the interior in this type of house has plenty of space and the acoustics in the house produce a really clear sound wave. The doors and windows are quite big and broad and this helps the owner to save money on electricity usage. But the most impressive aspect of all is how the mixture of natural woods allows the house to almost self-regulate the temperature so the house doesn’t really need to have a heater or air-con working all the time. Living in Maison D would truly fulfill anyone’s life in Bretagne.


60

61

LIVING Surround ArtS Around LiveS ชีวิตที่รายล้อมไปด้วยศิลปะ

hAppineSS of outdoor LiveS ความสุขกับชีวิตนอกหลังคา green houSe + gAzebo ถูกเรียกอย่างเก๋ไก๋วา่ เป็น Invisible Garden House หรือเรือนต้นไม้ลอ่ งหน อันที่จริง สวนน่ารักนี้คอื การน�าเรือนกระจกมาผนวกกันกับศาลานั่งเล่นนั่นเอง โดยดีไซเนอร์ชาวแดนิช ไซม่อน เฮอมัน เจ็นเซ่น ได้แรงบันดาลใจจากเรือนกระจกในอุตสาหกรรมเกษตรแถบ สแกนดิเนเวีย โดยอุปกรณ์ท้งั หมดใช้วธิ ผี ลิตแบบ 3D Printing และวัตถุดบิ คือ ตัว CNC ที่สามารถกันน�้าและกันแสงยูวีได้ ตัวพื้นของเรือนต้นไม้นี้เป็นไม้อัดทรงหกเหลี่ยมที่ สามารถน�ามารีไซเคิลในอนาคตได้ นอกจากเป็นโรงเรือนส�าหรับปลูกไม้ประดับแล้ว Invisible Garden House ยังคูค่ วรส�าหรับเป็นที่น่งั จิบชาชมสวน เป็นทางเลือกที่ดหี าก จะสร้างโรงเรือนโปร่งแสงนี้ไว้หลังบ้านคุณสักหลัง It’s been fashionably called the ‘Invisible Garden House’, but this cute little garden is created by improvising a greenhouse together with a gazebo and is the handy work of Simon Hürjmund, a designer at SHJWorks. The idea came from the huge greenhouses used in the farming industry in many parts of Scandinavia. The materials are all printed using 3D printers and are waterproof and UV-proof. The floor is constructed of recycled wood and the entire structure is also recyclable. Not only is this product worthy of having a small garden inside, but it’s also the perfect place to have a cup of tea.

french nAtionAL ArchiveS frAc contemporAry Art muSeum FRAC bretagne ออกแบบโดย studio odile decq พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยขนาดเล็กแห่งแรกในประเทศ ฝรั่งเศส สีสันของอาคารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พื้นผิว ด้านนอกทั้งหมดของอาคารเป็นเหล็กด้าน และไร้รอยต่อ ทาด้วยสีดา� ทึบ ภายในมีเพียงสามห้อง หนึ่งในนั้นเป็นห้อง ออดิทอเรียมสีแดงสด และให้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่าน หลังคาทีผ่ ลิตจากวัสดุโปร่งแสง แม้พิพิธภัณฑ์ขนาด 5,000 ตร.ม. แห่งนี้จะนับว่าเล็กส�าหรับชาวฝรั่งเศส แต่มาก ด้วยคุณค่า หากว่ากันด้วยผลด้านจิตใจ

wAter bench เก้าอี้ดไี ซน์หรูท่จี ดั วางอยูท่ ่วั สวนสาธารณะในเมืองมุมไบแห่งอินเดีย ไม่เพียงเพิ่มสีสนั ให้ชวี ติ ของผูใ้ ช้ บริการสวนแห่งนี้เท่านั้น หากแต่เทคโนโลยีล่าสุดที่บริษัท BMW Guggenhiem Lab คิดค้นขึ้น ได้แปรรูป ผ่านไอเดียของกลุม่ สถาปนิก MARS Architects จึงเป็นที่มาของ Water Bench เก้าอี้น้า� ทีส่ ามารถใช้ได้ดี ในสภาพกลางแจ้ง ด้วยปรัชญาการออกแบบที่เรียกว่า Urban Design ที่สามารถเก็บกักน�้าฝนไว้ในตัว ทั้งยังประหยัดงบประมาณในการซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์สวน และเป็น Conversation Piece ที่จะท�าให้คน พูดคุยกันมากขึ้น

บริษัทสถาปนิกชื่อดังจากประเทศอิตาลี Massimiliano ร่วมกับ Doriana Fuksas ออกแบบคลังประวัตศิ าสตร์แห่งฝรั่งเศสที่จะถูกสร้างขึ้นที่ปเิ อฟิต-ซูร-์ แซน บริเวณทางใต้ ของกรุงปารีส โดยจะพัฒนาจากตึกเก่าที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยปฏิวัติ ตึกนี้จะเป็นที่เก็บ เอกสารและของส�าคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงข้อมูลการวิจัยค้นคว้าต่างๆ ตั้งแต่ ปี 2332 โดยการออกแบบใหม่ในครั้งนี้ จะเพิ่มความทันสมัย เพิ่มเนื้อที่ให้กว้างขึ้น เพื่อลดความแออัด ตัวอาคารจะบุดว้ ยกระจกโดยรอบ ส่วนชั้นเก็บเอกสารและวัตถุตา่ งๆ ตอบโจทย์ความแข็งแรงด้วยวัสดุจากอลูมิเนียม และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เยี่ยมชม โดยการท�าทางเชื่อมจากห้องเก็บเอกสารสู่ห้องอ่านหนังสืออีกด้วย Massimiliano, a famous Italian architect firm, together with Doriana Fuksas are the designers behind the new National Archives of France that stands on the Pièrefittesur-Saine in southern Paris. The French have been archiving data since 1789 and all additional microfilm will be kept in the new National Archives. The building’s design will increase the amount of space that can be used to store all types of documents, while the surrounding area will be packed with glass and mirrors. Supporting aluminum frames run along the skywalk between the document room and the library.

FRAC Bretagne was designed by Studio Odile Decq and is actually the first small contemporary museum in France. The bright red color of the building is instantly recognizable and most of the metal surface is fully painted. There are only three rooms in the museum and there are no visible seams and the roof is see-through. A floor space of just 5,000-square meters makes it one of the smallest museums in France, but size is not important here, it is the aesthetic value that is worth much more.

Finely designed benches have been popping up all over the Indian city of Mumbai of late. This is not just an improvement of the city’s outlook; rather the latest technology from BMW Guggenheim Lab. MARS Architects was commissioned to design the ‘Water Bench’ to collect and store rainwater and is now the perfect bench for outdoors. The project is mainly focused on giving edginess to modern Urban Design. The material can absorb rainwater and is easy to repair and has become something of a conversation piece in that it is making people interact with each other more. Photo: designboom.com


62

63

NEW SPACE

Story by Editorial Team

StayingÊ ForÊLi Fe HouSeÊa ndÊ natureÊ- Ê tHeÊP erFectÊB Lend

การตีความใหม่ให้กับบ้านทีอ่ ิงแอบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จุดเริม่ ต้นของบ้านซึง่ จะกลายเป็นทีอ่ ยูอ่ าศัย และเป็นของขวั- ส�าหรับ การมอบคุณภาพชีวิตที่เปี่ยมสุข นอกจาก ‘การสร้าง’ แล้ว สิ่งหนึ่ง ที่ผู้ออกแบบต้องตระหนักคือ ‘การไม่ท�าลาย’ สิ่งแวดล้อม สองสิ่งนี้ ได้กลายเป็นคานน�า้ หนักทีต่ อ้ งรักษาความสมดุลของกันและกัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในยุคสมัยที่ธรุ กิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวจากใจกลางเมือง ไปสูพ่ นื้ ที่ใกล้ชดิ ธรรมชาติมากขึน้ ซึง่ เขาใหญ่คอื หนึง่ ตัวอย่างทีเ่ ห็นได้ ชัดที่สุด

มื่อกล่าวถึงแนวคิดส�าคัญของการสร้างบ้านที่เกื้อกูลกับ สิ่งแวดล้อม ประการแรกๆ ที่ตอ้ งค�านึงถึงคือเรื่องของการ วางต�าแหน่งและทิศทางของตัวอาคาร (Building Orientation) หลีกทางให้กับต้นไม้ใหญ่ ล�าธาร ส�ารวจทิศทางลมและ ทิศทางของแสง รวมถึงสภาพแวดล้อมของบ้าน ปัจจัย เหล่านี้จะช่วยท�าให้บา้ นได้รบั ประโยชน์จากธรรมชาติมาก ที่สดุ รวมถึงผูอ้ ยูอ่ าศัยที่จะได้รบั อากาศบริสทุ ธิ์และความ ร่มรื่น ทั้งนี้ ยังต้องเป็นบ้านที่ถูกออกแบบโดยให้ความ ส�าคัญกับการอยูร่ ว่ มกันของทุกคนในบ้าน ไม่วา่ จะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัย เพื่อจะให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันใน พื้นที่เดียวกัน รวมถึงการใช้นวัตกรรมการก่อสร้างที่ไม่ก่อ ให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและชุมชน ด้วยเสน่ห์ของเขาใหญ่ที่อุดมด้วยบรรยากาศแบบ ธรรมชาติ ความหลากหลายด้านแหล่งท่องเที่ยว รวมถึง ปัจจัยด้านการเดินทางที่สะดวกจากเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้เอื้อให้ดินแดนที่เปรียบเสมือน ทุง่ คาวบอยในอดีต กลายเป็นพิกดั ส�าคัญที่ใครต่อใครต่างฝัน อยากมีบา้ นพักตาอากาศไว้ท่นี ่สี กั หลัง แต่จะมีก่โี ปรเจกต์ ที่จะเข้าใจถึงแก่น-แท้ของการอยูร่ ว่ มกับธรรมชาติ...อย่างที่ ทุกคนฝันจะให้เกิดขึ้นจริง

aÊ houseÊ isnÕt Ê justÊ aÊ placeÊ toÊ stayÊ orÊ aÊ placeÊ weÊ liveÊ in.Ê WeÊ viewÊ theÊ houseÊ we choose to live in as a gift of life. To build a house, first a designer has toÊ thinkÊ throughÊ theÊ buildingÊ process,Ê theÊ construction,Ê andÊ howÊ canÊ theyÊ buildÊ aÊ houseÊ thatÊ doesÊ notÊ interfereÊ withÊ theÊ naturalÊ environment.Ê now,Ê residentialÊ habitatsÊ areÊ becomingÊ closerÊ toÊ theÊ naturalÊ world,Ê maybeÊ becauseÊ ofÊ theÊ expandingÊ propertyÊ businessÊ today.Ê theÊ bestÊ exampleÊ weÊ canÊ seeÊ isÊ inÊ KhaoÊ yai,Ê theÊ placeÊ whereÊ aÊ houseÊ andÊ natureÊ reallyÊ comeÊ togetherÊa sÊon e.

T

he ‘Building Orientation’ is the first priority in house building and design. We should avoid cutting down big trees because they need to be preserved for future generations and we should also be cautious of building a house too close to a river. The position of a house’s elements should be planned according to wind directions and the point of the compass to fully utilize natural sunlight at sunrise and sunset. Because getting the basics right really matters, the better a building’s orientation the better and happier people who live there will be. The house should be suitable for everyone who lives there; seniors, children, and adults. Spaces should be functional and not interfere with the natural environment or the community.

For those who plan to live in Khao Yai, the good news is there are many types of outdoor activities to do, plus it is not too far from Bangkok. The region is lively and still full of natural attractions. Once where cowboy fields dominated, today the area around Khao Yai is slowly turning into a faux Europe with a wide variety of vacation houses being built. But the best point of Khao Yai is that it offers everything a family could ever need. Special Thanks To: Magnolias French Country www.magnolia.co.th


64

65

GIVING BACK

Story by Editorial Team

TheÊF reedomÊ ProjecT Free-sPiriTedÊ melodies

เมโลดี้ของผู้มีดวงใจเสรีภาพ นี่คือการรวมตัวเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ ที่ปราศจากการชุมนุม

าจเพราะตระหนักว่าประเทศนี้ชกุ ชมด้วยการ ชุมนุมประท้วงมากอยู่แล้ว การรวมตัวของ กลุม่ ผูร้ เิ ริ่มโปรเจกต์ท่วี า่ ด้วยเรื่องของ ‘สิทธิ - เสรีภาพ’ ครั้งนี้ จึงเป็นการระดมพลังไอเดียแทนการระดม ก�าลัง ‘เสรีภาพ เสรีเพลง: The Freedom Project’ เป็น โครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง iCARE องค์กรสร้างสรรค์เพื่อสังคม โดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น กับนิตยสาร happening และมูลนิธิฟรีดริช เนามัน (Friedrich Naumann Foundation) โดยการน�าเสนอบทเพลง ที่จะสื่อสารถึงประเด็นสิทธิและเสรีภาพ ผ่านเนื้อหา และท่วงท�านองดนตรี ของ 5 เพลงที่ถกู แต่งขึ้นใหม่ จาก 5 ศิลปิน ได้แก่ เป้ – อารักษ์ อมรศุภศิริ, ศิลปิน วง 3 A.M., ปอย - Portrait, เอิ้น - พิยะดา หาชัยภูมิ และ กอล์ฟ - ฟักกลิ้งฮีโร่ ปอยนักร้องน�าแห่งวง Portrait บอกเล่าถึง แรงบันดาลใจของเพลง รักเท่าไร ฟังเท่านั้น เพลงที่ เจ้าตัวตั้งใจสะท้อนถึงเสรีภาพที่เกิดจากการฟังและ ความเข้าใจ ไว้อย่างน่าคิดว่า “ผมแต่งเพลงนี้ เพราะผมต้องการพูดถึง เสรีภาพในโลกทุกวันนี้ที่เราทุกคนเอาแต่พูด แต่ไม่ ค่อยฟัง ผมอยากให้เราลองหันมาสังเกตตัวเอง หยุดพูด แล้วลองฟังกันและกันไม่แปลกที่ทุกคน จะเห็นแต่เหตุผลของตัวเอง แต่ถา้ เราต้องการบรรลุ ถึงสันติภาพ นอกจากเหตุผลของตัวเองแล้ว เราต้อง เห็นเหตุผลของศัตรู หรือคนที่อยู่ตรงข้ามเราด้วย เราต้องเข้าใจศัตรูเราก่อน เพราะเหตุการณ์หลาย เหตุการณ์แก้ดว้ ยความเข้าใจ การเมืองไม่ใช่กฬี าสี จุดหมายจึงไม่ใช่การชนะ และในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครอยู่กันคนละฝ่าย เราทุกคนต่างเป็นคน ข้างเดียวกัน เราทั้งหมดเพียงสู้กับความไม่เข้าใจ

ของเราเท่านั้น ดังนั้นเสรีภาพจะเกิดขึ้นได้ เราทุกคน ต้องเห็นเหตุผล เข้าใจ และต้องฟังกันและกัน” นับถึงตอนนี้ นอกจากซิงเกิ้ลแรก รักเท่าไร ฟังเท่านั้น The Freedom Project ยังมีเพลงอย่าง อาณาจักรนักเลง ที่ได้กอล์ฟ - ฟักกลิ้งฮีโร่ มาท�าให้ เพลงนี้จัดจ้านด้วยเนื้อหา รวมถึง สิทธิ์ ผลงานของ เป้ – อารักษ์ ที่คงคาแรกเตอร์ดนตรีและภาษาเพลง ในสไตล์ที่เขาหลงใหล “ผมแต่งเพลงนี้จากความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับ การน�าเสนอเนื้อหาของสื่อ คือบ้านเรามีส่อื เยอะแยะ แต่เรื่องราวที่เราได้รับรู้มามันไม่มากพอ บางทีก็มี การแบน ห้ามไม่ให้พูด มันไม่ได้มีแต่รัฐบาลหรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่เซ็นเซอร์ แม้แต่ตัว พวกเราเองก็แบนเนื้อหาบางเรื่อง นั่นท�าให้การ แสดงออกทางความคิดเห็นมันโดนกดขี่ ก็เลยแต่ง เพลงนี้ออกมา เนื้อหาของเพลงไม่ได้หนักหน่วงหรือ รุนแรงอะไร ผมแค่อยากจะน�าเสนอว่า สุดท้ายแล้ว สิทธิเสรีภาพมันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าไม่ได้ท�าอะไร ให้ใครเดือดร้อน ค�านึงถึงความพอเหมาะพอดี

มีขีดจ�ากัด และก็ไม่ผิดต่อหน้าที่คุณ” เป้ขีดเส้นใต้ ถึงสิ่งที่เขาหมายถึงด้วยน�า้ เสียงหนักแน่นตอนท้าย ประโยค ความพิเศษของโปรเจกต์นี้ไม่ได้สิ้นสุดลง แค่เพียงการปล่อยเพลงสูต่ ลาดคนฟังเท่านั้น หากแต่ ยังมีแคมเปญต่อเนื่องที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจ สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดมิวสิควิดโี อ เพื่อชิง เงินรางวัลกว่า 120,000 บาท ส�าหรับผู้ที่สนใจ สามารถส่งผลงานได้ไม่จ�ากัดจ�านวน (จะท�า MV เพลงเดียว หรือท�าทั้ง 3 เพลงก็ได้) ซึ่งผู้ชนะการ ประกวดในแต่ละเพลงจะได้รบั เงินรางวัล 40,000 บาท การเริ่มต้นของโปรเจกต์เชิงสร้างสรรค์นี้ เป็น เหมือนการเปิดเวทีสาธารณะต่อทุกไอเดียที่จะ มาช่วยแสดงตัวตนทางความคิด เพื่อสร้างความ เข้าใจและตระหนักถึงขอบเขตของสิทธิและเสรีภาพ ที่ทุกคนในสังคมพึงมี พึงใช้อย่างเท่าเทียม จาก บทเพลงที่เรียบเรียงจากกระทูค้ า� ถามซึ่งแปลความ จากโจทย์ชีวิตของทุกๆ คน


66

นิทรรศการภาพถ่ายบุคคล จากโครงการหนังสือ

GIVING BACK

NEW HEART NEW WORLD 2:

ตื่นเพื่อตนเอง ตื่นเพื่อผู้อื่น

The P o rt r a i ts of N e w H e a rt N e w Wo r l d

บริเวณชั้น 2 หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์ กรุงเทพ)

callingÊfor Êour Êr ightsÊa ndÊfr eedomÊw ithoutÊpr otesting

Currently there are many people who have participated in various demonstrations, but a group of musicians and creative people have decided to form together to remind us about ‘RIGHTS AND FREEDOM’ without protesting.

isn’t a game; there are no rival teams here. We are all in the same team, but we quarrel because we disagree. To live together happily, we all need to listen to each other and understand each other with any agenda,” Poi explains.

‘The Freedom Project’ created by iCARE, a nonprofit organization by Magnolia Quality Development Corporation, in collaboration with Happening Magazine and the Friedrich Naumann Foundation, has released 5 special songs from 5 selected artists; Pae (Arak Amornsuppasiri), 3AM, Poi (Portrait), Earn (Piyada Hachaipoom), and Golf (Fuckling Hero) to highlight the cause.

So far, we’ve only heard the first single Rak Tao Rai, Fang Tao Nan, but The Freedom Project has more to offer; such as Anajak Nak Leng (The Gangster Kingdom) by Golf (Fuckling Hero), a song with very straightforward lyrics as is his style of writing. Also song called Sitt (Rights) by Pae (Arak), which takes in his usual unique folk rock style.

Poi, lead singer from Portrait, says that his inspiration for the song ‘Rak Tao Rai, Fang Tao Nan’ (The more you love, the more you listen) came from the fact that he thinks people today are not really listening to each other anymore. And, he adds, if we start to hear what the others had to say, everyone can get along finally; that’s the idea of his FREEDOM of speech.

“I wrote Sitt (Rights) from my thoughts about Thailand’s media and press. Thailand has many channels of media and journalism but most of the time we don’t get enough useful information. Accordingly, there is now more censorship as people in power attempt to control the press. Sometimes we just choose only a certain part of information that’s available and we do not look for the whole truth – so I think this is all about information limitation. This is partly why I wrote this song with not too straightforward lyrics. I just want to show that freedom and rights have limitations and all depends on each individual’s duty and responsibility,” Pae says in a strong tone.

“I wrote this song because I want to talk about the freedom of speech in today’s modern society. Everyone keeps talking but no one’s really listening. I want people to stop being self-concerned and start listening to what others have to say. Everyone has the freedom to think. But if we want to live happily together, we cannot be just self-involved – we need to hear the reason and thoughts from the others and solve the problem together. Politics

The continuing program from the project is the Music Video Contest where everyone can send in as many videos as they want for each song. There

are 3 songs remaining, waiting for the public’s creations. The winner of each song will receive 40,000THB, form the total prize of 120,000THB. This is how we can show our creative identity and the project really shows us how RIGHTS and FREEDOM have no boundaries – all the songs in the project have been written from reality and we’ve probably asked ourselves the same questions these artists asked. Special Thanks To: iCARE happening Magazine

องค์กรสร้างสรรค์เพื่อสังคม iCARE ภายใต้ บริษทั แมกโนเลีย ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนโดย สสส. ขอเชิญคุณร่วมสัมผัส ประสบการณ์ต่นื รูจ้ ากภาพถ่ายประกอบ บทสัมภาษณ์ของผูร้ ตู้ ่นื รวม 26 ท่าน อาทิ พระมหาวุฒชิ ยั (ว.วชิรเมธี) พระอาจารย์ชยสาโร พระชาคิโน ภิกขุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ประเวศ วะสี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร สุลกั ษณ์ ศิวรักษ์ จิตร์ ตัณฑเสถียร ดร.กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์ พิทยากร ลีลาภัทร์ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ วันชัย ตันติวทิ ยาพิทกั ษ์ ประเสริฐ อัครศิรกิ าญจนะ คามิน เลิศชัยประเสริฐ ธนญชัย ศรศรีวชิ ยั คฑา มหากายี พิม สุทธิค�า เจ้าชายผัก- นคร ลิมปคุปตถาวร


68

69

NEWS Girl de Provence ดี ซูพรีม เปิดตัวน�้าหอม GiRl DE PRovEnCE กระแสดีเกินคาด คุณวิฑติ อำภำพำส ผูอ้ ำ� นวยกำร บริษทั ดี ซูพรีม จ�ำกัด บริษทั ในเครือของ ดีทกี รุป๊ มอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงควำมขอบคุณแก่เกิรล์ กรุป๊ ระดับอินเตอร์ จำกแดนกิมจิ Girls’ Generation ในโอกำสร่วมกิจกรรม Meet & Greet กับกลุ่มลูกค้ำน�้ำหอม GiRL DE PRovEnCEE (เกิร์ล เดอ โพรว้องซ์) ในเมืองไทย หลังกระแสตอบรับแรงเกินคำด พร้อมประกำศแผนขยำยไลน์ สินค้ำหวังดันยอดขำยให้โตขึ้น 25% ในปี 56 Dees Supreme Company Limited, under DTGO Group of Companies led by Director, Khun Vithit Arparpardh, recently launched a new fragrance called GiRL DE PROVENCE. At the launch, Girls’ Generation, a Korean international pop group, were presented with a bouquet as a thank you gift for participating in the Meet & Greet activity with GIRL DE PROVENCE’s clients in Thailand. Khun Vithit also announced that the company will continue to expand in the market and aims to gain 25% more sales volume in 2014.

hotteSt youth day ‘เยาวชน ดี เดือด’ iCARE รวมพลังจากเด็กขจัดปัญหาโลกร้อน iCARE องค์กรสร้ำงสรรค์เพื่อสังคม โดย บริษทั แมกโนเลีย ควอลิต้ี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด สนับสนุนเหล่ำ เยำวชน ร่วมแสดงพลังควำมดีเพื่อขจัดปัญหำ ‘ควำมร้อน’ ในสังคมอย่ำงสร้ำงสรรค์ในงำน ‘เยำวชน ดี เดือด (Youth Day the Hottest)’ ซึ่งภำยในงำนได้จัดแสดงนิทรรศกำร ที่สะท้อนแนวคิด ‘ควำมร้อน’ ตั้งแต่ระดับบุคคล (ใจร้อน) ระดับครอบครัว (บ้ำนร้อน) ระดับประเทศ (ประเทศร้อน) และระดับโลก (โลกร้อน) พร้อมมอบรำงวัลแก่บคุ คลต้นแบบ ของเยำวชน ประจ�ำปี 2556 ประกอบด้วย ผู้พันวันชนะ สวัสดี, เบสท อรพิมพ์, มูลนิธิสืบ นำคะเสถียร เมื่อวันที่ 7 กันยำยน 2556 ณ ลำนฮำร์ดร็อค สยำมสแควร์ On 7 September 2013, iCARE by Magnolia Quality Development Corporation Limited sponsored ‘Youth Day The Hottest’, an event to encourage youngsters to help fix Global Warming. During the event, an exhibition on the subject of ‘HOT’ addressed issues such as hot headed (personal), hot-tempered (family), hot country (nation), and global warming (worldwide). Captain Wanchana Sawasdee later presented an award to the Youth of the Year 2013 to the Seub Nakhasathien Foundation.

Whizdom Society excluSive Seminar วิซส์ดอม โซไซตี้ จัดสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘สุนทรียสนทนา ระเบิดพลังจากภายใน’ กับอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด น�ำโดย คุณวิไล สมดังเจตน์ ประธำน เจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยกำรตลำด จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพำะลูกบ้ำน วิซส์ดอม คอนโด สุขุมวิท 64 ในหัวข้อ ‘สุนทรียสนทนำ ระเบิดพลังจำกภำยใน’ กิจกรรมที่วซิ ส์ดอม โซไซตี้ ตั้งใจมอบให้ลกู บ้ำนเพื่อมุง่ มั่นให้เกิดเป็น สังคมแห่งกำรเรียนรูแ้ ละแบ่งปัน เพื่อให้ผเู้ ข้ำร่วมได้สร้ำงแรงบันดำลใจจำกกำรรับฟังกำรบรรยำยสนทนำ และน�ำไปประยุกต์ใช้กบั กำรด�ำเนินชีวติ ให้เกิดควำมสุขทั้งกับตนเองและสังคม ซึ่งได้รบั เกียรติบรรยำยโดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกรนำซ่ำที่ปัจจุบันเป็นทั้งนักคิดและนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ Khun Wilai Somdungjate, Magnolia Quality Development Corporation Limited’s Chief Marketing Officer recently welcomed Professor Worapat Poocharoen to an exclusive seminar for Whizdom Condominium Sukhumvit 64’s residents on the subject of ‘Recreation Conversation to Burst Out from Within’. As a former NASA engineer and a famous innovator, Professor Worapat is an inspirational motivator who helped bring the residents together to learn and to share information.

maGnolia WelcomeS re-cu to French country Khao yai แมกโนเลียฯ เปิดอาณาจักร ‘เฟรนช์ คันทรี เขาใหญ่’ ต้อนรับคณะ RE-CU แมกโนเลียฯ เปิดอำณำจักรโครงกำรสไตล์เฟรนช์คนั ทรีสดุ เอ็กซ์คลูซฟี สร้ำงแล้วเสร็จเพียงแห่งเดียว ในเขำใหญ่ ต้อนรับสมำคมผู้บริหำรธุรกิจอสังหำริมทรัพย์ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย (RE-CU) ซึ่งเป็นผู้เข้ำรับกำรอบรมหลักสูตร RE-CU EXE.MARKETInG รุ่นที่ 3 เข้ำชมบ้ำนตัวอย่ำงสไตล์ Eclectic ที่รงั สรรค์ข้นึ จำกกำรผสมผสำนระหว่ำงควำมหรูหรำสง่ำงำมสไตล์โพรว็องซ์และมำตรฐำน คุณภำพชีวติ ระดับสูงของแมกโนเลีย โดยมุง่ เน้นให้ผเู้ ข้ำรับกำรอบรมได้สมั ผัสกับคอนเซ็ปต์กำรสร้ำง ที่อยู่อำศัยแบบใหม่ที่มุ่งค�ำนึงถึงควำมยั่งยืนในกำรใช้ชีวิต โดยกำรน�ำงำนวิจัยและนวัตกรรมด้ำน อสังหำริมทรัพย์หลำกหลำยรูปแบบมำใช้ในกำรออกแบบ และก่อสร้ำงเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชำติ ของผืนป่ำเขำใหญ่และบรรยำกำศธำรน�้ำจำกเขื่อนล�ำตะคอง Magnolia Quality Development Corporation exclusively welcomed the 3rd Generation RE-CU, a Property Management Group from Chulalongkorn University who are studying RE-CU EXE Marketing program, on a visit to the now completed Magnolias French Country project in Khao Yai. The project portrays the luxurious Provence lifestyle along with the high standard of living owners enjoy at Magnolias French Country. The purpose of the tour is to sustain quality of life by implementing innovations and conducting research into various types of property that employ unique design and construction methods while at the same time protecting the environmental status of Khao Yai and Lumtakong.


70

71

NEWS

mrB readieS launch แมกโนเลียส์ ราชด�าริ บูเลอวาร์ด แถลงความส�าเร็จและทิศทางตลาดอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ โครงกำรแมกโนเลียส์ รำชด�ำริ บูเลอวำร์ด จัดงำนแถลงข่ำวควำม ส�ำเร็จและแผนกำรท�ำตลำดต่ำงประเทศ รวมถึงแนวโน้มทิศทำงตลำด อสังหำริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ พร้อมเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน ภำยในงำน ได้รับเกียรติจำก คุณธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมกำรผู้จัดกำรบริษัท และ คุณเกษศิริ กูเ้ กียรตินนั ท์ ผูอ้ ำ� นวยกำรบริหำร-กลุม่ งำนสนับสนุนโครงกำร บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด และ คุณอลิวัสสำ พัฒนถำบุตร กรรมกำรผูจ้ ดั กำร บริษทั ซีบี ริชำร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จ�ำกัด เข้ำร่วมงำน ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮเอท เอรำวัณ Magnolias Ratchadamri Boulevard arranged three-pronged press conference to announce the accomplishment of the project, highlight its international marketing plans and outline predictions for the high-end property market in Thailand. The occasion was also an opportunity to host a thank you party for journalists. Attending the event were Khun Thanawan Chaiwattana, Magnolias Finest Corporation Limited’s Managing Director and Khun Kedsiri Chaiwattana, Company Director and Khun Aliwassa Pattanathabutr, Managing Director, CB Richard Ellis (Thailand) Co., Ltd.

excluSive Promotion For citiBanK card holderS แมกโนเลียส์ ราชด�าริ บูเลอวาร์ด มอบโปรโมชั่นสุดคุ้มแก่ผู้ถือบัตรซิตี้แบงก์ แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น ผูพ้ ฒ ั นำโครงกำรแมกโนเลียส์ รำชด�ำริ บูเลอวำร์ด เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษแก่ผใู้ ช้บตั รเครดิตซิต้แี บงก์ท่ซี ้อื ห้องชุด โครงกำรตลอดเดือนสิงหำคม เมื่อช�ำระค่ำธรรมเนียมกำรจองและค่ำท�ำ สัญญำห้องชุด รับเงินคืนทันที 10% (สูงสุด 500,000 บำท) พร้อมรับแต้ม ซิตี้แบงก์รีวอร์ด 15 เท่ำ เมื่อช�ำระค่ำธรรมเนียมกำรจอง (100,000 บำท) และพิเศษสุดกับส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 1.4 ล้ำนบำท (ขึ้นอยูก่ บั ขนำดห้องชุด) พร้อมฉลองโปรโมชั่นด้วยงำน “Show Suites Preview” โอกำสที่ให้ลูกค้ำ ร่วมสัมผัสควำมหรูหรำของห้องชุดแมกโนเลียส์ฯ อย่ำงใกล้ชดิ และรื่นรมย์ กับกำรต้อนรับสไตล์งำนเลี้ยงน�้ำชำยำมบ่ำย ภำยในเซลล์แกลเลอรี่ที่ สวยงำมของโครงกำรแมกโนเลียส์ รำชด�ำริ บูเลอวำร์ด เมื่อวันที่ 17 - 18 สิงหำคม 2556 ที่ผ่ำนมำ Magnolia Finest Corporation Limited, the developer of Magnolias Ratchadamri Boulevard, recently hosted a special promotion exclusively to Citibank card holders. The promotion offered a refund of up to 10% or 500,000 THB, when card holders paid a down payment and contract fee along with 15x Citibank Reward points on their reservation fee (100,000 THB). Furthermore, card holders were entitled to get up to 1.4 million THB discount, depending on the suite size, and have a closer inspection of the project at the “Show Suite Preview”. The themed event covered a traditional high tea party at the Magnolias Ratchadamri Boulevard’s sales gallery.

mixed uSe ProPerty deSiGn ProGram at mrB แมกโนเลียส์ ราชด�าริ บูเลอวาร์ด เปิดโครงการแบ่งปันความรู้การออกแบบอสังหาฯ แบบผสม

Whizdom condominium SuKhumvit 64 WoWS

คุณสุรวัฒน์ หำญทวิชัย ผู้อ�ำนวยกำรงำนออกแบบ แห่งแมกโนเลียส์ รำชด�ำริ บูเลอวำร์ด ให้กำรต้อนรับคณะนักศึกษำชั้นปีที่ 4 สำขำสถำปัตยกรรม คณะ สถำปัตยกรรมศำสตร์และกำรผังเมือง มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ พร้อมบรรยำย และให้ควำมรูเ้ กี่ยวกับกำรออกแบบโครงกำรอสังหำริมทรัพย์แบบผสม (Mixed Use) เพื่อให้นกั ศึกษำน�ำไปประยุกต์ใช้ในวิชำ Design Studio ผ่ำนกรณีศกึ ษำ โครงกำรแมกโนเลียส์ฯ ในฐำนะโครงกำรที่พักอำศัยระดับหรูแห่งแรกของ กรุงเทพฯ ที่มีกำรออกแบบตำมมำตรฐำน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จำกสหรัฐอเมริกำ ซึ่งถือว่ำเป็นมำตรฐำนสูงสุดใน ปัจจุบัน

Whizdom สุขุมวิท 64 เปิดแคมเปญอยู่ฟรี 1 ปี + iPhone 5S

Khun Surawat Harntawichai, Design Director of Magnolias Ratchadamri Boulevard, welcomed senior students from the Architect Department, Architect and Urban Design Faculty, Thammasart University to the high-end property development. Khun Surawat gave a lecture that informed the students of the benefits of Mixed Use Property Design so they can apply the knowledge to their Design Studio subject by using Magnolias Ratchadamri Boulevard as a key reference. The first luxury residence in Bangkok to be designed with LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) from the USA as standard, Magnolias Ratchadamri Boulevard is a leader in design.

แมกโนเลียฯ ผูด้ ำ� เนินธุรกิจด้ำนอสังหำริมทรัพย์ช้นั น�ำของไทย กระตุน้ วงกำรคอนโดมิเนียมด้วยแคมเปญ ‘อยูฟ่ รี 1 ปี’ ตกแต่ง พร้อมเข้ำอยู่ ในงำน September Surprises ที่ Mega Bangna เมื่อวันที่ 19 - 22 กันยำยน 2556 พร้อมมอบของขวัญ สุดเซอร์ไพรส์ ฟรี iPhone 5s ส�ำหรับผูท้ ่จี องภำยในงำนเท่ำนัน้ Magnolia Quality Development Corporation, the property management leader in Thailand, has boosted the condominium market in Bangkok during its 1 Year Free Stay (in a fully furnished condominium) campaign in September at a surprise event at Mega Bangna on 19-22 September 2013. During the event, customers who reserved a unit in the trendy condominium where entitled to receive a free iPhone 5S.


72

73

NEWS

From PlayGround to claSSroom SPecial oFFer From Whizdom ‘Be Smart Pay Smart’ ข้อเสนอสุดพิเศษจาก Whizdom Condominium ‘วิสซ์ดอม สุขมุ วิท 64’ คอนโดท�ำเลทองติดสถำนีรถไฟฟ้ำในย่ำนสุขมุ วิท 64 มอบข้อเสนอระดับเอ็กซ์คลูซฟี ให้กบั ลูกค้ำ ‘Be Smart Pay Smart’ อยูฟ่ รี 1 ปี ฟรีเงินจอง ฟรีเงินท�ำสัญญำ ฟรีเงินดำวน์ ฟรีค่ำธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ ตกแต่งครบพร้อมเข้ำอยู่ พร้อมโชว์นวัตกรรมที่ออกแบบมำเป็นพิเศษ เน้นควำมอยู่สบำยและไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง ภำยในงำน Home Buyer Expo ที่ผ่ำนมำ Whizdom Condominium Sukhumvit 64, the stylish condominium close to the Punnawithi BTS station in the lower Sukhumvit area, recently rolled out its ‘Be Smart Pay Smart’ campaign at the Home Buyer Expo that offered perspective clients a one year stay for free. The offer allowed customer to live for free for a year, with no down payment or contract payments, but still receive the ownership transfer fee. The fully furnished condominium is located in a fast developing area and offers owners a complete city lifestyle choice.

‘จากสนามเด็กเล่นสู่ห้องเรียน’ กิจกรรมสร้างสรรค์จากมูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิพุทธรักษำ ภำยใต้กำรดูแลของกลุ่มบริษัทดีที ร่วมกับ มูลนิธิ ไร้ท์ ทูเพลย์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม เรียนรู้ ‘อำเซียน วำไรตี้’ โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 จ�ำนวน 160 คน เข้ำร่วมกิจกรรม ณ โรงเรียน วัดสระแก้ว จ.อ่ำงทอง ส�ำหรับกิจกรรมครั้งนี้เป็นกำรบูรณำกำรกิจกรรมพัฒนำทักษะชีวติ เข้ำกับจุดประสงค์ กำรเรียนรู้รำยวิชำ ได้แก่ คณิตศำสตร์ ภำษำไทย และสังคมศึกษำ เพื่อศึกษำเนื้อหำวิชำกำรและสะท้อน กำรเรียนรู้โดยใช้ทักษะชีวิต เช่น ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ กำรท�ำงำนเป็นกลุ่ม และกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ อันดีกับผู้อื่น The Puttaraksa Foundation, supported by DT Group of Companies, is assisting the Right to Play Foundation Thailand to arrange ‘ASEAN Variety’ activities to 160 Grade 5 students at Wat Sakaew School in Ang Thong province. These recreational activities will go hand in hand with lessons in Math, Thai and Sociology where the students will learn from real world experiences. By analyzing various situations, the students work as a group and develop personal relationships with each other.

ordinary PeoPle chanGe the World iCARE จัดงาน ‘คนธรรมดาเปลี่ยนโลก’ จุดกระแสพลังแห่งการ ‘เปลี่ยน’ iCARE องค์กรสร้ำงสรรค์เพื่อสังคมโดย บริษทั แมกโนเลีย ควอลิต้ี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด ร่วมสนับสนุน Change.org จัดงำน ‘คนธรรมดำเปลี่ยนโลก’ ในโอกำสครบรอบกำรท�ำงำน ในประเทศไทย 1 ปี ซึ่งได้รบั เกียรติจำกคน ‘ตัวเล็ก แต่เสียงดัง’ เจ้ำของเรื่องรำวแห่งแรงบันดำลใจ ทีม่ ำร่วมถ่ำยทอดประสบกำรณ์กำรท�ำงำนให้กบั ผูร้ ว่ มงำน ณ TK Park ชั้น 8 ศูนย์กำรค้ำเซ็นทรัลเวิลด์ iCARE, the socially-minded organization by Magnolia Quality Development Corporation, co-sponsored with Change.org the ‘Ordinary People Change the World’ event as the web site celebrated its 1st anniversary in Thailand. During the event, ‘small but loud’ people shared inspirational stories of their experiences to other participants at TK Park, 8th Floor Central World.

aF10 maGnoliaS aPPreciation viSit AF10 เยี่ยมขอบคุณ แมกโนเลียฯ คุณจิรวัฒน์ เกตุแสง ผู้จัดกำรทั่วไปสำยงำนกำรตลำดและฝ่ำยขำยโครงกำร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด ให้กำรต้อนรับสุดยอดนักล่ำฝันจำกรำยกำรอะคำเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซ่นั AF10 เนื่องในโอกำสเข้ำขอบคุณในฐำนะให้กำรสนับสนุนสถำนที่ถำ่ ยท�ำและของรำงวัล ในโอกำสนี้ยงั ได้มกี ำรมอบวิสซ์ดอม ดิ เอ็กคลูซฟี คอนโดมิเนียมตกแต่งพร้อมเข้ำอยู่ มูลค่ำ 6 ล้ำนบำท ให้แก่ ภูริวัชร์ ธีระชำต หรือ ถังเบียร์ AF10 ท่ำมกลำงบรรยำกำศที่อบอุ่นของเหล่ำ 12 นักล่ำฝัน เมื่อวันที่ 26 กันยำยน 2556 As a major sponsor of the Academy Fantasia television reality show, Magnolia Quality Development Corporation’s Sales and Marketing General Manager Khun Jirawat Katesang welcomed Academy Fantasia participants for their appreciation visit to the project. During the visit by the budding stars, the company awarded Khun Puriwatch Teerachart (Tang Beer AF10), a fully furnished condominium at Whizdom Condominium Sukhumvit 64 worth 6 million THB.


ใบตอบรับสมัครนิตยสาร M Society ฟรีตลอดปี / FRee RegiSTRaTion วิธีการตอบรับ 1. กรอกข้อมูลผ่าน www.magnolia.co.th/subscribe / Subscribe via from www.magnolia.co.th/subscribe 2. กรอกข้อมูลในใบตอบรับนี้ ถ่ายภาพ และส่งมาที่อเี มล์ : msociety@magnolia.co.th / Take a picture of the questionnaire form and send via email to: msociety@magnolia.co.th. 3. แจ้งข้อมูลของท่านผ่านทางโทรศัพท์ที่เบอร์ 0 2742 9141 ต่อ 3501 หรือ 08 3095 5049 / Call 02 742 9141 # 3501 or 08 3095 5049 and tell us your answers 4. ส่งใบตอบรับมาทางไปรษณียท์ ่ ี “ฝ่ายการตลาดองค์กร” บริษทั แมกโนเลีย ควอลิต้ ี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่นจ�ากัด เลขที ่ 695 ซอยสุขมุ วิท 50 ถนนสุขมุ วิท เขตคลองเตย กทม 10260 / Send by post mail on receipt to: “Corporate Marketing”, Magnolia Quality Development Corporation, the West Lot, 695, Soi Sukhumvit 50, Sukhumvit Road, Klong Toey, Bangkok 10260.

ข้อมูลสมาชิก หรือข้อมูลผู้สมัคร / Participant Information ชื่อ / Name ............................................................................. นามสกุล / Surname ............................................................... โทรศัพท์ / Tel. ......................... มือถือ / Mobile ........................ อีเมล์ / E-mail ......................................................................... ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ / Current Address ❍ บ้าน / Home ❍ ที่ท�างาน / Work Place บริษัท, องค์กร / Company, Organization ................................ เลขที่ / Housing Number ............ อาคาร / Building ................ ชั้น / Floor .................. ถนน / Road ........................................ แขวง / Sub District ...................... เขต / District ...................... จังหวัด / Country .................................................................... รหัสไปรษณีย์ / Post Code ...................................................... อายุ * / Age ❍ ≤ 20 ❍ 31 - 35 ❍ 46 - 50 เพศ * / Gender ❍ ชาย / Male

❍ 21 - 25 ❍ 36 - 40 ❍ 51 - 60

❍ 26 - 30 ❍ 41 - 45 ❍ 60 > ❍ หญิง / Female

ระดับการศึกษา */ Education ❍ ต�่ากว่าอนุปริญญา (ปวส.) / High School or below ❍ อนุปริญญา (ปวส.) / Certificate ❍ ปริญญาตรี / Bachelor’s degree ❍ ปริญญาโท / Master’s degree ❍ ปริญญาเอก / Ph.D รายได้ต่อเดือน / Income per Month (THB) ❍ ≤ 20,000 ❍ 20,001 - 30,000 ❍ 30,001 - 50,000 ❍ 50,001 - 70,000 ❍ 70,001 - 100,000 ❍ 100,001 - 150,000 ❍ 150,001 - 300,000 ❍ 300,001 - 500,000 ❍ 500,001 ≥ อาชีพ / Occupation ❍ นักเรียน นิสิต นักศึกษา / Student ❍ พนักงานบริษัท / Employee ❍ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ / Government ❍ ผู้บริหารระดับสูง / Executive, Professional ❍ เจ้าของกิจการ / Business Owner ❍ แพทย์ / Medical ❍ ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ / Judge ❍ อาชีพอิสระ / Self-employed ❍ อื่นๆ / Other ................ สาขา หรือ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของท่าน / Industry of Occupation ❍ โฆษณา / Advertising ❍ แฟชั่น / Fashion ❍ สถาปัตยกรรม การออกแบบ / Architect ❍ ท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน / Travel, Hotel, Airline ❍ วรรณกรรม การพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ การกระจายเสียง ภาพยนตร์ ดนตรี / Print, Broadcast

❍ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ แอนิเมชั่น วิดีโอเกม / I.T. ❍ ทัศนศิลป์ การถ่ายภาพ หัตถกรรม และงานฝีมือ / Artist, Photographer, Artisan ❍ การเงิน การธนาคาร / Finance, Banking, Business ❍ การแพทย์ / Medical ❍ อื่นๆ / Other ................ ท่านรู้จัก Magnolia จากสื่อประเภทใดบ้าง (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) How did you discover Magnolia? (you can pick more than one choice) ❍ หนังสือพิมพ์ โปรดระบุ / Newspaper : …………………...................... ❍ เคเบิ้ลทีวี โปรดระบุ / Cable Television : …………………................ ❍ เพื่อน / ญาติ ❍ Event ❍ นิตยสาร โปรดระบุ / Magazine : ……………………............................ ❍ โทรทัศน์ / Television ❍ Website ❍ ป้ายโฆษณา / Billboard ❍ Facebook ❍ อื่นๆ / Other ...................................................................................... ท่านเป็นลูกค้า Magnolia โครงการใดบ้าง which Magnolia projects? did you own? ❍ Whizdom ❍ Magnolias Southern California Bangna ❍ Magnolias French Country Khao Yai ❍ Magnolias Ratchadamri Boulevard ❍ Not a Client for Magnolias Project ปกติท่านพบนิตยสาร M Society จากสถานที่ใดเป็นหลัก (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) Where do you read M Society Magazine? (you can pick more than one choice) ❍ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) / Thailand Creative & Design Center ❍ ลูกค้าโครงการ Magnolia หรือ Whizdom / Magnolia’s project resident ❍ ร้านกาแฟ เบเกอรี่ / Coffee Shop, Bakery........................................... ❍ โรงแรม / Hotel................................................................................... ❍ สถานศึกษา / School, University........................................................ ❍ โรงพยาบาล / Hospital....................................................................... ❍ ร้าน True café / True Café Shop....................................................... ❍ ร้านอาหาร / Restaurant..................................................................... ❍ อื่นๆ / Other....................................................................................... เนื้อหาหรือคอลัมน์ใดที่ท่านชอบมากที่สุด / What is your favorite column ? คอลัมน์ / Columns .................................................................................. เหตุผล / Reason ..................................................................................... เนื้อหาหรือคอลัมน์ใดที่ท่านคิดว่าควรปรับปรุง Which columns should be improved? คอลัมน์ / Columns .................................................................................. เหตุผล / Reason ..................................................................................... ท่านอยากให้เพิ่มเติมเนื้อหาประเภทใดในนิตยสารบ้าง What other topics would you like to see in M Society Magazine? ................................................................................................................ ความคิดเห็นอื่นๆ ที่มีต่อนิตยสาร / Other comments? ................................................................................................................



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.