หนังสือพิมพ์เสียงไทบ้าน ปีที่ 17 ฉบับที่ 11

Page 1


หนองหารอ่วม ผลวิจัยชี้คุณภาพน้​้าเสื่อม รัฐเร่งวางมติพร่องน้​้าลอกหนองแก้ปัญหา ผลวิจัยชี้คุณภาพน้​้า ณ จุดต่างๆ บริเวณพื้นที่ชุมชนรอบหนองหารเสื่อมสภาพ หน่วยงานรัฐและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกันจัดการประชุมหารือเพื่อหาทางแก้ไข ปัญหา จัดตั้ง “โครงการพร่องน้​้าหนองหาร” เพื่อก้าจัดวัชพืชใต้น้าที่เป็นสาเหตุท้าให้คุณภาพ น้​้าเสื่อมโทรม และคืนค่ามาตรฐานที่เหมาะต่อการใช้อุปโภคและบริโภค โดยขอความร่วมมือ ชาวบ้านงดท้านาปรัง ด้านชาวบ้านไม่เห็นด้วย หวั่นกระทบการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ในพื้นที่รอบหนองหาร เมื่อเดือน พ.ย 2562 ที่ผ่านมา นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร พร้อมด้วย นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม นักวิชาการด้านการประมง พร้อมปราชญ์ชาวบ้าน ตลอดทั้งองค์กร เอกชน ได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่รอบหนองหาร และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 14 แห่ง ลงความเห็นตรงกันว่าน้​้าในหนองหารเริ่มไม่ได้คุณภาพ จึงได้มีการคิดวิธีที่จะปกป้องแหล่งน้​้าจืดที่ ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย โดยวางมติในองค์ประชุมว่าจะท้าการบ้าบัดน้​้าเน่าเสียที่ จังหวัดสกลนครด้วยการ “พร่องน้​้า” ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปติดตามโครงการดังกล่าว ผศ.ดร. ศมณพร สุทธิบาก หนึ่งในทีมวิจัยน้​้าหนองหาร จากคณะวิทยาศาสตร์และ วิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.สกลนคร เผยว่า จากการวัดระดับคุณภาพน้​้าใน หนองหารนั้น ทางส้านักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้คุณภาพน้​้าหนองหารอยู่ใน ระดับ 3 คือคุณภาพน้​้าพอใช้ สามารถน้ามาใช้อุปโภคบริโภคได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการกรองน้​้า ของประปา การประเมินคุณภาพน้​้าจะมีอยู่ 5 ระดับ ได้แก่ ระดับที่หนึ่งคุณภาพน้​้าดีมาก ระดับ ที่ 2 คุณภาพน้​้าดี ระดับที่ 3 คุณภาพน้​้าพอใช้ ระดับที่ 4 คุณภาพน้​้าเสื่อมโทรม และระดับที่ 5 คุณภาพน้​้าวิกฤต จากผลการวิจัยคุณภาพน้​้าหนองหารฤดูแล้ง (เมษายน 2561) พบว่า การวิเคราะห์ คุณภาพน้​้าในหนองหารตามมาตารฐานคุณภาพน้​้าในแหล่งน้​้าผิวดิน โดยการวัดคุณภาพน้​้าจะมี


การวัดปริมาณออกซิเจนละลายสูง (DO) ที่ต้องมีค่าระหว่าง 5-8 มิลลิกรัม/ลิตร ค่าบีโอดี (BOD) ไม่เกิน 20 มิลลิกรัม ปริมาณแอมโมเนียไนโตเจน ไนเตรท ฟอสฟอรัสทั้งหมด แบคทีเรียกลุ่มโคลิ ฟอร์มทั้งหมด และแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม ซึ่งมีการประเมินน้​้าในบริเวณ อ.เมืองและ อ. โพนนาแก้ว ที่มีที่ตั้งติดกับหนองหาร 10 สถานี ได้ผลตรวจออกมาว่า คุณภาพน้​้าอยู่ในระดับที่ดี และคุณภาพน้​้าในล้าห้วยสาขาตามมาตรฐานคุณภาพน้​้าในแหล่งน้​้าผิวดินอีก 8 สถานี พบว่ามี พื้นที่ที่อยู่ในระดับดี 5 สถานี ระดับพอใช้ 1 สถานี และอยู่ในระดับเสื่อมโทรมอีก 2 สถานี ผศ.ดร.ศมณพร ยังระบุอีกว่า ตั้งแต่ท้าการศึกษาคุณภาพน้​้าหนองหารจะมีการ เปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามฤดูกาล และในช่วงหน้าแล้งบางครั้งจะขยับไปอยู่ในระดับ 4 โดยเฉพาะโซน ที่เป็นชุมชน ซึ่งบางจุดเริ่มที่จะเสื่อมโทรมจึงท้าให้ทางจังหวัดสกลนครอยากจะรักษาคุณภาพน้​้า ไม่ให้เกินระดับ 3 นายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า น้​้าในหนองหารไม่ได้คุณภาพจริงตามที่เป็นข่าว ซึ่งในอดีตหนองหารมีระบบระบายน้​้าแบบ ธรรมชาติ คือ การปล่อยน้​้าให้ไหลลงสู่ลุ่มน้​้าก่้า ซึ่งในหน้าแล้งน้​้าจะแห้งจนมองเห็นดอนสวรรค์ แต่เมื่อกว่า 40 ปีก่อน มีการสร้างประตูสุรัสวดีขึ้นเพื่อกักเก็บน้​้าไว้ใช้เพื่ออุปโภคบริโภค เนื่องจาก น้​้าในหนองหารไม่มีการถ่ายเท และหนองหารเป็นแหล่งรองรับน้​้าเสียจากชุมชนต่างๆ ที่อยู่บริเวณ โดยรอบ อาทิเช่น เทศบาลเมืองฮางโฮ ท่าแร่ และเชียงเครือ จึงท้าให้เกิดปัญหาน้​้าเสียขึ้นในช่วงที่ ปิดประตูสุรัสวดี และจะเปิดระบายน้​้าออกเฉพาะช่วงน้​้าหลากในฤดูฝน แต่สิ่งปฏิกูลที่ท้าให้น้าเสีย ยังคงอยู่ข้างล่าง และอีกหนึ่งเหตุผลส้าคัญที่ท้าให้น้าเสีย คือ ผักตบชวา สนุ่น สาหร่าย รวมไปถึง น้​้าเสียที่ระบายลงไปในหนองหารโดยไม่ได้รับการบ้าบัด ไม่ใช่เพียงแต่ชุมชนเมืองในเขตเทศบาล สกลนคร แต่ยังรวมไปถึงพื้นที่บริเวณโดยรอบหนองหารทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี ผงซักผ้า น้​้ายาล้างจานที่ไหลมารวมกันอยู่ในหนองหาร จึงท้าให้เกิดปัญหากับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้​้า ปัจจุบัน ปลาในหนองหารคนไม่นิยมที่จะน้ามาบริโภค เนื่องจากกินแล้วพบว่าเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดพยาธิ ใบไม้ในตับและเชื้อโรค ทั้งยังมีผลจากการศึกษาบอกไว้ชัดเจนอีกว่าโรคพยาธิใบไม้ในตับ พบมาก เป็นอันดับหนึ่งของโลกที่หนองหาร นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า ทางภาครัฐจึงได้ท้าประชาคมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รอบหนองหารทั้ง 14 แห่ง ที่มีประชาชนอาศัยอยู่โดยรอบ และมีมติเห็นชอบสอดคล้องกันว่า


วิธีการพร่องน้​้าคือแนวทางการแก้ไขปัญหาน้​้าเสียที่ดีที่สุด เพราะใช้งบประมาณน้อยและเป็นการ ใช้ธรรมชาติบ้าบัดน้​้าเสีย ซึ่งการพร่องน้​้าของหนองหารจ้าเป็นต้องใช้วิธีการบ้าบัดแบบธรรมชาติ คือการค่อยๆ ระบายน้​้าออกให้น้าลดลง ซึ่งไม่สามารถค้านวณได้แน่ชัดในแต่ละครั้ง หากพร่อง เสร็จแล้วจะมีการสังเกตการเปลี่ยนแปลงในระยะ 2-3 ร้อยเมตรตรงบริเวณที่น้าลดลงว่า เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เมื่อพบระดับที่อาจท้าให้เกิดปัญหาจะหยุดการพร่องน้​้าในทันที ซึ่ง การระบายน้​้าไม่สามารถระบายออกได้ในครั้งเดียวจึงต้องท้าการปล่อยน้​้าออกเป็นระยะๆ เพื่อ ไม่ให้เกิดปัญหาน้​้าขาดแคลนในช่วงฤดูแล้ง ขณะนี้ทาง อบจ. ได้มีการวางแผนในปีถัดไปส้าหรับโครงการพร่องน้​้า โดยการวางแผนขุด ร่องน้​้าในการพร่องน้​้าในครั้งต่อไปเพื่อใช้กักเก็บน้​้า ซึ่งจุดนี้ไม่สามารถท้าให้ส้าเร็จได้ในครั้งเดียว จึงต้องท้าอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยท้าให้คุณภาพน้​้าดีขึ้น แต่อาจไม่ดีขึ้นไปทั้งหมดทีเดียว หาก ปล่อยน้​้าหนองหารให้แห้งจะก่อให้เกิดความเดือดร้อน จึงต้องมีการประชุมวางแผนให้เป็นระบบ คือ 1. ประปาแบ่งเป็น 2 ภาคส่วน คือ ประปาส่วนภูมิภาคและประปาชุมชน 2. เรื่องการปลูกพืช ในฤดูแล้ง คือข้าวนาปรังเป็นหลัก อาจจะมีมะเขือเทศ และข้าวโพดพ่วงด้วย ซึ่งประชาชนบางกลุ่ม ยอมเสียสละที่จะไม่ท้านาปรังเพื่อให้ทางรัฐบาลท้าการบ้าบัดน้​้าในหนองหารให้สะอาดขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่ต้าบลหนองบัวแดง ระบุว่า ทางภาครัฐได้มีการลงมาพูดคุยกับชาวบ้าน เกี่ยวกับโครงการพร่องน้​้าหนองหารเพื่อบ้าบัดน้​้าเน่าเสีย พร้อมทั้งแจ้งกับทางชาวบ้านว่าจะมีการ ปล่อยน้​้าออกจากหนองหาร จึงขอความร่วมมือกับชาวบ้านให้งดท้านาปรัง ซึ่งชาวบ้านบางส่วนไม่ เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพราะกลัวกระทบกับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในพื้นที่รอบหนอง หาร เนื่องจากน้​้าในหนองหารคือแหล่งอุปโภคบริโภคหลักของชาวบ้าน นอกจากนี้ ชาวบ้านยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในอดีตก้านันท้าเรื่องของบประมาณกับกรม อนามัยเพื่อมาจัดตั้งเครื่องสูบน้​้า ควบคู่กับการใช้คลอรีนและสารส้มบ้าบัดน้​้าผ่านเครื่องกรอง เพื่อ ผลิตน้​้าสะอาดแจกจ่ายกันใช้ภายในชุมชน พร้อมกับมีคณะกรรมการคอยดูแลและช่วยกันบริหาร ภายในชุมชน แต่ในระยะหลังมีการโอนคืนให้กับเทศบาลเป็นผู้ดูแล ในช่วงแรกน้​้ายังสามารถใช้ อุปโภคบริโภคได้ปกติ แต่ในระยะหลังไม่สามารถใช้บริโภคได้เนื่องจากมีตะกอนตกค้าง ชาวบ้านจึง ซื้อน้​้าถังราคา 10-12 บาท มาดื่มกินตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา


ด้านชาวประมง บ้านท่าวัดใต้ ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร กล่าวว่า น้​้าหนองหาร เน่าเสียจริงแต่เป็นเพียงบางจุด เนื่องจากมีน้าทิ้ง น้​้าเน่าเสีย ที่มีที่มาจากทั้งในตัวเมืองหรือใน ชุมชนรอบหนองหารไหลลงมาสะสมในหนองหารเป็นระยะเวลาหลายปีท้าให้เกิดน้​้าเน่าเสีย จาก เดิมที่สามารถหาปลาได้จ้านวนมากถึงวันละ 70-80 กก. ปัจจุบันหาได้น้อยลง เหลือเพียงวันละ สิบกว่ากิโลกรัม พอให้ประทังชีวิต ซึ่งไม่คุ้มกับการลงทุน ทั้งยังต้องออกไปหาไกลถึงดอนสวรรค์จึง จะได้ปลา ชาวประมงบางคนเป็นแผลก็ไม่สามารถลงน้​้าหาปลาได้เพราะในน้​้ามีเชื้อโรคที่เป็น อันตรายสะสมอยู่ จึงต้องยอมเสียรายได้ในส่วนนี้ไป นอกจากนี้ นายชัยมงคล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผักตบชวาที่ท้าให้น้าเสียนั้นทางภาครัฐมีแผน ที่จะน้าขึ้นมาท้าปุ๋ยคอก และแจกจ่ายให้กับประชาชนหลังจากมีการพร่องน้​้าไปแล้วในระยะหนึ่ง ซึ่งทางภาครัฐไม่สามารถใช้เรือโป๊ะเพียงอย่างเดียวในการก้าจัดผักตบชวา และวัชพืชในหนองหาร ที่มีพื้นที่กว่า 74,000 ไร่ได้ทั้งหมด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องรวม 14 องค์กรส่วนท้องถิ่นให้ช่วยกันก้าจัดผักตบชวาในหนองหาร เพื่อลดปัญหาน้​้าเน่า เสียที่เกิดขึ้น และการพร่องน้​้าไม่ใช่การระบายน้​้าทิ้งแต่เป็นการน้าน้​้าไปใช้ในการเกษตรให้คนที่อยู่ ท้ายน้​้า คือลุ่มน้​้าก่้าได้ใช้ประโยชน์ เมื่อพร่องน้​้าแล้วจะกระจายข่าวบอกประชาชนให้เตรียมพื้น ที่ดินในการเพาะปลูกหลังจากเสร็จฤดูเก็บเกี่ยวข้าว


ตามความคืบหน้า1042.40 ลบ. พัฒนาเมืองสารคาม ความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชน จ. มหาสารคาม ล่าสุดทางเทศบาลเมือง มหาสารคามได้เสนอขอรับการสนับสนุนโครงการจ้านวน 27 โครงการ โดยใช้งบประมาณ ทั้งสิ้นในวาระแรก คือเวลา 4 ปี จ้านวนเงิน 1042.40 ล้านบาท ซึ่งจัดสรรงบประมาณ แบ่งเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย เทศบาลเมืองมหาสารคาม, เทศบาลต้าบลโคกพระ, เทศบาล ต้าบลบรบือ และเทศบาลต้าบลพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคามได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง 27 โครงการ จ้านวน 1,042.40 ล้านบาทในวาระแรก (4 ปี) ซึ่งมีพื้นที่ของบประมาณจ้านวน 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองมหาสารคาม จ้านวน 10 โครงการ ใช้งบประมาณ 661.11 ล้านบาท เทศบาลต้าบลโคกพระ จ้านวน 3 โครงการ ใช้งบประมาณ 70.17 ล้านบาท เทศบาลต้าบลบรบือ จ้านวน 11 โครงการ ใช้งบประมาณ 154.55 ล้านบาท และเทศบาลต้าบลพยัคฆภูมิพิสัย จ้านวน 3 โครงการ ใช้งบประมาณ 156.57 ล้านบาท นายสายยันต์ ภิรมย์กิจ ปลัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม เผยว่า ความคืบหน้าโครงการ พัฒนาพื้นที่ชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ณ ตอนนี้ มี 2 โครงการที่ได้มีการศึกษาออกแบบและอยู่ ในช่วงเจรจาขอใช้พื้นที่ ซึ่งมีแบบแปลน แผนงาน คือโครงการก่อสร้างลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 บริเวณหัวมุมตรงข้ามหอนาฬิกา และโครงการ ก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 บริเวณหน้าอาคาร MK Park (ศาลากลางเก่า) และงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้าง 70,863,012 ล้านบาท เพื่อใช้ในการด้าเนินโครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ ด้าเนินการไปแล้ว กว่า 70% โดย 20 โครงการหลักเป็นโครงการ ซ่อมถนนคอนกรีตและปรับปรุงสะพานเจริญราช เด็จ3 บริเวณโรงพยาบาลสุทธาเวช และมีโครงการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2563 ได้แก่ โครงการสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าสิริกติ ิ์ โครงการถนนเฉลิมพระเกียรติ และ โครงการสวนเฉลิมพระเกียรติหนองข่า จากวารสารเทศบาลเมืองมหาสารคาม ปีที่ 11 ฉบับที่ 1 เดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือน มกราคม 2562 ระบุว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นความส้าคัญของการพัฒนาพื้นที่ชุมชนจังหวัดมหาสาร


คาม จึงได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทยว่าจ้าง บริษัทไฟนอล ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ ให้ท้าการศึกษาเพื่อพัฒนาพื้นที่ชุมชนจังหวัดมหาสารคาม เพื่อศึกษาความ เหมาะสมและออกแบบรายละเอียดด้านโครงสร้างพืน้ ฐานสาธารณูปโภคให้เป็นไปตามระบบ โครงสร้างพื้นฐาน โดยหวังให้เกิดการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพของชุมชนให้เป็นตาม มาตรฐาน มีความเป็นระเบียบสวยงาม ปลอดภัย และเป็นเมืองที่น่าอยู่ ตลอดจนเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน ด้านนายคณภั​ัทร บุญศรี ผู้อ้านวยการส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมือง เผยว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้จัดจ้าง บริษัทไฟนอล ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ ให้เข้ามาส้ารวจพื้นที่ ทัว่ จังหวัดมหาสารคามและรับผิดชอบในด้านการออกแบบ โดยมีพื้นที่ด้าเนินการ ได้แก่ เทศบาล เมืองมหาสารคาม โคกพระ บรบือ และพยัคฆภูมิพสิ ยั ซึ่งทั้ง 4 พื้นที่นี้ตนมองว่าเป็นจุดที่มีอาคาร บ้านเรือนและประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น นอกจากนี้ นายสายยันต์ กล่าวต่ออีกว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจร ทางเท้าและ ภูมิทัศน์ 6 สาย เป็นโครงการที่มีแบบแผนชัดเจนแล้ว แต่เนื่องจากงบประมาณที่อนุมัติแต่ละ โครงการไม่ได้อนุมัติพร้อมกันทั้งหมดทีเดียว จึงจ้าเป็นต้องด้าเนินโครงการตามงบประมาณที่ได้รับ ไม่สามารถท้าตามแผนงานหลักที่วางไว้ได้ อีกทั้งเทศบาลเมืองมหาสารคามจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณเร่งด่วนจากกรมโยธาธิ การและผังเมืองในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จ้านวน 1 โครงการ คือโครงการปรับปรุงผิวจราจร ทางเท้าและภูมิทัศน์ ถนนนครสวรรค์ งบประมาณทั้งสิ้น 134.64 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาผิว จราจรในเขตเทศบาลให้ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมและสะดวกต่อการสัญจรของประชาชน พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบของถนนให้สวยงาม มีการปลูกต้นไม้ประจ้าถิ่นเพื่อสร้างความ ร่มรื่น ในทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ถนนนครสวรรค์ ระยะทาง 7.69 กม. งบประมาณ 134,640,000 บาท 2. ถนนผดุงวิถี ระยะทาง 3.59 กม. งบประมาณ 58,104,321 บาท 3. ถนน มหาสารคาม - วาปีปทุม ระยะทาง 1.30 กม. งบประมาณ 21,047,070 บาท นอกจากนี้ยังมี โครงการก่อสร้างซุ้มประตูเมืองอีก 4 แห่ง ได้แก่ ซุ้มประตูเมืองแยกวังยาว, แยกบ้านหม้อ, แยก แก่งเลิงจาน และแยกพลศึกษา โดยใช้งบประมาณสนับสนุนการก่อสร้าง จ้านวน 103,840,000 บาท


ซึ่งงบประมาณทั้ง 27 โครงการแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่ชุมชน คือพื้นที่เทศบาลเมือง มหาสารคาม, เทศบาลต้าบลบรบือ, เทศบาลต้าบลโคกพระ และเทศบาลต้าบลพยัคฆภูมพิ ิสัย ได้แก่ 1) โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจร ทางเท้า ภูมิทัศน์ ถนนนครสวรรค์ งบประมาณ 139 ล้านบาท 2) โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจร ทางเท้า ภูมิทัศน์ ถนนผดุงวิถี งบประมาณ 50.47 ล้าน บาท 3) โครงการก่อสร้างปรับปรุงผิวจราจร ทางเท้า ภูมิทัศน์ ถนนมหาสารคาม-วาปีปทุม งบประมาณ 24.05 ล้านบาท 4) โครงการก่อสร้างซุ้มประตูเมือง งบประมาณ 101.78 ล้านบาท 5) โครงการก่อสร้างลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 งบประมาณ 104 ล้านบาท 6) โครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ งบประมาณ 125 ล้านบาท 7) โครงการปรับปรุงสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ งบประมาณ 25.50 ล้านบาท 8) โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะหนองข่า งบประมาณ 54.83 ล้านบาท 9) โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะเลิงน้​้าจั่น งบประมาณ 18.23 ล้านบาท 10) โครงการปรับปรุงสวนสุขภาพสมถวิล งบประมาณ 18.23 ล้านบาท 11) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 1 งบประมาณ 16.04 ล้านบาท 12) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 2 งบประมาณ 4.51 ล้านบาท 13) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 5 งบประมาณ 3.13 ล้านบาท 14) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 6 งบประมาณ 1.46 ล้านบาท 15) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 10 งบประมาณ 7.37 ล้านบาท 16) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 11 งบประมาณ 23.06


ล้านบาท 17) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 17 งบประมาณ 8.37 ล้านบาท 18) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนสุขาภิบาล 30 งบประมาณ 5.40 ล้านบาท 19) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนทล.219 (บรบือ-นาเชือก) งบประมาณ 11.48 ล้านบาท 20) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนทล.23 (แจ้งสนิท) งบประมาณ 30.73 ล้านบาท 21) โครงการสวนสาธารณะเทศบาลต้าบลบรบือ งบประมาณ 43.01 ล้านบาท 22) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนทล.2188 งบประมาณ 16.54 ล้าน บาท 23) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ล้ารางคอนกรีต งบประมาณ 10.50 ล้านบาท 24) โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะหนองบัว งบประมาณ 43.13 ล้านบาท 25) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนนุตจรัส งบประมาณ 26.33 ล้าน บาท 26) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้​้าและป้องกันน้​้าท่วม ถนนราษฎร์สามัคคี งบประมาณ 23.76 ล้านบาท 27) โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะสวนพุทธธรรม งบประมาณ 106.48 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านบริเวณพื้นที่ในโครงการปรับปรุงสวนสุขภาพเฉลิม พระเกียรติ ที่ใช้งบประมาณ 25.50 ล้านบาท อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมือง หนึ่งใน โครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนจังหวัดมหาสารคาม พบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทราบรายละเอียด เกี่ยวกับเรื่องโครงการ เห็นมีเพียงป้ายประกาศที่ทางหน่วยงานรัฐมาติดประกาศไว้เท่านั้น ไม่ได้มี การประชาคมหรือประกาศให้ชาวบ้านทราบโดยตรง ชาวบ้านที่อยู่บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระ เกียรติยังระบุอีกว่า ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าที่ควร อีกทั้งท้าให้บริเวณรอบนอกรถสัญจร ล้าบากส่งผลกระทบต่อการค้าขาย



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.