ขาวสารการอนุรักษ ปที่1 ฉบับที่ 2 เมษายน 2556
เรียน เครือขายพิพิธภัณฑ สถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ โดยฝายเครือขายพิพิธภัณฑ ไดจัดทําขาวสารการอนุรักษขึ้น เพื่อ ประชาสัมพันธและแลกเปลี่ยนขอมูลขาวสารระหวางเครือขายพิพิธภัณฑ ฉบับนี้เปนฉบับที่ 2 ทางคณะผูจัดทําได พยายามนําเสนอเนื้อหาตางๆ ใหมีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคําถามจากผูอานสอบถามในเรื่องตางๆ เขามายังคณะผูจัดทํา จึงนํามาตอบในฉบับนี้ เพื่อใหพิพิธภัณฑอื่นๆ ที่อาจประสบปญหาหรือเกิดขอสงสัยในลักษณะ เดียวกัน และหากทานใดมีคําถามเกี่ยวกับโบราณวัตถุ หรือประสงคจะปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความรู กรุณา ติดตอมายังสถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ นายราเมศ พรหมเย็น ผูอํานวยการสถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ กิจกรรม
อบรมเรือ่ งการทําความสะอาดวัตถุพิพิธภัณฑ ใหกับพิพิธภัณฑเครือขาย ณ หอพิพิธภัณฑภูมิพลอดุลยเดชมหาราช โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา 26 มีนาคม 2556
ปรับปรุงการจัดแสดงในตูจัดแสดงพิพิธภัณฑวัดถ้ําตะโก ต.เขาสมอคอน อ.ทาวุง จ.ลพบุรี วันที่ 13 มีนาคม 2556
ผลกระทบของแสงสวางตอการเกิดสนิมบนเครื่องเงิน เครื่องเงินสวนใหญเมื่อจัดแสดงหรือวางไวจะเกิดสนิมขึ้นปกคลุมผิวของเงินสนิม นี้มีลักษณะเปนชั้นบางๆ สีดําเรียกวา “เงินซัลไฟด” เกิดจาก เงินทําปฏิกิริยากับ สารประกอบกํามะถันในอากาศไดสารประกอบเงินซัลไฟดซึ่งมีสีดํา สนิมดังกลาวเปนสนิมดีที่บงบอกถึงความเกาแก ความงามและคุณคาของ โบราณวัตถุ โดยทั่วไปมักเชื่อวาแสงสวางไมมีผลกระทบตอโลหะ เปนที่รูกันมานานแลว วา แสงสวางมีผลตออินทรียวัตถุ รวมถึงกระตุนการเสื่อมสภาพของตูจัดแสดงและทําให ปลอยกาซบางชนิดออกมา แตเมื่อไมนานมานี้มีการศึกษาผลกระทบของแสงสวางตอ สนิมบนเหรียญเงินและเหรียญตรา พบวาเหรียญเงินที่จัดแสดงไวในพิพิธภัณฑและไดรับ แสงที่มีคาความสวางมากกวา 350 ลักซ เปนระยะเวลานานๆ จะมีความเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น นอกเหนือจากปจจัยอื่นๆ เชนรังสีอัลตราไวโอเลต อุณหภูมิ ความชื้น และ มลภาวะทางอากาศ การวิจัยและติดตามความเปลี่ยนแปลงของสนิม บนเหรียญเงินและเหรียญตรา ที่จัดแสดงที่บริติชมิวเซียม พบวา สนิมจะคงสภาพเดิมถาเก็บไวในที่มืดหรือไดรับแสง สวางเปนระยะเวลาสั้นๆ แตถาไดรับแสงสวางเปนเวลานานทําใหเกิดความเปลี่ยนแปลง ของสนิมบนผิวของเงิน โดยจะ สูญเสียความแวววาวและบางครั้งสนิมสีดําหรือสีมวง เปลี่ยนเปนสีขาวและมีลักษณะดาน ความเปลี่ยนแปลงนีเ้ กิดจากการสลายตัวของ ซิลเวอรคลอไรดเปลี่ยนไปเปนธาตุเงิน ซึ่งจะรวมตัวเปนอนุภาคเล็กๆ บนผิวของสนิม อนุภาคเล็กๆ นี้สามารถใชแปรงขนนุมๆ ปดออกได และอนุภาคเล็กๆ นี้ทําใหเกิดการกระจายของแสงนอยลง จึงทํา ใหเครื่องเงินไมแวววาว นอกจากนี้ยังพบวาดานหนาของเหรียญเงินที่จัดแสดงมีความเปลี่ยนแปลงมากกวาดานหลัง แสดงวาแสงสวางมีสวนทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลง ในการจัดแสดงเครื่องเงิน มักจะมีการขจัดสนิมสีดําออกจากผิวเครื่องเงิน เพื่อใหเครื่องเงินมีสีเงินและดู แวววาวขึ้น และมักจะใชสารเคลือบผิว (lacquer) ในการเคลือบปองกันสนิม อยางไรก็ตามการกําจัดสนิมของ เครื่องเงินตองคํานึงถึงความเหมาะสมและตองไมทําลายความงามของวัตถุดวย อีกทั้งการใชสารเคลือบผิวก็ตอง ระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงดวยเชนกัน
หนวยงานดานการอนุรักษมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีใต หนวยงานหนวยงานดานการอนุรักษมรดกทางวัฒนธรรมในประเทศเกาหลีใต ชื่อวา National Research Institute Cultural Heritage เปนศูนยกลางดานการอนุรักษโบราณวัตถุ โบราณสถานและวัฒนธรรมของเกาหลี ตั้งอยูที่เมืองแทจอน (Daejeon) ซึ่งเปนเมืองที่อยูตรงกลางของประเทศเกาหลีใต เปนเมืองวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยีของประเทศเกาหลี สถาบันแหงนี้มีหนาที่รับผิดชอบในการอนุรักษมรดกทางวัฒนธรรมทุกแขนงของประเทศ เปนสถาบันขนาด ใหญมีหนวยงานภายในจํานวนมาก จะขอแนะนําใหรูจักบางฝายที่นาสนใจ เชน ฝาย Research Division Of Archaeology ทําหนาที่สํารวจ คนควา ดานโบราณคดีของประเทศเกาหลีใต และสรางมาตรฐานดานการขุดคนทางโบราณคดี ฝาย Research Division of Artistic Heritage ทําหนาที่ศึกษาและพัฒนารากฐานของศิลปะเกาหลี ฝาย Research Division Of Architectural Heritage ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบอาคาร ประวัติศาสตร ของอาคารตางๆ เพื่อหาวิธีอนุรักษโบราณสถาน ฝาย Research Division Of Conservation Science ทําหนาที่ศึกษาองคประกอบของโบราณวัตถุ ประเภทตางๆ ศึกษาผลกระทบทางดานชีววิทยาและเคมีของวัตถุทางวัฒนธรรม และทําหนาที่อนุรักษ ซอมแซม โบราณวัตถุ โบราณสถานตางๆ ฝาย Research Division Of Restoration Technology ทําหนาที่ศึกษาวิจัยวัสดุและเทคนิคดั้งเดิม และ ศึกษาหาวัสดุทดแทน เทคโนโลยีที่ทันสมัยสําหรับการอนุรักษ ดําเนินการศึกษามาตรฐานของวิธีการซอมโบราณวัตถุ ทางสถาบันจัดกิจกรรมประจําปในการประชุมกับผูเชี่ยวชาญ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักอนุรักษใน ระดับนานาชาติ โบราณวัตถุที่คนพบจากแหลงโบราณคดีตางๆ ทั่วประเทศเกาหลี โบราณวัตถุในพิพิธภัณฑทั้งของ รัฐและเอกชน รวมถึงวัดวาอารามจะสงมาทําการอนุรักษที่นี้ นักอนุรักษสวนใหญจบจากมหาวิทยาลัยในเกาหลี เนื่องจากมีหลักสูตรการเรียนการสอนดานการอนุรักษโดยเฉพาะ สิ่งหนึ่งที่นา สนใจคือ เจาหนาที่ที่เขาไปทํางาน ภายในสถาบันแหงนี้ ทุกคนมีโอกาสเปนนักอนุรักษ ไมวาจะเรียนจบมาจากสาขาอื่นๆ เชน บัญชี การเงิน ภาษาศาสตร หรือบรรจุเขามาในตําแหนงอื่น ถาสนใจจะเปนนักอนุรักษ ทางสถาบันฯ ใหทุนและโอกาสไปศึกษาตอ ดานการอนุรักษทั้งในมหาวิทยาลัยในประเทศและตางประเทศ นอกจากนี้ทางสถาบันฯ มีโครงการอบรมสําหรับนักอนุรักษ ผูที่ทํางานดานพิพิธภัณฑ และดานวัฒนธรรม เรียกวา โครงการ Asia Cooperation Programme in Conservation Science: ACPCS เปนประจําทุกป ระยะเวลาในการฝกอบรม 3 เดือน หากผูใดอยากเพิ่มพูนความรูและหาประสบการณในการใชชีวติ อยูใ นประเทศ เกาหลี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมดูไดที่เวบไซด www.nrich.go.kr
แลกเปลี่ยนความรู คุณจุฑารัตน : ตองการความรูเรื่องการติดตั้งเครื่องดูดความชื้น จิราภรณ : เครื่องดูดความชื้นเหมาะกับพิพิธภัณฑที่มีวัตถุที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไดงายมากเมื่อไดรับ ความชื้นและไมสามารถควบคุมความชื้นไดดวยวิธีอื่นๆ การใชเครื่องดูดความชื้นจะตองมี เครื่องวัดและบันทึกความชื้นตลอดเวลา เพื่อที่จะควบคุมใหความชื้นอยูในระดับที่ตองการ และคงที่ตลอดเวลา วันละ 24 ชั่วโมง ไมเวนวันหยุดราชการ หากไมสามารถควบคุมได ตลอดเวลาจะทําใหเกิดปญหาหนักกวาเดิม วัตถุพิพิธภัณฑแตละชนิดตองการระดับความชื้น แตกตางกัน เชน ผา กระดาษ ภาพเขียน ภาพถาย ใบลาน เครื่องจักสาน เครื่องเขิน ฯลฯ ตองการความชื้นปานกลาง ในขณะที่ โลหะ แกว ฯลฯ ตองการความชื้นต่ํา หากมีวัตถุหลาย ชนิดอยูในหองเดียวกัน ไมควรติดตั้งเครื่องดูดความชื้นขนาดใหญสําหรับดูดความชื้นภายใน หอง ควรใชเครื่องดูดความชื้นขนาดเล็กหรือซิลิกาเจล สําหรับดูดความชื้นภายในตูบางตู แทน นอกจากนี้ยังตองคํานึงถึงระดับความชื้นในบรรยากาศรอบๆ ตัววัตถุดวย(microclimate) เชน ภายในตู ภายในกลอง ภายในกรอบรูป ฯลฯ ไมใชสนใจเฉพาะความชื้นเฉลี่ยภายในหอง เพราะในหอง ๆ หนึ่งมีจุดอับมากมายที่อากาศไมไหลเวียนถายเทเทาที่ควร จุดอับเหลานี้คือที่ที่ มีความชื้นสะสมอยูสูงกวาที่อื่นๆ และไมสามารถระบายออกไปไดงาย ๆ ทําใหมีเชื้อราเกิดขึ้น อยางไรก็ตาม หากไมมีเครื่องดูดความชื้น ปญหาเรื่องความชื้นสูงและเชื้อราในพิพิธภัณฑจะลด นอยลงได หากคํานึงถึงการระบายอากาศและการลดจุดอับตั้งแตขั้นตอนการออกแบบหรือ ปรับปรุงอาคารหรือจัดทําตู ชั้น ลิ้นชัก ตลอดจนการเลือกใชวัสดุในการจัดเก็บและจัดแสดง คุณไพรินท จิราภรณ
: ทําไมหนังสือเกามีกลิ่นแปลก ๆ : หนังสือเกามักมีกลิ่นแปลกๆ จนหลายคนไมกลาแตะตองเกรงวาเปนกลิ่นเชื้อรา สาเหตุที่ทํา ใหหนังสือเกามีกลิ่นมีหลายสาเหตุ หนังสือทําจากอินทรียวัตถุหลายชนิด เชน กระดาษ หมึก กาว เสนใย บางเลมมีปกทําดวยหนัง ผา พลาสติก อินทรียวัตถุเหลานั้น บางชนิดมี กลิ่น ประจําตัวตั้งแตเริ่มผลิตและเมื่ออินทรียวัตถุเหลานี้ไดรับความรอน แสงสวาง ความชื้น กาซ ในอากาศ และสารเคมีจากสิ่งแวดลอมจะเกิดปฏิกิริยามากมาย ไดสารประกอบหลายชนิด สารประกอบเหลานี้บางชนิดเปนสารระเหยจึงมีกลิ่น เพราะฉะนั้นกลิ่นบนหนังสือเกาจึงเปน กลิ่นของสารประกอบหลายชนิดผสมกัน นอกจากกลิ่นจากภายในตัวหนังสือเองแลว ยังมีกลิ่น จากภายนอกอีกมากมาย จากตู ลิ้นชัก หีบและหองที่เก็บรักษาหนังสือเหลานั้น เชน กลิ่นบุหรี่ ซิการ ควันไฟ ควันธูป ลูกเหม็น การบูร อาหาร ฯลฯ และหากหนังสือนั้น ๆ อยูในที่ที่มี ความชื้นสูงและอับเปนเวลานาน มักจะมีเชื้อราขึ้นเจริญ สงกลิ่นเฉพาะตัวของเชื้อราอีกหลาย กลิ่น บางครั้งมีแบคทีเรียรวมดวย
ผูจัดทํา นางจิราภรณ อรัณยะนาค นายศุภกร ปุญญฤทธิ์ นางวัชนี สินธุวงศานนท นางสาวพัชรลดา จุลเพชร นายคุณาพจน แกวกิ่ง นายพรพิชิต พรรัตน
สถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ 4 ถ.สนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 022252777 ตอ 109 fax 022251881-2 e-mail : pacharalada@ndmi.ro.th http://www.ndmi.or.th/home.php http://www.facebook.com/museumsiamfan