ข่าวสารการอนุรักษ์ ปีที่1 ฉบับที่ 3 สิงหาคม 2556

Page 1

ขาวสารการอนุรักษ ปที่1 ฉบับที่ 3 สิงหาคม 2556

เรียน เครือขายพิพิธภัณฑ ขาวสารการอนุรักษฉบับนี้ไดนําเสนอขอมูลเกี่ยวกับวัตถุจัดแสดงที่นาสนใจเปนอยางยิ่ง เริ่มเรื่องใกลตัวที่หลาย คนตั้งขอสงสัยวาทําไมคนจีนจึงตองการซื้อไมพะยูงเปนจํานวนมาก ทําใหมีการลักลอบตัดไมชนิดนี้ในเมืองไทยตามที่ ปรากฏเปนขาวบอยๆ คําตอบนั้นสัมพันธกับประวัติของโบราณวัตถุประเภทไม คนจีนนิยมนําไมในสกุลนี้มาผลิตเครื่อง เรือนและอุปกรณตางๆ มาตั้งแตโบราณและความนิยมนั้นยังคงอยูจนถึงปจจุบัน นอกจากนั้นในฉบับนี้ยังแนะนําวิธีดแู ล รักษาเครื่องแกว การเก็บรักษาหนังสือพิมพเกาอยางถูกวิธี รวมทั้งใหขอมูลเกี่ยวกับโบราณวัตถุประเภทโลหะที่หลายคน สงสัยวาเปนโลหะชนิดใดกันแนเพราะมีสีขาวเหมือนเงินแตไมใชเงิน หวังวาคงชวยคลายความสงสัยและนําไปประยุกตใช กับการดูแลรักษาวัตถุเก็บสะสม ของรักของหวง ไดเปนอยางดี นายราเมศ พรหมเย็น ผูอํานวยการสถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ

กิจกรรม

สถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติรวมกับโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดอบรมเรื่องการทําความสะอาดโบราณวัตถุใหกับพิพิธภัณฑในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 26 กรกฎาคม 2556


ไมที่ใชทําเครื่องเรือนจีนโบราณ ชวงนี้ไทยกําลังมีปญหาเกี่ยวกับการลักลอบตัดไมพะยูงเพื่อสงออกไปจีน จึงเกิดคําถามวาจีนนําไมพะยูงไปทํา อะไร คําตอบก็คือ เครื่องเรือนจีนสมัยราชวงศหมิงและราชวงศชิง ที่สวยงามและมีคุณคาสูงสวนใหญทําจากไมหวง ฮัว หลี่( Huang hua li) หรือ Yellow rosewood หรือ Chinese rosewood เนื้อไมมีสีแดงหรือแดงอมเหลือง หรือ น้ําตาลอมเหลืองหรือสีเหลืองทอง มีเสนสีดําในเนื้อไม มีลายไมสวยงาม ขัดแลวเปนมัน แข็งแรง ทนทาน มีกลิ่น หอม ไมหวงฮัว หลี่ เปนไมในสกุล Dalbergia ซึ่งเปนสกุลเดียวกับไมพะยูงและไมชิงชัน แตคนละสายพันธ ไม หวง ฮัว หลี่ มีชื่อวิทยาศาสตรวา Dalbergia odorifera ไมหวง ฮัว หลี่ เปนไมโตชา เคยมีมากที่เกาะไหหนาน ฝู เจี้ยน เจอเจียงและกวางตง ปจจุบันหายาก ใกลสูญพันธุ ชางชาวจีนจึงพยายามหาไมอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติ ใกลเคียงกันมาใชแทน นั่นก็คือไมพะยูงและไมชิงชัน ไมพะยูงมีชื่อวิทยาศาสตรวา Dalbergia cochinchinensis Pierre หรือ Rosewood เพราะกลิ่นของไมที่ เลื่อย ใหม ๆ มีกลิ่นคลายดอกกุหลาบ จัดเปนไมที่มีความสําคัญทางเศรษฐกิจของไทย และกําลังอยูในภาวะใกลสูญพันธุ เชนกัน สวนไมชิงชัน มีชื่อวิทยาศาสตรวา Dalbergia oliveri Gamble หรือ Burma rosewood เนื้อไมสี มวงออน- มวงแก มีเสนแทรกสีดํา เสี้ยนมักสับสนเปนริว้ แคบ ๆ เนื้อละเอียดปานกลาง แข็ง เหนียวมาก ขัดชักเงา ไดดี ชาวจีนนิยมใชไมพะยูงและไมชิงชันทําเครื่องเรือน เครื่องมุก เกวียน ดามเครื่องมือ เครื่องดนตรี ไมเทา ดามรม ไมบรรทัด งานศิลปะ ไมแกะสลัก พานทายปน รางปน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไมชนิดอื่น ๆ ในสกุลนี้ เชน Dalbergia latifolia หรือ East Indian rosewood พบ ในเขตรอนของอเมริกา เอเซียตะวันออกเฉียงใต และมาดากัสคาร อีกชนิดหนึ่งคือ Dalbergia sissoo หรือ Indian rosewood หรือประดูแขก พบในอินเดีย เปนไมที่มีคุณสมบัติเดน คือเนื้อแนน แข็งแรง ทนทาน นิยมใชทําเครื่อง ดนตรี อีกชนิดหนึ่งคือ ไมกระพี้เขาควาย (Burma black wood) ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตรวา Dalbergia cultrate Grah.ex Bench มีเนื้อแข็งละเอียด เสี้ยนตรง มีน้ําหนักมาก กระพี้มีสีเหลืองออน แกนมีสีน้ําตาลอมมวง ลายคลาย เขาควาย เปนไมราคาแพง นอกจากไมกลุมนี้แลว เครื่องเรือนจีนโบราณทําจากไมอ่นื ๆ อีก หลายชนิด เชน ไมสน ไมไซเปรส วอลนัท มะฮอกกานี เฟอร เอลม ตะเคียนทอง ประดู โอค ไมสัก ไมการบูร ไมมะเกลือ ไมจันทนแดง ฯลฯ

ไมหวง ฮัว หลี่


ขอควระวังในการเก็บรักษาและจัดแสดงเครื่องแกว เครื่องแกวโบราณบอบบางมาตั้งแตเริ่มแรกผลิต ไมเฉพาะเสี่ยงตอการแตกหัก แตองคประกอบบางอยาง ในเนื้อแกวเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีไดงาย หากจัดเก็บและจัดแสดงในสภาพแวดลอมไมเหมาะสม เชน มีฝุน ละอองมาก ความชื้นสูง อุณหภูมิสูง โดยเฉพาะอยางยิ่งสภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปในไทยเอื้ออํานวยตอการ เสื่อมสภาพของแกวไดเปนอยางดี จึงควรออกแบบหรือดัดแปลงตูจัดแสดงหรือจัดเก็บเครื่องแกวใหปดไดมิดชิด ปองกันมิใหความชื้นและฝุนละอองเขาไปในตูได ภายในตูควรมีสารดูดความชื้น เชน ซิลิกาเจล บรรจุไวเพื่อทําหนาที่ ดูดความชื้นในชวงเวลาที่มีความชื้นสูง และควรหมั่นเปลี่ยนซิลิกาเจลเปนระยะ ๆ เพื่อใหซิลิกาเจลทําหนาที่ไดอยางมี ประสิทธิภาพตลอดเวลา พิพิธภัณฑในเขตรอนชื้น ไมมีความจําเปนที่จะตองนําน้ําใสแกวไปวางในตู ที่เก็บรักษาเครื่องแกว (รวมทั้ง โลหะ) เพราะน้ําจะทําใหความชื้นในตูสูงเกินไป ทําใหเครื่องแกวเสื่อมสภาพเร็วกวาเวลาอันควร ความชื้นสูง ทําใหเกิดสารละลายของดาง ซึ่งเมื่อทําปฏิกิริยากับกาซคารบอนไดออกไซดในอากาศแลวกลายเปนสารประกอบ คารบอเนต มีลักษณะเปนคราบแข็งบนผิวแกว ดางบางชนิดเมื่อทําปฏิกิริยากับคารบอนไดออกไซดแลวไดสารประกอบ คารบอเนตที่มีลักษณะเปนสารละลาย ซ฿งไหลเปนทางบนผิวแกว และทําปฏิกิริยากับเนื้อแกว ทําใหแกวขุนมัวและมี รอยแตกรานเล็ก ๆ เกิดขึ้นอยางถาวร ไมสามารถทําใหกลับสูสภาพเดิม อาการดังกลาวนักอนุรักษเรียกวา “โรคแกว” หรือ Glass disease เพราะฉะนั้นเครื่องแกว โลหะ และวัตถุอื่น ๆ ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงไดงายเมื่อความชื้นสูง จึงควรเก็บใน ที่ที่มีความชื้นต่ํากวา 50 % ในประเทศที่มีอากาศหนาว อาคารพิพิธภัณฑมักติดตั้งเครื่องทําความรอนเพื่อให ความอบอุนตอเจาหนาที่และผูใชบริการ เครื่องทําความรอนทําใหอากาศในอาคารแหงมาก ความชื้นสัมพัทธอาจเหลือ 20 % ภัณฑารักษหรือนักอนุรักษจึงนําน้ําใสแกววางไวตามมุมตูจัดแสดงหรือจัดเก็บวัตถุพิพิธภัณฑ ที่ตองการ ความชื้นคอนขางสูง เชน ผา กระดาษ หนัง งาชาง เครื่องจักสาน ขนสัตว ใบลาน ฯลฯ สภาวะอากาศแหง ดังกลาวแทบไมมีโอกาสเกิดขึ้นในพิพิธภัณฑหรืออาคารบานเรือนในไทยเลย โดยเฉลี่ยแลว จะมีความชื้นสูงกวา 50 % เกือบตลอดป ในฤดูฝนความชื้นสูงกวา 80 % เปนสวนใหญ ชวงที่มีฝนตกชุก ความชื้นสูงถึง 100 % เพราะฉะนั้น ลองสํารวจพิพิธภัณฑของทานดูนะคะ หากพบแกวน้ําในตู ที่จัดเก็บเครื่องแกว กรุณานําออกดวนคะ กอนที่จะเกิดปญหา


แลกเปลี่ยนความรู คุณวรรณี : อยากทราบวิธีเก็บหนังสือพิมพเกา จิราภรณ : หนังสือพิมพเกามักมีสีเหลืองและเนื้อกระดาษกรอบเปราะ เนื่องจากวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ ตองการลดตนทุน ทําใหกระดาษเสื่อมสภาพจากสาเหตุภายในตัวมันเอง คือ กรดหลายชนิดโดยเฉพาะอยางยิ่งหากเก็บ รักษาในที่ที่มีอากาศรอน ชื้น มีแสงสวาง มีฝุนละออง หนังสือพิมพจะเสื่อมสภาพรวดเร็วมาก เพราะฉะนั้นควรเก็บ รักษา โดยวางราบบนกระดาษไรกรดหรือกระดาษที่มีความเปนดางเล็กนอยหลาย ๆ แผน โดยนํามาปูรอง คั่น หรือทํา เปนแฟม จากนั้นเก็บในที่ที่ความชื้นต่ํากวา 40-50 % อุณหภูมิไมเกิน 24 องศาเซลเซียส โดยเก็บในกลองที่ทําจาก พลาสติกหรือ กระดาษแข็งไรกรด ปดใหมิดชิด ไมใหไดรับแสงสวาง ไมควรบรรจุหนังสือพิมพในซอง พลาสติก และไม ควรซอมดวยเทปกาว คุณรัชนี : วัตถุพิพิธภัณฑที่เปนโลหะที่มีสีเงิน แตไมหมองคล้ํา เรียกวาอะไร จิราภรณ : โลหะที่มีสีเงินมีหลายชนิด เชน เงินแทและโลหะผสมระหวางเงินกับทองหรือทองแดง ตามปกติเครื่องเงิน ตองผสมทองแดงเล็กนอยเพื่อใหแข็งแรงขึ้น โลหะเหลานี้มักหมองคล้ําเก็บไวนาน ๆ มักมีฝาสีดําปกคลุมผิว สวนโลหะ สีเงินที่ไมหมองคล้ําอาจเปนทองเหลืองสีขาวซึ่งคนจีนเรียกวา แปะตั๊งหรือไปถง ฝรั่งเรียกวา pakthong ซึ่งในคนโบราณ นิยมเอามาทําภาชนะ ชอนสอม ฝาบาตร ตะเกียง ถาด ฯลฯ ทองเหลืองสีขาวเปนโลหะผสมระหวางทองแดง สังกะสีและนิเกิล หรือทองแดงกับนิเกิล นอกจากนี้ โลหะอื่น ๆ ที่มีสีเงิน แตไมเปลี่ยนเปนสีดําเมื่อสัมผัสกับอากาศไดแก สําริดที่มีดีบุกผสมอยูมาก คนจีนโบราณนิยมใชทําคันฉอง (สําริดเปนโลหะผสมระหวางทองแดงกับดีบุก อาจผสมตะกั่ว เล็กนอยหรือมีโลหะอื่น ๆ เจือปน) โลหะผสมระหวางตะกั่วกับดีบุก เรียกวา ชิน หากผสมดีบุกมาก จะมีสีคลายเงิน เรียกวา “ชินเงิน” ดีบุก สังกะสีและโลหะผสมอื่น ๆ

ผูจัดทํา นางจิราภรณ อรัณยะนาค ที่ปรึกษาดานงานอนุรักษ นายศุภกร ปุญญฤทธิ์ นางวัชนี สินธุวงศานนท นางสาวพัชรลดา จุลเพชร นายคุณาพจน แกวกิ่ง นายพรพิชิต พรรัตน

สถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ 4 ถ.สนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 022252777 ตอ 109 fax 022251881-2 e-mail : pacharalada@ndmi.ro.th http://www.ndmi.or.th/home.php http://www.facebook.com/museumsiamfan


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.