ขาวสารการอนุรกั ษ ปที่ ๓ ฉบับที่ ๔ เดือนกันยายน ๒๕๕๘
เรียน เครือขายพิพิธภัณฑ สวัสดีครับเครือขายพิพิธภัณฑ จดหมายขาสารการอนุรักษจัดทําขึ้นปละ ๔ ฉบับ ผลิตขึ้นเพื่อเผยแพรความรู ดานการอนุรักษ และรวบรวมขอมูลขาวสารใหมๆ ที่เกี่ยวของกับงานอนุรักษวัตถุพิพิธภัณฑทั้งในประเทศและ ตางประเทศใหกับเครือขายพิพิธภัณฑ สุดทายหากทานมีขอสงสัย หรือตองการแลกเปลี่ยนขอมูล สามารถติดตอ มาตามที่อยูดานทายครับ นายราเมศ พรหมเย็น ผูอํานวยการสถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ
ประมวลภาพกิจกรรม
อบรมเชิงปฏิบัติการเครือขายพิพิธภัณฑ เรื่อง การเคลื่อนยายวัตถุพิพิธภัณฑ เพื่อเตรียมความพรอมเครือขายกอนเริ่ม เทศกาลพิพิธภัณฑทองถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ พิพิธภัณฑสถานแหงชาติ ขอนแกน จังหวัดขอนแกน
เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ฝายชางภาพสวนพระองค กองงานสวนพระองค เขาศึกษาดูงาน ณ หองคลังโบราณวัตถุและหองปฏิบัติการ เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการจัดเก็บวัตถุประเภทภาพถาย
อบรมเครือขายพิพิธภัณฑ สวนหนึ่งในงานมหกรรม เทศกาลพิพิธภัณฑทองถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ ๑๖-๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ มหาวิทยาลัยขอนแกน จังหวัดขอนแกน หัวขอ DIY เทคนิคจัดแสดงจากวัสดุเหลือใช โดย อาจารยจิราภรณ อรัณยะนาค ผูบรรยาย
……………………………………………………………………………………………………
ภาพจาก พิพิธภัณฑเมืองนครราชสีมา หลังจากที่มีการอบรมเครือขายพิพิธภัณฑ ในงานมหกรรมเทศกาลพิพิธภัณฑทองถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวขอ DIY เทคนิคจัดแสดงจากวัสดุเหลือใช
ภาพถายขาว – ดํา ที่ทําจากไขขาว ภาพถายที่ผลิตในตนพุทธศตวรรษที่ ๒๕ ทําจากวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งที่ใชทําชั้นรองรับภาพและ เยื่อไวแสง และผานกระบวนการลางและอัดแตกตางกัน เนื่องจากเปนหวงเวลาที่มีการคนพบเทคนิคและ กระบวนการใหม ๆ อยูเรื่อย ๆ ภาพถายเหลานั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายรูปแบบ ยากตอการ อนุรักษ ปญหาหนึ่งที่อาจพบในพิพิธภัณฑบางแหงคือภาพถายขาว-ดํา ที่มีมากใน สมั ยรั ชกาลที่ ๕ ที่อัด ภาพบนกระดาษบางๆ ภาพมัก ซีด จาง สวนที่เ ปน สีออ น เปลี่ยนเปนสีเหลือง รายละเอียดบนภาพเปลี่ยนเปนสีน้ําตาล รายละเอียดบนภาพ เลือนหายไป กระดาษกรอบเปราะ ฯลฯ ภาพถายกลุมนี้จึงหลงเหลือมาถึงปจจุบัน ในสภาพเดิ ม ไม ม ากนั ก ผลิ ต มากใน ค.ศ. ๑๘๔๘ - ๑๘๘๕ และผลิ ต ต อเนื่ อ ง มาจนถึ ง ป ค.ศ.๑๘๙๕ เลิ ก ผลิ ต ในป ค.ศ.๑๙๒๐ เรี ยกว า Albumen prints เยื่อไวแสงทําจากไขขาวและเกลือเงิน ไขขาวทําหนาที่ยึดเหนี่ยวเกลือเงินใหติดบนผิว กระดาษ ชั้นรองรับภาพเปนกระดาษบาง ๆ ที่ไมไดเคลือบ จึงมักนํามาติดกาวลง บนกระดาษแข็งที่ตกแตงสวยงาม จัดเปนภาพถายที่เสื่อมสภาพเร็วกวาภาพถาย ขาว-ดํากลุมอื่น ๆ ทั้งนี้เปนเพราะไขขาวไมทนทานตอสภาพแวดลอมที่รอน ชื้น แสงจ า และมลพิษ ภาพบางสวนอาจเสื่ อมสภาพเร็วยิ่ งขึ้น เพราะสารเคมีและ กระบวนการที่ ใ ช ใ นการอั ด ล า ง หรื อ เกิ ด จากการเปลี่ ย นแปลงทางเคมี ข อง สารประกอบของเงินซึ่งเปนองคประกอบที่สําคัญของภาพ เงินมีการเปลี่ยนสภาพ ไปเปนเกลือเงินซัลไฟด สวนที่มีสีออน ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด สีน้ําตาล เปลี่ยนเปนสีน้ําตาลอมเหลือง - เหลืองมากขึ้น บางกรณีภาพเลือนหายไปอยาง สิ้นเชิง โดยเฉพาะอยางยิ่งหากเก็บรักษาในที่ที่มีความชื้นสูงเกิน ๖๐ % ซึ่งเปน ระดับความชื้นเฉลี่ยเกือบตลอดปในไทย หรือหากเก็บรักษาในที่ที่อุณหภูมิและ ความชื้ น ไม ค งที่ ผิ ว หน า ของภาพมั ก แตกราน เนื่ อ งจากไข ข าวยื ด และหดตั ว แตกตางจากกระดาษที่เปนชั้นรองรับภาพ บางภาพอาจโคงงอ หรือมวนเขาหากัน เนื่องจากกระดาษที่ใชอัดภาพเปนกระดาษบางมาก ควรนํามาวางราบแลวคลี่ออก ชาๆ ทาบดวยกระดาษไรกรดแลวใชวัตถุที่มีน้ําหนักวางทับดานบน การยื ด อายุ ข องภาพถ ายขาว-ดําประเภทนี้ ควรเริ่ มด วยการควบคุม ความชื้ น ให อยูร ะหวาง ๓๐๔๐ % แตทั้งนี้ควรคอย ๆ ปรับความชื้นใหลดลงอยางชา ๆ การลดความชื้นอยางกะทันหันอาจทําใหภาพ เสื่ อมสภาพมากขึ้ น และค อ ย ๆ ลดอุ ณ หภู มิ ลงให เหลื อ ๑๘ องศาเซลเซี ยส รั ก ษาระดับ อุณหภู มิแ ละ ความชื้น ให คงที่ต ลอดเวลา และควรเก็ บในที่ มืด ตลอดเวลาในกลองที่ ทําจากกระดาษไร กรดหรือพลาสติก กระดาษที่ ใ ช ใ นการทํ า กรอบหรื อ ทํ า ซองหรื อ แฟ ม ต อ งเป น กระดาษไร ก รดและไร ด า ง หรื อ ใช ซ องไมลาร หากตองการจัดแสดงใหเลือกมุมที่มีแสงสลัวที่สุด หางไกลจากหนาตางและหลอดไฟฟา นําภาพใสกรอบที่ทํา จากวัสดุที่เปนกลาง เชนกรอบโลหะ ไมควรใชกรอบไม ซึ่งมักปลอยไอระเหยที่เปนอันตรายตอภาพ ใชแผน กรองรังสีอัลตราไวโอเลตปดดานหนาภาพ ดานหลังภาพควรใชกระดาษแข็งไรกรดตามดวยแผนซิลิกาเจล และแผนปดหลังภาพ(กระดาษแข็งไรกรดหรือแผนพลาสติก) เพื่อชวยลดความชื้น ไมควรจัดแสดงอยางถาวร
กระดาษซวนจื่อ กระดาษที่ศิลปนจีนใชเขียนภาพมีหลายชนิด ดังไดกลาวแลวในขาวสารการ อนุรักษฉบับกอน และไดเลาเรื่องกระดาษที่ทําจากไมไผไปแลว กระดาษสําหรับเขียน ภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจีนอีกชนิดหนึ่ง คือ กระดาษซวนจื่อ (xuangzhi) ซึ่งทํา จากเปลือกของตนไมที่คนจีนเรียกวา Chhing than ชื่อพฤกษศาสตรคือ Pteroceltis tartarinowii Maxim ชื่อสามัญคือ Blue sandalwood หรือ tara wingceltis ตนไมชนิดนี้เปนพืชพื้นเมืองของจีน ลําตนสูงถึง ๒๐ เมตร เมล็ดใชทํา น้ํามัน เนื้อไมใชประโยชนไดหลายอยาง เปลือกใชทํากระดาษ ผลิตมากที่เมืองซวนโจว (จึงเรียกวากระดาษ ซวนจื่อ ตามแหลงผลิต) ใกลจังหวัดอันฮุย ตั้งแตสมัยราชวงศถัง ตอมาในสมัยราชวงศสุงผลิตมากที่เมือง ฮุยโจว จิโจว หลังจากนั้นยายไปผลิตมากที่ Jing County จังหวัดอันฮุย และพัฒนาเทคนิคการผลิตและ คุณภาพไดสูงสุดในสมัยราชวงศหมิง ผลิตไดจํานวนมากในสมัยราชวงศชิง เหตุที่แถบนี้ผลิตกระดาษซวนจือได ดีที่สุดเพราะมีวัตถุดบิ มากมาย และน้ําในแมน้ํามีความเปนดางเล็กนอย เหมาะในกระบวนการผลิต กระดาษซวนจื่อมีชื่อเรียกหลายชื่อ บางคนเรียกวา Rice paper เนื่องจากมีการผสมฟางขาวลงไป ดวยในอัตราสวนตาง ๆ ตอมาในสมัยราชวงศเยวี๋ยน และราชวงศสุง มีการผสมเยื่อจากปอสา และไมไผอีกดวย อยางไรก็ตาม คําวา Rice paper เปนชื่อที่ใชเรียกกระดาษหลายชนิดไมเฉพาะแตกระดาษซวนจื่อ คุณสมบัติของ กระดาษซวนจื่อมีหลากหลาย ขึ้นอยูกับคุณสมบัติของวัตถุดิบที่ใชในการผลิตและกระบวนการผลิต กระดาษ ซวนจื่ อ ที่ มี คุ ณ ภาพดี ที่ สุ ด ทํ า จากเปลื อ กไม ดั ง กล า ว ๑๐๐ % ขั้ น ตอนในการผลิ ต มี ถึ ง ๑๐๐ ขั้ น ตอน ลวนแลวแตผลิตดวยมือ ใชเวลา ๑-๒ ปในการเตรียมวัตถุดิบ จนถึงผลิตออกมาเปนแผนกระดาษ กระดาษซวนจื่อมีสีขาว นุม แข็งแรง ผิวเรียบ ทนทาน ทนยับ แมลงไมกิน ทนตอเชื้อรา เหมาะใน การใชเขียนภาพและตัวอักษร เนื่องจากดูดซับน้ําหมึกไดดี หมึกไมแพรกระจายออกไปรอบเสน คุณภาพในการ ดูดซึมน้ําของกระดาษซวนจื่อยังขึ้นอยูกับกระบวนการผลิตดวย กระดาษซวนจื่อที่ไมเติมแตงดวยสารกันซึมจะ ดูดซับน้ําไดดี น้ําหมึกทะลุผานได เนื้อนุมและหยาบ เหมาะกับการเขียนภาพดวยพูกันเปนเสนหนาและเขียน อยางรวดเร็ว ซึ่งผูเขียนจะตองมีทักษะสูงมาก เมื่อหมึกหรือสีแทรกซึมลงไปในเนื้อกระดาษจะเปลงประกายมา จากขางใน สวนกระดาษซวนจื่อที่เติมแตงดวยเจลาตินและสารสมจะดูดซึมน้ําไดนอยลง เนื้อกระดาษแข็งขึ้น เมื่อเขียนภาพสีหรือหมึกจะติดอยูบนผิวเทานั้น สีมักไมสดใส เพราะสารสมทําใหสีออนลง กระดาษพวกนี้เหมาะ กับการเขียนภาพที่มีรายละเอียดมาก ใชเวลานานในการเขียน และเหมาะกับการเขียนหนังสือตัวเล็ก ๆ
แลกเปลี่ยนความรู อรรถ
เอกสารเกาควรเคลือบพลาสติกหรือไม
จิราภรณ การเคลือบพลาสติกหรือลามิเนตดวยเซลลูโลสอะซีเตตเริ่มใชเมื่อประมาณ ๖๐ ปที่แลว มีทั้งที่เคลือบดวยความรอนและเคลือบดวยการใชสารเคมี เพื่อทําใหพลาสติกติดแนนกับ เอกสารที่อยูตรงกลาง วิธีการนี้เปนวิธีที่ไมเหมาะสมในการเก็บเอกสารที่มีความสําคัญ เนื่องจากในระยะยาวเซลลูโลสอะซีเตตสลายตัวใหกรดน้ําสม ซึ่งทําอันตรายตอเอกสาร ในขณะเดียวกันตัวมันเองหดตัว และโคงงอ เปนคลื่น และหากเอกสารมีความเปนกรดอยูแลว พลาสติกจะกักเก็บความเปนกรดอยูภายในกระดาษ ทําใหกระดาษนั้น ๆ กรอบเปราะมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เอกสารจะเสียหายเมื่อพลาสติกเสื่อมสภาพ หรือเมื่อตองการลอกพลาสติกออก วิธีที่ดีกวาคือควรเก็บเอกสารสําคัญในซองหรือแฟมที่ทําดวยกระดาษไรกรดหรือกระดาษ ความเปนดางเล็กนอย โดยไมเคลือบสารเคมีใดๆ แลวควรคุมสภาพแวดลอมไมใหรอนชื้น และปองกันแมลงอยางเขมงวด สุนทรี
ซองพลาสติกที่ใสภาพสีมาจากรานถายรูป ใชในระยะยาวไดไหม
จิราภรณ ซองพลาสติกจากรานถายรูปสวนใหญเปนพลาสติกราคาถูก คือพีวีซี (PVC) ซึ่งเติมสารเคมี บางอยางลงไปเพื่อใหไดพลาสติกที่ยืดหยุนมากขึ้น
เมื่อใชงานได ๒-๓ ป สารเคมีที่เติม
จะแยกตัวออกมา มีลักษณะเหนียวเหนอะหนะบนพลาสติก ซึ่งดึงดูดฝุน เมื่อสารเคมีนี้ ทําปฏิกิริยากับความชื้นจะกลายเปนกรด เมื่อเวลาผานไปพีวีซีจะหดตัว แลวมีลักษณะเปนคลื่น หรือโคงงอ หากเก็บรักษาในที่ที่มีอุณหภูมิสูง พีวีซีจะสลายตัวใหกรดเกลือ เพราะฉะนั้นซองพลาสติก ดังกลาวไมควรใชกับภาพสําคัญที่ตองการเก็บรักษาระยะยาว อัลบัมราคาถูกก็ทําจากพีวีซีเชนกัน หากจําเปนตองใช ควรเปลี่ยนใหมทุก ๓ ป ทางที่ดคี วรเก็บรักษาภาพในซองที่ทําจากกระดาษไรกรด หรือไมลาร หรือพอลิเอทีลีน หรือไทเวค
ผูจัดทํา นางจิราภรณ นายศุภกร นางสาวศิรดา นางสาววรรณวิษา นายคุณาพจน
อรัณยะนาค ปุญญฤทธิ์ เฑียรเดช วรวาท แกวกิ่ง
สถาบันพิพิธภัณฑการเรียนรูแหงชาติ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 02 225 2777 ตอ 101 fax 02 225 1881-2 e-mail : Sirada@ndmi.or.th , Wanvisa@ndmi.or.th www.facebook.com/museumsiamfan