ฉบับที่ 10 เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2559
Thai Fashion Icon ย้อนวัยไป 17 ปี แฟชั่นยุคสายเดี่ยวส้นตึก โบ–จอยซ์ Triumphs Kingdom
ฉบับที่ 10 เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2559
Muse Plus
20
3
Muse Opinion
26
4
Muse Forward
30
14
Muse Check in
34
Contents
ทองย้อย นักออกแบบไทย ผู้จับผ้าไทยมาแต่งตัว
Muse Chat สารจาก ผอ.
Muse Idol
17 ปี แห่งความเปรี้ยว! ยุคเกาะอก สายเดี่ยวของ Triumphs Kingdom
Muse Latitude
เปิดต�ำนานแฟชั่นไอคอนดัง ปัง! จนต้องใส่ตาม
กองบรรณาธิการ
ซองทิพย์ เสริมสัวสดิ์ศรี ชรรร ลันสุชีพ จารุณี แย้มยื่น ธนพร หมู่เจริญทรัพย์ วงศธร เจริญจรัสฤกษ์
คุยกับวัยรุ่นไทย ตอนนี้อินกับอะไรกันนะ
หนังน่าดู หนังสือชวนอ่าน
มิวเซียมสยามมินิ นิทรรศการเคลื่อนที่ไอเดียใหม่
นิตยสารเสริมแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์การเรียนรู้ โดย มิวเซียมสยาม | สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
เลขที่ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 0 2225 2777 โทรสาร : 0 2225 2775 www.museumsiam.org, www.facebook.com/museumsiamfan
ร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาและออกแบบศิลปกรรม โดย
บริษัท เปเปอร์คอรัส จ�ำกัด 32/9 ถนนพุทธมณฑลสายสาย 2 ซอย 21 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170 โทร. 08 1919 5315 / 08 1513 4971 -2-
: เรื่อง ยาม ม ีย ส มิวเซ
Thai Fashion Icon
chat
ทุกๆ ท่านมีศลิ ปินในดวงใจไหมครับ ผมเชือ่ ว่าผูอ้ า่ นทุกท่านน่าจะมีศลิ ปินในดวงใจ อย่างน้อย 1 คนแน่นอน และถ้าหากถามต่อว่า ท่านเคยแต่งตัวตามแบบศิลปิน ในดวงใจของคุณบ้างหรือไม่ เชื่อว่าจะต้องมีหลายๆ ท่านต้องตอบ “ใช่” บ้างล่ะ จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับที่เราจะมีศิลปินในดวงใจ หรือแต่งกายตาม สไตล์ของศิลปินคนโปรดของเรา เป็นเทรนด์ใหม่ๆ ตามสมัยนิยม จนกลายเป็น กระแสแฟชั่นไปที่เกิดขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นในที่สุด Muse Mag เล่ม 10 นี้ จึงอยากพาทุกๆ ท่าน ย้อนกลับไปสนุกกับแฟชั่น ไอคอนในอดีต ศิลปินทีเ่ ป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าวัยรุน่ ทัง้ หลายได้สนุกกับเทรนด์ แฟชั่น และการค้นพบกับตัวตนในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งถ้าพูดถึง ‘วัยรุ่น’ ทุกคนอาจ จะนึกถึงชีวิตการเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แต่ในอีกมุมหนึ่ง...การเป็น วัยรุ่น ก็คือการตามหาความฝัน ตัวตน และแรงบันดาลใจ แม้ว่าในช่วงชีวิตนี้ อาจจะเป็นวัยที่ได้พบเจอกับเรื่องที่ผิดหวังและสมหวัง การค้นหาตัวเองก็เป็นการ ลองผิดลองถูกเช่นกัน ไม่ต่างอะไรกับงานแฟชั่นที่ถือเป็นอีก 1 งานสร้างสรรค์ เช่นกัน ดังนั้น แฟชั่นไอคอนจึงถือเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ที่จะผลักดันทั้งเรื่อง ของการแต่งกาย ความคิด วิถีการด�ำเนินชีวิต ไปจนถึงการขับเคลื่อนพลังความ สร้างสรรค์ต่อยอดสู่งานธุรกิจสร้างสรรค์ในแขนงต่างๆ ดังในเล่มนี้ที่ทุกท่านจะได้ รูจ้ กั กับเจ้าของธุรกิจ ‘ทองย้อย’ ทีจ่ บั แฟชัน่ ไอคอนทีต่ วั เองหลงใหล ต่อยอดสูก่ าร ท�ำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ทุกๆ ท่านพร้อมจะไปค้นหา Thai Fashion Icon กับ Muse Mag ฉบับนี้กัน หรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว...เปิดหน้าต่อไป แล้วย้อนเวลาไปหาแรงบันดาลใจกับ พวกเราได้เลยครับ
ราเมศ พรหมเย็น ผู้อ�ำนวยการมิวเซียมสยาม -3-
-4-
pa
eera W : ง
เรื่อ
idol
17 ปี
แห่งความเปรี้ยว!
ยุคเกาะอก สายเดี่ยวของ Triumphs Kingdom ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเกิดปรากฏการณ์ทางดนตรีและแฟชั่นและท�ำให้ วัยรุ่นไทยมีอาการดังนี้… เป็นครั้งแรกที่วัยรุ่นไทยสัมผัสและเข้าถึงแฟชั่นสายเดี่ยว เสื้อเกาะอก รองเท้าส้นตึก และเทรนด์ดัดฟัน ทั น ที ที่ โ ปสเตอร์ โ ฉมใหม่ อ อกมาและปิ ด ประกาศตามก� ำ แพงย่ า น สยามสแควร์ ไม่เกิน 2 วัน โปสเตอร์เหล่านั้นจะถูกดึงหายไป อย่างน้อยเราต้องมีโปสเตอร์ของพวกเธอติดไว้ที่ผนังห้อง เราต้องมีเทปหรือซีดีของเธอไว้ครอบครองอย่างน้อยหนึ่งอัลบั้ม (เอา ไว้ไปเปิดฟังที่บ้าน พกไปโรงเรียนอวดเพื่อน) ทั้งหมดเป็นปรากฏการณ์ที่ดูโอ้สาว ไทรอัมพ์ส คิงดอม (Triumphs Kingdom หรือ TK) โบ-สุรัตนาวี สุวิพร และจอยซ์-กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์ สร้างเอาไว้เป็นปรากฏการณ์ตงั้ แต่ปี ค.ศ. 1999-2001 ดนตรีแนวใหม่ แฟชัน่ แนวใหม่ประหนึง่ หลุดจากแมกกาซีน ทัง้ หมดคือ ความสดใหม่ที่พวกเธอสร้างไว้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว
-5-
ย้อนไปในปี ค.ศ. 1999 ก่อนที่พวกคุณจะก้าวมาเป็นไทรอัมพ์ส คิงดอม ตอนนั้น คุณท�ำอะไรกันอยู่ โบ : พวกเราอายุ 17 ปี ก�ำลังเรียนชั้น ม.6 เราสองคนไม่เคยมีแผนมาทางนี้เลย ไม่เคยเรียนเต้น ไม่เคย
เรียนร้องเพลง จนกระทั่งได้เจอพี่สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ (หนึ่งในผู้ก่อตั้งค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิก) ซึ่ง หลานพี่สมเกียรติเป็นเพื่อนบ้านโบ สนิทกัน เที่ยวด้วยกัน ตอนนั้นพี่สมเกียรติคิดโปรเจ็กต์ขึ้นมาชื่อว่า โดโจซิตี้ เป็นค่ายเพลงใหม่ให้อารมณ์สาวข้างบ้านมานัง่ ร้องเพลง ไม่จำ� เป็นต้องเสียงดี ไม่จำ� เป็นต้องเป็นคนดัง เพราะเราก็บอกพี่สมเกียรติตั้งแต่ต้นแล้วว่าเราร้องไม่ได้นะ
จอยซ์ : พอพี่สมเกียรติชวน พวกเราก็โอเคลองท�ำดู ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก เบ็ดเสร็จใช้เวลาท�ำเพลง
2 สัปดาห์ แล้วชุดแรกเสื้อผ้าก็หยิบมาจากตู้เสื้อผ้าพวกเราเอง เราสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล ดังนั้น ตู้เสื้อผ้าของโบ ก็คือตู้เสื้อผ้าของจอยซ์ด้วยเหมือนกัน เสื้อผ้าไซส์เดียวกัน
แสดงว่าลุคแรกของไทรอัมพ์ส คิงดอม มาจากตู้เสื้อผ้าเราเอง โบ : ใช่เลย มีพี่สไตลิสต์มาช่วยจัดการให้นิดหนึ่ง ขั้นตอนก่อนถ่ายโปสเตอร์คือเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าเรามีอะไร
บ้างก็ขนมากอง แล้วพี่สไตลิสต์ (ดาว-นิรชา ข�ำแก้ว) จะช่วยดู สมมติว่ามีกางเกงตัวหนึ่ง พี่เขาก็จะตัดขึ้นอีก นิดให้ดูลงตัวมากขึ้น ในตู้โบก็จะมีแต่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ซึ่งเป็นชุดที่ใส่ออกนอกบ้านอยู่แล้ว
-6-
ตอนนั้นวัยรุ่นไทยแต่งตัวกันอย่างไร โบ : วัยรุ่นไม่ค่อยแต่งตัวแรงๆ หรือโชว์ความมั่นใจมากเกินไป ยุคนั้นเวลาใครแต่งอะไรก็จะแต่งเหมือนๆ
กันหมด กางเกงขากระดิ่ง รองเท้าสกอร์ ทุกคนฟัง Spice Girl วัยรุ่นยุคก่อนมักใส่เสื้อผ้าไปในทางเดียวกัน จริงๆ โบมองว่าเราเองไม่ใช่ผนู้ ำ� แฟชัน่ หรอก แต่เพราะแฟชัน่ มันก�ำลังมา แล้วเราก็แค่เลือกสวมใส่ในแนวทาง ที่เป็นตัวเรา ที่เราถนัด เพื่อนรอบข้างเราก็แต่งตัวแบบนี้ มีขายที่สยาม
ตอนนั้นรู้ตัวหรือยังว่าพวกเรามีอิทธิพลต่อการแต่งตัวของคนฟังเพลง จอยซ์ : ออกอัลบั้มแรกมีคนพูดถึง พวกเรายังงงๆ เลยว่าความดังคืออะไร ตอนนั้นอายุ 17 ปี ทุกอย่างมัน
เร็วมาก ทุกอย่างคือความสนุก โดยที่เราไม่ได้คิดว่ามันโป๊ มันเอ็กซ์ เราแค่รู้สึกว่าพวกเราเด็ก เราสนุก อายุ เท่านี้ แต่งตัวอย่างไรก็ไม่ผิด มันก็น่าสนุกดีนะที่วัยรุ่นอายุเท่าๆ เรา ทุกคนแต่งตัวเหมือนเรากันหมด ท�ำให้ รู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนเรา แต่จริงๆ ทั้งหมดมันเริ่มต้นจากเพลงมากกว่า ดนตรีคือสิ่งที่พาแฟชั่นออกมาด้วย เพราะเพลงเราสดใหม่ เหมือนเด็กสาววัยรุ่นสองคน เราแต่งตัวง่ายๆ แบบที่ใครๆ ก็ใส่ได้ เลยท�ำให้ทุกอย่างดู ใหม่ ดูง่าย ในขณะที่ศิลปินยุคนั้น นักร้องจะขึ้นเวทีต้องมีแจ็กเก็ต มีพู่ ในขณะที่ TK คือความสบายๆ มาเข้า โชว์ กลายเป็นว่าเราดูง่าย ทุกคนจับต้องได้ ขึ้นเวทีก็ไม่ต้องมีอะไรเยอะ ทุกอย่างกลายเป็นความสนุก พวก ฉันไม่มีอะไรเลย ร้องเพลงก็ไม่เก่งด้วย แต่ฉันเป็นของฉันอย่างนี้
โบ : ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้เราก็เป็นของเราอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนออกอัลบั้ม เราไม่มีไอดอลด้านการแต่ง
ตัว เราเป็นตัวเราจริงๆ เราอยู่ในยุคที่มีคนบอกว่าถ้าใส่เสื้อแขนกุดเดินเข้ามหาวิทยาลัย ผู้ชายจะหันมา -7-
“ตอนนั้นอายุ 17 ปี ทุกอย่างมันเร็ว มาก โดยที่เราไม่ได้คิดว่ามันโป๊ เราแค่ รูส้ กึ ว่าพวกเราเด็ก เราสนุก อายุเท่านี้ แต่งตัวอย่างไรก็ไม่ผดิ ทุกคนแต่งตัว เหมือนเรากันหมด ทำ�ให้เรารูส้ กึ ว่าเขา เป็นเพื่อนเรา”
-8-
มองทั้งมหาวิทยาลัย นั่นแปลว่าการใส่เสื้อเปิดแขนถือเป็นเรื่องโป๊มากแล้ว ส่วนรองเท้านี่ชอบมาก เมื่อก่อนที่ มาบุญครองจะมีร้านรองเท้าที่ดูเด่นมาก รองเท้าส้นตึกคู่ละหกพันบาท แพงมากยี่ห้อ Swear แต่ก็อยากได้ แม่ ถามว่าจะซื้อจริงหรือ จะซื้อใส่ไปไหน โบบอกก็ใส่เดินเล่น คือเราเป็นของเราแบบนี้ตั้งแต่เริ่มต้น จนเพื่อนเห็น ว่ารองเท้าเราสวยก็เลยซื้อตามกันหมด ยิ่งพอออกอัลบั้ม เรารู้สึกว่าใส่ส้นตึกแล้วสูงดี รู้สึกมั่นใจ เดินแล้วมั่นคง เพราะเราและเพื่อนฝูงรอบข้างเราก็เป็นแบบนี้ โบเป็นผู้หญิงคนแรกๆ เลยที่ท�ำผมสีแดงแปร๊ดก่อนออกอัลบั้ม ด้วยเหตุผลเพราะเพื่อนกลับจากเมืองนอกและมีสีย้อมผม วันหยุดเราก็ล้างผม กัดผมกันเอง แสบหนังหัวกันไป อีกเรื่องคือดัดฟัน โบชอบดัดฟันมาก ทุกวันนี้ก็ยังดัดอยู่ เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ครั้งหนึ่งเคยได้รับสายต่อว่า ท�ำนอง ว่ารู้ไหมว่าเธอท�ำให้วัยรุ่นไทยหันมาดัดฟัน คือฟังแล้วก็งงนะ
เบื้องหลังกว่าจะออกมาเป็นแต่อัลบั้มของ ไทรอัมพ์ส คิงดอม เป็นอย่างไร โบ : กว่าจะมาลงตัวที่ชื่อ ไทรอัมพ์ส คิงดอม เรามีหลายชื่อมาก แม้เราเป็นเด็ก แต่เราก็กล้าพูดในระหว่าง
ท�ำงานด้วยกัน เถียงกันจนพี่ทอม-วรุฒม์ ปันยารชุน (ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ เบเกอรี่มิวสิก) บอกว่า “ไอ้พวกนี้ มันเป็นเด็กที่ชอบเอาชนะ งั้นเอาชื่อ อาณาจักรแห่งชัยชนะให้มันไปเลย” โบเปิดตัวด้วยผมสั้นกุด รองเท้าส้นตึก จอยซ์เป็นเกาะอกและกระโปรงยาวสี่ส่วน รองเท้าส้นตึก ซึ่งชุดแรก อย่างที่รู้กัน กระแสถูกต่อว่า พอมาอัลบั้มต่อมาซึ่งเวลาผ่านไป 8-9 เดือน Twice TK ออกมาในปี 1999 ช่วง คริสต์มาส อยากให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอายบรรยากาศเฉลิมฉลอง เราก็เสนอให้มีดีไซเนอร์มาร่วมออกแบบให้ พี่ทอม วรุฒม์ ก็เสนอไอเดียว่า พวกเธอต้องเป็นแซนตี้ มีเขา จากกางเกงขาสั้นก็เปลี่ยนมาเป็นขายาว บางโชว์ก็ยังคง กางเกงขาสัน้ ไว้นดิ หนึง่ เอาไว้ใส่โชว์ ซึง่ เลือกให้เนือ้ ผ้าเดียวกัน สีเดียวกัน ซึง่ ชุดแซนตีไ้ ด้พผี่ กั กาด (ประภากาศ อังศุสิงห์) มาดูแลให้
จอยซ์ : พอมาชุดที่ 3 TK Vision พวกเราหายไปเกือบปี ตอนนั้นต่างคนก็เริ่มหันไปท�ำอย่างอื่นแล้ว โบไป
เล่นหนัง ไปท�ำงานพิธีกร เราได้พี่จอย-อนันดา ฉลาดเจริญ มาดูแลในเรื่องเสื้อผ้า จะเห็นได้ว่าเป็นแจ็กเก็ตยาว เสื้อเกาะอกสายเดี่ยวอยู่ข้างใน บางชุดมีแอ็กเซสซอรี่เป็นสร้อยคอสีทอง ให้ลุคออกมาดูแกลมขึ้น ดูเป็นสาวขึ้น แต่เวลาเราขึ้นเวที เราร้อนมาก เราไม่ชอบใส่แอ็กเซสเซอรี่ พอเราร้อน เราก็ถอด เหลือแต่เสื้อกล้ามสายเดี่ยว ไม่มีอะไรปิด เลยเป็นสาเหตุให้เรายิ่งดูโป๊เปลือย เพราะเราไม่มีแอ็กเซสซอรี่ (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ จอยซ์ชอบการ แต่งตัวในชุดนี้นะ มันดูคิดเยอะ ดูเป็นเรื่องเป็นราว ชุดท�ำให้เราดูมีความเป็นศิลปินขึ้นมาอีกนิด จากชุดแรกๆ ที่เราดูเป็นเด็กสาวข้างบ้าน -9-
นอกเหนือจากเสื้อผ้า สิ่งหนึ่งที่ท�ำให้เรานึกถึง ไทรอัมพ์ส คิงดอม และวัยรุ่นยุคนั้น คือ สยามและเซ็นเตอร์พอยต์ด้วย จอยซ์ : ตอนนัน้ เซ็นเตอร์พอยต์ยงั สร้างไม่เสร็จเลย เราออกอัลบัม้ สักพัก เซ็นเตอร์พอยต์สร้างเสร็จก็กลายเป็น
จุดนัดพบของวัยรุน่ ถ้าเมือ่ ก่อนไปสยาม ต้องไปเจอกันทีบ่ นั ไดหน้าร้านดังกิน้ โดนัท แต่ตอนนีเ้ มือ่ มีเซ็นเตอร์พอยต์ ก็ทำ� ให้วยั รุน่ ไปรวมตัวกันอยูต่ รงนัน้ คนทีช่ อบการแต่งตัว ก็จะไปปรากฏตัวอยูต่ รงนัน้ มีหนังสือวัยรุน่ มาถ่ายรูป แล้วไปลงหนังสือ บางคนเหมือนหลุดมาจากแมกกาซีนญี่ปุ่นเลยก็มี เป็นช่วงเวลาที่สนุก แล้วพอเราออกอัลบั้ม สิ่งหนึ่งที่เห็นคือเสื้อผ้าที่ขายตามสยามและเซ็นเตอร์พอยต์ก็จะเป็นสายเดี่ยว กางเกงขาสั้นเหมือนเรา เดินไป ไหนทุกคนก็จะแต่งแบบนี้ตามๆ กัน อ้อ…ยุคนั้นมีชานมไข่มุกแก้วทรงสูงด้วยนะ
โบ : ทั้งออฟฟิศเบเกอรี่มิวสิคอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 2 ยิ่งท�ำให้เรามีจุดเริ่มต้น เริ่มต้นจากสยาม (ผู้จัดการ
ส่วนตัวของเธอร่วมเสริมว่า หนึ่งในปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่า ไทรอัมพ์ส คิงดอม ได้รับความนิยมที่สยามมาก ชนิดที่วันนี้ปิดโปสเตอร์ออกใหม่ที่สยาม ไม่เกิน 2 วัน โปสเตอร์เหล่านั้นจะถูกดึงออกเพราะแฟนคลับมาดึงไป เก็บสะสมส่วนตัว) เราท�ำงานเยอะมาก กินทีน่ ั่น นอนทีน่ ั่น ใช้ชีวติ อยูท่ สี่ ยามตลอดเวลา กลายเป็นสถานทีท่ เี่ รา ผูกพัน แล้วใครๆ ก็บอกว่า เราเป็นผู้น�ำแฟชั่นในยุคเซ็นเตอร์พอยต์พอดี ทุกวันนี้เวลาเดินผ่านไปแถวนั้น เรายัง คิดถึงสถานที่ตรงนั้นเลยนะว่าครั้งหนึ่งตอนเราวัยรุ่น เรามาท�ำอะไรตรงนี้ เราเคยมาร้องเพลงที่น�้ำพุตรงนี้ด้วย
ประสบการณ์ที่พีคที่สุดและนึกทีไรก็สนุกที่สุด โบ : 3 เดือนแรก ขึ้นคอนเสิร์ต 150 ที่ บางวันคอนเสิร์ตเสร็จตี 5 เรามีรายการสดต่อตอน 7 โมงเช้า ชีวิตคือ
แต่งหน้าวันเดียวอยูไ่ ด้ 2 วัน ไม่ตอ้ งล้างเลย (หัวเราะ) ใช้ออฟฟิศเป็นทีน่ อน บางวันไม่ตอ้ งล้างหน้าแปรงฟันเลย รองเท้านี่อื้อหือ…เน่า บางวันไปต่างจังหวัดแล้วต้องถอดรองเท้าเข้าห้องส่ง เราก็ไม่กล้าถอดไง ทุกคนก็คิดว่า Keep Look มาก ไม่ใช่ค่ะ ยังไงก็ไม่ถอด เพราะถอดนี่กลิ่นใช้ได้เลยนะ (หัวเราะ)
จอยซ์ : บางวันเหนือ่ ยมากไม่ได้นอน ต้องขึน้ คอนเสิรต์ วันรุง่ ขึน้ อีก เอาไงดี ไม่อยากให้แฟนเพลงเห็นเราตาช�ำ้
ก็เลยหาแว่นกันแดดสีๆ มาใส่แล้วขึน้ เวที เลยกลายเป็นว่า คนมองว่าเราเป็นผูน้ ำ� แฟชัน่ ไปอีก ใส่แว่นขึน้ คอนเสิรต์
เคยนึกตั้งค�ำถามบ้างไหมว่า วัยรุ่นยุคนี้ แต่งตัวตามศิลปินดาราน้อยลง จอยซ์ : คิดว่าเป็นเรื่องของการรับสื่อ เพราะสมัยก่อนศิลปินจะได้ออกตามทีวีหรือหนังสือต่างๆ นั่นเป็น ช่องทางเดียวทีท่ ำ� ให้วยั รุน่ มองเห็นและได้รบั อิทธิพลตาม เมือ่ ก่อนเราไม่รหู้ รอกว่า ‘ชอบหรือไม่ชอบ’ เราแต่งตัว ตามศิลปิน เพราะคิดว่าความสวยต้องเป็นแบบนี้ ในขณะที่ทุกวันนี้ ยุคโซเชียล ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ มีเฟซบุ๊ก มีอินสตาแกรม เรามองเห็นตัวอย่างมากมาย เราก็เลือกได้ว่าเราจะเป็นตัวเองในแบบไหน -10-
“ทุ ก วั น นี้ ชื่ อ ของ Triumphs Kingdom ไม่ใช่แค่ของเราสองคน แล้ว เราจะเห็นว่าแฟนคลับบางคน เลือกใช้คำ�ว่า TK ไปต่อท้าย มัน สะท้อนว่า ไทรอัมพ์ส คิงดอม คือ ความสุขของเขาในยุคนั้น และมันได้ กลายเป็นของเขาไปแล้ว”
-11-
ความเป็น ไทรอัมพ์ส คิงดอม ในวันนี้ แตกต่างจากเมื่อ 17 ปีที่แล้วอย่างไรบ้าง โบ : เมื่อก่อนโบไม่มีจุดหมาย คิดอย่างเดียวว่าใช้ชีวิตให้สนุก เดี๋ยวปี 2000 โลกก็แตกแล้ว เพราะฉะนั้นเรา
จะท�ำทุกอย่างเต็มทีก่ อ่ นทีโ่ ลกจะแตก จนวันหนึง่ เมือ่ ทุกอย่างด�ำเนินไป ไม่มอี ะไรเกิดขึน้ นี่ เอาแล้วสิ จุดยืนหาย เราจะเต็มที่กับชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ เคยคุยกับจอยซ์ว่าท�ำยังไงดี ท�ำไมไม่แฮปปี้เหมือนที่เคยเป็น เวลาเราไป เที่ยวหรือดีใจมันก็แค่นั้น เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อยากได้อะไรก็ซื้อ แล้วมันก็แค่นั้น จนกระทั่งพี่บอยด์ โกสิยพงษ์ แนะน�ำให้อ่านพระคัมภีร์ เราก็ค้นพบเส้นทางที่ท�ำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองและคนอื่นมากขึ้น ส�ำหรับโบ โบว่ามันจบแล้วนะ ไทรอัมพ์ส คิงดอม ให้มาออกอัลบั้มคู่เพื่อสร้างชื่อเสียงเงินทองแบบเมื่อก่อนคง ไม่เอาแล้ว แต่ถ้ามีโปรเจ็กต์พิเศษที่ท�ำร่วมกันได้ เราก็ยังยินดี ไทรอัมพ์ส คิงดอม เป็นช่วงเวลาที่เราได้สนุกกับ เพื่อน ได้เจอคนใหม่ๆ ตอนนั้นเรามีเพื่อนทั่วประเทศ ทุกคนไม่ได้สนใจว่าเราจะร้องเพลงเสียงดีหรือเราเต้นได้ แต่เราสนุก และเป็นตัวของเราเอง ทุกวันนี้ค�ำว่า ไทรอัมพ์ส คิงดอม มันเดินทางไปไกลกว่าค�ำว่า ‘นักร้อง’ ไปแล้ว มันคือความธรรมดา เด็กสาว ธรรมดามีนิสัยรักสนุกมากๆ ชื่อนี้ไม่ใช่แค่ของเราสองคนแล้ว จะเห็นว่าแฟนคลับบางคน เลือกใช้ค�ำว่า TK ไป ต่อท้ายชื่อข้างหลัง เช่น ‘น้องเอก TK’ มันสะท้อนว่า ไทรอัมพ์ส คิงดอม คือความสุขของเขาในยุคนั้น และมัน ได้กลายเป็นของเขาไปแล้ว และถ้าจะบอกว่าตอนนี้คนที่ห่างไกลกับค�ำว่าไทรอัมพ์ส คิงดอมมากที่สุด ก็อาจจะ เป็นโบก็ได้ โบไม่แต่งตัว โบแทบจะไม่อินกับแฟชั่นเลย (เน้นเสียง) โบน้อยลงแล้วค่ะ
จอยซ์ : ด้วยความที่เราสองคนห่างกันไปนาน โบอุทิศตัวและท�ำงานให้กับศาสนา ดังนั้นรูปแบบการใช้ชีวิต ของเขาก็ต้องเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น อีกทั้งแต่งงานมีครอบครัวแล้ว เรื่องพวกนี้แทบจะเป็นปัจจัยหลังๆ เลยที่ เขาจะมาคิดว่าต้องแต่งตัวแบบนั้นแบบนี้ (โบรีบเสริมว่า ตอนนี้จอยซ์แฟชั่นกว่าโบอีก) ชีวิตที่ผ่านมาเราเป็นคน รักสนุก ชีวิตที่เผชิญท�ำให้เราแข็งแกร่งและเปลี่ยนตัวเองไปมากขึ้น ไทรอัมพ์ส คิงดอมไม่ใช่ชื่อของนักร้องดูโอ้ ออกอัลบั้ม แต่มากไปกว่านั้นมันคือความเป็นเพื่อนของเรา
เป็นเมือ่ ก่อน จอยซ์คงจะตอบว่าเพราะใส่รองเท้าส้นตึกท�ำให้เรามัน่ ใจ แต่วนั นีส้ งิ่ ทีท่ ำ� ให้เรามัน่ ใจก็คอื เพราะจอยซ์ มีโบอยู่ใกล้ๆ ก็พอ แต่จอยซ์ยังคงสนุก ยังคงมีโมเมนต์ไปต่อแถวซื้อรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นอยู่นะ (หัวเราะ) -12-
ชุดนี้ VS เพลงไหน
ช่วงเวลาเพียง 2 ปี พวกเธอออกอัลบั้มเต็ม 3 ชุด และอัลบั้มพิเศษรวม 6 ชุด และนี่บทสรุปสั้นๆ ถึงเพลงเด่น เสื้อผ้า และปรากฏการณ์ฮือฮาของ TK 1. อัลบั้มแรกเปิดตัวในปี ค.ศ. 1999 เพลงเปิดตัวที่ท�ำให้พวกเธอเปรี้ยง! เปิดตัวด้วยเพลงป็อปใส เสียงร้อง สไตล์สาวข้างบ้าน ‘อย่าเข้าใจฉันผิด’ และ ‘รักๆ…รัก’ และเสื้อผ้าบนหน้าปก มาจากตู้เสื้อผ้าของพวกเธอเอง 2. อัลบั้มที่สอง คลอดตามมาในชั่วระยะเวลาเพียง 8 เดือน ในลุคแซนตี้สาว เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศช่วง การเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และมาในธีม X’mas Kingdom มีเพลง ‘อ้วน’ และ ‘ผ้าเช็ดหน้า’ สร้าง ปรากฏการณ์ที่วัยรุ่นไทยคว้าผ้าเช็ดหน้ามาผูกปกปิดท่อนบน และแน่นอน กระแสแอนตี้คอสตูมของสองสาว TK ก็ยิ่งฮือฮาไปอีก 3. อัลบั้มที่สาม TK Vision ในปี ค.ศ. 2001 หายไปปีกว่า พวกเธอกลับมาในลุคที่สาวขึ้น เซ็กซี่และน่าค้นหา มากขึ้น เสื้อโค้ตยาว ด้านในสวมใส่เกาะอก ผมสีทองและแอ็กเซสซอรี่ มีเพลง ‘ล�่ำบึก’ และ ‘ถอด’
-13-
เปิดต�ำนานแฟชั่นไอคอนดัง ปัง! จนต้องใส่ตาม The Legendary Fashion Icons
เรื่อ
an
nan
ha ง:C
e d u t i t la
พวกเธอและพวกเขาเก๋ ฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง หรือไม่ก็มี ความขบถในยุคสมัยที่โดดเด่นจนน่าจับตา การก้าวขึ้นสู่แท่นแฟชั่น ไอคอนระดับโลกในเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และกลายเป็นประเด็นที่ น่าศึกษาว่าพวกเธอและพวกเขาคิดและแสดงออกอย่างไรจนกลาย เป็นบุคคลแฟชั่นที่เป็นอิทธิพลให้คนแต่งตัวตามทั่วโลกตั้งแต่ในอดีต มาจนถึงวันนี้ -14-
แจ็กเกอลีน เคนเนดี โอนาสซิส
“ถ้าคุณคิดจะใส่สีขาว ต้องขาวสนิทให้โลกจ�ำ เพราะทุกสายตาจะจ้องมา ที่คุณ” ผู้คนจดจ�ำเธอในภาพคู่สมรสของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่มีสไตล์ที่สุด (ก่อนสมรสกับ มหาเศรษฐีอริสโตเติล โอนาสซิส) แม้กระทั่งในวันที่เหตุการณ์การลอบ สังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในปี 1963 ชุดสีชมพูของชาแนลกลายเป็นภาพ จดจ�ำในประวัตศิ าสตร์ตลอดกาลหลังจากเสียงลัน่ ไกดังขึน้ โดยมีแจ็กเกอลีน เคนเนดี นั่งขนาบข้างประธานาธิบดีบนรถเปิดประทุนคันนั้น (บางแหล่ง ข้อมูลสนับสนุนว่าเป็นชุดที่ตัดเย็บในอเมริกาตามแบบแบรนด์ชาแนล โดย ใช้ผ้าของแท้จากชาแนล ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในหอจดหมายเหตุแห่ง ชาติของอเมริกา) ในวัยเยาว์ แจ็กเกอลีน เคนเนดี เติบโตมาในครอบครัวที่ดี เธอเรียนรู้ที่จะ วางตัว มีความสุขุม มีทักษะการขี่ม้า และรู้วิธีเข้าสังคม จนกระทั่งเข้าสู่ ท�ำเนียบขาว เธอได้พฒ ั นาตัวเองในชุดเสือ้ ผ้าทีม่ สี ไตล์โดดเด่น เห็นแล้วรูท้ นั ที ว่าต้องเป็น Jackie O โดยมีเครื่องแต่งกายชิ้นส�ำคัญคือสร้อยมุกถักสามเส้น ถุงมือทีย่ าวเกือบถึงศอก ชุดสูทกระโปรงเข้ารูปยาวระดับเข่า เสือ้ แขนกุดติด กระดุม (ในวันสบายๆ) กางเกงยีนส์ขาบาน หมวกทรงกล่อง ผ้าพันคอที่ไว้ ใช้คลุมผม ไปจนถึงแว่นตากันแดดสีดำ� ขนาดใหญ่ ทัง้ ยังมีคำ� แนะน�ำดีๆ เรือ่ ง สไตล์การแต่งตัวทีเ่ ราจะพลาดไม่ได้ เช่น “ถ้าคุณคิดจะใส่สขี าว ต้องขาวสนิท ให้โลกจ�ำ เพราะทุกสายตาจะจ้องมาที่คุณ” “ชุดเรียบเนี้ยบจะพาคุณไปทุกที่ ในโลก” “แว่นตาด�ำคือสิ่งที่ต้องมี” หรือ “ชุดสีชมพู บางครั้งก็ทรงพลังกว่าสี แดง แค่คุณมีปิ่นหรืออะไรที่ดูเหมือนเพชรมาประดับให้เป็น” โดยมีแบรนด์ ประจ�ำ ได้แก่ ดิออร์ จีวองชี และชาแนล -15-
เจ้าหญิง ไดอานา แห่งเวลส์
“ทุกครั้งที่ผู้คนได้เห็นชุดเสื้อผ้าของเจ้าหญิงผ่านทางโทรทัศน์ ไม่นานนักสาวๆ จากทั่วโลกก็พร้อมที่จะแต่งกายแบบพระองค์มาเดินบนท้องถนนทันที” ทีห่ นึง่ เท่านัน้ ส�ำหรับไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เจ้าหญิงทีท่ กุ คนหลงรักตลอดกาล ทั้งในด้านพระจริยวัตรที่งดงาม รวมไปถึงแฟชั่นที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้คนทั่ว โลก ในช่วงต้นเจ้าหญิงยังคงสวมเสือ้ ผ้าทีถ่ กู จัดหาให้โดยราชส�ำนัก อย่างไรก็ตาม ความเป็นสไตล์ไอคอนได้เริ่มขึ้นครั้งยังเป็นเด็กสาวด้วยบุคลิกที่โดดเด่น และเริ่ม ต้นอย่างแท้จริงเมื่อครั้งที่ได้สวมชุดแต่งงานสุดอลังการในปี 1981 ตัดเย็บโดย เดวิดกับอลิซาเบธ เอ็มมานูเอล ที่มีผู้คนเป็นประจักษ์พยาน 750 ล้านคนทั่วโลก ก่อนเริ่มเผยสไตล์สวยสง่าในฉบับพระองค์เอง จนกลายเป็นผู้หญิงที่ถูกถ่ายรูป มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อกล่าวถึงลุคของเจ้าหญิงไดอาน่า สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือทรงผมซอยสั้นสุดเก๋ ที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ‘ทรงเจ้าหญิงไดอาน่า’ ชุดก�ำมะหยี่สีแดงเบอร์กันดี โบใหญ่ ฝีมือแคทเธอรีน วอลเกอร์ (ที่กลายมาเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท เช่นเดียวกับ จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ อีกหนึ่งดีไซเนอร์ชื่อดัง) และอีกหลายชุดราตรีสวยงามไม่มี ที่ติจากอีกหลายดีไซเนอร์มือฉมัง อย่างวาเลนติโน เวอร์ซาเช่ อุงกาโร่ และ ชาแนล เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงชิโน สเวตเตอร์ผ้าถัก เจอร์ซี่แจ็กการ์ดหลากสี ชุดวินเทจอย่างสไตล์ Laura Ashley-esque กระโปรง ชายระบายที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงสุดๆ ชุดกระโปรงเข้ารูป สูท โดยสิ่งที่ท�ำให้ ปฏิเสธไม่ได้ในฐานะผู้น�ำแฟชั่น คือ ทุกครั้งที่ผู้คนได้เห็นชุดเสื้อผ้าของเจ้าหญิง ผ่านทางโทรทัศน์ ไม่นานนักสาวๆ จากทั่วโลกก็พร้อมที่จะแต่งกายแบบพระองค์ มาเดินบนท้องถนนทันที -16-
บราทรงกรวยของมาดอนน่า สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอย่าง เคที่ เพอร์รี่ และ เลดี้ กาก้า
มาดอนน่า
“นับตั้งแต่ The Virgin Tour ทัวร์แรกของมาดอนน่า เสื้อผ้าของเธอก็ได้ เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล” ทุกอัลบัม้ และทุกครัง้ ทีเ่ ธอปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิรต์ มาดอนน่า ราชินเี พลง ป็อปคนนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับโลกแฟชั่นเสมอ นับตั้งแต่ The Virgin Tour ทัวร์แรกที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ที่กล่าวได้ว่าความเปรี้ยวซ่า ของยุค 80’s ที่ได้แก่ แจ็กเก็ตหนัง เสื้อตัวสั้น กางเกงยีนส์เอวสูง และสีสัน สดใสของเครื่องประดับท�ำจากพลาสติกและยาง (รวมถึงชุดแต่งงานยุคนั้น ในเพลง Like a Virgin) ทรงผมฟูหยิก ได้รวมอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตของเธอ ทั้งหมดแล้ว กลายเป็นปรากฏการณ์ท�ำให้สาวๆ ทั่วโลกลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเต้นตามเป็นแถว เป็นการพิสูจน์ว่าเธอยังมีต�ำแหน่งราชินีผู้น�ำแฟชั่นที่ ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกพ่วงท้าย และแรงดีไม่มีตกในวัย 57 ปี กับ Rebel Heart Tour ครั้งแรกและครั้งล่าสุดในไทย พร้อมชุดสไตล์คาบาเร่ต์โดย ดีไซเนอร์คู่ใจ เจเรมี สก็อตต์ หากเป็นแฟนมาดอนน่าตัวจริง ทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน สิ่งที่เธอมักแสดงให้เห็นผ่านการแสดงและเสื้อผ้าของเธอคือความแข็งแกร่ง เข้มแข็ง ที่ค่อนไปในทางขบถ แหกกฎของผู้หญิงในยุคสมัยนั้น ในเวลา เดียวกันก็เผยให้เห็นถึงอ�ำนาจของความเซ็กซี่ จนกลายเป็นสไตล์หวั ก้าวหน้า แบบที่ผู้หญิงหลายคนอยากเห็น ไปจนถึงไม่คาดคิดว่าจะเห็น อย่างบราทรง กรวย ผลงานของฌอง ปอล-โกติเยร์ อันลือลัน่ นอกจากนีย้ งั มีหลายชิน้ ส�ำคัญ ที่ท�ำให้คุณต้องนึกถึงผู้น�ำเทรนด์ของโลกอย่างมาดอนน่า เช่น กระโปรงสั้น ที่สวมคู่ถุงน่องตาข่าย ต่างหูและสร้อยคอไม้กางเขน หมวกหนัง ชุดชั้นใน แจ็กเก็ต เสื้อยืดสกรีนค�ำแรงๆ เสื้อสูทแมนๆ และทุกอย่างที่เราได้เห็นทั้ง ในคอนเสิร์ตและมิวสิกวิดีโอ -17-
ออเดรย์ เฮปเบิร์น
“ในภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany’s ปี 1961 ที่ต่อมาซิลลูเอตชุดด�ำ ของจีวองชีชดุ นีก้ เ็ ป็นเหมือนประตูเปิดทางสูก่ ารออกแบบและตัดเย็บชุดด�ำ คลาสสิกในยุคต่อมา” เธอคื อผู ้ห ญิง ที่สุภาพสตรี เต็ม ใจน� ำลุคการแต่ งกายของเธอมาเป็นแรง บันดาลใจ ไม่ว่านอกจอหรือในจอ ด้วยสไตล์ที่สวยเก๋สง่างามในทุกลุค ที่ ได้แก่ ลุคเสื้อเชิ้ตผู้ชายที่สวมโดยตัวละครเจ้าหญิงแอนน์ คู่กับกระโปรง ยาวแล้วคาดเข็มขัด จับคู่รองเท้าส้นแบน ในภาพยนตร์ Roman Holiday ปี 1953 ที่ในชีวิตจริงเฮปเบิร์นเองก็มักจะสวมเสื้อผ้าแบบนั้น รวมทั้งกางเกง คาปรีของตัวละคร โจ สต็อกตัน และรองเท้าบัลเลต์สน้ แบนใน Funny Face ปี 1957 รวมไปถึงเดรสด�ำสุดคลาสสิกและแว่นกันแดดไซส์ใหญ่ของตัวละคร ฮอลลี โกไลท์ลี ในภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany’s ปี 1961 ที่ต่อมา ซิลลูเอตชุดด�ำของจีวองชีชดุ นีก้ เ็ ป็นเหมือนประตูเปิดทางสูก่ ารออกแบบและ ตัดเย็บชุดด�ำคลาสสิกในยุคต่อมา เธอมีความสามารถพิเศษในเรื่องแฟชั่นด้วยตัวเธอเอง และนอกจากจะ เป็นที่รู้จักในฐานะแฟชั่นไอดอลสไตล์วินเทจของฮอลลีวูดแล้ว เธอยังได้รับ เกียรติจากนิตยสารชั้นน�ำอย่าง Vanity Faire โดยการยกย่องให้เธออยู่ใน หอเกียรติยศแต่งกายยอดเยี่ยมนานาชาติ ส�ำหรับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่บอกความเป็นเฮปเบิร์น ได้แก่ กางเกงคาปรีสีด�ำยาวประมาณครึ่งแข้ง รองเท้าส้นแบนแบบบัลเลต์ เทรนช์โค้ต เสือ้ คอเต่า เสือ้ เชิต้ กระดุมของผูช้ าย ที่ท�ำให้เธอดูปราดเปรียว สมรูปร่างเพรียวบางมีความโมเดิร์น แตกต่างกับ ภาพนักแสดงทีม่ คี วามเซ็กซีม่ นี ำ�้ มีนวลนิดๆ ในยุคนัน้ (อย่างมาริลนี มอนโร และเอลิซาเบธ เทเลอร์) อย่างสิ้นเชิง
-18-
ไมเคิล แจ็คสัน
“ความไม่ตายของไมเคิล แจ็กสัน ถุงมือระยิบระยับ แจ็กเก็ตหนังสีด�ำแดง ที่ยัง วางขายบน ebay.com มาจนถึงทุกวันนี้” ไมเคิล แจ็กสัน ‘ราชาเพลงป็อป’ มีอทิ ธิพลในด้านแฟชัน่ ไม่นอ้ ยไปกว่าใคร เพราะ ทุกครัง้ ทีเ่ ขาร้องและขยับบนเวทีทกุ สายตาล้วนมองตามเพือ่ พบกับเครือ่ งแต่งกาย ล�้ำๆ และโปรดักชั่นที่มีความเป็นศิลปะในวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างแท้จริง ซึ่งนั่น ท�ำให้ผู้คนมองข้ามประเด็นผิวสีไปได้อย่างน่าดีใจ เมื่อพูดถึงชุดเด่นๆ ของไมเคิล หลายคนอาจเริ่มจากการนึกถึงถุงมือระยิบระยับ แจ็กเก็ตหนังสีด�ำแดงที่ยังวางขายบน ebay.com มาจนถึงทุกวันนี้ ตามมาด้วย แฟชัน่ แจ็กเก็ตหนังสีดำ� สุดเท่บนปกอัลบัม้ Bad รวมถึงในมิวสิกวิดโี อของเขา เมือ่ ปี 1987 และเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไมเคิล บุช ดีไซเนอร์ของไมเคิลที่ท�ำงานร่วมกันมากว่า 20 ปี ได้น�ำเสื้อผ้าที่ใช้แสดงในคอนเสิร์ตไมเคิลมาจัดเป็นนิทรรศการและตีพิมพ์ เป็นหนังสือ The King of Style โดยกล่าวว่าสไตล์ทลี่ งตัวของไมเคิลคือเครือ่ งแบบ ทหาร แจ็กเก็ต ร็อกแอนด์โรล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟังก์ชันในการเต้นที่ท�ำให้ เขาโด่งดัง แล้วก็เหมือนกับดนตรีของเอ็มเจนัน่ ล่ะ สไตล์และเสือ้ ผ้าในตูข้ องเขานัน้ มีสสี นั ทว่าซับซ้อน และมีความอัจฉริยะ คูค่ วรกับตูเ้ สือ้ ผ้าราชาเพลงป็อปในต�ำนาน
อ้างอิงข้อมูล
• http://www.forbes.com/forbes/welcome/ • http://content.time.com/time/specials/packages/0,28757,2110513,00.html • http://www.marieclaire.co.uk/fashion/ideas/34772/33/ultimate-style-icons-jacqueline-kennedy-onassis.html • https://www.wikipedia.org/ • https://news.thaipbs.or.th/content/118684
-19-
-20-
ิท ดำ�สน ิภาส า ภ ุญว : วีร เรื่อง าวรัตน์ บ : เน ภาพ
+
ทองย้อยจับผ้าไทยมาแต่งตัว เพราะมองเห็นเสน่ห์ของผ้าไทยทั้งลวดลาย รูปทรง และสีสัน ท�ำให้บีม-ทองย้อย แผ่ สุ ว รรณ ทดลองน� ำ ผ้ า ไทยมาออกแบบเสื้ อ ผ้ า และฝากเพื่ อ นวางขายที่ สยามสแควร์ ปรากฏว่างานของเธอขายได้ แม้จะเป็นงานทดลองที่ผลิตเพียง 2-3 ชิ้น แต่สร้าง ก�ำลังใจและท�ำให้เธอตัดสินใจร่างแบบ สเกตช์ และผลิต น�ำไปสู่การเปิดสาขาที่ แพลทินัม ประตูน�้ำ จนได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างแพร่หลาย (โดยเบื้องหลัง ความส�ำเร็จของแบรนด์ไทย ทองย้อย ที่ประสบความส�ำเร็จในวันนี้แท้จริงแล้ว เริ่มต้นที่วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ค่าเล่าเรียนหลักสูตรชั่วโมงละบาท!) ความเป็นไทยของทองย้อยไม่ได้อยู่ที่ชื่อยี่ห้อ แต่อยู่ที่ทัศนคติที่เธอต้องการตอบ โจทย์ผู้หญิงไทย “เราอยากตัดเสือ้ ผ้า และท�ำอย่างไรให้ผหู้ ญิงไทยใส่แล้วสวย” นีล่ ะ่ คือโจทย์ของเธอ -21-
เด็กสาวจากร้านขายผ้า
“บีมอยู่กับผ้ามาตั้งแต่เกิด อากงอาม่าขายผ้าที่ตัวอ�ำเภอลพบุรี คุณพ่อก็ขายผ้า เราโต มาที่ร้านขายผ้า คุ้นเคยกับเนื้อผ้า ตอนเด็กๆ เล่นผ้าไหมเอามาพันหุ่น หยิบผ้าลูกไม้ มาจับหมุด แต่งเป็นชุดเอง เรามองเห็นผ้าเป็นความงาม และเป็นสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นสายเลือด” บีม ทองย้อย นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เอกการโฆษณา เมื่อเรียนจบ เธอร่วมเป็น ส่วนหนึ่งของกองถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มาถ่ายท�ำในประเทศไทย ในต�ำแหน่ง Set Decorator (ผู้ช่วยฝ่ายฉากในกองถ่ายภาพยนตร์) ที่นั่นเอง ท�ำให้เธอได้เรียนรู้ฝีไม้ ลายมือจากครูผู้สร้างแรงบันดาลใจ Celia Bobak (ซีเลีย โบบั๊ก) ชาวอังกฤษ เจ้าของ ผลงานด้านฉากจากภาพยนตร์เรื่องโปรดของเธอ The Phantom of the Opera เวลาว่างระหว่างอยู่ในกองถ่ายคือการนั่งสเกตช์ ออกแบบเสื้อผ้า เธอยังมองไม่เห็น ตัวเองในเวลานั้นหรอก เพราะคนที่เธอมองเธอออก ก็คือ ‘ครู’ ของเธอต่างหาก “ระหว่างท�ำหนัง บีมก็นั่งวาดรูปเสื้อผ้าไป จนเจ้านาย (ซีเลีย โบบั๊ก) เดินมาบอกว่า ‘เธอจบงานนี้ไป ถ้าไม่ท�ำเสื้อผ้าก็ต้องท�ำแบบฉัน’ ค�ำนี้จ�ำขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้ ช่วงนั้น ประจวบกับคุณพ่อป่วย ยิ่งมีเวลาให้เราได้สเกตช์แบบเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ และทดลองตัด เย็บเสื้อผ้าแบบง่ายๆ ด้วยตนเอง” เธอย�ำ้ ว่าช่วงเวลาทีค่ ณ ุ พ่อป่วยเป็นช่วงเวลาทีเ่ ธอตัดสินใจไม่สมัครเป็นพนักงานประจ�ำ เพื่อมีเวลาดูแลคุณพ่อเต็มที่ และช่วงเวลานั้นเองเป็นแรงขับให้เธอลุกขึ้นมาพิสูจน์ ตัวเองด้วยผลงานอะไรสักอย่าง -22-
“บีมเป็นลูกสาวที่สนิทกับพ่อมาก และอยากให้พ่อเห็นเราประสบ ความส�ำเร็จก่อนที่เขาจะไม่ได้เห็น” ในค�ำตอบนั้นมีน�้ำตาและเสียง สั่นเครือเจืออยู่นิดๆ จากความถนัดบวกกับความหลงใหลในผืนผ้า ท�ำให้เธออยากเรียนรู้ ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โรงเรียนการออกแบบของทองย้อยเริ่มต้นที่ วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ค่าเล่าเรียนหลักสูตรชั่วโมงละบาท คุณครูให้เลือกผ้าที่ชอบและทรงแบบที่ชอบ เธอหยิบผ้าลินินมาตัด เป็นเดรสยาว และขายในราคา 890 บาท ลูกค้าคนแรกเป็นหญิงสาว วัย 40 ปี ทีร่ กั การแต่งตัวแบบวัยรุน่ ผ้าลินนิ สร้างความเรียบหรูและ ท�ำให้ผู้สวมใส่เปิดเผยความงามในแบบของตัวเองได้ดี สนามเด็กเล่นให้เธอได้ลองของต่อจากนัน้ คือร้านเสือ้ ผ้าของเพือ่ นที่ สยาม เดรสยาวทรงหวาน เธอทดลองท�ำขายแค่ 2-3 ตัว เมื่อขาย ได้ ก�ำลังใจมาเต็มร้อย และท�ำให้เธอสั่งผลิตเสื้อผ้าอีก 40-50 ตัว ในขณะที่อายุ 25 ปีเท่านั้นเอง ความต่างทีท่ ำ� ให้ทองย้อยเป็นทีจ่ บั ตามอง คือลายผ้าของเธอชวนให้ผู้ พบเห็นต้องสะดุดและหยุดคิดว่า ผ้ารูปแบบนี้ สามารถหยิบจับและ ท�ำให้กลายเป็นเดรสแบบนี้ได้ด้วยหรือนี่ เดรสยาวจากผ้าโสร่ง กระโปรงยาวจากผ้าถุง เดรสออกงานจากผ้า ลูกไม้ ทั้งหมดนี้ต้องให้เครดิตกับผู้ที่มองเห็นว่า ผ้าไทยไปได้ไกล กว่าที่เราตีกรอบ “บีมเป็นนักออกแบบทีซ่ อื้ ผ้าก่อนแล้วจึงค่อยออกแบบ” เธอเล่าด้วย น�้ำเสียงสดใส “เมื่อเจอผ้าถุงที่คนแก่นุ่งหรือเจอผ้าโสร่งที่เขาขาย เป็นกุลี ผ้าปักที่ขายยกพับ บีมจะซื้อมาไว้ก่อนแล้วค่อยคิดแบบ ตามหลัง ซึ่งผ้าเหล่านี้ไม่ใช่ผ้าตามสมัยนิยมเลย” เมื่อได้ผ้าที่ถูกใจ ล�ำดับต่อไปคือการท�ำแพตเทิร์น ซึ่งเธอย�้ำว่านี่ล่ะคือขั้นตอนสุดหิน บางแบบท�ำแพตเทิร์นไป 10 รุ่น ผ่านและผลิตได้จริงแค่ 2 รุ่นก็มี -23-
-24-
ผ้าไทย เพื่อผู้หญิงไทย
บรรยากาศที่ ท องย้ อ ย นั ด ที ม งาน Muse มาพู ด คุ ย ในวั น นี้ คื อ สตู ดิ โ อในซอยพหลโยธิ น 11 ด้ า นล่ า งเต็ ม ไปด้ ว ยที ม งาน เช็ ก สต็ อ กเสื้ อ ผ้ า แบรนด์ ท องย้ อ ย ด้ า นบนถู ก ตกแต่ ง ในสไตล์ ผสมผสานระหว่างโกธิคกับโคโลเนียล ทุกอย่างดูวินเทจย้อนเวลา หน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้แสงสาดส่องเสือ้ ผ้าของเธอขับเสน่หม์ าก ยิ่งขึ้น ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายท�ำแคตตาล็อกเสื้อผ้าของเธอด้วยเช่นกัน ส่วนหน้าร้านนั้น เปิดขายที่แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ย่านประตูน�้ำ เน้นกลุ่มลูกค้าขายส่งเป็นหลัก เสื้อผ้าของทองย้อยอยู่ในรูปแบบที่ จับต้องง่าย ราคาส่งไม่เกิน 300 บาท หากซื้อปลีก สนนราคาเพียง 600-800 บาท เรียกว่าพกแบงก์พนั มา คุณจะได้เสือ้ ผ้าของทองย้อย เป็นคอลเล็กชั่นในตู้เสื้อผ้าได้เลย
งานผ้าของทองย้อย ให้ความส�ำคัญส�ำหรับการเลือกผ้าไทยหลาก รูปแบบ แต่ละแบบก็มเี อกลักษณ์ของตัวเอง ผ้าทอ ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ให้ความหรูหรา ทั้งลวดลายเช่นผีเสื้อ ดอกไม้ หรือแม้แต่ผ้าย้อมที่ กลุม่ วัยรุน่ นิยมเลือกผ้ามัดย้อมคราม ผ้าขาวม้า สวมใส่เพือ่ สะท้อน ความเป็นตัวเอง เธอย�้ำว่าเมื่อใดก็ตามที่เราเป็นตัวของตัวเอง หยิบ จับอะไรก็ดูมั่นใจ ดูสวย การทดลองของทองย้อยไม่หยุดที่มองหาเสื้อผ้าในประเทศไทย นโยบายเปิดประเทศการค้าเสรีอาเซียน ท�ำให้เธอเลือกทดลองผลิต เดรสส�ำหรับสาวเวียดนาม โดยดึงเอกลักษณ์ของชุดอ่าวหญ่าย ชุด ประจ�ำชาติเวียดนาม เดรสยาว เสือ้ แขนยาวทรงกระบอกมาดัดแปลง หรือแม้แต่สาวพม่าที่ชื่นชอบผ้าโสร่ง ทองย้อยก็ท�ำเดรสยาวลาย ดอกไม้บุกตลาดมาแล้ว
เสน่หข์ องการจับต้องง่ายนีล่ ะ่ ท�ำให้ทองย้อยได้รบั ความนิยมมานาน กว่า 5 ปี จุดเด่นที่ทองย้อยก�ำลังตอบโจทย์ผู้หญิงไทยอยู่ในขณะนี้ วันนี้ชื่อเสียงของทองย้อยได้รับการยอมรับ เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า ทัง้ ไทย และ AEC คุณพ่อของคุณบีม แรงบันดาลใจหลัก รักษา คุณบีมให้ความเห็นว่า สุขภาพ และได้เห็นรอยยิ้มและความส�ำเร็จของลูกสาวดังใจฝัน “ความเป็นไทย คือการตอบโจทย์ผู้หญิงไทย บีมเชื่อในรูปร่างของ คน สมมติว่าผู้หญิงคนนี้สวยที่หน้าอกแต่ก้นใหญ่ ขาใหญ่ บีมก็ คุณพ่อเจ้าของร้านผ้าที่มีลูกสาวเป็นเด็กน้อยที่โตมากับกองผ้า ลง สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่โชว์หน้าอก ผู้หญิงบางคนถ้าขาสวยแต่ตัวไม่สูง เรียนวิชาตัดเย็บแพตเทิร์นชั่วโมงละบาท วันนี้สร้างชื่อแบรนด์ไทย นัก บีมก็จะท�ำชุดที่โชว์เรียวขาแทน ความเป็นไทยของเราคือสรีระ มูลค่าหลายล้านบาท นอกเหนือไปจากก�ำลังใจและความส�ำเร็จ ของผู้หญิงไทย คิดแค่ว่าท�ำอย่างไรให้ผู้หญิงไทยใส่แล้วสวย หน้าที่ ทองย้อย แบรนด์ของสาวไทยตัวเล็กๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การ ของนักออกแบบคือช่วยให้คนใส่ ใส่แล้วสวย มั่นใจ สบายใจ ดีไซน์ปรุงไอเดียผสานจุดเด่นผ้าไทยให้เข้ากับแฟชั่น สามารถสร้าง “ผ้าโสร่ง ผ้าไทย สิ่งส�ำคัญคือเป็นผ้าที่สมเหตุสมผลเข้ากับคนไทย ความลงตัวซึ่งเรียกว่า “ความงาม” วัสดุที่ใช้ทุกชนิดเป็นผ้าไทย ใส่ไม่ร้อน ทนทาน เหมาะกับอากาศ www.facebook.com/thongyoyofficial บ้านเรา แม้ผ้าถุงบางชนิดซักแล้วสีตก ด้วยเพราะยังเป็นวิธีการ www.thongyoy.com ย้อมแบบดั้งเดิมจากภูมิปัญญา ไม่ได้มีวิวัฒนาการเหมือนผ้าร่วม สมัยแบบยุคนี้ แต่แน่นอนว่า แม้สจี ะตก แต่ซกั บ่อยแค่ไหนก็ไม่ซดี ” -25-
My Favourite Style เทรนด์ไหน ที่ใช่เลย
: it เรื่อง umsan D ok chan
Pim
n o i n i p o
Muse ฉบับนี้ขอชวนคนอ่านเปิดตู้เสื้อผ้าของตัวเอง พูดคุยและแชร์ สไตล์การแต่งตัว แฟชั่นนิสต้าคนโปรด รวมไปถึงไอเท็มสุดเลิฟที่ขาด ไม่ได้ และที่ส�ำคัญอยากรู้เหลือเกินว่า ใครคือผู้มีอิทธิพลกับตู้เสื้อผ้า ของเหล่าวัยรุ่นไทยในตอนนี้ อุ๋งอิ๋ง-เบญญาภา ดีวิเศษ อายุ 21 ปี เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน สไตล์แฟชัน่ ทีอ่ อกแนวสตรีตหน่อยๆ ปกติจะใส่เสือ้ ยืด กางเกงยีนส์ ขาสั้น แล้วก็รองเท้าผ้าใบ คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ก็มแี ต่งตามบ้าง ปกติชอบเข้าไปดูไอจีมายด์-ณภศศิ สุรวรรณ เพราะ แนวการแต่งตัวหลากหลาย เเนวเเฟชั่นของคนดังที่เราเเต่งตามเป็นเเบบไหน มายด์จะแต่งตัวหลากหลายสไตล์ ทั้งหวาน เปรี้ยว เท่ แต่ที่ชอบ แต่งตามจะเป็นแนวเท่ๆ แบบเสือ้ ยืดหรือครอปกับกางเกงยีนส์ขาสัน้ หรือขายาว ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ หมวก ไปไหนต้องพกหมวก แรกๆ แค่กันแดด หลังๆ ไม่มีแดดก็ใส่ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ แนวสตรีต เพราะเป็นการแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แต่แฝงความเท่ไว้ ซึ่งเราจะเสริมไอเท็มเก๋ๆ อะไรก็ได้ตามความชอบของเรา อย่าง หมวก กระเป๋า หรือรองเท้าผ้าใบ -26-
นุ่น-พิมลกร ทวยหาญ อายุ 21 ปี
ต่อ-รตน วีระไชยสิงห์ อายุ 22 ปี
เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก อาย-กมลเนตร เรืองศรี ถึงเขาจะไม่ได้เป็นแฟชั่นนิสต้า แต่ว่าถ้า คงนึกถึง เดวิด เบ็คแฮม เป็นคนที่มีบุคลิกดี ทั้งเสื้อผ้า หน้าตา ทรง ได้ติดตามเขาจะรู้ว่าอายมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจน และเป็นตัว ผม และรอยสักของเขาเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของวงการแฟชั่นครับ ของตัวเองมาก สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน ผมจะแต่งกายเรียบๆ ง่ายๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะใส่เสื้อยืดคอกลม สไตล์มินิมอล เรียบง่าย ดูทะมัดทะแมง สีด�ำหรือสีกรมท่า กางเกงสแล็กขาสั้น แล้วก็รองเท้าผ้าใบครับ ไม่ เน้นเยอะ เน้นใส่สบายมากกว่าครับ คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ชอบดูการแต่งตัวของอาย-กมลเนตร คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ส่ ว นใหญ่ แ นวแฟชั่ น ที่ มั ก จะแต่ ง ตามจะมาจากในโซเชี ย ลครั บ เเนวเเฟชั่นของคนดังที่คุณเเต่งตามเป็นเเบบไหน เป็นการแต่งตัวแบบเน้นใส่สบายๆ ไม่เยอะเกินไป และแต่งให้เหมาะ สไตล์มินิมอล แต่งตัวแบบสบายๆ สไตล์การตัดเย็บเป็นผ้าที่สวม กับบุคลิกของเราเองด้วยครับ ใส่แล้วดูทะมัดทะแมง อย่างเสื้อเชิ้ต เชิ้ตคัตติ้ง มินิเดรส โทนสี ก็ประมาณสีขาว ด�ำ เทา น�้ำเงิน หรือฟ้าคราม ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ นาฬิกาข้อมือครับ เป็นชิ้นที่วันไหนไม่ได้ใส่ วันนั้นก็จะหมดความ ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ มั่นใจไปเลย รองเท้าผ้าใบกับกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าทรงขนมจีบ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ คงหนีไม่พ้นเรื่องรองเท้าครับ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าวิ่ง รองเท้ากีฬา แนวสปอร์ต สตรีต เท่ๆ ท�ำให้ดูเป็นสาวรักสุขภาพ แข็งแรง ได้ลุค เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ของวัยรุ่นทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็จะ กระฉับกระเฉง ต้องหามาใส่ให้ได้ แต่อย่าลืมก�ำลังทรัพย์ของเราด้วยนะครับว่าจะไม่ ท�ำให้เราเดือดร้อนเรื่องเงินในภายหลัง -27-
เตย-ธิดา ป้อมแก้ว อายุ 21 ปี เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ มีมาให้ชมแปลก ใหม่ตลอด สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน แนวกางเกงยีนส์เดฟขายาวกับเสือ้ ยืดแขนกุด หรือไม่กเ็ ป็นชุดเดรส สั้น เน้นใส่สบายๆ ค่ะ คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ส่วนใหญ่จะมาจากตัวละครนางเอกหลายๆ เรือ่ ง ขึน้ อยูก่ บั ว่าช่วงนัน้ เราชื่นชอบเรื่องใดเป็นพิเศษ ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ กระเป๋า เพราะกระเป๋าช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ เครือ่ งประดับสร้อยคอ หรือว่าโชคเกอร์กก็ ำ� ลังอิน เห็นดาราหลายๆ คน นิยมใส่กัน อย่างคิมเบอร์รี่ก็ใส่นะ เคน-พีรธัช นีละวัฒนาศุข อายุ 21 ปี เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก นึกถึงดาราในโซเชียล คนก็แต่งตัวตามดาราได้ง่ายขึ้น สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน แบบง่ายๆ เสื้อเชิ้ตสักตัว กางเกงยีนส์ ไปไหนมาไหนก็สะดวก ใส่ ได้แทบจะทุกโอกาส คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ไม่ค่อยแต่งตามดารานะครับ เน้นแต่งที่เป็นตัวของตัวเอง และ เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ มากกว่า ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ ท�ำผมครับ คือก่อนออกจากบ้านต้องเซตผมก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่ ค่อยมั่นใจ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ แนะน�ำเรื่องของทรงผม อยากให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย ท�ำผมให้ เหมาะกับรูปร่างและบุคลิกของตัวเอง ก็ช่วยท�ำให้แฟชั่นในวันนั้น ดูดีขึ้นมาได้ -28-
เจมส์-นวพล สุวรรณ์นิก อายุ 20 ปี เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก พิมฐา ฐานิดา สไตล์เเฟชั่นของคุณเป็นเเบบไหน เน้นความเรียบง่ายและเข้ากันสถานที่นั้นๆ ครับ อาจจะเป็นเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าใบเล็กๆ เพือ่ ไว้ใส่ของ แค่นี้ ก็สามารถออกไปเที่ยวได้แล้วครับ
ฟ้า-ปฐมาวดี มงคลประพฤติ อายุ 21 ปี เมื่อพูดถึงค�ำว่าเเฟชั่น คุณนึกถึงใครเป็นคนเเรก นึกถึง Gigi Hadid รู้สึกว่าเป็นแฟชั่นไอคอนของทุกคน ทุกชุดของ ทุกวันคือเหมือนอยูบ่ นรันเวย์ นีย่ งั ไม่เคยเห็นนางแต่งตัวธรรมดาเลย คือธรรมดาสุดเสือ้ ยืดกางเกงยีนส์กจ็ ะยังมีพร็อพเสริมให้ลคุ ดูเก๋มาก
คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ไม่ได้แต่งตัวตามใครเลย อาจจะมีแต่งตามกระแสสังคมบ้าง สไตล์ ไหนก�ำลังฮิต หรือสินค้าชนิดไหนก�ำลังได้รับความนิยมก็จะเป็น ที่สนใจ ส�ำหรับตัวผม เน้นแต่งตามก�ำลังทรัพย์ที่เรามี ให้ดูเท่ๆ สบายๆ ในสไตล์ของเรา
คุณเเต่งตัวตามเเฟชั่นของคนดังคนไหนหรือไม่ ส่วนใหญ่จะไม่คอ่ ยได้แต่งตามดาราหรือว่าไอดอลคนไหน แต่เราจะ เเนวเเฟชั่นของคนดังที่เราเเต่งตามเป็นเเบบไหน คิดว่าวันนี้จะไปไหนก็จะแต่งให้มันถูกกาลเทศะ ถ้าวันธรรมดาก็จะ ถ้าสมมติให้เลือกทีจ่ ะแต่งตัวตามคนดังคนหนึง่ ผมว่า พีโ่ ทนี่ รากแก่น ชิลมากๆ แล้วก็จะคิดสีเสื้อผ้าให้มันเข้ากัน เป็นดาราคนหนึ่งที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ไม่ ว่าจะทรงผมหรือเสื้อผ้าที่พี่โทนี่ใส่ ดูเป็นสไตล์สบายๆ เท่ๆ และ ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ ลงตัวมากครับ ช่วงนีช้ อบใส่แหวนเพราะมันสวยดี ไม่ได้มแี ต่แบบเรียบๆ อย่างเดียว เดีย๋ วนีแ้ หวนก็ดไี ซน์ออกมาได้เก๋ มีลกู เล่นและดีไซน์เยอะมาก และ ไอเท็มชิ้นส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ ก็ไม่จ�ำเป็นต้องใส่แค่วงเดียว ใส่เยอะๆ ก็สวยไปอีกแบบ กระเป๋าสะพายครับ จะรู้สึกว่าตัวเองโล่งๆ อย่างบอกไม่ถูก และ สามารถใส่ของไปได้ทุกที่ครับ เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ ส่วนตัวว่าจะแต่งอะไรก็แต่ง เทรนด์มันวนไปเรื่อยๆ แล้วก็กลับมา เเฟชั่นที่ก�ำลังเป็นที่นิยมตอนนี้ที่อยากเเนะน�ำ ใหม่ แค่ใส่ให้มนั ถูกกาลเทศะแล้วเป็นตัวของตัวเอง นัน่ ก็แฟชัน่ แล้ว ผมว่าสไตล์แฟชั่นตอนนี้ที่มาแรงคือ กางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้า ผ้าใบครับ ไม่จ�ำเป็นต้องหรูหรา ราคาแพง เน้นสบายให้เข้ากับ อากาศของเมืองร้อนอย่างประเทศเราดีกว่า หารองเท้าคู่ใจสักคู่ ก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ในการแต่งตัวได้แล้วครับ -29-
เรื่อง
“แฟชั่นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้กลายเป็นสิ่งล้าสมัย” โคโค่ ชาเนล
se : Mu
m Tea
d
ar w r o f
ieดู v o M นังน่า ห
The BFG
ถ้าคุณเป็นหนอนนักอ่าน เชื่อว่าในตู้หนังสือของคุณน่าจะต้องมีวรรณกรรมเยาวชนของโรอัลด์ ดาห์ล (Roald Dahl) สักเล่มล่ะ แล้วถ้ายิง่ คุณรูว้ า่ The BFG คือภาพยนตร์จากการสร้างสรรค์ของ 3 สุดยอด นักเล่าเรื่องระดับโลก – โรอัลด์ ดาห์ล, วอลท์ ดิสนีย์, และสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก คงยิ่งตื่นตา ‘เดอะ บีเอฟจี – ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ’ เล่าเรื่องราวเหนือจินตนาการของสาวน้อยและยักษ์ผู้แนะน�ำ เธอให้รู้จักกับความอัศจรรย์และความลึกลับของเมืองยักษ์ ถึงแม้เขาจะเป็นยักษ์ แต่ก็เป็นยักษ์ที่เป็น มิตร และไม่มีอะไรเหมือนยักษ์ตนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองยักษ์ เขาเป็นเจ้าของร่างยักษ์ 24 ฟุต มีหู ขนาดมหึมาและประสาทรับกลิ่นเป็นเยี่ยม เป็นยักษ์ท่ึมผู้น่ารักและมักจะอยู่ตามล�ำพังเป็นส่วนใหญ่ จนเมื่อวันหนึ่งโซฟี หนูน้อยท่าทางฉลาดเกินวัยจากกรุงลอนดอน วัย 10 ขวบ เดินทางมาถึงเมือง ยักษ์ครั้งแรก เธอหวาดกลัวยักษ์ลึกลับที่น�ำเธอมายังถ�้ำของเขา แต่ต่อมาก็ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วบีเอฟจี เป็นยักษ์สุภาพและน่ารัก และเธอก็ไม่เคยเห็นยักษ์มาก่อน และก็มีค�ำถามมากมาย บีเอฟจีได้พาโซฟี ไปยังเมืองแห่งความฝัน ทีท่ เี่ ขาเก็บสะสมความฝันและส่งมันไปสูเ่ ด็กๆ บีเอฟจีได้สอนให้เธอรูเ้ กีย่ วกับ ความมหัศจรรย์และความลับแห่งความฝัน ก�ำหนดฉาย : 7 กรกฎาคม 2559 -30-
Jason Bourne
ทิ้งห่างจากภาคก่อนถึง 9 ปี ในที่สุดก็ได้ฤกษ์หวนคืนจอ กับ เจสัน บอร์น ที่เราคุ้นเคย ทั้งยังได้ผู้ก�ำกับ พอล กรีน กราส คนเดิมมา สานต่อภารกิจ ภาคนี้ที่กลับมาพร้อมกับความทรงจ�ำ แม้ว่าจะจ�ำได้ ทุกอย่าง แต่กไ็ ม่ได้หมายความว่าเขาจะรูท้ กุ อย่างเสมอไป พบความ ตื่นเต้นที่มาพร้อมแผนการ และตอบโต้กับสถานการณ์สุดมันที่ สมกับฉายายอดจารชนคนอันตราย ทั้งประเด็นในหนังยังคงเล่น กับความลับของรัฐบาล และสายลับภาคนี้จับกระแสเรื่องสงคราม ไซเบอร์ ไปจนถึงความตื่นตัวเรื่องการสอดส่องจากรัฐบาล ซึ่งปลุก กระแสโดย เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden) ก�ำหนดฉาย : 28 กรกฎาคม 2559
THE WOODS
ภาพยนตร์ที่ได้รับการจับตาว่าจะสร้างปรากฏการณ์ความกลัวครั้ง ใหม่ในท�ำเนียบหนังสยองขวัญ ทั้งใบปิดโทนสีแดงและด�ำ ไม่บอก เล่าอะไรให้คาดเดานอกจากเงาต้นไม้อันแสนลึกลับ หนังเล่าถึง กลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งแคมป์กันในป่าระหว่างช่วงหยุดซัมเมอร์ เลือกใช้ มุมกล้องแฮนด์เฮลด์ให้ความรู้สึกว่า สิ่งไม่ได้รับเชิญก�ำลังคืบคลาน มาถึงตัว ยิ่งมืด ยิ่งหนาว ยิ่งเงียบ และยิ่งน่ากลัว จนบางสิ่งแทบ จะเผยตัวออกมา ก�ำหนดฉาย : 16 กันยายน 2559
-31-
k ่าน o o b ชวนอ ือ
หนังส
The Beatles Way : Fab Wisdom for Everyday Life (ชีวิตไม่ได้มีไว้ให้เดินตามใคร) เขียน Larry Lange, แปล Winston O’Boogie ส�ำนักพิมพ์ OMG BOOKS ราคา 180 บาท
เดอะบีทเทิลส์คือสุดยอดวงดนตรีที่อยู่ในต�ำนาน แต่นอกจากฉากหน้าแห่งความ ส�ำเร็จ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาคือ วิธีคิด ทัศนคติและวิถีการใช้ชีวิตที่ท�ำให้ ทั้งสี่กลายเป็นผู้น�ำกระแสในทุกเรื่องที่พวกเขาท�ำ ‘ชีวิตไม่ได้มีไว้ให้เดินตามใคร : The Beatles Way’ จะปลุกเร้าให้คุณน�ำวิธีคิดและความไม่ธรรมดาของวิถี เดอะบีทเทิลส์เข้ามาในตัว ทั้งมุมมองด้านความสร้างสรรค์ ความสง่างาม ความ แตกต่าง ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นตัวเอง ความลุม่ ลึก อุดมคติ แรงบันดาลใจ การกล้าลุกขึ้นมาเป็นผู้ริเริ่ม หนังสือถอดเคล็ดลับความส�ำเร็จของเดอะบีทเทิลส์ ออกมาเป็นหลักการ 7 ข้อ ให้คนอ่านน�ำไปปรับใช้ง่ายๆ เพื่อตัวเอง
happening
ฉบับ ‘Eyes on Japan’
ส�ำนักพิมพ์ happening ราคา 180 บาท
โปรเจ็กต์พิเศษที่จะท�ำให้คุณมองญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ๆ ผ่านสายตา ของช่างภาพหลากหลายแนวทาง ประกอบไปด้วย หนังสือ happening ฉบับ Eyes on Japan ที่รวม Photo Essay จ�ำนวน 5 ชุดจาก 5 ทริปของช่างภาพชาวไทยในญี่ปุ่น วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ถ่ายทอดภาพความทรงจ�ำมหาศาลจาก เกาะฮาชิมะ เกาะเรือรบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก แห่งหนึ่ง วรรณวนัช บูรพาเดชะ ถ่ายทอดภาพเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นที่เล่นในบ้าน อย่างสนุกสนาน โดยใช้เวลาเก็บภาพเพียงหนึ่งชั่วโมง กันต์ และ ไมเคิล สองนักแสดงหนุ่มน้อยตะลุยโตเกียวโดยไร้ สุทธิเกียรติ สิงห์คา ช่างภาพหนวดงามแดนอีสาน ไปเก็บภาพจาก แผนการแล้วเก็บภาพถ่ายแบบอิมโพรไวซ์ เมืองเล็กๆ อย่างซากะ ที่น่ารักทั้งผู้คนและหนทาง นับเป็น Photo พลวิทย์ เภตรา สถาปนิกเจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง เก็บภาพนักแสดง Book ทีค่ วรค่าแก่การเก็บ ถ้าคุณเป็นคนหนึง่ ทีส่ นใจญีป่ นุ่ และอยาก สาว อาย-กมลเนตร เรืองศรี ในเมืองนาริตะ วันครึ้มฟ้าครึ้มฝน มองแดนอาทิตย์อุทัยนี้ในแง่มุมที่ต่างออกไป -32-
i a h T and Br k e e W nd e
Palini
แบรนด์แฟชั่นน้องใหม่ที่มีจุดเด่นในการยกระดับวัสดุของไทยให้ดู เท่ เรียบง่าย และทันสมัย ผสานวัฒนธรรมลงบนผืนผ้าได้อย่างน่า สนใจ เปิดตัวด้วย Siamese Filigree คอลเล็กชั่นเก๋ที่น�ำเอาเสน่ห์ ของผ้าไทยระดับพรีเมียมจากห้องเสื้อโขมพัสตร์ และจิม ทอมป์สัน มาเป็นวัสดุหลักในการตัดเย็บ ลวดลายการพิมพ์ผ้าและงานทอมือ ทีบ่ ง่ บอกถึงศิลปะในการสร้างชิน้ งานก่อนน�ำมาผสมผสานงานดีไซน์ จากทางแบรนด์
The Garden of TFEST (TGIF)
บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ กลายเป็นตลาดโอเอซิสย่อมๆ แห่งใหม่ส�ำหรับ วัยรุ่น เนื้อที่แบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนช้อปปิ้งที่ไม่ต้องกลัวแดด กลัวฝนเพราะอยู่ใต้โดมสีขาวติดแอร์ เรียงรายด้วยร้านค้าสินค้า แฟชัน่ คอลเล็กชัน่ เก๋ และงานคราฟต์ทำ� มือ ส่วนโซนทีส่ อง TGIFood รวบรวมร้านอาหาร-ขนมชื่อดังที่น�ำเมนูเด็ดของทางร้านมาประชัน เหมาะเหลือเกินถ้าอยากมานั่งปิกนิกกันเพลินๆ
จ�ำหน่ายที่ MUZINA x PALINI Shop ที่ คราม ซ.พร้อมมิตร facebook : TGIFmarket พืน้ ทีร่ ะหว่างมุมถนนสุขมุ วิท กับปากซอย ถ.สุขุมวิท 39 ; www.facebook.com/palinibangkok สุขุมวิท 36 เปิดวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-23.00 น.
hogt e pa
Bangkok Architecture Tour on the Bike
ปั่นจักรยานก็ว่าน่าสนุกแล้ว แต่การปั่นไปยังย่านวัฒนธรรมที่ถูกมองข้ามนี่สิ ถือเป็นความตื่นเต้นที่น่าค้นหา เราเจอเพจ Bangkok Architecture Tour on the Bike ที่ร่วมกันส�ำรวจกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ผ่านตึกเก่า ย่านเก่า ในเมืองใหญ่ พร้อมกับถ่ายรูปและเผยอีกด้านของเมืองให้เราเห็น เช่น ทริป ย้อนต�ำนานย่านสีลม ทริปส�ำรวจวัดโบราณย่านฝั่งธน หรือแม้แต่ทริปล่าสุด ที่น่าสนใจ ปั่นจักรยานไปทัศนศึกษาที่สุสานย่านสีลม แถมตั้งชื่อชวนปั่นอีก ว่า Ride to Death เดินทางชมสถาปัตยกรรมและพื้นที่ส�ำหรับผู้ล่วงลับต่าง ศาสนาและวัฒนธรรมในสังคมกรุงเทพมหานครที่หลากหลายด้วยจักรยานคู่ใจ https://www.facebook.com/bkkarchtouronbike/ -33-
มิวเซียมสยามมินิ
นิทรรศการเคลื่อนที่ไอเดียใหม่ รุกเปิดสัมผัสความเป็นไทย ทุกภูมิภาคทั่วไทย
: ะภาพ am ล แ ง เรื่อ m Si eu Mus
n i k c che
มิวเซียมสยาม เปิดตัว ‘มิวเซียมสยามมิน’ิ นิทรรศการเคลือ่ นไอเดียใหม่เพือ่ ส่งเสริม การเรียนรูค้ วามเป็นไทย ผ่าน 3 นิทรรศการไฮไลต์ทเี่ คยได้รบั ความนิยมในอดีต อัน ได้แก่ นิทรรศการ ‘ค�ำไทยใครท�ำ’ นิทรรศการ ‘กินของเน่า’ และนิทรรศการ ‘สืบ จากส้วม’ โดย ‘มิวเซียมสยามมินิ’ ก�ำหนดเคลื่อนที่จัดแสดงนิทรรศการทุกภูมิภาค ทัว่ ไทย เพือ่ เปิดสัมผัสความเป็นไทยแก่คนรุน่ ใหม่ ตลอดจนประชาชนทัว่ ไปอย่างทัว่ ถึง ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ ระยอง หาดใหญ่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด ‘Play + Learn = เพลิน’ ด้วยการน�ำเสนอเรือ่ งราวใกล้ตวั ทีเ่ กีย่ วพันกับ วิถชี วี ติ ประจ�ำวัน ใน 3 มิติ ทัง้ การกิน การพูด และการขับถ่าย ทีน่ ำ� มาร้อยเรียงใหม่ ผ่าน 3 นิทรรศการไฮไลต์ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต เพื่อสะท้อนและให้ความรู้ เรื่องราวความเป็นไทย ในเทคนิคและวิธีการน�ำเสนอที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการ จัดแสดงวัตถุทจี่ บั ต้องได้ งานกราฟิก หรือมัลติมเี ดียปฏิสมั พันธ์ (Interactive Multi media) ที่สามารถตอบโต้และกระตุ้นการเรียนรู้ ฯลฯ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ ตลอดจน ประชาชนทัว่ ไปสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นไทยได้อย่างเข้าใจและสนุกสนาน อันสะท้อนมิติใหม่ที่น�ำเสนอการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดยมีรายละเอียดดังนี้ -34-
ลองมาดูกันสิว่า นิทรรศการเหล่านี้น่าสนใจอย่างไรบ้าง • นิทรรศการ ‘สืบจากส้วม’ นิทรรศการทีร่ วบรวมวัฒนธรรมการ
ปลดทุกข์ของคนไทยในแต่ละยุคสมัย พร้อมกับจัดแสดงอุปกรณ์ • นิทรรศการ ‘กินของเน่า’ นิทรรศการที่จะพาคุณย้อนเวลาไป ท�ำความสะอาดทีใ่ ช้ระหว่างปลดทุกข์เมือ่ ครัง้ ยังต้องขับถ่ายกันใน สัมผัสถึงวิธีการถนอมอาหารเมื่อครั้งที่ยังไม่มีตู้เย็นประจ�ำบ้าน ทุง่ หรือท่าน�ำ้ อย่างกาบมะพร้าว หนังสือพิมพ์ ขันน�ำ้ และไม้แก้ง อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่โบราณ ทั้งจากคนไทยแต่ดั้งแต่เดิม ก้น ฯลฯ ไปจนถึงโถสุขภัณฑ์ที่มีให้เลือกใช้หลากหลาย หลังจาก ก็ดี หรือจะเป็นการรับจากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงมาปรับ ทางการมีนโยบายปรับวิธีการขับถ่ายให้เหมาะสมกับสุขอนามัย ใช้ก็ดี ซึ่งน�ำไปสู่การสรรค์สร้างเมนูอาหารใหม่รสชาติอร่อยที่ อาทิ ‘ส้วมพระ หรือ เวจกุฎี’ ส้วมภายในวัดที่มีรูและร่องส�ำหรับ หลายคนคุน้ เคย พร้อมกับเสิรฟ์ รอให้ลองลิม้ ชิมรสบนโต๊ะอาหาร แยกอุจจาระไม่ให้ปนกับปัสสาวะโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการ อย่างหลากหลาย อาทิ ‘ขนมจีน’ เมนูคุ้นเคยของคนภาคเหนือ ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ‘ถังเท’ ส้วมสาธารณะที่มีลักษณะคล้าย ที่ได้จากการหมักข้าวในน�้ำสะอาด โดยให้จุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นใน ส้วมหลุม โดยจะใช้ถงั วางไว้ใต้ฐานไม้สำ� หรับรองอุจจาระ จากนัน้ กระบวนการหมักช่วยย่อยแป้งและท�ำให้เกิดกลิ่น ‘ปลาร้า’ เมนู จะมีบริษัทเอกชนน�ำถังไปเททิ้งที่อื่น และ ‘ผ้าอ้อมผู้ใหญ่’ ส้วม ขึ้นชื่อของพี่น้องชาวอีสานที่ได้จากการน�ำปลามาหมักรวมกับ ยุคใหม่ที่สะดวกแก่การพกพา เป็นต้น เกลือ ข้าวหรือร�ำ และจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในกระบวนการหมัก รวมไปถึงเครื่องปรุงรสอื่นๆ ตามแบบฉบับคนไทยอย่างน�้ำปลา เตรียมพบกับนิทรรศการเคลือ่ นที่ มิวเซียมสยามมินิ ตัง้ แต่วนั นี-้ 21 พริกแกง และซีอิ๊วขาว เป็นต้น มิถุนายน 2559 เวลา 10.00-22.00 น. ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 • นิทรรศการ ‘ค�ำไทย ใครท�ำ’ นิทรรศการทีจ่ ะพาคุณไปลงลึก ถึง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อน รากก�ำเนิดของค�ำไทยทีใ่ ช้ในปัจจุบนั ว่า แต่ละ ‘ค�ำ’ ทีเ่ ราใช้ ‘พูด’ ต่อเนื่องไปยังจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2559 หรือ ‘คุย’ กันในชีวิตประจ�ำวันนั้น แท้จริงแล้วมีที่มาที่ไปมาจาก อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 9-13 กรกฎาคม ช่องทางใด หรือเพี้ยนมาจากภาษาต่างประเทศอย่างไรบ้าง ผ่าน 2559 จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 27-31 กรกฎาคม 2559 การเรียนรูจ้ ากเสือ้ ยืดทีแ่ ขวนเรียงรายอยูใ่ นห้องเสือ้ ทีส่ กรีนค�ำที่ และปิดท้ายทีศ่ นู ย์การค้าใจกลางกรุง กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 17-21 เราใช้กันจนคุ้นเคย พร้อมที่มาและความหมายอย่างเสร็จสรรพ สิงหาคม 2559 อาทิ ค�ำว่า ‘มโน’ มาจากค�ำในภาษาบาลีและสันสกฤตที่อ่านว่า ‘มนะ และ มนัส’ หมายถึง ใจ จิตใจ ค�ำว่า ‘จิ้น’ มาจากค�ำภาษา สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ทหี่ มายเลขโทรศัพท์ 0-2225-2777 อังกฤษว่า ‘อิแมจิ้น’ (imagine) หมายถึง จินตนาการ หรือค�ำ หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.facebook.com/museumsiamfan ว่า ‘กุลี’ มาจากค�ำในภาษาอินเดียที่ว่า ‘กุลิ’ หมายถึง ค่าจ้าง รายวัน เป็นต้น -35-
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ www.MuseumSiam.org
-36-