Muse Mag Vol 11

Page 1

ฉบับที่ 11 เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560

หมอก้อง-สรวิชญ์ สุบุญ “เรารักความดีที่พ่อท�ำ” 4 เส้นทาง เดินตามรอยพ่อ



: เรื่อง ยาม ม ีย ส มิวเซ

chat

ค�ำพ่อสอน นับจากวันนัน้ จนถึงวันนีพ้ วกเราทุกคนยังคงคิดถึงพระองค์ทา่ นเสมอ ผมเชือ่ ว่าทุกคนก็คงรูส้ กึ แบบผมเช่นกัน “หนึ่งค�ำที่พ่อสอน” เป็นแรงผลักดัน เป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนหลายๆ คน ให้เข้มแข็ง ให้ เป็นคนดี ให้มีก�ำลังที่จะก้าวต่อไป เพราะค�ำสอนของพระองค์ท่านทรงเปี่ยมไปด้วยแง่คิดและคติเตือนใจ ให้ เราทุกคนน�ำมาปฏิบัติตาม ใน Muse Mag เล่มนี้ เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้แก่ใครหลายๆ คน โดยเล่มนี้จะพาไปรู้จักบุคคลที่ได้ท�ำ ตามค�ำพ่อสอน โดยมีหมอก้อง เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวดีๆ ที่ได้ท�ำเพื่อส่วนรวม มองเห็นค�ำสอนที่ทรงคุณค่า และน�ำมาใช้ในการด�ำเนินชีวิต รวมไปถึงคุณโจและคุณแก้ว แห่งรื่นรมย์ออร์แกนิกฟาร์ม ที่น้อมน�ำแนวคิดวิถี เศรษฐกิจพอเพียง ก่อเกิดเป็นแรงผลักดันให้คนที่สนใจและอยากท�ำตามได้น�ำค�ำสอนของพ่อไปปรับใช้ และ ก่อให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิตและการงาน พวกเราทุกคนน้อมระลึกถึงพระองค์ท่านที่ทรงให้สิ่งที่มีค่าที่สุด ท�ำให้พวกเราต่างประจักษ์ว่าหลักค�ำสอนดีๆ ที่พ่อให้ไว้ ท�ำให้ประชาชนหลายคนที่ล้มอยู่กลับมีก�ำลังลุกขึ้นใหม่อีกครั้งจากค�ำสอนของพระองค์ เมื่อมองกลับไป เราทุกคนได้น�ำค�ำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้ ทุกคนล้วนมีแรงบันดาลใจ แต่สิ่งที่มา เติมเต็มให้การด�ำรงชีวิตก้าวไปอย่างไม่ย่อท้อนั้นก็คือ “ค�ำพ่อสอน” ที่ท่านได้ท�ำไว้เป็นแบบอย่าง ผลลัพธ์ ที่ออกมาที่ไม่มีสิ่งไหนจะดีไปกว่านี้แล้ว Muse Mag เล่มนี้ ผมจึงขอพาทุกท่านเข้าไปอยูใ่ นมุมมองของคนไทยกลุม่ หนึง่ ทีน่ ำ� เอาหลักค�ำสอนของพระองค์ ท่านมาปรับใช้ในชีวติ ประจ�ำวัน มาท�ำให้เกิดประโยชน์ มาท�ำให้เห็นว่าค�ำพ่อสอนหนึง่ ค�ำ เกิดคุณค่าได้มากมาย เกิดแรงบันดาลใจ และเกิดขึ้นเป็นค�ำบอกเล่าดีๆ ไปอ่านกันได้เลยครับ

ราเมศ พรหมเย็น ผู้อ�ำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) -3-


4

Muse Idol ทางเดินของพ่อ

ฉบับที่ 11 เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560

Contents

12

Muse Latittude เดินตามเส้นทางของพ่อ

28

18

Muse Opinion ค�ำสอนของพ่อ

Muse Plus แบบทดสอบจากก้อนดิน

30

Muse Forward หนังน่าดู หนังสือชวนอ่าน

36

40

Muse 2 go

กองบรรณาธิการ

ซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ชรรร ลันสุชีพ มนัชญา นามละคร ประภาวัฒ เฮงสุวรรณ์ ธนพร หมู่เจริญทรัพย์ จารุณี แย้มชื่น ยุวเนตร ประทุมทา วงศธร เจริญจรัสฤกษ์

Muse You พื้นที่แห่งบันดาลใจ

42

Muse Check-in “Muse All Year : ฉลาดคิดพิพิธเพลิน” มิวเซียมสยามกางปฏิทินความสนุกรับปี

นิตยสารเสริมแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์การเรียนรู้ โดย มิวเซียมสยาม | สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ

เลขที่ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 0 2225 2777 โทรสาร : 0 2225 2775 www.museumsiam.org, www.facebook.com/museumsiamfan

ร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาและออกแบบศิลปกรรม โดย

บริษัท เปเปอร์คอรัส จ�ำกัด 32/9 ถนนพุทธมณฑลสายสาย 2 ซอย 21 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170 โทร. 08 1919 5315 / 08 1513 4971 -4-



-6-


สนิท า ดำ� วิภาส ภ ร ี ว ุญ : เรื่อง าวรัตน์ บ น เ : ภาพ

idol

ทางเดินของพ่อ พ.ต. นพ.สรวิชญ์ สุบุญ

แพทย์ประจำ�สำ�นักงานแพทย์ สำ�นักงานสนับสนุน สำ�นักปลัดกระทรวงกลาโหม

เร็วๆ นี้ หากใครเคยได้ดูภาพยนตร์โฆษณาตัวหนึ่งทางหน้าโทรทัศน์ เรื่องราวของ หมอหนุ่มที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตทุรกันดาร ท่ามกลางความยากล�ำบาก หมอหนุม่ คนนีม้ สี หี น้าตัง้ ค�ำถามตลอดเวลา เดินเท้าสีก่ โิ ลเมตร เมือ่ ไรจะถึงจุดหมาย เสียที และแทบจะไม่เปิดใจเดินเข้าหาความยากล�ำบากครั้งนี้ จนกระทั่งเขาได้รับ ค�ำตอบจากนายทหารที่มาด้วยกันว่าพื้นที่นี้ ครั้งหนึ่ง เคยมีคนหนึ่งคนเดินขึ้นเขามา ณ ที่แห่งนี้ โดยไม่บ่นสักค�ำ… หมอหนุ่มเอ่ยถามนายทหารท่านนั้นว่า คนคนนั้นคือใคร และเขาก็ได้คำ� ตอบกลับมาว่าคนทีเ่ คยเดินขึน้ เขามา คือพระราชา คือในหลวงของเรา เรื่องราวในโฆษณาชิ้นนี้ ชื่อว่า “Giving King หมอตามรอยในหลวง” สร้างขึ้นอ้างอิง จากเหตุการณ์จริง ในการออกหน่วยของชายคนนี้ พ.ต. นพ.สรวิชญ์ สุบุญ หรือ หมอก้อง หมอหนุ่มที่เคยตั้งค�ำถาม และก็ได้รับค�ำตอบอย่างกระจ่างแล้วในวันนี้ ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินทางออกหน่วยครั้งนั้น เหตุการณ์ เป็นอย่างไร สมัยที่ผมเรียนจบใหม่ๆ ผมได้ออกหน่วยในนามหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กอง บัญชาการกองทัพไทย หน้าทีค่ อื ตรวจรักษาดูแลสุขภาพประชาชน มีชดุ แพทย์ 3 วัน 5 วัน กระจายออกหน่วยทั่วประเทศ สมัยก่อนผมยอมรับครับว่า เป็นคนนิสัย ไม่ค่อยดี ชอบเอาเปรียบคนอื่น เลยไปขอดูตารางออกหน่วยก่อนเพื่อน ได้ดูก่อน เพื่อจะได้จองก่อน ผมเห็นจังหวัดเพชรบุรี ก็เอาเลยครับ ใกล้กรุงเทพฯ รีบจองก่อน เพราะคิดว่าจะชิลๆ -7-


ในความเป็นทหาร เรารูอ้ ยูแ่ ล้วครับว่าการออกหน่วยจะมีความยาก ล�ำบากประมาณหนึง่ โดยพืน้ ฐานแม้ผมเป็นคนสูง้ านอยูแ่ ล้ว เราเป็น ทหาร เราถูกฝึกมาให้รบั ความยากล�ำบากมากกว่าปกติ แต่เส้นทาง อ�ำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรคี รัง้ นัน้ มันผิดคาดเลยครับ เรารูส้ กึ ว่า มันไม่ใช่ดังภาพที่เราคิด เหนื่อยหนักกว่าเดิม แบกของพะรุงพะรัง เดินเท้าไกลกว่าที่คิด ผมแบกโน้ตบุ๊กมาหนึ่งเครื่อง ซึ่งตอนนี้ก็คิด ว่าแล้ววันนั้นจะเอาไปด้วยท�ำไมนะ บรรยากาศเหมือนในโฆษณาที่เราเห็นไหม ย้อนไปเมือ่ 8-9 ปีทแี่ ล้ว สภาพแวดล้อมอาจจะไม่เหมือนในโฆษณา ทัง้ หมด แต่ความยากล�ำบากไม่ได้ตา่ งกันเลย ในทีมเราไปกัน 10 คน มีหมอ 2 คน มีทีมพยาบาล ทีมพลขับ และเจ้าหน้าที่ในหน่วย ผม พร�่ำบ่น ผมไม่พอใจ ผมแสดงสีหน้า ผมเหวี่ยง ผมเอาแต่ใจ ผม ตั้งค�ำถามกับตัวเองว่าท�ำไมเราต้องมาไกลขนาดนี้ นี่ต้องมาตรวจ ใครเนี่ย ไปถึงจะมีคนไข้อยู่เหรอ แล้วจุดเปลี่ยนส�ำคัญก็คือ หนึ่งใน ทีมงานหันมาบอกผมว่า “ที่ตรงนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จ มาแล้ว

จุดเปลี่ยนของคุณ คือประโยคสั้นๆ แค่นี้ ใช่ครับ จุด turning คือค�ำนีเ้ ลย ผมถามตัวเองกลับเลยว่า แล้วเพราะ อะไรท�ำให้ท่านเสด็จมาด้วยความตั้งใจ อะไรท�ำให้ท่านไม่เหนื่อย แล้วผมก็อึ้งไปเลยนะครับ หันมามองตัวเองและสภาพแวดล้อม ทั้งหมด เราผ่านความเหนื่อยล้ามาแล้ว หันมองรอบข้าง สภาพ แวดล้อมความเป็นป่าเขา ความที่ไม่สะดวกสบาย แต่นึกถึงภาพ พระองค์ทา่ น ภาพทีเ่ ราเคยเห็นพระองค์ทา่ นในข่าวในพระราชส�ำนัก ทุกวันตั้งแต่ตอนเราเด็กๆ เแล้วนี่เรามาวันเดียว แต่พระองค์ท่าน เสด็จทุกวัน โอ้โห มันเหมือนคนเจอหมัดน็อกไร้สติไปพักหนึ่งเลย

ที่ผ่านมา มันเป็นภาพที่ชินตา เป็นภาพที่เห็นทุกวัน มันก็จะมีแค่ ความรู้สึกว่า อ้าวเปิดทีวี เดี๋ยววันนี้เจอในหลวง แต่รู้ไหมว่าท่าน เหนื่อย ไม่รู้ และอะไรก็ตามที่มันชิน จะไม่เกิดความรู้สึก แล้วมัน ก็เป็นค�ำถามในใจนะ ท่านท�ำเพราะอะไร ท่านท�ำไปท�ำไม อะไรนะ ท�ำให้ท่านท�ำได้ขนาดนั้น ที่ผ่านมา เรารู้ เราฟังจากค�ำที่เขาพูดตาม กัน เรารู้เราฟังจากข่าวที่เห็นในโทรทัศน์ แต่วันนั้น ผมรู้ แล้วผม ก็สัมผัสได้กับตัวเองจริงๆ คืนนั้นพอไปถึงที่พักก็นอนเต็นท์ อาบน�้ำ จากล�ำธาร เอาเข้าจริง เราก็ไม่ได้เดือดร้อนนะ เป็นทหารเหนือ่ ยกว่า “พระองค์ทา่ นเคยเสด็จมา และท่านทรงมีความตัง้ ใจสูงมาก สมัยก่อน นี้อีก คืนนั้นผมนอนไม่หลับ แล้วก็คิดวนอยู่อย่างนี้ ผมรู้สึกตัวเอง สถานที่แห่งนี้ยากล�ำบากและกันดารกว่านี้มาก ตอนนี้ได้รับการ มันเหมือนคนโง่ แต่มนั ก็ดนี ะทีค่ นื นัน้ ไอ้คนโง่มนั ได้ทบทวน แล้วเกิด พัฒนามาแล้ว ในหลวงไม่บ่นสักค�ำ ท่านไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และ ความรู้สึกที่แข็งแรงมาก ตื่นเช้ามาผมก็ไม่แม้แต่จะคิดบ่นอีกแล้ว ท่านยังเดินน�ำเหมือนกับคนในพื้นที่” -8-


เราไม่ได้รักร่างกายของพ่อ เรารักความดีที่ท่านท�ำ แล้วผมก็ได้ค�ำตอบที่ถามตัวเองไปว่า เพราะอะไรในหลวงถึงต้องเสด็จมา ค�ำตอบคือ เพราะความรักที่พระองค์ท่านมีต่อประชาชน ท�ำให้พระองค์ท่านท�ำทุกอย่างที่เราเห็น โดยไม่รจู้ กั เหน็ดไม่รจู้ กั เหนือ่ ยเพราะฉะนัน้ ตลอดพระชนมายุของพระองค์ทา่ นทีท่ ำ� งาน มา 70 พรรษา เพราะความรักที่พระองค์ท่านมีต่อประชาชน ท�ำให้พระองค์ไม่เหนื่อย ท�ำให้พระองค์ท่านไม่เคยบ่นว่าท้อเลย เพราะว่าประชาชนของพระองค์ท่านยังไม่สุข สบายในแบบที่ท่านต้องการ เมื่อได้นอนคิด รุ่งขึ้นอีกวันคุณเผชิญกับอะไร ยิ่งหนักกว่าเดิมคือ เช้าวันรุ่งขึ้นผมเจอหมัดน็อกอีกหมัดคือ สมเด็จพระเทพฯ เสด็จ มายังเส้นทางนี้ เส้นทางเดียวกัน เมื่อวานฟังเรื่องพ่อ วันนี้ได้พบกับลูก พระองค์ยังคง ตรัสกับประชาชนและสอบถามผมด้วยว่า คนไข้เป็นอย่างไรบ้าง สิ่งนี้ท�ำให้ผมได้รับรู้ ถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นเป็นอย่างไร ตั้งแต่วันนั้น ผมไม่มีพร�่ำบ่นสักค�ำ ถึง แม้ว่ารอยพระบาทที่ท่านเสด็จมานั้นจะไกลมาก แต่อย่างน้อยเรามีโอกาสได้เดินตาม รอยของพระองค์ท่าน นอกเหนือจากเส้นทางที่คุณได้เดินตามรอยพ่อในวันนั้น ในชีวิตจริง บทบาท การท�ำงานที่คุณได้เดินตาม “รอยเท้า” พ่อ อย่างไร ผมไม่เคยคิดฝันอยากเป็นหมอ จริงๆ แล้วอยากเป็นอาจารย์ เพราะผมชอบสอน แต่ พ่ออยากให้ผมเป็นหมอ เคยแอบมาคุยตอนเด็กๆ ว่าผมหัวดี เรียนเก่ง เลือกเรียนใน แบบทีส่ นใจเถอะ เขาอยากให้ผมเป็นหมอ เพราะพ่อผมเป็นทหาร พีส่ าวผมก็เป็นแพทย์ ที่ รพ. พระมงกุฎ ช่วงเวลาที่เรียน ที่ออกฝึก ท�ำให้ผมได้ซึมซับการเป็นทั้งหมอและทั้ง ทหารในคนเดียวกัน แต่พอเรียนจบแล้วมาท�ำงาน สิง่ หนึง่ ทีท่ ำ� ให้ผมภูมใิ จคือเราได้เป็น ทั้งหมอที่รักษาคนได้ และก็ถือเป็นทหารที่ออกรบได้ด้วยนะ และยิ่งเวลาท�ำงานได้ออก หน่วย ได้เจอคนไข้ มันท�ำให้ผมคิดว่าสิง่ ทีเ่ ราท�ำ มันมีคา่ มากกว่าทีเ่ ราเคยคิด ชีวติ ของ เรามีค่าที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ประชาชนที่เราออกตรวจในวันนั้นเป็นชาวเขา ในฐานะหมอ ทุกที่ที่เราไป เราพร้อม จะเต็มที่กับคนไข้อยู่แล้วล่ะ โดยเฉพาะประชาชนที่ห่างไกลโอกาส พวกเขาท�ำให้ ผมสงสัยว่า ในประเทศเดียวกัน ท�ำไมจึงยังมีประชาชนที่อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส เหล่านั้นบนแผ่นดินกันอยู่ ผมเรียนรู้ว่าเราล้วนเป็นคนเหมือนกัน ชาวบ้านชาวเขา ตรงนัน้ ก็คอื คนเหมือนกับเรา เพียงแต่เขาไปเกิดในอีกทีห่ นึง่ ทีไ่ ม่มโี อกาสเทียบเท่าเรา ดังนั้นเมื่อมีโอกาส เราจงท�ำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ อย่างมีคุณค่า และมีความอดทน -9-


-10-


ใครว่าพระองค์ท่านไม่อยู่ ผมว่าท่านยังคงอยู่อย่าง แจ่มชัดมากกว่าเดิมด้วยซ�ำ้ จากพระราชกรณียกิจ ทั้งหมด นับพันโครงการ

ย้อนไปในวันที่ 13 ตุลาคม วันนั้นหมอก้องท�ำอะไรอยู่ 13 ตุลาคม คือวันที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ผมติดตามข่าวมาตั้งแต่ วันที่ 12 แล้ววันที่ 13 เข้าเวรพอดี พอออกเวรกลางวันปุ๊บก็กลับบ้านเลย พอรู้ข่าว ปุ๊บ ขึ้นห้องพระเลย ขึ้นไปสงบสติอารมณ์ของตัวเอง และก็ยอมรับกับความจริง ที่มันเกิดขึ้น คนเราเกิด ดับ มันต้องมีวันนี้ แต่ว่าเราก็มาทบทวนว่า มันถึงเวลา นี้แล้ว รู้ว่าท่านไม่อยู่แล้ว เท่านั้น ช่วงแรกๆ มันคิดอะไรได้ไม่เยอะหรอก แต่พอ หลังจากนั้นมันก็จะเริ่มคิดในสิ่งที่มีประโยชน์กว่าเดิม ใครว่าพระองค์ท่านไม่อยู่ ผมว่าท่านยังคงอยูอ่ ย่างแจ่มชัดมากกว่าเดิมด้วยซ�ำ้ จากพระราชกรณียกิจทัง้ หมด นับพันโครงการ เราก็ได้รู้ว่าพระองค์ท่านเป็นอย่างไร พระองค์ท่านสอนอะไร ค�ำสอนท่านมาเต็มไปหมด จากที่เรารู้แค่ไม่เท่าไร และที่ส�ำคัญที่สุดก็คือ ผมว่า ณ ตอนนี้ ผมเห็นแค่คนเดียวในโลกนะที่ท�ำให้คนอยากเป็นคนดี ผมเชื่อว่าสิ่งนี้ เกิดขึ้นได้กับคนปกติทั่วไป หรือแม้แต่คนที่เคยท�ำผิดพลาด ผมเห็นข่าวนักโทษ ในกรมราชทัณฑ์ยังลุกขึ้นมาท�ำความดีถวายในหลวง คือด้วยความรักที่พระองค์ มีให้กับทุกคน ทุกคนรู้แล้วสัมผัสได้ หลั ง จากวั น นั้ น เราจึ ง ได้ เ ห็ น ปรากฏการณ์ ข องคนในวงการบั น เทิ ง ที่เกิดขึ้นที่สนามหลวง จริงๆ แล้ว คนในวงการบันเทิงเป็นกลุ่มคนที่มีสปอตไลต์ เวลาไปไหนก็เหมือน จะมีสปอตไลต์ตาม แต่คนทุกกลุ่มต่างหากล่ะครับที่ลงมือท�ำ ไม่ใช่แค่คนใน วงการบันเทิง ซึ่งในส่วนของการเป็นนักแสดง ผมไม่ได้ท�ำอะไรเลย แต่ในส่วน ของการเป็นข้าราชการ ผมเป็นหมอ ผมท�ำหน้าที่ออกตรวจ สแตนด์บายที่เต็นท์ ของส�ำนักงานแพทย์ อ�ำนวยความสะดวกประชาชน วันที่ 14 ตุลาคม คือวันที่ เคลื่อนย้ายพระบรมศพ ผมขอเจ้านายมาส่งเสด็จ และอ�ำนวยความสะดวกให้ ประชาชนในวันนั้น ปกติผมใส่เครื่องแบบนับครั้งได้เลย ส่วนใหญ่มักจะใส่พวกเสื้อกาวน์มากกว่า แต่วันนั้นภูมิใจมากที่ได้ใส่เครื่องแบบเต็มชุด แล้วก็ท�ำงานอยู่ใกล้พระองค์ท่าน นิดเดียว จริงๆ มันก็อาจจะไม่ได้ดยู งิ่ ใหญ่ขนาดนัน้ แต่วา่ ในความรูส้ กึ ของเรา เรา ภาคภูมิใจที่เป็นข้าราชการ ข้าของรัชกาลที่ 9 คุณเคยโพสต์ในอินสตาแกรมว่า “เราไม่ได้รักร่างกายของพ่อ เรารัก ความดีที่ท่านท�ำ” อะไรท�ำให้คุณรู้สึกเช่นนั้น มันคือสิ่งที่เกิดจากหลังวันที่ 14 ล่ะครับ คือมีคนเยอะมากที่ยังรับไม่ได้กับการ สูญเสีย ก็จะเป็นลม เป็นอะไร เป็นอาการ Hyperventilation เครียดวิตกกังวล เยอะแยะเต็มไปหมด ผมก็อยากจะปลอบโยนพวกเขาด้วยค�ำนี้ ผมไม่ได้สรรหา ค�ำพูด ผมแค่รสู้ กึ อย่างนีจ้ ริงๆ เรารักความดีของพระองค์ทา่ น ทีเ่ รามากันทุกวันนี้ ก็เพราะความดีของพระองค์ท่าน ความดีของพระองค์ท่านไม่ได้หายไปไหนนี่ มัน ชัดเจนขึ้นด้วยซ�้ำ หลับตาเราก็เห็นหน้าพระองค์ท่านแล้ว ท่านยังอยู่และท่าน จะคงอยู่ต่อไป โดยเข้าไปอยู่ในใจของทุกคน เรามีหน้าที่แบบสืบสานสิ่งที่ท่านท�ำ ต่อไปเพื่ออะไร สุดท้ายก็เพื่อแผ่นดินที่ท่านรัก เพื่อแผ่นดินของคนรุ่นเรา -11-


หลักค�ำพ่อสอนของพ่อที่ยังอยู่ในใจคุณเป็นเรื่องใด แนวทางทีพ่ ระองค์พระราชทานพระราชด�ำรัสไว้คอื เรือ่ งความอดทน ความเสียสละ ไม่ ย่อท้อ เมื่อเราโตขึ้น ปัญหาก็เยอะขึ้นตามอายุของเรา ความรับผิดชอบต่างๆ ก็ทวีคูณ มากขึ้น สิ่งที่สอนเราได้ดีที่สุดคือ ค�ำว่า “อดทน” ท่านจะสอนเสมอว่าให้อดทน ความดี มันท�ำยาก แต่อย่างไรก็ต้องท�ำ ความอดทน วิริยะ แล้วก็การท�ำความดี ไม่จ�ำเป็นต้อง ป่าวประกาศ ท่านสอนให้ปิดทองหลังพระ ปิดมันไปสิ จนมันล้นออกมา ความอดทน เริ่มต้นได้จากตัวเรา อดทนในการใช้ชีวิตนี่แหละ และท�ำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ในฐานะที่คุณผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นมาก่อน คุณคิดว่าความอดทนและการท�ำ หน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เด็กๆ ในวัยนี้สามารถเริ่มต้นอย่างไรได้บ้าง ผมขออนุญาตออกตัวไว้ก่อนว่า ผมก็เคยอายุ 18 19 20 มาแล้ว แล้วกับค�ำที่เขาบอก ว่าผู้ใหญ่อาบน�้ำร้อนมาก่อน เชื่อเถอะว่ามันจริง เพราะมันเป็นแบบนั้น แล้ววันนี้ผม ก็ผา่ นช่วงนัน้ มา สิบกว่าปีแล้วนะ (หัวเราะ) ผมได้ยนิ ผูใ้ หญ่ คนรุน่ พ่อรุน่ แม่ หรือแม้แต่ อาจารย์มักบอกว่าน้องๆ เด็กรุ่นใหม่หลายคน มีความอดทนลดน้อยลง เด็กรุ่นใหม่ เลือกงานมากขึน้ ไอ้นนั่ ก็ไม่ดี ไอ้นกี่ เ็ งินเดือนน้อย แต่ตวั เองไม่ลงมือท�ำเท่ากับทีค่ นรุน่ พี่ รุน่ พ่อรุน่ แม่ทำ� เพราะอะไรทีท่ ำ� ให้ความอดทนน้อย เพราะเทคโนโลยีมนั เยอะขึน้ สังคม ท�ำให้เราอยากได้เร็ว ใจร้อน รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เหมือนตัวผมเองที่ผ่านมา ผมอาจจะใช้ชีวิตมีตัวตนสูง อีโก้สูง และเคยผ่านช่วงเวลา ทีไ่ ม่รจู้ กั อดทนมาบ้างแล้ว แต่บางครัง้ ก็ตอ้ งละลายพฤติกรรมด้วยการสลายอีโก้บา้ ง ถ้า จะอดทน ต้องใส่ความรัก เวลาท�ำงานก็ตอ้ งท�ำด้วยความรัก เมือ่ ท�ำด้วยความรักเราก็จะ อดทนได้ แล้วทุกอย่างมันจะง่ายขึ้นหมดเลยนะ ความรักในที่นี้ไม่ใช่ฉันชู้สาว ความรัก คือความเมตตา รักคนอื่น รักในงาน เมื่อเรามีความรัก เราก็เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้ว เราก็จะท�ำทุกอย่างให้ส�ำเร็จได้ ผมอาจจะได้เห็นบทเรียนความอดทน ผ่านเส้นทาง ที่เดินออกหน่วยในเย็นวันนั้น แต่ถ้าน้องๆ ที่ไม่ได้เผชิญความรู้สึกเช่นผมในวันนั้น ขอ ให้ยึดถือในความอดทนเถอะครับ มันจะท�ำให้เราผ่านสิ่งต่างๆ ไปได้ด้วยดี “การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่ส�ำคัญที่สุดคือความอดทน คือ ไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นท�ำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดงั คือดูมนั ควรท�ำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการท�ำให้ดคี วรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้า จะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง” พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ 27 ตุลาคม 2516

-12-


เวลาท�ำงานได้ออกหน่วย ได้เจอคนไข้ มันท�ำให้ ผมคิดว่า สิ่งที่เราท�ำ มันมีค่ามากกว่าที่เราเคยคิด ชีวิตของเรามีค่าที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น

ภาพจากwww.instagram.com/kong_sarawit

Inspiring Learning

“แหล่งเรียนรู้ส�ำหรับผมเกิดขึ้นจากการเดินทาง เวลาไปต่างประเทศ เช่นทริป เดินทางยุโรป ผมชอบไปดูสถาปัตยกรรม ดูอาคาร ตึก โบสถ์ วิหาร พอเรา เห็นลักษณะของสถาปัตยกรรม เราก็จะมาค้นแล้วว่าเป็นยุคอะไร บางเรื่องเรา เคยเรียนมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย แต่พอโตเราก็ลืม พอมาได้เห็นของจริง เห็น ความงามยิง่ ใหญ่ตรงหน้า ไปดูวา่ มิเกลันเจโลเป็นอย่างไร ดาวินชีเป็นอย่างไร แล้ว เขาท�ำอะไรแข่งกันบ้าง ก็ทำ� ให้เราอยากเรียนรูต้ อ่ เนือ่ ง การเดินทางและการเผชิญ ประสบการณ์จริงคือแหล่งเรียนรู้ชั้นดีเลยล่ะครับ” -13-


เดินตามเส้นทางของพ่อ

แม้ไม่ใช่โครงการในพระราชด�ำริโดยตรง ทว่าสถานทีเ่ หล่านีม้ คี วามส�ำคัญในการน้อมน�ำค�ำสอนของ พ่อแห่งแผ่นดินมาใช้เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คน และมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์งอกงามยิ่งขึ้น กลายเป็นแบบอย่างส�ำคัญให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและต่อยอดความรู้ในอนาคตต่อไป Muse Latitude จะพาเพื่อนๆ ออกเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ สถานที่ที่เดินตามเส้นทางของพ่อ

-14-

เร

nan

ana

Ch ื่อง :

e d u t i t la


ประเทศภูฏาน :

งานเกษตรบนพื้นที่สูง ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง “กษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ได้เสด็จพระราชด�ำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้ง เพื่อศึกษางาน การท�ำเกษตรบนที่สูง ซึ่งประเทศภูฏานมีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่คล้ายคลึงกันกับทางภาคเหนือของประเทศไทย” นับตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2549 ทีป่ ระเทศไทยมีการจัดงานเฉลิมฉลองสิรริ าชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ทราบกันดีอย่างแจ่มชัดว่า 10 ปีมาแล้ว (และมากกว่านั้น) ที่กษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงรักและเคารพในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างสุดซึ้ง ทั้งยังมีในหลวงของเรา เป็นแบบอย่างในการทรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการน�ำความรู้จากโครงการ พระราชด�ำริด้านเกษตรกรรมอย่างโครงการหลวงที่ผ่านงานพัฒนาเกษตรที่สูง มายาวนานไปปรับใช้และลงมือท�ำจริง ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงจนช่วยพัฒนา ประเทศภูฏานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการแก้ปัญหาการท�ำเกษตรบนพื้นที่สูงซึ่งเคยเป็น อุปสรรค เช่นเดียวกับปัญหารายได้ของประชากรในประเทศ แม้จะเป็นประเทศ ที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนเข้าร่วมพระราชพิธีอันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี หลายคนอาจไม่ทราบว่ากษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ได้เสด็จพระราชด�ำเนินเยือนประเทศไทยหลายครั้งเพื่อศึกษางานการท�ำเกษตร บนที่สูง ซึ่งประเทศภูฏานมีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ท่ีคล้ายคลึงกันกับทางภาคเหนือ ของประเทศไทย เช่น การเสด็จพระราชด�ำเนินเข้าเยี่ยมชมโครงการหลวงดอย อินทนนท์ และสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นแนวทางใน การพัฒนาประเทศภูฏาน จนเกิดเป็นความร่วมมือระหว่างภูฏานกับไทย โดยเปิด โอกาสให้ทางตัวแทนของประเทศภูฏาน ได้แก่ รัฐมนตรีด้านการเกษตร และนัก วิชาการ เป็นต้น หรือทรงเดินทางมาศึกษาการงานที่จังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อสนับสนุนการน�ำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คน ไม่ว่าเชื้อชาติ ชนชาติใด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้โครงการหลวงใช้เป็นทุนในการช่วยเหลือพัฒนา ภูฏานในเวลาเดียวกัน กษัตริย์แห่งภูฏานพระองค์นี้ได้กล่าวขอบคุณพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ของ ไทยเราอยู่เสมอมา รวมถึงเมื่อครั้งที่กษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จ พระราชด�ำเนินเยือนไทย ตามที่มหาวิทยาลัยรังสิตได้ทูลเกล้าถวายปริญญา ศิลปศาสตร์ดษุ ฎีบณ ั ฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหากมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวประเทศภูฏานอันงดงาม เราจะได้รับค�ำตอบว่า…ท�ำไมผู้คนที่นั่นจึงได้รู้จักและขอบคุณในหลวงของไทย เช่นเดียวกับกษัตริย์ภูฏานอันเป็นที่รักของพวกเขาเช่นกัน -15-


พื้นที่เกษตรภาคเหนือ : จากไร่ฝิ่นสู่แบรนด์ “ดอยคำ�”

“การเกษตรทั้งของมูลนิธิโครงการหลวงและเกษตรกรในพื้นที่ มุ่งเน้นไปที่กลุ่ม เกษตรกรชาวเขาบนพืน้ ทีส่ งู ในรูปแบบธุรกิจเพือ่ สังคม หรือ Social Business ขึน้ ด้วยราคารับซือ้ ทีเ่ ป็นธรรม ทัง้ หมดกลายเป็นทีม่ าของแบรนด์ดอยค�ำทีเ่ ราคุน้ เคย” เพื่อแก้ปัญหาการปลูกฝิ่นของชาวเขาและความทุกข์ยากล�ำบากของราษฎร กว่า 45 ปีมาแล้วที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้มีพระราชด�ำริให้ จัดตั้งโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขาขึ้น โดยส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกพืช ชนิดอื่นทดแทน ซึ่งได้แก่ ผัก ผลไม้ รวมถึงดอกไม้เมืองหนาวที่เติบโตได้ดีใน สภาพภูมปิ ระเทศและอากาศของภาคเหนือ ทว่าต่อมาได้เกิดปัญหาพ่อค้าคนกลาง กดราคา เพราะพื้นที่การเกษตรนั้นอยู่ห่างไกล ทั้งยังมีปัญหาผลผลิตราคาตก เพราะพืชผลการเกษตรล้นตลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจึงได้ให้มีการก่อตั้งโรงงานหลวง อาหารส�ำเร็จรูปขึ้น ใกล้พื้นที่แหล่งเพาะปลูก ตามแนวทาง “อุตสาหกรรมเกษตร เพือ่ พัฒนาชนบท” และได้มพี ระบรมราโชวาทให้สำ� นักงานทรัพย์สนิ ส่วนพระมหา­ กษัตริย์ จัดตั้งนิติบุคคลชื่อ บริษัท ดอยค�ำผลิตภัณฑ์อาหาร จ�ำกัด ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2537 ส�ำหรับรองรับผลผลิตทางการเกษตร ทั้งของมูลนิธิโครงการหลวงและ เกษตรกรในพื้นที่ มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกรชาวเขาบนพื้นที่สูง ในรูปแบบธุรกิจ เพื่อสังคม หรือ Social Business ขึ้น ด้วยราคารับซื้อที่เป็นธรรม ทั้งหมดกลาย เป็นที่มาของแบรนด์ดอยค�ำที่เราคุ้นเคยและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน เกษตรมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยเวลานี้ “ดอยค�ำ” มีโรงงานหลวงอาหารส�ำเร็จรูปที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่เพาะปลูก ของเกษตรกรจ�ำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงงานหลวงอาหารส�ำเร็จรูป โรงงาน หลวงอาหารส�ำเร็จรูปที่ 1 ที่บ้านยาง ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่กล่าวได้ว่า เป็นโรงงานหลวงอาหารส�ำเร็จรูปแห่งแรก เมื่อ พ.ศ. 2512 โรงงานหลวงอาหาร ส�ำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) ที่หมู่บ้านป่าห้า ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อ พ.ศ. 2517 และโรงงานหลวงอาหารส�ำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) ที่บ้านนางอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร เมื่อ พ.ศ. 2513 ท�ำให้ผลผลิตการเกษตรสดใหม่ คงคุณภาพ และ ปลอดภัย ไม่ใส่สแี ละวัตถุกนั เสียเจือปน ทัง้ ประเภทผลผลิตแปรรูปและไม่แปรรูป อีกเป็นจ�ำนวนมากก่อนส่งถึงมือคุณ

-16-


อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี :

ไทย-เดนมาร์ค ฟาร์มโคนม วัวแดง ของไทย “ดังพระราชด�ำรัสในตอนหนึ่งว่า “การเลี้ยงโคนมก็เป็นอาชีพที่ดีส�ำหรับคนไทย เหมาะกับประเทศ และถ้าใช้หลักวิชาที่เหมาะสม ก็จะท�ำให้มีความเจริญและ มีรายได้ดี” ซึ่งได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมใน ประเทศไทย” หากเคยเยีย่ มชมฟาร์ม ไทย-เดนมาร์ค ซึง่ ถือเป็นหนึง่ ในกิจกรรมท่องเทีย่ วจังหวัด สระบุรี นอกจากจะได้นั่งรถชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์ และดูบรรดาสัตว์น่ารักใน ฟาร์มแล้ว สิ่งที่คุณยังจะได้เรียนรู้คือ อาชีพพระราชทานการเลี้ยงโคนม จาก สายพระเนตรอันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ก่อ ให้เกิดประโยชน์แก่คนไทยที่ไม่เคยมีความรู้และประสบการณ์เรื่องการท�ำฟาร์ม โคนมมาก่อนนี้ พ.ศ. 2503 เมือ่ ครัง้ เสด็จประพาสประเทศเดนมาร์ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จทอดพระเนตรกิจการฟาร์มโคนมและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ นมหลายแห่ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ด้านการสร้างอาชีพที่มั่นคง เหมาะ สมกับสภาพภูมิประเทศและอากาศ ทั้งยังช่วยแแก้ปัญหาการท�ำไร่เลื่อนลอย รวมถึงในด้านการผลิตอาหาร ซึ่งนมเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารที่เป็น ประโยชน์ของเยาวชนไทย ดังพระราชด�ำรัสในตอนหนึ่งว่า “การเลี้ยงโคนมก็เป็น อาชีพที่ดีส�ำหรับคนไทย เหมาะกับประเทศ และถ้าใช้หลักวิชาที่เหมาะสม ก็จะ ท�ำให้มีความเจริญและมีรายได้ดี” ซึ่งได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการส่งเสริม การเลี้ยงโคนมในประเทศไทย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก ร่วมกับรัฐบาล และองค์การเกษตรกรรมของประเทศเดนมาร์ก ได้น้อมเกล้าฯ ถวายโครงการส่งเสริมการเลีย้ งโคนมในประเทศไทย โดยจัดตัง้ เป็น “ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค” ที่กล่าวได้ว่าเป็นกิจการฟาร์มโคนมแห่งแรกในประเทศไทยขึ้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี สถานที่ที่เป็นหุบเขาสวยงาม มีแหล่งน�้ำสะอาด ไม่ไกล จากกรุงเทพฯ มากนัก ทั้งยังอยู่ใกล้ถนนมิตรภาพ สามารถเดินทางหรืออ�ำนวย ความสะดวกในการขนส่งได้ง่ายอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2514 รัฐบาลไทยได้รับโอนกิจการฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการ เลี้ยงโคนม ไทย-เดนมาร์ค จัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ชือ่ “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย” ทีม่ ชี อื่ ย่อว่า อ.ส.ค. ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและพัฒนาอุตสาหกรรมนมในประเทศไทย ซึ่ง นอกจากด�ำเนินกิจการดังกล่าวแล้ว ปัจจุบัน อ.ส.ค. ยังได้เปิดฟาร์มโคนมไทยเดนมาร์คแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้ผู้ที่สนใจแวะเข้าไปเยี่ยมชม

-17-


-18-


อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี :

ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง “ทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง” อย่างจริงจัง มีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกร พ้นจากความยากจน โดยเริ่มฟื้นฟูพื้นที่ร้างกว่า 40 ไร่ ของพี่ชายที่จังหวัดชลบุรี เมื่อราว 30 ปีที่แล้ว” หากสนใจศึ ก ษาปรั ช ญาเศรษกิ จ พอเพี ย งตามค� ำ สอนของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่น�ำมาปรับใช้ได้จริง อย่างจับต้องได้ และใกล้ตัว ที่สุด ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่ก่อตั้งโดย อาจารย์ ยักษ์-วิวัฒน์ ศัลยก�ำธร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณควรหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง โดยที่มาของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องนี้เริ่มต้นตั้งแต่ที่อาจารย์ยักษ์ ซึ่งมี โอกาสถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 9 ในฐานะที่รับราชการใกล้ชิดพระองค์ ในหน่วยงานส�ำนักงานคณะกรรมการ พิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ (กปร.) สังกัดส�ำนัก นายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงสิ่งที่ก�ำลังท�ำในเวลานั้น จนกระทั่งถึงจังหวะเวลา ที่เหมาะสมก็ได้ลาออกจากราชการมาเพื่อท�ำการเกษตรตามแนวคิด “ทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง” อย่างจริงจัง มีเป้าหมายเพือ่ ให้เกษตรกรพ้นจากความยากจน โดยเริม่ ฟืน้ ฟูพนื้ ทีร่ า้ งกว่า 40 ไร่ ของพีช่ ายทีจ่ งั หวัดชลบุรเี มือ่ ราว 30 ปีทแี่ ล้วด้วย การขุดสระน�้ำ ทดลองท�ำนา ปลูกผัก และท�ำสวนจนสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น กลายเป็นทีร่ จู้ กั และเข้ามาขอความรูม้ ากขึน้ จนวันนีพ้ นื้ ทีร่ า้ งในอดีตผืนนีไ้ ด้กลาย เป็นที่รู้จักในชื่อมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ที่พร้อมให้เกษตรกรและบุคคลทั่วไป ทัง้ ชาวไทยและชาวต่างชาติทสี่ นใจเข้ามาเยีย่ มชม ทัง้ ในรูปแบบการท่องเทีย่ ว รวม ถึงเป็นสถานที่ฝึกอบรมด้านการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง อย่างครบวงจรส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้สิ่งที่พ่อสอนอย่างแท้จริง

-19-


-20-


เซีย พูฟิว วิภาส ม ช : ุญ เรื่อง วรัตน์ บ า น เ : ภาพ

+

แบบทดสอบ จากก้อนดิน ก่อนอ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ ถ้าคุณมีเวลาสักนิดและสามารถสืบค้น ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ เราอยากชวนคุณคลิก google เสิร์ชหาค�ำ ว่า “บ้านรื่นรมย์” หรือ “Ruenrom Organic Living” เราเชื่อว่าคุณจะพบกับภาพของบ้านดิน บรรยากาศเกษตรกรยุคใหม่ โดยคนรุ่นใหม่ 2 คน มาพร้อมกับความตั้งใจและความท้าทายที่จะใช้ ชีวติ โดยพึง่ พาตนเองให้มากทีส่ ดุ อ้อ! รวมไปถึงชุดค�ำและภาพชวนจ�ำ ว่าเขาทั้งคู่อยู่อย่าง “พอเพียง” ไม่ปฏิเสธว่า โจ-เกรียงไกร บุญเหลือ และ แก้ว-ดวงแก้ว ตั้งใจตรง สามี-ภรรยา วัย 30 ต้นๆ ทั้งคู่เป็นอย่างที่ทุกคนเห็น พวกเขาเลือก หันหลังจากเมืองกรุง เพือ่ ท�ำการทดสอบความแข็งแกร่งของชีวติ บางอย่าง แต่ตลอดบทสนทนากว่า 2 ชั่วโมงที่ทั้งคู่เลือกถ่ายทอดกับเรา ค้นพบ ว่าความพอเพียง หรือการหวนคืนกลับสู่รากเหง้าและธรรมชาติ เป็น เพียงแค่ส่วนหนึ่งที่ทั้งคู่เลือกใช้ แต่พวกเขามีอะไรมากกว่านั้น ถ้า ความพอเพียง = ความพอดี = ความสุข แต่ไม่ใช่ความโรแมนติก โจและแก้วเติมสูตรตัง้ ต้นอันเป็นสาระส�ำคัญของชีวติ เพิม่ ไปอีกข้อ นัน่ คือการรู้จักและท�ำความเข้าใจกับตัวเอง

-21-


ก่อนมือเปื้อนดิน “เรียนจบแล้ว ยังไม่รวู้ า่ ตัวเองอยากท�ำอะไร ตัวเองต้องการอะไร จะท�ำงาน และใช้ ชีวติ แบบไหน” นีค่ อื ความรูส้ กึ ของโจหลังจากเรียนจบปริญญาตรี สาขามัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โจเลือกท�ำงานเป็นนักออกแบบเป็นช่วงระยะเวลาสัน้ ๆ และ ระหว่างนัน้ เมือ่ เขาเกิดค�ำถามนีก้ บั ตัวเอง จากค�ำแนะน�ำของอาจารย์ทมี่ หาวิทยาลัย โจได้หลีกเร้นกรุงเทพฯ และใช้ชีวิตเป็นผู้จัดการรีสอร์ตที่เกาะเต่านานถึง 6 ปี เช่นกันกับแก้ว หลังจากที่เรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาการ “ยังไม่รวู้ า่ ตัวเองอยากท�ำอะไร” ก็เกิดขึน้ กับเธอ เธอจึงวางแผนจัดทริปตาม ประสาวัยรุ่นฉลองช่วงเวลาเรียนจบ รูตนั้นคือ full moon party โดยมีเกาะเต่า เป็นจุดหมาย และนัน่ เองท�ำให้เธอได้พบกับโจ ลองนึกภาพวัยรุน่ 2 คนทีค่ ยุ ภาษา เดียวกันรู้เรื่อง จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงสานต่อกันเรื่อยมา “ตอนนั้นเราพยายามท�ำความเข้าใจกับตนเอง พยายามหาว่าตนเองต้องการอะไร เราทัง้ อ่านหนังสือ คุยกับคนนัน้ คนนี้ ออกเดินทาง แล้วเราก็พบค�ำตอบว่าเราสนใจ ในวิถีทางของเกษตร นึกถึงคนสมัยก่อนที่พึ่งพาตนเองได้ แล้วเขาก็มีความมั่นคง ดี เราก็ดูว่าถ้าเราสามารถสร้างบ้านเองได้ หาอาหารเลี้ยงชีพเองได้ ปัจจัยพื้นฐาน เหล่านี้มันน่าจะท�ำให้เรามีความมั่นคง” โจเล่าถึงค�ำตอบที่เขาได้ค้นพบ ความมั่นคงที่เขาต้องการ ไม่ใช่ตัวเงินหรือต�ำแหน่งหน้าที่การงาน แต่ส�ำหรับเขา นั่นคือการ “หาอาหารเลี้ยงชีพตนเองได้”

-22-


“ทุกวันนี้เราค้นพบว่า เราไม่ต้องอยู่บ้านดินก็ได้ เราอยู่บ้านไม้ อยู่ บ้านปูน เหล่านี้มันไม่ใช่สาระสำ�คัญ สิ่งสำ�คัญคือใจของเรามากกว่า ถ้าเราอยู่กับตัวเองแล้วมีความสุขในทุกวัน มันก็พอแล้ว” “ในตอนนัน้ เราแค่รสู้ กึ ว่า ถ้าสามารถหาอาหารเลีย้ งชีพเองได้ นัน่ ล่ะคือความมัน่ คง เราท�ำอะไรเองไม่เป็นเลย หาผักปลูกก็ไม่ได้ ไม่รทู้ มี่ าทีไ่ ปของอาหาร เราเคยชินกับ การเข้าห้างซือ้ ของส�ำเร็จรูปกิน ง่าย แล้วก็จบ พอมาตระหนักตรงนี้ ว่าเราไม่มเี รือ่ ง ความรู้พวกนี้ ทั้งที่มันเป็นความรู้พื้นฐานของมนุษย์คนหนึ่ง เราจึงมองหาค�ำตอบ เรื่องการพึ่งพาตนเอง อยากท�ำบ้านเองก็ต้องมาหาพี่โจน (โจน จันได ผู้เชี่ยวชาญ การสร้างบ้านดิน อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่) ถ้าอยากดูแลสุขภาพร่างกาย ไม่อยาก พึ่งหมอ เราก็เลยไปอบรมกับหมอเขียว (หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน ผู้เชี่ยวชาญ ด้านแพทย์ทางเลือกและวิถธี รรมชาติ) เราพยายามสะสมองค์ความรูเ้ หล่านี้ ว่าเมือ่ ถึงจุดหนึ่ง ไอ้ชีวิตที่พึ่งตนเองได้ในอุดมคติของเรา เราจะอยู่กับมันได้จริงๆ ไหม” แก้วเล่าเสริมว่า เมื่อทั้งคู่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จึงแสวงหาหนทางเพื่อให้ไปถึง เป้าหมายนัน้ แรกเริม่ ทัง้ คูว่ างแผนช่วยกัน โดยไปท�ำงานประจ�ำทีร่ สี อร์ตแห่งหนึง่ ในอ�ำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยน�ำการเกษตรแผนใหม่เข้าไปบรรจุส่วน ส่งเสริมการท่องเทีย่ วของรีสอร์ตนัน้ แต่แผนทีว่ างไว้เป็นอันต้องล้มพับไปเสียก่อน เมื่อทัศนคติของนายทุนไม่มีนโยบายส่งเสริมการเกษตรนั้น ระหว่างเดินทางลง จากปาย แวะเชียงใหม่ ลงมาล�ำพูน ทั้งคู่บังเอิญเจอที่ดินที่จังหวัดล�ำพูน และมอง จุดหมายว่า จะมาเริ่มต้นสร้างครอบครัวด้วยกันบนพื้นที่แห่งนี้ โดยมีเงินเก็บหนึ่ง ก้อนจากการวางแผนและเตรียมตัวอย่างดี

-23-


กลับสู่ “ดิน”

และคนรอบข้างทุกคน ก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ในการคัดค้าน และห้ามแผนนีท้ งั้ หมด! “พ่อผมเกิดและโตที่สุรินทร์ ย้ายเข้ากรุงเทพฯ ตอนอายุ 15 หนีความล�ำบากจาก ที่นั่นมาเพราะรู้สึกว่าการท�ำเกษตรอยู่ตรงนั้น อดตายแน่นอน” โจฉายให้เห็น ภาพถึงบรรยากาศในยุคที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย คนอีสานอพยพมาหางานท�ำ ที่กรุงเทพฯ ในสายตาของผู้เป็นพ่อ ฟังดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลยถ้าวันหนึ่งลูกชายจะ ทิ้งกรุงเทพฯ เพื่อไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด พ่อของโจจึงเสนออีกหนึ่งทางเลือก ถ้า ต้องกลับมาใช้ชวี ติ ต่างจังหวัดทัง้ ที ทีน่ าทีส่ รุ นิ ทร์อนั เป็นสมบัตจิ ากย่า ผืนนาโล่งๆ น่าจะเป็นทางออกที่ควรลองดูไหม “ตอนนั้นเราใช้ชีวิตโรแมนติกค่ะ อยากได้ภูเขา อยากมีที่อยู่ทางเหนือ มีต้นไม้ แล้วไม่ตอ้ งท�ำอะไร” แก้วเล่าติดตลก ทัง้ คูเ่ ล่าว่าเมือ่ ต้องบิดโจทย์อกี นิด เลือกทีน่ า ที่สุรินทร์ของบ้านโจ ทั้งคู่จึงน�ำค�ำถามนี้ไปถามโจน จันได ว่า “พี่โจนก็เป็นคน ยโสธร แล้วท�ำไมจึงเลือกมาใช้ชวี ติ อยูท่ เี่ ชียงใหม่ละ่ ท�ำไมไม่ทำ� ทีย่ โสธรบ้านตัวเอง “พี่โจนบอกว่าเขาอยากท�ำเรื่องเมล็ดพันธุ์ แต่อากาศทางยโสธรไม่เอื้อที่จะเก็บ เมล็ดพันธุ์ เขาก็เลยขึ้นเหนือมาเพราะว่าอากาศดีกว่า น�้ำดีกว่า ดินดีกว่า แต่ใน ทางกลับกัน ถ้าผมและแก้วกลับไปอยูส่ รุ นิ ทร์ มันคือการเริม่ ต้นแบบไม่มอี ะไรเลย เมือ่ เราเองไม่รเู้ รือ่ งอะไรทัง้ คู่ แต่เราจะได้เรียนรูต้ งั้ แต่พนื้ ฐาน ตัง้ แต่จะปลูกต้นไม้ อะไร วางเรื่องน�้ำอย่างไร จะออกแบบพื้นที่อย่างไร ท�ำอย่างไรให้มันเป็นป่า เรา จะเห็นโครงสร้างตั้งแต่ต้น แล้วเราก็คิดว่าโอเค เรามีเวลาเยอะ เราอยากเรียนรู้ พี่โจนสอนว่า ถ้าเราอยู่ที่นั่นได้ ต่อไปเราไปที่ไหนเราก็อยู่ได้ เราจะไม่กลัวการ เริม่ ต้นใหม่ในพืน้ ทีท่ ไี่ ม่มอี ะไร แต่ถา้ เรามาอยูท่ มี่ ตี น้ ไม้ ดินดี น�ำ้ สมบูรณ์ เราอาจ จะไม่ได้เรียนรู้จากต้นน�้ำ” และนี่คือค�ำตอบว่าท�ำไมต้องสุรินทร์ พวกเขาเริ่มจาก สิ่งที่มี สิ่งที่เป็น โดยไม่ต้องใช้ความพยายามในการไปเปลี่ยนพื้นที่มาก หาความรู้ เพิ่มเติม และไม่ใส่สารเคมีเท่านั้นเอง ดินเดิมเป็นอย่างไร พวกเขาก็พร้อมกระโจนลงไปเพื่อเรียนรู้ ทดลอง ตั้งค�ำถาม สองมือเปื้อนดินเพื่อร่วมกันสร้างบ้านดินหลังแรก

-24-


“แต่การมีบ้านดินก็ไม่ใช่ค�ำตอบทั้งหมดของเรานะคะ” แก้วเสริม “ตอนนั้นเป็น อารมณ์ว่าอยากท�ำบ้านของตัวเอง อยากรู้ว่าถ้าเราจะสร้างบ้านด้วยตัวเอง จะ อยู่ได้จริงไหม แล้วเราคิดว่าถ้าเรามีบ้าน เราต้องมีความสุขมากแน่” แก้วก�ำลัง จะตอบว่า สิ่งที่คาดหวังในอุดมคติไม่ใช่ค�ำตอบทั้งหมด พวกเขาเจอแรงกดดัน ค�ำ ปรามาสที่ว่าคนกรุงเทพฯ ท�ำไม่ได้หรอก ทั้งคู่ไม่กล้าจะบอกใครว่าก�ำลังท�ำในสิ่ง ที่ตนไม่รู้ “พอบ้านดินเสร็จ ทุกคนก็เงียบเสียงลง ยอมรับว่าเราเอาจริง เราท�ำได้ ในขณะเดียวกันเราก็มคี วามสุขทีไ่ ด้อยูบ่ า้ นทีเ่ ราสร้างเอง แต่นา่ แปลกใจว่าผ่านไป แค่ 2 สัปดาห์ ท�ำไมความรู้มันกดดัน มีความเครียด ความกังวลอย่างอื่นเข้ามา ใหม่ พวกเราเริ่มทบทวนตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกนี้” โจเสริม “แท้จริงแล้วมันเป็นกรอบความคิดที่ติดมาจากกรุงเทพฯ เลยครับ สมัยก่อนตอน ท�ำงาน เห็นเพื่อนเราซื้อรถ ดูเพื่อนมันมีความสุขจัง ผมก็เลยดาวน์รถ ซื้อรถบ้าง เออ แฮะ มันมีความสุข แต่หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็ไม่รู้สึกอะไร กับรถแล้ว ชีวติ เราก็ไปสนใจเรือ่ งอืน่ เพราะวิถชี วี ติ เราก็ดำ� เนินต่อไป…ความรูส้ กึ การได้รถมากับการได้บา้ นดินหลังหนึง่ มันเหมือนกันเลยครับ แตกต่างกันทีว่ า่ รถ เราใช้เงินซื้อ แต่บ้านดินเราลงมือลงแรง” ทั้งคู่คิดว่าหากได้สร้างบ้านดิน ได้ลงแรงด้วยสองมือจะมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า เอาเงินไปซื้อรถ นี่คือกรอบความคิดว่า ชีวิตต้องบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ “แล้ววันนี้เราก็คิดว่า เราไม่ต้องอยู่บ้านดินก็ได้ เราอยู่บ้านไม้ อยู่บ้านปูน เหล่านี้ มันไม่ใช่สาระส�ำคัญ สิ่งส�ำคัญคือใจของเรามากกว่า ถ้าเราอยู่กับตัวเองแล้วมี ความสุขในทุกวัน มันก็พอแล้ว” “สาระส�ำคัญคือการเข้าใจตัวเอง” แก้วกล่าวพร้อมรอยยิม้ ตาหยีอนั เป็นเอกลักษณ์ ของเธอ

-25-


“ในหลวงท่ า นเคยตรั ส อย่ า งเปิ ด กว้ า งมาก บอกว่ า เราจะมี ข อง ที่ฟุ่มเฟือยก็ได้ แต่ว่าถ้าสิ่งนั้นไม่เบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่น คำ�ว่า พอเพียงก็ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่แบบลำ�บากตัวเอง กระเบียดกระเสียร พอเพียงคือการหาความพอดี หาจุดสมดุลของตัวเอง ถ้ารูว้ า่ ต้องการ อะไร คุณทำ�ไปเถอะ คุณมีความสุขแน่นอน”

-26-


พอดิน-พอดี แก้วมองว่าหัวใจของความพอเพียง นั้นคือการเริ่มต้นเข้าใจตัวเองก่อน ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่าต้องมาท�ำการเกษตร ตราบใดที่คุณหาตัวเองเจอ คุณจะเป็นนักเขียน เป็นพ่อค้า เป็นครู เป็นข้าราชการ เป็นอะไรก็ได้ ถ้าอาชีพนั้น คือตัวตนของเรา ในขณะที่หลายคนอาจจะติดภาพว่าพอเพียงต้องท�ำเกษตร หรือ ต้องจน ต้องอยู่บ้านดิน ต้องปลูกข้าว “ในหลวงท่านเคยตรัสอย่างเปิดกว้างมาก บอกว่าเราจะมีของทีฟ่ มุ่ เฟือยก็ได้ แต่วา่ ถ้า สิ่งนั้นไม่เบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่น ค�ำว่าพอเพียงก็ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่แบบล�ำบาก ตัวเอง กระเบียดกระเสียร พอเพียงคือการหาความพอดี หาจุดสมดุลของตัวเอง ถ้า รู้ว่าต้องการอะไร คุณท�ำไปเถอะ คุณมีความสุขแน่นอน” โจยิ้ม “แต่การสร้างบ้านดินมันท�ำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึน้ นะ มันท�ำให้ผมรูว้ า่ ตรงไหนควร ปล่อย ตรงไหนควรท�ำ ตรงไหนไม่ควรท�ำ ท�ำให้เรารูว้ า่ ธรรมชาติมนั ยิง่ ใหญ่มาก เรา ต้องรอจังหวะฝนหยุด ต้องรออะไร เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ แต่เรื่องที่ว่าได้ที่อยู่ อาศัย เรือ่ งสุขภาพดีมนั เป็นแค่ผลพลอยได้ ลึกๆ แล้วมันท�ำให้ผมมัน่ ใจในตัวเองมาก ขึ้น รู้ว่าเราจะสร้างบ้านอีกกี่หลังก็ได้ เราจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ มันมีความมั่นคงลึกๆ ในใจ มากกว่าได้สิ่งของมาครอบครอง” แม้ไม่ได้มจี ดุ เปลีย่ นทันใดว่าพวกเขาเข้าใจตัวเองตัง้ แต่เมือ่ ไรกัน แต่การมีชวี ติ และตัง้ ค�ำถามตัวเองในทุกๆ วัน ท�ำให้เขาค่อยๆ เรียนรู้ การเอาชนะตัวเอง จากคนเมืองที่มี ชีวิตลืมตาก็เห็นเมือง กับการหันกลับมาค้นพบศักยภาพภายในว่าตัวเองก็ท�ำได้ นั่น คือแรงส�ำคัญที่ท�ำให้ทั้งคู่มั่นใจ และเมื่อมั่นใจก็น�ำไปสู่ความเข้าใจ ว่าอะไรคือความ ต้องการที่แท้จริงในชีวิต

-27-


บ้านดินหลังแรก พวกเขาใช้เวลาสร้างนาน 5 เดือน ชีวิตของทั้งคู่ในปัจจุบันนี้ ชวนให้นกึ ถึงภาพยนตร์ญปี่ นุ่ เรือ่ ง Little Forest หญิงสาวผูห้ นั หลังให้ชวี ติ ในเมือง อาศัยอยูอ่ ย่างสงบกลางป่า ปล่อยให้ฤดูกาลน�ำพาชีวติ ด�ำเนินไป รายได้หลักมาจาก การขายข้าวสารที่ปลูกเองผ่านทางออนไลน์ ปลูกผักกินเองเพื่อลดรายจ่าย ผลไม้ ที่ปลูก เก็บเพื่อกินเอง หากใกล้หมดอายุก็รู้วิธีถนอมอาหาร ท�ำแยมผลไม้ นาน วันเข้าเพื่อนๆ ลูกค้าในเฟซบุ๊กก็อยากมาดู มารู้ มาเห็นวิถีชีวิต ทั้งคู่จึงเปิดคลาส เวิร์กช็อปเล็กๆ ชวนคนมาเรียนรู้การท�ำบ้านดินอีกหลัง ว่างก็สอนท�ำนา สอนท�ำ อาหาร สอนแปรรูป สอนถนอมอาหารท�ำแยมหรือเนยถั่ว วันดีคืนดีชวนคนกรุง มาท�ำพิซซ่าโฮมเมดโดยใช้วัตถุดิบจากแปลงผักใกล้ๆ “เราใช้ชีวิตแต่ละวันขึ้นอยู่กับฤดูกาล ร้อน ฝน หนาว ชีวิตก็แตกต่างกันไป ตั้งแต่ เตรียมตัวปลูกข้าว เพาะกล้าไว้ เตรียมการปลูกต้นไม้ ขอพันธุ์ไม้มาอนุบาลไว้ ตอนเช้าก็จะไปขุดหลุมเตรียมฟาง พอตอนเย็นเราก็เอาต้นไม้ลง แล้วก็รดน�ำ้ ต้นไม้ ช่วย ฤดูหนาวก็จะเป็นเรื่องเก็บเกี่ยวผลผลิต สีข้าว แพ็กข้าว รับออเดอร์ เย็บถุง ผ้า เพราะถ้าเราท�ำด้วยตัวเองหมดทุกอย่าง เราต้องวางแผน “เราไม่ได้คดิ ว่าเราจะประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร แต่เราท�ำเกษตรเป็นวิถชี วี ติ ” นี่ คือค�ำตอบที่แก้วย�้ำทิ้งท้ายกับเรา ซึ่งเราว่าการรู้จักตัวเองของทั้งคู่ รู้ว่าวันนี้ก�ำลัง ท�ำอะไรนี่ล่ะ สุดยอดความโรแมนติก (แบบชีวิตกลางดินนะ)

-28-


-29-


k

ano

เรื่อง

ch : Pim

n o i n i p o

ค�ำสอนของพ่อ

วัยเด็กของพวกเรา เราคุน้ เคยดีกบั ข่าวในพระราชส�ำนัก ยุคนัน้ แทบ จะเป็นหนึง่ ในช่องทางไม่มากนัก ทีเ่ ด็กๆ อย่างเราจะได้เห็นว่า ภาพ ของพระราชาที่ทรงงานหนักเป็นอย่างไร เติบโตขึ้นมา เราได้ฟัง ได้ยิน ได้อ่าน พระราชด�ำรัสของพระองค์ ผ่านการถ่ายทอดตามสื่อต่างๆ และท�ำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่า ค�ำสอนของพ่อเป็นเช่นไร และแม้ในวันทีพ่ อ่ ไม่อยูก่ บั เราแล้ว ค�ำสอนของพ่อกลับยิง่ แจ่มชัดขึน้ และอยู ่ กั บ พวกเราเสมอ พวกเราจึ ง ลองกลั บ มาถามตั ว เองว่ า ค�ำสอนใดที่ยังคงอยู่ในใจพวกเราเสมอ

อภิสิทธิ์ แก้วประเสริฐ (หม่อม)

อายุ 25 ปี อาจารย์ประจ�ำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม)

“ในฐานะทีผ่ มเป็นครู พระราชด�ำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทีผ่ มมัก เปิดอ่านเสมอและระลึกถึงอยู่เสมอ คือ... ‘ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอ�ำนาจ ห่วงต�ำแหน่ง ห่วงสิทธิ์ และห่วง รายได้กันมากเข้าๆ แล้ว จะเอาจิตเอาใจที่ไหน มาห่วงความรู้ ความดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่านั้น ก็จะค่อยๆ บั่นทอนท�ำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรเหลือไว้ พอที่ตัวเองจะภาคภูมิใจหรือผูกใจใครไว้ได้ ความเป็นครูก็จะ ไม่มีค่าเหลืออยู่ให้เป็นที่เคารพบูชาอีกต่อไป’ จากพระราชด�ำรัสนี้ หมายความว่า พระองค์ทรงเล็งเห็นความส�ำคัญของอาชีพ และท�ำให้ เราเข้าใจว่า ทุกวันทีเ่ ราด�ำรงอยูใ่ นวิชาชีพครูเพือ่ อะไร ไม่ใช่เพือ่ เงิน ทอง แต่เพื่อความรู้ของศิษย์ เมื่อเราทราบอย่างนั้น ในแต่ละวัน เรา จึงสอนศิษย์อย่างเต็มก�ำลัง เต็มความสามารถ เพื่อให้ศิษย์เป็นผู้มี ความรู้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด”

ถิรดา แสงสุวรรณ (โบว์)

อายุ 22 ปี รองชนะเลิศ Best National Costume Miss Grand Thailand 2016 และ Miss Grand Kalasin 2016

“ตั้งแต่เด็กๆที่เราได้รับชมผ่านสื่อ หรือพ่อแม่ก็จะสอนให้ประหยัด รูค้ า่ ของเงิน เห็นในหลวงทรงใช้ยาสีฟนั ทรงใช้ดนิ สอจนสัน้ กุด เราก็ ปฏิบัติตามทุกวันนี้ สบู่เหลวพอหมดก็จะมีเหลือติดขวดก็เขย่าน�้ำ อาบได้อีกรอบ โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน พอบีบไม่ออกก็เอากรรไกร ตัดครึ่งเปิดออกดูข้างในยังมีใช้ได้อีกเยอะเลย”

-30-


ณิชาภัทร อ่อนวงษ์ (ป่าน)

มนัส ดวงมณี (ฮาย)

อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาควิชาฟิสิกส์ สาขาฟิสิกส์วัสดุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อายุ 24 ปี วิศวกร

“เมือ่ นึกถึงค�ำพ่อสอน สิง่ แรกทีน่ กึ ถึงคือเรือ่ งราวความกตัญญู เพราะ พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างของลูกที่ดีและแสดงความรักของลูกที่ มีต่อแม่ โดยเฉพาะเวลาที่พระองค์ท่านทรงดูแลสมเด็จย่าด้วยตัว พระองค์เองทุกครั้ง แม้ว่าขณะนั้นจะมีข้าราชบริพารมากมายเราก็ จะเห็นภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประคองสมเด็จย่าด้วยพระองค์ เองเสมอ ท�ำให้เราหวนคิดได้วา่ ทุกวันนีถ้ งึ แม้วา่ เราจะเรียนหนัก แต่ ถ้ามีโอกาสเราก็จะต้องพยายามกลับบ้านไปหาพ่อ แม่ ย่า ป้าบ้าง เพื่อที่จะได้ดูแลพวกท่านในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และได้ใช้เวลาร่วมกัน

“ถ้านึกถึงค�ำพ่อสอน ผมจะนึกถึงเรื่องความเพียรพยายาม เหมือน ในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ที่พระองค์สอดแทรกคุณธรรม ที่สอนให้เราไม่ยอมแพ้และเดินต่อไปข้างหน้า แม้ว่าจะมีอุปสรรค ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าหากเรามีความเพียรพยายาม เหมือนกับพระมหาชนก เราจะไม่มีวันแพ้ครับ ความพยายามมี ส่วนส�ำคัญในชีวติ ตัง้ แต่เรือ่ งการเรียน และการท�ำงานได้ดคี รับ โดย เฉพาะเมื่อเราท�ำงานร่วมกับผู้อื่น หากทุกคนในกลุ่มล้วนมีความ พยายามก็จะท�ำให้งานขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วยิ่งขึ้น”

พิชญาภา พันธุ์เสือ (อ๋อม)

กณภัทร ไตรพรพัฒนา (โดนัท)

“ตอนนี้เราก�ำลังเรียนพยาบาลอยู่ เราเลยรู้สึกประทับใจทุกครั้ง เวลาที่เห็นภาพของในหลวงช่วยเหลือประชาชนที่ก�ำลังตกทุกข์ได้ ยาก สิง่ ทีพ่ ระองค์ทำ� อยูน่ นั้ คือการนึกถึงประโยชน์สว่ นรวมมากกว่า ประโยชน์ส่วนตนเสมอ ซึ่งค�ำสอนนี้มีความส�ำคัญมากในวิชาชีพ พยาบาล หากพยาบาลไม่มีจิตใจหวังดีแก่ผู้ป่วย การให้การดูแล ย่อมไม่ประสบผลในทางที่ดี อาจท�ำเกิดความเสียหายทั้งกับหน่วย งานของตนและชีวิตของผู้อื่นได้

“ค�ำสอนเศรษฐกิจพอเพียง จากค�ำสอนของพ่อท�ำให้เรามีสติในการ ใช้ชวี ติ ใช้จา่ ย มีกนิ มีใช้อย่างพอเพียง ใช้เท่าทีม่ ี เหลือก็ตอ้ งเก็บออม ไว้ใช้ยามไม่มี นอกจากนี้เราเรียนเกี่ยวกับพัฒนาชุมชนมา ค�ำสอน ของพ่อแทบจะเป็นหลักในการคิดท�ำงาน ตามความคิดของเราการ พัฒนาที่เกิดจากการพึ่งตนเอง พอมีพอกิน โดยอาศัยทรัพยากร ทีม่ อี ยู่ ไม่ตอ้ งไปเบียดเบียนผูอ้ นื่ คือการสร้างความสุขทีย่ งั่ ยืนทีส่ ดุ ”

อายุ 22 คณะพยาบาลศาตร์เกื้อการุณย์ (พยาบาลวชิระ) มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

อายุ 21 ปี คณะสังคมศาสตร์ สาขาการพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

-31-


เรื่อง

se : Mu

m Tea

d

r a w r fo

“...เด็กๆ ทำ�อะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำ�ให้เป็นคนมีระเบียบ และคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียนและทำ�การงานต่างๆ ได้โดย ถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่สร้างความสำ�เร็จและความเจริญให้แก่ตนเอง แก่ส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน...” พระบรมราโชวาท พระราชทานเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2521

Movie

Ghost in the shell

Ghost in the shell โกสต์ อิน เดอะ เชลล์ (มังงะโดย มาซามูเนะ ชิโระ) เรือ่ งราวของผูพ้ นั โมโตโกะ ไซบอร์กสาวในหน่วยงาน Section 9 ที่ปฏิบัติการหยุดยั้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ พร้อมด้วยประเด็น เชิงวิทยาศาสตร์และปรัชญาที่น่าติดตาม เมื่อในโลกอนาคต มนุษย์ สามารถแปลงจิตเป็นรหัสดิจิทัลในร่างหุ่นยนต์ได้ ไปจนถึงบรรดา หุ่นยนต์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็สามารถพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิต ได้จริงผ่านกระบวนการ Copy ได้ น่าสนใจว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ พูด ถึงการมีอยู่ของโลกอินเทอร์เน็ต ก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะครองโลก จริงจังเช่นวันนี้เสียอีก ก�ำหนดฉาย : 30 มีนาคม 2560

A Dog’s Purpose

สุนัข คือตัวแทนของเพื่อนแท้ คือตัวแทนของความซื่อสัตย์ และ แทนความหมายของสัตว์เลี้ยงเพื่อนรักได้อย่างดี ใครรักสุนัขหรือมี เพื่อนรักตัวนี้ไว้ในครอบครอง แนะน�ำเรื่องนี้ A Dog’s Purpose หนังโปรยเปิดหัวว่า “หมาตัวหนึ่ง ต้องเกิดไม่รู้กี่ชาติ และอะไร คือความหมายของชีวิต” จากนวนิยายระดับเบสต์เซลเล่อร์ โดย ดับเบิล้ ยู บรูซ คาเมรอน มาสูภ่ าพยนตร์ผลงานคลาสสิคโดย ลาสซี่ ฮอลสตรอม (จาก The Cider House Rules, Dear John, The 100-Foot Journey) หนังเล่าผ่านสายตาของเจ้าสุนขั ผูซ้ อื่ สัตย์ เบลีย์ ผู้จงรักภักดีต่อเจ้านายของเขาผ่านการกลับมาเกิดชาติแล้วชาติเล่า เสมือนว่ายังมีภารกิจที่ต้องท�ำให้ส�ำเร็จ หนังชวนให้เราค้นหาความ หมายที่แท้จริงของชีวิตผ่านมุมมองของเจ้าหมาน้อยตัวนี้ ก�ำหนดฉาย 2 มีนาคม 2560 -32-


Facebook

สานต่อที่พ่อท�ำ

เพราะเรื่องราวของพ่ออยู่ใกล้ตัวเราเสมอ เราอยากแนะน�ำให้ เพื่อนๆ รู้จัก เพจนี้ Facebook : สานต่อที่พ่อท�ำ เพจที่น�ำงานของ พ่อมากลั่นกรอง ให้พวกเราท�ำความรู้จักประวัติรวมถึงแนวคิดของ พระองค์ท่าน บทความบางบทถ่ายทอดได้เข้าถึงง่าย ลึกซึ้ง ผ่าน ความสนุกและสีสันของบรรดาตัวการ์ตูนกราฟิกต่างๆ ทั้งเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเกีย่ วกับในหลวง (รัชกาลที่ 9) เมือ่ ครัง้ ทรงพระเยาว์ทเี่ รา อาจไม่เคยรับรูม้ าก่อน เช่น มุมมองการเห็นคุณค่าของเงินทีเ่ คยตรัส ว่า เงิน 5 สตางค์นกี้ ต็ งั้ ตัวได้ (อยากรูว้ า่ เพราะอะไร คลิกติดตามใน หน้าเพจเลยนะ) เรือ่ งราวช่วงเวลาการเปลีย่ นสายเรียนของพระองค์ ในวัย 19 ชันษา ของเล่นวัยเด็กของพระองค์ เรือ่ งราวกระป๋องคนจน ของในหลวง หรือแม้แต่นสิ ยั ส่วนพระองค์ทไี่ ด้รบั การปลูกฝังมาตัง้ แต่ ทรงพระเยาว์ ถึงแนวคิด อยากได้อะไรต้องเก็บเงินเอง หรือแม้แต่หลักการท�ำงาน หากรู้อะไร ต้องรู้จริง ทั้งหมดคือแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกทุกคนล้วนเริ่มเดินตามรอยเท้านั้นได้ ค�ำว่าสานต่อ ที่พ่อท�ำ ไม่จ�ำเป็นต้องสานต่อเรื่องราวอันยิ่งใหญ่เลย ทุกอย่างเริ่มต้นได้จากสิ่งเล็กๆ ที่ตัวเราเอง Facebook : สานต่อที่พ่อท�ำ Facebook.com/fulfillingfatherslegacy

Book

การ์ตูนเทิดไท้องค์ราชัน

รัชกาลที่ 9 ในหลวงของเรา

“ทรงพระเจริญ”

โดย ส�ำนักพิมพ์อมรินทร์คอมมิกส์ เมือ่ ลายเส้นเรือ่ งราวของพ่อถูกถ่ายทอดผ่านการ์ตนู สีส่ ที ใี่ ครๆ ก็สมั ผัสได้งา่ ย ลึกซึ้ง และกินใจ หนังสือสือเล่มนี้น�ำเสนอพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ของพระองค์ที่ทรงกระท�ำต่อแผ่นดิน ด�ำเนินเรื่องตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ ราชาภิเษกสมรส พระราชกรณียกิจต่างๆ ในขณะเดียวกันก็นำ� เสนอเหตุการณ์ บ้านเมืองควบคู่ไปด้วย เรื่องราวถ่ายทอดอย่างละเอียดในรูปแบบของการ์ตูน สี่สีสวยงาม ซึ่งนอกจากเป็นการแสดงความจงรักภักดีแล้ว ตอกย�้ำให้เห็นว่า ทุกครั้งที่มีปัญหาก็มีแต่พระองค์เท่านั้นที่ทรงเป็นที่พึ่งของประชาชนชาวไทย อย่างแท้จริง หมายเหตุ : เนื้อหาเป็นการรวมกันของ การ์ตูนเทิดไท้องค์ราชัน รัชกาลที่ 9 “เล่ม 1 พระคือพลังแห่งแผ่นดิน” “เล่ม 2 เพือ่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม” และ “เล่ม 3 มหาราชกลางใจชน” น�ำมารวมเป็นเล่มเดียวพร้อมปรับปรุงเนื้อหาให้กระชับเข้าใจ ง่ายและครบถ้วน ในรูปแบบการ์ตูนสี่สีฉบับปกแข็งสวยงามน่าสะสม ราคา 199 บาท วางจ�ำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นน�ำทั่วประเทศ -33-


Finnish Lessons 2.0 :

ปฏิรูปการศึกษาให้ส�ำเร็จ บทเรียนแนวใหม่จากฟินแลนด์

โดย Pasi Sahlberg แปลโดย วิชยา ปิดชามุก ส�ำนักพิมพ์ Openworlds ในปี 2000 ฟินแลนด์เผชิญปัญหาการศึกษาในการสอบวัดผลของเด็กนักเรียน มีคะแนนต�่ำลงเรื่อยๆ นับเป็นการปรับตัวขนานใหญ่ ในภาคของการศึกษา ฟินแลนด์รว่ มตัง้ ค�ำถามว่าเกิดอะไรกับพวกเขา และช่วงเวลาธันวาคมของ ปี 2001 ฟินแลนด์จงึ เปลีย่ นไปตลอดกาล นัน่ คือการปรับตัวยกขบวนทัง้ ภาคการศึกษา ครู โรงเรียน ผู้ปกครอง ปาสิ ซอห์ลเบิร์ก นักการศึกษาชั้นน�ำของฟินแลนด์และโลก จะพาคุณไปไขความลับทีว่ า่ ท�ำไมเยาวชนฟินแลนด์มผี ลการสอบเป็นเลิศติดอันดับ ต้นๆ ของโลก ท�ำไมครูถึงกลายเป็นอาชีพในฝันของเด็กฟินแลนด์ พวกเขามี การบ้าน แต่ไม่ใช่การบ้านชนิดที่ท�ำเพราะต้องท�ำ ทุกโรงเรียนมีโปรเจ็กต์พิเศษ ที่มุ่งเน้นไปที่ความสนใจเฉพาะของนักเรียน ทุกโรงเรียนให้ความส�ำคัญกับความ เท่าเทียม และไม่ได้วัดกันที่คะแนนสอบ นับเป็นหนังสือชวนอ่าน เพื่อให้เราน�ำ บทเรียนจากฟินแลนด์มาปรับใช้อย่างสร้างสรรค์สู่วงการการศึกษาไทย (บ้างนะ) วางจ�ำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นน�ำทั่วประเทศ

Design & Culture Objects of Desire Store (ODS)

ถ้าคุณเป็นคนชอบของทีม่ เี อกลักษณ์เฉพาะ ชนิดแบบเดียวชิน้ เดียว แนะน�ำว่าลอง มาที่นี่ ชั้น 3 (Creative Lab) สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม เมื่อกรม ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัว ODS แหล่งรวมสินค้า ไลฟ์สไตล์และของแต่งบ้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ความพิเศษอยู่ที่ของ แต่ละชิน้ ล้วนมีเรือ่ งราวทีไ่ ด้ถา่ ยทอดออกมาผ่านรากเหง้าของภูมปิ ญ ั ญาไทย พร้อม ดีไซน์โดดเด่นการันตีโดยรางวัลต่างๆ พิเศษสุดกับโซน Isaan Objects (อีสาน อ็อบเจ็กต์) ที่หยิบเอาเอกลักษณ์ของภาคอีสานผสมผสานที่ตรงเทรนด์และตอบ โจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างไม่ละทิ้งรากเหง้า ที่ ODS มีสินค้าที่ชวนกระตุกต่อมคิดทั้งชุดเทเบิลแวร์ท�ำจากไม้และเซรามิก เทียนหอมธรรมชาติทใี่ ช้วสั ดุรไี ซเคิลมาท�ำบรรจุภณ ั ฑ์ แถมยังมีแบรนด์ทเี่ ป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง Lukyand (ลูกยาง) ที่น�ำเอาสิ่งของมาแปรรูปมาเปลี่ยน มุมมองใหม่ เช่น น�ำหญ้าเทียมทีไ่ ม่ใช้แล้วมาเปลีย่ นเป็นกระเป๋าใส่ของใบเล็ก และ Scrap Shop ที่น�ำถุงใส่น�้ำยาล้างไตในโรงพยาบาลมาแปรรูปเป็นกระเป๋ารูปทรง ต่างๆ หากก�ำลังมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ พุ่งตรงมาโซนนี้เลย ชั้น 3 (Creative Lab) สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม -34-


Weekend Recommend

Made Here on Earth (MHOE)

สตูดิโอแห่งความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานของความยั่งยืน ที่นี่คืออะไรน่ะเหรอ ที่นี่คือ คอมมูนติ สี้ เปซทีร่ วมตัวกันของผูท้ ชี่ นื่ ชอบงานคราฟต์สไตล์ทำ� มือโดยมุง่ เน้นไปทีง่ านไม้ เป็น Co-workshop space ที่มีเครื่องมือ เครื่องจักรให้นิสิต นักศึกษา หรือผู้สนใจเข้ามาใช้บริการได้ ตัวอย่าง เช่น คุณอยากทดลองท�ำงานประดิษฐ์ศลิ ปะจากไม้สกั ชิน้ แต่ขาดเครือ่ งไม้เครือ่ งมือให้ทดลอง Co-working แห่งนี้ คือค�ำตอบ โดยมีจุดประสงค์ส�ำคัญคือเพื่อให้คุณสามารถท�ำงานได้โดยท�ำความรู้จักพื้นฐานของเครื่องจักรนั้นๆ จะงานไม้เจาะรู งานขึ้นแบบ งานประกอบ งานฉลุ ที่นี่มีตัวจริงเสียงจริงให้ค�ำแนะน�ำ ความน่าค้นหาของที่นี่ นอกจากมุมเวิร์กช็อปแสนสนุก ยังมีโซนกาแฟจากร้าน SATI Handcraft Coffee (เจ้าเก่าที่เคยอยู่ด้านหน้า สตูดิโอชามเริญ) และร้านไอศกรีม Frozen Yogurt คลายร้อนให้เพลิดเพลินอีกด้วย ภาพประกอบจาก Facebook : Made Here On Earth, SATI Handcraft Coffee https://www.flickr.com/photos/kentaroi/5990020858/

Back to the past

Vintage et Industrial

ถ้าอยากรู้ว่าคนยุคก่อนเขาดื่มด�่ำ เขาใช้ชีวิต เขารื่นรมย์กับสิ่งใด ลองเข้าเพจนี้เลย Vintage et Industrial เพจที่รวบรวมภาพถ่าย ในอดีต ไปจนถึงคลิปวิดโี อทีถ่ งึ เก่าแต่เก๋ คิดดูสิ มีคลิปวิดโี อสอนท�ำ เครือ่ งส�ำอางเมือ่ เกือบ 50 ปีทแี่ ล้ว มีภาพเครือ่ งบินจากสายการบิน PAN ที่ท�ำหน้าที่ขนส่งช็อกโกแลต สาวๆ ยุคแกสต์บี้ไปจนถึงยุค ม็อดดี้ ที่เห็นแล้วชวนให้เราอยากท�ำทรงผม กรีดขนตา หาชุดไป งานเลีย้ งแบบนีบ้ า้ งจัง หรือเรือ่ งราวของหนุม่ ๆ ทีอ่ ยากแต่งรถสักคัน มองหาวิทยุ เครื่องเสียงชิ้นโปรด รวมถึงหน้าประวัติศาสตร์ต่างๆ ก็ได้ถูกบันทึกไว้ที่นี่อย่างรื่นรมย์และคลาสสิก เพจนี้จัดเต็มเพียบ -35-


ss

e Pa

us by M

2 go

Muse เปิดคอลัมน์ใหม่ ชวนเพื่อนๆ มาท�ำความรู้จักกับพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ ที่เข้าร่วม Muse Pass Season 5 ฉบับนี้ เราอุน่ เครือ่ ง จัดหมวดมาให้เพือ่ นๆ เลือกสนุกได้ตามใจชอบ จะเป็น ที่ไหน ไปดูกันเลย

ด้านการเกษตร พอเพียง

ส�ำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว

เข้าใจงานของพ่อผ่านการเรียนรู้ แนะน�ำที่นี่เลย องค์การเพื่อสร้างสรรค์ภูมิปัญญา สังคมเกษตรไทยให้พัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใน รูปแบบพิพธิ ภัณฑ์ชวี ติ พิพธิ ภัณฑ์ประกอบด้วย 9 อาคาร มีทางเดินเชือ่ มต่อกัน จัด แสดงเรือ่ งราวทางการเกษตรผ่านเทคโนโลยีทนั สมัยและหุน่ จ�ำลอง ครอบคลุมเนือ้ หา งานการเกษตรทุกด้าน และจ�ำลองสภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกภูมิภาคของ ไทย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์ประชุมสัมมนาด้านวิชาการเกษตร และ ยังเป็นแหล่งการศึกษาทางด้านโครงการพระราชด�ำริ ตัง้ อยูท่ ี่ หมู่ 13 ถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 46-48 ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญ­ เวช นวนคร ต.คลองหนึง่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 โทรศัพท์ 0-2529-2212 เปิดบริการ ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดบริการวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ -36-


อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่

แหล่งเรียนรูบ้ นเนือ้ ทีก่ ว้างขวางกว่า 500 ไร่ เป็นทีร่ วบรวมพรรณไม้ นานาชนิดทั่วทุกมุมโลก โดยมีการจัดแสดงเป็นสวนต่างๆ ตกแต่ง ด้วยพันธุไ์ ม้สวยงามและภูมสิ ถาปัตยกรรม เพือ่ ให้สอดคล้องกับพืน้ ที่ การจัดแสดง โดยแบ่งอุทยานเป็นดังนี้ สวนไทย สวนนานาชาติ และ สวนองค์กรต่างๆ หากเพือ่ นๆ คนไหนมีโอกาสแวะไปเทีย่ วเชียงใหม่ อย่าลืมซื้อบัตร Muse Pass และไปเรียนรู้ด้วยกันนะ ตั้งอยู่ที่ 334 หมู่ 3 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 121 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50100 โทรศัพท์ 053-114-110 โทรสาร 053-114-196 เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00น.

ด้านการประหยัด/ลงทุน

INVESTORY พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน

เพราะการลงทุนคือการเรียนรู้ และคุณเองควรมีภูมิคุ้มกันด้านนี้ เอาไว้ตั้งแต่วัยรุ่น ที่นี่คือศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเงินและการ ลงทุน โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งได้แก่เยาวชนไทย ให้มี ความสนใจเรือ่ งการวางแผนทางการเงิน และเกิดแรงบันดาลใจทีจ่ ะ เริม่ ต้นลงทุน ตลอดจนเข้าใจถึงความส�ำคัญของตลาดทุนและบทบาท หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ ชั้นใต้ดิน อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เลขที่ 93 ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2009-9000 ต่อ 3566 เวลาท�ำการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดท�ำการวันจันทร์) เวลา 09.30-19.00 น. -37-


ด้านการแพทย์

พิพิธภัณฑ์ศิริราช

(แบ่งเป็น 2 พิพิธภัณฑ์ คือ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานและ พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช) พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานสร้างขึ้นบนพื้นที่ประวัติศาสตร์ จาก เดิมที่เคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลัง ต่อมาได้มีการสร้างสถานี รถไฟธนบุรีและโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน ภายในจัดแสดง ประวัติศาสตร์ของพื้นที่บริเวณนี้ด้วยวัตถุทรงคุณค่าหาดูได้ยาก น�ำเสนอผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีน�ำสมัย นับเป็นพิพิธภัณฑ์ น่าสนุก หากอยากท�ำความรู้จัก พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ให้ความรู้เชิงลึกทางวิชาการแพทย์ และพั ฒ นาการจั ด แสดงให้ เ หมาะสมกั บ ปั จ จุ บั น ท� ำ ให้ ยั ง เป็ น ที่สนใจของคนทั่วไป พิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมมี 6 แห่ง รวมเรียก ว่า “พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช” ตัง้ อยูท่ ี่ 2 ถ.วังหลัง แขวงศิรริ าช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์ 0-2419-260, 0-2419-2618-19 โทรสาร 0-2411-0166 เปิดท�ำการ เวลา 10.00-17.00น. (หยุดจ�ำหน่ายบัตร เวลา 16.00น.) หยุดวันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ด้านการทหาร

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

อนุสรณ์สถานแห่งชาติ สร้างขึ้นในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่บูรพมหากษัตริย์และวีรชนไทย ผู้เสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติ จารึกเหตุการณ์การรบครั้งส�ำคัญ แหล่งค้นคว้าทางประวัตศิ าสตร์ความเป็นชาติไทย เป็นสถานทีเ่ ชิดชู เกียรติของบรรพบุรุษที่พลีชีพเพื่อชาติ กระตุ้นเตือนให้คนไทยได้ เห็นภัยสงครามในอดีต รวมถึงเป็นที่ศึกษาหาความรู้และพักผ่อน หย่อนใจ ตั้งอยู่ที่ 9 หมู่ 16 ถ.พหลโยธิน ต.คูคต อ.ล�ำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ 0-2533-8467, 0-2532-1021 โทรสาร 0-2533-8467, 0-2532-1021 เปิดท�ำการทุกวัน เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-15.00 น. -38-


ด้านประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

บ้านฮอลันดา

ศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ ที่นี่นับเป็น แหล่งเรียนรู้ที่ไม่เน้นน�ำเสนอโบราณวัตถุ แต่เป็นนิทรรศการที่เน้นการให้ข้อมูล ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องราวของชาวดัตช์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ใน อดีต อโยธยาเปรียบเป็นสถานีการค้าของชาวยุโรป และหนึง่ ในนัน้ ชาวดัชต์ให้เข้า มาฝากร่องรอยประวัตศิ าสตร์ นับเป็นหนึง่ ในแผนทีม่ รดกทางวัฒนธรรมของยุโรป ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ซอยคานเรือ (ติดกับวัดพนัญเชิง) ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000 เปิดท�ำการทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ปิดท�ำการทุกวันจันทร์-อังคาร โทรศัพท์ 035-235-200

Let’s Muse Together ใครๆ ก็เที่ยวกัน

ติดตามความสนุกผ่านการเรียนรู้อีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/musepass

-39-


Speak

เรื่อง

English

Please

ิส : วาร

มชัย

พรห

you เช้าวันหนึ่งในวันท�ำงานปกติ ผมเจอเพื่อนที่รถไฟฟ้าเลยเดินเข้าไป ทักตามประสา ผลปรากฏว่า นางสปีกอิงลิชใส่เรารัวๆ เฮ้ย...ทักผิด คนเปล่าวะ แต่นางบอกเป็นภาษาอังกฤษว่า “ไม่หรอก ฉันเนีย่ แหละ เพื่อนเธอคนเดิมเองค่ะ!” เราก็ขมวดคิ้วถามไปว่าแล้วแกพูดภาษา ปะกิตใส่เราท�ำไม นางเลยชี้ไปที่การ์ดที่ใส่ไว้ตรงต�ำแหน่งที่เราคิด ว่าเป็นบัตร พนง. ส่งมาให้อ่าน ได้ความว่า... “สวัสดีค่ะ วันนี้ คือ EnglishDay กิจกรรมการฝึกภาษาอังกฤษของ ดิฉัน ซึ่งเป็นกิจกรรมประกอบการเรียนภาษาอังกฤษของโรงเรียน XXX โดยในทุกๆ วัน English Day ดิฉนั ต้องสือ่ สารด้วยภาษาอังกฤษ ตลอด 1 วันเต็ม เพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษในชีวิตประจ�ำวัน ของดิฉัน ด้วยเหตุนี้ ดิฉันจึงใช้ภาษาอังกฤษกับคุณ ได้โปรดเข้าใจ และจะขอบคุณมากหากคุณตอบโต้ดว้ ยภาษาอังกฤษกับดิฉนั ” (ข้อ ความจริงๆ สั้นกว่านี้ แต่ความรวมๆ ก็ประมาณนี้แหละ) เราเห็นการ์ดก็ถึงบางอ้อว่านางฝึกภาษาอังกฤษอยู่นี้เอง เอาซี่! มา ลองสปีกกันดูสักตั้ง งูๆ ปลาๆ ด�ำน�้ำไป ถามสบายดีไหม? ไปไหน? พ่อแม่ชื่ออะไร? (ถามเพื่อ? ฮ่าๆๆ) ก็ชวนเพื่อนคุยๆ ไป ซึ่งก็เรื่อง ทั่วๆ ไปนั่นแหละ สุดท้ายก็ต้องวกกลับมาถามว่า แกใช้การ์ดใบนี้ ไม่โดนคนอื่นมองแปลกๆ บ้างเหรอ แน่นอนว่าค�ำตอบที่ได้จากนาง คือ การมองบน ท�ำปากสระอิ และท�ำจมูกบานๆ พร้อมพ่นลมหายใจ แรงๆ หนึ่งที

-40-


พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ ได้เวลามาสาดใส่ บน 2 หน้าตรงนี้เลย !

มาส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ ผ่านบทความถ่ายทอดพลังบวก ตีพิมพ์คอลัมน์ ‘Muse You’ ใน Muse Mag นิตยสารราย 3 เดือน พร้อมรับของที่ระลึกจากมิวเซียมสยาม! ส่งบทความและรูปภาพประกอบ (ถ้ามี) เข้ามาที่ musemag@ndmi.or.th Inbox : Facebook.com/museumsiamfan ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.museumsiam.org

ช่วงหนึง่ เราใส่ใจกับตัวเลข 2-3 ตัว ในการตัดสินค่าของชีวติ มากกว่า ทักษะและความสามารถที่มี มองว่าน่าเสียดายก็น่าเสียดายนะครับ แต่ทผี่ า่ นมา ท�ำให้เรารูส้ กึ ว่าบางหน่วยงานและบางบริษทั เริม่ ให้คา่ กับตัวเลขเหล่านี้น้อยลงและหันมาใส่ใจกับแฟ้มผลงานและความ สามารถมากขึ้น หลายๆ ครั้งที่ผมได้คุยกับพี่ๆ HR หรือเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ท�ำงานด้านนี้ก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คะแนนเหล่านี้เขา เธอเล่าต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความอยากเมาท์บวกกับความอัดอั้นที่เธอ ให้ยื่นเพื่อจะดูว่าจบการศึกษาจริงไหม ที่เหลือคือผลงานและความ ต้องประสบพบเจอออกมาเยอะมากอีกหลายต่อหลายเรื่อง จนมา สามารถล้วนๆ ถึงเรื่องของคุณป้าส้มต�ำที่นางสนิท แล้วบิงโกต้องไปซื้อส้มต�ำใน วัน English Day พอดี สิ่งที่เธอคิดว่าป้าจะตอบไม่ได้หรือด่านาง... โชคดีของผมนิดหน่อยนะครับ ตั้งแต่ประถมจนถึงมหาวิทยาลัย ที่อาจารย์ที่ได้เรียนด้วย หลายๆ ท่านมักจะหาวิธีการสอนและการ ตรงกันข้าม! คุณป้ากลับตอบภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว น�ำเสนอให้เด็กสมาธิสั้นอย่างเราตั้งใจฟังและจดจ�ำน�ำอะไรมาใช้ได้ “ยูๆ โทเมโทไหม? ซอล์ทแครป (ปูเค็ม) ออร์โน? โนสติ๊กกี้ไรซ์ บ้าง แถมด้วยการเคีย่ วเข็ญให้คะแนนออกมาสวยงามพอทีจ่ ะเงยหน้า ทูเดย์ จัสเฮฟอะขนมจีน วอนท์ไหม?” นางเล่าอย่างออกรส เล่าไป เชิดได้ตอนส่งใบคะแนนให้คนอื่นดู ยังคงนึกขอบคุณครูบาอาจารย์ ก็พานข�ำกันด้วยความน่ารักของคุณป้า หลังจากวันนั้นเพื่อนเราก็ ทุกท่านที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เราสามารถใช้ท�ำงานและเอา กลับไปซื้อส้มต�ำอีก เลยถามคุณป้าว่าท�ำไมถึงพูดได้ คุณป้าบอกว่า ตัวรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ ท�ำให้เราสนุกที่จะเรียนรู้และใช้ชีวิตไป มีฝรั่งมาซื้อส้มต�ำกับนางบ่อย ป้าเลยพอจะเข้าใจบ้าง แต่ช่วงแรกก็ พร้อมๆ กัน โดยไม่ต้องกลัวผิดหรือถูก ไม่ได้เหมือนกัน จะพูดก็กลัวผิด อาศัยตอนฝรั่งมาก็ถามคนที่พูดได้ ว่าอันนี้อันนั้นเรียกว่าอะไร พอต่อมาก็พูดงูๆ ปลาๆ พูดไป ถูกบ้าง แต่ถ้ามองมุมกลับ บางอย่างที่เราจ�ำเป็นต้องใช้แต่ไม่มีสอนใน โรงเรียนจะท�ำอย่างไรล่ะ นี่แหละความชาญฉลาดของสิ่งมีชีวิต ไม่ถูกบ้าง ที่รู้จักปรับตัว เรียนรู้ และหาวิธีฝึกฝนให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่าง ป้าให้มุมมองทิ้งท้ายกับเพื่อนซึ่งดีมากๆ เลย คือ ป้าบอกว่า “ป้า ราบรืน่ เมือ่ ถึงเวลา ทุกคนจะหาวิธใี นการปรับตัวและเรียนรูท้ จี่ ะอยู่ เรียนมาน้อยลูก ไม่มีตังค์เรียนหรอก ก็อาศัยฝึกเอานอกห้องเรียน กับสิง่ เหล่านัน้ ได้ นัน่ คือสิง่ ทีเ่ ราได้สงั่ สมผ่านประสบการณ์ทำ� ให้เรา เนี่ยแหละ ผิดๆ ถูกๆ ก็พูดไป ผิดก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยจะได้รู้ว่า เข้มแข็งและแก่กล้าอยู่ได้ในสังคมนี้ มันผิด ถ้าเอาแต่กลัวผิดก็ไม่ต้องท�ำมาหากินพอดี” ดังนั้น จะบอกว่าตัวเองหมดวัยเรียนแล้ว...ผมว่ามันคงไม่ใช่หรอก ชอบความคิดของคุณป้าส้มต�ำนะครับ เพราะว่าในโลกของการเรียน เพราะค�ำว่า “เรียนรู้” มันไม่ใช่แค่ในห้องเรียนหรือพิพิธภัณฑ์แล้ว ปัจจุบนั น้องๆ หนูๆ (รวมถึงตัวเราก็เป็นนะ) ในห้องเรียนทีค่ วรเรียน ผมว่าเราอยู่ในบ้าน ห้าง วัด ข้างถนน หรือห้องน�้ำ ก็เรียนรู้ได้ อยู่ เรากลับไปจดจ่ออยู่กับเกรด คะแนน หรือการสอบ มากกว่าการน�ำ ที่เราเปิดหัว เปิดตัว เปิดใจ ที่จะเรียนรู้มันหรือเปล่า สิ่งที่คุณครูสอนน�ำไปใช้ในชีวิตประจ�ำวัน สุดท้ายตัวเราเองจึงกลาย เป็นราชาโต๊ะสอบแทน พอท�ำการสอบได้ไม่ดีหรือมีเหตุการณ์ให้ วันนี้ เรานึกเล่นๆ ดูสิครับว่ามีอะไรที่ท�ำไม่ได้บ้าง แล้วเราลองหาวิธี รูส้ กึ ไม่ดใี นห้องเรียน จิตใจก็ทำ� การต่อต้านการศึกษาไปโดยปริยาย เรียนรูท้ กั ษะแล้วหรือยัง ถ้ายัง...เริม่ วันนีก้ ไ็ ม่สายไปนะครับ เริม่ ฝึก พาลให้วิชาต่างๆ ที่เราควรจะเรียนเพื่อน�ำไปใช้ชีวิตกลับถูกแพ็คใส่ ที่ค�ำว่า “ฮัลโหล” “แต๊งก์กิ้ว” “กู๊ดบาย” “คอนเฟิร์ม!” พานแล้วแรปพลาสติกใสส่งคืนกลับไปไหนก็ไม่รู้อย่างน่าเสียดาย นางเริม่ ต้นเล่าตัง้ แต่ครัง้ แรกทีน่ างใช้ English Day ด้วยการประเดิม จากป้าข้างบ้านว่า “กระแดะ” พร้อมกับเอาไปเมาท์กันต่อว่า นาง ดัดจริต แค่ท�ำงานในเมืองท�ำเป็นหัวสูงพูดภาษาอังกฤษ บางทีก็จะ ถูกคนอื่นๆ มองว่าดัดจริตไปเลยก็มี บางคนดีๆ หน่อยก็จะเข้าใจ และพยายามพูดภาษาอังกฤษกับนาง

-41-


: ะภาพ am ล แ ง เรื่อ m Si eu Mus

n

i k c e ch

“Muse All Year : ฉลาดคิดพิพิธเพลิน”

มิวเซียมสยามกางปฏิทินความสนุกรับปี 2560 ในอนาคตอันใกล้นี้ มิวเซียมสยามจะกลายเป็นจุดท่องเที่ยวแรก (First Stop Destination) บนเกาะรัตนโกสินทร์ ที่พร้อมต้อนรับ นักท่องเทีย่ วทัง้ ชาวไทยและต่างชาติตงั้ แต่กา้ วแรกทีข่ นึ้ มาจากรถไฟ ใต้ดินสถานีสนามไชย โดยมิวเซียมสยามได้ปรับปรุงอาคารสถานที่ ใหม่ทั้งหมด พร้อมพัฒนานิทรรศการถาวรชุดใหม่ “ถอดรหัส ไทย” ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์สุดอลังการในฐานะแลนด์มาร์ก (Landmark) แห่งใหม่ของประเทศไทย เปิดบันทึกหน้าแรกแห่งความ ประทับใจให้กับคนทุกเพศทุกวัยที่มีโอกาสได้เข้ามาสัมผัส นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อ�ำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2560 มิวเซียมสยาม เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ของไทย ภายใต้แคมเปญ “Muse All Year : ฉลาดคิดพิพิธเพลิน” ที่จะยก ขบวนกิจกรรมสุดสนุกสนานผสานสาระมาเสิร์ฟให้กับประชาชน ตลอดทั้งปี ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูมิภาค โดยมีกิจกรรมที่จัด ขึน้ ภายในมิวเซียมสยาม อาทิ นิทรรศการหมุนเวียนชุด “ต้มย�ำกุง้ ” ทีเ่ ตรียมเปิดในเดือนมีนาคม นิทรรศการหมุนเวียนชุด “สิง่ ประดิษฐ์ ไทย DIY” ทีเ่ ตรียมเปิดในเดือนพฤษภาคม รวมถึงการเปิดตลาดนัด อินดี้ “น๊อยซ์มาร์เก็ต 6” ในเดือนมิถุนายน งานเทศกาลเที่ยว พิพิธภัณฑ์กลางคืน “ไนท์แอตเดอะมิวเซียม 7” ในเดือนธันวาคม ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดภายนอกมิวเซียมสยาม เช่น “มิวเซียมติดล้อ” พิพธิ ภัณฑ์ในตูค้ อนเทนเนอร์ทเี่ คลือ่ นทีไ่ ปจัดแสดง ทั่วไทย “มิวส์คาราวาน” ขบวนรถเรียนรู้ที่เข้าไปเสิร์ฟสาระความ สนุกให้กับเยาวชนถึงในโรงเรียน การเปิดตัว “บัตรมิวส์พาส” ฯลฯ ทัง้ นี้ มิวเซียมสยามตัง้ เป้าให้มคี นไทยเข้าแหล่งเรียนรู้ 200,000 คน ด้าน นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการ ตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน -42-


การท่ อ งเที่ ย วถื อ เป็ น รายได้ ห ลั ก ของประเทศ และประชาชน ส่วนใหญ่เห็นความส�ำคัญในการเดินทางท่องเทีย่ วมากขึน้ ตลอดจน เป็ น ที่ ท ราบกั น ดี ว ่ า ประเทศไทยเป็ น จุ ด มุ ่ ง หมายปลายทางของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 กว่าล้านคนในปีที่ผ่านมา โดยพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรูถ้ อื เป็นหนึง่ ก�ำลังส�ำคัญในการส่งเสริมการท่องเทีย่ ว ของประเทศไทย อันจะช่วยมอบประสบการณ์อันหลากหลายให้ กับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตความ เป็นอยู่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และยังเป็นแหล่งรวบรวม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนโบราณวัตถุล�้ำค่าต่างๆ ที่สะท้อนถึง เอกลักษณ์ความเป็นไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะหน่วยงานที่มี บทบาทด้ า นการส่ ง เสริ ม การตลาดการท่ อ งเที่ ย วได้ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ศั ก ยภาพของพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ แ ละแหล่ ง เรี ย นรู ้ ข องไทยที่ มี อ ยู ่ อ ย่ า ง หลากหลาย จึงมุ่งกระตุ้นและสร้างกระแสให้เกิดการท่องเที่ยวเชิง แหล่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลให้ ความส�ำคัญ โดยในปี 2560 ททท. ได้รว่ มผลักดันให้มวิ เซียมสยาม เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศไทย ในฐานะ “ศูนย์กลางการ ท่องเที่ยวเชิงแหล่งเรียนรู้และวัฒนธรรมแห่งเกาะรัตนโกสินทร์” เพือ่ สร้างจุดหมายปลายทางในการท่องเทีย่ ว (Tourist Destination) ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจ�ำ อันจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว เชิ ง แหล่ ง เรี ย นรู ้ ใ นลั ก ษณะเครื อ ข่ า ยสถานที่ ท ่ อ งเที่ ย วบนเกาะ รัตนโกสินทร์ต่อไป

และแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะรัตนโกสินทร์ได้อย่างรวดเร็วและตรง จุด โดยเมือ่ ขึน้ จากสถานีดงั กล่าวก็จะได้พบกับ “มิวเซียมสยาม” ซึง่ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวแรก (First Stop Destination) ที่ทุกคนจะต้อง แวะชมก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง ไม่วา่ จะเป็นพระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรตั นศาสดาราม (วัดพระ แก้วมรกต) ป้อมพระสุเมรุ สวนสันติชัยปราการ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ)์ ปากคลองตลาด นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ รวมไปถึงพิพธิ ภัณฑ์และแหล่งท่องเทีย่ วเชิงวัฒนธรรม อีกมากมาย ส� ำ หรั บสถานี สนามไชยเป็ น หนึ่ ง ในสถานี ข องเส้ น ทางโครงการ รถไฟฟ้าสายสีน�้ำเงิน อยู่ในส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และ หัวลําโพง–บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร และเป็นสถานีเดียว ที่มีตัวสถานีอยู่ ณ ใจกลางพื้นที่ชั้นในของเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในขอบเขตระหว่างแม่นำ�้ เจ้าพระยากับคลองคูเมืองเดิม โดยการ ออกแบบภายในมีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งออกแบบโดย รศ. ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ สาขา ทัศนศิลป์ ทีใ่ ห้ความรูส้ กึ เหมือนเป็นท้องพระโรงในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการประดับด้วยเสาสดุมภ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทางเดิน ลง ลายกระเบือ้ งเป็นดอกพิกลุ ปลายเสาประดับด้วยบัวจงกลปิดทองค�ำ เปลว พื้นและผนังจ�ำลองมาจากก�ำแพงเมืองประดับด้วยเสาเสมา ของพระบรมมหาราชวัง เพดานเป็นลายฉลุแบบดาวล้อมเดือน ปิดทองค�ำเปลว เพื่อให้สื่อถึงความทรงคุณค่าและเอกลักษณ์ของ วัฒนธรรมไทย

นายกิตติกร ตันเปาว์ ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายวิศวกรรมและสถาปัตย์ การ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า “รถไฟฟ้า ติดตามข่าวสารและกิจกรรมสนุกๆ ได้ตลอดทั้งปีที่ ใต้ดินสถานีสนามไชย” จะช่วยให้การเดินทางของประชาชนและ www.museumsiam.org หรือ www.facebook.com/museumsiamfan นักท่องเที่ยวสะดวกสบายมากขึ้น และสามารถเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ -43-



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.