greentourism “นายรอบรู้” หัวใจสีเขียว พาเที่ยวทั่วไทย
www.NaiRobRoo.com
ฯ ณ ร ร ุ พ ส ุ ่ ง ุ ท ุ ลย ี่ ย ขท า น � ำ ท น ี ค ิ ถ ู้ ี นรว เรย
“ตัวฉันเกิดมาเป็นหนุ่มสุพรรณ ทํานาตากแดดทั้งวันจน ตัวฉันนั้นมันดําปิ๊ดปี๋ สําเนียงภาษา...ฟังดูก็เชยสิ้นดี เพื่อนฝูง ล้อกันป่นปี้ ว่าพี่ก็หมาน้องก็หมา...” บทเพลงชวนอมยิ้มในระหว่างรถแล่นเข้าสู ่ จ. สุพรรณบุรี โดยมี ภาพทุ่งนาเขียวขจีสองข้างทางต้อนรับผู้มาเยือน จากกรุงเทพฯ เดินทางมาเพียง ๑๐๗ กม. วันว่างของเราก็เต็ม ไปด้วยรอยยิ้ม แถมด้วยความปลอดโปร่งโล่งใจจากภาระวุ่นวายใน เมืองใหญ่ ขับรถช้าๆ เลาะเลียบชมทุง่ นาทีข่ า้ วก�ำลังออกรวง หรือลง เดินลัดเลาะไปตามคันนา นั่งเล่นตามห้างนาหลังน้อยที่พบเจอ ก็อาจ เคลิ้มไปว่าตนเป็นอีเรียมนั่งคอยไอ้ขวัญ... ในท้องนามีอะไรให้ดมู ากกว่าต้นข้าว ลองสังเกตดีๆ จะเห็นเหล่า แมลงตัวน้อยๆ สีสันแปลกตา อีกทั้งปูปลาตามท้องร่อง นกปากห่าง ตัวโตและนกยางเปียสีขาวโบกบินให้เห็นเป็นระยะๆ ที่น่าสงสาร
เห็นจะเป็นเจ้านกเอี้ยง ได้แต่บินชะเง้อชะแง้หาควายเฒ่าให้เกาะหลัง เพราะตั้งแต่ควายเหล็กถือก�ำเนิดขึ้นมาในวงการท�ำนา เหล่าบรรดา ควายไทยก็พากันตกงานไปเกือบหมด จนเหลือเพียงเรื่องเล่าให้เด็ก รุ่นหลังฟังเป็นนิทานก่อนนอน จากตัวเมืองสุพรรณฯ มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปอีกราว ๒๐ กม. ก็ถึง อ. ศรีประจันต์ อ�ำเภอเล็กๆ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่ การหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อน และที่นี่เองมีควายตัวเป็นๆ ให้ ได้พบเห็น ทั้งควายเด็ก ควายหนุ่ม และควายเฒ่า เพื่อนซี้ของเจ้า นกเอี้ยง เอ้า ! ทุกคนพร้อมไปเรียนรู้เรื่องควาย-ควายกันหรือยัง ประตู หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย) เปิดแล้วจ้า... เรื่อง : ระพีพร ตันตราภิรมย์ ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง มิถุนายน ๒๕๕๕
187
➔
พิพิธภัณฑ์ชาวนาภายในบ้านควาย
ทิศเหนือ
หมู่เรือนไทยภาคกลาง
ค์ วายไทย หมบู่ า้ นอนา้ นรุ กั คษวาย) (บ .
่ ลุยท้องนา... ุ วิง ฉันขีไ่ อ้ทย ่ ุ ... ่ ุ ...ฮย ่ ุ ...ฮย ่ ...ฮย ฮุย หมูบ่ า้ นอนุรกั ษ์ควายไทย (บ้านควาย) เปิดให้นกั ท่องเทีย่ วเข้าชม อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๕ ด้วยความหวังเพียง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักควาย สัตว์เลี้ยงสี่ขาตัวอ้วนพีขนสีด�ำ เพื่อน ทีช่ ว่ ยชาวนาท�ำมาหากินมาตัง้ แต่สมัยปูย่ า่ ตาทวด ภายในหมูบ่ า้ นฯ มี ควายประมาณ ๓๐ ตัวถูกฝึกจนเชื่อง สามารถปฏิบัติตามค�ำสั่งของ ครูฝึกได้อย่างฉลาดเฉลียว ควายเหล่านี้ส่วนมากถูกช่วยชีวิตมาจาก โรงฆ่าสัตว์ก่อนจะโดนช�ำแหละเอาเนื้อไปท�ำอาหารและเอาหนังไปท�ำ กระเป๋า ควายแต่ละตัวมีครูฝึกประจ�ำ ได้รับการดูแลอย่างดี มีคนอาบน�้ำ ให้หน้าแฉล้ม ผิวมันแผล็บเรีย่ มเร้เรไรทุกวัน บางตัวหุน่ ดีระดับขึน้ เวที ประกวด อย่างน้องสาว ควายตัวเมียอายุ ๒๐ ปี ได้แสดงละครเรื่อง ขุนศึก ที่ก�ำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแรกของเธอ เรื่ อ ง แม่ น าค 3D , เพลงรั ก บ้ า นนา , คุ ณ ชายติ ด หรู คุ ณ หนู ติ ด ดิ น เธอก็ได้เข้าฉากมาแล้ว ทุกเช้าหลังกินฟางข้าวโรยด้วยอาหารเสริม ตบท้ายด้วยหญ้าสดๆ เป็นของหวานล้างปากแล้ว บรรดาน้องควายก็พร้อมให้นักท่องเที่ยว กระโดดขึน้ หลังออกชมทิวทัศน์ของบ้านควาย...ควายพร้อม แต่สว่ นมาก
greentourism
-๑๘.๐๐ น เปดิ เวลา ๐๙.๐๕๐๘-๒๕๙๒ โทร. ๐-๓๕ ันทร์-ศุกร์ รอบการแสดงจ๐-๑๑.๓๐ น. รอบเช้า ๑๑.๐.๐๐-๑๕.๓๐ น. รอบบา่ ย ๑๕วันหยดุ นกั ขตั ฤกษ์ ะ าร เส -์ อาทติ ยแ์ ๑ล๑.๐๐-๑๒.๐๐ น. า ้ เช บ รอ ๐-๑๕.๓๐ น. รอบบ่าย ๑๔.๓๐-๑๗.๐๐ น. และ ๑๖.๐
คนไม่พร้อม ด้วยการขี่ควายไม่เหมือนขี่มอเตอร์ไซค์หรือบานาน่าโบ๊ต ในทะเล ถ้าอยากนั่งชิลล์ๆ ไม่ตกลงมาให้น้องควายหัวเราะ เราต้อง เตรียมใจให้พร้อม แล้วจับโหนกบนหลังควายให้มั่น ก้าวขาข้างถนัด ขึ้นคร่อมบนหลังควาย ปรับสมดุลให้ดี ที่ส�ำคัญท�ำตัวสบายๆ อย่าได้ เกร็ง เพียงเท่านี้ก็สวมวิญญาณอีเรียมขี่อีเก (ชื่อควายของอีเรียม) ได้ อย่างสนุกสนาน ใกล้ๆ คอกควายยังมีพพิ ธิ ภัณฑ์ชาวนาให้เดินชม ภายในจัดแสดง ข้าวของเครือ่ งใช้เกีย่ วกับการท�ำนาไว้อย่างน่าสนใจ อีกทัง้ ยังมีเรือนไทย หมู ่ ภ าคกลางจ� ำ ลองความเป็ น อยู ่ ข องคนไทยในอดี ต อย่ า งน่ า ชม ประกอบไปด้วยเรือนคหบดี เรือนแพทย์แผนไทย และเรือนโหราจารย์ รายล้อมด้วยสวนสมุนไพรและสวนไม้ดัดอันร่มครึ้มริมบึงน�ำ้ ใหญ่ พา ให้เราจินตนาการถึงความเป็นอยู่ของปู่ย่าตาทวดว่าน่าสุขใจเพียงไร - -เช้าตรูอ่ อกไปท�ำนา เย็นลงกลับมาเอนกายใต้ถนุ บ้าน แล้วนัง่ ล้อมวง กินข้าวเย็นสบายๆ ไม่ตอ้ งง้อแอร์คอนดิชนั อยากไปไหนก็ไม่ตอ้ งใช้รถ ให้เปลืองน�้ำมัน กระโดดขึ้นหลังควายคู่ใจไปได้ถึงไหนถึงกัน ถ้าไกล หน่อยก็เทียมเกวียนไป ถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่รีบร้อนให้เจ้าควายต้อง เหน็ดเหนื่อย
(ไม่ก�ำหนดมาตราส่วน)
แผนที่ : ปฐวี
ใครได้เข้าใกล้ควาย รับรองว่าต้องหลงรัก
ี าวนา... ิ ช ู้ ถ ี นรว เรย ิ ู้ น ้ ู า ้ หนา้ สด ั สฟ หลง ควายเกิดมาเพื่อช่วยชาวนาท�ำนา มาบ้านควายทั้งทีเราจึงต้อง หาโอกาสย�ำ่ โคลนจูงควายไปไถนา ทีน่ มี่ แี ปลงนาสาธิตให้ได้เรียนรูว้ า่ กว่าจะได้ขา้ วแต่ละจานนัน้ ยากล�ำบากสักเพียงใด มีเจ้าหน้าทีบ่ รรยาย เกีย่ วกับการท�ำนาในประเทศไทย และแนะน�ำให้รจู้ กั “ข้าว” พืชตระกูล หญ้าที่มีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนท�ำให้ทุกคนอิ่มท้องและ เติบใหญ่มาแล้วทั้งนั้น พร้อมเป็นชาวนาแล้วใช่ไหม ? ไป ! เราไปท�ำนากัน ! การท�ำนาเริม่ ต้นด้วยการไถ มีดว้ ยกัน ๓ ขัน้ ตอน ได้แก่ ไถดะ คือ การไถครั้งแรกเพื่อท�ำลายวัชพืชในนาและพลิกหน้าดิน แล้วปล่อยทิ้ง ไว้ ร าว ๑ สั ป ดาห์ จากนั้ น จึ ง ลงมื อ ไถครั้ ง ต่ อ ไป เรี ย กว่ า ไถแปร เป็นการไถเพื่อตัดกับรอยไถดะ ท�ำให้ดินที่ผ่านการไถดะแตกเป็นก้อน เล็กๆ และวัชพืชหลุดออกจากดิน อาจไถแปรมากกว่า ๑ ครั้ง ขึ้นอยู่ กับระดับน�้ำในแปลงนาและปริมาณวัชพืช สุดท้ายเป็นการไถคราด ไถเพื่อเอาวัชพืชออกจากนาและปรับระดับพื้นนาให้เรียบเสมอกัน หลายคนนึกสนุกต่อคิวลงไปทดลองไถนา ทว่าการไถนาไม่ง่าย เหมือนกินข้าว ก็เลยก้นจ�้ำเบ้าคลุกขี้โคลนกันถ้วนหน้า เนื่องจากเดิน ตามควายไม่ทัน คนสาธิตต้องเผยเคล็ดลับง่ายๆ ว่า การเดินในนา ทีเ่ ต็มไปด้วยขีโ้ คลนต้องยกขาสูงเวลาก้าว ฐานจึงจะมัน่ คงไม่ลงไปเล่น ขี้โคลนแบบนี้ จบกระบวนการไถก็มาถึงขั้นตอนการปลูกข้าว ซึ่งมีสาธิต ๒ วิธี คือ การปลูกข้าวนาด�ำและปลูกข้าวนาหว่าน
การปลูกข้าวนาด�ำ หรือการปักด�ำ เป็นการน�ำต้นกล้าที่ถอนขึ้น จากแปลงเล็กมามัดรวมกันเป็นมัดๆ สลัดดินโคลนที่รากออกให้หมด แล้วน�ำไปปักด�ำในพืน้ ทีน่ าทีไ่ ด้เตรียมไว้ ถ้าต้นกล้าสูงมากก็ตดั ปลาย ใบทิ้ง พื้นที่นาส�ำหรับใช้ปักด�ำต้องมีน�้ำขังอยู่ประมาณ ๕-๑๐ ซม. เพราะถ้าในนาไม่มีน�้ำขังอยู่เลย ต้นข้าวอาจถูกลมพัดจนพับลงได้ ขัน้ ตอนนีเ้ องเราเห็นภาพและเข้าใจถึงประโยคทีว่ า่ “หลังสูฟ้ า้ หน้าสูด้ นิ ” ด้วยชาวนาจะก้มลงปักต้นกล้าทีละต้นโดยวิธกี า้ วถอยหลัง เพือ่ ให้เห็น ว่าต้นกล้าที่ปักด�ำไปแล้วเป็นแถวเป็นแนวหรือไม่ คิดดูเถิดว่า กว่าจะปักด�ำครบ ๑ ไร่นั้นเหนื่อยสักเพียงไหน ส่วนอีกวิธคี อื การท�ำนาหว่าน เป็นการปลูกข้าวโดยหว่านเมล็ดพันธุ์ ลงในผืนนาที่ไถเตรียมไว้โดยตรง เมล็ดพันธุ์เมื่อตกลงไปอยู่ในซอก ระหว่างก้อนดินกับรอยไถ หลังจากฝนแรกโปรยปรายลงมา มันก็ จะงอกเป็นต้นกล้าเจริญเติบโตต่อไป เวลาหว่านก็ไม่ได้ง่ายเหมือน ปอกกล้วยเข้าปาก วิธีซัดเมล็ดข้าวให้ทั่วถึงนั้นยากยิ่งกว่าวงสวิงใน สนามกอล์ฟ คุณต้องก�ำข้าวแต่พอดี สาดออกไปด้วยแรงพอเหมาะและ แขนได้องศา เพราะถ้าหากสาดเมล็ดข้าวเหมือนโปรยลงพื้น ต้นข้าว ที่งอกขึ้นมานั้นจะกระจุกตัว อันมีผลต่อการเจริญเติบโตและออกรวง เห็นแล้วบอกได้ค�ำเดียวว่า ไม่ง่ายเลย ! มิถุนายน ๒๕๕๕
189
สนุกสนานกับกิจกรรมการท�ำนาไปกับควายไทย
สนตะพายพร้อมออกไปไถนา
การแสดงแสนน่ารักของบรรดาควาย
ขำ� -ขำ� ชมความสามารถป ระสาควาย-ควาย
ควายทุกตัวเชื่องและ นิสัยอ่อนโยน ให้นักท่องเที่ยว ขึ้นขี่ได้
greentourism
เสร็จสิน้ ภารกิจไถนา คนก็ไปล้างเนือ้ ล้างตัว ส่วนควายก็ไปอาบน�ำ้ ให้หอมฉุย ก่อนมาพบกันอีกทีที่ลานแสดงในเวลา ๑๑.๐๐ น. ซึ่งเป็น รอบการแสดงประจ�ำทุกวัน ใครเคยชมความสามารถของโลมา แมวน�ำ้ ลิง ช้าง สุนัขมาแล้ว ขอบอกว่าควายก็เป็นสัตว์ที่เปี่ยมด้วยความ สามารถไม่น้อยกว่ากันเลย ครูฝึกเล่าว่าควายบางตัวไอคิวดี ฝึกเพียง ๒ เดือนก็ออกโชว์ได้แล้ว ส่วนตัวที่ฝึกนานสุดก็แค่ปีเดียวเท่านั้น การแสดงเริ่มฉากแรกด้วยการสนตะพาย เป็นวิธีให้ควายเชื่อฟัง และท�ำตามค�ำสั่ง ต่อด้วยเทียมเกวียน นวดข้าวโดยให้ควายย�่ำ น�ำ ควายมายืนต่อกันเพื่อท�ำสะพานข้ามล�ำห้วย ที่บางคนเห็นแล้วร้อง “อ๋อ ! นี่เองที่มาของสะพานควาย” นอกจากนี้ครูฝึกยังสั่งให้ควายนั่ง ควายนอน ควายแกล้งตาย ควายยกขาสวัสดี แถมยังโชว์ให้เห็นว่า ควายก็รจู้ กั ขาซ้ายขาขวานะ...จะบอกให้ แต่ทสี่ ร้างความประทับใจและ เรียกเสียงหัวเราะได้มากสุดก็เห็นจะเป็นควายยิ้ม มันยิ้มแฉ่งได้น่ารัก มาก ปิดท้ายรายการโดยให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นหลังควายอีกครั้ง และ ควายเผือก ควายแคระ ก็มารอให้คณ ุ ลูบหัวถ่ายเทความรักความเอ็นดู สู่มัน นั บ แต่ นี้ จ ะเปรี ย บเปรยใครว่ า โง่ เ หมื อ นควายไม่ ไ ด้ น ะเออ ก็ น้องควายเขาน่ารักแสนรู้ออกอย่างนี้ ภายในหมูบ่ า้ นฯ ยังมีทพี่ กั ให้คนทีอ่ ยากซึมซับบรรยากาศท้องทุง่ ได้เลือกใช้บริการ หรือใครอยากยกก๊วนมาพักผ่อนในฟาร์มสเตย์ ที่นี่ ก็มใี ห้บริการ รับรองคุณจะได้สมั ผัสวิถชี าวนาและการใช้ชวี ติ ของผูค้ น ในชนบทอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย แหล่งเรียนรู้คนท�ำนา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการจังหวัด ใกล้กับศาลากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับชาวนา ทั้งเรื่องท�ำนา ประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของวิถีชาวนา ข้อมูลเกี่ยวกับข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ไปจนถึงแหล่งปลูกข้าวทั่วโลก รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับการท�ำนาที่คนรุ่นใหม่ น้อยคนนักจะรู้จัก นอกจากนี้ยังจัดแสดงพระราชจริยวัตรของ พระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในฐานะทรงเป็น ผู้อุปถัมภ์ค�้ำชูชาวนาไทย ทรงพัฒนาการท�ำนาและการเกษตร ของชาติให้รุ่งเรืองสมเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น�้ำ นับได้ว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นห้องเรียนเกี่ยวกับการท�ำนา ที่เข้าใจง่ายและน่าชมมากๆ ขอแนะน�ำให้มาแวะเที่ยวชม ก่อนไปลงพื้นที่จริงที่หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จะเสริมให้คุณเข้าใจ และสนุกกับการท่องเที่ยวยิ่งขึ้น เปิดให้เข้าชมวันพุธ-อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) โทร. ๐-๓๕๕๒-๒๑๙๑ มิถุนายน ๒๕๕๕
191
เรือนแถวไม้สองชั้น ไม่ว่าใครมาชมเป็นต้องหลงรัก
เรื่อง : กมลพร สุนทรสีมะ ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
ยลตลาดศรีประจันต์ สัมผัสความรุง ่ เรือง จากอดีต greentourism
ตลาดเก่า
ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยว หลายตลาดมีชื่อเสียงโด่งดังจนผู้คนล้นตลาด ตลาดเก่าศรีประจันต์ ก็เป็นตลาดอีกแห่งทีน่ า่ สนใจ ด้วยความโดดเด่นเรือ่ งความสวยงามของ เรือนแถวไม้เก่าแก่ รวมถึงความน่ารักของชาวศรีประจันต์ ตลาดศรีประจันต์นอกจากเป็นตลาดสดประจ�ำอ�ำเภอแล้ว ยังเป็น ที่ตั้งของร้านจ�ำหน่ายข้าวของเครื่องใช้มากมาย จึงมีผู้คนมาจับจ่าย สินค้ากันตลอดทั้งวัน ดังนั้นหากคุณๆ อยากมาเที่ยวก็มาได้ทุกวัน ไม่ต้องรอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก่อนเดินตลาดแนะน�ำให้แวะอิ่มอร่อยที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตาโป้กัน ก่อน บางคนก็เรียกบะหมี่เกี๊ยวร้านนี้ว่าก๋วยเตี๋ยวเจ๊สั้น เขาสืบทอด สูตรความอร่อยจากรุน่ พ่อสูร่ นุ่ ลูก รสชาติตดิ ใจนักชิมมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยเส้นบะหมี่ที่ท�ำเองนั้นเหนียวนุ่ม...อร่อยไม่เหมือนใคร อิ่มแล้ว เรี่ยวแรงมาแล้ว เราไปลุยตลาดกัน ! ตลาดเก่าศรีประจันต์มพี นื้ ทีก่ ว้างขวาง ในอดีตแบ่งเป็นตลาดเหนือ และตลาดโรงยาว แต่พ่อค้าชาวจีนมักเรียกทั้งสองตลาดรวมกันว่า
“บ่วนกั่งตั๊กลั๊ก” หรือตลาดบ้านกร่าง เพราะตลาดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วัดบ้านกร่างนั่นเอง ตลาดนี้มีอายุผ่านมานับร้อยปีแล้ว วันนี้ผู้คน ในตลาดได้ร่วมมือกันพลิกฟื้นให้ตลาดกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง คน รุน่ หลังจึงได้สมั ผัสบรรยากาศแห่งวันเวลาเก่าๆ กันอีกครา และแหล่ง ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งนี้ก็ได้รับรางวัลดีเด่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ นับเป็นความภูมิใจของชาวศรีประจันต์ ภายในตลาดยังหนาแน่นด้วยเรือนแถวไม้สองชั้น ที่เจ้าของบ้าน ต่างทะนุถนอมดูแลเป็นอย่างดี เมือ่ เราได้เห็นก็รสู้ กึ ชืน่ ชมความเอาใจใส่ ของผูค้ นในตลาด และพลอยนึกไปถึงคุณทวดทีแ่ ม้เข้าสูว่ ยั ชราแต่ยงั คง แข็งแรงและใบหน้าก็ระบายด้วยรอยยิ้ม อัธยาศัยของชาวตลาดเก่าศรีประจันต์ที่มีความเป็นกันเอง ยิ้ม ทักทายเหมือนญาติสนิทที่คุ้นเคยมานาน สร้างความประทับใจให้แก่ ผู้มาเยือน ภาพผู้เฒ่าผู้แก่ถือพัดนั่งพิงประตูบานเฟี้ยม บ้างก็จับกลุ่ม พูดคุยประสาเพื่อนบ้านเก่าแก่ เป็นภาพความสัมพันธ์อันดีของสังคม ชนบทซึ่งเราพบเห็นได้น้อยนักในเมืองใหญ่ มิถุนายน ๒๕๕๕
193
๑
สถานที่หนึ่งในตลาดที่ไม่ควรพลาดชม คือ “ชาติภูมิสถาน ป. อ. ปยุตฺโต” (บ้านเจ้าคุณฯ) พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) เป็น คนไทยคนแรกทีไ่ ด้รบั รางวัลการศึกษาเพือ่ สันติภาพจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) บ้านซึ่ง เป็นบ้านเกิดของท่านหลังนี้มีสองชั้น ชั้นล่างจ�ำลองร้านใบรัตนาคาร ซึง่ ขายผ้าไหมผ้าทอ และมีของโบราณให้ชมมากมาย อย่างเงินตราสมัย โบราณ จักรเย็บผ้า อุปกรณ์การเย็บผ้า เป็นต้น ส่วนชั้น ๒ จ�ำลอง ห้องเรียนของโรงเรียนบ�ำรุงวุฒิราษฎร์ มีครบชุดทั้งกระดานด�ำ โต๊ะ และเก้าอี้ไม้ ชวนให้หวนร�ำลึกถึงโรงเรียนเมื่อครั้งอดีต ส่วนของกินในตลาดยังมีรา้ นป้างิม้ เบเกอรี ่ ขายซาลาเปาไส้หน่อไม้ ผัดกุง้ และไส้ถวั่ ด�ำเพียงลูกละ ๗ บาท เนือ้ ซาลาเปาหอมนุม่ ไส้รสชาติ ละมุนลิน้ ด้วยสูตรโบร�ำ่ โบราณทีท่ ำ� ขายมาจนเข้าปีท ี่ ๘๐ แล้ว ถัดมา ไม่ไกล แม้จะอิม่ แล้วเราก็ยงั อดใจไม่ลมิ้ ลองทองม้วนโบราณร้านเจ๊แตน เจ้าเก่าไม่ได้ ก็ทองม้วนนั้นเนื้อนุ่มเหนียวหนึบก�ำลังอร่อย แถมชิม ที่ร้านยังไม่หน�ำใจ ต้องซื้อใส่ถุงไว้กินต่อระหว่างเดินทาง ก่อนกลับเราแวะไปสักการะเจ้าพ่อศรีประจันต์ซึ่งเป็นที่เคารพ นับถือของชาวศรีประจันต์ เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคล จากนัน้ ก็โฉบไปยัง ท่าเรือข้ามฟาก นั่งรับลมที่เก้าอี้ไม้ริมน�้ำ ทอดตามองสายน�้ำท่าจีน ไหลเอื่อย พลางคิดค�ำนึงถึงตลาดศรีประจันต์ ว่าเมื่อครั้งอดีตนั้น มีความน่าสนใจเพียงไหนหนอ ขณะอายุอานามกว่าร้อยปีในปัจจุบัน ยังน่าหลงใหลถึงเพียงนี้... ๔
๒ ๓
สักการะหลวงพ่อแก้ว พระประธานในอุโบสถ
๑
อิ่มอร่อยกับบะหมี่เกี๊ยวท�ำเอง ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตาโป้
๒-๓ ของกินอร่อยเป็นที่เลื่องลือประจ�ำตลาด ๔
ห้องเรียนครั้งอดีตภายในบ้านเจ้าคุณฯ
๕
ภายในศาลเจ้าพ่อศรีประจันต์
๕
เยือนวัดบ้านกร่าง ต�ำนานพระขุนแผนเลือ ่ งชือ ่ จากตลาดเก่าศรีประจันต์ นั่งเรือข้ามฟากมาอีกฝั่งแม่น�้ำทาง
ทิศตะวันตก ก็จะพบดินแดนแห่งความศักดิส์ ทิ ธิอ์ นั แสนสงบร่มเย็นและ เป็นที่เคารพนับถือของคนศรีประจันต์มาช้านาน นั่นคือ วัดบ้านกร่าง วัดโบราณอายุกว่า ๔๐๐ ปีซึ่งมีกิตติศัพท์โด่งดังเรื่องกรุพระขุนแผน พระพิมพ์ที่เป็นที่ต้องการของนักเลงพระทั่วบ้านทั่วเมือง วัดโบราณแห่งนีต้ งั้ อยูใ่ น ต. บ้านกร่าง อ. ศรีประจันต์ ตรงข้ามกับ ตลาดเก่าศรีประจันต์นั่นเอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ในบริเวณวัดมีวิหารและอุโบสถเก่าแก่ศิลปะอู่ทองที่ยังคงความงดงาม ให้ชม ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อแก้ว พระประธาน ศิลปะอยุธยา ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
มาถึงวัดบ้านกร่างทั้งที ต้องขอชมพระขุนแผนอันลือลั่นกันก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเหมือนยังมาไม่ถึง ปัจจุบันวัดบ้านกร่างมีพระขุนแผนจ�ำนวน ๔๒ พิมพ์ และยังคง มีการสร้างเพิ่มอยู่เสมอด้วยแรงศรัทธา ทางวัดเปิดให้เช่าบูชาอยู่ หลายรุ่น คนที่ชอบเล่นพระคงตื่นตาตื่นใจกับพระขุนแผนที่เรียงราย อยูใ่ นตูก้ ระจกจนไม่รจู้ ะเริม่ พิจารณาทีอ่ งค์ไหนก่อน พิมพ์ทมี่ รี าคาเช่า สูงทีส่ ดุ ในกรุวดั บ้านกร่างคือพระขุนแผนพิมพ์ทรงพลใหญ่ แต่เราได้ชม เพียงองค์จ�ำลองสีทองอร่ามที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แทนองค์จริง เท่านัน้ บอกเล่ากันว่า องค์จริงนัน้ ราคาเช่าสูงถึงเจ็ดหลักเลยทีเดียว ! นี่คงเป็นหลักฐานยืนยันความนิยมที่มีต่อพระขุนแผนได้เป็นอย่างดี
เรื่อง : อดิศา เหล่ารักวงศ์ ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
greentourism
มิถุนายน ๒๕๕๕
195
มาสุพรรณฯ ครั้งใดเป็นต้องหลงเสน่ห์เสียงเหน่ออยู่ร�่ำไป และนอกจากส�ำเนียงภาษาที่เป็น เอกลักษณ์จะถูกใจพวกเราแล้ว อาหารจานปลาและกุ้งแม่น�้ำอร่อยๆ ยังถูกปากเหล่าบรรดา นักชิมด้วย ยิ่งไปกว่านั้นบรรยากาศแพริมแม่น�้ำท่าจีนก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจ
พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง พิมพ์ทรงพลใหญ่
เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา ริมน�้ำท่าจีน
ที่ ม าของพระเครื่ อ งตระกู ล ขุ น แผนนี้ ตามต� ำ นานว่ า สมเด็ จ พระนเรศวรมหาราชทรงสร้ า งขึ้ น หลั ง ท� ำ ศึ ก ยุ ท ธหั ต ถี ช นะพระ มหาอุปราชา เพือ่ เป็นทีร่ ะลึกถึงทหารเอกของพระองค์ทชี่ อื่ “ขุนแผน” ภายหลังชื่อนี้ได้ไปพ้องกับชื่อตัวละครในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ซึ่งมีถิ่นก�ำเนิดที่สุพรรณบุรีโดยบังเอิญ ใครต่อใครจึงเข้าใจผิดคิดว่า พระขุนแผนแห่งวัดบ้านกร่างหมายถึงขุนแผนในวรรณคดีเรื่องนี้ จน ร�่ำลือไปในอีกทางว่า ใครได้แขวนพระขุนแผนจะท�ำให้สาวรักสาวหลง ดั่งต้องมนตร์เสน่ห์ ทั้งท�ำให้มีอิทธิฤทธิ์และวิชาคาถาอาคม รวมถึง ความคงกระพันชาตรีแคล้วคลาดภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งที่จริงๆ แล้ว อ�ำนาจทางพุทธคุณของพระขุนแผนคือด้าน “เมตตามหาเสน่ห์” ด้วยความศักดิส์ ทิ ธิแ์ ละประวัตอิ นั ยาวนานนีเ้ องท�ำให้พระขุนแผน กรุวดั บ้านกร่างเป็นทีน่ ยิ มอย่างล้นเหลือ แม้เวลาจะผ่านมานานหลาย ร้อยปีแล้วก็ตาม ตื่นเต้นกับพระขุนแผนองค์แชมป์ที่ราคาเหยียบล้านจนหัวใจ เต้นแรงกันไปแล้ว ก็มาถึงเวลาท�ำบุญท�ำทานด้วยการให้อาหารปลา เพื่อจิตใจสงบผ่องใส ริมแม่น�้ำหน้าวัดมีฝูงปลาอาศัยอยู่เป็นจ�ำนวน มาก ถือเป็นอุทยานมัจฉาแห่งหนึ่งของเมืองสุพรรณฯ ทางวัดเปิดให้ ผู้มาเที่ยวชมให้อาหารปลากันได้ตามอัธยาศัยบนแพศาลาทรงไทยอัน กว้างขวาง ท่ามกลางอากาศบริสทุ ธิร์ มิ แม่นำ�้ ท่าจีนซึง่ มีสายลมพัดเอือ่ ย เย็นสบาย มาเที่ยววัดบ้านกร่างได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันพระ เพราะที่นี่เรา จะสัมผัสความสุขสงบจากการพักผ่อนได้ในทุกๆ วัน
อร่อยถูกปาก บรรยากาศถูกใจ ที่ เมืองสุพรรณฯ เรื่อง : พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
เรือนแพครัวสุพรรณ รื่นรมย์ริมสายน�้ำ
(ถนนสายโพธิ์พระยา-สุพรรณบุรี อ. เมือง เปิด ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น. โทร. ๐-๓๕๕๒-๓๐๕๗)
เรือนแพทีบ่ รรยากาศดีสดุ ๆ ร่มรืน่ ด้วยแมกไม้ ประดับประดา มุมต่างๆ ด้วยเครือ่ งปัน้ ดินเผา อีกทัง้ โคมไฟสีขาวทีแ่ ขวนเรียงราย เชือ่ มไปยังเรือนแพ ก็ชว่ ยให้นา่ นัง่ ชิมอาหารอร่อยเคล้าบรรยากาศ ไปจนเย็นย�่ำเลยทีเดียว ได้ที่นั่งเหมาะๆ แล้ว สั่งย�ำดอกไม้ใบหญ้า เมนูเรียกน�้ำย่อย มาก่อนเลย มีดอกลีลาวดี ดอกเข็ม ดอกแค ผักบุง้ และอีกสารพัด ชุบแป้งทอดกรอบอย่างดี ไม่อมน�้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน�้ำย�ำที่ได้รส เปรี้ยวจากมะม่วงน�้ำดอกไม้ซอยและกลิ่นหอมของน�้ำมะนาวสด ผสานรสเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน รสหวานจากหมูสับและกุ้งที่เป็น เครื่องเคียง จานที่ ๒ เป็นกุ้งแม่น�้ำทอดเกลือ น�ำกุ้งตัวใหญ่ๆ มาทอด กรอบและปรุงตามสูตรเฉพาะของร้าน จิ้มน�้ำจิ้มซีฟู้ด กินอร่อย เนื้อนุ่มหนึบ ถัดมาเป็นเมนูที่โต๊ะไหนโต๊ะนั้นเป็นต้องสั่งมาชิม โดยเฉพาะคนชอบเผ็ดจัดยิง่ ห้ามพลาด นัน่ คือต้มย�ำปลาม้า ทีเ่ ขา ใส่มาทัง้ พริกแห้ง พริกสด พร้อมเครือ่ งสมุนไพร จะเสริมทัพด้วย ปลาทับทิมทอดสมุนไพร ปลากะพงผัดฉ่า ก็สั่งมาได้ รสจัดจ้าน ไม่มีผิดหวัง ขอบอก...ร้านนีอ้ าหารจานใหญ่มาก และปลาแม่นำ �้ กุง้ แม่นำ�้ สดๆ นั้นเขาคิดราคาตามน�้ำหนัก ยุติธรรมสุดๆ ๑ ๒ ๓ ๔
ย�ำดอกไม้ใบหญ้า เมนูเรียกน�้ำย่อย ปลากะพงผัดฉ่ารสร้อนแรง ต้มย�ำปลาม้า ใส่ทั้งพริกแห้งพริกสดให้เผ็ดจี๊ดจ๊าด กุ้งแม่น�้ำทอดเกลือ จิ้มน�้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
๑
๒
๔
๓
มิถุนายน ๒๕๕๕
197
Nature L❤ ove Note
หลากเมนูแนะน�ำ ปลาม้าพริกไทยด�ำ ต้มย�ำปลาม้า ฉู่ฉี่ปลาแดง และปีกไก่ยัดไส้
โลกเหมือนจะหมุนเร็วจี๋ขึ้นเรื่อย ๆ และธรรมชาติก็เหมือนยิ่งห่างเราไปทุกที ภาพวาดง่าย ๆ แต่งดงามในสมุดบันทึกของใครบางคน ช่วยหยุดเราไว้ในความสงบของยามเช้า และความรื่นรมย์ของสรรพชีวิต...บางทีนี่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณอยากใช้เวลา กับธรรมชาติมากขึ้นสักนิดก็ยังดี
เรือนแพป้าสร้อย อิ่มอร่อยได้ใจ
(ติดที่ว่าการอ�ำเภอศรีประจันต์ อ. ศรีประจันต์ เปิด ๑๐.๓๐-๒๐.๓๐ น. โทร. ๐-๓๕๕๘-๑๑๑๓, ๐๘-๕๙๓๕-๒๓๕๖)
หากมาเยือนศรีประจันต์ ต้องไม่พลาดลิม้ ลองอาหารรสเลิศทีเ่ รือนแพ ป้าสร้อย ด้วยเป็นร้านเก่าแก่บรรยากาศเงียบสงบ มีเรือนแพริมแม่นำ�้ ท่าจีน ให้เลือกนั่งรับลมเย็นๆ พร้อมชิมเมนูปลาแม่น�้ำสดๆ ประเดิมกันด้วยปลาม้าพริกไทยด�ำ ทีเ่ นือ้ ปลาไร้กลิน่ คาวปรุงรสจัดจ้าน ถึงเครื่องเทศ หอมพริกไทยด�ำ ชิมแล้วต้องยกให้เป็นเมนูชูโรงของร้าน เพิ่มความจัดจ้านกันต่อด้วยต้มย�ำปลาม้าที่ปรุงรสเปรี้ยวน�ำและเผ็ด ร้อนด้วยเครือ่ งสมุนไพร ฉูฉ่ ปี่ ลาแดงก็อร่อยไม่แพ้กนั เขาน�ำปลาไปทอดจน เหลืองกรอบ แล้วราดด้วยน�้ำฉู่ฉี่รสเข้มข้นจากเครื่องแกงที่ทางร้านต�ำเอง รสเด็ดขนาดกินปลาหมดแล้วเอาข้าวคลุกน�้ำฉูฉ่ กี่ ย็ งั อร่อย ดับดีกรีความเผ็ด ร้อนด้วยเมนูสดุ ฮิตประจ�ำร้าน นัน่ ก็คอื ปีกไก่ยดั ไส้ ปีกไก่ชนิ้ ใหญ่ยดั ไส้หมูสบั ผัดกับวุ้นเส้น ไส้เยอะปีกใหญ่ อร่อยเต็มอิ่ม อาหารอร่อย แถมมีลมเย็นๆ พัดให้ชื่นใจ มีสายน�้ำไหลเอื่อยให้ชม เพลินตา ได้ใจพวกเราไปเต็มๆ
เรือนแพป้าสร้อย ริมน�้ำท่าจีน บรรยากาศ เงียบสงบแสนสบาย
เอมโอช อร่อยเลิศบรรยากาศสุดชิลล์
(ถ. คูเมืองใต้ อ. เมือง เปิด ๑๑.๐๐-๒๔.๐๐ น. โทร. ๐-๓๕๕๔-๓๓๕๒, ๐๘-๖๙๙๖-๙๙๗ / www.aimoach.com)
แม้รา้ นไม่ตดิ ริมน�้ำ แต่บรรยากาศก็เลิศไม่เป็นรองใคร เพราะมีไม้ใหญ่ขนึ้ อยูก่ ลางร้าน และ การตกแต่งร้านด้วยไม้ใบหลากชนิด ทัง้ จัดเป็นซุม้ ประดับตามทางเดิน และห้อยแต่งแต้มเพดาน มองไปทางไหนจึงล้วนแต่มีต้นไม้เขียวขจี ที่ส�ำคัญร้านยังโปร่งโล่งให้ลมเย็นพัดผ่านทั่วถึง ส่วนเรือ่ งรสชาติอาหารนัน้ ใครได้ลมิ้ ลองล้วนต้องติดใจ เมนูฮอตฮิตคือปลาเดิมเดิม เป็น ปลาช่อนบั้งห่างๆ ทอดในน�้ำมันร้อนจัดท่วมตัวปลา ได้ปลาช่อนทอดเหลืองกรอบน่ากิน เสิร์ฟ พร้อมน�้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ท�ำจากน�้ำพริกเผาหนักเครื่องสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ หอมแดง สะระแหน่ หรือผักชีฝรั่ง กินแนมด้วยผักสารพัดชนิด อย่างผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย โหระพา ผักชี ปลาเดิมเดิม ผักชีฝรั่ง อร่อยเข้ากั๊น..เข้ากัน หากติดใจรสชาติของน�ำ้ จิ้มพริกเผา จะสั่งพล่ากุ้งมากินเพิ่มก็จะ เมนูยอดฮิต ของร้าน ยิง่ ถูกใจ เพราะเขาปรุงโดยน�ำกุง้ ลวกพอสุกมาคลุกเคล้ากับน�ำ้ จิม้ พริกเผานีเ่ อง แกงป่าปลากราย ก็น่าชิม เครื่องแกงเผ็ดร้อนยิ่งชวนให้ตักข้าว เพิ่ม บอกได้ค�ำเดียว “กี่เมนู-กี่เมนูก็อร้อย -อร่อยจ้า” ใครมาเยื อ นร้ า นนี้ ย ามอาทิ ต ย์ ล าลั บ อาหารอร่อย ในบรรยากาศชิลล์ๆ ขอบฟ้า จะมีเสียงเพลงเบาๆ จากนักดนตรี ต้องร้านเอมโอช ที่ ห มุ น เวี ย นกั น มาขั บ กล่ อ มให้ บ รรยากาศ สุดชิลล์ แกงป่าปลากราย และพล่ากุ้ง รสเด็ดโดนใจนักชิม
“
วาดรูปนีต้ อนอยูใ่ นป่าดงดิบเขา ใกล้หน่วยพิทกั ษ์ปา่ เด่นหญ้าขัด เขตรักษาพันธุส์ ตั ว์ปา่ ดอยเชียงดาว ก�ำลังดูไก่ฟา้ หางลายขวาง ขึ้นขอนเกาะนอนตอนพลบค�่ำอยู่ ทันใดนั้นเห็นตัวอะไรขนาดใหญ่มหึมาบินร่อนมาเกาะต้นไม้ใหญ่ใกล้ ๆ ตัวด�ำเข้มและท้อง สีครีมอ่อน พอเห็นหนังย่นที่ท้องก็มั่นใจว่าเป็นพญากระรอกบิน ตอนนั้นแสงแทบไม่มี แต่เห็นหางด�ำปลอด และตัวใหญ่กว่าพญากระรอกด�ำ (ธรรมดา) เสียอีก ดูแล้วน่าจะเป็นพญากระรอกบินหูด�ำหางสีเข้ม พอมันไต่ถงึ ยอดไม้ใหญ่กถ็ ลาร่อนบินข้ามหุบกว้างกว่าร้อยเมตรได้อย่างไม่นา่ เชือ่ ลงเกาะที่ตรงไหนแน่ไม่รู้ เพราะไม่ได้ยินเสียงตอนจอดเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมันในธรรมชาติ ดีใจสุด ๆ ร้องกรี๊ดในใจ หัวใจพองโต”
นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา
มิถุนายน ๒๕๕๕
199