ช่างใหญ่ในใจคน

Page 1

ช่างใหญ่ในใจคน

เรื่องราวของช่างใหญ่หัวใจโรแมนติกผู้หลงใหลในอาหาร

ที่ระลึกการจากไปของ โอรส ชมดอก วันที่ 29 มกราคม 2557



‘ฟังนะลูก…พ่อเชือ่ ว่าเมล็ดพันธุท์ ดี่ ี แม้วา่ จะไปตกทีด่ นิ แห้งไม่ อุดมสมบูรณ์ ต้นไม้นั้นก็จะยังประคองตัวเองให้งอกงามได้... และลูกก็เป็นอย่างนั้น’ --- โอรส ชมดอก


โอรส ชมดอก : ช่างใหญ่ในใจคน


ประวัติส่วนตัว วันคล้ายวันเกิด 10 กรกฎาคม 2494

ครอบครัว เป็นบุตรคนสุดท้องของ นางบัว และ นายแก้ว ชมดอก จากจำ�นวนบุตร 9 คน มีบุตรีกับนางแก้วลูน 1 คน คือ นางสาวนฤมล ชมดอก และนางสุภารัตน์ 1 คน คือนาย รณภัทร์ ชมดอก ตามลำ�ดับ ในปัจจุบัน ได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบสุขกับนางวรรณดา ปัญญานะ

การศึกษา

ระดับประถมศึกษา ระดับอาชีวะศึกษา ระดับอุดมศึกษา

โรงเรียนบ้านแม่โจ้ (ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4) เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ ปวารณาตนเป็นศิษย์หลวงพ่อ ชัยยวุฒิพุธโธ ที่วัดทุ่งหมื่นน้อย หลังจากที่หลวงพ่ออาพาธ และมรณภาพ จึงได้ย้ายไปศึกษาพระธรรมตามวัดต่างๆ เช่น วัดแม่โจ้ วัดหัวข่วง วัดชัยศรีภูมิ วัดพระสิงห์ ข้ามจังหวัดไปที่แม่พริกลำ�ปาง และไปนครนายก จากนครนายกก็กลับมาอยู่ที่บ้าน ด้วยวุฒิการศึกษาระดับ มัธยม ที่วิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ เชียงใหม่ สาขาวิชาช่างไฟฟ้า สำ�เร็จการศึกษาในปี 2517 เข้าศึกษาต่อที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวะศึกษาเชียงใหม่ แผนกวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม สำ�เร็จในปี พ.ศ.2523 วิทยาลัยครูเชียงใหม่ สำ�เร็จการศึกษาในปี พ.ศ.2527



การทำ�งาน

ในระหว่างที่เรียนก็ได้เข้าสมัครตำ�แหน่งลูกจ้างชั่วคราว ช่างเทคนิค เครื่องมือทันตกรรมที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1 มีนาคม 2519 ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการพลเรือนใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตำ�แหน่งช่างจัตวา 1 ตุลาคม 2544 เกษียณอายุราชการโดยเข้าโครงการเกษียณอายุกอ่ นกำ�หนด ในวัย 50 ปี

เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับเครื่องมือทันตกรรม

ปี 2528 รับการอบรมด้านเครื่องมือทันตกรรม กับบริษัท W&H Dentalwerk Buermoos Ges.m.b.H ณ ประเทศออสเตรีย ปี 2532 เข้ารับการอบรมทางด้านเก้าอี้ทันตกรรมกับบริษัท Adec ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2536 เข้ารับการอบรมทางด้านเก้าอี้ทันตกรรมกับเครื่องทำ�ฟัน FIMET OY บริษัท North West Dental ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2538 เข้ารับการอบรมทางด้านเก้าอี้ทันตกรรมกับบริษัท Belmont ณ ประเทศญี่ปุ่น ปี 2539 เข้ารับการอบรม ทางด้านเก้าอีท้ นั ตกรรมกับบริษทั Knight Manufacturing ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2540 เข้ารับการอบรมด้านเครื่องมือทันตกรรมกับบริษัท 3M เข้ารับการอบรมทางด้านเก้าอี้ทันตกรรมกับบริษัท C.I.R Anthod ณ ประเทศอิตาลี



เครื่องราชอิสริยศ

ปี 2523 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบญจมาภรณ์ มงกุฎไทย ปี 2527 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จตุถาภรณ์ มงกุฎไทย ปี 2530 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ 4 ชื่อ จัตุรถาภรณ์ ปี 2535 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ชื่อ ตริตาภรณ์ ปี 2540 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ 3 ชื่อ ตริตาภรณ์


กิจกรรมสาธารณะประโยชน์

- มีส่วนร่วมกับชุมชนในการช่วยกันผลักดันให้ชุมชนได้รับผลประโยชน์ต่างๆ อาทิ การสร้างสถานที่ฌาปนกิจ โดยใช้ทั้งแรงกาย เวลาและร่วมบริจาค


ความสำ�เร็จด้านธรุกิจ

- เปิดร้านสวนดอกเดนตัล ซัพพลาย ขายเครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ทางทันตกรรม - เป็นหุ้นส่วนในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป



ชีวิตจริงของพ่อ... นิทานก่อนนอนของลูก “มึงรู้ไหม เมื่อก่อน พ่อมึงก็เป็นบ่ะง่างบะเง็งอย่างมึงเลย อยาก ฟังอุ๊ยจะเล่าหื้อฟัง ฟังแล้วต้องหลับเน้อ” ย่าพยายามบอกฉันตอนที่ฉันโดน เพื่อนล้อ เพราะตัวโตกว่าใครในหมู่บ้าน ย่าจึงเล่านิทานของพ่อให้ฟังเมื่ออยู่ในมุ้ง หนังสี่จอในจินตนาการของหลานๆ ที่พากันมานอนกับย่า เพราะอยากฟังเรื่องราว ผจญภัยวัยหนุ่มของพ่อๆ ป้าๆ ทั้งหลาย บางครั้งก็ใส่ไข่ใส่สีให้หลานได้หัวเราะ สนุกสนาน ฟังเพลินจนหลับไป ย่าเล่าให้ฟังว่าย่ามีลูกมากชนิดที่ว่าลูกคนสุดท้องและหลานคนโตกินนม ของย่ากันคนละเต้าเลยทีเดียว พ่อเป็นลูกคนสุดท้อง รองจากลุงแฝด ตอนทีย่ า่ มีพอ่ นั้นย่าก็อายุห้าสิบกว่าๆ ตอนที่พ่อคลอดออกมา ตัวพ่อเหี่ยวมาก คนคิดว่าพ่อตาย แล้วก็เอาใส่โลง แต่แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดตอนที่จะเอาไปฝังอยู่ดีๆ พ่อก็ร้องออกมา ทำ�ให้คนทั้งหมู่บ้านหวาดกลัวพ่อ เพราะเดินไปไหนคนก็บอกว่าเป็นผีมาเกิด พ่อ รอดชีวิตมาเป็นเด็กที่เติบโตตัวสูงใหญ่กว่าพี่น้องทุกคน แขนขาที่ยาวเก้งก้างทำ�ให้ พ่อโดนล้อจากเพื่อนเสมอๆ สิ่งเหล่านี้ทำ�ให้พ่อในเวลานั้นกลายเป็นคนที่อยู่กับตัว เองอ่านหนังสือ พยายามเรียนให้มากที่สุด พ่อเข้าเรียนทีโ่ รงเรียนแม่โจ้ จบประถมศึกษาปีทสี่ ี่ เพราะปูก่ บั ย่ามีลกู มาก ทำ�ให้โอกาสทางการศึกษาของลูกๆ ก็นอ้ ยไปด้วย เมือ่ ปูไ่ ด้เจอกับหลวงพ่อ ชัยยวุฒิ พุธโธ เจ้าอาวาสวัดทุ่งหมื่นน้อยในเวลานั้น ปู่จึงตัดสินใจว่า จะเอาพ่อไปฝากไว้กับ ท่าน พ่อจึงได้บวชเณรมานับแต่นั้น หลังจากที่เจ้าอาวาสเสียชีวิตไปแล้ว พ่อก็ออก


ท่องโลก ย้ายไปตามวัดต่างๆ แล้วเข้าเรียนหนังสือและไม่ได้กลับมาที่บ้านอีก เลย ย่าบอกว่า พ่อพยายามอย่างมาก เข้าเรียนหลายๆ ที่ ทัง้ ในเชียงใหม่ ลำ�ปาง บางทีกไ็ ปไกลถึงนครนายยกทีเดียว ทำ�ให้พอ่ มีเพือ่ นระหว่างทางมากมาย กระทัง่ หลายปีตอ่ มาพ่อกลับมาบ้านด้วยวุฒมิ ธั ยม ซึง่ ย่าก็ไม่รเู้ หมือนกันว่าได้มาอย่างไร ชีวิตโลดโผนของพ่อช่วงที่จากไป ย่ารู้เพียงว่าพ่อเกือบเอาชีวิตไปทิ้งแค่นั้นเอง ในเรือ่ งจริงเมือ่ มาถามลุงโสภณลุงแฝดทีค่ ลุกคลีกบั พ่อมากทีส่ ดุ ลุงเล่า ให้ฟังว่า ชีวิตของพ่อมีสิ่งสำ�คัญที่สุดคือความพยายาม จากเด็กที่ไปไหนถูกล้อ ครอบครัวยากจน และมีปมด้อยคิดว่าตัวเองไม่หล่อ เขาบากบั่นเรียนหนังสือจน จบ ทัง้ มัธยม ปวช.และปวศ. และระดับปริญญาด้วยตัวเอง นอกจากเขาจะทำ�เพือ่ ตัวเองแล้วเขาก็ยงั กลับมาช่วยเหลือพวกพีๆ่ อีกด้วย พ่อจึงเป็นแบบอย่างของคน ที่ตั้งมั่นและพยายามจนประสบความสำ�เร็จ มีกิจการเป็นของตัวเอง นิทานที่สนุกสนานของย่า ในชีวิตจริงคือทางเดินที่แสนขรุขระของพ่อ


ชีวิตช่างใหญ่



คำ�พูดที่ว่า “อ้ายรสวันฮือ” หรือโอรสวันมะรืน เป็นที่ กล่าวขานกันทั่วคณะทันตแพทยศาสตร์ แต่ก็ไม่มีใครโกรธเคืองพ่อแต่อย่างใด ทุกคนดูเหมือนจะรู้และเข้าใจจังหวะของพ่อเป็นอย่างดี ดังนั้นทุกครั้งที่ฉันเดิน ไปส่งเครือ่ งมือแพทย์ทคี่ ณะทันตแพทยศาสตร์ จึงคุน้ เคยกับการได้ยนิ ชือ่ ของพ่อ ฉันมาทางเสียงตามสายของคณะเสมอ ต้นเหตุมาจากความเชีย่ วชาญในเรือ่ งการ ซ่อมเครื่องทำ�ฟันของพ่อ บวกกับการเป็นคนอัธยาศัยดี ทำ�ให้พ่อเป็นที่ต้องการ ของผู้ช่วยและทันตแพทย์ ชนิดคิวทอง หลังจากที่พ่อทำ�งานที่คณะทันตแพทย์ได้ระยะหนึ่ง พ่อก็คิด เปิดร้านขายอุปกรณ์ทันตกรรม ด้วยความที่รู้ปัญหาของทันตแพทย์ สมองไว เหมือนปรอทของพ่อ ทำ�ให้พ่อรู้จักเครื่องมือของทันตแพทย์เกือบทั้งหมด เราจึง แบ่งบริเวณบ้านส่วนหนึ่งทำ�เป็นออฟฟิศเพื่อขายของ ตอนดึกๆ หรือไม่ก็เช้าๆ ภาพทีค่ นุ้ ชินของเราคือเห็นพ่อนัง่ ทีโ่ ต๊ะซ่อมหัวกรอฟัน ต่างกันก็ทเี่ ครือ่ งดืม่ ทีอ่ ยู่ เคียงข้าง กลางวันเป็นเหล้า ตอนเช้าเป็นกาแฟ พ่อสอนให้พวกเรารู้จักการซ่อม ไฟฟ้า หากเราขี่มอเตอร์ไซค์ ก็ต้องเปลี่ยนน้ำ�มันเครื่องเอง และรู้จักเครื่องยนต์ ทัง้ ฉันและน้องเรียนรูก้ ารประกอบเครือ่ งทำ�ฟันเก่า ต่างคนต่างทำ�งานทีถ่ นัด ฉัน รูจ้ กั การขัด โป๊ว ทำ�สีพน่ สี น้องของฉันก็ได้รเู้ รือ่ งกลไกในเครือ่ งทำ�ฟันไปด้วย ดัง นัน้ สุดสัปดาห์ของลูกบ้านนีจ้ งึ เป็นการทำ�งาน เพราะพ่อไม่ชอบเห็นการฟุม่ เฟือย เวลาในทุกกรณี


การเริ่ ม ต้ น อาชี พ นั ก ขายของฉั น เริ่ ม ต้ น จากพ่ อ เอาแคตตาล็ อ ก ทั้งหมดใส่เป้ บอกเส้นทางว่าให้นั่งรถสายไหน พร้อมให้ค่ารถค่าที่พัก และ การ์ดโทรศัพท์ใบละ 100 บาท พ่อให้ฉันนั่งรถไปเชียงรายบ้าง ไปพะเยาบ้าง โดย บอกบทไว้ด้วยว่า เวลาเดินไปเคาะคลินิกไหน เดินเข้าไปแล้วให้บอกว่า “เป็นลูกอ้ายโอรส” ฉันยังลังเลว่าใครจะมารู้จักอ้ายโอรสทุกร้าน ร้านหมอ ฟันในเชียงรายในพะเยาไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าหมอรู้จัก พ่อจริงๆ ดังนั้นฉันจึงสามารถเปิดการขายได้ง่าย เราทำ�งานกันแบบกองโจร ฉันรับออร์เดอร์ในตอนเช้าถึงเย็น โทรศัพท์กลับบ้านแล้วพ่อก็ส่งสินค้าไปยัง ลูกค้าที่ฉันไปติดต่อ


นอกเหนือจากการทำ�ตลาดภายในตัวเมืองเชียงใหม่และรอบนอกแล้ว เรื่องความรู้พ่อก็ไม่เคยหยุด ทุกครั้งที่มีการอบรมเครื่องทำ�ฟันต่างประเทศพ่อก็จะ เข้าร่วมด้วยเสมอ ฉันเคยถามพ่อว่า พ่อไปเมืองฝรัง่ ได้อย่างไรทัง้ ทีพ่ ดู ภาษาอังกฤษ ไม่ได้ หรือได้แค่ไม่กี่ประโยค แล้วตอนเขาอบรมทำ�ไมพ่อรู้เรื่อง พ่อบอกว่า คนเรา เรียนรู้ได้หลายแบบ แต่พ่อสามารถเรียนรู้จากการดู แค่เขาทำ�ให้ดูครั้งเดียวพ่อก็ สามารถทำ�ตามได้อย่างง่ายดาย ภาษาจึงไม่ใช่ปราการความรู้ของพ่อ ในโลกของทันตกรรมพ่อมีกัลยาณมิตรที่เรียกว่าทั้งรักทั้งเกลียด คือคุณ บุญช่วย วันหนึ่งอาจจะได้ยินโทรศัพท์ตะโกนด่ากัน อีกวันหนึ่งอาจจะเห็นพวกเขา รักกัน แต่เมือ่ เขามาเจอกัน คนภายนอกก็จะสัมผัสได้ถงึ มิตรภาพอันอบอุน่ ของชาย ต่างเชื้อชาติทั้งสองคน การไปเมืองนอกของพ่อทุกครั้งผู้ร่วมทางก็คือคุณบุญช่วย นี่เอง เรียกว่าพวกเขาส่งเสริมกันและกันในอาชีพการงาน ในวันนีเ้ ก้าอีท้ นี่ งั่ ซ่อมหัวกรอตัวเดิมของพ่อไม่วา่ งเปล่าเพราะน้องชายของ ฉันมานั่งตำ�แหน่งนี้แทน และเขาก็พยายามผึกฝนตัวเองให้กลายเป็นช่างที่ทุกคน รัก ช่างที่ทุกคนใช้บริการ เหมือนอย่างที่พ่อเป็น


ชีวิตโรมานซ์และอาหารของพ่อ


ใครจะรูว้ า่ เด็กทีต่ วั เหีย่ วๆ ตอนแรกเกิด เป็นหนุม่ เก้งก้าง ตัวดำ� จะเติบโตกลายเป็นผู้ชายทรงเสน่ห์ได้ สาวๆ ที่คลุกคลีกับพ่อ ต่างพูด เป็นเสียงเดียวกันว่า “พ่อน้องแอนเป็นคนเจ้าชู้” อันที่จริงแล้ว พ่อเป็นคน พูดเพราะคารมดี และจับทางคนเก่ง มีจิตวิทยาเยี่ยมยอด ทำ�ให้พ่อไม่ได้มี เพียงหญิงสาวที่ชื่นชอบเท่านั้น แต่หากว่ากันตามจริง พ่อก็มีเพื่อนผู้ชายไม่ น้อยเลย อีกทั้งยังเป็นที่รักของลูกน้องพนักงานอีกด้วย ฉันคิดว่าผู้หญิงที่พ่อเลือกส่วนใหญ่ ต้องเป็นคนที่ทนต่อความ “ย่อย” หรือจูจ้ ใี้ นเรือ่ งการกินของพ่อได้ เพราะอาหารแต่ละมือ้ ต้องสด ใหม่ ร้อน และอร่อยเท่านั้น หากเลยขอบเขตนี้ไป อาหารมื้อนั้นจะถูกอัปเปหิลง ถังขยะอย่างไม่ปราณีน�้ำ ใจคนทำ�กันเลยทีเดียว ดังนัน้ ผูห้ ญิงของพ่อทุกคนจึง เป็นคนที่รัก มีรสมือดี และตามใจในเรื่องอาหาร การซื้ออาหารถุงเป็นเรื่อง น่ารังเกียจสำ�หรับบ้านหลังนี้ และสิ่งนี้ก็มีผลส่งมาถึงลูกๆ ด้วย ทำ�ให้ลูกๆ สามารถทำ�กับข้าวได้ และมียีนส์ของความ “ย่อย” เรื่องอาหารติดมาด้วย ชีวติ รักของพ่อเริม่ ต้นด้วยความรักกุก๊ กิก๊ กับน้าหล้า ในตอนนัน้ พ่อ ก็เป็นหนุม่ น้าหล้าห่างจากพ่อสีป่ ี เธอจึงยังเป็นเด็กสาวรุน่ เป็นรักแรกฝังใจ ของพ่อ แต่ดว้ ยความทีต่ า่ งคนต่างยังเด็กนัก จึงต้องร้างลากันไป จากนัพ้ อ่ ก็ พบกับแม่ของฉัน หญิงสาวสวยใจนักเลง โผงผาง แม้ทั้งคู่จะรักกัน แต่ด้วย ความแตกต่างทางด้านความคิด และต่างคนต่างใช้อารมณ์ จึงทำ�ให้ตอ้ งแยก จากกันไป ในเวลาที่ฉันอายุเพียงหกเดือน ช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดของการ ใช้ชวี ติ คูข่ องพ่อ คือการใช้เวลากับแม่สภุ ารัตน์ คุณครูโรงเรียนปรินส์รอยแยล วิทยาลัย ผู้หญิงที่รักพ่อมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ช่วงเวลาที่ครอบครัวของเราอยู่พร้อมหน้ากันคือช่วงทำ�อาหาร แม่ สุภารัตน์จะพยายามเตรียมทุกอย่างไว้ตามที่พ่อต้องการ อาหารของพ่อจะ ต้องผ่านการคิด และต้องเป็นสิ่งที่พ่อชอบกิน ยามเย็น เราจึงมานั่งเด็ดผัก หั่นหมู เตรียมอาหารไปคุยกันไป หากพ่อไม่ได้ไปที่ไหน พ่อจะนั่งดูพวกเรา เตรียมอาหาร และบอกวิธกี ารว่าต้องทำ�อย่างไรถึงจะถูกต้อง ผักทีจ่ ะแกงต้อง เด็ด ไม่หั่น เวลาตำ�น้ำ�พริกก็ให้ท่องให้ขึ้นใจว่า “แกงจิ๊นใส่ข่า แกงปลา ใส่จั๊กไค แกงไก่ใส่ขมิ้น” บางครั้งแค่เตรียมอาหารเราใช้เวลาเกือบสามสี่ ชัว่ โมง จนมีครัง้ หนึง่ บ้านเราคัว่ แกงโฮะ ราวๆเทีย่ งคืน ตอนสายๆเพือ่ นบ้าน เดินออกมาเล่าให้พอ่ ฟังว่า เขาฝันว่าเมือ่ คืนได้กนิ แกงโฮะ และดูเหมือนจริง มาก ได้กลิ่นด้วย พ่อก็แค่ยิ้มๆแล้วเดินจากไป


การให้ความสำ�คัญต่ออาหารไม่ใช่เพียงการเตรียมเท่านัน้ แต่วตั ถุดบิ ต้องสดจริงๆ ขิง ข่า ตะไคร้ ต้องปลูกภายในบ้าน เมื่อจะทำ�จะตำ�ก็ต้องไปขุดไป หากันมาสดๆ เพื่อให้ได้กลิ่นและรสของอาหารจริงๆ พื้นที่ในบ้านที่สวนดอก เมื่อก่อนจึงมีแปลงผักสวนครัวเพื่อการนี้โดยเฉพาะ หน้าบ้านปลูกไม้เลื้อยคือ ต้นจะค่าน หรือจัก๊ ค่าน ถัดมาอีก จะเป็นต้นน้อยหน่าปลูกแทรกกับมะกรูดและ มะนาว (ซึง่ ต้นนีป้ ลูกเท่าไหร่กไ็ ม่ขนึ้ เสียที) ถัดมาคือต้นตะไคร้เป็นดงใหญ่ จาก นัน้ ก็เป็นแปลงเล็กๆ พวกสะระแหน่ ผักไผ่ หลังห้องน้�ำ เป็นต้นตูน หลังบ้านเป็น ดงข่า ขมิ้นและขิง เหล่านี้ทำ�ให้ได้ส่วนประกอบที่สดและปลอดภัยจริงๆ ลองนึกดูวา่ ร้านขายเครือ่ งมือทันตกรรมเปิดตลอดเวลาเหมือนเซเว่น มีทันตแพทย์เดินเข้ามาเจอบุ๋งบิ๋งน้องของฉันกำ�ลังเอาคัมตัดก้นหอย ฉันนั่งตำ� น้ำ�พริก แม่นั่งเด็ดผัก ส่วนพ่อก็ดื่มไป บัญชาการไป ดูแล้วเหมือนมีมหกรรม อาหาร หรือมีปอยหลวงทุกวัน เราทำ�อย่างนี้กันเกือบทุกวัน จนเวลาผ่านไป แม่สุภารัตน์ ได้จาก ไปด้วยโรคมะเร็ง ในเวลานั้น ฉันและน้องก็ต่างเติบโตและแยกย้ายไปมีชีวิต โลดโผนชนิดทางใครทางมัน พ่อจึงมีช่วงเวลาปล่อยเกียร์ว่างอยู่เล็กน้อย และ ในที่สุดพ่อก็รู้ว่า รักแรกของพ่อ ‘น้าหล้า’ อยู่ที่เชียงใหม่ เธอมีลูกชายและสามี ได้เสียชีวิต จากกันไปหลายปี พ่อจึงกลับไปหารักแรกของพ่อแม้ว่ารู้ว่าหนทาง ที่จะทำ�ให้รักร้าวเมื่อหลายสิบปีก่อนคืนมาเป็นเรื่องยาก แต่พ่อก็พยายาม แล้วในบ่ายของฤดูร้อนปีหนึ่ง พ่อก็เรียกพวกเรามารวมกัน แล้วบอก ว่า “ทุกคน นี่คือน้าหล้า ผู้หญิงของพ่อ แฟนพ่อ” สำ�หรับฉันแล้วจากพ่อที่เป็น พระเอกละครทีเ่ จ้าชูม้ าตัง้ แต่เด็ก เมือ่ เหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ พ่อกลายเป็นพระเอก ละครโรมแมนติกที่ดูเท่ห์ขึ้นมาเลยทีเดียว และแน่นอนฉันคิดในใจว่า น้าหล้า จะต้องผจญกับวิบากรรมด้านอาหารจากพ่อฉันอย่างเป็นแน่แท้ ชีวติ ในบัน้ ปลายของพ่อจึงมีความสุขกับความสำ�เร็จในหน้าทีก่ ารงาน กิจการที่ขยายออกไป มีความสุขกับชีวิตคู่และอาหารที่ปรุงด้วยใจของภรรยา ที่รัก


อาหารของพ่อ


เย็นวันหนึ่ง ฉันขับรถไปรับพ่อจากโรงพยาบาล ทุกครั้งเราจะมี กิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำ� คือ เราต้องแวะริมปิง เพื่อซื้อของที่พ่ออยากกิน เมื่อ เราชอบกินกันทั้งพ่อทั้งลูก ฉันจึงถามพ่อว่า เรามาทำ�หนังสืออาหารกันไหม อาหารที่พ่อชอบ เดี๋ยวจะถ่ายรูป แล้วพ่อก็เล่าให้ฉันฟัง แต่ในเมื่อคนทำ� ต้นฉบับหนีไปเที่ยวภพใหม่เสียคนเดียว ฉันจึงขอถ่ายทอด สูตรอาหารของ พ่อ เท่าที่จำ�ได้เผื่อใครสนใจอยากจะนำ�สูตรของพ่อไปลองบ้าง ต้องขอบอก ไว้กอ่ นว่าครอบครัวของเรา ทำ�อาหารแบบใช้สญ ั ชาติญาณ ไม่ได้มสี ตู รตายตัว


ส้ามะเขือแจ้ มะเขือแจ้หรือมะเขือขื่นตามปกตินั้นว่ากันว่าหาส่วนที่อร่อยได้ยาก ทั้งเนื้อ เหนียว และมีกลิ่นเฉพาะ แต่ไม่มีรสชาติในตัวเองต้องอาศัยรสในเครื่องปรุงอื่นๆ แต่ด้วยความทนต่อสภาพอากาศของมะเขือขื่นและสรรพคุณทางยาที่ช่วยแก้ไอ กัด เสมหะ แก้ไข้ ทั้งหาง่ายและมีประโยชน ์แม่ครัวชาวเหนือจึงหากรรมวิธีต่างๆ ที่จะ ทำ�ให้อาหารจานนี้เป็นอาหารอร่อย วิธีการทำ�จึงยุ่งยากซับซ้อน หัวใจสำ�คัญของส้ามะเขือ คือ น้ำ�ปรุงที่จะใส่ลงไป สูตรที่พ่อทำ�นั้นสลับซับ ซ้อนมาก เพราะมีกรรมวิธีมากมาย

เครื่องปรุง

มะเขือขื่น ๑๒ ลูก (หั่นบางๆแช่น้ำ�ไว้) เครื่องปรุงน้ำ�พริก พริก เกลือเม็ด หอมแดง กระเทียม หัวหอม ปลาร้าต้ม เนื้อสัน ใน น้ำ�มันสำ�หรับผัด

วิธีปรุง • • • • •

นำ�มะเขือที่หั่นเป็นแว่นบางไว้มาคั้นกับน้ำ�เพื่อขจัดความขื่นประมาณ ๕ ครั้ง แล้วสรงขึ้นให้เพื่อให้สะเด็ดน้ำ� นำ�ไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ ตำ�กระเทียม พริก เกลือเม็ด ให้แหลก ใส่หอมแดง ใส่กะปิ นำ�เนื้อไปย่างไฟ เพื่อเก็บความฉ่ำ�ของเนื้อ จากนั้นเอาไปต้มกับ น้ำ�ปลาร้าสักพัก พอเปื่อยเอามาหั่นยี และตำ�ให้ฟู ตั้งกระทะให้ร้อนเอาน้ำ�มันใส กระเทียมลงผัด เอาพริกลงผัด ใส่เนื้อที่ ตำ�จนฟู น้ำ�ปลาร้า ผัดจนหอม เนื้อละลายปนอยู่กับน้ำ� ถือว่าดี เมื่อจะกิน ก็เอามะเขือที่กรอบเย็น ราดด้วยน้ำ�ปรุงที่ผัดไว้ ใส่หอมแดง เจียว โรยผักชี


แกงบอน แกงนี้เป็นแกงที่พ่อชอบมากๆ ส่วนใหญ่เรามักจะเรียกแกงนี้เพื่อตัดไม้ ข่มนามว่า แกงผักหวาน เพราะถ้าทำ�ไม่ดแี กงบอนจะเข้าไปสนุกในลำ�คอเล่นตลก กับลิน้ ของคุณได้ มันคันปากไปหมด พ่อบอกว่าแม่สภุ ารัตน์เป็นคนทีท่ �ำ แกงบอน ได้เก่งที่สุดเท่าที่รู้มา หน้าตาแกงบอนที่ดีต้องขี้เหร่ค่ะ เพราะ กระบวนการทำ�ที่ แสนยุง่ ยากทำ�ให้มนั ไม่อาจรักษาหน้าตาดัง้ เดิมของมันได้ แกงบอนของพ่อทีบ่ อก ให้แม่ทำ�ก็มักจะไม่เหมือนใครเสมอ (สูตรที่เอามาเป็นสูตรจาก http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood แต่เพิ่ม บางส่วนเข้าไป)

ส่วนผสมแกงบอน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.

บอนต้นอ่อน คากิ หมู น้ำ�มะขามเปียก ข่าหั่น ตะไคร้ กระเทียม ใบมะกรูด กระเทียมเจียว น้ำ�มันพืช

เครื่องแกงแกงบอน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.

พริกขี้หนูแห้ง กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ซอย กะปิ ปลาร้าต้มสุก เกลือ

8 2 2 5 1 1 5 2 2

ต้น ขา ช้อนโต๊ะ แว่น ต้น ช้อนโต๊ะ ใบ ช้อนโต๊ะ ช้อนชา

15 10 5 1 1 1 1/2

เม็ด กลีบ หัว ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ


วิธีปรุง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.

บอนปอกเปลือก หั่นเป็นท่อน ล้างน้ำ� แล้วนำ�ไปนึ่ง นึ่งให้สุกจนเละ ประมาณ 30 นาที แล้วพักไว้ โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด เตรียมคากิ โดยการเผาแล้วขูดเอาขนออกให้หมด นำ�ไปต้มให้เปื่อย ตักขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำ�ลงไปต้มอีกครั้ง เจียวกระเทียมพอให้เหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่ข่าหั่น ตะไคร้ ซอย ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำ�มะขามเปียก เกลือ ผัดให้เข้ากัน ใส่ขากิที่ต้มไว้ ผัดให้เข้ากัน ใส่บอนลงผัดให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูดฉีก คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

เคล็ดลับในการปรุง

การนึ่งบอน ต้องให้สุก จับดูแล้วนิ่มจนเละ ถ้าบอนไม่สุก จะทำ�ให้เกิด อาการระคายคอ

เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม

เลือกใช้บอนต้นอ่อน พันธุ์สีเขียวสด และไม่มีสีขาวเคลือบอยู่ตามก้าน และใบ บอนสีเขียวสด เรียกว่า บอนหวาน ส่วนชนิดที่มีสีซีดกว่า และนวลขาว กว่า เรียกว่า บอนคัน ส่วนของบอนที่นำ�มาแกงคือ หลี่บอน เป็นยอดอ่อน หรือ ใบอ่อนของบอนทีอ่ ยูใ่ กล้โคนต้น ในการปรุงแกงบอน ถ้าไม่ใช้น�้ำ มะขามเปียก ให้ ใช้น้ำ�ส้มป่อยแทนได้ (สิรวิชญ์ จำ�รัส, 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 479)


ขนมจีนน้ำ�เงี้ยว อาหารของพ่อเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยกรรมวิธีที่แปลกใหม่ หนักเครื่อง เข้มข้น น้ำ�เงี้ยวของพ่อ จะเริ่มตั้งแต่การตำ�น้ำ�พริก เจียวกระเทียม การเลือกวัตถุดิบ ทีห่ ลากหลาย ผักกับผักแกล้มก็มคี วามหลากหลายไปด้วย คนทีท่ �ำ ตามแบบฉบับของ พ่อได้เหมือน และอร่อยที่สุดคือน้องชายของฉันเอง (สูตรที่เอามาเป็นสูตรจาก http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood แต่เพิ่มบาง ส่วนเข้าไป)

ส่วนผสม 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

ขนมจีน เนื้อหมูปนมันบดหยาบ ซี่โครงหมู เลือดไก่ต้ม เลือดหมู มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศเล็ก งิ้วแห้ง เต้าเจี้ยว น้ำ�มันพืช

เครื่องแกงขนมจีนน้ำ�เงี้ยว 1. 2. 3. 4. 5. 6.

พริกแห้ง เม็ดผักชี กระเทียม หอมแดง กะปิ เกลือ

10 1 10 10 3 3

1 กิโลกรัม 1/2 กิโลกรัม 1/2 กิโลกรัม 3 ก้อน 1 ถุงแล้วแต่ชอบ 200 กรัม 300 กรัม แล้วแต่ชอบ 3 ช้อนโต๊ะ 1/2 ถ้วยตวง เม็ด ช้อนชา กลีบ หัว ช้อนโต๊ะ ช้อนชา


เครื่องเคียงขนมจีนน้ำ�เงี้ยว 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.

วิธีปรุง

กระเทียมทอด ผักชี ต้นหอม พริกขี้หนูแห้งทอด มะนาว ถั่วงอก ผักกาดดอง

1. ต้มน้ำ� พอเดือด ใส่ซี่โครงหมู เอาดอกงิ้วตากแห้ง ต้มพร้อมกับหมูเพื่อให้ดอก งิ้วเปื่อย 2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด 3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำ�มัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เต้าเจี้ยวลงผัด คนให้เข้ากัน 4. ใส่หมูบด ผัดให้เข้ากัน จนหมูสุก หากกระทะแห้งให้ค่อยๆ ใส่น้ำ�ซุปต้มกระดูก หมูเข้าไป 5. ใส่เครื่องแกงที่ผัดแล้วลงในน้ำ�หม้อต้มกระดูก 6. ใส่เลือดไก่ที่หั่นแล้ว คนให้ทั่ว 7. ใส่มะเขือเทศสีดา ที่ผ่ากลางเอาสากบี้ให้แตกเล็กน้อย ใส่มะเขือลูกเล็ก 8. ตั้งไฟต่อประมาณ 5 นาที ยกลง นำ�ขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้ำ�เงี้ยว) รับประทานกับเครื่องเคียง


ผักพื้นบ้าน กินเป็นยา พ่อเคยบอกว่าอาหารเหนือของเราเป็นผักทีม่ ปี ระโยชน์ ถ้าเรากินให้เป็นจะ ช่วยในเรื่องสุขภาพได้ พ่อเคยบอกว่า ดูพ่อสิไม่เคยเจ็บป่วยเพราะกินผักเหล่านี้ ซึ่งก็ เป็นเรื่องจริง ผักเฮืยก หรือผักเฮือด ผักที่ต้องรับประทานยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ใบเท่านั้น เพราะส่วนอื่นแข็งจนเกินไป ส่วนใหญ่นำ�มานึ่งแล้วยำ� มีรสเปรี้ยวอมฝาด ในบาง ครั้งใช้จิ้มน้ำ�พริก ผักขี้ก๋วง เป็นพืชคลุมดิน มีรสขม นิยมนำ�มาทำ�แกงและกินร้อนๆ เพราะ หากเย็นแล้วจะมีรสขม มีสรรพคุณช่วยลดอาการร้อนใน ผักปั๋ง หรือผักปลัง เป็นไม้เลื้อยอวบน้ำ�เมื่อนำ�มาต้มจะมีเมือกเหนียว มัก จะนำ�มาเจี๋ยว มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ สะแล เป็นไม้เลือ้ ยออกช่วงเดือนมีนาคมส่วนทีน่ �ำ มาทำ�อาหารคือส่วนทีเ่ ป็น ดอกมีรสมัน มักนำ�มาแกง มีทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบีหนึ่ง บีสอง และซี


ผักเสี้ยว หรือชงโค ใช้ส่วนของยอดอ่อนมาทำ�อาหาร มักนำ�มาแกง หรือจิ้ม น้ำ�พริกตาแดง ใบมีสรรพคุณแก้ไอ ผักแซ่ว หรือมะลิวัลย์หรือมะลิป่า ใช้ส่วนของยอดนำ�มาแกง มีรสขมฝาด มี เบต้าเคโรทีนสูง นำ�มาแกงใส่ปลาแห้งคล้ายๆ แกงผักเสี้ยว เห็ดลม เมื่ออ่อนจะมีเนื้อนุ่มออกเหนียว แต่เมื่อแก่จะมีสีน้ำ�ตาลจัด เหนียว นิยมนำ�มาใส่แกงแค มีสรรพคุณบำ�รุงกำ�ลังและแก้พิษ สาหร่ายเตา หรือเทา เป็นสาหร่ายน้�ำ ขึน้ ในพืน้ ทีน่ �้ำ ใสและไม่แรง พบมาก ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ให้ทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินบีสอง แมกนีเซียม แมงกานีส นิยมนำ�มายำ�แบบทางเหนือ


สมุนไพรใช้รักษาพ่อ

เมือ่ พ่อเป็นโรคไต น้องชายได้เสาะหาสมุนไพรช่วยฟอกไต เพือ่ ทุเลาอาการ กำ�เริบของโรค สมุนไพรชนิดนี้ พ่อกินทั้งสดทั้งต้ม ส่วนชาใบขลู่นั้นตั้งใจจะใช้ชงให้ พ่อดื่มแต่ของยังมาไม่ถึง พ่อก็จากไปเสียก่อน

ไผ่น้ำ�

หญ้าไผ่น้ำ� (จุ้ยเต็กเฉ้า) มีถิ่นกำ�เนิดที่มณฑลกวงสี มณฑลกวางตุ้ง และ มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน มีผู้นำ�ไปปลูกที่สิงคโปร์ เพื่อเป็นยาทานแก้พิษร้อนใน ต่อมา พบว่าเป็นยาสมุนไพร ทีส่ ามารถขับพิษทีต่ กค้างในไต ออกทางปัสสาวะ ทำ�ให้ ไตคืนสภาพเป็นปกติ หญ้าไผ่น�้ำ มีลกั ษณะเป็นใบเรียวกลม ด้านบนของใบมีสเี ขียว ด้านหลังของ ใบเป็นสีบานเย็น มีก้านเป็นข้อ ๆ เลื้อยไปตามพื้นดิน ก้านจะมีขนอ่อนนิด ๆ ควร ปลูกในกระถางปากกว้าง ดินลึกประมาณ ๕ นิ้ว ชอบความชุ่มชื้น แดดอ่อน แต่น้ำ� ไม่ขัง หน้าฝนเจริญเติบโตเร็ว ขยายพันธุ์โดยตัดก้านให้มีความยาว ๓-๔ นิ้ว ปัก ชำ�ลงในดิน ประมาณ ๒ อาทิตย์ จะมีรากงอกออกมาที่ก้านตามข้อ ดังนั้น การขยาย พันธุ์จึงทำ�ได้ง่าย


หญ้าไผ่น้ำ� ที่เชียงใหม่มีขายที่ โทร 081-6033997 หรือ facebook : หญ้าไผ่น้ำ�เชียงใหม่ สรรพคุณหญ้าไผ่น้ำ� นอกจากกินแก้ร้อนใน ยังสามารถลดการอับเสบของ ทางเดินปัสสาวะ แก้พิษงูกัด บำ�บัดอาการต่อมลูกหมากโต ผู้ที่เริ่มมีอาการของโรค ไต โดยค่าของ BUN ในเลือดสูงเกินปกติ หรือ CREATININE สูงเกินค่าที่กำ�หนด เป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า จะต้องงดทานเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ถั่วที่มีโปรตีน สูง ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มียารักษา เพียงรอให้อาการของผู้ป่วย ถึงขั้นอาเจียน ขาบวม ท้องอืด เบื่ออาหาร ท้ายสุดก็ต้องไปฟอกไต ถ้าคนไข้เริ่มมีอาการใหม่ ๆ ให้ ทานน้ำ�ต้มหญ้าไผ่น้ำ� จะช่วยบรรเทาอาการของโรคไตได้ดี ดังเช่น บุคคลหลาย ๆ ท่าน ที่ทานยานี้แล้ว อาการของไตเสื่อมจะไม่ปรากฏ

วิธีต้มหญ้าไผ่น้ำ�

ตัดหญ้าไผ่น้ำ�ประมาณ ๑๐๐ – ๑๕๐ กรัม ล้างน้ำ�ให้สะอาด ใส่หม้อต้ม (ควร เป็นหม้อเคลือบ) เติมน้ำ�สะอาด ๒ ลิตร ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟอ่อน ต้มอีกประมาณ ๑ ชั่วโมง แล้วตักเอาหญ้าไผ่น้ำ�ออก จะเห็นน้ำ�ใส ๆ เป็นสีบานเย็นอ่อน ไม่ควรใส่ น้ำ�ตาลหรืออย่างอื่น วางทิ้งไว้ให้เย็น แล้วบรรจุขวดเข้าตู้เย็นทานได้ทุกเวลา วันละ ๓-๔ แก้ว หลังจากทานหญ้าไผ่น้ำ�แล้ว ประมาณ ๓ เดือน ควรไปเจาะเลือดตรวจ ค่า ของ * BUN * และ * CREATNINE * ด้วย


ชาใบขลู่

ปลูกมากทีจ่ งั หวัดจันทบุรแี ละจังหวัดระยอง ใช้ชงดืม่ เป็นชาก็ได้ชาวบ้านใช้ เอามาทำ�แกง มีประโยชน์คือคนไข้โรคไตและเบาหวาน

สรรพคุณ ทั้งต้นสด หรือแห้ง - ปรุงเป็นยาต้มรับประทานขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วใน ไต แก้ปัสสาวะพิการ แก้วัณโรคที่ต่อมน้ำ�เหลือง เป็นยาช่วยย่อย แก้ริดสีดวงทวาร หนัก ริดสีดวงจมูก เปลือก ใบ เมล็ด - แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงจมูก แก้กระษัย เป็นยาอายุ วัฒนะ ใบ - มีกลิ่นหอม ต้มน้ำ�ดื่ม แทนเป็นน้ำ�ชา เพื่อลดน้ำ�หนัก แก้ปวดเมื่อย ขับระดูขาว แก้แผลอักเสบ และต้มน้ำ�อาบบำ�รุงประสาท สำ�หรับแก้แผลอักเสบ อาจ ใช้ใบสดตำ�พอก บริเวณที่เป็น แก้ริดสีดวงทวาร ยาอายุวัฒนะ ใบและราก - รับประทานเป็นยาฝาดสมาน แก้บิด แก้ไข้ ขับเหงื่อ แก้แผล อักเสบ ใช้รากสดตำ�พอกบริเวณที่เป็น ดอก - แก้โรคนิ่ว วิธีและปริมาณที่ใช้

ยาแก้อาการขัดเบา ไช้ทั้งต้นขลู่ 1 กำ�มือ (สดหนัก 40- 50 กรัม แห้งหนัก 15- 20 กรัม ) หั่น เป็นชิ้นๆ ต้มกับน้ำ�ดื่ม ครั้งละ 1 ถ้วยชา (75 มิลลิลิตร) วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ยาริดสีดวงทวาร ริดสีดวงจมูก ใช้เปลือกต้น ต้มน้ำ� เอาไอรมทวารหนัก และรับประทาน แก้โรคริดสีดวง ทวาร หรือใช้เปลือกต้น (ขูดเอาขนออก) แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นำ�มาตากแห้ง ทำ�เป็นยาสูบ ส่วนที่ 2 นำ�มาต้มน้ำ�รับประทาน ส่วนที่ 3 ต้มน้ำ�เอาไปรมทวารหนัก เปลือกบางของต้นขูดขนออกให้สะอาด ทำ�เป็นเส้นตากแห้ง คล้ายเส้นยาสูบ แก้ ริดสีดวงจมูก การใช้ขลู่ในใบชาลดความอ้วน การใช้ยาขับปัสสาวะในทางการแพทย์นนั้ มักใช้เพือ่ ลดความดันโลหิต และ เพือ่ ลดอาการบวมน้�ำ อาจมีทใี่ ช้ในกรณีอนื่ อีกบ้าง แต่แพทย์ไม่ใช้ยาขับปัสสาวะ เพือ่ ลดความอ้วน สมุนไพรทีใ่ ช้ชอื่ ว่า ใบชาลดความอ้วน ทัง้ หลาย มักมีสมุนไพรทีม่ ฤี ทธิ์ ขับปัสสาวะอยู่ด้วย



โดย บริษัท ลมเหนือ จำ�กัด โทร 08 1673 3784 www.lomnua.com ร้านสวนดอกเดนตัลซัพพลาย โทร 0 5380 8316


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.