Nasilemak Vol.31

Page 1

จุ ล ส า ร ร า ย เ ดื อ น ช ม ร ม นั ก ศึ ก ษ า ไ ท ย ม ห า วิ ท ย า ลั ย อิ น ซ า นี ย ะ ห ์

นาซิเลอมะ ฉบับที่ 31 ประจ�ำเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2555

ครบรอบ 5 ปี นาซิเลอมะ

NASI LEMAK 5th ANNIVERSARY ให้!!!

สกู๊ปพิเศษจัดเต็มสัมภาษณ์บ.ก.ทั้ง 4 คนพร้อมตอบค�ำถามเหมือนเดิม


ประธานคุยกับพี่น้องชมรมฯ ‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ขอความเมตตาปราณี ความสุขความจ�ำเริญ จากพระผู้เป็นเจ้า ขอจงประสบแด่บรรดาพี่ น้องชาวควีนทุกๆท่าน ‫ أهال و سهال و مرحبا بكم‬ก่อนอื่นก็ขอกล่าวค�ำต้อนรับว่าที่ประธานคน ใหม่ของชมรมฯของเรา ซึ่งอีกไม่นาน พี่ๆน้องๆก็จะได้ใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้งประธานชม รมฯและในปีนี้ ทางชมรมของเราได้เปิดกว้างในการเลือกตั้งโดยที่เราสามารถใช้สิทธิ์ของเราเลือกได้ 2 เสียง กล่าวคือเราสามารถเลือกผู้ที่จะมาเป็นประธานฯได้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง หวังว่าพี่น้องคงใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเลือกเฟ้นผู้ที่จะมาด�ำรงต�ำแหน่งประธานฯคนใหม่ เพื่อที่พี่น้องจะได้รับประโยชน์กันอย่างทั่วถึง เรื่องต่อมาคงหนีไม่พ้นเรื่องของ”การสอบ”กับเวลาที่ใกล้เข้ามาทุกทีเหลือเวลาอีกเพียงน้อยนิดเท่านั้น เองนะครับ ที่เราจะตระเตรียมทบทวนต�ำรับต�ำราในสิ่งที่เราได้เรียนมา กระผมยังจ�ำได้เสมอเมื่อครั้งที่ ยังศึกษาอยู่ในชั้นปี 1 คณะชารีอะห์ โดย ดร.อะห์หมัด มูฮ�ำหมัด อาบูซัยยิด ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งในห้องเรียนว่า ”‫“ ”ال تذاكر ال ينفع‬ถ้า ท่านไม่ทบทวน ( ไม่มุซากาเราะห์ ไม่มุรอญาอะห์ ไม่มุนากอซะห์ ) มันก็จะไม่ยังประโยชน์ใดๆแก่ ท่านเลย” นายมะอีซอ ปาเตะตีมุง ประธานชมรมนักศึกษาไทย มหาวิทยาลัย อินซานียะห์

2


ตัวอยางบัตรเลือกตั้ง สะอาด สะอาน ชางจด ชางจํา

ดีดี มากมาก ดาวรุง นะคะ

๒ ๑

สะอาด สะอาน ชางจด ชางจํา

๒ ๑

๕ ๔

ดีดี มากมาก ดาวรุง นะคะ

๕ ๔

ตัวอยางบัตรดี

กาแบบนี้ถือวาเปนบัตรดี

ตัวอยางบัตรเสีย

กาแบบนี้ถือวาเปนบัตรเสีย

ทราบแบบนี้แลวก็ควรกาเครื่องหมายกากบาทใหถูกตองกันดวยนะคะ

กฏของการเลือกตั้งประธานชมรมนักศึกษาไทย ๑.ผูที่มีสิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้งตองมีชื่ออยูในทะเบียนของชมรมนักศึกษาไทยเทานั้น ๒.ผูที่จะทําการลงคะแนนเลือกตั้ง ตองนําบัตรนักศึกษา,หนังสือเดินทาง,บัตรประจําตัวประชาชนหรือใบขับขี่อยางใดอยางหนึ่ง มาแสดง ณ สถานที่ลงคะแนนที่ไดกําหนดเอาไว ๓.การเลือกตั้งจะมีในวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555 ตั้งแต 9.00 น.-16.00 น. ตามเวลาประเทศมาเลเซีย ณ หองTAKLIMAT ตึก A ขอควรปฏิบัติสําหรับผูมีสิทธิเลือกตั้ง ๑.หามขีดเขียนอะไรเพิ่มเติมลงในบัตรเลือกตั้งเด็ดขาด ๒.โปรดกาเครื่องหมายXในชองลงคะแนนของผูสมัครชาย และผูสมัครหญิง ฝายละหนึ่งชองเทานั้น หากทําเครื่องหมาย Xเพียงชองเดียวถือวาเปนบัตรเสีย


scoop insan

ทุกความเคลื่อนไหว สัมผัสได้ที่นี่

อัสลามมุอะลัยกุ้มว่าเราะห์มาตุ้ลลอฮิว่าบาร่อกาตุฮฺ ส�ำหรับ”สกู๊ป”ในฉบับนี้ ต้องบอกพี่น้องชมรมฯครับว่า มันพิเศษจริงๆเมื่อวารสาร”นาซิเลอมะ”ของชมรมฯที่พี่ๆน้องก�ำลังอ่านกันอยู่นี้ ได้เดินผ่านช่วงเวลาต่างๆมาจนครบ รอบ ๕ ปีเข้าไปแล้วอาจจะดูไม่นานเท่าไรนักแต่อยากจะบอกว่าวารสารฉบับนี้ได้มันผ่านสายตาของพี่น้องเรามาตลอด ช่วงเวลาดังกล่าวผ่านมือของทีมงานมาหลายต่อหลายท่านเรียกว่ารุ่นสู่รุ่นก็ว่าได้ ฉะนั้น”นาซิเลอมะ”ฉบับนี้ เราจึง มีบทสัมภาษณ์ของเหล่า ” บ.ก. ทั้ง ๔ ท่าน” ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง,มีส่วนในการผลักดัน,มีส่วนในการถ่ายทอดเรื่องราว ต่างๆมากมายผ่านตัวอักษรดังกล่าวและที่ส�ำคัญที่สุดก็คือเป็นผู้ที่มีส่วนที่ท�ำให้วารสารฉบับนี้เป็นศูนย์รวมของพวกเรา ชาวอินซานที่จะคอยตักเตือนซึ่งกันและกัน คอยดูแลบอกข่าวคราวแก่พวกเรา คอยเติมเต็มวิชาความรู้ในด้านต่างๆ คอยมีส่วนในการสร้างรอยยิ้มที่ผ่านมา และคอยก้าวเดินไปพร้อมๆกันกับพวกเราทุกคนและขอขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วน เกี่ยวข้องกับวารสารฉบับนี้ทั้งในอดีตและปัจจุบันและขอดุอาจากอัลลอฮ (ซ.บ.)ได้ทรงเพิ่มพูนความรู้ที่กว้างขวางอี หม่านที่มั่นคงและความดีงามต่างๆร่วมถึงผลบุญที่เกี่ยวข้องกันวารสารฉบับนี้ให้เกิดขึ้นกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ อ่านทุกท่านและขอให้วารสารฉบับนี้ยังคงอยู่คู่กับชมรมนักศึกษาไทยอินซานียะห์ต่อไป อินชาอัลลอฮ..... บ.ก.ท่านแรก สรายุทธ บุญยง หรือบังฮาดี๊ นั่นเอง

ที่ ม าของนาซิ เ ลอมะ.....คื อ เริ่ ม จากสมั ย ตอนผม อยู่ปีสองโดยบังอาบีดีน ฮานาฟี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ปีสามในขณะ นั้น(สมัยนั้นทางหมาลัยฯมีแค่ปีสามต้องไปต่อปีสี่ที่ไคโร) ได้ มาบอกผมว่าให้ท�ำหนังสือของทางชมรมขึ้นมาเพื่อที่จะกระจาย ข่าวประชาสัมพันธ์และน�ำความรู้เ ชิ ง วิ ชาการมาบอกต่ อกั บ พี่ ๆ น้ อ งๆในชมรมได้ อ ่ า นกั น เหมื อ นกั บ ทางชมรมนั ก ศึ ก ษา ไทยในมหาลัยอื่นๆที่ต่างประเทศได้เคยท�ำกัน ตอนนั้นในใจ ก็คิดว่าถ้าเราไม่เริ่มก็คงไม่มีใครเริ่มท�ำ มันก็เลยตัดสินใจท�ำ จุลสารนี้ขึ้นมาด้วยการที่เราก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสมัย นั้นด้วยและจากการที่เราเคยเรียนราชภัฏฯมาก่อนและเคยไป ฝึกงานที่หนังสือพิมพ์กัมปงมาเลยอาศัยประสบการณ์ตรงนั้น มาเป็นตัวผลักดันให้นาซิเลอมะมันเดินหน้าไปก่อนในช่วงนั้น สมัยนั้นท�ำงานยังไง....ตอนนั้นยังอยู่หอพักชายทา คาชี่เห็นคอมเน่าๆอยู่ตัวนึงเลยลองเอามากดๆดู เอามาท�ำได้ นิดหน่อยแต่พอเริ่มมาอยู่ที่บ้านเจ็ดประจัญบานก็เอาโปรแกรม ส�ำหรับท�ำหนังสือมาลงที่ร้านเน็ตแล้วก็อาศัยคอมของที่ร้าน เพื่อท�ำจุลสารนาซิเลอมะที่เราได้เคยผ่านตากันมาในปัจจุบัน น า ซิ เ ล อ ม ะ ฉ บั บ ป ฐ ม ฤ ก ษ ์ อ อ ก ค รั้ ง แ ร ก เมื่ อ วั น ที่ เ ท่ า ไหร่ พ อจะจ� ำ ได้ มั้ ย ....ถ้ า จ� ำ ไม่ ผิ ด คื อ วั น ที่ 1 5ม.ค.2550(พร้ อ มกั บ ไปหาหลั ก ฐานมายื น ยั น ซะด้ ว ย) ท� ำ นาซิ เ ลอมะมานานกี่ ป ี . ..ประมาณปี ก ว่ า ๆ

ส มั ย นั้ น น า ซิ เ ล อ ม ะ อ อ ก เ ดื อ น ล ะ ฉ บั บ แ บ บ ป ั จ จุ บั น นี้ มั้ ย . . . ส มั ย นั้ น จ ะ อ อ ก เ ป ็ น ร า ย ป ั ก ษ ์ คือเดือนละ2 ฉบับโดยเล็งเห็นว่าต้องเน้นปริมาณ เลยซวยเพื่ อ นๆที่ ร อบต้ อ งจั ด ขึ้ น ต้ อ งมาเย็ บ เล่ ม ต้ อ ง เขียน ต้องช่วยกันแจกเป็นช่วงที่บ้าพลังเลยท�ำได้ ผ ล ต อ บ รั บ เ ป ็ น ยั ง ไ ง บ ้ า ง . . . ส บั บ สนุน 40 % เฉยๆ %30 ก็โอเค %30 ก า ร ห า ที ม ง า น ยั ง ไ ง . . . . ส มั ย นั้ น เ อ า ค ณ ะ กรรมการทั้ ง หมดมาท� ำ งานโดยให้ แ ต่ ล ะคนมี ส ่ ว นร่ ว มใน การท� ำ งานกั บ นาซิ เ ลอมะทั้ ง หมดใครที่ ไ ม่ เ ขี ย นก็ ไ ปเย็ บ เล่มไปแจก ส่วนคนที่เขียนก็มีหน้าที่ของแต่ละคนไปเพราะ เราเป็ น คณะกรรมการเราต้ อ งท� ำ ให้ ค นในชมรมได้ อ ่ า นกั น การท�ำงานช่วงนั้นล�ำบากมั้ย... ค่อนข้างจะล�ำบาก เนื่องจากเราไม่มีคอมเป็นของตัวเอง ใช่ ค อมที่ ร ้ า นและของ เพื่อนคนจีนเราก็จัดการลงโปรแกรมท�ำหนังสือในคอมของที่ร้าน และของเพื่อนคนจีนหมดคอลั่มที่ได้จากเพื่อนๆก็ได้มาจากการ เขียนเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องมานั่งพิมพ์แต่บางทีก็มีเป็นไฟล์บ้างแต่ ค่อนข้างน้อย แบ่ ง เวลายั ง ไง...ตอนนั้ น เป็ น ช่ ว งบ้ า พลั ง เรี ย นเอาไว้ ที ห ลั ง ก็ ท� ำ แต่ น าซิ เ ลอมะมี ร ายงานมี ง าน ก็ อ าศั ย ต้ อ งไปลอกของเพื่ อ นๆสอบก็ ดู ห นั ง สื อ ปกติ ถ ้ า ตกก็ อ าศั ย ซ่ อ มไปคนอื่ น จะเตะบอลท� ำ ไรก็ ช ่ า งเราก็ จ ะ นั่ ง คลุ ก อยู ่ กั บ มั น เพราะอยากจะให้ มั น ออกมาดี ที่ สุ ด


บอกอท� ำ หน้ า ที่ อ ะไรตอนนั้ น ....ตอนนั้ น ก็ ท� ำ หน้ า ที่ จั ด อาร์ ต คนเดี ย วเนื่ อ งจากโปรแกรมท� ำ หนั ง สื อ ยั ง ไม่ มี ใ ครท� ำ เป็ น เวลาท� ำ งานก็ จ ะอยู ่ ที่ เ ราเพ ราะเพื่ อ นๆจะส่ ง คอลั่ ม มาที่ เ ราแล้ ว ส่ ว นเราก็ จ ะต้ อ ง ท�ำงานให้ทันกับก�ำหนดส่งเลยจะต้องมีความรับผิดชอบ ที่ ค ่ อ นข้ า งสู ง พอสมควรเนื่ อ งจากต้ อ งเสร็ จ ให้ ทั น แจก ปั ญ หาที่ เ จอคื อ อะไร...เนื่ อ งจากมั น เป็ น หนังสือที่แจกฟรีปัญหาที่เจอคือการไปรวบรวมคอลั่มที่ ได้ไม่ตรงเวลา ก็จะมีช้าบ้าง ยังไม่ได้เขียนบ้าง ต้องไป ตามง้อทีมงานบ้าง สุดท้ายมันก็จะมาหนักที่เราเมื่อมัน ใกล้เวลาจะถึงก�ำหนดออกของแต่ละเล่ม เราก็จะต้อง มานั่งปั่นต้นฉบับให้ทันต้องอดหลับอดนอนเวลาใกล้จะ ปิดเล่มและเรื่องกราฟฟิคที่ต้องมาลองผิดลองถูกกันอยู่ นานเพราะยั ง ไม่ ชิ น กั บ โปรแกรมท� ำ หนั ง สื อ นี้ แ ต่ ก็ อั ล อัมดุลิลลาฮ ก็ผ่านมาจนหมดวาระของทีมงานรุ่นผม นาซิเลอมะตอนนั้นมันท�ำหน้าที่อะไร...มันเป็น ศูนย์ร่วมข้อมูลของใครหลายๆคนเป็นที่ๆสามารถกระจาย ข่าวทั่วไป คือกระบอกเสียงของทางชมรมที่ไม่ใช่การที่คนๆ หนึ่งได้รับข่าวสารมาแล้วไปบอกต่อแต่ใช้ตัวหนังสือและ กระดาษสื่อออกไปโดยเป็นตัวบอกต่อให้คนๆอื่นได้รับรู้ รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ท�ำนาซิเลอมะ...มันเป็น หะดิษนะแต่ผมจะสรุปแบบสั้นเข้าใจง่ายๆคือ”ช่วงวัยรุ่น นะมันเป็นช่วงบ้า ถ้าคุณได้ลงมือท�ำอะไรที่มันสร้างสรรค์ มันจะบรรเจิดมาก” ถ้าเอาความบ้าของวัยรุ่นมาท�ำเรื่อง ดีๆให้เกิดขึ้นผมมั่นใจเลยว่าอิสลามเราจะไปได้ไกลกว่านี้ อีกมาก อีกอย่างเราก็ได้รู้ตัวเองว่าเราก็สามารถที่จะขับ เคลื่อนอิสลามได้ด้วยกับแนวทางของตัวเราเอง เราอาจจะ ไม่ใช่คนอาเล็มมีความรู้มากมายแต่เราก็สามารถที่จะท�ำ ในสิ่งที่เราถนัดแล้วเป็นส่งผลดีต่อพี่น้องของเราได้เช่นกัน ชอบอะไรเวลาท� ำ นาซิ เ ลอมะ...ถ้ า ตอบ ตรงๆก็ ช อบนะเวลาที่ ไ ด้ ท� ำ มั น แต่ ถ ้ า ชอบจิ ง ๆคื อ ตอนนี้ เนี้ย...ตอนที่คุณมาถามผมนี่แหละ เพราะมันเหมือนกับ ผมได้ ป ลู ก ต้ น ไม้ ไ ว้ ต ้ น หนึ่ ง โดยที่ ผ มไม่ ไ ด้ ส นใจอะไรมั น มาก รดน�้ำบ้างไม่รดน�้ำบ้างแต่พอเรากลับมาดูมันอีก ครั้ง เฮ้ย..มันโตได้ขนาดนี้แล้วหรอ เลยรู้สึกประทับใจ

แล้วได้อะไรจากการท�ำงานนี้บ้าง...ตอนแรก รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มากกับงานนาซิเลอมะที่อดีตเราเคยท�ำ มาแต่พอได้มาท�ำงานบริษัทจริงๆมันก๊อกแก๊กมากเหมือน เราท�ำหนังสือที่เด็กมัธยมต้นหน้าจะท�ำมันได้แล้วแต่ดีใจที่ ความก๊อกแก๊กดังกล่าวมันมาท�ำให้เราได้มีประสบการณ์ และเป็นตัวท�ำให้เรามีความช�ำนาญและทักษะมากขึ้น เพราะผมคิดว่ากว่าการที่เราจะมาเก่งหรือประสบความ ส�ำเร็จได้นั้นมันต้องเริ่มก๊อกแก๊กแบบนี้มาก่อน สรุปก็คือ เราก็คือหนึ่งในความก๊อกแก๊กที่คนทั้งโลกเป็นกัน คนที่จะ ยิ่งใหญ่ได้นั้นเริ่มต้นการการก๊อกแก๊กแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น ได้อะไรจากการเป็น บอกอ นาซิเลอมะ บ้าง... ได้เป็นผู้เป็นคน ได้ฝึกอามานะห์ ได้คุยกะคน ได้รู้มุมมอง ได้ทักษะคอมพิมเตอร์ ได้ความเป็นเพื่อน ได้อะไรหลายๆ อย่างที่ไม่มีในห้องเรียน ได้ท�ำตามเจตนารมณ์ของคณะอุ ซู้ลฯคือการเผยแพร่ ได้สื่อตามที่ตัวเองต้องการว่าผมไม่ อาเล็มแต่โดนปั้มหัวมาว่าต้องเผยแพร่...ซึ่งเราก็ท�ำได้แค่นี้ ฝ า ก อ ะ ไ ร ถึ ง ที ม ง า น รุ ่ น ห ลั ง ๆ . . . ค น ท� ำ ก็ ไ ด้ กั บ ตั ว เองคนอ่ า นก็ ไ ด้ กั บ ตั ว เองคนวิ จ ารณ์ ก็ ไ ด้ กั บ ตั ว เองคนที่ ไ ม่ ผิ ด คื อ คนที่ ไ ม่ ไ ด้ ท� ำ อะไรเลย นาซิ เ ลอมะคื อ อะไรในความคิ ด คุ ณ ... ยกตั ว อย่ า งชั ด ๆมั น เหมื อ นกั บ ”เด็ ก วั ด ”ที่ เ ดิ น ตาม ติ ด กั บ ”พระ”ที่ มั น จะเดิ น ตามกั น ไปเรื่ อ ยๆตลอดไป ชมรมนั ก ศึ ก ษาไทยก็ เ หมื อ นพระและนาซิ เ ลอมะ ก็ คื อ เด็ ก วั ด นั้ น เองอี ก อย่ า งหนึ่ ง คื อ ...ความชอบ อุ ด มการณ์ ค วามลงตั ว เลยกลายมาเป็ น นาซิ เ ลอ มะครบรอบ 5 ปี อย่างทุกวันนี้ อัลฮัมดุลิลลาฮ.... ใ น ฐ า น ะ ที่ เ ป ็ น บ . ก . ค น แ ร ก ถ ้ า ใ ห ้ พู ด ถึ ง น า ซิ เ ล อ ม ะ จ ะ พู ด อ ะ ไ ร . . . ' น า ซิ เ ล อ ม ะ คื อ ค ว า ม อ ด ท น ภ า ค ป ฏิ บั ติ '


บ.ก.ท่านที่สอง ก๊ะนิดา หับยูโซ๊ะ ครั้งแรกที่ได้อ่านนาซิเลอมะรู้สึกยังไง...ช่วงแรกไม่มี วารสารนาซิเลอมะ พอมีก็รู้สึกดีใจมาก เพราะท�ำให้รับรู้ข่าวสาร ต่างๆ อีกอย่างเด็กไทยเองก็มีความสามารถซึ่งเป็นไอเดียที่ดีมาก ชอบคอลั่มอะไรของนาซิเลอมะในตอนนั้น...สกู๊ป เพราะจะได้รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กไทยบ้างและก็บทความ ค�ำเตือนต่างๆ รู้สึกอย่างไรที่ได้มาเป็นทีมงานนาซิเลอมะ...ภูมิใจที่ ตัวเองและเพื่อนๆได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมกันผนึกก�ำลังกันใน การท�ำวารสารนาซิเลอมะนี้ได้มีความสามัคคีซึ่งเป็นความภาค ภูมิใจของทุกๆคน นาซิเลอมะในทีมงานของก๊ะนิดาอฺ เน้นเนื้อหาด้าน ใดบ้าง...ส่วนใหญ่เนื้อหาที่ท�ำในตอนนั้นก็จะเน้นไปในด้านการตัก เตือนซึ่งกันและกัน การหาทีมงานตอนนั้นพิจรณายังไง...การหาทีมงาน ก็หาคนที่มีความเสียสละจริงๆ มีเวลาจริงๆ แต่เป็นผ้หญิงอย่าง เดียว อยู่ในบ้านเช่าเดียวกันเลยง่ายในการท�ำงาน การท�ำงานตอนนั้นล�ำบากมั้ย...การท�ำงานในตอน นั้นก็ล�ำบากนะ ส่วนใหญ่จะเป็นการส่งคอลั่มช้าต้องคอยไปเตือน ต้องคอยติดตามเพราะมันมันมาจากหลายๆคณะ บางทีมีสอบ บ้าง บะฮัสบ้าง บอกอเลยต้องมาเขียนเอง การแบ่งเวลาในการท�ำงานยังไง...เมื่อนาซิเลอมะ ออกสู่พี่ๆน้องๆ ทีมงานก็จะหาข้อมูลกันต่อเลย ประมาณ ๓ อาทิตย์ ในการหาข้อมูลเพื่อมาท�ำต่อไม่มีการค้างไว้แล้วมาท�ำ ทีมงานมีใครได้ท�ำงานต่อยอดจากการท�ำนาซิเลอ มะบ้าง เช่น การท�ำหนังสือต่อ มีมั้ย...ก็มีนะ มีการท�ำวารสารใน จ.สตูล เอาก๊ะๆในอินซานไปด้วย ชื่อวารสาร “พลังแห่งศรัทธา” ซึ่งมีการจัดท�ำอยู่โดยก๊ะเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น ได้อะไรจากการท�ำนนาซิเลอมะ...ได้น�ำความรู้จาก นี้ที่เราได้เรียนมาปฏิบัติและเผยแพร่เป็นตัวหนังสือ ได้ภาษา เนื่องจากการเขียนต้องมีการเรียบเรียงอย่างสละสลวย และได้ เรียนรู้ว่าคนมีหลายประเภทได้ใช้จิตวิทยาในการเรียนรู้ในการดู ผลตอบสนองจากวารสารของเราทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้อ่าน จุดเด่นของนาซิเลอมะคืออะไร...สกู๊ป ของเด็กไทย ได้รับรู้ถึงข่าวสารของเด็กไทย ความเคลื่อนไหว ความรู้อื่นๆแค่ เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น

ค�ำนิยามของนาซิเลอมะ คืออะไร...การได้รับความรู้ ข่าวคราวพร้อมการตักเตือนกัน อยากบอกอะไรถึงนาซิเลอมะเนื่องในวาระครบรอบ ๕ ปีนี้บ้าง...ให้มีการเผยแพร่ข่าวสาร,และมีการตักเตือนซึ่งกัน และกันหลายคนอาจจะหลงลืม นาซิเลอมะก็จะเป็นตัวที่จะมา คอยช่วยตักเตือน เนื่องจากหลังๆรู้สึกว่าการตักเตือนในนาซิเลอ มะได้หายไป จึงอยากจะให้นาซิเลอมะเป็นข้อตักเตือนแทนการ ใช้ค�ำพูด ปัญหาที่เจอตอนนั้นมีมั้ย ถ้ามี อะไรบ้าง...ก็คงจะมี เรื่องการส่งคอลั่มของทีมงานที่ล่าช้าอะค่ะ รู้สึกอย่างไรที่ได้ท�ำนาซิเลอมะให้พี่น้องในชมรมได้ อ่านกัน...ก็ดีใจที่ได้ท�ำวารสารนี้ให้พี่น้องเราได้อ่านกันเหมือนเรา ได้เผยแพร่ความรู้ที่เรามีและเหมือนกับเราได้ตักเตือนพี่น้องของ เราด้วยกับตัวของเราเอง ผ่านวารสารเล่มนี้ในฐานะที่เราเป็นพี่ น้องมุสลิมด้วยกัน ชอบอะไรเวลาท�ำนาซิเลอมะ...ก็ได้เผยแพร่ความรู้ที่ เราได้เคยเรียนมา,ได้รับรู้ข่าวคราวเด็กไทยในทุกความเคลื่อนไหว สมัยนั้นนาซิเลอมะของที่ก๊ะท�ำแจกฟรีมั้ย...สมัย นั้นไม่ได้ท�ำแจกนะแต่ว่าอาศัยท�ำขายเอา เล่มละ ๕ บาท ก็จะดู จ�ำนวนคนในบ้านนั้นๆ เช่น ถ้าบ้านนั้นมี ๕ คน ก็จะขายสัก ๓ เล่ม ก�ำไรเล่มละ ๑-๒ บาท ก�ำไรที่ได้มาก็น�ำเข้าวารสารของนาซิ เลอมะ เพื่อท�ำเป็นทุนต่อไปโดยไม่ต้องขอเงินจากทางชมรมฯ


บ.ก.ท่านที่สาม บังริดวาน เฟ็นดี้ บริบาลแห่งสันติสุขจงประสบแด่ท่านทั้งหลายอย่างบริบูรณ์ ครั้งแรกที่ได้อ่านนาซิเลอมะรู้สึกยังไง...รู้สึก ดี ชอบ ดีตรงที่เป็นสื่อกลางในชมรมเรา ส่วนชอบตรงที่มัน แปรกใหม่ ไม่เคยเจอ ไม่เคยมีใครเขาท�ำกัน ในตอนนั้นเป็นยุค ที่บังฮาดี้ท�ำชอบคอลั่มอะไรของนาซิเลอมะตอนนั้น...มันนาน มากแล้ว จ�ำไม่ได้ว่าชื่อคอลั่มอะไร รู้แต่ว่าบังญาม้าลเป็นคน เขียน รู้สึกอย่างไรที่ได้มาเป็น ทีมงานนาซิเลอมะ... เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเรา ก็เลยอยากลองท�ำบ้าง ทั้งทีไม่เคยท�ำ เล่นโปรแกมท�ำหนังสือมาก่อน และมันก็น่า สนใจดี นาซิเลอมะของทีมงานคุณเนื้อหาเน้นถึงเรื่อง อะไรและน�ำเสนออะไรบ้าง...ก็เป็นเนื้อหารวมๆนะ แต่ก็อยู่ ภายใต้๓หัวข้อหลัก - เป็นกลางในสังคมศึกษาในกรอบของศาสนา - เป็นสื่อเพื่อแก้ไขกับเรื่องที่ควรจะแก้ไข คงไว้กับเรื่องที่ สมควร - แด่พี่น้อง มุสลิมทั่งหมด การหาทีมงานตอนนั้นพิจรณายังไง... หาคนที่เหมาะกับคอลั่มนั้น แล้วก็ถามความสมัครใจน่ะ แต่ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยม การท�ำงานล�ำบากมั้ย...อื่ม ล�ำบากสิ ก็เราไม่เคย ท�ำมาก่อน แต่ก็ต้องขอบคุณทีมงานที่ช่วยเหลือกันท�ำให้งาน มันง่ายขึ้น และบังฮาดี้ที่ปรึกษาเอกของผม รุ่นพี่มีส่วนร่วมอะไรบ้าง...หลักๆเลยคือที่ปรึกษา ปัญหาการท�ำ ติเตียน และก็เขียนคอลั่ม คือในคอลั่มศิษพี่ ผม จะใช้การหมุนเวียนกันในรุ้นพี่ทั้งสามคณะ ให้สอนถึงวิชาการ ในคณะของแต่ละคณะ แบ่งเวลาการท�ำงานยังไง... ถึงเวลาก็ท�ำ เพราะ เราต้องเรียนกัน คือในยุคที่ผมท�ำหนึ่งฉบับต่อเดือน ช่วงต้น เดือนก็จะแจกจุดประสงของฉบับนั้นให้คอลั่มนิสได้ทราบ แล้วไปตามเก็บในสิบวันสุดท้ายของเดือน ซึ่งจะใช้เวลาการท�ำน้อยมากเพียงสามวันก็เสร็จ และไม่ กระทบถึงการเรียน

ปัญหาที่เจอตอนนั้นมีมั้ย ถ้ามีอะไรบ้าง...มีสิ 1.คอลั่มนิสบางคนไม่ส่งเนื้อหาตามก�ำหนด เวลาออกเล่มอาจ จะเคลือนไปบาง แต่เราก็ต้องแก้ไข โดยผมก็จะเผื่อเวลาใน การเก็บเนื้อหาเร้วขึ้น แต่จะไม่ไปกดดันไร เพราะเราใช้ความ ร่วมมือ ไม่ได้จ้างเขา 2.บางทีได้เนื้อหามาเยอะกว่าความต้องการ และบางเนื้อ หามิ่มเม่ในเรื่องความแตกต่างของมัสฮับ และผมก็จะน�ำไป หารือ กันในทีม แล้วก็พิจรณาเป็นรายๆไป แต่ในเรื่องผลตอบรับจากผู้อ่าน อยู่ในขั้นดีเลยละ รู้สึกอย่างไรที่ได้ท�ำนาซิฯให้พี่น้องในชมรมได้ อ่าน... รู้สึกว่าตัวเองดูดีนะ อิอิ.. ทีมงานมีใครได้ท�ำงานต่อยอดจากการท�ำนาซิฯบ้าง เช่น ท�ำงานหนังสือต่อ...ที่ได้ข่าวมาก็มีคุณอะหมัด คอลั๋มเก็บเอา มาtink คุนชากีเราะห์ คอลั่มเรื่องสั้นนาซิ ส่วนคนอื่นๆก็ไปเป็นครูบ้าง ท�ำธุรกิจส่วนตัวบ้างตามสถานะ ภาพ ท�ำนาซิเลอมะสนุกมั้ย...ตอนจัดเล่ม เพราะต้องใช้ ศิลปะในความเป็นตัวเองดี และการเป็นหัวหน้าที่ต้องยึดการท�ำงานร่วมกัน และคอย ควบคุมมาตรฐานให้ดี เสมอ ดีใจมั้ยที่ได้ท�ำนาซิฯแค่ปีเดียว...ได้ความร่วมมือ อย่างดีเยี่ยม และได้สร้างประสพการอันล�้ำค่าของผมและทีม งาน และอีกอย่างได้ความรู้ที่ในต�ำราเรียนไม่มีสอน ชอบอะไรเวลาท�ำนาซิเลอมะ...คิดว่ามันจะต้อง เป็นสื่อกลางในสังคมชมรม เรา ได้อะไรจากการท�ำนาซิเลอมะ...ถ้ามีโอกาศอยาก ให้พัฒนา ให้ใหญ่ขึ้นจนถึงนิตยาสารเลย และแผ่กว้างไปทั้ง ทุกสาระทิศ จนกระทั่งชื่อ Nasilemak สถิตในใจศาสนประชา สืบไป..อินชาอัลลอฮฺ ค�ำนิยามนาซิเลอมะ ส�ำหรับคุณคืออะไร... Nasilemak สรรสาระ ของคนมีDEEN


บ.ก.ท่านที่สี่ บังอิดริส เรียงหมู่ ครั้งแรกที่ได้อ่านนาซิเลอมะรู้สึกยังไง...ตอนเห็นครั้ง แรกก็รู้สึกว่า «นี่มันหนังสืออะไร?» แต่ก็ไม่ได้สนใจไม่ได้ใส่ใจว่า มันมาจากไหน ใครเป็นคนท�ำ แค่รู้สึกว่า «เออ ก็ดีเหมือนกันมี หนังสือภาษาไทยให้อ่าน» แต่พอได้อ่านไปสัก ๒ เล่มก็รู้สึกชอบ เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับในบทเรียนที่เราไม่เข้าใจมาแปลเป็นไทยให้ เราอ่าน ก็เลยชอบและสนใจขึ้นมา ชอบคอลั่มอะไรของนาซิเลอมะตอนนั้น...จ�ำไม่ได้ ว่าคอลัมน์อะไรแต่รู้สึกว่าจะเป็นคอลัมน์ที่เกี่ยวกับหลักชารีอะห์ เพราะเราเรียนชารีอัตไงเลยสนใจคอลัมน์ด้านนี้ส่วนคอลัมน์อื่นๆ ก้ออ่านบ้างแต่ไม่ค่อยเน้น รู้สึกอย่างไรที่ได้มาเป็น ทีมงานนาซิเลอมะ...รู้สึก ตกใจมาก และแอบหวั่นเพราะเป็นงานที่ไม่เคยท�ำและไม่เคย สัมผัสมาก่อน ไม่รู้ขั้นตอนวิธีการอะไรเลย สิ่งเดียวที่รู้ก็คือการ ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นการเริ่มจากศูนย์จริงๆแต่ อัลฮัมดุลิลลาห์ที่ ท�ำได้ส�ำเร็จ นาซิเลอมะของทีมงานคุณเนื้อหาเน้นถึงเรื่องอะไร และน�ำเสนออะไรบ้าง...เนื้อหาจะเน้นสถานการณ์ในขณะนั้น เช่นเดือนรอมฎอนก็จะเน้นเรื่องการถือศีลอด การหาทีมงานตอนนั้นพิจรณายังไง...ทีมงานที่ท�ำ ร่วมกันตอนนั้นพิจารณาจากบุคคลที่เราคิดว่าสามารถท�ำงาน ร่วมกันกับเราได้และไม่มีปัญหาอะไรโดยไม่ได้วัดว่าจะมีความ สามารถหรือไม่มีเพราะตัวผมเองก็ท�ำงานนี้ทั้งๆที่ไม่มีความรู้ อะไรในด้านนี้เลย การท�ำงานล�ำบากมั้ย...งานทุกงานล้วนมีความ ล�ำบากในตัวของมันเอง แต่ในความล�ำบากก็ย่อมมีความสบาย อยู่เช่นกัน รุ่นพี่มีส่วนร่วมอะไรบ้าง...รุ่นพี่ส่วนใหญ่จะให้ความ ร่วมมือดีทั้งในด้านการเขียนคอลัมน์และในด้านการออกแบบ เรียกว่าขอค�ำปรึกษาจากรุ่นพี่ทุกๆด้านเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ได้รุ่นพี่ ช่วยให้ค�ำแนะน�ำก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะท�ำให้เป็นรูปเล่มได้รึเปล่า แบ่งเวลาการท�ำงานยังไง...เนื่องจากใช้เวลาส่วน มากอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วจึงใช้เวลานั้นใน การหาข้อมูลไปด้วยพร้อมๆกัน จึงไม่ค่อยท�ำให้เวลางานวุ่นวามา เท่าไหร่

ปัญหาที่เจอตอนนั้นมีมั้ย ถ้ามีอะไรบ้าง...ปัญหาที่ เจอจะมีหลายๆอย่างแล้วแต่โอกาสจะอ�ำนวย บางทีก็อาจจะเจอ เรื่องตัวหนังสือเล็กไป เนื้อหาเยอะไป หรือพิมพ์ช้า เยอะแยะจย จ�ำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง รู้สึกอย่างไรที่ได้ท�ำนาซิฯให้พี่น้องในชมรมได้อ่าน... รู้สึกเหนื่อยเวลาท�ำ รู้สึกดีที่ได้เห็นหนังสือออกมาเป็นรูปเล่ม รู้สึก ปลื้มเวลาที่มีคนอ่านชอบหนังสือที่พวกเราท�ำกัน ทีมงานมีใครได้ท�ำงานต่อยอดจากการท�ำนาซิฯ บ้าง เช่น ท�ำงานหนังสือต่อ...ก็มีอิคลาสที่ได้เป็นบรรณาธิการท�ำ หนังสือของสมาคมนักศึกษาไทยในมาเลเซีย(TSAM)และผมที่ได้ กลายมาเป็นทีมงานของอิคแทน ท�ำนาซิเลอมะสนุกมั้ย...ถ้าท�ำคนเดียวรู้สึกจะไม่สนุก แต่เวลาท�ำงานหลายๆคนมีเพื่อนช่วยงานหนักแค่ไหนมันก็สนุกได้ น่ะ ดีใจมั้ยที่ได้ท�ำนาซิฯแค่ปีเดียว...ถ้ามองในมุมที่ว่าท�ำ นาซิฯแล้วเหนื่อยก็ดีใจน่ะที่ได้ท�ำแค่ปีเดียว แต่พอมองอีกมุมนึง เวลาท�ำขึ้นมาเล่มนึงแล้วมีคนชอบเนี่ยเราก็รู้สึกปลื้มและดีใจน่ะ ท�ำให้มีก�ำลังใจอยากจะท�ำอีกต่อไป ชอบอะไรเวลาท�ำนาซิเลอมะ...ชอบเวลาที่มีคนชม หนังสือหลังจากท�ำออกมาเป็นรูปเล่ม เพราะมันเป็นความตั้งใจ จริงของพวกเราเลยล่ะ ได้อะไรจากการท�ำนาซิเลอมะ...ได้รู้สึกว่าต้องรับผิด ชอบอะไรมากขึ้น เริ่มที่จะสนใจอะไรๆรอบตัวมากขึ้น ได้ท�ำงาน ร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น และได้ท�ำให้เราต้องเริ่มคิดถึงใจเขาใจเรา เวลาท�ำงานมากขึ้น จุดเด่นนาซิเลอมะคืออะไร...ค�ำว่า(จุดเด่น)ถ้าหมาย ถึงอะไรเด่นๆที่มองครั้งเดียวแล้วสะดุดตาเลยคงบอกไม่ได้ว่าคือ อะไร แต่จุดเด่นของนาซิฯในมุมมองของผมคือทุกสิ่งทุกอย่างใน เล่มตั้งแต่ปกหน้าจนถึงปกหลังคือสิ่งที่เรียกว่า»จุดเด่น»ของนาซิ เพราะทั้งหมดคือสิ่งที่ผู้ท�ำนาซิฯตั้งใจจะให้ผู้อ่านเห็น อยากจะฝากอะไรถึงนาซิเลอมะ เนื่องในวาระครบ 5 ปีนี้บ้าง...ครบ ๕ ปีแล้วเหรอ ไม่รู้เลยน่ะเนี่ย ก็อยากให้นาซิฯ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่เป็นในทางที่ดีน่ะ อยู่คู่ชมรมฯต่อไป และให้รุ่นน้องและรุ่นต่อๆไปรักษานาซิฯกันด้วยเพราะกว่าจะ เป็นได้เหมือนทุกวันนี้รุ่นพี่เหนื่อยกันมาก่อน ค�ำนิยามนาซิเลอมะ ส�ำหรับคุณคืออะไร...สิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่


จับหนุ่มปากีสถานคาส นามบินโอมาน หลังลักลอบขนยา เสพติดโดยวิธีการกลืนกว่า 134 ก้อน หนุ่มชาวปากีสถานลักลอบขนยาเสพ ติดเข้าในประเทศโอมาน ถูกต�ำรวจ จับได้คาสนามบินนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน หนุ่มปากีสถานแสดง ปฏิกิริยา ทันทีเมื่อเขาถึงสนามบิน ซึ่ง เขาบินมาจากแถบเอเชีย และแสดง อาการไม่พอใจเมื่อเขาถูกจับ ต�ำรวจไม่พบสิ่งแปลกปลอมอะไร จากสัมภาระของเขา แต่เมื่อเขาถูกน�ำ ตัวไปโรงพยาบาลในคูแรม และท�ำการ เอ็กซ์เรย์ พบแคปซูลบรรจุยาเสพติด กว่า 134 ห่อ เกิดเหตุระเบิดนอกท�ำเนียบเยเมน ขณะที่ประธานาธิบดีคนใหม่ท�ำ พิธีสาบานตน ท�ำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย เกิดเหตุระเบิดด้านนอกท�ำเนียบ ประธานาธิบดีเยเมน ท�ำให้มีผู้ เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ขณะ นายอาเบด ราโบ มานเซอร์ ฮา ดี เข้าพิธีสาบานตนรับต�ำแหน่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเยเมน แทนนายอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ อดีตผู้น�ำ ซึ่งผูกขาดอ�ำนาจมานาน ถึง 33 ปี หลังจากชนะเลือกตั้งเมื่อ ต้นสัปดาห์ โดยไม่มีคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ก่อน หน้านี้นายฮาดีประกาศเดินหน้า ปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายอัลกอ อิดะห์ภายในประเทศ และฟื้นฟู เสถียรภาพของประเทศเยเมน โดยเร็ว

ชาวอัฟกานิสถานประท้วงเดือด หลัง ทหารนาโตได้เผาคัมภีร์อัลกุรอาน เพียงเพราะเกรงว่านักโทษจะใช้คัมภีร์ ศักดิ์สิทธิ์ส่งข้อความถึงกัน ชาวอัฟกันหลายร้อยคนเริ่มชุมนุม ประท้วงกันหน้าฐานทัพอากาศบาแก รม ทางตอนเหนือของคาบูล หลังจาก มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า ทหารนาโต ได้เผาคัมภีร์อัลกุรอาน มีการเผายาง รถยนต์ ขว้างปาก้อนหิน และตะโกน สาปแช่งสหรัฐฯ ด้วยความโกรธ แค้น ในเวลาต่อมา พลเอก จอห์น อัลเลน ผู้บัญชาการทหารอเมริกันใน อัฟกานิสถาน ได้ออกมาแถลงแสดง ความเสียใจ และสั่งสอบสวนเรื่องดัง กล่าว หลังจากสถานการณ์ท�ำท่าจะ บานปลาย พล.อ.อัลเลน แถลงแสดง ความเสียใจอีกครั้ง พร้อมทั้งยอมรับ ว่า มีการเผาคัมภีร์อัลกุรอานด้วย ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ภายในฐานทัพ อากาศบาแกรม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ สหรัฐฯ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เปิด เผยกับเอเอฟพี ว่า ทหารนาโตยึด คัมภีร์อัลกุรอานมาจากนักโทษเรือน จ�ำในฐานทัพบาแกรมไปทิ้งในเตาเผา เนื่องจากเกรงว่านักโทษจะใช้คัมภีร์ ศักดิ์สิทธิ์ในการส่งข้อความถึงกัน เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานที่ท�ำงานใน ฐานทัพบาแกรมเป็นผู้พบซากคัมภีร์ อัลกุรอานที่ถูกเผา และน�ำเรื่องนี้ออก มาเปิดเผย

ข่ า ว ร อ บ โ ล ก


ความเด็ ด ขาดและความอ่อนโยนของ กฎหมายอิสลาม

กฎหมายบนโลกนี้มีอยู่ด้วยกันหลายฉบับ แต่ละ ฉบับก็เขียนขึ้นมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละยุค แต่ละสมัย แต่มีกฎหมายอยู่เพียงแค่เล่มเดียวบนโลกที่ไม่ได้ เขียนมาเพื่อตอบสนองความต้องการของใครบางกลุ่ม เพียง เล่มเดียวที่ไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงตามสมัย และเพียงเล่ม เดียวที่ถูกเก็บรักษาไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ นั้นก็คือ อัลกุรอาน กฎหมายแห่งอิสลาม ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจากกฎหมายอิสลาม นั้น ถูกตีกรอบไว้ใน “ ‫ ” كليات اخلمس‬หรือกฎเหล็กทั้ง5 (‫ =) حفظ الدين‬เพื่อรักษาศาสนา โดย พระองค์ทรงใช้ให้เราท�ำความดี ละเว้นความชั่วและต่อสู้ใน สงครามของพระองค์ สิ่งดังกล่าวได้มีข้อลงโทษส�ำหรับผู้ที่ ละทิ้งเอาไว้อย่างเด็ดขาด ( ‫=) حفظ النفس‬เพื่อรักษาชีวิต โดย พระองค์ได้ก�ำหนดบทลงโทษส�ำหรับผู้ที่ละเมิดชีวิตของผู้อื่น ไว้อย่างชัดเจน เช่น การกิศอศ (‫ =) حفظ العقل‬เพื่อรักษาสติปัญญา โดย พระองค์ได้ทรงห้ามสิ่งที่จะท�ำให้สติปัญญาของเราหายไป และมีบทลงโทษอย่างเด็ดขาด (‫=) حفظ املال‬เพื่อรักษาทรัพย์สิน โดย พระองค์ทรงก�ำหนดบทลงโทษส�ำหรับผู้ละเมิดทรัพย์สินของผู้ อื่นไว้อย่างชัดเจนยิ่ง (‫=) حفظ النسل‬เพื่อรักษาเชื้อสาย โดย พระองค์ห้ามในเรื่องของการผิดประเวณี และได้ใช้ให้มนุษย์ แต่งงานเพื่อขยายจ�ำนวนมุสลิม ทุกอย่างชัดเจน จากสิ่งดังกล่าวคือความเด็ดขาดของกฎหมายอิสลาม ซึ่งพวก เราทุกคนล้วนต้องปฏิบัติตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น ต่อมาผมขอพูดถึงความอ่อนโยนของกฎหมายอิสลามบ้าง อัน ได้แก่ ‫ أساس التشريع‬มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ประการ (‫ ) نفي احلرج‬คือ การปฏิเสธความยากล�ำบาก ซึ่งพระองค์ได้ทรงผ่อนปรนให้แก่บรรดามุสลิม เช่น การย่อ ละหมาดส�ำหรับผู้ที่เดินทาง (‫ ) قلة التكاليف‬คือ การบังคับใช้เป็นเพียง

‫االحكامية‬

‫شريعة‬

ส่วนน้อย ซึ่งเป็นความเมตตาของพระองค์อย่างที่สุดโดยที่เรา สามารถท�ำอิบาดะห์ได้ และก็สามารถใช้ชีวิตประจ�ำวันได้ด้วย เช่น การใช้เวลาละหมาด30 นาที ต่อ24 ชั่วโมง เท่านั้นเอง (‫) التدرج في التشريع‬คือการออกกฎหมาย เป็นล�ำดับขั้นตอน เพื่อไม่ให้เป็นที่ล�ำบากแก่มุสลิม และ เป็นการสอนเราให้รู้จักการท�ำงานเป็นขั้นตอน เช่น การออก กฎหมายเลิกเหล้า ( ‫ ) حتقيق مصالح الناس‬คือเพื่อให้เกิด ประโยชน์กับมนุษย์ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าทุกสิ่งที่พระองค์ใช้และ ห้าม ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์กับเราทั้งสิ้นโดยที่พระองค์ไม่ ได้ต้องการรับประโยชน์จากมนุษย์เลยแม้แต่น้อย หากมนุษย์ ทั้งหมดรวมตัวกันต่อต้านพระองค์ แท้จริงพระองค์ก็ทรงเป็น พระเจ้าเพียงพระองค์เดียวอยู่ดี และถึงแม้มนุษย์จะรวมตัว กันสักการะต่อพระองค์ มันก็ไม่ได้ท�ำให้อ�ำนาจของพระองค์ เพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงเลย จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง จากความเด็ดขาดและความอ่อนโยนของกฏหมายอิสลาม เท่านั้นเอง นักเดินทาง

10


คุณลักษณะมุสลีมะฮ์ที่ดีในอิสลาม

มุสลีมะฮ์เป็นเพศแม่ที่มีเกีรยติซึ่งอิสลามนั้นได้ให้ความส�ำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกนางนั้นเป็นแกนหลักส�ำคัญในการ พัฒนาสังคมอิสลาม และประชาชาติอิสลามนั้นจะไม่สามารถยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้าได้เลยหากว่าไม่มีพวกนางคอยหนุนหลังเป็น ก�ำลังส่งเสริมเป็นแรงผลักดันให้เหล่าบรรดามุสลีมีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่อยู่ในครอบครัวของนาง สามีของนางลูกๆของนางตลอด จนคนใกล้ชิด ให้พวกเขาเหล่านั้นน�ำและเชิดชูคุณค่าของอิสลามให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนต่างศาสนิก แต่ทว่าหากว่าวันนี้มุสลีมะฮฺขาดซึ่ง คุณลักษณะที่ดีซึ่งมีเฉพาะในอิสลาม สังคมก็จะมีแต่ความเสื่อมเสียตลอดจนตัวนางเองก็จะถูกมองว่าเป็นเพศที่ไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี ด้วย เหตุนี้อิสลามจึงไม่ได้ละเลยสิ่งดังกล่าว อิสลามได้กล่าวสอนถึงลักษณะของมุสลีมะฮฺที่ดีในทัศนะของอิสลามดังนี้ ประการที่หนึ่ง: จะต้องยึดมั่น ต่ออัลกุรอานและแบบอย่างของท่านศาสดา มูฮัมหมัดศ็อลลัลลอฮอะลัยฮิวะซัลลัม โดย ยึดสิ่งทั้งสองนี้เป็นแบบแผนในการด�ำรงชีวิต ประการที่สอง: ปฏิบัติตัวอยู่ร่วม กับผู้คนในสังคมด้วยคุณธรรมและมารยาทที่ ดีที่มีแบบฉบับจากอัลอิสลามโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งกับคนต่างศาสนิก ทั้งนี้อัลกุรอานได้ก�ำชับ เอาไว้แม้แต่กระทั่งในเรื่องของการพูดจากับ ผู้คน โดยอัลกุรอานได้กล่าวว่า“...จงกล่าว กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกับถ้อยค�ำที่สวยงาม...” (ความหมาย อัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮ์:83) ประการที่สาม: สวมใส่เสื้อผ้า เครื่ อ งแต่ ง กายตามแบบอย่ า งอิ ส ลลามที่ อัลลอฮฺนั้นได้ก�ำหนดโดยจะต้องไปรัดรูปหรือ แคบจนเกินไปและจะต้องไม่เลียนแบบการ แต่งกายของเหล่าผู้ปฏิเสธศรัทธา ทั้งนี้ท่าน นบีได้กล่าวว่า”ผู้ใดเลียนแบบชนกลุ่มใดเขา ย่อมเป็นชนกลุ่มนั้น”(ความหมายหะดีษบันทึก โดยอบูดาวูด ล�ำดับที่: 4031 รายงานโดยอับ ดุลลอฮฺ อิบนิอุมัร) และอัลลอฮฺก็ได้กล่าวเอา ไว้ในอัลกุรอานอีกว่า”โอ้นบีเอ๋ย จงกล่าวแก่ บรรดาภริยาของเจ้า และบุตรสาวของเจ้า และบรรดาหญิงของบรรดาผู้ศรัทธา ให้พวก เขาดึงเสื้อคลุมของพวกนางลงมาปิดตัวของ พวกนาง นั่นเป็นการเหมาะสมกว่าที่นางจะ เป็นที่รู้จัก เพื่อที่พวกนางจะได้ไม่ถูกรบกวน และอัลลอฮฺทรงเป็นผู้อภัยผู้ทรงเมตตาเสมอ” (ความหมาย อัลละหฺซาบ อายะฮ์59) และ ในบันทึกของท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ มัสอูด ได้

กล่าวว่าท่านรอซูลได้กล่าวว่า “มุสลีมะฮฺนั้น เป็นเอาเราะฮ์ ดังนั้นเมื่อนางออกจากบ้าน ชัยตอน จะจ้องเพ่งมองตัวของนาง” (ความ หมายหะดีษบันทึกโดย ติรมีซีย์ ล�ำดับที่1173) ประการที่สี่: มุสลีมะฮฺที่ดีใน อิสลามนั้นจะต้อง ดูแลปรนนิบัตสามีจะ ต้องไม่ท�ำให้สามีนั้นไม่พอใจหรือขุ่นเคืองใจ นางจะต้องไม่ออกไปไหนตามล�ำพังจนกว่า จะได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นสามี นาง จะต้ อ งเชื่ อ ฟั ง สามี ใ นสิ่ ง ที่ เ ป็ น ดี ง ามรั ก ษา ตัวและเรือนร่างของนาง โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ ง เมื่ อ สามี ไ ด้ เ รี ย กนางเพื่ อ ร่ ว มหลั บ นอน เนื่องจากสิ่งดังกล่าวเป็นการบั่นทอนชีวิตคู่ ที่เปี่ยมสุข ทั้งนี้ท่านนบีได้กล่าวไว้เกี่ยวกับ เรื่องนี้ว่า “เมื่อชายหนึ่งได้เรียกภรรยาของ เขาเพื่ อ ร่ ว มหลั บ นอนและนางได้ ป ฏิ เ สธ มลาอีกะฮ์จะสาปแช่งนางจนกระทั่งถึงรุ่ง เช้า” (ความหมายหะดิษบันทึกโดยบุคอ รีย์ล�ำดับที่:5193และมุสลิมล�ำดับที่:1436) ประการที่ห้า: เช่นเดียวกันนาง จะต้องดูแลลูกๆของนางด้วยกับการอบรมสั่ง สอนแบบอิสลาม ท่านนบีได้กล่าวไว้ว่า”ทุกๆ คนนั้นมีหน้าที่และทุกๆหน้าที่นั้นจะต้องถูก สอบสวนจากสิ่ ง ที่ ที่ ต นเองมี ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ชอบ” และท่านบีก็กล่าวต่อว่า“และภรรยา ก็ มี ห น้ า ที่ ดู แ ลบ้ า นของสามี แ ละลู ก ๆของ นาง และนางจะต้องถูกสอบสวนถึงภาระ หน้าที่ของนาง” (ความหมายหะดีษบันทึก โดยบุคอรีย์ล�ำดับที่:853และมุสลิมล�ำดับที่: 1829 รายงานโดย อับดุลลอฮฺ อิบนฺ อุมัร)

ประการที่หก: มุสลีมะฮฺที่ดีจะต้อง พอใจในสิ่งที่อัลลอฮฺตะอาลานั้นได้บัญญัติว่า เพศชายนั้นประเสริฐกว่าเพศหญิง เนื่องจาก เหตุ ที่ ภ าระหน้ า ที่ นั้ น เพศชายถู ก ก� ำ หนดมา ให้ต่างจากเพศหญิง ซึ่งเพศชายมีหน้าที่ดูแล เลี้ยงดูให้ที่พักที่อยู่อาศัยแก่ภรรยาตลอดจน เครื่องนุ่งห่มและหน้าที่ค่าใช้จ่ายในการอบ รมลูกๆที่ถือก�ำเนิดมา ด้วยสาเหตุดังกล่าว เพียงข้างต้นอิสลามจึงก�ำหนดว่าเพศชายนั้น เป็นเพศที่เป็นผู้น�ำ ดั่งที่อัลลอฮฺได้กล่าวไว้ใน อัลกรุอานว่า “บรรดาชายนั้นคือผู้ที่ท�ำหน้าที่ ปกครองเลี้ยงดูบรรดาหญิง เนื่องด้วยการ ที่อัลลอฮฺได้ทรงให้บางคนของพวกเขาเหนือ กว่าอีกบางคน และด้วยการที่พวกเขาได้ จ่ายทรัพย์ของพวกเขา(ในการเลี้ยงดูภรรยา) ...”(ความหมาย อัน-นิซาอฺ อายะฮ์: 34) และทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียง บางส่วนของคุณลักษณะของมุสลีมะฮฺที่ดีใน อิสลาม ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวที่เรานั้นมักได้ยินหรือ พูดถึงกันเป็นประจ�ำ แต่หากเรามาพิจาณา กันจริงๆ ยังมีพี่น้องมุสลีมะฮฺของเราอีกเป็น จ�ำนวนมากที่ยังคงละเลย และไม่ใส่ใจน�ำสู่การ ปฏิบัติเลยแม้แต่น้อย โดยที่พวกนางลืมไปว่า ประชาชาติอิสลามนนั้นก�ำลังรอพวกนางฟื้นฟู อยู่ ภายใต้อาณาจักรเล็กๆของนางที่เรียกว่า “บ้าน”ภายใต้ผ้าผืนเล็กๆที่เรียกว่า“หิญาบ!!! ” โดย อิบนุอาลี อัลนัดวีย์


Insan Healthy 6 วิธี แก้เครียด….!!! วันเปลี่ยน เดือนเปลี่ยน ปีเปลี่ยน พาให้พวกเราเวียนกลับเข้ามาสู่ช่วงแห่งการสอบอีกครั้ง กับความรู้สึกเดิมๆ อารมณ์เดิมๆ ยิ่งช่วงนี้พี่ๆน้องๆก็มีบะฮัสให้ท�ำกันเกืยบทุกวิชาเลยก็ว่าได้ เหนื่อยกันไหมค่ะ สู้ๆกันนะค่ะ ใครเครียดมากๆก็ ระวังๆกันหน่อยนะค่ะมันจะท�ำใหสุขภาพของเราแย่ลง...!!! นาซิเลอเมาะเล่มนี้มีวิธีคลายเครียดมาฝาก..กับ 6 วิธีง่ายๆไปดูกัน... ยิ้ม การยิ้มเป็นภาษากายที่ดีที่สุด เป็นการเปิดประตูของหัวใจรับความสุขและ ให้ความสุขแก่ผู้อื่น และชื่นชมตัวเองได้ด้วย จงคิดว่าเรายิ้มให้กับความดีของคนอื่น จงยิ้ม อย่างสดชื่น อารมณ์ดีมีชีวิตชีวา

ความโกรธ ความโกรธเป็น อารมณ์ที่น่ากลัวและรุนแรงที่สุด การลด ความโกรธมีหลายอย่าง เช่น การท�ำงานให้ มากขึ้น ออกก�ำลังกาย สนใจศิลปวัฒนธรรม ธรรมชาติ เดินทางท่องเที่ยว ดนตรี เล่นกีฬา

อย่ากังวล ความกังวลเกิดจาก ความคาดหวัง อยากจะได้ในสิ่งที่เป็นได้ยาก และใจจะคิดอยากได้อยู่เสมอ เมื่อหมดความ แสวงหา ลดความต้องการ ลดความอยากได้ ลง ก็จะได้ไม่เครียดและเป็นทุกข์ต่อไป

อารมณ์ขัน อารมณ์ขันนี้เป็น ยาวิเศษที่ท�ำให้มีความสุข ผ่อนคลายความ ตึงเครียด ท�ำให้เกิดมิตรภาพ มีความ สนุกสนานและบรรยากาศรอบๆ ตัวจะสุนท รีย์ ลดตัวเองสู่ความเป็นเด็กได้ มองโลกในแง่ ดี รู้จักให้อภัยตัวเองและผู้อื่นได้

ความระแวง ความระแวงท�ำให้ เป็นโรคเหงา คบใครๆ ก็ไม่สนิทสนมจาก ใจจริงและรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น ต้องท�ำอดีตให้เป็นอดีต อย่าท�ำอดีตให้เป็น ปัจจุบันและกลัวอนาคต «เลิกคิดเถิด ความ ระแวง มะเร็งของความสุขของมนุษย์»

ค�ำสั้นๆที่ท�ำให้เราพอคลาย เครียดได้ «ช่างมัน» มนุษย์หนีความเครียด ไม่พ้นหรอก บางคนมีมาก บางคนมีน้อย ความเครียดจึงท�ำให้ไม่เป็นสุข ทุกอย่างที่เกิด ขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไป และสิ้นสุดได้ทั้ง นั้น เมื่อรู้แล้วก็ปล่อยวางซะแล้วค่อยเริ่มใหม่ ค่อยๆท�ำค่อยๆแก้ปัญหาไป อินชาอัลลอฮ การ งานของเราก็จะดีแถมสุขภาพร่างกายเรายังดี อีกด้วยค่ะ.....อามีน

12


คุยกันหลังครัว...กับเชฟนัส โรตี มะตะบะ อาหารว่างรสเลิศ

วิ ธี ท� ำ แป้ ง โรตี

1. ตวงน�้ำเปล่าที่เตรียมไว้ 1 ถ้วย ใส่ไข่ไก่ น�้ำตาลทราย นมข้นหวาน เกลือ คนให้ไข่กระจาย และส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี พักไว้ ใส่แป้งลงในชามผสม ท�ำบ่อตรงกลาง 2. เทส่วนผสมในข้อ 1 ลงไปในบ่อ เคล้าให้เข้ากันเบาๆ ใส่น�้ำมันพืช 1 ช้อนชา นวด ประมาณ 10 นาที ใส่น�้ำโซดา นวดต่ออีก 10 นาที ใส่น�้ำมันอีก 1 ช้อนชา นวดต่ออีก 10 นาที หลังจาก นั้น ให้หมักแป้งไว้ 30 นาที 3. แล้วจึงน�ำมาตัดเป็นก้อนเท่าๆ กัน ประมาณ 20 ก้อน คลึงให้เป็นลูกกลมๆ แล้วแช่ไว้ ในน�้ำมัน ประมาณ 30 นาที จึงน�ำมาทอด (ถ้ายังไม่ รับประทานให้เก็บใส่ตู้เย็นไว้) *เมื่อจะทอด ให้กดแป้งบนโต๊ะให้แบน เส้นผ่า ศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ใช้มือทั้งสอง จับมุมแป้ง และฟาดให้แป้งยืดออก จนแป้งบาง แล้วจับปลาย แป้งขมวดเป็นก้นหอย พักไว้ *ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น�้ำมันเล็กน้อย น�ำแป้งก้อน แรกมาบี้ให้แบนออกเป็นวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 นิ้ว น�ำลงทอด จนเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้น

เครื่องปรุง น�้ำเปล่า 2/1 1 – 1 ถ้วย น�้ำมันพืชส�ำหรับ 3 ถ้วย ไข่ไก่ 1 ฟอง แช่และทอดแป้ง น�้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำมันพืช 2 ช้อนชา นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ น�้ำโซดา 1 ช้อนโต๊ะ แป้งสาลีเอนกประสงค์ 5 ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา ส่วนผสมใส้มะตะบะ 1. แป้งโรตีที่หมักได้ที่แล้ว 6. หอมใหญ่หั่น 2 ขีด 2. เกลือป่นนิดหน่อย สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ 3. ไข่เป็ด 4 ฟอง 7. ต้นหอมหั่นละเอียด 2/1 ถ้วยตวง 4. ผงกระหรี่ 2 ช้อนชา 8. ลูกผักชีคั่วโขลก 2 ช้อนชา 5. กระเทียม รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ 9. เนื้ออกไก่หรือเนื้อวัว 1 ถ้วยตวง พริกไทยโขลก สับละเอียด ส่วนผสมของอาจาด 1. น�้ำส้มสายชู 1 ถ้วย 2. น�้ำตาลทราย (ตามแต่ใจเรา) 3. เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ 4. แตงกวา พริกชี้ฟ้า หอมแดงและผักชี วิธีท�ำ 1. ตั้งกระทะ ใส่น�้ำมันพอร้อนใส่รากผักชี พริกไทย กระเทียมที่โขลก แล้วลงผัดให้หอม แล้วใส่ไก่หรือเนื้อ ลดไฟให้อ่อนลง ไก่จะได้ไม่เป็น ก้อน ใส่ผงกระหรี่ ลูกผักชี ผัดให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน�้ำตาลทราย เกลือ ชิมรสให้พอดี แล้วใส่หอมใหญ่ผัดพอสุกแล้วยกลง 2. ตั้งกระทะแบนใส่น�้ำมันเล็กน้อยพอร้อนน�ำแป้งโรตีมาตีเป็นแผ่น บาง แล้วนาบแป้งลงในกระทะ ผสมไส้ที่ผัดแล้ว ใส่ไข่ 1 ฟอง และ ต้นหอมให้เข้ากัน เทลงบนแผ่นโรตีแล้วพับเป็นรูปสี่เหลี่ยม (เหมือน ไข่ยัดไส้) ทอดให้เหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้น 3. ผสมน�้ำส้ม น�้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งไฟให้ละลาย ชิมให้มี 3 รส ทิ้งไว้ให้เย็น จึงผสมแตงกวา พริกชี้ฟ้าแดง หอมแดง ผักชี รับ ประทานกับมะตะบะ


วิ ถี หั ว ใจระหว่ า ง “วั ย เรี ย น” กั บ “วั ย ท� ำ งาน” หากจะกล่ า วว่ า ส� ำ หรั บ ชี วิ ต ใน«วั ย เรี ย น» มั น ได้ ทั้ ง เนื้ อ หาสาระพร้ อ มความสนุ ก กั บ การเรี ย น และการได้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เพราะวัยเรียนของ เรานั้น อาจจะเริ่มจริงๆตั้งแต่เราเริ่มเกิดมาลืมตาดู โลกก็ว่าได้โดยมีป๊ะกับม๊ะเป็นครูคนแรกของเรา จาก นั้นเราก็ถูกส่งเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลไปสู่โรงเรียน ประถมศึกษา จากนั้นก็ต่อด้วยระดับโรงเรียน มัธยมศึกษา จากนั้นก็มุ่งสู่ระดับอุดมศึกษาต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ชีวิตของเราแต่ละคนจะผูกพันกับวัย เรียนมากกว่าเพราะมีทั้งความรู้ความสนุกและความ สุข ผสมผสานปนเปกันไป ซึ่งก็เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ รับทั้งความรู้ความสนุก และความสุขมากๆก็ใน«วัย เรียน»ของพวกเขาทั้งหลายนี้แหละจนบางคนอาจจะ คิดในใจเล่นๆว่า ชั่วชีวิตนี้อยากจะเรียนไปจนตาย หมายถึงอยากเรียนหนังสืออย่างเดียว และเก็บเกี่ยว ความรู้ความสามารถอย่างเดียว เพราะมันเกิดความ สนุกและความชื่นชอบกับการเรียนในวัยเรียนนั่นเอง แต่เราอย่าลืมว่า เราจะมุ่งแต่การเรียนอย่างเดียว ไม่ได้หรอกจริงอยู่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาสิบๆปี ป๊ะ กับม๊ะหรือผู้ปกครองจะส่งเสียเลี้ยงดูเรามาโดยตลอด ก็ตาม แต่สักวันท่านเหล่านั้นก็ต้องแก่ชราหรือ ท�ำงานไม่ไหว ดังนั้นกาลเวลาก็จะหมุนเวียนมาอยู่ ที่ตัวเราต่ออีกเช่นกัน กล่าวคือในชีวิตของเรานั้น ไม่ใช่มุ่งแต่«วัยเรียน»อย่างเดียวแต่ท้ายที่สุด ทุกคน ก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าสักวัน และ ก็ ต ้ อ งเลี้ ย งชี พ ตั ว เองด้ ว ยกั บ ตั ว ของตนเองเพราะ จะให้ ป ๊ ะ กั บ ม๊ ะ ป้ อ นน�้ ำ ป้ อ นข้ า วอยู ่ อี ก ไม่ ไ ด้ แ ล้ ว เนื่องจากเราโตแล้ว ก็ต้องรู้จักรักดิ้นรนตัวเองซะบ้าง ดังนั้นพูดง่ายๆ ก็คือ ต่อให้เรามีความสนุกและความสุข กับ «วัยเรียน» มากแค่ไหนก็ตาม แต่ท้ายที่สุด ทุกๆ

คนก็ต้องย่างเข้าสู่«วัยท�ำงาน»อยู่ดี ด้วยเหตุนี้ จุดส�ำคัญก็คือ «วั ย เ รี ย น »ข อ ง เ ร า นั้ นมี ค วา ม ผู ก พั นกั บ มั นตั้ ง แ ต ่ เล็กจนโตและไปจนถึงวันตาย แต่«วัยท�ำงาน»ของ เรานั้ น เพิ่ ง เข้ า มาในชี วิ ต ของเราเมื่ อ เราโตขึ้ น แล้ ว ซึ่งชี้ให้เห็นว่า มันย่อมมีความผูกพัน«วัยเรียน»(ด้วยความ รั ก ความสุ ข และความสนุ ก )มากกว่ า «วั ย ท� ำ งาน»อย่ า ง แน่นอน แต่ด้วยเหตุที่เราไม่สามารถหนีพ้น«วัยท�ำงาน» ไป ได้ เราก็ต้องจ�ำเป็นเข้าสู่«วัยท�ำงาน»เพราะเราไม่สามารถ ย้ อ นเวลาไปในอดี ต ได้ แ ละเราก็ ไ ม่ ส ามารถยึ ด ติ ด กั บ การ เรียนอย่างเดียวได้ด้วยสาเหตุที่เราก็ต้องท�ำมาหากินหรือ ท� ำ มาค้ า ขายด้ ว ยเช่ น กั น เพื่ อ หารายได้ เ ลี้ ย งชี พ ตั ว เอง และใช้รายจ่ายให้พอเหมาะพอควรหรือพอเพียงกับฐานะ ของตน อีกทั้งก็ต้องตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายๆ คนยังขาดกันอยู่อีก ทั้งๆ ที่ทุกคนก็ อาจจะย่อมรู้ดีอยู่แล้วแก่ใจ ก็คือการที่เราชอบพูดๆ กันแล้ว ว่า อย่างนั้นดี อย่างนี้ดี อย่างนู้นดี และอย่างโน้นดี แต่ท้ายที่สุด คนที่พูดนั้นกลับไม่ปฏิบัติเลย ทั้งที่สิ่งที่พูดนั้นมันดีมากๆ ดั ง นั้ น ทุ ก ๆคนก็ ต ้ อ งพยายามๆสร้ า ง«วั ย ท� ำ งาน»ให้ เ กิ ด ความรู้มีความสุขและความสนุกควบคู่กันไปให้เหมือนๆกับ ช่วงที่เรามีความสุขและความสนุกในช่วง«วัยเรียน»นั้นเอง อ า มี น ย า ร็ อ บ เพราะสุ ด ท้ า ยเมื่ อ «วั ย ท� ำ งาน»ของเราแต่ ล ะคน มี ค ว า ม สุ ข ค ว บ คู ่ กั บ ค ว า ม ส นุ ก มั น ก็ จ ะ ท� ำ ใ ห ้ « วั ย ท�ำงาน» หรือ«การงานอาชีพ»ของเรานั้นมีผลดีต่อตัว เราเองและคนรอบข้ า งดั ง นั้ น เราทุ ก คนก็ ต ้ อ งพยายาม สร้ า ง«วั ย ท� ำ งาน»ของเราให้ มี ค วามสุ ข ควบคู ่ กั บ ความสนุ ก ในเชิ ง ธรรมชาติ ข องการท� ำ งานให้ ดี ที่ สุ ด สุดท้าย ทั้งวัยเรียนและวัยท�ำงานก็จะเกิดผลดีความรัก ความสุขให้แก่ตัวเราเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะ«คน ที่ เ รารั ก »นั่ น เองกล่ า วคื อ «คนที่ เ รารั ก »ก็ ห มายถึ ง ทั้ ง ตั ว

14


เราเองป๊ ะ ม๊ ะ พี่ น ้ อ งเครื อ ญาติ เ พื่ อ นๆและรวมถึ ง ความผูกพันฉันท์พี่น้องประชาชน ตลอดจนคนที่อยู่ เคียงข้างเรา นั่นก็คือรวมถึงคู่ชีวิตของเรานั่นเอง ด้วยเหตุนี้เรามีความสุขกับ«วัยเรียน»มากเท่าใดก็ตาม เรา ก็ต้องพยายามสร้าง«วัยท�ำงาน» ของเราให้มีความสุขมาก เท่านั้น หรือมากยิ่งกว่าให้ได้ สุดท้าย มันจะท�ำให้ตัวเรามี ความผูกพันฉันท์พี่น้องทั้งใน «วันเรียน» และ «วัยท�ำงาน» เพราะทั้งสองวัยดังกล่าวนี้ ต้องอยู่คู่ควรกับเราไปจนถึง วันสิ้นลมหายใจของแต่ละคน และจุดส�ำคัญที่สุดก็คือ การเกิดความรัก ความสุข ความผูกพัน และความสนุก ทั้ง «วัยเรียน»และ«วัยท�ำงาน»ได้นั้น ก็ต้องเชื่อมโยงด้วย กับความรู้สึกนึกคิดของ«หัวใจ»ของเราแต่ละคน เพราะ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ «การงานของหัวใจ» (อะอฺมาลุล-กุลูบ) ด้วยความรู้สึกบนความตั้งใจและสร้าง จิตส�ำนึกบนความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการเข้าหารูปแบบของ วิถีการงานแห่งอัล-อิสลามนั้นเองค่ะ วัลลอฮุอะอฺลัม ‫ زهرةاإلسالم‬...BY

15

ค�ำถามนาซิเลอะมะฉบับที3่ 1 ประจ�ำเดือน กุมภาพันธ์ 2555 1.นาซิฯฉบับแรกออกเดือนอะไร ปีอะไร 2.ในส่วนผสมใส้มะตะบะใช้ไข่อะไรเป็นส่วนผสม กี่ฟอง 3.วิธีแก้เครียดมีอะไรบ้าง บอกมาสามข้อ(เอาแค่ หัวข้อพอ) รางวัลประจ�ำเดือนนี้ อันดับ๑,๒ เสื้อสกรีน อันดับ๓รองเท้าcrocs อีกสิบรางวัลที่เหลือพวงกุญแจลังกาวี ส่งค�ำตอบไปที่เบอร์01115445895(ก๊ะขู่ เจ้าเก่า) ในวันที่ 3\6\2555 เวลา22.00-22.30น.


‫السالم عليكم ورحمة اهلل وبركاته‬ ขอความสันติสุข ความจ�ำเริญจงมี แด่พี่ น้องชาวควีนที่รักและเคารพทั้งหลาย และที่ขาด ไม่ได้คือเยาวชนผู้ศรัทธายิ่งในคัมภีร์อัลกุรอานและ ด� ำ เนิ น วิ ถี ชี วิ ต ตามแบบฉบั บ ของท่ า นนะบี มุ ฮั ม มั ด ผู้ที่ศรัทธาว่าพระองค์อัลลอฮ์ คือพระเจ้าเพียง องค์เดียวผู้ที่วิงวอนขอต่อพระองค์ ผู้ที่มอบหมาย แด่ พ ระองค์ แ ละแน่ น อนมนุ ษ ย์ ทั้ ง หลายต้ อ งได้ รั บ การสอบสวนจากพระองค์ เช่นนั้นแล้วก็ขอให้ทุก ท่านตอบค�ำถาม3ข้อนี้ให้จงได้ หลังจากที่ลมหายใจ ครั้งสุดท้ายได้สิ้นไปแล้ว นั้นคือ พระเจ้าของท่านคือ ใคร ?นะบีของท่านชื่ออะไร? และศาสนาของท่าน คือศาสนาใด? โอ้พี่น้องผู้ศรัทธาที่รักการศรัทธา มิใช่ เพียงค�ำพูดที่เปล่งเสียงเรียงวาจาออกมาเพียงอย่าง เดียว มิใช่ลักษณะของการแต่งกาย มิใช่ชื่อสกุลที่เป็น ภาษาอาหรับ มิใช่ตามนามบัตรประจ�ำตัวหรือส�ำเนา ทะเบียนบ้าน การศรัทธาในศาสนาอิสลามนั้นจะมีค่า อะไร ! เมื่อท่านพร�่ำบอก แต่ไม่เคยปฏิบัติตาม ถ้า เป็นเช่นนั้นจะนับถือศาสนาอะไรก็คงมิได้แตกต่างกัน ! อิสลามนั้น เปรียบได้ดั่งทองค�ำอัน บริสุทธิ์นั่นหมายถึงยิ่งนานวัน ยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น มี ค วามสวยงามมี ค วามสว่ า งสุ ก สกาวมี ค วามอ่ อ น โยนและแข็งแกร่งในตัวของมันเอง ใครเห็นก็ อยากได้อยากสวมใส่อยากน�ำมาเก็บรักษาไว้ เป็น แร่ ธ าตุ ที่ มี แ ต่ ค วามเพิ่ ม พู น และเป็ น แร่ ธ าตุ ที่ มี แต่ความเป็นกลาง สามารถน�ำมาผสมรวมกับ แร่ ช นิ ด ต่ า งๆเพื่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ อั น มากมายได้ และส�ำหรับมุสลิมที่สวมใส่ความเป็น อิสลามแน่นอนเขาจะเป็นคนที่มีสง่าราศี มี คุ ณ ค่ า ในตั ว เองมี ป ระโยชน์ ใ ห้ กั บ สั ง คมทั่ ว ไปมี

... ‫اللون الدين‬... ความเป็ น กลางยุ ติ ธ รรม(ไม่ สุ ด โต่ ง )และไม่ ค ล้ อ ย ตามต่อสิ่งใดๆ ใครเห็นก็อยากเข้ามาใกล้อยาก น� ำ ไปเก็ บ รั ก ษาไว้ ดั ง เช่ น ทรั พ ย์ สิ น ที่ มี คุ ณ ค่ า แต่มุสลิมบางคน กลับมองไม่เห็นคุณค่าของทองค�ำ บริสุทธิ์ที่ตนเองมี มิหน�ำซ�้ำกลับไปเก็บก้อนกรวด ก้อนทรายมาประดับประดา สีสันนั้นมันอาจจะสะดุด ตาเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่ไม่นานมันก็จะหมองคล�้ำ แตกหักและดับสลายไป เฉกเช่นสิ่งที่หาค่าอะไรไม่ได้ เลย เพราะ ความสงบสุข คือ อัลอิสลาม ความสันติ คือ สิ่งที่มนุษย์ต้องการ และด้วยพลังแห่งอิสลามเท่านั้น ที่ จ ะท� ำ ให้ เ กิ ด ความสงบสุ ข และความสั น ติ ใ นโลกนี้ ขอท่านทั้งหลายจงอย่าลืม... หรือ...อย่าแกล้งลืม ถึงการเพ่งมองลงมาจากเบื้องบน ในทุกขณะที่ เรายังมีลมหายใจ ดั่งที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า “และหากว่าชาวเมืองนั้นได้ศรัทธากัน และมี ความย�ำเกรงแล้วไซร้ แน่นอนเราก็เปิดให้แก่พวก เขาแล้ว ซึ่งบรรดาความเพิ่มพูนจากฟากฟ้าและ แผ่นดินแต่ทว่าพวกเขาปฏิเสธ ดังนั้นเราจึงได้ ลงโทษพวกเขาเนื่องด้วยสิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้” (อัลอะอ์รอฟ/96)

สัจธรรมแห่งอัลอิสลาม คือ ความจริงที่ปรากฏ ให้เห็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย และพระองค์อัลลอฮนั้นได้ ทรงตักเตือน และชี้แนะแนวทางต่างๆ ไว้ในคัมภีร์อัล กุรอานอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว พระองค์นั้นทรงย�้ำ เตือนอยู่ตลอดเวลา และ แน่นอนว่าในแต่ละถ้อยค�ำที่ บอกไว้นั้น มันคือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลย โอ้ พี่ น ้ อ งผู ้ มี ส ายเลื อ ดแห่ ง อั ล อิ ส ลาม ทั้งหลาย ทุกวันนีเรามีความย�ำเกรงต่ออัลลอฮ์ เพียงพอแล้วหรือยัง?เพียงพอหรือไม่ ที่พระองค์ จะประทานบารอกั ต (ความจ� ำ เริ ญ )จากฟากฟ้ า


และแผ่ น ดิ น ประทานความสงบสุ ข และความสั น ติ ประทานพลั ง ให้ กั บ มุ ส ลิ ม ทั้ ง หลายในการต่ อ สู ้ ต ่ อ มารร้ายที่มากล�้ำกลาย ความย�ำเกรงที่มีอยู่นั้น มั น เพี ย งพอแล้ ว หรื อ ยั ง ที่ จ ะน� ำ ไปเสนอต่ อ พระผู ้ อภิบาล เพื่อวอนขอซึ่งรางวัลต่างๆจากพระองค์ ความยิ่งใหญ่ของพระองค์อัลลอฮ์ นั้น ยังไม่เพียงพออีกหรือ ที่จะท�ำให้ท่านภาคภูมิใจในความ เป็นมุสลิม และประกาศตนว่าเรานับถือศาสนาอิสลาม พลังอ�ำนาจของพระองค์อัลลอฮ์ นั้น ยังไม่เพียงพอ อีกหรือ ที่จะท�ำให้ท่านต่อสู้ ยืนหยัด เพื่อศาสนาอิสลาม ความเมตตาของพระองค์อัลลอฮ์ นั้นยังไม่เพียง พออีกหรือ ที่จะท�ำให้พวกท่านเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ อ่ อ นโยนเพื่ อ แสดงออกถึ ง ความเป็นมุสลิม ที่แ ท้จ ริง การให้อภัยของพระองค์อัลลอฮ์ ยังไม่ มากพออีกหรือ ที่จะท�ำให้จิตใจของพวกท่านสงบ และสั น ติ ไ ม่ เ ข่ น ฆ่ า และท� ำ ร้ า ยมนุ ษ ย์ ด ้ ว ยกั น เอง คัมภีร์อัลกุรอานยังไม่สมบูรณ์อีกหรือ ใน การเสาะแสวงหาความรู ้ ใ นดุ น ยาเพื่ อ อาคิ เ ราะฮ์ แ ล ะ แ บ บ ฉ บั บ ข อ ง ท ่ า น น ะ บี มุ ฮั ม มั ด ยั ง ไม่ดีพออีกหรือ พวกท่านจึงได้ดิ้นรน ไ ข ว ่ ค ว ้ า ห า แ บ บ ฉ บั บ ข อ ง ผู ้ อื่ น อ ยู ่ ร�่ ำ ไ ป จงจ�ำไว้ว่าหลักการแห่งอิสลาม คือวิถีการด�ำเนิน ชีวิตที่ถูกต้องที่สุด อิสลามคือศาสนาที่ง่ายดาย อิสลาม คือศาสนาแห่งความสมบูรณ์ ศาสนาแห่งความสงบ สันติ ศาสนาที่มีแต่ความรัก ความเมตตา ปรานี มีแต่ การให้อภัยซึ่งกันและกัน ความสวยงามของอัลอิสลาม นั้น มีอยู่ในทุกๆสิ่งที่เราสามารถจะสัมผัสได้ และอวัยวะ ที่ดีที่สุดในการสัมผัสมัน ก็คือหัวใจของพวกท่านเอง เมื่อใดที่พวกท่านได้มองเห็นถึงคุณค่าและ ความสวยงามของอิสลามอย่างแท้จริง เมื่อนั้น พวก

ท่านก็จะมีแต่ความสุขสงบในหัวใจ เมื่อใดก็ตามที่หัวใจ ของท่านมีแต่อัลลอฮ์ เมื่อนั้นพวกท่านก็จะรู้ว่าพระองค์ รักท่านมากแค่ไหน และนั่นจะท�ำให้พวกท่านทั้งหลาย มอบความรักทั้งหมดที่มี ให้กับอัลลอฮ์ เพียงพระองค์ เดียวเท่านั้น และสุดท้ายเมื่อพระองค์ทรงตอบรับ ความรักจากพวกท่านแล้ว แน่นอนว่าจะไม่มีความรัก ของมนุษย์คนไหนที่จะส�ำคัญและยิ่งใหญ่ไปกว่าความ รักจากเอกองค์อัลลอฮ (ซุบฮานาฮูวาตาอาลา)อีกเลย “ ถ ้ า คุ ณ ยั ง ไ ม ่ พ บ ค ว า ม ส ง บ สุ ข สั น ติ ใ น หั ว ใ จ แ ส ด ง ว ่ า คุ ณ ยั ง ไ ม ่ เ ข ้ า ถึ ง แ ก ่ น แ ท ้ แ ห ่ ง อี ม า น แ ล ะ อั ล อิ ส ล า ม อ ย ่ า ง แ ท ้ จ ริ ง ” ขอพระองค์ทรงประทานให้ผู้ศรัทธาที่แท้จริง ได้ยืน หยัดอยู่บนสัจธรรมในโลกนี้ เพื่อก้าวไปสู่โลกหน้าอย่าง มั่นคง และพบกับความง่ายดายของหนทางที่จะน�ำไป สู่สรวงสวรรค์อันนิรันดร์. ( อามีนยารอบบัลอาลามีน) ( อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก www.islammore.com ) by…ปากกาด้ามใหม่ (‫)قلم اجلديد‬


‫ السالم عليكم ورحمةاهلل وبركاته‬.... เจอกั น อี ก แล้ ว ครั บ พี่ ๆ น้ อ งๆที่ น ่ า รั ก ทุกท่าน nasilemak ฉบับนี้ผมขอน�ำความรู้นิดๆ หน่อยๆที่ผมพอจะมี มาแบ่งปันกับพี่ๆน้องๆชาว อินซานน่ะครับ มีคนถามผมมากมายเกี่ยวกับ ธนาคารอิสลามและระบบต่างๆ ซึ่งในฉบับนี้ก็เป็น หนึ่งในค�ำถามที่ผมถูกถามบ่อยมาก ก็เลยถือโอกาส มาแบ่งปันความรู้กันนิสหนึ่งน่ะครับ งั้นผมขอเข้า เรื่องเลยแล้วกันครับ... เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อิสลาม ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย ดอกเบี้ยมักจะเกิด ขึ้น เมื่อมีการให้ยืมเงินหรือให้สินเชื่อ ซึ่งเมื่อพูด ถึงดอกเบี้ยกับธนาคาร ฟังเหมือนจะเป็นของคู่กัน อาจจะใช่ส�ำหรับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่เมื่อพูด ถึงธนาคารอิสลาม ดอกเบี้ยกับกลายเป็นสิ่งที่ต้อง หลีกเลี่ยงและห้ามน�ำมาใช้กับธนาคารอิสลามซะ ด้วยซ�้ำจะพูดถึงเรื่องดอกเบี้ยคงต้องพูดอีกยาว ผม ขอไปที่ค�ำถามยอดฮิตก่อนเลยแล้วกันครับ.. ค�ำถามมีอยู่ว่า ถ้าธนาคารอิสลามให้ยืมเงินแต่ไม่ คิดดอกเบี้ย แล้วธนาคารอิสลามเอาก�ำไรมากจาก ไหน หรือว่า ธนาคารอิสลามแค่เปลี่ยนชื่อจาก ดอกเบี้ยเป็นเงินปันผลหรือก�ำไร? ก ่ อ น อื่ น ผ ม ข อ บ อ ก ก ่ อ น เ ล ย ว ่ า “ถ้ า ”ธนาคารอิ ส ลามปล่ อ ยเงิ น กู ้ ห รื อ ให้ ยื ม เงิ น แก่ ลู ก ค้ า ธนาคารอิ ส ลามไม่ ส ามรถเรี ย กเก็ บ เงินคืน“มากกว่า”เงินที่ให้ยืมไปได้...(แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าธนาคารอิสลามไม่ให้กู้เงินน่ะครับ) ผมก็เลยจะบอกว่า จากที่ผมได้วิเคราะห์หลักการ ที่ใช้โดยธนาคารอิสลามในประเทศไทยและประ เทศอื่นๆ ผมได้พบว่าหลักการที่ใช้โดยธนาคารนั้น ไม่ใช่หลักการให้ยืม แต่เป็นหลักการซื้อขาย หากจะให้ผมอธิบายยาวๆ ผมว่างงกัน แน่เลยผมขอยกตัวอย่างมาให้เห็นกันเลยแล้วกัน ครับ เขียนยาวๆ กลัวว่าจะงงและไม่เข้าใจกัน.. อิอิ

ธนาคารอิสลามได้มีบริการ อย่างเช่น “สินเชื่อ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย”(เข้าไปดูในเว็บไซได้น่ะครับ)แต่ อย่างที่บอกไปตอนต้นธนาคารคงไม่ให้ยืมเงิน..แต่ ธนาคาร ตั้งชื่อบริการให้คล้ายคลึงกับธนาคารทัวไป แต่หลักการแตกต่างกันโดยสินเชิง หลักการที่ว่านั้น คือ บัยอ์ บิซะมัน อาจิล (‫)بيع بالثمن العاجل‬ Bai’ Bithaman Ajil - บัยอ์ บิซะมัน อาจิล (การ ขายแบบผ่อนช�ำระ) คือ การขายทรัพย์สินลักษณะ ผ่อนช�ำระรายงวดภายในระยะเวลาที่ตกลง โดยมี ราคาขายเท่ากับราคาทุนบวกด้วยก�ำไร ตามที่ผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงกันเพื่อให้เข้าใจเร็วขึ้นผมเลย ท�ำ กราฟขึ้นมาให้ดูด้วยครับ. 1.ลูกค้า (นายตอริก) ไปเลือกดูบ้าน เพื่อตัดสินใจในการซื้อหรือก่อสร้างบ้านที่ถูกใจ กับ ผู้ขายหรือก่อสร้าง เมื่อได้บ้านที่ถูกใจ นายตอริกก็ ท�ำข้อตกลงในการซื้อขาย ลูกค้าอาจจะต้องจ่ายเงิน มัดจ�ำตามที่ผู้ขายตกลงกับลูกค้า 2.ตอริก มีเงินไม่พอที่จะซื้อบ้าน ก็ไป เจรจากับธนาคารเรื่องการซื้อบ้าน 3.หลั ง จากได้ ท� ำ ข้ อ ตกลงกั น แล้ ว ธนาคารจะเป็นผู้ซื้อบ้าน จากผู้ขายบ้าน 4.ผู้ขายบ้านก็จะโอนกรรมสิทธิ์เจ้าของ บ้านให้แก่ธนาคาร 5.ธนาคารขายบ้านคืนให้แก่ลูกค้า โดยมี ราคาขายเท่ากับราคาทุนบวกด้วยก�ำไร ตามที่ผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงกัน (ธนาคารจะบวกค่าด�ำเนินการ ต่างๆ บวกด้วยก�ำไร) 6.ลูกค้าผ่อนช�ำระเงิน ลักษณะผ่อน ช�ำระรายงวดภายในระยะเวลาที่ตกลง


นี้เป็นหลักการพื้นฐานของ บัยอ์ บิซะ มัน อาจิล เพราะหลักการนี้สามารถน�ำไปปรับใช้ใน รูปแบบอื่นๆได้อีก.. ซึ่งรูปแบบของหลักการจะแตก ต่างกัน แล้วแต่ธนาคารจะน�ำไปปรับใช้... และมีหลักการอีกหลายแบบที่ธนาคาร อิสลามสามารถใช้ได้อย่างเช่น มุรอบาฮะฮ์, มุชารอ กะฮ์, บัยอ์ อัลอีนะฮ์, อิญาเราะฮ์ ซุมมา อัล บัยอ์ และ อีกมากมาย.. ค�ำถามอีกข้อคือท�ำไหมธนาคารไม่ว่าจะ เป็นธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารอิสลามต้องให้เงิน (ดอกเบี้ย เงินปันผล ก�ำไร) แก่ลูกค้าด้วย??? ผมขอตอบสั้นๆว่า ธนาคารเอาเงินเราไปใช้ ก็ต้อง แบ่งผลประโยชน์ให้ลูกค้าด้วยสิ.. จริงไหมครับ.. อิอิ (ค�ำตอบสั้นๆนี้ก็ใช้ได้น่ะครับ เพราะตอบตามหลัก การ เดียวยาววว) หากพี่น้องมีข้อสงสัยหรือค�ำถามเกี่ยว กับธนาคารอิสลาม.. ก็สามารถถามได้น่ะครับ อะไร ผมรู้ก็จะตอบให้ ส่วนอะไรที่ยังไม่รู้ก็จะไปหาค�ำตอบ มาตอบให้น่ะคร้าบบบ..


Hot news -ยินดีกับนาซิเลอมะของเราด้วยนะค่ะ กับวาระที่เดินทางมาครบรอบ ๕ ปี แล้ว ดีใจค่ะ -ช่วงนี้เป็นช่วงสอบเก็บคะแนน ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะ -ยินดีกับบังฮาดี้ด้วยนะค่ะ ที่ก�ำลังจะมีทายาทมาให้พวกเราอิจฉากัน อิอิ เร็วมากกกกก -เตรียมพบกับงาน อ�ำลารุ่นพี่ ในวันที่ 2012/3/10 ไปร่วมงานกันเยอะๆนะค่ะ -ส่วนงานอ�ำลาของรุ่นพี่ผู้หญิงเราจะมีการจัดในวันที2่ 012/3/10 หลังจากละหมาดุฮริ เป็นต้นไปค่ะ -เตรียมตัวเลือกประธานนักศึกษาไทยอินซานียะห์คนใหม่ ในวันที่ 012/3/8 เวลา -9.00 16.00 น เลือกคนดี คนที่ท�ำงานและสามารถช่วยชมรมฯของเราพัฒนายิ่งๆๆขึ้นไปนะค่ะ -ยินดีกับรุ่นพี่ของเราที่จบไปแล้ว ที่ได้ท�ำการสละโสดกันไปหลายคู่ -ขอแสดงความยินดีกับก๊ะนาดียะห์ ลูเฆาะปี ๔ ที่ได้สละโสดไปอีกคนค่ะ -วีซ่าของใครที่ใกล้จะหมดให้รีบด�ำเนินการด่วนนะค่ะ ส่วนพาสปอร์ตของใครใกล้จะถึง เวลาต่อแล้วก็ให้รีบด�ำเนินการกันด้วย ส�ำคัญมากนะค่ะ -เหลืออีกแค่หนึ่งเดือนกับการเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ ก็ใกล้จะถึงเวลาสอบปลายภาคกัน แล้ว เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมกาย กันให้พร้อมด้วยนะค่ะ -ทั้งบาฮัส ทั้งสอบเก็บคะแนน อย่างเยอะ สู้ๆๆกันนะค่ะ -โจรเยอะจิง ไรจิง ระวังกันด้วยค่ะ -เตรียมตัวไว้ ชมรมจะท�ำการรวบรวม mr.tabung กันแล้วนะ เร็วๆนี้ค่ะ -ช่วงนี้เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะค่ะ -พี่น้องทีมงานค่าย Araby fun camp 3rd ปิดเทอมนี้หลังสอบเจอกันเหมือนเดิม เตรียม ตัว เตรียมใจให้พร้อม ส่วนที่ใหน อะไร ยังไง คอยติดตามกันต่อจากนี้นะ ลงโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ นาซิเลอมะ ติดต่อที่ http://facebook.com/Nasilemak01 หรือ 016-4841490


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.