BANGKOK NEIGHBOURHOOD
FREE MAGAZINE
Issue 20 : July 2012
all good things nearby
slow life... ละเมียดละไม... ไปช้าๆ
น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์
Life in the slow lane “ผู้ชายเรียบง่าย...ไร้สาร”
• ไอเดียความสุข • “ปันกัน” จุดประกายสังคม แห่งการแบ่งปัน
02
editor
our neighbour contributors
ไม่ผดิ ทีเ่ ราจะปล่อยชีวติ ให้ ไหลบ่าไปตามกระแสโลกความเร็ว สูง ชีวติ ประจำ�วันในกรุงเทพทุก วันนีต้ อ้ งเร่งรีบจนหอบแฮ่ก ทุก อย่างจำ�เป็นต้องด่วนจีว๋ อ่ งไวตาม ความเร็วเน็ต ถึงอินเตอร์เน็ตจะ ช่วยให้เราทำ�อะไร “ทันใจ” ใน หลายอย่างแต่กลับทำ�ให้เราไม่เคย รูเ้ ท่าทัน “ความคิด” ของตัวเอง เท่าไหร่ หลายครัง้ กลับรูส้ กึ ว่า ความง่ายนัน้ ทำ�ให้ตวั เองหงุดหงิด ง่ายขึน้ คลิกปุม่ undo ทีค่ อม บ่อยขึน้ จนเริม่ สะท้อนใจว่าทำ�ไม เราใช้ชวี ติ ไร้สติจงั จะดีกว่าไหม ถ้าเราหาโอกาส หยุดพัก ให้เวลากับตัวเองได้หยุด หายใจ หาทีท่ างให้ตวั เองได้ใช้ชวี ติ ตามจังหวะของตัวเองซักแป๊บเพือ่ เพิม่ พลังก่อนจะกลับลงลูว่ ง่ิ เพือ่ ไป
ตีตน้ื แข่งกับคนอืน่ ๆใหม่ นิตยสารเนเบอร์โฉมใหม่ กำ�ลังกลับสูจ่ ดุ ยืนของหนังสือ ทีอ่ ยากจะให้ทกุ คนมีความสุข กับชีวติ ง่ายขึน้ ตามคอนเซ็ปต์ท่ี ว่า “ของดีถกู ใจ หาได้ใกล้ตวั ” ของดีถกู ใจใกล้ตวั ในทีน่ อ่ี าจจะ หมายถึงความสุขทีห่ าได้ตง้ั แต่ อยูใ่ นบ้าน ด้วยเหตุนเ้ี ราจึงเปิด คอลัมน์ใหม่ๆ ในหมวด Living เพือ่ หาโอกาสให้คนรุน่ ใหม่ไม่ ต้องไปขวนขวายหาความสุข ทีไ่ หนไกลเพราะบางทีความสุข ก็นอนรอเราอยูท่ บ่ี า้ นนัน่ แหละ อย่าเพิง่ ตกใจกับหน้าตา ของนิตยสารเนเบอร์ทเ่ี ปลีย่ น ไปในเดือนนีน้ ะคะ เราเลือกเมค โอเวอร์หนังสือใหม่เพือ่ ให้คณ ุ ผูอ้ า่ นสัมผัสกับความสุขในทุก หน้าของหนังสือ เราพร้อมจะ เป็นเพือ่ นใกล้ตวั ทีแ่ สนอบอุน่ ให้ เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุน่ ใหม่ ทีก่ �ำ ลังอยากหาความสุขในแนว ของตัวเอง เปิดอ่านเล่มนีช้ า้ ๆ และ ให้โอกาสนิตยสารเนเบอร์ได้ เป็นส่วนหนึง่ ของความสุขของ คุณด้วยนะคะ ดนยา ทรัพย์ยง่ิ Editor-in-chief
แพทย์หญิงรุจเิ ลขา เจียรไพศาลเจริญ / Our Skin แพทย์หญิงผูเ้ ชีย่ วชาญ ด้านผิวหนังโดยเฉพาะ สมาชิก American Academy in Dermatology มีคลินกิ เป็น ของตนเองชือ่ เอพลัสอยู่ ทีซ่ อยลาดพร้าว 122 และเป็นทีป่ รึกษาของ เครือ่ งสำ�อางแบรนด์ Dermist
นายแพทย์ชยั เดช สระสมบูรณ์ / Meet The Doctor แพทย์ประจำ�บ้านจาก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีสาระดีๆเกีย่ วกับ สุขภาพมาให้เพือ่ นบ้าน ได้ดแู ลตัวเองกันได้ ถูกต้อง
ปริดา มโนมัยพิบลู ย์ / Our Kitchen ด็อกเตอร์ดา้ นศิลปะการ ละครผูม้ คี วามหลงใหล ในการทำ�อาหารและ ขนมหวาน ปัจจุบนั เป็น อาจารย์มหาวิทยาลัย และเป็นเจ้าของ Theatre in the Oven ที่ เป็น Catering และ โรงเรียนสอนทำ�ขนม การันตีดว้ ยใบรับรอง จากสถาบัน Le Cordon Bleu
นันธิดา รัตนกุล / Air mail สาวสวย รักการท่อง เทีย่ ว ผูด้ แู ลการตลาด ของผลิตภัณฑ์สปา แบรนด์ Thann ทีใ่ ช้ โอกาสในการเดินทาง ไปทำ�งานรอบโลกเก็บ ประสบการณ์ดๆี จาก การเดินทางเขียนมา เล่าให้ทกุ คนฟัง
Jazzanovaa / Our Bedtime Story อดีตกาลเคยเป็นนัก เขียนของนิตยสารเกีย่ ว กับเทคโนโลยี ปัจจุบนั เป็นมนุษย์หม�ำ่ เงินเดือน และชายขีส้ งสัยทีย่ งั คง เสพติดความหอมฟุง้ ของเทคโนโลยี เสียง ดนตรี ภาพถ่ายและตัว หนังสือทีไ่ ม่มวี นั สิน้ สุด ไปจากโลกกลมๆ ใบนี้
ศักดิส์ ริ ิ ทรัพย์ยง่ิ / Cover and Be Our Guest ช่างภาพมืออาชีพผู้ คร�ำ่ หวอดในวงการ ถ่ายภาพแห่ง Saksiri Photography ปลีกตัว มาร่วมถ่ายทอดมุมมอง และห้วงอารมณ์ของ แขกรับเชิญให้เรารูจ้ กั ตัวตนของพวกเขาได้ อย่างมีชวี ติ ชีวา
อานนทวงศ์ มฤคพิทกั ษ์ / Our Mind จบวิศวกรรมไฟฟ้า ตอนนีท้ �ำ งานเกีย่ วกับ การสือ่ สารในองค์กร และรับสแกนรูป( www. singmeka.com) แม้ ไม่เข้าวัดสวดมนต์แต่ สนใจศึกษาธรรมะมา ตัง้ แต่มธั ยม เมือ่ เห็น ประโยชน์จงึ อยากแบ่ง ปันสิง่ ดีๆ ให้ผอู้ า่ น
คริสตินา่ ดีลอส ซันโตส / Our Closet ครีเอทีฟทีเ่ ชือ่ ว่าความ คิดสร้างสรรค์คอื หัวใจ ของอาชีพ วันนีค้ วาม คิดสร้างสรรค์มาบวก กับสายงานแฟชัน่ ดีไซน์ เรียกได้วา่ ศิลปะหลาย แขนงมาเจอกัน ความ มันส์จงึ บังเกิดให้ผอู้ า่ น มีความสุข สนุกกับทุก ไอเดีย
editorail
content LIVING OUR DELIGHT 13 ไอเดียความสุข Our Craft 13 หน้ากระดาษแห่ง ความทรงจำ� Our Bedtime story 20 หนัง-เพลงเพือ่ ชีวติ เนิบช้า AIR MAIL 19 ห่มฟ้าทีม่ องโกเลีย OUR KITCHEN 23 สตรอเบอร์รช่ี สี เค้กเนือ้ นุม่
TREND Our News Her closet เปิดตู้ ดูเทรนด์ Eating Out อร่อยใกล้บา้ น
5 6 21
Be Our Guest 8 น็อต วรฤทธิ์ ผูช้ าย เรียบง่าย..ไร้สาร
SPECIALIST OUR SKIN 14 ตาดูดาว เท้าแตกลาย FEATURE 18 DO YOU KNOW? 4 OUR MIND Osho บุรษุ อันตราย รูไ้ ว้ใช่วา่ OUR SCOOP 16 Meet the Doctor 15 นิว้ ล็อค..โรคฮิตของหนุม่ “ปันกัน” จุดประกาย สาวนักแชท สังคมแห่งการแบ่งปัน
พิสจู น์อกั ษร ธนากร ภูก่ ลัน่ ผูจ้ ดั การฝ่ายขายและการตลาด ศักดิส์ ทิ ธิ ์ จิตอนันตพร ผูจ้ ดั การฝ่ายบัญชีและการเงิน บรรณาธิการบริหาร ณัฎฐพงศ์ มีเพียร ดนยา ทรัพย์ยง่ิ เกียรติยศ มีเพียร กองบรรณาธิการ ฐกฤต รุง่ เรืองธัญญา แนะนำ� ติดชม หรือติดต่อลงพืน้ ทีโ่ ฆษณา พรพัฒน์ รัตนาภินนั ท์ชยั นิตยสาร Neighbour 1 ซอยพัฒนาการ 69 แยก 2 แขวงประเวศ บรรณาธิการศิลปกรรม เขตประเวศ 10250 ชนม์นภิ า บัณฑิตพุฒ โทร 02-321-3911, 08-6677-3949 ฝ่ายสร้างสรรค์และออกแบบ neighbour.mag@gmail.com waltz in design www.facebook.com/neighbour.mag coon Media บรรณาธิการทีป่ รึกษา ศ.พล.ต.ต.ดร.เกียรติพงษ์ มีเพียร ดร. วรกมล มีเพียร
*รูปถ่ายจาก shutterstock สงวนสิทธิใ์ ห้ใช้ส�ำ หรับนิตยสาร neighbour เท่านัน้ ห้ามนำ�ไปเผยเเพร่ท�ำ ซา้ํ โดยไม่ได้รบั อนุญาต
quote
03
“We are always getting ready to live, but never living” Ralph Waldo Emerson
photograph : shutterstock.com
“คนเรามักจะวางแผนชีวิต แต่ไม่เคยใช้ชีวิต”
04
do you know?
photograph : shutterstock.com
โรค Hurry Sickness Syndrome คือ โรคที่เกิดจากคนใช้ชีวิต เร่งรีบเกินไปจนมีอาการหายใจ ไม่ทัน แขนขาและการเต้นของ หัวใจอ่อนแรง จากดัชนีความสุขโลกของนิวอีโคโนมิค ฟาวเดชั่นส์ (เอ็นอีเอฟ) ประเทศที่มี ความสุขมากที่สุดในโลกคือ สาธารณรัฐ วานูอาตู (Republic of Vanuatu) ซึ่ง เป็นหมูเ่ กาะทีต่ งั้ อยูใ่ นมหาสมุทรแปซิฟคิ ตอนใต้ ว่ากันว่าที่ทำ�ให้ประชาชนของที่ นี่มีความสุขมากนั้นเพราะคนที่นั่นพอใจ กับสิ่งเล็กน้อย อยู่อย่างพอเพียง ไม่มี ความกดดันใดๆ ในชีวิตให้กังวล
ผลสำ�รวจความพึงพอใจในชีวิตของคนไทย ปี 2555 ออกมาว่าคนจังหวัดบึงกาฬคือคนที่ มีความสุขมากที่สุด ส่วนพังงา และระนองนั้น มีความสุขในระดับที่รองๆ ลงมา สามจังหวัดที่ มีดัชนีความสุขของผู้คนน้อยที่สุดก็คือ โคราช อุทัยธานี นราธิวาส ส่วนคนกรุงเทพอย่างเราๆ น่ะเหรอ อยู่อันดับที่ 68 จาก 77 จังหวัด โน่นแน่ะ
สาเหตุที่ทำ�ให้คนนอนไม่พอมากที่สุดใน ปัจจุบันนี้คือ การออนไลน์อินเตอร์เน็ต โดยเฉลี่ยแล้ว ช่วงอายุ 37 คือช่วงอายุที่ผู้หญิง มักจะรู้สึกไม่พอใจในชีวิตของตนเองมากที่สุด ในขณะที่ผู้ชายจะมารู้สึกแย่กับตัวเองก็ตอน อายุ 42 ปี
ปัจจุบันประชากรใช้ชีวิต เร่งรีบขึ้นมากเทียบอัตรา ความเร็วของการเดินของ ผู้คน ประเทศที่คนเดินเร็ว ที่สุดในโลกก็คือ สิงคโปร์
บัญญัติการใช้ชีวิตช้าๆตามแนวทางของเมือง Kakegawa ในจังหวัดชิซุโอกะของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย Slow pace - ใช้การเดินแทนการใช้รถ Slow wear - สวมใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากวัสดุ ท้องถิ่น Slow food - บริโภคอาหารตามฤดูกาล Slow house - อยู่บ้านแบบดั้งเดิมเพื่อให้ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ Slow industry - ส่งเสริมให้ดูแลการจัดการ ทรัพยากรในระบบอุตสาหกรรมโดยนึกถึงสิ่ง แวดล้อมของเมืองเป็นหลัก Slow education - เน้นกระบวนการเรียนรู้ ทางสังคมมากกว่าความเป็นเลิศทางวิชาการ Slow aging - มีชีวิตยืนยาวด้วยวิถีธรรมชาติ Slow life - ดำ�เนินชีวิตอย่างช้าๆ n
our news
05
july รักติดต่อ (Ai no Kakera)
คอนเสิร์ตบันเทิงคดี เดอะมูฟวี่: ฝนโปรยไพร ใจกลางเมือง
มาโนช พุฒตาล บุตรของนายเฉลียวกับนางอำ�ไพจากรายวิทยุชื่อดังกลับมาเปิด คอนเสิร์ตในรูปแบบใหม่ที่รวมการแสดงดนตรีสด ภาพยนตร์สารคดีและทอล์คโชว์เข้า ด้วยกันเพื่อเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางตามหา “หุบเขาฝนโปรยไพร” ที่นักเขียน ซีไรต์อย่างกนกพงศ์ สงสมพันธ์เคยใช้เป็นสถานที่เก็บตัวเพื่อเขียนงานชิ้นหนึ่งของเขา จนได้เรียนรู้อย่างถ่องแท้ว่า “การมีชีวิต” กับ “การใช้ชีวิต” เป็นคนละเรื่องกัน ถ้า อยากสัมผัสกับโชว์ที่มีแง่งามแถมให้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ติดต่อซื้อบัตรที่ไทย ทิคเก็ตเมเจอร์ การแสดงมีรอบเดียวที่โรงหนังสกาล่า วันที่ 28 กรกฎาคม 2555 เวลา 16.00 น.
นิทรรศการภาพถ่ายอูร์บานน์ วอร์เต็กซ์
นิทรรศการที่ช่างเข้ากับเรื่องราวในปักษ์ นี้ ช่างภาพวอริส วิเลนสกี้ ศิลปินช่าง ภาพชาวฝรั่งเศสผู้รักการเดินทางท่อง เที่ยวมาเปิดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย ที่แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วและ ความเชื่องช้าที่ซ้อนทับกันของเมือง ใหญ่ในเอเซีย ที่สำ�คัญครั้งนี้เขามา
เยี่ยมเยียนกรุงเทพและบอกเล่าความเป็น เราผ่านมุมมองของเขา ก่อนที่จะเขาจะ เดินทางไปเก็บเกีย่ วภาพถ่ายของมหานคร อื่นๆในทวีปต่างๆต่อไป ไปอ่อยอิ่งแช่ม ช้าเยี่ยมชมนิทรรศการนี้กันได้ที่สมาคม ฝรั่งเศสกรุงเทพได้จนถึงวันที่ 22 กรกฎานี้ แถมเข้าชมฟรี ไม่มีค่า ใช้จ่ายซะด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.hurban-vortex.com/
ผลงานละครเวทีของโชโกะ ทานิ กาวา คนเขียนบทที่ทำ�ละครออก มาได้ขึ้นชื่อว่ามีเสน่ห์แบบไม่รัก ไม่ได้ ผลงานละครเวทีโปรดักชั่น เล็กๆ ของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเล่า เรื่องที่สัมผัสเข้าไปในใจ ใครที่ยังไม่ เคยลองชมละครเวทีโรงเล็กๆ ขอ แนะนำ�ให้ลองแวะไปชมเรื่องราว ความรักหลากหลายของคนสี่คน นำ�แสดงโดย สโรชา วาทิตตพันธ์ ฟูโตชิ ฮาชิโมโตะ โชโกะ ทานิ กาวา แสดงถึงวันที่ 16 กรกฎา นี้เท่านั้น ซื้อบัตรหรือสอบถาม รายละเอียดได้ที่ Online Ticket: www.bananabooking.com หรือ “รักติดต่อ Call center” 080 246 3251
ตลาดน้ำ�ขวัญเรียม
เพื่อหวนระลึกถึงวานวันครั้งที่คลอง แสนแสบเคยเป็นฉากหลังแห่งตำ�นาน อมตะรักขวัญเรียม ตลาดน้ำ�ชานเมือง กรุงล่าสุดนี้จะพาเราย้อนกลับไปใช้ ชีวิตช้าๆ ตามกระแสน้ำ� เพื่อจำ�ลอง วิถีชีวิตตามลำ�นํ้าคลองแสนแสบช่วง ที่ตัดผ่านระหว่างวัดสองฝั่งคลอง คือ
Thailand Health & Wellness 2012 สุขภาวะดี วิถีไทย
Think Well ฉลาดคิด สร้างวิถีการใช้ ชีวิตใหม่ให้ตัวเองและครอบครัว Be Fit รักที่จะบริหารร่างกาย ออกกำ�ลัง กายสมํ่าเสมอ Eat Right ใส่ใจสุขภาพด้วยการเลือก บริโภคอาหารที่มีคุณค่า สสส.ผนึกกำ�ลังพันธมิตรจัดงานสุดยอด งานแสดงสินค้าและบริการเพื่อคนรัก สุขภาพแห่งปี ตามแนวคิด Think Well, Be Fit, Eat Right ไปเติมพลังสุขภาพ เติมพลังสดใสใส่ชีวิตได้ที่อาคาร 5-6 อิม แพ็ค เมืองทองธานี 26-29 กรกฎานี้
วัดบำ�เพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ ลองกลับไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับท้อง น้ำ�เราอาจจะไม่หวาดผวากับน้องน้ำ�อีก แล้วก็ได้ ตลาดนํ้าขวัญเรียมตั้งอยู่ที่ ซอยรามคำ�แหง 187 ดูรายละเอียดได้ที่ http://kwan-riamfloatingmarket. com n
06
her closet
columnist :
คริสติน่า ดีลอส ซันโตส | photograph : www.irisvanherpen.com, www.paperself.com, Carsten Witte
เยอะพิเศษ เพิ่มเครื่อง
IRIS VAN
Herpen
ตาแบบแรก เยอะๆ แต่มั่นคง
อุ๊บส์! ไม่ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวหรืออะไรหรอก นะ แต่ฉบับนี้ แค่หยิบยกเรื่องของ แฟชั่นเยอะๆๆๆๆ มากมายหลายสิ่ง ได้อีกได้อีก มาฝาก คงได้กลิ่นอาย มาจากแม่นางกาก้าที่มาจอดยานแม่ ที่ประเทศไทยด้วยกระมัง แต่ทว่า เราคงไม่นำ�ชุดของเลดี้นางนี้มานำ� เสนอ เพราะเอ๊าท์และใช้กันทั่วบ้าน ทั่วเมือง แต่เราหยิบผลงานแฟชั่น ที่แรว๊งส์ ได้โล่มาฝากดีกว่า กับ ดีไซน์เนอร์คนนี้ Iris Van Herpen
“รักจะเยอะ อย่าได้ยั้ง” แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะเติมสิ่งอื่นบนร่างนะจ๊ะ ให้เติมที่ ดวงตาเท่านั้น ทำ�ตาให้เริ่ด เอาไว้จิก ใครก็ตาม ที่มองแล้วมีเครื่องหมาย Question Mark ขึ้นบนหน้า
ตาอีกแบบ เยอะๆ บวกลูกเล่น บอกก่อนนะ “ชั้นไม่ได้บ้า แต่มีเวลา พิถีพิถัน ฮึ!”
อิ่มกันรึเปล่า กับเยอะพิเศษ เพิ่มเครื่อง แต่ก็ต้องทิ้งท้ายว่า อะไรก็ตามที่เราทำ�แล้วมั่นใจ ทำ�แล้วกล้าเดินเชิดๆ ไม่อึดอัด ไม่กังวล ไม่เดิน หนีบๆ เหนียมๆ ทำ�ไปเถอะ วงการแฟชั่น ตลาดเสื้อผ้าเมืองไทยจะได้ก้าวไกลระดับสากล n
08
be our guest
columnist :
พรพัฒน์ รัตนาภินันท์ชัย | photographer : Saksiri Photography
life
IN THE SLOW LANE
09 “เวลาอยู่บ้านจะเป็นอีกโหมดหนึ่ง ก็จะนิ่ง สงบๆ เวลามันจะช้าไปหมด ค่อยๆ ทำ�อะไรไป ไม่ต้องรีบร้อน ใช้ชีวิตช้าๆ บ้านในความรู้สึกผมคือเป็นที่ปลอดภัย ที่สุด สงบที่สุด”
ลองเปลี่ยนจากการเอื้อมสุดมือที่จะไขว้คว้าบางสิ่ง เป็นหยุดนิ่ง หันกลับไปมองสิ่งรอบข้าง ฟังเสียงลม เสียงต้นไม้บ้าง ไม่สนใจเวลา บ้าง พูดคุยกับคนในครอบครัว…ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่า “ความสุข” และอาจเป็นหนึ่งในความสุขที่เรียบง่ายที่สุดที่เราสัก คนจะมีได้ เหมือนที่ผู้ชายคนนี้ได้ค้นพบ “น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์” นักแสดงและพิธีกร ที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจอีกหลายอย่าง ความร้าย จากบทบาทล่าสุดในขุนศึกทำ�ให้เราเซอร์ไพรส์กับตัวตนของเขา หนุ่มแบด บอยคนนี้เปล่งประกายอบอุ่นอ่อนโยนขณะบอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิต และ ความสุขในทุกวันของเขา จากชีวิตจังหวะร็อคช่วงวัยร้อนที่เคยไร้แก่นสารสู่ ชายหนุ่มหัวใจสะอาดสะอ้านไร้สาร(พิษตกค้าง) ที่อาจจุดประกายให้คุณหัน กลับมาสนใจสิ่งใกล้ตัว เพราะแท้จริงแล้ว ความสุข มันอยู่รอบตัวเรานี่เอง… ตัวเราในปัจจุบันเป็นไปอย่างที่วาดฝันไว้มั้ย? ไม่เคยฝันว่าเป็นอะไรนะ เป็นเด็กที่ไม่ได้วางแผนว่าจะทำ�อะไร ใครให้ทำ� อะไรก็ทำ� เรียนก็เรียนไป โตขึ้นมามีโอกาสได้ทำ�อะไรหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ แฮปปี้กับชีวิตแบบนี้ตรงที่เราเป็นนายตัวเอง ด้วยอาชีพที่เมื่อมีงานเข้ามาก็ จะยุ่งมาก ถ้าว่างคือว่างจริงๆ แต่ผมเป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ค่อยได้ เลยมีธุรกิจ นู่นนี่นั้นงอกเยอะแยะไปหมด อย่างรีสอร์ตเป็นความฝันผมนะ ชอบทะเล คิด อยากมีที่ริมทะเล คิดไปคิดว่าถ้าจะปลูกบ้านก็ไม่มีโอกาสได้อยู่มั้ง เลยทำ�รี สอร์ตบ้านตุ่มดีกว่า เพื่อนๆ ก็ได้มา ใครๆ ก็มาหาได้ ได้พักผ่อน ได้รู้จักเพื่อน ใหม่ด้วย พ่อก็อยู่จันทบุรีบ่อย ทำ�สวนที่นั่น ก็ให้พ่อดูแลละกัน ส่วนธุรกิจร้าน ทำ�เล็บ เห็นว่าละแวกบ้านไม่ค่อยมี ก็เลยทำ�ขึ้นมา แต่ให้เราทำ�ก็คงไม่เหมาะ เลยมีแต่ไอเดียเราส่วนร้านให้พี่แนนดูแลไปละกัน ผมประมาณว่าใครอยาก ทำ�มาบอกเรา อย่างร้านนํ้าผลไม้เรามีของ มีสูตรอยู่แล้ว ทำ�ให้เพื่อนกินแล้ว ชอบ ถามเราว่าเปิดร้านมั้ย? เลยได้เปิดร้านที่พาราไดซ์ พาร์ค โลกแห่งความฝันในวัยเด็กกับโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน จริงๆ ตอนนี้ยังอยู่ในโลกของความเพ้อฝันอยู่นะ เป็นคนมองโลกในแง่ดี อยากทำ�อะไรก็ทำ� สิ่งที่เราทำ�มันไม่เดือนร้อนคนอื่น มีความสุขกับอะไรก็ทำ� อย่างนั้น สิ่งที่เราทำ�ก็ไม่ได้เดือดร้อนคนอื่น ยังมีความฝันอีกมากมายที่จะทำ�
มองถึงความเป็นจริงว่าทำ�ได้หรือเปล่า บางอย่างถ้าไปไม่ได้ก็อย่าเหนื่อย เลย แต่ถ้ามันพร้อมหมดทุกอย่างก็ So what? ทำ�ไปสิ ผมมีโอกาสที่ได้ เจอคนมาก ได้พูดคุย ได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจมากมาย มันเป็นอะไรที่อยู่รอบ ตัวเรา ถ้าเห็นว่าอะไรน่าสนใจก็หยิบมาทำ� ตอนนี้ผมกำ�ลังทำ�อีกหนึ่งฝัน ให้เป็นจริงอยู่เหมือนกัน ไร้สารแต่ไม่ไร้แก่นสาร ตอนนี้ผมก้าวไปช้าๆทุ่มเทเวลาให้กับความฝันที่กำ�ลังสานอยู่ คือปลูกผัก ปลอดสารพิษ ปลูกพริกพิโรธของเม็กซิกัน สายพันธุ์ที่พระเทพฯท่านนำ� เข้ามาปลูกด้วยวิธีออแกนิค สกัดแต่สารเอาเฉพาะความเผ็ดออกมา แล้ว เอาไปขายให้คนที่เขาต้องการ แต่ของเรามันแพง คนไม่ซื้อ ของเราไร้สาร พิษนะ ไม่มีเลย เลยราคาแพง ทำ�เสร็จแล้วล่ะ ตอนนี้ทำ�เป็นเจลยาหม่อง กอริลล่า เราร่วมวิจัยกับ สวทช. กระทรวงวิทย์ของคนไทย รู้สึกโชคดีที่ ได้ไปพบเห็นสิ่งที่น่าสนใจ เป็นโอกาสจากการที่เราได้เจอคนมาก ได้พูด คุย เห็นว่าน่าสนใจก็หยิบมาทำ� เกือบสำ�เร็จละ เหลือแค่ขาย There is no place like home ถ้ามีเวลาว่างจริงๆ ชอบอยู่บ้านนะ เป็นคนไม่ค่อยชอบออกไปไหน หรือ เดินห้าง ถึงเวลาทำ�งานข้างนอกเมื่อไหร่จะกระฉับกระเฉง รีบทำ�ให้เสร็จ จะได้กลับบ้าน เวลาอยู่บ้านจะเป็นอีกโหมดหนึ่ง ก็จะนิ่ง สงบๆ เวลามัน จะช้าไปหมด ค่อยๆ ทำ�อะไรไป ไม่ต้องรีบร้อน ใช้ชีวิตช้าๆ บ้านในความ รู้สึกผมคือเป็นที่ปลอดภัยที่สุด สงบที่สุด บ้านหลังแรก กับความทรงจำ� แถวบ้าน เมื่อก่อนแถวบ้านจะมีป่าเยอะ ทุ่งนาเยอะ สมัยยังเป็นเด็ก ประถมค้นพบว่าบ้านเราสามารถทะลุไปสวนหลวง ร.9 ได้ เข้าด้านหลัง บ้านได้เลย ตอนนั้นเพื่อนมาบ้านก็จะพากันขี่จักรยานไปเรื่อยๆ แล้วหลัง บ้านมีคลองเล็กๆ มีสะพานไม้ข้ามไปสวนหลวง ร.9 ได้ ผมกับเพื่อนก็ขี่ จักรยานไปนั่งเล่นทั้งวัน แม่ตามหาไม่เจอ สมัยก่อนยังไม่มีมือถือ
10
“บางทีอะไรใกล้ตัวมัก จะมองข้าม ถ้าลอง มองอะไรที่ใกล้ตัวขึ้น มาอีกนิด มันอาจจะ เหมาะสมกว่า มอง สิ่งใกล้ตัวรอบๆ ข้าง มองคนในบ้าน สรรพสิ่งในบ้าน ทุกอย่างที่เรามี น่าจะพอแล้วนะ”
เลยเกณฑ์คนทั้งหมู่บ้านช่วยกันตามหา ตอนเย็นๆ เห็นว่ามืดแล้วก็ชวนเพื่อนขี่จักรยานกลับ ระหว่าง ทางเจอแม่เข้าพอดีก็โดนแม่ว่า หลังจากนั้นก็ไม่ ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่ พอมัธยมมีเพื่อน ตอนนั้น ส่วนหนึ่งที่บ้านเป็นร้านอาหาร ก็มาช่วยงานที่บ้าน ม.ปลายเรียนต่างประเทศ กลับมาอีกทีกเ็ ริม่ ทำ�งานละ ความเปลี่ยนแปลงรอบบ้าน สมัยเด็กจะเป็นทุ่งนาซะเยอะ ความเจริญไม่ค่อยมี เท่าไหร่ ตรงนี้มันเป็นโซนนิ่งเป็นที่อยู่อาศัย สร้าง ตึกห้ามเกิน 4 ชั้น เดิมมีแค่ห้างเดียวคือเซ็นทรัล
บางนา ต่อมาก็มีห้างซีคอนสแควร์ สมัยก่อนมี สวนหลวง ร.9 อยู่แล้ว ตอนนี้เยอะแยะไปหมด ผมว่าเป็นชุมชนที่น่าอยู่นะ มีทุกอย่างเลย สวน สาธารณะ สปอร์ตคลับ หมู่บ้านดีๆ ช้อปปิ้งมีทุก อย่าง ส่วนบ้านผมเองก็อยู่มาตั้งแต่เด็ก บ้านจะ แบ่งเป็นหลังๆ ของพ่อ ของพี่แนน ส่วนของผมจะ เปลี่ยนตลอด ผมชอบทำ�บ้าน เลย รีโนเวทบ่อย สร้างเสร็จก็อ๊ะทุบทำ�ใหม่ เปลี่ยนแปลงตลอด เพื่อน มาบ้านเรา มาปีนี้เพื่อนบอกเปลี่ยนบ้านอีกแล้วหรอ ล่าสุดทำ�ใหม่อีกละ เป็นแนวคอนเท็มโพรารี่ น่าจะ เสร็จสิ้นปีนี้และคงจะไม่เปลี่ยนอีกแล้ว (ยิ้ม)
“บรรยากาศ” เป็นใจ ผมว่าบรรยากาศนั้นสำ�คัญนะ คนอาจจะมองว่าเป็น เรื่องธรรมดา ผมชอบบรรยากาศ เหมือนผมชอบ ทะเลเพราะมันไม่มีอะไรมากั้นระหว่างฟ้าดี ได้เห็น ภาพกว้างๆ มองไกลๆ ถ้าไปอยู่รีสอร์ตเมื่อไหร่ สามารถนั่งริมหาดได้ทั้งวัน อยู่จนมืด จนยุงกัด แต่ มานั่งชิลล์ที่บึงหนองบอนก็ดีเหมือนกัน ใกล้กับ สวนหลวง ร.9 ผมเพิ่งไปมา อยู่ตั้งนานเพิ่งรู้ว่ามี เหมือนกันนะ มันไม่วุ่นวายเหมือนสวนหลวงร.9 ฟีลดิบๆ หน่อย ธรรมชาติ คนไม่เยอะ อากาศเย็น สบาย คิดว่าน่าจะมานั่งเล่นที่นี่บ่อยๆ
11
สมัยนี้ก็อินเทอร์เนท นับว่าเป็นสังคมของเขา เป็นโซเชี่ยลอีกอย่างหนึ่ง แต่เป็นสังคมที่ไม่มี การสัมผัส หรือพูดคุยอย่างจริงจัง มีสื่อกลาง ผ่าน ไม่เห็นมือ ไม้ อารมณ์ ความรู้สึก ความ รู้สึกของคนมันเลยกระด้าง
ปัจจัย 4+1 เติมเต็มให้ชีวิตมีความสุข เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโลก อาหาร เอา จริงๆ พอนะ แค่นี้ก็มีชีวิตอยู่ได้แล้ว แต่ถ้าให้ดี ต้องมีอีกอย่างคือการมีสังคมที่ดี มีเพื่อน มีอะไร หลายๆ อย่าง ผมเชื่อว่าคนทุกคนติดบ้าน ติดที่ ของตัวเอง เพียงแต่ว่าที่ตรงนั้นมันเป็นคอมมูนิตี้ ที่ดีพอหรือยัง ง่ายๆ เริ่มจากสังคมในครอบครัว เราก่อน พ่อแม่พี่น้องอยู่ครบ ใช้ชีวิตอย่างมีความ สุข อบอุ่น ที่ดีกว่านั้นคือโลเคชั่น สาธารณูปโภค สำ�คัญ หมู่บ้านดีๆ มีเยอะมากมาย แต่สำ�หรับคน
ความสุขเรียบง่ายที่ค้นพบ เมื่อก่อนคิดว่าเป็นคนติดเพื่อน สุดท้ายพอโต ขึ้นพบว่าชอบความสงบมากกว่า เมื่อก่อนอาจ คิดว่าชอบแสงสี ชอบไปเที่ยวกลางคืน สนุก เจอคนเยอะๆ พอมาถึงบ้านพบว่าเป็นที่ที่มี ความสุขที่สุด ชอบธรรมชาติ ชอบอะไรที่เรียบ ง่ายที่สุด ผมว่าคนเรามันชอบอะไรไกลตัว บางที อะไรใกล้ตัวมักจะมองข้าม ถ้าลองมองอะไรที่ ใกล้ตัวขึ้นมาอีกนิด มันอาจจะเหมาะสมกว่า มองสิ่งใกล้ตัวรอบๆ ข้าง มองคนในบ้าน สรรพ สิ่งในบ้านทุกอย่างที่เรามีน่าจะพอแล้วนะ ไม่ ต้องไปไขว้คว้าก็ได้ เราก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน ว่าการอยู่บ้านนี่ล่ะ มีความสุขที่สุดละ
ความลงตัวของชีวิต ในทุกวันนี้ผมได้ทำ�อะไรที่ตัวเองอยากทำ� ทั้งนัก แสดง พิธีกร อาชีพธุรกิจส่วนตัว ผมมีความสุข กับอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งการได้ออกไปทำ�งานก็มี ความสุขนะ ได้เจอเพื่อน หรือก่อนออกจากบ้าน แล้วได้เห็นคนๆ นั่นคือครอบครัวผมมาอยู่ด้วยกัน พร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าวันไหนตื่นมาแล้วไม่มีใคร อยู่ก็เซ็ง ถ้ามีใครอยู่ก็วิ่งไปคุย อย่างแม่อยู่ๆ ก็วิ่ง ไปคุยกับแม่ดีกว่า พี่แนนอยู่ๆ วิ่งไปคุย แค่นี้ก็มี ความสุขแล้วครับ จะสมบูรณ์แบบกว่านี้อีกถ้าเรา มีครอบครัวนะ แม้จะหลงใหลในชีวิตแบบเรียบง่ายแต่สายตา มุ่งมั่นหนักแน่นทุกครั้งที่พูดถึงครอบครัวและ ความฝันก็บอกให้เรารู้ว่าเขาเป็นคนจริงจังแค่ ไหน หลังการพูดคุยเราฟันธงได้ว่าหนุ่มคนนี้เพียบ พร้อมไปซะทุกด้านของคุณสมบัติชายในฝัน เชื่อ ว่าสิ่งที่เขาค้นพบคงจะทำ�ให้ใครอีกหลายๆคนคิด ทบทวนชีวิตอยู่เหมือนกันว่าปัจจัยแห่งความสุข ของเราแต่ละคนนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ n
พบกับนิตยสาร
ถนนพัฒนาการ โรงพยาบาลสัตว์สวนหลวง บุษบาพรรณ Dental D Sweet Chilli BKK Grill M&M Bar Café’ Ideal New Stories บ้านตัวโน้ต NABE Lanna House Coffee Memory Antique Café’ กาแฟดอยช้าง After All Hap Der Nous Greeny Pet Shop Lydia Dress Wash Zone อ่อนนุช Autobacs Chef House Casual Cake Bearkery Grind & Brew SCB Bank Kumon หมู่บ้านเอื้อสุข Kumon เมืองทอง 2/2 เจ้านาง Massage & Spa Chlorophyll Eng Possible Pattio Ko-i Leaf The Nail Boutique Ukoolele school Corner one Monkey Grill I Chi Gou Kumo
Wawee S&P Wine’ Stu Just Art School
MaxValu Arwen Beauty Salon Max smile Head or Tails Katie’s Restaurant&more Eat mania กาแฟสดกินเส้น Savy by 13 เหรียญ Swensens Bubble ชานม ไต้หวัน B-Quik Pizza Company Oasis TUP Shoku-zen Jenny’s Place Garden ถนนพระรามเก้า เปรี้ยวปาก i-zone restaurant Library บ้านในสวน ถนนศรีนครินทร์ Beer Capital Bangkok Paradise Park Zaru Zaru Secret Garden Milk Bar Buono Olive Café’ Read Mango
Galate i-berry To Die For Sfree Dairy Queen My Corner Bar & Bistro French Caff Gorilaz Coffee Beans by Dao
Navamin Avenue Sweet Cake Iberry Secret Garden Snowball
Seacon Square A&W Daddy Dough Angel Beauty Moya Hair Design พฤกษา คลินิก คัทลียา คลินิก วีนัส คลินิก ปรีชาผล คลินิก Kimju Korean Cuisine Forever Facial Spa Frongce De Graze Slimming Center อภิชา นวดแผนไทย
เลียบทางด่วนเอกมัย -รามอินทรา Turn it up บ้านตากอากาศ
The NINE Pingu’s English Einstein Salt therapy Dead sea Fortune เรือนแม่หลุย Palm Street Cupcake Carousel Charisma Plaza Lagoon A&D อาหลิว
Festival Walk Hip Hut Cake Larna House
เกษตร-นวมินทร์ The Fabric ถนนลาดพร้าว ทัพช้าง Airport Rail Link พญาไท ราชปรารภ มักกะสัน รามคำ�แหง หัวหมาก ทับช้าง ลาดกระบัง สนามบินสุวรรณภูมิ สำ�นักงานเขตกรุงเทพฯ ประเวศ สวนหลวง ลาดพร้าว สถานีตำ�รวจนครบาล ประเวศ คลองตัน ลาดพร้าว
our delight
ต้อนรับคอลัมน์ใหม่ “สุขละอัน พันละ น้อย” คอลัมน์ทจ่ี ะพาทุกคนไปพบกับ ไอเดีย “กิจกรรม” เพือ่ เก็บเกีย่ วความ สุข สร้างชีวติ ให้มไี ลฟ์สไตล์ สำ�หรับ ใครทีอ่ ยากเปลีย่ นวันหยุดให้มสี สี นั โดย ไม่ตอ้ งดิน้ รนไปไหนไกล ให้คณ ุ รูจ้ กั แชร์ชว่ งเวลาดีๆกับครอบครัวและคนรู้ ใจเพือ่ ทำ�ให้วนั จำ�เจกลายเป็นวันทีน่ า่ จดจำ�ขึน้ มา ฉบับนีเ้ ราจะเจิมไอเดียมุมมอง การใช้ชวี ติ แบบน่ารักๆจากหนังสือ Life’s little instruction Book ของ H. Jackson Brown,Jr. มาเป็นน�ำ้ จิม้ หนังสือเล่มนีเ้ ป็นหนังสือทีพ่ อ่ เขียนให้ ลูกชายทีเ่ ก็บของย้ายออกไปใช้ชวี ติ นอก บ้าน หนังสือให้ไอเดียในการใช้ชวี ติ หลายร้อยข้อทีท่ �ำ ได้ในชีวติ ประจำ�วัน
8. ถ้าเสือ้ ผ้าชิน้ ไหนไม่ได้หยิบมาใส่ เลยตลอดสามปีทผ่ี า่ นมาควรจะโละไป บริจาคได้ซะที 9. ขีจ่ กั รยานบ้าง 10. อย่าเห็นเพือ่ นดีๆ, สุขภาพและ ชีวติ คูเ่ ป็นของตาย มีบางอย่างทีน่ า่ สนใจและโดนใจจนคิดว่าถ้า 11. ปิดโทรทัศน์เวลาทานอาหารเย็น ลองปรับมาใช้ บางทีอาจจะทำ�ให้เราสัมผัส 12. ลองสร้างรอยยิม้ ให้คนอืน่ ด้วย กับความสุขได้งา่ ยขึน้ ก็ได้ การจ่ายค่าทางด่วนให้กบั รถคิวถัด 1. ออกปากชมใครก็ได้อย่างน้อยวันละ จากเราไป สามคน 13. ในแต่ละปีลองหาโอกาสไปเทีย่ ว 2. หาโอกาสดูพระอาทิตย์ขน้ึ ให้ได้อย่าง ทีๆ่ เรายังไม่เคยไปบ้าง น้อยปีละหน 14. จำ�ไว้วา่ เงินไม่ได้ซอ้ื ความสุขให้เรา 3. อย่าไปเทีย่ วบอกใครต่อใครว่ากำ�ลัง เสมอไป ไดเอ็ท 15. ถ้าคิดจะใช้ของแต่งบ้านหรือ 4. ลองหัดเล่นดนตรีให้เป็นอย่างน้อย เสือ้ ผ้าชิน้ ไหนนานกว่าห้าปีกล็ งทุน ซักอย่างในชีวติ กับของชิน้ นัน้ ให้เต็มที่ 5. ร้องเพลงเวลาอาบน�ำ้ 16. เริม่ ต้นทุกๆเช้าวันใหม่ดว้ ยเพลง 6. ปลูกต้นไม้หนึง่ ต้นทุกๆ วันเกิด (ให้มนั โต ทีเ่ ราชอบ ไปพร้อมๆกับเรา) 17. เลือกรักษาตัวกับหมอทีม่ อี ายุ 7. เลือกซือ้ ผักจากชาวไร่ชาวสวนโดย ไล่เลีย่ กับเราเพือ่ ทีเ่ รากับเค้าจะแก่ไป เฉพาะเจ้าทีเ่ ขียนป้ายด้วยลายมือโย้ๆ ด้วยกัน (และเข้าใจหัวอกกันและกัน ของตัวเองนัน่ แหละยิง่ ดี ได้ดขี น้ึ )
scrap book กล้องดิจติ อลอาจทำ�ให้เราถ่ายรูปได้เยอะ ขึน้ สนุกกับการอัพโหลดรูปได้งา่ ยขึน้ แต่เหมือนว่ายิง่ เก็บความทรงจำ�ได้งา่ ย เท่าไหร่ เราก็ยง่ิ ละเลยมันไปได้งา่ ย เท่านัน้ ไฟล์รปู ต่างๆ ถูกเก็บยัดใส่โฟลเดอร์ ในคอมพิวเตอร์แล้วปิดตายมันไว้ สังเกต ตัวเองว่าแทบจะไม่ไปขุดคุย้ ดูรปู ทีถ่ า่ ย พวกนัน้ ซะเท่าไหร่ ในขณะทีส่ มุดภาพ ทำ�มือช่วยปลุกความทรงจำ�ให้แจ่มชัด ลูบคลำ� ทาถู สูดดม จับต้องได้ แบ่ง
13
18. รับสายโทรศัพท์ดว้ ยน�ำ้ เสียงสดใส กระตือรือร้นอยูเ่ สมอ 19. ขับรถในแบบทีเ่ ราอยากให้ลกู หลาน หรือคนทีเ่ รารักขับ 20. ทุกๆ วีค ลองทยอยจัดลิน้ ชักใน บ้านใหม่ดู 21. ทุกๆวันเกิดของเราควรจะเขียน การ์ดหรือพาพ่อแม่เราไปฉลอง 22. ลองให้ลกู เป็นคนอ่านนิทานก่อน นอนให้เราฟังบ้าง 23. เวลาออกไปจูงหมาเดินเล่น ลองให้หมาเป็นคนเลือกทางดูบา้ งสิ 24. วันทีล่ กู หรือเด็กในครอบครัวเกิด เก็บหนังสือพิมพ์ฉบับวันนัน้ ๆไว้ มันจะ กลายเป็นของขวัญทีม่ คี า่ (แบบทีเ่ งินหา ซือ้ ไม่ได้) ในวันทีเ่ ขาอายุครบสิบแปด 25. หัดคุยกับต้นไม้ทบ่ี า้ นบ้าง อ่านแล้วลองลิสต์ไอเดียทีโ่ ดนใจคุณแล้ว บอกต่อกับเพือ่ นฝูงหรือลองให้เพือ่ นๆ ส่งต่อลิสต์ของเขาให้คณ ุ บ้าง บางที คุณอาจจะนึกไม่ออกเลยว่าบ่นเบือ่ ครัง้ สุดท้ายไปเมือ่ ไหร่ n
our craft
พร้อมรูปถ่าย ทีไ่ ด้ใจทีส่ ดุ ก็คอื เสน่ห์ ของสมุดภาพทำ�มือจะไม่ใช่แค่ไว้โชว์ ภาพเท่านัน้ แต่เราสามารถบันทึก หมวดหมูแ่ ยกเล่มเป็นสิง่ ทีเ่ ราสะสม อารมณ์และความทรงจำ�ด้วยการ หรือสนใจไม่วา่ จะเป็นตำ�ราทำ�กับข้าว จับสิง่ ของบางอย่างลงไปปะติดช่วย ท่องเทีย่ ว ปาร์ตค้ี รอบครัว อัลบัม้ แต่งงาน สะกิดความทรงจำ�ด้วยได้ อย่างสมุด พัฒนาการลูก หรือวีรกรรมแฟนฉันกับ ภาพบันทึกการเดินทางก็เก็บห่อขนม เพือ่ นฝูงอะไรก็ได้ เดีย๋ วนีเ้ ทคโนโลยี ตัว๋ รถไฟ นามบัตรร้านโปรด หรือ ปริน้ ท์เตอร์ท�ำ ให้เราอัดรูปเองทีบ่ า้ นได้ แผนทีค่ ใู่ จทีเ่ ราเคยกระเตงๆกันไป อย่างง่ายดาย แค่มกี ระดาษอัดรูปไซส์ตา่ งๆ แปะลงไปเรียกความทรงจำ�ด้วยได้ คลิก๊ นิดเดียวก็สง่ั พิมพ์รปู ได้ แล้วจะรอช้า ยิง่ สูตรตำ�ราทำ�กับข้าวทำ�มือทีเ่ รา อยูท่ �ำ ไม พลิกไปพลิกมาอยูห่ น้าเตา เราแทบ สแครพบุค้ หรือสมุดภาพทำ�มือ คือ จะสัมผัสกลิน่ วานิลลา รอยเปือ้ นชอค การตัดรวมเอาเศษกระดาษนูน่ นีม่ าจัดวาง โกแล็ต น�ำ้ ตาล หยดน�ำ้ ปลาทีต่ ดิ มา
มันทำ�ให้สมุดภาพนัน้ ดูขลัง มีความทรง จำ�แจ่มชัด มีชวี ติ ชีวากว่าแค่การเป็นรูป ถ่ายเป็นไหนๆ ยิง่ ถ้าอยากหาของขวัญแฮนด์เมดให้ กับใคร สแครพบุค้ ถือเป็นของขวัญทรง คุณค่าทีส่ ามารถร่วมแชร์ความรูส้ กึ ดีๆ ระหว่างคุณกับเขาได้ ลองเก็บไปเป็น ไอเดียไว้เตรียมทำ�สมุดภาพแทนใจให้ คุณแม่ในเดือนหน้าก็ยงั ไหว ของขวัญ ทำ�มือแบบนีอ้ บอุน่ และออกจะมีคา่ ทางใจ ลองค่อยๆลุกขึน้ มาทำ�วันละนิด รับรองว่าทุกครัง้ ทีเ่ ปิด รอยยิม้ ทีม่ มุ ปาก จะเกิดขึน้ โดยไม่รตู้ วั n
14
our skin
columnist :
พญ.รุจิเลขา เจียรไพศาลเจริญ | photograph : shutterstock.com
it’s about
Feet
ตาดูดาว เท้าแตกลาย เมื่อก่อนพูดแต่เรื่องผิวหน้า วันนี้ขอพูดเรื่องเท้ากับ ชนิดรองเท้ากันดีกว่า เพราะไหนๆเล่มนี้ เราก็ว่ากันด้วยการใช้ชีวิตในจังหวะช้าๆ พาลให้นึกถึงจังหวะก้าวเดินของแต่ละคนซึ่งเชื่อว่าหลาย คนไม่รู้ เทคนิคเกี่ยวกับการใช้รองเท้า และการดูแลเท้าเพียงพอ สวยที่หน้าแต่เดินโขยกเขยก เพราะเจ็บเท้าเวลาใส่ส้นสูงปริ๊ด ก็ไม่ไหวละจ้ะ
ปัญหาเกี่ยวกับเท้าที่พบบ่อย ๆ 1.ส้นเท้าแตกด้าน (Cracked Heels) เกิดจากแรงกระแทกบนฝาเท้าเวลา เดิน ทำ�ให้ไขมัน บริเวณนั้นมีความ เสียหาย ทำ�ให้ผิวหนังที่คลุมอยู่ด้าน บนปริแตก การใส่รองเท้าส้นเปิด ประจำ�ก็จะทำ�ให้เท้าแห้ง
วิธีแก้ไข ใช้ตะไบ หรือขัดเท้า ขัดออกบ้าง แต่ ไม่ควรบ่อย ทุกวันอาจจะอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ใช้ครีมที่มีฤทธิ์ลอกผิวได้แก่
พวก กรดผลไม้(AHA) Salicylic Acid (BHA) , และ ทาครีมบำ�รุงทุกคืนก่อน นอน ... อะแฮ่ม ครีมทาหน้ากับครีม ทาเท้าที่มีฤทธิ์ลอกผิว ไม่ควรใช้กระปุก เดียวกัน นะคะ เสียความรู้สึก แต่ถ้า เศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่ว่ากัน
2.เล็บเหลือง (Yellow nail)
เว้นการทาเล็บเท้าบ้าง และควรบำ�รุง เล็บเท้าด้วย Oil สักพักหนึ่ง 1-2 อาทิตย์ แล้วค่อยกลับไปทาเล็บใหม่ แต่ถ้าเนื้อเล็บมีอาการขรุขระ และมี สะเก็ด ปรึกษาแพทย์ อาจจะมีเชื้อ รา (Fungus) มาเยี่ยมเยียน รองเท้าที่
ใส่ประจำ� ทำ�ให้แห้ง ถ้าฤดูร้อนเหงื่อ มากใช้แป้งโรย ซอกนิ้วเท้า จะช่วยให้ เหงื่อลดลง รองเท้าผ้าใบ มีกี่คู่คะ คู่ เดียวใช้ทั้งปี ไม่ไหวแน่ๆละค่ะ เชื้อรา ถามหาแน่ ๆ
4.ตาปลา (Callus)
เวลาเดินจะเจ็บตรงจุดนั้น หาแพทย์ ผิวหนังก็แล้วกันนะคะ แต่ก็ค่อนข้าง จะเรื้อรัง มีโอกาสกลับมาเป็นอีก อย่าใส่รองเท้าหัวแหลมมากนัก
3.ใส่รองเท้าส้นสูงเจ็บเวลาเดิน คุณสนใจแต่หน้า ดูแลเท้ากันบ้าง ดูซิรองเท้าส้นสูงไปหรือเปล่า ถ้าสูง มากจะมีแรงกดบนเท้ามาก ถึง 3-4 เท่า จะมีการแผ่ขยายของไขมันที่ เสมือนหมอนรองนํ้าหนักไปที่อื่น จึงเกิดการเจ็บขึ้น เจ็บตรงไหนลอง ใช้แผ่นแหวนวงกลมที่มีเทปยึดติด แล้วค่อยใส่รองเท้า ก็ช่วยได้
หรือไม่ สำ�คัญนะคะ เราเหยียบย่าง กับเท้าคู่นี้มาไม่รู้เท่าไหร่ ไหนๆ จะใช้ชีวิตช้าๆลองหันมาเอาใจใส่ ฝ่าเท้ากันบ้างดีกว่าไหม อย่าลืมว่า อายุมากขึ้นเรายิ่งจำ�เป็นจะต้อง ยืนหยัดได้อย่างมั่นคงด้วยเท้าคู่นี้ นะคะ n
columnist :
meet the doctor
นพ.ชัยเดช สระสมบูรณ์ | photograph : shutterstock.com
15
Trigger Finger นิ้วล็อค โรคฮิตของหนุ่มสาวนักแชท
หลายๆท่านคงเคยได้ยินชื่อโรค “นิ้วล็อค” (Trigger Finger) กันมา บ้างไม่มากก็น้อยนะครับหรือบางคน อาจจะกำ�ลังเป็นโรคนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว ก็เป็นได้ ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย ท่านผู้อ่านทุกท่าน ในวันนี้ผมจะขอ กล่าวถึงโรคนี้อย่างสั้นๆ รวมถึงจะ แนะนำ�ข้อควรปฎิบัติอย่างง่าย เพือ่ การนำ�ไปใช้ได้จริงนะครับ อาการของโรคนิ้วล็อคอาจมีได้ หลายระดับ ตามความมากน้อยของ ตัวโรค อาจจะเริ่มมีอาการน้อยๆ ตั้งแต่รู้สึกมีอาการ “สะดุด” บริเวณ ฝ่ามือส่วนที่อยู่ใต้ต่อนิ้วมือ เวลามีการ เหยียดหรืองอนิ้ว ถ้าอาการเป็นมาก ขึ้นอาจเริ่มมีอาการ “ติดขัด” หรือ “ปวด” บริเวณดังกล่าวมากขึ้น และ ถ้าปล่อยไว้ต่อไปโดยไม่ได้รักษาก็อาจ
มีอาการ “ล็อค” ของนิ้วมือเวลางอนิ้ว ทำ�ให้เหยียดนิ้วลำ�บาก หรือในกรณีที่ เป็นมากสุดๆก็จะมีอาการ “ติด” ขอ นิ้วมือในท่างอ ทำ�ให้เหยียดนิ้วได้ไม่ สุดซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนิ้วที่พบปัญหา บ่อยที่สุดจะเป็นนิ้วกลางและนิ้วนาง ครับ โรคนิ้วล็อคนี้จริงๆแล้วมีสาเหตุมา จากความผิดปกติที่พังผืดบริเวณฝ่ามือ ใต้ต่อนิ้วมือ ซึ่งโดยปกติแล้วพังผืดที่ ว่านี้จะห่อหุ้มเส้นเอ็นที่ใช้ในการขยับ นิ้วมือเพื่อตรึงไม่ให้เส้นเอ็นขยับผิด ทิศทางซึ่งในโรคนิ้วล็อคนั้นปัญหาเกิด จากการที่พังผืดที่ว่านี้มีการหนาตัวขึ้น และไปกดรัดเส้นเอ็นแน่นเกินไปจน ทำ�ให้เส้นเอ็นขยับได้ไม่สะดวกเหมือน เดิมนั่นเองครับ โดยมากแล้วโรคนิ้วล็อคนี้มักเกิด
จากการใช้งานนิ้วมืออย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานและมักพบในคนที่ ทำ�งานที่ต้องมีการขยับนิ้วมือมากๆ เช่นในพนักงานออฟฟิศ หรือคน ทำ�งานบ้านเป็นต้น อ่านถึงตรงนีอ้ ย่าเพิง่ ตกใจกันไป ก่อนนะครับโรคนีม้ วี ธิ กี ารรักษาทีไ่ ม่ ยากและสามารถรักษาให้หายขาด ได้ครับ โดยในผูป้ ว่ ยทีม่ อี าการไม่ มากคือแค่รสู้ กึ สะดุดหรือมีอาการ ปวดบวมบ้างเป็นครัง้ คราว แนะนำ� ให้ลองกายภาพบำ�บัดด้วยตัวเองที่ บ้านดูกอ่ นได้โดยอาจใช้การนำ�ฝ่ามือ แช่น�ำ้ อุน่ และใช้การนวดคลึงบริเวณ ฝ่ามือเพือ่ ลดการตึงตัวของพังผืด และอาการปวดบวมรวมถึงช่วยเรือ่ ง ระบบการไหลเวียนของเลือดได้ นอกจากนี้สิ่งที่ต้องทำ�ควบคู่
ไปด้วยก็คือการลดการใช้งานนิ้วมือ ลง ต้องพยายามลดกิจวัตรที่ต้อง มีการเกร็งนิ้วมือหรือขยับนิ้วมือ บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นการพิมพ์ดีด แชทพิมพ์บีบี การทำ�งานบ้าน และ การ“หิ้ว”ถุงหรือกระเป๋าบริเวณนิ้วมือ แต่ถ้าอาการยังคงมีอยู่อันนี้แนะนำ�ให้ มาพบแพทย์เพราะอาจต้องมีการกิน ยาลดอาการอักเสบรวมถึงยาแก้ปวด ร่วมด้วย และในบางกรณีพบว่าการ ฉีดยาจำ�พวก “สเตียรอยด์”เข้าไปที่ ฝ่ามือโดยตรงจะช่วยลดอาการอักเสบ ได้เป็นอย่างดี และอาจทำ�ให้อาการ หายสนิทได้ถ้าผู้ป่วยได้รับการฉีดยา ตั้งแต่ในช่วง 6-8 สัปดาห์แรกหลังเริ่ม มีอาการ อย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้ป่วยที่ทดลอง ทำ�กายภาพบำ�บัด และฉีดยาไปแล้ว 2-3 ครั้งแต่อาการยังไม่ดีขึ้นส่วนใหญ่ จะต้องจบลงที่การรักษาโดยการผ่าตัด กรีดพังผืดที่รัดเส้นเอ็นออกซึ่งเป็น วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำ�ให้อาการหายขาด ได้ แต่ไม่ต้องกลัวไปนะครับการผ่าตัด ลักษณะนี้ถือว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก และส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการผ่าตัด ไม่เกิน 5-10 นาทีเท่านั้นเองครับ n
16
our scoop
columnist and photographer :
ดนยา ทรัพย์ยิ่ง
ปันกัน จุดประกายสังคม แห่งการแบ่งปัน
จะดีแค่ไหนถ้า “หนึ่ง” การให้ สามารถสร้างความสุขสู่ผู้รับ ได้ถึง “สอง” ต่อ ถ้าบอกว่าในสังคมเมืองทุกวันนี้ นับวันผู้คนจะยิ่งแล้งน้ำ�ใจ นั่นแสดงว่าคุณยัง ไม่รู้จัก “ร้านปันกัน” เพื่อนบ้านในย่านนอกเมืองที่เป็นเสมือนชุมทางนํ้าใจให้คน กรุงเทพได้แลกเปลี่ยนและแบ่งปันรอยยิ้มให้กันและกัน ดูเผินๆ “ร้านปันกัน” คือ ร้านขายของมือสองปกติ แต่ถ้าคุณได้มาทำ�ความรู้จักกับที่นี่แล้วคุณจะรู้ว่า “ร้าน ปันกัน” คือแหล่งรับเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่ไม่หวังผลกำ�ไร เพราะเงินทุกบาททุก สตางค์ที่ได้จากการขายของมือสองทุกชิ้นในร้านคือเงินที่ส่งต่อไปเป็นทุนการศึกษา ของเด็กทั่วประเทศที่ขาดแคลนตามจุดยืนของร้านที่ต้องการเป็น จุดรวม “แหล่งนํ้าใจ” จุดรับ “การแบ่งปัน” สิ่งของมีค่า
จุดเปลี่ยน “น้ำ�ใจ” ให้กลายเป็น “ทุนการศึกษา” จุดสร้าง “สังคมแห่งการแบ่งปัน” หนึ่งการให้...นอกจากจะเป็นความสุขของผู้ซื้อสินค้าที่เป็นเจ้าของสินค้า คนใหม่...ความสุขนัน้ ยังส่งต่อไปเป็นอนาคตของเด็กนักเรียนคนใดคนหนึง่ ใน ประเทศไทยที่ยังรอโอกาสหยิบยื่นมาหาอีกด้วย “ร้านปันกัน” ภายใต้การดำ�เนิน งานของมูลนิธิยุวพัฒน์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 เพื่อใช้หน้าร้านเป็นช่องทางใน
17 เดือนกรกฎาคมนี้ “ร้านปันกัน” จัดโครงการ “รวมพลนักปัน” เพื่อรับปันสิ่งของเพื่อไปแปรเปลี่ยน เป็นทุนการศึกษา คุณผู้อ่านที่อยู่ในย่านใกล้เคียง สามารถคัดสรรสิ่งของเหลือใช้ ที่ยังมีสภาพดีไปร่วมปัน กันได้ที่ร้านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.pankansociety.com หรือwww.facebook.com/pankansociety โทร. 02 301 1096
การระดมสิ่งของเพื่อแปลงเป็นทุนการ ศึกษาให้แก่เยาวชน และเปิดโอกาส ทำ�ให้ทุกคนในสังคมสามารถมีส่วน ร่วมกันสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันกัน ได้ง่ายๆ ด้วยการคัดสรรสิ่งของเครื่อง ใช้ต่างๆที่ยังอยู่ในสภาพดีสามารถใช้ งานต่อได้มาบริจาคให้ที่ร้านเพื่อนำ�มา จำ�หน่ายในราคาที่ถูกลง จากของเหลือใช้จะกลายเป็นของ ล้ำ�ค่าสำ�หรับเจ้าของรายใหม่ แล้วเงินที่ได้จากการขายก็จะถูกแปลง เป็นเงินทุนการศึกษาสำ�หรับเด็กๆ คุณสุธาสินี ศุภศิริสินธุ์ ผู้จัดการโครงการร้านปันกัน มูลนิธิ ยุวพัฒน์ เล่าให้ฟังด้วยความภาค ภูมิใจว่าล่าสุดในปี2554 ร้านปันกัน สามารถช่วยเหลือเยาวชนตามถิ่น ทุรกันดารได้มากกว่า100 ทุนโดย แต่ละทุนที่มอบให้นั้นมีระยะเวลาทั้ง สิ้น 6 ปีการศึกษาด้วยกัน
“ร้านปันกัน” มีอยู่สองสาขานั่นคือ ร้านแรกที่ชั้น G ตลาดเสรีมาร์เก็ต ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์คและร้าน น้องใหม่ที่ตลาดเสรีมาร์เก็ต สาขา เดอะไนน์ ทั้งสองแห่งเปิดเป็นแหล่ง รับปันสิ่งของบริจาคและเป็นหน้าร้าน สำ�หรับให้ลูกค้ามาจับจ่ายซื้อหาสินค้า ดีๆที่ได้รับการคัดสรรให้มาขายใน ราคาย่อมเยาอย่างไม่น่าเชื่อ วันที่เรา ไปที่นั่นจึงได้พบว่าภายในร้านนั้นแทบ ไม่เคยเงียบเหงา มีลูกค้าขาประจำ� แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนค้นหาว่าในร้าน มีสินค้าชิ้นไหนมาใหม่บ้าง ในร้านเต็ม ไปด้วยบรรยากาศของความสุขของ ลูกค้าที่ตื่นเต้นกับการจะได้เลือกหา ข้าวของเครื่องใช้ในแบบที่คุณไม่มีวันรู้ เลยว่าจะได้พบเจออะไรบ้าง คุณนุช สุธาสินี ศิริทวี นักแสดงละคร เวทีผู้มีใจรักในแฟชั่นและการดีไซน์ และเป็นหนึ่งในนักช้อปผู้หลงใหลการ
เลือกซื้อของมือสองอยู่แล้วเป็นชีวิต จิตใจเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ครั้ง แรกที่เธอได้ไปเยือนที่ร้านปันกัน “โดยส่วนตัวแล้วนุชชอบซื้อเสื้อผ้า มือสองอยู่แล้วเนื่องจากคิดว่ามัน มีความงามในความเก่าและไม่ซํ้า ใครดี นุชคิดว่าเสื้อผ้าที่ผลิตใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมแฟชั่นมีส่วนอย่าง มากที่ทำ�ให้โลกร้อนและมันไม่ยั่งยืน ความเป็นของมือสองมันขึ้นอยู่กับ โชคชะตาหน่อยๆที่ทำ�ให้เราต้องลุ้น เพราะเราเข้ามาโดยที่ไม่รู้ว่าจะเจอ อะไรและจะได้ของอะไรติดมือกลับ ไปไหม”
หลากหลายทั้งหญิงชาย รวมถึงมี เครื่องประดับและของแต่งบ้านอื่นๆ ในขณะที่ร้านมือสองส่วนใหญ่ที่เธอ เคยไปมักจะขายของสำ�หรับผู้หญิง แต่เพียงอย่างเดียว “เท่าที่สังเกต สินค้าร้านปันกันจะมีความหลาก หลาย ผู้ชายก็มีเสื้อผ้าหรือเนคไทให้ อุดหนุนด้วยได้ รวมถึงข้าวของเครื่อง ใช้ภายในบ้านก็ยังมีให้เลือกช้อปด้วย ที่น่าสนใจคือสินค้าในร้านจะตั้งราคา ไว้ถูกกว่าร้านตามสยามหรือจตุจักรซะ อีก”
ตลอดเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ร้าน ปันกันได้รับน้ำ�ใจจากทุกๆคนที่เป็น คุณนุชเล่าว่าตอนแรกเธอไม่รู้ด้วย ทั้งผู้ปันและผู้ซื้อที่เชื่อมั่นและยินดีที่ ซํ้าว่า “ร้านปันกัน” เป็นร้านที่ตั้ง จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ ร้าน ขึ้นเพื่อระดมทุนการศึกษาให้แก่เด็ก ปันกันได้เริ่มต้นสร้าง “สังคมแห่ง นักเรียนจนกระทั่งเมื่อเธอเข้าไปใน การแบ่งปัน” เล็กๆให้เกิดขึ้นในเขต ร้านแล้วสังเกตเห็นจากป้ายที่ติดอยู่ ประเวศ สวนหลวงและบริเวณใกล้ ในร้านจึงยิ่งทำ�ให้เธอรู้สึกอยากจะ เคียง และยังพยายามขยาย “สังคม เป็นส่วนหนึ่งของการให้ แห่งการแบ่งปัน” นี้ออกไปยังเขตอื่น ด้วยจัดกิจกรรม “ปันกันสัญจร” ที่ การให้สำ�หรับที่นี่อาจจะไม่ใช่แค่การ จะคอยแวะเวียนไปรับปันสิ่งของใน บริจาคสิ่งของให้เท่านั้นแต่การที่คุณ พื้นที่อื่นๆอีกด้วย เพราะเชื่อว่ายิ่ง เลือกซื้อจับจ่ายสินค้าทุกชิ้นกลับไป “สังคมแห่งการแบ่งปัน” เติบโตมาก ก็เท่ากับเป็นการส่งมอบ “นํ้าใจ” ให้ ขึ้นเรื่อยๆ เยาวชนไทยที่ด้อยโอกาส ไหลผ่านไปสู่มือเด็กๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ก็จะเป็นเยาวชนที่มีโอกาสทางการ คุณนุชยังเล่าให้ฟังอีกว่าความ ศึกษามากขึ้น มีกำ�ลังที่จะมาช่วย แตกต่างของร้านปันกันกับร้านมือ สร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ดีมากยิ่ง สองทั่วไปก็น่าจะอยู่ที่ร้านนี้มีของ ขึ้นตามไปด้วย n
18
our mind
columnist :
อานนท์วงศ์ มฤคพิทักษ์
Osho โอโช บุรุษอันตราย
คุณครูของผม (ตอนที่ 1) ตัวผมเองเป็นคนไม่เข้าวัดเข้าวา ไม่ฟังพระเทศน์ เลยเรียนรู้ด้วยการ อ่านหนังสือทางจิตวิญญาณเป็นหลัก ผมไม่เคยเจอตัวจริงคนแต่งหนังสือ เหล่านี้เลย แต่ผมก็นับถือท่านใน ฐานะครู ที่ช่วยให้คิดในสิ่งที่ไม่เคยคิด และทำ�ในสิ่งที่ไม่เคยทำ� ผมก็เลยมีความคิดว่าถ้าผมเอา คำ�สอนบางส่วนของ “กูรู” เหล่านี้ มาเล่าสู่กันฟัง น่าจะจุดประกายได้ ไม่น้อย คนแรกที่ผมภูมิใจนำ�เสนอ คือ โอโช (Osho) ครับ โอโชเป็นกูรูชาวอินเดีย ท่านเสีย ไปตั้งแต่ปี 2533 แล้วครับ แต่หนังสือ ของท่านเพิ่งจะมาดังในเมืองไทย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นักเขียนอย่าง ทอม รอบบินส์กล่าวว่าโอโชคือ “ชาย ที่อันตรายที่สุดถัดจาก “พระเยซู” สำ�หรับผมเองนั้น ถ้าเปรียบครูทาง จิตวิญญาณทั่วไปเป็นเหมือน อีริค
แคลปตัน โอโชก็คือเลดี้ กาก้าดีๆ นี่เอง คำ�สอนของโอโชมีความเป็นขบถ อยู่เปี่ยมล้น อ่านหนังสือของเขาแล้วเรา สะดุ้ง เพราะรู้สึกเหมือนว่าเรากำ�ลังโดน โอโชด่าอยู่ ยกตัวอย่างเช่นบางช่วงตอน จากหนังสือ คุรุวิพากษ์คุร1ุ (หน้า 72) “...ท่านแสวงหา ค้นหา ท่านใช้เวลา กับการตามหามากเกินไป แต่การตาม หานี้ ก็ไปหล่อเลี้ยงตัวตนของท่านด้วย ว่า “ฉันคือนักแสวงหา” ...ว่า “ฉันเป็นนักจิตวิญญาณ” ... ว่า “ฉัน เคร่งศาสนา” ว่า “ฉันศักดิ์สิทธิ์” และ หากทัศนคติที่ว่า “ศักดิ์สิทธิ์กว่าผู้อื่น” เกิดขึ้นละก็ คุณก็หลงทางไปตลอดกาล นั่นคือบาปยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต...เพราะ ตัวตนเคร่งจริยธรรมนั้น เป็นตัวตนที่ มองเห็นได้ยากที่สุด จึงเป็นสิ่งที่คุณทิ้ง ได้ยากมาก การทิ้งโซ่ตรวนเหล็กนั้นไม่ ยาก แต่หากคุณมีโซ่ทองคำ�ฝังเพชร มันจะยิ่งทิ้งได้ยากเย็นขึ้นเรื่อยๆ ...”
โอโชยังพูดถึงเรื่องความรักอยู่บ่อยๆ เช่นในหนังสือ สปาอารมณ์ 2 (หน้า 111) “...ข้าพเจ้าจึงไม่สนับสนุนการ แต่งงาน คนเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ ด้วยกันได้ทั้งชีวิตตามที่พวกเขา ต้องการ แต่มันไม่ควรจะเป็นเงื่อนไข ทางกฎหมาย คนควรจะเลื่อนไหล และได้รับประสบการณ์ความรักมาก ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาไม่ ควรจะถูกจับจอง ถูกเป็นเจ้าของ เพราะมันเป็นการบั่นทอนทำ�ลาย ความรักของท่าน...” อีกตัวอย่างหนึ่งจากหนังสือ The Buddha Said… (หน้า 204) “การเป็นคริสตศาสนิกชนง่ายกว่า การเป็นพระเยซูอย่างมากมาย และ การเป็นพุทธศาสนิกชนก็ง่ายกว่าการ เป็นพระพุทธเจ้าอยู่หลายขุม แต่คุณ จะเข้าถึงความจริงแท้ได้ ก็ต่อเมื่อคุณ
กลายเป็นพระเยซูหรือพระพุทธเจ้า แล้วเท่านั้น ถ้าคุณเป็นเพียงคริสต ศาสนิกชนหรือพุทธศาสนิกชน คุณก็ เป็นแค่ของก๊อปปี้เท่านั้น อย่าดูถูกตัว เองอย่างนั้น เชื่อมั่นในตัวเองหน่อย อย่าเป็นแค่ชาวคริสต์หรือชาวพุทธ หรือชาวฮินดู แต่จงเป็นคนที่รู้ตัวทั่ว พร้อมที่ปราศจากนิยาม ปราศจาก ขอบเขตหรือแรงจูงใจใดๆ ถ้าคุณ ทำ�ได้ ที่เหลือก็จะตามมาเอง” พอหอมปากหอมคอกันนะครับ ช่วงนี้ฝนตก อากาศเย็นสบาย ลอง หาหนังสือของโอโชมาอ่านเล่นอยู่กับ บ้าน รับรองว่าได้ทั้งความสนุกและ มุมมองใหม่ๆ แน่นอนครับ
1. แปลและเรียบเรียงจาก Meetings with remarkable people โดยโตมร สุชปรีชา สำ�นักพิมพ์ GM BOOKS 2. แปลและเรียบเรียงจาก Emotional Wellness โดยดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด สำ�นักพิมพ์ ฟรีมายด์ n
columnist and photographer :
air mail
นันธิดา รัตนกุล
19
mongolia, I love you
ไงจ๊ะเพื่อนสาว มาถึงมองโกเลียแล้วนะ พูดถึงที่นี่ ใครๆก็นึกถึงทุ่งกว้างเขียวขจี จามรี วิ่งเล่น นักรบขี่ม้าหน้าตาขึงขัง ประเทศนี้ดูมีอะไรน่าสนใจไม่ใช่เล่น การเดินทางมาทุลักทุเลเอาเรื่อง ถึงมองโกเลียเกือบสี่ทุ่มก็สัมผัส ความพิเศษได้ทันที ท้องฟ้าสีนํ้าเงิน เข้มที่ยังไม่มืดสนิทกับอุณหภูมิ 10 กว่าๆองศาประทับใจหน้าตึงไปเลย นี่หน้าร้อนจริงหรือ หน้าหนาว ที่นี่เค้าว่าโหดร้ายถึง -40 องศาได้ ขอบายตั้งแต่คิดแล้ว มองภาพเมืองเล็กๆ ผ่านกระจก ระหว่างทางไปโรงแรมเห็นแสงสี กลิ่นอายความเป็นตะวันตก ผับ บาร์ ที่มีชื่อตามเมืองหลวงของหลาย ประเทศไม่ต่างอะไรกับบ้านเรา แต่ ไม่มีตึกสูงตะหง่านมากมาย โรงแรม ที่หรูหราพิเศษก็จะถูกประดับประดา ด้วยไฟสีรุ้งที่วิ่งรอบตึกนี่สินะความ ศิวิไลซ์ แบบมองโกล ออกเที่ยวแต่เช้าด้วยการนั่งรถวนใน ตัวเมือง ใครที่หวังจะเห็นคนแต่งชุด
ประจำ�ชาติเดินตามท้องถนนคงต้อง ผิดหวัง วัยรุ่นที่นี่ก็แต่งตัวเหมือนเราๆ นี่ล่ะ ห้างเค้าก็มีของยี่ห้อเดียวกับบ้าน เรา มีคาราโอเกะเยอะพอๆ กับ เซเว่นในกรุงเทพเพราะคนที่นี่ชอบ ร้องเพลงมีจัตุรัสกลางเมืองซุคบาอาทา (Sukhbaatar Square) ที่ล้อมรอบด้วย อาคารสำ�นักงานเก่าๆหลากสีสันที่ มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตัดกับสีท้องฟ้าใสที่พอได้เงยหน้ามองดู แล้วไม่อยากจะมองอะไรอีกเลย เพราะ มองโกเลียเป็นประเทศที่อยู่สูงกว่า ระดับนํ้าทะเลมากละมั้ง เลยทำ�ให้เรา รู้สึกว่าอากาศที่นี่สะอาด เมฆก้อนโต ใหญ่ ลอยตํ่าเหมือนเราจะเอามือคว้า มาได้อย่างนี้ แค่ขับออกจากตัวเมืองไปชั่วโมงนึง เราก็ได้เห็นทุ่งหญ้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ภูเขาหินสูงใหญ่ล้อมรอบตัว ถนนโล่ง ลาดยาวที่พาเราวิ่งตาม กลุ่มเมฆใหญ่ ผ่านหมู่บ้านกระโจมที่เรียกว่า “เกอร์” ตั้งเป็นกลุ่มห่างๆ กัน แต่ละหลัง ไม่มีรั้วกั้นให้อึดอัด ตา ฝูงแพะ ฝูงวัว ขนปุยก็เดินกินหญ้า นอนเล่นกัน สบาย อารมณ์ เราแอบถามว่าคนพวกนี้เค้า
อาบนํ้า เข้าห้องนํ้ากันยังไง เพราะแอบไป ส่องดูในบ้านเค้าก็ดูมีแค่ สิ่งที่จำ�เป็นอย่างเตาผิง เตียง ตู้เองนี่ คุณพี่คนขับรถ บอกว่าที่มองโกเลียนี่คุณ มีอิสระ อยากทำ�อะไรก็ได้ อาบนํ้าในทะเลสาบทุ่งหญ้าก็ออก กว้าง อ่อ มันอย่างนี้นี่เอง!!! คนที่นี่มีความสุข รักอิสระเสรี ย้ายที่กินอยู่กันไปเรื่อยๆ บางคน ย้ายเป็น 20 ครั้งพอหญ้าแถวนั้น หมดแล้วไม่มีให้วัวกินก็ย้าย หลาย หมู่บ้านยังเลี้ยงสัตว์เอานม เอาเนื้อ ปลูกผักมาแลกกัน ขับไป ไม่นานก็สะดุดกับอนุสาวรีย์เจง -กีสข่าน กษัตริย์ที่ชาวมองโกเลีย ยกย่องให้เป็นวีรบุรุษทะเลทราย ตั้งตะหง่านอยู่กลางทุ่งบนตึกของ พิพิธภัณฑ์ The museum of Great Mongol Empire ที่นี่มี รูปภาพและของใช้ของกษัตริย์องค์ เก่าๆ ให้ดูมากมายแต่ที่น่าสนใจไม่ แพ้กันก็น่าจะเป็นอาหารพื้นเมือง หลังจากทัวร์ที่เราลองทั้งชานมแพะ
สตูว์เนื้อ แพะและแกะย่าง อาหาร ที่นี่จะเน้นเนื้อสัตว์และแป้ง เพื่อให้ พลังงานด้วยสภาพอากาศที่โหดร้าย ละมั้งเลยทำ�ให้อาหารต้องหนักหน่วง ทั้งรสชาติ ปริมาณและกลิ่น จบมื้อ แล้วตระหนักได้ว่ายังไงอาหารไทยเรา ก็อร่อยที่สุด น่าเสียดายที่เวลามีน้อยและยังเดินไป เร็วกว่าใจมาก ไม่น่าแปลกใจที่ที่นี่เป็น จุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยว เรา เห็นคนแก่ๆ Backpack มาเที่ยวกัน หลายคู่ดูน่ารัก ที่นี่คงเหมาะจริงๆ กับ คนที่มีเวลาเยอะแล้วอยากมาใช้อย่าง มีค่าเพื่อชื่นชมธรรมชาติ หรือคนที่มี เวลาน้อยแต่อยากจะใช้เวลาละเลียด ความสุขไปชิลๆอย่างเรา คราวหน้าถ้ามีเวลามากๆ จะมาชวนใช้ เวลาช้าๆที่นี่ด้วยกันนะ…. ปลา n
2o
our bedtime story
columnist : movie :
ดนยา ทรัพย์ยิ่ง music : jazzanovaa
music
movie
Life in A Day ถ้าจะพูดถึงหนังที่ว่าด้วยความแช่มช้า ของชีวิต ไม่อยากให้คุณพลาด Life in a Day ภาพยนตร์ที่ผู้คนจากทุกมุมโลก ช่วยกันถ่ายทำ� ด้วยการอัพโหลดสิ่ง ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเองในวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 ขึ้นเว็บไซต์ youtube หนังความยาว 90 กว่านาทีนี้เกิดจาก การคัดสรรวิดีโอ 80000 เรื่องที่ส่งมา จากผู้คน 192 ประเทศ (แน่นอนว่า มีประเทศไทยด้วย) จากภาพฟุตเทจ เนื้อหา 4500 ชั่วโมง ถูกคัดสรรตัดต่อ ออกมาเรียงร้อยกันอย่างมีความหมาย จนเราได้รู้จักชีวิตของคนธรรมดาๆใน วันเดียวกันว่าในช่วงเวลาหนึ่งๆของวัน มนุษย์ที่อีกมุมหนึ่งของโลกเขากำ�ลังทำ� อะไรกันอยู่บ้าง ไม่บ่อยครั้งที่เหตุการณ์เล็กๆสุด แสนธรรมดาอย่างการตื่น แปรงฟัน โกนหนวด อาบน้ำ� กินข้าวจะถูกนำ�มา เล่าให้เห็นเป็นประเด็นในหนังเพราะทุก คนเชื่อว่ามันธรรมดาแสนธรรมดาเกิน กว่าเราจะใส่ใจ แต่หนังเรื่องกลับดึงดูด พาเราเข้าไปดูกิจกรรมธรรมดาสามัญ เหล่านี้ที่หลอมรวมเกี่ยวโยงคนทั้งโลก เข้าไว้ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ชีวิต” หนังอาจ จะเล่า “เรื่องง่ายๆ” แต่ไม่ “มักง่าย” ในมุมมองการเล่า หนังเกี่ยวโยงเรื่อง ของมนุษย์ทุกมุมโลกไว้ด้วยสามสิ่ง นั่น คือ สิ่งที่เรารัก สิ่งที่เรากลัวและสิ่งที่ เราพกไว้ติดตัว
หนังเรื่องนี้ได้ทำ�ให้เราหันมามองเรื่อง เล็กน้อยบางอย่างที่เรามองข้ามไปในชีวิต เพราะความเคยชิน เห็นความมหัศจรรย์ และสัจธรรมของชีวติ ตัง้ แต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เห็นความหลากหลายของมนุษย์ทุก เพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา ทุก ระดับชั้นว่าความแตกต่างเหล่านี้คือส่วน สำ�คัญในการสร้างเสน่ห์ให้โลกกลมๆของ เรา หนังอาจน่าเบื่อสำ�หรับบางคนเพราะ ไม่มีฉากบีบเค้นขยี้ใจ แต่ถ้าลองดูดีๆอย่าง ไม่คาดหวังจะพบว่าหนังเต็มไปด้วยฉาก สะท้อนใจ อิ่มใจ สะเทือนอารมณ์ อบอุ่น ใจ บางเสี้ยววินาทีก็ยิ้มได้ หัวเราะได้ บาง วินาทีก็ลืมหายใจหรืออยากจะเบือนหน้า หนีเพราะเล่นนำ�เสนอสิ่งที่บางทีเราก็รู้อยู่ แก่ใจแต่เลี่ยงที่จะเปิดใจรับรู้มัน การดูหนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกแปลกๆ หนึ่งอย่าง นั่นคือ มันเป็นหนังที่แค่เพียง เปิดดูมันก็แปลว่าเราเรียนรู้ที่จะ “ใส่ใจ” เพื่อนมนุษย์รอบข้าง จะมีซักกี่ครั้งที่เรา จะหาโอกาสมองคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ให้เห็นเต็มๆตา หนังเรื่องนี้ช่วยทำ�ให้เรา รู้จักเปิดใจ และค้นพบว่าบางทีชีวิตก็มี ความหมายได้โดยไม่ต้องพยายาม หนังมี ให้รับชมได้ง่ายๆใน youtube ลองคลิกไป ดู ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่รู้สึกเบื่อและเมื่อย ล้ากับการใช้ชีวิต การแอบดูเพื่อนบ้านจาก ทุกมุมโลกแบบนี้มันทำ�ให้เราฉุกคิดว่าวันๆ หนึ่งเรารู้ตัวรึเปล่าว่าเราใช้ชีวิตของเรา หมดไปกับอะไร
หลายคนเลือกนำ�เสียงดนตรีมาปรับสมดุลให้ร่างกายนั้น กลับมาเดินเป็นจังหวะอีกครั้ง ในระหว่างที่กำ�ลังเอนกายอยู่ บนโซฟา ที่นอนนุ่มๆ หรือจับฝักบัวมาฮัมเพลงระหว่างอาบ น้ำ�ชำ�ระล้างความเหนื่อยล้าให้ไหลออกไป วันนี้เราก็มีเพลงชิลล์ๆ ทานง่ายๆ มาแนะนำ�ให้คุณผู้อ่านได้ลิ้มลองไปพร้อมๆกันเพื่อวันเบาๆสบายๆแบบสโลว์ ของทุกคน ของหนุ่มมาดเซอร์ Jason Mraz ที่มาพร้อม กีตาร์โปร่งคู่ใจและเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์หา ตัวจับได้ยากผู้นี้ก็จะดูกระไรอยู่ อัลบั้ม Love Is a Four Letter Word คือผลงานชิ้นล่าสุด ของเขาคงแนวดนตรีแบบโฟร์คป็อปที่ฟังง่าย ไม่รู้เบื่อและความหมายของแต่ละเพลงก็ อบอุ่นน่าหลงใหล หากใครอยากลองชิมความ The world as I see it ไพเราะ เราขอแนะนำ�เพลงอย่าง The World as I see it จังหวะดนตรีที่ฟังแล้วลื่นหูสำ�หรับ - Jason Mraz: ชั่วโมงนี้จะไม่หยิบยกอัลบั้ม วันสบายๆ ปนนิดๆ อย่าง สิมิลัน เหมาะจะเปิดสร้าง บรรยากาศผ่อนคลายให้เส้นสมองที่ตึงนั้นได้ ลดหย่อนลงมาบ้าง แถมเพลงนี้ก็ได้รับการ บรรจุอยู่ในอัลบั้ม Café del Mar volume 8 ของคลับคาเฟ่ เดล มาร์ คลับดนตรี Easy Listening ที่มีชื่อเสียงในประเทศสเปน สิมิลัน – Armchair บอสโนว่าเก๋ๆ สัญชาติไทยก็มีความนุ่มละมุน เพลงบรรเลงฟังสบายๆ ง่ายๆ หวานนุ่มเหมาะไว้ฟังเพื่อปรับจังหวะลมหายใจ มีกลิ่นอายของอิเล็กทรอนิกส์มา ให้ผ่อนช้าลงได้อย่างดี
A Love Song - Olivia Ong
ความจริงสาวเสียงหวานหน้าใสจากสิงค์โปร์ ผู้นี้เธอมีผลงานออกมาแล้วหลายอัลบั้มกับ แนวดนตรีที่เธอถนัดอย่าง Jazz, Bosanova และ Pop เพลง A Love Theme จากอัลบั้ม Romance นั้นสุดจะไพเราะทั้งแนวดนตรีและ ภาษา ให้อารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งหวานซึ้ง น่ารักสดใส สบายๆ ผ่อนคลายในทุกท่วง ทำ�นองเหมาะจะสร้างความรื่นรมย์ในวันช้าๆ ได้อย่างดี
Riders ปล่อยอัลบั้ม The working of the soul Part 2 เป็นพาร์ทที่ 2 ของเขาแล้ว ทุก เพลงนั้นโดดเด่นและละมุนหู ในสไตล์ดนตรี สบายๆ ฟังง่าย พร้อมส่วนผสมของเมโลดีที่ มีกลิ่นอายในแบบย้อนยุคอย่างที่เขาถนัดจึง ทำ�ให้อัลบั้มชุดนี้มีความเพราะพริ้วและโดด เมื่อฉันได้พบเธอ เด่นไม่ต่างไปจากอัลบั้มแรกกันเลยทีเดียว - ก้อ ณฐพลศรีจอมขวัญ ถ้าใครอยากสัมผัสความพลิ้วคืนนี้ลองคลิกหา อดีตมือเบสวงคุณภาพคับแก้ว เพลง “เมื่อฉันได้พบกับเธอ” (Because of ของเมืองไทยอย่าง Modern you) มากล่อมนอนเพื่ออารมณ์ปลอดโปร่งไป Dog, P.O.P และ Groove ยันเช้าวันรุ่งขึ้นนั่นเลย n
columnist and photographer :
eating out
ธกฤต รุ่งเรืองธัญญา
21
Burger Factory ร้านเบอร์เกอร์เล็กๆ เปิดใหม่ปลายปี ก่อนเป็นเสมือนบ้านเล็กหลังใหม่ของ ผู้คนในย่านเอกมัย Burger Factory มีระเบียงเปิดรับแสงธรรมชาติของ กรุงเทพยามบ่ายพร้อมการตกแต่งแบบ อินดัสเทรียลที่เติมลูกเล่นให้ไม่หนัก หนาสาหัสดิบห่ามจนเกินไปด้วยโซฟาสี ขาวและเฟอร์นิเจอร์ไม้สร้างบรรยากาศ น่านั่งกินอิ่มหลับสบาย ความเป็น กันเองที่สัมผัสได้ทั้งจากการตกแต่ง และการต้อนรับอย่างเอาใจใส่ของ พนักงานภายในร้านน่าจะส่งให้ชื่อของ เดอะ เบอร์เกอร์ แฟคตอรี เป็นที่ติดหู ตามรสชาติเบอร์เกอร์ที่มีรสชาติเป็นที่ ติดปากติดใจกันได้ไม่ยาก สิ่งที่โดดเด่น กว่านั้นคือคติที่ทางร้านประกาศความ เป็นตัวตนไว้ชัดเจนว่า “In Beers & Burgers, We Trust” หรือ “เราเชื่อ
มั่นและศรัทธาในเบียร์และเบอร์เกอร์” จึง ไม่เห็นควรมีคำ� ใดควรค่าแก่การพูดถึงร้าน นี้มากกว่านี้อีกต่อไป • สถานที่ตั้ง: 3 ถนนสุขุมวิท 63 เอกมัย 10 กรุงเทพฯ (รถไฟฟ้าสถานีเอกมัย) • ประเภทอาหาร: เบอร์เกอร์ • เมนูแนะนำ�: เบอร์เกอร์ซาลมอนย่าง, เดอะแฟคตอรีเบอร์เกอร์, ปีกไก่ทอดราส ซอส และซี่โครงหมูบาร์บีคิว • วันและเวลาเปิดบริการ: จันทร์-อาทิตย์ (11.30-23.00น.) (ศุกร์เสาร์เปิดบริการถึง เที่ยงคืน) • ราคาต่อหัวโดยประมาณ: 300-600 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) การชำ�ระเงิน: เงินสด • เบอร์โทรศัพท์: 02-714-4249 • Facebook: facebook.com/ theburgerfactory
Meeting Room Asian Gastro & Bar
แทรกตัวอยู่ในมุมเงียบสงบของทองหล่อ หนึ่ง ในถนนที่วุ่นวายที่สุดของกรุงเทพ Meeting Room Asian Gastro & Bar เสนอทาง เลือกให้กับกลุ่มเพื่อนที่อยากหลีกหนีเสียง โหวกเหวกโครมครามของท้องถนน และ ต้องการอยู่กับเพื่อนคู่คิดเหมือนมิตรอยู่บ้าน บรรยากาศสบายๆ มีที่ให้เลือกนั่งได้ทั้งภายใน และภายนอก โดยเฉพาะในวันธรรมดาที่ผู้คน ไม่พลุกพล่านมากนัก ที่นี่ยังมีชั่วโมงแห่งความ สุขให้กับนักดื่มตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงห้าทุ่ม เลือก เครื่องดื่มแบบหนึ่งแถมหนึ่ง ให้ได้นั่งเพลิน วันสบายคืนกับสหายรู้ใจ เหมาะกับทั้งการพูด คุยสนุกสนานและความคิดประเทืองปัญญา นอกจากเสน่ห์ของอาหารเอเชียนฟิวชั่นที่ รสชาติจัดจ้านลงตัวกับเครื่องดื่มที่ทางร้าน มีไว้บริการ ที่นี่ยังเน้นเปิดเพลงพ็อพร็อคทั้ง ย้อนยุคและทันสมัยแบบที่ได้ยินเพลงแล้วต้อง เปิดชาแซมหาชื่อเพลงกันจ้าละหวั่น
• สถานที่ตั้ง: ชั้น 2 อาคารเบนซ์ทองหล่อ บูตคิ มอลล์ สุขมุ วิท 55 (ทองหล่อ 18) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ (รถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ) • ประเภทอาหาร: ไทยและเอเชียนฟิวชั่น • เมนูแนะนำ�: ไก่หมักกระเทียมเสียบไม้ ย่าง, สเต๊กหมูลูกเต๋ากับจิ้มแจ่วมาโย, สปาเก๊ตตี้ผัดซอสขี้เมากับกุ้งลายเสือ, สเต๊กหมูเสียบไม้กับพริกหวาน • วันและเวลาเปิดบริการ: อังคารอาทิตย์ (18.00-01.00น.) • ราคาต่อหัวโดยประมาณ: 500-700 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) • การชำ�ระเงิน: เงินสด, วีซ่า และ มาสเตอร์การ์ด • เบอร์โทรศัพท์: 02-713-8553 • Facebook: facebook.com/ MeetingRoomGastro
Salt ใครเคยไปร้านปลาดิบในซอยอารีย์มา ก่อนจะเห็นภาพของ Salt เป็นเสมือน ร้านเครือญาติ ด้วยบรรยากาศของร้าน ไม่แตกต่างกันมากนัก ยกเว้นแต่เพียง การตกแต่งภายในให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ด้วยราคาอาหารที่ไม่สูงมากประกอบ กับการคัดสรรเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหลาก หลาย รวมทั้งไม่มีการบวกค่าบริการ เข้าไปในใบเสร็จ ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่ง รวมคนรุ่นใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น รสชาติ อาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนของที่นี่ไม่ ถือว่าด้อยคุณภาพเมื่อเทียบกับราคา พิซซ่าใช้แป้งบางกรอบแบบอิตาเลียน ดั้งเดิม • สถานที่ตั้ง: 111/2 ซอยอารีย์ (หัว
มุมซอยอารีย์ 4), พหลโยธินซอย 7 กรุงเทพฯ (รถไฟฟ้าสถานีอารีย์) • ประเภทอาหาร: อิตาเลียน, ฝรั่งเศสและ ซูชิบาร์ • เมนูแนะนำ�: พิซซ่าสไปซีไส้กรอกอิตาเลียน, เป็ดตุ๋นเสิร์ฟพร้อมข้าวฝรั่งเศส, สปาเก๊ตตี้ พาร์มาแฮม • วันและเวลาเปิดบริการ: จันทร์-เสาร์ (18.00-24.00น. ยกเว้นวันพุธเปิดบริการ 12.00-24.00น.) • ราคาต่อหัวโดยประมาณ: 1,000บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) • การชำ�ระเงิน: เงินสด, วีซา่ และมาสเตอร์การ์ด • เบอร์โทรศัพท์: 02-619-6886 • Facebook: facebook.com/SaltAree n
22
our kitchen
columnist :
ปริดา มโนมัยภิบูลย์ photograph : Neighbour
เมือ่ ไม่นานมานี้ หลานสาวสุดทีร่ กั มาขอให้คณ ุ อาบัวทำ�เค้กวันเกิดครบ รอบเก้าขวบให้เธอ สาวน้อยคนนี้ กำ�ลังติดเกมในไอแพดของคุณพ่อ ที่ เป็นเกมทำ�ขนมเค้ก เธอเอาเค้กทีเ่ ธอ ทำ�เองในไอแพดมาให้ดแู ล้วออดอ้อน “หนูอยากได้เค้กแบบนี้ อาบัวทำ�ให้ วันเกิดหนูได้ไหมคะ” เค้กทีเ่ ธอว่า เป็นเค้กสามชัน้ หน้าตา ประมาณเค้กในหนังสือนิทาน หลาน สาวขอมาทัง้ ที ก็ตอ้ งหาทางทำ�ให้ ได้จริงไหมคะ ว่าแล้วบัวก็เริม่ คิดหา เนือ้ เค้กทีจ่ ะถูกใจครอบครัวใหญ่ทง้ั บ้าน โจทย์คอื คุณปูข่ องบัว หรือ
strawberry
cheesecake neighbour magazine membership ข้อมูลผูส้ มัครสมาชิก
ส่วนผสม (สำ�หรับเค้กสองปอนด์) ครีมชีสอุณหภูมหิ อ้ ง 90 กรัม เนยอุณหภูมหิ อ้ ง 30 กรัม ครีมสด (วิปปิง้ ครีมทีย่ งั ไม่ได้ต)ี 100 มล. น�ำ้ ตาลทราย (ส่วนทีห่ นึง่ ) 40 กรัม ไข่แดง 3 ฟอง
คุณทวดของหลานสาวไม่ชอบทานหวาน มาก เพราะต้องคุมน�ำ้ ตาล หลานสาว เจ้าของวันเกิดคลัง่ ไคล้สตรอเบอรี่ ดังนัน้ นีจ่ งึ เป็นส่วนประกอบทีข่ าดไม่ได้ ส่วน คุณลุงและพีช่ าย ผูเ้ ป็นคุณปูแ่ ละคุณ พ่อของหลานสาวชอบเค้กรสกลมกล่อม ทีไ่ ม่ธรรมดาสามัญ เค้กเนยทัว่ ไปนัน้ ครอบครัวนีไ้ ม่ทานให้เปลืองโควต้า แคลลอรีค่ ะ่ คิดไปมาก็ลงตัวกับสูตรชีส เค้กสไตล์ญป่ี นุ่ เนือ้ นุม่ เนียนละลายในปาก สามารถเพิม่ รสชาติให้แหลมขึน้ ด้วยสตรอ เบอรีซ่ อสทีท่ �ำ แยกไว้ตา่ งหากเผือ่ ราดเป็น ท็อปปิง้ ส่วนสำ�หรับคนไม่ชอบทานหวาน หากทานเค้กนีโ้ ดยไม่ราดซอสก็จะได้รส เบาๆ กำ�ลังดีคะ่ น�ำ้ มะนาว (ถ้าจะให้หอม ควรจะใช้ มะนาวเหลืองนะคะ) 1 ชต. วานิลา 1/2 ชช. แป้งเค้ก 30 กรัม ไข่ขาว 3 ฟอง นํา้ ตาลทราย (ส่วนทีส่ อง) 30 กรัม เกลือ 1 หยิบมือ
หมดปัญหากับการหยิบนิตยสารไม่ทนั สมัครสมาชิกรายปีโดยมีคา่ ใช้จา่ ยในการจัดส่ง 300 บาท (12 เล่ม) และรอรับนิตยสารส่งถึงบ้าน
ชือ่ – นามสกุล _________________________________________________ เพศ O ชาย O หญิง อายุ _______
ทีอ่ ยูใ่ นการจัดส่ง หมูบ่ า้ น/บริษทั ______________________________________________
โทรศัพท์ทท่ี �ำ งาน ___________________ โทรสาร ____________________ โทรศัพท์มอื ถือ _______________________
หน่วยงาน/แผนก _____________________________________________
อาชีพ O นักเรียน O นิสติ /นักศึกษา O นักออกแบบ/ครีเอทีฟ O อาชีพอิสระ O ข้าราชการ O พนักงานบริษทั O ครู/อาจารย์ O ผูป้ ระกอบการ O อืน่ ๆ โปรดระบุ _______________________
ตำ�บล/แขวง ____________________ อำ�เภอ/เขต __________________
เลขที่ _______________ ซอย __________ ถนน __________________
จังหวัด ____________________ รหัสไปรษณีย์ _____________________ ต้องการสมัครสมาชิกนิตยสาร Neighbour จำ�นวน 12 เล่ม เริม่ ตัง้ แต่ฉบับเดือน _______________โดยยินดีเสียค่าใช้จา่ ยในการจัดส่งเป็นจำ�นวนเงิน 300 บาท
สาขา/อุตสาหกรรมทีเ่ กีย่ วข้องกับอาชีพของท่าน O โฆษณา O สถาปัตยกรรม O ท่องเทีย่ ว/โรงแรม/สายการบิน O หัตถกรรม/งานฝีมอื O อาหาร O โทรคมนาคม O วรรณกรรม/การพิมพ์ วิธกี ารชำ�ระเงิน (ระยะเวลา 1 ปี จำ�นวน 12 เล่ม) O เช็คสัง่ จ่ายนามบริษทั เนเบอร์ มีเดีย จำ�กัด O ค้าปลีก/ค้าส่ง O การเงิน/ธนาคาร O การออกแบบ O ดนตรี O โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัฒนาการ เลขที่ O ภาพยนตร์ O พิพธิ ภัณฑ์ O ทัศนศิลป์/ถ่ายภาพ O ซอฟท์แวร์ บัญชี 123-232224-0 ในนามบริษทั เนเบอร์ มีเดีย จำ�กัด /อนิเมชัน่ /วิดโี อเกม O วิทยุ-โทรทัศน์ O อืน่ ๆโปรดระบุ
กรุณาตัดชิน้ ส่วนนีแ้ ละแฟกซ์ใบสมัครพร้อมใบนำ�ฝาก-โอนเงินมาทีเ่ บอร์ 02-322-6706 / ส่งไปรษณียม์ าที่ บริษทั เนเบอร์ มีเดีย จำ�กัด 1 ซอยพัฒนาการ 69 แยก 2 เขตประเวศ แขวงประเวศ กรุงเทพฯ 10250 / ส่งอีเมลล์มาที่ neighbour.mag@gmail.com : สอบถามข้อมูลเพิม่ เติมได้ท่ี 02-321-3911
23
ว่าแล้วบัวก็เตรียมถาดอบเค้กแบบ สปริงฟอร์มขนาด 2 ปอนด์ไว้ส�ำ หรับ เป็นเค้กชัน้ ล่างสุด แล้วทำ�อีกส่วนหนึง่ ใส่ถาดอบขนาดหนึง่ ปอนด์เป็นเค้กชัน้ ที่ สอง แบ่งอีกส่วนเป็นชัน้ บนสุดโดยทำ�ใส่ ถาดฟอยล์ขนาดใกล้เคียงกับคัพเค้กค่ะ
• ตีครีมชีสและเนยให้เข้ากัน ค่อยๆใส่
นํา้ ตาลส่วนแรกจนหมด ค่อยๆเติมครีม ลงไปขณะตีสว่ นผสม หลังจากนัน้ ก็ใส่ ไข่ทลี ะฟอง ตีให้เข้ากัน เติมกลิน่ วานิลา แล้วหยุดเครือ่ งตี ใส่แป้ง คนด้วยมือจน พอเข้ากัน พักไว้
• ตีไข่ขาว น�ำ้ มะนาว และน�ำ้ ตาลส่วน
ทีส่ องจนตัง้ ยอดไม่ออ่ นไม่แข็ง แบบยก ตะกร้อขึน้ มาแล้วปลายไข่ขาวเป็นรูป แหลมสะบัดน้อยๆน่ะค่ะ • แล้วนำ�ไข่ขาวมาผสมกับส่วนแรก ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือด้วยไม้พาย จนเข้ากันดี อย่าคนมากไปนะคะ ไข่ขาว จะแฟบ ทำ�ให้เนือ้ เค้กไม่เบาค่ะ • หุม้ พิมพ์ดว้ ยกระดาษฟอยล์วางลงบน ถาดรองน�ำ้ • นำ�เข้าอบไฟที่ 160 องศา ประมาณ 1-1.5 ชม. ค่ะ ดูให้เค้กเป็นสีเหลืองทอง พออบเสร็จอย่าเพิง่ รีบร้อนเอาชีสเค้ก
ออกจากเตาอบ แค่ปดิ ไฟเตาอบ แล้ว แง้มฝาเตาอบเปิดไว้นานประมาณ 1 ชม.ก่อนทีจ่ ะเอาเค้กออกมาตัง้ ข้าง นอกให้อยูใ่ นอุณหภูมหิ อ้ งอีกทีนะ คะ หน้าเค้กจะได้ไม่แตกค่ะ พอพักไว้ เย็นอุณหภูมหิ อ้ งแล้วก็เอาใส่ตเู้ ย็นไว้ ให้เค้กอยูต่ วั อีก อย่างน้อย 4 ชัว่ โมง หรือข้ามคืนยิง่ ดีคะ่ • จากนัน้ จึงแต่งหน้าเค้กด้วยครีม ช็องติลลี ซึง่ ก็คอื วิปปิง้ ครีม 3 ถ้วย ตีกบั น�ำ้ ตาลไอซิง่ 1/2 ถ้วย และกลิน่ วานิลา 1 ช้อนชาค่ะ แล้วประดับด้วย สตรอเบอรีใ่ ห้สวยงาม
• สำ�หรับซอสสตรอเบอรี่ ใช้น�ำ้ ส้ม
1/4 ถ้วยตวง น้�ำ ตาล 4 ช้อนชา และ สตรอเบอรี่ 300 กรัม
• นำ�น�ำ้ ส้ม กับ น�ำ้ ตาลตัง้ ไฟ พอน�ำ้ ตาล ละลายหมดก็ใส่สตรอเบอร์รล่ี งไป ต้ม ต่อประมาณ 3 นาที แล้วยกลง พักให้ เย็น แล้วเก็บเข้าตูเ้ ย็นได้เลยค่ะ
เค้กสูตรนีท้ �ำ ให้สาวน้อยคนหนึง่ มีความ สุขมาก คุณอาของเธอก็เช่นกัน บัวหวัง ว่าเค้กสูตรนีจ้ ะทำ�ให้ทกุ ท่านทีไ่ ด้ลองทำ� หรือลองชิมมีความสุขเช่นกันนะคะ n
somewhere out there
กระตุ้นสัญชาตญาณผจญภัย ด้วยการชวนให้คุณออกตามหาว่า สถานที่นอกเมืองในรูปคือที่ไหน แล้วมาร่วมสนุกด้วยการตอบและ ยืนยันถ่ายรูปมุมเดียวกันนั้นส่งมา ผ่าน www.facebook.com /neighbour.mag หรือ tag ผ่าน instagram มาที่ #neighbourmagazine ต่อจากนี้เชื่อว่าทุกจุดในละแวก บ้านจะกลายเป็นจุดสนใจ บางที อะไรๆอาจไม่ผ่านตาไปง่ายๆ อย่างเคย n