one year o-n
A Poem I Feel กลอนและภาพ : แก้วเกล้า
{ September 2014 - August 2015 }
one year o-n
[ one year o-n ] คือ โปรเจกต์เล็กๆ ที่รวบรวมเนื้อหาแต่ละคอลัมน์ของนิตยสาร o-n ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาให้มาอยู่ ในที่แห่งเดียวกัน
A Poem I Feel คือ คอลัมน์กลอนสะท้อนความรู้สึกนึกคิดต่อสังคมพร้อมภาพวาด ที่กวีถ่ายทอดออกมาเพื่อสื่อให้ถึงผู้อ่าน
ทำ�นองของนางระบำ�แซมบ้า
ที่มา : O-N issue 01 | เราไม่ ใช่คนกู้ โลก
เพื่อต่อต้านความเคยชิน
ที่มา : O-N issue 02 | ส�ำรวจความคิดผ่านการเดินทาง
Anjaree : อัญจารี
ที่มา : O-N issue 03 | เพราะเราคือเรา
ถึงเพื่อนรักผู้จากไป
ที่มา : O-N issue 04 | จังหวะชีวิตในห้องสมุด
สหายปลาปีนเขา
ที่มา : O-N issue 05 | ไปดีมาดี
นี่ไม่ใช่บทกวี
ที่มา : O-N issue 06 | with love, girl band, you rock!
ตลาดเช้าวันอังคาร
ที่มา : O-N issue 07 | ในโลกอีกใบที่ ใช้ ใจบันดาลแรง
สุขสันต์วันเกิดมิคาล์
ที่มา : O-N issue 08 | without words
เบญจเพสของเจ้าม้าลาย
ที่มา : O-N issue 09 | listen to your freedom
àºÞ¨à¾Ê¢Í§à¨ŒÒÁŒÒÅÒ ขาเติบโตมาในคอกมานี้ นับกี่ขวบปหาจำงายไม ขาเดินเตร็ดเตร ไปยังตนไทร ที่ซึ่งอาศัยในการทบทวน
คือเบญจเพสพิเศษพิ โส รางกายใหญ โตกำลังแกลวกลาว แตสียังชัดบัดสีทุกคราว มีเสนดำขาวพิลึกกึกกือ
ขาเพิ่งเกิดมาไดแรกราตรี วันหนุมสาวมีอดีตหอมหวน ยังจำไดชัดวันสาวคร่ำครวญ และสัญญาหวนชวนมาที่เดิม
มาอื่นใสคอกบอกขาพิกล ขาจึงสับสนขาดคนนับถือ ขาหวังในปสิบหานี้ รางกายอาจถือเปลี่ยนเปนสีนิล
หนึ่งปผานไปไวเหมือนโกหก ชายหนุมเวียนวกดวยใจฮึกเหิม แตสาวเจาไมยึดย้ำคำเดิม หนึ่งป ไดเติมรอยกรีดตนไทร
หวานภาวนาอยูหาสิบค่ำ แลวกลองสีดำครอบงำขาสิ้น พาขาเคลื่อนยายไหลลองน้ำดิน จึงถึงที่ถิ่นที่ ไมคุนตา
หลายปผานไปไวเหมือนมาขับ ขาไดตรวจนับรอยกรีดตนไม ทุกสี่เสนสั้นมียาวคาดไป เปนเครื่องบงหมายทุกรอบหาป
สรรพตนไมวิสัยวิเศษ หลากหลายประเภทวิหคมัจฉา รื่นเริงสุขใจส่ำสัตวนานา ประกาศศักดาในคาของตน
สิบสองเสนสั้นถูกคั่นสามคาด ที่เพิ่งใหมหมาดคือคาดทับสี่ รอยยังเขียวสดเหมือนราวเชานี้ เปนเสนขวบปที่สิบหาหนาว
ไมตองเหมือนกันไมฉันเหมือนใคร แมน้ำยอมไหลเพื่อปลาทุกหน นกยอมบินได ในฟาสากล พืชพันธุพูนผลในโลกเสรี
สังคมคนคอยาว
ที่มา : O-N issue 10 | ไม่ตลก
Êѧ¤Á¤¹¤ÍÂÒÇ ฝุนตระหลบอบอวลไปทุกทิศ ควันพิษบมเมืองจนคุมคลั่ง เสียงแตรก็แปรแปรนสนั่นดัง ปายบิลบอรดก็ลนหลั่งไปทุกทาง
คอยาวมากยาวนอยจะคอยบอก คอยาวคืบยาวศอกตามรากเหงา คอยาวเซ็นยาวนิ้วก็ โซเซา ที่ยาวกวาวาเลาสูงศักดา
ในรถยาวสิบกวาวาคนหนาแนน ทั้งคัดแคนจดสองวาของความกวาง มองมุมเงยเห็นมือรอยหอยโยงยาง เปนโมงยามอางวางแม ไหลชน
มีเงินนับเปนนองทองเปนพี่ มีที่ดินมากนอยกี่ ไมถือคา ถึงเวลาขายออกทั้งไรนา มาเสริมคอเพื่อเสริมคาภาษีตน
ในจำนวนคนนับรอยมีหนอยหนึ่ง ที่มองเห็นจากฝูงชนคนทุกหน เพราะเขามีหัวสูงแทบจะชน เพดานของยานยนตที่นำพา
ดูดาราในทีวีนี่ยาวยิ่ง ถาสามีรวยจริงยิ่งยาวพน เมื่อคอเปนเครื่องวัดจำกัดคน ถึงเวลาตองอดทนเพื่อทำคอ
ถือเปนจุดสนใจใครนับรอย เพราะไมตองใชมือหอยให ยให ไหลลา แคอิงหัวพิงราวก็ผอนพา ทุกสายตาก็อิจฉาไปตามกัน
เมื่อตำรวจไมกลาจับคนคอยาว ก็ถึงทีตองอดขาวเพื่อเสริมศอ จะเสริมกี่เซ็นตเลาเขาคิวรอ ตองยอมผานมีดหมอเพื่อคองาม
ถือเปนความนิยมสังคมนี้ ใครไดดีก็อวดดี ไปตามขั้น มองไมรูดูไมออกจะบอกกัน ผูดีเมืองนี้นั้นตองคอยาว
หนุมคอยาวสาวรุมมะตุมทึ้ง เปนที่งายดูดดึงหญิงหลงถาม บางจึงจัดเสริมคอเพื่อรอกาม หนุมคอสั้นถูกมองขามตามธรรมดา
ถามใจใยขาพามานี่ ดูไม่มีเหตุผลใดทั้งสิ้น แต่เสียงหนึ่งก้องใจให้ ได้ยิน เพื่อต่อต้านความเคยชินที่กินกลืน ,,, - แก้วเกล้า [ Columnist : A Poem I Feel ]