one year o-n
Scope On บทสัมภาษณ์ : กอง o-n
{ September 2014 - August 2015 }
one year o-n
[ one year o-n ] คือ โปรเจกต์เล็กๆ ที่รวบรวมเนื้อหาแต่ละคอลัมน์ของนิตยสาร o-n ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาให้มาอยู่ ในที่แห่งเดียวกัน
Scope on คือ คอลัมน์ที่เพิ่มมาใหม่ ในนิตยสาร o-n ฉบับที่ 8 เป็นคอลัมน์สัมภาษณ์รอง มีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับคนบนปกฉบับนั้นๆ
ครูละครใบ้ไทย
'ครูอั๋น' - ไพฑูรย์ ไหลสกุล
ที่มา : O-N issue 08 | without words
เมื่อปี พ.ศ.2523 ครูอนั๋ เห็นละครใบ้ ครัง้ แรกแล้ วชอบเลย แล้ วรู้สกึ ว่าอยากจะเล่น มันเป็ นให้ ได้ บังเอิญไปเจอกับครูชา่ ง ก็เลยให้ เขาสอนให้ และประวัติศาสตร์ ละครใบ้ไทย เริ่ มขึ้ นตอนที ค่ รู อนั๋ ได้เรี ยนกับมิลาน สะลา เด็ก นักแสดงละครใบ้ ผ้ มู ีชื่อเสียงโด่งดังชาว เยอรมัน โดยเรี ยนกับเขาตังแต่ ้ เช้ าจรดเย็น เรี ยนเหมือนเรี ยนหนังสือเลย ประมาณ 10 กว่าวัน มีเพื่อนร่วมเรี ยน 8 คน ตัดสินใจท�ำละครใบ้ หนึง่ -เราชอบจริงๆ สอง-เราไม่มที าง เลื อ ก ละครใบ้ มั น แสดงให้ เห็ น ถึ ง ความ สามารถของมนุ ษ ย์ ที่ ไ ร้ ขี ด จ� ำ กั ด หยิ บ จิ น ตนาการมาเล่า ได้ ท� ำ ให้ ค นดูร้ ู สึก และ จินตนาการต่อไปได้ ความเงียบของละครใบ้ มันไปดังในใจ ของอาจารย์ ได้ ยังไง มันเป็ นศิลปะที่ใช้ มนุษย์ได้ ค้ มุ ค่าที่ สุด ในแง่การถ่ายทอด เราเป็ นอมตะในความ รู้สกึ ของคนดู เพราะเขาจ�ำเราเป็ นภาพ เวลา เล่น เราไม่ได้ พูด เวลาจ�ำเป็ นภาพจะจ�ำได้ นาน เหมือนกับเราอยูใ่ นตัวเขา คือไม่ต้องใช้ อะไรเลย เดินขึ ้นไปบนเวทีแล้ วก็เล่นๆๆ แล้ ว ก็ลง กว่ าจะมาเป็ นละครใบ้ ในประเทศไทย ละครใบ้ ใ นเมื อ งไทยเริ่ ม จากนัก แสดงละครใบ้ 2 คน คือ จากมิลาน สะลาเด็ก (Milan Sladek) ที่เข้ ามาสอน และมาร์ เซล มาร์ โซ (Marcel Marceau) เข้ ามาแสดง นัก-
ข่าวถามให้ เล่าถึงสิง่ ที่เขาจะแสดง เขาพูดค�ำ เดียวสันๆ ้ “อยากรู้ ก็ไปดูสิครั บ” จบ ให้ ขา่ ว แค่นนั ้ คืองานเขาเป็ นงานทีไ่ ม่สามารถเล่ากัน ได้ เป็ นเรื่ องที่ต้องไปเสพเอาเอง ประเทศเราเป็ นประเทศที่ ห ลุ ด โปรแกรม ต้ องออกเงิน หากันเอง แต่โชคดีที่ ประเทศฝรั่งเศสช่วย พอหลั ง จากนั น้ ก็ เ ริ่ มเล่ น เป็ น ตระเวนไปเล่นเรื่ อยๆ ขอเขาเล่น เขาหาว่าบ้ า บ้ าง เล่นข้ างถนนก็โดนไล่ เลยไปปั กหลักเล่น ที่สนามหลวง เล่นอยู่ประมาณ 2-3 ปี จนมี แฟนประจ�ำ เล่นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จนรายการ กระจกหกด้ านมาสัมภาษณ์ออกทีวี ตังแต่ ้ นนั ้ คนทัว่ ไปก็เริ่ มรู้จกั แต่ยงั ไม่คอ่ ยเป็ นที่ยอมรับ เราใช้ เวลาประมาณ 30 ปี ได้ Babymime และ Mute Mime มาซึง่ ไปเล่นทัวร์ ยโุ รปด้ วย คุณค่ าของศิลปะ โดยตัวศิลปะแล้ วมันมีคุณค่าของ มัน เหมือนการวาดรูป หรื อเล่นดนตรี เรารู้วา่ มันดี เราก็เอามาถ่ายทอดต่อให้ คนในประเทศ เพราะศิลปะมันท� ำให้ คนฉลาด ท� ำให้ ชาติ เจริญ ประเทศใดทีไ่ ม่สนับสนุนศิลปะ ประเทศ ไม่เจริ ญหรอก ปั ญหาของการท�ำงานศิลปะ ในเรื่ องศิลปะเราล้ าหลัง รัฐบาลไม่ เคยพูดถึงศิลปะเลย ไม่เข้ าใจว่ามันไร้ คา่ หรื อ เขาคิด อย่า งไร มันมี ความงามตรงไหน มี ความส�ำคัญตลรงไหน ควรจะพัฒนาศิลปะ อย่างไร เรื่ องของศิลปะต้ องพูดกันยาว
วิธีแก้ ปัญหา แก้ ที่วธิ ีคดิ ของทุกคน ชีวติ คนต้ องมี อะไรบ้ าง แล้ วก็พดู ทุกครัง้ เมือ่ มีโอกาส เพราะ ถ้ าเราไม่คิด เราไม่พดู ก็จบ คือง่ายๆ ถ้ าเราไม่ สนใจ เราก็อย่าเรี ยกร้ องให้ รัฐบาลสนใจ อุดมการณ์ กับเงิน ถ้ าเราอยู่ภายใต้ เงินเมื่อไหร่ ทาง เลื อ กเรามัน จะน้ อย บางที ร บกวนศิ ล ปะ อุดมการณ์คนสมัยนี ้มันหมดเร็ว รอไม่ไหว คิด เยอะ ในทีส่ ดุ ก็เลิกท�ำ การมีอดุ มการณ์คอื คิด ที่จะอยูด่ ้ วยมัน โดยโตไปพร้ อมกับมัน อย่าให้ สังคมครอบ สภาพสังคมมีผลต่ อการสร้ างงานไหม สังคมท�ำกับเรา เราก็ท�ำกลับไปยัง สังคม ล้ อเลียน เสียดสี ด่า ชม ล่าสุดเล่นเรื่ อง ‘มนุษย์ผ้ ชู าย’ เรามีงานเล่นอยู่เรื่ อยๆ ปี ละ 1-2 ครัง้ สถาบันคนหน้ าขาว พี่ท�ำละครใบ้ เพื่อสร้ างคนให้ คิดที่ จะเปลีย่ นแปลงสังคม พีส่ อนให้ ทกุ คนคิดเป็ น แล้ วไปหาทางคิดต่อ กล้ าคิด กล้ าท�ำ ทุกคน โตได้ มีอาวุธไปสู้กบั คนอื่นได้ ลูกศิษย์ก็เลย แตกต่างกันไปตามทางของเขาเอง ลูกศิษย์ เป็ นร้ อยคน แต่ทยี่ งั ท�ำละครใบ้ อยูม่ ี ไม่กี่คน เพราะมันเล่นยาก ไม่ใช่งา่ ย ไม่ใช่วา่ แค่ขยันแล้ วท�ำได้ ต้ องใช้ ความอดทน และ
ความเข้ า ใจ การเล่นให้ คนดูร้ ู เรื่ อง มันไม่ เหมือนละครพูดที่คนดูจะเข้ าใจได้ งา่ ยกว่า พูดถึง Babymime สามคนเป็ นส่วนผสมที่ดี จังหวะดี คม สวย พวกเขามีทกั ษะ และมุมมองคนละ แบบกัน เวลามามิ๊กซ์ กัน จะมี งานบางชิ น้ ลงตัว แต่บางชิ ้นยังประดักประเด่ออยู่ ลอง สลับบทบาทกันดู จะได้ มีอะไรแปลกใหม่ น่า จะดีได้ กว่านี ้ พวกเขายังไปได้ อีกไกล มองละครใบ้ ประเทศไทยในอนาคต ในเมืองไทยละครใบ้ จะดีขึ ้นเรื่ อยๆ เพราะว่ามีคนยืนหยัด และลูกศิษย์พมี่ ฝี ี มอื ทุก คน ทุกคนยืนได้ ด้วยตัวเอง คิดเองท�ำเอง มัน จะแตกหน่อได้ แล้ วเขาจะสอนลูกศิษย์เขา ต่อๆ ไป และมีงานที่แตกต่างออกไปจากเขา ด้ วยวิธีคิดของการวางรากฐานละครใบ้ ออก ไป
ความ(ฝัน)อิสระที่ไม่แปลก ในมุมมองของผู้มาก่อน 'จุ้ย' - ศุ บุญเลี้ยง
ที่มา : O-N issue 09 | listen to your freedom
จุ้ย - ศุ บุญเลี ้ยง กับอิสระทางความ ฝั นในมุมมองของผู้มีประสบการณ์ตอ่ นักฝั น รุ่นน้ องผู้รักอิสระ ทังในวงการนั ้ กเขียน นักแต่ง เพลงและนักดนตรี ส�ำหรับอย่างหลังนี ้ เขา บอกกับเราว่า เขาไม่ คิ ด ว่ า ตนเองเป็ นนัก ดนตรี แต่คิดว่าตนเป็ นนักสื ่อสารที ่ใช้ดนตรี เป็ นเครื ่องมื อ ทัศนคติต่อคนยุคใหม่ ท่ ลี ุกขึน้ มาท�ำอะไร เอง โดยไม่ พ่ งึ สังกัด หรื อค่ าย ไม่ใช่แค่สมัยนีห้ รอกและไม่ใช่แค่ คุณไม่พึ่งค่าย บางทีค่ายก็ไม่ได้ สนใจที่จะ เรี ยกหาคุณ มันเป็ นปกติทกุ ยุคที่มีคนที่ค่าย ต้ องการ มีคนที่คา่ ยปฏิเสธ คนที่ปฏิเสธค่าย แต่ตอ่ มาก็วิ่งเข้ าไปหาค่าย คนที่วิ่งเข้ าไปหา ค่าย ต่อมาก็วงิ่ ออกมานอกค่าย แล้ วก็อาจวิง่ ไปอีกค่ายหนึ่ง เพียงแต่ยุคค่ายที่แข็งแรงก็ ต้ องกวาดต้ อนศิลปิ นเข้ ามาได้ มากกว่า แต่ เมื่อค่ายเหล่านันเล็ ้ กลง รับศิลปิ นได้ น้อยลง คนท�ำเพลงอิสระจึงมากขึ ้น เป็ นวงจรแบบนี ้ มานานแล้ วดังนันการที ้ ค่ นลุกมาท�ำเพลงโดย ไม่สนใจสังกัดหรื อค่ายนัน้ ไม่แปลก เพราะ ความอิสระที่มากขึ ้น ข้ อดี ข้ อเสีย ของนักดนตรี อสิ ระ กับนัก ดนตรี ท่ มี ีค่ายสังกัด ข้ อดีคือค่ายมีความช�ำนาญ เปรี ยบ นักมวย ที่มีโค้ ช มีคนช่วยฝึ กซ้ อม มีคนช่วย ประชาสัมพันธ์ สร้ างประวัติ มีคนจัดล�ำดับ ความส�ำคัญให้ คนท�ำงานก็ไม่ต้องไปคิดใน เรื่ องที่ตวั เองไม่ถนัด แล้ วจะได้ เอาเวลาไปฝึ ก ความช�ำนาญในงานที่เราท�ำ ท�ำให้ งานโดด
เด่นขึ ้นมา นี่คือในโลกของอุดมคติ แต่ในโลก ของความจริ งมันต้ องมีการตกลงเรื่ องหน้ าที่ ต่างๆ กันส่วนข้ อดีของนักดนตรี อสิ ระ คือ การ ได้ สร้ างงานที่เป็ นตัวเองจริ งๆ ศิลปิ นอินดีใ้ นความรู้ สึกของคุณ ในความรู้สกึ ของผมคือโอนเอียงไป ในแง่ของกลุ่มคนที่มีอิสระในการสร้ างงาน แบบสุดขีดไม่สนใจว่าจะถูกเมินหรื อมองข้ าม ความอิสระของการอยู่ในค่ ายหรื อเป็ น ศิลปิ นอินดี ้ ความจริ งแล้ วศิลปิ นอินดี ้ หรื อนัก ดนตรี อิสระ ก็มีกรอบบางอย่างอยู่ ไม่มีใครที่ มีอสิ ระไปทังหมด ้ ส่วนการมีสงั กัดหรื อค่าย ก็ ไม่ได้ ถกู พันธนาการไปเสียทุกอย่างจนปฏิเสธ อะไรไม่ได้ การเล่ นดนตรี การได้ ร้องเพลง ถือว่ าเป็ น ความฝั นของคุณหรื อเปล่ า ไม่ใช่แค่ความฝั น แต่เป็ นความคลัง่ ไคล้ ทุกคนมีความฝั นกันหมด แต่ความอยาก กับความต้ องการไม่เหมือนกัน เช่น Want Need หรื อCrazy ผมฟั งเพลงจนถึงขนาดเข้ า ส้ วมต้ องฟั งเพลง ก่อนสอบต้ องซื ้อเทปเข้ า ห้ องสอบแล้ วจะได้ ไม่ต้องกังวลเรื่ องเพลงที่ อยากได้ (หัวเราะ) เข้ าไปในห้ องสอบ ท�ำได้ ออกมาซื ้อเทปอีกสักม้ วนแล้ วผมก็บ้าการฟั ง รายการวิทยุด้วย ผมไม่ได้ อยากเป็ นนักดนตรี ไม่สนั ทัด อยากเป็ นนักสื่อสาร ใช้ ดนตรี เป็ น เครื่ องมือ (แต่ตอ่ ไปก็ไม่แน่ ต่อไปอาจจะขอ ดื่มด�่ำกับเสียงดนตรี ตัวโน้ ต)
แล้ วความคลั่ งไคล้ ดนตรี ข องคุ ณ คื อ อะไร?
สมมติถ้าเชื่อแล้ ว ลงมือท�ำไปแล้ วไม่ มี ความสุข ยังท�ำต่ อไปไหม
ฟั งดนตรี จ บแล้ วอยากมี อั ล บั ม้ อยากมีผลงานของตัวเอง ท�ำเองหมด ถ่าย เอกสารปกเทปก็ทำ � ต้ องท�ำผลิตเพลงครัง้ แรก 2 ม้ วน เก็บไว้ ม้วนหนึง่ แล้ วให้ คนอื่นฟั งม้ วน หนึง่ มันเห็นภาพทีเ่ ราอยากจะเป็ น และอยาก จะท�ำ แล้ วภาพนันมั ้ นก็ไม่หายไปด้ วย ไม่มสี งิ่ อื่นๆ สามารถดึงความสนใจเราออกไปจาก เส้ นทางนี ้เส้ นทางของนักสื่อสารนักเขียน นัก แต่งเพลง นักบรรยายไม่เคยเห็นตัวเองเป็ น อย่างอื่นนอกจากนี ้
ต้ องดูว่ามันเป็ นแก่น หรื อเป็ นราย ละเอี ย ด สมมติ เ ราอยากท� ำ เพลงไม่ ไ ด้ หมายความว่าการท�ำเพลงทุกขัน้ ตอนจะมี ความสุขหมด เช่น เราไปยืมคนมาท�ำเพลง เรา ก็เป็ นหนี ้แล้ ว เพียงแต่เป็ นหนี ้ที่เรารับผิดชอบ ได้ แต่ตวั หัวใจหลักมันไม่ได้ มีปัญหา เรายัง เห็นจุดหมายที่ยงั อยากไปอยู่ เรายังไปได้ มัน เป็ นความทุกข์เล็กๆ น้ อยๆ เพื่อให้ เราไปเจอ ความสุข
อยากให้ พดู ถึงเรื่ องของความฝั นต่ อ ความฝั น เป็ นเรื่ อ งปกติ แต่ ก าร แปรรูปความฝั นมาสูค่ วามเป็ นจริ งต่างหากที่ ยาก ข้อแรก อยากแค่ไหน มีความหลงใหล ความต้ องการขนาดไหน ถ้ าไม่ได้ ท�ำตายตา ไม่หลับหรื อเปล่า ข้อสอง แล้ วคุณจะคว้ ามัน มาอย่างไร เพราะมันไม่งา่ ย มักจะมีอปุ สรรค บางที ตัว เราเองก็ ไ ม่ ไ ด้ อ ยากเป็ นอยู่อ ย่ า ง เดียว อาจจะมีฝันแท้ ฝั นปลอมการแปรรู ป ความฝั นเป็ นเรื่ องของการฝึ กฝนกับเรื่ องของ กลยุทธ์ ความพยายามอยูท่ ี่ไหน ความส�ำเร็จ ไม่ได้ อยูท่ นี่ นั่ หรอก ความล้ มเหลวก็มอี ยูเ่ ยอะ แยะไม่ ใช่ ว่า “มึงพยายาม แล้ วจะส�ำเร็จ” มันต้ องเป็ นความพยายามที่มีฐานจากความ รู้ จากสถิติ หรื อจากความล้ มเหลวของคนอื่น ถ้ ามีคนที่ล้มเหลวอยู่ 2 คน คนหนึง่ ก็คือคนที่ เชื่อเขาหมด และอีกคนที่ไม่เชื่อใครเลย
รั ก ษาสมดุ ล ในชี วิ ต จริ ง กั บ ความฝั น อย่ างไร ผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่ องนี ้ ผมมีขนั ้ ตอนในการเดิน เราศึกษา เราหาองค์ประกอบ เวลาเราจะท�ำอะไร เราเก็บเกี่ยวข้ อมูล เรามี คนช่วย เช่นท�ำหนังสือแล้ วไม่รอดก็ให้ เลิกไป ก่อน มีเงินก็ท�ำใหม่ ยังมีแรงก็วา่ กันไป วงมี ปั ญหาก็เลิก เขาก็ไม่ได้ ห้ามให้ เราเป็ นศิลปิ น เดี่ยว ออกมาท�ำเอง ภาษาดนตรี เขาเรี ยกว่า อิ ม โพรไวส์ คื อ ชี วิ ต มั น ก็ ลื่ น ไหลไปตาม สถานการณ์ แต่วา่ มันก็ยงั อยูใ่ นโครงสร้ างของ คอร์ ด สเกล เมโลดีเ้ ดิม แต่มันก็ไม่ได้ ง่าย ขนาดอยากท�ำอะไรก็ได้ ท�ำ ไปเสนอหนังสือ เขาก็ไม่พิมพ์ให้ ถือว่าไม่เป็ นไรท�ำส�ำนักพิมพ์ เองก็ได้
คุณคิดว่ าคนที่ลุกขึน้ มาท�ำในสิ่งที่ตัวเอง ใฝ่ ฝั นต้ องการ เป็ นอย่ างไร อยากท�ำแล้ วท�ำ เป็ นเรื่ องปกติ ท�ำ แล้ วเจ๊ งก็เป็ นเรื่องปกติ ท�ำแล้วอยูไ่ ด้ถึงจะเป็ น เรื ่องไม่ปกติ นีแ่ หละเจ๋ง! พืน้ ที่อสิ ระในการแสดงผลงานตัวเอง พื ้นที่ตอนนี ้มีเยอะแยะ เยอะแต่มนั ก็มีความแตกต่างกันออกไป เครื่ องมือสือ่ สาร ก็อาจจมหายไปในการสื่อสารมากมายเหล่า นัน้ ถ้ าพูดถึงค�ำว่ าอินดีค้ ุณมองยังไง ในระดับปรัชญาคือการเป็ นอิสระใน การสร้ างสรรค์ผลงานซึง่ สุดท้ ายอาจติดอยูใ่ น กรอบของตัวเอง แต่ในความเป็ นจริ งมันก็คือ การมีความแตกต่างโดดเด่นจากคนอื่น ทังหมดนี ้ ค้ ือความจริ งของคนช่าง ฝั น คุณล่ะเป็ นคนประเภทเดียวกับเขาหรื อ เปล่า ถ้ าคิดว่าใช่และเต็มใจไขว่คว้ าที่จะเป็ น เราเสนอว่าน่าจะลองน�ำแนวคิดของเขา จุ้ย-ศุ บุญเลีย้ ง ติดไว้ ข้างฝาผนัง โต๊ ะท�ำงานกันบ้ าง แล้ วล่ะ
ศิลปินสร้างงาน ในทิศทางที่ตัวเองเชื่อ
'ต้องการ' - วลัยกร สมรรถกร
ที่มา : O-N issue 10 | ไม่ตลก
'ต้ องการ' เธอคือศิ ลปิ นวาดภาพ ผูอ้ อกตัวว่าพยายามเป็ นสือ่ ให้กบั วงการออร์ แกนิ ก โดยใช้สีน�้ำทีไ่ ด้จากธรรมชาติ อะไร กันที่ เป็ นจุดพลิกผันให้ เธอเลือกใช้ ชีวิตแบ บออร์ แกนิก แล้ วท�ำไมมุมมองผ่านงานของ เธอถึงแสดงออกมาแต่ในแง่ดี ทุกเรื่ องราวมี ที่ไปที่มา แบบไม่ต้องเร่งรี บ ไปอ่านความคิด และชีวิตของเธอกัน
แสดงงานภาพวาดสีนำ� ้ จากธรรมชาติครัง้ แรก เมื่อปลายปี ที่แล้ วเรามีโอกาสแสดง งานเล็กๆ ครัง้ แรก โอเคนะ แต่งานขายได้ ไม่ เยอะ ข้ อจ�ำกัดใหญ่ของภาพคือสีมนั จะซีดลง ไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา คนทีซ่ ื ้อคือคนทีเ่ ข้ าใจ งานและยอมรับความเปลีย่ นแปลงของมันได้ เลือกวาดรู ปในแง่ ดี
วาดรู ปเพื่อสื่ออะไร งานช่วงเริ่ มต้ นอยากสือ่ สารถึงชีวติ ประจ�ำวัน อารมณ์สบายๆ ช่วงหลังมานี ้เรา วาดเพื่อเน้ นสื่อถึงชีวิตออร์ แกนิกเป็ นหลัก สีน�ำ้ จากธรรมชาติ เราใช้ สีน�ำ้ ที่บดจากดอกไม้ ใบไม้ เป็ นพวกพืชทังหมด ้ ตอนนี ้ทดลองมา 2 ปี แล้ ว แต่คดิ ว่ายังต้ องทดลองต่อไปอีก ตอนนี ้สีที่ใช้ ได้ คล้ ายๆ สีน� ้ำจากกล่องเลย ขาดไปบ้ างบาง สี จุดเริ่มต้ นคือดอกอัญชัน เรากิ น ชาที่ บ้ า นแบบชาสด เอา อัญชันมาละลายกับน� ้ำร้ อน แล้ วเราก็เห็นสี จากอัญชันมันติดมา ก็เลยคิดว่ามันคงไม่ตา่ ง จากสีน� ้ำ มันละลายน� ้ำเหมือนกัน เพราะสีน� ้ำ คือสีที่ละลายในน� ้ำ พอชาอัญชันถูกทิ ้งไว้ ใน จานแล้ วมันเข้ มขึ ้น ก็เลยกลายเป็ นจุดเริ่ มต้ น ตอนหลังเลยเริ่ มทดลองสีอื่นบ้ าง แล้ วมีคน เชียร์ ให้ เราทดลองให้ ได้ ครบทุกสีด้วย
เรามี ความตัง้ ใจส่วนหนึ่ง เรารู้ ว่า ชีวิตมีทงั้ ดีและแย่ แต่เราไม่รู้จะแสดงออกทาง ด้านแย่ท�ำไม คิดว่าไม่ใช่หน้ าที่เราเนื่องจาก ตัวตนเราไม่ใช่อย่างนัน้ และเราคิดว่าไม่วา่ จะ ดีจะร้ ายยังไงถ้ าเรามองในแง่ดี มันอาจจะพบ ค�ำตอบที่ท�ำให้ ชีวิตดีขึ ้น แต่ถ้าเรารับมือกับ ปั ญหาด้ วยการมองโลกในแง่ร้าย เราก็ไม่ร้ ูเลย ว่าชีวิตมันจะเป็ นอย่างไรต่อ จุดเปลี่ยนให้ หนั มาใช้ ชีวติ ออร์ แกนิก ประมาณ 6 ปี ที่แล้ ว มะเร็ งคือจุด เปลี่ยนให้ ชีวิตดีขึ ้น ท�ำให้ สงบจิตสงบใจมาก ขึ ้น หันมาใช้ ชีวติ ออร์ แกนิก ตอนนันเรากิ ้ นแต่ ผลไม้ อยูเ่ ก้ าเดือน ไม่กินอย่างอื่นเลย แล้ วเรา ก็คิดได้ ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ ้นถ้ าสุขภาพเรา ดีเราจะท�ำได้ ทกุ อย่าง เทรนด์ สโลว์ ไลฟ์กับการวาดรู ป จริ งๆ เราไม่คอ่ ยมีเวลาสโลว์เลยนะ (หัวเราะ) วิง่ ไปวิง่ มาตลอด ถ้ าเป็ นการวาดรูป เล่นน่ะใช่ แต่ถ้าเป็ นการวาดรูปจากโจทย์มนั ก็ไม่เชิง คือเราว่านักวาดการ์ ตนู แทบทุกคน
พักผ่อนด้ วยการวาดรูปเล่นนะ
ขาดแคลนสิ่ งดีๆ
อะไรท�ำให้ คนติดตามผลงาน
ถ้ าให้ พดู ถึงนักวาดที่ช่ ือ ‘สะอาด’
เราว่างานเรามันใสๆ ง่ายๆ ท�ำให้ คน เห็นแล้ วสบายใจ เข้ าถึงได้ ทกุ เพศ ทุกวัย คน เลยติดตาม
มีไอเดีย มีความคิด เสียดสี แล้ วก็ ข�ำๆ ด้ วย
นักวาดภาพประกอบ
ศิลปิ นที่ดี
เราต้ องสวมหมวกอีกใบ คือเราต้ อง อธิบายงานของเขาให้ ได้ เราต้ องสื่อรู ปออก มาให้ แทนเนื ้อเรื่ องของเขาทังเรื ้ ่ องเลย
ซื่อสัตย์กบั ผลงานตัวเอง เราอยาก จะถ่ายทอดอะไรก็ถา่ ยทอด และเราต้ องนึกถึง คนอ่านด้ วย คือท�ำมันให้ ดีที่สดุ ไม่ท�ำสัว่ ๆ ไม่ หยุดนิ่ง
เอกลักษณ์ ของการ์ ตนู ไทย
ไม่ ต้องแข่ งกับใคร
ถ้ าถามก่อนหน้ านี ้สักหนึง่ ปี เราก็จะ ตอบว่ามันดีนะ มันเติบโตไปในทิศทางที่แตก ต่างจากญี่ปนหรื ุ่ อเกาหลี แต่ถ้าให้ ตอบตอน นี ้เราตอบไม่ถกู แต่เรารู้สกึ ได้ วา่ นักวาดเยอะ ขึ ้น งานหลากหลายขึ ้น มีเอกลักษณ์กนั มาก ขึ ้น เล่าเรื่ องเองวาดรูปเอง มีเรื่ องราวเป็ นของ ตัวเอง หรืองานของบางคนก็กลับกันคือคล้ าย กับงานจากต่างประเทศ เราเลยจับทิศทางได้ ไม่ชดั และบางทีปีหน้ าค�ำตอบก็อาจเปลี่ยน ไปอีก
มีแนวทางของตัวเองให้ ชดั เจน แล้ ว ก็พัฒนางานตัวเองไปตามแนวทางนัน้ ท�ำ หน้ าที่ของเราให้ ดี ในส่วนแนวทางของเราคือ อยากให้ คนดู แ ล้ วสบายใจ อี ก อย่ า งคื อ พยายามเป็ นปากเสียงให้ ออร์ แกนิก เกษตร อินทรีย์อยูด่ ้ วย เห็นมัยงานของเรามี ้ สาระมาก เลยนะ (หัวเราะ)
การ์ ตนู กับการพัฒนาความคิดของคน มีนกั วาดการ์ ตนู บางคนท�ำหน้ าที่นี ้ อยู่ มันก็เหมือนกับนักเขียนนะ ที่งานของบาง คนอ่านแล้ วบันเทิงใจแล้ วจบ แค่นัน้ ก็โอเค แล้ ว แต่บางคนที่ท�ำให้ คนอื่นคิดต่อได้ ก็ยิ่งดี ใหญ่เลย ซึง่ คุณสมบัตนิ ี ้ไม่ได้ เกิดขึ ้นกับทุกคน แต่ เ ราเชื ่ อ ว่ า วงการการ์ ตู น ไทยคงไม่
มันเป็ นศิลปะที่ใช้ มนุษย์ได้ ค้ มุ ค่าที่สดุ ในแง่การ ถ่ายทอด เราเป็ นอมตะในความรู้สกึ ของคนดู เพราะเขาจ�ำ เราเป็ นภาพ - ไพฑูรย์ ไหลสกุล อยากท�ำแล้ วท�ำ เป็ นเรื่ องปกติ ท�ำแล้ วเจ๊ งก็เป็ น เรื่ องปกติ ท�ำแล้ วอยูไ่ ด้ ถงึ จะเป็ นเรื่ องไม่ปกติ นี่แหละเจ๋ง! - ศุ บุญเลี้ยง ซื่อสัตย์กบั ผลงานตัวเอง เราอยากจะถ่ายทอด อะไรก็ถา่ ยทอด และเราต้ องนึกถึงคนอ่านด้ วย คือท�ำมันให้ ดีที่สดุ ไม่ท�ำสัว่ ๆ ไม่หยุดนิ่ง - ต้ องการ
- กอง o-n [ Columnist : Scope on ]