one year o-n | ใต้ดิน - บนฟ้า

Page 1

one year o-n

ใต้ดิน | บนฟ้า [ พื้นที่เล็กๆ : พื้นที่ส�ำหรับทางบ้าน ] วาด / เขียน / ถ่ายภาพ : เพื่อนๆ ทางบ้าน

{ September 2014 - August 2015 }


one year o-n

[ one year o-n ] คือ โปรเจกต์เล็กๆ ที่รวบรวมเนื้อหาแต่ละคอลัมน์ของนิตยสาร o-n ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาให้มาอยู่ ในที่แห่งเดียวกัน


ใต้ดิน | บนฟ้า คือ คอลัมน์เปิดรับผลงานจากเพื่อนๆ ทางบ้าน เป็นพื้นที่เล็กๆ ให้เพื่อนๆ ได้ปล่อยของกัน


เวลา ณ ขณะหนึ่ง. ภาพและเรื่อง : P004 moment

ฟิ ล์ มราลึก กรุ งเทพฯ 2014.

Magic hour

เราเชื่อว่าหลายคนคงจะมีชว่ งมีเวลาแห่งการต้ องมนต์ของตัวเอง เราเองก็เป็ นหนึง่ ใน นัน้ ในเวลาเร่งรี บ ต่างคนต่างรี บเร่งเดินทางไปยังจุดหมายของตนเอง แต่เสี ้ยวเวลาหนึง่ ที่เรามี โอกาสหันไปมองที่มาของแสงแดดที่สอ่ งมาถึงตัวเราเอง เย้ ! วันนี ้เราเจอ Magic Hour! มันเป็ นชัว่ โมงต้ องมนต์ที่ทาให้ หวั ใจเราเต้ นแรงขึ ้นมา หนึง่ จังหวะกันเลยล่ะ มันคงฟั งดูเว่อไปนะ แต่นนั่ ล่ะ มันท�ำให้ เรารี บเปิ ดกระเป๋ าแล้ วหยิบกล้ อง ฟิ ล์มตัวโปรดขึ ้นมาบันทึกภาพเก็บไว้ แทบไม่ทนั เพราะภาพที่เรามองเห็นในตอนนันมั ้ นเป็ นแสง


ของพระอาทิตย์สสี ้ มอมเหลือง ส่องสะท้ อนออกมาตัดกับภาพคนเดินย้ อนแสงไปมา มันเป็ นภาพ Silhouette ที่เราชอบมากทีเดียว จ�ำได้ ว่าเรายืนมองอยู่นานจนคนที่ก�ำลังยืนรอรถไฟฟ้าเค้ า ช�ำเลืองมองมาเลยล่ะ

แล้วเสียงลัน่ ชัตเตอร์ ดงั แกร็ ก!

นัน่ ก็เท่ากับว่าอย่างน้ อยเราก็มีภาพเก็บไว้ แทนความรู้สกึ ในวันนันแล้ ้ ว แต่ถ้าถามว่า ภาพจากกล้ องฟิ ล์มตัวน้ อยที่ได้ มนั สวยงามเท่าที่สายตาสัมผัสมัย? ้ เราว่า…มันได้ แค่ประมาณ 60% จากที่เรามองเห็นด้ วยซ� ้ำ แต่เรายังดีใจนะที่อย่างน้ อยเราก็มีภาพเก็บไว้ แทนความทรงจ�ำ ในวันนัน้ ภาพที่ทาให้ ร้ ูวา่ จังหวะหัวใจเราเต้ นแรงขึ ้นมาจริ งๆ สาหรับเรา Magic Hour มันคงคล้ ายกับการตกหลุมรักใครซักคน ถ้ าเราตังใจรออย่ ้ าง มีความหวัง มันยากมากกว่าจะได้ เจอ แต่ถ้าวันใดที่เราไม่รีบเร่ งตามหามัน เรากลับเจอความ สวยงามอย่างไม่ได้ ตงใจ ั้ ไม่ตา่ งกัน บางครัง้ …เราอาจจะเจอใครทีเ่ ดินเข้ ามาโดยทีเ่ รายังไม่ทนั ได้ ตงตั ั ้ วและท�ำให้ หัวใจเราเต้ นแรงขึ ้นมาได้ มากกว่าหนึง่ จังหวะเลยก็ได้ ใช่! เพราะเราตกหลุมรักเค้ าคนนันเข้ ้ าอย่าง จังแล้ วล่ะ แต่ถ้า หาก Magic Hour มันจะเกิดขึ ้นแค่เพียงช่วงเวลาสันๆ ้ เราก็ขอให้ มนั แค่เป็ นเพียง แสงของวันเท่านันล่ ้ ะ เพราะถ้ามันหมายถึงการตกหลุมรักใครเข้าแล้ว และต้องมาจากไปเพียง ช่วงเวลาสัน้ ๆ เราก็ยินดีนะ ยินดีทจ่ี ะไม่ พบชั่วโมงต้ องมนต์ นั้นเลยซะดีกว่ า

...

ที่มา : O-N issue 04 | จังหวะชีวิตในห้องสมุด


ทักทาย เขียน : มหาศาล

“เป็ นไงบ้างมึง…” “…” “…?” “ก็เหนื่อยๆ” “ยังไงเราก็ตอ้ งเจอกันอยู่ทกุ วัน” “ก็ร้ ู…” ความทุกข์ … มันเข้ ามาทักทายผมอยู่ทกุ วัน “ทุกครัง้ ทีเ่ จอกู ดูมึงจะคิ ดถึงความสุขขึ้นมาเป็ นพิ เศษเลยนะ” “…” ผมคิดอยูน่ าน… ว่าจะหยุดคุยกับมัน เดินผ่านไปเฉยๆ ยิ ้มให้ หรื อจะเดินหนีมนั ไปอีก… เหมือนทุกครัง้ แต่ยงั ไม่ทนั ได้ ตดั สินใจ… มันก็พดู ต่อ “ทีตอนมึงมี ความสุข ไม่เห็นคิ ดถึงกูบา้ งเลย…” “…” “…” แม้ จะรู้จกั กันมานาน แต่เราก็ไม่เคยเปิ ดอกคุยกันซักที


“มึงทุกข์หรอ ถ้ ากูไม่คดิ ถึง…” ผมตัดสินใจถามมันกลับ “ไม่รู้ดิ…” “แล้ วมึงรู้ได้ ไง ว่ากูไม่คดิ ” “…” “ก็เจอกันอยูท่ กุ วัน” (ผมยิ ้มให้ ) “…” “…” “มึงนีแ่ ม่ง…” (ถอนหายใจ) “เออเดี๋ยวกูต้องไปละ… ต้ องไปใช้ ชีวิต” “เออ ไว้กูมาหาใหม่” “อือๆ แล้ วเจอกัน…” ความทุกข์ มันก็เข้ ามาทักทายผมอยูท่ กุ วัน แต่นี่คงเป็ นครัง้ แรก… ที่เรา ได้ ท�ำความรู้จกั กันอย่างจริ งจังซะที “เห้ ยเดี๋ยว… ถามไรอย่างดิ” “…?” “มึงไม่เบื่อบ้ างหรอ มาหากูทกุ วัน…” “ไม่อะ กูแค่ท�ำตามหน้าที… ่ มึงไม่ตอ้ งคิ ดมากหรอก” “…” “แค่ ทำ� หน้ าทีข่ องมึงให้ ดกี พ ็ อ” ที่มา : O-N issue 04 | จังหวะชีวิตในห้องสมุด


มองเมือง ภาพและเรื่อง : palim

ที่มา : O-N issue 05 | ไปดีมาดี



หมานคร เขียน : รื่นเริงใจ

เย็นวันศุกร์ ที่สดุ แสนจะวิเศษของคนท�ำงาน แต่มนั กลายเป็ นวันที่ดใู จร้ ายที่สดุ ส�ำหรับ คนที่พรุ่งนี ้เช้ ายังมีภาระอีกมากมายที่ต้องจัดการ

“ถ้าเลือกเกิ ดได้ หนูอยากเกิ ดเป็ นอะไร?”

แม่ถามขณะที่ฉันก�ำลังนัง่ ท�ำหน้ าเบื่อโลกอยู่ที่โต๊ ะกินข้ าว ฉันเหลือบไปมองเจ้ าตูบ ที่นอนกระดิกหางสบายใจอยูใ่ ต้ โต๊ ะแล้ วตอบกลับไปว่า “หมาค่ ะ” แน่นอนค�ำถามที่แม่จะถาม กลับมา คือ “ท�ำไมละ?”


ฉันว่าหลายๆ คนคงเคยมีความคิดเหมือนกันว่า เจ้ าตูบพวกนี ้ ชีวิตดูมีความสุขและ แสนจะสบาย วันๆ แค่กินกับนอน เวลาอาหารก็มีคนหามาให้ บางตัวโชคดีหน่อยเจ้ านายพาไป ตัดแต่งขน ซื ้อเสื ้อผ้ าให้ กลายเป็ นหมาไฮโซเลยก็มี อะไรชีวิตจะมีความสุขขนาดนัน้ ชีวิตที่ไม่ ต้ องคิดอะไร ไม่มีภาระหน้ าที่ หรื อความรับผิดชอบ อะไรทังสิ ้ ้น แค่คอยกระดิกหาง เดินตามเจ้ า นาย เท่านี ้ก็มีชีวิตที่สขุ สบายแล้ ว เป็ นชีวิตที่นา่ อิจฉาเสียจริ งๆ แต่ความคิดทังหมดก็ ้ ต้องเปลีย่ นสะใหม่ เมือ่ เช้ าวันรุ่งขึ ้น ในขณะทีฉ่ นั ก�ำลังยืนรอรถเมล์ หมาตัวหนึง่ ที่สภาพเหมือนไม่ได้ อาบน� ้ำมาเป็ นแรมปี ผิวหนังที่เป็ นรอยแผลจากการโดนกัดและ ท�ำร้ ายจากหมาเจ้ าถิ่น ร่างกายที่ผอมโทรม เดินมานอนอยูใ่ กล้ ๆ แล้ วท�ำตาหวานเยิ ้มใส่ลกู ชิ ้น ในมือของฉัน “โอเค ก็ได้เจ้าตูบ ฉันสงสารแกหรอกนะ!” หมาจรจัดตัวนันรั ้ บไปกินอย่างกล้ าๆ กลัวๆ สงสัยเพราะเคยโดนคนใจร้ ายให้ กินอะไรที่ไม่ดี หรื อมีประสบการณ์ที่ไม่ดีก็เลยไม่กล้ ากิน มันเลียๆไปสองสามครัง้ และตัดสินใจกินในที่สดุ ฉันนัง่ มองหน้ ามันอยูน่ านแล้ ว แล้ วคิดในใจว่า คืนนี ้มันจะนอนทีไ่ หนนะ? ถ้ าฝนตกล่ะ? แล้ วถ้ าไปเจอหมาเจ้ าถิ่นอีก? ไหนจะอาหารอีกล่ะ? หมา ข้ างถนนพวกนี ้ใช้ ชีวิตโดยที่ไม่ร้ ูอนาคตของตัวเองเลย ใช้ ชีวิตแบบเสี่ยงโชค เดินไปเรื่ อยๆ โดยที่ ไม่ร้ ูวา่ หนทางข้ างหน้ าจะต้ องเจอกับอันตรายเพียงใด มันท�ำให้ ฉนั เริ่ มมองย้ อนกลับมาที่ตวั เอง ถ้ าการที่เราใช้ ชีวิตทุกวันนี ้โดยไม่มีจดุ หมาย เดินไปเรื่ อยๆ ตามทางของชีวิต ไม่สร้ างโอกาสหรื อ เป้าหมายให้ กบั ตัวเองเราก็คงไม่ตา่ งกับหมานคร หมาที่ถึงแม้ จะอยู่ในเมืองหลวงแต่ก็มีชีวิตที่ แสนจะโดดเดี่ยวและว่างเปล่า อย่างน้ อยๆ เราเกิดเป็ นคน เราสามารถพูด สามารถเรี ยกร้ อง สามารถแสดงความคิดเห็น สามารถฝั นหรื อสร้ างโอกาสต่างๆ ให้ กบั ตัวเองได้ ตงมากมาย ั้ แล้ ว เราจะอิจฉาชีวิตของเจ้ าตูบพวกนี ้ท�ำไมกัน การที่เจอเจ้ าตูบตัวนี ้ท�ำให้ ฉนั คิดได้ อีกอย่างว่า สิง่ มีชีวิตทุกอย่างเลือกเกิดไม่ได้ จริ งๆ แม้ กระทัง่ หมา หมาบางตัวเกิดมาโชคดีมีเจ้ านายที่รักและเอ็นดู บางตัวกลับโชคร้ ายเกิดมาอยู่ ในเมือง แต่มีวาสนาเป็ นได้ แค่หมานคร หรื อหมาข้ างถนน ชีวิตของเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ จริ งๆ แต่เราจะต่างจากเจ้ าหมาพวกนี ้ก็ตรงที่เรามีความคิด มีการศึกษา ดังนัน้ ภาระและความ รับผิดชอบทุกอย่างที่เราบ่นๆ เบื่อๆ นี่แหละ คือสิง่ ที่จะท�ำให้ เราหลุดพ้ นและแตกต่างจากหมา นคร และเจ้ าตูบไฮโซที่เราอิจฉาๆ กัน เราอยากใช้ ชีวิตแบบอู้ฟ้ หรู ู หรานอนสบายๆ อยูเ่ ฉยๆ หรื อเราจะเป็ นหมานครที่ได้ แต่ ใช้ ชีวติ อย่างไร้ จดุ หมาย หรือทีส่ ุดแล้ วเราจะน�ำภาระ ความรั บผิดชอบทีเ่ ราต้ องเผชิญมาส ร้ างเป็ นประสบการณ์ ชีวติ และพัฒนาตัวเองต่ อไป ต้ องขอบคุณเจ้ าตูบตัวนี ้จริงๆ ที่ท�ำให้ ฉนั ได้ ข้อคิดตังมากมายโดยแลกกั ้ บลูกชิ ้นเพียงลูกเดียว ที่มา : O-N issue 05 | ไปดีมาดี


ตัดใจ ภาพ : a tiny z

ที่มา : O-N issue 06 | with love, girl band, you rock!



สิ่งที่ฉัน...เป็น เขียน : ม้าหมุน

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตมีสามีภรรยาคู่หนึ่งได้ ให้ ก�ำเนิดลูกชาย ชื่อว่า ‘ปลายฝน’ ในวัยเด็กปลายฝนชอบที่จะดูการ์ ตนู วาดรูป ระบายสี มากกว่าเด็กที่ตงใจเรี ั ้ ยนหรื อ เด็กที่ตดิ เกมส์

วันนันเองขณะที ้ ่ปลายฝนก�ำลังวาดภาพอยูน่ นั ้ พ่อเดินไปบอกปลายฝนว่า

“มัวแต่ไร้สาระอย่างนีเ้ มื อ่ ไหร่ จะสบายเหมื อนคนอืน่ เขา”

แล้ วก็ได้ ไล่ปลายฝนไปอ่านหนังสือ ปลายฝนไม่ใช่เด็กดื ้อก็ได้ ท�ำตามทีพ่ อ่ สัง่ และขยัน ตังใจเรี ้ ยนจนจบ พ่อของปลายฝนเคยบอกตอนเด็กๆ ว่า ที่พอ่ ต้ องมาท�ำงานแบบนี ้เพราะพ่อ ไม่ได้ เรี ยนมา พ่อไม่มีความรู้ ดังนันปลายฝนต้ ้ องเรี ยนสูงๆ หางานดีๆ ท�ำ ตอนโตจะได้ สบาย ปลายฝนก็จำ� ค�ำทีพ่ อ่ สอนมาตลอด พอเรียนจบปลายฝนก็โชคดีได้ สอบติดบริษทั ทีใ่ หญ่ โตที่สดุ ในละแวกนัน้ ปลายฝนดีใจอย่างบอกไม่ถกู แล้ วก็ได้ ขยันท�ำงานมาโดยตลอด แต่นบั วันงานก็หนักมากขึ ้นเรื่อยๆ จนปลายฝนได้ ล้มป่ วยลง ขาด ลา มาสายอยูบ่ อ่ ยๆ เหตุเพราะท�ำงาน หนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน ในช่วงที่ป่วย ปลายฝนก็ร้ ู สกึ เบื่อๆ ที่ต้องนอนซมอยู่แต่บนเตียงจึงเดินไปเปิ ดลิ ้นชัก และสิง่ ที่ปลายฝนเจอ คือ อุปกรณ์การเขียนระบายสี หรื อแม้ แต่หนังสือการ์ ตนู ในวัยเด็ก ปลาย ฝนเลยหยิบมันมา เพื่อเขียนวาดมันอีกครัง้ รู้สกึ สนุก จนวาดอยูห่ ลายสิบรูป บ่ายวันนันเองที ้ ่ได้ เปลี่ยนชีวิตปลายฝน นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันคนหนึง่ ได้ เห็นภาพ หลายสิบรูปที่กองอยูเ่ กลื่อนกลาดทางเข้ าหน้ าบ้ านของปลายฝน เขาลองหยิบภาพขึ ้นมาดูแล้ ว ถามปลายฝนว่า

“ภาพนี้ผมชอบมันมาก ผมขอซื้อได้ หรื อป่ าว”

ปลายฝนตอบว่า “ทีจ่ ริ งแล้วผมไม่ได้วาดเพือ่ ขายนะ แต่วาดเพราะผมชอบมัน รักมัน รู้สึกดีทีไ่ ด้ท�ำจนไม่อยากทีจ่ ะหยุดท�ำ แต่ถา้ คุณชอบภาพผมจริ งผมก็จะขายให้ครับ”


นักท่องเที่ยวได้ ถามปลายฝนว่าราคาเท่าไหร่ ปลายฝนบอกว่าภาพผมไม่มีราคาแต่ มีความสุขแค่นนเอง ั้ นักท่องเที่ยวยิ่งพูดกับปลายฝนก็ยิ่งถูกใจ และได้ บอกว่าผมขอซื ้อภาพ ทังหมดของคุ ้ ณในราคาสิบล้ านบาท คุณโอเคหรื อป่ าว ปลายฝนยืนนิ่งจนพูดไม่ออก ก่อนจะ ตะโกนว่า “รู้ แล้ ววววว!!”

สิง่ ที่พอ่ ไม่เคยบอกปลายฝนเลย คือ . . .

“การได้ ทำ� งานทีเ่ รารั ก นั่นแหละคือสิ่งทีว่ เิ ศษทีส่ ุด”

ที่มา : O-N issue 06 | with love, girl band, you rock!


กลั่นตัว เขียน : จรณ์หมีขาว

มวลเมฆสีด�ำผืนหนาปกคลุมไปทัว่ ...

ผมก�ำลังนัง่ ทอดสายตามองดูปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติ ผ่านทางระเบียงในห้ อง เล็กๆ ที่แอบซ่อนตัวอยูท่ า่ มกลางความวุน่ วายของเมืองหลวง มุมเดียวกับใครบางคนในบริ เวณ นี ้ที่อาจก�ำลังเงยหน้ ามองดูอยูเ่ ช่นเดียวกัน ความมืดที่คอ่ ยๆ กลืนกินท้ องฟ้าและแสงตะวันกับความเงียบภายใต้ เสียงลมคลัง่ นัน้ ท�ำให้ เมืองทังเมื ้ องดูเหมือนจะตกอยู่ภายใต้ ความหม่นหมอง บ่อยครัง้ ที่สภาพอากาศมีผลต่อ จิตใจของคนเรา อีกทังอารมณ์ ้ และความคิด ราวกับเชื่อมต่อกันด้ วยเทคโนโลยีสอื่ สารไร้ สายของ ผู้ให้ บริการรายใหญ่ มันอาจเป็ นเพราะสภาพอากาศมิตา่ งจากอารมณ์ของธรรมชาติ ทีแ่ สดงออก มาในห้ วงยามที่ไม่สามารถกักเก็บความรู้สกึ ไว้ ภายใน ธรรมชาติยิ ้ม หัวเราะ ร้ องไห้ เกรี ย้ วกราด ไม่ยินดียินร้ าย ผ่านทางท้ องฟ้า สายลม สายน� ้ำ ผืนดิน ทุง่ ดอกไม้ และทุกๆ สิง่ ที่ธรรมชาติสร้ าง ขึ ้น แน่นอนว่ามนุษย์ก็คือหนึง่ ในนัน้ หากทว่าธรรมชาติก็สร้ างมนุษย์ให้ เป็ นสิง่ ที่ก�ำหนดอารมณ์ และความรู้สกึ ของตนเองได้ เช่นเดียวกัน จึงท�ำให้ บางห้ วงเวลา อารมณ์และความรู้สกึ ของคนเรา ถูกกระตุ้นโดยอารมณ์และความรู้สกึ ของธรรมชาติที่สง่ ต่อมา หลายครัง้ ช่วยให้ รอยยิ ้มและเสียง หัวเราะสดใสกว่าที่เป็ น แต่บางครัง้ ก็เพิ่มความหม่นหมองให้ มืดมิดกว่าที่เป็ นเช่นกัน ผมนัง่ มองมวลเมฆบนท้ องฟ้ามืดครึม้ อยูส่ กั พักหนึง่ เสียงฟ้าร้ องคร�่ำครวญคล้ ายเสียง สะอึกสะอื ้นคลื่นใหญ่ก็ชวนให้ คดิ ไปว่า หากเหตุผลที่เมฆสีขาวที่เราคุ้นเคย แปรเปลี่ยนมาเป็ น สีด�ำบดบังแสงตะวันอย่างในเวลานี ้ นัน่ เป็ นเพราะมันผ่านการสะสมไอน� ้ำที่เกิดจากความร้ อน ระอุของโลก และมลพิษต่างๆ ที่ผ้ อู าศัยไม่เคยหยุดผลิตให้ แก่ชนบรรยากาศมาตั ั้ งแต่ ้ เริ่ มสะกด ค�ำว่า ‘พัฒนา’ ลอยขึ ้นมารวมกันบนท้ องฟ้าต่อเนื่องเป็ นเวลานานหลายวัน บางที่นานหลาย สัปดาห์ บางที่นานเป็ นแรมเดือน จนถึงวันที่ท้องฟ้าแบกรับไว้ ไม่ไหว ก้ อนเมฆทุกก้ อนหนักอึ ้ง และเริ่ มเปลี่ยนสี ก่อนรอคอยการควบแน่นและกลัน่ ตัวกลายเป็ นหยดน� ้ำฝนนัน้ เปรี ยบเทียบกับ ความรู้สกึ ของคนเราที่รับผลกระทบมาจากเรื่ องต่างๆ ในชีวติ ไม่วา่ จะสุขหรื อทุกข์ ยินดีหรื อเศร้ า โศก และไม่วา่ จะเป็ นครัง้ คราวหรื อถูกสะสมต่อเนื่องมาเป็ นเวลานาน จนถึงวันที่ความรู้สกึ แบก รับไว้ ไม่ไหว ล้ นออกมาทางสีหน้ าและแววตา ก่อนรอคอยการควบแน่นทางอารมณ์และกลัน่ ตัว


กลายเป็ นหยดน� ้ำตา ก็คงมิตา่ งกันเท่าใดนัก ถึงกระนัน้ สภาพอากาศก็มีจดุ ที่แตกต่างจากความรู้สกึ ของคนเราอยูบ่ ้ าง ตรงที่สภาพ อากาศแสดงออกอย่างเปิ ดเผย ขณะทีค่ นเรามีความเชื่อว่า การร้ องไห้ เป็ นเรื่ องของความอ่อนแอ ซึง่ ควรปกปิ ด

หากไม่จ�ำเป็ น ใครเล่าจะอยากแสดงความอ่อนแอให้ผูอ้ ืน่ ได้รบั รู้

แต่ไม่วา่ จะพยายามซ่อนเร้ นไว้ อย่างไร คนทุกคนย่อมมีคืนวันที่ออ่ นแอ แม้ แต่คนที่มี จิตใจเข้ มแข็งทีส่ ดุ ในโลก ก็ต้องเคยหลัง่ น� ้ำตาให้ กบั ความเศร้ าโศกหรือเจ็บปวดในชีวติ กันมาแล้ ว ทังนั ้ น้ เหตุผลทีก่ ล้ ายืนยันเช่นนี ้ก็เพราะตราบใดทีจ่ ติ ใจของคนเรายังเปี่ ยมไปด้ วยความรู้สกึ และ ร่ างกายยังเต็มไปด้ วยเลือดเนื ้อ นัน่ ก็คือหลักฐานที่บง่ ชี ้ว่า เรายังคงเป็ นสิ่งมีชีวิตที่ยิ ้มเป็ นและ ร้ องไห้ ได้ ซึง่ ต่อให้ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น ทว่าตัวเราเองนัน่ แหละที่ร้ ูและสัมผัสได้ ดีถงึ ความอ่อน ไหวที่สนั่ คลอนอยูภ่ ายใน หยดน� ้ำตาที่ไหลริ นออกมาจากสองตา เมื่อความรู้สกึ ถูกกระทบกระเทือนจากเรื่ องใด เรื่ องหนึง่ ของชีวิต อาจมิใช่หยดน� ้ำตาแห่งความอ่อนแอเสมอไป และถึงอาจจะใช่ ความอ่อนแอ ก็มิได้ เลวร้ ายเท่าไรนัก เพราะการกล้ายอมรับกับตัวเอง ปล่อยให้ความหนักอึ้งภายในจิ ตใจได้ ถูกระบายออกอย่างเปิ ดเผย และกล้าปล่อยให้หยดน�้ำตาได้ท�ำหน้าทีข่ องตัวมันเอง ท้ายทีส่ ดุ ฟ้ า หลังฝนยังคงสดใสกว่าเวลาฟ้ ามื ดครึ้ มเสมอ เมื่อน� ้ำตาหยดสุดท้ ายแห้ งเหือดไป ความเข็มแข็งที่เคยจางหายก็มกั กลับมามองเห็น ได้ อีกครัง้ อย่ากลัวความมืดครึม้ หากมวลเมฆแห่งความรู้สกึ ภายในจิตใจหนักอึ ้งเกินจะรับไหว อย่าฝื นแบกหยดน� ้ำตาเอาไว้ เมื่อความทุกข์ที่สะสมมีมากจนเกินไป เราควรปล่อยให้ มนั เป็ นไป ตามอย่างที่มนั ควรเป็ น ความผิดหวังและความเสียใจมิใช่เรื่ องแปลกอะไรบนโลกใบนี ้ มันเป็ น ไปไม่ได้ หากจะห้ ามไม่ให้ ฝนตก และเป็ นไปไม่ได้ หากจะห้ ามน� ้ำตาไม่ให้ ไหลริ น

ใช่ แล้ ว มวลเมฆสีดำ� ผืนหนาปกคลุมไปทั่ว...ท้ องฟ้าก�ำลังจะร้ องไห้

ที่มา : O-N issue 07 | ในโลกอีกใบที่ ใช้ ใจบันดาลแรง


ความหมายของมืออาชีพ เขียน : Ohmsiri Veerakul

บ่ายวันหนึง่ ผมกับทีมได้ เข้ าประชุมระดมความคิดร่วมกับที่ปรึกษาอาวุโสภายนอก ที่ เข้ ามาช่วยบรี ฟงานและแสดงความคิดเห็นต่อการน�ำเสนองานให้ กบั ซัพพลายเออร์ หลังจาก ประชุมกันเสร็ จ ที่ปรึกษาท่านนี ้ได้ ตงค� ั ้ ำถามกับผมและทีมว่า

“พวกคุณรู้ไหมว่ามื ออาชี พ เขาเรี ยกกันว่าอะไร?”

ผมกับทีม ตอบเป็ นเสียงเดียวกันว่า

“Professional”

“ใช่” ที่ปรึกษาตอบ

จากนันที ้ ่ปรึกษาอาวุโส ถามต่ออีกว่า

“พวกคุณรู้ไหมว่าค�ำพวกนีม้ าจากไหน?”

พวกเราเงียบ

ที่ปรึกษาได้ แยกค�ำว่า “Professional” ออกมาให้ พวกเราคิดตาม

Pro / Profess / Professor / Professional

“ค�ำพวกนี ้มีรากฐานมาจากภาษากรี ก แปลว่า การตกลง การสัญญา” ที่ปรึกษาตอบ

ดังนันค� ้ ำว่า ‘มืออาชีพ’ คือบุคคลที่สามารถท�ำงานจนเสร็ จตามสัญญาไม่วา่ ระหว่าง ทางจะเจออะไรก็ตาม มืออาชีพต้ องท�ำให้ เสร็จ

จากนันที ้ ่ปรึกษาถามพวกเราต่อว่า

“พวกคุณรู้ไหมว่า มื อสมัครเล่นเรี ยกว่าอะไร?”


“Beginner” พวกเราตอบ

“Amateur” ที่ปรึกษาตอบและยังถามต่อว่า

“พวกคุณรู้ไหมว่ามันแปลว่าอะไร?”

พวกเราเงียบ

“แปลว่า ‘ความสุข’ ” ที่ปรึกษาตอบ

ผมเริ่ มตาสว่าง หลังจากได้ ยินค�ำนี ้

ที่ปรึกษาได้ สรุปให้ ฟังถึงการท�ำงานในสถานะที่แตกต่างของสองค�ำนี ้ว่า

“มือสมัครเล่น มักท�ำงานเสร็ จตามความสุข ซึ่งแตกต่างจากมืออาชีพ ทีไ่ ม่วา่ จะมีความ สุขหรื อมี ความทุกข์ มื ออาชี พต้องท�ำงานให้เสร็ จตามสัญญากับผูอ้ ืน่ หรื อต่อตนเอง” ที่ปรึกษาอาวุโสยิ ้มให้ พวกเราพร้ อมกับกล่าวค�ำขอบคุณที่น�ำเสนองานที่เขามอบให้ ใน สัปดาห์ก่อน แถมกล่าวทิ ้งท้ ายไว้ วา่ “ค�ำทุกค�ำมี ความหมายของมั นที่แข็งแรงมากๆ จงอย่ าใช้ ค�ำเหล่ านั้ นโดย ปราศจากความหมาย ถ้ าเราไม่ สามารถท�ำได้ ตามความหมายของมัน”

ที่มา : O-N issue 08 | without words


บ้านใหม่

ภาพและเรื่อง : ซองจดหมายสีฟ้าอ่อน

สมัยเด็กๆ ย่ามักพาฉันไปเดินเล่นที่ ‘บ้ านแดง’ ที่นนั่ เป็ นสนามเด็กเล่นของเด็กหลาย ฅนในซอยนัน้ รวมถึงฉันด้ วย บ้ านแดงเป็ นลานคอนกรี ตกว้ าง มีบ้านไม้ กงึ่ ปูนอยูก่ ลางสนามคอนกรี ต ข้ างๆ บ้ าน ไม้ นนมี ั ้ ต้นแก้ วต้ นสูงใหญ่ผลิดอกอยูข่ ้ างๆ เหตุที่พวกเราเรี ยกกันว่าบ้ านแดงเพราะประตูรัว้ กัน้ ลานเป็ นสีแดง ส�ำหรับพวกผู้ใหญ่บ้านแดงก็เป็ นเพียงลานใหญ่ๆ ที่กนที ั ้ ่ทางไว้ ให้ เป็ นที่จอดรถของ คนในซอย แต่ส�ำหรับเด็ก..บ้ านแดงเป็ นที่รวมตัวเพื่อเล่นสนุกกัน ไกลจากบ้ านไม้ ไปไม่กี่ก้าวก็ มีศาลาเล็กๆ พร้ อมโต๊ ะม้ าหิน ย่ามักไปนัง่ พักตรงนันและพู ้ ดคุยกับคนที่มานัง่ พักอยูก่ ่อนหน้ า


วันหนึง่ ย่าพาฉันมาเดินเล่นในบ้ านแดงเหมือนเคย ย่าชี ้ให้ ฉนั ดู ‘บ้ าน’ ที่อยูห่ า่ งไปไกล ลิบ มันเป็ นบ้ านปูนทรงสี่เหลี่ยม หลังคาก็ไม่ใช่หลังคาหน้ าจัว่ เหมือนรูปบ้ านที่ฉนั ชอบวาดใน วิชาศิลปะ มันดูแปลกใหม่ในสายตาเด็กอย่างฉัน ย่าอธิบายให้ ฟังว่าเขาก�ำลังสร้ างบ้ านกัน อยู่ ฉันถามย่า “บ้ านของใคร?” ย่าตอบ “บ้ านของปูไง” ฉันดีใจกระโดดโลดเต้ นอยูย่ กใหญ่ เพ้ อเจ้ อไปเรื่ อยว่า จะท�ำห้ องสักหลายสิบห้ อง แบ่ง ห้ องให้ ญาติพี่น้องคนไหนบ้ าง คนละกี่ห้อง ย่ายิ ้มแล้ วถามมาว่า “แล้ วจะให้ ยา่ ไปอยูบ่ ้ านปูไหม?” “ไป แบ่งให้ ห้องหนึง่ ” ย่าหัวเราะ ... ฉันไปบ้ านแดงทุกวัน พอกลับมาก็มอง ’บ้ านใหม่’ จากมุมบ้ าน(ย่า) เวลาพี่ๆ คนไหน มาเล่นด้ วยก็เอาแต่โม้ วา่ “นัน่ ไงๆ บ้านทีอ่ ยู่ไกลลิ บๆ เป็ นบ้านใหม่ปนู ะ” ฉันรอ... เพราะเผลอคิดว่าค�ำพูดของย่าเป็ นค�ำสัญญา ฉันรอจนกระทัง่ ฉันโตพอจะ เข้ าใจ(ด้ วยตนเอง) ค�ำว่า ‘บ้ านใหม่ ’ ไม่เคยออกมาจากปากฉันอีกเลย ฉันเลิกไปเดินเล่นที่ บ้ านแดง แล้ วหันมาเล่นตุ๊กตากระดาษแทน . . . แปลกดีนะ ฉันไม่โกรธ ไม่แค้ นย่าเลย ไม่ร้ ูสกึ แม้ แต่นิดว่าย่าผิดสัญญา อันที่จริ งฉัน ไม่ได้ ตื่นเต้ นหรอกที่จะมีบ้านใหม่ ฉันตื่นเต้ นที่ได้ ฝันมากกว่า ปลายทางของฝั นคือสมหวัง หรือผิดหวัง คือความจริงหรือความลวง พอโตมาเราฝากทุกอย่ างไว้ ทปี่ ลายทางจนเผลอ หลงลืมความสวยงามระหว่ างทาง ทุกวันนี ้ฉันไม่ได้ ไปบ้ านย่าทุกวันแบบเมื่อก่อน บ้ านหลังนันก็ ้ ยงั เป็ นลานจอดรถของ คนในซอยอยูเ่ หมือนเดิม คงมีเด็กๆ รุ่นใหม่มาเป็ นเจ้ าถิ่นที่ฉนั เคยเล่น บ้ านที่อยูไ่ กลลิบสร้ าง เสร็ จ(นาน)แล้ ว ตอนนี ้รัว้ บ้ านแดงไม่ได้ ทาสีแดงเหมือนก่อน แต่ส�ำหรับฉัน ฉันยังคิดถึงและ เรี ยกที่นนั่ ว่าบ้ านแดงเสมอ ความจริ งแล้วความฝั นสวยงามทีส่ ดุ ก็ตอนทีเ่ ราได้ฝันนัน่ แหละ.

ที่มา : O-N issue 09 | listen to your freedom


จุดหมาย วาด : Petch Sukplum

ที่มา : O-N issue 10 | ไม่ตลก



“ ค�ำทุกค�ำมีความหมายของมันทีแ่ ข็งแรง มากๆ จงอย่าใช้ค�ำเหล่านัน้ โดยปราศจากความ หมาย ถ้าเราไม่สามารถท� ำได้ตามความหมาย ของมัน ” {จากบทความ : ความหมายของมืออาชีพ} ,,, - เพื่อนๆ ทางบ้าน [ Columnist : ใต้ดิน | บนฟ้า ]


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.