" To be brave is to love unco-nditionally without expecting anything in return. " - Madonna -
' ความกล้าหาญ คือ การรักอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยไม่คาดหวังสิ่งใดตอบแทน '
มาดอนน่า
( USA / เกิด 16.08.1958 )
นักร้อง, นักแสดง, โปรดิวเซอร์
บรรณาธิการ
พิชญา เพ็งจันทร์
กองบรรณาธิการ
แก้วเกล้า แก้วบรรจง ธนวรรณ แสงวิสุทธิ์ สุภชาวัลย์ ชนะศักดิ์
บรรณาธิการศิลปกรรม
ปาริฉัตร แทนบุญ
ช่างภาพ
ชยุตม์ พระสงฆ์
พิสูจน์อักษร
ภูษิต ชนพิมาย สินิทธ์ ปนุตติกร
ออกแบบปกหน้า / หลัง
กมนนัทธ์ คำ�ดา
FONTs : supermarket / Quark / TH Baijam EDPenSook / Arabica / WDB Bangna Little Lord Fontleroy NF / Junegull
นักเขียน / นักวาด
กิตติพงษ์ หาญเจริญ ไชยยันต์ ชูสกุลธนะชัย ภัทรานิษฐ์ พัฒน์ธนพร ภัณฑิรา ทรงกิจทรัพย์ สุธรรม จีระศิลป์ สุภชาวัลย์ ชนะศักดิ์ ศานนท์ หวังสร้างบุญ ณัชฎา คงศรี สรพงศ์ อ่องแสงคุณ นิรัติศัย บุญจันทร์ กมนนัทธ์ คำ�ดา ปาริฉัตร แทนบุญ
แก้วเกล้า แก้วบรรจง สินิทธ์ ปนุตติกร สหธร เพชรวิโรจน์ชัย ธีรภัทร์ เจนใจ สุพิชญ์ รักสกุล ชนิกา สุธัมมสภา เจนวริน นฤขัตพิชัย นภกาญจน์ เชาวลิต กษมา ยาโกะ นิภาพร กอบกุลกังสดาล ธนวรรณ แสงวิสุทธิ์ ณัฐกาญจน์ สัตยากวี
นักเขียนจากทางบ้าน
a tiny z. / ม้าหมุน
contact us
facebook.com/ownerationmag ownerationmag@gmail.com
READ O-N
www.ebooks.in.th/ownerationmag issuu.com/ownerationmag
มีใจรัก
“And will you know, that I wrote this stupid song for you And do you know, that I miss you so” ข้อความข้างต้นเป็นเนื้อเพลงที่คัดลอกมาจากเพลงที่มีชื่อว่า How Long เพลง ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของผู้หญิงสามคน จนกลายมาเป็นบทเพลงแรกที่ก่อให้เกิดวง ดนตรีที่มีชื่อว่า ‘Jelly Rocket’ Jelly Rocket เป็นวงดนตรีที่เริ่มต้นง่ายๆ เพียงเพราะใจรัก และด้วยมิตรภาพที่ พวกเธอทั้งสามคนมี ให้กัน สะสมมาหลายปี การรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อท�ำวงดนตรีนั้นจึง เป็นสิ่งที่พิเศษยิ่งนัก การได้พบและพูดคุย ถึงที่ ไปที่มาของวง Jelly Rocket กับโม ภัค และปั้น ท�ำให้ ฉันสัมผัสได้ว่า พวกเธอทั้งสามคนพร้อมมอบความรักและความทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรียกว่า ‘ดนตรี’ จริงๆ แต่กว่าจะก้าวไปถึงความฝันที่ตั้งใจเอาไว้ มันต้องก้าวอีกหลายก้าว และคงต้องยอมเหนื่อยขึ้นอีกหน่อย แต่ดว้ ยความรักในสิ่งที่ท�ำ ฉันเชื่อว่า ไม่ว่าเราจะท�ำอะไร เราก็สามารถไปถึงสิ่งที่เราใฝ่ฝันได้ ขอแค่มี ‘ใจรัก’ เพียงเท่านั้น พิชญา เพ็งจันทร์ บรรณาธิการ waylaway1990@gmail.com
เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย บทความ : sorsala
เค้าคนนั้น ใครเคยเป็นเหมือนกันบ้างครับ ในเวลาที่เราเครียดและท้อแท้ บางครั้งเราแค่ต้องการใครสักคน มาอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อน คอยฟังเราบ่น คอยฟังเราระบายความอัดอั้นในใจ มันช่างน่าแปลกที่จริงๆ แล้ว... เค้าคนนั้น...อาจไม่ ใช่คนที่ปลอบคนเก่ง เค้าคนนั้น...อาจไม่ ใช่คนพูดเก่งจนท�ำให้เราดีขึ้นได้ทันที ทันใด เค้าคนนั้น...อาจไม่ ใช่คนเสียงหวานไพเราะน่าหลงใหล เค้าคนนั้น...อาจเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ ไม่ ได้แตกต่างจากคนอื่นทั่วไปเลยสักนิด แต่คนที่รู้สึกแตกต่างไปนั้น อาจเป็น ‘ตัวเราเอง’ ต่างหาก ที่รู้สึกว่าเค้าคนนั้น ‘พิเศษ’ กว่าคนอื่น ความพิเศษนี้เองครับ ท�ำให้เวลาเราอยู่ด้วยแล้ว เรารู้สึก ‘สบายใจ’ เราสามารถปลดปล่อยความเครียดและความอัดอั้นทุกอย่าง จนเรากลับไปมีสติ เป็นคนสนุกเฮฮาเหมือนเดิมได้ ถึงเดือนแห่งความรักแล้วครับ ‘เค้าคนนั้น’ คงก�ำลังรอให้คุณท�ำอะไรดีๆ ให้เค้าอยู่แน่ๆ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้างครับ คงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้ท�ำอะไรกลับไปให้เค้าบ้าง ส�ำหรับคนที่ โสด ไม่ต้องน้อยใจไปครับ ไม่ต้องมองไปไหนไกลเลย เพราะ ‘เค้าคนนั้น’ อาจเป็นคนที่ ใกล้ตัวเราที่สุด คุณพ่อ คุณแม่ เราไงหละครับ
6
A Life I See เรื่อง : ภัทรานิษฐ์ พัฒน์ธนพร
เสียงจากดอกไม้ ทุกวันนี้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในสังคมอย่าง มากมาย และเมื่อมองย้อนกลับไป ผู้ที่ริเริ่มอะไรหลายๆ อย่างในโลกนี้และมีผลงานอันน่าทึ่งน่าจดจ�ำก็ ไม่พ้นผู้หญิง อีกนั่นแหละ วิชาการพยาบาลได้รับการยอมรับในสังคมเป็น ครั้งแรกด้วยการลุกขึ้นสู้ของนางพยาบาลหญิงที่เรียกร้องให้ มีการทบทวนมาตรฐานสาธารณสุขกันอย่างจริงๆ จังๆ มีอัศวินหญิงจากบ้านนอกที่ ให้สัตย์สาบานกับ กษัตริย์ว่าจะพาพระองค์ไปสวมมงกุฎในเมืองที่ถูกข้าศึกยึด ครองให้ ได้ แล้วเธอก็ท�ำได้จริงเสียด้วย ผู้หญิงอีกหลายคนออกมาเรียกร้องสิทธิอันเท่า เทียมกันระหว่างหญิงชาย โดยมีแนวหน้าเป็นหญิงวัยกลาง คนในอังกฤษต้นศตวรรษที่ 20 ขอบคุณการเรียกร้องของ พวกเธอที่ท�ำให้สิทธิการเลือกตั้งเผื่อแผ่มาถึงผู้หญิงคนอื่นๆ ในโลกหลังจากนั้น ส่วนในสังคมที่สิทธิสตรียังไม่ ได้รับความ ส�ำคัญมากนัก พวกเธอคือแรงบันดาลใจให้สตรี ในทุกหนทุก แห่งของโลกมีความหวัง อาจเพราะเอกลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงนี้เอง ที่ท�ำให้พวกเธอมีวิสัยทัศน์ที่ต่างมุมมองไปจากผู้ชายโดย สิ้นเชิง ไม่มี ใครปฏิเสธได้ว่าความละเอียดอ่อนอันเป็น ธรรมชาติในเพศหญิงนั้นได้ ให้อะไรหลายๆ อย่างกับโลกมา ตลอดตั้งแต่มีมนุษย์ถือก�ำเนิดขึ้น ผู้หญิงเป็นสัญลักษณ์ของ ครอบครัวที่อบอุ่น สังคมที่เสรี และทุกวันนี้ก็คือตัวแทนของ พลังอีกประเภทหนึ่งที่แม้ ไม่แข็งแกร่งเท่าผู้ชาย แต่ก็มีสิ่งดีๆ อยู่ ในตัวไม่แพ้กัน ลองมองไปรอบๆ แล้วสังเกตผู้หญิงใกล้ตัวให้ดี เพราะเธออาจมีสิ่งพิเศษซุกซ่อนเอาไว้ก็เป็นได้!
7
A Thing I Dream เรื่อง : วานิลลา ภาพ : รอหัน
เครื่องกินตามใจฉัน
‘ฟิน’ ขณะ ‘ฝัน’
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดส่ง ตรงถึงมือคุณ เพียงแค่คุณมี ‘เครื่องกินตาม ใจฉัน’ คุณก็สามารถที่จะกินอะไรก็ ได้ที่อยู่ ในโลกนี้ โดยที่ ไม่ต้องกังวลเลยว่าน�้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น วิธีการ : ทุกๆ คืนก่อนนอนให้วางเครื่องนี้ ไว้ ใกล้ๆ อย่าลืมกดเลือกเมนูอาหารกันก่อนที่จะหลับ นะคะ ^^ จากนั้นในระหว่างที่คุณหลับ เมนูที่คุณสั่ง ไว้จะถูกน�ำมาเสิร์ฟ ในความฝัน คนเขียนคอลัมน์ A Thing I Dream ขอรับประกันว่าแม้จะเป็นความฝัน แต่ทุกๆ รสสัมผัสขณะที่ลิ้มลอง คุณจะรู้สึกราวกับ ว่าก�ำลังได้ ใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารเหล่านั้นและรับรู้ถึง รสชาติของมันจริงๆ
8
ทีนี้ล่ะ ไม่ว่าจะ เป็น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ลาซานญ่า honey toast หรือ แม้กระทั่งคาเวียร์ คุณก็สามารถเลือกกินได้ตามสบาย โดยที่ ไม่ต้องเกรงใจรูปร่างของตัวเองเลย เงื่อนไขในการใช้เครื่องนี้มีอยู่ว่าทุกๆ วินาทีที่ คุณก�ำลัง enjoy อาหารรสเลิศอยู่นั้น เครื่องกินตามใจ ฉันจะเอาเวลานอนของคุณไปท�ำให้เวลาที่คุณพักผ่อน จริงๆ มีน้อยลง เช่น หากคุณนอนแปดชั่วโมง แต่คุณใช้ เวลาละเลียดอาหารไปสองชั่วโมง นั่นหมายถึงคุณนอน หลับจริงๆ เพียงแค่หกชั่วโมงเท่านั้น ยังไงก็อย่ากินจนเพลินละกันนะคะ ไม่งั้นตื่น เช้ามาไม่มีแรงลุกจากเตียงนอนไม่รู้ด้วยนะ :P
A Poem I Feel กลอนและภาพ : แก้วเกล้า
9
'ใต้ดิน l บนฟ้า'
( คอลัมน์จากทางบ้าน )
ตั ด ใ จ ภาพ : a tiny z.
10
สิ่งที่ฉัน...เป็น เรื่อง : ม้าหมุน
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตมีสามีภรรยาคู่ หนึ่งได้ ให้ก�ำเนิดลูกชายชื่อว่า ‘ปลายฝน’ ในวัยเด็กปลายฝนชอบที่จะดูการ์ตูน วาดรูป ระบาย สี มากกว่าเด็กที่ตั้งใจเรียนหรือเด็กที่ติดเกม วันนั้นเองขณะที่ปลายฝนก�ำลังวาดภาพอยู่นั้น พ่อ เดินไปบอกปลายฝนว่า ”มัวแต่ ไร้สาระอย่างนี้เมื่อไหร่จะ สบายเหมือนคนอื่นเขา” แล้วก็ ได้ ไล่ปลายฝนไปอ่านหนังสือ ปลายฝนไม่ ใช่เด็กดื้อก็ ได้ท�ำตามที่พ่อสั่งและขยันตั้งใจเรียน จนจบ พ่อของปลายฝนเคยบอกตอนเด็กๆ ว่า ที่พ่อต้องมา ท�ำงานแบบนี้เพราะพ่อไม่ ได้เรียนมา พ่อไม่มีความรู้ ดังนั้น ปลายฝนต้องเรียนสูงๆ หางานดีๆ ท�ำตอนโตจะได้สบาย ปลายฝนก็จ�ำค�ำที่พ่อสอนมาตลอด พอเรียนจบ ปลายฝนก็ โ ชคดี ไ ด้ ส อบติ ด บริ ษั ท ที่ ใหญ่ โ ตที่ สุ ด ในละแวก นั้น ปลายฝนดี ใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ ได้ขยันท�ำงานมาโดย ตลอด แต่นับวันงานก็หนักขึ้นมาเรื่อยๆจนปลายฝนได้ล้มป่วย ลง ขาด ลา มาสายอยู่บ่อยๆ เป็นเพราะได้ท�ำงานหนักจนไม่มี เวลาพักผ่อน ในช่วงที่ป่วยปลายฝนก็รู้สึกเบื่อๆ ที่ต้องนอนซมอยู่ แต่บนเตียงจึงเดินไปเปิดลิ้นชักสิ่งที่ปลายฝนเจอ คือ อุปกรณ์ การเขียนระบายสีหรือแม้แต่หนังสือการ์ตูนในวัยเด็ก ปลาย ฝนเลยหยิบมันมาเขียนวาดมันอีกครั้งจนรู้สึกสนุกแล้ววาดอยู่ หลายสิบรูป
บ่ายวันนั้นเองที่ ได้เปลี่ยนชีวิตปลายฝน นักท่อง เที่ ย วชาวเยอรมั นคนหนึ่ งได้ เ ห็นภาพหลายสิ บ รูป ที่ ก องอยู่ เกลื่อนกลาดหน้าบ้านของปลายฝน เขาลองหยิบภาพขึ้นมา ดูเลยถามปลายฝนว่า “ผมชอบภาพนี้มาก ผมขอซื้อได้หรือ เปล่า?” ปลายฝนตอบว่า “ที่จริงแล้วผมไม่ ได้วาดเพื่อขายนะ แต่วาดเพราะผมชอบมัน รักมัน รู้สึกดีที่ ได้ท�ำจนไม่อยากที่ จะหยุดท�ำ แต่ถ้าคุณชอบภาพผมจริงผมก็จะขายให้ครับ” นัก ท่องเที่ยวได้ถามปลายฝนว่าราคาเท่าไหร่ ปลายฝนบอกว่า ภาพผมไม่มีราคาแต่มีความสุขแค่นั้นเอง นักท่องเที่ยวยิ่ง พูดกับปลายฝนก็ยิ่งรู้สึกถูกใจ และได้บอกว่า “ผมขอซื้อภาพ ทั้งหมดของคุณในราคาสิบล้านบาท คุณโอเคหรือเปล่า?” ปลายฝนยืนนิ่งจนพูดไม่ออกก่อนตะโกนว่า “รู้แล้ววววว!!” สิ่งที่พ่อไม่เคยบอกปลายฝนเลย คือ “การได้ท�ำงานที่เรารัก นั่นแหละคือสิ่งที่วิเศษที่สุด”
' ใต้ดิน l บนฟ้า ' เป็นคอลัมน์เปิดใหม่ เพื่อเปิดพื้นที่ ให้นัก(อยาก)เขียนทั้งหลายได้ประลองฝีมือกัน ฉบับนี้ เราได้คัดเลือกผลงานของเพื่อนๆ มาลงจ�ำนวน 2 คนด้วยกัน นั่นคือ a tiny z. และ V'ผม ม้าหมุน ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนทั้งสองคนด้วยค่ะ แล้วเราจะส่งนิตยสารฉบับจริงที่มีผลงานพวกคุณกลับไปให้นะ :) 11
The Owner สัมภาษณ์ & เรียบเรียง : O-N Team ภาพ : 9chaballoon
With Love Girl Band
You ROCK! หากความสดใสของวงดนตรีผู้หญิงล้วน ท�ำให้หลายคนต่างหันมาสนใจพวกเธอ ฝีมือ ในการท�ำเพลงของพวกเธอคงเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจคนฟังได้ยิ่งกว่า 'Jelly Rocket' ประกอบด้วยปั้น ภัค และโม พวกเธอทั้งแต่ง เรียบร้อง ร้อง และเล่น ดนตรีกันเอง ในโอกาสดีๆ ในเดือนแห่งความรักแบบนี้ เราเลยชวนพวกเธอมานั่งจับเข่าคุย กันในเรื่องของดนตรีที่พวกเธอรัก รวมไปถึงเรื่องราวที่นอกเหนือไปจากเรื่องดนตรี ในช่วง เวลาเย็นของวันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2558 กับบรรยากาศดีๆ ณ สวนรถไฟ :)
13
O-N : ให้น้องๆ Jelly Rocket แนะน�ำตัวหน่อย โม Jelly Rocket : สวัสดีค่ะ ชื่อโม ค่ะ เล่นกีตาร์ เรียนจบจาก มหิดล วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เอกกีตาร์ไฟฟ้า สาขาเทคโนโลยี ดนตรีค่ะ ปั้น Jelly Rocket : ชื่อปั้น ค่ะ ร้องค่ะเรียนอยู่นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ปี 4 ค่ะ ภัค Jelly Rocket : ชื่อภัค ค่ะ เล่นคีย์บอร์ดค่ะ เรียนอยู่ ดุริยางคศิลป์ ปี 3 เอกเปียโน แจ๊ส ค่ะ O-N : ทั้งสามคนรู้จักกันได้ยังไง
โม ชุติกาญจน์ อิสสระเสรี อายุ 22 ปี
ปั้น : ถ้าตั้งแรกเลย ภัคกับปั้นรู้จักตั้งแต่อนุบาล แล้วพอตอน มัธยมปลาย ภัคก็ออกมาอยู่มหิดล แล้วก็ ได้เจอพี่ โม ภัค : รู้จักกับพี่ โมตอน ม.ปลาย ภัคกับพี่ โมชอบฟังเพลงเหมือน กัน เราก็เลยว่าจะท�ำวง โม : พอมาเริ่มเรียนดนตรี เราก็เลยได้คุยกันเรื่องเพลงอะค่ะ มันไม่มีตายตัว แต่อันแรกที่มาคุยกัน ก็พวก The Naked And Famous อะค่ะ แนวนั้น ปั้น : ก็เลยคิดว่าจะตั้งวง แล้วตอนนั้นภัคมาเจอปั้นพอดี เหมือน รียูเนียน เจอเพื่อนเก่า ภัคเห็นปั้นชอบร้องเพลง ก็เลยชวนกันมา ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ที่เริ่มรวมวงกัน โม : ก็ตั้งใจท�ำ แต่ ไม่ ได้จริงจัง เริ่มท�ำ cover เพลง Empire state of Mind (JAY Z) ปั้น : ท�ำออกมาไม่ ได้หวังอะไร เหมือนอยากลองท�ำ แล้วก็เว้นไป ประมาณปีกว่าถึงจะปล่อยเพลง How Long
ปั้น นลพรรณ อัมพุช อายุ 21 ปี
O-N : ใครเป็นคนแต่งเพลง How Long ปั้น+โม : ภัคค่ะ ภัค : ตอนนั้นอยู่สัตหีบ น�้ำท่วมกรุงเทพ ปลายปี 2554 คิดถึง บ้าน เมื่อไหร่จะได้กลับ มันก็ว่างๆ ก็เลยได้มา 1 เพลง ประมาณ ว่าคิดถึงคนที่อยู่กรุงเทพ
O-N : ตอนปล่อยเพลงแรกออกมา ผลตอบรับเป็นอย่างไร ปั้น : ดีเกินคาด ตอนแรกเราคิดว่าพัน views ก็ดีแล้ว ปรากฏว่า ฟีดแบคดีมาก 14
ภัค จุฑาภัคธ ตั้งไพบูลย์เวชกิจ อายุ 22 ปี
O-N : คิดว่าอะไรท�ำให้คนสนใจในเพลงเรา โม : นักร้องอาจจะน่ารัก ปั้น : เอ้ย นานๆ ทีจะชมกัน เขินหวะ (หัวเราะ) ปั้นว่านานๆ ที จะมี วงที่เป็นผู้หญิงล้วน แล้วเป็นเพลงภาษาอังกฤษ โม : เราว่าคนคงตกใจว่า วงอะไร มาจากไหน ท�ำไมมีคนช่วยกันแชร์ แชร์ต่อๆ กันไป O-N : ท�ำไมถึงแต่งเพลงภาษาอังกฤษ ภัค : ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนนั้นที่แต่งก็ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเอามา ท�ำแบบนี้ ตอนนั้นวงยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ�้ำ เป็นเพลงที่แต่งไว้เล่นๆ O-N : งั้นเล่าตั้งแต่ตอนแต่งเพลงมาถึงตอนท�ำวงให้ฟังหน่อย ภัค : คือภัคแต่งเล่นๆ มา อีกประมาณปีนึง ก็เริ่มสนิทกับพี่ โมมากขึ้น ก็เลยเอ้ย! มาท�ำเพลงกัน ตอนนั้นก็เป็นจังหวะที่ชวนปั้นด้วย โม : คือโมอะจะต้องท�ำธีสิส (Thesis) จบปี 4 โมต้องท�ำ production 1 เพลงส่งอาจารย์ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ท�ำ Empire State of Mind เสร็จ แล้วก็ ได้ฟัง DEMO เพลง How Long ของน้องภัค นิดนึง ก็เลย “งั้นเรามาท�ำกันต่อป่าว” โอเค ทุกคนท�ำต่อนะ แต่ก่อน ที่จะไปอัด เราต้องท�ำ DEMO ก่อน เราก็ ให้ภัคอัดไลน์ภัคมา DEMO guide แล้วโมก็คิดกีตาร์ ก็ส่งไปส่งมาทางอินเตอร์เน็ต คือไม่ค่อยได้ เจอกัน แล้วน้องปั้นก็ช่วยฟังค�ำร้อง phasing คอรัส ปั้น : เหมือนพี่ โมกับภัค ช่วยกันคิดกลองด้วย เขียนเอาในโปรแกรม โม : แล้วก็ ไปบ้านภัค เพื่ออัดร้องไกด์ ก่อนเข้าห้องอัดจริง คือเรา ตั้งใจท�ำกันมาก เพราะว่าตั้งใจส่งอาจารย์ โมจะต้อง mix เพลงเอง ส่งอาจารย์เสร็จปุ๊บ ไหนๆ ส่งแล้วก็ปล่อย YouTube เลยละกัน ก็เกิน คาด ปั้น : พี่ โมท�ำมาสเตอร์ออกมา มันดีนะ เราก็เลยไปถ่ายรูปเลย แบบ จริงจังอะ แล้วก็เอามาใช้เป็นรูปประกอบ single แรกของพวกเรา O-N : ตอนเข้าห้องอัดโมคุมทุกอย่างเองไหม โม : เทคนิคในห้องอัด tracking โมจ้างห้องอัดไม่มี โปรดิวเซอร์ค่ะ แต่ โมจะคอยบอก โมไปทุกวันที่มีการอัดทุกอย่าง โมไม่ ได้เป็นคนกด เรคคอร์ดนะ แต่ก็อยู่ด้วยตลอด มี tracking engineer 2 คน โม เหมือนไปดูซาวด์ตอนเรคคอร์ด เพื่อคิดมาท�ำตอน mix เพลงที่บ้าน ท�ำ plug-in หมดเลย
O-N : กว่าเพลง How Long จะเสร็จ ใช้เวลากี่วัน โม : ถ้าตั้งแต่เริ่มอัดเพลง เราอัดกันสบายๆ อาทิตย์ ละเครื่อง เว้นสองอาทิตย์ กว่าจะได้ tracks เพียวๆ ครบทุก tracks ก็ประมาณเดือนนึง แล้ว mix อีก 2-3 เดือนเริ่มเข้าห้องอัดตอนประมาณปลายธันวา 2556 ปล่อยเมษา 2557 O-N : ส่งอาจารย์ ไป ฟีดแบคจากอาจารย์เป็นยัง ไง โม : โอ้ โห.. อาจารย์ก็ ฟังทีเดียวก็…A! (หัวเราะ)
วงดนตรีผู้หญิงส่วนใหญ่ เขาบอกว่ามักจะเล่นสดไม่เก่ง ภัคเลยค่อนข้างเน้น นิดนึงให้มันสุด / ภัค 15
O-N : อาจารย์รู้ ไหมว่าตอนนี้เป็นวงดนตรีแล้ว โม : รู้แล้วค่ะ ตอนส่งงานอาจารย์ก็มี present รูปนิดนึง
O-N : ชื่อเพลง How Long มาได้ยังไง ภัค : ตอนแต่งไม่ ได้คิดอะไรเลย ชื่อมาตอนที่เวลาจะเรียก เพลงนี้ที ไร ก็เรียกว่า How Longๆ แล้วเพลงมันขึ้นต้น ด้วยค�ำว่า How Long ด้วย
มันขึ้นอยู่วิธีคิด ขึ้นอยู่กับจะดึงเอา ส่วนดีของตัวเอง ออกมาได้มากแค่ไหน / โม
O-N : พอผลตอบรับดีแล้วยังไงต่อ ภัค : งานเข้า! ปั้น : Don’t sit down ติดต่อมา ก็เล่นเป็นวงเปิด แล้วก็มี คนติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากที่เห็นพวกเรา O-N : แล้วเพลงที่สอง Stay เกิดขึ้นมาได้ยังไง ภัค : เหมือนมีเพลงแรกแล้ว ก็มีเพลงสองต่อละกัน ก็เลย มโนเนื้อหาขึ้นมา ปั้น : วันนั้นก็ว่างๆ ก็มาช่วยคิดกัน นั่งที่เปียโน แล้วลอง เล่นๆ อัดๆ กัน โม : ส่วนโมรอ DEMO มา แล้วค่อยคิดในส่วนของโม
O-N : คอนเซ็ปต์ของเพลง Stay
ภัค : อันนี้คิด ตั้งใจว่าอยากได้เพลงภาษาอังกฤษ เหมือน ภาษาไทยส่วนตัวยาก ปั้น : จริงๆ ภาษาไทยมันจะท�ำให้ โดนยาก ด้วยค�ำ ด้วย อะไร O-N : พอปล่อยเพลง Stay ปุ๊บ เป็นอย่างไรบ้าง ปั้น : ตอนนั้นมี โอกาสพอดี เหมือนเขาหาวงไปอัดให้ โครงการ Converse Rubber Tracks พี่ๆ Dudesweet ได้หยิบยื่นโอกาสนี้ ให้พวกเรา พวกเราต้องขอบคุณ โครงการนี้มากจริงๆ ค่ะ เราก็ ได้ ไปอัดกับโปรดิวเซอร์ Smallroom เลย
ภัค : มันก็เล่าประมาณว่า เหมือนเวลาจะหมดแล้ว อยาก ให้เขาอยู่กับเราต่อ
O-N : พอปล่อย Stay ออกมาแล้วเทียบกับเพลงแรก How Long
ปั้น : ยังไม่อยากให้เขาไป เหมือนเป็น Summer Love พอซัมเมอร์มันหายไปแล้ว เราก็ต้องแยกทาง แต่ยังอยาก อยู่ต่อ
ปั้น : พูดถึงฟีดแบคเพลงแรกดีกว่านะคะ
ภัค : เหมือนปิดเทอมแล้วไปเที่ยวบ้านใครซักคนแล้วก็ต้อง กลับไปใช้ชีวิตประจ�ำวันอีกแล้ว ปั้น : ใช่ กลับไปสู่ โลกความจริงอะไรแบบนี้ 16
O-N : แล้วคิดไหมว่าต้องเป็นเพลงภาษาอังกฤษ เหมือนเดิม
ภัค : ภัคว่าตอนนั้นมันยุ่งมาก จนไม่ ได้ซึมซับความรู้สึกนั้น อย่างตอน How Long มันเห้ยยย! มีคนรู้จักเรา ปั้น : พอไปแสดงแล้วคนร้องตามได้ Stay นี่เกินคาดเลย อะ มันตื้นตัน ประทับใจมาก ไปที่ PLAY YARD แล้วเล่น Stay ทุกคนร้องตามได้หมดเลย
O-N : เพลง ลืม เป็นเพลงภาษาไทย ใครเป็นคนแต่ง
O-N : แต่ละคนฟังเพลงแนวไหนกันบ้าง
ปั้น : ภัคค่ะ
ภัค : Jazz, Dream Pop, Rock หลังๆ ชอบฟัง Folk เช่น The Paper Kites ไม่ค่อยได้ฟังเพลงไทย เพลงไทย ฟังเก่าๆ ไปเลย แบบ Friday พี่ โป้ YOKEE PLAYBOY แล้วก็ชอบ Sqweez Animal ด้วย ชอบมากๆ
ภัค : “เที่ยงคืนอีกแล้ว..” อันนี้แต่งตอนกลางคืนค่ะ อันนี้ ก็มีอารมณ์แต่งก็แต่งเป็นเรื่องราวความรักร้าวฉานในอดีต ของตัวเอง คือมันอาจจะไม่ ได้เป๊ะๆ ขนาดนั้น แต่มันก็เป็น ความรู้สึกประมาณนั้นอะค่ะ O-N : ท�ำไมคราวนี้ถึงเป็นเพลงภาษาไทย ภัค : อันนี้ ไม่ ได้คิดอะไร หมายถึงก็แต่งตามความรู้สึก เราอยู่กับกีตาร์ก็ “เที่ยงคืนอีกแล้วนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว นอนไม่หลับอีกแล้ว” ค่อนข้างตรง
ปั้น : ปั้นชอบ Hip-Hop, R&B, Electronic, EDM อะ ชอบDrake, Chris Brown, Ne-Yo, J.Cole, Tyga ปั้น ชอบอะไรที่ดนตรีหนักๆ เบสหนักๆ เลยอะ มีจังหวะ มีตื๊ด ด้วย แต่ ไม่ ได้ถึงขนาด Metal นะ โม : จริงๆ เราก็ชอบ Hip-Hop นะ ตอนสมัยเด็กๆ ตอนนี้ โมฟังซาวน์แบบ R&B เอามาท�ำ Electronic อะค่ะ พวก FKA Twigs, Sky Ferreira แล้วอย่าง Coldplay หรือ The Killers ก็ฟังนะ
O-N : พอเกิดเป็นเพลงขึ้นมา ส่งให้คนในวงฟังครั้ง แรกทางไหน เป็นยังไง ปั้น : เวลาที่ห่างไกล ก็ต้องส่งกันไปมา ผ่าน facebook ฟังครั้งแรก ปั้นชอบ เหมือนมันมีเมโลดี้ที่ติดหูตรงท่อนฮุ คอะค่ะ จ�ำง่าย พอพี่ โมมาใส่กีตาร์ก็ยิ่งชอบกันไปใหญ่เลย แต่ละคนก็คนละสไตล์ 17
O-N : คือแต่งมาจากเรื่องของโม โมฟังแล้วเป็นไงบ้าง โม : ดีค่ะ จักจี้ ชอบ คือน้องภัคเป็นคนแต่งเพลงมีคาแรคเตอร์ ของเขา ด้วยภาษา ด้วยเมโลดี้ ดูเป็นทิศทางเดียวกันแล้วก็มา ผสมผสานซาวด์ปั้น ซาวด์ โมด้วย มันก็ชอบมากขึ้น
O-N : ดี ไซน์ยังไง ภัค : ภัคว่าทุกคนจะมี ไลน์ดนตรีที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองอะค่ะ อย่างภัคป๊อบๆ พี่ โมก็จะลอยๆ ของปั้นจะรู้สึกได้ถึง R&B O-N :แล้วเพลงลืม โมยังคง mix เองทุกอย่าง O-N : วันนี้ปล่อยเพลง ลืม ครั้งแรก ใช่ ไหม
ปั้น : ทุกเพลง ยกเว้นเพลง Stay ค่ะ
ปั้น : ใช่ค่ะ ที่ Cat Radio บ้านหลังที่สองของเรา ภัค : ช่วงรายการแมวนอกอะค่ะ 3 ทุ่ม – เที่ยงคืน โม : มีสัมภาษณ์นิดนึง ไปช่วงพี่ซอนนี่ ปั้น : ทุกครั้งจะไปช่วงพี่ซอนนี่ รอบที่สามแล้ว มี โอกาสได้จัด รายการเองด้วยนะ คือสนุกมากเลยนะ ภัค : วันนั้นภัคไม่มีเสียง ปั้น : ฮาโคตร! แล้วทุกคนก็กลัว แล้วรายการมันดึกๆ ไง เสียง มันก็น่ากลัว (หัวเราะ) จริงๆ เราก็ ได้ โอกาสจาก Cat Radio มา เยอะค่ะ มี ไป Cat Expo, Cat T-Shirt เขาจะสนับสนุนวงอินดี้ ตลอดเวลา ให้เราไปจัดรายการ พี่เขาช่วยโปรโมทตลอดขอบคุณ พี่ๆ Cat Radio ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ O-N : สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็น เพลงทุกเพลงที่ปล่อยออกมาเป็น เพลงอกหักหมดเลย ปั้น : คือจริงๆ แล้วอะเพลงอกหักมันจะเข้าถึงคนไทยง่ายเราก็ซึบ ซับมา O-N : ตอนนี้มีเพลงของตัวเองทั้งหมดกี่เพลง โม : 4 เพลง แต่ยังไม่ ได้ปล่อยอีกเพลง คือ อิ่มใจ แต่เคยมีเล่น สด อันนั้นไม่อกหักแล้ว ภัคแต่ง ปั้น : ใช่ เหมือนตอนนั้น พี่ โมเล่นโทรศัพท์คุยกับคนนั้นอะไรอย่าง นี้ เหมือนตัดขาดจากโลก ภัคก็เลยเอาไปแต่ง ภัค : “ตัดขาดจากโลกทั้งใบ มองไปก็ ไม่เห็นใคร” (ร้องเพลงที่ตัว เองแต่ง) 18
เราสัญญากันว่า จริงใจต่อกัน มีอะไรก็พูดออกมาเลย จะได้ไม่ต้องเก็บไว้ / ปั้น O-N : ให้แต่ละคนพูดถึงคนอื่นๆ ในวง ปั้น : สองคนนี้ เหมือนเป็นครอบครัว ปั้นไม่มีพี่น้องด้วยคือเรา ก็ ใช้เวลาด้วยกันเยอะ เวลาเราจะท�ำเพลงเราต้องตรงไปตรง มาไม่อยากให้วงแตก เหมือนเราสัญญากันว่า จริงใจต่อกัน มี อะไรก็พูดออกมาเลย จะได้ ไม่ต้องเก็บไว้ โม : ส�ำหรับโม ภัคกับปั้น เหมือนเป็นอีกครอบครัวหนึ่งอย่าง ปั้นว่า คือเรามาท�ำงานอย่างนี้ มันไม่ ใช่แค่งาน เราต้องคอย ใส่ ใจความรู้สึกกัน มีอะไรเราก็ต้องพูดกันตรงๆ อย่างภัค โม ก็จะมองว่าภัคเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจมากๆ ส�ำหรับปั้น เป็นคน ชอบกิน ถ้าเกิดว่าปั้นหิว เตรียมตัว จะเจอความเงียบก่อน (หัวเราะ) ภัค : กับสองคนนี้ ภัคใช้เวลาร่วมด้วยเยอะมาก ในปีที่ผ่านมา ก็สนิทกันมากขึ้น ก็เหมือนเป็นอีกครอบครัวอย่างที่ทุกคนบอก นั่นแหละ มันเหมือนต้องรู้ ใจกันอะ เหมือนมีแฟนอีกคนที่ต้อง ดูแล คอยเอาใจ
O-N : เหมือนเอาใจเขามาใส่ ใจเรา
O-N : งอนกันเรื่องอะไร
ภัค : ใช่ๆ ตอนที่แต่งเพลงก็คิดอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน ว่าแบบ นี้เขาน่าจะชอบนะ เข้ากับเขาไหม
โม : บางทีค�ำพูดบางอย่าง โมไม่ ได้คิด มันก็ท�ำให้รู้จักกันมาก ขึ้น ว่าพูดไป คนฟัง sensitive
ปั้น : เหมือนอยู่ด้วยกันไป ก็รู้ ใจกันมากขึ้น
ภัค : มันเหมือนมีแฟนอะ
โม : มันได้หลายกลิ่นอะค่ะ โมว่าถ้าตอนนี้แยกไปท�ำของตัวเอง มันก็จะเป็นอีกกลิ่นหนึ่ง ที่ ไม่ ใช่ Jelly Rocket แน่นอน เพราะ มีส่วนร่วมทุกคนจริงๆ ท�ำคนเดียวก็ ได้ความสบายใจ ได้ความ เป็นตัวเราเอง
โม : หลังจากที่เราเกิดเรื่องมา เราก็รู้นิสัยกันมากขึ้น ไม่ท�ำสิ่ง ที่เขาไม่ชอบอีก แล้วก็ปรับตัว มันคือการเรียนรู้
ภัค : แต่ก็ยอมรับนะท�ำด้วยกัน มันก็ยาก มันต้องมีเวลาด้วย กัน เดี๋ยวคนนั้นมี ไฟ เดี๋ยวคนนี้ ไม่มี ไฟ มันมีปัญหาเยอะแยะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนอะ แต่สุดท้ายพออยู่ด้วยกัน ก็ ต้องเข้าใจกัน
O-N : ปัญหาที่เจอหนักๆ ในวง ปั้น : น่าจะเป็นเรื่องเวลา โม : ถ้าเกิดว่างานเข้ามาช่วงภัคกับปั้นก�ำลังจะสอบ final ทุก คนหนักแล้วมันจะนัดซ้อมยากอะค่ะ
ปั้น : ตรงนั้นก็ท�ำให้วงเราดี เพราะมีอะไรก็พูดเลย O-N : ความแตกต่างระหว่างวงผู้หญิงและวงผู้ชาย ภัค : เหมือนอย่างวงพี่ผู้ชายจะรุนแรงกว่า ของพวกเราก็คุย กัน ด้วยความเป็นผู้หญิงก็จะเบาๆ หน่อย โม : อารมณ์ข้างในของผู้หญิงและผู้ชายอาจจะเหมือนกัน แต่ แสดงออกมาไม่เหมือนกัน ภัค : จุดมุ่งมั่นแรงด้วยภัคว่า พอเป็นวงผู้ชาย มันจะเป็นความ ฝันอันสูงสุด O-N : ความฝันของวง Jelly Rocket ตอนนี้
O-N : แล้วแก้ปัญหาอย่างไร
ภัค : ส�ำหรับภัคตอนนี้ ก็ท�ำไปเรื่อยๆ
โม : ต้องหาวันที่มันได้อะค่ะ ซ้อมห้าทุ่มก็เคย
ปั้น : ปั้นเห็นความฝันของวง ปั้นเป็น Front man คืออยู่ข้าง หน้า ปั้นเห็นทุกอย่าง แล้วมันชัดอะเวลามีคนที่ร้องตามได้อย่าง วัน Cat Expo คือคนเยอะมาก เวทีเล็ก แต่คนเต็ม
O-N : เคยทะเลาะกันไหมคะ โม : เคย ก็มีบ้าง ก็มีนิดหน่อย มีงอนกันบ้าง
โม : เอ้อวัน Cat Expo โหดจริง! (หัวเราะ) ภัค : อันนี้คือตั้งใจมากๆ ที่จะมาเล่น ก็เลยแป้วๆ แต่พอตอน เย็นที่เห็น ก็รู้สึกดี ปั้น : คือคนมารอเรา วงอะไรก็ ไม่รู้ ที่ ไม่ ได้เซ็นสัญญา ไม่มี สังกัด มีออกมาแต่ ไม่กี่เพลง ทุกคนมา แล้วร้องได้ ตอนนั้นเขา ให้ร้องเพลง ตาสว่าง แล้วปั้นลืมท่อนฮุค ปั้นร้องมั่ว ทุกคนก็ ข�ำอะ แล้วช่วยกันร้องแทน คือประทับใจมาก ตอนนี้ความฝัน ตอนนี้ ในส่วนของวงคืออยากท�ำเพลงออกมาแบบนี้เรื่อยๆ แล้ว มีคนชอบอยู่ โม : อยากมีงานเล่น live เวที ใหญ่ๆ ภัค : ตอนนั้นไป Big Mountain แล้วเห็นเวที ใหญ่ แล้วรู้สึกว่า ถ้าเราได้อยู่ตรงนั้น แล้วเห็นคนทั้งหมด มันคงดีสุดๆ เลย ปั้น : แค่ ได้เห็นคน มันดีอะ อธิบายไม่ถูก มันดีมากๆ เป็นภาพ ที่จะจ�ำไปจนตายเลย 19
O-N : ประสบการณ์ที่เล่นแล้วรู้สึกแย่ โม : งาน a book Fair ที่ Terminal 21 หูย! งานนั้นไม่ค่อย ได้ยินอะไรเลย เล่นแล้วไม่ ได้ยินตัวเองเล่น แต่ข้างล่างโอเค ภัค : ฟังที่เพื่อนอัดมาก็ ได้อยู่ แต่เราจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ปั้น : เราไม่ฟิน แล้วเราก็ ไม่ค่อยกล้าเล่นด้วย แล้ววันนั้นไมค์ ดับด้วยอะ โม : ใช่ มันมีคนมาเตะปลั๊กข้างหลัง คือโมเล่นอยู่ โมก็ต้อง จับสายกีตาร์ไปเรื่อยๆ แล้วต่อปลั๊กใหม่ ปั้น : แต่มีหลายคนบอกว่าตามมาจากงาน a book Fair ทั้งๆ ที่เราคิดว่างานนั้นเราโคตรห่วยอะ รู้สึกประทับใจ
O-N : เจอช่วงเวลาหนักๆ บ้างไหมในการท�ำงาน ปั้น : ช่วงนั้นคือป่วย แล้วเป็นคนไม่ออกก�ำลังกายนอนดึก เสียงหาย แล้วอาทิตย์นั้นมีงานประมาณ 3 งาน ตอนนั้นก็ กดดันด้วย เพื่อนๆ ก็เข้าใจ แล้วหลังจากนั้นก็เลยออกก�ำลัง กายแทบทุกวัน ภัค : มีอยู่ช่วงหนึ่งท�ำงานหนักมากๆ นัดซ้อมเที่ยงถึงบ่าย 2 ปั้นมาบ่าย 2 ก็เข้าใจได้ วัยเรียนเหมือนกัน โม : ก็อ้อนพี่เขาต่อขออีกครึ่งชั่วโมง โมว่าน้องปั้นคงหนัก สุด ภัคก็หนัก งานเยอะ เรื่องเวลาไม่ตรงกัน
O-N : เอาเงินที่ ไหนมาท�ำเพลง ปั้น : เราก็ต้องควักเนื้อกันก่อน ภัค : ตอนนี้เราก็ช่วยกันทุกอย่าง อัดเพลง ห้องซ้อม ให้ แบคอัพ ให้พี่ซาวด์เอ็นฯ O-N : มีค่ายเพลงติดต่อมาบ้างไหม
O-N : คิดว่าจะยึด Jelly Rocket เป็นอาชีพหลักได้ ไหม โม : ส่วนตัวเราไม่ ได้คาดหวัง ถ้ามีงานมา เราก็เต็มที่ ตั้งใจท�ำทุกงานอยู่แล้ว มันอยากท�ำอะ ได้ ไม่ ได้ ใครจะไปรู้ อะนะ
20
ปั้น : มีแล้วค่ะ แต่คือเราไม่อยากให้เกิดปัญหาที่ตอนก�ำลัง เรียนแล้วจัดเวลาไม่ถูก เราต้องเอาเรียนไว้ก่อน ภัค : แล้วค่อยหาบ้าน เหมือนตอนแรกๆ เรายังไม่ค่อยรู้ แนวทางด้วย ตอนนี้ก็พอเริ่มจับทางได้แล้ว
ปั้น : คือปั้นไม่ ได้เรียนสายดนตรี ก็ดีที่เรียนอีกอย่างหนึ่ง เรียน PR มันก็เอามาช่วยวงได้อาจจะต้องรอดูอนาคตก่อน ถ้าวงมันไปได้ดี เราก็อาจจะยึดเป็นทางหลัก แล้วก็ท�ำ PR ไปด้วย
O-N : ที่มาของชื่อวง
ภัค : คือภัคก็รู้สึกเหมือนพี่ โม ว่ายังบอกไม่ ได้ เราก็ตั้งใจ ท�ำ อาจจะมีงานประจ�ำ แล้ววงอาจเป็นงานอดิเรกไปก่อน สมมติมันดี เราก็อาจเอาอันนี้เป็นงานประจ�ำ มันก็อยู่ที่การ แบ่งเวลา ณ จุดๆ นั้น
ปั้น : กลัวติดลิขสิทธิ์ ก็เลยเปลี่ยนเป็น Jelly Rocket
ภัค : ภัคชอบกินไอติม โม : Rocket Jelly อะค่ะ เมื่อก่อนที่เป็นไอติม เป็นเยลลี่ ภัค : Jelly Rocket เพราะกว่าด้วย ปั้น : ชื่อนี้เป็นชื่อที่ทุกคนตกลง เป็นชื่อที่เข้าหูเราสามคน แล้ว น่าจะเวิร์ค
O-N : มองวงการเพลงไทยอินดี้ ตอนนี้อย่างไรบ้าง
O-N : เวลาออกงาน คิดเรื่องการแต่งตัวด้วยไหม
โม : โมว่าน่าสนใจนะ มีหลายวงที่มาใหม่ๆ ยุคก่อนหน้านี้มัน ค่อนข้างแห้งแล้ง
ปั้น : ใช่ ก็คิดค่ะ ให้มันเข้ากัน
ภัค : ภัคว่ามันก�ำลังโตแหละแล้ว ฐานแฟนคลับกลุ่มนี้ดู เหนียวแน่นด้วยนะ ไปทุกงาน บางคนเจอกัน จนสนิทกัน ปั้น : เหมือนปั้นว่าเทคโนโลยีมันโตขึ้นด้วย เราสามารถท�ำ กันเองได้ มีวงใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น
ภัค : ความจริงคอนเซ็ปต์ของพวกเรา คิดไว้ตอนจะปล่อย เพลง ตอนไปถ่ายรูป เสื้อผ้าก็จะโทน ยีนส์ๆ แดงๆ โม : อย่างใน รูป cover บนเพจ ใน facebook ตอนนี้ เป็น ชุดที่ ใส่ ไปถ่าย MV เพลงลืม
O-N : MV เพลง ลืม ปล่อยเมื่อไหร่คะ ภัค : น่าจะปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้าอะค่ะ โม : แต่วันนี้จะปล่อยเพลงก่อน ปล่อยอีกทีก็เป็น MV เลย ฝากแชร์กันเยอะๆ นะคะ O-N : เล่นสด ปั้น : ชอบอะไรมันส์ๆ ไม่อยากให้วงเราเป็นผู้หญิงสามคน แล้วมันจะต้องแบบ.. นึกออกไหม ภัค : วงดนตรีผู้หญิงส่วนใหญ่ เขาบอกว่ามักจะเล่นสดไม่ เก่ง ภัคเลยค่อนข้างเน้นนิดนึงให้มันสุด ปั้น : นั่นเป็นสิ่งที่เราอยากเอาชนะให้ ได้เหมือนกัน
O-N : ยกตัวอย่างวงรุ่นใหม่ที่น่าสนใจหน่อย โม : โมชอบ My Life as Ali Thomas โคตรเท่ ดีมาก ปั้น : ชอบ The Whitest Crow อะ เคยดูสดแล้วมันส์ โคตร แบบเป็นเพื่อนๆ กันด้วย ภัค : ภัคชอบ Moving and Cut อะค่ะ ภัคว่าเพลงเขาฟัง แล้วมันติดหู O-N : เคยคิดอยากมีค่ายเล็กๆ ของตัวเองบ้างไหม ภัค : ภัคไม่เคยคิดนะ โม : ค่ายของตัวเอง มันต้องคิดเยอะมากเลยนะ แต่ถ้ามีเงิน ก็อยากท�ำนะ ปั้น : มันต้องมีวิสัยทัศน์เดียวกัน จริงๆ ถ้าท�ำได้ก็ดีนะ 21
O-N : ให้น้องๆ ฝาก ถึงคนที่อยากท�ำวงเหมือนกัน ปั้น : อยากให้ทุกคนมีอะไรอยากท�ำ ก็ท�ำออกมาเลย เหมือนเรามีฝัน เราเกิด มา แค่ครั้งเดียว เดี๋ยวแก่ ไป เราก็ ไม่ ได้ท�ำแล้ว ไม่อยากให้เสียเวลา หรือเสีย ไฟตอนนั้นที่มันมีอยู่ ไป ก็ท�ำแบบพวกเราก็ ได้ ท�ำเพลงแล้วปล่อย YouTube มีฟีดแบคแย่ เราก็มาปรับปรุงให้มันดี โม : อาจจะรู้สึกยาก เพราะเราไม่เคย อาจจะอยากท�ำ แต่ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ถ้า ลองได้ท�ำแล้ว จะรู้ว่ามันไม่ ใช่อะไรที่จับต้องไม่ ได้อะค่ะ มันไม่จ�ำเป็นจะต้องมี คนมาคอยช่วย ตอนนี้อินเตอร์เน็ตมีทุกอย่าง แล้วจะรู้สึกว่าไม่ ได้ยากขนาดนั้น ประกวดไม่ ใช่จุดมุ่งหมายทั้งหมด สมมติมีแข่ง 20 วง แล้วมีชนะแค่ 1 วง ไม่ อยากให้ 19 วงที่เหลือจ๋อย แล้วหยุดเดิน เด็กอะนะ อาจจะมองว่าตรงนั้นมัน ทั้งหมด แค่อยากจะบอกเขาว่าไม่ ใช่ทั้งหมด อย่าไปยอม ภัค : ให้แบ่งเวลาดีๆ แล้วชีวิตจะดีเอง เหมือนถ้าแบ่งเวลาดีๆ ได้ เราจะ สามารถท�ำได้หลายอย่างมากค่ะ แล้วพอเราเริ่มท�ำแล้ว เราจะรู้เองว่าอะไรที่ มันเวิร์ค อะไรที่มันไม่เวิร์ค ถ้ามัวจะคิดแล้วมันจะไม่ ได้ท�ำ ภัคเป็นคนที่คิดโปรเจ คอะไรเยอะมาก บางทีเวลามันไม่มี แล้วก็ ไม่ ได้ท�ำ แต่ถ้าแบ่งเวลาดีๆ ได้ เรา ก็จะได้ท�ำหลายอย่าง ซึ่งการที่ท�ำหลายอย่างตั้งแต่อายุน้อยๆ อะ มันก็จะได้ อะไรเยอะ แล้วมันก็รู้สึกดีนะ เวลาที่เราได้ท�ำอะไรส�ำเร็จสักอย่าง O-N : เรียนดนตรี แล้วความสุขหาย โม : โมไม่เชื่อว่าความสุขหาย เพราะโมคิดว่า ความสุข เราเป็นคนก�ำหนดเอง สุดท้ายแล้วเราต้องอย่าลืมว่าเราเข้าไปเพราะเราอยากจะรู้จักมันให้มากขึ้นสิ่งที่ ตัวเองชอบจริงๆ สิ่งที่เป็นกระแสนิยม กับสิ่งที่ต้องท�ำตามหน้าที่ มันเป็นดนตรี ทั้ง 3 อย่างเลย บางทีเลยท�ำให้สับสน แล้วลืมว่าลึกๆ แล้วตัวเองชอบอะไร มันขึ้นอยู่วิธีคิด ขึ้นอยู่กับจะดึงเอาส่วนดีของตัวเองออกมาได้มากแค่ ไหน ภัค : ภัคเครียด ภัคเรียน perform เป็นอะไรที่ทรมานนิดนึง เลิกเรียนเสร็จ กินข้าว แล้วไปซ้อมถึง 3 ทุ่มทุกคืน สุดท้ายภัคก็เข้าใจว่ามันอาจขึ้นอยู่กับครู ที่ จะท�ำให้เรามี ไฟ หรือท�ำให้เรารู้สึกว่าเหนื่อยจัง O-N : งานอดิเรกของแต่ละคน
O-N : เข้าเดือนแห่งความรัก ถ้านึกถึงความรัก จะนึกถึงอะไร ปั้น : นึกถึงพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนๆ คนที่จริงใจ กับเราจริงๆ ภัค : ภัคว่ามันคือความผูกพัน มันคือการใช้เวลา ร่วมกัน กับใครสักคน หรือกับอะไรสักอย่าง โม : ความรัก คือ ความรักค่ะ อยากจะรักต้องลอง (หัวเราะ)
ภัค : อ่านการ์ตูน ดูหนังดูซีรีย์ นอน ปั้น : ฟิตเนส กิน นอน ดูซีรีย์ โม : หาอะไรกิน ดูซีรีย์ ดูการ์ตูน เล่นเกม
O-N : ถ้าเปรียบความมีรักเป็นสี เปรียบเป็นสี อะไร
O-N : ถ้าให้ โยงมา คิดว่างานอดิเรกพวกนี้มีผลต่องานเพลงไหม
ปั้น : ปั้นว่าความรักเป็นสีขาวอะ ความรักจริงๆ มันต้องบริสุทธิ์
ภัค : ของภัคมี ได้แนวคิดใหม่ๆ ได้เรื่องราว อยู่ ในหนัง ในหนังสือ มันก็จะ ซึมซับ ปั้น : จากฟิตเนสได้อะไรเยอะ ช่วยเรื่องการแสดงสดมากๆ พอได้ออกก�ำลัง กาย มันมีแรงคึกไปจนถึงเพลงสุดท้าย 22
โม : เรารู้สึกเวลาออกก�ำลัง ท�ำให้คิดอะไรออก ช่วยให้อึดเวลาท�ำงานมากขึ้น
ภัค : ความรักเป็นสีฟ้าค่ะ เหมือนกับท้องฟ้ากับ น�้ำทะเลที่อยู่คู่กัน แล้วเป็นสีฟ้าเหมือนกัน ถึงมันจะ เป็นคนละอย่าง แต่ว่ามันก็มีสีเดียวกัน ที่เข้าใจกัน แล้วก็สัมพันธ์กัน โม : ความรักเป็นสีด�ำ เพราะความรักท�ำให้คน ตาบอด
O-N : ถ้าขาดดนตรี ไป คิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร โม : ก็คงไม่มีความรื่นเริงอย่างทุกวันนี้ มีดนตรีก็เหมือนได้เอาไว้ระบายความ รู้สึก หรือซึมซับความเพราะของเพลง ถ้าไม่มีดนตรีชีวิตคงเครียด ภัค : ถ้าขาดดนตรี ไป ก็เหมือนขาดประสาทความรู้สึกไป ภัครู้สึกว่าดนตรี ท�ำให้สิ่งที่ภัครู้สึกอยู่มันชัดเจนขึ้นมา บางเพลงฟังแล้วรู้สึกดี รู้สึกเพียงพอ บาง เพลงฟังแล้วก็เหงา ยิ่งเวลาฟังเพลงเศร้านี่ ภัคจะรู้สึกถึงความเศร้าจากเพลง ได้มากกว่าเพลงแบบอื่นค่ะ และอาจเพราะภัคเป็นคนเศร้ามั้ง เลยท�ำให้ Jelly Rocket มีแต่เพลงเศร้าๆ เหงาๆ ทั้งนั้นเลย ฮ่าๆ ปั้น : ถ้าขาดดนตรี ไป ก็ ไม่มี Jelly Rocket ไม่ ได้สนิทกับเพื่อนๆ อีกสองคน ขนาดนี้ เพื่อนๆ หลายๆ คนที่ ได้เจอกันเพราะชอบฟังเพลงของพวกเราก็คง กลายเป็นคนแปลกหน้าไปเลยล่ะ เสียดายแย่ O-N :อยากขอบคุณ หรือขอโทษ ใคร อะไรบ้าง? โม : ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ที่คอยสนับสนุน คุณครูทุกคนที่คอยสอนและท�ำให้ ได้น�ำความรู้มาใช้ ในทุกวันนี้ค่ะ
O-N : ดนตรีส�ำคัญอย่างไรบ้างต่อชีวิต โม : ดนตรีมีอิทธิพลต่อชีวิตในแต่ละวันมากๆ เลย จะท�ำให้อารมณ์ดีหรือเศร้า เช่นถ้าตื่นมาแล้วได้ฟัง เพลงที่ชอบ ก็อาจจะท�ำให้อารมณ์ดีแต่เช้า แต่ถ้า ฟังเพลงที่หดหู่ก็อาจจะเศร้าแต่เช้าเลยก็ ได้ ภัค : ส�ำหรับภัคดนตรีเป็นเหมือนข้าวที่ต้องกินทุก วันค่ะ เวลาที่ ไม่ ได้ฟังเพลง หรือเล่นดนตรีนี่ มันรู้ สึกหิวๆ เหมือนไม่ ได้กินข้าวนี่แหละ เพลงไหนที่ชอบ ฟังก็ฟังบ่อยๆ เหมือนอาหารที่ชอบ ก็กินบ่อยๆ ปั้น : ทั้งชีวิตปั้นเติบโตมากับเสียงดนตรี เรารู้ว่า มันเป็นอะไรที่ท�ำแล้วไม่ว่าจะหนักยังไงก็มีความสุข ดนตรีก็ถือเป็นแรงบันดาลใจและก�ำลังใจที่ดีอีกหนึ่ง อย่างของชีวิตเลยล่ะค่ะ เพราะมันท�ำให้เราได้เจอ เพื่อนๆ อีกมากมายที่รักในสิ่งที่เราท�ำ และในสิ่งที่ เราเป็น
ภัค : อยากขอบคุณป๊ากับม๊าที่คอยสนับสนุนและดูแลหนูมาตลอด ขอบคุณ คุณครูทุกคนที่เคยสอนภัคมา ให้แนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ คอยช่วยเหลือ ช่วยเชียร์ตลอด มีเพลงอะไรเพราะๆ หนังดีๆ น�้ำปั่นร้านอร่อยๆ มาแบ่งปันกันเสมอ เวลาทุกข์ ใจก็คอยอยู่ข้างๆ ขอบคุณปั้นกับพี่ โม ถ้าไม่มี สองคนนี้ ก็คงไม่มี Jelly Rocket ไม่มีคนที่ ได้ยืนเล่นดนตรีแล้วสนุกไปด้วยกัน เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากนะ ที่ส�ำคัญอยากขอบคุณทุกคน ที่เปิดใจฟังเพลงของ Jelly Rocket คนที่มาดูคอนเสิร์ต คนที่ร้องเพลงเราได้ ทุกอย่างมีความหมายส�ำหรับภัคมากค่ะ ส่วนที่อยากจะขอโทษ คงเป็นสิ่งที่ภัค ท�ำอะไรผิดไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าภัคเคยท�ำให้ ใครรู้สึกไม่ดี ก็ขอโทษด้วยนะคะ ปั้น : ขอบคุณครอบครัวและเพื่อนๆ ที่คอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ และเข้าใจ ปั้นมาตลอด ขอบคุณผู้ ใหญ่หลายๆ ท่านที่ ให้ โอกาส และสอนพวกเราหลายๆ อย่าง และที่ส�ำคัญต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่รักพวกเรา เห็นเพื่อนๆ คุยกับ พวกเราใน Social Media ก็ดี ใจ หลายๆ คอมเมนต์เป็นก�ำลังใจที่ดีมากเวลาที่ พวกเราเหนื่อย วันที่พวกเราท้อแท้ก็มีเยอะ เพราะยังต้องเรียนต้องท�ำงานกัน อยู่ แต่พอได้อ่านคอมเมนต์ ได้เห็นเพื่อนๆ รอมาดู และร้องตามไปกับพวกเรา รู้ว่าพวกเราท�ำสิ่งนี้กันไปเพื่ออะไร รักมากๆ อยู่กันไปนานๆ นะคะ
O-N : มีอะไรที่อยากบอกแต่ ไม่ ได้ถามไหม Jelly Rocket : ขอฝากเพลง ‘ลืม’ ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่คอย สนับสนุนพวกเรา เพราะถ้าไม่มีทุกคน ก็ ไม่มีพวกเราทุกวันนี้ เราก็ ไม่มีก�ำลังที่ จะท�ำต่อไป ก�ำลังใจส�ำคัญมากจริงๆ ขอให้รักกันไปนานๆ พวกเราจะตั้งใจท�ำ ทุกอย่างให้สมกับความรักที่ทุกคนให้มา
ติดตามผลงานของวง Jelly Tocket ได้ที่ www.facebook.com/JELLYROCKET 23
A Plant I Love เรื่อง : กิตติพงษ์ หาญเจริญ ภาพ : ไชยยันต์ ชูสกุลธนะชัย
BODHI - BANYAN โพธิ์~ไทร~ไกร~กร่าง ในยุคสมัยที่เราหว่านพันธุ์ โครงการบ้าน ปลูกต้น คอนโด ต่อสายน�้ำถนน เพื่อหล่อเลี้ยงเมืองใหญ่อันร้อนระอุ ให้พองตัวออกไปอย่างไม่หยุดยั้งนี้ ยังมียักษ์ ใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่ อาจหาญกล้าท้าทายอ�ำนาจของมหานคร ขอเสียงปรบมือให้ พวกเค้า…โพธิ์ - ไทร – ไกร - กร่าง ท่ามกลางหินแข็ง แท่งคอนกรีต ที่คนออกแบบเค้าคง กะว่า “ฉันจะไม่ ให้มีชีวิตอะไรได้ผุดได้เกิดขึ้นมาอีกแล้ว...เหอ เหอ เหอ” กลับมี ใบสีเขียวๆ โผล่ขึ้นมาตามมุมสว่างของสังคม ที่แดดส่องถึง ซึ่งหลายมุม ก็ช่างอัศจรรย์ ใจเหลือเกิน ว่าพวก เค้าไปอยู่ตรงนั้นได้ ไง ทั้งตอม่อสะพาน ขอบทางด่วน ข้างคู น�้ำทิ้ง ซอกเสาไฟฟ้า ... แต่ที่เจ๋งกว่านั้น คือ พวกเค้าดันปล่อยรากชอนไชไซ้ ซอกหลืบเล็กๆ นั้นได้ รากอันแข็งแรงและพร้อมจะแทงเลาะ เจาะทะลุทุกอย่างที่ขวางหน้า หากลองมองไปข้างบน บางทีเธอจะเห็นยักษ์บางตน ที่เกิดบนชั้นสูงๆ แล้วค่อยปล่อยรากไต่ขอบตึกลงมาเอา ราวกับ...ถ้ารากไม่ถึงพื้นดิน ข้าก็ ไม่หยุดเดินจ้า…...ถึงพื้น แล้ว ข้าก็ยังทะลุกระจายสู่ชั้นใต้ดินต่อไปจ้า ทั้งๆ ที่ระหว่าง ทาง...ไม่มีดิน ไม่มีน�้ำ มีแต่ปูนกับแดดให้แท้ๆ แต่ยักษ์แกงก์นี้ก็ ดันโตเอ๊า โตเอา สงสัยจัง ว่าพวกเค้าไปเอาพลังงานมวลสาร มาจากไหน ที่ชอบพูดกันว่า ปลูกต้นไม้ ต้องรดน�้ำ พรวนดิน ใส่ ปุ๋ย ...งานนี้ ไม่ต้อง ค�ำโบราณ ที่ว่ากันว่า ”ปลูกต้นไม้ ให้เทวดา เลี้ยง” ...ดูจะจริงกว่า ซึ่งหลักๆ ก็ ไม่ ใช่คนปลูกนะ แต่เป็นนก
นี่แหละที่ช่วยกันปลูกให้เพราะ ต้นโพธิ์-ไทร-ไกร-กร่าง ปกติ แล้วล�ำต้นของพวกเค้าก็เป็นที่อยู่ ให้สารพัดสัตว์ และผลของพวกเค้า จะเป็นอาหารให้สารพัดนก เวลานกกิน เสร็จก็จะถ่ายทุ่นระเบิดตามที่ต่างๆ ระเบิดสร้างชีพจากนก นี่เองพายักษ์น้อยลืมตาดูโลก ณ จุดแปลกๆ เธอเอ๊ย ...แม้ ใน ป่า ยักษ์แกงก์นี้จะเล่นบทกาฝากตัวแสบที่งอกขึ้นบนต้นไหน ก็เล่นเบียดหุ้มต้นเก่าเค้าซะ แทบไม่ ให้หายใจกันเลย แต่ ในเมืองที่หาสีเขียว หาร่มเงาเย็นๆ ยากขึ้นทุก วันๆ ยักษ์แกงก์นี้ก็ดูเหมือนจะเป็นไม้ ใหญ่อยู่กลุ่มเดียวที่ยัง คงเกิดและเติบโตโดยไม่ต้องง้อความนิยมจากมนุษย์ ฉันเห็นพวกเค้า เป็นตัวแทนของป่าและความดิบ ที่ปล่อยอณูธรรมชาติอันเต็มเปี่ยม แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ แห่งการควบคุม เป็นดั่งแสงแห่งความหวัง เปล่งพลังให้เรา ได้เห็นเป็นขวัญตาว่า “ทันทีที่เราหยุดกิจกรรม เมืองจะกลับคืนสู่ป่าอย่างแน่นอน”
เพราะชีวิตคือการเดินทาง บทความ : IMATOMS
สำ�รวจโลก(ภายใน) : ภาค 3
การเดินทางของชีวิตมักไม่ง่ายนัก เพราะกับดักหลากชิ้น 'เครื่องปรุงแต่ง' หนึ่งในกับดักชิ้นใหญ่ที่คล้ายกับเครื่องกีดขวางของนักกีฬาวิ่ง ข้ามรั้ว หลายครั้ง การปรุงแต่งก่อให้เกิดอรรถรส ในขณะเดียวกัน ก็อาจเป็นตัวท�ำให้ สะดุดล้มหน้าคะม�ำไม่เป็นท่าได้เหมือนกัน การมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ท�ำ และมีสติระลึกรู้เป็นระยะไม่ขาดสายต่อเนื่องไป นั้น จึงเป็นเสมือนเครื่องมือที่ดีที่สุดในการวิ่งและกระโดดก้าวผ่านเครื่องกีดขวางต่างๆ ใน ชีวิต แน่นอนว่า เราอาจต้องวิ่งสะดุดบ้าง ชนบ้าง ล้มบ้าง นั่นเป็นเรื่องธรรมดา สิ่ง ส�ำคัญอยู่ที่ว่า ท�ำอย่างไร ให้สมาธิที่หลุดดิ้นออกไปนั้น คืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ถ้าชีวิตสามารถดูเทปย้อนหลังและท�ำภาพช้าได้อย่างกีฬาการแข่งขันคงจะ ดี โดยเฉพาะภาพการท�ำงานของจิต ช่วงจังหวะที่สมาธิหลุดไปจากสิ่งที่เราก�ำลังท�ำ อยู่ บางทีมันไม่ ใช่แค่การหลุด แล้วหลงไปท�ำอย่างอื่นในทันทีทันใด โดยมากมันมักจะมี กระแสบางอย่างที่แทรกกลางเข้ามาจูงมือเราไป ก่อให้เกิดความเผลอไผลอย่างไม่รู้ตัว... ใช่แล้ว 'ตัวปรุงแต่ง' เพื่อนร่วมเดินทาง(ภายใน) ไปกับเรา ที่มาอยู่เป็นเพื่อนเราอย่างไม่รู้ จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย เมื่อสมาธิหลุด การปรุงแต่งจะเข้าแทรก มันจะท�ำหน้าที่คลุกเคล้าอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในและน�ำทางเราให้หลงใหลไปได้อย่างไร้ทิศทาง สติ จะไม่ท�ำงาน เกิดอาการไม่รู้ตัว แต่คิดว่ารู้สึกตัวอยู่ เพียงเพราะลืมตา เพียงเพราะยัง หายใจ... ตัวเราอยู่ตรงนี้ แต่ ใจเราเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนใหม่ ในที่ ไกลแสนไกลเสีย แล้ว บ้างก็เป็นเพื่อนที่ชื่อความกลัว บ้างก็เป็นเพื่อนที่ชื่อความวิตก บ้างก็เป็นเพื่อนที่ชื่อ ความตื่นตระหนก ฯลฯ
คุณเชื่อสุภาษิตนี้หรือไม่? “คบเพื่อนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น”
BEAR-BLUR! ฺBY : ดามันสกี้ / ivan.damansky@gmail.com
คนที่ดี..กับคนที่รัก
26
27
A Short Story I Write เรื่อง : นิรัติศัย บุญจันทร์ ภาพ : Kamonnut Kamda facebook.com/khidwad
28
29
To Movies เรื่อง : GUMBEAR facebook.com/optimistic.note
ให้เสียงดนตรีนำ�ไป
ในช่วงชีวิตความรักของทุกๆ คนบนโลกนี้มีดนตรีหรือ เพลงประจ�ำเรื่องราวอยู่ เราคิดว่านี่คือเพลงของเรา เพลงที่ แต่งขึ้นเพื่อเรา แล้วถ้าหากเราเป็นคนเล่นดนตรีเสียเอง มันจะ พูดแทนเราได้หรือเปล่า? Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง บ่อย (2004) เรื่องราวของเด็กหนุ่มสาวผู้หลงใหลในเสียง ดนตรีและก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักดนตรีมืออาชีพด้วยการ เป็นนักเรียนของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งบ่ม เพาะนักดนตรีฝีมือฉกาจ
Solanin (2010) ภาพยนตร์แรงบันดาลใจขั้นสุด ยอด สัญชาติญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตประจ�ำวันของหนุ่ม สาวที่เพิ่งเรียนจบมาอาศัยอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายมีความฝัน อยากเป็นนักดนตรี มีวงดนตรีเล่นอยู่กับเพื่อนๆ แต่ ในโลก ความจริงท�ำให้เขาต้องท�ำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย ส่วนฝ่าย หญิงก็ท�ำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ ในออฟฟิศที่ซังกะตายอยู่ ไปวันๆ
ป้อม เด็กหนุ่มที่ ไม่ ได้ ใส่ ใจอนาคตของตัวเองเท่าไหร่ แต่เมื่อ ดาว เด็กสาวผู้เป็นดาวสมชื่อก�ำลังจะสมัครเรียนที่ มหิดลด้วยความสามารถทางไวโอลินของเธอ ท�ำให้ป้อมตัดสิน ใจตามไปสมัครด้วยฝีมือกลองชุดของเขา ระหว่างนั้นเขาก็ ได้ สนิทกับลูกสาวของเพื่อนพ่อ อ้อม ผู้ที่สอบเข้ามาด้วยคะแนน อันดับหนึ่ง แต่การเล่นดนตรีของเธอไม่เอาไหน
ไคลแมกซ์มาอยู่ตรงที่หญิงสาวพยายามจะท�ำตาม ความฝันแทนแฟนหนุ่มที่จากโลกไป ด้วยการฝึกเล่นกีต้าร์แล้ว ขึ้นไปร้องเพลง ในฉากร้องเพลงถือว่านักแสดงมีพลังสูงมาก และด้วยเนื้อเพลงท�ำให้พบว่าจริงๆ แล้วเธอก็ ไม่ ได้เจตนาจะ ท�ำเพื่อคนรักอย่างเดียว แต่เป็นการปลดปล่อยและบอกลาชี วิตเก่าๆ ของตัวเองด้วย
ป้อมยอมทิ้งวงดนตรีของตัวเองเพื่อจะเข้าไปเล่นใน วงออเคสตร้าเพื่อจะได้ ใกล้ชิดกับดาว แม้เขาจะแทบไม่ ได้มี ส่วนร่วมในเพลงก็ตาม เพราะเพียงได้ ใกล้ชิดก็รู้สึกดีแล้ว แต่ ในขณะที่ความสัมพันธ์ไม่ ได้ ไปถึงไหน อ้อมกลับท�ำให้เขาเริ่ม สนใจเธอไปพร้อมๆ กับดนตรีคลาสสิกที่เธอฟัง แต่จู่ๆ ดาว ก็เข้ามาชวนป้อมสมัครสอบชิงทุนไปต่างประเทศด้วยกัน ใน ขณะที่ฤดูหนาวก�ำลังเข้ามา ปิดเทอมท�ำให้ป้อมต้องกลับบ้าน บ้านที่ ไม่รู้ว่าเขาไปเรียนดนตรี ถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่าง ดนตรีสากลกับดนตรีคลาสสิก
ดนตรีเป็นภาษาที่ ไม่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ฟัง เป็นเพียงการจารึกข้อความไว้บนหินแล้วเพียงมีคนผ่านมาเห็น รับรู้ เข้าใจตามการตีความ และก็เป็นดนตรีที่มักจะเยียวยา บอกลา และ ช�ำระล้างอดีตของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ไม่รู้ว่าดนตรีมันจะพูดแทนเราได้หรือไม่ แต่ดนตรีมัน สามารถพูดกับเราได้ 30
นอกจากจะเป็นตัวแทนความรักความคิดความรู้สึก ดนตรีก็ยังเป็นเส้นทางความฝันของใครหลายๆ คน
A Photo I Shoot ค�ำและภาพ : มนุษย์ห้องใต้หลังคา.
เปลือก เงาสะทอนของความเขมแข็ง ความออนโยน ไมจริง.
31
Personal Font ค�ำ : สินิทธ์ ปนุตติกร ลายมือ : ธนัญญา นทีกุลเจริญ
วันธรรมดาที่งดงาม
32
My Idol
คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล Idol : พี่เปล นาคร และครอบครัว “พี่เปลเปนคนที่มีความทาทายในการทำงาน กลาคิดกลาแหวกแนว แถมยังเปนนักแขงเจทสกีที่มีความสามารถควารางวัลตางๆ ทั้งนานาชาติและในประเทศ และก็ชอบวิธีการเลี้ยงลูกของพี่เปล เลี้ยงแบบ real ผิดคือผิดไมมีการโอใดๆทั้งสิ้น คือเปนคนที่เวลานึกถึงเมื่อไรก็มักจะมีรอยยิ้มตามมาเสมอ”
แกว อายุ 21 ป นกั ศกึ ษาคณะสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัยมหดิ ล ธีราภทั ร พวง
Idol : พลอย หอวัง “คือเราหมวย เลยตองหาหมวยๆมาเปนไอดอลนะ ถึงจะเขาทาง พลอยมีความเปนตัวของตัวเอง ทั้งความเปนศิลปน กลาคิดกลาทำ กาวนำทุกแฟชั่นนะ บอกเลย นี่ยังทำตามเขาไมคอยทัน (หัวเราะ) ความคิดก็ดีนะ คือชอบอะ แลวพลอยก็มีพี่สาว (คริส หอวัง) รักพี่สาวมากเหมือนเรา เราก็เลยรูสึกชอบไอดอลคนนี้มาก” ภทั รานษิ ฐ กอนจนั ทรเทศ อายุ 21 ป นกั ศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร มหาวิทยาลัยมหิด ล
Idol : พี่เล็ก greasy cafe “คงเพราะหลายๆอยางที่เขาทำมันจุดประกายใหเราหลายๆอยาง ทั้งสิ่งที่เราทำ การฟงดนตรี การใชชีวิตมันเจงดี ทำใหเราเปนตัวของตัวเองมากกวาเดิมรูจักตัวเองมากกวาเดิม ทำใหเราอยากหาไลฟสไตลที่เรียบงาย ความเปนมินิมอลของชีวิต ทำใหเรารูสึกอยากใส ใจในการทำทุกสิ่งมากขึ้นตั้งแตเรื่องเล็กๆจนถึงเรื่องใหญๆ” นายปวรุตม นาจรสั อายุ 20 ป นักศกึ ษาคณะสาธารณสขุ ศาสตร มหาวิทยาลัยมหดิ ล
ขอบคุณ บก.เวย ที่หยิบยื่นโอกาสให ไดลองทำอะไรใหมๆ นับเปนประสบการณที่ดีคะ ย ชนะศกั ดิ์ อายุ 24 ป นิสิตปริ ญญาโทคณะนิเทศศาสตร จุฬาลงกรณมหา าลัย ซอ สุภชาวลั วทิ ย
MOTTO:
"Better to have lost and loved than never to have loved at all." – Hemingway การไดรับความรักแลวตองสูญเสียมันไปยังดีกวาการไมเคยไดสัมผัสกับความรักเลย
33
To Books BY : Boymang BOOK : คนรักของนักเขียน / บินหลา สันกาลาคีรี
รวมเรื่องสั้นเล่มที่ห้าของนักเขียนหนึ่งคน - คุณ บินหลา สันกาลาคีรี
เล่มนี้รวบรวมงานเขียนทั้งเก่าทั้งใหม่ กินระยะเวลา 2541 – 2554 ทว่างานแต่ละชิ้นบรรยากาศไหลลื่นโดยไม่รู้สึกถึงความแตกต่างทางเวลา จุดเด่นคือความอร่อยที่หลากรส หลายอารมณ์ อาทิ ความรัก, ตลก, ความรู้, กวี กระทั่งเรื่องบนเตียง!
แม้เนื้อหาหลากหลาย ทว่ากลมกลืนได้อย่างกลมกล่อม
เสน่ห์อีกอย่างคือการขยายชีวิตธรรมดาๆ ของมนุษย์ออกมาให้น่า สนใจ พรรณาผ่านภาษาง่ายๆ บ้านๆ บวกกับความรู้ความเชี่ยวชาญของผู้เขียน จึงใส่ความรู้บางอย่างลงในแต่ละเรื่องด้วย อาทิ ประวัติศาสตร์ การเมือง ฯลฯ แถมมีนัยยะแอบแฝงเล็กน้อยให้ขบคิดอีกด้วย อาจไม่ ได้มี ไว้อ่านเอาสนุก แต่หนังสือบางๆ นี้ เป็นอีกเล่มที่นักอ่านไม่ ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
BOOK : รักเธอที่สอง / หลายคนเขียน
ต่อเนื่องกับรวมเรื่องสั้น ทว่าเล่มนี้หลายคนเขียน
เป็นเรื่องราวความรักของเหล่านักเขียน นักแปล นักร้อง นักแต่งเพลง ดังบ้าง ไม่ดงั บ้าง เนื่องจากหลายคนเขียน ท�ำให้แต่ละเรื่องมีรสชาติที่ ไม่เหมือนกัน แล้ว แต่ส�ำนวนลีลาการปรุงอักษรของแต่คน หากชอบความหลากหลาย - เล่มนี้ตอบ โจทย์ หากชอบความกลมกลืนในการอ่าน - เล่มนี้พังทลาย... คอนเซ็ปต์เล่มมีความน่าสนใจ คือการพูดถึงความรักที่ ‘สอง’ โดยมีค�ำ โปรยเท่ๆ ว่า “คุณรักใครที่สุดในชีวิต? แล้วที่สองละ คุณรักใครเป็นที่สอง?” ประโยคนี้กระตุกเราให้ย้อนนึกถึงความรักครั้งที่สอง ซึ่งคนส่วนใหญ่ มองข้าม ซึ่งเรื่องสั้นแต่ละเรื่องก็จะสามารถสร้างบรรยากาศนั้นได้ โดยพูดถึง การมองข้ามบางสิ่งบางอย่างที่เป็นที่สอง หากคิดจะครอบครอง หนังสือเล่มนี้อาจจะหาอ่านยากซะหน่อย จัด พิมพ์ โดยส�ำนักพิมพ์อิสระ ‘ทูนหัว’ หาได้ถามร้านกาแฟ หรือร้านหนังสืออิสระ คุ้ยๆ หาๆ ก็มีสิทธิ์เจอเล่มนี้ ได้ ไม่ยาก
34
To Songs BY : Wallflower T.
SONG : ลืม (Forgotten) / Jelly Rocket
SONG : Blank Space / Taylor Swift
ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดอาจไม่ ใช่ตอนที่ความรักจบ ลง แต่เป็นตอนที่รู้สึกว่าทุกอย่างก�ำลังจะจบ แต่เรายังไม่ อยากจะยอมรับมัน ... เพลง ลืม (Forgotten) ซิงเกิ้ล ล่าสุดของวงดนตรีน้องใหม่ Jelly Rocket ถ่ายทอด ความทรมานเหล่านั้นผ่านเสียงร้องใสๆ ที่ถูกปรุงให้จัดจ้าน ด้วยดนตรีแนว Electronic Rock นับเป็นเพลงภาษาไทย เพลงแรกของน้องๆ หลังจากแต่งเพลงภาษาอังกฤษจนได้ ฐานแฟนคลับใน YouTube เยอะพอสมควร นอกจากจะ ฟังสบายได้อารมณ์เหงาๆ แล้ว สิ่งที่เราชอบในเพลงนี้ก็คือ ความรู้สึกที่ส่งผ่านออกมาจากเนื้อหาของเพลง ในยุคที่ทุก คนพยายามแต่งเพลงให้มีความหมายลึกซึ้งแต่กลับท�ำให้คน ฟังธรรมดาๆ อย่างเรารู้สึกไม่อิน เพลงของ Jelly Rocket กลับท�ำให้เรานั่งนิ่งๆ แต่เหงาซึมลึกไปถึงข้างในจิตใจ
ออกมาได้สักพักแล้วกับ ‘Blank Space’ ซิงเกิ้ล ที่ 2 ในอัลบั้ม 1989 ของเทย์เลอร์ สวิฟท์ ครั้งแรกที่ฟัง เพลงนี้เราถึงกับตบเข่าฉาด แหม่! คนอาร๊ายยย แต่งเพลง แซวตัวเองก็เป็น ฮ่าๆ เป็นที่รู้กันว่านางเด่นเรื่องถ่ายทอด อารมณ์แบบผู้หญิงๆผ่านการแต่งเพลงอยู่แล้ว แต่ขอยก ให้เพลงนี้เป็นเพลงชาติของผู้หญิงที่ถูกความรักท�ำร้ายค่ะ คือเพลงมันก็ ไม่ ได้เศร้าซึมหม่นหมองเหมือนหนังของหว่อง กาไวหรอก แต่รู้สึกได้เลยว่านี่คือเพลงของคนที่ ไม่ว่าจะมี ความรักสักกี่ครั้งก็ลงเอยด้วยความผิดหวังทุกครั้ง เรียก ได้ว่าเห็นอนาคตอยู่ร�ำไรจนถึงขั้นอุทานใส่คิวถัดไปว่า “You look like my next mistake!” ความจริงคนที่คิดอะไรแบบ นี้ ได้ก็น่าจะเข็ดกับความรักไปแล้ว แต่ผู้หญิงยุคใหม่ ไม่รีบ ยกธงขาวค่ะ เราจะลุกขึ้นมาประกาศกร้าวว่า “ความรัก ครั้งนี้อาจจะต้องจบลงสักวัน เมื่อผ่านช่วงแฮปปี้แฟรี่เทลไป แล้ว เราจะมีการทะเลาะและหึงหวงใส่กันแน่นอน แล้วมัน ก็คงจะเหมือนทุกครั้ง ... แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้ม และฉัน พร้อมที่จะเสี่ยงอีกครั้ง”
บางที ... ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดของความรักอาจ ไม่ ใช่แค่ตอนที่มันก�ำลังจะจบลงเท่านั้น แต่อาจรวมไปถึง ตอนที่ ได้นั่งฟังเพลงสักเพลง ... เพลงที่ท�ำให้เรายอมรับว่า ก�ำลังถูกลืมจริงๆ
และนี่คือเพลงแทนความในใจของผู้หญิงที่ ใครๆ ก็ นินทาว่าเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น ทั้งที่จริงๆเราก็แค่คิดว่าตัว เองคู่ควรกับความรักที่ดี และไม่ว่าจะต้องผิดหวังอีกสักกี่ ครั้ง เราก็จะยังแข็งแกร่งจนมีที่ว่างในหัวใจให้เริ่มต้นใหม่ ได้เสมอ 35
Away From Thailand อินเดีย & อเมริกา
Rann of Kutch
INDIA
เรื่องและภาพ : aposaof
ในยามแดดร่มลมตก แสงของดวงอาทิตย์แดงก�่ำเต็ม ดวงค่อยๆ พลอยลับตัดกับเส้นขอบฟ้า มีอูฐเดินโย่งโย่ ไปมา มอง ไปทางขวาเห็นม้าวิ่งอยู่ ไกลๆ เคล้ากับเพลงพื้นบ้านที่ลงจังหวะ กับกลอง Tabla ของอินเดีย อากาศหนาวเย็นจนอยากเอามือซุก กระเป๋าของคนข้างๆ ทันใดนั้นลมก็ โชยพัดพากลิ่นแอมโมเนียร์ ของอูฐยืนฉี่ ไม่ห่างกันเท่าไหร่มาใส่จมูก พัดเอาความโรแมนติก กระเจิงกระจาย สถานที่ที่พร�่ำไปขั้นต้นนั้นคือทะเลทรายที่เมือง Kutch ซึ่งเป็นดินแดนที่เวิ้งว้างไปด้วยภูมิประเทศแบบทะเลทราย แต่ เป็นทะเลทรายสีขาวราวกับเกลือ เราเลยเรียกมันว่าทะเลเกลือ ด้วยลักษณะและรสชาติของมัน ซึ่ง Kutch พิกัดของมันอยู่ ทางตอนเหนือของรัฐคุชราต ซึ่ง Kutch จะอยู่ติดกับชายแดน ปากีสถาน ท�ำให้มีด่านตรวจที่แน่นหนาก่อนจะเข้าไปถึง ที่ Kutch จะมีกิจกรรมจัดขึ้นปีละครั้งในช่วงหน้าหนาว ชื่อว่า Rann utsav เป็น festival ใหญ่ โตอลังการกลางทะเลเกลือที่ มีทั้งการแสดงพื้นบ้านน่าตื่นตาตื่นใจ มีทั้งของพื้นบ้านขายซึ่ง เอกลักษณ์ของเมืองนี้คือผ้าปักกับกระจกในแบบ Kutch ไฮไลท์ อยู่ที่การนอนเต็นท์กันกลางทะเลเกลือภายใต้อากาศหนาวไม่เกิน 5 องศาในตอนกลางคืน ใครที่หลงรักศิลปวัฒนธรรม Traditional ในแบบ อินเดีย ไม่ควรข้ามเมืองนี้ ไปเด็ดขาด ที่ส�ำคัญที่พลาดไม่ ได้ยิ่ง กว่านั้นคืออะไรรู้ ไหม อย่าลืมมาชิมทะเลเกลือที่ผสมแอมโมเนีย ร์ธรรมชาติจากฉี่อูฐ แล้วคุณจะยิ่งรัก Kutch ไม่รู้ลืม
36
USA
เรื่องและภาพ : Rin Jenwarin
ที่ ไทยเวลาคนพูดถึงหิมะ ใครๆ ก็จะตื่นเต้นกัน มากๆ ว่าอยากไปอยู่ที่ๆ มีหิมะตก ดูในรูปหรือในภาพยนตร์ เวลาหิมะตกนี่ดูสวยงาม ฟรุ้งฟริ้ง เบาเป็นปุยนุ่น สีขาว สะท้อนแสงจากโคมไฟข้าง ทางเดิน ตอนกลางคืน สื่อหลายๆ สื่อบอกเราว่า เวลาหิมะตกนี่มันสวย จริงๆ นะ แต่ ไม่เคยมี ใครบอกว่า การต้องเดินฝ่าหิมะขาไป เรียนตอนเช้าก่อนที่ฝ่ายนิติบุคคล (จอมตื่นสาย) ยังไม่มาก วาดหิมะตรงทางเดินออกให้ มันไม่สนุกเลย!! ไม่เคยมี ใครบอกว่า หิมะพอปล่อยทิ้งไว้ โดนรถ ย�่ำซ�้ำๆ และกวาดขึ้นมากองไว้ข้างทาง มันไม่น่าดูเอาซะเลย ไม่มี ใครเคยบอกว่า การอยู่มหาวิทยาลัยที่พยายามฝึกเด็กให้ เป็นนักรบแห่งขั้วโลกเหนือ ต่อให้พายุเข้า คลาสก็ ไม่ยกเลิก มันเย็นถึงขั้วกระดูกขนาดไหน และไม่มี ใครเคยบอกว่า หิมะ ที่ละลายแล้ว พออุณหภูมิลดลงต�่ำกว่า 0 เซลเซียส มันจะ กลายเป็นน�้ำแข็งปิศาจ Black ice ที่เหยียบแล้วลื่นหัวแตก และถ้ารถขับผ่าน Black ice บนถนนละก็ รถจะไหลจนรู้สึก ว่าเราจะมีเบรกรถไว้ท�ำไม มันเสี่ยงตายขนาดไหน!! (เว่อร์)
ไม่มี ใครเคยบอก. . .
ฉะนั้น รินขอบอกตรงนี้ ให้เลยว่า ความจริงแล้ว ชีวิตหลังหิมะตกมันล�ำบากมากค่ะทุกคน
Snow Snow
Snow!
Another Language ภาษาอังกฤษ & มลายู
38
Love is Blind
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
39
พื้นที่เล็กๆ รูปและเรื่อง : nropapin
โลก-ส่วน-เรา รู้ ใช่ ไหม..ต้นไม้ที่งอกเงยจากเมล็ด จะแตกรากแก้วลึกลงสู่ดิน อย่างมั่นคง ค่อยเป็น ค่อยไป เติบโต อย่างช้า ช้า ผลิดอกออกผล อย่างเงียบ เงียบ ฉันชอบที่สิ่งไม่ต้องถูกไม่ปกปิด ฉันชอบที่สิ่งที่ ไม่ต้องป่าวประกาศ ความรู้สึก ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ส�ำหรับฉัน มันควรเป็นไปเช่นนั้น เราควรปลูกมันด้วยน�้ำมือ และน�้ำใจ ผ่านปีแสงเวลาในชีวิต มากกว่าปล่อยให้มันเติบโตด้วยปุ๋ยเคมี ในโลกที่พร้อมจะโหมกระแส เร่งวันคืน จากความคาดหวัง ความคิด ความเห็น ค�ำพูด สายตาของใคร ในโลกที่ ไม่เหงา แม้มีเพียง เราสองคนเท่านั้น ที่เข้าใจ และนี้..อาจเป็นเหตุผลว่าท�ำไม ต้องมี..โลกส่วนเรา !!
40
A Picture I Draw ภาพ : เงาเมฆ
c ti
he st
Ae 41