จุลสารโขงสาละวิน ฉบับพิเศษ ฉบับที่ 25

Page 1

1


ทักทาย... ·Ñ¡·ÒÂ... ·Ñ¡·ÒÂ... ¡·ÒÂ... โดยบรรณาธิการ ·Ñ¡·ÒÂ...¡Òà ·Ñ¡·ÒÂ... â´ÂºÃÃ³Ò¸Ô â´ÂºÃÃ³Ò¸Ô ¡ Òà ´ÂºÃÃ³Ò¸Ô ¡Òà ¡Òà â´ÂºÃÃ³Ò¸Ô â´ÂºÃóҸԡÒÃ

ยเรีเก็นรู เเกี่อรื่อ่ยงชาติ งชาติ พันตันพ...ชาติ ธุัน  ธุ พันธุ์ ยเบยรืนรู เรีเเรืวผลผลิ ่ยอ่อนรู งชาติ เรีเรี ยนรู พ ธุ เรี นรู รื งชาติ พ ันอทีธุลพ่  านสมเด็ เวรืสิ่อคงชาติ ันธุ จ” สิน้ เสียง เรียนรู เรื่อ·Ñ“ไทอาหมเขาไปถ่ งชาติ พ น ั ธุ  า ยมิ วี ด โ ิ ¡·ÒÂ...

“การศึ กษารวบรวม รวบรวม เผยแพร วกั ชาติ พพัพนันธุันธุ”ธุ”” “การศึ กกษา รวบรวม เงราวเกี รืงราวเกี ่ออ่ งราวเกี ่ย่ยวกั บบชาติ “การศึ ก“การศึ ษา เผยแพร รืเรื่อา่อกล้ ่ย่ยปวกั บบอมขาตั ชาติ ของเพื ่อâ´ÂºÃÃ³Ò¸Ô นร่ วกมงาน ฉัเผยแพร นรีบเคว้ งถ่ ารืยรู พร้ ้งบบึชาติ ษา รวบรวม เผยแพร เ รื งราวเกี วกั ชาติ พ่งรถ ันนธุพ”ันธุ” “การศึ ษา รวบรวม เผยแพร เ ่ อ งราวเกี ่ ย วกั ¡ Òà ษา รวบรวม เผยแพร เ รื ่ อ งราวเกี ่ ย วกั บ ชาติ พ ั น ธุ  ” คื อ ภารกิ จาสํคัจาญคัสํของสถานอารยธรรมศึ ญ ของสถานอารยธรรมศึ กษา ษา โขง-สาละวิ คืคืออจภารกิ า คั ญ ของสถานอารยธรรมศึ ก ษา โขง-สาละวิ อภารกิ สํ ก โขง-สาละวิ นนน ¼Ù¼ÙÍŒ ¼ÙÒÍíŒ ÍŒ¹Ç¡ÒÃÃÑ ººâÅ‹âÅ‹ºà¡ÕàâÅ‹ ȼ٠ç¤Ø ÇØÇز²³Ô Ô ÇØ²Ô มอเตอร์ นที ก ษา โ ขง-สาละวิ ภารกิ จอสํภารกิ า คั ไญซค์ ของสถานอารยธรรมศึ ก ษา กโขง-สาละวิ Òí ¹Ç¡ÒÃÃÑ ¡ÕÂÂÃµÔ È¼Ù·Œ ·Œ ȼ٠ç¤Ø·Œ ³³ คืนเรศวร จตามนโยบายของศาสตราจารย สํตาามไปทั คั ญ ของสถานอารยธรรมศึ ษา โขง-สาละวิ น Òí¹Ç¡ÒÃÃÑ ¹Ç¡ÒÃÃÑ à¡ÕÃµÔ ÂÂÂÂÃµÔ Ã§¤Ø คั ญ ของสถานอารยธรรมศึ น มหาวิ ท ยาลั ย ดร.สุ จ ิ น ต จิ ¼Ù Í Œ Ò í º âÅ‹ à ¡Õ Â ÃµÔ È¼Ù Ã§¤Ø ³ Çز²³Ô Ô ÇØ²Ô ¼Ù Í Œ Ò í ¹Ç¡ÒÃÃÑ º âÅ‹ à ¡Õ Â ÃµÔ · Œ ç¤Ø ³ ÇØ ท ยาลั ย นเรศวร ตามนโยบายของศาสตราจารย ดร.สุ จ ิ น ต จิ หาวิทมหาวิ ยาลั ย นเรศวร ตามนโยบายของศาสตราจารย ดร.สุ จ ิ น ต จิ ¼Ù·íÍŒ ·íÒÒí·í§Ò¹¾Ñ âÅ‹ ÃµÔ Â³Øȼ٠ç¤Ø นรู เรืก่อชุงชาติ พทุจันกินธุสัตดร.สุ ²²¹Ò¨Ñ §กº§ËÇÑ ´ËÇÑ Ò·ŒÒ§µ‹ ÍÍÒà¹× ยนเรศวร ณ หอพระเทพรั ตเรีน์ยและลานพระบรมราชานุ สดร.สุ าวรี มหาวิ ทารบดี ยาลั ตามนโยบายของศาสตราจารย จลินวตยนจ์ ินจิต จิ บรรยากาศการบั น²¹Ò¨Ñ ทึ¹Ò¨Ñ ภาพประกอบเพลง มหาวิ ทยาลั ยยาลั นเรศวร ตามนโยบายของศาสตราจารย ҹǡÒÃÃÑ §Ò¹¾Ñ ËÇÑ ´à¾Ô¡Õ¾ÔÉ´ÂÉ³Ø ³ØÉââÅ¡Í‹ Å¡Í‹ §µ‹ à¹× Ò §Ò¹¾Ñ § ¾Ô â Å¡Í‹ §µ‹Íè ÍèÍè “กาฮิ ͧ§§à¹×Íè §กน่า” นเรศวร ตามนโยบายของศาสตราจารย ดร.สุ จิ นายน อธิ ก ม หาวิ ท ย นเรศวร ด ว ยทุ ม ชน ง คม ·í Ò §Ò¹¾Ñ ² ¹Ò¨Ñ § ËÇÑ ´ ¾Ô É ³Ø â Å¡Í‹ Ò §µ‹ Í à¹× ·í Ò §Ò¹¾Ñ ² ¹Ò¨Ñ § ËÇÑ ´ ¾Ô É ³Ø Ò §µ‹ Í à¹× Í è § นายน อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย นเรศวร ด ว ยทุ ก ชุ ม ชน ทุ ก สั ง คม ล ว น ยน อธินายน การบดี มกสมเด็ หาวิจพระนเรศวรมหาราช ทยาลัยทนเรศวร ดมหาวิ วยทุ ชุมยกนเรศวร ชนมชน ทุกบรรดาสาว สักงสัคม ลวๆนวน Ò§Ò¹¾Ñ²¹Ò¨Ñ §´Ã.ÇÈÔ ËÇÑ ³Ø Å¡Í‹ ÒÅŧµ‹¼Ù¼ÙŒÍÍŒÍจากรั ÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ ¹เก¹´¾Ô »˜¹»˜โดยชาวไทอาหม ÞÉÞ»˜ ÞÒÇØ ¸¸µÃС٠¹Ç¡Òà อธินายน ารบดี ยาลั ยทนเรศวร ด่ งทหมายถึ วกยาลั ยทุ อธิมกหาวิ ารบดี มวหาวิ ยาลั ย นเรศวร ดสัวชุยทุ กงราวเกี ชุีมทุวัลชน ทุงคม กสับงลคม ลพวันนธุ” ¼ÙศิŒª¼Ùล¼Ù‹ÇŒªปะการแสดงของไทพ่ ‹Ç·íÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ ÞÒÇØ µÃС٠¹Ç¡Òà ÂÈÒʵÃÒ¨ÒàÞâÞÒÇØ ¸µÃС٠ÅíÒíÒíÒà¹× ¼ÙÍè ŒÍฐ§íÒอั¹Ç¡Òà า สสัม บดี ม หาวิ ท ยาลั ย นเรศวร ด ยทุ ก ชุ ม ชน ทุ ก ง คม ว น มี ค วามหลากหลายทางด า นชาติ พ ั น ธุ ซึ ง วิ ถ ฒ นธรรม “การศึ ก ษา รวบรวม เผยแพร เ รื ่ อ ่ ย วกั ชาติ ª Œ Ç ‹ ÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ ¹ »˜ Þ ÞÒÇØ ¸ µÃС٠Š¼Ù Í Œ ¹Ç¡Òà มีมีคความหลากหลายทางด าาาประกอบเพลงกาฮิ นชาติ ซึซึ่ ง่ งหมายถึ วัวัวั ฒฒ นธรรม ¼ÙŒª‹ÇÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ¹¹ »˜»˜¹Þ Þ ÁËÒÇÔ µÃС٠Š¼ٹàÃÈÇà ŒÍÅíҹǡÒà ความหลากหลายทางด าานชาติ พั น ธุพพ ั นซึั นธุ่ งธุ หมายถึ งให้วิงฉถงวินั วิี ถได้วัถี ี ฒ นธรรม ¼Ù ª Œ Ç ‹ ÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ ÞÒÇØ ¸ µÃС٠¼Ù Í Œ Ò í ¹Ç¡Òà ʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ ¡ ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ · ÂÒÅÑ à¢Œ ไทอาหมต่ า งร่ ยลี ล ก น่ า ร ชั ต เตอร์ วามหลากหลายทางด นชาติ  หมายถึ นธรรม มีนชาติ คความหลากหลายทางด านชาติ ่ งหมายถึ วั ฒนธรรม นʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ Ê¶Ò¹ÍÒøÃÃÁÈÖ ¹ ÁËÒÇÔ ·ÂÒÅÑ·ÂÂÒÅÑ ¹àÃÈÇà ࢌดÒÒ้านà¢ŒÒ ¡ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ ¹มวิชÁËÒÇÔ Â¹àÃÈÇà หลายทางด าวามหลากหลายตามไปด ั น ธุจ สํซึา่ งคัหมายถึ นธรรม ประเทศอิ นเดีย¡¡ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ ในการประชุ าการนานาชาติ ประเพณี ยอคมมี วามหลากหลายตามไปด วยยงวพวิยั นถธุี  วัซึฒ คืวามหลากหลายตามไปด อพ ภารกิ ญ ของสถานอารยธรรมศึ กงษาวิถี โขง-สาละวิ ʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ ¹ ÁËÒÇÔ ÂÒÅÑ Â ¹àÃÈÇà ࢌ Ò à¢ŒÒ ประเพณี ย อ  มมี ค ʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ ¡ ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ ¹ · ÂÒÅÑ Â ¹àÃÈÇà ࢌ Ò ะเพณี ย อ  มมี ว ʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ ¡¼ÙÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ ÂÒÅÑ Â¹àÃÈÇà ͌ Òí ¹Ç¡ÒÃÃÑ ºÃ§¤Ø ²¹ ÃµÔ ÂÁËÒÇÔ È¼Ù ÇØÕ·²íÒÔ §Ò¹ã¹¡Òà ÃѺÃÑÃѺâÅ‹âÅ‹à¡Õà¡ÕÃµÔ ÂÂÈ㹰ҹм٠Œ·Œ·Ã§¤Ø ³âÅ‹³ÇØà¡ÕÇز³ Ô ÇØÔ à»š ¹Ô ¹à»š ¼Ù·Œ ¼ÙŒ·Ã§¤Ø Õ·Õ·¼Ù·íÒ³íҧҹ㹡Òà ทัอั ก้งมมี ภาพนิ ่งอและภาพวี ดิโออย่างเต็อาจทํ มอิว่มยสมใจ ประเพณี ยประเพณี คประยุ วามหลากหลายตามไปด ย มมี ค วามหลากหลายตามไปด ว ย Â ÃµÔ È㹰ҹм٠ç¤Ø ໚ · Œ §Ò¹ã¹¡ÒÃ Â ÃµÔ Â È㹰ҹм٠· Œ ² ¹ · Œ ความหลากหลายตามไปด ว ย ษ ก ต ผสมผสาน า ให บ างสิ ่ ง สู ญ หาย การอนุ ร ชาติ พ น ั ธุ ใ ์ นเอเชี ย ครั ง ้ ที ่ ๑ ชี ว ต ิ อ� ำ นาจ ชาติ พ น ั ธุ ์ เมือ่ ตามนโยบายของศาสตราจารย ดร.สุ จºินตâÅ‹จิà¡ÕÃѺÂâÅ‹ÃµÔ ÂàÈ㹰ҹм٠ÂÈ㹰ҹм٠Œ·Ã§¤Ø ³´³¾ÔÇØÇØÇز Ô Ô Ô à»š ¹¼Ù¹Œ·Ò¼ÙÕ·§µ‹ ·Œ·íÒíÒͧҹ㹡Òà §Ò¹ã¹¡Òà ษษชาวไทอาหมเหล่ ประยุ กกยตนเรศวร ผสมผสาน อาจทํ าาให บบันางสิ สูสูนญญทาง หาย รรั กั กมหาวิ กทตยาลัผสมผสาน อาจทํ า ให บใหางสิ ่ ง์ทสูี่เ่ ง่ งดิญ หาย การอนุการอนุ รั ก ษ ประยุ ÃѺৡÕâÅ‹ÂËÇÑ ¡ÕõԴ¾ÔÃµÔ Â·í³Ø È㹰ҹм٠Œ·Ã§¤Ø ç¤Ø ²§¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× ÃÑหาย · Œ ³ ² ໚ · Õ Ò í §Ò¹ã¹¡ÒÃ Ò §Ò¹¾Ñ ² ¹Ò¨Ñ § ËÇÑ É ³Ø â Å¡Í‹ à¹× Í è § ¾Ñ ² ¹Ò¨Ñ É â Å¡Í‹ Ò §µ‹ Í à¹× Í è Í è ·Œ Í §¶Ô ¹ è ã¹ า นี เ ้ ป็ น หนึ ง ่ กลุ ม ่ ชาติ พ ธุ ประยุ ต ผสมผสาน อาจทํ างสิ หาย การอนุ ก ษ ประยุ ก ต ผสมผสาน อาจทํ า ให บ างสิ ่ ง สู ญ การอนุ ร ั ¹Ò¨Ñ §§ËÇÑ Ò§µ‹Ò§µ‹ Íà¹×ÍÍè à¹× §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× èÍ·ŒÍ§¶Ô ã¹ตน์ã¹ ¹Ò¨Ñ ËÇÑ´´´สิ¾Ô¾Ô¾ÔงÉÉหาคม ɳسØââÅ¡Í‹ âÅ¡Í‹ Íè §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× èÍ·Œè¹è¹Í§¶Ô กษ ประยุ กต ผสมผสาน ใหยบนเรศวร างสิ บางเรื ่องราวอาจกลั บกลาย วยกระบวนการ กลวิ การดํ นายน อธิดกวดารบดี หาวิทายาลั ชุการดํ มชนาารงอยู กสัง คม น¾Ñ¾Ñ¾Ñวั²²น§¾ÑËÇÑ ที²่ ¹Ò¨Ñ ๒๑ ๒๕๕๘ บริ¸è¹µÃС٠เวณหอพระเทพรั ¹Ò¨Ñ §¾Ô ËÇÑ Ò§µ‹ à¹×à¹×»˜Íè Íè Íèณ §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× Í§¶Ôèͧ¶Ô ã¹è¹è¹ ่อ่องราวอาจกลั บบอักลาย ดอาจทํ ววมยกระบวนการ กลวิ ีเ่อ่อญ พืพืการดํ ่อก่หาย าทุารงอยู งเรื ่อบางเรื งราวอาจกลั บกลาย ยกระบวนการ กลวิ ธธ่ งเข้ ีเดีเพืสูพืธวธายทุ รงอยู  ¾Ñ  ²ลว¹Ò¨Ñ §É ËÇѳش¾Ôâ³Ø Éò³ØÅ¡Í‹ âÅ¡Í‹ Ò§µ‹Í͹Íà¹× §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× èͼٹèÍ·ŒŒÍ·Õ·ŒíÒ͹Ç¡Òà 蹷ŒÍ㹧¶Ô ´ Å¡Í‹ Ò §µ‹ §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ× ¼Ù ª Œ Ç ‹ ÂÈÒʵÃÒ¨Òà´Ã.ÇÈÔ Þ ÞÒÇØ Å §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ »‚ Ê ÁÒ¤ÁÊ× Í è ·Œ Í §¶Ô àÁ× Í è ÇÑ è òõ มาจากรั ฐ ส สั ม ประเทศอิ น เดี ย เพื ่ อ ร่ ว มโครงการ บางเรื งราวอาจกลั กลาย ด ยกระบวนการ กลวิ ี เ อ การดํ รงอยู ่อามีงราวอาจกลั บกลาย ดวยกระบวนการ กลวิ  §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ òò»‚Ê»‚ÁÒ¤ÁÊ× Íè ·ŒÍè §¶Ô àÁ×è¹èÍÇÑàÁ×¹·ÕèÍèÇÑòõ ÊÁÒ¤ÁÊ× ·ŒÍ蹧¶ÔàÁ× ¹·Õè òõ ã¹ จกลั บพักลาย ีเงมี พืกงมี การดํ รงอยู ของเผ า พัธุนาจึพัธุงบางเรื  นดจํจึธุวงา ยกระบวนการ จํเป เป นเปอย า งยิ ่งยิ ง ที่ จ่ กลวิ ่ จะต ะต อธางมี ก่อารศึ ารศึ ษา วิวิธีเจจพืวิั ยั ยจ่อง ัการดํ คจํนวามหลากหลายทางด นชาติ พกั นารศึ ธุกก ซึษา ่ งาหมายถึ วิและ ถและ ี วั ฒารงอยู นธรรม จึ ง า น อย า ง ที ่ จ ะต อ ก ษา ย §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ ò »‚ Ê ÁÒ¤ÁÊ× Í è ·Œ Í §¶Ô Í è ÇÑ ¹ ·Õ è òõ องเผ าของเผ น อย า งยิ ่ ง ที อ และ มหาวิ ท ยาลั ย นเรศวร §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ ò »‚ Ê ÁÒ¤ÁÊ× Í è ·Œ ¹ è àÁ× Í è ÇÑ ¹ ·Õ è òõ ò³³»‚ ÊËÍ»ÃÐªØ ÁÒ¤ÁÊ× Íè ¹Á·Œ ͪÔÃç¶Ô àÁ× èÍÁËÒÇÔ ¹ ·Õࢌ·è ÂÂÒÂÒÅÑ òõ ʶҹÍÒøÃÃÁÈÖ ¡³ ÉÒ⢧-ÊÒÅÐÇÔ Â¹àÃÈÇà ของเผ าสพัรของเผ นาางองค ธุงยิ  จึมา่ งงวิพัจํทีคชนา่าการนานาชาติ า งยิ ทีดา่ จ้างยินชาติ ะต การศึ ษา วิษา òõõø ËÍ»ÃÐªØ ÁÁÈÃÕ ÇÇÈÃÕ ªÔÁËÒÇÔ âªµÔ ÁËÒÇÔ ·ÇÑ·ÂÒÅÑ ÃÒª ประชุ พะตันกธุอวิารศึ ์ใางมี นเอเชี ยอกขครั ้งั ยทีวิ่ จและ ๑ั ย §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ  ะต จึยนองอย จํมมี นสกอย ่ งกและสร ทีอษา ่ จงมี และ ¡Ã¡®Ò¤Á ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ÈÃÕ âªµÔ ÁËÒÇÔ ÂÒÅÑ ÃÒª ÂÃÒª ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ËÍ»ÃÐªØ ÇâªµÔ ªÔ·è¹ ÃÂÒÅÑ âªµÔ จึเคราะห นรอย จธุเป ารศึ จงเครื และ สังงจํเคราะห วามรู อเา่พืองมี ง่ งสเสริ มและสร งเครื าาขจยงาน ประเพณี คเป่สอเวามหลากหลายตามไปด วาั ยกยงเครื สัาสังเป เคราะห ส ร า งองค ค วามรู พื ่ อ ง เสริ ม และสร อ า ยงาน ส า งองค ค วามรู  เ พื ง เสริ ม า อ ข ยงาน ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ³ ËÍ»ÃÐªØ Á ÈÃÕ Ç ªÔ à ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ Â ÃÒª ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ³ ËÍ»ÃÐªØ Á ÈÃÕ ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ Â ÃÒª ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ³ ËÍ»ÃÐªØ Á ÈÃÕ Ç ªÔ Ã âªµÔ ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ ÂÃÒª งคเคราะห งองค ่ อิภณสาคเอเชี งมหาวิ มทงยและสร งเครื อ ข่อาวัอยงาน âŋʧ¤ÃÒÁ à¡ÕÂõÔÂÈ㹰ҹмٌ·Ã§¤Ø³ÇØ²Ô à»š¹¼ÙŒ·Õ·íҧҹ㹡Òà ำส นาจ ันค เธุพืวามรู ยาลัอมยและสร นเรศวร เมื นขทีา่ ยงาน ÀÑÀѯÀѾԯ¾ÔººÙÅÃÑʧ¤ÃÒÁ สัชีจงวัยสเคราะห รพคาชาติ งองค  เเสริ พืาต่ องเครื สผสมผสาน เสริ าางเครื างองค วามรู  เิตนชาติ งสการอนุ เสริ มันใรพนภู ข าาอาจทํ ยงาน วิชาการ งานวิ ดรพื าาัยอ�่ อนชาติ ันวามรู ธุนภู ม์ประยุ ษในภู กาคเอเชี ใหบางสิ ่งสูญหายÀѯ¾ÔÀѯº¾ÔÙÅÙÅźºÊ§¤ÃÒÁ ักธุและสร วิวิชงานวิ าการ งานวิ จ ด า นชาติ พ ม ภ ิ ย าการ จ ย ั ด า พ น ั ธุ ใ  ม ภ ิ าคเอเชี ย ʧ¤ÃÒÁ ÙÅʧ¤ÃÒÁ ชโครงการประชุ าการพงานวิ ัย๒๑ ดงานวิ าวินชาติ ันธุ่ผใ่านภู ¾Ñ²¹Ò¨Ñ §ËÇÑ´¾ÔɳØâÅ¡Í‹ҧµ‹Íà¹×Íè §¨Ò¡ÊÁÒ¤ÁÊ×èÍ·ŒÍ§¶Ôè¹ ã¹ –จนภู สิ​ิภชงจาคเอเชี หาคมที นมา... ้เยราจึงได้ �ำความรู ้จักย Àѯ¾ÔºÙÅʧ¤ÃÒÁ วิัน๒๐ ชธุาการ ัยดพานชาติ พกลาย ันมธุิภใาคเอเชี นภูดงานนี มยกระบวนการ ิภานชาติ าคเอเชี ยพันทธุกลวิ จัยดโครงการประชุ านชาติ ใ  ม ย ม าการนานาชาติ ด   ใ นเอเชี บางเรื อ ่ งราวอาจกลั บ ว ธ ี เ พื ่ อ การดํ า รงอยู  โครงการประชุ ม วิ ช าการนานาชาติ ด  า นชาติ พ ั น ธุ  ใ นเอเชี ย ม วิ ช าการนานาชาติ ด  า นชาติ พ ั น ธุ  ใ นเอเชี ย โครงการประชุ มวิชน้ าการนานาชาติ ดานชาติ ย ย ชาวไทอาหมมากขึ ผัาการนานาชาติ สเป ฒนนธรรมที าอยคลึ งันารศึ กัธุบย นเรา §Ò¹©Åͧ¤ÃºÃͺ ò »‚ÊÁÒ¤ÁÊ×Íè ·ŒÍ§¶Ôè¹ àÁ×èÍÇѹ·Õè òõ โครงการประชุ ดมมื างมี นชาติ พใบ้กนเอเชี ันาษา ธุในเอเชี รประชุ ม ชิตาการนานาชาติ นเอเชี ครั่ ้ง๑ครั ที่ “ชี ๑ทีวิ่ ว“ชี ว“ชี ิตาวอํนาจ าของเผ นาจ วใล้มมื อพกของสถาน ของสถาน าชาติ พั นพชาติ ธุ พันจึได้ันธุงมดพจํสวิ”ธุาาันมัช”เปนชาติ นวันอย าความร งยิพความร ่ งันที่ จธุค่ วะต วิ จั ย และ ้ ง ๑ ิ ต อํ า นาจ ธุ  ” เป น ว มมื อ ของสถาน งที อํ ชาติ เป ความร อ ครั ้งที่ ๑ชาติ วทีพิต่ โขง-สาละวิ า”นาจ ันชาติ ธุ”พงอวเป น”นความร วมหาวิ มมืใอวนฉบั ของสถาน ด้“ชี ว้งยเป็ นงอํชาติ พวิตันเป ธุอํส์ตชาติ ลพไทเหมื ดความร ตามได้ “ชี ารระกู ันนกั นเสริ มมื อบของสถาน ตรยธรรมศึ อําอารยธรรมศึ นาจ ธุโขง-สาละวิ น มมื อารยธรรมศึ กครั ษา นนาจ คณะสั คมศาสตร ททายาลั ยอยขยา ยงาน ¡Ã¡®Ò¤Á òõõø ³ ËÍ»ÃЪØÁÈÃÕǪÔÃâªµÔ ÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑÂÃÒª สั๑ัน เคราะห าความร งองค ค วามรู  เธุพืคมศาสตร ่ อ...อเป ส งติของสถาน มมหาวิ และสร งเครื ก ษา น คณะสั ง มหาวิ ท ยาลั ก ษา โขง-สาละวิ น คณะสั ง คมศาสตร ยาลั อารยธรรมศึ คณะสั งธุคมศาสตร ยาลั ย ย กนษา าโขง-สาละวิ แต่กทษา ุกท่วงโขง-สาละวิ าจมภาคี นรู จานักนชาติ ชาติ ันธุคณะสั ์มหาวิ และแง่ มทีุมยาลั าง ยๆมหาวิ อารยธรรมศึ คมศาสตร ทยาลั Àѯ¾ÔºÙÅʧ¤ÃÒÁ ษา โขง-สาละวิ คณะสั คมศาสตร นเรศวร และหน ใ นเอเชี ยมิภวังยวัาคเอเชี นวัท ่ ทีต่มหาวิ ๒๐ ––ทของ ๒๐ วิวชว่ยงานร าการ งานวิ ัยวด้มภาคี พพในันนเอเชี ในภู ย๒๐ นเรศวร และหน ว ยงานร น ่ ๒๐ – ๒๐ รศวร และหน ว ยงานร ว มภาคี ใ นเอเชี ย น ที ่ ๒๐ นเรศวร และหน ว ยงานร ใน์น นเอเชี ยท ยาลั วัพน–ยนั ทีธุยมวั์๒๐ ่ าพร้ – บ๒๐ ชาติ นั ณธุ์ มากน้ ยแค่ ไวหนมภาคี คอลั รอ้ มหาวิ งชาติ มกั นเรศวร และหน ว ยงานร น๒๐ ที่อพ๒๐ ๒๐ ย กรอบแนวคิด หน้า ๓ ะหน วณพมภาคี ใอนเอเชี ยมวิวชมวัมภาคี ทียเรืมหาวิ ่ ใอ่ นเอเชี ๒๐ สิ ง หาคม ๒๕๕๘ อาคารเอกาทศรถ นเรศวร โครงการประชุ าการนานาชาติ ดายนชาติ ันธุใ–นเอเชี สิวสิงงยงานร หาคม ๒๕๕๘ ณ อาคารเอกาทศรถ ท ยาลั ย นเรศวร หาคม ๒๕๕๘ อาคารเอกาทศรถ มหาวิ ท ยาลั นเรศวร มหาวิดร.อรรถ ท ยาลัทนัยาลั ยนนเรศวร สิความกระจ่ ง๒๕๕๘ หาคม มหาวิ นเรศวร าณ่ งชั ดอาคารเอกาทศรถ โดยศาสตราจารย์ ทจั ร์ ๕๘ ณยหาคม อาคารเอกาทศรถ ทเกียาลั รายละเอี ยดงานเป นอย า๑งไร าอาคารเอกาทศรถ กกยษา ครั ้งาทีน๒๕๕๘ “ชี วอผูณิตําอนวยการสถานอารยธรรมศึ อํ​ํมหาวิ าอนวยการสถานอารยธรรมศึ นาจ ชาติ พยรติ ันธุค”ยณุ เปนเรศวร นความร วมมื อกกษา ของสถาน รายละเอี ย ดงานเป อย า งไร ผู  ํ า นวยการสถานอารยธรรมศึ ยละเอี ดงานเป น อย งไร ผู รายละเอี ยผู้เดงานเป นอย างไร ผูดธุา์อไป ํานวยการสถานอารยธรรมศึ กษา ษา ษา รายละเอี ย ดงานเป น อย งไร ผู  อ ํ า นวยการสถานอารยธรรมศึ ชีอ่ยผู วชาญเรื อ ่ งชาติ พ น ั านเป น อย า งไร  อ ํ า นวยการสถานอารยธรรมศึ ก ษา โขง-สาละวิ น พร มขานไขในหน า ถั อารยธรรมศึ กถัษาดไป โขง-สาละวิ น คณะสังคมศาสตร มหาวิทกยาลั ย ร้อยเรื่องชาติพันธุ์ หน้า ๔ โขง-สาละวิ น พร อ มขานไขในหน า ถั ด ไป ง-สาละวิ น พร อ มขานไขในหน า โขง-สาละวิ น พร อ มขานไขในหน า ถั ด ไป โขง-สาละวิ น พร อ มขานไขในหน า ถั ด ไป ปิ ด ท้ า ยเรื อ ่ งชาติ พ น ั ธุ ์ ว ้ ยหนึ ง ่ งานวิ จ ย ั บนเวที ก ารน� ำ เสนอ รอมขานไขในหน า ถั ด ไป นอกจากนี ้อารยธรรมศึ กษากโขง-สาละวิ โขง-สาละวิ ารดํ นเรศวร ว ยงานร ว มภาคี ยาาเนิ นนนทีงาน ่ งาน ๒๐ – ๒๐ นอกจากนี ้อ้อารยธรรมศึ ษา โขง-สาละวิ งกงกมีมีารดํ กการดํ าวัาเนิ นงาน นอกจากนี ้อารยธรรมศึ กและหน ษา นนยัยันงนงมียัใมียันเอเชี เนิ นอกจากนี ารยธรรมศึ ก ษา โขง-สาละวิ ารดํ เนิ น งาน นอกจากนี ้ อ ารยธรรมศึ ก ษา โขง-สาละวิ น ยั ง มี ก ารดํ า นงาน เรียนรู้ชาติพันธุ์ หน้า ๖ ผลงานวิ ช าการ ในคอลั ม น์ เ ล่ า เรื อ ่ งงานวิ จ ย ั ฉาน : อั ต ลั ก ษณ์ นีนทํ ้ดอาารยธรรมศึ ก ษา โขง-สาละวิ น ยั ง มี ก ารดํ า เนิ น งาน นุา รุบางํ นุาศิรุบลงํ าศิปวั ลงปวั ฒ นธรรมอี กมากมาย ซึ่ง่งจุซึจุล่งลจุสารโขงสาละวิ สารโขงสาละวิ นยนนเรศวร สิลงนธรรมอี หาคม ๒๕๕๘ ณกมากมาย อาคารเอกาทศรถ มหาวิ ท ยาลัเนิ ดนุดาบาานทํ รุ ศิ ปวั ฒ นธรรมอี ล สารโขงสาละวิ นน านทํ ํนทํ ฒ ก มากมาย ซึ า นุ บ ํ า รุ ง ศิ ล ปวั ฒ นธรรมอี ก มากมาย ซึ ่ ง จุ ล สารโขงสาละวิ ดทางชาติ า่ยนทํ ารายละเอี ศิยลดงานเป มากมาย ซึุก่งทจุประเทศพม่ ลานไม สารโขงสาละวิ นั ํ าวธุรุบนมาร ์ งนผื นปวัผ้อาฒ หนึ เอกลั กยกษณ์ ขํา่อองรั ฐทฉาน า กนษา ลนี้ไปวั กนุพวบมากมาย ซึนธรรมอี จุงเพี ลาเพี สารโขงสาละวิ นลลืมลืมใน บฉบั นีเก็้ไฒ ก็้ไดบ่ยเเกี วบางส ยเรี งเพื ให น่ ยงง่ อย งไร ผูยองเพื นวยการสถานอารยธรรมศึ บดบบนีเนีนธรรมอี ก็ บ เกี ่ ย วบางส ว นมาร อ ยเรี ย ง เพี ่ อ ให ท ุ ก ท า นไม ื ม บัศิบฉบั ดฉบั เกี วบางส นมาร อ ยเรี ย ย งเพื ่ อ ให ท ุ ก ท า นไม ใน ้ไนมาร ดเฉบั ่ยยเรี นมาร อวนมาร ยเรี ยให ง ยเรี เพีุกยท งเพื ่อยแต่ให ทมัล่อยุกให ทใน านไม ลนไม ืมใน ในลืมใน หนึ่งงานวิจัยชาติพันธุ์ หน้า ๘ ้ไโขง-สาละวิ ดวบางส เก็ย่บยวพั เกีง่ยนววบางส อ ง เพี งเพื ท ุ ก ท า ทีก็ม่ บบคี เกีนีวามเกี เชื อ ่ มโยงกั บ ประเทศไทยตั ง ้ ส สงครามโลก กีกเหง ่ยรากเหง วบางส ว อ เพี ย งเพื ่ อ ท า นไม ื ม า ของตนเอง นพรอมขานไขในหนาถัดไป รากเหง าาของตนเอง ารากเหง ของตนเอง ของตนเอง รากเหง ครั้งที่ ๒าของตนเอง นเอง นอกจากนี้อารยธรรมศึกษา โขง-สาละวินยังมีการดําเนินงาน เป็นเรื่องเป็นราว หน้า ๑๐ พรปวี ณณ ทองด ววงวงง พรปวี   สารโขงสาละวิ ทองด แต่ดากนทํ ่อนอืานุ่นบใดํารุขอเริ ่มต้ฒนด้นธรรมอี วยกรอบแนวคิ ดของการจั ดงาน พรปวี ณ ณ ทองด งศิลปวั ก มากมาย ซึ ่ ง จุ ล พรปวี ทองด วง วง น พรปวี ณ  พรปวี ณ  ทองด วง าใจทองด ครั้งนี้ ฉบั ที่มบุ่งนีหวั ง ให้ เ กิ ด องค์ ค วามรู ้ บ นพื ้ น ฐานแห่ ง ความเข้ เล่นเกม หน้า ๑๑ ้ไดเก็บเกี่ยวบางสวนมารอยเรียง เพียงเพื่อใหทุกทานไมลืมใน อย่างแท้ จริง าของตนเอง รากเหง ...เริ่มจากหน้าถัดไปได้เลยค่ะ

พรปวี พรปวีณ์ ทองด้ วงณ ทองดวง

กษณกเปษณ กนลางด านศิลาปวั ลปวัลฒปวั ฒนธรรม นธรรม เอกลั ยยกกลางด นศิ ฒฒนธรรม เอกลัเอกลั กษณ นเปศูนนเปศูเป ยนนกนยศูลางด าลางด นศิ เอกลั ก ษณ ศู น า นศิ ล ปวั เอกลั ก ษณ เป น ศู น ย ก ลางด า นศินธรรม ลปวัฒนธรรม ณ เปนศูนยกลางด า นศิ ล ปวั ฒ นธรรม (Center of Arts) ในระดั บ ชาติ of Arts) ในระดั บ ชาติ (Center(Center of Arts) ในระดั บ ชาติ (Center ofแสวงหาและสร Arts)ofในระดั ชาติ บชาติ (Center Arts)บาในระดั (Center ofชญา Arts) ในระดั บญา ชาติ ญา สรงปาสร งป ญงปญา งสรรค า ญ แสวงหาและสร าางสรรค ปรัชปรั ญาชปรั สร า ญ ญา แสวงหาและสร า งสรรค ชญาแสวงหาและสร สร า งป ญ ญา แสวงหาและสร งสรรคางสรรค ปรั ช ญา สร า งป ญ ญา แสวงหาและสร มุ ง  สู  ส ง ั คมแห ง สั น ติ ส ข ุ สรางปญปรั ญา า งสรรค งงสูสูสสังังคมแห มุงสูสังมุคมแห งคมแห สันติงงสสัสัุขนนติติสสุขุข มุ งองค สังนคมแห สันวิ นาจตินวิ นสูเปองค กรดกางนวิ ารด จัยสัยุขจัย มุวิงสสูัยสวิทัสังศัยคมแห สันภายใน ติ๔สุขป๔ ปเป ศศงนภายใน ๔๔กเป นวิทัวิสศสัยนัยทัภายใน นมุปษณ กองค รด เอกลั เป น ศู น ย ก ลางด นศิ ปวัจฒัยนธรรม ทั น ภายใน ป เป น องค ก รด า นวิ จัยนธรรม วิ ส ย ั ทั ศ น ภายใน ๔ ป เป น องค กาปวั าลนวิ ฒกนานวั ตนวิ กรรมด านศิาลนศิ ลปวั ปวั ฒรด ภายใน ๔ ป และพั เปและพั นองค รด ากรรมด จกรรมด ัย านศิ ฒ นานวั ต ล ฒ นธรรม ฒและพั นานวั ต ฒ นธรรม และพัาฒนศิ นานวั ตฒ(Center กรรมด านศิ Arts)ลปวั บชาติ และพั นานวั ตofกรรมด าในระดั นศิฒลนธรรม ปวั ฒนธรรม และพัฒนานวัตกรรมด ลปวั ฒนธรรม ปรัชญา สรางปญญา แสวงหาและสรางสรรค มุงสูสังคมแหงสันติสุข ๒๒ วิสัยทัศน ภายใน ๔ ป เปนองคกรดานวิจัย ๒2 และพัฒนานวัตกรรมดานศิลปวัฒนธรรม

µÔµÔ´µÔ´µÒÁ...ÃŒ ÍÍÂàÃ× èÍèͧÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ ¶¶Õ Õ ¶Õ ÂàÃ× §ÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ ´µÒÁ...ÃŒ µÒÁ...ÃŒ ÍÂàÃ× èͧÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ µÔ ´ µÒÁ...ÃŒ Í ÂàÃ× Í è §ÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ ¶Õ µÔ ´ µÒÁ...ÃŒ Í ÂàÃ× Í è §ÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ ¶ µÔ·Õ´·ÕèàµÒÁ...ÃŒ ÍÂàÃ×èÍอยเรื §ÃÒÇ Á×·ÕèàÁ×ÍèàÁ×ͧä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× èÍèÍËÅÒ¡ÇÔ ¹ºŒ ÒÒ¹ºŒ ¹¹Õ ¶Òถ¹Õ ี ติ§ä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× ดตาม...ร้ ่องราว หลากวิ §ä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× ¹ºŒ Í è Í èà·ÕÁקä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× ¹ºŒ èàÍÁ×ที§ä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× Í่เ§ä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× è͹ºŒ Ò่อÒ¹¹นบ้Òา¹น ·ÕèàÁ×·ÕÍã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø è͹ºŒ มืองไทยและประเทศเพื ³³¤‹¤‹³ ÒÒÍÒøÃÃÁ ã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø ÍÒøÃÃÁ ã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø ¤‹ Ò ÍÒøÃÃÁ ã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø ³³¤‹¤‹¤‹ÒÒÒณ ÍÒøÃÃÁ ã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø ค่าอารยธรรม ã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø ³ ÍÒøÃÃÁ ·Øในรายการคุ ÊÊÍÒøÃÃÁ º´Õ ·Ø·Ø¡¡¡·ØÇÑÇÑÇѹ¡¹¹¾ÄËÑ º´Õ ÇѾÄËÑ ¹ ¾ÄËÑ Êº´Õ ¾ÄËÑ ÊÊʺ´Õ ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ ทุ ก วั น พฤหั สบดี¹.¶Õ µÔ ´ µÒÁ...ÃŒ Í ÂàÃ× Í è §ÃÒÇ ËÅÒ¡ÇÔ ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ º´Õ àÇÅÒ ñó.ðð –– ñó.óð àÇÅÒ ñó.ðð ñó.óð ¹. ¹. àÇÅÒ ñó.ðð – ñó.óð àÇÅÒ ñó.ðð –– ñó.óð ¹. เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๓.๓๐ น. àÇÅÒ ñó.ðð ñó.óð ¹. ·Õ à è Á× Í §ä·ÂáÅлÃÐà·Èà¾× è Í ¹ºŒ ҹ¹.¹àÃÈÇà àÇÅÒ ñó.ðð – ñó.óð ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ÇÔ·ÇÔ·ÇÂØÔ·ÂØ¡¡ÂØÃШÒÂàÊÕ Â§ÁËÒÇÔ ··ÂÒÅÑ ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ÃШÒÂàÊÕ §ÁËÒÇÔ ÂÒÅÑ Â ¹àÃÈÇà ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ¡ ÃШÒÂàÊÕ Â §ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ ¹àÃÈÇà ทางสถานี ยุกระจายเสี ยงมหาวิ ทÂÂยาลั ย¹àÃÈÇà นเรศวร ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ÂØÔ·ÃШÒÂàÊÕ ¡ÂØวÃШÒÂàÊÕ ·ÂÒÅÑ ÂÒÅÑ ¹àÃÈÇà ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ¡ิทÃШÒÂàÊÕ §ÁËÒÇÔ ¹àÃÈÇà ³Â¤‹§ÁËÒÇÔ ÒàÁ¡¡ÐàÎÔ ÍÒøÃÃÁ ·Ò§Ê¶Ò¹Õ ÇàÍ¿àÍç Ô·ÂØÇÔ·¡ÇÁã¹ÃÒ¡ÒÃ¤Ø §ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ Â àÍ¿àÍç ñð÷.òõ à ·« ÁÁÁñð÷.òõ àÁ¡¡ÐàÎÔ ·« Ãร·« àÍ¿àÍç àÁ¡¡ÐàÎÔ เอฟเอ็ มñð÷.òõ ๑๐๗.๒๕ เมกกะเฮิ ทซ์ àÍ¿àÍç ñð÷.òõ àÁ¡¡ÐàÎÔ Ã÷« ·« àÍ¿àÍç Á ñð÷.òõ à ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ Ê º´Õ àÍ¿àÍç Á ñð÷.òõ àÁ¡¡ÐàÎÔ Ã ·« áÅзҧ www nufmradio com áÅзҧ www nufmradio comcom áÅзҧ www nufmradio และทาง www.nufmradio.com áÅзҧ www nufmradio com áÅзҧ www nufmradio àÇÅÒwww ñó.ðð – ñó.óð ¹.com áÅзҧ nufmradio com ·Ò§Ê¶Ò¹ÕÇÔ·ÂØ¡ÃШÒÂàÊÕ§ÁËÒÇÔ·ÂÒÅѹàÃÈÇà àÍ¿àÍçÁ ñð÷.òõ àÁ¡¡ÐàÎÔ÷« áÅзҧ www nufmradio com


กรอบแนวคิด

“ชีวิต อ�ำนาจ ชาติพันธุ์” องค์ความรู้บนพื้นฐานแห่งความเข้าใจ “เป้าหมายส�ำคัญของการจัดงานนี้ เพือ่ เปิดโอกาสให้นกั วิชาการทีศ่ กึ ษาเรือ่ งชาติพนั ธุ์ ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศได้พบปะ แลกเปลีย่ นองค์ความรูต้ า่ ง ๆ เกิดความร่วมมือทางวิชาการ น�ำเสนอผลงานวิจัยด้านชาติพันธุ์ในเอเชียจ�ำนวนกว่า ๗๐ บทความ ซึ่งเกิดจากการพัฒนา องค์ความรู้ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา” “ผลผลิตจากการสัมมนาในครั้งนี้คือบทความวิชาการที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร อารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน และหนังสือซึง่ มีคณ ุ ค่ายิง่ ในแวดวงวิชาการ ทัง้ ยังก่อเกิดการ พัฒนาเครือข่ายทางด้านนักวิจยั นักวิชาการ ตลอดจนความร่วมมือในมิตวิ ฒ ั นธรรมร่วมกัน” ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล ผูอ้ ำ� นวยการสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร “ชาติพันธุ์คือผู้ที่มีวัฒนธรรม มีขนบธรรมเนียม ประเพณี มีภาษาพูด มีเชื้อสาย และบรรพบุรุษเดียวกัน ทุกชาติพันธุ์ล้วนมีอ�ำนาจในการบริหารจัดการชีวิตของตัวเอง ประเด็นปัญหาในปัจจุบันก็คือ การไม่รู้จักกัน ไปจนถึงการเหยียดชาติพันธุ์” “ยกตัวอย่าง ภาพที่เผยแพร่กันในสังคมออนไลน์ มีนักท่องเที่ยวชาวจีนดื่มน�้ำกะทิ กล่อง ซึง่ ปกติคนไทยเราน�ำมาท�ำกับข้าว แล้วเห็นเป็นเรือ่ งขบขัน โดยทีเ่ ราเองก็ไม่รวู้ า่ ส�ำหรับ คนจีน..เมื่อพูดถึงน�้ำมะพร้าว หรือ coconut juice จะไม่ได้หมายถึงน�้ำมะพร้าวใส ๆ แบบที่ เรากิน แต่จะเป็นแบบน�้ำกะทิที่เราท�ำกับข้าวแล้วท�ำให้เจือจางบรรจุใส่กล่องและน�ำมาดื่มกัน พอเขามาเจอหัวกะทิแช่เย็น ๆ ก็คงจะอร่อยน่าดู ก็เหมือนที่เราดื่มนมที่เข้มข้นนั่นเอง ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจกัน ก็จะท�ำให้เรารู้จักเขา เขาก็รู้จักเรา” รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรินทร์ สิรสุนทร คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

3


ร้อยเรื่องชาติพันธุ์

ชาติพันธุ์...การรู้จักตัวเอง เรียนรู้ผู้อื่น เข้าใจคนรอบข้าง เพื่อความเป็นปึกแผ่นแห่งชาติไทย สู่การยืนหยัดในโลกสากล ชาติพนั ธุค์ อื อะไร ท�ำไมต้องเรียนรูช้ าติพนั ธุ์ มีความส�ำคัญกับการด�ำเนินชีวติ มากน้อยแค่ไหน...ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อรรถ นันทจักร์ อุปนายกสภา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาติพันธุ์ หนึ่งในวิทยากรผู้สร้าง ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องชาติพันธุ์ได้อย่างชัดเจน

การศึกษาเรื่องชาติพันธุ์

“เรามักจะสอนให้รวู้ า่ เราคือชาติพนั ธุไ์ ท คือคนไทอย่างเดียว แต่เราไม่เคยให้ความ ส�ำคัญกับเอกภาพบนความหลากหลาย ซึง่ เป็นความผิดพลาดในระบบคิดและการหล่อหลอม เราไม่ได้คิดว่า อยู่ทางภาคเหนือเขาก็มีกลุ่มชาติพันธุ์ ภาคอีสาน ภาคใต้ มีหมด ทุกภาค ทั่วประเทศล้วนมีมากมายหลายชาติพันธุ์” “กระบวนการเรียนรูเ้ รือ่ งชาติพนั ธุแ์ ละชนเผ่าต่าง ๆ ในสังคมไทย เหมือนกับการสร้าง มายาคติในองค์ความรู้ เพราะว่าการเริ่มต้นเรียนรูใ้ นเรือ่ งของคนอืน่ เป็นทัง้ เรื่องของชาติพนั ธุ์ และความเป็นชาติ ดังนั้นถ้าไม่แยก ๒ อย่างนี้ออกจากกัน จะก่อให้เกิดปัญหาในเชิงระบบ” “ดังนั้นกระบวนการในวันนี้เริ่มจากเราจะจัดการกับองค์ความรู้ด้านชาติพันธุ์อย่างไร ด�ำเนินการอย่างไร เพราะประเด็นปัญหาก็คอื เรายังไม่ได้เตรียมการให้คนไทยเรียนรูเ้ รือ่ งของคนอืน่ ที่อยู่ในบ้านของตัวเองเลย ดังนั้นเราจะสร้างให้เรามีระบบคิดกับการที่จะเรียนรู้คนอื่นที่อยู่นอก ความเป็นไทยยิ่งเกิดปัญหามาก” “กระบวนการเช่นนีต้ อ้ งถูกเริม่ ถูกสานให้กบั ยุวชนในการเดินหน้าในระบบคิดแบบนี้ เพราะ ไม่เช่นนัน้ แล้ว จะท�ำให้เราเกิดความอ่อนแอทางวัฒนธรรม เพราะอย่างน้อยทีส่ ดุ หากเราเชือ่ มัน่ ว่า ชาติพันธุ์คือฐานของความเป็นชาติไทย เราก็จะต้องเข้าไปสร้างความเข้มแข็งให้กับชาติพันธุ์ เพื่อที่จะให้เข้ามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงจะมีความเป็นชาติไทยเกิดขึ้น” “แต่สิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตให้เป็นข้อห่วงใยก็คือ ถ้าเราเข้าไปศึกษาเรื่องชาติพันธุ์ เราจะต้องจ�ำประโยคหนึ่งไว้ว่า เราต้องเข้าไปศึกษาเพือ่ เรียนรูพ้ ฒ ั นาการของเชือ้ ชาติเผ่าพันธุ์ อย่าเข้าไปเรียนรูเ้ พือ่ ทีจ่ ะล้มเผ่าพันธุข์ องความเป็นมนุษย์ มิฉะนั้นแล้ว นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยกของสังคมในอนาคต”

สภาพของชาติพันธุ์ในประเทศไทย

“ทุกคนรู้ว่า บ้านเรามีความหลากหลาย รู้แค่นี้ แต่ถ้าถามว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่แท้จริง ในสังคมไทยมีกี่กลุ่ม แทบตอบไม่ได้” “แม้ว่าวันนี้สิ่งที่เราเห็นจะมีคนไทยเชื้อสายจีน เชื้อสายมลายู เชื้อสายลาว เขมร เวียดนาม เยอะแยะมากมาย แต่กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่อยู่ตามเขตชายแดนล่ะ ตรงนีเ้ อง ความมัน่ คงของชาติจะต้องเป็นเรือ่ งของความมัน่ คงในเรือ่ งของระบบคิด จิตวิญญาณ กับการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเรื่องราวแบบนี้ เมื่อถึงวันหนึ่งต้องถูกน�ำเข้ามาเรียนรู้ในระบบ การศึกษา ถ้าไม่เช่นนั้น ปัญหาในเชิงระบบคิดกับการที่จะต่อต้านกันในทีจะเกิดขึ้นในกรอบ ของความเป็นมนุษย์”

4


เริ่มต้นเรียนรู้ชาติพันธุ์อย่างไร?

“วันนี้ถ้าสังคมไทยจะเริ่มต้น ชุมชนจะต้องเริ่มเรียนรู้เรื่องราวของตัวเองให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะเป็นพี่เลี้ยงได้ดีที่สุดคือ หน่วยงานทางการศึกษา ต้องเป็นฐาน องค์ความรู้เหล่านี้ และจะท�ำอย่างไรในการพัฒนาองค์ความรู้ให้ไปสู่สถาบันการศึกษา ที่ไม่พร้อม ท�ำอย่างไรจะน�ำเรื่องของหมู่บ้านตัวเอง อ�ำเภอ จังหวัดของตัวเอง มาท�ำเป็น แผนการสอน เพือ่ น�ำองค์ความรูท้ พี่ อดีพองามลงไปถึงเยาวชนคนรุน่ ใหม่ เพราะอย่างน้อยทีส่ ดุ กระบวนการที่จะเปลี่ยนแปลงระบบคิดเรื่องชาติพันธุ์ คงไม่สามารถท�ำได้ภายใน ๕ ปี หรือ ๑๐ ปี อาจจะ ๒๐ ๓๐ หรือ ๕๐ ปีก็ได้” “แต่ที่ส�ำคัญที่สุด วันนี้เรามีชุดความรู้กับการเตรียมการในการปรับเปลี่ยนวิธีคิด เรื่องชาติพันธุ์แล้วหรือยัง และในการปรับเปลี่ยนนั้น เราต้องการให้คนในชาติมีลักษณะใด นี่คือโจทย์พื้นฐานที่ต้องคุยกันให้ชัด” “เชือ่ มัน่ ว่าเมือ่ ถึงวันหนึง่ แล้ว ความเป็นชาติ ความเป็นไทย มันมีพลังพอควร แต่วนั นีเ้ ราพร้อมทีจ่ ะจัดระบบความรู้ กับจัดระบบความคิดใหม่ของความเป็นชาติไทย เพื่อที่จะอยู่ในโลกใบใหม่แล้วหรือยัง”

การเรียนรู้เรื่องชาติพันธุ์กับการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน

“อย่างน้อยที่สุด มนุษย์ถ้าได้เชื่อมั่นตัวเอง ได้ศรัทธาตัวเอง เขาย่อมศรัทธาสังคม ย่อมศรัทธาคนรอบข้าง ถ้าเมื่อใดก็ตามที่มนุษย์ไม่มีความเข้มแข็ง ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ศรัทธาในตัวเอง เขาไม่มีวันเชื่อคนอื่น” “หากเราเชือ่ อย่างนัน้ เราก็คงจะต้องเริม่ จากตัวเอง ตัวชาติพนั ธุ์ เพือ่ ความเข้มแข็งของความเป็นตัวเอง แล้วหลังจากนัน้ เราค่อยไปตั้งโจทย์กับความเป็นภูมิภาค ความเป็นโลกต่อไปในอนาคต”

คุณพร้อมที่จะเรียนรู้ตัวเองแล้วหรือยัง?

เสวนาทางวิชาการ เรื่อง “เลงดอน แถน ผี: อ�ำนาจของชาติพันธุ์ ในชาติพันธุ์ของอ�ำนาจ" โดย - Prof. Dr. Puspa Gogoi, Chairman Organization: Centre for Tai, Tribal & NE India Studies. - ศ.เกียรติคุณ ดร.อรรถ นันทจักร์ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี - Prof. Dr. Dao Cheng Hua, Yunnan Nationalities University ด�ำเนินรายการโดย อาจารย์ภิสันติ์ ตินะคัต

5


เรียนรู้ชาติพันธุ์

ไทอาหมและไทผาเก ชาติพันธุ์ตระกูลไทที่มาไกลจากรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย แต่แนบแน่นด้วยวิถี วัฒนธรรมเดียวกัน เมื่อทราบว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับชาวไทอาหมในการประชุมวิชาการนานาชาติด้านชาติพันธุ์ในเอเชีย ครั้งที่ ๑ “ชีวิต อ�ำนาจ ชาติพันธุ์”ครั้งนี้ ก็ให้รู้สึกตื่นเต้น ด้วยก่อนหน้านี้เคยได้ฟัง ได้อ่านเรื่องราวของชาวไทอาหมมาบ้าง ไทอาหมมีหลาย วัฒนธรรมคล้ายคลึงกับคนไทย ทีส่ ำ� คัญยังด�ำรงความเป็นตัวตนด้วยการอนุรกั ษ์และฟืน้ ฟูวฒ ั นธรรม ดัง้ เดิมตัง้ แต่ครัง้ ต้นตระกูลไทอย่างเหนียวแน่น และครัง้ นีเ้ ป็นครัง้ แรกในการมาเยือนประเทศไทย “ชาวไทอาหมเป็นกลุ่มคนไท พูดภาษาตระกูลไทลาว อาศัยอยู่ทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือของประเทศอินเดีย คือ รัฐอัสสัม น่าชืน่ ชมว่าชาวไทอาหมได้รวมกลุม่ กันรือ้ ฟืน้ ภาษา และวัฒนธรรมดั้งเดิม เรียกว่า บันออก พับลิก เมืองไต หรือสมาคมวรรณกรรมไทตะวันออก ซึ่งมีมากว่า ๑๐๐ ปีแล้ว มีความแข็งแกร่งมาก” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุณยสฤษฎ์ อเนกสุข ผศ. ดร.บุณยสฤษฎ์ อเนกสุข รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะสังคมศาสตร์ และผู้ทรงคุณวุฒิประจ�ำสถานอารยธรรมศึกษา ในชุดไทพ่าเก โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร เท้าความให้รู้จักชาวไทอาหม เป็นที่น่ายินดีว่า การมาเยือนครั้งนี้ ประธานสมาคมคนปัจจุบันคือ ทยานันท บอริโกไฮน์ เดินทางมาด้วยตัวเอง ท่านยังพ่วงต�ำแหน่งนักการเมืองท้องถิน่ และเจ้าของหนังสือพิมพ์รายใหญ่ของรัฐอัสสัม จึงนับเป็นโอกาสอันดีทเี่ รือ่ งราวภายในงาน ตลอดจนวิถี วัฒนธรรมต่าง ๆ ของเราจะถูกถ่ายทอดไปยังรัฐอัสสัม ในขณะที่ฟากฝั่งไทยเองก็ได้ชื่นชมศิลปวัฒนธรรม ของชาวไทอาหมผ่านการแสดง “ประธานสมาคมวรรณกรรมไทตะวันออกมาพร้อมกับนักแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐอัสสัม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักร้องชือ่ จีนา ราชกุมารี ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็ประมาณเบิรด์ ธงไชย แมคอินไตย์ ทีส่ ำ� คัญคือยังเป็นเชือ้ พระวงศ์ มีเชือ้ สาย ของกษัตริย์ไทอาหมดั้งเดิมอีกด้วย” ในงานเลี้ยงรับรอง เราได้ชมการแสดงชุดบิฮู ซึ่งเดิมทีเป็นระบ�ำท้องถิ่น จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๒๓๗ กษัตริย์ไทอาหม ได้ยกระดับมาเป็นการแสดงในราชส�ำนักส�ำหรับการเฉลิมฉลองและเทศกาลส�ำคัญต่าง ๆ เช่น ปีใหม่ กิจกรรมไหว้เทพเจ้า ของฮินดูตามหลักศาสนา จากระบ�ำท้องถิ่นจึงกลายเป็นการแสดงประจ�ำชาติที่ได้รับความนิยมสูง “แม้ว่าชาวไทอาหมจะนับถือศาสนาฮินดู แต่ก็ยังคงวัฒนธรรมไทดั้งเดิมแบบโบราณ เช่น การไหว้บรรพบุรุษ และระบ�ำบิฮนู ไี้ ด้สะท้อนวิถชี วี ติ ด้านเกษตรกรรม มีลลี าท่าทางการเก็บเกีย่ ว ภาพของนกกระพือปีก การร่ายร�ำทีอ่ อ่ นช้อย เพื่อล้อกับธรรมชาติ”

ความตื่นตาตื่นใจของฉันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เช้าของวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ฉันสะพายกล้องตามเหล่า นักแสดงไปยังบริเวณหอพระเทพรัตน์และลานพระบรมราชานุสาวรียส์ มเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเก็บภาพการถ่ายท�ำมิวสิควีดิโอ และเมื่อกลับมายังห้องสัมมนา ฉันก็ได้ชมการแสดงชุดนี้อย่างเต็มอิ่ม “การแสดงในพิธีปิดมีชื่อว่า กาฮิกน่า จริง ๆ แล้วเป็นศิลปะการแสดงของชาวไทพ่าเก ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ในบรรดาหลาย ๆ กลุ่มในรัฐอัสสัม สังเกตได้จากเสื้อผ้าการแต่งกายที่แตกต่างจากชาวไทอาหม”

6


ในตอนกลางคืนระบ�ำบิฮู นักแสดงจะสวมเสื้อสีแดง นุ่งผ้าไหมมุกกาซึ่งเป็นไหมของไทอาหม วิธีการนุ่งห่มคล้ายส่าหรี ของอินเดีย ในขณะที่การแสดงชุดกาฮิกน่า นักแสดงจะนุ่งซิ่น สวมเสื้อแขนกระบอก คล้าย ๆ สาวเหนือในบ้านเรา “ไทพ่าเกแตกต่างจากไทอาหมคือนับถือศาสนาพุทธ วัฒนธรรมจึงคล้ายคลึงกับคนไทย อย่างการแสดงกาฮิกน่านี้ สะท้อนวิถีเกษตรกรรมการท�ำนา เหมือนกับบิฮู แต่ต่างกันตรงที่เป็นวิถีแบบพุทธ แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมของคนไท ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนล้วนมีความสัมพันธ์กับเรื่องของเกษตรกรรม”

ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุณยสฤษฎ์ อเนกสุข ได้เคยให้สัมภาษณ์เรื่องราวเกี่ยวกับวิถี วัฒนธรรมของชาว ไทอาหมและไทพ่าเก ซึ่งมีความใกล้เคียงกับคนไทยมาก “ไทอาหมยังคงมีร่องรอยของภาษาไทและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับคนไทยปรากฏอยู่ เช่น ลุกลาว (LUK LAO) คือเหล้าทีห่ มักจากข้าวเหนียว ซึง่ ก็คอื เหล้าอุหรือสาโทในบ้านเรานัน่ เอง ค�ำเหล่านีล้ ว้ นมีรากเหง้าดัง้ เดิมมาจากภาษาตระกูลไท แม้จะอยู่ห่างไกลแต่สามารถปะติดปะต่อกันได้” “นอกจากนีไ้ ทอาหมยังมีงานปอยแม่ดำ�้ แม่ผซี งึ่ เป็นงานบุญไหว้บรรพบุรษุ ท�ำให้นกึ ถึงงานบุญในเมืองไทยแถบจังหวัด แม่ฮ่องสอนคือปอยส่างลอง และยังเทียบเคียงได้กับค�ำว่า ผีซ�้ำด�้ำพลอยในบ้านเรา ดังนั้นแม่ด�้ำแม่ผีจึงสะท้อนภาษา กลุ่มตระกูลไทได้อย่างชัดเจน” “ชาวไทอาหมยังลักษณะพิเศษอย่างหนึง่ ทีค่ ล้ายคลึงกับคนไทยคือการต้อนรับขับสู้ คือเขาจะพาเราลงชุมชนแวะทุกบ้าน ทีเ่ ป็นญาติกบั เขาและทุกบ้านก็จะคอยต้อนรับด้วยด้วยอัธยาศัยไมตรี เหมือนกับคนไทยเวลาทีเ่ ราจากบ้านไปนาน ๆ เมือ่ กลับบ้าน ก็จะต้องไปเยี่ยมญาติในแต่ละบ้านซึ่งสิ่งเหล่านี้วัฒนธรรมอินเดียไม่มี” “ชาวไทพ่าเกมีความคล้ายคลึงกับคนไทยมากตัง้ แต่ภาษาทีใ่ ช้ยงั คงเป็นภาษาตระกูลไท ซึง่ ใกล้เคียงกับภาษาไทยล้านนา หรือไทใหญ่ บางค�ำเขาพูดมาแล้วเราสามารถเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องแปล เช่น ค�ำว่ามีด ไทพ่าเกเรียกว่าพร้า ย่ามเรียกถุง ค�ำอวยพรว่าอยู่ดีมีแฮง รวมไปถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรมบางอย่าง เช่น ชาวไทผาเกปลูกข้าวเจ้า กินข้าวเจ้าเป็นอาหารหลัก และ การแต่งกายทีย่ งั คงความเป็นไทคือ ผูช้ ายนุง่ โสร่ง ผูห้ ญิงนุง่ ซิน่ มีผา้ คล้องคอ ผ้าคาดเอว บ้านเรือนเป็นแบบยกสูง ไม้ไผ่ขดั แตะ เป็นเรือนเครือ่ งผูก ไม่ใช้ตะปู มุงด้วยหญ้าใบไม้ มียงุ้ ข้าวอยูห่ น้าบ้าน นับเป็นการสะท้อนลักษณะจ�ำเพาะของคนไทได้เป็นอย่างดี” “นอกจากนี้ยังมีความเชื่อบางอย่าง เช่น คนไทยเวลาก้างปลาติดคอ จะน�ำแมวมาเกาเบา ๆ บริเวณคอ ก้างก็จะหลุด ออกมา ไทพ่าเกก็มีเหมือนกัน แต่เป็นกระดูกสัตว์บางประเภทที่กินปลา” วันนี้ชาวไทอาหมเดินทางกลับรัฐอัสสัม ประเทศอินเดียไปแล้ว แต่สายใยแห่งวัฒนธรรมยังคงอยู่ พร้อมที่จะสาน สัมพันธ์อันแนบแน่นต่อไป อ่านเรือ่ งราวแบบเต็มอิม่ ได้ทาง http://bit.ly/1MzqBM7 ย�ำ่ ถิน่ ไทอาหมและไทพ่าเก ชนกลุม่ น้อยในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟูอัตลักษณ์ของต้นตระกูลไท ชมภาพการแสดงได้ทาง http://bit.ly/1KEvp1W รู้จักชาว "ไทอาหม" ในงานชีวิต อ�ำนาจ ชาติพันธุ์

7


หนึ่งงานวิจัยชาติพันธุ์

“ผ้าฉาน” ชื่อไทย ในนาม “ซินเม” ในฐานะของนักศึกษาสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความภูมใิ จหนึง่ คือการได้มโี อกาสเดินทางลงพืน้ ทีเ่ ก็บข้อมูลผ้าไหม ในทะเลสาบอินเล รัฐฉานตอนใต้ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จนได้บทความ “ฉาน: อัตลักษณ์ชาติพันธุ์บนผืนผ้า” น�ำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ “ชีวิต อ�ำนาจ ชาติพันธุ์” เป็นการเปิดพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความใกล้ชิด ทางวัฒนธรรมสรรค์สร้างผ่านอัตลักษณ์บนผืนผ้า รัฐฉาน หรือทีค่ นไทยรูจ้ กั กันดีในชือ่ "รัฐไทยใหญ่" เป็นรัฐทีม่ อี าณาบริเวณใหญ่ทสี่ ดุ ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และติดกับภาคเหนือของไทย บริเวณจังหวัดเชียงราย และแม่ฮ่องสอน ภูมิประเทศของรัฐฉาน เป็นเทือกเขาสูง มีเมืองหลวงชือ่ เมืองตองยี (Taunggyi) เมืองตองยีมคี วามสวยงาม อากาศเย็นตลอดปี อุณหภูมิ ๒๑ – ๒๘ องศาเซลเซียส ท�ำให้นักท่องเที่ยว จ�ำนวนมากหลัง่ ไหลเข้าไปเทีย่ วเมืองตองยีเป็นจุดแรก แล้วย้อนเดินทางกลับมาเทีย่ ว ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) อันเป็นที่ตั้งของชุมชนกลางน�้ำขนาดใหญ่ ที่ปักเสา ลงในทะเลสาบ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ คือ ชาวอินตา (Intha) ความโดดเด่นของชาวอินตาคือ วิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับสายน�้ำ การพายเรือ ด้วยเท้า คือเอกลักษณ์ทบี่ ง่ บอกถึงความเป็นชาวอินตาโดยแท้จริง วิถอี นั โดดเด่นนี้ การพายเรือด้วยเท้าของชาวอินตา มีควบคู่ไปกับการท�ำการเกษตรลอยน�้ำ นอกจากการความโดดเด่นในวิถีชีวิตบนสายน�้ำของชาวอินตาจะเป็นที่เลื่องลือต่อผู้พบเห็นแล้ว ศิลปหัตถกรรม งานท�ำมือต่าง ๆ ก็มชี อื่ เสียงไม่ตา่ งกัน เช่น การทอผ้า ตีเหล็ก ท�ำเครือ่ งเงิน ท�ำมวนบุหรี่ เป็นต้น และหัตถกรรมทีส่ ร้างชือ่ เสียง ให้กบั ชาวอินตา จนโด่งดังในระดับนานาชาติคอื การทอผ้า ทัง้ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าใยบัว ผ้าทอ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ซินเม (Zinme) ผ้าซินเมนั้น เป็นที่รู้จักในหมู่ของ ชาวต่างชาติ ก่อนคนไทยเสียอีกนับตัง้ แต่ปี ค.ศ. ๑๙๙๖ เกิดแคมเปญ Visit Myanmar Year ท�ำให้มนี กั ท่องเทีย่ วหลัง่ ไหลเข้ามาในเมียนมาร์เพิม่ มากขึน้ ทัง้ ชาวยุโรปและชาวตะวันออก เช่น ประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวเหล่านี้ซื้อของฝากที่ท�ำจากผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือในอินเล แล้วน�ำกลับไปยังประเทศของตนเอง อาทิ ผ้าพันคอและโลงจี ลวดลายที่ปรากฏ บนผืนผ้าเหล่านี้ เช่น ลายเถาวัลย์ ลายก้อนเมฆ ลายดอกไม้ ความสวยงามของผ้าเหล่านี้ ท�ำให้นักท่องเที่ยวกลับมาซื้อซ�้ำ และที่น่าสนใจคือ ประเทศญี่ปุ่นได้น�ำผ้าซินเมของชาวอินตา ไปตัด เป็นชุดกิโมโน นอกจากนีช้ าวฝรัง่ เศสยังได้นำ� ผ้าซินเม ลวดลายสวยงามไปตัดชุดส�ำหรับเดินแบบงาน ซินเม ผ้าทอของชาวอินตา Paris Fashion Week อีกด้วย เรือ่ งราวความเป็นมาของผ้าซินเมทีม่ คี วามเชือ่ มโยงกับประเทศไทยนัน้ เริม่ ต้นจากสงครามโลกครัง้ ที่ ๒ ทีข่ ณะนัน้ รัฐฉานได้รับผลกระทบจากสงคราม ส่งผลให้การทอผ้าภายในทะเลอินเลได้หยุดชะงักลงชั่วคราว ผู้คนกระจัดกระจาย หนีเข้ามายังประเทศไทยบ้าง เข้าไปในประเทศกัมพูชาบ้าง หนึ่งในนั้นมี อู พะโย ห่าน (U Phoe Han) ผู้ริเริ่มท�ำร้าน มยา เซ้ะ จ่า (Mya Set Kyar) ร้านผ้าทอแห่งแรกในทะเลสาบอินเล ได้หนีเข้ามายังประเทศไทย การเดินทางเข้ามา ของเขาครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการฟื้นคืนชีวิตการทอผ้าในทะเลสาบอินเลอีกครั้ง ด้วยการที่เข้าได้เรียนรู้การทอผ้าเทคนิค การทอผ้ามัดหมี่ที่เชียงใหม่ และเรียนรู้ลวดลายจากกัมพูชา หลังจากได้รับอิสรภาพจากญี่ปุ่นแล้ว เขาได้กลับไปยังหมู่บ้าน และตั้งโรงเรียนเพื่อถ่ายทอดเทคนิคการทอผ้ามัดหมี่ให้คนในหมู่บ้านอีกครั้ง

8


ค�ำว่า “ซินเม” ของชาวอินตานั้น มาจากค�ำว่า “เชียงใหม่” ของไทย เนื่องจากอู พะโย ห่าน ตั้งใจจะตั้งชื่อผ้า ของชาวอินตาว่า “เชียงใหม่ เพือ่ ขอบคุณประเทศไทยทัง้ การให้ทพี่ กั พิงและความรูท้ ฟี่ น้ื วิถชี วี ติ การทอผ้าทีถ่ กู ท�ำลายลง เมื่อครั้งเกิดสงครามในรัฐฉาน ผ้าทอซินเม สามารถหาซื้อได้ในตลาดโบโจ๊กอองซาน (Bogyoke Aung San) หรือ ตลาดสก๊อต (Scot Market) ที่กรุงย่างกุ้ง ที่เป็นแหล่งซื้อขายของฝาก ของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์ ราคาที่ซื้อขายกันในตลาดตั้งแต่ ๕๐ ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ขณะที่ในทะเลสาบอินเลนั้น สามารถหาซื้อได้ในหมู่บ้านอินปอคอน (Innpawkhon) นอกจาก จะได้ชมสินค้าที่ผลิตจากซินเม เช่น ผ้าพันคอ โลงจี กระเป๋า ในส่วนของหน้าร้านที่จัดแสดงสินค้าแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ เยีย่ มชมโรงทอผ้า มีโอกาสซักถามขัน้ ตอนและกรรมวิธกี บั ช่างทอผ้าอย่างใกล้ชดิ ช่างทอชราทัง้ ชายหญิง ยินดีให้ขอ้ มูลด้วยท่าทางเป็นมิตรและยิม้ แย้ม และไม่ตอ้ ง กังวลว่าจะสือ่ สารกันไม่รเู้ รือ่ ง เพราะตามร้านจ�ำหน่ายผ้าทอจะมีพนักงานชายหญิง สามารถสือ่ สารภาษาอังกฤษได้อย่างไม่เคอะเขิน อีกทัง้ ไม่ตอ้ งกังวลว่าจะมีเงินสด ไม่พอซือ้ สินค้า ร้านทอผ้ามีเครือ่ งรูดบัตรเครดิตไว้คอยบริการสร้างความสะดวก ให้กับนักท่องเที่ยวทุกร้านในทะเลสาบอินเล ในแถบทะเลสาบอินเลที่นิยมทอซินเมเป็น “โลงจี” มากที่สุด เป็นผ้าซิ่นส�ำหรับผู้หญิง และเป็นโสร่งส�ำหรับผู้ชาย มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า ซินเม แบงคอค โลงจี (Zinme Bangkok longyi) เป็นการตัง้ ชือ่ เพือ่ ขอบคุณประเทศไทย การทอผ้าในทะเลสาบอินเลไม่เคยเลือนหายไปจากวิถีของชาวอินตา การทอผ้าเป็นทั้ง รายได้หลักของหมู่บ้านและรายได้ที่มาควบคู่กับการบริการด้านการท่องเที่ยว ส่วนกรรมวิธีการทอซินเม เป็นการทอผ้าแบบมัดหมี่เส้นพุ่ง คือมีการมัดลวดลายและย้อมสีเฉพาะเส้นพุ่ง ส�ำหรับ เส้นยืนใช้เส้นไหมย้อมสีตามที่ต้องการแต่ไม่มีการมัดท�ำลวดลาย ซึ่งเป็นกระบวนการในการทอผ้ามัดหมี่ที่มีลักษณะคล้ายกับ ประเทศไทย กรรมวิธกี ารทอซินเมนีจ้ ะเริม่ ตัง้ แต่การค้นหมี่ คือการนับจ�ำนวนเส้นไหมให้เป็นหมวดหมู่ แต่ละหมูม่ จี ำ� นวนเส้นไหม สัมพันธ์กบั ลายหมี่ จากนัน้ มัดหมวดหมูไ่ หมด้วยเชือกฟางเพือ่ เก็บสี และน�ำไปย้อมจนครบทุกสีจงึ แกะเชือกฟางออก เสร็จแล้ว น�ำปอยไหมที่มัดหมี่เสร็จแล้วไปกรอเข้าหลอดเตรียมทอ ขั้นตอนสุดท้ายคือการทอ ข้อสังเกตที่พบในขั้นตอนการทอซินเม ของชาวอินตา คือจะเขียนตัวเลขไว้ที่กระสวยทอผ้า ตัวเลขนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาพร�่ำเพรื่อแต่เป็นวิธีการช่วยจ�ำว่ากระสวยนี้ จะต้องสอดเส้นพุ่งเป็นล�ำดับที่เท่าไหร่จึงจะได้ลวดลายตามที่ได้มัดหมี่ไว้ การทอผ้าซินเมนีน้ บั ว่าเป็นอัตลักษณ์ทมี่ คี วามเลือ่ นไหลสูก่ นั ในแถบอุษาคเนย์แห่งนี้ สังเกตได้จากลายมัดหมีท่ มี่ คี วาม คล้ายคลึงในแบบของไทย และลายเฉพาะในแบบของชาวอินตาในรัฐฉานทีป่ รับเปลีย่ นตามรูปแบบของวิถชี วี ติ แต่ยงั คงรูปแบบ ของเทคนิคการทอผ้ามัดหมีไ่ ว้เช่นเดียวกัน เพราะ ศิลปะของการถักทอ สร้างสรรค์สงั คมพหุวฒ ั นธรรม ซินเมจึงเป็นเสมือน ตัวแทนของความแนบชิดทางวัฒนธรรมของประเทศไทยและชาวอินตา ในรัฐฉานตอนใต้ของเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี ศรัญญา ละม่อมสาย สัมภาษณ์ U Tha Doe. ๒๕๕๘. หัวหน้าศูนย์ Inntha Literature, Culture and Regional Development Assocation. สัมภาษณ์วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘. Daw Nang Myo Oo. เจ้าของร้าน Mya Set Kyar รุ่นที่ ๓. สัมภาษณ์วันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘.

9


เป็นเรื่องเป็นราว โดย...ก�ำปั่น

รับมอบผ้าไหมลวดลายพิเศษ ๒๕ ปีมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดแสดงในนิทรรศการอาภรณ์ ๓ เมือ่ วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ บุคลากรสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัย นเรศวร เดินทางไปยังต�ำบลชมพู อ�ำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพือ่ รับผ้าไหมลวดลายพิเศษ ๒๕ ปีมหาวิทยาลัยนเรศวร จ�ำนวน ๔ ผืน จากกลุ่มแม่บ้านหนองหญ้าปล้อง ส�ำหรับใช้ในโครงการ อาภรณ์ ๓ มนต์เสน่ห์แห่งสิ่งทอ โดยมีดร.ดนัย เรียบสกุล รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและศิษย์เก่า สัมพันธ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นเจ้าของโครงการ ทั้งนี้บุคลากรของสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวินเป็นคณะกรรมการฝ่ายผลิตผ้าทอ ลวดลายพิเศษ ๒๕ ปีมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของดร.ดนัย เรียบสกุล ใช้ สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยคือ ดอกเสลาประกอบเป็นลวดลาย โดยสมาชิกกลุ่มแม่บ้าน หนองหญ้าปล้อง ใช้ระยะเวลาประมาณ ๔ เดือนในการทอเป็นผ้าไหมจ�ำนวน ๔ ผืน ๔ สี ๔ ลวดลาย จากนั้นได้ส่งมอบให้ ดร.ดนัย เรียบสกุล เพื่อน�ำไปตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกายส�ำหรับใช้ในการแสดงแบบวันเปิดนิทรรศการอาภรณ์ ๓ มนต์เสน่ห์ แห่งสิ่งทอ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการตัดสินการประกวดผ้าทอและชุดท�ำงาน ลายเอกลักษณ์จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ ๒๔ – ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซาพิษณุโลก นางสาว วรรณชลี กุลศรีไชย และนายวชิรพงษ์ วงศ์ประสิทธิ์ บุคลากรสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวดผ้าทอลายเอกลักษณ์ จังหวัดพิษณุโลก และการประกวดชุดท�ำงานจากผ้าทอลายเอกลักษณ์จังหวัดพิษณุโลก ในงานมหกรรมสืบสานภูมิปัญญาผ้าทอจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจัดโดยส�ำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดพิษณุโลก จัดขึ้นตามโครงการหนึ่งต�ำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของนโยบายรัฐบาลที่ให้ ชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรและภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP โดยสนับสนุนให้ทกุ จังหวัดด�ำเนินการสืบค้น ภูมปิ ญ ั ญาทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด อันเป็นการส่งเสริมให้ชมุ ชนมีความตืน่ ตัวในการสืบทอดภูมปิ ญ ั ญาทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ทอ้ งถิน่ คัดเลือกผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้า และสามารถขยายตลาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ภายในงานประกอบด้วย การแสดงแฟชัน่ โชว์ผา้ ไทยลายโบราณและผ้าทอพืน้ บ้านของจังหวัดพิษณุโลกโดยนางแบบนายแบบ กิตติมศักดิ์ การสาธิตการทอผ้า การประกวดผ้าทอ และการประกวดออกแบบชุดท�ำงาน จากผ้าลายเอกลักษณ์ของจังหวัด พิษณุโลก การจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เป็นต้น ร่วมจัดเวทีวิจัยมนุษยศาสตร์ไทย ครั้งที่ ๙ เสียงของมนุษยศาสตร์ไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันที่ ๒๗ – ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมจัดงานประชุมวิชาการ ระดับชาติ เวทีวิจัยมนุษยศาสตร์ไทย ครั้งที่ ๙ “ปัญญาชน ศีลธรรม และภาวะสมัยใหม่: เสียงของมนุษยศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ซึง่ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ประกอบด้วย การปาฐกถา การบรรยายพิเศษ การน�ำเสนอบทความวิจัย และการเสวนากลุ่มย่อย การจัดประชุมครัง้ นีค้ าดหวังว่า มนุษยศาสตร์จะเสมือนดังหนึง่ ในพลังส�ำคัญในการต่อสูด้ นิ้ รน เพือ่ ผลักดันให้สงั คมไทย เปิดกว้างทางความคิดและมีพลังในการผลิตองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติโดยรวมอย่างแท้จริง

10


เล่นเกม

โดย...เจ้าโก๊ะ

เลนเกม

โดย...เจาโกะ

สอง...สลั สอง...สลับ บ

ข้ขออความที ความที่อ่อยูยู่กกลางตารางซ้ ลางตารางซาายย --ขวา ขวาคืคืออการผสมความหมายของค� การผสมความหมายของคํำาในตารางทั ในตารางทั้งสองด้ ้งสองดาานนโดยค� โดยคํำทัาทั้งสองค� ้งสองคํำนัานั้น้นใช้ใชอักอษร ักษรที่ ที่เหมือนกั อนกันเสมอ นเสมอแตแต่สลัสบลับตํต�าแหน ำแหน่งกังนกันเชเช่นน“เตรน” “เตรน”และ และ“เนตร” “เนตร” ขข้อความที่ใหห้คือ “เตร็ดเตร เตร่” และ “ตา” เป็ เหมื เปนนต้ตนน ในตาราง ในตารางเริ่ม เริ่มใหไว้หในึห้่งหคูนึท่งี่เคูหลื ่ที่เอหลื ที่ของคุ ณ ลองท� ดูนะคะ ไว เปอนเป็หนนาหน้ ที่ขาองคุ ณ ลองทํ าดูนำะคะ าย ณๆ าถ่ กรุาณยเอกสารส่ าถายเอกสารส คําตอบมาที่บ่บรรณาธิ รรณาธิการจุ ารจุลลสารโขงสาละวิ นน กติกาง่ากติยกๆางกรุ งค�ำงตอบมาที สารโขงสาละวิ สถานอารยธรรมศึ กษา โขง-สาละวิ นักงานอธิ การบดีมหาวิ มหาวิททยาลั ยาลัยยนเรศวร นรั้นบรัของรางวั ล ล สถานอารยธรรมศึ กษา โขง-สาละวิ น ส�ำนนัสํกางานอธิ การบดี นเรศวรแลแล้วรอลุ วรอลุ บของรางวั

เ ต ร น มุ

คนที่เตร็ดเตรมากกวาตาก็ตองเห็นมากกวาดวย

เ น ต ร

ชื่อชนชาวเขาเผาหนึง่ ในตระกูลมอญ - เขมร จับกลุมกันอยูที่สวนของตึกที่ยื่น ออกมาจากสวนใหญ มักอยูดานหนา เขาเยื้องกรายมากอกวนใหเกิดกิเลสหรือโทสะ

น ภ ช ข

คณะผู้จัดท�ำ

ในสถานที่ประชุมแหงนั้นมีความสวางดี

เมื่อมีคนเกิดมายอมมีลักษณะที่บังเกิดสําแดงเหตุดีและรายมาดวย

คนที่อยูดานตรงขามกับซายผิวมีสีอยางสําลี

ที่ปรึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภูพงษ์ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล คณะผูจัดทํา บรรณาธิการ พรปวีณ์ ทองด้วง ที ป ่ รึ ก ษา Åä ³ “ Ð ’ ËÑ °Ò น–Çทร°Ò –é±Ìß ¶ Å䓳’ÐËÑเอกชั ÛÓ ¾ÌÛ±ÛÌË– ß ġ¶วงศ์ ¶ ÛÐã กองบรรณาธิการ สุÛÓเพ็¾ÌÛ±ÛÌË– ญ ทาเกิ½Ì.Éä ด Çจริ เสโตบล ย โกมล½Ì.ÐÑอนงค์ สÁุว¾ÌÙ รรณ์ªäÎ ศรัญญา ละม่อมสาย บรรณาธิการ Ç ÌÄÐ༠–วชิÀÖรพงษ์ °½“а วงศ์ประสิทธิ์ ออกแบบปก พิสกองบรรณาธิ ูจน์อักษร การ Ó ทัãéÇตð¶ทริยÀÛéา ªß½เรือนค�±Ìß ำÂÀÌ é Ó ë ¾ÃÎ é Ö ª³ÚË ë ªÊÎ Ö Â°­– Ð°Ñ –Ó ãÐÌ̼ – Ñ ÌÚ¶ ¶ Û ÎÙ Ê’Ö ÊÓ ÛË ส่งออกแบบปก ข่าวสารและข้อเสนอแนะได้ гßÌÇ °Ò –ทаÑี่ หน่ –ÄÌÙวÓยประชาสั ßÀÁßõ มพันธ์ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง พิ สูจนอักษร ÀÚ¾ÀÌßËÛ é ÌâÖจ.พิ ­öÛษณุโลก ๖๕๐๐๐ โทรศัพท์ ๐ ๕๕๙๖ ๑๑๔๓ E- mail : phornpaweet@nu.ac.th พิมสพ์งขทาี่ วสารและข ดาวเงิอนเสนอแนะได การพิมพ์ ๒๒๕/๑๖ ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมื อ.เมือÛÌËÁÌÌÊÑ ง จ.พิษณุáªโลก Ò Û ë ๖๕๐๐๐ «°-Ó ÛÎÙ Ðß ÊÔ ÛÐßÀËÛÎÚËÂé ÌÑ ÐÌ ¾.À’Ûë Ç Áßõ ที่ Ô Â’ÐËÄÌÙ ³ÛÓ ÚÊ Ç ÚÂÁ–ê ÎÙ Ó ÛÌÓ Âé ÀÑ องÓ ¿ÛÂÖ โทรศัพท์ ๐ ๕๕๒๑ ๙๗๘๗ โทรสาร ๐ ๕๕๒๑ ๙๖๔๖ Ö .é ÊâÖ ° ±.Ç ßÒ¼ ãëΪ þ ùùù ë ÀÌÑ ÚÇ À–ù þ þ úúý ü E- mail : phornpaweet@nu.ac.th พิมพที่ ½ÛÐé °ßªÛÌÇ ßÊÇ –ûûþ /ú ¿.ÃÌÊí ¾Ìë ΪÂÛÌ¿ ¾.ì Âé ÊâÖ ° Ö .é ÊâÖ ° ±.Ç ßÒ¼ ãëΪ þ ùùù ë ÀÌÑ ÚÇ À–ù þ þ ûú ë ÀÌÓ ÛÌ ù þ þ ûú ý 11


ปฏิทินกิจกรรม นิทรรศการ “ลีลา ลายเส้น โดย ฐาปนันดรศิลปิน ชวน หลีกภัย” ๕ – ๓๐ ต.ค. ๕๘ ณ หอศิลป์ฯ อาคารวิสุทธิกษัตริย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นิทรรศการ “Remember of Beauty ประสบการณ์แห่งสีสัน โดย อ.ไพศาล มีสุนทร” นิทรรศการ "GMS" (General : Man : Soul) โดย อ.ยุพาวดี นิศวอนุตรพันธ์” ๖ – ๒๗ พ.ย. ๕๘ ณ หอศิลป์ฯ อาคารวิสุทธิกษัตริย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ช�ำระค่าฝากส่งรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ ๘๕/๒๕๒๑ พิษณุโลก สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร อาคารวิสุทธิกษัตริย์ ต�ำบลท่าโพธิ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๐๐๐


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.