PIE issue 8

Page 1

DRY WINTER DRY FLOWERS • HAPPY • NEW • YEAR • 2014 •

NAVY OFFICIAL TOKYO BIKE THAILAND Naurarat Suksomstarn DESKTOP ERROR Rukkit Kuanhawate ONLINE GALLERY


02


03


04


SHAPE AND FORM BY JACKKRIT ANANTAKUL EXHIBITION AT SPEEDY GRANDMA 10-31 JAN, 2014 ด้วยพื้นฐาน graphic design ผมจะตั้งโจทย์ บังคับให้ตัวเองอยู่เสมอในการใช้ shape พื้นฐาน เพื่อตัดทอนสิ่งต่างๆออกเหลือเพียงข้อมูลที่ ต้องการสื่อสาร แต่บ่อยครั้งผมก็ใช้มันเป็นการ ทดลองแก้โจทย์จากพื้นฐานจาก shape ง่าย ๆ เพื่อให้สื่อสารในสิ่งที่ต้องการ มันจะได้ค้นพบ การนำ�พาไปเจอปลายทางที่น่าสนใจ ในอีกด้านหนึ่งในงานภาพประกอบผมชอบใช้วิธี การนี้ในการบังคับต่อองค์ประกอบเหล่านี้ไปด้วย การไม่วางแผนบางครั้งมันช่วยให้ผมตัดทอน สิ่งไม่จำ�เป็น หรือบางครั้งมันพาผมต่อ shape ต่างไปๆไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกันจนไปถึงปลายทาง ของ shape & form ที่ไม่ได้คาดหมายมาก่อน และผมมองว่ามันคือพื้นฐานที่นำ�พาเราพัฒนา ต่อไปไม่สิ้นสุดได้ Opening party on Friday 10 Jan, 2014 Start from 8 pm till late More info : Speedygrandma.com facebook.com/speedygrandma 05


BRAND NEW 2013

โครงการศิ ล ปกรรม Brand New ก่ อ ตั้ ง ขึ้ น ในปี พ.ศ. 2547 และดำ�เนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในปีนี้ Brand New 2013 มีกำ�หนดจัดขึ้นในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556 - มกราคม 2557 (เริ่มรับสมัครผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วม โครงการและการสัมภาษณ์นักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ) และนิทรรศการจะจัดขึน้ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2557 ที่ Bangkok University Gallery, นำ�ทอง แกลเลอรีแ่ ละ WTF Gallery เพื่อสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ให้มีโอกาสพัฒนาผลงาน สร้างสรรค์ของตัวเองอย่างอิสระ โดยผ่านการเลือกสรรจาก คณะกรรมการและภัณฑารักษ์ของโครงการ นอกจากการ คัดเลือกศิลปินรุ่นใหม่แล้ว หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพยัง ให้ความสำ�คัญกับผู้ทำ�หน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ของโครงการใน แต่ละปี หอศิลปฯ ได้เชิญภัณฑารักษ์ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือ ชาวต่างประเทศมาทำ�หน้าที่คัดเลือกศิลปิน ในปีนี้ทางโครงการ ได้เชิญ Ms. Isabel Ching (อิซาเบล ชิง) ภัณฑารักษ์รุ่นใหม่ ชาวสิงคโปร์ ซึ่งกำ�ลังเป็นที่จับตามองในปัจจุบัน เนื่องจาก การมี ป ระสบการณ์ เช่ี ย วชาญในด้ า นศิ ล ปะร่ ว มสมั ย ระดั บ ภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์,ฟิลิปปินส์ และพม่า ฯลฯ รวมถึ ง ประสบการณ์ ก ารร่ ว มโครงการสำ � คั ญ ๆ ทั้ ง หลายระดับนานาชาติ มาทำ�หน้าที่คัดเลือกผลงานศิลปินไทย รุ่นใหม่ในโครงการศิลปกรรม Brand New ปีนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำ�ให้การคัดเลือกผลงานของโครงการศิลปกรรม Bran New มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะตัว จนได้รับจาก เสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมและบุคคลทั่วไป จากที่โครงการศิลปกรรม Brand New นี้ได้มีการผลักดันให้ เกิดศิลปินและนักวิจารณ์ศิลปะรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องนั้น ได้มี ศิลปินและนักวิจารณ์ที่ประสบความสำ�เร็จและมีผลงานที่สร้าง ชื่อเสียงมากมายหลังจากผ่านโครงการฯไปแล้ว อาทิ ยุรี เกนสาคู, อริญชย์ รุ่งแจ้ง, พรทวีศักดิ์ ริมสกุล, กฤช งามสม, สุดศิริ ปุยอ๊อก, ชล เจนประภาพันธ์

06


07


08


THE DISCIPLINE OF SUBJECTIVITY ERWIN WURM ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีของ 100 ต้นสนแกลเลอรี่ เราได้นำ�เสนอผลงานของศิลปินร่วมสมัยไทยในเวที ระดับประเทศและระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความตั้งใจในการนำ�ศิลปินนานาชาติที่ มีชอื่ เสียงและมีผลงานทีน่ า่ สนใจมาจัดแสดงให้ได้ชม กันในเมืองไทย อาทิ Yayoi Kusama, Damien Hirst, Yoshihiro Suda, Kohei Nawa, Orlan เป็นต้น

Erwin Wurm (เออร์วิน เวิร์ม) ศิลปินชาวออสเตรีย ผู้ที่โด่งดังมาจากผลงานชุด ประติมากรรมหนึ่งนาที (One Minute Sculpture) เขาคือศิลปินผู้สร้าง ปรากฏการณ์ ใหม่ ให้ กั บ วงการศิ ล ปะร่ ว มสมั ย ของ โลกอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ในฐานะศิ ล ปิ น ผู้ ฉี ก กฎเกณฑ์ ก าร สร้างสรรค์ ผู้ท้าทายทฤษฎี และข้อจำ�กัดแบบเดิมๆของ การทำ�งานศิลปะ และด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้ Erwin Wurm กลายเป็นหนึง่ ในศิลปินผูเ้ ป็นต้นกำ�เนิด ของคำ�ว่า ศิลปะร่วมสมัยในเวทีระดับโลก บางส่วนของผลงานที่ น่าสนใจของ Erwin Wurm ได้แก่ ผลงานชุดรถอ้วน (Fat Car) บ้านละลาย (Melting House) บ้านผอม (Narrow House) แตงกวาหรือแตงดอง (Cucumber) นักปรัชญาผู้สิ้นหวัง (Desperate Philosopher) นอกจากนีผ้ ลงานของ Wurm ยังถูกสะสมอยูใ่ นคอลเลคชัน่ ของพิพิธภัณฑ์ต่างๆมากมาย อาทิ Solomon R. Guggenheim Museum, Museum Ludwig, Kunstmuseum St. Gallen, National Museum of Art, Osaka, Musee d’Art Contemporain de Lyon, and the Centre Pompidou เป็นต้น ในนิทรรศการ The Discipline of Subjectivity นี้ ประกอบไปด้วยผลงานทัง้ ใหม่และเก่า 3 ชุด ได้แก่ผลงาน ชุดที่ต่อยอดมาจากผลงานชุดประติมากรรมหนึ่งนาที คือ ผลงานชุดประติมากรรมหนึ่งนาทีตลอดไป (One Minute Sculpture Forever) ผลงานชุดใหม่ซึ่งถูก ทำ�ขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ 100 ต้นสนแกล เลอรี่ นอกจากนี้ยังมีผลงานชุดแตงกวาหรือแตงดอง (Cucumber) ผลงานที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดี และ ผลงานชุดไส้กรอก (Sausage) ผลงานชุดใหม่ลา่ สุดทีไ่ ม่ เคยถูกจัดแสดงที่ไหนมาก่อน

นิทรรศการ The Discipline of Subjectivity เปิดให้ ล่าสุดกับนิทรรศการสุดท้ายปลายปี 2556 ด้วย เข้าชมตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ถึง 5 มกราคม ผลงานจากศิลปินระดับโลก กับการแสดงเดีย่ วครัง้ 2557 พิธีเปิดนิทรรศการจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีท่ี 19 แรก ในเมืองไทย และนับเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย ธันวาคม 2556 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ตะวันออกเฉียงใต้ของ Erwin Wurm ศิลปินชาว ออสเตรีย โดยใช้ชอื่ นิทรรศการว่า The Discipline สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม of Subjectivity ภายใต้การคัดสรรผลงานโดย 02-6841527, 084-3881488 www.facebook.com/100TonsonGallery ศิลปิน-ภัณฑารักษ์ จักรพันธ์ ธนธีรานนท์ 09


P.O.P PIECES OF PAPER

ขอบคุณเพจ P.O.P - Pieces Of Paper มากๆ ทีส่ นใจ หนังสือ PIE และมาขอสัภาษณ์ PIE ลงใน blog ด้วย เลยอยากมาแนะนำ�เพจดีๆ แบบนีใ้ ห้เพือ่ นๆ รูจ้ กั สักหน่อย เพจ P.O.P - Pieces Of Paper นำ�เสนอเรือ่ งของสิง่

พิมพ์ดีๆ ทั้งหลายจากทั่วโลก จากการเลือกสรรจาก อดีตบรรณาธิการหนังสือ Computer Arts Thailand ฟังดูกพ็ อจะมัน่ ใจในรสนิยมได้วา่ สวย เด็ด ไอเดีย กระฉูดแน่นอน ในเพจก็มที ง้ั นิตยสารดีๆ หนังสือสวยๆ งาน Lay-out หรืองานกราฟฟิกเท่ๆ ที่เรื่องว่าหาดู หาอ่านยากทีเดียว ใครเรียนสายออกแบบหรือทำ�งาน เกีย่ วหนังสือสิง่ พิมพ์ตอ้ ง likes ไว้เลยครับ ถ้ารูย้ งั งี้ แล้วอย่ามัว่ แต่ไปปส่องเพจอาหาร เพจน้องแมวเพลินล่ะ ไปดูเพจสวยๆ กระตุน้ ไอเดียกันบ้างนะ สนใจตามไปดูที่ facebook.com/pop.piecesofpaper หรือ pieces0fpaper.wordpress.com

010


011


012


013


014


CONTENTS NAVY TOKYO BIKE THAILAND NAURARAT SUKSOMSTARN DRY WINTER DRY FLOWERS DESKTOP ERROR ONLINE GALLERY RUKKIT QUOTES

015


EDITOR TALK สวัสดีครับผู้อ่าน PIE ทุกท่าน กว่า PIE เล่มนี้จะออกมาได้ก็ปา ไปสิ้นปีพอดี ยังไงก็ถือโอกาสนี้อวยพรปีใหม่กันไปเลยก็แล้วกัน “ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน เงินทองไหลมาเทมา มีสุขภาพแข็งแรง มี โชคมีลาภตลอดปีม้าที่กำ�ลังมาถึงนี้ และขอให้ตามอ่าน PIE ไป นานๆ นะครับ“

ในปีหน้า PIE ก็ยังคงเดินหน้าทำ�หนังสือดีๆ มาให้ผู้อ่านอีก แน่นอน รวมถึงอาจจะเพิม่ สิง่ พิเศษอืน่ ๆ เข้ามาอีกมากมาย ไว้รอ ติดตามกันใน PIE ปีที่สองนะครับ (วางแผนไว้เยอะ จนไม่มีเวลา ทำ� T_T) ในปีที่ผ่านมานี้ PIE ยังเป็นน้องใหม่อยู่มาก ตัวผมเอง ก็ยังอ่อนหัดในหลายๆ เรื่อง สิ่งใดที่ผิดพลาดในปีนี้จึงขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เข้าเรื่องของเล่มนี้ดีกว่า PIE เล่มแปดนี้มาในชื่อ “DRY WINTER” ซึง่ มาจากบรรยากาศหน้าหนาวของบ้านเราปีนี้ ทีอ่ ากาศ แสนจะเป็นใจให้หนาวกันไปถึงตับไตไส้พงุ แต่นา่ เสียดายทีม่ ปี ญ ั หา บ้านเมืองและความวุน่ วายมากมายหลายสิง่ เหลือเกิน งานฉลอง และเสียงหัวเราะจึงอาจจะจืดจางลงไปสักหน่อย ยังไง PIE ก็เป็น กำ�ลังใจให้พนี่ อ้ งชาวไทยผ่านวิกฤติปญ ั หานีไ้ ปด้วยดีดว้ ยนะครับ แล้วเจอกันปีหน้าฟ้าใหม่ครับ อ๋อ สุดท้าย ช่วงนี้ผมอยู่ในช่วงเห่อแมวครับ (อยากบอกเฉยๆ)

สุรเชษฐ์ ศิลปบรรเลง...คนทำ�พาย

www.facebook.com/piemagazine2013 www.pieeveryday.com

016


H

A

N

P

P

E

Y W

Y

E

A

R

2

0

1

4

017


018


019


PIE TALK

NAVY

020


NAVY แปลว่าสีน้ำ�เงินเข้มและเป็นชื่อของแบรนด์เสื้อผ้าและแอสเซสเซอรี่ ของ เน-อเนชา สุขเกษม ช่างภาพหนุ่มที่ชื่นชอบทั้งงานศิลปะ ทั้งงานวิดีโอ ภาพถ่าย ทั้งแบบพาณิชน์และแบบศิลปะ กับ บู-สุนิสา ศรีปริวาทิน สาวสวยแฟชั่นดีไซเนอร์ ครั้งแรกที่ติดต่อแบรนด์ NAVY เพื่อสัมภาษณ์ผมก็เตรียมใจมาคุยกับหนุ่มสาว แฟชั่นนิสต้าบ้าของเก๋ไก๋ แบบแบรนด์ในแบรนด์นอกซื้อดะ แต่กลับกลายมาเจอกับ หนุ่มสาวที่แต่งตัวสบายๆ ง่ายๆ และมีมุมมองแฟชั่นที่น่าฟัง

021


022


แบรนด์ NAVY เริ่มมานานหรือยังมีสินค้าอะไรบ้าง บูทำ�งานเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ด้วย คล้ายกับการทำ� ประมาณปีนึง ตอนแรกๆ เป็นก็มีถุงเท้าก่อนและ NAVY ไหม

มีกระเป๋า เสื้อยึด บรา แต่เราไม่ได้เน้นเฉพาะของ คนละแบบนะ อันนั้นคือเราทำ�ออกมาแล้วต้อง เสนอ ปรับแก้ตามโจทย์ต่างๆ อย่าง NAVY ผู้หญิงอย่างเดียวนะ ด้วยความทมีลูกค้าผู้หญิง ชอบเยอะ ไปๆ มาๆ คนเลยนึกว่าทำ�เฉพาะของ เราต้องเป็นคนตัดสินใจเอง คิดเอง เลือกเอง ผู้หญิง จริงๆ ของผู้ชายก็มี ดูทั้งสองคนต่างกันพอสมควร

แต่ก็คุยกันรู้เรื่องนะมีความชอบคล้ายกัน บูก็ ชอบถ่ายรูป บูถ่ายรูปมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เราเริ่มจากหาความชอบของตัวเองก่อน จากความ ส่วนเนก็มีความชอบในแฟชั่นอยู่ แต่เนจะมี เป็นตัวเราก่อน ลวดลายส่วนมากก็เอามาจากงาน รายละเอียดการมองแฟชั่นต่างออกไป อย่าง รูปถ่ายภาพของเนหยิบเอามาทำ�กราฟฟิก เอามาวาด โปรเจคต่อไปเรากำ�ลังจะทำ�เสื้อผ้ากระเป๋าจาก ดวออิ้ง เนทำ�กราฟฟิกมาก่อนและมาให้บูมาจัด ผ้าพื้นบ้านเป็นผ้าครามของจังหวัดสกลนคร บ้านของเนซึ่งเป็นผ้าฝ้ายที่ชาวบ้านเขาทอ ลงในตัวโปรดักส์ ทีด่ มู คี วามเป็นธรรมชาติหน่อย อาจจะเพราะเนเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนสกลนคร ตอนว่างจากการเกี่ยวข้าว เนไปเห็นแล้วชอบ สวยเราก็ก�ำ ลังหยิบมาดีไซน์กนั อยู่ ตอนนีผ้ า้ คราม เวลากลับบ้านก็จะเห็นต้นไม้ธรรมชาติอะไรพวกนี้ นี้เป็นของส่งออกด้วยนะ คนญี่ปุ่นเขาชอบมาก ถามถึงลวดลายที่ใส่ในการพิมพ์หน่อย เห็นชอบใช้ ลวดลายธรรมชาติพวกใบไม้

ชอบรูปถ่ายในการพรีเซนต์สินค้ามาก

เนจะเป็นคนถ่าย ด้วยความที่เนเรียนสาย fine art เรียนภาพพิมพ์และชอบถ่ายภาพ เวลาเรา คิดอะไรก็จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นอาร์ต อย่างเซตถุงน่องแรกๆ ก็จะคล้ายงานคอลลาจ บางเซตก็เป็นตอนที่บูไปเที่ยวทะเลก็ถ่ายกับเพื่อนๆ อย่างเซตกระเป๋า ที่เราเอาไปถ่ายกับพวกขวดน้ำ� พลาสติกหรือสังกะสีก็เป็นอีกแนวหนึ่ง เราอยาก ให้มันเป็นเซตแฟชั่นแหล่ะ วิธีคิดเดียวกันแต่คิด ให้ของของเราเป็นนางแบบ

023

คือเราจะหยิบมาดีไซน์ให้เก๋ขึ้น

บูว่ามันจะไม่ได้เชยมากนะ ในแบบที่เขาทำ� เรียบๆ ไม่ได้มีลายอะไรมาก คือแบบเดิมเขา อาจจะมีการปักเป็นลายนกยูงอะไรแบบนี้ แต่ แบบเรียบๆ นี่สวยเลยบูว่าคล้ายยีนส์ จริงๆ ยีนส์เมื่อก่อนมันก็เป็นเครื่องแต่งกายของคนงาน ในต่างประเทศนะ พวกก่อสร้างก็ใส่เป็นรากของ เขา ก่อนที่จะโตมาอยู่ในวงการแฟชั่นของบ้าน เราก็น่าจะทำ�แบบนั้นได้


024


ตอนนี้แบรนด์เสื้อเล็กๆ เกิดขึ้นเยอะ คิดว่าไงบ้าง

ยากไหมการนำ�ผ้าพื้นบ้านมาปรับ

เนี่ยค่ะ ใส่อยู่ (บูชี้กางเกงให้ดู) จากที่ไปมารอบ ที่แล้วได้ตัวอย่างผ้ามาไม่เยอะ เพราะเขาติดเกี่ยว ข้าวกันได้มาก็ลองตัดเป็นเสื้อเป็นกางเกงขาสั้นดู แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจนะกำ�ลังทดลองกันอยู่ ค่อนข้างท้าทายเพราะเราอยากให้วัยรุ่นเห็นผ้า แบบนี้ตัดเย็บแบบนี้แล้วชอบ อยากใส่ มีความคิดในการหยิบของพื้นบ้านมาใช้นานรึยัง

คิดมาเรื่อยนะ มันคือการหาความเป็นตัวเองคือ ทุกเชื้อชาติก็มีความต่างกัน ทั้งวีถีชีวิต อาหาร การกิน รวมถึงเรื่องเสื้อผ้าเราก็ถามตัวเองตลอด นะ ว่าแฟชั่นทุกวันนี้มันสอดคล้องกับชีวิตประจำ� วันของเราหรือเปล่า 025

ดีนะที่มีคนลุกขึ้นมาทำ� มันจะได้ช่วยกันพัฒนา กันไป ก็มีเพื่อนๆ ที่ทำ�อยู่เยอะเหมือนกัน แต่จะ ให้อยู่ได้นานๆ ก็ต้องอยู่ตัวงานของเขา เรายัง มีความเชื่ออยู่ว่าถ้าของมันดีก็ไปต่อได้ บางคน ก็ว่านะ หาว่าคิดแบบนี้ดูโลกสวย เพื่อนๆ ที่ทำ� ก็ยังอยู่ได้มีลูกค้าเพิ่มเรื่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ และ คุณภาพเขาก็ดีจริงทั้งการเลือกผ้า การตัดเย็บ อาจจะดีกว่าแบรนด์ใหญ่บางแบรนด์อีก ข้อดีในการทำ�แบรนด์เล็กๆ

มันอิสระนะ เราก็สามารถทดลองอะไรใหม่ได้ คิดอะไรใหม่ได้ เราไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ๆ ที่มี มาเก็ตติ้งมานั่งเคาะตัดสินใจแทนเรา


026


027


028


029


030


ปกติแต่งตัวแบบไหนกัน

สบายๆ นะ เราว่าสุดท้ายมันก็กลับมาที่เบสิค เสื้อกล้ามกางเกงยีนส์ เราว่าคนไทยเหมาะกับ รองเท้าแตะมาก เวลาทำ�งานก็ใส่รองเท้าผ้าใบ นะ แต่อากาศในบ้านเราทั้งร้อนมันทั้งฝนตก ไม่ได้เหมาะกับรองเท้าผ้าใบเลย

หรือแฟชั่นมีไว้ให้เราเปลี่ยนตัวเอง “เป็นคนอื่น”

เออ อันนัน้ ก็จริงนะ 55 ก็ส�ำ หรับบางคนเหมือนกัน

อย่างเน เวลาไปงานอีเว้นเก๋ๆ กับเวลาที่กลับบ้าน ที่สกลนคร รู้สึกอะไรในเรื่องการแต่งตัวไหม

รู้สึกมากคือผมคิดมานานแล้ว อย่างในต่างจังหวัด คนงานเนี่ย เขาจะมียูนิฟอร์มเวลาทำ�งาน แต่พอ มีคนพูดว่า “แฟชั่นเป็นเครื่องบ่งบอกตัวตน” ตอนเย็นหลังเลิกงาน เขาก็จะแต่งตัวตามสบาย ใส่แจ๊คเกิ๊ต ทาแป้ง เหน็บปืนเสื้อผ้าก็เป็นพวก คิดว่าจริงไหม เราว่าสำ�หรับบางคนก็อาจจะจริง แต่สำ�หรับ มือสองซื้อแถวปอยเปตนะก็สไตล์เขา ที่ชัดเจนเลย หลายคนก็ไม่นะ เราก็เห็นเยอะที่แต่งตัวตาม คือเขาดูเป็นตัวเองดูสบายๆ แต่ในเมืองบางคน กระแสเหมือนๆ กันไปหมด บางทีก็เป็นเรื่อง แต่งออกมาดูแล้วเหนื่อยจะอึดอัด เห็นแล้วเหนื่อย ของการเข้าสังคมด้วย คือถ้าเราเป็นตัวเองจริง แทน ก็เลือกแต่งที่เหมาะกับเราแล้วกันเอาแบบที่ สบายใจ อย่าให้ฝืนตัวเองมากไป ใส่ออกมามันก็รู้นะ มันชัด www.facebook.com/navyofficial 031


PIE TALK

TOKYO BIKE THAILAND Tokyo Bike เป็นร้านจักรยานที่มีสาขามากมายทั้วโลก ผมเคยได้ยินชื่อและ แอบมองน้ำ�ลายไหลผ่านเว็บไซน์ดีไซน์ต่างๆ มาบ้าง แต่วันนี้ร้านจักรยาน เรียบสวยมาตั้งอยู่แค่ซอยอารีย์มีหรือจะพลาด วันนี้ PIE ขอแวะมาคุยกับคุณ ชุตยาเวศ สินธุพันธุ์ (กิฟท์), คุณธนพงศ์ บรรพตจิต (หนึ่ง) และคุณจุฑาธุช เหมะรัต (ก๊อก) ตัวแทนจำ�หน่ายเต็มรูปแบบในนาม Tokyo Bike Thailand สาขาแรกในบ้านเรากันครับ

032


033


จุฑาธุช เหมะรัต (ก๊อก)

ธนพงศ์ บรรพตจิต (หนึ่ง)

ชุตยาเวศ สินธุพันธุ์ (กิฟท์)

034


ก่อนเริ่มมาทำ� Tokyo bike ทำ�อะไรมาก่อน

พี่กิฟท์ : ผมเป็นอาจารย์สถาปัตยกรรมเป็น นักวิจัยทางด้านเมือง แต่ใช้จักรยานเป็นหลัก มา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่เมืองนอกพอ กลับไทยก็มีปัญหาในการขี่จักรยานในไทยคนคิด ว่าเราประหลาดขี่จักรยานไปทำ�งาน แม่ค้าก็ถามว่า ขี่จักรยานมาเลยเหรอ ตอนนั้นเขามองว่ามันแปลก เราก็เลยพยายามโปรโมทไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับการใช้ จักรยานมาเรื่อยๆ หาจักรยานที่เหมาะกับตัวเรา กับบ้านเรา ไปหัดต่อจักรยานเองก็ยังไม่เจอ จักรยานที่มันเหมาะกับการขี่ในเมืองสักที จนมา ค้นพบจักรยาน Tokyo Bike ว่ามีนิยามว่าจักรยาน ขี่ช้าๆ ก็มาหาดูว่าเมืองไทยมีใครทำ�อยู่บ้าง ซึ่งยัง ไม่มีจัดจำ�หน่ายเราก็เลยติดต่อไปคุย เริ่มคุยยังไง

พี่กิฟท์ : ผมก็นั่งหาอีเมลของคนใน Tokyo Bike จนเจอแล้วอีเมลไปบอกเขาว่าเรามีความรู้สึกว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ต้องการจักรยานดีๆ สำ�หรับที่ ใช้ในเมืองและยังไม่มีจักรยานที่มาตอบตลาดตรงนั้น เราสนใจเปิดในประเทศไทยแบบฟูลสเกล Tokyo Bike Shop ในเมืองไทยก็บอกเขาไปหลังจากนั้น เซอร์ไพร์ซมากเพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะได้ เป็น แบบฝันลมๆ แล้งๆ ผมเป็นคนโรคจิตอย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าจะทำ�งานอะไรก็แล้วแต่อยากทำ�ก็ทำ�ไม่สนใจ ว่ามันจะมีตลาดไหม มีการตอบสนองไหม อยากทำ� ก็ทำ�ลุยไปก่อน ปรากฎว่าอีก 2 วันเขาก็ตอบกลับ มา เขาบอกว่าเราเป็นคนไทยคนแรกที่ติดต่อไปใน ลักษณะที่ฟูลสเกลแบบนี้ และผมก็เริ่มทำ�รีเสิร์ชกับ

ก๊อก (จุฑาธุช เหมะรัต) เกี่ยวกับตลาดจักรยานและ ดึงหนึ่ง (ธนพงศ์ บรรพตจิต) เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเขา เก่งเรื่องการเงินพอสมควรเราแต่ละคนก็ถนัดต่างกัน ทำ�การบ้านกัน 3-4 เดือนจนในที่สุดทางญี่ปุ่นก็มาคุย ซึ่งทางเรารู้สึกว่าพร้อมมาก ถามอะไรมาเราก็มี คำ�ตอบให้แล้วสิง่ ทีค่ ลิก๊ กันมาทีส่ ดุ คือ ประธาน Kanai Ichiro กับผม ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามีอะไรที่คล้ายกันจน ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนกัน ผมและประธานเป็นคนที่ ชอบเมืองเก่า ชอบเดิน สมัยผมเรียนอยู่ที่นิวยอร์ก ผมตั้งเป้าหมายว่าต้องเดินในถนนแมนฮัทตันทุกซอย ให้ได้ ผมก็เดินจนครบเหมือนเป็นคนไม่ปกติ (หัวเราะ) Kanai Ichiro กับผมจะเหมือนกันที่ชอบพวกตรอกพวก ซอยเล็กๆ ก็เหมือนกัน เขาสร้าง Tokyo Bike ขึ้นมา เพื่อที่จะสามารถขี่ในตรอกซอกซอยในย่านของเขา พี่หนึ่ง : ในตอนแรกเราเตรียมตัวค่อนข้างพร้อม ตั้งแต่นัดเจอกันพาไปกินข้าว ดูที่ทางแล้วก็ไปเที่ยว พี่กิฟท์ : เจอกันแล้วคลิ๊กจริงๆ รู้สึกว่าใช่ เพราะเรา พร้อมมาก มั่นใจ ไปในฐานะนักธุรกิจส่วนหนึ่ง อีก ส่วนหนึ่งไปในฐานะของคนที่ชอบจักรยาน นานไหมตั้งแต่ติดต่อดำ�เนินการจนเปิดร้าน

พี่กิฟท์ : เราเป็นสาขาที่เปิดเร็วที่สุด เริ่มติดต่อ ประมาณต้นปีเดือนมีนาคม พี่หนึ่ง : เขาบอกว่าไม่ได้อยากได้คนที่เป็นร้านจักรยาน จ๋าอย่างเดียว พี่กิฟท์ : มองเป็น Passion มากกว่า เพราะหลักการ ของเขาคือคนอื่นทำ�อะไรอย่าทำ�อย่างนั้น เช่น ร้านอื่น แขวนจักรยานเราต้องวางจักรยานบนพื้น คนอื่นโชว์ สีดำ�เราโชว์สีแดง

035


สปอร์ตส่วนมากจะก้ม แต่พอมาขี่จักรยานในเมืองเรา ต้องมองดูตลอดเวลา มองรถรามองคนถ้าเป็นจักรยาน แบบสปอร์ตจะไม่เหมาะกับการใช้งานในเมือง

เรื่องการออกแบบร้าน ทางโน่นเขามีกำ�หนดอะไร ไหมครับ

พี่กิฟท์ : เขาไม่จำ�กัดเลยยกเว้นกราฟฟิกนิดหน่อย เขาจะคอมเม้นต์มาว่าถ้าให้เลือกว่าจะเท่หรือเรียบ เลือกอันที่เรียบ เราจะเอา Tokyo Bike มาปรับให้ มีความเป็นไทยมากขึ้น อย่างร้านที่ญี่ปุ่นจะเรียบ มาก แต่ผมมีความรู้สึกว่าเมืองไทยต้องเป็นอะไรที่ ต้องมีการผสมผสานมากกว่าเช่นเป็นเหล็กผสมไม้ เอาองค์ประกอบญีป่ นุ่ มาผสมไทย ลายไม้ texture พื้นร้านสีขาวซึ่งพอนานๆ ไปจะเป็นรอย เราอยาก ให้มันดูมีอายุผ่านการใช้งานของมันไปเรื่อยๆ เหมือนถนนที่ผ่านที่เริ่มมีริ้วรอย

เรื่องสีสัน ดีไซน์ล่ะครับ

พี่กิฟท์ : เป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้วครับเพราะความเรียบ จักรยานส่วนมาจะดีไซน์ลายเยอะผมไม่ชอบ สีเรียบๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่ตอบสนองผม อีกอย่างคือพอเป็นสี เรียบสามารถเข้ากับชุดทำ�งานได้ เขาพัฒนาหลายๆ อย่างไปเรื่อยๆ จนตอบไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้จริง การขี่จักรยานก่อนหน้านี้เป็นกระแส คิดว่าจะ อยู่นานไหม

พี่กิฟท์ : ผมไม่อยากให้เป็นแค่กระแสนะ ในฐานะที่ พี่กิฟท์ : ก๊อกเป็นช่างแล้วจะดูพวกอีคอมเมิร์ซงาน เป็นนักวิจัยเกี่ยวกับเรื่องเมือง อยากให้จักรยานเป็น ที่เป็นระบบต่างๆ เป็นหนึ่งในหัวใจหลักเลย เพราะ ตัวเลือกหนึ่งของไลฟ์สไตล์มากกว่า คนอาจจะเริ่มขี่ จักรยานไปเที่ยวหรือขี่จักรยานเล่นเฉยๆ จนในที่สุด เขาทำ�อะไรเป็นระบบมาก คนอาจจะเร่ิมคิดว่าใช้ขี่ไปทำ�งานในระยะสั้นๆ พี่ก๊อกทำ�อะไรในร้าน

เห็นพี่ดูจักรยานมาหลายแบบ Tokyo Bike มี ความต่างยังไง

ยากไหมการขยับจากเทรนด์ให้เป็นไลฟ์สไตล์

พี่กิฟท์ : เป็นจักรยาน Simple เรียบง่าย มีเกียร์ พอทีจ่ ะขึน้ เนินขึน้ สะพานได้แค่นน้ั ไม่ใช่จกั รยานทีไ่ ว้ ขีเ่ ร็วๆ อย่างรุน่ Bisou จะมีเกียร์พเิ ศษไว้ส�ำ หรับขึ้น เนินโดยเฉพาะ ท่าขี่ก็จะตัวตรงหลังตรง สามารถ มองสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราได้ อย่างท่าขี่จักรยาน

พี่กิฟท์ : ผมว่าต้องใช้เวลามากนะครับ เพราะแต่ละ ประเทศเขาใช้เวลาหลาย 10 ปี อย่างที่อาร์มสเตอดัม เริ่มจากคนเรียกร้องตั้งแต่ประมาณปี ’50- ’60 โน่นแล้ว เพราะว่าอุบัติเหตุของรถกับจักรยานมี ปัญหาเยอะ

036


037


038


039


หลายคนก็เอาจักรยานขึ้นรถแล้วไปขี่ตาม ต่างจังหวัดหรือนอกเมือง

พี่กิฟท์ : นั่นเป็นไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน แบบนั้นเขา ขี่เป็นกีฬาเป็นการท่องเที่ยว มันก็เป็นวิธีคิดอีกวิธี หนึ่ง ซึ่งของเราเป็น Urban Bike เราจะโปรโมท การขี่จักรยานในเมืองจริงๆ

Tokyo Bike เขามีคำ�นิยามบอกว่าเป็น “Tokyo Slow”

พี่กิฟท์ : ใช่ครับ เราก็สามารถเป็น Bangkok Slow ได้ ผมว่าคนเมืองใหญ่เป็นทุกที่ แม้กระทั่ง คนโตเกียวเอง ซึ่งคำ�ว่า “Tokyo Slow” ก็เกิดจาก การต่อต้านความเร่งรีบที่มีอยู่ในชีวิตประจำ�วันของ คนญี่ปุ่นเอง สังเกตจากคนที่เร่ิมหันมาขี่จักรยาน ข้อควรปรับปรุงของคมนาคมบ้านเรา พี่กิฟท์ : อย่างตอนนี้ผมทำ�งานวิจัยเกี่ยวกับการ จะเป็นกลุ่มครีเอทีฟ นักสร้างสรรค์ทั้งหลาย ออกแบบเลนช่องทางการใช้จกั รยานในเมืองเขตร้อน เพราะว่าเป็นคนที่ไม่ต้องตามกฎเกณฑ์ของสังคม มากนัก น่าสนใจตรงที่คนกลุ่มนี้เป็นตัวริเริ่มเซต โดยใช้ 7 เมืองใน 7 ประเทศเป็นต้นแบบในการ ทดลองก็ออกแบบเลนจักรยานให้ขี่ได้โดยไม่ร้อน การยอมรับบางอย่างของสังคมได้ ซึ่งก็ต้องมี การใช้ต้นไม้ ทำ�อย่างไรให้มันมีอุณหภูมิเย็นโดยที่ คนเริ่มก่อนผมว่าในที่​่สุดก็จะมีการทำ�ตาม ไม่ได้ใช้พวกเทคโนโลยี เป็นลักษณะการบังลมและ กิจกรรมเกี่ยวกับจักรยานที่จะทำ�ต่อไป เป็นการเปิดช่องรับลม มันก็ต้องค่อยๆ ทำ�ไป พี่กิฟท์ : ผมใช้จักรยานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอยู่แล้ว เรื่อยๆ อย่างคนขับรถควรใส่ใจคนขี่จักรยานมาก ก็คงจะใช้ให้มากขึ้น พยายามโปรโมทให้คนยอมรับ ขึ้น โดยเฉพาะคนขับรถสาธารณะต่างๆ รถเมล์ เราพยายามจะให้ความรู้กับคน ทำ�ยังไงไม่ให้เขา รถแท็กซี่ที่ชอบคิดว่าจักรยานไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ร่วม กลัว ร้านเราให้ทดลองขี่บนถนนจริงๆ ให้รู้ว่าการ บนถนนกับเขาได้ ต้องให้ทุกคนคิดว่าจักรยานเป็น ขี่จักรยานออกถนนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว บริการอย่าง หนึ่งในยานพาหนะเหมือนกัน คนขี่จักรยานเองก็ หนึ่งของเราคือถ้ามาซื้อแล้วไม่รู้ว่าจะเอาจักรยาน ต้องยอมรับด้วยว่าเราแชร์ถนนกับคนอื่นอยู่ การไป กลับบ้านยังไง เราขี่คู่กลับไปกับคุณได้ มีบริการ ปาดหน้าเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ขี่ไปส่งที่บ้าน ทั้งสองฝ่ายต้องมีมารยาทเหมือนกัน การขี่จักรยานยังจำ�กัดเฉพาะในหมู่วัยรุ่น

พี่กิฟท์ : ก็เริ่มมีคนขี่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างคน แถวนี้ก็มาซื้อจักรยาน แทนที่จะขับรถมาทำ�งานก็ ขี่จักรยานแทน

ยามว่างพี่ๆ มีงานอดิเรกอะไรกันครับ

พี่กิฟท์ : ชอบเที่ยวครับถ่ายรูป ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ ชอบปลูกต้นไม้เป็นคนทำ�ชอบฟาร์ม ทำ�อาหาร พี่หนึ่ง : ผมชอบไปดำ�น้ำ� สอนดำ�น้ำ�อยู่ด้วย 040


041


042


แผนในวันข้างหน้า

เพื่อชุมชม อย่างตู้หนังสือกลุ่มเป้าหมายคือวิน มอร์เตอร์ไซค์หรือคนเดินถนนไ ส่วนมากงานวิจัย ผมเป็นตีพิมพ์ออกไปตามต่างปะเทศ แล้วก็จะมี หน่วยงานต่างๆ มารองรับผมเป็นหนึ่งในทีม Design for Disasters (D4D) ด้วย ทำ�งานวิจัยเกี่ยวกับงาน สถาปัตยกรรม เคยทำ�แผนโครงการบ้านสะเทิ้นน้ำ� สะเทิ้นบกรองรับน้ำ�ท่วม ซึ่งในที่สุดการเคหะเห็น ก็ได้นำ�ไปสร้างจริง

พี่กิฟท์ : จริงๆ ก็เหมือนที่บอกไว้ตั้งแต่แรกว่า จักรยานเป็นไลฟ์สไตล์หลักของเรา เราอยากให้ Tokyo Bike Thailand เป็นร้านที่มีความเป็น Urban Lifestyle ตอนนี้ก็ค่อยๆ เริ่มบ้างแล้วคือเราไม่ได้มี แค่จักรยาน จะมีพวกกระเป๋าต่างๆ อย่าง Rubber Killer ซึ่งผมก็ใช้มานานแล้ว ผลิตภัณฑ์สบู่แชมพูที่ เป็นออแกนิก 100% ส่วนข้างบนของร้านเราจะทำ� เป็นแกลเลอรี่ อาจจะมีขายเครื่องดื่มหรืออาหาร ใน อยู่กับปัญหาสังคมปัญหาสิ่งแวดล้อมมาพอสมควร อนาคตอาจจะมีตลาดออร์แกนิกสักอาทิตย์ละหนึ่งวัน พี่คดิ ว่าสังคมเราควรเริ่มแก้ไขปัญหาจากตรงไหน ให้เป็นศูนย์ร่วมของคนที่ชอบกิจกรรมแนวสร้างสรรค์ พี่กิฟท์ : หลายๆ งาน หลายๆ โปรเจ็คต์ใหญ่ๆ เริ่มจากคนเพียงคนเดียวตัวอย่างเช่น Rural Studio Urban Community ในบ้านเราตอนนี้เป็น เป็นโปรแกรมการเรียนการสอนของอาจารย์ชอ่ื Samuel ยังไงบ้าง Mockbee ในมหาวิทยาลัย Auburn University มี พี่กิฟท์ : เมืองไทยยังไม่มีสถานที่ที่ให้คนมาแล้วมี ความรู้สึกว่าตอบสนองความต้องการได้ครบ สถานที่ ไอเดียคือให้เด็กที่เรียนสถาปัตยกรรมกลุ่มหนึ่งไปอยู่ ในที่ๆ จนที่สุดกันดารที่สุดทางตอนใต้ของอเมริกา ที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์ของการอยู่ในเมืองที่มีดีไซน์ ตอนนี้มันยังไม่มีเท่าไหร่ ที่ต่างประเทศจะมีร้านอย่าง ไปสร้างงานสถาปัตยกรรมที่ตอบสนองชุมชนนั้นๆ Monocle Shop ที่เขาเน้นเรื่อง Urban Lifestyle ไม่ว่าจะสร้างตลาดหรืออะไรต่างๆ ซึ่งงานทุกอย่าง อยู่เหมือนกัน แต่เราก็ค่อยๆ เริ่มค่อยๆ ทำ�ขยาย ก็เป็นดีไซน์ดีมากๆ และโปรเจ็กต์นี้ประสบความสำ�เร็จ ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่จะทำ�คือผมจะปรับตู้เย็นเป็น มาก ซึ่งก็เริ่มจากคนเพียงคนเดียว อย่าง D4D ก็ ตู้หนังสือแล้วให้คนหยิบไปอ่าน ถ้าใจดีจะเอามาคืนก็ เริ่มมากจากคนหนึ่งคนคือ วี (วิภาวี คุณาวิชยานนท์) ที่เริ่มมาชวนเพื่อนๆ หลากหลายสาขาอาชีพมาช่วยกัน เอามาคืน ใครจะเอาหนังสือมาใส่เพิ่มก็เอามา คิดช่วยกันทำ� ทั้งกราฟฟิกดีไซน์ สถาปัตยกรรม ออกแนวครีเอทีฟกับเรื่องสุขภาพ ทั้งนักวิชาการ ทุกคนก็มีไอเดียต่างกันช่วยกันแชร์ พี่กิฟท์ : ใช่แล้วก็เรื่องสังคม อยากทำ�อะไรต่างๆ ช่วยกันแก้ปัญหา 043


044


เริ่มจากตัวเองก่อน

พี่กิฟท์ : ใช่ ทำ�ในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ถ้าทำ�อะไรที่ตัวเองไม่เชื่อจริงๆ คุณจะหยุดทำ�มัน แต่ตราบใดที่ คุณเชื่อก็จะทำ�ไปเรื่อยๆ ผมทำ� อะไรจากความเชื่อไม่ได้สนใจว่ามัน จะขาดทุนกำ�ไรอะไร อย่างบริษัท สถาปัตยกรรมเนี่ย ตราบใดที่วัน สุดท้ายของปี ผลขาดทุนกำ�ไรเป็น ศูนย์ ผมก็มีความสุขแล้วเพราะ ผมมีเงินเดือนให้ตัวเองพอใช้ได้ ลูกน้องทุกคนมีเงินเดือนที่เขามี ความสุข ทุกคนได้โบนัสได้ไปดู งานเปิดหูเปิดตา ผมทำ�ในสิ่งที่ผม เชื่อ อาจจะมีท้อบ้าง แต่ก็ยังจะ ทำ�ต่อไป Tokyobike Thailand ที่อยู่ 20 ซอยอารีย์ 2 ถนน พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 02-1171016 facebook.com/TokyobikeTH 045


PIE ART

NAURARAT SUKSOMSTARN 046


นรรัตน์ สุขสมสถาน (ปาล์ม) อธิบายถึง เซตแฟชั่นที่ส่งมาให้ PIE หน่อยครับ

ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ เราชอบถ่ายแบบตรงๆ ซื่อๆ ในแง่ของมุมกล้องชอบตั้งกล้องตรงๆ ระยะและระดับสายตา เราเน้นจัดเรื่องราวใน เฟรมมากกว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรียนหนัง มา เลยได้รับอิทธิพลจากเฟรมหนัง ชอบหนัง ของผู้กับกับชาวสวีเดน Roy Andersson ชอบ เฟรมของเขามาก เหมือนภาพวาด หนังของเขา ไม่ขยับกล้องเลย ไม่มีซูมอินซูมเอ้าท์ ไม่ชักจูง เฟรมหยุดนิ่ง ปล่อยให้เรื่องราวดำ�เนินไปตาม ธรรมชาติ

เซตนี้ colaborate กับดีไซเนอร์แว่นกันแดด ชาว ฝรั่งเศสชื่อ Bettina Vincent ภายใต้แบรนด์ very happy glasses (www.veryhappyglasses.com) เป็นงานดีไซน์สไตล์สนุกๆ แบบทำ�มือเองทุกชิ้น งานนี้เหมือนเน้นการเปิดตัวของแว่นกันแดด ว่า เหมาะกับทุกคนไม่ว่าเชื้อชาติไหน ผมสีอะไร เลย พยายามหานายแบบนางแบบหลายๆ สีผิวและสีผม ที่เรียกว่า very happy glassesfor not so happy people เพราะอยากให้เห็นว่าแม้จะ หน้าบึ้งตึงแต่แว่นมันร่าเริงมาก บึ้งตึงขนาดไหน มุมมองเรื่องการถ่ายภาพของที่โน่น (อังกฤษ) ก็ยังดูร่าเริง สนุกสนาน คนที่นี่เน้นทฤษฎีมาก ทุกสิ่งที่ทำ�ที่คิดต้องมีที่ สนใจเรื่องการถ่ายภาพมานานหรือยัง มาที่ไป และแนวคิดนั้นก็ควรส่งเสริมกับเทคนิค สนใจมาตั้งแต่เด็กเลย อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งวาด ที่เลือกใช้ งานสวยแต่ไม่มีความหมายก็ไม่ค่อย รูปไม่เป็นแต่อยากสื่อออกมาเป็นภาพ เลยลองจับ มีคุณค่า กล้องถ่ายรูปดู หลังจากนั้นก็วางไม่ได้เลย จริงๆ เราเรียนจบมาทั้งด้านภาพเคลื่อนไหว แต่ทั้งภาพนิ่ง พอไปอยู่ที่โน่น ความคิดในเรื่องศิลปะ หรือการ และเคลื่อนต่างก็มีเสน่ห์คนละแบบ เรารักทั้งสอง มองชีวิตเราเปลี่ยนไปไหม ศาสตร์ แต่ภาพนิ่งแอบโดนใจเรามากกว่าเพราะ เรารู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมากขึ้นนะ จริงใจมาก ความท้าทายของมัน ในแง่ของการสื่อความรู้สึกให้ ขึ้น อาจเป็นเพราะเราอยู่ไกลบ้าน ไกลสังคมที่ ได้ภายในหนึ่งเฟรม แบบไม่มีคำ�บรรยายไม่มีการ เราเคยเติบโตมา มันรู้สึก anonymous และ ชี้นำ�ให้ฟูมฟาย ขึ้นอยู่กับคนดูว่าจะรู้สึกและตีความ รู้สึกไม่กดดัน คนส่วนใหญ่ที่เราคุยด้วยเป็นเพื่อน กับภาพภาพนั้นอย่าไร ก็เป็น local อังกฤษธรรมดา ไม่มีการปรุงแต่ง เรารู้สึกมันจริงใจดี สไตล์การถ่ายภาพของปาล์ม 047


048


อยู่ที่โน่นได้โชว์งานนิทรรศการหรือทำ�กิจกรรมอะไร ที่ส่งผลต่อแนวคิดเรามาก เราเป็นช่างภาพคนหนึ่ง ทีไ่ ม่ค่อยดูงานภาพถ่าย เราว่าลึกๆ เรากลัวว่า บ้างครับ และผลตอบรับเป็นไงบ้าง

มีแสดงงานสามครั้ง วิดีโอครั้งหนึ่ง ภาพนิ่งอีก สอง สองอันแรกเป็นคิวเรเตอร์จากที่นี่ เขาเลือก ไปแสดงส่วนอันล่าสุดนี้ทำ�กับกลุ่ม คิวเรเตอร์และ ศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่อยู่ในลอนดอน TAIL ร่วมกับ SEA ARTS FEST ผลตอบรับค่อนข้างดี มีคนให้ ความสนใจเยอะสำ�หรับกลุ่มเล็กๆ อย่างพวกเรา ส่วนหนึ่งเหมือนเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมของเรา ชาวต่างชาติให้ความสนใจพอสมควร

จิตใต้สำ�นึกเราจะเอางานที่เคยเห็นแล้วมาเลียนแบบ อย่างไม่ได้ตั้งใจ ส่วนใหญ่จะคิดงานออกจากการ อ่านหนังสือหรืออ่านสารคดีแล้วตีความแบบที่เรา เข้าใจเอามาแปลเป็นภาพเองอีกที ไม่ได้เอา ความหมายมาแปลนะเอาความรู้สึกมาตีความ

ชอบศิลปินคนไหนเป็นพิเศษไหมครับ

สิ่งที่ปาล์มได้จากการถ่ายภาพและเล่นดนตรี

ปาล์มเคยอยู่ในวงอัศจรรย์จักรวาล การเล่นดนตรี กับการถ่ายรูปมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

สำ�หรับเราเป็นความรูส้ กึ ทีค่ ล้ายๆกัน เพราะทัง้ ดนตรี กิจกรรมหรือบรรยากาศในทางศิลปะของที่โน่น และงานถ่ายภาพของเราเป็นเหมือน medium ทีเ่ รา ต่างจากบ้านเราไหม อย่างไร เลือกใช้ในการสือ่ สารสิง่ ทีเ่ ราอยากจะบอก ต่างกันที่ เราว่าต่างค่อนข้างมาก ที่เมืองไทยเหมือนกำ�ลังจะ วิธกี ารและขัน้ ตอน ตอนอยูอ่ ศั จรรย์ เหมือนเราเป็น เติบโต แต่ที่นี่เขาส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมมานาน ทีมแชร์ความรูส้ กึ กัน งานภาพถ่ายเป็นงานส่วนตัว มากแล้ว แกลอรี่ที่นี่ก็เหมือนเป็นหนึ่งใน tourist ของเราคนเดียว attraction ก็ว่าได้และงานฟรีดีๆเยอะมาก รัฐ เขาสนับสนุน มีงานศิลปะและกิจกรรมเยอะมากๆ ทุกวันนีย้ งั เล่นดนตรีอยูไ่ หมครับหรือจะกลับมาเล่นไหม ทั้งแกลอรี่ขึ้นชื่อดังๆ และแกลอรี่เล็กๆตามตรอก เล่นคลายเครียดอยูท่ บ่ี า้ นคนเดียว ถ้ามีโอกาสดีๆ ซอกซอย เป็นแรงบันดาลใจที่ดีทีเดียว ก็อยากกลับมาเล่นด้วยกันอีก ยากนะข้อนี้ เราชอบความ surreal ที่ตั้งอยู่ใน ได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ และได้การเรียนรู้หลาย reality และ mediocrety ความอัศจรรย์ใน อย่าง เป็นความรู้สึกที่ดีทีเดียวเวลาอยู่บนเวทีและมี ความเป็นจริง ความไม่ธรรมดาในความธรรมดา คนร้องเพลงของวงเราตาม อย่างเช่น สาขาภาพยนตร์ก็ Roy Andersson, Ulrich Seidl จิตรกรรมก็ชอบ Edward Hopper ความใฝ่ฝันในอนาคต งานเขียนก็ Haruki Murakami อันนี้ไม่ได้ตาม เอาจริงๆ นะ อยากไปอยู่ในชนบทไกลๆ ปลูก เทรนนะ ฮ่าๆ ชอบมาแต่เด็กเลยได้แรงบันดาลใจ ต้นไม้ทำ�สวน แล้วก็มีเวลาดูหนังอ่านหนังสือ จากงานเขามากๆ นอกนั้นก็มีงานเขียนของนิทเช่ ที่ซื้อมาตุนไว้ให้หมด websire : naurasuksomstarn.wix.com/naurarat E-mail naura.suksomstarn@gmail.com 049


VERY HAPPY GLASSES FOR NOT SO HAPPY PEOPLE PHOTOGRAPHY BY NAURARAT SUKSOMSTARN

050


051


052


053


054


055


056


057


058


facebook.com/TokyobikeTH 059


060


061


062


063


VERY HAPPY GLASSES FOR NOT SO HAPPY PEOPLE PHOTOGRAPHY BY NAURARAT SUKSOMSTARN IS A COLLABORATION WITH SUNGLASSES DESIGNER BETTINA VICENTE UNDER THE BRAND CALLED VERY HAPPY GLASSES. NEVER SEEN OR PUBLISHED BEFORE ANYWHERE APART FROM HER BLOG VERYHAPPYGLASSES. COM. ALL SUNGLASSES ARE STILL PROTOTYPES AND ARE VERY SPECIAL AS HAS ONLY GOT ONE EACH, ALL HAND-MADE. THE THEME OF THE SHOOT IS RATHER SIMPLE, SHOWING PEOPLE FROM DIFFERENT ETHNIC BACKGROUND WEARING THE SUNGLASSES. COLOURFUL AND TROPICAL INSPIRED FOR THE SUMMER ISSUE. STRICT PORTRAITS SHOWING MAKE- UP AND HAIR.

064


TEAM CREDIT PHOTOGRAPHY NAURARAT SUKSOMSTARN DESIGNER BETTINA VICENTE (VERYHAPPYGLASSES.COM) STYLING OLIVIA WELTZ MAKE-UP OONAH ANDERSON (OONAHANDERSON.CO.UK) HAIR CLAUDIA SAVAGE USING BUMBLE AND BUMBLE. ASSISTING KAVIN SUP-UPRAMAI MODELS (ALPHABETICAL ORDER) JAMES COOPER SEAN FOX LAUREN HARBORD NIALL HARTE BART HARVEY TERESA IBE SIRAYA INTARAKANCHIT MIGUEL CAMPBELL-LEWIS ARISA SAITO

065


PIE TALK

DESKTOP ERROR “ผมพูดตรงๆ เลยนะ เพลงของพวกเรามันไม่มีทางป๊อปขนาด ที่คนกลุ่มใหญ่ทั้งประเทศจะชอบ” นี่เป็นคำ�พูดที่ออกมาในบท สนทนาของเรากับวงอินดี้ร็อคคุณภาพ DESKTOP ERROR เราถึ ง เข้ า ใจว่ า ทำ � ไมดนตรี ที่ อ อกมาจากวงดนตรี ว งนี้ ถึ ง มี เอกลักษณ์เฉพาะตัวและแตกต่าง สิ่งที่พวกเขาทำ�มันไม่ใช่แค่ การทำ�เพลงฮิต เพลงป๊อปติดชาร์ตทั​ั่วไป แต่เป็นการทำ�ในสิ่ง ที่ตัวเองรักและมีความสุขที่จะทำ�มัน

066


067


068


ชื่ออัลบั้มใหม่

จะเล่นพร้อมกันไปเลยเพราะมันจะได้อารมณ์ Keep looking at the window ชื่ออัลบั้มนี้ มากกว่า แล้วค่อยมาเลือกดูว่าส่วนไหนใช้ได้หรือ เราหยับมาจากเนื้อร้องเพลงหนึ่งในอัลบั้มครับ ไม่ได้ อย่างรอบนี้อาจจะเอาแค่กลองกับเบส อีก ชื่อเพลงเปลี่ยนทิศ มันมีท่อนที่เกี่ยวหน้าต่าง รอบเอากีตาร์ เราเน้นให้ได้อารมณ์ของวงด้วย มัน แล้วมองออกไปข้างนอก เราก็นึกจากคำ�ไทย ยากตรงที่ต้องให้ได้ความรู้สึกของเพลงนั้นๆ ก็อัด ก่อนว่า เหม่อมองไปที่หน้าต่าง มันก็กลายมา อัลบั้มนี้กันประมาณ 2-3 เดือน เป็นคำ�ๆ นี้ ศิลปินคนอื่นเขาจะปล่อยซิงเกิ้ลออกมาเยอะๆ ก่อน แต่ desktop error ปล่อยมาทั้ง อัลบั้มเลย

เราเว้นจากอัลบั้มที่แล้วไปนานครับ ประมาณ สี่ปี แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่าต้องออกเป็นเพลงๆ เป็นซิงเกิ้ลเพื่อขายหรืออะไรแบบนั้น ทำ�เสร็จก็ ออกไปเลย อัลบั้มก่อนๆ ก็ทำ�แบบนี้ เดี๋ยวเรา ค่อยไปปล่อยซิงเกิลตามทีหลังก็ได้

feedback อัลบั้มเป็นไงบ้าง

ดีครับ ตอนนี้ขายไปประมาณพันแผ่นแล้ว ถือว่า เร็วมากเมื่อเทียบกับอัลบั้มที่แล้ว ก็รู้สึกว่ามีแฟน เพลงที่เขารอเราอยู่ ไปเล่นที่ญี่ปุ่นมาเป็นไงบ้าง

ชอบออนเซน (หัวเราะ) ที่ไปเล่นที่ญี่ปุ่น ดีมาก เลยครับทั้งเวที ทั้งการทำ�งาน back stage เราไปเล่นทั้งในเฟสติวัล (ONE Music Camp) และ live house รวมห้าที่และซาวด์ดีทุกทีเลย เพลงในอัลบั้มนี้แต่งกันมานานหรือยัง มาตรฐานเขาดี ทั้งสถานที่ ทั้งฝีมือของแต่ละ สะสมมานานมากแล้วครับ เราทำ�สะสมมา วงในเฟสติวัลที่เราไปเล่นคือขึ้นมาสิบวงซาวด์ดี เรื่อยๆ เพลงที่ไม่ได้ใช้ก็เยอะ หมดและแต่ละวงนี่เล่นคนละแนวนะ ซาวด์ออกมา มันใช่ในแนวนั้นๆ เลย ทุกอย่างมันเต็มนะ มัน การเลือกเพลงในอัลบั้ม ทำ�ให้วงดนตรีแต่ละวงโชว์ศักยภาพได้เต็มที่ ทำ�ให้ ดูตามความเหมาะสมมากกว่า เพลงแต่ละเพลง คนที่ดูเขาได้กำ�ไรมากในการมาดูและเรื่องสถานที่ มันเข้ากันไหม เวลาทีพ่ วกเราเล่นทุกคนชอบไหม อย่างตามผับในบ้านเราก็จะเซตตู้แอมป์ เซตกลอง ปรึกษาโคอิฉบิ า้ ง ดูภาพ์โดยรวมของอัลบัม้ ด้วย ตั้งอะไรต่างๆ ไว้ใช่ไหมครับ แต่ที่ญี่ปุ่นพอวง ดนตรีเล่นเสร็จเขาจะเคลียร์โล่งไว้เลย แล้วอีกวัน การอัดเพลงในอัลบั้มนี้ เปลี่ยนวงค่อยมาเซตใหม่และเวทีเขานี่สะอาดมาก เราจะซ้อมกันจนเล่นได้ก่อนพอเล่นได้แล้วก็ นะ ไม่มีขี้บุหรี่ ฝุ่นต่างๆ ไม่มี แล้วเขาทำ�แบบนี้ เข้าห้องอัดเลย วิธีอัดของเราจะอัดรวมครับ

069


ทุกที่เลย พอถึงเวลาเราไปเล่น เขาก็จะให้กระดาษ เรามาแผ่นหนึ่งมาเขียนว่าอยากตั้งอะไรไว้ตรงไหน ให้เรากำ�หนดเลยเพื่อให้ได้เสียงที่เราต้องการ รวมๆ ประสบการณ์ที่ได้ไปเล่นได้ไปเจอก็อยากให้มาปรับ ใช้ในบ้านเราบ้างบ้างทั้งเรื่องซาวด์ เรื่องสถานที่ อ๋อ...อีกเรื่องคือบรรยากาศในงานเฟสติวัลได้เห็น แม่จูงลูกมาดูดนตรี มันน่ารักบรรยากาศเขาดีมาก เรื่องขยะนี่ไม่มีเลย เวลาที่เดินกลับทุกคนก็จะถือ ถุงดำ�ของตัวเอง ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลยเขาจะพก ถุงขยะมาด้วย

ไปมากี่เมืองครับ

ไปสามเมือง แต่ละที่ก็บรรยากาศต่างกัน อย่าง โอซาก้าก็คล้ายเชียงใหม่ บ้านๆ โตเกียวอันนี้จะ อารมณ์เหมือนกรุงเทพนะ เมืองๆ หน่อย คนก็จะ เท่ๆ มีมาด ส่วนเกียวโตก็คล้ายๆ อยุธยามีบ้าน เก่าๆ วัดเยอะ จากประสบการณ์ที่ผ่านมามีการพัฒนาการในการ เล่นสดยังไงกันบ้าง

เมื่อก่อนนี้เราจะเล่นอย่างเดียวเลย คือใส่ๆๆ 070


มีเท่าไหร่ใส่หมด แต่เดียวจะเน้นฟังซะมาก ไม่ต้อง เล่นเยอะก็ได้ฟังเพื่อนในวงว่าเล่นอะไร ฟังเพื่อนเล่น มันสนุกนะ ตอนเล่นเหมือนเราเปิดซีดีฟังแล้วเล่น ตามรู้สึกว่ามันเพราะ เหมือนถอดวิญญาณไปอยู่ ตรงกลาง อาจจะเป็นเพราะโตขึ้นด้วยควบคุมซาวด์ ควบคุมอารมณ์ได้มากขึ้น

จะเห็นว่าศิลปินคนทำ�เขาคิดเขาเรียบเรียงมายังไง เพลงนี้ต้องต่อเพลงนั้น เพลงนี้ก่อนเพลงนี้ เหมือน เราอ่านหนังสือเล่มนึงไปเรื่อยๆ เห็นชอบวงอย่าง Radiohead, my bloody valentine กันทัง้ วงเลย กลัวติดสำ�เนียงเขามาบ้างไหม

มันก็ยากที่จะไปเหมือนเขานะ แต่มันก็อาจจะมีบ้าง ทุกวันนี้ฟังเพลงจากไหนกัน ช่องทางไหน เพราะมันเป็นสิ่งที่เราได้อิทธิพลมา เหมือนคนเล่น ก็หลายๆ ทางแต่กย็ งั เน้นฟังซีดอี ยู่ มันมีเสน่าห์มากกว่า เพลงบูลส์มันก็จะมีสำ�เนียงแบบนั้นไม่ว่าจะไปเล่น ฟังเป็นแทร็คๆ เพราะในซีดหี รือฟังเป็นอัลบัม้ เนีย่ เรา เพลงแนวอื่นก็จะมีสำ�เนียงเขาติดๆ มา สำ�หรับ 071


072


073


074


เรามันก็คงมีบ้างกลิ่นแหล่ะแต่ยังไงก็ไม่น่าเหมือน หรอกเพราะเราไม่ใช่เขาและเอาจริงๆ เราก็ไม่ได้ อยากเป็น radiohead ขนาดนั้น การก๊อปปี้กับ อิทธิพลมันก็ต่างกันมากนะ มันฟังรู้ อีกเรื่องเป็น เรื่องของคนเสพด้วยที่เวลาฟังเพลงเขาจะอิงกับ อะไรบางอย่างที่เขาเคยฟังเคยได้ยิน

(หัวเราะ) มือปืนห้องอัด เล่น backup ครับ ที่ ผ่านมาก็เล่นให้ พราย-เมธี มีพี่เล็ก greasy cafe มีโปรเจควงญาณ มีพี่อรอรีย์ พี่จีน กษิดิศ เบิร์ดเปลี่ยนอารมณ์ทันเหรอ เล่นหลายแนวหลายวง

เบิร์ด - ปกติเป็นคนชอบหาเครื่องดนตรีใหม่ๆ อยู่ แล้ว และเราก็ทำ�ความรู้จักกับเครื่องดนตรีชิ้นนั้น คนฟังบ้านเราช่างติช่างวิจารณ์ไหม ว่ามันจะเหมาะกับอะไร แล้วก็พามันไปเที่ยว (…?) การติเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ก็ต้องมีเหตุผล มีที่มาที่ไป คือไปเล่นกับวงต่างๆ ไม่ใช่แบบเพื่อนกูไม่ชอบกูก็ไม่ชอบด้วย เหมือน อ๊อฟ - ผมว่าคนที่เลือกเบิร์ดไปเล่นก็อยากได้สไตล์ ที่เขาชอบพูดกันเรื่องก๊อปทูดอร์ (two door ของเบิร์ดอยู่แล้ว cinema club) มันก็แปลกๆ ก็มีคนบอกว่าเรา เล็ก - เบิร์ดเก่งครับ ถ้าเป็นมือกีตาร์ในสายอินดี้ เหมือน coldplay เหมือนวงไทยบ้างวงก็มี (ไม่ ผมว่าเบิร์ดเป็นมือกีตาร์ที่มีสไตล์เฉพาะตัวมากๆ อยากเอ๋ยชื่อ) แล้วก็จะมีแฟนเพลงมาทะเลาะกัน คือถ้าเป็นนักแสดงก็คือตีบทแตกนะ ซึ่งถ้าเป็นคนฟังแล้วศึกษาจริงๆ ฟังเพลงในอัลบั้ม เม้ง - ถ้าเป็นนักดนตรีเมืองนอก ผมว่าเขาต้องมี อ่านประวัติ มันจะเข้าใจวงนันๆ มากขึ้น กีตาร์ซิกเนเจอร์ไปแล้วอ่ะ สื่อและช่องทางเรื่องดนตรียุคใหม่เป็นไงบ้าง

ก็ดีนะครับ มีช่องทางเยอะ ยิ่งตอนนี้มีวงดนตรีรุ่น ใหม่ดีๆ เยอะมากกกกก อย่าง Cloud Behind ก็เล่นดี วง two mil ion thank, Part Time Musicians, Plot, Kobe มีเยอะครับ จริงๆ เพลงตลาดก็ดีขึ้นนะครับ รายละเอียดทางดนตรีก็ ดีและเขาก็เก่งกันด้วย เรื่องช่องทางก็อาจจะเน้น ทางโซเชียลมากกว่า

ถามเรื่องเนื้อเพลงของ Desktop Error หน่อย

จริงๆ วงเราไม่เก่งเรื่องเนื้อร้องเท่าไหร่ แต่เรา มีพี่คนหนึ่งมาช่วย ชื่อพี่ปิ๊ก องอาจ หาญจน วงศ์ เขาคือพี่ดี้ นิติพงษ์ ของชาวอินดี้ (หัวเราะ) เขาก็แต่งเพลงให้หลายคน เขาจะมโนภาพเยอะ เพี้ยนๆ แต่แต่งเพลงเก่ง เหมือนเขาเป็นคนกลาง ระหว่างคนดูกับพวกเรา เพราะเพลงเขาเราบางที มันก็ลอยมากจับต้องยาก เขาทำ�ให้มันชัดเจนทำ�ให้ นอกจากทำ�วง desktop error ทำ�อะไรกันอยูบ่ า้ ง เพลงของ Desktop Error จับต้องได้ง่ายขึ้น อ๊อฟ - ทำ�เพลงโฆษณาครับ, เม้ง-ทำ�กราฟฟิก เราชอบเพลง “ขอ” ในอัลบั้มที่แล้วมาก ใครเป็น ครับ, เล็ก-มีกิจการส่วนตัวอยู่ต่างจังหวัด คนเขียน ครับ เป็นร้านถ่ายรูปเล็กๆ, ตุ้ย-เปิดร้านขาย กระเป๋า ขายเครื่องประดับครับ, เบิร์ด-เป็นมือปืน เบิรด์ เขียน เขียนในวัดด้วยไปบวชยีส่ บิ วัน เนือ้ เพลง 075


มันจะเป็นเรื่องธรรมมะหน่อย เขียนมาให้เม้ง เพราะช่วงนั้นเม้งทำ�ตัวเหลวไหล (ฮา ทั้งวง) เป็นช่วงที่วงกำ�ลังจะแตกนะช่วงนั้น แต่ตอนนี้ ไม่มีแล้วนะเรื่องนี้ เหนื่อยไหมทำ�งานประจำ�ด้วยเล่นดนตรีด้วย

ก็คล้ายๆ กับเราดูขบวนการห้าสีแหล่ะ เป็นตัวสีแดง สี เขียวก็ว่ากันไป สนุกๆ ก็นัดกันเสาร์อาทิตย์เล่นกันมันๆ เคยจัดงานทรีบิวต์ radiohead ที่ Lullabar เล่นเพลง radiohead ยี่สิบสองเพลงอ่ะ บ้ามากและมันมาก ร้าน Lullabar ก็เป็นจุดเริ่มของเราและก็เป็นจุดเริ่มต้น ของหลายๆ วงนะ อย่าง The Jukks, Abuse the youth, พี่บอม มือเบสวงภูมิจิต ทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน มาเจอกันด้วยเสียงเพลง

ปกติเราก็ทำ�งานกันใช่ไหม แต่พอเวลามาเล่น ดนตรีมันมีความสุข เข้าใจเลยว่าเวลาคนเรา ได้ทำ�อะไรที่ชอบมันดีแบบนี้เอง แล้วมีเพื่อนๆ มีแชร์กันมันก็ยิ่งดี เวลาที่มารวมตัวกันเล่น ช่วงที่ทำ�อัลบั้มแรกๆ ล่ะครับ ช่วงแรกที่ทำ�เพลงกัน อัลบั้มอีพี ก็เพี้ยนมาก เอาแอมป์ ดนตรีแล้วมีความสุขเหมือนได้พัก ลงไปในโอ่งมังกรคือทดลองกัน เอาโทรศัพท์มือถือวาง ทำ�ไมไม่ทำ�เนื้อเพลงต่างประเทศ เผื่อจะขาย ใกล้วิทยุแล้วโทรเข้าให้มีเสียงรบกวน ปิ๊บๆๆๆ จริงๆ ที่โคอิฉิเลือกเรามาอยู่ที่ค่าย SO::ON ก็เพราะเรื่องนี้ ต่างประเทศได้ เอาจริงๆ นะ เคยฟังฝรั่งร้องเพลงไทยไหมล่ะ แหล่ะครับเรื่องความเพี้ยน รุ่นพี่วง Goose แนะนำ�ให้ มันตลกอ่ะ เราไม่ถนัดสำ�เนียงมันไม่ได้ เราก็ไปเล่นให้โคอิฉิดู แล้วตอนนั้นไม่ได้เล่นเป็นวงแบนด์ นะ เล่นเป็นแนวทดลอง เล็กก็นั่งหมุนปุ่มเอฟเฟ็คกีตาร์ ดูสนิทกันมาก จำ�ช่วงแรกๆ ที่ทำ�วงได้ไหมเริ่ม อีกคนก็ปรับเสาวิทยุ มีคีย์บอร์ดเก่ามาเล่น ฟังไม่เป็น เพลงหรอก (หัวเราะ) เล่นไปก็เหล่ตามองโคอิฉินะว่า ยังไงกัน รู้จักกันมานานนะเป็นสิบปี ตอนแรกมี ตุ้ย เป็นไงบ้าง มาตอนหลังได้ไปถามโคอิฉิเหมือนกันว่าตอน เบิรด์ เม้ง สามคนเรียนทีล่ าดกระบัง ตอนนัน้ นั้นเป็นไงบ้าง เขาก็บอกว่าดูพยายามกันมาก (หัวเราะ) เล็กเรียนที่ราชมงคลคลองหก สามคนนี้เขามา คือเขาดูที่วิธีคิดมากกว่า ดูความเพี้ยน จริงๆ ใน เล่นที่มหาวิทยาลัย เราเห็นเขาเล่นก็ชอบเลย SO::ON นี่ Desktop Error ถือว่าฟังง่ายแล้วนะ แนะนำ�ให้ลองไปเล่นที่ร้าน Lullabar ที่ร้าน นั้นเขาเล่นเพลงอังกฤษ ช่วงนั้นเราก็เล่นเพลง เพลงหรือิวงที่ชอบในปีนี้ ของ radiohead เล็กเขาก็รู้จักกับเจ้าของ ตุ้ย - Daft punk ร้าน Lullabar ก็พาเราไป แล้วไม่มีนักร้อง เล็ก - My Bloody Valentine Mbv เล็กก็เลยมาร้อง ตอนนั้นยังไม่ได้คิดจะทำ� เม้ง - ชอบ พี่เล็ก greasy cafe ผมอัดเพลงให้ เพลงอะไรกันจริงจังนะ เห็นเล็กเขาตัวเล็กๆ พี่เขาด้วยครับ สามเพลง เหมือน thom yorke และเบิร์ดตัวสูงก็เป็น เบิร์ด - ชอบเพลงสักวันของพี่อรอรีย์ jonny greenwood (ฮา) ตอนนั้นเรายังเด็ก อ๊อฟ - Part time musicians 076


077


078


ขอบคุณ Desktop Error เบิร์ด-อดิศักดิ์ พวงอก (กีต้าร์/คีย์บอร์ด) ตุ้ย-ชาญณรงค์ แจ่มขาว (เบส) อ๊อฟ-วุฒิพง ลี้ตระกูล (กีต้าร์) เล็ก-สมโภช กองไพบูลย์ (ร้องนำ�) เม้ง-ภัทรพล ทองสุขา (กลอง) facebook.com/DesktopError www.youtube.com/user/SODFBKK

079


080


DRY WINTER DRY FLOWERS สัญลักษณ์หนึ่งของความหนาวนั้นคือความเหือดแห้ง บางสิ่งถึงแม้เหือดแห้งก็ยังคงความสวยงามไว้ DRY WINTER, DRY FLOWERS กว่าจะมองเห็นความงามในสิ่งสิ่งหนึ่ง ให้ครบถ้วนลึกซึ้ง ต้องใช้เวลามากกว่าที่เราคิด

081


FIRST IMPRESSION

082


083


084


085

LOOKING CLOSER AND DEEPER


SOMETHING HAPPENED SOMETHING CHANGED SOMTHING WORNG

086


087


088


WE LOST

089


LIVE AND LEARN AND PASS IT ON

090


091


092


093

END


094


PIE INSPIRATION

RUKKIT QUOTES

วันนี้เรามานั่งคุยหลายๆ เรื่องกับผู้ชายที่มีความสามารถ หลายๆ อย่าง เขาเป็นกราฟฟิกดีไซน์ที่มีความเป็นนักวาด ภาพประกอบก่อนจะโดดออกจากโต๊ะคอมฯ มาพ่นผนังแบบ สตรีทอาร์ตและวันนี้เขานำ�งานสตรีทอาร์ตขึ้นไปบนแกลลอรี่ นับย้อนไปปี 2004 ผลงานของเขาได้ขึ้นปกหนังสือดีไซน์ชื่อ ดังอย่าง Computer Arts และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม กราฟฟิกชื่อดัง B.O.R.E.D. สิบปีต่อมาเขาก็ยังทำ�งาน อยู่อย่างต่อเนื่อง วันนี้เรามานั่งอยู่ในห้องของดีไซเนอร์ชื่อ ดังที่เขาพูดย้ำ�กับเราตลอดการสัมภาษณ์ว่า “เราไม่เก่ง” กิ๊ฟ-รักกิจ ควรหาเวช

095


096


ที่ทำ�สตรีทอาร์ตเริ่มจากไปพูดเรื่องฟอนต์ (font) เราก็ต้องหาทางเอาตัวรอด เพราะคนอื่นที่ไปพูด ก็เก่งๆ ทั้งนั้น แล้วเราไปสังเกตูเห็นตัวหนังสือที่ เด็กช่างกลเขาพ่นผนัง ก็คิดว่าถ้ามีเครื่องมือ ที่มันใช้พ่นให้ได้เร็วๆ แล้วก็คงดีกว่านี้ เลย เริ่มทำ� block stencil ที่ใช้พ่นได้ทั้งตัวอักษร ไทยและอังกฤษ ซึ่งมันจะมีแค่เส้นตรงเส้นโค้ง ง่ายๆ ที่พลิกแพลงได้หลายรูปแบบ

คืออังกฤษเขาไม่ได้ไฮเทคโนโลยีเหมือนอเมริกา ที่โปรดักชั่นพันล้าน เขาเน้นไอเดียสังเกตพวก มิวสิควิดโี อ เขาก็ท�ำ นิง่ ๆ เน้นไอเดีย เน้นแอ็คติง้ ของคน จังหวะของดนตรี

ในต่างประเทศดีไซน์ที่ไม่ดีก็เยอะนะ ที่พ่นตาม ถนนที่เราไม่เห็นในหนังสือหรือในสื่อ แต่ว่ามัน มีความหลากหลายไง เขาไม่ได้ติดเทรนด์มันมี สไตล์ของตัวเอง เขาไม่ได้แคร์กระแส ที่โน่นคน ทำ�กำ�แพงกับพี่พี (P7) ครั้งแรก ก็อึ้งเลย พี่เขา ที่ดังก็คือเป็นตัวเอง ในบ้านเราบางทีอะไรขายได้ วาดรูปหมาแบบเหมือนจริงเลยนะ ถ้าเป็นเรา หรือดังก็แห่กันไปทำ� ถ้าช่วงนี้ดวออิ้งมาก็ดวออิ้ง ก็คือนั่งดราฟ Vector ใช่ไหม คือระบบพี่เขา กันหมด คนไทยอาจยังไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ เหมือนเราเลยแต่พี่เขาใช้สายตากับมือ สุดยอด ถ้าชอบมันก็ไม่ผิดนะแต่ต้องแตกไปอีกทางให้ได้ มากและพี่เขาดีมากมีอะไรปรึกษาได้ บางคน ต้องผสมไอเดียของเราลงไปให้มันต่าง อาจจะมองงานพี่เขาว่าเป็นแค่การ์ตูนแต่จริงๆ มันผ่านการฝึกฝนผ่านทักษะมามาก กว่าที่เขา อย่างเราตื่นเต้นงานเมืองนอกใช่ไหม แต่ที่ต่าง จะฟรีสไตล์ขนาดนั้น ประเทศจริงๆ เขาอาจจะมองว่าเฉยๆ นะ มัน จะมีงานบางพวกที่ลึกเข้าไปอีกที่เขาตื่นเต้นกัน พอทำ�งานกับพี่พี (P7) เขาเนี๊ยบมาก พี่เขาผ่าน กระบวนการฝึกฝนการคิดมาเยอะ มันก็เหมือน คนไทยเราอ่ะทำ�ได้แต่คนไทยกันเองมองว่ามัน กระตุ้นเราไปด้วยนะ ตอนไปพ่นกำ�แพงแรกๆ ไม่สวยมันสู้ต่างประเทศไม่ได้ เราชอบสีของ เราก็ต้องหาทางเอาตัวรอด ต้องทำ�งานให้เสร็จ คนไทยมากชอบสีเยอะๆ อย่างรถสิบล้อรถตุ๊กๆ ให้ดีก่อน บางทีคนอื่นทำ�กันเสร็จหมดแล้วเหลือ พื้นที่นิดเดียวใส่สีซะยับเลย แบบนั้นหน่ะเรา เราคนเดียวก็รู้สึกแย่นะ รู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วง ชอบ เดี๋ยวนี้เจอรถสิบล้อสีเยอะเราถ่ายรูปไว้เลย เขาด้วย ก็ต้องกลับมานั่งคิดหาวิธการ นั่งปรับดี ยังอยากไปเรียนกับเขาเลย ช่วงหนึ่งเราก็ไป ไซน์ประบวิธีการทำ�งานของเรา ชอบงานพื้นเมืองงานชนเผ่า พวกลูกปัด ลาย แพทเทิร์นของเขา พวกงานสีน้อยเราก็เคยทำ�นะ ไปทีอ่ งั กฤษ มันหลากหลายจริงๆ คล้ายบ้านเรานะ แต่มันไม่สนุก ไม่มัน เพราะต้องคำ�นวนเยอะ

097


เราพูดไม่เก่งไง เวลาคนเชิญไปพูดก็ต้องเอาตัว รอดไป เราไม่มีทฤษฎีอะไรมาก อย่างในงาน PechaKucha เขาก็มีโจทย์ให้เราพูดว่ากราฟฟิก คืออะไร เราก็พิมพ์ตัวหนังสือเลย ว่า “กราฟฟิก เท่ากับ” แล้วเราก็มาตัดๆๆๆ แล้วมาต่อๆ เรียงๆ กันใหม่ (หัวเราะ) เอาเลยดูซิ มันจะเป็น อะไรได้บ้าง คือพูดกับเพื่อน พูดกับน้องพูดได้นะ แต่พอต้องพูดกับคนเยอะมันไม่ถนัด คำ�ว่า ดีไซเนอร์มันก็ต้องแก้ปัญหานะ ถ้าลูกค้า ไม่มีปัญหา นายก็ไม่มีงาน แม้เราจะดีไซน์งาน ของเราเองมันก็ต้องแก้โจทย์ในใจเราให้ได้ก่อน พอคิดน้อยมันก็ทำ�เยอะ คนทำ�งานมีสไตล์เฉพาะตัวมากกว่านี้ มันก็จะ มีทางเลือกมากกว่านี้ และคนก็จะไม่มีนั่งโจมตี กันเอง ไอ้นี่ขายได้ ไอ้นั้นขายไม่ได้ คนนี้ทำ�มา นานกว่าคนนั้น ทำ�ไมงานนี้อีเว้นนี้ไม่มีคนนั้น แล้วไงอ่ะ มานั่งทำ�งานของตัวเราเองให้ดีดีกว่า ก็มีคนพูดนะว่า ตัวจริงต้องไม่คอมเมอร์เชียล เราก็เห็น OBAY ขายของเต็มเลย

098

เรื่องสตรีทอาร์ทมันยังสนุกนะ มันยังไม่อิ่มไม่ เหมือน Vector ที่เราเริ่มรู้สึกว่านั่งดราฟคนให้ มันเหมือนมันก็ไม่มีความหมายอะไร แทนที่จะ มาทำ�อะไรของตัวเอง ยิ่งตอนนี้เราเริ่มไม่แคร์ แล้วว่าอะไรสวยไม่สวย แค่เราอยากทดลองกับ ไอ้บล็อคของเราเนี่ย ว่ามันพลิกแพลงได้อีกแค่ ไหน ยังอยากรู้ยังสนุกอยู่ เดี๋ยวนี้โซเชียลมันเยอะ หลายคนก็หลงทางนะ ไปติดภาพลักษณ์ติดไลฟ์สไตล์ก็เยอะ อย่าง เด็กที่ตามตั้ม (mamafaka) เยอะเลยที่เห็น พี่เขาแต่งตัวแบบไหนก็แต่งตัวตาม แต่ไม่ดู วิธีคิดไม่ดูการทำ�งานของเขา หรือการไปพึ่ง คอนเน็กชั่นมากไปก็ไม่ดีนะ อาจจะเพื่อเรียก ยอด likes หรืออะไรก็ตาม งานที่คน likes เป็นล้าน อาจจะดีไม่เท่างานที่ คน likes แค่สิบยี่สิบก็ได้ ตอนนี้เราเริ่มตื่นเต้นกับการทำ�งานกับคนอื่น มากกว่า เมื่อก่อนเราดูแต่ภาพไง แต่พอได้ดู เขาทำ�งานจริงต่อหน้า ดูกระบวนการ อินสปาย มันเข้ามากับตัวเลย มันเข้ามาโดยตรง


099


ถ้าคิดไม่ซ้ำ�ใคร มีทางที่เป็นตัวเอง มีระบบการคิดที่เป็นตัวเอง ตีโจทย์ที่ ลูกค้าหรือใครให้มาไปในทางของตัวเองได้ เป็นออริจินัล ไม่ใช่ทำ�เสร็จออก มาโดยฝรั่งด่า ว่าไปก๊อปคนโน่นคนนี้มา ชอบหุ่นไวนิลพวกพวกสัตว์ประหลาด เมื่อก่อนไม่ชอบเลยนะ พวกตัวโกง ชอบพวกพระเอกแต่พอโตมาดูพวกสัตว์ประหลาด มันเพี้ยนๆ ดีนะ มัน อาร์ตของมัน ดีไซน์มันหลุด เหมือนเราทำ�งานมาเรื่อยๆ เนี่ย งานสวยเรา ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้วเราชอบงานหลุดๆ มากกว่า ที่มันกล้ามันแหวก วิธีคิดที่ มันประหลาด มันอาจจะเป็นข้อจำ�กัดของหนังฮีโร่สมัยก่อนเขามีทุนมีเทคนิค ทำ�ได้ประมาณนี้ สมัยนี้นี่ศัตรูหล่อกว่าพระเอกอีกนะ เราคิดเองนะว่าสมัย นั้นเขาอาจจะแยกให้ชัดเจนว่าฝ่ายไหนตัวดีฝ่ายไหนตัวร้าย เดี๋ยวตัวโกงมัน เท่แล้วเด็กจะไปชอบตัวโกง ตัวโกงเลยต้องดูง้อยๆ ไปเลย 0100


หุ่นบางตัวเราก็มีตอนเด็กๆ นะ เล่นแล้วพัง ไปเจออีกที ที่ญี่ปุ่นรีบคว้าเลย เมื่อก่อนก็ชอบพวก designer toy นะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว ตอนนี้ชอบพวกหุ่นเหล็ก ชอบแบบนี้มากกว่า ชอบวัสดุ ชอบหน้าตาของมัน ที่ไม่ ค่อยเนี๊ยบ หน้าตามันจะไม่ค่อยเหมือนบิดๆ เบี้นวๆ จะดูไม่ค่อยสมบูรณ์ อย่างอุลตร้าแมนนี้ก็ซื้อตัวที่มันไม่ เหมือนคนเท่าไหร่ หนังสือก็มีพวกสตรีทอาร์ตที่ต้องตาม เป็นเรื่องงานด้วย เรา ก็ต้องดูชาวบ้านบ้าง ว่าเขาทำ�อะไรกันมาแล้ว แต่ตอนนี้ หนังสือน้อยเคยเก็บแล้วน้ำ�ท่วมปลงเลย ต่อให้เราเก็บดีแค่ ไหนมันก็ไป ตอนนี้ก็ซื้อแม็กกาซีนออนไลน์ 0101


0102


0103


0104


0105


0106


เรื่องดีไซน์คาแร็คเตอร์สำ�หรับเรามันยังไม่ ถึงเวลา อย่างพีพ่ ี (P7) เขามองคาแร็คเตอร์ เป็นดีไซน์แล้ว แต่เรายัง เราเลยยังไม่ อยากใส่ลงไป เพราะมันยังไม่ใช้ตัวเรา ทำ� แล้วมันก็อาย เรายังไม่รู้สึกแบบนั้นมันก็ยัง ไม่มีเหตุผลที่จะทำ� มันต้องตัดให้ขาดระหว่างตัวเรากับอินสปาย ถ้าเราเอาอินสปายมารวมเมื่อไหร่แล้วงานไป เหมือนกับอินสปายมันก็จบอ่ะ ต้องซื่อสัตย์ กับตัวเอง ต้องทำ�ความเข้าใจกับงานที่เราดู วิเคราะห์มันนะ ไม่ต้องแข่งกับใคร มีแรงกระตุ้นได้ แต่ไม่ ต้องไปแข่งกับเขา หรือถ้าอยากจะให้งาน ดีกว่าเขาก็ต้องคิดให้เยอะกว่าเขา ตอนแรกเราทำ�งานก็เพราะอยากเก่งเมื่อ คนโน่นคนนี้เหมือนเมืองนอก พอได้ลง หนังสือเมืองนอกมันก็ระดับหนึ่ง แต่มันก็ ต้องไปต่อ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ�ไป วัน หนึ่งถ้าสามารถทำ�งานออกมาแล้วรู้สึกว่ามี แต่เราคนเดียวที่ทำ�แบบนี้ได้จะรู้สึกดีมาก

0107

เราไม่ทางรู้หรอกว่าสไตล์ของเราจะดีหรือ เปล่า คนจะชอบไหม มันต้องทำ�ออกมาก่อน ต้องตีโจทย์ความคิดของเราตอนนั้นออกมา ให้ได้ก่อน การไม่ตั้งใจเรียนก็มีผลนะ ทำ�งานแค่ส่งๆ ไป มันติดเป็นนิสัยได้ พอโตมาทำ�งานก็เช้า ชามเย็นชามไปเรื่อยๆ ลูกค้าชอบแบบไหน แบบไหนผ่านลูกค้าง่ายก็ทำ�แบบนั้น มันก็ ไม่มีอะไรใหม่ การไปอยู่เมืองนอกไม่ได้การันตีว่าจะเก่งนะ อยากทำ�อะไรทำ�เลยเปิดก่อนได้เปรียบ (หัวเราะ) ปกติเราเป็นคนตัดสินใจอะไรเร็วนะ หรือคิด น้อยก็ไม่รู้ เวลาเจออะไรที่ไม่ชอบก็ไม่เอาเลย ไม่อยากทุกข์นาน ปีหน้าจะมีโชว์งานเดีย่ วและจะมีไปโชว์กบั เพือ่ น ชาวเกาหลีตอนนีก้ �ำ ลังคุยรายละเอียดกันอยู่ ถ้ามัวแต่ตาม มันก็ไม่นำ�สักที


PIE ONLINE GALLERY ขอบคุณทุกท่านที่ส่งงานเข้ามากันนะครับ มีคนถามมาตลอดว่า เล่มนีจ้ ะมีเปิดรับงานมาลงไหม เล่มหน้าจะมีไหม ทาง PIE ONLINE GALLERY ของเราจะเปิดพืน้ ทีใ่ ห้ความคิดสร้างสรรคดีๆ งานเท่ๆ แบบนี้อยู่เรื่อยๆ ครับ ในปีหน้าก็เช่นกัน แต่ก็ต้องขออภัยที่พื้นที่ ของเราอาจจะมีกำ�จัดไปบ้าง ใครยังไม่ได้ลงก็อย่าน้อยใจนะครับ ตั้งใจสร้างผลงานดีๆ กันต่อไปนะ ผู้ที่เคยส่งมาแล้วถ้ามีผลงาน ใหม่ๆ อยากส่งมาอีก ก็ได้นะครับ ไม่จำ�กัดแนว ไม่จำ�กัดอายุ ส่ง ผลงานมาได้ที่ pieonlinemag@gmail.com สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ความคิดสร้างสรรค์อยู่กับเราทุกคนตลอดไป 108


109


TANTA VORAWATANAKUL AKA: TANTAV STUDYING AT STAMFORD UNIVERSITY 3RD YEAR STUDENT - COMPUTER ANIMATION

110


contact: tantavtantav@gmail.com FB: www.facebook.com/tan.teevee IG: www.instagram.com/tantav Behance: www.behance.net/tantav

111


วธูสริ ิ จันสิน มหาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ pare_pim@msn.com

112


PASSAKORN CHANTANAKORN แนวความคิดมาจากตอนที่ผมอายุ 25 กำ�ลัง ย่างเข้า 26 แล้วเกิดความรูส้ กึ ทีว่ า่ จากนีต้ อ้ ง จริงจังกับชีวติ แล้ว มองไปรอบๆตัว เพือ่ นฝูง ทุกคนก็ต่างดิ้นรนกับชีวิตของตนเอง ในวิถี ทางที่ต่างกัน ราวกับว่า เราต่างกำ�ลังร่าย รำ� บนฟลอร์แห่งชีวิต ด้วยท่าทางแก้ๆกังๆ ด้วยหวังว่าซักวันจะคล่องขึ้น

ERWACHSENE TANZEN SEIT 25 JAHREN ALT ผู้ใหญ่เต้นรำ�ตั้งแต่อายุยี่สิบห้าปี

113


ปฏิภาณ สุวรรณสิงห์ Communication Design Program Mahidol University International College

114


115


116


JAMRAT AIEMSUTHONKUL

/munsstore.tumblr.com

117


118


gaothai Illustrator artabstracttitle@gmail.com มศว (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)

119


120


บิ๋ม facebook/bim1992

121


SORASART WISETSIN เป็นผลงานภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มที่ถ่ายสุนัขที่ชื่อว่ากลูต้า เป็นสุนขั จรทีเ่ ก็บมาเลีย้ งจนทุกวันนีม้ คี วามสุขดีแบบนีค้ รับ ตัง้ ใจ จะถ่ายไปเรื่อยๆฝันไว้ว่าอยากรวมเล่มทำ� Photo book ครับ สามารถชมผลงานที่มีขนาดใหญ่พอได้ที่นี่ http://gluta.tumblr.com/ และถ้าอยากชมชีวิตก่อนจะมาเป็นกลูต้าดูได้ที่คลิปนี้ครับ http://www.youtube.com/watch?v=HblD3s9gabE

122


123


124


125


PIE TEAM : 080 233 5492, 086 918 6216 www.pieeveryday.com facebook.com/piemagazine2013 pieonlinemag@gmail.com 100/99 chaiyapruk village soi 55 Sukapibal 5 O-ngoen Saimai Bangkok 10220

126


127


SEE YOU SOON 128


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.