ความดีนั้นมีที่อยู่ 1
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 3
ความดีนั้นมีที่อยู่ ปวรา ชัชวาลย์ปรีชา กฤตพจน พงศ์ถิรประสิทธิ์
เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ: 978-616-7790-29-9 พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2556 บรรณาธิการอ�านวยการ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ ช่างภาพ ศิลปกรรม ออกแบบปก พิสูจน์อักษร ประสานงานการผลิต ผู้จัดการ
ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ กฤตพจน พงศ์ถิรประสิทธิ์ อบต.หัวง้ม กฤตพจน พงศ์ถิรประสิทธิ์ ปวรา ชัชวาลย์ปรีชา กรกช สุริยาอาภรณ์ สรวิศ จ�านาญศิลป์ ณัฐชา วิวัฒน์ศิริกุล เนาวรัตน์ ชุมยวง
จัดพิมพ์โดย
ส�านักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน ส�านักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ เลขที่ 99/8 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 02-343-1500 www.thaihealth.or.th และ www.punsook.org facebook : www.facebook.com/punsook
ค�ำน�ำ ผู้ใหญ่มักจะตั้งค�ำถามกับเด็กๆ ว่าโตขึ้นพวกเขาอยากจะเป็นอะไร แน่นอนว่าค�ำตอบ นั้นหลากหลาย ทั้งหมอ ครู ต�ำรวจ พยาบาล นักการธนาคาร แต่เมื่อมองดูลึกลงไป สถานะการงานเหล่านี้มิได้การันตีถึงคุณภาพของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ เพราะนอกเหนือ จากความเก่งแล้ว ยังมีเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ที่ผู้ใหญ่อย่างเราจ�ำเป็นต้องปลูกฝังให้ กับเขาด้วย “สังคมนี้ไม่ต้องการคนเก่ง เราต้องการคนดี” นี่เป็นค�ำกล่าวของคนกลุ่มหนึ่งที่เห็น ภาพชัดเจนขึ้น ภายหลังจากทุนนิยมได้รุกคืบและสร้างความเสียหายมาเป็นระยะเวลา นาน เราเห็นความป่วยไข้ที่ต้องได้รับการเยียวยา อย่างน้อยยังโชคดีที่เรามองเห็น และเริ่ม กลับมาให้ความส�ำคัญกับรากฐานดั้งเดิมของสังคม พื้นที่ต�ำบลหัวง้ม อ�ำเภอพาน จังหวัดเชียงราย คือสังคมขนาดเล็กที่เน้นสร้างคนดี ทั้ง แบ่งรับแบ่งสู้กับวัฒนธรรมสมัยใหม่ที่คืบเข้ามาชิดใกล้ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร พวกเขา ร่วมกันสร้างคนผ่านนวัตกรรมธนาคารความดี เพื่อตอบค�ำถามที่ว่า ความดีคืออะไร ความ ดีมีจริงหรือไม่ ท�ำดีแล้วได้อะไร เปลี่ยนนามธรรม ‘ความดี’ ให้เป็นรูปธรรม แต่เชื่อหรือไม่ ว่า เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง คนที่นี่ไม่ได้สนใจรูปธรรมวัตถุเลย ทุกคนแค่ท�ำความดี จน กลายเป็นกิจวัตรประจ�ำวันอันคุ้นชิน นอกจากนี้ พวกเขาพยายามฟื้นคืนและรักษาภูมิปัญญาดั้งเดิมที่เคยมีมาแต่บรรพกาล ปรับให้เข้ากับบริบทของวิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบัน ถ่ายทอดให้เด็กๆ ได้รู้และหนุนเสริมให้ เกิดการสืบสาน โดยมีกลไกส�ำคัญ คือ บ้าน วัด โรงเรียน และเชื่อมโยงทั้ง เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูง อายุ ที่เข้าร่วมด้วยช่วยกันผลักดันให้สัมฤทธิ์ผล หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ ‘ความดี’ ว่ามีที่อยู่จริงๆ ในสังคม โดย บอกเล่าผ่านมุมมองของ ‘หวาย’ เด็กหญิงที่อยู่ในวัยเปลี่ยนผ่านอันส�ำคัญ ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ใน ชุมชนแห่งนี้ เปรียบเสมือนฟันเฟืองตัวหนึ่งหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมความดีของ ชุมชนให้บังเกิดผลส�ำเร็จ และในฐานะที่เธอคืออนาคตของชุมชน เธอมองและเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไร เด็กๆ ก�ำลังเติบโตไปทุกขณะ สวนทางกับผู้ใหญ่ที่นับวันจะแก่เฒ่า ต้นไม้จะเติบโต อย่างแข็งแกร่ง ต้องมีรากฐานที่มั่นคง เราจึงเป็นส่วนส�ำคัญในการเตรียมความพร้อม เพราะวันข้างหน้า พวกเขาจะพบบททดสอบใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามาท้าทาย ซึ่งผลลัพธ์คงไม่ได้ สวยงามหรือเป็นดั่งใจหวังเสมอไป กฤตพจน พงศ์ถิรประสิทธิ์ ความดีนั้นมีที่อยู่ 5
สารบาญ บทน�าเรื่อง บทน�าเรื่อง........................................10
บทที่ 1 ความดี ไปธนาคารความดี.............................15 คุณธรรม...........................................21
บทที่ 2 น�้าใจ
บทที่ 3 วิถีพอเพียง
น�้าใจ.................................................29 ความพอเพียง...................................49 ไปศูนย์อบสมุนไพร...........................35 ยายไปโรงเรียน.................................55 หมอน้อยคอยอาสา...........................41
บทที่ 4 วัฒนธรรมดีสร้างคนดี งานแห่แค่.........................................63 ซ้อมดนตรีไทย..................................69
บทที่ 5 วิถีของอาชีพ ลองท�าตุง..........................................77 อยากเพาะเห็ด..................................83 วันเกิดยาย........................................89
บทที่ 6 ต้นไม้ของตา ลูกควาย............................................95 ต้นไม้ของตา...................................101
วัฒนธรรมต่าง แต่หัวใจเดียวกัน 122 เทสส์ แมคคราวด์ : อาสาสมัครพัฒนาชุมชน
สุขที่ได้ท�า ได้เห็นคนมีความสุข 116 พระครูสุจิณกัลยาณธรรม : เจ้าอาวาสวัดศรีเมืองมูล
ให้ชุมชนเคลื่อนไปด้วย ‘ความดี’ 112 วินัย เครื่องไชย : นายกองค์การบริหารส่วนต�าบลหัวง้ม
เปิดพื้นที่แสดงพลัง สร้างมิติแห่งความเป็นผู้น�า ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ 108 ผู้อ�านวยการส�านักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (ส�านัก 3)
เมนูพิเศษ ผู้ใหญ่ใจดีชวนให้ท�าดี
บทน�าเรื่อง ฝนสุดท้ายใกล้เข้ามาทุกที แต่ละวันๆ ได้ฝากความชุ่มชื้นไว้ในผืนดิน ลมหอบกลิ่น ไอดินฟุ้งฟายอยู่ในอากาศ ต้นข้าวก�าลังขึ้นรวงงาม ชาวนามีรอยยิ้มบนใบหน้า ใกล้เวลา เก็บเกี่ยวเข้าไปทุกที หวายเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าของพ่อ เธอรู้สึกมีความสุขไปด้วย แม่เองก็เบิกบานไม่แพ้กัน เพราะสวนครัวของแม่ก�าลังงาม พืชผักหมุนเวียนมาให้ ได้กินตลอดทั้งปี ยายยังคงท�างานจักสานพื้นบ้าน ก�าลังวังชายังไม่ตก อย่างที่เขาว่ากัน การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐที่สุดแล้ว ขณะที่โรงเรียน หวายเองมีกิจกรรมมากมาย ผู้คนหลากหน้าเวียนมาให้ได้ผูกพันใกล้ชิด ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหมู่บ้านทั้ง 13 หมู่ของ ต�าบล หัวง้มดูสั้นไปถนัดตา หวายคือผลิตผลของนวัตกรรมที่ต�าบลหัวง้มสร้างขึ้น เด็กหญิงที่ก�าลังเปลี่ยนผ่าน ทั้งร่างกาย ตลอดจนความคิดอ่าน เธออยู่ท่ามกลางวงล้อมของความดี หลายครั้งหลาย หนเธอยังสงสัย ถึงผลตอบรับของการท�าความดี แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นและสัมผัสได้คือ ยัง ไม่มีใครหยุดท�าความดี ทุกคนพร้อมใจท�า ใช้สิ่งดีเป็นเกราะห่อหุ้มเด็กๆ ไว้ภายใน หวายเติบโตมาจากที่นั่น ได้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าเธอจะเลือก กระท�าสิ่งใด ก็ยังมีสิ่งดีคอยย�้าเตือนให้อยู่บนหนทางที่เหมาะสม ฝนสุดท้ายใกล้เข้ามาทุกที นั่นหมายถึงลมหนาวที่ก�าลังมาเยือน ฝนตกๆ หยุดๆ ตลอด หวายมองดูสายฝนที่หล่นจากฟ้าจนมันลับตาไป เรือนปีก�าลังจะผ่านพ้น เธอเฝ้า รอเวลาที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หนทางใหม่ทอดรออยู่เบื้องหน้า เธอรู้สึกตื่นเต้นและ หวาดกลัวระคนกัน ปีหน้าเธอจะเข้าเรียนม.ปลาย ยายก�าลังจะอายุเพิ่มขึ้นอีกปี พ่อคิด ไปถึงการท�านารอบใหม่ แม่เองก็ก�าลังหาผักอื่นๆ มาลงสวนครัวหลังบ้าน และเจ้า ขุนทอง หมาตัวโตพันธุ์ผสมของเธอก็คงจะยังกินกับนอน และเล่นไปเรื่อยเหมือนเดิม ปี นี้ก�าลังจะผ่านไป มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เธออยากจะบันทึกเก็บไว้ บันทึกของหวายจะเริ่มต้นด้วยอะไรดีนะ... ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 11
ความดีนั้นมีที่อยู่
บทที่ 1 ความดี ความดีคืออะไร ความดีมีจริงหรือไม่ ท�ำดีแล้วได้อะไร
ความดีนั้นมีที่อยู่ 13
ในฐานะคนท�ำงาน ผมภูมิใจที่เห็นคนหัวง้มมีคุณธรรม จะท�ำอะไรก็ฉุกคิดถึงถูกผิด มีความละอาย พื้นที่จึงมี ความขัดแย้งน้อย ผู้คนมีความสุข เพราะทุกคนเป็นคน ดี” – พันธุ์ดี พรหมเทพ รองนายกองค์การบริหารส่วน ต�ำบลหัวง้ม
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ไปธนาคารความดี สมุดคู่ฝากธนาคารความดีของยายเต็มแล้ว เล่มนี้เป็นเล่มที่ 3 ในช่วงเวลา 2 ปี หวายขี่จักรยานคู่ใจ ตะลุยไปบนถนนคอนกรีต สองฝั่งทางขนาบด้วยต้นข้าวที่ก�าลังขึ้น รวง อีกไม่นานชาวนาจะเต็มพร้อมด้วยรอยยิ้ม ปีนี้น�้าก�าลังดี พ่อบอกหวายว่า ข้าวที่ ขายได้ปีนี้ จะเป็นทุนให้เธอเรียนม.ปลาย ใช้เวลาไม่นานจากบ้านบวกขอน หมู่ที่ 8 หวายก็เข้าเขตบ้านป่าส้าน หมู่ที่ 13 ซึ่ง เป็นที่ตั้งของอบต.หัวง้ม หวายพุ่งไปที่อาคารหลังแรกทางขวามือ ที่ชั้นล่างแบ่งส่วนเป็น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน อีกส่วนคือที่ตั้งของธนาคารความดี เธอจอดจักรยานไว้ด้านหน้า ธนาคาร ชายชราที่อยู่ด้านในส่งยิ้มให้กับเธอ เขาคือลุงพันธุ์ดี รองนายกอบต.หัวง้ม หวายยกมือไหว้พร้อมกล่าวสวัสดี ลุงพันธุ์ดีตอบรับค�าทักทายด้วยรอยยิ้มพร้อม เชิญให้เข้ามาด้านใน บนชั้นวางด้านซ้ายมีข้าวของเครื่องใช้มากมายวางเรียงรายกัน หวายกวาดสายตาและมาหยุดที่กระปุกออมสินน่ารักสีสดใส ของแต่ละชิ้นมีคะแนน ความดีก�ากับ แต่ละอย่างไม่ได้มีไว้ขาย หากอยากได้ต้องท�าความดี และน�าความดีมา แลก ยายให้หวายมาต่อสมุดคู่ฝากความดีเล่มใหม่ เล่มนี้จะเป็นเล่มที่ 4 ของยาย ถ้า ความดีนั้นมีที่อยู่ 15
เปรียบความดีเป็นเงินทอง ยายของหวายถือเป็นคนที่ร�่ารวยคนหนึ่ง ยายรวยความ ดี เพราะตั้งแต่ท�าความดีมา ยายไม่เคยถอนความดีหรือแลกสิ่งของเลย ลุงพันธุ์ดีรับสมุดจากมือของหวาย โดยไม่เอ่ยถาม ชายสูงวัยรู้จักเด็กหญิงเป็น อย่างดี และโดยจ�าเพาะกับยายของเธอด้วยแล้ว ระหว่างรอลุงพันธุ์ดีจัดการต่อ สมุดเล่มใหม่ หวายส�ารวจสิ่งของบนชั้นวาง เธอแปลกใจกับเครื่องสังฆทานที่วางอยู่ ชั้นล่าง มีป้ายคะแนนก�ากับเพียง 5 ความดี “ลุงพันธุ์ดีเจ้า ท�าไมสังฆทานมีคะแนนความดีเท่านี้เจ้า” เด็กหญิงถามชายสูง วัย ลุงพันธุ์ดีผละสายตาจากงานที่ท�ามามองดูที่ชั้นวาง “อ๋อ จริงๆ ชั้นนั้นวางพวก ขนม กับบะหมี่ซอง แต่มันเก็บนานไม่ได้ เอาไปแจกจ่ายหมดแล้ว พอดีมีคนบริจาค ทรัพย์เป็นสังฆทานมาเยอะ ชั้นนั้นว่างเลยวางไว้ก่อน”
ความดีนั้นมีที่อยู่
“เจ้า” เด็กหญิงตอบสั้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า พ่อของเธอเคยเล่าให้ฟังว่า ธนาคารความดีเกิดขึ้นราว 6 ปีก่อน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมมีเหตุ และเหตุของธนาคารความดีนั้นได้เพาะเชื้อยาวนาน ตั้งแต่ปีที่หวาย ลืมตามาดูโลก หวายเกิดในปี 2541 พ่อเล่าว่า ก่อนหน้าที่หวายเกิด 1 ปี มีวิกฤตเศรษฐกิจใน ประเทศไทย พ่อของหวายเองก็ได้รับผลกระทบจนต้องกลับจากเมืองหลวงมาอยู่ บ้าน ผู้คนเริ่มต่างคนต่างอยู่ มีความเครียด วิถีชีวิตดั้งเดิมที่เคยเป็นนั้นหล่นหายไป สิ่งเหล่านี้สะสมพอกพูนปีแล้วปีเล่า จนผู้น�าชุมชนได้หารือกันอย่างจริงจัง เพื่อหาวิธี ในการเชื่อมโยงผู้คนให้เป็นน�้าหนึ่งใจเดียวกัน มีรูปแบบของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความมีจิตอาสา กระทั่งเป็นรูปเป็นร่างให้จับต้องได้ในปี 2550 ครู่หนึ่ง ลุงพันธุ์ดีก็เรียกเธอไปรับสมุดเล่มใหม่ เธอเปิดดูยอดที่ถูกยกมาจากเล่ม ก่อน ลุงพันธุ์ดีมองดูเธอด้วยรอยยิ้ม ชายชราเห็นผลิตผลของธนาคารความดีที่จับ ต้องได้ยิ่งกว่าตัวเลขในระบบ ดอกผลของธนาคารแห่งนี้ก�าลังงอกเงยอย่างงดงาม ทุกสิ่งเห็นได้ในดวงตาอันโอบอ้อมอารีของเด็กๆ กลไกบ้าน วัด โรงเรียน ก�าลัง ท�างานร่วมกันอย่างแข็งขัน ปีที่แล้ว ชายชราเป็นตัวแทนมอบเงินที่ได้จาก ‘โครงการ 1 วัน 1 บาท เพื่อเติม โอกาสให้ผู้ยากไร้’ ที่ชวนให้ชาวหัวง้มเสียสละทรัพย์ส่วนตัว เพื่อเป็นทุนให้ผู้ยากไร้ ตลอดจนคนชราในต�าบล โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารความดีได้น�าเงินบริจาคมอบให้ กับผู้ยากไร้ และผู้สูงอายุ หมู่บ้านละ 3 คน คนละ 1,000 บาท ครบทั้ง 13 หมู่บ้าน
ความดีนั้นมีที่อยู่ 17
ทั้งยังสนับสนุนด้านการศึกษาด้วยการมอบทุนให้เด็กจ�านวน 10 ทุนๆ ละ 10,000 บาท ค�าถามที่ว่า ‘ความดีคืออะไร ความดีมีจริงหรือไม่ ท�าดีแล้วได้อะไร’ ในเวลานี้มี ค�าตอบ แต่ส�าหรับหวายนั้น เธอเองยังไม่อาจเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง แต่เธอรู้ว่า สิ่งที่ ยายท�านั้นเป็นสิ่งดี และเธอไม่ลังเลที่จะเดินตามรอย หวายปิดสมุดคู่ฝากแล้วเก็บใส่ กระเป๋าเสื้อ เธอเอ่ยค�าลาพร้อมไหว้ลุงพันธุ์ดี ชายชรารับไหว้พร้อมโบกมือเป็นเชิง ร�่าลา หวายเองก็มีสมุดคู่ฝากจากกิจกรรมในโรงเรียนป่าแดงวิทยา เธอว่าเธอเองก็รวย ความดี ในฐานะแกนน�ากลุ่มจิตอาสาที่รู้จักกันในนามกลุ่ม ‘หมอน้อยคอยอาสา’ แม้สมุดคู่ฝากของเธอจะมีการแลกสิ่งของ แต่การแลกแต่ละครั้งก็ไม่ได้เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวเลย เธอแลกเพื่อน�าไปให้ผู้อื่น เป็นความดีที่มีไม่สิ้นสุด...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ธนาคารความดีก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 • ปัจจุบัน ธนาคารความดีมียอดน�ำฝากความดีทั้งหมด 1,350,183 ความดี ยอด ถอน 47,050 ความดี จากจ�ำนวนสมาชิกทั้งหมด 2,346 คน (ข้อมูลสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2556) • สมาชิกของธนาคารความดี แบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทที่ 1 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ กลุ่มผู้น�ำชุมชน พระสงฆ์ สมาชิก อบต. พนักงาน แม่บ้าน ข้าราชการ และหน่วยงาน กลุ่มนี้ฝากได้แต่จะถอนไม่ ได้ ประเภทที่ 2 สมาชิกสามัญ ได้แก่ นักเรียน ประชาชนทั่วไป ฝากถอน ความดีได้ตามเงื่อนไขของธนาคาร • เงื่อนไขการถอน สมาชิกที่ต้องการถอนความดีเพื่อแลกเป็นสิ่งของ ต้องมีความดีสะสม อย่างน้อย 250 ความดี และต้องมีความดีคงเหลือหลังถอนแล้วไม่ต�่ำกว่า 100 ความดี • ธนาคารความถือว่าประสบความส�ำเร็จ เพราะเมื่อตั้งใหม่ๆ ผู้คนน�ำความดีมา แลกของมากมาย แต่วันนี้ ไม่มีใครมาแลกของเท่าไรแล้ว หากมีก็เป็นการมา แลกเพื่อน�ำไปให้ผู้อื่น จะเห็นว่าชาวหัวง้มเลือกที่จะท�ำความดีโดยมีผล ตอบแทนทางใจ เป็นความสุขที่เกิดจากการเสียสละ จากการให้โดยไม่คิดหวัง แลกสิ่งใดกลับมา ธนาคารความดีจึงเปรียบเสมือนแกนของร่ม ที่คอยยึดโยง แต่ละก้านกิจกรรมเข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นหัวใจและรากฐานการใช้ชีวิตของคน หัวง้ม
ความดีนั้นมีที่อยู่ 19
“เราเชื่อว่า คุณธรรม ความซื่อสัตย์ เป็นรากฐานของทุก สิ่ง ถ้าเราสามารถปลูกฝังให้เขารู้ผิดรู้ชอบ พวกเขาจะ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังต่อยอดใน เรื่องของจิตอาสา ที่เสียสละแรงกายเพื่อส่วนรวม” – นงคราญ เกษมสุข ครูโรงเรียนป่าแดงวิทยา
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> คุณธรรม ทุกวันอังคารของโรงเรียนป่าแดงวิทยา เด็กทุกคนจะสวมชุดขาว ประหนึ่งคน ถือศีล ทั้งเด็กเล็กเด็กโตไม่มีข้อยกเว้น เพราะวันอังคารคือวันพระของโรงเรียน หวายรีบขี่จักรยานออกจากบ้านเพราะกลัวว่าจะสาย เธอมุ่งสู่บ้านป่าแดง หมู่ที่ 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนป่าแดงวิทยา วันนี้เป็นเวรของหมู่บ้านทุ่งรวงทอง ที่จะน�า ธงขึ้นเสาเคารพธงชาติและน�าสวดมนต์ แต่วันนี้ฝนตกลงมา ทุกคนจึงอยู่หน้า ห้องเรียน หวายรู้สึกกระอักกระอ่วนข้างใน ต่อสู้กับความความรู้สึกบางอย่าง จิตใจ ของเธอไม่ต่างจากเมฆฝนขุ่นมัวบนฟ้า เธอทะเลาะกับแม่ก่อนออกจากบ้าน หวายลืมให้อาหารเจ้าขุนทองเมื่อตอนเย็นวานนี้ เช้ามาแม่จึงต่อว่าหวายว่าไม่มี ความรับผิดชอบ แม้จะรู้ดีว่าลืม และเป็นความผิดพลาดของตัวเอง แต่เธอกลับ ตอบโต้ออกไปด้วยท่าทีแข็งกร้าว ชั่วขณะนั้นเธอรู้สึกขัดแย้งและรับไม่ได้ เพราะเธอ ท�าอะไรตั้งมากมาย การลืมครั้งเดียวดูจะกลายเป็นความผิดที่เหมือนมาลบล้างสิ่งดี
ความดีนั้นมีที่อยู่ 21
ทั้งหมดที่เธอเคยท�า เธอจึงเถียงแม่ไปข้างๆ คูๆ และวิ่งผละจากสวนครัวเข้าบ้าน น�้าตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง หวายโผเข้ากอดยายที่ก�าลังนั่งสานตะกร้า ยายถามเธอว่าท�าไมถึงร้องไห้ เธอจึง เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ยายฟัง หวายรู้อยู่แก่ใจว่ายายจะไม่เข้าข้างเธอ ยายมักจะมี เหตุผลเสมอ แต่ยายจะไม่ต่อว่า มีเพียงค�าอธิบายที่ประนีประนอมกับทั้งสองฝ่าย และครั้งนี้ก็เช่นกัน ยายว่าคนเราท�าพลาดอยู่เสมอ อย่างครั้งหนึ่ง ยายเองก็เคยลืม ยายเคยลืมหวายไว้ที่วัด เมื่อครั้งที่หวายยังเป็นเด็ก กลับมาถึงบ้านแล้วก็ยังไม่รู้ จนแม่ถามหา ยายจึงนึกขึ้นได้ว่าลืมหลาน ยายโดนแม่ของหวายดุใส่ แต่ยายไม่รู้สึก
ความดีนั้นมีที่อยู่
โกรธแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่คิดอยู่ในใจคือต้องรีบออกไปรับหลานกลับบ้าน ยายว่า ถ้ารู้ว่าผิดต้องรีบแก้ไข แก้ไขแล้วก็ระวังอย่าให้เกิดขึ้นซ�้าอีก “หนูจ�าไม่ได้เลยว่า ยายเคยลืมหนูด้วย” หวายพูด น�้าตาเลือนหายไปแล้ว ยายหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ยายลืมหนูไว้หลายครั้งเลยล่ะ โดนแม่หนูว่าทุก ครั้ง แต่ยายก็รู้ว่ายายผิด ไม่มีข้อแก้ตัว” ยายพูดด้วยน�้าเสียงอ่อนโยน พลางส�าทับ ว่า ถ้าหวายไม่รีบไปโรงเรียนจะสายเอาได้ หลังสวดมนต์เสร็จแล้ว หวายเข้าห้องเรียนพร้อมกับเพื่อน เธอเข้าใจสิ่งที่ยาย พูด เธอควรจะรีบแก้ไขในสิ่งที่พลาด และระวังไม่ให้เกิดขึ้น เธออยากขอโทษแม่ที่ ท�าให้แม่เหนื่อยใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ตอนกลับบ้านวันนี้ หวายตั้งใจซื้อขนมไป ฝากแม่ แต่ก่อนที่จะถึงตอนเย็น เธอลืมไปสนิทเลยว่า วันนี้มีสอบคณิตศาสตร์ หวายไม่เก่งวิชานี้ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ เธอพยุงตัวด้วยการอ่านและท�าแบบฝึกหัด ที่นี่เด็กๆ ได้รับการปลูกฝังไม่ให้โกงข้อสอบ ครูนงคราญเคยบอกเธอว่า คุณธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งส�าคัญที่เด็กๆ ทุกคนจะต้องมี โครงการต่างๆ ที่หัวง้มมีล้วน สนับสนุนหนุนสร้างให้เด็กๆ มีสิ่งเหล่านี้ติดตัว เธอท�าเท่าที่ท�าได้อย่างดีที่สุด และ ทุกครั้งเธอก็ได้รับผลตอบแทนจากการท�างานหนัก ด้วยคะแนนที่น่าพอใจ หวายรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อนึกถึงค�าพูดของยาย เธอรู้สึกโชคดีที่มียายคอยเป็นที่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 23
ให้พึ่งพาได้เสมอ ช่วงเที่ยงหวายลงมารับประทานอาหารที่โรงอาหาร วันนี้ที่ โรงเรียนรับประทานอาหารมังสวิรัติ เธอเห็นครูเทสส์ แม็คคราวด์ ครูสอนภาษา อังกฤษมานั่งอยู่ที่โรงอาหาร ครูกินมังสวิรัติเป็นข้อปฏิบัติอยู่แล้ว หวายชอบครูมาก และวันนี้เธอมีเรียนกับครูในช่วงบ่าย หวายคิดว่าเธอเป็นแบบอย่างที่ดีในการท�างาน ครูมาอยู่ที่หัวง้มได้ 21 เดือนแล้ว หวายเห็นครูตั้งแต่วันแรกที่มาสอน เธอเข้าร่วม ชมรมรักการอ่านของครู เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เธอได้เรียนรู้ในวิชาที่เธอชอบ วันนี้ หวายมีครูเป็นต้นแบบ เธออยากเรียนให้สูงและกลับมาท�างานให้ที่บ้าน ถ้าเป็นไป ได้การกลับมาเป็นครูคงเป็นอะไรที่วิเศษอยู่เหมือนกัน...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • โรงเรียนป่าแดงยังได้ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน โดยจ�ำลองรูปแบบการ บริหารขององค์การบริหารส่วนต�ำบลหัวง้มเข้ามาในโรงเรียน โดยให้ชื่อว่า องค์การบริหารส่วนต�ำบลพานทอง แบ่งคณะท�ำงานที่มีทั้งฝ่ายสภา แบ่งเป็น ประธานสภา รองประธานสภา สมาชิกอบต. เลขานุการ ฝ่ายบริหาร นายก อบต. รองนายกอบต. เลขานุการ ฟากประชาชนมีการแบ่งเป็น 5 หมู่บ้าน มี ผู้ใหญ่บ้านประจ�ำแต่ละหมู่ และมีก�ำนัน สารวัตรก�ำนัน คอยก�ำกับดูแล • โรงเรียนป่าแดงวิทยามีนโยบายที่ให้ทุกภาคส่วนในชุมชนมีส่วนร่วมในการปลูก ฝังคุณธรรมให้แก่นักเรียนเพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่ยั่งยืนจึงได้ขยาย ผลการด�ำเนินงานของ ‘ธนาคารความดีตำ� บลหัวง้ม’ เข้ามาด�ำเนินการใน โรงเรียน ให้เด็กได้มีการบันทึกความดีและฝากความดีตามแนวทางที่ตำ� บลได้ จัดท�ำไว้ รวมทั้งมีการเข้าค่ายคุณธรรม การจัดท�ำโครงงานคุณธรรม และการ นั่งสมาธิก่อนเข้าห้องเรียนซึ่งท�ำให้บ้าน วัด และโรงเรียนมีส่วนร่วมในการขับ เคลื่อนการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่นักเรียน โดยคะแนนความดีที่ สะสมได้ในโรงเรียนสามารถน�ำไปแลกของที่ธนาคารความดีที่ตั้งอยู่ที่ อบต.หัวง้ม ได้ด้วย • ที่โรงเรียนป่าแดงวิทยานี้เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รวมถึงเป็นที่ตั้งของศูนย์เด็กเล็กประจ�ำต�ำบล หัวง้มด้วย • เทสส์ แม็คคราวด์ เป็นชาวอเมริกันที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครประจ�ำต�ำบล ต่อ มาได้รับการร้องขอให้มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียน
ความดีนั้นมีที่อยู่ 25
บทที่ 2 น�ำ้ ใจ ‘จิตอาสา หัวใจให้สาธารณะ’
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 27
“เมื่อก่อนหมออนามัย คือหมออนาเมา แต่เมื่อมา ท�ำงานกับชาวบ้าน สอนเขาเรื่องโภชนาการ ก็ต้อง ท�ำให้เขาเห็น สิ่งไหนบอกเขาว่าดี เราก็ต้องท�ำให้เห็น สิ่งไหนไม่ดี เราก็ต้องไม่ทำ� ” – สมพงค์ ช�ำหา ผู้อำ� นวยการโรงพยาบาลศูนย์ตำ� บลหัวง้ม
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> น�้าใจ ฝนฝากความชุ่มชื่นไว้ในผืนดิน ไอเย็นอัดแน่นจนแผ่ขยายเข้ามาในเรือนชาน ผ่านโครงมุ้งมุงที่นอนชวนให้ขี้เกียจลุกสบตากับยามเช้า ยิ่งเป็นเช้าวันเสาร์ด้วยแล้ว ใครต่อใครก็อยากใช้เวลานอนนานกว่าปกติ หวายเองก็ไม่ต่างกัน เธอไม่อยากลุกขึ้น จากที่นอน อากาศก�าลังสบายจนไม่อยากจะท�าการใดๆ แต่ไม่นานเสียงเจ้าขุนทอง ก็ลอยดังเข้ามา วันนี้แม่ออกจากบ้านแต่เช้ามืด ไปท�าธุระในตัวเมืองพาน กว่าจะ กลับเข้ามาก็ช่วงสาย หวายลุกจากที่นอน เธอมุ่งตรงไปที่ครัว น�าเศษข้าวที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวาน ให้ไก่ และคลุกปลาทูที่เหลือกับข้าวให้เจ้าขุนทองกิน มันเป็นหมาพันธุ์ไทยผสมกับ พันธุ์ฝรั่งที่เธอก็ไม่แน่ใจนัก เพื่อนของพ่อน�ามาให้เมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อเป็นของขวัญวัน เกิดแก่เธอ หลังจากให้อาหารเจ้าขุนทอง เธอแวะเข้าไปดูสวนครัวหลังบ้าน เมื่อคืน ฝนตก ผักในสวนครัวหลังบ้านฉ�่าน�้าเพียงพอแล้ว
ความดีนั้นมีที่อยู่ 29
ยายก�าลังนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ ขณะที่หวายสาละวนกับ การหาเสื้อผ้าในตู้ เธอร้อนรนเพราะต้องรีบออกไปที่โรง พยาบาลศูนย์ต�าบล หลังจากอาบน�้าและแต่งตัวแล้ว เธอ เข้าครัวเพื่ออุ่นอาหารที่แม่เตรียมไว้ให้เธอและยาย เป็นปกติที่หวายจะกินข้าวกับ ยายเสมอ หวายเก็บจานชามล้างและผึ่งไว้บนชั้นวาง ก่อนลายายเพื่อไปที่โรงพยาบาล ศูนย์ต�าบลหัวง้ม เป็นประจ�าทุกวันเสาร์ที่กลุ่มหมอน้อยคอยอาสาจะมาท�าหน้าที่ที่นี่ ในช่วงเช้า หวายและเพื่อนจะคอยท�าหน้าที่ประจ�าแผนกต่างๆ หมุนเวียนกันไป ทั้ง ตรวจวัดความดัน เจาะเลือด ท�าแผล ทุกคนผ่านการอบรมจากหมอ และพี่ๆ อาสา สมัคร ก่อนที่ในช่วงบ่าย พวกเธอจะเดินทางออกเยี่ยมผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง ที่ต�าบลหัวง้มนั้นจะมีอาสาสมัครที่มาท�าหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยติด เตียง และยังดูแลผู้สูงอายุในต�าบลอยู่ก่อนแล้ว โดยอาสาสมัครแต่ละคนมาท�างาน ด้วยจิตอาสา ทุกคนมีจุดประสงค์ร่วมกันคืออยากเห็นชุมชนอยู่ดีมีสุข เช้านี้ หวายพบลุงสมพงค์ ผู้อ�านวยการโรงพยาบาลศูนย์ต�าบล เธอนึกไปถึงครั้ง หนึ่งที่ลุงสมพงค์เล่าให้ฟังว่า ต�าบลหัวง้มมีประชากรราว 6,200 คน โดยในจ�านวนนี้
ความดีนั้นมีที่อยู่
มีผู้สูงอายุมากถึง 1,400 คน คิดเป็นร้อยละ 22 ของประชากร ซึ่งนับเป็นจ�านวนที่ สูงเกินมาตรฐาน ล�าพังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการดูแล จ�าเป็นต้องใช้อาสาสมัคร ท�างานกันเป็นเครือข่าย เพราะส่วนใหญ่มีโรคประจ�าตัว ทั้งเบาหวาน ความดัน อัมพาต ซ�้าหลายคนต้องอยู่เพียงล�าพัง ผู้ป่วยจะถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว สีแดงคือผู้ป่วยที่ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย สีเหลืองคือผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง สีเขียวคือผู้ ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งทางลุงสมพงค์ได้ให้อาสาสมัครจัดเก็บบันทึกข้อมูลของ ผู้ป่วยไว้ในแฟ้มของแต่ละคน เพื่อติดตามและประเมินผลได้ วันนี้หวายมาประจ�าในส่วนของห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ลุงสมพงค์แยกไป
ความดีนั้นมีที่อยู่ 31
ท�างานของตัวแล้ว พี่ๆ น้าๆ อาสาสมัครท�าหน้าที่ดูแข็งขัน ทุกคนเสียสละวันหยุด ของตัวมาท�างาน ไม่มีใครได้ค่าตอบแทน หลายครั้งเมื่อคิดถึง หวายก็สงสัยว่า พวก เขาท�าไปเพื่ออะไรกันนะ ชั่วขณะนั้นเด็กหญิงไม่รู้เลยว่า ใครต่อใครหลายคนก็เกิด ค�าถามเดียวกันนี้ ยามเมื่อมองดูเธอตื่นแต่เช้า ท�างานบ้าน และเดินทางมาที่ โรงพยาบาลศูนย์ต�าบล เพื่อท�างานกว่าครึ่งค่อนวัน เมื่อกลับถึงบ้าน หวายทิ้งตัวลงใกล้ๆ ยาย ก่อนผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • หมอสมพงค์เล่าว่า ที่ชื่อตัวใช้ ‘ค์’ นั้น เป็นเพราะสมัยนั้นก�ำนันจบป.4 และ ใช้ชื่อนี้เรื่อยมา • อาสาสมัครประจ�ำชุมชนหัวง้ม มีอยู่ราว 174 คน ขณะที่จิตอาสามีอยู่ราว 40 คน • ปี 2550 มีโครงการ “ร้อยคน ร้อยดวงใจ ร้อยความห่วงใย แด่ผู้สูงวัยที่ ขาดแคลน” หรือ ‘การตานตอด’ ของต�ำบลหัวง้ม ที่เริ่มด�ำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากจน เจ็บป่วย มีทั้งรูปแบบการให้ความช่วยเหลือด้านปัจจัยการด�ำรงชีวิต และการ เยี่ยมเยือนให้ก�ำลังใจ ในลักษณะเป็นครั้งคราวตามความจ�ำเป็นความเร่งด่วน ทั้งนี้ การดูแลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยเรื้อรังหรืออยู่ในภาวะติดเตียงที่ต้องได้รับการ ดูแลอย่างต่อเนื่อง กลุ่มอสม.จึงเป็นกลุ่มจิตอาสาที่เข้ามาดูแลต่อจากการ ให้การช่วยเหลือตามโครงการดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการดูแลร่วมกับ พยาบาลวิชาชีพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบลหัวง้ม ต่อด้วยการลงมือ ท�ำเองและการสอนญาติให้ดูแลผู้ป่วย • ปี 2551 ทาง อบต.หัวง้มได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาสาสมัคร ดูแลผู้สูงอายุ(อผส.) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อสม.ส่วนหนึ่งได้รับการอบรมการดูแลผู้สูงอายุจากพมจ.เชียงราย หลังการ อบรมมีการรวมกลุ่มของ อสม.ออกเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ โดยมีพยาบาลวิชาชีพ จาก รพ.สต.หัวง้ม ร่วมออกเยี่ยมบ้านเพื่อให้ค�ำแนะน�ำในการให้การดูแลผู้สูง อายุ โดยเฉพาะในรายที่จ�ำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง • ปี 2552 สถานการณ์ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลเรื้อรัง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต จากโรคความดันโลหิตสูงปรากฏจ�ำนวนให้เห็นชัดเจน มีการเสียชีวิตของผู้ป่วย โรคเบาหวาน และผู้ป่วยอัมพาต เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.หัวง้ม ใน การดูแลแผลติดเชื้อเรื้อรังและแผลกดทับต่อเนื่อง ทั้งในสถานบริการและที่ บ้านผู้ป่วยจ�ำนวนมาก เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ รพ.สต.หัวง้ม จึงมีการประกาศรับสมัครจิตอาสาจากชมรม อสม.ต�ำบลหัวง้ม เพื่อจัดอสม. จากทุกหมู่บ้านเวียนมาช่วยงานบริการที่ รพ.สต.ทุกวันที่เปิดให้บริการวันละ 2 คน เพื่อท�ำแผลผู้ป่วยที่มารับบริการ ส่วนผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตก็ให้มีการ จัด อสม. ในแต่ละหมู่บ้านที่มีผู้ป่วยช่วยดูแลต่อเนื่อง ทั้งการดูแลแผลและการ พื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย ความดีนั้นมีที่อยู่ 33
“สมัยเรียนอยากจะเรียนพยาบาล แต่ทำ� ไม่ได้ พอมี โอกาสก็ไม่ลังเลที่จะท�ำงานอาสามัคร เหมือนได้เติมเต็ม เข้าอบรมพัฒนาศักยภาพและความรู้ พี่ทำ� มากว่า 20 ปี แล้ว ตั้งแต่ไม่มีค่าตอบแทน พี่ทำ� เพราะชอบ ชอบที่ได้ ช่วยเหลือคนอื่น” – จรัสศรี อุ่นแก้ว ประธานกลุ่มอบ สมุนไพร
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ไปศูนย์อบสมุนไพร ‘กริ๊ง กริ๊ง’ หวายกดกริ่งรถจักรยาน เสียงลอยดังมาจากถนนหน้าบ้าน เป็น สัญญาณให้แม่รู้ว่าเธอกลับถึงบ้านแล้ว เวลานี้พ่อคงจวนกลับจากนาเต็มที ช่วงนี้พ่อ ไม่ต้องเหนื่อยกับนามาก เพราะใกล้ช่วงเก็บเกี่ยวแล้ว พ่อเลยมีเวลาทุ่มให้กับสวน ผักเล็กๆ ในบ้าน ช่วงนี้กล้วยน�้าว้าติดเครือใหญ่ทีเดียว พ่อเก็บมาฝากยาย ที่แทบ ทั้งหมดลงหม้อกลายเป็นกล้วยบวชชี ปันแจกเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยกันกินให้หมด แต่ มักกลายเป็นว่าได้ของอื่นกลับมา อย่างข้าวต้มมัด หรือถ้าบังเอิญใจตรงกัน เดินออก ไปให้บ้านข้างหน้า ปรากฏบ้านข้างหลังก็เอากล้วยบวชชีมาให้เสียอย่างนั้น “สวัสดีเจ้า” หวายทักแม่ที่ก�าลังก้มๆ เงยๆ ตรงแปลงผักหลังบ้าน “ท�าอะไรเสร็จแล้วลงมาเก็บตะไคร้ให้แม่หน่อยนะ” “เจ้า” หวายขานรับแล้วเดินขึ้นบ้าน จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตา เสร็จ สรรพก็ลงมาที่แปลงผัก
ความดีนั้นมีที่อยู่ 35
“แม่จะเอาตะไคร้ไปให้ป้าศรี อีก ไม่กี่อาทิตย์เปิ้นจะเปิดห้องอบ สมุนไพร เดี๋ยวหวายเก็บมาซะสองก�า ใหญ่นะ” แม่บอก วันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า ระหว่างรอแม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปศูนย์อบ สมุนไพร หวายลงไปจัดแจงเอาตะไคร้มัดใส่ห่อที่ใต้ถุนบ้าน เพื่อเอาไปให้ป้าศรี ทันทีที่ไปถึง ป้าศรีส่งเสียงทักทายตามประสาคนคุ้นเคย พร้อมส่งยิ้มหวานมา แต่ไกล หวายรี่เข้าไปสวัสดี แล้วปลีกตัวเอาตะไคร้ไปเก็บในห้อง ข้างในมีพี่ๆ อาสา สมัครที่ก�าลังง่วนอยู่กับการสับมะตูมอยู่สองคน อีกคนก�าลังเอาไพล เอาขมิ้นผึ่งบน กระด้งอยู่ ช่วงพักจากฤดูท�านาท�าสวน ศูนย์อบสมุนไพรจะเปิดให้บริการทุกเสาร์อาทิตย์
ความดีนั้นมีที่อยู่
แม่ของหวายเป็นขาประจ�าตั้งแต่เปิดบริการมา เพราะโรคปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นกันทุก บ้าน แต่ละบ้านต่างท�านากันหลายไร่ ไหนบางบ้านท�าสวนอีก ก้มๆ เงยๆ ใช้แรงกาย มากมาย จะไม่มีอาการเหล่านี้ก็กระไรอยู่ ใครได้ลองมาใช้บริการก็ติดอกติดใจ หัวเรี่ยวหัวแรงอย่างป้าศรีถึงกับยิ้มไม่หุบ ก�าลังใจดีๆ มีท่วมท้น การได้เห็นคนเฒ่าคนแก่ญาติพี่ญาติน้องในหมู่บ้านหายปวดหาย เมื่อย แรงกายที่เสียไปเปลี่ยนกลับมาเป็นแรงใจให้ท�าต่อ ป้าศรีว่า ห้องอบนี้เป็นเหมือนการเตรียมตัวก่อนท�างานใหญ่ โดยจุดเริ่มต้นของการ ใช้สมุนไพรนี้ เกิดจากกลุ่มอาสาสมัคร หมอที่โรงพยาบาลศูนย์ต�าบล ที่เห็นว่าใน หมู่บ้านมีสมุนไพรกันแทบทุกบ้าน ทั้งตะไคร้ ขิง ขมิ้น มะกรูด มะตูม อัญชัญ มะขาม ใบเตย ใบเป้า ก็เลยรวมกลุ่มกันท�าศูนย์อบสมุนไพร และไหนๆ ก็จะแก้ปวดแก้เมื่อยกัน แล้ว ป้าศรีจึงเข้าอบรมหลักสูตรแพทย์แผนไทย แล้วน�าความรู้มาเผยแพร่ต่อให้อาสา สมัคร
ความดีนั้นมีที่อยู่ 37
ศูนย์อบสมุนไพรที่นี่ นอกจากคนหัวง้มแล้ว ยังมีคนจากต�ำบลใกล้เคียงมาใช้บริการด้วย ค่า บริการไม่แพง ทั้งอาสามัครที่มาให้บริการนวดแผนไทยนั้น ก็รับเพียงน�้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากผู้เข้า รับบริการ นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังท�ำน�ำ้ สมุนไพรจ�ำหน่าย รายได้สมทบทุนเข้ากลุ่ม หวายเองก็ท�ำ น�ำ้ สมุนไพรที่โรงเรียนเหมือนกัน เป็นโครงงานหาเงินสมทบกลุ่มหมอน้อยคอยอาสา ไม่ได้แข่งกับ ป้าศรีหรอก “ป้าศรีเจ้า หนูวางตะไคร้ไว้ที่นี่นะเจ้า” หวายพูดเมื่อเห็นป้าศรีเดินเข้ามาในห้องเก็บสมุนไพร ป้าศรียิ้มให้แทนค�ำตอบ ก่อนหอบเอาสมุนไพรออกไป ตอนนี้ห้องอบยังไม่เปิด แต่พรุ่งนี้จะมี งานที่วัดบวกขอน วันโรงเรียนผู้สูงอายุ เด็กๆ จะไปคอยนวดเท้าให้ และป้าศรีจะน�ำสมุนไพรไปให้ ผู้สูงอายุแช่เท้า หวายเห็นป้าศรีทำ� อะไรให้ชุมชนมากมาย ท�ำให้โดยไม่บ่นแม้แต่น้อย ป้าศรีเคย บอกว่า แค่ได้ช่วยก็มีความสุขแล้ว เงินทองเท่าไรก็ให้ความสุขนี้ไม่ได้ หวายคิดว่า ก็คงจะเหมือน กับยายของเธอ ที่รำ�่ รวยความดี โดยมิเคยคาดหวังถึงการไถ่ถอนใดๆ...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • จากปัญหาด้านสุขภาพทางด้านการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการท�ำงานในภาค เกษตรกรรม ท�ำให้ประชาชนในหมู่บ้านหนองฮ่าง มีการประชุมร่วมกับโรง พยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบลหัวง้มและได้ข้อเสนอถึงการน�ำเอาสมุนไพรมา ปรับใช้เพื่อลดปริมาณการใช้ยาแผนปัจจุบันลง ท�ำให้เกิดศูนย์ฟื้นฟูภูมิปัญญา สุขภาพบ้านหนองฮ่างขึ้น โดยเกือบทุกบ้าน มีพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่สามารถ น�ำมาใช้ประโยชน์ จึงน�ำมาอบสมุนไพรกันที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล ต่อมาขอรับการสนับสนุนสถานที่ในการให้บริการ ณ วัดหนองฮ่าง มาท�ำเป็น ศูนย์อบสมุนไพร มีการจัดตั้งท�ำเป็นระบบกลุ่มและได้มีการแบ่งหน้าที่รับผิด ชอบของแต่ละคน ต่อมาแกนน�ำกลุ่มอย่าง จรัสศรี บัวแก้ว ได้เข้าอบรมการ นวดแผนไทย และได้มาเผยแพร่ความรู้ให้กับอาสาสมัคร เพื่อบริการนวดผ่อน คลายกล้ามเนื้อให้กับคนในชุมชน • สมุนไพรที่ใช้ในการอบ ไพล ขมิ้น ว่านน�้ำ ตะไคร้ ใบเตย ใบมะขาม ผักบุ้งแดง ใบส้มป่อย หมากผู้ ใบมะกรูด ใบเป้า พิมเสน การบูร ทั้งหมดน�ำลงต้ม แล้วปล่อยไอร้อน เข้าห้องอบ • ค่าบริการการอบสมุนไพร ถ้าเข้าพร้อมกัน 4 คน 20 บาท คนเดียว 60 บาท • ทางกลุ่มจัดท�ำน�้ำสมุนไพรจ�ำหน่าย มีทั้ง มะตูม อัญชัน ตะไคร้
ความดีนั้นมีที่อยู่ 39
“การได้เห็นอุ้ยถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว ท�ำให้เราคิดถึงวัน หน้าเมื่อยามแก่ตัวลง ไม่มีใครอยากเป็นแบบนั้น ไม่มีใคร อยากอยู่คนเดียว พวกเราเข้าไปช่วยเหลือดูแล คอยพูดคุย ซักถาม เหมือนพวกเราได้ไปเติมเต็มในส่วนนี้ให้กับพวก ท่าน” – แกนน�ำกลุ่มหมอน้อยคอยอาสา
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> หมอน้อยคอยอาสา “หวายลืมขนมน่ะลูก” เสียงแม่ตะโกนออกมาจากบ้านขณะที่หวายก�าลังขึ้นขี่ จักรยานคู่ใจ ใช่แล้ว แม่ฝากขนมไปให้อุ้ยด้วยนี่นา ว่าแล้วเธอทิ้งจักรยานแล้ววิ่งเข้าไปใน บ้าน แม่จัดขนมใส่ตะกร้าเอาไว้รออยู่ก่อนแล้ว นึกต�าหนิตัวเองที่เป็นคนขี้ลืม หวาย ขอบคุณแม่แล้วหิ้วตะกร้าออกไป สองเท้าถีบจักรยานมุ่งตรงไปที่โรงเรียนป่าแดง วิทยา วันนี้ไม่ใช่วันเสาร์ แต่ก็มีชั่วโมงว่างที่เด็กๆ กลุ่มหมอน้อยคอยอาสาจะเดิน ทางไปเยี่ยมอุ้ย หวายเป็น 1 ใน 13 แกนน�าของกลุ่มหมอน้อยคอยอาสา โดยทุกหมู่บ้านจะมี แกนน�าของกลุ่มประจ�าอยู่ ขณะที่เด็กคนอื่นๆ ในหมู่บ้านจะท�าหน้าที่เป็นเครือข่าย คอยเป็นหูเป็นตนให้อีกทอดหนึ่ง วันนี้หวายเป็นพี่ใหญ่ที่วันปลดเกษียณใกล้เข้ามา ทุกที และน้องที่เป็นเครือข่ายนี้ จะก้าวขึ้นมาแทนเธอ
ความดีนั้นมีที่อยู่ 41
ยามเช้าของโรงเรียนป่าแดงวิทยานั้นสดใส เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กๆ ที่สุ้มเสียง ยังไม่แตกกร้านลอยดังเข้ามา หวายสมทบกับเพื่อนๆ ที่ห้องเรียน เธอเห็นเพื่อน ก�าลังมุงดูบางสิ่ง บิวหันมาสบตาเธอ จึงกวักมือเรียกให้เข้าไปดูด้วยกัน ลูกแมวเกิดใหม่ตัวหนึ่งนอนอยู่บนโต๊ะ มันยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพื่อนคน หนึ่งต้องใส่หลอดป้อนนมให้มัน เพื่อให้ชีวิตยังเดินต่อไปได้ ไม่มีใครรู้ว่าแม่มันไป ไหน มีคนพบมันตรงทางเดิน ต่างคิดว่าแม่ของมันจะกลับมาในไม่ช้า เสียงสัญญาณดังขึ้นเตือนให้ทุกคนพร้อมกันหน้าเสาธง ลูกแมวถูกน�าใส่ในผ้า ซุกไว้ที่มุมห้อง มันขดตัวนอนหลับสนิท หลังจากเสร็จกิจหน้าเสาธงแล้ว พลันที่ขึ้น มาถึงชั้นสอง หวายและเพื่อนเห็นแม่แมวกลับมา มันคาบลูกอีกตัวมาด้วย เธอคิดว่า เป็นเพราะฝนที่ตกลงมาในช่วงเช้ามืด ลูกมันคงหนาวแม่จึงพามาหาที่อุ่นกว่า แต่พา มาได้ทีละตัว พวกเธอช่วยกันจัดแจงเทนมลงภาชนะ แล้วน�าผ้ามากองให้พวกมัน ตรงมุมหลังห้องก่อนที่ครูจะเข้าสอน หวายนึกถึงผู้สูงอายุหลายคนที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เธอว่า ถ้าตัดเรื่องผมหงอก
ความดีนั้นมีที่อยู่
ผิวหนังที่เสื่อมลงตามกาลไป อย่างอื่นนั้นเหมือนกับเด็กๆ ไม่มีผิดเพี้ยน ด้วยต้องการ การดูแลเอาใจใส่มากไม่ต่างกัน ชั่วโมงกิจกรรมวันนี้ พวกเธอพร้อมน้องๆ เครือข่ายที่มี เวลาว่างจะออกไปเยี่ยมผู้สูงอายุ คอยดูแลท�าความสะอาดเนื้อตัว ที่อยู่อาศัยให้ถูก สุขลักษณะ พูดคุย และคอยบันทึกอาการต่างๆ ลงแฟ้ม พวกเธอได้รับการฝึกอบรมให้ ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากหมอและอาสาสมัครจนสามารถลงพื้นที่ได้ เอง หวายเคยถามยายว่า น้อยใจไหมที่หลายๆ ครั้งไม่มีเวลาให้ ยายว่าไม่เลย เพราะ หลานท�าเรื่องดี และยายก็ยังแข็งแรง ยายว่า เอาไว้ยายป่วย หวายค่อยมาดูแล เอาให้ดี เหมือนกับที่ดูแลคนอื่นๆ เท่านี้ก็พอแล้ว ก่อนลงพื้นที่ พวกเธอแวะไปรับน�้าสุมนไพรและขนมจากห้องโครงงาน เพื่อน�าออก เยี่ยมอีกส่วนหนึ่ง ย้อนกลับไปหลายปี หวายเคยนึกเสียดายเวลาที่จะต้องเสียไปให้กับการท�างาน แต่ ตอนนี้เธอจ�าไม่ได้แล้วว่าเคยคิดอะไรแบบนั้น เสมือนไม่เคยคิดหรือมันหายไปพร้อมวัย
ความดีนั้นมีที่อยู่ 43
ที่เติบโตขึ้น เธอไม่รู้สึกแปลกหน้ากับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยแล้ว กลับกลายเป็นความ สนิทสนมคุ้นเคยประหนึ่งญาติผู้ใหญ่ในบ้านตัวเอง หวายรู้สึกว่า ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน ประหนึ่งหวายและเพื่อนๆ ได้เข้าไปเติมเต็มในสิ่งที่พวกเขา ขาดหาย เช่นกันที่พวกเธอเองก็ได้เติบโตไปพร้อมกัน...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • โรงเรียนป่าแดงวิทยาส่งเสริมให้นักเรียนรวมกลุ่มกันด�ำเนินกิจกรรมช่วยเหลือ ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตอยู่ที่บ้าน โดยฝึกการปฐมพยาบาลเบื้อง ต้นที่สถานีอนามัยในช่วงเช้า และช่วงบ่ายลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ สูงอายุในชุมชน เป็นประจ�ำทุกวันเสาร์ ท�ำให้นักเรียนมีทักษะในการ ปฐมพยาบาลสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ โดยโครงงานนี้ได้รับรางวัลโครงงาน คุณธรรมยอดเยี่ยม โดยรับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ • กลุ่มหมอน้อยคอยอาสา ได้ขยายผลการด�ำเนินงานไปยังรุ่นน้อง ถ่ายทอดองค์ ความรู้และเป็นพี่เลี้ยง เพื่อสร้างเครือข่ายในการดูแลผู้สูงอายุ โดยมีกิจกรรม ต่างๆ เช่น การนวดฝ่าเท้า การท�ำน�้ำสมุนไพรส�ำหรับผู้สูงอายุ การอ่านหนังสือ ธรรมะให้ผู้ป่วยฟัง การท�ำความสะอาดบ้านเรือนให้ผู้สูงอายุ เป็นต้น จนได้รับ รางวัลเยาวชนสร้างสรรค์นวัตกรรมท้องถิ่นของสถาบันพระปกเกล้า และ รางวัลฅนค้นคน อวอร์ด สาขาเยาวชนต้นแบบจากทีวีบูรพา
ความดีนั้นมีที่อยู่ 45
บทที่ 3 วิถีพอเพียง
ถ้ารู้จักพอ ก็มีสุข เมื่อไม่พอ ก็แสวงหาอยู่รำ�่ ไป
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 47
“ถ้ารู้จักพอ ความสุขก็อยู่ตรงนั้น ลองวันหนึ่งไม่พอ มี หวังทุรุนทุรายเพื่อให้ได้มา ยิ่งถ้าหาเอาด้วยวิธีการที่ผิด ด้วยแล้ว คงทุกข์เสียมากกว่า ที่บ้านบวกขอนทั้งหมด เราท�ำเกษตรครัวเรือน ท�ำไว้กิน เหลือจึงออกขาย” – ปรีชา ยามวงค์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านบวกขอน
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ความพอเพียง ฝนตกมาหลายวัน ผักในสวนหลังบ้านของหวายรับน�้าจากฟ้าโดยตรง นั่นเป็น ข้อดี เธอคิด เพราะไม่ต้องออกแรงรดน�้า ตอนนี้ ผักสลัดก�าลังงาม แม่ปลูกเอาไว้ แปลงเล็กๆ เพราะขายได้ราคา พะยี่ห้อปลอดสารพิษด้วยแล้วได้รับความนิยมนัก เมื่อเก็บแล้วแม่จะน�าไปรวมกับของบ้านอื่นๆ ในหมู่บ้านบวกขอน เพื่อน�าไปขายที เดียว หวายชื่นชมในความขยันของแม่ ที่มักจะหาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาท�า สร้างรายได้ให้ ครอบครัว หวายคลุกข้าวให้เจ้าขุนทองก่อนไปโรงเรียน แม่ไก่ลูกไก่เดินกันว่อนหน้าลาน บ้าน ภาพที่คุ้นชินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หวายวางข้าวให้เจ้าขุนทองที่ก�าลังหิวโซ แล้ว เข้าไปอาบน�้า ที่บ้านของเธอไม่มีเครื่องท�าน�้าอุ่น ขันแรกที่ราดลงตัวพาให้สะดุ้ง โหยง ขันที่สองที่สามตามมาเริ่มสบาย เธอออกมากินข้าวกับยาย แม่ท�าต้มจืดผัก กาดขาวหมูสับ และไข่เจียว ผักกาดขาวนี้มาจากหลังบ้านเธอเอง และไข่ก็มาจากไก่ ในเล้า แม่ของหวายปลูกผักสารพัดชนิด ตั้งแต่พริก กะเพรา โหระพา ผักกาดขาว ผัก สลัด ตะไคร้ มะนาว บางอย่างไม่มีก็ไปขอเด็ดเอาจากบ้านที่มี คนบ้านบวกขอนไม่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 49
หวง แต่บอกกล่าวกันก่อนตามมารยาท โดยเฉพาะเด็กๆ อย่างหวาย เข้าออกบ้าน ไหน เป็นต้องได้ของกินติดไม้ติดมือกลับมาทุกครั้ง หวายกินข้าวเช้าอย่างเร็ว แล้วเก็บจานชามล้างผึ่งไว้ เธอรีบปั่นจักรยานไป โรงเรียน ระหว่างทาง เธอเห็นผู้ใหญ่บ้านกับกลุ่มแกนน�าก�าลังสาละวนกับท่อพีวีซี ขนาดใหญ่ คงก�าลังเริ่มท�าปุ๋ยหมักรอบใหม่ ก่อนที่ความคิดจะเธอไปไกล เธอรีบไป โรงเรียนเพื่อดูแลแปลงผักที่ช่วยกันปลูกกับเพื่อนๆ โรงเรียนป่าแดงวิทยาให้เด็กๆ ได้รู้จักการปลูกผัก โดยมีแปลงผักขนาดย่อมเอา ไว้เป็นสนามทดลอง เพื่อเรียนรู้งานเกษตรกรรมอันเป็นรากฐานของชีวิต เธอช่วยแม่ อยู่ตลอด ได้รับรู้หนทางการเติบโตของผักแต่ละต้น หรือแม้กระทั่งนาข้าว ที่เธอเคย ตามพ่อเข้าไปวิ่งเล่น หยิบจับโน่นนี่ที่พอท�าได้ พ่อบอกว่า ชีวิตเกษตรกรถ้ารู้จักพอ รู้จักใช้ก็อยู่ได้เพราะอย่างไรที่ดินก็ของเรา บ้านก็ของเรา ผิดกับตอนที่ไปท�างานใน เมืองหลวง ทุกอย่างเป็นของคนอื่น
ความดีนั้นมีที่อยู่
ครั้งหนึ่ง หวายเคยบ่นให้ยายฟังว่า การเป็นเกษตรกรนั้นล�าบาก ถ้าเลือกได้คง ไม่มีใครอยากเป็น ที่แน่ๆ เธอคนหนึ่ง ยายหัวเราะแล้วบอกเธอว่า ครั้งหนึ่งยายก็ คิดแบบหวาย ท�าไมจะต้องเหนื่อยเพื่อให้มีข้าวกิน มีผักกิน สู้ท�างานสบายๆ แล้ว เอาเงินไปซื้อดีกว่า แต่วิธีคิดคนเรามักถูกขับเคลื่อนด้วยอะไรบางอย่าง ยายเห็น บรรพบุรุษท�ามารุ่นต่อรุ่น ทุกคนรักในผืนดินส่งมอบต่อกันมา ยายจึงท�ากินบนผืน ดินผืนนี้ ผืนที่พ่อแม่หวายท�าอยู่ทุกวัน เหมือนเป็นรากที่เจริญงอกงามมานาน แม้ จะมีช่วงทุกข์ผ่านเข้า แต่ไม่นานก็ผ่านไป ยายยังบอกอีกว่า ผืนดินท�ากิน วันหนึ่งมันจะเป็นของหวาย ท�าหรือไม่ท�าต่อก็ แล้วแต่ ยายเชื่อว่า พ่อแม่ไม่บังคับหวาย มิหน�าซ�้าคงสนับสนุนให้หวายท�างาน สบายๆ แต่ยายเชื่อว่า เมื่อหวายมีประสบการณ์มากขึ้น จะรู้เองตัวต้องการอะไร เลือกท�าในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และอย่าลืมที่จะรักษาผืนดินของเรา อย่างน้อยวัน หนึ่ง เมื่อหวายล้มลงและมองกลับมา ก็ยังจะมีพื้นที่ให้ชีวิตเดินต่อได้อย่างภาคภูมิ ค�าพูดของยายนั้นเหมือนมนต์สะกด แปลงผักของโรงเรียนก็ก�าลังงามไม่แพ้กัน เพื่อนทุกคนที่นี่ต่างเป็นลูกหลาน ชาวนาเหมือนกัน เธอสัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์ในผืนดิน เธอเติบโตขึ้นมาบนผืนดิน เดียวกันนี้ มีพ่อมีแม่มียาย ชีวิตมีความสุขหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ เธอไม่เคย รู้สึกเศร้าหมอง ยามที่ได้อยู่บ้านกับคนที่เธอรัก...
ความดีนั้นมีที่อยู่ 51
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • จากค�ำบอกเล่าของผู้ใหญ่บ้านปรีชา ยามวงค์ แห่งบ้านบวกขอน หมู่ที่ 8 ชาว บ้านส่วนใหญ่ของบ้านบวกขอนยังอยู่ในพื้นที่ และประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีบ้างรับราชการ แต่เป็นส่วนน้อยมากๆ ทุกบ้านล้วนท�ำกินแบบพอเพียง โดย มีทางแกนน�ำกลุ่มคอยสนับสนุน เช่น ท�ำปุ๋ยอินทรีย์แจกจ่ายให้ใช้ โดยต่างท�ำ เกษตรบนปรัชญาแห่งความพอดี • ชาวหมู่บ้านบวกขอนเองมีคุณภาพชีวิตที่สอดคล้องกับหลักปรัชญา จนต�ำบล หัวง้มเองมีชื่อเสียง ที่นี่จึงกลายเป็นฐานการเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง รวม ถึงต้นแบบจักรยานพลังน�้ำ โดยน�ำเอาจักรยานมาประดิษฐ์เป็นเครื่องสูบน�้ำ จากบ่อขึ้นมาใช้รดแปลงผัก ได้ออกก�ำลังกายพร้อมกันอีกด้วย • กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงบ้านบวกขอน จัดตั้งขึ้นในปี 2553 มีการจัดท�ำ MOU ระหว่างอบต.หัวง้มกับส�ำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงราย ที่จะปฏิวัติการใช้ พลังงาน โดยทางส�ำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงรายได้มีการให้อบรมความรู้ นวัตกรรมต่างๆ ที่สามารถลดใช้พลังงานในครอบครัว อาทิ การใช้จักรยานมา เป็นเครื่องปั่นน�ำ้ เครื่องท�ำปุ๋ย เครื่องจักสาน ความดีนั้นมีที่อยู่ 53
“จุดเริ่มต้นมาจากโรงเรียนผู้สูงอายุที่ท�ำให้ได้มารวม กลุ่มก้อน พอถึงชั้นปีที่ 3 พระครูก็มีกิจกรรมให้อุ้ยมา สอนภูมิปัญญาดั้งเดิมให้หลานๆ ทั้งขนม จักสาน อย่าง อุ้ยจะถนัดเรื่องงานสาน เพลินดีเหมือนกัน ดีกว่าอยู่บ้าน คนเดียว เด็กๆ ก็น่ารัก เหมือนลูกหลานเราจริงๆ” – แม่อุ้ย สา อุตมะดวงแจ่ม
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ยายไปโรงเรียน ฝนลาฟ้าไปเมื่อตอนเช้ามืด วันพฤหัสบดี ยายตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพื่อมาท�า อาหารไปแบ่งกับเพื่อนที่โรงเรียน ใช่แล้ว วันนี้ทั้งหวายและยายต่างก็ไปโรงเรียน แตกต่างตรงที่ยายเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนผู้สูงอายุ โรงเรียนของยายอยู่ไม่ไกล ตั้งอยู่ที่วัดบวกขอน ยายเดินไปและเดินกลับ หิ้ว ปิ่นโตพร้อมสะพายถุงผ้าต�าราเรียน ยายรู้สึกสนุกกับการเรียน ยายว่า ตอนเห็น หวายเข้าโรงเรียนวันแรก ยายปลื้มใจจนกลั้นน�้าตาไว้ไม่อยู่ หวายรู้ว่า ยายไม่เคยเข้า โรงเรียน ผู้หญิงสมัยก่อนนั้นอยู่แต่กับบ้านกับเรือน ท�าครัว ดูแลบ้าน ปรนนิบัติพ่อ แม่ แต่เธอเติบโตมาในสังคมใหม่แล้ว เด็กๆ ทุกคนต้องเข้าโรงเรียน ยายจึงดีใจทุก ครั้งที่ถึงวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ยายจะได้ไปเรียน แต่งเครื่องแบบ สแกนลาย นิ้วมือเข้าเรียน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งใหม่ในชีวิตยาย
ความดีนั้นมีที่อยู่ 55
ยายจะใช้เวลาในช่วงเช้าท�าอาหาร หนึ่งโมงเช้าจะ อาบน�้า และใช้เวลาเตรียมตัวนานเหมือนสาวๆ หวาย แอบแซวยายทุกครั้ง ยายได้แต่ยิ้มมีความสุขขณะก�าลังผัดแป้งแต่งหน้า และแปรง ผมตัวไปตามจังหวะ กว่าจะได้ออกจากบ้านก็สองโมงครึ่ง ในปีที่ 3 ยายจะได้เรียนรู้การพูดหน้าชั้น ยายมักจะท�าได้ดี เหมือนที่มักจะพูด สิ่งดีๆ ให้หวายฟัง ที่ส�าคัญในชั้นปี พระครูได้สนับสนุนให้มีกิจกรรมอุ้ยสอนหลาน ด้วย โดยหลายครั้งยายมาสอนเธอกับเพื่อนๆ ตลอดจนรุ่นน้องที่โรงเรียนให้สาน ตะกร้า เพื่อนชั้นปีเดียวของยายบางคนมาสอนท�าขนม ท�าก๋วยสลาก บ้างก็สอน สานไซดักปลา บ้างสอนท�าตุง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่ต�าบล ครูนงคราญ ว่า ภูมิปัญญาเหล่านี้นับวันจะหล่นหาย แต่ที่นี่โชคดีที่ทุกฝ่ายให้ความส�าคัญกับการ
ความดีนั้นมีที่อยู่
ถ่ายทอดภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อน เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ถึงวัฒธรรม ประเพณี อันมีค่าของต�าบล ยายมาที่โรงเรียนสอนหลานๆ หลายครั้ง ยายว่า ยายมีความสุข พ่อกับแม่หวาย เองก็ดีใจ เพราะส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมักจะต้องอยู่กับบ้าน ท�าโน่นท�านี่ไปเพื่อไม่ให้ เหงา แต่พอมีโรงเรียนผู้สูงอายุ มีกิจกรรมอุ้ยสอนหลาน ยายดูมีชีวิตชีวา มีก�าลัง ด้วยทุกเช้าวันพฤหัสบดี ทุกคนทีบ้านจะเฝ้าดูยายท�ากับข้าว แต่งเครื่องแบบ นักเรียน ผัดแป้งแต่งหน้าและแปรงผมด้วยความสดใส เหมือนวันหนึ่งในสัปดาห์ ยายได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง...
ความดีนั้นมีที่อยู่ 57
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • นักเรียนชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนผู้สูงอายุนั้น พระครูสุจิณกัลยาณธรรมจะสอน ให้ผู้สูงอายุพูดต่อหน้าสาธารณะได้ เช่น เล่าประวัติความเป็นมาของตัวเอง เล่าวัฒนธรรมประเพณีของหัวง้ม และมีกิจกรรมอุ้ยสอนหลานมาเป็นกลไก ช่วยขับเคลื่อน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง ปฏิบัติได้ ถ่ายทอดเป็น” • การตานก๋วยสลากเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลได้มีการปฏิบัติสืบต่อ กันมาจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นการถวายทานโดยไม่เจาะจงผู้รับ ชาวล้านนาจะ ท�ำกันตั้งแต่เดือนกันยายน จนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี นั่นก็เป็นเพราะว่า ช่วงนี้ชาวบ้านเสร็จจากการท�ำไร่ ท�ำสวนได้หยุดพักผ่อน พระสงฆ์ก็จ�ำพรรษา อยู่วัดไม่ได้ไปไหนและบวกกับในช่วงเวลานี้ก็มีผลไม้สุก เช่น ล�ำไย มะไฟ ส้มโอ เป็นต้น เมื่อต้นข้าวในนาเริ่มเขียวขจีชาวนาที่มีฐานะไม่ค่อยดี การด�ำรง ชีวิตก็เริ่มขัดสนเมื่อข้าวในยุ้งก็หมดก่อนฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะมาถึง ดังนั้น การ ตานก๋วยสลากในช่วงนี้จึงเท่ากับว่าได้สงเคราะห์คนยากคนจน ความดีนั้นมีที่อยู่ 59
ความดีนั้นมีที่อยู่
บทที่ 4 วัฒนธรรมดี สร้างคนดี วัฒนธรรม ประเพณี สะท้อนภูมิปัญญาพื้นบ้าน คุณค่าที่รอการสืบสาน
ความดีนั้นมีที่อยู่ 61
“อาตมาเห็นความสามัคคีของผู้คน เด็กๆ เข้ามามีส่วน ร่วม ประเพณีแห่แค่เป็นประเพณีเก่าแก่ของหัวง้ม ที่อื่น หล่นหายหมดแล้ว แต่ที่นี่ เรามีความตั้งใจที่จะสืบต่อ เพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่นี้ให้คนรุ่นใหม่ ได้รับรู้ และปลูกฝังให้เขาสืบทอดต่อไปให้นานที่สุด” – พระครูสมุห์เบญ อรุโณ เจ้าอาวาสวัดป่าคา หมู่ที่ 2
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> งานแห่แค่ หลังกินข้าวเย็นแล้ว หวายออกมายืนรับลมที่หน้าบ้าน เจ้าขุนทองมาเคล้าคลอ ไม่ห่างกาย บนฟ้ามีดาวบางตา เป็นธรรมดาของฤดูฝน อีกไม่นานพระจันทร์จะ กลับคืน พระจันทร์ที่บ้านของหวายสวยไม่แพ้ใคร แม้จะไม่เคยเห็นจากที่อื่น แต่เธอเชื่อ ในสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า นั่นชวนให้นึกถึงงานแห่แค่ประจ�าปีของต�าบลที่จัดขึ้นในช่วง วันลอยกระทง มีการประกวดแค่และขบวนแห่ประจ�าต�าบล ทั้ง 13 หมู่บ้านจะมา ประกวดกัน โดยเริ่มต้นขบวนแห่บริเวณ 3 แยก หน้าโรงเรียนป่าแดงวิทยา ชาว บ้านแต่ละหมู่บ้านจะช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้แค่ของหมู่บ้านออกมาตรึงตา ตรึงใจมากที่สุด อากาศช่วงนั้นก�าลังเย็นสบาย ฝนลาฟ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ทุกบ้านออกมาชม ขบวน ให้ก�าลังใจหมู่บ้านของตัวเอง โดยงานของต�าบลจะจัดขึ้นก่อนวันลอยกระทง
ความดีนั้นมีที่อยู่ 63
สองวัน หมู่บ้านที่ชนะจะได้รับเงินรางวัล ซึ่งตั้งแต่จ�าความได้ บ้านป่าคา หมู่ที่ 2 ชนะเรื่อยมา หวายได้ยินมาว่า ที่บ้านป่าคา ทั้งชาวบ้านและแกนน�าอย่างพระครูเบ็ญตั้งใจท�า กันมาก งานแห่แค่แต่ละปี ถ้าจะมีจืดไปก็คงเพราะไม่มีผู้ท้าชิงที่สมน�้าสมเนื้อ ปีที่ แล้วแค่ของบ้านป่าคา มีการใช้กรงนกมาประดับ สวยงามมากทีเดียว ปีนี้ไม่รู้ว่า พระครูเบ็ญจะท�าออกมาในรูปแบบใด คิดแล้วก็สนุก อยากให้วันงานมาถึงไวๆ พอประชันระดับต�าบลกันแล้ว ก็มีประชันกันภายในหมู่บ้าน โดยแค่ที่ผ่านการ ประกวดส่วนใหญ่จะเก็บเอาไว้โชว์ ส่วนแค่ที่น�ามาจุดไฟจริงๆ เป็นแค่ที่ประชัน ความดีนั้นมีที่อยู่
ภายในหมู่บ้าน โดยทุกบ้านจะน�ามาจุดที่วัด เต็มด้วยความสนุกสนานครื้นเครง น้าประมวลเป็นคนบ้านป่าคา แกเคยมาที่โรงเรียนและเล่าประวัติของแค่ให้ฟัง หวายจ�าความได้ประมาณว่าในอดีตที่ยังไม่มีตะเกียงไม่มีไฟฟ้าใช้เวลามีเทศกาล ต่างๆ ชาวบ้านก็จุดต้นแค่ เพื่อส่องสว่างในงาน แต่พอมีไฟฟ้าเข้ามา หลายที่ก็ ยกเลิกไป แต่ชาวหัวง้มยังอนุรักษ์ไว้ โดยจุดถวายเป็นพุทธบูชาในเทศกาลลอย กระทง งานแห่แค่จึงเสมือนงานรวมใจพี่น้องชาวหัวง้มไปโดยปริยาย เด็กในพื้นที่อย่างหวาย ไม่ต้องอธิบายกันยืดยาวก็เข้าใจทันทีว่าแค่คืออะไร เพราะเห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย แต่คนนอกพื้นที่ แม้จะเป็นชาวล้านนาเองก็อาจไม่รู้ เพราะส่วนใหญ่ช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ที่อื่นๆ จะแห่สะเปากันมากกว่า ที่บ้านหวายเองก็ชอบประเพณีแห่แค่ โดยเฉพาะยายเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ยายจะมาร่วมดูขบวนแห่ ร�าวงไปตามเสียงเพลง “หวาย ท�าอะไรอยู่ลูก” ยายเดินออกมาจากบ้านพร้อมยื่นขนมกล้วยนึ่งใหม่ๆ ให้ หวายชี้ไปบนท้องฟ้า ต�าแหน่งที่ดาวดวงหนึ่งส่องสว่างอย่างไม่กลัวเมฆฝน “ใกล้จะถึงงานแห่แค่แล้วนะจ๊ะยาย” “จริงด้วยสินะ ปีนี้บ้านป่าคาจะท�าออกมาแบบไหนนะ” ยายว่าพลางมองที่ หลาน ชั่วขณะนั้น หญิงชรารู้สึกว่า เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน จากเด็กตัวน้อยในวัน ก่อน วันนี้ตัวสูงเท่ากันแล้ว หญิงชรามองดูดาวดวงนั้นที่ส่องสว่างอยู่บนฟ้า ข้างๆ กันคือดาวอีกดวงที่อ่อนแสงกว่า ฉับพลันน�้าเอ่อคลอดวงตา เป็นน�้าตาที่มีทั้งปลื้มใจ และสะเทือนใจระคนกัน... ความดีนั้นมีที่อยู่ 65
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ค�ำว่า “แค่”เป็นภาษาพื้นบ้านล้านนาไทย ท�ำมาจากไม้ไผ่จักเป็นซี่ๆ แล้วมัด เป็นก�ำ ในสมัยโบราณไม่มีไฟฉายหรือตะเกียง จึงใช้ไม้แค่จุดไฟยามค�ำ่ คืน เพื่อ ให้แสงสว่างส่องทาง หรือยามเทศกาลต่างๆ ที่ชาวบ้านมาท�ำกิจกรรมร่วมกัน ในเดือนสิบสอง ในสมัยล้านนาโบราณ ชาวบ้านได้กำ� หนดให้มีพิธีการแห่แค่ไป ถวายพระสงฆ์ในวัดแล้วจุดถวายเป็นพุทธบูชา แต่ปัจจุบันวัตถุประสงค์เพื่อให้ แสงสว่างหมดไปแล้ว หลังจากมัดไม้ไผ่เป็นซี่ๆ แล้ว ชาวบ้านจะร่วมกันตกแต่ง ต้นแค่อย่างพิถีพิถันสวยงาม แล้วน�ำขึ้นบนรถแห่ จัดขบวนเสร็จสรรพ พอแห่ เสร็จก็พากันไปที่วัดแล้วคงไว้แต่เพียงจุดถวายพุทธบูชา เพื่อสืบสานประเพณี ดั้งเดิมให้คงอยู่สืบไป • ที่ต�ำบลหัวง้ม งานแห่แค่ถือเป็นประเพณีขึ้นชื่อ เพราะได้อนุรักษ์มาจนถึง ปัจจุบัน มีการประกวดระดับต�ำบล ซึ่งจะจัดขึ้นก่อนวันลอยกระทง 2 วัน มี การประชันแค่ ขบวนแห่ ตลอดจนธิดาแค่ ขึ้นอยู่กับการก�ำหนดของอบต. และมีประกวดระดับหมู่บ้านในวันลอยกระทง ความดีนั้นมีที่อยู่ 67
“เราท�ำตรงนี้ เพื่อให้วัฒนธรรมท้องถิ่นได้สืบต่อ และดนตรียังช่วย ส่งให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี เสริมทั้งด้านอารมณ์และสติปัญญา นอกจากนี้ ยังเป็นความรู้ติดตัวพวกเขา อย่างวันนี้ เด็กชั้นป.6 รวม วงกันเอง เวลาอบต.มีงาน ก็จะติดต่อขอไปเล่นให้ผู้สูงอายุฟังบ้าง คณะดูงานบ้าง ไม่มีค่าตอบแทน มีแต่ความดีที่จะได้รับการบันทึกใน สมุดความดี” – ชัย สันกว๊าน ผู้อำ� นวยการโรงเรียนบ้านหนองฮ่าง สันหลวง
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ซ้อมดนตรีไทย หวายวิ่งหน้าตื่นเข้ามาที่บ้านของเพื่อนพร้อมร้องตะโกนเสียงดัง “ว่าน ว่าน ยายพี่ก�าลังท�าขนม อยากให้มาช่วยกัน” “ว่านยังไม่กลับมาเลยหวาย” เสียงแม่ของว่านตอบกลับมา เธอแปลกใจ เพราะเห็นจักรยานของเพื่อนจอดอยู่ แม่ของว่านเห็นสายตาพา สงสัยของหวายจึงบอกไปว่า “เมื่อเช้าแม่ขี่รถเครื่องไปส่ง กะว่าเดี๋ยวจะออกไปรับ เห็นว่าวันนี้มีซ้อมดนตรี แต่แม่ก�าลังยุ่งอยู่เลย วานหวายไปรับกลับแทนได้ไหมจ๊ะ” “ค่ะ” เด็กหญิงตอบรับ หวายขี่จักรยานออกจากบ้าน เธอแวะบอกยายก่อนมุ่งตรงไปที่โรงเรียนบ้าน หนองฮ่างสันหลวง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ผิดกับโรงเรียนป่าแดงวิทยาของเธอที่ มีขนาดใหญ่กว่า โรงเรียนของว่านตั้งอยู่ในบ้านหนองฮ่าง หมู่ที่ 4 ห่างออกไปจาก บ้านของพวกเธอ ทันทีที่หวายขี่จักรยานผ่านประตูรั้วเข้ามา เสียงดนตรีพื้นเมืองก็
ความดีนั้นมีที่อยู่ 69
เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ว่านเคยเล่าให้เธอฟังว่า เวลานี้มีเด็ก นักเรียนอยู่ 29 คนเท่านั้น อย่างว่านเองอยู่ชั้น ป.6 ก็ต้องเดินทางไปเรียนรวมที่ โรงเรียนป่าคา ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 พอเลิกเรียนก็กลับมาซ้อมดนตรีที่นี่ ห้องซ้อมดนตรีของที่นี่อยู่ในตึกที่ตั้งท�ามุมฉากกับถนนหลักหน้าโรงเรียน โดย ห้องซ้อมดนตรีคือห้องสุดท้ายของชั้นล่าง หวายจอดรถจักรยาน แล้วเดินเข้ามานั่ง รอตรงที่นั่งหน้าห้อง เห็นเพื่อนก�าลังนั่งสีสะล้ออย่างตั้งใจ เสียงเพลง ‘ล่องแม่ปิง’ ลอยมาฟังไพเราะ พอจบเพลงนี้แล้ว ขลุ่ยน�าวงก็บรรเลงเพลง ‘หมู่เฮาชาวเหนือ’ ต่อในทันที ชั่วขณะที่ขลุ่ยขึ้นเพลงนั้น ว่านเหลือบเห็นเพื่อนมานั่งรออยู่หน้าห้อง ต่างคนต่างยิ้มให้กัน
ความดีนั้นมีที่อยู่
ว่านเล่าให้เธอฟังว่า ทางโรงเรียนบ้านหนองฮ่างสันหลวงจัดรวมกลุ่มดนตรีไทย ขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน มีถ่ายทอดด้านการขับร้อง ทั้งการเล่าคร่าว และการเล่าจ้อย แต่ ว่านชอบด้านเครื่องดนตรีมากกว่า ซึ่งมีทั้งขลุ่ย สะล้อ ซึง ฉิ่ง ฉาบ กลอง ว่านเล่น ได้ทั้งสะล้อ ซึง และขลุ่ย เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองฮ่างสันหลวงจะเริ่มเรียนขลุ่ยก่อนเป็นล�าดับแรก เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานของตัวโน้ต ก่อนที่จะขยับไปเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น ว่านเคย สอนให้เธอเป่าขลุ่ยเมื่อครั้งที่น�ากลับไปซ้อมที่บ้าน เธอเป่าได้พอเป็นเพลง แต่นั่นก็ นานมาแล้ว ตอนนี้แทบจะจ�าอะไรไม่ได้แล้ว เสียงเพลงหมู่เฮาชาวเหนือจบลง ว่านและเพื่อนๆ ในวงก้มลงกราบบูชาครู ก่อนน�าเครื่องดนตรีไปเก็บและออกมาพบกับเธอ “แม่วานให้มารับ” หวายรีบพูดขึ้นราวกับรู้ว่าว่านก�าลังจะถามอะไร “ช่วงนี้ซ้อมเย็น เพราะจะมีงานที่อบต. น่ะพี่หวาย” ว่านเล่า “ดีจัง น่าสนุก” ขณะที่ทั้งสองก�าลังขึ้นจักรยาน ผอ.ชัย เดินมาพอดี ว่านยกมือสวัสดี หวายท�า เช่นเดียวกัน เพราะเป็นสิ่งที่เธอได้รับการปลูกฝังมา ผอ.รับไหว้และยิ้มให้
ความดีนั้นมีที่อยู่ 71
ระหว่างอยู่บนอานจักรยาน หวายนึกถึงสิ่งที่ว่านเพิ่งเล่าให้ฟัง ผอ.ชัย เป็นหนึ่ง ในก�าลังส�าคัญที่สนับสนุนให้เกิดกลุ่มดนตรีไทยขึ้น เพราะแรงบันดาลใจที่จะอนุรักษ์ ดนตรีไทยให้คงอยู่คู่ชุมชนต่อไป ทั้งยังเป็นการสร้างพัฒนาการให้กับเด็ก เพราะผอ. เชื่อว่า เด็กควรได้รับการพัฒนาสมองซีกซ้ายซีกขวาไปพร้อมกันอย่างสมดุล ทั้งยัง สะท้อนภาพของศิลปวัฒนธรรมในอดีตด้วย ในสมุดคู่ฝากความดีของว่านนั้น เธอได้รับคะแนนความดีจากการไปเล่นดนตรี พื้นเมืองเป็นส่วนมาก เพราะวงของเด็กๆ โรงเรียนบ้านหนองฮ่างสันหลวงได้ออก เล่นเพื่อฝึกทักษะโดยไม่คิดเงิน ด�าเนินการในลักษณะจิตอาสา มีผู้บริหารในต�าบล คอยให้การสนับสนุน หวายรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้เพราะเพิ่งฟังดนตรีที่เพื่อนรุ่นน้องเล่นให้ฟัง หรือเปล่า ฉับพลันเสียงเพลงล่องแม่ปิงก็แล่นเข้ามาในหัว ขณะที่สองเท้าของเธอยัง ถีบเจ้าสองล้อเพื่อกลับบ้าน...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ต�ำบลหัวง้มมีโรงเรียนในพื้นที่จ�ำนวน 3 โรง คือ โรงเรียนป่าแดงวิทยา โรงเรียนป่าคา และโรงเรียนบ้านหนองฮ่างสันหลวง โดย 2 โรงหลังนี้มีจำ� นวน นักเรียนน้อย จึงมีการสลับข้ามฟากของนักเรียน อย่างนักเรียนชั้น ป.6 ของ โรงเรียนบ้านหนองฮ่างสันหลวง ก็ต้องไปเรียนรวมกับนักเรียนของโรงเรียน ป่าคา และโรงเรียนป่าคาชั้น ป.4 ก็ย้ายสลับมา โดยจะมีรถรับส่งจากโรงเรียน หนึ่งไปยังอีกโรงเรียนในแต่ละวัน • กลุ่มดนตรีไทยโรงเรียนหนองฮ่างสันหลวงก่อตั้งขึ้นในปี 2553 • ปัจจุบันมีครูสอนดนตรีพื้นบ้าน 1 คน ลดลงจากเดิมที่มี 2 คน เนื่องจาก ขาดแคลนงบประมาณ • เครื่องดนตรีพื้นบ้านเริ่มหายากขึ้นเพราะไม่มีคนท�ำ ประกอบกับเครื่องดนตรี ชั้นดีมีราคาแพง เด็กๆ ที่นี่เล่นเครื่องดนตรีเท่าที่จะมีตามสภาพ ความดีนั้นมีที่อยู่ 73
ความดีนั้นมีที่อยู่
บทที่ 5 วิถีของอาชีพ หนทางแห่งการสร้างตัว เอาความสุจริตเป็นที่ตั้ง
ความดีนั้นมีที่อยู่ 75
“ท�ำตุงช่วยให้กลุ่มแม่บ้านที่นี่มีอาชีพเสริม แม้จะเป็นรายได้ไม่มาก แต่ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ แล้วที่บ้านกู่สูงนี่ บรรพบุรุษท�ำตุงกันทั้งนั้น ตัว เราเองแม้ที่บ้านจะไม่ได้ท�ำ แต่ก็มาหัดเอาตอนโตเพื่อสืบทอด ภูมิปัญญานี้ รวมถึงถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง อย่างลูกสาวตอนนี้ก็ท�ำ เป็น” – นิตยา ใจเที่ยง ประธานกลุ่มตุงแห่งบ้านกู่สูง หมู่ที่ 10
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ลองท�าตุง หวายพาว่านกลับมาถึงบ้าน เพื่อนรุ่นน้องเธอรีบเปลี่ยนชุดเสื้อผ้า แล้วพากันไป สมทบกับยายที่บ้านหวาย ยายก�าลังเตรียมนึ่งข้าวต้มมัดอีกรอบ หลังจากเพิ่งท�าไป เมื่อวันก่อน ทั้งสองมาช่วยยายตั้งแต่ตัดใบตอง หั่นกล้วยเป็นชิ้นเท่าหัวแม่มือ วาง กล้วยลงบนใบตองแล้วตามด้วยข้าวเหนียว เด็กๆ รู้สึกสนุกกับการท�าขนม เพราะ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความอิ่มอร่อย “พี่หวายๆ” เสียงว่านพูดขึ้นระหว่างหยิบจับวัตถุดิบจัดลงบนตอง “คุณครูให้ เขียนรายงานหัวข้อความภูมิใจของต�าบลเรา พี่หวายว่าว่านจะท�าเรื่องอะไรดี” หวายสบตากับยายที่ก�าลังมองผ่านแว่นมา ทั้งสองช่วยกันนึกว่าจะให้ว่านท�า รายงานเกี่ยวกับอะไร “ยายว่า ว่านน่าจะท�าเรื่องราวเกี่ยวกับตุง หรือไม่ก็แค่ เพราะเป็นศิลปะพื้น บ้านของล้านนาเรา”
ความดีนั้นมีที่อยู่ 77
“เหรอจ๊ะ ยาย” ว่านตอบไป น�้าเสียงเจือด้วยความลังเลด้วยเจ้าตัวไม่แน่ใจว่า ตุงคืออะไร “ไม่ดีเหรอว่าน พี่ว่าก็ดีออก ไม่ตุงก็แค่” “ตุงใช้ที่เขาแขวนๆ กันหรือเปล่าพี่หวาย” “ที่พี่รู้มา มีหลายแบบนะ ถ้าว่านไม่รู้ ท�าเรื่องนี้เลยก็ดีจะได้เป็นความรู้ด้วย เดี๋ยวไปหาป้ายากัน ป้าแกเคยมาสอนที่โรงเรียนพี่ จะลองสอบถามดูว่า บ้านแกอยู่ ไหน” “บ้านกู่สูง กลุ่มตุงอยู่ที่วัดกู่สูงเลย” ยายพูดขึ้น “ยายรู้จัก เดี๋ยวยายจะไปบอก ให้ก่อน ถ้าว่านต้องการข้อมูลจริงๆ” “จ้ะ ดีเลยจ้ะยาย” เย็นวันต่อมา พ่อของหวายขับรถมาส่งที่วัดกู่สูง ตอนนี้ที่วัดก�าลังท�าตุง และของ ประดับส�าหรับขบวนแค่ ถ้าจะมีบ้านไหนที่หาญท้าบ้านป่าคา บ้านกู่สูงคงเป็นหนึ่ง ในนั้น พี่ๆ น้าๆ ก�าลังเตรียมงานแข็งขัน ป้ายาเห็นเด็กๆ เดินเข้ามา พร้อมกับยายของหวาย ก็ผละจากงานที่ท�าอยู่เพื่อ มาต้อนรับ หวายเองเพิ่งรู้ว่า ยายรู้จักมักคุ้นกับกลุ่มนี้ก็วันนี้เอง ว่านเองยังไม่คุ้นชิน
ความดีนั้นมีที่อยู่
จึงอายไม่กล้าพูด อาศัยหวายกับยายคอยช่วยเหลือถามค�าถามให้ ป้ายาจึงเล่าเรื่องตุง ให้ฟัง ว่านใช้ดินสอจดลงบนสมุด ระหว่างพูดไป ป้ายาก็หยิบนั่นจับนี่ท�าไปเรื่อย พร้อม ส�าทับว่า ถ้าว่านไม่ทันตรงไหนให้ถามได้ หวายกับยายเองก็หยิบจับท�าดอกจ�าปีประดับ ตุงจากหลอดกาแฟ ยายท�าได้ไม่ขัดเขิน หวายเองมองและท�าตามก็รู้สึกไม่ยากอย่างที่ คิด ที่บ้านกู่สูงนั้นท�าตุงกันมากที่สุดในต�าบล บ้างสืบทอดมาจากพ่อแม่ บรรพบุรุษ แต่ ส�าหรับป้ายา แกเล่าว่าเพิ่งมาเรียนรู้ตอนโตแล้ว ด้วยความสนใจและอยากใช้เวลาว่าง ท�าอะไรสักอย่าง ทั้งการได้นั่งท�าตุงนั้นยังได้ใช้ความคิดด้วย อย่างล่าสุดที่คิดขึ้นและท�า ออกมาคือ ตุงจ�าลองขนาดเล็ก โดยท�าเป็นคู่สีเงินและสีทองเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับผู้รับ ว่านจดข้อมูลจากป้ายาจนครบถ้วน จึงหันมาสมทบกับหวายและยาย ป้าๆ ในกลุ่ม ก�าลังตัดตุงไส้หมู โดยลองกับกระดาษหนังสือพิมพ์ก่อน ว่านขยับเข้าไปดูอย่างสนใจ ป้า ยามองดูเห็นท่าทางสนใจจึงเรียกให้ว่านมาลองท�าอันเล็กๆ หวายกับยายเองก็ท�าชิ้นส่วนประดับตุงไปหลายอัน ทางกลุ่มตุงบ้านกู่สูงนี้ไม่ได้มี รายได้เป็นกอบเป็นก�า เงินที่ได้มาก็หมุนเวียนใช้เป็นค่าอุปกรณ์ ค่าด�าเนินการภายใน กลุ่ม พอจะแบ่งปันจุนเจือให้สมาชิกได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่ทุกคนยังคงอยู่กันอย่าง เหนียวแน่ คือความภูมิใจที่ได้ร่วมสืบทอดศิลปะของล้านนา หวายมองเห็นภาพความ สามัคคีของบ้านกู่สูงด้วยความตื่นเต้น อีกไม่นานบ้านบวกขอนก็จะเริ่มท�าแค่ของตัวเอง บ้าง ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อเทียบชั้นบ้านป่าคา แต่การได้ไปรวมแรงกันท�า ช่วยกันทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ก็ถือเป็นจุดมุ่งหมายที่ส�าคัญยิ่งกว่ารางวัลใด... ความดีนั้นมีที่อยู่ 79
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ตุงภาษาเหนือ หมายถึงธงในภาษากลาง เป็นศิลปะล้านนาที่อยู่คู่กับภาคเหนือ มาแต่อดีต คนเหนือใช้ตุงในงานส�ำคัญทางศาสนา งานประเพณีรื่นเริง เน้นใช้ ในงานมงคล ส่วนถ้าเป็นงานอวมงคลจะเจาะจงว่าเป็นตุงสามหาง ใช้นำ� ทาง ดวงวิญญาณไปสู่อีกภพหนึ่ง • ต�ำบลหัวง้ม โดยเฉพาะบ้านกู่สูงนั้น ท�ำตุงมาแต่อดีตประกอบงานพิธีและ เทศกาล โดยท�ำหลายแบบ ทั้งตุงหัวคน ตุงสิบสองนักษัตร ตุงประกอบขบวน แห่แค่ โดยจะมีลักษณะและสีสันแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ปัจจุบันได้มี การน�ำตุงมาประยุกต์เป็นของประดับตกแต่งตามบ้านเรือน ร้านค้าเพื่อแสดง เอกลักษณ์ของชาวเหนือ แต่ก่อนเคยท�ำตุงผ้าทอ แต่ต้องยกเลิกไป เพราะท�ำ ยากและมีต้นทุนสูง • ปัจจุบัน กลุ่มมีสมาชิกราว 30-35 คน ส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านที่ว่างเว้นจากการ ท�ำนาท�ำสวน อยู่ว่างๆ ก็หารายได้เสริมท�ำเป็นของฝากของที่ระลึก แม้จะมี รายได้ไม่มาก แต่ทุกคนก็พึงพอใจที่ได้ทำ�
ความดีนั้นมีที่อยู่ 81
“ผมท�ำมานานเป็นยี่สิบปีแล้ว ตอนนี้เป็นอาชีพเลย ท�ำนา บ้างเท่าที่มี แต่เพาะเห็ดเยอะกว่า ที่บ้านสันปลาดุกเพาะ เห็ดกันหลายบ้าน บางบ้านท�ำไม่เยอะ แต่ก็พออยู่ได้ สบาย” - สุรศักดิ์ กันทา ประธานกลุ่มเพาะเห็ด บ้านสัน ปลาดุก หมู่ที่ 5
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> อยากเพาะเห็ด วันอังคารเป็นวันพระของโรงเรียน แม่ครัวจะท�าอาหารมังสวิรัติให้ครูและ นักเรียนรับประทานเป็นอาหารกลางวัน วัตถุดิบหลายชนิดได้มาจากโครงงาน เกษตรภายในโรงเรียน หวายรับผิดชอบแปลงผักสวนครัว โดยแบ่งเวรกันกับเพื่อน อีกฟากหนึ่งของ แปลงผักมีโรงเพาะเห็ดเล็กๆ อยู่ อย่างแปลงผักสวนครัวนั้นท�าได้ไม่ยาก หวายเองมี ความรู้จากที่บ้าน แต่การเพาะเห็ดนั้นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ ที่เห็น เป็นโรงอย่างนี้ก็ได้ลุงสุรศักดิ์ แกนน�ากลุ่มเพาะเห็ดจากบ้านสันปลาดุกมาเป็นผู้ชี้ ทาง หวายและเพื่อนๆ ได้ไปศึกษาเรียนรู้เรื่องการเพาะเห็ดที่บ้านลุงสุรศักดิ์ ที่บ้าน นั้นมีโรงเรือนอยู่หลายโรง ลุงสุรศักดิ์แกหันมาเพาะเห็ดเต็มตัวหลายปีมาแล้ว ท�านา
ความดีนั้นมีที่อยู่ 83
เป็นเพียงอาชีพเสริม ครั้งนั้น พอเห็นรถของแขกตัวน้อยมาเยือน ลุงสุรศักดิ์พลันวาง เครื่องไม้เครื่องมือเพื่อมาต้อนรับ เช่นเดียวกับเจ้าสุนัขต�ารวจตัวใหญ่ที่วิ่งหน้าตั้งมา จนท�าให้แตกตื่นกันไปหมด ตัวของมันใหญ่น่ากลัว ลุงสุรศักดิ์รีบจับมันไปผูกไว้ที่ โรงรถหลังบ้าน ก่อนน�าชมโรงเรือนที่ดอกเห็ดเริ่มติดบานสวยงาม ลุงสุรศักดิ์เล่าว่า ส่วนผสมของก้อนเชื้อนั้นประกอบด้วยขี้เลื่อย ร�าละเอียด ปูน ขาว ดีเกลือ ยิปซัม น่าเสียดายที่วันนั้นไม่ใช่วันท�าก้อน แต่ที่บ้านลุงสุรศักดิ์นั้นต้อง ท�าก้อนเยอะ เพราะท�าก้อนขายด้วยใช้เองด้วย โดยอัดก่อนแต่ละครั้ง ลุงสุรศักดิ์จะ ใช้เครื่องอัด แล้วใช้แรงงานคนมัดปากก้อน
ความดีนั้นมีที่อยู่
หวายค่อนข้างสนใจการเพาะเห็ด เธออยากมีโรงเพาะที่บ้าน แต่พ่อกับแม่ยังไม่ อยากท�าเพราะมีต้นทุนเวลา เฉพาะแค่ที่นากับผักสวนครัว แม่กับพ่อก็แทบไม่เหลือ เวลาแล้ว เธอจึงเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ เพราะถ้าท�าด้วยตัวเองได้ พ่อกับแม่เธอไม่ว่า อะไรแน่นอน เธออยากลองซื้อก้อนเชื้อดูสัก 10 ก้อน ค�านวณแล้วเป็นเงินที่จ่ายได้ โรงเรือนท�าแบบง่ายๆ ใช้กรงเก่าเจ้าขุนทองที่ไม่ได้ใช้คลุมด้วยผ้าใบ ลุงสุรศักดิ์จะ บอกว่าต้องผึ่งก้อนกี่วันก่อนจะรดน�้า แต่เวลารดน�้าจะต้องท�า 3 เวลา นั่นอาจท�าให้
เป็นภาระของพ่อกับแม่ หวายจึงเก็บโครงการเข้าลิ้นชักเอาไว้ก่อน แต่ฉับพลันเธอ มองฟ้าแล้วคิดไปว่า ถ้าฝนตกแบบนี้เธอน่าจะท�าได้ ตอนเย็นเมื่อกลับถึงบ้าน หวายปรึกษากับยาย เธออยากจะลองเพาะเห็ดไว้กิน ยายเห็นด้วย เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพราะรู้ดีว่า ลองยายเห็นด้วยแบบนี้ พ่อต้องไม่ ปฏิเสธแน่ และเย็นวันต่อมา ก้อนเพาะเห็ดก็มาปรากฏอยู่ที่บ้าน เธอลิงโลดด้วย ความปีติ ความรับผิดชอบของเธอเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ยายมองหลานด้วยความ สงสัยว่า โรงเห็ดขนาดย่อมของหวายจะประสบผลดีไหมนะ...
ความดีนั้นมีที่อยู่ 85
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ส่วนผสมของก้อนเชื้อมีขี้เลื่อย ร�ำละเอียด ปูนขาว ดีเกลือ ยิปซั่ม • จริงๆ แล้วการรวมกลุ่มเพาะเห็ดในหมู่บ้านสันปลาดุก เกิดขึ้นมานานแล้ว พอได้รับการสนับสนุน และการเติบโตตามศักยภาพ ท�ำให้กลุ่มยิ่งแน่นแฟ้น และความสามัคคีมากขึ้น จนปัจจุบันมีสมาชิก 18 ราย ภายในกลุ่มก็มีการ ระดมความคิด เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหา พร้อมด�ำเนินการอย่างเป็นธรรม รวมถึง แบ่งปันข่าวสารเสริมทักษะแก่สมาชิกภายในกลุ่ม ร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ รวม ถึงสร้างความเข้มแข็งต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง จนเกิดเป็นความส�ำเร็จ ของกลุ่มนั่นเอง แกเล่าว่าแรงงานที่ช่วยแกท�ำก็ล้วนเป็นคนในพื้นที่ทั้งนั้น บางทีก็มีเด็กๆ มารับจ้างในวันเสาร์-อาทิตย์ ถือเป็นการกระจายรายได้ให้กับ คนในชุมชน
ความดีนั้นมีที่อยู่ 87
“การเลี้ยงปลานั้นไม่ง่าย ผมท�ำมานานแล้ว เคยตายยกบ่อก็มี กว่าจะเป็นอาชีพอย่างทุกวันนี้ แต่ผมเห็นหลายบ้าน ขุดบ่อ เลี้ยงบ่อเดียว เขาก็ทำ� กินได้ ผสมผสานกับการท�ำเกษตรอย่าง อื่น อยู่ได้สบาย” - ถวัลย์ ไชยปัญโญ ประธานกลุ่มเลี้ยง ปลานิลเมืองพาน
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> วันเกิดยาย หญิงชราตื่นขึ้นกลางดึกเพราะได้ยินเสียงละเมอของหลานสาว เด็กหญิงนอน ดิ้นไปมาราวกับอยู่บนกองเพลิง ยายพยายามปลุกหวายให้ตื่นขึ้น แต่เธอหลับลึก เหลือเกิน สักพักหนึ่งจึงนิ่งไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงชรานั่งเฝ้าอีกครู่หนึ่งจน วางใจ ถึงล้มตัวนอนต่อ “เมื่อคืนฝันอะไรหรือลูก” ยายพูดขึ้นเมื่อนั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน “หนูจ�าไม่ได้แล้วจ้ะยาย ท�าไมเหรอจ๊ะ” “หนูร้องเสียงดังจนยายตกใจ พยายามปลุกหนูก็ไม่ตื่น” หญิงชราคิดไปถึงวันที่ เกือบเสียหลานไป หวายพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก เธอขอโทษที่ท�าให้ยายเป็นกังวล แต่เธอจ�ามัน ไม่ได้จริงๆ หลังอาหารเช้า เธอตามแม่ออกไปซื้อของที่ตลาด ทั้งสองนัดแนะกัน ตั้งแต่เมื่อคืนวาน เพราะวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดยาย แม่จะท�าอาหารมื้อพิเศษใน ตอนเย็น “หวายว่าจะท�าอะไรให้ยายกินดีจ๊ะ” แม่เอ่ยถามขึ้นขณะเดินดูของในตลาด
ความดีนั้นมีที่อยู่ 89
“ส่วนใหญ่บ้านเราก็มีหมดทุกอย่างแล้ว ที่ไม่มีก็หมู วัว ควาย แต่ยายไม่ชอบอยู่ แล้ว หนูว่าซื้อปลาดีกว่า” หวายว่า “อืม ดีเหมือนกัน งั้นกินเมี่ยงปลาเผาไหมล่ะ ยายแกชอบด้วย” แม่เดินน�าไปที่แผงปลา หวายมองดูแม่เลือกชี้ปลานิลที่ต้องตาต้องใจ ทุกตัวยัง สดเพราะกลุ่มเลี้ยงปลานิลเมืองพานนั้นอยู่ในหัวง้มนี่เอง ประธานกลุ่มเป็นก�านัน หวายรู้จักเพราะพ่อของเธอรู้จักมักคุ้นกันดี เธอเรียกเขาว่า ลุงหวัน ลุงหวันมีท่าทางคล้ายนักเลง เสียงดัง แต่ก็เป็นคนใจดี พ่อว่า แกเป็นคนถึงไหน ถึงกัน กล้าได้กล้าเสีย แกมีบ่อปลาราว 15 บ่อ ตั้งอยู่ที่บ้านป่าส้าน หมู่ที่ 13 หวาย ไม่เคยไปที่นั่น แต่ก็พอนึกภาพออก เพราะในหัวง้มมีคนขุดบ่อเลี้ยงปลากันหลาย บ้าน ระหว่างทางไปบ้านสันปลาดุกก็มีอยู่หลายบ่อ เธอถามพ่อเรื่องบ่อเลี้ยงปลา แต่พ่อไม่สนใจ พ่อเคยเกือบเสียหวายไปเพราะจมน�้าตอนไปเที่ยว โชคดีที่ครั้งนั้น หวายไม่เป็นอะไร แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ฝังใจทุกคนในบ้าน ตอนเย็นทุกคนนั่งล้อมวงพร้อมหน้า เมี่ยงปลาเผาร้อนๆ สองตัววางลงจาน พร้อมผักสดและน�้าจิ้มรสเด็ดของแม่ ที่จริงๆ แล้วสูตรแต่ละอย่างก็มาจากยายนั่น แหละ กลิ่นปลาหอมโชยจนเจ้าขุนทองขึ้นบันไดมานอนรอตรงประตู มันไม่กล้าเข้า มาเพราะมีบทเรียนแล้วว่าจะต้องถูกตี มันนอนรอและส่งสายตาให้ พ่อแซวมันว่า ที อย่างนี้ล่ะแสนรู้นัก แม่ของหวายน�าผักสลัดที่ปลูกมากินด้วย เข้ากันได้รสชาติดี ผักอื่นๆ ล้วนมา จากสวนครัวหลังบ้าน บ้างก็ขอเพื่อนบ้านมา น�้าจิ้มในถ้วยก็เช่นกัน มีเพียงน�้าปลา กับกระเทียมเท่านั้นที่ซื้อ ของหวานวันนี้เป็นเป็นแตงไทยแช่เย็น รสชาติก�าลังหวาน มัน หวายเคยเห็นในทีวี คนเมืองเกิดทีต้องมีเค้กมีเทียน แต่ที่บ้านหวายมีแค่นี้และ ทุกคนก็พอใจ ขอแค่มีกันและกันก็พอแล้ว... ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ก�ำนันท�ำบ่อปลาราว 15 บ่อ ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นปลานิล มีเสริมปลาดุก ปลา สวาย ในบางบ่อ นอกจากนี้ยังเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ และปลูกพืชผักไว้เด็ดกินทั่ว บริเวณ • ที่ดินที่ทำ� บ่อปลาของก�ำนันมีลักษณะเป็นที่อับ น�ำ้ ไม่ถ่ายเท เลี้ยงปลานิลรอบ หนึ่งจะใช้เวลาราว 7 เดือน ผิดกับอีกฟากที่ใช้เวลาเพียง 6 เดือน เพราะเป็น ทางผ่านมีนำ�้ หมุนเวียนผ่านบ่อตลอดเวลา • ก่อนหน้าที่จะเลี้ยงปลานิล ก�ำนันค้าขายวัสดุก่อสร้าง แต่ปัญหาเงินเชื่อท�ำให้ ล้มเลิกไป ต่อมาค้าข้าวก็เกิดปัญหาคล้ายๆ กัน จึงมาลงเอยที่การลองเลี้ยง ปลานิล โดยยึดอาชีพนี้มานานกว่า 10 ปี ปัจจุบันก�ำนันเป็นประธานกลุ่มเลี้ยง ปลานิลเมืองพาน มีการถ่ายทอดความรู้กัน ให้ความช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม ทั้งเรื่องขนส่ง อาหาร ป้องกันการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ตลาดของกลุ่ม อยู่ในเขตภาคเหนือ
ความดีนั้นมีที่อยู่ 91
บทที่ 6 ต้นไม้ของตา
ความคิดถึงยังคงอยู่ ตราบเท่าที่เราท�ำสิ่งดีๆ ให้แก่กัน
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 93
“ประเพณีสู่ขวัญควาย เหลือผู้รู้อยู่ไม่มาก ในหมู่บ้านเหลือจ�ำนวน อยู่เพียงนับนิ้ว เขาใช้ควายเหล็กกันหมดแล้ว แต่ที่นี่ยังใช้ควาย ตามประเพณีที่มีมาแต่โบราณ เพื่อเป็นการขอขมาควาย หลังจาก ใช้แรงงาน เฆี่ยนตี ด่าทอ เป็นการเตือนใจคนให้รู้คุณควาย” – ลุงช่วย สิทธิค�ำ สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ควายพื้นเมือง
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ลูกควาย เจ้าขุนทองวิ่งออกมารับหวายตั้งแต่หน้าบ้าน ทันทีที่เห็นเธอมันระริกระรี้เข้าหา เธอจอดจักรยานไว้ใต้ถุน หยอกล้อกับเจ้าขุนทองครู่หนึ่งก่อนขึ้นไปบนบ้าน เธอพบ พ่ออยู่หน้ากระจกก�าลังหวีผม กลิ่นสบู่หอมลอยมาแตะจมูก “กลับแล้วเหรอลูก” “เจ้า” “พ่อจะไปหาน้าสุนทร หนูจะไปด้วยกันไหม ไปดูลูกควายเกิดใหม่” “ไปๆ” เด็กหญิงวางของลง แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า หวายขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ เธอไม่ได้ไปเยี่ยมน้าสุนทรนานแล้ว พ่อพาเธออกจาก บ้านบวกขอน มุ่งสู่บ้านดงเจริญ หมู่ที่ 9 ที่นั่นเป็นหมู่บ้านที่ยังเลี้ยงควายกันมาก มี การรวมกลุ่มกันขึ้นจัดตั้งเป็นธนาคารควาย น้าสุนทรมีลูกเล็กๆ 2 คน ลูกสาวแก ก�าลังน่ารัก
ความดีนั้นมีที่อยู่ 95
บ้านดงเจริญค่อนข้างร่มรื่น และดูไม่เหมือนหมู่บ้านอื่นๆ ในต�าบลหัวง้ม บรรยากาศดูแตกต่างไป ชาวบ้านที่นี่เลี้ยงควายไว้ย�่านา ไถนา ไม่นานนักพ่อก็พามา ถึงบ้านน้าสุนทร ทันทีที่เห็นพ่อ น้าสุนทรรีบเดินมาต้อนรับ ข้างหลังน้าสุนทรคือลุงช่วย พ่อตา ของน้าสุนทร แกเป็นชายสูงวัยแต่ก็ไม่น่าจะแก่กว่ายายของเธอ หวายสวัสดีผู้ใหญ่ ทั้งสอง แล้วเดินตามเข้าไปในบ้าน ลุงช่วยเป็นที่เคารพนับถือ แกเป็นคนที่สืบทอดประเพณีสู่ขวัญควาย ในหมู่บ้าน เหลือคนที่รู้อยู่เพียงนับนิ้ว ลุงช่วยเคยเล่าฟังว่า เป็นประเพณีโบราณเพื่อขอขมา ควาย หลังจากใช้แรงงาน เฆี่ยนตี ด่าทอ เป็นการเตือนใจคนให้รู้คุณควาย เพราะ เมื่อก่อนบ้านไหนๆ ก็ใช้ควายท�านา ต่างจากปัจจุบันที่เห็นแต่ควายเหล็ก เสียงเจื้อยแจ้วใสดังลอยมาจากอีกด้านหนึ่ง เป็นเสียงของว่าน ลูกสาวตัวน้อย ของน้าสุนทร ชื่อเดียวกันกับว่าน เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่แถวบ้าน ลูกสาวของน้าสุนทร ความดีนั้นมีที่อยู่
คนนี้เล่นอะไรเหมือนเด็กผู้ชาย เด็กน้อยถือกว่างตัวเท่านิ้วหัวแม่มือมาอวด ขนาดเธอ โตกว่าสิบปียังไม่กล้าจับ เธอสังเกตเห็นตามตัวของว่านมีแต่รอยแผลจากการเล่นซน “พ่อพี่บอกว่า มีควายเกิดใหม่ พาไปดูหน่อยสิ” หวายบอกว่าน เด็กน้อยไม่พูดตอบ แต่วิ่งน�าออกไป หวายเดินตามไปที่คอกควายซึ่งอยู่ใต้ถุนของ บ้านอีกหลังหนึ่ง ลูกควายเกิดใหม่ก�าลังน่ารัก ตัวโตกว่าเจ้าขุนทองของเธอไม่มากนัก คนที่นี่เลี้ยงควายมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนปัจจุบันก็ยังเลี้ยงอยู่ เคยมีการรวมกลุ่มกันแล้ว เลิกกันไป จนเมื่อสองปีก่อนกลับมารวมกลุ่มอนุรักษ์ควายพื้นเมืองอีกครั้ง ไม่นานนักพ่อกับน้าสุนทร และลุงช่วยก็ตามสมทบ ลุงช่วยเข้าไปจับลูกควายมา ใกล้ๆ เพื่อให้หวายลองจับดู พ่อถามน้าสุนทรเรื่องกิจการของกลุ่ม หวายได้ยินว่า ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 17 คน มีควายกว่า 50 ตัว รายได้ของกลุ่มมาจากการผลิต ปุ๋ยอินทรีย์จากขี้ควายขาย นอกจากนี้ยังมีการให้เช่าควายไปย�่านา เพื่อเอามูลเอาฉี่ ควายลงนา และมีการปล่อยเช่าควายไปไถนา รายได้เก็บออมเข้ากลุ่ม ว่านเข้าไปจับลูกควาย มันตัวโตกว่าเธอซะอีก ลุงช่วยเกาคางมันอย่างเอ็นดู ก่อน คว้าหลานสาวตัวน้อยขึ้นไปนั่งบนหลัง เด็กน้อยหัวเราะชอบใจ ลุงช่วยกอดอุ้มหลาน สาวด้วยความรัก ชวนให้เธอคิดถึงคุณตาของเธอที่เคยอุ้มเคยกอดด้วยความรัก พลัน เจ้าควายน้อยผละจากทุกคนแล้วเดินกลับไปกินนมแม่ ลุงช่วยยังหยอกเอินหลานสาว และระหว่างที่ทุกคนก�าลังเล่นกับเด็กน้อยแสนซน ก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่น “อ๊ะ ไข่ทองค�า” ลุงช่วยพูด ทุกคนหันไปดู พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างรู้กัน...
ความดีนั้นมีที่อยู่ 97
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • ของที่ใช้ประกอบพิธีหลักๆ ได้แก่ ไก่ต้ม 2 ตัว กล้วย เหล้าหนึ่งไห ข้าวเหนียว สุก ข้าวสวย รวมถึงขนมต่างๆ ส่วนพิธีสู่ขวัญนั้น เจ้าของควายจะน�ำกรวย ดอกไม้ผูกเข้ากับเขาทั้งสองข้างด้วยสายสิญจน์ พร้อมประพรมควายด้วยน�้ำ ขมิ้นส้มป่อย พอเสร็จพิธีก็ยกเอาเครื่องข้าวขวัญไปตั้งกลางทุ่งนาแล้วเอา ตาแหลว เครื่องจักรสาร 8 เหลี่ยมไปปักที่มุมทั้ง 4 มุมของผืนที่นาตนเอง ซึ่ง สืบความเชื่อจากสมัยก่อนว่า ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องภัยต่างๆ ที่จะเข้าสู่นาข้าว นั่นเอง • การรวมกลุ่มช่วยเพิ่มรายได้จากการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากขี้ควาย จากการเช่า ควายไปย�่ำนาราคาคืนละ 200 บาท จากการเช่าไปไถนา เงินที่ได้เก็บออมเข้า บัญชีกลุ่ม นอกจากนี้สมาชิกยังช่วยกันเลี้ยงควาย ถือเป็นการแบ่งเบาภาระ จะเอาควายไปเลี้ยงทีก็ไม่ต้องไปแยกควายใครควายมัน พามารวมกันเสียแล้ว จัดเวรพากันไปเลี้ยงทีละ 2 คน 3 คนว่ากันไป สมาชิกที่เหลือก็จะได้ไปท�ำงาน อื่น ความดีนั้นมีที่อยู่ 99
“การปลูกต้นไม้แด่ผู้วายชนม์นั้นเกิดขึ้น ด้วยต่างเห็นว่า พวงหรีดเมื่อเสร็จงานก็จะกลายเป็นเศษขยะ เลยเกิดความ คิดที่จะมอบต้นไม้แทน ลูกหลานน�ำต้นไม้นั้นไปปลูก ให้ต้นไม้ ต้นนั้นเป็นตัวแทนของผู้ตาย อยู่สร้างร่มเงาอันสงบเย็นให้กับ ลูกหลาน ระลึกถึงคุณงามความดีที่ผู้ตายได้ท�ำไว้ ทั้งยังช่วย ลดขยะ ค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย” – ลาวัลย์ ค�ำแสนยศ ปลัด องค์การบริหารส่วนต�ำบลหัวง้ม
ความดีนั้นมีที่อยู่
>> ต้นไม้ของตา ยายลืมตาตื่นขึ้นก่อนฟ้าสาง บนตัวมีมือของหลานสาวที่นอนหลับอุตุวางอยู่ หญิงชรามองดูหลานสาวด้วยความเอ็นดู แม้จะโตตัวเท่ากันแล้ว แต่อะไรหลายๆ อย่างก็ท�าให้รู้สึกว่า เธอยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยไม่เปลี่ยนแปลง หญิงชราค่อยๆ ยกมือของหวายออกพ้นตัว เกรงว่าหลานจะตื่น แต่เห็นจะ ไม่ทัน เพราะเพียงขยับตัวเล็กน้อย หลานสาวก็ส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ เปิด เปลือกตา สัมผัสไอเย็นและความมืด ภาพของยายค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เธอยิ้มให้ยาย “ยายต้องลุกแล้ว” ยายพูด หญิงชราชันกายยืนขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง หวายขยี้ตา พยายามขจัดความ ง่วงออกไป เธอลุกขึ้นเก็บที่นอน ก่อนออกไปช่วยยายในครัว วันนี้เป็นวันครบรอบ วันตายของตา
ความดีนั้นมีที่อยู่ 101
“หนูช่วยนะจ๊ะยาย” “ยายท�าได้ หนูกลับไปนอนดีกว่า ยังเช้ามากอยู่เลย” เด็กหญิงไม่เชื่อค�า เธอคว้ามีดปอกเปลือกบวบงามที่วางอยู่บนเขียง ยายเห็น เช่นนั้นจึงกลับไปง่วนอยู่การติดเตา ครู่หนึ่งแม่ก็ตามออกมา ทั้งสามมาสมทบกันใน ครัว ต่างคนต่างท�าหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบอกให้ใครท�าอะไร ยายตั้งใจ ท�ากับข้าวคาวหวานที่ตาชอบไปใส่บาตรพระ ทุกคนรู้ว่าตาชอบอะไร ถึงแม้ตาจะ จากไป แต่บางส่วนของตายังอยู่ในใจของทุกคน แตกต่างกันไปตามรายละเอียด หวายยังคิดถึงตา ยิ่งเมื่อคิดถึงเรื่องราวสนุกตอนที่ตายังอยู่ ทั้งน�้าตาทั้งรอยยิ้มก็ ผสมปนเปกันไป ตาจากไปสองปีแล้ว เธออยากให้ตาเห็นว่า สองปีที่ผ่านมาเธอ เติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง เมื่ออาหารแต่ละอย่างเสร็จแล้ว ยายเข้าไปอาบน�้า เจ้าขุนทองตื่นแล้ว ตอนเช้า แบบนี้ แม้แต่เสียงฝีเท้าของมันก็ดังเข้ามาให้ได้ยิน วันนี้ยายจะใช้เวลาไม่ต่างจากวัน ที่ไปโรงเรียน ยายจะผัดแป้งแต่งหน้า สวมชุดขาวสวย ยายจะไปหาตา พ่อตื่นขึ้นมาสมทบเพื่อจะไปที่วัดด้วยกัน วันนี้เป็นวันที่ทุกคนจะไปหาตา เมื่อ
ความดีนั้นมีที่อยู่
เตรียมกับข้าวและข้าวร้อนๆ ใส่ปิ่นโต ทั้งหมดจึงเดินไปที่วัด ไม่มีใครพูดอะไรต่อกัน เท่าไร ประหนึ่งทั้งหมดจมสู่ห้วงความคิด พ่อถือชุดสังฆทานที่รวมเองติดมาด้วย เมื่อมาถึงวัด พระบางรูปยังไม่กลับจาก บิณฑบาต แต่ก็มีส่วนที่กลับมาก่อนแล้ว ทั้งหมดถวายภัตตาหารและเครื่องสังฆทาน ก่อนกรวดน�้าและรับพร เมื่อเสร็จแล้ว ยายถือน�้านั้นออกไปข้างศาลา ใกล้ๆ นั้นมี ต้นไม้สูงเท่าหวาย ยายบรรจงเทน�้าลงไปบนดินที่ห่มคลุมรากของต้นไม้ต้นนั้น นี่คือ ตา ตาก�าลังเติบโตขึ้นใหม่ ที่หัวง้มนั้น เมื่อมีคนตายจะมีการส่งต้นไม้แทนพวงหรีด เพื่อให้ลูกหลานน�า ต้นไม้นั้นไปปลูก ต้นไม้ต้นนั้นจึงเป็นตัวแทนของผู้ตาย อยู่สร้างร่มเงาอันสงบเย็นให้ กับลูกหลาน ทั้งยังช่วยให้ระลึกถึงคุณงามความดีที่ผู้ตายได้ท�าไว้ ที่โรงเรียนของ
ความดีนั้นมีที่อยู่ 103
หวายก็ส่งมอบต้นไม้เวลามีญาติใครเสียชีวิต หวายเห็นน�้าตาไหลลงมาอาบข้างแก้มของยาย เธอก้าวเข้ามาจับมือยาย และ พายายกลับเข้าไปในศาลาวัด ชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกหวาดกลัวจับใจ แม้จะรู้ว่าคนเรา เกิดมาต้องตายแต่ก็ยากที่จะท�าใจ หากใครคนนั้นเป็นคนที่เรารักเหลือเกิน แต่ตราบใดที่เวลานั้นยังมาไม่ถึง เธอจะใช้เวลากับคนที่เธอรักให้มีค่ามากที่สุด...
ความดีนั้นมีที่อยู่
note>> • การปลูกต้นไม้แด่ผู้วายชนม์นั้นเกิดขึ้น ด้วยต่างเห็นพ้องกันว่า พวงหรีดเมื่อ เสร็จงานก็จะกลายเป็นเศษขยะ เลยเกิดความคิดคิดที่จะมอบต้นไม้แทน ลูก หลานน�ำต้นไม้นั้นไปปลูก ให้ต้นไม้ต้นนั้นเป็นตัวแทนของผู้ตาย อยู่สร้างร่มเงา อันสงบเย็นให้กับลูกหลาน ระลึกถึงคุณงามความดีที่ผู้ตายได้ท�ำไว้ ทั้งยังช่วย ลดขยะลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย • อบต.อื่นก็ให้ความสนใจท�ำตามกัน นอกจากนี้ที่โรงเรียนก็น�ำรูปแบบนี้ไปปรับ ใช้
ความดีนั้นมีที่อยู่ 105
สัมภาษณ์ : ผู้ ใหญ่ใจดี ชวนให้ทำ� ดี
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 107
เปิดพื้นที่แสดงพลัง สร้างมิติแห่งความเป็นผู้น�ำ
^ ^
ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (ส�ำนัก 3)
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 109
เราได้รับโจทย์จากผู้ใหญ่ใจดีหลายคนที่ตั้ง ค�าถามถึงแผนสุขภาวะชุมชนว่าจะหนุนเสริม และสร้างฐานพลเมืองเพื่อให้งานเชิงประเด็นที่ ท�าอยู่มีการขับเคลื่อนไปได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น โดยแรงผลักดันที่ท�าให้เลือกเน้นประเด็นการ เรียนรู้ของเด็กเยาวชนเพิ่มขึ้นนั้นมาจากเหตุ 3 ประการ ประการแรก เราสังเกตเห็นว่า เด็กและ เยาวชนในพื้นที่ต่างๆ นั้นถูกจ�ากัดขอบเขต พวก เขาไม่มีพื้นที่แสดงพลังทั้งในเชิงแรงกายและ ความคิดสร้างสรรค์ ประการที่สอง จากการลงพื้นที่เจอเด็กๆ เรา สังเกตว่า พวกเขาได้แต่ท�าตามผู้ใหญ่ หากเรา อยากเห็นเด็กที่เข้ามาบอกว่าอยากท�าสิ่งนี้สิ่งนั้น ซึ่งมิติแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นให้สัมผัสได้ ประการที่สาม ระบบการศึกษาไทยใน ปัจจุบัน ทั้งระดับมัธยมศึกษาไล่ไปจนถึงระดับ อุดมศึกษานั้นไม่เกื้อหนุนให้เยาวชนเหล่านี้ก้าว ขึ้นมาผู้น�าได้ ทั้ง 3 ประการนี้ ท�าให้เห็นว่า เราน่าจะเป็น ก�าลังหนึ่งในการหนุนเสริม ผ่านการพัฒนาชุด ความดีนั้นมีที่อยู่
กิจกรรมให้เด็กสร้างตัวเองขึ้นมาได้ ท่ามกลาง การสนับสนุนของผู้ใหญ่ใจดี โดยใน 10 กว่าปีที่ ผ่านมา เมื่อมีการกระจายการปกครองส่วนท้อง ถิ่น แต่ละที่ละแห่งนั้นมีทั้งงบประมาณ ก�าลัง คน ซึ่งน่าจะเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ พลังเชิงบวก โดยให้พวกเขาคิดและลองปฏิบัติ เพื่อหล่อหลอมพวกเขาให้เป็นผู้เรียนรู้อย่าง แท้จริง การท�าค่ายเยาวชนเป็นการสร้างช่องทางให้ เด็กได้มาใช้เวลาเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างองค์กร ด้านเด็ก โดยเราท�าครั้งแรกในปี 2555 ครั้งนั้น เป้าหมายยังไม่ชัดเจน ให้พวกเขามาท�ากิจกรรม ร่วมกัน เลือกผู้น�า แต่ก็ไม่ได้รู้จักกัน ก็เป็น ปัญหาเรื่องความต่อเนื่อง พอมาในปี 2556 เราพบวิกฤตสังคมไทยว่า ‘ไม่เชื่อมั่นในความดี’ ก็ให้บังเอิญมาเจอต�าบล หัวง้ม ประจวบกับที่ปีนี้แผนสุขภาวะได้ไป สัญญาว่า เราจะสร้างการบูรณาการงานด้านเด็ก และเยาวชนในพื้นที่เครือข่าย ที่เราเรียกว่า การ บูรณาการโดยเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง จึงตั้งใจว่า การ จัดค่ายเยาวชนครั้งต่อไปจะจัดที่นี่ เพื่อเน้นหนัก
เรื่องความดี เพราะที่นี่ได้ท�าให้เห็นว่า ความดี นั้นท�าได้ ความดีนั้นมีที่อยู่จริงๆ ธนาคารความดีเป็นเครื่องมือส�าหรับดูแลผู้ ยากไร้ ที่ผู้คนสามารถท�าความดีเพื่อสะสมเป็น คะแนนความดี แล้วน�ามาแลกสิ่งของต่างๆ มี การมอบทุนให้กับคนที่ต้องการ ทั้งในด้านการ ศึกษา และคุณภาพชีวิต ธนาคารความดีท�า หน้าที่อธิบายให้เห็นว่า ความดีคืออะไร ความดี มีจริงหรือไม่ ท�าดีแล้วได้อะไร ซึ่งเด็กจะได้เรียน รู้การท�าความดี การมีคะแนนสะสมที่อาจจะ แลกเป็นรูปธรรมอย่างสิ่งของ หรือเลือกที่จะรับ การยกย่องผ่านการช่วยเหลือผู้อื่น การหยิบยื่น ให้โดยรู้สึกภูมิใจที่ได้ท�าความดี แน่นอนว่า คนเราไม่ได้ดีทุกคน เรามีด้านที่ ไม่ดี อย่างเด็กเกเรบางคนติดยา แต่เขากลับรัก แม่เขามาก ท�าอย่างไรที่เราจะดึงส่วนดีนี้ออกมา สนับสนุนให้เขามีพื้นที่ได้แสดงพลังนี้ หรือ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือเยาวชนกลุ่ม เบอยีวาของต�าบลมะนังดาล�า อ�าเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี้ เด็กกลุ่มนี้หลายคนเคยเป็นเด็ก ไม่ดี เพราะพวกเขาว่าง ไม่มีอะไรให้ท�าหรือยึด
เหนี่ยว พอนายกอบต. ดึงมาท�างานจิตอาสา ก็ พบว่าสามารถแก้ปัญหาได้ อย่างที่บอก พวกเขา ไม่มีพื้นที่แสดงพลัง โดยในค่ายเยาวชนครั้งนี้ เราจะมีการลงนาม ร่วมกับอปท. ต่างๆ ที่ส่งเด็กเข้ามาร่วมท�า กิจกรรมในค่าย เราสร้างเครื่องมือให้เด็กท�างาน ต่อเนื่อง โดยจ�าลองเอาธนาคารความดีของ ต�าบลหัวง้มเข้ามาใช้ในค่ายเยาวชนครั้งนี้ รวมถึง น�าเอากิจกรรมทางเลือกที่ไม่ได้มีอยู่ในพื้นที่ อย่างเช่น เรื่องพลังงานชุมชนเข้ามา ทั้งยังใช้ พลังของเครือข่าย อย่างการน�าเรื่องสภาเด็ก ซึ่ง เป็นเรื่องเด่นของในหลายต�าบลเข้ามาเป็นส่วน หนึ่ง เพื่อให้เด็กที่มาร่วมได้มีพื้นที่แสดงศักยภาพ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่น สร้างผู้น�าต่อไป ในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งถึงสองปี เราอยากได้ รูปแบบการท�างานขององค์กรด้านเด็ก ได้นัก รณรงค์รุ่นเยาว์ต�าบลละ 3 คน เพื่อเป็นต้นแบบ ให้กับเด็กคนอื่นๆ หรือเด็กที่ก�าลังเติบโตตามมา ได้เห็นและยึดเอาเป็นแบบอย่าง ซึ่งเมื่อถึงเวลา นั้น เราจะมีความพร้อมทั้งทางข้อมูลและ ศักยภาพในการจัดการต่อประเด็นเด็กและ เยาวชนต่อไป ความดีนั้นมีที่อยู่ 111
ให้ชุมชนเคลื่อนไปด้วย ‘ความดี’
^ ^
วินัย เครื่องไชย
นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลหัวง้ม
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 113
“
ธนาคารความดีน้ ีจะท�าหน้าที่ ตอบค�าถามที่ เกิดขึ้นในใจของผู ค้ น ที่ ว่า ‘ความดีคืออะไร ความดีมีจริงหรือไม่ ท�าดีแล้วได้อะไร’ ตรงนี้ชาวบ้านจะได้เห็นเลยว่า เมื่ อท�าความดีซงส่ ึ่ วนใหญ่คือ นามธรรม แต่ที่นี่ เรามีคะแนนให้ สามารถสะสมคะแนนมาแลก เป็ นของ ภายใต้หลักการ ‘ท�าความดีสร้างค่าความเป็ นคน ยาม ขัดสนเราให้แลกเป็ นสิ่งของ
“
ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ช่วงปี 40 เป็นต้นมา หัวง้มเริ่มเปลี่ยนแปลง ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรมสมัยใหม่ เราเริ่มห่างกัน มากขึ้น ไม่ใกล้ชิด ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเหมือน แต่ก่อน วัฒนธรรมดั้งเดิมหล่นหาย ช่วงนั้นเรามี การประชุมทุกวันที่ 7 ของเดือน รวมก�านัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้น�าชุมชน พระสงฆ์ องค์กรการ ศึกษา ก็มีเสียงสะท้อนเข้ามาเรื่อยๆ ถึงการ เปลี่ยนแปลงดังกล่าว ความเป็นจิตอาสาครั้ง หนึ่งเราเคยมี วันนี้หายไป วัฒนธรรมที่เคยมี วัน นี้ไม่คุ้นเคย พระสงฆ์ก็ว่า คนไม่เข้าวัดแล้ว ด้าน ครูก็สะท้อนปัญหาที่มากับค่านิยมใหม่ ทั้งเรื่อง ท้องก่อนวัย และปัญหายาเสพติด ผมเกิดที่นี่ เติบโตที่นี่ พ่อแม่และน้องสาว อาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนนี้ย้ายไปเรียนเชียงใหม่ และ ท�างานที่นั่น เพิ่งกลับมาช่วงปี 2539 ตั้งใจกลับ มาท�าธุรกิจ แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งชาว บ้าน พ่อแม่ ก็ได้เริ่มมาท�างานเพื่อชุมชน โดย เป็นสมาชิกสภาต�าบล พอส่วนกลางกระจาย อ�านาจลงมา เราก็ลงสมัครรับเลือกตั้ง จนได้เป็น นายกองค์การบริหารส่วนต�าบล เมื่อมาท�างาน ความดีนั้นมีที่อยู่
บริหารก็ได้พูดคุย ได้เห็นปัญหาของชุมชนอย่าง ที่กล่าวไว้ ทางแกนน�าจึงรวมตัวกัน เชิญผู้แทนจากทุก ภาคส่วน เพื่อคิดนวัตกรรมทางสังคมให้ตอบ โจทย์ปัญหาโครงสร้างที่ก�าลังเผชิญอยู่ในขณะ นั้น โดยคิดกันไว้หลายนวัตกรรม แต่ก็มาลงเอย ที่ธนาคารความดี ซึ่งจ�าลองรูปแบบจากธนาคาร พาณิชย์ทั่วไป หากแต่แทนเงินด้วยคะแนนความ ดี เพื่อชักจูงให้คนหันมาท�าความดี โดยธนาคาร ความดีนี้จะท�าหน้าที่ตอบค�าถามที่เกิดขึ้นในใจ ของผู้คนที่ว่า ‘ความดีคืออะไร ความดีมีจริงหรือ ไม่ ท�าดีแล้วได้อะไร’ ตรงนี้ชาวบ้านจะได้เห็น เลยว่า เมื่อท�าความดี ซึ่งส่วนใหญ่คือนามธรรม แต่ที่นี่เรามีคะแนนให้ สามารถสะสมคะแนนมา แลกเป็นของ ภายใต้หลักการ ‘ท�าความดีสร้าง ค่าความเป็นคน ยามขัดสนเราให้แลกเป็น สิ่งของ’ จากธนาคารความดีน�าไปสู่การแตกแขนง ต่อยอดไป ด้วยพื้นฐานหลักคือการดึงกลไก ส�าคัญอย่างบ้าน วัด โรงเรียน ให้เข้ามามีส่วน ร่วม มีโครงการแตกยอดแตกกอภายใต้
นวัตกรรมนี้ เช่น ในโรงเรียนก็มีการจ�ำลองรูป แบบธนาคารความดีไปใช้ในโรงเรียน เพื่อให้ เด็กๆ เข้ามามีส่วนร่วม ขณะที่ในวัดก็ได้ความ ร่วมมือจากพระครูของทุกวัดในต�ำบล ส่งเสริม ให้มีกิจกรรมที่อยู่ภายใต้ธนาคารความดี ที่บ้านก็ เช่นกัน อาทิ โครงการชวนพ่อเลิกสุรา หรือ กิจกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การรณรงค์ลด รอบเอว พื้นฐานของธนาคารความดีจะยึดโยงอยู่กับ ศีลห้า ซึ่งเป็นกลไกที่ป้องกันสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ทั้ง เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด การพนัน เพศสัมพันธ์ ก่อนวัย รวมไปถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างคนในชุมชน โดยเวลานี้ ธนาคารความดี ได้กลุ่มผู้น�ำ พระสงฆ์ เด็กและเยาวชนทั้งหมด ส่วนผู้ใหญ่นั้น เราตั้งใจว่าจะเพิ่มสัดส่วนขึ้น
กลไกนี้เปรียบเสมือนการป้องกัน ซึ่งจะไป หนุนเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี คุณภาพ โดยที่หัวง้มนั้น กล้าพูดเลยว่า เราไม่ได้ เน้นให้เขาเป็นคนเก่ง แต่เราเน้นคุณธรรม จริยธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานติดตัว เขาไปในทุกที่ พูดง่ายๆ คืออยากให้เขาเป็นคนดี ซึ่งนวัตกรรมตลอดจนโครงการต่างๆ ที่เราคิดขึ้น ล้วนมาตอบผลลัพธ์ตรงนี้ คือสร้างให้เขาเป็นคน ดี นอกเหนือจากนั้นคือสร้างให้เขารักบ้านเกิด เมื่อก่อนนี้มีมากที่ออกจากบ้านแล้วไม่กลับมา เราอยากให้เขาอยู่ด้วยกันที่นี่ ร่วมสร้างบ้านเกิด ให้อบอุ่น เพราะเด็กและเยาวชนคือฟันเฟืองที่ ส�ำคัญของทุกสังคม ดังนั้น การได้หนุนเสริมและ สร้างให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ จึงถือเป็น พันธกิจหลักที่ทุกสังคมน่าจะท�ำ ไม่จำ� เพาะเพียง แค่หัวง้มเท่านั้น ความดีนั้นมีที่อยู่ 115
สุขที่ได้ท�ำ... ที่ได้เห็นคนมีความสุข พระครูสุจิณกัลยาณธรรม เจ้าอาวาสวัดศรีเมืองมูล
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 117
โรงเรียนผู้สูงอายุถือก�ำเนิดขึ้นในปี 2553 ปัจจุบันมีนักศึกษาราว 200 คน เปิด การเรียนการสอนทุกวันพฤหัสบดี ที่วัดศรีเมืองมูล ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น. ซึ่งแบ่งหลักสูตรการเรียนการสอนออกเป็น 3 ชั้นปี ชั้นปีที่ 1 หลักสูตรชั้นต้น (Basic) เน้นการเรียนการสอนในระดับพื้นฐานทั่วไปเพื่อให้ได้รับความรู้ที่หลาก หลาย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง” ส่วนชั้นปีที่ 2 หลักสูตรชั้นกลาง (Intermediate) เป็นการศึกษาเชิงลึก ประกอบการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง ปฏิบัติได้” และชั้นปีที่ 3 หลักสูตรชั้นสูง (Advanced) เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ ประกอบการศึกษาดูงาน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถน�ำความรู้มาใช้ประโยชน์ต่อ ตนเองและสังคม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “รู้จริง ปฏิบัติได้ ถ่ายทอดเป็น” การเรียนการสอนนั้น ภาคเช้าจะเป็นการสอนใน 3 วิชาหลัก ประกอบด้วยวิชา พระพุทธศาสนา วิชาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ วิชาสังคมและวัฒนธรรม ส่วนภาค บ่ายจะเป็นกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น คหกรรม ภาษาไทย ร�ำวง ภาษา อังกฤษ และเปตอง เป็นต้น นักเรียนทุกคนจะต้องเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะมีสิทธิ์สอบ ต้อง ผ่านกิจกรรมการศึกษา ซึ่งจะได้สิทธิ์ไปศึกษาดูงาน มีมาตรการเช็คชื่อเข้าเรียนผ่าน เครื่องสแกนลายนิ้วมือ โดยเครื่องจะท�ำงานตั้งแต่ 07.00 – 09.15 น. ซึ่ง
ความดีนั้นมีที่อยู่
หมายความว่า นักศึกษาจะมาสายได้ไม่เกิน 15 นาที และเครื่องจะท�ำงานอีกครั้ง เวลา 15.00 น. เพื่อให้สแกนลายนิ้วมือออก ส่วนตัวพระครูนั้น สอนวิชาพระพุทธศาสนา เน้นพุทธประวัติ โดยชั้นปีที่ 1 จะ เรียนวิชาว่าด้วย ‘วันที่ 1 จนถึงวันสุดท้ายของพระพุทธเจ้า’ ส่วนชั้นปีที่ 2 จะเรียน วิชาว่าด้วย ‘10 ชาติสุดท้ายก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า’ ส่วนชั้นปีที่ 3 นั้นจะแตก ต่างไป พระครูจะสอนวิชาว่าด้วย ‘การพูดในที่สาธารณะ’ ที่เลือกแบบนี้เพราะเห็นว่า ผู้สูงอายุเป็นคนที่อยู่กับวัดมาโดยตลอด แต่กลับไม่ เคยรู้ถึงเรื่องราวความเป็นมาของพระพุทธเจ้า ไม่เคยรู้ถึงการบ�ำเพ็ญเพียรในด้าน ต่างๆ มาอย่างยาวนาน ส่วนในปีที่ 3 พระครูอยากให้ผู้สูงอายุพูดต่อหน้าสาธารณะ ได้ เช่น เล่าประวัติความเป็นมาของตัวเอง เล่าวัฒนธรรมประเพณีของหัวง้ม โดยมี กิจกรรมอุ้ยสอนหลานมาเป็นกลไกช่วยขับเคลื่อน กิจกรรมอุ้ยสอนหลานเป็นการหนุนเสริมให้คนสองวัยได้ท�ำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างคนสองรุ่น เช่น อุ้ยสอนหลานท�ำจักสาน ท�ำขนมเทียน การละเล่นพื้นบ้าน ทั้งนี้อุ้ยเองก็ได้เรียนรู้จากเด็กๆ บางคนสอนอุ้ยอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ โดยด�ำเนินการในโรงเรียนป่าแดงวิทยา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กซึ่งตั้ง อยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งตอบเป้าหมายของการเรียนรู้ที่ให้ผู้สูงอายุได้รู้จักการ ประมวลความรู้และน�ำมาใช้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
ความดีนั้นมีที่อยู่ 119
โรงเรียนผู้สูงอายุเปิดมาปีแรกมีนักศึกษา 134 คน เริ่มต้นหลายคนไม่เห็นด้วย แต่พอผ่านไปได้เพียง 1 เดือน กลับได้รับการยอมรับ เพราะผู้สูงอายุสนุก ได้เพื่อน มีการโทรไปวิทยุชุมชน 104.5 MHz เพื่อขอเพลงให้กัน แต่กระนั้นใน 134 คนนี้ พอขึ้นชั้นปี 2 ก็ลดลงเกือบครึ่งด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป จากวันเริ่มต้นถึงวันนี้ นับได้ 4 ปี แต่กลับยังไม่มีนักศึกษาคนใดส�ำเร็จการศึกษา ด้วยปีที่แล้ว นักเรียนชั้นปีที่ 3 ซึ่งจะต้องส�ำเร็จการศึกษาในปีที่แล้วประท้วง น�ำโดย ‘อุ้ยฟอง ธรรมชัย’ อายุ 86 ปี อุ้ยจับไมค์พูดปลุกระดมหน้าห้อง ขอให้ทุกคนสอบ ตกทั้งชั้น เพื่อที่จะได้เรียนต่ออีก พระครูจึงต้องเปิดเป็นมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ เพื่อ ให้อุ้ยทั้งหมดได้ศึกษาต่อ โดยเน้นการเรียนการสอนว่าด้วย ‘การถอดบทเรียนชีวิต’ เท่ากับว่ามีชั้นปีที่ 4 เกิดขึ้น ที่ท�ำมาได้ถึงทุกวันนี้ เพราะพระครูรักชุมชน อยากท�ำให้ชุมชน เมื่อก่อน ประชาชนในต�ำบลหัวง้มมีโรคซึมเศร้า หลายรายลงเอยด้วยการฆ่าตัวตาย แต่มีราย หนึ่งซึ่งท�ำให้พระครูรู้สึกสะเทือนใจ ด้วยว่าเขาคนนั้น เป็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง แตกต่างจากคนที่แล้วๆ มา ซึ่งมีปัญหายากจน แก้ปัญหาไม่ตก โรคซึมเศร้าจึง เหมือนภัยร้ายที่เรามองไม่เห็น
ความดีนั้นมีที่อยู่
แรงบันดาลใจอีกอย่างหนึ่งคือพระครูเห็นผู้สูงอายุประสบความยากล�ำบากใน การใช้ชีวิต ทั้งจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่เป็นกันมากก็เบาหวาน ความดัน กับโรคพิเศษอีก โรคคือ โรคจน พระครูไม่อยากเห็นคนเหล่านี้ทุกข์ยาก พวกเขาเตือนให้นึกถึงพ่อแม่ ลูกก็ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องทุกข์ยาก ซึ่งพระครูมองว่า ความไม่ทุกข์ยากไม่ได้ขึ้นกับ ทรัพย์สินเงินทอง แต่มันมาจากข้างใน อาตมาอยากให้ผู้สูงอายุมีความมั่นใจที่จะอยู่ พระครูรักที่จะช่วยเหลือผู้อื่น อยากเห็นคนอื่นมีความสุข ผลตอบแทนที่ได้รับ อยู่ในรูปของความสุข จากการที่ได้เห็นคนอื่นๆ มีความสุข สิ่งที่พระครูทำ� ทั้งหมด ไม่มีอะไรสูญเปล่า ครั้งหนึ่ง ต�ำบลหัวง้มนั้นไม่ได้เป็น เหมือนดังห้วง้มในวันนี้ มีความขัดแย้งสูงในหมู่คนท�ำงาน บทบาทของอาตมาก็ยัง ไม่ได้รับการยอมรับ ด้วยถูกตั้งค�ำถามถึงบทบาทพระต้องอยู่ในวัด แต่อาตมาก็ อาศัยความจริงใจ มุ่งหวังเพียงอย่างเดียวคือให้หัวง้มพัฒนา ไม่มีความขัดแย้งหรือ ทะเลาะกัน จากต�ำบลยอดแย่ในวันนั้น วันนี้หัวง้มดีพอที่จะเป็นต�ำบลยอดเยี่ยมได้ อยู่บ้าง
ความดีนั้นมีที่อยู่ 121
วัฒนธรรมต่าง แต่หัวใจเดียวกัน
^ ^
เทสส์ แมคคราวด์
อาสาสมัครพัฒนาชุมชน
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 123
เราเป็นชาวอเมริกันที่เข้าร่วมโครงการอาสาสมัครหน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกา ซึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาล สหรัฐอเมริกา ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจ�ำประเทศไทยได้ร่วมลงนามในข้อ ตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านอาสาสมัครอเมริกัน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2504 โดยหน่วยสันติภาพสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มส่งอาสาสมัครกลุ่มแรกเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2505 เพื่อช่วยปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานราชการของไทยในสาขาการศึกษา ภาษาอังกฤษ หรืออาสาสมัครพัฒนาชุมชน โดยเราเลือกท�ำอย่างหลัง ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาที่หัวง้ม ต้องเข้าร่วมอบรมเพื่อเรียนรู้ภาษาไทยเบื้องต้น ตลอดจนวัฒนธรรมไทยที่จังหวัดสิงห์บุรีเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อน ลงสู่พื้นที่จริง ท่ามกลางวัฒนธรรมที่มีความแตกต่าง จึงอดรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกไม่ ได้ เพราะไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมอง เรามีเจตนาที่ดี อยากเข้ามาช่วยเหลือ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ไม่นานก็เริ่มปรับ ตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ และเริ่มศึกษาบริบทของพื้นที่ที่ เข้ามาอาศัย โดยมี อบต.หัวง้ม คอยมอบหมายงานให้ กระทั่งมีครูจากโรงเรียนป่าแดงวิทยามาชักชวนให้ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นโอกาสให้เธอได้ทำ� งานและใช้ชีวิตร่วม กับเด็ก ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมกับโครงการอาสาสมัครฯ เคยเป็นอาสาสมัครด้านสิ่งแวดล้อม
ความดีนั้นมีที่อยู่
เรารักในชีวิตของสัตว์ป่า นั่นท�ำให้เลือกรับประทานมังสวิรัติ เพราะไม่ต้องการท�ำลาย ชีวิตเหล่านั้น นับจากวันนั้นถึงวันนี้ ได้สอนที่โรงเรียนป่าแดงวิทยามาเป็นเวลา 3 เทอมแล้ว เป็นการดีที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเด็กๆ และประสบการณ์เหล่านั้น ก็ช่วยให้ตัดสินใจและ เลือกทางเดินบนถนนการศึกษา โดยสนใจเรียนต่อเพื่อที่จะเป็นครู พัฒนาบ้านเกิดของ ตัวเองต่อไป คนทั่วไปอาจคิดว่า สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านการศึกษาตลอด จนบุคลากรอยู่แล้ว แต่จริงๆ ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะยังคงมีจุดบกพร่องที่เป็นปัญหารอการ แก้ไข ตอนนี้เหลือเวลาอยู่ที่นี่อีกราว 6 เดือน ก่อนเดินทางกลับประเทศ ก็ตั้งใจสืบต่อ งานที่ตัวเองเริ่มไว้ให้ดีที่สุด โดยนอกจากสอนภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีชมรมที่ท�ำร่วมกับ เด็กๆ ทั้งชมรมรักการอ่าน และชมรมพัฒนาความเป็นผู้น�ำ ต้องยอมรับว่า เราได้รับอะไรมากมายจากการมาเป็นอาสาสมัครที่นี่ บางทีอาจ มากกว่าที่เราให้ด้วย การได้มาใช้ชีวิตที่นี่ ท�ำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ แลกเปลี่ยน วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ได้เห็นว่ายังมีชุมชนที่คนพร้อมจะช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งถือ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่สัมผัสได้จากการมาอยู่ที่นี่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 125
ความดีนั้นมีที่อยู่
Gallery ความดีนั้นมีที่อยู่ 127
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 129
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 131
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 133
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 135
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 137
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 139
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 141
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 143
ความดีนั้นมีที่อยู่
ความดีนั้นมีที่อยู่ 145