โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร ผูจัดทํา
สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กองประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 60/1 ซอยพิบลู วัฒนา 7 ถนนพระรามที่ 6 พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท 0 2265 6562 โทรสาร 0 2265 6562
ผูศึกษา
บริษัท เทสโก จํากัด โทรศัพท 0 2258 1320 โทรสาร 0 2258 1313 , 0 2261 4511
การอางอิง
สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 2550. การติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้าํ บางปะกง กรุงเทพฯ. 40 หนา
คําสืบคน
ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี
พิมพเมื่อ
กรกฎาคม 2551
จํานวนพิมพ
100 เลม
จํานวนหนา
40 หนา
ผูพิมพ
บริษัท สามารถ กอปป จํากัด โทรศัพท 0 2691 6852-3 , 0 2691 6858 โทรสาร 0 2691 6859
สงวนลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 โดย สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม พ.ศ.2551
คํานํา ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี เปนลุมน้ําหลักที่สําคัญในภาคตะวันออกของประเทศไทย เนื่องจากมี การใชทรัพยากรเกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ สงผลใหทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมและ กอใหเกิดปญหาสิ่งแวดลอมตั้งแตพื้ นที่ตนน้ําจนถึ งพื้นที่ ทายน้ํา ซึ่งหลายภาคสวนได รวมกันแกไขปญหา ดังกลาว ในสวนของภาครัฐ คณะรัฐมนตรีไดมีมติเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2548 มอบหมายใหหนวยงาน ที่เกี่ยวของดําเนินงานเพื่อปองกันและแกไขปญหามลพิษทางน้ําในแมน้ําบางปะกงอยางตอเนื่อง โดยให สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม จัดทํายุทธศาสตรดานสิ่งแวดลอมเพื่อ พัฒนาลุมน้ําบางปะกง รวมทั้ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมไดมีนโยบายเรงดวน และให ความสําคัญในการแกไขปญหาในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีเปนอันดับแรก โดยมีการบูรณาการแผนงาน และโครงการของหนวยงานภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม และหนวยงานที่เกี่ยวของ เพื่อจัดทําแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ ปงบประมาณ 2551- 2554 ขึน้ ซึ่งในสวนการดําเนินงานของสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในปงบประมาณ 2549 ได จั ด ทํ า กรอบยุ ท ธศาสตร ก ารบริ ห ารจั ด การและฟ น ฟู นิ เ วศลุ ม น้ํ า บางปะกงอย า งบู ร ณาการ ปงบประมาณ 2550 ดําเนินการประสานและผลักดันการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ตามแผนยุทธศาสตรฯ และจัดทําระบบติดตามประเมินผลการดําเนินงานการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศ ลุมน้ําบางปะกง และในปงบประมาณ 2551 ไดจัดทําโครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล อมในระบบนิ เวศของลุ ม น้ําบางปะกง เพื่อติดตามและประเมินผลการเปลี่ ยนแปลงของ สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี โดยประยุกตใชระบบ ติดตามประเมินผลที่ไดจัดทําขึ้น ทั้งนี้ การดําเนินงานเพื่อติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงของ สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจําเปนที่จะตองมีการดําเนินงานอยางตอเนื่องและสอดคลองกับ แผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําฯ ที่ภาครัฐไดมีการจัดสรรงบประมาณในการบริหารจัดการเพื่อ แกไขปญหาของลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ทั้งนี้ เพื่อใหไดระบบและฐานขอมูลที่ตอเนื่องและเปนปจจุบัน ซึ่งจะสะทอนสถานการณที่แทจริงในพื้นที่ และจําเปนตองพัฒนาศักยภาพของภาคสวนในพื้นที่ ใหมีบทบาท ในการใชประโยชน ติดตามและประเมินผลดวยตนเอง ทําใหสามารถวิเคราะหปญหาและอุปสรรคในการ ดําเนินการตามแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีแบบบูรณาการดังกลาว รวมทั้ง ใหขอเสนอแนะในการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีแบบบูรณาการ เพื่อนําไปสูการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําใหมีความตอเนื่องและยั่งยืนตอไป สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กรกฎาคม 2551
สารบัญ รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร เรื่อง 1. 2.
3. 4.
5.
หนา ความนํา สรุปสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพืน้ ที่ลุมน้าํ บางปะกง-ปราจีนบุรี 2.1 สรุปขอมูลพื้นฐานของลุม น้าํ 2.2 สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ผลจากการดําเนินงานตามแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้าํ บางปะกงแบบบูรณาการ แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศลุมน้ํา 4.1 การเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมและประเด็นที่ควรพิจารณา 4.2 ขอเสนอแนวทางและแผนงานในการอนุรักษและฟน ฟูทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมในรายนิเวศ ระบบติดตามประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพืน้ ที่ ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี
1 3 3 6 11 22 22 25 29
สารบัญรูป รูปที่ 2-1 2-2 5-1
หนา สภาพภูมิประเทศและขอบเขตลุมน้ําของพืน้ ที่ศึกษา แสดงพื้นที่ลุมน้ําสาขาในพืน้ ที่ลุมน้าํ บางปะกง-ปราจีนบุรี ผังโครงสรางและองคประกอบของระบบติดตามประเมินผลโครงการฯ
-I-
4 5 31
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร 1.
ความนํา
ภาคตะวันออกของประเทศไทย มีลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีเปนลุมน้ําหลักที่สําคัญ ซึ่งมีความ หลากหลายของทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ ม และมี ความสํ า คั ญ ในการเป น ฐานการผลิ ตทาง การเกษตร ปจจุบันมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงโครงสรางเศรษฐกิจและสังคมจากภาคเกษตรกรรม สูภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ทําใหมีการใชที่ดินเพื่อสรางโรงงานอุตสาหกรรม เสนทางคมนาคมขนสง ชุมชน และที่อยูอาศัย เปนตน จากการพัฒนาอยางกาวกระโดดและรวดเร็วที่ผานมา ทําใหเกิดสภาพการใชทรัพยากร ในการผลิตเกินขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ สงผลใหทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมและหมดไป กอใหเกิดปญหาสิ่งแวดลอมขึ้นมากมาย ตั้งแตพื้นที่ตนน้ําจนถึงพื้นที่ทายน้ํา อาทิเชน การสูญเสียพื้นที่ปาไม ที่ทําใหขาดสมดุลในลุมน้ํา ขาดแคลนน้ําและคุณภาพน้ําเสื่อมโทรม การปนเปอนในดิน ชุมชนเมืองขยายตัว อยางรวดเร็วอยางขาดการควบคุมใหเปนไปตามผังเมืองที่เหมาะสม กอใหเกิดปญหาขาดแคลนพื้นที่สีเขียว ขาดความพรอมในการขยายระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ การ เพิ่มขึ้นและตกคางปริมาณขยะและของเสียอันตรายจากชุมชนและอุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตรกรรม เสื่อมคุณภาพและถูกทิ้งราง แหลงสิ่งแวดลอมธรรมชาติและศิลปกรรมถูกบุกรุกทําลายอยูในสภาพทรุดโทรม นอกจากนี้ ยังมีปญหาการรุกตัวของน้ําเค็มเขาไปในแมน้ําบางปะกง แมน้ําปราจีนบุรี และแมน้ํานครนายก พื้นที่ปาชายเลนลดลง รวมทั้งปญหาความขัดแยงในการใชประโยชนที่ดินในลุมน้ํา เปนตน จากปญหาความเสื่อมโทรมและขาดความสมดุลของระบบนิเวศของลุมน้ําดังกลาว กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจึงไดมีนโยบายอยางเรงดวน และใหความสําคัญในการแกไขปญหาใน พื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีเปนพื้นที่นํารอง โดยมีการบูรณาการแผนงานและโครงการของหนวยงาน ภายในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม และหนวยงานที่เกี่ยวของ เพื่อจัดทําแผนการบริหาร จัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการขึ้น ตั้งแตปงบประมาณ 2550 ทั้งนี้ ในสวนของสํานักงาน นโยบายและแผนทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ มได ดํ า เนิ น งานในโครงการประสานการจั ด การ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง เพื่อประสานและผลักดันการบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม รวมทั้งจัดทําระบบติดตามและประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ดังนั้น เพื่อใหการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีในอนาคตมีความเหมาะสม และสอดคลองกับสถานการณที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถนําไปสูการปฏิบัติไดอยางมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึง จํ า เป น ต อ งมี ก ารติ ด ตามและประเมิ น ผลการเปลี่ ย นแปลงของสถานภาพทรั พ ยากรธรรมชาติ และ -1-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
สิ่งแวดลอมในระบบนิเวศลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี โดยประยุกตใชระบบติดตามประเมินผลที่สํานักงานฯ ไดจัดขึ้นในปงบประมาณ 2550 เพื่อวิเคราะหปญหาและอุปสรรคในการดําเนินการตามแผนการบริหาร จัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการดังกลาว และใหขอเสนอแนะในการปรับปรุงแผนการ บริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ เพื่อนําไปสูการปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการ และพัฒนาลุมน้ําอยางตอเนื่อง เกิดประสิทธิผลและยั่งยืน ทั้งนี้ ระบบติดตามประเมินผลดังกลาวจะเปน เครื่องมือและกลไกที่สามารถเชื่อมโยงการดําเนินงาน ทั้งหนวยงานสวนกลางและทองถิน่ ใหเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีตอไป สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ภายใตการกํากับโครงการโดย กองประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดมอบหมายให บริษัท เทสโก จํากัด โดยไดรับ ความรวมมือสนับสนุนทางวิชาการจากคณะวนศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร รวมกันดําเนินงาน โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศลุมน้ําบางปะกง ตามสัญญาเลขที่ 72/2551 ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2550 มีระยะเวลาดําเนินการทั้งสิ้น 210 วัน วัตถุประสงคของโครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง มีดังนี้ 1. ติดตามและประเมินผลการเปลี่ยนแปลงสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใน ระบบนิเวศลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ที่เกิดขึ้นจากการดําเนินการตามแผนการบริหารจัดการและพัฒนา ลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ 2. ปรับปรุงระบบการติดตามและประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีใหเกิดประสิทธิภาพ โดยมีกลไกและเครื่องมือสําหรับหนวยงานที่เกี่ยวของ ทั้งสวนกลางและทองถิ่น สามารถนําไปปรับปรุงการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ํา เปาหมายในการดําเนินงานใหบรรลุผลสัมฤทธิ์ ประกอบดวย 1. มีขอมูลและรายงานสถานภาพการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบ นิเวศลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี 2. มีระบบการติดตามและประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในลุมน้ํา บางปะกง-ปราจีนบุรี ที่สามารถเชื่อมโยงระหวางหนวยงาน ทั้งสวนกลาง สวนภูมิภาค และเครือขายตางๆ ในพื้นที่ลุมน้ําได -2-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
2.
สรุปสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี
2.1
สรุปขอมูลพื้นฐานของลุมน้ํา
พื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี เปนลุมน้ําหลักที่สําคัญของภาคตะวันออก มีพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 18,853.27 ตารางกิโลเมตร หรือ 11,783,293.75 ไร สวนใหญอยูในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี สระแกว และบางสวนในจังหวัดสระบุรี จันทบุรี นครราชสีมา และปทุมธานี (ครอบคลุม พื้นที่บางสวนใน 320 ตําบล ของ 52 อําเภอ ตามเขตการปกครอง) แบงออกเปนลุมน้ําหลักและลุมน้ําสาขา (ขอบเขตลุมน้ําสาขาตามการแบงของกรมทรัพยากรน้ํา, 2551 และขอมูลพื้นที่วิเคราะหจากฐานขอมูล สารสนเทศภูมิศาสตร, 2551) ดังนี้ • ลุมน้ําบางปะกง 8,891.74 ตารางกิโลเมตร แบงเปน 4 ลุม น้ํา สาขา ประกอบดวย ลุมน้ํา สาขาแมน้ํานครนายก ลุมน้ําสาขาคลองทาลาด ลุมน้ําสาขาคลองหลวง และลุมน้ําสาขาที่ราบ แมน้ําบางปะกง • ลุมน้ําปราจีนบุรี 9,961.53 ตารางกิโลเมตร แบงเปน 4 ลุมน้ําสาขา ประกอบดวย ลุมน้ําสาขา คลองพระสะทึง ลุมน้ําสาขาแมน้ําพระปรง ลุมน้ําสาขาแมน้ําหนุมาน และลุมน้ําสาขาแมน้ํา ปราจีนบุรีตอนลาง สภาพภู มิ ประเทศของพื้ นที่ ลุ มน้ํ าบางปะกง-ปราจี นบุ รี เป นที่ ราบลุ มริ มฝ งแม น้ํ าเป นส วนใหญ บางสวนปกคลุมดวยปาไม ดานทิศเหนือมีทิวสันกําแพงซึ่งเปนแนวแบงเขตภาคตะวันออก ภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีที่ราบลุมในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดนครนายก เหมาะกับการปลูกขาว สวนทิศใต มีเทือกเขาบรรทัดเปนแนวแบงพรมแดนไทยและกัมพูชา และมีเทือกเขาจันทบุรีอยูทางใตสุด ลุมน้ํา บางปะกง-ปราจีนบุรี มีทิศทางการไหลของทางน้ําธรรมชาติสายหลักจากทิศเหนือและทิศตะวันออกมาทาง ทิศตะวันตกผานที่ราบตอนลางบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา และออกสูทะเลอาวไทยที่อําเภอบางปะกง จังหวัด ฉะเชิงเทรา
-3-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
2.2
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม นิเวศปาไม :
• นิเวศป าไม ของพื้นที่ศึกษา ประกอบไปดวยพื้ นที่บางสวนของปาอนุ รักษ ที่ ประกาศเป น อุทยานแหงชาติ 4 แหง และเขตรักษาพันธุสัตวปา 3 แหง รวมพื้นที่ 3,912.96 ตารางกิโลเมตร ประกอบดวย พื้นที่บางสวนของอุทยานแหงชาติเขาใหญ อุทยานแหงชาติทับลาน อุทยานแหงชาติปางสีดา อุทยานแหงชาติ น้ําตกสามหลั่น เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาสอยดาว และเขตรักษาพันธุ สัตวปาเขาเขียว-เขาชมภู (อุทยานแหงชาติเขาใหญ อุทยานแหงชาติปางสีดา อุทยานแหงชาติทับลานเปน สวนหนึ่งของกลุมผืนปามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ และเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน เขตรักษาพันธุ สัตวปาเขาสอยดาว เปนสวนหนึ่งของกลุมผืนปารอยตอ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) ซึ่งเปนพื้นที่สําคัญทาง นิเวศวิทยา) • การจําแนกเขตการใชประโยชนทรัพยากรและที่ดินปาไม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 และ 17 มีนาคม พ.ศ.2535 ลุม น้ําบางปะกง-ปราจีนบุ รี มีพื้นที่ปาสงวนแหงชาติรวม 3,027.72 ตาราง กิโลเมตร จําแนกเปนพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษ (โซน C) รวม 1,128.73 ตารางกิโลเมตร ปาเพื่อเศรษฐกิจ (โซน E) 1,759.19 ตารางกิโลเมตร และเขตปาที่เหมาะสมตอการเกษตรกรรม (โซน A) 139.80 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมี เฉพาะในลุมน้ําบางปะกง คิดเปนรอยละ 5.99, 9.33 และ 0.74 ของพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ตามลําดับ • พื้นที่ที่ไดกําหนดชั้นคุณภาพลุมน้ําเปนชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งควรสงวนไวเปนแหลงตนน้ําลําธาร แทจริงของลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี รวม 2,363.39 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 12.54 ของพืน้ ทีล่ มุ น้าํ ประกอบดวย ชั้นคุณภาพลุมน้ํา 1A, 1B และ 2 เปนพื้นที่ 1,488.89 ตารางกิโลเมตร 56.58 ตารางกิโลเมตร และ 817.92 ตารางกิโลเมตร ตามลําดับ • พื้นที่ปาอนุรักษทั้ง 7 แหง เฉพาะสวนที่อยูในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีสภาพปาที่มี สภาพสมบูรณอยูในป พ.ศ.2550 รวม 3,638.48 ตารางกิโลเมตร คิดเปนรอยละ 92.93 ของพื้นที่ปาอนุรักษ ที่อยูในทั้ง 2 ลุมน้ํา โดยมีแนวโนมไดรับการฟนฟูความอุดมสมบูรณมากขึ้นกวาในอดีต (ในป พ.ศ.2545 สภาพปาที่มีสภาพสมบูรณมีพื้นที่ 3,607.28 ตารางกิโลเมตร คิดเปนรอยละ 92.19 ของพื้นที่ปาอนุรกั ษทอี่ ยู ในทั้ง 2 ลุมน้ํา) • ในป พ.ศ.2550 พื้ น ที่ ตน น้ํ า ลํ า ธารได รั บ การฟน ฟู ทํ า ให พื้ น ที่ ป า ไม ฟ น ตั ว มี พื้ น ที่ ร วม 2,324.26 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 98.34 ของพื้นที่ตนน้ําทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อประเมินการเพิ่มขึ้น ของพื้นที่ปาไมในชวง 5 ป พบวา ในพื้นที่ตนน้ําลําธารมีพื้นที่ปาไมเพิ่มขึ้น คิดเปนรอยละ 5.11 ของป พ.ศ.2545
-6-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• พื้นที่ปาที่มี ศักยภาพและเปนเปาหมายในการผนวกเขากับพื้ นที่ปาอนุรักษ ประกอบดว ย อุทยานแหงชาติเขาใหญ 46,034.10 ไร อุทยานแหงชาติปางสีดา 3,500.00 ไร อุทยานแหงชาติทับลาน 88,962.57 ไร อุทยานแหงชาติน้ําตกสามหลั่น 20,590.50 ไร เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาเขียว-เขาชมภู 6,223.50 ไร และเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน 14,000.00 ไร นิเวศเกษตรกรรม : • นิเวศเกษตรกรรม ในป พ.ศ.2550 ประกอบไปดวย การใชที่ดินทางการเกษตรที่สําคัญ ไดแก ที่นา 4,060 ตารางกิโลเมตร พืชไร 3,899 ตารางกิโลเมตร ไมผล 790 ตารางกิโลเมตร ไมยืนตน 1,966 ตารางกิโลเมตร เพาะเลี้ยงสัตวน้ํา 714 ตารางกิโลเมตร ปศุสัตว 129 ตารางกิโลเมตร • คุณสมบัติของดินในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีพื้นที่ที่มีปญหาในการทําการเกษตร ประกอบดวย พื้นที่ดินที่เปนกรดจัด 6,054.55 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 32.11 พื้นที่ดินเค็ม 1,261.78 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 6.69 ดินตื้นและดินปนกรวด 6,899.54 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 36.60 ดินที่ลาดชันสูง 3,276.08 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 17.38 ดินมีการชะลางพังทลายระดับ รุนแรงถึงรุนแรงมากที่สุด 68.57 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเปนรอยละ 0.36 ของพื้นที่ลุมน้ํารวมทั้งหมด • ปริมาณน้ําทารายปเฉลี่ยทั้งหมดประมาณ 8,654 ลานลูกบาศกเมตรตอป ในขณะที่สามารถ เก็บกัก ไวใชไดจากแหลงเก็บกักน้ําทุกขนาดที่มีอยูในปจจุบัน และที่กําลังทําการกอสรางแลวเสร็จรวม ประมาณ 740 ลานลูกบาศกเมตรตอป หรือคิดเปนคาเฉลี่ยรอยละ 9.3 (ไมนับรวมปริมาตรเก็บกักทีเ่ กิดขึน้ จาก การบริหารจัดการเขื่อนทดน้ําบางปะกง) ซึ่งแสดงใหเห็นวาเปนลุมน้ําที่มีความเปราะบางในแงของการ บริหารจัดการน้ํา โดยจะตองพึ่งพาแหลงน้ําตนทุนจากลุมน้ําอื่น ในกรณีที่ลําน้ําธรรมชาติเกิดการขาดแคลน ทั้งนี้เนื่องจากไมมีแหลงน้ําสํารองในพื้นที่อยางเพียงพอ • ในปจจุ บั นพื้ นที่ ชลประทานในลุ มน้ํ าปราจี น บุรี มี พื้น ที่ ร วมทั้ ง สิ้ น 626,477 ไร และใน อนาคตมีศักยภาพในการขยายพื้นที่ 936,487 ไร สวนลุมน้ําบางปะกงมีพื้นที่ชลประทานรวม 1,449,158 ไร มีศักยภาพในการขยายพื้นที่ในอนาคตเปน 1,575,738 ไร นิเวศแหลงน้ํา : • นิเวศแหลงน้ํา มีทางน้ําหลักที่สําคัญ 3 สาย ไดแก แมน้ํานครนายก แมน้ําปราจีนบุรี และ มาบรรจบกันเปนแมน้ําบางปะกง มีลําน้ําธรรมชาติสายรองที่สําคัญเชื่อมตอเปนโครงขายจากทางน้ําหลัก ประกอบดวย แมน้ํานครนายก 105 สาย แมน้ําปราจีนบุรี 162 สาย และแมน้ําบางปะกง 48 สาย (ขอมูล จากรายงานการศึก ษาโครงการบริห ารจัด การคุณ ภาพน้ํา ในลุม น้ํ า บางปะกง ลุม น้ํา ปราจีน บุรี ลุ ม น้ํ า นครนายก และลุมน้ําโตนเลสาป, 2549) -7-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• แนวโน ม คุ ณ ภาพน้ํ า ผิ ว ดิ น จากผลการติ ด ตามตรวจสอบคุ ณ ภาพน้ํ า ที่ ผ า นมาพบว า คุณภาพน้ําของทั้งลําน้ําสายหลัก และลําน้ําสาขาในภาพรวมอยูในระดับต่ํากวามาตรฐานที่กําหนดมา ตั้งแตป พ.ศ.2546 และจนถึงปจจุบัน ยังไมมีแนวโนมดีขึ้น คุณภาพน้ําแมนํ้าบางปะกงตลอดสาย ตั้งแต บริเวณปากแมน้ําบางปะกง ถึงบริเวณสะพานบางขนาก อําเภอบางน้ําเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา คุณภาพน้ํา สวนใหญจัดอยูในแหลงน้ําประเภทที่ 3-5 โดยมีดัชนีบงชี้ ไดแก ออกซิเจนละลายน้ํา และบีโอดี ในบาง บริเวณพบโลหะหลัก ประเภทตะกั่ว แคดเมี่ยม และสังกะสี สูงเกินมาตรฐานคุณภาพน้ําแหลงน้ําผิวดินบริเวณ ปากน้ําบางปะกง อําเภอบานโพธิ์ อําเภอเมือง อําเภอบางคลา และอําเภอบางน้ําเปรี้ยว คุณภาพน้ําใน แมน้ําปราจีนบุรี จัดอยูในเกณฑเสื่อมโทรมถึงเสื่อมโทรมมาก ประเภทที่ 4-5 โดยมีดัชนีบงชี้ คือ บีโอดี แบคทีเรีย กลุมโคลิฟอรม และฟคัลโคลิฟอรม สําหรับดัชนีบงชี้วาในเกณฑเสื่อมโทรมมาก คือ แอมโมเนีย ไนเตรท แมงกานีส สังกะสี โครเมี่ยม นิเกิล และแคดเมี่ยม และคุณภาพน้ําในแมน้ํานครนายก โดยรวมจัด อยูในเกณฑเสื่อมโทรมมาก คุณภาพตลอดสายจัดอยูในประเภทที่ 2-5 ดัชนีบงชี้ ไดแก บีโอดี แอมโมเนีย ออกซิเจนละลายน้ํา ไนเตรท นิเกิล และแมงกานีส นิเวศเมืองและชุมชน : • ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีชุมชนเมือง (เทศบาล) มีจํานวนทั้งสิ้น 56 เทศบาล ในป พ.ศ.2550 รวมพื้นที่ชุมชนเมืองทั้งสิ้น 551.37 ตารางกิโลเมตร คิดเปนรอยละ 2.92 ของพื้นที่ลุมน้ํา • ในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีอัตราการเกิดขยะมูลฝอยชุมชนเฉลี่ย 5.22 กิโลกรัม/คน/วัน • ในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีสถานที่กําจัดขยะชุมชนที่ถูกหลักสุขาภิบาลเพียง 4 แหง ไดแก เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เทศบาลตําบลบางคลา เทศบาลตําบลพนัสนิคม และเทศบาลเมืองบานบึง • ประเด็นปญหาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน พบวา สาเหตุของปญหาการจัดการขยะมูลฝอย ชุมชนในพื้นที่มาจากหลายๆ สาเหตุ ไดแก ปริมาณขยะมูลฝอยและของเสีย ไมมีสถานที่กําจัดขยะมูลฝอยใน พื้นที่ของตัวเอง ระบบการกําจัดขยะมูลฝอยไมมีประสิทธิภาพ บุคลากร/เครื่องจักร อุปกรณไมเพียงพอ งบประมาณมีจํากัด ใชวิธีกําจัดที่ไมถูกตองตามหลักวิชาการ หรือขาดความรวมมือจากประชาชน เปนตน • แหลงกําเนิดมลพิษในพื้นที่ชุมชน ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีปริมาณน้ําเสียรวม 56 ลานลูกบาศกเมตรตอป ภาระบรรทุกบีโอดี 6.0 ลานกิโลกรัมบีโอดี/ป และภาระบรรทุกทีเคเอ็นจากชุมชน 1.1 ลานกิโลกรัมบีโอดี/ป และในการคาดประมาณในป พ.ศ.2567 พบวา พื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี จะมีปริมาณน้ําเสียรวม 106 ลานลูกบาศกเมตรตอป ภาระบรรทุกบีโอดี 11.4 ลานกิโลกรัมบีโอดี/ป และภาระ บรรทุกทีเคเอ็นจากชุมชน 2.1 ลานกิโลกรัม บีโอดี/ป ตามลําดับ
-8-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• ปญหาน้ําเสียที่เกิดขึ้นในลุมน้ําบางปะกงกวารอยละ 70 เปนปริมาณน้ําเสียที่ถูกระบายลงแมน้ํา ลําคลองเกิดจากชุมชน และอีกรอยละ 30 เปนน้ําเสียที่ถูกปลอยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมตางๆ ซึ่ง ความหนาแนนของประชากร จํานวนโรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนสารเคมีตกคางจากภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น ลวนแตเปนสาเหตุหลักของปญหาน้ําเสีย นอกเหนือจากการขาดจิตสํานึกของประชาชน และผูประกอบการ ในการระบายน้ําทิ้งที่ไมผานการบําบัดลงสูแหลงน้ําสาธารณะ โดยเฉพาะอยางยิ่งเทศบาลเมือง ซึ่งเปนชุมชน ขนาดใหญที่อยูบริเวณริมน้ํา มีการระบายน้ําทิ้งโดยปลอยใหไหลไปตามธรรมชาติจากพื้นดินลงสูรองน้ํา ตางๆ จนถึงลําหวยและลงสูแมน้ํา • ระบบบําบัดน้ําเสียรวมที่มีอยูในปจจุบัน มีเพียงเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา (เปนระบบคลอง วนเวียน) และเทศบาลตําบลพนัสนิคม (เปนระบบบอผึ่ง) เทานั้น นิเวศอุตสาหกรรม : • ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ประกอบดวย พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 3 แหง สวนอุตสาหกรรม 2 แหง เขตประกอบการอุตสาหกรรม 1 แหง เปนพื้นที่ 157.43 ตารางกิโลเมตร และมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ กระจายตัวอยูในพื้นที่ลุมน้ํา 5,039 แหง • ในป พ.ศ.2550 โรงงานอุตสาหกรรมประเภทตางๆ ในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีโรงงาน อุตสาหกรรมทั้งสิ้น 5,039 แหง สวนใหญเปนโรงงานประเภทที่ 3 รวมทั้งสิ้น 4,260 แหง คิดเปนรอยละ 84.54 ของโรงงานทั้งหมดที่มีอยูในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี รองลงมา ไดแก โรงงานประเภท 1 จํานวน 394 แหง คิดเปนรอยละ 7.82 และโรงงานประเภท 2 จํานวน 385 แหง คิดเปนรอยละ 7.64 ตามลําดับ • พื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ประกอบดวย นิคมอุตสาหกรรม จํานวน 3 แหง ไดแก นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย ซิตี้ และนิคม อุตสาหกรรมอมตะนคร เขตประกอบอุตสาหกรรม 1 แหง ไดแก เขตอุตสาหกรรมกบินทรบุรี และสวน อุตสาหกรรม 2 แหง ไดแก สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน กบินทรบุรี และเขตอุตสาหกรรม 304 อินดัสเทรียล ปารค • ปญหาการพัฒนาอุตสาหกรรมของพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีเปนผลจากการพัฒนา พื้นที่ชายฝงทะเลตะวันออก ทําใหมีการขยายตัวดานอุตสาหกรรม โดยมีการลงทุนเขามามากขึ้นและหลาย ประเภท ซึ่งจากการวางแผนเตรียมพื้นที่รองรับยังไมดีพอ ทําใหอุตสาหกรรมกระจัดกระจายอยูในพื้นที่ ตางๆ อย างไม เป นระเบีย บ ยากต อการควบคุมการตั้ งถิ่นฐานและการรัก ษาคุณภาพสิ่ งแวดลอม การ ขยายตั ว ทางด า นอุ ต สาหกรรม โดยขาดการควบคุ ม และบริ ห ารจั ด การที่ เ หมาะสม ทํ า ให เ กิ ด ป ญ หา ทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดลอมเสื่อมโทรม ทั้งในดานน้ําเสีย ขยะมูลฝอย มลภาวะทางอากาศ และเสียง ตลอดจนสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม -9-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• พื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญทุกแหงในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี สามารถ ปฏิบัติตามมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดลอม ตามที่ไดเสนอไวในรายงานวิเคราะหผลกระทบสิ่งแวดลอม สวนผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดลอมในดานคุณภาพอากาศ ระดับเสียงโดยทั่วไป คุณภาพน้ํา และสุขภาพอนามัย พบวา สวนใหญมีคาอยูในเกณฑมาตรฐานของทางราชการ ในกรณีที่พบผลการติดตาม ตรวจสอบที่ไมเปนไปตามมาตรฐานที่กําหนดนั้น ไดมีความพยายามปรับปรุงแกไขเพื่อใหการดําเนินงาน สงผลกระทบตอสิ่งแวดลอมนอยที่สุด นิเวศชายฝงทะเล : • แนวโนมของปญหาความเสื่อมโทรมของปาชายเลน มีแนวโนมในทางที่ดีขึ้น เนื่องจาก ปจจุบัน มีหนวยงานตางๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ไดใหความสนใจและตระหนักถึงความสําคัญของปาชายเลน มากขึ้ น โดยมี ก ารปลู ก ป า ทดแทน และมีก ารสรา งจิต สํา นึ ก ในการอนุรั ก ษ และฟน ฟูปา ชายเลนให กั บ ประชาชนโดยเฉพาะประชาชนในทองถิ่น และใหเขามามีสวนรวมในการจัดการปาชายเลนมากยิ่งขึ้น • การปลูกปาชายเลน โดยสถานีทรัพยากรปาชายเลนที่ 5 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง ใหความสําคัญกับปาชายเลนที่เหลืออยูอยางมาก และยังมีการแกไขปญหาโดยมุงเนนการเพิ่มพื้นที่ปาชายเลน อยางชัดเจน มีโครงการปลูกเสริมปาชายเลนทั้งในพื้นที่ปาเดิมเพื่อทําใหมีความอุดมสมบูรณกลับคืนมา และ ปลูกเพิ่มพื้นที่ปาชายเลนในพื้นที่งอกที่มีความเหมาะสม ซึ่งตั้งแตป พ.ศ.2545 เปนตนมา ไดมีการดําเนินงาน ปลูกปาไปแลวประมาณ 980 ไร • คุ ณ ภาพน้ํ า ทะเลชายฝ ง อยู ในสภาพเสื่อ มโทรม เนื่อ งจากไดรั บ น้ํ า ทิ้ ง และน้ํ า เสี ย จาก แหลงกําเนิดตางๆ ซึ่งยังคงทําใหคุณภาพน้ําทะเลต่ํากวาคามาตรฐานคุณภาพน้ําในพารามิเตอรที่เกี่ยวกับ สารอาหาร ได แ ก ฟอสเฟต-ฟอสฟอรั ส และไนเตรท-ไนโตรเจน พบว า มี ค า เกิ น กว า มาตรฐานฯ ทุ ก ป เนื่องจากบริเวณพื้นที่ชายฝงแมน้ําบางปะกงมีการใชประโยชนในดานการเพาะเลี้ยงสัตวน้ําชายฝง นอกจากนี้ บริเวณริมน้ํายั งเป นที่ตั้งของชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งเปนแหลง ที่ทําการประกอบอาชีพ ทางการเกษตร โดยเฉพาะการเลี้ยงสุกร และมีการทิ้งของเสียลงสูแหลงน้ําโดยตรงสงผลใหคุณภาพน้ําในแมน้ํา บางปะกงเสื่อมโทรมลง น้ําเสียที่ปลอยลงมาจะเปนอันตรายตอสัตวน้ํา โดยเฉพาะสัตวน้ําวัยออน นอกจาก น้ําเสียไหลลงสูแมน้ําและไหลลงสูปากแมน้ําจะมีปริมาณสารอาหารพัดพามาดวย โดยเฉพาะน้ําเสียที่มาจาก การเกษตรและปศุสัตว ซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของแพลงกตอนพืช ทําใหแพลงกตอนพืชเพิ่มจํานวนขึ้น เปนอยางมากและอยางรวดเร็วหรือที่เรียกวา ปรากฏการณน้ําเปลี่ยนสี (Red Tide) ซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณ ปากแมน้ําบางปะกงอยูเปนประจํา ในขณะที่ปริมาณโลหะหนักมาจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับ โลหะที่ตั้งอยูริมแมน้ําบางปะกง มีคาเกินกวาที่กําหนดไวในมาตรฐานเปนอยางมากในบางป ไดแก เหล็ก และแมงกานีส -10-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• ตั้งแตป พ.ศ.2538-2550 การเลี้ยงปลาในกระชังในแมน้ําบางปะกงมีแนวโนมเพิ่มขึ้นทุกป โดยในป พ.ศ.2538 มีการเลี้ยงปลาในกระชัง 111 ราย มีพื้นรวมประมาณ 9 ไร โดยมีแนวโนมเพิ่มขึ้นทุกป ในป พ.ศ.2550 มีผูเพาะเลี้ยงปลาในกระชังรวมทั้งหมดประมาณ 195 ราย และมีพื้นที่รวม 42 ไร พื้นที่เลี้ยง ปลากระชังในชวงป พ.ศ.2549 จนถึงปจจุบัน ไมเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจรวมถึงปญหาคุณภาพน้ํา ที่ไมเหมาะสม • บริเ วณปากแม น้ํา บางปะกงนี้ เ ป น แหลง อาหารที่สํา คั ญ แหล ง หนึ่ ง ของโลมา และเป น บริเวณที่พบวามีโลมาเขามาหาอาหารอยูเปนประจํา โดยโลมาจะอพยพเขามาในบริเวณปากแมน้ําบางปะกง แทบทุกปในราวเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ ซึ่งโลมาที่พบในบริเวณนี้ ไดแก โลมาอิระวดี หรือ โลมาหัวบาตร (Sousa chinensis) โลมาเผือกหรือโลมาหลังโหนก (Creacella brevirostris) และโลมาหัวบาตร หลังเรียบ (Neophocoena phoenoides) ทําใหบริเวณปากแมน้ําบางปะกงกลายเปนแหลงทองเที่ยวที่สําคัญ แหงหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา (สําหรับโลมาหัวบาตรนั้น จัดอยูในสถานะใกลสูญพันธุ ตาม Red List ของ IUCN และอยูในบัญชี 1 ของอนุสัญญาวาดวยการคาระหวางประเทศชนิดสัตวปาและพืชปาที่ใกลสูญพันธุ (CITES) ที่หามมิใหมีการซื้อขายระหวางประเทศเด็ดขาด ยกเวนเพื่อการวิจัยทางวิชาการ) • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง (2550) รายงานวา ในอดีตมีโลมาเขามาหาอาหาร ใกลฝงบริเวณปากแมน้ําบางปะกงและมีอยูอยางชุกชุมนับรอยตัว ในชวงป พ.ศ.2545 แตปจจุบันมีจํานวน นอยลง และพบอยูไกลจากฝงมากขึ้น เนื่องจากอาหารของโลมา เชน ปลาดุกทะเล ปลากระบอก ปลากุเลา เปนตน มีนอยลง จากการพบในการพานักทองเที่ยวชมโลมา คาดการณจํานวนโลมาในปจจุบันนาจะมี จํานวนประมาณ 50 ตัว และสวนใหญจะพบวันละ 5-10 ตัว โอกาสพบโลมา อยูในชวงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ (หนาหนาว) และชวงเชากอนเวลา 09.00 น. โดยจุดที่พบประมาณ 2 จุด ไดแก บริเวณ ปากอาว และบริเวณแปลงหอย
3.
ผลจากการดําเนินงานตามแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบ บูรณาการ
การดําเนินงานตามแผนงานในโครงการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการใน ปงบประมาณ 2550 ดวยงบประมาณ 215.42 ลานบาท ภายใตการดําเนินงานของหนวยงานตางๆ ที่ได สรุปผลสัมฤทธิ์ของโครงการรายแผนงานดังกลาวไปแลวนั้น ประกอบกับกิจกรรมนํารองในโครงการบริหาร จัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกงและกิจกรรมสนับสนุนการอนุรักษและฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม ในโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในลุมน้ําบางปะกงที่ดําเนินการตอเนื่อง นํามาประมวลผลสัมฤทธิ์จากการดําเนินงานของแผนงานและกิจกรรมในชวง 2-3 ปที่ผานมาที่มีตอการ เปลี่ยนแปลงสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม และวิถีชีวิตของคนในลุมน้ําในพื้นที่ที่เกี่ยวของ ในรายนิเวศ ไดดังนี้ -11-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
นิเวศปาไม : ในชวงที่ผานมาในการดําเนินการแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ สําหรับนิเวศปาไม ไดใหความสําคัญในดานการอนุรักษและฟนฟูพื้นที่ปาอนุรักษ และการฟนฟูพื้นที่ตนน้ํา ลํ า ธารทั้ ง ในพื้ น ที่ ลุ ม น้ํ า บางปะกง-ปราจี น บุ รี เนื่ อ งจาก สภาพเชิ ง นิ เ วศและอุ ท กวิ ท ยาของลุ ม น้ํ า ที่ มี ลักษณะเฉพาะคือลุมน้ําปราจีนบุรีเปนเสมือนพื้นที่ตนน้ําของลุมน้ําบางปะกง มีหนวยงานที่ดําเนินงานหลัก ไดแก กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปาและพันธุพืช ที่ดูแลในดานการจัดการพื้นที่ปาอนุรักษที่อยูในพื้นที่ลุมน้ํา ใหคงความอุดมสมบูรณ การจัดทําฝายตนน้ําตามแนวพระราชดําริ รวมทั้งความพยายามในการฟนฟูพื้นที่ปา ใกลเคียงเพื่อผนวกเขากับพื้นที่ปาอนุรักษ กรมทรัพยากรน้ําไดดําเนินการฟนฟูพื้นที่ตนน้ําลําธารดวยการ จัดทําฝายตนน้ํา ซึ่งชวยสรางความชุมชื้นใหกับดินและสรางความสมบูรณใหกับปาตนน้ํา ในสวนของ กิจกรรมนํารองของสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดใหความสําคัญ เฉพาะบางบริเวณ โดยมีพื้นที่ที่ดําเนินการตอเนื่อง ไดแก การฟนฟูพื้นที่เขตรักษาพันธุส ตั วปา เขาอางฤๅไนที่ ดําเนินการตอเนื่องมาทั้งสองป เปนกิจกรรมทั้งการฟนฟูและสนับสนุนการผนวกพื้นที่ปา และกิจกรรมฟนฟู ความเหมาะสมของแหลงที่อยูและแหลงอาหารสัตวปา รวมทั้งกิจกรรมการมีสวนรวมในการผนวกผืนปา นอกจากนี้ ไดมีการดําเนินการในพื้นที่โดยรอบอุทยานแหงชาติเขาใหญในการสงเสริมการนําปาเสื่อมโทรม มาจัดทําเปนสถานเรียนรูธรรมชาติโดยความรวมมือกับสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม จังหวัดนครนายก กิจกรรมเหลานี้ นอกจากการมีสวนในการฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติแลว ยังมีสวนในการ สรางความรวมมือระหวางหนวยงาน องคกร และประชาชนในทองถิ่นใหเขามามีสวนรวมในการดูแลรักษา ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่รวมกัน โดยสรุปการดําเนินงานแผนงานและกิจกรรมตางๆ ที่บูรณาการลงสูพื้นที่ ลุมน้ําในนิเวศปาไมไดดังนี้ การฟนฟูความอุดมสมบูรณของพื้นที่ปาไมที่เปนแหลงตนน้ําลําธาร • การฟนฟูพื้นที่ตนน้ําลําธาร ภายใตแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบ บูรณาการ ในป พ.ศ.2550 ดําเนินการโดยกรมอุทยานแหงชาติ สัตวปาและพันธุพืช จัดทําเปนฝายตนน้ํา แบบผสมผสาน 1,460 แหง แลวเสร็จทั้งหมด ในพื้นที่ตนน้ําเสื่อมโทรม ซึ่งจะสรางความชุมชื้นของดิน เพิ่มขึ้น ชะลอการไหลและลดความรุนแรงของน้ํา ทําใหเกิดความหลากหลายทางชีวภาพของผืนปาตนน้ํา ลําธาร ชวยลดการชะลางพังทลายของตะกอนดินลงสูพื้นที่ทายน้ํา และชวยเก็บกักน้ําไวใชในชวงหลัง ทั้ง สําหรับมนุษยและสัตวปา ผลการดําเนินงานในลุมน้ําสาขาแมน้ําหนุมาน 280 แหง ลุมน้ําสาขาคลองทาลาด 400 แหง และลุมน้ําสาขาแมน้ําปราจีนบุรีตอนลาง 780 แหง ใชงบประมาณทั้งสิ้น 7.3 ลานบาท ประเมินวา สามารถสรางความชุมชื้นใหผืนปากวา 14,600 ไร • กรมทรัพยากรน้ําได ดําเนินการจัดทําฝายตนน้ํารวม 27 แหง บริเวณตนน้ําสาขาลําพระยาธาร ตําบลบุพราหมณ อําเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี และฝายตนน้ําลําน้ําสาขาคลองทาลาด ตําบลทาตะเกียบ อําเภอทาตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา สรางความชุมชื้นใหกับผืนปากวา 270 ไร -12-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
การเพิ่มพื้นที่ปาไม • กิจกรรมการดําเนินการจัดทําแนวถนนลอมรอบแนวเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน และปลูกปา ในป พ.ศ.2549 ในโครงการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง ของสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม มีสวนในการฟนฟูเขตปาสงวน และไดพื้นที่ปาเพื่อเตรียมการผนวกเพิ่มเติม 100 ไร บริเวณ ตําบลทากระดาน อําเภอสนามชัยเขต ปจจุบันไดมีการรังวัดและปกหมุดแลว โดยไดรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก บริษัท โตโยตามอเตอร ประเทศไทย จํากัด ปลูกปาเพิ่มเติมอีก 331 ไร และในป พ.ศ.2551 เขตรักษาพันธุ สั ต ว ป า เขาอ า งฤๅไนกํ า หนดแผนในการจั ด ทํ า แนวเขตต อ เนื่ อ งจากที่ สํ า นั ก งานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใหการสนับสนุนไวในป พ.ศ.2549 (5 กิโลเมตร) โดยเตรียมกลาไม เปนตน ถอย 200,000 ตน ซึ่งจะสามารถไดพื้นที่ปาคืนมาเพื่อผนวกเปนเขตรักษาพันธุสัตวปาเพิ่มเติม โดยเขตรักษาพันธุ สัตวปาเขาอางฤๅไน ไดนําเขาสูการดําเนินการตามกฎหมายแลวในปจจุบัน • ศักยภาพการผนวกผืนปาของพื้นที่ปาอนุรักษ การดําเนินงาน ทบทวนและศึกษาขอมูลที่ผานมา พบวาในพื้นที่ปาอนุรักษที่สําคัญหลายแหง มีการดําเนินการเพื่อรวบรวมและฟนฟูพื้นที่ปาทั้งที่สมบูรณอยู และฟนฟูปาเสื่อมโทรมที่อยูใกลเคียง เพื่อนํามาผนวกเปนผืนปาอนุรักษ ทั้งที่อุทยานแหงชาติเขาใหญที่มี เปา หมายการผนวกผืน ปากวา 46,034 ไร อุทยานแหง ชาติน้ํา ตกสามหลั่น ที่มีพื้น ที่เ ปา หมาย 318 ไร เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไนที่มีเปาหมายกวา 37,975 ไร ซึ่งทําใหเห็นไดวาพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีศักยภาพในการเพิ่มพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษ ซึ่งควรมีการสนับสนุนผลักดันโดยหนวยงานองคกรและผูที่มี สวนเกี่ยวของ เพื่อเปนชองทางหนึ่งในการอนุรักษและฟนฟูทรัพยากรปาไมและสัตวปาของประเทศ การฟนฟูศักยภาพในการเปนแหลงอาศัยและแหลงอาหารของสัตวปา • ในดานการฟนฟูแหลงอาหารสัตวปา ซึ่งสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมไดใหการสนับสนุน ภายใตโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพื้นที่ ลุมน้ําบางปะกง ป พ.ศ.2550 บริเวณปาทุงหนองคาย หมูที่ 5 ตําบลคลองตะเกรา อําเภอทาตะเกียบ จังหวัด ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 60 ไร จากการติดตามประเมินผลพบวา ปจจุบันแปลงทุงหญาที่จัดทําไวมีรองรอยสัตว เขามาใชประโยชนเปนจํานวนมาก เชน เกง กวาง ชาง และปจจุบันทางเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน จะมีการขยายผลนําวิธีการที่ใชนี้ขยายพื้นที่ทุงหญาราว 15,000 ไร บริเวณคลองหิน สําหรับบอน้ํา ในชวงปแรก พบวา น้ําจะแหงจนเกือบหมด แตในชวงปที่ 2 และ 3 เริ่มมีน้ําคงตัวในบอ และพบรอยเทาสัตวบริเวณริมอาง เปนจํานวนมาก แสดงวาสามารถเปนแหลงเอื้อตอการดํารงชีวิตของสัตวปาได
-13-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ • ในการศึกษาโครงการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง ในป พ.ศ.2549 ไดมีการนําเสนอไว ในยุทธศาสตรการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ําบางปะกงใหพื้นที่ปาอนุรักษทุกแหงควรมีการจัดทํา แผนแมบทการบริหารจัดการ ซึ่งครอบคลุมทั้งการจําแนกเขตพื้นที่ที่เหมาะสมตอทรัพยากรธรรมชาติ ความ เปราะบางเชิงนิเวศและการใชประโยชนภายใตขีดความสามารถในการรองรับ รวมทั้งแนวทางการดําเนินการ และแผนปฏิบัติการเพื่อสรางความชัดเจนในการบริหารจัดการพื้นที่ปาอนุรักษ ซึ่งในสถานะปจจุบัน พบวา พื้นที่ปาอนุรักษที่เปนอุทยานแหงชาติทั้ง 4 แหง ลวนมีการจัดทําแผนแมบทในการบริหารจัดการแลวเสร็จ ซึ่งมีการวิเคราะหและกําหนดแผนการบริหารจัดการที่ชัดเจนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และศึกษาระยะยาว ครอบคลุมในดานตางๆ ซึ่งสวนใหญกําหนดใหเปนไปในทิศทางเดียวกัน ไดแก การจัดการอนุรักษและฟนฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม การสงเสริมดานการเรียนรูและการวิจัยทางธรรมชาติ การสงเสริมดาน การทองเที่ยวและนันทนาการ การเสริมสรางและพัฒนากระบวนการมีสวนรวมของชุมชนและหนวยงาน ตางๆ ที่เกี่ยวของ และการพัฒนาระบบบริหารจัดการอนุรักษแหงชาติที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ • กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปาและพันธุพืช ไดดําเนินการวางแผนงานดานการจัดการพื้นที่กลุมปา ดงพญาเย็น-เขาใหญ โดยใชแผนการจัดการรวมแบบบูรณาการ คือ ไมมีแยกพื้นที่อุทยานแหงชาติหรือ เขตรักษาพันธุสัตวปาออกจากกัน และจะตองมีการจัดตั้งองคกรบริหารและสนับสนุนงบประมาณพรอมทํา การทบทวนแผนการดําเนินงานอยางตอเนื่องทุกป ภายใตภารกิจที่วา “รักษาระบบนิเวศของผืนปาดงพญาเย็นเขาใหญ ไวอยางยั่งยืน ควบคูกับการบริหารจัดการดานแหลงนันทนาการ ศึกษาวิจัย เผยแพรความรู และ การมีสวนรวม” การสรางความเขมแข็งของกระบวนการมีสวนรวม • ความตระหนักและจิตสํานึกการอนุรักษของคนในทองถิ่น พื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มี พื้นที่ปาอนุรักษที่สําคัญรวมทั้งสิ้น 7 แหง เปนอุทยานแหงชาติ 4 แหง และเขตรักษาพันธุสัตวปา 3 แหง ซึ่ง สวนใหญจัดเปนพื้นที่ปาอนุรักษที่มีความสําคัญในลําดับตนๆ ของประเทศ เชน อุทยานแหงชาติเขาใหญ อุทยานแหงชาติทับลาน อุทยานแหงชาติปางสีดา ซึ่งอยูในสถานภาพการไดรับขึ้นทะเบียนเปนมรดกโลก ทางธรรมชาติของโลกดวย รวมทั้งเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน ซึ่งถือเปนแหลงสงวนชีวมณฑลที่ สําคัญที่สุดแหงหนึ่งของโลก จากสถานะที่เปนพื้นที่ที่มีคุณคาสูงทางระบบนิเวศมีทรัพยากรปาไม สัตวปา และความหลากหลายทางชีวภาพสูง เปนถิ่นที่อยูอาศัยของชนิดพันธุที่ใกลสูญพันธุหลายชนิด ทําใหทิศทาง ในการบริหารจัดการไดรับกระแสการอนุรักษโดยมีความรวมมือสูงจากทุกภาคสวนที่เกี่ยวของ รวมทั้งราษฎร ในทองถิ่นโดยรอบที่มีความตระหนักและการมีสวนรวมในการดูแลรักษาพื้นที่ปาไมมากขึ้นจากในอดีต -14-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
อีกสาเหตุหนึ่งนาจะมาจากกระแสการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในชวงระยะหลังนี้ ที่มี สวนทําใหมีแรงกระตุนและสรางจิตสํานึกจากหนวยงานและองคกรที่เกี่ยวของอยางตอเนื่อง ทําใหราษฎร เห็นความสําคัญในการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเปนฐานการดํารงชีวิตและประกอบอาชีพอยางยั่งยืน นอกจากนี้ กระแสการทองเที่ยวเชิงนิเวศ ที่มีความนิยมและไดรับการสงเสริมอยางมากในชวงเวลาไมกี่ปมานี้ ที่ทําใหทองถิ่นไดรับประโยชนจากกิจกรรมการทองเที่ยว โดยการสรางสินคาและบริการสําหรับผูมาเยี่ยมเยือน ตลอดจนการพัฒนาแหลงทองเที่ยวเพื่อเปนโครงขายการทองเที่ยวที่สงเสริมเศรษฐกิจชุมชนไดอีกทางหนึ่ง โดยจะเห็นไดจากการเกิดกลุม ชมรมอนุรักษขึ้นในพื้นที่ชุมชนใกลผืนปาอนุรักษทุกแหง รวมทั้งการเขามา มีสวนรวมในกิจกรรมการเฝาระวัง ดูแลผืนปาอนุรักษในทุกพื้นที่ • ความรวมมือและสนับสนุนในกิจกรรมการอนุรักษ พื้นที่ปาอนุรักษในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีการจัดตั้งกลุมองคกร ชมรม ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ในการรวมกลุมมาสนับสนุนกิจกรรมการ อนุรักษ ทั้งจากสวนกลางและสวนทองถิ่น ซึ่งทําใหเกิดศักยภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ปาอนุรักษเพิ่มขึ้นจาก ในอดีต ซึ่งการดูแลผืนปากวางใหญแตมักมีขอจํากัดในดานบุคลากรและงบประมาณ องคกรที่มีสวนสําคัญ ในการอนุรักษ นอกจากกลุมองคกรดังกลาวยังพบวามีภาครัฐและภาคเอกชนที่เขามาใหการสนับสนุน กิจกรรมในการอนุรักษและฟนฟูพื้นที่ปาในดานการสนับสนุนทางวิชาการ ทางงบประมาณ เชน สํานักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมที่ดําเนินกิจกรรมฟนฟูพื้นที่ปาไมและแหลงอาหารสัตวปา ในเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน กรมสงเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอมที่มีกิจกรรมการสรางจิตสํานึกและ สิ่งแวดลอมแหลงทองเที่ยวที่อุทยานแหงชาติเขาใหญ วัดโสธรวรารามราชวิหารและมูลนิธิโตโยตา ที่มอบทุน สนับสนุนตอเนื่องในการฟนคืนสภาพปาไมในเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไนเปนระยะเวลา 5 ป เปนตน จากความรวมมือและสนับสนุนในกิจกรรมการอนุรักษเหลานี้แสดงใหเห็นถึงทิศทางและแนวโนมในการ อนุรักษที่จะไดรับความสนับสนุนในดานงบประมาณ ซึ่งจะเปนกลไกสําคัญผลักดันกิจกรรมการอนุรักษและ ฟนฟูทรัพยากรปาไมและสัตวปา ใหมีความอุดมสมบูรณอยางยั่งยืนตอไป นิเวศเกษตรกรรม : การดําเนินงานในการฟนฟูพื้นที่เกษตรกรรมที่สงผลตอการเปลี่ยนแปลงในนิเวศเกษตรกรรม สวนใหญ เปนภารกิจของหนวยงานภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณเปนหลัก ชวงการดําเนินงานแผนการบริหาร จัดการและพัฒ นาลุม น้ําบางปะกงแบบบู รณาการ เฉพาะในส วนของการบูรณาการในหน ว ยงานของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม มีการดําเนินการโดยสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม และกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งใหความสําคัญกับการสงเสริมแนวทางการทําการเกษตรอยาง ยั่งยืน และการจัดการมลพิษของภาคการผลิตทางการเกษตร ซึ่งสวนใหญเปนการดําเนินการในพื้นที่นํารอง สรุปไดดังนี้ -15-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดสนับสนุนจัดตั้งศูนยสาธิต และเผยแพรการทําปุยอินทรียของชุมชนบานบอนกลาง จังหวัดนครนายก ภายใตโครงการบริหารจัดการ นิเวศลุมน้ําบางปะกง ป พ.ศ.2549 ปจจุบัน ไดรับการคัดเลือกใหเปนสินคา OTOP นอกจากนี้ ยังไดรับการ สนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองคกรชุมชนใหเปนศูนยเผยแพรเกษตรอินทรียในภาคตะวันออก ที่มีสวนชวย ในการเผยแพรการทําเกษตรกรรมแบบยั่งยืนเพื่อสงผลถึงความยั่งยืนของนิเวศเกษตรกรรมในลุมน้ําดวย • กรมควบคุ ม มลพิษ ได ดํา เนิ น งานโครงการจัดการน้ํ า เสี ย ฟารม สุก ร ซึ่ง เปนการเสริ มสรา ง ศักยภาพการจัดการของเสีย น้ําเสีย และฟนฟูประสิทธิภาพการบําบัดน้าํ เสียฟารมสุกรในพืน้ ทีล่ มุ น้าํ บางปะกง ในป พ.ศ.2550 ประกอบดวย การจัดทําทําฐานขอมูลฟารมสุกร และดําเนินการประเมินสถานภาพและ ประสิทธิภาพของฟารมสุกรที่เขารวมโครงการกับปศุสัตว จํานวน 218 ราย และฟนฟูระบบบําบัดน้ําเสีย ฟารมสุกร จํานวน 55 ราย พรอมทั้งติดตามประเมินผลประสิทธิภาพระบบบําบัดน้ําเสียฟารมสุกรที่รับการฟนฟู ประสิทธิภาพ ตอมาในป พ.ศ.2551 ไดจัดการอบรมผูประกอบการฟารมสุกร จํานวน 56 ฟารม พรอมทั้งมี กิจกรรมฟารมสุกรสีเขียวขึ้นในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง ซึ่งจะเปนจุดเริ่มเพื่อสานตอและขยายผลของการทํา ฟารมสุกรอยางเปนมิตรตอสิ่งแวดลอมในลุมน้ํา • ใน ป พ.ศ.2550 กรมควบคุมมลพิษไดดําเนินการเสริมสรางศักยภาพการจัดการน้ําทิ้งจากการ เพาะเลี้ ย งสั ต ว น้ํ า อย า งต อ เนื่ อ งการเสริ ม สร า งศั ก ยภาพการจั ด การน้ํ า ทิ้ ง จากการเพาะเลี้ ย งสั ต ว นํ้ า ประกอบดวย การจัดทําฐานขอมูล และมีการประเมินสถานการณการเพาะเลี้ยงสัตวน้ําและเสริมสราง ความรูความเขาใจในการจัดการน้ําทิ้งจากบอเพาะเลี้ยง โดยมีการจัดกิจกรรมการสัมมนาสรางความรูความ เขาใจและเสวนาเกษตรกรกลุมยอย ตลอดจนการจัดทําสื่อประชาสัมพันธเผยแพรขอมูลตางๆ ตอมาในป พ.ศ.2551 การจัดเสริมสรางศักยภาพการจัดการน้ําทิ้งจากการเพาะเลี้ยงสัตวน้ํา โดยมีการจัดทําฐานขอมูล บอเพาะเลี้ยงสัตวน้ํา การสัมมนาเรื่อง “เพาะเลี้ยงลดมลพิษ เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม ในชวงเดือนมีนาคมเมษายน พ.ศ.2551 และจัดทํามาตรการในการจัดระบบพื้นที่การเลี้ยงปลาและจํานวนการเลี้ยงปลาในกระชัง • กรมควบคุมมลพิษ ไดจัดการเสริมสรางความรูความเขาใจในการลดมลพิษจากนาขาวในพื้นที่ ลุมน้ําบางปะกง โดยจัดการอบรมใหกับกลุมชาวนาในวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2551 ณ องคการบริหารสวนตําบล เนินหอม จังหวัดปราจีนบุรี นิเวศแหลงน้าํ : การเปลี่ยนแปลงในนิเวศแหลงน้ําชวงการดําเนินงาน แผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกง แบบบูรณาการ แบงการดําเนินงานออกไดเปนสองสวนใหญๆ คือ การบริหารจัดการดานปริมาณน้ํา และ การฟนฟูคุณภาพน้ํา โดยในสวนของการบริหารจัดการแหลงน้ํา มีหนวยงานรับผิดชอบหลัก ไดแก กรม ทรัพยากรน้ํา ทั้งในดานการจัดหาและพัฒนาแหลงน้ําเพิ่มเติม การฟนฟูแหลงน้ํา และการบริหารจัดการน้ํา -16-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
สวนการฟน ฟู คุณภาพน้ํา หนว ยงานหลัก ที่มีการดํ าเนิน การ ได แก กรมควบคุ มมลพิ ษ และสํ า นัก งาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ที่นํารองการดําเนินงานเปนพื้นที่ที่มีวิกฤตเรงดวน สรุปไดดังนี้ การจัดหา พัฒนา และฟนฟูแหลงน้ํา • ภายใตแผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ ในป พ.ศ.2550 ของ กรมทรัพยากรน้ํา ไดทําการฟนฟูและพัฒนาแหลงน้ํา รวมทั้งสิ้น 11 แหง โครงการปรับปรุงฯ แหลงน้าํ เขากําแพง โครงการปรับปรุงฯ แหลงน้ําเขาปอบน โครงการปรับปรุงฯ แหลงน้ําคลองครก เปนโครงการปรับปรุงและ ฟนฟูแหลงน้ําเพื่อสนับสนุนโครงการอนุรักษทรัพยากรปาไมและสัตวปาในพื้นที่ปารอยตอ 5 จังหวัด (ภาค ตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ทําใหมีแหลงน้ําเพิ่มขึ้น ความจุรวม 3 โครงการ 54,825 ลูกบาศกเมตร ในการพัฒนาแหลงน้ําเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตรและบรรเทาอุทกภัย ภัยแลง ไดดําเนินการกอสราง ฝายน้ํ าลนคลองธาร อําเภอบอทอง จั งหวั ดชลบุ รี ซึ่งมีปริมาณเก็บกัก 500,000 ลูกบาศกเมตร เสริ ม พื้น ที่ การเกษตร 1,000 ไร ประชาชนไดประโยชน 2 หมูบาน 350 ครัวเรือน • โครงการปรับปรุงและฟนฟูแหลงน้ําธรรมชาติที่เสื่อมโทรม สําหรับอุปโภคบริโภคและฟนฟู ความสมดุลของระบบนิเวศและบรรเทาภัยแลง จํานวน 7 แหง ไดแก - ปรับปรุงฯ บึงตาเชื้อ ตําบลพระอาจารย อําเภอองครักษ จังหวัดนครนายก (ยกเลิกโครงการ) - ปรับปรุงฯ บึงพระอาจารย ตําบลพระอาจารย อําเภอองครักษ จังหวัดนครนายก - ปรับปรุงฯ บึงหวยน้ําใส ตําบลลาดกระทิง อําเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา - ปรับปรุงฯ แหลงน้ําคลองตะเคียน ตําบลคลองพลู อําเภอหนองใหญ จังหวัดชลบุรี - ปรับปรุงฯ หนองหมอหาย ตําบลบานซอง อําเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา - ปรับปรุงฯ แหลงน้ํา บานเขาผานางพัฒนา ตําบลทากระดาน อําเภอสนามชัยเขต จังหวัด ฉะเชิงเทรา - ปรับปรุงฯ แหลงน้ํา บานหวยกบ ตําบลคูยายหมี อําเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งทําใหมีปริมาณความจุรวม 1,157,250 ลูกบาศกเมตร ประชาชนไดรับประโยชน 1,250 ครัวเรือน • กรมทรัพยากรน้ําไดดําเนินโครงการปรับปรุงและฟนฟูบึงพระอาจารยที่อําเภอองครักษ จังหวัด นครนายก เพื่อแกไขปญหาการขาดแหลงน้ําเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งการบริหารจัดการเนนการมีสวนรวม จากผูมีสวนไดสวนเสียในพื้นที่เปนหลัก โดยจะทําใหมีน้ําตนทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 47,200 ลูกบาศกเมตร เพื่อใชสนับสนุนการทําประปาแจกจายใหแกประชาชน จํานวน 197 ครัวเรือน
-17-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
การฟนฟูคุณภาพน้ํา • กรมควบคุมมลพิษไดดําเนินการในการแกไขปญหาน้ําเสียของคลองสารภี โดยกรมควบคุมมลพิษ ผูแทนกลุมเกษตรกร คณะอนุกรรมการลุมน้ําบางปะกง ปราจีนบุรี และโตนเลสาป และหนวยงานที่เกี่ยวของ แตงตั้งคณะทํางาน 2 ชุดประกอบดวย คณะทํางานตรวจสอบแหลงกําเนิดมลพิษ และหาสาเหตุของปญหา มลพิษในพื้นที่คลองสารภี และคณะทํางานกําหนดมาตรการปองกันและกํากับดูแลการดําเนินงานตาม แผนงานปองกันและแกไขปญหามลพิษในพื้นที่คลองสารภี เพื่อดําเนินการรวบรวมขอมูลและสํารวจขอมูล ภาคสนามที่เกี่ยวของกับมลพิษในพื้นที่ลุมน้ําคลองสารภี โดยคณะทํางานตรวจสอบแหลงกําเนิดมลพิษ และ หาสาเหตุของปญหามลพิษในพื้นที่คลองสารภี เชน ปริมาณน้ํา การระบายน้ํา การใชประโยชนที่ดิน การ ประมง การเพาะปลูก การใชสารเคมีเพื่อการเกษตร แหลงกําเนิดมลพิษในพื้นที่ และการตั้งถิ่นฐานของ ชุมชน เปนตน ทําการเก็บตัวอยางน้ําและตะกอนดินในพื้นที่ที่คาดวาจะมีการปนเปอนของสารมลพิษตางๆ ดําเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ําอัตโนมัติเพื่อการเตือนภัยแลวเสร็จ 2 แหง คือ บริเวณพื้นที่เลี้ยงปลา ในกระชัง ตําบลบานสราง อําเภอบานสราง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยูหางจากปากคลองสารภีลงมาทางดานใต ประมาณ 6 กิโลเมตร และบริเวณปากแมน้ําปราจีนบุรี ตําบลบางแตน อําเภอบานสราง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยูหางจากปากคลองสารภีลงมาทางดานใตประมาณ 6 กิโลเมตร โดยมีการจัดทําระบบฐานขอมูล ระบบนําเสนอขอมูลผลการตรวจวัดแกสาธารณะชน และระบบแจงเตือนสถานการณคุณภาพน้ํา (Alarm) และจัดฝกอบรมการเฝาระวังคุณภาพน้ําและการแจงเตือนภัยใหกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อทําความเขาใจใน ระบบการทํางานของสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ําอัตโนมัติเพื่อการเตือนภัย และเพื่อใหประชาชนไดเขามามี สวนรวมในการตรวจสอบและบํารุงรักษาสถานี จากขอมูลตางๆ ที่ไดรับ คณะทํางานกําหนดมาตรการ ปองกันและกํากับดูแลการทํางานตามแผนงานปองกันและแกไขปญหามลพิษในพื้นที่คลองสารภี จึงนํามา จัดทํ า เป น มาตรการและแผนปฏิ บัติก ารปองกัน และแก ไขปญ หามลพิ ษ ในพื้ น ที่ ค ลองสารภี และแมน้ํ า ปราจีนบุรีบริเวณใกลเคียง • กรมควบคุมมลพิษ ไดดําเนินงานในโครงการจัดการน้ําเสียสําหรับบานเรือนและวัดสุนทรพิชิตาราม บริเวณชุมชนบึงพระอาจารย โดยการสรางระบบบําบัดน้ําเสียสําหรับบานเรือนแตละหลังนั้น พิจารณาจาก หลักเกณฑตางๆ ดังนี้ ตั้งอยูในรัศมี 500 เมตร จากบึงพระอาจารย ความเต็มใจของชาวบาน ซึ่งไดมาจาก การทําแบบสอบถาม สภาพทั่วไปของบานแตละหลัง ซึ่งพิจารณาจากหองน้ํา-หองสวม หองครัว และสภาพ ความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะทําการติดตั้งระบบบําบัดน้ําเสีย หลังจากพิจารณาจากเกณฑดังกลาว จึงได ดําเนินการโครงการนํารองการจัดการน้ําเสีย โดยการกอสรางระบบบําบัดน้ําเสีย ไดแก วัดสุนทรพิชิตาราม และ บานเรือน ในรัศมี 500 เมตร รอบบึงพระอาจารย จํานวน 31 หลังคาเรือน รวมจํานวน 37 ชุด ซึ่งแนวทาง การจัดการน้ําเสียที่เหมาะสมสําหรับบานเรือนและวัดสุนทรพิชิตาราม ใหมีประสิทธิภาพและใชงบประมาณ ในการกอสรางที่ไมมากนัก -18-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
การสรางเครือขายการบริหารจัดการ การอนุรักษและฟนฟูแหลงน้ํา • กิจกรรมจัดเวทีชุมชนในพื้นที่คลองบึงพระอาจารย ที่สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมใหการสนับสนุนคณะอนุกรรมการลุมน้ําบางปะกง ปราจีนบุรี และโตนเลสาป ดําเนินการ ในโครงการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง ทําใหเกิดเครือขายการอนุรักษและฟนฟูบึงพระอาจารยขนึ้ ขยายตัวครอบคลุมผูนําชุมชนและสมาชิกเครือขายจาก 7 ตําบล เปน 9 ตําบล ปจจุบันครอบคลุม 16 ตําบล มีการหมุนเวียนจัดประชุมกันทุกเดือน เพื่อวิเคราะหปญหาและแนวทางแกไขรวมกัน ซึ่งเปนผลสําเร็จใน ดานการสรางเครือขายในชุมชนเพื่อเปนกลไกการแกไขปญหาในทองถิ่น และปจจุบันมีการขยายเครือขาย และมีกิจกรรมอยางตอเนื่อง • กรมทรั พ ยากรน้ํ า ได จั ด ตั้ ง สํ า นั ก งานศู น ย อํ า นวยการลุ ม น้ํ า บางปะกง เพื่ อ สนั บ สนุ น การ ดําเนินงานของสํานักงานทรัพยากรน้ําภาค 6 ในการประสานกับหนวยงานในพื้นที่ หนวยงานสวนกลาง องคกรเอกชน ภาคประชาชน เครือขายในพื้นที่ และผูมีสวนไดเสีย รวมทั้งการวิเคราะหและประมวลผล ขอมูลการดําเนินงานตามโครงการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ บริหารจัดการ ลุมน้ํานํารองแบบบูรณาการ เพื่อบริหารจัดการองคกรลุมน้ําและเครือขายเปนระบบลุมน้ํา การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา • ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา ซึ่งจะเปนสวนสําคัญในการแกไขปญหาดานทรัพยากรน้ํา อยางยั่งยืน มีการดําเนินการพัฒนาระบบโครงขายอุทกวิทยา และระบบเตือนภัย รวมทั้งการวางแผนการ จัดสรรน้ํา โดยกรมทรัพยากรน้ํา เครือขายสถานีอุทกวิทยาครอบคลุมลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ทําใหมี ฐานขอมูลเพื่อการบริหารจัดการน้ําของลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีอยางเปนระบบและมีประสิทธิภาพ ประกอบดวย สถานีอุทกวิทยา 16 สถานี ซึ่งเปนระบบตรวจวัดขอมูลทางไกลอัตโนมัติ ที่สามารถตรวจวัด ขอมูลตอการบริหารจัดการน้ํา ทั้งน้ําทวม ภัยแลง และคุณภาพน้ํา เครือขายสถานีอุทกวิทยารองแบบอัตโนมัติ (Logger) 4 สถานี เครือขายสถานีอุตุนิยมวิทยารองแบบจดบันทึก (Manual) 7 สถานี เครือขายสถานีอุตุนิยมวิทยา 22 สถานี เครือขายระบบตรวจวัดขอมูลเพื่อเตือนภัยน้ําทวมฉับพลัน-ดินถลม ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัย 22 หมูบาน • กรมทรั พ ยากรน้ํ าได จั ดทํา เกณฑการจัดสรรน้ํา ที่เ หมาะสม และเป น ที่ ย อมรับของทุก ภาค กิจกรรมการใชน้ํา ภาคประชาชน และหนวยงานของรัฐ มีการวางแผนจัดสรรน้ําและแนวทางการแกไข ปญหามีความเขาใจ การยอมรับ และการจัดทําเกณฑการจัดสรรน้ํารวมกันกับภาคประชาชน สรางความรู และความเขาใจตอทุกภาคกิจกรรมการใชน้ําในพื้นที่
-19-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
นิเวศเมืองและชุมชน : ในนิเวศเมืองและชุมชนมีการดําเนินการโดยโครงการนํารองของหนวยงานในแผนการบริหาร จัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ สรุปไดดังนี้ • สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ดําเนินการโครงการศึกษาการ จัดการสิ่งแวดลอมเพื่อเมืองและชุมชนนาอยูในพื้นที่นํารอง 2 พื้นที่ ไดแก เทศบาลตําบลบางคลา และ เทศบาลกับองคการบริหารสวนตําบลที่อยูบริเวณปากแมน้ําบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการดําเนินงาน กิจกรรม โครงการหนาบานนามอง และปรับปรุงภูมิทัศนเมืองนาอยู และมีการพาบุคลากรของเทศบาลกับ องคการบริหารสวนตําบลที่อยูบริเวณปากแมน้ําบางปะกง ไดแก เทศบาลตําบลทาขาม เทศบาลตําบล บางปะกง และองคการบริหารสวนตําบลบางปะกง จํานวน 45 คน ไปศึกษาดูงานและฝกอบรมเรื่องขยะ น้ําเสีย พื้นที่สีเขียวในเมือง และระบบนิเวศชายฝงทะเล ณ เทศบาลนครระยองและศูนยศึกษาการพัฒนา อาวคุงกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 28-29 สิงหาคม พ.ศ.2550 เพื่อเปน การสรางองคความรูและความเขาใจมาประยุกตใชในการบริหารจัดการสิ่งแวดลอมชุมชนเมืองในอนาคต • สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ดําเนินโครงการบริหารจัดการ สิ่งแวดลอมธรรมชาติและศิลปกรรมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกงแบบมีสวนรวม โดยไดจัดทําคูมือการบริหาร จัดการสิ่งแวดลอมธรรมชาติและศิลปกรรมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง แผนที่สิ่งแวดลอมมรดกทางวัฒนธรรม เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และชุมชนวัดเซนตปอล ตําบลบางตีนเปด อําเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเปน พื้นที่นํารอง 2 พื้นที่ นิเวศอุตสาหกรรม : ภายใตแ ผนการบริห ารจัด การและพัฒ นาลุม น้ํา บางปะกงแบบบูร ณาการ ป พ.ศ.2550 กรม ควบคุมมลพิษ ไดดําเนินโครงการเทคโนโลยีสะอาดในโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมชุมชน โดยมี การสํารวจภาคสนามและจัดทําฐานขอมูลโรงงานอุตสาหกรรมครอบคลุม จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครนายก โดยไดดําเนินการสํารวจขอมูลเบื้องตน โรงงานนํารองประเภทอุตสาหกรรม 5 แหง และ อุตสาหกรรมชุมชน 30 แหง และปจจุบันอยูระหวางการดําเนินงานเสริมสรางศักยภาพการจัดการสิ่งแวดลอม อุตสาหกรรมชุมชน/โรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังไดดําเนินการติดตามตรวจสอบการระบายมลพิษ อยางตอเนื่องจากปลองระบายอากาศเสียอุตสาหกรรม (CEMs) ซึ่งไดจัดทําระบบคอมพิวเตอรที่ใชสําหรับ รับ-สงและประมวลผลขอมูลตรวจวัดการระบายมลพิษจากปลองโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปจจุบนั อยูร ะหวาง การติดตามตรวจสอบการระบายมลพิษดังกลาวในพื้นที่อยางตอเนื่อง จะเปนประโยชนตอการติดตาม คุณภาพสิ่งแวดลอมในนิเวศอุตสาหกรรมในอนาคต -20-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
นิเวศชายฝง ทะเล : จากการติดตามผลการดําเนินงานตามแผนงานและกิจกรรมตางๆ ประมวลผลตอสถานการณ ทรัพยากรชายฝงทะเลในพื้นที่ปากแมน้ําบางปะกง ดังนี้ • สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ใหการสนับสนุนการศึกษา ออกแบบและจัดทําเสนทางศึกษาธรรมชาติและระบบสื่อความหมายในพื้นที่เกาะธรรมชาติทาขาม ที่ตําบล ทาขาม อําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มอบหมายใหเทศบาลตําบลทาขามเปนเจาภาพพัฒนาใหเปน แหลงทองเที่ยวเชิงนิเวศ ไดดําเนินการออกแบบและจัดทําปายสื่อความหมายแลวเสร็จ ภายใตโครงการ บริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง ป พ.ศ.2549 และไดสนับสนุนการจัดทําเสนทางศึกษาธรรมชาติปาชายเลน วัดคงคาราม (วัดบน) เปนผืนปาชายเลน 1 ใน 3 แหงที่เหลืออยูของตําบลบางปะกง และทองถิ่นมีความตั้งใจ รวมกันอนุรักษและฟนฟู ราว 20 ไร เปนหองเรียนธรรมชาติ รวมทั้งเปนการสรางความตระหนักและแหลง เรียนรูดานสิ่งแวดลอมใหกับเยาวชน ในโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใน พื้นที่ลุมน้ําบางปะกง ป พ.ศ.2550 • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝงสนับสนุนการสรางศูนยการเรียนรูและผลิตสื่อเผยแพร ประชาสัมพันธการอนุรักษโลมา และทรัพยากรทางทะเลและชายฝงปากแมน้ําบางปะกง ที่ศูนยศึกษาปาชายเลน วัดคงคาราม (วัดบน) อําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะเปนการสรางความตระหนักและแหลงเรียนรู ดานสิ่งแวดลอมใหกับเยาวชน • กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง ดําเนินกิจกรรมโครงการฟนฟูจัดการทรัพยากรทางทะเล บริ เ วณลุ ม น้ํ าบางปะกงแบบบูรณาการ โดยมีกิจกรรมประกอบดวย การสร างจิ ตสํา นึ ก ในการอนุ รัก ษ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝงรวมกับองคกรปกครองสวนทองถิ่น การเฝาระวังและดูแลโลมาบริเวณปากแมน้ํา บางปะกง การจัดคายเยาวชนคนรักษทะเลไทย และการจัดตั้งกลุมอาสาสมัครพิทักษทรัพยากรทางทะเลและ ชายฝง และเครือขายภาคประชาชน ผลที่ไดจากกิจกรรมทําใหประชาชนบริเวณปากแมน้ําบางปะกง มีความ เขาใจถึงความสําคัญของนิเวศชายฝง พื้นที่ปากแมน้ํา และวิธีการรวมกันอนุรักษและฟนฟูทรัพยากรทาง ทะเลและชายฝง จากการติดตามพบวา มีความอุดมสมบูรณของสัตวน้ําเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2550 พบฝูงโลมากวา 20 ตัว เขามาในปากแมน้ําใกลเกาะทาขาม และพบวาปริมาณขยะมูลฝอยในน้ําลดลง • ปจจุบันกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝงมีการดําเนินการจัดตั้งหนวยสงเสริมการอนุรักษ โลมา รวมถึงทรัพยากรทางทะเลและชายฝงในการตรวจตราดูแลการกระทําผิดกฎหมายและทําลายระบบ นิเวศทางทะเลอยางตอเนื่อง โดยมีเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝง 801 และ 301 ปฏิบัติงานในพื้นที่ ปากแมน้ําบางปะกงอยางตอเนื่อง ในชวงป พ.ศ.2550 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง ไดดําเนิน โครงการตางๆ ในพื้นที่ปากแมน้ําบางปะกง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่ตําบลคลองตําหรุ จังหวัดชลบุรี เชน โครงการปลูกปาชายเลนถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ -21-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
4.
แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศลุมน้ํา
4.1
การเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมและประเด็นที่ควรพิจารณา
ผลจากการดําเนินงานในแผนงานและโครงการตางๆ ของหนวยงานที่เกี่ยวของทั้งในสวนกลางและ สวนทองถิ่น สงผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงดานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของพื้นที่ลุมน้ําบางปะกงลุมน้ําปราจีนบุรี ทั้งที่ทําใหสถานการณดีขึ้นหรือคงเดิม เปนปจจัยที่ควรใหความสําคัญในการนํามากําหนด แนวทางในการบริหารจัดการในระยะตอไป โดยสรุปประเด็นปญหาที่ควรพิจารณาไดดังนี้ นิเวศ นิเวศปาไม
นิเวศเกษตรกรรม
ภาพรวมการเปลี่ยนแปลง • พื้นที่ปาอนุรักษ 7 แหง รวมพื้นที่ 2.45 ลานไร ยังคงมีขอบเขตพื้นที่เปนไปตามประกาศเขตฯ โดยมีพื้นที่ทมี่ ีศักยภาพในการฟนฟูพื้นที่ปา ขางเคียง รวมทั้งสิ้น 179,310.67 ไร เพื่อผนวก เปนเขตปาอนุรักษไดในหลายพื้นที่ • พื้นที่ปาอนุรักษและพื้นที่ปาตนน้ําลําธาร 1.48 ลานไร มีสภาพอุดมสมบูรณคิดเปนรอยละ 98.34 รวม 1.45 ลานไร ของพื้นทีต่ นน้ําทั้งหมด โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นทีป่ าไมที่ไดรับ การฟนฟูใหมีความอุดมสมบูรณ คิดเปนรอยละ 5.11 ซึ่งสงผลใหพื้นที่ปารอการฟน ฟูมีพื้นที่นอยลง • การบริหารจัดการมีการนํากระบวนการมีสวนรวม ของประชาชนเขามาใชในการบริหารจัดการ มีกลุมเครือขายและองคกรอนุรักษเขามารวม ดําเนินการ • พื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 10 ลานไร สวนใหญ มีความอุดมสมบูรณ มีพื้นที่ทมี่ ีปญหาคุณภาพ ที่ดินในการทําการเกษตร ไดแก ดินเปนกรดจัด 3.8 ลานไร ดินเค็ม 0.79 ลานไร ดินตื้น 4.3 ลานไร ดินที่มกี ารชะลางพังทลายรุนแรง 42,856 ไร ไดรับการปรับปรุงบํารุงดินจนมีความเหมาะสม ในการปลูกพืชและใหผลผลิตไดดีพอสมควร • ยังคงมีปญหามลพิษจากน้ําทิ้งทางการเกษตร การปนเปอนของสารเคมีทางการเกษตรและ ยาปราบศัตรูพืชในแหลงน้ํา • ปริมาณน้ําทาเฉลี่ย 8,654 ลาน ลบ.ม./ป สามารถเก็บกักไวใชในลุม น้ําไดเพียง 740 ลาน ลบ.ม. หรือเพียงรอยละ 9.3 ทําใหมี ความเปราะบางในการจัดสรรน้ํา
-22-
•
•
• •
ประเด็นที่ควรพิจารณาสําหรับ การบริหารจัดการในระยะตอไป สนับสนุนการฟนฟูเพื่อเพิ่มพื้นที่ปาตนน้ํา ลําธารใหมีความอุดมสมบูรณ เชน การสราง ฝายตนน้ํา การปลูกหญาแฝก เปนตน สนับสนุนและสงเสริมการสรางสภาพ แวดลอมที่เหมาะสมตอการอยูอาศัยของ สัตวปาอยางสมดุล ผลักดันกระบวนการผนวกผืนปาและ การบริหารจัดการแบบกลุมปา สงเสริมกระบวนการมีสวนรวมใหคนใน ทองถิ่นเขามามีสว นรวมอนุรักษและฟนฟู โดยมีความตระหนักและมีจติ สํานึก
• สงเสริมทําการเกษตรแบบยั่งยืน เกษตร อินทรียและเกษตรปลอดสารพิษ เพื่อลดปญหาสารพิษตกคางและเปนการทํา การเกษตรอยางยั่งยืน • มีการศึกษาวางแผนระบบจัดสรรน้ําที่ เปนธรรมทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ • มีการจัดตั้งเครือขายและกลุมองคกรทาง การเกษตรและกลุมผูใชน้ําเพื่อมีสวนรวม ในการบริหารจัดการ
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
นิเวศ
ภาพรวมการเปลี่ยนแปลง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
ประเด็นที่ควรพิจารณาสําหรับการบริหาร จัดการในระยะตอไป
นิเวศเกษตรกรรม (ตอ)
• ในปจจุบันมีพื้นทีช่ ลประทานรวม 2.08 ลานไร และศักยภาพในอนาคตขยายเต็มที่ไดเปน 2.51 ลานไร • มีปญหาการขาดแคลนน้ํา น้ําทวม และปญหา การรุกล้ําของน้ําเค็ม เนื่องจากมีปญหาในระบบ การจัดสรรน้ํา นอกจากนี้บางพื้นที่มีปญหา น้ําเสียตอการทําเกษตร เชน พืน้ ทีบ่ ึงพระอาจารย คลองสารภี เปนตน • มีพื้นทีท่ ิ้งรางไมใชประโยชนเปนจํานวนมาก
นิเวศแหลงน้ํา
• คุณภาพน้ําผิวดินในแหลงน้ําหลัก ไดแก แมน้ํา ปราจีนบุรี สวนใหญอยูในประเภทที่ 4-5 คุณภาพน้ํา ต่ํากวาเปาหมายที่กําหนดไวใหเปนประเภทที่ 2 แมน้ํานครนายก สวนใหญอยูในประเภทที่ 2-5 และแมน้ําบางปะกง สวนใหญอยูใ นประเภทที่ 3-5 ซึ่งสภาพทั่วไปยังมีความเสื่อมโทรม คุณภาพน้ํา ต่ํากวาเปาหมายที่กําหนดไวใหเปนประเภทที่ 3 • การบริหารจัดการพื้นที่ชุมน้ํายังไมไดรับการให ความสําคัญมากนัก ซึ่งมีผลกระทบตอคุณภาพ และปริมาณของทรัพยากรน้ําในลุมน้ํา
• สรางความตระหนักและจิตสํานึกในการมี สวนรวมอนุรักษทรัพยากรน้ํา • ควรมีการสงเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ และฟนฟูแหลงน้าํ ใหมีคณ ุ ภาพประเภทที่ 3 อยางยั่งยืนตั้งแตในลําน้ําสาขาจนถึงลําน้ํา หลัก • ใหความสําคัญในการจัดการพื้นที่ชมุ น้ํา อยางมีสวนรวมของคนในทองถิ่น
นิเวศเมืองและชุมชน
• ชุมชนเมือง 56 แหง มีการวางผังเมืองเพียง 18 แหง ยังมีการวางผังเมืองไมครบทุกแหง • โดยเฉลี่ยอัตราการเกิดขยะมูลฝอยชุมชนเฉลี่ย 5.22 กก./คน/วัน ชุมชนเมืองยังขาดแคลนระบบ กําจัดของเสียที่มปี ระสิทธิภาพและเหมาะสม เพียงพอตอการบําบัดของเสียของเมือง ปจจุบันมี ทั้งฝงกลบขยะอยางถูกหลักสุขาภิบาลเพียง 4 แหง • ชุมชนเมืองเกิดปญหาน้ําเสียในลุมน้ํารอยละ 70 เกิดจากชุมชนอีกรอยละ 30 เปนน้ําเสียจาก โรงงาน ปจจุบันมีเพียงระบบบําบัดน้ําเสียรวม ที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทราและเทศบาลตําบล พนัสนิคมเทานั้น • ผูบริหารขององคกรปกครองสวนทองถิ่นยังขาด ความรูความเขาใจในการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดลอมของเมือง
• เรงรัดการจัดทําผังเมืองรวมใหครบทุกชุมชน เมือง • สนับสนุนและผลักดันใหทุกชุมชนเมือง มีระบบกําจัดขยะและระบบบําบัดน้ําเสียที่มี ประสิทธิภาพครบทุกชุมชนเมือง • สนับสนุนและสงเสริมการจัดการคุณภาพ สิ่งแวดลอมของเมืองตามแนวทางการจัด การเมืองนาอยู
-23-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
นิเวศ
ภาพรวมการเปลี่ยนแปลง
นิเวศอุตสาหกรรม
• ปจจุบันมีพื้นที่ประกอบอุตสาหกรรมขนาดใหญ 6 แหง และโรงงานอุตสาหกรรมประเภทตางๆ ที่กระจายอยูใ นลุม น้ํารวม 5,039 แหง ยังคงมี ปญหาการรองเรียนมลภาวะจากโรงงาน อุตสาหกรรมทีอ่ ยูน อกนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม ที่ติดชุมชน ในดานของน้ําเสีย อากาศเปนพิษ เสียงดัง และกลิ่นเหม็น ซึ่งเปนผลสืบเนื่องมาจาก จํานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึน้ อยางรวดเร็ว และการบริหารจัดการสิ่งแวดลอมที่ไมมี ประสิทธิภาพ
นิเวศชายฝงทะเล
• คุณภาพน้ําทะเลชายฝงยังมีความเสื่อมโทรม ในภาพรวมยังพบปญหาคุณภาพน้ําใน พารามิเตอรที่เกีย่ วกับสารอาหารที่มีคาเกินกวา มาตรฐานที่กําหนด และปริมาณโลหะหนักจาก โรงงานอุตสาหกรรมเกินกวาคามาตรฐานใน บางบริเวณ เนื่องจากของเสียของชุมชนเมือง และโรงงานอุตสาหกรรมที่มาตามแมน้ํา มีปญหา คุณภาพน้ําและการตกตะกอนบริเวณปากแมน้ํา จากการเลี้ยงปลาในกระชัง • ปญหาการลดลงของพื้นที่ปาชายเลนเหลือนอย มาก สงผลกระทบตอการการขาดแคลนแหลง อนุบาลสัตวน้ําและความสมบูรณของทรัพยากร ประมง • ปญหาการกัดเซาะชายฝงทะเลที่ยังคงมีปญหา รุนแรงในบางบริเวณ • ปญหาการทองเที่ยวชมโลมาขาดระเบียบและ ความเหมาะสม อาจสงผลกระทบตอการอยู อาศัยของโลมา
-24-
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
ประเด็นที่ควรพิจารณาสําหรับการบริหาร จัดการในระยะตอไป • สนับสนุนและสงเสริมการใชแนวคิดการใช เทคโนโลยีสะอาดในการผลิต • มีการบังคับใชกฎหมายอยางเครงครัด รวมทั้ง มาตรการจูงใจในการจัดการมลพิษที่ดีของ โรงงานอุตสาหกรรม • สงเสริมใหมีการตัง้ โรงงานในพื้นที่นคิ ม อุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรม เนือ่ งจากมี ระบบการจัดการสิ่งแวดลอมทีม่ ีประสิทธิภาพกวา
• ควรมีการสรางจิตสํานึกและความตระหนัก ในการมีสวนรวมลดมลพิษลงสูแหลงน้ําที่ สงผลตอคุณภาพน้ําทะเลชายฝง • กวดขันการใชกฎหมายบังคับการปลอยของ เสียของโรงงานอุตสาหกรรมบริเวณ ปากแมน้ําบางปะกง • ใชมาตรการทางกฎหมายและมาตรการจูงใจ ในการเพิ่มพื้นทีป่ าชายเลนเพื่อเปนแหลง อนุบาลสัตวน้ํา แนวปองกันภัยธรรมชาติและ แนวปองกันการกัดเซาะชายฝง • ควบคุมไมใหมีการเพิ่มจํานวนและพื้นที่ การเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณปากแมน้ําและ สงเสริมการจัดการที่เปนมิตรตอสิง่ แวดลอม • จัดระเบียบการทองเที่ยวชมโลมาอยาง เหมาะสมถูกหลักทางวิชาการ • สรางองคความรูและความรวมมือของ เครือขายและองคกรในการอนุรักษทรัพยากร ทางทะเลและชายฝงใหมีความเขมแข็ง
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
4.2
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
ขอเสนอแนวทางและแผนงานในการอนุรักษและฟนฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในรายนิเวศ
ขอเสนอแนวทางและแผนงานในการอนุรักษและฟนฟูสําหรับการจัดทําแผนการบริหารจัดการ และพัฒนาลุมน้ําบางปะกงแบบบูรณาการ ในระยะตอไปมีดังนี้ นิเวศปาไม : 1. แมวาพื้นที่ปาอนุรักษในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีทั้ง 7 แหง รวมพื้นที่ 2.5 ลานไร โดยสวนใหญ จะมีผืนปาที่มีสภาพสมบูรณกวารอยละ 90 ของพื้นที่ปาทั้งหมด และสามารถเฝาระวังปองกันพื้นที่ปาไม ไดอยางมีประสิทธิภาพ ในการดําเนินงานเพื่อสงวน อนุรักษ ฟนฟูสภาพปา จึงควรมุง เนนการสรางความชุม ชืน้ ใหกับผืนดินเพื่อหลอเลี้ยงผืนปาบริเวณตนน้ําลําธารใหสมบูรณอยางยั่งยืน เพื่อเปนแหลงอํานวยน้ําเขาสูลุมน้ํา อยางสมดุล สรางเสริมปริมาณน้ําทาที่มีเสถียรภาพ โดยใหความสําคัญเปนพิเศษกับการเรงรัดการจัดทํา แนวเขตปาอนุรักษที่ชัดเจนเพื่อปองกันและรักษาปาเชิงรุก ตลอดจนการผนวกผืนปาที่ยังคงความสมบูรณ เพิ่มเติมเขากับพื้นที่ปาอนุรักษ และปองกันการเกิดไฟปา 937,500 ไร โดยประยุกตดําเนินการตามทฤษฎี ปาเปยก (Wet Fire Break) การปลูกหญาแฝกตามแนวพระราชดําริ ซึ่งสงผลดีถึงการชะลอน้ําในพื้นที่ปาตนน้ํา และปองกันการชะลางพังทลายของดินลงสูพื้นที่ตอนลาง และการจัดทําฝายตนน้ําลําธาร (Check Dam) ตอเนื่องจากที่ดําเนินการแลวในลุมน้ําสาขาคลองทาลาด ลุมน้ําสาขาแมน้ําปราจีนบุรีตอนลาง และลุมน้ํา สาขาแมน้ําหนุมาน โดยควรมีการดําเนินงานเพิ่มเติมในลุมน้ําสาขาแมน้ํานครนายก ลุมน้ําสาขาแมน้ําพระปรง และลุมน้ําสาขาคลองพระสะทึง เปาหมายจํานวน 1,200 แหง โดยเฉลี่ยฝายตนน้ําลําธารแตละแหงจะสราง ความชุมชื้นใหกับดินและผืนปาราว 100 ไร 2. สงเสริมการสรางเครือขายและกลไกการมีสวนรวมของชุมชนทองถิ่นในการรวมสงวน อนุรักษ และฟนฟูเพื่อเพิ่มพื้นที่และความอุดมสมบูรณของปาไม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังมีสภาพปาเสื่อมโทรมและ พื้นที่ชายขอบของปาอนุรักษ โดยดําเนินการใหสอดคลองกับวิถีชีวิตและภูมิปญญาทองถิ่นที่มีอยู รวมทั้ง ตามแนวทางปาชุมชนหรือโครงการธนาคารอาหารตามแนวพระราชดําริ (Food Bank) ตลอดจนการสรางเสริม ความรวมมือในการฟนฟูขยายเพื่อผนวกผืนปาเปาหมายที่มีพื้นที่กวา 170,000 ไร เขากับพื้นที่ปาเพื่อการ อนุรักษ 3. สนับสนุนและสงเสริมการศึกษาวิจัยเพื่อประเมินศักยภาพการพัฒนาและขีดความสามารถใน การรองรับ (Carrying Capacity) ของสภาพธรรมชาติและสภาพแวดลอมของทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ ตางๆ เพื่อการทองเที่ยวเชิงนิเวศเปนการเฉพาะ เพื่อจัดทําแผนแมบทการพัฒนาเฉพาะแหลงที่ประกอบดวย -25-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
การกําหนดลักษณะการพัฒนากําหนดเขตพื้นที่ ตามความเหมาะสมของกิจกรรม (Zoning) การกําหนด ระเบียบและขอปฏิบัติในการใชพื้นที่ที่ไมทําลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของแหลง เพื่อใหการ ใชประโยชนเปนไปอยางอนุรักษและยั่งยืน โดยเฉพาะอยางยิ่งควรใหความสําคัญในการจัดทําแผนแมบท ของพื้นที่อนุรักษคือ เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน และเขตรักษาพันธุสัตวปาเขาเขียว-เขาชมภู เพือ่ ให มีแผนแมบทสําหรับพื้นที่ปาอนุรักษครบทุกแหง 4. ดําเนินการสํารวจเพื่อทําการฟนฟูและสรางแหลงอาหารและแหลงน้ําสําหรับสัตวปาในพื้นที่ เขตรักษาพันธุสัตวปาทั้ง 3 แหง ในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี เพื่อใหเพียงพอและเหมาะสมตอการ เปนถิ่นอาศัย ซึ่งจะสงผลตอการแกไขปญหาสัตวออกหากินนอกเขตปาและปญหากับราษฎรที่อยูโดยรอบ นิเวศแหลงน้ํา : 1. จัดการดานอุปสงคเพื่อใหการใชน้ําในลุมน้ําสําหรับกิจกรรมตางๆ ของทุกภาคสวนเปนไปอยาง ประหยัดและไดประโยชนสูงสุด เปนที่ยอมรับของผูมีสวนไดสวนเสีย ขจัดความขัดแยงในทุกระดับ ดวยการ บริหารจัดการน้ําผิวดินและน้ําบาดาลแบบบูรณาการเพื่อประโยชนในการอุปโภคบริโภค และการผลิตภายใน ลุมน้ํา โดยเนนกระบวนการมีสวนรวมของประชาชนทั้งตนน้ํา กลางน้ํา ทายน้ํา ใหมีการใชน้ําโดยตระหนักถึง ความเหมาะสมของอุปสงคและอุปทาน สอดคลองกับวิถีชีวิตและภูมิปญญาของทองถิ่น มีความเหมาะสมดาน เทคนิค ดานเศรษฐศาสตร ตลอดจนความเสมอภาคและเปนธรรมในสังคม 2. อนุรักษและฟนฟูคุณภาพน้ําในแมน้ําบางปะกง รวมทั้งลําน้ําสาขารวมทั้งสิ้น 48 สาย และแมน้ํา นครนายก รวมทั้งลําน้ําสาขารวมทั้งสิ้น 105 สาย ใหอยูในมาตรฐานแหลงน้ําผิวดินประเภทที่ 3 อยางยั่งยืน สวนแมน้ําปราจีนบุรีและลําน้ําสาขารวม 162 สาย ใหอยูในมาตรฐานแหลงน้ําผิวดินประเภทที่ 2 อยางยั่งยืน เนื่องจากคุณภาพน้ํามีความสําคัญตอความอุดมสมบูรณ ความสมดุล การใชประโยชน การเปลี่ยนแปลง สภาพแวดลอม และคุณภาพชีวิตของคนในระบบนิเวศลุมน้ํา 3. ควบคุมใหทุกชุมชนเมืองทั้ง 56 แหง ในลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี มีการบําบัดน้ําเสียที่มี ประสิทธิภาพ และกํากับดูแลคุณภาพน้ําทิ้งใหเปนไปตามมาตรฐาน เพื่อลดผลกระทบจากการปลอยของเสีย ลงสูแหลงน้ําจากแหลงกําเนิดตางๆ ในลุมน้ําบางปะกง ทั้งการเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ปศุสัตว นากุง เพาะเลี้ยงสัตวน้ํา น้ําเสียจากเมืองและชุมชน 4. รณรงคประชาสัมพันธสรางความตระหนักและสรางเครือขายความรวมมือในการจัดการมลพิษ และคุณภาพสิ่งแวดลอม โดยสรางจิตสํานึกในการดูแลรักษาแหลงน้ํา และการสงเสริมการลดปริมาณน้ําเสีย ในกระบวนการผลิตโดยใชเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด (Clean Technology) -26-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
นิเวศเกษตรกรรม : 1. สงเสริมใหมีการใชประโยชนที่ดินที่เหมาะสมตอการเกษตรกรรมในกิจกรรมที่สอดคลองกับ ศักยภาพและคุณภาพของที่ดิน โดยการวางแผนการใชที่ดินที่เหมาะสม รวมทั้งการฟนฟู บูรณะและพัฒนา ที่ดินที่มีปญหาและเสื่อมโทรม เชน การฟนฟูพื้นที่ปญหาดินเปรี้ยว 3.8 ลานไร ดินเค็ม 0.8 ลานไร และฟนฟู พื้นที่นากุง-บอปลาราง 33,656 ไร ตลอดจนการเพิ่มความสมบูรณของดินเพื่อเพิ่มผลผลิตตอพื้นที่ การ สนับสนุนใหมีการนําพื้นที่ทิ้งรางกลับมาใชประโยชน 2. คุมครองพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดีในการใหผลผลิตไดอยางยั่งยืน เพื่อปองกันการสูญเสียพื้นที่ เกษตรกรรมที่มีคุณภาพเหมาะสมตอการเกษตรอยางแทจริงที่มีอยูอยางจํากัด ควรไดรับการคุมครองและ บํารุงรักษาไวเพื่อประโยชนทางการเกษตรกรรมตามความเหมาะสมกับสมรรถนะที่ดิน เนื่องจากมีแนวโนม การถูกรุกล้ําเปลี่ยนแปลงสภาพโดยกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งจะสงผลใหพื้นที่เกษตรกรรมที่เหลืออยู ไมใชพื้นที่ที่ เหมาะสมต อการเกษตรกรรมอย างแทจริง การกําหนดเขตคุมครองพื้นที่เ กษตรกรรมและแนวกั นชนที่ เหมาะสมเพื่อปองกันและชวยลดความขัดแยงในการใชประโยชนที่ดินในอนาคต 3. พัฒนาและสงเสริมระบบการเพาะเลี้ยงสัตวน้ําที่มีพื้นที่ราว 0.45 ลานไร ปศุสัตว 0.08 ลานไร และกิจกรรมการเกษตรการเพาะปลูกพืชตางๆ 6.7 ลานไร ใหเปนการจัดการอยางยั่งยืน และไมกอใหเกิด มลพิษตอสภาพแวดลอม โดยใชทั้ งมาตรการดานกฎหมายและมาตรการจูงใจ เชน การแบงเขตพื้น ที่ เพาะเลี้ยงกุงน้ําจืดและน้ําเค็มที่ชัดเจน การจัดระบบการเพาะเลี้ยงปลากระชัง การเพาะเลี้ยงสัตวน้ําอื่นๆ และการเลี้ยงสุกร ใหมีการพัฒนาฟารมตามมาตรฐานที่ดี (Good Agricultural Practice : GAP) มาตรฐาน การจัดการสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน (Code of Conduct : CoC) ครอบคลุมทั่วทั้งลุมน้ําบางปะกง นิเวศเมืองและชุมชน : 1. กําหนดเขตการใชประโยชนที่ดินประเภทตางๆ ของเมืองและชุมชนใหเปนไปตามหลักการดาน ผังเมือง เพื่อสิ่งแวดลอมที่ดีของเมือง ตามแนวทางของเมืองนาอยูและเมืองยั่งยืน โดยการสรางสมดุล ระหวางทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยูกับกิจกรรมของเมือง ควบคุมความเจริญเติบโตของเมืองใหอยูในระดับที่ เหมาะสมตอความสามารถในการรองรับไดของทรัพยากรและนิเวศที่มีอยู จัดการเชิงพื้นที่เพื่อใหกิจกรรมที่ เสริมกันอยูในพื้นที่เดียวกัน และแยกกิจกรรมที่ขัดแยงออกจากกัน เพื่อใหการจัดการทรัพยากรของเมืองเกิด ประโยชนสูงสุด จัดระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการใหมีความเหมาะสมกับความตองการและกิจกรรม ของเมืองเพื่อใหมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใหความสําคัญกับการจัดระเบียบชุมชนที่อยูริมน้ําใหมีการพัฒนาและ ขยายตัวที่เหมาะสมและคงความเปนเอกลักษณของชุมชน โดยสงเสริ มใหทองถิ่นมีการออกขอบังคั บ ทองถิ่นในการควบคุมและดูแลสภาพแวดลอมของตน
-27-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
2. อนุรักษ คุมครอง และฟนฟูคุณภาพสิ่งแวดลอมของแหลงธรรมชาติ แหลงศิลปกรรม แหลง ประวัติศาสตร และโบราณคดี โดยการประกาศเขตอนุรักษ คุมครองสิ่งแวดลอมธรรมชาติและศิลปกรรม การกําหนดเขตควบคุมอาคารกิจกรรมและการใชประโยชนที่ดินที่เหมาะสม ตลอดจนการเฝาระวังปองกัน การบุกรุก ทําลาย และการเสื่อมสภาพของแหลงมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เพื่อใหคงอยูอ ยางยัง่ ยืน รวมทั้งสงเสริมและสนับสนุนใหชุมชนทองถิ่นมีสวนรวมในการอนุรักษ ปกปอง คุมครอง ดูแลรักษาคุณภาพ สิ่งแวดลอมของแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมทั้งแหลงประวัติศาสตรโบราณคดี โดยการ เสริมสรางความรูความเขาใจในคุณคาและความสําคัญ ทั้งในระดับชาติและระดับโลก 3. เรงรัดใหองคกรปกครองสวนทองถิ่น ทั้ง 56 แหง มีระบบบําบัดน้ําเสียที่มีประสิทธิภาพและ เหมาะสม โดยใหความสําคัญอยางยิ่งกับชุมชนเมืองระดับเทศบาล ไดแก ชุมชนที่อยูใกลแหลงน้ํา และ ชุมชนที่มีประชากรหนาแนน ที่ควรจัดใหมีระบบบําบัดกอนปลอยลงสูแหลงน้ํา 4. สงเสริมใหชุมชนเมืองทั้ง 56 แหง มีการจัดการสิ่งแวดลอมชุมชนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยสงเสริมใหมีการพัฒนาเมืองและชุมชน ตามแนวทางชุมชนนาอยูและชุมชนยั่งยืน ทั้งการจัดการขยะมูลฝอย ชุมชน การบําบัดน้ําเสียชุมชนที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มและจัดการพื้นที่สีเขียวเพื่อคุณภาพสิ่งแวดลอมและ คุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน โดยจัดใหมีพื้นที่สีเขียวอยางยั่งยืนไมนอยกวารอยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมดของ ชุมชน ควบคุมการพัฒนาเมืองและชุมชนใหสงเสริมและรักษาคุณคาทางทัศนียภาพของเมือง โดยทุกภาคสวน มีสวนรวม และจัดใหมีระบบกําจัดของเสียจากเมืองที่มีประสิทธิภาพและไมสงผลกระทบตอสภาพแวดลอมใน ลุมน้ํา จัดใหมีระบบรวบรวมและกําจัดขยะมูลฝอยของชุมชนในทุกองคกรปกครองสวนทองถิ่นทั้ง 56 แหง อยางถูกหลักวิศวกรรมสุขาภิบาล นิเวศอุตสาหกรรม : 1. ควบคุมและสงเสริมการขยายตัวและกระจายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเพิ่มขึ้นใหจํากัด อยูในพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมที่เหมาะสม ที่มีการจัดเตรียมพื้นที่ โครงสรางพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และระบบบําบัดของเสียที่มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เนนการสงเสริมใหมีการจัดตั้งโรงงานใหม ในเขตนิคมอุตสาหกรรมหรือสวนอุตสาหกรรมที่มีอยูในพื้นที่ลุมน้ําทั้ง 6 แหง ที่ยังคงมีพื้นที่วางอีกกวา 6,425 ไร ใหเต็มพื้นที่กอนการเปดพื้นที่ใหม โดยการใชกฎหมายผังเมืองเปนเครื่องมือในการดําเนินการ 2. กํากับดูแลและบังคับใชกฎหมายในการควบคุมการจัดการคุณภาพสิ่งแวดลอมของโรงงานที่ อยูในพื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญรวม 873 แหง และโรงงานที่ตั้งกระจายอยูโดยทั่วไป 5,039 แหง และควรใชมาตรการจูงใจเสริมในการกระตุนใหสถานประกอบการมีการจัดการดานสิ่งแวดลอมที่ดี 3. สงเสริมการผลิตทางอุตสาหกรรมใหมีลกั ษณะของการผลิตดวยเทคโนโลยีสะอาด -28-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
นิเวศชายฝงทะเล : 1. อนุรักษพื้นที่ปาชายเลนที่เหลืออยูนอยมากในปจจุบนั รวมกับการฟน ฟูและปลูกเพิม่ พืน้ ทีป่ า ชายเลน ปาจากตลอดลําน้ําและปากอาวบางปะกง เพื่อฟนฟูปาชายเลน ทั้งในพื้นที่ปาชายเลนเสื่อมโทรม พื้นที่นากุงราง เกาะธรรมชาติทาขาม และที่ดินเลนงอกใหม เพื่อเปนแหลงอนุบาลและแหลงอาศัยของสัตวน้ํา รวมทั้งเปน พื้นที่กรองของเสียและดักตะกอนที่ถูกพัดพามาจากแผนดินลงสูทะเล ตลอดจนลดการกัดเซาะตลิ่งและการ รักษาสภาพแวดลอมของชายฝง 2. สนับสนุนและสงเสริมการทําประมงพื้นบานเชิงอนุรักษ ดวยการจัดระเบียบเครื่องมือประมงที่มี ความเหมาะสม สอดคลองกับวิถีชีวิตและภูมิปญญาของทองถิ่น การยุติการประมงแบบทําลายลาง ควบคูกับ การสรางความตระหนักและสรางความเขมแข็งใหกับเครือขายการอนุรักษและฟนฟูชายฝงทะเล 3. ใหความรูในการจัดการการเพาะเลี้ยงสัตวน้ําในกระชังแกผูเลี้ยงปลาในกระชัง 195 ราย มีพื้นที่ รวม 42 ไร บริเวณปากแมน้ําบางปะกงอยางเหมาะสม และเปนมิตรตอสิ่งแวดลอมบริเวณปากแมน้ําบางปะกง 4. ดําเนินการประกาศพื้นที่บริเวณปากแมน้ําบางปะกงเปนพื้นที่คุมครองสิ่งแวดลอมตามความ ในมาตรา 43 แหงพระราชบัญญัติสงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหงชาติ พ.ศ.2535
5.
ระบบติดตามประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพื้นที่ ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี
ในการจัดทําระบบติดตามและประเมินผลการดําเนินงานการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ํา บางปะกง ภายใตโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง เมื่อป พ.ศ.2550 มีแนวคิดในการออกแบบและพัฒนาระบบใหมีขีดความสามารถในการสนับสนุนการวิเคราะห ผลการดําเนินงานของแผนงาน / โครงการ และความสอดคลองกับแผนยุทธศาสตรการบริหารจัดการและฟนฟู นิเวศลุมน้ําบางปะกง ตั้งแตผลผลิต ผลลัพธ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดําเนินงานที่สนองตอเปาหมาย ผลผลิต และตัวชี้วัดของแผน รวมทั้งการติดตามประเมินผลขอมูลภูมิสารสนเทศและผลการดําเนินงานกิจกรรม นํารองในพื้นที่ศึกษาที่ไดดําเนินการในป พ.ศ.2549 และสามารถเชื่อมโยงการสงผานเครือขายอินเตอรเน็ตได โดยการเขาสูเว็บไซต http://bpkeco2.onep.go.th/ ระบบติดตามและประเมินผลที่ไดพัฒนาขึ้นในป พ.ศ.2550 นั้น ได พั ฒ นาขึ้ น ให มี ค วามสอดคล อ งกั บ การติ ด ตามและประเมิ น ผลนโยบาย แผน และมาตรการฯ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมไปสูการปฏิบัติที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจัดทําขึ้น ในป พ.ศ.2548 รวมทั้ งการติดตามและประเมินผลการดํ าเนินการตามกรอบแผนการจั ดการคุณ ภาพ สิ่งแวดลอม พ.ศ.2545-2549 สามารถเชื่อมโยงระหวางหนวยงานทั้งสวนกลาง สวนภูมิภาค และเครือขาย ตางๆ ในพื้นที่ลุมน้ํา โดยหนวยงานที่เกี่ยวของจะสามารถกรอกขอมูลผานทางเว็บไซตไดโดยตรง รวมทัง้ การ สื บ ค น ปรั บ ปรุ ง ข อ มู ล และวิ เ คราะห ส ถานการณ ทรั พยากรธรรมชาติ ของลุ มน้ํ าได ทางระบบเครื อข าย อินเตอรเน็ต โดยใชรหัสผานรายบุคคล โดยขอมูลที่ไดรับจะนําไปสูการตรวจสอบวิเคราะหและเผยแพรตอไป -29-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
สํ า หรั บ การดํ า เนิ น งานตามขอบเขตงานในการจั ด ทํ า ระบบติ ด ตามประเมิ น ผลสถานภาพ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง ป พ.ศ.2551 ไดดําเนินการโดย พัฒนาในรูปแบบของเว็บไซด เพื่อใหสามารถติดตามประเมินผลและรายงานสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมทํางานผานเครือขายอินเตอรเน็ต ครอบคลุมขอมูลทั้ง 6 นิเวศ ของโครงการศึกษาฯ ซึ่ง ประกอบดวย นิเวศปาไม นิเวศเกษตรกรรม นิเวศแหลงน้ํา นิเวศเมืองและชุมชน นิเวศอุตสาหกรรม และ นิเวศชายฝงทะเลโดยสวนของการพัฒนาระบบดําเนินการทาง http://bangpakong.onep.go.th ซึ่งแตกตาง จากระบบในป พ.ศ.2550 ที่พัฒนาระบบเพื่อติดตามประเมินผล สนับสนุนการวิเคราะหผลการดําเนินงาน ของแผนงาน/โครงการ และความสอดคลองกับแผนยุทธศาสตรการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ําบางปะกง ตั้งแตผลผลิต ผลลัพธ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดําเนินงานที่สนองตอเปาหมาย ผลผลิต และตัวชี้วัด ของแผน รวมทั้งการติดตามประเมินผลขอมูลภูมิสารสนเทศและผลการดําเนินงานกิจกรรม ทั้งนี้ ไดทําการ เชื่อมโยงใหสามารถเขาสูระบบขอมูลที่พัฒนาขึ้นในป พ.ศ.2550 ผานระบบที่พัฒนาขึ้นใหมในป พ.ศ.2551 เพื่อสะดวกในการใชงานดวย ในโครงสรางของระบบติดตามประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดมี แนวคิดและการออกแบบใหเปนระบบที่ทําหนาที่ใหขอมูลและรับขอมูลในระบบเดียวกัน ผานทางระบบ เครือขายอินเตอรเน็ต โดยกําหนดกลุมขอมูล 7 กลุม ดังรูปที่ 5-1 ประกอบดวยขอมูลหลัก คือ 1. ขอมูลความเปนมาของโครงการ เปนกลุมขอมูลเพื่อนําเสนอและแนะนําเกี่ยวกับความเปนมา ของโครงการศึกษาฯ ประกอบดวย ความเปนมาของการศึกษา วัตถุประสงคและเปาหมาย พื้นที่ดําเนินการ และขอบเขตการดําเนินงาน ซึ่งกําหนดโดยสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 2. ขอมูลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เปนกลุมขอมูลที่จะใชเปนชองทางเผยแพร ขอมูลของพื้นที่ศึกษา โดยแบงเปนขอมูล ตอไปนี้ • ขอมูลพื้นฐานลุมน้ํา ประกอบดวย สภาพภูมิประเทศ ขอบเขตและลักษณะของลุมน้ําศึกษา และขอบเขตการปกครองของลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี • ข อ มู ล คุ ณ ค า เชิ ง พื้ น ที่ ที่ สํ า คั ญ ได แ ก ข อ มู ล พื้ น ที่ ป า อนุ รั ก ษ ใ นลุ ม น้ํ า 7 แห ง ซึ่ ง ประกอบดวยอุทยานแหงชาติเขาใหญ อุทยานแหงชาติปางสีดา อุทยานแหงชาติทับลาน อุทยานแหงชาติ น้ําตกสามหลั่น เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาอางฤๅไน เขตรักษาพันธุสัตวปาเขาเขียว-เขาชมภู และเขตรักษา พันธุสัตวปาเขาสอยดาว รวมทั้งขอมูลของกลุมผืนปามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ และขอมูลของกลุม พื้นที่ปารอยตอ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) • ขอมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมที่ไดจากการศึกษาในรายละเอียด จําแนกเปน รายนิเวศ ซึ่งครอบคลุม 6 นิเวศ ไดแก นิเวศปาไม นิเวศเกษตรกรรม นิเวศแหลงน้ํา นิเวศเมืองและชุมชน นิเวศอุตสาหกรรม และนิเวศชายฝงทะเล -30-
หนาแรก ความนํา วัตถุประสงคและเปาหมาย พื้นที่ดําเนินการ
ความเปนมาของโครงการ
ขอบเขตการดําเนินงาน
สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม
พื้นที่ปาอนุรักษในลุมน้ํา
ขอมูลพื้นฐานลุมน้ํา
พื้นที่ปามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ
คุณคาเชิงพื้นที่ที่สําคัญ
พื้นที่ปารอยตอ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก)
ขอมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม (รายนิเวศ)
แผนการบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงเชิงบูรณาการ
นโยบายและแผนที่สําคัญ
แผนยุทธศาสตรการบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ําบางปะกง แผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดลอม พ.ศ.2550-2554 แผนยุทธศาสตรการพัฒนาจังหวัดของลุมน้ํา
ระบบ
ระบบสนับสนุน การบริหารจัดการ ลุมน้ํา
ระบบรายงานและตัวชี้วัด เพื่อการติดตาม ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอม
รายงานการติดตามและประเมินผลสถานภาพ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม รายการแบบฟอรมที่ถูกบันทึกแลว บันทึกขอมูลเพิ่มเติม แผนที่สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม
ระบบฐานขอมูลภูมิสารสนเทศ ระบบฐานขอมูลสนับสนุนการตัดสินใจ
ภาพถายดาวเทียม
เอกสารรายงานการศึกษา
เอกสารวิชาการและ เอกสารเผยแพร
เอกสารทางวิชาการ เอกสารเผยแพร
กระดานขาว ระบบรายงานสถานการณจากทองถิ่น (Webboard)
เครือขายในพื้นที่ลมุ น้ํา และ สารบัญเว็บที่เกี่ยวของ
เครือขายในพื้นที่ลุมน้ํา Weblink หนวยงานและองคกรที่เกี่ยวของ
รูปที่ 5-1 ผังโครงสรางและองคประกอบของระบบติดตามประเมินผลโครงการฯ -31-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
3. ขอมูลนโยบายและแผนที่สําคัญ เปนกลุมขอมูลที่ไดรวบรวมนโยบายและแผนที่เกี่ยวกับการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี เพื่อเปนขอมูลสําหรับผูที่สนใจ เขาใชงานระบบฯ ประกอบดวย แผนบริหารจัดการและพัฒนาลุมน้ําบางปะกงเชิงบูรณาการ แผนยุทธศาสตร การบริหารจัดการและฟนฟูนิเวศลุมน้ําบางปะกง แผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดลอม พ.ศ.2550-2554 และ แผนยุทธศาสตรการพัฒนาของจังหวัดในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี 4. ระบบสนับสนุนการบริหารจัดการลุมน้ํา จัดเปนกลุมขอมูลที่สําคัญที่สุดของเว็บไซด โดยเปน ส วนงานพั ฒนาระบบให สามารถรองรั บการรายงานสถานภาพทรั พยากรธรรมชาติ และสิ่ งแวดล อม จาก หนวยงานที่เกี่ยวของตามระบบอินเตอรเน็ตได โดยแบงสวนของระบบออกเปน 3 ระบบยอย • ระบบรายงานและตัวชี้วัดเพื่อการติดตามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ซึ่งเปนสวน นําเขาขอมูลของหนวยงานที่รับผิดชอบในการกรอกขอมูลตามสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยที่แตละ หนวยงานตอง Log in เขาสูระบบ รวมทั้งระบบครอบคลุมเมนูยอยตอไปนี้ - รายงานการติดตามและประเมินผลสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม - รายการแบบฟอรมที่ถูกบันทึกแลว และ - บันทึกขอมูลเพิ่มเติม • ระบบฐานขอมูลภูมิสารสนเทศ แสดงผลในรูปแบบของแผนที่สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม ซึ่งเปนขอมูลสําหรับดาวนโหลดในลักษณะของภาพ ประมาณ 94 ภาพ และฐานขอมูล สารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) ซึ่งประกอบไปดวยกลุมขอมูลตางๆ ดังนี้ - กลุมชั้นขอมูลมาตรฐานของแผนที่ชุด L7018 ของกรมแผนที่ทหาร 11 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลพื้นฐาน 13 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลนิเวศปาไม 14 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลนิเวศเกษตรกรรม 19 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลนิเวศแหลงน้ํา 15 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลนิเวศเมืองและชุมชน 24 ชั้นขอมูล - กลุมชั้นขอมูลนิเวศชายฝงทะเล 18 ชั้นขอมูล รวมทั้ง Map Sever และภาพถายดาวเทียม หรือการประยุกตใช Google Earth ใน ลักษณะของภาพถายดาวเทียมที่มีรายละเอียดสูง และสามารถระบุตําแหนงพิกัดสําคัญของพื้นที่บนแผนที่ ซึ่งแสดงผลสภาพพื้นที่จริงไดชัดเจนมากกวาการแสดงผลในรูปแบบแผนที่ทั่วไป ทั้งนี้ ภายใตระบบรายงานสถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในสวนของ ระบบฐานขอมูลภูมิสารสนเทศจะแสดง Map Server ของโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมในลุมน้ําบางปะกง และ Map Server ในสวนของโครงการติดตามและประเมินผลการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ลุมน้ํา บางปะกงและลุมน้ําปราจีนบุรี -32-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• ระบบฐานขอมูลสนับสนุนการตัดสินใจเปนรูปแบบการแสดงผลในลักษณะของระบบสารสนเทศ ที่รวบรวมขอมูล และจัดทําแบบจําลองในการตัดสินใจที่สําคัญ เพื่อชวยในการตัดสินปญหาแกปญหาหรือ เลือกโอกาสที่เกิดขึ้น โดยครอบคลุม 17 เรื่อง ดังตอไปนี้ - ขอบเขตจังหวัด / อําเภอ - พื้นที่ปาตนน้ําลําธาร - พื้นที่เกษตรกรรม - พื้นที่ดินที่มีปญหาในการทําเกษตรกรรม - การจัดการดิน - การจัดการดินที่ผานการทํากุง - การฟนฟูพื้นที่ผานการเลี้ยงกุงกุลาดํา - ขั้นตอนการฟนฟูพื้นที่นากุงในเขตน้ําเค็ม - ขั้นตอนการฟนฟูพื้นที่นากุงในเขตน้ําจืด ดินลางเปนตะกอนน้ําทะเล - ระบบบําบัดและการจัดการน้ําทิ้งจากการเลี้ยงปลาน้ําจืด - การจัดการมลพิษในฟารมสุกร - ระบบการตั ด สิ น ใจในการจั ด การด า นมลพิ ษ จากฟาร ม สุ ก ร (ที่ ม า : ส ว นน้ํ า เสี ย เกษตรกรรม สํานักจัดการคุณภาพน้ํา กรมควบคุมมลพิษ) - ขอบเขตและขนาดของพื้นที่สีเขียวที่เหมาะสม - การเปรียบเทียบคุณภาพน้ําตามประเภทแหลงน้ํา - การบริ ห ารจั ด การแหล ง น้ํ า ขนาดเล็ ก (ที่ ม า : ส ว นฐานข อ มู ล สารสนเทศ สํ า นั ก เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมพัฒนาที่ดิน และคณะที่ปรึกษาจาก คณะ วิศวกรรมศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย) - การจัดทําพนังกั้นน้ําที่เหมาะสม - พื้นที่ปาชายเลน 5. ขอมูลเอกสารวิชาการและเอกสารเผยแพร เปนกลุมขอมูลที่ใชเปนแหลงสืบคน และดาวนโหลด ขอมูลทางวิชาการที่เปนผลผลิตจากการศึกษาที่ผานมาทั้งหมด เพื่อสามารถนําไปประกอบการใชประโยชน ตางๆ ประกอบดวย • เอกสารรายงานการศึกษา ไดแก รายงานโครงการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําบางปะกง และ รายงานโครงการประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในนิเวศลุมน้ําบางปะกง • เอกสารทางวิชาการ ไดแก รายงานการศึกษาวิจัยภายใตโครงการประสานการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในนิเวศลุมน้ําบางปะกง ประกอบดวย ชางปาเขาอางฤๅไน วิถีชีวิตลุมน้ํา คลองทาลาด การผนวกผืนปาอนุรักษ คายเยาวชนรักษคลองทาลาด การคุมครองพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี การคุมครองสิ่งแวดลอมชายฝงทะเล บริเวณปากแมน้ําบางปะกง และเครือขายรักษบึงพระอาจารย -33-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
• เอกสารเผยแพร ไดแก - กฎหมายเกีย่ วของกับสิ่งแวดลอม - กองทุนสิง่ แวดลอม - การจัดการขยะอยางงาย - การจัดการพนังกัน้ น้าํ - การจัดการสิง่ แวดลอมเมืองนาอยู - การฟน ฟูพนื้ ทีท่ ี่ผานการทํานากุง - การเลี้ยงสุกรที่เปนมิตรตอสิ่งแวดลอม - คูมือดูนกเกาะทาขาม - ทองเที่ยวเชิงนิเวศลุมน้ําบางปะกง - เทคนิคการมีสว นรวมเพื่อการอนุรักษ - นโยบายและแผนการอนุรักษแมน้ํา คู คลอง - แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารจัดการนิเวศลุมน้ําอยางยั่งยืน - แนวคิดเกี่ยวกับการคุมครองพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี - ผืนปาดงพญาเย็น-เขาใหญ - พื้นที่คุมครองสิ่งแวดลอม - พื้นที่ปาอนุรักษในลุมน้ําบางปะกง 6. กระดานข า ว (Webboard) เปน ระบบรับขอมูลข า วสารอี ก รูป แบบหนึ่ ง ที่พัฒ นาขึ้ น สํ า หรั บ รองรับขอมูลสถานการณทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมจากเครือขายผูใหขอมูล ซึ่งจะเปนขอมูลที่ รายงานไดในรูปแบบอิสระ หรือการประสานความรวมมือระหวางผูสนใจรวมอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมในพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี 7. เครือขายในพื้น ที่ลุม น้ําและสารบัญเว็บที่เกี่ยวของ เป นสวนที่สามารถรองรับการรายงาน สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม จากหนวยงานที่เกี่ยวของในการนําเขาขอมูลเครือขายใน พื้นที่รับผิดชอบ ตามระบบอินเตอรเน็ต รวมทั้ง เปนสวนของระบบที่รวบรวมเว็บไซดของหนวยงาน องคกรที่ เกี่ยวของกับการบริหารจัดการพื้นที่ลุมน้ําบางปะกง-ปราจีนบุรี ซึ่งจะเปนการอํานวยความสะดวกใหกับผูใช ระบบในการเชื่อมโยงหรือสืบคนขอมูลที่นาสนใจของหนวยงานตางๆ หรือทํางานในลักษณะของการเปน เว็บทา (Portal Web) ของเครือขาย โครงสรางเว็บไซตของระบบติดตามและประเมินผลภายใตโครงการติดตามและประเมินผลการ จัด การทรั พ ยากรธรรมชาติ แ ละสิ่ ง แวดล อ มในระบบนิ เ วศของลุ ม น้ํ า บางปะกงที่ พั ฒ นาขึ้ น ครอบคลุ ม โครงสรางและองคประกอบของระบบ 7 สวน ไดแก ความเปนมาของโครงการ สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม นโยบายและแผนที่สําคัญ ระบบสนับสนุนการบริหารจัดการลุมน้ํา เอกสารวิชาการและ เอกสารเผยแพร กระดานขาว และเครือขายในพื้นที่ลุมน้ําและสารบัญเว็บไซดที่เกี่ยวของ โดยการจัดการระบบ -34-
โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง
รายงานสรุปสําหรับผูบริหาร
เปนรูปแบบ Menu ที่มีลักษณะเปน Frame ซึ่งดัดแปลง Menu ใหเปนแบบ Click to expand menu ทั้งนี้ การใชระบบติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในระบบนิเวศของลุมน้ํา บางปะกง ซึ่ง ครอบคลุ มพื้น ที่ลุม น้ําบางปะกง-ปราจีนบุรีนี้ มี รูปแบบการเข าสูระบบโดยอาศั ยเว็ บไซต http://bangpakong.onep.go.th
http://www.onep.go.th
http://bpkeco2.onep.go.th
http://bangpakong.onep.go.th
-35-
คณะทํางาน โครงการติดตามและประเมินผลการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมในระบบนิเวศของลุมน้ําบางปะกง 1. คณะกรรมการกํากับการศึกษา (1) นายสมศักดิ์ บุญดาว หัวหนากลุมงานประสาน 3 (2) นายสกุลยุช ศรุตานนท นักวิชาการสิ่งแวดลอม 7ว (3) นางสาวกตัญชลี เวชวิมล นักวิชาการสิ่งแวดลอม 6ว (4) นายวิทยา ตั้งพิทยาเวทย นักวิชาการสิ่งแวดลอม 4
ประธาน กรรมการ กรรมการ กรรมการและเลขานุการ
ดําเนินการศึกษาโดย บริษัท เทสโก จํากัด เลขที่ 21/11-14 ซอยสุขุมวิท 18 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท 0 2258 1320 โทรสาร 0 2258 1313 , 0 2261 4511 E-mail : tesco007@ksc.th.com
-I-
รายชื่อคณะผูศึกษา (1) นายพิเศษ
เสนาวงษ
(2) ดร.อภิสิทธิ์
เอี่ยมหนอ
(3) รศ.ดร.สิทธิชัย
ตันธนะสฤษดิ์
(4) นายทัพนันทน (5) ดร.วิโรจน
เอี่ยวพานทอง พิมมานโรจนากูร
(6) (7) (8) (9) (10)
ศรีขจร เวชพันธ รังสิรักษ สาธุมนัสพันธุ รมสนธิ์
นายมนู นายวิชิต ผศ.เลิศวิทย รศ.ดร.สุวลักษณ นายชาติชาย
(11) นางกอบกุล (12) นายจํารูญ
สามัคคี สวยดี
(13) (14) (15) (16) (17) (18) (19)
ศิลปมณีพนั ธ จรเดช นิติเกษตรสุนทร อยูสุข โพธิ์เกษม ชมชิด คําแทง
นางสาวอรนุช นางสาวนันจิรา นายเผาพงศ นายทรงยศ นายสาโรจน นางสาวพรรษา นางสาวอําพร
-II-
ผูจัดการโครงการ / ผูเชีย่ วชาญดานฐานขอมูล สถานภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ผูเชี่ยวชาญดาน Remote Sensing และ สารสนเทศภูมิศาสตร ผูเชี่ยวชาญดานการพัฒนาและทดสอบตัวชี้วัด ในการติดตามประเมินผล ผูเชี่ยวชาญดานการพัฒนาโปรแกรม ผูเชี่ยวชาญดานทรัพยากรปาไม-สัตวปา และ จัดการพืน้ ที่ปา อนุรักษ ผูเชี่ยวชาญดานการใชที่ดนิ และการเกษตรกรรม ผูเชี่ยวชาญดานทรัพยากรน้าํ ผูเชี่ยวชาญดานชุมชนเมือง ผูเชี่ยวชาญดานนิเวศปากแมน้ําและชายฝง ทะเล ผูเชี่ยวชาญดานแหลงโบราณคดี ประวัติศาสตร และแหลงธรรมชาติ ผูเชี่ยวชาญดานการเสริมสรางกระบวนการมีสว นรวม ที่ปรึกษาโครงการ / ผูเชี่ยวชาญดานการพัฒนา เครือขายและกลไกการบริหารจัดการลุมน้ํา นักวิชาการดานสิ่งแวดลอม นักวิชาการดานสิ่งแวดลอม นักวิชาการสารสนเทศภูมิศาสตรและระบบ นักวิชาการสารสนเทศภูมิศาสตรและระบบ นักวิชาการสารสนเทศภูมิศาสตรและระบบ นักวิชาการสารสนเทศภูมิศาสตรและระบบ เลขานุการโครงการ