“ น า ย ร อ บ รู ้ ” A S E A N G U I D E
]k;.8h หอมกลิ่นดอกจําปา
เสน่หา
เรื่อง : รุ่งโรจน์ จุกมงคล ภาพ : นคเรศ ธีระค�าศรี
จ า ก ป ร า ส า ท วั ด พู สู่ ถิ่ น ป ลู ก กาแฟลาว กาแฟลาว ตื่ น ต า วั ฒ น ธ ร ร ม ห ล า ก ช น เ ผ่ า สุ ด อ ลั ง ก า ร ส า ย นํ้ า โ ข ง แ และเ ล ะ เ ก า ะ แ ก่ ง สี่ พั น ด อ น
พ ร้ อ ม
แ ผ น ที่
ท่ อ ง เ ที่ ย ว
]k;.8h
หอมกลิ่นดอกจําปา
เสน่หา
รุ่งโรจน์ จุกมงคล
ทางเดินชมปราสาทวัดพู มีเสานางเรียงขนานต่อกัน
ทวารบาลที่ปราสาทวัดพู
“นายรอบรู้” บอกกล่าว ในปี พ.ศ. 2558 ไทยจะก้าวเป็นส่วนหนึง่ ของประชาคมเศรษฐ- กิจอาเซียน (Asean Economics Community หรือ AEC) นับเป็นโอกาสอันดีด้านการค้าและการลงทุนกับมิตรประเทศ รวมทั้งด้านการท่องเที่ยวข้ามแดนที่จะต้องขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเพียงแค่ประเทศเพือ่ นบ้านทีม่ อี าณาเขตติดกันอย่างลาว ก็มสี งิ่ น่าสนใจมากมายรอให้ไปสัมผัสเรียนรู ้ ด้วยแต่ละภูมภิ าค ของลาวทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ล้วนมีความแตก ต่างหลากหลายของชาติพันธุ์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ หอมกลิ่นดอกจ�าปา เสน่หาลาวใต้ คู่มือน�าเที่ยวในชุด “นายรอบรู”้ ASEAN GUIDE โดย รุง่ โรจน์ จุกมงคล นักเขียน นักเดินทาง และคนท�าสารคดี จะน�าผู้อ่านไปรู้จักแหล่งท่อง เที่ยวและสิ่งน่าสนใจทางพื้นที่ตอนใต้ของลาว เริ่มตั้งแต่เดิน ทางข้ า มพรมแดนไทยสู ่ ป ากเซ เมื องเอกของลาวใต้ ก่ อ น ตระเวนไปตามพื้นที่กว้างใหญ่ของแขวงจ�าปาสัก เซกอง และ อัตตะปือ กระทัง่ สุดปลายทางทีด่ า่ นชายแดนเวียดนาม พร้อม ให้รายละเอียดการเดินทาง การเตรียมตัว แนะน�าที่พัก ร้าน อาหาร ของฝาก และแผนที ่ นอกจากข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ในการท่องเที่ยวแล้ว ผู้อ่านยังจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศ ลาวใต้ด้วยภาพถ่ายสวยงามของ นคเรศ ธีระค�าศรี ช่างภาพ แถวหน้าของเมืองไทย ทีผ่ า่ นมาอาจเพราะอยูใ่ กล้ชดิ กันจนคุน้ เคย ท�าให้เรามอง ข้ามความน่าสนใจของเพือ่ นบ้านอย่างลาว “นายรอบรู”้ หวังว่า หอมกลิ่นดอกจ�าปา เสน่หาลาวใต้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่าน สนใจเดินทางไปเที่ยวมิตรประเทศอาเซียน และเกิดทัศนคติ ที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างกัน อันเป็นรากฐานส�าคัญที่จะ ช่วยสานความร่วมมือสู่ความก้าวหน้าและเข้มแข็งของ AEC ในอนาคต
สารบัญ รู้จักก่อนเดินทาง 11
ประวัติและเหตุการณ์ส�าคัญ 12 สมัยสร้างบ้านแปงเมือง 12 • สมัยอาณานิคม การประกาศเอกราช และสงครามกลางเมือง 15 • ประวัติศาสตร์ลาวใต้ 19 ภูมิประเทศและภูมิอากาศ 21 • ชาติพันธุ์ชนเผ่า 22 การท่องเที่ยวในลาวใต้ 24 1 เที่ยวเมืองเก่า : ปากเซ จ�าปาสัก 24 • 2 เที่ยวน�้าตกบอละเวน 25 3 เที่ยวเกาะแก่งแม่น�้าโขง 25 • 4 ชมโบราณสถาน 26 5 เที่ยวเซกอง-อัตตะปือ 27 การเดินทาง 28 หนังสือเดินทางและบัตรผ่านแดน 28 • การเดินทางสู่ลาวใต้ มุ่งสู่อุบลราชธานี 30 • มุ่งสู่ลาวใต้ 32 • การเดินทางจากลาวใต้กลับประเทศไทย 34 • การเดินทางในลาวใต้ 36 • การเดินทางจากปากเซ 37 การเดินทางจากจ�าปาสัก 39 • ภาษาลาวควรรู้ 41
ท่องเที่ยวในลาวใต้ 45
ปากเซ ประตูสู่ลาวใต้ 47 สถานที่น่าสนใจ 52 อาคารเก่าสมัยอาณานิคม 52 • วัดหลวงหรือวัดโพธิรัตนะศาสดาราม 57 สะพานเซโดน 58 • โรงแรมจ�าปาสักพาเลซ 58 พิพิธภัณฑ์มรดกประวัติศาสตร์จ�าปาสัก 60 • ย่านแคมของ 61 • ตลาดใหม่ปากเซ (ตลาดดาวเรือง) 61 ร้านอาหาร 62 • ร้านกาแฟ 66 • ของฝาก 67 จ�าปาสัก เมืองโบราณแห่งลาวใต้ 69 สถานที่น่าสนใจ 73 อาคารเก่าสมัยอาณานิคม 73 • ดอนแดง 74 วัดเมืองกางหรือวัดพุทธวนาราม 81 • ปราสาทวัดพู 82
สี่พันดอน มหัศจรรย์แม่น�้าโขง 91 สถานที่ท่องเที่ยวนอกเขตสี่พันดอน 101 ปราสาทโต๊ะโมะ 101 • บ้านเกียดโง้งและภูอาสา 102 • สถานที่ท่องเที่ยวในเขตสี่พันดอน 106 ดอนโขง 106 • ดอนเดด ดอนคอน 112 • สะพานฝรั่งเศส 115 วัดคอนใต้ 116 • แก่งหลี่ผี 118 • บ้านหางคอน 119 แก่งคอนพะเพ็ง 122 ที่ราบสูงบอละเวน กรุ่นกลิ่นกาแฟกลางดินแดนน�้าตก 127 สถานที่น่าสนใจ 133 น�้าตกตาดผาส่วมและอุทยานบาเจียง 133 • น�้าตกตาดอีตู้ 137 น�้าตกตาดฟาน 138 • น�้าตกตาดถ�้าจ�าปี 139 น�้าตกตาดเยือง 139 • เมืองปากซอง 140 เที่ยวน�้าตกตามเส้นทางสู่อัตตะปือ 143 น�้าตกตาดคู่ 144 • น�้าตกเซกะตาม 144 แขวงเซกอง ดินแดนแห่งชนเผ่าลาวเทิง 147 สถานที่น่าสนใจ 153 เมืองละมาม 153 • น�้าตกตาดแฝก 156 • น�้าตกตาดหัวคอน 156 แขวงอัตตะปือ ดินแดนชายขอบลาวใต้ 159 สถานที่น่าสนใจ 165 เมืองสามัคคีไชย 165 • วัดสะแคะ 168 แหล่งทอผ้าชนเผ่าบ้านสีวิไล 169 • พระธาตุไชยเชษฐา 170 บ้านปะอ�า 172 • หนองฟ้า 174 • ด่านชายแดนพูเกือ 174 ภาคผนวก 176 อาหารและเครื่องดื่ม 176 • ของฝาก 183 ค้นหาที่เที่ยว 185
xt;af
c]tgsfdkole7ao (ประวัติและเหตุการณ์ส�าคัญ)
สมัยสร้างบ้านแปงเมือง ดินแดนของ สปป. ลาวมีผคู้ นตัง้ ถิน่ ฐานมาตัง้ แต่ยคุ ดึกด�าบรรพ์ ดังปรากฏหลักฐานจากเครื่องมือหินที่ค้นพบตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น แขวงหัวพันและหลวงพระบาง เป็นสิง่ ยืนยันร่องรอยของมนุษย์ สมัยก่อนประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 4 หมื่นปีที่ผ่านมา
ภาพวาดงานล่องเรือที่จ�าปาสักในอดีต
มนุษย์ทอี่ าศัยอยูใ่ นแผ่นดินลาวก้าวเข้าสูส่ งั คมเกษตรกรรม เมือ่ ราว 7,000 ปีกอ่ น โดยนักโบราณคดีพบเครือ่ งมือการเกษตร และเครื่องมือต่าง ๆ ในหลุมฝังศพ ส�าหรับเครื่องมือส�าริดที่พบ มีอายุประมาณ 3,500 ปี ส่วนเครือ่ งมือเหล็กอยูใ่ นช่วง 2,700 ปี ซึ่งเป็นสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในแผ่นดินลาวเช่นกัน จนกระทั่ง กลายเป็นแผ่นดินของชนชาติลาวในกาลต่อมา
12
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
ประวัติศาสตร์ยุคแรก ๆ ของลาว เชื่อว่าอยู่ภายใต้การ ปกครองของอาณาจักรน่านเจ้า ตามต�านานของปฐมกษัตริย ์ ขุน บรมและขุนลอผู้เป็นพระราชโอรสทรงน� าผู้คนมาสร้างบ้าน แปงเมืองขึน้ ตรงทีป่ ากแม่นา�้ คานไหลมาสบแม่นา�้ โขง (เมืองหลวง- พระบางในปัจจุบนั ) โดยให้ชอื่ ว่า “เมืองศรีสตั นาคนหุตอุตมราช- ธานี” แต่เรียกกันทั่วไปว่าเมืองเชียงทอง ตามชื่อเมืองเมื่อแรก ตั้งถิ่นฐาน และมีลูกหลานปกครองสืบต่อกันมา จนถึงรัชสมัย พระเจ้าฟ้างุม้ มหาราชองค์สา� คัญผูท้ รงรวบรวมอาณาจักรล้านช้าง ได้สา� เร็จภายใต้ชอื่ “กรุงศรีสตั นาคนหุตล้านช้างร่มขาว” เมือ่ พ.ศ. 1896
เรือกลไฟของคณะส�ารวจชาวฝรั่งเศสเทียบท่าที่สี่พันดอน
นอกจากพระเจ้าฟ้างุ้มจะทรงสถาปนาอาณาจักรล้านช้าง แล้ว ยังทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงทั้งด้านการปกครอง การเมือง พุทธศาสนา ประเพณีวฒ ั นธรรม จึงถือเป็นช่วงสมัยที ่ เจริญรุง่ เรืองสูงสุด และมีอาณาจักรแผ่ไพศาลกว้างขวางทีส่ ดุ ซึง่ ตามประวัติศาสตร์จารึกว่า ก่อนที่พระเจ้าฟ้างุ้มจะทรงรวบรวม อาณาจักรลาวให้เป็นปึกแผ่น พระองค์เสด็จฯ จากเมืองเชียงทอง รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
13
คนงานสร้างทางรถไฟที่ดอนเดด
มาพ�านักทีเ่ กาะดอนของสีพ่ นั ดอน แคว้นจ�าปาสัก เพือ่ เตรียมการ วางแผน และรวบรวมไพร่พลจนกระท�าการได้ส�าเร็จ ครัน้ สิน้ รัชสมัยพระเจ้าฟ้างุม้ อาณาจักรล้านช้างมีกษัตริย ์ ปกครองสืบต่อกันมาหลายพระองค์ โดยกษัตริยผ์ มู้ ชี อื่ เสียงและ เป็นที่เคารพรักของลาวอีกพระองค์หนึ่งคือ พระเจ้าไชยเชษฐา- ธิราช ทรงปกครองลาวช่วง พ.ศ. 2091-2114 และมีพระราชกรณีย- กิจที่โดดเด่นด้วยทรงย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบาง (เมือง เชียงทอง) มายังนครเวียงจันทน์ ก่อสร้างพระธาตุหลวง และสร้าง หอพระแก้วเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาว นานที่สุด รัชสมัยของพระองค์นับเป็นยุคทองของอาณาจักร ล้านช้าง บ้านเมืองสงบสุข เปิดการค้าขายเจริญสัมพันธไมตรีกบั ประเทศตะวันตก โดยลาวได้ติดต่อกับต่างประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2184 มีพอ่ ค้าชาวดัตช์จากบริษทั อินเดียตะวันออกเข้ามาค้าขาย และมีคณะผู้สอนศาสนาชาวอิตาลีเดินทางมายังอาณาจักรล้าน- ช้าง และพรรณนาถึงนครเวียงจันทน์ว่า เป็นเมืองยิ่งใหญ่งดงาม ที่สุดเมืองหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนั้น ภายหลังเมื่อพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชเสด็จสวรรคต เชือ้ พระวงศ์ลาวต่างแก่งแย่งราชสมบัตกิ นั จนอาณาจักรล้านช้าง แตกแยกเป็ นสามส่ วนคื อ อาณาจั กรล้านช้ างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจ�าปาสัก และเพือ่ ชิงความเป็นใหญ่ตา่ งก็ขอสวามิภกั ดิต์ อ่ อาณาจักรเพือ่ น บ้าน เช่น ไทย พม่า เพื่อขอก�าลังมาสยบอาณาจักรลาวด้วยกัน กระทั่งในที่สุดอาณาจักรลาวทั้งสามแห่งก็ตกเป็นประเทศราช ของอาณาจักรสยามในปี พ.ศ. 2321
14
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
http://www.talkingproud.us/Military/Ban%20Laboy/ Ban%20Laboy/BanLaboyHowItFit.html Photo credit: George Conklin. Presented by Thailand Dog Handlers.com
กองทหารตามเส้นทางโฮจิมินห์ในลาวช่วงสงครามอินโดจีน
สมัยอาณานิคม การประกาศเอกราช และสงครามกลางเมือง ต่อมาในปี พ.ศ. 2436 สยามเกิดข้อขัดแย้งกับฝรัง่ เศสเรือ่ งอ�านาจ เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น�้าโขงจนเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 จากการใช้เล่ห์เหลี่ยมของ ออกุสต์ ปาวี กงสุลฝรั่งเศส โดยใช้ เรือรบมาปิดอ่าวไทยเพื่อบังคับให้ยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น�้าโขง รวมทัง้ ดินแดนอืน่ ๆ เป็นเหตุให้ดนิ แดนลาวเกือบทัง้ หมดต้องตก อยู่ภายใต้อิทธิพลของฝรั่งเศสในปีนั้นและถูกรวมเป็นส่วนหนึ่ง ของอินโดจีนฝรั่งเศส ต่อมาดินแดนลาวส่วนอื่นที่อยู่ฝั่งขวาของ แม่น�้าโขงก็ตกเป็นของฝรั่งเศสอีกในปี พ.ศ. 2450
รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
15
[jvomjv’mjP; (สถานที่น่าสนใจ)
อาคารเก่าสมัยอาณานิคม ย้อนอดีตผ่านสถาปัตยกรรม - ที่ตั้ง ย่านหลักเมือง
ด้วยผลจากการเป็นฐานทีม่ นั่ ของฝ่ายรัฐบาลเวียงจันทน์ในสงคราม ปฏิวตั ิ เมืองปากเซจึงรอดพ้นจากการถูกทิง้ ระเบิดท�าให้หลงเหลือ อาคารเก่าตัง้ แต่สมัยทีเ่ ป็นอาณานิคมของฝรัง่ เศส อาคารเหล่านี้ เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานในรูปแบบโคโลเนียล ฝีมอื ช่างชาว เวียดนามที่ฝรั่งเศสน�ามา มีทั้งอาคารที่ท�าการรัฐ ร้านค้า และ บ้านเรือน เรียกว่าอาคารหรือบ้านแบบ “ต๊อกซี่” เป็นบ้านที่ชาว ฝรั่งเศสสร้างเพื่ออยู่อาศัย แม้จะมีอายุนานนับร้อยปี แต่ก็ได้รับ การทะนุบา� รุงและซ่อมแซมจนยังคงสภาพสมบูรณ์ นักท่องเทีย่ ว สามารถเดินชมความงามของสถาปัตยกรรมย้อนยุคที่ถ่ายทอด ภาพประวัติศาสตร์สมัยอาณานิคมของเมืองปากเซในอดีตได้ อย่างชัดเจน โรงแรมสีสุก
52
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
(บน) วัดโพธิรัตนะศาสดาราม (ขวาบนสุด) โรงแรมจ�าปาสักพาเลซ (บนขวา) มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ปากเซ (ล่าง) ตึกเก่าอันงดงามของสมาคมจีน
รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
53
[jvomjv’mjP;
.og0fluJraofvo (สถานที่ท่องเที่ยวในเขตสี่พันดอน)
ดอนโขง
วิถีเรียบง่ายบนเกาะใหญ่
- การเดินทาง จากเมืองปากเซไปตามทางหลวงหมายเลข 13 ผ่านสามแยกทางแบ่ง จนถึงหลัก กม. 131 มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงบ้านหาด มีท่าแพขนานยนต์ข้ามไปสู่ดอนโขง ค่ารถคันละ 30,000 กีบ ขึ้นแพแล้วเลี้ยวขวาไปอีก 2 กิโลเมตรจะถึงเมืองโขง จากสถานีขนส่งหลักแปดมีรถสองแถวประจําทางไปดอนโขง เวลา 08.00, 09.30, 11.30, 14.00, 16.00 น. ค่าโดยสารคนละ 50,000 กีบ
ดอนโขงเป็นดอนขนาดใหญ่ที่สุดในสี่พันดอน มีภูมิทัศน์รูปทรง ยาวรีคล้ายผลมะละกอ ความยาวจากเหนือจดใต้ 19 กิโลเมตร กว้าง 8 กิโลเมตร รวมพืน้ ทีท่ งั้ เกาะประมาณ 90 ตารางกิโลเมตร มีเมืองโขงเป็นเมืองเอก ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของที่ท�าการแขวง สีทันดอน ก่อนถูกยุบไปขึ้นกับแขวงจ�าปาสัก เนื่องจากเป็นดอนขนาดใหญ่ที่พื้นที่มีทั้งที่ราบลุ่ม ภูเขา หนองบึง และหาดทรายล้อมรอบดอน จึงมีชาวลาวลุ่มเข้ามาตั้ง
106
เรือหาปลาลอยลํ ห อามในแม่ ก ลิ่ นนํ้าดโขงที อ ก จํ่ดาอนโขง ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
fvo0v’ โรงเรียน พลอารีนา สุขสบาย พลริเวอร รัตนาริเวอรไซ ไปรษณีย สถานีตำรวจ วิลลาแกงโขง ดอนโขง ไปเมืองแสน
แมน้ำ โขง
วัดกลางเมือง
แมโขงอินน ไปทาเรือเฟอรรี
แสนสดสวย วิลลาเมืองโขง
รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
107
เรือแพบรรทุกมอเตอร์ไซค์ข้ามโขง
ถิน่ ฐานอยูบ่ นดอนโขงตัง้ แต่ครัง้ โบราณ กระทัง่ พระครูยอดแก้ว-- โพนสะเม็กหรือญาครูขี้หอมพาญาติโยมอพยพหนีภัยจากเวียง- จันทน์ ล่องแม่น�้าโขงสู่ทางใต้เมื่อ 200 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อมาถึงดอนโขงญาครูขี้หอมน�าญาติโยมและชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่บนเกาะดอนสร้างเมืองโขงขึ้น โดยเสี่ยงต�าแหน่งว่า บริเวณใดจะเป็นท�าเลทีต่ งั้ ของเมืองทีร่ งุ่ เรืองในกาลข้างหน้า ด้วย การปลูกต้นโพธิน์ า� ส่วนยอดฝังดิน แต่ปกั รากขึน้ ฟ้าเรียกว่า “ต้น โพธิเ์ สีย่ ง” สามจุด คือ ทีเ่ มืองโขงปัจจุบนั ทีบ่ า้ นเมืองแสน และที่
ท่านค�าไต สีพันดอน
เมืองโขงเป็นบ้านเกิดของท่านค�าไต สีพันดอน ประธานประเทศแห่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึง่ เทียบได้กบั ต�าแหน่งประธานา- ธิบดี ท่านค�าไตเกิดทีบ่ า้ นโขงพะใหญ่ เมืองโขง แขวงจ�าปาสัก เมือ่ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2467 เมื่ออายุ 7 ขวบได้มาพักกับญาติคือมหาแก้วซึ่งเป็นปัญญาชน ของลาวในยุคนั้น โดยเรียนอยู่ที่เวียงจันทน์ จนถึงชั้นมัธยมฯ ปลายที ่ โรงเรียนปาวี แต่ยังไม่ทันส�าเร็จก็ประสบปัญหาทางการเงิน จึงย้ายไป ท�างานเสมียน และศึกษาเพิ่มเติมที่ไซ่ง่อน จนถึง พ.ศ. 2490 จึงเข้ารับ ราชการประจ�าที่แขวงพงสาลี ต่อมาท่านได้ติดต่อกับขบวนการลาวอิสระ และเข้าร่วมกับกอง ก�าลังต่อต้านรัฐบาลในปี พ.ศ. 2491 รับหน้าที่อยู่ในเขตภาคใต้ของลาว และน�ากองไชยจักรพรรดิไปตั้งอยู่ในแนวเส้นทางชายแดนเวียดนาม (เขต 5) และบัญชาการรบทีภ่ าคกลางและภาคใต้ในเขตเส้นทางหมายเลข
108
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
ท่าแพขนานยนต์ที่ดอนโขง
บ้านหัวโขง โดยอธิษฐานว่าหากพืน้ ทีใ่ ดสามารถปลูกต้นโพธิเ์ สีย่ ง ไม่ตาย ถือเป็นที่หมายการสร้างบ้านแปงเมืองถาวร ปรากฏว่า ต้นโพธิท์ ปี่ ลูกบริเวณเมืองโขงไม่ตาย ขณะทีอ่ กี สองต้นตาย จึงมี การสร้างชุมชนและวัดที่ดอนโขงสืบมาจนถึงปัจจุบัน แม้วันเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่เมืองโขงทุกวันนี้ก็ยัง เป็นชุมชนอันสงบเงียบไม่ต่างจากสมัยที่เริ่มสร้างบ้านแปงเมือง นักท่องเทีย่ วทีไ่ ด้มาเยือนจะรูส้ กึ เหมือนอยูใ่ นดินแดนสงบนิง่ ด้วย วิถีชีวิตเรียบง่ายตามประสาพื้นถิ่น
สิ่งน่าสนใจ
• วัดกลางเมือง วัดกลางเมืองเป็นวัดเก่าแก่คดู่ อนโขง สร้าง
โดยญาครูขหี้ อม แต่กลายเป็นวัดร้างในสมัยอาณานิคม และฝรัง่ - 8 หมายเลข 12 และหมายเลข 13 พ.ศ. 2499 ท่านค�าไตเข้าเป็นกรรมการของคณะชี้นา� ศูนย์กลาง พรรค จนถึง พ.ศ. 2503 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพ ลาวอิสระ หลังจากกองก�าลังปฏิวัติลาวได้รับชัยชนะเข้ามาบริหารประเทศ จนถึงในการประชุมใหญ่ผู้แทนประชาชนทั่วประเทศที่เวียงจันทน์ เมื่อ วันที ่ 2 ธันวาคม 2518 ท่านค�าไตได้รบั แต่งตัง้ ให้ดา� รงต�าแหน่งรองนายก รัฐมนตรี สปป. ลาว, รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ, ผู้บัญชาการ กองทัพประชาชนลาว ต่อมาถึงปี พ.ศ. 2534 สภาแห่งชาติมมี ติเห็นชอบ ให้ดา� รงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรี และขึน้ สูต่ า� แหน่งประธานพรรคประชาชน ปฏิวัติลาวในปีต่อมา จนกระทัง่ พ.ศ. 2541 จึงได้รบั เกียรติให้ดา� รงต�าแหน่งเป็นประธาน ประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ต่อจากท่านหนูฮกั พูมสะหวัน และอยู่ในต�าแหน่งประมุขประเทศจนถึง พ.ศ. 2549 รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
109
rkdrto;d (ภำคผนวก)
อาหารและเครื่องดื่ม คนไทยจ�ำนวนมำกมักเข้ำใจว่ำอำหำร ลำวก็คืออำหำรอีสำนของไทย ซึ่งนับว่ำ คลำดเคลื่อนจำกข้อเท็จจริงมำก โดย ทั่วไปแล้วอำหำรลำวจะมีรสชำติธรรมดำไม่ ค่อยจัดจ้ำน เครื่องปรุงรสเดิมใช้เกลืออย่ำงเดียว แต่ปัจจุบัน ชำวลำวทัง้ ประเทศนิยมใส่ผงชูรสมำกขึน้ จนเป็นเรือ่ งปกติ ไม่วำ่ อำหำรใดก็ตอ้ งใส่ผงชูรสหรือทีค่ นลำวเรียกว่ำ “แป้งนัว” ไว้กอ่ น เนือ่ งจำกประเทศลำวมีพนื้ ทีก่ ว้ำงใหญ่ทอดตัวจำกเหนือจด ใต้ แต่ละภูมภิ ำคจะมีวฒ ั นธรรมกำรกินเป็นเอกลักษณ์ ส�ำหรับ ลำวใต้แถบลุม่ แม่นำ�้ โขงมีปลำน�ำ้ จืดนำนำชนิดเป็นอำหำรจำนเด่น น�ำมำปรุงกับต�ำรับอำหำรพื้นถิ่นอย่ำงแพร่หลำย เมนูหลักคือ ต้มปลำและก้อยปลำ กินกับข้ำวเหนียว • ต้มปลา ต�ำรับลำวจะไม่เน้นรสเผ็ดแบบต้มย�ำของไทย แต่เน้นควำมหวำนจำกเนื้อปลำและปรุงรสให้ซดคล่องคอ นิยม ใช้ปลำเนือ้ ตัวใหญ่ทงั้ ตัวหรือหัน่ เป็นชิน้ ต้มในน�ำ้ เปล่ำกับข่ำและ ตะไคร้จนสุก ปรุงรสด้วยเกลือ พร้อมบีบมะนำวหรือใส่ผักรส เปรี้ยว เช่น ยอดผักติ้ว มะเขือเทศ มะกอก มะขำม จะไม่ใส่ข่ำ ตะไคร้ และไม่ปรุงรสเปรี้ยว
176
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
เฝอเป็นอาหารยอดนิยมของลาวใต้ที่หากินได้ทั่วไป
• ก้อยปลา น�ำปลำมำสับให้ละเอียด หรือแล่เป็นชิน้ ขึน้
อยูก่ บั ขนำดและประเภทของปลำ ปลำส่วนใหญ่ทชี่ ำวบ้ำนมักท�ำ กินในครัวเรือนคือปลำเพี้ยหรือปลำกำเพรำะมีมำกในแม่น�้ำโขง และล�ำน�้ำสำขำ จำกนั้นโรยข้ำวคั่วป่น พริกคั่วป่น ปรุงรสด้วย เกลือ น�้ำปลำร้ำ และผักต่ำง ๆ เพื่อให้กลิ่นหอม เช่น ต้นหอม สะระแหน่ แล้วบีบมะนำว คลุกผสมเข้ำด้วยกัน ชิมรสตำมชอบ จะปรุงสุกหรือดิบก็ได้ นอกจำกกินปลำสดแล้ว ปลำทีม่ มี ำกยังน�ำมำถนอมอำหำร โดยท�ำเป็นปลำย่ำง รมควันด้วยไฟอ่อน ๆ เก็บไว้ เพื่อน�ำไปต้ม หรือป่นปรุงรสตำมชอบ และยังท�ำปลำหมักแบบต่ำง ๆ มีทั้ง ปลำส้ม ปลำจ่อม ปลำร้ำเก็บไว้กินหรือขำยด้วย โดยเฉพำะ ปลำร้ำมักปรุงเป็นแจ่วปลำร้ำ โขลกรวมกับพริกย่ำงไฟ ผสม กระเทียม หัวหอม และมะนำว จิม้ ด้วยข้ำวเหนียวกินเป็นอำหำร หลักกับต้ม ก้อย และของย่ำงได้อร่อย
รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
177
ของฝากจากลาวใต้
178
ห อ ม ก ลิ่ น ด อ ก จํ า ป า เ ส น่ ห า ล า ว ใ ต้
รุ่ ง โ ร จ น์ จุ ก ม ง ค ล
179
บานหัวเดด สุขสันต ลิตเติลอีเดน คุณบีซันเซตวิว
คุณโม คุณโต มามาทานนบังกะโล ดอนเดดบังกะโล
ทีนาบังกะโล
ดอนเอน
ซันเซตวิว คุณโตบังกะโล
สุขสันต
ดอนเดด
บานดอนเดดใต
ริเวอรการเดน
ตะวันแดง สะพานฝรั่งเศส สันติภาพ
แมน้ำโขง
ปลาขา บานคอนเหนือ ศาลาดอนคอน
คุณพาน คำแพง
บานคอนใต แสงอรุณ วัดคอนใต
ดอนคอน
ดอนสม
แกงหลี่ผี
ลาวใต้...ดินแดนแห่งชนเผ่า สายน�้า และธรรมชาติงาม ตามรอยประวัติศาสตร์และอารยธรรมพื้นถิ่นดินแดนลาวใต้ ครบถ้วนด้วยรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน และที่พัก พร้อมข้อมูลการเดินทางจากชายแดนไทยจดชายแดนเวียดนาม กัมพูชา บานหางคอน
หมวดท่องเที่ยวต่างประเทศ ISBN 978-616-7767-46-8
ราคา 199 บาท