จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี

Page 1


จานอร่อยจากปูย ่ า่

cover INSIDE UPDATE.indd 1

27/2/2014 14:03


สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี


ISBN  หนังสือ  ผู้เขียน  พิมพ์ครั้งที่ ๑  พิมพ์ครั้งที่ ๒  ราคา

978-616-7767-30-7 จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี สุมล ว่องวงศ์ศรี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ๕๙๙ บาท

ข้อมูลบรรณานุกรม     สุมล ว่องวงศ์ศรี.     จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี.--พิมพ์ครั้งที่ ๒--กรุงเทพฯ : สารคดี, ๒๕๕๗.     ๒๓๖ หน้า.     I. อาหารไทย-การปรุงอาหาร-ประวัติ.  II. อาหารจีน -การปรุงอาหาร-ประวัติ.     III. การปรุงอาหาร.  ๑. ชื่อผู้เขียน.   ๖๔๑.๕   ISBN 978-616-7767-30-7

คณะผู้จัดท�ำ บรรณาธิการเล่ม : อภิวันทน์ อดุลยพิเชฏฐ์ บรรณาธิการภาพ/ถ่ายภาพ : สกล เกษมพันธุ์, ประเวช ตันตราภิรมย์, วิจิตต์ แซ่เฮ้ง ออกแบบปก/รูปเล่ม : บุญส่ง สามารถ พิสูจน์อักษร :  สินี ศิริศักดิ์ ควบคุมการผลิต : ธนา วาสิกศิริ

จัดพิมพ์  จัดจ�ำหน่ำย

บริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด (ส�านักพิมพ์สารคดี) บริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด ๒๘, ๓๐ ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทร. ๐-๒๒๘๑-๖๑๑๐ (อัตโนมัติ)  โทรสาร ๐-๒๒๘๒-๗๐๐๓

แยกสี/เพลต  พิมพ์

เอ็น. อาร์. ฟิล์ม  โทร. ๐-๒๒๑๕-๗๕๕๙ ด่านสุทธาการพิมพ์  โทร. ๐-๒๙๖๖-๑๖๐๐

ส�ำนักพิมพ์สำรคดี    ผู้อ�านวยการ : สุวพร ทองธิว  ผู้จัดการทั่วไป : จ�านงค์ ศรีนวล  ที่ปรึกษาทางกฎหมาย : สมพจน์ เจียมพานทอง   ผู้อ�านวยการฝ่ายตลาด/โฆษณา : ปฏิมา หนูไชยะ  ผู้อ�านวยการฝ่ายศิลป์/ฝ่ายผลิต : จ�านงค์ ศรีนวล   ผู้จัดการฝ่ายตลาด : พิเชษฐ ยิ้มถิน  ที่ปรึกษาส�านักพิมพ์ : สุดารา สุจฉายา   บรรณาธิการส�านักพิมพ์ : สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ

© สงวนลิขสิทธิ์โดยส�านักพิมพ์สารคดี ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด ห้ามลอกเลียนแบบไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือ นอกจากจะได้รับอนุญาต หนังสือเล่มนี้ใช้หมึกพิมพ์ซึ่งมีส่วนผสมของน�้ามันถั่วเหลือง  ช่วยลดการใช้วัตถุดิบจากน�้ามันปิโตรเลียม ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

2 จานอร่อยจากปู่ย่า

TF 1.indd 2

30/9/2014 15:50


ค�าน�าส�านักพิมพ์

เคยสงสัยกันไหมว่าท�าไมข้าวมันไก่เจ้าอร่อยจะต้องเขียนป้ายว่า “ข้าวมันไก่ไหหล�า”  หรือ ข้าวแช่ “ชาววัง” แบบชาววังนัน้ ต่างจากแบบชาวบ้านอย่างไร  หรือก๋วยเตีย๋ วเจ้าประจ�าท�าไมต้องเขียน ว่า “สูตรโบราณ”  หากมองอย่างผ่านๆ ข้อความต่อท้ายอาหารเหล่านี้อาจเป็นสิ่งบอกลูกค้าให้รู้ว่า อาหารเหล่านีเ้ ป็นรสแบบดัง้ เดิมตามต้นต�ารับ แต่จะมีสกั กีค่ นทีร่ วู้ า่ รสแบบต้บต�ารับเป็นอย่างไร มีทมี่ า เช่นไร  หนังสือ จานอร่อยจากปูย่ า่  สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี ของคุณสุมล ว่องวงศ์ศรี เล่มนี ้ ได้รวบรวม สูตรอาหารประจ�าตระกูล ประจ�าบ้านที่สืบทอดจดจ�าท�ากันมาจากรุ่นสู่รุ่นและยังท�ากินกันในปัจจุบัน  อาหาร ๖๐ สูตรในหนังสือเล่มนีจ้ งึ เป็นต�ารับเก่าขนานแท้ตามแบบดัง้ เดิมทีค่ นสมัยปูย่ า่  พ่อแม่ของเรา เคยกินกันในชีวิตประจ�าวัน ท�าได้จริง และอร่อย  ที่น่าสนใจคือ อาหารแต่ละจานล้วนมีเรื่องราว เล่าขาน  และยังท�าให้เราเห็นถึงความมหัศจรรย์ของมนุษย์ในการคิดสร้างสรรค์ปรุงแต่งรสอาหารที่ แตกต่างกันในแต่ละสังคม แต่ละวัฒนธรรม แม้ว่าจะใช้วัตถุดิบชนิดเดียวกันก็ตาม  อาหารจึงมิได้ สะท้อนวัฒนธรรมการกินเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการสืบทอดความสัมพันธ์ของคนต่างวัฒนธรรมและ ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ เช่น อาหารของจีนแคะ จีนไหหล�า จีนกวางตุ้ง ที่แม้เป็นคนจีนเหมือนกัน  แต่มอี าหารทีแ่ ตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม ค่านิยมทางสังคม กรรมวิธกี ารปรุง และรสชาติ เป็นต้น อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วอาจท�าให้คุณร�าลึกถึงอาหารหลายจานที่คุณย่า คุณยาย คุณแม่ เคย ท�าให้กินในวัยเยาว์ จนอยากเข้าครัวท�าอาหารในความทรงจ�าดูสักจานก็เป็นได้

ส�านักพิมพ์สารคดี

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  3


จากผูเ้ ขียน

ความคิดในการเขียนหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้เขียนท�างานและมีโอกาสไปสัมภาษณ์ อาหารประจ�าบ้านของคุณย่าคุณยายหลายท่าน พอได้ชิมอาหารไทยก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าท�าไมไม่ เหมือนที่เราเคยกินหรือที่ขายอยู่ทั่วไป พอไปคุยกับหลายบ้านก็ยิ่งสงสัยและเริ่มถามตัวเองว่า หรือว่า เราเพิ่งกินอาหารไทยเป็น ?  บางบ้านก็มีเรื่องเล่าถึงอาหารแต่ละจานว่าได้รับมรดกตกทอดมา แม่เคยท�าให้กินเพราะ คุณตาเป็นคนจีน คุณยายเป็นคนไทย  เมือ่ มาดูสว่ นผสม วิธกี ารท�า และเริม่ คิด ยิง่ ท�าให้เห็นว่าอาหาร จานหนึ่งรวบรวมความเป็นมาและเรื่องราวของแต่ละบ้านซึ่งเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ได้อย่างแทบ ไม่นา่ เชือ่ และน่าสนใจ  ยิง่ นับวันอาหารเหล่านีก้ จ็ ะหายไปตามผูใ้ หญ่ของแต่ละบ้าน จึงคิดว่าน่าจะเป็น ประโยชน์ถ้าได้เก็บบันทึกไว้จากปากค�าและฝีมือของท่านเอง เพื่อให้คนรุ่นหลังที่สนใจได้เรียนรู้และ มักถกเถียงกันถึงอาหารไทยในปัจจุบันนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป จ�าได้ว่าพอได้ชิม ขนมจีนน�้าพริก ของคุณยายอรศรี ก็ลบล้างความคิดเดิมๆ ว่าขนมจีน น�้าพริกข้น มีแต่รสหวาน แต่สูตรดั้งเดิมนั้นรสกลมกล่อม มีรสหวาน เปรี้ยว เค็ม อร่อย ต่างจากที่ ขายทั่วไป  ขนมปลากริม ไข่เต่า ก็รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าตัวขนมปลากริมท�าเหมือนปลาจริงๆ ที่มี ชีวิต ไข่เต่าก็เป็นไข่เต่าจริงๆ กลมรีไม่ใช่ตัวผอมยาวเหมือนสมัยนี้  คนโบราณท�าโดยเลียนแบบ จากธรรมชาติ  ข้าวบุหรี่ บ้านบุนนาค ซึ่งยังสืบทอดการท�ามาเกือบ ๔๐๐ ปี และถ้าดูจากส่วนผสม ก็แกะรอยได้ว่าต้นตระกูลเป็นชาวเปอร์เซีย  ขนมจีบไทย ของวังบ้านหม้อที่ต้องใช้ความประณีตอย่าง ชาววังไทยอย่างแท้จริง  อาหารไทยโบราณบ้านทินกรซึง่ ผูเ้ ขียนไม่เคยรูจ้ กั เลย เช่น หมูตงั้ ไทย ย�าส้มฉุน ซึ่งต่างจากย�าสมัยนี้อย่างสิ้นเชิง  ระแวง ไก่ต้มข่าแห้ง ของบ้านพี่อร ซึ่งท�าให้คิดว่าคงมีอาหารไทยที่ ตกหล่นและแอบซ่อนอยูอ่ กี หลายจาน  ส้มต�าไทย รสหวานเจือ้ ยๆ เปรีย้ วนิดๆ ต่างกับส้มต�าในปัจจุบนั อีกเช่นกัน  ต้มจิว๋ จากบ้านพีเ่ ป้าซึง่ เคยอ่านแต่ในต�ารา  หมีน่ า�้ บ้านปาร์ค ความคิดเรือ่ งดัดแปลงอาหาร เหลือให้กลายเป็นอาหารอร่อยจานใหม่ของคนโบราณที่ประหยัดและมัธยัสถ์อย่างน่าเลียนแบบ  อาหารจีนแคะจากบ้านคุณพรพิมลที่พอจะแกะรอยได้ว่า หยงเต้าฟู้ และ เย็นตาโฟ น่าจะ เป็นพี่น้องกัน และเป็นอาหารฟิวชันในยุคแรกๆ  รวมทั้งอาหารกวางตุ้งที่เคยเห็นแต่ในภัตตาคาร มีอาหารทีท่ �าได้เองทีบ่ า้ นอย่างไม่ยงุ่ ยากและอร่อย อย่างเช่น ไข่นงึ่ สามสี ซุปเพิม่ พลัง (ไซหยองฉอย)  และ โจ๊กไข่เยี่ยวม้า รวมทั้ง ข้าวมันไก่ตอนไหหล�า และอาหารบ้านอื่นๆ อีกหลายจาน   ทัง้ นีก้ ารเขียนเรือ่ งของแต่ละบ้าน ผูเ้ ขียนแบ่งเป็นเรือ่ งทีไ่ ด้พดู คุยกับเจ้าของสูตร ซึง่ จะท�าให้ เห็นภาพความสัมพันธ์ของอาหารกับคนในยุคนั้น และเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ ชวนให้คิดว่าอาหารมีการเดินทางปรับเปลี่ยนไปตามพืชพรรณและความชอบของคนในถิ่น นัน้  อย่างเช่นทีอ่ าหารของเรากับประเทศเพือ่ นบ้านใกล้เคียงจนเปรียบเหมือนเป็นพีน่ อ้ งกัน และหลาย จานเราก็สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่อย่างมีเอกลักษณ์

4 จานอร่อยจากปู่ย่า


การสืบค้นส่วนใหญ่ผเู้ ขียนอ้างอิงจาก ต�ำรำแม่ครัวหัวป่ำก์ ของท่านผูห้ ญิงเปลีย่ น ภาสกรวงศ์  ซึ่งน่าจะถือได้ว่าเป็นต�าราอาหารไทยเล่มแรกที่รวบรวมต�ารับไว้มากที่สุด ท�าให้เราเห็นภาพอาหาร โบราณได้อย่างดี โดยใช้เล่มทีพ่ มิ พ์ใหม่ในงานเสด็จพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่นอ้ ม สงขลานครินทร์  (น้อม ตะละภัฎ) เมื่อวันพุธที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๓ ซึ่งมีมาตราชั่ง ตวง วัดเป็นกรัมและถ้วยตวงแล้ว  และต�าราโบราณอีกบางเล่ม เช่น ต�ำรำกับข้ำวสอนลูกหลำน ผลไม้ ของว่ำงและขนม ของท่านผู้หญิง กลีบ มหิธร ทีพ่ มิ พ์เพือ่ แจกในงานฌาปนกิจศพ นายไสล ศรีภริ มย์ เมือ่ ปี ๒๕๐๙ และ ต�ำรับอำหำรของ   ม.ล. ติ๋ว ชลมำรคพิจำรณ์ พิมพ์เป็นอนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ นายสีหนัดด์ สนิทวงศ์  ณ อยุธยา ในปี ๒๕๑๕ เป็นต้น  ซึ่งผู้เขียนได้อ่านเพราะช่วยท�าวิจัยเรื่อง “อาหารและร้านอาหารบน เกาะรัตนโกสินทร์ : ทุนทางวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว” กับคุณสุนทรี อาสะไวย์ ที่สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จึงท�าให้เห็นรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น และคุณสุนทรียังเป็น  ที่ปรึกษาทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะเรื่องล�าดับสกุลวงศ์ ซึ่งผู้เขียนขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย การอ้างอิงนั้นผู้เขียนต้องการให้เห็นความเชื่อมโยงเพื่อให้ผู้อ่านลองคิดเล่นสนุกๆ แต่ไม่ได้ ตั้งใจให้เป็นต�าราวิชาการ จึงไม่มีเชิงอรรถเหมือนที่ต�าราวิชาการท�ากัน ส่วนในเรือ่ งสูตรอาหารนัน้ ก็มคี วามเห็นว่าสูตรอาหารไม่ใช่สตู รเคมี จะหวังว่าท�าครัง้ แรกแล้ว อร่อยก็ดูจะเกินจริงไปหน่อย  ปริมาณของส่วนผสมก็พอเหมาะกับครอบครัวในยุคปัจจุบันประมาณ   สี่ถึงหกคน หรือคุ้มค่ากับเวลาที่ลงมือท�าในแต่ละครั้ง และได้พยายามเขียนให้ชัดเจนส�าหรับคนชอบ ท�าอาหารจะลองไปหัดท�าและท�าได้จริง  หลายสูตรผูเ้ ขียนได้เคยทดลองท�ากับน้องทีเ่ คยท�างานร่วมกัน มาก็ประสบผลส�าเร็จและอร่อยดี  สูตรอาหารบางสูตรหลายท่านให้มาโดยไม่ได้ท�าอาหารให้ถ่ายภาพ  ผู้เขียนเห็นว่าจะเป็นประโยชน์และน่าสนใจจึงได้ขอลงไว้โดยไม่มีภาพประกอบ  ส่วนการถ่ายภาพ อาหารเน้นความสวยงามและน่ากินตามธรรมชาติของอาหารทีท่ า� กินกันภายในบ้าน  และมีบางสูตรที่ เป็นชนิดเดียวกันก็ได้ลงไว้เพื่อให้เห็นว่าแต่ละบ้านมีต�ารับต่างกันไป ความดีและความชืน่ ชอบหนังสือเล่มนี ้ ผูเ้ ขียนขอมอบทัง้ หมดนีใ้ ห้แก่คณ ุ ย่า คุณยาย คุณป้า ทุกคนที่ให้สัมภาษณ์และท�าอาหารให้ถ่ายภาพ  เพราะการท�าอาหารสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะ อาหารโบราณที่คุณยายบางคนใช้เวลาเตรียมการเป็นวันหรือ ๒ วันกว่าจะไปตลาดได้ของครบ และ  ต้องมาท�าให้ดูและถ่ายภาพอีก และขอขอบคุณคุณอภิวันทน์ อดุลยพิเชฏฐ์ ที่ช่วยอ่านต้นฉบับและ วิจารณ์พร้อมให้ความคิดเห็นเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องขึ้น และส�านักพิมพ์สารคดีที่สนใจหนังสือเล่มนี้  เพราะไม่ใช่ตา� ราอาหารตามความนิยมของคนสมัยนี ้ และถ้ามีขอ้ ผิดพลาดประการใดผูเ้ ขียนขอน้อมรับ อย่างไรก็ตามผู้เขียนหวังว่าผู้อ่านคงอ่านเพลิน ได้ประโยชน์และความรู้บ้าง รวมทั้งเห็น  เรื่องราวเบื้องหลังภูมิปัญญาที่ซ่อนอยู่ในรสอาหารอร่อยเหล่านี้  ถ้าใครนึกอยากลงมือท� าตามต�ารา  ก็ขอให้ประสบผลส�าเร็จได้พบรสชาติดั้งเดิมและอาหารอร่อยค่ะ                      สุมล ว่องวงศ์ศรี สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  5

TF 1.indd 5

30/9/2014 15:24


๔๔

สารบัญ

๘ อาหารไทยโบราณ บ้านทินกร ๑๗  ๑๙  ๒๑  ๒๒  ๒๔  ๒๗  ๒๘  ๓๑  ๓๒

แกงมัสมั่นไก่บ้าน ย�าใหญ่ หมูตั้ง ทอดมันกุ้ง เนื้อเค็มเคี่ยวกะทิ ย�าส้มฉุน แกงไตปลา (แบบชาววัง) ผัดพริกขิง ขนมเหนียว

๓๔ เล่าเรือ ่ งอาหาร จากวังเทวะเวสม์ ๔๓  กะปิคั่ว  ๔๔   ปลาช่อนฟู ๔๖  ม้าฮ่อ ๔๘  ย�าทวาย

๕๑ ขนมจีบไทยและข้าวแช่ ต�ารับวังบ้านหม้อ ๕๖  ขนมจีบไทยและปั้นสิบ ๖๑  ข้าวแช่

๖๗ ข้าวบุหรี่ บ้านบุนนาค ๗๓  ๗๖  ๗๙  ๘๐

6 จานอร่อยจากปู่ย่า

ข้าวบุหรี่  ขนมเบื้องญวน ขนมแขก ขนมเต่า


๘๒ ส้มต�าไทย ส�ารับกลางวัน เมือ ่ คุณตาคุณยายยังเด็ก ๘๗  ๘๙      ๙๒

หมี่กรอบ ส้มต�าไทย ๙๐   ข้าวมันส้มต�า ๙๑   เนื้อเค็มฝอย ย�าถั่วพูโบราณ

๙๕ ส�ารับกับข้าว บ้านสถาปิตานนท์ ๑๐๐  ๑๐๑  ๑๐๒  ๑๐๓  ๑๐๔  ๑๐๖  ๑๐๘

ก๋วยเตี๋ยวไก่ (สูตรนางเลิ้ง) พริกกะเกลือ เนื้อกะทิ น�้าพริกส้มมะขามเปียก หมูหวาน ปลาแห้ง - แตงโม กะปิคั่ว

๑๑๐ ขนมจีนน�า้ พริก ปลากริม ไข่เต่า สูตรไม่ลบ ั ของคุณยาย ๑๑๖  ๑๒๑  ๑๒๕

ขนมจีนน�้าพริกหรือน�้าพริกขนมจีนเสวย ปลากริม ไข่เต่า ช่อม่วงไส้หวาน

๑๒๗ อาหารไทยต้นต�ารับ ทีร่ า้ น Foodie ๑๓๐  ๑๓๓  ๑๓๔

เกยย้ง ก๊กเซียงบี้ พะโล้ไข่เค็ม น�้าพริกปลากุเลาเค็ม

๑๓๖ ข้าวเม่าหมี่ ของคุณยายประภา ๑๔๐

ข้าวเม่าหมี่

๑๔๓ หมีน ่ า�้ บ้านปาร์ค ๑๔๘  ๑๕๑  ๑๕๓

หมี่น�้าบ้านปาร์ค (หมี่น�้าปาร์คนายเลิศ) ขนมจีนน�้าพริก ปลาร้าหลนทรงเครื่อง

๑๕๗ ระแวง ไม่ใช่พะแนง แกงเพือ ่ นบ้านจากชวา ๑๖๕  ๑๖๖  ๑๖๘

ไก่ต้มข่าแห้ง ระแวง เนื้อต้มกระชาย

๑๗๑ ต้มจิว่ หรือต้มจิว๋ รสเผ็ดร้อนทีถ ่ ก ู ลืม ๑๗๔  ต้มจิ่ว (ต้มจิ๋ว) ๑๗๗  ข้าวงบ ๑๘๑  ขนมกรอก

๑๘๓ อาหารจีนแคะต�ารับดัง้ เดิม ๑๙๐  ๑๙๒  ๑๙๕  ๑๙๗

เหล้าแดง (ฝุ่งจิ้ว) ผักด�าต้มหมูสามชั้น (หั่มช้อยกอน) ไก่เหล้า ลูกชิ้นหมูแคะ (หยุกเหยี่ยน)

๒๐๐ อาหารจีนกวางตุง้ สไตล์ Home Cooking ๒๐๕  ๒๐๖  ๒๐๘  ๒๑๑  ๒๑๓  ๒๑๕  ๒๑๖

ไข่นึ่งสามสี เคาหยก ไซหยองฉอย (แกงจืดผักน�้า) หยงหลักจิ้ว (พริกยัดไส้เนื้อปลา) กระดูกหมูอ่อนนึ่งเต้าเจี้ยว ขาหมูต้มน�้าส้มสายชู โจ๊กไข่เยี่ยวม้า

๒๑๘ ข้าวมันไก่ตอน เมนูลอ ื ชือ ่ จากเกาะไหหล�า ๒๒๔  ๒๒๗  ๒๒๙  ๒๓๒  ๒๓๔

ข้าวมันไก่ตอนไหหล�า ผัดวุ้นเส้น (ส่าซีฮุ้น)  แพะตุ๋นไหหล�า ปลาเค็มต้มหมูสามชั้น โป๊ะเกี้ย

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  7


อาหารไทยโบราณ บ้านทินกร

8 จานอร่อยจากปู่ย่า


บ้านอาจารย์พนม ทินกร ณ อยุธยา ซึ่งอยู่หลังวัดพิชยญาติการาม

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  9


16 จานอร่อยจากปู่ย่า


แกงมัสมัน ่ ไก่บา้ น � แกงมัสมัน่ ทีท่ �าในบ้านเราโดยทัว่ ไปจะมีสองต�ารับ ต�ารับหนึง่ จะตามอย่างบ้านอาจารย์พนม ซึ่งถือเป็นต�ารับดั้งเดิมของไทยที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๒  ส่วนผสมจะใช้เครื่องแกงไทยมี  พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม และใส่เครื่องเทศแขก ลูกผักชี ยี่หร่า  ต�ารวมกัน ใส่ดอกจันทน์  และกานพลู  ปรุงรสให้หวานน�า เค็ม และอมเปรี้ยว ซึ่งเป็นแบบแผนในต�าราอาหารไทยโบราณ เกือบทุกเล่ม  ต่อมามีการใส่สับปะรดเพื่อให้มีรสเปรี้ยว หวาน ตามความนิยมของไทยที่ใช้ผลไม้ มาท�าอาหาร  และถ้าสังเกตจะเห็นว่าใช้เนื้อไก่มากกว่าเนื้อวัว  เป็นแกงที่มีน�้ ามากซึ่งอาจจะเพราะ นิยมกินกับข้าวคล้ายกับแกงเผ็ด  ในขณะที่ต�ารับของคนมุสลิมน�้าจะขลุกขลิก นิยมจิ้มกับขนมปังหรือโรตี  เครื่องแกงไม่มีข่า  ตะไคร้  ส่วนผสมพริกแกงมีพริกแห้ง หอม กระเทียม ถั่วลิสง ทุกอย่างน�าไปทอดก่อน ใส่ผงลูกผักชี  ยีห่ ร่า  บางต�ารับจะใส่พริกป่นของอินเดีย ใส่ขมิน้   นิยมใช้เนือ้ วัวมากกว่าไก่  ปรุงรสหวาน เค็ม เปรีย้ ว ด้วยน�า้ ตาลปีบ๊  น�้าส้มมะขามและน�้าปลาคล้ายกับของไทย  บางบ้านใส่มะเขือยาวแทนมันฝรัง่  และใส่ ขิงซอย รวมทั้งยังมีรายละเอียดแตกต่างกันไปอีกตามพื้นที่และกลุ่มคน  ต�ารับบ้านอาจารย์พนมมีรสหวานน�า โรยหน้าด้วยถั่วลิสง หอมหัวใหญ่ลูกเล็ก และลูก กระวาน

< แกงมัสมั่นไก่บ้าน ต�ารับดั้งเดิม ที่ใช้เครื่องแกงไทย ผสมเครื่องเทศแขก

ส่วนผสม

ส่วนผสมเครื่องแกง

เนื้อไก่บ้าน  ๑-๑ ๑/๒  กิโลกรัม มะพร้าวขูด   ๑     กิโลกรัม (คั้นให้ได้กะทิประมาณ ๖ ถ้วย)  มันฝรั่ง  ๑/๒    กิโลกรัม หอมแขกลูกใหญ่ หรือหอมหัวใหญ่ลูกเล็ก  ๑๐-๑๕   ลูก  ถั่วลิสงคั่วลอกเปลือก  ๑      ถ้วย น�้าตาลปี๊บ  ๑/๔    ถ้วย น�้าส้มมะขามเปียก  ๑/๔    ถ้วย เกลือ น�้าปลา กานพลู  ๓      ดอก อบเชย ยาวประมาณ ๒ นิ้ว  ๑-๒     แท่ง ลูกกระวาน  ๑๐     ลูก ใบกระวาน  ๓-๔     ใบ

พริกแห้งเม็ดใหญ่  ตะไคร้หั่นฝอย  ข่าหั่นฝอย  ผิวมะกรูดหั่นฝอย  ลูกผักชี  ยี่หร่า  หอมแดงเผาปอกเปลือก  กระเทียมเผาปอกเปลือก  กะปิเผา

๑๑    ๒     ๒     ๑     ๑     ๑     ๑/๔   ๓     ๑

เม็ด ต้น ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ถ้วย ช้อนโต๊ะ ช้อนชา

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  17


วิธีต�าเครื่องแกง ๑. พริกชีฟ้ า้ แห้งย่างไฟให้กรอบ  หอมแดง กระเทียม กะปิ เผาให้หอม พักไว้  คัว่ ข่า ตะไคร้  ผิวมะกรูดพอให้มีสีนวล  ลูกผักชี ยี่หร่า กานพลู อบเชย ลูกกระวาน คั่วให้หอม (แยกคั่วทีละอย่าง) ๒. โขลกลูกผักชี ยี่หร่าให้ละเอียด ตักพักไว้  ต�าพริกแห้งกับเกลือจนเกือบละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด ต�ารวมกันให้ละเอียด  แล้วจึงใส่ลูกผักชี ยี่หร่าที่ต�าไว้ หอมแดง กระเทียม กะปิ  ที่เผา ต�าจนเป็นเนื้อเดียวกัน

วิธีท�าแกงมัสมั่น  ๑. ล้างไก่ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นใหญ่ มันฝรั่งปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นใหญ่ พักไว้ ๒. น�ากะทิตั้งไฟพอเดือด ตักหัวกะทิขึ้นประมาณ ๒ ถ้วย  กะทิที่เหลือใส่เนื้อไก่ลงเคี่ยว ใช้ไฟอ่อน จนเนื้อนุ่ม ยกลง  ๓. ตักหัวกะทิใส่กระทะรอให้เดือดสักครู ่  แล้วจึงใส่เครือ่ งแกงลงผัดให้หอมและมีนา�้ มันสีแดง ลอยนิดๆ (ระหว่างนี้เติมกะทิทีละน้อย) น�าไก่ลงไปผัดรวมกันสักครู่  ตักใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่ ถั่วลิสง มันฝรั่ง หอมแขก อบเชย กานพลู ลูกกระวาน ใบกระวาน เคี่ยวจนมันฝรั่งสุก ใส่น�้ าปลา  น�้าตาลปี๊บ น�้าส้มมะขาม ชิมรสหวาน เค็ม เปรี้ยว ยกลง รับประทานกับอาจาด

อาจาดแตงร้าน

ส่วนผสม แตงร้านผ่าสี่ เฉือนเม็ดทิ้งแล้วซอย ประมาณ  หอมแดงซอย          ขิงอ่อนหั่นฝอยเล็กน้อย พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง หั่นขวางอย่างละ  น�้าส้มสายชู           น�้าตาลทรายประมาณ      เกลือเล็กน้อย

๒  ๑/๔

ลูก ถ้วย

๑  เม็ด ๑/๒  ถ้วย ๓ ๑/๒   ช้อนโต๊ะ

วิธีท�า  ต้มน�า้ ต้มสายชูกบั น�า้ ตาลทรายและเกลือจนละลาย ใส่แตงร้านลงในชาม โรยพริก หอมแดง  ขิง แล้วจึงเทน�า้ ส้มสายชูให้ทว่ ม พักไว้ ๓-๔ ชัว่ โมง ควรมีรสเปรีย้ ว หวาน ไม่เค็ม ตักอาจาดรับประทาน พร้อมกับแกง

เคล็ดลับ

18 จานอร่อยจากปู่ย่า

ปัจจุบันเนื้อไก่จะสุกเร็วมาก อาจจะไม่ต้องเคี่ยวนานหรือผัดรวมไปกับกะทิเลยก็ได้


ย�าใหญ่ � ย�าใหญ่นนี้ า่ จะตัง้ ตามชือ่ ส่วนผสมทีใ่ ส่ได้หลากหลาย มีทงั้ เนือ้ หมู ตับหมู หนังหมู และไข่ตม้   ในหนังสือ ต�ารับอาหารวิทยาลัยในวัง ยังมีกระเพาะหมู หัวใจหมู อกไก่ต้มฉีกฝอยเพิ่มเติมอีก  ผักมี แตงกวา ใบสะระแหน่  ส่วนหัวไชเท้าหรือหัวผักกาดเป็นผักจีนทีไ่ ทยอาจจะรับมาพร้อมกับการกินเนือ้ หมูและตับหมู  ส่วนแครอตซึ่งเป็นผักฝรั่งใส่เพิ่มเติมหลังจากที่บ้านเราปลูกได้เองเพื่อให้มีสีสวยขึ้น ส่วนผสมน�า้ ย�าทีแ่ ตกต่างจากสมัยนี ้ คือ ต้องมีรากผักชีและกระเทียมต�าให้กลิน่ หอมและช่วย ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ รสเปรี้ยวจะมาจากน�้าส้มสายชูมากกว่ามะนาว เคล้าเข้ากันเบาๆ ให้มีรส  ไม่มีน�้าย�าเจิ่งนองซึ่งมีน�้าปลา น�้ามะนาว น�้าตาลทราย และพริกขี้หนูผสมกันเหมือนสมัยนี้

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  19


โป๊ะเกีย ้ ขนมนี้ความอร่อยอยู่ที่ตัวแป้งต้องทั้งเหนียวและนุ่ม เคี้ยวหนึบๆ เจ้าของสูตรบอกว่าถ้าให้ อร่อยแบบดั้งเดิมต้องโม่แป้งแบบโบราณเท่านั้น  ข้าวที่น�ามาโม่ควรเป็นข้าวกลางปี ถ้าใช้แป้งแห้งมัก จะแข็งไปบ้างหรือนิ่มไปบ้าง เคี้ยวแล้วไม่หนึบ  ตัวแป้งควรมีหางแหลมสวย  น�้ าเชื่อมที่ใส่ควรเป็น น�้าตาลทรายแดงที่เคี่ยวจนเหนียวหอม ใส่ถั่วแดงเม็ดเล็กที่ต้มจนนุ่มและมีรสหวานอยู่ในตัว  โป๊ะเกี้ยที่ขายในปัจจุบันนี้หรือที่คนนิยมจะมีเฉพาะที่ใส่น�้าแข็งไส แต่ตามจริงจะมีชนิดร้อน ที่ใส่น�้าขิงด้วยซึ่งคนปัจจุบันไม่รู้จักและไม่มีขายแล้ว

วิธีท�าตัวแป้ง หมาด

๑. ข้าวกลางปีแช่น�้าจนนุ่มและน�ามาโม่ ใส่ถุงแป้งและใช้โม่ทับจนน�า้ ออกหมดและเนื้อแป้ง

๒. น�าแป้งใส่ในกะละมังเติมน�า้ เล็กน้อย คนให้แป้งข้น ตั้งไฟอ่อน ใช้ไม้พายกวนจนแป้งเริ่ม สุกแป้งจะใสขึ้น  ค่อยๆ ใส่แป้งมันส�าปะหลังคนให้เข้ากัน ยกออกจากเตา นวดให้แป้งเข้ากันจนไม่ ติดมือ  บิแป้งเป็นก้อนเล็กและปัน้ เป็นตัวยาวหัวท้ายแหลม (คล้ายกับขนมปลากริม ไข่เต่า)  ใช้ผา้ ขาว บางชุบน�้าบิดหมาดๆ คลุมไว้เพื่อไม่ให้แป้งแห้ง สัดส่วนแป้งข้าวเจ้าเมื่อทับแล้ว ๒ ถ้วย ต่อแป้งมันส�าปะหลังประมาณ ๑ ถ้วย

เครื่องโป๊ะเกี้ย ถั่วแดงเม็ดเล็ก  ถั่วแดงเม็ดเล็ก ๑ กิโลกรัม แช่นา�้  ๒-๓ ชั่วโมง เทน�า้ ออกและใส่นา�้ จนท่วม  น�าไปต้มจนถัว่ แดงสุก รินน�า้ ออกให้เหลือน�า้ เล็กน้อย ใส่นา�้ ตาลทรายแดงประมาณ ๑/๒ กิโลกรัม  ตัง้ ไฟอ่อนและคอยเขย่าหม้อจนน�า้ ตาลละลายหมด น�้าแห้งและน�้าตาลซึมเข้าเม็ดถั่ว (ถ้าแห้งไปเติมน�า้ เล็กน้อย)  ลูกบัว  ลูกบัวแกะเปลือกออกทัง้ เม็ด ๑ กิโลกรัม  ตัง้ น�า้ ให้เดือดจัด ใส่ลกู บัวลงต้ม คนตลอด เวลา พอลูกบัวเริ่มสุก (ชิมดูเนื้อจะนิ่ม) ตักขึ้นใส่น�้าเย็นล้างให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักไว้  ต้มน�้ากับใบเตยประมาณ ๒ ถ้วย พอเดือดใส่น�้าตาล ๑/๒ กิโลกรัม  ใส่ลูกบัวลงไปต้มไฟ อ่อนสักครู่จนนิ่มและมีรสหวาน ตักพักไว้บนตะแกรงให้น�้าเชื่อมหยด วุ้น  น�าวุ้นใส่น�้าต้มจนวุ้นละลาย ใส่พิมพ์ พักไว้จนแข็ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก จะใช้วุ้นชนิดเส้นซึ่ง เป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อาร์กา (Agar) หรือผงวุ้นก็ได้ ลูกชิด ถั่วลิสงคั่ว

234 จานอร่อยจากปู่ย่า


น�้าเชื่อมน�้าตาลทรายแดง  น�้าเปล่าประมาณ ๒-๓ ถ้วย ต้มกับใบเตย ๒-๓ ใบจนหอม ใส่นา�้ ตาล ทรายแดง ๑ กิโลกรัมลงไปต้ม  เคี่ยวไฟอ่อนจนเป็นน�้าเชื่อมเหนียว น�้าเชื่อมน�้าตาลทรายขาว  สัดส่วนและปริมาณเท่ากัน แต่เปลี่ยนเป็นน�้าตาลทรายขาว วิธีท�า ไม่ติดกัน

๑. ตั้งน�้าให้เดือด ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไปต้มจนแป้งสุก แป้งจะลอยขึ้น ตักใส่น�้าเย็นเพื่อให้แป้ง

๒. ตักแป้งใส่ชาม ใส่เครือ่ งทีเ่ ตรียมไว้อย่างละนิด  ใส่นา�้ แข็งไสและน�า้ เชือ่ มน�า้ ตาลทรายแดง หรือขาวตามชอบ

โป๊ะเกีย้ ร้อน  น�าขิงมาบุบหรือต�า ใส่นา�้ เล็กน้อย บีบน�า้ ขิงเก็บไว้  ใส่เครือ่ งทุกอย่าง ใส่น�้าขิง น�า้ เชือ่ ม น�้าตาลทรายแดงหรือขาว และใส่น�้าร้อน

สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี  235


ประวัติผู้เขียน : สุมล ว่องวงศ์ศรี  วารสารศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ผู้ชื่นชอบและเสาะหา ของกินอร่อยมาตั้งแต่เด็ก พร้อมกับชอบท� าอาหารเป็นงานอดิเรก  จนเมื่อได้มา ท�างานเกี่ยวเนื่องกับอาหารอย่างจริงจัง จึงเห็นอาหารในหลากหลายมิติมากขึ้นว่า  พืชพรรณธัญญาหารต่างๆ วิธีการปรุง ล้วนเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม ภูมิประเทศ   ภูมิอากาศ และประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ  และเชื่อว่าอาหารสามารถบอกเล่า เรื่องราวเหล่านี้ได้เหมือนกับการศึกษาด้านอื่นๆ  ปัจจุบันท�างานเป็นบรรณาธิการอาหารของนิตยสารอาหารฉบับหนึ่ง

236 จานอร่อยจากปู่ย่า



สุมล ว่องวงศ์ศรี �

๖ ๐   สู ต ร อ ร่ อ ย ม ร ด ก ต ก ท อ ด จ า ก  ๑ ๕  ต ร ะ กู ล

ขนมจีบไทยต�ารับวังบ้านหม้อนี้ คุณวิษุวัต สุริยกุล ณ  อยุธยา บอกว่าน่าจะสืบมาตั้งแต่ในสมัยพระพุทธ-  เลิศหล้านภาลัย... ข้าวแช่ เป็นอาหารเก่าแก่อีกต�ารับ หนึง่ ของวังบ้านหม้อ จะท�าในงานท�าบุญให้บรรพบุรษุ ผู้ล่วงลับไปแล้วในเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น...    จาก “ขนมจีบไทยและข้าวแช่ต�ารับวังบ้านหม้อ”  ข้าวบุหรีส่ ตู รนี ้ ดร. มาลดี วสีนนท์ (บุนนาค) บอกว่า ตกทอดกันมาเรื่อยๆ คุณแม่ของท่านได้ถ่ายทอดและ ก�ากับแม่ครัวมือเอกประจ�าบ้าน โดยรักษาแบบแผนวิธี การหุงดั้งเดิมไว้อย่างไม่ตกหล่น ไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรือข้ามขั้นตอนแต่อย่างใด...      จาก “ข้าวบุหรี่ บ้านบุนนาค” คุณนุชนันท์ โอสถานนท์ เล่าว่า ต้มจิ๋วรสจะเผ็ดร้อน  ต้องมีรสเค็มก่อนแล้วจึงเปรี้ยว และมักจะท� าด้วย เนื้อที่ต้มจนเปื่อย ใส่ใบโหระพาและหอมแดงเจียว   คนสมัยนี้บอกว่าคล้ายซุปหางวัวของมุสลิมแต่เป็น ต�ารับของไทย...

อาหารเหล่านี้เป็นอาหารดั้งเดิมที่ปู่ ย่า

จากค�าถามที่ว่าแท้จริงแล้วอาหารไทยเป็นอย่างไร

ก่ อ เกิ ด เป็ น หนั ง สื อ เล่ ม นี้ ที่ ผู ้ เ ขี ย นได้ มี โ อกาสสั ม ภาษณ์ เจ้าของหรือผู้สืบทอดสูตรอาหารโบราณจากวังและบ้านที่  มีเรือ่ งราวน่าสนใจ และเป็นอาหารประจ�าบ้านทีห่ ลายบ้าน ยั ง ท� า กิ น กั น อยู ่ ใ นปั จ จุ บั น  อาหารเหล่ า นี้ ยั ง สะท้ อ นถึ ง  วิ ถี วั ฒ นธรรมการกิ น และความหลากหลายของผู ้ ค นใน  สังคมไทย ซึ่งหลายจานเป็นอาหารเด่นที่หากินได้ยากใน  ยุคปัจจุบัน เช่น

ตา ยาย กินมาตั้งแต่เด็ก ทั้งของไทยและจีน ที่ ม าพร้ อ มกั บ บรรพบุ รุ ษ ซึ่ ง อพยพมาอยู ่  เมืองไทย บางจานก็เกิดจากการผสมผสาน และสร้างสรรค์ขึ้นใหม่    แต่ละจานมีเรื่องราวของแต่ละบ้าน ซึ่ง เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์อย่างแทบไม่น่า เชื่อและน่าสนใจ ยิ่งนับวันอาหารเหล่านี้ก็จะ ค่ อ ยๆ สู ญ หายไปตามกาลเวลา จึ ง คิ ด ว่ า  น่าจะเป็นประโยชน์ถ้าได้เก็บบันทึกไว้จาก ปากค�าและฝีมือของท่านเอง เพื่อให้คนรุ่น หลังที่สนใจได้เรียนรู้และเห็นว่าอาหารไทย  ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

จาก “ต้มจิ่วหรือต้มจิ๋ว รสเผ็ดร้อนที่ถูกลืม”

อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของคนจีนแคะที่ใช้ข้าวแดง  และเหล้าแดง คือ ไก่เหล้า น�าไก่บ้านมาต้มกับขิงแก่  ใส่เหล้าแดง และยังใส่ขา้ วแดงลงไปอีก ใส่นา�้ ตาลกรวด  ลงไปอีกหน่อย ตามสูตรบ้านคุณพรพิมล...ต�ารับนี้เธอ บอกว่ามีเฉพาะบ้านคนจีนแคะเท่านั้น...    จาก “อาหารจีนแคะต�ารับดั้งเดิม”

มัสมั่นไก่ ย�าส้มฉุน ของบ้านทินกร กะปิคั่ว ต�ารับวังเทวะเวสม์  ขนมจีบไทย ข้าวแช่ ต�ารับวังบ้านหม้อ  ข้าวบุหรี่ ขนมแขก ของตระกูลบุนนาค  หมี่น�้าบ้านปาร์ค ของบ้านปาร์คนายเลิศ หมี่กรอบ ส้มต�าไทย ของบ้านรามสูต  พริกกะเกลือ ปลาแห้ง -แตงโม ของบ้านสถาปิตานนท์  ขนมจีนน�้าพริก สูตรดั้งเดิมของคุณยายอรศรี  ระแวง ไก่ต้มข่าแห้ง ของบ้านทัพพะรังสี  ต้มจิ๋ว แกงรสเผ็ดร้อนของคุณนุชนันท์ โอสถานนท์  ไก่เหล้า ลูกชิ้นหมูแคะ สูตรตระกูลล�่าซ�า  ข้าวมันไก่ตอน แพะตุ๋นไหหล�า ของบ้านพู่วรรธนะ    เป็นต้น

หมวดอาหาร

ISBN 978-616-7767-30-7

ราคา ๕๙๙ บาท cover 4 colors.indd 1

26/2/2014 14:03


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.