รวมแผนฯ คำสอนจันท์ เล่ม 3

Page 1

รวมแผนการสอน

คำ�สอน

หนังสือรวมแผนการสอนคริสตศาสนธรรม “ชุดเตรียมรับศีลมหาสนิท”

จัดทำ�โดย แผนกคริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลจันทบุรี



ครูคำ�สอน บทเรียนสำ�หรับ

ครูคำ�สอนที่รักทุกท่าน แผนกคริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลจันทบุรไี ด้จดั ทำ� “แผนการจัดการเรียนรูค้ ริสตศาสนธรรม” เล่มนี้ขึ้น หลังจากที่ได้มีการนำ�เสนอ “แผนการสอนคำ�สอนระดับประถมศึกษา” มามากมายหลาย ครั้งหลายปีในสารคำ�สอนจันท์ฉบับที่ผ่านมา ณ เวลานี้ จึงได้มีการนำ�แผนฯ ดังกล่าวมารวมเป็นเล่ม เพื่อเอื้อให้สะดวกใช้มากขึ้น การรวมเล่มแผนฯ ในครัง้ นีไ้ ด้มกี ารปรับปรุงอยูบ่ า้ งแต่ยงั ไม่ถงึ ขัน้ สมบูรณ์ จึงยังมีอกี บางสิง่ ที่ต้องการการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ซึ่งทางคณะผู้จัดทำ�ยังยินดีรับคำ�ติ ชม เสนอแนะจากทุกท่าน อยู่เสมอ เพื่อพัฒนางานชิ้นนี้ให้สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโครงการในอนาคตที่จะทำ�แผนการสอนฯ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาต่อไปด้วย ทางคณะผูจ้ ดั ทำ�ขอถือโอกาสนีข้ อบพระคุณทุกๆ ท่านทีไ่ ด้นำ�แผนฯ นีไ้ ปใช้และได้ให้ขอ้ เสนอ แนะต่างๆ ทีม่ ปี ระโยชน์เป็นอย่างยิง่ เป็นการร่วมมือกันสร้างสรรค์บทเรียนคำ�สอนทีม่ คี ณ ุ ภาพสำ�หรับ ลูกศิษย์และลูกหลานของเราต่อไป ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพละกำ�ลังและแสงสว่างสำ�หรับคุณครูทุกท่านในภารกิจสำ�คัญ ของการเป็นสือ่ นำ� “ความรัก” ของพระองค์ไปยังผูเ้ รียนทุกคน เพือ่ เราทุกคนไม่วา่ “ศิษย์” หรือ “ครู” จะได้ก้าวเดินไปด้วยกันในหนทางที่นำ�เราไปสู่ความเชื่อ ความไว้ใจ และความรักในพระองค์อย่าง มั่นคงลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนสามารถบรรลุถึง “ความรอดพ้น” ที่พระองค์ทรงประทานแก่เราทุกคน แผนกคริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลจันทบุรี



สารบัญ

หน้า

คำ�ชี้แจง การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ “ชุดเตรียมรับศีลมหาสนิท”.......................................................1 แบบอย่างครูคำ�สอน ........................................................................................................................2 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ศีลศักดิ์สิทธิ์และพระคัมภีร์ ....................................................................................................5 เรื่อง พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ทรงนำ�ทางของฉัน ................................................................................15 เรื่อง พระเยซูทรงเรียกทุกคนให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ...............................................................19 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง องค์ประกอบของพระศาสนจักร ............................................................................................25 เรื่อง พระนางมารีย์รับสารจากทูตสวรรค์คาเบรียล .........................................................................29 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง พระคัมภีร์เล่าเรื่องประวัติศาสตร์แห่งความรอด .....................................................................32 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ความหมายและผลของศีลล้างบาป ......................................................................................35 เรื่อง พระเยซูทรงตั้งศีลมหาสนิท ................................................................................................41 เรื่อง ความหมายของศีลมหาสนิทและผลของการรับศีลมหาสนิท ...................................................45 เรื่อง ศีลมหาสนิทเป็นยัญบูชาชดเชยบาปและเป็นรูปแบบของงานเลี้ยงในสวรรค์ ............................49 เรื่อง วิธีเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทและสิ่งที่ควรปฏิบัติหลังรับศีลมหาสนิท .......................................52 เรื่อง ศีลมหาสนิทคืออาหารฝ่ายจิตของคริสตชน ..........................................................................55 เรื่อง ความหมายของศีลอภัยบาป ................................................................................................60 เรื่อง การพิจารณามโนธรรม .......................................................................................................64 เรื่อง การเสียใจ สำ�นึกผิด และการเป็นทุกข์ถึงบาป .......................................................................67 เรื่อง วิธีรับศีลอภัยบาปและการสารภาพบาป ...............................................................................70 เรื่อง การใช้โทษบาป ..................................................................................................................74 เรื่อง ความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณ .....................................................................................77 เรื่อง การร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ...............................................................................................83 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง ฉันเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทด้วยการภาวนา .........................................................................86 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง บัญญัติเอกของคริสตชน .....................................................................................................91 เรื่อง พระบัญญัติ 10 ประการ/บัญญัติพระศาสนจักร ....................................................................96 เรื่อง บาปกำ�เนิดและผลของบาป ................................................................................................99 เรื่อง พระเจ้าทรงรักมนุษย์และพร้อมที่จะให้อภัย ........................................................................102 เรื่อง บาปต้น 7 ประการ ..........................................................................................................105 สาระคริสตศาสนธรรมในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม .......................................108 หน่วยการเรียนรู้วิชาคำ�สอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 .......................................................................109


1

คำ�ชี้แจง

การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ “ชุดเตรียมรับศีลมหาสนิท” ฝ่ายงานวิชาการของแผนกคริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลจันทบุรี ขอนำ�เสนอ “แผนการจัดการเรียนรู้ ชุด เตรียมรับศีลมหาสนิท” เพื่อให้ครูคำ�สอนที่สอน “กลุ่มเตรียมรับศีลมหาสนิท” มีแนวทางและ “ตัวช่วย” ใน การจัดการเรียนการสอน หัวข้อต่างๆ ของแผนฯ ชุดนี้มาจาก “ร่างแนวทางจัดทำ�หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ คริสตศาสนธรรม” ที่แผนกฯ ได้จัดทำ�ขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2008

ผูจ้ ดั ทำ�ขอแจ้งให้ทราบว่า แผนฯ ชุดนีย้ งั อยูใ่ นระยะทดลองใช้ เนือ่ งจากได้จดั ทำ�ขึน้ เฉพาะกาลเป็นครัง้ แรก จึงยังมีสงิ่ ทีต่ อ้ งปรับปรุงแก้ไขอีกบางประการ อีกทัง้ ยังยินดีและพร้อมทีจ่ ะรับคำ�แนะนำ� ติ ชม จากทุกท่านทีม่ โี อกาส นำ�ไปใช้ด้วย ดังนั้น ขอความกรุณาทุกท่านที่ได้ใช้แล้วส่งคำ�แนะนำ�ไปยังผู้จัดทำ�ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง ในการใช้แผนฯ ชุดนี้ ท่านสามารถเสริมกิจกรรมต่างๆ เกม แบบฝึกหัด ฯลฯ โดยเลือกใช้สื่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมกับสภาพผู้เรียนและสภาพแวดล้อม แผนฯ นี้มีเนื้อหาสาระแน่นพอสมควร เพื่ออำ�นวย ความสะดวกให้ครูผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นคว้าเนื้อหาเพิ่มเติม แต่ถ้าครูท่านใดปรารถนาจะปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมเนื้อหาหรือประสบการณ์ที่มีในแผนฯ ก็ย่อมทำ�ได้โดยอิสระ ทั้งนี้เพียงแต่ให้สอดคล้องกับหัวข้อ และ วัตถุประสงค์เท่านั้น นอกนั้น เพื่อเป็นการอำ�นวยความสะดวกยิ่งขึ้นแก่การใช้แผนฯ ผู้จัดทำ�ได้แนบแผ่นซีดี สื่อการสอนมัลติมีเดียที่ใช้ในบางแผนฯ ด้วย โครงสร้างของแผนฯ ชุดนีม้ งุ่ เน้นให้น�ำ ผูเ้ รียนเข้าสูก่ ระบวนการทีส่ ร้างความสัมพันธ์ระหว่าง “ข้อความเชือ่ ความเชื่ อ -พระวาจา-ชี วิ ต ” โดยเริ่ ม จากประสบการณ์ ที่ ส อดคล้ อ งกั บ ประเด็ น หลั ก คำ � ถามเกี่ ย วกั บ ชี วิ ต พระวาจาที่มาตอบคำ�ถาม การอธิบายพระวาจา การประยุกต์ใช้พระวาจาให้เข้ากับประเด็นนั้นๆ แล้วจบที่การนำ� ไปปฏิบัติ โดยทั้งหมดจะสอดคล้องกัน สรุปได้ว่า เป็นแผนฯ ที่พยายามสร้างความสมดุลระหว่าง “ความเชื่อ/ ความรู้กับชีวิต” โดยยึดพระวาจาเป็นศูนย์กลางของแผนฯ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตหลังการเรียนรู้ ดังนั้น เพื่อจะให้แผนฯ นี้เกิดผลดีอย่างแท้จริงทั้งต่อผู้สอนและผู้เรียน จึงขอเสนอแนะว่า ผู้สอนควรมีโอกาสทำ� ประสบการณ์ส่วนตัว โดยนำ�แผนฯ แต่ละเรื่องที่จะสอนมาไตร่ตรอง รำ�พึง และปฏิบัติจริงในชีวิตของตนก่อน จะได้ สอนคำ�สอนโดยการแบ่งปันความเชื่อและประสบการณ์ชีวิต เพราะการสอนซึ่งอยู่แค่ระดับการให้ความรู้เท่านั้น จะไม่สามารถนำ�ผู้เรียนสู่การเติบโตฝ่ายจิตจนถึงขั้นบรรลุวุฒิภาวะในความเชื่อได้ ทว่าเราต้องการเด็กและเยาวชน ที่เติบโตขึ้นมาเป็นคริสตชนที่มีคุณภาพ และที่สำ�คัญคือ เพื่อให้เขาบรรลุถึงความรอดพ้นนั่นเอง ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้แผนฯ นี้สำ�เร็จลงได้ และขอขอบพระคุณเช่นกันสำ�หรับทุกท่านที่นำ� แผนฯ นี้ไปใช้ ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกท่านด้วยพระพรอันอุดมของพระองค์ แผนกคริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลจันทบุรี


2

แบบอย่างครูคำ�สอน แบบอย่างครูคำ�สอน การสอนคำ�สอนต่างจากการให้ความรู้วิชาทั่วไป เพราะ เป็นการถ่ายทอดความเชื่อ และปลูกฝังความรัก ความวางใจ ต่อ พระเจ้า การสอนคำ�สอนจึงเป็นวิชาเฉพาะที่เรียกร้องบุคลากรซึ่งมี ความพร้ อ ม ทั้ ง ด้ า นความรู้ แ ละการเป็ น แบบอย่ า ง เป็ น ต้ น ใน การเจริญชีวิต การปฏิบัติความรักแก่ผู้อื่น และการปฏิบัติศาสนกิจ

พระสังฆราชลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต คำ�สอนจันท์ฉบับนี้ ได้รบั เกียรติจาก ฯพณฯ ลอเรนซ์ เทียนชัย เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ.1931 สมานจิต ประมุขสังฆมณฑลจันทบุรี ครูคำ�สอนกิตติมศักดิ์ผู้ “อุทิศ

ตนเพื่อการภาวนาและบริการพระวาจา” (คติพจน์วันบวชเป็นพระสงฆ์) พระคุณเจ้าสอนคำ�สอนมาตั้งแต่สมัยเป็น เลขานุการของพระสังฆราชฟรังซิส สงวน สุวรรณศรี แม้จะผ่านสุวรรณบรรพชา 50 ปี มาแล้ว พระคุณเจ้าก็ยังคง ซื่อสัตย์ต่อกระแสเรียกครูคำ�สอน ส่งต่อความเชื่อแก่นักเรียนไม่เคยขาด

แรงจูงใจที่ทำ�ให้พระคุณเจ้าตั้งใจสอนคำ�สอนมาตลอด แม้จะเกษียณอายุแล้ว

แรงจูงใจประการแรกสืบเนื่องมาจากหน้าที่ที่คริสตชนได้รับในวันรับศีลล้างบาป คือ หน้าที่ประกาศก (หน้าที่ประกาศข่าวดี, สอนคำ�สอน) หน้าที่สงฆ์ และหน้าที่กษัตริย์ (ชุมพาบาล, ผู้นำ�) แรงจูงใจประการทีส่ องเนือ่ งมาจาก คติพจน์วนั บวชเป็นพระสงฆ์ “อุทศิ ตนภาวนาและบริการพระวาจา” ซึง่ ถือเป็นหน้าที่หลักของพระสงฆ์ ตามที่บรรดาอัครสาวกยืนยัน เทียบหนังสือกิจการอัครสาวก บทที่ 6 ข้อ 2 “ไม่สมควรทีเ่ ราจะละทิง้ การประกาศพระวาจาของพระเจ้าเพือ่ ไปแจกอาหาร” นอกจากนัน้ คือมีโอกาสไปศึกษาต่อ เรื่องการสอนคำ�สอนเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ทั้งคริสตชนและมิใช่คริสตชนมากยิ่งขึ้น หลังจากเกษียณอายุแล้วก็ตั้งใจว่าจะไปสอนคำ�สอนผู้สูงอายุต่างศาสนาที่สนใจอยากรับศีลล้างบาปที่ปีนัง ซิสเตอร์ที่ดูแลผู้สูงอายุจำ�นวนร้อยกว่าคนบอกว่า “ผู้สูงอายุทุกๆ คน สนใจรับศีลล้างบาปก่อนตาย”

พระคุณเจ้าเตรียมตัวสอนอย่างไรบ้าง

แต่ละครั้งก็ต้องเตรียมสอน ขอความสว่างจากพระจิตเจ้าว่าจะสอนคำ�สอนเรื่องอะไร เพราะไม่ได้สอนตาม คู่มือ มีซิสเตอร์และครูคำ�สอนสอนตามคู่มือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มมัธยมต้นและ กลุม่ มัธยมปลาย ตัวเองช่วยสอนเสริมกลุม่ ละ 1 ครัง้ ต่อสัปดาห์ การเรียนคำ�สอนถือว่าเป็นชีวติ คริสตชนเป็นอาหาร ประจำ�วันช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตพระที่ได้รับตั้งแต่วันรับศีลล้างบาป ด้วยพระวาจาของพระเจ้าและคำ �สอนของ พระศาสนจักร ฉะนั้นเรื่องที่สอนที่เรียนจึงเป็นเรื่องของชีวิตประจำ�วัน วันฉลองตามเทศกาล พระธรรมล้ำ�ลึก พระวรสารประจำ�วันอาทิตย์ ศีลศักดิส์ ทิ ธิ์ วันฉลองนักบุญ ซึง่ ช่วยให้นกั เรียนเจริญชีวติ ตาม มีผกู้ ล่าวว่า “ใครอยาก เป็นนักบุญก็ให้ศึกษาประวัตินักบุญและปฏิบัติตาม”


3

พระคุณเจ้ามีวิธีการสอนอย่างไร ใช้วิธีสอนแบบอนุมาน (Inductive) แบบเอเซียจากประสบการณ์ เหตุการณ์ ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีสอนแบบ อนุมาน (Deductive) แบบตะวันตก (แบบเก่า) จากข้อคำ�สอนทฤษฎีลงมาสู่ภาคปฏิบัติ ในการสอนคำ�สอน ครูค�ำ สอนมิใช่พดู เรือ่ งพระให้เด็กฟัง แต่พยายามให้เด็กพร้อมทีจ่ ะพูดกับพระเจ้าได้ดว้ ยตนเอง (ภาวนาส่วนตัวจาก ใจ หรือภาวนาพร้อมกัน) ฉะนั้นการสวดก่อนเรียนหรือหลังเรียน ก็ไม่จำ�เป็นเหมือนสมัยก่อน เพราะครูคำ�สอน จะต้องช่วยเตรียมจิตใจเด็กให้พร้อมระหว่างสอนสักครึ่งเวลา แล้วจึงให้เด็กมีโอกาสภาวนาพร้อมกันหรือส่วนตัว การสอนคำ�สอนต้องมีพื้นฐานอยู่บนพระวาจาของพระเจ้าและนำ�ไปสู่ภาคปฏิบัติในชีวิต พระคุณเจ้าปรารถนาจะแนะนำ�ครูคำ�สอนในเรื่องใดบ้าง การสอนคำ�สอนของเราต้องมีพระคัมภีรเ์ ป็นพืน้ ฐาน เพราะฉะนัน้ ต้องสอนพระคัมภีรด์ ว้ ย ในอดีตเราสอน แต่คำ�สอน ไม่สอนพระคัมภีร์ เด็กรู้แต่ “คำ�สอน” ไม่รู้พระคัมภีร์ซึ่งเป็นท่อธารและพื้นฐานของ “คำ�สอน” และ เทววิทยา พี่น้องคริสเตียนเน้นพระคัมภีร์มากกว่าเรา ศึกษากันทุกวันอาทิตย์ การเรียนคำ�สอนเป็นเหมือนอาหารฝ่ายจิตหล่อเลี้ยงวิญญาณ ต้องเรียน ตลอดปีมิใช่ต้องรอตอนหยุดเรียนภาคฤดูร้อนเท่านั้น เด็กที่เรียนในโรงเรียน รัฐบาล หรือในโรงเรียนเอกชนที่ไม่มีการสอนคำ�สอน ทางวัดต้องจัดเวลาให้เด็ก มีโอกาสเรียนคำ�สอนตลอดปี เช่นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ มิฉะนั้น เด็กเหล่านี้ จะไม่ได้รับคำ�สอนหล่อเลี้ยงชีวิตจิต ยากที่จะเป็นผู้ใหญ่เป็นคริสตชนที่ สมบูรณ์ แม้จะมีครูคำ�สอนฆราวาสช่วยสอนคำ�สอน พระสงฆ์และนักบวชก็ต้อง สอดส่องดูแลและรับผิดชอบการสอนคำ�สอนร่วมกับฆราวาส สมเด็จพระสันตะ ปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเตือนพระสงฆ์และนักบวชที่ทำ�งานในโรงเรียนให้ สนใจการสอนคำ�สอนเด็กคาทอลิกและผู้สนใจ ซึ่งเป็นพันธกิจมิใช่มีบทบาทใน การบริหารเท่านั้น แล้วปล่อยให้ครูคำ�สอนฆราวาสทำ�งานโดยลำ�พัง เราต้อง ทำ�ร่วมกัน สมัยก่อนวันอาทิตย์ตอนบ่ายมีการสวดสายประคำ� และสอนคำ�สอน ผู้ใหญ่ที่เป็นคริสตชนก่อนอวยพรศีลมหาสนิท ต่อมามีการถวายบูชามิสซา ตอนเย็นก็งดการสวดสายประคำ� การอวยพรศีลมหาสนิท และการสอนคำ�สอน ผู้ใหญ่เป็นคริสตชน ทำ�อย่างไรจึงจะมีการรื้อฟื้นการสอนผู้ใหญ่ที่เป็นคริสตชน กันใหม่ เพราะการเรียนคำ�สอนเป็นสิ่งจำ�เป็นสำ�หรับแต่ละวัย วัยเด็ก ผู้ใหญ่ แม้วัยผู้สูงอายุ บางวัดที่เริ่มการสอน 10 นาที หลังมิสซาวันอาทิตย์ก็น่าชื่นชม ก่อนโปรดศีลกำ�ลังตามวัดต่างๆ มีโอกาสพบปะกับเด็กๆ ทดสอบพระคัมภีร์และ คำ�สอน ปรากฏว่าความรู้เรื่องพระคัมภีร์และคำ�สอนยังอ่อนควรปรับปรุงแก้ไข


4

สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ตรัสว่า “พ่อแม่เป็นครูค�ำ สอนคนแรกของลูก” ทำ�อย่างไรจะอบรม พ่อแม่ให้สอนคำ�สอนแก่ลกู ได้ บ้านต้องเป็นพระศาสนจักรน้อยๆ พ่อแม่เป็นเหมือนพระสงฆ์ในบ้าน นำ�สวด อธิบาย พระคัมภีร์ สอนคำ�สอน สอนด้วยแบบอย่างที่ดี นี่คือเรื่องที่อยากฝากไว้กับครูคำ�สอนฆราวาส นักบวช และพระสงฆ์ ที่สุดขอขอบคุณครูคำ�สอนทั้งหลาย ทั้งฆราวาส นักบวช และพระสงฆ์ ที่เสียสละอุทิศตนถ่ายทอดความเชื่อ ไปยังคนต่างศาสนาทีไ่ ม่มคี วามเชือ่ และสอนคำ�สอนหล่อเลีย้ งความเชือ่ ของคริสตชนให้เข้มแข็งยิง่ ขึน้ พระสงฆ์และ นักบวชได้รับการอบรมในด้านความเชื่อมากกว่าฆราวาส ฉะนั้น อย่าละเลยที่จะถ่ายทอดความเชื่อไปยังผู้อื่น ความเชื่อที่ไม่ถ่ายทอดเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว สมเด็จพระสันตะปาปา ทรงเห็นความสำ�คัญของครูคำ�สอน รู้คุณ และขอบคุณครูคำ�สอนเป็นพิเศษ เพราะครูคำ�สอนมีบทบาทสำ�คัญในพระศาสนจักร ช่วยงานแพร่ธรรมกับคนต่าง ศาสนา และสอนคำ�สอนอภิบาลหล่อเลี้ยงความเชื่อของคริสตชนให้เข้มแข็งและเจริญเติบโต แบบอย่างครูคำ�สอนที่เราได้เห็นในตัวของพระคุณเจ้าเทียนชัย ช่วยให้เราเห็นความสำ�คัญและบทบาทของ ครูคำ�สอน เป็นอย่างดี เพราะการสอนคำ�สอนเป็นหน้าที่ซึ่งเราได้รับในวันรับพิธีล้างบาป และพระคัมภีร์ถือเป็น พื้นฐานหลักของการสอน ชีวิตครูคำ�สอนที่สอดคล้องกับการสอนย่อมทำ�ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จริง มี ความเชื่อที่เข้มแข็ง และมีชีวิตเปี่ยมสุข สามารถเป็นพยานสืบทอดความเชื่อต่อไปได้ ขอให้วันสมโภชพระคริสตเจ้า คืนสู่ชนม์นำ�จิตวิญญาณของเรากลับเป็นขึ้นมา และเป็นแรงบันดาลใจแก่ครูคำ�สอนทุกท่านตลอดไป ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน


5

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

เรื่อง ศีลศักดิ์สิทธิ์และพระคัมภีร์

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 2 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์และพระคัมภีร์ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนอ่านพระคัมภีร์มากขึ้นและตั้งใจแก้บาปรับศีลมหาสนิทเวลาไปวัด สาระการเรียนรู ้ พระคัมภีร์คือพระวาจาของพระเจ้า เป็นรากฐานของชีวิตคริสตชน ส่วนศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องมือที่ พระศาสนจักรใช้เป็นท่อธารประทานพระหรรษทานแก่คริสตชน เพื่อการเจริญชีวิตในพระพรของพระองค์ตั้งแต่เกิดจนตาย ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย ทำ�ความรู้จักกันเป็นครั้งแรก / แนะนำ�ตัว - สวดขอพระจิตเจ้าให้ผู้เรียนมีสมาธิ สติปัญญา เข้าใจคำ�สอนของพระเจ้าและ พระศาสนจักร 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) กิจกรรมทำ�ตามคำ�สั่ง - แจกใบงานแก่นักเรียนคนละ 1 ใบ ครูอ่านคำ�สั่งให้นักเรียนฟังอย่างชัดเจน ทีละข้อ

บทร้องหาพระจิต

ใบงาน กระดาษซึ่งมีเลข 1-40

1. ลากเส้นหมายเลข 1 – 10 ตามลำ�ดับ คนที่ทำ�เสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น (1-2-3-4-5...10) 2. ลากเส้นหมายเลข 11 – 20 ตามลำ�ดับ คนที่ทำ�เสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 3. ลากเส้นหมายเลข 21 - 30 ตามลำ�ดับ คนที่ทำ�เสร็จแล้วให้ยกมือขึ้น 4. ลากเส้นหมายเลข 31 - 40 ภายใน 1 วินาที เท่านั้น สรุปกิจกรรม เวลาเรียนคำ�สอน เราต้องตั้งใจฟังเนื้อหาและคำ�สั่งของครูให้ดี ชัดเจน จะได้เข้าใจและปฏิบัติถูกต้อง - นำ�พระคัมภีร์มาให้เด็กดู แล้วตั้งคำ�ถามให้เด็กตอบ เพื่อสำ�รวจความรู้พื้นฐาน (เก็บคะแนน ใครตอบได้ให้ 1 คะแนน แล้วนำ�ของขวัญมาแจก เพื่อเป็นกำ�ลังใจใน การเรียนคำ�สอน) 3 พระวาจา ศีลล้างบาป - พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง (มธ 3:16-17) - ศีลล้างบาป (รม 6:1-11)

หนังสือพระคัมภีร์ / ของขวัญ ☆ ใบความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์ ☆

หนังสือพระคัมภีร์


6

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ศีลมหาสนิท - พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท (มธ 26:26-29) - ชีวิตของคริสตชนกลุ่มแรก (กจ 2:42) ศีลกำ�ลัง - “ยอห์ น ทำ � พิ ธี ล้ า งด้ ว ยน้ำ � แต่ ภ ายในไม่ กี่ วั น ท่ า นจะได้ รั บ พิ ธี ล้ า งเดชะ พระจิตเจ้า” (กจ 1:5) - วันเปนเตกอสเต (กจ 2:1-4) - บุตรของพระเจ้า (รม 8:14-17) - พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับนิโคเดมัส (ยน 3:5) ศีลอภัยบาป “เพราะถ้าท่านให้อภัยผู้ทำ�ความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะ ประทานอภัยแก่ท่านด้วย แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำ�ความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน” (มธ 6:14-15) - พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนอัมพาต “ทำ�ใจดีๆ ไว้เถิดลูกเอ๋ย บาปของท่าน ได้รับการอภัยแล้ว (มธ 8:2) - สิ่งที่เป็นมลทิน (มธ 15:19) - การให้อภัยความผิด (มธ 18:21-22) ศีลเจิมคนไข้ - “ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผูอ้ าวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนา เพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำ�มันผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ยก 5:14-15) ศีลบรรพชา(บวช) - เปโตรประกาศความเชื่อ (มธ 16:17-19) พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะมิใช่มนุษย์ ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลา และบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะ พระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” ศีลสมรส - งานสมรสที่หมู่บ้านคานา (ยน 2:1-11) - คำ�ถามเรื่องการหย่าร้าง (มธ 19:4-6) พระองค์ทรงตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านพระคัมภีร์หรือว่าเมื่อแรกนั้นพระผู้สร้าง ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิงและตรัสว่า ‘ชายจะละบิดามารดาไปสนิทอยู่กับ ภรรยาของตนและชายหญิงจะเป็นเนือ้ เดียวกัน’ ดังนีเ้ ขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็น เนื้อเดียวกัน ฉะนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าได้แยกเลย”

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


7

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

4 อธิบายพระวาจา a ศีลล้างบาป เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์พื้นฐานของชีวิตคริสตชน และเป็นประตูเปิดเข้าไปสู่การรับศีล ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ และเข้าเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร ตามที่พระเยซูเจ้าได้อธิบายให้ นิโคเดมัสฟังว่า.. “ผูท้ จี่ ะเป็นประชากรของอาณาจักรพระเจ้าจะต้องเกิดใหม่จากน้�ำ และ พระจิต” (ยน.3:1-8) ผู้ที่จะรับศีลล้างบาปต้องแน่ใจว่า ได้ละทิ้งหนทางที่ไร้ความรัก ความเมตตาต่อมนุษยชาติ และหันมารับเอาหนทางของพระเยซูเจ้า ตามที่ยอห์นได้ ประกาศเป็นแนวทางว่า “จงกลับใจเสียใหม่...ใครมีเสื้อสองตัว จงเอาตัวหนึ่งให้คนที่ ไม่มี และคนมีอาหารจงแบ่งให้คนอดอยาก...ส่วนคนเก็บภาษีอย่าเก็บเกินพิกัด และ พวกทหารอย่าบังคับขูเ่ ข็ญเอาเงินจากผูใ้ ดหรือใส่รา้ ยเขา จงพอใจกับค่าจ้างทีต่ นได้รบั ” (ลก.3:7-17) ศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ทำ�ให้เราเป็นสาวกของพระเยซูเจ้า มีส่วนร่วมในบุญบารมีและ ศักดิ์ศรีของพระองค์คือการเป็นสงฆ์ ประกาศก และกษัตริย์ (ผู้นำ�) ในชีวิตประจำ�วัน ของเขา (หนังสือพิธีล้างบาปเด็ก) หน้าที่สงฆ์

คือ

ภาวนา และร่วมถวายบูชามิสซา

หน้าที่ประกาศก คือ

สั่งสอนด้วยคำ�พูดและเป็นตัวอย่างที่ดี

หน้าที่ของผู้นำ�

ต้องรักและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก

คือ

สัญลักษณ์ของศีลล้างบาป คือ น้ำ�เป็นเครื่องหมายถึงการชำ�ระล้างให้สะอาด b ศีลมหาสนิท ศีลมหาสนิทเป็นศีลที่สำ�คัญที่สุดเพราะเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชน เป็น ศีลแห่งความรักของพระเจ้าเราเชื่อว่าองค์พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิท ผู้ที่รับศีลมหาสนิทก็จะสนิทสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ทุกคนจึงเป็นหนึ่ง เดียวกันในครอบครัว เป็นสมาชิกและส่วนต่างๆ ในพระกายทิพย์ของพระเยซูเจ้า ... “ท่านทัง้ หลายเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างก็เป็นอวัยวะของพระกาย นั้น” (1คร 12:27) แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างพระเจ้าและมนุษย์โดยทาง ศีลมหาสนิทนี้เอง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ�มื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้าและบรรดาสาวก... ทรงบิ ขนมปังประทานให้บรรดาศิษย์ ตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วย (เหล้าองุ่น) ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า “ทุกท่าน จงดื่มจากถ้วยนี้เถิด นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญา ที่หลั่งออก มาเพื่ออภัยบาปสำ�หรับคนเป็นจำ�นวนมาก” (มธ 26:26-28) สัญลักษณ์ของศีลมหาสนิท คือ ขนมปัง หมายถึง พระกายของพระคริสตเจ้า และเหล้าองุ่น หมายถึง พระโลหิตของพระคริสตเจ้า

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


8

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ c ศีลกำ�ลัง การรับศีลกำ�ลังเป็นการยืนยันความเชื่อ และเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึง “การบรรลุนิติภาวะทางความเชื่อหรือความศรัทธา” ผู้ที่รับศีลกำ�ลังจะพัฒนาเติบโต มีกำ�ลังเข้มแข็งในความเชื่อ และเป็นพยานความเชื่อถึงพระเยซูเจ้า ทั้งด้วยความคิด คำ�พูด และการปฏิบตั ิ เป็นดังทหารของพระเยซูคริสตเจ้า ทีพ่ ร้อมจะต่อสูก้ บั การล่อลวง ของปีศาจในรูปแบบการผจญต่างๆ ของมัน สัญลักษณ์ของศีลกำ�ลัง คือ น้ำ�มันคริสมา เป็นเครื่องหมายถึงการเจิมเพื่อ แต่งตัง้ ให้เป็นทหารและเป็นผูร้ บั ใช้ตลอดไปของพระคริสตเจ้า เป็นตราทีแ่ สดงถึงอำ�นาจ และการเป็นเจ้าของที่มีพระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้นำ� และเหล่าคริสตชนเป็นบรรดา ทหาร... “ผู้ที่ทรงตั้งเราและท่านทั้งหลายในพระคริสตเจ้า และได้ทรงเจิมเรานั้นคือ พระเจ้า พระองค์ทรงประทับตราเราด้วยตราของพระองค์ และประทานพระจิตเจ้าไว้ใน ดวงใจของเราเป็นเครื่องประกันด้วย” (2คร 1:21-22) d ศีลอภัยบาป ศี ล อภั ย บาปเป็ น ศี ล ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ แ ห่ ง การกลั บ ใจ การเป็ น ทุ ก ข์ ถึ ง บาป การสารภาพบาป และเป็นการคืนดีกับพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาปเพื่อ ช่วยเหลือคริสตชนให้กลับมาคืนดีกบั พระเจ้าอีกครัง้ หนึง่ และยังเชือ่ มโยงถึงการคืนดี กับเพือ่ นพีน่ อ้ งด้วย โดยการยกโทษให้แก่กนั และกันเหมือนกับทีพ่ ระเจ้าทรงให้อภัย แก่เรา พระเจ้าทรงทราบถึงธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดี เนื่องจากในการดำ�เนิน ชีวิตของมนุษย์ย่อมทำ�ผิดพลาด และมีความอ่อนแอด้านจิตใจ และกิจการชั่วที่ทำ�นั้น เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ขาดจากกัน โดยทางศีลอภัยบาปนี้ เอง จึงเป็นหนทางเดียวทีน่ �ำ มนุษย์กลับคืนสูค่ วามรอดดังเดิม... ในพระคัมภีรต์ อนบท ภาวนาแรกที่พระเยซูเจ้าทรงสอนให้บรรดาอัครสาวกภาวนา มีข้อความหนึ่งกล่าวว่า “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น” (มธ 6:12) “เพราะถ้าท่านให้อภัยผู้ทำ�ความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ก็จะ ประทานอภัยแก่ท่านด้วย แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำ�ความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน (มธ 6: 14-15) e ศีลสมรส ศีลสมรสเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพระหรรษทานแก่ชายและหญิงซึ่งตกลง ปลงใจใช้ชวี ติ ร่วมกัน โดยมีวตั ถุประสงค์ในการเสริมสร้างความรัก ความเป็นหนึง่ เดียว ซึ่ ง กั น และกั น เพื่ อ ให้ กำ � เนิ ด บุ ต รและเลี้ ย งดู อ บรมบุ ต รทั้ ง ฝ่ า ยกายและวิ ญ ญาณ ความดีของพระหรรษทานนี้ ช่วยพยุงกันและกันให้ดำ�รงอยู่ในพระหรรษทานตลอด กระแสเรียกชีวิตทั้งหมด ให้เลี้ยงและอบรมบุตรที่เกิดมา... น.เปาโลเขียนจดหมายถึงชาวโคโลสี เรื่องจริยธรรมในครอบครัว เป็นกฎ จริยธรรมทั่วๆ ไปสำ�หรับชีวิตคริสตชน

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


9

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ “ภรรยา สามี บุตร บิดา f ศีลบรรพชา

จงอยู่ใต้อำ�นาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงรักภรรยาและอย่าทำ�ให้นางรู้สึกขมขื่น จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำ�เช่นนี้เป็น ที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จงอย่าขัดใจบุตรจนเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำ�ลังใจ” (คส 3:18-21)

ศีลบรรพชาเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อความรอดของผู้อื่น พระเยซูเจ้า ประทานพระหรรษทานและอำ�นาจของพระองค์ให้แก่ผทู้ บี่ วชเป็นพระสงฆ์ เป็นภารกิจ ที่ พ ระเยซู เจ้ า ได้ ม อบไว้ ใ ห้ บ รรดาอั ค รสาวกของพระองค์ ใ ห้ ป ฏิ บั ติ ต่ อ มา จึ ง เป็ น ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งหน้าที่ศาสนบริการในงานธรรมทูต มีอยู่ 3 ระดับ คือ พระสังฆราช พระสงฆ์ และ สังฆานุกร พิธีกรรมของพระศาสนจักรแลเห็นในความเป็นพระสงฆ์ของอาโรน และใน การให้บริการของตระกูลเลวีเช่นเดียวกันในการแต่งตั้ง “ผู้อาวุโส” เจ็ดสิบท่าน (กดว 11:24-25) เป็นรูปแบบล่วงหน้าของหน้าที่ศาสนบริการที่ตั้งขึ้นในพันธสัญญาใหม่ ศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ทำ�ให้ผู้รับละม้ายคล้ายพระคริสตเจ้า ด้วยพระพรพิเศษของ พระจิตเจ้าโดยมีเป้าหมายเพื่อบริการรับใช้ในฐานะเครื่องมือของพระคริสตเจ้าเพื่อ พระศาสนจักรของพระองค์ โดยอาศัยการบวชนี้ ได้ทำ�หน้าที่สามประการของสงฆ์ ประกาศกและกษัตริย์ g ศีลเจิมคนไข้ โดยอาศัยการเจิมคนป่วยด้วยน้ำ�มันศักดิ์สิทธิ์และโดยคำ�ภาวนาของคณะสงฆ์ พระศาสนจักรทั้งครบก็เฝ้าฝากคนป่วยไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงทนทุกข์และกลับ คืนพระชนมชีพ เพือ่ พระองค์จะทรงรักษาบรรเทาเขา และช่วยเขาให้รอด พระศาสนจักร ยังเตือนใจคนป่วยให้ร่วมกับพระมหาทรมานและสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้า เพื่อ เป็นทางพลีส่วนบุญกุศลของตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชากรพระเจ้า (พระศาสนจักร ข้อ 11) นักบุญยากอบเป็นประจักษ์พยานว่า “ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโส ของกลุม่ คริสตชนมา ให้ทา่ นเหล่านัน้ อธิษฐานเพือ่ ผูป้ ว่ ย เอาน้�ำ มันเจิมผูน้ นั้ ในพระนาม ขององค์พระผู้เป็นเจ้า คำ�อธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผปู้ ว่ ยลุกขึน้ ได้ และถ้าเขาได้กระทำ�บาป เขาก็จะได้รบั การอภัย” (ยก 5:14-15) ศีลเจิมคนไข้ คือศีลศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาโรคทั้งฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณของ ผู้เจ็บป่วยไม่สบาย ผู้รับศีลเจิมจะได้รับพระหรรษทานและความบรรเทาจากพระเจ้า ควรเตรียมตัวรับศีลโดยเป็นทุกข์ถงึ บาป สำ�นึกผิดในสิง่ ทีต่ นได้กระทำ� และขออภัยโทษ ต่อพระเจ้าอย่างจริงใจ ศีลเจิมคนไข้ช่วยให้ผู้รับได้สิ้นใจในศีลและพระพรของพระเจ้า

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


10

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

และรับความสุขนิรันดรในพระอาณาจักรสวรรค์ของพระเจ้า

5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - เพื่อให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนซึ่งได้รับศีลล้างบาปแล้ว จึงเน้นความสำ�คัญ ของศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทเป็นหลัก ศีลอภัยบาป เรียกร้องการพิจารณาบาปอย่างละเอียด - สำ�นึกถึงบาปและขอโทษพระเจ้าอย่างจริงใจ และวอนขอพระเมตตาของพระเจ้า ด้วยใจถ่อมสุภาพ - สารภาพบาปกับพระสงฆ์ - ชดเชยบาปโดยการภาวนา การช่วยเหลือผู้อื่น ศีลมหาสนิท เรียกร้องการรับศีลอภัยบาปก่อน เพื่อชำ�ระจิตใจให้สะอาด พร้อมที่จะรับพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทเข้ามาประทับอยู่ในตัวเรา 6 หาข้อปฏิบัติ - ตั้งใจเรียน และเริ่มอ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำ�เสมอ - ตั้งใจแก้บาปรับศีลมหาสนิทเวลาไปวัด 7 ภาวนาปิด - สวดขอบคุ ณ พระเจ้ า ที่ ป ระทานพระพรให้ เราสามารถเข้ า ใจคำ � สอนและ พระคัมภีร์มากขึ้น และสามารถนำ�ไปปฏิบัติในชีวิตประจำ�วันได้

สมุดบันทึกการอ่าน พระคัมภีร์ประจำ�ตัว

ภาวนาจากใจแต่ละคน

8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรมความสนใจของผู้เรียน - ใบงานกิจกรรมตามคำ�สั่ง 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................


11

บทร้องหาพระจิต เชิญเสด็จมา พระจิตเจ้าข้า เชิญมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ และบันดาลให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์ โปรดส่งพระจิตของพระองค์ และสรรพสิ่งจะอุบัติขึ้นมา แล้วพระองค์จะนิมิตแผ่นดินขึ้นใหม่ ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์สอนใจสัตบุรุษด้วยความสว่างของพระจิต ขอให้เราซาบซึ้งในความเที่ยงตรงด้วยพระจิตนั้น และให้ได้รับความบรรเทาจากพระองค์เสมอ เดชะ พระสวามีคริสตเจ้า อาแมน.

ศีลศักดิ์สิทธิ์ เป็นพิธีกรรมที่สำ�คัญอย่างหนึ่งในการแสดงตนเป็นผูน้ ับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะนิกายโรมัน คาทอลิก ถือว่าศีลศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเครื่องหมายภายนอกที่แสดงว่าบุคคลที่ได้รับศีลศักสิทธิ์นี้ คือผู้ที่นับถือ ศาสนาคริสต์ หรือเรียกอีกอย่างว่า “คริสตชน” คริสตชนเชื่อว่าศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องหมายหรือเครื่องมือนำ�ความรอด เป็นพระคุณหรือของ ประทานจากพระเจ้า เพือ่ ให้เราได้รอดพ้นจากบาป อาศัยเครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ภายนอกของศีลศักดิส์ ทิ ธิ์ เป็นสื่อสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า และความเชื่อฝ่ายจิต เป็นความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างพระเจ้ากับ มนุษย์ เพื่อช่วยให้มนุษย์มีส่วนในความศักดิ์สิทธิ์และสัมผัสกับความรักของพระเจ้า ศีลศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องหมายภายนอกที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้นโดยผ่านทางพระศาสนจักร เพื่อ ประทานให้แก่มนุษย์ เป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือของพระเจ้า นำ�มาซึ่งพระคุณ พระหรรษทานแห่งความรอด และความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องหมายภายนอกที่มาจากความเชื่อภายใน เพื่อทำ�ให้ผู้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับ พระหรรษทานจากพระเจ้า เพือ่ ประคับประคองการดำ�เนินชีวติ ของคริสตชนคาทอลิก ตัง้ แต่เกิดจนกระทัง่ ตาย


12

ใบกิจกรรม “ทำ�ตามคำ�สั่ง” คำ�ชี้แจง - ฟังคำ�สั่งจากผู้สอนให้ชัดเจนก่อนลงมือปฏิบัติ

20

9

11

1

19

23

35

26 4 34

38 22

10 27

15

3 17

25 40

33

30 6

7

39 29

32

8

18

14

2

21

28

13

5

31

37 12 24

36

16


13

ใบความรู้ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับพระคัมภีร์และศีลศักดิ์สิทธิ์ เนื้อหา “ใครไม่รู้จักพระคัมภีร์ ก็ไม่รู้จักพระคริสตเจ้า” น.เยโรม “มารู้จักพระคัมภีร์กันเถอะ” อธิบายให้เด็กเข้าใจความสำ�คัญของพระคัมภีร์ เนื้อหา รวมทั้งประวัติ ความเป็นมาของพระคัมภีร์แบบสั้นๆ 1. พระคัมภีร์ คือ พระวาจา พระประสงค์และพระภารกิจของพระเจ้า บันทึกไว้เป็นภาษาของ มนุษย์ โดยได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า 2. พระคัมภีร์ประกอบด้วย หนังสือ 73 เล่ม แบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ - ภาคพันธสัญญาเดิม 46 เล่ม - ภาคพันธสัญญาใหม่ 27 เล่ม 3. ผู้เขียนและผู้เรียบเรียง เขียนพระคัมภีร์มีจำ�นวนมากและระยะเวลาที่เขียนก็แตกต่างกันเป็นพันปีก็มี

4. เรื่องราวต่างๆ ในพระคัมภีร์ มีมากมายแตกต่างกันไป บ้างก็เป็นการเล่าเรื่อง บทบัญญัติและกฎหมายต่างๆ เป็นประวัติศาสตร์ สุภาษิตสอนใจ บทสวด บทเทศน์ จดหมาย หรือคำ�ทำ�นาย ฯลฯ 5. บ่อเกิดของพระคัมภีร์ เริ่มจากการเล่าปากเปล่า สอนลูกสอนหลานมาหลายชั่วอายุคน ต่อมาจึงเขียนเป็นลายลักษณ์ อักษร หลังจากนั้นมีการเรียบเรียง รวมเป็นเล่มดังที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นพันๆ ปี

กล่าวโดยสรุป พระคัมภีร์เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าทรงแต่งโดยมนุษย์เป็นผู้เขียน พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม มี 46 เล่ม แบ่งออกเป็น 4 ภาคใหญ่ๆ ได้แก่ 1. ปัญจบรรพ

คือหนังสือ 5 เล่มแรก ที่กล่าวถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและวิถีชีวิตของมนุษย์ เป็นการเล่าถ่ายทอดประสบการณ์อันยาวนาน มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่อง เวลา วัฒนธรรม และประเพณี

2. ประวัติศาสตร์ มี 16 เล่ม บรรยายถึงประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอล ในสมัยของผู้วินิจฉัย และกษัตริย์ของชาติอิสราเอล เช่น แซมซัน ซาอูล ฯลฯ 3. ปรีชาญาณ มี 7 เล่ม เป็นคำ�สอน ข้อคิดเตือนใจในการเจริญชีวิต เช่น บุตรสิรา สุภาษิต ฯลฯ


14

4. ประกาศก มีทั้งหมด 18 เล่ม เป็นหนังสือที่บรรดาประกาศกได้เตือนประชาชนให้สำ�นึก ตน กลับใจ ดำ�เนินชีวิตให้สอดคล้อง และซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญา หนังสือแบ่ง เป็นช่วงสมัยตามลำ�ดับของประกาศก เป็นการแสดงถึงข่าวดี ทางแห่งความรอด ที่พระเป็นเจ้าได้เผยแสดงเกี่ยวกับการเสด็จมาบังเกิด และการไถ่ให้รอดขององค์ พระเยซูคริสตเจ้า พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ มี 27 เล่ม แบ่งออก 4 ส่วน ได้แก่ - พระวรสาร

4

เล่ม

- กิจการอัครสาวก

1

เล่ม

- บทจดหมาย

21 เล่ม

- วิวรณ์

1

เล่ม

ทั้งหมดนี้เป็นบันทึกเรื่องราวของพระเยซูเจ้า และเหตุการณ์ภายหลังจากการไถ่บาปและกลับคืน พระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า การก่อตัง้ พระศาสนจักร และการเสริมความเชือ่ ของคริสตชนรุน่ แรก เน้นทีอ่ งค์ พระเยซูคริสตเจ้าผูเ้ ป็นศูนย์กลางของประวัตศิ าสตร์แห่งความรอด ระหว่างพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญา ใหม่

สรุป พระคัมภีร์ไม่มุ่งเน้นให้เรารู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โหราศาสตร์ หรือภูมิศาสตร์ ตลอดจน การเป็นอยู่ของมนุษย์เท่านั้น แต่สิ่งที่พระคัมภีร์ต้องการบอกแก่เราคือ ความรอดที่พระเจ้าทรงต้องการให้มนุษย์ ได้รบั รูแ้ ละปฏิบตั ติ าม ทำ�ให้เราเข้าใจว่าพระเจ้าคือใคร มนุษย์เป็นใครและมาจากไหน และจะต้องปฏิบตั ติ ามอย่างไร เพื่อเราจะได้มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์แห่งความรอด ซึ่งสำ�เร็จบริบูรณ์ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของ พระเจ้า องค์แห่งความรักและผู้ช่วยเราให้รอด คำ�ถาม อธิบายสรุป

“ให้บอกชื่อศีลศักดิ์สิทธิ์ให้ตรงกับภาพที่กำ�หนด” “ให้บอกความหมายหรือความสำ�คัญของศีลศักดิ์สิทธิ์แต่ละศีล” “ประวัติ ความหมายและความสำ�คัญของศีลศักดิ์สิทธิ์แต่ละศีล”


15

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

เรื่อง พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้นำ�ทางของฉัน

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.1.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจว่า พระเยซูเจ้าทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ ทรงเป็นผู้นำ�ให้เราเดิน ในหนทางที่ถูกต้องในชีวิตของเรา - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนคิดถึงพระเยซูเจ้าเมื่อกระทำ�สิ่งต่างๆ โดยเลียนแบบพระองค์ สาระการเรียนรู ้ ในสังคมปัจจุบัน สิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวเรามีทั้งดีและไม่ดี เราจึงต้องเลือกอยู่ตลอดเวลา พระเจ้าทรงพระทัยดี ประทานพระเยซูเจ้าให้อยู่เคียงข้างเรา เพื่อเป็น “แสงสว่าง” นำ�ทางชีวิต เพราะหลายๆ ครั้งเราเหมือนอยู่ใน “ความมืด” ที่ ครอบงำ�ให้หลงในทางที่ผิด โดยอาจเห็นสิ่งไม่ดีเป็นสิ่งดี เราจึงต้องการแสงสว่างจากพระเยซูเจ้าเพื่อไล่ความมืดในจิตใจ ให้ เราสามารถเลือกสิ่งที่ดีและถูกต้องในชีวิต เมื่อเรามีพระองค์อยู่เคียงข้าง เราก็ไม่กลัวอันตรายทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย / สวดภาวนา / ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนจากครั้งก่อน - ให้ผู้เรียนเล่นเกม “ปิดตาหาของ” โดย

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

ผ้าปิดตา/เก้าอี้/พระคัมภีร์/ สิ่งของกีดขวาง

1. แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มเท่าๆ กัน 2. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 1 คน เอาผ้าปิดตาไว้ 3. วางสิ่งของกีดขวางทางด้านหน้าของผู้ถูกปิดตาให้มาก 4. วางหนังสือพระคัมภีร์ไว้ที่ปลายทางของทั้ง 2 คน 5. เมื่อได้ยินเสียงนกหวีด ผู้ถูกปิดตาจะต้องเดินไปหาพระคัมภีร์ โดยห้ามชน สิง่ ของทีก่ ดี ขวาง เพือ่ นๆ สามารถบอกเส้นทางได้ ผูใ้ ดชนสิง่ กีดขวางถือว่าแพ้ ต้องหยุด เล่นทันที 6. รอบที่ 2 แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเพิ่มอีกหนึ่งคน ให้คนที่ 2 อยู่ด้านหลังผู้ถูก ปิดตา เขาสามารถแนะเส้นทางแก่คนแรกได้โดยการสัมผัสแตะตัวเท่านั้น แต่ห้ามพูด ส่วนคนอื่นต้องเงียบ ดำ�เนินการเล่นต่อไปจนจบ 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ให้ผู้ถูกปิดตาตอบว่า “รู้สึกอย่างไรเมื่อมองไม่เห็น และต้องเดินตามทางที่มี สิ่งกีดขวาง โดยมีเพื่อนตะโกนบอกเส้นทางให้เดินด้วยเสียงที่อึกทึก?” - ถามคนในกลุ่มว่า “ใช้วิธีใดเพื่อให้ตัวแทนกลุ่มสามารถเดินไปถึงปลายทาง ทั้งที่มีเสียงรบกวนมากมาย” - จากนั้น ให้ผู้เรียนแต่ละคนหลับตา จินตนาการว่าตนเป็นเหมือนคนตาบอด

แบ่งปันความรู้สึก ในการทำ�กิจกรรม


16

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ทีต่ อ้ งอยูใ่ นความมืด มองอะไรไม่เห็น แต่ตอ้ งเจริญชีวติ เช่นเดียวกับคนอืน่ จะกลัวไหม? ต้องลำ�บากแค่ไหนในการทำ�สิ่งต่างๆ แม้เป็นแค่เรื่องปกติธรรมดาของชีวิตประจำ�วัน หากมีคนคอยนำ�ทาง เราจะเดินด้วยความมั่นใจมากขึ้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะหลอก จะ แกล้งเราหรือเปล่า อาจเดินไปสะดุดไป มีจุดที่ต้องหยุดชะงัก ถ้าคนที่พาเราไปเป็น คนที่เชื่อถือได้ พูดจริงทำ�จริง รักเรา ปรารถนาดีต่อเรา เราก็จะมั่นใจในตัวเขา มีแรง ต่อสู้ สามารถเดินไปสู่จุดหมาย ท่ามกลางอุปสรรค และความยากลำ�บากได้ ในโลกที่ ทุกสิง่ ทุกอย่างกำ�ลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วนัน้ มีทงั้ สิง่ ดีและไม่ดอี ยูต่ อ่ หน้าเรา หลายๆ ครัง้ สิง่ ไม่ดกี ล็ วงตาทำ�ให้เราคิดว่ามันดีเพราะการโฆษณาชวนเชือ่ หลายครัง้ สังคมก็ให้ ค่านิยมที่ผิดๆ แก่เรา จึงเป็นการยากที่จะแยกแยะได้ว่า อะไรคือสิ่งที่ดีจริง ก็เหมือน กับว่าเรายังอยู่ในความมืดนั้นที่หากก้าวเดินไปก็อาจจะสะดุดกับสิ่งที่เป็นอุปสรรคให้ เราไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางก็ได้ หรือถ้าไปถึงได้ก็อาจต้องล้มแล้วล้มอีก ต้องเจ็บตัวมากมาย ดังนั้น จึงจำ�เป็นต้องมีผู้นำ�ทางชีวิตที่เชี่ยวชาญใครล่ะจะเป็นผู้นำ� ทางคนนีท้ ด่ี เี ลิศกว่าทุกคน? ทีจ่ ะสามารถนำ�เราอย่างมัน่ ใจจนถึงทางทีจ่ ะบรรลุความสุข นิรันดรได้? 3 พระวาจา (ยน 8:12) “ พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนว่า ‘เราเป็นแสงสว่างส่องโลก ผู้ที่ตามเรามาจะ ไม่เดินในความมืด แต่จะมีแสงสว่างส่องชีวิต’ ” 4 อธิบายพระวาจา - ทำ�ไมพระเยซูเจ้าทรงยืนยันว่า “พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างส่องโลก”? ก็เพราะ โลกนี้มีหนทางที่มืดอยู่ด้วย พระองค์ทรงเป็นห่วงเรามนุษย์ที่ทรงสร้างมาว่า ลำ�พังตัว เราจะรูห้ นทางทีจ่ ะนำ�ไปสูค่ วามสุขเทีย่ งแท้ได้หรือไม่? เพราะปีศาจคอยลวงเราให้เลือก ทางชีวติ ทีส่ ะดวกสบาย ให้เราทำ�ตามใจตัวเอง ให้เราหลงว่าเงินทองเป็นเหมือนพระเจ้า ที่สามารถบันดาลความสุขแก่เรา ฯลฯ คือให้เราแสวงหาความสุขในโลกนี้ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ แต่มันคือหนทางหลอกลวง เป็นกับดักที่ปีศาจใช้เพื่อทำ�ให้มนุษย์หลง ผิดและเดินผิดเป้าหมายจนทำ�ให้วิญญาณของเขาต้องพินาศ หากเป็นเช่นนี้ปีศาจจะ ดีใจมาก แต่พระเจ้าจะทรงเสียพระทัยเป็นที่สุด - ดังนั้น พระเจ้าจึงประทานพระเยซูเจ้าให้เป็น “ผู้ช่วยนำ�ทาง” แก่มนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้า จึงทรงทราบว่า หนทางใดดีที่สุดสำ�หรับมนุษย์ พระองค์ แต่ผู้เดียวจึงสามารถเป็น “แสงสว่าง” นำ�ทางชีวิตมนุษย์ได้อย่างดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงยืนยันอีกว่า “ผู้ที่ตามเรามา จะไม่เดินในความมืด แต่จะมีความสว่าง ส่องชีวิต” ซึ่ง “ความสว่าง” นี้จำ�เป็นมากเพราะ “ความมืด” ฝ่ายจิตวิญญาณคือสิ่งที่ น่ากลัวกว่าความมืดของกลางคืนหลายเท่า เพราะอาจทำ�ให้มนุษย์หลงผิดเป็นชอบ ซึง่ มีผลต่อชีวิตนิรันดรของเขา 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเยซูเจ้าได้ตรัสกับเราอย่างชัดเจนว่า ชีวิตของเรามีภัยที่ต้องระวัง ไม่ใช่ภัย เล็กๆ ที่เราอาจละเลยไม่สนใจได้โดยก่อผลกระทบน้อย แต่เป็นภัยที่นำ�ผลเสียอย่าง มหันต์ต่อวิญญาณของเรา พระองค์จึงทรงเผยแสดงให้เราระวังตัว และให้เรารู้ทางที่จะ

พระคัมภีร์


17

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

หลีกเลี่ยงภัยนั้นอย่างชาญฉลาด คือ การยึดพระองค์เป็น “แสงสว่าง” ส่องทางชีวิต

- เมื่อมีพระองค์อยู่ “ความมืด” จะหายไป ปีศาจจะไม่กล้าทำ�ร้ายและทำ�ลาย เราเพราะเรายึดพระเยซูเจ้าเป็นเกราะป้องกันวิญญาณ ไม่มีอาวุธใดจะแตะต้องเราได้ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าปีศาจอย่างไม่มีขอบเขต * ดังนั้น เราต้องเชื่อว่า ผู้ที่ยึดพระองค์เป็นแสงสว่างนำ�ทาง จะไม่มีวันเดินใน ทีม่ ดื เพราะพระองค์ทรงปราบความมืดไปหมดแล้ว โดยได้ชนะเหนืออำ�นาจของปีศาจ และบาป อาศัยการไถ่บาปมนุษย์ด้วยการทรมาน การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และ ได้ทรงเอาชนะความตายกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว - ให้ผู้เรียนสมัครตัวแทน 2 คน ผู้สอนเอาผ้าปิดตาของทั้ง 2 คน แล้วให้คนหนึ่ง นำ�อีกคนหนึ่งเดินไปถึงจุดหมายเดิมโดยต้องไม่สะดุดเครื่องกีดขวางใดๆ (สังเกตว่า ผู้เรียนจะทำ�ไม่ได้) จากนั้นให้ทั้ง 2 คนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เอาผ้าผูกตาออก แล้วให้ เดินไปที่จุดหมายอีกครั้งหนึ่ง - ให้ผู้เรียนตอบว่า “ทำ�ไมครั้งแรกทั้งคู่จึงไม่สามารถทำ�ได้?” และ “ทำ�ไมครั้งที่ 2 จึงทำ�ได้?” - เพราะผู้นำ �ทางก็ตาบอดเช่นเดียวกัน จึงไม่มีทางที่ผู้นำ �ทางตาบอดจะนำ � คนตาบอดด้วยกันให้ไปถึงที่หมายได้ - เช่นเดียวกันกับเรา อาจมีหลายคนที่ดี เก่ง ฉลาด มีไหวพริบกว่าเรามาก จนเรา มัน่ ใจว่าเขาจะนำ�ทางเราได้ ใช่ เราอาจไว้ใจเขาได้ในระดับหนึง่ แต่เขาก็คนเหมือนเรา มี ความอ่อนแอ ข้อบกพร่องของมนุษย์เช่นเดียวกัน เขายังอาจผิดพลาดได้ ดังทีเ่ ราเห็นอยู่ บ่อยๆ จากสิง่ ไม่ดที ห่ี ลายๆ คนรอบข้างเราแสดงออกมา ทัง้ นี้ หมายความว่า ไม่มใี คร จะนำ�ทางเราได้ดี 100% เท่ากับพระเยซูเจ้าแน่นอน เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้านัน่ เอง - ให้ผู้เรียนนั่งสงบนิ่งสักครู่ หลับตา จากนั้นเปิดเพลง “พระเจ้าทรงเลี้ยงดู (สดด 23:2-4)” ให้ฟังพร้อมกับไตร่ตรองส่วนตัว แล้วให้ผู้เรียนทำ�ใบงานที่ 1 “ถ้าฉัน มีพระเจ้านำ�ทางชีวิต ฉันจะ...” 6 หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนคิดถึงพระเยซูเจ้าเมื่อกระทำ�สิ่งต่างๆ โดยเลียนแบบพระองค์

ซีดีเพลง “พระเจ้าทรง เลี้ยงดู”/เครื่องเล่นซีดี ☆ ใบงานที่ 1

7 ภาวนาปิด - ผู้สอนนำ�สวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า พวกลูกขอบพระคุณพระองค์ที่ทรง เป็นแสงสว่างส่องโลกอย่างแท้จริง อีกทั้งทรงคอยนำ�ทางชีวิตของพวกลูกให้เดินใน หนทางที่ถูกต้อง และเป็นลูกที่ดีของพระองค์เสมอไป” - ข้าแต่พระบิดาฯ... วันทามารีย์...(3 บท) พระสิริรุ่งโรจน์... 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - การสังเกต / การถาม – ตอบ / การร่วมกิจกรรม / ทำ�ใบงาน 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................


18

บทเพลง “พระเจ้าทรงเลี้ยงดู”

1.พระเจ้าทรงเลี้ยงดู เราเรียนรู้ความรักพระองค์ นำ�เราไปริมน้ำ�สงบ ฟื้นวิญญาณของเรา 2.พระเจ้านำ�ก้าวไป เราไม่เคยขัดสนอะไร นำ�เราไปในทางชอบธรรม เพื่อพระนามพระองค์

*** พระเจ้าจะนำ�เราไป แม้ทางจะยากเพียงใด ผ่านเขาเงาอันตราย

เราไม่ต้องกลัวอะไร อยู่ในอ้อมแขนพระองค์ ความรักและความดีงาม ติดตามเราทุกวันไป

พระเจ้าจะนำ�เราไป แม้ทางจะยากเพียงใด เราอยู่ในน้ำ�พระทัย ของพระองค์

(ซ้ำ� ทั้งหมด)

ใบงานที่ 1 “ถ้าฉันมีพระเจ้านำ�ทางชีวิต” คำ�ชี้แจง - ให้เขียนสิ่งที่ฉันคิดว่าจะทำ�ในเหตุการณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริง ที่ เหตุการณ์ 1. เมื่อพี่/น้องขอแบ่งขนม 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

ฉันจะ...

......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อเกียจคร้านทำ�การบ้าน ......................................................................................................... เมื่อแม่ให้ช่วยทำ�งานบางอย่าง ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อพบเงินคนอื่นหล่นที่โรงเรียน ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อถึงเวลาเรียนคำ�สอน ......................................................................................................... เมื่อแม่เรียกให้ไปวัดร่วมมิสซาฯ ......................................................................................................... ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อพบขยะตามถนน ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อพ่อแม่ให้เงินไปโรงเรียน ......................................................................................................... ......................................................................................................... เมื่อทะเลาะกับพี่/น้อง ......................................................................................................... เมื่อคุณครูเตือนให้ตั้งใจเรียน ......................................................................................................... .........................................................................................................


19

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

เรื่อง พระเยซูทรงเรียกทุกคนให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.1.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจว่า ทุกคนถูกเรียกให้เป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า และมีหน้าที่ พิเศษในการประกาศข่าวดีของพระองค์ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนติดตามพระเยซูโดยการประกาศพระวาจาด้วยชีวิต สาระการเรียนรู ้ พระเยซูเจ้าทรงเรียกทุกคนให้เป็นศิษย์ เราจึงต้องตอบรับการเรียกของพระองค์เลียนแบบสาวกชุดแรก ที่ทิ้งทุกสิ่งที่กำ�ลังทำ�อยู่และติดตามพระองค์ไปทันที เพื่อประกาศข่าวดีแห่งความรอดแก่คนรอบข้าง และเป็นพยานถึง พระเยซูเจ้าในชีวิตประจำ�วัน ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - นำ�รูป “ทะเลสาบกาลิลี” ให้เด็กดู บอกเขาว่า เปโตรและอันดรูว์เป็นชาวประมง อาศัยอยู่ใกล้ทะเลนี้ พวกเขามีเรือหาปลา เพื่อนของเขาคือยากอบ และยอห์นน้องชาย ทั้งสองคนเป็นชาวประมงเหมือนกัน (อธิบาย ทะเลสาบกาลิลี เปโตร อันดรูว์ ยากอบ และยอห์น ให้ฟังคร่าวๆ) - กิจกรรมทายรูปภาพบรรดาอัครสาวกของพระเยซูเจ้าที่พระองค์ทรงเรียกแล้ว ร้องเพลง สาวก 12 คน 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ยกตัวอย่างเรื่องของการเรียกเปโตรเป็นอัครสาวก และให้ดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับ การเรียกอัครสาวก 3 พระวาจา “ทรงเรียกศิษย์ชุดแรกสี่คน” (มธ 4:18-22) - ขณะที่ทรงดำ�เนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทรงทอดพระเนตร เห็นพี่น้องสองคนคือซีโมนที่เรียกว่าเปโตรกับอันดรูว์น้องชายกำ�ลังทอดแห เขาเป็น ชาวประมง พระองค์ตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำ�ให้ท่านเป็นชาวประมงหา มนุษย์” เปโตรกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้แล้วตามพระองค์ไปทันที - เมื่อทรงดำ�เนินไปจากที่นั่น พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องอีกสองคน คือ ยากอบบุตรเศเบดี และยอห์นน้องชาย กำ�ลังซ่อมแหอยู่ในเรือกับเศเบดีผู้เป็นบิดา พระองค์ทรงเรียกเขา ทันใดนั้นเขาก็ทิ้งเรือและบิดา แล้วตามพระองค์ไป “พระเยซูเจ้าทรงเรียกมัทธิว” (มธ 9:9) - ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงดำ�เนินไปจากที่นั่น ทรงเห็นชายคนหนึ่งชื่อมัทธิว กำ�ลัง นั่งอยู่ที่ด่านภาษี จึงตรัสสั่งเขาว่า “จงตามเรามาเถิด” เขาก็ลุกขึ้นตามพระองค์ไป

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ รูปทะเลสาบกาลิลี / รูปอัครสาวกทั้ง 12 คน เนื้อเพลง “สาวก 12 คน” ☆

วีซีดี 12 สาวกสวรรค์

หนังสือพระคัมภีร์


20

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ “พระเยซูเจ้าทรงเลือกสาวกสิบสองคน” (ลก 6:12-13) - ครั้งนั้นพระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขา เพื่ออธิษฐานภาวนาและทรงอธิษฐาน ภาวนาต่อพระเจ้าตลอดทั้งคืน ครั้นถึงรุ่งเช้าพระองค์ทรงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามาแล้ว ทรงคัดเลือกไว้สิบสองคนประทานนามว่า “อัครสาวก” คือ ซีโมน ซึ่งเรียกว่า เปโตร อันดรูว์น้องชายของเขา ยากอบ ยอห์น ฟิลิป บาร์โธโลมิว มัทธิว โธมัส ยากอบบุตร อัลเฟอัส ซีโมนผู้มีสมญาว่า “ผู้รักชาติ” ยูดาสบุตรของยากอบ และยูดาส อิสคาริโอท ต่อมายูดาสผู้นี้จะเป็นผู้ทรยศ

4 อธิบายพระวาจา - เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรก พระองค์ทรงใช้คำ�สั่งว่า “จงตามเรา มาเถิด” เขาทั้งสี่ก็ทิ้งทุกสิ่งที่ทำ�อยู่และติดตามพระองค์ไปทันที - พระเจ้าทรงเรียกทุกคนให้ติดตามพระองค์มาเป็นสาวกของพระองค์และ พระองค์ก็ปรารถนาให้เราละทิ้งทุกสิ่ง (บาป) ที่ทำ�อยู่และติดตามพระองค์ไปทันที นั่น หมายถึงพระองค์นำ�ความรอดมาให้ แล้วเราจะยอมรับความรอดนั้นหรือปฏิเสธ พระองค์ - เมื่อทรงเรียกมัทธิวคนเก็บภาษีก็เช่นกัน เขาลุกขึ้นและตามพระองค์ไปทันที แสดงให้เห็นเจตนาทีท่ รงต้องการรักษาโรคฝ่ายจิต (บาป) เป็นอันดับแรก และพระองค์ ทรงเรียกร้องการละทิ้งบาปของเราด้วย - พระองค์ทรงเลือกสาวกสิบสองคน เพื่อแผนการไถ่กู้มนุษย์จะสำ�เร็จไปตาม พระประสงค์ของพระเจ้า ผู้ที่ทรงเลือกนั้น เพื่อเป็นพยานถึงชีวิต การสิ้นพระชนม์ และ การกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ - พระองค์ทรงเรียกพวกเขาว่า “อัครสาวก” นับเป็นพระพรพิเศษประการแรก และทรงส่งพวกเขาออกไปประกาศข่าวดีทั่วโลก 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - การตอบรับการเรียกของพระเจ้า ทำ�ได้หลายวิธีการ เช่น 1. ปฏิบัติหน้าที่ประจำ�วันด้วยความรับผิดชอบ และมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง และผู้อื่น 2. ปฏิบัติศาสนกิจตามพระบัญญัติสม่ำ�เสมอ ไม่เอาเวลาของพระเจ้าไป ทำ�อย่างอื่น 3. นำ�คำ�สอนของพระเยซูเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำ�วัน และเป็นแบบอย่างที่ดี แก่คนรอบข้าง 4. ตอบรับกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์ นักบวช หรือฆราวาสแพร่ธรรม ฯลฯ 6 หาข้อปฏิบัติ ผู้เรียนติดตามพระเยซูโดยการประกาศพระวาจาด้วยชีวิต ด้วยการเป็นลูกที่ดี ของพ่อแม่ เป็นนักเรียนที่ดีของคุณครู และเป็นมิตรที่ดีต่อเพื่อนๆ ไปวัดวันอาทิตย์

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


21

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

แก้บาปรับศีลสม่ำ�เสมอให้อภัยแก่ผู้อื่น รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง สมัครเข้าบ้านเณร อารามนักบวช ฯลฯ 7 ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเรียกลูกให้มาติดตามพระองค์เป็นคริสตชนที่ ร้อนรนในการประกาศข่าวดีว่าพระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป มนุษย์ และทรงกลับคืนพระชนมชีพ ขอให้ลกู มีจติ ตารมณ์แห่งความรักของพระเยซูเจ้า ในการประกาศข่าวดีแห่งพระวรสารแก่บุคคลที่ยังไม่รู้จักพระองค์ - ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีย์...(3 บท) .....พระสิริรุ่งโรจน์ 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตจากการทำ�กิจกรรม - การถาม-ตอบ 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................

เพลง สาวก 12 คน

สาวก 12 คน ที่พระเยซูทรงเรียก ฟิลิป มัทธิว โทมัส ยากอบ บุตรอัลเฟอัส

*ทรงเรียกเธออีกคน เป็นสาวกพระเยซู *ทรงเรียกเธออีกคน เป็นสาวกพระเยซู

ซีมอนเปโตร อันดรูว์ ยากอบ และ ยอห์น ธัดเดอัส ซีมอน ยูดา บาร์โทโลมิว ทรงเรียกเธออีกคน รวมทั้งเธอและฉัน ทรงเรียกเธออีกคน ร่วมทำ�งานพระองค์

****************************** เตรียมวีซีดี 12 สาวกสวรรค์ หรือ นักบุญสำ�หรับเด็ก แผ่น 2 (เปโตร)


22

เอกสารประกอบการสอน ใบงานที่ 1

ทะเลสาบกาลิลี กาลิลี เป็นแคว้นทางตอนเหนือ ชาวยิวในเยรูซาเล็มมีใจอคติต่อชาวกาลิลี เนื่องจากชาวแคว้นกาลิลีนี้ มี ภาษาท้องถิ่นเฉพาะของตน และพวกเขาเลือกอาศัยอยู่ห่างไกลจากเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของ ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตามชาวแคว้นกาลิลี เป็นผู้ซื่อตรง จงรักภักดีในชาติ ศาสนาของตน พระเยซูทรงเป็น ชาวแคว้นกาลิลีจากเมืองนาซาเร็ธ สาวกของพระองค์สิบเอ็ดคนของกลุ่มที่ทรงเลือกให้เป็นอัครสาวกก็มาจาก แคว้นกาลิลี นักบุญเปโตร เป็นคนจับปลา เมื่อตอนที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกเขามาเป็นสาวกพระเยซูตรัสกับเปโตรว่า “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไป เราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดั่งหา ปลา” ครั้งหนึ่งพระเยซูเจ้าบอกเปโตรให้ออกไปจับปลา และให้ปากของปลา ที่เขาจับได้นั้นมีเหรียญเงินที่มีค่าพอที่จะจ่ายภาษีของเขาได้ เปโตรสัญญากับ พระเยซูเจ้าว่า “ข้าพระองค์จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย แต่ในคืนก่อนที่พระเยซูเจ้าจะ สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์บอกกับเปโตรว่า “ในคืนวันนี้ก่อนไก่ขัน ท่าน จะปฏิเสธเราสามครั้ง” และเปโตรก็ปฏิเสธพระเยซูเจ้าจริงๆ แต่พระเยซูเจ้าทรงรัก เปโตร และทรงให้อภัยแก่เขา และในภายหลังเปโตรกลายเป็นนักเทศน์ทยี่ งิ่ ใหญ่ใน คริ ส ตชนสมั ย แรก ท่ า นนั ก บุ ญ เขี ย นพระคั ม ภี ร์ อ ยู่ 2 ฉบั บ คื อ บทจดหมาย 1 เปโตร และ 2 เปโตร


23

นักบุญอันดรูว์ เป็นน้องชายของเปโตร และเป็นคนหาปลาด้วย เขาเป็นคนนำ�อาหารของ เด็กชายตัวน้อยๆ ซึ่งมีขนมปัง 5 ก้อนและปลา 2 ตัว มาให้พระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้า จึงโมทนาพระคุณสำ�หรับอาหารนัน้ และทำ�อัศจรรย์เพือ่ เลีย้ งดูผคู้ น ซึง่ นับเฉพาะ ผู้ชายได้ประมาณ 5 พันคน เรื่องที่เล่าสืบต่อกันมากล่าวว่า อันดรูว์ยอมทนทุกข์ ทรมาน โดยถูกตรึงบนกางเขนเป็นรูปกากบาท โดยไม่ต้องใช้ตะปูตอก เขาเอง รูส้ กึ ไม่คคู่ วรทีจ่ ะตายบนไม้กางเขน เหมือนดังทีพ่ ระเยซูเจ้าพระผูช้ ว่ ยให้รอดของ เขาได้ทรงกระทำ� นักบุญยากอบ (บุตรเศเบดี) ยากอบก็เป็นคนหาปลาเช่นเดียวกัน บิดาของเขาชือ่ เศเบดี เมือ่ พระเยซูเจ้า ทรงเรียกเขา เขาทิ้งอาชีพหาปลาในทันที และติดตามพระองค์มา บางครั้งเขาได้ รับการขนานนามว่า “บุตรแห่งฟ้าร้อง” เนื่องจากเขาเป็นคนอารมณ์รุนแรง ครั้ง หนึ่ง ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเกี่ยวกับอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ มารดา ของยากอบถามว่ า “ท่ า นจะให้ บุ ต รชายทั้ ง สองของดิ ฉั น นั่ ง ต่ อ จากท่ า นใน อาณาจักรสวรรค์ของท่านได้หรือไม่” แต่พระเยซูเจ้าตอบว่า “ท่านไม่รู้ว่าท่าน กำ�ลังถามอะไร สถานที่นั้นได้เตรียมไว้แล้วสำ�หรับบุคคลที่พระบิดาทรงเลือก”

นักบุญยอห์น ยอห์นเป็นน้องชายของยากอบ บุตรเศเบดี คนอื่นมักจะเรียกเขาว่า อัครสาวกแห่งความรัก เป็นคนที่ใกล้ชิดพระเยซูเจ้าที่สุดเขาเป็นคนหาปลาด้วย หลังจากทีม่ ารดาของเขาได้ถามเกีย่ วกับบัลลังก์แห่งพระอาณาจักรของพระเยซูเจ้า แล้ว พระองค์ก็หันกลับมาหายอห์น ถามว่า “ท่านจะดื่มจากถ้วย ซึ่งเราจะดื่มนั้น ได้หรือ” พระเยซูก�ำ ลังพูดถึงความตายของพระองค์บนไม้กางเขน ยอห์นได้เขียน พระวรสารและบทจดหมาย ยอห์น 1, 2 และ 3 และ วิวรณ์ในหนังสือพระคัมภีร์ ด้วย


24

ภาพ “อัครสาวกทั้ง 12 คน”


25

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

เรื่อง องค์ประกอบของพระศาสนจักร

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.1.4 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจเรื่ององค์ประกอบของพระศาสนจักร - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นด้วยการซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตน โดยยึด พระเยซูเจ้าเป็นแบบอย่าง สาระการเรียนรู ้ พระศาสนจักรหรือพระกายทิพย์ของพระเยซูคริสตเจ้าประกอบด้วย พระสันตะปาปา พระสังฆราช พระสงฆ์ และบรรดา ฆราวาส พระศาสนจักรคือเหล่าคริสตชนผู้ถูกเลือกสรรโดยการเจิมให้เป็นคนของพระคริสตเจ้า สมาชิกของพระศาสนจักร มีบทบาทและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันแต่ก็ส่งเสริมซึ่งกันและกัน คริสตชนทุกคนที่เป็นสมาชิกในพระศาสนจักร จึงต้องพยายามดำ�เนินชีวิตตามฐานะหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์ด้วย ความรับผิดชอบ เพื่อช่วยเสริมเติมกันให้พระกายทิพย์สมบูรณ์ที่สุด ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย วอนขอพระเจ้าอวยพระพรให้การเริ่มต้นเรียนคำ�สอนเกิดผลโดยทำ� เครื่องหมายสำ�คัญมหากางเขน - ถามผู้เรียนว่าคนไหนมีนักบุญใดเป็นองค์อุปถัมภ์ แล้วให้ผู้เรียนบางคนเล่า ประวัตินักบุญของตนให้ฟัง ถ้าคุณครูมีประวัติของนักบุญที่เด็กกำ�ลังเล่า ก็นำ�หนังสือ หรือภาพนั้นให้เด็กแบ่งกันดู 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - แบ่งชิ้นส่วนภาพต่อให้ผู้เรียนทุกคนโดยไม่จำ�เป็นต้องได้รับจำ�นวนเท่ากัน จากนั้นให้ทุกคนล้อมวงช่วยกันต่อภาพให้สำ�เร็จ แต่จะปรากฏว่าภาพที่ได้ยังขาดไป หนึ่งชิ้น ก็ให้ผู้เรียนช่วยกันหาสักครู่หนึ่ง - ครูจึงให้หยุดการค้นหา แล้วถามผู้เรียนว่า เห็นภาพต่อแล้วรู้สึกอย่างไร เสียดายส่วนที่หาย ดูแล้วก็ยังรู้ว่าเป็นรูปอะไร หรือไม่รู้สึกอะไรเลย จากนั้นให้ผู้เรียน เปิดพระคัมภีร์ตามคำ�เล่าของนักบุญยอห์น (ยน 17:24) - ให้ตัวแทนอ่านพระวาจาตอนนี้ 3 พระวาจา พระคริสตเจ้าทรงเป็นศีรษะของสรรพสิ่ง (คส 1:17-20) - พระองค์ทรงดำ�รงอยู่ก่อนสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งดำ�รงอยู่เป็นระเบียบใน พระองค์ พระองค์ทรงเป็นศีรษะของร่างกาย คือ พระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็น

ภาพหรือหนังสือประวัติ นักบุญ

ต่อภาพ (จิ๊กซอว์) รูปนักบุญ เปาโล หรือรูปอื่นๆ หรือทำ�ขึ้น เองโดยนำ�ภาพสีจากแม่พระยุค ใหม่ อุดมศานต์ มาติดกาวผนึก กระดาษแข็งแล้วตัดแบ่งเป็นชิ้น ส่วน ; คุณครูเก็บชิ้นส่วนหนึ่งไว้ กับตัว

. ☆ หนังสือพระคัมภีร์


26

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ปฐมเหตุ ทรงเป็นบุคคลแรกในบรรดาทีก่ ลับคืนชีพ ทัง้ นีเ้ พือ่ พระองค์จะได้ทรงเป็นเอก ในทุกสิ่ง เพราะพระเจ้าพอพระทัยให้ความบริบูรณ์ทั้งปวงอยู่ในพระคริสตเจ้า และให้ สรรพสิ่งคืนดีกับพระเจ้าโดยทางพระองค์ พระคริสตเจ้าโปรดให้ทุกสิ่งมีสันติด้วย พระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์ ทั้งสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ใน สวรรค์ 4 อธิบายพระวาจา พระศาสนจักรในฐานะเป็นกายของพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงเป็นศีรษะของ ร่างกายและคริสตชนทุกคนต่างก็เป็นอวัยวะของร่างกายนั้น เราจึงเป็นส่วนหนึ่งของ พระศาสนจักรด้วย พระองค์ เ ป็ น คนแรกที่ ก ลั บ คื น พระชนมชี พ จากบรรดาผู้ ต าย โดยทาง ศีลล้างบาปเราได้เข้าเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร ได้มีส่วนร่วมในพระกายทิพย์ของ พระเยซูคริสตเจ้า มีหน้าที่เฉพาะในพระศาสนจักร 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ในพระกายทิพย์ของพระเยซูคริสตเจ้า คือ พระศาสนจักร มีบุคคลที่ทำ�หน้าที่ ต่างๆ กัน บางคนเป็นหัวหน้าพระศาสนจักร คือ พระสันตะปาปา บางคนมีหน้าที่ช่วย งานอภิบาล คือ พระสังฆราชและพระสงฆ์ อีกบางคนมีหน้าทีช่ ว่ ยงานด้านการประกาศ คือ บรรดาครูคำ�สอนและผู้แพร่ธรรม ส่วนผู้เป็นฆราวาสก็มีหน้าที่ช่วยพระศาสนจักร ในรูปแบบต่างๆ กัน ตามฐานะและอาชีพของตน - แม้ทุกคนจะไม่ทำ�หน้าที่เดียวกัน แต่มีความสำ�คัญเหมือนกัน ไม่มีใครสามารถ บอกได้ว่าตนไม่สำ�คัญ เพราะภาพที่สมบูรณ์ของพระศาสนจักรประกอบด้วยจิ๊กซอว์ แต่ละชิ้น ไม่ว่าชิ้นไหนจะมีรูปร่างใด จะเล็กหรือใหญ่ หากขาดไปเพียงชิ้นเดียวภาพ นั้นก็จะไม่สมบูรณ์ ดังนั้นจำ�เป็นที่เราจะต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน เสริมเติมกันให้ สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้น - ถามผู้เรียนว่าในการเรียน ในการเล่นเกม หรือแม้แต่ตอนทำ�การบ้าน เรา อยากทำ� อยากเล่นเพียงคนเดียวหรือต้องการให้เพื่อนทำ�ร่วมกับเราด้วย แล้วให้คนที่ สนใจทำ�เพียงลำ�พังย้ายไปอยูท่ างซ้ายมือของคุณครู ส่วนคนทีต่ อ้ งการเพือ่ นให้ยา้ ยไป อยู่ทางด้านขวา จากนั้นจึงสรุปให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่เลือกที่จะมีเพื่อน ทำ�สิ่งต่างๆ ร่วมกับเพื่อน เพราะเพื่อนจะช่วยเราคิด ช่วยเราแก้ปัญหา แม้แต่การเล่นคนเดียว เราอาจจะสนุ ก แต่ ก็ เ ป็ น ความสนุ ก เพี ย งไม่ น าน เนื่ อ งจากเราไม่ อ าจแบ่ ง ปั น ความสนุกสนานให้แก่ใครได้ เพราะเราไม่มีเพื่อน ดังนั้นเมื่อเราต้องการเพื่อน เราจึง ต้องเริ่มต้นเป็นเพื่อนที่ดีกับคนอื่นก่อน คอยช่วยเหลือเขา แบ่งปันในสิ่งที่เขาขาด เราจะรู้สึกว่าเราเหนื่อยมากขึ้น ได้เล่นของเล่นน้อยลง แต่เราจะเกิดความสุขใจ และ มีความสุขมากกว่าที่เคย 6 หาข้อปฏิบัติ - เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นด้วยการซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตน โดยยึดพระเยซูเจ้า เป็นแบบอย่าง บันทึกรายละเอียดต่างๆ และข้อตัง้ ใจทีท่ �ำ ในแต่ละวันลงในสมุดบันทึก

สมุดบันทึก


27

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

7 ภาวนาปิดท้าย - ให้ผู้เรียนล้อมวงจับมือกัน ขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดี ผู้เป็นพ่อของเรา ขอพระเยซูเจ้าประทานพรให้เราเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู เป็นเพื่อนที่ ดีของทุกคน แล้วภาวนาบทข้าแต่พระบิดาพร้อมกัน

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

สวดบทข้าแต่พระบิดา

8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจกิจกรรม - ประเมินผลจากการบันทึกข้อตั้งใจของผู้เรียน 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................

กิจกรรม ต่อจิ๊กซอว์นักบุญเปาโล “จงสวมใส่วิสัยมนุษย์ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อมุ่งไปหาความรู้ตาม ภาพลักษณ์ขององค์พระผู้สร้าง ดังนั้น การเป็นชาวกรีก หรือชาวยิว การเข้าสุหนัต หรือไม่เข้าสุหนัต การเป็นอารยชนหรือชาวสิเธีย การเป็นทาส หรือเป็นคนอิสระไม่ สำ�คัญอีกต่อไป ที่สำ�คัญก็คือพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นทุกสิ่งในทุกคน ท่านเป็นผู้ที่ พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยน และความพากเพียรอดทนเป็นเสมือน เครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน หากมีเรื่องผิดใจกันก็จงยกโทษ กัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยแก่เขา อย่างนั้นเถิด แต่สิ่งที่สำ�คัญกว่าสิ่งใดก็คือ ความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างสมบูรณ์” (คส 3:10-14)


28


29

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

เรื่อง พระนางมารีย์รับสารจากทูตสวรรค์คาเบรียล

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.1.4 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพือ่ ให้ผเู้ รียนรูว้ า่ พระนางมารียเ์ ป็นพระมารดาพระเจ้า และเข้าใจบทบาทของพระนางใน แผนการแห่งความรอดที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมแก่มนุษย์คนบาปด้วยความรักนิรันดร์ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนร่วมพิธีกรรมของวันนี้อย่างเข้าใจ และเลียนแบบชีวิตที่สุภาพถ่อมตน ของพระนาง สาระการเรียนรู ้ พระเจ้าทรงให้มนุษย์ผู้ต่ำ�ต้อยมีส่วนร่วมในแผนการไถ่กู้ของพระเจ้าโดยโปรดให้พระนางมารีย์ได้กลาย เป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า พระนางจึงถูกยกย่องให้เป็น “พระมารดาพระเจ้า” มนุษย์ที่ได้ทำ�ลายแผนการดั้งเดิมของ พระเจ้าได้มีส่วนร่วมในแผนการแห่งความรอดนั้นเพราะเป็นผู้รับผลการไถ่บาปโดยตรง ในเวลาเดียวกัน เขาก็มีบทบาทใน แผนการนัน้ ด้วยอาศัยการตอบรับหรือปฏิเสธหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ ซึง่ จะมีผลโดยตรงต่อการบรรลุถงึ ความรอดทีพ่ ระเจ้า ทรงเตรียมไว้ให้เขา ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - ภาวนาร่วมกัน “ทูตสวรรค์แจ้งสาร” - ให้ผู้เรียนดูภาพเทวดาที่ถือสารมาแจ้งแก่แม่พระ

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

สวดบททูตสวรรค์แจ้งสาร ☆ ภาพเทวดาคาเบรียล

2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) ☆ จดหมายจ่าหน้าซองถึง - ขออาสาสมัครช่วยแจกซองจดหมายแก่ผู้เรียน แล้วอ่านข้อความในใจ - ถามทุกคนว่าใครสนใจจะเป็นทูตสวรรค์คาเบรียล แม่พระและผู้บรรยาย แล้ว ผู้เรียนภายในบรรจุพระวรสาร นักบุญลูกา 1 : 27-38 ให้ทั้งสามคนพูดข้อความในจดหมายในส่วนของตนตอบโต้กัน - ถามความรู้สึกทุกคนว่ารู้สึกอย่างไรขณะที่พูดหรือฟังพระวาจาตอนนี้ - สมมุติว่าถ้าทูตสวรรค์คาเบรียลมาปรากฏตรงหน้าเรา และบอกว่าพระเจ้า มีพระประสงค์ให้เราทำ�งานอย่างหนึ่งให้พระองค์ เราจะตอบท่านว่าอย่างไร - สมมุติว่าถ้าเราเป็นแม่พระบ้างล่ะ และบอกว่าพระเจ้ามีพระประสงค์ให้เรา ทำ�งานอย่างหนึ่งให้พระองค์ เราจะตอบรับหรือปฏิเสธ - หรือจะทำ�อย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 3 พระวาจา : ทูตสวรรค์แจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูเจ้า (ลก 1:27-38) - หญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำ�นี้ พระนาง

. ☆ บทบาทสมมุติ เรื่อง “เทวดาแจ้งสารแด่แม่พระ”


30

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

มารียท์ รงวุน่ วายพระทัยมาก ทรงถามพระองค์เองว่า คำ�ทักทายนีห้ มายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำ�เนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่า เยซู เขาจะเป็นผู้ที่ ยิ่งใหญ่และพระเจ้าสูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ พระเจ้าจะประทาน พระที่นั่งของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบ ตลอดไป และพระอาณาจักรของเขาจะไม่สนิ้ สุดเลย พระนางมารียจ์ งึ ทรงถามทูตสวรรค์ ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี ทูตสวรรค์ ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผูส้ งู สุดจะแผ่เงา ปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้นบุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และจะรับนามว่า บุตรของ พระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่านทั้งๆ ที่ว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้ หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำ�ไม่ได้ พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” แล้ว ทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป 4 อธิบายพระวาจา - “จงยินดีเถิด” คำ�ของทูตสวรรค์ได้เชิญชวนให้เรายินดีในการเสด็จมาของ องค์พระผู้ไถ่ คำ�พูดของทูตสวรรค์ไม่เพียงเป็นคำ�ทักทายพระนางมารีย์เท่านั้น แต่ พระนางทรงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าจริงดังคำ�ภาวนาที่ว่า “ท่านเป็นผู้มีบุญกว่า หญิงใดๆ” - พระนางมารียไ์ ด้ตอบรับแผนการไถ่กมู้ นุษยชาติดว้ ยการยอมทำ�ตามน้�ำ พระทัย พระบิดา รับเป็นมารดาพระเป็นเจ้า องค์พระผูไ้ ถ่ของเรา เหตุนเี้ องเราจึงยกย่องพระนาง มารีย์ว่าเป็นมารดาพระเจ้า - ด้วยความถ่อมสุภาพของพระนางนี้เอง พระนางจึงได้กลายเป็น “พระมารดา พระเจ้า” ทำ�ให้เราได้ความรอดพ้นอาศัยการไถ่บาปของพระเยซูคริสตเจ้า 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - แจกกระดาษให้แต่ละคนเขียนเกี่ยวกับบิดามารดา ทั้งความประทับใจและสิ่งที่ ไม่ชอบ เช่น แม่ใจดี พ่อให้ทำ�การบ้านจนเสร็จก่อนดูโทรทัศน์ - ครูรับกระดาษคืนแล้วดูว่าสิ่งที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ชอบและไม่ชอบคืออะไร แล้ว ยกตัวอย่างมาอภิปราย เพื่อชี้ให้เห็นว่า กรณีดังกล่าว ผู้เป็นลูกควรทำ�อย่างไร และ ทำ�ไมต้องเชื่อฟัง เช่น พ่อแม่เคี่ยวเข็ญเพื่อให้เราเป็นคนดี ท่านบ่นว่าเพราะเราเป็น ลูก และตักเตือนเราด้วยความหวังดี เพราะท่านมีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาว มาก่อน - ให้ผู้เรียนพับครึ่งกระดาษสมุด ด้านซ้ายมือเขียนข้อความที่บิดามารดาพูดหรือ บอกให้กระทำ�เสมอๆ เช่น อย่าตื่นสาย กินข้าวให้หมด อย่าดื้อ ส่วนด้านขวาเติมคำ�ว่า “ฉันทำ�ได้” ลงไป เมื่อทุกคนทำ�เสร็จแล้ว ให้อ่านประโยคที่เขียนทั้งหมดพร้อมกัน ดังๆ เช่น

กระดาษ ปากกา


31

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ - อย่าขี้เกียจ - หยิบของให้พ่อหน่อย

ฉันทำ�ได้ ฉันทำ�ได้

- เก็บหนังสือให้เรียบร้อย

ฉันทำ�ได้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

6 หาข้อปฏิบัติ ผู้เรียนเลียนแบบชีวิตที่สุภาพถ่อมตนของพระนาง ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของ ตนด้วยความรับผิดชอบ 7 ภาวนาปิดท้าย ให้ทุกคนเงียบ ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อวอนขอพระนางมารีย์ ช่วยเหลือ ให้เราแต่ละคนให้มีท่าทีที่สุภาพ ถ่อนตนเหมือนพระนาง แล้วสวดบทวันทามารีย์

สวดวันทามารีย์

8 การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ - การร่วมกิจกรรม 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


32

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

เรื่อง พระคัมภีร์เล่าเรื่องประวัติศาสตร์แห่งความรอด

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.1.6 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้ว่าประวัติศาสตร์แห่งความรอดได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวาจาของ พระเจ้า - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนสนใจอ่านพระคัมภีร์มากขึ้น สาระการเรียนรู ้ พระเจ้าทรงมีพระทัยเมตตาไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมนุษย์คู่แรกทำ�บาป พระองค์จึงสำ�แดงพระองค์ทางพระบุตร ผู้เป็นพระวาจาของพระเจ้า และพระจิตเจ้า ทรงบันดาลให้ประกาศก สานุศิษย์รวบรวมพระวาจาเหล่านี้ไว้เพื่อถ่ายทอด ประวัติศาสตร์แห่งความรอดแก่ชนรุ่นหลัง มนุษย์จึงรู้ว่าแม้เราจะแตกต่างกันทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม ฯลฯ แต่เราทุกคนก็เป็น พี่น้องกัน มีพระเจ้าเป็นพระบิดาเดียวกัน มนุษย์สามารถพบพระเจ้าของตนได้ในพระคัมภีร์ เพราะพระคัมภีร์คือพระวาจาของ พระเจ้า และเป็นประวัติศาสตร์แห่งความรอดของมนุษย์ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - เริ่มการเรียนโดยวอนขอพระเจ้าส่องสว่างสติปัญญา ให้เราเข้าใจบทเรียนด้วย การทำ�สำ�คัญมหากางเขน - ตั้งคำ�ถามให้ช่วยกันคิดว่า ถ้อยคำ�ที่เราพูด “เดชะพระนาม พระบิดา และ พระบุตร และพระจิต” เวลาทำ�สัญลักษณ์นี้นำ�มาจากที่ใด (คิดเอง, พระคัมภีร์, เพลง) แล้วเฉลยโดยขออาสาสมัครอ่านพระคัมภีร์ตอนนักบุญมัทธิว 28 : 19 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - แจกพระคัมภีร์แก่ทุกคน แล้วเปิดไปที่สารบัญ ให้ทุกคนดูว่าพระคัมภีร์ภาค พันธสัญญาใหม่ ประกอบด้วยหนังสือกี่ฉบับ (27 ฉบับ)

พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญา ใหม่จำ�นวนเท่ากับผู้เรียน

- ให้ทุกคนอ่านชื่อพระคัมภีร์และจำ�ให้ได้มากที่สุดในเวลา 3 นาทีและเขียนลง ในกระดาษ - ให้ผู้เรียนดูซีดี เหตุการณ์ที่โมเสสนำ�ชาวอิสราเอลข้ามทะเลแดงและ ซีดี เหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน - ผู้ ส อนอธิ บ ายความหมายของ 2 เหตุ ก ารณ์ ที่ ผู้ เรี ย นได้ ดู แ ละเชื่ อ มโยง ความหมายเข้าสู่พระวาจา 3 พระวาจา ข้ามทะเลแดง (อพย 14:13-14,21-22,30) โมเสสตอบว่า “อย่ากลัวไปเลย จงยืนหยัดมั่งคง แล้วท่านจะเห็นว่าพระยาเวห์

พระวรสารตามคำ�เล่าของ นักบุญมัทธิว 28 : 19

กระดาษ-ปากกา

ซีดี เรื่อง โมเสสนำ�อิสราเอล ออกจากอียิปต์ ☆ ซีดี เรื่อง พระเยซู สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน


33

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ จะทรงช่วยท่านทั้งหลายให้รอดพ้นอย่างไรในวันนี้ ชาวอียิปต์ที่ท่านเห็นในวันนี้ ท่าน จะไม่ได้เห็นอีกเลย พระยาเวห์จะทรงสู้รบแทนท่านทั้งหลาย จงสงบใจอยู่เฉยๆ เถิด” โมเสสยื่นมือไปเหนือทะเล พระยาเวห์ทรงบันดาลให้ลมตะวันออกพัดแรง ตลอดคืน ทำ�ให้น้ำ�ทะเลไหลกลับไป และทำ�ให้ทะเลกลับเป็นดินแห้งน้ำ�แยกออกจาก กัน ชาวอิสราเอลก็เดินบนดินแห้งกลางทะเล โดยมีน้ำ�อยู่ด้านขวาและด้านซ้ายเป็น เหมือนกำ�แพง ในวันนั้นพระยาเวห์ได้ทรงช่วยชาวอิสราเอลให้รอดพ้นเงื้อมมือของชาวอียิปต์ ชาวอิสราเอลเห็นชาวอียิปต์ตายอยู่ที่ชายทะเล พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ (มธ 27:50-54) แต่พระเยซูเจ้าทรงเปล่งเสียงดังอีกครั้งหนึ่ง แล้วสิ้นพระชนม์ ทันใดนั้น ม่าน ในพระวิหารก็ฉกี ขาดเป็นสองท่อนตัง้ แต่ดา้ นบนลงมาถึงด้านล่าง แผ่นดินสัน่ สะเทือน ก้อนหินแตก คูหาที่ฝังศพเปิดออก ร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์หลายร่างที่ล่วงหลับไปแล้วกลับ คืนชีพ และออกมาจากหลุมศพหลังจากทีพ่ ระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพเข้าไปใน นครศักดิ์สิทธิ์แล้วแสดงตนแก่ผู้คนจำ�นวนมาก นายร้อยและบรรดาทหารที่เฝ้า พระเยซูเจ้า เมื่อเห็นแผ่นดินไหวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ตกใจกลัวยิ่งนักกล่าวว่า “ชายคนนี้เป็นบุตรของพระเจ้าแน่ทีเดียว”

4 อธิบายพระวาจา - ชาวอิสราเอลเป็นทาสในอียิปต์นานถึงสี่ร้อยสามสิบปี พระยาเวห์ทรงนำ�เขา ทั้งหลายออกประเทศนั้น ทรงทำ�ให้รอดพ้นการไล่ฆ่าของทหาร ทรงต่อสู้แทนพวกเขา นั่นเป็นเหตุการณ์ในสมัยของโมเสส - เมื่อถึงสมัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงพลีพระองค์เองเป็นยัญบูชาพระเจ้า แทนเราทั้งหลาย เพื่อไถ่บาปเรา ทำ�ให้เราได้กลับมาคืนดีกับพระเจ้า - ม่านในพระวิหารฉีกขาดเป็นสองท่อน หมายถึงไม่มีสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเรา กับพระเจ้าอีกแล้ว บาปที่เคยตัดความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ได้ถูกทำ�ลาย ลง โดยอาศัยการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า - การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าได้ปลดปล่อยผู้ชอบธรรมออกมาจากแดน ผู้ตายให้เป็นอิสระ พวกเขารอคอยการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ เพื่อจะได้เข้า สู่นครศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับพระองค์ 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ให้เราระลึกถึงพระเมตตาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ ทรงช่วยให้รอดพ้น จากการเป็นทาสของบาป โดยสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเราทุกคน - ให้เราสำ�นึกผิดและกลับใจใช้โทษบาปยอมรับการไถ่กู้จากพระเยซูเจ้าและนำ� ความรู้ที่ได้จากการอ่านพระคัมภีร์มาใช้ในชีวิตประจำ�วันและไม่เปิดโอกาสให้ตนเอง ตกในบาป

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


34

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

6 หาข้อปฏิบัติ - ตั้งใจอ่านพระคัมภีร์ทุกวันก่อนนอน และบันทึกข้อตั้งใจที่จะทำ�ทุกวัน

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

สมุดบันทึก

- แบ่งปันความรักของพระเยซูเจ้าให้แก่เพื่อนพี่น้อง ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก บรรเทาใจซึ่งกันและกัน 7 ภาวนาปิดท้าย - วอนขอพระจิตเจ้าสอนให้เรารู้จักรัก และขอบคุณพระบิดาผู้อารี ผู้ส่งพระเยซู พระบุตรแต่องค์เดียวมาช่วยเราให้ได้รับความรอด และขอพระวาจาที่พระเยซูตรัสใน พระคัมภีร์ เป็นอาหารหล่อเลีย้ งวิญญาณเราเสมอจนกว่าเราจะได้อยูร่ ว่ มกับพระเจ้าใน สวรรค์ - พระสิริรุ่งโรจน์ แด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิตฯ 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรมในการเรียน - ประเมินผลจากบันทึกข้อตั้งใจ 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


35

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ความหมายและผลของศีลล้างบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลกำ�ลัง ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจความหมายและผลของศีลล้างบาปว่า เป็นการชำ�ระล้างวิญญาณ ให้สะอาด ได้กลับคืนดีกับพระ กลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ เป็นสมาชิกของ พระศาสนจักร และมีสิทธิ์ได้สวรรค์เป็นมรดก - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนขอบคุณพระเจ้าสำ�หรับของประทานที่ประเสริฐนี้ และประพฤติตนให้ เหมาะสมกับเป็นลูกของพระด้วยการหลีกเลี่ยงบาป สาระการเรียนรู ้ หลังจากที่อาดัมและเอวาทำ�บาป ทำ�ให้มนุษย์มีบาปกำ�เนิดแล้ว มนุษย์ได้ทำ�ให้แผนการของพระเจ้า ล้มเหลวไป คือเขาไม่สามารถมีความสุขนิรนั ดรในสวรรค์กบั พระองค์ได้อกี พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยเช่นนัน้ จึงทรงส่งพระบุตร ของพระองค์มาไถ่มนุษย์ให้รอดพ้นจากบาปและความพินาศฝ่ายวิญญาณ ผลจากการไถ่บาปนี้เองจึงทำ�ให้มนุษย์ได้รับสิทธิ์ พิเศษมากมาย โดยเริ่มจากการรับศีลล้างบาป ซึ่งเป็นท่อธารแห่งพระหรรษทานที่ทำ�ให้เขาได้รับการล้างให้บริสุทธิ์จากบาป ได้คืนดีกับพระเจ้า กลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ และมีสิทธิ์ได้รับมรดกแห่งความสุขนิรันดรกับพระเจ้า ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - สวดภาวนาก่อนเรียน - ทบทวนเล็กน้อยเกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์ 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - สนทนากันว่า อะไรบ้างที่มีความสำ�คัญต่อร่างกายของมนุษย์มากที่สุด? - จากนั้นให้เข้าสู่ประเด็นของน้ำ� ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อมนุษย์ในทุกๆ ด้าน? แล้วจึงเน้นความจำ�เป็นของน้ำ�ในการชำ�ระล้างให้สะอาด - เราสามารถเปรียบเทียบวิญญาณกับกระดาษขาว เมื่อวิญญาณแปดเปื้อนด้วย ☆ หยิบกระดาษขาว ชูให้ บาปก็สกปรก เหมือนกระดาษขาวทีส่ ะอาดแต่ตอ้ งเปรอะเปือ้ นด้วยสิง่ สกปรก เน่าเหม็น ผู้เรียนดู แล้วขีดเขียนกระดาษ ให้เปื้อน เลอะเทอะ บาปเป็นอุปสรรคทำ�ให้โครงการของพระที่มีต่อมนุษย์ไม่สำ�เร็จไปตามพระประสงค์ ดั้งเดิมของพระองค์ คือทรงต้องการให้มนุษย์มีความสุขตลอดนิรันดรกับพระองค์ใน สวรรค์ 3 พระวาจา (มธ 28:19) “บรรดาศิษย์ทงั้ สิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาทีพ่ ระเยซูเจ้าทรงกำ�หนด ไว้ เมือ่ เขาเห็นพระองค์ ก็กราบนมัสการ แต่บางคนยังสงสัยอยู่ พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามา ใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านัน้ ว่า “พระเจ้าทรงมอบอำ�นาจอาชญาสิทธิท์ งั้ หมดในสวรรค์และ บนแผ่นดินให้แก่เรา เพราะฉะนัน้ ท่านทัง้ หลายจงไปสัง่ สอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์

ภาพ “พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้น สวรรค์” / อธิบายภาพ


36

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ของเรา ทำ�พิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขา ให้ปฏิบตั ติ ามคำ�สัง่ ทุกข้อทีเ่ ราให้แก่ทา่ น แล้วจงรูเ้ ถิดว่าเราอยูก่ บั ท่านทุกวันตลอดไป ตราบจนสิ้นพิภพ”

.

4 อธิบายพระวาจา - หลังปัสกา 50 วัน เมื่อพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพแล้ว พระองค์ได้แสดงพระองค์ ต่อหน้าบรรดาศิษย์และประชาชนจำ�นวนมากบนภูเขาในแคว้นกาลิลี ก่อนจะเสด็จขึ้น สวรรค์ พระองค์ทรงสั่งให้บรรดาสาวกโปรดศีลล้างบาปแก่ผู้ที่เชื่อและมีความพร้อม โดยให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อความเชื่อเสียก่อน 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเจ้าทรงรักมนุษย์มาก จึงไม่ทรงต้องการให้มนุษย์เสียวิญญาณไปอันเป็น ผลของบาปกำ�เนิดและบาปส่วนตัว จึงทรงให้พระบุตรมาบังเกิดเพื่อไถ่บาปของมนุษย์ ด้วยการทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ในธรรมล้ำ�ลึกปัสกา เพื่อแสดงความรัก สูงสุดของพระองค์ต่อมนุษย์ - จากบุญบารมีแห่งการไถ่บาปของพระเยซูเจ้า อาศัยศีลล้างบาป มนุษย์ได้รับ การชำ�ระล้างวิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ ได้คืนดีกับพระเจ้า กลายเป็นบุตรบุญธรรม ของพระองค์ ได้เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร และได้รบั มรดก มีความสุขในสวรรค์ชวั่ นิรันดร

หลังการอธิบายให้เล่นเกม แรลลี่ ดังนี้

- แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม

- แจกโจทย์แรกให้ เมื่อค้นคว้า หาคำ�ตอบได้แล้วจึงได้รบั โจทย์ที่ 2 และต่อๆ ไป จนถึงโจทย์ที่ 4 คือโจทย์สุดท้าย - เมื่อกลุ่มใดตอบคำ�ถามได้ - เราผู้ได้รับศีลล้างบาปแล้วทุกคน จึงควรจะขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอสำ�หรับ หมดแล้วให้ได้รับรางวัล พระคุณอันประเสริฐสุดนี้ มิฉะนั้นแล้วเราก็คงจะไปนรกกันทุกคน ไม่มีโอกาสได้มี ความสุขในสวรรค์แน่ๆ นอกจากนั้น ยังต้องตอบสนองความรักของพระเจ้านี้ด้วย การรักษาจิตใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ เพราะหลังศีลล้างบาปแล้ววิญญาณ ของเราสะอาดบริสุทธิ์ จึงไม่ควรทำ�ให้ต้องแปดเปื้อนอีก

6 หาข้อปฏิบัติ ผู้เรียนขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงบาป แม้ที่เล็กน้อยที่สุด 7 ภาวนาปิดท้าย ร้องเพลงพร้อมกัน “จงขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์พระทัยดี / ความรักมั่นคงของพระองค์ ดำ�รงนิจนิรันดร์” 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


37

ภาพ “พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์”

กิจกรรม “แรลลี่” (กิจกรรมนี้เป็นชุดเฉลย เมื่อต้องการใช้ ผู้สอนต้องลบคำ�ตอบออกก่อน แล้วจึงทำ�สำ�เนาไปใช้ โดยสามารถ ประยุกต์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของตน) กลุ่ม 1 ภารกิจที่ 1 (การล้างวิญญาณให้สะอาด) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - ในศีลล้างบาป สิ่งใดทำ�ให้วิญญาณของเราสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากรอยแปดเปื้อนของบาปอีกต่อไป? คำ�ตอบ น้ำ� คำ�สัง่ - เมื่อตอบคำ�ถามแล้ว ให้น้องๆ เปิดพระคัมภีร์ตอน มธ 16:5-12 แล้วให้ตอบว่าเป็นเรื่องอะไร? คำ�ตอบ เรื่อง เชื้อแป้งของชาวฟาริสีและชาวสะดูสี คำ�สัง่ - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 1 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 2 ได้เลย


38

ภารกิจที่ 2 (กลับคืนดีกับพระ เป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ มนุษย์กลับคืนดีกับพระเจ้า และกลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปดูซิว่า ดอกไม้ที่อยู่หน้าแม่พระในวัดเป็นสีอะไร? คำ�ตอบ สี...................................................................................................... คำ�สัง่ - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 2 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 3 ได้เลย ภารกิจที่ 3 (เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ของเรากับพระศาสนจักรเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ ได้เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปนับดูว่าบันไดหน้าวัดมีกี่ขั้น? คำ�ตอบ มี...............ขั้น คำ�สัง่ - เมือ่ ทำ�เสร็จภารกิจที่ 3 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 4 ได้เลย ภารกิจที่ 4 (ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดก) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - รับศีลล้างบาปแล้ว สิทธิ์พิเศษที่เราได้รับคืออะไร? คำ�ตอบ ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดก คำ�สั่ง - ให้น้องๆ ไปร้องเพลงแม่พระให้ครูคำ�สอนฟัง 1 ตอน รีบไปเลยก่อนที่กลุ่มอื่นจะไปถึง เมื่อทำ� ภารกิจที่ 4 เสร็จแล้วให้น้องๆ ร้องพร้อมกันว่า “ไชโย” แล้วรับรางวัลจากครูคำ�สอนได้เลย กลุ่ม 2 ภารกิจที่ 1 (การล้างวิญญาณให้สะอาด) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - ในศีลล้างบาป สิ่งใดทำ�ให้วิญญาณของเราสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากรอยแปดเปื้อนของบาปอีกต่อไป? คำ�ตอบ น้ำ� คำ�สัง่ - เมื่อตอบคำ�ถามแล้ว ให้น้องๆ เปิดพระคัมภีร์ตอน มธ 15:32-39 แล้วให้ตอบว่าเป็นเรื่องอะไร? คำ�ตอบ เรื่อง อัศจรรย์การทวีขนมปัง ครั้งที่ 2 คำ�สั่ง - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 1 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 2 ได้เลย


39

ภารกิจที่ 2 (กลับคืนดีกับพระ เป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ มนุษย์กลับคืนดีกับพระเจ้า และกลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปนับดูว่าบันไดหลังวัดมีกี่ขั้น? คำ�ตอบ มี.................ขั้น คำ�สัง่ - เมือ่ ทำ�เสร็จภารกิจที่ 2 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 3 ได้เลย ภารกิจที่ 3 (เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ของเรากับพระศาสนจักรเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปดูซิว่า ดอกไม้ที่อยู่หน้าแม่พระในวัดเป็นสีอะไร? คำ�ตอบ สี................................................................................................... คำ�สัง่ - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 3 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 4 ได้เลย ภารกิจที่ 4 (ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดก) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - รับศีลล้างบาปแล้ว สิทธิ์พิเศษที่เราได้รับคืออะไร? คำ�ตอบ ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นกรรมสิทธิ์ คำ�สั่ง - ให้น้องๆ ไปร้องเพลงแม่พระให้ครูคำ�สอนฟัง 1 ตอน รีบไปเลยก่อนที่กลุ่มอื่นจะไปถึง เมื่อทำ� ภารกิจที่ 4 เสร็จแล้วให้น้องๆ ร้องพร้อมกันว่า “ไชโย” แล้วรับรางวัลจากครูคำ�สอนได้เลย กลุ่ม 3 ภารกิจที่ 1 (การล้างวิญญาณให้สะอาด) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - ในศีลล้างบาป สิ่งใดทำ�ให้วิญญาณของเราสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากรอยแปดเปื้อนของบาปอีกต่อไป? คำ�ตอบ น้ำ� คำ�สัง่ - เมื่อตอบคำ�ถามแล้ว ให้น้องๆ เปิดพระคัมภีร์ตอน มธ 15:21-28 แล้วให้ตอบว่าเป็นเรื่องอะไร? คำ�ตอบ เรื่อง พระเยซูเจ้าทรงรักษาบุตรหญิงของหญิงชาวคานาอัน คำ�สั่ง - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 1 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 2 ได้เลย


40

ภารกิจที่ 2 (กลับคืนดีกับพระ เป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ มนุษย์กลับคืนดีกับพระเจ้า และกลายเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปดูซิว่า ดอกไม้ที่อยู่บนพระแท่นในวัดเป็นสีอะไร? คำ�ตอบ สี...................................................................................................... คำ�สัง่ - เมือ่ ทำ�เสร็จภารกิจที่ 2 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 3 ได้เลย ภารกิจที่ 3 (เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - หลังรับศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ของเรากับพระศาสนจักรเป็นอย่างไร? คำ�ตอบ ได้เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร คำ�สัง่ - ให้น้องๆ ไปนับดูว่าเสาหน้าวัดมีกี่ต้น? คำ�ตอบ มี...............ต้น คำ�สัง่ - เมื่อทำ�เสร็จภารกิจที่ 3 แล้วให้น้องๆ ไปส่งคำ�ตอบที่ครูคำ�สอน และรับภารกิจที่ 4 ได้เลย ภารกิจที่ 4 (ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดก) คำ�สั่ง - เมื่อรับคำ�ถามนี้แล้วให้น้องๆ รีบตอบให้เร็วและถูกต้องที่สุด คำ�ถาม - รับศีลล้างบาปแล้ว สิทธิ์พิเศษที่เราได้รับคืออะไร? คำ�ตอบ ได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดก คำ�สั่ง - ให้น้องๆ ไปร้องเพลงแม่พระให้ครูคำ�สอนฟัง 1 ตอน รีบไปเลยก่อนที่กลุ่มอื่นจะไปถึง เมื่อทำ� ภารกิจที่ 4 เสร็จแล้วให้น้องๆ ร้องพร้อมกันว่า “ไชโย” แล้วรับรางวัลจากครูคำ�สอนได้เลย


41

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจว่า ในการเลี้ยงอาหารค่ำ�ครั้งสุดท้าย พระเยซูเจ้าได้แสดงความรัก ต่อบรรดาสาวกและมนุษย์ทุกคนโดยทรงตั้งศีลมหาสนิท เป็นพระองค์เองทั้งครบที่ทรง ประทับอยู่ในศีลมหาสนิท เพื่อจะทรงอยู่กับเราไปตราบจนสิ้นพิภพ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนแสดงความเคารพต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างเหมาะสมเวลา เข้าวัด และเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างดี สาระการเรียนรู ้ พระเจ้าทรงทราบดีถึงความต้องการทุกประการของมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ทรงดูแลเขาอาศัย บุคคลและสิ่งต่างๆ เพื่อให้เขามีชีวิตอย่างมีความสุข ในรูปแบบพิเศษที่สุดคือพระเยซูเจ้าได้ทรงตั้งศีลมหาสนิทในการเลี้ยง อาหารค่ำ�ครั้งสุดท้ายกับบรรดาอัครสาวก ซึ่งเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ ภายใต้รูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น เพื่อพระองค์จะประทับอยู่กับมนุษย์ที่พระองค์ทรงรักตลอดไป อีกทั้งเพื่อเป็นอาหารฝ่ายจิตที่ประเสริฐสุดสำ�หรับหล่อเลี้ยง วิญญาณของคริสตชน คริสตชนจึงสามารถสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ และได้รับความรอดพ้น ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - สวดภาวนาด้วย “บทแสดงความรัก” 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - เสวนา/ให้ผู้เรียนแบ่งปันถึงลักษณะของคนที่รักกัน เช่น ต้องการอยู่ใกล้กัน อยากอยู่ด้วยกันนานๆ คุยไม่รู้จักเบื่อ เมื่ออยู่ด้วยกันเวลาผ่านเร็ว ฯลฯ - ถามผู้เรียนว่าเคยมีประสบการณ์ส่วนตัวแบบนี้บ้างไหม? กับใคร? ฯลฯ ทำ�ไม จึงรู้สึกแบบนี้? - เขียนรูปแบบการแสดงความรักของผู้เรียนไว้ที่กระดาน/กระดาษ - ผู้สอนอธิบายถึง “ความรัก” ว่า แม้เป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ แต่มีอยู่จริง ผู้ที่ มีความรักจึงต้องแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ ดังกล่าว - ที่กล่าวมาคือการแสดงความรักของเรามนุษย์ แต่ยังมีอีกบุคคลหนึ่งที่รักเรา มาก โดยทีเ่ ราอาจไม่รตู้ วั ไม่เคยคิดถึง คนๆ นัน้ เขาหลงรักเรามานานแล้ว และรักมาก จนสามารถสละชีวิตเพื่อเราได้ บุคคลนั้นคือใคร? 3 พระวาจา (มธ 26:26-29) (ขณะอ่านพระวาจาให้ผู้เรียนดูภาพ “งานเลี้ยงอาหารค่ำ�ครั้งสุดท้าย”) “ขณะที่ทุกคนกำ�ลังกินอาหารอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปัง ตรัสถวาย

☆ ภาพ

“อาหารค่ำ� ครั้งสุดท้าย” ท้ายแผน


42

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ พระพร ทรงบิขนมปังประทานให้บรรดาศิษย์ ตรัสว่า ‘จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของ เรา’ แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า ‘ทุกท่านจงดื่มจากถ้วยนี้เถิด นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญา ที่หลั่งออกมา สำ�หรับคนจำ�นวนมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า แต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มน้ำ�จากผลองุ่นอีก จนกว่าจะถึงวันทีเ่ ราจะดืม่ เหล้าองุน่ ใหม่กบั ท่านในพระอาณาจักรของพระบิดาของเรา’”

4 อธิบายพระวาจา - ตลอดเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงเจริญชีวิตกับบรรดาศิษย์ พระองค์ทรงรักพวกเขา เป็นอย่างมาก พวกศิษย์เองก็เป็นรูปแบบถึงเรามนุษย์ทุกคนด้วย - เมื่อพระเยซูเจ้าจะต้องจากโลกนี้ไป พระองค์ทรงรู้สึกอาวรณ์ถึงคนเหล่านี้ที่ พระองค์ทรงรักเป็นอย่างยิ่ง จึงทรงออกแบบวิธีการที่จะอยู่กับพวกเขาต่อไปด้วยวิธีที่ วิเศษสุด นั่นคือ ศีลมหาสนิท - ในการเลี้ยงอาหารค่ำ�ครั้งสุดท้าย พระองค์จึงทรง “ตั้งศีลมหาสนิท” โดยมอบ พระกายและพระโลหิตของพระองค์ภายใต้รูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น เพื่อเป็น อาหารเลี้ยงวิญญาณของคริสตชน - พระองค์ทรงใช้รูปแบบพิธีตามอย่างงานเลี้ยงปัสกาดั้งเดิมของชาวยิว โดยเริ่ม จากการอวยพร (เสก) ขนมปังและเหล้าองุน่ แต่ในครัง้ นีพ้ ระองค์ได้ทรงให้ความหมาย ใหม่ คือ ทรงให้ศีลมหาสนิทเป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาใหม่ระหว่างพระเจ้ากับ มนุษย์ โดยอาศัยการพลีบูชาขององค์พระเยซูคริสตเจ้า - เมื่อได้ทรงตั้งศีลมหาสนิทแล้ว พระองค์ได้กำ�ชับบรรดาศิษย์ให้กระทำ�เช่น เดียวกันไปตลอดจนสิ้นพิภพ เพื่อว่าอาศัยการเสกปังและเหล้าองุ่นให้กลายเป็น พระกายและพระโลหิตของพระองค์ จะทำ�ให้พระองค์ได้อยู่กับเรามนุษย์ไปตราบนาน เท่านาน - แม้ในเวลานั้น บรรดาศิษย์จะไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ทั้งหมด แต่พวก เขาก็มีความเชื่อ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพระจิตเจ้าได้เสด็จลงมาแล้ว พวกเขาได้เข้าใจสิ่ง ต่างๆ ชัดเจนขึ้น จึงได้ปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงสั่งไว้อย่างซื่อสัตย์ รวมทั้งบรรดา ผู้สืบทอดตำ�แหน่งจากอัครสาวก คือ พระสันตะปาปา พระสังฆราช และพระสงฆ์ ทุกองค์ ก็ได้ปฏิบตั ติ ามคำ�สัง่ ของพระอาจารย์เจ้าอย่างซือ่ สัตย์มาทุกยุคทุกสมัยเช่นกัน - นอกจากศีลมหาสนิทจะเป็นเครื่องหมายแห่งความต้องการของพระเยซูเจ้าที่ จะอยู่กับเรามนุษย์ตลอดไปแล้ว ยังเป็นสิ่งจำ�เป็นอย่างยิ่งสำ�หรับคริสตชนด้วย เพราะ ศีลมหาสนิทยังเป็น “อาหารฝ่ายจิต” ที่หล่อเลี้ยงวิญญาณของเขาให้เติบโตขึ้น ทำ�ให้ เขาสามารถบรรลุวุฒิภาวะฝ่ายจิตจนกลายเป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อด้วย 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แล้ว ทรงทราบดีถึงความต้องการทุกอย่างของเขา ทรงทราบว่าเขาต้องการความรักและต้องการอาหารที่ไม่เพียงแต่เลี้ยงร่างกายเท่านั้น ทว่าสิ่งที่สำ�คัญกว่าก็คือ อาหารฝ่ายจิต

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


43

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- พระองค์จึงทรงตอบสนองความต้องการพื้นฐานนี้แก่เขาอาศัยปัจจัยและสื่อ กลางหลายอย่าง เช่น บุคคลรอบข้าง พระคัมภีร์ การเทศน์สอน ฯลฯ ซึ่งเขาสามารถ ตักตวงได้มากน้อยก็แล้วแต่โอกาสและตัวเขาเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถตอบสนอง ความต้องการลึกๆ ของมนุษย์จนสามารถทำ�ให้เขา “อิ่ม” ได้จริง คือศีลมหาสนิท เพราะศีลมหาสนิทคือองค์พระเยซูเจ้าเอง - ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเข้าใจถึงความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเราแต่ละคน นอกจากพ่อแม่ หรือบุคคลต่างๆ ที่รักเราแล้ว ยังมีพระเจ้าที่รักเรามากกว่าทุกๆ คน เพราะยังไม่มีมนุษย์คนไหนยอมเสียสละชีวิตเพื่อเราเลย แต่พระเจ้าได้ทรงกระทำ�เช่น นั้นแล้วโดยทางพระเยซูคริสตเจ้าบนกางเขนและโดยทางศีลมหาสนิท - หากเราไม่รับรู้และไม่สนใจในความรักของพระองค์ และไม่ตอบสนองด้วย การรักพระองค์ เราก็เป็นคนอกตัญญู ซึ่งมิใช่เพียงเท่านี้แต่การทำ�เช่นนี้จะมีผลเสียต่อ ชีวิตนิรันดรของเราเลยทีเดียว - เมื่อรู้เช่นนี้ เราต้องตอบสนองความรักของพระองค์ด้วยการรักตอบ การทำ� แบบนี้เราจะเป็นฝ่ายได้อย่างคุ้มค่าเอนกอนันต์ เพราะพระเจ้าผู้ทรงรักอย่างไม่มี ขอบเขตจะทรงให้เราอย่างไม่มีขอบเขตเช่นกัน - ดั ง นั้ น เราควรจะเตรี ย มตั ว รั บ พระองค์ ใ นศี ล มหาสนิ ท อย่ า งดี อี ก ทั้ ง ให้ ความเคารพต่อพระองค์อย่างสำ�รวมและสุภาพทุกครั้งที่เราเข้าวัด 6 หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนแสดงความเคารพต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างเหมาะสมเวลา เข้าวัด และเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างดี 7 ภาวนาปิดท้าย - ให้ตัวแทนคนหนึ่งนำ�ภาวนาดังนี้ “ข้าแต่พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท พระองค์ ทรงตั้งศีลมหาสนิท เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก โปรดให้พวกลูกแต่ละคน ได้เห็น ความรักความเมตตาของพระองค์ ในการประทานพระกาย พระโลหิต เป็นอาหาร หล่อเลี้ยงวิญญาณด้วยเถิด” - ข้าแต่พระบิดาฯ... วันทามารีย์...(3 บท) พระสิริรุ่งโรจน์... 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ - การร่วมกิจกรรม 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


ภาพ “อาหารคำ่�ครั้งสุดท้าย”

44


45

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ความหมายของศีลมหาสนิทและผลของการรับ ศีลมหาสนิท ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพือ่ ให้ผเู้ รียนรูแ้ ละเข้าใจว่า ศีลมหาสนิทคือองค์พระเยซูคริสตเจ้าในรูปปรากฎของปังและ เหล้าองุ่น ผู้ได้รับศีลมหาสนิทจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูคริสตเจ้าและพระศาสนจักร - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างเหมาะสม ด้วยการแสดงความเป็นหนึ่ง เดียวกับทุกคน และขอบคุณพระองค์ที่ทรงพระทัยดีเป็นอาหารทิพย์เลี้ยง วิญญาณของเรา สาระการเรียนรู ้ - ศีลมหาสนิท คือ ศีลศักดิส์ ทิ ธิแ์ ห่งความรักซึง่ เป็นพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้าในรูปปรากฏของ ปังและเหล้าองุ่น ผลของการรับศีลคือ “รวมเรา” ให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูคริสตเจ้า “บำ�รุงเรา” ทำ�ให้เรามีความสัมพันธ์ศักดิ์สิทธิ์กับเพื่อนพี่น้อง “หล่อเลี้ยง” จิตใจเราด้วยพลังแห่งพระพรของพระเจ้า “เตรียม” ตัวเราเพื่อการเข้าสู่งานเลี้ยงในสวรรค์ของพระเจ้า “เป็นการเฉลิมฉลอง” เพื่อระลึกถึงอาหารค่ำ�มื้อสุดท้ายของพระเยซู “เป็นอาหารศักดิ์สิทธิ์” ที่ให้อาหารฝ่ายจิตใจแก่เราคริสตชน และ “เป็นการถวายบูชา” เพื่อชดเชยบาปของมนุษย์ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - ภาวนาพร้อมกันบท “อัญเชิญพระจิตฯ...” 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - เสวนากับผู้เรียนถึงความจำ�เป็นที่คนเราต้อง “รับประทานอาหาร” : ทำ�ไมต้อง รับประทาน? ควรรับประทานอาหารประเภทใด? ผลของการรับประทานอาหารคือ อะไรบ้าง? ฯลฯ - บอกผู้เรียนว่า “ในเวลานี้ครูได้เตรียมอาหารอย่างหนึ่งให้แก่นักเรียนด้วย ☆ ขนมปัง 1 ก้อนใหญ่พอ สำ�หรับแบ่งทุกคน/น้ำ�หวาน/ อยากจะรับประทานไหม?” ถ้วยน้ำ� - จัดให้ผู้เรียนนั่งเป็นวงกลม แบ่งขนมปังให้ผู้เรียนได้รับประทานคนละ 1 ชิ้น พร้อมกับน้�ำ หวานคนละแก้ว เสร็จแล้วให้ผเู้ รียนแบ่งปันว่า รูส้ กึ อย่างไรทีไ่ ด้รบั ประทาน ขนมปังก้อนเดียวกันกับน้ำ�หวานนั้น


46

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- ผู้สอนเสริมตอนท้ายว่า อาหารเป็นสิ่งจำ�เป็นมากสำ�หรับร่างกายมนุษย์ แต่ เรามีวิญญาณด้วย ดังนั้น เราจึงต้องการทั้งอาหารฝ่ายกายและอาหารฝ่ายวิญญาณ - อาหารฝ่ายกายคือทุกสิ่งที่เรารับประทานทางปาก แต่อาหารฝ่ายจิตคืออะไร? และเราจะหาได้จากที่ไหน? หากไม่รับประทานแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา? 3 พระวาจา (มธ 26:26-29) “ขณะที่ทุกคนกำ�ลังกินอาหารอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปัง ตรัสถวาย พระพร ทรงบิขนมปังประทานให้บรรดาศิษย์ ตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของ เรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า “ทุกท่านจงดื่มจากถ้วยนี้เถิด นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญา ที่หลั่งออกมา สำ�หรับคนจำ�นวนมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่า แต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มน้ำ�จากผลองุ่นอีก จนกว่าจะถึงวันทีเ่ ราจะดืม่ เหล้าองุน่ ใหม่กบั ท่านในพระอาณาจักรของพระบิดาของเรา”

ซีดีเรื่อง “อาหารค่ำ� ครั้งสุดท้าย” (3 นาที)

4 อธิบายพระวาจา - ระหว่างเฉลิมฉลองการรับประทานอาหารค่ำ�ครั้งสุดท้ายกับบรรดาสาวก ☆ ภาพ “ศีลมหาสนิท” พระเยซูเจ้าทรงแสดงความรักอย่างสุดซึง้ โดยได้ทรงล้างเท้าของพวกเขา ได้ทรงเปลีย่ น ท้ายแผน หรือ แผ่นปังที่ยังไม่ ปังและเหล้าองุ่นให้กลายเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ เพื่อเป็นอาหารฝ่าย ได้เสก+ผลองุ่น วิญญาณให้พวกเขาได้รับประทาน - พระองค์สามารถทำ�ดังนี้ได้เพราะหลังจากนั้นไม่นาน พระองค์ก็จะทรงมอบ ชีวิตของพระองค์เป็นพลีบูชาบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรามนุษย์ - การได้รับประทานพระกายและพระโลหิตของพระองค์นั้น คือการได้ร่วมสนิท สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เพราะเรารับพระองค์เข้ามาในตัวเรา เปรียบได้กับ ขนมปังซึ่งทำ�มาจากข้าวสาลีหลายเม็ด หลายรวงที่ถูกบดเป็นแป้งนำ�มานวดให้เข้ากัน และเหล้าองุ่นที่มาจากผลองุ่นมากมายหลายเม็ด หลายพวง นำ�มาย่ำ�ให้เกิดน้ำ�องุ่น และหมักจนกลายเป็นเหล้าองุ่น - พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทซึ่งเป็น “อาหารศักดิ์สิทธิ์” จะบำ�รุง หล่อเลี้ยงจิต ☆ ภาพรวงข้าว/ขนมปังและ วิญญาณของเรา ให้เอิบอิ่มไปด้วยพระหรรษทาน (ชีวิตพระ) ของพระองค์ นอกจากจะ พวงองุ่น/เหล้าองุ่น ท้ายแผน ได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์แล้ว ทำ�ให้เราได้เป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนพี่น้องในพระศาสนจักรอีกด้วย - ในเวลาเดียวกัน พระองค์จะทรงช่วยเตรียมตัวเราเข้าสู่งานเลี้ยงในสวรรค์ของ พระเจ้าด้วย เพราะงานเลี้ยงในโลกนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรูปแบบของงานเลี้ยงใน สวรรค์เท่านัน้ ในโลกนีเ้ รายังต้องรับพระองค์เป็นครัง้ ๆ ในศีลมหาสนิท แต่ในงานเลีย้ ง สวรรค์เราจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องรับศีลมหาสนิทแล้ว 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเจ้าทรงดูแลเรา ไม่ทรงปล่อยเราให้หิวโหยทางกาย เช่นเดียวกับทาง วิญญาณ ทรงให้เรามี “อาหารวิเศษ” เป็นอาหารทิพย์ที่กินแล้วจะไม่รู้จักตาย แต่จะ ให้ชีวิตและความสุขนิรันดร (ยน 6:50-51) นั่นคือ ศีลมหาสนิท


47

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- เมื่อเราเข้าใจว่า พระเยซูเจ้าทรงรักเรา ทรงเสียสละเพื่อเรา ทรงมีความสำ�คัญ ต่อเราเพียงนี้แล้ว เราก็จะต้องตอบสนองความรักของพระองค์ ต้อนรับพระองค์เข้ามา ในจิตใจของเรา ด้วยการเตรียมตัว เตรียมจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ไร้มลทินบาป เพราะ พระเจ้ากับบาปอยู่ด้วยกันไม่ได้ - ดังนั้น เราจึงต้องโมทนาคุณพระองค์ด้วยความรู้คุณ ที่ทรงพระทัยดีถ่อม พระองค์ลงมาอยู่ในศีลมหาสนิท เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของเรา อยู่กับเราและ เตรียมเราเข้าสู่งานเลี้ยงสวรรค์ - นอกนั้น เรายังต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคนด้วยวิธีต่างๆ เช่น เชื่อ ฟังพ่อแม่/ครู... ช่วยเหลือผูอ้ นื่ ไม่หาเรือ่ งทะเลาะกัน พูดดี/มีมารยาทดีตอ่ กัน ไม่นนิ ทา ว่าร้ายกัน ฯลฯ เพราะเมื่อใดที่เราแสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อนั้นเท่ากับเรา แสดงความรักความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าด้วย - ให้ผู้เรียนทำ�ใบงานที่ 1

ใบงานที่ 1

6 หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างเหมาะสม ด้วยการแสดงความเป็นหนึ่ง เดียวกับทุกคน และขอบคุณพระองค์ที่ทรงพระทัยดีเป็นอาหารทิพย์เลี้ยงวิญญาณของ เรา 7 ภาวนาปิดท้าย - ให้ตัวแทนผู้เรียน 1 คนนำ�สวดภาวนาต่อไปนี้ “ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้ประทับใน ศีลมหาสนิท พระองค์ทรงมอบมรดกทีส่ �ำ คัญยิง่ ให้กบั พวกลูกแต่ละคน เพือ่ จะได้ระลึก ถึงประวัตศิ าสตร์แห่งความรอดทีพ่ ระองค์ทรงรับทรมานและสิน้ พระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่มนุษย์ผู้เป็นคนบาปทั้งมวลได้รอดพ้น ขอให้จิตใจพวกลูกเร่าร้อนด้วยความรัก และเป็นทุกข์เสียใจในบาปผิดทีไ่ ด้กระทำ�ด้วยเทอญ” ปิดท้ายด้วยการสวดบท “ข้าแต่ พระบิดาฯ...” พร้อมกัน 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ - การร่วมกิจกรรม - การทำ�ใบงาน 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


48

รวงข้าว

องุ่น

เหล้าองุ่น

ขนมปัง

ศีลมหาสนิท

ใบงานที่ 1 คำ�ชี้แจง - ให้ผู้เรียนเติมคำ�ในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิทในวัน............................................................................................. 2. ........................................................อยู่กับพระเยซูเจ้าในการเลี้ยงอาหารค่ำ�ครั้งสุดท้าย 3. ศีลมหาสนิทคือ........................................................................................................................... 4. เมื่อเสกศีล..........................................เปลี่ยนเป็นพระกายของพระเยซูเจ้า และ.............................. เปลี่ยนเป็นพระโลหิตของพระเยซูเจ้า 5. อาหารฝ่ายจิตวิญญาณของเราคริสตชนคือ..................................................................................... 6. ความเป็นหนึ่งเดียวของคริสตชนเปรียบเหมือน...................................ที่ทำ�มาจากข้าวสาลีหลายรวง และ...................................................ที่ทำ�จากผลองุ่นมากมาย 7. ผลของการรับศีลมหาสนิทคือเป็น.......................................กับพระเจ้า และ.................................. 8. ศีลมหาสนิทช่วยเตรียมเราให้เข้าสู่งานเลี้ยงใน.............................................................................. 9. เมื่อรับศีลมหาสนิทแล้วเราควร.................................................................................................... 10. เราจะแสดงความรักต่อพระเจ้าได้โดย..........................................................................................


49

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ศีลมหาสนิทเป็นยัญบูชาชดเชยบาป และเป็นรูปแบบ ของงานเลี้ยงในสวรรค์ ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : - ให้ผู้เรียนรู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงรักมนุษย์มากจึงทรงพลีพระองค์เป็นยัญบูชาชดเชยบาป - ให้ผู้เรียนเข้าใจพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ คือรูปแบบงานเลี้ยงในสวรรค์ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : - ให้ผู้เรียนร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ และรับศีลมหาสนิทเป็นประจำ� - ให้ผู้เรียนยกถวายความยากลำ�บาก โรคภัยไข้เจ็บ ปัญหา ความเดือดร้อน ต่างๆ เป็นพลีบูชาร่วมกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า สาระการเรียนรู ้ พระโลหิตประเสริฐของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังเลือดของลูกแกะซึง่ ไร้มลทินหรือจุดด่างพร้อย ทีพ่ รมลงบนพระบัลลังก์ แห่งพระกรุณา เพื่อชำ�ระล้างมนุษย์ให้พ้นจากบาป พระเยซูเจ้า (ลูกแกะ) เป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า เพื่อชดเชยบาปของมนุษย์ โดยใช้พระกายและพระโลหิตเป็น เครื่องหมาย สำ�หรับคริสตชนผู้มีความเชื่อได้รับประทานร่วมกันในงานเลี้ยงฉลองระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืน พระชนมชีพของพระองค์ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ผู้ที่รับพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้าก็มีชีวิตในพระองค์ พระองค์สัญญาว่าเมื่อตายแล้วเขาจะกลับคืนชีพ และร่วมฉลองในพระอาณาจักรสวรรค์พร้อมกับพระองค์ด้วย ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทายผู้เรียน - สวดภาวนา “บทร้องหาพระจิต” และ “บทแสดงความเชื่อ” - ทำ�กิจกรรม “ฉันปรารถนาดีต่อเพื่อน” (ให้นักเรียนเขียนชื่อเพื่อนสนิทลงบนกระดาษ และโดยเขียนสิ่งที่เราต้องการจะ ทำ�ให้เพื่อนลงในกระดาษ 2-3 อย่าง)

บทภาวนา

กิจกรรม “ฉันปรารถนาดีต่อเพื่อน” ☆

- ผู้สอนอธิบายกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนทราบว่า คนเรามักเลือกทำ�บางสิ่งบางอย่าง เพื่อคนที่เรารักเป็นการแสดงความรักต่อกัน 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ให้ผู้เรียนดู การ์ตูนพันธสัญญาเดิม เรื่อง “อับราฮัมกับอิสอัค” - ทำ�ไม “อับราฮัมจึงถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า” (นอบน้อมเชื่อฟังพระเจ้า/ยำ�เกรงพระเจ้า)

วีซีดี “อับราฮัมกับอิสอัค” ตอน “การถวายอิสอัค” (10 นาที)


50

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- อะไรบ้างเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า (ลูกแกะ/บุตร) - ให้ผู้เรียนเขียนคำ�ตอบลงในสมุด

- หาตัวแทนผู้เรียนอ่านพระวาจา 3 คน 3 พระวาจา กาอินและอาแบล (ปฐก 4:3-5) วันหนึ่ง กาอินนำ�ผลที่เกิดจากแผ่นดินมาถวายเป็นบูชาแด่พระยาห์เวห์ ส่วน อาแบลนำ�แกะที่เกิดจากฝูงรุ่นแรกและไขมันแกะมาถวายด้วย พระยาห์เวห์พอพระทัย อาแบลและเครื่องบูชาของเขา แต่ไม่พอพระทัยกาอินและเครื่องบูชาของเขา อับราฮัมพร้อมจะถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา (ปฐก 22:6,9-12) อับราฮัมให้อิสอัคแบกฟืนสำ�หรับใช้เผาบูชา ส่วนตนถือไฟและมีด ทั้งสอง เดินทางไปด้วยกัน เมื่อทั้งสองคนมาถึงสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงบอกให้รู้แล้ว อับราฮัมก่อแท่นบูชาขึ้น จัดเรียงฟืนไว้บนนัน้ แล้วมัดอิสอัคนำ�มาวางไว้บนกองฟืนบนแท่นบูชา อับราฮัมยืน่ มือ ออกไป เงื้อมีดจะฆ่าบุตร แต่ทูตของพระยาห์เวห์ร้องเรียกจากสวรรค์ว่า “อับราฮัมเอ๋ย อับราฮัม” อับราฮัมตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่” ทูตสวรรค์กล่าวว่า “อย่าลงมือฆ่าเด็กหรือ ทำ�ร้ายเขาเลย บัดนี้ เรารู้แล้วว่า ท่านยำ�เกรงพระเจ้า และมิได้หวงบุตรคนเดียวของ ท่านไว้ ไม่ถวายแก่เรา” พระเยซูเจ้า มหาสมณะ ผู้มีความเห็นใจและร่วมทุกข์กับเรา (ฮบ 5:13,5-10) มหาสมณะทุกองค์ย่อมได้รับการคัดเลือกจากมวลมนุษย์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผูแ้ ทนมนุษย์ในความสัมพันธ์ตดิ ต่อกับพระเจ้า เพือ่ ถวายทัง้ บรรณาการและเครือ่ งบูชา ชดเชยบาป เขาเห็นใจผู้ที่ไม่รู้และหลงผิด เพราะเขาก็ถูกความอ่อนแอครอบงำ�อยู่เช่น กัน ด้วยเหตุนเี้ ขาจึงต้องถวายบูชาชดเชยบาปสำ�หรับตนเองเช่นเดียวกับชดเชยสำ�หรับ ประชากรด้วย ในทำ�นองเดียวกันพระคริสตเจ้ามิได้ทรงยกย่องพระองค์ขึ้นเป็นสมณะ แต่ผู้ที่ ยกย่องพระคริสตเจ้าคือพระเจ้า ผู้ตรัสกับพระองค์ว่า “ท่านเป็นบุตรของเรา วันนี้เรา ให้กำ�เนิดท่าน” เช่นเดียวกับที่ตรัสไว้อีกแห่งหนึ่งว่า “ท่านเป็นสมณะตลอดนิรันดร ตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค” ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระชนมชีพบนแผ่นดินนี้ พระองค์ทรงอธิษฐาน ทูลขอคร่ำ�ครวญและร่ำ�ไห้ต่อพระเจ้าผู้ทรงช่วยพระองค์ให้พ้น จากความตายได้ พระเจ้าทรงสดับเพราะความเคารพยำ�เกรงของพระเยซูเจ้า ถึงแม้ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรก็ยังเรียนรู้ที่จะนอบน้อมเชื่อฟังโดยการรับทรมาน และ เมือ่ ทรงกระทำ�ภารกิจของพระองค์ส�ำ เร็จบริบรู ณ์แล้ว ก็ทรงเป็นผูบ้ นั ดาลความรอดพ้น นิรนั ดรแก่ทกุ คนทีย่ อมนอบน้อมเชือ่ ฟังพระองค์ โดยพระเจ้าทรงแต่งตัง้ พระเยซูเจ้าให้ เป็นมหาสมณะตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค”

สมุดบันทึก/ดินสอ ☆

พระคัมภีร์

หนังสือพระคัมภีร์


51

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

4 อธิบายพระวาจา - “พระเจ้ า ทรงพอพระทั ย อาแบลและเครื่ อ งเผาบู ช าของอาแบล” ซึ่ ง ตาม ความจริงแล้ว ทีพ่ ระเจ้าพอพระทัยลำ�ดับแรกคือชีวติ หรือท่าทีของอาแบลมากกว่า ไม่ใช่ เครื่องบูชาของเขา ทำ�ให้คาอินไม่พอใจอย่างยิ่ง และเกิดความอิจฉาริษยาน้องชายที่ พระเจ้าโปรดปรานเครื่องถวายของเขามากกว่าของตน - อับราฮัมบิดาแห่งความเชื่อ ไม่มีใครในโลกที่มีความเชื่อและความยำ�เกรง พระเจ้าเท่ากับอับราฮัม เขาถวายลูกชายทีร่ กั เพียงคนเดียวแก่พระองค์ พระเจ้าทรงเห็น ความเชื่อของท่าน ทรงอวยพระพรแก่ท่านและวงศ์วานของท่าน - สมณะมีหน้าที่ถวายเครื่องบูชาชดเชยบาปแทนคนบาป ในความเป็นมนุษย์ ของสมณะ ซึ่งเป็นตัวแทนของเพื่อนมนุษย์ เขาต้องเป็นหนึ่งเดียวกับผู้มีความเชื่อ เห็น อกเห็นใจร่วมเป็นทุกข์กับผู้อื่น ที่ต้องการถวายเครื่องบูชาชดเชยบาปต่อพระเจ้า - พระเยซูเจ้าทรงร่วมทุกข์กับมนุษย์เช่นเดียวกับสมณะตลอดชีวิตของพระองค์ บนแผ่นดินนี้ โดยเฉพาะเมื่อทรงรับทรมานและสิ้นพระชนม์ - พระองค์ทรงหลั่งโลหิตชำ�ระล้างบาปของมนุษย์ ทรงมอบพระกายและพระโลหิตให้เป็นอาหารหล่อเลี้ยงคริสตชนให้มีชีวิตในพระองค์ 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเจ้ามองที่ความเชื่อและท่าทีภายใน ไม่ใช่ของถวายภายนอก ดังนั้นให้ เราถวายบูชาพระเจ้าด้วยจิตใจทีม่ คี วามเชือ่ และวางใจในพระองค์โดยร่วมในพระมหาทรมานกับพระองค์เสมอในความทุกข์ยากลำ�บากของชีวิต ความเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือหน้าที่ประจำ�วัน - ให้สำ�นึกเสมอว่าเราเป็นคนบาปอาศัยพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ชำ�ระ บาปของเราให้สะอาด ให้ชีวิตของเราเป็นเสมือนที่ประทับของพระองค์ตลอดไป 6 หาข้อปฏิบัติ - ให้ เราร่ ว มพิ ธี มิ ส ซาบู ช าขอบพระคุ ณ ด้ ว ยใจที่ เ ต็ ม เปี่ ย มด้ ว ยความเชื่ อ ความวางใจและความรักต่อพระเจ้า โดยมีท่าทีที่สำ�รวมกาย วาจา ใจ - ให้เราถวายความยากลำ�บากต่างๆ ร่วมกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า 7 ภาวนาปิด - ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้ประทับในศีลมหาสนิท พระองค์ทรงหล่อเลี้ยงพวกลูก ด้วย ความรัก ความเมตตา หาทีส่ ดุ มิได้ ขอให้พวกลูกระลึกถึงพระมหาทรมานของพระองค์ พวกลูกจะได้สำ�นึกอยู่เสมอว่าพระองค์ทรงรักพวกลูกมาก - ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีย์..(3 บท) .....พระสิริรุ่งโรจน์ 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจในการร่วมกิจกรรมและตั้งใจเรียน 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ..............................................................................................................................................................................


52

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง วิธีเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทและสิ่งควรปฏิบัติ หลังรับศีลมหาสนิท ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้ว่าศีลมหาสนิท คือพระเยซูเจ้าในรูปปรากฏของปังและเหล้าองุ่น ดังนั้น เราต้อง ให้ความเคารพ และเตรียมตัวให้เหมาะสม เพื่อรับเสด็จพระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ให้ผู้เรียนกระตือรือร้นในการเตรียมตัวรับศีลมหาสนิท โดยแก้บาปอย่างดี และรู้จักโมทนาพระคุณหลังรับศีลมหาสนิท สาระการเรียนรู ้ การรับศีลมหาสนิท หมายถึงการเข้าร่วมงานเลีย้ งของพระเจ้า และเชิญพระองค์เสด็จมาประทับในร่างกาย และจิตใจ เราจึงต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย - ถามนักเรียนว่า เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยอะไร (อากาศ อาหาร น้ำ�ฯลฯ) - สรุปว่า อาหารเป็นปัจจัยหนึ่งในสี่ที่สำ�คัญสำ�หรับมนุษย์ ขาดอาหาร 7 วัน ก็ เสียชีวิต แต่ถ้าเราไม่รู้จักเลือกบริโภค อาหารอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ - ให้นักเรียนลองจับคู่อาหารชนิดต่างๆ กับอาหารหลัก 5 หมู่ ว่าอาหารชนิด ต่างๆ นี้จัดอยู่ในประเภทใดบ้าง 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - การรับศีลมหาสนิทเป็นการเชิญพระเยซูเจ้าเข้ามาสนิทสัมพันธ์ในใจของผู้รับ ศีลและทำ�ให้ผู้รับศีลได้รับพระหรรษทานต่างๆ จากพระองค์ - ศีลมหาสนิทประทานพระคุณดังนี้

ภาพอาหารหลัก 5 หมู่ (จับคู่สารอาหารและภาพที่ กำ�หนดให้) ☆

ภาพ “คนรับศีลมหาสนิท”

1. ช่วยเพิ่มพระหรรษทานศักดิ์สิทธิกร 2. กำ�จัดพยศชั่วในจิตใจ 3. เป็นหลักประกันว่าจะได้สนิทกับพระองค์ในสวรรค์ และจะได้กลับคืนชีพ อย่างรุ่งเรือง 3 พระวาจา (ยน 6:51,53-56) “เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และ ปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต” “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อของบุตรแห่งมนุษย์และ

หนังสือพระคัมภีร์


53

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ไม่ดื่มโลหิตของเรา ท่านจะไม่มีชีวิตในตนเอง ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็มีชีวิตนิรันดร เราจะทำ�ให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย เพราะเนื้อของเราเป็นอาหาร แท้ และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้ ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็ดำ�รง อยู่ในเรา และเราก็ดำ�รงอยู่ในเขา”

4 อธิบายพระวาจา พระเยซูเจ้า ทรงเป็นปังทรงชีวิต ที่พระเจ้าประทานมาให้ เมื่อเรารับศีล มหาสนิทเราก็รับพระเยซูเจ้าเข้าในชีวิต ทำ�ให้เรามีชีวิตอยู่ในพระองค์ และพระองค์ก็ อยูใ่ นเราด้วย การกินเนือ้ และดืม่ โลหิตของพระเยซูเจ้าทำ�ให้เรามีชวี ติ นิรนั ดร และกลับ คืนชีพในวันสุดท้ายตามที่ทรงสัญญา 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - การเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทและภาวนาหลังรับศีลมหาสนิทเป็นเรื่องสำ�คัญ สำ�หรับคริสตชนทุกคน เราจึงต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี - เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างดี เราควรอดอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนพิธมี สิ ซาบูชาขอบพระคุณประมาณหนึง่ ชัว่ โมง แต่งตัวสะอาดเรียบร้อย และสุภาพ งดการพูดคุยหรือเล่นกับคนรอบข้าง - เดินไปรับศีลมหาสนิทที่หน้าพระแท่น หรือบริเวณที่ทางวัดกำ�หนด เมื่อ พระสงฆ์สง่ ศีลให้ควรเงยหน้า อ้าปากพองามเพือ่ รับศีลมหาสนิท หรือแบมือออกไปรับ ศีลมหาสนิท ให้กล่าวคำ�ว่า “อาแมน” หลังจากที่พระสงฆ์ส่งศีลและพูดว่า “นี่คือ พระกายของพระคริสตเจ้า” - จากนั้น กลับไปคุกเข่ายังที่นั่ง คิดถึงพระเยซูเจ้าที่เข้ามาประทับในวิญญาณ... สวดโมทนาพระคุณ พูดคุยกับพระองค์ เหมือนลูกคุยกับพ่อ น้องคุยกับพี่ชาย บอก พระองค์ถึงความต้องการที่จำ�เป็นของเราให้พระองค์ทราบ - หลังรับศีลมหาสนิทชีวิตของเราต้องสะท้อนความเป็นพระเยซูเจ้า ตลอดเวลา ทุกแห่ง ทุกโอกาส และกับทุกคน ไม่ใช่ปล่อยให้ทุกอย่างจบสิ้นลง เมื่อเดินออกจากวัดหลังจบพิธีบูชาขอบพระคุณ 6 หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนเตรี​ียมตัวรับศีลมหาสนิทอย่างดี ด้วยการแก้บาป และโมทนาคุณพระ หลังรับศีล 7 ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ ที่ทรงประทานพละกำ�ลังให้ลูก กล้าสารภาพความผิดบกพร่องที่ได้กระทำ� และมีความตั้งใจแท้จริง ในการเป็นลูกที่ดี ของพระเจ้า เพื่อให้การรับศีลมหาสนิทเป็นการรับพระองค์เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำ�วัน ของลูก - ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีย์..(3 บท) .....พระสิริรุ่งโรจน์.....

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


54

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

8 การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................

ภาพ “คนรับศีลมหาสนิท”


55

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ศีลมหาสนิทคืออาหารฝ่ายจิตของคริสตชน

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจว่าศีลมหาสนิทมีความสำ�คัญต่อชีวิตฝ่ายจิตของคริสตชนทุกคน - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบตั ิ : ให้ผเู้ รียนรับศีลมหาสนิทเมือ่ ร่วมพิธมี สิ ซาบูชาขอบพระคุณ เพือ่ ชิดสนิทสัมพันธ์ กับองค์พระเยซูเจ้า และเกิดความรู้สึกต้องการไปวัดเพื่อรับศีลทุกครั้ง สาระการเรียนรู ้ ศีลมหาสนิทเป็นศีลที่สำ�คัญที่สุดเพราะเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชน เป็นศีลแห่งความรักของพระเจ้า เราเชื่อว่าองค์พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิท ผู้ที่รับศีลมหาสนิทก็จะสนิทสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ทุกคน จึงเป็นหนึ่งเดียวกันในครอบครัว เป็นสมาชิกและส่วนต่างๆ ในพระกายทิพย์ของพระเยซูเจ้า... “ท่านทั้งหลายเป็นพระกาย ของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น” (1คร 12:27) ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย / สวดภาวนาบทข้าพเจ้าเชื่อ - ให้ผู้เรียนดู VCD เรื่องอัศจรรย์ศีลมหาสนิท 5 นาที - ตั้งคำ�ถาม “เชื่อและมั่นใจจริงๆ หรือไม่ว่า ศีลมหาสนิทเป็นพระกายและ พระโลหิตของพระเยซูเจ้า” 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ถามความรู้สึกหลังดู VCD เรื่องศีลมหาสนิทจบว่า เรามีความเชื่อและมั่นใจ เพิ่มขึ้นเพียงใดว่า ศีลมหาสนิทเป็นเลือดเนื้อของพระเยซูเจ้า - ไม่ว่าเราจะเชื่อหรือรู้สึกอย่างไร ลองถามตัวเองว่ามีอะไรบ้างที่ทำ�ให้เราหมด แรง เพราะอะไร และอะไรที่ทำ�ให้แรงที่หายไปนั้นกลับคืนมา เพราะอะไร ให้นักเรียน ตอบสัก 2 คน - เมื่อวิญญาณของเราอ่อนแอ หรือหมดกำ�ลังใจ เพราะต้องเผชิญศึกหนักจาก ศัตรูหรือปีศาจ โลก และตัวเราเอง จนบางครั้งเกิดความท้อแท้ใจ สงสัย หวาดกลัว หมดหวัง และสุดท้ายถ้าไม่รบี เยียวยารักษา เราจะตกอยูใ่ นโรคร้ายคือบาป และวิญญาณ ของเราก็จะอยู่ในสภาพที่อันตรายน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง - ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่าสิ่งที่สามารถช่วยกู้วิญญาณของเราให้พ้น จากสภาพบาปคืออะไรแล้วจึงอธิบายถึงเรื่องศีลมหาสนิท กล่าวคือ 1. ศีลมหาสนิทเป็นอาหารวิเศษที่ให้ชีวิต “ผู้ใดกินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ก็มีชีวิตนิรันดร และเราจะให้ผู้นั้นกลับเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย” (ยน 6:54)

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

VCD อัศจรรย์ศีลมหาสนิท ( มี 4 ชุด ชุดละ 5 นาที โดยเลือก 1 หรือ 2 ชุด)


56

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ 2. ศีลมหาสนิทเป็นอาหารบำ�รุงกำ�ลังที่ช่วยเพิ่มพลังในการต่อสู้ บรรดา นักบุญโดยเฉพาะมรณสักขีพึ่งพาศีลมหาสนิททำ�ให้มีกำ�ลังต่อสู้กับการทรมานต่างๆ จนได้รับชัยชนะ (ยกตัวอย่างมรณสักขีบ้านสองคอนให้นักเรียนได้รู้ประวัติ)

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

ประวัติบุญราศีทั้งเจ็ด แห่งประเทศไทย

3. ศีลมหาสนิทเป็นยารักษาโรคฝ่ายวิญญาณซึ่งได้แก่บาป บาปแยกมนุษย์ ไปจากพระเจ้า แต่ศีลมหาสนิทรวบรวมวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ บาป สร้างความเกลียดชังแตกแยกระหว่างมนุษย์ แต่ศีลมหาสนิทรวมมนุษย์เป็นหนึ่ง เดียวกันในความรัก คริสตชนหลายคนสำ�นึกตนว่าเป็นคนบาป จึงไม่ไปรับศีล มหาสนิท การกระทำ�เช่นนี้ไม่ถูกต้อง เหมือนคนเจ็บที่ไม่กล้าไปหาหมอ แล้วเขาจะ หายจากโรคได้อย่างไร ตรงกันข้าม เราทุกคนซึ่งเป็นคนบาปต้องพึ่งพาศีลมหาสนิท เพื่อเยียวยาวิญญาณโดยรับศีลมหาสนิทเป็นประจำ� 3

พระวาจา - “คำ�อธิษฐานของพระเยซูเจ้า” (ยน 17:12-19) เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเฝ้ารักษา เขาเหล่านั้นไว้ในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศ เว้น แต่ผู้ที่ต้องพินาศ เพื่อให้เป็นจริงตามพระคัมภีร์ แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำ�ลังกลับไปเฝ้า พระองค์ ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ ข้าพเจ้า จะมีความยินดีบริบูรณ์พร้อมกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามอบพระวาจาของพระองค์ ให้เขาเหล่านั้นแล้ว และโลกเกลียดชังเขา เพราะเขาไม่เป็นของโลก เช่นเดียวกับที่ ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก ข้าพเจ้าไม่ได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลก แต่ วอนขอให้ทรงรักษาเขาให้พน้ จากมารร้าย เขาไม่เป็นของโลกเช่นเดียวกับทีข่ า้ พเจ้าไม่ เป็นของโลก โปรดบันดาลให้เขาศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยความจริง พระวาจาของพระองค์ คือ ความจริง พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใด ข้าพเจ้าก็สง่ เขาเข้าไปในโลกฉัน นั้น ข้าพเจ้าถวายตนเป็นบูชาสำ�หรับเขา เพื่อเขาจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ด้วย

4

อธิบายพระวาจา - ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เราสามารถดำ�รงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข โดยอาศัยพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เพราะพระองค์ซงึ่ อยูใ่ นปังศักดิส์ ทิ ธิน์ จี้ ะเฝ้ารักษา เราให้พน้ จากความพินาศ กลับเป็นผูศ้ กั ดิส์ ทิ ธิเ์ ปีย่ มด้วยความยินดีบริบรู ณ์ในพระเจ้า ยิ่งเราใกล้ชิดผูกพันกับพระเจ้า รับพระกายของพระองค์ในทุกมิสซาหรือทุกวัน เราก็ ไม่ต้องกลัวความเลวร้าย ที่มีอยู่ทั้งภายนอกและภายในชีวิตของเราอีก สิ่งสำ�คัญที่เรา ควรกลัวคือ การไม่มีองค์พระเยซูเจ้าประทับอยู่ในชีวิตของเรา เพราะศีลมหาสนิทคือ บ่อเกิดแห่งชีวิตมนุษย์ซึ่งทำ�ให้เรามี “ชีวิตพระ” เปลี่ยนความเลวร้ายให้กลับกลาย เป็นความยินดีในชีวิต

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - การรับศีลมหาสนิทเป็นการรับพระเยซูเจ้าทั้งครบ ดังนั้นพร้อมกับพระองค์ เราจึงสามารถภาวนาต่อพระบิดา สามารถทำ�ตามพระประสงค์ของพระเจ้าและรักผูอ้ นื่

หนังสือพระคัมภีร์


57

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ง่ายขึน้ การเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ พนมมือรอรับศีลมหาสนิทไปยังพระแท่นศักดิส์ ทิ ธิ์ เป็นการแสดงความเคารพและรอคอยให้พระเยซูเจ้าเสด็จมาในชีวิตจิตใจของเราเอง เรารั บ พระกายและพระโลหิ ต เพื่ อ เป็ น การประกาศว่ า เราต้ อ งการเป็ น เหมื อ น พระเยซูเจ้า ต้องการติดตามพระองค์กลับไปหาพระบิดาเจ้าพร้อมกับเพื่อนพี่น้องใน พระศาสนจักร ฉะนั้นการรับศีลมหาสนิทจึงเป็นการตอบรับเสียงเรียกของพระเยซูเจ้า ผู้ประทับในศีลมหาสนิทนั่นเอง 6 หาข้อปฏิบัติ เมื่อเรารับพระเยซูเจ้าเข้ามาประทับในจิตใจแล้วเราต้องมีสติและรู้ตัวเสมอว่า เราต้องสร้างความสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ในศีลมหาสนิท 7 ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้เป็นปังทรงชีวิต พระองค์ประทานชีวิตใหม่ให้แก่ลูกโดยผ่าน ทางศีลมหาสนิท ขอพระองค์ดลใจให้ลูกได้พบพระองค์ในตัวของลูก และพบพระองค์ ในเพื่อนๆ ของลูกด้วยเถิด - ร้องบทสร้อย “จงขอบพระคุณพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์พระทัยดี ความรัก มั่นคงของพระองค์ ดำ�รงนิจนิรันดร์” 8 การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจในการเรียน 9 บันทึกผลหลังการสอน .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................


58

บุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) พระสันตะปะปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ทรงประกาศเป็นทางการ “บันทึกนามมรณสักขีไทยทั้ง 7 ท่านเข้าทำ�เนียบบุญราศี” พระศาสนจักรแห่งประเทศไทย ก็ได้จัดสมโภชอย่าง มโหฬาร ระหว่างวันที่ 6-10 ธันวาคม พ.ศ. 2532 โอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระมหากรุณาโปรด เกล้าฯ ให้ ฯพณฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปเปิดงานด้วย

มูลเหตุแห่งการเบียดเบียน

กันยายน 1939/2482 สงครามโลก ครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้น ระหว่าง ฝ่ายอักษะ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น กับ ฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ต่อมา ค.ศ. 1940 เกิดกรณีพพิ าทเรือ่ งดินแดนระหว่าง ไทย กับ อินโดจีนซึง่ อยูใ่ นความอารักขาของฝรัง่ เศส ทำ�ให้บรรยากาศทางการเมืองตึงเครียด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 20.00 น. วิทยุกระจายเสียงกรมโฆษณา การได้ประกาศให้ชาวฝรั่งเศสทุกคนออกนอกพระราชอาณาจักร ภายในเวลา 48 ชั่วโมง คริสตศาสนาถูกกล่าวหา ว่าเป็นศาสนาฝรั่งเศส บรรยากาศแห่งการเบียดเบียนก่อตัวขึ้นในเวลานั้นเอง หมู่บ้านสองคอน จังหวัดมุกดาหาร ก็ถูกบีบบังคับให้ละทิ้งศาสนา เป็นมูลเหตุให้ ครูสีฟอง และสตรี 6 คน ซึ่งมีซิสเตอร์ 2 คนรวมอยู่ด้วย ได้หลั่งเลือดทาผืนแผ่นดินไทย เพื่อประกาศยืนยันความเชื่อคาทอลิก เมื่อบ่ายวันที่ 26 ธันวาคม 1940 ประวัติของมรณสักขีทั้งเจ็ด มรณสักขีองค์แรก 1. ครูฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ มีชื่อเต็มว่า ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ เกิดวันที่ 30 กันยายน 1907 ที่วัดนักบุญอันนา หนองแสง จังหวัด นครพนม เมื่อเติบโตขึ้น สีฟองเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดหนองแสง และเคยไปเรียนต่อที่บ้านเณรพระหฤทัยบางช้าง จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านมาถึงสองคอนประมาณปี 1926 นอกจากจะสอนเรียนแล้ว ท่านยังสอนให้ชาวบ้านรู้จัก ตัดเย็บเสื้อผ้า ช่วยดูแลวัด ตลอดจนสอนคำ�สอน วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1940 / พ.ศ. 2483 ตำ�รวจชื่อหน่อ จากอำ�เภอมุกดาหารได้มาพบตำ�รวจลือที่บ้าน สองคอน จากนั้นทั้งสองได้ไปพบครูสีฟอง และมอบจดหมายที่ตนได้ปลอมเป็นนายอำ�เภอให้ครูสีฟองไปพบด้วย ครูสฟี องออกเดินทางจากบ้านสองคอนประมาณบ่ายสามโมงโดยขีจ่ กั รยานไปพร้อมกับตำ�รวจสองนายนี้ คืนนัน้ ครู สีฟองพักทีบ่ า้ นหว้านใหญ่ รุง่ ขึน้ (16 ธ.ค.) ตำ�รวจให้ครูสฟี องฝากจักรยานไว้กบั นายดำ� ชาวบ้านสองคอนทีบ่ งั เอิญ มาที่บ้านหว้านใหญ่ ทั้งสามคนเดินทางต่อไปที่บ้านพาลุกา (ห่างจากบ้านสองคอนประมาณ 15-16 กม.) ในเวลา เย็น เมื่อใกล้ค่ำ�วันนั้นเอง ขณะกำ�ลังข้ามห้วยตุ้มนก ตำ�รวจลือได้ยิงครูสีฟอง ชาวบ้านเล่าว่าครูสีฟองถูกยิง 2 นัด นัดหนึ่งถูกใต้อกขวา ไม่ตายทันที ตำ�รวจลือได้ยิงซ้ำ�อีก 1 นัด ถูกตรงหัวใจ และใช้พานท้ายปืนทุบศีรษะซ้ำ�อีกที ครูสีฟองขาดใจตายทันที


59

2. ซิสเตอร์ อักแนส (1909 – 1940)

เดิมชื่อ มาร์การิตา พิลา (สุภีร์) ทิพสุข เป็นบุตรสาวของ โยอากิม สอน และ อันนา จูม เกิดที่บ้าน นาฮี เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 6, 1909 ได้อพยพครอบครัวมาอยู่ที่บ้านเวียงคุก ซึ่งเป็นหมู่บ้านคริสตังในเขตจังหวัด หนองคาย หลังจากรับศีลล้างบาปได้ไม่นาน คุณพ่อ อันตน หมุน ได้มองเห็นแววชีวติ นักบวชของพิลา จึงได้ออกปาก ให้เข้าอารามที่เชียงหวาง, 16 พฤศจิกายน 1928 ท่านได้ปฏิญาณตนเป็นข้ารับใช้ของพระเจ้า ได้ชื่อว่า “ซิสเตอร์ อักแนส พิลา” ท่านได้รับมอบหมายให้มาทำ�งานที่สองคอนในปี 1932 3. ซิสเตอร์ ลูซีอา (1917 – 1940) เดิมชื่อ ลูซีอา คำ�บาง เป็นบุตรสาวของ ยากอบ ดำ� และ มักดาเลนา สี เกิดที่บ้านเวียงคุก ได้เข้าอารามที่ เชียงหวาง และถวายตัวเป็นซิสเตอร์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1937 ได้รับชื่อว่า “ซิสเตอร์ ลูซีอา คำ�บาง” หลังจากได้ ถวายตัวแล้วก็ได้ไปประจำ�ที่บ้านสองคอนในปี 1938

4. อากาทา พุดทา 5. น.ส. เซซีลีอา บุดสี ว่องไว

6. น.ส. บีบีอานา คำ�ไพ ว่องไว 7. ด.ญ. มารีอา พร ว่องไว

มรณสักขีองค์ที่ 2-7 ตำ�รวจลือให้ผู้ใหญ่บ้านไปตามซิสเตอร์ไปพบที่วัด เมื่อพบกันแล้วได้ถามซิสเตอร์ว่า “ได้ทิ้งพระเจ้า ทิ้งศาสนาหรือยัง” ซิสเตอร์ทั้งสองตอบว่า “ไม่มีวัน จะไม่มีวันทิ้งพระเจ้าโดยเด็ดขาด” ตำ�รวจลือจึงว่า “เมื่อไม่ทิ้ง พระเจ้า ไม่กลัวตาย ให้ทุกคนไปที่แม่น้ำ�โขงเดี๋ยวนี้ จะจัดการ” ซิสเตอร์อักแนส แย้งว่า “จะไม่ไปที่แม่น้ำ�โขง ถ้า จะฆ่าเรา ขอให้ไปฆ่าที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ (ป่าช้าของวัด)” ขณะทีเ่ ดินมุง่ หน้าไปยังป่าศักดิส์ ทิ ธิ์ ระยะทางประมาณ 300-400 เมตร ทุกคนเดินไปพร้อมกับสวดภาวนา และร้องเพลงไปด้วย ในเวลานั้นมีอีก 2 คนได้ร่วมอยู่ในคณะผู้ยอมพลีชีพเพื่อพระเจ้า คือ นางสาวเซซีลีอา สุวรรณ และ เด็กหญิงเซซีลีอา สอน ว่องไว ซึ่งบิดาของนางสาวเซซีลีอา สุวรรณ ได้มาตามกลับและบอกว่ายังไม่ถึงเวลาไป ตาย ส่วนเด็กหญิงเซซีลีอา สอน ว่องไว นั้นไม่ถูกกระสุนปืนในครั้งนั้นเลยแม้แต่นัดเดียว ทุกคนนัง่ คุกเข่าเรียงกันไปตามลำ�ดับ โดยเด็กหญิงเซซีลอี า สอน ว่องไว นัง่ ท้ายสุด แล้วสวดพร้อมกัน ตำ�รวจ ลือเริ่มยิงจากด้านหลังก่อน แต่ปืนไม่ลั่น จึงเปลี่ยนมายืนด้านหน้า แต่ปืนก็ยังไม่ลั่นอีก จึงเปลี่ยนเอาปืนตำ�รวจคำ� ศรีมายิง เสียงปืนลั่นขึ้น ประมาณ 20 นัด เข้าใจว่าทุกคนตายหมดแล้วจึงพากันกลับที่พัก นายสาลี เข้าไปดูเห็นว่าทุกคนถูกกระสุนปืนหมด ยกเว้นเด็กหญิงเซซีลีอา สอน ว่องไว จึงได้ขุดหลุมฝัง 3 หลุมๆ ละ 2 ศพ


60

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ความหมายของศีลอภัยบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายและความสำ�คัญของ ศีลอภัยบาป - ด้ า นพฤติ ก รรม/ข้ อ ปฏิ บั ติ : ให้ ผู้ เรี ย นกล้ า ที่ จ ะรั บ ศี ล อภั ย บาป แสดงความเป็ น ทุ ก ข์ ก ลั บ ใจและ สารภาพบาปต่อพระเจ้า สาระการเรียนรู ้ ศีลอภัยบาปเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ชำ�ระบาปที่ทำ�หลังจากได้รับศีลล้างบาปแล้ว พระสงฆ์เป็นผู้รับมอบอำ�นาจจากพระเยซู เจ้าเพือ่ ยกบาปแก่ผทู้ มี่ าสารภาพและเป็นทุกข์ถงึ บาปของตน ผูท้ จี่ ะรับศีลอภัยบาปต้องสวดภาวนาขอความสว่างจากพระจิตใน การพิจารณาบาปและเป็นทุกข์ถึงบาป แล้วสารภาพบาปกับพระสงฆ์ จากนั้นต้องทำ�กิจใช้โทษบาปให้ครบถ้วน พระเยซูเจ้าทรงตัง้ ศีลอภัยบาปเพือ่ ช่วยเหลือคริสตชนให้กลับมาคืนดีกบั พระเจ้าอีกครัง้ หนึง่ และพระองค์ยงั เรียกร้อง ให้เรากลับไปคืนดีกับพี่น้องด้วย โดยการยกโทษให้แก่กันและกันเหมือนกับที่พระเจ้าทรงยกโทษให้แก่เรา ที่

ศีลอภัยบาป เป็นศีลแห่งการเป็นทุกข์กลับใจมาหาพระเจ้า และเป็นศีลแห่งการคืนดีกับพระเจ้าและพี่น้อง กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา “บทแสดงความเชื่อ” - ครูให้ผู้เรียนนั่งเงียบๆ สักครู่หนึ่ง และให้ผู้เรียนไตร่ตรองถึงความบกพร่องต่อ หน้าที่ มีอะไรบ้าง

- เมื่อพิจารณาแล้วให้ผู้เรียนเขียนสิ่งที่ตนได้ทำ�ลงในสมุดของตน - ให้ผู้เรียนที่อาจมีข้อบาดหมางกันได้ขอโทษซึ่งกันและกัน คืนดีกันก่อนเรียน เพื่อโน้มนำ�จิตใจผู้เรียนให้สำ�นึกถึงความผิดของตน 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ให้ตัวแทนอ่านจากเอกสารประกอบ เรื่องศีลอภัยบาป - ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของศีลอภัยบาป ศีลอภัยบาป - พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาปเพื่อแสดงถึงอำ�นาจในการยกบาปของพระองค์ และทรงมอบอำ�นาจนีแ้ ก่สาวกหลังจากได้กลับคืนพระชนม์ชพี แล้ว พระศาสนจักรจึงใช้ อำ�นาจที่ได้รับจากพระเยซูเจ้าในศีลอภัยบาป - การทุกข์เสียใจเป็นการเปลี่ยนทางใหม่ตลอดชีวิตอย่างสิ้นเชิง เป็นการกลับใจ มาหาพระเจ้าอย่างหมดใจ เป็นการเลิกทำ�บาป หลีกหนีความชัว่ การเป็นทุกข์เสียใจนัน้

บทแสดงความเชื่อ

สมุด/ดินสอ

ใบความรู้ เรื่องศีลอภัยบาป

ใบความรู้ เรื่องศีลอภัยบาป


61

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ก่อให้เกิดความต้องการและความตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิต ด้วยความหวังในพระเมตตา กรุณาของพระเจ้า และความวางใจในความช่วยเหลือของพระหรรษทานของพระองค์ - ผลของการรับศีลอภัยบาปคือทำ�ให้ผู้รับได้กลับคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ได้รับศักดิ์ศรีและพระพรของชีวิตในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้า 3

พระวาจา (มธ 9:1-8) พระเยซู เจ้ า เสด็ จ ลงเรื อ ข้ า มฝั่ ง มายั ง เมื อ งของพระองค์ ทั น ใดนั้ น มี ผู้ ห าม คนอัมพาตคนหนึ่งนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นความเชื่อของ เขา จึงตรัสแก่คนอัมพาตว่า “ทำ�ใจดีๆ ไว้เถิดลูกเอ๋ย บาปของท่านได้รบั การอภัยแล้ว” ธรรมาจารย์บางคนคิดในใจว่า “คนนี้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า” พระเยซูเจ้าทรงทราบ ความคิดของเขาจึงตรัสว่า “ท่านคิดร้ายในใจทำ�ไม อย่างไหนง่ายกว่ากัน การบอกว่า ‘บาปของท่านได้รบั การอภัยแล้ว’ หรือบอกว่า ‘ลุกขึน้ เดินไปเถิด’ แต่เพือ่ ให้ทา่ นทราบ ว่า บุตรแห่งมนุษย์มีอำ�นาจอภัยบาปได้บนแผ่นดินนี้” พระองค์จึงทรงตรัสสั่งคน อัมพาตว่า “จงลุกขึ้น แบกแคร่ กลับบ้านเถิด” เขาก็ลุกขึ้นกลับไปบ้าน เมื่อประชาชน เห็นดังนั้น ต่างมีความกลัว ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ผู้ประทานอำ�นาจเช่นนี้ให้แก่ มนุษย์

4

อธิบายพระวาจา - พระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือข้ามฝั่งมายังเมืองของพระองค์คือคาเปอร์นาอุม - “ทำ�ใจดีๆ ไว้เถิดลูกเอ๋ย บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว” หมายถึงพระเยซูเจ้า ทรงมีเจตนารักษาโรคฝ่ายจิตเป็นอันดับแรก แต่พระวาจาของพระองค์ก็มีคำ�สัญญาที่ จะรักษาโรคฝ่ายกายด้วย - “บุตรแห่งมนุษย์มีอำ�นาจอภัยบาปได้บนแผ่นดินนี้” และ “ประทานอำ�นาจ เช่ น นี้ ใ ห้ แ ก่ ม นุ ษ ย์ ” หมายถึ ง พระองค์ เ ป็ น พระเจ้ า มี อำ � นาจยกบาปแก่ ม นุ ษ ย์ ทุกคน และพระองค์ได้มอบอำ�นาจนี้แก่สาวกหลังจากที่ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว ในปัจจุบันพระสงฆ์ผู้แทนพระองค์ได้สืบทอดอำ�นาจนี้ทางศีลอภัยบาป

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ให้เรามีความเชื่อและวางใจในพระเจ้า วอนขอพระเมตตาจากพระองค์ สำ�นึก ถึงบาปที่ได้ทำ�และสารภาพบาปต่อพระเจ้าจากหัวใจของเรา - เมื่อพิจารณาบาปให้เราพิจารณาดังต่อไปนี้ 1. ทางความคิด เช่น จองหอง, อิจฉา, โมโห ฯลฯ 2. ทางความปรารถนา เช่น ปลงใจในความอุลามก, มักได้ทรัพย์ของเขา ฯลฯ 3. ทางวาจา เช่น เอ่ยนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ, ใส่ความนินทา ฯลฯ 4. ทางการกระทำ� เช่น นับถือสิ่งอื่นแทนพระเจ้า, ไม่นับถือบิดามารดา, ฆ่าคน, ทำ�อุลามก, ลักขโมย, โลภอาหาร, ตระหนี่กับพี่น้อง ฯลฯ 5. ทางการละเลย เช่น ไม่ไปวัดในวันของพระเจ้าโดยเจตนา, เกียจคร้านใน หน้าที่, เพิกเฉยต่อความต้องการของผู้อื่น ฯลฯ

พระคัมภีร์


62

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

6

หาข้อปฏิบัติ - ก่อนเข้ารับศีลอภัยบาปให้ผเู้ รียนพิจารณาบาปโดยละเอียด เป็นทุกข์เสียใจอย่าง แท้จริง

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- เมื่อรับศีลอภัยบาปแล้วให้ทำ�กิจใช้โทษบาปตามที่พระสงฆ์กำ�หนด 7

ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเป็นเจ้า ขอทรงพระกรุณาโปรดช่วยข้าพเจ้าให้ได้รับศีลอภัยบาปโดย ดี ข้าแต่พระจิตเจ้า ขอทรงพระกรุณาโปรดช่วยข้าพเจ้าให้ระลึกได้โดยถี่ถ้วน ซึ่งบาปที่ ได้กระทำ� โปรดให้ขา้ พเจ้ามีความทุกข์ตรอมใจจริงจากบาปนัน้ ขอให้ขา้ พเจ้าทำ�ใจให้ มั่นคงได้จริงๆ ว่า จะไม่ทำ�บาปอีกต่อไปเลย ข้าแต่พระเยซูเจ้าที่น่ารัก ข้าพเจ้าได้ทำ� ผิดต่อพระองค์ไปแล้วและได้เนรคุณพระองค์ แต่ข้าพเจ้าเข้ามาขอขมาและขอพระองค์ ยกโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าแต่พระนางมารีอาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดภาวนาอุทิศแก่ ข้าพเจ้าคนบาปนี้ให้ได้รับศีลอภัยบาปอย่างดี - (ภาวนาบทแสดงความทุกข์)

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจในการเรียน

บทภาวนาขอให้รับศีล อภัยบาปโดยดี

บทภาวนาแสดงความทุกข์

สมุดบันทึกการรับศีล

- ประเมินผลจากพฤติกรรมผู้เรียนเรื่องการเข้ารับศีลอภัยบาป 9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................


63

ศีลอภัยบาป ศีลอภัยบาปเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ชำ�ระบาปที่ทำ�หลังจากได้รับศีลล้างบาปแล้ว พระเยซูเจ้าได้พิสูจน์ว่าพระองค์ มีอ�ำ นาจยกบาปได้จริง ในการทำ�อัศจรรย์รกั ษาคนง่อย (มธ 9:1-8) มีพระสงฆ์เป็นผูร้ บั มอบอำ�นาจจากพระเยซูเจ้า เพื่อยกบาปแก่ผู้ที่มาสารภาพและเป็นทุกข์ถึงบาปของตน ศีลอภัยบาป เป็นศีลแห่งการเป็นทุกข์กลับใจมาหาพระเจ้า และเป็นศีลแห่งการคืนดีกับพระเจ้าและพี่น้อง พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาปเพื่อช่วยเหลือคริสตชนให้กลับมาคืนดีกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง และพระองค์ยัง เรียกร้องให้เรากลับไปคืนดีกับพี่น้องด้วย โดยการยกโทษให้แก่กันและกันเหมือนกับที่พระเจ้าทรงยกโทษให้แก่เรา ผูท้ จี่ ะรับศีลอภัยบาปต้องสวดภาวนาขอความสว่างจากพระจิตในการพิจารณาบาปและเป็นทุกข์ถงึ บาป แล้ว สารภาพบาปกับพระสงฆ์ จากนั้นต้องทำ�กิจใช้โทษบาปให้ครบถ้วน บาปทำ�ให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ขาดจากกัน โดยทางศีลอภัยบาปนีเ้ อง จึงเป็นหนทางเดียว ที่นำ�มนุษย์กลับคืนสู่ความรอดดังเดิม... ในพระคัมภีร์ตอนบทภาวนาแรกที่พระเยซูเจ้าทรงสอนให้บรรดาอัครสาวก ภาวนา มีข้อความหนึ่งกล่าวว่า “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น” (มธ 6:12) และ พระองค์ยงั ตรัสอีกว่า “เพราะถ้าท่านให้อภัยผูท้ �ำ ความผิด พระบิดาของท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ ก็จะประทานอภัยแก่ทา่ น ด้วย แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำ�ความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน” (มธ 6: 14-15) กิจกรรมในบทเรียน ให้นักเรียนฝึกการแก้บาป (สำ�หรับนักเรียนที่ไม่ค่อยได้แก้บาป) เพื่อกระตุ้นความเชื่อเรื่องการ “คืนดีกับ พระเจ้า” ขั้นตอนที่ 1 สวดภาวนาขอความสว่างจากพระจิตเจ้า ขั้นตอนที่ 2 พิจารณาบาป - สำ�รวจมโนธรรม หมายถึง ความคิด ความตั้งใจ ความปรารถนา ที่เอนเอียงไปทางบาป - พิจารณาความผิดบกพร่อง หมายถึง การกระทำ�ทั้งทางกายและวาจา รวมถึงการละเลยต่อหน้าที่ ขั้นตอนที่ 3 เป็นทุกข์ถึงบาป และกลับใจ - วอนขอพระเมตตาจากพระเจ้า ด้วยจิตใจที่สำ�นึกถึงบาป - พร้อมกับตั้งใจจะไม่ทำ�บาปอีก ขั้นตอนที่ 4 สารภาพบาป (กับพระสงฆ์) - เข้าไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ ในที่แก้บาป - ฟังพระสงฆ์ กล่าวสอน ตักเตือน และ บอกกิจใช้โทษบาป แล้วสวดบทแสดงความทุกข์ ขั้นตอนที่ 5 ใช้โทษบาป หรือชดเชยบาป - สวดภาวนาใช้โทษบาป ตามที่พระสงฆ์บอกไว้ในที่แก้บาปให้ครบทุกบท - การใช้โทษบาป ทำ�ได้ดว้ ยการภาวนา ถือศีลอดอาหาร และทำ�บุญให้ทานแก่คนยากจนหรือ ปรับปรุง พฤติกรรมที่ทำ�อยู่ให้ดีขึ้น และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนรอบข้าง เพื่อประกาศพระเยซูเจ้าในตัวเราให้ผู้อื่นได้รู้ และ หันมารับพระเยซูเจ้าไว้ในชีวิตของเขา


64

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง การพิจารณามโนธรรม

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : - ให้ผู้เรียนรู้จักการพิจารณาบาป และเข้าใจว่าสิ่งใดเป็นบาปและสิ่งใดเป็นความบกพร่อง - ให้ผู้เรียนเข้าใจถึงความสำ�คัญของ ศีลอภัยบาป หรือการคืนดีกับพระเจ้าและพี่น้อง - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ให้ผู้เรียนพิจารณาบาปอย่างดีทุกวันก่อนนอน สาระการเรียนรู ้ การพิจารณามโนธรรม คือ การสำ�รวจความคิด ความรู้สึก ความต้องการ หรือความปรารถนาของตน ที่ส่งผลให้เกิด การกระทำ�ขึ้นในทางที่เป็นบาป การพิจารณามโนธรรมนี้เรียกว่า การพิจารณาบาป เป็นการดีที่คริสตชนจะเตรียมตัวรับศีลอภัยบาปด้วยการพิจารณามโนธรรม โดยกระทำ�จากความเข้าใจในพระวาจา ของพระเจ้า ได้มกี ารยอมรับผิดชอบและเปิดตนเองสูพ่ ระเจ้า และการมีชวี ติ ร่วมกับพระศาสนจักรถึงขนาดมีจดุ หมายทีจ่ ะทำ�ให้ เปลี่ยนชีวิตใหม่ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - ให้ผู้เรียนนั่งเป็นวงกลม แจกกระดาษให้ผู้เรียนเขียนข้อบกพร่องของเพื่อน ที่อยู่ด้านขวามือ 1 ข้อ แล้วพับให้คุณครูใส่กล่องซึ่งเขียนว่า “ข้อบกพร่องจ้า” - ครูแจกกระดาษให้ผู้เรียนอีกครั้ง เขียนข้อดีของเพื่อนที่อยู่ด้านขวามือ 1 ข้อ แล้วพับให้คุณครูใส่กล่องซึ่งเขียนว่า “ข้อดีนะจ๊ะ” - ครูผู้สอนนำ�ข้อความมาอ่านให้ผู้เรียนฟังทีละกล่อง แล้วเขียนข้อดีและข้อ บกพร่องให้ผู้เรียนเห็นบนกระดาน แล้วสรุปให้ผู้เรียนเห็นว่า มนุษย์ทุกคนมีทั้งข้อดี และข้อบกพร่องปะปนกันไป แต่คนเรามักจะเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นมากกว่าของ ตนเอง 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) การพิจารณามโนธรรม หรือ การพิจารณาบาป ดูได้จากการดำ�เนินชีวิต สอดคล้องกับบัญญัติ 10 ประการ บัญญัติพระศาสนจักร และบาปต้น 7 ประการหรือ ไม่ พิจารณาความรักที่มีต่อพระเจ้า - ขาดความเคารพต่อพระเจ้า เช่น ไม่สำ�รวมตัวเมื่ออยู่ในวัด พูดคุยในระหว่าง พิธีกรรม วอกแวกเมื่อสวดภาวนา นอนหลับในวัด ฯลฯ

กระดาษ ☆ ปากกา ☆ กล่องกระดาษ 2 กล่อง ☆


65

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- ปฏิเสธพระเจ้า เช่น ไม่สวดภาวนา ไม่ไปวัด ไม่รับศีลศักดิ์สิทธิ์ (ศีลอภัยบาป และศีลมหาสนิท) หนีเรียนคำ�สอน ฯลฯ พิจารณาความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ - ต่อผู้ใหญ่ เช่น ไม่นบนอบเชื่อฟัง ดื้อ ขาดความเคารพ พูดปด ฯลฯ - ต่อเพื่อนพี่น้อง เช่น ทะเลาะวิวาท รังแกกัน ลักขโมย อิจฉา ใส่ความนินทา ว่าร้ายต่อกัน โมโหโทโส พูดจาไม่สุภาพ หยาบคาย - ต่อผู้อื่น ไม่ซื่อสัตย์ในการทำ�หน้าที่ ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ทำ�การบ้าน หนีเรียน เกียจคร้าน โลภอาหาร ตระหนี่ถี่เหนียว ฯลฯ 3

พระวาจา งานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า (1คร 11:26-34) “ทุกครั้งที่ท่านกินปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการสิ้นพระชนม์ของ องค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา ดังนั้นผู้ใดที่กินปังหรือดื่มจากถ้วยของ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าอย่างไม่สมควร ก็ผดิ ต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้า แต่ละคนจงพิจารณาตนเอง แล้วจึงกินปังและดื่มจากถ้วย เพราะผู้ใดที่กิน และดืม่ โดยไม่รบั รูพ้ ระกาย ก็กนิ และดืม่ การตัดสินลงโทษตนเอง เพราะเหตุนี้ ในหมู่ ท่านทั้งหลายจึงมีหลายคนอ่อนแอ เจ็บป่วย และบางคนก็ตายไปแล้ว ถ้าเราได้ พิจารณาตนอย่างละเอียด เราจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ แต่เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรง ตัดสินลงโทษเรา พระองค์ทรงทำ�เช่นนี้เป็นการตักเตือนแก้ไข เพื่อมิให้เราถูกลงโทษ พร้อมกับโลกนี้” “ดังนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมือ่ ท่านมาชุมนุมกันเพื่อกินเลี้ยง จงคอยกัน ถ้าผู้ใด หิวก็จงกินที่บ้าน เพื่อพระเจ้าจะได้ไม่ต้องลงโทษท่านเมื่อมาชุมนุมกัน” ชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า (อฟ 4:22-24, 5:1,8-9) “ท่านจงถอดสภาพมนุษย์เก่า เลิกประพฤติเลวทรามตามราคะตัณหาที่หลอก ให้หลงไป จงมีจิตใจและความรู้สึกนึกคิดอย่างใหม่ จงสวมใส่สภาพมนุษย์ใหม่ซึ่ง พระเจ้าทรงเนรมิตให้เหมือนพระองค์ มีความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจาก ความจริง” “ท่ า นทั้ ง หลายจงทำ � ตามแบบฉบั บ ของพระเจ้ า ประดุ จ บุ ต รสุ ด ที่ รั ก ของ พระองค์” “ในอดีตท่านเคยเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำ�เนินชีวติ เช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด ผลแห่งความสว่างคือ ความดี ความชอบธรรม และความจริงทุกประการ” “ถ้ า ท่ า นทั้ ง หลายรั ก เรา ท่ า นจะปฏิ บั ติ ต ามบทบั ญ ญั ติ ข องเรา” (ยน 14 :15) “การกระทำ�ที่ดีย่อมปรากฏให้เห็นได้ชัด การกระทำ�ที่ไม่ดีก็ไม่อาจ

หนังสือพระคัมภีร์


66

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ปิดซ่อนไว้ได้เช่นเดียวกัน” (1ทธ 5:25) 4

อธิบายพระวาจา - ผู้ที่ทำ�ผิดควรพิจารณาและแก้ไขตนเองโดยเฉพาะในโอกาสร่วมรับพระกายและ พระโลหิตของพระคริสตเจ้าในศีลมหาสนิท พึงระวังการรับศีลมหาสนิทอย่างไม่สมควร (ทุราจารศีล) - ในอดีตชีวิตเราตกอยู่ในบาป เมื่อรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตแล้ว ให้เรามีจิตใจ และความนึกคิดอย่างใหม่ มีชีวิตใหม่ในพระองค์ ดำ �เนินชีวิตตามแบบฉบับของ พระเยซูเจ้า สมกับที่ได้ชื่อว่า “บุตรพระเจ้า” - ผู้ที่รักพระเจ้า ย่อมปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ และมีความรักต่อเพื่อน พี่น้องโดยแสดงออกทางการกระทำ�ที่มองเห็นได้

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ให้เราประกาศตนเป็นคริสตชนแท้จริงโดยปฏิบัติตามพระบัญญัติพระเจ้า มี ความรักต่อพระเจ้าและพี่น้องตามแบบที่พระองค์สอนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ให้รัก พระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ และรักพี่น้องเหมือนรักตนเอง” - ให้เราสำ�นึกถึงบาปทีไ่ ด้ทำ�ต่อพระเจ้าและพีน่ อ้ ง และเป็นทุกข์กลับใจจากภายใน อย่างแท้จริง การกลับใจจากภายในก่อให้เกิดความต้องการและความตัง้ ใจทีจ่ ะเปลีย่ น ชีวิตใหม่และผลักดันให้แสดงเครื่องหมายที่แลเห็นได้จากการทำ�กิจใช้โทษบาป

6

หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนพิจารณาบาปทุกวันในเวลาสวดก่อนนอน และเตือนตนให้คิดถึงบาปที่ ได้ทำ�ในวันนั้นด้วยใจเป็นทุกข์ และตั้งใจจะรับศีลอภัยบาปโดยเร็ว เพื่อช่วยให้ชีวิตได้ อยู่ในศีลและพระพรของเจ้าเสมอ

7

ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเยซูเจ้า ขอให้ลูกรักพระองค์สุดหัวใจ จะได้ปฏิบัติตามคำ�สอนของ พระองค์ หลีกเลี่ยงการทำ�บาปซึ่งทำ�ให้พระเจ้าเสียพระทัย - ภาวนาบทแสดงความทุกข์

ภาวนาบทแสดงความทุกข์

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความตั้งใจของผู้เรียน - ประเมินผลจากการรับศีลอภัยบาป และรับศีลมหาสนิท บ่อยขึ้นหรือไม่

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................


67

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง การเสียใจ สำ�นึกผิด และการเป็นทุกข์ถึงบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้และเข้าใจความหมายของการเสียใจ สำ�นึกผิด และการเป็นทุกข์ถึงบาป เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงการทำ�บาป - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนหมั่นแก้บาปรับศีลทุกอาทิตย์ ด้วยการเตรียมตัวอย่างดี สาระการเรียนรู ้ การเสียใจ สำ�นึกผิด และการเป็นทุกข์ถงึ บาปเป็นการกลับใจมาหาพระเจ้าอย่างหมดหัวใจ ในขณะเดียวกัน การเป็นทุกข์เสียใจก่อให้เกิดความต้องการและความตัง้ ใจทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงชีวติ เลิกทำ�บาป หนีความชัว่ เป็นปฏิปกั ษ์ตอ่ กิจการ ชั่วร้ายที่เราได้กระทำ�ด้วยความหวังในพระเมตตากรุณาของพระเจ้า ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย / สวดภาวนา / ทบทวน - ยกตัวอย่างให้นักเรียนตัดสินว่า ดี หรือ ไม่ดี 1. เด็กชายสมชาย แม่ใช้ให้ดูน้อง กลับปล่อยน้องไว้แล้วไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ น้องหกล้มร้องไห้ แม่จึงดุเอา แต่เด็กชายสมชายกลับหัวเราะวิ่งหนีไป 2. เด็กหญิงมานี เล่นกับพี่ๆ น้องๆ ในบ้าน เผอิญวิ่งไปชนตู้กระจกแตก เมื่อแม่กลับมา เด็กหญิงมานีบอกแม่ว่า “คุณแม่คะ หนูวิ่งชนตู้กระจกแตก หนูเสียใจ และขอโทษค่ะคุณแม่” 3. เด็กชายทรงพล รังแกน้อง แย่งของเล่นน้องไป เมื่อพ่อสั่งให้เอาของเล่นไป คืนน้อง เด็กชายทรงพลก็จำ�ใจคืนให้ แล้วบอกกับน้องว่า “ทีหลังไม่ต้องมาเล่นกับพี่” 4. เด็กหญิงเฟื่องฟ้า ยืมปากกาของเด็กหญิงดอกไม้ไป แล้วทำ�หล่น เด็กหญิง เฟื่องฟ้าพูดกับเด็กหญิงดอกไม้ว่า “ฉันทำ�ปากกาของเธอหักเสียแล้ว ขอโทษนะ ฉันจะ ซื้ออันใหม่มาให้” - ครูเล่าประวัติคนสำ�คัญบางคนที่แสดงความเสียใจขอโทษเมื่อทำ�ผิด เช่น นักบุญดอมินิก ซาวีโอ เมื่อเล็กๆ ทำ�ขวดน้ำ�มันแตก จึงเตรียมไม้เรียวไว้ พอแม่กลับมา ก็เข้าไปหากล่าวว่า “คุณแม่ครับ ผมทำ�ขวดน้ำ�มันแตก ผมเสียใจจริงๆ ผมขอโทษ ขอคุณแม่ลงโทษผมเถอะครับ” ว่าแล้วก็ยื่นไม้เรียวให้แม่ตี แม่สงสารจึงยกโทษให้ 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ผู้สอนถามนักเรียนว่า ถ้าเขาเป็นพ่อแม่ของเด็ก 4 คน เขาจะทำ�อย่างไรกับ ลูกๆ - นักเรียนรู้สึกอย่างไรต่อเรื่องราวของนักบุญดอมินิก ซาวีโอ

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


68

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

สรุป คนเราย่อมผิดผลาดได้ แต่เมื่อผิดผลาดแล้วรู้จักเสียใจขอโทษ ก็จะได้รับ การอภัย 3

พระวาจา ชาวฟาริสีคนหนึ่งทูลเชิญพระเยซูเจ้าไปเสวยพระกระยาหารกับเขา พระองค์ เสด็จเข้าไปในบ้านของชาวฟาริสีนั้นและประทับที่โต๊ะ ในเมืองนั้นมีหญิงคนหนึ่งเป็น คนบาป เมื่อนางรู้ว่า พระเยซูเจ้ากำ�ลังประทับร่วมโต๊ะอยู่ในบ้านของชาวฟาริสีผู้นั้น จึงถือขวดหินขาวบรรจุน้ำ�มันหอมเข้ามาด้วย นางมาอยู่ด้านหลังของพระองค์ใกล้ๆ พระบาท ร้องไห้จนน้ำ�ตาหยดลงเปียกพระบาท นางใช้ผมเช็ดพระบาท จูบพระบาท และใช้น้ำ�หอมชโลมพระบาทนั้น ชาวฟาริสีที่ทูลเชิญพระองค์มาเห็นดังนี้ก็คิดในใจว่า “ถ้ า ผู้ นี้ เ ป็ น ประกาศกเขาคงรู้ ว่ า หญิ ง ที่ กำ �ลังแตะต้อ งเขาอยู่นี้เ ป็นใคร และเป็น คนประเภทไหน นางเป็นคนบาป” แล้วพระองค์ตรัสกับนางว่า “บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว” บรรดาผู้ร่วมโต๊ะ จึงเริม่ พูดกันว่า “คนนีเ้ ป็นใคร จึงทำ�ได้แม้แต่การอภัยบาป” พระองค์ตรัสกับหญิงนัน้ ว่า “ความเชื่อของเจ้าช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุขเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสแก่ หญิงนั้นว่า “เธอได้รับการยกโทษบาปแล้ว” (ลก.7;36-39, 48, 50)

4

อธิบายพระวาจา - เรื่องเล่านี้ เป็นคนละเรื่องกับการเจิมที่หมู่บ้านเบธานี และไม่ได้เป็นเรื่องของ นักบุญมารีย์ ชาวมักดาลา การกระทำ�ของหญิงคนบาปแสดงให้เห็นว่า ความรักทีน่ าง มีต่อพระเยซูเจ้าทำ�ให้นางได้รับการอภัย และการอภัยก็ทำ�ให้นางรักพระองค์มาก ความรักของนางเกิดจากการตระหนักว่าพระเยซูเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือนางให้ รอดพ้นจากวิถีชีวิตอันขมขื่นได้ นางจึงนำ�สิ่งที่มีค่าที่สุดคือน้ำ�มันหอมชโลมพระบาท ของพระองค์ - การใช้ผมสยายยาวเช็ดพระบาทคือการยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นบุคคลที่ สำ�คัญทีส่ ดุ ในชีวติ พระองค์ทรงเป็นบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง และนางเสียใจ สำ�นึก ผิดว่าเป็นคนบาปซึ่ งต้องการพระเมตตาของพระเยซูเจ้า เพราะนางเห็นแล้วว่า พระเยซูมาเทศนาสัง่ สอน รักษาคนป่วยให้หาย ปลุกคนตายกลับคืนชีพ และการสยาย ผมของสตรีชาวยิว ถือว่าไม่สุภาพอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อหญิงชาวยิวแต่งงานแล้ว ก็จะ ไม่ปล่อยผมยาวในที่สาธารณะหรือต่อหน้าธารกำ�นัล พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็น ความรักที่นางมีต่อพระองค์ จึงอภัยบาปแก่นาง

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - เมื่อเราทำ�บาปผิดต่อพระเจ้า ต้องเสียใจ สำ�นึกผิด และเป็นทุกข์ถึงบาป เพื่อขอ พระองค์อภัยให้เรา ดังนั้น เราจึงควรเป็นทุกข์เสียใจเพราะบาปของเราบ่อยๆ หรือ ทุกครั้งที่เราพิจารณาบาป และตั้งใจที่จะไม่กลับไปทำ�บาปอีก

6

หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนหมั่นแก้บาปรับศีลเป็นประจำ� ด้วยการเตรียมตัวอย่างดี

หนังสือพระคัมภีร์


69

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

7

ภาวนาปิดท้าย - ขับร้อง “โปรดทรงพระเมตตาเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าทัง้ หลายได้ท�ำ บาป” แล้วภาวนาพร้อมกันว่า “พระบิดาเจ้าข้า พวกลูกสำ�นึกว่าตนเป็นคนบาป ขอพระองค์ ทรงอภัยบาปของพวกลูกด้วย พวกลูกตั้งใจจะไม่กระทำ�บาปอีก ขอพระองค์เปลี่ยน จิตใจของพวกลูกนี้ให้มีความคิด และดำ�เนินชีวิตเพราะเห็นแก่ความศักดิ์สิทธิ์และ ความรักเหมือนพระเยซู พระบุตรของพระองค์ด้วยเทอญ”

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

บทภาวนาสำ�หรับเด็ก

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตจากการฟัง - ความสนใจ

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................


70

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง วิธีรับศีลอภัยบาปและการสารภาพบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการรับศีลอภัยบาปและการสารภาพบาป - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ให้ผู้เรียนรับศีลอภัยบาปอย่างถูกต้อง สาระการเรียนรู้ การสารภาพบาปเป็นวิธีแห่งการคืนดีทั้งกับพระเจ้า พระศาสนจักร และต่อผู้อื่น การสารภาพบาปคือ ต้องสารภาพบาปหนักหรือบาปเบาทั้งหมด บอกจำ�นวนครั้ง และเล่าถึงสถานการณ์ที่จำ�เป็นด้วย เพื่อเขาเองจะได้รู้ว่าเมื่อทำ� ผิดต้องรับผิดชอบ เพื่อให้พระสงฆ์สามารถกำ�หนดกิจใช้โทษบาปได้อย่างเหมาะสมด้วย ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - ให้ผู้เรียนดูภาพบิดาผู้อารีของ แรมบาร์ต

- หลังจากดูภาพบิดาผู้อารีแล้วอธิบายให้ผู้เรียนฟัง 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - หัวใจของศีลอภัยบาปคือ การเป็นทุกข์เสียใจ ตั้งใจจะคืนดีกับพระเจ้า และ เพื่อนพี่น้องโดยการไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ ผู้เป็นคนกลางของพระเจ้าและ พระศาสนจักร ผูท้ จี่ ะรับศีลอภัยบาปจะบอกบาปทีต่ นเองได้ท�ำ พระสงฆ์จะอภัยบาปแก่ เราในนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต แม้เราจะไปสารภาพบาปแล้ว แต่ไม่เป็นทุกข์ เสียใจอย่างแท้จริง บาปนั้นก็ยังคงอยู่ และถือเป็นการทุราจารศีลอภัยบาป

ภาพ “บิดาผู้อารีของ แรมบาร์ต”

ภาพ “พระสงฆ์ฟังแก้บาป”

ฝึกเด็กเตรียมรับศีลอภัยบาป

ขั้นตอนของการรับศีลอภัยบาป * พิจารณาบาปตามบัญญัติ ตั้งแต่รับศีลอภัยบาปครั้งสุดท้าย เตรียมตัวด้วย การสวดภาวนา * เป็นทุกข์ถึงบาป เสียใจที่ได้ทำ�บาปเคืองพระทัยพระเจ้า พร้อมทั้งตั้งใจจะ ไม่กระทำ�บาปอีก * สารภาพบาปกับพระสงฆ์ พระสงฆ์ก็จะอภัยบาปให้ * ตั้งใจฟังกิจใช้โทษบาปที่พระสงฆ์กำ�หนด แล้วสวด “บทแสดงความทุกข์” ขณะนั้น พระสงฆ์กล่าวอภัยบาปว่า “ข้าพเจ้าอภัยบาปทั้งสิ้นของท่าน เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน” ผู้รับศีลอภัยบาปทำ�สำ�คัญมหากางเขน แล้วกลับไปทำ�กิจใช้โทษบาปตามที่พระสงฆ์กำ�หนด


71

ที่ 3

กระบวนการจัดการเรียนรู้ พระวาจา (ทบทวนพระวาจา จากแผนการสอนเรื่องพิจารณามโนธรรม) งานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า (1คร 11:26-34) “ทุกครั้งที่ท่านกินปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการสิ้นพระชนม์ของ องค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา ดังนั้นผู้ใดที่กินปังหรือดื่มจากถ้วยของ องค์พระผูเ้ ป็นเจ้าอย่างไม่สมควร ก็ผดิ ต่อพระกายและพระโลหิตขององค์พระผูเ้ ป็นเจ้า แต่ละคนจงพิจารณาตนเอง แล้วจึงกินปังและดื่มจากถ้วย เพราะผู้ใดที่กิน และดืม่ โดยไม่รบั รูพ้ ระกาย ก็กนิ และดืม่ การตัดสินลงโทษตนเอง เพราะเหตุนี้ ในหมู่ ท่านทั้งหลายจึงมีหลายคนอ่อนแอ เจ็บป่วย และบางคนก็ตายไปแล้ว ถ้าเราได้ พิจารณาตนอย่างละเอียด เราจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ แต่เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรง ตัดสินลงโทษเรา พระองค์ทรงทำ�เช่นนี้เป็นการตักเตือนแก้ไข เพื่อมิให้เราถูกลงโทษ พร้อมกับโลกนี้” “ดังนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อท่านมาชุมนุมกันเพื่อกินเลี้ยง จงคอยกัน ถ้าผู้ใด หิวก็จงกินที่บ้าน เพื่อพระเจ้าจะได้ไม่ต้องลงโทษท่านเมื่อมาชุมนุมกัน” ศักเคียส (ลก 19:8-9) ศักเคียสยืนขึ้นทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่ง ให้แก่คนจน และถ้าข้าพเจ้าโกงสิง่ ใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสีเ่ ท่า” พระเยซูเจ้า ตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสูบ่ า้ นนีแ้ ล้ว เพราะคนนีเ้ ป็นบุตรของอับราฮัมด้วย บุตร มนุษย์มาเพื่อแสวงหาและเพื่อช่วยผู้ที่เสียไปให้รอดพ้น” พระเยซูเจ้าเสวยพระกระยาหารร่วมกับคนบาปในบ้านของเลวี (ลก 5:31) พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “คนสบายดีย่อมไม่ต้องการหมอ แต่คนป่วยต้องการ เราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาปให้กลับใจ” บทภาวนาของพระเยซูเจ้า (มธ 6:12-13) “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้า ไม่ให้แพ้การประจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ”

4

อธิบายพระวาจา - ผู้ที่ทำ�ผิดควรพิจารณาและแก้ไขตนเองโดยเฉพาะในโอกาสร่วมรับพระกาย และพระโลหิตของพระคริสตเจ้าในศีลมหาสนิท ระวังการรับศีลมหาสนิทอย่างไม่ สมควรก่อให้เกิดบาปทุราจาร - ศักเคียสได้กระทำ�มากกว่าที่มีกำ�หนดไว้ตามกฏหมายยิวเรื่องการชดใช้สี่เท่า แต่เขารู้สึกรับผิดชอบและต้องชดใช้ความอยุติธรรมทุกอย่างที่ได้ทำ� พระเจ้าทรงเห็น ถึงจิตใจของเขาและอภัยบาปเขา - พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาเพื่อเรียกคนบาปให้กลับใจ ให้เรากลับใจสารภาพบาป ต่อพระองค์ - พระเจ้าทรงสอนให้เราอภัยความผิดแก่พี่น้องก่อนจึงวอนขออภัยจากพระเจ้า

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

หนังสือพระคัมภีร์


72

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ให้เราสำ�นึกถึงบาปที่ได้ทำ�และสารภาพบาปจากภายในจิตใจอย่างแท้จริงและ วอนขอพระเมตตาจากพระองค์ให้ชำ �ระบาปผิดของเรา ก่อนที่จะรับพระกายและ พระโลหิตของพระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- ให้เราเป็นเหมือนศักเคียสทีใ่ ช้โทษบาปโดยสารภาพบาปต่อพระเจ้าและชดเชย บาปต่อพี่น้องด้วยกิจการต่างๆ - ก่อนที่เราจะวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้าให้ทรงอภัยบาปเรานั้น เราต้องให้ อภัยพี่น้องก่อน 6

หาข้อปฏิบัติ ทุกครั้งที่เข้าไปรับศีลอภัยบาป ผู้เรียนจะพิจารณาบาป เป็นทุกข์เสียใจอย่าง จริงใจ และตั้งใจจะไม่กลับไปทำ�บาปอีก

7

ภาวนาปิดท้าย ข้าแต่พระบิดาเจ้า ลูกรู้ตัวดีว่าลูกเป็นคนบาปเพียงใด ลูกวอนขอพระเมตตา จากพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้อภัยบาปและความผิดต่างๆ ของลูกด้วย ลูกเชื่อมั่น ว่าพระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่โทษบาปต่างๆ ของลูก ลูกปรารถนาที่จะหลุด พ้นจากการเป็นทาสของบาปต่างๆ เพือ่ เข้ามารับความเชือ่ โปรดเผยแสดงพระองค์ให้ ปรากฏแก่ตวั ลูก ลูกขออัญเชิญพระองค์ให้เสด็จเข้ามาประทับอยูใ่ นดวงใจของลูก โปรด ประทานความรักของพระองค์ให้เต็มล้นอยู่ในดวงใจของลูก ลูกขอขอบพระคุณ พระเยซูเจ้า อาแมน

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจของผู้เรียน - ประเมินผลจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้เรียน

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................

ภาพ “บิดาผู้อารี” ของแรมบาร์ต


73

ใบความรู้ ภาพลูกล้างผลาญกลับบ้าน ของแรมบาร์ต จิตรกรชาวดัทช์ ภาพที่เราเห็นแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างพ่อกับลูก พระเจ้ากับมนุษย์ ความเมตตาและ ความน่าเวทนา และเป็นภาพการเริ่มต้นและจบลงที่ความรัก ภาพสีน้ำ�มันต้นฉบับมีขนาดใหญ่โต 8 X 4 ฟุต มีสีสันเข้มชัดทั้งแดง น้ำ�ตาล เหลือง ทางซ้ายมือของ ภาพคือพ่อทีก่ �ำ ลังกอดกระชับลูกชายด้วยความรักในความสว่างชัดท่ามกลางผูด้ สู คี่ น ได้แก่ ชายสองคนซึง่ กำ�ลัง นั่งและยืน และหญิงสองคนเบื้องหลังพ่อ พ่อเป็นชายชรา ตาใกล้บอด ในชุดเสื้อคลุมสีแดงหรูหรา ประดับสร้อยคอมีราคา กำ�ลังโอบกอดลูก คนเล็ก อ้อมกอดของพ่อดูอบอุ่น สวยงาม แสดงถึงความสวยงามที่เกิดจากความเมตตาที่พ่อมีต่อลูก มิใช่ ความสวยงามจากการบาดหมางในอดีต พ่อกอดลูกคือการอวยพรไม่รจู้ บ หน้าทีแ่ นบกับอกพ่อคือสันติสขุ ถาวร อ้อมกอดทีน่ งิ่ สนิทเป็นเครือ่ งหมายว่าการให้อภัยไม่เคยสิน้ สุด ความรักของพ่อคือความรักของพระเจ้า ผูเ้ มตตา เปลีย่ นความตายให้กลับเป็นชีวติ และมือสองข้างทีย่ นื่ ประคองไหล่คอื มือของพระเจ้าทีย่ นื่ ออกรอไหล่ของมนุษย์ ตลอดเวลา เพื่อให้พรและความรักแก่เรา ลูกคนเล็ก คือ ชายหนุ่มที่กำ�ลังคุกเข่าแนบใบหน้าไปที่ส่วนอกของพ่อ แสดงถึงบุคคลผู้มีความเชื่อมั่น ในตนเองมาก เคยเปีย่ มด้วยเกียรติศกั ดิ์ แต่บดั นีม้ เี พียงเสือ้ ชัน้ ในเก่าขาดวิน่ สีเหลืองแกมน้�ำ ตาลอ่อนๆ ปกปิด ร่างกายผอมโซแทบจะไร้เรี่ยวแรง และรองเท้าเปื่อยหมดสภาพ ฝ่าเท้าแสดงถึงการเดินทางไกลอย่างต่ำ�ต้อย เท้าซ้ายมีรอ่ งรอยแผลเป็น ขณะทีเ่ ท้าขวาสวมรองเท้าขาดวิน่ แสดงความทุกข์ยาก ซึง่ สะท้อนความโชกโชนสาหัส ที่ผ่านมา สำ�หรับดาบสั้นที่ชาวหนุ่มคาดเอวไว้ คือเครื่องหมายของเกียรติ และแสดงว่าตนเองเป็นลูกของพ่อ เขาจึงไม่เคยขายดาบแลกเงินมาใช้ ศีรษะทีถ่ กู โกนของลูกคนเล็กคือสัญลักษณ์ของการหมดความเป็นตัวของตัวเอง ขาดเอกลักษณ์ มีลกั ษณะ เหมือนศีรษะทารกทีไ่ ม่มขี นเนือ่ งจากเพิง่ คลอดจากท้องของแม่ การกลับบ้านจึงเป็นการกลับสูส่ ถานทีอ่ นั สงบ และปลอดภัย และพ่อหรือพระบิดาที่เราเห็นในภาพก็หมายความว่า พระเจ้าทรงเป็นทั้งพ่อและแม่ของเรา สอดคล้องกับมือของพ่อที่ตา่ งกัน คือ มือขวาหนามีพลัง มีลักษณะของการออกแรงจับอย่างทะนุถนอมแทนมือ ของพ่อ และมือซ้ายผอมบาง นิ้วแนบชิด ดูคล้ายแตะบรรเทาใจลูกแทนมือของแม่ มือทั้งสองนี้สว่างเป็น จุดศูนย์กลางของภาพและบุคคลในภาพ ภาพของลูกคนโตสวมเสื้อคลุมสีแดงบ่งบอกเกียรติและฐานะ ความสว่างบนใบหน้าสัมพันธ์กับ ความสว่างของพ่อ หมายถึงลูกคนโตก็ได้รับการเรียกให้เข้าสู่แสงสว่างหรือความรักของพ่อด้วย เราแต่ละคนเป็นใครในภาพนี้ เป็นพ่อทีร่ กั และพร้อมทีจ่ ะอภัยลูกเสมอ เป็นลูกชายคนเล็กซึง่ สุรยุ่ สุรา่ ย แต่มคี วามกล้าเผชิญความจริง กลับไปหาพ่อเพือ่ สารภาพความผิดทีก่ ระทำ�ลงไป เป็นเหมือนบุคคลทัง้ สีซ่ งึ่ ไม่มี ส่วนร่วม คืออยู่ห่างๆ ในเหตุการณ์ ได้แก่ เป็นลูกคนโตซึ่งขัดเคือง ยืนตรงมองเหตุการณ์อย่างเอาจริงเอาจัง เป็นชายซึ่งนั่งมองที่ว่างกลางภาพ หรือเป็นหญิงสองคนที่อยู่ห่างจนเกือบมองไม่เห็นในภาพ


74

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง การใช้โทษบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : เพื่อให้ผู้เรียนรู้ว่า บาปเรียกร้องอาชญาโทษจากพระเจ้า เราจึงต้องใช้โทษบาปเพื่อแก้ไข ข้อบกพร่องของเรา - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : เพื่อให้ผู้เรียนตั้งใจทำ�กิจชดเชยบาป ภายหลังการสารภาพบาป สาระการเรียนรู ้ เมื่อเราทำ�ผิด บาปได้เรียกร้องอาชญาโทษจากพระเจ้าให้เราทำ�กิจใช้โทษบาป ถ้าเราใช้โทษบาปโดยตรง ไม่ได้ ก็จะชดเชยด้วยวิธีการอื่นแทนตามที่พระศาสนจักรกำ�หนด การใช้โทษบาปจะสมบูรณ์เราจึงต้องชดเชยบาปด้วย โดยพระสงฆ์จะกำ�หนดกิจใช้โทษบาปให้เหมาะสมกับความผิดที่เราได้กระทำ�บาป ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - ครูนำ�สิ่งของ 2 ชิ้น คือ โฟมและไม้เสียบลูกชิ้น ครูให้เด็กจับคู่กันแล้วแจกไม้ เสียบลูกชิ้นให้คู่ละ 1 อัน โดยคนแรกนำ�ไม้ไปปักบนโฟมที่ครูเตรียมไว้ ส่วนคนที่สอง นำ�ไม้ที่ปักโฟมอยู่แล้วออกมา ทำ�แบบนี้จนครบทุกคู่ 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ถามความรู้สึกของเด็กทั้งสองคนว่า การนำ�ไม้ไปปักบนโฟม กับการดึงไม้ออก จากโฟมเป็นอย่างไร สนุก? สงสัย? - อธิบายให้เด็กเห็นว่า การที่เรานำ�ไม้ไปปักบนโฟม คือ เราได้ทำ�บาปผิด ได้ เรียกร้องอาชญาโทษจากพระเจ้า ซึ่งกำ�ลังฝังรากลึกลงในจิตใจ หากเรายังนิ่งเฉย ไม่ สนใจ บาปก็จะะติดตัวเราไปจนวันตาย ฉะนัน้ การทีเ่ ราจะหลุดพ้นจากบาปได้ เราต้อง สำ�นึกบาปและใช้โทษบาป เหมือนกับการดึงไม้ออกมาจากโฟม แล้วหาวัสดุบางอย่าง มาปะติดให้โฟมมีสภาพคงเดิม - ผลของบาป คือ 1. ทำ�ลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า 2. ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสิ่งสร้างอื่นๆ 3. ทำ�ลายตนเองซึ่งป็นสิ่งสร้างด้วย - การฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเรากับพระเจ้า เพื่อนพี่น้องและตนเอง อาศัยทำ�กิจใช้โทษบาป เพื่อชดเชยความเสียหายในสิ่งที่ก่อขึ้น เป็นการสร้างระเบียบ ที่เสียไปขึ้นใหม่ และเป็นโอกาสบำ�บัดแก้ไขความผิด ความอ่อนแอของเราเอง

โฟมขนาดใหญ่ 1 แผ่น และ ไม้เสียบลูกชิ้นจำ�นวนเท่ากับ ผู้เรียน


75

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

3

พระวาจา “พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองเยรีโค และกำ�ลังจะเสด็จผ่านเมืองนั้น ชายคนหนึ่ง ชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษี เป็นคนมั่งมี เขาพยายามมองดูว่าใครคือ พระเยซูเจ้า แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมากและเพราะเขาเป็นคนร่างเตี้ย เขาจึงวิ่งนำ� หน้าไปปีนต้นมะเดื่อเทศ เพื่อให้เห็นพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์กำ�ลังจะเสด็จผ่านไป ทางนั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงที่นั่น ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรตรัสกับ เขาว่า “ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักทีบ่ า้ นท่านวันนี”้ เขารีบลงมาต้อนรับ พระองค์ด้วยความยินดี ทุกคนที่เห็นต่างบ่นว่า “เขาไปพักที่บ้านคนบาป” ศักเคียส ยืนขึ้นทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้แก่คนจน และถ้าข้าพเจ้าโกงสิ่งใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสี่เท่า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย บุตรแห่ง มนุษย์มาเพื่อแสวงหาและเพื่อช่วยผู้ที่เสียไปให้รอดพ้น” (ลก 19 :1-10)

4

อธิบายพระวาจา - พระเยซูเจ้าทรงให้อภัยแก่มนุษย์ที่เป็นคนบาปเสมอเหมือนที่พระองค์ทรงอภัย บาปของศักเคียสคนเก็บภาษีที่อยากเห็นพระองค์มาก ศักเคียสตัวเตี้ยจึงปีนต้นไม้ดู พระองค์ พระเยซูเจ้าเรียกเขาลงมาจากต้นไม้และไปรับประทานอาหารที่บ้านเขา ศักเคียสดีใจมากทีพ่ ระองค์ไปบ้านเขา จึงสัญญากับพระเยซูเจ้าว่าจะแบ่งทรัพย์สนิ ให้ แก่คนยากจน และชดใช้คืนสี่เท่าแก่คนที่เขาโกงมา

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ในชีวิตเราบางครั้งทำ�ผิดพลาด เราตัดสินใจทำ�ในสิ่งที่ผิด เป็นคนไม่ยุติธรรม ทำ�ผิดศีลธรรม ซึง่ เป็นเรือ่ งธรรมดาทีค่ นเราทำ�ผิดพลาดได้ เพียงแต่เมือ่ เรารูต้ วั เราเอง ว่าทำ�ผิด เรารู้สึกเสียใจ เป็นทุกข์ในสิ่งที่ทำ�ลงไป และพร้อมที่จะชดเชยความเสียหาย เหมือนดังตัวอย่างของศักเคียส

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

หนังสือพระคัมภีร์

- เมื่อเราสารภาพบาปกับพระสงฆ์แล้ว เราควรทำ�กิจใช้โทษบาปที่พระสงฆ์ กำ�หนดอย่างดี และสัญญากับพระเจ้าว่าจะไม่กลับไปทำ�บาปอีกเพื่อไม่ให้พระองค์ เสียใจ - ดังนั้น เราผู้เป็นลูกของพระที่ได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความเชื่อ ในองค์พระเยซูเจ้าอย่างมีคณ ุ ค่าเพือ่ พระองค์และผูอ้ นื่ รูจ้ กั เสียสละความสุขเล็กๆ น้อยๆ โดยการออกจากตัวเอง ช่วยเหลือพ่อแม่ทำ�งานบ้าน แบ่งของให้เพื่อนใช้ พลีกรรม ใช้ โทษบาป ทำ�บุญให้ทาน สวดภาวนาวอนขออภัยโทษจากพระเจ้า ไม่ทำ�ตามอำ�เภอใจ ของเรา แต่ให้เป็นไปตามการดลใจของพระจิตเจ้า 6

หาข้อปฏิบัติ - ทำ�กิจใช้โทษบาปโดยการสวดภาวนาอย่างตั้งใจทุกครั้ง และตั้งใจอย่างจริงจังที่ จะไม่ทำ�บาปนั้นอีก

7

ภาวนาปิดท้าย - รำ�พึงกับบทเพลง “ยกบาปข้าเทอญ”

เพลง “ยกบาปข้าเทอญ” ชีทเพลงท้ายแผน


76

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - การร่วมกิจกรรม - ความสนใจเรียน

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................

บทเพลง ยกบาปข้าฯ เทอญ 1. แผ่นฟ้าพสุธาแดนไกล

เสียงก้องร้องไปจากห้วงดวงใจข้าฯ เอย โอ้พระโปรดอย่าทำ�เมินเฉย โปรดอย่าทรงเฉยเมยละเลยวาจาข้าเจ้า 2. นอบน้อมยอมพร้อมกันวันทา พระผู้เมตตาเยียวยาข้าที่โศกเศร้า อย่าหนีเบื้องพระพักตร์พรากเรา ที่เข้ามาน้อมเกล้าขอเฝ้าเบื้องพระภูธร (รับ) เปิดใจเพื่อใจของข้าฯ รู้แจ้ง โปรดได้สำ�แดงด้วยแรงรักที่อาวรณ์ ข้าฯนี้ที่เข้ามาพร่ำ�วอน โปรดประทานพระพรอวยพรแด่ใจของข้าฯ 3. หนี้นี้มีค่าควรคำ�นึง ต้องติดตราตรึงซาบซึ้งซึ่งพระเมตตา ไม่ขอกลับไม่ทำ�ชั่วช้า โปรดรักษาวิญญาณ์ของข้าฯ จนกว่ามลาย


77

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง ความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณ

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ผู้เรียนรู้และเข้าใจความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนปฏิบัติตนอย่างสำ�รวมและเหมาะสมขณะร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ สาระการเรียนรู ้ พิธีบูชาขอบพระคุณเป็นศูนย์รวมจิตใจและการภาวนาที่สูงสุดของชีวิตคริสตชน เพื่อระลึกถึงแผนการ แห่งความรอดและการมีส่วนร่วมในการสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้าเพื่อไถ่บาปเราทั้งหลาย ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - ถามผู้เรียนว่าเคยได้ยินคำ�ว่า “พิธีบูชาขอบพระคุณ (มิสซา)” มาก่อนหรือไม่ และเคยเข้าร่วมพิธีกรรมนี้มากน้อยแค่ไหน เล่าให้เพื่อนฟัง - ให้ผู้เรียนเล่นเกมทายส่วนต่างๆ ของพิธีบูชาขอบพระคุณ เพื่อสังเกตความจำ� และความเข้าใจ โดยผู้เรียนแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ครูอ่านบัตรคำ�ทีละใบ แล้วให้ผู้เรียนนำ� บัตรคำ�นั้นมาติดว่าอยู่ในภาคใดของพีธีบูชาขอบพระคุณระหว่าง 1. ภาคพระวาจาของพระเจ้า 2. ภาคบูชาขอบพระคุณ

(กลุ่มที่ตอบถูกจะได้รับดาวสีทอง = 10 คะแนน ดาวสีเงิน = 5 คะแนน สะสม เป็นคะแนน) 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ผู้สอนเกริ่นกับผู้เรียน ใครไปวัดเป็นประจำ�บ้าง เคยสังเกตไหมว่า ขั้นตอน พิธบี ชู าขอบพระคุณมีกขี่ นั้ ตอน และแต่ละขัน้ ตอนมีความหมายอย่างไร (ให้ผเู้ รียนช่วย กันในกลุ่มแสดงความคิดเห็น แล้วออกมาอธิบายเป็นกลุ่ม) - ผู้สอนอธิบายถึงขั้นตอนและความหมายให้ผู้เรียนฟัง 3 พระวาจา “พี่น้องที่รักยิ่ง ท่านจงหลีกเลี่ยงการกราบไหว้รูปเคารพ ข้าพเจ้าพูดกับท่าน เหมือนพูดกับผูม้ ปี ญ ั ญา ท่านจงพิจารณาตัดสินสิง่ ทีข่ า้ พเจ้ากำ�ลังจะพูดนีเ้ ถิด ถ้วยถวาย พระพร ซึ่งเราใช้ขอบพระคุณพระเจ้านั้น มิได้ทำ�ให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของ พระคริสตเจ้าหรือ และปังทีเ่ ราบินนั้ มิได้ท�ำ ให้เรามีสว่ นร่วมในพระกายของพระคริสตเจ้า

ชุดบัตรคำ� เรื่องพิธี บูชาขอบพระคุณ

ดาวสีทอง/สีเงิน

กระดาษเขียน / ปากกา

ใบความรู้ประกอบ

หนังสือพระคัมภีร์


78

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ หรือ มีปังก้อนเดียว แม้ว่าจะมีหลายคนเราก็เป็นกายเดียวกัน เพราะเราทุกคนมีส่วน ร่วมกินปังก้อนเดียวกัน จงพิจารณาชาวอิสราเอลในอดีต ผู้ที่กินเนื้อจากของถวายก็มี ส่วนร่วมในพระแท่นบูชามิใช่หรือ ข้าพเจ้าหมายความว่าอย่างไร หมายความว่า เนือ้ ที่ ถวายแด่รูปเคารพนั้นมีความสำ�คัญอะไรหรือ รูปเคารพนั้นมีความสำ�คัญอะไรหรือ เปล่าเลย ข้าพเจ้าหมายความว่าสิ่งที่เขาถวายนั้น เขาถวายแก่ปีศาจ มิใช่ถวายแด่ พระเจ้า ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาให้ท่านร่วมกับพวกปีศาจ ท่านจะดื่มจากถ้วยขององค์ พระผูเ้ ป็นเจ้า และจากถ้วยของปีศาจไม่ได้ จะร่วมโต๊ะทัง้ กับองค์พระผูเ้ ป็นเจ้า และร่วม โต๊ะกับพวกปีศาจไม่ได้ เราจะยัว่ ยุองค์พระผูเ้ ป็นเจ้าให้ขนุ่ เคืองพระทัยกระนัน้ หรือ เรา มีกำ�ลังมากกว่าพระองค์หรือ” (1 คร 10 :14-22)

4

อธิบายพระวาจา ถ้วยถวายพระพร หรือพิธีบูชาขอบพระคุณ ทำ�ให้มนุษย์มีส่วนร่วมในพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ถ้วยถวาย พระพร คือ พระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า ที่พระองค์ทรงมอบให้มนุษย์ ดังที่ตรัสว่า “จงรับและกินเถิด นี่คือกายของเรา” มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้ด้วย “ปังแห่ง ชีวิต” คือพระวาจาของพระเจ้าที่ตรัส และกายของพระคริสตเจ้าที่ถูกมอบให้มนุษย์ เพื่อไถ่บาปมนุษย์ให้มีชีวิตนิรันดร พระกายที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงมอบคือพระองค์ เอง ซึ่งทรงเป็นทั้งแผนการของพระเจ้าและผู้ที่ทำ�ให้แผนการนี้เป็นจริง ความสนิท สัมพันธ์กับพระเยซูเจ้าเกิดจากการรับประทานปังศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากโต๊ะของพระเจ้า เท่านั้น

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต ในบูชามิสซา พระเยซูเจ้าประทับอยู่อย่างแท้จริงใน 2 ลักษณะ บทอ่านจากพระคัมภีร์ เป็นพระวาจาที่พระเจ้าตรัสกับเราผู้เป็นลูกของพระองค์ เราจึงต้องฟัง รำ�พึง เพื่อให้เกิดความเชื่อและเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราให้ดีขึ้น บทอ่านที่ เราได้ยินแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกนำ�มาจากพันธสัญญาเดิมเป็นการทำ�นายถึงพระผู้ไถ่ คือพระเยซูเจ้า ส่วนที่สองนำ�มาจากพันธสัญญาใหม่คือพระวรสารและบทจดหมาย ต่างๆ เป็นเรื่องการเทศน์สอนประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าให้เราได้นำ�ไปปฏิบัติใน ชีวิต ในวันธรรมดาที่เราไม่ได้ไปวัด หรือไม่มีโอกาสร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ เราก็ สามารถพบพระเจ้าได้โดยอ่านพระวาจาในหนังสือไบเบิลไดอารี่ หรือหัวข้อพระคัมภีร์ ประจำ�วันซึ่งรู้ได้จากปฏิทินคาทอลิก ปังและเหล้าองุ่น เมื่อพระสงฆ์กล่าวถ้อยคำ�เสกศีลมหาสนิท พระจิตเจ้าทรง เปลี่ยนสารของปังและน้ำ�องุ่นให้เป็นพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า ชีวิตของ เราก็ต้องเรียกหาพระจิตเจ้า ขอพระองค์เปลี่ยนแปลงจิตใจของเราให้ละม้ายองค์ พระเยซูเจ้า จะได้สวมใส่ชีวิตของพระองค์ เป็นคนดีดังที่พระเยซูทรงเป็น ดังนั้น เราต้องร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้เราเป็นอย่างดี คือ ดำ�เนินชีวิตเป็นลูกที่ดีของพระ ฟังคำ�สอนและถือตามบัญญัติพระเจ้า

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


79

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

6

หาข้อปฏิบัติ ตั้งใจร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยมีส่วนร่วมในการตอบรับพระสงฆ์ หรือช่วย พิธีกรรมในระหว่างพิธี เช่น ขับร้องเพลง ช่วยมิสซา ยกของถวาย ฯลฯ

7

ภาวนาปิดท้าย ข้าแต่พระเยซูเจ้า สิ่งที่สำ�คัญที่สุดสำ�หรับชีวิตลูกก็คือการได้รักพระองค์ มีส่วน ร่วมในพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ รับพระองค์เข้ามาชิดสนิทสัมพันธ์ในใจลูกผ่านทางศีลมหาสนิท ทำ�ให้ลูกเข้มแข็ง มีกำ�ลังต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาต่างๆ ในชีวิต ขอพระองค์เป็นผู้นำ�ทางลูกแต่ละคนให้ เดินในหนทางที่ถูกต้องและผ่านพ้นภยันตรายต่างๆ ด้วยเทอญ พระเจ้าข้า

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - การถาม-ตอบ

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................

ใบความรู้ ความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณ พิธีบูชาขอบพระคุณ เป็นพิธีกรรมที่แสดงออกถึงความเชื่อสูงสุดของคริสตชน คือ เป็นการรื้อฟื้น ความรักและการไถ่กขู้ องพระเยซูเจ้าผูท้ รงสละชีวติ ด้วยการรับทรมานและการสิน้ พระชนม์บนไม้กางเขน เพือ่ ไถ่บาปมนุษย์ให้พ้นจากการเป็นทาสของบาป คริสตชนทีด่ จี ะมาร่วมพิธบี ชู าขอบพระคุณในวันอาทิตย์ ซึง่ ถือว่าเป็นวันของพระเจ้า และในวันสำ�คัญ ต่างๆ ทางศาสนาตามที่พระศาสนจักรกำ�หนด พิธีบูชาขอบพระคุณ แบ่งเป็น 2 ภาค 1. ภาคพระวาจาของพระเจ้า คือการเตรียมสติปัญญาและจิตใจ เพื่อการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ใน พิธีบูชาขอบพระคุณ ด้วยการอ่านพระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวาจาที่พระเจ้าตรัสกับเรา เปรียบได้กับเมื่อเรามี ความรัก เราก็ต้องการฟังคำ�พูดที่เขาต้องการบอกเรา ประกอบด้วย


80

พิธีเริ่ม เป็นการเปิดการเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำ�ลึกของพระเยซูคริสตเจ้า คริสตชนจะร่วมร้องเพลง ด้วยความยินดีเพื่อต้อนรับพระสงฆ์ผู้เป็นประธานในพิธี

พิธีสารภาพความผิด คือ การขอโทษสำ�หรับความผิดต่างๆ ของเรา

บทเร้าวิงวอน “ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ” เพื่อวอนขอพระกรุณาจากพระเจ้า

บทพระสิริรุ่งโรจน์ บทเพลงที่ทูตสวรรค์ขับขานเมื่อพระเยซูกุมารบังเกิด ใช้ขับร้องหรือสวดใน วันอาทิตย์นอกเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า และเทศกาลมหาพรต ในวันสมโภชหรือวันฉลอง และ ในโอกาสฉลองพิเศษ เช่น ฉลองวัด ฉลองศาสนนาม พิธีอภิเษกพระสังฆราช พิธีบวชพระสงฆ์ บทภาวนาของประธาน กล่าวถึงลักษณะ วัตถุประสงค์ของการประกอบพิธีในวันนั้น เพื่อถวาย พิธีบูชาขอบพระคุณในวันนี้แด่พระบิดา อาศัยพระบุตรในองค์พระจิตเจ้า บทอ่านจากพระคัมภีร์ บทอ่านที่ 1 เป็นบทอ่านจากภาคพันธสัญญาเดิมซึ่งเล่าถึงประวัติศาสตร์ความรอด กิจการและ คำ�สั่งของพระเจ้าก่อนการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า

บทสร้อย

เป็นบทเพลงคั่นบทอ่าน มีเนื้อหาจากหนังสือเพลงสดุดี

บทอ่านที่ 2 เป็นบทจดหมายจากภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งบรรดาอัครสาวกได้เขียนไว้เพื่อสอน คริสตชนรุ่นแรกๆ และทุกคนด้วย บทอัลเลลูยา เป็นการขับร้องถวายเกียรติก่อนอ่านพระวรสาร ในเทศกาลมหาพรตจะขับร้อง “ขอ สรรเสริญเยินยอพระองค์ ราชาธิราชผู้ทรงเกียรตินิรันดร” แทน “อัลเลลูยา”

พระวรสาร เป็นพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับคริสตชนทุกคน

การเทศน์

คือการอธิบายพระคัมภีร์และให้ข้อคิดในการดำ�เนินชีวิต

การประกาศแสดงความเชื่ อ คริ ส ตชนสวดหรื อ ขั บ ร้ อ งบทข้ า พเจ้ า เชื่ อ เพื่ อ ประกาศยื น ยั น ความเชื่อของคริสต์ศาสนา ในวันอาทิตย์และวันสมโภช หรือโอกาสที่มีการฉลองอย่างสง่า บทภาวนาของมวลชน ที่ชุมนุมถวายคำ�ภาวนาเพื่อความต้องการของพระศาสนจักร ผู้ปกครอง บ้านเมือง ความรอดพ้นของมนุษย์ทั่วโลก ผู้ต้องทนทุกข์ต่างๆ และชุมชนในท้องถิ่น 2. ภาคบูชาขอบพระคุณ คืองานเลี้ยงปัสกาและการรื้อฟื้นการถวายบูชาของพระเยซูเจ้าบน ไม้กางเขนให้กลับเป็นปัจจุบัน ดำ�รงอยู่ต่อไปในพระศาสนจักร การเตรียมของถวาย มีการเตรียมพระแท่นและของถวาย ได้แก่ ปังและเหล้าองุ่น ซึ่งจะเปลี่ยนเป็น พระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า บทภาวนาเตรียมเครือ่ งบูชา พระสงฆ์สรรเสริญและขอบพระคุณพระบิดาเจ้าผูท้ รงประทานปังและ น้ำ�องุ่น อาหารจากสวรรค์ ในนามของประชากรของพระเจ้า ผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้า


81

บทภาวนาขอบพระคุณ ประกอบด้วยบทเริ่มขอบพระคุณ บทศักดิ์สิทธิ์ บทอัญเชิญพระจิตเจ้า การเล่าเรื่องการตั้งศีลมหาสนิทและเสกศีล การระลึกถึงพระคริสตเจ้า การถวาย บทภาวนาอ้อนวอน และ บทยอพระเกียรติ เพือ่ วอนขอพระจิตเจ้าบันดาลความศักดิส์ ทิ ธิใ์ ห้ของถวายเปลีย่ นเป็นพระกายและพระโลหิต ของพระเยซูคริสตเจ้า แล้วเล่าถึงการตั้งศีลมหาสนิท และการภาวนาอ้อนวอน พิธีรับศีลมหาสนิท เป็นเครื่องหมายแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสตเจ้า เริ่มด้วยบทข้าแต่ พระบิดาเพื่อประกาศว่ามนุษย์ทุกคนมีพระบิดาองค์เดียวกัน พิธีมอบสันติสุข เพื่อแสดงความสนิทสัมพันธ์ ของพระศาสนจักร บทพระชุมพา เพื่อขอพระเมตตาของพระเยซูผู้เป็นลูกแกะบูชาของพระเจ้า การรับศีลมหาสนิท การรับพระกายและพระโลหิตของพระคริสต์ เป็นการรับอาหารฝ่ายจิต พระสงฆ์จะแจกจ่ายพระกายของพระเยซูเจ้า โดยวางบนมือ หรือวางบนลิ้นของผู้รับ บางแห่งมีการดื่ม พระโลหิตด้วย พิธีปิด เป็นการสิ้นสุดพิธีบูชาขอบพระคุณ มีความหมายว่า พิธีกรรมจบแล้ว แต่ชีวิตเราต้องดำ�เนิน ต่ อ ไป เพื่ อ ประกาศแก่ บุ ค คลรอบข้ า งเราว่ า พระเยซู เจ้ า ทรงรั บ ทรมาน สิ้ น พระชนม์ และกลั บ คื น พระชนมชีพแล้ว


82

ชุดบัตรคำ� เรื่อง พิธีบูชาขอบพระคุณ 1 ภาคพระวาจา พระเจ้า

2 ภาคบูชา ขอบพระคุณ

เริ่มพิธี

การเตรียมของถวาย

พิธีสารภาพความผิด

บทภาวนาเตรียม เครื่องบูชา

บทเร้าวิงวอน

บทภาวนาขอบพระคุณ

บทพระสิริรุ่งโรจน์

พิธีรับศีลมหาสนิท

พระวรสาร

การรับศีลมหาสนิท

การประกาศแสดง ความเชื่อ

พิธีปิด

บทภาวนามวลชน


83

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

เรื่อง การร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ผูเ้ รียนมีความรูแ้ ละความเข้าใจ ความหมายของการร่วมพิธบี ชู าขอบพระคุณ มีความเชือ่ ตาม แบบฉบับคริสตชนที่ดีและเป็นแบบอย่างซึ่งกันและกัน - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ปลุกจิตสำ�นึกให้ผู้เรียนรู้ถึงหน้าที่ของคริสตชนด้วยการเข้าร่วมพิธีบูชา ขอบพระคุณ และรับศีลมหาสนิทเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า สาระการเรียนรู้ การร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ทำ�ให้คริสตชนใกล้ชิดกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ เป็นการร่วมมิสซาอย่าง เข้าอกเข้าใจ อย่างมีชีวิตชีวา และอย่างได้ผล พิธีบูชาขอบพระคุณจึงมีคุณค่าและความหมายสำ�หรับชีวิต ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย สวดภาวนาขอพระจิตเจ้า ทบทวนสิ่งที่เรียนไปแล้ว - ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนไปร่วมมิสซาวันอะไร ไปกับใคร พบใครบ้าง ใคร เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ และรู้สึกอย่างไรที่ได้ไปร่วมพิธี 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) สังคายนาวาติกันที่ 2 เตือนสัตบุรุษให้ร่วมมิสซา “อย่างเข้าอกเข้าใจ อย่าง มีชีวิตชีวา และอย่างได้ผล” (พระธรรมนูญเรื่องพิธีกรรม ข้อ 11) เราจึงเห็นว่าใน ปัจจุบนั สัตบุรษุ มีสว่ นร่วมในมิสซามากกว่าแต่กอ่ น ไม่วา่ จะเป็นการตอบรับกับพระสงฆ์ การอ่านบทอ่าน บทภาวนาเพื่อมวลชน ถวายของ ส่งความสุขซึ่งกันและกัน การขับ ร้อง ฯลฯ 1. เราต้องร่วมมิสซา “อย่างเข้าอกเข้าใจ” หมายความว่า เราต้องรู้ตัวอยู่เสมอ ว่า เรากำ�ลังทำ�อะไร และมิสซาทีเ่ รากำ�ลังร่วมถวายอยูน่ นั้ คืออะไร มีความสำ�คัญอย่างไร เพือ่ บรรลุเป้าหมายประการนี้ เราจึงต้องเรียนรูพ้ ธิ มี สิ ซาตัง้ แต่ตน้ จนจบและติดตามพิธี แต่ละขั้นด้วยความตั้งใจและสนใจ 2. เราต้องร่วมมิสซา “อย่างมีชีวิตชีวา” หมายความว่า ต้องแสดงบทบาทของ ผู้ถวาย เริ่มด้วยภายในจิตใจที่ศรัทธาร้อนรนก่อนแล้วออกมาภายนอกด้วย เช่น อิริยาบถในการถวายมิสซา การสวดภาวนา ขับร้อง การตอบรับกับพระสงฆ์ ฯลฯ ทุก สิ่งต้องกระทำ�ด้วยความพร้อมเพรียงอย่างสำ�รวมและชวนศรัทธา 3. เราต้องร่วมมิสซา “อย่างได้ผล” หมายความว่า มิสซามีไว้เพื่อประโยชน์ของ เราเอง เป็นการสืบทอดการไถ่กู้ของพระเยซูคริสต์มาถึงเราต่อๆ ไป ฉะนั้นเมื่อมาร่วม มิสซาเราต้องทำ�ตนให้อยูใ่ นสถานะพระหรรษทาน เพือ่ จะได้รบั ผลตามทีพ่ ระเยซูคริสต์

การถาม/ตอบ


84

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ได้ทรงตั้งพิธีนี้ไว้อย่างเต็มที่ โดยร่วมพิธีกรรมต่างๆ อย่างตั้งใจ ทำ�บทบาทหน้าที่ ต่างๆ ด้วยความเชื่อและศรัทธาและรับศีลมหาสนิทซึ่งเป็นความสมบูรณ์ของมิสซา ด้วย 3

พระวาจา - ปังแห่งชีวิต (ยน 6:31-35) บรรพบุรุษของเราได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร ดังที่มีเขียนในพระคัมภีร์ว่า “พระองค์ประทานขนมปังจากสวรรค์ให้เขากิน” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอก ความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มิใช่โมเสสที่ให้ขนมปังจากสวรรค์แก่ท่าน แต่เป็น พระบิดาของเราที่ประทานขนมปังจากสวรรค์ให้ท่าน เพราะขนมปังของพระเจ้า คือ ขนมปังซึง่ ลงมาจากสวรรค์และประทานชีวติ ให้แก่โลก” ประชาชนจึงทูลว่า “นายขอรับ โปรดให้ขนมปังนีแ้ ก่พวกเราเสมอเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “เราเป็นปังแห่งชีวติ ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย”

4

อธิบายพระวาจา ในสมัยของโมเสส พระเจ้าเลี้ยงชาวอิสราเอลด้วยมานนาจากสวรรค์ ในสมัย ของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเลีย้ งเราด้วยพระวาจา พระกายและพระโลหิตของพระองค์ ซึ่งเป็นอาหารฝ่ายจิต หล่อเลี้ยงชีวิตคริสตชนภายใต้รูปปังและเหล้าองุ่น “กายที่ถูกมอบ” หรือ “ปังแห่งชีวิต” ทำ�ให้เกิดมนุษย์ใหม่ขึ้นศีลมหาสนิท คือ “การมีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสตเจ้า” ทำ�ให้พระเจ้ากับมนุษย์เป็น หนึ่งเดียวกัน (รับประทานปังและดื่มโลหิต) แผนการที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจะเสร็จ สมบูรณ์

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต ในการร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ไม่ใช่เป็นพิธีส่วนตัวแต่เป็นการร่วมพิธีที่ทุกคน จะต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกันในองค์พระเยซูคริสเจ้า ดังนั้น เราต้องเข้าร่วมพิธีบูชา ขอบพระคุณอย่างเข้าอกเข้าใจ อย่างมีชีวิตชีวา และอย่างได้ผล เพื่อจะได้เข้าใจ ความหมายของการมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเป็นอย่างดี การร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเป็นกิจการของเราทุกคน ดังนั้น เราต้องตระเตรียม และสำ�รวมทั้งกายและจิตใจ ร่วมจิตร่วมใจพร้อมกับพระสงฆ์ถวายบูชา อย่านั่งเฉยๆ หรือก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือภาวนา หรือสวดลูกประคำ� โดยไม่สนใจกับสิ่งที่ พระสงฆ์ก�ำ ลังกระทำ�บนพระแท่น พระศาสนจักรกำ�หนดให้เรานัง่ บ้าง ยืนบ้าง คุกเข่า บ้าง ร่วมใจกับพระสงฆ์ แม้บทขับร้องก็ให้มใี จความตรงกับทีพ่ ระสงฆ์ก�ำ ลังสวดภาวนา อยู่ มิใช่ต่างฝ่ายต่างทำ� เพื่อเราจะได้มีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสตเจ้าอย่างดี และเหมาะสม

6

หาข้อปฏิบัติ - สำ�รวมกายและใจขณะร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ - ตั้งใจร่วมพิธีมิสซาอย่างเข้าอกเข้าใจ อย่างมีชีวิตชีวา และอย่างได้ผล

หนังสือพระคัมภีร์


85

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

7

ภาวนาปิดท้าย - ขอพระเจ้าโปรดให้ลูกทุกคน อย่าให้ตกอยู่ในความอำ�เภอใจของตัวเอง แต่ ให้อยู่ในความคุ้มครอง และเป็นไปตามน้ำ�พระทัยของพระองค์ด้วยเถิด อาแมน - พระสิริรุ่งโรจน์ 3 จบ

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตพฤติกรรม - ติดตามผลพฤติกรรมที่เกิดขึ้น

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................


86

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5

เรื่อง ฉันเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทด้วยการภาวนา

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.2.4 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ผู้เรียนรู้จักการภาวนารูปแบบต่างๆ เพื่อเตรียมจิตใจในการรับศีลมหาสนิท - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนตั้งใจสวดภาวนาอย่างดีเป็นประจำ� เฉพาะอย่างยิ่งเวลาก่อนไปรับศีล มหาสนิท สาระการเรียนรู ้ การภาวนาเป็นการเตรียมจิตใจเพื่อวอนขอ สรรเสริญ ขอบคุณ และขอโทษจากพระเจ้าเพื่อว่าเราจะได้ ชิดสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า และเป็นการเตรียมพร้อมทางด้านจิตใจที่จะเป็นที่ประทับของพระเยซูเจ้าโดยผ่านการรับ ศีลมหาสนิท ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย / สวดภาวนาร่วมกันให้พระมาประทับท่ามกลางเรา โดยใช้แบบสวด ภาวนาดังนี้ “ดังนั้น ยังตั้งอยู่สามสิ่งคือ ความเชื่อ ความวางใจ ความรัก แต่ความรัก นั้นใหญ่ที่สุด ขอขอบคุณพระเจ้า” - ทบทวนสิ่งที่เรียนไปครั้งที่แล้ว 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ถามผู้เรียนว่า “เคยภาวนาหรือไม่ ภาวนาเวลาใดบ้าง และภาวนาอย่างไร” - เขียนคำ�ตอบของผู้เรียนบนกระดานแล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า “เราสวดภาวนา ได้ตลอดเวลา เช่น ก่อนอาหาร และหลังอาหาร ทุกครั้งที่ต้องการความช่วยเหลือ ก่อน ลงมือทำ�งานสำ�คัญ ก่อนเดินทาง เมื่อมีความสุข และเมื่อมีความทุกข์” - ระบายสีรูปพระเยซูเจ้ากำ�ลังสวดภาวนาและให้ผู้เรียนจินตนาการว่าพระเยซูเจ้า กำ�ลังสวดว่าอะไร แล้วเขียนลงใต้ภาพ - อธิบายให้ผู้เรียนรู้จักการสวดภาวนาแบบต่างๆ - ภาวนาเพื่อการสรรเสริญ ขอบพระคุณในสิ่งที่ได้รับ - ภาวนาเพื่อวอนขอในสิ่งที่ตนเองต้องการ - ครูให้ผู้เรียนดูภาพธรรมชาติ ภาพผู้ป่วย คนพิการ บ้าน ครอบครัว ฯลฯ แล้วให้แต่งบทภาวนาจากใจแบบสั้นๆ เพียง 1-2 ประโยค ให้สอดคล้องกับรูปภาพ 3 พระวาจา - ในสวนเกทเสมนี (มก 14: 32-42) พระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อ “เกทเสมนี” พระองค์ตรัสกับนางว่า “จงนัง่ อยูท่ นี่ ี่ ขณะทีเ่ ราไปอธิษฐานภาวนา” แล้วทรงพาเปโตร

ใบงานระบายสี ภาพ “พระเยซูเจ้ากำ�ลังสวด ภาวนา” ☆

ภาพ “ธรรมชาติ ผู้ป่วย คนพิการ บ้าน ครอบครัว”

หนังสือพระคัมภีร์


87

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ยากอบ และยอห์นไปกับพระองค์ พระองค์ทรงเริ่มรู้สึกหวาดกลัว และเศร้าพระทัย อย่างยิ่ง จึงตรัสกับเขาทั้งสามว่า “ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต จงอยู่ที่นี่และตื่นเฝ้า เถิด” แล้วทรงพระดำ�เนินไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทรงเอนพระวรกายลงกับพืน้ ดิน ทรง อธิษฐานภาวนาเพื่อให้เวลานั้นผ่านพ้นพระองค์ไป ถ้าเป็นไปได้ พระองค์ทูลว่า “อับบา พระบิดาเจ้าข้า พระองค์ทรงทำ�ทุกสิ่งได้ โปรดทรงเอาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้า เถิด อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” พระองค์เสด็จกลับมา พบศิษย์ทงั้ สามกำ�ลังหลับ จึงตรัสกับเปโตรว่า “ซีโมนท่านหลับ หรือ ท่านตืน่ เฝ้าสักหนึง่ ชัว่ โมงไม่ได้หรือ จงตืน่ เฝ้าและอธิษฐานภาวนา เพือ่ จะไม่เข้า สู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำ�ลัง” แล้วพระองค์เสด็จไป อธิษฐานภาวนาอีกครัง้ ทรงกล่าวถ้อยคำ�เดียวกัน ครัน้ เสด็จกลับมาก็ทรงพบเขาหลับ อยูอ่ กี เพราะลืมตาไม่ขนึ้ และเขาไม่รจู้ ะทูลตอบพระองค์อย่างไร เมือ่ เสด็จกลับมาครัง้ ที่สาม พระองค์ตรัสกับเขาว่า “บัดนี้ท่านหลับต่อไปและพักผ่อนได้ พอเถอะ เวลาที่ บุตรแห่งมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในเงื้อมมือของคนบาปมาถึงแล้ว จงลุกขึ้นไปเถิด ผู้ทรยศมาแล้ว”

4 อธิบายพระวาจา - การเข้าไปในสวนเกทเสมนี คือการเข้าไปยังสถานที่เงียบสงบเพื่อพบพระเจ้า ในการสวดภาวนา พระเยซูทรงกล่าวคำ�อธิษฐาน “ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต จงอยู่ ที่นี่และตื่นเฝ้าเถิด” “อับบา พระบิดาเจ้าข้า พระองค์ทรงทำ�ทุกสิ่งได้ โปรดทรงเอา ถ้วยนีไ้ ปจากข้าพเจ้าเถิด อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ ของพระองค์เถิด” - ถ้วย หมายถึง การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนแทนคนบาป ความทุกข์ของ พระเยซู ไ ม่ ใช่ เรื่ อ งของการปฏิ เ สธหน้ า ที่ พ ระผู้ ไ ถ่ แต่ เ ป็ น ความทุ ก ข์ ซึ่ ง เกิ ด จาก ความอ่อนแอประสามนุษย์ ที่สุดพระเยซูทรงเอาชนะความอ่อนแอโดยยอมรับด้วย ความยินดี เพราะการอธิษฐานภาวนา “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไป ตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” “ใจเราเป็นทุกข์...จงอยูท่ นี่ แี่ ละตืน่ เฝ้าเถิด” ได้เผย แสดงให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงเศร้าพระทัยและต้องการให้บรรดาอัครสาวกอยู่เป็น เพื่อนพระองค์ 5 ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเยซูเจ้าภาวนาอยู่เสมอ ในฐานะที่เป็นพระเจ้า พระองค์ไม่จำ�เป็นจะต้อง ภาวนา เพราะพระองค์ทรงฤทธิ์ทุกประการ แต่ในฐานะที่เป็นมนุษย์ พระองค์มี พระประสงค์จะภาวนา วอนขอพระหรรษทานเพื่อมนุษย์ และเพื่อเป็นต้นฉบับให้แก่ มนุษย์ในเรื่องของการสวดภาวนา นมัสการ สรรเสริญ ขอบพระคุณ ขอขมาโทษจาก พระบิดาเจ้า พระเยซูเจ้าทรงเผยให้เราเห็นว่า การภาวนาเป็นการสนทนาเพือ่ สร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า รวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ดังนั้น เราผู้เป็นลูกของพระเจ้า เราต้องสวดภาวนา วอนขอความต้องการ ความช่วยเหลือ สรรเสริญ และขอบคุณพระองค์เสมอ เพื่อจิตใจของเราจะได้พร้อมเป็นที่ประทับของ

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


88

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

พระเยซูเจ้าโดยการสวดภาวนาเพื่อเตรียมตัวรับพระองค์เข้ามาอยู่ในตัวของเราผ่าน ทางศีลมหาสนิทเป็นอย่างดี 6

หาข้อปฏิบัติ - ตั้งใจสวดภาวนาอย่างดีทุกครั้ง - สวดภาวนาบ่อยๆ

7

ภาวนาปิดท้าย - ขอพระเยซูเจ้าผู้ประทับในศีลมหาสนิท โปรดทรงดลใจให้พระจิตเจ้ามาประทับ ท่ามกลางพวกลูก ให้มีความศรัทธาที่จะสวดอย่างสม่ำ�เสมอ เพื่อว่าพวกลูกจะได้ชิด สนิทสัมพันธ์กับพระองค์ - พระสิริรุ่งโรจน์ 3 จบ

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - จากการสังเกต - ใบงาน - การถาม-ตอบ

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................


89

ใบงาน “พระเยซูเจ้ากำ�ลังสวดภาวนา” คำ�ชี้แจง - ให้นักเรียนระบายสีรูปภาพด้านล่างนี้ และให้จินตนาการว่าพระเยซูเจ้ากำ�ลังสวดว่าอะไรแล้วเขียนลงใต้ภาพ


90

ภาพ “ธรรมชาติ”

ภาพ “ผู้ป่วย”

ภาพ “คนพิการ”

ภาพ “บ้าน”

ภาพ “ครอบครัว”


91

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

เรื่อง บัญญัติเอกของคริสตชน

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.3.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการปฏิบัติต่อผู้อื่นและเห็นความสำ�คัญของความรัก ได้แก่ ความรัก คือการให้ เสียสละ และไม่หวังสิ่งใดตอบแทน รักเขาอย่างที่เขาเป็นไม่ใช่รักเขาอย่างที่เรา ต้องการให้เขาเป็น - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนเลียนแบบพระเยซู แสดงความรักต่อเพื่อนพี่น้องด้วยการช่วยเหลือ ทุกคน สาระการเรียนรู ้ บัญญัติเอกของพระเจ้า คือ ให้เรารักองค์พระผู้เป็นเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สิ้นสุดวิญญาณ และสิ้นสุดสติปัญญา ของเรา และต้องรักเพื่อนพี่น้อง (มนุษย์ทั้งโลก) เหมือนรักตัวเอง ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย / สวดภาวนา / ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนจากครั้งก่อน - ตั้งคำ�ถาม “พระบัญญัติของพระเจ้ามีกี่ข้อ อะไรบ้าง ใครเป็นผู้รับพระบัญญัติ นี้มา และพระบัญญัติมีความสำ�คัญอย่างไร” - ให้นักเรียนพิจารณาพระบัญญัติ โดยแบ่งความสัมพันธ์ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเกี่ยวกับพระเจ้า และกลุ่มที่สองเกี่ยวกับมนุษย์ พระบัญญัติทั้ง 10 ข้อจะถูก จำ�แนกได้อย่างไรบ้าง โดยนำ�บัตรคำ�พระบัญญัตไิ ปติดไว้บนฟิวเจอร์บอร์ดหมายเลข 1 และ 2 ที่เตรียมไว้ - อธิ บ ายสรุ ป บั ญ ญั ติ ใ หม่ ที่ พ ระเยซู เจ้ า ทรงเทศน์ ส อนหรื อ “บั ญ ญั ติ แ ห่ ง ความรัก” ว่ามี 2 ข้อ ได้แก่ 1. จงรักพระเจ้าสิ้นสุดดวงใจ และสิ้นสุดกำ�ลัง และสิ้นสุด สติปัญญา 2. จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ถามนักเรียนว่า “ความรัก” คืออะไร รักใครบ้าง - ความรักในลักษณะต่างๆ ดังนี้ ความรัก คือความสุขใจ ถ้ามีความรักอยู่ใน ใจก็จะมีความสุข ความรักมีหลายแบบ เช่น ความรักของพระเจ้า พระเจ้าคือองค์แห่งความรัก พระองค์ทรงสร้างและ ประทานสรรพสิ่งในธรรมชาติแก่มนุษย์ ก็เพราะความรัก ฯลฯ ความรักของพ่อแม่ ความรักของพ่อแม่กเ็ หมือนความรักของพระเจ้า เพราะ พระเจ้าทรงประทานชีวิตให้แก่เรา ผ่านทางความรักของพ่อแม่ ท่านยอมทำ�งานด้วย ความยากลำ�บาก บางครั้งอดหลับอดนอน เพื่อลูกมีความสุขก็เพราะความรัก

ปากกาไวท์บอร์ด ☆ บัตรคำ�

กระดาษแข็งหรือฟิวเจอร์ บอร์ดสำ�หรับติดพระบัญญัติ


92

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

ความรักต่อตนเอง พระเจ้าสร้างเราตามพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ ด้วย ความรัก เราจึงเป็นผู้มีคุณค่าในตัวเอง ต้องรักและเคารพตัวเอง ไม่ทำ�สิ่งที่ผิด ทำ�แต่ สิ่งดีๆ ให้ตัวเอง เพื่อแสดงความรักต่อพระเจ้าและพ่อแม่ด้วย ความรักต่อเพือ่ นมนุษย์ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทกุ คนตามพระฉายาลักษณ์ ของพระองค์ด้วยความรักเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราต้องรักซึ่งกันและกัน เพราะเราต่างก็ เป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน พระเจ้าไม่เพียงสอนให้เรารักพระเจ้า รักพ่อแม่ รักเพือ่ น พีน่ อ้ งและรักคนทีร่ กั เรา และคนทีเ่ รารักเท่านัน้ พระองค์ยงั สอนให้เรารักคนทีย่ ากจน ต่�ำ ต้อย ยิง่ ไปกว่านัน้ พระองค์สอนให้เรารักศัตรู คนทีเ่ กลียดเรา ไม่ชอบหน้าเรา และ รังแกเราด้วย 3

พระวาจา - บทบัญญัติเอก (มธ 22 : 34-40) เมื่อชาวฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูเจ้าทรงทำ�ให้ชาวสะดูสีนิ่งอึ้งไป จึงมาชุมนุม พร้อมกัน มีคนหนึ่งเป็นบัณฑิตทางกฎหมายได้ทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ บทบัญญัตขิ อ้ ใดเป็นเอกในธรรมบัญญัต”ิ พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่าน จะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของ ท่าน นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก บทบัญญัติประการที่สองก็เช่น เดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์ เหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติและคำ�สอนของ บรรดาประกาศกก็ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติสองประการนี้”

4

อธิบายพระวาจา - ในสังคมยิว สะดูสีและฟาริสีเป็นกลุ่มคนที่มีความแตกต่างกัน คือ สะดูสีมี จำ�นวนน้อยกว่าแต่เป็นชนปกครองชั้นสูง เช่น มหาสมณะ ซึ่งมีความร่ำ�รวย และมี ความผูกพันแนบแน่นกับโรมเพื่อรักษาอำ�นาจของตนไว้ ส่วนฟาริสีคือกลุ่มคนที่ไม่ ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง - พระวรสารบอกให้รู้ว่า พวกสะดูสีไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายเพราะไม่มี ข้อความใดในหนังสือปัญจบรรพบอกว่าคนตายจะกลับคืนชีพ ส่วนพวกฟาริสีคงนึกชื่นชมพระเยซูอยู่ในใจที่ทรงสามารถทำ�ให้ปรปักษ์ทาง ความคิดอย่างพวกสะดูสี “นิ่งอึ้งไป” แต่ความชื่นชมนี้ก็ไม่อาจหยุดยั้งความประสงค์ร้ายของพวกเขาได้ พวกฟาริสี จึงรวมกลุ่มกันเพื่อหาทางจับผิดพระองค์อีก โดยส่งบัณฑิตทางกฎหมายมาถาม พระเยซูว่า “พระอาจารย์ บทบัญญัติข้อใดเป็นเอกในธรรมบัญญัติ” เพื่อจับผิดและ ฟ้องร้องพระองค์ฐานสบประมาทพระเจ้าได้ สำ�หรับพระเยซูเจ้า ธรรมบัญญัติมีประการเดียว ซึ่งมีองค์ประกอบสำ�คัญ 2 ส่วน คือ - รักพระเจ้า คือ “ท่านจะต้องรักพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดกำ�ลังของท่าน” เป็นการนำ�แก่นสำ�คัญของศาสนายิวมาดัดแปลง

หนังสือพระคัมภีร์


93

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

จาก “สุดกำ�ลัง” เป็น “สุดสติปัญญา” เพื่อเตือนสติพวกฟาริสีให้ลดละการใช้สติ ปัญญาเพือ่ คิดค้นหรือประดิษฐ์กฎระเบียบใหม่ๆ จากธรรมบัญญัตขิ องโมเสส สำ�หรับ พระองค์ สิง่ สำ�คัญทีส่ ดุ ทีเ่ ราต้องทุม่ เทสุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดสติปญ ั ญา คือ “รัก พระเจ้า” ต้องทุ่มเท “ความรักทั้งหมด” แด่พระเจ้า “การรักพระเจ้า” นอกจากจะสำ�คัญที่สุดเพราะเป็นบัญญัติเอกแล้ว ยังต้องมา ก่อนบทบัญญัติอื่นใดทั้งสิ้นอีกด้วย - รักเพือ่ นมนุษย์ เราต้องรักเพือ่ นมนุษย์เพราะความรักต่อพระเจ้าจะแสดงออก ได้ก็โดยการรักเพื่อนมนุษย์เท่านั้น นักบุญยอห์นจึงกล่าวว่า “ถ้าผู้ใดพูดว่า ‘ฉันรัก พระเจ้า’ แต่เกลียดชังพีน่ อ้ งของตน ผูน้ นั้ ย่อมเป็นคนพูดเท็จ เพราะผูไ้ ม่รกั พีน่ อ้ งทีเ่ ขา แลเห็นได้ ย่อมไม่รักพระเจ้าที่เขาแลเห็นไม่ได้” พระเยซูเจ้าจึงเป็นอาจารย์ท่านแรกที่นำ� “ความรักต่อพระเจ้า” และ “ความรัก ต่อเพื่อนมนุษย์” มาเชื่อมสัมพันธ์กัน 5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเยซูเจ้าต้องการให้เรามีหัวใจที่รักพระเจ้าเป็นอันดับแรก และรักเพื่อน มนุษย์เป็นอันดับต่อมา ดังนั้น เราจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติเอกของพระเยซู เพื่อ แสดงความรักที่แท้จริงต่อพระเจ้า - ให้นักเรียนทบทวนดูว่า เขาสามารถผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ความลำ�บาก มาได้เพราะพระเจ้าทรงช่วยเหลือเขา แล้วร้องเพลง “พระเจ้าทรงดีต่อฉัน”

CD หรือ VCD เพลง พระเจ้าทรงดีต่อฉัน ☆

6

หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนแสดงความรักต่อเพื่อนพี่น้อง ด้วยการช่วยเหลือทุกคน

7

ภาวนาปิดท้าย ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้ทรงรักมนุษย์นักหนา พระองค์ทรงลงมาบังเกิดและยอม ตายเพือ่ ไถ่บาปมนุษย์ ขอความรักของพระองค์ชว่ ยลูกให้รอดพ้นจากความบาปผิดทัง้ หลาย และขอพระองค์ทรงอยู่กับพวกลูกเสมอไป

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตการร่วมกิจกรรมของผู้เรียน

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................


94

ใบงาน “ชุดบัตรคำ�พระบัญญัติ” บัญญัติ เกี่ยวกับพระเจ้า

บัญญัติ เกี่ยวกับมนุษย์

จงนมัสการพระเจ้า ผู้เดียวของเจ้า

จงนับถือบิดามารดา อย่าฆ่าคน

อย่าออกนามพระเจ้า โดยไม่สมเหตุ

อย่าทำ�อุลามก อย่าลักขโมย

วันพระเจ้า อย่าลืมฉลอง เป็นวันศักดิ์สิทธิ์

อย่าใส่ความนินทา อย่าปลงใจใน ความอุลามก อย่ามักได้ทรัพย์ของเขา


95

บทเพลง “พระเจ้าดีต่อฉัน” Intro: C Em F Em G C C Em F C เหตุใดพระคริสต์ ทรงดีต่อฉัน ในวันที่ฉัน ล้มลง C Em F G หมดแรงไม่เหลือ ไม่ว่าใครก็คง ไม่อาจเติมสิ่ง.....ที่หายไป C Em F C ในวันที่เหลือ มีแต่เพียงร่างกาย ในใจร้องหา พระองค์ C Em F G ที่เติมเต็มฉัน ช่วยให้วันผ่านพ้น ในใจร้องบอกกับฉัน.. ว่า C Em Am Em * พระเจ้าดีต่อฉัน และพระองค์ทรงเติมฉัน F Em F G ในวันที่อ้อนล้า และทรงทันเวลาเสมอ C Em Am Em ไม่ช้าและไม่สาย ไม่รีบร้อนตามใจฉัน F Em F(Dm) G C ทรงดี ดีต่อฉัน และทรงทันเวลาเสมอ


96

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

เรื่อง พระบัญญัติ 10 ประการ/พระบัญญัติพระศาสนจักร

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.3.1 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้จักพระบัญญัติ 10 ประการและพระบัญญัติพระศาสนจักร - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้าและพระบัญญัติพระศาสนจักร ในชีวิตประจำ�วัน และบันทึกไว้ทุกครั้ง สาระการเรียนรู ้ พระเจ้าประทานพระบัญญัติ 10 ประการ ให้แก่เราผ่านทางโมเสส บนภูเขาซีนาย บัญญัติสามประการแรก เป็นบัญญัติเกี่ยวกับความรักต่อพระเจ้า บัญญัติอีกเจ็ดประการเป็นบัญญัติเกี่ยวกับความรักต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อเป็นแนวทาง ปฏิบัติในการดำ�เนินชีวิตประจำ�วันของเรา ด้วยความรักและเคารพในพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน ☆ ตัวอักษรตามข้อของ - ผู้สอนนำ�กิจกรรม แบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็น 14 กลุ่ม นำ�ตัวอักษรที่เตรียมเอาไว้ ตามบทบัญญัติพระเจ้าและพระศาสนจักรมาแจกให้แต่ละกลุ่มแข่งขันเรียงคำ�เป็น พระบัญญัติ 10 ประการ และพระบัญญัติพระศาสนจักร ข้อละ 1 ชุด ประโยค กลุ่มละ 1 ข้อ ภายในเวลา 2 นาที 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - สมาชิกในกลุ่มช่วยกันคิดถึงบทบัญญัติข้อที่ได้เรียงไป หาบทสอนและข้อ เตือนใจ ส่งตัวแทนกลุ่มมาแบ่งปัน - ผู้สอนนำ�ภาพเหตุการณ์ปัจจุบันที่สะท้อนสภาพของสังคม หาข้อคิดติดใจ - การอยู่รวมกันเป็นกลุ่มต้องมีกฎเกณฑ์ที่ปฏิบัติร่วมกันในฐานะที่เราเป็น คริสตชน เป็นประชากรของพระเจ้า กฎนั้นคือพระบัญญัติ 3 พระวาจา พระวรสารของท่านนักบุญมัทธิว บทที่ 19:16-22 ตอน เศรษฐีหนุ่ม - เวลานั้น ชายคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ทูลถามว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าต้องทำ� ความดีอะไรเพื่อจะมีชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เหตุใดจึงถามเราถึงความดี ผู้ทรงความดีมีแต่ผู้เดียวเท่านั้น ถ้าท่านอยากเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ก็จงปฏิบัติตาม บทบัญญัติเถิด” เขาทูลถามว่า “บทบัญญัติข้อใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าฆ่า คน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ จงนับถือบิดามารดา จงรักผู้อื่น เหมือนรักตนเอง” ชายหนุ่มผู้นั้นทูลถามว่า “ข้าพเจ้าปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ ทุกข้อแล้วยังขาดอะไรอีกหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ถ้าท่านอยากเป็นคนดี อย่างสมบูรณ์ จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ใน

ภาพ “เหตุการณ์ในสังคม ปัจจุบัน”

หนังสือพระคัมภีร์


97

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

สวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ยินพระวาจานี้ ชายหนุ่มผู้นั้นจากไปด้วย ความทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย 4

อธิบายพระวาจา - ในพระวรสารพูดถึงเศรษฐีหนุ่มที่มีความตั้งใจจะแสวงหาหนทางสวรรค์ มีชีวิต ทีด่ ี จึงมาขอคำ�แนะนำ�จากพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเห็นว่าเขามีความเพียบพร้อมแทบ ทุกประการ อยากจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ยกเว้นยังติดอยู่กับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมาย ทำ�ให้เขาเกิดความทุกข์ ทางที่จะทำ�ให้เศรษฐีหนุ่มมีชีวิตที่นิรันดรได้ เขาจะต้องแบ่ง ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ให้แก่คนยากจน และติดตามพระเยซูเจ้า

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - หนทางสู่ ชี วิ ต นิ รั น ดรและการเป็ น คนดี ค รบบริ บู ร ณ์ คื อ การเลี ย นแบบ พระเยซู เจ้ า ปฏิ บั ติ ต ามคำ � แนะนำ � สั่ ง สอนของพระองค์ โ ดยถื อ ตามพระบั ญ ญั ติ 10 ประการ และบัญญัติพระศาสนจักร เราสามารถปฏิบัติตามบัญญัติทั้งสองได้อย่าง ครบถ้วนเมื่อเราปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่นอย่างดี เช่น เราจะได้รับคำ�ชมเชยเมื่อเรา เชื่อฟังพ่อแม่ ท่านก็ไม่บ่นว่าว่าเราเกียจคร้าน หรือเป็นคนพูดปด และพ่อแม่ก็ภูมิใจ ที่มีเราเป็นลูกที่ดี การเป็นเด็กดีเราก็จะเป็นแบบอย่างชักชวนให้เพื่อนๆ อยากเป็น คนดีตามมา

6

หาข้อปฏิบัติ - ปฏิบัติตามบทบัญญัติพระเจ้าและบทบัญญัติพระศาสนจักรอย่างสม่ำ�เสมอ และจดบันทึกไว้ทุกครั้ง

7

ภาวนาปิดท้าย - ขับร้องเพลง “คนมีปัญญา” พร้อมท่าทางประกอบ และสวดบทข้าแต่พระบิดา, วันทามารีย์, พระสิริรุ่งโรจน์

ชีทเพลงคนมีปัญญา

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจของผู้เรียน - ประเมินผลติดตามพฤติกรรมที่พัฒนาขึ้นของผู้เรียน

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................


98

เนื้อเพลง คนมีปัญญา 1. คนมีปัญญา สร้างบ้านไว้บนศิลา (ซ้ำ�) เมื่อมีลมพายุพัดมา เมื่อฝนตกหนัก สายน้ำ�ก็ไหลเชี่ยว เมื่อฝนตกหนัก สายน้ำ�ก็ไหลเชี่ยว บ้านของเขาก็ยังคงอยู่ 2. คนโง่สร้างบ้าน สร้างบ้านไว้บนหาดทราย (ซ้ำ�) เมื่อมีลมพายุพัดมา เมื่อฝนตกหนักและน้ำ�ก็ไหลเชี่ยว เมื่อฝนตกหนัก และน้ำ�ก็ไหลเชี่ยว บ้านของเขาก็พังทลาย...โครม


99

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

เรื่อง บาปกำ�เนิดและผลของบาป

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.3.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : นักเรียนรู้จักบาปกำ�เนิดและรู้ว่าผลของบาปคือความตาย - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : นักเรียนเกลียดกลัวผลของบาป จึงหลีกเลี่ยงการทำ�บาปต่อพระเจ้าต่อตนเอง และต่อคนอื่น สาระการเรียนรู ้ บาปทำ�ลายความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ทำ�ให้มนุษย์ทุกคนต้องตาย ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - ให้นักเรียนวิ่งไปหยิบก้อนหิน คนละ 1 ก้อน ภายในเวลา 30 วินาที - สรุปให้นักเรียนเห็นว่า บางครั้ง สิ่งที่เราเลือกก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี มีประโยชน์เสมอ ไป บางคนเลือกก้อนหินซึ่งมีคำ�ว่า หนีเรียน ก็เหมือนเราเห็นว่าดี แต่ในความเป็นจริง การหนีเรียนทำ�ให้เราเสียโอกาสในการมีความรู้เท่าเทียมเพื่อน กลายเป็นคนโง่กว่า คนอื่น การหนีเรียนจึงเป็นบาป เป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำ� ดังนั้นเราต้องเป็นเด็กฉลาด รู้จักเลือกทำ�สิ่งที่ดี เช่น ไปวัดสวดภาวนา ไม่ทำ�สิ่งที่ไม่ดี เช่น หนีเรียน โกหก

ครูนำ�ก้อนหิน เท่าจำ�นวน นักเรียน ติดข้อความแล้ววางไว้ บนโต๊ะหน้าห้องเรียน (ข้อความ มี 2 ประเภท คือ ดีและไม่ดี เช่น ไปวัด ภาวนา หนีเรียน โกหก) ☆

2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - มนุษย์เป็นสิ่งสร้างฝ่ายจิต มีชีวิตอมตะ เมื่ออาดัมและเอวาฝ่าฝืนคำ�สั่ง พระเจ้า โดยกินผลต้องห้ามตามคำ�ชวนของปีศาจ บาปแรกของมนุษย์ก็เกิดขึ้นเรียกว่า บาปกำ�เนิด และสืบเนื่องตกทอดมาถึงมนุษยชาติที่เป็นลูกหลานด้วย - โทษของบาปกำ�เนิด อาดัมและเอวาถูกขับออกจากสวนเอเดน ทำ�มาหากินด้วยความยากลำ�บาก เกิดโรคภัยเบียดเบียน และสุดท้ายต้อง “ตาย” เพราะสูญเสียชีวิตเหนือธรรมชาติ คือ ชีวิตนิรันดร แต่พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งมนุษยชาติ และสัญญาว่าจะทรงส่งพระผู้ไถ่ มากอบกู้มนุษย์ให้ได้รับความรอด - กล่าวโดยสรุป บาปคือการทำ�ผิดต่อพระเจ้าโดยฝ่าฝืนคำ�สั่งของพระองค์ และ ผลร้ายของบาปคือ มนุษย์ต้องมีชีวิตที่ยากลำ�บาก เผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ และถึง แก่ความตาย 3 พระวาจา

มนุษย์ตกในบาป งูเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์ที่สุดในบรรดาสัตว์ป่าที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าทรงสร้าง มัน

หนังสือพระคัมภีร์


100

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ถามหญิงว่า “จริงหรือทีพ่ ระเจ้าตรัสห้ามว่าอย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆ ในสวนนี”้ หญิง จึงตอบงูว่า “ผลของต้นไม้ต่างๆ ในสวนนี้ เรากินได้ แต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวน เท่านั้น” พระเจ้าตรัสห้ามว่า “อย่ากินหรือแตะต้องเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องตาย” งูบอกกับหญิงว่า “ท่านจะไม่ตายดอก พระเจ้าทรงทราบว่าท่านกินผลไม้นนั้ วันใด ตา ของท่านจะเปิดในวันนัน้ ท่านจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือรูด้ รี ชู้ วั่ หญิงเห็นว่า ต้นไม้นนั้ มีผลน่ากิน งดงามชวนมอง ทั้งยังน่าปรารถนาเพราะให้ปัญญา นางจึงเด็ดผลไม้มา กิน แล้วยังให้สามีซงึ่ อยูก่ บั นางกินด้วย เขาก็กนิ ทันใดนัน้ ตาของทัง้ สองคนก็เปิดและ เห็นว่าตนเปลือยกายอยู่ จึงเอาใบมะเดื่อมาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างไว้ เย็นวันนั้น มนุษย์และภรรยา ได้ยินเสียงพระยาห์เวห์พระเจ้ากำ�ลังทรง พระดำ�เนินในสวน จึงหลบไปซ่อนให้พ้นจากพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระเจ้าในหมู่ ต้นไม้ของสวน แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเรียกมนุษย์ ตรัสถามว่า “ท่านอยู่ไหน” มนุษย์ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนก็กลัวเพราะข้าพเจ้าเปลือย กายอยู่ จึงได้ซ่อนตัว” พระองค์ตรัสถามว่า “ใครบอกว่าท่านเปลือยกายอยู่ ท่านได้ กินผลจากต้นไม้ทเี่ ราห้ามมิให้กนิ นัน้ หรือ” มนุษย์ทลู ตอบว่า “หญิงทีพ่ ระองค์ประทาน ให้อยูก่ บั ข้าพเจ้าได้ให้ผลจากต้นไม้แก่ขา้ พเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน” พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัส กับหญิงว่า “ท่านทำ�อะไรไปนี่” หญิงทูลตอบว่า “งูหลอกลวงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน” พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสกับงูว่า “เพราะเจ้าทำ�เช่นนี้ เจ้าจงถูกสาปแช่ง ใน บรรดาสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าทั้งปวง เจ้าจะต้องใช้ท้องเลื้อยไปตามพื้นดิน และกินฝุ่น เป็นอาหารทุกวันตลอดชีวิต เราจะทำ�ให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลูกหลานของเจ้า และลูกหลานของนางเป็นศัตรูกันด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และเจ้าจะกัดส้นเท้า ของเขา” พระเจ้าตรัสกับหญิงว่า “เราจะเพิ่มความทุกข์ทรมานในการคลอดบุตรแก่ท่าน ท่านจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด ท่านจะใฝ่หาสามี แต่เขาจะเป็นนายเหนือท่าน” พระองค์ตรัสกับมนุษย์ว่า “เพราะท่านได้ฟังเสียงของภรรยา และกินผลจาก ต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กิน แผ่นดินจะถูกสาปแช่งเพราะท่าน ท่านจะต้องหากินจาก แผ่นดินด้วยความทุกข์ยากทุกวันตลอดชีวิต แผ่นดินจะผลิตต้นหนามและกอหนาม และท่านจะกินพืชที่งอกในทุ่งนา ท่านจะมีอาหารกินก็ด้วยหยาดเหงื่อบนใบหน้า จนกว่าท่านจะกลับเป็นดินอีก เพราะท่านถูกปั้นมาจากดิน ท่านเป็นฝุ่นดิน และจะ กลับไปเป็นฝุ่นดินอีก” (ปฐก 3:1-19)

4

อธิบายพระวาจา - ผู้บันทึกพระคัมภีร์เล่าเรื่องบาปกำ�เนิดอย่างยืดยาวเพื่อจะบอกให้รู้ว่าบาปเกิด จากการเชือ่ ถือผูอ้ นื่ มากกว่าเชือ่ วางใจในพระเจ้า และมนุษย์ตอ้ งการมีชวี ติ เทียบเสมอ พระเจ้า ผลก็คือมนุษย์ต้องตาย กลายเป็นฝุ่นดิน - อาดัมฝืนคำ�สั่งพระเจ้ากินผลของต้นไม้กลางสวนเพราะเชื่อเอวา เมื่อถูกพระเจ้า ไต่ถามก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ โยนความผิดให้เอวา และกล่าวโทษพระเจ้าด้วยว่า เอวาเป็นคนที่พระองค์ประทานมา เพื่อปกป้องตนเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


101

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

- เอวาก็เหมือนกับอาดัม คือ ฝืนคำ�สั่งพระเจ้า กินผลต้องห้ามตามคำ�พูดของงู และชวนอาดัมให้ทำ�ผิดด้วย - งูเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจที่ใช้ความฉลาดในทางที่ผิดคือล่อลวงมนุษย์ให้ ทำ�บาป โดยตั้งใจอ้างคำ�สั่งของพระเจ้าผิดๆ ว่า พระองค์ห้ามกินผลไม้ทุกต้น ทำ�ให้ เกิดการพูดคุยระหว่างงูกบั เอวา แล้วจึงโกหกและยกคุณประโยชน์ของผลต้องห้ามทำ�ให้ เอวาเต็มใจฝืนคำ�สั่งพระเจ้า - พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งรวมทั้งมนุษย์อย่างเป็นระเบียบ การฝืนคำ�สั่งพระเจ้า ทำ�ให้ระเบียบที่พระองค์วางไว้เสียหาย 5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - ความผิดต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ คือ บาป เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด เป็น ความอกตัญญูต่อพระเจ้าที่แสนดี เราได้เรียนรู้มาในตอนแรกๆ แล้วว่า พระเจ้าทรงดี ต่อเราอย่างไร นับตัง้ แต่สร้างเรามาและประทานชีวติ ให้ และรับเราเป็นลูกของพระองค์ ประทาน พระเยซูคริสตเจ้าให้เป็นพี่ชาย ประทานพระหรรษทานให้เป็นของขวัญ แต่ เรายังอกตัญญูต่อพระองค์โดยฝ่าฝืนคำ�สั่งของพระองค์ ดังนั้น เราควรกลับใจและใช้ โทษบาป

6

หาข้อปฏิบัติ - สำ�นึกผิด และใช้โทษบาป โดยการภาวนาและทำ�กิจชดเชยบาปด้วยวิธี การแสดงความรัก อภัยให้แก่เพื่อนพี่น้อง ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และบรรเทาใจ ผู้อื่น

7

ภาวนาปิดท้าย - ข้าแต่พระเยซูเจ้า พวกลูกขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงยอมรับทรมานบน ไม้กางเขนเพื่อเราทุกคน ลูกขอสัญญาว่าจะไม่กระทำ�บาปต่อพระเจ้า และต่อคนอื่น ขอพระองค์เป็นบ่อเกิดแห่งแสงสว่างนำ�ทางไปสู่ความดี และโปรดยกโทษให้พวกลูก ด้วยเทอญ อาแมน

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจของผู้เรียน - ประเมินผลในการร่วมกิจกรรม

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................


102

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

เรื่อง พระเจ้าทรงรักมนุษย์และพร้อมที่จะให้อภัย

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.3.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้ถึง ความรัก ที่พระเจ้าทรงมีต่อมนุษย์ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนรักและให้อภัยซึ่งกันและกัน สาระการเรียนรู ้ พระเจ้าทรงรักมนุษย์มาก จึงส่งพระบุตรมาบังเกิดในโลก เพื่อรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่บาปมวลมนุษยชาติให้รอดพ้น ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/นำ�สวดภาวนา “บทแสดงความเชื่อ” 2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - ให้ผู้เรียนชมการ์ตูนเรื่อง “ลูกล้างผลาญ” - ข้อคิดจากเรื่องนี้ คือ ความรักที่บิดามีต่อบุตรนั้นใหญ่หลวงนัก แม้บุตรจะ ทำ�บาปหลงผิดไป บิดาก็ยังให้อภัยและต้อนรับกลับบ้านด้วยความยินดี

บทสวดภาวนา

วีซีดี เรื่องลูกล้างผลาญ

- บุตรที่สำ�นึกผิดและกลับมาหาบิดานั้น คือ คนที่ทำ�ผิดต่อพระเจ้าแล้วกลับใจ ขอโทษพระองค์ และตั้งใจจะไม่ทำ�บาปอีก - ส่วนบุตรชายคนโตที่อยู่กับบิดาตลอดนั้น มีใจอิจฉา โกรธเคืองบิดาซึ่งเมตตา น้อง เปรียบเสมือนคนที่ไม่ยอมให้อภัยผู้อื่น - ดังนั้น เราจึงควรอภัยให้ผู้อื่นเหมือนบิดาอภัยบุตร 3 พระวาจา - พระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 23 ข้อที่ 33-43 “เมื่อมาถึงสถานที่ที่เรียกว่าเนินหัวกระโหลก บรรดาทหารตรึงพระองค์ที่นั่น พร้อมกับผู้ร้ายสองคน คนหนึ่งอยู่ข้างขวาและอีกคนหนึ่งอยู่ข้างซ้าย พระเยซูเจ้าตรัส ว่า “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รวู้ า่ กำ�ลังทำ�อะไร” ทหาร นำ�เสื้อผ้าของพระองค์ไปจับสลากแบ่งกัน ประชาชนยืนดูอยู่ที่นั่น ส่วนบรรดาผู้นำ�เยาะเย้ยพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่น ให้ร้ อดพ้นได้ ก็ให้เขาช่วยตนเองซิ ถ้าเขาเป็นพระคริสต์ผทู้ พี่ ระเจ้าทรงเลือกสรร แม้แต่ บรรดาทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วย เขานำ�เหล้าองุ่นเปรี้ยวเข้ามาถวาย พลางกล่าวว่า “ถ้าท่านเป็นกษัตริยข์ องชาวยิว ก็จงช่วยตนเองให้รอดพ้นซิ” มีค�ำ เขียนไว้เหนือพระองค์ ว่า “ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว” ผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนพูดดูหมิ่นพระองค์ว่า “แกเป็นพระคริสต์

พระคัมภีร์


103

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้ ไม่ใช่หรือ จงช่วยตนเองและช่วยเราให้รอดพ้นด้วยซิ” แต่อกี คนหนึง่ ดุเขา กล่าวว่า “แก ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือที่มารับโทษเดียวกัน สำ�หรับพวกเราก็ยุติธรรมแล้ว เพราะเรา รับโทษสมกับการกระทำ�ของเรา แต่ท่านผู้นี้มิได้ทำ�ผิดเลย แล้วเขาทูลว่า “ข้าแต่ พระเยซู โปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย เมื่อพระองค์จะเสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์” พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ ท่านจะอยูก่ บั เราในสวรรค์”

4

อธิบายพระวาจา กางเขนคือเครื่องประหารที่ทรมานที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยคิดประดิษฐ์ขึ้นมา มี ลักษณะเป็นรูปตัว T โดยไม่มีส่วนบนไว้พิงศีรษะ ตรงกลางมีไม้ยื่นออกมาเป็นที่นั่ง รองรับน้ำ�หนักของนักโทษ นักโทษจะถูกตะปูตอกที่มือทั้งสองข้าง ส่วนขาใช้เชือกมัด ไว้ เมื่อนำ�กางเขนตั้งและปักลงบนดิน ขาของนักโทษจะอยู่เหนือพื้นดินเพียง 2-3 ฟุต ความทรมานนั้นแสนสาหัส แต่ไม่ถึงกับตายทันที นักโทษจะถูกปล่อยให้อดอาหาร อดน้ำ� มดแมลงต่างๆ ไต่ตอม กลางวันก็ถูกแสงแดดแผดเผา กลางคืนก็หนาวเข้า กระดูก บางคนถูกแขวนนานนับสัปดาห์จึงจะตายเหมือนคนบ้า ป้ายที่ติดบนกางเขนคือข้อหาของนักโทษประหาร “ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว” คือข้อหาของพระเยซูเจ้า และต่อหน้า “กษัตริย์” บนไม้กางเขนนี้เองที่ผู้คนเริ่มแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย อย่างชัดเจน 1. ฝ่ายที่เยาะเย้ยความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า พวกผู้นำ�ชาวยิว บรรดานายทหารที่ควบคุมการประหาร รวมถึงผู้ร้ายคนที่หนึ่ง ที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้า ล้วนเยาะเย้ยถากถางพระองค์ เป็นถ้อยคำ�ที่ บาดลึกจิตใจผู้ฟัง แต่คำ�ตอบของพระเยซูเจ้า คือ “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัย ความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำ�ลังทำ�อะไร” ทั้งๆ ที่พระองค์กำ�ลัง ทนทุกข์ทรมานใกล้ตาย และถูกสบประมาท หัวใจของพระเยซูเจ้า กษัตริย์ของ เราก็คือ “รักและให้อภัย” 2. ฝ่ายที่ยอมรับว่าพระเยซูเจ้าคือ “กษัตริย์” ต่อหน้ากษัตริย์ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน ประชาชนเริ่มแยกตัวเองออกจาก บรรดาผู้นำ�ของพวกเขา แต่บัดนี้ พวกเขายืนดูอยู่เงียบๆ ด้วยความสงสาร หาได้ร่วม เยาะเย้ยพระองค์เหมือนที่พวกผู้นำ�และทหารกระทำ�ไม่ และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ลูกาเล่าว่า “ประชาชนที่มาชุมนุมกันดู เหตุการณ์นี้ เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ข้อนอก พากันกลับไป” แน่นอนว่าหลายคน สำ�นึกผิด และยอมรับว่าป้ายที่พวกเขาตั้งใจเขียนประจานพระเยซูเจ้านั้น กลับกลาย เป็นของจริงคือ “ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว” อาศัยการนบนอบต่อพระบิดาจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระบิดาจึงยกย่อง พระเยซูเจ้าขึ้นสู่เกียรติมงคลสูงสุด ให้ประทับเบื้องขวาของพระเจ้าเป็น “กษัตริย์แห่ง สากลจักรวาล” ด้วย

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


104

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - พระเจ้าทรงรักมนุษย์มากจนส่งพระบุตรมาสิ้นพระชนม์เพื่ออภัยบาปของมนุษย์ ความรักทีพ่ ระเยซูแสดงให้เราเห็นจึงต้องประกอบด้วยการให้อภัยเป็นสำ�คัญ หากเรา ไม่เรียนรู้ที่จะ “ให้อภัย” ไม่นำ�ความรักความเมตตาของพระเยซูเจ้ามาแบ่งปันแก่กัน และกัน ความรักของเราก็จะไม่เกิดผล เพราะไม่ใช่ความรักแบบพระเจ้า ดังนัน้ เราต้อง รักและให้อภัยเพื่อนพี่น้องเหมือนที่พระเยซูอภัยให้โจรและทุกคนที่เย้ยหยันพระองค์ เช่น ไม่โกรธเพื่อนเมื่อเขาทำ�ผิดต่อเรา

6

หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนรักและให้อภัยแก่กันและกัน

7

ภาวนาปิดท้าย - ร้องบทเพลง “แก่นรัก” และสวดภาวนา “บทแสดงความรัก”

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

☆ CD

เพลงแก่นรักและชีทเพลง

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจของผู้เรียน - ประเมินผลงานจากการ์ดอวยพร

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................

บทเพลง “แก่นรัก” 1. ความรัก นั้นอดทนนาน ความรักกระทำ�คุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัวหยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว 2. ความรักนั้น ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำ�ความผิด ไม่ยินดี เมื่อผิดพรั้งไป ร่วมแรงร่วมใจ สร้างกันและกัน *** รัก ทนได้ทุกอย่าง ความรักนั้น ทนได้ทุกอย่าง ความรักคือการอภัย ความรักคือการให้กัน มีหวังเสมอ อภัยได้ทุกที รัก ทนได้ทุกอย่าง ความรักนั้นทนได้ทุกอย่าง ให้เชื่อในส่วนดี ในกันเสมอไป ต้องคงมั่นอยู่เคียงข้างกันเสมอไป


105

แผนการจัดการเรียนรู้ “คริสตศาสนธรรม” แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6

เรื่อง บาปต้น 7 ประการ

มฐ. การเรียนรู้ ส 1.3.2 เวลา 50 นาที

ชั้น เตรียมรับศีลมหาสนิท ภาคเรียนที่ ................ วันที่สอน ......./......./....... จำ�นวน 1 คาบ

จุดประสงค์ - ด้านความรู้ : ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจความหมายของบาปต้น 7 ประการ - ด้านพฤติกรรม/ข้อปฏิบัติ : ผู้เรียนหลีกเลี่ยงการทำ�บาปผิดตามบาปต้น 7 ประการ และปฏิบัติสิ่งที่ดี สาระการเรียนรู ้ บาปเป็นการจงใจฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระเจ้า มี 2 ชนิด คือ บาปหนักและบาปเบา อาจแบ่งเป็นนิสัย เคยชินในบาปเรียกว่า พยศชั่ว หรือบาปต้น 7 ประการ ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1 นำ�เข้าสู่บทเรียน - ทักทาย/สวดภาวนา/ทบทวนบทเรียน - สอนร้องเพลง “บาปต้น 7 ประการ”

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ ☆

เพลงบาปต้น

หนังสือพิมพ์

2 เข้าสู่ประเด็น (ประสบการณ์) - บาป คือ การจงใจฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระเจ้าและพระบัญญัติพระศาสนจักร - บาป มี 2 ชนิด คือ บาปหนัก คือ การฝ่าฝืนพระบัญญัติในข้อหนัก โดยรู้ตัวและยินยอมเต็มใจ บาปหนักทำ�ให้เราสูญเสียพระหรรษทานศักดิ์สิทธิกร และความดีต่างๆ ทำ�ให้เรา เหินห่างจากพระเจ้าและจะต้องรับอาญาโทษ บาปเบา คือ การทำ�ผิดพระบัญญัติในข้อเล็กน้อยโดยรู้ตัว และยินยอมเต็มใจ หรือทำ�ผิดพระบัญญัติในข้อหนักโดยไม่สู้ยินยอมเต็มใจ บาปเบาทำ�ให้ความรักและ ความศรัทธาต่อพระเจ้าถดถอยลง ทำ�ให้ตกในบาปหนักได้ง่าย และจะต้องรับโทษใน ไฟชำ�ระรวมถึงการละเลยหน้าที่ของตนเอง และการผิดความยุติธรรมด้านความรักต่อ พี่น้องด้วย ทำ�กิจกรรมสำ�รวจบาป โดยให้นักเรียนเปิดหนังสือพิมพ์หาข่าวที่เป็นบาป และให้เหตุผลในการเลือกหัวข้อข่าวนั้น นิสัยหรือความเคยชินในบาป ซึ่งเป็นมาแต่กำ�เนิด หรือเกิดจากการทำ�บาป นั้นซ้ำ�ๆ กันบ่อยจนเคยตัว เรียกว่า พยศชั่ว หรือ บาปต้น 7 ประการ 1. จองหอง ไม่รู้จักอดกลั้น - มักใหญ่ใฝ่สูง - ทะเยอทะยาน - เจ้าทิฐิ - ถือดี ในตัว - เชื่อภูมิตัวเอง - โอ้อวด - ขี้โม้ - คุยโว - วางมาด - ไม่ต้องการคำ�แนะนำ� - เจ้าอารมณ์ - ถือตัว - โอหัง - เอาแต่ใจตัวเอง - ดื้อรั้น - หมกมุ่นแต่ความขุ่น เคือง - อวดดี - วางท่า - แสนงอน


106

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

2. ตระหนี่ เห็นแก่ตัว - เห็นแก่ได้ - ขาดความเผื่อแผ่ - ใจแคบ - เจ้าอุบาย หลอกลวง - กักตุน - สะสม - ปกปิดซ่อนเร้น - ขาดเมตตา - ไม่สงเคราะห์ช่วย เหลือผู้อื่น - ยึดมั่นถือมั่นในของนอกกาย และในสิ่งของโลก 3. ลามก อยากรู้อยากเห็น - ปล่อยตัวปล่อยใจ - ฝักใฝ่ - หมกมุ่น - ลุ่มหลง ทั้งความคิด - การอ่าน - การมอง - พาจิตใจให้ฟุ้งซ่าน - ปล่อยความคิดเรื่อยเปื่อย กิริยาวาจาหยาบโลน - พูดจาส่อเสียด - ไม่รักษาเกียรติและศักดิ์ศรี - แต่งกาย ล่อแหลม - คิดสกปรก - ปล่อยใจ - ไม่มีใจเป็นอิสระ 4. อิจฉา เกลียดชัง - ซุบซิบนินทาว่าร้าย - กล่าวร้ายป้ายสี - ทำ�ลายเกียรติ พูดเสียดสี - ประชดประชัน - ดีใจเมื่อคนอื่นเป็นทุกข์เสียใจ - ไม่ชอบเมื่อคนอื่นได้ ดีกว่าตนเอง - กลั่นแกล้ง - ปัดแข้งปัดขา - กีดกัน 5. ความโลภ คิดพูดแต่เรื่องอาหาร - เอาแต่เรื่องกิน - จู้จี้ขี้บ่น - ไม่พอใจกับ สิ่งที่มี - เน้นการบริโภค - เวลากินไม่สนใจใคร - ไม่ยับยั้งในการกิน การดื่ม ดื่มเหล้าจนเมามาย - มูมมาม - ตะกละ - ไม่รู้จักพอ - ฝักใฝ่สลวน (สา-ละ-วน) มักได้ตลอดเวลา 6. ความโมโห ความรังเกียจ - ความไม่ชอบ - โกรธด้วยอาการเงียบ ความไม่พอใจ - ขุ่นเคือง - เดือดดาล - ฉุนเฉียว - อาฆาต - แก้เผ็ด - ไม่สะกด อารมณ์ 7. เกียจคร้าน เฉื่อยชา - ชักช้า - ลังเล - เอื่อยเฉื่อย - ไม่ใส่ใจ - ท้อถอย ขาดความรับผิดชอบ - ไม่สม่ำ�เสมอ - ตามใจตนเอง - ไม่เอาจริงเอาจัง - ส่งเสริม ไม่ขึ้น - เอาแต่สบายง่ายๆ ผลัดวันประกันพรุ่ง 3

4

พระวาจา - พระวรสาร มัทธิว 5:29-30 “ถ้าตาขวาของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำ�บาป จงควักมันทิ้งเสีย เพราะเพียงแต่ เสียอวัยวะส่วนเดียว ยังดีกว่าปล่อยให้ร่างกายทั้งหมดของท่านตกนรก ถ้ามือขวาของ ท่านเป็นเหตุให้ท่านทำ�บาป จงตัดมันทิ้งเสีย เพราะเพียงแต่เสียอวัยวะส่วนเดียว ยัง ดีกว่าปล่อยให้ร่างกายทั้งหมดตกนรก” อธิบายพระวาจา - พระเจ้าทรงสร้างร่างกายขึ้นมาตามพระฉายา เราพึงใช้ตามความสวยงาม ความดี ใช้หูฟังสำ�เนียงไพเราะในธรรมชาติ ใช้จมูกสูดกลิ่นหอมหวนของดอกไม้ ใช้ ปากเอ่ยวาจาสรรเสริญพระองค์ด้วยการสวดภาวนา ร้องเพลงสดุดี ใช้อวัยวะทุกส่วน เพื่อสรรเสริญ ขอบพระคุณพระองค์พระผู้สร้าง - อวัยวะเป็นสิ่งสำ�คัญของร่างกาย ถ้าอวัยวะส่วนนั้นทำ�ให้เราตกอยู่ในบาป เราก็ต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นทิ้ง เพื่อรักษาร่างกายที่เหลือทั้งหมดเพื่อไม่ให้ตกนรก ดังนัน้ เราต้องละทิง้ บาป ไม่ท�ำ ตามอำ�เภอใจทีข่ ดั พระประสงค์ของพระเจ้า ดำ�เนินชีวติ ในหนทางแห่งดี

หนังสือพระคัมภีร์


107

ที่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

5

ประยุกต์เข้ากับชีวิต - หลายครั้งเราใช้ร่างกายทำ�ผิดต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้าง เช่น ใช้ตาดูถูกเพื่อน เย้ยหยันเพื่อนต่างห้องเรียน หรือมองดูสิ่งที่ไม่ควร ใช้หูฟังเรื่องไม่ดี ใช้จมูกสูดดมสารเสพติด ใช้ปากพูดถ้อยคำ�หยาบคาย โกหกพ่อแม่ ด่าแช่ง สบประมาท เพื่อน - พระเยซูเจ้าสอนให้เราใช้ร่างกายอย่างถูกต้อง เพราะชีวิตเป็นของประทานจาก พระเจ้า เราจึงต้องรู้จักควบคุมตัวเอง ไม่ปล่อยจิตใจให้ตกอยู่ในบาป หลงผิดไปตาม กระแสของสังคมรอบข้าง โดยดูแลรักษาสุขภาพฝ่ายกายและวิญญาณให้แข็งแรง สมบูรณ์อยู่เสมอ หมั่นกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำ�ลังกาย สวดภาวนา พลีกรรม ใช้โทษบาป ไม่เสี่ยงกับอันตรายที่จะทำ�ให้ร่างกายพิการหรือสูญเสียวิญญาณไป

6

หาข้อปฏิบัติ - ผู้เรียนหลีกเลี่ยงการทำ�ผิดตามบาปต้น 7 ประการ และปฏิบัติสิ่งที่ดี

7

ภาวนาปิดท้าย - สวดบทภาวนาบท “แสดงความทุกข์” และบท “แสดงความรัก”

8

การประเมินผลการเรียนรู้ - สังเกตความสนใจของผู้เรียน - ประเมินผลการเรียนรู้จากข้อตั้งใจและติดตามผล

9

บันทึกผลหลังการสอน ......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................

บทเพลง “บาปต้น 7 ประการ” ** ไม่ทำ�เราจะไม่ทำ� ไม่ทำ�เราจะไม่ทำ� บาปนั้นนำ�ความเศร้าเสียใจ (2 รอบ) 1. จองหองและอิจฉา เกลียดชังเห็นแก่ตัว บาปน่ากลัวไม่น่าสนใจ ไม่ควรนำ�เอามาใส่ใจ (**) 2. ตระหนี่ถี่เหนียว โมโหโลภอาหาร น่ารำ�คาญไม่น่าสนใจ ไม่ควรนำ�เอามาใส่ใจ (**) 3. ลามกและเกียจคร้าน การงานไม่ไหวติง จะต้องทิ้งไม่น่าสนใจ ไม่ควรนำ�เอามาใส่ใจ (**)

สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้


108

สาระคริสตศาสนธรรมในกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 เข้าใจประวัติ ความสำ�คัญของข้อความเชื่อตามหลักคริสตศาสนา สามารถนำ�มา เป็นหลักปฏิบัติในการเจริญชีวิต และเป็นประจักษ์พยานให้แก่ผู้อื่น 1.1.1 พระเจ้า พระบิดา 1.1.2 พระเยซูเจ้า-ธรรมล้ำ�ลึกปัสกา 1.1.3 พระจิตเจ้า 1.1.4 พระศาสนจักร 1.1.5 ชีวิตหลังความตาย 1.1.6 พระคัมภีร์ มาตรฐาน ส 1.2 ร่วมศาสนพิธีธรรมล้ำ�ลึกของคริสตชนอย่างรู้ความหมาย ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธา สร้างสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยการภาวนา 1.2.1 ศีลศักดิ์สิทธิ์ 1.2.2 มิสซา 1.2.3 พิธีกรรม 1.2.4 การภาวนา มาตรฐาน ส 1.3 ประพฤติ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของคริสตศาสนา นำ�คุณค่าพระวรสารมา ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนให้บรรลุความสมบูรณ์ด้านมนุษยธรรมและ คริสตธรรม สามารถบำ�เพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อนำ� ความยุติธรรมและสันติสู่ชุมชน 1.3.1 พระบัญญัติ 1.3.2 บาป-มโนธรรม 1.3.3 คุณธรรมหลัก


109

หน่วยการเรียนรู้วิชาคำ�สอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยที่

เรื่อง

1

ส 1.1.2 พระเยซูเจ้า-ธรรมล้ำ�ลึกปัสกา - พระเยซูเจ้าทรงเป็นพี่ชายและเพื่อนของฉัน - พระเยซูเจ้าทางเป็นผู้นำ�ทางของฉัน - พระเยซูเจ้าทรงเรียกฉันให้เป็นศิษย์ของพระองค์

2

ส 1.1.4 พระศาสนจักร - องค์ประกอบของพระศาสนจักร - พระนางมารีย์รับสารจากเทวดาคาเบรียล

3

ส 1.1.6 พระคัมภีร์ - พระคัมภีร์เล่าเรื่องประวัติศาสตร์แห่งความรอด

4

ส 1.2.1 ศีลศักดิ์สิทธิ์/ ส 1.2.2 มิสซา/ ส 1.2.3 พิธีกรรม - ศีลล้างบาป - พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท - ความหมายของศีลมหาสนิท - ผลของศีลมหาสนิท - ศีลมหาสนิทเป็นบูชาชดเชยบาป - ศีลมหาสนิทเป็นรูปแบบของงานเลี้ยงในสวรรค์ - วิธีเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทและสิ่งควรปฏิบัติหลังการรับศีลมหาสนิท - ศีลมหาสนิทและพระวาจาคืออาหารฝ่ายจิตของคริสตชน - ความหมายของศีลอภัยบาป - การพิจารณามโนธรรม - การเสียใจ สำ�นึกผิด และการเป็นทุกข์ถึงบาป - วิธีรับศีลอภัยบาป : การสารภาพบาป - การใช้โทษบาป - ความหมายของพิธีบูชาขอบพระคุณ - การร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ

5

ส 1.2.4 การภาวนา - ฉันเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทด้วยการภาวนา

6

ส 1.3.1 พระบัญญัติ/ ส 1.3.2 บาป-มโนธรรม/ ส 1.3.3 คุณธรรมหลัก - บัญญัติเอกของคริสตชน - พระบัญญัติ 10 ประการ (ภาพรวม) - ทบทวนเรื่องบาป (บาปกำ�เนิด/บาปส่วนตัว/ผลร้ายของบาป) - พระเจ้าทรงรักมนุษย์และพร้อมที่จะให้อภัย - บาปต้น 7 ประการ

เวลาเรียน (คาบ)




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.