จบแลวไปไห
©ºÑº·Õè 16 »‚·Õè 2
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
น?
à¢Õ¹àͧ ใครบางที่ไมอยากเรียนจบ? ผมคงไมไดเห็นมือของใครยกขึ้นมาบอกหรอกวา ‘ไมอยากเรียนจบ’ เผลอๆ อาจจะโดน รองเทาขวางใสเสียดวยซํา เพราะจะมีใครบางที่ไมอยากจะจบ แมแตตัวผมเองก็ตาม ผมก็ยัง อยากจะเรียนใหจบไปพรอมๆ กับเพื่อนๆ รุนเดียวกัน ผมลองมานั่งคิดดู ถา (สมมุติเทานั้นนะครับ) ผมเรียนไมจบภายใน 4 ป ตัวของผมเอง จะมีสภาพเปนเชนไร อยางแรกก็คงจะเปนโรคนําตาตก ตองไปขอโทษพอแมที่เรียนจบชากวา คนอื่นๆ ขอรองใหชวยจายคาเทอมตอไปใหดวย ตอมาคงเปนโรคหูชา เพราะคงโดนพวกเพื่อน รุมลอวาเรียนยังไงถึงไมจบ สุดทายคงเปนโรคชําใจจนตองทําใจวาตัวเลขและตัวอักษรบน กระดาษของผมยังมีไมครบตามที่เขากําหนดไว ถาอยากจบก็ตองไปหามาเพิ่มใหครบ เจอสามโรคนี้เขาไป ไมตาย ก็ปางตายละครับ เห็นหรือยังวาการเรียนไมจบอาจจะทําให ถึงขั้นตายได เลยเปนเหตุผลที่ใครๆ ก็อยากจะเรียนใหจบ นอกจากเหตุผลปางตายขางบนของผมแลว พอจะมีเหตุผลอื่นอีกหรือเปลาที่มาทําให เราจําเปนตองเรียนใหจบ ผมเชื่อวาคงมีอีกมากมายแนนอน แตเหตุผลเหลานั้นคงวางอยูบน ฐานทางความคิดของสังคมมากกวา ไมไดมาจากหลักความคิดทางการศึกษาที่แทจริง การเรียนจบกลายเปนเรื่องจําเปนและเรื่องสําคัญของมนุษยในสังคมปจจุบัน คาของการ ศึกษาอยูแคกระดาษที่บอกวาคุณเรียนจบแลว และถาเลขบนกระดาษของคุณดูไมคอยสวย มัน ก็หมายความวาคุณก็หนาตาไมคอยจะดี เพราะทุกๆ อยางในยุคนี้ถูกตีคาเปนตัวเลขไปเกือบ หมดแลว การศึกษาที่แทจริงมีเปาหมายเพื่อที่จะทําใหมนุษยไดมีความรูหรือไดเรียนรูเพื่อพัฒนา ตนเอง หัวใจของการศึกษาจึงสมควรเปนตัวความรู ความสามารถที่คุณมีและไดรับมาจากการ เรียนรู มากกวาจะเปนคาทางวัตถุที่สังคมชวยกันสรางขึ้นมา คิดไปคิดมาผมยอมเสี่ยงตายเปนโรคที่เขียนไวขางบนดีกวา เพราะผมคงจะไมมีความสุข ถาหากเขาจะใหผมจบเพียงเพราะผมมีตัวเลขและตัวอักษรครบตามที่เขาตองการ แตหัวสมอง ของผมยังมีรอยหยักไมครบตามที่ผมตองการหรือสมควรจะมี อยางนอยผมก็ยงั พอมีโอกาสที่จะรอดไปเรียนรูและมีชีวิตตอได ดีกวาเรียนจบแลว ออก ไปหลอกตัวเองวาเปนคนมีความรู บรรณาธิการ
- หยิบทอรชไดฟรี ที่หนาหองคณะกรรมการนักศึกษา (กนศ.) ตึกคณะศิลปศาสตร ทาพระจันทรและรังสิต
2
inside 4
ä»=went
á»ÐºÍà ´ 6 introduce 12
20
ÊÒÃÐÈÔÅ»Š
bon appetit 22 26 ÁÕàÃ×èͧ
ËÁعªÕÇÔμ
©ºÑº·Õè 16 »‚·Õè 2
¹Ñ觤Ø 14
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
พี่แมน & พี่ฟาฟ
ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ 30
24
áÅŒÇâÅ¡¡çËÁعä»
28
TEAM TORCH’s FEB 09 - บรรณาธิการ : ศศินทร วิทูรปกรณ กองบรรณาธิการ : โสภาพรรณ โยปนตา, กมลวรรณ เชาวอรัญ, ผณินทร แกวเงิน, ทิมา เนื่องอุดม, ชลิตา วัฒนศิริ นักเขียน : สิรีธร สิมะวัฒนา, คามิน ชอชัยทิพย, ประทุมรัตน นางแยม พิสูจนอักษร : พีณา พิภพภิญโญ ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ : สุธี วงศสาวิตร, ธณัฏฐา อนุวงศพินิจ อํานวยการผลิต : ฝายการนักศึกษา และ คณะกรรมการนักศึกษาคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ติดตอ : the-torch@hotmail.com
á»ÐºÍà ´ เรื่อง : หญิงสายลม
พบกันอีกครั้งนะคะ กับขาวสารดีๆ และนาสนใจที่ ’หญิงสายลม’ นํามาฝาก เพื่อนๆ ชวงนี้ทุกคนคงจะวุนอยูกับการเตรียมตัวสอบ Final กันใหญ ‘หญิงสายลม’ ขอเปน กําลังใจใหทุกคนได เอ นะคะ ขาวชิ้นแรกของฉบับนี้ คือ
“โครงการประกวดตนฉบับรางวัลนานมีบุคสอะวอรด ปที่ 3 ประจําป 2552” ชิงรางวัลเงินสดกวา 630,000 บาท พรอมโลประกาศเกียรติคุณ การประกวดแบงเปน 3 ประเภท คือ 1.นิทานสงเสริมคุณธรรม 2.การตูนความรู 3.นวนิยายรัก เปดรับผลงานตั้งแต กันยายน 2551 – 30 มีนาคม 2552 ตัดสินและประกาศผล ตุลาคม 2552 เพื่อนๆ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ www.nanmeebooks.com หรือ โทรไปสอบถามเพิ่มไดที่ 0-2662-3000 กด 1 สวนนี้คือขาวที่สองคะ
“โครงการประกวดวรรณกรรมเยาวชน รางวัลแวนแกว ครั้งที่6 ประจําป2552” การประกวดแบงเปน 2 ประเภท คือ นวนิยายสําหรับเยาวชนและสารคดีสําหรับเยาวชน ผลงานที่ไดรับรางวัลทุกเรื่องจะไดรับการจัดพิมพเปน หนังสือ พรอมคาลิขสิทธิ์และเงินรางวัล เปดรับผลงานตั้งแต กันยายน 2551 – 30 เมษายน 2552 ตัดสินและประกาศผล ตุลาคม 2552 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมไดจาก www.nan meebooks.com เชนกันคะ นาสนใจทีเดียวนะคะ สําหรับขาวการประกวดทั้งสองเรื่องที่ ‘หญิงสายลม’ ไดนํา มาอัพเดตใหเพื่อนๆ ไดทราบกันอยางถวนหนา ใครที่สนใจอยาเก็บความสามารถนั้นไวเอง นะคะ นํามาแสดงออกอยางสรางสรรคดีกวาคะ ฉบับนี้ ‘หญิงสายลม’ ยังไดคุณ ‘ปราการนําแข็ง’ มาชวยเขียนแนะนําเกี่ยวกับการ สอบ TU-GET ดวย หมดที่แลวคะ ถางั้น ‘หญิงสายลม’ ขอตัวไปอานหนังสือกอนนะคะ
4
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
á»ÐºÍà ´(¾ÔàÈÉ) เรื่อง : ปราการนํา แข็ง
What is TU-GET?
สวัสดีครับ ทักทายกันอีกครั้งกับจุลสาร TORCH ฉบับปรับปรุงใหม ฉบับนี้ผมไดรับมอบ หมายจากกองบรรณาธิการมาใหขอมูลเกี่ยวกับการสอบ TU-GET และรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งจะได กลาวถึงกันตอไป เขาเรื่องกันเลยดีกวา TU-GET คือ อะไร? TU-GET ยอมาจาก Thammasat University Graduate English Test โดยเปนการสอบเพื่อ นําคะแนนที่ไดไปยื่นสมัครเขาเรียนตอในระดับบัณฑิตศึกษา หรือปริญญาโท-เอก นั่นเอง แตนักศึกษา ระดับปริญญาตรีสวนใหญก็นิยมที่จะสมัครสอบเพื่อวัดระดับความรูทางภาษาอังกฤษของตัวเองดวย การสมัครสอบ การสมัครสอบสามารถทําได 2 วิธีครับ คือ 1. ไปซื้อใบสมัครเองเลยที่สถาบันภาษา ทั้งที่ธรรมศาสตรศูนยรังสิตและทาพระจันทร คาใบสมัครสอบ ชุดละ 30 บาท และคาธรรมเนียมการสมัครอีก 500 บาท 2. ดาวนโหลดจากเว็บไซตแลวชําระเงินผานทางธนาณัติ วิธีนี้รายละเอียดขั้นตอนคอนขางเยอะ เขาไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่นี่ครับ http://www.tu.ac.th/org/litu/tu_get/manual.pdf ผูสมัครจะไดรับ บัตรผูเขาสอบภายใน 1 สัปดาห ถาไมไดก็ตองติดตอที่สถาบันภาษาโดยตรงครับ **นักศึกษาธรรมศาสตรเสียคาธรรมเนียมการสมัครแค 40 บาท จาก 500 บาทครับ เพราะ ฉะนั้น เมื่อมีสิทธิ์แลวก็นาจะใชใหคุมนะ** รอบการสอบและวันที่สมัครสอบ ในปการศึกษา 2552 การสอบจะแบงออกเปน 10 รอบครับ แตกตางกันตามวันที่รับสมัคร และวันที่สอบ ตามตารางขางลางนี้เลยครับ รอบที่ 1 2 3 4 5*
วันที่สมัครสอบ 15-31 ม.ค. 52 1-10 เม.ย. 52 1-10 พ.ค. 52 1-10 มิ.ย. 52 1-10 ก.ค. 52
วันที่สอบ 29 มี.ค. 52 26 เม.ย. 52 31 พ.ค. 52 28 มิ.ย. 52 26 ก.ค. 52
วิธีการสมัคร สมัครทางไปรษณียเทานั้น สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย
5
6 7 8 9* 10
1-10 ส.ค. 52 1-10 ก.ย. 52 1-10 ต.ค. 52 1-10 พ.ย. 52 1-10 ธ.ค. 52
23 ส.ค. 52 20 ก.ย. 52 25 ต.ค. 52 29 พ.ย. 52 27 ธ.ค. 52
สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย สมัครดวยตนเอง/ไปรษณีย
*สําหรับนักศึกษาชั้นปริญญาตรี ใชสิทธิ์ลดหยอนคาสมัครไดแคครั้งเดียวในรอบที่ 5 หรือ 9 เทานั้น โดยไปขอรับใบสมัครฟรีไดที่สถาบันภาษาและจายคาสมัครเปนเงินสดจํานวน 40 บาท* ลักษณะขอสอบ ขอสอบมีทั้งหมด 3 สวน คะแนนเต็ม 1000 คะแนน มีเวลาในการทําขอสอบ 3 ชั่วโมง ราย ละเอียดของขอสอบมีดังนี้ครับ 1. Structure – ความรูทางไวยากรณ 25 ขอ คะแนนเต็ม 250 คะแนน แบงออกเปน 2 ประเภท คือ Sentence Completion (เติมประโยคใหสมบูรณ) และ Error Identification (หาจุดที่ผิดตามหลักไวยากรณ) 2. Vocabulary – ความรูทางดานคําศัพท 25 ขอ คะแนนเต็ม 250 คะแนน แบงออกเปน 2 ประเภท คือ Cloze Test (เลือกคําศัพทมาเติมลงในชองวาง) และ Synonym (เลือกคําที่มีความหมายใกลเคียงกับคําหรือกลุมคําที่ขีดเสนใต) 3. Reading Comprehension – การอานเพื่อความเขาใจ 50 ขอ คะแนนเต็ม 500 คะแนน ประกอบดวยบทความ 7-8 เรื่อง โดยแตละเรื่องจะมีคําถามประมาณ 6-7 ขอครับ คําถามจะมีหลายๆ แนวเพื่อวัดทักษะหลายๆดาน เชน การหา Main Idea, Detail information, Pronoun Reference, Conclusion, Inference เปนตน สวนเรื่องของความยากนั้น แนนอนวาการสอบ TU-GET จะตองเปนการสอบที่สมนํา สมเนื้อ กับเด็กธรรมศาสตรอยางพวกเราอยูแลว ตองใชทักษะและความพรอมในการทําขอสอบอยางมากที เดียว ไดขาววามีคนเดินหัวยุงๆ ออกมาจากหองสอบกันดวย ก็หวังวาบทความนี้จะเปนประโยชนสําหรับหลายๆ คนที่ตั้งใจจะสอบ TU-GET นะครับ ผม ก็ขอชวนใหพวกเรานักศึกษาลองไปสอบกันดูซักครั้ง คาสมัครสอบเพียง 40 บาท แลกกับการได ประสบการณสอบขอสอบแนวนี้ นับวาคุมคามากๆ อยาปลอยใหโอกาสหลุดลอยไปเฉยๆ นะครับ แลวพบกันใหมโอกาสหนาครับ
- ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ TU-GET เพิ่มเติมไดที่ http://www.tu.ac.th/org/litu/ttesting.htm - หรือเขาไปสอบถามเองกับเจาหนาที่ไดที่ตึกสถาบันภาษา ทั้งที่ทาพระจันทรและรังสิต
6
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
ä»=went เรื่อง : ทอรช
ẋ§¡Ñ¹¹Ð ใจที่เห็นคนมารอจองที่นั่งเยอะมากจนลนมาถึง บริเวณถนนหนาหอประชุมฯ ฉันไมรอชารีบเขาไป ตอแถว ฉันขยับตามแถวไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได ที่นั่งบริเวณใกลๆ เวที จากนั้นฉันก็ชวนเพื่อนไป หาที่นั่งเลนรอจนถึงเวลาประตูเปดตอน 6 โมง เข็มนาฬิกาของฉันบอกวา 6 โมงกวาๆ ตอนที่ฉันและเพื่อนกลับมาที่หอประชุมฯ อีกครั้ง บริเวณรอบๆ ดูคึกคักเพราะมีคนมารอดูคอนเสิรต กันเยอะมาก หลังจากที่ผานการตรวจกระเปา แลว เราก็เดินเขาไปเจอกับฉากสีชมพูใหญโตบน เวที เปนรูปผูชายกับผูหญิงยืนยิ้มมีความสุขอยู คนละขาง สวนตรงกลางเขียนชื่องาน “แบงกันนะ Share-ri-ty Concert” ดูนารักดี คอนเสิรตเริ่มขึ้นดวยการฉาย VTR การตูนนารักๆ ประกอบเพลงแบงกันนะ ที่เขา แตงขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ จากนั้นพิธีกรก็ ขึ้นมาชวนคุยสักพัก กอนจะสงเวทีใหวงนองใหม Spoonful ขึ้นมาเลนโชว แลวก็ตอดวยวงอินดี้ๆ
ฉันลังเลใจอยูนานกวาจะตัดสินใจเดิน เขาไปซื้อบัตรงาน “แบงกันนะ Share-ri-ty Concert” ที่เพื่อนๆ คณะศิลปศาสตรของฉันเปนคน จัดขึ้น สาเหตุที่ฉันลังเลใจเปนเพราะฉันหาคนไป ดูคอนเสิรตดวยไมได ฉันตองไปพูดกรอกหูเพื่อน อยูนานวาคอนเสิรตครั้งนี้แสนจะคุม เพราะไดดู ศิลปนชื่อดังตั้ง 4 วงขึ้นเลนสดๆ แถมยังมีอีก 2 วง เล็กๆ แตนาสนใจใหดูอีกดวย ที่สําคัญคือ บัตร ราคา 350 บาทเทานั้นและเงินตรงนี้เขาจะยังเอา ไปแบงใหกับผูปวยในโรงพยาบาลธรรมศาสตรฯ ดวย ฉันไมรูเหมือนกันวาเพราะฉันพูดมากหรือ วาคอนเสิรตครั้งนี้คุมคาและนาสนใจจริงๆ เพื่อน ฉันจึงตอบตกลงไปดวย แตฉันวานาจะเปนทั้งสอง อยางละนะ เมื่อวันงานมาถึง (อาทิตยที่ 18 มกราคม) ฉันรีบไปที่หนาหอประชุมใหญ ธรรมศาสตร ทาพระจันทรตั้งแตบายโมงเพราะ บัตรบอกวาเปดจองที่นั่งตอนนั้น ฉันประหลาด
7
มินนี่เมาสมาใส ดูนารักเชียว สวนของที่พี่ๆ วง Friday นําขึ้นมาประมูลก็คือเสื้อพรอมลายเซ็น ของสมาชิกทั้งวง ซึ่งแนนอนวารายไดจะนําเอาไป สมทบทุนการกุศล เชนเดียวกัน ฟงเพลงซึ้งๆ ไปแลว ก็มาถึงคิวที่ตอง ลุกขึ้นมาออกสเต็ป โยกยายใหคึกคักกันหนอย คนที่มาชวนใหลุกขึ้นจะเปนใครไปไมไดนอกจาก พี่เมื่อยและพี่บอล วง Scrubb ที่ขึ้นมาบนเวทีปบ ก็เรียกใหคนดูทั้งหอประชุมลุกเตนกับบทเพลง สนุกๆ ความหมายดีๆ ที่ Scrubb เตรียมมาแบง ใหคนดูอยางเราๆ ไดรวมรอง รวมสนุกกันทุกคน สําหรับของที่พี่เมื่อยและพี่บอลเอามาประมูล เปน สิ่งของที่เรียกเสียงฮือฮาจากทุกๆ คน สิ่งนั้นก็คือ แอมปจิ๋ว นั้นเอง ซึ่งก็สามารถเรียกความสนใจจาก ผูประมูลไดมากทีเดียว และแลวก็มาถึงวงสุดทายของงาน คอนเสิรต ที่แคเสียง Intro ดังขึ้น เพื่อนของฉันก็ รีบจูงมือฉันไปยืนรอหนาเวที ทันทีที่พี่บุรินทร นัก รองนําวง Groove Riders เดินขึ้นมาเทานั้นแหละ หอประชุมแทบถลมเพราะเสียงกรี๊ดแหลมสูงที่ฉัน
อยาง Buddhist Holiday ฉันและเพื่อนไมคอยจะ คุนเพลงของทั้งสองวงนี้เทาไร แตฝมือของทั้งสอง วงนี้ก็ใชไดทีเดียว กอนที่จะลงไปทั้งสองวงก็เอา CD และเสื้อพรอมลายเซ็นมาประมูล เพื่อนําราย ไดเขาสมทบทุนบริจาคดวย สองวงเปดเลนจบไปแลวทีนี้ก็มาถึงตา ของศิลปนอยาง Lipta ที่นําเพลงเพราะๆ หวานๆ มาแบงใหกับคนดูอยางสนุกสนาน บรรยากาศใน งานยิ่งนารักและดูตื่นตาเพราะไฟที่ฉาบใหทั้งหอ ประชุมเปนสีชมพูหวานเขากับเพลงรักที่พ่คี ัตโตะ พี่แทนและเพื่อนๆ มาแบงใหฟงกัน นอกจากนี้พี่ คัตโตะยังเอาเสื้อของตัวเองมารวมประมูลเพื่อการ กุศลดวย ศิลปนวงตอมาอยางวง Friday ที่นํา โดยพี่บอย (ตรัย ภูมิรัตน) ยิ่งทําใหบรรยากาศ ของความรักและการแบงปนอบอวลไปทั่ว ดวย เพลงรักสไตล Friday เลนเอาคนดูซึ้งไปกับเสียง เพราะๆ ของพี่บอย แตวง Friday ก็ไมไดมาทําซึ้ง เพียงอยางเดียว เพราะวายังพากันมาเรียกเสียง กรี๊ดและรอยยิ้มจากผูชมดวยการเอา หมวกรูป
8
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
และแฟนเพลงคนอื่นๆ ชวยกันรองตอนรับศิลปนวงสุดทายของคําคืนนี้ บรรยากาศนารัก หวานแหวว กอนหนานี้หายไปหมด แลวถูกแทนที่ดวยแสงไฟระยิบระยับและจังหวะเพลงดิสโกสุดมันส ชวนใหคนดู อยางฉันเตนตามทุกเพลง แตพี่บุรินทรก็ยังไมลืมที่จะเอาเพลงรักจังหวะชาๆมารองใหพวกเราไดพักซึ้ง กันบาง กอนที่จะปดคอนเสิรตดวยการประมูล CD Limited Edition จํานวนกวา 10 แผน รวมไปถึงเสื้อ พรอมลายเซ็นของสมาชิกวง Groove Riders ซึ่งราคาประมูลขึ้นไปสูงถึง 7,000 บาท คอนเสิรตจบแลว ฉันกับเพื่อนพากันเดินออกจากหอประชุมใหญ ไมเคยคิดเลยวาเพื่อน ศิลปศาสตรของฉันจะจัดคอนเสิรตไดนาประทับใจขนาดนี้ ฉันทึ่งที่ทีมจัดคอนเสิรตครั้งนี้เปนคนรุน เดียวกัน ฉันวาพวกเขาเกงมากที่จัดคอนเสิรตไดสนุก ถึงจะรูสึกเหนื่อยเหมือนกันเพราะตองดูคอนเสิรต นานเกือบ 5 ชั่วโมงติดตอกัน ถึงแมวาจะเหนื่อยแตฉันคิดวาคอนเสิรตครั้งนี้คุมคาบัตรทุกบาท เพราะ ความสุขที่ฉันและเพื่อนหรือคนอื่นๆ ที่มาดูคอนเสิรตดวยกันในคืนนี้ ยังจะถูกนําไป “แบง” (ตาม concept ของงานเขา ที่ฉันเพึ่งรูในงานวาเขาจงใจเขียนคําวา Charity ใหเปน Share-ri-ty เพราะตองการสื่อ ใหเห็นวา Share = แบงปน) ใหกับผูปวยในโรงพยาบาลธรรมศาสตรฯ นั่นเอง ฉันรูสึกดีที่ความสุขของฉันจะไดถูกแบงไปใหกับคนอื่นๆ อีกดวย ฉันดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจ เดินเขาไปซื้อบัตรคอนเสิรต และก็ตองขอบใจเพื่อนของฉันที่ยอมมาดูคอนเสิรตกับฉันในคืนนี้ หรือควร จะขอบคุณทีมงานที่จัดคอนเสิรตครั้งนี้ขึ้นมาไดอยางนาประทับใจดี? โอย ฉันเลือกไมถูก ถางั้นแลวก็ ขอบคุณทุกคนเลยละกันที่ทําใหฉันไดรูสึกดีๆ ไดมาสนุกสนาน ไดมาแบงปนสิ่งเหลานั้นใหกับใครบาง คนที่กําลังตองการสิ่งเหลานั้นพอดี - ปล. ฉันเพึ่งไดขาวมาวายอดเงินบริจาคที่คณะผูจัดคอนเสิรตนําไปมอบใหโรงพยาบาลนั้นสูงถึง
100,000 บาททีเดียว
9
ä»=went
เรื่อง : Johnnie Walker
§Ò¹ºÍÅ’65
“สมัครตอนนี้ยังไดอีกเหรอ คือกลัววาจะไมมีเวลามาทํานะสิพี่” “ทันสิ ถึงไปเที่ยงวันที่สามสิบเอ็ดก็ยังทันนะ ถาไมวางมาชวยแคขึ้นสแตนดวันงานก็ได” ชางบังเอิญที่วันนั้น ฉันเดินผานไปเจอพี่ในคณะคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ไมไดสนิทอะไรกับพี่เขามากมาย รูแควา เขาทํางานนี้อยูและก็เคยมาเอยปากชวนใหไปทํางานบอลฯ ดวยกัน งานบอลฯ งานที่ฉันไดยินแตชื่อมานาน เพราะแมแตปลาสุดก็ไมมีโอกาสไดไปรวมงาน จะเปนเพราะความอยากรูอยากเห็นในตัวหรือเปลา ฉันก็ไมแนใจ แตในเมื่อฉันก็รับปากเขา ไปแลว มันก็ตองลองดูละ ถึงจะรูวาเปนยังไง วันแรกที่ไปชวยงาน ฉันไปที่ยิมสอง ไปทํางานแปลกๆ กับคนหนาใหมๆ ที่ไมเคยเจอมากอน งานที่ทําไมไดหนักหนามากมายอะไร แตก็ตองใชเวลาทั้งวันเพื่อจัดเตรียมถุงอุปกรณพิเศษที่จะใชใน การแปรอักษรบนสแตนดเชียร วันนั้นมีใครตั้งมากมายเขามาทักทาย แตแคชื่อฉันก็จําไมหมดแลว อยาวาแตปไหน คณะ อะไรเลย หนึ่งวันที่หมดไปนั้นยิ่งทําใหฉันอยากจะคนหาวางานนี้มันจะมีอะไรรออยูขางหนาอีก เพราะ พี่ๆ เขาบอกวางานของวันนี้เปนแคสวนเล็กๆ ของงานทั้งหมดที่ตองทําเทานั้น เกือบทุกวันเวลาเย็นๆ หลังเลิกเรียนและอยูกับเพื่อนแลว ฉันจึงตามเขามาชวยเช็คเพลทและ ซอมเพลท การทํางานกันไปเรื่อยๆ ไมเรงรีบอยางนี้ ทําใหฉันทําอยูไดนานๆ โดยไมรูสึกเบื่อ ในบาง ครั้งก็ไปนั่งฟงการประชุมที่ยาวนานและสับสนที่สุดที่เคยไดยินมา ระบบที่แสนจะซับซอน ทําเอาฉันงง ไปหมด จนลังเลเกือบจะเลิกทํางานนี้แลว แตพอหลายวันผานไป ฉันก็เริ่มคุนเคยกับมันมากขึ้น การได นั่งกินขาวกลองมื้อดึกกับเพื่อนๆ พี่ๆ หรือการละเลงซอฟเฟลทุกๆ ชั่วโมง ก็ไมไดแยนักหรอก เพราะ อยางนอยมันก็ทําใหคนแปลกหนาหลายคนกลายเปนเพื่อนของเราได เราทํางานมาเรื่อยๆ จนใกลจะถึงวันงานนั่นแหละ ที่บรรยากาศการทํางานเริ่มดูเครียด คง เพราะปริมาณงานที่ตองรับผิดชอบกับจํานวนคนที่มาชวยงานยังไมสมดุลกันนัก กวาจะหาคนมาเพิ่มได ก็ลุนกันแย การทํางานแบงออกเปน 8 กลุม แตละกลุมมี โฟรแมน เปนคนดูแล และมี ทส. หรือผูชวย อีก 2 คนของโฟรแมนคอยดูแลสตาฟในกลุมซึ่งมีประมาณยี่สิบหาคน เราเลยจัดนัดพบทําความรูจัก ระหวางสตาฟและผูดูแล นัดแนะวิธีการทํางานอยางคราวๆ กอนวันงานเราตองไปซอมระบบการทํางานที่สนามศุภชลาศัย คงเปนเพราะตื่นเชาเลยทําให แตละคนดูงวงเหงากันไปบาง แตตัวฉันกลับตื่นเตนกับหนาที่การดูแลคนรวมยี่สิบคนในกลุมที่มีทั้ง รุนพี่และเพื่อนตางคณะ ตลอดทั้งวันเราซักซอมวิธีการสงของขึ้น สแตนด การยืนประจําตําแหนง การ เปลี่ยนตําแหนง ระบบเติมคนใหเต็มสแตนดและการเก็บของกลับ
10
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 คืนนั้นเราไปนอนกันที่ตึกคณะนิติศาสตร ทาพระจันทร มันชางเปนคืนที่แสนสั้น เพราะเรา จะตองตื่นมาเตรียมตัวตั้งแตตีสี่ตีหา แมวาจะงวงแตทุกคนก็ชวยกันทําตัวเองใหพรอมมากที่สุดเทาที่จะ ทําได พวกเราเริ่มทํางานตั้งแตเชาตรูของวันที่ 31 มกราคม ของแตละชิ้นถูกสงขึ้นไปจากมือถึงมือ จนถึงบนสแตนด แลวก็ตองเช็คความเรียบรอยของเพลท เวลาพักกลางวันจึงเปนเพียงแคชวงสั้นๆ ที่ทกุ คนจะไดพัก เพราะเรารูวาการกลับขึ้นไปบนสแตนดครั้งนี้ จะไมไดหยุดพักอีกเลยจนกวาจะจบงาน เมื่อรถยูโรคันแรกที่พากองเชียรจากรังสิตมาถึง ทุกคนดีใจ แตที่ไหนได กองเชียรนั้นไป เติ่มสแตนดแคเศษเสี้ยวเทานั้น การที่เราไมบังคับคนมาจึงทําใหตองรอกันตอไป ตั้งแตเที่ยงครึ่งที่เปด ประตูหา กวาสแตนดธรรมศาสตรจะเต็มก็ตอนสี่โมงเย็น หลายชั่วโมงที่พวกเรายืนรอคน คอยจัดที่นั่งและดูวามีของชิ้นไหนขาดเหลือไป เปนหลาย ชั่วโมงที่ไมไดนั่ง ไมไดดื่มนํา ไมไดพัก แถมตองทนสูกับแดดจา ทุกคนรูสึกออนลา อยากจะทรุดลงไป นั่งพักเอาแรง แตเมื่อเห็นเพื ่อนๆ ยังสูอยูขางๆ ก็เลยมีแรงฮึดที่จะทํางานตอ จนถึงตอนเย็นๆ บนสแตนด เริ่มดูมีสีสันดวยการแปรอักษรโตตอบกับฝงจุฬาฯ ตอนนั้นเราจึงไดนั่งพัก นั่งดูความเปนไปของงาน แตไมทันไรงานก็จบลง เราเห็นรอยยิ้มและเสียงเชียรยินดีของกองเชียรเหลืองแดง เพราะลูกแมโดม เอาชนะจามจุรีไปได 2 ตอ 0 งานบอลจบแตงานของเรายังไมจบ เราตองไปเก็บอุปกรณ ตอนขึ้นรถกลับรังสิตก็ดึกมากแลว ฉันหลับตลอดทางและตื่นมาพบงานสุดทายรออยู ซึ่งก็คือการเก็บเพลทลงจากรถจีเอ็มซีกลับไปบาน เพลทใต บร.หนึ่ง คงจะไมเกินจริงที่จะใชคําวา เหนื่อยแทบขาดใจในครั้งนี้ ไมรูเหมือนกันวาพวกเราเอา แรงมาจากไหนกันจนงานเสร็จ แตก็มีหลายสิ่งที่ไมไดจบไปพรอมกับงาน ซึ่งก็คือความรูสึกดีๆ ที่ไดจากเวลาแคสิบกวาวัน ความอบอุนเปนกันเองของเพื่อนรวมงานใหมๆ ความภูมิใจที่ไมไดมาเพราะการแปรอักษรไดสวย หรือ สแตนดเต็มโดยสมัครใจ หากแตเปนการที่ฉันและเพื่อนๆ ไดทําหนาที่กันอยางสุดพลัง ในนาทีที่แสน เหนื่อย ก็ไมมีใครคิดทิ้งหนาที่ไป ไมมีใครอยากพักเมื่อยังเห็นวาเพื่อนขางๆ ยังอดทนอยู จากวันนั้นฉันยังทักทายเพื่อนรวมงานที่กอนหนานั้น เปนเพียงแคคนแปลกหนา ยังคิดถึง ของทุกชิ้นที่เราไดใจของใครหลายคนเปนแรงสง สิ่งเหลานี้เปนอะไรใชตามองไมได แตเปนอะไรที่ตอง ใชใจแลกมา เปนอะไรที่ไมไดยิ่งใหญแตมีความหมายกับเรา สิ่งเหลานี้เองที่ฉันไดรับจากงานฟุตบอล ประเพณีธรรมศาสตร-จุฬา ครั้งที่ 65 และจะไมมีวันลืมสิ่งเหลานี้ไป
11
introduce เรื่อง : ไบรท’47
Psycho loGy
เดินไปไหนพอใครถามเรียนเอกอะไร พอตอบไปวาจิตวิทยา เทานั้นแหละงานเขาทันที “แกๆ ดูใหหนอยสิ เราเปนคนยังไง” ถามเหมือนกับวาเราเปนหมอดูนั่งทางใน เปนรางทรงปอบผีฟา ก็ไมปาน เราเรียนจิตวิทยานะ ไมใชโหราศาสตร ลองมาทําความรูจักกับเอกจิตวิทยากันดีกวาวาจริงๆ แลวเอกจิตฯ เปนยังไงกันแน ในยุคแรกๆ สมัยที่เรายังเปนมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตรและการเมือง (มธก.) การเรียน การสอนวิชาจิตวิทยามีควบคูไปกับวิชาดานกฏหมาย (ถาจําไมผิด) โดยยังเปนเพียงแควิชาเทานั้น แตในปจจุบันเอกจิตวิทยาของเรามีหลักสูตรการสอนแบบตะวันตก นั่นคือมีการสอนเชิงวิทยาศาสตร (สังเกต ทดลอง บันทึกผล สรุปโดยใชเครื่องมือและการวัดทางสถิติเปนตัวชวย) นอกจากนี้ เอกจิตวิทยาของเรามีคณาจารยประจําภาควิชาซึ่งลวนแลวแตเปนผูเชี่ยวชาญ โดยมี อ.ดร.อุบลวรรณา ภวกานันท เปนหัวหนาภาค อาจารยจบการศึกษาสาขาจิตวิทยาการทดลอง จากประเทศเบลเยียม (ซึ่งในประเทศไทย มีคนจบการศึกษาในสาขานี้เพียง 2 คนเทานั้น) และทาน ยังเปนสมาชิกนักจิตวิทยาประยุกตโลก คนแรกของประเทศไทยอีกดวย นองๆ เอกจิตวิทยาคงไดพบ ตัวจริงเสียงจริงของทานในวันแรกที่เรียนวิชา PY211 (จิตวิทยาทั่วไป) และคงตองเจอกันไปอีกนาน แนนอน จุดประสงคของการเรียนจิตวิทยา (Psychology) ก็คือการศึกษาจิตใจของมนุษย โดยสังเกต ผานพฤติกรรม เพื่อใหเขาใจ ทํานาย และควบคุมพฤติกรรมของมนุษย เชน เขาใจวาทําไมคนถึงมี กระบวนการคิดออกมาแบบนี้ ทํานายวาถาเกิดเหตุการณเชนนี้ มนุษยจะตอบสนองเชนไร และควบคุม ใหมนุษยมีพฤติกรรมเปนไปตามบรรทัดฐานมากยิ่งขึ้น จิตวิทยามีหลายสาขายอยมากมาย สําหรับมหาวิทยาลัยของเรามีสาขายอย 3 สาขาดวยกัน ไดแก จิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology) จิตวิทยาในดานนี้จะเนนศึกษาเกี่ยวกับอาการโรคที่เกี่ยว กับความผิดปกติทางจิต การใชแบบทดสอบหรือแบบสอบวัดในการประเมินลักษณะของผูปวย วิธีการ บําบัดรักษาใหอาการทุเลาลง เมื่อเรียนจบจะตองมีการสอบใบประกอบวิชาชีพนักจิตวิทยาคลินิก งานของนักจิตวิทยาสาขานี้ สวนใหญทํางานในโรงพยาบาลผูปวยทางจิตหรือหนวยงานที่ เกี่ยวของ เชน กรมสุขภาพจิต นอกจากจะชวยเหลือผูปวยทางจิตแลว นักจิตวิทยาคลินิกจะมีบทบาทใน สวนอื่นๆ ที่เกี่ยวของดวย เชน โปรแกรมบําบัดผูติดแอลกอฮอล ผูติดยาเสพติด การลงพื้นที่ทํางานดูแล ดานสภาพจิตใจของผูประสบภัยสึนามิ เปนตน คําถามที่มักจะตามมาบอยๆ ก็คอื นักจิตวิทยาคลินิก กับ จิตแพทย ตางกันอยางไร? แมทั้ง สองตําแหนงจะทํางานเกี่ยวกับผูปวยทางจิตเหมือนกัน แตนักจิตวิทยาคลินิกมีหนาที่คัดกรองผูปวยดวย การใชแบบสอบวัด การสอบถามซักประวัติและชวยบําบัดในขั้นตน สวนจิตแพทยจะมีหนาที่ในการ
12
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 ดูแลรักษา มีอํานาจในการสั่งจายยาสําหรับผูปวย ซึ่งทั้งสองตําแหนงทํางานเกี่ยวของกันแตไมทับซอน หนาที่กัน พูดงายๆ คือ หมอจะใชแบบสอบวัดไมไดและนักจิตวิทยาก็ไมมีสิทธิ์สั่งยาใหผูปวย เปนตน ตอมาคือ จิตวิทยาการใหคําปรึกษา (Counseling Psychology) จิตวิทยาในดานนี้จะเนน ศึกษาเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎีทางจิตวิทยาการใหคําปรึกษานํามาประยุกตใชกับทักษะกระบวนการให คําปรึกษา โดยทํางานกับคนปกติที่มีความเครียด ความคับของใจ ความทุกข ความไมสบายใจ ชวยให เขาสามารถผานพนปญหาหรือความทุกขใจไปไดดวยตัวเขาเอง นักจิตวิทยาการใหคําปรึกษาเปนเพียง ผูทําใหเขาไดตระหนักรูถึงตัวปญหาและแนวทางการแกไขโดยการชี้แนะ แตไมใชชี้นํา โดยการใหคํา ปรึกษา ไมใชการปลอบใจหรือสั่งสอน จิตวิทยาสาขานี้มีการใชแบบสอบวัดเพื่อคัดกรองวาคนที่มาปรึกษานั้นมีอาการทางจิตหรือไม ถามีจะตองสงตอใหนกั จิตวิทยาคลินิกเปนผูดูแลตอไป งานของนักจิตวิทยาสาขานี้ คือการใหคําปรึกษา ซึ่งอาจทํางานตามคลินิกสุขภาพจิตสําหรับคนทั่วไปที่มีความเครียด บริษัทองคกรสําหรับพนักงานที่ มีปญหาเรื่องงานหรือเรื่องสวนตัว หรืออาจารยแนะแนวในโรงเรียนที่มีปญหาดานการศึกษาหรือเรื่อง สวนตัว เปนตน สุดทายคือ จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองคการ (Industrial & Organizational Psychology) จิตวิทยาในดานนี้จะเนนการประยุกตทฤษฎี แนวคิดทางจิตวิทยามาใชกับคนจริงๆ โดยเฉพาะในที่ ทํางาน มีจุดมุงหมายเพื่อทําใหผูที่ทํางานเกิดความพึงพอใจ มีความสุข ในขณะที่องคการก็ไดรับผล ประโยชนสูงสุดดวยเชนกัน งานของนักจิตวิทยาสาขานี้ สวนใหญทํางานฝายบุคคล (Personnel) หรือฝายทรัพยากร มนุษย (Human Resource หรือ HR) ซึ่งมีงานหลากหลาย เชน คัดเลือกคนเขาทํางานโดยวิธีตางๆ ทั้ง ขอสอบ การสัมภาษณ วางแผนกิจกรรมหรือแผนงานกระตุนใหคนในบริษัทตั้งใจทํางาน สรางความ สัมพันธอันดีระหวางเพื่อนรวมงานและองคการ แมกระทั่งการจัดอบรมสัมมนาเพื่อใหพนักงานเขาใจ งานของตนเองมากยิ่งขึ้น นอกจากสามสาขาที่ไดบอกมาแลว เอกจิตวิทยาของเรายังมีวิชาแขนงอื่นๆ อีกมากมายที่นา สนใจ ขอยกตัวอยางสัก 2 วิชา ใหพอรูคราวๆ ก็แลวกัน วิชาแรก จิตวิทยาสังคม (Social Psychology) เปนวิชาที่ถือวาประยุกตเนื้อหาจิตวิทยาใน หลายๆ เรื่องมาใชในสังคม อีกทั้งยังชวยใหเขาใจสาเหตุและเกิดการแกปญหาสังคมอีกดวย เชน เรื่อง ของการเรียนรูก็เอามาประยุกตในเรื่องของสังคมประกิต (Socialization) หรือเรียกงายๆ วา การจัด ระเบียบทางสังคม เพื่อใหคนในสังคมอยูภายใตบรรทัดฐานเดียวกันอยางปกติสุข นอกจากนี้ยังมีเนื้อ หาอื่นๆ ที่นาสนใจ เชน อิทธิพลของทางสังคม กลุมอางอิง ซึ่งเห็นไดในชีวิตประจําวันของเรา สามารถ เขาใจไดวาทําไมคนบางคนจึงยอมทําบางสิ่งไดอยางงายดายยิ่งขึ้นแมในใจลึกๆ เขาอาจจะไมไดอยาก ทําก็ได วิชาที่สองคือ จิตวิทยาพัฒนาการ (Developmental Psychology) เปนวิชาที่ทําใหเขาใจทุก วัยวามีพัฒนาการอยางไรตั้งแตเด็ก วัยรุน ผูใหญ และผูสูงอายุ โดยมีทฤษฎีมากมายรองรับ ทําใหเรา สามารถลดชองวางระหวางวัยในการอยูรวมกันในสังคมไดดีขึ้น
13
จบแลวไปไหน? “จะรีบคิดไปทําไม... อีกตั้งนานกวาจะจบ” เรามักจะพูดอยางนี้เสมอๆ ตั้งแตตอนที่อยู ป1 ป2 ป3 หรือแมแตกระทั่งป4! แตเมื่อการสอบไลครั้งสุดทายมาถึง อีกไมกี่วันก็จะเรียนจบแลวจริงๆ จะเร็วไปอีกมั้ยที่จะคิดวาจบแลวไปไหน?
14
¹Ñ觤ØÂ
เรื่องและภาพ : ทอรช
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 เดินตอไป แลวก็อยากที่จะทําวันนี้ ทําความสุข เล็กๆ เพื่อคนอื่นบาง อะไรที่เราคิดวาเปนความสุข แคนี้เราก็ดําเนินชีวิตตอไปได
พี่ฟาฟ - กัญญฎา วิชัยธนพัฒน ป 4 เอกจิตวิทยา ผูที่เปลี่ยนตัวเองจากคนที่ไมเคยรวมงานอะไร มาเปนนักกิจกรรมตัวยง ทั้งเลนละครเวที เปนพิธีกรงานคอนเสิรต และอีกมากมาย สวนอีกคนหนึ่งไมตองบอก ก็คงจะรูวาเปนใคร พี่แมน - จารุยศ สุวรรณบัตร ป 4 เอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษ คงไมมีเด็กศิลปศาสตรคนไหน ไมเคยเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชายคนนี้ เพราะพี่เขาเปนพิธีกรประจําไมใช เฉพาะของคณะศิลปศาสตรเทานั้น แตยังเปนถึงพิธีกรประจํามหาวิทยาลัยอีกดวย
ความรูสึกเมื่อไดรับใบประกาศนียบัตรจบการ ศึกษาครั้งแรกในชีวิต พี่ฟาฟี่ ตอนเราจบ ม.6 เนี่ย ที่โรงเรียนจะให ความสําคัญกับพิธีที่เรียกวา พิธี Backerate ใน งานวันรับDiploma ซึ่งจะจัดขึ้นในโบสถคริสตจักร วัฒนา โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย วันนั้นเปนวันที่ นักเรียน ม.6 ทุกคนรอคอย เพราะตั้งแตเด็กๆ เรา ก็จะเห็นพี่ม.6 ใสชุดครุยสีแดงมีแถบสีขาวพาด ปกเข็มโรงเรียนแลวเดินออกมาจากโบสถสวยงาม มาก มือถือประกาศนียบัตร เปนวันที่เราคิดตลอด วาเมื่อไรจะถึงตาเราบาง และพอมาถึงทีของเรา เราเองก็รูสึกดีจังเลย แตก็ใจหายดวย เพราะวา เปนวันที่เราจะตองเดินจากตรงนี้ไปแลว พี่แมน สําหรับพี่ก็มีทั้งดีใจแลวก็ตื่นเตน เพราะ วามันเปนสิ่งที่เราจะไมไดเจอ แตก็คอนขางหดหู ใจมาก เราจะจบแลว พี่เปนคนขี้เวอร! เวอรมา ตลอดชีวิต(หัวเราะ) คือ เวอรกับทุกสิ่ง ขึ้น ม.1 ขึ้น ม.2 อุย! แกแลว พอทําบัตรประชาชน เอา! แก แลว อายุ 18 เอา! เครียด ชวงชีวิตของพี่เวลาที่ ตองเปลี่ยนแปลงอะไร พี่จะคอนขางรูสึกเศราสลด ใจ แตทุกครั้งพี่ก็จะมองยอนกลับไปแลวจะรูสึกมี ความสุขกับทุกสิ่ง ถาหากพี่จะจบแลวพี่จะรูสึกวา คอนขางเศราใจมากทีเดียว แตวาพอถึงเวลา ยัง ไงคนเรามันเรามันก็ตองเดินนะ พี่ก็จะคนพบวา มันเปนอีกกาวหนึ่งที่เราตองเดินตอไปใหได แลว เราก็จะคนพบความสุขรูปแบบใหมในสิ่งแวดลอม ใหม ในสถานการณใหม แตพอไดนึกถึงภาพที่ พี่หนีเรียนมาตั้ง 21 ป ตอนนี้เหลือแค 3 อาทิตย แลว คือ การเรียนมันคือความสุขรูปแบบหนึ่ง แต วาการทํางานพี่ยังไมไดเขาไปเจอก็เลยรูสึกวา เศราใจนิดๆ แตวาก็ตื่นเตน
บุคคลตนแบบในการดําเนินชีวิต พี่ฟาฟ สําหรับเราก็จะมีสองทานดวยกัน ทาน แรก คือ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวฯ ทานที่ สอง คือ ทาน ว.วชิรเมธี ทั้งสองทานเปนเหมือน บุคคลที่เปนแรงบันดาลใจใหกับชีวิตเรามากกวา อยางในหลวง เราทุกคนก็รูอยูแลววาทานเปนที่ ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทานทรงงานหนักเพื่อผูอื่น สวน ทานว.วชิรเมธี เนี่ย คือ เปนบุคคลที่ genius มาก ในทุกเรื่องไมวาจะทางโลก ทางธรรม เหมือนกับ ทานชวยทําใหเราเขาใจทางโลกหรือปญหาที่เกิด ขึ้นในชีวิต โดยทานจะนําเรื่องทางธรรมมาอธิบาย ใหเขาใจไดงาย ทําใหเรามีขอคิดที่จะดําเนินชีวิต ในแตละวัน พี่แมน พูดตรงๆ เลยวาพี่ไมมีบุคคลตนแบบใน การดําเนินชีวิต ชีวิตของพี่แคอยากจะทําสิ่งที่เรา คิดวาเปนความสุขเล็กๆ ทําแลวเรารูสึกสบายใจ ก็พอแลว พี่ไมมีตนแบบในการดําเนินชีวิต จะมีก็ แตคนที่ทําใหเรารูสึกมีความสุขที่จะมีชีวิตอยู ซึ่ง ก็คือ คุณพอ คุณแม คุณยาย หรือก็คือครอบครัว นั่นเองที่เปนแบบอยาง แตไมไดเปนตนแบบ บุคคลเหลานี้ทําใหพี่รูสึกมีกําลังใจอยากที่จะกาว
15
อยางนี้อยางเดียว พี่เลยรูสึกวา จริงๆ คนเราไมมี จุดจบในชีวิตหรอก มีแตการเปลี่ยนแปลง หรือ แมกระทั่งตอนตาย พี่ก็ยังตื่นเตนเลยวาถาตาย แลวเราจะเปนยังไง ชีวิตเราหลังความตายจะไดไป หลั่นลาที่ไหนตอ
เศราใจในแงไหน พี่แมน เศราใจวาเราจะสูญเสียทุกสิ่ง อยางการได ไปเรียน ไปเดินเที่ยวฟวเจอรปารค กลับบานไปดู series อะไรแบบนี้ คือ ชีวิตของพี่มันจะมีชุดความ สุขเล็กๆ นะ แตพอเขาสูวัยทํางานปุบ มันคือการ เขาสูโลกใหมซึ่งไมมีวันกลับเขาสูโลกเกาไดอีก เพราะวาเราไมมีวัยเรียนอีกแลว มันคือวัยที่ผละ ชวงชีวิตนี้ของชาตินี้ไปแลว เหลือแควัยทํางาน วัย แก แลวก็ความตายเทานั้นเอง พี่ฟาฟ ใชๆ เราเขาใจนะวา มันเหมือนเราเดินทางขึ้น มาสูอีกสองสวนสี่ของชีวิต แลวนะ มันก็เปนเหมือน อะไรที่เราตองเจอ มนุษย เรากลัวการเปลี่ยนแปลง ที่สุด
การเรียนจบ ม.6 กับ ป 4 มีความรูสึกแตกตาง กันหรือเปลา พี่แมน ตางกันมากๆ ทีเดียว จบ ม.6 ชีวิตวัยเรียน ก็ยังคงดําเนินตอใชไหม แต จบป 4 แลวเนี่ย มันเขาไปสู โลกอีกใบหนึ่งเลย ซึ่งไมใช โลกของวัยเรียนอีกแลว เปนโลกของวัยทํางาน เปน โลกที่มีสภาวะอีกแบบหนึ่ง พี่ฟาฟี่ ม.6 เราก็เรียนตอ ยังเรียกไดวายังอยูในชวง ชีวิตวัยรุนนะ ยังมองทุก อยางสดใสปงปง เขาเรียน มาก็เปน เฟรชชี่ ไดเจอพี่ๆ แตพอจะจบป 4 มันไมใช แลว เราเริ่มมองไปขางหนา เราตองทํางานแลว การ ทํางานคงไมสนุกเหมือน ตอนเรียน การทํางาน หมายความวาเรากาวขาม ความเปนเด็กไปสูความเปนผูใหญ แลวความเปน ผูใหญมันหมายความวายังไง ก็ตองมีความรับผิด ชอบมากขึ้น ไมใชเด็กเรียนอยูที่จะแบบมือขอเงิน พอแมไดอีกแลว เขาเลี้ยงเรามา 22 ปแลวนะ เรา ตองกลับไปทําอะไรเพื่อพอแม กลับไปสรางหลัก สรางฐานใหตัวเองไดแลวนะ การเรียนจบป 4 คือ การโตแลว พี่แมน ใชๆ คือตอใหเราเรียนตอปริญญาโท ก็จะ ไมใชอารมณแบบวา ‘แจว...มาแจวจําจึก’ อีกแลว
“จุดจบ” กับ “ความ เปลี่ยนแปลง” ตองเกิด ขึ้นพรอมกันเสมอ พี่ฟาฟี่ คือจริงๆ แลว ไมตองจบก็เจอการ เปลี่ยนแปลงไดนะ คือ เหมือนเราตองรู อยางที่ แมนพูดวามันใจหาย มันไม อยากใหจบอะไรอยางนี้ แต วาเราก็ตองโอเค เราสามารถกลับไปรูสึกกับตรง นั้นได แตเราก็ตองรูวาจะติดอยูตรงนั้นไมไดนะ เราจะตองรู...รูใหเทาทันการเปลี่ยนแปลง พี่แมน สําหรับพี่เมื่อถึงเวลาที่ตองเปลี่ยนแปลง ปุบ จะมีสวนหนึ่งในใจที่รูสึกตื่นเตน อยางตอน จะเขามหาวิทยาลัยก็จะตื่นเตนกับเครื่องแบบ นักศึกษาใหม จนกระทั่งจากชีวิตมหาวิทยาลัยเขา สูวัยทํางาน พี่ก็จะรูสึกตื่นเตนวาเราจะไดทํางานที่ เราอยากทําแลวนะ อยากเปนนักแปลก็จะไดทํา
16
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 กอนที่จะไปเรียนปริญญาโท อันนี้สําคัญนะคะ เพราะวาการเรียนปริญญาโทมันไมเหมือนกับ เรียนปริญญาตรี ซึ่งเขาจะปอนความรูใหเราแต การเรียนปริญญาโทเนี่ย คือการนําความรูที่เรามี ไปแตกออก ถาเราไปทํางานไปหาประสบการณ ชีวิตของตัวเองกอน เราก็จะแกรงพอในระดับที่ สามารถมองอะไรไดกวางกวานี้
ไมเหมือนกัน (หัวเราะ) กลัวไหมที่จะตองเผชิญกับโลกภายนอก พี่แมน พี่ไมกลัว พี่ตื่นเตนมากกวา อยากไปเจอ เพียงแคเศราใจกับชีวิตที่หายไปเทานั้นเอง แตถา ถามวาพรอมหรือเปลา พี่พรอมแลวและอยากเจอ วัยทํางาน คือยังมีไฟอยู พี่ฟาฟี่ ตอนเริ่มมานับวันนับเดือน เฮย! อีกเดือน เดียวก็จะจบแลว เริ่มกังวล แตพอตอนหลังก็ตั้งสติ ได แลวก็โฟกัสเลยวาเราจะ ทําอะไรตอไปเราอยากทําอัน โนน อยากทําอันนี้ เราก็ลอง ไปทําดู ก็เลยตื่นเตนวาเรา กําลังจะเริ่มชวงชีวิตใหมแลว
สี่ปที่ผานมามหาวิทยาลัยใหอะไรแกชีวิต พี่แมน มหาวิทยาลัยและ คณะศิลปศาสตรใหพี่มา ทุกสิ่งทุกอยาง ใหความ ทรงจํา ใหประสบการณ ทุกอยางมากจนเกินกวา ที่จะบอกไดหมด รูสึก วาแคนี้ก็อิ่มมากแลว คุมมากแลวกับชีวิตวัย เรียน วิชาที่เรียนทําใหพี่ มองโลกในมุมที่เปลี่ยน ไป ปลดแอกตัวเองจาก กรอบสังคมในหลายๆ สิ่ง แตเราก็ไมไดสูญเสีย การมองหลายๆ อยางไป เราแคสามารถหมุนตัว เอง เปลี่ยนมุมมองของ เราได เพราะวิชาที่เรา เรียนชวยขยาย ชวยเปดโลกใหกวางมากๆ ถา ไมไดมาเรียนที่นี่ พี่คงอยูแตในโลกแคบๆ ของตัว เองตอไป พี่รูสึกวามหาวิทยาลัยไดเปดกะลาออก มาใหพี่จริงๆ พี่ฟาฟ สําหรับเราชวงชีวิตที่เรียนมาใน มหาวิทยาลัย คือ การมาเรียน การทํากิจกรรม ไดพบเจอกับเพื่อนพี่นอง ซึ่งสามอยางนี้มันให มุมมองชีวิตเราหลายอยางมาก เวลาที่เราไปทํา กิจกรรมเราก็ไดเพื่อน ไดเรียนรูเหมือนเปนการ
แผนที่วางไวสําหรับชีวิตหลัง เรียนจบ พี่แมน พี่วางแผนไวเลยวาจะ พักกอนเลย เพราะวาไมไหว แลวกับการเขียน essay โอย! เหนื่อยเหลือเกิน (หัวเราะ) คือ ยังไมขอเรียนตอ ขอใชชีวิต หนึ่งปในการหาประสบการณ แลวคอยเรียนตอ แบบวาขอ อานนิยาย ดู series แลวคอย ไปยืมเงินเพื่อน (หัวเราะ) แลว ก็ทําอะไรที่เปนการหาประสบการณ พี่รูสึกวายัง ไมแกรงพอที่จะเรียนตอปริญญาโท อยากทํางาน หาประสบการณกอน พี่ฟาฟ เราเห็นดวยกับแมนนะ คือบางทีมันกลาย เปนคานิยมของคนไทยไปแลววาเรียนจบแลว ตอๆ ไปเลยคะลูก พอแมคนไทยสวนใหญก็จะ สนับสนุนดวยวาเรียนไปเลยลูก จบแลวเดี๋ยวแม สงตอเอง อยางที่แมนคิดก็ดีนะ เราโตในระดับ หนึ่ง ก็ควรจะยืนดวยตัวเองไดแลว เราควรโต
17
เตรียมตัวเราใหพรอมกอนที่จะออกไปสูโลก ภายนอก การที่เราพลาด เราลม ก็เหมือนกับการ ที่เราเปนดินตองถูกนวด ตองถูกปน เพราะถึง วันที่เราออกไป มันก็จะเปนรูปที่เราตั้งใจใหเปน กิจกรรมทําใหเราไดพบผูคน ไดรูวาบุคคลมีหลาก หลายประเภท แลวก็ไดมิตรภาพ พี่นอง เพื่อน กอนจะเขามหาวิทยาลัยไมคิดวาจะเกิดความรัก ระหวางเพื่อน พี่ และนอง ไดอบอุนมากมายขนาด นี้ สวนเรียนก็ไดบางไมไดบางตามอัตภาพคะ (หัวเราะ)
นําไปทําอยางนี้ๆ ไดนะ ถาเราไมทํากิจกรรม เรา ก็ไมรูวิธีการทํางานกับคนเยอะๆ แลวเจอคนอื่น เหวี่ยงเขามา พอเราไปทํางานก็อาจจะจะมึนได คะแนนความสําเร็จของตัวเอง ณ วันนี้ พี่ฟาฟี่ เต็ม 10 เราให 7 คือที่หายไป เพราะตอน ป 1 - ป 2 เราไมไดทํากิจกรรมคณะฯ เลย อยาง กับแมนก็เพิ่งมารูจักกันตอนงานอักษร-ศิลป (เมื่อ นานมามากแลว) ไมคอยไดทํากิจกรรมคณะฯ เลย เสียดายโอกาส ถาตอนนั้น เราฉวยโอกาสนั้นไวเราคง ไดอะไรมากกวานี้ แลวก็อีก สวนที่ตัดคะแนนไป เพราะ พอกลับดูใบ Transcript ของ ตัวเองแลว โห! ทําไม? เรา ควรจะทําไดดีกวานี้ไมใช เหรอ? (หัวเราะ) รูสึกเสียดาย วาทําไมตอนแรกเราไมตั้งใจ เรียน พี่แมน พี่ให 8 เต็ม 10 แลว กัน หนึ่งคะแนนที่หายไป คือ วิชาเรียนหลายๆ อยางที่ สามารถทําได ดีกวานั้นจริงๆ ถาเราตั้งใจ มากกวานี้ สวนอีกหนึ่งคะแนน สําหรับกิจกรรมที่ เราตองตัดสินใจทําเพราะมันชนกัน ทําใหเราสูญ เสียอะไรไปบางอยาง จริงๆ มีอีกหลายอยางที่พี่ อยากทําแตยังไมไดทํา
แสดงวาเห็นดวยที่ กิจกรรมมีสวนชวยใน เรื่องของการทํางาน พี่แมน พี่การันตีเลยวา ชวยเปลี่ยนมุมมอง ชวย ใหประสบการณไดมากที เดียว นั่นไมไดหมายความ วาเราทํากิจกรรมแลวทิ้ง การเรียน มันหมายความ วาเราสามารถทําควบคู ไปไดทั้งสองอยาง พี่ไม ไดบอกวาตองทํากิจกรรม เยอะๆ ตองทําใหมันอยู ในสัดสวนพอดี การทํากิจกรรมเหมือนลงเรียน อีกวิชาหนึ่ง เพียงแตวาวิชานี้ไมไดใหเกรด แตให ประสบการณแทน พี่ฟาฟี่ ใช คนเกงมีอยูสองแบบ คนเกงตําราเขา เรียกวา Book Smart กับคนที่เกงในเรื่องนอก ตําราเขาเรียกวา Street Smart พวก Street Smart นี่ คือเขาไมไดอานเจอในหนังสือ แตเขา ตองเอาตัวเองเขาไปแลกเพื่อใหไดมา ซึ่งก็คือการ ทํากิจกรรม แลวเวลาไปทํางานเขาก็ไมไดตองการ คนที่เปดตํารามา โอ! 2x2 เทากับ 4 ไมใช เขา ตองการคนที่แบบ 2x2 เทากับ 4 ออ! เราสามารถ
แลวสิ่งนั้นคืออะไร พี่แมน (หัวเราะ) เยอะมากหลายอยาง พี่ตั้งใจวา อยูหอชิลๆ ถามีฉายหนังที่หอปวยฯ ก็ตั้งใจจะไปดู ใหได แตตอนป 1 เปนแกนคณะ ก็เลยแทบจะไมมี โอกาสไดไปดูเลย บางอยางชนกันก็ตองเลือก พี่ก็ เลยเสียดาย
18
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 อยางในชีวิต
พี่ฟาฟ อยางที่แมนบอก อยางการปนจักรยานไป ดูหนังอยาคิดวามันไมไดอะไรนะ มันไดนะ เพราะ จะมีคนที่เขามีความรูเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นๆ มีมุม มองเกี่ยวกับหนัง นอกจากเราไดไปดูแลว ยังไดรู มุมมองความคิดของคนอื่นๆ ดวย
ฝากขอคิดถึงนองๆ พี่แมน ทุกคน ‘มี’ ชีวิต แตไมใชทุกคนที่ได ‘ใช’ ชีวิต ก็ขอใหทุกคนใชชีวิตใหเต็มที่ เอาใหคุมคา กับมันมากที่สุด เพราะวามันจะรูสึกดีมากในวันที่ เราใชชีวิตจนหมดแลว เพราะเราไดใชมันไปจริงๆ พี่ฟาฟี่ ฝากเรื่องความสุขแลวกัน ความสุขของ แตละคนไมเหมือนกัน อยางนอยวันหนึ่งก็อยาลืม ทําใหตัวเองมีความสุข อยาลืมวาเรามีความสุขอยู รอบขางเสมอ ใหเวลากับคนรอบขางแลวก็ใหเวลา กับตัวเองบาง หาตัวเองใหเจอวาชอบหรืออยากทํา อะไร ถารูแลวก็พุงเขาไปหามัน
ความสุขในชีวิต พี่แมน สําหรับพี่การไดปนจักรยานไปดูหนังชิลๆ ตอนแสงแดดรําไร เย็นๆ ใสกางเกงเล พี่รูสึกวา มันเปนชุดความสุขของพี่อยางหนึ่ง แลวก็เปนการ เติมเต็ม เติมพลังใหชีวิต คนอื่นๆ เขาคงมีชุดความ สุขอีกรูปแบบหนึ่ง แตสําหรับพี่แคนี้ก็คือความสุข เล็กๆ อยางหนึ่งของเราแลว พี่ฟาฟ ความสุขของเรา คือ การไดอยูในที่ที่มี คนรักเรา แลวก็มีคนที่เรารักอยูดวย (เขินแลว หัวเราะ) แลวก็ไดทําอะไรที่เราอยากทํานะคะ พี่แมน ความสุขของพี่เปนความสุขเล็กๆ ไม จําเปนตองมีอะไรมากมาย อยางวันนี้กลับหอง ไปอาบนํา เย็นๆ แลวมานอนดู series อะไรอยาง นี้ (หัวเราะ) ก็เปนความสุขที่เติมเต็มชีวิต เรื่อง เล็กๆ ที่ทําใหเรามีความสุข มันก็จะทําใหเรา อยากดําเนินชีวิตตอไป การหาอะไรที่เราอยากทํา มาใสในชีวิตตลอดเวลาจะทําใหเรารูสึกมีกําลังใจ มากขึ้น พี่แมน การทําอะไรใหมๆ หลายๆรูปแบบ จะ ทําใหเราคนพบวาตัวเราอาจจะทํามันออกมาได ดีก็ได อาจจะมีพรสวรรคที่หลับใหลอยูในตัวเรา ก็ได พี่เคยไปดูละครเวทีตอนสมัยป 1 แลวพี่ก็คิด วา โอย! พี่ไมสามารถทําไดหรอก ถาพี่ไปเลนก็คง หัวเราะอยูกลางเวที แตพอไดเลนพี่ก็รูสึกวา เออ! ทําไดนะ หรือแมแตการเปนพิธีกร พี่ก็ไมเคยลอง จนกระทั่งพี่ไดลองทําพี่ก็คนพบวา พี่พูดแลวมี ความสุข ก็เลยทําตอไป เราสามารถเลือกไดวาจะ ไปทําดานไหน หรือจะลองกรุยทางไปก็ได การ ทําหลายๆ อยางมันทําใหเราคนพบอะไรหลายๆ
19
ÊÒÃÐÈÔÅ»Š เรื่อง: NuDi
The Page Turner
แดเธอ..จงตายทั้งเปน
“เหตุผลแบบไหนกันที่คนเราจะนํามาเปนขออางในการทํารายคนอื่นได” Mélanie (เมลานี) เด็กนอยผูมีพรสวรรคทางเปยโนตั้งแตยังเล็กและเต็มเปยมไปดวยความ หวังที่จะสอบผานการคัดเลือกเขาเรียนโรงเรียนดนตรี แตดวยพฤติกรรมขาด “ความยั้งคิด” ของ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ซึ่งเปนนักเปยโนคอนเสิรตชื่อดัง Ariane Fouchécourt (เอเรียน ฟูเชร คอรท) ทําใหสมาธิของเมลานีไขวเขวสงผลใหเธอไมสามารถแสดงผลงานไดอยางเต็มที่ เมลานีตอง ขมขื่นจากเหตุการณดังกลาวและเก็บความรูสึกนั้นไวคนเดียวเสมอมา จนตัดสินใจหันหลังใหกับเปยโน อยางสิ้นเชิง เมื่อ Mélanie เติบโตเปนสาวสวย ออนหวานและมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม ทวาสิ่งเหลานั้นก็ไม อาจทําใหเธอลืมความขมขื่นในอดีตลงได ระหวางที่ Mélanie ฝกงานอยูที่สํานักงานกฏหมาย เธอก็ได พบกับ Jean Fouchécourt (ฌอง ฟูเชรคอรท) สามีของ Ariane ผูสรางบาดแผลในใจของเธอ การลางแคนที่สั่งสมมานานของ Mélanie จึงเริ่มขึ้น เธอเสนอตัวเขาไปดูแลลูกชายของ ครอบครัว Fouchécourt ขณะนั้นเองที่ Ariane ก็กาํ ลังเผชิญกับความยากลําบากในชีวิต เพราะอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น ทําใหเธอขาดความเชื่อมั่นในตนเองและสิ่งรอบกาย เริ่มเกิดความระแวงและสับสนภายในใจ ดวยพรสวรรคของ Mélanie ทําใหเธอเริ่มขยับสถานะของตนเองไปเปน ”คนพลิกโนต” (The Page Turner) พรอมๆ กับการดูแลลูกและควบคุมทุกอยางภายในบาน Fouchécourt รวมไปถึงหัวใจ ของ Ariane เองดวย เมลานีเองก็เปรียบเสมีอนนักเปยโนในคอนเสิรต ที่แมวาบทบาทจะไมไดโดด
20
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
เดนอะไรแตก็มีความสําคัญที่สุดในการการควบคุม บทเพลง การแกแคนอยางเปนระบบและแยบยล ของเธอก็ไมตางอะไรไปกับการบรรเลงบทเพลง บทเพลงหนึ่ง ที่เริ่มตนอยางออนหวาน ออนชอย ทําใหผูฟงเคลิบเคลิ้มหลงใหล แตแลวทันใด ทวงทํานองนั้นก็เรงจังหวะใหรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จน ปดฉากไดอยางสมบูรณ ภาพยนตรจากแดนนํา หอมเรื่องนี้โดดเดน ในแงของจิตวิทยาและมุมมองอีกดานหนึ่งของมนุษย โดยเฉพาะการแสดงอยางสมบทบาทของนักแสดงใน บท Mélanie (Déborah François) ที่เริ่มตนอยางออน หวานและดําเนินชีวติ ไปปกติ แตภายในกลับมีความ ลึกลับบางอยาง ประกอบกับรอยยิ้มที่เย็นชาจนสราง ความนาสะพรึงกลัวใหแกใครหลายคน ภาพยนตรเรื่องนี้ก็ไมไดสนับสนุนการลางแคนแตอยางใด ทวานาจะตองการตีแผชีวิตใน อีกมุมมองหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นไดในสังคมของเรา คนที่มีบุคลิกอยาง Mélanie ที่ซึ่งใหความสําคัญกับ ความสําเร็จเพียงอยางเดียว ไมเคยรูจักความพอเพียง หรือการที่ชีวิตของเธอมีเพียงแคขาวกับดําเทานั้น เปนบุคลิกที่นับวันจะยิ่งทวีจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนเหลานี้ไมไดรับการใสใจหรือเยียวยาสภาพ จิตใจ จนทายที่สุด บุคคลเหลานี้ก็จะระบายบางสิ่งที่อัดอั้นอยูในใจออกมาดวยการทํารายผูอื่น แลวเราละ จะตัดสินวาใครควรหรือไมควรทําอะไรที่สาสมหรือไมสาแกใจจากสิ่งใดกัน ในเมื่อ สังคมยุคปจจุบัน เพียงแคการกระทบกระทั่งเพียงนอยนิดก็สามารถนําไปสูการทะเลาะวิวาทได ไมวาจะ เปนการสาดนํา กรดกรณีแยงแฟนกัน แคเหยียบเทากันก็ชกตอยกันได หรือแมแตการตามไปหาเรื่อง รถที่มาปาดหนา คนที่ทําสิ่งเหลานีี้ไมไดใสใจความรูสึกของคนอื่นมากนัก คิดแตเพียงวาเปนเรื่องเล็กๆ นอยๆ โดยไมคิดเลยวาเรื่องเล็กนอยนี้ อาจจะเปนเรื่องใหญโตของคนอื่นอีกก็ได ทุกอยางเริ่มตนและจบลงในตัวเอง ปญหาจะแกไขไดก็ตอเมื่อยอนกลับไปดูที่สาเหตุ เพียงแค ตัวเราหัดเอาใจเขามาใสใจเรา ความเขาใจและความรักก็จะเกิดขึ้นเองในสังคม บางครั้งการพูดเพียงแคคําวา “ขอโทษ” ก็สามารถลบความแคนใหหายออกไปจากใจไดเชน เดียวกัน - ถาสนใจอยากดูเรื่องนี้ลองเปดเขาไปดู youtube.com แลวเสิรชหาคําวา ‘the page turner movie’
21
bon appetit เรื่อง: ผักบุง
Õº
¤ º Â Õ ¡ à μÐ »Òà¡ çμμÕé Jin-Emon Ê
Japanese Style Spaghetti
ใครที่มองผานแวบแรก แลวเห็นตัวอักษรภาษา ตา หลายคนคงคิดวา นี่อาจเปนหนึ่งในรานอาหาร ที ขวาที เชื่อวาหลายๆ คน ก็คงจะเปลี่ยนความคิด ระหวางความเปนญี่ปุนกับอิตาเลี่ยน ตั้งโชวเรียง นํายอย เสียจนผูคนที่เดินผานไปมา ตองกาวเขาไป พนักงานตอนรับอยางไมรูตัว
ญี่ปุนบนปายไมไผแผนใหญสะดุด ญี่ปุนทั่วไป แตหากมองไปทางซาย เพราะโมเดลสปาเก็ตตี้ที่ผสมผสาน รายอยูในตูกระจก ดูเหมือนจริงเรียก ในราน Jin-Emon ตามคําทักทายของ
ทันทีที่กาวเขาไปในราน ก็จะสัมผัสไดถึง ญี่ปุน ดวยการกลาวตอนรับวา ‘อิรัคไชมาเสะ’ จาก ตกแตงของราน ที่เนนไมเปนหลัก โดยเฉพาะผนัง ขาวดําโดดเดน ชักชวนใหบรรดาลูกคาแหงนหนา
บรรยากาศของรานในแบบฉบับของ ทั้งพอครัวและพนักงาน หรือแมแตการ และเพดานที่เต็มไปดวยการตูนญี่ปุน ขึ้นไปมอง
นอกจากบรรยากาศแลว รสชาติของอาหารก็ เยี่ยมไมแพกัน ทางรานการันตีความ อรอยดวยเคล็ดลับเสนสปาเกตตี้แบบ Al Dente ซึ่ง เปนเสนที่สามารถคงความเหนียวนุมดาน นอกและยังคงรักษาสัมผัสกรุบกรอบของดานในได เปนความเหนียวนุมกําลังดี ถือเปนเสนที่ไมนิ่มและ เหนียวเกินไป จนเปนเอกลักษณอันโดดเดนที่มีใหลิ้มลองไดที่ Jin-Emon เทานั้น
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
สปาเก็ตตี้คาโบนารา ไขปลาคอด, สปาเก็ตตี้ครีมซอสวาซาบิสด แซลมอน และหอยเชลล, สปาเก็ต ตี้กิมจิหมู, สปาเก็ตตี้ปลาซาบะเทริยากิ, สปาเก็ตตี้ซอสโชยุ ปลาหมึกผักใบเขียว, สปาเก็ตตี้ทูนา แองโช วี่และกระหลําปลี, สปาเก็ตตี้ซอสโชยุ เห็ดและเบคอน, สปาเก็ตตี้แกงกระหรี่สไตลญี่ปุน, สปาเก็ตตี้บาจิ ลิโกะซอสกับชิโสะและอื่นๆ อีกมากมาย ที่นําเอาความเปนญี่ปุนมาใสลงในสปาเก็ตตี้ไดอยางกลมกลอม ไมตองแปลกใจหากบางเมนูที่สั่งจะเสิรฟพรอมไข(ไมสุก) เพราะไขจะ ชวยเพิ่มรสชาติใหสปาเกตตี้จานนั้นอรอยกลมกลอมยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ทางรานยังมีตัวเลือกใหวา จะสั่งแบบจานเดี่ยว หรือสั่งเปนเซ็ตก็ไดตามใจ หากสั่งเปนเซ็ต ก็จะเสิรฟสปาเก็ตตี้พรอมเครื่องเคียงอีกมากมาย โดย เฉพาะสลัดผักสดควบคูกับนํา สลัดแสนอรอยและชาเขียวรสชาติตั้งเดิม เติมไดไมอั้นอีกดวย หรือหากใครอยากลองเมนูอื่นๆ นอกเหนือจากสปา เก็ตตี้แลว พิซซาก็นาจะเปนอีกตัวเลือกที่ไมนาพลาด สวนเมนูของหวาน ขอแนะนําบิ๊กปงสไตลญี่ปุน มีทั้งช็อคโกแลต สตรอเบอรรี่ และคาราเมล จุดเดนของความอรอยอยูที่ขนมปงอุนกอน โตเนื้อนุม โปะหนาดวยไอศกรีมและวิปครีม ขอรับรองเลยวาเมนูของหวานบิ๊กปงจานเดียว กินกันไดทั้งโตะแน ถาคนไหนเริ่มหิวแลว ขอใหลองแวะไปชิม สปาเก็ตตี้ในแบบฉบับญี่ปุนกันไดที่ราน Jin-Emon แหงนี้นี่เอง - ราน Jin-Emon ตั้งอยูที่ชั้น 1 ของ MBK ฝง โรงแรม Pathumwan Princess -โทรศัพทสอบถามเพิ่มเติมที่ 02-6260151
23
ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ เรื่อง: นาคา
มิวเซียมสยาม ...พาเพลิน ใครใครก็พูดถึงไทยแทแท อยูบอยบอย ใคร…ใครรูวาไทยแท แทอยางไร? จริงจริงไทยแทแท… แทแคไหน? ที่แทไทยแทแท… คืออะไร ? เพื่อนๆ เคยตั้งคําถามกับ ตัวเองบางหรือเปลาวาคนไทย เปนใคร มาจากไหน บรรพบุรุษ มีชีวิตความเปนอยูอยางไร และ กวาสยามประเทศจะดําเนินมา เปนประเทศไทยอยางที่เปนอยู
ทุกวันนี้ เหลาบรรพชนของเรา ตองเสียเลือดเนื้อมากเพียงใด เพื่อแลกเอาดินแดนใหกับลูก หลานของพวกเขา ถาหากคุณสงสัยและไมรูวา จะหาคําตอบของขอสงสัยเหลา นั้นไดอยางไรแลวละก็ มิวเซียมฯ แหงนี้จะพาคุณยอนเวลาจาก อดีต ไปสูโลกที่คุณเคยอานใน ตําราเรียนเทานั้น แตคุณยังไม เคยไดสัมผัสมากอน ฉบับนี้เรา จะขอนําคุณทองเที่ยวไปในดิน แดนสุวรรณภูมิ…ดินแดนอัน เปนรากฐานของคนไทย มิวเซียมสยาม หรือสถาบัน พิพิธภัณฑการเรียนรูแหง
24
ชาติ ตั้งอยูในบริเวณที่เคยเปน ที่ทําการของกระทรวงพาณิชย รูปแบบของตัวอาคารภายนอก ยังคงงดงามแบบสถาปตยกรรม ตะวันตกที่ผสมผสานความเปน ตะวันออกไวดวยกันอยางลงตัว แตภายในถูกปรับปรุงใหมเพื่อ สรางเปนมิวเซียมอันทันสมัย แตกตางจากพิพิธภัณฑที่เรา เคยรูจกั ในมิวเซียมฯ นี้บอกเลา เรื่องราวประวัติศาสตรชาติไทย ตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน เรื่อง ราวตางๆ ถูกถายทอดผานสื่อ ดวยรูปแบบที่หลากหลายและ นาสนใจ เรารับรองไดเลยวาผูที่
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 เขาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑแหงนี้ จะตองสนุกสนานกับการเรียนรู และตื่นตาไปกับการทองดินแดน สุวรรณภูมิในอดีตอยางแนนอน จุดเดนของมิวเซียมสยาม อยู ที่การนําเสนอความเปนมาของ ชนชาติไทยดวยรูปแบบที่ทัน สมัย ชวนเพลินและนาติดตาม ตัวพิพิธภัณฑถูกแบงออกเปน 17 โซน แตละโซนจะเลาเรื่อง ราวที่แตกตางกันออกไป ทวา ทุกเรื่องลวนสอดคลองเชื่อมโยง กันหมด โซนแรก: เบิกโรง เปนการ เบิกตัวละครทั้งเจ็ดที่จะพาผู ชมยอนกลับไปสูจุดเริ่มตน จากสุวรรณภูมิสูสยามประเทศ มาจนถึงประเทศไทย เพื่อคนหา คําตอบวาเราคือใครและอะไร คือไทย ในโซนนี้เราจะไดดูวิดีทัศน หลายๆ คนอาจจะไมเขาใจวา วิดีทัศนนี้ตองการจะสื่ออะไรแต เราเองเขาใจวาเปนการเลาให เห็นถึงการใชชีวิตของตัวละคร ในอดีตวาพวกเขาเคยใชชีวิต อยางไรและสงผลใหเขาเปนคน อยางไรในปจจุบัน สาระสําคัญก็ เพื่อที่จะนําพาผูชมยอนกลับไปสู อดีตนั่นเอง โซนที่สอง : ไทยแท เปน หองที่ทําใหเกิดความอยากรู อยากเห็นวาอะไรคือไทยแท ภายในหองไดจําลองสถานที่ ตางๆ ที่เปนที่รูจักในอดีตจนถึง
ปจจุบัน เชน เวทีมวยราชดําเนิน ศาลาเฉลิมไทยและสถานที่ทอง เที่ยวยามราตรี ตลอดจนแสดง ใหเห็นถึงวิถีชีวิตของผูคนที่เลี้ยง ชีพดวยการคาขายยามคํา คืน โซนที่สาม : เปดตํานาน สุวรรณภูมิ หองนี้จะนําเสนอ วิวัฒนาการของสังคมกอนจะ มาเปนชาวสุวรรณภูมิ โดยชื่อ “สุวรรณภูมิ” คือ ชื่อที่ชาวโลก เมื่อประมาณ 3,000 ปกอนใช เรียกดินแดนแหงความอุดม สมบูรณทางทิศตะวันออกของ อินเดีย จากการศึกษาโครงกระดูก หลุมฝงศพและอารยธรรมที่ฝง อยูใตดินทําใหรูจักดินแดนแหง นี้มากขึ้น นอกจากนี้ภายใน หองยังมีวิดีทัศน “คําใหการของ นางพญาแหงโคกพนมดิน” ซึ่ง เลาเรื่องวิถีชีวิตของชาวสยาม ในอดีต ขามมา โซนที่สิบสี่ : สีสัน ตะวันตก ภายในหองจําลอง บรรยากาศของโลกที่กําลังเกิด ขึ้นอยางมีชีวิตชีวาหลังความ บอบชํา จากสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจที่กําลังรุงเรือง ผูคนยิ้ม แยมแจมใส เสียงเพลงแหงความ หวังและสนุกสนานกลอมใหผูคน ลืมความเจ็บปวดจากสงครามไป ไดหมดสิ้น และประเทศไทยก็ โกย ’ดอลลาร’ จากการเปดรับ วัฒนธรรมอเมริกันอยางเปนลํา เปนสัน
25
เราขอแนะนําเพียงบาง โซนเพื่อเปนการเรียกนํา ยอย เทานั้น สวนที่เหลือก็ขอใหลอง ไปคนหาคําตอบดวยตัวเองดี กวานะคะ เพราะการเรียนรูที่ดี ก็ตองเกิดจากการเรียนรูดว ยตัว เองนี่ละคะ มิวเซียมสยามยังมีสิ่งที่นา สนใจอีกมากมาย ที่ทุกๆ คนไม ควรพลาด หากเพื่อนๆ ตองการ คนหาคําตอบของที่แทจริงของ ความเปนไทยแท สถานที่แหง นี้จะไมทําใหเพื่อนๆ ผิดหวัง แนนอนคะ
- การเดินทาง : รถโดยสารประจํา ทางสาย 3,6,9,12,32,44,47,53,8 2,524,48,64 - กิจกรรมพิเศษทุกวันศุกร ที่ลานเพลิน
ËÁعªÕÇÔμ เรื่อง : Prathoratus
ลุงเหลือเรียนไมจบ ใครจะไปคิดวา กะทะเกาๆ เศษวัสดุเกาๆ หรือคนเกาๆ ที่เรามัก เรียกวา ‘คนแก’ นั้น จะมีความสามารถทําอะไรไดมากมาย คนในวัย 70 ปลายๆ ที่หลายคนคิดวา คงทําไดอยางมากก็แคเลี้ยงลูก เลี้ยงหลานอยูบาน ไมก็นอนเจ็บออดๆ แอดๆ หรือเขาวัดฟงเทศนฟงธรรม ถาหากใครเคยคิด อยางนั้น ขอใหลองมาดูชีวิตของผูใหญใจดีแหงเมืองเชียงใหมคนนี้ดูหนอย แลวจะรูวาเราไดมองขามความสามารถของใครหลายๆ คนไป คุณลุงชาวเชียงใหมคนนี้ มีชื่อวา เหลือ เปรมปราคิน คุณลุงคน นี้วันๆ มัวแตยุงอยูกับเศษวัสดุที่วางกองเรียงรายอยูใตถุนบานของคุณลุงเอง เศษวัสดุที่วางกองไวเยอะ ขนาดที่อาจจะเรียกไดวาเปนเหมือนรานขายของเกามากกวา แลวเศษวัสดุเหลานั้นมากองอะไรมากมายในบานของคุณลุง? คุณลุงเหลือ จบการศึกษาเพียงขั้นวิทยาลัยเทคนิค แตมีความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับกลไก ของเครื่องยนต เครื่องจักรตางๆ มาตั้งแต ป.2 คุณลุงเปนคนที่ชอบศึกษาสิ่งตางๆ ดวยตนเอง โดยเริ่มตน จากการแกะนูน รื้อนี่ เพื่อสองดูสวนประกอบภายใน คุณลุงชอบศึกษาหาความรูเพิ่มเติมอยูไมขาด หลังจากที่เขาใจระบบกลไกตางๆ มากขึ้นแลว คุณลุงก็หันมาสนใจในการประดิษฐจาน ดาวเทียม ตั้งแตสมัยที่จานดาวเทียมเพึ่งเขามาในประเทศไทยในยุคแรกๆ ซึ่งในตอนนั้นยังมีราคาแพง อยูมาก แตคุณลุงก็รวบรวมเงินที่มีอยูไมมากนัก ไปขอซื้อเฉพาะสวนของจานเพียงอยางเดียว แตก็ถูก ปฏิเสธมาโดยตลอด จนในที่สุดคุณลุงตัดสินใจลงมือประดิษฐจานดาวเทียมขึ้นมาเอง โดยใชตํารับตํารา ที่เปนภาษาอังกฤษทั้งหมด แมวาคุณลุงจะอานไมเขาใจ แตคุณลุงก็ใชความพยายามโดยอาศัยความชวย เหลือจากคอมพิวเตอร วัสดุที่นํามาใชในการทดลองก็หยิบมาจากวัสดุรอบขาง ทั้งกะทะ อะลูมิเนียม และ อีกหลายๆ อยาง จนในที่สุด ความพยายามของคุณลุงก็ประสบผลสําเร็จ เพราะคุณลุงสามารถประดิษฐจาน ดาวเทียมในราคายอมเยาขึ้นมาใชเองได และยังใจดี นําผลงานของตัวเอง เผื่อแผไปสูโรงเรียนในชนบท ที่ยากไร ใหมีโอกาสไดรับการศึกษาหาความรูผานเจาจานดาวเทียม ที่เปนผลงานที่ประสบความสําเร็จ ของคุณลุงเหลือ ความสามารถของคุณลุงไมไดหยุดอยูแคจานดาวเทียมเทานั้น แตคุณลุงเหลือยังประดิษฐ สิ่งของตางๆ อีกมากมาย อาทิ หมวกกันน็อคฟงเพลงไดหรือเครื่องตัดหญาพลังงานแสงอาทิตย หรือ แมแตเครื่องบินบังคับวิทยุไฟฟาที่ประดิษฐขึ้นมาดวยราคาอยางยอมเยาและยังสามารถบังคับใหบินได อยางงายดาย เปนตน คุณลุงเหลือยังเปนคนที่มีจิตใจดี ตองการที่จะแบงปนความรูของลุงใหคนอื่นๆไดรับ
26
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
“ผมวาการ เรียนรูไมมี ที่สิ้นสุด ตราบใดที่ เรายังมีลม หายใจอยู” โดยไมเกี่ยงวาจะเปนใคร คุณลุงก็ยินดีใหความรูใหตั้งแตเด็ก ครูอาจารย ภารโรง หรือใครก็ตามที่ ตองการความรูของคุณลุง รอยยิ้มแสนอบอุนจะเปนสิ่งแรกที่พวกเขาจะไดรับจากคุณลุงนักประดิษฐผูนี้ นอกจากนี้ คุณลุงยังรับหนาที่เปนวิทยากรพิเศษเดินสายตามโรงเรียนตางๆ เพื่อสอนเด็กๆ ใหเรียนรูการประดิษฐ สิ่งของตางๆ ชวงเวลากลางคืน นาจะเปนชวงเวลาที่ใครหลายคนตองการพักผอน หาความบันเทิง แต สําหรับคุณลุงเหลือแลว กลับเลือกใชชวงเวลานี้ในการหาขอมูลทางอินเตอรเน็ต เขียนโปรแกรมสรางสื่อ การเรียนการสอน แลวบันทึกลงแผนซีดีเพื่อแจกจายใหแกเด็กๆ ในแตละโรงเรียน คุณลุงไมเคยคิดที่จะจดลิขสิทธิ์ผลงานของตัวเองแตอยางใด เพราะคุณลุงมีความตั้งใจที่จะ กระจายความรูสูทุกพื้นที่ คิดวาเปนกุศลที่มนุษยดวยกันสามารถทําใหกันได คุณลุงบอกวาตัวลุงเองยัง แข็งแรง ความจําดี พออยูพอกิน ไมตองการความรํารวยอะไร ทําอะไรงายๆ จะไดมีคนทําตามได ตลอดชีวิตของคุณลุงนั้น ไมเคยหยุดเรียนรูหรือสรางสรรคสิ่งใหมๆ คุณลุงไมสนใจกับคําวา เรียนจบหรือใบปริญญา ที่ไดกลายเปนเปาหมายหลักของสังคมในปจจุบัน ที่ดูเหมือนจะบูชาเพียงแคใบ ปริญญาบัตรและมองขามเปาหมายของการศึกษาที่ตองการใหผูคนไดมีความรู แตคุณลุงไมคิดเชนนั้น ดังที่คุณลุงเหลือไดเคยกลาวไววา “ทุกวันนี้ผมก็ยังศึกษาคนควา ในเรื่องที่ผมยังไมรูอีกมากมาย ผมวาการเรียนรูไมมีที่สิ้นสุด ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู”
27
ÁÕàÃ×èͧ เรื่อง : มุก
ฉันประทับใจในความเปน จะเปนเพราะเหตุผลขอใดก็ฉันก็ไมรู แตสิ่งหนึ่งที่ทําให วา ทุกๆ คนในรั้วเหลืองแดงแหงนี้ ลวน ‘ธรรมศาสตร’ คงจะเปนเพราะบรรยากาศที่ฉันสัมผัสได แตเปน ‘เพื่อน’ กันทั้งนั้น ยงพูดอยูเสมอๆ วา ที่ ตั้งแตครั้งแรกที่ฉันไดมาเยือนสถาบันนี้ ฉันจะไดยินเสี า ผูที่มีประสบการณมากกวาและเปนผู ธรรมศาสตรเราไมมีรุนพี่หรือรุนนอง เรามีแตเพื่อนเก นใหม อยางฉัน ผูที่วันหนึ่งในอนาคตจะ ถายทอดจิตสํานึกความเปนธรรมศาสตรที่ดีใหกับ เพื่อ รไปรับใชสังคม ตองรับชวงตอ จะตองนําตัวตนและปณิธานแหงธรรมศาสต จะแบงปนใหคุณฟง และนี่คงเปนสวนหนึ่งของเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนที่ฉันอยาก และเขาใจกันระหวางเพื่อนกับ การทํางานรวมกับเพื่อนในคณะฯ ชวยใหฉันไดเรียนรู ่แบงสุขปรับทุกขใหกันและกันฟงได ตัวฉันมากขึ้น จากคนที่เคยเดินผานกลายมาเปนเพื่อนที กับความสําเร็จดวยกัน ตัวพี่ๆ เองก็ไมได กลายเปนเพื่อนที่รวมผิดหวังยามเสียใจและรวมยิ้มให สึกอบอุนอยูเสมอ แมวาบนทางเดินสายนี้ เปนเพียงแคคนที่แกกวา แตเปนรุนพี่ที่ชวยใหพวกเรารู วและพาเรากาวเดินไปพรอมกัน จะยากลําบากเทาไร แตก็จะยังคงมีมือที่คอยประคองเราไ กับใครอีกหลายคนจากตาง ฉันยังนึกถึงภาพในวันนั้นอยูเสมอ วันที่ฉันรวมกิจกรรม งเวลาสั้นๆ แตก็เปนชวงเวลาที่งดงาม คณะหรือตางสถาบันกัน แมวาเราจะไดพบกันเพียงชว ระทับใจที่ไมมีสิ่งใดจะมาแยกไปได เพราะสําหรับฉันแลว เพื่อน คือ ความรูสึกและความป ันพบเจอ ยิ่งทําใหฉันรูสึก มาในวันนี้ เวลาไดลวงผานมาเกือบปแลว หลายสิ่งที่ฉ ใหกัน ทั้งจากเพื่อนๆ พี่ๆ อาจารยและ ประทับใจในมิตรภาพที่เรียบงายกับการเอื้ออารียที่เรามี นเขามาทักทายชีวิตนักศึกษาใหมคนหนึ่ง บุคคลอื่นๆ อีกมากหนาหลายตาที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวีย จากนี้เรื่องราวที่ฉันไดมาในปนี้ยังได อยางฉันและทําใหเขาใจความหมายของคําวา เพื่อน นอก ุกคนเปนเพื่อนกันไดจริงๆ หรือ? แลว ใหคําตอบของคําถามที่คางคาในใจฉันมานานที่วา คนท มิตรภาพควรจะเริ่มจากตรงไหน? ึ้งในความรูสึกเหลานั้นดี ฉันใน ฉันมั่นใจวาพี่ๆ ที่กําลังจะจากสถาบันแหงนี้ไป คงจะรูซ ําดีๆ ที่อาจจะเผลอลืมกันไปแลว วันคืน ฐานะเพื่อนใหมคนหนึ่ง ขอชวนใหพี่ๆ ยอนถึงความทรงจ จําไวอีกนานเทานาน เพราะชวงเวลา เหลานั้นนาจะเปนชวงที่ดีที่สุดชวงหนึ่งของชีวิต ที่พี่ๆ จะจด จากมหาวิทยาลัยแหงนี้ไปแลว แต เหลานี้จะเปนเพื่อนคนเดิมที่พี่คุนเคยเสมอ แมวาพี่ๆ จะจบ ไปไหน เพื่อนใหมคนนี้ก็หวังวาเรื่องราวดีๆ เหลานั้นจะนั้นยังคงไม ึกดีๆ ไวในความทรงจําของพี่ๆ แดมิตรภาพของเพื่อนเกาชาวสีแสด ขอใหเก็บความรูส ตลอดไป
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552
{หน้ าว่ าง} กรุณาขามไปหนาอานอื่นตอไป โดยไมตองใหความสนใจกับหนานี้ เพราะหนานี้วาง...จริงๆ
เวนเสียแตวาคุณตองการจะมาเติมหนานี้ใหเต็มเหมือนหนาอื่นๆ ของ Torch หากคุณคิดวาตัวเองมีความคิดอะไรดีๆ เจงๆ หรือมีลีลาการเขียนที่เราใจ นาอาน และที่สําคัญอยากจะแบงปนสิ่งเหลานั้นใหกับคนอื่นๆ บาง Torch ขอเชิญชวนใหคุณสงผลงานลีลาเด็ดชิ้นนั้นเขามาใหเรา โดยผลงานชิ้นนั้นจะตองเกิดขึ้นจากฝมือของคุณเอง ไมไดไปกอปของใครมา ขอแนะนําใหใชฟอนต Cordia New ขนาด 16 pt. และความยาวไมควรเกิน 1 หนาเอสี่ (หากมากกวานั้น หนานี้ก็จะกลายเปนหนาลนที่ไมพอสําหรับงานของคุณเอง) สงงานมาไดที่ the-torch@hotmail.com หรือเอามาฝากไวไดที่หอง กนศ. ทั้งสองฝง (ทั้งที่ทาพระจันทรและรังสิต) ถาพวกเราชอบงานของคุณและคิดวาคนอื่นๆ ก็จะตองชอบเหมือนกัน หนาวางนี้ก็จะกลายเปนหนาของคุณทันที!
29
áÅŒÇâÅ¡¡çËÁØ¹ä» เรื่อง : Always
¨ºáÅŒÇä»ä˹? กอนหนานี านไม ้ีไมกสปด ี่สปดาห ั าห เพ เพือนขอ ่อนของฉันลา ลากฉ กฉันัเข เขาโรรงห งหนันังใหญ งใหญใจก จกลา ลางเ งเมืมืองไป ไปดูดู Highh Schoool Musicaal 3: Senioor Ye Year ar ททังที ้ังทฉั่ีฉนไม นั ไมเต็ เตม็ใจ ใจนันัก เพ เพรา ราะฉ ะฉันัไม ไมคอยถ ยถูกูจร จริติกักบห บหนันังแนว งแนวนี้สักเท เทาไห ไหร... แต แต ห ังจา หล จากฉฉันยอ ย มตามนํา นั่งดูพระเ ะเอก อกกับนางเอกเตตนวอล นวอลซจบกั ีบกนับน บนดา ดาดฟ ดฟาโร โรงเรีรียนมา ยนมาพั พักใหญ กใหญ ฉัน ก็ได ไดดีใจท จที่ีหนังัเร เริม่ จะมีปมขัดแย แยง (conflictt) ซักที กที นั่นคือตอนทีี่พระ ระเอก พอหนุมทรรอย โบล บลตัตัน ตอง อง เลลือกระหวางบา บาสเ สเก็ตบอลลที่จะท ะทําํให ใหเขา ข ได ไดทุนกา การศ รศึึกษา ษ ของมหาวิทยาาลัย A กับกา ก รแ รแสด สดงล งละครเ รเพล พลงง ซึ่งเขาเริ่มจะชอบขขนมาและ ึ้นม ะอา อ จทําใหหเขาาตองเบ องเบนเ นเข็ขมชีวิต พอถ อ ึงฉา ฉากป กประ ระมา มาณน ณนี้ ฉันก็กนึนึกใน กในใจวา “นี่ มัมนชีวิตฉันตอนนี้นี่หวา” (ฉ (ฉันัเองก็ senior yearr นะ ฮาฮา) า) ใใชชแล แลวคะ คําถามมที่ตาม า มา มาก็ก็หนี หนไีมพน: พน:จบ จบ แลวไปไหน...? มันช นชางเ ง ปปนค นคําํถา ถามท มที่ีสะเทือนใจเด็กปสี่อยางฉันัเหลืลือเกิ อเกิน (ฮ (ฮาา) นองๆๆ ปปหนึ่งสอ ส งสามอาจยังไมพะวงถึงคําตอบของคําถามน มนี้ีนัก เพ พรา ร ะก ะการ ารเร เรียนก นการ ารสสอบบ เบื้องหนาทําใหหนทา ทางงยังดููยาวไกล แตสําหรับพี่ๆปสี่แลว โลก ลกแห แหงความจริงกํกาล าลังัวิ่งกว ก ดไไลหลังัมาาดวย ความเร็วสูง ยิ่งปนี้พ ี ิษเศรษฐกกิจทําเอา าเอาตล ตลาด าดบอ บอบช บชําํ หน หนักั แแรง รงงา งานท นท่ี่ ((กํกําลั าลงัจะ จะ)) เพ เพิงจบใ ่ิงจบใหม หมจึงหว หวาด าดวิวิตก ตก กันถวนหนา เพื่อนฉันบางคนรําพึงรําพันวา ที่ผานมาสิบปเศษก็ไมได ไดมีอะไ ะไรเเกิดขึ้น แตตทําไมพอพวก
30
¡ØÁÀҾѹ¸ 2552 แผนชีวิต ฟงดูนากลัวไหม? ตั้งแตขนึ้ ปสีส่ฉี ันก็คิดมาตลอดวา กอนหนานี้ฉันกาวเดิน ต มจังหวะที่ฉันควรกาวมาตลอด นั่นคือเรียน ตา อนุบุาล ประถม มัธยม อน ย มหาวิทยาลัย แตตละชวง ปก็กมีม็ ีตัตวเลข วั เลขคอ คอยก ยกํากับไว ไมมใหฉันตองคอยกังวล วาจบม าจบม.ส .สี่แลวจะตตองไป องไปหาเร เ ียนอ นอะไรที่ไหน แต ฉันรู นรสึูสกว กึ วา จจากนีนี้ไป ฉันกํ นกาํลังั จะก ะกาวเ วเทาลงส งสูความ เวิงว เว ้ิงวางไ งไรรขอบเ ขอบเขต ขต ไไมมมีมเี ลขห ขหลัลักกิโลเมตรบ รบอกกววา ฉันไปไ นไปไดดไกลแ ไกลแคคไหนแ ไหนแลลว แล และฉ ะฉันัคว ควรจ รจะไ ะไปท ปทิศิ ไหนตอ ...ตอจากนีี้ ฉันจะต นจะตองเปปนคนก นคนกําหนดเอง แลว มันนากลั แล ากลวม ว ากนะ สําหรับคนที่ทําอะไร ไ ตาม ที่มีคนบอกกมา มาเรรอยๆอ ื่อยๆอยางฉัน เวลานี้ไมตางอะไร กับการ บการออ ออกเ กเดิดนท นทาง างคร ครังสํ ้งสาํคัคญอ ญอีกคร ครังหนึ ้งหน่ง
ฉัน รียนจบปุปุบ อเม ฉนเ เมริรกา กาก็ก็ฉลอง ฉลองให ใหซะย ะยิงใหญ ่ิงให แบบ นีน้น้า...... ยิิ่งพอ พอได ไ เรียนร ยนรูวาวง วงจร จรเศ เศรษ รษฐก ฐกิจิมันก็ นกข็ึ้น แลวลง ล เปนวัฎจั ฎจกัร เพือนฉั ่อน นก็ยิ่งนึกแค แคนที่มัน ตตอง อ มา มาแจ แจ็กพ็ พอต อตแต แตกท ก ี่รนุ ฉัฉนด นดวย ....แ .แตแคนไป ไปก็ก็ ลงงที่ใคร ครไม ไมได คงตตองส งสููตายหหาง างาน านทีที่เหมาะ าะกักับตั บตวั เ งมากที่สุดให เอ ใหเจอ จอให ใหได
ตอน อนแร แรกฉ กฉันัก็กคิคิดว ดวา ททาง างเล เลือืกห กหลัลงง เรียีนจ เร นจบม บมัันก็มไม ไี มเยอ ยอะน ะนักัหร หรอก อกมัมั้ง กก็มันเป เปนโล โลกก แหงคว แห ค าม า จร จริิงแลวนี่นะ ลองนับๆด ๆ ูก็เห็นจะม นจะมีแีค ก.. เรียน ยน ((โท โท หหรืรออ ออะไรออยยาง างอื่นก็กได ไ ) ขข.. ทํางานน ไมก็ ค. แตงงาน ไม งงาน ((อย อยาลอเล อเลนไ นไปป – ฉัฉนเ นเคย คยได ไดยิน เพืื่อนคนหนึ่งบอก เพ อกวาอาชีพในนฝนของ นของเธ เธอค อคือืแม แม บาน าน โดย ดยสสวนตั วนตัวฉันคิดวาเธ เ อเ อ ปนคนนาทึ่งมาาก)
สงที ิ่งทตอง ่ตอ เออาไปดวยหรือ ฉันคิดวาการ เดินทา ท งยาวนานต นตลอ ลอดช ดชีวีิตคร คราว าวนีนี้ เร เราท าทุกคน ค ควร พกดว พก ดวงใจติดตััวไปด วไปดวย และใใหความมรักในอ กในอะไไร บางส บา งสิ่ิง (p (pas assision on)) เปปนตัวตัดสินที่อยูของเ งเรรา ฉันั เชื่อวาหา หากเ กเรา รารัรักสิ กสงใด ่ิงใด เร เราจ าจะท ะทุมเทอ ุมเทอุทุิศกา กายใจใ จ ห สิ่งนั้น แและ ละคว ควาามรัรกน กนันควร ้ันควรเป เปนปจจัยัแรรกใ ก นกการ เลือกงงาน านและททอยู ี่อยู ไมใช ใชจํานววนเ นเงิงินในบบัญชี จริง อยยูวาการ ารยัยังชีพก็สาค สํ คัญ แตตฉันว นวาเรราม ามาม ามีีชีวิตที่ ทุมเทให ใหกับบาางอยยาง างที่มีคา โดย ดยทีี่เงินจะไ นจะไมแซง แซง หนนาเป เปนสิ่งสําคั าคญ ั อันดับแรรกจะดีไหม หม...
ฉันัคิดตัวเล เลือืกอ กออก อกแค แ นี้ เพี พียงแต ยงแตวาพออ น่นังไล ไลในแ น ตละข ละขอ ก็กพบววาต าตางก งก็มีรายยละ ละเอียดแตก ตก ตางกั างกันไป นไ บา บางคนอาจจะเลลือกทําขอ ข. ข แลวคอย วกกล วก กลับัไปขขอ ก. หรือบางงคน คนก็กอา อาจจ จจะล ะ าข า าดจากก การเ กา รเรีรียน ยน ไปม ป ีความสุขกับการ บก รทํทาง างานตล ต อดดไป ก็ได ได และในก น ารทํางานนมันก็ยังมีมรา รายล ยละเ ะเอีียดปล ปลีกี ยอยลง อยลงไป ไปอีอีก ววาอ า ยาากจ กจะท ะทําํงานแ นแบบ บบไห ไหนน งาาน ในอง ใน องคคกรให กรใหญ ญทีท่ที าทาายค ยควา วามส มสาม ามาร ารถถ งา ง นใในท นที่ เล็ก็ๆแ เล ๆแตสอนใ นใหหได ไดเติตบโ บโตไ ตไปพ ปพรรอมกั อมกัน งา งานอ นอิสิระะ เปนไทแกตัว หรือแมแต เป แตงาน านทีี่รับชวงต วงตอจาก อจาก กิกจกการ ารของพอแม (อันันี้ก็คงส งสําํหร หรับัตึึ่งหนนั่งเกีก้ยทั้ง หลาย หล าย)) แล แลวยังประ งประเด เด็น็สําคัญ คือความรักในง นงาน นั้นๆและตัวเลขเงินเด เดือืนอีกดวย ทายท ยที่ีสุดฉันจึง บรรรล รลุวา จริงๆแลวตัวเลื วเลอก อกมัมันก็ไมไดนอยหหรอ รอกก มันอยูยูที่แตละคนตางหาก ากวาจะวางแผนใหชวิ ชี ตตัว เองยังไง
หากทําได ฉันัคิดวาฉันจะไ ะไดนึกภูมใิ จ อยางไไรเดียงสสา วาตัวเองสามารถตอบ อบคําถาม ดานบนนไดเต็มปากว มป า พอฉัันเรียนจบบแลลว...ฉัน จะไป จะ ไปใช ใชชีวิตเพือ่ บางสิส่งซึ่งลําคาตอหัวใจย วใ ยงกว ิ่งก า เงินิ ::)) เง
31
มาชวยกันสงตอ ความรูสึกดีๆ และความประทับใจใน
“วันแรกพบ” และมารวม “สืบสานตํานาน ศิลปฯ” ใหกับ เพื่อนใหมของเรา
STAFF ดวยการมาเปน
หากสนใจกรุณาติดตอที่ แกนคณะฯ ของแตละชั้นป หรือไมก็สอบถามไดที่ คณะกรรมการนักศึกษาของคณะฯ (กนศ.) หมายเหตุ - ทัง้ 2 งานจะมีขน้ึ ในชวงตนเดือนพฤษภาคม