torch21_JUL10

Page 1

©ºÑº·Õè 21 »‚·Õè 4 ¡Ã¡®Ò¤Á 2553

ÃѺ¹

éͧ


à¢Õ¹àͧ ผมเปนคนหนึ่งที่ไมคอยจะชอบไปรับนองเสียเทาไร ก็การไปรับนองแตละครั้ง มักจะชอบไปตรงกับ ภารกิจอื่นๆ ในชีวิตของผมพอดี ผมเลยมักจะรูสึกลําบากใจอยูเสมอ เมื่อตองเลือกอยางใดอยางหนึ่งระหวาง ‘รับนอง’ หรือ ‘ชีวิตตัวเอง’ บางครัง้ ผมก็เลือกทีจ่ ะยอมสละภารกิจทีผ่ มรับผิดชอบอยูน นั้ เพือ่ ไปรับนอง แตบางครัง้ ผมก็ตอ งเลือก ที่จะไมไปรับนอง เพราะไมสามารถพลาดภารกิจนั้นไดจริงๆ การมีเรื่องอื่นๆ ใหตองรับผิดชอบ ทําใหผมตอง พลาดเรื่องอื่นๆ ที่อยากจะทํา แตก็ไมสามารถไปทําไดเพราะโดนความรูสึกรับผิดชอบมัดตัวไวเสียแนน แลว การที่จะดิ้นใหหลุดจากความรูสึกนี้ไมไดทํากันงายๆ เลยสําหรับผม แตลองคิดไปคิดมาและที่สําคัญ คือ การเลิกคิดเขาขางตัวเอง การไดลองคิดแบบนั้นดู ทําใหผมได เห็นวาตัวเองนั่นเห็นแกตัวขนาดไหน เห็นแตภาระของตัวเปนหลัก ไมสนใจใครคนอื่นไดมากแบบเทาที่ควร จะเปน ไอพวกภาระทั้งหลายที่ผมเอามาใชในการปฎิเสธการเลือกทําอะไรสักอยาง เปนเพียงแตขออางที่ผม ยกขึ้นมาเพื่อเพิ่มความชอบธรรมใหกับตัวเองในการบอกปฏิเสธไปเทานั้น ทีจ่ ริงแลวผมสามารถเลือกทีจ่ ะทําอะไรสักอยางก็ได โดยไมตอ งคํานึงถึงภาระตางๆ ทีผ่ กู มัดกับตัวผม อยู เรือ่ งนีไ้ มไดทาํ กันงายๆ เพราะอยางนอยผมก็เลือกทีจ่ ะจัดลําดับความสําคัญของเกือบทุกสิง่ ทุกอยางในชีวติ นีเ้ อาไว ผมทําลิสตนไี้ วในใจมาเสมอ เผือ่ มีความจําเปนจะตองตัดสินใจเลือกอะไรสักอยางขึน้ มาทันทีทนั ใด ผม ก็จะพรอมและเลือกไดโดยไมตองเสียเวลาใหมากไป ถาใครคนไหนอานยอหนากอนหนานี้แลวจับไดวาผม กําลังหาเหตุผลมาใชเปนขออางอีก ผมขอแสดงความยินดีดวยครับ พวกคุณตามผมทันแลว สวนคนไหนที่ยังไมเห็นวาผมเอาขออางมาใชอีก ผมก็ตองขอขอบคุณที่ยังทําใหผมใชการอางตอไป ไดอีก อยางนอยก็เรื่องที่ผมยกเอาการจัดลําดับความสําคัญทั้งหลายมาใชหลอกเพื่อปฎิเสธการเลือกทําอะไร สักอยาง เห็นหรือยังละครับวาผมใชขอ อางมาเยอะจนติดเปนนิสยั ไปแลว แมแตงานพิมพชนิ้ นี้ ผมก็ยงั อุตสาห หาขออางมาใชไดอยางแนบเนียน หากผมสามารถตัดการใชขอ อางทัง้ หลายในชีวติ นีไ้ ปได ผมคงไมมขี อ อางทีจ่ ะเอาไปใชในการปฏิเสธ อะไรอื่นๆ อีก ซึ่งนั่นหมายความวาผมจะไดทําอะไรอีกหลายเรื่องเพื่อคนอื่น ไมใชเพื่อสนองความเห็นแกตัว เหมือนที่เคยเปนมา เหมือนกับการรับนองครั้งที่ผานมา (และนั้นอาจจะเปนการไปรับนองครั้งสุดทายของผม) ที่ในตอน แรกผมพยายามจะหาขออางเรือ่ งภาระตางๆ ในชีวิ ติ ของผมเอามาบอกปฎิเสธคําชวนของนอง แตเมือ่ ผมไดลอง คิดเหมือนที่ผมพิมพใหอานในยอหนาแรกๆ ของหนานี้ ผมไมมีขออางอะไรเลยจริงๆ ที่จะมาบอกปดไมไปรับ นองครั้งนี้ ผมจึงตองเริ่มดัดนิสัยเห็นแกตัวของตัวเอง ดวยการตั้งใจที่จะไปรับนองครั้งนี้ใหได ถานองที่มาชวนผมไปรับนอง แลวถามวาพี่วางหรือเปลา ตอนนี้ผมคงจะตอบนองกลับไปวา ไมวางครับ ติดไปรับนอง. บรรณาธิการ ทอรช เปน จุลสารขาวของนักศึกษาคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ที่พยายามจะวางแผงเปนรายเดือน ผูอ า นสามารถหยิบหรือขอรับไดโดยไมเสียคาใชจา ยใดๆ ไดทหี่ นาหอง กนศ. ตึกคณะศิลปศาสตร ทาพระจันทร และรังสิต

2


inside ©ºÑº·Õè 21 »‚·Õè 4 ¡Ã¡®Ò¤Á 2553

¸ÕÁ·Íà ª ÃѺ¹ŒÍ§

ä»=went

L’Arts Education Fair ÇѹáᾺ&Ê׺ÊÒ¹μÓ¹Ò¹Ï Åͧä»à»š¹Êμ Ò¿

introduce

ÀÒÉÒáÅÐÇÃó¤´ÕÍѧ¡ÄÉ

Rate Arts

3 4 13

500 Days Of Summer

24

ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ 16

Êǹ»†ÒËÔÁ¾Ò¹μ

28

ÁÕàÃ×èͧ

ËÁعªÕÇÔμ ¨Ôμà ÀÙÁÔÈÑ¡´Ôì

19

àÃ×èͧ(¢Í§)μÅ¡

TEAM TORCH’s July 10 - บรรณาธิการ : ศศินทร วิทูรปกรณ กองบรรณาธิการ : ผณินทร แกวเงิน, ทิมา เนื่องอุดม, ชลิตา วัฒนศิริ นักเขียน : ประทุมรัตน นางแยม พิสูจนอักษร : ทีมทอรช ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ : เอกแกว ธีระศิลป, ฐิตินันท ทองเผือก ติดตอ : torch.larts@gmail.com อํานวยการผลิต : ฝายการนักศึกษา และ คณะกรรมการนักศึกษาคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร

2

26

31


ä»=went

เรื่อง : ศนก

L’ A R T S Education Fair

ใครบางที่ยังไมมีเอก? ใครบางที่ยังไมรูวาจะลงวิชาโทอะไร? ใครบางที่ยังไมรูวาจะมีเอกไปทําไม? คําถามเหลานี้คงเปนคําถามแรกๆ ที่โผลขึ้นมาในหัวของนองๆ หนาใหม ที่ยังคงงงๆ กับระบบการเรียน แบบมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะนองๆ ทีส่ อบติดเขามาแบบทีย่ งั ไมมเี อกเรียน ไมเหมือนกับเพือ่ นๆ หลายๆ คนทีส่ อบ ติดตามเอกสาขาวิชาตางๆ ไปแลว นองๆ ที่ยังไมมีเอก หรือที่เราชอบเรียกกันวาพวกเอกรวม อยาเพึ่งนอยใจไปโดยเด็ดขาดนะ เพราะไม เกินปลายเทอมสอง นองๆ ทุกคนจะตองมีเอกใหอยูเปนหลักเปนแหลงแนนอน ถาถึงตอนนั้นแลวใครยังไมมีเอก ก็...อยูเอกรวมตอไปแลวกันนะ (ลอเลนนะ ไมวาจะยังไงถานองๆ ทําตามระเบียบของคณะและมหาวิทยาลัย ยังไง ก็มีเอกใหอยูแนนอน) พวกพีๆ่ เห็นวานองหลายๆ คนมีขอ สงสัยเกีย่ วกับเรือ่ งการเขาเรียนในแตละเอก และหลายๆ คนก็ยงั ไมรวู า จะเรียนวิชาโทอะไรดี หรือนองๆ ก็อาจจะกําลังหาวิชาที่นาสนใจในคณะลงเรียนกันอยู เพราะคณะศิลปศาสตรของ พวกเรามีตั้ง ๑๔ ภาควิชาใหเลือกเรียนแนะ ลองรวมๆ วิชาของทุกเอกมาก็ไดเปนรอยวิชาแลว นองๆ คงจะสับสน เลือกไมถูกวาจะลงตัวไหนดี พี่ๆ ก็เลยตั้งใจจัดงานแนะนําวิชาเอก-โท หรือที่ปนี้มาในชื่อภาษาอังกฤษวา “L’Arts Education Fair” ขึ้นในวันพุธที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่บริเวณโถงดานหลังของตึก S.C. เมื่อนองๆ ลงทะเบียนหนางานแลว นองๆ ก็จะไดรับสมุดคูมือแนะนําแตละภาควิชาพรอมกับขนมอรอยๆ อีกหนึง่ ชิน้ ไมรเู หมือนกันนะวานองๆ จะชอบอะไรมากกวากันระหวางสมุดแนะนําหรือขนม แตเทาทีไ่ ดเห็นก็ดนู อ งๆ จะตั้งใจกินขนมมากกวา ในงานนี้นอกจากจะมีพี่ของแตละเอกทั้ง ๑๔ เอกมาตั้งโตะใหคําแนะนําและเปนที่ปรึกษา ใหนอง ที่สนใจจะเขาเอกนั้นๆ หรือไมก็อยากจะลงเรียนบางวิชาแลว นองๆ ยังไดมีโอกาสพบกับพี่ๆ ศิลปศาสตร บัณฑิต ที่สามารถตั้งใจเรียนไดในขณะเดียวกันก็แบงเวลามารวมกิจกรรมของคณะอยางสมํ่าเสมอ ถานองๆ ลอง เอาประสบการณของพี่ๆ บัณฑิตไปปรับใชดู นองๆ ก็นาจะสามารถทั้งเรียนและเลน (กิจกรรม) นองก็จะไดทั้งความ รูและประสบการณออกไปพรอมๆ กัน จบจากการสัมภาษณพๆี่ บัณฑิตแลว ก็มวี งดนตรีเพราะๆ ของพีๆ่ มาเลนขับกลอมใหบรรยากาศภายในงาน ดูคกึ คักขึน้ อีก พีๆ่ นองๆ ทีค่ ยุ เรือ่ งเรียนกันมาเหนือ่ ย ก็หยุดพักมานัง่ ฟงเพลง ฮัมเพลงเบาๆ คลอเสียงกีตารเพราะๆ อยางสบายใจ เรียนเหนือ่ ยมากไปก็ไมดนี ะ แตถา อางวาเรียนเยอะ แลวมัวแตขอพักอยางเดียวก็คงจะไมดเี หมือนกัน พอพี่ๆ นักดนตรีเลนเพลงจนครบหมดแลว งาน “L’Arts Education Fair” ประจําปนี้ก็ปดฉากลง คําถาม ทั้งหลายของนองๆ นาจะไดรับคําตอบที่ดีจากพี่ๆ ไปแกขอสงสัยไดบาง แตถานองคนไหนที่พลาดงานนี้ไป (ก็อด กินขนม) หรือนองคนไหนที่ยังมีขอสงสัยเรื่องการเรียนของแตละเอกอยู ก็ลองเขาไปถามพี่ๆ แตละเอกเอานะ พี่ๆ เขาใจดีตอบขอสงสัยของนองๆ แนนอน

4


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

ä»=went

เรื่อง : ศ.

วันแรกพบ & งานสืบสานตํานาน...

ศิลปศาสตร

5


วันแรก

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓

วันนี้ทาพระจันทรดูคึกคักกวาวันธรรมดาทั่วไป โดยเฉพาะแถวลานโพหนาตึกคณะศิลปศาสตร ที่มีนอง ใหมหนาใสๆ ยืนตอคิวรอลงทะเบียนกันจนหาแทบจะหาที่เดินกันไมได นองชายหญิงหนาใสทั้งหลายกําลังยืนรอ ลงทะเบียนเขารวมงาน “วันแรกพบ” ประจําป ๒๕๕๓ งานนีเ้ ปนงานทีเ่ ปดโอกาสใหนอ งๆ ไดมาพบเพือ่ นๆ และพีๆ่ รวมคณะ รวมมหาวิทยาลัยเปนครั้งแรก หลังจากที่ตองรอลุนผลประกาศเขาเรียนมานานหลายเดือน จึงไมใชเรื่อง นาแปลกใจที่หลายๆ คนยังคงยืนเกร็ง รูสึกตื่นเตน เพราะนี่เปนครั้งแรกที่นองจะไดพบกับเพื่อนและพี่ ที่ตอไปจะ ตองบอกวา “อยูคณะศิลปศาสตร” เหมือนกัน ยืนรอมาไดสักพักนองๆ ก็เริ่มทยอยลงทะเบียนกันเสร็จเรียบรอย รับปายชื่อหลากสีมาหอยแนะนําตัวเอง แลวจากนั้นก็มีพี่ๆ มาพาเดินผานหนาลิฟท เขาสูซุมมนุษยที่พี่ๆ มายืนรอปรบมือแสดงความยินดีและตอนรับนอง ใหมเขาเปนสมาชิกของคณะนี้อยางคึกคัก ใครคนไหนที่ไดเดินผานซุมนี้คงจะขนลุก ไมใชเพราะอากาศหนาวแต เปนเพราะคงดีใจทีใ่ ครทีไ่ หนก็ไมรมู ายืนตัง้ แถวรอปรบมือตอนรับเราอยางกับวาเปนบุคคลสําคัญของพวกเขา ใน ตอนนั้นนองหลายคนคงไมรูวาพี่ๆ เขาเห็นวานองไดกลายเปนบุคคลสําคัญสําหรับพวกเขาและคณะศิลปศาสตร ไปเรียบรอยแลว เมื่อนองเดินผานสวนศิลปทะลุเขาไปนั่งรอเพื่อนๆ ในโถงคอมมอนริมแมนํ้า พี่ๆ พิธีกร (หรือที่เราเรียก กันสั้นๆ วา เอ็ม.ซี.) ก็เริ่มออกมาพูดทักทาย ปลอยมุขตลกเรียกเสียงฮาจากนองๆ หรือไมก็ชื่นชมนองใหมที่มาเขา คณะนี้แทนที่จะไปอยูที่อื่น เรียกเอาเสียงเฮดังลั่น พรอมกับที่เสียงกลองของพี่ๆ ที่กระหนํ่าถลมตีกันดังสนั่น เมื่อ นองๆ เริ่มมานั่งคอยจนลนคอมมอนออกไปแลว เอ็ม.ซี.ทั้งคูเลยก็เริ่มรองนําวา “แจว...มาแจวจําจึก นํ้านิ่งไหลลึก นึกถึงคนแจว เอา! แจวมาแจวจําจึก นํ้านิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว เอา! แจวเรือไปแลวขาดๆ แจวเรือไปแลวขาดๆ ขอเชิญเด็กศิลปศาสตร...ลุกขึ้นมาแจว!” จบเสียงรองปบ นองๆ หลายคนยังคงนั่งงงวาจะตองทําอะไร แตบางคนก็ รูเกม ไมรอชาลุกขึ้นมาแจวอยางสนุกสนานกับพี่ๆ ที่แจวกันไปกอนหนาแลว เมื่อเริ่มจะพอรูวาจะตองแจวกันยังไง นองๆ ทั้งหมดจึงลุกขึ้นมาพยายามแจวกันอยางเขินๆ กอนที่จะเริ่มชินแลวก็แจวกันกับเพื่อนๆ พี่ๆ อยางเมามันส แจวกันไปแจวกันมาจนนองๆ เริ่มคุนเคยกับเพื่อนๆ และเริ่มสงสัยวาเด็กมหาวิทยาลัยนี้เขาจะแจว จะเตน สันทนาการกันอยางเดียวหรือเปลา ก็เพราะพี่ๆ เลนเตนกันไมมีหยุด ไมมีเหนื่อย จนกระทั่งเอ็ม.ซี. เริ่มหายใจกัน ไมทนั จึงไดพกั กันบาง แตพกั ดืม่ นํา้ เย็นๆ จากพีๆ่ ไมทนั ไร ก็ตอ งเรียนรูก าร ‘บูม’ ทีย่ ากทีส่ ดุ ของธรรมศาสตร “Boom L’Arts” ที่นองผูหญิงไมตองทองอะไรนอกจากรอกรี๊ดเสียงแหลมสูงออกมาวา ‘Arts!’ ตามทายเสียงเขมๆ ของพวก ผูชายที่จะตะโกนสะกดคําวา ‘L-I-B-E-R-A-L’ ออกมาทีละตัว พอครบแลวก็จะปดทายดวยการตะโกนออกเสียงวา ‘Liberal’ และผูหญิงก็จะปดทายดวยเสียงแหลมสูงวา ‘Arts!’ (ตอนนี้เอ็ม.ซี. ยํ้ากับนองๆ วาอยาลืมออกเสียงตัว ‘S’ ตอทายดวยละ) รวมกันไดเปน “Liberal Arts!” หรือที่แปลเปนไทยวา “ศิลปศาสตร!” นั่นเอง หลังจากฝกกรี๊ดคําวา ‘Arts!’ และออกเสียงภาษาฝรั่งเศสใน “T.U. Boom” กันพอสมควร พี่เชียรลีดเดอร ของคณะก็ออกมาโชวนําเชียรอยางพรอมเพรียงและสวยงาม เรียกเสียงปรบมือจากนองๆ กันไดยกใหญ เมื่อดูลีดฯ กันจบแลว ก็ถงึ เวลาทีน่ อ งจะไดลกุ ออกจากคอมมอนเพือ่ ไปไหวพอ ปรีดี พอของเราชาวธรรมศาสตรทกุ คน แมแดด จะรอนไมรกู อี่ งศา แตนอ งๆ พีๆ่ ก็นงั่ ลงกมกราบพอปรีดหี นาตึกโดม ดวยสํานึกขอบคุณทีพ ่ อ สรางมหาวิทยาลัยแหง

6


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

แรกพบ

“นองหลายคนคงไมรวู า ... นองไดกลายเปนบุคคลสําคัญ สําหรับพวกเขาและคณะศิลปศาสตร ไปเรียบรอยแลว”

นีข้ นึ้ มาใหทกุ คนไดมาเรียน ไดมาพบหนา ไดมาเปนลูกของพอปรีดใี นรัว้ ธรรมศาสตรแหงนี้ ไหวพอ ปรีดเี สร็จแลว นองๆ ก็พากันลุกขึ้นเดินตามพี่ๆ ไปรอขึ้นชมหอเกียรติยศบนตึกโดม หลังจากที่ยืนรอกันมานานก็ถึงคิวของคณะ ศิลปศาสตร แลวทุกคนก็ตองรีบเดินวนขึ้นตึกโดมไปชมหองทั้งสอง เนื่องจากมีเพื่อนๆ อีกจํานวนมากกําลังรอดูอยู เชนกัน ทุกคนเลยไดเดินผานเกียรติยศและประวัติกวา ๗๕ ปของธรรมศาสตรอยางรวดเร็ว เมื่อกลับมาถึงคอมมอน ทุกคนตางเรียกรองขอนํ้าเย็นกันยกใหญ เพราะทั้งเหนื่อย ทั้งรอน ทําเอาพี่ๆ เสิรฟ  นํา้ กันแทบไมทนั เมือ่ ไดนาํ้ และไดนงั่ พักแตละคนก็พรอมสําหรับกิจกรรมตอไป กิจกรรมตอไปเปนกิจกรรมที่ เหนื่อยมากๆ เพราะนองๆ ตองนั่งดูอยางเดียว พี่ตัวแทนของชุมนุมโขน, T.U. Folk song, ชุมนุมดรามา และไฮไลท อยาง กองสันทนาการ ที่ยกทีมกันมาจนลนคอมมอน ทั้งรองทั้งเตนจนคอมมอนจะแตกเอา แตนองๆ ก็ดูสนุกกับพี่ กองสันฯ กันทุกคน กอนทีจ่ ะกินขาวเทีย่ งเพิม่ พลัง พีๆ่ ไดสมุ แบงนองๆ ใหไปเขาตามโตะทัง้ ๒๑ โตะ เพือ่ ทีน่ อ งๆ จะไดมโี อกาส พบปะและรวมทํากิจกรรมกับเพื่อนๆ นอกจากนี้นองยังจะไดมีพี่ๆ มาคอยชวยดูแล แนะนําเรื่องการเรียนหรือการ ปรับตัวเขากับชีวติ ในมหาวิทยาลัย บางครัง้ พีๆ่ อาจจะใจดีเลีย้ งขาวนองๆ สักมือ้ ก็ได ยํา้ วาแคบางครัง้ เทานัน้ นะ ถา พี่ๆ ตองเลี้ยงทุกครั้ง นองๆ คงจะเห็นพี่ๆ นั่งกินมามาอยางเอร็ดอรอยแนนอน กินขาวอิ่มกันแลว ก็ถึงเวลาใชพลังงานเลนกิจกรรมกันตอ กิจกรรมตอนบายเหนื่อยจริงๆ เพราะนองๆ จะ ถูกแบงออกเปน ๖ กลุม แลวตองออกเดินเขารวมฐานกิจกรรมที่พี่ๆ จัดรอไวตามที่ตางๆ รอบตึกคณะศิลปศาสตร กิจกรรมทัง้ หลายทีพ่ เี่ ตรียมกันไว ทําใหนอ งๆ ตองใชความสามารถเกือบทัง้ หมดทีม่ อี ยูเ พือ่ ทํากิจกรรมแตละกิจกรรม ใหสาํ เร็จ อยางฐานกิจกรรมทีเ่ รียกวา “สืบจากศพ” นองๆ ตองใชความสามารถในการแตงหนาทีม่ อี ยู มาชวยตกแตง หนาของตัวเองและเพือ่ นๆ ใหเหมือนกับรูปทีน่ อ งเลือกขึน้ มาโดยไมรตู วั ถาใครคนไหนแตงหนาเปน หนาของนอง และเพื่อนๆ ก็จะสวยงามเหมือนกับ Avatar หรือไมก็เหมือน กัปตันแจ็ค สแปโรว ซึ่งจะชวยเพิ่มความมั่นใจไดมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ตองลอดซุมเฮฮาของพี่ๆ ไปเจอกับตากลองที่รอถายรูปเดี่ยวของแตละคน เมือ่ เลนกิจกรรมครบทัง้ ๖ ฐานแลว นองๆ ก็ทยอยเดินกลับเขามาทีค่ อมมอนดวยหนาตาทีส่ วยงาม มารวม รองเพลงยูงทองพรอมกัน นองหลายคนอาจจะรองผิดคีย หรือลืมเนือ้ รองเลยตองขยับปากดํานํา้ ตามเพือ่ นๆ ไป แต นั่นก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร เพราะกวาพี่ๆ จะรองกันได ก็ตองฝกกันมานานเหมือนกัน ตอจากรองเพลงก็เปน ‘T.U. Boom’ ที่ฝกกันมาตั้งแตเชา กอนที่จะปดทายดวยการกรี๊ดอยางสนุกสนานใน ‘Boom L’ Arts’ ประกาศความเปน ศิลปศาสตรอยางเต็มตัว

7


สืบสาน

๑๗ – ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ๒๖ – ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓

ใครจะอยากเชือ่ วาจะเกิดเหตุการณรา ยแรงในกรุงเทพฯ รายแรงถึงขนาดทีต่ อ งเลือ่ น ‘งานสืบสานตํานาน ศิลปศาสตร’ ประจําปนี้ออกไป จากเดิมวันที่ ๑๗ และ ๑๘ พฤษภาคม ออกไปอยางไมมีกําหนด เลนเอาทั้งพี่และ นองหวัน่ ไหววาปนจี้ ะไมไดมางานรับนองประจําปของคณะ แตสดุ ทายแลวทุกอยางก็เริม่ กลับเขาสูค วามสงบ แมจะ ยังไมเรียบรอยดีนัก แตก็สงบเพียงพอที่จะจัดงานสืบสานฯ ไดในวันที่ ๒๖ และ ๒๗ พฤษภาคม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม มาถึง ลานโพหนาตึกคณะศิลปศาสตร ทาพระจันทรกลับมาคึกคักไมแพกับวัน แรกพบ แตครั้งนี้นองๆ ดูจะไมอายกันเทาไร เริ่มตะโกนพูดคุยกับเพื่อนๆ อยางเปนกันเองมากขึ้น แมจะคุนเคย กันมากเทาไหร แตทุกคนก็ยังคงดูตื่นเตนกับงานสืบสานฯ ครั้งนี้ไมตางจากวันแรกที่มาเจอหนาเพื่อนๆ พี่ๆ กัน งานนี้ยังคงตองมีการลงทะเบียนเหมือนเดิม นองที่เตรียมกระเปามานอนคางก็เอาไปฝากใหพี่ๆ ชวยดูแล ให สวนคนไหนทีไ่ มมกี เ็ ดินแขวนปายชือ่ เขาไปนัง่ เฮฮากับเพือ่ นๆ ในคอมมอนทีเ่ ดิม รอวาวันนีจ้ ะไดทาํ อะไรกันบาง แตนองๆ ก็นั่งกันอยูตรงนั้นไดไมนาน พอเพื่อนๆ เริ่มมากันเยอะแลว พี่ๆ ก็พานองๆ เดินเปนแถวออกจากตึกคณะ ผานหนาตึกโดม ทามกลางสายฝนบางๆ รีบไปเขาโรงยิม สถานที่หลักของการจัดกิจกรรมในวันนี้ เหมือนเปนโชค ดีทั้งของนองๆ และ พี่ๆ ที่เมื่อทุกคนทยอยเขายิมกันจนครบแลว ฝนก็ถลมตกลงมาทั่วทั้งทาพระจันทร ถาเราเดิน ออกจากตึกคณะชากวานี้สักหนอย คงจะตองเปยกฝนกันทั้งตัวแนนอน วันนี้นองๆ ถูกแบงออกเปน ๖ กลุม แตละกลุมมีชื่อเปนสมในภาษาตางๆ ไดแก สมอินโด-ลารันจา, สม เยอรมัน-โอแรงเยอ, สมญี่ปุน-โอเรนจิ, สมฝรั่งเศส-ออครอง, สมจีน-เฉิงเซอ และสมรัสเซีย-อะรันเชวึย สวนสาเหตุ ที่ตองเปนใชชื่อกลุมเปนสม ก็เพราะวาสีประจําคณะศิลปศาสตรก็คือสีสม สวนที่ตองเปนภาษาตางๆ ก็สื่อถึงความ หลากหลายของภาษาที่คณะศิลปศาสตรเปดสอน แตถาจะใหเอาชื่อของทุกสาขาวิชาที่คณะนี้สอนมาตั้งเปนชื่อ คงจะไดมาถึง ๑๘ กลุม เมื่อนองแตละสมเขานั่งที่จนลนแสตนดเรียบรอยแลว (เพราะแสตนดโรงยิมเล็กเกินไป สําหรับนองๆ ของคณะศิลปศาสตร แตก็นั่งเบียดกันอยางอบอุนไดพอประมาณ) อาจารย ศรวณีย สรรคบุรานุรกั ษ รองคณบดีฝา ยการนักศึกษาของคณะ ก็ได ใหเกียรติมาเปดงานสืบสานตํานานศิลปศาสตร ประจําป ๒๕๕๓ อยางเปนทางการ เมื่ออาจารยกลาวจบแลว ก็ถึงเวลาของ พีๆ่ ไดโชวการแสดงทีซ่ อ มกันมาอยางนานสําหรับ งานนี้โดยเฉพาะ เมื่อพี่ๆ เขาพรอมประจําจุด เพลง “เปดประตูฝน” ก็ดังขึ้น แลวพี่ๆ ก็เตนตามจังหวะ เพลงอยางสนุกสนาน จนนองๆ แอบสงสัยวาพี่คณะ นี้คงจะชอบเตนกันอยางจริงจัง สิ้นเสียงเพลง นองๆ

8


ตํานาน

¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

“นาเสียดายแทนนองๆ ทีต่ อ งกลับกันกอน เพราะนองๆ ไดพลาดไฮไลท เดนประจํางานนีไ้ ปแลว”

ก็ปรบมือใหพี่ๆ ดังกองทั้งโรงยิม เปนอันจบพิธีเปดไดอยางนารักและนาประทับใจ และแลวก็ถึงเวลาของกิจกรรมฮาเฮที่พี่ๆ ตั้งใจเตรียมมาใหนองสนุกกันเต็มที เริ่มแรกดวยเกมกินวิ่งวิบาก แคชอื่ ก็คงบอกวาอยูแ ลววาเกมนีต้ อ งทําอยูส องอยาง คือ กิน และ วิง่ แตระดับนีแ้ ลวจะใหแคกนิ และวิง่ ธรรมดาคงจะ ไมได ตองเพิ่มความวิบากเขาไปใหนองๆ สนุกสนานมากขึ้น อยางการชวยกันกินกลวยทั้งหวี เปนตน แมวานองๆ จะตองทั้งกินทั้งวิ่ง แตหนาตาของแตละคนก็ยังดูสดใส แมจะมีหอบบางเบาๆ ก็ตาม ตอจากนั้นก็เปลี่ยนมาเลนเกม อารักขามาดามโปง หรือเอางายๆ ก็คอื เกมเหยียบลูกโปงทีเ่ พิม่ หนาทีใ่ หเพือ่ นๆ ตองคอยชวยปองกันลูกโปงทีใ่ หญ ทีส่ ดุ ของฝายตัวเองใหปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ตอ งคอยหาจังหวะไปทําลายลูกโปงของฝายตรงขามเชนกัน หลังจาก เสียงลูกโปงผลัดกันดังจนจบเกมแลว ก็ถึงเวลาของเกมชักกะเยอ ที่ตองมาแขงกันแยงชิงฉุดกระชากจนเชือกเกือบ จะขาดกวาที่เราจะไดผูชนะในเกมนี้ไป เลมเกมกันไป เลนเกมกันมา เวลาขาวเที่ยงก็มาถึง พี่ๆ ก็ยังคงทําหนาที่คอยดูแลนองๆ ไดอยางดีวิ่งวุน หานํ้า หาขาวมาใหนองของแตละสมไดกินกันจนอิ่ม มาถึงตอนนี้ โชคดีที่ฝนหยุดตกแลว เหลือไวแตเพียงรอยนํ้า ฝนที่คางอยูทั่วตามถนนตางๆ ในธรรมศาสตร ทาพระจันทร ที่บอกวาโชคดีนั้น ก็เพราะหากฝนยังตกอยูนองๆ ก็ คงตองนั่งเบื่ออยูแตในโรงยิมแนนอน และพี่ๆ ก็คงเซ็งที่เกมตางๆ ที่คิดมาใหนองๆ เลนคงจะตองเก็บกลับไปโดย เปลาประโยชน โชคดีที่ฟายังมีใจใหกับเด็กศิลปศาสตรอยูบาง พวกเราใชความโชคดีที่ฝนหยุดตกในชวงบาย ดวยการออกไปไลทํากิจกรรมตามสถานที่สําคัญของ ธรรมศาสตร ที่ทาพระจันทรนี้ นองแตละสมจะไดรับคําใบเริ่มตนใหคิดเอาเองวาจะตองไปที่ไหนกอน เมื่อ ไปถึงสถานที่นั่นๆ แลวก็ตองเลนเกมตามที่พี่เจาของฐานกําหนดไวใหผาน แลวนองๆ จึงจะไดคําใบใหไปตอยังสถานที่ที่ตั้งของฐานตอไป แลวก็เลนไล เก็บคําใบตามฐานตางๆ จนเมื่อครบแลวคําใบสุดทายของทุก สมจะนํานองๆ กลับไปยังตึกคณะศิลปศาสตรของพวกเรา เพื่อ เริ่มกิจกรรมตอไป กอนที่จะทํากิจกรรมตอไปได นองๆ ตองพักกินขาวเย็น ไปพรอมๆ กับการคิดบทสําหรับแสดงละครซึ่งเปนอีกกิจกรรมที่ พี่ๆ มอบหมายใหนองแตละตระกูลตองเตรียมมาใหพรอมสําหรับ การแสดงในวันถัดไป ขณะเดียวกันนี้เพื่อนๆ ที่นอนคางก็เริ่มเอา

9


ศิลปศาสตร

“...ความผูกพันระหวาง พีๆ่ และนองๆ ทําใหลานปรีดอี บอวลไปดวย ความรูส กึ ดีๆ ชวนใหลมื ไมลง”

กระเปาไปเก็บในหองเรียนที่ถูกดัดแปลงใหเปนหองนอน สวนนองๆ ที่ตองกลับบานตางก็เดินออกกันไป นา เสียดายแทนนองๆ ที่ตองกลับกันกอน เพราะนองๆ ไดพลาดไฮไลทเดนประจํางานนี้ไปแลว แตจะเปนอะไรนั่น ขอใหรออานตอไปเถอะ เมื่อกินขาวเย็นกันเสร็จแลว นองๆ ก็พากันนั่งพัก นั่งคุยกับเพื่อนๆ อยางสนิทสนมไมเหมือนคนที่เพิ่งเจอ กันครั้งแรกเมื่อสัปดาห สองสัปดาหกอน เมื่อไดเวลาพี่ๆ ก็พานองๆ ลุกขึ้นเดินกลับไปที่โรงยิมอีกครั้ง กลับเขาโรง ยิมครัง้ นี้ นองๆ ไมตอ งขึน้ ไปนัง่ รอบนสแตนดอกี แลว แตไปนัง่ รอกันบนสนามบาสหันหนาเขาหาเวที ตัง้ หนาตัง้ ตา รอไฮไลทเดนประจํางานสืบสานฯ “L’Arts Freshy’s Night!” หรือคอนเสิรต ตอนรับนองๆ ศิลปศาสตร ทีป่ น ไี้ ดพๆี่ วง ดนตรีฝม อื ดีของคณะศิลปศาสตรมาเลนกันทัง้ หมดถึง ๓ วง พีๆ่ แตละวงขนเอาเพลงมาเกือบทุกสไตล ชวนเด็กศิลป ศาตรทั้งนอง ทั้งพี่ ลุกขึ้นมาเตนกันไมหยุดตลอดเวลากวา ๒ ชั่วโมง เด็กศิลปศาสตรคงจะชอบเตนกันจริงจัง ขนาด เหนือ่ ยจากกิจกรรมมาทัง้ วัน ยังมีแรงเตนกันจนพืน้ ของโรงยิมจะพังเอา นอกจากจะสนุกกับการโยกยายใสสเต็ปตาม เสียงดนตรีแลว ในงานเฟรชชี่ไนท ยังมีการประกวด Freshy’s Boy & Girl จากการโหวตของเพื่อนๆ เฟรชชี่ทุกคน เฟรชชีไ่ นทเปนเพียงแคไฮไลทแรกของคืนนีเ้ ทานัน้ เพราะหลังจากจบคอนเสิรต ทีย่ มิ แลว พีๆ่ ก็ใชผา ผูกปด ตานองๆ แลวใหแตละคนจับมือตอกันเปนแถวยาว เดินตามกันไปทามกลางความมืด พีจ่ งู มือนอง นองจูงมือเพือ่ นพา กันเดินกันไปจากโรงยิมจนมาหยุดตรงลานปรีดี พีๆ่ เขาไปจุดเทียนแลวบอกใหนอ งๆ แกผา ทีผ่ กู ตาออก เมือ่ นองๆ เริม่ ลืมตาขึน้ เสียงเพลงบายศรีคอ ยๆ ดังขึน้ จากใจผานออกมาเปนเสียงรองมอบใหแดนอ งๆ ทุกคน จากนัน้ พีก่ ช็ วน นองใหนั่งลง แลวบรรจงผูกดายรอบขอมือของนอง เปนนัยของการตอนรับเขาสูการเปนศิลปศาสตรและการเขาสู ชวงชีวิตระดับมหาวิทยาลัยใหกับนองๆ ฟงพี่คนนี้จบแลวก็ผลัดกันไปหาคําแนะนําจากพี่คน อืน่ ๆ บรรยากาศหนาตึกโดมทีม่ แี สงไฟสองสวาง กับ รูปปน ของพอปรีดที เี่ หมือนนัง่ เฝามองลูกๆ ทําให บรรยากาศดูขรึมขลัง ลมเย็นทีพ ่ ดั จากเจาพระยา สูท า พระจันทรทาํ ใหเย็นสบาย และความผูกพันระ หวางพี่ๆ และนองๆ ทําใหลานปรีดีอบอวลไปดวย ความรูสึกดีๆ ชวนใหลืมไมลง กวาจะบายศรีกันเสร็จก็ดึกมากแลว แมวา นองๆ จะยังดูสดใสมีแรงกันอยู แตพี่ก็ตองบอกให

10


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

“พีๆ่ หวังวางานนีจ้ ะเปนจุดเชือ่ ม ตอใหนอ งๆ ได Connected เขา มาเปนสวนหนึง่ ของเครือขาย ความเปนศิลปศาสตร” ชวยขึ้นไปนอนกัน ไมงั้นแลวเดี๋ยวพรุงนี้เชาจะไมมีแรงสําหรับกิจกรรมที่ยังรออยูอีก เชาวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ทัง้ นองๆ และพีๆ่ ตางก็ตนื่ มาพรอมกับอาการงัวเงีย แตพอไดอาบนํา้ แปรงฟน ลาง หนาและกินขาวเชา ทุกคนก็ดูมีแรงขึ้นมากันอีกครั้ง เชาวันนี้ทางคณะไดนิมนตพระสงฆมาสวดอวยพรใหกับเหลา นักศึกษา ใหมีความขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียนหนังสือแลวเกรดที่ไดจะดีเอง ซึ่งก็เปนเรื่องจริงที่อยาลบหลูโดยเด็ด ขาด เพราะถาไมตงั้ ใจเรียน แลวใครทีไ่ หนจะไดเกรดเอ หลังจากรับศีล รับพร และรับนํา้ มนตกนั เปนทีเ่ รียบรอยแลว นองๆ ก็ไดรับแจกหนังสือเลมเล็กที่ระลึกประจํางานนี้ ซึ่งดานในก็มีหนาวางใหนองๆ ไปรับแอด (Add) จากเพื่อนๆ ใหมาเขียนอะไรเล็กๆ นอยๆ ใหกัน แลวคอยกลับไปคุยกันตอใน Facebook ตามกระแส เขียนถึง Facebook ขึ้นมาก็อดไมไดที่จะคิดถึงชื่อธีม (Theme) ประจําปนี้ที่ใชชื่อวา “Connected” พี่ๆ เขา บอกวาชื่อนี้มาตามกระแส Social Networking ที่กําลังเปนที่นิยมสุดๆ ใครไมมีเฟซบุคคงไมเขาใจวากระแสนี้แรง ขนาดไหน (ขอแนะนําใหลองไปเลนดู แลวจะติดใจ) ซึ่ง Connected นี้เปนจุดเริ่มตนของการเขาไปเชื่อมตอสูเครือ ขายอินเตอรเน็ต ถายังอยูแค Connecting เน็ตก็ยังไมติด เขาไปเชื่อมกับเพื่อนๆ ไมได แตเมื่อเรา Connected แลว เราก็สามารถเขาไปรวมกลุม กับเพือ่ นๆ บนนัน้ ได เชนเดียวกับชีวติ จริงทีพ ่ ๆี่ หวังวางานนีจ้ ะเปนจุดเชือ่ มตอใหนอ งๆ ได Connected เขามาเปนสวนหนึง่ ของเครือขายความเปนศิลปศาสตรเชนเดียวกับพีๆ่ และรุน พีข่ องพีๆ่ ทีต่ า งก็เปน ศิลปศาสตรเชนเดียวกับนองๆ นอกจากนีแ้ ลว พีๆ่ ยังแอบกระซิบบอกมาดวยวา Connected แปลวา “(สอบ) ติดแลว!” หลังจากรับแอดกันไปพอสมควร นองๆ ก็เริ่มรวมกลุมตามสมของตัวเองเพื่อเตรียมตัวทํากิจกรรมสุดทาย ของงานสืบสานฯ ประจําปนี้ ซึ่งก็คือ การแสดงละคร เมื่อกินขาวเที่ยงกันเสร็จแลว ทุกคนก็พากันเดินไป ยังหอประชุมเล็ก แตละสมตางๆ ก็เตรียมการแสดง ละครกันอยางขมักขเมน ยิง่ ตอนแสดงจริงยิง่ เขมขนขึน้ ไปอีก เพราะแตละสมตางก็โชวกันไดอยางถึงอารมณ ทําเอาผูช มทัง้ หอประชุมนัง่ หัวเราะกันทองแข็ง เทรนด ที่มาแรงของการแสดงปนี้คงหนีไมพนการจบแบบหัก มุม ผูชายเกือบทุกคนกลายเปนผูชาย “เกๆ” กันหมด จบละครแลว พีๆ่ ยังมีเซอรไพรสเปน VTR ยอน

11


ภาพตั้งแตวันแรกพบประกอบเสียงเพลงเบาๆ ชวนใหแตละคนยอน กลับไปคิดถึงวันเวลาทีใ่ ชดว ยกันมา ตอนทีท่ าํ กิจกรรมอาจจะรอน อาจจะเหนือ่ ย แตมาตอน นี้ความรูสึกเหลานั้นกลับทําใหหลายคนตองเผลอยิ้มออกมาโดยไมรูตัว แตสงิ่ ทีห่ กั มุมไปกวานัน้ คือ การมอบรางวัลพิเศษใหกบั นองๆ ทีม่ คี วามสามารถการแสดงดีเดน กลับกลาย เปนการเปดตัวของ “พี”่ ทีแ่ ฝงตัวเขามาเปน “นอง” หรือทีเ่ รียกกันทัว่ ไปวา “นองแฝง” เลนเอานองทัง้ หอประชุมนัง่ อึง้ ไมอยากเชือ่ สายตาตัวเอง อันทีจ่ ริงแลวเหลานองแฝงเขาทํางานกันมาตัง้ แตวนั แรกพบ นองแฝงชุดแรกถูกเฉลย ไปตอนจับขโมย (ปลอมๆ) ในงานวันแรกพบ ชุดที่สองทํางานยาวมาอีกหนอยโดนเฉลยไปกอนคอนเสิรต แคชุดที่ สองนี้ก็ทําเอานองๆ อึ้งกันไปพักใหญแลว แตมาวันนี้ยิ่งทําใหอึ้งหนักเขาไปอีก ใครจะอยากเชื่อวาไอคนที่นั่งๆ ขาง มาทุกงานจะเปนพี่ปสี่! นี่แสดงใหเห็นวานองแฝงชุดสุดทายนี้เนียนมาก เรียกวาเนียนสุดๆ หลังจากนั่งพักใหหายตกใจกันไปสักพัก งานสืบสานฯ ของเราก็มาถึงชวงสุดทายแลวจริงๆ พิธีปดที่เรียบ งายดวยการรองเพลงยูงทอง ซึ่งครั้งนี้นองๆ รองกันตามเนื้อเพลง ตามคียไดถูกตองมากขึ้น รองเพลงจบก็ตอดวย T.U. Boom และ Boom L’Arts ตามลําดับเปนอันปดงานโดยสมบูรณ ขณะที่นองๆ ทยอยเดินออกจากหอประชุม ทั้ง นองๆ และพีๆ่ แตละคนจะไดรบั โปสการดรูปตึกคณะศิลปศาสตรพรอมแสตมปเปนของทีร่ ะลึกประจําปนี้ ทีต่ อ งมา พรอมกับแสตมปดว ย ก็เพราะเขาอยากจะใหสง โปสการดใบนีก้ ลับไปขอบคุณใครก็ตามทีท่ าํ ใหนอ งๆ หรือ พีๆ่ แตละ คนไดเขามายืน ณ ที่นี่ ณ คณะศิลปศาสตร ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรแหงนี้ การเขียนขอบคุณผานโปสการด นา จะเปนอีกวิธีที่ทําใหผูรับดีใจมากกวาไปโพสตขอ ความสั้นๆ บนหนาเฟซบุค ในทีส่ ดุ งานนีก้ จ็ บไปอีกป ปหนาถาใครอยากจะมาชวยสืบสานตํานานศิลปศาสตรใหกบั นองๆ เหมือนทีพ่ ๆี่ ไดสงมอบตํานานนี้มาใหนองๆ ไดรับ เหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่ๆ ก็เคยไดรับมากอนหนานี้และเลือกที่จะสืบสานตํานาน นีต้ อ ไป ใครทีค่ ดิ วาตํานานศิลปศาสตรนดี้ ี ปหนาก็อยาลืมมาชวยกันสงตอตํานานนีใ้ หกบั นองศิลปศาสตรรนุ ตอไป


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

ä»=went

เรื่อง : อารม กลอง

ลองไปเปน...

STAFF

ขอออกตัว ณ ที่นี้กอนเลยนะครับวา นี้คือ การเขียนหนังสือ (อยางจริงจังนอกหองเรียน)ครั้งแรก ของผม บอกตามตรงเลยวาผมไมทราบเหมือนกันวาจะ เขียนอะไรดี เพราะผมไมทนั รูเ นือ้ รูต วั มากอนวาตองมา เขียน แตเนือ่ งจากพีท่ รี่ กั โยนงานนีม้ าให ผมจึงตองนอม รับดวยความเต็มใจปนประหมาเล็กนอย เพราะผมรูตัว วาผมอาจจะไมใชนักเขียนที่ดีนัก แมวาผมอาจจะไมใชนักเขียนที่ดีก็จริง แต ผมมั่นใจวาผมเปนนักจําที่ดีคนหนึ่ง โดยเฉพาะการจํา เรื่องราวและ ความคิดตางๆ รวมไปถึงบรรยากาศดีๆ ที่ ผมประทับใจ ผมขอบอกไวตรงนี้เลยนะครับวา ผมไม เคยคิดจะเขามาพบเจอกับการทํางานใหกับคณะเลย หรือถาจะบอกใหถูกก็คือ ผมนี้แหละที่เปนคนที่หนีมัน มากกวา ผมไมคอยเห็นวาการเขามาทํางานใหกับคน อื่นเปนสิ่งสําคัญเทาไร ทําไมผมตองมาเสียเวลาทํางาน ทีผ่ มไมสนใจแบบนี้ ซํา้ ผมยังมองวาการทํางานนีน้ า เบือ่ และเสียแตแรงมากกวา งานแรกพบและงานสื บ สานตํ า นาน ศิลปศาสตรนี้ก็เชนกัน ผมเองก็ไมเคยคิดจะเขามาทํา ตั้งแตแรก แตก็ดวยเหตุผลหลายประการ และอาจจะ มีโชคชะตาเขามาเกี่ยวดวยแหละครับ จึงทําใหผมได

13


มาทํางานนี้ ผมเชื่อนะครับวามีหลายคนคิดแบบผมวา การทํางานแบบนี้นาเบื่อ ไรสาระและ ไมนาสนใจ แตก็ นั้นแหละครับ คนเราเนี่ย หากไมลองทําอะไรแลว เรา ก็ไมมีทางรูหรอกครับวาจริงๆ แลวสิ่งที่เราคิดอาจจะไม ไดเปนเชนนั้นเสมอไป เหมือนทีค่ รัง้ นีผ้ มก็ไดอะไรมากมายเกินกวา ที่ผมคิดไว สิ่งแรกที่ผมไดคงเปนคําวา “เพื่อน” ผมได เพื่อนใหมๆ มามากมายหลายรูปแบบเหลือเกินจาก การทํางานในครัง้ นี้ เพือ่ นทีผ่ มไดรจู กั แตละคนนัน้ มีทงั้ เพื่อนคุณหนู เพื่อนขาลุย เพื่อนนักปราชญ เพื่อนคูหู และอีกหลายๆ ประเภทของเพื่อน ซึ่งเพื่อนแตละแบบ ตางก็ใหความรูสึกที่ตางกัน ในเวลาที่เราเหงาเพื่อนคูหู ก็จะคอยปลอบใจเรา แตเวลาเราตองการคําปรึกษาหรือ ขอคิดแนวทางใหมๆ เราก็จะไดเพือ่ นนักปราชญนแี่ หละ มาแนะนําแนวทางใหมๆ หรืออยางเพื่อนขาลุยที่เมื่อ เวลาเรามีปญหาอะไร ก็จะเขามาลุยดวยกันจนบางครั้ง เราเองยังตองแปลกใจ หรือแมกระทั่งเพื่อนคุณหนู ก็ยัง คอยเขามาแนะนําการแตงตัวใหผม (แตผมก็ยงั คงสไตล ตัวเองเหมือนเดิมนะครับ) แตทผี่ มประทับใจมากทีส่ ดุ เกีย่ วกับตัวเพือ่ นๆ เหลานี้ คือ ความจริงใจทีม่ ใี หกนั และกันมากกวาสิง่ อืน่ ๆ แมจะเปนชวงเวลาเพียงเล็กนอยที่เราไดรูจัก กัน แตสําหรับผมแลว สิ่งที่ไดผมไดรับมานั้นชางมีคา เหลือเกิน เพื่อนหลายๆ คนที่ไดรูจักกันในตอนนั้น ได กลายมาเปนเพื่อนที่สนิทกันจนถึงทุกวันนี้ อี ก สิ่ ง หนึ่ ง ที่ จ ะไม เ อ ย ถึ ง ไม ไ ด เ ลยนั้ น คื อ “ระบบการทํางาน” ในการทํางานครั้งนี้ ผมรูสึกไดวา สิ่งที่เราทําๆ กันนั้นเปนระบบจริงๆ แตละคนจะมีหนา ทีข่ องตนเอง ซึง่ จะไดรบั มอบหมายจากสวนกลางมาออก เปนหลายๆ ฝาย เชน ฝายสวัสดิการ ฝายรักษาความ ปลอดภัย (เรียกกันเทๆ วา Security) ฝายจัดกิจกรรม หรือฝายทะเบียน ฯลฯ ถึงแมวา แตละฝายจะมีหนาทีห่ ลัก ของตนที่ชัดเจนอยูแลว แตเมื่อถึงเวลาวันงานจริง ใคร จะอยูฝายไหนก็ไมใชเรื่องสําคัญเพราะตางคนตางฝาย สามารถยืดหยุนเปลี่ยนไปชวยฝายอื่นๆ ได ในกรณีที่มี ฝายไหนตองการความชวยเหลือ

14

การไดรับงานมาแลวไมไดหมายความวาจะ ทําใหพวกผมสามารถลงมือทําไดเลยในวันจริง พวกเรา จึงตองนัดกันมาลองปฏิบัติงานจริงกอน หรือที่เรียกกัน วา Workshop การเขามาลองงานกันกอน เปนเหมือน การทดสอบใหเรารูวางานที่วางแผนไว จะนําเอามา ใชไดจริงกับนองๆ ทีม่ ารวมงานกันหรือเปลา ผมอยากจะ ฝากขอคิดเอาไวสักนิด เผื่อวามีรุนนองหรือพี่ๆ คนไหน ไดมาอานบทความทีผ่ มไดละเลงไว สิง่ ทีผ่ มจะบอกไมได เปนสิ่งที่หลายคนไมรูหรอก แตนาจะเปนสิ่งที่หลายคน ลืมที่จะคิดเสียมากกวา โดยเฉพาะในเวลาที่เราทํางาน รวมกัน เวลาที่เราอยูในสถานการณบีบคั้น ตึงเครียด การแกปญหาที่ดีนั้น ไมใชสิ่งที่จะทํากันไดทุกคน การ แก ป  ญ หาที่ ดีเ หมาะสมนั้ น ต อ งใช ทั้ ง ประสบการณ พรสวรรค และไหวพริบของแตละบุคคล แตความตั้งใจ ที่ดีนั้น ใครๆ ก็สามารถทําได การทํางานรวมกันอยางงานแรกพบและงาน สืบสานฯ ที่ผมไดรวมทํากับเพื่อนๆ พี่ๆ ผมอยากจะให เรามองกันที่ความตั้งใจของแตละคนที่อยากจะใหงาน ออกมาดี ผมวาความตั้งใจเกินไปและแรงกดดันที่ได รับ จะนําพาเอาอารมณและการขาดสติมาใหดวย และ นาจะสงผลใหการตัดสินใจหรือคําพูดอะไรที่หลุดออก มาไประคายเคืองคนอื่นได เรื่องเล็กๆ อยางนี้อาจจะนํา ปญหามาใหไดทหี ลัง แตหากเราทุกคนเขาใจซึง่ กันและ กัน วาแตละคนก็มีความตั้งใจใหงานมันออกมาดี เราก็ จะสามารถใหอภัยกันได และปญหาก็จะไมตามมา ซึ่ง เมือ่ อุปสรรคเหลานัน้ ไดผา นไป ผลทีต่ ามมาจะดียงิ่ กวา


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó งานที่ลุลวงไปแลวแนนอนครับ นอกจากเพื่อนและวิธีการทํางานที่ผมไดรับ จากการทํางานนี้แลวนั้น “พี่” ก็เปนอีกสิ่งหนึ่งที่ผมได รับเชนกัน แมจะไมใชพนี่ อ งทองเดียวกัน แตกเ็ ปนพีๆ่ ที่ อยูค ณะศิลปศาสตรดว ยกันทัง้ นัน้ พีๆ่ ทีเ่ ดิมทีผมไมกลา จะเขาไปคุยดวย หรือจะเปนพีๆ่ ทีผ่ มไมคนุ หนา ก็ไมได เปนปญหาอะไรในการทํางาน เพราะเมื่อไดมาอยูรวม กัน เริ่มไดพูดคุยและเริ่มรูจักกันมากขึ้น สิ่งที่ผมเคยคิด ก็เปลี่ยนไป จากที่ไมกลาคุยและไมคุนหนา กลับกลาย เปนวาพี่ๆ เหลานั้นสอนใหผมไดโตขึ้นมากกวาเดิม ให ขอคิดอะไรใหมๆ ที่ผมเองไมเคยคิดมากอน ขอคิดที่ไดจากพี่ๆ เปนสวนหนึ่งที่ผมได อีก สวนหนึง่ เปนความประทับใจทีผ่ มไดรบั จากความจริงใจ และความอบอุน ทีไ่ ดจากพวกพีเ่ หลานัน้ เพราะนอกจาก ผมจะมีเพือ่ นๆ ทีเ่ ปนเสาคอยใหเราจับเวลาเรามีปญ  หา อะไรแลว พีๆ่ ทีอ่ ยูร อบๆ ตัวของเราก็เปนเสาอีกตนหนึง่ รอใหเราเขาไปพิงเชนกัน ซึ่งสิ่งนั้นทําใหผมรูสึกมั่นใจ วา ถาเราเดินตอไปทางขางหนาแลว จะยังมีเสาใหเรา ไดพิงอยูเสมอ การมีเพือ่ นๆ และพีๆ่ ทําใหผมรูว า ผมเองไมได อยูเพียงตัวคนเดียวในมหาวิทยาลัยที่กวางใหญนี้ และ แนนอนในสังคมที่กวางใหญตอไปในอนาคต ผมยังมี คนเหลานี้เปนเสาคอยใหผมพิงอยูเสมอ และถาผมจะบอกวาทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ ทําใหผมรูสึกวาคุมคาแลวที่ไดเสียแรงมาทํางานครั้งนี้ ก็อาจจะถูกเพียงครึ่งเดียวเทานั้น เพราะนั่นเปนเพียง แคครึ่งหนึ่งที่ทําใหผมรูสึกเทาทุนมากกวา ผมวาผมได กําไรดวยซํ้า อีกสิง่ สําคัญทีผ่ มได จะเรียกวาเปนรุน นองหรือ “นอง” ก็ได ผมวานองเหลานีก้ เ็ ปรียบไดกบั เพือ่ นของผม นัน่ แหละ แตผมวาการไดพบนองๆ อาจจะเปนกําไรเสีย ดวยซํ้า ...อยาเพึ่งคิดไปไกลครับ ที่ผมบอกวาเปนกําไร นัน้ ตองยอนกลับไปตอนตน ทีผ่ มไดบอกไวแลววาผมไม คิดจะเขามาทํางานนีแ้ ตแรกและไมคดิ วาจะไดอะไรกลับ ไปดวยซํา้ สองสิง่ แรกทีผ่ มไดมานัน้ ผมคิดวาก็คมุ คาแลว กับแรงที่ผมเสียไป แตสิ่งที่ผมเรียกไดวาเปนกําไรนั้น คือการไดรูจักกับนองๆ มากหนาหลายตา

อยาเพิง่ ตกใจไปนะครับ เพราะหลายคนอาจจะ มองวาแปลก การเขามาจัดงานรับนองก็ยอ มหมายความ วาเราจะตองไดรจู กั กับนองๆ หลายๆ คนจึงเลือกทีจ่ ะไป ทํางานทีไ่ ดรว มวงคุน เคยกับนองๆ แตสาํ หรับผมแลว ผม เลือกที่จะไปตีกลองกับเพื่อนมากกวา ผมมองวางานที่ ผมทํานั้นงายและไมตองไปพูดคุยอะไรกับใครมาก ผม ไมถนัดทีจ่ ะไปพูดคุยเจาะแจะกับคนทีไ่ มเคยรูจ กั กันมา กอน แตก็นาแปลกที่ผมกลับไดมีโอกาสไปรูจักกับนอง หลายคน ไดพูดคุยกันมากจนผมเองก็แปลกใจ ผมขอ บอกตามตรงเลยวาผมไมคิดจะไปรูจัก หรือหากไดคุย กันก็ไมนาจะไปสนิทสนมอะไรดวย ผมรูส กึ วาผมเปนผูโ ชคดีจริงๆ ทีน่ อกจากจะได ประสบการณที่คุมคาแลว ยังไดกําไรอีกดวย สิ่งเหลานี้ ทําใหผมรูสึกวาชีวิตมหาลัยมันไมไดนาเบื่อเหมือนแต กอนอีกตอไป ตองขอบคุณความบังเอิญ โชคชะตา หรือ อะไรก็ตามที่ทําใหผมไดมารวมงานครั้งนี้เปนอยางยิ่ง

15


introduce เรื่อง : A-Lit-Major

ENGLISH

LANGUAGE &

16


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

...พูดง่ายๆ ก็คอื เราเรียนภาษา ควบคูก่ บั กระบวนความคิด... หากคุณคิดวาภาษาอังกฤษงาย “นิดเดียว”....เราก็คงตองขอบอกวา.... “ถูกตองแลวคราบบ” ครั้งนี้ พวกเรา เอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษ ผูมีประสบการณ ไดพิสูจนกันแลววาภาษาอังกฤษไมใชแค “เรื่องงายๆ ใครๆ ก็รู” อยามัวปลอยใหความสงสัยนั้นรบกวนใจ มาทําความรูจักกับเรากันเลยดีไหม จากคําถามที่ไดยินจนชินหูวา “มันตางจากเอกภาษาอังกฤษยังไงเหรอ?” ทําใหเรากระปรี้กระเปราอยาก ใหความกระจางวา เอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษ หรือที่คุนหูชาวศิลปศาสตรกันดีวา “ภาษาวรรณฯ” ไมไดคลาย กับเอกภาษาอังกฤษมากขนาดนั้น เราเรียนภาษาอังกฤษกันก็จริงนะ แตเรียนในอีกรูปแบบหนึ่ง คือ เอกเราเรียน ภาษาอังกฤษที่ปรากฏในงานวรรณกรรมและงานเขียนประเภทตางๆ เชน กวีนิพนธ เรื่องสั้น นวนิยาย บทละคร เนนการถายทอดความคิดและจินตนาการระหวางผูประพันธกับผูอาน โดยศึกษาลีลาในการเขียน ความแยบคาย ในการใชภาษาเพื่อสื่อความหมาย รวมถึงการตีความจากบริบทและมุมมองที่แตกตางตามทฤษฎี ยุคสมัย คานิยม เพศ และศาสนา เปนตน พูดงายๆ ก็คือ เราเรียนภาษาควบคูกับกระบวนความคิดนั่นเอง ดังนั้นการเรียนการสอนของเอกภาษาและวรรณคดีอังกฤษจึงมีมิติที่ตางไปจากเอกภาษาอังกฤษ เพราะ การเรียนวิชาในเอกนั้นควรตองมีความรูเบื้องตนทางประวัติศาสตร ปรัชญา ศาสนา ศิลปะ แมกระทั่งจิตวิทยา เพื่อ ใหมองเห็นในสวนที่ลึกกวาภาษาที่เขียน สามารถเชื่อมโยง ตีความ และเขาใจในบทประพันธนั้นๆ ไดชัดเจน เรา จึงมักมีการอภิปรายแสดงความเห็นกันในชัน้ เรียน แตนอกจากทักษะการอานและการตีความแลว การเขียนก็เปน อีกทักษะมีความสําคัญตอการเรียนเอกนี้ ใหคณ ุ ลองจินตนาการดูวา คุณอยากบอกใครสักคนหนึง่ วาคุณคิดอยางไร คุณควรตองมีทกั ษะและศิลปะพอสมควรเลยทีเดียว เพือ่ จะถายทอดความคิดนัน้ สูบ คุ คลอืน่ โดยคงความหมายไมให ผิดเพี้ยน ทั้งยังมีนํ้าหนักมากพอที่จะทําใหเขายอมรับในความคิดของคุณอีกดวย หากคุณมีเพือ่ นทีเ่ รียนในเอกนี้ คุณจะสังเกตเห็นพัฒนาการของพวกเขาไดจาก ขัน้ แรก พวกเขาเริม่ มีคาํ พูด ที่คุณก็ไมรูวาคืออะไร (พวกเราไมไดตั้งใจ “แนว” กันหรอกนะ เพียงแตศัพทเฉพาะนั้นมีมากเหลือเกิน และหลาย คําก็ไมอาจจะนิยามเปนภาษาไทยได) ขั้นที่สอง เพื่อนๆ ของคุณอาจแสดงทีทาคิดลึก คิดมาก คิดซํ้าๆ ซากๆ (นั่น ก็เปนเพราะพวกเรา ชิน กับการคิดการตีความหลากหลายแงมุมนี่นา) ขั้นที่สาม คุณอาจเห็นพวกเขาใชชีวิตอยูกับ

17


Dictionary เลมยักษๆ กันบอยขึ้น ซํ้ารายบางคนอาจพกพามากกวาหนึ่งเลม (ก็ทั้งเขียนทั้งอานขนาดนั้น เราเลย จําเปนตองมี Oxford, Cambridge, Longman, Collins, Macmillan และเจาอื่นๆ อีกมากมาย เปนสรณะ) และทาย ที่สุด คุณจะชินไปเองเมื่อเพื่อนคุณพูดถึงการสอบและการเขียน Essay อยางสมํ่าเสมอ (ไมมีอะไรพิเศษเลยนะ เปน งานประจําของพวกเราเอง) ยังไงก็อยูเปนเพื่อนกันกอนนะ แลวจะเขาใจพวกเรามากขึ้นเอง เพื่อนๆ ที่เรียนสาขาอื่นๆ ก็อยาเพิ่งคิดวาเอกเราเรียนยากเลยนะ ถามองวามันแปลกใหมและทาทาย เรา ก็ขอแนะนําวิชาพื้นฐานที่นาสนใจ และไมจําเปนตองลงเรียนตัวตอตัวไตใดๆ มากอน อาทิเชน LT201 ถือเปนวิชา หักดิบอันมีเนือ้ หาเกีย่ วกับเทคนิควิธกี ารทีน่ กั เขียนใช จะวาไปก็คลายคลึงกับทีเ่ คยเรียนกันในหลักสูตรภาษาไทย ม.ปลาย เชนวา อุปมาเปรียบเหมือน อุปลักษณเปรียบเปน ตามนั้นนั่นแหละ สวนวิชาตอไปก็นาสนใจไมใชนอย คือ LT203 วาดวยเรื่องราวและที่มาของงานเขียนตะวันตก โดยศึกษา จากคัมภีรไบเบิลและเทพปกรณัมกรีก ถาใครคิดวาใน TU110 นั้นยังไมจุใจ ก็ขอใหมาลองเรียน และใครที่สงสัย ใครรูกับความเปนมาของกรอบแนวคิดแบบตะวันตก วิชานี้นาจะเหมาะอยางมาก เพราะไมเพียงเรียนเพื่อเขาถึง แตเรายังเลยไปถึงขั้นวิเคราะหวิจารณซะดวยสิ วิชาสุดทายนี้ อาจตองผานการเรียนวิชา EG241-EG242 ของเอกอิงคฯ มากอน เจาวิชานาฉงนนีค้ อื LT497 วาดวยการแปลบทภาพยนตร ฟงดูนา เรียนไมใชนอ ยเลยใชไหม? เทคนิคการแปลทีช่ ว ยใหเราจบไปแลวไดงานกัน งายๆ หาเลี้ยงไดมานักตอนัก! (งานแปลบทภาพยนตร) สวนวิชาอื่นๆ ที่เพื่อนๆ สนใจใครถาม เพื่อนๆ เอกของเรา ก็ยินดีตอบทุกเมื่อ แตถาไมเชื่อ ก็ขอแนะนําใหลองมาลงเรียนกันเลยดีกวา! สุดทาย ขอใชพื้นที่สวนนี้ประชาสัมพันธละครของกลุมอิสระจากเอกเรากันบาง การที่พวกเรามีวิชาเรียน เกี่ยวกับบทละครอยูไมใชนอยที่ตองฝาฟนกันใหผาน ทางกลุมจึงเกิดประกายความคิดที่จะนําทักษะและประสบ การณนั้นๆ มาผนวกกับความกลาที่มีอยูอยางเหลือลน จนเกิดมาเปนละครนั่นเอง! แตทั้งนี้และทั้งนั้น กวาละครจะออกมาไดแตละเรื่อง ก็ตองอาศัยกลุมคนมากมายหลายฝายดวยกัน ใคร ใครชวยฝายไหนโปรดอยาไดนิ่งดูดาย ไมวาจะนักแสดงมากความสามารถ เราไมจํากัดทั้งเพศ ชั้นป คณะ หรือจะ เปนฝายฉาก ฝายประชาสัมพันธเราก็ยินดีตอนรับ และที่ขาดไมไดดูจะเปนผูชมที่เมตตาสละเวลาและสตางคมา รวมทําใหละครเราเติบโตขึ้นมาได ดวยเหตุนี้เราจึงอยากฝากละครเอกเราไวกับทานทั้งหลาย และหวังเปนอยาง ยิ่งวาในปตอๆ ไปจะมีคนมาชวยกันสรางสรรคใหมันยิ่งใหญขึ้นไป ใครจะรูวาซักวันพวกเราอาจไดไปแสดงกันถึง รัชดาลัยเธียเตอรก็ไดนะ! สุดทายนี้ขอฝากขอความเล็กๆกระแทกใจใหกับผูอานทุกคน “The universe is made of stories, not atoms” Muriel Rukeyser

- คําถาม เกี่ยวกับวิชาเรียน การปรับตัว ขอคิดเห็น แนะนําวรรณกรรมตางๆ ที่นาสนใจทั้งจากนักศึกษาในเอก นอกเอก ผูสนใจจะลงเรียน หรือเก็บเปนวิชาโท สามารถสื่อสารกับเราโดยตรงผานทาง Facebook Group ชื่อ English Literature Major @ L'Arts TU ยังไงก็อยาลืมมาเยี่ยมเยือนโลกของตัวอักษรกันนะเพื่อนๆ - ภาพผูหญิงอานหนังสือที่เห็นเปนฝมือของ Jean-Honoré Fragonard ศิลปนชาวฝรั่งเศส ในสมัยศตวรรษที่ ๑๘

18


¡¡Ã¡®Ò¤Á á® ¡®Ò¤ Ò¤ÁÁ òòõõó õõóó

¸ÕÁ ·ÍÃ ª เรื่อง : ทีมทอรช

§ Í é ¹ º Ñ Ã เคยสงสัยกันบางหรือเปลาวาทําไมเขามหาวิทยาลัยมา แลวจะตองมีการรับนองหรือถา จะใหเรียกตามอุดมการณของธรรมศาสตรก็จะเปนการรับเพื่อนใหม เพราะธรรมศาสตรเชื่อใน เรือ่ งสิทธิ เสรีภาพและความเทาเทียมกันของนักศึกษาแตละคน ธรรมศาสตรอยากใหทกุ คนเปน เพื่อนกันทางปญญา ไมอยากใหอํานาจความอาวุโสมาปดกั้นการศึกษาหาความรู แตถึงจะอยาง นั้นก็เถอะ ดวยวัฒนธรรมและประเพณีของไทยที่ใหความสําคัญกับเรื่องความอาวุโสอยู พวกเรา นักศึกษาธรรมศาสตรก็ไมสามารถพูดไดเต็มปากวาเราไมมีระบบพี่-นองกันอยูแลว เพราะตาม ความเปนจริงเราทุกคนก็ยังใหเกียรติกับเพื่อนนักศึกษาที่มีอาวุโสทั้งที่มากกวาและที่นอยกวา (แมจะหางกันไมกี่ป) ดวยการใสคําวา พี่ หรือไมก็ นอง เขาไปขางหนาชื่อ เปนการใหเกียรติเพื่อ สรางและรักษาความสัมพันธทางสังคมซึ่งกันและกันไว แลวการรับเพื่อนใหม หรือ จะเรียกวารับนอง หรือจะชื่ออะไรอื่นๆ ก็ตาม จะมีขึ้นมา ทําไมกัน? นองๆ ละ ทําไมจะตองไปรับนองกับพวกพี่ๆ นี่ดวยละ? ไปแลวจะไดอะไรกลับมา? ไป แลวจะคุมคากับเวลาและความลําบากที่เสียไปรึเปลา? แลวพีๆ่ จําเปนจะตองจัดรับนองขึน้ มาเพือ่ อะไร? เพือ่ สนุกอยางเดียว? เพือ่ หาเรือ่ งเทีย่ ว? พวกเราก็ยังไมคอยเขาใจ และก็ไมรูคําตอบของคําถามขางบนเลยสักขอ แตโชคดีที่ พวกเราไปเจอไดอารี่ของใครสักคนมาโดยบังเอิญ ที่บอกวาโชคดีก็เพราะวาเจาของไดอารี่เลมนี้ จดบันทึกชวงเวลาของการรับนองไวสองชวง คือ ชวงที่ไปในฐานะนองหนาใส กับอีกชวงที่ไปใน ฐานะเปนพี่ที่ตองไปดูแลการรับนองทุกอยาง ความรูสึก ประสบการณ และความคิดของผูเขียน ไดอารี่เลมนี้จะเปนอยางไร ขอเชิญติดตาม. . .

19 19


มิถุนายน ๒๕๕๒ ในทีส่ ดุ ก็กลับมาถึงบาน! ฉันดีใจเหลือเกินทีไ่ ดกลับบานมาอีกครัง้ จะมีทไี่ หนบางนะทีจ่ ะทําให ฉันรูสึกสบายไดเหมือนที่บานของฉันเองบาง ฉันกลาพนันเลยวาไมมีแนนอน ทีฉ่ นั หายไปไมไดมาเขียนไดอารีต่ งั้ หลายวัน ก็เปนเพราะเราไปรับนองมาละ การไปรับนองครัง้ นี้นี่ละที่ทําใหฉันยิ่งรักและยิ่งอยากกลับบานเหลือเกิน ก็ใครจะไปคิดละวาไอการไปรับนองเนี่ยมันจะ เหนื่อยขนาดนี้ เราไปกันตั้งสามวันสองคืน แตฉันแทบจะไมไดนอนหลับเลย ก็พวกพี่ๆ นะสิ เตรียม เกม ไมก็กิจกรรมอะไรเยอะแยะไปหมด เยอะเกินไปมากๆ ทําเอาฉันแทบจะเปนลมแนะ แตเรื่องที่ฉันรับไมคอยไดจริงๆ เลยคือ หองพัก ฉันก็ อุตสาหคดิ วาจะไดไปเทีย่ วทะเล จะไดไปนองหองพักสะอาดๆ สบายๆ แตกลับเปนวาฉันและพวกเพื่อนๆ ตองไปนอนเบียดกันในหองที่ไม ไดเล็กมาก แตฉันวามันเล็กไปสําหรับสิบกวาคน เตียงก็มีไมพอนอน อยางฉันยังโชคดีหนอยที่ไดนอนบนเตียง (เตียงก็แข็ง แถมยังตอง นอนเบียดๆ กันอีก) แตพวกเพื่อนๆ ที่ตองไปนอนบนพื้นนี่สิ คง รูสึกแยยิ่งไปกวาฉันอีก หองนอนยังเปนอะไรที่ฉันพอจะทําใจไดบาง ก็อยางที่บอกไป แลววาฉันไมคอยไดนอนเทาไ่หรอก แตที่ฉันเซ็งยิ่งกวาหองนอน ก็คือ หองนํ้า คนเปนสิบคนแตกลับมีหองนํ้าใหใชอยูหองเดียวมันจะไปพอไดยัง ไง ยิ่งถาเปนชวงเรงดวนนะใครเขาจะไปรอได ฉันละเหนื่อยใจจริงๆ นี่ละ นา...ที่ทําใหฉันคิดถึงบานเหลือเกิน เอาเถอะแตถาตัดเรื่องที่พักอะไรนี่ออกไปแลว ฉันก็แอบรูสึกสนุก กับการไปรับนองครั้งนี้นะ คืนแรกที่ไปถึง ฉันแทบจะทนไมไหว ก็เพราะพวกพี่ๆ ที่หนาตาไมคุนนี่สิ อยูดีๆ ก็เดินเขามา และตะโกนวาพวกเราสารพัด พวกเรายังไมทันไดไปทําอะไรเลยนะ ก็พวกพี่ๆ ใหผูกผาปดตาและเดินจับ มือเพื่อนไปเรื่อยๆ แลวอยูดีๆ ก็มีใครไมรูมาปดมือฉันออกจากมือของเพื่อนขางหลัง ตอนนั้นฉันก็ยอม ปลอยไปเพราะไมกลาไปขัดพี่เขา แตที่ไหนไดพอมือหลุดปบ พวกพี่ๆ นี้รุมตะโกนวาพวกเราเลย ฉันละ ไมเขาใจจริงๆ เลยวาทําไมตองตะโกนกันดวย คืนนั้นฉันอยากจะหนีกลับบานใหรูแลวรูรอดไปดวยซํ้า แตเพราะกลับไมเปน ฉันก็เลยตองทนอยูตอไป วันตอมาผิดจากที่ฉันคาดไวคนละเรื่องเลยนะ พวกพี่ๆ ที่ตะโกนโวยวายใสฉันทั้งคืน กลับลง มาเลนเกมเฮฮาที่ดูไรสาระกับพวกเรา อยางเตนอะไรที่มันตลกๆ แขงคีบลูกปงปอง หรือไปกินอะไรที่ มันดูแหยะๆ พวกพี่ๆ มาเลนอะไรกันก็ไมรู ทําเอาพวกเรานั่งหัวเราะกันอยางเดียวเลย ฉันยิ่งสงสัยใหญ เลยวาทําไมพี่ๆ ที่เสียงดูโหดๆ ถึงไดฮาเฮกันไดขนาดนี้ ตอนเย็นฉันยิง่ รูส กึ ดีเพราะกิจกรรมทีพ่ เี่ ขาจัดไวใหเปนการไปเลนนํา้ ทะเล ฉันแอบสะใจอยูบ า ง ที่ไดไปจับพี่ๆ โยนลงทะเล ก็พวกเขาแกลงฉันและเพื่อนมาตั้งแตเมื่อวานแลวนี่นา พวกเราก็เลยขอเอา


¡Ã¡®Ò¤Á ¡Ã á® ¡®Ò¤ Ò¤ÁÁ òòõõó õõó คืนแบบขําๆ บางแลวกัน แตฉันวาพวกพี่ๆ เขาก็ดูแอบสนุกนะ ตกกลางคืนแลว เปนชวงที่ทําใหฉันลืมสภาพพวกหองนํ้า หองนอนไปหมด พวกพี่ๆ ใหพวก เราหลับตาแลวเดินจับมือกันตามทางที่พี่เขาจูงไป พวกเราเดินกันเงียบมาก คืนนี้ฉันจับมือของเพื่อนไว แนน ฉันไมอยากปลอยใหมือของเพื่อนหลุดไปอีกแลว ไมใชเพราะกลัววาจะเจอพี่เขาเขามาตะโกนอีกนะ แตฉันไมอยากใหเพื่อนรูสึกวาโดนทิ้งไปอยูคนเดียว พวกเราเดินมาไมไกลเทาไหร เทาของฉันเริ่มรูสึกวากําลังเดินอยูบนพื้นทราย เสียงคลื่นซัด ฝงดังอยูไมไกล ฉันเริ่มสงสัยวาพวกพี่จะใหแกแคนจับพวกเราโยนลงทะเลคืนรึเปลา ฉันคิดผิดไปไกล เลย พอพี่บอกใหเราหยุดเดิน พวกเราก็ลืมตาขึ้น...ภาพที่ฉันเห็น เสียงเพลงที่ฉันไดยิน บรรยากาศ ในตอนนั้นทําเอาฉันขนลุกขึ้นมาเลย พี่ๆ กําลังนั่งรองเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ ใหกับพวกเรา แสงจากเทียนเลมเล็กหลายสิบ เลมสองสวางสลับกันไปมา ลมเย็นๆ จากทะเลพัดมาอยูเรื่อยๆ ทองฟาก็อยางสวยละ ดาวเยอะแยะไป หมด ฉันชอบบรรยากาศตอนนั้นมากเลยนะ แตที่ชอบยิ่งกวาคือตอนที่ไดไปนั่งใหพี่ๆ ผูกดายและได นั่งคุยกับพวกพี่เขา ฉันจําไดไมหมดหรอกวาพี่แตละคนเขาพูดเรื่องอะไรกันบาง แตสวนมากก็พูดกันแตเรื่องให ตั้งใจเรียน ใหใชชีวิตในมหาวิทยาลัยใหคุม จบแลวจะไดไมเสียดาย ตอนนี้ยังเด็กทําอะไรไดก็ใหทํากัน ไปกอน หรือไมก็แบบที่ใหรักเพื่อน ดูแลเพื่อนกันตลอดไป ฉันวาสิ่งที่พี่เขาพูดฉันก็รูและเคยฟงมาหมด แลวละ แตถาไมไดพี่ๆ เขามาพูดเตือนให ฉันก็คงจะลืมไปหมดเหมือนกัน กวาทีฉ่ นั จะนัง่ คุยกับพวกพีๆ่ ครบกันทุกคน ก็ปา เขาไปตีสอง ตีสามแลว (อยางที่บอกแลวไงละวาไปนูน ฉัน ไมคอยไดนอน) กอนที่ฉันจะนอนหลับไป ฉันคิดสงสัยขึ้น มาวาทําไมพวกพี่เขาตองมาจัดอะไรยังงี้ใหกับฉันดวย ทําไม ตองมาดูแลฉันดีขนาดนี้ ทําไมนะ? ทั้งๆ ที่ฉันและเพื่อน ก็ไมไดเปนญาติอะไรกับพวกพี่เขา แถมเพึ่งเคยเจอหนากัน ครั้งแรกดวย ฉันคิดไปคิดมาจนสุดทายก็หลับไปโดยไมรูตัว ฉันรูสึกแปลกมากๆ เมื่อรถบัสปรับพัดลมกลับเขา มาจอดในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะตอนที่เห็นพี่แตละคน และ เพือ่ นๆ แยกยายกันกลับหอ กลับบาน ฉันรูส กึ ...แบบเหมือน กับวาอยากจะอยูก บั พวกพีๆ่ และเพือ่ นๆ ตอไปจัง แตกร็ ดู วี า มัน เปนไปไมได ทางเดียวที่จะทําใหเปนจริงไดคงไดแตรอใหเวลา ผานไปอีกหนึ่งป แลวปหนาจะไดไปรับนองกันอีก ถึงแมวาจะไมมีที่ไหนใหความสุข ความสบายไดเทาที่ บาน แตก็ยังมีที่อื่นๆ ที่พอจะใหความสุขในรูปแบบที่ตางกัน ออกไป เหมือนกับที่ฉันไปรับนองมา แมวามันจะเหนื่อยและ ทรหดขนาดไหน แตเมื่อมาคิดดูตอนนี้แลว มันก็คุมคาพอที่จะ แลกความรูสึกดีๆ ที่ไดจากเพื่อนๆ พี่ๆ เมื่อไรจะถึงปหนานะ อยากไปรับนองๆ บางแลวสิ

21 21


กรกฎาคม ๒๕๕๓ เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อยที่สุดเทาที่จะเหนื่อยไดแลวเนี่ย ใครจะคิดวาการเปนคนจัด ทริปไปรับนองเนี่ยจะเหนื่อยกันไดขนาดนี้ โธเอย! ฉันก็นกึ วาการจัดไปรับนองจะทํากันงายๆ ก็มนั จะไปยากไดยงั ไง ก็แคจองทีพ่ กั จอง รถ โทรไปชวนพี่ๆ ขึ้นรถไปรับนอง ไปเลนเกม ไปบายศรี เสร็จแลววันตอมาก็กลับ จบทริปอยาง สบายๆ และมีความสุขกันทุกคน ถามันงายเหมือนทีค่ ดิ ไวกค็ งจะดีนะสิ แตนมี่ นั คนละเรือ่ งกันเลยนะเนีย่ เริ่มตั้งแตไปหาสถานที่กันเลยนะ ฉันก็คุยกับเพื่อนๆ กันแลววาเบื่อ ทะเลแลว ปนพี้ วกเราจะไปรับนองกันบนเขาแทน แตทพี่ กั และสถานทีจ่ ดั กิจกรรมมันก็ไมไดหากันงายๆ นะ พวกเรา ตองวนหากันตัง้ หลายที่ บางทีทกุ อยางดีพรอมหมดแลว แต ราคาที่เขาคิดเรามันไมคอยจะดีเทาไร ฉันกับเพื่อนๆ ก็เลย ตองไปหาที่อื่น จนไปไดบานเชาที่มีกันไมกี่หอง แตก็นาจะ กวางพอสําหรับทุกคน ไดทพี่ กั เสร็จฉันก็ตอ งโทรไปจองรถบัสอีก ตอนแรก ฉันก็คดิ วามันคงจะไมแพงมากนัก แตฟง ราคาแลวก็ตอ งรีบขอตอ และออนวอนใหพี่เจาของรถชวยลดราคาใหหนอย กวาจะลดให ไดสักพันหนึ่งเนี่ยนะ ทําฉันเสียงเกือบแหบเลยละ แลวฉันยังจะ ตองโทรชวนพี่ๆ และก็ไปเช็คกับนองๆ วาจะไปกันไดกี่คน เพราะ จะตองสั่งอาหารและเตรียมอุปกรณไวเลนเกมอีกสารพัด แคเตรียม ของกันแคนี้ก็วุนวายและเหนื่อยกันสุดๆ พอวันศุกรทแี่ ลวมาถึง ฉันก็นกึ วาทุกอยางจะเปนไปตามทีว่ าง ไว ปรากฏวารถมาชากวาที่นัดไวเกือบชั่วโมง พวกพี่ก็มากันสายเพราะ เพิ่งเลิกทํางานกัน นองคนหนึ่งก็โทรมาบอกวาไปไมไดแลว ติดธุระกับ ที่บาน ตอนนั้นฉันคลั่งแทบตายเอาเลยทีเดียว ก็อุตสาหเตรียมทุกอยาง ไวหมดแลว ทําไมจะตองมา เกิดปญหาอะไรขึ้นดวยเนี่ย เฮอ! ตอนนั้นเหนื่อยจริงๆ แตพอทุกคนมาครบ รถเริ่มเคลื่อนออกไปตามเสนทาง ฉันก็เริ่มรูสึกสบายใจขึ้นหนอย แตก็ ยังตองคอยโทรเช็คกับที่พัก คุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ วาเมื่อถึงที่พักแลวจะตองลงไปทําอะไรกันบาง นัดแนะ กับทุกคนเรียบรอยแลว ฉันก็ตองไปนั่งขางคนขับคอยบอกเสนทางอีก เพราะคนขับไมรูทาง อะไรมัน จะวุนวายขนาดนี้ พอถึงที่พัก ทุกอยางๆ ก็เริ่มจะลงตัว พี่ๆ บัณฑิตเริ่มไปตะโกนวานองๆ ที่ปลอยมือเพื่อนหลุด ไป พอพี่เขาตะโกนเสร็จเขาก็หันหนากลับมายิ้มใหฉัน ทําเอาฉันกับเพื่อนๆ เก็บหัวเราะกันเกือบไมอยู ไมมีพี่คนไหนอยากจะไปตะโกนวากใสนองๆ หรอก พวกพี่เขาตองทําก็เพราะอยากจะใหนองๆ รูสึกถึง ความสําคัญของการดูแลเพื่อนๆ พี่เขาแคอยากจะสรางบรรยากาศใหมันดูเครงครึม นองๆ จะไดเชื่อไง

22 22


¡Ã¡®Ò¤Á ¡Ã¡® ¡Ã ¡®Ò¤ Ò¤¤Á òòõõó õõó วันตอมาฉันก็ตองรีบตื่นไปดูวาเขาเตรียมอาหารกันพรอมรึยัง พอกินขาวเชากันเสร็จแลว พี่ๆ ก็ทิ้งมาดเขมเมื่อวานไป แลวมาในมาดเฮฮากันสุดๆ พี่ๆ เขาบอกวาแคอยากใหนองรูสึกพอที่จะกลัวพี่เขา นิดหนอยก็พอ ตอนนีพ้ วกเขาอยากจะสรางเสียงหัวเราะและความสนุกใหนอ งๆ ถาพวกพีเ่ ขาไมเขามาเลน ดวย นองๆ ก็คงไมกลาเลนกันหรอก แลวพวกเราก็จะไมซี้กัน เย็นๆ แลวฉันก็ชวนเพื่อนๆ ไปเตรียมพวกเทียน พวกดาย ที่เตรียมไวสําหรับบายศรีนองๆ โดยเฉพาะ ปนี้พวกเราก็ยังคงโชคดีที่ไดพี่ที่เขาเลนกีตารเปนมาชวยดีดเพลงเพราะๆ ใหพวกเราชวยกัน รองใหนองฟง บรรยากาศบายศรีปนี้ไมมีเสียงคลื่นกระทบเหมือนปที่แลว แตมองไปรอบตัวฉันก็เห็น ทิวเขาสวยๆ สลับไปมา ลมภูเขาก็พัดเย็นสบาย ทองฟายังคงเต็มไปดวยดวงดาวเปนรอย เปนพันดวง แมจะเปลี่ยนสถานที่ แตฉันวาบรรยากาศที่ไดก็นาประทับใจไมแพกันเลย ปนี้ฉันเขาใจเลยวาทําไมพี่ๆ เขาถึงบอกฉันกันอยูไมกี่เรื่องเอง ก็เพราะวาตอนบายศรีมันก็ไม คอยมีอะไรใหพูดมากเทาไร ที่สําคัญมันพูดยาวมากๆ ไมได เพราะมีนองมารอใหฉันผูกดายอีกหลายคน และฉันก็ยังอยากที่จะไปใหพี่ๆ คนอื่นๆ ผูกดายและคุยอยางเปดใจกับพี่ๆ อีกครั้ง ฉันวาการไดคุยกับ คนอื่นๆ แบบจริงใจก็ดีเหมือนกัน ฉันแทบจะไมไดนอนเลยละ เพราะฉันอยากจะใชชว งเวลาทีม่ ารับนองใหคมุ คาทีส่ ดุ เพราะแตละ ปมันมีมาแคครั้งเดียวเทานั้น ยิ่งปนี้พวกฉันเปนคนจัดดวย ฉันเลยยิ่งอยากอยูใหคุม อยูใหนาน คุย กับพี่ๆ นองๆ ใหเยอะที่สุดเทาที่จะทําได วันตอมาฉันแทบจะลุกไมขนึ้ เพราะงวงนอนมากๆ แตกย็ งั ตองฝนลุกขึน้ มาจายเงินคาทุกอยาง เทาที่เราใชกันไป เพื่อเคลียรทุกอยางใหเรียบรอยแลวเราจะไดพรอมกลับบาน กลับหอกัน ตอนนั่งรถกลับมา ใจหนึ่งของฉันก็ดีใจที่ทุกอยางกําลังจะจบไปได แตอีกใจหนึ่งก็แอบเซ็งๆ ยิ่งตอนที่เห็นหนานองๆ พี่ๆ พูดคุยกันอยางสนิทสนม ยิ้มแยมและหัวเราะกันตลอดทางกลับมาที่ มหาวิทยาลัย ทีฉ่ นั เซ็งก็เพราะฉันยังอยากใหมเี วลาเพิม่ ใหพวกเราไดอยูก นั นานขึน้ อีก ปหนึง่ ครัง้ เดียวมัน คงนอยเกินไป แตถา ใหฉนั จัดอีกรอบ...ฉันก็คงตองขอคิดกอนเหมือนกันนะ (เพราะมันเหนือ่ ยมากจริงๆ) อยูดีๆ ฉันก็คิดถึงคําถามที่เคยถามตัวเองไวปที่แลววาทําไมตองมาทําอะไรพวกนี้ใหกับคนที่ไม เคยรูจักกันมากอน ถึงขั้นที่ตองยอมเหนื่อยสุดๆ ดวย ฉันลองคิดถึงแตละอยางที่ฉันทําลงไป ฉัน ทําไปเพื่ออะไร? ฉันคิดอยูนานเหมือนกัน กอนจะใหคําตอบกับตัวเองไปประมาณ วา ปที่แลวพวกพี่ๆ ที่ฉันไมเคยรูจักก็ใหความรูสึกดีๆ กับฉัน มันก็เลย ทําใหฉันรูสึกอยากจะสงความรูสึกดีๆ นี้ตอไปใหใครคนอื่นๆ เหมือน กัน ความรูสึกที่ฉันสงตอไปในปนี้อาจจะไมดีเทากับที่ฉันไดรับมา แต อยางนอย (ฉันหวังวานะ) มันก็ทําใหคนแปลกหนากลายเปนเพื่อน กลายเปนพี่ กลายเปนนองกัน เราคงไมไดรูสึกผูกพันกันเหมือนที่เรา มีใหกบั ครอบครัว แตกผ็ กู พันกันแนนพอทีจ่ ะอยากกลับมาเจอหนากัน ทุกๆ ป เพราะทุกทีที่ไดเจอหนากัน มันทําใหเรายิ้มไดอยางมีความสุข

23 23


Rate-Arts เรื่อง : welkin

This is not a love story,

this is a story about loved

สําหรับคุณอะไรสามารถเกิดขึ้นไดบางในเวลา 500 วัน 500 วันเทากับ16 เดือน 16 เดือนเทากับ 1 ป (กับอีก 4 เดือน) ภายในเวลาเพียงเทานี้ คุณคิดวาจะคุณจะ สามารถเรียนรูเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกวา ‘รัก’ ไดมากนอยขนาดไหน Tom Hansen (Joseph Gordon-Levitt) หนุมผูมีความใฝฝนอยากจะเปนสถาปนิก เขาใชเวลาทั้งหมด 500 วัน ในการสรางความสัมพันธระหวางเขากับ Summer Finn (Zooey Deschanel) เลขาฯ สาวผูไ มเชือ่ ใน ‘ความรัก’ ภายในชวงเลา 500 วันนี้เอง ที่ ‘ความรัก’ ไดมาเยี่ยมเยียน Summer อยางที่เธอเองก็ไมคาดคิดมากอน ถา หาก 500 วันนีไ้ ดใหอะไรกับเธอบาง คงจะหนีไมพน การไดรจู กั กับ Tom ชายผูไ มเคยหยุด(คิดวาเขา)รักเธอเลย ถาไมไดดูหนังเรื่องนี้แลวจะพลาดมากเลยหรอ? คําตอบคงเปน เปลาเลย ก็ไมไดถึงขั้นนั้น แตถาไมไดดู คงจะเปนเรื่องที่นาเสียดายเอามากๆ สวนตัวแลว คิดวาเวลาที่เกิดปญหาเล็กๆ ขึ้นในชีวิต เรามักจะมองไมออกดวยตัวคนเดียว และคําแนะนําจากเพื่อนก็อาจจะ ไมใชสิ่งที่เราอยากจะฟง แตเวลาที่มีอะไรอยางหนังเรื่องนึงที่พูดถึงเหตุการณเดียวกัน เหตุผลที่คลายกัน และ การเลือกกระทําทีเ่ หมือนกัน มันกลับทําใหเขาใจไดในทันที และ concept ทีเ่ กีย่ วกับ ‘ความรัก’ ของ 500 Days of Summer ก็สามารถตอบโจทยของผูเขียนไดอยางนาตกใจทีเดียว หลายๆ ครัง้ ทีค่ นเราสรางกําแพงขึน้ มาและกําแพงนัน่ ทําใหทกุ อยางกลายเปนเรือ่ งยาก กําแพงนัน้ ถูกสราง ด ว ยการตั้ ง กฎเกณฑ กับชีวติ คิดเอาเองวาอะไรคือสิง่ ทีเ่ ราทําได หรือทําไมได บางครัง้ ก็หาขออางทีฟ ่ ง ลืน่ หูที่สุดมา ใชสนับสนุน เพียงเพราะเราไมสามารถรับผลที่อาจจะตามมาได และอีกหลายๆ ครั้งที่เรากลับกลาบาบิ่นทําอะไรลงไปเพียงเพราะความเชื่อหรือความรูสึก อยาง ‘ความรัก’ ที่เราทุมเท เชื่อมั่น และตัดสินใจทําลงไปอยางที่ถามองยอนกลับมา ในอนาคต คงตองดาตัวเองวาตอนนั้นบาแนๆ ความสัมพันธของ Tom และ Summer เปนเสมือนสนามทดลองของเด็ก หัดรัก ที่คนหนึ่งมองความรักเปนเรื่องลวงโลก เหมือนนิทานกอนนอน ใน ขณะที่อีกคนหนึ่งเชื่อในสิ่งที่เขาเรียกวา ’รักแท’ 500 วัน แหงการทุมเท กับ 500 วัน แหงการถูกรัก ถาหากมันเปน เพียงความตองการทีจ่ ะสัมผัส หรือเปนแคการลุม หลง และเปนการเหงา เราจะเรียกมันวา ‘รัก’ ไดไหม? ภาพยนตรเรื่องนี้วางภูมิหลังของตัวละครไดอยางสอดคลองกับ การสรางคําจํากัดความของคําวา ‘ความรัก’ ของทัง้ คู หาก Summer เกิดมาในครอบครัวทีอ่ บอุน มากกวานี้ หรือถาหาก Tom มีวัยเด็ก ทีฝ่ น เฟอ งนอยกวานีห้ นอย ถาหากทัง้ คูไ มเคยตองเจ็บตัวเพราะ

24


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

ความรัก คําวา ‘ถา’ ทั้งหลายเหลานี้ อาจจะเปลี่ยนเรื่องราวทั้งหมดไปไดเลย แตสิ่งที่ทั้งคูเปนอยูโดยไมตองมี คําวา ‘ถา’ นั้น ไดประกอบตัวกันขึ้นมาเปนเรื่องราว 500 วันแหงการไดรักและถูกรัก คนทุกคนตองเคยผานความรูส กึ ทีเ่ รียกวา ‘รัก’ นีม้ าแลว จะมากนอยตางกันไป ก็ขนึ้ อยูก บั ประสบการณ ของแตละคน ที่จะสรางรูปแบบของความรักแบบเฉพาะขึ้นมา Tom กับ Summer ก็เชนเดียวกัน ตางเรียนรูจาก ‘รัก’ ของอีกฝาย และมันก็ทําไดเพียงใหทั้งคู (คิดวา ตัวเอง) เขาใจ ‘ความรัก’ มากขึ้น ถาหากวาความสัมพันธของคนสองคนสามารถสอนอะไรเราไดบาง ก็คงเปนเพียงขอความๆ หนึ่งที่ ภาพยนตรเรื่องนี้พยายามจะกระซิบบอกคนดู วาความรักนั้นไมไดยุงยากอยางที่คิด แตก็ไมไดงายดายอยาง ที่เราอยากจะใหเปน เหมือนที่ภาพยนตรเรื่องนี้ไดบอกตั้งแตตอนตนวา “นี้ไมใชเรื่องราวความรัก แตเปนเพียงการโคจรมาพบกันของผูชายและผูหญิงสองคน” “This is a story of boy meets girl. But you should know up front, this is not a love story.” ภาพยนตรเรื่องนี้ไมไดหวานเลี่ยนจนทําใหคลื่นไส แตก็ไมไดมีจุดไคลแมกซที่จะทําใหรูสึก ‘วาว!’ ภาพยนตรเรื่องนี้เปนเพียงการเลาเรื่องที่ทุกๆ คนตองเคยรูสึกมาอยางนอยครั้งหนึ่งในชีวิต ถาหากใครไดทดลองลิ้มรสความรักในแบบฉบับของ 500 Days of Summer ดูแลว ก็หวังวาจะไดมี โอกาสเขาใจ Concept of Love ของตัวคุณเองมากขึ้น และนั่นคงทําให ‘ความรัก’ กลายเปนสิ่งที่ดีขึ้นสําหรับ ใครหลายๆ คน - ภาพยนตรเรือ่ งนีเ้ ปนผลงานการกํากับภาพยนตรเรือ่ งแรกของ Mark Webb เจาของผลงานกํากับมิวสิกวิดโี อหลายเพลง อยาง “21 Guns” ของ Green Day และ “Goodnight, Goodnight” ของ Maroon 5 - ขณะนี้ Webb กําลังเตรียมถายทําภาคตอของ Spider Man ที่มีกําหนดฉายในป 2012

25


ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ เรื่อง : นาคา

สวนปา

หิมพานต

ทิพยแหงนี้มีอยูจริงหรือไม แตวนั นีน้ าคาไดไปพิสจู นมาแลวคะ แลวก็พบวาวัน นีป้ า หิมพานตมอี ยูจ ริงๆ แตไมใชปา หิมพานตทเี่ ปนดิน แดนมหัศจรรยในวรรณกรรมโบราณหลายเรื่องนะคะ ทีๆ่ นาคาไปพิสจู นมาเปนสวรรคทคี่ นอยางๆ เราก็เขาไป ได ที่นี่เปนสวนซึ่งเกิดขึ้นจากจินตนาการของมนุษย และสรรคสรางออกมาเปนสิ่งที่มองเห็นและจับตองได จริง โดยจําลองเอาสภาพปาหิมพานตในวรรณคดีไทย มาตกแตงอยางวิจิตรแลวเรียกวา “สวนปาหิมพานต” สวนปาหิมพานต เดิมทีถูกเรียกวา “ผาซอนแกว” เปนสวนปากึ่งรีสอรทที่สรางขึ้นบนพื้นที่สวนตัว ซึ่ง เจาของพื้นที่แหงนี้ก็คือ ดร.อรุณ (เจาของตึกชาง) พื้นที่ ของสวนปาหิมพานตกนิ บริเวณกวางหลายพันไร อยูใ น เขต ต.แคมปสน อ.เขาคอ จ.เพชรบูรณ การเดินทางไป ที่สวนปาแหงนี้จะตองขับรถลัดเลาะไตเขาสูงขึ้นมา แต เมื่อขึ้นมาถึงแลวก็ตองขอบอกวาคุม เพราะบรรยากาศ

ตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยไดยินวรรณคดีเรื่อง “พระสุธน มโนราห” ซึง่ กลาวถึงความรักระหวางมนุษย กับนางกินรี เด็กๆ หลายคนเมื่อไดฟงวรรณคดีเรื่องนี้ก็ จินตนาการกันไปวาตัวเองเปนกินรีบาง หรืออยากจะ เขาไปอยูในปาหิมพานตเชนเดียวกับนางกินรีบาง ก็ เพราะปาหิมพานตเปรียบเสมือนสรวงสวรรคที่เต็มไป ดวยสิ่งมหัศจรรยมากมาย มีแตความสวยงามชวนให เคลิบเคลิ้มหลงใหล คนสวนหนึ่งเชื่อวาปาหิมพานตเปนเพียงสวรรค ในจินตนาการของมนุษยเทานั้น ขณะที่อีกสวนเชื่อวา ปาหิมพานตมีอยูจริง เพียงแตคนที่จะสามารถเห็นได จะตองเปนคนที่มีคลื่นความถี่ตรงกับโลกทิพยแหงนี้ เทานั้น กลุมคนที่เชื่อวาปาหิมพานตมีอยูจริง เชื่อวา ในปจจุบันนี้ปาหิมพานตตั้งอยูบนเทือกเขาหิมาลัยใน ประเทศเนปาล บริเวณจุดทีส่ งู ทีส่ ดุ ของโลก แตนนั่ ก็เปน เพียงแคความเชือ่ ทีย่ งั ไมเคยใครพิสจู นไดชดั เจนวาโลก

26


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó นี้ชวยใหสวนปามีบรรยากาศสมกับเปนปาหิมพานต มากยิ่งขึ้นทีเดียว นอกจากสัตวปา หิมพานตทมี่ รี ปู รางหนาตาชวนทึง่ แลว ยังมีตนไมชนิดหนึ่งที่ถาหากพูดถึงปาหิมพานต แลวชื่อของตนไมชนิดนี้จะตองถูกนํามาพูดถึงดวย เปน เหมือนสินคาที่มากันเปนแพ็คเกจคู ตนไมที่วานี้ก็คือ “ตนมักกะลี” ผลของตนไมนกี้ ค็ อื “นารีผล” อันมีรปู ราง เปนหญิง ผลสด รูปรางสะโอดสะอง สมสวน ผิวพรรณ งดงาม ราวเทพธิดา ซึ่งแนนอนวาสวนปาแหงนี้ก็ได จําลองตนมักกะลีไวใหนักเดินทางไดชมเชนกัน นักเดินทางคนไหนที่ไมอยากนอนคางคืน ทาง สวนฯ คิดคาเขาชมเพียงคนละ ๒๐ บาทเทานั้น สวน ใครที่อยากจะนอนพักทามกลางสวนปาที่โอบลอมดวย ขุนเขาแหงนี้ก็สามารถทําได แตจะตองกางเตนทนอน อยางเดียวเทานัน้ นะคะ เพราะเขาไมมบี า นพักไวสาํ หรับ นักทองเที่ยว หากนําเตนทมาเองทางรีสอรทจะคิดคา บริการหัวละ ๑๕๐ บาท สวนเรื่องหองนํ้าหายหวงไปได เลยคะ เพราะหองนํ้าที่นี่สะอาดมาก มีเครื่องทํานํ้าอุน ไวใหบริการดวย เรื่องอาหารเราก็สามารถบอกใหทาง เจาหนาที่ของสวนจัดเตรียมไวใหได หรือถาใครพอใจ ที่จะนํามาเองหรือจะลงไปทานที่รานในเมืองก็สามารถ เดินทางไปไมไกล หางเพียง ๒.๕ กิโลเมตรเทานั้นเอง ใครที่ปรารถนาจะเขาไปทองเที่ยวในปาหิมพานต ในหนังสือ แตก็ไมเคยสมหวังสักที สวนปาแหงนี้นาจะ เปนทางเลือกที่ดี ถึงแมวาสวนปาแหงนี้จะไมไดงดงาม นาอัศจรรยใจเทากับปาหิมพานตในจินตนาการหรือ บนหนังสือ แตดนิ แดนแหงนีก้ เ็ ปนสวรรคบนดินสําหรับ นักเดินทางทีส่ ามารถดืม่ ดํา่ กับความงามทีส่ มั ผัสไดจริง และทุกคนสามารถเขาถึงไดโดยไมตองจูนคลื่นความถี่ ใดๆ ดวยนะคะ

“ ห า ก เ ดิ น ขึ้ น ม า สู ง หน อ ยก็ จ ะเห็ น กั บ ทุงหญากวาง เต็มไป ดวยสัตวปาหิมพานต มากมาย” ของสวนปาที่อยูขางหนา ทําเอานักเดินทางทั้งหลาย หายเหนื่อยเปนปลิดทิ้งเลยคะ สวนปาแหงนี้มีอาเขตกวางใหญไพศาลและไมได มีดีแคใหญเทานั้น แตทุกพื้นที่ยังเต็มไปดวยตนไมใบ หญาเขียวชอุม ดอกไมดึงดูดผีเสื้อนอยใหญใหเขามา บินเลน เพิ่มเติมสีสันใหแกทุงหญา ดอกไมนานาพันธุ ทัง้ ทีเ่ ปนพันธุจ ากในประเทศและตางประเทศ ซึง่ ถาบอก ราคาของเจาตนไม ดอกไมเหลานี้ เหลานักเดินทางทั้ง หลายก็คงจะไมกลาเขาไปทําใหดอกไมเหลานั้นตอง บอบชํ้าแนนอน เพราะคงไมไมมีใครอยากชดใชคาเสีย หายดวยราคาที่สูงลิ่ว ภายในสวนปามีถนนใหรถยนตวิ่งไดอยางสะดวก ตามถนนมีศาลาตั้งไวเปนจุด ใหนักเดินทางไดหยุด พัก บางจุดจะเปนจุดชมวิวทีส่ ามารถมองเห็นวิวทิวทัศน เบื้องลาง มองไปขางหนาแลเห็นหุบเขาอันกวางใหญ นอกจากนี้ยังมีสระนํ้านอยใหญเรียงรายอยูตามเสน ทาง สระนํ้าที่ใหญที่สุดในสวนปาแหงนี้มีชื่อวา “สระอโนดาต” ซึ่งตามวรรณคดีแลวก็คือ สระที่นางมโนราห ถูกนายพรานจับตัวไปถวายพระสุธนนั่นเอง หากเดินขึ้นมาสูงหนอยก็จะเห็นกับทุงหญากวาง เต็มไปดวยสัตวปาหิมพานตมากมาย แตไมตองตกใจ ไปนะคะ เพราะสัตวเหลานั้นเปนเพียงรูปปนที่จําลอง สัตวปาหิมพานตตามวรรณคดีโบราณมาใหเราไดชม กันเทานั้น สัตวแตละตัวมีรูปรางหนาตาแปลก แตก ตางไปจากสัตวโลกโดยสิน้ เชิง บางตัวดูแลวไมรจู ะเรียก วางามสงาหรือนากลัวดี รูปรางแปลกตาของสัตวเหลา

27


ËÁعªÕÇÔμ เรื่อง : Prathoratus

ÔÀÀÙ ÁÔ ÈÑ ¡Ã´Ôì ¨μÃ

“ฉันรักธรรมศาสตร เพราะธรรมศาสตรสอนใหฉัน รักประชาชน” คํ า คมสวยหรู ที่ พ บเจอได ทั่ ว ไปในบริ เ วณ มหาวิทยาลัย อุดมการณที่นักศึกษาทุกคนรูจักดี แต อาจยังไมเขาใจในความหมายที่แทจริง และหากลงไป ดูในรายละเอียด ถามวามีสกั กีค่ นกันทีไ่ ดทาํ สิง่ เหลานัน้ ใหออกมาในลักษณะที่เปนรูปธรรมมากที่สุด? ความมุง มัน่ ในการพัฒนามวลชนทีไ่ มควรจะมีอยูใ นแตเพียงชาว ธรรมศาสตร แตควรจะเปนสวนหนึ่งที่อยูในจิตสํานึก ของนั ก ศึ ก ษาทุ ก คนไม ว  า จะอยู  ใ นมหาวิ ท ยาลั ย ใด ก็ตาม คงจะดีไมนอยหากเรามีตัวอยางที่เปนรูปธรรม ที่สามารถสะทอนภาพแหงความหมายของอุดมการณ อันยิ่งใหญเหลานั้นได จิตร ภูมิศักดิ์ อาจชวยเพิ่มความเขาใจของเราได ในฐานะนักศึกษาคนหนึง่ ทีแ่ สดงความหมายอุดมการณ นั้นผานทั้งชีวิตของเขา ในฐานะสามัญชนชาวไทยที่ยืน หยัดตอความจริงที่ปรากฏในสังคม ในฐานะนักตอสู เพื่อชีวิตที่พรอมเผชิญหนากับความอยุติธรรมเพื่อการ สรางสรรคสังคมที่ดีแกมวลชน จิตร เกิดวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2473 ในจังหวัด

ปราจีนบุรี มีชื่อเดิม คือ สมจิตร แตตัดออกเหลือเพียง แค จิตร ตามนโยบายรัฐนิยมของ จอมพล ป. พิบูล สงคราม เมื่อยังเด็ก เขาตองยายตามพอของเขาที่ไปรับ ราชการที่จังหวัดพระตะบอง ในประเทศกัมพูชา การ อยูที่พระตะบองทําใหเขาเขาใจทั้งภาษาฝรั่งเศสและ เขมร เมือ่ โตขึน้ จิตรกลับมาเขาเรียนชัน้ มัธยมทีโ่ รงเรียน เบญจมบพิตร และสอบเขาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แล ว เข า เรี ย นต อ ที่ คณะอั ก ษรศาสตร จุ ฬ าลงกรณ มหาวิทยาลัย ตามลําดับ สมัยที่เขาเปนนิสิตจุฬาฯ เขารับหนาที่เปนผูผลิต หนังสือของมหาวิทยาลัยฉบับ 23 ตุลาฯ แตผลของการ ทําหนังสือเลมนั้นทําใหเขาถูกจับโยนบก ( ถูกโยนลง จากเวทีสูง) เปนเพราะเขาความพยายามแสดงมุมมอง ใหมๆ ที่รุนพี่นิสิตไมสามารถยอมรับไดในหนังสือฉบับ ดังกลาว เชน การนอมรําลึกถึงกรรมกรคนงานที่สราง ตึกจุฬาลงกรณ การแสดงความเปนจริงของประชาชนใน สังคม การตีความบทความทีถ่ กู กลาวหาวาโนมเอียงไป ในทางคอมมิวนิสต เปนตน การโยนบกที่ความลือลั่นในครั้งนั้น ทําใหจิตรตอง เขารักษาตัวในโรงพยาบาลอยูหลายวัน และเปนชวง

28


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó เดียวกันที่คณะกรรมการของมหาวิทยาลัยมีมติใหพัก การเรียนของเขาเปนเวลา 1 ปหลังจากนัน้ จิตรกลับเขา มาศึกษาตอและเริ่มอุทิศตนใหกับการทํากิจกรรมทาง สังคมอยางจริงจัง เขามีจุดยืนใน การคัดคานอํานาจเผด็จการจาก ชนชั้ น สู ง ส ง เสริ ม ให นั ก ศึ ก ษา หันมาสนใจประชาธิปไตย สราง ความสามัคคีเพื่อประโยชนของ ชาติบานเมือง คัดคานจักวรรดิ นิยมและสงเสริมศิลปวัฒนธรรม ของชาติทดี งี าม ตอตานคานิยมไร สาระ เชน ลัทธิคลั่งมหาวิทยาลัย ลัทธิคลั่งคณะ ฯลฯ จัดรณรงคให นักศึกษามีสวนในการชวยเหลือ ประชาชนผูไ ดรบั ความเดือดรอน ดวยการลงพื้นที่ปฏิบัติงานอยาง เปนรูปธรรม จิตรใชนํ้าหมึกตอสูกับความ สกปรกในสังคมกรณีทุจริตการ เลือกตั้งใน พ.ศ.2500 เขาเขียนบทความเรื่อง “บทบาท ทางวรรณคดีของพระมหามนตรี” ซึ่งมีเนื้อหาลอเลียน วัฒนธรรมศักดินา จิตรสะทอนการฉอราษฎรบังหลวง จากงานเขียน “เพลงยาวบัตรสนเทห” จนถูกจับกุมใน ขอหา “มีการกระทําอันเปนคอมมิวนิสตและสมคบกัน กระทําความผิดตอความมั่นคงของรัฐทั้งภายในและ ภายนอกราชอาณาจักร” ซึง่ เปนผลมาจากนโยบายการ เขาปราบปรามและการยึดอํานาจของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต หลังจากถูกจองจําเปนเวลานาน 6 ป ในคุก จิตรถูก ปลอยตัวเนื่องจากศาลยกฟอง ซึ่งเทากับวาเขาตองติด คุกถึง 6 ป ทั้งๆ ที่เขานั้นเปนผูบริสุทธิ์ แตเขาก็ใชชวง เวลาในคุกสรางสรรคผลงานขึ้นมามากมาย ที่โดดเดน คือหนังสือชื่อ “ความเปนมาของคําสยาม ไทย ลาวและ ขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ” ที่หลายคน รูจักกันเปนอยางดี เมื่อออกจากคุกแลว จิตรออกเดินทางสูภาคอีสาน

เพื่อเขารวมตอสูกับพรรคคอมมิวนิสตแหงประเทศไทย เขาใชความสามารถดานภาษาที่มีในการปฏิวัติผานตัว อักษร กลั่นกรองออกมาเปนงานเขียน เปนบทความที่ วิพากษวิจารณสังคมอยางตรงไป ตรงมาอยางสมํ่าเสมอ จนกระทั่ง เขาเสียชีวิตจากการถูกลอมยิงที่ ต.หนองกุง อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ถือเปนการจบชีวิตการตอสูเพื่อ มวลชนของสามัญชนอยางเขาลง ในที่สุด จิตรทิ้งผลงานสําคัญๆไวให แก ป  ญ ญาชนรุ  น หลั ง ได ศึ ก ษา เรียนรูมากมาย อาทิ “ความเรียง วาดวยศาสนา” “ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน” “โฉมหนา ศักดินาไทย””นิราศหนองคาย” เป น ต น นอกจากนี้ เ ขายั ง ถื อ เปนตนตํานานของเพลงเพื่อชีวิต อีกดวย วันนีเ้ ราอาจจะไมเขาใจวาอะไรคือสิง่ ทีอ่ ยูเ บือ้ งหลัง การกระทําทีผ่ า นมาทัง้ หมดของนิสติ อยาง จิตร ภูมศิ กั ดิ์ วันนีอ้ าจจะไมใชวนั ทีเ่ ราจะเห็นวาเขาคือแบบอยาง ของปญญาชนคนหนึ่งที่ควรคาแกการยกยองนับถือ วันนีอ้ าจจะไมใชวนั ทีเ่ ราจะเขาใจความทุกขยากของ มวลชนที่แทจริงจนสามารถกระทําตามอุดมการณสวย หรูที่เราคุนหูกันดีวา “เรารักประชาชน” แตไมวาจะเปนวันนี้หรือวันไหนๆ ก็ไมใชปญหา หรือเปนสิ่งสําคัญใดๆ เลย หากแตเปนคําถามที่สําคัญ คือ จะเปนวันไหนทีเ่ ราจะเขาใจ หรืออยางนอยสละเวลา เพื่อพยายามทําใหอุดมการณนั้นเปนรูปธรรมและกิน ไดตางหาก วันใดกันเลาที่เราจะสามารถเติมเต็มคุณคา ของความเปนปญญาชนที่คนในสังคมตั้งใหเรา ให คุณคาและความหมายนัน้ หลัง่ ไหลกลับคืนสูส งั คมอยาง สรางสรรคและยุติธรรม?

29


˹ŒÒÇ‹Ò§ หนาวางครับ หนานี้ยังวางอยูครับ ข อ เ ชิ ญ ช ว น ทุ ก ค น ที่ อ ย า ก

จ ะ ล อ ง เ ขี ย น อ ะ ไ ร ดี ๆ ส นุ ก ๆ ห รื อ จ ะ อ า ร ม ณ  ไ ห น ก็ ไ ด  จะลองเขียนมาเปน กลอน การตูน หรื อ เรี ย งความ บทวิ เ คราะห เรื่ อ ง สั้น และหรืออีกสารพัดงานเขียนก็ได ขอแคเพียงผลงานชิ้นนั้นจะตอง

เปนฝมือของคุณเองจริงๆ ไม ได ไ ป หลอก หรื อ ไปเอามาจาก ฟอรเวิรดอีเมลของใครคนอื่นทั้งสิ้น

ถาผลงานของคุณเจงจริง ทอรชยินดีที่จะตีพิมพให! นําผลงานของคุณมาฝากไดที่ หอง กนศ. ตึกคณะศิลปศาสตร ศูนยรังสิต หรือถาสะดวกก็สงเปนอีเมลเขามาไดที่ torch.larts@gmail.com


¡Ã¡®Ò¤Á òõõó

ÁÕàÃ×èͧ เรื่อง : Zephyr

เรื่อง(ของ) ตลก

เมื่อปดเทอมที่ผานมา คนเขียนมีโอกาสไดชมภาพยนตรเรื่อง Paris, je t’aime (ลืมจํานวนครั้งไปแลวเชนกัน) แตดวยบรรยากาศและอารมณความรูสึกสวนตัวขณะนั้นไมไดทําใหตัวเอง “ตกหลุมรักปารีส” อยางเคลิบเคลิ้มชวนฝนเชนครั้งกอนๆ ทามกลางความพยายามจะนําเสนอรูปแบบความรักที่ดูจะมีอยูทั่วทุกตารางนิ้วของกรุงปารีส คนเขียนทั้ง ประทับใจและสะดุดใจอยางประหลาดกับตอน Tour Eiffel วาผูกํากับชางลอเลนกับความเย็นชาของมนุษยเราได นารักนาชังตั้งแตฉากแรกที่มีเด็กนอยแวนหนาสะพายกระเปาใบโต (เขาชื่อวา Jean-Claude) ยืนใหสัมภาษณกับ กลองหนาหอไอเฟลสูงลิบลิ่วนั่นเลยทีเดียว (ถายังนึกกันไมออก ก็ตอนที่มีตัวละครใบหนาขาวนั่นแหละ) ตอมาผู ชมจึงไดทราบวาเด็กนอยมีพอแมเปนตัวละครใบ บานของตัวละครผูพอนั้นเรียกวา Con de Mime ซึ่งแทบจะไม ปรากฏอยูบ นผังเมืองปารีส เปนเพียงซอกมุมเล็กๆ แคบๆ ถูกบีบอัดรายลอมดวยตึกรามบานชองขนาดใหญ (คุณผู อานเคยชมเรือ่ ง Stuart Little กันหรือเปลา บานหลังนีเ้ ล็กกวาบานของครอบครัว Little แหง New York เสียดวยซํา้ ) พอตัวละครใบใชชีวิตอยูกับแมวนอยที่มองไมเห็นเพียงลําพัง เขาสัญจรไปตามทองถนนดวยรถกระปอง ลองหน แตไมวาจะไปที่ใดก็ตาม เขาดูจะไมเขาที่เขาทางกับวิถีชีวิตในเมืองแหงความรักนี้เลย พฤติกรรมลอเลียน เสียดสีผูคนที่ผานไปผานมายิ่งทําใหเขากลายเปนสิ่งที่แปลกประหลาด อันตราย กระทั่งในหองขังที่เขาไดพบกับ แมตัวตลกผูเปลี่ยวเหงา พวกเขาทั้งสองสื่อถึงกันและกันไดในทันที พอหนูนอ ย Jean-Claude ซึง่ มีรปู รางหนาตาเหมือนคนทัว่ ไป เขาก็ยงั ถูกเรียกวา “Fils de Mime” (ไอลกู ชาย ตัวตลก) แตรอยยิ้มของพอแมที่ใหกําลังใจยามที่ลูกชายตองออกไปเผชิญโลกกวาง ชางตอกยํ้าใหรูสึกวาพอแม ตัวตลกคูนี้เขาใจในความแตกตางของตัวเองและยอมรับมันอยางดีที่สุด นี่อาจเปนเพียงเรื่องราวสั้นๆ ของตัวละคร แปลกๆที่ใครก็อาจมองขามไปไดงายๆ นํ้าใจและจินตนาการของคนในเมืองใหญชางแหงแลง ไรชีวิตชีวา ทําไมกัน? เพียงเพราะ “ความแตกตาง” นั้นหรือ พวกเขาจึงถูกแทนที่ดวยภาพของตัวตลกนิรนาม ไมสมจริง ไมเหมือน มนุษยคนไหน ราวกับจะมีตัวตนอยูเพื่อความขบขันของคนอื่น คนเขียนไดแตตั้งคําถามอยูเงียบๆในใจ ...ทุกวันนี้เราใหพื้นที่รองรับกับ ”ความแตกตาง” เพียงพอแลวหรือยัง? โปรดอยาเขาใจผิดวาคนเขียนตองการจะใหเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในทันทีทันใด เพราะตัวเองก็ไม คิดวาจะทําได เพียงแตอยากแบงปนมุมมองยอมๆ ใหเพื่อนๆไดลองฉุกคิดดูก็เทานั้น อยางไรเสียคนเขียนก็เชื่อวา “คนที่แตกตาง” เหลานั้นยังมีอยูทั่วไปรอบๆตัวคุณ (หากความเย็นชาตอโลกของคุณยังไมถึงขีดสุด ก็คงสังเกตได) ขณะที่โลกหมุนไปพรอมๆความแตกตางหลากหลาย คนเขียนขอยิ้มใหกับบรรดาชีวิตบิดๆเบี้ยวๆที่ยังคง ดําเนินไปในโลกแคบๆแบนๆใบนี้ คําคนเขียน: ความคิดเห็นนี้เกิดจากการตีความของคนเขียน ซึ่งอาจไมเขากับการรับรูของคนอานก็เปนได

31


ขณะนี้เรากําลังตองการ ความชวยเหลืออยางจริงจัง จากคนที่จริงใจ ใครที่รูตัววาพอที่จะ

เขียนหนังสือหรือบทความได (คอลัมนนิสต),

มีกลองและถายรูปเปน (ชางถายรูป),

วาดรูปเปน พอใชโปรแกรมได (ศิลปกรรม),

อานหนังสือเกงและรูจักคําผิด (พิสูจนอักษร)

เราขอชวนมาทําทอรชดวยกัน. ใครที่สนใจจะมาทําทอรชดวยกัน ขอใหชวยแนะนําตัวเองสั้นๆ พรอมสงรายละเอียด (เรียนอยูภาคอะไร? ชั้นปไหนแลว? โทรติดตอไดที่เบอรไหน? เปนตน) เขามาที่ torch.larts@gmail.com กอนวันที่ 22 สิงหาคมนี้นะ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.