©ºÑº·Õè 18 »‚·Õè 2 ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
à¢Õ¹àͧ กอนที่จะเริ่มเรื่องอะไรก็ตามที่ผมจะนั่งพิมพตอจากนี้ ผมตองขอโทษทุกๆ คนที่เคยหยิบ Torch หลาย ฉบับที่ผมเปนบรรณาธิการมา (ที่จริงก็ทํามาแค 3 เลม เทานั้น) เพราะ Torch ฉบับเหลานั้นเต็มไปดวยขอผิด พลาดที่แมดูเหมือนจะเปนเรื่องเล็กๆ นอยๆ แตก็มีจํานวนเยอะมากจนกลายเปนเรื่องใหญที่ผมพลาดไป โดย เฉพาะฉบับลาสุด (กรกฏาคม 2552) ที่สรางความหงุดหงิดใจใหกับตัวผมเองมาก ฉบับที่แลวผมพลาดอะไรไป ทุกๆ คนก็คงจะเห็นได โดยที่ไมตองใหผมชี้ขอผิดพลาดนั่นใหดู ผมมีความฝนที่อยากจะทํา Torch ฉบับที่สมบูรณแบบ ไมมีขอผิดพลาดใดๆ มาสรางความหงุดหงิดใจ ใหกับตัวผมและทีมงาน ผมตั้งใจจะทําตามฝนนั้นมาตั้งแตแรกที่เริ่มมาทํา Torch แตผลงานที่ผานมาก็พิสูจน ใหเห็นแลววาฝนนั้นก็ยังคงเปนแคฝนอยู Torch ฉบับนี้ก็ยังเปนเรื่องจริงที่ไมถูกใจเหมือนในความฝน (ที่ดี) อยูดี เพราะแคตอนที่ผมพิมพอยูนี้ ก็ชากวากําหนดไปมากแลว ตอนนี้ผมเลยไดแคฝนตอไปวา ฝนของผมจะตองเปนจริงเขาสักฉบับหนึ่งใหได ทุกคนที่อานขอความขางบนนี้แลว อาจจะสังเกตไดวาผมตําหนิตัวเอง ใชครับ ผมชอบที่จะตําหนิและ วิจารณสงิ่ ตางๆ ทีอ่ ยูร อบตัวรวมไปถึงตัวผมเอง ผมอดไมไดทจี่ ะตองตําหนิสงิ่ ทีผ่ มไมชอบและไมพอใจ ซึง่ ความ ไมชอบและไมพอใจนี้ เกิดขึ้นจากเหตุผลที่ผมเอาเขาขางตัวเองเปนหลัก โดยไมคอยจะใสใจเหตุผลหรืออะไร ก็ตามที่อยูตรงขามกับเหตุผลของผม ผมใชตัวผมเองเปนใหญในการดาวาสิ่งตางๆ พฤติกรรมนีเ้ ปนพฤติกรรมทีไ่ มคอ ยจะนารักซักเทาไรเลย ผมรูต วั วามันเปนสิง่ ไมดี แตกอ็ ดไมไดจริงๆ ทีจ่ ะตองทําไปเองเปนประจํา จนยากทีจ่ ะเลิกได การทีผ่ มใหตวั เองเปนใหญถอื เปนการใชความคิดทีไ่ มยตุ ธิ รรม สําหรับสิ่งอื่นๆ เสียเทาไร นั้นเปนเพราะทุกสิ่งทุกอยางจะตองเกิดขึ้นตามความชอบของผมเทานั้น สิ่งที่ไมใช และผมไมชอบจะกลายเปนสิ่งที่ไรสาระและไมสวยงามสําหรับผม ทั้งๆ ที่จริงแลวสิ่งเหลานั้นอาจจะเปนสิ่งที่ งดงามและมีคาเกินกวาที่ผมจะรับรูไดดวยซํ้าไป ลองคิดตามผมดู ถาเกิดทุกอยางบนโลกใบนี้ (รวมไปถึงจักรวาลดวยก็ดี) จะตองเปนไปตามแตที่ผม ชอบและที่ผมคิดเทานั้น โลกใบนี้ก็จะเปนโลก (และจักรวาล) ของผม ถาหากทุกๆ คนคิดเหมือนผม โลกจะเปนเชนไร? ผมไมกลาคิดไปถึงขนาดนั้น เพราะผมกลัวที่จะตอง โดนคนอื่นมาดาวาบาง แตถาอยากรูนัก ก็ลองมองไปในสังคมรอบตัวคุณก็ได คุณนาจะพอสังเกตเห็นไดบาง ไมมากก็นอย เมื่อไดลองคิดดูอยางนี้แลว ผมคงตองยอตัวเองแลวยัดกลับเขาไปอยูในสมองและจิตใจของผม ใหตัว ของผมเล็กลงจะไดมีที่ใหสิ่งอื่นๆ ไดยนื ขึ้น เพื่อจะใหผมไดเห็นสิ่งเหลานั้นบาง เพื่อจะไดรูเรื่องราวและสาเหตุของสิ่งเหลานั้น เพื่อเขาใจสิ่งเหลานั้นมากขึ้น และเพื่อที่ผมจะไดไมไปดาวาสิ่งเหลานั้นตามใจชอบของผมอีกตอไป บรรณาธิการ - ขอขอบคุณ อ.อูทอง โฆวินทะ ที่ไดสละเวลามาชวยใหความรูกับพวกเรา มา ณ ที่นี่ดวย
2
inside ©ºÑº·Õè 18 »‚·Õè 2 ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
TEAM TORCH’s August 09 - บรรณาธิการ : ศศินทร วิทูรปกรณ กองบรรณาธิการ : โสภาพรรณ โยปนตา, กมลวรรณ เชาวอรัญ, ผณินทร แกวเงิน, นุดี มนูญดาหวี, ทิมา เนื่องอุดม, ชลิตา วัฒนศิริ นักเขียน : ประทุมรัตน นางแยม, วรรณวิษา แวนสอน พิสูจนอักษร : พีณา พิภพภิญโญ ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ : พิพัฒน วงษเสรี, พัทธมน เลิศตุรงคชัย, สลิล ตันศริสกุล อํานวยการผลิต : ฝายการนักศึกษา และ คณะกรรมการนักศึกษาคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ติดตอ : the-torch@hotmail.com
á»ÐºÍà ´ เรื่อง : หญิงสายลม
Congratulations! ขอแสดงความยินดีกับพี่ๆ บัณฑิตใหมรหัส 48 รั้วแมโดมทุกคนนะคะ การใชชีวิตวัย เรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปมันผานไปเร็วเหมือนกันใชไหมคะ บางคนคิดวา นี่คือจุดสิ้นสุดของการเปนนักศึกษาที่ ไดใชชวี ติ แบบอิสระภายใตกรอบทีต่ วั เราเองสามารถกําหนดได และในขณะเดียวกันนีค่ อื จุดเริม่ ตน ทีจ่ ะกาวขาม ไปสูวัยทํางาน วัยที่ไมมีตําราไหนเบ็ดเสร็จเอามาใชไดจริง ทฤษฎีอะไรก็ชวยไดไมถึง 40% ที่เหลือเปนการเรียน รูจากของจริงทั้งนั้น ซึ่งในวันนี้ “หญิงสายลม” มีกิจกรรมดีๆ ที่ชวยสงเสริมประสบการณดีๆ ฟรีๆ หาไมไดงายๆ มาฝากเพื่อนๆ ชาวศิลปศาสตรทุกคนคะ ทศไทย ประจําป 2552 การประกวดวงดนตรีระดับอุดมศึกษาชิงชนะเลิศแหงประเ เปดรับสมัครตั้งแต สิงหาคม – กันยายน 2552 โดยจะตองมีคุณสมบัติดังนี้ มศึกษาในประเทศไทย 1) ผูเขารวมการแขงขันตองกําลังศึกษาอยูในระดับอุด ง 2) ผูเขารวมการแขงขันตองเปนอิสระ ไมสังกัดคายเพล ตรี นดน า งด 3) ไมจํากัดอายุ เพศ แคมีความสามารถทา ย ย และในการสมัครเขารวมการแขงขัน ไมเสียคาใชจา *หมายเหตุ - ไมจํากัดจํานวนวงดนตรีแตละมหาวิทยาลั at2009.ob.tc/ ใดๆทั้งสิ้น หาขอมูลเพิ่มเติมไดจาก http://www.um
“โครงการตะวันสองอะวอรด ครั้งที่ 3 ประจํ าป 2552” ขอเชิญรวมประกวดเรื่องสั้นแนว ระทึกขวัญ หัวขอ “เมื่อความมืดมาเยือน” - เปนเรื่องสั้นที่แตงขึ้นใหม โดยใชภาษาไทย - เนื้อหาแนวระทึกขวัญ มีความสอดคลองกั บหัวขอ และใหตั้งชื่อเรื่องขึ้นมาใหม - ความยาวระหวาง 10 ถึง 15 หนากระดาษ เอ 4 - ตนฉบับเปนตัวคอมพิวเตอรขนาดตัวหนัง สือ 14 พอยท - ผลงานสงเขาประกวด ตองไมเคยไดรับการ ตีพิมพมากอน - ผลงานทุกชิ้นที่ไดรับรางวัลจะไดรับพิจารณ าตีพิมพรวมเลมในนามสํานักพิมพตะวันสอ ง สงผลงานไดจนถึง 30 พฤศจิกายน 2552 โดย นับเอาวันที่ประทับตราไปรษณียเปนสําคัญ ศึกษาขอมูลเพิ่มเติมไดจาก www.tawan-s ong.com หรือ โทรศัพท 02-7360225, 27, 29 กิจกรรมทัง้ สองกิจกรรม เปนอีกทางเลือกหนึง่ ทีจ่ ะชวยใหเพือ่ นๆไดประสบการณดๆี ในชีวติ แมบางครัง้ จะไมไดรับรางวัล แตเรายังไดประสบการณ อีกทั้งยังสามารถยืดอกอยางภาคภูมิใจไดวา ครั้งหนึ่งในชีวิตเราได ทําในสิง่ ทีเ่ ราอยากทําและทําดีทสี่ ดุ แลว ใชไหมคะ? ออ ชวงนีอ้ ากาศเปลีย่ นแปลงบอย เดีย๋ วรอนเดีย๋ วหนาว เดีย๋ ว ฝนตก เดี๋ยวแดดออก ดูแลรักษาสุขภาพดวยนะคะ จะไดมีกําลังกาย(ใจ) ที่จะเลือกทําในสิ่งตางๆที่ดี ที่อยากทํา ในชีวิตคะ - เพื่อนๆ คนไหนมีขาวกิจกรรมดีๆ ที่นาสนใจ มาฝากประชาสัมพันธผาน Torch ไดโดยไมเสียคใชจายใดๆ ทั้งสิ้น - สงรายละเอียดขาวมาไดที่ the-torch@hotmail.com หรือจะฝากมากับสมาชิก Team Torch คนไหนก็ไดนะ
4
»ÃШÓà´×͹ Sun.
Mon.
Tue.
Wed.
Thu.
Fri.
AUG
Sat.
9 0 ’ T US
12 สิงหาคม - วันแมแหงชาติ 13 สิงหาคม - วันรับพระราชทานประกาศณียบัตร 17 สิงหาคม - พิธีรับมอบทุนการศึกษาประจําปของคณะศิลปศาสตร 20 - 21 สิงหาคม - งานธรรมศาสตรวิชาการ’52 ณ ยิมเนเซียม 1 25 สิงหาคม - งาน L’Arts Club First Meeting
ä»=went เรื่อง : Azure
àªÕÂà âμŒ
ผานไปเรียบรอยแลวสําหรับงาน “เชียรโตระหวาง ตรระกูล” ของคณะเราชาวศิลปศาสตตร บรรยยากาศในงานปนี้ก็ยัง คงตื่นเตน ตื่นตาแและประทับใจผูชมเหมือนกับหลลายปที่ผานมา สวนรายละเอียดของการแแสดงและผลการแขงขันปนี้วาใครเปน ผูชนะ ขอใหติดตามตอไดในหนาตอไปนะคคะ 6
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
...แหลงศึกษารมเย็น...เดนริมสายชล...เราทุกคนรักดุจหัวใจ...ปลูกยูงทองไวเคียงโดม... เสียงนองๆ ป 1 ซอมรองเพลงดังกองไปทัว่ บริเวณลานคณะและโถง SC อีกครัง้ นึงกับการแขงขันเชียรโต ระหวางตระกูลของคณะศิลปศาสตร ที่ทั้ง 6 ตระกูลตางมาซอมกันอยางขยันขันแข็ง ไมวาจะเปนตระกูลสวนศิลป ลายสือ จิ๊งหนอง นํ้าพุ จอว หรือ ลานโพ แมวาปนี้พวกเราจะตองโยกยายกันไปแขงขันกันที่ บร.5 แทน เนื่องจาก บร.4 นั้นอยูระหวางการซอมแซมครั้งใหญ (เสียดายเหลือเกิน) แตนั่นก็ไมไดหมายความวาปนี้งานจะไมเขมขน เหมือนเคย บรรยากาศวันจริงนั้นเต็มไปดวยความตื่นเตน เขานัดกันที่หนาประตูตอน 6 โมงครึ่ง (แตเอาเขาจริงก็ สายตามเคย) นองๆ แตละตระกูลมานั่งรอกันอยางคับคั่ง ตางคนตางขนเอาอุปกรณเครื่องประดับตกแตง ที่แปลก ตามาประชันกันเต็มที่ เมื่อถึงเวลาอันสมควร (ซักที) ประตูก็เปดใหเขาไปนั่งรอใน บร.5 ได การประกวดในวันนั้นเริ่มดําเนินไปดวยการจับฉลากเลือกลําดับการแสดงและเพลงบังคับของแตละ ตระกูล ผูคนเริ่มทยอยมารวมมากขึ้นเรื่อยๆ จนทําใหพื้นที่ของหอง บร.5 ดูเล็กลงถนัดตา เริ่มการแสดง นองๆป 1 ก็ขึ้นไปวาดลวดลายและโชวเสียงรองกันอยางเต็มที่ ไมวาจะเปนละครลอเลียน อันเลื่องชื่อของจิ๊ง การแสดงทาหนาขาวขลังๆ ของจอว งานวัดและชิงชาสวรรคของนํ้าพุ คอนดักเตอรของลานโพ การเตนกุกกิ๊กของสวนศิลป และการแสดงของลายสือ ปนี้นอกจากการแสดงจะโดดเดนนาสนใจมากๆ แลว ก็ยัง ตองยอมรับและขอชมเชยวานองๆ รองเพลงไดดีจริงๆ ไมวาจะตระกูลไหนก็สามารถถายทอดการรองเพลงของ ตระกูลตัวเองออกมาไดเปนอยางดี สวนพี่ๆ ป 2 ก็บาเหอนองกันไปตามระเบียบ สงเสียงกรี๊ดตลอดทุกจังหวะจนดัง แบบไมเวนระยะ การแสดงขัน้ เวลาของ แกนตระกูลป 2 ดูเหมือนจะพยายามถวงเวลาจนโอเวอรไปหนอย แตกส็ รางสีสนั ใหเวทีไดอยางเหมือนทุกๆ ปทผี่ า นมา เมือ่ เวลาของการประกาศผลใกลเขามาทุกขณะ ทุกๆ คนตางก็เริม่ เขาสูอ าการ
7
เงียบ นิ่ง และอึ้ง ดวยความตื่นเตนจนทุกคนอาจจะลืมไปวา จุดประสงคของการจัดการแขงขันเชียรโตนั้น คือ เพื่อ ใหนองๆ ป 1 ไดเรียนรูและจดจําเนื้อเพลงประจํามหาวิทยาลัยไดและที่สําคัญกวาการรองเพลง คือ การสรางความ สามัคคีในตระกูลทั้งหลาย ไมใชการแขงขันเพื่อเอาชนะกันแตอยางใด เมื่อพี่ๆ แกนตระกูลป 3 ออกมากลาวคอมเมนกันบนเวที ทั้งติ ทั้งชม ทั้งยิงมุกกันเกลื่อนเวทีไปแลว ก็ ยิ่งเขาใกลวินาทีแหงการประกาศผลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทางผูจัดไดเชิญใหแกนคณะป 2 3 และ 4 ขึ้นเปนผูเชิญ เหรียญรางวัลทั้ง 3 อันดับ ในปนี้แขกที่ขึ้นมาเซอรไพรสทุกคนบนเวทีก็คือ พี่แมน แกนคณะรหัส 48 (ผูนารัก) โดย พี่แมนมาเปนผูประกาศผลรางวัล แมวาพี่แมนจะขอใชเวลาพูดถึงความรูสึกและขอคิดตางๆ ที่ตัวพี่เขามีตอการ แขงขันเชียรโต แตคําพูดของพี่แมนก็ทําใหหลายๆ คนตองนํ้าตาคลอดวยความซึ้งใจ และแลวในที่สุด เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพี่แมนเริ่มประกาศผลอันดับที่สาม ซึ่งปนี้ ลานโพและ สวนศิลปไดครองรวมกัน อันดับสองที่มิไดเปนรองใครไดแก จอว และสุดทายอันดับหนึ่งที่ยังคงความเนี้ยบไมตาง จากที่ผานมา ลายสือ นั้นเอง หลังจากการประกาศเสร็จสิ้นทั้งหองก็เต็มไปดวยบรรยากาศของความยินดี รอยยิ้ม ผสมนํ้าตาและเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นลั่นหอง เปนสัญญาณบอกวาการแขงขันปนี้สิ้นสุดลงแลว แตจากสปริตของนองๆ ทุกๆ คน ทุกๆ ตระกูล ถาหากวามีเหรียญเยอะพอ ก็อยากจะขอมอบเหรียญ รางวัลนัน้ ใหกบั ทุกๆ คนดวยความชืน่ ชมอยางยิง่ ใหทกุ คนไดเปนผูช นะทีอ่ ตุ สาหอดทนและเสียสละเวลามารวมฝก ซอมและรวมแสดงกันอยางเต็มที่ บทเพลงที่ขับรองประสานกันของนองๆ ป 1 ปนี้ ยังคงตราตรึงและไพเราะในใจพี่ๆ เหมือนกับทุกๆ ปที่ ผานมา ไมวาใครจะไดอันดับที่เทาไหรก็ตาม แตเพลงมหาลัยทุกๆ เพลงก็ยังจะคงเปนที่จดจําอยางสวยงามดวย ความพยายามของทุกๆคน แลวพบกันอีกปหนานะคะ
8
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
โครงการเตรียมความพรอม บัณฑิตคณะศิลปศาสตร ! E E R F “เทคนิค ิ้น
ใดๆ ทั้งส
าใชาจาย ค ย ี ส เ ม ไ
พิชิต TU-GET” “เตรียมตัว 25, 26, 27 อยางไรเพื่อไป สิงหาคม สอบ TOEFL iBT” 18, 19, 20 สิงหาคม “แนวการ สอบตะลุยโจทย “การ TOEIC” เตรียมตัวและ 8, 9, 15, 17 เทคนิคการสราง กันยายน ความประทับใจเมื่อ สัมภาษณงานเปน ารวมรับฟง ภาษาอังกฤษ” ผูที่สนใจสามารถเข ไดที่ หอง ศศ.242,243 1, 3 กันยายน ตึกคณะศิลปศาสตร ศูนยรังสิต ตั้งแต 15.00 น. เปนตนไป 9
LinguisticsLinguisticsLinguisticsLingu introduce เรื่อง : 3 in 1 ticsLinguisticsLinguisticsLinguisticsL guisticsLinguisticsLinguisticsLinguis sLinguisticsLinguisticsLinguisticsLin uisticsLinguisticsLinguisticsLinguist sticsLinguisticsLinguisticsLinguisticsL uisticsLinguisticsLinguisticsLinguistics guistics Linguistics Linguistics Lingui sLinguisticsLinguisticsLinguisticsLing หลายคนอาจเคยไดยินคําวา “ภาษาศาสตร” (Linguistics) แตนอยคนนักที่จะทราบถึงความหมาย ticsLinguisticsLinguisticsLinguisticsLi ที่แทจริงของศาสตรแขนงนี้และนับไดวา “ภาษาศาสตร” เปนศาสตรหนึ่งที่คนทั่วไปมักจะมีความ เขาใจที่ไมคอยถูกตองเทาไหร ทําใหเกิดคําถามที่มักจะเปนที่สงสัยวา “ภาษาศาสตร” นั้นคืออะไร uisticsLinguisticsLinguisticsLinguistics เรียนไปเพื่ออะไร จบแลวสามารถทํางานอะไรไดบาง หรือแตกตางจากสาขาภาษาอื่นๆอยางไร guisticsLinguisticsLinguisticsLinguist “ภาษาศาสตร” เปนวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีทางภาษาดานตาง ๆ ศึกษาการวิเคราะห ภาษาในระดับตาง ๆ ซึ่งไดแก เสียง คํา ประโยค และความหมาย การนําเอาความรูเกี่ยวกับภาษา sticsLinguisticsLinguisticsLinguisticsL ไปใชประโยชนในการเรียนการสอนภาษาใชในชีวิตประจําวัน ตลอดทั้งศึกษาภาษาในแงที่มีความ สัมพันธกับศาสตรแขนงอื่น ๆ เชน จิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา คอมพิวเตอร เปนตน uisticsLinguisticsLinguisticsLinguistics จะเห็นไดวาการศึกษาวิชาภาษาศาสตรเปนการศึกษาตัวเนื้อหาภาษาในเชิงวิเคราะหเพื่อเปนฐาน ความรูใหนําไปประยุกตใชตอไปในศาสตรตาง ๆ ซึ่งจะแตกตางไปจากการศึกษาในสาขาภาษา guistics Linguistics Linguistics Lingui อื่นๆ เชน การฟง การพู ด การอาน การเขียน เพื่อนําไปใช ใหไดในชีวิตประจําวัน sLinguisticsLinguisticsLinguisticsLing ผูที่เรียนภาษาศาสตรไมใชเปนผูที่เรียนพูดภาษาตางๆ อาจจะมีนักภาษาศาสตรที่พูดภาษา อื่นไดดีแตก็มีนักภาษาศาสตรสวนมากที่พูดไดแคภาษาของตัวเอง ภาษาศาสตรเปนศาสตรที่ ticsLinguisticsLinguisticsLinguisticsLi ศึกษาธรรมชาติของภาษา กลาวคือลักษณะของภาษาของมนุษยนั่นเอง uisticsLinguisticsLinguisticsLinguistics guisticsLinguisticsLinguisticsLinguist 10
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
guisticsLinguisticsLinguisticsLinguisจะเห็นไดวาไมมีการเรียนการสอนภาษาศาสตรเพิ่มเติมจากขางนอกมากนัก กลาวคือ sLinguisticsLinguisticsLinguisticsLinภาษาศาสตรไมใชการเรียนเพื่อการอาน การพูด การฟง หรือการเขียนภาษาใดภาษาหนึ่ง จึงไม สามารถหาเรี ยนพิเศษไดตามสถานที่เรียนกวดวิชาทั่วไป และเปนที่นาภาคภูมิใจอยางยิ่งสําหรับ sticsLinguisticsLinguisticsLinguisticภาควิชาภาษาศาสตร ที่มีการเรียนการสอนสาขาภาษาศาสตรตั้งแตปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก สาขาเดียวในคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร inguisticsLinguisticsLinguisticsLingหากอานมาจนถึงตรงนี้แลวคิดวาจบจากสาขานี้แลวจะหางานทําไดยาก ก็เปนเรื่องเขาใจผิด sticsLinguisticsLinguisticsLinguistics อีกประการหนึ่ง ในหลักสูตรบังคับใหมีการเรียนภาษาตางประเทศหนึ่งภาษา ซึ่งนับเปน ผลพลอยไดที่นักศึกษาเอกนี้จะไดเรียนทั้งภาษาศาสตรและภาษาต างประเทศ ทําใหมีความรูความ LinguisticsLinguistics LinguisticsLingเขาใจในศาสตรอื่นมากกวาเรียนภาษาอยางเดียว csLinguisticsLinguisticsLinguisticsLinเมื่อสําเร็จการศึกษาแลวสามารถนําความรูทางภาษาศาสตรไปใชประโยชนทั้งทางตรงและ ทางอ อ มในอาชีพตาง ๆ อาทิ uisticsLinguisticsLinguisticsLinguistic- นักวิจัยภาษา ทั้งวิจัยพื้นฐานและวิจัยประยุกต - อาจารยสอนภาษา ไมวาจะเปนอาจารยสอนภาษาศาสตรโดยตรง อาจารยสอนภาษาไทย guisticsLinguisticsLinguisticsLinguisภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ การเปนอาจารยสอนภาษาตาง ๆ นั้น นอกจากจะสอนภาษาแลว ยัง สามารถนําความรูทางภาษาศาสตรมาชวยแกไขปญหาใหกับผูเรียนไดอีกดวย LinguisticsLinguisticsLinguisticsLing- ผูใหการบําบัดและการฝกพูดใหกับผูมีความบกพรองในการออกเสียง อันเนื่องมาจาก ความผิดปกติทางอวัยวะหรือสมอง csLinguisticsLinguisticsLinguisticsLin- อาชีพที่เกี่ยวของกับการใชภาษา เชน นักเขียน นักหนังสือพิมพ นักโฆษณาประชาสัมพันธ นักพูด ผูประกาศขาว พิธีกร นักแสดง นักพากย เปนตน sticsLinguisticsLinguisticsLinguistics อาชีพตางๆ ที่เกี่ยวของกับการใชภาษาดังตัวอยางขLinguisticsLingางตน สามารถนําความรูทาง LinguisticsLinguistics ภาษาศาสตรมาประยุกตใชเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทํางาน ซึ่งจะทําใหประสบความสําเร็จ สูงสุดในอาชีพได csLinguisticsLinguisticsLinguisticsLinของฝากอยากแถม uisticsLinguisticsLinguisticsLinguisticพี่อยากใหนองเปดใจรับสิ่งใหมๆเขามาในชีวิตแลวนองจะคนพบวา สิ่งที่เราไมเคยรูหรือไม คิดจะอยากรูเลยแมแตนอย ก็อาจเปลี่ยนชีวิตนองได การเรียนในสิ่งที่ไมเปนที่นิยมไมได guisticsLinguisticsLinguisticsLinguisหมายความวาเราจะหางานทําไมได หรือดอยกวาคนอื่น เพราะในทางกลับกันการเรียนในสิ่งที่ ยากและไมเปนทีน่ ยิ มกลับทําใหเราเปนทีต่ อ งการของตลาด และอาจหางานงายกวาคนอืน่ ๆดวยซํา้ LinguisticsLinguisticsLinguisticsLingดวยความปรารถนาดีคะ csLinguisticsLinguisticsLinguisticsLinsticsLinguisticsLinguisticsLinguistics 11
วรรณกรรมและดนตรีิ การสนทนากับอาจารยอูทองในครั้งนี้ ทําใหเรา เรียนรูหลายเรื่องราวเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร แตเราเอง ก็ยังสงสัยและงงงวยในหลายประเด็นที่อาจารยเอยถึง และขอความตอจากนี้ไป เปนความเขาใจที่เราไดรับมา จากการสนทนากับอาจารยอูทองในวันนั้น
¸ÕÁ ·ÍÃ ª เรื่อง : ทีมทอรช
ความงามนั้นจะเปนเชนไร ขึ้นอยูกับมุมมอง ของแตละคนจริงหรือ?
ประโยคนี้เปนประโยคที่นาจะอธิบายใหเราเขาใจ เรื่องความงามไดบาง เพราะความสวยงามที่ขึ้นอยูกับ แตละคน บางคนชอบสีแดงตึกสีแดงก็สวย บางคน เกลียดสีแดงก็จะบอกวานาเกลียด แตถาความงามเปน สิ่งที่ขึ้นอยูกับความชอบสวนตัวแลว เราจะรูไดยังไงวา อะไรคือความงามที่แทจริง การที่จะตัดสินใจวาอะไรงามนั้น เราจําเปนตอง ตัดสินโดยไมนําเอาความชอบสวนตัวมาเปนตัวตัดสิน การจะตัดสินใจวาสิ่งไหนงาม จําเปนตองดูจากองค ประกอบตางๆ ไมวาจะเปนการจัดวางองคประกอบ ดูที่ ความสัมพันธขององคประกอบในสิง่ ๆ นัน้ วามีมติ มิ คี วาม เขากันหรือไมอยางไร “เราจะตัดสินไมไดวา ทีว่ า สวยนัน้ เปนเพราะคุณชอบสีชมพูและภาพนัน้ มีสชี มพูพอดี คุณ เลยใหคาวาภาพนั้นสวย ถาเราทําเชนนั้นแลวความ สวยงามนั้นก็อาจจะสวยอยูในหัวของเราคนเดียวก็ได การพิจารณาความงามก็ดูที่เนื้องานของงานศิลปเพียง อยางเดียว เสมือนเราเปนตัวแทนของคนทุกคนไมมีผล เสียจากการตัดสิน ไมมีอคติสวนตัวหรือผลประโยชน ใดๆ มาเกี่ยวของ แตการที่เราสามารถตัดสินในลักษณะ “ไรอคติ” หรือที่ Kant (นักปรัชญาชาวเยอรมัน ในศตวรรษที่ 18) เรียกวา Disinterested นัน้ เนือ่ งจากเรามีประสาทสัมผัส สามารถรับรูได การที่เราสามารถเห็นไดเหมือนกันหมดทุกคนนั้น เปนเพราะเราเปนมนุษยที่มีองคกรการรับรูเหมือนกัน ถ า จะให เ ปรี ย บเราก็ เ หมื อ นกั บ คอมพิ ว เตอร ที่ ถู ก โปรแกรมมาตัง้ แตแรกวาเรามีสมั ผัสทัง้ 5 บวกความคิด ความเขาใจ ทําใหเรารับรูเ หมือนกัน เชน เราจะเห็นอะไร ไดสิ่งนั้นตองกินที่และกินเวลา
เวลาคุณไปไหนมาไหน พวกคุณเคยบางหรือเปลา ที่จะมองดูรอบตัว แลวเริ่มวิจารณตําหนิสิ่งตางๆ ที่พวก คุณเห็น ที่มีทั้งไปในแนวชื่นชม “ดอกไมนี่สวยจังเลย” “ตึกนี่รูปทรงสวยมาก” “เลือกสีไดสวยจัง” และแนว ตําหนิ “ตึกบาอะไรไมเห็นสวย” “ทําไมสีมันบาดตา ขนาดนี”้ “ดอกไมนดี่ นู า เกลียด” ถาพวกคุณเคยไมวา จะ ทั้งชื่นชมหรือดา ก็แสดงวาพวกคุณมีความสามารถใน การรับรูหรือสัมผัสความงามของศิลปะไดบาง เพราะ อยางนอยที่สุด พวกคุณก็สามารถมองความสวยงามที่ ธรรมชาติและมนุษยไดสรางขึ้นเพื่อโลกใบนีิ้ แตอะไรเลา ทีจ่ ะมาระบุวา ผลงานชิน้ ตางๆ เหลานัน้ เปนผลงานที่งดงามหรืออัปลักษณ? เพราะสําหรับบาง คนแลว ถวยชาทีบ่ ดู เบีย้ วกลับเปนสิง่ ทีง่ ดงาม ขณะทีค่ น บางคนมองวาตองเปนแกวกาแฟลายหรูหราเคลือบทอง เทานั้นที่เขาจะเรียกวาสวย
ฉะนั้นอะไรคือสิ่งที่สวยงาม?
และเพราะเจาความไมรนู แี่ หละ ทีน่ าํ ทางให เราไปนั่งสนทนากับอาจารยอูทอง โฆวินทะ อาจารยผู ไดสอนวิชาสุนทรียศาสตร อาจารยผทู ไี่ มไดเพียงแคสอน อยางเดียว แตยังดํารงชีวิตอยางมีสุนทรียะ อีกทั้งยังมี ความสนใจอย า งยิ่ ง ในด า นศิ ล ปะ ทั้ ง วิ จิ ต รศิ ล ป
12
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
หลากหลายความงาม
ดังนัน้ การจะตัดสินใจเรือ่ งความงาม เราจําเปนทีจ่ ะ ตองพิจารณาเรื่องเนื้องานของสิ่งนั้นเทานั้น โดยไมเอา เรือ่ งอืน่ ๆ เชน เรือ่ งของประโยชนหรือราคาของสิง่ ๆ นัน้ ถาเราดูแตตัวเลขที่ปายราคาสูงๆ แลวเราบอกวาสวย เราก็จะไมไดพจิ ารณาคาของสิง่ นัน้ ดวยตัวของสิง่ นัน้ แต เรากําลังพิจารณาดวยสถานะทางสังคมทุนนิยมที่อะไร ก็ตามทีม่ ตี วั เลขสูงๆ สิง่ นัน้ คือสิง่ ทีส่ วย ถาเปนเชนนีแ้ ลว สิง่ ทีส่ วยคงเปนตัวเลขมูลคามากกวาทีจ่ ะเปนความงาม ของสิ่งๆ นั้น หรือเอาเรื่องของอคติความชอบสวนตัวมา เปนตัวตัดสิน สิง่ ทีส่ าํ คัญมากในการตัดสินเรือ่ งความงาม คือ การ ยอมรับความคิดที่แตกตางกับคนอื่นๆ ได “เราตอง สามารถที่จะแลกเปลี่ยนระหวางกันได โดยที่ไมตอง ทะเลาะเบาะแวงกันหรือผิดใจกัน คนที่สามารถเขาใจ ความงามหรือศิลปะทีแ่ ทจริง จะรูว า ศิลปะและความงาม นั้นหลากหลาย เราตองยอมรับความแตกตางของสิ่ง ตางๆ ได” ถาเราเขาถึงความงามและศิลปะ เราจะเขาใจ และยอมรับความแตกตางได “ความงามไมไดมมี ติ เิ ดียว แตมีหลากหลายรูปแบบมาก การเปนคนที่มีศิลปะอยู ในจิตใจจะทําใหเราเปนคนละเอียดออน เขาใจความ หลากหลายของสิ่งตางๆ ซึ่งเปนสวนประกอบของโลก และสังคม >
Marceal Duchamp
13
Marceal Duchamp ศิลปนอิสระชาวฝรัง่ เศส ผูท สี่ รางงานออกมาใหเราคิดวา “อะไรคือศิลปะ?” เขา ทําใหคนอื่นตองตื่นตะลึง เพราะคนสวนใหญบอกวา งานศิลปะจะตองทําดวยมือ ดวยความประณีต ดวย ความสามารถ แตเขาดันเอา ‘โถฉี่’ ที่ผลิตจากโรงงาน สงเขาประกวดเพื่อจัดแสดงที่ New York เขาตั้งชื่อผล งานชิ้นนี้วา Foutain (1917) แลวเขียนชื่อผูสรางวา R.Mutt กรรมการไมอนุญาตใหจัดแสดงงานชิ้นนี้ เพราะงานชิ้นนี้เปน Readymade มันเปนสิ่งของที่มี คนทําขึ้นแลวเอามาใช มันเปนงานศิลปะไมไดเพราะ ศิลปนไมไดเปนผูสรางขึ้นเอง ฉะนั้นแลวหลังจาก Marceal Duchamp เลยเปดศักราชใหมของานศิลปะ ผูค นจึงนิยมเอา readymade มาเปนสวนหนึง่ ของงาน ศิลปะ Duchamp เปนศิลปนที่ตอตานคานิยมเกาๆ และยังเปนคนทีม่ อี ารมณขนั ชอบใสเรือ่ งสนุกๆ ในงาน ของเขาเสมอ อยางผลงานที่ชื่อ “L.H.O.O.Q.” (1919) ที่เขานํารูป Monalisa มาเติมหนวดและเคราใหเธอ เรื่องสนุกอยูตรงที่ชื่อ “L.H.O.O.Q.” ถาอานออกเสียง เปนภาษาฝรัง่ เศสจะได “Elle a chaud au cul” มีความ หมายเปนภาษาอังกฤษวา “She’s got hot ass.”
ศิลปะอยูรอบตัวเรา
การที่กลาววาศิลปะอยูรอบตัวเรา แสดงวาเราไม จําเปนตองไปพิพธิ ภัณฑเพือ่ เสพศิลป ถาหากเปนคนที่ มีศิลปะ แคเดินบนถนนที่มีรอยแตกราว เขาก็สามารถ ที่จะเห็นความงามของรอยแตกนั้นได เพราะความงาม ไมไดอยูที่ตัวสิ่งของแตอยูที่ตัวเรา ความสามารถรับรู และตัดสินวาอะไรงาม เหมือนที่ Kant บอกกับเราวา “พระอาทิตยตกและขึ้นทุกวัน ความงามไมไดอยูที่ ตัวพระอาทิตย แตอยูที่ผูรับรูบอกวางาม” ฉะนั้นความ งามนาจะขึ้นอยูกับผูรับรูที่มีความละเอียดละออน มิใช ตัววัตถุ ฉะนัน้ สําหรับเขาผูน ศี้ ลิ ปะดูจะอยูร อบตัวเขาใน ขณะทีบ่ คุ คลอืน่ ที่ ‘หยาบ’ ตอการสัมผัสก็ไมสามารถมอง เห็น ศิลปะไมไดจําเปนตองอยูในพิพิธภัณฑเทานั้น แต มันอยูรอบตัวเรา การที่จะบอกวาศิลปะอยูรอบตัวเรา อาจเปนคําพูดที่ไมมีความหมายสําหรับคนที่ไมเขาใจ แตสาํ หรับผูท ี่ ‘ละเอียดละออน’ ในการสัมผัสคําๆ นีด้ จู ะ มีคา ความงามดูเสมือนวาจะเปนเรื่องที่อยูกับตัวเราใน ทุกๆ ที่ แตถาเราไมเขาใจหรือมองไมเห็นมันแลว ความ งามก็ ค งเป น แค เ รื่ อ งไร ค า ที่ ไ ม ต อ งเสี ย เวลามานั่ ง ทําความเขาใจอีกตอไป
สงครามโลกครั้งที่ 2 ไมนานเทาไร Walter Gropius สถาปนิกชาวเยอรมันเปนผูกอตั้ง Bauhaus (Building House) ตั้งใจจะกอตั้งโรงเรียนสอนศิลปะที่รวม เอางานศิลปะตางแขนงมาสอนรวมกัน ไมวาจะเปน สถาปตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ออกแบบสงิ ของ ตางๆ เปนตน ซึง่ ถือเปนแนวคิดทีล่ าํ้ หนามากในสมัยนน้ การที่เปนโรงเรียนที่สอนศิลปะเกือบทุกแขนง ทําให ผลงานการออกแบบที่เกิดจากโรงเรียนนี้มีลักษณะที่ สวยงามและที่สําคัญคือสามารถนําไปใชงานไดอยางมี ประสิทธิภาพอีกดวย การเรียนการสอนที่ Bauhaus เนน ใหผสู อนและผูเ รียนไดพดู คุยกันใหมากทีส่ ดุ เพราะเขา เชื่อวาการพูดคุยจะเปนการเรียนรูที่ดีที่สุด ตางฝายจะ ไดแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ ผูเรียนจะไม ไดรับเพียงแคความรูอยางเดียว แตยังจะไดฝกคิด ฝก วิเคราะหตามผูสอนอีกดวย ผูที่จะมาสอนที่ Bauhaus จะตองรับการเชิญจากทางโรงเรียนเทานั้น เพราะทาง โรงเรียนตองการแตผูที่มีความสามารถทางศิลปะหรือ การออกแบบจริงๆ
Bauhaus Bauhaus เปนโรงเรียนสอนศิลปะที่ถูกตั้ง ขึ้นในป ค.ศ. 1919 ชวงที่ยังมีกลิ่นอายของสงครามโลก ครั้งที่ 1 อยู กอนจะถูกปดไปในป ค.ศ. 1933 กอน
14
Andy Warhol Andy Warhol ศิลปน นักวาดรูป ชางถายภาพ ผูกํากับ ภาพยนตร นักเขียน ชาวอเมริกนั ผูเ ปนจุดเริม่ ตนของศิลปะรูปแบบใหม ที่รูจักกันดีวา Pop Art ผลงานของเขาเปนที่รูจักกันอยางกวางขวาง ถา ใครคิดไมออก ก็ขอใหลองนึกถึงรูปของ Marilyn Monroe (1967) ที่ถูก แตงแตมดวยสีสดใสบาดตา หรือไมก็รปู กระปองซุปแคมเบลส (Campbell’s Soup Can)เขาคนนี้เปนอีกคนที่ทําใหศิลปะนั้นกระจายจาก พิพิธภัณฑไปสูถนนที่ใครๆ ก็เห็นได ที่สําคัญคือการที่เขาตั้งคําถาม ประมาณวา “จําเปนหรอ? ทีง่ านศิลปะจะตองมีอยูแ คชนิ้ เดียว?” แลวเขา ก็พิสูจนออกมาดวยการพิมพภาพที่เหมือนกันออกมาพรอมกันจํานวน มาก จากนั้นก็ถามวา “ชิ้นไหนละที่เปนศิลปะ?”
15
“Art does not reproduce what we see; rather, it makes us see.”Paul Klee
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
Apollo and Nine Muse, HENDRICK VAN BALEN
Muses
Leonardo Da Vinci
“Art is never finished, only abandoned.”
ปล. คําวา Muse ในภาษาอังกฤษยังใชเปนคําแทนผูที่เปนแรงดลใจ หรือ สิ่งของที่ ทําใหเกิดความคิดในการสรางสรรคผลงาน อยางเชน บทกลอน หรือ เนื้อเพลง เปนตน
“โอย....เขียนตนฉบับไมออก.......ทํายังไงดี!!!” ใชสมอง นั่งสมาธิ...ติ๊ก....ติ๊ก....ติ๊ก...ติ๊ก...(และอีกหลายติ๊ก...ที่ตามมาอีกมากมาย) จนกระทั่ง>>>”ปง!!! คิดออกแลว” อาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคุณมั้ย? แลวถาเคยมันเกิดขึ้นบอยแคไหนกัน? ตนตอของแรงบันดาลใจที่จูๆ ก็ผุดพรวดขึ้นมาในความคิดนี้มาจากที่ไหนกัน อะไรเปนสาเหตุที่ทําใหอยูดีๆ เราก็สามารถ “ปง” ขึ้นมาได หากเราสามารถตอบคําถามนี้ใหคุณได ถาเราจะบอกวามันเปนเสียงกระซิบของเหลาเทพธิดาที่มีชื่อวา มิวส (Muses) ละจะเชื่อมั้ย? ในเทพนิยายกรีกมีนางฟาที่มีหนาที่คอยดูแลและสรางแรงบันดาลใจใหกับเหลาปวงเทพและมวลมนุษย พวกเธอเหลานี้ คือ เหลาเทพธิดามิวส พวกเธอเปนลูกสาวของ นิโมซิเน (Mnemosyne) กับ ซูส (Zeus) เทพพระเจาผูปกครองเทือกเขาโอลิมปส (Mount Olympus) มิวส (Muses) ประกอบไปดวยเหลาเทพธิดา 9 องค ที่คอยสรางสรรคและดลใจใหผูคนทั้งหลายไดรูสึกถึงความบรรเจิด และถายถอดออกมาในรูปแบบตางๆ พวกเธอ คือ แรงดลใจที่สรางความวิจิตรใหกับ กวี นักแตงเพลงและศิลปนทั้งหลาย เรียกไดวาพวกเธอเปนตัวแทนความหลากหลายของศิลปะและศาสตรแขนงตางๆ โดยแยกออก เปน 9 แขนงตามความชอบและถนัดของแตละองค นอกจากนี้เหลา มิวส ยังเปนสหายเหลาเทพ เกรซ (Grace) ผูเปนเทพแหงแรงดลใจรุนกอน และยังเปนคนสนิท หรือ คนรักของเทพอพอลโล (Apollo) ผูหลงใหลในดนตรีและศิลปะ
Muses
มิ ว ส อ งค ที่ ห า เป น มิ ว ส แ ห ง โศกนาฏกรรม (Tragedy) เธอมีสัญลักษณประจําตัว คือ หนากาก แสดงสี ห น า เศร า ที่ มั ก จะใช ใ นการแสดงละคร โศกนาฏกรรมอยูเ สมอ เธอมักถูกพบเห็นในเครือ่ ง แตงกายของนักเลนละครโศก สวมมงกุฎที่ทําจาก ใบสนและโดงดังในการดลใจใหกวีสามารถแตงบท รอยกรองที่สวยงามไพเราะได
เมลพอมินี (Melpomene)
เอราโต (Erato)
ชือ่ ของเธอแปลไดวา ความตองการ “Desired” มีรากศัพทมาจากที่เดียวกันกับคําวา “Eros” หรือ “Erotic” เธอเป น มิ ว ส แ ห ง กวี นิ พ นธ รั ก (Love Poetry) และในบางครั้ง ความใคร (Lust) มีสัญลักษณประจําตัว คือ พิณเจ็ดสายที่เรียก วา คิธารา (Cithara) ซึ่งเธอเปนผูคิดคนขึ้นเอง
มิวสองคที่สอง ยูเทอรเพเปนมิวสแหงดนตรี และกวีนิพนธคีตกานต (Music and Lyric Poetry) เธอมีฉายาวา ผูใหความสําราญ “Giver of the Delight” เธอหลงใหลในเสียงดนตรี โดยเฉพาะ เสี ย งฟลุ ต จึ ง มี ตํ า นานว า เธอว า เป น ผู ที่ คิ ด ค น Double Flute หรือ Aulos ขึ้น ยู เ ทอร เ พ ถู ก ทํ า ให ท อ งโดย สไตรมอน (Strymon) เทพเจาแหงแมนํ้า และมีสัญลักษณ ประจําตัวเปนขลุยและเครื่องออลอส (Aulos)
ยูเทอรเพ (Euterpe)
เปนองคแรก ที่ไดชื่อวาหลักแหลมที่สุดใน บรรดาพี่นองทั้งหมด เธอเปนมิวสแหงกวีนิพนธ มหากาพย (Epic Poetry) ที่โดงดังในฐานะที่เปน แรงดลใจใหกับยอดกวีโฮเมอร (Homer) เธอไป ดลใจใหโฮเมอรแตงมหากาพย อีเลียต และ โอดิสซี (Iliad and the Odyssey) ขึ้นไดจนสําเร็จ แคลไลโอพี จะมี สั ญ ลั ก ษณ ป ระจํ า ตั ว คื อ กระดานชนวน และจะมีมว นกระดาษกับหนังสืออยู ในมือ นอกจากนี้เธอยังสวมมงกุฎสีทองเอาไวบน ศีรษะของเธออีกดวย เธอเป น หนึ่ ง ในคนรั ก ของ อาเรส (Ares) เทพเจาแหงสงคราม
แคลไลโอพี (Kalliope)
มิวสแหงบทเพลงสดุดปี วงเทพ (Choral poetry or Sacred poetry) และเปนผูดลใจใหเกิดการเลน ละครใบ (Pantomime) นอกจากนี้แลว เธอยังเปน เทพแหงการเกษตรอีกดวย เธอมีสัญลักษณประจํา ตัว คือ ผาคลุมศีรษะ เธอถูกพรรณนาเอาไวในกลอนวา เปนผูที่มี ลักษณะความจริงจังมาก เรามักจะพบเธออยูในทา ครุนคิดและตรึกตรองอยูตลอดเวลา ทาประจําของ เธอ คือ การเอาปลายนิ้วชี้แตะไวที่มุมปาก (เหมือน จิ๊งหนองคนดังของคณะศิลปศาสตรเลย) ในบางครั้ง โพลิฮิมเนีย ก็ไดรับการยกยองให เปน มิวสแหงเรขาคณิต (Geometry) อีกดวย
โพลิฮิมเนีย (Polyhymnia)
มิวสลําดับที่สาม เปนมิวสแหงประวัติศาสตร (History) เธอไมคอยมีเรื่องราวที่นาตื่นเตนเทาใด นัก เธอคงจะตั้งใจทําหนาที่ของเธออยางดี จนไมมี เวลาทําเรื่องอื่นๆ ไคลโอมีสัญลักษณประจําตัว คือ มวนกระดาษ และหนังสือ
ไคลโอ (Klio)
ชื่อของมิวสองคนี้สามารถแปลไดวา ความ หรรษาแหงการเริงระบํา (Delight of Dancing) เธอ เปนมิวสแหงนาฏศิลป (Dance) เธอมักจะอยูในทา นั่งและถือสัญลักษณประจําตัว คือ พิณไลร (Lyre) เอาไวในออมแขน
เทิรปซิคอเร (Terpsichore) เปนมิวสแหงสุขนาฏกรรม (Comedy) และ กลอนชมธรรมชาติ (Idyllic Poetry) ชื่อของเธอมี ความหมายวา ความเจริญรุง เรือง เฟอ งฟูและมัง่ คัง่ (Flourishing) เพราะคํากลอนในบทเพลงของเธอ นัน้ เฟอ งฟูและรุง เรืองไปตามกาลเวลา เธอมักจะถือ สัญลักษณประจําตัว คือ การถือหนากากหนายิ้มที่ ใชในการแสดงละครสุขนาฏกรรมอยูในมือพรอม กับไมเทาของคนเลี้ยงแกะและพวงเถาไอวี่
ธาเลีย (Thalia) มิวสองคสุดทาย มิวสแหงดาราศาสตรและ โหราศาสตร (Astronomy and Astrology) ยูเรนิอา สามารถทํ า นายถึ ง อนาคตได โ ดยอ า นการ เปลี่ ย นแปลงของดวงดาวบนท อ งฟ า เธอมี สัญลักษณประจําตัว คือ ลูกโลกและเข็มทิศ ผูท ใี่ สใจ ในสรวงสวรรคและปรัชญาคือคนโปรดของเธอ
ยูเรนิอา (Urania)
’s QUIZ
4.ศิลปะ สําหรับค
ุณคืออะไร
คนอยางคุณ เหมาะจะ เปนศิลปนใน ยุคใด?
ก.ความภาคภูมิใจของมนุษย ข.ความงามที่จับตองได ค.ความคิดสรางสรรค ง.ศิลปะ จ.ความเคารพในสิ่งที่สูงสง 5.ถาคุณเจอรังนกตกลงมาจากตนไม คุณจะ ก.สงสัยวาถารังนกวางอยูในองศาที่ดีกวานี้มันคงไม ตกลงมา ข.เชื่อวาเปนไปตามประสงคแหงเบื้องบน ค.นกมันจะตองสรางรังใหมที่มั่นคงกวานี้ไดแนๆ ง.ชื่นชมกับสายลมโบกพัดยอดไมและเสียงนกรอง จ.เฉยๆ ก็เปนเรื่องของนกมันอะนะ 6.ความรักของคุณเปนแบบใด ก.รักออกแบบไมได ข.รักในสิ่งที่เปน ค.รักโดยปราศจากขอแม ง.รักดวยสมอง จ.รักในอุดมคติ 7.คนรอบขางมองวาคุณเปน ก.มนุษยอเนกประสงค ข.คนดีที่โลกรอ ค.พวกฝนเฟอง ง.นักสิทธิมนุษยชน จ.คนไมพิเศษ
ีเลนคําถามในแตละขอ วิธตอบ
แปลคําตอบของคุณเปนตัวอักษร ตางๆ อานขอสรุปโดยดูจากอักษรตัว ที่คุณไดซํ้ามากที่สุด
1.คําจัดความของ “มนุษย” ที่คุณเห็
นดวย คือ ก.ฉายาของพระเจา ข.ไมยอมแพตอชะตาชีวิต ค.ความรูสึกเปนใหญ ง.ทุกอยางเริ่มตนที่ความคิด จ.อยูกับปจจุบัน มากที่สุด 2.สัตวชนิดใดแสดงถึงความเปนคุณ ก.หมู ข.แกะ ค.วัว ง.กระทิง จ.นกฮูก 3.อะไรแทนความเปนตัวคุณไดดี ก.ผลแอปเปล ข.เงาะกระปอง ค.ตนมะกอก ง.ดอกกุหลาบ จ.พุมไมหนาม
เฉลย
21
ขอ 1 ก B ขอ 2 ก ขA คD งC จ E E ขอ 3 ก ขB คA งD จ C C ขอ 4 ก ขE คA งD จB A ขอ 5 ก ขE คC งD จB C ขอ 6 ก ขB คA งD จ D B ขอ 7 ก ขE คB งC จA C ขB คD งA จE
Ralph Waldo Emerson
คําตอบ
“Love of beauty is Taste. The creation of beauty is Art.”
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
คุณเหมาะกับยุคคลาสสิก คุ ณ ให ค วามสนใจกั บ คุ ณ ค า ความเปนมนุษย เคารพในสิทธิ เสรีภาพ และยังเชือ่ มัน่ วาความ สําเร็จเกิดจากการลงมือทํา คุณเหมาะกับยุคกลาง คุณเชือ่ ในความดี มีศรัทธาทีแ่ รง กลา ในขณะเดียวกันก็ใหความ สําคัญกับความออนโยน ความ เคารพในสิ่งที่คุณยึดมั่น
คุณเหมาะกับยุคเรอเนสซองส คุณกลาคิดกลาทํา เห็นคุณคา ของสิ่งที่มีอยู แตรักที่จะพัฒนา สิ่งใหมๆ ชอบในความสามารถ ที่หลากหลายของบุคคล คุณเหมาะกับยุคโรแมนติก ตั ว ตนของคุ ณ ไม จํ า เป น ต อ ง เหมือนใคร มีโลกสวนตัวสูง ชอบทําตามความพอใจ ไม คอยมีเหตุผล รักในอุดมการณ
คุณเปนคนยุคใหม เนนชีวิตที่ไมพึ่งพาใคร รักความ สะดวกสบาย ชอบมองหาชองชิ้น ใหม คุณมีชีวิตที่อาจไมโดดเดน แตอยูบนพื้นฐานของความจริง คําเตือน ควิซนี้เกิดจากขึ้นความคิดและจินตนาการของผูสรางควิซ เทานั้น ไมสามารถนําไปอางอิงหรือตอบขอสอบวิชาใดได
21
Rate-Arts เรื่อง : Johnnie Walker
The Prestige
ศิลปะกลการลวง หากคุณเปนคนหนึ่งที่นิยมชมชอบภาพยนตแนว “หักมุม” รับประกันไดเลยวาภาพยนตเรื่อง “The Prestige” มีการหักมุมใหคุณเกินพอ การดําเนินเรื่องที่ลึกลับฉับไวจะตรึงคุณใหติดอยูกับการชิงไหวชิงพริบดวยลูกลอลูกชน ที่บอกใบใหสมองตองขบคิดอยูตลอดทั้งเรื่อง แตสุดทายแลวสิ่งที่คุณคิดวาใช อาจจะเปนคําตอบวาไมก็ได Abracadabra !!! เตรียมตัวเตรียมใจใหพรอมแลวตามเรามา .... ในกรุงลอนดอน ปลายศตวรรษที่ 19 Robert Angier (Hugh Jackman) และ Alfred Borden (Christian Bale) เริม่ ตนชีวติ นักมายากลของพวกเขาพรอมๆ กัน ทัง้ สองแสดงเปนตัวประกอบในคณะมายากลแหงหนึง่ Angier พอใจ กับการแสดงกลแบบเดิมๆ แต Borden กลับคิดวากลแบบเกานัน้ จําเจนาเบือ่ นักมายากลควรจะตองคิดคนกลใหมๆ อยูเ สมอ ความเห็นทีแ่ ตกตางกันนี้ เปนตนเหตุนาํ ไปสูเ หตุการณทไี่ มคาดคิดและพาพวกเขาไปสูโ ศกนาฏกรรม จน กลายเปนจุดแตกหักของมิตรภาพและจุดเริ่มตนของการแขงขันระหวางสองนักมายากลนี้ ทั้ง Angier และ Borden ตางพยายามชวงชิงเอาชนะอีกฝายใหได ขณะเดียวกัน “การเอาคืน” โตตอบกันของ ทัง้ สองฝายก็เริม่ จะทวีความรุนแรงมากขึน้ ทุกที ในทีส่ ดุ Angier ก็พบคําตอบทีจ่ ะทําใหกลของเขากลายเปนตํานาน ที่ยิ่งใหญและยังจะทําใหความตองการที่จะทําให Borden ตองสูญเสียทุกอยางในชีวิต ขณะทีภ่ าพยนตรกาํ ลังชวนใหผชู มหาคําตอบวาอะไรเปนเรือ่ งจริง แลวอะไรทีถ่ กู ซอนทับดวยการตบตาอยูน นั้ เนื้อเรื่องยังคอยๆ เปดโปงเบื้องหลังของวงการมายากลที่เต็มไปดวยเลหกลอันตราย ไมตางจากบนเวทีและความ ปรารถนาซึ่งอํานาจ ที่จะตองแลกมาดวยเดิมพันแหงชีวิต เมื่อความสงสัยทําใหคณ ุ งงจนถึงขีดสุด เคล็ดลับของกล จะถูกเฉลยออกมา แลวคุณจะไดพบคําตอบที่ “หักมุม” คาดไมถึงแนนอน
22
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552 “Are you watching closely?” “คุณมองดูดีแลว หรือ?” ประโยคที่ภาพยนตตั้งคําถามกับผูชม คําถามนี้ คือ สวนทีท่ า ทายใหคณ ุ หาคําตอบอยางระมัดระวังและ เตือนไมใหคุณเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น ตามทฤษฎีที่บอก ในภาพยนตวา การแสดงมายากลประกอบดวย 3 สวน อยางแรกคือ The Pledge การแสดงสิ่งที่ ธรรมดาใหคนไดเห็น จากนัน้ คือ The Turn เปลีย่ น ของธรรมดาใหไมธรรมดาหรือหายไป และขั้น สุดทายที่สําคัญที่สุดคือ The Prestige การสราง ความตื่นตะลึงกับผูชมดวยการนําของสิ่งเดิม กลับคืนมา ตัวภาพยนตเองก็ปพู นื้ ดวยความจริงพืน้ ฐานของมายากลทีว่ า ทุกอยางนัน้ เปนเพียง การแสดงทีถ่ กู เตรียมเอาไว เหมือนที่ John Cutter (Michael Caine) วิศวกรสราง อุปกรณอีกตัวละครหลักกลาววา “นัก มายากลไมใชพอมด พอมดอาจทําสิ่ง ที่ เ ป น ไปไม ไ ด ใ ห เ กิ ด ขึ้ น แต นั ก มายากลเพียงแสรงทําในสิ่งที่เปนไป ไมไดเทานั้น” เสนหข องภาพยนตเรือ่ งนีอ้ ยูท นี่ าํ จุดบอดมืดในจิตใจมนุษยมา เสนอผ า นมายากล สิ่ ง ที่ ชั ด เจนที่ สุ ด ที่ แ สดงให เ ห็ น ถึ ง การหลอกลวง ความ ทะเยอทะยาน ความลุมหลง ความรัก การหักหลัง และการสูญเสีย ซึ่งทั้ง Angier และ Borden ตางเผชิญ มา ทัง้ คูต า งเรียนรูท จี่ ะมีความสุขอยางจอมปลอมและเจ็บปวดกับความจริงอันโหดราย เมือ่ นักมายากลนัน้ ก็ไมตา ง จากผูชมซึ่งรูความจริงและพรอมที่จะเชื่อในเรื่องหลอกตา เชนเดียวกันกับการสรางความยิ่งใหญใหตัวเอง แมจะรู วาสิ่งนั้นอาจยอนกลับมาทํารายตัวเองไมทางใดก็ทางหนึ่ง การแสดงมายากลจึงเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ที่ศิลปนอยากจะสรางผลงานใหประทับใจผูชม ในหมูผู ชมก็ยอมมีผูติดวยเปนเรื่องธรรมดา แตถาศิลปนคนนั้น “พอใจ” กับผลงานของตนและ “ยอมรับ” คําตัดสินของผู ชมได ผลงานของเขายอมมีคาในตัวเองเสมอ เพราะมันถูกสรางขึ้นจากเจตนาที่จริงใจ เชนเดียวกัน เราทุกคนตางก็สามารถสรางสรรคผลงานศิลปะที่มีคาของตัวเราได ทวาก็อยาลืมไปวาศิลปนที่ ประสบความสําเร็จก็เปนเพียงคนทีม่ ศี ลิ ปะในหัวใจคนหนึง่ ซึง่ ไมไดเหนือไปกวาใครๆ ทีส่ าํ คัญ...เขาคนนัน้ อาจเปน คุณก็ได - The Prestige (2006) กํากับโดย Christopher Nolan ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Christopher Priest - “Abracadabra” เปนคําพูดของนักมายากล คลายการรายมนตร “โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย” ในภาษาไทย - เมื่ือนําอักษรตัวแรกชื่อของ Alfred Borden Robert Angier มาเรียงกันจะไดคําวา ABRA มาจาก “Abracadabra” - ขอบคุณขอมูลและรูปจาก www.imdb.com และ www.allmoviephoto.com
23
bon appetit เรื่อง : ผักบุง
A Da
¿
Å à Ð · ÃÁÔ
r
¡Òá
e umm In S
y
ถึงแมวาชวงนี้จะเปนหนาฝน แตหลายๆ คนก็ยังอดไมไดที่จะคิดถึงชวง เวลาของฤดูรอนที่ไอแดดสาดสอง หลับตานึกถึงสายลม เย็นๆ ที่พัดโชยเอื่อยจากริมทะเลและ เสียงคลื่นระลอกกระทบชายหาด ยิ่งถาไดกาแฟหรือนํ้า ผลไมปนเย็นๆ มาดื่มดับรอนริมชายหาดดวยแลว ยิง่ เปนบรรยากาศทีใ่ ครหลายๆ คนตองฝนถึงแนนอน และคงจะเปนไปไดแคฝน เทานัน้ สําหรับคนกรุงฯ ทีไ่ มมเี วลา ไปทะเล แตนอยคนที่จะรูวาในกรุงเทพฯ ก็พอมีรานที่จะทําใหหายคิดถึงทะเลอยูไดบาง ราน A Day In Summer เปนรานกาแฟบรรยากาศริมทะเลทีซ่ อ นตัวอยูใ นตัวเมืองแถว ถนนอรุณอมรินทร นาจะเปนสถานที่หนึ่งที่จะทําใหฝนนั้นเปนจริงขึ้นมาไดใกลเคียงที่สุดในกรุงเทพฯ นี้ ‘คุณซัง’ เจาของรานไดรบั แรงบันดาลใจจากความชอบสวนตัวทีห่ ลงเสนหข องกาแฟและบรรยากาศกลิน่ อายริมทะเล ความชอบเหลานีก้ ลายเปนจุดเริม่ ตนของแนวคิดสรางสรรค ในการตกแตงรานทีเ่ อกลักษณไมเหมือน ใครของ A Day In Summer พื้นที่ของรานถูกเปดโลงทั้งสองชั้นและโดนแตงแตมดวยสีโทนรอนสดใสสลับกับสีโทนเย็นที่เรียบงาย
24
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552 สบายตาตามมุมที่นั่งตางๆ โดยเริ่มจากชั้นลางตรงจุด เคานเตอรไมเกาๆ ที่นําสีมาลงใหม รายลอมดวยเกาอี้ ไมทรงสูงกับผืนกําแพงสีสมดานหลังที่ชวยใหดูโดด เดน ถัดมาทางขวามือเปนมุมทีม่ ชี งิ ชาสีขาวขนาดใหญ นานั่งและมีหมอนอิงใบเล็กลวดลายดอกไมวางอยู หนาฉากสีฟาสดใสของผืนกําแพงดานหลัง สราง บรรยากาศคล า ยบ า นพั ก ริ ม ทะเล ถ า หากใคร ตองการพักผอนแบบเต็มรูปแบบ ทางรานก็มีเตียง ผาใบใหเอนหลัง พรอมฟงเพลง Jazz เบาๆ สบายๆ อยางเคลิบเคลิม้ หรือหากมากันเปนกลุม ก็มมี มุ ดีๆ สําหรับจัดปารตี้จิบกาแฟไดที่ช้นั สอง นอกจากการตกแตงรานทีเ่ ปนเอกลักษณ หากสังเกตดีๆ ก็จะเห็นไอเดียเจงๆ จาก การการประยุกตของใชตา งๆ ใหมาเปนของตกแตงราน อยางเชน ถังนํา้ มันใบโตทีน่ าํ มาทาสีขาวทําเปนโตะกาแฟ หรือแจกันทีท่ าํ จากหลอดไฟและโคมไฟหลากสีทที่ าํ จากกระปอง เปนไอเดียงายๆ ทีส่ รางสรรคสามารถนําไปใชได ทางรานยินดีไมคิดคาลิขสิทธิ์ดวย สํ า หรั บ เมนู ข องร า นมี ใ ห เ ลื อ ก ตัง้ แตกาแฟเขม นํา้ ผลไมสดชืน่ ไปจนถึงของ หวานนาอรอย คอกาแฟคงไมอยากจะพลาด Hot Cappuccino กาแฟกลิน่ หอม รสชาติ เขมขน เสิรฟพรอมขนมปงอบกรอบชิ้น เล็กหรือจะเปน Ice Cappuccino ที่ ความหวานมันของนมผสมกับรสชาติ ที่เขมขนของกาแฟเย็นๆ คนที่ชอบ ผลไมก็ตองลอง Mango Frost นํ้า มะมวงปนรสเปรี้ยว หวาน วิตามิน สูงเปนเมนูคลายรอนสําหรับคนรักสุขภาพ หรือ Apple Soda นํ้าแอปเปลรสเปรี้ยวหวานผสมกับความซา ของนํา้ โซดาโรยหนาดวยเยลลีห่ ลากสี นอกจากนีย้ งั มีเมนูของหวานใหรองทองอยาง Sweet Waffle วาฟเฟลอบสดใหม แปงเนื้อนุมราดดวยซอสสตรอวเบอรร่แี ละช็อคโกแลต ตกแตงดวย วิปครีมและแอปเปลเขียว หวานสมชื่อทั้งหนาตาและรสชาติทีเดียว หากคุณหลงใหลในเสนหของกาแฟและกลิ่นอายบรรยากาศชายทะเล A day In summer อาจเปนอีก สถานที่ที่เหมาะกับวันหยุดพักผอน นอกจากจะไดลิ้มรสกาแฟและบรรยากาศคลายรอน อาจจะไดไอเดียดีๆจาก การตกแตงของรานกลับไปตอยอดความคิดในการสรางสรรคชิ้นงานเปนของคุณเองอีกดวย - เปด 10.30-22.00 (หยุดวันอาทิตย) - อยูระหวางหอประชุมกองทัพเรือกับวัดอรุณฯ - มี Internet WIFI ใหบริการใชฟรี
25
ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ เรื่อง : นาคา
ฉบับที่แลวนาคาพาเพื่อนๆ ไป ทองเที่ยวทะเลภาคตะวันออกจน เย็นชุมชื่นฉํ่าใจกันแลว ฉบับนี้ลอง เปลี่ยนบรรยากาศพาไปเยือนแดน ดินถิ่นมะขามหวานทางภาคเหนือ กันบาง เพื่อนๆ บางคนอาจจะรอง ออ! เมื่อพูดถึงเมืองที่ขึ้นชื่อวาเปน ‘เมืองมะขามหวาน’ ใชแลวคะ เมือง นัน้ ก็ คือ จังหวัดเพชรบูรณ บานของ นาคานั่นเอง (แอบโปรโมทจังหวัด ตัวเอง) สาเหตุที่เพชรบูรณถูกเรียกวา เมื อ งมะขามหวานก็ เ พราะว า ชาวสวนในจังหวัดเพชรบูรณนิยม ปลูกมะขามหวานกันเปนสวนใหญ เรี ย กได ว า มะขามหวานเป น พื ช เศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณเลย ไม ว า จะหั น ไปทางไหนก็ จ ะเห็ น ตนมะขามหวานนานาพันธุเ รียงราย
äËFARMSTAY ¡íҹѹ¨ØÅ
เปนทิวแถว เห็นแลวหลายคนก็คง เกิดคําถามขึน้ ในใจวาคนเพชรบูรณ เขาปลูกแตมะขามหวานกันหรือ? เขาปลูกอยางอื่นเปนกันบางหรือ เปลานะ? Torch ฉบับนี้นาคาจะพา เพือ่ นๆ ไปหาคําตอบเหลานัน้ เองคะ และขอรับรองวานอกจากจะไดคํา ต อ บ แ ล ว ยั ง จ ะ ไ ด รั บ ค ว า ม สนุ ก สนานจากการท อ งเที่ ย ว ที่ สําคัญยังจะไดอิ่มทองกลับบานกัน อีกดวย ถาเพื่อนๆ สนใจรวมเดิน ทางไปกับทริปทีท่ งั้ สนุกและอิม่ แลว ละก็….ขอตอนรับสูไรกํานันจุลคะ!! ไรกาํ นันจุลกอตัง้ โดย กํานันจุล คุมวงศ กํานันของตําบลวังชมพู ไร ตั้งอยูบนกิโลเมตรที่ 202 ทางหลวง หมายเลข 1 เสนสระบุรี-หลมสัก กอนถึงตัวเมืองเพชรบูรณประมาณ 21 กิโลเมตร ใกลสามแยกวังชมภู กํานันจุลเปนผูบุกเบิกการทําไรสม
26
เขียวหวานสงขายทั่วประเทศและ ประเทศเพื่อนบาน รายแรก ๆ ของ ประเทศไทย ตั้ ง แต พ.ศ. 2479 ปจจุบนั ไรกาํ นันจุลเปนสถานทีท่ อ ง เที่ ย วเชิ ง เกษตรบนเนื้ อ ที่ ก ว า 10,000 ไร มีลกั ษณะเปนสวนเกษตร แบบผสมผสาน มี พื้ น ที่ บ อ ปลา 3,000 ไร มีสมาชิกเกษตรกรปลูก หมอนเลี้ยงไหม 2,600 ราย ใน 26 จังหวัดทั่วประเทศ ในไรยังทําสวน ผลไมอีก อาทิ สวนสม 1,200 ไร จํ า นวนกว า 200,000 ต น มี ส ม โชกุน(สมเขียวกํานันจุล) 90% สม โอ(ขาวกํานันจุล) และ สมเชง 10% ไร กํ า นั น จุ ล แห ง นี้ มั ก จะได ต อ นรั บ การมาเยื อ นของนั ก ท อ ง เที่ยวอยูเปนนิจ เพราะนอกจากจะ ไดเดินชมสวนขนาดใหญซึ่งเต็มไป ดวยผลไมนานาพันธุแ ลว เจาของไร ยังใจดีอนุญาตใหนักทองเที่ยวทาน
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552 ผลไม ที่ อ ยู ใ นไร ไ ด ต ามใจชอบ ยกเวนเพียงชนิดหนึง่ ซึง่ ก็คอื เจาสม โอลูกโตที่ติดอยูกับตนเทานั้น ทาง ไรเขาไมอนุญาตใหเราเด็ดลงมา จากตนนะคะ แตถาเราเดินกระทืบ เทาแรงๆ แลวมันรวงลงมาเองเจา หนาที่ก็อนุญาต ผลไมที่นาคาทาน แลวถูกใจทีส่ ดุ ก็เห็นจะเปนเจาสมโอ นี่ละคะ ชิ้นใหญเนื้อแนนหวานฉํ่า ไดใจดีจริงๆ นอกจากจะไดอิ่มหนําสําราญ กับการชิมผลไมทั่วไรแลว ไรกํานัน จุลก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ใหความรู เชิงเกษตรกรรมแกนักทองเที่ยวอีก ดวย เชน ชมประวัติกํานันจุลและ การสืบทอดเจตนารมณของคนรุน หลัง ชมขัน้ ตอนการผลิตเสนใยไหม ดวยเครือ่ งจักรทีท่ นั สมัยทีส่ ดุ ในโลก ช ม ก า ร เ ลี้ ย ง ไ ส เ ดื อ น แ บ บ อุตสาหกรรมซึ่งเปนดัชนีชี้วัดสาร เคมีในสวน ชมสวนสละและสาธิตวิธี การผสมเกสรสละ ชมการเลี้ยงไหม ของเกษตรกร ชมการทําประมงนํ้า จืดขนาดใหญและยังอนุญาตใหนัก ทองเทีย่ วสามารถตกปลาในบอปลา
พื้นที่ 3,000 ไรนี้ไดอีกดวย นับวาเจาของไรใจดีมากคะทีใ่ ห นั ก ท อ งเที่ ย วได เ ดิ น ชมไร อ ย า ง สบายใจและมีสทิ ธิใ์ นการเด็ดดึงผล ไมมาทานจนสบายทอง ในไรยังจัด รานคาไวจําหนายสินคาและผลิต ภัณฑอื่นๆ ที่ไดจากไรอีกดวย เพื่อ ใหนักทองเที่ยวที่ยังไมอิ่ม ไมจุใจ อยากจะซื้อของติดไมติดมือกลับไป ฝากคนทีบ่ า นก็สามารถซือ้ ไดทรี่ า น คากํานันจุล สินคาที่เปนพระเอก ของรานก็ คือ ปลาสมกํานันจุล ซึ่ง เป น สิ น ค า ที่ ขึ้ น ชื่ อ มาก ทั้ ง ความ อรอยและความสะอาด นอกจากนี้ ยังมีผลไมสดๆ จากไรและผลิตภัณฑ อื่นๆ วางเรียงรายใหเลือก เชน เยล ลีผ่ ลไม ทีน่ อกจากจะมีเนือ้ เยลลีแ่ ลว ยังมีเนื้อผลไมชิ้นโตอยูดวย ดักแด ทอด กลวยทอดรสชาติตา งๆ มะขาม หวานกวนหลากรสและนํา้ ผลไมเขม ขน เปนตน สําหรับการทองเทีย่ วทีไ่ รกาํ นัน จุลก็จะมี 4 รูปแบบดวยกัน รูปแบบ แรกเที่ ย วชมไร พ ร อ มอาหารว า ง ทานละ 150 บาท รูปแบบที่สอง
- การเดินทางไปเที่ยวที่ไรกํานันจุลตองติดตอเจาหนาที่ของไรกอนจึงจะสามารถเขาชมไรได - สอบถามรายละเอียดไดที่ คุณณฤมณ โทร 056-771101-4, 089-960-3481
27
เที่ ย วชมไร พ ร อ มอาหารหนึ่ ง มื้ อ อาหารวางและของชํารวย ทานละ 300 บาท รูปแบบที่สามเที่ยวชม และพักคางคืนที่ไรพรอมอาหาร 3 มื้อ และอาหารวาง 2 มื้อ รวมทั้ง กิจกรรมตกปลา (พรอมนําปลากลับ บาน) และของชํารวย ทานละ 1,500 บาท รูปแบบที่สี่เที่ยวชมไรและพัก คางคืนทีโ่ รงแรมพรอมอาหาร 3 มือ้ และอาหารวาง 2 มือ้ รวมทัง้ กิจกรรม ตกปลา และของชํ า ร ว ย ท า นละ 1,700 บาท ไรกํานันจุลแหงนี้นาจะใหคํา ตอบกับเพือ่ นๆ ไดแลวนะคะ วาชาว เพชรบูรณเขาปลูกมะขามหวานเปน อยางเดียวหรือไม นอกจากจะไดคํา ตอบแลวนาคาคิดวาไรกํานันจุลก็ คงจะเปนสถานทีท่ อ งเทีย่ วแหงหนึง่ ที่ ต รงใจเพื่ อ นๆ หลายคน หาก เพื่ อ นๆ คนไหนที่ ส นใจการท อ ง เทีย่ วสไตลอมิ่ ทองและอิม่ สมองละก็ ไปเจอกันที่ไรกํานันจุลคะ!
ËÁعªÕÇÔμ เรื่อง : Prathoratus
ÇÔ¨Ôμà ÇÔ»ÅÒÈ
วากันวางานศิลปะ คือ กระจกสะทอนความคิด จินตนาการ ทัศนคติ และชีวิตของมนุษย เปนกุญแจ สําคัญในการไขไปสูค วามลับแหงหวงจิต ในบางครัง้ ศิลปะก็เปนดัง่ เครือ่ งระบายอารมณของมนุษย หากเปนเชน นั้น จิตรกรชาวดัตช ที่มีชื่อวา Vincent Van Gogh ก็คือผูที่ทําใหศิลปะเปนไปตามหนาที่ที่กลาวไวในขางตน อยางแจมชัด Vincent Van Gogh ลืมตาดูโลกขึน้ ในวันที่ 30 มีนาคม 1853 ที่ ประเทศเนเธอรแลนด ในฐานะลูกชาย คนโดของนักบวชนิกายโปรเตสแตนท เขาเริม่ ทํางานขายภาพเขียนเมือ่ อายุ 16 ป แตนนั่ ก็ไมใชสงิ่ ทีเ่ ขาชืน่ ชอบ เทาใดนัก ชีวิตของเขาเปนเสมือนดั่งละคร เมื่อเขาตองผิดหวังในความรัก แลวความคิดที่จะออกบวชก็โผลขึ้น มาในหัว แตกลับกลายเปนวาเขาสอบไมผานคุณสมบัติของการเปนนักบวช เขาจึงตองหันเหไปเปนนักเทศน แทน เมื่อเขาเปนนักเทศนไปไดสักระยะแลว เขาก็ทะเลาะกับผูอาวุโสในกลุมจนถูกขับไลออกมา ชวงเวลานี้ ความเศราหมองที่เริ่มกอตัวขึ้นในจิตใจของแวนโกะมาสักระยะหนึ่งแลว ก็เริ่มที่จะถูกระบายออกมาผานการ เขียนภาพ แตทวาเขาไมรวู ธิ กี ารทีด่ ี เขาจึงตัดสินใจไปบรัสเซลสเพือ่ เรียนวิธกี ารเขียนภาพเพือ่ ระบายความรูส กึ ของเขา หลังจากเรียนที่บรัสเซลสแลว เขาเดินทางไปอาศัยอยูในปารีส 2 ป ซึ่งเปนชวงเวลาที่เขามีพัฒนาการ ดานการเขียนภาพเปนอยางมาก เขาเริ่มสรางสรรคผลงานอยางมีชีวิตชีวามากขึ้น แตตอมาความชินชาเบื่อ หนายก็เริ่มเกาะกุมหัวใจของเขาอีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางลงไปตอนใตของฝรั่งเศส โดยหวังจะจัดตั้ง กลุมศิลปน Impressionist ขึ้นที่นั้นพรอมกับผองเพื่อน แตแลวเขาก็ทะเลาะกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ดวยอารมณที่ พลุงพลานของเขา เปนเหตุที่ทําใหเขาพลาดตัดใบหูของตนเองขาด จากนั้นความผิดปกติทางจิตของเขาก็เริ่มสําแดงตนออกมาเรื่อยๆ จนเขาตองเขาไปรักษาตัวในโรง พยาบาลจิตถึง 1 ปเต็ม เมื่อออกจากโรงพยาบาลมาไดสักพัก เขาก็ยิงตัวตายในวัยเพียงแค 37 ปเทานั้น แมวาชีวิตของจิตรกรผูนี้ ไดสรางสรรคผลงานอันวิจิตรทิ้งไวบนโลกนี้มากมาย แตเสนทางการดําเนิน ชีวิตของเขาเองนั้นกลับหาไดวิจิตรงดงามเหมือนผลงานของเขาไม ชีวิตของเขามีขึ้นสูเบื้องบนและดิ่งลงสูเบื้อง ลางแหงความวิปลาส ผลงานหลายๆ ชิ้นของเขาถูกสรางขึ้นดวยวิธีการปดพูกันแบบหยาบๆ ฝแปรงที่วกวน ลายเสนลายสี ทีต่ วัดกวัดแกวงอยางรอนแรง สามารถสะทอนชีวติ ใครคนหนึง่ ทีไ่ ดถกู ฝงไปพรอมธุลดี นิ แตทวาอีกชีวติ หนึง่ ได ถูกฝงรากลึกอยูในทุกอณูของผืนผาใบ รอวันปรากฏตอสายตาที่จับจองมัน - ภาพทางดานหลัง คือ ภาพ “Self Portrait with Felt Hat” (1888) หรือภาพวาดเหมือนตัวเองของตัวเขาเอง - ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขามี อาทิเชน “The Starry Night” และ ชุดภาพ “Sunflowers”
29
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552
ÁÕàÃ×èͧ
ART ACTUALLY IS ALL AROUND
เรื่อง : Zephyr
เพราะทุกหัวใจมีศิลป
เพราะสิ่งแวดลอมและชวงวัยที่เปลี่ยนไปไดทําใหฉันคนเดิมที่เฉยเมยกับสิ่งรอบขาง กลายเปนฉันคนใหมที่ เขาใจศิลปะในชีวิตมากขึ้นและมองเห็นความสวยงามที่มีอยูรอบตัว เปนไปไดไหมวา ความงาม ความหลากหลาย และอิสระเสรี ทําใหฉนั ซึมซับสิง่ เหลานีไ้ ปอยางตัง้ ใจ ในโลกทีฉ่ นั ไมเหงา มีคนใหมๆ เรือ่ งใหมๆ แวะเวียนมาทักทาย อยูเสมอ ทําใหมุมมองความคิดของฉันเปดออกกวางไกลมากขึ้น เมื่อกอนนั้น ศิลปะ สําหรับฉัน เปนคําที่ดูหางไกลเหลือเกิน เพราะตัวฉันที่ไมเคยเขาใจเรื่องการวาดรูประบาย สี ไมเคยทําคะแนนไดเกิน 4 เต็ม 10 ในวิชาศิลปะ ไมเคยสนุกกับการรําไทยหรือเตนลีลาศ ลมเหลวไมเปนทา ครั้ง แลวครั้งเลากับการเรียนดนตรี ไมวาจะเปน ขิม ซอ เปยโน หรือกีตาร คนอยางนี้นี่แหละที่ฉันเห็นวา เปนบุคคล ”หัวใจไรศิลป” ตัวจริง แตในที่สุดแลวฉันก็ไดเขาใจวาฉันเปนเพียงแคคนที่ “ไมสามารถ” ทําหรือสรางงานศิลปะไดเทานั้นเอง อันที่ จริงแลวฉันเปน “ผูเสพศิลป” ตัวยงเลยทีเดียว ไมวาจะเปนภาพเขียน เสียงดนตรี หนังสือ บทกวี ภาพยนตร สถาปตยกรรม สิ่งเหลานี้มักดึงดูดใหฉันตองเขาไปชื่นชมอยูทุกครั้ง โดยที่ในใจที่คิดวา “ถาหากฉันสามารถทําสิ่ง เหลานั้นไดบางสักอยาง ก็คงจะดีไมนอย” แตอยาเพิ่งคิดเชียวนะวาฉันจะหยุดอยูแคนั้น โอกาสอันดีผานเขามาจนไดเมื่อฉันพบงานศิลปะชนิดหนึ่งที่ตัว ฉันเองหลงรักและเปนงานศิลปะประเภทที่ฉัน “สามารถ” ทําได หลายปมาแลวละที่ฉันเริ่มจริงจังกับการถายภาพ นั้นไมไดหมายความวาจะตองเปนผูเชี่ยวชาญหรือมีอุปกรณครบครัน แตฉันทําดวยความสนุกและความพอใจ กลองฟลมตัวเกาที่ญาติคนหนึ่งเลิกใชมานาน เลยกลายมาเปนของคูมือที่ขาดไมได และแลวฟลม แสง เงา สี มุม ฉาก วัตถุ โฟกัส ชัตเตอร ซึ่งฉันไดเรียนรูมจากคําแนะนําของรุนพี่ บวกกับการลองผิดลองถูกก็มาผสานกันจน เกิดเปนงานศิลปของฉันจนได ฉันจึงใหนยิ ามใหมกบั คําวา “ศิลปะ” วามันไมไดเปนเพียงแคความสามารถทีจ่ ะวาดรูประบายสีหรือเลนดนตรี เทานัน้ หรอก หากแตเปนความสามารถทีจ่ ะมีความสุขกับการไดทาํ ในสิง่ ทีเ่ ปนตัวฉันตางหาก เหมือนอยางในตอน ที่ฉันนั่งเขียนขอความเหลานี้ ฉันก็พบกับความสุขแบบนั้นอีกครั้ง ฉันไมไดหวังวางานเขียนชิ้นนี้จะเปลี่ยนชีวิตใคร อะไรขนาดนั้น ฉันเพียงแคอยากแบงปน “คุณคา” ในบางสิ่งดีๆ ที่ฉันไดพบเจอมา บางทีสิ่งที่เราไมไดตระเตรียมมา แตเราเริ่มดวยการลงมือทําอาจเปนสิ่งที่เรากําลังคนหาอยูก็ได ถาคุณยังหา สิ่งนั้นไมพบละก็ ลองหาอะไรบางอยางทําแลวสํารวจใจตัวเองดูสิวาคิดอยางไรกับสิ่งๆ นั้น ไมแนวาคุณอาจจะไดพบมันเขาสักทีก็ไดนะ ปล. หรือคุณอาจเริ่มตนมองหาจากที่นี่ นาทีนี้ ก็ได
29
˹ŒÒÇ‹Ò§
เรื่อง : D.B. Dreamer
สุสุรรา? า?
เหตุใดเราจึงไม่ ควรดื่ม
สุราหรือเครื่องดื่มมึนเมาที่ใครตอใครทั้งหลายในสังคมตางก็รู (และพูดออกมาอยูบอยครั้งจนนารําคาญ) วา เปน ‘สิง่ ไมด’ี ถึงกระนัน้ ก็ยงั คงมีผคู นจํานวนมากดืม่ เครือ่ งดืม่ อันเลวรายนีอ้ ยูเ ปนนิจ อีกทัง้ ยังเปนธุรกิจขนาดใหญ ที่ทํารายไดอยางมหาศาล คนเราชางปากวาตาขยิบเหลือเกิน แตนั่นไมใชเรื่องที่เราสนใจในขณะนี้ (แมวามันจะ เปนเรื่องนาสนใจมากก็ตาม) สิ่งที่เราถามตัวเองในวันนี้ คือ การดื่มสุราเปนสิ่งที่ผิดจริงหรือ? เหลามันไมดีจริงๆ หรือ? ทําไมและอยางไร? กอนอืน่ ขอใหเราคนหาคําตอบโดยทีไ่ มเขาไปเกีย่ วของกับศาสนา เพราะไมเชนนัน้ แลว คําตอบของคําถามของ เราจะสัน้ มากๆ (ซึง่ ก็ไมไดแปลวาจะถูก) ขอใหเรามองปญหาดวยมุมมองทางโลกและสังคมทีเ่ กีย่ วกับมนุษยเทานัน้ ทําไมการดื่มสุราถึงเปนสิ่งไมดี? คําตอบแรก คือ อาการของผูที่ดื่มสุรา หรือ เมาขาดสติ มักจะทําสิ่งตางๆ โดยขาดการไตรตรอง (เปนที่มาของ พาดหัวขาวบนหนาหนังสือพิมพใหเราไดเห็นอยูเปนประจํา) แตถานี่คือคําตอบของเราแลว สิ่งที่ไมดีหรือสิ่งที่ผิด แทจริง ก็ตองเปนสิ่งที่เราทําหลังจากดื่มเหลา แตแนนอนหลายคนอาจจะแยงไดวาการดื่มสุรากอใหเกิดสิ่งที่ทําให เกิดอาการเมาและพฤติกรรมนารังเกียจทั้งหลาย ดังนั้นการดื่มสุราจึงเปนสิ่งที่ผิดไปดวยอยางไมตองสงสัย แตนั่นไมใชความจริงเสมอไป คนที่กลาวเชนนี้ ยอมถือเปนการดูถูกความสามารถในการควบคุมและเอาชนะ ตนเองของมนุษย การดืม่ สุราอาจจะทําใหเราเมาก็จริง แตในความเมาก็ยงั มีระดับของการเมาอยูดี และผูท มี่ อี าการ มึนเมาตองเรียนรูที่จะรักษาอํานาจความคิดของตนเอาไว เราตองรูขีดจํากัดของตนเอง “ฉันดื่มมากไปฉันตองหยุด แลว” ระลึกถึงความรับผิดชอบที่เรามี “วันนี้ขับรถมาตองขับกลับ” “วันนี้กินเหลาที่บานฉัน ฉันตองเก็บของหลัง งานเลิก” มีการวางแผนและใชความคิด “ชวงนีก้ าํ ลังไมมเี งิน” “พรุง นีม้ สี งิ่ ทีต่ อ งทําในตอนเชา” มันไมมสี งิ่ ใดผิดใน สุราหรือในการดืม่ เครือ่ งดืม่ มึนเมาเลย แตเปนสิง่ ผิดทีเ่ รายอมปลอยใหความเมาและความอยากเมามีอาํ นาจเหนือ เรา นีเ้ ปนสิง่ ทีร่ บั ไมไดแตสามารถเอาชนะได เพราะมนุษยเราครอบครองเจตนจาํ นงทีแ่ รงกลายิง่ กวาเครือ่ งดืม่ ผสม แอลกอฮอลชนิดใดๆ เสียอีก
30
ÊÔ§ËÒ¤Á 2552 ผูที่ปฏิเสธการดื่มสุรา คือ ผูที่ขลาดกลัวและไรความมั่นใจในพลังของจิตใจของตนเอง พวกเขาจะกลาววา “ขาพเจานี่แหละ คือ ผูที่มีจิตใจเขมแข็งอยางแทจริง เพราะขาพเจาไมพายแพตอความกระหายที่จะดื่ม!” “ขาพเจา ปฏิเสธอบายมุข!” ใชแลวพวกเขาปฏิเสธ แตไมใชอบายมุขทีพ ่ วกเขาหันหลังทิง้ ไป แตเปนบททดสอบทีพ ่ วกเขาไม กลาจะเผชิญ ผูแข็งแกรงที่แทจริงไมหนีจากความทาทาย เขาจะเผชิญหนากับมันและกาวขามมันไปอยางผูมีชัย คําตอบทีส่ องทีจ่ าํ ตองเอยถึง คือ การเสียสุขภาพ เรือ่ งนีไ้ มตอ งอธิบายใหมาก เพราะเราตางก็รผู ลทีก่ ารดืม่ สุรา มีตอรางกายของมนุษย ซึ่งมีจํานวนมาก (เกือบ 100 โรคเห็นจะได ทั้งทางตรงและทางออม ตอระบบประสาทและ อวัยวะในรางกาย มะเร็งตั้งแตชองปากไปจนถึงลําไส) จนนํามาสูขอสรุปงายๆ คือ ‘การทําใหเสียสุขภาพ’ เปน ’สิ่งไมดี’ ‘การดื่มสุรา’ ทําให ‘เสียสุขภาพ’ ดังนั้น ‘การดื่มสุรา’ จึงเปน ‘สิ่งไมดี’ ดูเหมือนงายใชไหม? ทําไมการเสียสุขภาพคือสิง่ เลวราย ก็เปนเพราะมันทําใหเราเขาใกลความตายมากขึน้ ใช ไหม? ทําใหเราตายกอนวัยอันควร? ชางนาสงสัยวาวัยอันควรที่วานี้คือเทาไรกัน? 60? 70? 80? 90 หรือ 100 ป หรอ? ไมหรอก ทุกเวลาดีและเหมาะกับการตายเทาๆ กัน ถาเราคิดจะใหมันเปนเชนนั้น ชีวิตคนไมไดวัดกันดวย เดือนปแตดวยการกระทําของคน ถาผูใดจะตองตายกอนเวลาอันควร ผูนั้นก็คงเปนผูที่ตายโดยยังไมไดทําสิ่งใดที่ มีคุณคาสมควรแกการเปนคน ดังนั้นผูที่กลาววาการดื่มสุราทําใหรางกายทรุดโทรมและนําไปสูการเสียชีวิตและนั้นเปนสาเหตุที่ทําใหสุรา เปนสิ่งไมดี ผูนั้นคือผูที่ยังไมไดใชชีวิตใหเกิดประโยชนและตองการที่จะยืดเวลาของการ ‘จะไดทําสิ่งที่ดีออกไปอีก เรื่อยๆ’ ชางเปนการผลัดวันประกันพรุงที่ชาญฉลาด อยากมีชีวิตตลอดกาลหรือ? ใช! คนพวกนี้อยาก! แตทั้งนี้ไมไดหมายความวาเราควรดื่มจนตัวตาย โดยไมสนใจสุขภาพ การควบคุมตนเองใหอยูในความพอดี เปนสิ่งจําเปนดังที่ไดกลาวไป สุราเปนสิ่งไมดีหรือ? การดื่มเหลาผิดหรอ? เปลาเลย มนุษยเราตางหากที่ทําใหมันผิดเพราะดื่มโดยปราศจาก การควบคุมตัวเองและไมรจู กั ประมาณตน ความคิดตามกระแสเรือ่ งความเทและทําตามเพือ่ นๆ ความเศราและความ ตองการที่จะลืมอดีตแทนที่จะทําความเขาใจและปลอยวาง สิ่งเหลานี้ตางหากทําใหการดื่มสุรากลายเปนสิ่งผิด แตเราจะไมดมื่ เหลาไดไหม แนนอน! ใครกันถือดีสงั่ หามผูอ นื่ ทําสิง่ ใดสิง่ หนึง่ ! ตัวเราและตัวเราแตเพียงผูเ ดียว ทีม่ นี าํ้ หนักในการตัดสินใจ ถาคุณไมอยากดืม่ ก็ไมตอ งดืม่ ขอเพียงเหตุผลของคุณคือ “ฉันไมตอ งการ” ไมใช ”เพราะ มันไมดี” การดื่มไมใชอะไรมากไปกวาการสังสรรค การไดพูดคุยกับเพื่อน การไดรื้อฟนเรื่องราววีรกรรมเกาๆ ไดบอก เลาถึงความฝนและความกลัว ถามปญหาและขอคําแนะนํา หรือแมกระทัง่ เวลาทีเ่ ราอยูค นเดียวนัง่ อยูร มิ ระเบียงใน คํ่าคืนที่อากาศกําลังดี เราก็มีสิทธิที่จะเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ธรรมชาติมอบใหได ดังนัน้ ขาพเจาจะกลาวดวยความไมรสู กึ ผิดวาเย็นวันเสารนขี้ า พเจาจะเดินไปยังรานของชําทีใ่ กลทสี่ ดุ กับเพือ่ น เกา ออกเงินซื้อเหลาเทาที่ธนบัตรในกระเปาสตางคจะอนุญาต กลับไปนั่งดื่มกันในสวนขางบาน ...และหวังวาคืนนี้จะไมมีฝน - ขอขอบคุณ ‘D.B. Dreamer’ ที่กรุณาสงบทความมาเติมใหหนานี้ไมวางแลวใน Torch ฉบับนี้ - แตเราก็ยังคงมีหนาวางใหสําหรับคนที่สงผลงานการเขียนของตนเองมาลงในหนานี้อยูดี - สนใจสงผลงานมาไดที่ the-torch@hotmail.com หรือไมก็มาฝากไดที่หอง กนศ. ทั้งทาพระจันทรและรังสิต
31
เธอๆ เรายัง ไมมีเอกจะ เรียนเลยละ เราเลือกไม ถูกวาจะเรียน อะไรดี
เราก็ยัง ไมมี เหมือนกัน จะโทวิชา อะไร เราก็ไมรู
มาหาตําตอบไดในงาน
á¹Ðá¹ÇàÍ¡-â· ¢Í§¤³ÐÈÔ Å »ÈÒÊμà วันพุธที่ 9 กันยายนนี้ ตั้งแตบายโมงตรงเปนตนไป ที่หอง SC 1001