©ºÑº·Õè 20 »‚·Õè 3 ¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
เกาเกา ๋ ่
à¢Õ¹àͧ หลายๆ คนทีก่ าํ ลังอานทอรชอยูใ นขณะนีอ้ าจจะสงสัยวาตอนนีเ้ รายังคงอยูใ นปเกา หรือวาเราไดกา วขาม มาสูปใหมแลว? อยาเพึ่งตกใจไปนะครับ ถาผมจะบอกวาเรายังคงอยูในปเกากันอยู ที่เปนเชนนี้ก็เปนเพราะวา ทอรชเลมนี้ยังคงเปนทอรชฉบับเดือนธันวาคม 2552 อยู ไมใชเดือนมกราคม 2553 ดังที่ควรจะเปน เอาเปนวาทอรชเลมนี้ยังคงสามารถรักษามาตรฐานเดิมไดอยางไมนาดีใจไวเหมือนเดิม ซึ่งมาตรฐานนี้ ควรจะตองไดรับการยกเครื่องใหม แตตอนนี้ผมก็ตองขออภัยกับความลาชาของทอรชฉบับนี้ดวย ผมวาเราควรนาจะตองลาปเกากอนทีจ่ ะเริม่ ตอนรับปใหม เพราะถึงแมวา ปทแี่ ลวจะผานพนไปครบ 365 วันแลวก็ตาม แตวันเหลานั้นที่ผานไป ก็ไมไดผานไปเปลาๆ หากกลับไดทิ้งอะไรตางๆ มากมาย หลายๆ เรื่องที่ เราลืมๆ ไปก็ไมเสียดายอะไร แตพอเอาเขาจริง หลายๆ เรื่องที่เราตั้งใจจะลืม ตอใหพยายามจะลืมซักเทาไร ก็ลืม ไมลง ในทางตรงกันขามเรือ่ งอยางนีก้ เ็ กิดขึน้ กับความทรงจําทีเ่ ราตองการจําไวเชนกัน อยากจะจําไวตลอด แตไม นานผานไป เราแทบจะจําอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นไมไดแลว เรื่องความทรงจํานี้ ไมเขาหรือออกสมองใครงายๆ หรอกครับ ก็อยางที่ผมบอกไปในยอหนาที่แลว วาใน หลายๆ ครัง้ เราก็ไมสามารถจะควบคุมใหจาํ หรือลืมอะไรไดอยางสะดวกตามใจเราตองการ ซึง่ จะเปนไปดวยสาเหตุ ใดนัน้ ผมก็คงใหคาํ ตอบเองไมได แตพอจะแนะนําใหไปลองถามผูเ ชีย่ วชาญทีเ่ รียนเรือ่ งเกีย่ วกับสมองและความ ทรงจํามาโดยตรงจะดีกวา ผมอาจจะหาคําตอบมาอธิบายใหไมได แตผมก็มวี ธิ ที พ ี่ อจะชวยใหเราระลึกถึงความทรงจําไดมาแนะนํา ใหอยูบ า ง ไมวา จะเปนการจดบันทึกดวยดินสอหรือปากกาลงสมุดจดเอง หรือวาจะใชเทคโนโลยีในปจจุบนั อยาง กลองถายรูปหรือกลองวิดโี อดิจติ อลทีม่ อี ยูเ ยอะแยะทัว่ ไป ก็เปนอีกชองทางการบันทึกเรือ่ งราวทีด่ ี สะดวกและไม ยุงยากเหมือนกอน แถมยังไดอรรถรสในการยอนความหลังไดดีกวาการอานจากสมุดจดของเราเองเสียอีก จริงอยูท กี่ ารดูภาพสีสนั และวิดโี อเคลือ่ นไหวพรอมเสียงไดนนั้ ยอมใหอรรถรสไดดกี วาการมานัง่ อานตัว อักษรลายมือบนกระดาษที่นับวันจะยิ่งจางลง แตสําหรับผมแลว การอานลายมือตัวเองนั้นใหอารมณกวาการดู ภาพสีๆ ผานจอดิจิตอลอยูหลายเทาตัว เพราะนอกจากผมจะพอระลึกถึงความทรงจําชวงนั้นไดบางแลว ลายมือ ของผมในตอนนั้นยังบอกอีกวาตอนนั้นผมรูสึกเชนไร แตก็ตองลองสังเกตกันหนอยวาหากลายมือตวัดๆ ก็อาจ หมายความวาตอนนัน้ กําลังไมสนุก แตถา เปนตัวอักษรเรียงกันอยางเรียบรอย ก็ไมตอ งสงสัยเลยวาตอนนัน้ กําลัง อารมณมีสุขแนๆ เพราะถาไมมีสุข ก็คงไมมีใครตั้งใจนั่งบรรจงลายมือสวยงามกันตลอดเวลาหรอก สวนถาใครจะบอกวาอุปกรณอยางกลองดิจิตอลนั้นบันทึกไดทั้งอรรถรสและอารมณไดดีกวาการเขียน ผมก็ไมวา อะไรหรอกครับ เพราะเรือ่ งนีก้ ข็ นึ้ อยูก บั ความชอบสวนบุคคล ผมเพียงแคอยากจะมาแบงแนวคิดวิธกี าร ชวยจําก็เทานั้นเอง เพราะสุดทายแลวไมวาจะเปนการกด(ปุมกลอง) หรือการจด ก็ลวนแตเปนการชวยใหเรา ประกอบความทรงจําของชวงเวลานั้นใหกลับมาใกลเคียงกับของเดิมอีกครั้ง ผมวาเรานาจะพยายามจําหรือบันทึกเรื่องของเรากันไวใหเยอะ ไมวาจะเปนเรื่องที่ดีนาจํา หรือจะไมดี ไมนา จําก็ตาม เพราะอยางนอยเราก็จะจําและเขาใจไดวา ครัง้ หนึง่ เราเปนเชนไร เพือ่ จะไดไมมาทรยศตัวเองทีหลัง ลากอนปเกา สวัสดีปใหม บรรณาธิการ
2
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
inside ©ºÑº·Õè 20 »‚·Õè 3 ¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
4 ä»=went 7 ¸ÕÁ ·Íà ª 12 introduce 10 Rate-Arts 22 bon appetit 24 ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ 26 ËÁعªÕÇÔμ ˹ŒÒÇ‹Ò§ 28 30 ÁÕàÃ×èͧ 31 á»ÐºÍà ´
TEAM TORCH’s December 09 - บรรณาธิการ : ศศินทร วิทูรปกรณ กองบรรณาธิการ : โสภาพรรณ โยปนตา, กมลวรรณ เชาวอรัญ, ผณินทร แกวเงิน, นุดี มนูญดาหวี, ทิมา เนื่องอุดม, ชลิตา วัฒนศิริ นักเขียน : ประทุมรัตน นางแยม พิสูจนอักษร : พีณา พิภพภิญโญ ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ : พิพัฒน วงษเสรี, พัทธมน เลิศตุรงคชยั , สลิล ตันศริสกุล อํานวยการผลิต : ฝายการนักศึกษา และ คณะกรรมการนักศึกษาคณะศิลปศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ติดตอ : the-torch@hotmail.com
3
á»ÐºÍà ´ เรื่อง : หญิงสายลม
“...ลมหนาวมาเมื่อไหร ใจฉันคงยิ่งเหงา...” แตคงหนาวและเหงากันไดไมเทาไหร (ไมถึงหนึ่งอาทิตย) ก็ตองเผชิญกับสายลมแสงแดดที่แผดเผากายและใจใหรุมรอน ‘หญิงสายลม’ เลยไปหาของสวยๆ งามๆ มาให เพื่อนๆ ไดดูกันบางคะ เผื่อจะไดคลายรอน (คงจะไดแตกายนะคะ เพราะใจคงจะยิ่งรอนดวยความอยากไดคะ) เรามาดูกันดีกวาคะวา ‘หญิงสายลม’ ไปหาอะไรมาใหเพื่อนไดไปกัน งานแรกเขาขอเชิ ญ ผู ส นใจเข า ชม โครงการพัฒนาความสามารถนิสติ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ คณะวิทยาศาสตร เอกวัสดุ ศาสตร (สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ) ครั้ง ที่ 16 หรืองาน Jewelry Season 16th ภายใต แนวคิดที่วา “THE GEOMETRY – มิติที่แตก ตางกับความงามที่นาคนหา” ในวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2552 นี้ ณ ชัน้ 1 โซน Watch & Jewelry ศูนยการคา Central World งานจะเริ่มตั้งแต 11.00 น. เปนตนไป ภายในงานจะมีการจัดแสดงผลงานของ นิสิต และยังมีกิจกรรมนาสนใจตางๆ อาทิ การ เดินแฟชั่นโชวเครื่องประดับ การบรรยายความ รูโดยผูทรงคุณวุฒิ การแสดงผลงานของผูชนะ การประกวดการออกแบบเครื่องประดับ สาธิต workshop เครื่องประดับ ฯลฯ งานนี้ยังมีสิทธิ พิเศษแกผูลงทะเบียน 15 คนแรกของแตละวัน นอกจากนี้ยังมีการลางเครื่องประดับดวยเครื่อง Ultra Sonic ฟรี จึงบอกไดเลยวา ไมควรพลาด! ขอเชิญผูสนใจสมัครประกวดออกแบบ เครื่ อ งประดั บ ดู ร ายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม และ ดาวนโหลดใบสมัครไดที่ jewelryseason-swu@ hotmail.com, http://jewelryseason-swu.hi5. com, http://my.dek-d.com/jewelryseason16 ติดตอ ขอรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ 086-570-6214
เรื่องนาสนใจถัดมา คือ โครงการ a team junior ที่กําลังจะเวียนมาถึงอีกคราวเปน ครัง้ ที่ 7 โดยนิตยสาร a day เปดรับนักศึกษาไม จํากัดคณะ-สาขาวิชาเรียน-เพศ ทีม่ ใี จรักในงาน นิตยสาร 15 คนมารวมกันใชชีวิต 3 เดือน เพื่อ ศึกษาวิชาการทํานิตยสารและปลุกปน นิตยสาร a day 1 ฉบับ เพื่อออกไปโลดแลนอยูบนแผง หนังสืออยางที่ a team ทําจริงกันทุกประการ ทวาปนี้มีความ SUPER (ที่หลายคน คิดวาเปนเวิรกช็อปสอนเตน Super Junior ไป แขงทีเ่ กาหลี) เหตุเพราะกอนทีจ่ ะคัดเลือกผูเ ขา รอบสุดทาย วาที่ a team junior ที่ผานการคัด เลือกจากใบสมัครทุกชีวิต จะไดเขารวม Super Workshop จากกูรูผูเชี่ยวชาญ ที่จะมามอบ ความรูครบทุกดานของการทํานิตยสารชนิด เจาะลึกถึงแกนภายในเวิรกช็อปเดียว แคนั่ง เฉยๆ ก็มีความรู Install เขาสูสมองอยางที่ไม เคยมีรุนไหนไดรับมากอน!!! สนใจรายละเอี ย ดข อ มู ล เพิ่ ม เติ ม สามารถติดตามไดที่ http://www.daypoets. com/aday2/?p=1132 เขาหมดเขตสงกันวันที่ 7 มกราคม ปหนานี้นะคะ ชาหมดอดนะจะชาวศิลปศาสตร !
- ขออภัยผูอานทุกคนดวย ที่นําขาวมาลงชาเกินไป - บรรณาธิการ
4
ศิเสวนา ลป
—————12 มกราคม 2553 แนวคิดมนุษยนิยมของ เกอเธ โดย อ.คงกฤช พุกกะมาน รวมอภิปรายโดย อ.ธีระพจน ศิริจันทร —————ขอเชิญเขาฟงและรวมเสวนาทางวิชาการใน 19 มกราคม 2553 บรรยากาศเปนกันเอง ในโครงการ ศิลปเสวนา ทุกวันอังคาร เวลา 16.40-19.00 สaามทศวรรษกับงานวิจัยทางภูมิศาสตร: หองประชุมชั้น 2 ตึกคณะศิลปศาสตร What&How มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ศูนยรังสิต โดย อ.ทรงชัย ทองปาน 24 พฤศจิกายน 2552 – 23 กุมภาพันธ 2553 ไมตองลงทะเบียน ไมตองเสียคาใชจายใดๆ รวมอภิปรายโดย อ.จุฑามาศ ประมูลมาก ——————————16 กุมภาพันธ 2553 2 กุมภาพันธ 2553 Female Bildungsroman Satre vs Camus: ความขัดแยงทาง ความคิดบนเสนทางการตอสูทางการเมือง โดย อ.สุธิดา วิมุตติโกศล รวมอภิปรายโดย โดย อ.วันรัก สุวรรณวัมนา ผศ.สุดาวรรณ สินธุประมา รวมอภิปรายโดย อ.ธีรพจน ศิริจันทร ——————————23 กุมภาพันธ 2553 9 กุมภาพันธ 2553 Steampunk Fiction Road Fiction โดย อ.ธนรรถวร จตุรงควณิช โดย อ.เมธาวี โหละสุต รวมอภิปรายโดย ผศ.ภรรดา ทามุระ รวมอภิปรายโดย (จะแจงใหทราบภายหลัง) *หมายเหตุ - อาจมีการเปลี่ยนผูอภิหรายและผูรวมอภิปราย 4
6
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
ä»=went เรื่อง : แปนแรน !
คาย อนุรักษ ’52
ถาใครมีโอกาสไดเดินผานไปผานมาแถวๆ ตึก คณะเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผานมา คงจะเห็นเด็ก ศิลปศาสตรจํานวนหนึ่ง กําลังตอแถวกันยาวเหยียด เพื่อลงชื่อเขารวมไปคายอนุรักษธรรมชาติประจําปของ คณะฯ ซึ่งปนี้เขาจะไปปลูกปากันที่อุทยานแหงชาติ คลองลาน จ.กําแพงเพชร เราแอบไดขาวมาวาที่นั่น สวยมากทีเดียว เราเลยอยูนิ่งไมได ตองรีบไปตอแถว กับเคาดวยเหมือนกัน เย็นๆ ของวันศุกรที่ 13 พฤศจิกายน พวกเราชาวคาย มารวมตัวกันทีล่ านหนาอินเตอรโซน เพือ่ เตรียมตัวเดิน ทาง ตอนนัน้ ในใจเราก็แอบหวังอยูล กึ ๆ วาอากาศทีค่ า ย นัน้ คงจะหนาวกวาทีร่ งั สิตนีแ้ ละทีส่ าํ คัญคงจะตองหนาว มากกวาสองวัน การเดินทางจากมหาวิทยาลัยไปสู จ.กําแพงเพชร เปนไปอยางราบรื่นตลอดเวลากวา 6 ชั่วโมง บางคน หลับแลวหลับอีก ไมก็เลนเกมกันเกมแลวเกมเลา นั่ง โมใหเพื่อนฟง แลวก็นั่งฟงเพื่อนขางๆ ผลัดกันโมจน เมื่อยปาก แตก็ยังไมถึงซักที ยังดีที่บนรถไมไดรอน อะไรมากมายเพราะไดลมเย็นพัดเขามาตลอดทาง พวก เราเลยนั่งกันแบบสบายๆ เราออกเดินทางกันตั้งแต
7
ประมาณหกโมงเย็น กวาจะถึงคายก็ปาเขาไปประมาณ ตีหนึ่งกวาๆ อากาศหนาวๆ ตอนนั้น (แนนอนวาตอง หนาวกวาที่รังสิตแน) ทําใหหลายคนตองรีบเอาเสื้อกัน หนาวมาสวมทับ แลวยิง่ ไดยนิ เสียงนํา้ ตกอยูไ มไกลจาก เต็นทกันเทาไร ก็ยิ่งหนาวขึ้นมาอีกทันที พอเราขนของ ลงจากรถเพื่อนําไปเก็บเขาเต็นทที่พักกันเรียบรอย ก็มี การแนะนําสถานที่จากเจาหนาที่ รวมทั้งกฎการปฏิบัติ ตัวเวลาที่เราอยูในอุทยาน ฟงจบแลวก็ไดเวลานอน เชาวันตอมา พวกเราโดนปลุกกันตัง้ แตเจ็ดโมงเชา ถึงแมวาจะมีเวลาพักผอนกันไมมาก (กวาจะไดนอน ก็ ปาเขาไปเกือบๆ ตีสาม) แตก็มี Early Birds บางคนที่ ตื่นมาตั้งแตตอนไหนก็ไมรูเพื่อมาดื่มดํ่ากับบรรยากาศ ธรรมชาติยามเชา แลวกลับมาเลาใหเราฟงวา นํ้าตก สวยอยางนูน อยางนี้ ทําเอาเราอยากไปเลนนํา้ ตกตัง้ แต ตอนนั้นเลย เวลาแปดโมงเชา เราก็ไดกลับมาเขาแถวเคารพ ธงชาติกันอีกครั้ง (ครั้งสุดทายที่ทําแบบนี้ก็สักสองปได แลวมั้ง) รวมกับพี่ๆ เจาหนาที่ของอุทยาน กอนจะเดิน ทางตอไปเพื่อทํากิจกรรมตลอดทั้งวัน เราอยากจะขอยกใหวันนั้นเปนวันแรงงานไดไหม คะ? เปนแรงงานตางดาวดวย ก็เปนเพราะวารถบรรทุก ทีเ่ ราใชเดินทางกับการเอาเสือ้ เอาผาขึน้ มาคลุมบังแดด (ชวยคิดภาพตามดวยนะคะ) ยิ่งทําใหไมตางไปจากรถ ขนแรงงานตางดาวเสียจริงๆ ชวงเชาพวกเราเขาปาไปปลูกตนไมแนวกันชน ปา แนวกันชนก็คือ ปาที่กั้นระหวางพื้นที่ของอุทยานและ พืน้ ทีท่ าํ กินของชาวบาน เพือ่ ปองกันการบุกรุกพืน้ ทีป่ า คะ ตนไมที่เราใชปลูกคือ ตนสีเสียดแกน ซึ่งเปนตนไม ประจําจังหวัดกําแพงเพชร การปลูกตนไมเปนไปอยาง สนุกสนาน ตอนแรกเราก็แบงกันเปน 5 กลุม กระจายตัว กันไปปลูกตนไมตามแนวทีเ่ จาหนาทีไ่ ดปก หลักไมรอไว โดยรอบ แตสดุ ทายเรากลับมากระจุกเปนกลุม ใหญกลุม เดียวกันไดอยางไรก็ไมรู การปลูกปาแนวกันชนรอบนี้ ไมไดมีแตพวกเรา เทานั้น แตยังมีนองชาวเขาเผา “ลหุ” มาชวยพวกเรา ดวย ชาวคายหลายคนพยายามจะเลนกับนองๆ แตดู เหมือนวาพวกเราจะไมเนียนพอที่จะพูดภาษาเดียวกับ
8
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552 นองๆ (ทีจ่ ริงนองๆไมกลาพูดภาษาไทยกับเราตางหาก) พี่ๆ หลายคนเลยเสียความมั่นใจกันไปตามๆ กัน ถึงแม จะคุยกันไมรูเรื่อง แตนองๆ เขาก็ยังคงขยันวิ่งชวยกัน หยิบตนกลามาใหเรา กอนกลับเราจึงไดมอบสมุด (ที่ เจาหนาที่จัดเตรียมไวให) เปนของรางวัลใหนองๆ ที่มา ชวยกันปลูกปา เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จแลว พักผอนกันจน สบายใจสบายกายกันแลว เราก็มุงหนาเขาปาไปอีก บริเวณหนึ่ง เพื่อเขาไปทําฝายชะลอความชุมชื้น ฝายที่ พวกเราไปทํากันเปนฝายหินทิง้ พวกเราเลยจําเปนตอง แปลงรางเปนแกงปาหินกันไปโดยปริยาย ...คือ ที่จริง พวกเราไมไดแยขนาดนั้นนะคะ นั่นเปนวิธีการทําฝาย ตางหากละคะ ดวยการเอาหินที่อยูบริเวณนั้นมากอให เต็มในแผงไมไผที่เจาหนาที่ไดเตรียมไวให ตอนนีข้ อยอมรับเลยวาเหนือ่ ยขัน้ สุด กวาจะทําเสร็จ ครบทุกฝายก็ทําเอาแรงของพวกเราเกือบหมด แตก็ยัง พอมีเหลืออยูบ า ง เราเลยตามเจาหนาทีไ่ ปชวยกันขนดิน เพื่อทําบอปลา สงสัยใชไหมคะ วาทําบอปลาแลวทําไม ตองขนดิน? ก็เพือ่ นีเ้ ปนการเกษตรแบบผสมผสานไงคะ (บอปลาลอมรอบดวยแปลงเกษตร) ตอนแรกกิจกรรม นี้ไมไดอยูในตารางกิจกรรมของพวกเรา อีกทั้งความ เหนือ่ ยทีส่ ะสมมาตัง้ แตเชา เริม่ ทําใหเราไมอยากทํางาน อีกแลว แตสดุ ทายการขนดิน ก็ไดกลายเปนอีกกิจกรรม หนึ่งที่พวกเราสนุกสนานกันไปกับการสงดินตอเปน ทอดๆ จากหลุมดินไปจนถึงบอปลา ซึ่งตองใหชาวคาย เกือบทุกคนมายืนเรียงตอกันกวาจะถึง กิจกรมนี้เปน กิจกรรมทีต่ อ งใชทงั้ เวลาและแรงไมใชนอ ย ทุกคนจึงดีใจ เหลือเกินตอนทีร่ วู า งานเสร็จแลว จนถึงตอนนีเ้ ราก็ยงั คง พอมีเวลา จึงตัดสินใจไปที่จะไปเลนนํ้าตกกัน หลายคนคงจะนึกวานํ้าตกที่เราไปเลนกันคงจะ เล็กๆ พอใหลงไปสาดนํ้ากันได ตอนแรกเราก็คิดแบบ นั้นเหมือนกันคะ รูเพียงแตวานํ้าตกคลองลานนี้สวย มากเทานั้นเอง แตพอไปถึงนํ้าตกแลว เราถึงกับเขา ออนทันที สาเหตุแรกเพราะนํ้าตกคลองลานนี้สูงเกือบ เทากับตึกสี่หาชั้น สวนอีกสาเหตุเปนเพราะหลังจาก ทํากิจกรรมมาทั้งวันแลว เราก็นึกวาจะลงเลนนํ้าไดเลย ที่ไหนไดเรากลับยังตองเดินเขาไปดานในอีกเพื่อที่จะ
ไปอยูใกลๆ นํ้าตก ทีแรกเราไมคดิ จะลงเลนนํา้ แตในเมือ่ เพือ่ นๆ ลงกัน หมดแลวเราจะพลาดไดอยางไร จริงไหมคะ? เราก็เลย เดินๆ เขาไปถึงตรงที่นํ้าตกลงมาจากผา เห็นตอนแรก ก็วาวแลว! ยิ่งไปเห็นใกลๆ ยิ่งวาวเขาไปอีกรอบ เพราะ นํ้าตกคลองลานเปนนํ้าตกที่ใหญมาก นํ้าแรง นาเลน มากๆ คะ เมื่อลงไปแลวก็แทบไมอยากจะขึ้นเลย เพราะ นํา้ ทีน่ แี่ มวา จะเย็นมาก แตกส็ ดชืน่ และประทับใจมาก ยิง่ เมือ่ มีคนถามวา ‘เราไดกนิ ฮอลลหรือยัง?’ ตอนแรกเราก็ งงๆ มารูอ กี ทีกต็ อนทีถ่ กู พาเขาไปอยูใ ตนาํ้ ตกแลว ตอน นั้นเขาใจทันทีเลยวา ฮอลลคืออะไร มันสดชื่นจริงๆ นะ แลววันสุดทายก็มาถึง พวกเราตื่นกันมาดวยอา การงงๆ วาไดเวลากลับบานแลวเหรอ? หลายๆ คน คงจะติดใจกับบรรยากาศและอากาศที่สดชื่นทามกลาง ธรรมชาติ ณ อุทยานแหงชาติคลองลาน จ.กําแพงเพชร แนนอน กอนทีจ่ ะไปเราคิดวาไปคายนี้ เราจะไปเทีย่ วกัน ไป ดื่มดํ่ากับธรรมชาติกัน ไมไดคิดหรอกวากิจกรรมที่ทํา จะหนักขนาดนั้น แตหลังจากทุกๆ กิจกรรมที่เราทํากัน แลว ที่แมจะหนัก จะเหน็ดจะเหนื่อยขนาดไหน แตกลับ ยิ่งทําใหเราตระหนักถึงความสําคัญและความสวยงาม ของธรรมชาติ ทีค่ วรจะอยูค กู บั เราไปตราบนานเทานาน หากเรารูจักรักษาใสใจกับสิ่งแวดลอมรอบๆ ตัวเราและ ใชประโยชนจากธรรมชาติอยางคุมคาที่สุด แน น อนว า นอกจากความสุ ข ใจที่ ไ ด อ นุ รั ก ษ ธรรมชาติแลว เรายังจะไดเก็บเกี่ยวความประทับใจไว ไมลืมเลือน แลวเราจะไปคายดวยกันอีกนะคะ
- ขอขอบคุณวิทยากรจากอุทยานแหงชาติคลองลาน
ทีพ ่ าพวกเราทํากิจกรรมและบรรยายใหความรูเ รือ่ ง ตางๆตลอดคายดวยนะคะ
- ขอขอบคุณอาจารยและเจาหนาทีฝ่ า ยการนักศึกษา คณะ ศิลปศาสตรทุกทาน ที่ไดไปคอยชวยดูแลพวกเราทุกคน ที่คาย ดวยคะ
9
introduce เรื่อง : ปาโบๆ
Bonjour! French!
Bonjour! ถาเริม่ ทักทายกันดวยคํานีแ้ ลวละก็ คงเดาไดไมยากวาวันนีถ้ งึ คิวเอกภาษาฝรัง่ เศสทีจ่ ะไดมาแนะนําตัวกับ เพื่อนพองพี่นองชาวศิลปศาสตรใหไดรูจักกับเอกนี้ใหดีขึ้นกันอีกนิดใกลชิดกันอีกหนอย ในปจจุบันเราคงปฏิเสธไมไดวาภาษาอังกฤษเปนภาษาสากลในการสื่อสาร จึงไมใชเรื่องแปลกถาเราจะ พูดวา ใครๆ ก็พูดภาษาอังกฤษได แตหากมีทักษะความรูในการใชภาษาที่สามเพิ่มเขาไปจึงนับวาเปนขอได เปรียบ หากพิจารณาถึงประโยชนที่ใชไดอยางกวางขวางแลว ภาษาฝรั่งเศสก็นับเปนตัวเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่ง เพราะมิไดใชพูดเฉพาะในประเทศฝรั่งเศสเทานั้น แตสามารถใชไดในกวา 35 ประเทศทั่วโลก ประชากรทั่ว โลกกวา 120 ลานคนที่สื่อสารดวยภาษานี้ รวมถึงในองคกรสําคัญๆ ระดับนานาชาติก็ใชภาษาฝรั่งเศสเปน ภาษาราชการ อาทิ สหภาพยุโรป คณะกรรมการโอลิมปกนานาชาติ องคการสหประชาชาติ และ สหภาพสากล ไปรษณีย เปนตน นอกจากนี้ในชีวิตประจําวันเราก็มักจะพบเห็นภาษาฝรั่งเศสปรากฏอยูทั่วไป ไมวาจะเปนตามปายสินคา เสื้อผา เครื่องสําอาง ชื่ออาหารจานหรู รวมถึงเพลงและภาพยนตรก็หาชมไดไมยาก จึงอาจจะเรียกไดวาภาษา ฝรั่งเศสเปนอีกภาษาหนึ่งที่นาสนใจที่จะเลือกเรียนควบคูไปกับภาษาอังกฤษ
10
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552 แนนอนวาเมื่อเรียนเอกภาษาฝรั่งเศสแลวเราจะไดพัฒนาทักษะในการสื่อสารทั้ง 4 ดานทั้ง ฟง พูด อาน เขียน โดยเนนการมีความคิดเชิงวิเคราะหวิจารณ เพื่อสามารถนําไปใชในการประกอบอาชีพหรือศึกษาตอขั้น สูงไดอยางมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้นอกจากเรียนทักษะทางภาษาแลวเรายังไดเรียนรูศิลปวัฒนธรรมของชาวฝรั่งเศส ดินแดนแหงศิลป วัฒนธรรมอันสวยงาม ผานวิชาตางๆ ที่นาสนใจ อาทิ วิชาที่เกี่ยวกับวรรณกรรมฝรั่งเศส ซึ่งจะไดศึกษาผลงาน ของนักเขียนฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลกในยุคสมัยตางๆ วิชาประวัติศาสตรฝรั่งเศสที่จะทําใหไดเรียนรูและเขาใจ ความคิด สภาพชีวติ และลักษณะเฉพาะของชาวฝรัง่ เศส หรือจะเปนวิชาภูมศิ าสตรทจี่ ะไดเรียนรูท กุ ซอกมุมตัง้ แต เรื่องพื้นที่แมนํ้าภูเขาไปถึงเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งนี้นักศึกษาเอกภาษาฝรั่งเศสสามารถเลือกเรียนวิชา ที่ถนัดและสนใจไดหลายดาน ไมวาจะเปนดานวรรณคดี ดานภาษาศาสตร ดานธุรกิจ หรือดานการทองเที่ยว และการโรงแรม ภาควิชาภาษาฝรั่งเศสเนนการพัฒนาบุคคลากรอยูเสมอ ในแตละปรัฐบาลฝรั่งเศสใหความสนับสนุน ดานทุน สําหรับครูเพื่อไปฝกอบรม ทัศนศึกษาและดูงานในประเทศฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให สอดคลองกับหลักสูตร มีการจัดงานชุมนุมนักเรียน นักศึกษาระดับประเทศทุกๆ ป เพื่อใหนักเรียนนักศึกษาได มาแสดงความสามารถทางภาษาและสนุกสนานรวมกัน งานนี้จัดโดยสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแหงประเทศไทย นอกจากกิจกรรมทีห่ ลากหลายเพือ่ พัฒนานักศึกษาใหเปนบัณฑิตทีม่ คี ณ ุ ภาพแลว ภาควิชายังสนับสนุนให นักศึกษาไดเขารวมโครงการแลกเปลีย่ นไปศึกษาทีม่ หาวิทยาลัยคูส ญ ั ญาในประเทศฝรัง่ เศสเปนเวลาประมาณ หนึง่ ป เพือ่ เปดโอกาสในการเรียนรูน อกชัน้ เรียนและใหนกั ศึกษาไดพฒ ั นาทักษะทางภาษา ตลอดจนสรางเสริม ประสบการณในการสื่อสารดวยภาษาฝรั่งเศสกับเจาของภาษาอีกดวย นอกจากนี้ยังใสใจในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมของนักศึกษาโดยมีโครงการใหนกั ศึกษาเอกภาษาฝรัง่ เศสทุกคนทุกชัน้ ป บําเพ็ญประโยชนเพือ่ สังคม เปนเวลา 20 ชั่วโมงตอปการศึกษาอีกดวย ในโลกของการทํางานนอกจากงานสุดฮิตอยางเลขานุการ หรืองานสุดฮอตอยางแอรโฮสเตสแลว สาขา งานอืน่ ๆ ทีต่ อ งการผูท มี่ คี วามสามารถในการสือ่ สารภาษาฝรัง่ เศสก็มอี กี มาก เชน ตําแหนงงานในองคกรระหวาง ประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน การเปนลาม ไกดนําเที่ยว หรือนักแปล ก็ลวนแตเปนชองทางในการทํางาน ทีน่ า สนใจ โดยเฉพาะในปจจุบนั แนวโนมการทําธุรกิจการคาของบริษทั ในประเทศไทย มีการเปดตลาดการคา กับประเทศที่ใชภาษาฝรั่งเศสมากขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศตางๆ ในทวีปแอฟริกา ซึ่งมีพลเมืองหนาแนนและ มีทรัพยากรนํ้ามันเหมาะแกการลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทใหญของประเทศฝรั่งเศสก็เขามาลงทุนทําธุรกิจในประเทศไทยมากกวา 350 บริษัท นอกจากดานธุรกิจแลวดานการทองเที่ยวก็มีการพัฒนาอยางตอเนื่อง จากสถิติของการทองเที่ยวแหง ประเทศไทยพบวา ปที่ผานมามีนักทองเที่ยวจากฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นถึงกวา 29% มีนักทองเที่ยวที่ใชภาษาฝรั่งเศส เขามาเที่ยวและใชเวลาพักผอนในประเทศไทยโดยเฉลี่ยประมาณ 7-10 วัน มากกวา 3 แสนคนตอป มีโรงแรม ในเครือของฝรั่งเศสมาตั้งในประเทศไทยหลายแหง ดวยเหตุนี้บุคคลกรดานภาษาฝรั่งเศสจึงยังเปนที่ตองการ ของตลาดแรงงานอยูมาก นักศึกษาที่เรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อที่จะประสบความสําเร็จในชีวิตจําเปนตองทุมเท สมํา่ เสมอกับการเรียน และจะตองพัฒนาตนเองอยูเ สมอเพือ่ ใหสามารถใชภาษาฝรัง่ เศสไดอยางมีประสิทธิภาพ ทั้งฟง พูด อาน และเขียน - ขอบคุณขอมูลจาก เว็บไซตสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแหงประเทศไทย http://www.atpf-th.org/
11
¸ÕÁ ·ÍÃ ª เรื่อง : ทีมทอรช
กอนทีจ่ ะมีสงิ่ ใหมๆ ขึน้ มาได ก็ยอ มตองมีสงิ่ เกาๆ ขึน้ มากอน เพราะถาไมมสี งิ่ เกาๆ แลว จะมีสงิ่ ใหมๆ ขึน้ มา ไดอยางไร? สิง่ ทีเ่ ราคิดวาเกาในวันนี้ ก็ตอ งยอมเคยเปนสิง่ ใหมๆ มากอน แตเมือ่ เวลาผานไปและมีสงิ่ ทีใ่ หมกวาเขา มาแทนที่ แนนอนวาสิ่งที่เคยใหม ก็กลายเปนสิ่งเกาๆ นั่นเอง สิ่งที่เราเห็นวาเกานั้น มันไมไดเกาไปเปลาๆ เพราะ ไมวาจะเปนสิ่งใหมในยุคกอน หรือสิ่งเกาในยุคใหม ตางก็เปนสิ่งที่บันทึกเรื่องราวมากมายในแตละยุคไวใหคนรุน ถัดไปเขาใจเรื่องเกาๆ นั้นมากขึ้น ทอรชฉบับนี้เลยไปลองรวบรวมสิ่งเกาๆ ที่เราไมไดคิดวาเกาธรรมดา แตเปนสิ่งที่ยิ่งเกา...แลวจะยิ่งเกา เพราะสิง่ เหลานีไ้ ดผา นกาลเวลามานานพอสมควร ซึง่ เวลาเหลานัน้ ไดพสิ จู นคณ ุ คาความเกาของแตละสิง่ ไวแลววา ถาสิ่งไหนเกาแลวยังคงมีคนพูดถึงอยู สิ่งนั้นก็คงไมไดเปนสิ่งเกา แตเปนสิ่งที่เกาเสียมากกวา!
12
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
เมืองขามแกน บานดอนมดแดง บานรองสอน
เมืองสามโคก
เมืองอูทอง
บานหมากแขง
เมืองแปะ เมืองถลาง บางกอก
เมืองสโตย
บางปลาสรอย
สยาม ลองทายหรือไมก็เดาดูก็ไดวา ชื่อเกาๆ พวกนี้ เปนชื่อของจังหวัดอะไรบาง ถาคิดไมออกหรือ เดาไมถูก ก็ลองกลับหัวดู...จะพบกับเฉลยที่รอ อยูนั้นเอง
เมืองแปะ - บุรีรัมย, เมืองสโตย - สตูล, บางปลาสรอย - ชลบุรี, บานหมากแขง - อุดรธานี, บานดอนมดแดง - อุบลราชธานี, เมืองสามโคก ปทุมธานี, เมืองอูท อง - สุพรรณบุร,ี บานรองสอน - แมฮอ งสอน, บางกอก - กรุงเทพมหานคร, , เมืองถลาง - ภูเก็ต, เมืองขามแกน - ขอนแกน
13
า า ก ก เ เ ง ง า า า า ร ห ร เ หองงเ น ขขอก น อ อ ก ต แแต ย ั ง ั ง ย ต ย! ู !ู ! แแต ย อ อ า เเกกา “หางไนติงเกล” หรือชื่อเต็มวา “ไนติงเกล-โอลิมปค” เปนหางสรรพสินคาที่มีอายุยาวนานที่สุดใน ประเทศไทยก็วา ได เรียกวาตัง้ มาตัง้ แตเมือ่ สมัยคุณยายยังสาว อยูย าวมาตลอดจนคุณหลานกําลังจะสาวแลว หาง นี้ตั้งอยูในยานสุดคลาสสิคอีกแหงหนึ่งของพระนคร (กรุงเทพฯ) คือ บริเวณแยกพาหุรัด เขตพระนคร ตัวอาคาร มีทั้งหมด 7 ชั้น ตกแตงดวยลักษณะสถาปตยกรรมโมเดิรนสําหรับยุคซิกตี้ หางไนติงเกลเริ่มเปดกิจการมาตั้งแตป พ.ศ.2473 โดย นัติ นิยมวานิช ผูกอตั้ง โดยหางนี้เริ่มจากการ เปนรานคาเล็กๆ ใกลศาลาเฉลิมกรุง เมื่อกิจการดําเนินไปดวยดี เจาของหางก็ไดขยับขยายจนสามารถเปดเปน หางไนติงเกล-โอลิมปค ขึ้นอยางเปนทางการในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2509 หางนี้ยังเปนหางที่จําหนายสินคา ตัวแรกๆ ที่มีโฆษณาทางโทรทัศน ซึ่งเกือบจะเปนเจาแรกในสมัยนั้น หางแหงนี้ยังจัดกิจกรรมการประกวดตางๆ เพื่อเรียกความสนใจจากลูกคาวัยรุน(สมัยคุณพอหนุมๆ คุณ แมสาวๆ) โดยมีสโลแกนเทๆ วา “คลังแหงเครื่องกีฬา ราชาเครื่องดนตรี ราชินีเครื่องสําอาง” นอกจากนี้ยังมี บริการใหลูกคาไดใชเครื่องออกกําลังกายภายในหาง โดยคิดชั่วโมงละ 100 บาท เปนที่ถูกใจของหนุมๆ สําหรับ สาวๆ เขาก็ตั้งโตะเครื่องแปงใหแตงหนาเหมือนรานเสริมสวยติดแอร ดึงใจสาวๆ ไดอยูหมัดเลยทีเดียว อาจจะ กลาวไดวา หางไนติงเกลเปนตนแบบของการเรียกลูกคาดวยกิจกรรมตางๆ ทีด่ งึ ดูดลูกคาไดอยางดีเยีย่ มเลยทีเดียว ปจจุบนั นีห้ า งไนติงเกลยังคงเปดบริการอยูต ามปกติ แตทนี่ า สนใจคือ การตกแตงและการจัดวางสินคาที่ ยังคงรักษาตามแบบดั้งเดิมที่เคยเปนมาโดยตลอด และยังคงมีสินคายอดนิยมในสมัยกอน วางขายใหเลือกยอน ระลึกความหลังไดเปนอยางดี - หางแหงแรกที่มีบันไดเลื่อนคือ หางไทยไดมารู ที่ปจจุบันไดปดตัวลงไปแลว
14
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
าาก เเงง า ก ารรเเงงาาห อห อ นออก น ข ข ก ต ต แ แ งงย ัต ัย ต แ แ !!!ย ู ออาา ู ย เเ ก ก ถัดมาที่หางที่อยูไมไกลจากกันเทาไร แตก็เกาไมแพกัน ซึ่งก็คือ... “หาง ดิ โอลด สยาม พลาซา” แคชื่อก็นาจะบอกไดชัดเจนอยูแลววาหางนี้เขาตั้งใจทําใหเกาขนาดไหน หางสรรพสินคาแหงนี้ตั้งอยูบริเวณแยกพาหุรัด ดานถนนพาหุรัดตัดกับถนนบูรพา ตัวหางยาวตลอดแนวจนถึง ถนนตีทอง หางนี้อยูไมหางจากศาลาเฉลิมกรุงและตลาดพาหุรัด สามารถเดินเทาไปไดไมไกลนัก แตกอนบริเวณที่ หางตั้งอยูนั้น เดิมเปนที่ตั้งของตลาดมิ่งเมือง ซึ่งเปนแหลงจําหนายเสื้อผาสําเร็จรูปและรานรับตัดเย็บเสื้อผา จน กระทั่งมีนายทุนกลุมหนึ่งไดเขามาลงทุนปรับปรุงพื้นที่แหงนี้ ดวยการสรางอาคารสูง 4 ชั้นขึ้นมาใหม โดยตั้งใจ กอสรางตามรูปแบบลักษณะสถาปตยกรรมเกาๆ ของยานนัน้ เพือ่ ใหตวั อาคารนัน้ ไมดลู าํ้ สมัยไปขัดกับทัศนียภาพ โดยรอบ หางดิ โอลด สยาม เปดตัวอยางเปนทางการเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2536 แมวาหางนี้อาจจะไมไดมีอายุเกาแกเทียบชั้นเทากับหางไนติงเกล แตบรรยากาศการตกแตงทั้งภายใน และภายนอกนั้น ชวนใหเราเหมือนไดยอนกลับไปในอดีตสมัยหางไนติงเกลเพิ่งเปดใหมๆ สวนบรรยากาศนั้น คลาสสิกกันไปคนละแนว เพราะในหางดิ โอลด สยาม พลาซา ตกแตงแบบนีโอ คลาสสิค แนวประยุกต ภายในหาง ดิ โอลด สยาม พลาซา เปดใหเชาพื้นที่ เพื่อจําหนายเสื้อผา, เครื่องใชไฟฟา, สินคาทั่วไป เปนตน นอกจากนี้ยังไดจัดบริเวณภายในหางเปนลานขนมไทย ที่จําหนายอาหารไทยและขนมไทยหลากหลาย ประเภทอีกดวย - หางที่ประสบความสําเร็จที่สุดก็คงจะไมพน หางเซ็นทรัล ที่เปดสาขา วังบูรพา เมื่อป 2500 และขยายตอไปเรื่อยๆ อยาง ที่เห็นในปจจุบัน
15
เพลงเก่า
ที่ไม่เคยเก่า
หลายๆ คนคงคุน หูกบั เพลงนีด้ ี “...คนเรารักกันยาก...” จนกลายเปนวลีฮติ ติดปากของใครหลายๆ คน เพลงนี้มีชื่อวา ”คนเรารักกันยาก” (ก็ตามวลีฮิตนั่นละ) ผูขับรองดั้งเดิมคือ คุณเพ็ญจันทร รักประยูร ซึ่งอยูใน วง สุนทราภรณ คํารองของ คุณศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ทํานองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน แมวาเพลงนี้จะเปน เพลงเกาแลวก็ตาม แตเพลงดีๆ อยางนี้ฟงยังไงก็ยังคงเพราะอยูดี จนตองถูกนํากลับมาทําใหมใหเปนที่รูจักกัน อีกครั้งโดย คุณนันทิดา แกวบัวสาย ที่นํามาขับรองเพื่อใชประกอบละครเรื่อง “กรุงเทพราตรี” เพลงนี้เปนเพลงที่ใหความหมายเกี่ยวกับความรัก พูดถึงความรักที่กวาคนเราจะรักกันนั้นแสนยาก เย็น คูร กั บางคูแ มวา รักกันไปแลวก็ยงั มีอปุ สรรคตางๆ ทีท่ าํ ใหตอ งเสียใจ หรือวามีเรือ่ งทีท่ าํ ใหตอ งทะเลาะกันก็ จะทําใหไมมีความสุขดวยกันทั้งคู บางคนก็ผิดหวังกับความรักที่หลอกลวง ที่อีกฝายไมซื่อสัตยตอกันจนตอง เสียใจเพราะความรักที่ทุมเทจนหมดใจก็มีไมนอย แตหากเราลองคิดตอยอดจากความหมายของเนื้อเพลงนี้แลว เราจะไดความคิดดีๆ อยางหนึ่งที่วา ใน เมือ่ ความรักนัน้ ไดมาโดยยากลําบากตองฝาฟนอุปสรรคมากมาย ผานความเสียใจ ความเจ็บปวดมาไมนอ ย แต หากเรามีโอกาสไดรับความรักที่ดีจากใครสักคนแลว ไมวาความรักนั้นจะมาในรูปแบบใดก็ตาม จะเปนความ รักระหวางเพือ่ น ระหวางคูร กั ระหวางญาติพนี่ อ ง หรือจะเปนทีพ ่ อ แมมใี หลกู เราก็ควรจะถนอมความรักนีไ้ วให ดีที่สุดเทาที่เราจะทําได ผูแ ตงเพลงนีค้ งอยากใหคนฟงคิดใหดกี อ นทีจ่ ะตัดสินใจรักใครสักคน เราควรชัง่ ใจของตัวเราใหดเี พราะ แมวา การรักใครสักคนจะทําใหเรารูส กึ มีความสุข แตขณะเดียวกันเราเองก็อาจจะตองพบเจอกับความทุกขใจได
16
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
“..คนเรารักกันยาก รักกันยาก รักลําบากรักลําบน ดููใครรักสักคน โถทุุกขทน เสียจนหมนหมองหมาง คนเรารักกันยาก รักกันมาก ถึงใจคราก ถึงใจคราง ซานซมลมตายพลาง เห็นวายวาง แลวมันชางเศราทรวง คนเรารักกันยาก จริงหนอ เคยเห็น เขาคลอรักควง เปรอปรนรัก เสียจนอกกลวง รักลวง ยังผลาญทรวงเอาได คนเรารักกันยาก รักกันยาก แลวยังอยาก รักกันไป ทําไมหนาทําไม หารักใคร รักงายงาย ไมมี..”
ตลอดเวลาเชนกัน ตามที่ไดพูดไวในบทเพลงนี้วา ความรักมีอุปสรรคมาก ถาจะรักตองมีความอดทน เพราะรัก ที่งายๆ นั้นไมมี เนื่องจากเพลงนี้เปนเพลงเกา ภาษาที่ใชอาจจะทําใหเราเขาใจไดยาก และผูแตงก็ไมไดตองการบอก เราตรงๆ (ซึ่งเปนแนวทางที่รุนคุณปูคุณยาสมัยยังจีบกันนิยมใช) ถึงแมเพลงจะเกาแตความหมายในเนื้อเพลง ก็ยงั คงนํามาใชได เพราะไมวา จะเปนยุคสมัยไหน ความรักก็ยงั คงเปนความรักเหมือนเดิมอยูด ี เพลงนีเ้ ลยเตือน ใหเรารูจักรัก รักอยางมีสติ คนที่กําลังเริ่มตนที่จะมีความรัก ควรจะคิดใหดีกอนตัดสินใจที่จะรักใครสักคน เราควรเก็บขอคิดที่ไดจากเพลงนี้นําไปใชในชีวิตประจําวันอยางมาก เพราะเพลงนี้จะชวยใหเรา สามารถตัดสินใจเรื่องความรักทุกรูปแบบไดอยางเหมาะสมมากขึ้น การมีความรักใหใครสักคนควรตองคิดให รอบคอบ อยาทุมเทความรูสึกใหอีกฝายมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็ควรเผื่อใจไวรองรับความผิดหวังและ เตรียมใจรับความรูสึกของการพลัดพรากที่อาจจะเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งขางหนาใหได ไมวาจะสมหวังหรือผิด หวัง เราจะตองยืนอยูตรงจุดสมดุลของความรักนั้น นั่นเปนเพราะ “...หารักใคร รักงายงาย ไมม.ี .”
- สําหรับใครที่อยากฝกรองเพลงนี้เพื่อเตือนใจตัวเอง ก็ลองไปฝกรองคาราโอเกะไดที่ http://daraoke.gmember.com/idxplay.do?songid=11575
17
าม เฮฮากับ วันนี้ทอรชพอใจนําเสนอ “โฆษณาเกาๆ” หากทานสนใจโปรดอานตอไป แตหากไมถูกใจเราก็ไม ยินดีคืนเงิน (เพราะวาทอรชแจกฟรีนะสิ) มาประเดิมกันดวย “นํ้าอัดลมคิกคาปู” ซึ่งเปนที่ชื่นชอบของเด็กๆสมัยกอนเปนอยางมาก
“ผมชื่อปู หนูชื่อปก ปากับปูรักปูกับปก ปูกับปกชอบคิกคาปู ปากับปูรูใจปกปู ซื้อคิกคาปูใหปูกับปก ปากับปู ปูกับปก หัวเราะ คิกๆดื่มคิกคาปู”
หรือวาโฆษณาสุดคลาสสิกสมัยคุณพอคุณแมยังเยาวอยาง “ถานไฟฉายตรากบ”
“ยุคนี้มันตองทันสมัย เพื่อนผมทั่วไปใชถานไฟตรากบ ทั้งวิทยุและกระบอกไฟฉาย คุณภาพมากมายสะดวกสบายครันครบ ถานก็มีหลายอยางวางกอง เขากลับรับรองวาตองแพตรากบ เหตุและผล เขานาฟงครับ ขอใหลองสดับนะทานที่เคารพ” 18
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
า ณ ษ ฆ โ ต อ สป
ๆ ย ท บแ บใไนสมัยเกากันเถอะ
ใสๆ งายๆ ไดใจความกับ “ไอศกรีมปอบ ตราเปด”
"เสียงปอบมาแลว เขาแถวคอยทา คุณแมเรียกมา.... รถปอบ จอดปุบ คุณแมซื้อปบ แบงกัน นับนุบ ไดปบ กินปุบ กินไอศกรีมปอบ กินปอบตราเปด รสเด็ดหวานมัน " (ปอบตราเปด กินเสร็จหายซน เด็ก ๆ ทุกคน กินปอบตราเปด) และตบทายดวยเพลงประกอบรายการเด็กอยาง “เจาขุนทอง” ที่แอบแทรก ทอนแร็ปแบบไทยๆ เอาไวดวย
“อรุณเบิกฟานกกาโบยบิน ออกหากินราเริงแจมใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหมยิ้มใหแกกัน เพื่อนๆ พบหนา พี่นองพรอมหมู ตางมาดูรายการสุขสันต เจาขุนทองขับขานแลวนั่น เจาขุนทองขับขานแลวนั่น เพื่อนผองมากัน...ยินดีปรีดา บางรอง บางเลน ทั้งเตน สงภาษา ขับขาน เจรจา เริงรา กับขุนทอง"
อานแลวคุนหูกันบางไหมเอย ถาคุนหูอยูหลายอัน ชวงเวลาวัยเด็กของเพื่อนๆ ก็คงจะ.......นานมาแลว ละสิ แหม ดีใจนะเนี่ยที่คนเขียนเคยไดยินมาแคสปอตอันเดียวเอง ฟงแลวขําๆ แถมยังยิ้มใหกับความจริงใจในการ เสนอขายของที่ดีๆ หวังวาตอนนี้เพื่อนๆ ก็คงจะเริ่มรูสึกคิดถึงวัยเด็กกันบางแลวละสิ
19
โปสเตอร โฆษณาไทย สมัยเกา เรียบงาย ขายกันตรงๆ สะทอนสังคมไดดี
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
21
Rate-Arts เรื่อง : ศ.
Once the only
ใครเคยดูภาพยนตเรื่อง Once บาง? หลายคนคงจะพยักหนาตอบวาใช ขณะที่อีกหลายๆ คน คงไดแตสายหัวและตอบวาไม คนที่ยังไมเคยดูภาพยนตรเรื่องนี้ ผมขอแนะนําใหหยุดอานบทความนี้เสียตั้งแตตรงนี้ และลองไปหา ภาพยนตรเรื่องนี้มาดูเสียกอนจะดีกวา ผมไมอยากจะใหบทความเรื่องนี้ของผมไปทําลายสิ่งที่ภาพยนตรเรื่องนี้ พยายามจะสื่อออกมา เพราะภาพยนตรเรื่องนี้มีอะไรดีๆ มากกวาบทความสั้นๆ ของผมชิ้นนี้อยูมาก ไปดูกอนเถอะครับ แลวคอยกลับมาอานสิ่งที่ผมไดรับและคิดเกี่ยวกับภาพยนตรเรื่องนี้ สําหรับคนที่เคยดูแลว ผมขอถามกอนก็แลวกันวาอะไรที่ทําใหพวกคุณเลือกดูภาพยนตรเรื่องนี้์? คําตอบของผมคือ เพราะเพลงประกอบของเรือ่ งนี้ Falling Slowly เอาชนะเพลงจากภาพยนตรของดิสนีย เรื่อง Enchanted (ที่ไดรับการเสนอชื่อเขาชิงรางวัลถึง 3 เพลงดวยกัน) ควารางวัลออสการสาขาเพลงประกอบ ภาพยนตรยอดเยี่ยมไปไดอยางพลิกความคาดหมาย ผมรูส กึ ดีทไี่ ดเห็นภาพยนตรตน ทุนไมกแี่ สนเหรียญ (สหรัฐอเมริกา) เอาชนะภาพยนตรฟอรมใหญทใี่ ช ทุนไปเกือบรอยลานเหรียญได เพราะอยางนอยผมก็ไดรวู า คณะกรรมการตัดสินไมไดเลือกพิจารณาแตภาพยนตร ทุนหนาเทานั้น แถมยังเปนการสะกิดบอกคนทําหนังตัวเล็กๆ อีกดวยวาโอกาสของคุณมีอยูจริง ผมยังจําภาพที่สองนักแสดงหลักของเรื่องนี้ (Glen Hansard และ Marketa Irglova) ขึ้นไปรับรางวัลบน เวทีดว ยสีหนาอํา้ อึง้ กับรางวัลทีไ่ ด กอนทีส่ หี นานัน้ จะกลายเปนรอยยิม้ ทีม่ คี วามสุขทีส่ ดุ ทําเอาผมยิม้ ตามไปดวย อยางดีใจ และกลายเปนสาเหตุหลักที่ทําใหผมตัดสินใจไปดูภาพยนตรเรื่องนี้ทันที คําตอบของพวกคุณจะเปนอะไรผมคงไมรู แตถาภาพยนตรเรื่องนี้ไมไดรับออสการ หลายๆ คนคงไม เลือกที่จะดูเรื่องนี้หรอก ก็เพราะวาภาพยนตรเรื่องนี้แทบจะไมมีจุดเดนอะไรที่นาสนใจกับเขาเลย ไมวาจะเปน พระเอกหรือนางเอกที่เปนใครมาจากไหน เราก็ไมเคยรูจัก หรือจะเปนเนื้อเรื่องที่ดูแลวก็ไมไดนาสนใจอะไร แค ชายคนหนึ่งมาพบกับหญิงคนหนึ่ง รองเพลงดวยกัน แลวก็แยกกันไป...จบ แตเมื่อไดเขาไปดูจนจบแลว จากที่เรื่องนี้ดูจะธรรมดาๆ ไมมีอะไรนาสนใจ กลับทําใหเรื่องนี้มีความนา สนใจและไมธรรมดาเหมือนที่เขาใจในทีแรก
22
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552 การดูภาพยนตรเรื่องนี้ ผมไมไดรูสึกเหมือนดูภาพยนตรเรื่องอื่นๆ ที่พอดูไปสักพักแลวจะตองมีความ คิดแวบขึ้นมาวา “นี่ก็เพียงการแสดงเทานั้น” แตตลอดเวลาที่ผมนั่งดูเรื่องนี้ ผมไมไดคิดเลยวานี้เปนการแสดง จนจบเรื่อง ผมรูสึกไดวาตัวละครและเหตุการณในเรื่องไมไดเปนเรื่องเสแสรงมากมายเหมือนที่ภาพยนตรเรื่อ งอื่นๆ มักจะเปนกัน พระเอกและนางเอกก็ไมไดหลอหรือสวยขนาดจะเปนเจาชายหรือเจาหญิง เหตุการณที่เกิด ขึน้ ในเรือ่ งนี้ ก็ไมไดแสดงแตความทุกขทที่ าํ ใหทรมานจนตองรองไหจนจะตายกันไป และก็ไมไดทาํ ใหเรานัง่ ยิม้ เยิม้ ไปกับความสุขทีแ่ สนหวาน ซึง่ ก็เปนเพราะเรือ่ งนีธ้ รรมดามาก มากจนทําใหนา สนใจกวาภาพยนตรเรือ่ งอืน่ ๆ ที่ดูแลวไมไดรูสึกธรรมดาเหมือนเรื่องนี้ ผมไมแนใจวาผูก าํ กับชาวไอริช John Carney ตัง้ ใจทีจ่ ะทําใหภาพยนตรเรือ่ งนีไ้ ดความรูส กึ ทีเ่ ปนธรรมดา และธรรมชาติที่สุด หรืออาจจะเปนเพราะวาตนทุนการถายทํานั้นมีจํากัดกันแน เลยทําใหตั้งแตการเลือกนัก ดนตรีมาเปนนักแสดง (Hansard เปนนักรองนําของวง Flames สวน Irglova เปนนักดนตรีชาวเช็ก) ตองใชกลอง Handicam ทั่วไปในการถาย หรือแมแตการที่เลือกไปถายทํากันในตัวเมืองดับลิน โดยไมไดกั้นเขตสําหรับการ ถายทําและปลอยใหผูคนเดินผานไปผานมาตามปกติ ผมไมรูวาอะไรเปนสาเหตุหลักที่ทําให Carney ตัดสินใจทําเชนนั้น แตที่แนๆ สิ่งเหลานั้นไดทําให ภาพยนตรเรื่องนี้เปนกันเองกับคนดูไดอยางธรรมดาที่สุด ถึงแมวาเมื่อผมดูจนจบแลว ผมจะนึกขึ้นไดวา คงไม คอยมีใครทีไ่ หนเขาลากไอเครือ่ งดูดฝุน นัน่ เดินไปเดินมาตามเมืองกันหรอก หรือตอนทีพ ่ ระเอกตัดสินใจซือ้ เปย โนหลังหนึ่งใหกับนางเอก ทั้งๆ ที่พระเอกก็ยังคงตองใชเงินอีกอยูมากในการเดินทางตามความฝนไปเปนนัก ดนตรีอาชีพที่ลอนดอน ซึ่งถาคิดกันตามความเปนจริงแลว คงไมคอยมีใครที่ไหนจะลงทุนซื้อของใหญๆ อยาง เปยโนใหกับคนที่รูจักกันอยูครูเดียวเทานั้น สําหรับเนื้อเรื่องที่ผมคิดวาเจอกัน รองเพลงกัน แลวก็จบแคนั้น กลับมีหลายสิ่งที่แทรกอยูและทําใหผม ไดคดิ อะไรหลายอยางตอไดมาก โดยเฉพาะเรือ่ งของความสัมพันธทที่ งั้ ผม ทัง้ พระเอกและนางเอก ก็คงไมแนใจ และมั่นใจพอที่จะเรียกวาเปนความรักไดหรือเปลา ตัวเอกทั้งคูตางก็มีคนรักและก็เชื่อมั่นในความรักของตัวเองกันอยูแลว ความสัมพันธทั้งสองกอตัวขึ้น ภายในระยะเวลาสัน้ ๆ กินเวลาไมกเี่ พลง โดยเฉพาะตอนทีท่ งั้ สองรวมรองเพลง Falling Slowly ในรานขายเครือ่ ง ดนตรี ซึ่งภาพและเสียงที่ปรากฏมาในชวงนี้ นาจะทําใหใครหลายๆ คน ตัดสินใจไปหาเพลงนี้มาเปดฟงกันอีก หลายรอบ ผมจึงไมแปลกใจเลยที่เพลงเพราะๆ อยางนี้ จะสามารถลมยักษอยางดิสนียได ความรักในเสียงดนตรีที่ทั้งคูตางก็มีรวมกัน จึงนาจะเปนสิ่งสําคัญที่เชื่อมทั้งคูเอาไว ยิ่งดูตามเรื่องไป เรื่อยๆ ก็จะเห็นวาคูนี้เขาไมคอยไดคุยอะไรกันจริงจังมากมายนัก แตถาเปนการรองเพลงแลว ทั้งคูกลับดูจะพอ อกพอใจที่ไดรองเพลงและเลนดนตรีดวยกันตามอารมณของเนื้อเรื่อง ที่มีสุข มีเหงากันอยูบาง ซึ่งเปนสาเหตุที่ ทําใหอัลบั้มรวมเพลงประกอบของภาพยนตรเรื่องนี้ กลายไปอีกอัลบั้มที่ควรจะหามาฟงซํ้าอีกใหไดหลังจากที่ ดูเรื่องนี้จบแลว กลับมาที่ความสัมพันธระหวางสองคนนี้ ซึ่งผมคิดวาเปนเหมือนชื่อเรื่อง คือ Once หรือ แคครั้งเดียว เทานั้น เพราะเมื่อเรื่องนี้จบ ทุกคนตางก็แยกกันไปตามทาง ไมไดอยูรวมกันเหมือนที่ภาพยนตรรักทั่วไปมัก จะเอามาสรางและบังคับใหคูเอกตองอยูดวยกันอยางมีความสุข ความสัมพันธของทั้งคูนาสนใจ ตรงที่ไมตองใช เวลานานมากในการที่จะเขาใจความรูสึกของอีกฝายได และทั้งคูตางก็ไมเคยกาวขามเกินขอบเขตของมิตรภาพ ดีๆ ที่แมจะดูลึกซึ้ง แตก็ไมผูกพัน ผมวาความสัมพันธอยางนี้ เปนอะไรทีน่ า สนใจดี เพราะไมคอ ยมีใหเห็นกันเสียเทาไรในสังคม (พวกเขา ไมคอยยอมรับกันเทาไร เพราะมันดูจะผิดศีลธรรม) ถาผมมีโอกาส ก็อยากจะลองสักครั้ง
23
bon appetit เรื่อง : ผักบุง
àʹ‹Ëà ¡‹Ò àÂÒÇÃÒª
แสงสีจากหลอดไฟบนปายภาษาจีน ทั้งของภัตตาคาร หางรานตางๆ ตั้งสูงตระหงาน สลับเรียงรายไป ตลอดชวงตึก เสียงพอคาแมขายดังเจือ้ ยแจวพูดคุยกันดวยสําเนียงภาษาทีเ่ ราคุน หู แตอาจไมคนุ ในความหมายนัก หนึง่ ในยานเกาของชุมชมคนเชือ้ สายจีน ทีร่ จู กั กันดีในนามวา “เยาวราช” ไชนาทาวนแหงนีไ้ มเคยหลับใหล ทามกลางทองฟายามคํา่ คืน ยานนีไ้ มไดเลือ่ งชือ่ แคดา นอาหารเทานัน้ แตยงั โดดเดนดวยเสนหข องศิลปวัฒนธรรม ที่แฝงตัวไปในรสชาติของอาหารดวย ไมวาจะเปนวัดจีนหรือเทศกาลกินเจ ที่มีประวัติความเปนมายาวนาน สืบทอดกันจากรุนสูรุน ตั้งแตสูตร ลับความอรอย รวมไปจนถึงครอบครัวของอาตี๋ อาหมวย และความเชื่อขนบธรรมเนียมประเพณีตางๆ ลวนแตเปน สวนประกอบของกันและกัน ทีท่ าํ ใหเยาวราชกลายเปนอีกยานเกาทรงเสนห ทีไ่ มควรพลาดมาลิม้ รสทัง้ บรรยากาศ และอาหารลือชื่อ เริ่มกันที่ ”รานเซี้ยะ หูฉลาม” วากันวาเปนรสชาติที่ปรุงพิเศษมากวา 40 ป ถือเปนตนตํารับของหูฉลาม และ กระเพาะปลานํ้าแดง ที่ความหวานของนํ้าซุปเกิดจากการเคี่ยวจนไดที่ หอมกลิ่นเห็ดหอมที่ปรุงควบคูมากับ กระเพาะปลา โรยหนาดวยเนื้อปู เสิรฟในหมอดินรอน นอกจากนั้นยังมีผัดหมี่ฮองกงที่นาลิ้มลอง เสนหมี่สีเหลือง ออนผัดกับไกหมัก กุง เห็ดหอม เพิ่มซอสรสกลมกลอม กอนเสิรฟโรยหนาดวยเนื้อปูอีกเชนเคย
24
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552
จากนั้นเดินทอดนองตอไปยัง “รานขนมปงเจาอรอยเด็ด เยาวราช” ที่แมไมไดเปนหนึ่ง ในบรรดารานอาหารจีน แตเปนรานที่แอบซุกซอนอยูในยานไชนาทาวนแหงนี้เชนกัน รานนี้ขึ้นชื่อเหมือนชื่อของ ราน คือ เรื่องของขนมปงปงนั่นเอง ฉายาของรานที่เลื่องลือกันมีมากมายทั้ง “ขนมปงเตาถาน” “ขนมปงนมยอย” ซึ่งคงไดมาจากเอกลักษณของขนมปงที่ปงดวยเตาถานนั่นเอง ขนมปงกอนกลม ผากลางทาดวยเนย แลวสอดไส นมขนหวาน กัดคําแรก ความกรอบของขนมปงดานนอกที่ปงจากเตาถานจะสงกลิ่นหอมกรุนแบบโบราณ พรอม กับความนุมในของเนื้อขนมปงที่ชุมเนย ชุมนม เรียกไดวา หอม หวาน มันแบบเรียบงายสไตลยอนยุค แตทําเอาคนรุนใหมประทับใจกันไมลืม แตหากใครชอบแบบกรอบหรือนิ่มอยางเดียว ก็สามารถสั่งได เพราะทางรานมีระดับความ กรอบของขนมป ง ให เ ลื อ ก หลากหลาย โดยระดับความ กรอบทีต่ า งกัน ก็จะใชขนมปง ตางชนิดกันตามนี้ 1.นิม่ เปนขนมปงแผนสีเ่ หลีย่ ม 2.กรอบ เปนขนมปง หัวกะโหลก 3. กรอบนอกนุมใน เปนขนมปงกอนกลมอันเปนที่นิยม นอกจากหนาเนย-นมแลวรานนี้ยังมีเนย-นํ้าตาล เนย-พริกเผา เนยสังขยา เนย-ชอคโกแลต เนย-สม เนย-สตอเบอรรี่ สวนเครื่องดื่มมีทั้ง นม แดง กาแฟโบราณ โอเลี้ยง โกโก ชานม และนํ้ามะนาว ซึ่งเปนเครื่องดื่ม ที่นิยมกันมาทุกยุคทุกสมัย หากไดมาสัมผัสบรรยากาศยามคํา่ คืนกับรานริมฟุตบาททีเ่ รียบ งายแตไมเคยเงียบ ไดมาละเลียดรสชาติอาหารดัง้ เดิม พรอมกับสัมผัสวิถชี วี ติ ของพอคาแมขายเชือ้ สายจีนและผูค น ในยานเกาแหงนี้แลว ก็จะไดรูวาเสนหของยานเกาที่ไมเคยหลับแหงนี้ เต็มไปดวยเรื่องราวนาคนหาและกลิ่นอาย ของวันวาน ที่เราเชื่อวาจะยังคงหอมหวานอยูเสมอ ตราบนานเทานาน
- รานเซีย้ ะ หูฉลาม ถ. เยาวราช อยูร ะหวางหางทองโตะกัง กับบริษทั เมืองทอง จํากัด บริเวณใกลกบั ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเยาวราช เปดทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย 19.00 – 01.30 - รานขนมปงเจาอรอยเด็ด เยาวราช ถ. เยาวราช ตรงขามธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปด ทุกวัน 18.00 – เที่ยงคืน
25
ŋͧ(μÒÁ)ÃÍ เรื่อง : นาคา
อุทยานเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จยา ของโบราณมักมีคุณคาควรคูแกการอนุรักษและ จดจําไวแทบทั้งสิ้น ยิ่งถาหากของสิ่งนั้นเปนสิ่งของที่ เรารัก หวงแหนและเปนสิ่งที่มีคุณคาทางจิตใจแลวละ ก็ สิ่งนั้นยอมจะตองไดรับการดูแลรักษาไวเปนอยางดี ตัวบุคคลก็เชนเดียวกัน บุคคลใดเปนที่เคารพรักแกผู อื่น บุคคลนั้นก็จะไดรับการยกยองและจดจําในคุณงาม ความดี แตคนตางจากสิ่งของตรงที่คนเราเปนสิ่งมีชีวิต ที่เกิดมาแลวก็ตองตายเปนเรื่องธรรมดาที่ทุกคนตอง เผชิญ ตอใหเปนคนดีแคไหนบัน้ ปลายของชีวติ ก็ตอ งจบ แบบเดียวกัน ดังนัน้ สิง่ ทีค่ งเหลืออยูค งมีแคเพียงคุณงาม ความดีที่ไดสั่งสมไวเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู คุณงามความดี ทีเ่ ปนเพียงนามธรรม เรารับรูแ ตบคุ คลอืน่ ๆ หรือคนรุน หลังจะรับรูเชนเดียวกับเราหรือไม แลวจะทําอยางไร หากเราตองการจดจําบุคคลผูซึ่งมีคุณคาทางจิตใจแก เราไวและอยากจะถายทอดใหคนรุนหลังไดรับรูดวย ดวยเหตุนเี้ องพิพธิ ภัณฑ รูปปน ตางๆ จึงถูกสรางขึน้ โบราณสถานตางๆ จึงถูกบูรณะดูแลเปนอยางดีเพื่อคง ไวใหคนรุน หลังไดรบั รูว า สิง่ เหลานีม้ คี ณ ุ คาตอจิตใจของ
บรรพชนนับตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบันอยางไร พิ พิ ธ ภั ณ ฑ แ ละโบราณสถานในประเทศไทยมี มากมาย แต Torch ฉบับนี้ นาคา จะพาเพื่อนๆ เขาไป เยี่ยมชมและตามรอยวิถีชีวิตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือสมเด็จยาผูเปนที่รักของปวงชน ชาวไทย การไปพิพิธภัณฑครั้งนี้นาจะทําใหเพื่อนๆ ยิ่ง ไดประทับใจกับพระจริยวัตรสวนพระองคในบางมุมที่ ไมเคยทราบมากอนนะคะ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรืออุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จยา ตั้งอยูที่เขตคลองสาน ในกรุงเทพฯ นี่เองคะ โดยสราง ขึ้นตามพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ตั้งแต พ.ศ. 2536 ที่ทรงตองการใหอนุรักษอาคารเกา ในยานนิวาสสถานเดิม ครั้งสมเด็จยายังทรงพระเยาว ใหเปนพิพธิ ภัณฑเฉลิมพระเกียรติและชวยพัฒนาพืน้ ที่ ซึ่งนายแดง และนายเล็ก นานา ผูถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ได พรอมใจนอมเกลานอมกระหมอมถวายจํานวน 4 ไร ใน บริเวณชุมชนหลังวัดอนงคารามใหเปนสวนสาธารณะ
26
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552 พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงพระกรุณาโปรด เกลาฯ ใหมูลนิธิชัยพัฒนาเปนเจาของที่ดิน โดยให บุคคลและหนวยงานตางๆ รวมดําเนินการในรูปคณะ กรรมการจัดสรางอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ อุทยานแหงนีถ้ กู จัดสรางขึน้ โดยมีวตั ถุประสงคเพือ่ เทิดพระเกียรติสมเด็จยา โดยมีการพัฒนาพื้นที่ใหเปน สวนสาธารณะ แบงพื้นที่เปนสวนดานหนาและดานใน ซึง่ มีบรรยากาศรมรืน่ มีการจัดแสดงพันธุไ ม นิทรรศการ งานศิลปะ เปนแหลงพักผอนหยอนใจทีเ่ หมาะสมสําหรับ ประชาชนทุกเพศทุกวัย ภายในอุทยานนอกจากจะมีสวนอันรมรืน่ แลว ยังมี อาคารพิพิธภัณฑตางๆ ซึ่งจัดแสดงพระราชประวัติของ สมเด็จยาไวเปนสัดสวน โดยเริ่มที่ อาคารพิพิธภัณฑ หลังที่ 1 จัดแสดงเกีย่ วกับพระราชประวัติ มีการประมวล เหตุการณ ในพระราชพิธีพระบรมศพ สถานที่ประทับ อยางพระตําหนักหรือวัง ตลอดจนทีป่ ระทับครัง้ ทรงพระ เยาวและประวัติชุมชนยานวัดอนงคาราม อาคารพิพิธภัณฑหลังที่ 2 จัดแสดงเกี่ยวกับพระ ราชกรณียกิจ พระราชจริยวัตรและงานฝพระหัตถใน สวนพระองค พรอมคอมพิวเตอรระบบจอสัมผัส ซึ่งเปน แหลงขอมูลใหศึกษาเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระ ราชกรณียกิจ รวมทั้งประวัติชุมชนดวย บานจําลอง ที่ตั้งอยูในสวนสวนใน ไดจําลองบาน เดิมของสมเด็จยา ครั้งเคยประทับที่ชุมชนแหงนี้ ซึ่งอยู หางไปทางวัดอนงคารามไมเกิน 200 เมตร การตกแตง ภายในยึดเอาตามหนังสือ “แมเลาใหฟง” พระนิพนธ ในสมเด็จพระเจาพี่นางเธอ เจาฟากัลยาณิวัฒนา กรม หลวงนราธิวาสราชนครินทร นอกจากอาคารพิพิธภัณฑแลว ก็ยังมีสวนอื่นๆ ที่ นาสนใจ เชน ศูนยศิลปศรีพิพัฒน (แพ บุนนาค) เปน อาคารโบราณ ที่ปรับปรุงขึ้นมาใหมจากอาคารซึ่งเปน สถาปตยกรรมสมัยรัตนโกสินทรตอนตน เพื่อจัดแสดง งานศิลปะหมุนเวียนทัง้ ในตัวอาคารและพืน้ ทีก่ ลางแจง มีการจัดกิจกรรมใหความรูท างศิลปะอยางตอเนือ่ ง โดย เปดใหศิลปนทั่วไปใชสถานที่แหงนี้แสดงผลงานทาง ศิลปะดวย แผนหินแกะสลัก แผนหินแกะสลักขนาดใหญ
แสดงพระราชกรณียกิจของพระองค ภาพสลักแผน หินทรายทางดานใตแสดงพระราชกรณียกิจขณะที่ทรง ลงเยีย่ มทองถิน่ ทุรกันดารและดานเหนือแสดงกระบวน แหไหวสาแมฟาหลวงของชาวลานนา อาคารทิ ม บริ ว าร สร า งขึ้ น เพื่ อ เฉลิ ม ฉลองใน วโรกาสครบ 8 รอบ วันคลายวันพระราชสมภพสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี แตทวาไดสวรรคตกอน ที่จะสรางเสร็จ และสวนสุดทาย ปานะศาลา เปรียบ เสมือนรานขายของฝากติดไมติดมือไปฝากคนที่บาน กอนกลับ ภายในจําหนายนํ้าดื่ม นํ้าสมุนไพร ของที่ ระลึกจากอุทยานและสินคาจากโครงการสวนพระองค สวนจิตรลดา นอกจากนีย้ งั มีสงิ่ ของทีผ่ ลิตโดยเจาหนาที่ อุทยานและบุคคลในชุมชนจําหนายดวย ถาหากเพือ่ นๆ อยากยอนอดีตไปสูว นั วาน เพือ่ ตาม รอยวิถชี วี ติ ของแมฟา หลวงพระองคนี้ ก็ขอเชิญชวนมาที่ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จยากันนะคะ
- อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แหงนี้เปดใหเขาชมภายใน ตั้ ง แต เ วลา 6.00-18.00น. ของทุ ก วั น ส ว นอาคาร พิพธิ ภัณฑและศูนยศลิ ปศรีพพ ิ ฒ ั น(แพ บุนนาค) เปดให บริการตั้งแตเวลา 9.00-16.00น. ทุกวันยกเวนวันหยุด นักขัตฤกษ
27
ËÁعªÕÇÔμ เรื่อง : Prathoratus
มิตร ชัยบัญชา อินทรีทอง ของชาวไทย “วากันวา ผูคนถึงกับเรียกรองใหยกศพขึ้นมาพิสูจนดูผานทางหนาตางศาลาวัด เพราะพวกเขาไมอยากจะเชื่อ วา นักแสดงในดวงใจของพวกเขา ไดสิ้นลมหายใจจากไปแลวจริงๆ” นั่นเปนครั้งแรกที่ผูเขียนไดสัมผัสหรืออาจเรียกไดวารูจักผูชายที่ชื่อ มิตร ชัยบัญชา ก็วาได ผูใหญเลาใหฟงวา หลังจาก มิตร เสียชีวิตในขณะที่กําลังถายทําฉากโหนบันไดเชือกเฮลิคอปเตอร ในภาพยนตรเรื่อง อินทรีทอง เขา ก็เสียชีวิตทันทีและมีการนําศพไปทําพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดตามความเชื่อ ในตอนนั้นนั่นเองที่หนังสือพิมพทุก ฉบับตางลงขาวเรื่องการเสียชีวิตของดาราทองผูนี้ โดยไมใชเพียงเฉพาะแคในประเทศไทยเทานั้น ขาวนี้ยังแพร ไกลไปถึง ญี่ปุน ฮองกง ไตหวัน อีกดวย
28
¸Ñ¹ÇÒ¤Á 2552 ผูคนจากทั่วทุกสารทิศตางไมมีใครอยากเชื่อกับเหตุการณสะเทือนขวัญดังกลาวและแหกันมารวมงานศพ ทั้ง ที่เชื่อวาขาวการเสียชีวิตนั้นคือเรื่องจริง และที่มาเพื่อพิสูจนความจริงใหเห็นกับตาตัวเองบาง จนถึงขั้นตองยกศพ พระเอกผูนี้ข้นึ เพื่อยืนยันวาสิ่งที่พวกเขาไดรับรูผานสื่อตางๆ นั้นคือเรื่องจริง แตเหตุใดผูค นถึงไดหลงใหลในเสนหข องพระเอกผูน มี้ ากเสียจนงานศพของเขาถูกบันทึกวาเปนงานศพสามัญ ชนคนธรรมดาทีม่ ผี มู ารวมงานมากทีส่ ดุ ในประวัตศิ าสตรไทย ลองอานเรือ่ งราวชีวติ ของเขาดู เผือ่ จะทําใหเราไดคาํ ตอบของขอสงสัยนั้น ชือ่ จริงของเขาคือ พันจาอากาศโท พิเชษฐ ชัยบัญชา หรือชือ่ ในวงการทีท่ กุ คนตางรูจ กั คุน เคยกันเปนอยางดีวา มิตร ชัยบัญชา พระเอกคูข วัญกับนางเอกนัยนตาหยาดนํา้ ผึง้ เพชรา เชาวราษฎร ซึง่ โดงดังอยูใ นสมัยทีพ ่ วกเราอาจ จะยังไมเกิด แตเปนยุคที่คุณพอคุณแมพวกเรากําลังยางเขาสูวัยรุน มิตรเปนพระเอกยอดนิยมในยุคนี้ ผลงานการ แสดงของเขามีมากมายหลายรอยเรือ่ ง ชิน้ แรกคือภาพยนตรเรือ่ ง ชาติเสือ ผลงานการประพันธของ เศก ดุสติ เรือ่ ง นี้ทํารายไดดีจนกลายเปนการแจงเกิดของมิตรในวงการไดอยางสมบูรณแบบ หลังจากนั้นงานแสดงก็หลั่งไหลเขา มาเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่อง ‘บันทึกรักพิมพฉวี’ ซึ่งเลนคูกับ เพชรา เชาวราษฎร จนทําใหเขาโดงดังเปนพลุแตกและ กาวขึ้นสูการเปนพระเอกยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่องานรัดตัวมากขึ้นทั้งในและตางประเทศ มิตรจึง ตัดสินใจลาออกจากอาชีพทหารอากาศและหันมาทุมใหกับงานแสดงอยางเต็มที่ แตไมใชเพียงแคงานแสดงเทานัน้ ทีช่ ายผูน ลี้ งมือทํา งานชิน้ ตอมาทีม่ คี วามทาทายมาก คือ การลงสมัครรับเลือก ตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและสมาชิกสภาผูแทนราษฎร โดยมีความหวังวาชื่อเสียงของเขาจะสามารถเปนใบเบิกทาง สูงานการเมืองได แตเขาคิดผิด ผลที่ไดรับจากการเลือกตั้งทั้งสองครั้งที่ผานมา คือ การสอบตก จนทําใหทรัพยสิน พระเอกดังรอยหรอลงไปมาก ทัง้ ยังตองมาหยากับภรรยา ทําใหเขามุง มัน่ ตัง้ ใจทํางานดานการแสดงอยางหนักหนวง ถึงแมชวี ติ จะมีอปุ สรรคตางๆ เขามา แตมติ รก็ยงั ตัง้ หนาทํางานดานการแสดงมาตลอด จนกระทัง่ ในป พ.ศ. 2513 ในวันที่เขามีคิวถายทําภาพยนตรเรื่อง ‘อินทรีทอง’ ซึ่งเรื่องนี้ก็กลายเปนภาพยนตเรื่องสุดทายของเขา ในวันนั้นมิตรมีกําหนดการถายทําฉากสุดทายที่หาดดงตาล จ.ชลบุรี ถาหากวาวันนั้นเสื้อผาของนักแสดง แทนมีความพรอม หรือหากวันนั้นมิตรใสใจเรื่องของความปลอดภัยมากกวาความสมจริงของภาพที่จะออกมา โศกนาฏกรรมดังกลาวคงไมเกิดขึ้นและคงไมทําใหฟาวงการบันเทิงไทยตองสูญเสียดาวดวงเดนไปอีกดวงใน อุบัติเหตุครั้งนั้น มิตร ชัยบัญชา เปนที่รักใครของประชาชนทั้งประเทศ ไมใชเพียงเพราะวาเขาคือนักแสดงที่หนาตาหลอเหลา มีความสามารถ หรือมีความเกงกาจในทุกบทบาทการแสดง แตเขาเปนผูชายที่มีนํ้าใจ รักษาคําพูด กตัญูรูคุณ ตรงตอเวลา มีความจริงใจตอเพื่อนมนุษยทุกคนรอบขาง มีความเห็นอกเห็นใจและความนอบนอมอยูเนืองนิตย อยางครั้งหนึ่งที่พระองคเจาอนุสรฯ ตองการใหเขาไดพบกับบุคคลในวงการภาพยนตร แตมิตรติดการถายทํา อยู เขาจึงเลือกทีจ่ ะถายทําตอมากกวาไปพบบุคคลสําคัญทานนัน้ เปนเพราะเขาเห็นแกประโยชนสว นรวมมากกวา ประโยชนสว นตัว หรือในวันหนึง่ ทีเ่ ขาไดพบเพือ่ นเกาทีม่ คี วามขัดสน ทํางานเปนชางตัดผม มิตรไดนาํ เงินใหเพือ่ น คนนั้นทันที 6,000 บาท เพื่อใหซื้อรถจักรยานยนตไวใชงาน หลายๆ ครั้งที่ถูกเพื่อนโกงเงินเนื่องจากการเปนคน ใจกวางของเขา สิ่งเหลานี้ไดหลอมรวมใหชายที่ชื่อวา มิตร ชัยบัญชา ไดขึ้นเปนพระเอกอันดับหนึ่งตลอดกาลของชาวไทย เปนการแสดงออกซึ่งเหตุผลวาทําไมจึงมีผูคนรักใครผูชายคนนี้อยางอุนหนาฝาคั่ง ความดีของเขานั้นยืนยาวกวา ชีวิตหรือชื่อเสียงเงินทองของเขา สิ่งเหลานั้นผานมาและรอวันที่จะผานไป ...แตสิ่งที่ประทับอยูในความทรงจําไมแปรเปลี่ยนไปไหนนั่น คือ ความดีของมิตร ชัยบัญชา ที่ไดพิสูจนใหเห็น แลววาตัวเขาเอง คือ อินทรีทอง ของคนไทยอยางแทจริง
29
˹ŒÒÇ‹Ò§ เรื่อง : เวสปาโบ
»ÃѺÍÒ¡ÒÈ
อุณหภูมิภายนอกที่สูงแซงอุณหภูมิรางกาย ทําเอาไมนาเชื่อวานี่คืออากาศในชวงปลายฝนตนหนาว ดวงอาทิตยทํามุมเกาสิบองศากับศีรษะที่เปยกโชกไปดวยเหงื่อที่ไหลออกจากผิวหนังไมตางจากกอก ประปา เปนแรงผลักใหตองเรงฝเทากาวหนีความรอนหาที่กําบังสักแหง ทันใดนั้นตาก็เหลือบไปเห็นรานอินเตอรเน็ตคาเฟที่อยูหางออกไปเกือบรอยเมตร ทําเอาขาสองขาง ตองจํ้าไปใหถึงจุดหมายโดยไมตองพูดพรํ่าทําเพลง ในไมกี่อึดใจก็ถึงปลายทาง แอรเย็นฉํา่ ในหองสีเ่ หลีย่ มกอปรกับความบันเทิงบนหนาจอคอมพิวเตอรเบือ้ งหนาทีเ่ ร็วปรูด ปราด ราว กับชินคังเซนของญีป่ นุ ไมก็ TGV ของฝรัง่ เศส ยิง่ ไดนาํ้ อัดลมสีดาํ ซาสักขวดมาดูดปรืด๊ ๆ ใหชนื่ ใจทําเอาเพลิดเพลิน จนลืมความรอนระอุหลังกระจกบานใหญทถี่ กู บดบังดวยมูล ขี่ นาดพอๆ กัน ราวกับนีเ่ ปนอีกเมืองหนึง่ ทีไ่ มไดพบ เจอไดบอยๆ ในสภาพอากาศของประเทศเขตรอนอยางบานเรา หากไมบินไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนาหรือมี เจาเครื่องมหัศจรรยที่เราเรียกติดปากวา ‘แอร’ ที่สามารถเปลี่ยนอากาศรอนเปนเย็นไดเพียงปลายนิ้ว แตสัก กี่คนที่จะนึกถึงวาในขณะที่เจาเครื่องนี้ทําหนาที่เปลี่ยนอากาศภายในใหเย็นฉํ่า มันก็ทําหนาที่เปลี่ยนอากาศ ภายนอกจากรอนใหรอนขึ้นอีก อยางที่วาสักกี่คนที่จะสนใจ “จะคิดอะไรมากเลาในเมื่อตอนนี้เราตองการหนีรอนมาพึ่งเย็นนี่!!!” สังเกตมั้ย เดี๋ยวนี้ไมวาที่ไหนๆ ก็ติดแอร ติดแอรเพราะคนติดแอร แมแตหอ งนํา้ ตามปม นํา้ มันก็ยงั ติดแอรกนั หมด แลวจะเอาภาษาอะไรกับหางรานบานชองทีผ่ ดุ ขึน้ ทุก วี่วัน ไมใชแคเครื่องสองเครื่อง บางบานติดกันหาหกเครื่อง ทําใหคิดวา “เอ..ถาเราขยันเปลีย่ นอากาศรอนเปนเย็น เปลีย่ นเย็นเปนรอนอยูอ ยางนีแ้ ลวมันจะสิน้ สุดกันเมือ่ ไหร? หรือจะรอใหนํ้าแข็งขั้วโลกละลายมาทวมหนาบานแลวรึอยางไร?” ยิ่งรอนยิ่งติด ยิ่งติดก็ยิ่งรอน! ไดยนิ กันบอยๆ ทีเ่ ขารณรงคกนั นาจะดีถา เราจะลองสนใจเสียงทีเ่ ขาประกาศปาวๆ ทีม่ กั จะเขาไปกระทบ หูซายใหสั่นดิกๆ แตเผอิญแวบผานไปทางหูขวา แบบไรสัญญาณตอบรับจากสมองที่ทานเรียก ทางออกที่นาสนใจดูจะเปน...ตนไม หากจะบอกวาผูเ ขียนใหเลิกใชแอรกนั เลยก็คงไมถกู นัก และผูเ ขียนก็ไมไดบอกเหมือนกันวาปลูกตนไม วันนี้ แลวจะเย็นขึน้ ทันทีเหมือนกดรีโมท แตกค็ งจะดีกวาถาเรารวมกันใชเครือ่ งปรับอากาศใหนอ ยลงแลวปลูก ตนไมกันมากขึ้น อยางที่เขาบอกกันวา ตนไมหนึ่งตนใหความเย็นไดเทากับแอร 12,000 BTU หนึ่งเครื่อง ถา บานเราปลูกหาตนเราก็จะมีแอรหาเครื่องใหลูกหลานไดเย็นสบายแบบไมตองงอเครื่องปรับอากาศยี่หอไหนๆ ทั้งเย็นสบายแลวยังเปนเครื่องกรองอากาศชั้นยอดแบบไมตองอาศัยนาโนเทคโนโลยี สบายทั้งคนสบายทั้งโลก ถึงตอนนี้ ถาไมเหลือบากวาแรงก็ชวยกันปลูกตนไมกันเถอะ บางทีเราอาจจะปรับอากาศไดดวยสองมือของพวกเราเองโดยไมตองพึ่งเจาเครื่องปรับอากาศที่เราติด กันงอมแงมอยางปจจุบันนี้ก็ได มาปรับอากาศกันเถอะ! - ขอขอบคุณ ‘เวสปาโบ’ ที่กรุณาสงบทความมาเติมใหหนานี้ไมวางแลวใน Torch ฉบับนี้ - แตเราก็ยังคงมีหนาวางใหสําหรับคนที่สงผลงานการเขียนของตนเองมาลงในหนานี้อยูดี - สนใจสงผลงานมาไดที่ the-torch@hotmail.com หรือไมก็มาฝากไดที่หอง กนศ. ทั้งทาพระจันทรและรังสิต
30
ÁÕàÃ×èͧ เรื่อง : Zephyr
เรื่องเกาๆ คงไมใชเพียงแคผานมาเพื่อที่จะผานไปเปนแน หากวาเราลองมองยอนกลับ ไปแลวยังเห็นอะไรบางอยางที่คิดถึงทีไรก็ยังคงยิ้มไดทุกทีไป เมื่อสองสามวันกอน ฉันและกลุมเพื่อนที่หางหายกันไประยะหนึ่ง ไดนัดรวมตัวกันเพื่อ รื้อฟนความทรงจําของเราขึ้นมา หลายชั่วโมงตลอดมื้ออาหาร ตางคนตางเพลิดเพลินไปกับเรื่อง เลา ฉันรูสึกราวกับตัวเองไดคืนไปอยูในเหตุการณนั้นอีกครั้ง อาจเปนเพราะวารอยยิ้มและเสียง หัวเราะที่ลองลอยอยูในอณูบรรยากาศตอนนั้น ไดแตงแตมหนากระดาษแหงความทรงจําที่เริ่ม ซีดจางใหกลับมีสสี นั คลายวาเรือ่ งราวทีเ่ ลยผานยังคงมีชวี ติ ชีวาอยูก บั เรา ในทุกเวลาและทุกนาที เมื่อสํารวจตัวเอง ฉันพบวาเจา “อารมณหวนคะนึง” พวกนี้มีสวนชวยใหชีวิตปจจุบันของ ฉันกระชุมกระชวยอยูมากเชียวแหละ หากเปนตอนนั้น ฉันคงไมคิดเลยวา แคความสนุกสนาน แบบเด็กๆ จะกลายมาเปนหัวขอสนทนาที่เรียกความราเริงสดใสคืนสูใจที่ออนลาจากภาระและ ความรับผิดชอบที่ตองเผชิญอยูทุกวัน แตก็มีอีกหลายครั้งเชนกัน ที่ความบังเอิญ (หากจะเรียกได) กลับรื้อเอาความเจ็บปวด ในอดีตของเราขึ้นมา นําพาความเจ็บปวดนั้นขึ้นมาทําใหเรากลับยิ่งรูสึกออนแอและไปกระตุน ตอมนํ้าตาใหทํางานอยูเสมอ ในทุกวันนี้ที่สิ่งตางๆ รอบตัว ไดหลอหลอมใหเราติดอยูกับปจจุบัน จนบางครั้งก็ทําให เราหลงลืมไปเสียแลววา ครั้งหนึ่งเราเคยไดผานพบอะไรมา และวันเวลาเกาๆ เหลานั้น มีคากับ เรามากแคไหน แตสดุ ทายแลวก็คงขึน้ อยูก บั ตัวเราแลวละ วาจะเลือกใหความทรงจํานัน้ เปนสิง่ ทีแ่ ค “เคย มีคา” หรือจะเปนสิ่งที่ “ยังมีคา” อยูกันแน หากความสุขในวันวานเคยทําใหคุณชื่นหัวใจ ความทุกขที่เคยผานมาก็คงเปนบทเรียน ทีด่ สี าํ หรับวันใหมไดเชนกัน สิง่ เหลานีล้ ว นมีคา นาจดจํา อยางสภาพอากาศทีไ่ มวา จะรอนหรือจะ หนาวเพียงใด แตอากาศก็ยังคงทําใหเราหายใจไดอยูเสมอ และแทนคําพูดจากใจฉัน ทุกเรื่องราวที่รวมรอยเรียงสรางความเปนคุณขึ้นมา คงอยาก จะยํ้าใหคุณไดยินไวตลอดวา...อยาลืมกัน!!! . . . ด ว ย ค ว า ม ร ะ ลึ ก ถึ ง . . .
30