ฉบับที่ ๑ / ปีการศึกษา ๒๕๕๕

Page 1

ฉบับที่ / ปีการศึกษา ๒๕๕๕ มกราคม - มี น าคม ๒๕๕๕

เร่งฝึกฝนตนเป็นบัณฑิต


บทบรรณาธิการ เมื่อกล่าวถึงคำว่า “บัณฑิต” บางท่านอาจเข้าใจว่าคนที่ จะเป็นบัณฑิตได้จะต้องเรียนจบมหาวิทยาลัยเสียก่อน ถ้าไม่เคย เข้ามหาวิทยาลัยหรือไม่เคยเรียนหนังสือ จะไม่มีทางเป็นบัณฑิต ได้ พูดแบบนั้นก็ดูเหมือนจะใช่ หากเราตีความคำว่า “บัณฑิต” ว่านักศึกษาที่เรียนจบปริญญาแล้ว แต่ในทางพุทธ บัณฑิตไม่ใช่คนที่เรียนจบที่อายุยี่สิบกว่าๆ การเรียนรู้และการศึกษาที่แท้จริงของชาวพุทธ เป็นการเรียนรู้ที่ ใช้เวลาเพียงหน่วยเดียว ทว่าเป็นหนึ่งหน่วยที่จะว่ายาวก็ยาว จะ ว่าสั้นก็สั้น นั่นคือหนึ่งหน่วยชั่วชีวิตของพวกเรา เรียกว่าเป็น “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” ตามคำครูบาอาจารย์ บัณฑิตหมายถึงผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วย ปัญญา เป็นผู้ที่ได้พัฒนาทางพฤติกรรม จิตใจ และปัญญา มิใช่ แต่เรียนจบได้รับปริญญา แต่ต้องเป็นผู้ที่รู้เท่าทันโลก ธรรมชาติ และความเป็นจริง พร้อมที่จะดำเนินชีวิตอันดีงามด้วยตนเอง

สารบัญ

หน้า สารจากครูใหญ่ ๑ เติบโตในทุกย่างก้าวที่ออกเดิน ๒ ทอสีรักษ์โลก: ข่าวดี! เมืองไทยมี 4G แล้ว! ๔ กิจกรรมเด่นในรั้วทอสี ๕ มหกรรมลานโพธิ์ ตอน “งานวัดลอยฟ้า” ๘ ครูผู้สร้างคน ครูผู้สร้างตน ๑๐ Play & Learn เพลินกับภาษาอังกฤษ ๑๒ พื้นที่ปัญญาประทีป ๑๔ บทสัมภาษณ์: Staycation ชวนมา ‘เที่ยวบ้าน’ กันกับแม่ออย ๑๖ ไอเดียเก๋ไก๋ในการให้ “อะไร” ใครบางคน ๑๙ เรื่องเล่าจากชั้นเรียน ๒๐ ดุลยภาพแห่งรัก ๒๕ ตีฆ้องร้องป่าว ๒๗ กองทุนพัฒนาครูวิถีพุทธโรงเรียนทอสีเดินหน้าเต็มกำลัง ๒๘ โยคะฝึกกายสบายจิต ปกหลัง

อย่างมีความสุข รวมทั้งสามารถรับผิดชอบ สร้างสรรค์ และพัฒนาสังคมให้เจริญยิ่งขึ้น แ ล้ ว เ ร า จ ะ เ ป็ น บั ณ ฑิ ต ไ ด้ ห รื อ ไ ม่ ได้อย่างไร? คำตอบของคำถามนี้คงจะอยู่บน หนทางที่ไม่ไกลนัก หากเราเริ่มออกเดินเสีย ตั้งแต่วันนี้ พวกเราโชคดีที่มีครูผู้ยิ่งใหญ่อย่าง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงเมตตา เป็นแบบอย่าง และมอบ “แนวทาง” สู่ปลายทางอันแสนประเสริฐไว้ สำหรับใครที่กำลังเดิน อยู่บนเส้นทางแห่งการฝึกฝนเรียนรู้ ครูหยกขอ เป็นกำลังใจให้มีพลังในการเร่งฝีเท้าสู่ความเป็น บัณฑิตได้สำเร็จในเร็ววันนะคะ และขอฝาก จุลสารฉบับนี้ไว้เป็นเพื่อนร่วมทางของทุกคนค่ะ ครูหยก - วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

คณะทำงาน

บรรณาธิการ ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์ กองบรรณาธิการ ครูแหม่ม – อาภาภัทร ไชยประสิทธิ์, แม่แจง – จุฬารัตน์ อินทรมหา, ครูนยุ้ – กนกอร บุญทวีกจิ , ครูใหม่ – นัยฤดี สุวรรณาภินนั ท์, ครูตู่ – กุลฤดี โอทกานนท์, ครูตกิ๊ – เพ็ญประภา บุญญกฤติ, ครูอนั๋ – พลณัฐ แก้วมะณี, ครูน้ำอ้อย – น้ำอ้อย สืบดี, ครูโหน่ง – หทัยรัตน์ บุตรยิ่ง, ครูปู – ณัฐนันท์ เทียนทอง ศิลปกรรม กีรติ เงินมี ภาพประกอบปก ด.ญ.วราลีย์ สุจิตธรรมวงศ์ ป.๓/๑ ดำเนินการพิมพ์ บริษัท คิว พริ้นท์ แมแนจเม้นท์ จำกัด โทรศัพท์: ๐ ๒๘๐๐ ๒๒๙๒ โทรสาร: ๐ ๒๘๐๐ ๓๖๔๙

จัดทำโดย

โรงเรียนทอสี ๑๐๒๓/๔๖ ซอยปรี ดี พ นมยงค์ ๔๑ ถนนสุ ขุ ม วิ ท ๗๑ คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ ๑๐๑๑๐ โทรศัพท์: ๐ ๒๗๑๓ ๐๒๖๐-๑ โทรสาร: ๐ ๒๓๙๑ ๗๔๓๓ อีเมล: info@thawsischool.com เว็บไซต์: www.thawsischool.com


พระพุทธองค์กล่าวว่า มนุษย์จะประเสริฐ ได้เพราะการฝึก ไม่ใช่เกิดมาก็ประเสริฐเลยตาม ที่หลายคนเข้าใจ จะประเสริฐได้ต้องฝึกฝน และ ฝึกฝืนตนเอง มนุษย์ต่างจากสัตว์เดรัจฉานตรงไหน... ก็ต รงที่ ม นุ ษ ย์ เ ราสามารถฝึกตนเองให้เลิศให้ ประเสริฐ หลุดพ้นจากกิเลสได้ ถ้าเราเกิดมามี ความไม่ดีไม่งามหลายอย่าง เราก็ไม่จำเป็นต้อง เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต... อันที่จริงเราสามารถขัดเกลาสิ่งไม่ดีไม่งาม ออกจากตัวเราได้ เราสามารถรักษาสิ่งดีงามที่ เกิดขึ้นแล้วให้งอกงามยิ่งขึ้นได้ สามารถป้องกัน สิ่งไม่ดีไม่งามที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้น และ เราสามารถสร้างสิ่งที่ดีงามที่เรายังไม่มี ให้เกิดขึ้นได้ บางคนอาจจะพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี และ เป็นอยู่ ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง ถึงจะมีขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ขี้น้อยใจ ขี้รำคาญ ขี้สารพัด แต่มัน ไม่เห็นเดือดร้อนใคร ฉันก็ยังเป็นคนดี มีจิตใจ เมตตาช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา... ถ้าพิจารณา ดูให้ดีๆ นั่นไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจริงหรือ เป็น

การเข้าข้างตัวเองมากเกินไปไหม แค่เพียงการ

หงุดหงิดก็เป็นการเบียดเบียนตัวเองแล้ว นี่ยังไม่

นับรวมถึงคนรอบข้างที่ก็รับรังสีหงุดหงิดจากเรา

เข้าไปด้วย ชาวพุทธที่แท้ต้องเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยน-

แปลงตนเองได้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองก็

น่าเสียดาย... เสียดายที่เรามีศักยภาพที่จะเปลี่ยน แต่ไม่ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้คุ้มค่า เหมือนเราซื้อ

รถคุณภาพดีมาจอดทิ้งไว้เฉยๆ หรือเอาไปใช้จ่าย

ตลาดเท่านั้น เราเลือกเข้ามาที่โรงเรียนทอสี ค่า-

เล่าเรียนที่นี่เป็นแบบซื้อ ๑ แถม ๒ แถม ๓ คือ

ได้เรียนรู้ทั้งพ่อ แม่ และพี่เลี้ยงด้วย ถ้าเราชำระ

ค่าเทอมโดยไม่รับของแถม ไม่เห็นประโยชน์ของ

การเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูกหลาน อย่างนี้ก็...

น่าเสียดาย ครูอ้อน - บุบผาสวัสดิ์ รัชชตาตะนันท์

๐๑


เติบโตในทุกย่างก้าวที่ออกเดิน

ในทุกย่างก้าวที่ออกเดิน เรื่อง: ครูแหม่ม – อาภาภัทร ไชยประสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ

คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ คิ ด ว่ า สั ญ ญาณที่ บ อกถึ ง ความเติ บ โตคื อ อะไรคะ? สิ่ ง ที่ เ ห็ น ชั ด เจนก็ ค ง เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เช่น ความสูง ความใหญ่ โ ตของร่ า งกาย เสื้ อ ผ้ า ที่ เ ริ่ ม ใส่ ไ ม่ ไ ด้ ที่เราพบในลูกๆ ของเรา ปีการศึกษาใหม่นี้ คุณครูเห็นเด็กๆ ที่เคย ใส่ ก ระโปรงม่ ว ง เปลี่ ย นเป็ น ชุ ด เสื้ อ ลายตาราง สีฟ้า กระโปรงน้ำเงิน ดูสดใส แปลกตา เห็นเด็ก ตัวเล็กๆ จิ๋วๆ เดินร้องไห้กระจองอแงเข้ามาใน

โรงเรี ย น เห็ น พี่ ป.๖ รุ่ น ใหม่ ม ายื น แทนที่ พี่ใหญ่รุ่นเก่าที่หายหน้าไป สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงถึง “สภาวะการเติ บ โต” ตามวั ย ตามเวลา และพัฒนาการของเขา ก่อนจะมาถึงวันนี้ ขอย้อนกลับไปสู่อดีตกัน สักนิดนะคะ แบบที่เรียกว่า “เราต้องรู้อดีตเพื่อ ก้าวสู่อนาคต” หลายท่านคงได้ประทับใจกับ ละครหุ่นเงา ของชั้ น อนุ บ าล ๓* ไปเป็ น ที่ เ รี ย บร้ อ ยแล้ ว


เติบโตในทุกย่างก้าวที่ออกเดิน

ในปีการศึกษาที่แล้ว ผู้ปกครองอนุบาล ๓ ได้ร่วม เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงที่น่าประทับใจนี้ พ่อแม่ หลายคนถึงกับน้ำตาไหล ในความน่ารักและความ ตัง้ อกตัง้ ใจของลูกๆ ทีส่ ำคัญคือ ได้เห็นศักยภาพของ ลูกๆ ในการทำงานร่วมกันเป็นทีม ความมีวินัย การรู้กาลเทศะ และการควบคุมตัวเอง นั่นคือก้าว (ยาวๆ) ที่ครูอนุบาลทั้งหลายเตรียมการไว้เพื่อส่งลูก สู่ชั้นประถม เป็นการผลักดันแรงๆ โดยการให้ลูกๆ ได้มีโอกาสทำงานใหญ่ในวันนั้น ส่วนการส่งพีใ่ หญ่ของเราให้กา้ วพ้นจากรัว้ ทอสี ออกไปอยูข่ า้ งนอกโรงเรียน ในพิธมี อบประกาศนียบัตร แด่ พี่ ๆ ป.๖* ครั้ ง ล่ า สุ ด ที่ ผ่ า นไปก็ ชื่ น ใจไม่ แ พ้ กัน เด็ ก ๆ ได้ มี โ อกาสรับประกาศนียบัตร และ รั บ ฟั ง ปั จ ฉิ ม โอวาทจากพระอาจารย์ ช ยสาโร พิธีกรรมในวันนั้นมีความงดงาม เป็นการแสดงถึง ความพร้อมของพี่ๆ ป.๖ (รุ่นก้ามปู) ที่จะก้าวออกไป สู่ โ ลกภายนอกโรงเรี ย นแบบที่ ไ ด้ พ กพาคุ ณ ธรรม ความดีงาม และวิชาชีวิตออกไปด้วยเต็มกระเป๋า ในวันนัน้ น้องๆ ประถมได้มอบแสดงการอำลาส่งพีๆ่ ไว้ เ ป็ น พิ เ ศษด้ ว ย งานนี้ ช่ ว ยเติ ม น้ ำ ตาให้ พี่ ๆ (และคุณครู) ทำให้พๆี่ ได้รถู้ งึ ความผูกพันทีน่ อ้ งมีตอ่ พี่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในปลายภาคเรี ย นที่ แ ล้ ว ยั ง มี Thawsi Recital* กิ จ กรรมการแสดงดนตรี ข อง นักเรียนประถมอีกหนึ่งงาน เป็นกิจกรรมที่เราจัด ต่อเนื่องกันมาหลายปี การเรียนรู้เรื่องโน้ต เสียง เครื่องดนตรี การเล่นร่วมวง ของเด็กๆ ได้ถ่ายทอด ออกมาในการขับขานและบรรเลงเพลง ชาวทอสีเรา โชคดีที่ได้ปรมาจารย์ทางดนตรีมาสอนเด็กๆ ของเรา นำทีมโดย ครูเจี๊ยะ – ศักดิ์ชาย เล็กวงษ์เดิม, ครูตู่ – ผุสดี โสรัต และ ครูเล็ก – นิติพงษ์ โสรัต (ใครรู้ จั ก วงไหมไทยและวงกอหญ้า น่าจะคุ้นชื่อ ของทั้ ง สามท่ า นแน่ ๆ ) ในงาน Recital ครั้ ง นี้ ไม่ได้แสดงแค่ศักยภาพทางดนตรี แต่ยังแสดงถึง เบื้ อ งหลั ง ความสำเร็ จ คื อ เรื่ อ งวิ นั ย ในการเรี ย น ความตั้ ง ใจ การยอมรั บ ผู้ อื่ น และการรู้ จั ก ฟั ง คนอื่นให้เป็น อีกด้วย สิง่ เหล่านีล้ ว้ นเป็นการสนับสนุนการเดินทางก้าว ต่อไปของเด็กๆ การที่ผู้ใหญ่อย่างเรามองเห็นความ

เติบโตอย่างเป็นรูปธรรมของพวกเขาคงเป็นเพียง ส่ ว นเดี ย วเท่ า นั้ น อี ก ส่ ว นของความเติ บ โต กำลั ง เบ่ ง บานอยู่ ใ นใจดวงน้ อ ยๆ ... เป็ น การ เติ บ โตทางจิ ต วิ ญ ญาณภายใน ซึ่ ง จะเติ บ โตและ ก้าวเดินต่อไปได้ทั้งในภาวะที่ดีใจ เสียใจ เศร้าใจ ร้ อ งไห้ เบื่ อ ฯลฯ เพี ย งแค่ มี ค นเข้ า ใจ พาคิ ด และเชื่อมโยงเข้าสู่ธรรมะ ก็คงไม่ยากเกินไปที่เด็กๆ ก็จะสามารถเรียนรู้เพื่อเติบโตอย่างสมดุลย์ทั้งกาย และจิต ในปีการศึกษานี้ สำหรับการทำงานของทีม ผู้ใหญ่ในสำนักวิชาชีวิต เราได้รับเกียรติจากคุณครู ๓ ท่านที่เข้ามาร่วมทำงานกับครูแหม่ม มี ครูประไพ ประดิษฐ์สุขถาวร, ครูเชอรี่ - ฤทัย บุญทวีกิจ มาช่วย ในเรื่ อ งหลั ก สู ต รของโรงเรี ย น และมี ครู ต้ น – ทัศน์เนตรดาว โสรัต มาช่วยดูแลส่วนงานวิชาชีวิต ระดับอนุบาล ทีมผู้ใหญ่อย่างเราก็กำลัง “เติบโต” เช่นกันนะคะ

* ชมคลิปกิจกรรมได้ที่ youtube.com/thawsivdo

แถมอีกนิดกับเรือ่ งราวจากการแสดงละคร เกิดมาทำไม ที่คณะครูทอสีจัดให้นักเรียนเข้าใหม่วัยอนุบาลได้ชม กันในต้นปีการศึกษา ๒๕๕๕ ละคร “เกิดมาทำไม” ทำหน้าที่เสมือนเป็นหมุดหมายตัวแรกที่ทางโรงเรียน ปักไว้ให้เด็กๆ และผูป้ กครองใช้เป็นหลักเริม่ ในการออก เดินไปข้างหน้า เมื่อเราตอบคำถามที่ว่า “เกิดมาทำไม” ได้ และหมั่นทบทวนคำตอบอย่างสม่ำเสมอ ทาง โรงเรียนเชื่อว่าเราจะมีความมั่นอกมั่นใจในทุกย่างก้าว และยากจะหลงทางในอนาคต

๐๓


ข่าวดี! เมืองไทยมี 4G แล้ว! ทอสีรักษ์โลก

เรื่อง: ครูอั๋น – พลณัฐ แก้วมะณี

สวัสดีครับชาวทอสีทกุ คน ครัง้ นีค้ รูอนั๋ มีเรือ่ งดีๆ โดยการนำทรัพยากรมาเข้ากระบวนการรีไซเคิลให้ สองเรื่ อ งมาเล่ า สู่ กั น ฟั ง เรื่ อ งแรกเป็ น เรื่ อ งของ มากที่สุด เหล่านี้นอกจากจะช่วยลดการใช้พลังงาน ธนาคารทรัพยากร ซึ่งในภาคเรียนนี้ได้เปิดรับฝาก ลดการใช้ทรัพยากรแล้ว ยังช่วยแปรทรัพยากรเป็น ทรั พ ยากรรี ไ ซเคิ ล จากครอบครั ว ระดั บ ชั้ น ประถม ค่าขนมกลับบ้านไปอีกด้วย ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ และรับต่อเนื่อง ว่ากันต่อด้วยเรื่องที่สอง... ปัจจุบันมูลนิธิ ทุกเดือนจนกว่าจะหมดภาคเรียน ทุกห้องเรียนจะมี สถาบันราชพฤกษ์ได้จัดโครงการ Give Green Get วั น ฝากทรั พ ยากรรี ไ ซเคิ ล ของตั ว เอง ในปี นี้ Green เขียวจัดทั่วไทย (4G) ขึ้น โดยการชวนให้ ทางธนาคารฯ ได้แบ่งประเภททรัพยากรรีไซเคิลเป็น ทุกครอบครัวมาร่วมกันปลูกป่า ใครชอบต้นไม้ก็เชิญ ๕ ประเภท และรับฝากทรัพยากร ๘ ชนิด (รายละเอียด มาร่วมโครงการนี้ได้เลย โดยผู้ที่สนใจสามารถเลือก จะระบุในจดหมายส่งถึงผู้ปกครอง) ส่วนราคามูลค่า ปลูกต้นไม้ตามความชอบของตัวเอง โดยเริ่มต้นปลูก ของทรัพยากรที่นักเรียนจะได้รับนั้น จะแตกต่างไป คนละ ๑ ต้น ราคาต้นละ ๒๐ บาท มีพันธุ์ไม้ยืนต้น ตามชนิดของทรัพยากรที่นำมาฝาก ซึ่งถ้าแยกตาม ให้เลือกกว่า ๒๐ ชนิด ทางโครงการจะนำไปปลูกใน ชนิดมาเลยจะได้ราคาดีกว่าไม่แยกมาให้ ตอนนีค้ รูอนั๋ ผืนป่าต้นน้ำของโครงการฯ และดูแลให้ครบครัน ทั้งนี้ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเปิดรับฝากทรัพยากร ก็เพื่อฟื้นฟูและพิทักษ์ป่าไปพร้อมๆ กัน แพ็กเกจการ จากครอบครัวระดับชั้นอนุบาลด้วย เพื่อชาวทอสี ปลูกต้นไม้มีให้เลือกดังนี้ ทุกคนจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือโลกของเรา ๑. เขียวเอาแต่ใจ ราคา ๒๐ บาท เลือกกล้าไม้ ๑ ต้นขึ้นไป ๒. เขียวเกินร้อย ราคา ๑๐๐ บาท เลือกกล้าไม้ ๕ ต้น ๕ ชนิด ๓. รักเขียว เสียดายเขียว ราคา ๔๐๐ บาท จัดให้ ๒๐ ต้น ครบทั้ง ๒๐ ชนิด ๔. ป๋าอยากเขียว ราคา ๑,๐๐๐ บาทขึ้นไป กับกล้าไม้เต็มอ้อมกอด ๕๐ ต้น ระบุได้ตามต้องการ ๕. เขียวเหมาไร่ ราคา ๙,๙๐๐ บาท เอาไปเลยกล้าไม้ ๕๐๐ ต้น บนเนื้อที่ ๑ ไร่ โครงการนี้ เ ปิ ด รั บ ผู้ ส นใจตั้ ง แต่ วั น นี้ - ๓๑ ธ.ค. ๕๕ เข้ า ไปชมรายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ www.rajapruek.org/givegreengetgreen หรือ Facebook: GiveGreenGetGreen และเพื่อเป็นการ ช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ ทางโรงเรียนจะตั้งกล่องรวมน้ำใจจากชาวทอสีที่โรงเรียน เพื่อนำเงินไปสมัคร แพ็กเกจของโครงการ 4G เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ผืนป่าและช่วยให้สัตว์นานาชนิดได้กลับมาอยู่ร่วมกัน งานนี้ “รักเมืองไทยต้องแสดงออก” นะครับ

๐๔


กิจกรรมเด่นในรั้วทอสี

กิจกรรมเด่นในรั้วทอสี เรื่อง: ครูโหน่ง – หทัยรัตน์ บุตรยิ่ง / ครูโก้ – ปิยะ ตั้งพงศ์ธิติ

เปิ ด ภาคเรี ย นแรกมาได้ ค รึ่ ง ทางแล้ ว ในภาคเรี ย นแรกนี้ ที่ โ รงเรี ย นมี กิ จ กรรมดี ๆ มาให้ ไ ด้ ร่ ว มเรี ย นรู้ กั น อี ก เช่ น เคย ที่ จ ะไ ม่ พู ด ถึ ง ไ ม่ ไ ด้ เ ลยก็ คื อ “กิ จ กรรมวั น ไหว้ ค รู ” และ “กิจกรรมมนต์รักอักษร” สองกิจกรรมเด่นในช่วงที่ผ่านมา . . .

กิจกรรม “มนต์รักอักษร” กิ จ กรรมมนต์ รั ก อั ก ษร ประจำปี ๒๕๕๕ จั ด ขึ้ น ระหว่ า งวั น ที่ ๒๖ มิถนุ ายน - ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นักเรียนทีเ่ ข้าร่วมกิจกรรมมีตงั้ แต่ระดับชัน้ อนุบาล ๓ จนถึงชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ จุดประสงค์ของกิจกรรมมนต์รกั อักษร นั้น เป็นไปเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน การวิเคราะห์ การสังเกต การสนใจใฝ่เรียนรูภ้ าษาจากสือ่ รอบตัว เชือ่ มโยงกับหลักการใช้ภาษาไทย และ มีเป้าหมายให้ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมค้นพบความสามารถและมีศรัทธาในศักยภาพ ของตนเอง เพือ่ ฝึกฝนและพัฒนาความสามารถของตนเองให้สงู ขึน้ เป็นลำดับ คุณครูเองก็เป็นส่วนหนึง่ ของการร่วมกันรณรงค์เพือ่ การใช้ภาษาไทยทีถ่ กู ต้อง โดยการเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องเหมาะสม รูปแบบการจัดกิจกรรมมีทั้งการแข่งขันตอบคำถามภาษาไทย และภาษาอังกฤษ การประกวดร้องเพลงภาษาไทย การแสดงความสามารถ ร้ อ งเพลงภาษาอั ง กฤษ การประกวดแต่ ง นิ ท านคุ ณ ธรรม การเล่ า นิ ท านพร้ อ มวาดภาพประกอบสด การแข่ ง ขั น ค้ น หา ความหมายจากปทานุกรม-พจนานุกรมภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การนำเสนอชีวประวัติของสุนทรภู่ การจำหน่ายหนังสือน่าอ่านจาก สำนักพิมพ์ชื่อดัง ฯลฯ ท่านผูป้ กครองสามารถติดตามข่าวสารเพิม่ เติม พร้อมชมภาพบรรยากาศ ได้ทาง www.thawsischool.com และที่บริเวณกระดานข่าวในโรงเรียน

กิจกรรมวันไหว้ครู “การไหว้ ค รู ” เป็ น ประเพณี ไ ทยที่ ค วรค่ า แก่ ก ารอนุ รั ก ษ์ เป็ น การแสดงออกซึ่ ง ความอ่ อ นน้ อ มถ่ อ มตนเพื่ อ ขอเป็ น ลู ก ศิ ษ ย์ ขอให้ ค รู ป ระสิ ท ธิ์ ป ระสาทวิ ช าให้ เป็ น การแสดงออก ว่าลูกศิษย์พร้อมที่จะให้ครูพัฒนาทั้งด้านวิชาชีวิต-วิชาการ และ ยังเป็นการแสดงความกตัญญู-กตเวทีต่อครูบาอาจารย์อีกด้วย ในฐานะพุทธศาสนิกชน คำว่า “ครู” มีความหมายกว้างขวางมาก ไม่ได้หมายเฉพาะเพียงครูผู้สอนเท่านั้น แต่เรายังมีครูผู้ยิ่งใหญ่คือ พระพุทธเจ้า ซึง่ ถือเป็นครูของโลก เพราะพระพุทธองค์ได้สงั่ สอนธรรมะ เพื่อความเจริญและความหลุดพ้นให้กับสัตว์โลกทั้งหลาย

๐๕


ในช่วงบ่ายก่อนวันไหว้ครู ทุกๆ คนตั้งใจซักซ้อมพิธี เป็นอย่างดี เราช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ เช่น พาน ดอกไม้ ธูป เทียน ไว้ใช้ในพิธี ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการจัดพาน ไหว้ครู ได้แก่ หญ้าแพรก ตัวแทนของความเจริญงอกงามของ สติปัญญา เนื่องจากหญ้าแพรกเจริญเติบโตเร็ว ดอกมะเขือ ตัวแทนของความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อ ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา กล่าวคือมีลักษณะอ่อนน้อมดัง ดอกมะเขือที่มีลักษณะดอกโน้มคว่ำลง ดอกเข็ม ตัวแทนของความแหลมคมของสติปัญญา ดังกลีบของดอกเข็มที่มีลักษณะเป็นปลายแหลม เช้าวันที่ ๑๔ มิถนุ ายน ๒๕๕๕ เด็กๆ ตืน่ เต้นกันมาก ทุกคนรีบมาโรงเรียนเพื่อมาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ไว้ นักเรียนและคุณครูชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยในการจัดงาน พี่ๆ ป.๖ ลงมาช่วยจัดสถานที่ เตรี ย มจั ด บรรยากาศด้ ว ยจิ ต อาสา ด้ ว ยความปิ ติ นักเรียนและครู ป.๕ ช่วยกันพับดอกบัวแบบต่างๆ จัดใส่ แจกันเพื่อใช้ตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม ในปี นี้ พ ระอาจารย์ ช ยสาโรได้ เ มตตาฝากโอวาท เนือ่ งในวันไหว้ครูผา่ นสือ่ วีดที ศั น์ไว้ให้พวกเราชาวทอสีดว้ ย ในช่วงพิธกี าร นักเรียนและคุณครูได้ปวารณาตนระหว่างกัน คุณครูอ้อนกราบคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถือเป็นคุณครูคนแรก คือ คุณตาดุษฎี และ คุณยายทอสี สวัสดิ์-ชูโต ตัวแทน นักเรียนอนุบาลและนักเรียนประถมกราบระลึกพระคุณครู หลังจากนัน้ นักเรียนประถมปลายได้ออกมาอ่านเรียงความ เกี่ยวกับความเป็นครูให้ทุกคนฟัง* ลงท้ายด้วยการร่วมกัน ร้องเพลง “คนเก่งคนดี”ในบรรยากาศที่แสนประทับใจ ทางโรงเรี ย นต้ อ งขออนุ โ มทนาผู้ ที่ มี ส่ ว นร่ ว ม ทั้งนักเรียน คุณครู และผู้ปกครอง ที่ได้ช่วยให้พิธีไหว้ครู ได้ถกู ถ่ายทอดออกมาได้งดงามตามประเพณีและวัฒนธรรม ของไทยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

*ท่านผูส้ นใจสามารถอ่านเรียงความของเด็กๆ ได้ทหี่ มวด “ผลงานนักเรียน” ใน www.thawsischool.com

๐๖

s being set aat , 4 1 e n u J ay, ay) With Thursdeacher Appreciation Dath My e (T ‘Wai Kru’ ol, the song ‘Wind Ben dents Thawsi scho introduced to Pratom stu their Wings’ was e song to pay tribute to as the them teachers.

Wind Beneath My Wings ~ Bette Midler

It must have been cold there in my shadow, to never have sunlight on your face. You were content to let me shine, that’s your way, you always walked a step behind. So I was the one with all the glory, while you were the one with all the strength. A beautiful face without a name -- for so long, a beautiful smile to hide the pain. Chorus Did you ever know that you’re my hero, and everything I would like to be? I can flfflly higher than an eagle, ’cause you are the wind beneath my wings. It might have appeared to go unnoticed, but I’ve got it all here in my heart. I want you to know I know the truth, of course I know it, I would be nothing with out you. Chorus Did you ever know that you’re my hero, and everything I would like to be? I can flfflly higher than an eagle, ’cause you are the wind beneath my wings. Fly, flfflly, fflly away, you let me flfflly so high. Oh, flyou, flyou, so high against the sky, so high I almost touch the sky. Thank you, thank you, thank you, the wind beneath my wings.


๐๗


มหกรรมลานโพธิ์ ตอน “งานวัดลอยฟ้า” งานวัดในบรรยากาศที่แตกต่าง... กลางใจเมือง เรื่อง: ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

มหกรรมลานโพธิ์ ตอน “งานวัดลอยฟ้า” ที่ภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธกว่า ๑๐๐ องค์กรได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ได้ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โรงเรียนทอสีและโรงเรียนปัญญาประทีป ได้มีส่วนร่วมในงาน นี้โดยการร่วมจัดซุ้มข้อมูลการจัดการศึกษาในวิถีแห่งพุทธปัญญา ณ บริเวณลานธรรม ชั้น ๕ สยามพารากอนฮอลล์ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕

นอกจากการจั ด ซุ้ ม กิ จ กรรมแล้ ว ในวั น เสาร์ ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ทางโรงเรียนทอสี-ปัญญาประทีป ยังได้จัดการเสวนา “พ่อ แม่ ครู ผู้แสดงโลก” ที่บริเวณเวที กลางของพื้นที่ลานธรรมอีกด้วย งานนี้ คุณวิภว์ บูรพาเดชะ ผู้ดำเนินการเสวนา ได้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ผู้ปกครอง คุณครู และเด็กๆ ในประเด็นการเลีย้ งลูกในวิถแี ห่งพุทธปัญญา ผูเ้ ข้า ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ได้แก่ พ่อเช็ค - สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ (อดีตผูป้ กครองทอสี และผูป้ กครองปัญญาประทีป), แม่แจง - จุฬารัตน์ อินทรมหา (ผูป้ กครองปัญญาประทีป และ ครูฝ่ายวิชาชีวิตผู้ปกครองทอสี), แม่ออย - ศิรดา อัศวานันท์ (ผู้ปกครองทอสี) รวมถึงเด็กนักเรียนจากปัญญาประทีป (ศิษย์เก่าทอสี) คือ น้องแก้ม - พิมพ์บูรพา ธรรมวุฒิ และ น้องนี้ด - ลฎาภา อินทรมหา

> การเสวนา “พ่อ แม่ ครู ผู้แสดงโลก”

ท่านที่สนใจชมคลิปการเสวนาดังกล่าว รวมถึงภาพบรรยากาศงาน และข้ อ มู ล ที่ จั ด แสดงภายในซุ้ ม ของโรงเรี ย น สามารถเข้ า ชม ได้ ที่ www.thawsischool.com ในหมวดข่ า วสารและ กิจกรรม (ค้นคำว่า “งานวัดลอยฟ้า”) > ครูนุ้ยให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจ “เป้าหมายการจัดงานครั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้คนน้อมนำ พระพุทธศาสนามาปฏิบตั ใิ ช้ และเลือกใช้สถานทีใ่ นห้างสรรพ- > ครูหนิงนำเสนอต้นไม้ “เพียร ๔” สิ น ค้ า เพื่ อ เปิ ด โอกาสให้ ค นบางคนที่ ไ ม่ มี โ อกาสหรื อ > หนูน้อยเขียนความเพียรของตัวเองเพื่อติดบนต้นไม้ มีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาเข้าวัด มีสถานที่ที่เข้าเรียนรู้ธรรมะได้ ในแนวคิดที่เลือก ชิม ลอง เพราะในพื้นที่จัดงานจัดให้มี สถานที่ปฏิบัติธรรม โดยยุวพุทธิกสมาคมฯ และหมู่บ้านพลัม รวมทั้ ง ร่ ว มสวดมนต์ ๙ คาถา เป็ น บทสวดมนต์ แ รก

๐๘


ของการตรัสรูข้ ององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการแสดงธรรม จากพระรุ่นใหม่ พระมหาสมปอง โดยช่วงเย็นของทุกวัน จะเป็นเวทีธรรมะของคนรุ่นใหม่” นพ.บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการมูลนิธิหอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ แกนนำจัดงานให้ข้อมูลไว้* งานมหกรรมลานโพธิใ์ นครัง้ นี้ ถือได้วา่ เป็นงานทีส่ ามารถ รวมพลังของกลุม่ ภาคีชาวพุทธไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทัง้ ผูจ้ ดั งาน ผูเ้ ข้าชมงาน ต่างรูส้ กึ ยินดีทงี่ านนีเ้ กิดขึน้ และดำเนินไปอย่างเป็น ประโยชน์ ถัดจากนี้ไป คงมีอะไรให้เราชาวพุทธได้ “ปฏิบัติ” ร่วมกันอีกเรือ่ ยๆ ทุกท่านสามารถติดตามและมีสว่ นร่วมได้ตาม อัธยาศัย ทั้งนี้ โรงเรียนทอสีขออนุโมทนาคณะทำงานของหอ จดหมายเหตุพทุ ธทาส อินทปัญโญ ทีใ่ จดีเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัด กิจกรรมดีๆ ทางพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ “สาเหตุ ที่ ม างานวั ด ลอยฟ้ า เพราะอยากมาร่ ว มงานบู ช าฉลอง พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าดูว่าเป็นอย่างไร และงานมีอะไรบ้าง สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการมางานนี้คือ สามารถ นำหลักธรรมมาใช้ในชีวติ ประจำวันได้ เช่น อิทธิบาท ๔ โดยเฉพาะวิรยิ ะ คือความพากเพียร นำมาใช้กับการเรียน ให้มีความขยันหมั่นศึกษา หาความรู้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ หนูต้องการให้มีการจัดงานในลักษณะนี้อีก เพราะต้องการให้คนมาเรียนรู้ มาศึกษาเกี่ยวกับธรรมะ เพราะสามารถ นำมาปรับใช้ในชีวิตให้มีความสุขกายสุขใจอีกด้วย” น้องนี้ด - ลฏาภา อินทรมหา* *คัดจากเนื้อหาข่าวในเว็บไซต์ไทยโพสต์ ลงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕

> “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

> ซุ้มกิจกรรมสนุกๆ ในบริเวณหน้างาน

> ซุ้มกิจกรรม > น้องเซ้นร่วมแจมกับ Babymime

> พี่ต้นคูนกับน้องปั๋ม สองศิษย์เก่าทอสี มาเยี่ยมชมและช่วยเหลืองานในซุ้ม

โครงการทำความสงบ หนึ่งในกิจกรรมดีๆ จาก “ทำมะ? ทำเมือง”

“ชมรมหรีเ่ สียงกรุงเทพ” กำลังรณรงค์(อย่างเงียบๆ)ให้พวกเราใช้เสียง ในชีวิตประจำวันในเดซิเบลที่เหมาะสม ล่าสุดทางชมรมฯ ได้ร่วมส่งเสริม กิจกรรมสร้างสำนึกให้คณุ ค่าแก่ความเงียบ เพือ่ ให้เรามีพนื้ ทีแ่ ละเวลาในการ สงบจิตใจ ตัง้ สติในการดำเนินชีวติ โดยการเชิญชวนให้เราชาวพุทธหันมาทำ ความสงบให้เมืองกรุง ในกิจกรรม “ทำมะ? ทำเมือง” รายละเอียดเพิ่มเติม : www.facebook.com/QuietBangkok และ www.tum-ma.com น้องพีท ป.๓ และน้องฟ้า ป.๑ นั่งสมาธิก่อนนอน ส่วนร่วมเล็กๆ ของเด็กๆ ในโครงการนี้

๐๙


ครูผู้สร้างคน ครูผู้สร้างตน เรื่อง: ครูเชอรี่ – ฤทัย บุญทวีกิจ / ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

๑๐

ปิดเทอมที่ผ่านมานี้ เหล่าคุณครูมีเรื่องสนุกๆ ที่ต้องเรียนรู้มากมาย ไม่แพ้เด็กๆ เลย เริ่มจากการที่ แม่แจน คุณแม่ของหนูเจน อ.๒ ได้ไปเรียนรู้ การเรียนการสอนแบบ มอนเตสซอรี่ (Montessori)* มาจากมูลนิธดิ วงประทีป แล้วนำไปใช้สอนลูกสาว เมือ่ ได้ผลดีจงึ มีฉนั ทะในการแบ่งปันความรูน้ ใี้ ห้กบั กลุม่ ครูอนุบาล ทางโรงเรียนได้จดั เวลาและสถานทีใ่ ห้แม่แจนได้แบ่งปันความรูเ้ กีย่ วกับ มอนเตสซอรีใ่ ห้คณุ ครูเป็นเวลาสองวัน การแลกเปลีย่ นเรียนรูแ้ ละลงมือปฏิบตั กิ นั อย่างเอาจริงเอาจังทำให้เรารู้สึกว่าเวลาของการอบรมนั้นสั้นมาก อย่างไรก็ตาม คุณแม่สัญญาว่าจะมีการอบรมครั้งต่อไปอีกแน่นอน


วิชาชีวิตครู

นอกจากเรียนรู้ในห้องเรียนแล้ว การเรียนรู้ นอกห้ อ งเรี ย นก็ ส ำคั ญ โดยเฉพาะการรู้ จั ก พึ่ ง พา ตนเองใน การปลูกผักกินเอง โดยเฉพาะสำหรับ คนเมื อ งอย่ า งเรา ผู้ เ ชี่ ย วชาญที่ เ ป็ น วิ ท ยากร ให้กับเราคือ คุณปริ๊นท์ - นคร ลิมปคุปตถาวร หรื อ ที่ ห ลายคนรู้ จั ก กั น ในนาม “เจ้ า ชายผั ก ” แห่ ง กลุ่ ม สวนผั ก คนเมื อ ง ผู้ ที่ แ สดงให้ พ วกเรา เห็ น ว่ า การกิ น ผั ก ที่ ซื้ อ มากั บ การปลู ก ผั ก กิ น เองได้ คุณค่าทางอาหารและความภูมิใจที่แตกต่างกันมาก การปลูกผักขอให้มีแสงแดดเพียงพอ เรื่องเนื้อที่ไม่ได้ เป็นปัญหาอย่างที่เราคิด พวกเราเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง ว่าไม่น่าจะยากที่จะลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพ ที่ดีและยังประหยัดเงินอีกด้วย คุ ณ ปริ๊ น ท์ ไ ด้ ก รุ ณ าเป็ น วิ ท ยากรให้ เ ราทั้ ง ภาคบรรยายและภาคปฏิบัติ ในช่วงเช้า การบรรยาย เป็นไปอย่างเพลิดเพลิน คุณครูได้องค์ความรู้และ สาระในเรื่องเกษตรธรรมชาติหลายต่อหลายอย่าง ในช่ ว งสายและบ่ า ย เหล่ า นั ก เรี ย นตั ว โต๊ โ ตได้ ล ง ภาคสนาม เริม่ จากการปรุงดิน เพาะกล้า ไปจนถึงเพาะ เมล็ดในกระถาง งานนี้ได้ผักบุ้งมาวางเรียงรายข้าง กำแพงโรงเรียนหลายสิบกระถาง (ตอนนี้ฝ่ายปัจจัย ๔ เดินหน้าปรับปรุงภูมทิ ศั น์โดยการปลูกผักเรียงกระถาง ข้างกำแพงแทนการทาสีใหม่แล้วด้วย) ท่านที่สนใจ ศึกษาองค์ความรู้เรื่องการปลูกผักกินเอง สามารถ ดาวน์โหลดเอกสารนำเสนอและชมวีดีทัศน์การอบรม ได้ที่หมวดข่าวสารและกิจกรรมของเว็บไซต์โรงเรียน (ค้นคำว่า “สวนผักคนเมือง”) นอกจากเด็กๆ แล้ว การเป็นผู้ฝึกฝนเรียนรู้ และพั ฒ นาตนนั้ น ก็ เ ป็ น หน้ า ที่ ข องครู ท อสี เ ช่ น กั น เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะในการสอน ทางโรงเรียน ได้เรียนเชิญ อ.วรรณา ประยุกต์วงศ์ จากสถาบัน อาศรมศิลป์ รุ่งอรุณ มาทำการอบรมเรื่อง Active Learning ซึ่งเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยผ่าน ประสบการณ์ ต รงแบบใดก็ ไ ด้ ที่ ไ ม่ ใ ช่ วิ ธี บ รรยาย หรือการเอาชุดความรู้ไปมอบให้เด็ก เป็นเรื่องที่เข้าใจ ไม่ยากเลย แต่การจัดการเรียนรู้แบบนี้นับว่าต้องใช้

ความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนทีด่ ี ซึง่ ครูสว่ นใหญ่ เห็นความสำคัญและพยายามนำมาปฏิบัติกันอยู่ เหล่ า นี้ เ ป็ น ส่ ว นไฮไลท์ ข องกิ จ กรรมสำหรั บ คุณครูในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ฝ่ายวิชาชีวิตครูกำลัง มุ่งฝึกฝนคุณครูให้มีทั้งองค์ความรู้และความรู้รอบตัว บางคณะได้ไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ (ล่าสุดไป ดูงานที่ประเทศอังกฤษและสิงคโปร์) เพื่อเปิดมุมมอง และนำสาระมาปรับใช้ สำหรับกลุม่ คุณครูเข้าใหม่ เอง ทางโรงเรียนก็ได้จดั กิจกรรมเฉพาะกิจให้ดว้ ย โดย ได้ทำกิจกรรมเข้าค่ายทีโ่ รงเรียนเป็นเวลา ๒ วัน ๑ คืน โดยกลุ่มคุณครูรุ่นพี่ได้กรุณาสลับสับเปลี่ยนมาเป็น วิทยากรเพื่อให้น้องๆ ได้รับทั้งความสนุกสนาน สาระ และได้เรียนรู้แนวปฏิบัติที่เป็นวิถีแห่งทอสีแท้ๆ การเป็ น ครู ที่ ดี นั้ น คงต้ อ งเริ่ ม จากการเป็ น นักเรียนที่ดีก่อน และการเป็นนักเรียนที่ดีก็คงต้อง เริ่มต้นที่การรู้จักเร่งฝึกฝนตนเอง เพื่อที่ว่าเมื่อเหตุ ปัจจัยครบถ้วน เราจะเป็น “บัณฑิต” ได้โดยสมบูรณ์

มอนเตสซอรี่ เป็นทั้งปรัชญา แนวคิด หลักการ หลักสูตร และวิธีการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อย่างแท้จริง โดยเกิดจากความเชื่อของแพทย์หญิงมาเรีย มอนเตสซอรี่ ชาวอิตาเลียน (ค.ศ. ๑๘๗๐-๑๙๕๒) ที่ว่าไม่ มีใครจะได้รบั การศึกษาได้อย่างสมบูรณ์โดยผูอ้ นื่ ตัวผูเ้ รียน เองต่างหากทีจ่ ะทำให้การเรียนรูเ้ กิดขึน้ เนือ่ งจากคนเรานัน้ จะถูกกระตุ้นจากความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ และจากความรักการใฝ่หาความรู้ของตนเอง การศึกษา จึงควรเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามความ ต้องการตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล ที่มาข้อมูล: เว็บไซต์สมาคมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อเด็กเป็นสำคัญ, montessori-assothai.org

๑๑


PLAY & LEARN เพลินกับภาษาอังกฤษ

ข้อมูล: สาระวิชาภาษาอังกฤษ

ฉบับนี้สาระวิชาภาษาอังกฤษขอชวนทุกคนมาเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยการเล่มเกมสนุกๆ กัน ในภาคเรียนนี้ Teacher Rei คุณครูสมาชิกใหม่ของสาระวิชาภาษาอังกฤษได้กรุณาเขียนแนะนำตัวและ เล่าเรื่องราวดีๆ ให้พวกเราฟัง พร้อมฝากเกมโยงเส้นคำศัพท์ไว้ที่ท้ายเรื่อง (อย่าลืมหยิบพจนานุกรมมาใช้ ประกอบการเล่นนะคะ) เท่านั้นยังไม่พอ! เรายังมีเกมค้นหาคำศัพท์เกี่ยวกับวาระ “พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม” มาฝากกันอีกหลายเกม (แบ่งเป็นหลายระดับความยาก) งานนี้จะเล่นคนเดียว เล่นกับเพื่อนๆ หรือร่วมกันหาคำเฉลยกับผู้ปกครองก็ได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ Get to know more about ‘Teacher Rei’,

our new teacher

Hi my name is Raquel Rei Morgan and I arrived in Bangkok in September of 2011. I enjoy traveling, beaches, singing and reading. I speak both English and Spanish and I hope to learn Thai very soon. I earned my Bachelor of Arts from Hunter College in Political Science. While working at the District Attorney’s Office of Queens, New York, as a paralegal, I volunteered as an ESL teacher at my neighborhood’s community center in which my love for teaching began to grow. I have enjoyed living in Thailand but it hasn’t always been easy. I’ve had to adjust my way of thinking. I’ve had to rid myself of expectations, judgments and assumptions. I’ve had to be bold, take chances, but also be vulnerable and accept advice from those who are wiser. I would like Thawsi students to learn this one thing: To be humble and accept the help that they are given, so that one day they will be able to help others. My experience with the children at Thawsi has enhanced new life here in Thailand. The students have taught me, mindfulness, vulnerability, and humbleness. I realize, even though the students may not know it yet, that they have wisdom of their own that I, as an adult, must be ready to

๑๒

perceive and receive. Being a teacher at Thawsi has been a challenge worth taking. The students are teaching me patience, understanding, love, and kindness. Thank you for welcoming me to your Thawsi family, the opportunity to gain knowledge and experience, and allow me to share my gifts and talents. I hope to see you all (teachers, parents, and students) around and get the chance to know each other better.

Game: Draw a line to match words with the meaning volunteer community love adjust way of thinking rid of assumptions

humble

mindfulness wisdom

patience

Note: (n.)=noun, (v.)= verb, (adj.)=adjective Reference: Oxford Wordpower Dictionary For Thai Learners (ฉบับอังกฤษ-ไทย)

กำจัดสิ่งที่ไม่ดีงาม (v.) ปัญญา (n.) สติ (n.) ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ (v.) อ่อนน้อมถ่อมตน (adj.) สมมุติฐาน สันนิษฐาน (n.) ชุมชน กลุ่มชนที่มีบางสิ่ง บางอย่างร่วมกัน (n.) วิธีคิด (n.) ความอดทน ความอดกลั้น (n.) ความรัก (n.) รัก (v.) อาสาสมัคร (n.) อาสาทำให้โดยไม่หวัง สิ่งตอบแทน (v.)


PLAY & LEARN เพลินกับภาษาอังกฤษ

‘Buddha Jayanti’ Word Search Game

For Kindergarten Level

For Lower Primary Level

flowers incense Buddha candle monk bow

m i n d f u l n e s s i

s r t c o b o p a n t e

p r m e u m m m o r a t

d o e d u e f i t o h n

incense flowers Buddha temple candle altar chant monk bow

For Upper Primary Level

r c d w l o t o a b w y

o h o p o a t l l e s b

a e m f t l t k n s o e

s e t i h a f t n w c s

t y d t r o r l n o a n

t e i n c e n s e a m e

mindfulness meditation incense flowers Buddha temple candle chant alter robes monk bow

m a y a e t a n s i h c

e l d n a c o t o o a c


พื้นที่ปัญญาประทีป

พื้นที่ปัญญาประทีป

ฉบับนี้ไม่มีจดหมายจาก ‘ครูแจ๊ด’ คุณครูและผู้บริหารผู้น่ารักของโรงเรียน ปัญญาประทีปเหมือนอย่างเคย แต่มีบทความจากนักเรียนปัญญาประทีปมาให้อ่าน และชื่นใจกันแทน ในช่วงที่ผ่านมา เด็กๆ ปัญญาประทีปหลายคนได้เขียนส่งเรื่องราว ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนไปร่วมแบ่งปันในโครงการประกวดบทความสร้างสรรค์ความดี เพื่อใช้คัดเลือกจัดพิมพ์ในวารสาร “รู้ ตื่น และเบิกบาน” ของอาศรมศิลป์ เรื่องที่จะได้ อ่านกันต่อไปนี้เป็นหนึ่งในผลงานหลายๆ ชิ้นของเด็กๆ ขอเชิญทุกคนลองอ่าน ความเรียงของ ‘น้องจี’ นักเขียนหน้าใหม่จากปัญญาประทีปกันดูนะคะ

ก้าวไปข้างหน้ากับโรงเรียนวิถีพุทธ ทุกครั้งที่เราก้าวไปข้างหน้า ย่อมมีบางครั้งที่เราต้องถอย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ ก้าวต่อไป หยุดอยูแ่ ค่นนั้ หรือจะถอยลงไปอีก ทุกครัง้ ทีข่ า้ พเจ้าท้อ และถอย ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คุณครู หรือเพื่อนๆ ก็พยายามให้กำลังใจผลักดันให้ข้าพเจ้าก้าว ต่อไปข้างหน้า การที่ได้มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ “โรงเรียนปัญญาประทีป” ทำให้ข้าพเจ้าก้าว ไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง ได้เรียนรู้ในเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าถอย และพยายามแก้ไขและ ปรับปรุงสิ่งเหล่านั้น ตัง้ แต่ขา้ พเจ้าได้เข้ามาอยูใ่ นโรงเรียนนี้ สิง่ ต่างๆ มากมายทีข่ า้ พเจ้าไม่เคยทำหรือ ไม่รจู้ กั มาก่อนก็กลายเป็นสิง่ ทีข่ า้ พเจ้าคุน้ เคยและเข้าใจ หนึง่ ในนัน้ คือการปฏิบตั ธิ รรม การนัง่ สมาธิภาวนา จากทีข่ า้ พเจ้าไม่เคยทำและไม่ได้เห็นความสำคัญในช่วงแรกๆ นัน้ การให้คำปรึกษา การสอนจากคุณครู ทำให้ข้าพเจ้าทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น สิ่งที่คุ้นเคย นอกจากนี้ ข้าพเจ้าได้รู้จักคำว่า ‘ให้’ และ ‘ความสุขกับการให้’ ไม่ใช่การให้ที่ หวังผลตอบแทน หรือให้เพื่อการต่อรอง ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของมีค่ามากมาย อะไร แค่เป็นการให้ด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา แบ่งปันสิ่งที่เรามี เท่านี้ก็ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขแล้ว และนอกเหนือจากนี้ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ากลัว และบอกว่า ‘ทำไม่ได้’ คุณครูก็จะ ช่วยเติมคำว่า “ยัง” ไว้ข้างหน้าเสมอ เราเพียงแค่ยังทำไม่ได้ หากเราพยายาม ฝึกฝนไปเรื่อยๆ สักวันเราก็จะทำได้ อารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ไม่วา่ จะเป็น สุข ทุกข์ โกรธ เสียใจ ตืน่ เต้น ก็เปรียบเสมือนหินหรือสิง่ ของตามเส้นทาง เมื่อมีอารมณ์ไหนเกิดขึ้น ก็เหมือนเราหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาดู คุณครูสอนข้าพเจ้าว่า เมือ่ เรารูส้ กึ อย่างไรก็ให้รมู้ นั รูเ้ ข้าใจแล้วปล่อยวางมันเสีย ถ้าเรายังยึดถืออยูก่ บั สิง่ นัน้ ๆ

๑๔


ไม่ยอมปล่อยมันลงสักที เราก็จะไม่รู้เห็นถึงสิ่งรอบตัว ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า ข้าพเจ้า ได้ฝึกปฏิบัติจริงจนเป็นนิสัย ซึ่งเป็นผลดีต่อคนใกล้ตัว และบางครั้งข้าพเจ้าก็ถือโอกาส ถ่ายทอดแนะนำแก่คนใกล้ชิดโดยทางอ้อม การที่ข้าพเจ้าได้มาใช้ชีวิตศึกษาเรียนรู้อยู่ ณ ‘โรงเรียนปัญญาประทีป’ แห่งนี้ เป็นย่างก้าวของชีวิตที่มีคุณค่า ถึงแม้บางครั้งมีถอยบ้าง ล้มบ้าง ลุกบ้าง แต่ทุกๆ ครั้ง ข้าพเจ้าและเพื่อนๆ หลายคนได้ผ่านการเรียนรู้ชีวิตจริงตามสภาพความเป็นจริง ด้วยการฝึกเจริญสติสมั ปชัญญะ ระลึกรูส้ กึ ตัว รูใ้ นทุกข์ กล้าเผชิญปัญหา รูจ้ กั หาสาเหตุ รู้จักที่จะมองหาเป้าหมายและวิธีการจัดการแก้ไข การทำสมาธิภาวนาประจำวันอย่าง ตั้งใจมีส่วนช่วยได้มาก เพราะช่วยให้จิตใจตั้งมั่นสงบ รู้จักใช้สติ และนำมาใช้หรือ เจริญสติต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการศึกษาวิชาชีวิตเกี่ยวกับชีวิตจริงทั้ง นอกห้องเรียนและในห้องเรียน ทำให้ขา้ พเจ้ารูจ้ กั คิดพิจารณา นำสิง่ ต่างๆ มาเชือ่ มโยง สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นสุขและเป็นประโยชน์ ข้าพเจ้าเคยเป็น ตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งบาสเกตบอลสองครั้ง ไม่เคยได้รางวัลชนะเลิศที่หนึ่ง แต่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆ ก็ได้ฝึกการรู้จักชนะใจตนเอง ไม่เคร่งเครียดหรือถือตัวถือตน กับการแพ้ชนะ และรู้จักสร้างมิตรภาพ มีสัมพันธ์ที่ดีกับโรงเรียนอื่น เมื่ อ ข้ า พเจ้ า รู้ จั ก ตนและเห็ น สิ่ ง ต่ า งๆ ตามสภาพความเป็ น จริ ง หรื อ เห็ น “ธรรม” เมื่อนั้นข้าพเจ้าก็สามารถพึ่งพาตนเองได้ และสามารถเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคน ใกล้ตัว และตั้งใจจะแผ่ขยายทำประโยชน์ในวงกว้างต่อไป นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้ามั่นใจ เป็นการก้าวไปข้างหน้า… เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม… น.ส. ปุณยาพร ชาญพินิจพจน์ (จี) ม.๓ โรงเรียนปัญญาประทีป

จีค่อยๆ เปลี่ยนมาในทางดีขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยมีอารมณ์ อ่ อ นไหวง่ า ย แคร์ ค วามรู้ สึ ก คนอื่ น มากเกิ น ไป หลงไหลไปตาม กระแสเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้จีมีสติ มีสมาธิ รู้อารมณ์ตัวเอง มีเหตุมีผล และอดทนต่อสิ่งที่ไม่ชอบได้นานขึ้น ยอมรับสภาพตามความเป็นจริง จิตใจเข้มแข็งและนิ่งต่อสิ่งที่มากระทบได้ดีกว่าก่อน จีมีความสุขกับ การมาโรงเรียน และบอกกับแม่ว่าจะพยายามตั้งใจเรียน กลับบ้าน ก็ช่วยงานแม่มากขึ้น เอาใจใส่และเป็นห่วงแม่ ถึงแม้ลูกจะอยู่หอและ สองสัปดาห์กลับบ้านครัง้ แต่ครอบครัวเราดูมคี วามสุขมากขึน้ พวกเรา สบายใจและมีความเข้าใจกันมากกว่าแต่ก่อนค่ะ คุณสุรีย์ แซ่เจี่ย - คุณแม่ของน้องจี

*ท่านสามารถอ่านงานเขียนชิ้นอื่นๆ ของนักเรียนปัญญาประทีปได้ที่ www.thawsischool.com หมวด “แลกเปลี่ยนแบ่งปัน”


n o i t a c y Sta บทสัมภาษณ์

ชวนมา เที่ยวบ้าน’ กัน กับแม่ออย เรื่อง: ครูนุ้ย – กนกอร บุญทวีกิจ ฝ่ายวิชาชีวิตผู้ปกครอง ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

“ S t a y c a t i o n ” มาจากการผสมคำกันระหว่างคำว่า “Stay” และ “Vacation” ซึ่ ง หมายถึ ง การพั ก ผ่ อ นอยู่ บ้ า น รวมไปถึงการเที่ยวในละแวกใกล้ๆ บ้าน อาทิ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ คำศัพท์นี้ฝรั่งเขา เริ่ ม บั ญ ญั ติ ใ ช้ กั น ตั้ ง แต่ ยุ ค วิ ก ฤตทางการเงิ น (ค.ศ. ๒๐๐๗-๒๐๑๐) ชาวอเมริกันและอังกฤษ เริ่มนิยมวัฒนธรรมการพักผ่อนอยู่กับบ้านมากขึ้น เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จา่ ยได้เป็นอย่างดี หนำซ้ำ ยังไม่ต้องเตรียมจองที่พักหรือวางแผนเที่ยวให้ ยุ่งยากอีกด้วย เชื่ อ มโยงมาที่ ช าวทอสี เ รา เมื่ อ เร็ ว ๆ นี้ คุ ณ ครู ไ ด้ มี โ อกาสพู ด คุ ย กั บ แม่ อ อย – ศิ ร ดา อัศวานันท์ คุณแม่ของน้องอันนา ป.๔ และน้องอิงค์ ป.๑ เกี่ยวกับเรื่องการพักผ่อนและทำกิจกรรมใน ครอบครัว (บางคนคงทราบดีวา่ แม่ออยเป็นผูป้ กครอง นั ก กิ จ กรรมตั ว ยงในโรงเรี ย นของเราเลยที เ ดี ย ว) ได้ความว่า คุณแม่ยังสาวคนนี้มีวิธีการพักผ่อนและ รูปแบบวิถีชีวิตที่น่าสนใจและน่าแบ่งปัน คุณครูเลย ขอยกมาฝากผู้อ่านทุกท่านในฉบับนี้กันค่ะ

๑๖

ช่ ว งปิ ด เทอมที่ ผ่ า นมาครอบครั ว แม่ อ อยไป เที่ยวไหนบ้างหรือเปล่าคะ ช่วงปิดเทอม ครอบครัวออยได้ไปเที่ยวบ้าง เพราะเป็ น เวลาที่ คุ ณ พ่ อ ลางานได้ และลู ก ๆ ก็ปิดเทอม เราเลยวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยว ในประเทศ ขับรถไปจังหวัดชุมพร แต่เปลี่ยนวิธี เดินทางจากเดิมคือขับรถตรงจากกรุงเทพฯ ไปชุมพร เป็ น การเปิ ด แผนที่ เ พื่ อ หยุ ด เที่ ย วสถานที่ ต่ า งๆ ตามเส้นทาง เป็นการศึกษาภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อม และประวั ติ ศ าสตร์ ข องไทยไปด้ ว ย เนื่ อ งจากปี นี้ ชั้น ป.๔ น้องอันนาต้องเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ขาไปจึงแวะที่ถ้ำพระยานคร จังหวัดประจวบฯ พอถึง ชุมพรก็ได้เที่ยวดำน้ำชมปะการัง ปิดท้ายด้วยการไป แวะกราบกรมหลวงชุมพรฯ และเล่าประวัตทิ า่ นให้ลกู ๆ ฟัง ถือเป็นความเปลีย่ นแปลงวิธกี ารเทีย่ วของครอบครัว เราไปอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งได้ทั้งความสนุกและความรู้ ไปพร้อมๆ กัน นอกจากไปเที่ยวนอกบ้านแล้ว อยู่ที่บ้านได้ทำ กิจกรรมอะไรร่วมกันบ้างคะ พอกลั บ จากเที่ ย วชุ ม พรก็ พ บว่ า แม่ บ้ า น


บทสัมภาษณ์

ที่ บ้ า นลาออก ออยก็ เ ลยตั ด สิ น ใจว่ า ลองไม่ มี แม่ บ้ า นดู พวกเราน่ า จะทำงานบ้ า นกั น เองได้ จัดบ้าน ทำอาหาร ล้างจาน ทำสวน รดน้ำต้นไม้ ซักผ้า น่าจะใช้โอกาสช่วงปิดเทอมที่ลูกๆ จะเห็น เราทำงานบ้าน และเรียนรู้ที่จะช่วยงานบ้านแม่ ซึ่งปรากฎว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อันนาจะช่วยได้มาก ตัง้ แต่เอาเสือ้ ผ้าเข้าถัง แล้วนำไปตาก เก็บผ้า พับผ้า และเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งเขาจะไม่ต้องมา ถามหาเสื้อผ้าเวลาต้องการ เรื่องการทำอาหาร อันนาอยากทำอาหารเป็น ออยเลยสอนให้ ลู ก รู้ จั ก อุ ป กรณ์ ใ นครั ว ต่ า งๆ และเริ่ ม ให้ ลู ก ช่ ว ยในเรื่ อ งง่ า ยๆ ก่ อ น เช่ น แกะกระเที ย ม หั่ น ผั ก ออยสอนวิ ธี ก ารหั่ น ผั ก ผั ก ชนิ ด ไหนจะหั่ น อย่ า งไรได้ บ้ า ง ที่ ส ำคั ญ คื อ เมื่ อ ก่ อ นอั น นาจะไม่ รู้ ที่ ว างแก้ ว จาน ชาม ช้ อ นส้ อ ม จึ ง เป็ น โอกาสดี ที่ ลู ก จะได้ รู้ ที่ เ ก็ บ และ สามารถช่ ว ยแม่ เ ก็ บ อุ ป กรณ์ จ านชามที่ ล้ า งแห้ ง แล้วเข้าที่ได้ เป็นการปลูกฝังการเข้าครัวให้อันนา เราได้ จั ด ตู้ ห นั ง สื อ และห้ อ งนอน รื้ อ ออก มาดู ว่ า หนั ง สื อ เล่ ม ไหนยั ง อ่ า นอยู่ เล่ ม ไหน ไม่ อ่ า นแล้ ว ก็ คั ด ออกไปบริ จ าคที่ บ้ า นเด็ ก อ่ อ น รวมถึ ง ของเล่ น ที่ ไ ม่ ใ ช้ แ ล้ ว ด้ ว ย ก็ ช วนเพื่ อ นๆ ไปบริจาคด้วยกัน แล้วก็พาเด็กๆ ไปเที่ยวปากเกร็ด ซึ่ ง เด็ ก ๆ ชอบมากเพราะมี ก ระถางเยอะมาก ซื้อกลับมาทำงานศิลปะกัน ช่วงที่มีค่ายทอสีเบิกบานก็พาลูกๆ มาทำ กิจกรรมในค่ายด้วย เพราะออยเป็นคนช่วยจัดค่ายนี้ ลูกๆ ก็จะได้เห็นและได้เรียนรู้จากกิจกรรมต่างๆ ในค่ า ย ช่ ว งเย็ น กลั บ บ้ า นก็ ช่ ว ยกั น รดน้ ำ ต้ น ไม้ ทำสวน ทำอาหารมื้อเย็นกัน จึงเป็นปิดเทอมที่เต็ม แน่ น ไปด้ ว ยกิ จ กรรมที่ ส่ ว นใหญ่ จ ะทำกั น ที่ บ้ า น ทำให้ออยและลูกๆ ได้ “เรียนรู้จักบ้านของตัวเอง” เพิ่มขึ้น ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ที่คุณพ่อหยุด นอกจาก จะไปต่างจังหวัดแล้ว ก็หาเวลาทำกิจกรรมกันในบ้าน มากขึน้ คุณพ่อก็ลองมาปลูกผักกับลูกๆ เพราะคิดว่า กิจกรรมนีต้ อ้ งทำต่อเนือ่ ง ต้องใช้ระยะเวลาดูแลและ มีการรอผล ก็จะดูต่อไปว่าผลผลิตจะเป็นอย่างไร

ข้อดีของการอยู่บ้านมีอะไรบ้างคะ การทีเ่ รากลับมาอยูบ่ า้ นกันทัง้ ครอบครัว แทน การออกไปเทีย่ วหรือทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างเดียว เราก็ได้กลับมาดูแลและทำความเข้าใจตัวเอง สามี และลูกๆ เพิ่มขึ้น ได้รู้ว่ามีอะไรที่เราควรพัฒนา

เพราะมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น มองเห็น ตัวเองมากขึน้ พอลดความรีบร้อน ความเครียด ก็ลดลง ฟัง และเห็นลูกมากขึ้น รู้จักเขาและ หาวิธีที่จะช่วยเขาได้มากขึ้น ให้เขาผ่านพ้น ช่วงเวลาที่ต้องการเรา แบบไม่ต้องสั่งสอน แต่อยู่แบบเข้าใจ และมีสติในการพูดกับลูก มีความสุขมากขึ้นค่ะ คิดว่าตัวแม่ออยเองได้เรียนรู้อะไรบ้างตั้งแต่ ลูกมาเรียนที่ทอสีคะ วิ ถี ชี วิ ต ของครอบครั ว ออยเปลี่ ย นไป มากค่ ะ หลั ง จากเข้ า มาอยู่ กั บ ครอบครั ว ทอสี วิ ถี ชี วิ ต ก็ เ ปลี่ ย นไป เมื่ อ ก่ อ นคิ ด ว่ า อยากให้ ลู ก ได้ พั ฒ นา ได้ เ รี ย นรู้ จึ ง พาลู ก ออกข้ า งนอกมาก ไม่ ค่ อ ยอยู่ บ้ า น หากิ จ กรรมให้ ลู ก ทำเยอะมาก เดินทางเยอะมาก ปาร์ตี้เยอะมาก เพราะคิดว่าเป็น การเปิดโลกกว้างให้ลูก พาลูกไปเล่นกับเพื่อนลูก เยอะๆ ตัวเองก็เหนื่อยมากขึ้น จนเราลืมบ้านตัวเอง ลูกเองก็เหนื่อย มารู้ตัวก็ตอนอันนาอยู่อนุบาล ๒ คุ ณ ครู เ ขี ย นกลอนเกี่ ย วกั บ อั น นาว่ า “อั น นา วันจันทร์มาสาย บางครั้งไม่สบาย หายหน้าไปเลย” กลอนนี้ออยยังจำได้ และมีส่วนมากที่ทำให้เรา กลับมาคิด หรือตื่นรู้ว่าการพาลูกไปเที่ยวเยอะๆ ลูกนอนไม่พอทำให้เกิดผลเช่นนี้ ออยเลยบอกกับ ตั ว เองว่ า อั น นาจะต้ อ งมาเช้ า เพื่ อ ปรั บ ตั ว ให้ ดี

๑๗


บทสัมภาษณ์

ตอนเช้ า ก่ อ นเริ่ ม กิ จ กรรมการเรี ย นรู้ ที่ โ รงเรี ย น พอหลั ง จากนั้ น อั น นาก็ ส ดชื่ น พร้ อ มที่ จ ะเรี ย นรู้ ใ น แต่ละวัน เข้ามาทอสี ทางโรงเรียนก็ให้ ปฏิบัติธรรม และฝึกสมาธิ (จิต) มากขึน้ ออยเพิง่ มารูต้ อนมีองิ ค์วา่ ถ้าออยไม่ได้ฝกึ จิตให้เข้มแข็งและมีสติดๆี เวลาจะคุย กับอิงค์ ออยแพ้ลูกทุกที แต่หลังจากทุกข์มากเมื่อ

ปีที่แล้ว ออยก็ปวารณาตนตอนเข้าพรรษาว่าจะ วิถีชีวิตอีกอย่างที่เปลี่ยนไปมากคือ หลังจาก ถือศีล และตืน่ มาสวดมนต์ นัง่ สมาธิ เดินจงกรม มแี ม่บา้ นถาวร ทุกคนในครอบครัวมีสว่ นร่วมในการ ทุกวัน ตลอด ๓ เดือน และก็ทำได้ ก็มีจิตใจที่ ไม่ ช่วยงานบ้านเพิม่ มากขึน้ โดยเฉพาะสามี ช่วยงานบ้าน แข็งแรงทีจ่ ะแก้ปญั หาต่างๆ ได้ดขี นึ้ ทำให้รสู้ กึ ว่า เรามากขึ้น และทุกอย่างก็กลายเป็นวิถีชีวิต คือ เลี้ยงลูกได้ง่ายขึ้น ในสภาวะที่บางครั้งกดดันทั้งเวลา และการหาวิธพี ดู กับลูก และยังต้องฟังเสียงตัวเองเวลา พูดกับลูกอีก เพราะเสียงทีไ่ ด้ยนิ จากลูกนัน้ มันมาจาก เราหมดเลย ถ้าเราไม่ค่อยฟังเสียงตัวเองเราจะได้ยิน จากลูกของเราเอง ซึ่งได้ยินแล้วเราไม่ชอบ อีกเรื่องที่ออยเรียนรู้คือ การงดเรียนพิเศษ ปีที่ ผ่านมาออยงดเรียนพิเศษข้างนอกของทั้งอันนาและ อิงค์ ลองให้เขากลับมาอยู่กับตัวเองให้ได้ หาตัวเอง ให้เจอ ซึง่ ออยคิดว่ายากทีส่ ดุ และถ้าหาเจอเขาก็จะมี ความสุขทีส่ ดุ และออยก็ได้คำมาจากคุณย่าของอันนา กับอิงค์วา่ “เด็กก็เหมือนตะกร้า เวลาปิดเทอมก็อยาก เอาของออกจากตะกร้าให้โล่งๆ ล้างให้สะอาด พร้อม เป็นตะกร้าที่พร้อมใส่ของตอนเปิดเทอม” ถ้าเราให้เขาทำกิจกรรมเยอะ เขาก็เคยชินและ ไม่รวู้ า่ ตะกร้าตัวเองหนักไป ให้เขาอยูก่ บั ตัวเอง เคลียร์ ของออกจากตะกร้าพร้อมที่จะรับสิ่งที่เขารู้ว่าตัวเอง ชอบดีกว่า หลังจากปรับเปลี่ยน คนที่ออยเห็นผลชัด คื อ อิ ง ค์ เขานิ่ ง ขึ้ น อิ ง ค์ เ ป็ น คนที่ ต้ อ งใช้ เ วลาใน การที่จะทำอะไร ถ้ารีบเร่งเขาจะสติแตก อารมณ์พุ่ง ขึ้น ซึ่ ง จะลงยากมาก แล้วพอลงไม่ได้ เราก็แย่ แต่พออิงค์อยูบ่ า้ น ซือ้ ดอกบัวมาให้องิ ค์พบั พาทำสวน ทำอะไรช้าๆ ไม่เร่งรีบ อิงค์ก็ดีขึ้น รุนแรงลดลง อารมณ์ยังคงขึ้นง่ายลงง่ายอยู่ แต่ที่สำคัญออยมี ความอดทนที่จะคุยและรอมากขึ้น อิงค์ก็ผ่านพ้น ไปได้ ด้ ว ยกั น ก็ ดี ใ จและภู มิ ใ จทุ ก ครั้ ง ที่ ส ามารถ จัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น

๑๘

ออยตืน่ ลงมาทำอาหารเช้า พีอ่ ฎั ฐ์รดน้ำต้นไม้ อันนาอิงค์ตนื่ มาดูแลตัวเองก่อนไปโรงเรียน แล้วก็แยกย้ายกัน ไปทำหน้าที่ของแต่ละคน ตอนเย็นออยทำอาหารเย็น วันที่พี่อัฎฐ์กลับมาทานข้าวบ้านก็ช่วยล้างจาน ลูกๆ ก็รับผิดชอบทำการบ้าน ดูแลเรื่องส่วนตัวของตัวเอง อันนาช่วยเตรียมและทำอาหาร เป็นวิถีชีวิตใหม่ของ ครอบครัว และก็มีความสุขมาก ออยลดกิจกรรม ข้างนอกลง มาเพิ่มคุณภาพกิจกรรมในบ้านกับลูกๆ ออยพยายามสวดมนต์ นั่งสมาธิกับลูกทุกเย็น เพราะ เห็ น ว่ า การนั่ ง สมาธิ ส ำคั ญ มาก ถึ ง ลู ก ยั ง ไม่ ท ำ ก็อยู่เงียบๆ กับออยไป แค่นี้ก็ดีแล้ว ขอขอบคุณ โรงเรียนทอสี คุณครู นักเรียน และเพื่อนผู้ปกครอง ที่มีส่วนทำให้วิถีชีวิตออยเปลี่ยนไป ได้พบกับสิ่งใหม่ ที่อยู่ในตัวเรามาตลอด มีความสุขในชีวิตขึ้นมากค่ะ ขอเสริมอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องวัฒนธรรมการ ฉลองวันเกิดและการให้ของขวัญ เมือ่ ก่อนมีการเป่าเค้ก วันเกิดให้ลูก พอมาอยู่ทอสี ทางโรงเรียนก็ช่วยให้ ตระหนักว่าอาจเป็นการสิน้ เปลือง และเป็นการปลูกฝัง ความสำเร็จรูปให้เด็กๆ จึงเปลีย่ นเป็นว่าในวันเกิดลูก เรามาทำกิจกรรมในห้องเรียน เช่น มาทำขนมเลีย้ งลูก และเพื่อนๆ มาอ่านนิทาน คือลูกจะภูมิใจและมี ความสุขมาก ล่าสุดในวันเกิดพ่ออัฎฐ์ที่ผ่านมา ลูกๆ ก็ได้ใช้เพลง “ของขวัญทีด่ ที สี่ ดุ ของพ่อ” (เพลงของแม่รงุ่ คุณแม่นอ้ งลูกบัว ป.๒) ร้องในวันเกิดให้พอ่ อัฎฐ์ ทำให้ คุณพ่อยิม้ แก้มปริตงั้ แต่เช้า ลองหาฟังและนำไปใช้แทน การซื้อของขวัญวันเกิดเป็นวัตถุสิ่งของกันได้นะคะ


“ ไอเดี ย เก๋ ไ ก๋ ใ นการให้ อะไร” ใครบางคน เรื่อง: ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

ฉบับนีข้ อทำเก๋ดว้ ยการแทรกคอลัมน์เฉพาะกิจเข้ามาในเล่มสักหน่อยค่ะ ด้วยเห็นว่าชาวทอสีของเรามี อะไรดีๆ หลายอย่างให้เล่าถึง ในท้ายบทสัมภาษณ์ในหน้าที่แล้ว แม่ออยได้พูดถึงวัฒนธรรมการให้ของขวัญใน โรงเรียนเรา ครูหยกเห็นว่าเรื่องนี้น่าขยายนะคะ บ่อยครั้งเลยที่เราจะคุ้นเคยกับการตรงรี่เข้าไปซื้อหาของขวัญ หรือข้าวของในห้างฯ เพือ่ มามอบให้คนนัน้ คนนีใ้ นวาระพิเศษกัน จริงอยูท่ วี่ ธิ นี เี้ ป็นวิธที งี่ า่ ยดายและสะดวกสบาย แต่หลายครั้งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า เค้ก ของเล่น หรือของขวัญ ที่ซื้อให้กันนั้นประทับใจผู้รับเพียงเดี๋ยวเดียว เท่านั้นเอง ลองมาดูกันนะคะว่า ถ้าเราจะมอบอะไรให้ใครสักคน จะมอบ “อะไร” ได้อีกบ้าง

หนูๆ ขอมอบ “ความห่วงใย” กับ “ความตั้งใจ” ให้คุณครู

สมุดภาพพร้อมข้อความเล่มนี้ เด็กๆ และผู้ ป กครองห้ อ งดอกเข็ ม ได้ บ รรจง ประดิษฐ์มอบให้ครูแหววและครูฐา ครูประจำชัน้ ห้องดอกเข็มตัง้ แต่เมือ่ วันครูปกี อ่ น ภายใน เล่มประกอบด้วยภาพและข้อความจากเด็กๆ ผนึ ก ติ ด กั บ งานศิ ล ปะสี น้ ำ ที่ เ ด็ ก ๆ และ ผู้ปกครองช่วยกันทำ ของขวัญที่เต็มไปด้วย พลังด้านบวกแบบนี้ นอกจากจะไม่ซำ้ ใครแล้ว ยังประทับใจผู้รับเป็นที่สุด

“ใบหม่อนจะทำความดีให้พ่อแม่ค่ะ”

“ข้าวหอมรักคุณครู อยากให้ครูหลับฝันดี มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ไม่เสียงแหบครับ” “เจนิสจะเป็นเด็กดี และขอให้ครูแหวว กับครูฐาสวยเหมือนดอกไม้”

ขอมอบ “แรงกาย” และ “ความดี” ให้สังคม

ในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ น้องแตม น้องน้ำหอมและครอบครัว ได้ใช้เวลาว่างไปช่วยทำงานจิตอาสาปฏิบัติการณ์ รณรงค์ ท ำความดี โดยเดิ น รณรงค์ ตั้ ง แต่ เ ซ็ น ทรั ล เวิ ร์ ด ไปจนถึ ง สยาม ดิสคัพเวอรี่ น้องแตมได้เชิญชวนให้คนที่ผ่านไปมาเห็นความสำคัญของ “การรักษ์โลก” มีการวาดภาพและเขียนเรื่องที่จะชวนคนมาทำความดี เช่น การใช้น้ำใช้ไฟอย่างประหยัด การแยกขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก และช่วยกันปลูกต้นไม้ ส่วนน้องน้ำหอมเลือกจะชวนให้ทุกๆ คนมาร่วมกัน “รักษาศีล ๕” เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในโอกาสฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี งานนี้ผู้ให้กลายเป็นผู้รับไปโดยปริยาย เพราะในขณะที่มอบแรงกายออกไปก็ ได้รับความสุขใจกลับคืนมา

หวังว่าสองไอเดียข้างต้นนี้จะเป็นประโยชน์ให้ผู้อ่านได้นำไปปรับใช้กัน บ้างนะคะ อาจจะต้องให้เวลาสักนิดและเพิ่มความใส่ใจให้อีกสักหน่อย แต่รับรองว่า “การให้” แบบนี้จะสร้างประสบการณ์และการเรียนรู้ที่ดีให้แก่ เราได้แน่ๆ ค่ะ

๑๙


เรื่องเล่าจากชั้นเรียน

พี่สอนน้อง

ศิษย์พี่ ป.๖ ถ่ายทอดวิทยายุทธให้ศิษย์น้อง ป.๑ ผู้เล่าเรื่อง: ครูกุ้ง – ชื่นจิตต์ แสงทองสาย ครูประจำชั้น ป.๖

สืบเนื่องจากหน่วยการเรียนรู้ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีชื่อหน่วยว่า “โลกรอดได้เพราะกตัญญู” และ “แกะสลักชีวิต” ที่มีเป้าหมายการเรียนรู้ คือ ให้นักเรียน ได้รู้ศักยภาพของตนเองในการเรียนรู้ ฝึกฝนตนสู่ชีวิตที่ดีงาม เป็นที่พึ่งและสร้างประโยชน์แก่ตนเอง ชุมชน และสังคมได้ คุณครูจึงเปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของตนเอง มา ถ่ายทอดสูน่ อ้ งทีอ่ ยูใ่ นระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยทำเป็นฐานการเรียนรูท้ เี่ หมาะสมกับพัฒนาการ ทักษะ ความสามารถ โดยเราจัดฐานกิจกรรมขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา พี่ ป.๖ แบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น ๔ ฐาน ให้น้องๆ ใช้เวลาเข้าเรียนฐานละ ๑๕ นาที รวมแล้ว คือใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ ๑ ชั่วโมง (ตั้งแต่ ๗.๓๐ -๘.๓๐ น.) ในเช้าวันอังคาร พี่ๆ สอนน้องๆ ห้อง ป.๑/๑ ส่วนในเช้าวันพฤหัสบดีสอนน้องๆ ห้อง ป.๑/๒ โดยมีครูกงุ้ และครูเก๋ทำหน้าทีเ่ ป็นทีป่ รึกษา และคุณครู นุชกรุณาเป็นผู้ประเมินผล รวมทั้งให้คำแนะนำเสริมเมื่อจบกิจกรรมแต่ละครั้ง ทั้งนี้ ก็เพื่อนำมาพัฒนาการ เปิดฐานในรอบต่อไป ฐานการเรียนรู้ประกอบด้วย...

> ฐานเล่าไปวาดไป เป็ น การเล่ า เรื่ อ งราวเกี่ ย วกั บ พุ ท ธประวั ติ และความเป็นมาของวันวิสาขบูชา

> ฐานมารยาทของพุทธศาสนิกชน เน้นท่ากราบเบญจางคประดิษ ฐ์ การเปลีย่ นท่านัง่ จากพับเพียบ เป็นนั่งสมาธิ และการพูดจาลงท้ายด้วย “ค่ะ” และ “ครับ”

> ฐานสอนน้องร้องเพลง “สังเวชนียสถาน” กิจกรรมนี้ก็ทำให้ พี่ - น้อง ได้ร ับความเบิกบานชื่นใจกันทั่วหน้า ทั้งผู้ให้และผู้รับ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วย “แกะสลักชีวิต” ของพี่ ป.๖ ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการสานสัมพันธ์

> ฐานพับดอกบัวเพื่อฝึกสติ

๒๐

ระหว่างพีแ่ ละน้องในชุมชนทอสีซงึ่ เป็นชุนชนแห่งกัลยาณมิตร ครัง้ หน้านัดกันไว้วา่ จะจัดฐานแบบนี้ อีกในช่วงวันแม่แห่งชาติค่ะ


เรื่องเล่าจากชั้นเรียน

ของเด็ ก ๆ นั ก เรี ย น ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ ผู้เล่าเรื่อง: ครูรุจจลักษณ์ มีแสง ครูประจำชั้น ป.๒

นักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ เรียนวิชาเด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว หน่วยการเรียนรู้ “กัลยาณมิตร” โดยผ่านสื่อการเรียนรู้ที่สำคัญ คือ ธรรมชาติ อันได้แก่ คน พืช สัตว์ ที่อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล ในภาคเรียนนี้ คุณครูได้มกี ารสอนเรือ่ งธรรมชาติให้กบั เด็กๆ เพือ่ เป็นการ ขัดเกลาจิตใจและสร้างความเข้มแข็งทางด้านจิตใจในการ ใช้ชวี ติ เพราะคนเราก็เกิดจากธรรมชาติ จึงอยากให้เด็กๆ ตระหนักที่จะใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ และไม่ลืมว่า เราเป็นเพียงส่วนเล็กๆ หนึ่งในธรรมชาติอันกว้างใหญ่นี้ เท่านั้น

ว่าควรทำอย่างไร การเรียนรู้สนุกมากจนทำให้น้องๆ อยากให้พี่ซีมาสอนอีก ซึ่งคุณครูก็ได้วางแผนจัดการเรียน รู้กับพี่ซีไว้อีกครั้งในช่วงถัดไปของปีการศึกษา ๒๕๕๕ นี้ พี่ซีและทีมคุณครูประถมศึกษาปีที่ ๒ ได้มีการ วางแผนการทำงานร่วมกัน คือ เมื่อเด็กๆ ได้ฟังสิ่งที่พี่ซี ให้ขอ้ มูลเรียบร้อย ก็จะมีการบันทึก เพือ่ เป็นการเก็บข้อมูล ผ่านการเรียนรู้ทักษะภาษาไทย ได้ฝึกสรุปประเด็นสำคัญ ว่าได้เรียนรูอ้ ะไรจากการฟัง พร้อมทัง้ เขียนความประทับใจ ที่มีต่อวิทยากร พี่ซีตรวจชิ้นงานเองและรู้สึกประทับใจ ชิ้นงานของน้องๆ มาก แต่ที่ประทับใจมากที่สุด คือ ชิ้นงานของน้องจีนและน้องโป้* ขออนุ โ มทนา “พี่ ซี ” วิ ท ยากรรุ่ น จิ๋ ว ที่ ไ ด้ ใ ห้ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติ คุณครูเองก็ได้เปิดโลกกว้างในการเรียนรูส้ งิ่ ใหม่ๆ ไปด้วย หรือแม้แต่ตวั วิทยากร เองก็ได้มีการเรียนรู้ในการให้ความรู้ผู้อื่น ถึงจะมีอาการ เคอะเขิ น บ้ า ง แต่ ก็ ท ำหน้ า ที่ อ ย่ า งเต็ ม ที่ ให้ ค วามรู้ น้องๆ ได้เต็มศักยภาพจริงๆ สาธุ... สาธุ

คุณครูได้นำเสนอกิจกรรมให้กับผู้ปกครอง และ ร่วมกันวางแผนจัดการศึกษาที่เป็นรูปธรรมในการเรียนรู้ กิจกรรม “การเดินป่า” เป็นกิจกรรมที่ทั้ง ครู เด็ก และผู้ ป กครอง ยั ง ไม่ เ คยมี ป ระสบการณ์ ม าก่ อ นเลย เราได้ เ ชิ ญ “พี่ ซี ” ด.ช.ปั ถ ย์ วั สุ วั ต วิ ท ยากรรุ่ น จิ๋ ว มาให้ความรู้เรื่องการเดินป่ากับน้องๆ (พี่ซีเป็นศิษย์เก่า อนุ บ าลทอสี ที่ ส นใจในเรื่ อ งธรรมชาติ วิ ท ยามาก ปั จ จุ บั น เรี ย นรู้ ด้ ว ยวิ ถี Home School ในนามกลุ่ ม “ครอบครัวควบกล้ำธรรมชาติ”) เด็กๆ ทุกคนมีความสนุก ตืน่ เต้น อยากเดินป่า และได้รวู้ ธิ กี ารเตรียมตัวก่อนเดินป่า *ชมชิ้นงานได้ที่ www.thawsischool.com

๒๑


เรื่องเล่าจากชั้นเรียน

ออกแบบชุดให้คุณครูของฉัน ผู้เล่าเรื่อง: ครูฟ้า - พิมพร แจ้งแสง ครูประจำชั้น อ.๓

เมือ่ ครัง้ สัปดาห์ “วันไหว้ครู” คุณครูอนุบาล ๓ หวังจะให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมทำชิ้นงานของขวัญ เพื่อให้คุณครูที่หนูๆ รัก และด้วยเนื้อหาหน่วย ที่เรียนตอนนั้นเป็นเรื่องของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม จึงเกิดเป็นไอเดียทีว่ า่ จะให้เด็กๆ ได้ลอง “ออกแบบ ชุดให้คุณครูของฉัน” กัน เริ่มจากขั้นตอนแรก คือให้เด็กได้ลองคิด และออกแบบว่ า จะจั ด ชุ ด แบบไหนให้ คุ ณ ครู ท่านใด โดยให้เด็กๆ ดูจากเสื้อผ้าจริงๆ และภาพ จากในนิตยสาร แล้วจึงลองวาดลงบนชิ้นผ้าที่ คุ ณ ครู เ ตรี ย มไว้ และตั ด ชุ ด (จำลอง)ออกมา

จากชิ้ น ผ้ า นำมาประกอบโดยติ ด ลงบน กระดาษแข็ ง จากนั้ น คุ ณ ครู ก็ ใ ห้ เ ด็ ก ๆ ได้ วาดรูปเพิ่มเติมลงไป ต่อเติมตกแต่งให้เป็นภาพ คุณครูเต็มตัว พร้อมทั้งตั้งชื่อชุด และระบุว่า มอบให้คุณครูท่านใด ในช่วงท้ายกิจกรรม เราได้ร่วมกันพูดคุย สรุปกับเด็กๆ ถึงเรือ่ งความเหมาะสมของชุดทีท่ ำ ให้คุณครูด้วย ว่าเด็กๆ ออกแบบชุดให้คุณครูได้ เหมาะสมกับคุณครูท่านนั้นหรือไม่ เพราะอะไร สามารถใส่ ไ ปสถานที่ ใ ดได้ บ้ า ง ซึ่ งในครั้ ง นี้ ได้เป็นผลงานน่ารักๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ

ตัวอย่างผลงานบางส่วน

เด็กๆ ป.๓ ในชุดผ้าไทย

สืบเนือ่ งจากปีทแี่ ล้ว หน่วยการเรียนรูข้ องเด็กๆ คือ “ระลึกคุณบ้านเกิด” การเรียน การสอนใน ปี ก่ อ นเป็ น ไปอย่ า งเกี่ ย วเนื่ อ งกั บ หน่ ว ยการเรี ย นรู้ เชื่ อ มโยงไปถึ ง เรื่องการแต่งกาย ทุกคนได้ตกลงกันว่าจะแต่งชุดผ้าไทยมาโรงเรียนกันทุกๆ วันศุกร์ มาถึงปีนี้ แม้เด็กๆ จะย้ายจาก ป.๒ มา ป.๓ แล้ว แต่ก็ยังพกพาชุดพื้นบ้านแบบไทยๆ มาใส่กันต่อ (เพราะชุดไปรเวทก็ได้ใส่กันปกติเป็นประจำอยู่แล้ว มาโรงเรียนทั้งทีขอให้ พิเศษสักหน่อย) เห็นเด็กๆ ใส่ม่อฮ่อมวิ่งเล่นในโรงเรียนแล้วได้บรรยากาศน่ารักน่าเอ็นดู เลยขอรวมกลุ่มเก็บภาพมาฝากกันค่ะ

๒๒


วิชาแห่งการฝึกฝน

เรื่องเล่าจากชั้นเรียน

เรื่อง: ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

“ใครชนะ?” ไม่ว่าจะแข่งอะไรกันก็ตาม พอแข่ง เสร็ จ เราก็ มั ก จะอยากรู้ ผ ลแพ้ ช นะเป็ น อั น ดั บ แรก นี่คงอนุมานได้ว่าการเป็น “ผู้ชนะ” นั้นมีความสำคัญ ไม่น้อย ปลายทางแห่งชัยชนะนั้น ใครๆ ก็ปรารถนา แต่ผลแห่งการกระทำไม่เคยเกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุ ชั ย ชนะที่ เ ราได้ ม า แท้ จ ริ ง แล้ ว ได้ ม าจากอะไร? ในประเด็นนี้ ครูแมน – ทิวา เชื้อช่าง จะมาร่วมแบ่งปัน และเล่าประสบการณ์ที่ได้รับจากชั้นเรียนวิชาพลศึกษา ให้พวกเราได้ฟังกันค่ะ

ปั จ จุ บั น ครู แ มนสอนวิ ช าพลศึ ก ษาให้ กั บ เด็ ก ๆ ทอสีชั้นไหนบ้าง มีกี่ประเภทกีฬาที่ครูแมนดูแลอยู่คะ สอนวิชาสุขศึกษาและพลศึกษาให้กับเด็กๆ ทอสี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ มี ๕ ประเภทกีฬา เริ่มจาก ประถมศึกษาปีที่ ๔ เรียนกีฬาบาสเกตบอลและกีฬาว่ายน้ำ ประถมศึกษาปีที่ ๕ เรียนกีฬาเทเบิลเทนนิสและกีฬาว่ายน้ำ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เรียนวอลเลย์บอล แบดมินตัน และ กีฬาว่ายน้ำครับ ทราบมาว่าในภาคเรียนที่แล้ว ครูแมนฝึกทักษะ ทางกีฬาให้เด็กๆ ในช่วงหลังเลิกเรียนโดยไม่คิคค่าสอน ด้วย มีที่มาที่ไปอย่างไรคะ สอนทักษะกีฬาอะไร และ มีเป้าหมายเพื่ออะไร เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ เป้าหมายในการสอนทักษะกีฬาบาสเกตบอลให้กับ นักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยไม่คดิ ค่าใช้จา่ ย คืออยาก ให้เด็กได้ทำในสิง่ ทีต่ วั เองรัก ได้เล่นกีฬาบาสเกตบอลอย่าง เป็นระบบ สนุกสนาน ได้ใช้เวลาทีเ่ หลือทีโ่ รงเรียนทำกิจกรรม ร่วมกันระหว่างเพื่อน เพื่อสร้างความรักใคร่ผูกพันในเวลา ที่เหลืออยู่น้อยนิดที่โรงเรียน เพื่อให้เกิดความทรงจำที่ดี ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน และครูกบั นักเรียน ให้นกั เรียน รักการออกกำลังกายและเกิด “ฉันทะ” ใฝ่รู้ใฝ่เรียนครับ ในการเรียนการสอน เด็กๆ ในแต่ละชั้นเรียนก็มี จำนวนไม่ใช่น้อย ครูแมนใช้วิธีใดในการสอนให้ทั่วถึงเป็น รายบุคคลคะ

การสอนของครู แ มนยึ ด หลั ก การสอนในลั ก ษณะ “องค์ ร วม” ตามแบบโรงเรี ย นทอสี โดยมี ค รู วั ฒ นา ครูแสบ ครูเปิ้ล ซึ่งเป็นรุ่นพี่ช่วยเป็นแบบอย่างในการสอน โดยมี ก ารฝึ ก ฝนปฏิ บั ติ อ ย่ า งเป็ น ระบบและมี แ บบแผน ด้วยความรู้ที่ครอบคลุม ให้นักเรียนรู้จักตนเองอย่างลึกซึ้ง การฝึกทักษะปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยผ่านกระบวนการสอน ตามหลักของพระพุทธเจ้า... ปฏิยัติ ปฎิบัติ ปฏิเวธ รวมทั้ง มีการแบ่งเป็นฐานย่อยในการเรียนรู้

๒๓


ทางสติปัญญาที่ต้องใช้ในการเผชิญสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราสามารถพัฒนาสิ่ง เหล่านี้ขึ้นได้ด้วยการ “ฝึก” และ “ทำซ้ำ” ให้เกิดความ คล่องแคล่วเคยชินจนเป็นลักษณะนิสัย ในทัศนะของครูแมน การฝึกฝนทักษะทางกีฬา ให้กับเด็กๆ มีความเหมือนหรือแตกต่างกับการฝึกฝน เด็กๆ ในเรื่องอื่นๆ อย่างไรบ้างคะ การรู้ จั ก ตนเอง การเข้ า ใจตนเอง การรู้ จั ก ตัดสินใจและแก้ปัญหา การสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น ความเห็นใจผูอ้ นื่ รวมจนถึงทักษะกีฬา จะเกิดขึน้ ด้วยการ “ฝึ ก ฝนอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง” ดั ง นั้ น การที่ จ ะสอนกี ฬ า หรือสอนนักเรียนในเรื่องทักษะชีวิตหรือในเรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีความแตกต่างกัน คล้ายกันครับ กรุณาฝากอะไรให้กบั เด็กๆ ทอสีสกั นิดได้ไหมคะ เพื่อเด็กๆ จะได้นำไปปรับใช้ในการเรียนรู้ ฝึกฝน เห็นในตอนที่สอนบาสเกตบอล เด็กๆ ดูมีความ และเล่นกีฬาของตัวเอง กระตือรือร้นดีมาก ครูแมนมีเทคนิกในการสอนเป็นพิเศษ ชัยชนะของเมื่อวาน ไหมคะ การสอนทีท่ ำให้นกั เรียนเกิดการกระตือรือร้นในการ ไม่ได้หมายความว่าวันนี้คุณจะชนะ เรียน โดยส่วนตัวแล้วครูแมนเริ่มจากการสร้าง “ศรัทธา” ดังนั้นเด็กๆ ทอสีไม่ควรยึดติดกับอดีตที่ผ่านมาแล้ว ในเด็กนักเรียนให้เกิดกับครูผู้สอนก่อน จากนั้นต้องสร้าง ควรอยูใ่ นปัจจุบนั ขณะ ตัง้ ใจฝึกฝนกีฬาทีเ่ ด็กๆ รักอย่าง ศรัทธาให้นักเรียนศรัทธาในตัวเองว่านักเรียนสามารถ สม่ำเสมอ จึงจะเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ฝากไว้ด้วย เรียนรู้และมีศักยภาพในการพัฒนาตนเองได้โดยผ่าน ความรักสำหรับเด็กๆ ทอสีทุกคนครับ กระบวนการสอนตามหลักของพระพุทธเจ้า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว “ชัยชนะ” ดูจะสำคัญจริงๆ ช่วยยกตัวอย่างการเรียนการสอนที่ตัวเองรู้สึกว่าใช้ แ ต่ ก็ ดู จ ะ ไ ม่ ส ำ คั ญ ไ ป ก ว่ า “ ก า ร ฝึ ก ฝ น ” ได้ผลดีให้ฟังได้ไหมคะ เผื่อจะได้เป็นองค์ความรู้เพื่อ อย่างเต็มที่ของตัวเราเอง ...ว่าอย่างนั้นไหมคะ :) แบ่งปันระหว่างคุณครูด้วยกัน การฝึกสอนนักเรียนให้เกิดทักษะทางกีฬาจำเป็น ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ นักเรียนจะเกิดกระบวนการเรียนรู้ มีทักษะกีฬาและทักษะชีวิตในเชิงสังคม มีความสามารถ

Kungfu Panda กังฟูแพนด้า จอมยุทธพลิกล็อค ช็อคยุทธภพ

นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้น่าดูทั้งสองภาค สำหรับ “Kungfu Panda” หนัง แอนิ เ มชั่ น พล็ อ ตเยี่ ย มจากค่ า ยดรี ม เวิ ร์ ก ส แม้ ว่ า หนั ง จะลาโรงไปนานแล้ ว แต่สำหรับหลายๆ คน การ์ตนู เรือ่ งนีย้ งั ครองใจพวกเขาได้อยูเ่ สมอ หนังได้เล่าเรือ่ งราวของ “โป” แพนด้าตัวใหญ่เพศชาย ที่มีความฝันว่าจะเป็นจอมยุทธ ด้วยความตลก น่ารัก การแสดงออกซึ่งวิธีคิดในแบบของตัวเอง ผสมผสานกับความครบรสทั้งในด้านอารมณ์ และเนื้อหา หนังเรื่องนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย ครอบครัวไหนยังไม่เคยชม ลองหาดีวีดีมาชมร่วมกันในช่วง วันหยุดดูนะคะ รับรองว่าลูกๆ จะได้เรียนรู้คุณธรรม และได้เห็นคุณค่าของการ “ฝึกฝน” ตนเองจากแพนด้าโปแน่นอนค่ะ

๒๔


เรื่อง: แม่แจง – จุฬารัตน์ อินทรมหา ฝ่ายวิชาชีวิตผู้ปกครอง

ความรักของพ่อแม่ต่อลูก เป็นความรักที่ อยากเห็นลูกมีความสุข แล้วก็พยายามทำอะไรๆ ต่างๆ ให้ลูกมีความสุข เมื่อลูกมีความสุข พ่อแม่ ก็มคี วามสุขด้วย ดังนัน้ พ่อแม่จงึ มีความสุขในการ ทีไ่ ด้ให้แก่ลกู แม้บางครัง้ ตัวเองต้องลำบากก็ยอม แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจหลงลืมไปก็คือ การให้นั้น ถ้าให้ไม่ครบถ้วนก็อาจกลายเป็นทุกข์ของลูกได้ ในระยะยาว การเลี้ยงดูลูกจึงต้องให้ทั้งความรัก และความรู้ (ปัญญา) ไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ลูก เป็นที่พึ่งของตัวเองได้อย่างแท้จริง ท่ า นพระพรหมคุ ณ าภรณ์ (ป.อ. ปยุ ตฺ โ ต) ได้แสดงธรรมเกีย่ วกับ พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ซึ่งเป็นคุณธรรมของพ่อแม่ ซึ่งเปรียบ เหมือนพระพรหมของลูกไว้ ท่านให้ตระหนักว่า พ่อแม่ ต้องพร้อมที่จะแสดงคุณธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้ให้ครบถ้วน ลู ก จึ ง จะเติ บ โตอย่ า งสมบู ร ณ์ ท่ า นกล่ า วว่ า พ่ อ แม่ ใ นเมื อ งไทยเรานี้ แสดงเมตตา กรุ ณ า และมุทิตาได้ง่าย หรือพร้อมที่จะแสดงพรหมวิหาร ๓ ข้อแรกนี้ได้ตลอดเวลา คือ รักและปรารถนาดี อยากให้ลูกมีความสุข คอยช่วยเหลือให้ลูกพ้นทุกข์ ส่งเสริมให้กำลังใจและพลอยยินดีเมื่อลูกประสบ ความสำเร็จ แต่มักวางอุเบกขาไม่เป็น เมื่อลูกต้อง รับผิดชอบตัวเอง หรือต้องฝึกหัดทำอะไรด้วยตัวเอง พ่อแม่มกั ช่วยเหลือ ทำให้หมดเพราะความรัก สงสาร ลูกจึงไม่มโี อกาสทีจ่ ะพัฒนาตัวเอง ไม่ตอ้ งรับผิดชอบ การกระทำของตัวเอง และเป็นที่พึ่งของตัวเองไม่ได้ พ่อแม่จงึ ต้องเข้าใจอุเบกขา ซึง่ เป็นพรหมวิหารข้อที่ ๔ ให้ถูกต้อง

อุเบกขา หมายความว่า คอยมองดู เพื่อไม่เข้า ไปก้าวก่ายแทรกแซง คือปล่อยหรือเปิดโอกาสให้มี การปฏิ บั ติ ต่ อ เขาไปตามหลั ก การ หรื อ ตาม กฏกติกา หลักการหรือกฏเกณฑ์ว่าอย่างไรก็ว่าไป ตามนั้ น โดยใช้ ปั ญ ญาพิ จ ารณาปฏิ บั ติ ใ ห้ เ หมาะ อุเบกขาจะมีได้ต้องอาศัยปัญญา คือปัญญาที่จะ รู้ว่าอะไรเป็นเหตุเป็นผล อะไรเป็นความจริง อะไร เป็นความถูกต้อง อะไรเป็นหลักการ คอยมองดูให้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างถูกต้องตามที่มันควรจะเป็น หรือตามธรรม และเพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่พ่อแม่ โดยเฉพาะ ต่อไปเมือ่ เขาโตแล้ว เขาต้องไปอยูใ่ นโลกแห่งความจริง โลกนั้นมีกฏเกณฑ์กติกา ทั้งกฏเกณฑ์ในธรรมชาติ และกฏเกณฑ์ในสังคม ซึ่งต้องเป็นไปตามเหตุผล ของเรือ่ งนัน้ ๆ และโลกนีไ้ ม่ได้ตามใจลูกเหมือนอย่าง พ่อแม่ตามใจ ไม่ได้เป็นไปตามใจปรารถนา เพราะ ฉะนั้ น ลู ก ต้ อ งหั ด รั บ ผิ ด ชอบตั ว เอง ต้ อ งฝึ ก ทำ พ่อแม่ต้องยอมให้ลูกเหนื่อยบ้าง ลำบากบ้าง ฝึกฝืน ให้ทำในสิ่งที่ดี แม้ว่าลูกไม่ชอบไม่ถูกใจ ฝึกให้ลูก อดทนต่อความไม่สุขสบายทางกายบ้าง อดใจไม่ทำ ในสิ่งที่ชอบเพราะรู้ว่าไม่ถูกต้อง หากพ่ อ แม่ รั ก ษาดุ ล ยภาพระหว่ า งธรรม ทั้ง ๔ ประการนี้ใว้ได้ ลูกก็จะเติบโตมาอย่างสมบูรณ์ เพราะได้ รั บ การเลี้ ย งดู ม าพร้ อ มทั้ ง ความรั ก ความเมตตา และฝึกฝืนให้ได้ปัญญาที่จะเป็นที่พึ่ง ของตัวเองได้ พ่อแม่จึงต้องฝึกตนเองให้สามารถ ใช้พรหมวิหาร ๔ นี้ให้ได้ครบถ้วน โดยเฉพาะข้อ ๔ ที่ดูเหมือนจะใช้กันไม่ค่อยทันหรือไม่กล้าใช้เพราะ-

๒๕


กลัวลูกคับข้องใจ กลัวลูกทุกข์ใจ เนื่องจากมักเป็น เรื่ อ งที่ ต้ อ งฝื น ใจลู ก เป็ น เรื่ อ งที่ ลู ก ไม่ อ ยากทำ ไม่ชอบทำ บางครัง้ ก็ถงึ กับมีนำ้ ตากันทีเดียว แต่หาก พ่อแม่ยอมฝืนใจที่รักที่สงสารลูก เพื่อให้อุเบกขา ทำงาน มีปญั ญากำกับใจตัวเองไม่ให้เสียหลักการใน การฝึ ก ลู ก เรี ย กสติบอกตัวเองว่า ให้อดทนต่อ พลังน้ำตา เรากำลังฝึกให้ลูกทำให้เป็น ทำให้ได้ ให้โอกาสเขาพัฒนาตัวเอง เราเพียงแต่คอยช่วยเหลือ เป็นทีป่ รึกษาเมือ่ิ ลูกมีปญั หา จนเขาทำได้ดดี ว้ ยตัวเอง ถึงเวลานั้น พ่อแม่คงได้ยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความชื่นใจ อุเบกขาของพ่อแม่จะทำงานได้อย่างเฉียบคม ไม่โดนอารมณ์รักอารมณ์สงสารของเรามาทำให้เสีย หลักการเสียกติกาได้นนั้ พ่อแม่ตอ้ งมีสมรรถภาพจิต

ทีเ่ ข้มแข็งมัน่ คงอย่างมากเลยทีเดียว และด้วยสภาวะ การงานปัจจุบนั ทีด่ งึ เวลาและจิตใจของเราให้ฟงุ้ ซ่าน วุน่ วายอยูเ่ กือบตลอดเวลา เราจึงต้องหาเวลาพักจิตใจ ให้ได้เรียนรู้ความสงบ หลีกหนีความฟุ้งซ่าน ได้ ฝึกจิตให้มีวินัยที่จะหยุด ดู และเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อย่ า งที่ เ ป็ น จริ ง เพื่ อ ให้ เ ราพร้ อ มที่ จ ะใช้ ปั ญ ญา (อุเบกขา) กับลูกอย่างถูกต้อง ทันเวลา โรงเรี ย นได้ จั ด สรรโอกาสให้ มี ก ารอบรม ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้ปกครอง ให้ท่านผู้ปกครอง ได้ มี เ วลาพั ก จิ ต ใจจากหน้ า ที่ ก ารงานที่ ท ำให้ ใจฟุ้งซ่านสับสนในยามปกติ มาหาความสงบให้ ใจตนเองได้เรียนรู้ว่า “จิตที่สงบมีทางเลือกมาก จิ ต วุ่ น วายมี ท างเลื อ กน้ อ ย” (คำกล่ า วของ พระอาจารย์ชยสาโร) จิตที่สงบจะมั่นคงพร้อมที่จะ เป็นฐานของสติและปัญญาในยามที่เราใช้ชีวิตอยู่ กับครอบครัวและลูก การจั ด การอบรมปฏิ บั ติ ธ รรมสำหรั บ ผู้ปกครองประจำปี ๒๕๕๕ ได้เริ่มต้นไปบ้างแล้ว ทางโรงเรี ย นขออนุ โ มทนากั บ ผู้ ป กครองและ คุ ณ ครู ทุ ก ท่ า นที่ เ ข้ า ร่ ว มการอบรมปฏิ บั ติ ธ รรม ขออานิสงส์แห่งบุญนี้ ได้ช่วยให้อุเบกขาของท่าน ทำงานได้อย่างเฉียบคม สามารถรักษาพรหมวิหาร ๔ ของพ่อแม่ ได้อย่างมีดุลยภาพตลอดการทำหน้าที่ พ่อแม่ผู้แสดงโลกของท่านนะคะ

หนังสืออ้างอิง: ‘คุณบิดามารดา สุดพรรณนามหาศาล’ ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

ฝ่ายวิชาชีวิตผู้ปกครองต้อนรับภาคเรียนแรก ด้วยการพัฒนาสิปปทายก (ด้านความรู้) ของผู้ปกครองอย่างเต็มที่ เราจัดอบรมเพื่อ ให้ความรู้ที่จะใช้เป็นเครื่องมือให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกกันอย่างมั่นใจมากขึ้น ทั้งเรื่องวิชาชีวิตและวิชาการ : • การอบรมในหัวข้อ “รู้จักและเข้าใจลูกวัย ป.๑-๓” โดย พ.ญ. อนัญญา สินรัชตานันท์ ซึ่งเป็นทั้งคุณหมอและคุณแม่ของน้องนนท์ (ป.๒) และน้องหนุน (เด็กเล็ก) ในวันที่ ๑ มิ.ย. ๕๕ • การอบรมเรื่อง “ผลกระทบจากนมวัว” โดย พ.ญ. สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ในวันที่ ๑๔ มิ.ย. ๕๕ • การอบรมในหัวข้อ “รู้จักและเข้าใจลูกวัย ป.๔-๖” โดย พ.ญ. อนัญญา สินรัชตานันท์ ในวันที่ ๑๙ มิ.ย. ๕๕ • การอบรม “ภาษาชีวิต” สำหรับผู้ปกครองเด็กเล็ก-อ.๓ โดยครูอ้อนและทีมคุณครู ในวันที่ ๒๗ มิ.ย. ๕๕ • การอบรม “หลักภาษาไทยเบื้องต้น” สำหรับผู้ปกครอง ป.๑-๓ โดยทีมครูสาระภาษาไทย ในวันที่ ๑๐ ก.ค. ๕๕ • การอบรม “Phonics for Beginner” โดยทีมครูสาระภาษาอังกฤษ ในวันที่ ๑๘ ส.ค. ๕๕ • การอบรมในหัวเรื่อง “การสอนลูกเรื่องเพศ” โดย พ.ญ. อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ในเดือนสิงหาคม (จะแจ้งวันให้ทราบอีกครั้ง)

๒๖


ขณะนี้ “ร้านกุศลกำลังสาม” แหล่งกุศลของ คนรักสินค้ามือสอง กำลังอยู่ในช่วงตระเตรียมเพื่อ เปิดทำการทีอ่ าคารชาญอิสระ ๒ มูลนิธปิ ญั ญาประทีป ฝากประชาสัมพันธ์ถึงท่านที่สนใจจะร่วมด้วยช่วย อาสาดูแลส่วนงานภายในร้าน ท่านใดต้องการเข้าร่วม เป็นอาสาสมัครหรือแบ่งปันสิ่งของ ติดต่อมูลนิธิฯ ได้ที่ โทร. ๐๒ ๗๑๓ ๐๒๖๐ (ติดต่อคุณภัส)

หลังจากได้ปรับโฉมและรูปแบบของ ร้านพอเพียง มาได้ระยะ หนึ่ง ขณะนี้ทางร้านเริ่มจัดบรรยากาศภายในได้ลงตัวขึ้นมาก คุณครู สาระภาษาอังกฤษได้ช่วยจัดป้ายรายการอาหารภาษาอังกฤษควบคู่ กับภาษาไทย เหล่าผู้ปกครองอาสากรุณาเสียสละเวลาและแรงกาย มาช่วยดูแลและบริหารจัดการร้าน... ร่วมมือร่วมใจกันขนาดนี้ ร้าน พอเพียงคงพลิกโฉมเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ได้สมบูรณ์ขึ้นในเร็ววัน แน่ๆ เลยค่ะ

ในช่วงเดือนกรกฎาคม เด็กๆ ห้องใบโพธิ์และห้องโพธิ ได้ เข้ามาเรียนรู้ร่วมกับเด็กทอสีในรูปแบบค่าย เด็กๆ ส่วนใหญ่ที่มา ร่วมเรียนเป็นนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ (เนื่องจากเป็นช่วง ปิดภาคเรียนของโรงเรียนนานาชาติ) แม้จะใช้เวลาเรียนรูก้ นั เพียง ๔ สัปดาห์ แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์การการเรียนรู้ที่ดีสำหรับ พวกเขา กล่าวคือเด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีความเป็นไทย ฝึกทำการงาน และฝึกฝนพึ่งพาตนเองตามวิถีชาวพุทธนั่นเอง เพื่ อ เป็ น การป้ อ งกั น และ หลีกเลีย่ งปัญหาการจราจรติดขัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งจะเกิด เป็ น ผลกระทบต่ อ ชุ ม ชนโดยรอบ ส.น.คลองตั น ขอความ ร่วมมือท่านผู้ปกครองที่ไม่มีกิจธุระส่งลูกลงรถ ณ จุดรับส่ง โดยงดจอดรถที่โรงเรียน รวมทั้งขอให้รถทุกคันให้ความร่วมมือ เลี้ ย วซ้ า ยออกจากปากทางโรงเรี ย นตามสั ญ ญาณมื อ ของ เจ้าหน้าที่โรงเรียนอย่างเคร่งครัด (เฉพาะบางช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ เห็นว่าควรงดเลี้ยวขวา) ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายเส้นทางเดินรถให้ กว้างขึน้ (หากเลีย้ วขวา วงเดินรถจะเล็กและล็อกติดขัดเป็นวงกลม) อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ท่านเลี้ยวซ้ายออกไปแต่ยังต้องการกลับเข้า โรงเรียนอีกครั้ง สามารถไปกลับรถได้ที่บริเวณตลาดร่มโพธิ์ค่ะ

เมื่อช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ของปีการศึกษา ๒๕๕๔ เด็ ก ๆ ทอสี ไ ด้ ผ่ า นการบวชเรี ย นหลายต่ อ หลายคน อาทิ น้ อ งนาโน พี่ พ รำพรำ พี่ นั ท พี่ ภั ท ร และพี่ ไ ม้ ทางโรงเรี ย นจึ ง ขอนำภาพเด็ ก ๆ มาให้ ช มและร่ ว ม อนุโมทนากัน ณ ที่นี้ค่ะ

หลายคนคงยังประทับใจกับงานตื่นรู้ครั้งที่ ๑ อยู่ ใช่ไหมคะ ในปีนี้ งาน “ตืน่ รู”้ จะกลับมาพบกับทุกท่านเป็น ครั้งที่ ๒ ในชื่อตอน “สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก” งานจะจัด ในวันเสาร์ที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๕ ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ รูปแบบงานในปีนี้จะเป็นอย่างไรและมีความ น่าสนใจขนาดไหน ขอให้ทุกท่านติดตามได้เร็วๆ นี้ค่ะ

๒๗


กองทุนพัฒนาครูวิถีพุทธโรงเรียนทอสี เดินหน้าเต็มกำลัง เรื่อง: แม่ออย – ศิรดา อัศวานันท์ / ครูหยก – วรรณวนัช ฤกษ์ลัภนะนนท์

จากวั ต ถุ ป ระสงค์ ดั้ ง เดิ ม “กองทุ น พั ฒ นาครู วิ ถี พุ ท ธ โรงเรียนทอสี” จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมสวัสดิการ ของคุณครู ให้คุณครูสามารถดำรงวิชาชีพได้อย่างยาวนาน มั่นคง มีหลักประกัน และมีความสุข รวมทั้งมีแผนในอนาคต ที่ จ ะพั ฒ นาไปสู่ โ ครงการเพิ่ ม พู น ความรู้ ข องคุ ณ ครู เช่ น มีการให้ทุนการศึกษา หรืองบการศึกษาดูงานในต่างประเทศ ส่งเสริมการทำวิจัยต่างๆ ของชั้นเรียน ฯลฯ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ คณะทำงานเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการศึกษาใน วิถแี ห่งพุทธปัญญาให้เข้มแข็งขึน้ ได้ อย่างไรก็ดี สิง่ ทีเ่ ราทำอยูน่ ี้ มิใช่เพียงเพือ่ ช่วยเหลือคุณครูทที่ อสี แต่เป็นไปเพือ่ ให้เกิดโมเดล ทางการศึกษาที่ยั่งยืน สำหรับคุณครูเอง ในช่วงนี้ก็กำลังมีโครงงานของตนเอง กันด้วย ซึ่งน่าจะออกมาเป็นเซอร์ไพรส์ให้ทุกๆ ท่านได้ทราบ รายละเอียดกันในระยะต่อไป... แม้จะเดินหน้ากันด้วยก้าวเล็กๆ แต่กองทุนฯ ของเรา ก็ยังคงยืนหยัดก้าวต่อไปในปีการศึกษา ๒๕๕๕ นี้ ค่ ะ ในช่ ว งที่ ผ่ า นมา คณะทำงานของเราค่ อ ยๆ ก่อร่างสร้างทีม ครูโหน่ง – หทัยรัตน์ บุตรยิ่ง และ แม่ออย – ศิ ร ดา อั ศ วานั น ท์ ผู้ จั ด การ (จำเป็ น ) ของกองทุ น ฯ ช่ ว ยกั น ทำหน้ า ที่ อ ย่ า งแข็ ง ขั น แม้ ว่ า จะเหนื่ อ ยกายบ้ า ง แต่ใจสู้ไม่มีถอยจริงๆ ถ่ายทอดวิธีและแนวทางการสอนในวิถีพุทธปัญญาให้ แม่ออยขอเล่าถึงค่ายทอสีเบิกบานเด็ก คุณครูใหม่ๆ และผู้ปกครอง กิจกรรมนีเ้ ดิมทีจะจัดกันในช่วงเดือนตุลาคม ๕๔ > คุณครู เจ้าหน้าที่โรงเรียน และผู้ปกครองได้มี แต่ชว่ งเวลานัน้ ทุกท่านคงจำกันได้วา่ มีเหตุการณ์นำ้ ท่วม โอกาสทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดสังคมการเรียนรู้อย่าง ใหญ่ เราจึงต้องเลือ่ นค่ายเด็กมาจัดในช่วงปิดเทอมใหญ่ กัลยาณมิตรที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งก็ไปทับซ้อนกับหลายกิจกรรมของโรงเรียน อันที่จริง > ได้เห็นการร่วมแรงร่วมใจกัน นอกเหนือจากการ ค่ายครั้งนี้ได้รับความร่วมมือและความเสียสละอย่าง ร่วมแรงร่วมใจกันในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วม มากจากทางโรงเรียน คุณครู และผู้ปกครองอาสา สำหรับรูปแบบของค่ายในครัง้ นี้ เนือ่ งจากโรงเรียน (ซึ่งทุกๆ ท่านก็มีภาระหน้าที่มากอยู่) ในความยากที่มี ทอสีเป็นโรงเรียนพุทธปัญญา เราจึงดึงเอาลักษณะพิเศษ ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้ในอีกหลายๆ เรื่อง อาทิ ของการเรียนการสอนที่โรงเรียนมาเป็นแนวทางในการ > คุณครูได้มีโอกาสมาสอนเด็กๆ ในระดับชั้น จัดกิจกรรม โดยถือเอาช่วงเวลาของการจัดค่ายเป็น ที่ตนไม่เคยสอน และได้นำความสามารถพิเศษของตน โอกาสในการแลกเปลี่ ย นเรี ย นรู้ ร ะหว่ า งคุ ณ ครู แ ละ มาสอนได้อย่างเต็มที่ ผูป้ กครอง (โรงเรียนและบ้าน) ในแต่ละวัน เราแบ่งเด็กๆ > คุณครูที่มีประสบการณ์มากกว่าได้มีโอกาส เป็น ๕ กลุม่ (เด็กเล็ก, อนุบาล ๑, อนุบาล ๒, อนุบาล ๓,

๒๘


ป.๑ และกลุม่ สุดท้ายคือ ป.๒-๔) แบ่งการเรียนรูเ้ ป็น นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายของทุกๆ วัน เรายังจัด ๔ วัน ได้แก่ ให้มีกิจกรรมกีฬาว่ายน้ำ รำไทย และการละเล่น ต่างๆ สำหรับเด็กอนุบาล ๓ ขึ้นไป อีกด้วย วันที่ ๑ : เรียนรู้เรื่องโต๊ะหมู่บูชา สอนให้ เ ด็ ก ๆ รู้ ขั้ น ตอน องค์ ป ระกอบ จากการจัดค่ายครั้งนี้ ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ความหมาย ความเป็ น มา และรู ป แบบการจั ด ได้เรียนรู้ว่ายังมีการเรียนรู้อีกหลายอย่างที่สามารถ โต๊ะหมู่บูชา โดยให้ความรู้ที่เหมาะสมตามวัย จัดเป็นกิจกรรมให้แก่เด็กๆ ได้ ก็ขอให้ทกุ ท่านติดตาม ข่ า วสารและความคื บ หน้ า ของการจั ด ค่ า ยทอสี วันที่ ๒ : เรียนรู้การทำอาหารถวายเพล เบิกบานในครั้งต่อไปได้จากทางโรงเรียนนะคะ เป็ น วั น ที่ เ ด็ ก ๆ ได้ เ รี ย นรู้ ก ารทำอาหาร ได้ลงมือจริง รู้ที่มาที่ไปของอาหารต่างๆ ที่คนไทย นิยมนำมาตักบาตร วันนั้นคุณครูได้เรียนรู้วิธีการ ปอกผลไม้จากคุณแม่ ส่วนคุณแม่ก็ได้เรียนรู้การ ลู ก สนุ ก มาก ๆ เพร าะกิ จ กรร มก็ แ ปลก ใหม่ ดูแลเด็กๆ จากคุณครู ซึง่ สามารถนำกลับไปประยุกต์ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ มีอะไรให้สนุกสนานตื่นเต้นทุกวัน แต่ ใช้ที่บ้านได้ วดล้อมที่คุ้นชินและปลอดภัย แถมยัง วันที่ ๓ : เรียนรู้การแผ่เมตตาและอโหสิกรรม พระสงฆ์ จ ากวั ด ธรรมมงคลเมตตามานำ ปฏิบัติ เด็กๆ ได้เดินจงกรมและฟังนิทานธรรมะ วันที่ ๔ : กิจกรรมรื่นรมย์ในธรรม กิจกรรมการเรียนรูอ้ ารมณ์และความรูส้ กึ ผ่าน การแสดง การละคร (Psychodrama) การเล่านิทาน และศิลปะ เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ได้รู้จัก อารมณ์ของตนเอง และรู้วิธีที่จะจัดการอารมณ์ รวมทั้งปล่อยวางอารมณ์ให้เป็น

ยังคงอยู่ในสภาพแ ได้วิ่งเล่นตามอำเภอใจหลังเลิกเรียน ขนาดจบค่ายไปแล้ว ยังถามแม่อยูท่ กุ วัน จนกระทงั่ เปิดเทอมแล้วก็ยงั ถามอยู่ ว่า เมือ่ ไหร่หนูจะไดไ้ ปค่ายเบิกบานอีก ... ค่ายนีถ้ อื เป็นครัง้ แรก แน่นอนในด้านการจัดการ การเตรียมการย่อมขลกุ ขลักบ้าง กิจกรรมส่วนใหญ่อาจจะเหมาะกับเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต เห็นได้จากหน้าตาอันง่วงหงาวหาวนอนของพี่ๆ ประถม และความชุลมุนวุ่นวายในบางเวลาของแม่ๆ แต่ถ้าถามว่า ปิ ด เทอ มห น้ า จะส่ ง ลู ก มาค่ า ยเบิ ก บาน อี ก ไหม ... คำตอบก็คือ ส่งมาแน่ค่ะ ไม่พลาดแน่นอน แม่แหวน - กิติยา โสภณพนิช คุณแม่ของน้องใบหม่อน อ.๒ ห้องดอกกล้วยไม้

ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และเหล่าผู้ปกครองทอสีทุกรุ่น เตรียมพบกับงานม่วนชื่นน้องพี่ ทอสีสู่เหย้า ครั้งที่ ๒ ตอน “ปลูกดอกไม้ ชืน่ ใจถึงดวงดาว” ได้ในวันเสาร์ที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๖ (ต้นปีหน้าแล้วนะ!) อย่าลืมชวนน้อง เชิญพี่ และจูงเพือ่ นๆ ที่รักมาเจอกันที่โรงเรียนทอสีที่เดิมนะจ๊ะ งานนี้โรงเรียนทอสีร่วมกับกองทุนพัฒนาครูวิถีพุทธโรงเรียนทอสี ขอแจ้งให้ชาวทอสี ทราบข่าวดีในรอบสามปีไว้แต่เนิ่นๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะมาแถลงให้ทราบกันต่อไปจ้า


โยคะฝึกกายสบายจิต Yoga for Children

ท่BowาคัPosture นศร

เรียบเรียงเรื่อง: ครูน้ำอ้อย – น้ำอ้อย สืบดี ผู้แสดงท่าประกอบ : น้องเซก้า – ด.ช.ณัฐพัชร์ พรสกุลวานิช ป.๑

การฝึกโยคะสำหรับเด็ก นอกจากจะช่วยฝึกสมาธิและ เอื้อให้เด็กมีความจำดีขึ้นแล้ว ยังเหมือนเป็นการเล่นสนุกของ เด็กอีกด้วย ขอแนะนำให้คุณพ่อ คุณแม่ เล่นไปพร้อมกับลูก สร้างความสัมพันธ์ ร่างกายสดชื่นและแข็งแรงกันทั้งครอบครัว ประโยชน์ : หากเล่นประจำเป็นการบริหารแขนขาและหัวไหล่ให้ แข็งแรง ป้องกันท้องผูก กระตุ้นการทำงานของตับ ไตและตับอ่อน

กระดูกสันหลังมีความยืดหยุ่นแข็งแรงเหมือนคันศร เริ่ ม ต้ น ด้ ว ยการผ่ อ นคลายในท่ า ฟองน้ ำ (ท่าศพ) หายใจเข้าลึก หายใจออกยาว

นอนคว่ำ วางหน้าผากบนพื้น เป็นท่าเตรียม พั บ ข า ทั้ ง ส อ ง ข้ า ง เ ข้ า ห า ล ำ ตั ว แยกเข่าเล็กน้อย มือซ้ายจับข้อเท้าซ้าย มือขวาจับข้อเท้าขวาให้มั่นคง หายใจเข้าให้ลกึ พร้อมทัง้ ยกลำตัวขึน้ ให้สงู ตาม ความอ่ อ นของหลั ง ให้ ห น้ า อกและต้ น ขา ลอยพ้นพื้น นิ่งค้างไว้นับ ๑ - ๒ - ๓ (๓ วินาที) หายใจออกยาวๆ วางลำตัวทั้งหมด ลงเบาๆ เป็นท่าเตรียม ท่าฟองน้ำ

ทำซ้ำข้อ ๒-๕ อย่างต่อเนื่อง ประมาณ ๓-๕ รอบ แล้วพักในท่าจระเข้ หรือท่าฟองน้ำ ท่าจระเข้ หนังสืออ้างอิง • โยคะเพื่อสุขภาพ โดย ชื่นชม สิทธิเวช • คุยตัวตัวกับครูโยคะ โดย ถือศีล ดิฐวัฒน์โยธิน • โยคะฝึกสมาธิ โดย เกศสุดา ชาตยานนท์ • Yoga for Children โดย Bel Gibbs • Yoga for Children โดย Swati and Rajiv Chanchani


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.